กล(รัก)เกียร์ ตอนที่ 21 : การเดินทางที่แสนพิเศษ
##เมจเสจจากค่าย## แล้วก็ถึงวันที่ค่ายใหญ่จะได้ออกเดินทางกันแล้ว แต่ผมรู้สึกตื่นเต้นนะแต่ก็เป็นห่วงไอ้หินกับไอ้ทิวเพราะมันสองคนหายเงียบไปสามวันแล้วครับ นับตั้งแต่วันที่ไปเตรียมค่ายพวกมันก็ไลน์มาคุยกับผมตลอด แต่สองสามวันมานี่มันสองคนเงียบหายไป ผมไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ บางครั้งก็โทรไม่ติดเหมือนไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ส่วนพี่ดินก็เงียบหายไปเหมือนกัน
"กูรอที่ค่ายนะ" เป็นข้อความไลน์ล่าสุดที่พี่ดินส่งให้ผมในวันที่เดินทางไปเตรียมค่าย นอกนั้นแกก็เงียบหาย มีแต่ตอนที่ไอ้ทิวไอ้หินไลน์มาคุยมันก็จะบอกว่าพี่ดินฝากถามว่า...พี่ดินบอกว่า....พี่ดินนู่นนี่นั่น แต่เจ้าตัวไม่เคยไลน์มาเองซักครั้ง ผมขอให้ไอ้หินกับไอ้ทิวส่งภาพบรรยากาศเตรียมค่ายมาให้ดูบ้าง มันสองคนก็ไม่ส่งให้ผมดู มันบอกว่าเป็นกฏของทีมงานเตรียมค่ายที่ห้ามเผยแพร่ภาพใดๆออกไปก่อนที่ค่ายใหญ่จะมาถึง ส่วนการกินอยู่ช่วงเตรียมค่ายไอ้ทิวบอกว่าอยู่สบายๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ผมเองในระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ว่างๆ ก็ได้ไอ้เทียนกับพี่โอมนี่แหล่ะครับอยู่เป็นเพื่อน พี่โอมเลี้ยงข้าวผมกับไอ้เทียนทุกวันเลย จนแม่ไอ้เทียนบอกกับพี่โอมว่าเดือนนี้ไม่ต้องจ่ายค่าห้อง ฮ่าๆ ดีไปอีก
ตอนแปดโมงเช้าผมกับไอ้เทียนลงมากินข้าวที่ร้านใต้หอ ซักพักพี่โอมก็มานั่งด้วย ผมเห็นพี่โอมแต่งตัววันนี้แล้ว แกคงสไตล์เดียวกับพี่ดิน เกงยีนส์สีซีดเข่าขาด รองเท้าผ้าใบ เสื้อยืดตราห่านสีขาว ซึ่งมันช่วยขับผิวที่ขาวอยู่แล้วให้น่ามองมากขึ้น พี่โอมแกหล่อแบบหมดจรดจริงๆครับ แล้วการแต่งตัววันนี้ก็ทำให้คนตรงหน้าผมดูเท่ห์มาก
"ฟ้า เทียน สั่งข้าวกันยัง"
"สั่งไปแล้วครับพี่โอม พี่โอมจะกินไรเดี๋ยวผมไปสั่งให้ครับ" ผมบอกพี่โอมที่กำลังจรดปากกาเขียนเมนูในกระดาษ
พี่โอมชะงักมือแล้วเงยหน้ามามองผม "เอาแบบฟ้าก็ได้ แล้วก็ต้มจืดเต้าหู้หมูสับถ้วยนึงเอามากินด้วยกัน" พี่โอมบอกผมแล้วก็ยิ้ม
"ผมกินข้าวไข่เจียวนะครับพี่"
"ครับ เอาแบบฟ้าแหล่ะ"
ผมเดินไปสั่งข้าวให้พี่โอมแล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ พี่โอมออกไปยืนคุยโทรศัพท์ที่หน้าร้าน ซักพักก็กลับมานั่งตรงข้ามผม
"เออ ฟ้า นี่บอกไอ้ภูยังว่าจะไปค่าย"
"บอกแล้วครับพี่ บอกล่วงหน้าตั้งนาน ตอนแรกมันก็ไม่ให้ผมไปหรอก แต่ผมบอกว่าพี่โอมก็ไป มันก็เลยให้ไปได้"
"ถึงว่า มันโทรมากำชับพี่ว่าให้ช่วยดูแลฟ้าให้ด้วย"
"โห่ พี่..เมื่อไหร่มันจะเห็นผมโตซักทีเนี่ย อะไรๆก็เป็นห่วงไปหมด" ผมบ่นไอ้ภูให้พี่โอมฟัง พี่โอมก็หัวเราะ
"นี่แหล่ะ คือหน้าที่ของพี่ที่มีต่อน้อง" พี่โอมบอกผม
"พี่โอมมีน้องมั๊ยครับ" ไอ้เทียนถามพี่โอม
ผมเห็นพี่โอมทำหน้าสลด ก้มหน้าลงก่อนที่จะเงยหน้ามาตอบไอ้เทียน
"มีครับ พี่มีน้องชายคนนึงแต่เค้าเสียชีวิตตั้งแต่ตอนสิบขวบ ถ้าเค้ายังอยู่ก็รุ่นเดียวกับเทียนนี่แหล่ะ" พี่โอมพูดแล้วก็เงียบไป มีท่าทีเศร้าๆ
"อ่า ผมเสียใจด้วยนะครับพี่ ขอโทษนะครับที่ถาม" ไอ้เทียนบอกพี่โอม
"ไม่เป็นไรครับ ถามได้"
"แล้วเค้าเป็นอะไรถึงเสียชีวิตหล่ะครับ" ผมถามพี่โอม
"จมน้ำครับ เค้าไปเรียนว่ายน้ำแล้วเป็นตะคริว"
"อ่อ ครับ เสียใจด้วยนะครับพี่โอม เหงาเลย" ผมบอกพี่โอม พี่โอมแกก็ยิ้ม แต่สายตาก็ยังดูเศร้าๆอยู่
"ก็ทั้งเสียใจทั้งเหงาแหล่ะครับ น้องชายพี่เหมือนกับฟ้ามาก พี่ถึงรู้สึกเอ็นดูฟ้าตั้งแต่เจอครั้งแรก"
"อ่อ ครับ"
"อีกอย่างฟ้าก็เป็นน้องไอ้ภูเพื่อนพี่ด้วย ทำให้ใกล้กันขึ้นไปอีก เหมือนกับน้องชายพี่ยังอยู่"
"ผมคงแทนน้องชายพี่โอมไม่ได้หรอกครับ แต่ยังไงผมกับไอ้เทียนก็เป็นน้องพี่ได้นะครับ ดีซ๊ะอีกมีพี่คอยดูแล"
"ครับ ทีนี้ก็อย่ารำคาญหล่ะ เวลาที่ไอ้ภูมันเป็นห่วงอ่ะ เข้าใจรึยัง" พี่โอมถามผมแล้วก็เอามือมาขยี้ผมบนศีรษะของผม
"ครับพี่ เข้าใจแล้วคร๊าบบ" ผมบอกพี่โอม รู้สึกเขินๆเหมือนกันที่พี่แกมาทำแบบนี้กับผม เพราะรู้สึกว่ามีสายตาของหลายๆคนในร้านข้าวกำลังมองอยู่
"อ่ะ ข้าวมาแล้ว รีบกินจะได้รีบไปชมรม"
ผม ไอ้เทียน พี่โอม กินข้าวเสร็จ ก็พากันเดินไปชมรม เห็นหลายคนสะพายกระเป๋า เดินไปทางเดียวกัน คงจะไปค่ายเหมือนกัน บางคนก็อุ้มตุ๊กตาไปด้วย พี่โอมเห็นก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่าเอาตุ๊กตาไปให้เปื้อนเปล่าๆ ผมแวะเข้าไปในเซเว่นเล็กๆที่อยู่ข้างในคณะวิศวะ เพื่อซื้อช็อกโกแลตไปฝากเด็กๆ เพราะไอ้หินบอกผมว่าที่หมู่บ้านมีเด็กๆเยอะมาก และเด็กๆก็น่ารัก พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด เป็นสำเนียงแบบชาวเขาที่เราเคยได้ยินกัน เด็กๆบอกว่าอยากกินช็อกโกแลต
##เมจเสจจากค่าย##หลังจากซื้อของเสร็จ ผม พี่โอม ไอ้เทียนก็เดินไปถึงชมรม ได้ยินเสียงกลองสันทนาการดังมาแต่ไกล บรรยากาศน่าสนุกครับ
"ลูกค่ายคนไหนที่มาถึงแล้วแต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ได้โปรดมาลงทะเบียนตรงนี้ก่อนนะคะ" เสียงพี่โอปอพูดออกโทรโข่ง
ผม ไอ้เทียน พี่โอมก็ไปต่อแถวลงทะเบียนครับ
"อ่าว ไอ้โอม กูนึกว่ามึงไปเตรียมค่ายนะเนี่ย" เพื่อนพี่โอมเข้ามาทักพี่โอม
"ตอนแรกกูก็ได้ไปชุดเตรียมค่ายแหล่ะ แต่ไอ้ดินให้กูไปพร้อมค่ายใหญ่"
"ทำไมว๊ะ คนไปเตรียมค่ายเยอะเลยหรอ"
"เออ ก็เยอะนะ ไอ้ดินมันให้กูอยู่ดูแลเกียร์ของมัน" พี่โอมตอบเพื่อน เพื่อนพี่โอมก็ทำหน้า งงๆ แต่ก็พยักหน้าให้เหมือนว่าจะเข้าใจในสิ่งที่พี่โอมบอก ผมเองยืนฟังอยู่ก็ยัง งง ไปด้วย....
เกียร์ของพี่ดินให้พี่โอมดูแล...!!
"ว๊ายยย น้องฟ้า พ่อทูนหัว น้องฟ้ามาอยู่อาข่ากับพี่โอปอนะคะมานี่เลยพี่เขียนป้ายให้" พี่โอปอเรียกผม แล้วก็ดึงมือผมออกไปจากแถว
"โอปอ น้องฟ้าอยู่ปกาเกอญอกับเราย่ะ เสียใจด้วยนะ" เพื่อนพี่โอปอพูดขึ้นมา ทำเอาพี่โอปอหน้าหงิกไป
"ไปเลย ไปอยู่ปกาเกอญอนู่น ชิ" พี่โอปอพูดแล้วก็ผลักตัวผมไปหาพี่คนนั้น พี่เค้าก็เอาป้ายกระดาษสีเหลืองที่เขียนชื่อผมคล้องคอให้ผม
น้องฟ้า ปี.1 (ปกาเกอญอ)ตอนนี้ลูกค่ายที่ได้รับป้ายชื่อจะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ
อาข่าป้ายสีเขียว กับ
ปกาเกอญอป้ายสีเหลือง ไอ้เทียนได้อยู่อาข่า ส่วนพี่โอมอยู่ปกาเกอญอเหมือนกับผม
"โอม น้องฟ้า ยืนคู่กันหน่อยเราขอถ่ายรูปไปลงเพจหน่อย"
"โห ส้ม จะไปค่ายก็ยังลงเพจอีกหรอ" พี่โอมถามเพื่อน
"ลงสิ เค้าจะได้รู้ว่าชมรมเราไปทำค่ายจริงๆ มาๆขอถ่ายรูปหน่อย"
พี่โอมเอาแขนมากอดคอผม เพื่อให้เพื่อนถ่ายรูปไปลงเพจ
"ดีมากโอม เซอร์วิสแฟนๆเก่งแบบนี้ รักตายเลย อิอิ" เพื่อนพี่โอมแซวผมกับพี่โอม
พี่โอมฝากกระเป๋าไว้กับผม แล้วก็เดินไปคุยกับกลุ่มเพื่อนพี่เค้า ส่วนผมกับไอ้เทียนก็นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้หิน รอพี่ๆเรียกรวม
"เฮ้ย ไอ้ฟ้า ไอ้เทียน อยู่เผ่าไหนเนี่ย" ไอ้คิมเดินเข้ามาทักผมกับไอ้เทียนก่อนที่จะนั่งข้างๆผม
"อ่าว ไอ้คิมมึงก็ไปค่ายด้วยหรอ" ไอ้เทียนถามไอ้คิม
"เออ ไปดิ กูอยู่อาข่า"
"กูปกาเกอญอ" ผมบอกไอ้คิมแล้วก็ชูป้ายชื่อให้มันดู
"ไอ้เทียนอาข่าเหมือนกูเลย"
"เออ ไอ้คิมเดี๋ยวตอนขึ้นรถไฟไปนั่งด้วยกันดิ" ผมชวนไอ้คิมไปนั่งด้วย เพราะจะได้ครบสี่คนพอดี พี่โอม ผม ไอ้เทียน ไอ้คิม
"ได้ๆ เดี๋ยวกูไปนั่งด้วย ฝากกระเป๋าแป๊บนะไปเข้าห้องน้ำก่อน"
"เร็วๆนะมึงเดี๋ยวพี่เค้าจะเรียกรวมแล้ว"
เพจ UST SO CUTE "สองหนุ่มหล่อไปค่าย"
"โอม" ปี 2 คณะวิศวะกรรมศาสตร์ / ฟ้า ปี 1 คณะอุตสาหกรรมเกษตร พิกัด:ชมรมค่ายอาสา
หูยยยย แพคคู่ ดีต่อใจ
ค่ายนี้ดี๊ดี สมัครทันมั๊ยคะ
จิ้นไปอีก พี่โอม น้องฟ้า
อยากไปค่ายด้วยเลยอ่ะ ทันมั๊ยค้าาาาา"แหม่ะ มึงนี้นะไอ้ฟ้า ค่ายยังไม่ทันเริ่ม โดนจับจิ้นซ๊ะละ" ไอ้เทียนแซวผม
"ไม่ต้องห่วงเลยฟ้า มีคนรอจิ้นเพียบบนค่าย" พี่โอมบอกผม แล้วก็หัวเราะ เหมือนกับพี่เค้ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วกับคำคอมเม้นต์ในเพจ
"น้องฟ้าค่ะ" พี่ขวัญเดินมาหาผมพร้อมขนมถุงใหญ่
"สวัสดีครับพี่ขวัญ" ผมยกมือสวัสดีพี่ขวัญ พี่ขวัญก็รับไหว้ผมแล้วก็ยื่นถุงขนมให้
"อ่ะนี่ขนม เอาไว้กินบนรถไฟนะ"
"โห พี่ขวัญครับ ทำไมเยอะจังผมกินไม่หมดหรอก" ผมบอกพี่ขวัญเมื่อเห็นว่าในถุงใบใหญ่นั้นเต็มไปด้วยขนมหลายๆอย่างรวมกัน
"ไอ้คนบนค่ายใช่มั๊ยขวัญ" พี่โอมถามพี่ขวัญ พี่ขวัญก็พยักหน้าให้พี่โอม
"นี่ยังไม่หมดนะโอม เดี๋ยวบนรถไฟมีอีก" พี่ขวัญบอกพี่โอมพี่โอมก็อมยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้พี่ขวัญ
"นี่พี่คุยเรื่องอะไรกันหรอครับ" ผมถามพี่สองคนเพราะความสงสัย
"ไม่มีอะไรค่ะน้องฟ้า อย่าลืมกินขนมนะ พี่ไปละไว้เจอกันบนรถไฟนะ" พี่ขวัญบอกผมแล้วก็เดินไปหากลุ่มเพื่อน
ซักพักพี่ปีสามก็เรียกรวมลูกค่ายครับ ให้นั่งตามกลุ่มในป้ายชื่อ ซึ่งก็แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ จำนวนสมาชิกชมรมทั้งหมดที่ไปค่ายรวมกับชุดเตรียมค่ายก็ประมาณ50คนครับ
"เอาหล่ะค่ะน้องๆชมรมค่ายอาสาทุกคนก่อนอื่นพี่ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ พี่ชื่อโอเลี้ยงค่ะ เพราะพี่ตัวดำ"
"พี่เลี้ยง ทำไมรีบฆ่าตัวเองหล่ะคะ" เสียงพี่โอปอแซวพี่ผู้หญิงผิวเข้มที่กำลังยืนแนะนำตัวอยู่หน้าแถว
"ก็ดีกว่าให้แกฆ่าชั้นนะยะนังโอปอ"
พวกผมก็หัวเราะ ขำๆกันกับการพูดหยอกของพี่เค้า
"พี่ชื่อโอเลี้ยงนะคะ อยู่คณะสถาปัตฯปีสาม พี่เป็นเฮดทีมงานสวัสดิการค่ายค่ะ ส่วนทีมงานอื่นๆเดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักกันบนค่ายนะคะ เดี๋ยวพี่จะบอกการเดินทางของพวกเราในวันนี้ก่อนแล้วก็จะได้เดินทางไปสถานีรถไฟกันค่ะ"
พี่โอเลี้ยงบอกว่า หลังจากเสร็จจากชมรมแล้ว ลูกค่ายทุกคนก็จะเดินไปที่สถานีรถไฟที่เป็นจุดจอดรถของมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็จะนั่งรถไฟขบวนท้องถิ่นไปถึงสถานีกรุงเทพฯ แล้วก็ต่อรถไฟสายเหนือจากสถานีกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟลำพูน เมื่อถึงสถานีรถไฟลำพูนก็จะมีรถบัสจากค่ายทหารมารอรับลูกค่ายทุกคนขึ้นไปส่งยังหมู่บ้านที่จะไปทำค่าย อันเป็นการสิ้นสุดการเดินทาง
"ลูกค่ายทุกคนเข้าใจการเดินทางของเรานะคะ"
"เข้าใจครับ/เข้าใจค่ะ"
"ต่อไปพี่จะแนะนำทีมงานพยาบาลนะคะ น้องๆปีหนึ่ง ใครป่วยหรือรู้สึกไม่สบายก็ให้มองหาคนที่คล้องป้ายชื่อสีชมพูแบบนี้ นั่นหมายความว่าพี่เค้าเป็นทีมงานพยาบาลนะคะ ยกตัวอย่างนี่ค่ะ น้องขวัญ คณะวิศวะปี2 เป็นทีมงานพยาบาลค่ะ" พี่โอเลี้ยงเรียกพี่ขวัญออกไปยืนหน้าแถว
"ก่อนที่เราจะไปขึ้นรถไฟ พี่ได้รับเมจเสจจากค่ายมาค่ะ เดี๋ยวพี่ขอมอบหน้าที่นี้ให้ทีมสันทนาการดีกว่าค่ะ เชิญน้องโอปอค่ะ" พี่โอเลี้ยงเรียกพี่โอปอออกไป เสียงกลองในจังหว่ะสามช่าก็ดังขึ้น พี่โอปอกับทีมงานสันทนาการก็ออกไปเต้นหน้าแถว พวกผมก็นั่งปรบมือกันอย่างสนุก
"สวัสดีค่า พี่ชื่อโอปอนะคะ ปี2 คณะอุตสาหกรรมเกษตร สวยๆค่ะ" พี่โอปอพูดแนะนำตัว พวกปีหนึ่งก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
"ก่อนไปค่าย เราก็มีเมจเสจจากชุดเตรียมค่ายส่งมาถึงสมาชิกค่ายใหญ่นะคะ"
"เมจเสจแรก....บนดอยมันหนาว กอดเราก็ได้ จากทีมงานเตาปูน" พอพี่โอปออ่านเมจเสจจบ พวกผมก็ปรบมือ ส่งเสียงวี๊ดวิ้วกันตลอด
"ไอ้ฟ้า เด็กๆรอช็อกโกแลตจากมึงนะครับ จากก้อนหินก้อนนั้น" ไอ้เชี่ยหินเล่นผมเข้าแล้ว ถึงว่าเงียบหายกันไป ที่แท้ก็ส่งเมจเสจมาให้ผมนี่เอง
"น้องฟ้าคะ เด็กๆต้องการช็อกโกแลตค่ะ เตรียมไว้หรือยังเอ่ย" พี่โอปอถามผม
"เรียบร้อยแล้วครับพี่"
"เมจเสจต่อไปนะคะ ถึงอีโอปอ บนนี้ไม่มีกล้วยมีอ้อยให้กินนะมึง กรุณาเอาขึ้นมาเอง จากน้ำกะทิขาวข้นหวานมัน" พี่โอปออ่านเมจเสจที่ส่งถึงตัวเอง พวกผมได้ยินก็ขำกัน
"ไม่มีกล้วยมีอ้อย เดี๋ยวกูจะกินน้ำกะทิมึงให้หมดเลย ขาวข้นหวานมันเนี่ย อย่าให้รู้นะว่าใคร" พี่โอปอพูดออกมา มีแต่คนหัวเราะรวมทั้งผมด้วย
"ทีมงานสวัสดิการครับ เตรียมค่ายต้องการน้ำแดง จากคนขาดความหวาน""ได้ค่ะ เดี๋ยวสวัสดิการจัดให้ น้ำแดงหวานๆ" เสียงพี่ๆทีมงานสวัสดิการตะโกนตอบมา
"ไอ้ฟ้า อุตสาหกรรมเกษตรปีหนึ่งมามั๊ยครับ มีคนคิดถึงใจจะขาดอยู่บนค่าย จากทิวสนริมทางรถไฟ""แล่ว แล่ว แล่ววววว น้องฟ้าคะ พ่อทูนหัวของพี่ มีคนคิดถึงอยู่บนค่ายค่ะ ใจจะขาด ว๊ายยยย แต่..ชุดเตรียมค่ายมีแต่ผู้ชายนะ ทำไมคิดถึงน้องฟ้าหล่ะคะ" พี่โอปอ พูดเองชงเอง เพื่อนๆในแถวก็หัวเราะกัน
"ฮ่าๆ ไอ้ฟ้า กูว่าไอ้หินกับไอ้ทิวแกล้งมึงละเนี่ย" ไอ้เทียนพูดแซวผม
"เออดิ คงมันสองคนแหล่ะ จะมีใครหล่ะ" ผมบอกไอ้เทียน
"สัญญานโทรศัพท์อาจจะไม่มี แต่สัญญานจากใจพี่มีให้เต็มๆเลยคร๊าบบบ จากทีมงานตักหินตักทราย""ฮิ้ววววววววว"
"อาบน้ำมันหนาว อาบเหล้าดีกว่า จากทีมงานยกแก้ว""ฮ่าาาาาาาาาาาาาา งานนี้มีเมานะคะ"
"ปีที่แล้วอีโอปอตกมันค่ะ โดนเหล้าไปแก้วเดียวตกมันค่ายแทบแตก ฮ่าๆ" เพื่อนพี่โอปอแซว พี่โอปอก็ออกอาการเขินที่โดนเพื่อนแฉ พวกผมก็หัวเราะกัน
"เอาหล่ะ จบเมจเสจสุดท้ายดีกว่าค่ะ จะได้ไปสถานีรถไฟกัน รถใกล้จะมาละ"
"เมจเสจสุดท้ายของเรานะคะ ใครหว่า ลายมือสวยซ๊ะด้วย"
"จากทีมงานเดินป่าค่ะ ทีมงานเดินป่าส่งเมจเสจมาบอกว่า ในป่ามีของหายาก อยากจะรักคุณเท่าฟ้า""เอ๊ะ ของหายาก แล้วเกี่ยวอะไรกับรักคุณเท่าฟ้าคะเนี่ย พี่อ่านแล้วก็ งงๆ" พี่โอปอพูดแล้วก็ยกมือเกาหัว พวกผมเองก็ งง ไปด้วย ฮ่าๆ
หลังจากเสร็จกิจกรรมที่ชมรมแล้ว พี่ปีสามก็พาลูกค่ายทุกคนเดินไปยังสถานีรถไฟเล็กๆของมหาวิทยาลัยครับ แล้วพวกเราก็นั่งรถไฟมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปขึ้นอีกขบวนนึงที่เป็นรถไฟสายเหนือ สองโบกี้สุดท้ายเป็นของชมรมค่ายอาสาครับ เจ้าหน้าที่ติดป้ายไว้ชัดเจนแล้วก็มีป้ายผ้าที่เขียนชื่อชมรมค่ายอาสาผูกติดเอาไว้ด้วย ไอ้คิมพาผมขึ้นไปที่โบกี้ท้ายสุด มันบอกว่านั่งท้ายๆอ่ะเงียบดีไม่อึดอัดด้วย พี่โอมก็มานั่งกับพวกผม ผมนั่งกับพี่โอม ฝั่งตรงข้ามก็เป็นไอ้เทียนกับไอ้คิม พี่โอมให้ผมนั่งริมหน้าต่างจะได้ไม่ร้อน ลมพัดเย็นสบาย รถไฟขบวนที่พวกผมนั่งเป็นรถเร็วครับจะออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯเวลาเวลาประมาณบ่ายสอง แล้วก็จะไปถึงสถานีลำพูนประมาณตีสี่กว่าๆครับ ซึ่งเช้ามากๆ พวกผมต้องนั่งรอรถจากค่ายทหารมารับในตอนฟ้าสางประมาณ8โมงเช้าครับ
เมื่อถึงเวลารถไฟก็ค่อยๆเคลื่อนขบวนออกจากสถานีครับ ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากกับวิวทิวทัศน์ข้างทางรถไฟ ผมชะโงกหน้าออกไปมองจนพี่โอมต้องคอยเตือนเพราะมันอันตราย เอาจริงๆนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางโดยรถไฟเลยนะครับเนี่ย ช่วงแรกๆที่ออกจากสถานีกรุงเทพฯ สองข้างทางก็จะเป็นบ้านเรือนคนที่ปลูกแทบจะติดกับรางรถไฟเลยครับ พอหลุดจากสถานีดอนเมืองก็เป็นแถวๆรังสิต ทิวทัศน์เปลี่ยนไปกลายเป็นทุ่งนากึ่งๆเมือง เพราะยังเห็นทิวตึกสูงอยู่ไกลๆ พอไปถึงอยุธยาก็เป็นชนบท มีทุ่งนา นานๆจะเห็นบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ห่างๆกัน ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างอากาศสดชื่นมากๆครับ ไอ้เทียน ไอ้คิม พี่โอม พากันงีบหลับหมด มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่หลับ ยังคงนั่งมองวิวไปเรื่อยเปื่อย ได้สูดอากาศสดชื่นแบบนี้ใครจะไปหลับลงหล่ะครับ ขอเก็บความทรงจำนี้ไว้ให้มากที่สุดดีกว่า
"ฟ้า ไม่ง่วงหรอ" พี่โอมถามผมทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ พร้อมกับเอื้อมแขนยาวของแกมาคล้องตัวผมให้เอนไปพิงกับไหล่ของแก
"ไม่อ่ะครับพี่ ผมไม่เคยเห็นวิวสวยๆแบบนี้เลย ขอนั่งดูวิวดีกว่า"
"แหม่ โอมตัวติดน้องฟ้าแจเลยนะ" เพื่อนพี่โอมที่อยู่เบาะตรงข้ามแซวพี่โอม พี่โอมลืมตามายิ้มให้เพื่อน
"ก็นี่น้องชายโอมนะครับ ดูสิหน้าเหมือนกันมั๊ย" พี่โอมบอกเพื่อน แล้วก็เอาแขนโอบตัวผมจนหน้าผมแนบกับหน้าพี่โอม รู้สึกเหมือนไฟช๊อต..!!
"เออ หน้าคล้าย นี่บอกเป็นพี่น้องกันเราเชื่อนะเนี่ย"
"ก็บอกแล้วว่านี่อ่ะ น้องชายโอม" พี่โอมบอกเพื่อนแล้วก็หลับตานอนต่อ แต่ก็ยังคงหนีบผมไว้แบบนี้ จนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด
"พี่โอมครับ" ผมเรียกพี่โอมแล้วขยับตัว
"อือ โทษที ลืมปล่อย" พี่โอมบอกผมแล้วก็หัวเราะ หึ หึ
ผม..พอหลุดจากอ้อมแขนพี่โอมแล้วก็หันมาตั้งหน้าตั้งตาดูวิวข้างทางต่อ พอดูไปนานๆ โดนลมตีหน้าก็ทำให้เริ่มหาว ตาปรือๆได้เหมือนกันนะครับ หันกลับมามองไอ้เทียนไอ้คิม สองคนนั้นก็หลับดีจริงๆจนหัวชนกัน ผมเองก็เริ่มง่วง เลยนั่งเอาหัวพิงหน้าต่างแล้วก็หลับตาให้ลมตีหน้าเย็นๆ
"ให้ลมตีหน้าขนาดนั้นเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก มานี่มา" พี่โอมพูดแล้วก็เอาแขนมาโอบตัวผมให้พิงหัวกับไหล่ของแก
ผมก็นอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็หลับไป
"เด็กอะไร หลับยากหลับเย็นจริงๆ" พี่โอมบ่นผมเบาๆ พร้อมกับก้มหน้าลงมาพิจารณาใบหน้าของผมที่หลับตานิ่งอยู่กับไหล่ของตัวเอง
"โอม แหม่ะ อะไรจะดูแลดีขนาดนี้" พี่ขวัญเดินมาหาพี่โอม พอเห็นว่าผมนอนพิงพี่โอมอยู่ ก็ออกปากแซวพี่โอมทันที
"มีไรหรอขวัญ"
"น้องฟ้าหลับนานยัง"
"ซักพักละ"
"เดี๋ยวถ้าน้องเค้าตื่น แล้วจะกินข้าวโอมพาไปกินที่ตู้เสบียงนะ ไอ้ดินมันฝากตังค์ไว้ที่ขวัญให้ดูแลเด็กของมัน"
"แหม่ ไอ้ดินนี่นะฝากคนอื่นเค้าไปทั่ว นี่มันไม่ให้โอมไปเตรียมค่ายนะ ให้โอมไปค่ายใหญ่พร้อมฟ้า สงสัยจะเอาจริง"
"เอาจริงอะไร มันอ่ะป๊อดจะตาย" พี่ขวัญพูดแล้วก็หัวเราะ
"อือ ได้ๆ เดี๋ยวถ้าน้องมันตื่นโอมจะพาไปนะ"
"โอเค เดี๋ยวไปกินข้าวพร้อมกัน" พี่ขวัญบอกพี่โอมแล้วก็เดินกลับไป
ผมไม่รู้ว่าหลับไปนานมั๊ย รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนขายของ ผมลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองยังพิงอยู่กับไหล่ของพี่โอม ที่ตอนนี้เสียบหูฟังเพลงอยู่ ส่วนไอ้คิมกับไอ้เทียนไม่รู้ว่าหายไปไหน ผมขยับตัว พี่โอมก็ถอดหูฟังออก
"อ่าว ตื่นแล้วหรอ"
"ครับพี่ พี่โอมเมื่อยมั๊ย ขอโทษนะครับ" ผมรีบขอโทษพี่โอมที่นอนพิงไหล่ซ๊ะนานเลย พี่แกจะขยับตัวก็ไม่ได้ คงกลัวว่าผมจะตื่น
"ไม่เป็นไรครับ พี่สบายๆ"
"ไอ้เทียนไอ้คิมไปไหนอ่ะครับ"
"ไปเดินเล่นกันเดี๋ยวก็มา"
ผมก้มมองนาฬิกาตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆ นี่ผมหลับไปนานมากนะเนี่ยเกือบสองชั่วโมง
"เฮ้ย ไอ้ฟ้า มีตู้เสบียงด้วยหว่ะ ของกินเพียบไปกินข้าวกันมั๊ย" ไอ้เทียนชวนผมทันทีที่มันกลับมาถึงที่นั่ง
"เออ ไปดิ แต่ เดี๋ยวกูไปล้างหน้าก่อนนะรอแป๊บ" ผมบอกไอ้เทียนไอ้คิม แล้วก็เดินไปห้องน้ำ เห็นเพื่อนผู้หญิงยืนรออยู่ ผมก็เดินไปยืนรอใกล้ๆ
"เราไม่อยากจะเชื่อว่าอย่างฟ้าจะไปค่ายด้วยนะเนี่ย" เพื่อนที่ยืนรอเข้าห้องน้ำอยู่พูดกับผม ผมอ่านป้ายชื่อเห็นว่าชื่อแพรว แต่คงไม่ใช่คณะเดียวกับผม เพราะไม่คุ้นหน้าเลย
"ทำไมหล่ะครับ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกของเรานะที่ไปค่ายแบบนี้"
"ก็ฟ้าเป็นเดือน อ.ก. ใครๆก็รู้จัก ระดับเดือนคณะแล้วไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้อ่ะ"
"โห่ อย่าคิดแบบนั้นสิครับ เราอ่ะทำได้หมดแหล่ะ สบายๆ แล้วเธออยู่คณะไรอ่ะ"
"อ่อ เราอยู่วิดยา ชื่อแพรว ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"เช่นกันครับ"
ผมยืนคุยกับแพรวอยู่ซักพัก คนในห้องน้ำก็ออกมา ปรากฏว่าเป็นพี่ฟ้า แฟนพี่เทมส์ พี่ฟ้าเห็นผมแกจำได้ ก็ยิ้มให้
"น้องฟ้า นั่งอยู่ตรงไหนเนี่ย เจอเทมส์ยัง"
"สวัสดีครับพี่ฟ้า ผมนั่งท้ายขบวนเลยครับ เจอพี่เทมส์แล้วครับพี่เค้าซื้อขนมให้เต็มเลย"
"อ่อ โอเคค่ะ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ"
"ครับพี่"
--------------------------------
##คนไกล..ไลน์มา##ผมล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เดินกลับที่ตรงที่นั่ง แล้วพี่โอมก็พาผมไอ้คิม ไอ้เทียนไปที่ตู้เสบียง ที่ตู้เสบียงผมเจอพี่ขวัญกับเพื่อนๆนั่งคุยกันอยู่ พี่ขวัญบอกผมว่าให้ไปสั่งข้าวกินได้เลย เดี๋ยวพี่ขวัญจ่ายให้เอง ผมก็ถามพี่ขวัญว่าทำไมต้องจ่ายให้ผม พี่ขวัญก็ไม่ยอมตอบ บอกแค่ว่าเดี๋ยวจ่ายให้ พี่โอมก็บอกผมว่าไม่ต้องคิดมากกินข้าวไปเถอะ ดีแล้วที่มีคนเลี้ยง ผม ไอ้คิม ไอ้เทียนก็จัดกันเต็มที่เลยครับ ข้าวไข่เจียว ข้าวกระเพรา+ไข่ดาว กินกันจนอิ่มแปล้เลย
หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่โอมขออยู่คุยกับพวกพี่ขวัญก่อน ผม ไอ้คิม ไอ้เทียนก็เดินไปตรงท้ายสุดของตู้ขบวนไปยืนรับลมกันครับ ลมเย็นๆพัดเข้ามา มองออกไปก็เห็นแต่ความมืด
ผมกลับเข้ามานั่งตรงที่นั่ง ตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าๆแล้ว พี่โอมยังไม่กลับมาเลย ผมเอาขนมออกมาแบ่งให้เพื่อนๆที่นั่งใกล้ๆกันได้กินด้วย เพราะที่พี่ขวัญซื้อมาให้ก็เยอะ มาเจอขนมของพี่เทมส์อีกก็ยิ่งเยอะ พี่เทมส์นั่งอยู่คนละตู้กับผม ผมก็เลยไม่ได้เดินไปหาแกเลย
เสียงไลน์ผมดัง ใครกันไลน์มาหาตอนนี้ สงสัยจะเป็นไอ้หินกับไอ้ทิว แต่ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่ไลน์มาหาผมคือ...พี่ดิน
Din : หลับยัง ถึงไหนแล้ว
Sky : ไม่รู้อ่ะครับ มันมืดแล้วอ่ะ
Din : เออ
Sky : ไปเตรียมค่ายตั้งนานเพิ่งจะไลน์มาหาผมเนี่ยนะ
Din : อือ
Sky : วุ๊....ไม่คุยด้วยละครับ
Din : ก็ไม่ค่อยว่าง
Sky : ไอ้ทิวไอ้หินยังว่างไลน์มาได้เลย
Din : กูไม่อยากคุย จบมั๊ย?
Sky : ทำไมไม่อยากคุยหล่ะครับ
Din : เดี๋ยวคิดถึงง่อววววววว................
Sky : เอ่อ พี่ดินอยู่ไหนครับเนี่ย
Din : ถานีรถไฟ
Sky : มารอรับพวกผมหรอ ไอ้หินไอ้ทิวมาด้วยป่าวครับ
Din : มา หลับไปละ
Sky : นอนที่สถานีกันเลยหรอครับ
Din : เออดิ มึงก็นอนได้ละดึกแล้ว
Sky : ยังไม่ง่วงเลยครับ
Din : เออ กูบอกให้นอนก็นอนเหอะน่า อย่าดื้อดิว๊ะ
Sky : ครับ เดี๋ยวอีกซักพักค่อยนอน
Din : เดี๋ยวนี้
Sky : โห...พี่
Din : พรุ่งนี้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งมั๊ย
Sky : กินครับ
Din : เออ เดี๋ยวซื้อไว้ให้ ไอ้โอมหล่ะ อยู่ไหน
Sky : พี่บอกให้ผมนอน แต่ก็ชวนคุย
วึ๊ง..................
Din : เออ งั้นมึงนอนเลยนะ ถ้าไม่นอนมึงโดนแน่
Sky : คร๊าบ พี่ไม่รู้หรอกว่าผมจะนอนตอนไหนอ่ะ
Din : รู้ สายกูเยอะบนรถไฟอ่ะ ระวังตัวไว้เหอะมึง
Sky : ง่อวววว ครับพี่ GoodNight ครับ
Din : เออ ฝันดีครับ
ผมปิดหน้าไลน์ของพี่ดินลง นึกถึงข้อความที่คุยกับแกเมื่อกี้ก็เผลอยิ้มออกมา
"ไอ้ฟ้าคุยกับใครว๊ะ ยิ้มแป้นเชียวมึง" ไอ้เทียนแซวผม
"ป่าว ไม่มีไร กูไปแปรงฟันก่อนนะ จะนอนละ" ผมบอกไอ้เทียนแล้วก็หยิบกระเป๋ามาค้นหาแปรงสีฟันยาสีฟัน เตรียมไปแปรงฟันล้างหน้าแล้วก็กลับมานอน ตามคำสั่งของคนที่สถานีรถไฟลำพูน....
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว..พี่ดิน---------------------------------
พรุ่งนี้ก็ถึงลำพูนแล้วววว ใครเคยนั่งรถไฟบ้าง บรรยากาศดีเหมือนที่ฟ้าได้สัมผัสหรือเปล่าเอ่ย
