44.พี่ชัชยังคงแกล้งให้ผมเดินถ่ายเอกสารอยู่จนกระทั่งวันนี้คือเข้าวันที่สี่ของการฝึกงานแล้ว ผมไม่ปริปากพูดอะไรเลย ทำแค่ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งไปแบบนั้น จนเราลงไปกินข้าวเที่ยงพร้อมกันตอนบ่ายสองโมง พี่ชัชเงยหน้าขึ้นมามองผมหลายครั้ง แต่ผมก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอยู่อย่างนั้น จนพี่เขาหมดความอดทนแล้ววางช้อนส้อมในมือ ก่อนจะกอดอกแล้วนั่งจ้องหน้าผมอย่างเป็นจริงเป็นจัง
“ไม่คิดจะโวยวายหน่อยเหรอ” ผมวางช้อนส้อมลงบ้าง “โดนใช้ถ่ายเอกสารอย่างเดียวแบบนี้”
พอเห็นผมเงียบ พี่ชัชก็เรียกซ้ำ “เบลล์”
“มันไม่ใช่วิธีสอนงานของพี่เหรอครับ”
“หึ ๆ” เสียงหัวเราะเบา ๆ กวนอารมณ์ผมให้ขุ่นขึ้นมา “เย็นนี้เลิกงานแล้วไปกินข้าวกัน”
“ครับ ?”
“กินข้าวไง” บอกแล้วก็ใช้ช้อนลมทำท่าตักอากาศเข้าปาก “ชอบกินพวกปิ้งย่างไหม”
“กินได้ครับ”
“งั้นเย็นนี้ไปรอที่ร้าน...ก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป”
ถึงจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่ไปพร้อมกันเลย แต่ผมก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะคิดเอาเองในใจว่าดีแล้วที่ไม่ต้องไปนั่งอึดอัดใจหากพี่ชัชบอกว่าให้ไปพร้อมกันด้วยรถคันเดียว ผมพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกินต่อ
“รีบกินเถอะ จะได้รีบกลับขึ้นไปทำงาน”
“ครับ”
ผมขับรถมารอพี่ชัชที่ร้านตามที่นัดไว้ เดินเข้าไปนั่งรอได้ไม่นานเขาก็มาถึงพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมยกมือขึ้นมาไหว้ทันทีที่พี่ชัชแนะนำว่านี่คือแฟนของเขา พี่แพรยกมือขึ้นรับไหว้แล้วส่งยิ้มมาให้อย่างใจดี ก่อนจะรีบบอกให้ผมสั่งอาหารมากิน
“ชัชบอกว่าเบลล์น่ารัก” พี่แพรพูดแล้วหันไปมองหน้าพี่ชัช “พี่เลยอยากเจอ”
“ขอบคุณครับ”
“ทำงานกับชัชเหนื่อยหรือเปล่า”
“นิดหน่อยครับ” ผมตอบตามตรง
“พูดแบบนี้แสดงว่าถูกแกล้งใช่ไหม” พี่แพรว่าแล้วหัวเราะ “น้องที่มาฝึกงานคนก่อนยังถึงกับร้องไห้”
ผมหันไปมองพี่ชัชเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ขนาดน้องผู้หญิงยังไม่เว้น”
ผมก้มหน้าลงแล้วคีบเนื้อในเตาที่สุกแล้วไปใส่จานให้พี่แพร ก่อนจะคีบอีกชิ้นมาใส่จานตัวเองบ้าง “ได้ยินแล้วไม่แปลกใจเลยครับ”
“เห็นไหมว่ามันร้าย” พี่ชัชหันไปพูดกับแฟนตัวเอง “ยอมลงให้ชัชที่ไหน”
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” พี่แพรตอบกลับทันที “นาน ๆ จะมีคนกล้าสู้กับชัชบ้าง”
“มีแววจะต้องรับน้องให้หนักกว่าเดิมแล้ว”
“ชัช” พี่แพรว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาตีแขนพี่ชัช “อย่าแกล้งน้อง”
ผมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นพี่ชัชทำท่าเจ็บเกินจริง ซึ่งจุดประสงค์ก็ไม่พ้นทำไปเพื่ออ้อนแฟน พี่แพรเองก็อมยิ้มก่อนจะทำท่าปลอบแบบเล่น ๆ ตามไป ผมรู้สึกว่าตัวเองกินอะไรเข้าไปเยอะมากหลังจากทนกินข้าวเย็นคนเดียวเงียบ ๆ ที่ห้องมาหลายวัน และพอคิดได้ว่าวันนี้ตัวเองยิ้มมากขึ้นกว่าเดิมเพราะอะไรก็นึกขอบคุณพี่ชัชในใจ
บางทีชีวิตฝึกงานของผมอาจจะไม่ได้น่าเบื่อมากอย่างที่เคยคิดเอาไว้
พี่ชัชเริ่มสอนงานผมอย่างจริงจังหลังจากมื้อเย็นวันนั้น และนั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่าหากมองข้ามท่าทางที่ดูเหมือนเอาแต่เล่นนั่น พี่ชัชจัดได้ว่าเป็นคนที่เก่งมากที่สุดเลยคนหนึ่ง จากท่าทางที่รอบคอบดูเอาจริงจังเวลาทำงาน ความห่วงใยใส่ใจที่มีต่อลูกความของตัวเอง รวมทั้งความยุติธรรมที่เขาพยายามยึดมั่นเอาไว้ตลอด ทำให้ความนับถือที่ผมมีต่อเขายิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ผมเริ่มเข้ามาช่วยงานพี่ชัชในวันเสาร์อาทิตย์บ้างหลังจากรู้ว่าพี่ชัชมักจะสละเวลาที่จะได้อยู่กับแฟนในวันหยุดเพื่อให้ตัวเองรับคดีได้มากขึ้น และแน่นอนว่าเหตุผลที่เขาทำอย่างนั้นไม่ใช่เพราะต้องการให้ได้รับเงินเพิ่มขึ้น แต่เป็นเพราะว่าลูกความในคดีพวกนั้นเอ่ยปากขอร้องด้วยเชื่อมั่นในตัวพี่ชัชมากกว่าใคร ๆ
ตอนนั้นผมถึงได้รู้ว่านอกจากความขี้เล่น เอาใจใส่และจริงจังกับงาน พี่ชัชยังเป็นคนขี้ใจอ่อนเอามาก ๆ ด้วย
“ยังไม่ทันพ้นเดือน เบลล์ก็ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับผมแล้ว” ผมหันไปมองบิ๊กเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ทั้งที่ผมตั้งใจรอเวลาที่จะได้เจอเบลล์ทุก ๆ อาทิตย์ แต่เบลล์กลับเอาเวลาอันน้อยนิดที่จะได้อยู่ด้วยกันพวกนี้ไปทำอย่างอื่น”
ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองเขา “ขอโทษนะ”
“...”
“แต่กูแค่ไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้” ผมพยายามอธิบายอย่างใจเย็น “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่กูจะได้ฝึกงานกับคนเก่ง ๆ ขนาดนี้”
“แต่นี่มันวันหยุด”
ผมยื่นมือไปจับมือน้องมันเอาไว้ “ไปด้วยกันดีไหม”
“...”
“มึงจะได้อยู่กับกู แถมยังได้ความรู้ไปด้วย” ผมบอกแล้วส่งยิ้มตามไป “ดีไหม”
พอเห็นน้องมันทำท่าลังเล ผมก็ออกแรงดันตัวน้องมันให้เดินไปที่ห้องน้ำ “รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว”
“...”
“นะครับ”
ผมเห็นน้องมันถอนหายใจออกมา ก่อนจะพยักหน้าแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ผมเลยหันกลับมาพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือเพื่อส่งไปบอกพี่ชัชว่าอาจจะเข้าไปช่วยสายกว่าเดิมนิดหน่อย โดยไม่ลืมที่จะขออนุญาตพาน้องเข้าไปด้วยอีกคน
ผมรู้ดีว่าถ้าเป็นปกติแล้วมันคงไม่เหมาะที่จะพาคนนอกอย่างบิ๊กเข้าไปอยู่ด้วยเวลาทำคดี และผมคิดว่าพี่ชัชคงจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไรที่ผมทำอย่างนี้ ผมถอนหายใจออกมาแรง ๆ อีกครั้ง เริ่มรู้สึกเบื่อกับพฤติกรรมของน้องมัน และยิ่งเบื่อมากกว่านั้นกับนิสัยของตัวเอง เพราะตอนนี้ผมไม่อยากทะเลาะกับน้องมันมากพอ ๆ กับไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานจากพี่ชัช สุดท้ายเลยเลือกจะหนีปัญหาด้วยการเอามันมารวมกันจนเสี่ยงจะทำให้เสียเรื่องได้อย่างนี้
Ma-NuD_LaW
ขอใส่รายละเอียดตรงนี้อีกนิดนึง ก่อนจะรวบนะครับ (ทนกับช่วงน่าเบื่อพวกนี้อีกแปบ) 
พี่ชัชเป็นตัวแปร แต่ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะ ไม่มีปมอะไรกับตัวละครตัวนี้หรอกครับ 
ขอบคุณทุกความเห็นครับ 