48.วันนี้ผมต้องนั่งกินมื้อเช้าเพียงคนเดียวเมื่อแม่พาน้องบัวกับพี่เลี้ยงออกไปเดินเล่นกับแม่มลที่ห้างสรรพสินค้า ผมส่งขนมปังปิ้งเข้าปากแล้วดื่มนมตามไป ก่อนจะจัดการเก็บแก้วเก็บจานไปล้างแล้วพาตัวเองมนั่งอ่านหนังสือเล่นเงียบ ๆ อยู่ที่ห้องรับแขกจนกระทั่งเที่ยงวันแม่ก็ยังไม่กลับมา
ผมลุกขึ้นไปหยิบน้ำผลไม้จากตู้เย็นออกมาหนึ่งกล่อง ก่อนจะออกมาเดินเล่นในสวนแก้เบื่อ พอได้เห็นต้นไม้ใบหญ้าแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นหลังจากต้องทนอุดอู้อยู่แค่ที่ห้องพักกับที่ฝึกงานโดยไม่ได้ไปไหนเลยมาตลอดสามเดือน ผมเดินอมยิ้มกินน้ำผลไม้มาเรื่อยจนถึงสระบัว พอได้เห็นว่ามีใครนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาริมน้ำนั่นก็เดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งโดยเว้นระยะห่างเอาไว้พอสมควร
“เรานึกว่ามีนไปขับรถให้แม่”
เขาวางหนังสือในมือ ขณะใช้มืออีกข้างถอดหูฟังออก “แม่บอกอยากไปกันแต่ผู้หญิงน่ะ”
ผมพยักหน้าว่าเข้าใจ ก่อนจะหันหน้าออกไปมองดอกบัวในสระเงียบ ๆ ไม่กวนเวลาเขาอ่านหนังสืออีก มีนเองก็ไม่ได้พูดอะไร ทำแค่หยิบหนังสือนิยายแปลที่อ่านค้างไว้กลับขึ้นมาอ่านอีกรอบ ปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่รอบ ๆ ตัวเราไปอย่างเช่นที่เคยเป็นมาตลอด
ผมลุกขึ้นเดินออกมาด้านนอกศาลา หยิบกิ่งไม้แห้งที่หล่นอยู่บนพื้นแถวนั้นขึ้นมาแล้วขีดเขียนอะไรไปมั่ว ๆ บนพื้นดินตรงหน้า ก่อนจะถูกว่าที่คุณหมอเรียกให้กลับเข้าไปนั่งข้างในศาลา ด้วยเหตุผลที่ว่าแดดตอนนี้อันตรายเพราะยังแรงมาก
“ถ้าเบื่อก็เอาหนังสือเราไปอ่านก่อน” เขาบอกแล้วทำท่าจะยื่นมาให้ แต่ผมเลือกจะปฏิเสธออกไปเพราะไม่อยากแย่ง “แนวสืบสวนสอบสวนแบบที่เบลล์ชอบนะ”
“เอาไว้มีนอ่านจบแล้วเราค่อยยืมดีกว่า”
เขาพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก่อนจะขยับเข้ามานั่งใกล้ ๆ ผม “งั้นฟังเพลงแล้วกัน จะได้ไม่เบื่อ”
พอผมพยักหน้า เขาก็แบ่งหูฟังข้างหนึ่งมาเสียบใส่หูให้ผม แล้วหันกลับไปอ่านหนังสือในมือของตัวเองต่อ ผมเลยขยับเข้าไปนั่งใกล้เขามากขึ้นเมื่อสายหูฟังของเขายังยาวไม่มากพอจะให้เรานั่งห่างกันขนาดให้คน ๆ หนึ่งเข้ามานั่งแทรกได้แบบนี้ ก่อนจะหลับตาลงเมื่อสะดุดเข้ากับดนตรีเริ่มต้นของเพลงที่กำลังเล่น
หากเธอลองมองไปยังฟ้าแสนไกล
และคิดถึงใครหนึ่งคนคุ้นเคย
กี่หมื่นพันคำที่ไม่ทันเอื้อนเอ่ย
และเธอยังคงเก็บมันไว้ข้างในใจ
จะกี่คราวที่ความรักผันผ่าน
พอมองเห็นมันก็ไม่ทันคว้าไขว่
และอีกกี่คราวที่เราเฝ้าลบลืมมัน
เพื่อหวังสักวันรักจะมาพบใหม่
หมดชีวิตใช้ไปเพื่อหวังและรอ
จนบางทีท้อและถอดใจ
ว่ามันคงไม่มีรักจริงให้เราเจอ
ถ้ามีจริงมันคงอยู่แสนไกล
รักอยู่ที่ไหนจะไปหา
กว่าที่จะได้มันมาต้องเสียอะไร
กว่าจะพบและได้เห็น
ว่าที่จริงแล้วคือเราเองที่มองข้ามไป
รักอยู่ที่ใดหรือมันอาจผ่านเลยไปโดยที่ไม่รู้ตัว..
( ผ่านเลยไป : เสือโคร่ง Feat.แป้งโกะ )
เพลงจบแล้ว แต่ผมก็ยังคงหลับตานิ่งค้างอยู่อย่างนั้นกระทั่งดนตรีของเพลงใหม่เริ่มต้นขึ้น มีนยกมือขึ้นมาวางไว้บนหัวผม ก่อนจะลูบไปมาเบา ๆ เมื่อผมลืมตาขึ้นมามอง เขาส่งรอยยิ้มจาง ๆ มาให้ขณะเพิ่มน้ำหนักมือที่ลูบหัวผมอยู่ให้มากขึ้น
“หิวหรือยัง” ผมส่ายหน้า ก่อนจะก้มลงไปมองปลายเท้าของตัวเองเมื่อไม่รู้จะทำอะไร “แต่เราหิวแล้ว”
“...”
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย” เขาว่าแล้วพับหนังสือในมือลง “เดี๋ยวเราทำไข่ตุ๋นให้กิน”
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา “ใส่แฮมแบบที่เบลล์ชอบดีไหม”
“...”
“เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอ” เขาบอกแล้วยิ้มให้อีกครั้ง “อย่าทำเหมือนไม่รู้จักกันอย่างนี้เลย”
“ขอโทษ..”
“ถ้าอยากขอโทษจริง ๆ ก็รีบลุก” ว่าแล้วก็ฉุดมือผมให้ลุกขึ้นยืน “ไปกินข้าวกัน”
ผมเดินตามไปที่บ้านเขาเงียบ ๆ นั่งมองเขาหั่นแฮมเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วตีรวมเข้ากับไข่ไก่ ปรุงรสเสร็จก็ส่งเข้าไมโครเวฟ แล้วเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ ผมเพื่อรอเวลาให้ไข่สุก เราไม่ได้พูดอะไรกันเลยจนเสียงเตือนจากไมโครเวฟดังเขาก็ลุกขึ้นไปหยิบออกแล้วตักข้าวใส่จาน ผมเลยลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำหวานสีแดงในตู้ออกมาชงใส่น้ำแข็งเรียบร้อยก็ยกตามเขาออกมาวางที่โต๊ะอาหาร
เราต่างคนต่างนั่งกินกันไปเงียบ ๆ กระทั่งอิ่มเขาก็บอกให้ผมรออยู่ก่อนตอนที่เขาเดินขึ้นไปหยิบหนังสือแนวปรัชญาเล่มหนึ่งที่เขาซื้อมาฝากผม
“จำได้ว่าเบลล์ชอบนักเขียนคนนี้”
เขาบอกอย่างนั้นตอนยื่นหนังสือเล่มนี้มาให้ ผมวางมันลงรวมกับอีกเล่มบนโต๊ะที่ผมซื้อเอาไว้ตอนก่อนจะไปฝึกงาน และเพราะมัวแต่ยุ่ง ๆ เลยยังไม่ได้หยิบมันขึ้นมาอ่านเลยสักครั้ง สภาพมันเลยเหมือนใหม่ไม่ต่างกับเล่มที่เขาเพิ่งให้มาแบบนี้
“ขอบคุณนะ”
ผมยิ้มให้กับหนังสือทั้งสองเล่มตรงหน้า ก่อนจะหยิบมันขึ้นไปวางไว้บนชั้นหนังสือชั้นบนสุดที่เอาไว้เก็บหนังสือที่ไม่ค่อยได้อ่านแล้ว
Ma-NuD_LaW
เพื่อนก็เพื่อน
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ