กล(รัก)เกียร์ ตอนที่ 34 : ผิดกฏค่าย
พี่ดินแบกผมมาจนถึงค่าย เพียงแค่เดินเข้ามาในบริเวรหมู่บ้าน สายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่ผมกับพี่ดิน ภาพที่ผมโดนพี่ดินแบกขึ้นหลังมาคงทำให้ทุกคนแปลกใจ ไอ้ทิว ไอ้เทียน ไอ้หิน ออกมายืนรอรับผมที่หน้าโรงเรียน
"ไอ้ฟ้าเป็นไงบ้างวะ" ไอ้ทิวถามผมแล้วก็คอยรับตัวผมลงจากหลังพี่ดิน
ไอ้หินไอ้ทิวเข้ามาประคองตัวผมไว้
"เจ็บชิบ..." ผมร้องออกมาเพราะเผลอวางเท้าลงบนพื้น
"ไหวป่าวมึง" ไอ้หินถามผม
"ไหวๆ แต่ตอนนี้โคตรปวดอ่ะ"
"เออๆ ป่ะเดี๋ยวกูพาไปเต๊นท์พยาบาล" ไอ้ทิวพูดแล้วมันกับไอ้หินก็ช่วยกันหิ้วตัวผมเดินเข้าไปในโรงเรียน
ไอ้หินหันกลับไปมองพี่รหัสของมันที่ยืนหอบแฮ่กๆ พร้อมกับมองมาที่ผม คงเหนื่อยเพราะแบกผมมาตั้งไกล
"ไอ้เทียนมึงมาจับไอ้ฟ้าแทนกูดิ๊" ไอ้หินบอกไอ้เทียน แล้วมันก็ปล่อยตัวผมให้ไอ้เทียนมาพยุงแทนแล้วก็เดินย้อนกลับไปหาพี่ดิน
"พี่ดินครับ เป็นไงบ้างพี่ ปวดตรงไหนป่าว พี่เดินไหวป่าวครับ เดี๋ยวผมพาไปเต๊นท์พยาบาลนะพี่ แบกไอ้ฟ้ามาตั้งไกล" ไอ้หินถามพี่รหัสด้วยความเป็นห่วง
"ห่วงกูด้วยหรอมึงอ่ะ"
"ห่วงดิครับ นี่พี่รหัสผมนะ ป่ะ ผมพาไปเต๊นท์พยาบาล" ไอ้หินบอกพี่ดินแล้วมันก็เข้าไปจะประคองพี่ดิน
"ไม่ต้องอ่ะ กูเดินเองได้ กูไหว" พี่ดินบอกไอ้หินแล้วก็เดินเข้าไปในโรงเรียน
"หึ ทำเป็นเก่ง เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้" ไอ้หินพูดออกมาเบาๆแล้วก็เดินตามพี่รหัสมันเข้าไป
ไอ้ทิวกับไอ้เทียนพาผมเดินมาถึงเต๊นท์พยาบาล พี่พยาบาลปีสามก็เข้ามาปฐมพยาบาลให้ผม
"เดี๋ยวต้องประคบเย็นก่อนนะ โชคดีมีน้ำแข็งอยู่พอดี"
"เดี๋ยวน้องฟ้ายกขาขึ้นวางบนเก้าอี้นะ ให้ขาอยู่สูงกว่าตัว เลือดจะได้ไม่ไหลลงขา เดี๋ยวพี่จะประคบน้ำแข็งให้ก่อนนะคะ" พี่สต๊าฟพยาบาลปีสามบอกกับผม ผมก็ยกขาขึ้นไปวางพาดบนเก้าอี้ให้พี่เค้าประคบน้ำแข็งให้
"เป็นไงห๊ะเรา ไอ้ดินแกล้งใช่มั๊ยเนี่ย" พี่โอมเข้ามานั่งข้างๆผมแล้วก็ถามผม
"ใช่ครับพี่โอม พี่ดินตะโกนว่า งู ไอ้ฟ้าตกใจ แล้วมันก็ล้ม" ไอ้คิมเล่าเหตุการณ์ให้พี่โอมฟัง
"แหม่ เอาซ๊ะกูเป็นตัวร้ายไปเลยนะไอ้คิม" พี่ดินว่าไอ้คิมแล้วก็นั่งลงข้างๆพี่โอม
"พี่ขวัญครับ ดูแลพี่รหัสผมด้วยนะ แบกไอ้ฟ้ามาตั้งไกล ยังจะทำเก่งอีก" ไอ้หินบอกพี่ขวัญแล้วก็ชำเลืองมองพี่ดิน คนถูกว่าก็นิ่งๆไป
"เป็นไง หายปวดบ้างยัง" พี่ดินหันมาถามผม
"เพิ่งจะประคบน้ำแข็งเองครับพี่ แต่เดี๋ยวคงดีขึ้น พี่อ่ะ คงเมื่อยอ่ะดิแบกผมมาตั้งไกล"
"เออ กูไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้ ขอมึงหายเจ็บก็พอ"
"คงกระเผลกๆไปอีกซักสองอาทิตย์นะ เออ อย่าเพิ่งทายานวดอะไรนะ ให้ประคบน้ำแข็งแบบนี้ไปก่อน แล้วไปอาบน้ำก็ระวังหน่อย อย่ายืนลงน้ำหนักเต็มเท้าข้างนี้ละกัน" พี่สต๊าฟพยาบาลปีสามบอกผม
"เฮ้ย ไอ้ฟ้า กูว่าท่าอาบน้ำมึงคงแปลกประหลาดแน่ๆ ฮ่าๆ ยกขาข้างนึงแบบหมาเยี่ยวไง" ไอ้หินพูดแล้วมันก็หัวเราะ
"เหี้ยหิน กูอาบได้น่า ไม่ยืนแปลกประหลาดเหมือนอย่างที่มึงบอกหรอก" ผมว่าไอ้หินทุกคนก็หัวเราะกัน
"ไม่เป็นไร กูอาบให้มึงก็ได้ ถ้ากูรู้นะว่าใครแกล้งมึงจนเป็นแบบนี้อ่ะ กูจะต่อยแม่งให้ร่วงเลย กูเคยข้อเท้าพลิกมาก่อน รู้เลยว่าโคตรทรมาน" ไอ้ทิวพูดขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมามองไอ้ทิวด้วยความตกใจ ทำไมมันพูดแบบนี้ ทั้งๆที่ไอ้คิมก็บอกแล้วว่าพี่ดินเป็นคนแกล้งผม
"ไอ้ทิว มึงก็รู้ว่าพี่ดินเป็นคนแกล้งกูมึงจะต่อยพี่ดินหรอ" ผมพูดกับไอ้ทิวเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน ไอ้ทิวก็นิ่งๆไป มันคงลืมว่าพี่ดินก็นั่งอยู่ตรงนั้น ผมหันไปมองพี่ดิน แกก็หน้าเหวอๆเหมือนกันที่ได้ยินไอ้ทิวพูดแบบนั้น
"พี่ดินครับผมขอโทษ ลืมไปว่าพี่เป็นคนแกล้งไอ้ฟ้า" ไอ้ทิวหันไปยกมือไหว้ขอโทษพี่ดิน
"เออ ไม่เป็นไร เกือบโดนมึงต่อยแล้วมั๊ยหล่ะ" พี่ดินบอกไอ้ทิวแล้วก็ขำออกมา
##เปิดใจกลางลานเทียน##เนื่องจากวันนี้เป็นสามวันสุดท้ายที่จะอยู่ค่ายแล้ว คืนนี้พวกเราก็ชาวค่ายก็จะมีกิจกรรมเปิดใจกันครับ แล้วก็จะมีการเฉลยบั๊ดด๊อก บั๊ดดี้กันด้วย ส่วนพรุ่งนี้ก็จะเป็นพิธีการส่งมอบสนามกีฬาแล้วก็ของบริจาคต่างๆที่ทางชมรมได้รับบริจาคมาครับ ก็จะเป็นพวกอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์สำหรับเล่นกีฬารวมทั้งเสื้อผ้า ตุ๊กตาของเล่นของเด็กๆ
ไอ้หินกับไอ้ทิวประคองผมเดินไปที่โรงอาหารเพื่อกินข้าวเย็น เพื่อนๆพี่ๆก็เข้ามาถามอาการของผม ทุกคนพากันต่อว่าพี่ดินที่แกล้งผมจนเจ็บ ทำเอาพี่ดินเงียบๆซึมๆไป ไม่รู้ว่าเพราะว่ารู้สึกผิดหรือว่าโดนคนต่อว่าเยอะแล้วไม่รู้จะเถียงยังไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆ
"ฟ้า บั๊ดดี้ฝากมาให้ อ่ะนี่..มีจดหมายน้อยมาให้ด้วย" เพื่อนคนนึงเดินเอาแก้วไม้ไผ่ใส่นมเย็นมาให้ผมพร้อมกับส่งกระดาษที่พับไว้อย่างดีมาให้ผม
"ขอบคุณครับ" ผมขอบคุณเพื่อนแล้วก็รับแก้วนมพร้อมกับจดหมายน้อยมากำไว้ในมือ ทำไมหัวใจผมเต้นแรงกับจดหมายน้อยนั่นก็ไม่รู้
"เฮ้ย ไอ้ฟ้า วันนี้มีจดหมายด้วยหรอวะ เปิดอ่านเลยดิ๊" ไอ้เทียนชะโงกหน้าเข้ามามองจดหมายน้อยในมือของผม
ผมมือสั่น ค่อยๆเปิดจดหมายนั้นอ่าน
"หายไวๆนะ จากบั๊ดดี้" ไอ้เทียนอ่านออกเสียงดังให้ไอ้พวกนั้นได้ยิน
"โถ่....กูก็นึกว่าจะมีข้อความหวานๆ แม่งธรรมดาชิบ" ไอ้เทียนบ่นขึ้นมา ผมพยายามดูลายมือก็ดูไม่ออกว่าเป็นลายมือใคร เดาไม่ถูกจริงๆว่าใครกันที่เป็นบั๊ดดี้ผม ส่งนมเย็นมาให้ผมทุกวัน เมื่อก่อนมีช่อดอกไม้ด้วย แต่หลังๆมามีแต่นมเย็น
"เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้แล้วว่าใครบั๊ดดี้มึง กูก็จะได้รู้เหมือนกันว่าใครที่จับได้กูเป็นบั๊ดดี้แม่งไม่เคยจะเทคแคร์กูเลย" ไอ้หินพูดขึ้นมา ทำเอาผมนิ่งไป เพราะผมนี่แหล่ะที่จับได้ไอ้หินเป็นบั๊ดดี้ แล้วผมก็ไม่เคยเทคแคร์มันเลย
หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่ปลื้มประธานค่ายก็ออกมาบอกลูกค่ายทุกคนว่าทุ่มครึ่งให้ทุกคนไปรวมกันที่สนามกีฬาเพื่อทำพิธีเปิดใจ ตอนนี้เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงพวกผมก็ไปนั่งคุยกันที่เต๊นท์พยาบาล พี่ขวัญเอาผ้ายืดมาพันข้อเท้าให้ผม
"เดี๋ยวถ้าตอนอาบน้ำแล้วผ้านี้เปียกน้องฟ้าก็เอาอันใหม่เปลี่ยนนะ ให้ดินมันพันให้ก็ได้มันทำเป็น" พี่ขวัญบอกผม
"พี่ดินทำเป็นด้วยหรอครับ"
"อือ มันมาให้พี่สอนทำอ่ะ" พี่ขวัญบอกผมแล้วก็หันไปหยิบม้วนผ้ายืดมาให้ผมสำรองไว้ ผมหันไปมองพี่ดินที่กำลังเดินมาที่เต๊นท์พยาบาลพร้อมกับพี่โอมแล้วก็พี่อาทิตย์
"เป็นไง ไอ้น้องฟ้า หายเจ็บยัง" พี่อาทิตย์ถามผม
"ก็ดีขึ้นครับพี่ ยังปวดอยู่นิดๆ"
"นี่ดินจงใจให้ฟ้าเจ็บใช่มั๊ยจะได้ไม่ต้องกลับไปประกวดดาวเดือน" พี่โอปอถามพี่ดิน
"ป่าว ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ใครจะคิดหล่ะว่ามันจะกลัวงู" พี่ดินพูดแก้ตัว
"ก็พี่ตะโกนขนาดนั้นใครจะไม่ตกใจหล่ะครับ" ผมบอกพี่ดิน พี่ดินก็หน้าสลดไป
"เออ กูขอโทษ"
พอได้เวลาทุ่มครึ่ง พวกผมก็ออกไปนั่งล้อมวงตรงสนามกีฬาเป็นวงกลมวงใหญ่ พี่ปีสามแจกเทียนสีขาวให้กับพวกผมจุดและตั้งไว้ตรงหน้าตัวเอง ด้วยความที่วันนี้เป็นคืนเดือนมืด หลังจากจุดเทียนเสร็จ ก็มีแต่แสงสว่างจากแสงเทียนที่ส่องสว่างอยู่กลางสนามกีฬาที่พวกเราช่วยกันทำจนสำเร็จ
"สวัสดีครับ ผมปลื้ม ประธานค่าย วันนี้ก็เป็นวันที่พวกเราจะได้ทำการเปิดใจ เปิดความรู้สึกที่มีต่อค่ายในครั้งนี้ ที่..ที่พวกเรานั่งกันอยู่ในตอนนี้ก็คือสนามกีฬาที่พวกเราลูกค่ายทุกคนช่วยกันทำจนสำเร็จเสร็จสิ้นด้วยดี จากพื้นที่ที่เป็นดินรกร้างว่างเปล่า ชุดเตรียมค่ายได้ขึ้นมาปรับสภาพพื้นที่ และชุดค่ายใหญ่ก็ตามขึ้นมาร่วมมือร่วมใจกันจนจากพื้นดินธรรมดาๆกลายเป็นสนามกีฬาให้เด็กๆและชาวบ้านได้มาที่ไว้ทำกิจกรรมต่างๆและออกกำลังกาย ย้อนกลับไปถึงวันที่พวกเราได้ออกไปเปิดหมวกรับบริจาค จนถึงวันนี้ ค่ายของเราก็ได้สำเร็จด้วยดีและจะได้ส่งมอบสนามกีฬารวมทั้งของต่างๆในวันพรุ่งนี้และก็จะมีการเลี้ยงค่ายกันในวันพรุ่งนี้ สำหรับในวันนี้ก็จะเป็นการเปิดใจของลูกค่ายทุกคนนะครับ ผมขอเริ่มจากพี่ปีสี่ที่ได้กรุณามาค่ายด้วยกันก่อนเลยครับ" พี่ปลื้มพูดจบลูกค่ายก็ปรบมือ แล้วก็เป็นการเริ่มเปิดใจจากพี่ปีสี่ แล้วก็เฉลยบั๊ดด๊อกบั๊ดดี้ด้วย
การเปิดใจเรียงกันมาเรื่อยๆจากพี่ปีสี่ มาพี่ปีสาม และก็มาถึงพี่ปีสอง จนมาถึงพี่ดิน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเซนเตอร์ของค่าย ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญเช่นกัน
"สำหรับผม นับตั้งแต่เตรียมงานค่ายที่มหาวิทยาลัย จนได้เดินทางมาเตรียมค่ายก็ทำให้ได้เรียนรู้งานต่างๆมากมายจากรุ่นพี่ เพื่อนำไปปรับใช้กับการทำค่ายในปีหน้า ผมจะตั้งใจและทำค่ายในปีหน้าให้ดีที่สุดครับ ขอบคุณลูกค่ายทุกคนที่เชื่อฟังกัน อาจจะมีบ้างบางคนที่ดื้อ แต่ก็ยังควบคุมกันได้ อยากจะขอบคุณกำลังใจที่ดีที่สุดของผม ขอบคุณที่เค้ามาค่ายด้วย" พี่ดินพูดถึงตรงนี้ก็หยุดพูดไป เพราะเสียงฮือของลูกค่ายที่ดังขึ้นมา
"ฮิ้ววววว ใครว๊ะกำลังใจของพี่ดิน"
"กรี๊ดดด มีการขอบคุณกำลังใจด้วยอ่ะ ใครน๊ากำลังใจของดิน"
"มึงไม่บอกรักไปเลยว๊ะไอ้ดินพูดซ๊ะขนาดนี้"ผมนั่งฟังที่พี่ดินพูดถึงกำลังใจคนนั้น ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวๆเพราะแอบคิดว่าคนที่พี่ดินพูดถึงคือตัวผมเอง ^^
"สุดท้าย ผมอยากจะขออภัยในบางเรื่องที่อาจจะทำผิดพลาดไปในฐานะเซนเตอร์ของค่าย ถ้าหากว่าผมทำให้ใครไม่ชอบใจหรือขุ่นเคืองใจก็ขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ และหวังว่าปีหน้าเราจะได้มาค่ายด้วยกันอีกนะครับ ขอบคุณครับ"
"วี๊ดดดดดวิ้ววววววว หล่อเลยมึง ไอ้ดิน"
"เชี่ย พระเอกชิบ"
เสียงผิวปาก เป่าปาก แล้วก็เสียงแซวพี่ดินจากพี่ปีสามปีสี่แล้วก็เพื่อนๆ ทำเอาคนโดนแซวถึงกับมีท่าทีเขินอาย
"ไอ้ฟ้าพี่ดินเค้าขอโทษมึงอ่ะ" ไอ้ทิวที่นั่งข้างๆหันมาบอกผม
"ขอทราบบั๊ดด๊อกบั๊ดดี้พี่ดินด้วยค่ะ" พี่โอปอพูดขึ้นมา ทุกคนก็เงียบเพราะอยากจะรู้ว่าใครกันที่โชคดีได้เป็นบั๊ดด๊อกบั๊ดดี้พี่ดิน
"สำหรับบั๊ดด๊อกของผม คนนี้ผมไม่กล้าแกล้งเลยครับ เพราะพวกเราจะไม่ได้กินกับข้าวอร่อยๆ นั่นก็คือพี่อิ่มปีสาม หัวหน้าทีมงานครัวครับ" พอพี่ดินพูดจบทุกคนก็ปรบมือให้เกียรติพี่อิ่มที่เป็นบั๊ดด๊อกของพี่ดิน
"ส่วนคนที่ผมจับได้เป็นบั๊ดดี้ ก็คือ ไอ้ฟ้าปีหนึ่งครับ"
"น้องฟ้า อยู่ไหนคะ ยืนขึ้นหน่อยค่ะ โชว์ตัวหน่อยเร็ว" พี่ปีสามเรียกผมให้ลุกยืนในฐานะบั๊ดดี้ของพี่ดิน
"ไอ้ฟ้า พี่เค้าเรียกมึงอ่ะ พี่ดินจับได้มึงเป็นบั๊ดดี้" ไอ้เทียนเอี้ยวตัวผ่านหน้าไอ้หินมาบอกผม
"มากูช่วยพยุง" ไอ้หินบอกแล้วมันก็หิ้วปีกผมลุกขึ้นยืน
"อ้าว พี่ลืมไปว่าน้องฟ้าขาเจ็บ ให้ลุกยืนลำบากแย่เลย"
"น้องฟ้ามีอะไรจะบอกบั๊ดดี้มั๊ยคะ" พี่โอปอชงผมกับพี่ดิน
"เอ่อ..." ผมได้แต่ยืนนิ่ง คิดอะไรไม่ออก แสงสว่างจากเทียนห้าสิบกว่าดวงทำให้ผมเห็นว่าพี่ดินก็ยืนมองผมอยู่เช่นกัน
"เต็มที่เลยไอ้น้องฟ้า ไอ้ดินมันแกล้งอะไรไว้บ้างบอกให้หมดเลยเดี๋ยวคืนนี้พี่จัดการมันเอง" พี่ปลื้มประธานค่ายพูดขึ้นมา
"เอ่อ ขอบคุณทำหรับนมเย็นที่ส่งมาให้ผมทุกวันนะครับพี่...พี่ดิน" ผมพูดออกไปแค่นั้น ก็มีเสียงกรี๊ดขึ้นมาจากลูกค่าย
"ใครจะไปรู้ว่าคนอย่างไอ้ดิน จะทำเพื่อบั๊ดดี้ขนาดนี้
พี่บอกได้เลยว่ามันชงเองกับมือทุกแก้วที่ส่งไป เพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าบั๊ดดี้ของมันคือน้องฟ้า พี่ก็นึกว่าสาวๆที่ไหนซ๊ะอีก" พี่อิ่มพูดขึ้นมา ยิ่งทำให้เสียงกรี๊ดดังขึ้นไปอีก
"เอาหล่ะๆพอละค่ะ เดี๋ยวน้องฟ้าของเราจะหน้าแดงกว่าแสงเทียน" พี่โอปอแซวผม
ไอ้หินพยุงผมให้นั่งลงเหมือนเดิม รู้สึกว่าหัวใจของผมเต้นแรงมาก นี่ที่มือพี่ดินเป็นแผลวันนั้นก็คงเพราะพี่ดินแกะสลักแก้วไม้ไผ่เป็นชื่อผมแน่ๆ เลยพลาดโดนมีดบาด
การเปิดใจเรียงลำดับชั้นปีมาจนถึงปีหนึ่ง แล้วก็เป็นคิวของผม ไอ้หินพยุงผมให้ลุกขึ้น
"สำหรับผม เพิ่งจะได้มาค่ายอาสาเป็นครั้งแรก ก็ประทับใจมากครับ ขอบคุณชมรมค่ายอาสาที่มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ และผมก็จะมาทุกปีเลยครับ ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือ พูดคุยกับผม เล่นกับผม คอยแกล้งผมและยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ สำหรับบั๊ดด๊อกของผม ผมไม่กล้าแกล้งเลยครับ นั่นก็คือพี่โอมปีสองครับ" พอผมบอกว่าพี่โอมเป็นบั๊ดด๊อกผม ก็มีเสียงฮือฮาเช่นเคย พี่โอมเองก็คงจะแปลกใจไม่น้อย เพราะผมไม่เคยแกล้งพี่แกเลย
"ส่วนบั๊ดดี้ของผม คือไอ้หินครับ" ผมบอกทุกคนแล้วก็หันไปมองไอ้หินที่ยืนประคองผมอยู่ข้างๆ ไอ้หินก็หันมามองผม สายตาของมันแสดงความรู้สึกประหลาดใจ
"กู....กูขอโทษนะ ที่ไม่ค่อยได้เทคแคร์มึงเลย" ผมหันไปขอโทษไอ้หิน
"เออ ไม่เป็นไร ยังไงมึงก็ต้องเทคแคร์กูตลอดชีวิตนั่นแหล่ะ" ไอ้หินพูดกับผมแล้วก็เอามือมันมาขยี้หัวผมเล่น ทำเอาคนที่อยู่ใกล้ๆที่ได้ยิน ส่งเสียงกรี๊ดออกมา
"อร๊ายยย น้องหินน้องฟ้า หวานจับใจ"
"อะไรๆ เค้าสองคนพูดอะไรกันอ่ะ บอกหน่อยๆ" คนที่อยู่ไกลที่ไม่ได้ยินก็อยากจะรู้ว่าไอ้หินพูดอะไรกับผม
ไอ้หินพยุงผมให้นั่งลง แล้วก็ถึงคิวมันเปิดใจต่อไป จนเสร็จครบทุกคน หลังจากนั้นก็เป็นการบายศรีผูกข้อมือ โดยพี่ปีสี่และพี่ปีสาม พวกผมปีหนึ่งปีสองก็เรียงแถวเข้าไปให้พี่ปีสี่ปีสามผูกข้อมือให้ พอผูกเสร็จผมก็มองหาพี่ดิน เพื่อที่จะให้พี่เค้าผูกข้อมือให้แต่ผมก็หาไม่เจอ
"ไอ้ฟ้า ไปให้พี่เทมส์ผูกข้อมือให้กันเถอะ" ไอ้เทียนเดินมาชวนผม ผมก็พยักหน้าแล้วให้ไอ้เทียนพยุงพาไปหาพี่เทมส์ พี่เทมส์ผูกข้อมือให้ผมกับไอ้เทียนเสร็จก็บอกข่าวร้ายกับผมและไอ้เทียน เรื่องที่พี่เทมส์จะไปเรียนที่ต่างประเทศ ทำเอาผมกับไอ้เทียนถึงกับซึมๆไป เพราะต่อไปผมกับไอ้เทียนก็จะไม่มีพี่รหัสแล้ว
หลังจากพิธีผูกข้อมือเสร็จสิ้น พี่ปลื้มก็สรุปงานแล้วก็บอกตารางกิจกรรมคร่าวๆของวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะปล่อยให้ลูกค่ายแยกย้ายไปอาบน้ำพักผ่อน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่สนามกีฬา รวมทั้งพวกผมด้วย มีเพื่อนหลายคนเข้ามานั่งคุยกับผม บางคนก็บอกว่าไม่ได้มีโอกาสมาทำความรู้จักเลย วันนี้ก็เลยถือโอกาสมานั่งคุยกับผม ผมก็รู้สึกดีนะครับ ที่ทุกๆคนดีกับผมจริงๆ การมาค่ายครั้งนี้ทำให้ได้เพื่อนใหม่ๆกลับไปเยอะมาก
"ไอ้ฟ้า ไปอาบน้ำกันเหอะหว่ะ" ไอ้ทิวบอกผมแล้วมันก็อ้าปากหาว
ผมก็ขอตัวจากเพื่อนๆกลับห้องไปเตรียมอาบน้ำ
"ไอ้หิน ไอ้ทิว ไอ้คิม มากับกู" พี่โอมเดินมาเรียกไอ้สามคนนั้น ด้วยน้ำเสียงดุๆ พวกผมก็มองหน้ากันด้วยความ งงๆ ว่ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ไอ้ป้องกับไอ้เทียนก็เลยมาช่วยพยุงผมพากลับห้อง ปล่อยให้ไอ้สามคนนั้นตามพี่โอมไป
ผม ไอ้ป้อง ไอ้เทียน ไปอาบน้ำจนเสร็จ กลับมาที่ห้อง พี่ดิน พี่โอม พี่อาทิตย์ ก็ยังไม่กลับมา รวมทั้งไอ้หิน ไอ้ทิว ไอ้คิมด้วย ผมสามคนก็เลยนอนกันก่อน อาการปวดที่ข้อเท้าของผมก็ยังคงอยู่ แต่ผมก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็วคงเพราะรู้สึกเพลียๆด้วย
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่รู้สึกอึดอัดเพราะโดนใครคนนึงกอดรัดตัวผมอยู่ ผมคิดว่าคงต้องเป็นไอ้หินแน่ๆ
"ไอ้หินปล่อย กูอึดอัด" ผมบอกไอ้หินแล้วก็เอามือแกะแขนมันที่กอดรัดตัวผมอยู่
"ถ้ากูไม่ใช่ไอ้หินต้องปล่อยมั๊ย""เชี่ยยย พี่ดิน" ผมพูดในใจ เพราะเสียงที่ตอบกลับผมมากลับเป็นเสียงของพี่ดิน ไม่ใช่ไอ้หิน แถมตอนนี้พี่ดินแกซุกหน้าเอาจมูกมาชนกับซอกคอของผมอีก ทำเอาผมรู้สึกเสียววาบจนขนลุก เมื่อลมหายใจอุ่นๆของพี่แกพ่นมาโดนซอกคอของผม
"พี่ดิน ปล่อยเถอะครับ มันผิดกฏค่ายนะพี่"
"ผิดกฏตรงไหนว๊ะแค่กอดกัน ห๊ะ ผิดกฏตรงไหน" พี่ดินพูดยั่วผม แถมยังกอดรัดผมแน่นขึ้นอีก
"กอดกันก็ผิดกฏครับ"
"ไม่ผิด"
"นี่พี่ไปไหนกันมาถึงได้กลับมาดึกขนาดนี้" ผมถามพี่ดินแล้วก็กดโทรศัพย์ดูเวลาทำให้แสงสว่างวาบขึ้นมา ตอนนี้ตีสองกว่าๆแล้ว
"มึงจะเปิดไฟทำไมคนอื่นเค้านอนกัน" พี่ดินว่าผมแล้วก็หยิบโทรศัพย์ไปจากมือของผมกดปิดหน้าจอ ทำให้ห้องกลับมามืดเหมือนเดิม
"พี่ยังไม่ตอบผมเลยว่าไปไหนกันมา"
"เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงก็รู้"
"โอเค งั้นก็ปล่อยผมได้ละผมจะนอน"
"มึงจะนอนก็นอนไปดิ"
"ก็พี่กอดผม ผมนอนไม่หลับ"
"นอนไปอย่าบ่นจะได้ชิน"
"พี่ดิน"
"ไอ้ฟ้า" พี่ดินเรียกผมเบาๆ แล้วก็จับตัวผมให้พลิกตัวหันหน้าเข้าไปหาตัวของพี่เค้า
ผมก้มหน้าอยู่กับหน้าอกของพี่ดิน ได้กลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆจากตัวของแก หัวใจเต้นแรงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง
"พี่เลิกกอดผมเถอะ พี่กำลังพาผมผิดกฏค่าย" ผมพูดออกมาเบาๆให้ได้ยินแค่ผมกับพี่ดิน
"แค่กอดมันไม่ผิดกฏค่ายหรอก มันต้องแบบนี้" พี่ดินกระซิบบอกผม แล้วก็เอามือมาเชยคางผมให้เงยหน้าขึ้นไปแล้วก็ก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากลงบนปากของผม
ความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นกับผม เพียงแค่พี่ดินแตะริมฝีปากกับปากของผม มันเหมือนทำให้เลือดในตัวสูบฉีดแรงขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ลมหายใจอุ่นๆของพี่ดินกับผมที่พ่นใส่กัน มันช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้พุ่งพล่าน พี่ดินออกแรงกดริมฝีปากจนแนบสนิทกับริมฝีปากบางของผม มันเนิ่นนาน จนผมรู้สึกว่าเริ่มหายใจไม่ออก เลยผละหน้าออกจากพันธนาการนั้น แล้วก็ก้มหน้านิ่ง ทำเอาอีกฝ่ายทำหน้าไม่พอใจที่ผมขัดจังหว่ะแบบนั้น
ไม่มีคำพูดจากฝ่ายตรงข้าม แขนยาวนั้นรวบตัวของผมเข้าไปกอด ตอนนี้ด้านนอกเสียงฝนตกลงมาอย่างหนัก แสงฟ้าแลบแปร๊บผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในห้อง มันอาจจะสว่างพอที่จะทำให้พี่ดินเห็นว่าผมหน้าแดงอยู่ในอ้อมกอดของเค้า
"มีม่อมือมื่อ นะครับ" เสียงพี่ดินกระซิบบอกผมพร้อมกับเอาปลายจมูกโด่งมาดุนๆบนหัวของผม
พอเถอะครับพี่ดิน หัวใจของผมแทบจะหลุดออกมาแล้วครับ...........
------------------------------
เค้าผิดกฏค่ายกันแล้วววววว
