57.ผมกลับมาฝึกงานต่อ ก่อนจะสอบผ่านได้รับใบอนุญาตว่าความ พี่ชัชโทรมาตามให้ผมไปช่วยงานทันทีที่ทราบ บอกข่าวเรื่องสำนักงานที่เพิ่งตั้งขึ้นหลังจากแต่งงาน ผมลังเลใจอยู่นานเมื่อคิดว่าหากตอบตกลงไปแล้วจะต้องทิ้งน้องบัวให้แม่ต้องคอยดูแลให้อีกครั้ง แต่แม่กลับบอกให้ผมตัดสินใจเลือกอนาคตของตัวเองก่อน
“แม่ให้เบลล์รับผิดชอบน้องบัวก็จริง แต่ไม่ได้หมายความให้เบลล์ทิ้งความฝันทุกอย่างของตัวเองมาเพราะมัน”
ผมตอบตกลงมาทำงานกับพี่ชัชทันทีที่ได้ยินแม่พูดอย่างนั้น ผมย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเมื่อเห็นว่าการเดินทางจากที่นี่ไปถึงสำนักงานของพี่ชัชไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก ผมได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นหลายอย่างโดยไม่ต้องเสี่ยง เพราะการเปิดสำนักงานและหาคดีเองยังถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับผม
พี่ชัชไม่เคยหวงความรู้ แถมยังคอยช่วยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว จนผมรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้ไม่คุ้มกับเงินเดือนเลย
“เดี๋ยวเสร็จงานแล้วไปกินข้าวด้วยกันก่อนนะ” พี่ชัชบอกผมขณะกำลังจัดเอกสาร “แพรให้มาชวน”
พอเห็นผมมอง พี่ชัชก็ขยายความต่อ “เขากำลังหัดทำอาหารน่ะ สนใจไปเป็นหนูทดลองไหมล่ะ”
ผมหัวเราะ ก่อนจะพยักหน้าตอบกลับไป “งั้นเสร็จตรงนี้แล้วก็พอ จะได้ไม่ดึก”
“ครับ”
แล้วผมก็ได้เห็นเรือนหอของพี่แพรและพี่ชัชเป็นครั้งแรก บ้านสองชั้นขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก พอเหมาะพอดีสำหรับการเริ่มต้นสร้างครอบครัว พี่แพรดูมีความสุขมาก ยิ้มแย้มเสียจนผมอดรู้สึกอยากยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ พี่ชัชเองก็ดูมีความมากพอกัน ถึงได้ไม่แสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยเหมือนตอนก่อนกลับจากที่ทำงานเลยสักนิด
“กินเยอะ ๆ นะเบลล์” พี่แพรบอกแล้วตักปีกไก่ทอดเกลือมาให้ “ผอมลงนะ ชัชใช้งานหนักเหรอ”
“ก็ต้องใช้ให้คุ้มเงินเดือน” พี่แพรหันไปตีแขนพี่ชัชทันทีที่ได้ยิน “แตะไม่ได้เลยนะ ไอ้เบลล์เนี้ย”
“ทำไมเรียกน้องว่าไอ้” ผมหัวเราะให้กับท่าทางน่ารัก ๆ ของคู้รักตรงหน้า ก่อนจะรีบตักข้าวเข้าปากเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว “รีบ ๆ กินแล้วเตรียมตัวไปส่งน้องด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมปฏิเสธ “นั่งรถไฟฟ้าแปบเดียวก็ถึง”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะพี่เป็นคนชวนเรามา ตารางชีวิตเราเลยรวนอย่างนี้..”
“ได้มากินของอร่อยแบบนี้ ก็คุ้มแล้วครับ” ผมยิ้มยืนยัน “ผมกลับเองได้จริง ๆ นะ”
“แต่..”
“เอาตามที่มันว่านั่นแหละ” พี่ชัชพูดขัดพี่แพรขึ้นมา “น้องมันโตแล้ว เชื่อการตัดสินใจของมันเถอะ”
“แพรเป็นห่วง..”
“ถ้าถึงห้องแล้วผมจะรีบโทรกลับมาบอกเลย..นะครับ”
พี่แพรยอมพยักหน้าให้เมื่อได้ยินผมบอกอย่างนั้น ก่อนจะบ่นออกมาเบา ๆ เรื่องที่ผมไม่เคยทำได้อย่างที่รับปากเลยสักครั้ง ไม่ลืมย้ำให้ผมโทรกลับมาบอกให้ได้ อย่างน้อยส่งข้อความกลับมาบอกก็ยังดี ไม่ใช่หายเงียบไปไม่บอกกล่าวเหมือนอย่างทุกครั้ง พี่ชัชเลยหันมาเล่นงานผมเรื่องนี้ทันที
“อย่าให้เห็นว่าไม่รายงานอีกนะ” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาชี้หน้าผมแบบแกล้ง ๆ “ถ้าแพรคิดมากจนลูกกูเครียดตามไปด้วยมึงโดนแน่”
“พี่แพรท้อง” ผมหันไปมองหน้าพี่แพรทันที “เหรอครับ”
“ใช่แล้ว..” เธอตอบลากเสียงยาว “ที่ชวนมากินข้าวก็เพราะจะบอกเรื่องนี้แหละ”
“ดีใจด้วยนะครับ”
“ยิ้มหน้าบานเชียวนะมึง” ว่าแล้วก็ยื่นมือมาผลักหัวผมซ้ำอีก “รู้แล้วก็ช่วยโทรกลับมารายงานด้วยนะครับ”
“ครับ” ผมอมยิ้ม รู้สึกว่ากับข้าวฝีมือพี่แพรยิ่งอร่อยมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก “ผมจะโทรมาบอกทันทีที่ถึง”
“ให้มันจริง”
เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ผมจะถูกไล่ให้กลับทั้งที่ยังอยากจะอยู่ช่วยพวกพี่เขาเก็บล้างจานชาม และทันทีที่ถึงห้องผมก็รีบส่งข้อความกลับไปบอกเมื่อคิดได้ว่าคนท้องคงจะนอนพักผ่อนไปแล้ว มีนเปิดประตูห้องออกมาเจอตอนที่ผมกำลังจะไขเปิดประตู ในมือถือข้าวของพะรุงพะรังจนผมอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปช่วย
“เดี๋ยวเราช่วยถือไปที่รถ”
พอเขาพยักหน้า ผมก็เก็บกุญแจห้องตัวเองแล้วเดินตามลงไป ช่วยเขาเรียงกองชีทและหนังสือท้ายรถได้ก็ยกถุงเสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่ผมไม่รู้จักหลายอย่างเข้าไป “ขอบคุณนะ”
“อืม” ผมยิ้มให้เขา ก่อนจะคว้านหากุญแจห้องในกระเป๋ากางเกง “ดึกแล้วขับรถดี ๆ”
“เดี๋ยวเบลล์” เขาเรียกเมื่อผมหันหลังเตรียมจะเดินออกมา “เราซื้อรังนกมาให้ แช่อยู่ในตู้นะ”
“ห้องเรา ?”
“อืม” เขาเดินไปเปิดประตูรถ แล้วหยิบถุงขนมออกมา “เอานี่ไปกินด้วย”
“มีนเอาไว้กินเถอะ”
“รับไปสิ..” เขายัดถุงขนมใส่มือผม “เผื่ออ่านหนังสือดึก ๆ แล้วหิว”
พอเห็นผมเลิกคิ้วขึ้น เขาก็พูดต่อ “เห็นแสงไฟลอดประตูออกมาน่ะ”
“ขอบคุณนะ”
เขายิ้มก่อนจะออกแรงดันผมให้ออกเดิน “ดึกแล้ว รีบขึ้นห้องไปเถอะ”
“อืม..”
Ma-NuD_LaW