เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 46
ลืมตาตื่นขึ้นจากเตียงหลังจากหลับไปไม่นาน ผมวางสายจากไอ้โมไปสักพักแล้วหลังจากที่โดนถามคำถามว่าผมไปมีความรักกับใครตั้งนานสองนาน แต่พอบอกว่าพรุ่งนี้จะเล่า เล่าเห็นหน้ามันส์กว่ามันก็เปลี่ยนท่าทางแล้ววางสายไปในทันที ช่างเป็นเพื่อนที่ไม่อยากจะรู้เรื่องเพื่อนเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เอาวะ ตอนทีเรื่องของมันผมก็ขี้เสือกสุดๆ ถือว่าทีใครทีมันก็แล้วกัน
“ นี่ยังไม่เสด็จกลับกันมาอีกเหรอวะ " ผมเงยหน้ามองเวลาที่ก็น่าจะเกินเวลาหนึ่งชั่วโมงที่กำหนดไว้แล้วเรียบร้อย ส่ายหน้าไปมากับความไม่ตรงต่อเวลาของพวกมัน พอไม่ไปด้วยก็เป็นแบบนี้ทุกที
“ เห็นมั้ยบอกแล้วให้ขึ้นเร็วๆ ขึ้นเร็วๆ เราสายมาสองชั่วโมงแล้วกาลิค อาขมให้เราเล่นชั่วโมงเดียวเอง โดนดุแน่นอน " เสียงของไอ้ภาพดังมาจากหน้าห้อง ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้นก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ
“ ก็ถ้ารู้ว่าโดนดุแน่นอนก็แล้วทำไมไม่มากันให้ตรงต่อเวลาละวะ "
“ ก็เพราะป๊านั่นแหละ มัวแต่มองผู้หญิงสวยๆอยู่ ก็เลยสายเลย " เสียงของหัวหอมบอกผมก็ขมวดคิ้ว ไอ้ภาพก็เถียงขึ้นทันที
“ พูดอะไรแบบนั้นวะ ไม่ได้มองเฟ้ย! เดี๋ยวเถอะ ไอ้ตัวแสบครั้งที่สองแล้วนะ ที่พูดเรื่องแบบนี้น่ะ อย่าพูดต่อหน้าอาขมเชียวนะเว้ย "
“ ก็มันเรื่องจริง ป๊ามัวแต่แอบมองพี่สาวคนนั้นอยู่ คนที่ใส่กางเกงในกับเสื้อตัวเล็กๆคนนั้น "
“ เค้าเรียกว่าบีกีนี่เว้ย เป็นชุดว่ายน้ำ พูดว่าเสื้อตัวเล็กๆกับกางเกงในเดี๋ยวใครเค้าได้ยินคิดว่าป๊าเป็นโรคจิตหรอก " ไอ้ภาพบอกมัน " แล้วอีกอย่างป๊าก็ไม่ได้มองด้วย กาลิคนั่นแหละ มัวแต่เล่น พอบอกว่าขึ้นได้แล้ว ขึ้นได้แล้ว ก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนตลอดเลย "
“ ป๊านั่นแหละผิด มัวแต่มองสาว กาลิคจะไปฟ้องอาขม "
“ เฮ้ยๆ อย่านะเว้ย ถ้าพูดแบบนั้นนะกาลิค ป๊าจะไม่พาไปเล่นน้ำอีกเลย คอยดู "
“ ทำไมอะ ป๊ากลัวอาขมเหรอ "
“ ไม่กลัวเว้ย " ร่างสูงเถียงกลับ " แค่..เกรงใจ ไม่อยากจะทะเลาะด้วย อาขมไม่สบายอยู่ เราก็ไม่ควรทำให้อาขมไม่สบายใจถูกมั้ย "
“ ก็จริงน้า " เสียงใสตอบกลับผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาแบบยิ้มๆ พวกมึงสองคนนี้มัน.. “ งั้นป๊า เราจะบอกว่าอะไรดีที่เรามาสาย "
“ ก็บอกว่า เราเล่นน้ำเพลินไปหน่อย "
“ ห้ามบอกว่าป๊าเหล่สาวอยู่เนอะ "
“ ไม่บอกแบบนั้นสิ " ภาพบอก " แล้วก็ไม่บอกว่ากาลิคดื้อไม่ยอมขึ้นจากสระด้วย "
“ อันนั้นก็ไม่บอกสิ " หัวหอมบอก
“ สมที่มึงสองคนเกิดมาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ นิสัยที่ถอดกันมาแบบไม่ต้องสืบเลยว่า ลูกใคร " ผมพูดเบาๆแล้วในตอนนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ผมหันไปมองยิ้มให้ทั้งคู่ก่อนที่หัวหอมจะวิ่งเข้ามากอดผมไว้แน่น
“ อาขม กาลิคกลับมาแล้ววว "
“ กลับมาแล้วเหรอ " ขยี้หัวเปียกๆของมัน ผมทำทีเป็นหันไปมองนาฬิกา " บอกว่าให้กลับภายในหนึ่งชั่วโมงแล้วทำไมมันกลายเป็นสองชั่วโมงไปได้ละวะ "
“ เพราะว่าเล่นน้ำกันเพลินน่ะ " ภาพบอกออกมาพร้อมกับหัวหอมที่ก็ตอบออกมาแบบนั้นเช่นกัน
“ เพราะว่าเล่นน้ำเพลินครับ "
“ อย่างงั้นเหรอ " พยักหน้ารับผมก็เดินไปหยิบกล่องใส่สปาเก็ตตี้แล้วก็ขนมปังของมีนาที่วางอยู่บนโต๊ะเข้ามาในครัว ก่อนจะเอาใส่ถ้วยแก้วใบใหญ่สำหรับใช้อุ่นในไมโครเวฟ " ไม่ได้เหล่สาวใส่บีกี่นี่อยู่ แล้วก็ไม่ดื้อจะเล่นต่อหรอกเนอะ พวกมึงน่ะ " หันไปยิ้มให้ทั้งคู่ ทั้งไอ้ภาพทั้งหัวหอมก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมๆกัน
“ ใช่ ไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก "
“ อื้ม " ผมยิ้มให้ภาพ อีกคนก็หัวเราะกลบเกลื่อนออกมาเสียงดัง
“ ฮ่าๆ งั้นเราไปอาบน้ำกันดีกว่า แล้วก็ออกมากินสปาเก็ตตี้เนอะ หิวแล้ว " ร่างสูงว่าก่อนจะอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเอง แล้วตอนนั้นหัวหอมก็ถามมันขึ้นมา
“ ป๊า ๆ อาขมรู้ได้ไงอะ "
“ อย่าถามเสียงดังสิลูกกก ไปๆ เข้าห้องๆ " มันบอกปัดลูกตัวเองแบบนั้น ผมก็ได้แต่สายหน้าไปมา
" มันยังเร็วไปที่พวกมึงจะหลอกกู เด็กน้อยเอ๋ย "
จัดการอุ่นสปาเก็ตตี้เรียบร้อย ผมเอามาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะกลับเข้าไปอุ่นขนมปังอีกรอบ จัดการหยิบจานหยิบช้อนมาตั้งไว้บนโต๊ะระหว่างรอสองพ่อลูกที่เข้าไปอาบน้ำ
“ หอมจังเลยยยย หอมๆ หอมม " หัวหอมเดินออกมาหลังจากแต่งตัวเป็นชุดนอนแล้วเรียบร้อย เด็กน้อยเดินมากอดผมก่อนจะซบลงที่หน้าท้อง " อาขม หอมจังเลย "
“ ไม่ต้องอ้อนเลย " ผมก้มหน้าลงไปบอกก่อนจะหอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด กลิ่นแป้งเด็กหอมๆ ผมขยี้หัวที่กำลังเปียกนั่นก่อนจะดึงมือเล็กที่กอดผมอยู่ออกแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ " มากินสปาเก็ตตี้กันดีกว่ากำลังร้อนๆเลย อาขมตักให้นะ "
“ คร๊าบบบบบบ " มันพยักหน้ารับก่อนจะหยิบช้อนแล้วก็ส้อมของตัวเองเตรียมรอไว้แล้วเรียบร้อย หมุนสปาเก็ตตี้จากถ้วยแบ่งใส่จานให้มันพร้อมกับขนมปังกระเทียมอีกสองชิ้น " ขอบคุณครับ "
“ เก่งมาก กินให้หมดนะหัวหอม "
“ คร๊าบบบบบบบบบบ " มันลากเสียงยาวกว่าเดิมก่อนจะเริ่มกิน ผมก็หยิบจานอีกใบขึ้นมา หันไปมองไอ้ภาพที่เดินออกมาจากห้องพอดีผมก็เอ่ยถาม
“ ภาพ มึงจะกินเลยรึเปล่า "
“ กินเลยครับ " ร่างสูงเดินมานั่งตรงข้ามกับผมตรงที่นั่งประจำของมัน ผมตักสปาเก็ตตี้ถ้วยใหญ่ให้มันพร้อมกับขนมปังกระเทียมวางไว้ตรงหน้าก่อนจะหยิบช้อนแล้วก็ส้อมให้
" นี่ช้อนกับส้อม "
“ ขอบคุณครับ " มันบอกก่อนจะเริ่มลงมามือกิน ส่วนผมก็ตักของตัวเองใส่ในจานบ้าง แต่ก็ตักในขนาดที่น้อยไม่ได้เยอะอะไร วางจานลงตรงหน้าไอ้ภาพก็ถาม " ทำไมกินน้อยจัง "
“ ไม่ค่อยหิววะ ไม่อยากจะกินด้วย " ผมบอกไอ้ภาพก็ยกยิ้ม " ยิ้มอะไรของมึง "
“ ก็แค่คิดว่านี่มึงยังเคืองคนที่ทำมันมาให้อยู่อีกเหรอ " ผมก้มหน้าลงมองจานตัวเองก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ ใช่ที่ไหน กูแค่อยากจะกินอย่างอื่นมากกว่า "
“ เช่น "
“ พวกสุกี้ ไม่ก็ยำ ส้มตำ อะไรพวกนั้นอะ อยากจะกินของเผ็ดๆ "
“ ไว้พรุ่งนี้ไปกินกันสิ "
“ กาลิคไปด้วย! " เด็กน้อยยกมือขึ้นสูงเราก็หันไปยิ้มให้มัน เอื้อมมือไปขยี้หัวเด็กน้อยก็ยิ้มกว้าง
“ ได้สิ พรุ่งนี้เลิกเรียนเราไปกันนะ " ภาพบอก
“ กั๊บป๋ม "
“ แล้วอร่อยมั้ยครับสปาเก็ตตี้ของอามีนา " ผมถามหัวหอมก็พยักหน้ารับ
“ อร่อยครับ "
“ กูก็ว่าอร่อยนะ รสชาติดีมากเลยอะ " ร่างสูงเคี้ยวเข้าไปเต็มๆคำ ผมก็ก้มลงไปกินบ้าง รสชาติก็เหมือนอย่างที่ใครๆบอกนั่นแหละอร่อยเอามากๆเลย " เป็นไงอร่อยมั้ย "
“ อร่อยนะ ก็คงทำมาจากความความรักอะ " เป็นอาหารที่ถูกทำอย่างดีเหมือนทำมามัดใจคนที่ชอบ ทุกอย่างเลยออกมาในรูปแบบที่ดูลงตัวไปหมด ขนาดตอนที่เปิดกล่องเอาออกมาอุ่น เส้นสปาเก็ตตี้ในนั้นยังถูกหมุนเป็นก้อนๆวางไว้แบบโคตรน่ากิน
“ หึงอีกละ "
“ ใครว่า กูพูดตามสิ่งที่เห็นมากกว่า " ผมบอกมัน อีกคนก็แบะปากมองบนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันเท่าไหร่
“ อาขม อาขมป้อนกาลิคหน่อย " เด็กน้อยยื่นจานมาให้ มันที่ตอนนี้กินเลอะไปทั้งปากผมก็ได้แต่หลุดยิ้มออกมา
“ แล้วทำไมกินเลอะเทอะอย่างงั้นเล่า " หยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้มัน ก่อนจะมองจานของหัวหอมที่กินไปได้ครึ่งนึงแล้ว " จะให้อาขมป้อนเหรอ ทำไมละ กินเองไม่ดีกว่าเหรอ "
“ อยากจะให้อาขมป้อนเฉยๆ ไม่อยากจะกินเองแล้ว ก็จะอ้อน น้าา ป้อนหน่อยน้า อาขมน้า " มันเอียงหน้าไปมาบอกผม ไม่รู้ไปเอาท่าทางแบบนั้นมาจากไหนเหมือนกัน แต่นับวันก็น่าหมั่นเขี้ยวซะเหลือเกิน
“ โอเค ป้อนก็ป้อน " หมุนส้อมกับเส้นสปาเก็ตตี้ป้อนมันไปคำนึง คนกินก็เคี้ยวแบบถูกใจ ภาพที่มองเราอยู่ หัวหอมมันก็เอ่ยถาม
“ ป๊า ป๊าอยากจะให้อาขมป้อนเปล่า "
“ ไม่นะ " ภาพบอกไอ้หัวหอมมันก็ยิ้ม
“ โกหก "
“ ไม่ได้โกหกเว้ย "
“ โกหก " หัวหอมมันยังย้ำแบบนั้นก่อนจะหันมาบอกผม " อาขม ป๊าเค้าโกหก " มือเล็กๆยกขึ้นป้องปากตัวเอง " ป๊าเขิน ป๊าอยากจะให้อาขมป้อน "
“ รู้ดี " ผมก้มลงเอาจมูกแตะที่จมูกมันก่อนจะส่ายไปมาแล้วบอกเสียงเบาๆ เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้าง ก่อนจะรับสปาเก็ตตี้ที่ผมป้อนเข้าไปอีกคำโต " อะ คำสุดท้ายแล้วนะ " เอาส้อมที่มีสปาเก็ตตี้ไปจ่อปากมันแต่เจ้าตัวเล็กกลับดึงมือไปทางภาพแทน
“ ป๊ากินนนน "
“ ทำไมต้องกินอะ " ไอ้ภาพสะดุ้งน้อยๆก่อนจะถามอีกฝ่ายงงๆ
“ ก็กาลิคอิ่มแล้ว ป๊าก็กินแทน " มันว่าแบบนั้น ผมที่ไม่ได้หันไปมองมัน แต่สุดท้ายภาพก็กินสปาเก็ตตี้คำนั้นเข้าไปจนหมด เสียงหัวเราะของหัวหอมดังเบาๆออกมา " ป๊าก็เขิน อาขมก็เขิน เขินทั้งคู่เลย "
“ เดี๋ยวเถอะมึง ล้อเลียนผู้ใหญ่รึไง " หันมาทำตาโตใส่ เจ้าตัวดีก็รีบวิ่งลงจากเก้าอี้เข้าไปในห้อง
" ต้องหนีแล้ว "
“ นี่! หัวหอม ล้างมือ ล้างหน้า แล้วก็แปรงฟันให้สะอาดเลยนะ เข้าใจมั้ย "
“ คร๊าบบบบบบ " เสียงขานรับดังมาจากห้องนอน ผมก็หันมากินสปาเก็ตตี้ตรงหน้าของตัวเองต่อ ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่มองผมอยู่แต่พอสบสายตาคมนั้นเข้า ภาพก็ก้มลงกินอาหารของตัวเองเหมือนเดิม
เรานั่งกินอาหารกันเงียบๆแบบที่ไม่ได้มีบ่อยๆ ทั้งๆที่ปกติเรามีเรื่องที่ชวนคุยกันเยอะแยะ มันกวนตีนผมบ้าง ผมกวนตีนมันบ้าง ตามประสาเพื่อนสนิท แต่ตอนนี้มันเหมือนว่าพอสถานะเปลี่ยน ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป
“ เออ นี่มึง " ภาพเป็นคนเอ่ยทักขึ้นมาก่อน ผมเงยหน้ามองหน้ามันอีกคนก็บอก " เมื่อกี้ที่ไอ้หัวหอมพูด มันไม่จริงนะเว้ย กูไม่ได้มองสาวอยู่นะ "
“ อ๋อเหรอ " ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ
“ จริงๆนะเว้ย "
“ ก็อื้ม " พยักหน้ารับอีกทีก่อนจะถาม " มึงคิดว่ากูไม่เชื่อเหรอ "
“ ก็สายตามึงบอกกูแบบนั้น " ก้มหน้าลงยิ้มให้มัน ผมกินสปาเก็ตตี้คำสุดท้ายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง
“ กูคบกับมึงมาตั้งแต่เด็ก สันดานมึงข้อไหนบ้างที่กูไม่รู้ กูรู้ทุกข้อแหละ ติดแค่ที่ว่ากูจะสนใจหรือไม่สนใจมันก็เท่านั้น " ยักไหล่ให้มันไอ้ภาพที่กินอาหารเย็นคำสุดท้ายเสร็จพอดี ผมเอื้อมมือไปหยิบจานมันมาเก็บล้าง อีกคนก็บอก
“ แต่กูไม่ได้เข้าไปคุยกับเค้านะเว้ย กูแค่มอง แบบว่า เค้าหุ่นดี กูเลยมอง ผู้ชายทุกคนมันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ แบบว่า ถ้าเห็นผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำเค้าก็ต้องมอง ถึงไม่อยากจะมองแต่สายตามันก็เหลือบไปเห็นอยู่ดีนั่นแหละ "
“ แก้ตัวจนลิ้นพันกันเลยนะมึง "
" ไม่ใช่ๆ ไม่ได้แก้ตัวเว้ย " มันบอก " เอาจริงๆกูก็มองหมดอะก็มันผ่านตามา แต่ถ้าอยากจะดูจริงๆ มึงถอดสิ "
“ นมกูไม่มีอะ ตูดเป็นสิวด้วยนะรู้สึก " บอกมันหน้าแย่ๆ แต่อีกคนก็แค่ยกยิ้มก่อนจะเดินเข้ามายืนช้อนหลังผม มือที่กำลังล้วงเข้ามาในกางเกง มันก็ก้มมากระซิบบอก
“ มาสิ กูบีบหัวสิวให้ "
“ เชี้ย! อย่านะเว้ย " ดึงตัวเองออกห่างมัน ผมมองขู่ " มึงเข้ามากูเตะไข่ฟ่อแน่ คอยดู "
“ กลัวจุง กลัวไปหมดล้าวววววว " มันว่าพลางทำตัวสั่นๆกวนตีนผม " ถ้าไข่กูแฟ่บระวังไม่ฟินนะมึง "
“ ฟินเหี้ยอะไร ใครจะฟินเหี้ยไรกับมึง " ขมวดคิ้วจ้องหน้ามัน ไอ้ภาพก็ยกยิ้ม
“ กูรู้น่าว่ามึงรู้ อย่าทำเป็นไม่รู้เลย "
“ ไม่รู้เลย ถึงรู้ กูก็ไม่รู้เว้ย " เถียงมันกลับก่อนจะหันมาสนใจจานในอ่าง
" นี่ขม กูว่าเราน่ะมา..”
“ เสร็จแล้วอาขม " เสียงหัวหอมที่วิ่งออกมาจากห้องขัดคำพูดของไอ้ภาพให้หยุดไว้ตรงนั้น เจ้าตัวเล็กที่วิ่งตรงมากอดไว้ทำให้ไอ้ภาพถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปทันที " อาขม เสร็จแล้ว " เจ้าตัวเล็กว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอก
“ เหรอ แล้วทำไมเปียกอย่างงั้นละ ให้ไปล้างหน้าแปรงฟันไม่ใช่เหรอวะ " ผมแซวอีกคนก็ยิ้มกว้าง " ไหนอ้าปากหน่อย เช็คหน่อยสิ สะอาดรึเปล่า "
“ สะอาดม๊ากกกกกกก เช็คเลย " มันอ้าปากกว้าง ผมมองเข้าไปก่อนจะก้มลงไปจุ๊บปากมันอีกคนก็ยิ้มเขินก่อนจะซุกหน้าเข้าที่เอว " งื้อออออ อาขม อาขมจุ๊บกาลิค "
“ ทำไมอะ ไม่ชอบเหรอ "
“ ช๊อบบบบบ " มันว่าเสียงสูงก่อนจะกอดผมแน่นขึ้นไปอีกด้วยความหมั่นเขี้ยว " อาขม แล้วคืนนี้กาลิคจะได้นอนกับอาขมรึเปล่า "
“ คืนนี้เหรอ ยังนอนไม่ได้นะ " ผมบอก อีกคนก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาทันที
“ ทำมายอ่าาา ก็อาขมหายป่วยแล้ว ไม่เอาอะ กาลิคจะนอนกับอาขม "
“ ก็หายป่วยแล้วแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ไง มันเลยยังไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังไงคืนนี้ก็นอนกับป๊าก่อน พรุ่งนี้ค่อยนอนกับอาขมนะ ตกลงมั้ย "
“ ไม่ตกลงได้มั้ยอะ " หัวหอมเงยหน้าขึ้นบอกผมก็หลุดยิ้มออกมา
“ ไม่ได้ ต้องตกลง "
“ เอาน่า ไปนอนกับป๊าดีกว่า พรุ่งนี้ก็ได้นอนกับอาขมละ " สีหน้างอแงของเจ้าตัวเล็ก แต่ก็ยอมไปนอนกับไอ้ภาพแต่โดยดี
ผมจัดการล้างจานของตัวเองจนเสร็จ ตอนที่กำลังเก็บของเล่นที่อีกคนเล่นไว้ให้เป็นระเบียบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องไอ้ภาพ เมื่อกี้จำได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างจะพูดแต่เพราะหัวหอมเดินเข้ามาขัดก่อนมันก็เลยเงียบไป
“ จะพูดอะไรกันวะ " พูดกับตัวเองสั้นๆ แล้วในตอนนั้นประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกมา " อ้าวมึง ไม่อาบน้ำละ "
“ ยังก่อน " มันว่าก่อนจะเข้าไปในครัว ก้มๆเงยๆอยู่นานก่อนจะยกกระป๋องเบียร์โบกไปมา " เอาสักหน่อยมั้ย "
“ ไม่เอาอะ ป่วยอยู่ จะให้แดกเบียร์เย็นๆอะนะ ตลกละ "
“ แดกบุ๊ปหายบั๊ปเลยนะ ไม่เชื่อลองสิ " มันหัวเราะก่อนจะเดินมากอดคอผมไว้ที่ก็สะดุ้งตัวขึ้นมาทันที ตอนที่มันทำแบบนั้น ไอ้ภาพยกยิ้มก่อนจะเอามือลงแล้วเอ่ยถาม " นั่งคุยกันด้วยหน่อยสิ กูมีอะไรอยากจะคุยกับมึง "
“ อื้ม ก็ได้ " โยนของเล่นชิ้นสุดท้ายของหัวหอมลงไปในที่ของมัน ก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกคน " มีไรวะ "
“ เบียร์หน่อยมั้ย " มันยัดเบียร์เย็นๆใส่มือผมพร้อมกับยักคิ้วให้ " เอาสักหน่อยน่า กินหน่อย "
“ ทำไมต้องกินวะ พรุ่งนี้เรียนเช้า ตื่นไม่ไหวแล้วยุ่งนะสัด นี่กูต้องเข้าไปพบกับอาจารย์ในคณะอีก เค้าตามตัวกูแล้วเนี้ย "
“ ก็แดกอย่าให้เมาสิ " ภาพว่า ผมก็ดื่มเข้าไปตามคำขอของมัน เบียร์เย็นจัดไหลลงไปในท้องที่ไม่ได้สัมผัสรสเย็นมานาน ผ่อนตัวลงพิงกับโซฟาคนข้างๆก็ยิ้มก่อนจะนอนพิงลงมาเหมือนกัน " นี่ขม..”
“ หื้ม ? “
“ มึงโอเครึเปล่า กับการตลงเป็นกับแฟนกู "
“ แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ากูไม่โอเควะ " เอียงหน้าถามมัน ทั้งๆที่ในใจผมก็มีคำตอบนั้นอยู่แล้ว ตัวเองเป็นคนที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัดแท้ๆ แล้วยังมีหน้าไปถามกลับเค้าอีก
“ ถามเพราะไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่วะ " ไอ้ภาพบอกมันหัวเราะ ก่อนจะถอนหายใจออกมา " เอาจริงๆนะ ถ้าไม่โอเคที่จะรู้สึกแบบแฟนกัน เป็นเหมือนเดิมก็ได้ กูโอเคกับความสัมพันธ์ของเรานั่นแหละ ไม่คิดอยากจะเร่งรัดมึงด้วย เรื่องของมีนากูเองก็เข้าใจมึงอยู่ว่ารู้สึกยังไง " มือหนาเอื้อมมือจับหัวผม " มึงรู้ว่ากูรู้สึกยังไง แล้วกูเองก็รู้ว่ามึงรู้สึกยังไง แบบนั้นก็ดีนะ ถ้ามึงจะสบายใจกว่า กูเองก็สบายใจด้วย อยากให้มึงเป็นเหมือนเดิม " ภาพพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาในตอนนั้นผมที่หันไปมองหน้ามัน
“ มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาบ้าง " กูขอโทษที่ทำตัวไม่เหมือนเดิม แต่กูทำให้มันเป็นเหมือนเดิมไม่ได้วะ " มือที่จับกระป๋องอยู่นั่นกำแน่น " กูมองหน้ามึงเหมือนเดิมไม่ได้ มึงไม่ใช่ไอ้ภาพคนเก่าในสายตาของกูอีกแล้ว มึงเหมือนเป็นใครอีกคน คนที่กูรู้สึกเขินเวลาที่มึงมอง กูอายเวลาที่โดนไอ้หัวหอมบอกให้ป้อนข้าวมึง ใจเต้นเวลาที่มึงอยู่ใกล้ๆ แล้วสมองก็เอาแต่คิดถึงเรื่องจูบของเรา กูไม่ได้ ไม่อยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่กูกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วตังหาก " ผมก้มหน้าลงยิ้มๆ " ก็นะ..จะให้กูกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไง ในเมื่อคนข้างๆกูไม่เหมือนเดิมแล้ว มึงไม่ใช่เพื่อนกูแล้วนะภาพ มึงเป็นแฟนกูแล้ว แค่นี้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้วไม่ใช่เหรอวะ "
“ ก็จริงนะ " คนข้างๆยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผม มือหนาที่เอื้อมมือขึ้นกอดไหล่ไว้ ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆเหมือนวิตกไอ้ภาพก็หัวเราะ " กลัวมากเกินไปแล้วมั้ง "
“ ตื่นเต้นน่ะ "
“ แล้วลดความตื่นเต้นยังไงดี "
“ จูบกันอีกทีมั้ย " ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงพูดอะไรออกไปแบบนั้น ขนาดไอ้ภาพที่ฟังอยู่ยังเงียบไปเลย แต่ผมก็รู้สึกแค่ว่าถ้ายิ่งไม่รีบทำตัวใกล้ชิดกันเท่าไหร่ เราก็เหมือนจะยิ่งไกลกันเท่านั้น ด้วยความเขินและอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนความสัมพันธ์
สำหรับเรา ผมอยากจะให้มันเป็นความรักที่ไม่ไกลกันเกินไป แต่ก็ไม่ใกล้กันจนอึดอัด มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่โจ่งแจ้งจนทำร้ายคนรอบข้างของเรา โดยเฉพาะ เจ้าตัวเล็กคนนั้น
หลับตาลงช้าๆตอนที่ภาพเอียงหน้าเข้ามาใกล้ผม ริมฝีปากหนาที่แนบสนิทลงมา ผมเผยอริมฝีปากของตัวเองเปิดรับลิ้นชื้นนั้นทันที เกลียวลิ้นของเราสอดเกี่ยวกันและตอบรับ บางทีความจริงแล้วผมอาจจะชอบจูบของมันมากกว่าที่ตัวผมรู้สึก มือหนาที่กอดเอวผมไว้ ในตอนนั้นมือผมก็วางกระป๋องเบียร์ที่ตัวเองถือลงบนโต๊ะหันหน้ามาเผชิญหน้ากับมัน ก่อนจะเลื่อนมือที่ว่างกอดรอบคอมันไว้
จูบดูดดื่มจนแทบจะหายใจไม่ออก ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดตอนที่มันผละออกแล้วจูบไล่ลงมาที่ต้นคอ ผมที่ได้แต่กัดริมฝีปากของตัวเอง ยามที่เสื้อนั่นร่อนขึ้นสูงภาพจูบที่ยอดอกของผมมันขบเม้นเบาๆก่อนจะดึงขึ้นด้วยริมฝีปาก ไม่เคยรู้สึกเสียวอะไรได้มากเท่านี้มาก่อน
ลมหายใจแผ่วเบาที่รดไปตามผิว รู้สึกราวกับถูกลิ้นชื้นโลมเลียไปทั่วร่าง หัวใจที่เต้นแรง ร่างกายก็เหมือนจะตอบสนองความต้องการของอีกฝ่ายอย่างไม่เกี่ยวงอนใดๆ ภาพจูบที่แก้มผม ตอนที่เลื่อนมาจูบที่เปลือกตาผมลืมตามองมันอีกคนก็จูบผมอีกครั้ง
“ ขอนะ "
“ ไม่ให้ " ผมบอกอีกคนก็หลุดหัวเราะ " ไม่ต้องหัวเราะ กูไม่ให้จริงๆ ไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่พร้อม"
“ นัวกันมาถึงขนาดนี้แล้ว พร้อมหน่อยเถอะน่า " ภาพว่าผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้า
“ ไม่เอาอะ กูต้องศึกษาก่อนว่าเป็นยังไง ทำยังไงถึงจะปลอดภัย "
“ มึงคิดว่ากูเป็นโรคเหรอ " ไอ้ภาพถามผมก็ส่ายหน้า
“ ไม่ใช่เว้ย แต่มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ มันก็ต้องมีข้อระวังของมันอยู่แล้ว " อีกอย่างผมเองก็เคยได้ยินมาว่าคู่รักเพศเดียวกันโดยเฉพาะชายรักชายนั้น มีโอกาสมีโรคติดต่อเยอะ ถ้าเราคิดจะรักกัน สำหรับผมมันก็ต้องปลอดภัยด้วย จะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ อีกอย่างตอนนี้ในตูดกูมีขี้มั้ย กูก็ไม่รู้ แล้วแม่งพกถุงยางมารึเปล่า แล้วถ้าทำจริงมันจะใส่มั้ย นั่นก็ไม่รู้อีก เพราะงั้นหยุดไว้แค่นี้ก่อนน่าจะดีกว่า
“ เดี๋ยวพอทำไปธรรมชาติของความรู้สึกมันก็สอนเองแหละ "
“ มันไม่ธรรมชาติตั้งแต่มึงจะเอาKมายัดตูดกูแล้วไอ้สัด! ” ตะโกนบอกคนที่ยังดื้อดึงไม่ยอมจบสักที ภาพผ่อนลมหายใจออกมาผมที่ดึงตัวเองขึ้นนั่งพร้อมกับอีกคนที่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ผมเอียงหน้าบอก " ไว้ก่อนนะ "
“ ตามใจมึงแล้วกัน " ภาพว่า แต่สีหน้านั่นก็ยังเซ็งไม่หาย เอื้อมมือไปไหล่มันอีกคนที่เงยหน้ามองภาพเลื่อนหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้ง
“ นี่ภาพ กูมีอะไรจะขอหน่อย "
“ อะไร " เสียงทุ้มถาม
“ เรื่องของเรา ไม่บอกหัวหอมได้มั้ย " ผมเว้นเสียงไปสายตาคมก็เงยหน้าขึ้นมอง " เราไม่ต้องบอกกับมันว่าเราเป็นอะไรกัน ไม่ต้องจำกัดความอะไรให้มันว่าเป็นแฟน หรืออะไรที่มันลึกซึ้ง หัวหอมยังเด็กมาก กูไม่อยากให้มันต้องทำความเข้าใจอะไรที่ยากเกินไป ไม่อยากให้มันเหมือนต้องถูกยัดเยีดโดยการกระทำของเรา "
" ยังไง "
" เหมือนถ้าเราจูบกัน กอดกัน หรือทำอะไรแบบลึกซึ้ง มันจะไม่เข้าใจทำไมผู้ชายถึงทำอะไรกันแบบนี้ ในความคิดของมันแน่นอนว่ามันต้องคิดแค่ว่า ผู้หญิงกับผู้ชายคู่กัน กูเลยอยากจะให้มันรู้แค่นั้น ไม่ต้องมาเข้าใจว่า ทำไมผู้ชายถึงคู่กันได้ ความรักงั้นเหรอ ความรักยังไง กูอยากจะให้มันเรียนรู้ด้วยตัวเอง สักวันพอมันโตมันจะรู้เองว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นยังไง มันจะเข้าใจเมื่อมันมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น "
" มึงจะหมายความว่า เราก็ใช้ชีวิตปกติไปแบบเดิม อยู่ด้วยกัน ถ้าอยากจะทำอะไรลึกซึ้งก็ต้องรอเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนถูกมั้ย ไม่ต้องบอกกาลิค ให้มันโตขึ้นแล้วรู้เองว่าเราเป็นอะไรกัน "
" อื้ม " ผมพยักหน้ารับ " กูไม่อยากจะให้มันรู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดให้ต้องเข้าใจว่า พ่อมันกับอาขมเป็นอะไรกัน ไม่อยากให้มันเอาเรื่องนี้ไปเป็นปัญหา แล้วกดตัวเองว่า อ้าวในเมื่อพ่อกูเป็นกูต้องเป็นด้วยมั้ย กูเติบโตมากับคนแบบนี้กูต้องเป็นมั้ย กูไม่อยากจะให้มันคิดแบบนั้น อยากจะให้มันเป็นมันเป็นแค่เด็กคนนึง ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้างที่รักมันมากๆก็แค่นั้น แล้วเรื่องของเราสักวันมันพอมันโตขึ้น มันก็จะเข้าใจเองแล้วรู้ได้เองว่า ความรักของเรามันเป็นยังไง "
" ตามใจมึงแล้วกัน " ภาพบอก " ถ้ามึงคิดว่ามันจะไม่มีปัญหา กูก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่สำหรับกูนะ กูคิดว่าแสดงความรู้สึกกันบ้างให้มันรู้ ไม่ต้องโจ่งแจ้งแต่ก็ไม่เคยปิดบังมัน ให้มันรู้สึกว่า เราสองคนก็ไม่ปิดบังมัน แค่ไม่เคยบอกว่าถึงคำจำกัดความมันก็เท่านั้น "
" อย่างงั้นก็ได้ " เอาจริงๆ ผมแค่กลัวว่าอยู่ๆไอ้เหี้ยตรงหน้า จะจูบผมต่อหน้าหัวหอมก็เท่านั้นแหละ เลยห้ามไว้ก่อน ไอ้ภาพเป็นคนชอบแสดงความรัก มันขี้อ้อนกับแฟน ผมก็กลัวว่ามันจะมาแสดงอาการแบบนั้นต่อหน้า หัวหอม สงสารเด็กมัน เดี๋ยวเด็กงง แบบ อะไรวะไหนคุณครูบอกผู้หญิงคู่กับผู้ชาย แล้วทำไมที่บ้านเรา ผู้ชายคู่กับผู้ชายซะได้
" แล้วกับเพื่อนบอกได้มั้ย พ่อแม่ละ "
" ถ้ามึงอยากจะบอกก็บอก " ผมบอกไอ้ภาพก็ยกยิ้ม
" ยิ้มอะไร "
" แค่คิดว่า มึงนี่คิดถึงเรื่องไอ้กาลิคมากกว่ากูอีก "
" ก็พ่อมันไม่คิด กูก็ต้องคิดแทนไง ปล่อยให้มึงเลี้ยงหัวหอมคนเดียว โตมาไม่รู้ว่ามันจะเป็นคนแบบไหน คงขาดความอบอุ่น สุดท้ายก็หันหลังให้โลกใบนี้ แล้วจบที่สร้างความลำบากให้คนอื่น "
" เพราะงั้นกูเลยต้องหาแม่ให้มันไง แล้วมึงนี่แหละ ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว " มือหนาจับใบหน้าของผมที่ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ จูบอุ่นๆ ประทับลงที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง แล้วครั้งนี้ก็เหมือนจะเป็นจูบยาวนานกว่าครั้งไหนๆ
..........................................................
รู้สึกถึงเพลง " ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน " ลอยขึ้นมาเลยอะ 5555
แอบชอบที่ขมบอกภาพว่า " อยากจะให้มันเป็นมันเป็นแค่เด็กคนนึง ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของคนรอบข้างที่รักมันมากๆก็แค่นั้น " รู้สึกถึงความรักของขมที่ีมีให้หัวหอมเลย รู้สึกถึงความเป็นแม่ที่แบบว่า หวงความรู้สึกของลูกมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง
ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเป็นแม่ แค่อยากเป็นคนที่หัวหอมรัก และทำให้หัวหอมรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักมากๆ เท่านั้น
ประทับใจในตัวขมจัง #หัวใจ
ตอนเขียนฉากนี้ เราคิดเยอะมาก ออกทะเลสุด ทั้งๆที่แค่ ภาพขมเป็นแฟนกันเฉยๆ นี่แหละ
เราแม่งคิดปัญหาไปไกลมากทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่า ถ้าไม่เขียน ปัญหามันไม่เกิด แต่นี่ก็คิดไปแบบ
เฮ้ยย ถ้าหัวหอมรู้ มันเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนด้วยความดีใจ เพื่อนมันจะล้อรึเปล่า ว่าพ่อแม่เป็นตุ๊ด แบบอิงตามสังคมไง
แล้วหัวหอมก็จะไม่ชอบภาพกับขม ที่ทำให้ตัวเองโดนล้อโดนรังแกจากเพื่อนๆ ทั้งๆที่จริงๆแบบที่บ้านก็มีความสุขงี้
กรี๊ดดดดดดดดดดด บทสะเทือนใจสุด
แต่แล้วก็คิดขึ้นได้เหมือนมีใครดึงหัว " มึงงง มึงต้องตั้งสติ มึงไม่ได้เขียนนิยายดราม่า.. “
เออ จริง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก็เลยหลงเหลือไว้เพียงความประทับใจและความรักอบอุ่น #แหมมมมมอวยตัวเอง
จบการทอล์คยาวๆ แต่เพียงเท่านี้
เจอกันตอนหน้าเด้อ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วคอมเม้นท์จ้า ฝากแท็ก #มมชลก ในเฟสด้วยนะคะ
รัก หนมมี่