25
"..."
"น้ำ ถ้าหากว่าไม่กินอะไรละก็เด็กในท้องจะสุขภาพแย่เอานะ"
เสียงทุ้มนั้นดังขึ้นมาพร้อมทั้งยื่นช้อนมาจ่อที่ปากผมนั่งนิ่งมองออกไปที่หน้าต่าง เห็นผู้คนเดินวกวนไปมา โรงพยาบาลบ้า... มันคือที่ๆผมอยู่ พี่นพที่เป็นหมอประจำตัวผมนั้นเอ่ยขึ้นมาเบาๆเขาเป็นเพื่อนของพี่เต้ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่เต้นั้นทำงานเป็นหมอจิตแพทย์เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ ผมไม่โทษเขาที่พาผมมาที่นี่ แต่มันเจ็บปวดที่พวกเขามองผมเป็นคนบ้า น้ำตาของผมไหลออกมาช้าๆเมื่อคิดถึงเรื่องแบบนั้น
"ผมอยากกลับรัง... อยากกลับครับพี่กายช่วยพาผมกลับที"
"พี่ไม่รู้หรอกว่าที่นั่นอยู่ไหนนะ แต่น้ำช่วยพี่อย่างหนึ่งได้มั้ย? เพื่อลูกนะ"
ผมส่ายหน้าเมื่อได้ยินแบบนั้นมือของผมจิกลงกับต้นขา มันเจ็บที่หน้าท้องห้องที่ผมอยู่เป็นห้องพิเศษไม่ได้อยู่รวมกับคนอื่น พอมองลงไปที่หน้าต่างก็เจอแต่พวกบ้า ไม่เต็มเตงเดินไปมาอยู่ด้านนอกเต็มไปหมด
"ผมเปล่าท้อง ผมไม่ได้ท้องกับพวกเขา ผมไม่เอาเด็กคนนี้ ผมจะคลอดลูกของเดม่อน ฮึก"
เขามองหน้าผมด้วยใบหน้าอ่อนแรงดึงผมเอาไปกอดแน่นก่อนที่จะพึมพำเสียงเบา
"อย่าพูดแบบนั้นสิ..."
หลังจากที่ออกมาจากเกาะพวกเราถูกลิยแพไปตามน่านน้ำของสิงคโปร์เกือบสองวันก็มีเรือสินค้ามาพบเข้าทันทีที่เจอเรือลำนั้นหัวมดที่ต่อกันเป็นแพก็ละลายไปกับน้ำทะเลราวกับว่านัดหมายกันเอาไว้ ทั้งตำรวจ ทะหารเข้ามารุมล้อมสอบถามกับเรื่องที่เกิดขึ้น พี่ผาที่ดูเหมือนจะหายดีนั้นให้การพวกนั้นด้วยท่าทีนิ่งๆ เหมือนจะเป็นพวกมีอิทธิพลเอามากๆ เพียงไม่นานจากนั้นพวกผมก็ถูกส่งกลับมาที่ประเทศไทย ผมเอาแต่พึมพำเรื่องของเดม่อน นักข่าวนับสิบมาตามติดสอบถามเรื่องราวชีวิตที่พวกผมนั้นหายไปร่วมครึ่งปี แต่ก็ถูกพี่เต้ปฏิเสธและถูกสั่งให้มาอยู่ที่นี่สักพักเพื่อซ่อนตัว แต่ว่า... ทำไมถึงให้มาอยู่ที่นี่กัน นี่ก็ผ่านมาตั้งสามสี่เดือนแล้ว พี่ผาไม่เคยมาให้เห็นหน้าเลยหลังจากนั้น ไม่รู้ว่าทำไม เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็อยากจะคิดว่ามันเป็นความฝัน แต่ว่า... ความรู้สึกมันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น หัวใจ และ ร่างกายมันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น
"ผมไม่ได้ท้อง เปล่าท้อง"
ถึงจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ว่าหลักฐานมันกลับชัดเจนซะยิ่งกว่าอะไรหน้าท้องที่โหนกนูนขึ้นมานั้นน่ากลัว ผมจะต้องคลอดเด็กคนนี้ออกมางั้นเหรอ? ทำไมผมจะต้องคลอด กับคนที่ผมไม่ได้คิดอะไรด้วยกันละ?
"ทานข้าวเถอะ แล้วนอนซะ อีกประเดี๋ยวจะมีคนมารับ"
"มารับ...? ใครกัน"
ชายหนุ่มเงียบไปก่อนที่จะยื่นมือมายีที่กลุ่มผมของผมเบาๆชายร่างสูงลุกขึ้นเก็บข้าวของที่ระเนระนาดอยู่บนพึ้นห้องนั้นให้เข้าที่อีกครั้ง ผมเม้มปากแน่นจ้องมองอีกฝ่ายอย่างคาดคั้นแต่เจ้าตีวกลับเงียบ และ ไม่ยอมตอบผมเลยสักคำ ภายในห้องที่ขาวสะอาด มีเฟอร์นิเจอร์ครบครันอำนวยความสะดวก แต่นั่นก็เป็นแค่ตอนแรกที่เข้ามาอยู่เท่านั้น มันถูกผมทำลาย พังทิ้ง ทำแตก จนต้องจัดห้องใหม่โดยที่เอาต้นไม้เข้ามาแทน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น มันก็ยังไม่ใช่ ไม่ใช่อยู่ดี
"ทำไมต้องพาออกมา ฮึก... ทำไมกันเล่า ทำไมกัน"
ผมอยากกลับ... บ้าน
"แย่น่าดูเลยนะ"
เสียงทุ้มนั้นเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นคนที่นอนซบลงกอดต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ภายในห้องชายหนุ่มร่างสูงถอนหายใจออกมา จ้องภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีร่างหนึ่งร่างนอนอยู่ภายในห้อง นพหันไปมองเพื่อนของตนที่นั่งกุมหัวของตัวเอง อาการไมเกรน... ก็ไม่ใช่ ตั้งแต่ที่เพื่อนของเขาทั้งสองคนนั้นกลับมาจากเกาะแห่งนั้น ร่างกายก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เเปลกๆไป... ทั้งคำพูดคำจา และ ท่าทางที่ดูต่างออกไป เพื่อนอีกคนที่เป็นซีอีโอของอสังหาริมทรัพย์ก็หายหน้าหายตาไป เหลือเพียงเพื่อนอีกคน และ เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่า... เพิ่งจะอยู่ในช่วงวัยที่เข้าทำงานได้ไม่กี่เดือน มันไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไง จากสภาพที่เห็นแล้วเรื่องทุกอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา... นั้น มันประหลาด แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่เขาก็ยังเอ็นดูเด็กคนนั้นอยู่ดี น่าสงสาร...นี่เป็นคำเดียว ที่คิดได้
"กู... ปวดหัววะ"
เต้พึมพำออกมาเบาๆ หยิบทิชชู่ขึ้นมาชับเลือดที่ไหลลงมาตรงรูจมูกชายหนุ่มหน้าคมสวมแว่นตาคนนั้นสะบัดศรีษะไปสองสามทีก่อนที่จะจับจ้องไปยังจอภาพ
"ถ้างั้นมึงก็ควรพัก"
"กูปล่อยให้น้อง... อยู่คนเดียวไม่ได้"
น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนนั้นดังขึ้นมาภายในห้องที่เงียบสนิท
"... มึงติดต่อไอ้ผาได้มั้ย?"
"ไม่"
เจ้าตัวตอบกลับ ไม่ใช่ว่าติดต่อไม่ได้แต่ว่าไม่อยากติดต่อเสียมากกว่า เพราะ มัน... บอกว่าช่วงนี้กำลังปรับตัว อีกอย่างหนึ่งเขาก็ต้องมีคนที่จะให้ดูแลหลังจากที่ห่าง เขาลุกขึ้นยืนคว้าเอาผ้าคลุมสีขาวขึ้นมาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องเพื่อกลับเข้าไปหาคนที่เขารัก มันเกิดสายสัมพันธ์บ้าๆแบบนั้นขึ้นมาตอนที่เห็นความทรมานของอีกฝ่าย จากสงสาร กลายเป็นเห็นใจ แล้วก็เกิดเป็นความรัก
แกร่ก
เสียงประตูห้องที่อยู่ข้างๆห้องของเขานั้นถูกเปิดเข้ามา เต้หยุดยืนอยู่ระหว่างกลางของพรมสีเขียวที่แข็งทื่อ ความรู้สึกของเขา ไม่สิ... เราทั้งสามคนก็คงจะเหมือนๆกันนั่นเพราะ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานเกินไป จนกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เขาคงจะพูดไม่ได้ว่าเพื่อนของเขาเป็นคนที่ทรมานมากที่สุด เพราะว่าพอมาเจอกับคนตรงหน้านี้แล้ว ทำเอาอดที่จะสงสารไม่ได้
ถ้าหากว่า... ไม่ได้เจอกันในสภาพแบบนั้นก็อาจจะมีความสุขกว่านี้
"ทำไมมึงไม่รีบกลับมาเร็วๆวะ..."
ร่างกายของคนที่นอนซบอยู่กับต้นไม้นั้นถูกดึงออกมา ก่อนที่จะถูกชายหนุ่มดึงเข้ามากอดแน่นเสื้อผืนนั้น เสื้อผืนเดิมๆที่ตอนนี้กำลังฉีกขาดเป็นรูโหว่ถูกเย็บไปหลายที่ แล้วตอนนี้มันก็เหมือนกับเป็นผ้าเน่าๆไปแล้วแต่ถึงแบบนั้น ก็ยังคงกอดมันเอาไว้ ดมมันตลอดเวลา เต้ขมวดคิ้วแน่นเมื่อเสียงครางของคนที่อยู่บนอกดังขึ้นมา
"ทำไม... ถึงมองไม่เห็นพี่บ้างละ"
ความน้อยอกน้อยใจกำลังลุกลามเป็นเหมือนไฟที่แผดเผาภายในอก เขาหลับตาลงกระซับกอดคนที่ละเมอชื่อนั้นออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามใจให้อิจฉาได้
ทำไม ถึงไม่ลืมไปซะที...
"วันนี้... ทำได้ดีมาก ดูเหมือนเด็กในท้องจะไม่มีอาการอะไรผิดปกติ แต่ว่าทำไมกันนะ..."
"อะไรเหรอครับ?"
ผมถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อพี่นพหยุดพูดไปดื้อๆเขายกยิ้มขึ้นมามองผมด้วยสายตาแปลกๆ
"เปล่าหรอก แค่คิดว่าอายุครรภ์แค่สี่เดือนกว่าแทัๆ แต่ท้องกลับโตจนเกือบจะคลอดอยู่แล้ว น้ำไม่รู้สึกแปลกๆบ้างเหรอ?"
เขาถามขึ้นมา พร้อมทั้งเก็บอุปกรณ์ลงกล่องผมเอื้อมมือแตะลงที่หน้าท้องของตัวเอง ทันทีที่แตะผมก็ถึงกับสะดุ้งเมื่อมันดิ้นตอบกลับมา พี่นพอมยิ้มก่อนที่จะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทำเอาผมใจสั่น
"มันก็... แปลกๆ"
"อืม เวลาเรามีอะไรก็คุยกับเขาบ้างก็ได้นะ"
เขาพึมพำขึ้นมาก่อนที่จะลุกขึ้นยืนทิ้งให้ผมจ้องมองดูหน้าท้องของตัวเองที่ขยับไปมาเบาๆ มันไม่ได้เจ็บเหมือนตอนที่ตั้งท้องลูกของเดม่อนผมทรุดตัวลงนอนกับพึ้นสีเขียวที่ถูกสมมุติเอาว่าเป็นต้นหญ้าตัดเกรียน ดวงตาของผมหลุบต่ำลงขดตัวนอนลงกับพึ้นมือก็ดึงเอาเสื้อผืนนั้นมากอดแน่น
"..."
ผ่านไปได้สักพัก ร่างกายกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันกำลังตื่นตัวเสียงๆหนึ่งดังก้องภายในหู ผมลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดที่เย็นซึ้นเพราะแอร์ที่เปิดให้เย็นที่สุด มือปริศนาพุ่งเข้ามาปิดที่ปากของผมแน่นพร้อมทั้งร่างกายสูงใหญ่ที่โถมลงมาจนทับหน้าท้องปวดไปหมด
"อึก... อื้อ อื้อ!?"
ผมดิ้นขลุขลักอยู่ใต้ร่างลมหายใจหื่นกระหายนั้นสัมผัสมาที่ใบหน้าลมหายใจร้อนๆที่น่ารังเกียจผมสำลัก อ้วกอาหารที่เพิ่งจะกินลงไปออกมาชายหนุ่มสบถคำหยาบคายก่อนที่จะต่อยลงมาที่แก้มจนผมหน้าหัน
"เหี้ย! อยู่นิ่งๆสิวะ! ให้กูเอาเถอะน่า นะ? ยังไงซะท้องป่องๆของมึงก็ท้องอยู่แล้ว ผู้ชายเหี้ยอะไรวะ ท้องได้"
น้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยนั้นดังเข้ามาภายในหู ผมรับรุ้ได้ว่ามันเป็นใคร ผู้ชาย... ที่เคยเห็นมาทำความสะอาดที่ห้องนอนห้องนี้ เด็กผู้ชายที่ท่าทางเกเรคนนั้น มันกำลังจะ... กำลังจะ
"อึก... ฮึก ปล่อย... ปล่อยนะ อ๊ะ อ๊าาา!!?"
ร่างสูงใช้มือจิกลงมาที่หน้าท้องอย่างแรงจนผมร้องลั่นห้อง มันกระเถิบขึ้นมาคร่อมผมเอาหว้ทั้งตัวขณะที่เสียงถอดสายเข็มขัดออก ในสมองอื้ออึงผมดิ้นไปมาเมื่อมันใช้มือบีบลงที่สะโพก
"ไม่... ฮึก เข้ามาได้ยังไง ออกไป ออก... อึก"
ผมเบิกตากว้างเมื่อความรู้สึกร้อนซึ้นนั้นกำลังแล่นไปทั่วทั้งหน้าท้อง อาการปวดหัวกำเริบเต้นตุบๆจนน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ผู้ชายคนนั้นซะงักไป น้ำ...สีใสที่ไม่เคยจะไหลออกมาหลังจากที่กินหัวใจของเดม่อนลงไปนั้นกำลังซึมออกมาจากปากทาง ร่างสูงสูดหายใจเข้าปอดลึกๆตัวสั่น มองลงมาที่ผมด้วยสายตารางกับสัตว์ป่า
"แฮ่ก... แฮ่ก"
"ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย... พี่นพ ฮึก ไปไหนกันกันหมด ไปไหนหมด"
ผมสะอึ้นไห้ยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าตอนที่มันก้มลงมาเลียที่ต้นคอของผมร่างกายที่ทาบทับลงมามีส่วนหนึ่งที่กำลังพองโตคับแน่นเสียดสีลงกับต้นขา ไม่เอาแล้ว... ไม่เอาแบบนี้ ไม่เอาแบบนี้อีกแล้ว
"กลิ่นเหี้ยอะไรวะ... มึงมันเป็นสัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาด"
คำพูดที่ร้ายกาจนั้นเสียดแทงลงมาที่จิตใจจนแทบทำอะไรไม่ถูกได้แต่นอนนิ่ง เจ็บปวดกับคำกร่นด่าของอีกฝ่าย หน้าท้องตึงแน่นจนปวด ภายในนั้นกำละงเคลื่อนไหว
"อย่า... ฮืออ เดม่อน ช่วยด้วย... ย มะ ไม่ อย่าข่มขืนนะ ไม่..."
"อา... อา"
ลมหายใจร้อนๆนั้นสัมผัสไปทั่วทั้งร่างกาย ผมตัวสั่นเทิ้ม ร่างกายถูกจับแยกต้นขาถูกยกขึ้นตั้งซันกับพึ้นอวัยวะเพศใหญ่โตนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับช่องทางรัก
ไม่เอา... ถ้าไม่ใช่ เดม่อน ถ้าไม่ใช่พวกเขา
ไม่เอาแบบนี้
"มะ ม่ายยย...! อ๊าา!?"
ฉึ่ก!!
"อึก... อุ"
เสียงกรีดร้องของผมดังขึ้นมาเมื่อมันขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่ร่างกายของใค่บางคนจะพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ประตูข้างๆถูกเปิดออกกว้างทำให้มองเห็นเงาของชายหนุ่มอีกสองคนที่กำลังยืนมองดูอย่างตกใจ ผมหอบหายใจระรัว กลิ่นคาวเลือด... ลอยคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง ก่อนที่ผมจะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิท ดวงตาสีดำเหลือบทองนั้นจดจ้องไปยังเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างอาฆาตแค้น อาวุสมีคมอย่างมีดผ่าตัดเสียบทะลุหน้าท้องของคนที่พยายามข่มขืนผม ร่างกายหยุดสั่นแทบจะทันทีพี่นพถูกไล่ให้ออกไปห่างๆโดยที่พี่เต้ยืนจ้องมองนิ่ง เสียงอึกอักจากผู้ชายที่ถูกแทงด้วยมีดผ่าตัดไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมเลยสักนิด
ผมเม้มปากแน่น... ความรู้สึกทั้งหมดตีวนขึ้นมาที่หน้าท้องจนเกร็ง จะเด็ก... หรือสัตว์ประหลาดก็ช่าง กำลังดิ้นไปมาภายในท้องราวกับว่ากำลังดีใจ คมเขี้ยวของเขา... ดวงตาของเขา ท่าทางแบบนั้น กับรอยยิ้มที่เคยจินตนาการว่าถ้าเป็นคนจะต้องยิ้มแบบนี้แน่นอน
"ฉันมารับกลับแล้ว น้ำ"
เสียงที่แหบแห้ง ฟังดูคุ้นหูจนอดที่จะปล่อยโฮออกมาไม่ได้นั้นเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกที่บอกว่าต้องใช่แน่ๆ ใช่มันจริงๆ... ไม่ใช่พี่ภูผาที่เคยหัวร้อน และ อารมณ์ร้อนคอยบังคับ แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้นั้นกลับเปลี่ยนไป ลักษณะท่าทางที่ทำให้ผมถลาเข้าไปกอดอีกฝ่ายโดยที่หมางเมินต่อทุกสิ่ง
"... เดม่อน เดม่อน เดม่อน เดม่อน ผมคิดถึงนาย คิดถึง คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ฮึก... ์ฮือออ"
จากกรงเล็บแหลมคมที่กลายมาเป็นฝ่ามือที่ใหญ่ และ หยาบกร้านนั้นลูบลงมาที่ใบหน้าพร้อมกับสิ่งทึ่เคยทำอยู่เสมอ ลิ้นอวบหนายื่นออกมาเลียที่หางตาพร้อมกับน้ำเสียงที่คุ้นหูเป็นที่สุด น้ำเสียงที่ไม่เคยลืมเลยสักครั้ง
"ฉันเองก็คิดถึงเธอน้ำ ฉันกลับมาแล้ว กลับมารับเธอแล้วจากนี้เราจะอยู่ด้วยกัน"
ผมเบ้หน้าร้องไห้พร้อมทั้งยิ้มด้วยน้ำตา เงยหน้าขึ้นไปมองดวงตากลมที่ดูใสชื่อนั้นอย่างปิติยินดี ใช่... จริงๆด้วย เดม่อนกลับมารับผม กลับมาหาผมแล้ว
"ตลอดไป... ฮึก นะ? ใช่มั้ย? ตลอดไปใช่มั้น
ย?"
"ใช่ ตลอดไป ดูสิร้องไห้มากไปแล้ว ไม่ร้อง... อย่าร้อง"
น้ำหูน้ำตาของผมไหลลงมาไม่มีหยุดเมื่อมือที่เย็นเฉียบ แต่กลับอบอุ่นนั้นปาดน้ำตาให้กับสัตว์ประหลาด... ไม่สิ เดม่อนที่กลายเป็นพี่ผานั้นอมยิ้มโชว์เขี้ยวเเหลมที่ดูน่ากลัวนั้นออกมา
"ไม่ร้องนะ...?"
"ครับ อึก ไม่ร้องแล้ว"
ผมซบหน้าลงถูลงกับเสื้อสูทราคาแพงของอีกฝ่าย เขาจับผมดึงออกมาจากอกถอนหายใจมองลงมาราวกับกำลังจะดุ จนผมแอบที่จะขัดเขินไม่ได้เดม่อนจับผมหันไปมองที่หน้าประตู คนที่พยายามข่มขืนผมนั้นถูกผู้ชายที่สวมชุดสีดำลากออกไป มันยังไม่ได้ร้องโอดโอยกุมหน้าท้องของตัวเองโดยที่พี่นพรีบไปดูอาการ ส่วนพี่เต้ก็หันมามองผมยิ้มๆ
"ดูตรงนั้นสิ ฉันพาใครมา..."
"แม่... กิ๊ว"
เสียงร้องใสกังวาน พร้อมกับเสียงคำรามฉะเพาะของเผ่าสไลม์นั้นดังขึ้นมา เด็กผู้ชายอายุราวๆสิบสองปีที่มีดวงตาสีแดง พร้อมทั้งผิวเนื้อที่ออกแดงหน่อยๆนั้นอมยิ้มอย่างขัดเขินเกาะอยู่ที่ขอบประตูห้อง ผมเบิกตากว้าง เอ่ยเรียกชื่อของเด็กคนนั้น
"เซ... ริ?"
........................................................................................
ทะ โทษที... วันนี้เหนื่อย มากกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๊ยยยยย
สุดจะหาคำมาบรรยายได้ แบบ... ทั้งเช้าใช่ปะ? ทาสกับเพื่อนก็ไปซื้อของไปนู่นนั่นนี่ จนเหนื่อย เดินจนขาลาก ปวดเท้าลามมาถึงเอว โอ๊ยยยย... แล้วก็ร้อนด้วย ถึงที่โลตัสจะมีเเอร์แต่พอออกมาก็... โอ๊ยยย จะตาย ภายในหัวก็คิดแต่จะเขียนนิยายเรื่องนี้ แต่ก็เขียนไม่ได้ไอ้เราก็ต้องรีบทำธุระให้เสร็จ พอกลับมาถึงบ้าน... ถถถถถถถ ที่บ้านจัดงานเลี้ยงพอดีจะไปเอากุณแจบ้านจากบ้านน้าอีกคน ไปไขบ้านของน้าอีกคน ไม่ได้พัก... คือแล้วก็เจอน้าเจ้าของกุณแจ (ซึ่งทุกครั้งเสาร์-ทิตย์ จะไปนอนที่บ้านน้าคนนี้) เห็นเขาทำอาหารคนเดียว!! แล้วคนอื่นละ!? หายไปไหน!? ไม่มาช่วย!! มีแต่ไปเต้นดิ้นๆๆๆเป็นกุ้งแซ่น้ำปลา ไม่มาทำอาหาร ทิ้งให้น้าทาสทำคนเดียว แล้วทาสก็แบบ... เออ เอาวะ กัดฟันทำเถอะ ช่วยๆเขา (แล้วจะไปบ้านเขาที่อยู่ห่างออกไป ไม่ชอบเสียงดัง เสียสมาธิ) หิวก็หิว ร้อนจนเหงื่อไหลอาบหน้า กระเป๋าก็ยังไม่ได้ปลด... โถ ชีวิตทาส... แล้วก็ทำเสร็จทาสก็บ่นๆพอหอมปากหอมคอ มากินที่บ้านคนอื่นไม่ทำไม่ช่วย ผลาญญญเก่งนัก (คือแบบคนที่กินเป็นพวกมนุษย์หญิงๆป้าๆที่ค่อนข้างจะ... เออนะก็นั่นละ) แล้วพอทำเสร็จก็ถึงมาที่บ้านอีกหลัง ร้อนมาก... เวียนหัว แทบจะเป็นลมก็จัดอาหารมาให้ย่ากิน พอกินเสร็จก็รีบๆเขียน เลยออกมาเป็นแบบนี้ 5555555555 #บ่นเยอะแฮะวันนี้
ใครว่าจบ... ยังไม่จบนะเฮ้ย!
อย่าเพิ่งบ่นสิ ถถถถถถ ไปละครับ ฝันดี