22.ผมนั่งคุยกับจุ๊หลังจากยืมชีทไปถ่ายเอกสารเสร็จ เธออธิบายหัวข้อที่เรียนผ่านมาให้ผมฟังอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะส่งไฟล์เสียงในช่วงสำคัญที่อัดเอาไว้ให้ด้วย ผมจดและเก็บทุกอย่างเอาไว้ในกระเป๋า ก่อนจะเอ่ยปากขอเลี้ยงข้าวสักมื้อเป็นการตอบแทน เลยได้รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของจุ๊ ซึ่งเธอมีนัดเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนคนอื่นล่วงหน้าแล้ว
“ไปด้วยกันสิเบลล์” เห็นผมเงียบจุ๊เลยชวนซ้ำอีก “เราไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลยนะเบลล์”
“...”
“ถือเสียว่าเป็นของขวัญวันเกิดให้เราไง”
“ก็ได้”
ผมไม่กล้าปฏิเสธ เมื่อจุ๊พูดมาอย่างนั้น สุดท้ายเลยต้องรีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างเอาไว้ที่ห้อง ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปงานวันเกิดจุ๊ตอนเกือบ ๆ สองทุ่ม พอลงมาจากห้องก็เจอบิ๊กยืนรออยู่ก่อนแล้ว เพราะจุ๊เป็นคนนัดให้น้องมันรอรับผมไปที่ร้านด้วย และแน่นอนว่าขากลับผมก็คงจะต้องติดรถน้องมันกลับเหมือนเดิม
น้องมันเงียบ ไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง ซึ่งผมเองก็พอรู้ว่าน้องมันคงโกรธเรื่องที่ผมหายไปโดยไม่บอก แถมยังติดต่อไม่ได้เลย เพราะผมปล่อยให้โทรศัพท์มือถือของตัวเองแบตเตอรี่หมดอยู่อย่างนั้นตั้งแต่กลับมาจากทะเลโดยไม่คิดจะใส่ใจ
“ไม่คิดจะอธิบายอะไรหน่อยเหรอครับ” น้องมันมาเอ่ยปากถามก็ตอนที่เราลงจากรถเพื่อจะเข้าร้านแล้ว “ทำไมจะต้องให้ผมเป็นฝ่ายถามเองตลอด”
ผมมองหน้าบิ๊ก ก่อนจะถอนหายใจออกมา “โทษที”
“...”
“แม่พี่ตกบันได ขาหักน่ะ” เห็นน้องมันมีท่าทีอ่อนลง ผมเลยพูดต่อ “พอรู้เรื่องก็เลยรีบกลับ มือถือก็ลืมชาร์จอีก”
“น่าจะบอกผมบ้าง” น้องมันบ่นเบา ๆ “แล้วแม่เป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว มีทั้งพ่อทั้งแม่มลคอยดูแล”
น้องมันพยักหน้าสองสามครั้ง ก่อนจะจูงมือผมเพื่อพาเดินเข้าร้าน ผมก้มมองมือที่ถูกจับเอาไว้ ไม่ได้คิดจะดึงออก เพราะหวังว่ามันอาจจะช่วยให้น้องมันรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง อย่างน้อยก็ช่วยเลิกทำสีหน้านิ่งเฉยอย่างนั้นใส่ผมเสียที
ผมเดินตามแรงดึงของคนนำทางมาจนถึงที่โต๊ะ ส่งของขวัญที่แวะซื้อเมื่อตอนเย็นก่อนกลับห้องไปให้เจ้าของวันเกิดพร้อมคำอวยพรเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งรวมกับพวกรุ่นน้องเพื่อน ๆ ของบิ๊ก ผมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงทักทายของพวกน้อง ๆ มัน ขณะยื่นมือไปรับแก้วที่บิ๊กยื่นมาให้
“น้ำอัดลมนะครับ”
ผมพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้วฟังคนอื่นคุยกันไปเงียบ ๆ ดูพวกรุ่นพี่รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งรุ่นเดียวกันคุยกันเหมือนสนิทมานาน ต่างจากผมที่แทบจะไม่รู้จักชื่อใครเลย
“เบื่อหรือเปล่าครับ” ผมส่ายหน้าไปมาเมื่อถูกถาม “รอเป่าเค้กแล้วค่อยกลับนะครับ เดี๋ยวพี่จุ๊งอน”
“อืม”
บิ๊กคุยกับพวกเพื่อน ๆ ไป มีบ้างที่หันไปคุยกับพวกรุ่นพี่ที่เดินมาทัก ผมมองดูอากัปกริยาเวลาน้องมันอยู่กับคนอื่น ๆ ก่อนจะนึกว่าเวลาอยู่กับผมน้องมันมีท่าทีเป็นยังไง
ก็ยังสดใส แต่เต็มไปด้วยความเหนื่อย..
“อยากลองกินเหล้า” ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปดึงแก้วเหล้าในมือน้องมัน “ขอชิมหน่อย”
“ไม่ดีหรอกครับ”
“กูแก่กว่ามึงนะ”
“พี่เบลล์..” พอเห็นผมไม่ยอม น้องมันเลยอ่อนลง “แก้วเดียวนะครับ”
ผมรับแก้วมา ยกดื่มเข้าไปอึกใหญ่ ก่อนจะสำลักพรวดออกมาเพราะความขม “แค่ก ๆ”
“ว่าแล้วเชียว” บ่นไปก็ใช้ผ้าเช็ดปากผม ก่อนจะเช็ดเสื้อตัวเองที่เปียกไปด้วย “กินแบบเดิมดีแล้วครับ อีกสักพักก็กลับแล้ว”
“อือ..”
“ผมไปห้องน้ำแปบหนึ่ง” ว่าแล้วลุกขึ้น “เดี๋ยวมานะครับ”
“อืม”
จังหวะนั้นก็มีคนยกเค้กเข้ามาพอดี พอไฟมืดน้องมันเลยเดินกลับมาที่โต๊ะลำบาก เพื่อน ๆ น้องมันเลยได้โอกาสเอาเหล้าผสมกับน้ำอัดลมในแก้วของผม แล้วออกปากยืนยันว่ามันจะกินง่ายกว่าเมื่อกี้ ผมลองจิบ ๆ ชิมดูตามเสียงยุ ก่อนจะยกดื่มไปอีกหลายอึก
ถึงรสชาติมันไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ก็กินง่ายกว่าเดิมจริง ๆ
แล้วก็มีมือดีแอบเอาเหล้ามาผสมในแก้วให้ผมอยู่เรื่อย ๆ ตอนบิ๊กเผลอ กระทั่งน้องมันหันมาจ้องเมื่อผมเริ่มตัวเอนไปมา ผมยังคงรู้ตัวดี ไม่ถึงขั้นไม่มีสติ แต่ก็บังคับตัวเองให้อยู่นิ่งไม่ได้เลย
“พวกมึงนะพวกมึง” น้องมันบ่นพึมพำขณะพยุงผมขึ้น “กูกลับละ ฝากลาพี่จุ๊ด้วย”
ผมปล่อยให้น้องมันช่วยพามาจนถึงรถ ก่อนจะนั่งหลับตานิ่ง ๆ เมื่อน้องมันขับรถออกจากร้านมาแล้ว ในหัวก็คิดเรื่อยเปื่อยไปสารพัด ผมไม่ชอบความรู้สึกเวลาเมาของตัวเองแบบนี้เท่าไร เพราะผมไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ แถมยังจะเผลอพล่ามความคิดความอึดอัดทุกอย่างในหัวออกมาตลอดเวลาอย่างนี้
“ไหวไหมครับ อยากอ้วกหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลืมตามองน้องมัน “ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“เหมือนอยู่ไหนก็ต้องกลายเป็นภาระให้คนอื่นตลอดเลย” ผมหัวเราะ ทั้งที่ไม่รู้สึกขำสักนิด “น่าเบื่อเนอะ”
“ผมเคยบอกว่าเบื่อหรือไง”
“แอบคิดอยู่ในใจก็บอก”
“...”
“ก็ชอบคิดเสียอย่างนี้..” น้องมันว่าแล้วถอนหายใจออกมา “ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมนักนะ”
แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาระหว่างเรา ผมนั่งคิดอะไรต่อไปเรื่อยเปื่อย แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าด้านข้างของน้องมันไม่ไปไหน คงจะดีถ้าผมสามารถตอบรับความรู้สึกของน้องมันได้ เพราะลึก ๆ แล้วผมเองก็รู้ดีว่าตัวเองจะโชคดีแค่ไหนหากได้รับความรักจากคน ๆ นี้
“บิ๊ก”
“ครับ”
“กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บเลย”
“...”
“เลิกชอบกูไปไม่ได้เหรอ”
สุดท้ายผมก็ยั้งปากตัวเองไม่ให้พูดสิ่งที่กำลังคิดอยู่ไม่ได้..
Ma-NuD_LaW