เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )  (อ่าน 270166 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ใจดีเรี่ยราดเดะเถอะ เมียจะตบเอานะป๊า

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
แบบนี้เค้าเรียกว่าอยู่เป็น อิอิ

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อีป๊า ไม่ปฏิเสธเท่ากับให้ความหวังนะแก ตอนหน้าแกตายแน่!#ทีมขมและลูกน้อยของเขา 555  :hao7:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หัวหอมเล่าให้อาขมฟังเร้ว รับรองหายป่วยเลย :katai2-1:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
นิสัยมีนาก็น่ารักดีนะ หวังว่าคงไม่ดีแตก แต่ตำแหน่งเมียภาพคือขมเท่านั้น 5555+ กาลิคเล่นพ่อซะแล้ว น่ารักจริงๆ  :mew1:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ตายๆๆๆ รอเก็บศพอย่างเดียวนะคะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ตัวแปรที่จะทำให้ขมรู้ใจตัวเองไว ๆ ไง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เตรียมตัวไว้เลยภาพ! ฮ่าๆ

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
กาลิคบอกอาขมเลยลู๊กกกกก 
อาขมจะได้รู้ใจตัวเองไวๆ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
พี่ภาพเคอะ ถึงพี่ไม่คิดแต่พี่ขมนี้ไม่แน่นะเคอะพี่! :katai3:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อย่างหนึ่งที่ชอบของครอบครัวนี้ คือ การแสดงออกถึงความรักนี่แหละ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม กันแบบนี้ หัวหอมโตขึ้นต้องเป็นคนที่มีความรักแบ่งปันให้คนรอบข้างแน่นอน

ออฟไลน์ nung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew2: คิดถึงหัวหอม

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ลากิคฟ้องแม่เยอะเลย ป๊าอ่อยสาว 555

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ saseum

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ภาพรุกหนักๆเลย กาลิคจะได้มีแม่ซะที 555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 o18 o18 ชอบ ๆ รอวัน หัวหอมเรียก "แม่ขม"

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ป๊าภาพโดนน้องกาลิคเล่นซะแล้ว 555
เอาคำพูดคุณน้องชะนีเอ๊ยมีนาไปฟ้องม๊าขมหมดเลย ม๊าขมจะจัดการไงล่ะทีนี้

ออฟไลน์ TKdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 2

   ลงลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถ รถเก๋งคันดำของไอ้ภาพที่จอดอยู่ผมเปิดประตูหลังให้อีกคนขึ้นไป ท่าทางที่เงียบไปถนัดตาของเด็กคนนั้นชวนให้ผมใจหายอยู่ไม่น้อย ทั้งๆที่ช่วงวัยนี้ควรจะร่าเริงสนุกสนานแต่คนนี้กลับไม่ ...ก็นะ ใครมันจะมีความสุขยิ้มร่าเริง อะไรเบอร์แรงว่ะ ถูกแม่ทิ้งให้มาอยู่ไกลอีกค่อนทวีป ส่งมาอยู่กับพ่อที่แม่งตอนนี้ก็เกี่ยงกันสุดๆ ว่าใครเป็นพ่อ

“ ขม คิดเหี้ยไรอยู่ ขึ้นรถสิ "

“ ครับ ขึ้นละครับ " เปิดประตูรถตรงคนนั่งข้าง พอปิดประตูลงไอ้ภาพก็ออกรถไปห้างทันที

   มันเลือกมาห้างที่ไกลออกจากตัวคอนโดของเราสักหน่อย โดยไม่ถามกันสักคำว่า ' อยากกินอะไร ' หรือว่า ' อยากจะไปห้างไหนกันเหรอ ' แต่อยู่ๆคุณชายก็ขับรถพาเรามาที่ห้างกลางเมืองที ห้างใหญ่ที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราลงจากรถผมเดินไปเปิดประตูหลังก่อนจะคว้ามือของเด็กน้อยมาจูง

“ ไปกินข้าวกันหัวหอม อยากจะกินอะไร "

“ ไม่รู้ครับ " เค้าตอบสั้นๆผมก็ถอนหายใจออกมา เหลือบมองไอ้ภาพ

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกัน กูอยากจะกิน "

“ อาหารญี่ปุ่นแล้วกันนะ " หันไปบอกหัวหอมอีกคนก็พยักหน้ารับแบบว่าง่าย เดินจากลานจอดรถขึ้นไปบนห้างผมที่จูงมืออีกคนไว้อดรู้สึกสงสารมันไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกชาในอกหนักขนาดนี้ เหมือนผมกำลังเอาตัวเองเข้าไปคิดแทนมันในทุกๆอย่าง ถ้าเกิดว่าเราสลับความรู้สึกกันตอนนี้ ถ้าเกิดว่าแม่ส่งผมไปอเมริกาดินแดนที่ผมไม่มีคนรู้จัก บอกกันว่า มีพ่อรออยู่นะแต่พอมาถึง กลับโดนผลักให้ไปหาคนนั้นที คนนู้นที ผมอายุขนาดนี้ยังรู้สึกแย่เลย แล้วเด็กตัวแค่นี้มันจะไม่รู้สึกแย่ได้ไงวะ

“ ขม ขม ไอ้ขม! ” เสียงที่เอ่ยเรียก มือเล็กๆที่เขย่ามือผมแรงๆ หลุดออกจากความคิดที่หลุดลอยไปของตัวเองผมหันไปยิ้มให้ไอ้ภาพก่อนจะก้มลงมองหัวหอมที่ก็ช่วยอีกคนเรียกผมเหมือนกัน

“ มีอะไร "

“ ถึงร้านแล้ว มึงจะเดินผ่านไปไหน "

“ อ้อ โทษทีกูคิดอะไรเพลินไปหน่อย "

   เราเดินเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบครอบครัว ที่ขายอาหารเป็นเซ็ตๆอร่อยแบบฝีมือคุณแม่ทำให้กิน แต่เอาจริงๆก็พ่อครัวนั่นแหละ

“ เมนูค่ะ อีกสักครู่จะมารับเมนูนะคะ " พนักงานบอก ผมก็เปิดเมนูพร้อมๆกับคนนั่งข้าง

“ หัวหอมมึงจะกินอะไร " ผมถามอีกคนก็มอง ไม่ยอมตอบ " อยากจะกินอะไรก็บอกนะ กูจะสั่งให้ " พยักหน้ารับแบบว่าง่าย ผมเปิดเมนูไปเรื่อยๆ ก่อนที่มือเล็กจะหยุดที่ข้าวหมูทอดทงคัตสึ “ เอาอันนี้นะ "

“ อื้อ "

“ โอเค งั้นกูเลือกบ้าง " เอาจริงๆ ก็ไม่ต้องเลือกมากหรอก มาทีไรก็กินแต่อันนี้ เป็นข้าวหมูบดย่างถ่าน อร่อยที่สุดเลยผมชอบ

   จัดการสั่งอาหารเรียบร้อย ผมหันมองหัวหอมที่เหลือบมองคนนั่งตรงหน้าอย่างไอ้ภาพ ก่อนจะก้มลงด้วยท่าทางกลัวๆ ริมฝีปากน่ารักนั่นเม้มเข้าหากันชวนให้ยิ้มเอ็นดู

“ มึงจะทำหน้าดุ คิ้วขมวดไปถึงไหนวะ ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อย "

“ สดชื่นนนนน ? “ ไอ้ภาพลากเสียงยาว " โหหห สดชื่นมากเลยมึง เช้านี้ตื่นขึ้นมามีลูกโผล่มาคนนึง แบบไม่รู้ว่าแม่เด็กเป็นใคร เหอะ กูคงสดชื่นหรอก สัด "

“ แล้วจะให้ทำไงวะ มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องแก้ไขไป "

“ โดนหลอกรึเปล่าเถอะ " ภาพก็ยังคงคิดแบบนั้น มันดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าหัวหอมจะเป็นลูกมันหรือผมที่หลุดทะลุถุงยางมา มันคงคิดว่ามันดูแลป้องกันตัวเองดีแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ผมว่า ถ้ามันจะเกิดมันก็เกิดแหละ ถุงยางแตกไม่แตกเราจะไม่รู้ได้ไง " แต่ภาพ ภาพเดียวมันทำให้เราเชื่อไม่ได้หรอก ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกเรา "

“ ตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ยละ " ผมถาม " ถ้าลูกมึง มึงรับไป ลูกกู กูก็จะรับ " มันเงียบกับความคิดเห็นของผม ภาพเบือนหน้าหนี " เห็นมั้ย พอกูบอกแบบนี้มึงก็ไม่กล้าเพราะมึงก็คิดว่าคงเป็นไปได้อยู่ครึ่งๆนั่นแหละ  "

“ เออกูยอมรับ ว่ากูก็คิดว่ามันอาจจะครึ่งๆที่พลาด แต่กูก็ไม่อยากให้เราตกเป็นเครื่องมือใคร ไม่อยากจะให้ใครมาหลอก แม่เด็กอาจจะแค่เคยมีอะไรกับเรา หรือไม่พลาดกับคนอื่นพ่อเด็กตัวจริงไม่รับก็เลยโยนมาให้เราก็ได้ กูไม่อยากโง่เลี้ยงลูกให้ใคร "

“ ภาพ "

“ เรายังเรียนอยู่เลยนะเว้ย เรายังอยู่ในวัยสนุกสนาน ยังเที่ยวเล่นได้ มึงพร้อมจะมีภาระแล้วเหรอขม " สายตาจริงจังถามผม " เด็กคนนึงเลยนะเว้ย มึงจะเลี้ยงมันยังไง เรายังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย จะบอกพ่อแม่ยังไง ว่ามีลูก เค้าต้องถาม ไปทำใครท้องแล้วทำไม เด็กพึ่งโผล่มา มึงจะบอกว่าไม่รู้ ไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าบอกว่าไม่รู้ เค้าก็ต้องคิดเหมือนที่กูบอก คือเราถูกหลอกรึเปล่า "

“ แต่ภาพ มึงก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลย " อีกคนถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้าลง

“ กูไม่อยากมีลูก ขม กูยังไม่พร้อม "

“ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเอาKไปสอดใครสิวะ จะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ " ผมบอกมัน " มึงควรพร้อมตั้งแต่วันที่มึงคิดจะเอาKสอดใครสักคนแล้วกูจะบอกให้ ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่อง ถึงจะมาบอกว่าไม่พร้อม มันหน้าตัวเมีย "

“ ขม..”

“ กูไม่รู้ว่ามันเป็นลูกใครหรอก  มึงหรือกู กูไม่รู้ด้วยว่ากูจะถูกหลอกรึเปล่า แต่ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ คือดูแลมันไปก่อนไม่ใช่เหรอวะ ดูแลมันจนกว่าเราจะหาได้ว่า แม่มันเป็นใคร "

“ มึงคิดว่าดูแลเด็กคนนึงมันง่ายเหรอขม "

“ แล้วจะให้ทำไง เอาเด็กไปปล่อยที่สถานสงเคราะห์เหรอไงวะ! ” ผมตะโกนบอกอีกคนเสียงดัง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ภาพที่นิ่งไปในตอนนั้นมันเหลือบมองไปรอบๆ คงเพราะมีคนในร้านหันมามองเราที่อยู่ๆก็เสียงดังขึ้นมา

“ ขอเสิร์ฟอาหารนะคะ " อาหารที่ถูกยกเข้ามา วางลงตรงหน้าภาพก็บอกปัด

“ กินข้าวเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดแล้วกัน "   

“ หัวหอม กินข้าวนะ อะ " ผมหยิบช้อนให้อีกคนที่ก็นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรตลอดเวลาที่เราทะเลาะกัน มันที่เอาแต่ก้มหน้า ชวนให้ผมคิดถึงเด็กเล็กๆที่ต้องอยู่ในสภาพสังคมที่พ่อแม่ทะเลาะกันและเถียงกันตลอดเวลา มันชวนให้ผมคิดถึงตัวผมเอง ตอนนั้น..ผมก็คงรู้สึกเป็นเหมือนกับมันในตอนนี้ละมั้ง

“ คิดอะไรอยู่อีก "

“ เปล่า ทำไมพอกูเงียบมึงต้องคิดว่ากูคิดอะไรอยู่ จะให้กูพูดทั้งวันเลยรึไง "

“ มึงได้เงียบอย่างเดียวขม หน้ามึงเศร้าๆ เหมือนคิดเหี้ยไรอยู่ "

“ เปล่าหรอก ไม่ได้คิดไร “ ส่ายหน้าให้ไอ้ภาพ ผมใช้ส้อมตักหมูทอดทงคัตสึในจานหัวหอมมาไว้ที่จานตัวเองชิ้นนึง " กูหั่นหมูให้นะ จะได้กินง่ายๆหน่อย " จัดการหั่นหมูเป็นชิ้นเล็กๆ ผมราดซอสให้มันกินกับข้าว หัวหอมกินเรียบร้อย ไม่พูดไม่จาอะไร ท่าทางที่ชวนให้ผมอึดอัดมากขึ้นไปอีก

   นึกถึงตัวเองสมัยนั้นก่อนที่จะย้ายไปอยู่ใกล้บ้านกับภาพ ตอนนั้นอายุผมก็คงเท่ากับคนที่นั่งข้างๆ นี่แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่แย่อยู่เหมือนกัน ที่ต้องเห็นพ่อแม่ตัวเองทะเลาะกันทุกวัน จนสุดท้ายแม่ก็ตัดสินใจแยกทางกับพ่อมาอยู่กับผมที่บ้านหลังใหม่

   มารู้ตอนโตว่าที่เลิกกันเพราะ พ่อเป็นคนที่ขี้หึงมาก ส่วนแม่เองเป็นนักโภชนาการต้องคุยกับคนอื่นเยอะแยะมากมาย มีเพื่อน มีสังคม เป็นคนที่แฮปปี้กับชีวิต แต่พ่ออยากจะให้แม่แค่อยู่บ้านเลี้ยงผม และแน่นอนว่าขัดกับไลฟ์สไตส์ของเธอย่างมาก พวกเค้าสองคนก็เลยเลิกกัน

“ อิ่มแล้วเหรอ " ผมหันไปถามคนนั่งข้างๆที่กินข้าวไปแค่ครึ่งเดียว กับหมูทอดทงคันสึไม่ถึงครึ่งชิ้น อีกคนพยักหน้ารับ " มึงกินน้อยจัง กินเข้าไปอีกหน่อยสิ " หยิบช้อนตักข้าวขึ้นป้อนมันอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา ปากที่เม้มกันสนิท

“ มันคงอิ่มแล้วมั้ง เด็กจะกินอะไรเยอะแยะละ " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะคว้าเอาจานข้าวของไอ้หัวหอมไปกินต่อ " กูกินเองเสียดาย "

“ ไอ้ตะกละ " ผมบอกสั้นๆอีกคนก็ยกไหล่ หาได้สนใจอะไรไม่ หน่ำซ้ำยังยื่นช้อนมากินหมูในจานกูอีก " เชี้ย ภาพ ของกู "

“ ทำไมจะแดก มึงไม่ต้องแดกเยอะ เดี๋ยวอ้วน ! "

“ อ้วนพ่อมึง! ถ้าคนอย่างกูอ้วนคงไม่มีคนผอมในโลกแล้วสัด " ผมด่ามันก่อนจะหันมาหาหัวหอม " มึงกินขนมหวานมั้ย " เอ่ยถามมันก่อนจะขอเมนูจากพนักงาน ผมเปิดหน้าของหวาน " มีไอติมชาเขียวอะ มึงกินมั้ย หรือว่า อยากจะไอติมช็อคโกเล็ต หรือยังไง "

“ อยากกินไอติมช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตที่นี่คงไม่อร่อย ไว้ออกไปกินข้างนอกนะ รอก่อน " ผมกระซิบบอกมันเพราะมีพี่พนักงานร้านยืนอยู่

“ ไม่อร่อยเหรอ "

“ เชี้ย " ปิดปากมันทันที ตอนที่ยื่นเมนูไปให้พนักงานผมก็ยิ้มแก้เก้อ " ไม่รับอะไรแล้วครับ ขอบคุณมาก "

“ ค่ะ " เธอยิ้มก่อนจะเดินออกมา ผมก็ถอนหายใจออกมา

“ พูดว่าไม่อร่อย ไม่ได้เหรอ "

“ พูดได้ แต่ไม่ใช่ต่อหน้าพี่พนักงานไง " ลูบหัวมันที่พยักหน้าเข้าใจ " ไว้ออกไปกินข้างนอกกันนะ "

“ มึงนี่ดูรักเด็กนะ "

“ เหรอ  คงเพราะสงสารมันมั้ง เห็นแล้วก็คิดถึงตัวเอง " สบสายตาภาพที่มองผมตอนที่พูดคำนั้นออกมา คำพูดที่ทำให้มันถอนหายใจออกมา

“ ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้น เราก็ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้สนิทกันหรอก สำหรับมึงอาจจะแย่ แต่กูไม่ได้รู้สึกแย่ไปกับมึงนะ กูว่ามัน..ก็ดีออก " เผลอยิ้มออกมาตอนที่มันพูด ผมก้มหน้าลงกินข้าวขี้เกียจแซว เดี๋ยวพี่ภาพจะหน้าแดง ที่ผมจะบอกว่า ' ดีใจที่เค้าอยู่กับตัวละสิ คุคิ '

   ถ้ามาคิดว่าเพราะเรื่องนั้นเราถึงได้เจอกัน มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่หรอก เพราะแม่แยกทางกับพ่อเลยต้องย้ายบ้านมาเจอกับมัน ไปเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอด ขึ้นรถโรงเรียนคันเดียวกัน เราเรียนห้องเดียวกัน เวลามีกิจกรรมอะไรแม่ผมก็จะฝากผมไปกับแม่ของไอ้ภาพ ทำงานกลับดึกๆก็อาศัยบ้านไอ้ภาพนี่แหละอยู่จนกว่าแม่จะกลับ บางทีไปประชุมต่างจังหวัดผมก็อยู่บ้านมัน เติบโตขึ้นมาด้วยกันสนิทกันมากกว่าพี่น้องเสียอีก

   จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร ผมกับไอ้ภาพผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกันก่อนจะหันมองหน้า " จะเอาไงต่อ " ภาพถามผมก็ถอนหายใจออกมา

“ ไม่รู้ว่ะ " ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าหัวหอมมันที่มองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ " มึงบอกอยากจะกินไอติมนี่ใช่มั้ย งั้นเราไปกินกันมั้ย "

“ อื้ม "

“ ไอ้ขม "

“ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก งั้นเดินเที่ยวห้างเล่นๆก่อนก็แล้วกันนะ " จูงมือไอ้หัวหอมที่จับมือผมไว้แน่น พามันเดินไปที่ร้านไอศกรีมร้านดังดีแดง ผมอุ้มมันขึ้นมาตอนที่ชี้ชวนให้มันมองลงไปในตู้ " อยากกินไอติมรสอะไร "

“ ช็อคโกเล็ต "

“ ช็อคโกเล็ตเหรอ " ผมถามซ้ำ " มันก็มีหลายช็อคนะมึง เอาช็อคแบบไหนละ "

“ แบบนี้ " มันชี้ไปที่ไอศกรีมรสร็อคกี้โรส พนักงานร้านก็ตักมาให้สกู๊ปนึงใส่ลงไปในโคนวาฟเฟิลกรอบๆ

“ นี่จ้า " เธอยื่นให้หัวหอมที่ผมอุ้มอยู่ ก่อนจะรับเงินที่ผมจ่าย " น้องน่ารักจังเลย ชื่ออะไรเหรอคะ "

“ ชื่อหัว.. กาลิคน่ะครับ " ผมบอก เธอก็ยิ้มรับ " บ๊ายบายพี่สาวก่อนเร็ว "

“ บ๊ายบาย " โบกมือไปมาแบบว่าง่าย ผมอุ้มมันออกจากร้านไปหาไอ้ภาพที่ยืนอยู่

“ แล้วเมื่อกี้ก็กินข้าวไม่หมดนะมึง " มันเอื้อมมือมาขยี้หัวไอ้หัวหอม

“ ท้องเด็กน่ะ มันแยกส่วนกันเว้ย ระหว่างข้าวกับของหวานน่ะ " ผมก้มลงมองมัน " เลอะไปหมดเลย ดูกิน " เอาทิชชู่ที่แถมมาเช็ดปากให้หัวหอม จะว่าไปตั้งแต่มันมา ยังไม่เห็นมันยิ้มเลย " อยากจะได้อะไรมั้ยหัวหอม ของเล่นเอารึเปล่า " พยักหน้ารับด้วยความสนใจไอ้ภาพก็ปราม

“ มึงให้มันกินให้เสร็จก่อนเถอะ ปากเลอะ มือเล็กแบบนี้ไปจับของเล่นเค้า เค้าได้กรี๊ดสิ "

“ แค่จับของเล่นต้องกรี๊ดด้วยเหรอ "

“ กรี๊ดสิ " ภาพย่อตัวลงบอกก่อนจะเอาทิชชู่ที่ผมถือไปเช็ดมือให้อีกคน " เพราะว่ากาลิคมือเลอะ มันสกปรก ถ้าของที่กาลิคจะซื้อมันสกปรก กาลิคจะอยากได้มั้ยละ "

“ ไม่ครับ "

“ เพราะงั้นถ้ากาลิคเอามือเลอะๆไปจับมัน มันจะไม่มีคนอยากจะซื้อนะ งั้นก็กินให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปซื้อกัน "

“ อื้อ " หัวหอมพยักหน้ารับ ผมก็มองมันที่ก็เงยหน้ามองผม

“ มองอะไร "

“ ก็เปล่า แค่รู้สึกว่า ถ้าให้พูดดีๆ มีสาระ กับเด็กมึงก็พูดได้นี่ " ภาพที่ถอนหายใจออกมา " เริ่มรู้สึกปลงๆกับเรื่องนี้ได้บ้างแล้วยัง ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบหัวหอมมันนะ "

“ ยังคิดว่าถูกหลอกอยู่ กูไม่เชื่อง่ายๆหรอก "

“ ตรวจดีเอ็นเอมั้ยละ " มันมองผมตอนที่ผมบอก

“ ถ้ามันเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไง "

“ ทำใจ "  ผมบอกอีกคนก็ยกยิ้ม

“ มึงทำใจไม่ได้หรอก แค่ทำใจเหรอกับอนาคตมึงทั้งชีวิตอะ พูดตอนนี้มึงพูดได้หมดแหละ ทุกอย่างมันยังห้าสิบ ห้าสิบอะ "

“ กินหมดแล้วครับ " หัวหอมพูดขึ้นขัดความเงียบของเรา ผมหันไปยิ้มให้มันก่อนจะจูงมือมันไปล้างมือในห้องน้ำ อุ้มขึ้นไปที่ขอบอ่าง ปั้มน้ำยาล้างมือแล้วถูลงไปที่มือเล็กๆนั่น

" ถูๆ ถูให้สะอาด "
" กาลิคเรียกว่า ขม ได้มั้ย " คำถามที่เงยขึ้นถามผมด้วยดวงตากลมๆติดเศร้านั้น ท่าทางเหมือนจะกลัวเล็กน้อย " ขม.. ขมใจดี "

" เรียกว่า อาขมดีกว่า " ผมบอกก่อนจะอุ้มมันลงมายืนบนพื้นข้างล่าง หยิบทิชชู่เช็ดมือให้สะอาดเรียบร้อย " หัวหอม ทำไมถึงยอมที่จะขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ละ แม่ไม่มา ไม่คิดถึงแม่เหรอ "

“ กาลิคคิดถึง แต่หม่ามี๊ก็บอกว่าให้มา กาลิคร้องไห้ไม่ยอมมาจะอยู่กับหม่ามี๊แต่หม่ามี๊ก็ยังให้มา หม่ามี๊ให้เพื่อนหม่ามี๊มาส่ง บอกว่าให้มาอยู่กับป่าป๊าที่นี่ ป่าป๊าจะดูแลกาลิคเองเพราะหม่ามี๊ดูแลไม่ได้แล้ว "

“ ทำไมดูแลไม่ได้ละ รู้มั้ยเพราะอะไร "

“ ไม่รู้ครับ หม่ามี๊บอกว่า ถ้ากาลิคอยู่ หม่ามี๊จะลำบาก หม่ามี๊เลยให้กาลิคมาอยู่ที่นี่ มาหาคนในรูปนี้ " มันคงหมายถึงรูปของผมกับภาพที่แม่มันให้มา

“ แล้วหม่ามี๊บอกมั้ย ว่าคนไหน " หัวหอมส่ายหน้า

“ ไม่ได้บอก "

“ ใจร้ายจังนะ " ผมบอกอีกคนก่อนจะดึงเข้ามากอด สงสารยังไงก็ไม่รู้วะ เด็กอายุแค่นี้ต้องห่างมาจากอกแม่ของตัวเองที่ทั้งรักทั้งผูกพัน ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่า มันต้องร้องไห้แล้วงอแงแค่ไหนก่อนจะมาถึงที่นี่ ความรู้สึกทรมานของมันที่มันได้รับ ผมคิดสภาพของเด็กที่กรีดร้อง แล้วรั้งมือของแม่ตัวเองไว้ แม่ที่ผลักมันออกมาให้ไกล เหตุผลอะไรผมไม่รู้ แต่ผมก็มองว่ามันไม่ใช่คนดีแล้วละ คนที่ทิ้งลูกตัวเองให้มาอยู่กับคนอื่นที่ไม่รู้นิสัยใจคอได้ จิตใจมันคงไม่ได้ดีอะไรหรอก เหี้ยชัดๆแหละ อย่างงี้ 

“ อาขม " มันเรียกผมตอนที่เห็นผมเงียบไป

“ ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปซื้อของเล่นกัน "

“ อื้อ " จูงมืออีกคนออกมา ภาพที่กำลังยืนก้มหน้าเล่นมือถืออยู่ หน้าตาเคร่งเครียดของมัน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะทัก

“ เฮ้ย ทำไรอยู่ "

“ เปล่า " มันบอกก่อนจะก้มลงมองหัวหอมแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมหันมองหัวหอมที่มันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะเดินเข้าไปในโซนของเล่นของห้าง

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 44
   เดินออกจากห้างหลังจากกินอาหารกันเสร็จ ผมหิ้วถุงข้าวเที่ยงของไอ้ขมกลับมา ส่วนกาลิคก็ได้ขนมจากร้านโปรดของมันมาอีกสองสามกล่อง เรากลับขึ้นมาบนคอนโดตอนที่พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลับพบว่าคนป่วยที่คิดว่านอนหลับกำลังนั่งกินน้ำส้มแล้วดูหนังอยู่ที่หน้าทีวีด้วยความสบายใจ

“ อาขมมมมมมมมมม " เสียงใสๆของกาลิควิ่งเข้าไปหาอีกคนที่ก็ดึงหน้ากากอนามัยที่ใส่ไว้ใต้คางขึ้นมาปิดจมูกตัวเองทันที " อาขมตื่นแล้วเหรอครับ " มือเล็กๆกอดอีกคนเข้าเสียเต็มรัก ไอ้ขมก็กอดกลับ

“ ตื่นแล้ว " ขมบอก " หัวหอมกินข้าวมาแล้วละสิ "

“ ครับ กาลิคกับป๊าซื้อข้าวมาให้อาขมด้วยนะ " มันชี้มาที่ผม ที่ก็ยกถุงอาหารโชว์อีกคนก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ

“ ข้าวหน้าไก่ย่างถ่าน กูขอข้าวแบบพิเศษมาสองถ้วยเลยนะ เผื่อมึงจะเจริญอาหารขึ้นมาบ้างแล้ว "

“ ขอบคุณมากครับ " ร่างบางว่าก่อนจะก้มลงมองเจ้าเด็กตัวเล็กที่ก็ยังกอดมันแน่นไม่ยอมปล่อย " มาคุยกันดีกว่า หัวหอมกินข้าวกับอะไรมาเมื่อกี้ "

“ กินหมูทอดกับข้าวแล้วก็กินไอติมกับถั่วแดง แล้วก็นะ วันนี้นะอาขม กาลิคกินหมูหมดเลย แล้วก็กินข้าวหมดด้วย "

“ จริงเหรอออ เก่งจังเลยยยย มาๆ ต้องให้รางวัล " หอมแก้มนิ่มๆของไอ้ตัวเล็กผ่านหน้ากากอนามัยที่ใส่อยู่ไปเสียเต็มฟอด กาลิคก็หัวเราะชอบใจ " แล้วนี่ซื้อขนมอะไรมา "

“ ซื้อเยอะเลยอาขม ป๊าตามใจ ป๊าซื้อให้ " มันว่าก่อนจะดึงถุงขนมไปตั้งไว้บนโต๊ะแล้วเอาออกมาโชว์ไอ้ขมทีละกล่อง " อันนี้เป็นช็อคโกเล็ต อันนี้เป็นอันที่กาลิคชอบกิน อันนี้ก็ด้วย กาลิคชอบหมดเลย อาขมกินด้วยกันนะ "

“ โหห เยอะจัง แต่ห้ามกินหมดภายในวันนี้นะ เข้าใจมั้ย " ขมบอกพลางขยี้อีกคนที่ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากล่องนึง

“ ตอนนี้กาลิคจะกินอันนี้ก่อนครับ อันนี้ก็เก็บไว้ " จัดการเอาขนมใส่ถุงไอ้ขมก็ชม

“ เก่งมาก รู้จักแบ่งขนมไว้กินแบบนี้ น่ารักจัง งั้นขอหอมแก้มอีกสักที " เสียงหอมที่ดังฟอด เด็กน้อยก็ยิ้มเฉ่งด้วยความดีใจที่ถูกชม " งั้นอาขมไปกินข้าวก่อนนะ " ขมลุกจากที่โซฟามานั่งที่โต๊ะกินข้าว มันที่กำลังเอากล่องข้าวออกจากถุง ก่อนเอ่ยถามผม " แล้ววันนี้ตอนเย็นเรากินอะไรกันดี "

“ สปาเก็ตตี้! ” กาลิคเสียงดังขึ้นมา ก่อนจะวิ่งจากโซฟามายืนข้างๆไอ้ขมเพื่ออธิบายในสิ่งที่มันรู้ " วันนี้ตอนเย็นอามีนาจะเอาสปาเก็ตตี้มาให้เราครับ อามีนาบอก "

“ อย่างงั้นเหรอ "  มือบางลูบหัวเด็กน้อยที่ยืนพิงอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองผม ขมถามเสียงนิ่ง " นี่มึง..เจอมีนามาเหรอ "

" อื้ม เจอตอนจะออกไปข้างนอกอะ เค้าจะไปห้างพอดี ก็เลยไปด้วยกัน "

“ ออกไปด้วยกัน " ขมพูดย้ำความเข้าใจของมันพร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆเปลี่ยนไป จากที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรแต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันกำลังมองผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ผมก็ยอมรับความจริงด้วยการพยักหน้ารับมันไป

“ ทำไมวะ ก็แค่เดินออกไปจากห้องแล้วเจอกัน กูทักมัน มันก็ทักกลับ ก็แค่นั้นอะ " ผมอธิบายแต่เหมือนสีหน้าของขมก็ยังไม่พอใจอยู่แบบนั้นจนกาลิคพูดขึ้น

" แล้วก็อามีนานะอาขมก็บอกป๊าว่า จะทำสปาเก็ตตี้ให้พวกเราละ จะทำมาให้เราด้วย แล้วป๊า ก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ อามีนาก็บอกว่าอามีนาชอบทำอาหารให้คนที่เค้าชอบแหละ " มันว่าก่อนจะเขย่งตัวกระซิบไอ้ขมข้างหู แต่ผมก็ยังได้ยิน " ต้องหมายถึงป๊าแน่เลย "

' ไอ้ชิบหายยยย ทำไมมึงพูดแบบนี้!!!!! กาลิคจะพูดอะไรก็ได้แต่จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะลู๊กกกกก ' ผมได้แต่พูดตะโกนอยู่ในใจ  ขมหันมามองผมตอนที่กาลิคบอก สายตาขวางๆของมันขมพูดสั้นๆ

" อย่างงั้นเหรอ "

“ นี่เดี๋ยวสิ.. " ผมยิ้มกลบเกลื่อน กาลิคก็พูดต่อ

" แล้วก็นะอาขม ตอนที่เราเดินออกไปจากที่บ้านแล้วจะข้ามถนน ป๊าน้า~ ก็จับมืออามีนาด้วยแหละ "

' ทำไมเก็บรายละเอียดขนาดนั้นครับลูก  ถ้าเก็บได้เหี้ยแบบนั้นไม่ได้ต้องเก็บก็ได้ม้างงงง ไอ้กาลิคคคคค  ไอ้ตัวแสบ!! ' อยากจะเอาหัวโขกเสา แล้วที่เข้าใจเลยคือ มึงจะมาความจำดีอะไรเอาตอนที่ไอ้ขมมันมองกูตาขวางแบบนั้นวะ สาดดดด เอื้อมมือตบหน้าผากตัวเองผมอธิบาย “ เดี๋ยวๆ เค้าแค่ข้ามถนนไม่เป็น กูเลยไปช่วยตังหาก พูดให้มันดีๆกาลิค เดี๋ยวจะโดน "

“ ก็พูดความจริง เนี้ยๆ ป๊าจับแบบเนี๊ยะเลย " มันจับมือขมขึ้นมาทำให้ดู แล้วจะแสดงให้ไอ้ขมมันเห็นภาพเพื่อออ แค่นี้ก็พอแล้วววว  " แล้วก็นะตอนนั้นนะ อาขม อามีนาเค้าก็หน้าแดงเลย "   

“ เดี๋ยวเถอะ ไปสังเกตอะไรขนาดนั้น ป๊ายังไม่เห็นเลย " ผมบอกปัด เจ้าตัวเล็กก็ยิ้ม

“ แต่กาลิคเห็นนะ แล้ว~ แล้วก็มีอีกเรื่องนะอาขม "

“ ยังมีอีกเรื่องเหรอออ " ขมถามเสียงยาวก่อนจะเหลือบมองผมด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนจะยกยิ้ม สายตาที่ชวนให้ผมรู้สึกถึงความหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาช้าๆ ก่อนที่มันจะก้มลงไปยิ้มให้กาลิค " ไหนเล่ามาสิ เรื่องอะไร "

“ เรื่องนี้มันคิดขึ้นเองชัดๆ ไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่ความจริงเลย " ผมบอกปัดคำพูดของกาลิคที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะพูดว่าอะไร " หยุดเลยนะไอ้ตัวแสบ อย่าเอาความคิดของตัวเองยัดเยียดให้คนอื่นสิวะ ไม่ใช่สักหน่อย "

“ อะไร ไหนหัวหอมเล่าอาขม " มันบอกเร่งไอ้ตัวเล็กด้วยการจับกาลิคให้เผชิญหน้ากับมัน ขมยิ้มก่อนจะเชิดหน้ามามองผมด้วยสายตาหงุดหงิด

“ แล้วมึงจะมามองกูด้วยสายตาหงุดหงิดแบบนั้นทำไม มันไม่ใช่นะเว้ย อย่าไปฟังมันนนน ฟังมันเพื่อ ? ไม่จริงเลย "

“ ถ้าไม่จริงเลย มึงก็ไม่เห็นต้องแคร์นี่ " ขมบอกก่อนจะก้มลงย้ำคำถามกับกาลิค " ไหนหัวหอมบอกอาขมหน่อย "

“ กูไม่แคร์หรอก แต่มึงแคร์นี่ แล้วมึงก็เชื่อมันอะ กูเลยต้องแคร์ "

“ ไอ้วัวสันหลังหวะ " ขมพูดสั้นๆมันหันไปยิ้มให้กาลิค " หัวหอมเล่าอาขมหน่อย แล้วมีอะไรอีกเหรอ มีอีกใช่มั้ย "

“ อื้ม "  มันพยักหน้ารับ " ก็ตอนที่ป๊ากับกาลิคถึงห้างแล้ว อามีนาก็ถามป๊าว่า ป๊าชอบคนแบบไหนแหละ อามีนาเค้าถามเพราะว่าเค้าชอบป๊าแหละ รินเน่เคยบอกกาลิคว่า ถ้าใครถามว่า เราชอบคนแบบไหน คนคนนั้นน่ะนะ เค้ากำลังชอบเรา "

“ ไม่ใช่สักหน่อย มีนามันอาจจะถามไปงั้นๆอะ " ผมบอกปัด ไอ้ขมก็เหลือบมองผมด้วยหางตาก่อนจะยิ้มให้กาลิค

“ แล้วป๊าเค้าตอบว่าไงละ "

“ อื้มม ตอบว่าไรแล้วน้า "

“ พอทีแบบนี้ก็เสือกจำไม่ได้ขึ้นมานะไอ้ตัวแสบ "  ผมบอก กาลิคก็ยิ้มเขิน ขมจิ้มแก้มมัน

“ ไหงหน้าแดงงี้ละ จำได้ละสิ ว่าป๊าพูดว่าอะไร " เด็กน้อยพยักหน้ารับ

“ แต่กาลิคจะกระซิบบอกอาขมนะ จะไม่บอกให้ป๊าได้ยิน "

“ อย่างงั้นเหรอ ก็โอเคนะ " ขมก้มหน้าลงใกล้มันเจ้าตัวเล็กก็กระซิบบอก เป็นเสียงกระซิบที่เบามาก มากถึงขนาดที่ว่าถ้าผมไปยืนอยู่ในห้องนอนก็คงได้ยิน

“ ป๊าบอกว่า ป๊าชอบคนที่รักกาลิคครับ ป๊าบอกแบบนั้น " มันว่าไอ้ขมก็ยิ้มกว้างก่อนจะขยี้หัวมัน

“ แค่นี้ก็ต้องเขินด้วยเหรอไงเรา "

“ ม่ายยยเอา ไม่อยากจะให้ป๊าได้ยิน " มันกอดไอ้ขมไว้แน่น ไม่อยากจะบอกว่ากูได้ยินทั้งหมดที่มันพูดนั่นแหละ ขมมองมันยิ้มๆแต่พอเงยหน้าขึ้นมามองผมกลับตีหน้าหงุดหงิดใส่ซะอย่างงั้น กาลิคดึงตัวเองออกไปนั่งกินขนมอยู่ที่โซฟา ขมก็เริ่มกินข้าวคำแรก ผมเอ่ยถาม

“ อร่อยมั้ยมึง "

“ ก็อร่อยเหมือนเดิมนั่นแหละ " มันก้มหน้าลงเคี้ยวข้าวในจานตัวเองไปเรื่อยๆ เสียงที่เงียบไปจนได้ยินแต่เสียงทีวีของไอ้กาลิคผมหันมองลูกชายที่นั่งดูทีวีสบายใจ ใช่สิ..มึงสร้างเรื่องให้กูแล้วนี่นะ ขยี้หัวตัวเองเซ็งๆตอนนั้นขมก็เอ่ยบอก " วันนี้กูไม่กินข้าวเย็นนะ ถ้ามันมีส่วนของกูก็แดกให้เลย ไม่ต้องแบ่งไว้ "

“ อะไรวะ นี่มึงงอนเหรอ " ผมถามก่อนจะดึงเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างมัน หย่อนตัวลงไปนั่งใกล้ๆ

“ กูไม่ได้งอน แค่คิดว่ากินไอ้ที่มันมีอยู่ตอนนี้หมด ก็คงอิ่มถึงเย็นแล้ว มันเยอะ ก็แค่นั้นอะ" ไม่จริง ผมโคตรอยากจะบอกมันแบบนั้น ปกติเวลาไปกินอาหารร้านนี้เพราะมันชอบไอ้เมนูไก่ย่างถ่านนี่มาก มันชอบขอข้าวเพิ่มประจำแถมขอเยอะด้วย ผมเอาข้าวมาแค่นี้ไม่ถึงครึ่งกระเพาะมันหรอกสำหรับของโปรดเมนูนี้

“ เอาจริงๆนะ คือกูไม่ได้อยากจะแดกสปาเก็ตตี้ของน้องเค้า แต่น้องเค้าเสนอมา ก็เหมือนตอนที่น้องเค้าเสนอตัวมาสอนมึงทำกับข้าวนั่นแหละ กูก็ปฎิเสธไม่ได้เหมือนกัน "

“ กูไม่คิดจะปฎิเสธนะตอนนั้นน่ะ ไม่ใช่ว่าปฎิเสธไม่ได้ " ขมบอกมันก็เหลือบมองผม " แต่กับมึงมันไม่เหมือนกันอะ มึงปฎิเสธได้ แต่มึงเลือกที่จะรักษาน้ำใจเค้ามากกว่า "

" นี่มึงโกรธกู ที่น้องมีนาเค้ามีท่าทีสนใจกูเหมือนที่ไอ้กาลิคพูด หรือว่า มึงหึงกูที่น้องเค้ามาสนใจกูกันแน่ "

" กูไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่มึงพูดทั้งสองอย่างนั่นแหละ " มันหันมาบอกก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อ มือบางเขี่ยข้าวไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมา " อีกอย่างกูรู้มาตั้งแต่วันที่น้องเค้าสอนกูทำกับข้าวแล้ว ว่าเค้าชอบมึง "

“ ห๊า! " ผมอ้าปากค้างตอนที่มันบอก ไอ้ขมก็หันมาชักสีหน้า " แค่ตกใจไง แบบกูคิดว่าเค้าชอบมึง... แล้วก็คิดว่ามึงก็ชอบเค้า " ตอแหลไปอีกกู  ทั้งๆที่จริงๆผมตกใจก็เพราะ มันบอกว่า มันรู้ว่าน้องเค้าชอบผมตังหาก ทางนี้ก็คิดมาตลอดว่ามันไม่รู้

“ ที่ไหนละ ตอนนั้น ที่มันมาสอนกูทำกับข้าวก็เพราะว่าอยากจะมาอยู่ใกล้ๆมึงก็เท่านั้นแหละ อยากมาเห็นมึง แถมยังมาหลอกถามอะไรกูตั้งเยอะแยะ มึงชอบคนแบบไหน มีแฟนรึยัง แถมยังบอกอีกนะ ว่าหัวหอมมันคงเป็นลูกกู ไม่ใช่ลูกมึงหรอก หึ " มันหัวเราะในคอก่อนจะพูดเสียงเบาๆ " แล้วสุดท้ายก็เป็นลูกมึง สมน้ำหน้าอยากได้ดีนัก "

“ นี่ มึงหึงกูนี่น่า " ผมยิ้มกับคำพูดของมันที่ฟังยังไงก็แปลความหมายออกมาได้อย่างเดียวคือ ขม ที่กำลังหงุดหงิดอยู่ตอนนี้มันหึงผมอยู่ แล้วก็หึงมากซะด้วย

“ ไม่ได้หึง หึงเหี้ยอะไร จำเป็นต้องหึงเหรอ มึงจะเลือกใครชอบใครก็เรื่องของมึงเถอะ โตจนมีลูกแล้ว แค่คบใครก็หาดีๆหน่อยละกัน อย่าให้เค้ามาทำร้ายหัวหอม มีลูกใหม่ก็รักลูกทุกคนให้เท่ากันด้วยไม่ว่ามันจะเกิดแม่คนไหน ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่ " สายตาขู่ๆของมันชวนให้ผมหัวเราะ " หัวเราะเหี้ยไร "

“ ก็หัวเราะมึงอะ จะจริงจังอะไรขนาดนั้นวะ  กูบอกเหรอ ว่ากูชอบมีนา " ผมถาม มันก็นิ่งไปสักพักก่อนจะส่ายหน้า

“ ก็เปล่าอะ "

“ แล้วจำได้มั้ย กูบอกว่ากูชอบใคร "

“ ก็..จำได้ " ขมพยักหน้ารับ

“ งั้นกูจะย้ำอีกที ว่ากูจะไม่เปลี่ยนใจจากเค้าหรอก " มันเหลือบมองผมก่อนจะหันกลับมาก้มกินข้าวต่อ  ท่าทางที่ชวนผมยิ้มกว้างรู้สึกมันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

" ยิ้มเหี้ยอะไร ขนลุก ไอ้สัด " ไม่มีคำตอบอะไรจากปากผมแต่ตอนที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน ขมกลืนน้ำตาตัวเองลงไปเสียงดัง แก้มแดงๆชวนให้ผมเอื้อมมือขึ้นเกลี่ยแก้มของมันเบาๆก่อนจะบอก " ตอนที่มีนาถามว่ากูชอบคนแบบไหน กูบอกเค้าไปว่า  กูไม่สเป็คตายตัวหรอก ถ้าคนคนนั้นรักกาลิค แล้วเข้าใจในตัวกู แล้วกูก็โอเคกับเค้า กูก็คงชอบเค้าแล้วและนั่น มันก็หมายถึงมึงนะ " ยักไหล่ใส่อีกคนก็หันมามองทำท่าจะอ้วกออกมา ผมยกมือขยี้ผมของมันก่อนจะโยกไปมา  " ไม่เห็นต้องหึงเลยเมียจ๋า ต่อให้ใครมาชอบผัว ผัวก็ไม่นอกใจเมียหรอก รักเมียคนเดียวนะจ๊ะ จุ๊บๆ "

“ ใครเป็นเมียมึงไอ้สัด หุบปากไปเลย " มันหันมาด่าผมก็ยกยิ้ม

“ หึงกูออกนอกหน้านอกตาขนาดนั้น ยังจะบอกว่าไม่ใช่เมียกูอีก หรือว่าต้องเอากันก่อนถึงจะนับว่าเป็นเมีย งั้นจะเอายังไง คืนนี้เลยมั้ย หายป่วยพอดี "

“ สัด เงียบไปเลยไอ้เหี้ย! ” มันหันมาด่าทำมือเหมือนจะฟาดมาทางผมแต่ก็ถูกผมจับไว้ก่อน " ปล่อยเลย "

" ขอจับหน่อย " มือบางที่พยายามดึงออกแต่ผมก็จับมันไว้แน่นดึงมาตั้งอยู่บนตักมันก็ยังดึงไม่เลิก

“ กูกินข้าวลำบาก จะมาจับทำไมวะ ขาดความอบอุ่นรึไง "

“ ก็เค้าอยากจะให้เมียรู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไร "

“ ก็บอกว่าไม่่ใช่เมียมึงไงไอ้เหี้ยนี่ก็! " ขมดึงมือตัวเองออก แต่ผมก็พยายามจับมันไว้แน่นแต่คนโดนจับก็ไม่ยอมพยายามดึงมือออกอยู่แบบนั้น

“ แล้วนี่มึงเป็นยังไงบ้าง " คำถามชวนเปลี่ยนเรื่องให้มันเลิกคิดเรื่องดึงมือที่ผมจับอยู่นั่นออกเสียที แล้วก็ได้ผลมือนั้นชะงักหยุดทันทีตอนที่ผมถามมันก็เป็นแบบนี้ เวลาทำอีกอย่างชอบลืมอีกอย่าง ขมพยักหน้ารับ

“ กูหายแล้วละ ถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์ตอนนี้กูคงป่วยแค่สัก 30 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นแหละ " มันยักคิ้วให้ก่อนจะหันไปกินข้าวต่อคงลืมไปแล้วละว่ามืออีกข้างของมันมีผมจับอยู่

“ งั้นกินข้าวเสร็จก็อย่าลืมกันยาแล้วกัน "

“ อื้ม " ขมพยักหน้ารับ ผมนั่งมองมันกินข้าวไปเรื่อยๆ มือที่กุมมันอยู่ขยับไปมาจับอีกฝ่ายหันมามองก่อนจะดึงมือตัวเองกลับ

“ อ้าว..รู้ตัวซะแล้วละ "

“ สัด! นิสัยเสีย " มันบ่นผมก็หัวเราะ

“ ใครกันแน่ที่นิสัยเสีย พอได้คุยอีกเรื่อง มึงแม่งก็ลืมอีกเรื่องละ นี่ถ้ากูไม่ขยับมือ มึงไม่มีทางรู้ตัวหรอกว่ากูจับมือมึงอยู่ "

“ มึงนั่นแหละนิสัยเสีย รู้ว่ากูเป็นยังไง ก็เอาจุดอ่อนนั่นแหละ มาแกล้งกูเรื่อยเลย "

“ กูแกล้งอะไรมึงงงง " ผมลากเสียงยาวอีกคนก็หันมาชักสายตาใส่ " อะไรครับมาชักสายตาใส่พี่ทำไมครับน้องขมม " ขมลุกขึ้นหลังจากกินข้าวเสร็จมันบอก

“ มึงคิดว่ากูหายโกรธมึงแล้วเหรอ เรื่องน้องมีนาอะ อย่ามาทำเป็นลืม กูไม่ลืมหรอกไอ้เหี้ย "
 
“ เดี๋ยวๆ มึงโกรธเรื่อง ? “ เดินตามเข้าไปในครัวเอ่ยถามมันไอ้ขมก็หันมามองหน้า " กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ น้องเค้าเข้ามาหาเอง ถ้าเป็นมึง มึงก็ต้องทำแบบกูนั่นแหละ จะให้ไม่พูด ไม่ทัก ได้ไง ก็เค้าทักเราก่อน แล้วเรื่องข้ามถนนมึงจะปล่อยให้คนรู้จักที่ดูเงอะๆงะๆ ตอนข้ามถนน ข้ามคนเดียวเหรอ เกิดรถชนเค้าขึ้นมาจะทำยังไง ส่วนเรื่องคำถามพวกนั้น กูก็ตอบไปตามน้ำอะ จะให้ไม่ตอบก็ไม่ได้จริงมั้ยละ "

“ แต่เค้าก็ไม่ได้ขอให้มึงจับมือเค้านี่ จริงมั้ย " ขมถามก่อนจะเอียงหน้ามองผม " ถ้ามึงไม่จับแล้วบอกเค้าว่า มีนาตามพี่มาตอนเดินข้ามถนน แค่นั้นก็ได้แล้วปะ แต่นี่มึงจับมือเค้า..”

“ ก็แค่จับมือเปล่าวะ " ผมบอกมันอีกคนก็เงียบ ขมผ่อนลมหายใจออกมามันหันไปหยิบแก้วก่อนจะกินน้ำ ท่าทางของมันทำเหมือนผมเป็นพวกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรซะอย่างงั้น " อะไรของมึงวะขมพูดออกมาสิ เคลียร์กันให้จบๆ แล้วหายโกรธกันสักที "

“ ถ้าเค้าไม่ชอบมึง กูคงคิดแหละ ว่ามันเป็นการจับมือเพื่อช่วยเหลือเฉยๆ แต่พอเค้าคิดอะไรกับมึง สำหรับกูมันก็ไม่ใช่การจับมือเฉยๆแล้ว เหมือนมึงทำให้เค้าชอบมึงมากขึ้นโดยที่มึงไม่รู้สึกตัว แล้วพอแบบนั้น กูก็..”

“ อะไร มึงก็อะไร " ผมถาม คนที่กำลังสนทนาด้วยก็เหลือบตามอง สายตาที่ดูก็รู้ว่าคนแบบมันคงไม่พูดออกมาหรอก " พูดยากนักกูบอกเอง มึงก็หึง ไม่โอเค ไม่อยากจะให้จับ อย่าเข้าไปใกล้ ถูกมั้ย มา กูจะแก้ไขปัญหานี้เอง " ยกมือที่จับมือมีนาขึ้นมาตรงหน้ามัน " มือนี้กูจับมือมีนามา กูจะเอาไปล้าง " เดินไปที่อ่างล้างจานผมบีบน้ำยาล้างมือ ล้างมือตัวเองถูๆจนสะอาดก่อนจะหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ด " โอเคเสร็จละ พอใจยัง ถ้ายังไม่พอใจก็นี่ " คว้ามือบางมาจับไว้แน่นอีกคนก็สะบัดออก

“ กูไม่ได้รู้สึกอย่างงั้นเว้ย "

“ กู ม่าย ด้าย ยู้ ซึก อย่าง งั้น เว้ย " ผมว่าเสียงล้อเลียนมันอีกคนก็จิ๊ปากขัดใจ

“ มึงแม่ง.. นิสัย กวนส้นตีน "

“ นี่รู้มั้ยถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะบอกความจริงในใจที่กูรู้สึก แล้วรีบรวบรัดกันซะ  บอกไปเลย หึงเว้ย อย่าไปให้ชะนีที่ไหนเค้าจับมือมึงสิวะ มือมึงเป็นของกูนะ ไอ้เชี้ยยยจากนั้นกูก็จะเข้ามาใกล้ กอดเอวแล้วก็ซบลงตรงอก  เขย่งตัวขึ้นจูบปากสักทีแล้วบอกว่า ' ภาพเป็นของขมนะ ต้องย้ำกันรึเปล่าว่าเราเป็นของกันและกันยังไง ' จากนั้นก็ผลักกูเข้าห้องแล้วเราก็... คึคึ " ผมยิ้มออกมาก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอตัวเอง นึกจินตนาการถึงสิ่งที่ตัวเองพูด ก่อนจะแรงตบหนักๆจะฟาดลงบนหลังเสียเต็มแรง

   เพี๊ยะ!!!

“ โอ๊ย! เชี้ย! เจ็บบบบบบบบ "

“ ไปนอนกลางกลางวันไป ไอ้สัด ไร้สาระ " ไอ้ขมส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว " มึงแม่งก็พูดแต่สิ่งที่มึงต้องการอะ "

“ แล้วผิดเหรออออออ ก็เค้าอยากจะให้มันเป็นอย่างงั้นนี่น่า ตัวเองงงงง " ผมลากเสียงยาวๆถามก่อนจะเอียงหน้าทำแบ๊วใส ขมขมวดคิ้วพลางทำท่าทางจะอ้วกตอนที่มันจ้องหน้าผม มันที่หลุดหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายหน้า

“ เป็นบ้าอะไรของมึงวะ ปัญญาอ่อน กูแม่งงงง โอ๊ยยยย ฮ่าๆ ไอ้บ้า เลิกทำหน้าปัญญาอ่อนได้แล้ว "

“ นี่ " ผมเอื้อมมือไปจับมือมัน " กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมีนานะ อย่าโกรธเลย ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก จริงมั้ย "

“ ปล่อยมือกูเถอะน่า กูไม่ใช่สาวแรกรุ่นให้มึงมาพูดคำหวานแล้วเขินนะเว้ย " มันสะบัดมือตัวเองออก แต่ผมที่จับมือมันไว้แน่น ขมหันหน้าไปอีกทางแก้มแดงๆของมันที่แดงจัด

" ไหนบอกว่าไม่ใช่สาวแรกรุ่นแล้วเขินทำไม "

“ ก็ร้อนเว้ย มาอัดกันอยู่ในครัว ถอยๆ กูจะไปหาหัวหอม " มันบอกปัด แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยมึอ

“ บอกก่อน ว่าไม่โกรธกูแล้วจะปล่อย "

“ เออๆ ไม่ได้โกรธแล้ว " ขมบอกแบบว่าง่าย ผมก็เอียงหน้าถามยิ้มๆ

“ แล้วเมื่อไหร่จะยอมรับสักทีว่าเป็นแฟนกู " ถามมันที่ก็เงยหน้าขึ้นมามอง สายตาเชิงตั้งคำถามของมันส่งมา

“ มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว " ขมเอียงหน้ามองผมก่อนจะยิ้ม " กูรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเป็นแฟนเลย เราอยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปซื้อของ ดูหนัง ไปเรียน ทำอะไรหลายๆด้วยกันมากกว่าคนเป็นแฟนกันแบบไอ้ชัดไอ้โมมันเป็นอีก มึงไม่คิดงั้นเหรอ "

" แต่เพื่อนกันเค้าไม่หึงกันนะ " ผมบอก " ถ้ากูมีเพื่อนใหม่ หรือคุยกับใคร เค้าจะไม่มีการหึงกัน นั่นคือเพื่อน " ขมเงียบไปตอนที่ผมบอก " กูไม่บีบบังคับมึงอยู่แล้วเรื่องความสัมพันธ์ไม่ใช่ว่ากูไม่ยอมต้องเปลี่ยนให้ได้ เปล่าเลย แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของมึงที่ว่า เพื่อนกับแฟนมันเหมือนกัน เพราะกูคิดว่าไม่เหมือน เพื่อนหึงกันไม่ได้แล้วอีกอย่าง เพื่อนเอากันไม่ได้ นั่นแหละสิ่งที่เพื่อนกับแฟนมันต่างกัน "

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดังขึ้น เราที่กำลังสบสายตาคุยกันละความสนใจออกจากกันเพราะเสียงนั้น ผมเดินออกไปที่ประตูเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่มาเคาะเป็นใครกัน

“ พี่ภาพ มีนาเอาสปาเก็ตตี้มาให้ค่ะ " พอเปิดประตูออกไป เสียงของผู้หญิงที่นัดผมไว้ก็เอ่ยทัก ผมก้มหน้ายิ้มให้เธอก่อนจะมองไปที่กล่องใส่อาหารใบใหญ่ที่เธอถือ

“ ขอบคุณมากนะครับ " บอกไปแบบนั้นตอนที่เอื้อมมือไปรับ เธอก็พยักหน้ารับแต่ก็ยังหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“ แล้วน้องกาลิคทำอะไรอยู่เหรอคะ " คำถามพร้อมใบหน้าสวยที่เอียงเข้ามาดูในห้อง ถ้าเดาไม่ผิดที่ไม่ออกไปง่ายๆก็คงเพราะอยากเข้ามาข้างในสินะ

“ ดูการ์ตูนน่ะ " ผมบอกเธอก่อนจะเปิดประตูให้กว้างขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ " มีนาเข้ามาก่อนสิ "

“ น้องกาลิค " เธอเอ่ยเรียกอีกคนที่ก็หันมายิ้มกว้างให้แล้วหันกลับไปดูการ์ตูนอีก " แล้วพี่ขมเป็นยังไงบ้างคะ "

“ หายป่วยแล้วแหละครับ " ขมที่ยืนอยู่ในครัวเอ่ยบอก เธอที่หันไปมองเปลี่ยนสีหน้าทันทีตอนที่เห็นขมเดินออกมา

“ อ้าว..พี่ขม " เธอว่าก่อนจะยิ้มจางๆให้อีก

“ มีนาทำสปาเก็ตตี้มาให้พวกพี่เหรอ " ขมถามเธอก็พยักหน้ารับ

“ ใช่ค่ะ พอดีหนูเจอพี่ภาพที่หน้าคอนโดตอนที่ไปซื้ออุปกรณ์พอดี ก็เลยทำมาเผื่อทุกคนเลยค่ะ ลองชิมดูนะคะ ไม่รู้จะถูกใจรึเปล่า "

“ ขอบคุณมากนะครับ " ร่างบางพยักหน้าบอกเธอ มีนาก็หันมายิ้มให้ผมที่ก็ยิ้มให้เธอเช่นกัน

“ อ่ะแฮ่มๆ " เสียงกระแอมของไอ้ขมชวนให้เราหันไปมองมัน มือบางเอื้อมเกาที่คอตัวเองเบาๆ " คันคอ สงสัยยังไม่ค่อยหายดี "

“ แล้วนี่กินยารึยัง " ผมถามมันก็ส่ายหน้า

“ ยังอะ มึงเอาให้หน่อยสิ ปกติมึงเอาให้กูกินทุกวัน กูไม่เคยจัดเอง ยาอยู่ไหนใครจะไปรู้วะ "

“ แล้วก็ไม่บอก " ส่ายหน้าให้มันตอนที่เดินเข้าไปในครัวมีนาก็มองตามผม

“ พี่ภาพ ดูแลพี่ขมดีจังเลยนะคะ "

“ ก็ต้องช่วยกันแหละ อยู่ด้วยกันนี่ ถ้าพี่ไม่สบายมันก็ต้องดูแลพี่ มันไม่สบายพี่ก็ต้องดูแลมัน " เอายาพร้อมกับน้ำมาให้อีกคน ขมกินน้ำจนหมดแก้วก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ

“ ดีจังนะคะ มีนาเองก็อยากจะมีคนดูแลบ้าง แต่ติดที่ว่าอยู่คนเดียวนี่สิ " เธอว่าก่อนจะยิ้มให้ผม ไอ้ขมก็เอ่ยถาม

“ แล้วแฟนมีนาละ " คำถามที่ทำให้ผมให้ไปมองหน้ามัน ไม่คิดว่าไอ้เหี้ยนี่จะเลือกถามคำถามที่โคตรจะทำร้ายจิตใจน้องมันออกมาได้ มีนามีแฟนแล้วเท่าที่ผมกับไอ้ขมรู้เพราะผู้ชายคนนั้นเคยมาหาเธอที่คอนโดบ่อยๆ แต่เราก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจและไม่พูดอะไร มีนาเงยหน้ามองมันด้วยสายตาไม่พอใจเท่าไหร่ที่โดนถามแบบนั้น เธอคงรู้สึกเสียบรรยากาศแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังยิ้มออกมา " พี่จำได้ว่า เมื่อวันก่อนพี่เห็นแฟนมีนานะ "

" ก็น่าจะเป็นเดือน หรือสองเดือนก่อนนะคะ เพราะว่าตอนนี้เราเลิกกันไปแล้ว " เธอบอก ขมก็พยักหน้ารับ

“ มีนาโอเครึเปล่า " ผมถามเพราะท่าทางเธอดูเหมือนจะเศร้าลงไปทันทีตอนที่พูดถึงแฟนเก่า ใบหน้าสวยพยักหน้ารับ

“ โอเคคะ ไม่เป็นอะไรหรอก "

“ พี่ขอโทษแทนไอ้ขมมันด้วย มันถามอะไรไม่คิด พอดีมันป่วยสมองมันเลยเบลอๆอะ " หันไปมองอีกคนที่ตาโตขึ้นมาตอนที่ผมพูดแบบนั้น แล้วคราวนี้ก็กลายเป็นไอ้ขมที่ตีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาแทน ผมพูดเสียงเบา " ขอโทษน้องเค้าสิวะ มึงพูดเหี้ยไรไปกระทบใจเค้ารึเปล่า "

“ แสดงปะเถอะ " มันพูดเบาๆ

" เอาน่า ถึงจะแสดงมึงก็ควรขอโทษเค้านะ " ผมตอบกลับเสียงเบาๆเช่นกัน ขมหันไปยิ้มแห้งๆให้มีนา

“ พี่โทษทีนะมีนา พี่ไม่ได้ตั้งใจอะ "

“ ไม่เป็นไรหรอกคะพี่ขม " เธอว่าก่อนจะหันมายิ้มให้ผม มีนาก้มหน้าลงท่าทางที่ตกประหม่าของเธอดูเหมือนที่ยืนอยู่ตรงนี้เธอเหมือนยังมีอะไรที่จะพูดอีก " พอดีว่าจริงๆ มีนามีเรื่องอยากจะรบกวนพี่ภาพหน่อยนะคะ "

“ พี่เหรอ ? “ ผมชี้เข้าหาตัวเอง เธอก็พยักหน้ารับ

“ คือจริงๆที่มีนาเอาสปาเก็ตตี้มาให้มีนามีเรื่องอยากจะรบกวนนะคะ " รอยยิ้มเขินๆของเธอเหลือบตามองหน้าผมก่อนจะก้มหน้าลง " คือ..จะเป็นไรมั้ยคะ ถ้ามีนาจะขอให้พี่ภาพ ช่วยติวหนังสือให้หน่อย พอดีมันมีวิชานึงที่มีนาไม่ค่อยเข้าใจแล้วพรุ่งนี้ก็จะสอบแล้วด้วย ยังไงพี่ภาพช่วยติวให้หน่อยได้มั้ยคะ"

“ ตอบแทนค่าสปาเก็ตตี้นั่นสินะ " ผมบอกเธอก็ยิ้มเขินแล้วก็พยักหน้ารับ

“ จะว่าแบบนั้นก็ได้คะ "

“ เอามาให้ดูก่อนแล้วกัน ว่าจะให้สอนเรื่องอะไร ถ้าสอนได้ ก็ไม่มีปัญหาหรอก "

“ เย้! ดีใจจัง งั้นมีนาไปเอาหนังสือก่อนนะคะ " สีหน้าดีใจของอีกคนเดินออกไปจากห้องทันทีตอนที่ผมตอบตกลง ถอนหายใจออกมาตอนที่หันไปมองไอ้ขมมันชักสีหน้าใส่ มือบางที่เอื้อมมือจับที่ไหล่มันยิ้มจางๆ

“ เอาเป็นว่า ไม่ต้องแคร์กันก็ได้มึง ตามสบาย " คำพูดที่บอกถึงขีดสุดความหงุดหงิดของไอ้ขม และแน่นอนตอนนี้ผมเองก็รู้สึกว่าคำพูดที่แสนใจดีของผมกับมีนาเมื่อครู่ จะทำให้เกิดหายนะขึ้นกับชีวิตซะแล้ว

...................................................

จะว่าไปขม ก็ขี้หึงเหมือนกันนะ
แต่ถ้าให้มองอย่างเป็นกลาง เราว่าก็ขมไม่ชัดเจนเอง ยังหวงความเป็นเพื่อนกับภาพ แต่ก็หึงเค้า อยากเป็นเจ้าของเค้าซึ่งแบบนี้มันต้องอยู่ในสถานะแฟนไง แกจะมาย้อนแย้งแบบนี้ไม่ได้นะคะ ถ้าแกหึงเค้าแกควรเป็นเมียเค้า อย่ามายุ่งกับผัวกู แต่ถ้าแกคิดจะเป็นแค่เพื่อน กูไม่ควรหึงเค้า อย่างที่พี่ภาพกล่าวไว้ เพื่อนกับแฟน ไม่เหมือนกัน อย่างน้อย เราไม่หึงเพื่อน และ เราเอากับเพื่อนไม่ได้ด้วย #ขีดเส้นใต้ประโยคท้ายสุดในส่วนความต้องการของพี่ภาพ
ส่วนภาพเอง ก็ถือคติ ก็กูไม่ได้คิดอะไร ก็ช่างหัวมันสิวะ เข้ามาเลยมีนา พี่ไม่ได้คิดอะไร หนูทำอะไรพี่ก็ไม่ไหวหวั่น ตบมือข้างเดียวไม่ดัง #งั้นฉันขอเอามือข้าวเดียวฟาดหน้าแกอยากรู้ว่าดังมั้ย  เพราะงั้นถึงไม่คิดอะไร ก็ควรต้องเคร์ คนที่ตัวเองรักด้วยนะคะ คนดี

หนมมี่คนเขียนสายกลาง
สุดท้ายนี้ ขอหยิกแก้มหัวหอมที หมั่นเขี้ยววววววววววววววววววววววววววว
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ ฝากแชร์ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ
รักมาก เจอกันตอนหน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า


 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 o18 มีนา สีนากี่แปลงจ๊ะ เสนอขายดีเหลือเกิน ส่วนภาพนี้ก็นะ ขมจัดไปลูก

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แหมๆ หึงก็บอกว่าหึงสิขมไม่ต้องเขิน
ส่วนกาลิคลูกกกก หนูไม่ต้องบอกอาขมหมดก็ได้ 555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ตีองให้เวลาน้องขมนิดนึงเป็นเพื่อนมานานถ้าจะขยับฐานะก็ใจเย็นๆนะป๊า กอดกาลิคแรงๆฟ้องแม่หมดเลย5555

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
รำคาญภาพ

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โอยเบื่อ อิผู้ชายใจดี อดกินของขมกินสปาเกตตี้ไปเหอะ

ออฟไลน์ kratair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หงุดหงิดภาพ จะไปช่วยมีนาทำไมถ้าอยากให้ขมหึงน่าจะทำวิธีอื่น เเบบนี้เหมือนให้ความหวังมีนา :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
โคตรขี้หึงอะ

ออฟไลน์ aornarak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ภาพมันต้องเจอแบบที่ขมเจอ. ถึงขมจะยังไม่แน่ใจแต่แค่มองก็รู้แล้วมั้ยว่าขมเริ่มมีใจ
พูดแค่ไม่คิดอะไร ถ้าเป็นขมทำแบบภาพบ้าง ขี้คร้านนัวภาพเองคงนอยยิ่งกว่า

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด