15.[มีน]
“เราลองมาคบกันดูไหม”
“...”
“หรือไม่ก็ให้เราอยู่ข้าง ๆ จนกว่ามีนจะลืมเขา”
ผมไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรคิว เพราะตอนนั้นสมองผมมันว่างเปล่าเกินกว่าจะรับรู้อะไร สุดท้ายเราก็กลายเป็นคู่นอน หรือกลายเป็นอะไรที่มันมากเกินกว่าความเป็นเพื่อนแบบนั้น
เรากินข้าวด้วยกัน..อ่านหนังสือด้วยกัน..และมีอะไรกันทุกครั้งที่ผมหรือคิวต้องการ
คิวไม่เคยเรียกร้องสถานะ มีแค่ออดอ้อนขออะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างในบางครั้ง อย่างเช่นรูปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั่นก็เช่นกัน วันนั้นคิวขอผมถ่ายรูปด้วยหลังจากเพิ่งมีอะไรกันเสร็จ เขารัวชัตเตอร์ติด ๆ กันเกือบสิบภาพ ก่อนจะเลือกรูปหนึ่งขึ้นมาตั้งเป็นภาพหน้าจอ แล้วอ้อนขอให้ผมเปลี่ยนเป็นรูปนั้นในโทรศัพท์มือถือตัวเองด้วย ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร บวกกับเพลีย ๆ กับกิจกรรมที่เพิ่งทำไป เลยพยักหน้าส่ง ๆ ไปอย่างนั้น ก่อนจะทิ้งตัวนอนหลับไปยันเช้า พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่ารูปมันเปลี่ยนจากหน้าคนที่เพิ่งทิ้งกันไป กลายเป็นรูปของของผมกับคิวแล้ว
ผมถอนหายใจให้กับเรื่องเก่า ๆ ก่อนจะกดเข้าไปลบภาพที่เคยใช้ตั้งเป็นภาพหน้าจอยาวนานมาเกือบสิบปีทิ้งไป
ผมใช้ชีวิตอยู่แบบนั้น เลิกมอง..เลิกสนใจใครบางคนที่เคยมีความสำคัญมากมายในชีวิต แล้วหันมาทุ่มเทให้กับเรื่องเรียน ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือให้มากขึ้น กลับไปในที่ ๆ เก็บความทรงจำระหว่างผมกับใครคนนั้นให้น้อยลง หรือถ้าวันไหนไม่สามารถจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้จริง ๆ ผมก็จะปล่อยให้คิวตามกลับมาที่ห้องด้วยตามคำขอ ก่อนจะปล่อยให้ความคิดความรู้สึกทุกอย่างของตัวเองไหลไปตามอารมณ์ที่คิวคอยจุดมันขึ้นมา
กระทั่งวันที่คนเคยรักหยิบไข่ไก่มาปาระเบียงห้องของผม มองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายแบบนั้น ความเจ็บปวดทุกอย่างที่เคยคิดว่าใกล้จะหายไปแล้วก็กลับเข้ามาจู่โจมผมอีกครั้ง
แล้วผมก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกหรือการกระทำของตัวเองได้อีกเลย
ก็ทั้งที่ตัวเองเป็นคนบอกเลิกผม ขอให้ผมออกมาจากชีวิตไปเอง แล้วตอนนี้เขาจะกลับมากวนฝุ่นตะกอนให้มันฟุ้งกลับขึ้นมาอีกทำไม
จะเหนี่ยวรั้งความเจ็บปวดที่กำลังจะจางหาย ให้กลับมาเกาะกุมหัวใจผมต่อไปอีกเพื่ออะไรกัน..“เราทำอะไรผิดงั้นเหรอ..”
“...”
“ทำไมมีนจะต้องขอให้เราเลิกมาหา..”
“เราไม่ได้ขอให้คิวเลิกมาหา” ผมบอกแก้ความเข้าใจผิด
“เราขอให้คิวเลิกรักเรา”
“...”
“เลิกหวังว่าเราจะตอบรับความรู้สึกของคิวได้”
“...”
“เพราะเราให้คิวไม่ได้”ผมไม่รู้ว่าตอนเขาบอกตัดความสัมพันธ์กับผม ใช้คำพูดที่แสดงออกถึงความใจร้ายนั่นมาทำร้ายผม เขาจะรู้สึกเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ผมกำลังรู้สึกอยู่แบบนี้บ้างไหม
“ขอโทษที่ไม่ยอมพูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรก”
“...”
“ขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเวลา”
อาจจะดูเห็นแก่ตัวที่ทำแบบนี้ แต่ผมกลับคิดว่ายิ่งปล่อยให้นานไปกว่านี้ มันจะยิ่งดูเห็นแก่ตัวกับคิวมากกว่า เพราะเขาควรเจอคนที่ดีกว่าผม เจอคนที่เต็มใจจะรัก และยอมรับความรักจากเขาได้
“เพราะเขาเหรอ”
“...”
“เพราะเบลล์ใช่ไหม”
“เราไม่รู้” ผมตอบตามที่คิด
“เพราะเราไม่เคยไม่มีเบลล์ เราเลยตอบไม่ได้ว่าถ้าไม่มี เราจะรักคิวได้ไหม”
“...”
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม” ผมผมขอในสิ่งที่ไม่ควรได้รับ ก่อนจะบีบเอามันมาเมื่อเห็นท่าทางอึดอัดของคิว
“เราจะรอวันนั้นนะ”ผมไม่ได้คิดว่าหลังจากตัดความสัมพันธ์กับคิวแล้ว ผมจะต้องกลับมาหาเบลล์ งอนง้อขอให้เขากลับมา เพราะผมเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรอย่างนั้น แต่ทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับใครอีกคน ผมกลับลืมความเหนื่อยพวกนั้นไปเสียหมด และทั้งที่ลึก ๆ แล้วผมก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้มองใครคนนั้นด้วยสายตาแบบเดียวกันกับที่เคยมองผม แต่ผมกลับไม่เคยห้ามคำพูดและการกระทำของตัวเองได้เลย
ผมไม่เคยห้ามให้ตัวเองเลิกยื้อเขาด้วยความผูกพันยาวนานที่ผ่านมาเอาไว้ และไม่คิดหยุดการกระทำที่คอยสร้างความสับสนให้กับเขา ทั้งที่ไม่เคยคิดจะบอกหรือขอร้องให้เขาย้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง
อาจเพราะลึก ๆ แล้วในใจผมอาจจะยังโกรธเขา ที่สามารถทิ้งผมไปได้อย่างไม่ไยดีอย่างนั้น
“ตอบมาสิ”ผมจ้องมองแววตาที่กำลังสั่นไหวของเขา ก่อนจะกดจูบลงไปเพื่อปิดเสียงที่กำลังจะร้องเรียกใครอีกคนที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของประตู ผมกดจูบลงไปซ้ำ ๆ อย่างนั้น..ก่อนจะกัดลงไปแรง ๆ ให้อีกฝ่ายได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบ้าง
เผื่อว่าเขาจะได้รู้ว่าตัวเองทำให้ผมต้องทรมานมากแค่ไหน..
“ไม่พอใจก็ต่อว่าเราออกมาสิ” ผมบอกหลังถอนจูบออกมาแล้ว “โวยวายที่เราทำให้เลือดเบลล์ไหล”
เขาไม่พูดหรือตอบโต้อะไร ทำแค่กัดริมฝีปากที่เปรอะเลือดของตัวเองซ้ำ ๆ อย่างนั้น จนสุดท้ายก็กลายเป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ต้องเป็นฝ่ายห้ามเขาให้หยุดทำร้ายตัวเอง
ดวงตาเขาไม่มีน้ำตาเลยสักหยด ในขณะที่ผมตอนนี้มองแทบจะไม่เห็นอะไรแล้วด้วยซ้ำ
“นั่นเลือดของเรา ไม่ใช่มีน”
“...”
“จะร้องไห้ทำไม ในเมื่อคนเจ็บไม่ใช่มึง”
ผมนิ่งเงียบ ก้มมองหยดเลือดบนฝ่ามือของตัวเองที่ตอนนี้กำลังค่อย ๆ จางลงไปเพราะน้ำตาของผม “เบลล์..”
“”อีกอย่าง..”
“...”
“ถ้าไม่เคยคิดจะบอกอะไรกันเลย..” เขาว่าแล้วผละตัวออกจากผม “ก็ช่วยเลิกวุ่นวายกับกูสักทีเหอะ”
“...”
“ขอร้อง..”
สิ้นสุดคำพูด เขาก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย กระทั่งผมหมดข้ออ้างที่จะอยู่ในห้องเขาต่อ เมื่อเจ้าหน้าที่ของคอนโดเอากุญแจชุดใหม่มาส่งให้ ผมหันไปมองประตูห้องเขาอีกครั้งก่อนจะต้องเดินกลับไปในที่ของตัวเอง
กลับไปในที่ ๆ เคยเป็นทั้งของผมและเขา..
Ma-NuD_LaW
เห็นแก่ความอึดอัดของคนอ่าน
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ