24.ทั้งที่ในใจอยากจะหนีไปที่ไหนสักแห่งไกล ๆ เพื่ออยู่กับตัวเอง..ทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างไปเงียบ ๆ เผื่อว่าบางทีมันอาจจะช่วยให้ผมหาทางออกให้กับปัญหาได้ แต่สุดท้ายผมก็ไม่สามารถจะละทิ้งหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเองไปไหนได้เลย
“เราเซฟไฟล์ไว้แล้ว กำลังจะออกจากห้อง..อืม..ได้..” ผมเปิดประตูออกมาทั้งที่ยังใส่รองเท้าไม่เรียบร้อย “ไม่เกินสิบนาทีเราคงไปถึง..อืม..แค่นี้นะ..”
ผมกดวางสายจากจุ๊ ขณะกระแทกปลายเท้าสองสามครั้งเพื่อให้รองเท้ามันเข้าที่ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบถุงใส่น้ำผลไม้ที่ห้อยไว้กับลูกบิดประตูออกเพื่อล็อคประตูแล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นว่ามันใกล้เวลานัดแล้ว
“ไม่น่าลืมตั้งปลุกเลย..”
บ่นพึมพำไปไปได้ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิด ผมตั้งท่าจะรีบวิ่งไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอลุงยามยืนยิ้มขณะรอยื่นถุงแซนวิชให้ผมเหมือนทุกเช้า ผมเลยก้มหัวให้ก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณไป แล้วรีบวิ่งต่อเพื่อที่จะได้ไปถึงมหาวิทยาลัยให้ทันตามนัดของจุ๊ วันนี้พวกเรามีรายงานกลุ่มที่จะต้องรีบส่ง แต่ติดที่ว่าไฟล์งานที่ผมส่งให้คราวก่อนเสีย ผมเลยต้องรีบทำมันใหม่ทั้งหมด กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบจะตีสามแล้ว
อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ใกล้จะสอบแล้ว เพราะอย่างนั้นจนถึงวันนี้ก็ถือว่าเกือบจะครบเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าใครเลย ไม่ว่าจะเป็นมีนหรือบิ๊ก ซึ่งชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจงใจหลบเลี่ยงไม่มาให้ผมเจอหน้า ไม่ว่าจะจากความต้องการของผมเองที่อยากได้จากมีน หรืออาจจะเกิดจากความรู้สึกผิดของบิ๊กเอง แต่ถึงจะไม่เคยมาให้เห็นหน้า ก็ยังคงมีน้ำผลไม้มาห้อยอยู่ที่หน้าประตู และแซนวิชบ้าง..โจ๊กบ้างมาฝากลุงยามไว้ให้ผมทุกเช้าไม่เคยขาด
ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าใครกันที่เป็นคนคอยส่งของพวกนี้ให้ผม แต่ที่ผมเดาไม่ออกคือพวกเขายังจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน..
“จะเพื่ออะไรก็ช่างสิ..”
ผมกระชับมือที่กำลังถือถุงพวกนี้แน่นขึ้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะไปตามนัดให้ทัน..
ผมช่วยคนอื่น ๆ จัดเรียงหน้า ซักซ้อมที่จะรายงานหน้าห้องต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ ก่อนจะถูกจุ๊ชวนแกมบังคับให้ไปช่วยถือกาแฟและขนมมาให้เพื่อนในกลุ่มคนอื่น ๆ แน่นอนว่าจุ๊คงมีเรื่องอะไรที่อยากจะคุยกับผมมากกว่าถึงได้อ้างว่าจะออกมาหาซื้ออะไรแบบนี้ และถ้าผมเดาไม่ผิดก็คงจะไม่พ้นเรื่องบิ๊กเหมือนเคย
“เย็นนี้ไปกินข้าวกันนะ” ผมหันไปมองจุ๊อย่างแปลกใจ “ส้มตำร้านที่เบลล์ชอบก็ได้”
“...”
“หรืออยากกินอย่างอื่น”
“มีอะไรหรือเปล่าจุ๊” ผมถามเมื่อเห็นจุ๊ทำท่าทางแปลก ๆ ทั้งที่แค่กำลังชวนผมไปกินข้าว “บอกมาเถอะ”
“คือวันนี้วันเกิดไอ้บิ๊กมัน..”
“น้องมันไม่อยากเจอเราหรอก” ผมตอบทันทีเมื่อเริ่มเข้าใจว่าจุ๊กำลังต้องการจะทำอะไร “เราไม่อยากทำให้น้องมันอึดอัด”
“อย่าไปคิดแทนมันแบบนั้นสิ” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เมื่อไม่เข้าใจว่าจุ๊จะสื่ออะไร “มันปฏิเสธทุกคนที่จะจัดงานวันเกิดให้มัน แล้วบอกว่าอยากอ่านหนังสือมากกว่า”
“...”
“เบลล์คิดว่ามันไม่ผิดปกติมากไปหน่อยเหรอ”
“...” ผมเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าวันนี้มันแค่อยากได้คำอวยพรจากใคร”
“เรา..”
“เราแค่ขอให้เบลล์ไป แล้วถ้าเบลล์อึดอัดเมื่อไรเราก็จะพาออกมาเอง” ผมนิ่ง..คิดตามในสิ่งที่จุ๊พูด “นะเบลล์”
“อืม..”
สุดท้ายผมก็หาข้ออ้างอะไรมาปฏิเสธจุ๊ไม่ได้เลย..
[บิ๊ก]
ผมมานั่งรอพี่จุ๊ที่ร้านส้มตำแถวมหาวิทยาลัย หลังจากทนคำพูดคะยั้นคะยอไม่ไหว อันที่จริงก็เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง ติดที่ว่าเสียงข้อความอวยพรวันเกิดจากโทรศัพท์มือถือมันดังติดกันมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วเพิ่งจะหยุดไปเมื่อตอนบ่ายนี่เอง
ผมนั่งหมุนแก้วน้ำไปมาเล่น ก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยหยดน้ำที่เกาะรอบแก้วแล้วลงมาเขียนชื่อคนที่ได้แต่คิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาลงบนโต๊ะ
BeLL.
“ผมคิดถึงพี่จัง”
“คิดถึงแล้วหลบหน้าเขาทำไมวะ”
ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพี่จุ๊ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใครบางคนที่อยู่ในบทสนทนาก็มาด้วย “พี่เบลล์”
“สุขสันต์วันเกิดนะ” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วยื่นกล่องของขวัญขนาดเท่าฝ่ามือแต่ยาวกว่าเล็กน้อยมาให้ “มีความสุขมาก ๆ นะ”
“ขอ..ขอบคุณครับ” ทำไมผมถึงได้รู้สึกเหมือนจะพูดอะไรไม่ออกแล้ว
“ทำไมไม่สั่งรอวะ”
พี่จุ๊บ่นงึมงำ ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ ผมอมยิ้มกำกล่องของขวัญในมือแน่น ก่อนจะเงยหน้ามองเขาจนไม่ได้ใส่ใจฟังว่าพี่จุ๊สั่งอะไรไปบ้าง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แปลกแค่ตอนนี้สีหน้าเขาดูเหนื่อย ๆ เหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ผมจ้องหน้าเขา..เก็บรายละเอียดทุกอย่างบนใบหน้านั่นเงียบ ๆ กระทั่งถูกพี่จุ๊กระทุ้งศอกใส่
“มองอะไร ไม่เคยเห็นเหรอ”
“เปล่า..” ผมตอบแล้วส่งยิ้มไปให้เขา “แค่คิดถึง..”
“เพ้อหนักขนาดนี้ กูจะกินอะไรลงไหมเนี้ย”
ผมรู้ว่าพี่จุ๊คงบ่นไปอย่างนั้น เพราะหลังจากประโยคนั้นพี่มันก็ทำตัวเหมือนอากาศธาตุ ไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายอะไรกับผมอีกเลย แต่ก็ยังใจดีช่วยเปิดบทสนทนาให้ผมบ้างในบางครั้งที่เห็นว่าโต๊ะเงียบจนเกินไป
“ของขวัญกูคงไม่ต้องแล้วนะ” พี่จุ๊ก้มลงมากระซิบตอนที่รอพนักงานเอาเงินทอนมาคืน “เพราะที่ให้นี่ก็ยิ่งกว่าที่มึงเคยอยากได้มาตลอดชีวิตแล้ว กูรู้”
“ขอบคุณนะครับ”
“เออ”
เราพากันเดินออกมานอกร้านหลังจากผมเก็บเงินทอนเข้ากระเป๋าเรียบร้อย พี่จุ๊หันไปถามเขาว่าจะกลับเลยหรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบว่าอยากไปเดินเล่นตลาดนัดตอนเย็นแถวนี้ก่อน พี่จุ๊พยักหน้าแล้วแกล้งมาพูดบังคับให้ผมตามไปด้วยทั้งที่ก็รู้ว่าถึงไม่ชวนผมก็ตามไปอยู่ดี เราเดินเล่น..ซื้อของกินกลับห้องมากันหลายอย่าง เมื่อพี่จุ๊ชวนเขาให้มาดื่มฉลองวันเกิดต่อที่ห้องผม
แน่นอนว่าผมซื้อน้ำอัดลมแยกมาให้คนคออ่อนต่างหากจากเบียร์ของผมกับพี่มัน
“เมาหลับไปแล้ว..”
ผมพยักหน้าให้คนพูด ก่อนจะช้อนตัวคนเมาขึ้นมาอุ้มแล้วพาเข้าไปนอนบนเตียงในห้อง เสร็จก็เดินออกมาหาคนที่นั่งดื่มน้ำอัดลมเงียบ ๆ ตั้งแต่มาถึง “ให้ผมอยู่กับพี่จุ๊สองคนในห้องคงไม่เหมาะ..”
“กูรู้” เขาตอบกลับมา ก่อนจะหยิบขนมเข้าปาก “ขอค้างด้วยคนแล้วกัน”
“ครับ”
แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาระหว่างเรา ผมนั่งกระดกเบียร์ในขวดไป ในใจก็แอบคิดว่าพี่จุ๊คงจะตั้งใจให้ตัวเองเมาแอ๋แบบนี้ เพื่อที่จะได้เปิดโอกาสให้ผมได้อยู่กับเขานานขึ้น แต่พี่จุ๊คงลืมคิดไปว่ามันอาจจะทำให้เขาต้องอึดอัดจนไม่อยากเห็นหน้าผมมากกว่าเดิม
“ทำไมต้องหลบหน้ากู” ผมหันไปมองเขาทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น “ทั้งที่กูก็บอกไปชัดเจนแล้วว่าไม่ได้โกรธ”
“...”
“ทำซะกูรู้สึกเหมือนตัวเองน่ารังเกียจ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ” ผมรีบบอก “ผมแค่ละอายใจ..”
“...”
“ที่จะทำเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ไร้สาระ” เขาว่าแล้วหยิบน้ำแข็งในแก้วมาขว้างผม “ถ้าคิดว่าทำดีแล้ว ก็อย่าปล่อยให้สภาพตัวเองดูแย่แบบนี้สิวะ”
“...”
“ส่งของกินมาให้กูทุกเช้า แต่ตัวเองผอมแห้งอย่างกับคนอดข้าว”
“ขอโทษครับ”
“เก็บกวาดเอาเองแล้วกัน กูจะนอน”
ว่าแล้วเขาก็ย้ายตัวเองขึ้นไปนอนเหยียดบนโซฟาแล้วหลับตานิ่ง ผมหัวเราะเบา ๆ ไปกับภาพตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเก็บจานชามไปล้าง กวาดถูห้องที่เลอะเทอะเสร็จก็เข้าไปหยิบผ้าห่มจากในห้องนอนมาห่มให้เขา นั่งจ้องคนนอนหลับด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนั้นสักพักก็ทิ้งตัวลงนอนบนพื้นข้าง ๆ เขาบ้าง
“ฝันดีนะครับ”
“อืม..”
ไม่รู้ว่าเสียงขานรับนั่นมาจากการละเมอหรือเปล่า ผมรู้แค่ว่าคืนนั้นทั้งคืนผมหลับไปทั้งที่ยังหุบยิ้มไม่ได้เลย..
Ma-NuD_LaW
น้องบิ๊กยังไม่จบนะครับ..เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ วันนี้ให้หวาน ๆ เบา ๆ ไปก่อน เห็นใจเครียดกันมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว
และในเมื่อมีนพูดน้อยจนน่ารำคาญ..ผมก็จะให้คนอื่นมาพูดแทนมัน
ขอบคุณทุกความเห็นครับ