[♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]  (อ่าน 283585 ครั้ง)

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
อ้างถึง

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด



3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง



16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2018 12:32:30 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #1 เมื่อ27-07-2015 20:32:39 »

 :mc4:

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #2 เมื่อ27-07-2015 20:33:36 »



ตอนที่ 1 
ตอนที่ 2  
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4    
ตอนที่ 5  
ตอนที่ 6
ตอนที่ 7  
ตอนที่ 8    
ตอนที่ 9
ตอนที่ 10  
ตอนที่ 11    
ตอนที่ 12
ตอนที่ 13    
ตอนที่ 14  
ตอนที่ 15
ตอนที่ 16  
ตอนที่ 17  
ตอนที่ 18
ตอนที่ 19  
ตอนที่ 20
ตอนที่ 21 (ครึ่งแรก)  
ตอนที่ 21 (ครึ่งหลัง)    
ตอนที่ 22 (ครึ่งแรก)  
ตอนที่ 22 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 23
ตอนที่ 24
ตอนที่ 25 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 25 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 26
ตอนที่ 27
ตอนที่ 28
ตอนที่ 29
ตอนที่ 30
ตอนที่ 31
ตอนที่ 32
ตอนที่ 33
ตอนที่ 34
ตอนที่ 35
ตอนที่ 36 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 36 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 37 
ตอนที่ 38 
ตอนที่ 39 
ตอนที่ 40 
ตอนที่ 41 
ตอนที่ 42 
บทส่งท้าย 
ตอนพิเศษ : Happy Family 
ตอนพิเศษ : Happy Ending 



✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2018 12:40:56 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #3 เมื่อ27-07-2015 20:47:25 »

รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero






ถ้าฉันจะรัก...รักของฉันจะเป็นเช่นไร


ถ้าแม้คนเราเลือกเอาเองได้ตามหัวใจ


ความรักแบบไหน...ที่หัวใจเรียกร้องต้องการ



-1-






   “เมียกูอ่ะ?”



ผมถามทันทีที่เดินไปถึงโต๊ะที่กลุ่มเพื่อนของผมนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาขาดก็แค่คนเดียวที่ผมถามออกไป พวกมันเงยหน้ามอง สีหน้าแต่ละคนดูอึ้งและทึ่งกันมาก ผมรู้ว่าตัวเองหล่อ แต่จะจ้องกันอีกนานไหมครับ สัด! อากาศมันร้อนคนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย ที่ถามก็เพราะอยากได้คำตอบไม่ใช่การจ้องหน้าเหมือนเห็นเทวดาลงมาโปรดแบบนี้



   “เมียมึงมึงยังไม่รู้แล้วพวกกูจะรู้ไหมครับ ไอ้สัด”ไอ้คิมเงยหน้าจากหนังสือการ์ตูน มันทำหน้ากวนตีนใส่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ผมถีบมันตกเก้าอี้ไปแล้ว ที่สำคัญมันเป็นเพื่อนซี้ของคนที่ผมถามหาอยู่คงต้องรู้ว่าเพื่อนตัวเองไปไหน



   “ไอ้สัด ปิดเทอมมึงทำอะไรวะเครียดจนหัวหงอกเลยเหรอวะ?”ไอ้เต้เพิ่งมารู้จักกันตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยเพราะเรียนคณะเดียวกัน นิสัยกวนตีน ขี้เล่นและเล่นขี้เป็นบางโอกาส ผมหมายถึงวันดีคืนดีก็ชอบเอาของที่พ่อให้มาไปจิ้มตูดผู้ชายด้วยกัน สีสันชีวิตทั้งมันทั้งแซ่บ ผมก็ว่างั้นนะ...



   “ห่า มึงขับไอ้หวานมาถึงนี่ได้กูก็นับถือว่ะ คนไม่มองมึงตั้งแต่หน้าบ้านยันหน้าคณะเลยเหรอวะ”ไอ้โฟมครับ ตัวขาวๆบางๆ ตี๋แต่ตาโตดูขัดกับเชื้อสายแต่พวกผมชอบเรียกมันว่าไอ้หมวยเพราะหน้ามันหวานมากกว่าจะหล่อตี๋อินเทรนด์เวลายิ้มนี่โคตรน่ารัก ถึงเราจะเป็นเพื่อนกันแต่ตอนเมาๆมองหน้ามันแล้วก็อยากเอาเหมือนกันครับ แต่อย่าไปชมมันว่าน่ารักไม่งั้นลูกๆในปากมันจะวิ่งกรูเข้ามากัดจนแผลเหวอะแน่ๆ หน้าตาก็ดีแต่ปากโคตรหมาเลย



“เลิกยุ่งกับหัวกบาลกูได้ละสัด พวกมึงจะบอกได้หรือยังวะ ไอ้พายอยู่ไหน เย็นนี้กูจะใช้รถด้วย โทรหาแม่งก็ไม่ติด”แค่ทำผมสีควันบุหรี่นี่ทำไมทุกคนถึงต้องตื่นตาตื่นใจกันด้วยวะ มันหล่อมากว่างั้น? อันที่จริงว่าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช็อคโกแลตแต่ยังไม่มีเวลา ตอนนี้หัวผมเลยสว่างโล่มาแบบนี้ ไอ้คิมมันเฉยๆเพราะมันเห็นตั้งแต่ปิดเทอมแล้ว



“กองถ่ายมั้ง ถ้าอยากรู้แน่ๆมึงลองโทรถามไอ้ธันว์ดู เผื่อมันจะรายงานผัวหลวง แล้วละเลยผัวน้อยอย่างมึง”



งงกันสินะครับผัวหลวงผัวน้อยอะไรยังไงกัน ที่จริงก็เป็นแค่การเรียกเล่นๆในกลุ่มตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว ผม ไอ้ธันว์ ไอ้พาย ไอ้คิม เรียนมาด้วยกันสี่คน จริงๆแล้วผมกับไอ้ธันว์เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ประถม ตอนม.สามก็ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่เดนมาร์กด้วยกัน 1 ปี กลับมาก็ต้องเรียนม.ปลายช้ากว่าพวกเพื่อนๆปีเดียวกันซึ่งพวกผมย้ายจากลำพูนไปเรียนที่เชียงใหม่แล้วรู้จักกับไอ้พายกับไอ้คิมที่นั่นเพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ไอ้พายกับไอ้คิมคิมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.ต้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นรุ่นน้องแต่ผมถือว่าเรียนมาด้วยกันก็เป็นรุ่นเดียวกันไป



สาเหตุที่ไอ้คิมเรียกผมว่าผัวน้อยของไอ้พายก็เพราะผมคอยดูแลแล้วก็ปลอบใจมันตอนที่มันเฮิร์ท ไอ้พายมันชอบไอ้ธันว์ตั้งแต่แรกพบเลยก็ว่าได้แต่ไอ้ธันว์มันไม่สนใจก็ฟันหญิงไปเรื่อยตามประสาคนหน้าตาดี บ้านรวย มีรถหรูขับ แต่ก็ใช่ว่ามันจะรังเกียจไอ้พายที่เป็นเกย์ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นตำแหน่งผัวหลวงจึงตกเป็นของไอ้ธันว์ที่เคยครอบครองดวงใจน้อยๆของไอ้พายไว้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้รักไอ้พายในเชิงชู้สาวแต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่ห่วงใยดูแลกันมาตลอด ไอ้พายมันทำใจได้นานแล้วครับแล้วก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพิ่งจะเลิกกันตอนเข้าปีหนึ่ง ตอนนี้มันยังโสดอยู่และก็คงจะโสดไปอีกนานเพราะมันคบกับคนอื่นได้ยากขึ้นเนื่องจากมันกำลังเป็นดาราวัยรุ่นหน้าใหม่ที่ถูกจับตามอง



“ห่า ดีเหลือเกินพวกมึง เพื่อนหายไปคนไม่มีใครคิดจะสนใจไงวะ เกิดมันไปโดนฆ่าหมกป่าอยู่ที่ไหนจะทำไงวะ”ผมบ่นพวกมันก็ไม่ได้สะทกสะท้านกันหรอกครับ ผมรู้ว่าพวกมันก็ห่วงไอ้พายกันนั่นแหละ แต่ผมอาจจะห่วงมากเกินไปสักหน่อย ไหนๆทุกคนก็เต็มใจยกมันเป็นเมียผมนี่ จะห่วงมากกว่าคนอื่นก็คงไม่แปลก อีกอย่างไอ้พายมันชอบหายไปแบบนี้ซึ่งก็ไปถ่ายแบบบ้าง ถ่ายรายการบ้าง ถ่ายละครบ้างทุกคนเลยชินกัน ผมกดโทรออกหาไอ้ธันว์ที่เรียนอยู่คณะวิศวะไม่นานมันก็รับสาย



“เหี้ยธันว์ พายมันบอกมึงป่ะว่าไปไหน ทำอะไร กลับเมื่อไหร่ มันเอารถกูไปเนี่ย”ผมใส่เป็นชุด



“สัด รัวเลยนะมึง มันบอกกูว่าจะไปถ่ายละครเมื่อวานนี้ที่นครนายก กลับวันนี้เย็นๆ มันเอารถมึงไปเพราะมันเอารถตัวเองไปแต่งมึงก็รู้นี่ แล้วทำไมมึงไม่โทรหามันเองวะ”



“สัด ถ้ากูโทรหามันติดกูไม่โทรหามึงหรอกควาย แล้วนี่จะมาเจอกูที่คณะป่ะ ไปแดกข้าวกัน พวกมันอยู่ครบทุกตัวอ่ะ”



ทุกตัวที่ผมพูดถึงนั้นถึงกับถลึงตามอง สรรเสริญผมกันใหญ่ เรียกตัวผิดตรงไหน เจอหน้าที่ไรก็เรียกกันแต่เหี้ยๆ แล้วเหี้ยมันไม่เรียกเป็นตัวหรือไงวะ พวกเพื่อนใหม่ที่คณะผมกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาสนิทกันได้ก็เพราะมีผมเป็นตัวเชื่อม ผมเองก็สนิทกับเพื่อนพวกมันเหมือนกัน แต่นานๆจะมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่สักที เพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ก็ติดแฟนกันทั้งนั้น



ไอ้ธันว์บอกว่าจะมาแต่ขอไปส่งสาวก่อน ได้หญิงใหม่ตั้งแต่เปิดเทอมไวไฟเป็นบ้า ผมก็เลยนั่งรอมันอยู่ตรงนั้น วันนี้เปิดเทอมสัปดาห์ที่สองแล้วแต่ผมเพิ่งมามหาวิทยาลัยซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร ผมทำเรื่องลาอาจารย์เอาไว้แล้วเพราะไม่อยากมีปัญหา อีกอย่างสัปดาห์แรกของการเปิดเทอมก็ยังไม่ได้เรียนอะไรมากอยู่แล้ว ยกเว้นไอ้คิมที่เรียนเภสัชเพื่อเอาไปสืบทอดกิจการที่บ้านของมันที่เรียนหนักตั้งแต่เปิดเรียนเลย แต่มันหัวดีเรียนไปเล่นไปก็ไม่เคยเกรดตกสักที



“เห้ยๆ”ไอ้โอ๊คเอาโอนิสึกะสะกิดพวกผมทุกคนใต้โต๊ะ ปากก็บุ้ยใบ้ไปที่ทางเดินหน้าคณะ ไอ้พวกนั้นหันไปมองกันหมด แต่ผมไม่สนใจแย่งขนมไอ้โฟมกินต่อ



“หวัดดีค่ะ”



“หวัดดีคร้าบบบบ”ทุกตัวต่างตอบรับน้ำเสียงหวานใสนั่น แถมยังทำตาเยิ้มกันอีก ผมเลยอดที่จะหันกลับไปมองไม่ได้  น้องปีหนึ่งในชุดนักศึกษาเรียบร้อยเต็มยศยืนยิ้มอยู่ข้างหลังผม เธอน่ารักมากจนไอ้พวกเพื่อนผมถึงกับทำท่าอยากจะเขมือบลงท้อง ผมเหลือบตามองป้ายชื่อที่น้องเขาห้อยคอไว้เพราะยังอยู่ในช่วงรับน้อง



น้ำผึ้ง...จากรอยยิ้มและใบหน้าก็ท่าทางจะหอมหวานสมชื่อจริงๆ



“ไอ้เหี้ย พวกมึงเก็บอาการกันหน่อย น้องเขากลัวพวกมึงหมดแล้วควาย”ผมหันไปด่าให้ก่อนจะหันกลับมามองน้องเขาอีกรอบ ถามว่าชอบไหมก็ชอบนะครับแต่ยังไม่โดนเท่าไหร่



“น้องมีอะไรครับ”



“คือพี่ๆเขาให้มาขอลายเซ็นพี่ปีสองค่ะ”



“แล้วไงครับ? จะมาขอเฉยๆไม่ได้นะครับต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนด้วย”ไอ้โฟมรีบเสนอหน้าทันที หน้าตามันเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมากแต่ต่อให้หยอดยังไงเหยื่อก็คงไม่ติดในเมื่อหน้าตามันน่ารักสูสีกับน้องเขาเลย



“แล้วต้องทำยังไงพี่ๆถึงจะยอมเซ็นให้คะ?”น้องน้ำผึ้งเอียงคอถามอย่างน่ารัก ที่พวกผู้หญิงด้วยกันชอบบอกว่าแอ๊บ ซึ่งแน่นอนว่าคงซ้อมหน้ากระจกมาอย่างดี ท่าทางเรียบร้อยแต่เนื้อแท้คงไม่ใช่เพราะคงไม่มีผู้หญิงเรียบร้อยที่ไหนใจกล้าเดินเข้ามาหารุ่นพี่ผู้ชายที่นั่งกันเป็นฝูงคนเดียวแบบนี้



“เอาเบอร์มาแลกใจ เอ้ย มาแลกไปอ่ะครับ เบอร์ไม่มาลายเซ็นไม่ไป โดนซ่อมนะครับน้อง”ไอ้โอ๊คมันสานต่อทันที ตบท้ายด้วยการขู่อีกนิดหน่อย แต่สำหรับน้องปีหนึ่งคำว่าซ่อมนี่น่ากลัวพอๆกับได้เอฟวิชาหลักเลยนะ คณะพวกผมยิ่งรับน้องโหดอยู่ด้วย แต่ความโหดก็ขึ้นอยู่กับระดับชั้นปีด้วย ปีสามเป็นพี่ว๊าก ปีสองก็มีหน้าที่ดูแลน้องคอยโอ๋แต่ก็ไม่ได้มากนัก ส่วนปีสี่ก็มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและดูแลอยู่ห่างๆ จะลงมาแสดงองค์ก็ต่อเมื่อต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น



“งั้นก็ได้ค่ะ”



พอน้องมันตกลงแต่ละคนก็หูหางกระดิกกันใหญ่ ไอ้คิมที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยก็เสือกยื่นกระดาษให้น้องเขาจดเบอร์ลงไปด้วย ได้ข่าวว่าอยู่คนละคณะเลยนะมึงไอ้เพื่อนชั่ว



“แล้วพี่ล่ะคะ?”



“ไม่เป็นไรครับ" ผมเซ็นชื่อลงไปในสมุดโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร ผมไม่อยากแกล้งน้อง ที่สำคัญผมไม่อยากได้เบอร์เพราะไม่รู้จะเอามาทำไมแต่ตอนที่ผมยื่นสมุดกลับคืนไปน้องก็ยัดกระดาษโน้ตใบเล็กๆสีชมพูที่ไม่รู้ว่าน้องเขาหยิบมาตอนไหนใส่มือผมมา บนกระดาษมีชื่อพร้อมกับเลขทั้งหมดสิบหลักมองดูก็รู้ว่ามันคืออะไร



“พี่ชื่ออะไรคะ?”



“น่านครับ น้ำน่าน”



“ชื่อเราคล้ายกันเลยอ่ะพี่ น้ำผึ้งนะคะ ขอบคุณสำหรับลายเซ็นค่ะ”แล้วน้องเขาก็เดินจากไป ส่วนไอ้พวกเพื่อนเวรทั้งหลายก็โอดครวญขึ้นมาทันที



“ไอ้ห่า เสร็จไอ้น่านอีกละคนนี้ นั่งหัวโด่กันตั้งหลายคนแต่ถามชื่อไอ้น่านคนเดียว ช่วงนี้มึงเก็บเนื้อเก็บตัวไปเลยไอ้สัด น้องๆหันมาสนใจมึงหมดพวกกูอดแดกตลอดเลย”ไอ้หมวยมันโวยวาย



“ห่าไร กูไม่สนใจหรอก อยากได้มึงก็ไปตามจีบเอาเองสิวะ”ผมวางกระดาษโน้ตที่ได้มาไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ บอกแล้วว่าคนนี้ไม่โดน



“เห็นหงิมๆแต่ก็แรงใช่ย่อยนี่หว่า”ไอ้โอ๊คมันหยิบกระดาษโน้ตที่เบอร์โทรศัพท์มาดูแล้วก็พูดขึ้นมา



“ทำไมวะ?”ไอ้คิมถามก่อนจะแย่งขนมไอ้โฟมมากิน ไอ้ห่านี่กินเกือบตลอดเวลาแต่ไม่เห็นจะอ้วน มันเอาไปเก็บไว้ตรงไหนวะ



“มึงดูเบอร์ที่น้องให้มาเด้ แต่ละคนได้ไม่เหมือนกันเลยห่า แต่กูว่าที่ให้ไอ้น่านอ่ะของจริงชัวร์ มึงไม่สนงั้นกูขอนะ”ไอ้โอ๊คเอากระดาษที่มีเบอร์มาเรียงๆกัน ก่อนจะเอ่ยปากขอ



“เออ”แล้วพวกมันก็แย่งกันใหญ่ยกเว้นไอ้เต้ที่คั่วอยู่กับเด็กคณะนิเทศน์ตั้งแต่ก่อนปิดเทอมเลยไม่ค่อยจะสนสักเท่าไหร่



“ไอ้พวกเหี้ย!”คำเรียกที่ทำพวกผมสะดุ้งกันทั้งกลุ่ม ดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงแบบนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร



“แหม มึงระบุด้วยสิว่าเหี้ยตัวไหน เรียกแบบนี้พวกกูหันทั้งกลุ่มนะมึง”ไอ้โอ๊คหันไปต่อปากต่อคำกับเอเชีย สาวที่สวยที่สุดในรุ่นมีตำแหน่งเป็นดาวคณะพ่วงท้ายชื่อ หน้าตาสวยหวานซึ้งแต่นิสัยห้าวหาญตรงข้ามกับรูปร่างหน้าตาสุดๆ ปากหมาสูสีกับไอ้โฟมมาก ด่ากันทีนี่มันหยดติ๋ง



“เหี้ยทุกตัวนั่นแหละไอ้โอ๊ค ไอ้โฟม ไอ้เต้ พวกมึงมานั่งสุมหัวกันตรงนี้ไม่คิดจะไปช่วยงานพวกกูหน่อยเหรอ ปิดเทอมก็หาย เปิดเทอมมายังทำตัวไร้สาระเลื่อนลอยกันอีก พวกกูเตรียมรับน้องเหนื่อยกันสายตัวแทบขาดแล้วเนี่ย”เอเชียมันคงเก็บกดเลยใส่ไม่ยั้ง มันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักศึกษาของคณะที่รับผิดชอบเรื่องด้านสวัสดิการซึ่งงานหนักไม่ใช่น้อย ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ถึกอย่างมันเลยวิ่งวุ่นไปทั่ว ปิดเทอมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะต้องมาเตรียมงงานกับพวกคณะกรรมการ



“เอ้า แล้วทำไมมึงไม่บ่นไอ้น่านมั่งวะ แม่งสองมาตรฐาน”ไอ้โฟมโวย เพราะมันขี้เกียจตัวพ่อ แถมยังไม่ค่อยชอบกิจกรรมรับน้องอีกต่างหาก มันบอกว่าการเข้าว๊ากเป็นเรื่องไร้สาระ ทำไมมันต้องมานั่งดูรุ่นพี่ทำการแสดงด้วย ถ้าไม่ติดว่าจะไม่มีเพื่อนมันจะไม่เข้ากิจกรรมแล้ว



“เพราะกูรู้ไงว่าน่านติดธุระ แต่ไหนๆก็มาแล้วก็มาช่วยงานกันด้วยนะน่าน”



“อืม ได้ แต่วันนี้คงไม่ได้ว่ะ เรารับงานไว้”ผมไม่ค่อยยุ่งกับกิจกรรมของคณะ ตอนปีหนึ่งก็ไม่ได้ลงกิจกรรมเพราะมีเรื่องวุ่นวายที่บ้าน ทำให้ไม่ได้มาร่วมรับน้องเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ตอนแรกก็โดนพวกรุ่นพี่กับเพื่อนเขม่นอยู่เหมือนกันแต่พอรู้ว่าผมมีปัญหาอะไรก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก บวกกับสภาพผมในตอนนั้นทำให้พวกรุ่นพี่ไม่วุ่นวายกับผมมาก จะมีก็แค่มาเกลี้ยกล่อมให้เป็นตัวแทนคณะประกวดดาวเดือน ซึ่งผมไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิดเลยปฏิเสธไป ตำแหน่งเดือนคณะเลยตกไปเป็นของไอ้วินเพื่อนอีกกลุ่มแทน แต่พอเรื่องวุ่นวายที่ทำให้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรผ่านไปสักพักผมก็เริ่มปรับตัวได้ เวลามีกิจกรรมอะไรผมก็พยายามจะเข้าร่วมถ้ามันไม่วุ่นวายมากเกินไปนัก



เอเชียหันไปบ่นพวกไอ้โอ๊คที่กวนตีนมันอีกรอบจนไอ้ธันว์มาถึงแล้วหยอดมุกเสี่ยวใส่ จึงหันมาด่าไอ้ธันว์แทนก่อนจะสะบัดก้นเดินหนีไป เอเชียไม่ชอบคนเจ้าชู้เลยลับฝีปากกับไอ้ธันว์บ่อยๆ ส่วนไอ้ธันว์ตอนแรกก็คิดจะจีบเอเชียแต่พอเจอปากหมาๆเข้าก็ถอยขบวนหนีแทบไม่ทัน



“วันนี้มึงไปทำงานที่ไหนวะ”ไอ้ธันว์ถาม ตอนนี้พวกผมย้ายมานั่งร้านก๋วยเตี๋ยวติดแอร์แถวหน้ามหาวิทยาลัย ไอ้โอ๊คกับไอ้เต้ฟาดกันไปคนละสองชามแล้ว กำลังสั่งชามที่สาม



“ที่โรงแรม...”ผมบอกชื่อโรงแรมไปมันก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะบอกว่าโรงแรมหรูสัด



“เอารถกูไปก่อนไหม กูว่ายังไงไอ้พายก็กลับมาไม่ทันมึงหรอก”ไอ้คิมเสนอ แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะยังไงโรงแรมนั่นก็อยู่ในเมืองเดินทางไม่ยากเสร็จงานดึกๆก็เรียกแท็กซี่กลับบ้านได้ แต่ถ้ามีรถเองก็สะดวกกว่า



“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกูขี่ไอ้หวานไปก็ได้”ฟีโน่สีน้ำตาลที่ไอ้พายตั้งชื่อว่าไอ้หวาน ตอนแรกไอ้คิมก็งงว่าทำไมต้องหวานด้วย แต่ไอ้พายบอกว่าก็สีน้ำตาลไม่หวานเหรอ น้ำตาลก็ต้องหวานสิ ไอ้คิมจ้องหน้าไอ้พายอยู่อึดใจก่อนจะเดินหนี มันคงเพลียกับความคิดพิลึกพิลั่นของเพื่อนซี้ ซึ่งที่จริงมันควรจะชินเพราะคบกันมาตั้งนานแล้ว ฮ่าๆ



“เดี๋ยวกูไปส่งมึงก็ได้ วันนี้กูว่างไม่ได้ไปเอาสาวที่ไหน”



“สัด หิมะจะถล่มกรุงเทพป่ะวะ มีด้วยเหรอวันที่ไอ้ธันว์ไม่ต้องเสียน้ำ”ไอ้โฟมเริ่มเปิดกรงปล่อยลูกๆออกมาเดินเล่น



“หึ เมื่อคืนกูเสียเผื่อไว้แล้วเว้ย เกือบเช้า”ไอ้ธันว์กระตุกยิ้มมุมปาก ถ้าผู้หญิงมาเห็นคงกรี๊ดสลบ ดูดีได้อีก ก็นะมีดีกรีเป็นถึงเดือนวิศวะพ่วงด้วยเดือนมหาวิทยาลัย ใครไม่กรี๊ดก็บ้าแล้ว



“ไอ้สัด มีงี้ด้วย ใครวะ”



“พี่อิงค์”



“อิงค์ไหนวะ?”ไอ้เต้ขมวดคิ้ว



“พี่อิงค์ พยาบาลที่เป็นพรีเซนเตอร์โครงการ...ของคณะพยาบาลป่ะที่เคยคบกับอดีตเดือนมหาลัยคณะวิทย์ที่เพิ่งจบไปป่ะวะ?”ไอ้คิมข้อมูลแน่นมาก



“เออ คนนั้นแหละ”



“เจสเข้ ไอ้เหี้ยธันว์ ของสูงนี่หว่า เห็นว่าเล่นยากพี่แกหยิ่ง แฟนแต่ละคนก็โพรไฟล์ดีทั้งนั้น มึงไปสอยมาได้ไงวะ?”ไอ้โอ๊คดูตื่นเต้นมากอย่างกับมีส่วนได้ส่วนเสียด้วย



“หึ ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่หว่า แล้วนี่ใคร กูก็เดือนมหาลัยนะเว้ย”ไอ้ธันว์กระตุกยิ้มได้กวนอวัยวะเบื้องล่างมาก แต่ถึงมันไม่เป็นเดือนมหา’ลัย สาวคนไหนก็ปฏิเสธมันยากอยู่แล้วเพื่อนผมมันมันดีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติขนาดนี้



“สัด ทำเป็นเก๊กนะมึง แล้วเป็นไงเด็ดป่ะ?”ไอ้หมวยที่นั่งข้างๆเอาไหลกระแทกไอ้ธันว์เบาๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น



“ก็ดี”



“กูว่าไม่แค่ก็ดีแล้วม้างงง เกือบเช้าเนี่ย”ไอ้คิมยิ้มอย่างรู้ทัน เพราะรู้เช่นเห็นชาติกันมานาน



แล้วบทสนทนาก็กลายเป็นการซักเรื่องบรรดาผู้หญิงที่ไอ้ธันว์ควงอยู่ในตอนนี้จนกระทั่งกินอิ่ม ไอ้คิมขอตัวไปเรียน ไอ้ธันว์กลับคอนโดไปนอน ผมไล่มันกลับไปเองไม่ต้องรอไปส่งผมตอนเย็นเพราะเห็นว่าเมื่อคืนเสียน้ำไปเยอะแล้วยังต้องมาเรียนคาบเช้าคงจะเพลียไม่น้อย มันก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของไอ้ธันว์ เพราะต่อให้เที่ยวหัวหกก้นขวิดยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องเรียน ผมกับพวกไอ้โอ๊คมีเรียนบ่ายแต่พอเข้าเรียนแล้วก็ไม่มีอะไรมากอาจารย์แค่ชี้แจงรายละเอียดของรายวิชาและบอกคร่าวๆว่าเทอมนี้พวกผมต้องเจอกับอะไรบ้างแล้วก็ปล่อยกลับ ผมเลยขับไอ้หวานกลับบ้านเพื่อมาเตรียมตัวไปทำงานในตอนเย็น





(ต่อด้านล่าง)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2016 21:36:46 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #4 เมื่อ27-07-2015 20:48:34 »

(ต่อ)


ผมกดรีโมทเพื่อเปิดรั้วบ้านก่อนจะขับไอ้หวานเข้าไปจอดในโรงรถ หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านที่เปิดขายที่ดินแล้วให้จัดการปลูกบ้านกันเอง ดังนั้นบ้านแต่ละหลังจึงมีสไตล์ที่แตกต่างกันมาก บ้านของผมเป็นบ้านไม้สองชั้นสไตล์รีสอร์ท หน้าต่างและประตูเป็นกระจกเกือบทั้งหลังเพราะผมชอบมองออกมาด้านนอกบ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ดูร่มรื่นและมีดอกไม้ไทยส่งกลิ่นหอมเย็นทั้งกลางวันและกลางคืน อาฝนเป็นคนชอบปลูกต้นไม้และดอกไม้มาก ทำให้ผมซึมซับมาตั้งแต่เด็กและชื่นชอบกลิ่นของพวกมัน หน้าบ้านที่พวกเพื่อนผมทุกคนถึงกับออกปากว่าร่มรื่นเหมือนหลุดเข้ามาในสวนพฤกษชาติ หลังบ้านนี่อาจจะเรียกว่าป่าเลยก็ได้เพราะมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น บางต้นมีอยู่แล้วตั้งแต่ที่พ่อผมซื้อที่ไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนสร้างบ้านก็ไม่ได้ตัดออกพยายามหลบเลี่ยงมากที่สุดแล้วก็มีปลูกเพิ่มขึ้นเช่นต้นสนหางม้า สนฉัตร แต่มีอยู่หนึ่งต้นที่เป็นจุดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของพวกเพื่อนๆผมมากก็คือต้นจันทร์ขนาดใหญ่ที่ถูกบ้านปลูกทับโผล่ต้นขึ้นมาริมสระว่ายน้ำ บริเวณนี้เป็นจุดสังสรรค์ของพวกผม กินเหล้าเมาหัวราน้ำแต่ไม่มีนารีให้เคล้าเพราะผมไม่นิยมให้หิ้วหญิงเข้าบ้าน อยากได้ก็ให้จัดข้างนอกให้เสร็จ น้ำแตกแล้วแยกทางเป็นอันรู้กันทุกตัว



 ผมอยู่บ้านนี้กับพายสองคนตั้งแต่เราสอบติดและย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ ตอนแรกอาฝนจะให้ไอ้คิมกับไอ้ธันว์มาอยู่ด้วยเพราะมีทั้งหมดสี่ห้องนอน แต่แม่ไอ้ธันว์ซื้อคอนโดไว้ให้แล้วมันจึงแยกตัวไปอยู่คนเดียวเหมาะกับชีวิตโฉดๆของมัน ไอ้คิมก็อยู่คอนโดที่ซื้อไว้ตั้งแต่สมัยที่พี่ชายมันเรียนหมอซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัย สะดวกตอนไปเรียนและติวหนังสือกับเพื่อนดึกๆดื่นๆ แต่พอวันหยุดมันก็จะมานอนกับพวกผม



“ครับอาฝน”เหมือนกับอาฝนมีตาทิพย์ ทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาอาก็โทรเข้ามาพอดี



“น่าน อย่าลืมเอาของฝากไปแจกเพื่อนๆนะลูก”



“ครับอา น่านไม่ลืมหรอก น่านบอกพวกมันแล้วให้มันเข้ามาเอาพรุ่งนี้เพราะวันนี้น่านไม่อยู่ ตอนเย็นน่านมีงานครับอา”ผมออกจากลำพูนเมื่อคืนเพิ่งมาถึงกรุงเทพเมื่อเช้านี้ ใจจริงตั้งใจจะอยู่ต่ออีกหนึ่งวันแต่มีงานที่รับปากไว้แล้วผมจึงต้องกลับก่อน อาให้ลุงปันขับรถมาส่งพร้อมกับของฝากมากมายเต็มหลังรถ ทั้งของกินของใช้ที่ตอนนี้วางกองอยู่ในห้องครัวเนื่องจากผมไม่มีเวลาจัด แต่พวกที่เป็นผลไม้ก็จับยัดใส่ตู้เย็นไว้แล้ว โดยเฉพาะสตรอว์เบอร์รี่ของโปรดไอ้คิมกับไอ้พาย



“อย่าลืมให้พายลองใช้ครีมอาบน้ำกับครีมทาผิวกลิ่นใหม่นะ ได้ผลยังไงบอกอาด้วย”อาฝนกำลังสนใจเกี่ยวการทำครีมอาบน้ำ ครีมบำรุงผิวที่ทำมาจากธรรมชาติ สกัดจากดอกไม้ต่างๆ เวลาคิดอะไรใหม่ได้ก็จะให้ผมกับพายใช้ก่อน เรียกง่ายๆก็คือใช้หลานกับเพื่อนหลานเป็นหนูทดลอง ซึ่งไอ้พายมันชอบมาก ในห้องนอนของมันมีตู้สำหรับเก็บน้ำหอมโดยเฉพาะมีแทบทุกกลิ่น ทุกยี่ห้อ รวมไปถึงพวกเครื่องหอมของไทยๆด้วย เข้าขากับคุณอาเป็นอย่างดี ส่วนผมเพราะอาฝนชอบและเขาเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กเลยทำให้ผมเคยชินไปด้วย แต่ก็ไม่ได้คลั่งไคล้เหมือนไอ้พาย



“ครับอา”



ผมคุยกับอาเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะวางสาย ขึ้นไปเช็คอุปกรณ์สำหรับทำงานในเย็นนี้ กล้องคู่ใจกับเลนส์ที่ราคาสูงลิบเอาเรื่อง แต่ผมไม่เคยเสียดายเงิน ทุ่มไม่อั้นเพื่อสิ่งที่ผมรัก ผมชอบการถ่ายรูปและศึกษามานาน ถ่ายได้ทั้งวิว คน สิ่งของ อัพรูปขึ้นบล็อคตัวเองจนมีคนสนใจและมาทาบทามให้ไปทำงานด้วย แต่ผมอยากทำเป็นงานอดิเรกมากกว่าจะทำเป็นอาชีพเพราะผมมีอาชีพที่อยากทำอยู่แล้วและอยากทุ่มเทเวลาในการร่ำเรียนในสิ่งที่ฝัน จึงขอรับงานเป็นจ๊อบๆไปซึ่งพี่เขาก็ไม่ว่าอะไร ผมทำงานนี้มาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง รับเฉพาะงานที่ผมสะดวกและสนใจเท่านั้น เรื่องรายได้ผมไม่ได้ซีเรียสมากนักเพราะผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ที่ทำก็เพราะใจรัก แต่พี่ที่เขาดูแลผมก็จะจัดการเรื่องการเงินให้ ได้มาเท่าไหร่ผมก็รับเท่านั้นซึ่งมันก็ค่อนข้างสูงพอสมควร



พี่ยศโทรมาคอนเฟิร์มเรื่องเวลานัดอีกครั้งกันพลาด วันนี้ผมต้องไปถ่ายรูปในการแต่งงานของญาติพี่ยศซึ่งเป็นเจ้าของสตูดิโอถ่ายภาพที่ผมทำงานให้ ความจริงเจ้าสาวอยากให้ผมไปถ่ายรูปงานเช้าด้วยแต่เนื่องจากผมมีธุระที่บ้านเลยกลับมาไม่ทันจึงถ่ายแค่งานเลี้ยงในช่วงค่ำแทน



ตอนแรกตั้งใจจะขี่ไอ้หวานมาแต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะนั่งแท็กซี่มาแทนเพราะจะได้ไม่ต้องหาที่จอด อีกอย่างผมเป็นห่วงกล้องลูกรักด้วยนั่งแท็กซี่น่าจะปลอดภัยกว่า ผมถึงโรงแรมตอนสี่โมงกว่าๆมาเตรียมตัวก่อนเวลางานและถูกเรียกให้ไปถ่ายตอนที่เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวแต่งตัว ก่อนจะลงมาแสตนด์บายรอในห้องจัดเลี้ยง



“งานเมื่อเช้าเป็นไงบ้างพี่”ผมถามพี่โด้ที่เป็นมือขวาของพี่ยศ เพราะเป็นงานของญาติเจ้าของสตูดิโอ ทุกอย่างเลยจัดเต็มและเลือกช่างภาพฝีมือฉกาจมาทั้งนั้น ยกเว้นผมแต่เจ้าสาวเขาชอบรูปแคนดิตที่ผมถ่ายเลยเจาะจงมาเป็นพิเศษ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า บางทีถ้าเขาเห็นรูปแล้วอาจจผิดหวังก็ได้



“ได้แต่รูปแจ่มๆทั้งนั้นเลือกกันไม่ถูกอ่ะ เจ้าบ่าวหล่อ เจ้าสาวสวย สถานที่ แสงสีเพอร์เฟ็คมากถ่ายยังไงก็สวย พี่นี่กดเพลินเลย เสียดายที่น่านจะมา”



ผมยิ้มให้พี่เขาแล้วอยู่คุยอีกสองสามคำก็ออกไปหาอะไรดื่ม จนเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงมาจากห้องเพื่อรอรับแขกหน้างานผมจึงออกไปถ่ายรูป เพราะผมไม่ใช่ช่างภาพหลักของงานที่วันนี้มีถึงสามคนแล้ว ก็เลยไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ ตอนที่บ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีเพื่อขอบคุณแขกเหรือจึงหลบมุมมายืนจิบเครื่องดื่มแก้คอแห้ง ทุกคนที่มาในงานนั้นยิ้มแย้มแจ่มใสแสดงความยินดีกับความรักของหญิงชายคู่หนึ่ง บรรยากาศดูชื่นมื่นอบอวลไปด้วยความรัก แต่ผมไม่อินกับสิ่งพวกนี้เลย ผมยืนมองบ่าวสาวด้วยสายตาว่างเปล่า เพราะแบบนี้ผมถึงไม่มั่นใจว่าจะถ่ายรูปออกมาดีหรือเปล่า ในเมื่อผมเข้าไม่ถึงความรักในรูปแบบนี้เลยจริงๆ




รักแท้ที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันนะ...




หลังจากกล่าวบนเวทีเสร็จบ่าวสาวก็เดินลงมาทักทายแขกและถ่ายรูปตามโต๊ะต่างๆ จนกระทั่งแขกทยอยกันกลับในช่วงเวลาสองทุ่มนิดๆ พี่ยศบอกให้ผมกลับก่อนได้เลย ให้เหลือแต่ช่างภาพหลักของงานก็พอ ผมเลยเดินออกมาจากห้องจัดเลี้ยงเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำแต่ก็มีแขกของงานหลายคนใช้อยู่ จึงเลี่ยงไปใช้อีกโซนแทนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นโซนที่กำลังจัดงานอยู่เช่นกัน รูปที่ตั้งอยู่หน้างานทำให้ผมต้องหยุดยืนมองอยู่นาน ด้านหน้าห้องจัดเลี้ยงถูกจัดให้เป็นเหมือนแกลอรี่จัดนิทรรศการเล็กๆ เป็นรูปของการออกแบบเครื่องประดับที่ถูกร่างด้วยดินสอ ตั้งแต่เส้นแรกที่ถูกขีดเขียนลงบนกระดาษเปล่า รูปถัดไปก็เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้นไล่ไปเรื่อยๆต่อกันสี่รูป ซึ่งรูปสุดท้ายจะเป็นรูปเครื่องประดับที่เสร็จสมบูรณ์ลงสีเรียบร้อยแล้ว ผมเดินดูจนครบทั้งสิบสองรูป ทำให้รู้ว่าเครื่องประดับเซ็ตนี้มีทั้งหมดสามชิ้นคือสร้อยคอ สร้อยข้อมือและต่างหู ขนาดในรูปยังสวยจนผมประทับใจ แล้วของจริงจะสวยมากขนาดไหนอยากจะเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง



“อ้าว มาทำอะไรตรงนี้คะ อีกห้านาทีจะเริ่มโชว์แล้วนะคะ เชิญด้านในเลยค่ะ”จู่ๆก็มีผู้หญิงเดินมาทักผมที่กำลังดูรูปเพลินๆจนลืมเข้าห้องน้ำไปเลย ดูจากการแต่งตัวของเธอกับบัตรที่ห้อยคอคงจะเป็นสต๊าฟของงาน ผมกำลังจะอ้าปากพูดแต่ก็ถูกเธอดึงเข้าไปในงานอย่างงงๆ แล้วไฟก็ดับพรึ่บลงทันทีพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าโชว์ได้เริ่มแล้ว และการที่ผมจะเดินออกไปตอนที่งานเริ่มแบบนี้ก็คงจะเสียมารยาทน่าดูเลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่เหมือนสต๊าฟผู้หญิงที่พาผมเข้ามาจะไม่ยอมรามือจากผมไปง่ายๆ เธอดึงให้ผมเดินไปรวมกับพวกกลุ่มนักข่าว ช่างภาพต่างๆที่ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปกันอย่างไม่มีใครยอมใคร



ผมอยู่ในงานจนกระทั่งโชว์จบ ได้ถ่ายรูปเซ็ตสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ของงานมาบ้างนิดหน่อย เพราะกล้องกับเลนส์ที่เตรียมมาไม่ได้ใช้เพื่อถ่ายงานแบบนี้ แอบเสียดายอยู่บ้างเพราะมันสวยมากจริงๆ จนอยากจะเห็นหน้าคนที่ออกแบบแต่ในงานไม่ได้มีการเปิดเผยตัวตนผู้ที่ออกแบบเครื่องประดับชุดนี้รู้แต่เพียงชื่อโรซี่หรือโรเซ่อะไรสักอย่าง


 
พอออกมาจากงานก็ได้ฤกษ์เข้าห้องน้ำสักที พอดีกับที่ไอ้ธันว์โทรมาบอกว่าสะดุ้งตื่นแล้วนอนไม่หลับแล้วยังไม่มีอารมณ์ออกไปหาสาวกล่อม ผมเลยให้มันออกมาหาอะไรดื่มที่โรงแรมแล้วถือโอกาสใช้มันขับรถไปส่งที่บ้านเสียเลย



“ไอ้ห่ามาไม่ถึงชั่วโมงได้เบอร์มาสองคนแล้วไอ้สัด”ผมอดไม่ได้ที่จะด่าไอ้คนที่นั่งข้างๆ มันก็หันมายกยิ้มยักคิ้วกวนตีนใส่ แต่ดูแล้วจะไม่ใช่สเป็คมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เอาฟรีมันก็ไม่เกี่ยงแก้ขัดไปก่อน แต่คืนนี้สาวๆพวกนั้นคงจะอดเพราะพี่ท่านอยากจะเก็บน้ำไว้กับตัวก่อน



“ซ้ายมือโต๊ะด้านในสุด ชุดดำสเป็คมึงเลย”ไอ้ธันว์พูดขึ้นกระตุกยิ้มเลวได้อีก ผมทำทีแกล้งทำมองไปรอบๆร้านก่อนจะไปหยุดตรงเป้าหมายที่เหมือนจะมองผมอยู่ก่อนแล้ว เธอยิ้มพร้อมกับยกแก้วขึ้นทักทาย ผมสแกนทางกายภาพคร่าวๆแล้วยิ้มตอบเธอไปก่อนจะหันกลับมาสนใจแก้วเหล้าในมือต่อ รอเวลาอีกนิด...



“ทอดสะพานจนเหลืองเกรียมแล้วไอ้ห่า รีบข้ามไปแดก”



“จำเป็นต้องรีบ?”เลิกคิ้วถาม



“เหอะ ไอ้สัด”เป็นอันรู้กัน ผมกับมันแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมากก็รู้ไปถึงตับไตไส้พุงเพราะคบกันมานานมาก สนิทกันชนิดที่เรียกว่าเอากับผู้หญิงอยู่ข้างๆกันเลยยังได้ แต่จะว่าไปผมกับมันก็เคยนอนกับผู้หญิงคนเดียวพร้อมกันนะ ตอนสมัยที่ไปเรียนแลกเปลี่ยน จะว่าคะนองก็ใช่แต่มันก็สนุกสุดเหวี่ยงมากจริงๆ



ไม่นานเกินรอ สาวชุดดำก็อัญเชิญตัวเองมานั่งข้างผมเพื่อพูดคุยทำความรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เจอกันในที่แบบนี้แค่ถูกใจ ตกลงกันได้จบที่โรงแรมไหนสักที่เช้ามาก็แยกทาง สำหรับค่ำคืนนี้ของผมก็คงไม่ต่าง พอได้เห็นเธอใกล้ๆถึงได้รู้ว่าหุ่นดีไม่หยอก หน้าอกไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็ก ทรวดทรงองค์เอวรับกันไปหมด กลมกลึงไปทุกส่วน ขาวมากด้วย ไอ้ธันว์ถึงขั้นมองตาไม่กะพริบแต่มันก็ไม่ได้แสดงอาการว่าอยากได้ เพราะสาวเจ้าเข้าหาผมอย่างชัดเจน แต่ถ้าเธอออกอาการว่าอยากได้มันด้วย ไม่แน่ว่าคืนนี้เราอาจจะได้ทำอะไรสนุกๆกันสามคน ก่อนที่ผมจะแยกตัวไปออกศึกไอ้ธันว์ก็ยัดสิ่งของที่ต้องใช้มาให้สองกล่อง



“กูรู้ว่ามึงอัดอั้นมานาน กล่องเดียวคงไม่พอ”อะนะ ก็ตั้งแต่ปิดเทอมผมไม่ได้ยุ่งกับใครเลย ใช้แต่แม่นางทั้งห้าปลอบลูกชายตัวเองเพราะต้องช่วยอาฝนทำงานและจัดการเรื่องต่างๆทดแทนช่วงเวลาที่ผมเรียนอยู่ที่กรุงเทพ ไอ้ธันว์ทิ้งรถไว้ให้ผมใช้ส่วนตัวมันเรียกเด็กสักคนให้มารับ เพราะเห็นผมจะได้สบายตัวมันเลยนึกอยากขึ้นมาบ้างทั้งที่ตอนแรกบอกว่าอยากเก็บแรงไว้





ผมเปิดห้องที่โรงแรมนั้น พอเข้าห้องได้เราก็ไม่พูดอะไรให้เสียเวลาและดูเหมือนว่าสาวชุดดำของผมจะใจร้อนมาก ผมยังไม่ทันขยับพ้นหน้าประตูเสื้อผ้าก็ถูกเธอจับถอดจนหมดก่อนที่เธอจะนั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจัดการกับเจ้าลูกชายผมที่ตื่นตัวสู้มือนุ่มนิ่มและริมฝีปากร้อนชื้น ผมทำได้แค่มองดูเธอสนุกสนานกับร่างกายของผม บางจังหวะก็เผลอตัวจิกผมเธอแล้วขยับเอวสวนเข้าหาจนเธอแทบจะสำลักแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับชอบด้วยซ้ำ สายตาที่ยั่วยวนยามช้อนตาขึ้นมองทั้งที่ลูกชายผมยังอยู่เต็มปาก ทำให้ผมอยากจับเธอมากระทำให้สาสม ยอมรับเลยว่าหน้ามืดและการกระทำของผมก็นำไปก่อนความคิดด้วยซ้ำ ผมจับเธอลุกขึ้นแล้วเป็นฝ่ายคุกเข่าลงใช้มือเดียวสอดเข้าไปในเดรสพอดีตัวสีดำของเธอรูดรั้งชั้นในลูกไม้เซ็กซี่ให้พ้นปลายขา ส่วนอีกมือควานหากล่องที่ไอ้ธันว์ให้มา จากที่จะใส่เองแต่ดูเหมือนว่าแอร์โฮสเตรสสาวคนนี้มีจิตวิญญาณการบริการที่น่าประทับใจจัดการสวมใส่ให้เสร็จสรรพ เมื่อเรียบร้อยแล้วผมจึงดันร่างกลมกลึงชิดติดกับประตูห้อง ดึงเดรสสีดำให้ขึ้นมากองที่หน้าท้องแบนราบ ช้อนขาขาวเรียวขึ้นข้างหนึ่งสอดใส่ส่วนที่พร้อมรบเข้าไป แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังไม่ขาดเพราะผมจัดให้ไม่ยั้ง ไม่สนใจว่าเสียงกึกๆของบานประตูที่เกิดจากแรงกระแทกกระทั้นจะรบกวนแขกห้องข้างเคียงหรือไม่ รอบแรกเราจบลงในเวลาไม่นานที่ตรงประตู ก่อนรอบสองจะเริ่มขึ้นทันทีที่โซฟา ไล่เรื่อยมาที่เตียงปิดท้ายที่ห้องน้ำ



เกือบตีสามตอนที่ผมมองนาฬิกา หยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็เห็นข้อความอวยพรจากไอ้ธันว์ให้สุขใจสบายตัวอย่าให้มีอะไรคั่งค้าง มีข้อความจากไอ้พายที่กลับถึงบ้านเมื่อสองชั่วโมงก่อนแล้วก็บ่นว่าผมไปไหนไม่ยอมบอก แต่จะบอกมันไปตอนนี้ก็กลัวมันจะตื่นขึ้นมาบ่นให้รำคาญหูอีกผมเลยปิดเครื่องแล้วล้มตัวลงนอน แต่ความตั้งใจที่อยากพักก็หายไปเมื่อร่างขาวๆในชุดคลุมอาบน้ำตามลงมาทาบทับบนตัวผมอีกรอบ



“ไม่เหนื่อยเหรอครับ?”ผมไล้มือไปตามใบหน้าสวย เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งเหมาะสมกับอาชีพ เพราะขนาดไม่มีเครื่องสำอางยังดูดี ไม่เหมือนบางคนที่พอล้างหน้าแล้วกลายเป็นอีกคนจนน่ากลัว



“ก็เหนื่อยนิดหน่อย แต่ฟ้ายังไหวนะหรือน่านไม่ไหวแล้ว หืม?”แววตาซุกซนขี้เล่น



“ก็ถ้าบอกว่าไม่ไหว ฟ้าจะยอมนอนเฉยๆไหม?”ก็เล่นมานั่งทับแบบนี้ผมจะเอามือไปไหวตรงไหนได้ก็เลยบีบขยำสะโพกพอดีมืออย่างเพลิดเพลิน



“ไม่อยู่แล้ว...ใครได้อยู่กับน่านแล้วนอนเฉยๆก็โง่แล้ว”เธอหัวเราะคิกคัก แล้วเริ่มปลดสายเสื้อคลุมอาบน้ำของผมและตัวเองออก จากนั้นก็เป็นไปตามแบบที่มันควรจะเป็นโดยที่เธอเป็นคนจัดการตั้งแต่เริ่มจนจบ ผมก็นอนสบายตัวไปสิครับ สองรอบจนเช้าของที่ไอ้ธันว์ให้มาหมดพอดีถึงได้นอนพักเอาแรงกันจริงๆ







*






ด้วยความที่เสียเหงื่อ เสียน้ำไปมากเลยทำให้อ่อนเพลียมากกว่าผมจะตื่นก็เกือบเที่ยง คนข้างๆผมยังหลับพริ้มอยู่เลย ก็นะถูกจัดหนักจัดเต็มจนเช้าไม่หลับเป็นตายก็ให้รู้ไป ผมรีบแต่งตัวแล้วออกมาโดยไม่ได้ปลุกเธอมาร่ำลา ก็แค่สนุกด้วยกันคืนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องลาหรือทิ้งอะไรไว้เพื่อติดต่อกันอีก แต่ถ้าเกิดบังเอิญเจอกันที่ไหนแล้วอยากจะรำลึกความหลังผมก็ไม่ขัดอยู่แล้ว โชคดีที่มีรถไอ้ธันว์ผมจึงกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วไปเรียนช่วงบ่ายทันอย่างฉียดฉิว



“ห่า กูรีบแทบตายเพื่อมาฟังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเหรอวะ”เนื่องจากอาจารย์ติดธุระเลยเข้ามาสั่งงานแล้วก็เลิกคลาส ทำให้ผมอดหงุดหงิดไม่ได้



“ก็ดีแล้วควาย จะบ่นทำเหี้ยอะไร ไปหาไรแดกกัน”ไอ้โฟมเอ่ยปากชวน พวกผมยังไม่ได้ขยับก้นไปไหนเพราะรอให้คนอื่นเดินออกจากห้องกันไปหมดก่อน



“สัดน่าน คอมึงอ่ะ กูเพิ่งเห็น ไปฟัดกับใครที่ไหนวะ”ผมขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มาเปิดกล้องหน้าส่องดูคอตัวเอง มุมปากกระตุกทันทีที่เห็น ตอนอาบน้ำผมรีบมากจนไม่ทันสังเกต



“ไอ้สัดยิ้มเลวอย่างนี้ เมื่อคืนมึงไปแซ่บมาสินะ ไม่มีชวน ที่มาช้าเพราะแบบนี้เองสินะ หน้าซีดๆเสียไปกี่น้ำละมึง”ไอ้โอ๊คโวยขึ้น ผมก็ยักไหล่แล้วบอกไปว่ายันเช้าเท่านั้นพวกมันเลยพร้อมใจกันประเคนนิ้วกลางมาให้



“ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับบุญวาสนาว่ะ ‘นางฟ้า’ มาจ่อถึงปากไม่แดกก็ควายละ”



พวกมันก็โวยกันแต่ไม่จริงจังนัก แล้วเคลื่อนย้ายพลกันออกจากห้องเพื่อไปหาอะไรกิน วันนี้ไอ้คิมกับไอ้ธันว์ไม่มาเพราะติดเรียน ส่วนไอ้พายตอนที่ผมกลับเข้าบ้านก็ไม่เจอมันแล้ว แต่รถผมยังจอดอยู่ที่เดิมเลยขับมา ส่วนรถไอ้ธันว์ผมส่งข้อความบอกให้มันไปเอาที่บ้านผมแทน



“เมียมึงโทรมา”ไอ้โฟมบอก ผมวางแก้วชาเขียวปั่นลง หยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะตอนเดินไปซื้อน้ำขึ้นมาดูมีสายไม่ได้รับจากไอ้พายสองสาย



“แล้วไมมึงไม่รับวะ”



“ขี้เกียจ”



ผมส่ายหน้าแล้วโทรกลับ พอได้ยินเสียงไอ้พายรับโทรศัพท์ก็รู้ทันทีเลยว่ามันต้องหาเรื่องมาให้ผมอีก



“น่านเพื่อนร้ากกกกกกกกกก”



“ค_ย อย่าทำเสียงแบบนี้ใส่กูห่า จะให้กูทำอะไร”



“คือ...คือว่า...”



“พูดมาอย่าลีลา”



“มึงว่างป่ะตอนนี้”



“ว่าง”



“งั้นไปเรียนแทนกูที ที่...”มันบอกรายละเอียดให้เสร็จสรรพ



“ทำไมกูต้องไปแทนวะ ให้เพื่อนมึงเช็คชื่อให้ก็จบ”



“อาจารย์พิเศษโหดโคตร แค่เช็คชื่ออย่างเดียวไม่ได้ เขานับหัวนักศึกษาด้วยเว้ย มึงก็แค่เข้าไปนั่งหลับก็ได้ ที่นั่งแถวหลังๆอ่ะ ครั้งก่อนกูไม่ได้เข้าเพราะติดงาน ครั้งนี้ไม่เข้ากูจะโดนเพ่งเล็งได้ เพราะงั้นมึงต้องช่วยกูนะ ครั้งเดียวจริงๆ น้า น้ำน่านผัวรัก”



“เออๆ ไอ้สัด”ผมด่ามันไปอีกที แต่ก็ยอมช่วย ข้าวปลาเลยได้กินเพราะต้องรีบเหาะไปคณะบริหารให้ทันเข้ารียน โชคดีที่ไปถึงทันเจอญี่ปุ่นกับตองเพื่อนไอ้พายที่หน้าห้องพอดี ทั้งคู่ชวนผมไปนั่งด้วยแต่ผมปฏิเสธไปเดินขึ้นไปนั่งด้านหลังสุด ถึงจะมีนักศึกษาเกือบเจ็ดสิบคนที่อาจารย์คงไม่สามารถจำหน้าได้หมดภายในเวลาไม่กี่วันแต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง เลยนั่งหลบๆอยู่กับผู้ชายตัวสูงๆซึ่งก็เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเพราะผมเป็นเพื่อนไอ้พายแต่ไม่เคยคุยกัน



เสียงคุยจ้อกแจ้กเงียบลงทันทีที่ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ผมเท้าคางมองผู้ที่เข้ามาใหม่ ท่าทางภูมิฐานสมกับเป็นอาจารย์แต่ดูจากหน้าตาแล้วก็ไม่น่าจะอายุเยอะ ที่เป็นอาจารย์พิเศษได้คงเพราะต้องเป็นพวกเนิร์ดคงแก่เรียนจบปริญญาเอกตอนอายุน้อยๆแน่ๆ ดูจากแว่นตาที่สวมใส่ก็น่าจะไม่คาดการณ์ผิดนัก ทว่ามันก็ยังดูขัดๆกับสไตล์การแต่งตัวที่ดูดี มีรสนิยม พอเริ่มสอนทุกคนก็ดูจะตั้งใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะสาวๆด้านหน้า ไม่รู้ว่าเพราะเสียงนุ่มๆและการอธิบายที่ชัดเจนเป็นขั้นตอนด้วยหรือเปล่าทำให้ผมเผลอจดตามที่เข้าพูดไปด้วย สักพักกระดาษสำหรับเซ็นชื่อเข้าเรียนก็เวียนมาถึง ผมเขียนชื่อไอ้พายลงไป แล้วก้มลงจดตามสไลด์และคำบรรยายตามความเข้าใจของตัวเองและคิดว่าไอ้พายก็คงเข้าใจเหมือนกัน เพราะตอนเรียนม.ปลายพวกผมก็อาศัยเลคเชอร์ของแต่ละคนในกลุ่มอ่านเพื่อเตรียมสอบ ท้ายชั่วโมงมีการสั่งงานกลุ่มให้แบ่งกันทำอีกเล็กน้อย ซึ่งเพื่อนของไอ้พายคงจัดการได้ ทุกอย่างกำลังจะจบแบบสวยงามถ้าไม่ได้ยินเสียงประกาศขึ้นก่อน





“คุณพันธการ มาพบผมด้านหน้าตอนนี้ด้วยครับ”





ผมจะไม่อะไรเลย ถ้า ‘พันธการ’ ไม่ใช่ชื่อของไอ้พาย!






***

ฝากด้วยนะคะ ><

ปล.กว่าจะลงได้ยากแท้ คำเกินหลายรอบมากตัดตอนไม่ถูกเลยทีเดียว 555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2016 22:18:47 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #5 เมื่อ27-07-2015 21:02:55 »

ยาวจุใจมาก :D

จารย์จำชื่อนักศึกษาทั้งหมดในห้องได้เหรอคะ หรือพระเอกเราเผลอเขียนชื่อจริงตัวเองลงไป??

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #6 เมื่อ27-07-2015 21:45:01 »

ลุ้นมากว่าอีกคนจะโผล่มาตอนไหน... สุดท้ายก็ออกมาซะเกือบท้ายบท (ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่ะนะ)

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #7 เมื่อ27-07-2015 23:14:52 »

เอาแล้วไง จะโดนอะไรหรือเปล่าน้า

ก็ลุ้นอยู่ว่าอีกคนจะมาตอนไหน

รออ่านนะคะ สู้ๆ o13

ออฟไลน์ Acrokate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #8 เมื่อ28-07-2015 01:08:16 »

ลุ้นๆ รออ่านจ้า o13

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #9 เมื่อ28-07-2015 21:24:37 »

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
จะโดนอ่ะไรหนอ
รอจร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-07-2015 21:24:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #10 เมื่อ03-08-2015 21:03:34 »

นั่นไง.... น้องน่านจ๊ะ อาจารย์ดูท่าจะจำพายได้นะ
ซวยล่ะสิ จะโดนอะไรมั้ยน้าาาาาาา

รอจ้าาาา ^^

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #11 เมื่อ06-08-2015 00:30:40 »

รัก...ไม่ได้ออกแบบ   by zero





   
- 2 -






   ผมกลับบ้านด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีด ยิ่งมาเจอไอ้พายยิ้มหน้าระรื่นตั้งวงเอ็นจอยกับสารพัดอาหารที่ผมขนมาจากเชียงใหม่แล้วก็ที่บ้านก็ยิ่งหงุดหงิดจนต้องเดินไปฟาดกบาลมันสักที



   “โอ๊ย เชี่ยกูเจ็บ ทำร้ายร่างกายกูทำไมเนี่ย”



   “ทีหลังมึงไปเข้าเรียนเองเลยนะ ถ้าทำงานแล้วเรื่องเรียนเสียมึงก็เลิกทำไปเลยหรือไม่ก็ดรอปไปซะ”


“เห้ยๆ ใจเย็นอะไรของมึงวะ อารมณ์เสียมาจากไหนเนี่ย? เมื่อคืนมึงไม่สบายตัวหรือไง”ไอ้ธันว์ร้องห้ามมือนึงถือแก้วเบียร์มือนึงล้วงถุงแคบหมู ส่วนไอ้คิมพยักหน้าหงึกหงักเอาข้าวเหนียวจิ้มแกงฮังเล ปากเป็นมันกันทุกคน ผมถอนใจเซ็งเล่าให้พวกมันฟัง



ตอนแรกผมกะชิ่งหนีตามพวกที่เริ่มทยอยออกจากห้อง แต่มุนษย์เนิร์ดนั่นเดินมาดักหน้าไว้เสียก่อน



“คุณคือพันธการหรือเปล่า?”ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ก็ถูกดักคอขึ้นมาเสียก่อน



“ก่อนตอบช่วยคิดด้วย เพราะผมจำนักศึกษาที่เรียนกับผมได้ และเท่าที่รู้มาคุณพันธการ วีรวัฒน์ไม่ได้หน้าตาแบบนี้นะ”สายตาคมกริบจ้องผมจนแทบทะลุ “คุณชื่ออะไร? เป็นอะไรกับพันธการ” สายตากดดันทำให้ผมต้องตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้ ถ้าพูดขึ้นมาขนาดนี้แสดงว่าเขาจำนักศึกษาได้ทุกคนจริงๆ จะแถกลับไปก็ดูจะโง่เกินทน



“ชลธรครับ เป็นเพื่อน”



“ฝากบอกเพื่อนคุณด้วยถ้ารักจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็แบ่งเวลาให้เป็น เพราะแค่การให้เพื่อนมาเรียนแทนก็บ่งบอกได้ว่ายังใช้สมองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าขาดเรียนอีกผมกลัวว่าจะสติปัญญาจะด้อยกว่าที่เป็นอยู่ ทำตัวให้สมกับที่เรียนบริหารด้วย เรียนคือเรียน เล่นคือเล่น งานคืองานแบ่งเวลาให้ถูก ส่วนคุณถ้ารักเพื่อนก็รักให้ถูกวิธีไม่ใช่สนับสนุนทำตามความคิดปัญญาอ่อน เพราะผมไม่ได้โง่ที่จะให้ใครมาหลอกได้ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มาสอนที่นี่ อาจารย์ท่านอื่นเขาอาจไม่ว่าอะไรเรื่องขาดเรียนครั้งสองครั้ง แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันแสดงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นการให้เกียรติตนเองและผู้สอน ครั้งหน้าถ้าเพื่อนคุณไม่มาเขาจะไม่มีสิทธิ์สอบ”



“ต๋ายห่าละ เตื้อหน้าฮาโดนยอกแหงๆ ไผจะไปกึ๊ดวะว่ามันจะจ๋ำหน้าได้กู่คน แล้วมันมาฮู้จักฮาได้ใดน่ะ”ไอ้พายเริ่มวิตกจริตหลุดภาษาแม่ออกมาทันที คงเป็นคราวซวยอาจารย์พิเศษที่มาสอนมันในเทอมนี้ดันเป็นมนุษย์เนิร์ดที่มีความจำเป็นเลิศผิดมนุษย์มนา


“คิงเป๋นดารา เป็นวีเจบ่ใจ้ก๊ะ เปิ้นท่าจะหันคิงแล้วจ๋ำจื้อคิงได้ ละบ่าห่าน่านก็หัวขาวโจ๊ะโล๊ะจะอั้น ไผก็จ๋ำได้ ติ๊ดแล้วบ่มีแต่อยู่ดีๆ ติ๊ดนี้ไถหัวเข้าไปเฮียน เป๋นไผก็สะดุ๊ดต๋าตึงนั้นเนาะ”ไอ้คิมใช้ภาษาแม่แสดงความคิดเห็นตามไปด้วย จากที่มันพูดก็มีความเป็นไปได้สูง ผมก็ลืมคิดไปว่าหัวตัวเองสะดุดตาแค่ไหน คงต้องหาเวลาไปทำสีใหม่เสียแล้ว



“เอาไงดีวะเนี่ย”ไอ้พายขยุ้มผมตัวเอง ดีนะที่มันล้างมือที่เปิบไส้อั้วไปเมื่อกี้แล้ว



“จะเอาไงก็ไปเรียนตามที่เขาฝากมาบอกไง ห่าตอกกูซะหน้าหงายขนาดนั้น” ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ น้ำเสียงนิ่งๆเย็นๆยังคงชัดในรูหู สีหน้าท่าทางก็นิ่งเสียจนน่าหมั่นไส้จะเก็กอะไรนักหนา จะเถียงกลับไปก็ไม่ได้เพราะเป็นถึงอาจารย์ซึ่งพอได้เห็นหน้าจริงๆแล้วก็รู้ว่ายังอายุไม่มากจริงๆ ห่างจากพวกผมไม่น่าจะเกิน 5-6 ปีด้วยซ้ำ



ไอ้พายขอโทษขอโพยผมพร้อมกับขอบใจที่ไปรับคำด่าแบบผู้ดีแทน มันหน้าจ๋อยเพราะคงกลัวมีผลต่อคะแนนจริงๆ เลยโทรไปเช็คตารางงานกับพี่บีที่ดูแลคิวงานให้ จากนั้นพวกผมก็อยู่กินดื่มกันพอชุ่มคอ ดื่มมากไม่ได้เพราะวันรุ่งขึ้นเรายังมีเรียน ไอ้ธันว์กลับห้องก่อนพร้อมกับสตรอว์เบอร์รี่อีก 2 กล่องมันบอกจะเอาไปฝากเด็กมัน ไอ้พายกับไอ้คิมที่หวงไอ้ผลไม้สีแดงยิ่งชีพมองค้อนตาคว่ำแทบจะตามไปจิกกบาลเอาสตรอว์เบอร์รี่ของข้าคืนมา ไม่นานไอ้คิมก็กลับตามไปด้วยเอาขนมกับของกินไปนิดหน่อยเผื่อหิวตอนอ่านหนังสือ นอกนั้นก็ให้เก็บไว้ที่บ้านผม ถ้าอยากกินเมื่อไหร่พวกมันจะแวะมาให้ทำให้กิน พวกผมสี่คนทำกับข้าวกันเป็นทุกคนแต่ที่อร่อยที่สุดคงเป็นไอ้พายที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น บ้านมันเปิดร้านอาหารเหนือ เด่นเรื่องข้าวซอยและขนมจีนสารพัดน้ำ ดังไม่ดังไม่รู้แต่ทัวร์ทุกทัวร์ต้องแวะมากิน ใครไปเชียงใหม่ถ้าไม่ได้กินอาหารที่ร้านแม่มันถือว่าไปไม่ถึงเชียงใหม่



“ทำไมมึงยังไม่นอนอีกวะ”ไอ้พายอยู่ในชุดนอนลายทางสีเทาขาวเดินถือแก้วนมมาเข้ามาหา ตอนเย็นแดกเบียร์ ก่อนนอนแดกนมไม่รู้ว่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นจริงๆหรือเปล่า ผมวางกีต้าร์ที่หยิบขึ้นมาเล่นแก้เซ็งไปอย่างนั้นลงข้างตัว



“เซ็งจนนอนไม่หลับ”



“เรื่องอาจารย์ป่ะวะ กูขอโทษ”



“ช่างแม่งเหอะ กูก็แค่เจ็บใจ ห่า อยากด่ากลับฉิบหายแต่ทำไม่ได้ แต่รับรองนะถ้าเจอข้างนอกกูไม่เอาไว้หรอก”ลงมือลงไม้ไม่ได้ขอได้ตอบโต้กลับบ้างก็ยังดี



“เขาเป็นอาจารย์นะเว้ย จะนอกหรือในมหาลัยมึงก็ด่าเขาไม่ได้ อีกอย่างกูก็ผิดเองอ่ะ”



“เป็นอาจารย์มึงไม่ใช่อาจารย์กู”ไอ้พายทำหน้าหงอยยิ่งกว่าเดิม ผมเลยได้แต่ถอนใจเหนื่อยกับมัน ในกลุ่มไอ้พายเป็นคนที่ไม่สู้คนที่สุด แม้ว่าภายนอกจะกวนตีนยังไงแต่มันก็เป็นคนขี้ใจอ่อน ประนีประนอม ไม่ชอบเรื่องชกต่อยเหมือนพวกผมสามคน อย่างไอ้คิมที่แม้จะดูนิ่งๆก็ใช่ว่าจะรักสงบ แต่มันเป็นประเภทพูดน้อยต่อยหนัก ปากไม่ขยับแต่ตีนนี่ไปก่อนแล้ว อาจเพราะมันต้องคอยปกป้องไอ้พายมาตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง



“เลิกทำหน้าแบบนี้ได้ละ เห็นแล้วรำคาญ เอาเป็นว่ากูจะอยู่เฉยๆถ้าเขาไม่ได้มาวุ่นวายกับกูอ่ะนะ”ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะผมกับเขาคงไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว และโลกมันคงไม่กลมจนต้องหมุนเอาคนไม่ถูกชะตามาให้เจอกันอีก



จนวันเปลี่ยนหมุนเวียนมาถึงวันศุกร์หรรษาพวกผมมีนัดกินเหล้ากันที่ร้านประจำ มากันจนสนิทกับเจ้าของร้านที่มารู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของปู่รหัสผมอีกที ความสัมพันธ์ซับซ้อนขึ้นไปอีก วันนี้เมาได้เต็มที่มีสารถีขับรถกลับให้เพราะไอ้พายไม่ดื่มพรุ่งนี้มันมีถ่ายละคร มันเทคิวทั้งหมดให้กับวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าจะขอคิววันธรรมดาก็ต้องหลังจากที่มันเลิกเรียนแล้วเท่านั้นเพราะมันไม่อยากมีปัญหาเรื่องเรียน แต่ก็ต้องไม่ชนกับงานวีเจของมันด้วย ยิ่งมีชื่อเสียง งานยิ่งวิ่งเข้าหา เวลาส่วนตัวก็ยิ่งน้อยลง ผมเห็นมันเริ่มบ่นๆแล้วเหมือนกัน แต่มันบอกว่าจะอดทนเพราะอยากได้รถคันใหม่ ทั้งที่มันขอแม่รับรองไม่เกินสามวันรถที่มันอยากได้ก็จะมาจอดรอหน้าบ้าน แต่มันบอกว่าอยากซื้อด้วยเงินที่หามาด้วยตัวเอง แต่คันเก่าที่ได้มรดกตกทอดมาจากพี่ชายมันก็ยังรักและดูแลอย่างดี แต่ง ล้างขัดสี อบโอโซน เคลือบเงา บลาๆ สวยกริ๊บไปทั้งคัน



ผมมาถึงร้านตอนสามทุ่มกว่าๆเพราะต้องเอารูปที่แต่งเสร็จแล้วส่วนหนึ่งไปให้พี่ยศ เจ้าสาวเร่งมาว่าอยากเห็นรูปแล้ว พอเจอหน้าก็เลยคุยเพลินไปหน่อย ถ้าไม่ติดว่านัดไอ้พวกนี้ไว้แล้วคงได้ไปต่อกับพวกพี่ๆเขาแล้ว กว่าจะเดินมาถึงโต๊ะผมก็ถูกสาวๆเรียกตัวให้ไปคุยด้วย แต่ละคนก็เคยๆกันมาทั้งนั้นแต่ไม่ได้ผูกมัดอะไรกัน มีแค่ความพอใจล้วนๆ ซึ่งผมชอบมาก พวกมันมากันเกือบครบแล้ว


“ไอ้เหี้ย กูนึกว่ามึงจะมาไม่ถึงโต๊ะซะแล้ว”ไอ้เต้เอ่ยแซวมันมาก่อนเพื่อมาจองโต๊ะกับไอ้โอ๊คข้างตัวมันมีหนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งคลอเคลียอยู่ ได้ข่าวว่าแฟนมันเป็นลีดเฟรชชี่นิเทศน์ ทำไมถึงเหน็บเอาเด็กน้อยมานั่งข้างได้วะ



“ไอ้สัด เด็กกูอย่ามองนาน”มันรีบขัดทันที



“ก็แค่มองไอ้ห่า ไม่ได้เอาสักหน่อย”



“ไอ้เหี้ย ก็แค่มองของมึงน่ะ ได้ของดีติดมือกลับไปทุกที”มันค้อนตาคว้ำ ก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มเด็กของมันที่ออดอ้อนไม่ให้อารมณ์เสีย เด็กนั่นยิ้มหวานชะมัด ท่าทางจะไม่เบาจากแววตาซุกซนที่ขยันส่งให้ไอ้เต้แต่ยังนับว่าใช้ได้เพราะโดนผมจ้องขนาดนั้นแล้วยังไม่ตอบสนองหรือที่จริงอาจจะแอ๊บเก่งก็ไม่รู้



ผมเลิกสนใจไอ้เต้กับเด็กของมัน รับแก้วจากไอ้คิมมือชงอันดับหนึ่งมาดื่มเป็นการเริ่มต้นของค่ำคืนนี้ เท่าที่เดินเข้ามายังไม่มีอะไรถูกตาถูกใจ มีแต่คนเดิมๆที่ผมไม่ค่อยใช้ซ้ำหลายรอบ ผู้หญิงส่วนมากที่ผมเลือกจะเป็นพวกที่ทำงานแล้ว รักสนุกไม่ผูกพัน เน้นวันไนท์แสตนด์ที่พวกเขาจะรู้ดีว่าควรทำตัวอย่างไร มันไม่ยุ่งยากไม่มีอะไรให้รบกวนใจในภายหลัง ผมเคยลองคบเป็นคนๆอยู่ช่วงหนึ่งแล้วพบว่ามันไม่เวิร์ค เรื่องที่เรียกร้องให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ผมไม่ขัดเพราะถือเป็นการแลกเปลี่ยนแต่ผมเกลียดการตามจิก ต้องคอยตามง้องอนและเรียกร้องเอาเวลาซึ่งผมไม่ค่อยมีให้มันน่าหงุดหงิดใจเลยเลิกดีกว่า เวลาส่วนใหญ่ของผมคือการเรียนและอยู่กับเพื่อน เรื่องเรียนถือว่าหนักเอาการเพราะแต่ละวิชามีงานที่ต้องให้ทำส่งสัปดาห์หนึ่งมีหลายชิ้น บางครั้งต้องอดหลับอดนอนเป็นวันสองวัน ดังนั้นอย่ามาเรียกร้องเอาเวลาจากพวกผม ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสมาชิกทั้งหมดก็มาพร้อมหน้า กลุ่มผมกลายเป็นกลุ่มใหญ่มากเมื่อเพื่อนของเพื่อนมารู้จักกันแล้วกลายเป็นก๊วนเดียวกันในที่สุด ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนไอ้พาย



“โว้วๆๆ ว่าไงจ๊ะคนสวยไม่เจอกันนานยังสวยเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือนมนะจ๊ะดาร์ลิ้ง”ไอ้โอ๊คปากหมาใส่ทันทีที่ญี่ปุ่นกับตองเดินมาถึงโต๊ะ สาวคนเดียวของกลุ่มผมคืนนี้แต่งตัวล่อตาล่อใจเสือสิงห์กระทิงแรดในนี้มาก แต่คงไม่มีใครกล้ามาแหยมเพราะมีเดือนอย่างพวกผมล้อมดาวไว้อย่างเหนียวแน่น ถึงพวกผมจะชั่วคั่วมั่วสาวไปทั่วแต่เพื่อนผู้หญิงดีๆเราก็ต้องถนอมเอาไว้ครับ



“อ๊ะ มันก็ใหญ่ขึ้นสิยะผู้ชายยย เทคยาคุมไปตั้งเยอะ”อย่าคิดว่าสาวสวยคนนี้จะเขินอาย เล่นกลับพร้อมเอามือจับหน้าอกบีบเข้าหากันเหมือนพวกกะเทยทำเวลาโกยนมแล้วดัดเสียงใหญ่ทำให้ตัวเองเหมือนกะเทยเข้าไปอีก



“ชะนีคะ มึงช่วยทำตัวเป็นกุลสตรีมีชาติตะกูลหน่อย”ตองเกย์สาวตัวเล็กน่ารักรีบเอ่ยเบรค ขณะที่ไอ้พายส่ายหน้าหน่ายๆกับเพื่อนของตัวเอง ดึงตองนั่งลงข้างๆแล้วหอมแก้มโชว์



“อี๋ อีพาย ฟ้าจะผ่ากูไหม อิห่าแก้มกูไม่ได้มีไว้ให้พวกเดียวกัน ดอกกกก”มันทำท่าขยะแขยงไอ้พายสุดชีวิตแทบจะเอาแอลกอฮอล์ในแก้วล้างหน้า ไอ้คนแกล้งมันหัวเราะชอบใจ พวกผมก็ยิ้มๆตามกันไปถึงจะปากคอเราะร้ายทำตัวก๋ากั่น ส่งสายตายั่วยวนผู้ชายแต่ก็ไว้ตัวจนป่านนี้เลยไม่เคยมีแฟนสักที ส่วนญี่ปุ่นถูกไอ้ธันว์ลากไปนั่งด้วย โอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของสุดๆ แต่มันไม่มีอะไรครับ ไอ้ธันว์แค่หยอกเล่นส่วนญี่ปุ่นมันมีภูมิคุ้มกันดีต่อให้หล่อเลิศโพรไฟล์ดีแค่ไหนถ้าไม่ถูกไม่ใช่ไม่โดนใจคุณเธอก็ไม่แล



นั่งไม่ถึงชั่วโมงทุกคนก็ออกวาดลวดลายตามอัธยาศัยในคืนนี้ผมกะมาชิลล์ไม่คิดหิ้วใครกลับ เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมกรำศึกหนักมาทุกคืนแล้ว คืนนี้กะเมาให้หัวทิ่มแล้วให้เพื่อนหิ้วกลับตื่นอีกทีพรุ่งนี้เย็นๆถ้าไม่ถูกก่อกวนการนอนเสียก่อน



“ไอ้พวกเหี้ย หายหน้ากันไปนานจู่ๆนึกจะมาก็มาไม่มีบอกกูเลยนะ”เฮียเสกเจ้าของร้านเข้ามาทัก ที่โต๊ะเหลือแค่ผม ไอ้พาย ญี่ปุ่น ตอง ไอ้เต้ แล้วก็ไอ้โฟมที่เงียบผิดปกติตั้งแต่เข้ามาแล้วนั่งซัดเหล้าอั้กๆเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหนไม่รู้ ตอนนี้ก็แทบจะเลื้อยไปตามความยาวของโซฟา ไอ้นี่เมาแล้วแรนดอมอาการ บางทีก็เรื้อน บางทีก็อ้อนไล่จูบ บางทีก็ร้องไห้หัวเราะบ้าบอ บางทีก็หลับ มีแจ็คพอตอยู่ครั้งหนึ่งที่มาครบเกือบทุกอาการ จำได้ว่าครั้งนั้นพวกผมนี่สร่างเมากันหมดเพราะต้องมารบกับมัน



“โห เฮีย พวกผมก็มากันเอิกเริกขนาดนี้ เฮียนั่นแหละไปซุกอกเด็กที่ไหนถึงเพิ่งเห็นเนี่ย”



“ซุกพ่อง พูดแบบนี้เดี๋ยวเมียกูได้ยินถึงตายเลยไอ้สัด เพื่อนกูมาเลยอยู่คุยกับพวกมัน”เฮียตะโกนแข่งกับเสียงเพลงด่าไอ้เต้ที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างถูกใจ หนวดเคราทำให้หน้าคมๆของเฮียดูน่าเกรงขามสมกับอาชีพการงาน แต่เฮียเป็นคนขี้เกรงใจเมียมากเพิ่งแต่งกันเมื่อปีก่อนยังไม่มีลูก พวกผมไม่ได้ไปร่วมงานแต่งเพราะเป็นงานที่เต็มไปด้วยญาติผู้ใหญ่และคนสนิทมากเท่านั้น แต่เฮียก็เชิญพวกผมมาร่วมแสดงความยินดีตอนปาร์ตี้สละโสดไปก่อนแล้วจัดหนักจัดเต็มกันจนกลับไม่ไหวนอนตายอยู่ที่ร้านเฮียแกนี่แหละ ตอนบ่ายถึงจะโงหัวกันพาซากตัวเองกลับหลุมใครหลุมมัน



“แล้วนี่เพื่อนเฮียกลับแล้วไง?”



“ยัง มันออกหากินกันอยู่”เฮียยิ้มเลวอย่างรู้กัน พวกผมไม่ค่อยรู้จักเพื่อนเฮียเพราะเรามาคนละสายกัน แต่ก็เคยเห็นหน้าตากันบ้างบางคนไม่เคยพูดคุยกัน



“แล้วทำไมมึงนั่งโดดเดี่ยววะไอ้หล่อปกติไม่เคยขาดมือนี่”



“พักบ้างไรบ้างเฮีย”ผมตอบ แต่สายตาก็สอดส่องไปทั่ว เช็คเรตติ้งๆ



“ถุย มึงไม่บอกเฮียเขาไปอ่ะ มึงฉลองเปิดเทอมด้วยแจกจ่ายน้ำให้กับสตรีผู้ยากไร้ทุกคืนจนตัวซีดมาเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์”ได้ทีไอ้โอ๊คขี่แพะไล่



“มันต้องอย่างนี้สิวะไอ้เสือ ของพ่อให้มาต้องหมั่นใช้จะได้ไม่ขึ้นสนิม”เฮียเสกหัวเราะร่วนตบบ่าผมปุๆ ก่อนแกแต่งงานก็ใช่ย่อย ผมยังนึกทึ่งเมื่อฟังวีรกรรมที่ปู่รหัสผมเล่าให้ฟังแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเสือร้ายที่ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างเฮียแกจะแต่งงานเป็นคนแรกของกลุ่ม ผมเคยถามด้วยความอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้แกตัดสินใจทิ้งชีวิตอิสระแล้วหาห่วงที่เรียกว่าเมียมาผูกคอ เฮียยิ้มเท่แล้วตอบด้วยคำพูดสวยๆที่ผมเข้าไม่ถึง



เมื่อเจอคนที่ใช่แล้วมึงจะรู้เอง ว่าการที่อยากจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนมันรู้สึกยังไง



“ไอ้เหี้ยหมวยมันไม่ไหวแล้วกูว่า”เฮียติดเรียกไอ้โฟมว่าหมวยตามพวกผม มันนอนเหยียดเต็มพื้นที่มือยังเอื้อมมาจับแก้วเหล้าของตัวเองที่วางบนโต๊ะทั้งที่ตาจะลืมไม่ขึ้น สงสัยวันนี้เมาแล้วหลับ แบบนี้ก็สบายไอ้โอ๊คที่หิ้วมันกลับหน่อย



“ปล่อยมันเฮีย”ไอ้โอ๊คส่ายหน้าหน่ายๆ



“แล้วมึงไม่ออกหาเหยื่อวะ ปกติพลาดที่ไหน”



“ไม่อ่ะพี่ คืนนี้ไม่มีอารมณ์ ต้องหิ้วไอ้เหี้ยนี่กลับด้วย ภาระจริงๆ”ไอ้เหี้ยที่ว่าตอนนี้ตัวไหลลงไปบนพื้นครึ่งตัวแล้วเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก ชักอยากจะรู้ว่ามันเป็นอะไร ปกติถ้าไอ้หมวยมันจะเมาก็มีอยู่แค่สามเหตุผลคือดีใจมาก เครียดมากแล้วก็ได้แดกเหล้าฟรี ซึ่งเหตุผลหลังตัดไปได้เลยเหลือแค่สองข้อแรกที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรขนาดไอ้โอ๊คที่ว่าสนิทกับมันที่สุดยังไม่รู้



พี่เสกอยู่คุยกับพวกผมพักใหญ่ก็ขอตัวไปดูความเรียบร้อย ไอ้พวกที่ออกไปวาดลวดลายก็กลับกันมาที่โต๊ะ ไอ้ธันว์ยักคิ้วให้ก่อนจะโบกมือลาพวกผม คว้าเอวสาวข้างตัวติดมือไปด้วย ได้ยินไอ้พายพูดว่าเป็นนางแบบหน้าใหม่สังกัดเดียวกับมันไอ้ห่านี่ตาดีดวงดีตลอด ญี่ปุ่นกับตองขอตัวกลับตอนเกือบตีหนึ่ง ไอ้พายเดินออกไปส่ง ไอ้โอ๊คก็กำลังจะกลับพยายามแงะไอ้หมวยขึ้นมานั่งแต่ดูเหมือนไม่เป็นผลไอ้เต้เลยต้องทิ้งเด็กไว้แล้วช่วยหามกันไปที่รถ ส่วนไอ้คิมนั่งดวลออนเดอะร็อคกับผมได้พักใหญ่แล้วเริ่มมึนกันทั้งคู่



ผมชะงักไปนิดตอนที่เงยหน้าขึ้นแล้วเจอสายตาของเด็กไอ้เต้มองมาอย่างสื่อความหมาย กูว่าแล้ว ซื้อหวยทำไมไม่ถูกต่อหน้าไอ้เต้เก็บอาการเงียบ พอหลับหลังก็ลายออก ได้ยินเสียงไอ้คิมที่นั่งข้างกันหัวเราะหึหึ



“สนองเด็กมันหน่อยไหมมึง สงสัยได้เต้คนเดียวคงไม่ถึงใจ”



“เหอะไอ้สัด กูไม่เอาเด็กเพื่อน”ท่าทางได้แล้วจะเกาะหนึบแบบนี้ผมไม่โอเค ถ้าผมเลือกผู้หญิงก็จะเลือกอย่างที่บอกไป ถ้าจะเอาผู้ชายผมชอบพวกที่ดูว่าพูดจากันเข้าใจ  ดูร้ายแต่ก็ไร้เดียงสาหน่อยๆ ไม่เหวี่ยงไม่วีน ตัวเล็กๆขาวๆจับอุ้มแตงง่ายๆ ซึ่งรูปลักภายนอกอย่างที่บอกหาง่าย แต่นิสัยอย่างที่ต้องการนานๆจะเจอสักที ก็เลยเก็บไว้กินนานกว่าพวกผู้หญิงที่หาง่ายดาษดื่น


 
“เอ้า กลับกันไปจะหมดแล้วเหรอวะ อะไรของพวกมึงเนี่ย กูกะว่าหลังร้านปิดจะชวนพวกมึงไปแจมด้วยกันข้างหลังพวกเพื่อนกูมันจะอยู่ถึงเช้า”เฮียเสกแวะกลับมาที่โต๊ะ ด้านหลังร้านถูกต่อเติมไว้เป็นห้องพักคืนไหนเฮียแกเหนื่อยก็อาศัยนอนข้างหลัง หรือเอาไว้ให้พวกเพื่อนๆเฮียแกนอนตอนเมามากๆ มีห้องนอนอยู่ 2 ห้อง ห้องโถงกว้างมีคาราโอเกะ โฮมเธียร์เตอร์เอาไว้สังสรรค์ พวกผมเคยขึ้นไปสองสามครั้ง



“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันเฮีย เดี๋ยวผมก็จะกลับแล้วเหมือนกันไอ้พายมันมีถ่ายละครพรุ่งนี้เช้า”



“เออ ไอ้สัดดังแล้ว อีกหน่อยมันคงไม่มานั่งแดกเหล้าร้านกระจอกของกูแล้ว”



“กระจอกเหี้ยไรครับเฮีย แหมพูดแบบนี้น้องนุ่งน้อยใจนะเว้ย เห็นพายเป็นคนยังไงเนี่ย”เจ้าตัวมันกลับมาได้ยินพอดี ร้านเฮียถ้าใครมาแล้วพูดว่ากระจอกนี่ขอเหยียบหน้าสักที



“เหอะ ไอ้สัดทำเป็นน้อยใจ ดังแล้วอย่าลืมพวกกูแล้วกัน"เฮียแกก็หยอกขำๆไปไอ้พายก็แกล้งน้อยใจไปงั้น รู้นิสัยกันดี พอบอกว่าจะกลับไอ้พายก็ขอไปเข้าห้องน้ำมีเด็กไอ้เต้ขอตามไปด้วย พวกผมรอเด็กมาเคลียร์บิลเฮียลดพวกค่ามิกเซอร์แล้วก็อาหารให้ แค่นี้พวกผมก็ซึ้งน้ำใจจะแย่ จะมาให้แกเลี้ยงไปทุกครั้งคงไม่ไหวของซื้อของขายแม้ว่าแกจะรวยก็ตาม แล้วพวกผมก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนเรื่องเงินทองด้วย ระหว่างนั้นเฮียเสกก็นั่งคุยกันไปพลางๆ จนมีคนเดินมาตาม แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องชะงักแล้วเพ่งมองให้แน่ใจ จนอีกฝ่ายตวัดสายตาคมๆมามองนิ่งๆ


ไม่ใส่แว่น การแต่งตัวก็ไม่เหมือนออกแนวคนละโลกกันด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็ไม่ผิดตัวแน่ บุคคลที่ทำให้ผมเชื่อว่าโลกแม่งกลมจริงๆ



“เสก ไอ้พวกนั้นถามหา ส่วนกูจะกลับแล้ว”



“ไอ้เหี้ย มึงจะรีบกลับไปไหนวะ นานๆจะได้เจอมึงสักที ห่า หาตัวยากยิ่งสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อีก”



“เอาไว้คราวหน้านัดอีกกูมาแน่ ไปก่อนแล้วกัน”


ผมมองเขาตลอดการสนทนาในระยะเวลาสั้นๆ แต่ผู้ชายคนนั้นเหลือบมองผมแค่แวบแรกเท่านั้นแล้วก็ไม่ชายตามาอีกเลย แต่ผมรู้ว่าเขาจำผมได้ เอาจริงๆผมไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ยิ่งในสถานที่แบบนี้โคตรจะไม่เข้ากับลุคของเขาตอนที่เรียกผมไปด่าหน้าห้องเลยสักนิด แต่ในคืนนี้มันต่างออกไป ผู้ชายเนิร์ดๆกลายเป็นหนุ่มมาดเพลย์บอยขึ้นมาทันทีที่เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ยอมรับว่าดูหล่อเหี้ยๆขึ้นมาเป็นกอง สาวๆมองตามกันเป็นแถว



“เฮีย นั่นเพื่อนเฮีย?”



“เออ ไอ้เดียว ปกติมันไม่ค่อยอยู่ไทย ไปๆมาๆระหว่างฝรั่งเศสกับไทย แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ฝรั่งเศสมากกว่าบ้านเกิดแม่มัน”



“อ้าว แล้วเขาไม่ได้เป็นอาจารย์สอนในมหาลัยเหรอวะ”ผมนึกสงสัย



“เห้ย มึงรู้ได้ไงวะ รู้จักมัน?”เฮียมีท่าทางประหลาดใจมาก



“ก็ไม่เชิง เขาเป็นอาจารย์พิเศษคณะไอ้พาย”ไอ้คิมหันมาสนใจทันที เลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าใช่คนนั้นเหรอที่เรียกผมไปด่าแบบผู้ดี



“เอ้าไอ้สัด โลกกลมฉิบหาย มันเพิ่งกลับมาเนี่ย ครั้งนี้คงอยู่ยาวหน่อย เห็นว่ามีคนทาบทามให้ไปสอนวิชานึง ช่วงนี้มันว่างเลยรับปากไป บอกเพื่อนมึงเลยนะให้ตั้งใจเรียน ไอ้เดียวมันเก่งมากมันสอนอะไรก็รีบตักตวงไว้ ถามได้ถามให้ละเอียดไปเลย”



ผมนี่พูดไม่ออกเลย ฝากด่าผ่านผมมาจนไอ้พายมันกลัวเขาหัวหดขนาดนั้น จ้างให้ก็ไม่กล้าถามต่อให้มันสงสัยจนจะตายก็เถอะ ขอให้มึงโชคดีไม่ติดเอฟแล้วกันพันธการ




(ต่อข้างล่าง)




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2016 23:01:38 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
«ตอบ #12 เมื่อ06-08-2015 00:31:11 »

(ต่อ)


การนอนของผมถูกรบกวนจากอาฝนสุดที่รักที่โทรมาปลุกก่อนเที่ยงเพียงไม่กี่นาที โดนบ่นนิดหน่อยเรื่องที่ไปเมากันตั้งแต่เปิดเทอมใหม่ๆแต่อ้อนนิดอ้อนหน่อยอาฝนก็เลิกบ่น แล้วสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปก่อนจะวางสายได้ยินแว่วๆมีคนมาหา เราไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่ก็คุยกันบ่อยไม่ได้ห่างหายไปไหน อาฝนเป็นเหมือนแม่ของผมจนบางครั้งผมอยากจะเรียกเขาว่าแม่จริงๆ แต่อาบอกว่าแม่มีแค่คนเดียวเก็บคำนั้นไว้เรียกแม่จริงๆจะดีกว่า แต่ผมกลับคิดว่าตลอดชีวิตนี้ผมคงไม่ได้ใช้คำนั้นเรียกใครอีก



พอตื่นแล้วก็นอนต่อไม่ลงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มาเรียกไอ้คิมที่ห้องเมื่อคืนมันมานอนที่บ้านด้วย แล้วลงมาหาอะไรใส่ท้อง ไอ้พายไม่อยู่แล้วกว่าจะกลับก็คงเย็นวันอาทิตย์ช่วงนี้ทางกองเน้นสถานที่ถ่ายทำต่างจังหวัดก่อนเพราะคิวนักแสดงแต่ละคนค่อนข้างว่างและพอมีเวลาที่จะเดินทางไปได้


ผมเอาของในตู้เย็นออกมา ยังมีไส้อั่วเหลืออีกเลยจัดการทอดมันเสียเลยกินกับข้าวสวยก็ไม่เลวนักขี้เกียจนึ่งข้าว มีน้ำพริกอ่องที่แม่ไอ้พายทำใส่กล่องใหญ่มาให้ ผมเลยเอาผักที่ยังพอมีอยู่ออกมาล้าง หั่นแตงกว่าเป็นแว่นๆแล้วยัดใส่ช่องฟรีซอีกทีเพื่อให้มันกรอบ ตอนแรกอยากกินต้มยำแต่ไม่มีอะไรสักอย่างเลยเปลี่ยนเป็นไข่น้ำซดให้คล่องคออีกอย่าง ไอ้คิมลงมาพอดีผมเลยให้มันหั่นไส้อั่วที่ทอดเสร็จแล้ว จากนั้นมันก็เดินไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่ที่เหลืออีกกล่องมาล้าง หั่นจุกออกผ่าครึ่งแล้วทำพริกเกลือไว้จิ้ม


“กูอยากดูหนัง ไปดูกับกูหน่อย”ไอ้คิม


“เรื่องที่มึงบอกว่าจะดูอาทิตย์ที่แล้วอ่ะนะ”


“เออ ไอ้สัดยุ่งจนไม่มีเวลาไปดูเลย”


“บ่ายแก่ๆแล้วกัน พารากอนนะ กูอยากไปดูของให้อาฝนด้วย”


พอกินข้าวเสร็จพวกผมก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตัวเอง ไอ้คิมไปคุยกับเด็ก ไอ้นี่มีคนคุยด้วยเรื่อยๆ ถูกใจก็คุยด้วยนานหน่อย นอนด้วยกันแล้วแต่โอกาสและอารมณ์ของมัน ไม่ค่อยได้ใช้ร่างกายเปลืองเหมือนผมกับไอ้ธันว์ ส่วนผมออกมาดูความเรียบร้อยในสวน ช่วงที่ปิดเทอมผมจ้างคนมาดูแลวันเว้นวัน แกเป็นสามีของป้าแม่บ้านที่ผมจ้างให้เข้ามาทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง ไว้ใจได้ทั้งคู่เป็นคนแถวนั้นลูกๆให้อยู่บ้านเฉยๆแกเหงาไม่มีอะไรทำเลยรับจ้างเล็กๆน้อยๆ ซึ่งบ้านผมก็ไม่ได้สกปรกนัก ผมกับไอ้พายช่วยกันทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่ทุกวันอาทิตย์จะให้ป้าแกมาทำทั้งบ้านอีกทีเพราะพวกผมเอาแต่ซุกหัวนอนกัน ไม่ก็อออกไปเตร็ดเตร่ตามประสา เสื้อผ้าก็ส่งซักรีดเอา ยกเว้นพวกชุดนอนอะไรพวกนี้จะซักกันเอง เวลาอาฝนมาหาแกจะพาพี่คำแก้วมาด้วยเพื่อมาช่วยทำงานบ้านทำอาหาร ซึ่งจะเป็นลาภปากของพวกผมมาก อาฝนทำกับข้าวเก่ง อร่อยมากด้วย ผมเลยได้วิชาติดตัวมา อาบอกว่าถึงจะเป็นผู้ชายก็ต้องทำอาหารเป็น โดยเฉพาะผู้ชายเจ้าชู้จนไม่มีผู้หญิงเอาจะได้ไม่อดตาย คือผมก็ซื้อเขากินได้ครับอา เหอๆ


บ่ายแก่ผมกับไอ้คิมพากันออกมาที่ห้าง ว่าจะหาที่จอดรถได้แทบขาดใจ โชคดีที่ทันรอบหนังพอดีไอ้คิมไปซื้อน้ำแต่ไม่ได้ซื้อป็อคอร์นในบรรดาพวกผมสี่คนมีไอ้พายคนเดียวที่ชอบกินขนมเวลาดูหนังในโรง ผมยืนดูหนังตัวอย่างระหว่างรอก็มีคนมายืนข้างๆ อีกฝ่ายก็หันมายิ้มให้บางๆ สวยจนผมต้องมองซ้ำให้แน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายจริงๆ สูงไม่น่าเกิน 175 ตัวบาง ผิวขาวแต่ไม่ถึงกับขาวจัดเรืองแสงโอโม่แต่ขาวเนียนอย่างคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนซอยสไลด์รับกับใบหน้าสวย ลักยิ้มที่เห็นเมื่อครู่ทำให้มีสเน่ห์จนต้องมองซ้ำ ผมคงจ้องมากไปเขาจึงหันมามองแล้วยิ้มให้พร้อมกับเลิกคิ้วเบาๆทำหน้าสงสัย


“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”


เสียงก็เพราะ เป็นครั้งแรกที่ผมมองผู้ชายตาค้างแบบนี้นึกตลกตัวเอง แต่คนตรงหน้าดูดีมากจริงๆและรอยยิ้มนั้นก็แสดงออกถึงความเป็นมิตรหาใช่การอ่อยยั่วเหมือนที่เคยเจอ


“ไม่มีอะไรครับ แค่เห็นว่าคุณน่ารักดี”ผมพูดตรงๆ อีกฝ่ายก็ยิ้มขำไม่ได้เขินอายอะไร เหมือนจะชินกับการถูกชมซึ่งหน้า


“ขอบคุณครับ ไม่คิดว่าท่าทางอย่างคุณจะชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารัก”


“เฟิร์ส”คนข้างกายผมหันไปยิ้มหวานให้คนที่เอ่ยเรียกทันที ผมหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเห็นเจ้าของเสียง โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว


“พี่เดียว เรียบร้อยแล้วเหรอครับ”


“ยืนคุยอะไรกันอยู่ หืม?”น้ำเสียงนุ่มจนน่าขนลุก ผมแอบเบ้ปาก มันช่างต่างกันลิบลับกับตอนที่ผมเจอครั้งแรก


“ไม่มีอะไรมากครับ เขาชมเฟิร์สว่าน่ารักด้วยแหละ มีแค่พี่เดียวที่บอกว่าเฟิร์สขี้เหร่ ชิ”อีกฝ่ายทำหน้าเจ้าแง่แสนงอนได้น่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ ไอ้คนตัวโตข้างๆก็หัวเราะจับหัวคนตัวเล็กโยกอย่างเอ็นดู ทำไมผมต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยวะ


“ไปกันเถอะ เสียเวลามามากแล้ว”พูดไม่พอตวัดตามองมาที่ผมด้วยสายตาหยันๆรอยยิ้มเยาะๆก่อนจะโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของพากันเดินออกไป ทำเอาผมเส้นกระตุก กวนส้นตีนไอ้สัด! ไอ้เหี้ยนี่มันสมควรไปเป็นอาจารย์สั่งสอนใครตรงไหนกัน หงุดหงิดเลยกู


ไอ้คิมที่ไปซื้อน้ำถึงขั้วโลกกลับมาพอดีมันมองงงๆ ที่จู่ๆผมก็อารมณ์เสีย ผมไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟังลากมันเข้าไปนั่งดูหนัง ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ดันมาเจอกันในโรงหนังอีก นั่งถัดจากพวกผมไปอีกสองที่นั่งและเป็นสองที่นั่งที่ไม่มีใครนั่งเสียด้วย ผมดันไอ้คิมเข้าไปนั่งด้านใน เห็นแวบๆว่าฝ่ายนั้นก็มองกลับมาเหมือนกันแต่ผมไม่ได้มองกลับไปอีก ไม่อยากมีปัญหา ผมไม่ได้คิดจะจีบก็แค่เห็นว่าน่ารักเลยมอง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหันมาคุยด้วยซ้ำ แต่ไอ้บ้าที่แสดงออกว่าหวงของเหมือนว่าผมไปคิดอะไรกับเด็กของมันเห็นแล้วมันหงุดหงิด เดี๋ยวกูจีบจริงๆแม่งซะเลย!


ช่วงแรกของหนังผมดูไม่ค่อยรู้เรื่องเพิ่งมาตั้งใจจริงๆก็ตอนกลางเรื่องไปแล้ว ก็เป็นหนังที่ใช้ได้พอสมควร แต่ไม่ได้ประทับใจอะไรนักขนาดคนที่อยากดูมากอย่างไอ้คิมยังให้คะแนนไม่เต็มสิบ หลายๆอย่างในเรื่องทำให้มันอินไม่สุด ไอ้คิมบ่นนิดหน่อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปหาอะไรกินแล้วค่อยเดินดูของกัน ว่าที่เภสัชกรเขาอยากแดกอาหารญี่ปุ่นผมเลยไม่ขัด นานๆกินทีก็โอเคดีเหมือนกัน ปกติพวกผมเป็นพวกกินง่ายๆขอให้แค่อร่อยก็พอ ร้านอาหารข้างทางบางทียังรสชาติดีกว่าอาหารในห้างแถมยังถูกกว่าหลายเท่า แต่ถ้าเวลาพาสาวมาเที่ยวก็นะพาไปกินข้างทางคงถูกบ่นจนอารมณ์เสียนั่นแหละ


ตอนออกจากบ้านผมคงก้าวขาผิดข้างหรือไม่ก็ฤกษ์ไม่ดี ถึงได้เจอคนที่ไม่อยากเจออีก แทบอยากจะลุกหนีติดตรงที่ว่าสั่งอาหารไปแล้วเลยต้องทนนั่งอยู่ ไอ้คนตัวเล็กน่ารักนั่นก็ดันอัธยาศัยดี


“อ้าว เจอกันอีกแล้ว สงสัยดวงจะสมพงษ์กัน”เจ้าตัวฉีกยิ้มหวาน ผมหันไปยิ้มให้เนือยๆ เหลือบตามองคนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับผมที่ก้มหน้าก้มตาดูเมนู


“เฟิร์สจะทานอะไร อย่ามัวแต่ชวนคนอื่นเขาคุย”คำว่าคนอื่นนี่เน้นชัดกระแทกรูหูมากซ้ำยังมองด้วยหางตาทำเอาผมจี๊ดขึ้นมาอีกรอบ ขอโทษเถอะ กูไม่ได้เป็นคนเริ่มนะเว้ย ต้องโทษเด็กมึงนู่น ไอ้เหี้ย!


“พี่เดียวสั่งให้เฟิร์สเลย รู้นี่ว่าเฟิร์สชอบอะไร”


“ทานแต่แบบเดิมๆจะได้สารอาหารครบไหมเนี่ย ดูสิผอมเกินไปแล้ว”


“โห่ พี่เดียวอ่า เฟิร์สก็ทานเยอะแล้วนะแต่มันไม่อ้วนเอง”


เสียงของโต๊ะข้างๆยังดังรบกวนโสตประสาทของผม ไอ้คิมเลิกคิ้วถามเพราะหน้าผมคงบอกบุญไม่รับเอามากๆ


“เป็นเหี้ยอะไรวะ”


“คันตีนอยากเอานาบหน้าคน”ผมตอบกะเอาให้โต๊ะข้างๆได้ยิน อาหารมาเสิร์ฟผมก็รีบๆกินให้มันเสร็จๆ แต่ไอ้คิมก็ละเลียดจนน่ารำคาญ ดื่มด่ำกับรสชาติซาชิมิและวาซาบิผมเลยไปเข้าห้องน้ำทิ้งมันไว้ที่โต๊ะคนเดียว ไอ้พายก็โทรเข้ามาพอดีผมเลยยืนคุยอยู่ตรงทางเดินก่อนถึงตัวห้องน้ำ มันโวยใหญ่ที่ผมออกมาดูหนังกับไอ้คิม มันสองคนชอบดูหนังแนวๆเดียวกัน


“เออ ไอ้สัดอย่ามางอแง แผ่นออกค่อยซื้อมาดู แต่มันก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้นมึงไม่ต้องมาเสียดาย แล้วนี่ไม่ทำงานไงวะ โทรมาทำเหี้ยไรเนี่ย”


“กูว่าวันจันทร์กูกลับไปไม่ทันคาบเช้าแน่เลย”


“ไหนมึงว่าจะกลับเย็นวันอาทิตย์ เอาใหญ่แล้วนะมึง ละครเรื่องแรกก็ทำให้การเรียนเสียกูว่ามึงไม่ต้องรับงานแล้วดีกว่ามั้ง”


“อย่าพูดงี้ดิว้า คิดว่ากูอยากขาดเรียนนักไงวะ เหตุสุดวิสัยว่ะ คนที่ต้องเข้าฉากกับกูเขาดันติดประชุมระดับชาติมั้งไอ้สัด มาถ่ายไม่ได้ ต้องเลื่อนมาถ่ายพรุ่งนี้เย็นกว่าจะเลิกกองคงดึกมากไม่ก็อาจจะเช้า กูไปไม่ทันแน่ๆเลย”


“แล้วยังไง จะให้ไปเข้าเรียนแทนกูไม่เอาแล้วไอ้สัด วิชาไอ้ห่านั่นอีกแล้วใช่ไหม มันก็บอกแล้วนี่ขาดอีกครั้งมึงหมดสิทธิ์สอบ”


“ไม่ๆ มึงไปส่งใบลาให้หน่อย ช่วยไปคุยกับเขาให้กูหน่อยดิ”


“ไม่ใช้เพื่อนมึงไปอ่ะญี่ปุ่นกับตองไง กูว่าส่งตองไปอาจจะได้ผลท่าทางจะชอบแบบนั้น”ผมนึกถึงคนที่มันควงมาด้วยวันนี้ ตองก็น่ารักพอสู้ได้อยู่


“แล้วทำไมมึงไปให้กูไม่ได้ แล้วมึงพูดเหมือนรู้จักเขาดีเลย อะไรของมึงวะ”อยากจะตอบกลับไปว่าไม่ได้รู้จักดี แต่พูดจากที่เห็น แต่ก็กลัวจะต้องอธิบายยาวไปอีก


“กูไม่ไป เพราะกูบอกไว้เลยถ้ามันด่ากูกลับมาอีกกูเอาตีนทาบหน้ามันแน่ๆ”และผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก


“กลับมาเรียนให้ทันให้พี่บีมาส่ง เขาเป็นผู้จัดการต้องจัดการให้มึงได้ทุกอย่าง”ไอ้พายอ้อมแอ้มรับคำก่อนจะวางสายไป ผมไม่ได้อยากจะใจร้ายแต่ถ้าปล่อยให้เวลางานเบียดเบียนเวลาเรียนแบบนี้ผมก็ไม่ชอบ เห็นด้วยกับที่ไอ้บ้าขี้เก๊กสองบุคลิกบอกว่าให้บริหารเวลาให้เป็น แต่นึกถึงมันแล้วก็หงุดหงิด พอหันกลับมาก็ถึงกับต้องถอยหลังตกใจ


ไอ้บ้านั่นมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ช่วงเวลาที่ผมคุยโทรศัพท์อยู่กับไอ้พายก็มีคนเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำบ้าง ถึงจะยืนหันหน้าเข้ากำแพงแต่ผมก็รู้ตัวตลอดนะ มันยืนกอดอกมองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก


“มีปัญหาอะไร?”


“คนที่มีปัญหาน่าจะเป็นคุณมากกว่าคุณชลธร โชคดีที่ผมไม่ได้สอนนักศึกษาอย่างคุณ”มันส่ายหน้าทำท่าทางที่ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ผมคว้าแขนมันไว้ก่อนที่มันจะเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ


“เดี๋ยว พูดงี้หมายความว่าไง ท่าทางนั่นอีก”


“คิดเองสิ แต่ก็นะ...คนอย่างคุณคงจะคิดไม่ได้หรอก เพราะรอยหยักในสมองคงจะตื้นเขินพอๆ กับสามัญสำนึกของคุณนั่นแหละที่ไม่รู้ว่าไม่ควรพูดถึงคนอื่นลับหลังด้วยคำพูดที่ไม่ได้ถูกกลั่นกรองจากสมอง”


ผมกำหมัดแน่น ถ้อยคำที่ไม่ได้หยาบคายแต่กลับเจ็บเหมือนถูกต่อยซ้ำๆจนหน้าชา พลาดเองคงโทษใครไม่ได้แต่จะให้ยอมรับมันก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่ใช่คนก้าวร้าวกับครูอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่หรือแม้กระทั่งรุ่นพี่ แต่กับคนที่เราไม่ชอบขี้หน้าจะให้พูดถึงดีๆมันก็ไม่ใช่ป่ะวะ แต่จะย้อนกลับไปให้ถูกด่ามาอีกก็จะโง่เกินคน ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงตอบโต้อะไรคนๆนี้ไม่ได้เลย ไม่ใช่เพราะว่าแก่กว่าหรือเป็นอาจารย์ แต่มันมีบางอย่างในตัวของเขาที่ทำให้ผมข่มเขาไม่ลง หรือไม่รู้จะงัดคำไหนออกมาสู้เพื่อให้ตัวเองไม่ดูแย่ลงไปอีก


“อ้อ อีกอย่างนะ เรื่องรสนิยมของผมก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะมาวิจารณ์ได้ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆ เพราะว่าอย่างคุณเองก็น่าสนใจถ้าไม่ติดตรงที่ว่า...ปากหมาไปหน่อย หรือนี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจจากผม?”





ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!







---- TBC ---  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2016 23:10:28 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แอร๊ยยย มาต่อแล้ว แปะ ๆ ไว้แป๊บนะ เดี๋ยวอ่านจบและมาดิทจ้า ชู๊บ ๆ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :a5: อาจารย์แกด่าเจ็บแบบผู้ดีเน้อ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อาจารย์ด่าทีนี่จุกแล้วจุกอีกอ่ะค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling2:

โดนจารย์ด่าทีนี่ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เจ็บและจุก

พระเอก(?)ก็นะ ดีแต่ใช้กำลังหรือยังไง ไปลับฝีปากไป๊

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อื้อหื้อ ขนาดไม่ได้โดนด่าเองยังเจ็บเลย

รออ่านตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by Zero




- 3 -





   ช่วงนี้การรับน้องกำลังเข้มข้น คณะผมเป็นคณะที่มีนักศึกษาไม่มาก รุ่นพี่รุ่นน้องรู้จักกันหมด จะไม่รู้จักก็ต่อเมื่อรุ่นเราห่างกันมากๆหรือพวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วไม่เคยกลับมาที่คณะอีกเลย อาจจะเป็นเพราะต้องทำงานหรือมีภารกิจเรียนต่อหรือไม่ก็ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะแห่มาในช่วงรับน้องเพื่อมาดูหนังหน้าสายรหัสตัวเอง บางคนก็หวังมาส่องสาวน้อยเฟรชชี่ 



วันนี้พวกผมได้รับคำบัญชามาจากพวกรุ่นพี่ให้มาดูแลน้องๆที่มาเข้ากิจกรรมหลังเลิกเรียน พวกไอ้โฟม ไอ้โอ๊ค ไอ้เต้เป็นสวัสดิการช่วยเอเชียกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นดูแลน้องๆ ใจจริงพวกมันจะหาโอกาสส่องน้องน่ารักๆมากกว่าจะมีใจอาสาช่วยงานเพื่อน ปีพวกผมจะเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำน้องๆเรื่องการเรียน ส่วนพวกพี่ว๊ากปีสามจะสอนน้องๆให้รู้จักการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย สอนกฏระเบียบการอยู่ร่วมกันและสอนให้น้องๆปรับตัวเข้าหากัน รักและสมัคคีกัน เพราะพวกเขาต้องอยู่ด้วยกันไปอีกสี่ปี รวมไปถึงการหลังจากเรียนจบไปแล้วพวกเขาก็ยังต้องเป็นเพื่อนพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตลอด พวกพี่ปีสี่จะแค่ให้คำปรึกษาและคอยดูแลพวกปีสองและปีสามอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้การรับน้องรุ่นแรงจนเกินไป ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในการควบคุมดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษา



   ผม ไอ้วินแล้วก็ไอ้นัท ถูกกันตัวให้มาอยู่กับพวกพี่เอ้ พี่หลง พี่กั๊กที่เป็นพี่ว๊าก แว่วๆมาว่าผมสามคนถูกวางตัวไว้ให้รับช่วงต่อในปีหน้าซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามีเกณฑ์ในการเลือกกันอย่างไร อย่างน้อยก็ควรจะเลือกจากคนที่เข้ากิจกรรมรับน้องตอนปีหนึ่งมากกว่าแต่ถ้ารุ่นพี่เห็นว่าผมเหมาะสมที่จะทำผมก็คงไม่ขัด



ผมแอบดูพวกน้องๆในห้องชุมนุมจากหลังเวที ก่อนลงว๊ากผมเห็นพวกพี่ๆแยกกันนั่งคนละมุมเพื่อทำสมาธิ ปกติแล้วพี่หลงเป็นพวกสนุกสนานเฮฮาแต่พอมาเห็นทำหน้านิ่งตีขรึมแบบนี้ก็แปลกตาไปอีกแบบ ดูพี่แกตั้งใจมากกับการเป็นพี่ว๊าก พี่กั๊กนี่ไม่ต้องพูดถึงแค่ดูหน้ากับรูปร่างก็การันตีความโหดเถื่อนอยู่แล้ว น้องๆเห็นระยะร้อยเมตรก็ต้องก้มหน้าหลบตากันเป็นแถว ส่วนพี่เอ้แกเป็นคนเงียบๆ เพราะแกขี้เกียจพูดชอบสื่อสารทางสายตามากกว่า ตาคมดุแค่ปรายตามองน้องๆก็ตัวสั่นแล้ว ยิ่งไว้หนวดไว้เคราแบบนี้ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก แต่รับรองได้ว่าหลังจากจบว๊ากสาวๆได้เห็นหนังหน้าเกลี้ยงเกลาของพี่แกหลายคนคงต้องหลงแน่ๆ ก็นะแกเป็นอดีตเดือนคณะเชียวนะ



   “พวกเราต้องทำแบบนั้นจริงเหรอวะ?”ผมถามไอ้สองคนที่ร่วมชะตากรรมด้วยกันหลังจากแอบดูอยู่สักพัก



   “เออ กูว่ากูไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้เลย หน้าตากูออกจะหล่อใจดีมีเซอร์วิสมายด์ ทำร้ายจิตใจใครไม่เป็น”ไอ้วิน



   “โถ ไอ้เหี้ย ที่พูดมานี่มึงคิดแล้ว?”ผมอยากจะเอาตีนนาบหน้ามันจริงๆ ครับถึงมันจะหล่อเป็นเดือนคณะที่สาวน้อยสาวใหญ่กระเทยเก้งกวางรุมกรี๊ดทั้งในและนอกคณะ มันหล่อก็จริงแต่นิสัยกับหน้าตาต่างกันมาก ใครที่คิดว่ามันจะเป็นผู้ดี สุขุม มีการศึกษา มีออร่าคุณชายราวกับหลุดออกมาจากในนิยายก็ต้องคิดใหม่ ตัวจริงของมันโคตรจะสถุล ซกมก หน้าหม้อ มีดีแค่หล่อ รวยกับไอ้นั่นใหญ่ อย่าถามว่าผมรู้ได้ไงว่าใหญ่ ผู้ชายในรุ่นผมก็เห็นกันมาหมดแล้วเกือบทุกคนเพราะกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายที่สืบทอดกันมาซึ่งผมขอเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกัน ฮ่าๆ



   “แต่กูชอบ”ไอ้นัท ผู้ที่รักความฮาร์ดคอร์ประจำรุ่นเหมือนเป็นทายาทอสูรของพี่กี๊ก ผมละกลัวใจมันตอนว๊ากน้องจริงๆ จะไปทำลูกหลานคนอื่นเขาหัวใจวายตายไหม



   “วันนี้เห็นว่าจะมีพวกศิษย์เก่ามานะ”



   “มาไมกันวะ?”ผมหันไปถามไอ้วินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน



   “ไม่รู้ว่ะ กูก็ได้ยินเขาพูดกันมาแค่นั้น แต่ดูพวกพี่ๆเขาเครียดๆกันว่ะ สงสัยพวกรุ่นใหญ่ต้องเล่นงานอะไรมาแน่ๆ”



   บทสนทนาจบแค่นั้นเมื่อพวกพี่ๆกลับเข้ามา ดูพี่หลงท่าทางเหนื่อยๆเพราะแกต้องใช้พลังเสียงมาก แต่พี่เอ้โคตรชิลล์เพราะเวลาแกว๊ากก็แค่พูดนิ่งๆ หน้านิ่งๆ เท่านั้นแต่ได้ผลทำลายล้างมาก แต่พี่กั๊กชิลล์กว่าท่าทางเหมือนออกไปเดินเล่มริมทะเล ผ่อนคลายสุดๆ



   “พวกมึงสามตัวเย็นนี้ไปกินข้าวกับพวกกูนะ ห้ามปฏิเสธเพราะรุ่นพี่ต้องการเจอหน้าพวกมึง”พี่หลงบอกก่อนจะดื่มน้ำเกือบหมดขวด ก่อนที่พี่วาวแฟนพี่แกที่เป็นพี่ระเบียบจะเดินเอาน้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆมาให้ รักกันหวานชื่นจนคนอื่นๆอิจฉา ถึงผมจะไม่ค่อยอินกับเรื่องความรักแต่พอมองรุ่นพี่ทั้งสองคนยังต้องเผลอยิ้ม เขาชอบทำอะไรจุ๊กจิ๊ก กุ๊กกิ๊กกันตลอดเวลา แม้แต่ตอนด่ากันยังดูน่ารักเลยครับ จะว่าไปก็เหมือนเพื่อนกันมากกว่าแฟนเสียอีกอาจเพราะคบกันมาตั้งแต่ม.ปลาย แถมยังมีความชอบเหมือนกัน รู้ใจไปเสียหมดทุกอย่างมันเลยดูลงตัว



   “ไอ้เหี้ยน่านอย่ามองแฟนกูนาน กูหวง”ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอมองนานขนาดนั้นจนพี่หลงพูดขึ้น



   “ก็แค่มอง อย่างกไปหน่อยเลยพี่”



   “เอ้า ไอ้สัด นี่มึงคิดไรกับแฟนกูจริงเหรอวะ”พี่หลงหน้าโหดขึ้นมาทันที



   “จริงเหรอน่าน ชอบพี่เหรอ กิ๊กกันไหมพี่โอเคนะ”พี่วาวถลามากอดแขนผมทันที ทำตาปิ๊งๆใส่ สูงแค่หน้าอกผมเอง ตัวเล็ก ขาวๆ น่ารัก ใกล้เคียงสเป็คผมไม่น้อย อย่าทำหน้าทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวผมหน้ามืดครับพี่



   “วาว! น้อยๆหน่อยมึง จะสิงมันหรือไง”พี่หลงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถึงจะไม่พอใจ โกรธ งอน น้อยใจยังไงมากสุดพี่หลงก็ทำได้แค่เสียงดังใส่ ขืนทำมากกว่านี้เจอกระโดดตบหน้าคว่ำแน่ๆ เห็นตัวเล็กๆแต่โหดใช่ย่อย ผมเคยเห็นพี่วาวตบเด็กม.ปลายที่มาติดพี่หลงตอนที่ไปแนะแนวน้องๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็สมควรโดนนะผมว่ารู้ว่าคนมีเจ้าของอยู่แล้วยังตามตื๊อจนน่าเกลียด เจอพี่แกตบเน้นๆไปทีเดียวร่วงไม่กล้าเข้าใกล้พี่หลงอีกเลย วีรกรรมในครั้งนั้นทำเอาเป็นที่โจษจันกันไปทั่ว



   “เออ ถ้ามึงไม่อยากเห็นก็หลับตาซะ กูอยากจะเปลี่ยนรสชาติมากินเด็กบ้าง กินแต่มึงกูเบื่อ”พี่ๆคนอื่นในห้องพากันหัวเราะ ขนาดคนหน้านิ่งอย่างพี่เอ้ยังหลุดยิ้มขำ นานๆพี่วาวจะพูดจาแบบนี้ เล่นเอาแฟนตัวเองอ้าปากค้างก่อนจะหน้าบึ้งมองตาค้อนตาคว่ำ



   “วาวเบื่อหลงจริงเหรอ”น้ำเสียงน้อยใจ หน้าเศร้าแต่ผมว่ามันเป็นการแสดงมากกว่า



   “หลงมึงอย่าบ้า กูพูดเล่น”พี่วาวปล่อยมือจากแขนผมแล้วเดินเข้าไปจับมือแฟนตัวเองทันที ก่อนจะพากันไปง้องอนที่มุมห้อง พวกผมเลยเลิกสนใจคู่รัก แล้วหันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อรอเวลาเลิกกิจกรรม ผมเลยเดินออกไปหาที่สูบบุหรี่จู่ๆก็นึกอยากขึ้นมา เดินมาถึงโต๊ะหน้าคณะไอ้พายก็โทรมาพอดี



   “ว่าไง”เดี๋ยวนี้ผมรับโทรศัพท์จากไอ้พายทีไรต้องมีเรื่องให้วุ่นวายตลอด ดีว่าเมื่อวันจันทร์มันมาเรียนทันผมเลยไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับไอ้อาจารย์บ้านั่นอีก คิดแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หาย สีหน้าท่าทางกรุ้มกริ่มในตอนนั้นติดตาจนอยากจะอ้วก



   “เย็นนี้มึงไปไหนป่ะวะ”



   “ไปกินข้าวกับพวกรุ่นพี่ต่ออ่ะ มึงจะกลับบ้านป่ะ”ไม่ค่อยได้เจอหน้ามันเลย เวลาไม่เคยตรงกันสักที กลับดึกตลอด อยู่บ้านเดียวกันก็เหมือนไม่ได้อยู่



   “เนี่ยกูอยู่บ้าน”



   “ทำไมเร็ว”



“เออ จารย์ปล่อยเร็วกูเลยรีบกลับมานอน ง่วงสัด”



“ง่วงก็นอนอย่าบ่น”



“เออๆ แค่นี้ต้องดุด้วย เป็นหมาเหรอวะไอ้เหี้ย”ตกลงจะให้เป็นหมาหรือเหี้ยกันแน่วะ



“แล้วตกลงมึงโทรมาทำไมเนี่ย”



“เออเกือบลืม กูจะบอกให้มึงแวะซื้อโดนัทร้านนั้นมาให้หน่อยกูอยากกิน ตอนกลับมากูลืมแวะ แต่ถ้ามึงจะกลับดึกกูไม่ฝากแล้ว แค่นี้นะ อารมณ์เสีย”พูดจบมันก็วางสายทันที นอยด์แดกเพราะไม่ได้ดังใจอีกตามเคยแต่ผมชินแล้ว ปล่อยมันไป ผมนั่งปล่อยอารมณ์สูบบุหรี่ตรงแถวนั้น ต้นไม้ร่มรื่นดี แถวคณะผมจะมีถังขยะที่มีทรายสำหรับเขี่ยบุหรี่ตั้งอยู่หลายจุดมาก เพราะเป็นคณะของสิงห์อมควัน เครียดเรื่องเรียน เรื่องคิดงานไม่ออก เมียทิ้ง ผัวมีชู้ก็ควักออกมาสูบกัน จนเป็นเรื่องปกติแม้แต่อาจารย์ก็ยังห้ามไม่อยู่เพราะพวกแกก็สูบ ใครจะมารณรงค์งดสูบบุหรี่ที่นี่อย่าได้หวังจะเห็นผลตอบรับที่ดีมีแต่จะพ่นควันใส่หน้าจนเผ่นกลับไปไม่ทัน



   ผมนั่งมองสาวๆน่ารักที่เดินผ่านไปผ่านมา บางทีก็เจอหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มน่ากินทำเอาน้ำลายสอ อะไรแบบนี้ไม่ได้ตกถึงท้องนานแล้ว จู่ๆก็คิดถึงผู้ชายน่ารักคนนั้นที่เจอที่หน้าโรงหนัง เสียดายไม่น่าเป็นคนของไอ้บ้านั่นเลย



   แปะ!



   “ลุกตามน้องเขาไปเลยไหม”



“ไอ้สัดตบมาได้ กูเจ็บนะเว้ย”ไอ้เหี้ยคิมมาจากไหนไม่รู้ตบเข้าที่หน้าผากผมเต็มแรง บุหรี่แทบหลุดจากนิ้ว



“สำออยไอ้สัด โดนตีนเจ็บกว่านี่ไม่เห็นบ่น”มันว่าวางเป้ลงบนโต๊ะแล้วสอดสายตามองน้องๆปีหนึ่ง ว่าแต่คนอื่นไม่ดูตัวเองเลย



“มึงมาไมเนี่ย ว่างไง?”



“เออ จะมาชวนไปกินข้าวเย็น”



“มึงช้าไปไอ้สัด กูถูกรุ่นพี่บังคับให้ไปกินข้าวด้วย พวกศิษย์เก่าอยากเจอหน้า”



“อยากเจอหน้ามึง อยากเจอไปไมวะ?”



ผมเลยเล่าให้มันฟังคร่าวๆเรื่องที่ถูกวางตัวให้เป็นพี่ว๊ากในปีต่อไป พวกศิษย์เก่าเลยอยากเห็นหน้าและรับน้อง ไม่รู้ว่าวันนี้ไปกินข้าวด้วยจะเจออะไรบ้าง ผมอาจจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษแน่ๆเพราะไม่ผ่านการรับน้องเหมือนคนอื่น



“งั้นกูก็ต้องกินคนเดียวดิวะ”ไอ้คิมบ่นๆ



“ไปกินกะไอ้พายดิ มันอยู่บ้าน ซื้อโดนัทร้านที่มันชอบไปให้ด้วย มันจะโทรมาสั่งกูเมื่อกี้แต่กูกลับดึกมันเลยนอยด์แดกไปแล้ว”



“เออ ก็ได้วะ ใช้มันทำกับข้าวให้กินดีกว่า”แล้วมันก็เดินจากไป เพื่อนแต่ละคนพอสมใจก็สะบัดตูดทิ้ง



   ผมขับรถตามพวกรุ่นพี่มาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่กิจกรรมรับน้องของวันจบลง ร้านอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก พวกผมเคยมากินแต่ไม่บ่อย เพราะร้านเปิดช่วงเย็น อาหารอร่อย ราคาก็สูงกว่าร้านอาหารทั่วไปนิดหน่อย แต่ปริมาณที่ได้ก็สมน้ำสมเนื้อดี แต่ปกติแล้วคนที่มาก็จะมานั่งดื่มกันมากกว่า สามารถนั่งกินดื่มได้ถึงตีสอง พวกไอ้โฟม ไอ้โอ๊ค ไอ้เต้ก็ตามมากันด้วย เพราะสนิทกับพวกพี่หลง พี่กั๊ก ไอ้โฟมมันเป็นน้องรหัสพี่กั๊ก คนที่เกลียดการว๊ากอย่างกับอะไรดีแต่พี่รหัสตัวเองดันเป็นพี่ว๊ากสายโหด



   “ไหนว่าไม่ชอบพี่ว๊าก มึงมาแดกข้าวกับพวกพี่เขาไม่อึดอัดตายก่อนไง”ผมถามไอ้หมวยที่นั่งลูบๆคลำๆรถผมทุกครั้งที่ได้นั่ง มันชอบมากแต่พอบอกให้ซื้อก็ไม่ซื้อ มันบอกว่ารถมีไว้ขับไม่ได้มีไว้โชว์ถ้ามันจะซื้อรถสักคันต้องเอาให้ใช้งานได้หลากหลายและคุ้มกับเม็ดเงินที่เสียไป งกได้อีกทุกวันนี้มันขับฮอนด้าเวฟเก่าๆมาเรียน แต่ช่วงนี้เกเรสตาร์ทไม่ติดเอาไปทิ้งไว้ที่อู่หลายวันแล้ว ซ่อมจนสนิทกับช่างไปแล้ว ไอ้โอ๊คกับไอ้เต้เลยผลัดกันไปรับไปส่งมันดูแลอย่างกับลูกน้อย



   “ไม่เป็นไร กูรู้ว่างานนี้จะได้กินฟรี กูทนได้”บ้านก็มีเงิน แม่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่เมืองจันทร์ เป็นเจ้าของตลาดสดด้วยแต่เค็มจนเกลือเรียกพี่



ผมจอดรถเสร็จก็เดินมาสมทบกันที่หน้าร้านไอ้โอ๊คไอ้เต้รออยู่ ส่วนพวกพี่ๆเข้าไปกันหมดแล้ว ไอ้สองตัวมันกำลังชี้ชวนให้ดูอะไรกันสักอย่าง ผมเลยเดินเข้าไปชะเง้อดูบ้าง



“ดูอะไรกันวะ”



“มึงดูนั่น แอสตันไอ้สัด อย่างสวย”ไอ้เต้พูดตาเป็นประกาย แอสตัน มาร์ติน แวนควิซ โวลันเต้ จอดเด่นเป็นสง่าตรงที่จอดรถวีไอพีท่าทางจะขาใหญ่น่าดูได้ที่พิเศษ สีเงินเงาวับสวยกระแทกตาจนอยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ ถ้าไม่ติดว่าพี่หลงออกมาตามให้เข้าไปด้านในเสียก่อน



“กูอยากเห็นหน้าเจ้าของฉิบหาย”ไอ้หมวยพึมพำตามหลังมา ผมอยากจับมันมัดรวมกับไอ้พายผู้ที่ชื่นชอบรถเป็นชีวิตจิตใจ



“เห็นแล้วมึงจะทำไม จะไปเสนอตูดให้เขาตุ๋ยแลกกับการนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถหรือไง”



“ไอ้เหี้ยเต้ ปากมึงอยากจะแตกด้วยตีนกูใช่ไหม”ไอ้หมวยทำท่าจะเข้าไปเสยคางคนพูด ดีที่ไอ้โอ๊คคว้าคือเสื้อไว้ได้ทันมันเลยได้แต่ดิ้นแด่วๆ ตลกดี แต่มันรู้ได้ไงว่าเจ้าของรถเป็นผู้ชาย แต่ก็นะรถสไตล์นี้คงน้อยมากที่เจ้าของจะเป็นผู้หญิง



“แหม่ น้องหมวยอย่าอารมณ์เสียสิจ๊ะพี่ก็แซวเล่น”



“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอไอ้สัด”



“เออ!”ไอ้เต้ตอบรับหน้าชื่น หัวเราะตบท้าย ไอ้หมวยน้อยเลยฮึดฮัดแต่ทำอะไรไม่ได้



“พอๆ ไอ้สัด แหย่มันอยู่นั่น ชอบมันก็จีบดีๆ”ผมพูดแล้วเดินหนีมาทันที ได้ยินเสียงไอ้หมวยกับไอ้เต้ด่าตามหลังมา ก็แค่แหย่เล่นขำๆ จริงๆแล้วพวกมันไม่คิดจะกินกันเองอยู่แล้ว แต่ถ้าจะคิดก็คงจะเลิกคิดไปนานแล้วเพราะไม่มีใครสู้หมาในปากของไอ้หมวยได้



“เอ้าๆ อะไรกันพวกมึง ไอ้หมวยมึงเป็นเหี้ยไรหน้าบึ้งหน้างอ ใครรังแกมึงไหนบอกป๋าสิ เดี๋ยวไปจัดการให้”พี่รหัสมันพูดขึ้น เรียกให้สายตาคนทั้งโต๊ะหันมามอง ผมนั่งลงข้างไอ้วินที่มาถึงก่อนอีกข้างของมันคือไอ้นัทที่นั่งข้างพี่วาวอีกที  ไอ้หมวยนั่งตรงข้ามผมข้างกับพี่รหัสมัน พอนั่งข้างกันแล้วเหมือนพ่อลูกไม่มีผิด ขนาดตัวค่อนข้างแตกต่างกันมาก สีผิวก็ด้วย



“พวกเหี้ยนี่ดิปากหมา”



“พูดจาไม่ดูหมาในปากตัวเองเลยนะมึง”พี่หลงแซวข้ามโต๊ะไป โต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ในห้องกระจกดูเป็นส่วนตัว คงจะมีคนจองไว้ โต๊ะที่นั่งก็ต่อกันยาวห้าโต๊ะ เก้าอี้ที่พวกผมนั่งนี่อยู่ปลายแถวเลย ไอ้โอ๊คมันนั่งปิดท้ายโต๊ะพอดี



“เอ้า มากันครบแล้วนะพวกมึง แนะนำตัวกับพวกรุ่นพี่หน่อย ไปยืนเรียงหน้ากระดานดิ”พี่หลงพูด ปีสองอย่างพวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก



“รุ่นพี่สั่ง ทำไมไม่ทำตาม”พี่กั๊กพูดเสียงดัง แกไม่ได้ตะโกนหรอกแต่มันก็ก้องไปทั้งห้อง น้ำเสียงนิ่งมาก จนน้องรหัสตัวเองมุ่ยหน้าไม่พอใจนั่นแหละ



“ชักช้ากูให้วิ่งกลับไปมอแล้ววิ่งกลับมานะเว้ย”พี่กั๊กเร่ง พวกมันเลยรีบไปยืนเรียงหน้ากระดานโดยมีผมเดินตามไปติดๆ



“เริ่มจากมึงก่อนเลยไอ้วิน มึงเป็นเดือน”



“เกี่ยวด้วยเหรอพี่”มันทำหน้าข้องใจแต่ก็ทำตาม รุ่นพี่อยู่เต็มห้องขนาดนี้ขัดได้ที่ไหน



“ผมวินฟินสุดลำครับ!”พอมันแนะนำเสร็จ พวกรุ่นพี่ก็หัวเราะ ได้ยินเสียงแซวแว่วๆว่าฟินจริงหรือเปล่า คือคณะพวกผมจะมีฉายาตามท้ายกันแบบนี้ทุกคนก็ทะลึ่งสัปดนกันไปตามประสาคณะที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนฉายาของพวกผู้หญิงก็จะออกแนวตลกๆหรือไม่ก็เว่อร์ๆ



“ผมน้ำน่านครับ”



“หะ!!”เสียงดังมาจากพวกพี่ๆที่กำลังนั่งขำกัน ทุกคนชะงักไปกับการแนะนำตัวคนสุดท้ายอย่างผม ก็ผมไม่ได้เข้ากิจกรรมเลยไม่มีฉายาเหมือนคนอื่น



“ทำไมมึงไม่มีฉายาเหมือนคนอื่นวะ”รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้นผมเห็นหน้าไม่ถนัด



“น้องมันไม่ได้เข้ากิจกรรมอ่ะพี่โค้ก”จากประโยคบอกเล่าของพี่หลงก็มีประโยคคำถามมากมายตามมา แต่ผมไม่ต้องตอบเองพวกพี่หลงออกหน้าตอบแทนให้ พวกพี่แกก็ดูเกร็งๆขึ้นมาคงจะกลัวพวกรุ่นเดอะตำหนิเอา แต่พอรู้ว่าผมมีเหตุผลอะไรที่ไม่ลงกิจกรรมทุกคนก็เลยไม่ซักอะไรต่อ แล้วก็ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเมื่อพี่เอ้บอกว่าปีหน้าจะให้ผมเป็นพี่ว๊าก พอรู้จักกันทั้งพี่ทั้งน้องก็เริ่มลงมือกินดื่มกันตามอัธยาศัย



ตกดึกก็ยิ่งเริ่มคึกตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่เข้าร่างกาย โชคดีที่วันนี้เป็นวันศุกร์จะเมาเป็นหมาแค่ไหนก็ได้วันพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียน ที่นั่งเริ่มสลับสับเปลี่ยนกัน ผมคุยถูกคอกับรุ่นพี่คนหนึ่งห่างกันหกเจ็ดปีได้ชื่อพี่อาร์ท



“กูสงสัยว่ะทำไมมึงไม่ได้เป็นเดือนวะ หน้าตาแม่งหล่อขนาดนี้”



“แล้วผมไม่หล่อหรือไงคร้าบเพ่”เสียงไอ้วินดังสวนมาจากฝั่งตรงข้ามมันเริ่มเมาแล้วหน้าแดงตาเยิ้ม



“เออ มึงก็หล่อ แต่ไอ้น่านแม่งก็หล่อเว้ย”


“ก็มันไม่ได้เข้ากิจกรรม พวกอิปัทมันไปขอร้องอ้อนวอนให้ลงประกวดมันก็ดันไม่ยอมลง อิปัทเห็นว่ามันไว้ทุกข์อยู่ก็เลยไม่กล้าเซ้าซี้ ตอนนั่นนะเว้ยพี่ไอ้น่านแม่งโคตรน่ากลัวเลย ตาขวางรุ่นพี่พูดอะไรก็ทำมึน ผมนี่กลัวว่าจะมีเรื่องกับพี่เขมแล้วนะ”พี่กั๊กเล่าเป็นฉากๆ มือหนึ่งแก้วเหล้ามือหนึ่งโอบไหล่น้องรหัสตัวเองไว้แน่น ไอ้หมวยมันก็เมาง่ายแต่ก็แดกไม่หยุดชอบนักของฟรี ตื่นมาได้พี่รหัสเป็นผัวพวกผมจะฉลองให้มันเจ็ดวันเจ็ดคืนเลย



“ในฐานะที่มึงไม่ผ่านการรับน้องคณะ งั้นพวกกูจะรับน้องมึงเอง ที่อยู่ในนี้สายว๊ากกับพี่ระเบียบทั้งนั้น มึงจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งได้มึงต้องดื่มเหล้าจากพวกกูคนละแก้ว”พี่โค้กพูดขึ้นไม่รู้ว่ามานั่งร่วมวงทางฝั่งพวกผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แกหยิบช้อนขึ้นตีข้างแก้วเพื่อเรียกทุกคน พอบอกว่าจะรับน้องผมยังไงก็เห็นดีเห็นงามกันไปหมด



“อ้วกแน่ไอ้สัด”ไอ้โอ๊คกระซิบข้างๆหู ผมก็คิดเหมือนมัน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเมาเป็นหมาเมื่อไหร่ก็ให้พวกมันแบกกลับไป ผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าดื่มไปทั้งหมดกี่แก้ว มึนๆเบลอๆเมาๆงงๆ รู้แค่ว่าแผ่นดินไหวแล้ว เหมือนจะได้ยินใครเรียกชื่อผม เสียงคุ้นๆแต่นึกไม่ออก หลับดีกว่า



“เจอกันอีกแล้วนะชลธร”







---------------------------

หายไปนานขอโทษด้วยค่า พอดีมีเรื่องต้องเคลียร์ยาวเลย จากนี้ไปจะอัพบ่อยๆนะคะ ไม่รู้จะมีคนอ่านอยู่หรือเปล่า ฮ่า ตอนนี้สั้นๆไปก่อนเนอะ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2016 14:11:57 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
สนุกดีค่ะ ติดตามอยู่นะคะ

ผู้ชายคนนั้นจะใช่อาจารย์หรือเปล่านะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.3 [25.9.58]
« ตอบ #19 เมื่อ: 29-09-2015 21:17:58 »





ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
สนุกมากก  อ่านลื่น อ่านเพลิน   อ.  แบบปากน่ายอมแพ้มาก  ด่าทีเจ็บจิ๊ดดดด   ลุ้นว่าจิได้กันยังไง อิอิ

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero






- 4 -








   ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศทำให้ผมซุกตัวกับผ้าห่ม แต่กลิ่นที่แปลกไปทำให้ต้องลืมตาขึ้นมา ไม่ใช่แค่ผิดกลิ่นเท่านั้น ยังผิดสีอีกต่างหากทั้งผ้าห่ม ผ้าปู ปลอกหมอนไม่ใช่สีประจำที่ผมชอบใช้ พอปรับโฟกัสสายตาได้แล้วมองไปรอบห้องก็ต้องลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีเพื่อนๆของผมสักคนที่แต่งห้องแบบนี้



   ฉิบหายละ ใครหิ้วกูกลับมาวะ?!



   พอก้มมองตัวเองยิ่งตกใจทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่กางเกงในกับบ๊อกเซอร์ เสื้อผ้าหายไปไหนหมดวะ?! ยังไม่ทันเจอของที่ตามหาบุคคลปริศนาก็เปิดประตูเข้ามา



   “เห้ย!”ผมอยากจะกระทืบโลกใบนี้ให้บิดเบี้ยวตอนที่เห็นหน้าคนที่เปิดประตูเข้ามา แต่มีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านั้นที่ต้องคิดคือทำไมผมถึงมากับมันได้ แม่งทำอะไรผมหรือเปล่าวะ ตื่นมาก็ไม่มีเสื้อผ้า แต่ร่างกายก็ปกติไม่เจ็บปวดตรงไหน เดินได้ตรงขาไม่ถ่าง ไม่อยากจะคิดในแง่ร้าย แต่ครั้งล่าสุดที่เจอมันครั้งก่อนเสือกพูดว่าผมอาจจะเป็นสเป็คมันแล้วจากรูปร่างแล้วมันคงไม่ใช่ฝ่ายรับแน่ๆ ซึ่งผมก็ไม่ใช่เหมือนกัน!



   “มีอยู่แค่นี้ยืนโชว์อยู่ได้”



   “ไอ้เหี้ย มองไมวะ”ผมดึงหมอนมาปิดน้องชายคู่ใจ



   “ไปอาบน้ำแล้วออกไปกินข้าวเดี๋ยวจะพาไปส่ง”



   “ทำไมกู...ผมมาอยู่นี่ได้”ไม่อยากจะพูดดีด้วย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอสบตาดุๆนั่นแล้วปากมันจะสงบไปเอง



   “ไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยคุย”ผมมองตามมันที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากตู้ ก่อนจะเปิดตู้อีกด้านแล้วหยิบเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนออกมาให้



   “ใส่นี่ไปก่อน คิดว่าคงใส่ได้ ส่วนนี่ของใหม่แต่คิดว่าคงจะหลวมหน่อย”ผมมองอย่างเกงเกงในที่ยังไม่แกะกล่องที่มันยัดใส่มือมา มันจะดูถูกกันไปละไอ้เหี้ย!



   “เล็กไปด้วยซ้ำ”เรื่องอะไรจะให้หยามกันง่ายๆ



   “หึ...ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็คิดไป นู่นห้องน้ำ อันไหนแชมพูอันไหนสบู่คิดว่าคงจะแยกออกนะ”



มันพูดจบก็เดินอาดๆออกไป คนอะไรท่ามาก เก๊กไม่มีใครเกิน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กับมันได้ เพื่อนผมไปไหนทำไมถึงปล่อยผมไว้กับไอ้บ้านี่ แล้วมันมาจากไหน มาเจอผมได้ยังไง คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ผมเลยได้แต่เร่งอาบน้ำแต่งตัว แต่ห้องน้ำมันก็สวยจนผมเสียเวลาสำรวจอยู่นานพอดู ผมเคยบอกไปหรือยังว่าผมเรียนการออกแบบภายใน อันที่จริงผมก็อยากเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย แต่คงจะอาศัยไปเรียนเป็นวิชาเลือกแทน การตกแต่งห้องของมันดูดีมีรสนิยมมาก จะว่าไปแล้วมันก็คงเป็นคนมีฐานะไม่น้อย ดูจากเสื้อผ้าธรรมดาๆที่ให้ผมมาก็ยังเป็นแบรนด์เนม ขนาดกางเกงในยังแพงอ่ะคิดดู



   ปัง ปัง ปัง!



   ปังสุดท้ายทำให้ผมต้องรีบเปิดประตูออกไป ทั้งที่ใจอยากจะให้มันเคาะให้ประตูหรือไม่ก็มือพังกันไปข้าง เจ้าของห้องยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด   



“เคาะทำบ้าอะไรวะ”



   “พูดจาให้มันดีๆหน่อย ผมแก่กว่าคุณนะ ถึงคุณจะไม่คิดว่าผมเป็นอาจารย์สอนคุณ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนอยู่ดี”



   “จะเทศนาอีกนานป่ะ น่ารำคาญว่ะ”




   “ชลธร!”



   “เออ! จำชื่อตัวเองได้ ไม่ต้องเรียก”แม่งหงุดหงิดโว้ย! อยากจะทำอะไรสักอย่างกับหน้าหล่อๆของมัน เออ! ผมยอมรับเลยว่ามันหล่อเพราะเพิ่งได้เห็นหน้าชัดๆใกล้มากๆก็วันนี้ ได้ยินว่าแม่มันเป็นคนฝรั่งเศสแต่หน้าตามันก็ไม่ได้กระเดียดไปทางฝรั่ง แต่ที่โดดเด่นก็คงเป็นจมูกโด่งของมันนี่แหละ ตาถึงจะสวยแต่มันก็ดูดุมากกว่า แต่มันใช่เวลาที่ผมจะมาชื่นชมหรือพินิจพิจารณาหน้ามันเหรอวะ?



   “คุณมีปัญหาอะไรกับผมนักหนา ผมไปทำอะไรให้”



   “ยังจะถามอีกเหรอว่าทำอะไรให้”



   “หึ โกรธที่ถูกว่าวันนั้นหรือไง ถ้าคุณทำถูก ทำในสิ่งที่คุณทำใครเขาจะไปว่าอะไรคุณได้ อย่าบอกนะว่าสิ่งที่ทำไปวันนั้นมันดีแล้ว”



   ผมเถียงไม่ออกว่าสิ่งที่เขาพูดมาไม่ถูกต้อง แต่ผมก็ไม่ชอบป่ะวะที่จะถูกว่าแบบนั้น พูดจาเหมือนอยู่เหนือคนทั้งโลก ตอนเด็กๆแม่เอาอะไรให้กินวะ



   “ขอโทษแล้วกันถ้าหากผมพูดแรงไป แต่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”มันยกสองมือขึ้นเหมือนยอมแพ้และมีท่าทีเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา ทำเอาผมปรี๊ดๆในใจ เพราะเหมือนกับว่าผมนั้นแย่มาก



   “แล้วก็เลิกนิสัยพาลเป็นเด็กๆได้แล้ว”



   “ว่าใครพาลวะ?!”ผมคว้าคือเสื้อมันไว้แน่น อยากจะตํนหน้าให้เลือดอาบ แต่ตัวมันสูงและหนากว่าผมเลยไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ซ้ำยังจับข้อมือผมสองข้างไว้แล้วบีบแน่นจนผมรู้สึกเจ็บแต่ผมก็ไม่แสดงออก ไม่อยากให้มันมองว่าผมอ่อน



   “ก็เห็นๆกันอยู่ รู้จักระงับสติอารมณ์ของตัวเองบ้างนะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ใช้แต่อารมณ์ ไม่พอใจใครก็กระชากคอเขาแบบนี้”พูดจบมันก็กระชากมือผมออกจากคอเสื้อมันอย่างแรง ข้อมือที่ถูกบีบตอนนี้เจ็บจนชาไปหมด พอมันปล่อยออกก็ขึ้นรอยนิ้วชัดเจนมาก ไอ้เหี้ยคนหรือหมีควายทำไมแรงเยอะขนาดนี้



   “ไปกินข้าวได้แล้ว”มันพูดเสียงนิ่ง



   “ไม่กิน จะกลับ!”ใครจะไปมีอารมณ์กินข้าวกับคนที่ยืนด่าตัวเองปาวๆได้วะ



   “ว่านิดว่าหน่อยทำเป็นงอนจะกลับบ้าน”



   “ใครงอนวะ ผมว่าคุณนั่นแหละเป็นอะไรกับผมมากป่ะ หาเรื่องว่ากันอยู่ได้”แม่งเป็นโรคจิตหรือเปล่าวะ แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือตัวเองนี่แหละมายืนให้เขาว่าอยู่ได้



   “หึ ไปกินข้าวไป”จู่ๆมันก็ยิ้ม ไม่เชิงว่ายิ้มเยาะหรือยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่อ่านไม่ออกแต่เห็นแล้วหมั่นไส้



   “ไม่...”



   โครก~



ไอ้ท้องเหี้ยทำกูขายหน้าอีก!



   “ก่อนจะปฏิเสธถามท้องตัวเองก่อนดีกว่านะ”มันพูดยิ้มๆ ผมชะงักไปนิดหนึ่ง จู่ๆบรรยากาศมาคุก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ใช่ว่าผมจะหายหงุดหงิดใจแล้ว ผมเดินตามมันออกมาแล้วได้กลิ่นอาหารที่หอมยั่วน้ำลายท้องมันก็ร้องโครกครากหนักกว่าเดิม ก็มันเที่ยงแล้วนี่หว่า


“นั่งสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามาอยู่นี่ได้ยังไง”



ไม่ใช่เพราะว่าอยากกินอาหารแต่ผมอยากรู้ว่ามาได้ยังไงเลยจำใจนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารกับมันด้วย อาหารเช้าควบเที่ยงคือสปาเก็ตตี้เบค่อนแฮมผัดพริกแห้ง ดีที่ไม่ใช่พวกซอสครีมไม่งั้นเลี่ยนตายเหมือนผมจะแฮงค์ๆอยู่ด้วย อย่างอื่นก็มีขนมปังกระเทียมกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ซุปครีมเห็ดที่ต้องเบ้หน้ามันคงเอียนน่าดู ไส้กรอกรมควัน แล้วก็ซีซ่าสลัดถึงจะไม่ฟูลคอร์สแต่ก็หลายหลากมากไปสั่งมาจากไหนวะ



“ชา กาแฟ หรือน้ำส้มดี?”



“น้ำส้มแล้วกันจะได้สดชื่น”แล้วมันก็เดินไปรินน้ำส้มมาให้ แบบนี้จะถามผมทำไมวะ กว่าจะได้ฤกษ์เล่าได้มันก็ยังลีลายึกยักอยู่นั่น หลอกล่อผมให้กินนั่นกินนี่เหมือนเป็นเด็กๆ แต่ก็ยอมรับว่าด้วยความหิวมากๆผมเลยแฮปปี้กับอาหารตรงหน้าจนลืมอารมณ์ขุ่นมัวไปเลย รู้ตัวอีกทีก็เห็นมันนั่งจ้องผมอยู่ ลำคอตีบตันขึ้นมาทันที



“มองไร”



“มองคุณนั่นแหละ”ถึงจะกระดากหูที่ฟังมันเรียกคุณๆ แต่ก็ไม่รู้จะให้มันเรียกว่าอะไรดีเพราะเราไม่ได้สนิทขนาดจะให้มาเรียกชื่อกันและผมก็ไม่ได้อยากสนิทกับมันด้วย



“เวลาอยู่นิ่งๆ ก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูดีนะ”มันพูดนิ่งๆ



แค่กๆๆ ไอ้สัด สำลักเลยกู!



“พูดไรเนี่ย ขนลุกเลยเห็นไหม”ผมยื่นแขนให้มันดู หน้าตาอย่างผมนี่เหรอที่จะใช้คำว่าน่ารักน่าเอ็นดู ไอ้เหี้ย สายตามึงต้องมีปัญหามากแน่ๆ มันยิ้มมุมปากที่ดูดีสัดๆ รู้สึกว่าวันนี้ผมจะชมมันบ่อยไปละทั้งที่โคตรเกลียดขี้หน้ามันจริงๆ



“ตกลงจะเล่าได้ยังเนี่ย”เปลี่ยนเรื่องดีกว่า



“มันก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อคืนผมเจอเด็กขี้เมาหลับอยู่ข้างรถ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นก็ต้องพากลับมาเนี่ย พอมาถึงห้องอาเจียนรดผมรดตัวเองตั้งแต่หน้าประตู เลยต้องแก้ผ้าเช็ดตัว ทำความสะอาดห้องกว่าจะได้อาบน้ำนอนก็ตีสามแล้ว”



“โม้”ผมเนี่ยนะจะเป็นอย่างที่มันเล่า ผมจะไปเมาหลับอยู่ข้างรถมันได้ยังไง เพื่อนผมก็อยู่ตั้งหลายคน ไหนจะรุ่นพี่อีก ทำไมถึงทิ้งผมไว้คนเดียววะ



“เรื่องจริงทั้งนั้น”



“โทรศัพท์กับเสื้อผ้าผมอยู่ไหน”



“โทรศัพท์ชาร์จไว้ให้แล้วในห้องนอน มันแบตหมดนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมติดต่อญาติหรือเพื่อนคุณไม่ได้เลยต้องพากลับมา ส่วนเสื้อผ้าส่งซักให้แล้ว เดี๋ยวก็คงได้ แต่ถ้ารีบวันอื่นผมเอาไปให้คุณที่มหาลัยก็ได้”



ผมตัดสินใจกลับหลังจากเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมา กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถทุกอย่างยังอยู่ครบ ส่วนเสื้อผ้าผมไม่ได้คิดอยากจะนัดเจอมันวันหลังแน่ๆก็เลยกะทิ้งมันไปซะเลย แต่มันมีปัญหาตอนจะกลับนี่แหละที่มันรั้นจะไปส่งผมให้ได้ทั้งที่ผมไม่ใช่เด็กสามขวบที่จะหลงทาง กลับบ้านไม่ถูก



“ผมจะผ่านแถวร้านนั้นอยู่แล้ว ไม่ได้พิศวาสอยากจะไปส่งนักหรอก”ฟังแล้วอยากจะด่าอะไรสักอย่าง ติดที่นึกไม่ออกนี่แหละ ผมขยับไปชิดอีกมุมหนึ่งของลิฟต์ ไม่อยากอยู่ใกล้ใช้ลมหายใจเดียวกับมัน ส่วนไอ้คนพูดก็เอาแต่จ้องเลขลิฟต์ที่ลดลงทีละชั้น ห้องของมันอยู่ชั้นบนสุดและมีเพียงแค่ห้องเดียวด้วยถึงได้กินพื้นที่กว้างขวางขนาดนั้น ยอมรับเลยว่าชอบห้องของมันมาก วิวก็สวยจนอยากได้กล้องมาเก็บภาพไว้ แต่ถึงจะชอบมากถ้าให้เลือกผมก็อยากอยู่บ้านที่มีอาณาบริเวณมากกว่า มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ มีพื้นดินให้เดินรับพลังงาน



“รถนี่...”ผมตาโตหันไปมองหน้ามันก่อนจะหันกลับไปมองรถที่จอดบริเวณวีไอพี ข้างกันยังมีซูเปอร์คาร์จอดอยู่อีกสองคัน



“รถผมเอง ทำไม?”



ก็ไม่ทำไม ก็แค่อยากจะโทรบอกไอ้หมวยว่ารถคันที่มันอยากเห็นหน้าเจ้าของนักหนามันจอดนิ่งอยู่ตรงหน้าผมและเจ้าของมันก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย



“เปล๊า ยืมขับได้ป่ะ?”ก็พูดเล่นขำๆ เผื่อฟลุ๊ค แอสตัน มาร์ตินเชียวนะโว้ย แต่สิ่งที่มันตอบกลับมาทำให้ผมอยากจะกระโดดขาคู่ใส่






“ได้สิ...แต่ต้องมาเป็นเมียผมก่อนนะ”


   
      




------------------------------------------------- :กอด1: :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2016 14:54:53 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ maruko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สนุกมากกกก เข้ามาอ่านแล้วติดเลยค่ะ

ชอบน่าน อารมณ์ร้อนได้ใจเจ้มากกก 555555

อยากรู้น่านจะชนะอาจารย์ซักครั้งมั้ยย ดูแพ้ทางตลอด

ออฟไลน์ maruko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เข้ามารอและให้กำลังใจคนแต่ง รอติดตามเสมอนะคะ  :L2: :L2: :3123: :3123:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม ประโยคสุดท้ายนี่พูดเล่นหรือจริงจัง
ว่าแต่พระเอกนี่ด่าเจ็บมากอ่ะ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
แล่วๆๆๆๆ น้องน่าน
พี่เขาเอารถมาแลกตัว ยอมมั้ย 5555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ถีบยอดหน้าแล้วเอากุญแจรถไปเลยค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
หุๆ  คิดถึงเรื่องนี้มากกก รอออออตลอด  อ.ปากจัด ปากได้ใจ  แอบสงสารน้อง 5555  แต่อีกใจก็สะใจลึกๆ  ตรงที่แำ้ทางเต็มเปานี่แหละ

ออฟไลน์ phoenixes

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
    • Zero's Twitter
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero






- 5 -






   
   เกิดมายี่สิบปีผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมาระวังประตูหลังของตัวเองเลยสักนิด ดูแล้วไอ้คนขับข้างๆที่ทำเท่ขับมือเดียวอีกมือวางบนหน้าขาคงเป็นประเภทหญิงก็ได้ชายก็ดีแน่ๆ ปกติจะเป็นแต่ฝ่ายบุกตีประตูเมืองคนอื่นเท่านั้น แต่มาเจอขั้วเดียวกันที่พูดจาหวังประตูหลังถึงสองครั้งก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆ ถึงผมจะเรียนการต่อสู้ป้องกันตัวมาบ้างแต่ก็ไม่มั่นใจว่าถ้าหากสู้กับคนข้างๆที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ตอนนี้จะชนะหรือเปล่า เพราะแรงหมีควายของมันทำข้อมือผมเขียวเลยตอนนี้



   “ถามจริง มีอาชีพขายอาวุธเถื่อนป่ะเนี่ย”นอกจากเจ้าแอสตันคันนี้ที่ผมได้นั่ง ซูเปอร์คาร์อีกสองคันนั้นก็เป็นของมันเหมือนกัน แบบนี้ไม่เรียกว่ารวยธรรมดา นี่มันโคตรของโคตรรวย จนผมนึกไม่ออกว่ามันจะประกอบอาชีพอะไรได้อีก พยายามสอดส่องว่ามันซุกอาวุธไว้ในรถบ้าง หรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็น ได้แต่กลิ่นหอมสะอาดของน้ำหอมปรับอากาศในรถ รื่นจมูกดี



   คำถามของผมกลายเป็นหมันเมื่อมันไม่ตอบทำเพียงปรายตามองแล้วหันกลับไปมองถนนด้านหน้าต่อ ตบไฟเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของร้านที่ผมมาเมาเป็นหมาเมื่อคืนนี้เทียบกับออร์ดี้ อาร์ 8 ลูกรัก



   “แล้วคุณล่ะ มีอาชีพเสริมขายยาหรือไงเป็นแค่นักศึกษาปีสองถึงได้ขับรถแพงแบบนี้”มันที่เงียบมานานพูดขึ้นเมื่อจอดรถเทียบกับลูกรักของผม  แว่นกันแดดที่ผมถูกใจบนใบหน้ามันเสริมให้มันดูน่าหมั่นไส้ขึ้นอีกเท่าตัว



   “ลงไปได้แล้ว หรือว่าติดใจ?”มันยิ้มมุมปาก เท่ตายละมึง คนอะไรน่าหมั่นไส้เห้ๆ



   “ฝันอยู่หรือไง มีอะไรให้ติดใจวะ แต่ถ้าเป็นแฟนคุณก็ว่าไปอย่าง”



“แฟน?”



“เฟิร์สน่ารักดีนะ อย่าเผลอก็แล้วกัน” น่าแปลกที่ผมจำชื่อคนๆนั้นได้



“หึ ถ้าคิดว่ามีปัญญาจะเข้าหาเฟิร์สได้ก็ลองดู ระดับนายกับฉันมันต่างชั้นกัน ไม่มีใครที่ไหนมองข้ามฉันแล้วไปเลือกนายได้หรอก หน้าตาก็งั้นๆ เรียนก็ยังไม่จบ อนาคตก็รำไร เงินที่ใช้ก็ของพ่อแม่ทั้งนั้น มีแต่รถหรูๆไว้ขับอวดชาวบ้าน”



คำพูดโอ้อวดที่ยกมาข่มไม่ได้สะเทือนผิวหนังของผมแม้แต่นิด แต่คำพูดในตอนท้ายมันเหมือนมากดถูกจุดบางอย่างในตัวผมให้ระเบิดออกมา



“ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามาทำเป็นพูดจาอวดดีสั่งสอนคนอื่น!”



แม้ว่าการอยู่สุขสบายที่ได้มาจะเป็นเพราะพ่อของผมปูทางไว้ให้แต่ไม่ได้หมายความว่าผมผลาญเงินเหล่านั้นเพียงเพื่อจะอวดให้คนอื่นรู้ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผมเอง เพียงแต่ผมโชคดีที่มีต้นทุนชีวิตที่ดีเท่านั้นเอง รถคันที่ผมใช้อยู่ก็มาจากเงินที่ผมหามาจากการทำงานเองทั้งนั้น



“เฮ้ เดี๋ยว”มันเดินตามผมมาถึงที่รถ เพราะพอผมตะคอกใส่หน้ามันอย่างโมโหผมก็ลงจากรถมันทันทีปิดประตูรถกระแทกหน้าแม่ง เอาให้พังคามือ



“อะไรอีกวะ!”



“ขอโทษ”



“หะ...?”



“ขอโทษถ้าหากทำให้ไม่พอใจ”



“เออ!”แม่ง อยากจะโมโหต่อแต่พอมันพูดขอโทษคำเดียว ทำไมอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดๆเมื่อครู่มันลดลงอย่างรวดเร็ว คงเพราะน้ำเสียงกับท่าทางมันบอกว่ารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ ไม่ใช่แค่ขอโทษให้ผ่านๆไป



“พูดจาให้มันเพราะๆหน่อยไม่ได้หรือไง”น่ะ ไม่ทันไรก็กลับมาทำตัวน่าเบื่ออีกละ เกิดมาเพื่อสั่งสอนคนอื่นหรือไงวะ



“ผมมันคนเลือกปฏิบัติ แต่ยังไงก็ขอบคุณก็แล้วกันเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ที่พามาเอารถ หวังว่าคงจะไม่ต้องซวยมาเจอกันอีกนะครับอาจารย์”เน้นคำว่าอาจารย์ชัดๆ ประชดแม่ง จะเอาอะไรนักหนาวะ บ่นอยู่ได้เรื่องพูดเพราะๆเนี่ย ฟังคำหยาบแล้วผื่นมันจะขึ้นหรือไงวะ



ผมขับรถออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำว่าไอ้บ้านั่นจะยืนบื้อเป็นสากกระเบืออยู่ที่เดิมหรือเปล่า มุ่งหน้าตรงกลับบ้านเพื่อไปนอนต่อรู้สึกเพลียๆชอบกล แต่ก่อนอื่นขอโทรไปด่าไอ้พวกชั่วที่ทิ้งผมไว้เมื่อคืนก่อน



“ไอ้สัดโอ๊ค”เรียกเอาฤกษ์เอาชัยสักหน่อย



“ไอ้เหี้ยน่าน นี่คือคำทักทายเวลามึงโทรหาคนอื่นเหรอวะ”



“เออ เมื่อคืนทิ้งกูเลยนะไอ้เหี้ย”เวลาเมาปกติแล้วมันเป็นที่พึ่งของผมเสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะเมาแบบเมื่อคืนบ่อยๆ ส่วนมากเวลาไปเที่ยวก็จะไปหาเหยื่อมากกว่า ถ้าอยากเมาจริงๆก็จะจัดที่บ้านผมนี่แหละ



“ทิ้งห่าไร เมื่อคืนกูเมาฉิบหาย เพิ่งฟื้นก่อนมึงโทรมาเนี่ย”ได้ยินเสียงสวบสาบผ่านปลายสายมันคงยังไม่ลุกจากที่นอน



“แล้วมึงอยู่ไหน?”



“อยู่ห้องไอ้นัท มันพากูกับไอ้วินมา ห่าวินมันยังไม่ฟื้นเลยนอนดมตีนกูอยู่เนี่ย”



“แล้วไอ้หมวยกับเหี้ยเต้อ่ะ”



“ไม่รู้ เดี๋ยวกูถามไอ้นัทก่อนเมื่อคืนมันเป็นคนเดียวที่มีสติมากที่สุด”มันว่าแล้วหายไปสักพักก่อนจะกลับมานึกว่าตายห่าไปแล้ว



“ยังอยู่ป่ะเชี่ยน่าน”



“อยู่”



“เออ ไอ้นัทบอกว่าพี่กั๊กไปส่งไอ้หมวยไอ้เหี้ยนั่นก็เมาไม่ได้สตินั่งหัวเราะคิกๆตลอด กูว่าป่านนี้ตกเป็นเมียพี่กั๊กไปแล้วมั้ง”คำบอกเล่าที่เอาผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก็นะ...เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ แต่พวกผมพอมองออกว่าพี่รหัสไอ้หมวยคิดไม่ซื่อ แต่ก็ไม่กล้ารุกเพราะคำว่าพี่น้องค้ำคอ เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด อีกอย่างถึงไอ้หมวยจะตัวขาวหน้าหวานน่าฟัดแค่ไหน มันก็ไม่ได้มีใจฝักใฝ่สนใจผู้ชายด้วยกัน แม้ว่าจะเป็นที่หมายปองของพวกสายรุกทั้งคณะก็ตาม



“ไอ้เต้อ่ะ”เหลืออีกตัว ผมว่ามันไม่น่าจะเมามากแล้วพอที่จะเป็นที่พึ่งพาได้



“เด็กมันมารับไปกินตับ”เป็นอันว่าจบข่าว แต่ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ผมไปตื่นอยู่บนเตียงไอ้บ้าขี้เก๊กขี้บ่นนั่นอยู่ดี



“แล้วกูอ่ะ ใครพากูไปทิ้งไว้ที่ลานจอดรถวะ”



“กูไม่รู้ละ กูเมา มึงคุยกะไอ้นัทเองแล้วกัน กูจะไปขี้”เอ้า ไอ้สัดนี่ ยังไม่ทันจะได้ด่าปลายสายก็เปลี่ยนคนเสียแล้ว ไอ้นัทบอกว่ามันตั้งใจจะพาผมไอ้วินไอ้โอ๊คมานอนที่ห้องเพราะเห็นเมาเป็นหมา แต่มันพาไอ้วินที่เมาสุดมาไว้ที่รถก่อน พอมันเข้าไปอีกรอบก็เจอแต่ไอ้โอ๊คไม่เจอผม พวกพี่ๆบอกว่าผมเดินออกมาแล้วมันก็เลยคิดว่าผมกลับไปก่อนแล้ว ไม่ได้สังเกตว่ารถผมยังจอดอยู่ เพราะมันมัวแต่วุ่นวายกับไอ้ขี้เมาสองคนในรถที่อ้วกรดกันอยู่ แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเดินออกมาตอนไหน เหมือนความทรงจำขาดหายไป แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว



“ว่าแต่มึงถามแบบนี้แสดงว่าเมื่อคืนมึงไม่ได้กลับบ้าน?”



“เอออ่ะดิ ไอ้เหี้ย”



“แล้วมึงไปนอนไหนวะ”



“เรื่องมันยาว แต่ช่างมันเหอะ กูปลอดภัยดี”ตูดกูด้วย เหอะๆ ผมตัดสายมันไปก่อนที่ไอ้ฉลาดนัทมันจะถามไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่ากลัวอะไร แต่ผมขี้เกียจรื้อฟื้น



กลับถึงบ้านก็ไม่มีใครอยู่ ไอ้พายคงไปถ่ายละครของมันอีกตามเคย ผมทิ้งดิ่งลงที่นอนโดยที่ไม่อาบน้ำ ตื่นมาค่อยอาบทีเดียวจากนั้นก็เหมือนคนตายไปเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ข้างหู



“ว่าไงวะ”เสียงเหี้ยมาก แหบแห้งเหมือนคนเดินผ่านทะเลทรายขาดน้ำมานาน



“แดกเหล้ากัน”ไม่มีคำทักทายใดๆ พุ่งตรงเข้าประเด็นทันที ผมปรือตาขึ้นเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงมองนาฬิกาที่ปลายเตียง สองทุ่ม...หลับไปนานเหมือนกัน



“ที่ไหน”



“ที่ผับเปิดใหม่แถว... ของพวกรุ่นพี่กูเอง มีแต่ของดีๆให้แดก ของชอบมึงก็เยอะ”ไอ้ธันว์บอกสถานที่ที่ผมพอคุ้นอยู่บ้างพร้อมกับโฆษณาชวนเชื่อ น้ำเสียงกระดี๊กระด๊ามากมาย ‘ของดี ของชอบ’ ที่เป็นอันรู้กันนั้นคงจะเด็ดจริงๆ



“เมื่อคืนกูเพิ่งไปเมามา”



“แปลว่าจะไม่ไป?”



“ไปดิ ไอ้สัด”ไม่ไปก็โง่ มันตึงๆอึดอัดอยากปลดปล่อยเหมือนกัน คืนนี้ยังไงต้องให้ได้สบายตัว



“เออ เจอกัน”






*






ผมอมยิ้มเมื่อผับที่ไอ้ธันว์ชวนผมมาบรรยากาศดีมาก ดูจากรถที่จอดด้านนอกก็พอจะรู้ว่าเป็นพวกกระเป๋าหนักทั้งนั้น ผมสอดสายตาหาโต๊ะที่ไอ้ธันว์บอก ระหว่างนั้นก็แจกยิ้มให้กับสาวๆที่มองมาอย่างมีไมตรี ‘ของดี ของชอบ’ ลานตาจริงๆ ผมเห็นไอ้ธันว์โบกมืออยู่ตรงโต๊ะมุมหนึ่งมีสมาชิกนั่งอยู่ด้วยหลายคน



“ไอ้สัดมึงจะหล่อไปไหนว้า เห็นใจพวกกูบ้าง แบบนี้สาวไหนจะเอาพวกกู”ไอ้อ๊อดเพื่อนไอ้ธันว์ทักทายผมทันที หน้าตามันก็จัดว่าดูดีไม่ได้ขี้เหร่อะไร



“พูดเหมือนมึงไม่มีอยู่ในสต็อกอยู่แล้ว”



“กูก็อยากหาใหม่บ้าง โละๆของเก่าทิ้ง เบื่อแล้ว”



“เหอะ ไอ้เหี้ย ไงมึงไอ้โก้ได้ข่าวไปเจอตอเข้า”ผมยักคิ้วให้มัน ไอ้ธันว์วางแก้วเหล้าไว้ตรงหน้า ผมเลยยกขึ้นมาจิบเพื่อความชุ่มคอ เริ่มจากเบาๆก่อน คืนนี้จะไม่เมาเพราะผมมีเป้าหมาย



“อย่าพูดถึงเสียอารมณ์ไอ้สัด”มันบอกอย่างหัวเสีย แต่เป็นผมก็คงไม่สบอารมณ์เหมือนกัน มันเสียหน้าถ้าถูกผู้หญิงหลอก เด็กปีหนึ่งสมัยนี้มันร้ายครับ เอาหน้าใสๆมาหลอกให้ตายใจที่ไหนได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่ยังไม่จบม.หก



“ตอถาปัตย์ด้วยนะเมิงอย่างใหญ่ ฮ่าๆ”ไอ้ธันว์มันตอกย้ำซ้ำเติมเพื่อนตัวเอง



“จวยธันว์เงียบปากไปไอ้สัด พูดมากเดี๋ยวกูจับดุ้นไอ้อั้มยัดปากแม่ง”



“ควาย ยุ่งอะไรกับดุ้นกู”ไอ้อั้มที่นั่งเหล่หนุ่มอยู่หันมาค้อนใส่ เห็นมันแล้วนึกถึงตองเพื่อนไอ้พาย แต่ไอ้อั้มมันโชกโชนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ คือกลุ่มไอ้ธันว์มันเหมือนกันหมด พวกเสน่ห์แรงเปลี่ยนคู่บ่อยมาก ของที่มีติดตัวมาถูกใช้งานไม่เคยได้เว้นช่วงนานๆ



“สัดกูไม่กินดุ้นโว้ย”



“เหอะ ทำเป็นพูดไปพอมึงได้กินแล้วจะติดใจได้หลังแล้วลืมหน้าไปเลย”ไอ้อั้มพูด สายตาจิก มันไม่ได้ออกสาวมากแต่ก็พอมีจริต คนถึงได้หลงมันเยอะแต่มันก็เลือกมากเหมือนกัน



“ไม่มีวัน”ไอ้ธันว์ปฏิเสธหนักแน่น



“แล้วกูจะคอยดู”ไอ้อั้มแสยะยิ้ม ท่าทางของมันดูมั่นใจมากว่าไอ้ธันว์จะได้เมียเป็นผู้ชาย



“ถ้ากูได้เมียเป็นผู้ชายจริง กูยอมกราบตีนมึงเลย”



“กราบตีนกูทำไม กราบแล้วได้อะไร ไม่เอาอ่ะ เอาเป็นว่าถ้าวันไหนมึงได้เมียเป็นผู้ชายจริงกูขอให้มึงทำตามที่กูขอ 3 อย่าง โอเค๊?”



“เหอะ ได้!”มันกล้ารับปากเพราะแน่ใจว่าตัวเองจะไม่เจริญรอยตามผมแน่ๆ ผมก็คิดว่างั้น



ผมนั่งจิบไปเรื่อยๆ ตาสอดส่องมองหาเหยื่อที่ถูกตาถูกใจ ไอ้คิมเพิ่งตามมาเมื่อกี้นี้เพราะเพิ่งไปส่งเด็กกลับบ้านเสร็จ ส่วนไอ้พายไม่เย็นวันอาทิตย์ก็คงไม่เห็นหัวมัน ไอ้ธันว์มีนมมาเสนอให้ถึงโต๊ะ คงถูกใจมันมากเลยกระชากเขานั่งตักซุกไซ้นัวเนียกัน อีกสักพักคงมีได้เสีย



“โอ๊ะ...”ผมมองไปที่กลางฟลอร์ที่มีคนดีดดิ้นกันอยู่ เห็นใครคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมแม้เพียงจะเห็นหน้าแค่ครั้งเดียว




เฟิร์ส...




“มองอะไรของมึงวะ”ไอ้คิมเอนตัวมากระซิบถาม กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตัวมันมา ผมว่าก่อนมันไปส่งเด็กคงฟัดกันมาสักยกสองยกแน่ๆ



“มึงเห็นผู้ชายเสื้อแขนยาวสีขาวนั่นมั้ย”มันมองตามสายตาของผมไป ร่างที่โดดเด่นถูกล้อมด้วยผู้ชายสองคน ผู้หญิงหนึ่งคน เต้นกันสนุกสนานตามจังหวะเพลง ดูเหมือนผู้ชายสองคนนั้นจะคอยกันผู้ชายคนอื่นๆไม่ให้เข้าใกล้



“เออ ทำไมวะ”



“น่ารักดี”



“แล้วมึงจะรออะไร?”ไอ้คิมถามยิ้มๆ



“รอให้เลิกกับผัวไง”



“หะ?”



“มีแฟนแล้ว”นึกถึงแล้วก็เซ็ง ถึงผมจะถูกใจมากแต่ก็ไม่ชอบแย่งแฟนของคนอื่น แม้จะหมั่นไส้ไอ้บ้านั่นแล้วเพิ่งพูดกวนตีนมันไปเมื่อตอนบ่ายแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอก คนอย่างน้ำน่านมีดีพอที่จะหาเองได้



“คุยไรกันวะ แล้วมองอะไร”ไอ้อ๊อดเข้ามาเสือกด้วยทันที ผมเห็นมันเดินวนไปสองโต๊ะแล้วแต่ไม่เห็นว่าจะได้ติดมือมาสักคน



“โอ้ว วันนี้มีของดีมาให้ดูด้วยเว้ย”



“ของดีอะไร?”ผมถาม



“นั่นไง พี่เฟิร์ส”



“มึงรู้จักด้วย?”น่าแปลกใจ



“เออสิ หนุ่มน่ารักสุดๆของมหาลัยเรา มึงพลาดได้ไงว่าเชี่ยน่าน พี่เฟิร์สอยู่บริหาร ปี4 โสดครับพี่น้อง”ยิ่งแปลกใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเรียนอยู่ที่เดียวกันกับพวกผมแถมยังเป็นรุ่นพี่อีกต่างหาก ผมนึกว่าเขาน่าจะอยู่ปีหนึ่งด้วยซ้ำ หน้าเด็กเป็นบ้า



 “ไม่โสดมั้ง”



“โสดสิไอ้สัด 4 ปีที่ผ่านมามีแต่คนตามจีบพี่ตามตื๊อพี่แกจนพื้นคณะเป็นร่องแต่ไม่เคยมีใครได้พี่เขาเป็นแฟนเลยนะเว้ย ใจแข็งสัด แต่ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ชื่อเสียงหอมหวนทวนลมมีแต่คนเข้าหาแต่ใครที่ว่าแน่ก็ต้องแดกแห้วไปทุกราย”ไอ้อ๊อดบรรยายสรรพคุณมาซะผมไม่อยากจะเชื่อ ก็ผมรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่เอ๊ะ...หรือเพราะว่ามีแฟนแล้วแต่พวกในมหา’ลัยไม่รู้เลยตามจีบ มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดน่าหมั่นไส้ของไอ้บ้านั่น หึ...มันท้าทายจริงๆ



“ยากขนาดนั้น?”



“ยิ้มเลวแบบนี้ อย่าบอกนะว่ามึงจะลองของ?”



“ก็ไม่เสียหายนี่”



ไม่ได้อยากแย่ง แต่แค่บริหารเสน่ห์นิดๆหน่อยๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





------------------------------------------- :mew1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2016 20:17:49 โดย phoenixes »

ออฟไลน์ maixmix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เราชอบนิยายเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามและภาษาราบรื่น อยากรู้เรื่องราวต่อไปของน่านกับเดียวและคนอื่นๆ อยากให้คนเขียนอัพบ่อย และอยากให้รู้ว่ายังมีคนติดตามนะคะ สู้ๆค่ะ  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด