กล(รัก)เกียร์ ตอนที่.3 : ผมไม่ได้ชื่อมอมนะพี่
ไอ้เทียนปั่นจักรยานพาผมมาถึงหอ จอดจักรยานเสร็จ ไอ้เทียนก็สั่งผมไว้
"ไอ้ฟ้ามึงจะลงมากินข้าวเย็นไลน์ตามกูด้วยนะ"
"เออ ได้ๆ"
ผมบอกไอ้เทียนแล้วก็เดินเข้าหอ รู้สึกว่าไอ้เทียนเดินตามผมเข้ามา ผมก็หยุดแล้วหันกลับไปมองมัน
ไอ้คนโดนมองก็ทำหน้าเหวอๆไปแล้วก็หยุดเดิน
"มึงหันมามองกูทำไมเนี่ย" ไอ้เทียนถามผมด้วยสีหน้าแปลกใจ
"มึงตามกูมาทำไมอ่ะ"
"อ่าว ก็ห้องกูอยู่ข้างบนตึกนี้จะไม่ให้ตามมึงได้ไง" ไอ้เทียนตอบผมพร้อมกับหัวเราะเบาๆด้วยความขำ
ผมได้ยินคำตอบของไอ้เทียนก็เข้าใจ ลืมไปว่ามันเป็นลูกชายเจ้าของหอ จะมีห้องอยู่บนหอนี้ก็ไม่แปลก
"อ่อ เออ ลืมไป"
"มึงนี่ขี้ระแวงนะเนี่ย" ไอ้เทียนว่าผมพร้อมกับส่ายหัวให้กับความตื่นตูมขี้ระแวงของผม ก่อนที่จะเข้ามากอดคอพาผมขึ้นห้อง
"ป่ะขึ้นห้อง ห้องมึงอยู่ชั้นไหนว๊ะ"
"ชั้นสาม ห้องมึงอ่ะ"
"ชั้นสี่ ห้องที่ไม่มีเลขห้องอ่ะ นั่นแหล่ะห้องกู ขึ้นไปเล่นเกมส์ ทำการบ้านได้นะ"
ไอ้เทียนบอกผม แล้วก็ปล่อยมือจากคอของผมเมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่สาม เพื่อปล่อยผมให้เข้าห้อง
ก่อนที่จะเข้าห้องผมมองไปที่ห้องไอ้หินกับไอ้ทิว แม่กุญแจยังคงคล้องอยู่ที่ประตู ไอ้สองคนนั้นคงยังไม่กลับมาแน่ๆ
ผมก็เลยเข้าไปในห้อง วางกระเป๋า เอาเสื้อออกนอกกางเกงแล้วก็ทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียง
"......ตืด....ตืดดดดด......."
มือถือของผมสั่น เพราะผมปิดเสียงเอาไว้ คนปลายสายทำให้ผมยิ้มได้
ไอ้ภูผา พี่ชายของผม
"เป็นไง เปิดเทอมวันแรก"
ผมเปิดกล้องวีดีโอคอล เห็นหน้าไอ้ภูก็น้ำตาซึมๆ โคตรจะคิดถึงมันอ่ะ
"ก็ดี แต่วันนี้จักรยานโซ่ขาด" ผมรายงานเหตุการณ์เมื่อเช้าให้พี่ชายฟัง
"เออ ถึงว่า หน้าตามอมแมมเชียวมึง"
คนปลายสายบอกผมแล้วก็หัวเราะ
"โคตรคิดถึงบ้านอ่ะ คิดถึงมึงด้วย"
"เออ เดี๋ยวว่างๆพี่จะลงไปหา"
"จริงนะ มาให้เร็วเลย"
"ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กูดิ"
ผมถึงกับหน้ามุ่ยกับข้อต่อรองของพี่ชาย
"เอาน่าๆ เดี๋ยวว่างๆจะลงไปหา งั้นแค่นี้ก่อนนะ โทรมาเช็คเฉยๆว่ายังสบายดีพ่อแม่จะได้สบายใจ"
"โอเค ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง กูอยู่ได้ เดี๋ยวว่างๆจะโทรหา"
ผมวางสายจากพี่ชาย ก็น้ำตารื้น ก็คนไม่เคยจากบ้านมาไกลขนาดนี้ มันไม่ใช่ความอ่อนแอหรอกครับ มันแค่คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ แต่ก็ยังดีที่ผมยังมีไอ้หินกับไอ้ทิวมาอยู่ด้วย ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ
ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ไอ้ทิวโทรมาหา..........
"ไอ้ฟ้ามึงอยู่ไหน"
"อยู่หอแล้ว"
"เออ ลงมากินข้าวกูกับไอ้หินอยู่ที่ร้านข้าวละ"
"ตอนนี้เนี่ยนะ"
"อ่าว ก็ตอนนี้สิว๊ะ นี่จะทุ่มนึงละเนี่ย" ไอ้ทิวบอกผม ผมเหลือบมองดูนาฬิกา เออ จริงหว่ะ จะทุ่มนึงละ
ผมวางสายจากไอ้ทิวก็รีบล้างหน้าล้างตาแล้วก็ลงไปที่ร้านข้าวใต้หอ ชุดนักศึกษาเปื้อนๆของผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรตามไอ้เทียนให้ลงมากินข้าวด้วยกัน
ผมกับไอ้เทียนลงมาถึงร้านข้าว ก็เดินไปหาไอ้ทิวกับไอ้หินที่นั่งรออยู่
สองคนนั้นแปลกใจที่ผมพาไอ้เทียนมาด้วย
"นี่ไอ้เทียน เพื่อนคณะเดียวกับกู แล้วก็เป็นลูกเจ้าของหอที่เราอยู่ด้วย"
ผมแนะนำไอ้เทียนให้ไอ้หินกับไอ้ทิวรู้จัก
"ส่วนนี่ ไอ้หินไอ้ทิว เพื่อนกูเองมาจากโรงเรียนเดียวกัน อยู่วิดวะ" ผมบอกไอ้เทียน
พวกผู้ชายอ่ะไม่ต้องมีอะไรมาก แค่นี้ก็คุยกันได้ยิ่งได้คุยเรื่องเกมส์ที่ชอบเหมือนกันแล้วด้วย แม่งคุยกันเหมือนกับรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไอ้เทียนก็ดูจะเข้ากับไอ้หินไอ้ทิวได้เร็วมากครับ
ในขณะที่พวกผมคุยกันอยู่ ไอ้เทียน ไอ้ทิว ไอ้หินก็หันไปสวัสดีกลุ่มพี่ที่กำลังเดินผ่านโต๊ะของผมไป ผมหันไปมองปรากฏว่าเป็นพี่อาทิตย์ พี่ดินแล้วก็เพื่อนพี่เค้าอีกคนที่ผมไม่รู้จัก
"สวัสดีครับพี่"
ผมเห็นไอ้พวกนั้นสวัสดี ผมก็ยกมือไหว้สวัสดีตามพวกมัน
"อ่าว ไอ้มอมของพี่ รู้จักไอ้พวกนี้ด้วยหรอ" พี่ดินถามผม
แต่ว่า....ผมไปเป็นของไอ้พี่ดินตอนไหนเนี่ย....!!!
"รู้จักครับ ก็นี่ไอ้หินไอ้ทิวเพื่อนผมเองครับ ส่วนนี่ไอ้เทียนก็เป็นเพื่อนที่คณะผม"
ผมสาธยายให้ไอ้พี่ดินฟัง
"อ่อ"
พี่ดินทิ้งไว้เพียงคำตอบสั้นๆ แล้วก็เดินผ่านพวกผมไปนั่งโต๊ะที่ไม่ห่างกันมากนัก
"เออฟ้า นี่ไอ้โอมเพื่อนพี่อีกคน" พี่อาทิตย์หันมาแนะนำพี่โอมให้ผมรู้จัก ผมก็พยักหน้ารับรู้ พี่โอมก็ยิ้มให้ผม
พี่โอม สูง หล่อ ขาว หล่อ แบบหล่อเลยอ่ะครับ คนอะไรหน้าตาโคตรเป๊ะ ผมว่าไอ้พี่ดินกับพี่อาทิตย์หล่อแล้วนะ มาเจอพี่โอมนี่คือแบบ หล่อของหล่อจริงๆอ่ะ
"เห้ย ไอ้ฟ้า มึงไปรู้จักกับพวกพี่เค้าตอนไหนว๊ะ"
ไอ้หินถามผมด้วยความแปลกใจ
"ก็เมื่อเช้า กูออกไปเรียนแล้วจักรยานแม่งโซ่หลุด พี่ดินกับพี่อาทิตย์มาช่วยกูอ่ะ พี่ดินเอารถไปซ่อมให้ พี่อาทิตย์ก็ไปส่งกูที่คณะ" ผมเล่าเรื่องราวเมื่อเช้าให้ไอ้สองคนนั้นฟัง
"อ่อ สามคนนี้แม่งสุดจริงๆ ตัวพ่อของเครื่องกลเลยมึง โคตรฮอตอ่ะในสาขาเครื่องกลไม่มีใครไม่รู้จัก แล้วมึงเห็นพี่โอมป่ะคนเมื่อกี้อ่ะที่หล่อๆ" ไอ้ทิวถามผม
"เห็นดิ แม่งหล่อจริง"
"นั่นแหล่ะเดือนคณะปีที่แล้ว"
"เดือนคณะปีที่แล้ว แสดงว่าพวกพี่เค้าเพิ่งจะปี2อ่ะดิ"
"อืม ใช่ ปี2"
"หล่อขนาดนี้ทำไมไม่ได้เป็นเดือนมหา'ลัยว๊ะ" ผมถามออกมาด้วยความสงสัย
"ก็พี่โอมแม่งอินดี้ ก่อนถึงวันประกวดไปเที่ยวญี่ปุ่นเฉย คนอื่นก็เลยต้องขึ้นประกวดแทน"
ไอ้เทียนพูดขึ้นมา
"เยส ใช่ครับ เหตุผลอย่างที่ไอ้เทียนบอก มึงนี่ข้อมูลแน่นเหมือนกันนะเนี่ย" ไอ้ทิวเอ่ยปากชมไอ้เทียน
"กูรู้เพราะว่าตอนนั้นคนที่มากินข้าวที่หอกูใครๆก็พูดถึงเรื่องนี้กัน แล้วอีกอย่างกับพวกพี่เค้าอ่ะกูก็รู้จักอยู่แล้วด้วย มากินข้าวที่นี่กันทุกวัน พี่เค้าก็อยู่หอกูนี่แหล่ะ ตึกตรงข้ามนั่นไง" ไอ้เทียนพูดแล้วก็บุ้ยปากไปที่ตึกตรงข้าม
ผมเองก็ลืมไปว่าหอของไอ้เทียนมีสองตึกอยู่ตรงข้ามกันคนละฟากถนนในซอย แต่ตอนที่พวกผมมาดูหอนี้ ตึกนั้นเต็มก็เลยได้มาอยู่ตึกฝั่งนี้แทน
"เออ นั่งคุยซ๊ะนาน มึงสองคนสั่งข้าวยังเนี่ย" ไอ้ทิวถามผมกับไอ้เทียน
"เออหว่ะ ยังไม่ได้สั่งข้าวเลย"
ผมกับไอ้เทียนจดสิ่งที่จะกินลงบนกระดาษโน๊ตแล้วผมก็เดินเอากระดาษที่สั่งข้าวไปเสียบไว้ตรงหน้าร้าน
ในขณะที่ผมกำลังเดินกลับไปที่โต๊ะก็ได้ยินเสียงเรียก
"ไอ้มอมมานี่ดิ๊"
"...............!!"
"เรียกใครว๊ะ" ผมพึมพัมกับตัวเองแล้วก็มองหาเผื่อมีใครพาหมาเข้ามาในร้านข้าว
"อ่าว เรียกแล้วยังไม่มาอีก"
ผมหันไปมองเจ้าของเสียงปรากฏว่าเป็นไอ้พี่ดินครับ ไอ้พี่ดินยืนอยู่ตรงตู้แช่น้ำ ผมเอามือชี้ที่ตัวเอง ไอ้พี่ดินก็พยักหน้า คงจะบอกว่ากูเรียกมึงนั่นแหล่ะ
ผมก็เลยเดินไปหาไอ้พี่ดิน
"เรียกผมทำไมครับพี่"
"เลี้ยงน้ำ เลือกเอาจะกินน้ำอะไร"
"ไม่เป็นไรครับพี่"
"อย่าขัดใจกู"ผ่างงงงงงงงงงงง....................อย่าขัดใจกู
"แค่นี้แม่ง...ต้องขึ้นกู-มึงด้วย" ผมนึกด่าไอ้พี่ดินในใจ
"เลือกสิครับไอ้มอม"
"ผมไม่ได้ชื่อมอมนะพี่" ผมบอกพี่ดินแล้วก็หยิบโค้กออกมาสี่กระป๋อง
ฝ่ายตรงข้ามยิ้มอ่อนๆ เมื่อผมปฏิเสธชื่อที่พี่เค้าตั้งให้
"เอาไปเผื่อเพื่อนผมด้วยนะ"
"ตามใจมึง"
"ขอบคุณครับพี่ดิน" ผมขอบคุณพี่ดินแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะ
สำหรับคนที่ผมเดินจากมา....ยืนยิ้มกับตู้แช่น้ำอยู่คนเดียว.
.
.
หลังจากกินข้าวเสร็จ แค่ชั่วเวลาที่นั่งกินข้าวด้วยกันเมื่อกี้ทำให้ความสนิทสนมของพวกผมกับไอ้เทียนนั้นประดุจดั่งรู้จักกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ไอ้เทียนก็ชวนไอ้หินไอ้ทิวรวมทั้งผมขึ้นไปเล่นเกมส์ที่ห้องของมันครับ มีหรือที่ไอ้สองคนนั้นจะปฏิเสธ ได้เล่นเกมส์ฟรีโดยที่ไม่ต้องไปร้านเกมส์แบบนี้
"ไอ้เทียนมีงนี่ใจดีโคตรๆ"
"ไม่เสียแรงที่เลือกมาอยู่หอมึง"
คำเยินยอของไอ้หินกับไอ้ทิวที่มีต่อไอ้เทียน พร่ำไปตั้งแต่ออกมาจากร้านข้าวจนไปถึงห้องไอ้เทียนที่ชั้นสี่
"มึงคิดถูกละที่คบกับไอ้ฟ้า เดี๋ยวถึงฤดูกาลผลไม้นะมึงจะกินอะไรหล่ะ ลิ้นจี่ ลำใย ส้ม เดี๋ยวไอ้ฟ้าจะหามาให้มึง" ไอ้ทิวบอกไอ้เทียน
ใช่ครับ ไอ้ทิวมันพูดถูก บ้านของผมที่เชียงรายเป็นไร่ผลไม้ครับ ปลูกลิ้นจี่ ลำใยแล้วก็ส้ม แถมยังมีร้านกาแฟเล็กๆอีกด้วย แม่ของผมทำเบเกอรี่อร่อยครับ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลือกเรียนการแปรรูปอาหารครับ จะได้เอาไปใช้กับผลไม้ที่ไร่ของผมได้ในเวลาที่มีผลผลิตออกมาล้นตลาด จะขายก็ได้ราคาไม่ดี แต่ถ้าเรารู้จักนำมาพลิกแพลงแปรรูปก็เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้ครับ
"นี่มึงสองคนจะไม่แวะเข้าห้องกันเลยใช่มั๊ย" ผมว่าไอ้หินกับไอ้ทิว
"แวะทำไม เล่นเกมส์ก่อนดิคร๊าบบบไอ้ฟ้า" ไอ้หินหันมาบอกผมแล้วก็ล๊อคคอพาผมเข้าไปในห้องไอ้เทียน
พวกผมเล่นเกมส์กันด้วยความสบายใจ เพราะเพิ่งจะเปิดเทอมวันแรกเรียนก็ยังไม่หนัก การบ้านก็ยังไม่มี สบายๆมาก
"หิวว๊ะ ห้องมึงมีอะไรกินบ้างมั๊ยเนี่ย" ไอ้ทิวบ่นหิวพร้อมกับจัดการเปิดตู้เย็นในห้องไอ้เทียน
"ว๊า....มีแต่น้ำ"
"เออ กูไม่ได้ซื้อขนมมาเก็บไว้เลย โทษทีหว่ะ เอาไว้คราวหน้าจะเตรียมไว้ให้เต็มตู้เย็นเลย" ไอ้เทียนบอกไอ้ทิว
"เดี๋ยวกูลงไปซื้อขนมมาให้ก็ได้ ใครจะกินไรบ้าง" ผมถามไอ้พวกนั้น เพราะตอนนี้ก็เกือบๆสี่ทุ่มละ นับตั้งแต่กินข้าวเสร็จ แล้วก็พากันขึ้นมาเล่นเกมส์บนห้องไอ้เทียนก็เกือบๆสามชั่วโมง
"ไอ้ฟ้าครับ หินขอฮานามินะครับออริจินัลนะ"
"ของกูเลย์นะครับออริจิเช่นกัน" ไอ้ทิวบอกผม
"เทียนมึงอ่ะเอาไรป๊ะ" ผมถามไอ้เทียนที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมส์อยู่
"กูกินได้หมดแหล่ะซื้อมาเหอะ"
ผมเดินออกจากหอไปเซเว่นตรงหน้าซอย ซึ่งระยะทางก็ไม่ไกลมากเดินแป๊บเดียวก็ถึง เข้าไปในเซเว่นก็หาขนมตามที่ไอ้หินกับไอ้ทิวสั่งมา แล้วก็ซื้อเพิ่มอีกบางส่วน
"ไอ้มอมยังไม่นอนอีกหรอ" มีเสียงคนถามผม เรียกผมแบบนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากไอ้พี่ดิน
"ยังครับพี่"
".....บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ได้ชื่อมอม...." ผมว่าไอ้พี่ดินในใจ
"แล้วพี่หล่ะยังไม่นอนหรอครับ"
"ถ้ากูนอน จะมายืนคุยกับมึงตรงนี้ได้หรอ"เป็นคำตอบที่ทำให้ผมอยากจะประเคนหมัดใส่ปากคนตอบมากกกกกกกกกกกกกก
"ครับ งั้นผมไปละครับ"
ผมบอกพี่ดินแล้วก็เอาขนมไปจ่ายตังค์ที่เค้าเตอร์
คนกวนตีนยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ผมจ่ายตังค์เสร็จก็เดินกลับหอ
"เมี้ยว...เมี้ยว..เมี้ยวววว"
เสียงแมวร้อง...!!
ผมซึ่งเป็นคนรักแมวมาก หันซ้าย หันขวา หาที่มาของเสียงเจ้าแมว
"เมี้ยว เมี้ยว"
นั่นไง หลบอยู่ตรงมุมทางเข้าหอตึกฝั่งหอไอ้พี่ดิน
ผมค่อยๆเดินเข้าไป แล้วก็วางถุงขนมลง เจ้าแมวตัวน้อยพยายามหดตัวถอยหลังหนีผม จากเสียงร้องกลายเป็นเสียงขู่ ฟ่อๆ ขนบนตัวของมันฟู นี่คงโดนหมาไล่กัดมาหล่ะสิ
ผมเอื้อมมือเข้าไปจะอุ้มเจ้าแมว
เมี้ยวววววววววว...ควับบบบบ...!!!
โอ๊ยยยย....!!
ผมโดนเจ้าแมวตวัดกรงเล็บข่วนข้อมือของผม
พี่ดินพุ่งเข้าไปจับตรงต้นคอของเจ้าแมวน้อย ตามแบบฉบับของคนที่จับแมวเป็น แล้วก็เอามันไปวางไว้บนโต๊ะไม้หินหน้าหอ ก่อนที่แมวน้อยจะวิ่งหนีไป ส่วนผมก็ยืนกุมข้อมืออยู่ รู้สึกแสบ
พี่ดินหันกลับมามองผม สายตาดุๆนั่นทำให้ผมต้องก้มหน้าหลบ
"ไหนมาดูดิ๊ โดนข่วนเยอะมั๊ย" พี่ดินเข้ามาจับแขนผมเพื่อดูแผลที่โดนแมวข่วน
"เลือดซึมละ เดี๋ยวขึ้นไปทำแผลที่ห้อง...เอ่อ...ห้องเพื่อนพี่ก่อนก็แล้วกัน"
"ไม่เป็นไรครับพี่ดิน"
"ไปรอตรงประตู ไม่ต้องพูดมาก"
พี่ดินสั่งผม แล้วก็เดินกลับออกไปหยิบถุงขนมของผมที่วางทิ้งไว้ แล้วก็กลับมาเปิดประตูพาผมเข้าไปในหอพี่เค้า
"ขวัญ ขวัญ อยู่ห้องป่าว" พี่ดินพาผมขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วก็เคาะห้องเรียกเพื่อน
พี่ผู้หญิงเปิดประตูห้องออกมา
"อ้าวดิน มีไร"
"ที่ห้องยังมีอุปกรณ์ทำแผลใช่ป๊ะ"
"มีๆ ใครเป็นอะไรหล่ะ"
"น้องโดนแมวข่วนมา"
"มาๆ เข้ามาในห้องเดี๋ยวเราทำแผลให้"
พี่ขวัญเพื่อนของพี่ดิน เป็นสต๊าฟพยาบาลประจำชมรมเครื่องกล เป็นคนทำแผลให้ผม
"น้องชื่ออะไรคะเนี่ย"
"ชื่อฟ้า"
ผมยังไม่ทันจะอ้าปากตอบ พี่ดินก็ตอบแทนผม
"เรียนวิดวะหรอ"
"อ.ก."
ไอ้พี่ดินตอบแทนผมอีก (** อ.ก. ย่อมาจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร)
"ดิน หุบปาก เราจะคุยกับน้องฟ้า"
ทำเอาคนถูกว่า หน้าเจื่อนๆไป
"หล่อจังเลยน้องฟ้า มีแฟนยังคะ"
"แผลแค่นี้ ทำนานชิบ ถึงกับต้องตัดแขนเลยมั๊ย"
พี่ดินพูดขึ้นมา ทำเอาพี่ขวัญถึงกับหน้างอด้วยความอารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะ
"เสร็จเรียบร้อยค่ะ"
"ขอบคุณครับพี่" ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ขวัญที่ทำแผลให้ผม
"เสร็จแล้วใช่มะ จะได้พาไปส่งกลับหอ" พี่ดินถามผม ผมก็พยักหน้าให้
"น้องฟ้าอยู่หอไหนคะ ไกลมั๊ย ถ้าไกลนอนห้องพี่ก็ได้นะ" พี่ขวัญแกล้งพูดแซวผม
"ไกลเหี้ยไร หอตึกตรงข้ามเนี่ย" พี่ดินบอกพี่ขวัญ
"ไปเร็ว ยืนบื้ออยู่ได้"
ไอ้พี่ดินหันมาแง่งใส่ผมอีก ก่อนที่จะเดินลากแขนผมออกมาจากห้องพี่ขวัญ
"เบาๆหน่อยเดี๋ยวน้องฟ้าช้ำหมดไอ้ดิน" เสียงพี่ขวัญว่าพี่ดินไล่ตามหลังมา
พี่ดินพาผมออกมาส่งที่หน้าหอ
"ขอบคุณนะครับพี่ดิน"
"เออ ไม่เป็นไร ฝันดีไอ้มอม"
"ผมไม่ได้ชื่อมอมนะพี่"คำพูดของผม ไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกผิดเลยซักนิด ยังคงยิ้มเยาะชอบใจที่ได้เรียกผมว่า ไอ้มอม
"ไอ้ฟ้า ทำไมนานจังว๊ะ โทรศัพท์ก็ไม่เอามาด้วยนะมึง"
เสียงไอ้หินดุผม ก่อนที่จะกอดคอพาผมกลับเข้าไปในหอ
การกระทำของผมกับไอ้หิน ทำให้คนหอฝั่งตรงข้ามที่ยังยืนมองอยู่.....รู้สึกแปลกๆ
-------------------------------------------------
ตอนที่3.แล้วนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคอมเม้นต์จากทุกๆคนนะครับ แฮ่ๆ
