พิมพ์หน้านี้ - [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: phoenixes ที่ 27-07-2015 20:27:56

หัวข้อ: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-07-2015 20:27:56
อ้างถึง

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด



3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง



16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************


หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-07-2015 20:32:39
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-07-2015 20:33:36
(http://upic.me/i/t8/content1.png)


✤  ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3137304#msg3137304) 
✤  ตอนที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3146600#msg3146600) 
✤  ตอนที่ 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3186778#msg3186778)
✤  ตอนที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3191336#msg3191336)   
✤  ตอนที่ 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3208929#msg3208929) 
✤  ตอนที่ 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3238187#msg3238187)
✤  ตอนที่ 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3243365#msg3243365) 
✤  ตอนที่ 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3247163#msg3247163)   
✤  ตอนที่ 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3260901#msg3260901)
✤  ตอนที่ 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3267582#msg3267582) 
✤  ตอนที่ 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3285375#msg3285375)   
✤  ตอนที่ 12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3293822#msg3293822)
✤  ตอนที่ 13  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3303089#msg3303089)   
✤  ตอนที่ 14  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3309950#msg3309950) 
✤  ตอนที่ 15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3319599#msg3319599)
✤  ตอนที่ 16  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3329274#msg3329274) 
✤  ตอนที่ 17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3346304#msg3346304) 
✤  ตอนที่ 18  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3359182#msg3359182)
✤  ตอนที่ 19  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3375978#msg3375978) 
✤  ตอนที่ 20  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3392608#msg3392608)
✤  ตอนที่ 21 (ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3399890#msg3399890) 
✤  ตอนที่ 21 (ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3427786#msg3427786)   
✤  ตอนที่ 22 (ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3435180#msg3435180) 
✤  ตอนที่ 22 (ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3439473#msg3439473)
✤  ตอนที่ 23  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3448711#msg3448711)
✤  ตอนที่ 24  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3479075#msg3479075)
✤  ตอนที่ 25 (ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3513302#msg3513302)
✤  ตอนที่ 25 (ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3517208#msg3517208)
✤  ตอนที่ 26  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3527559#msg3527559)
✤  ตอนที่ 27  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3549748#msg3549748)
✤  ตอนที่ 28  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3559007#msg3559007)
✤  ตอนที่ 29  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3583320#msg3583320)
✤  ตอนที่ 30  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?tohttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3608402#msg3608402)
✤  ตอนที่ 31  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3612982#msg3612982)
✤  ตอนที่ 32  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3639169#msg3639169)
✤  ตอนที่ 33  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3644052#msg3644052)
✤  ตอนที่ 34  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3654352#msg3654352)
✤  ตอนที่ 35  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3662835#msg3662835)
✤  ตอนที่ 36 (ครึ่งแรก)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3677358#msg3677358)
✤  ตอนที่ 36 (ครึ่งหลัง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3678536#msg3678536)
✤  ตอนที่ 37   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3693217#msg3693217)
✤  ตอนที่ 38   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3704592#msg3704592)
✤  ตอนที่ 39   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3735659#msg3735659)
✤  ตอนที่ 40   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3744219#msg3744219)
✤  ตอนที่ 41   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3769375#msg3769375)
✤  ตอนที่ 42   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3781993#msg3781993)
✤  บทส่งท้าย   (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3821328#msg3821328)
✤  ตอนพิเศษ : Happy Family   (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3846521#msg3846521)
✤  ตอนพิเศษ : Happy Ending   (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48012.msg3857416#msg3857416)



✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥✤✥




หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-07-2015 20:47:25
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero






ถ้าฉันจะรัก...รักของฉันจะเป็นเช่นไร


ถ้าแม้คนเราเลือกเอาเองได้ตามหัวใจ


ความรักแบบไหน...ที่หัวใจเรียกร้องต้องการ



-1-






   “เมียกูอ่ะ?”



ผมถามทันทีที่เดินไปถึงโต๊ะที่กลุ่มเพื่อนของผมนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาขาดก็แค่คนเดียวที่ผมถามออกไป พวกมันเงยหน้ามอง สีหน้าแต่ละคนดูอึ้งและทึ่งกันมาก ผมรู้ว่าตัวเองหล่อ แต่จะจ้องกันอีกนานไหมครับ สัด! อากาศมันร้อนคนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย ที่ถามก็เพราะอยากได้คำตอบไม่ใช่การจ้องหน้าเหมือนเห็นเทวดาลงมาโปรดแบบนี้



   “เมียมึงมึงยังไม่รู้แล้วพวกกูจะรู้ไหมครับ ไอ้สัด”ไอ้คิมเงยหน้าจากหนังสือการ์ตูน มันทำหน้ากวนตีนใส่ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ผมถีบมันตกเก้าอี้ไปแล้ว ที่สำคัญมันเป็นเพื่อนซี้ของคนที่ผมถามหาอยู่คงต้องรู้ว่าเพื่อนตัวเองไปไหน



   “ไอ้สัด ปิดเทอมมึงทำอะไรวะเครียดจนหัวหงอกเลยเหรอวะ?”ไอ้เต้เพิ่งมารู้จักกันตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยเพราะเรียนคณะเดียวกัน นิสัยกวนตีน ขี้เล่นและเล่นขี้เป็นบางโอกาส ผมหมายถึงวันดีคืนดีก็ชอบเอาของที่พ่อให้มาไปจิ้มตูดผู้ชายด้วยกัน สีสันชีวิตทั้งมันทั้งแซ่บ ผมก็ว่างั้นนะ...



   “ห่า มึงขับไอ้หวานมาถึงนี่ได้กูก็นับถือว่ะ คนไม่มองมึงตั้งแต่หน้าบ้านยันหน้าคณะเลยเหรอวะ”ไอ้โฟมครับ ตัวขาวๆบางๆ ตี๋แต่ตาโตดูขัดกับเชื้อสายแต่พวกผมชอบเรียกมันว่าไอ้หมวยเพราะหน้ามันหวานมากกว่าจะหล่อตี๋อินเทรนด์เวลายิ้มนี่โคตรน่ารัก ถึงเราจะเป็นเพื่อนกันแต่ตอนเมาๆมองหน้ามันแล้วก็อยากเอาเหมือนกันครับ แต่อย่าไปชมมันว่าน่ารักไม่งั้นลูกๆในปากมันจะวิ่งกรูเข้ามากัดจนแผลเหวอะแน่ๆ หน้าตาก็ดีแต่ปากโคตรหมาเลย



“เลิกยุ่งกับหัวกบาลกูได้ละสัด พวกมึงจะบอกได้หรือยังวะ ไอ้พายอยู่ไหน เย็นนี้กูจะใช้รถด้วย โทรหาแม่งก็ไม่ติด”แค่ทำผมสีควันบุหรี่นี่ทำไมทุกคนถึงต้องตื่นตาตื่นใจกันด้วยวะ มันหล่อมากว่างั้น? อันที่จริงว่าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช็อคโกแลตแต่ยังไม่มีเวลา ตอนนี้หัวผมเลยสว่างโล่มาแบบนี้ ไอ้คิมมันเฉยๆเพราะมันเห็นตั้งแต่ปิดเทอมแล้ว



“กองถ่ายมั้ง ถ้าอยากรู้แน่ๆมึงลองโทรถามไอ้ธันว์ดู เผื่อมันจะรายงานผัวหลวง แล้วละเลยผัวน้อยอย่างมึง”



งงกันสินะครับผัวหลวงผัวน้อยอะไรยังไงกัน ที่จริงก็เป็นแค่การเรียกเล่นๆในกลุ่มตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว ผม ไอ้ธันว์ ไอ้พาย ไอ้คิม เรียนมาด้วยกันสี่คน จริงๆแล้วผมกับไอ้ธันว์เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ประถม ตอนม.สามก็ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่เดนมาร์กด้วยกัน 1 ปี กลับมาก็ต้องเรียนม.ปลายช้ากว่าพวกเพื่อนๆปีเดียวกันซึ่งพวกผมย้ายจากลำพูนไปเรียนที่เชียงใหม่แล้วรู้จักกับไอ้พายกับไอ้คิมที่นั่นเพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ไอ้พายกับไอ้คิมคิมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.ต้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นรุ่นน้องแต่ผมถือว่าเรียนมาด้วยกันก็เป็นรุ่นเดียวกันไป



สาเหตุที่ไอ้คิมเรียกผมว่าผัวน้อยของไอ้พายก็เพราะผมคอยดูแลแล้วก็ปลอบใจมันตอนที่มันเฮิร์ท ไอ้พายมันชอบไอ้ธันว์ตั้งแต่แรกพบเลยก็ว่าได้แต่ไอ้ธันว์มันไม่สนใจก็ฟันหญิงไปเรื่อยตามประสาคนหน้าตาดี บ้านรวย มีรถหรูขับ แต่ก็ใช่ว่ามันจะรังเกียจไอ้พายที่เป็นเกย์ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่คบกันมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นตำแหน่งผัวหลวงจึงตกเป็นของไอ้ธันว์ที่เคยครอบครองดวงใจน้อยๆของไอ้พายไว้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้รักไอ้พายในเชิงชู้สาวแต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่ห่วงใยดูแลกันมาตลอด ไอ้พายมันทำใจได้นานแล้วครับแล้วก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพิ่งจะเลิกกันตอนเข้าปีหนึ่ง ตอนนี้มันยังโสดอยู่และก็คงจะโสดไปอีกนานเพราะมันคบกับคนอื่นได้ยากขึ้นเนื่องจากมันกำลังเป็นดาราวัยรุ่นหน้าใหม่ที่ถูกจับตามอง



“ห่า ดีเหลือเกินพวกมึง เพื่อนหายไปคนไม่มีใครคิดจะสนใจไงวะ เกิดมันไปโดนฆ่าหมกป่าอยู่ที่ไหนจะทำไงวะ”ผมบ่นพวกมันก็ไม่ได้สะทกสะท้านกันหรอกครับ ผมรู้ว่าพวกมันก็ห่วงไอ้พายกันนั่นแหละ แต่ผมอาจจะห่วงมากเกินไปสักหน่อย ไหนๆทุกคนก็เต็มใจยกมันเป็นเมียผมนี่ จะห่วงมากกว่าคนอื่นก็คงไม่แปลก อีกอย่างไอ้พายมันชอบหายไปแบบนี้ซึ่งก็ไปถ่ายแบบบ้าง ถ่ายรายการบ้าง ถ่ายละครบ้างทุกคนเลยชินกัน ผมกดโทรออกหาไอ้ธันว์ที่เรียนอยู่คณะวิศวะไม่นานมันก็รับสาย



“เหี้ยธันว์ พายมันบอกมึงป่ะว่าไปไหน ทำอะไร กลับเมื่อไหร่ มันเอารถกูไปเนี่ย”ผมใส่เป็นชุด



“สัด รัวเลยนะมึง มันบอกกูว่าจะไปถ่ายละครเมื่อวานนี้ที่นครนายก กลับวันนี้เย็นๆ มันเอารถมึงไปเพราะมันเอารถตัวเองไปแต่งมึงก็รู้นี่ แล้วทำไมมึงไม่โทรหามันเองวะ”



“สัด ถ้ากูโทรหามันติดกูไม่โทรหามึงหรอกควาย แล้วนี่จะมาเจอกูที่คณะป่ะ ไปแดกข้าวกัน พวกมันอยู่ครบทุกตัวอ่ะ”



ทุกตัวที่ผมพูดถึงนั้นถึงกับถลึงตามอง สรรเสริญผมกันใหญ่ เรียกตัวผิดตรงไหน เจอหน้าที่ไรก็เรียกกันแต่เหี้ยๆ แล้วเหี้ยมันไม่เรียกเป็นตัวหรือไงวะ พวกเพื่อนใหม่ที่คณะผมกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาสนิทกันได้ก็เพราะมีผมเป็นตัวเชื่อม ผมเองก็สนิทกับเพื่อนพวกมันเหมือนกัน แต่นานๆจะมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่สักที เพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ก็ติดแฟนกันทั้งนั้น



ไอ้ธันว์บอกว่าจะมาแต่ขอไปส่งสาวก่อน ได้หญิงใหม่ตั้งแต่เปิดเทอมไวไฟเป็นบ้า ผมก็เลยนั่งรอมันอยู่ตรงนั้น วันนี้เปิดเทอมสัปดาห์ที่สองแล้วแต่ผมเพิ่งมามหาวิทยาลัยซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเพราะอะไร ผมทำเรื่องลาอาจารย์เอาไว้แล้วเพราะไม่อยากมีปัญหา อีกอย่างสัปดาห์แรกของการเปิดเทอมก็ยังไม่ได้เรียนอะไรมากอยู่แล้ว ยกเว้นไอ้คิมที่เรียนเภสัชเพื่อเอาไปสืบทอดกิจการที่บ้านของมันที่เรียนหนักตั้งแต่เปิดเรียนเลย แต่มันหัวดีเรียนไปเล่นไปก็ไม่เคยเกรดตกสักที



“เห้ยๆ”ไอ้โอ๊คเอาโอนิสึกะสะกิดพวกผมทุกคนใต้โต๊ะ ปากก็บุ้ยใบ้ไปที่ทางเดินหน้าคณะ ไอ้พวกนั้นหันไปมองกันหมด แต่ผมไม่สนใจแย่งขนมไอ้โฟมกินต่อ



“หวัดดีค่ะ”



“หวัดดีคร้าบบบบ”ทุกตัวต่างตอบรับน้ำเสียงหวานใสนั่น แถมยังทำตาเยิ้มกันอีก ผมเลยอดที่จะหันกลับไปมองไม่ได้  น้องปีหนึ่งในชุดนักศึกษาเรียบร้อยเต็มยศยืนยิ้มอยู่ข้างหลังผม เธอน่ารักมากจนไอ้พวกเพื่อนผมถึงกับทำท่าอยากจะเขมือบลงท้อง ผมเหลือบตามองป้ายชื่อที่น้องเขาห้อยคอไว้เพราะยังอยู่ในช่วงรับน้อง



น้ำผึ้ง...จากรอยยิ้มและใบหน้าก็ท่าทางจะหอมหวานสมชื่อจริงๆ



“ไอ้เหี้ย พวกมึงเก็บอาการกันหน่อย น้องเขากลัวพวกมึงหมดแล้วควาย”ผมหันไปด่าให้ก่อนจะหันกลับมามองน้องเขาอีกรอบ ถามว่าชอบไหมก็ชอบนะครับแต่ยังไม่โดนเท่าไหร่



“น้องมีอะไรครับ”



“คือพี่ๆเขาให้มาขอลายเซ็นพี่ปีสองค่ะ”



“แล้วไงครับ? จะมาขอเฉยๆไม่ได้นะครับต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนด้วย”ไอ้โฟมรีบเสนอหน้าทันที หน้าตามันเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมากแต่ต่อให้หยอดยังไงเหยื่อก็คงไม่ติดในเมื่อหน้าตามันน่ารักสูสีกับน้องเขาเลย



“แล้วต้องทำยังไงพี่ๆถึงจะยอมเซ็นให้คะ?”น้องน้ำผึ้งเอียงคอถามอย่างน่ารัก ที่พวกผู้หญิงด้วยกันชอบบอกว่าแอ๊บ ซึ่งแน่นอนว่าคงซ้อมหน้ากระจกมาอย่างดี ท่าทางเรียบร้อยแต่เนื้อแท้คงไม่ใช่เพราะคงไม่มีผู้หญิงเรียบร้อยที่ไหนใจกล้าเดินเข้ามาหารุ่นพี่ผู้ชายที่นั่งกันเป็นฝูงคนเดียวแบบนี้



“เอาเบอร์มาแลกใจ เอ้ย มาแลกไปอ่ะครับ เบอร์ไม่มาลายเซ็นไม่ไป โดนซ่อมนะครับน้อง”ไอ้โอ๊คมันสานต่อทันที ตบท้ายด้วยการขู่อีกนิดหน่อย แต่สำหรับน้องปีหนึ่งคำว่าซ่อมนี่น่ากลัวพอๆกับได้เอฟวิชาหลักเลยนะ คณะพวกผมยิ่งรับน้องโหดอยู่ด้วย แต่ความโหดก็ขึ้นอยู่กับระดับชั้นปีด้วย ปีสามเป็นพี่ว๊าก ปีสองก็มีหน้าที่ดูแลน้องคอยโอ๋แต่ก็ไม่ได้มากนัก ส่วนปีสี่ก็มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและดูแลอยู่ห่างๆ จะลงมาแสดงองค์ก็ต่อเมื่อต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น



“งั้นก็ได้ค่ะ”



พอน้องมันตกลงแต่ละคนก็หูหางกระดิกกันใหญ่ ไอ้คิมที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยก็เสือกยื่นกระดาษให้น้องเขาจดเบอร์ลงไปด้วย ได้ข่าวว่าอยู่คนละคณะเลยนะมึงไอ้เพื่อนชั่ว



“แล้วพี่ล่ะคะ?”



“ไม่เป็นไรครับ" ผมเซ็นชื่อลงไปในสมุดโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร ผมไม่อยากแกล้งน้อง ที่สำคัญผมไม่อยากได้เบอร์เพราะไม่รู้จะเอามาทำไมแต่ตอนที่ผมยื่นสมุดกลับคืนไปน้องก็ยัดกระดาษโน้ตใบเล็กๆสีชมพูที่ไม่รู้ว่าน้องเขาหยิบมาตอนไหนใส่มือผมมา บนกระดาษมีชื่อพร้อมกับเลขทั้งหมดสิบหลักมองดูก็รู้ว่ามันคืออะไร



“พี่ชื่ออะไรคะ?”



“น่านครับ น้ำน่าน”



“ชื่อเราคล้ายกันเลยอ่ะพี่ น้ำผึ้งนะคะ ขอบคุณสำหรับลายเซ็นค่ะ”แล้วน้องเขาก็เดินจากไป ส่วนไอ้พวกเพื่อนเวรทั้งหลายก็โอดครวญขึ้นมาทันที



“ไอ้ห่า เสร็จไอ้น่านอีกละคนนี้ นั่งหัวโด่กันตั้งหลายคนแต่ถามชื่อไอ้น่านคนเดียว ช่วงนี้มึงเก็บเนื้อเก็บตัวไปเลยไอ้สัด น้องๆหันมาสนใจมึงหมดพวกกูอดแดกตลอดเลย”ไอ้หมวยมันโวยวาย



“ห่าไร กูไม่สนใจหรอก อยากได้มึงก็ไปตามจีบเอาเองสิวะ”ผมวางกระดาษโน้ตที่ได้มาไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ บอกแล้วว่าคนนี้ไม่โดน



“เห็นหงิมๆแต่ก็แรงใช่ย่อยนี่หว่า”ไอ้โอ๊คมันหยิบกระดาษโน้ตที่เบอร์โทรศัพท์มาดูแล้วก็พูดขึ้นมา



“ทำไมวะ?”ไอ้คิมถามก่อนจะแย่งขนมไอ้โฟมมากิน ไอ้ห่านี่กินเกือบตลอดเวลาแต่ไม่เห็นจะอ้วน มันเอาไปเก็บไว้ตรงไหนวะ



“มึงดูเบอร์ที่น้องให้มาเด้ แต่ละคนได้ไม่เหมือนกันเลยห่า แต่กูว่าที่ให้ไอ้น่านอ่ะของจริงชัวร์ มึงไม่สนงั้นกูขอนะ”ไอ้โอ๊คเอากระดาษที่มีเบอร์มาเรียงๆกัน ก่อนจะเอ่ยปากขอ



“เออ”แล้วพวกมันก็แย่งกันใหญ่ยกเว้นไอ้เต้ที่คั่วอยู่กับเด็กคณะนิเทศน์ตั้งแต่ก่อนปิดเทอมเลยไม่ค่อยจะสนสักเท่าไหร่



“ไอ้พวกเหี้ย!”คำเรียกที่ทำพวกผมสะดุ้งกันทั้งกลุ่ม ดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงแบบนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร



“แหม มึงระบุด้วยสิว่าเหี้ยตัวไหน เรียกแบบนี้พวกกูหันทั้งกลุ่มนะมึง”ไอ้โอ๊คหันไปต่อปากต่อคำกับเอเชีย สาวที่สวยที่สุดในรุ่นมีตำแหน่งเป็นดาวคณะพ่วงท้ายชื่อ หน้าตาสวยหวานซึ้งแต่นิสัยห้าวหาญตรงข้ามกับรูปร่างหน้าตาสุดๆ ปากหมาสูสีกับไอ้โฟมมาก ด่ากันทีนี่มันหยดติ๋ง



“เหี้ยทุกตัวนั่นแหละไอ้โอ๊ค ไอ้โฟม ไอ้เต้ พวกมึงมานั่งสุมหัวกันตรงนี้ไม่คิดจะไปช่วยงานพวกกูหน่อยเหรอ ปิดเทอมก็หาย เปิดเทอมมายังทำตัวไร้สาระเลื่อนลอยกันอีก พวกกูเตรียมรับน้องเหนื่อยกันสายตัวแทบขาดแล้วเนี่ย”เอเชียมันคงเก็บกดเลยใส่ไม่ยั้ง มันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักศึกษาของคณะที่รับผิดชอบเรื่องด้านสวัสดิการซึ่งงานหนักไม่ใช่น้อย ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ถึกอย่างมันเลยวิ่งวุ่นไปทั่ว ปิดเทอมก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะต้องมาเตรียมงงานกับพวกคณะกรรมการ



“เอ้า แล้วทำไมมึงไม่บ่นไอ้น่านมั่งวะ แม่งสองมาตรฐาน”ไอ้โฟมโวย เพราะมันขี้เกียจตัวพ่อ แถมยังไม่ค่อยชอบกิจกรรมรับน้องอีกต่างหาก มันบอกว่าการเข้าว๊ากเป็นเรื่องไร้สาระ ทำไมมันต้องมานั่งดูรุ่นพี่ทำการแสดงด้วย ถ้าไม่ติดว่าจะไม่มีเพื่อนมันจะไม่เข้ากิจกรรมแล้ว



“เพราะกูรู้ไงว่าน่านติดธุระ แต่ไหนๆก็มาแล้วก็มาช่วยงานกันด้วยนะน่าน”



“อืม ได้ แต่วันนี้คงไม่ได้ว่ะ เรารับงานไว้”ผมไม่ค่อยยุ่งกับกิจกรรมของคณะ ตอนปีหนึ่งก็ไม่ได้ลงกิจกรรมเพราะมีเรื่องวุ่นวายที่บ้าน ทำให้ไม่ได้มาร่วมรับน้องเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ตอนแรกก็โดนพวกรุ่นพี่กับเพื่อนเขม่นอยู่เหมือนกันแต่พอรู้ว่าผมมีปัญหาอะไรก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก บวกกับสภาพผมในตอนนั้นทำให้พวกรุ่นพี่ไม่วุ่นวายกับผมมาก จะมีก็แค่มาเกลี้ยกล่อมให้เป็นตัวแทนคณะประกวดดาวเดือน ซึ่งผมไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิดเลยปฏิเสธไป ตำแหน่งเดือนคณะเลยตกไปเป็นของไอ้วินเพื่อนอีกกลุ่มแทน แต่พอเรื่องวุ่นวายที่ทำให้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรผ่านไปสักพักผมก็เริ่มปรับตัวได้ เวลามีกิจกรรมอะไรผมก็พยายามจะเข้าร่วมถ้ามันไม่วุ่นวายมากเกินไปนัก



เอเชียหันไปบ่นพวกไอ้โอ๊คที่กวนตีนมันอีกรอบจนไอ้ธันว์มาถึงแล้วหยอดมุกเสี่ยวใส่ จึงหันมาด่าไอ้ธันว์แทนก่อนจะสะบัดก้นเดินหนีไป เอเชียไม่ชอบคนเจ้าชู้เลยลับฝีปากกับไอ้ธันว์บ่อยๆ ส่วนไอ้ธันว์ตอนแรกก็คิดจะจีบเอเชียแต่พอเจอปากหมาๆเข้าก็ถอยขบวนหนีแทบไม่ทัน



“วันนี้มึงไปทำงานที่ไหนวะ”ไอ้ธันว์ถาม ตอนนี้พวกผมย้ายมานั่งร้านก๋วยเตี๋ยวติดแอร์แถวหน้ามหาวิทยาลัย ไอ้โอ๊คกับไอ้เต้ฟาดกันไปคนละสองชามแล้ว กำลังสั่งชามที่สาม



“ที่โรงแรม...”ผมบอกชื่อโรงแรมไปมันก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะบอกว่าโรงแรมหรูสัด



“เอารถกูไปก่อนไหม กูว่ายังไงไอ้พายก็กลับมาไม่ทันมึงหรอก”ไอ้คิมเสนอ แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะยังไงโรงแรมนั่นก็อยู่ในเมืองเดินทางไม่ยากเสร็จงานดึกๆก็เรียกแท็กซี่กลับบ้านได้ แต่ถ้ามีรถเองก็สะดวกกว่า



“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกูขี่ไอ้หวานไปก็ได้”ฟีโน่สีน้ำตาลที่ไอ้พายตั้งชื่อว่าไอ้หวาน ตอนแรกไอ้คิมก็งงว่าทำไมต้องหวานด้วย แต่ไอ้พายบอกว่าก็สีน้ำตาลไม่หวานเหรอ น้ำตาลก็ต้องหวานสิ ไอ้คิมจ้องหน้าไอ้พายอยู่อึดใจก่อนจะเดินหนี มันคงเพลียกับความคิดพิลึกพิลั่นของเพื่อนซี้ ซึ่งที่จริงมันควรจะชินเพราะคบกันมาตั้งนานแล้ว ฮ่าๆ



“เดี๋ยวกูไปส่งมึงก็ได้ วันนี้กูว่างไม่ได้ไปเอาสาวที่ไหน”



“สัด หิมะจะถล่มกรุงเทพป่ะวะ มีด้วยเหรอวันที่ไอ้ธันว์ไม่ต้องเสียน้ำ”ไอ้โฟมเริ่มเปิดกรงปล่อยลูกๆออกมาเดินเล่น



“หึ เมื่อคืนกูเสียเผื่อไว้แล้วเว้ย เกือบเช้า”ไอ้ธันว์กระตุกยิ้มมุมปาก ถ้าผู้หญิงมาเห็นคงกรี๊ดสลบ ดูดีได้อีก ก็นะมีดีกรีเป็นถึงเดือนวิศวะพ่วงด้วยเดือนมหาวิทยาลัย ใครไม่กรี๊ดก็บ้าแล้ว



“ไอ้สัด มีงี้ด้วย ใครวะ”



“พี่อิงค์”



“อิงค์ไหนวะ?”ไอ้เต้ขมวดคิ้ว



“พี่อิงค์ พยาบาลที่เป็นพรีเซนเตอร์โครงการ...ของคณะพยาบาลป่ะที่เคยคบกับอดีตเดือนมหาลัยคณะวิทย์ที่เพิ่งจบไปป่ะวะ?”ไอ้คิมข้อมูลแน่นมาก



“เออ คนนั้นแหละ”



“เจสเข้ ไอ้เหี้ยธันว์ ของสูงนี่หว่า เห็นว่าเล่นยากพี่แกหยิ่ง แฟนแต่ละคนก็โพรไฟล์ดีทั้งนั้น มึงไปสอยมาได้ไงวะ?”ไอ้โอ๊คดูตื่นเต้นมากอย่างกับมีส่วนได้ส่วนเสียด้วย



“หึ ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่หว่า แล้วนี่ใคร กูก็เดือนมหาลัยนะเว้ย”ไอ้ธันว์กระตุกยิ้มได้กวนอวัยวะเบื้องล่างมาก แต่ถึงมันไม่เป็นเดือนมหา’ลัย สาวคนไหนก็ปฏิเสธมันยากอยู่แล้วเพื่อนผมมันมันดีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติขนาดนี้



“สัด ทำเป็นเก๊กนะมึง แล้วเป็นไงเด็ดป่ะ?”ไอ้หมวยที่นั่งข้างๆเอาไหลกระแทกไอ้ธันว์เบาๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น



“ก็ดี”



“กูว่าไม่แค่ก็ดีแล้วม้างงง เกือบเช้าเนี่ย”ไอ้คิมยิ้มอย่างรู้ทัน เพราะรู้เช่นเห็นชาติกันมานาน



แล้วบทสนทนาก็กลายเป็นการซักเรื่องบรรดาผู้หญิงที่ไอ้ธันว์ควงอยู่ในตอนนี้จนกระทั่งกินอิ่ม ไอ้คิมขอตัวไปเรียน ไอ้ธันว์กลับคอนโดไปนอน ผมไล่มันกลับไปเองไม่ต้องรอไปส่งผมตอนเย็นเพราะเห็นว่าเมื่อคืนเสียน้ำไปเยอะแล้วยังต้องมาเรียนคาบเช้าคงจะเพลียไม่น้อย มันก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของไอ้ธันว์ เพราะต่อให้เที่ยวหัวหกก้นขวิดยังไงก็ไม่ทิ้งเรื่องเรียน ผมกับพวกไอ้โอ๊คมีเรียนบ่ายแต่พอเข้าเรียนแล้วก็ไม่มีอะไรมากอาจารย์แค่ชี้แจงรายละเอียดของรายวิชาและบอกคร่าวๆว่าเทอมนี้พวกผมต้องเจอกับอะไรบ้างแล้วก็ปล่อยกลับ ผมเลยขับไอ้หวานกลับบ้านเพื่อมาเตรียมตัวไปทำงานในตอนเย็น





(ต่อด้านล่าง)


หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-07-2015 20:48:34
(ต่อ)


ผมกดรีโมทเพื่อเปิดรั้วบ้านก่อนจะขับไอ้หวานเข้าไปจอดในโรงรถ หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านที่เปิดขายที่ดินแล้วให้จัดการปลูกบ้านกันเอง ดังนั้นบ้านแต่ละหลังจึงมีสไตล์ที่แตกต่างกันมาก บ้านของผมเป็นบ้านไม้สองชั้นสไตล์รีสอร์ท หน้าต่างและประตูเป็นกระจกเกือบทั้งหลังเพราะผมชอบมองออกมาด้านนอกบ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ดูร่มรื่นและมีดอกไม้ไทยส่งกลิ่นหอมเย็นทั้งกลางวันและกลางคืน อาฝนเป็นคนชอบปลูกต้นไม้และดอกไม้มาก ทำให้ผมซึมซับมาตั้งแต่เด็กและชื่นชอบกลิ่นของพวกมัน หน้าบ้านที่พวกเพื่อนผมทุกคนถึงกับออกปากว่าร่มรื่นเหมือนหลุดเข้ามาในสวนพฤกษชาติ หลังบ้านนี่อาจจะเรียกว่าป่าเลยก็ได้เพราะมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น บางต้นมีอยู่แล้วตั้งแต่ที่พ่อผมซื้อที่ไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนสร้างบ้านก็ไม่ได้ตัดออกพยายามหลบเลี่ยงมากที่สุดแล้วก็มีปลูกเพิ่มขึ้นเช่นต้นสนหางม้า สนฉัตร แต่มีอยู่หนึ่งต้นที่เป็นจุดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของพวกเพื่อนๆผมมากก็คือต้นจันทร์ขนาดใหญ่ที่ถูกบ้านปลูกทับโผล่ต้นขึ้นมาริมสระว่ายน้ำ บริเวณนี้เป็นจุดสังสรรค์ของพวกผม กินเหล้าเมาหัวราน้ำแต่ไม่มีนารีให้เคล้าเพราะผมไม่นิยมให้หิ้วหญิงเข้าบ้าน อยากได้ก็ให้จัดข้างนอกให้เสร็จ น้ำแตกแล้วแยกทางเป็นอันรู้กันทุกตัว



 ผมอยู่บ้านนี้กับพายสองคนตั้งแต่เราสอบติดและย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ ตอนแรกอาฝนจะให้ไอ้คิมกับไอ้ธันว์มาอยู่ด้วยเพราะมีทั้งหมดสี่ห้องนอน แต่แม่ไอ้ธันว์ซื้อคอนโดไว้ให้แล้วมันจึงแยกตัวไปอยู่คนเดียวเหมาะกับชีวิตโฉดๆของมัน ไอ้คิมก็อยู่คอนโดที่ซื้อไว้ตั้งแต่สมัยที่พี่ชายมันเรียนหมอซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัย สะดวกตอนไปเรียนและติวหนังสือกับเพื่อนดึกๆดื่นๆ แต่พอวันหยุดมันก็จะมานอนกับพวกผม



“ครับอาฝน”เหมือนกับอาฝนมีตาทิพย์ ทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาอาก็โทรเข้ามาพอดี



“น่าน อย่าลืมเอาของฝากไปแจกเพื่อนๆนะลูก”



“ครับอา น่านไม่ลืมหรอก น่านบอกพวกมันแล้วให้มันเข้ามาเอาพรุ่งนี้เพราะวันนี้น่านไม่อยู่ ตอนเย็นน่านมีงานครับอา”ผมออกจากลำพูนเมื่อคืนเพิ่งมาถึงกรุงเทพเมื่อเช้านี้ ใจจริงตั้งใจจะอยู่ต่ออีกหนึ่งวันแต่มีงานที่รับปากไว้แล้วผมจึงต้องกลับก่อน อาให้ลุงปันขับรถมาส่งพร้อมกับของฝากมากมายเต็มหลังรถ ทั้งของกินของใช้ที่ตอนนี้วางกองอยู่ในห้องครัวเนื่องจากผมไม่มีเวลาจัด แต่พวกที่เป็นผลไม้ก็จับยัดใส่ตู้เย็นไว้แล้ว โดยเฉพาะสตรอว์เบอร์รี่ของโปรดไอ้คิมกับไอ้พาย



“อย่าลืมให้พายลองใช้ครีมอาบน้ำกับครีมทาผิวกลิ่นใหม่นะ ได้ผลยังไงบอกอาด้วย”อาฝนกำลังสนใจเกี่ยวการทำครีมอาบน้ำ ครีมบำรุงผิวที่ทำมาจากธรรมชาติ สกัดจากดอกไม้ต่างๆ เวลาคิดอะไรใหม่ได้ก็จะให้ผมกับพายใช้ก่อน เรียกง่ายๆก็คือใช้หลานกับเพื่อนหลานเป็นหนูทดลอง ซึ่งไอ้พายมันชอบมาก ในห้องนอนของมันมีตู้สำหรับเก็บน้ำหอมโดยเฉพาะมีแทบทุกกลิ่น ทุกยี่ห้อ รวมไปถึงพวกเครื่องหอมของไทยๆด้วย เข้าขากับคุณอาเป็นอย่างดี ส่วนผมเพราะอาฝนชอบและเขาเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กเลยทำให้ผมเคยชินไปด้วย แต่ก็ไม่ได้คลั่งไคล้เหมือนไอ้พาย



“ครับอา”



ผมคุยกับอาเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะวางสาย ขึ้นไปเช็คอุปกรณ์สำหรับทำงานในเย็นนี้ กล้องคู่ใจกับเลนส์ที่ราคาสูงลิบเอาเรื่อง แต่ผมไม่เคยเสียดายเงิน ทุ่มไม่อั้นเพื่อสิ่งที่ผมรัก ผมชอบการถ่ายรูปและศึกษามานาน ถ่ายได้ทั้งวิว คน สิ่งของ อัพรูปขึ้นบล็อคตัวเองจนมีคนสนใจและมาทาบทามให้ไปทำงานด้วย แต่ผมอยากทำเป็นงานอดิเรกมากกว่าจะทำเป็นอาชีพเพราะผมมีอาชีพที่อยากทำอยู่แล้วและอยากทุ่มเทเวลาในการร่ำเรียนในสิ่งที่ฝัน จึงขอรับงานเป็นจ๊อบๆไปซึ่งพี่เขาก็ไม่ว่าอะไร ผมทำงานนี้มาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง รับเฉพาะงานที่ผมสะดวกและสนใจเท่านั้น เรื่องรายได้ผมไม่ได้ซีเรียสมากนักเพราะผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ที่ทำก็เพราะใจรัก แต่พี่ที่เขาดูแลผมก็จะจัดการเรื่องการเงินให้ ได้มาเท่าไหร่ผมก็รับเท่านั้นซึ่งมันก็ค่อนข้างสูงพอสมควร



พี่ยศโทรมาคอนเฟิร์มเรื่องเวลานัดอีกครั้งกันพลาด วันนี้ผมต้องไปถ่ายรูปในการแต่งงานของญาติพี่ยศซึ่งเป็นเจ้าของสตูดิโอถ่ายภาพที่ผมทำงานให้ ความจริงเจ้าสาวอยากให้ผมไปถ่ายรูปงานเช้าด้วยแต่เนื่องจากผมมีธุระที่บ้านเลยกลับมาไม่ทันจึงถ่ายแค่งานเลี้ยงในช่วงค่ำแทน



ตอนแรกตั้งใจจะขี่ไอ้หวานมาแต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะนั่งแท็กซี่มาแทนเพราะจะได้ไม่ต้องหาที่จอด อีกอย่างผมเป็นห่วงกล้องลูกรักด้วยนั่งแท็กซี่น่าจะปลอดภัยกว่า ผมถึงโรงแรมตอนสี่โมงกว่าๆมาเตรียมตัวก่อนเวลางานและถูกเรียกให้ไปถ่ายตอนที่เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวแต่งตัว ก่อนจะลงมาแสตนด์บายรอในห้องจัดเลี้ยง



“งานเมื่อเช้าเป็นไงบ้างพี่”ผมถามพี่โด้ที่เป็นมือขวาของพี่ยศ เพราะเป็นงานของญาติเจ้าของสตูดิโอ ทุกอย่างเลยจัดเต็มและเลือกช่างภาพฝีมือฉกาจมาทั้งนั้น ยกเว้นผมแต่เจ้าสาวเขาชอบรูปแคนดิตที่ผมถ่ายเลยเจาะจงมาเป็นพิเศษ แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า บางทีถ้าเขาเห็นรูปแล้วอาจจผิดหวังก็ได้



“ได้แต่รูปแจ่มๆทั้งนั้นเลือกกันไม่ถูกอ่ะ เจ้าบ่าวหล่อ เจ้าสาวสวย สถานที่ แสงสีเพอร์เฟ็คมากถ่ายยังไงก็สวย พี่นี่กดเพลินเลย เสียดายที่น่านจะมา”



ผมยิ้มให้พี่เขาแล้วอยู่คุยอีกสองสามคำก็ออกไปหาอะไรดื่ม จนเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงมาจากห้องเพื่อรอรับแขกหน้างานผมจึงออกไปถ่ายรูป เพราะผมไม่ใช่ช่างภาพหลักของงานที่วันนี้มีถึงสามคนแล้ว ก็เลยไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ ตอนที่บ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีเพื่อขอบคุณแขกเหรือจึงหลบมุมมายืนจิบเครื่องดื่มแก้คอแห้ง ทุกคนที่มาในงานนั้นยิ้มแย้มแจ่มใสแสดงความยินดีกับความรักของหญิงชายคู่หนึ่ง บรรยากาศดูชื่นมื่นอบอวลไปด้วยความรัก แต่ผมไม่อินกับสิ่งพวกนี้เลย ผมยืนมองบ่าวสาวด้วยสายตาว่างเปล่า เพราะแบบนี้ผมถึงไม่มั่นใจว่าจะถ่ายรูปออกมาดีหรือเปล่า ในเมื่อผมเข้าไม่ถึงความรักในรูปแบบนี้เลยจริงๆ




รักแท้ที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันนะ...




หลังจากกล่าวบนเวทีเสร็จบ่าวสาวก็เดินลงมาทักทายแขกและถ่ายรูปตามโต๊ะต่างๆ จนกระทั่งแขกทยอยกันกลับในช่วงเวลาสองทุ่มนิดๆ พี่ยศบอกให้ผมกลับก่อนได้เลย ให้เหลือแต่ช่างภาพหลักของงานก็พอ ผมเลยเดินออกมาจากห้องจัดเลี้ยงเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำแต่ก็มีแขกของงานหลายคนใช้อยู่ จึงเลี่ยงไปใช้อีกโซนแทนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นโซนที่กำลังจัดงานอยู่เช่นกัน รูปที่ตั้งอยู่หน้างานทำให้ผมต้องหยุดยืนมองอยู่นาน ด้านหน้าห้องจัดเลี้ยงถูกจัดให้เป็นเหมือนแกลอรี่จัดนิทรรศการเล็กๆ เป็นรูปของการออกแบบเครื่องประดับที่ถูกร่างด้วยดินสอ ตั้งแต่เส้นแรกที่ถูกขีดเขียนลงบนกระดาษเปล่า รูปถัดไปก็เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้นไล่ไปเรื่อยๆต่อกันสี่รูป ซึ่งรูปสุดท้ายจะเป็นรูปเครื่องประดับที่เสร็จสมบูรณ์ลงสีเรียบร้อยแล้ว ผมเดินดูจนครบทั้งสิบสองรูป ทำให้รู้ว่าเครื่องประดับเซ็ตนี้มีทั้งหมดสามชิ้นคือสร้อยคอ สร้อยข้อมือและต่างหู ขนาดในรูปยังสวยจนผมประทับใจ แล้วของจริงจะสวยมากขนาดไหนอยากจะเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง



“อ้าว มาทำอะไรตรงนี้คะ อีกห้านาทีจะเริ่มโชว์แล้วนะคะ เชิญด้านในเลยค่ะ”จู่ๆก็มีผู้หญิงเดินมาทักผมที่กำลังดูรูปเพลินๆจนลืมเข้าห้องน้ำไปเลย ดูจากการแต่งตัวของเธอกับบัตรที่ห้อยคอคงจะเป็นสต๊าฟของงาน ผมกำลังจะอ้าปากพูดแต่ก็ถูกเธอดึงเข้าไปในงานอย่างงงๆ แล้วไฟก็ดับพรึ่บลงทันทีพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังขึ้นบอกให้รู้ว่าโชว์ได้เริ่มแล้ว และการที่ผมจะเดินออกไปตอนที่งานเริ่มแบบนี้ก็คงจะเสียมารยาทน่าดูเลยต้องปล่อยเลยตามเลย แต่เหมือนสต๊าฟผู้หญิงที่พาผมเข้ามาจะไม่ยอมรามือจากผมไปง่ายๆ เธอดึงให้ผมเดินไปรวมกับพวกกลุ่มนักข่าว ช่างภาพต่างๆที่ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปกันอย่างไม่มีใครยอมใคร



ผมอยู่ในงานจนกระทั่งโชว์จบ ได้ถ่ายรูปเซ็ตสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ของงานมาบ้างนิดหน่อย เพราะกล้องกับเลนส์ที่เตรียมมาไม่ได้ใช้เพื่อถ่ายงานแบบนี้ แอบเสียดายอยู่บ้างเพราะมันสวยมากจริงๆ จนอยากจะเห็นหน้าคนที่ออกแบบแต่ในงานไม่ได้มีการเปิดเผยตัวตนผู้ที่ออกแบบเครื่องประดับชุดนี้รู้แต่เพียงชื่อโรซี่หรือโรเซ่อะไรสักอย่าง


 
พอออกมาจากงานก็ได้ฤกษ์เข้าห้องน้ำสักที พอดีกับที่ไอ้ธันว์โทรมาบอกว่าสะดุ้งตื่นแล้วนอนไม่หลับแล้วยังไม่มีอารมณ์ออกไปหาสาวกล่อม ผมเลยให้มันออกมาหาอะไรดื่มที่โรงแรมแล้วถือโอกาสใช้มันขับรถไปส่งที่บ้านเสียเลย



“ไอ้ห่ามาไม่ถึงชั่วโมงได้เบอร์มาสองคนแล้วไอ้สัด”ผมอดไม่ได้ที่จะด่าไอ้คนที่นั่งข้างๆ มันก็หันมายกยิ้มยักคิ้วกวนตีนใส่ แต่ดูแล้วจะไม่ใช่สเป็คมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เอาฟรีมันก็ไม่เกี่ยงแก้ขัดไปก่อน แต่คืนนี้สาวๆพวกนั้นคงจะอดเพราะพี่ท่านอยากจะเก็บน้ำไว้กับตัวก่อน



“ซ้ายมือโต๊ะด้านในสุด ชุดดำสเป็คมึงเลย”ไอ้ธันว์พูดขึ้นกระตุกยิ้มเลวได้อีก ผมทำทีแกล้งทำมองไปรอบๆร้านก่อนจะไปหยุดตรงเป้าหมายที่เหมือนจะมองผมอยู่ก่อนแล้ว เธอยิ้มพร้อมกับยกแก้วขึ้นทักทาย ผมสแกนทางกายภาพคร่าวๆแล้วยิ้มตอบเธอไปก่อนจะหันกลับมาสนใจแก้วเหล้าในมือต่อ รอเวลาอีกนิด...



“ทอดสะพานจนเหลืองเกรียมแล้วไอ้ห่า รีบข้ามไปแดก”



“จำเป็นต้องรีบ?”เลิกคิ้วถาม



“เหอะ ไอ้สัด”เป็นอันรู้กัน ผมกับมันแทบจะไม่ต้องพูดอะไรมากก็รู้ไปถึงตับไตไส้พุงเพราะคบกันมานานมาก สนิทกันชนิดที่เรียกว่าเอากับผู้หญิงอยู่ข้างๆกันเลยยังได้ แต่จะว่าไปผมกับมันก็เคยนอนกับผู้หญิงคนเดียวพร้อมกันนะ ตอนสมัยที่ไปเรียนแลกเปลี่ยน จะว่าคะนองก็ใช่แต่มันก็สนุกสุดเหวี่ยงมากจริงๆ



ไม่นานเกินรอ สาวชุดดำก็อัญเชิญตัวเองมานั่งข้างผมเพื่อพูดคุยทำความรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมาก เจอกันในที่แบบนี้แค่ถูกใจ ตกลงกันได้จบที่โรงแรมไหนสักที่เช้ามาก็แยกทาง สำหรับค่ำคืนนี้ของผมก็คงไม่ต่าง พอได้เห็นเธอใกล้ๆถึงได้รู้ว่าหุ่นดีไม่หยอก หน้าอกไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็ก ทรวดทรงองค์เอวรับกันไปหมด กลมกลึงไปทุกส่วน ขาวมากด้วย ไอ้ธันว์ถึงขั้นมองตาไม่กะพริบแต่มันก็ไม่ได้แสดงอาการว่าอยากได้ เพราะสาวเจ้าเข้าหาผมอย่างชัดเจน แต่ถ้าเธอออกอาการว่าอยากได้มันด้วย ไม่แน่ว่าคืนนี้เราอาจจะได้ทำอะไรสนุกๆกันสามคน ก่อนที่ผมจะแยกตัวไปออกศึกไอ้ธันว์ก็ยัดสิ่งของที่ต้องใช้มาให้สองกล่อง



“กูรู้ว่ามึงอัดอั้นมานาน กล่องเดียวคงไม่พอ”อะนะ ก็ตั้งแต่ปิดเทอมผมไม่ได้ยุ่งกับใครเลย ใช้แต่แม่นางทั้งห้าปลอบลูกชายตัวเองเพราะต้องช่วยอาฝนทำงานและจัดการเรื่องต่างๆทดแทนช่วงเวลาที่ผมเรียนอยู่ที่กรุงเทพ ไอ้ธันว์ทิ้งรถไว้ให้ผมใช้ส่วนตัวมันเรียกเด็กสักคนให้มารับ เพราะเห็นผมจะได้สบายตัวมันเลยนึกอยากขึ้นมาบ้างทั้งที่ตอนแรกบอกว่าอยากเก็บแรงไว้





ผมเปิดห้องที่โรงแรมนั้น พอเข้าห้องได้เราก็ไม่พูดอะไรให้เสียเวลาและดูเหมือนว่าสาวชุดดำของผมจะใจร้อนมาก ผมยังไม่ทันขยับพ้นหน้าประตูเสื้อผ้าก็ถูกเธอจับถอดจนหมดก่อนที่เธอจะนั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจัดการกับเจ้าลูกชายผมที่ตื่นตัวสู้มือนุ่มนิ่มและริมฝีปากร้อนชื้น ผมทำได้แค่มองดูเธอสนุกสนานกับร่างกายของผม บางจังหวะก็เผลอตัวจิกผมเธอแล้วขยับเอวสวนเข้าหาจนเธอแทบจะสำลักแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับชอบด้วยซ้ำ สายตาที่ยั่วยวนยามช้อนตาขึ้นมองทั้งที่ลูกชายผมยังอยู่เต็มปาก ทำให้ผมอยากจับเธอมากระทำให้สาสม ยอมรับเลยว่าหน้ามืดและการกระทำของผมก็นำไปก่อนความคิดด้วยซ้ำ ผมจับเธอลุกขึ้นแล้วเป็นฝ่ายคุกเข่าลงใช้มือเดียวสอดเข้าไปในเดรสพอดีตัวสีดำของเธอรูดรั้งชั้นในลูกไม้เซ็กซี่ให้พ้นปลายขา ส่วนอีกมือควานหากล่องที่ไอ้ธันว์ให้มา จากที่จะใส่เองแต่ดูเหมือนว่าแอร์โฮสเตรสสาวคนนี้มีจิตวิญญาณการบริการที่น่าประทับใจจัดการสวมใส่ให้เสร็จสรรพ เมื่อเรียบร้อยแล้วผมจึงดันร่างกลมกลึงชิดติดกับประตูห้อง ดึงเดรสสีดำให้ขึ้นมากองที่หน้าท้องแบนราบ ช้อนขาขาวเรียวขึ้นข้างหนึ่งสอดใส่ส่วนที่พร้อมรบเข้าไป แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังไม่ขาดเพราะผมจัดให้ไม่ยั้ง ไม่สนใจว่าเสียงกึกๆของบานประตูที่เกิดจากแรงกระแทกกระทั้นจะรบกวนแขกห้องข้างเคียงหรือไม่ รอบแรกเราจบลงในเวลาไม่นานที่ตรงประตู ก่อนรอบสองจะเริ่มขึ้นทันทีที่โซฟา ไล่เรื่อยมาที่เตียงปิดท้ายที่ห้องน้ำ



เกือบตีสามตอนที่ผมมองนาฬิกา หยิบโทรศัพท์ออกมาดูก็เห็นข้อความอวยพรจากไอ้ธันว์ให้สุขใจสบายตัวอย่าให้มีอะไรคั่งค้าง มีข้อความจากไอ้พายที่กลับถึงบ้านเมื่อสองชั่วโมงก่อนแล้วก็บ่นว่าผมไปไหนไม่ยอมบอก แต่จะบอกมันไปตอนนี้ก็กลัวมันจะตื่นขึ้นมาบ่นให้รำคาญหูอีกผมเลยปิดเครื่องแล้วล้มตัวลงนอน แต่ความตั้งใจที่อยากพักก็หายไปเมื่อร่างขาวๆในชุดคลุมอาบน้ำตามลงมาทาบทับบนตัวผมอีกรอบ



“ไม่เหนื่อยเหรอครับ?”ผมไล้มือไปตามใบหน้าสวย เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงสวยมากคนหนึ่งเหมาะสมกับอาชีพ เพราะขนาดไม่มีเครื่องสำอางยังดูดี ไม่เหมือนบางคนที่พอล้างหน้าแล้วกลายเป็นอีกคนจนน่ากลัว



“ก็เหนื่อยนิดหน่อย แต่ฟ้ายังไหวนะหรือน่านไม่ไหวแล้ว หืม?”แววตาซุกซนขี้เล่น



“ก็ถ้าบอกว่าไม่ไหว ฟ้าจะยอมนอนเฉยๆไหม?”ก็เล่นมานั่งทับแบบนี้ผมจะเอามือไปไหวตรงไหนได้ก็เลยบีบขยำสะโพกพอดีมืออย่างเพลิดเพลิน



“ไม่อยู่แล้ว...ใครได้อยู่กับน่านแล้วนอนเฉยๆก็โง่แล้ว”เธอหัวเราะคิกคัก แล้วเริ่มปลดสายเสื้อคลุมอาบน้ำของผมและตัวเองออก จากนั้นก็เป็นไปตามแบบที่มันควรจะเป็นโดยที่เธอเป็นคนจัดการตั้งแต่เริ่มจนจบ ผมก็นอนสบายตัวไปสิครับ สองรอบจนเช้าของที่ไอ้ธันว์ให้มาหมดพอดีถึงได้นอนพักเอาแรงกันจริงๆ







*






ด้วยความที่เสียเหงื่อ เสียน้ำไปมากเลยทำให้อ่อนเพลียมากกว่าผมจะตื่นก็เกือบเที่ยง คนข้างๆผมยังหลับพริ้มอยู่เลย ก็นะถูกจัดหนักจัดเต็มจนเช้าไม่หลับเป็นตายก็ให้รู้ไป ผมรีบแต่งตัวแล้วออกมาโดยไม่ได้ปลุกเธอมาร่ำลา ก็แค่สนุกด้วยกันคืนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องลาหรือทิ้งอะไรไว้เพื่อติดต่อกันอีก แต่ถ้าเกิดบังเอิญเจอกันที่ไหนแล้วอยากจะรำลึกความหลังผมก็ไม่ขัดอยู่แล้ว โชคดีที่มีรถไอ้ธันว์ผมจึงกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วไปเรียนช่วงบ่ายทันอย่างฉียดฉิว



“ห่า กูรีบแทบตายเพื่อมาฟังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเหรอวะ”เนื่องจากอาจารย์ติดธุระเลยเข้ามาสั่งงานแล้วก็เลิกคลาส ทำให้ผมอดหงุดหงิดไม่ได้



“ก็ดีแล้วควาย จะบ่นทำเหี้ยอะไร ไปหาไรแดกกัน”ไอ้โฟมเอ่ยปากชวน พวกผมยังไม่ได้ขยับก้นไปไหนเพราะรอให้คนอื่นเดินออกจากห้องกันไปหมดก่อน



“สัดน่าน คอมึงอ่ะ กูเพิ่งเห็น ไปฟัดกับใครที่ไหนวะ”ผมขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มาเปิดกล้องหน้าส่องดูคอตัวเอง มุมปากกระตุกทันทีที่เห็น ตอนอาบน้ำผมรีบมากจนไม่ทันสังเกต



“ไอ้สัดยิ้มเลวอย่างนี้ เมื่อคืนมึงไปแซ่บมาสินะ ไม่มีชวน ที่มาช้าเพราะแบบนี้เองสินะ หน้าซีดๆเสียไปกี่น้ำละมึง”ไอ้โอ๊คโวยขึ้น ผมก็ยักไหล่แล้วบอกไปว่ายันเช้าเท่านั้นพวกมันเลยพร้อมใจกันประเคนนิ้วกลางมาให้



“ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับบุญวาสนาว่ะ ‘นางฟ้า’ มาจ่อถึงปากไม่แดกก็ควายละ”



พวกมันก็โวยกันแต่ไม่จริงจังนัก แล้วเคลื่อนย้ายพลกันออกจากห้องเพื่อไปหาอะไรกิน วันนี้ไอ้คิมกับไอ้ธันว์ไม่มาเพราะติดเรียน ส่วนไอ้พายตอนที่ผมกลับเข้าบ้านก็ไม่เจอมันแล้ว แต่รถผมยังจอดอยู่ที่เดิมเลยขับมา ส่วนรถไอ้ธันว์ผมส่งข้อความบอกให้มันไปเอาที่บ้านผมแทน



“เมียมึงโทรมา”ไอ้โฟมบอก ผมวางแก้วชาเขียวปั่นลง หยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะตอนเดินไปซื้อน้ำขึ้นมาดูมีสายไม่ได้รับจากไอ้พายสองสาย



“แล้วไมมึงไม่รับวะ”



“ขี้เกียจ”



ผมส่ายหน้าแล้วโทรกลับ พอได้ยินเสียงไอ้พายรับโทรศัพท์ก็รู้ทันทีเลยว่ามันต้องหาเรื่องมาให้ผมอีก



“น่านเพื่อนร้ากกกกกกกกกก”



“ค_ย อย่าทำเสียงแบบนี้ใส่กูห่า จะให้กูทำอะไร”



“คือ...คือว่า...”



“พูดมาอย่าลีลา”



“มึงว่างป่ะตอนนี้”



“ว่าง”



“งั้นไปเรียนแทนกูที ที่...”มันบอกรายละเอียดให้เสร็จสรรพ



“ทำไมกูต้องไปแทนวะ ให้เพื่อนมึงเช็คชื่อให้ก็จบ”



“อาจารย์พิเศษโหดโคตร แค่เช็คชื่ออย่างเดียวไม่ได้ เขานับหัวนักศึกษาด้วยเว้ย มึงก็แค่เข้าไปนั่งหลับก็ได้ ที่นั่งแถวหลังๆอ่ะ ครั้งก่อนกูไม่ได้เข้าเพราะติดงาน ครั้งนี้ไม่เข้ากูจะโดนเพ่งเล็งได้ เพราะงั้นมึงต้องช่วยกูนะ ครั้งเดียวจริงๆ น้า น้ำน่านผัวรัก”



“เออๆ ไอ้สัด”ผมด่ามันไปอีกที แต่ก็ยอมช่วย ข้าวปลาเลยได้กินเพราะต้องรีบเหาะไปคณะบริหารให้ทันเข้ารียน โชคดีที่ไปถึงทันเจอญี่ปุ่นกับตองเพื่อนไอ้พายที่หน้าห้องพอดี ทั้งคู่ชวนผมไปนั่งด้วยแต่ผมปฏิเสธไปเดินขึ้นไปนั่งด้านหลังสุด ถึงจะมีนักศึกษาเกือบเจ็ดสิบคนที่อาจารย์คงไม่สามารถจำหน้าได้หมดภายในเวลาไม่กี่วันแต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง เลยนั่งหลบๆอยู่กับผู้ชายตัวสูงๆซึ่งก็เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเพราะผมเป็นเพื่อนไอ้พายแต่ไม่เคยคุยกัน



เสียงคุยจ้อกแจ้กเงียบลงทันทีที่ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามา ผมเท้าคางมองผู้ที่เข้ามาใหม่ ท่าทางภูมิฐานสมกับเป็นอาจารย์แต่ดูจากหน้าตาแล้วก็ไม่น่าจะอายุเยอะ ที่เป็นอาจารย์พิเศษได้คงเพราะต้องเป็นพวกเนิร์ดคงแก่เรียนจบปริญญาเอกตอนอายุน้อยๆแน่ๆ ดูจากแว่นตาที่สวมใส่ก็น่าจะไม่คาดการณ์ผิดนัก ทว่ามันก็ยังดูขัดๆกับสไตล์การแต่งตัวที่ดูดี มีรสนิยม พอเริ่มสอนทุกคนก็ดูจะตั้งใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะสาวๆด้านหน้า ไม่รู้ว่าเพราะเสียงนุ่มๆและการอธิบายที่ชัดเจนเป็นขั้นตอนด้วยหรือเปล่าทำให้ผมเผลอจดตามที่เข้าพูดไปด้วย สักพักกระดาษสำหรับเซ็นชื่อเข้าเรียนก็เวียนมาถึง ผมเขียนชื่อไอ้พายลงไป แล้วก้มลงจดตามสไลด์และคำบรรยายตามความเข้าใจของตัวเองและคิดว่าไอ้พายก็คงเข้าใจเหมือนกัน เพราะตอนเรียนม.ปลายพวกผมก็อาศัยเลคเชอร์ของแต่ละคนในกลุ่มอ่านเพื่อเตรียมสอบ ท้ายชั่วโมงมีการสั่งงานกลุ่มให้แบ่งกันทำอีกเล็กน้อย ซึ่งเพื่อนของไอ้พายคงจัดการได้ ทุกอย่างกำลังจะจบแบบสวยงามถ้าไม่ได้ยินเสียงประกาศขึ้นก่อน





“คุณพันธการ มาพบผมด้านหน้าตอนนี้ด้วยครับ”





ผมจะไม่อะไรเลย ถ้า ‘พันธการ’ ไม่ใช่ชื่อของไอ้พาย!






***

ฝากด้วยนะคะ ><

ปล.กว่าจะลงได้ยากแท้ คำเกินหลายรอบมากตัดตอนไม่ถูกเลยทีเดียว 555555
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-07-2015 21:02:55
ยาวจุใจมาก :D

จารย์จำชื่อนักศึกษาทั้งหมดในห้องได้เหรอคะ หรือพระเอกเราเผลอเขียนชื่อจริงตัวเองลงไป??
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-07-2015 21:45:01
ลุ้นมากว่าอีกคนจะโผล่มาตอนไหน... สุดท้ายก็ออกมาซะเกือบท้ายบท (ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่ะนะ)
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 27-07-2015 23:14:52
เอาแล้วไง จะโดนอะไรหรือเปล่าน้า

ก็ลุ้นอยู่ว่าอีกคนจะมาตอนไหน

รออ่านนะคะ สู้ๆ o13
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Acrokate ที่ 28-07-2015 01:08:16
ลุ้นๆ รออ่านจ้า o13
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-07-2015 21:24:37
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
จะโดนอ่ะไรหนอ
รอจร้า
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 03-08-2015 21:03:34
นั่นไง.... น้องน่านจ๊ะ อาจารย์ดูท่าจะจำพายได้นะ
ซวยล่ะสิ จะโดนอะไรมั้ยน้าาาาาาา

รอจ้าาาา ^^
หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 06-08-2015 00:30:40
รัก...ไม่ได้ออกแบบ   by zero





   
- 2 -






   ผมกลับบ้านด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีด ยิ่งมาเจอไอ้พายยิ้มหน้าระรื่นตั้งวงเอ็นจอยกับสารพัดอาหารที่ผมขนมาจากเชียงใหม่แล้วก็ที่บ้านก็ยิ่งหงุดหงิดจนต้องเดินไปฟาดกบาลมันสักที



   “โอ๊ย เชี่ยกูเจ็บ ทำร้ายร่างกายกูทำไมเนี่ย”



   “ทีหลังมึงไปเข้าเรียนเองเลยนะ ถ้าทำงานแล้วเรื่องเรียนเสียมึงก็เลิกทำไปเลยหรือไม่ก็ดรอปไปซะ”


“เห้ยๆ ใจเย็นอะไรของมึงวะ อารมณ์เสียมาจากไหนเนี่ย? เมื่อคืนมึงไม่สบายตัวหรือไง”ไอ้ธันว์ร้องห้ามมือนึงถือแก้วเบียร์มือนึงล้วงถุงแคบหมู ส่วนไอ้คิมพยักหน้าหงึกหงักเอาข้าวเหนียวจิ้มแกงฮังเล ปากเป็นมันกันทุกคน ผมถอนใจเซ็งเล่าให้พวกมันฟัง



ตอนแรกผมกะชิ่งหนีตามพวกที่เริ่มทยอยออกจากห้อง แต่มุนษย์เนิร์ดนั่นเดินมาดักหน้าไว้เสียก่อน



“คุณคือพันธการหรือเปล่า?”ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ก็ถูกดักคอขึ้นมาเสียก่อน



“ก่อนตอบช่วยคิดด้วย เพราะผมจำนักศึกษาที่เรียนกับผมได้ และเท่าที่รู้มาคุณพันธการ วีรวัฒน์ไม่ได้หน้าตาแบบนี้นะ”สายตาคมกริบจ้องผมจนแทบทะลุ “คุณชื่ออะไร? เป็นอะไรกับพันธการ” สายตากดดันทำให้ผมต้องตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้ ถ้าพูดขึ้นมาขนาดนี้แสดงว่าเขาจำนักศึกษาได้ทุกคนจริงๆ จะแถกลับไปก็ดูจะโง่เกินทน



“ชลธรครับ เป็นเพื่อน”



“ฝากบอกเพื่อนคุณด้วยถ้ารักจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็แบ่งเวลาให้เป็น เพราะแค่การให้เพื่อนมาเรียนแทนก็บ่งบอกได้ว่ายังใช้สมองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าขาดเรียนอีกผมกลัวว่าจะสติปัญญาจะด้อยกว่าที่เป็นอยู่ ทำตัวให้สมกับที่เรียนบริหารด้วย เรียนคือเรียน เล่นคือเล่น งานคืองานแบ่งเวลาให้ถูก ส่วนคุณถ้ารักเพื่อนก็รักให้ถูกวิธีไม่ใช่สนับสนุนทำตามความคิดปัญญาอ่อน เพราะผมไม่ได้โง่ที่จะให้ใครมาหลอกได้ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มาสอนที่นี่ อาจารย์ท่านอื่นเขาอาจไม่ว่าอะไรเรื่องขาดเรียนครั้งสองครั้ง แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันแสดงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นการให้เกียรติตนเองและผู้สอน ครั้งหน้าถ้าเพื่อนคุณไม่มาเขาจะไม่มีสิทธิ์สอบ”



“ต๋ายห่าละ เตื้อหน้าฮาโดนยอกแหงๆ ไผจะไปกึ๊ดวะว่ามันจะจ๋ำหน้าได้กู่คน แล้วมันมาฮู้จักฮาได้ใดน่ะ”ไอ้พายเริ่มวิตกจริตหลุดภาษาแม่ออกมาทันที คงเป็นคราวซวยอาจารย์พิเศษที่มาสอนมันในเทอมนี้ดันเป็นมนุษย์เนิร์ดที่มีความจำเป็นเลิศผิดมนุษย์มนา


“คิงเป๋นดารา เป็นวีเจบ่ใจ้ก๊ะ เปิ้นท่าจะหันคิงแล้วจ๋ำจื้อคิงได้ ละบ่าห่าน่านก็หัวขาวโจ๊ะโล๊ะจะอั้น ไผก็จ๋ำได้ ติ๊ดแล้วบ่มีแต่อยู่ดีๆ ติ๊ดนี้ไถหัวเข้าไปเฮียน เป๋นไผก็สะดุ๊ดต๋าตึงนั้นเนาะ”ไอ้คิมใช้ภาษาแม่แสดงความคิดเห็นตามไปด้วย จากที่มันพูดก็มีความเป็นไปได้สูง ผมก็ลืมคิดไปว่าหัวตัวเองสะดุดตาแค่ไหน คงต้องหาเวลาไปทำสีใหม่เสียแล้ว



“เอาไงดีวะเนี่ย”ไอ้พายขยุ้มผมตัวเอง ดีนะที่มันล้างมือที่เปิบไส้อั้วไปเมื่อกี้แล้ว



“จะเอาไงก็ไปเรียนตามที่เขาฝากมาบอกไง ห่าตอกกูซะหน้าหงายขนาดนั้น” ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ น้ำเสียงนิ่งๆเย็นๆยังคงชัดในรูหู สีหน้าท่าทางก็นิ่งเสียจนน่าหมั่นไส้จะเก็กอะไรนักหนา จะเถียงกลับไปก็ไม่ได้เพราะเป็นถึงอาจารย์ซึ่งพอได้เห็นหน้าจริงๆแล้วก็รู้ว่ายังอายุไม่มากจริงๆ ห่างจากพวกผมไม่น่าจะเกิน 5-6 ปีด้วยซ้ำ



ไอ้พายขอโทษขอโพยผมพร้อมกับขอบใจที่ไปรับคำด่าแบบผู้ดีแทน มันหน้าจ๋อยเพราะคงกลัวมีผลต่อคะแนนจริงๆ เลยโทรไปเช็คตารางงานกับพี่บีที่ดูแลคิวงานให้ จากนั้นพวกผมก็อยู่กินดื่มกันพอชุ่มคอ ดื่มมากไม่ได้เพราะวันรุ่งขึ้นเรายังมีเรียน ไอ้ธันว์กลับห้องก่อนพร้อมกับสตรอว์เบอร์รี่อีก 2 กล่องมันบอกจะเอาไปฝากเด็กมัน ไอ้พายกับไอ้คิมที่หวงไอ้ผลไม้สีแดงยิ่งชีพมองค้อนตาคว่ำแทบจะตามไปจิกกบาลเอาสตรอว์เบอร์รี่ของข้าคืนมา ไม่นานไอ้คิมก็กลับตามไปด้วยเอาขนมกับของกินไปนิดหน่อยเผื่อหิวตอนอ่านหนังสือ นอกนั้นก็ให้เก็บไว้ที่บ้านผม ถ้าอยากกินเมื่อไหร่พวกมันจะแวะมาให้ทำให้กิน พวกผมสี่คนทำกับข้าวกันเป็นทุกคนแต่ที่อร่อยที่สุดคงเป็นไอ้พายที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น บ้านมันเปิดร้านอาหารเหนือ เด่นเรื่องข้าวซอยและขนมจีนสารพัดน้ำ ดังไม่ดังไม่รู้แต่ทัวร์ทุกทัวร์ต้องแวะมากิน ใครไปเชียงใหม่ถ้าไม่ได้กินอาหารที่ร้านแม่มันถือว่าไปไม่ถึงเชียงใหม่



“ทำไมมึงยังไม่นอนอีกวะ”ไอ้พายอยู่ในชุดนอนลายทางสีเทาขาวเดินถือแก้วนมมาเข้ามาหา ตอนเย็นแดกเบียร์ ก่อนนอนแดกนมไม่รู้ว่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นจริงๆหรือเปล่า ผมวางกีต้าร์ที่หยิบขึ้นมาเล่นแก้เซ็งไปอย่างนั้นลงข้างตัว



“เซ็งจนนอนไม่หลับ”



“เรื่องอาจารย์ป่ะวะ กูขอโทษ”



“ช่างแม่งเหอะ กูก็แค่เจ็บใจ ห่า อยากด่ากลับฉิบหายแต่ทำไม่ได้ แต่รับรองนะถ้าเจอข้างนอกกูไม่เอาไว้หรอก”ลงมือลงไม้ไม่ได้ขอได้ตอบโต้กลับบ้างก็ยังดี



“เขาเป็นอาจารย์นะเว้ย จะนอกหรือในมหาลัยมึงก็ด่าเขาไม่ได้ อีกอย่างกูก็ผิดเองอ่ะ”



“เป็นอาจารย์มึงไม่ใช่อาจารย์กู”ไอ้พายทำหน้าหงอยยิ่งกว่าเดิม ผมเลยได้แต่ถอนใจเหนื่อยกับมัน ในกลุ่มไอ้พายเป็นคนที่ไม่สู้คนที่สุด แม้ว่าภายนอกจะกวนตีนยังไงแต่มันก็เป็นคนขี้ใจอ่อน ประนีประนอม ไม่ชอบเรื่องชกต่อยเหมือนพวกผมสามคน อย่างไอ้คิมที่แม้จะดูนิ่งๆก็ใช่ว่าจะรักสงบ แต่มันเป็นประเภทพูดน้อยต่อยหนัก ปากไม่ขยับแต่ตีนนี่ไปก่อนแล้ว อาจเพราะมันต้องคอยปกป้องไอ้พายมาตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง



“เลิกทำหน้าแบบนี้ได้ละ เห็นแล้วรำคาญ เอาเป็นว่ากูจะอยู่เฉยๆถ้าเขาไม่ได้มาวุ่นวายกับกูอ่ะนะ”ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะผมกับเขาคงไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว และโลกมันคงไม่กลมจนต้องหมุนเอาคนไม่ถูกชะตามาให้เจอกันอีก



จนวันเปลี่ยนหมุนเวียนมาถึงวันศุกร์หรรษาพวกผมมีนัดกินเหล้ากันที่ร้านประจำ มากันจนสนิทกับเจ้าของร้านที่มารู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของปู่รหัสผมอีกที ความสัมพันธ์ซับซ้อนขึ้นไปอีก วันนี้เมาได้เต็มที่มีสารถีขับรถกลับให้เพราะไอ้พายไม่ดื่มพรุ่งนี้มันมีถ่ายละคร มันเทคิวทั้งหมดให้กับวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าจะขอคิววันธรรมดาก็ต้องหลังจากที่มันเลิกเรียนแล้วเท่านั้นเพราะมันไม่อยากมีปัญหาเรื่องเรียน แต่ก็ต้องไม่ชนกับงานวีเจของมันด้วย ยิ่งมีชื่อเสียง งานยิ่งวิ่งเข้าหา เวลาส่วนตัวก็ยิ่งน้อยลง ผมเห็นมันเริ่มบ่นๆแล้วเหมือนกัน แต่มันบอกว่าจะอดทนเพราะอยากได้รถคันใหม่ ทั้งที่มันขอแม่รับรองไม่เกินสามวันรถที่มันอยากได้ก็จะมาจอดรอหน้าบ้าน แต่มันบอกว่าอยากซื้อด้วยเงินที่หามาด้วยตัวเอง แต่คันเก่าที่ได้มรดกตกทอดมาจากพี่ชายมันก็ยังรักและดูแลอย่างดี แต่ง ล้างขัดสี อบโอโซน เคลือบเงา บลาๆ สวยกริ๊บไปทั้งคัน



ผมมาถึงร้านตอนสามทุ่มกว่าๆเพราะต้องเอารูปที่แต่งเสร็จแล้วส่วนหนึ่งไปให้พี่ยศ เจ้าสาวเร่งมาว่าอยากเห็นรูปแล้ว พอเจอหน้าก็เลยคุยเพลินไปหน่อย ถ้าไม่ติดว่านัดไอ้พวกนี้ไว้แล้วคงได้ไปต่อกับพวกพี่ๆเขาแล้ว กว่าจะเดินมาถึงโต๊ะผมก็ถูกสาวๆเรียกตัวให้ไปคุยด้วย แต่ละคนก็เคยๆกันมาทั้งนั้นแต่ไม่ได้ผูกมัดอะไรกัน มีแค่ความพอใจล้วนๆ ซึ่งผมชอบมาก พวกมันมากันเกือบครบแล้ว


“ไอ้เหี้ย กูนึกว่ามึงจะมาไม่ถึงโต๊ะซะแล้ว”ไอ้เต้เอ่ยแซวมันมาก่อนเพื่อมาจองโต๊ะกับไอ้โอ๊คข้างตัวมันมีหนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งคลอเคลียอยู่ ได้ข่าวว่าแฟนมันเป็นลีดเฟรชชี่นิเทศน์ ทำไมถึงเหน็บเอาเด็กน้อยมานั่งข้างได้วะ



“ไอ้สัด เด็กกูอย่ามองนาน”มันรีบขัดทันที



“ก็แค่มองไอ้ห่า ไม่ได้เอาสักหน่อย”



“ไอ้เหี้ย ก็แค่มองของมึงน่ะ ได้ของดีติดมือกลับไปทุกที”มันค้อนตาคว้ำ ก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มเด็กของมันที่ออดอ้อนไม่ให้อารมณ์เสีย เด็กนั่นยิ้มหวานชะมัด ท่าทางจะไม่เบาจากแววตาซุกซนที่ขยันส่งให้ไอ้เต้แต่ยังนับว่าใช้ได้เพราะโดนผมจ้องขนาดนั้นแล้วยังไม่ตอบสนองหรือที่จริงอาจจะแอ๊บเก่งก็ไม่รู้



ผมเลิกสนใจไอ้เต้กับเด็กของมัน รับแก้วจากไอ้คิมมือชงอันดับหนึ่งมาดื่มเป็นการเริ่มต้นของค่ำคืนนี้ เท่าที่เดินเข้ามายังไม่มีอะไรถูกตาถูกใจ มีแต่คนเดิมๆที่ผมไม่ค่อยใช้ซ้ำหลายรอบ ผู้หญิงส่วนมากที่ผมเลือกจะเป็นพวกที่ทำงานแล้ว รักสนุกไม่ผูกพัน เน้นวันไนท์แสตนด์ที่พวกเขาจะรู้ดีว่าควรทำตัวอย่างไร มันไม่ยุ่งยากไม่มีอะไรให้รบกวนใจในภายหลัง ผมเคยลองคบเป็นคนๆอยู่ช่วงหนึ่งแล้วพบว่ามันไม่เวิร์ค เรื่องที่เรียกร้องให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ผมไม่ขัดเพราะถือเป็นการแลกเปลี่ยนแต่ผมเกลียดการตามจิก ต้องคอยตามง้องอนและเรียกร้องเอาเวลาซึ่งผมไม่ค่อยมีให้มันน่าหงุดหงิดใจเลยเลิกดีกว่า เวลาส่วนใหญ่ของผมคือการเรียนและอยู่กับเพื่อน เรื่องเรียนถือว่าหนักเอาการเพราะแต่ละวิชามีงานที่ต้องให้ทำส่งสัปดาห์หนึ่งมีหลายชิ้น บางครั้งต้องอดหลับอดนอนเป็นวันสองวัน ดังนั้นอย่ามาเรียกร้องเอาเวลาจากพวกผม ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงสมาชิกทั้งหมดก็มาพร้อมหน้า กลุ่มผมกลายเป็นกลุ่มใหญ่มากเมื่อเพื่อนของเพื่อนมารู้จักกันแล้วกลายเป็นก๊วนเดียวกันในที่สุด ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนไอ้พาย



“โว้วๆๆ ว่าไงจ๊ะคนสวยไม่เจอกันนานยังสวยเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือนมนะจ๊ะดาร์ลิ้ง”ไอ้โอ๊คปากหมาใส่ทันทีที่ญี่ปุ่นกับตองเดินมาถึงโต๊ะ สาวคนเดียวของกลุ่มผมคืนนี้แต่งตัวล่อตาล่อใจเสือสิงห์กระทิงแรดในนี้มาก แต่คงไม่มีใครกล้ามาแหยมเพราะมีเดือนอย่างพวกผมล้อมดาวไว้อย่างเหนียวแน่น ถึงพวกผมจะชั่วคั่วมั่วสาวไปทั่วแต่เพื่อนผู้หญิงดีๆเราก็ต้องถนอมเอาไว้ครับ



“อ๊ะ มันก็ใหญ่ขึ้นสิยะผู้ชายยย เทคยาคุมไปตั้งเยอะ”อย่าคิดว่าสาวสวยคนนี้จะเขินอาย เล่นกลับพร้อมเอามือจับหน้าอกบีบเข้าหากันเหมือนพวกกะเทยทำเวลาโกยนมแล้วดัดเสียงใหญ่ทำให้ตัวเองเหมือนกะเทยเข้าไปอีก



“ชะนีคะ มึงช่วยทำตัวเป็นกุลสตรีมีชาติตะกูลหน่อย”ตองเกย์สาวตัวเล็กน่ารักรีบเอ่ยเบรค ขณะที่ไอ้พายส่ายหน้าหน่ายๆกับเพื่อนของตัวเอง ดึงตองนั่งลงข้างๆแล้วหอมแก้มโชว์



“อี๋ อีพาย ฟ้าจะผ่ากูไหม อิห่าแก้มกูไม่ได้มีไว้ให้พวกเดียวกัน ดอกกกก”มันทำท่าขยะแขยงไอ้พายสุดชีวิตแทบจะเอาแอลกอฮอล์ในแก้วล้างหน้า ไอ้คนแกล้งมันหัวเราะชอบใจ พวกผมก็ยิ้มๆตามกันไปถึงจะปากคอเราะร้ายทำตัวก๋ากั่น ส่งสายตายั่วยวนผู้ชายแต่ก็ไว้ตัวจนป่านนี้เลยไม่เคยมีแฟนสักที ส่วนญี่ปุ่นถูกไอ้ธันว์ลากไปนั่งด้วย โอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของสุดๆ แต่มันไม่มีอะไรครับ ไอ้ธันว์แค่หยอกเล่นส่วนญี่ปุ่นมันมีภูมิคุ้มกันดีต่อให้หล่อเลิศโพรไฟล์ดีแค่ไหนถ้าไม่ถูกไม่ใช่ไม่โดนใจคุณเธอก็ไม่แล



นั่งไม่ถึงชั่วโมงทุกคนก็ออกวาดลวดลายตามอัธยาศัยในคืนนี้ผมกะมาชิลล์ไม่คิดหิ้วใครกลับ เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมกรำศึกหนักมาทุกคืนแล้ว คืนนี้กะเมาให้หัวทิ่มแล้วให้เพื่อนหิ้วกลับตื่นอีกทีพรุ่งนี้เย็นๆถ้าไม่ถูกก่อกวนการนอนเสียก่อน



“ไอ้พวกเหี้ย หายหน้ากันไปนานจู่ๆนึกจะมาก็มาไม่มีบอกกูเลยนะ”เฮียเสกเจ้าของร้านเข้ามาทัก ที่โต๊ะเหลือแค่ผม ไอ้พาย ญี่ปุ่น ตอง ไอ้เต้ แล้วก็ไอ้โฟมที่เงียบผิดปกติตั้งแต่เข้ามาแล้วนั่งซัดเหล้าอั้กๆเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหนไม่รู้ ตอนนี้ก็แทบจะเลื้อยไปตามความยาวของโซฟา ไอ้นี่เมาแล้วแรนดอมอาการ บางทีก็เรื้อน บางทีก็อ้อนไล่จูบ บางทีก็ร้องไห้หัวเราะบ้าบอ บางทีก็หลับ มีแจ็คพอตอยู่ครั้งหนึ่งที่มาครบเกือบทุกอาการ จำได้ว่าครั้งนั้นพวกผมนี่สร่างเมากันหมดเพราะต้องมารบกับมัน



“โห เฮีย พวกผมก็มากันเอิกเริกขนาดนี้ เฮียนั่นแหละไปซุกอกเด็กที่ไหนถึงเพิ่งเห็นเนี่ย”



“ซุกพ่อง พูดแบบนี้เดี๋ยวเมียกูได้ยินถึงตายเลยไอ้สัด เพื่อนกูมาเลยอยู่คุยกับพวกมัน”เฮียตะโกนแข่งกับเสียงเพลงด่าไอ้เต้ที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างถูกใจ หนวดเคราทำให้หน้าคมๆของเฮียดูน่าเกรงขามสมกับอาชีพการงาน แต่เฮียเป็นคนขี้เกรงใจเมียมากเพิ่งแต่งกันเมื่อปีก่อนยังไม่มีลูก พวกผมไม่ได้ไปร่วมงานแต่งเพราะเป็นงานที่เต็มไปด้วยญาติผู้ใหญ่และคนสนิทมากเท่านั้น แต่เฮียก็เชิญพวกผมมาร่วมแสดงความยินดีตอนปาร์ตี้สละโสดไปก่อนแล้วจัดหนักจัดเต็มกันจนกลับไม่ไหวนอนตายอยู่ที่ร้านเฮียแกนี่แหละ ตอนบ่ายถึงจะโงหัวกันพาซากตัวเองกลับหลุมใครหลุมมัน



“แล้วนี่เพื่อนเฮียกลับแล้วไง?”



“ยัง มันออกหากินกันอยู่”เฮียยิ้มเลวอย่างรู้กัน พวกผมไม่ค่อยรู้จักเพื่อนเฮียเพราะเรามาคนละสายกัน แต่ก็เคยเห็นหน้าตากันบ้างบางคนไม่เคยพูดคุยกัน



“แล้วทำไมมึงนั่งโดดเดี่ยววะไอ้หล่อปกติไม่เคยขาดมือนี่”



“พักบ้างไรบ้างเฮีย”ผมตอบ แต่สายตาก็สอดส่องไปทั่ว เช็คเรตติ้งๆ



“ถุย มึงไม่บอกเฮียเขาไปอ่ะ มึงฉลองเปิดเทอมด้วยแจกจ่ายน้ำให้กับสตรีผู้ยากไร้ทุกคืนจนตัวซีดมาเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์”ได้ทีไอ้โอ๊คขี่แพะไล่



“มันต้องอย่างนี้สิวะไอ้เสือ ของพ่อให้มาต้องหมั่นใช้จะได้ไม่ขึ้นสนิม”เฮียเสกหัวเราะร่วนตบบ่าผมปุๆ ก่อนแกแต่งงานก็ใช่ย่อย ผมยังนึกทึ่งเมื่อฟังวีรกรรมที่ปู่รหัสผมเล่าให้ฟังแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเสือร้ายที่ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างเฮียแกจะแต่งงานเป็นคนแรกของกลุ่ม ผมเคยถามด้วยความอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้แกตัดสินใจทิ้งชีวิตอิสระแล้วหาห่วงที่เรียกว่าเมียมาผูกคอ เฮียยิ้มเท่แล้วตอบด้วยคำพูดสวยๆที่ผมเข้าไม่ถึง



เมื่อเจอคนที่ใช่แล้วมึงจะรู้เอง ว่าการที่อยากจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนมันรู้สึกยังไง



“ไอ้เหี้ยหมวยมันไม่ไหวแล้วกูว่า”เฮียติดเรียกไอ้โฟมว่าหมวยตามพวกผม มันนอนเหยียดเต็มพื้นที่มือยังเอื้อมมาจับแก้วเหล้าของตัวเองที่วางบนโต๊ะทั้งที่ตาจะลืมไม่ขึ้น สงสัยวันนี้เมาแล้วหลับ แบบนี้ก็สบายไอ้โอ๊คที่หิ้วมันกลับหน่อย



“ปล่อยมันเฮีย”ไอ้โอ๊คส่ายหน้าหน่ายๆ



“แล้วมึงไม่ออกหาเหยื่อวะ ปกติพลาดที่ไหน”



“ไม่อ่ะพี่ คืนนี้ไม่มีอารมณ์ ต้องหิ้วไอ้เหี้ยนี่กลับด้วย ภาระจริงๆ”ไอ้เหี้ยที่ว่าตอนนี้ตัวไหลลงไปบนพื้นครึ่งตัวแล้วเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก ชักอยากจะรู้ว่ามันเป็นอะไร ปกติถ้าไอ้หมวยมันจะเมาก็มีอยู่แค่สามเหตุผลคือดีใจมาก เครียดมากแล้วก็ได้แดกเหล้าฟรี ซึ่งเหตุผลหลังตัดไปได้เลยเหลือแค่สองข้อแรกที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรขนาดไอ้โอ๊คที่ว่าสนิทกับมันที่สุดยังไม่รู้



พี่เสกอยู่คุยกับพวกผมพักใหญ่ก็ขอตัวไปดูความเรียบร้อย ไอ้พวกที่ออกไปวาดลวดลายก็กลับกันมาที่โต๊ะ ไอ้ธันว์ยักคิ้วให้ก่อนจะโบกมือลาพวกผม คว้าเอวสาวข้างตัวติดมือไปด้วย ได้ยินไอ้พายพูดว่าเป็นนางแบบหน้าใหม่สังกัดเดียวกับมันไอ้ห่านี่ตาดีดวงดีตลอด ญี่ปุ่นกับตองขอตัวกลับตอนเกือบตีหนึ่ง ไอ้พายเดินออกไปส่ง ไอ้โอ๊คก็กำลังจะกลับพยายามแงะไอ้หมวยขึ้นมานั่งแต่ดูเหมือนไม่เป็นผลไอ้เต้เลยต้องทิ้งเด็กไว้แล้วช่วยหามกันไปที่รถ ส่วนไอ้คิมนั่งดวลออนเดอะร็อคกับผมได้พักใหญ่แล้วเริ่มมึนกันทั้งคู่



ผมชะงักไปนิดตอนที่เงยหน้าขึ้นแล้วเจอสายตาของเด็กไอ้เต้มองมาอย่างสื่อความหมาย กูว่าแล้ว ซื้อหวยทำไมไม่ถูกต่อหน้าไอ้เต้เก็บอาการเงียบ พอหลับหลังก็ลายออก ได้ยินเสียงไอ้คิมที่นั่งข้างกันหัวเราะหึหึ



“สนองเด็กมันหน่อยไหมมึง สงสัยได้เต้คนเดียวคงไม่ถึงใจ”



“เหอะไอ้สัด กูไม่เอาเด็กเพื่อน”ท่าทางได้แล้วจะเกาะหนึบแบบนี้ผมไม่โอเค ถ้าผมเลือกผู้หญิงก็จะเลือกอย่างที่บอกไป ถ้าจะเอาผู้ชายผมชอบพวกที่ดูว่าพูดจากันเข้าใจ  ดูร้ายแต่ก็ไร้เดียงสาหน่อยๆ ไม่เหวี่ยงไม่วีน ตัวเล็กๆขาวๆจับอุ้มแตงง่ายๆ ซึ่งรูปลักภายนอกอย่างที่บอกหาง่าย แต่นิสัยอย่างที่ต้องการนานๆจะเจอสักที ก็เลยเก็บไว้กินนานกว่าพวกผู้หญิงที่หาง่ายดาษดื่น


 
“เอ้า กลับกันไปจะหมดแล้วเหรอวะ อะไรของพวกมึงเนี่ย กูกะว่าหลังร้านปิดจะชวนพวกมึงไปแจมด้วยกันข้างหลังพวกเพื่อนกูมันจะอยู่ถึงเช้า”เฮียเสกแวะกลับมาที่โต๊ะ ด้านหลังร้านถูกต่อเติมไว้เป็นห้องพักคืนไหนเฮียแกเหนื่อยก็อาศัยนอนข้างหลัง หรือเอาไว้ให้พวกเพื่อนๆเฮียแกนอนตอนเมามากๆ มีห้องนอนอยู่ 2 ห้อง ห้องโถงกว้างมีคาราโอเกะ โฮมเธียร์เตอร์เอาไว้สังสรรค์ พวกผมเคยขึ้นไปสองสามครั้ง



“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันเฮีย เดี๋ยวผมก็จะกลับแล้วเหมือนกันไอ้พายมันมีถ่ายละครพรุ่งนี้เช้า”



“เออ ไอ้สัดดังแล้ว อีกหน่อยมันคงไม่มานั่งแดกเหล้าร้านกระจอกของกูแล้ว”



“กระจอกเหี้ยไรครับเฮีย แหมพูดแบบนี้น้องนุ่งน้อยใจนะเว้ย เห็นพายเป็นคนยังไงเนี่ย”เจ้าตัวมันกลับมาได้ยินพอดี ร้านเฮียถ้าใครมาแล้วพูดว่ากระจอกนี่ขอเหยียบหน้าสักที



“เหอะ ไอ้สัดทำเป็นน้อยใจ ดังแล้วอย่าลืมพวกกูแล้วกัน"เฮียแกก็หยอกขำๆไปไอ้พายก็แกล้งน้อยใจไปงั้น รู้นิสัยกันดี พอบอกว่าจะกลับไอ้พายก็ขอไปเข้าห้องน้ำมีเด็กไอ้เต้ขอตามไปด้วย พวกผมรอเด็กมาเคลียร์บิลเฮียลดพวกค่ามิกเซอร์แล้วก็อาหารให้ แค่นี้พวกผมก็ซึ้งน้ำใจจะแย่ จะมาให้แกเลี้ยงไปทุกครั้งคงไม่ไหวของซื้อของขายแม้ว่าแกจะรวยก็ตาม แล้วพวกผมก็ไม่ได้มีใครเดือดร้อนเรื่องเงินทองด้วย ระหว่างนั้นเฮียเสกก็นั่งคุยกันไปพลางๆ จนมีคนเดินมาตาม แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องชะงักแล้วเพ่งมองให้แน่ใจ จนอีกฝ่ายตวัดสายตาคมๆมามองนิ่งๆ


ไม่ใส่แว่น การแต่งตัวก็ไม่เหมือนออกแนวคนละโลกกันด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็ไม่ผิดตัวแน่ บุคคลที่ทำให้ผมเชื่อว่าโลกแม่งกลมจริงๆ



“เสก ไอ้พวกนั้นถามหา ส่วนกูจะกลับแล้ว”



“ไอ้เหี้ย มึงจะรีบกลับไปไหนวะ นานๆจะได้เจอมึงสักที ห่า หาตัวยากยิ่งสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อีก”



“เอาไว้คราวหน้านัดอีกกูมาแน่ ไปก่อนแล้วกัน”


ผมมองเขาตลอดการสนทนาในระยะเวลาสั้นๆ แต่ผู้ชายคนนั้นเหลือบมองผมแค่แวบแรกเท่านั้นแล้วก็ไม่ชายตามาอีกเลย แต่ผมรู้ว่าเขาจำผมได้ เอาจริงๆผมไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ยิ่งในสถานที่แบบนี้โคตรจะไม่เข้ากับลุคของเขาตอนที่เรียกผมไปด่าหน้าห้องเลยสักนิด แต่ในคืนนี้มันต่างออกไป ผู้ชายเนิร์ดๆกลายเป็นหนุ่มมาดเพลย์บอยขึ้นมาทันทีที่เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ยอมรับว่าดูหล่อเหี้ยๆขึ้นมาเป็นกอง สาวๆมองตามกันเป็นแถว



“เฮีย นั่นเพื่อนเฮีย?”



“เออ ไอ้เดียว ปกติมันไม่ค่อยอยู่ไทย ไปๆมาๆระหว่างฝรั่งเศสกับไทย แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ฝรั่งเศสมากกว่าบ้านเกิดแม่มัน”



“อ้าว แล้วเขาไม่ได้เป็นอาจารย์สอนในมหาลัยเหรอวะ”ผมนึกสงสัย



“เห้ย มึงรู้ได้ไงวะ รู้จักมัน?”เฮียมีท่าทางประหลาดใจมาก



“ก็ไม่เชิง เขาเป็นอาจารย์พิเศษคณะไอ้พาย”ไอ้คิมหันมาสนใจทันที เลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าใช่คนนั้นเหรอที่เรียกผมไปด่าแบบผู้ดี



“เอ้าไอ้สัด โลกกลมฉิบหาย มันเพิ่งกลับมาเนี่ย ครั้งนี้คงอยู่ยาวหน่อย เห็นว่ามีคนทาบทามให้ไปสอนวิชานึง ช่วงนี้มันว่างเลยรับปากไป บอกเพื่อนมึงเลยนะให้ตั้งใจเรียน ไอ้เดียวมันเก่งมากมันสอนอะไรก็รีบตักตวงไว้ ถามได้ถามให้ละเอียดไปเลย”



ผมนี่พูดไม่ออกเลย ฝากด่าผ่านผมมาจนไอ้พายมันกลัวเขาหัวหดขนาดนั้น จ้างให้ก็ไม่กล้าถามต่อให้มันสงสัยจนจะตายก็เถอะ ขอให้มึงโชคดีไม่ติดเอฟแล้วกันพันธการ




(ต่อข้างล่าง)




หัวข้อ: Re: [❤] รัก...ไม่ได้ออกแบบ [❤] : CH.1 [27.7.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 06-08-2015 00:31:11
(ต่อ)


การนอนของผมถูกรบกวนจากอาฝนสุดที่รักที่โทรมาปลุกก่อนเที่ยงเพียงไม่กี่นาที โดนบ่นนิดหน่อยเรื่องที่ไปเมากันตั้งแต่เปิดเทอมใหม่ๆแต่อ้อนนิดอ้อนหน่อยอาฝนก็เลิกบ่น แล้วสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปก่อนจะวางสายได้ยินแว่วๆมีคนมาหา เราไม่ได้คุยกันทุกวัน แต่ก็คุยกันบ่อยไม่ได้ห่างหายไปไหน อาฝนเป็นเหมือนแม่ของผมจนบางครั้งผมอยากจะเรียกเขาว่าแม่จริงๆ แต่อาบอกว่าแม่มีแค่คนเดียวเก็บคำนั้นไว้เรียกแม่จริงๆจะดีกว่า แต่ผมกลับคิดว่าตลอดชีวิตนี้ผมคงไม่ได้ใช้คำนั้นเรียกใครอีก



พอตื่นแล้วก็นอนต่อไม่ลงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มาเรียกไอ้คิมที่ห้องเมื่อคืนมันมานอนที่บ้านด้วย แล้วลงมาหาอะไรใส่ท้อง ไอ้พายไม่อยู่แล้วกว่าจะกลับก็คงเย็นวันอาทิตย์ช่วงนี้ทางกองเน้นสถานที่ถ่ายทำต่างจังหวัดก่อนเพราะคิวนักแสดงแต่ละคนค่อนข้างว่างและพอมีเวลาที่จะเดินทางไปได้


ผมเอาของในตู้เย็นออกมา ยังมีไส้อั่วเหลืออีกเลยจัดการทอดมันเสียเลยกินกับข้าวสวยก็ไม่เลวนักขี้เกียจนึ่งข้าว มีน้ำพริกอ่องที่แม่ไอ้พายทำใส่กล่องใหญ่มาให้ ผมเลยเอาผักที่ยังพอมีอยู่ออกมาล้าง หั่นแตงกว่าเป็นแว่นๆแล้วยัดใส่ช่องฟรีซอีกทีเพื่อให้มันกรอบ ตอนแรกอยากกินต้มยำแต่ไม่มีอะไรสักอย่างเลยเปลี่ยนเป็นไข่น้ำซดให้คล่องคออีกอย่าง ไอ้คิมลงมาพอดีผมเลยให้มันหั่นไส้อั่วที่ทอดเสร็จแล้ว จากนั้นมันก็เดินไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่ที่เหลืออีกกล่องมาล้าง หั่นจุกออกผ่าครึ่งแล้วทำพริกเกลือไว้จิ้ม


“กูอยากดูหนัง ไปดูกับกูหน่อย”ไอ้คิม


“เรื่องที่มึงบอกว่าจะดูอาทิตย์ที่แล้วอ่ะนะ”


“เออ ไอ้สัดยุ่งจนไม่มีเวลาไปดูเลย”


“บ่ายแก่ๆแล้วกัน พารากอนนะ กูอยากไปดูของให้อาฝนด้วย”


พอกินข้าวเสร็จพวกผมก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตัวเอง ไอ้คิมไปคุยกับเด็ก ไอ้นี่มีคนคุยด้วยเรื่อยๆ ถูกใจก็คุยด้วยนานหน่อย นอนด้วยกันแล้วแต่โอกาสและอารมณ์ของมัน ไม่ค่อยได้ใช้ร่างกายเปลืองเหมือนผมกับไอ้ธันว์ ส่วนผมออกมาดูความเรียบร้อยในสวน ช่วงที่ปิดเทอมผมจ้างคนมาดูแลวันเว้นวัน แกเป็นสามีของป้าแม่บ้านที่ผมจ้างให้เข้ามาทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง ไว้ใจได้ทั้งคู่เป็นคนแถวนั้นลูกๆให้อยู่บ้านเฉยๆแกเหงาไม่มีอะไรทำเลยรับจ้างเล็กๆน้อยๆ ซึ่งบ้านผมก็ไม่ได้สกปรกนัก ผมกับไอ้พายช่วยกันทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่ทุกวันอาทิตย์จะให้ป้าแกมาทำทั้งบ้านอีกทีเพราะพวกผมเอาแต่ซุกหัวนอนกัน ไม่ก็อออกไปเตร็ดเตร่ตามประสา เสื้อผ้าก็ส่งซักรีดเอา ยกเว้นพวกชุดนอนอะไรพวกนี้จะซักกันเอง เวลาอาฝนมาหาแกจะพาพี่คำแก้วมาด้วยเพื่อมาช่วยทำงานบ้านทำอาหาร ซึ่งจะเป็นลาภปากของพวกผมมาก อาฝนทำกับข้าวเก่ง อร่อยมากด้วย ผมเลยได้วิชาติดตัวมา อาบอกว่าถึงจะเป็นผู้ชายก็ต้องทำอาหารเป็น โดยเฉพาะผู้ชายเจ้าชู้จนไม่มีผู้หญิงเอาจะได้ไม่อดตาย คือผมก็ซื้อเขากินได้ครับอา เหอๆ


บ่ายแก่ผมกับไอ้คิมพากันออกมาที่ห้าง ว่าจะหาที่จอดรถได้แทบขาดใจ โชคดีที่ทันรอบหนังพอดีไอ้คิมไปซื้อน้ำแต่ไม่ได้ซื้อป็อคอร์นในบรรดาพวกผมสี่คนมีไอ้พายคนเดียวที่ชอบกินขนมเวลาดูหนังในโรง ผมยืนดูหนังตัวอย่างระหว่างรอก็มีคนมายืนข้างๆ อีกฝ่ายก็หันมายิ้มให้บางๆ สวยจนผมต้องมองซ้ำให้แน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายจริงๆ สูงไม่น่าเกิน 175 ตัวบาง ผิวขาวแต่ไม่ถึงกับขาวจัดเรืองแสงโอโม่แต่ขาวเนียนอย่างคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนซอยสไลด์รับกับใบหน้าสวย ลักยิ้มที่เห็นเมื่อครู่ทำให้มีสเน่ห์จนต้องมองซ้ำ ผมคงจ้องมากไปเขาจึงหันมามองแล้วยิ้มให้พร้อมกับเลิกคิ้วเบาๆทำหน้าสงสัย


“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”


เสียงก็เพราะ เป็นครั้งแรกที่ผมมองผู้ชายตาค้างแบบนี้นึกตลกตัวเอง แต่คนตรงหน้าดูดีมากจริงๆและรอยยิ้มนั้นก็แสดงออกถึงความเป็นมิตรหาใช่การอ่อยยั่วเหมือนที่เคยเจอ


“ไม่มีอะไรครับ แค่เห็นว่าคุณน่ารักดี”ผมพูดตรงๆ อีกฝ่ายก็ยิ้มขำไม่ได้เขินอายอะไร เหมือนจะชินกับการถูกชมซึ่งหน้า


“ขอบคุณครับ ไม่คิดว่าท่าทางอย่างคุณจะชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารัก”


“เฟิร์ส”คนข้างกายผมหันไปยิ้มหวานให้คนที่เอ่ยเรียกทันที ผมหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเห็นเจ้าของเสียง โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว


“พี่เดียว เรียบร้อยแล้วเหรอครับ”


“ยืนคุยอะไรกันอยู่ หืม?”น้ำเสียงนุ่มจนน่าขนลุก ผมแอบเบ้ปาก มันช่างต่างกันลิบลับกับตอนที่ผมเจอครั้งแรก


“ไม่มีอะไรมากครับ เขาชมเฟิร์สว่าน่ารักด้วยแหละ มีแค่พี่เดียวที่บอกว่าเฟิร์สขี้เหร่ ชิ”อีกฝ่ายทำหน้าเจ้าแง่แสนงอนได้น่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ ไอ้คนตัวโตข้างๆก็หัวเราะจับหัวคนตัวเล็กโยกอย่างเอ็นดู ทำไมผมต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วยวะ


“ไปกันเถอะ เสียเวลามามากแล้ว”พูดไม่พอตวัดตามองมาที่ผมด้วยสายตาหยันๆรอยยิ้มเยาะๆก่อนจะโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของพากันเดินออกไป ทำเอาผมเส้นกระตุก กวนส้นตีนไอ้สัด! ไอ้เหี้ยนี่มันสมควรไปเป็นอาจารย์สั่งสอนใครตรงไหนกัน หงุดหงิดเลยกู


ไอ้คิมที่ไปซื้อน้ำถึงขั้วโลกกลับมาพอดีมันมองงงๆ ที่จู่ๆผมก็อารมณ์เสีย ผมไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟังลากมันเข้าไปนั่งดูหนัง ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ดันมาเจอกันในโรงหนังอีก นั่งถัดจากพวกผมไปอีกสองที่นั่งและเป็นสองที่นั่งที่ไม่มีใครนั่งเสียด้วย ผมดันไอ้คิมเข้าไปนั่งด้านใน เห็นแวบๆว่าฝ่ายนั้นก็มองกลับมาเหมือนกันแต่ผมไม่ได้มองกลับไปอีก ไม่อยากมีปัญหา ผมไม่ได้คิดจะจีบก็แค่เห็นว่าน่ารักเลยมอง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหันมาคุยด้วยซ้ำ แต่ไอ้บ้าที่แสดงออกว่าหวงของเหมือนว่าผมไปคิดอะไรกับเด็กของมันเห็นแล้วมันหงุดหงิด เดี๋ยวกูจีบจริงๆแม่งซะเลย!


ช่วงแรกของหนังผมดูไม่ค่อยรู้เรื่องเพิ่งมาตั้งใจจริงๆก็ตอนกลางเรื่องไปแล้ว ก็เป็นหนังที่ใช้ได้พอสมควร แต่ไม่ได้ประทับใจอะไรนักขนาดคนที่อยากดูมากอย่างไอ้คิมยังให้คะแนนไม่เต็มสิบ หลายๆอย่างในเรื่องทำให้มันอินไม่สุด ไอ้คิมบ่นนิดหน่อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปหาอะไรกินแล้วค่อยเดินดูของกัน ว่าที่เภสัชกรเขาอยากแดกอาหารญี่ปุ่นผมเลยไม่ขัด นานๆกินทีก็โอเคดีเหมือนกัน ปกติพวกผมเป็นพวกกินง่ายๆขอให้แค่อร่อยก็พอ ร้านอาหารข้างทางบางทียังรสชาติดีกว่าอาหารในห้างแถมยังถูกกว่าหลายเท่า แต่ถ้าเวลาพาสาวมาเที่ยวก็นะพาไปกินข้างทางคงถูกบ่นจนอารมณ์เสียนั่นแหละ


ตอนออกจากบ้านผมคงก้าวขาผิดข้างหรือไม่ก็ฤกษ์ไม่ดี ถึงได้เจอคนที่ไม่อยากเจออีก แทบอยากจะลุกหนีติดตรงที่ว่าสั่งอาหารไปแล้วเลยต้องทนนั่งอยู่ ไอ้คนตัวเล็กน่ารักนั่นก็ดันอัธยาศัยดี


“อ้าว เจอกันอีกแล้ว สงสัยดวงจะสมพงษ์กัน”เจ้าตัวฉีกยิ้มหวาน ผมหันไปยิ้มให้เนือยๆ เหลือบตามองคนตัวโตที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับผมที่ก้มหน้าก้มตาดูเมนู


“เฟิร์สจะทานอะไร อย่ามัวแต่ชวนคนอื่นเขาคุย”คำว่าคนอื่นนี่เน้นชัดกระแทกรูหูมากซ้ำยังมองด้วยหางตาทำเอาผมจี๊ดขึ้นมาอีกรอบ ขอโทษเถอะ กูไม่ได้เป็นคนเริ่มนะเว้ย ต้องโทษเด็กมึงนู่น ไอ้เหี้ย!


“พี่เดียวสั่งให้เฟิร์สเลย รู้นี่ว่าเฟิร์สชอบอะไร”


“ทานแต่แบบเดิมๆจะได้สารอาหารครบไหมเนี่ย ดูสิผอมเกินไปแล้ว”


“โห่ พี่เดียวอ่า เฟิร์สก็ทานเยอะแล้วนะแต่มันไม่อ้วนเอง”


เสียงของโต๊ะข้างๆยังดังรบกวนโสตประสาทของผม ไอ้คิมเลิกคิ้วถามเพราะหน้าผมคงบอกบุญไม่รับเอามากๆ


“เป็นเหี้ยอะไรวะ”


“คันตีนอยากเอานาบหน้าคน”ผมตอบกะเอาให้โต๊ะข้างๆได้ยิน อาหารมาเสิร์ฟผมก็รีบๆกินให้มันเสร็จๆ แต่ไอ้คิมก็ละเลียดจนน่ารำคาญ ดื่มด่ำกับรสชาติซาชิมิและวาซาบิผมเลยไปเข้าห้องน้ำทิ้งมันไว้ที่โต๊ะคนเดียว ไอ้พายก็โทรเข้ามาพอดีผมเลยยืนคุยอยู่ตรงทางเดินก่อนถึงตัวห้องน้ำ มันโวยใหญ่ที่ผมออกมาดูหนังกับไอ้คิม มันสองคนชอบดูหนังแนวๆเดียวกัน


“เออ ไอ้สัดอย่ามางอแง แผ่นออกค่อยซื้อมาดู แต่มันก็ไม่ได้ดีมากขนาดนั้นมึงไม่ต้องมาเสียดาย แล้วนี่ไม่ทำงานไงวะ โทรมาทำเหี้ยไรเนี่ย”


“กูว่าวันจันทร์กูกลับไปไม่ทันคาบเช้าแน่เลย”


“ไหนมึงว่าจะกลับเย็นวันอาทิตย์ เอาใหญ่แล้วนะมึง ละครเรื่องแรกก็ทำให้การเรียนเสียกูว่ามึงไม่ต้องรับงานแล้วดีกว่ามั้ง”


“อย่าพูดงี้ดิว้า คิดว่ากูอยากขาดเรียนนักไงวะ เหตุสุดวิสัยว่ะ คนที่ต้องเข้าฉากกับกูเขาดันติดประชุมระดับชาติมั้งไอ้สัด มาถ่ายไม่ได้ ต้องเลื่อนมาถ่ายพรุ่งนี้เย็นกว่าจะเลิกกองคงดึกมากไม่ก็อาจจะเช้า กูไปไม่ทันแน่ๆเลย”


“แล้วยังไง จะให้ไปเข้าเรียนแทนกูไม่เอาแล้วไอ้สัด วิชาไอ้ห่านั่นอีกแล้วใช่ไหม มันก็บอกแล้วนี่ขาดอีกครั้งมึงหมดสิทธิ์สอบ”


“ไม่ๆ มึงไปส่งใบลาให้หน่อย ช่วยไปคุยกับเขาให้กูหน่อยดิ”


“ไม่ใช้เพื่อนมึงไปอ่ะญี่ปุ่นกับตองไง กูว่าส่งตองไปอาจจะได้ผลท่าทางจะชอบแบบนั้น”ผมนึกถึงคนที่มันควงมาด้วยวันนี้ ตองก็น่ารักพอสู้ได้อยู่


“แล้วทำไมมึงไปให้กูไม่ได้ แล้วมึงพูดเหมือนรู้จักเขาดีเลย อะไรของมึงวะ”อยากจะตอบกลับไปว่าไม่ได้รู้จักดี แต่พูดจากที่เห็น แต่ก็กลัวจะต้องอธิบายยาวไปอีก


“กูไม่ไป เพราะกูบอกไว้เลยถ้ามันด่ากูกลับมาอีกกูเอาตีนทาบหน้ามันแน่ๆ”และผมคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก


“กลับมาเรียนให้ทันให้พี่บีมาส่ง เขาเป็นผู้จัดการต้องจัดการให้มึงได้ทุกอย่าง”ไอ้พายอ้อมแอ้มรับคำก่อนจะวางสายไป ผมไม่ได้อยากจะใจร้ายแต่ถ้าปล่อยให้เวลางานเบียดเบียนเวลาเรียนแบบนี้ผมก็ไม่ชอบ เห็นด้วยกับที่ไอ้บ้าขี้เก๊กสองบุคลิกบอกว่าให้บริหารเวลาให้เป็น แต่นึกถึงมันแล้วก็หงุดหงิด พอหันกลับมาก็ถึงกับต้องถอยหลังตกใจ


ไอ้บ้านั่นมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ช่วงเวลาที่ผมคุยโทรศัพท์อยู่กับไอ้พายก็มีคนเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำบ้าง ถึงจะยืนหันหน้าเข้ากำแพงแต่ผมก็รู้ตัวตลอดนะ มันยืนกอดอกมองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก


“มีปัญหาอะไร?”


“คนที่มีปัญหาน่าจะเป็นคุณมากกว่าคุณชลธร โชคดีที่ผมไม่ได้สอนนักศึกษาอย่างคุณ”มันส่ายหน้าทำท่าทางที่ทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ ผมคว้าแขนมันไว้ก่อนที่มันจะเดินผ่านไปเข้าห้องน้ำ


“เดี๋ยว พูดงี้หมายความว่าไง ท่าทางนั่นอีก”


“คิดเองสิ แต่ก็นะ...คนอย่างคุณคงจะคิดไม่ได้หรอก เพราะรอยหยักในสมองคงจะตื้นเขินพอๆ กับสามัญสำนึกของคุณนั่นแหละที่ไม่รู้ว่าไม่ควรพูดถึงคนอื่นลับหลังด้วยคำพูดที่ไม่ได้ถูกกลั่นกรองจากสมอง”


ผมกำหมัดแน่น ถ้อยคำที่ไม่ได้หยาบคายแต่กลับเจ็บเหมือนถูกต่อยซ้ำๆจนหน้าชา พลาดเองคงโทษใครไม่ได้แต่จะให้ยอมรับมันก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่ใช่คนก้าวร้าวกับครูอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่หรือแม้กระทั่งรุ่นพี่ แต่กับคนที่เราไม่ชอบขี้หน้าจะให้พูดถึงดีๆมันก็ไม่ใช่ป่ะวะ แต่จะย้อนกลับไปให้ถูกด่ามาอีกก็จะโง่เกินคน ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงตอบโต้อะไรคนๆนี้ไม่ได้เลย ไม่ใช่เพราะว่าแก่กว่าหรือเป็นอาจารย์ แต่มันมีบางอย่างในตัวของเขาที่ทำให้ผมข่มเขาไม่ลง หรือไม่รู้จะงัดคำไหนออกมาสู้เพื่อให้ตัวเองไม่ดูแย่ลงไปอีก


“อ้อ อีกอย่างนะ เรื่องรสนิยมของผมก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะมาวิจารณ์ได้ถ้าไม่รู้จักกันจริงๆ เพราะว่าอย่างคุณเองก็น่าสนใจถ้าไม่ติดตรงที่ว่า...ปากหมาไปหน่อย หรือนี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจจากผม?”





ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!







---- TBC ---  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.2 [6.8.58]
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 06-08-2015 17:26:57
แอร๊ยยย มาต่อแล้ว แปะ ๆ ไว้แป๊บนะ เดี๋ยวอ่านจบและมาดิทจ้า ชู๊บ ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.2 [6.8.58]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 06-08-2015 18:27:25
 :a5: อาจารย์แกด่าเจ็บแบบผู้ดีเน้อ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.2 [6.8.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-08-2015 20:03:14
อาจารย์ด่าทีนี่จุกแล้วจุกอีกอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.2 [6.8.58]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-08-2015 20:36:31
 :ling2:

โดนจารย์ด่าทีนี่ไปไม่เป็นเลยทีเดียว เจ็บและจุก

พระเอก(?)ก็นะ ดีแต่ใช้กำลังหรือยังไง ไปลับฝีปากไป๊
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.2 [6.8.58]
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 06-08-2015 20:59:33
อื้อหื้อ ขนาดไม่ได้โดนด่าเองยังเจ็บเลย

รออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.3 [25.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 25-09-2015 23:51:08
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by Zero




- 3 -





   ช่วงนี้การรับน้องกำลังเข้มข้น คณะผมเป็นคณะที่มีนักศึกษาไม่มาก รุ่นพี่รุ่นน้องรู้จักกันหมด จะไม่รู้จักก็ต่อเมื่อรุ่นเราห่างกันมากๆหรือพวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วไม่เคยกลับมาที่คณะอีกเลย อาจจะเป็นเพราะต้องทำงานหรือมีภารกิจเรียนต่อหรือไม่ก็ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะแห่มาในช่วงรับน้องเพื่อมาดูหนังหน้าสายรหัสตัวเอง บางคนก็หวังมาส่องสาวน้อยเฟรชชี่ 



วันนี้พวกผมได้รับคำบัญชามาจากพวกรุ่นพี่ให้มาดูแลน้องๆที่มาเข้ากิจกรรมหลังเลิกเรียน พวกไอ้โฟม ไอ้โอ๊ค ไอ้เต้เป็นสวัสดิการช่วยเอเชียกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นดูแลน้องๆ ใจจริงพวกมันจะหาโอกาสส่องน้องน่ารักๆมากกว่าจะมีใจอาสาช่วยงานเพื่อน ปีพวกผมจะเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำน้องๆเรื่องการเรียน ส่วนพวกพี่ว๊ากปีสามจะสอนน้องๆให้รู้จักการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย สอนกฏระเบียบการอยู่ร่วมกันและสอนให้น้องๆปรับตัวเข้าหากัน รักและสมัคคีกัน เพราะพวกเขาต้องอยู่ด้วยกันไปอีกสี่ปี รวมไปถึงการหลังจากเรียนจบไปแล้วพวกเขาก็ยังต้องเป็นเพื่อนพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตลอด พวกพี่ปีสี่จะแค่ให้คำปรึกษาและคอยดูแลพวกปีสองและปีสามอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้การรับน้องรุ่นแรงจนเกินไป ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ในการควบคุมดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษา



   ผม ไอ้วินแล้วก็ไอ้นัท ถูกกันตัวให้มาอยู่กับพวกพี่เอ้ พี่หลง พี่กั๊กที่เป็นพี่ว๊าก แว่วๆมาว่าผมสามคนถูกวางตัวไว้ให้รับช่วงต่อในปีหน้าซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามีเกณฑ์ในการเลือกกันอย่างไร อย่างน้อยก็ควรจะเลือกจากคนที่เข้ากิจกรรมรับน้องตอนปีหนึ่งมากกว่าแต่ถ้ารุ่นพี่เห็นว่าผมเหมาะสมที่จะทำผมก็คงไม่ขัด



ผมแอบดูพวกน้องๆในห้องชุมนุมจากหลังเวที ก่อนลงว๊ากผมเห็นพวกพี่ๆแยกกันนั่งคนละมุมเพื่อทำสมาธิ ปกติแล้วพี่หลงเป็นพวกสนุกสนานเฮฮาแต่พอมาเห็นทำหน้านิ่งตีขรึมแบบนี้ก็แปลกตาไปอีกแบบ ดูพี่แกตั้งใจมากกับการเป็นพี่ว๊าก พี่กั๊กนี่ไม่ต้องพูดถึงแค่ดูหน้ากับรูปร่างก็การันตีความโหดเถื่อนอยู่แล้ว น้องๆเห็นระยะร้อยเมตรก็ต้องก้มหน้าหลบตากันเป็นแถว ส่วนพี่เอ้แกเป็นคนเงียบๆ เพราะแกขี้เกียจพูดชอบสื่อสารทางสายตามากกว่า ตาคมดุแค่ปรายตามองน้องๆก็ตัวสั่นแล้ว ยิ่งไว้หนวดไว้เคราแบบนี้ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก แต่รับรองได้ว่าหลังจากจบว๊ากสาวๆได้เห็นหนังหน้าเกลี้ยงเกลาของพี่แกหลายคนคงต้องหลงแน่ๆ ก็นะแกเป็นอดีตเดือนคณะเชียวนะ



   “พวกเราต้องทำแบบนั้นจริงเหรอวะ?”ผมถามไอ้สองคนที่ร่วมชะตากรรมด้วยกันหลังจากแอบดูอยู่สักพัก



   “เออ กูว่ากูไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้เลย หน้าตากูออกจะหล่อใจดีมีเซอร์วิสมายด์ ทำร้ายจิตใจใครไม่เป็น”ไอ้วิน



   “โถ ไอ้เหี้ย ที่พูดมานี่มึงคิดแล้ว?”ผมอยากจะเอาตีนนาบหน้ามันจริงๆ ครับถึงมันจะหล่อเป็นเดือนคณะที่สาวน้อยสาวใหญ่กระเทยเก้งกวางรุมกรี๊ดทั้งในและนอกคณะ มันหล่อก็จริงแต่นิสัยกับหน้าตาต่างกันมาก ใครที่คิดว่ามันจะเป็นผู้ดี สุขุม มีการศึกษา มีออร่าคุณชายราวกับหลุดออกมาจากในนิยายก็ต้องคิดใหม่ ตัวจริงของมันโคตรจะสถุล ซกมก หน้าหม้อ มีดีแค่หล่อ รวยกับไอ้นั่นใหญ่ อย่าถามว่าผมรู้ได้ไงว่าใหญ่ ผู้ชายในรุ่นผมก็เห็นกันมาหมดแล้วเกือบทุกคนเพราะกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์แบบลูกผู้ชายที่สืบทอดกันมาซึ่งผมขอเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกัน ฮ่าๆ



   “แต่กูชอบ”ไอ้นัท ผู้ที่รักความฮาร์ดคอร์ประจำรุ่นเหมือนเป็นทายาทอสูรของพี่กี๊ก ผมละกลัวใจมันตอนว๊ากน้องจริงๆ จะไปทำลูกหลานคนอื่นเขาหัวใจวายตายไหม



   “วันนี้เห็นว่าจะมีพวกศิษย์เก่ามานะ”



   “มาไมกันวะ?”ผมหันไปถามไอ้วินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน



   “ไม่รู้ว่ะ กูก็ได้ยินเขาพูดกันมาแค่นั้น แต่ดูพวกพี่ๆเขาเครียดๆกันว่ะ สงสัยพวกรุ่นใหญ่ต้องเล่นงานอะไรมาแน่ๆ”



   บทสนทนาจบแค่นั้นเมื่อพวกพี่ๆกลับเข้ามา ดูพี่หลงท่าทางเหนื่อยๆเพราะแกต้องใช้พลังเสียงมาก แต่พี่เอ้โคตรชิลล์เพราะเวลาแกว๊ากก็แค่พูดนิ่งๆ หน้านิ่งๆ เท่านั้นแต่ได้ผลทำลายล้างมาก แต่พี่กั๊กชิลล์กว่าท่าทางเหมือนออกไปเดินเล่มริมทะเล ผ่อนคลายสุดๆ



   “พวกมึงสามตัวเย็นนี้ไปกินข้าวกับพวกกูนะ ห้ามปฏิเสธเพราะรุ่นพี่ต้องการเจอหน้าพวกมึง”พี่หลงบอกก่อนจะดื่มน้ำเกือบหมดขวด ก่อนที่พี่วาวแฟนพี่แกที่เป็นพี่ระเบียบจะเดินเอาน้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆมาให้ รักกันหวานชื่นจนคนอื่นๆอิจฉา ถึงผมจะไม่ค่อยอินกับเรื่องความรักแต่พอมองรุ่นพี่ทั้งสองคนยังต้องเผลอยิ้ม เขาชอบทำอะไรจุ๊กจิ๊ก กุ๊กกิ๊กกันตลอดเวลา แม้แต่ตอนด่ากันยังดูน่ารักเลยครับ จะว่าไปก็เหมือนเพื่อนกันมากกว่าแฟนเสียอีกอาจเพราะคบกันมาตั้งแต่ม.ปลาย แถมยังมีความชอบเหมือนกัน รู้ใจไปเสียหมดทุกอย่างมันเลยดูลงตัว



   “ไอ้เหี้ยน่านอย่ามองแฟนกูนาน กูหวง”ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอมองนานขนาดนั้นจนพี่หลงพูดขึ้น



   “ก็แค่มอง อย่างกไปหน่อยเลยพี่”



   “เอ้า ไอ้สัด นี่มึงคิดไรกับแฟนกูจริงเหรอวะ”พี่หลงหน้าโหดขึ้นมาทันที



   “จริงเหรอน่าน ชอบพี่เหรอ กิ๊กกันไหมพี่โอเคนะ”พี่วาวถลามากอดแขนผมทันที ทำตาปิ๊งๆใส่ สูงแค่หน้าอกผมเอง ตัวเล็ก ขาวๆ น่ารัก ใกล้เคียงสเป็คผมไม่น้อย อย่าทำหน้าทำตัวน่ารักแบบนี้เดี๋ยวผมหน้ามืดครับพี่



   “วาว! น้อยๆหน่อยมึง จะสิงมันหรือไง”พี่หลงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถึงจะไม่พอใจ โกรธ งอน น้อยใจยังไงมากสุดพี่หลงก็ทำได้แค่เสียงดังใส่ ขืนทำมากกว่านี้เจอกระโดดตบหน้าคว่ำแน่ๆ เห็นตัวเล็กๆแต่โหดใช่ย่อย ผมเคยเห็นพี่วาวตบเด็กม.ปลายที่มาติดพี่หลงตอนที่ไปแนะแนวน้องๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็สมควรโดนนะผมว่ารู้ว่าคนมีเจ้าของอยู่แล้วยังตามตื๊อจนน่าเกลียด เจอพี่แกตบเน้นๆไปทีเดียวร่วงไม่กล้าเข้าใกล้พี่หลงอีกเลย วีรกรรมในครั้งนั้นทำเอาเป็นที่โจษจันกันไปทั่ว



   “เออ ถ้ามึงไม่อยากเห็นก็หลับตาซะ กูอยากจะเปลี่ยนรสชาติมากินเด็กบ้าง กินแต่มึงกูเบื่อ”พี่ๆคนอื่นในห้องพากันหัวเราะ ขนาดคนหน้านิ่งอย่างพี่เอ้ยังหลุดยิ้มขำ นานๆพี่วาวจะพูดจาแบบนี้ เล่นเอาแฟนตัวเองอ้าปากค้างก่อนจะหน้าบึ้งมองตาค้อนตาคว่ำ



   “วาวเบื่อหลงจริงเหรอ”น้ำเสียงน้อยใจ หน้าเศร้าแต่ผมว่ามันเป็นการแสดงมากกว่า



   “หลงมึงอย่าบ้า กูพูดเล่น”พี่วาวปล่อยมือจากแขนผมแล้วเดินเข้าไปจับมือแฟนตัวเองทันที ก่อนจะพากันไปง้องอนที่มุมห้อง พวกผมเลยเลิกสนใจคู่รัก แล้วหันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อรอเวลาเลิกกิจกรรม ผมเลยเดินออกไปหาที่สูบบุหรี่จู่ๆก็นึกอยากขึ้นมา เดินมาถึงโต๊ะหน้าคณะไอ้พายก็โทรมาพอดี



   “ว่าไง”เดี๋ยวนี้ผมรับโทรศัพท์จากไอ้พายทีไรต้องมีเรื่องให้วุ่นวายตลอด ดีว่าเมื่อวันจันทร์มันมาเรียนทันผมเลยไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับไอ้อาจารย์บ้านั่นอีก คิดแล้วก็ยังเจ็บใจไม่หาย สีหน้าท่าทางกรุ้มกริ่มในตอนนั้นติดตาจนอยากจะอ้วก



   “เย็นนี้มึงไปไหนป่ะวะ”



   “ไปกินข้าวกับพวกรุ่นพี่ต่ออ่ะ มึงจะกลับบ้านป่ะ”ไม่ค่อยได้เจอหน้ามันเลย เวลาไม่เคยตรงกันสักที กลับดึกตลอด อยู่บ้านเดียวกันก็เหมือนไม่ได้อยู่



   “เนี่ยกูอยู่บ้าน”



   “ทำไมเร็ว”



“เออ จารย์ปล่อยเร็วกูเลยรีบกลับมานอน ง่วงสัด”



“ง่วงก็นอนอย่าบ่น”



“เออๆ แค่นี้ต้องดุด้วย เป็นหมาเหรอวะไอ้เหี้ย”ตกลงจะให้เป็นหมาหรือเหี้ยกันแน่วะ



“แล้วตกลงมึงโทรมาทำไมเนี่ย”



“เออเกือบลืม กูจะบอกให้มึงแวะซื้อโดนัทร้านนั้นมาให้หน่อยกูอยากกิน ตอนกลับมากูลืมแวะ แต่ถ้ามึงจะกลับดึกกูไม่ฝากแล้ว แค่นี้นะ อารมณ์เสีย”พูดจบมันก็วางสายทันที นอยด์แดกเพราะไม่ได้ดังใจอีกตามเคยแต่ผมชินแล้ว ปล่อยมันไป ผมนั่งปล่อยอารมณ์สูบบุหรี่ตรงแถวนั้น ต้นไม้ร่มรื่นดี แถวคณะผมจะมีถังขยะที่มีทรายสำหรับเขี่ยบุหรี่ตั้งอยู่หลายจุดมาก เพราะเป็นคณะของสิงห์อมควัน เครียดเรื่องเรียน เรื่องคิดงานไม่ออก เมียทิ้ง ผัวมีชู้ก็ควักออกมาสูบกัน จนเป็นเรื่องปกติแม้แต่อาจารย์ก็ยังห้ามไม่อยู่เพราะพวกแกก็สูบ ใครจะมารณรงค์งดสูบบุหรี่ที่นี่อย่าได้หวังจะเห็นผลตอบรับที่ดีมีแต่จะพ่นควันใส่หน้าจนเผ่นกลับไปไม่ทัน



   ผมนั่งมองสาวๆน่ารักที่เดินผ่านไปผ่านมา บางทีก็เจอหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มน่ากินทำเอาน้ำลายสอ อะไรแบบนี้ไม่ได้ตกถึงท้องนานแล้ว จู่ๆก็คิดถึงผู้ชายน่ารักคนนั้นที่เจอที่หน้าโรงหนัง เสียดายไม่น่าเป็นคนของไอ้บ้านั่นเลย



   แปะ!



   “ลุกตามน้องเขาไปเลยไหม”



“ไอ้สัดตบมาได้ กูเจ็บนะเว้ย”ไอ้เหี้ยคิมมาจากไหนไม่รู้ตบเข้าที่หน้าผากผมเต็มแรง บุหรี่แทบหลุดจากนิ้ว



“สำออยไอ้สัด โดนตีนเจ็บกว่านี่ไม่เห็นบ่น”มันว่าวางเป้ลงบนโต๊ะแล้วสอดสายตามองน้องๆปีหนึ่ง ว่าแต่คนอื่นไม่ดูตัวเองเลย



“มึงมาไมเนี่ย ว่างไง?”



“เออ จะมาชวนไปกินข้าวเย็น”



“มึงช้าไปไอ้สัด กูถูกรุ่นพี่บังคับให้ไปกินข้าวด้วย พวกศิษย์เก่าอยากเจอหน้า”



“อยากเจอหน้ามึง อยากเจอไปไมวะ?”



ผมเลยเล่าให้มันฟังคร่าวๆเรื่องที่ถูกวางตัวให้เป็นพี่ว๊ากในปีต่อไป พวกศิษย์เก่าเลยอยากเห็นหน้าและรับน้อง ไม่รู้ว่าวันนี้ไปกินข้าวด้วยจะเจออะไรบ้าง ผมอาจจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษแน่ๆเพราะไม่ผ่านการรับน้องเหมือนคนอื่น



“งั้นกูก็ต้องกินคนเดียวดิวะ”ไอ้คิมบ่นๆ



“ไปกินกะไอ้พายดิ มันอยู่บ้าน ซื้อโดนัทร้านที่มันชอบไปให้ด้วย มันจะโทรมาสั่งกูเมื่อกี้แต่กูกลับดึกมันเลยนอยด์แดกไปแล้ว”



“เออ ก็ได้วะ ใช้มันทำกับข้าวให้กินดีกว่า”แล้วมันก็เดินจากไป เพื่อนแต่ละคนพอสมใจก็สะบัดตูดทิ้ง



   ผมขับรถตามพวกรุ่นพี่มาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากที่กิจกรรมรับน้องของวันจบลง ร้านอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก พวกผมเคยมากินแต่ไม่บ่อย เพราะร้านเปิดช่วงเย็น อาหารอร่อย ราคาก็สูงกว่าร้านอาหารทั่วไปนิดหน่อย แต่ปริมาณที่ได้ก็สมน้ำสมเนื้อดี แต่ปกติแล้วคนที่มาก็จะมานั่งดื่มกันมากกว่า สามารถนั่งกินดื่มได้ถึงตีสอง พวกไอ้โฟม ไอ้โอ๊ค ไอ้เต้ก็ตามมากันด้วย เพราะสนิทกับพวกพี่หลง พี่กั๊ก ไอ้โฟมมันเป็นน้องรหัสพี่กั๊ก คนที่เกลียดการว๊ากอย่างกับอะไรดีแต่พี่รหัสตัวเองดันเป็นพี่ว๊ากสายโหด



   “ไหนว่าไม่ชอบพี่ว๊าก มึงมาแดกข้าวกับพวกพี่เขาไม่อึดอัดตายก่อนไง”ผมถามไอ้หมวยที่นั่งลูบๆคลำๆรถผมทุกครั้งที่ได้นั่ง มันชอบมากแต่พอบอกให้ซื้อก็ไม่ซื้อ มันบอกว่ารถมีไว้ขับไม่ได้มีไว้โชว์ถ้ามันจะซื้อรถสักคันต้องเอาให้ใช้งานได้หลากหลายและคุ้มกับเม็ดเงินที่เสียไป งกได้อีกทุกวันนี้มันขับฮอนด้าเวฟเก่าๆมาเรียน แต่ช่วงนี้เกเรสตาร์ทไม่ติดเอาไปทิ้งไว้ที่อู่หลายวันแล้ว ซ่อมจนสนิทกับช่างไปแล้ว ไอ้โอ๊คกับไอ้เต้เลยผลัดกันไปรับไปส่งมันดูแลอย่างกับลูกน้อย



   “ไม่เป็นไร กูรู้ว่างานนี้จะได้กินฟรี กูทนได้”บ้านก็มีเงิน แม่เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่เมืองจันทร์ เป็นเจ้าของตลาดสดด้วยแต่เค็มจนเกลือเรียกพี่



ผมจอดรถเสร็จก็เดินมาสมทบกันที่หน้าร้านไอ้โอ๊คไอ้เต้รออยู่ ส่วนพวกพี่ๆเข้าไปกันหมดแล้ว ไอ้สองตัวมันกำลังชี้ชวนให้ดูอะไรกันสักอย่าง ผมเลยเดินเข้าไปชะเง้อดูบ้าง



“ดูอะไรกันวะ”



“มึงดูนั่น แอสตันไอ้สัด อย่างสวย”ไอ้เต้พูดตาเป็นประกาย แอสตัน มาร์ติน แวนควิซ โวลันเต้ จอดเด่นเป็นสง่าตรงที่จอดรถวีไอพีท่าทางจะขาใหญ่น่าดูได้ที่พิเศษ สีเงินเงาวับสวยกระแทกตาจนอยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ ถ้าไม่ติดว่าพี่หลงออกมาตามให้เข้าไปด้านในเสียก่อน



“กูอยากเห็นหน้าเจ้าของฉิบหาย”ไอ้หมวยพึมพำตามหลังมา ผมอยากจับมันมัดรวมกับไอ้พายผู้ที่ชื่นชอบรถเป็นชีวิตจิตใจ



“เห็นแล้วมึงจะทำไม จะไปเสนอตูดให้เขาตุ๋ยแลกกับการนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถหรือไง”



“ไอ้เหี้ยเต้ ปากมึงอยากจะแตกด้วยตีนกูใช่ไหม”ไอ้หมวยทำท่าจะเข้าไปเสยคางคนพูด ดีที่ไอ้โอ๊คคว้าคือเสื้อไว้ได้ทันมันเลยได้แต่ดิ้นแด่วๆ ตลกดี แต่มันรู้ได้ไงว่าเจ้าของรถเป็นผู้ชาย แต่ก็นะรถสไตล์นี้คงน้อยมากที่เจ้าของจะเป็นผู้หญิง



“แหม่ น้องหมวยอย่าอารมณ์เสียสิจ๊ะพี่ก็แซวเล่น”



“กูเพื่อนเล่นมึงเหรอไอ้สัด”



“เออ!”ไอ้เต้ตอบรับหน้าชื่น หัวเราะตบท้าย ไอ้หมวยน้อยเลยฮึดฮัดแต่ทำอะไรไม่ได้



“พอๆ ไอ้สัด แหย่มันอยู่นั่น ชอบมันก็จีบดีๆ”ผมพูดแล้วเดินหนีมาทันที ได้ยินเสียงไอ้หมวยกับไอ้เต้ด่าตามหลังมา ก็แค่แหย่เล่นขำๆ จริงๆแล้วพวกมันไม่คิดจะกินกันเองอยู่แล้ว แต่ถ้าจะคิดก็คงจะเลิกคิดไปนานแล้วเพราะไม่มีใครสู้หมาในปากของไอ้หมวยได้



“เอ้าๆ อะไรกันพวกมึง ไอ้หมวยมึงเป็นเหี้ยไรหน้าบึ้งหน้างอ ใครรังแกมึงไหนบอกป๋าสิ เดี๋ยวไปจัดการให้”พี่รหัสมันพูดขึ้น เรียกให้สายตาคนทั้งโต๊ะหันมามอง ผมนั่งลงข้างไอ้วินที่มาถึงก่อนอีกข้างของมันคือไอ้นัทที่นั่งข้างพี่วาวอีกที  ไอ้หมวยนั่งตรงข้ามผมข้างกับพี่รหัสมัน พอนั่งข้างกันแล้วเหมือนพ่อลูกไม่มีผิด ขนาดตัวค่อนข้างแตกต่างกันมาก สีผิวก็ด้วย



“พวกเหี้ยนี่ดิปากหมา”



“พูดจาไม่ดูหมาในปากตัวเองเลยนะมึง”พี่หลงแซวข้ามโต๊ะไป โต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ในห้องกระจกดูเป็นส่วนตัว คงจะมีคนจองไว้ โต๊ะที่นั่งก็ต่อกันยาวห้าโต๊ะ เก้าอี้ที่พวกผมนั่งนี่อยู่ปลายแถวเลย ไอ้โอ๊คมันนั่งปิดท้ายโต๊ะพอดี



“เอ้า มากันครบแล้วนะพวกมึง แนะนำตัวกับพวกรุ่นพี่หน่อย ไปยืนเรียงหน้ากระดานดิ”พี่หลงพูด ปีสองอย่างพวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก



“รุ่นพี่สั่ง ทำไมไม่ทำตาม”พี่กั๊กพูดเสียงดัง แกไม่ได้ตะโกนหรอกแต่มันก็ก้องไปทั้งห้อง น้ำเสียงนิ่งมาก จนน้องรหัสตัวเองมุ่ยหน้าไม่พอใจนั่นแหละ



“ชักช้ากูให้วิ่งกลับไปมอแล้ววิ่งกลับมานะเว้ย”พี่กั๊กเร่ง พวกมันเลยรีบไปยืนเรียงหน้ากระดานโดยมีผมเดินตามไปติดๆ



“เริ่มจากมึงก่อนเลยไอ้วิน มึงเป็นเดือน”



“เกี่ยวด้วยเหรอพี่”มันทำหน้าข้องใจแต่ก็ทำตาม รุ่นพี่อยู่เต็มห้องขนาดนี้ขัดได้ที่ไหน



“ผมวินฟินสุดลำครับ!”พอมันแนะนำเสร็จ พวกรุ่นพี่ก็หัวเราะ ได้ยินเสียงแซวแว่วๆว่าฟินจริงหรือเปล่า คือคณะพวกผมจะมีฉายาตามท้ายกันแบบนี้ทุกคนก็ทะลึ่งสัปดนกันไปตามประสาคณะที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนฉายาของพวกผู้หญิงก็จะออกแนวตลกๆหรือไม่ก็เว่อร์ๆ



“ผมน้ำน่านครับ”



“หะ!!”เสียงดังมาจากพวกพี่ๆที่กำลังนั่งขำกัน ทุกคนชะงักไปกับการแนะนำตัวคนสุดท้ายอย่างผม ก็ผมไม่ได้เข้ากิจกรรมเลยไม่มีฉายาเหมือนคนอื่น



“ทำไมมึงไม่มีฉายาเหมือนคนอื่นวะ”รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้นผมเห็นหน้าไม่ถนัด



“น้องมันไม่ได้เข้ากิจกรรมอ่ะพี่โค้ก”จากประโยคบอกเล่าของพี่หลงก็มีประโยคคำถามมากมายตามมา แต่ผมไม่ต้องตอบเองพวกพี่หลงออกหน้าตอบแทนให้ พวกพี่แกก็ดูเกร็งๆขึ้นมาคงจะกลัวพวกรุ่นเดอะตำหนิเอา แต่พอรู้ว่าผมมีเหตุผลอะไรที่ไม่ลงกิจกรรมทุกคนก็เลยไม่ซักอะไรต่อ แล้วก็ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเมื่อพี่เอ้บอกว่าปีหน้าจะให้ผมเป็นพี่ว๊าก พอรู้จักกันทั้งพี่ทั้งน้องก็เริ่มลงมือกินดื่มกันตามอัธยาศัย



ตกดึกก็ยิ่งเริ่มคึกตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่เข้าร่างกาย โชคดีที่วันนี้เป็นวันศุกร์จะเมาเป็นหมาแค่ไหนก็ได้วันพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียน ที่นั่งเริ่มสลับสับเปลี่ยนกัน ผมคุยถูกคอกับรุ่นพี่คนหนึ่งห่างกันหกเจ็ดปีได้ชื่อพี่อาร์ท



“กูสงสัยว่ะทำไมมึงไม่ได้เป็นเดือนวะ หน้าตาแม่งหล่อขนาดนี้”



“แล้วผมไม่หล่อหรือไงคร้าบเพ่”เสียงไอ้วินดังสวนมาจากฝั่งตรงข้ามมันเริ่มเมาแล้วหน้าแดงตาเยิ้ม



“เออ มึงก็หล่อ แต่ไอ้น่านแม่งก็หล่อเว้ย”


“ก็มันไม่ได้เข้ากิจกรรม พวกอิปัทมันไปขอร้องอ้อนวอนให้ลงประกวดมันก็ดันไม่ยอมลง อิปัทเห็นว่ามันไว้ทุกข์อยู่ก็เลยไม่กล้าเซ้าซี้ ตอนนั่นนะเว้ยพี่ไอ้น่านแม่งโคตรน่ากลัวเลย ตาขวางรุ่นพี่พูดอะไรก็ทำมึน ผมนี่กลัวว่าจะมีเรื่องกับพี่เขมแล้วนะ”พี่กั๊กเล่าเป็นฉากๆ มือหนึ่งแก้วเหล้ามือหนึ่งโอบไหล่น้องรหัสตัวเองไว้แน่น ไอ้หมวยมันก็เมาง่ายแต่ก็แดกไม่หยุดชอบนักของฟรี ตื่นมาได้พี่รหัสเป็นผัวพวกผมจะฉลองให้มันเจ็ดวันเจ็ดคืนเลย



“ในฐานะที่มึงไม่ผ่านการรับน้องคณะ งั้นพวกกูจะรับน้องมึงเอง ที่อยู่ในนี้สายว๊ากกับพี่ระเบียบทั้งนั้น มึงจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งได้มึงต้องดื่มเหล้าจากพวกกูคนละแก้ว”พี่โค้กพูดขึ้นไม่รู้ว่ามานั่งร่วมวงทางฝั่งพวกผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แกหยิบช้อนขึ้นตีข้างแก้วเพื่อเรียกทุกคน พอบอกว่าจะรับน้องผมยังไงก็เห็นดีเห็นงามกันไปหมด



“อ้วกแน่ไอ้สัด”ไอ้โอ๊คกระซิบข้างๆหู ผมก็คิดเหมือนมัน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเมาเป็นหมาเมื่อไหร่ก็ให้พวกมันแบกกลับไป ผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าดื่มไปทั้งหมดกี่แก้ว มึนๆเบลอๆเมาๆงงๆ รู้แค่ว่าแผ่นดินไหวแล้ว เหมือนจะได้ยินใครเรียกชื่อผม เสียงคุ้นๆแต่นึกไม่ออก หลับดีกว่า



“เจอกันอีกแล้วนะชลธร”







---------------------------

หายไปนานขอโทษด้วยค่า พอดีมีเรื่องต้องเคลียร์ยาวเลย จากนี้ไปจะอัพบ่อยๆนะคะ ไม่รู้จะมีคนอ่านอยู่หรือเปล่า ฮ่า ตอนนี้สั้นๆไปก่อนเนอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.3 [25.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 29-09-2015 21:17:58
สนุกดีค่ะ ติดตามอยู่นะคะ

ผู้ชายคนนั้นจะใช่อาจารย์หรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.3 [25.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 29-09-2015 23:37:05
สนุกมากก  อ่านลื่น อ่านเพลิน   อ.  แบบปากน่ายอมแพ้มาก  ด่าทีเจ็บจิ๊ดดดด   ลุ้นว่าจิได้กันยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 30-09-2015 22:28:55
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero






- 4 -








   ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศทำให้ผมซุกตัวกับผ้าห่ม แต่กลิ่นที่แปลกไปทำให้ต้องลืมตาขึ้นมา ไม่ใช่แค่ผิดกลิ่นเท่านั้น ยังผิดสีอีกต่างหากทั้งผ้าห่ม ผ้าปู ปลอกหมอนไม่ใช่สีประจำที่ผมชอบใช้ พอปรับโฟกัสสายตาได้แล้วมองไปรอบห้องก็ต้องลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีเพื่อนๆของผมสักคนที่แต่งห้องแบบนี้



   ฉิบหายละ ใครหิ้วกูกลับมาวะ?!



   พอก้มมองตัวเองยิ่งตกใจทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่กางเกงในกับบ๊อกเซอร์ เสื้อผ้าหายไปไหนหมดวะ?! ยังไม่ทันเจอของที่ตามหาบุคคลปริศนาก็เปิดประตูเข้ามา



   “เห้ย!”ผมอยากจะกระทืบโลกใบนี้ให้บิดเบี้ยวตอนที่เห็นหน้าคนที่เปิดประตูเข้ามา แต่มีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่านั้นที่ต้องคิดคือทำไมผมถึงมากับมันได้ แม่งทำอะไรผมหรือเปล่าวะ ตื่นมาก็ไม่มีเสื้อผ้า แต่ร่างกายก็ปกติไม่เจ็บปวดตรงไหน เดินได้ตรงขาไม่ถ่าง ไม่อยากจะคิดในแง่ร้าย แต่ครั้งล่าสุดที่เจอมันครั้งก่อนเสือกพูดว่าผมอาจจะเป็นสเป็คมันแล้วจากรูปร่างแล้วมันคงไม่ใช่ฝ่ายรับแน่ๆ ซึ่งผมก็ไม่ใช่เหมือนกัน!



   “มีอยู่แค่นี้ยืนโชว์อยู่ได้”



   “ไอ้เหี้ย มองไมวะ”ผมดึงหมอนมาปิดน้องชายคู่ใจ



   “ไปอาบน้ำแล้วออกไปกินข้าวเดี๋ยวจะพาไปส่ง”



   “ทำไมกู...ผมมาอยู่นี่ได้”ไม่อยากจะพูดดีด้วย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอสบตาดุๆนั่นแล้วปากมันจะสงบไปเอง



   “ไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยคุย”ผมมองตามมันที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากตู้ ก่อนจะเปิดตู้อีกด้านแล้วหยิบเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนออกมาให้



   “ใส่นี่ไปก่อน คิดว่าคงใส่ได้ ส่วนนี่ของใหม่แต่คิดว่าคงจะหลวมหน่อย”ผมมองอย่างเกงเกงในที่ยังไม่แกะกล่องที่มันยัดใส่มือมา มันจะดูถูกกันไปละไอ้เหี้ย!



   “เล็กไปด้วยซ้ำ”เรื่องอะไรจะให้หยามกันง่ายๆ



   “หึ...ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็คิดไป นู่นห้องน้ำ อันไหนแชมพูอันไหนสบู่คิดว่าคงจะแยกออกนะ”



มันพูดจบก็เดินอาดๆออกไป คนอะไรท่ามาก เก๊กไม่มีใครเกิน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กับมันได้ เพื่อนผมไปไหนทำไมถึงปล่อยผมไว้กับไอ้บ้านี่ แล้วมันมาจากไหน มาเจอผมได้ยังไง คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ผมเลยได้แต่เร่งอาบน้ำแต่งตัว แต่ห้องน้ำมันก็สวยจนผมเสียเวลาสำรวจอยู่นานพอดู ผมเคยบอกไปหรือยังว่าผมเรียนการออกแบบภายใน อันที่จริงผมก็อยากเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย แต่คงจะอาศัยไปเรียนเป็นวิชาเลือกแทน การตกแต่งห้องของมันดูดีมีรสนิยมมาก จะว่าไปแล้วมันก็คงเป็นคนมีฐานะไม่น้อย ดูจากเสื้อผ้าธรรมดาๆที่ให้ผมมาก็ยังเป็นแบรนด์เนม ขนาดกางเกงในยังแพงอ่ะคิดดู



   ปัง ปัง ปัง!



   ปังสุดท้ายทำให้ผมต้องรีบเปิดประตูออกไป ทั้งที่ใจอยากจะให้มันเคาะให้ประตูหรือไม่ก็มือพังกันไปข้าง เจ้าของห้องยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด   



“เคาะทำบ้าอะไรวะ”



   “พูดจาให้มันดีๆหน่อย ผมแก่กว่าคุณนะ ถึงคุณจะไม่คิดว่าผมเป็นอาจารย์สอนคุณ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนอยู่ดี”



   “จะเทศนาอีกนานป่ะ น่ารำคาญว่ะ”




   “ชลธร!”



   “เออ! จำชื่อตัวเองได้ ไม่ต้องเรียก”แม่งหงุดหงิดโว้ย! อยากจะทำอะไรสักอย่างกับหน้าหล่อๆของมัน เออ! ผมยอมรับเลยว่ามันหล่อเพราะเพิ่งได้เห็นหน้าชัดๆใกล้มากๆก็วันนี้ ได้ยินว่าแม่มันเป็นคนฝรั่งเศสแต่หน้าตามันก็ไม่ได้กระเดียดไปทางฝรั่ง แต่ที่โดดเด่นก็คงเป็นจมูกโด่งของมันนี่แหละ ตาถึงจะสวยแต่มันก็ดูดุมากกว่า แต่มันใช่เวลาที่ผมจะมาชื่นชมหรือพินิจพิจารณาหน้ามันเหรอวะ?



   “คุณมีปัญหาอะไรกับผมนักหนา ผมไปทำอะไรให้”



   “ยังจะถามอีกเหรอว่าทำอะไรให้”



   “หึ โกรธที่ถูกว่าวันนั้นหรือไง ถ้าคุณทำถูก ทำในสิ่งที่คุณทำใครเขาจะไปว่าอะไรคุณได้ อย่าบอกนะว่าสิ่งที่ทำไปวันนั้นมันดีแล้ว”



   ผมเถียงไม่ออกว่าสิ่งที่เขาพูดมาไม่ถูกต้อง แต่ผมก็ไม่ชอบป่ะวะที่จะถูกว่าแบบนั้น พูดจาเหมือนอยู่เหนือคนทั้งโลก ตอนเด็กๆแม่เอาอะไรให้กินวะ



   “ขอโทษแล้วกันถ้าหากผมพูดแรงไป แต่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”มันยกสองมือขึ้นเหมือนยอมแพ้และมีท่าทีเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา ทำเอาผมปรี๊ดๆในใจ เพราะเหมือนกับว่าผมนั้นแย่มาก



   “แล้วก็เลิกนิสัยพาลเป็นเด็กๆได้แล้ว”



   “ว่าใครพาลวะ?!”ผมคว้าคือเสื้อมันไว้แน่น อยากจะตํนหน้าให้เลือดอาบ แต่ตัวมันสูงและหนากว่าผมเลยไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ซ้ำยังจับข้อมือผมสองข้างไว้แล้วบีบแน่นจนผมรู้สึกเจ็บแต่ผมก็ไม่แสดงออก ไม่อยากให้มันมองว่าผมอ่อน



   “ก็เห็นๆกันอยู่ รู้จักระงับสติอารมณ์ของตัวเองบ้างนะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ใช้แต่อารมณ์ ไม่พอใจใครก็กระชากคอเขาแบบนี้”พูดจบมันก็กระชากมือผมออกจากคอเสื้อมันอย่างแรง ข้อมือที่ถูกบีบตอนนี้เจ็บจนชาไปหมด พอมันปล่อยออกก็ขึ้นรอยนิ้วชัดเจนมาก ไอ้เหี้ยคนหรือหมีควายทำไมแรงเยอะขนาดนี้



   “ไปกินข้าวได้แล้ว”มันพูดเสียงนิ่ง



   “ไม่กิน จะกลับ!”ใครจะไปมีอารมณ์กินข้าวกับคนที่ยืนด่าตัวเองปาวๆได้วะ



   “ว่านิดว่าหน่อยทำเป็นงอนจะกลับบ้าน”



   “ใครงอนวะ ผมว่าคุณนั่นแหละเป็นอะไรกับผมมากป่ะ หาเรื่องว่ากันอยู่ได้”แม่งเป็นโรคจิตหรือเปล่าวะ แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือตัวเองนี่แหละมายืนให้เขาว่าอยู่ได้



   “หึ ไปกินข้าวไป”จู่ๆมันก็ยิ้ม ไม่เชิงว่ายิ้มเยาะหรือยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่อ่านไม่ออกแต่เห็นแล้วหมั่นไส้



   “ไม่...”



   โครก~



ไอ้ท้องเหี้ยทำกูขายหน้าอีก!



   “ก่อนจะปฏิเสธถามท้องตัวเองก่อนดีกว่านะ”มันพูดยิ้มๆ ผมชะงักไปนิดหนึ่ง จู่ๆบรรยากาศมาคุก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ใช่ว่าผมจะหายหงุดหงิดใจแล้ว ผมเดินตามมันออกมาแล้วได้กลิ่นอาหารที่หอมยั่วน้ำลายท้องมันก็ร้องโครกครากหนักกว่าเดิม ก็มันเที่ยงแล้วนี่หว่า


“นั่งสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามาอยู่นี่ได้ยังไง”



ไม่ใช่เพราะว่าอยากกินอาหารแต่ผมอยากรู้ว่ามาได้ยังไงเลยจำใจนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารกับมันด้วย อาหารเช้าควบเที่ยงคือสปาเก็ตตี้เบค่อนแฮมผัดพริกแห้ง ดีที่ไม่ใช่พวกซอสครีมไม่งั้นเลี่ยนตายเหมือนผมจะแฮงค์ๆอยู่ด้วย อย่างอื่นก็มีขนมปังกระเทียมกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ซุปครีมเห็ดที่ต้องเบ้หน้ามันคงเอียนน่าดู ไส้กรอกรมควัน แล้วก็ซีซ่าสลัดถึงจะไม่ฟูลคอร์สแต่ก็หลายหลากมากไปสั่งมาจากไหนวะ



“ชา กาแฟ หรือน้ำส้มดี?”



“น้ำส้มแล้วกันจะได้สดชื่น”แล้วมันก็เดินไปรินน้ำส้มมาให้ แบบนี้จะถามผมทำไมวะ กว่าจะได้ฤกษ์เล่าได้มันก็ยังลีลายึกยักอยู่นั่น หลอกล่อผมให้กินนั่นกินนี่เหมือนเป็นเด็กๆ แต่ก็ยอมรับว่าด้วยความหิวมากๆผมเลยแฮปปี้กับอาหารตรงหน้าจนลืมอารมณ์ขุ่นมัวไปเลย รู้ตัวอีกทีก็เห็นมันนั่งจ้องผมอยู่ ลำคอตีบตันขึ้นมาทันที



“มองไร”



“มองคุณนั่นแหละ”ถึงจะกระดากหูที่ฟังมันเรียกคุณๆ แต่ก็ไม่รู้จะให้มันเรียกว่าอะไรดีเพราะเราไม่ได้สนิทขนาดจะให้มาเรียกชื่อกันและผมก็ไม่ได้อยากสนิทกับมันด้วย



“เวลาอยู่นิ่งๆ ก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูดีนะ”มันพูดนิ่งๆ



แค่กๆๆ ไอ้สัด สำลักเลยกู!



“พูดไรเนี่ย ขนลุกเลยเห็นไหม”ผมยื่นแขนให้มันดู หน้าตาอย่างผมนี่เหรอที่จะใช้คำว่าน่ารักน่าเอ็นดู ไอ้เหี้ย สายตามึงต้องมีปัญหามากแน่ๆ มันยิ้มมุมปากที่ดูดีสัดๆ รู้สึกว่าวันนี้ผมจะชมมันบ่อยไปละทั้งที่โคตรเกลียดขี้หน้ามันจริงๆ



“ตกลงจะเล่าได้ยังเนี่ย”เปลี่ยนเรื่องดีกว่า



“มันก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อคืนผมเจอเด็กขี้เมาหลับอยู่ข้างรถ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นก็ต้องพากลับมาเนี่ย พอมาถึงห้องอาเจียนรดผมรดตัวเองตั้งแต่หน้าประตู เลยต้องแก้ผ้าเช็ดตัว ทำความสะอาดห้องกว่าจะได้อาบน้ำนอนก็ตีสามแล้ว”



“โม้”ผมเนี่ยนะจะเป็นอย่างที่มันเล่า ผมจะไปเมาหลับอยู่ข้างรถมันได้ยังไง เพื่อนผมก็อยู่ตั้งหลายคน ไหนจะรุ่นพี่อีก ทำไมถึงทิ้งผมไว้คนเดียววะ



“เรื่องจริงทั้งนั้น”



“โทรศัพท์กับเสื้อผ้าผมอยู่ไหน”



“โทรศัพท์ชาร์จไว้ให้แล้วในห้องนอน มันแบตหมดนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมติดต่อญาติหรือเพื่อนคุณไม่ได้เลยต้องพากลับมา ส่วนเสื้อผ้าส่งซักให้แล้ว เดี๋ยวก็คงได้ แต่ถ้ารีบวันอื่นผมเอาไปให้คุณที่มหาลัยก็ได้”



ผมตัดสินใจกลับหลังจากเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมา กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถทุกอย่างยังอยู่ครบ ส่วนเสื้อผ้าผมไม่ได้คิดอยากจะนัดเจอมันวันหลังแน่ๆก็เลยกะทิ้งมันไปซะเลย แต่มันมีปัญหาตอนจะกลับนี่แหละที่มันรั้นจะไปส่งผมให้ได้ทั้งที่ผมไม่ใช่เด็กสามขวบที่จะหลงทาง กลับบ้านไม่ถูก



“ผมจะผ่านแถวร้านนั้นอยู่แล้ว ไม่ได้พิศวาสอยากจะไปส่งนักหรอก”ฟังแล้วอยากจะด่าอะไรสักอย่าง ติดที่นึกไม่ออกนี่แหละ ผมขยับไปชิดอีกมุมหนึ่งของลิฟต์ ไม่อยากอยู่ใกล้ใช้ลมหายใจเดียวกับมัน ส่วนไอ้คนพูดก็เอาแต่จ้องเลขลิฟต์ที่ลดลงทีละชั้น ห้องของมันอยู่ชั้นบนสุดและมีเพียงแค่ห้องเดียวด้วยถึงได้กินพื้นที่กว้างขวางขนาดนั้น ยอมรับเลยว่าชอบห้องของมันมาก วิวก็สวยจนอยากได้กล้องมาเก็บภาพไว้ แต่ถึงจะชอบมากถ้าให้เลือกผมก็อยากอยู่บ้านที่มีอาณาบริเวณมากกว่า มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ มีพื้นดินให้เดินรับพลังงาน



“รถนี่...”ผมตาโตหันไปมองหน้ามันก่อนจะหันกลับไปมองรถที่จอดบริเวณวีไอพี ข้างกันยังมีซูเปอร์คาร์จอดอยู่อีกสองคัน



“รถผมเอง ทำไม?”



ก็ไม่ทำไม ก็แค่อยากจะโทรบอกไอ้หมวยว่ารถคันที่มันอยากเห็นหน้าเจ้าของนักหนามันจอดนิ่งอยู่ตรงหน้าผมและเจ้าของมันก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย



“เปล๊า ยืมขับได้ป่ะ?”ก็พูดเล่นขำๆ เผื่อฟลุ๊ค แอสตัน มาร์ตินเชียวนะโว้ย แต่สิ่งที่มันตอบกลับมาทำให้ผมอยากจะกระโดดขาคู่ใส่






“ได้สิ...แต่ต้องมาเป็นเมียผมก่อนนะ”


   
      




------------------------------------------------- :กอด1: :pig4:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 30-09-2015 23:38:09
สนุกมากกกก เข้ามาอ่านแล้วติดเลยค่ะ

ชอบน่าน อารมณ์ร้อนได้ใจเจ้มากกก 555555

อยากรู้น่านจะชนะอาจารย์ซักครั้งมั้ยย ดูแพ้ทางตลอด
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 05-10-2015 11:42:17
เข้ามารอและให้กำลังใจคนแต่ง รอติดตามเสมอนะคะ  :L2: :L2: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-10-2015 11:01:20
แหม ประโยคสุดท้ายนี่พูดเล่นหรือจริงจัง
ว่าแต่พระเอกนี่ด่าเจ็บมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 06-10-2015 13:49:30
แล่วๆๆๆๆ น้องน่าน
พี่เขาเอารถมาแลกตัว ยอมมั้ย 5555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-10-2015 14:17:27
ถีบยอดหน้าแล้วเอากุญแจรถไปเลยค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.4 [30.9.58]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 06-10-2015 21:30:39
หุๆ  คิดถึงเรื่องนี้มากกก รอออออตลอด  อ.ปากจัด ปากได้ใจ  แอบสงสารน้อง 5555  แต่อีกใจก็สะใจลึกๆ  ตรงที่แำ้ทางเต็มเปานี่แหละ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 20-10-2015 22:29:46
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero






- 5 -






   
   เกิดมายี่สิบปีผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมาระวังประตูหลังของตัวเองเลยสักนิด ดูแล้วไอ้คนขับข้างๆที่ทำเท่ขับมือเดียวอีกมือวางบนหน้าขาคงเป็นประเภทหญิงก็ได้ชายก็ดีแน่ๆ ปกติจะเป็นแต่ฝ่ายบุกตีประตูเมืองคนอื่นเท่านั้น แต่มาเจอขั้วเดียวกันที่พูดจาหวังประตูหลังถึงสองครั้งก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆ ถึงผมจะเรียนการต่อสู้ป้องกันตัวมาบ้างแต่ก็ไม่มั่นใจว่าถ้าหากสู้กับคนข้างๆที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ตอนนี้จะชนะหรือเปล่า เพราะแรงหมีควายของมันทำข้อมือผมเขียวเลยตอนนี้



   “ถามจริง มีอาชีพขายอาวุธเถื่อนป่ะเนี่ย”นอกจากเจ้าแอสตันคันนี้ที่ผมได้นั่ง ซูเปอร์คาร์อีกสองคันนั้นก็เป็นของมันเหมือนกัน แบบนี้ไม่เรียกว่ารวยธรรมดา นี่มันโคตรของโคตรรวย จนผมนึกไม่ออกว่ามันจะประกอบอาชีพอะไรได้อีก พยายามสอดส่องว่ามันซุกอาวุธไว้ในรถบ้าง หรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็น ได้แต่กลิ่นหอมสะอาดของน้ำหอมปรับอากาศในรถ รื่นจมูกดี



   คำถามของผมกลายเป็นหมันเมื่อมันไม่ตอบทำเพียงปรายตามองแล้วหันกลับไปมองถนนด้านหน้าต่อ ตบไฟเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของร้านที่ผมมาเมาเป็นหมาเมื่อคืนนี้เทียบกับออร์ดี้ อาร์ 8 ลูกรัก



   “แล้วคุณล่ะ มีอาชีพเสริมขายยาหรือไงเป็นแค่นักศึกษาปีสองถึงได้ขับรถแพงแบบนี้”มันที่เงียบมานานพูดขึ้นเมื่อจอดรถเทียบกับลูกรักของผม  แว่นกันแดดที่ผมถูกใจบนใบหน้ามันเสริมให้มันดูน่าหมั่นไส้ขึ้นอีกเท่าตัว



   “ลงไปได้แล้ว หรือว่าติดใจ?”มันยิ้มมุมปาก เท่ตายละมึง คนอะไรน่าหมั่นไส้เห้ๆ



   “ฝันอยู่หรือไง มีอะไรให้ติดใจวะ แต่ถ้าเป็นแฟนคุณก็ว่าไปอย่าง”



“แฟน?”



“เฟิร์สน่ารักดีนะ อย่าเผลอก็แล้วกัน” น่าแปลกที่ผมจำชื่อคนๆนั้นได้



“หึ ถ้าคิดว่ามีปัญญาจะเข้าหาเฟิร์สได้ก็ลองดู ระดับนายกับฉันมันต่างชั้นกัน ไม่มีใครที่ไหนมองข้ามฉันแล้วไปเลือกนายได้หรอก หน้าตาก็งั้นๆ เรียนก็ยังไม่จบ อนาคตก็รำไร เงินที่ใช้ก็ของพ่อแม่ทั้งนั้น มีแต่รถหรูๆไว้ขับอวดชาวบ้าน”



คำพูดโอ้อวดที่ยกมาข่มไม่ได้สะเทือนผิวหนังของผมแม้แต่นิด แต่คำพูดในตอนท้ายมันเหมือนมากดถูกจุดบางอย่างในตัวผมให้ระเบิดออกมา



“ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามาทำเป็นพูดจาอวดดีสั่งสอนคนอื่น!”



แม้ว่าการอยู่สุขสบายที่ได้มาจะเป็นเพราะพ่อของผมปูทางไว้ให้แต่ไม่ได้หมายความว่าผมผลาญเงินเหล่านั้นเพียงเพื่อจะอวดให้คนอื่นรู้ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผมเอง เพียงแต่ผมโชคดีที่มีต้นทุนชีวิตที่ดีเท่านั้นเอง รถคันที่ผมใช้อยู่ก็มาจากเงินที่ผมหามาจากการทำงานเองทั้งนั้น



“เฮ้ เดี๋ยว”มันเดินตามผมมาถึงที่รถ เพราะพอผมตะคอกใส่หน้ามันอย่างโมโหผมก็ลงจากรถมันทันทีปิดประตูรถกระแทกหน้าแม่ง เอาให้พังคามือ



“อะไรอีกวะ!”



“ขอโทษ”



“หะ...?”



“ขอโทษถ้าหากทำให้ไม่พอใจ”



“เออ!”แม่ง อยากจะโมโหต่อแต่พอมันพูดขอโทษคำเดียว ทำไมอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดๆเมื่อครู่มันลดลงอย่างรวดเร็ว คงเพราะน้ำเสียงกับท่าทางมันบอกว่ารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ ไม่ใช่แค่ขอโทษให้ผ่านๆไป



“พูดจาให้มันเพราะๆหน่อยไม่ได้หรือไง”น่ะ ไม่ทันไรก็กลับมาทำตัวน่าเบื่ออีกละ เกิดมาเพื่อสั่งสอนคนอื่นหรือไงวะ



“ผมมันคนเลือกปฏิบัติ แต่ยังไงก็ขอบคุณก็แล้วกันเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ที่พามาเอารถ หวังว่าคงจะไม่ต้องซวยมาเจอกันอีกนะครับอาจารย์”เน้นคำว่าอาจารย์ชัดๆ ประชดแม่ง จะเอาอะไรนักหนาวะ บ่นอยู่ได้เรื่องพูดเพราะๆเนี่ย ฟังคำหยาบแล้วผื่นมันจะขึ้นหรือไงวะ



ผมขับรถออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำว่าไอ้บ้านั่นจะยืนบื้อเป็นสากกระเบืออยู่ที่เดิมหรือเปล่า มุ่งหน้าตรงกลับบ้านเพื่อไปนอนต่อรู้สึกเพลียๆชอบกล แต่ก่อนอื่นขอโทรไปด่าไอ้พวกชั่วที่ทิ้งผมไว้เมื่อคืนก่อน



“ไอ้สัดโอ๊ค”เรียกเอาฤกษ์เอาชัยสักหน่อย



“ไอ้เหี้ยน่าน นี่คือคำทักทายเวลามึงโทรหาคนอื่นเหรอวะ”



“เออ เมื่อคืนทิ้งกูเลยนะไอ้เหี้ย”เวลาเมาปกติแล้วมันเป็นที่พึ่งของผมเสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะเมาแบบเมื่อคืนบ่อยๆ ส่วนมากเวลาไปเที่ยวก็จะไปหาเหยื่อมากกว่า ถ้าอยากเมาจริงๆก็จะจัดที่บ้านผมนี่แหละ



“ทิ้งห่าไร เมื่อคืนกูเมาฉิบหาย เพิ่งฟื้นก่อนมึงโทรมาเนี่ย”ได้ยินเสียงสวบสาบผ่านปลายสายมันคงยังไม่ลุกจากที่นอน



“แล้วมึงอยู่ไหน?”



“อยู่ห้องไอ้นัท มันพากูกับไอ้วินมา ห่าวินมันยังไม่ฟื้นเลยนอนดมตีนกูอยู่เนี่ย”



“แล้วไอ้หมวยกับเหี้ยเต้อ่ะ”



“ไม่รู้ เดี๋ยวกูถามไอ้นัทก่อนเมื่อคืนมันเป็นคนเดียวที่มีสติมากที่สุด”มันว่าแล้วหายไปสักพักก่อนจะกลับมานึกว่าตายห่าไปแล้ว



“ยังอยู่ป่ะเชี่ยน่าน”



“อยู่”



“เออ ไอ้นัทบอกว่าพี่กั๊กไปส่งไอ้หมวยไอ้เหี้ยนั่นก็เมาไม่ได้สตินั่งหัวเราะคิกๆตลอด กูว่าป่านนี้ตกเป็นเมียพี่กั๊กไปแล้วมั้ง”คำบอกเล่าที่เอาผมกระตุกยิ้มมุมปาก ก็นะ...เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ แต่พวกผมพอมองออกว่าพี่รหัสไอ้หมวยคิดไม่ซื่อ แต่ก็ไม่กล้ารุกเพราะคำว่าพี่น้องค้ำคอ เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด อีกอย่างถึงไอ้หมวยจะตัวขาวหน้าหวานน่าฟัดแค่ไหน มันก็ไม่ได้มีใจฝักใฝ่สนใจผู้ชายด้วยกัน แม้ว่าจะเป็นที่หมายปองของพวกสายรุกทั้งคณะก็ตาม



“ไอ้เต้อ่ะ”เหลืออีกตัว ผมว่ามันไม่น่าจะเมามากแล้วพอที่จะเป็นที่พึ่งพาได้



“เด็กมันมารับไปกินตับ”เป็นอันว่าจบข่าว แต่ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ผมไปตื่นอยู่บนเตียงไอ้บ้าขี้เก๊กขี้บ่นนั่นอยู่ดี



“แล้วกูอ่ะ ใครพากูไปทิ้งไว้ที่ลานจอดรถวะ”



“กูไม่รู้ละ กูเมา มึงคุยกะไอ้นัทเองแล้วกัน กูจะไปขี้”เอ้า ไอ้สัดนี่ ยังไม่ทันจะได้ด่าปลายสายก็เปลี่ยนคนเสียแล้ว ไอ้นัทบอกว่ามันตั้งใจจะพาผมไอ้วินไอ้โอ๊คมานอนที่ห้องเพราะเห็นเมาเป็นหมา แต่มันพาไอ้วินที่เมาสุดมาไว้ที่รถก่อน พอมันเข้าไปอีกรอบก็เจอแต่ไอ้โอ๊คไม่เจอผม พวกพี่ๆบอกว่าผมเดินออกมาแล้วมันก็เลยคิดว่าผมกลับไปก่อนแล้ว ไม่ได้สังเกตว่ารถผมยังจอดอยู่ เพราะมันมัวแต่วุ่นวายกับไอ้ขี้เมาสองคนในรถที่อ้วกรดกันอยู่ แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าตัวเองเดินออกมาตอนไหน เหมือนความทรงจำขาดหายไป แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว



“ว่าแต่มึงถามแบบนี้แสดงว่าเมื่อคืนมึงไม่ได้กลับบ้าน?”



“เอออ่ะดิ ไอ้เหี้ย”



“แล้วมึงไปนอนไหนวะ”



“เรื่องมันยาว แต่ช่างมันเหอะ กูปลอดภัยดี”ตูดกูด้วย เหอะๆ ผมตัดสายมันไปก่อนที่ไอ้ฉลาดนัทมันจะถามไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่ากลัวอะไร แต่ผมขี้เกียจรื้อฟื้น



กลับถึงบ้านก็ไม่มีใครอยู่ ไอ้พายคงไปถ่ายละครของมันอีกตามเคย ผมทิ้งดิ่งลงที่นอนโดยที่ไม่อาบน้ำ ตื่นมาค่อยอาบทีเดียวจากนั้นก็เหมือนคนตายไปเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ข้างหู



“ว่าไงวะ”เสียงเหี้ยมาก แหบแห้งเหมือนคนเดินผ่านทะเลทรายขาดน้ำมานาน



“แดกเหล้ากัน”ไม่มีคำทักทายใดๆ พุ่งตรงเข้าประเด็นทันที ผมปรือตาขึ้นเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงมองนาฬิกาที่ปลายเตียง สองทุ่ม...หลับไปนานเหมือนกัน



“ที่ไหน”



“ที่ผับเปิดใหม่แถว... ของพวกรุ่นพี่กูเอง มีแต่ของดีๆให้แดก ของชอบมึงก็เยอะ”ไอ้ธันว์บอกสถานที่ที่ผมพอคุ้นอยู่บ้างพร้อมกับโฆษณาชวนเชื่อ น้ำเสียงกระดี๊กระด๊ามากมาย ‘ของดี ของชอบ’ ที่เป็นอันรู้กันนั้นคงจะเด็ดจริงๆ



“เมื่อคืนกูเพิ่งไปเมามา”



“แปลว่าจะไม่ไป?”



“ไปดิ ไอ้สัด”ไม่ไปก็โง่ มันตึงๆอึดอัดอยากปลดปล่อยเหมือนกัน คืนนี้ยังไงต้องให้ได้สบายตัว



“เออ เจอกัน”






*






ผมอมยิ้มเมื่อผับที่ไอ้ธันว์ชวนผมมาบรรยากาศดีมาก ดูจากรถที่จอดด้านนอกก็พอจะรู้ว่าเป็นพวกกระเป๋าหนักทั้งนั้น ผมสอดสายตาหาโต๊ะที่ไอ้ธันว์บอก ระหว่างนั้นก็แจกยิ้มให้กับสาวๆที่มองมาอย่างมีไมตรี ‘ของดี ของชอบ’ ลานตาจริงๆ ผมเห็นไอ้ธันว์โบกมืออยู่ตรงโต๊ะมุมหนึ่งมีสมาชิกนั่งอยู่ด้วยหลายคน



“ไอ้สัดมึงจะหล่อไปไหนว้า เห็นใจพวกกูบ้าง แบบนี้สาวไหนจะเอาพวกกู”ไอ้อ๊อดเพื่อนไอ้ธันว์ทักทายผมทันที หน้าตามันก็จัดว่าดูดีไม่ได้ขี้เหร่อะไร



“พูดเหมือนมึงไม่มีอยู่ในสต็อกอยู่แล้ว”



“กูก็อยากหาใหม่บ้าง โละๆของเก่าทิ้ง เบื่อแล้ว”



“เหอะ ไอ้เหี้ย ไงมึงไอ้โก้ได้ข่าวไปเจอตอเข้า”ผมยักคิ้วให้มัน ไอ้ธันว์วางแก้วเหล้าไว้ตรงหน้า ผมเลยยกขึ้นมาจิบเพื่อความชุ่มคอ เริ่มจากเบาๆก่อน คืนนี้จะไม่เมาเพราะผมมีเป้าหมาย



“อย่าพูดถึงเสียอารมณ์ไอ้สัด”มันบอกอย่างหัวเสีย แต่เป็นผมก็คงไม่สบอารมณ์เหมือนกัน มันเสียหน้าถ้าถูกผู้หญิงหลอก เด็กปีหนึ่งสมัยนี้มันร้ายครับ เอาหน้าใสๆมาหลอกให้ตายใจที่ไหนได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่ยังไม่จบม.หก



“ตอถาปัตย์ด้วยนะเมิงอย่างใหญ่ ฮ่าๆ”ไอ้ธันว์มันตอกย้ำซ้ำเติมเพื่อนตัวเอง



“จวยธันว์เงียบปากไปไอ้สัด พูดมากเดี๋ยวกูจับดุ้นไอ้อั้มยัดปากแม่ง”



“ควาย ยุ่งอะไรกับดุ้นกู”ไอ้อั้มที่นั่งเหล่หนุ่มอยู่หันมาค้อนใส่ เห็นมันแล้วนึกถึงตองเพื่อนไอ้พาย แต่ไอ้อั้มมันโชกโชนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ คือกลุ่มไอ้ธันว์มันเหมือนกันหมด พวกเสน่ห์แรงเปลี่ยนคู่บ่อยมาก ของที่มีติดตัวมาถูกใช้งานไม่เคยได้เว้นช่วงนานๆ



“สัดกูไม่กินดุ้นโว้ย”



“เหอะ ทำเป็นพูดไปพอมึงได้กินแล้วจะติดใจได้หลังแล้วลืมหน้าไปเลย”ไอ้อั้มพูด สายตาจิก มันไม่ได้ออกสาวมากแต่ก็พอมีจริต คนถึงได้หลงมันเยอะแต่มันก็เลือกมากเหมือนกัน



“ไม่มีวัน”ไอ้ธันว์ปฏิเสธหนักแน่น



“แล้วกูจะคอยดู”ไอ้อั้มแสยะยิ้ม ท่าทางของมันดูมั่นใจมากว่าไอ้ธันว์จะได้เมียเป็นผู้ชาย



“ถ้ากูได้เมียเป็นผู้ชายจริง กูยอมกราบตีนมึงเลย”



“กราบตีนกูทำไม กราบแล้วได้อะไร ไม่เอาอ่ะ เอาเป็นว่าถ้าวันไหนมึงได้เมียเป็นผู้ชายจริงกูขอให้มึงทำตามที่กูขอ 3 อย่าง โอเค๊?”



“เหอะ ได้!”มันกล้ารับปากเพราะแน่ใจว่าตัวเองจะไม่เจริญรอยตามผมแน่ๆ ผมก็คิดว่างั้น



ผมนั่งจิบไปเรื่อยๆ ตาสอดส่องมองหาเหยื่อที่ถูกตาถูกใจ ไอ้คิมเพิ่งตามมาเมื่อกี้นี้เพราะเพิ่งไปส่งเด็กกลับบ้านเสร็จ ส่วนไอ้พายไม่เย็นวันอาทิตย์ก็คงไม่เห็นหัวมัน ไอ้ธันว์มีนมมาเสนอให้ถึงโต๊ะ คงถูกใจมันมากเลยกระชากเขานั่งตักซุกไซ้นัวเนียกัน อีกสักพักคงมีได้เสีย



“โอ๊ะ...”ผมมองไปที่กลางฟลอร์ที่มีคนดีดดิ้นกันอยู่ เห็นใครคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมแม้เพียงจะเห็นหน้าแค่ครั้งเดียว




เฟิร์ส...




“มองอะไรของมึงวะ”ไอ้คิมเอนตัวมากระซิบถาม กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตัวมันมา ผมว่าก่อนมันไปส่งเด็กคงฟัดกันมาสักยกสองยกแน่ๆ



“มึงเห็นผู้ชายเสื้อแขนยาวสีขาวนั่นมั้ย”มันมองตามสายตาของผมไป ร่างที่โดดเด่นถูกล้อมด้วยผู้ชายสองคน ผู้หญิงหนึ่งคน เต้นกันสนุกสนานตามจังหวะเพลง ดูเหมือนผู้ชายสองคนนั้นจะคอยกันผู้ชายคนอื่นๆไม่ให้เข้าใกล้



“เออ ทำไมวะ”



“น่ารักดี”



“แล้วมึงจะรออะไร?”ไอ้คิมถามยิ้มๆ



“รอให้เลิกกับผัวไง”



“หะ?”



“มีแฟนแล้ว”นึกถึงแล้วก็เซ็ง ถึงผมจะถูกใจมากแต่ก็ไม่ชอบแย่งแฟนของคนอื่น แม้จะหมั่นไส้ไอ้บ้านั่นแล้วเพิ่งพูดกวนตีนมันไปเมื่อตอนบ่ายแต่ก็ไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอก คนอย่างน้ำน่านมีดีพอที่จะหาเองได้



“คุยไรกันวะ แล้วมองอะไร”ไอ้อ๊อดเข้ามาเสือกด้วยทันที ผมเห็นมันเดินวนไปสองโต๊ะแล้วแต่ไม่เห็นว่าจะได้ติดมือมาสักคน



“โอ้ว วันนี้มีของดีมาให้ดูด้วยเว้ย”



“ของดีอะไร?”ผมถาม



“นั่นไง พี่เฟิร์ส”



“มึงรู้จักด้วย?”น่าแปลกใจ



“เออสิ หนุ่มน่ารักสุดๆของมหาลัยเรา มึงพลาดได้ไงว่าเชี่ยน่าน พี่เฟิร์สอยู่บริหาร ปี4 โสดครับพี่น้อง”ยิ่งแปลกใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเรียนอยู่ที่เดียวกันกับพวกผมแถมยังเป็นรุ่นพี่อีกต่างหาก ผมนึกว่าเขาน่าจะอยู่ปีหนึ่งด้วยซ้ำ หน้าเด็กเป็นบ้า



 “ไม่โสดมั้ง”



“โสดสิไอ้สัด 4 ปีที่ผ่านมามีแต่คนตามจีบพี่ตามตื๊อพี่แกจนพื้นคณะเป็นร่องแต่ไม่เคยมีใครได้พี่เขาเป็นแฟนเลยนะเว้ย ใจแข็งสัด แต่ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ชื่อเสียงหอมหวนทวนลมมีแต่คนเข้าหาแต่ใครที่ว่าแน่ก็ต้องแดกแห้วไปทุกราย”ไอ้อ๊อดบรรยายสรรพคุณมาซะผมไม่อยากจะเชื่อ ก็ผมรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว แต่เอ๊ะ...หรือเพราะว่ามีแฟนแล้วแต่พวกในมหา’ลัยไม่รู้เลยตามจีบ มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดน่าหมั่นไส้ของไอ้บ้านั่น หึ...มันท้าทายจริงๆ



“ยากขนาดนั้น?”



“ยิ้มเลวแบบนี้ อย่าบอกนะว่ามึงจะลองของ?”



“ก็ไม่เสียหายนี่”



ไม่ได้อยากแย่ง แต่แค่บริหารเสน่ห์นิดๆหน่อยๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง





------------------------------------------- :mew1:




หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 21-10-2015 12:44:27
เราชอบนิยายเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามและภาษาราบรื่น อยากรู้เรื่องราวต่อไปของน่านกับเดียวและคนอื่นๆ อยากให้คนเขียนอัพบ่อย และอยากให้รู้ว่ายังมีคนติดตามนะคะ สู้ๆค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 21-10-2015 16:10:13
จีบเฟิร์ส์คงเจอ "ตอ" เหมือนกัน ใหญ่มากด้วยยยยยยยยยยยยย   5555555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 21-10-2015 19:19:36
ถ้าธันว์ย้ายสายจริง แอบชูป้ายไฟเชียร์พาย  >\\\\<
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 21-10-2015 20:08:45
หลงรักผู้ชายแบบน้ำน่าน ฮื่อ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 14-11-2015 09:51:04
แอบสงสัยงานเครื่องเพชรที่บังเอิญหลงไปนี่งานของอาจารย์ป่ะ

รออ่านตอนต่อไปเนอะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 14-11-2015 12:27:52
เตงงงง มาต่อหน่อย งื้อออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 19-11-2015 09:40:23
ไม่ได้เข้ามานานมาก แต่พอเข้ามาเห็นคนถามถึงนิยายเรื่องนี้ก็ดีใจนะคะ ;-;
ขอโทษที่หายไปนาน แต่ไม่ได้จะทิ้งนะ หลังจากที่บอกว่าจะมาอัพบ่อยๆก็หายไปก็รู้สึกผิด
แต่พอดีเป็นช่วงใกล้สิ้นปีงานเยอะจริงๆค่ะ แล้วก็ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลด้วย นี่ก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ
เลยหายไปยาวเลย แต่ตอนนี้กลับมาแล้วน้าาา จะรีบอัพนะคะ จุ๊บๆ 

 :L1: :pig4::mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.5 [20.10.58]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-11-2015 09:52:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 24-11-2015 08:52:27
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 6 -







   ยิ่งดึกบรรยากาศยิ่งครึกครื้นแต่ละคนเริ่มออกล่าเหยื่อ ส่วนผมกำลังรอเวลาเหมาะๆที่จะออกไปทักทายใครบางคนที่ยังแรงดีไม่มีตกเต้นอยู่กับเพื่อนๆที่โต๊ะ พี่เฟิร์สดูมีเสน่ห์มาก การขยับตัวแต่พอดีทำให้ยิ่งดูเพลินตาน่ามองและมีอีกหลายคนที่ให้ความสนใจกับร่างโปร่งบางที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปทักทายเพราะมีองครักษ์ถึงสองคนคอยประกบอยู่



   “สองคนนั้นชอบพี่เฟิร์สเหรอวะ”ผมสะกิดถามไอ้อ๊อดที่กำลังกึ่มๆ หลังจากนั่งสังเกตมาสักพักผู้ชายสองคนนั้นดูเป็นห่วงเป็นใยพี่เฟิร์สเกินเพื่อนธรรมดา



   “พี่เพชรกับพี่ยุ่งอ่ะเหรอ ได้ยินมาว่าตอนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆเคยแข่งกันจีบพี่เฟิร์สนะ แต่ไปๆมาๆก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันซะงั้น มึงสนใจ?”ไอ้อ๊อดยักคิ้วหลิ่วตาถาม



“กูว่าอย่าเลย มึงลองคิดดูสิพี่เพชรเสื้อขาวนั่นอ่ะดีกรีเดือนมหาลัยเลยนะเว้ย หล่อ รวย เรียนดี ส่วนพี่ยุ่งเสื้อดำนั่นก็ทายาทนักการเมืองถึงจะไม่ได้เป็นเดือนแต่ก็หน้าตาดีมากสาวน้อยหนุ่มน้อยติดกันเกรียว ป๋ามากด้วย คนนึงเจ้าชายแสนดี คนนึงแบดบอยเสน่ห์ร้ายแต่ก็ยังเอาชนะใจพี่เฟิร์สไม่ได้เลย มึงอย่าไปยุ่งดีกว่า”



   ผมฟังไอ้อ๊อดสาธยายคุณสมบัติของรุ่นพี่สองคนนั้น แวบหนึ่งคิดว่ามันควรไปเรียนพวกสื่อสารมวลชนมากกว่าวิศวะนะ หรือจบไปมึงควรไปอยู่หน่วยข่าวกรอง



   “ทำไมวะ กูสู้สองคนนั้นไม่ได้ตรงไหน บางทีเขาอาจจะไม่ได้ต้องการคนที่ดีเลิศเลอ แต่ขอแค่คนที่พอดีก็ได้”



   “เหอะ ไอ้สัดทำเป็นคำคมคารมร้าย กูว่าถ้ามึงจะเอาเล่นๆก็ไปเอาคนอื่นเถอะ เพราะคนนี้ยากจริง เสียเวลา จีบคนอื่นมึงได้ฟินไปหลายน้ำหลายสิบคนแล้ว แต่กับคนนี้สิบปีก็ไม่ได้แดกนะกูว่า”ผมส่ายหน้าหน่ายกับคำสบประมาทของมัน อย่างที่บอกผมไม่ได้อยากได้เขาแต่มันเป็นความอยากลองมากกว่า อยากลองใจคน...เพราะผมรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว คนอื่นจีบถึงไม่ชายตาแล แต่ก็อยากพิสูจน์ด้วยตัวเองว่ายังมีใครบนโลกนี้ที่มีรักแท้จริงใจ



   ไม่รู้ว่าดวงชะตาเราต้องกันหรือเพราะผมจ้องจนเขารู้ตัวเราจึงได้สบตากันท่ามกลางแสงสลัว เหมือนอีกฝ่ายพยายามเพ่งมองมาที่ผมก่อนจะยิ้มบางๆ ร่างโปร่งหันไปกระซิบคุยกับอะไรเพื่อนผู้ชายสองคนนั้นแล้วหันมามองทางผมอีกรอบ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา ไอ้อ๊อดสะกิดผมยิกๆเมื่อพี่เฟิร์สเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ มันคงจ้องพี่เฟิร์สอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนคนแถวนี้ก็จะให้ความสนใจด้วยเช่นกัน ร่างโปร่งบางหยุดอยู่ข้างผมก่อนจะโน้มตัวลงมา ใบหน้าแดงนิดๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์



   “ใช่คุณจริงๆด้วย”เสียงพี่เฟิร์สไม่ได้หวานซึ้งแต่ก็นุ่มน่าฟัง เพราะเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอกัน เหมาะสมกับเจ้าตัว ท่าทางจะดื่มไปไม่น้อยแม้จะเดินตรงไม่เอนเอียงแต่ตาสวยๆนี่หวานเยิ้มดูเชิญชวนเสียเหลือเกิน



   “จำกันได้ด้วยเหรอครับ?”



   “อ่า จะบอกว่าจำหน้าได้ก็ไม่เชิง เห็นมามองอยู่นานแล้วสีผมก็สะดุดตาด้วยคิดว่าอาจจะเป็นคุณเลยเข้ามาดูหน้าชัดๆ”พี่เฟิร์สยิ้มน่ารักเป็นธรรมชาติมาก ผมควรจะดีใจหรือรู้สึกอย่างไรดีที่ทำให้อีกฝ่ายสะดุดตาสะดุดใจจนต้องเดินเข้ามาหาจนเป็นจุดสนใจของใครหลายๆคน



   “นั่งดื่มด้วยกันก่อนสิ”



   “ไม่ล่ะ เพื่อนรออยู่”ผมมองกลับไปที่โต๊ะของพี่เฟิร์สก็เห็นรุ่นพี่ผู้ชายสองคนนั้นมองมาอยู่ก่อนแล้วกะว่าไม่ให้คลาดสายตาสักวินาทีเดียว เลยอยากลองของสักหน่อย



   “แค่แก้วเดียวคงไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอกมั้งครับ”ผมยิ้มเชื้อเชิญ อีกฝ่ายก็ยิ้มหวานกลับมา ทำเอาพวกเพื่อนชั่วของผมมองกันตาค้าง แม้แต่ไอ้คิมที่มุ่งเน้นแต่นมเพียงอย่างเดียวยังมองด้วยความตะลึง แต่พวกมันต้องประหลาดใจอีกรอบก็ตอนที่ร่างโปร่งบางนั้นเบียดตัวลงนั่งตรงพื้นที่ว่างข้างๆผม ไม่รู้ว่าเป็นการยั่วหรือว่าอะไร แต่พี่เฟิร์สทำให้ผมอยากลองมากจริงๆ เหมือนเห็นสะพานทอดอยู่รำไร ท่าทางของพี่เฟิร์สดูแตกต่างจากครั้งแรกที่เจอกัน จากที่ดูสดใสเป็นธรรมชาติกลายเป็นมีเสน่ห์เหลือร้ายชวนให้ค้นหา หรือว่านิสัยจะเปลี่ยนไปตามสถานที่วะ ผมมองกลับไปที่โต๊ะของพี่เขาที่มีเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อรออยู่ก็สบกับตาสองคู่ที่จ้องเขม็งมาพอดี ขนาดแสงสีสลัวๆยังมองเห็นถึงความไม่เป็นมิตรพุ่งตรงมาอย่างชัดเจน แต่ใช่เรื่องที่จะต้องใส่ใจ




   “เพิ่งรู้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย ทำไมไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย”ผมเอนตัวเข้าหาเพื่อกระซิบคุยเนื่องจากเสียงเพลงตอนนี้ดังมาก ได้กลิ่นหอมละมุนจากคอขาวๆของพี่เฟิร์สผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ ชวนให้อยากฝังเขี้ยวลงไปชะมัด



   “งั้นเหรอ แล้วอยู่คณะอะไร? ปีไหนแล้ว”พี่เฟิร์สเลิกคิ้วถามกลับมาท่าทางแปลกใจเล็กน้อย ผมบอกคณะตัวเองไปทำให้ได้เห็นหน้าที่แสนประหลาดใจได้อย่างน่ารักอีกครั้ง ทำไมวะหน้าอย่างผมจะเรียนคณะนี้ไม่ได้หรือไง



   “จริง? เจ๋งอ่ะ เหมาะกับ...สุดๆ”



   “หะ พี่ว่าไงนะ?”ผมได้ยินประโยคหลังไม่ถนัด แต่คนน่ารักก็ทำเพียงแค่ยิ้ม ตาเป็นประกาย แต่ผมก็เพิ่งนึกเอะใจได้ พี่เฟิร์สเรียนบริหาร ไอ้บ้านั่นก็สอนที่บริหาร อย่างนี้ก็เท่ากับว่าอาจารย์เป็นแฟนกับลูกศิษย์น่ะสิ ว่าแต่ทำไมผมต้องไปนึกถึงได้บ้านั่นด้วยวะ



   “อ้าว พี่เฟิร์ส มาได้ไงเนี่ย”ไอ้เหี้ยธันว์กลับมาที่โต๊ะพอเห็นพี่เฟิร์สมันก็ร้องทักทันที รู้จักกันด้วยเหรอวะ




   “อ้าว ธันว์ ก็ว่าอยู่โต๊ะนี้หน้าคุ้นๆ”พี่เฟิร์สหันไปยิ้มให้สัมพเวสีที่สิงอยู่แถวๆนี้ ไอ้อ๊อดนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้น แต่หูยิ่งกว่าเรดาห์นาซ่า ส่วนไอ้คิมนิ่งยังไงก็อย่างนั้น แต่ท่าทางมันจะสนใจสิ่งที่ผมทำอยู่ไม่น้อย หันไปทีไรก็เห็นมันมองมาตลอด




   “รู้จักกับไอ้น่านด้วยเหรอ”ถามพี่เฟิร์สแต่ตาจ้องกูเขม็งเชียวไอ้เพื่อนเวร



   “น่าน อ๋อ เนี่ยเหรอน้ำน่าน เพื่อนที่เคยพูดถึงบ่อยๆ เอ๊ะอย่างนี้ก็เป็นเพื่อนพายด้วยสิ”เอ้า ไปกันใหญ่ เหมือนพี่เฟิร์สจะรู้จักผมแต่ไม่เคยเห็นหน้า แต่ผมไม่รู้จักเขาเลย ทั้งที่ก็วนเวียนอยู่รอบตัวกัน เอาเป็นว่าตอนนี้เรารู้จักกันแบบไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว



   “ผัวไอ้พายมัน”



   “หะ แฟนพาย?!”



   “ถ้าผมผัวไอ้พาย ไอ้ธันว์ก็เป็นเหมือนกัน เพื่อนกันครับพี่”ผมแจกนิ้วกลางให้ไอ้ธันว์ มันหัวเราะร่วน ห่า แล้วเด็กที่มันนัวเนียแทบได้เสียกันหายไปไหนแล้ววะ



   “คนกันเองทั้งนั้นเลยเนอะ”ยิ้มน่ารักให้อีก ตกลงจงใจมายั่วกันจริงๆสินะ มันเขี้ยวอยากจับฟัดจริงๆ



   “นั่นสินะ แล้วพี่สนใจอยากจะรู้จักกันมากกว่านี้มั้ยครับ”ขอสักหน่อยเถอะวะ



   “โอ๊ะ หมดแก้วแล้ว งั้นพี่กลับโต๊ะก่อนดีกว่า ขอบคุณนะ แล้วเจอกัน”มาไวไปไวไม่สนใจขนมจีบกูเลย ผมอ้าปากเหวอ แต่ไอ้สัดธันว์หัวเราะก๊าก มันคงได้ยินที่ผมพูดเพราะนั่งอยู่ใกล้กัน



   “สนใจเหรอไอ้สัด แต่พลาดนะมึง ถ้าหาแดกในมหาลัยป่านนี้มึงได้จีบพี่เขาไปนานแล้ว”ครับ เหมือนที่ผมเคยบอกไปผมคบแต่พวกผู้หญิงที่ทำงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแก่คราวป้านะครับ นั่นก็เกินไปถอดเสื้อผ้าออกมาคงหมดอารมณ์ก่อน ดังนั้นผมจึงพลาดการพบกันระหว่างตัวเองกับพี่เฟิร์ส แต่ก็นั่นแหละถึงจะเจอกันก่อนหน้านี้ผมอาจจะไม่ได้สนใจเขาเหมือนในตอนนี้ก็ได้ จู่ๆผมก็นึกขำตัวเองที่มีคำหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด ผมรีบไล่มันออกไปจากหัวทันที เพราะพรหมลิขิตเป็นเรื่องไร้สาระ...



   “ก็สนนิดหน่อย แต่ก็ไม่อะไรมาก เห็นว่ายากเลยอยากลองก็แค่นั้น”



   “หึ ยากจริงกูคอนเฟิร์ม แต่ถ้าอยากลองกูสนับสนุน หมั่นไส้ไอ้รักยมสองตัวนั่น”คงไม่ต้องบอกว่าหมายถึงใคร แต่ติดใจนิดหน่อยว่ามันไปหมั่นไส้เขาเรื่องอะไร เอาไว้มีอารมณ์แล้วค่อยให้มันเล่า ตอนนี้หาแจ่มๆสักคนไปนอนออกกำลังกายด้วยดีกว่า เข็ดฟันจากคนน่ารักต้องหาที่ระบาย





X

   



   “ค้าบ...ได้ครับอา”ผมรับคำอาฝนก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไป ก่อนจะมองดูเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์ในมือ บ่ายสามพอดี เมื่อคืนหนักไปหน่อยไม่ได้เมานะครับ ก็นั่นแหละได้เด็กแจ่มๆตามที่ตั้งใจไว้ เราเลยสนุกกันเกือบเช้า กลับบ้านมาผมก็พุ่งตัวลงเตียงกะว่าจะนอนยาวตื่นอีกทีพรุ่งนี้เช้าแล้วไปเรียน ข้ามวันข้ามคืนกันไปแต่อาสุดที่รักก็โทรมาปลุกสียก่อน




ปัง ปัง ปัง




ผมกะว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยแต่เสียงเคาะประตูเหมือนกับจะพังเข้ามาทำให้ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว คนที่เคาะได้เหี้ยแบบนี้มีไม่กี่คนหรอก แต่ก็ไม่คิดว่าคนที่มาเคาะประตูจะเป็นมัน



“มึงจะนอนให้ตายเลยไงวะ จะเย็นแล้วไอ้สัด อาบน้ำแล้วลงมากินข้าว”



“มึงไม่ถ่ายละคร?”



“เออ วันนี้ยกกอง คุณชายแม่งเสือกมีงานด่วน มาถ่ายไม่ได้ แล้วต้องเข้าฉากกับกูทั้งนั้น เขาเลยยกกองเสียเวลากูนอนฉิบหาย อุตส่าห์ไปถึงกองแต่เช้า มึงกลับมากี่โมง”มันร่ายยาวเหมือนอัดอั้นตันใจ ตบท้ายด้วยการถามผมแล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้า



“หกโมงมั้ง”คงสวนกับมันเมื่อเช้า



“สภาพอย่างเหี้ย เสียไปกี่น้ำละมึง เพลาๆหน่อยนะ เดี๋ยวจะซีดตายก่อนเรียนจบ”



“บ่นมากฉิบหาย แบบนี้ไงถึงไม่มีคนเอามาเป็นปีๆ”



“_วย”มันชูนิ้วกลางเป็นการประกอบคำพูด หน้าตาบูดบึ้งขึ้นมาทันที



“ไม่ใช่ไม่มีคนเอา แต่กูไม่เอามัน ชัดป่ะไอ้สัด”



“เหอะๆ ไม่ใช่ว่ารอใครอยู่หรือไง”มันสบตาผมนิ่งๆ จริงอยู่ว่ามันตัดใจจากไอ้ธันว์ได้แล้ว แต่ส่วนลึกในใจมันก็คงแอบรู้สึกอยู่บ้าง บางครั้งสายตามันที่มองไอ้ธันว์ยังมีร่องรอยบางอย่างอยู่ คือมันไม่ได้เจ็บปวดกับรักที่ไม่สมหวัง ไมได้อยากครอบครองเป็นเจ้าของ แต่มันเป็นความรักความปรารถนาดีที่ดูเหมือนจะลึกซึ้งกว่าเพื่อนธรรมดานิดๆ




“พูดส้นตีนอะไร กูไม่เคยรอใครทั้งนั้นแหละ มันจบแล้วจริงๆไอ้เหี้ย”มันทำท่าหงุดหงิด




“เออๆ กูเชื่อมึง แค่นี้ต้องหงุดหงิดด้วย”



“แล้วพูดเพื่อ?”มันกอดอกมองอย่างหาเรื่อง




“โว๊ะ แหย่นิดแหย่หน่อยทำเป็นขึ้น”




“ไปอาบน้ำได้แล้วยืนพ่นขี้ฟันใส่กูอยู่ได้”



“เออ ไอ้เหี้ย ทำกับข้าวให้กูแดกด้วย”ผมสั่งมัน



“เรียบร้อยแล้วไอ้ห่า รอมึงไปแดกเนี่ย”





(ต่อ)










   
   
   


   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 24-11-2015 08:52:52
“เอาจริงๆช่วงนี้ไม่มีคนมาจีบมึงเหรอวะ”อัพเดตข่าวสารสักหน่อย เหมือนไม่ได้มีเวลามานั่งคุยกันนานมากแล้ว ส่วนใหญ่เห็นหน้ากันแว๊บๆ พยักหน้าทักทายแล้วก็แยกย้ายไปเรียน ตอนเย็นมันไปทำงาน ส่วนผมก็มีงานที่คณะต้องทำ อยู่บ้านเดียวกันก็เหมือนไม่ได้อยู่ วันนี้ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่อยู่บ้านทั้งคู่ ไอ้พายกำลังตักแกงเขียวหวานไก่ราดขนมจีนให้ผมที่นั่งรอกินอย่างเดียวโคตรสบาย บนโต๊ะมีไข่เป็ดต้มยางมะตูมปอกเปลือกแล้วหกฟอง มีผักเคียงหั่นใส่จานจัดอย่างสวยงาม มีไอ้พายก็สบายไปสิบอย่าง อยากกินไรให้บอกมันทำได้หมด ใครได้มันเป็นเมียรับรองไม่มีอด




“ก็นะ มีบ้างตามประสาคนหน้าตาดี แต่พอดีกูไม่สนว่ะ”มันพูดได้น่าหมั่นไส้มาก




“ตอนนี้กูว่างานกูกำลังไปได้ดี คงจะเว้นเรื่องรักๆใคร่ๆไปก่อน”มันโสดก็จริงแต่ก็พอมีคนคุยด้วยบ้าง ตอนที่ยังไม่ได้เล่นละครก็มีคนคุยๆด้วยอยู่ แต่พอมารับละครแล้วมันก็ไม่มีเวลามาเล่าอะไรให้ผมฟังเลย




“ทำไมมึงกลัวคนเขารับไม่ได้?”




“ไม่ใช่ กูไม่เคยกลัวในสิ่งที่ตัวเองเป็น กูไม่เคยปกปิดด้วย แต่กูแค่อยากโฟกัสไปที่งานกับเรื่องเรียน แต่ถ้ามีใครรู้แล้วรังเกียจแล้วเกลียดกูไปเลยอันนั้นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”มันยักไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก แต่ผมรู้ว่ามันเป็นคนอื่นไหว ยังไงมันก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างแหละ พายไม่เคยปกปิดเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์ แต่ด้วยความที่มันไม่ได้ออกสาว มองแล้วก็เหมือนผู้ชายแมนๆทั่วไป ทุกคนเลยดูไม่ออก เพื่อนที่คณะมันยังไม่รู้เลยนอกจากเพื่อนสนิทมันสองคน ยิ่งมันเป็นนายแบบ ถ่ายแบบเท่ๆ เป็นวีเจเสียงหล่อนุ่ม ก็มีแต่สาวๆคลั่งไคล้ แต่ก็มีพวกรุ่นพี่ผู้ชายมาจีบมันบ้างเหมือนกันตอนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆ ไม่รู้ว่าผีเห็นผีหรือแค่พอใจในรูปร่างหน้าตาแล้วอยากลองของ คือพายถ้าจะมองมันหล่อก็หล่อ แต่ดูอีกทีก็น่ารัก แก้มป่องนิดๆ




“พูดดีไป พอเจอคนรับไม่ได้มึงก็มานอยด์แดกอีก”




“เออหน่า กูก็คนมีความรู้สึก แต่ไม่เก็บเอามาใส่ใจนานหรอกไอ้ห่า ใครมาวะ”ได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากหน้าบ้าน ผมเดินมาดูที่กล้องวงจรปิด




“ไอ้ห่าธันว์มา”ผมตะโกนบอกไอ้พายในครัวก่อนจะเดินไปกดรีโมทเปิดประตูรั้วให้ ผมยืนรอมันที่ประตูหน้าบ้าน ไม่ได้มาคนเดียวมีไอ้เหี้ยคิมที่ท่าทางไม่สบอารมณ์มาด้วย




“ทะเลาะกะเมีย”ไอ้ธันว์บอกบุ้ยใบ้ไปทางไอ้คิมที่เดินลงส้นเท้าตึงๆผ่านตัวผมไป



“นึกไงมาวะ”



“เบื่อๆ”



“เบื่อเหี้ยไรเมื่อคืนก็ได้เด็กไปกก”



“ไม่รู้ว่ะ มีไรกินวะ”



“ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ไอ้พายทำ”



“มันอยู่?”



“เออ”




“ลาภปากกูไอ้สัด”มันกอดคอผมยิ้มร่าตรงไปในครัวทันที เจอไอ้คิมนั่งโซ้ยขนมจีนจานที่ควรเป็นของผมอยู่ อย่างไวไอ้เหี้ย




“ดีนะกูทำไว้เยอะ ไม่งั้นไม่พอพวกมึงแดก”ไอ้พายบอก ไอ้คิมนั่งกินไม่สนใจใคร ไม่รู้ว่าที่อื่นกินขนมจีนแกงเขียวหวานไก่แบบไหนกันแต่พวกผมต้องมีผักแกล้มด้วย ทั้งผักกาดดอง แตงกว่า กะหล่ำปลีซอยละเอียด ผักบุ้งต้มซอยเป็นชิ้นเล็กๆ มีไข่ต้มยางมะตูม หมูยอนึ่ง กินด้วยกันอร่อยนะครับ




“ไม่พอก็ทำใหม่ยากไรวะ”



“พูดง่ายไอ้ห่า แล้วมึงไปแดกรังแตนที่ไหนมา”ไอ้พายด่าซี้มัน วางจานขนมจีนให้ไอ้เหี้ยธันว์ แล้วของกูอ่ะ



“ทะเลาะกะเมีย”ไอ้ธันว์ตอบแทน หยิบไข่ต้มใส่จานตัวเองสองฟอง เหลือให้กูด้วยไอ้เหี้ย



“กูว่าจะเลิกละ”ไอคิมพูดดูท่าทางไม่ทุกข์ร้อน หลังจากมีอะไรตกถึงท้องสีหน้ามันดูดีขึ้นไม่หงุดหงิดแล้ว ตกลงมึงโมโหหิวสินะ




“คนนี้กี่อาทิตย์วะ”ผมถาม



“สาม”



“ก็สมควรแก่เวลา”ไอ้ธันว์ว่า



“มีอีกป่ะ”ผมเพิ่งจะเริ่มกินไอ้คิมก็เอาจานที่สองแล้ว มันหันไปถามไอ้พายที่เพิ่งทิ้งตัวลงนั่งหลังจากจัดการอาหารให้พวกผม เรานั่งกินตรงโต๊ะอาหารในครัวไม่ยุ่งยาก จริงๆมีโต๊ะอาหารใหญ่อยู่อีกห้อง แต่กินกันเองไม่ได้มีแขกหรือจัดเลี้ยงอะไรส่วนมากผมกับไอ้พายก็กินกันในนี้เลย




“มี แต่ไปตักเองกูจะกินมั่งละ”



“เออๆ”



“อยากดูหนังว่ะ”ไอ้ธันว์พูดขึ้นมา



“ในโรง?”



“ไม่อ่ะ ดูที่บ้านนี่แหละกูขี้เกียจพบปะผู้คน มึงมีเรื่องไหนที่ซื้อมาใหม่บ้างป่ะ”




“มี”ผมเพิ่งซื้อมาตอนที่ไปดูหนังกับไอ้คิมคราวก่อน ยังไม่มีเวลาดูเลย วันนี้อยู่กันครบก็ถือโอกาสดูซะเลย



“มึงทำไรวะ”ไอ้พายหันไปถาม ไอ้คิมค้นอะไรกุกกักในตู้เย็น



“มีทอดมันด้วยนี่หว่า ทำไมมึงไม่ทอดวะ”




“กูขี้เกียจ”ไอ้พายตอบ ไอ้คิมเลยจัดการทอดเองซะเลย ผมใช้ให้มันยกหม้อแกงมาตั้งบนโต๊ะเลยจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมา พวกผมนั่งกินกันจนอิ่มแปล้ แกงเขียวหวานของไอ้พายขายดีหมดเกลี้ยง แต่ค่ำๆก็คงหิวกันอีกเลยว่าจะทำสุกี้กินกัน ดูหนังจบเรื่องหนึ่งค่อยออกไปซื้อของมาทำ






X







“พี่เดียว ไม่กลับไปอยู่บ้านล่ะ”



“ไม่เอาอ่ะ”



“ชิ พวกโลกส่วนตัวสูง น่าเบื่อ”



“หืม เบื่อพี่เหรอ หืมๆ”



“อ๋อยย เจ็บนะ”



ตอนแรกที่ผมเดินตามมาเพราะเห็นคุ้นๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นภาพเขาสวีทหวานกันแบบนี้ ไอ้อาจารย์บ้ากับพี่เฟิร์สกำลังหยอกล้อล็อคคอยีหัวกันกลางซูปเปอร์มาร์เก็ต คนตัวเล็กกว่าหน้ามุ่ยซึ่งทำให้ดูน่ารักขึ้นอีก ทำไมถึงมาอยู่แถวนี้กันได้วะ กรุงเทพมันจะแคบเกินไปแล้ว




ผมกับไอ้พายเป็นคนออกมาซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดตลอด 24 ชม.ใกล้ๆหมู่บ้าน ส่วนสองคนที่เหลือผมให้พวกมันเตรียมอุปกรณ์ เตรียมสถานที่ให้พร้อม ขนหม้อออกมาล้างเพราะไม่ได้ทำสุกี้กินเองมานานแล้ว



“มึงเข็นมาทำไมตรงนี้วะ”ไอ้พายหอบผักกาดขาวกับผักบุ้งมาเต็มอ้อมแขน




“แล้วนี่ดูอะไรอยู่ เห้ยนั่นจารย์ภัทรดนัยกับพี่รหัสกูนี่หว่า”มันวางของลงในรถเข็นแล้วเดินดุ่มเข้าไปหาคนทั้งคู่ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่เฟิร์สเป็นพี่รหัสมันนะเนี่ย คือปกติเวลาพูดถึงมันไม่ได้เอ่ยชื่อผมเองก็ไม่ได้สนใจรุ่นพี่มันเท่าไหร่รู้จักแต่เพื่อนสนิทที่คณะมัน ว่าแต่มันไม่กลัวอาจารย์ของมันแล้วเหรอวะ ผมยืนรอไอ้พายอยู่ที่เดิมไม่คิดจะเข้าไปทักทายอะไร เพราะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน ผมมองของในรถเข็นซึ่งตอนนี้มีแค่ผักที่ไอ้พายหอบมา พวกเนื้อสัตว์และเครื่องปรุงรสต่างๆยังไม่ได้หยิบแม้แต่อย่างเดียว ระหว่างที่ไอ้พายคุยผมเลยว่าจะไปเลือกๆมาใส่รถเข็นให้เสร็จแต่ยังไม่ทันเดินไปไหนไอ้พายก็เดินกลับมาแล้วไม่ได้มาคนเดียวด้วย




“หวัดดีน้ำน่าน พอรู้จักกันก็ได้เจอกันบ่อยเลยเนอะ”พี่เฟิร์สทักผมอย่างร่าเริง สองแขนกอดเกี่ยวไอ้คนตัวโตที่ทำหน้านิ่งมองมา จะเก๊กไปถึงไหนวะ




“หวัดดีครับ”ผมยิ้มให้แล้วเหลือบตามองอีกคนเล็กน้อยแล้วหันมาสนใจพี่เฟิร์สเหมือนเดิม ไอ้พายยิ้มร่าเหมือนถูกหวย




“รู้จักกันแล้วเหรอ? แปลกใจนะเนี่ย”




“อื้อ เมื่อคืนเจอกันเลยรู้ว่าเป็นเพื่อนพายกับธันว์แล้วก็เลยได้คุยกันนิดหน่อย”พี่เฟิร์สบอก ท่าทางของพี่เฟิร์สวันนี้ดูปกติเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน แตกต่างกับเมื่อคืนนิสัยเปลี่ยนไปตาสถานที่จริงๆ หรือว่าเพราะมีคนมาคอยคุมวะ




 “ไม่คิดจะทักกันหน่อยหรือไงคุณชลธร”มันทำหน้านิ่งๆแต่สายตาดูแปลกๆ เหมือนกำลังสนุกกับอะไรบางอย่าง ผมอุตส่าห์ไม่สนใจมันแล้วนะ แต่ก็ยังเสนอหน้ามาอีก




“สวัสดี...ครับ”เติมท้ายประโยคเมื่อเห็นไอ้พายจ้องเขม็งแต่แทบจะถลนออกมา มันคงจับความรู้สึกผมได้แล้วก็คงนึกได้ว่าผมไม่ชอบขี้หน้าอาจารย์มัน




“ครับ”ผมถึงกับเบลอเมื่อมันยิ้มให้ ยิ้มแบบยิ้มจริงๆเห็นฟัน ไม่ใช่การกระตุกยิ้มกวนตีน




“นี่จะทำอะไรกินกันอ่ะ”พี่เฟิร์สก้มลงมองของในรถเข็น




“สุกี้อ่ะพี่ ไปกินด้วยกันดิ”ไอ้พายชวน แต่มึงถามกูสักนิดมั้ยว่าอยากให้แขกที่ไม่อยากจะเชิญไปด้วยหรือเปล่า กับพี่เฟิร์สผมไม่มีปัญหาเลย แต่กับอีกคนนี่สิ




“น่าสนใจอ่า พี่เดียวไปมั้ย?”พี่เฟิร์สเขย่าแขนล่ำๆของมัน ทำหน้าอ้อนๆโคตรน่ารัก อยากให้มาอ้อนบ้าง




“รบกวนเขาเปล่าๆ ไหนว่าอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นไงรบเร้าให้พี่พาออกมาเนี่ย”ผมอยากจะแหวะกับเสียงนุ่มๆของมันมาก




“ง่ะ เอาไว้วันหลังนะ วันนี้ไปกินที่บ้านพายกัน พายทำอาหารอร่อยนะ”




“แล้วของที่จะซื้อเข้าห้องพี่ล่ะ”




“เดี๋ยวค่อยแวะซื้อไง ยังไงก็ทางผ่านอยู่แล้ว นะๆไปนะ”เจอลูกอ้อนแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็ต้องใจอ่อนทั้งนั้น




“ไปเถอะครับอาจารย์ ไม่ได้รบกวนอะไรเลย ถือว่าผมเลี้ยงขอบคุณอาจารย์ที่เลี้ยงข้าวผมกับน้องรหัสด้วย”อ้อ มันเคยไปกินข้าวด้วยกันมาด้วย ไม่เห็นเล่าเลยวะ




“แล้วเพื่อนคุณอยากให้พวกเราไปด้วยหรือเปล่า เห็นยืนเงียบเชียว”ทุกสายตาหันมามองทางผม แล้วจะให้ปฏิเสธก็คงจะดูเหี้ยเกินไป




“ไปได้อยู่แล้วครับอาจารย์ น่านมันไม่ว่าอะไรหรอก เนอะมึงเนอะ”ตอบแทนกูอีก บ้านกูนะเนี่ย มาเนอะมาแนะอีก




“ครับ ทานกันหลายๆคนสนุกดี”



   จากนั้นไอ้พายก็ถูกขาติดกับพี่รหัสมัน ไปไหนไปด้วยกัน เลือกซื้อของกันสนุกสนาน ทิ้งภาระชิ้นโตไว้กับผม




“ถ้าไม่สะดวกใจ พวกผมไม่ไปก็ได้นะ”จู่ๆมันก็พูดขึ้น



“พูดสักคำหรือยัง”



“ไม่พูดแต่หน้าตามันฟ้อง”




“ฟ้องว่าไง?”ผมหยุดเดินหันไปมองมันเต็มตา




“ฟ้องว่าไม่ยินดีที่จะให้ผมไปด้วย”



“เหอะ”มันทายถูก แต่ผมก็ไม่ได้ไร้มารยาทพอที่จะบอกปฏิเสธมันไปตอนนี้ ยังไงมันก็เป็นอาจารย์ไอ้พาย พี่เฟิร์สก็พี่รหัสมัน




“เพิ่งรู้ว่ามีความสามารถพิเศษอ่านใจคนอื่นได้”




“แล้วอ่านถูกมั้ยล่ะ”




“แล้วแต่จะคิดสิ”




“เกลียดอะไรผมนักหนา”




“บอกเหรอว่าเกลียด”



“แต่ก็ไม่ชอบหน้า”



“รู้ได้ไง”



“ก็เห็นทำหน้าหงิกทุกครั้งที่เจอหน้ากัน”



“แล้วระหว่างคุณกับผมมันมีเรื่องที่เมื่อเจอหน้าแล้วต้องยิ้มร่าโผเข้ากอดหรือไง”นึกภาพตามเองแล้วก็สยองไม่น้อย




“นั่นสินะ แต่ถึงไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นแต่ถ้าคุณจะโผเข้ากอดผมก็ไม่ว่าอะไรนะ”




พูดจาอะไรของมันวะ ฟังแล้วจั๊กจี้รูหู ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ยิ่งมันยิ้มจนเห็นฟันให้ ยิ่งรู้สึกแปลกๆ วันนี้ลืมกินยามาแล้วอาการบ้ากำเริบหรือไงวะ ผมเข็นรถหนีมัน มองหาไอ้พายกับพี่เฟิร์สที่ตอนนี้เดินกระหนุงหนิงเลือกซื้อของไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้




“นี่มึงจะเหมาไปถมที่หรือไง”ผมเห็นรถเข็นอีกคันที่ไอ้พายไปเอามามีของเต็มไปหมด กุ้ง หอย ปู ปลามาหมดทะเล




“กินกันตั้งหลายคน แล้วก็ซื้อไปเผื่อวันอื่นด้วย จะได้ไม่ต้องออกมาบ่อยๆ”ผมเช็คของว่าขาดอะไรอีกมั้ย พี่เฟิร์สไปเกาะหนึบที่แขนไอ้บ้านั่นแล้ว เราตกลงจะช่วยกันหารเท่าๆกันสำหรับสุกี้มื้อค่ำนี้ ตอนแรกไอ้พายบอกว่าจะเลี้ยงแต่สองคนนั้นปฏิเสธขอมีส่วนร่วมในการจ่ายด้วย เถียงกันอยู่พักนึงกว่าจะยอมกันได้ ผมกับไอ้พายจ่ายเงินเสร็จก็ช่วยกันขนขึ้นรถ ไอ้พายไปอธิบายทางให้อาจารย์มัน ส่วนผมมานั่งรอที่รถ




“มึงจะ...เอ้า คุณ!”ตกใจสิครับ นึกว่าไอ้พายแต่กลายเป็นไอ้บ้าที่เปิดประตูเข้ามานั่งข้างคนขับแทน มาทำไมวะ




“พันธการเขาบอกว่าจะเป็นคนขับพาเฟิร์สไปเอง ให้ผมไปกับคุณ”




“อืม”ผมขับรถเงียบๆมาตลอดทาง ส่วนมันก็เงียบเหมือนกันจนมาถึงบ้าน ไอ้ธันว์กับไอ้คิมถึงกับงงเมื่อเห็นผู้มาเยือนอีกสองคน ไอ้พายจัดการแนะนำอาจารย์มันเสร็จสรรพ ส่วนผมก็ขนของลงจากรถ เริ่มหิวแล้ว รีบๆเตรียมของจะได้กินกันเสียที ให้ไอ้พายต้อนรับขับสู้แขกของมันไปละกัน



“พายให้พี่ช่วยทำอะไรบ้าง”




“พี่ไปนั่งรอดีกว่านะ”ไอ้ธันว์เป็นคนพูดแทน เมื่อเห็นคนน่ารักเดินเข้ามาถึงในครัว




“ไม่เอา ไม่อยากนั่งรอเฉยๆ”




“งั้นพี่เอาผักไปล้างแล้วกัน”ไอ้พายส่งผักให้พี่รหัสตัวเอง ส่วนผมจัดการกับพวกอาหารทะเล ไอ้พายอยากกินทะเลเผาให้ผมทำน้ำจิ้มให้ ผมเลยใช้ไอ้คิมไปขนเตามาก่อไฟ บ้านผมมีเตาถ่านนะครับ เอาไว้ทำพวกปิ้งย่างนี่แหละ ย่างกับเตาแบบนี้มันจะหอมอร่อยกว่า บางทีก็เอาไว้ทำพวกต้มต่างๆที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวนานไม่เปลืองแก๊ส จากตอนแรกที่ตั้งใจจะกินในครัวก็เลยต้องยกมากินริมสระแทน เป็นการจัดปาร์ตี้ย่อมๆ




ผมจัดการล้างอาหารทะเลทั้งหมดจนสะอาดแล้ว หันมาทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ไม่ว่าใครได้ชิมก็ต้องติดใจ อาฝนถ่ายทอดเคล็บลับมาให้ ในครัวดูครึกครื้นมาก ไอ้พายกับพี่รหัสมันคุยกันงุ้งงิ้งๆ มีไอ้ธันว์เป็นตัวเสือกด้วยตลอดเวลา




“พาย มาชิมดิ”ทำน้ำจิ้มเสร็จแล้วครับ ใช้เวลาไม่นาน



“ยังเด็ดเหมือนเดิม”มันยกนิ้วให้




ผมขนพวกอาหารทะเลออกมาข้างนอก ไอ้คิมจุดเตาไว้รอแล้ว เตรียมตะแกรงไว้ให้อย่างรู้งาน ระหว่างรอมันก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า บิ๊วตัวเองด้วยการจิบเบียร์เย็นๆเป็นเพื่อนกับไอ้บ้านั่น ผมก็ลืมนึกถึงมันไปเลยมัวแต่วุ่นวายกับการเตรียมของ




“ให้ช่วยมั้ย?”




“ทำเป็น?”คือดูท่าทางแล้วไม่น่าจะเป็นผู้ชายที่ชอบเข้าครัว มือมันสวยมาก ผมเพิ่งสังเกตตอนที่มันยื่นมาจับกะละมังใส่กุ้งนี่เอง แล้วนี่เตาถ่านนะครับ ไม่ใช่เตาย่างบาร์บีคิวสวยๆเหมือนในละคร




“อย่ามาดูถูกกัน ก็เคยกินอาหารที่ทำมาแล้วนี่”




“หะ? อย่าบอกนะที่กินวันนั้นทำเอง?”ผมนี่อึ้งไปเลย ทำเองจริงเหรอวะ




“ก็ใช่สิ คิดว่ามันจะลอยมาจากไหนล่ะ”มันดึงกะละมังใส่กุ้งไปถือเอง ก่อนจะคีบกุ้งตัวโตๆลงไปย่าง ท่าทางคล่องแคล่วแสดงให้เห็นว่ามันทำเป็นจริงๆ




“อย่างอื่นเสร็จยังวะ”




“เสร็จแล้วมั้ง มึงเข้าไปดูดิ”ไอ้คิมเดินเข้าครัวไปพร้อมแก้วเบียร์




“บ้านสวยมาก เห็นคิมบอกว่าบอกว่าคุณออกแบบเองเหรอ”




“ก็ไม่ใช่ทั้งหมด แค่ร่างๆแล้วก็ให้สถาปนิกตัวจริงเขาทำอีกที”ผมเป็นคนชอบออกแบบ มันมีภาพในหัว ให้วาดออกมาได้นะ แต่พวกเรื่องโครงสร้างต้องให้พวกสถาปนิกเขาทำไป พอดีเป็นคนรู้จักกันเขาเลยเปิดโอกาสให้ผมแสดงความคิดเห็นและออกแบบในสิ่งที่อยากได้อย่างเต็มที่ ส่วนเขาจะเป็นคนดูแลเรื่องความถูกต้องและปรับแก้ในส่วนที่ผมวาดแล้วมันเกิดสร้างจริงไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดมันก็ออกมาโอเคมากตรงตามที่ผมต้องการมากๆ




“ถึงอย่างนั้นไอเดียก็เจ๋งอยู่ดี โดยเฉพาะตรงนี้”แน่ล่ะ ใครๆที่มาก็ชอบตรงสระว่ายน้ำที่สุด เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากในครัว ก่อนที่พวกมันจะทยอยกันขนของกินมา กุ้งรอบแรกที่ลงย่างสุกพอดี ส่งกลิ่นหอมอวลจนไอ้พายต้องมาสะกิดให้แกะป้อนให้




“แม่งอย่างฟินอ่ะ”ผมป้อนกุ้ง มันป้อนเบียร์ผมถือว่ารู้หน้าที่




“ผัวเมียคู่นี้หลบไปดิ”ไอ้คิมยกถาดบาร์บีคิวมาวางไว้ข้างๆ จากสุกี้ตอนนี้มันเริ่มมีของกินงอกขึ้นมาเยอะเลยครับ กินกันจนพุงกางแน่ๆ พอทุกอย่างพร้อมก็จัดการลงมือกันแบบไม่มีเกรงใจเพราะหิวกันมากๆ ตอนแรกแขกสองคนก็ดูเกร็งๆ แต่สักพักก็ดีขึ้นเพราะพวกเพื่อนๆผมมันชวนคุย ไอ้อาจารย์บ้าก็ขยันมองมาทางผมไม่รู้จะมองอะไรนักหนา หรือมันเห็นผมมองพี่เฟิร์สบ่อยๆวะ




“พวกคุณไม่ต้องเรียกผมว่าอาจารย์ก็ได้นะ ผมไม่ชิน”




“ก็อาจารย์เป็นอาจารย์ของผมไม่เรียกได้เหรอ”




“เอาไว้เรียกตอนอยู่มหาลัย อยู่ข้างนอกก็เรียกพี่เหมือนที่เฟิร์สเรียกนั่นแหละ ผมสอนคุณแค่วิชาเดียวเอง”




“ก็ดีครับ พอเรียกพี่แล้วกินเหล้าด้วยสนิทใจหน่อยไม่เกร็งๆ”




“ไอ้เหี้ยนี่ขนาดมึงเกร็งแล้วนะ”ไอ้คิมทำหน้าเหยียดหยามไอ้ธันว์เต็มที่ ผมเห็นมันชนแก้วกันเป็นว่าเล่น
ผมนั่งฟังคนคุยกันเงียบๆ ไม่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เลยทำให้รู้ว่าเพราะมีพี่เฟิร์สเป็นตัวกลางให้ไอ้พายมันเลยไม่ถูกไอ้อาจารย์บ้านั่นเล่นงานเอา อีกอย่างมันไปขอโทษขอโพยเขาแล้วก็เข้าเรียนไม่เคยขาดอีกเลย เขาถึงไม่เพ่งเล็งอีก



“บ้านนี้อยู่กันสี่คนใช่มั้ย”




“เปล่าครับจารย์ เอ้ยพี่เดียว มีไอ้น่านกะผมที่อยู่ ส่วนมันสองคนมีคอนโดเป็นของตัวเอง เอาไว้กกเด็ก”ไอ้พายเริ่มเมาแล้วหน้ามันแดง เวลาเมาแล้วก็พล่ามไม่หยุดเล่าหมดโคตรเหง้าศักราชก็ขุดออกมา



“หุบปากบ้างเถอะมึงไอ้ห่า”ไอ้คิมทนไม่ไหวจับบาร์บีคิวยัดใส่ปากซี้มัน



“เป็นไรวะ นั่งเงียบเลย ไอ้ธันว์เดินถือจานใส่กุ้งย่างมานั่งข้างผม




“เปล่า ฟังไอ้ห่าพายพูดแล้วกูก็เหนื่อยจะคุย เก็บกดเหรอวะ”



“เออไอ้สัด กูแม่งอยากเอาหัวกุ้งยัดปากมัน”



“เออน้ำน่าน เสื้อผ้าคุณยังอยู่ที่คอนโดผม ลืมเอาไปให้ทุกที”



พรวด!



ไอ้ห่า สำลักเลยแม่ง จะพูดขึ้นมาทำไมวะ ผมตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน จะมองกูกันทำไม กูไม่ได้ไปฆ่าใครตายนะเว้ยยยยย




“มึงขึ้นคอนโดจารย์มา?”ไอ้พาย




“อะไรยังไง”ไอ้ธันว์



“ได้กันแล้วเหรอ”พี่เฟิร์ส



“เปลี่ยนแนวก็ไม่บอกนะมึง”ไอ้คิม




พวกมึงคิดเหี้ยอะไรกันเนี่ยยยยยยย








----


มาแล้วค่ะ มาช้าไปมากเลย ฮืออออ จากที่แจ้งไปถัดไป 3 รีพรายก่อนหน้า เราขอโทษจริงๆที่มาช้า และขอบคุณคนที่ยังรออ่านนะคะ เรามีเพจมีทวิตน้า ลองหาดูแถวด้านล่าง 555 เปิดมาใหม่ๆเลย เวิ่นอยู่คนเดียว มีแท็กด้วย #รักไม่ได้ออกแบบ  ซึ่งก็ใช้อยู่คนเดียว 5555 แอบเห็นมีคนเชียร์ธันว์กับพายด้วยอ่า หุหุ ติดตามกันต่อไปนะคะ จุ๊บๆ 
:mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 24-11-2015 10:02:54
พี่เฟิร์สกับอาจารย์ไม่ได้เป็นอะไรกันแน่ๆเลยอะ ไม่งั้นไม่ถามแบบนั้นหรอก555555
ส่วนอาจารย์นี่ต้องชอบน่านแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-11-2015 14:01:29
อาจารย์เป็นอะไรกับเฟิร์สอ่ะ ญาติกันรึเปล่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-11-2015 15:18:35
เพิ่งได้มาอ่าน  สนุกมากๆค่ะ
การดำเนินเรื่อง การบรรยายจากมุมมองของตัวละคร
ภาษาที่ใช้   จังหวะของเรื่อง   เยี่ยมมากๆ

การบรรยายตัวละครทำให้เราสามารถแยกแต่ละคนได้ ซึ่งปกติเราจะมีปัญหาในเรื่องที่มีตัวละครหลายคน   สิ่งที่ทำให้จำแนกได้ก็คือนิสัยและการแสดงออกมากกว่าหน้าตา
ที่เราชอบอีกอย่างก็คือตัวละครหลักๆไม่ออกสาว  ส่วนที่ออกสาวก็อยุ่ในระดับที่เรารับได้    ชอบที่ข้ามการบรรยายอย่าง*ร่างบาง* ไปได้   

ขนาดตัวละครอย่างหมวยกับพี่รหัสที่ออกมานิดเดียว บรรยายไม่กี่ประโยคแต่เราก็สนใจอยากรู้ว่าอะไรเป็นไงแล้วค่ะ

ให้มโนจะว่าเฟิร์สน่าจะเป็นน้องเป็นญาติที่สนิทกันมากๆ   อยากให้ธันว์ได้เมีย   อยากให้พายสมหวังแต่ก็กลัวค่ะเพราะว่าพวกธันว์นี่คั่วเรื่องอย่างว่ากันมากเกินไปไม่หน่อยเลยค่ะ    รออ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-11-2015 17:27:25
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 25-11-2015 00:13:54
ดูแล้วอาจารย์พี่เดียวกับพี่เฟิร์สน่าจะเป็นญาติกันแน่ๆ จากบทสนทนาหลายๆสิ่ง

อาจารย์พี่เดียวก็ทั้งยอด ทั้งทิ้งระเบิดใส่น่าน ทำดีค่ะ ทำดี ทำต่อไป 55555
เพราะเราเป็น #ทีมน่าน ที่อยากให้พี่เดียวจีบน่านหนักมากกก  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 25-11-2015 01:31:23
พี่เดียว คิดไรป่าวเนี่ยยย  อยู่ๆก้พูดขึ้นมา


เฟิร์สกับเดียวเป็นพี่น้องกันป่าวววว :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 25-11-2015 01:37:40
ชอบค่ะ มาอัพบ่อยๆนะคะ เรามารีเฟรชดูทุกวันเลย รอเป็นเดือนๆดีใจที่อัพแล้ว  o13 :-[
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 26-11-2015 00:51:48
สนุกมากกกกกก o13
อ่านเพลินเลย พี่เดียวจีบน้องได้แล้วนะ อยากอ่านตอนน้องน่านมุ้งมิ้งแล้ว :hao6:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 28-11-2015 17:54:58
เฟิร์ส กับ เดียว ชื่อบ่งบอกมากอ่ะ พี่น้องกันชัวร์

ส่วนอาจารย์เดียวคะ แอบมองน้ำน่านบ่อย ๆ นี่คิดไรอยู่ ได้ข่าวว่าตรงสเป็คใช่ปล่าวหว่า?
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 29-11-2015 23:16:58
รัก...ไมได้ออกแบบ by zero






- 7 -





   “เหี้ย! หิว”ไอ้โอ๊คตะโกนขึ้นมาระหว่างที่พวกผมกำลังจดจ่ออยู่กับการทำงาน ปีสองแล้ววิชาที่เรียนเริ่มลงลึกและปฏิบัติมากขึ้น ปีหนึ่งที่คิดว่าเยอะแล้ว เทียบไม่ได้กับตอนนี้เลย ปีสูงขึ้นไปแทบไม่ต้องพูดถึง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเรียนด้านนี้จะฝีมือดีได้ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก ทักษะต่างๆต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆไม่อย่างนั้นก็สู้คนอื่นไม่ได้



“ตะโกนแล้วมึงจะหายหิวเหรอไอ้สัด”ไอ้เต้ด่ากลับไป หน้ามันเครียดมาก เพราะงานก่อนหน้ามันถูกสับมาเละยิ่งกว่าโจ๊ก แต่จะโทษใครได้ มัวแต่ติดเด็กแล้วลืมทำงานมาปั่นเอาก่อนวันจะส่ง งานเลยหยาบยิ่งกว่าหนังช้าง



“เดี๋ยวกูไปเซเว่น จะเอาอะไรจดมา”ผมเสียสละตัวเองเป็นคนไปซื้อของมาให้พวกมันแดก อันที่จริงก็หิวเหมือนกัน อยากไปยืดเส้นยืดสายด้วย ตั้งแต่เลิกเรียนตอนสี่โมงเย็นจนถึงตอนนี้ก็สองทุ่มแล้วขยับตัวมากสุดก็แค่ไปเหลาดินสอ



“ไอ้เหี้ย เทวดามาโปรด งานมึงเสร็จแล้วเหรอ”



“ใกล้แล้ว เอาไรจดมาๆ”ไอ้เหี้ยเต้ฉีกกระดาษสเก็ตมาจดทั้งข้าวกล่อง ขนม น้ำ ลูกอม ลิโพ เอ็ม150...



“ไอ้สัด ใครเอาถุงยางวะ”รายการสุดท้ายนี่คือเหี้ยอะไร พอผมถามแม่งหัวเราะกันใหญ่ พวกผมนั่งทำงานอยู่ใต้ตึกเรียนเกือบยี่สิบชีวิต



“ของกูๆ ฝากด้วย เสร็จงานกูจะรีบไปเอาเมียไม่ต้องเสียเวลาแวะซื้อ”ไอ้ห่าเจตะโกนมาจากอีกมุมหนึ่ง



“ค_ย”ผมแจกนิ้วให้ ก่อนจะลากไอ้หมวยที่อยู่ใกล้มือใกล้ตีนไปช่วยถือของ



“ไอ้เชี่ย ไหล่กูไม่ใช่ที่วางแขนมึงนะ”



“อ้าวเหรอ กูนึกว่าใช่ปรับระดับมาพอดีเลยนะเนี่ย”



“กวนตีนไอ้สัด คนอื่นก็มีลากกูมาทำเชี่ยไร”



“เอามึงมาอ่ะถูกแล้ว งานมึงจะเสร็จแล้วนี่”ไอ้หมวยเห็นตัวมันเล็ก แต่ฝีมือมันไม่เล็กนะครับ งานมันขึ้นแท่นเลยทีเดียว



พวกผมเดินลัดเลาะสวนข้างคณะตัวเองไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐตัวนอนสลับสี ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปทอดยาวไปสู่คณะสถาปัตย์ มีสระน้ำกั้นกลาง มีสะพานปูนให้เดินข้าม สองข้างของสะพานปูนเป็นซุ้มดอกการเวกที่เลื้อยยาวตลอดสะพาน ดึกๆแบบนี้ได้กลิ่นหอมอวลไปทั่ว เซเว่นที่ผมจะไปมันอยู่ระหว่างคณะพอดี



“ไอ้สัด อย่างโหด บ้ามากไปละ”ไอ้หมวยมันพูดขึ้นเพราะได้ยินเสียงว๊ากดังลั่นมาจากลานคณะสถาปัตย์ คณะนี้รับน้องโหดมาก พี่ว๊ากแต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น คณะผมที่ว่าดุเดือดแล้วต้องคุณสามเข้าไป พี่ว๊ากคณะนี้ต้องทำตัวเหมือนแวมไพร์ กลางวันต้องหลบซ่อนตัว จะให้น้องปีหนึ่งเห็นไม่ได้



“หมอบๆๆ หมอบหาพ่อง”



“มึงนี่ก็นะ รีบๆเดินไป”



พอไปถึงเซเว่นผมก็แบ่งกันไปหยิบของตามรายการ ข้าวกล่องขายดีมาก บางอย่างที่สั่งมาก็ไม่มีผมก็เลือกอย่างอื่นไปแทนเวลานี้อะไรที่กินได้พวกมันก็ยัดกันหมดนั่นแหละ ของทั้งหมดเต็มสามตะกร้า ของผมเป็นข้าวกับพวกขนม ส่วนไอ้หมวยถือตะกร้าใส่น้ำอย่างเดียว



“คืนนี้พวกปีหนึ่งตายแน่มึง พี่ไวท์แม่งจัดหนักจัดเต็ม”



“เออไอ้สัด กูไม่ได้โดนเองยังขนลุก เยี่ยวจะแตกไอ้ห่า”



“อยากไปลองของเองนี่หว่า ต้องโดนนน”



ผมเหลือบตามองไอ้หมวยที่ยืนต่อหลังสองคนที่กำลังพูดถึงการรับน้องคณะตัวเองแน่ๆ ดูจากเสื้อแล้วก็คงเป็นคณะสถาปัตย์บ้านใกล้เรือนเคียงนี่เอง มันเบ้ปากใส่สองคนนั้นเหมือนกับแค้นเคืองอะไรเขานักหนา



“พวกบ้าอำนาจ”คล้อยหลังจากคนนั้นที่หิ้วน้ำแข็งเต็มถังออกไป มันก็เปิดปากทันที


“ไม่ชอบก็อยู่เฉยๆ อย่าไปวิจารณ์เขา เดี๋ยวมึงจะได้โดนดี”คือเรื่องพวกนี้มันก็พูดยากนะครับ การรับน้องแบบนี้มันก็มีข้อดี แต่บางคนที่ไม่ชอบและมีความคิดต่างก็มองเห็นแต่ข้อเสีย ผมว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  จะมาตัดสินว่าดีหรือไม่ดีไปเลยไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเรื่องไหนที่ดีก็ควรรักษาไว้ ส่วนเรื่องไหนที่ไม่ดีมันก็ควรปรับปรุง มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นมาเลยเสียทีเดียวแต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย



ระหว่างทางเดินกลับมาเสียงว๊ากก็เงียบลงไปแล้ว ทุกอย่างเงียบสนิทได้ยินเพียงเสียงใบไม้ไหวกับแมลงกลางคืนที่ดังเป็นระยะ คงจะเลิกว๊ากกันไปแล้ว



“เสียงไรวะ”ไอ้หมวยพึมพำ เบียดตัวเข้าหาผม หันมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง คือทางเดินตรงนี้มันไม่ได้สว่างนัก ไฟบางจุดก็ดับไป แสงนวลๆจากไฟสีส้มตามทางเดินเลยขาดๆหายๆ สลัวไปทั่วบริเวณ เสียงฝีเท้าคนดังมาจากข้างหน้า แต่ผมกับไอ้หมวยเบรคไม่ทันตอนที่กำลังจะเดินผ่านสะพานการเวก เจ้าของเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาก็คงจะไม่รู้ว่ามีใครเดินอยู่



ปึก!


“โอ๊ย!”ผมคว้าเอาไว้ไม่ทันเพราะมือเต็มไปด้วยของที่ซื้อมาไอ้หมวยกับถุงของจึงกระเด็นไปคนละทาง วัตถุที่วิ่งมาชนก็ล้มคว่ำไปด้วยกัน



“เหี้ย!”พวกที่วิ่งมาถึงร้องดังขึ้น ผมมองหน้าไม่ถนัดแต่คงจะมาจากคณะข้างๆ ไว้หนวดเครา สวมหมวกแก๊ปแต่ใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศถูกระเบียบเป๊ะ



“เหี้ยไวท์ เป็นไรป่ะวะ”หนึ่งในสามคนที่วิ่งตามมาสมทบถามขึ้น



“เจ็บไอ้สัด ลุกไปสิวะ”เสียงไอ้หมวย มันผลักคนที่ล้มทับมันออก อันที่จริงร่างสูงใหญ่นั้นไม่น่าสะเทือนด้วยซ้ำแต่คงเป็นจังหวะที่ลุกขึ้นพอดีแรงของไอ้หมวยจึงทำให้อีกฝ่ายเซไป ผมวางของทิ้งไว้แล้วฉุดมันลุกขึ้น อีกฝ่ายก็ถูกเพื่อนประคองขึ้นมาเหมือนกัน



“ไอ้สัด รีบไป เดี๋ยวไอ้เหวงปล่อยน้อง”



“เห้ยๆ ชนคนอื่นล้มแล้วจะหนีไปง่ายๆหรือไงวะ”ไอ้ตัวเล็กแม่งซ่าไปรั้งแขนคนที่ชนมันไว้ จะรู้หรือเปล่าวะนั่นคือพี่ว๊ากที่มันเกลียดนักเกลียดหนา คือถึงไม่มีใครบอกก็พอจะเดาได้จากการแต่งตัว และจากชื่อที่ถูกเรียกผมเพิ่งได้ยินจากเซเว่นเมื่อกี้นี้เอง ไม่น่าพลาด



“ขอโทษ”เสียงโหดสัด ตาวาวๆในแสงสลัวนั้นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายคงดุไม่น้อย



“เอ้า ไอ้เหี้ย”ผมดึงไอ้หมวยไว้ มันแทบจะแล่นตามไปเอาเรื่องเขาซ่านักตัวแค่นี้ มันคงไม่พอใจกับคำขอโทษแค่นั้น คงจะรีบกันมากจริงๆเพราะวิ่งไปไม่หันหลังกลับมามองเลย



“ไปเหอะมึง อย่ามัวเสียเวลา”



“แม่งเอ๊ย ทำกูเจ็บ อย่าให้กูเจอหน้านะจะด่าให้ลืมชื่อแม่เลย”



“จำหน้าเขาให้ได้ก่อนคิดจะไปด่า ห่ามึงเห็นหน้าเขาเหรอ”



“เห็นไม่ชัด แต่กูรู้ชื่อ สัดไวท์!”เอ้อ นับว่ายังฉลาดและยังมีสติที่จำชื่อได้ ผมกับมันช่วยกันเก็บของขึ้นมาแล้วกลับไปที่คณะที่มีพวกสัมพเวสีรอคนแผ่ส่วนบุญไปให้



“หมวย แขนมึงไปโดนอะไรวะ มีเลือดด้วยพออยู่ในที่ไฟสว่างร่อยรอยต่างๆจึงปรากฏชัด ไอ้โอ๊คจับแขนซี๊มันพลิกดู ตรงข้อศอกมีแผลเลือดซึม ตรงฝ่ามืออีกนิดหน่อย ไอ้หมวยถึงกับครางปากสั่นแล้วด่าเป็นของแถม



“อูย เจ็บไอ้สัด มือหรือส้นตีนเนี่ย”



“ไปล้างน้ำไปเดี๋ยวกูทำแผลให้”เอเชียมันเดินเข้ามาหยิบขนมปังแล้วพูดขึ้น



“ถ้ามึงทำแผลแล้วกูจะไม่ต้องตัดแขนทิ้งทีหลังใช่มั้ย”



“ไอ่เชี่ย ปากมึง เอาแอลกอฮอล์ล้างดีมั้ย”



“แอลกอฮอล์มันฆ่าหมาไม่ได้หรอกเว้ย มันกรอกปากเป็นประจำ ยิ่งกรอกหมายิ่งเจริญเติบโต”ไอ้เต้ตะโกนกลับมา ข้าวเต็มปากอุบาทว์สัด
พวกมันโล้งเล้งกันพักใหญ่ เหมือนเป็นช่วงพักของทุกคน เอเชียมันทำแผลให้ไอ้หมวยที่นั่งเล่าเหตุการณ์ผสมการบ่นด่าให้ซี้มันฟัง หลังจากที่มีอาหารตกถึงท้องก็กลับมาทำงานต่อจนเสร็จ กว่าจะได้แยกย้ายกันกลับบ้านก็เกือบห้าทุ่ม กลับมาถึงบ้านไอ้พายยังไม่นอน นั่งทำงานอยู่หน้าทีวีที่เปิดทิ้งไว้แต่ปิดเสียง



“กูนึกว่ามึงจะกลับดึกกว่านี้”ไอ้พายเงยหน้าขึ้นมาจากงานของมัน เวลาอ่านหนังสือหรือทำการบ้านมันจะใส่แว่น สั้นไม่มากแต่มันชอบใส่



“กูเร่งให้เสร็จอยู่ พรุ่งนี้ต้องลงกิจกรรมเดี๋ยวไม่มีเวลา”



“นั่นอ่ะ ของมึง”มันบุ้ยใบ้ไปที่โซฟา ผมเลยเดินไปนั่งแล้วหยิบถุงกระดาษนั้นขึ้นมา



“เสื้อผ้ามึง จารย์ เอ้ย พี่เดียวฝากมาให้ โวะ เรียกไม่ถนัดปากเลยวุ้ย”มันบ่นๆ แต่ผมชะงักไป



“วันนี้มึงเรียนกับมันเหรอ”ลับหลังไม่จำเป็นต้องพูดเพราะพูดดี ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้เจอมันอีก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี ผมว่ามันต้องจงใจแน่ๆ แต่ผมไม่รู้ว่ามันต้องการอะไรที่จู่ๆก็พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าที่ผมตั้งใจจะทิ้งลืมไว้ที่ห้องมัน เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวเองมันจะเอาเวลาที่ไหนมาเจอผมวะ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามมันให้หายข้องใจ เพราะหลังจากกินอิ่มมันก็ต้องขอตัวกลับเพราะมีคนโทรมาตามพี่เฟิร์ส วันนั้นผมต้องจำใจเล่าเรื่องที่เมาเป็นหมาถูกหิ้วขึ้นห้องให้พวกเพื่อนๆฟัง พวกมันก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแค่แปลกใจที่ผมไม่ได้เล่าให้ฟัง ก็เรื่องมันน่าเล่าตรงไหนวะ



“เปล่า พี่เขาเข้ามาคุยธุระที่คณะแล้วเจอกูพอดีเลยฝากมาคืนให้”



“อืม ขอบใจ”อยากจะเอาชุดไปเผาจริงๆ



“มึงยังไม่เลิกเกลียดขี้หน้าพี่เขาอีกเหรอวะ กูว่านะลืมๆไปเหอะ พี่เดียวเขาเป็นคนดีมากเลยนะมึง”ผมมองหน้ามันอย่างเหนื่อยหน่าย ก็ไม่ได้มาโดนด่าอย่างกูนี่หว่า อีกอย่างนะคนมันไม่ถูกชะตาไม่ว่าจะดียังไงมันก็คงเปลี่ยนมาญาติดีกันยาก ผมเองไม่ได้คิดจะเข้าไปข้องเกี่ยวอะไรด้วยอยู่แล้ว แต่มันมีเหตุให้ต้องมาเจอกันทุกที เวรกรรมจริงๆ





   X





      
   หลังจากเลิกกิจกรรมผมก็ต้องรีบตรงดิ่งมาหาพี่ยศที่สตูดิโอ เห็นว่ามีงานจะให้ผมไปเป็นผู้ช่วยถ่ายงานโปรเจคท์ใหญ่ ให้รีบเข้าไปคุยเรื่องรายละเอียด กว่าจะฝ่ารถติดมาได้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว แต่คนที่นี่ทำงานกันดึกดื่นอยู่แล้ว



   “หวัดดีพี่ครับพี่โด้ พี่ยศอ่ะ”ผมทักมือขวาของที่นี่ พี่แกกำลังรีบร้อนเดินลงบันไดมา



   “อยู่ในห้อง น่านเข้าไปเลย พี่ไปก่อนนะ เมียโทรจิกแล้ว”ยังไม่ทันเอ่ยลาพี่แกก็วิ่งออกนอกบริษัทไปแล้ว ผมเดินขึ้นไปชั้นบนที่เป็นห้องทำงานของพี่ยศ ยังมีอีกหลายคนที่นั่งทำงานอยู่ ผมยิ้มให้พี่บางคนที่คุ้นหน้ากัน



   “หวัดดีพี่”ผมเปิดประตูห้องพี่ยศเข้าไป เจ้าของห้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานกำลังดูอะไรในหน้าจอ ห้องพี่ยศมีโต๊ะทำงานอยู่สองโต๊ะ โต๊ะหนึ่งสำหรับงานทั่วไป ส่วนอีกโต๊ะเอาไว้ทำงานเกี่ยวกับรูปที่แกรับผิดชอบโดยตรงซึ่งรกมาก



   “เออดี ไอ้หล่อนั่งๆ กินไรยัง กูให้บุ้งมันไปซื้อกาแฟกับของกินมาให้เมื่อกี้”



   “ยังเลยครับ รีบมากลัวพี่รอนาน”



   “งั้นรอแป๊บ”พี่ยศกดโทรศัพท์พอฝั่งนั้นรับก็รีบสั่งเมนูอาหารทันที



   “เออ มึงจะซื้ออะไรก็ซื้อมาอิบุ้งกี๋ เอาที่มันกินแล้วไม่ตายน่ะ อะไรนะ เงินที่เหลือมึงขอ เออได้ เอาไปแลกกับโบนัสสิ้นปี ลูกน้องแต่ละคนกวนส้นตีนกูจริง”ท้ายประโยคแกวางสายแล้ว



   “ระหว่างรอกินมาคุยงานก่อนแล้วกัน”พี่ยศยื่นแฟ้มหนึ่งมาให้ พอรับมาดูแล้วด้านในเป็นรูปของชุดเครื่องเพชร



   “งานถ่ายชุดเครื่องเพชรของบริษัท...”ชื่อบริษัทนี้ผมรู้จักนะ เป็นบริษัทแนวหน้าของวงการเครื่องประดับเลยทีเดียว บริษัทเดียวกันกับที่ผมเคยจับพลัดจับผลูได้เข้าไปถ่ายงานแฟชั่นโชว์ครั้งก่อน



   “ทำไมเขาเลือกบริษัทพี่ล่ะ ปกติเขาไม่ได้มีเจ้าประจำเหรอ”



   “คงมีปัญหาภายในละมั้ง พี่ก็ไม่ค่อยรู้ อันที่จริงเขาก็ยังไม่ได้เลือกเราหรอก เพียงแต่ให้เราเข้าไปลองถ่ายเพื่อเอาไปเทียบกับอีกสองเจ้าแล้วจะคัดเลือกอีกที ซึ่งกูอยากได้งานนี้”พี่ยศย้ำในตอนท้าย



   “งานนี้พี่จะถ่ายเอง ให้มึงเป็นผู้ช่วย”



   “ทำไมไม่ให้พี่โด้ล่ะพี่”


“ไอ้โด้มีงานอื่นแล้ว”


“พี่ฉัตรล่ะ”



“ไอ้ฉัตรฝีมือมันดีก็จริงแต่มันไม่ถนัดถ่ายงานแบบนี้มึงก็รู้ ไม่ต้องอ้างชื่อคนอื่นแล้ว มึงนี่แหละเหมาะสุด”



“ผมกลัวว่าจะทำให้พี่พลาดงานนี้ว่ะ”งานแบบนี้สมควรให้มืออาชีพทำ ฝีมือผมยังคงไม่ถึงขั้น



“มั่นใจตัวเองสิวะ กูบอกว่ามึงทำได้คือทำได้ ไม่เชื่อกูหรือไง”หมดคำพูด ความจริงการได้รับมอบหมายงานนี้มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ เป็นการฝึกปรือฝีมือที่ดีเยี่ยม รองจากแคนดิต การถ่ายพวกวัตถุสิ่งของ อาคารบ้านเรือนผมชอบมากๆ คงเพราะใจมาทางด้านการออกแบบด้วยละมั้งทำให้ค่อนข้างมีไอเดียในการถ่ายรูปแนวนี้ แต่ถ้าหากรูปที่ออกมามันไม่ถึงขั้นก็จะทำให้พี่ยศพลาดงานนี้ได้



“เขาให้เรานัดวันเข้าไปถ่ายรูปจันทร์บ่ายที่บริษัทนั้นเขามีสตูดิโอเป็นของตัวเอง มึงว่างพอดีกูดูตารางแล้ว”ผมส่งตารางเรียนให้พี่ยศด้วย เวลาพี่เขารับงานจะได้รู้ว่าผมว่างหรือไม่ว่าง



“โอเคครับพี่”หลังจากนัดแนะกันเสร็จแล้ว ผมก็อยู่กินข้าวกับพี่ยศในห้องทำงาน คุยอะไรกันอีกนิดหน่อยก่อนจะแยกตัวกลับมา วันเสาร์พี่ยศนัดผมไปลองถ่ายเครื่องเพชรที่สตูดิโอดูก่อนเป็นการฝึกมือ ดังนั้นศุกร์นี้งดสังสรรแบบเมาหัวทิ่ม





X







ไม่เมาวันศุกร์แต่มาเมาวันเสาร์แทน พอถ่ายงานเสร็จผมก็ถูกไอ้เหี้ยธันว์ลากมาผับประจำ เฮียเสกเจ้าเดิม ครั้งนี้เจอหน้ากันตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าร้าน พวกผมมาถึงประมาณสองทุ่มกว่าๆ ถูกเฮียเสกพาขึ้นด้านบนมารวมโต๊ะกับเพื่อนๆเฮียแกด้วย พวกไอ้โก้ ไอ้อ๊อดมากันก่อนแล้ว ไอ้คิมกำลังตามมาเห็นว่าไปจะไปโละเมียทิ้งก่อน สุดท้ายก็เลิกจนได้คนนี้ครบเดือนพอดี



“พวกมึงนี่เรียนวิศวะกันหมดเลยเหรอวะ”คนนี้น่าจะชื่อพี่ทักษ์ หน้าตาตี๋ๆ



“ยกเว้นไอ้น่านครับพี่ มันเรียนมัณฑณศิลป์ เดี๋ยวมีมาอีกคนชื่อไอ้คิมนั่นเรียนเภสัช”ไอ้อ๊อดสาระแนตอบ



“โอ้ เจ๋งนี่หว่า เรียนอะไรอ่ะมึง ตกแต่งภายใน นิเทศ เครื่องประดับหรือว่าอะไรวะ”



“ภายในอ่ะพี่”



“ทำผมสีนี้แล้วมึงหล่อขึ้นนะเนี่ย กูว่าดีกว่าตอนมึงทำสีเงินอีกนะ”พี่คนนี้ชื่อพี่บอส หล่อเข้มเหมือนคนใต้ ยังมีอีกคนชื่อพี่ยอด ตอนผมมาพี่แกมีสาวมาเกี่ยวไป



“พี่เคยเห็นผมด้วยเหรอ”เมื่อวานไม่ได้มีนัดไปกินเหล้าที่ไหนผมเลยไปทำสีผมใหม่เอาให้สะดุดตาน้อยกว่าเดิม



“เออ พวกกูเห็นพวกมึงมานานละ กูก็มาร้านเหี้ยเสกประจำเหมือนกัน”



“ใช่ๆ มาแต่ละทีได้แต่คนเด็ดๆไปทั้งนั้นไอ้สัด กูนี่มองไปเถอะ ไม่เคยได้แดก”



“อ่ะนะ คนมันหล่ออ่ะพี่”เอาซะหน่อยกู



“ไอ้สัดกวนตีนใช้ได้”ขำๆกันไป ผู้ชายด้วยกันพอรู้จักชื่อ มีเหล้าเป็นตัวช่วยก็เข้ากันได้เร็ว พวกพี่เขาก็ดูเป็นมิตรดี แต่คนที่พาพวกผมมาทิ้งไว้นั้นหายหัว คงไปดูความเรียบร้อยของร้าน



“คุณชายอาร์เมื่อไหร่จะมาวะ”ชั่วโมงกว่าๆที่พวกผมนั่งคุยกับพวกพี่เขา จู่ๆพี่ทักษ์ก็พูดขึ้นมาหลังจากนั่งส่องเนื้อนมไข่กับไอ้ธันว์เพลินตา



“มันกำลังมา เดี๋ยวนี้เขาคิวทองเว้ย จากนักธุรกิจมาเป็นนักแสดง ไอ้เหี้ยกูฮาว่ะ ตอนละครมันออนแอร์กูจะอัดเก็บไว้เลย”



“เพื่อนพี่เป็นดาราด้วยเหรอ”ให้ทายว่าใคร สาระแนขนาดนี้



“เออ เดี๋ยวมันมา อย่าลืมขอลายเซ็นมันนะ”ดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่จี้เส้นพวกพี่เขามากๆ



“สัดบุหรี่สอดไส้หรือไง หัวเราะลั่นขนาดนี้”เป็นจังหวะที่กำลังเปลี่ยนเพลงพอดีตอนที่คนมาใหม่พูดขึ้น ทุกคนดูตื่นเต้นกับการมาเยือนของคนๆนี้ ผมหันไปดูแล้วต้องชะงักไป



“เชี่ยเดียว ไหนว่ามาไม่ได้ไงวะ”



“กูเปลี่ยนใจไง เอ้า...”มันสบตากับผมพอดี ผมไม่น่าลืมเลยว่าเฮียเสกเคยบอกว่ามันเป็นเพื่อนในกลุ่ม



“อ้าว พี่หวัดดีครับ”ไอ้ธันว์



“นี่พวกมึงรู้จักกันแล้วเหรอวะ”



“ครับ พี่เดียวเป็นอาจารย์พิเศษสอนเพื่อนผม”



“โลกกลมไอ้สัด นั่งๆ”พี่บอสตบลงตรงที่ว่างซึ่งอยู่ข้างผมพอดี ซวยจริงกู จะขยับหนีก็ไม่ได้



“ทำไมมานั่งนี่ได้อ่ะ”



ไอ้เหี้ย! ผมผงะหนีแทบไม่ทัน มันเอนตัวมากระซิบถามผม ปากนี่แทบจะงับหูผมไปด้วย



“หยิ่งเหรอถามไม่ตอบเนี่ย”



“เอาหน้าไปไกลๆได้มั้ย”ไอ้สัดกูไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กมุ้งมิ้งที่มึงจะมาอ่อย ทำหน้าหล่อ เสียงพร่าข้างหู แล้วมือมึงอ่ะ! แม่มมันเอาพาดกับพนักโซฟาตอนนี้ผมเลยเหมือนถูกมันโอบไหล่อย่างกับเป็นเด็กเสี่ย



“ทำไมหวั่นไหวเหรอ?”



“เชี่ยแม่ง”



“บอกให้พูดเพราะๆไง จำไม่ได้แล้วเหรอ”ผมเบนหน้าหนีมือมันที่จะยื่นมาบีบปาก ไอ้สัดความมุ้งมิ้งส้นตีนนี่คืออะไรวะ ไอ้ผู้ชายนิ่งๆที่มองเหยียดด้วยสายตามันไปไหนวะ ถ้าให้เจอมันโหมดนี้ผมขอเจอเวอร์ชั่นปากจัดดีกว่า สายตากรุ้มกริ่ม มือไวถึงเนื้อถึงตัวนี่คืออะไรวะ



   “อย่ามาทำอะไรน่าขนลุกได้มั้ยวะ”



   “หึ ไอ้ยอดชงมาดิ”สายตาที่มองมาเปลี่ยนไป มันขยับตัวออกห่างผม   แล้วเปลี่ยนท่าทีในทันใด คนบ้าอะไรเปลี่ยนไวยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี



   “เดี๋ยวกูมา”ผมหันไปบอกไอ้อ๊อดที่นั่งปักหลักซดเหล้าอย่างเดียว ไอ้ธันว์กับไอ้โก้ออกไปล่าสัตว์แล้ว



   “ไปไหน”


   “สูบบุหรี่”มันพยักหน้ารับผมก็เดินออกมาเลย ดูเวลาแล้วไอ้คิมคงไม่มาแล้ว ป่านนี้ตีกับเมียตายไปแล้วมั้ง ผมดูดบุหรี่อยู่พักหนึ่ง เห็นไอ้ธันว์หิ้วสาวออกไปหลังไวๆ ไอ้นี่ได้เสียน้ำทุกคืนเลยเว้ย บางทีผมก็สงสัยว่ามันจะหยุดที่ใครคนใดคนหนึ่งได้มั้ย แต่ก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าคงไม่ได้



   ผมกลับไปที่โต๊ะอีกทีก็เจอคนแปลกหน้ามานั่งแทนที่ เฮียเสกมานั่งร่วมโต๊ะด้วยผมที่กะว่าจะขอตัวกลับก่อนก็ถูกดักคอเลยต้องนั่งดื่มต่อ แล้วก็ทำให้ผมได้รู้ว่าคนที่มาใหม่นั่นชื่ออาร์เป็นเจ้าของโชวร์รูมรถนำเข้าที่เอ่ยชื่อไปใครๆก็ต้องรู้จัก แต่ที่ต้องแปลกใจก็คือเขาเป็นนักแสดงที่เล่นละครเรื่องเดียวกับไอ้พาย โลกมันแคบไปจริงๆ



   “ได้เสื้อผ้าคืนแล้วใช่มั้ย”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันมานั่งข้างผม ไม่เข้าใจจะอะไรนักหนากับเสื้อผ้าชุดนั้น ทำไมมันดูวอแวผมแปลกๆ



   “อืม”ไม่อยากเสวนาด้วย



“ขอบคุณสักคำน่ะมีมั้ย”



“ขอบคุณ ขอโทษ คำพูดพวกนี้มันต้องออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ถ้าไม่รู้สึกจะให้พูดได้ไง”



“ปากดี”



“ไม่ใช่ดีแค่ปากนะ รู้ยัง”กวนตีนแม่ง น่ารำคาญจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่าแต่สายตาของมันดูไม่น่าไว้วางใจเลยจริงๆ



“ยัง...แต่ถ้าอยากให้รู้เราก็คงต้องมาเจอกันบ่อยๆดีมั้ย?”



“ใครเขาอยากจะเจอด้วย”



“แต่ดูเหมือนว่าเราคงจะหนีกันไม่พ้นนะ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องเจอ คนรอบตัวเราดูเกี่ยวข้องกันไปหมด”



“แล้วไง?”


“ก็ไม่ไง แต่ไม่คิดหน่อยเหรอ ว่าเราอาจจะมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่...”มือมันเลื่อนมาอยู่ที่หน้าขาผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอมันลูบๆคลำๆเท่านั้นผมขยับขาหนีแทบไม่ทัน


“นี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นะ”สายตาหยาดเยิ้มของมันทำเอาผมจะอ้วก! พรหมลิขิตห่าเหวอะไร การที่ผมมาเจอกับมันมันคือเวรกรรม! เวรกรรมเท่านั้น
   






------

ชี้แจงสักเล็กน้อย เรื่องคณะและมหาวิทยาลัยล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จินตนาการขึ้นมานะคะ แต่อาจจะไปคล้ายคลึงกับสถานที่จริงอยู่บ้างก็เพราะเอาจากหลายๆที่มาผสมกัน ฮ่าาา ดังนั้นไม่ต้องเดาว่าเรียนที่ไหนกันเนอะ ตัวละครเพิ่มมาเรื่อยๆ แต่เพิ่มมาอย่างมีความหมายนะคะ เนื้อเรื่องอาจจะดูเรื่อยๆ เพราะกำลังปูทางอยู่ ปูนานมาก 7 ตอนละ 55555 ถ้าใครสงสัยว่าทำไมพายเดี๋ยวเรียกพี่เดียวว่าพี่บ้าง อาจารย์บ้างไม่ต้องงนะคะ เราตั้งใจไม่ได้ลืมหรือพิมพ์ผิด มันเป็นอารมณ์ประมาณว่าเรียกอาจารย์มาชินปากแล้วก็มาเปลี่ยนเรียกพี่ พอไปเรียนเจอหน้าเรียกอาจารย์งี้ มันก็ต้องมีสับสนบ้างถูกมั้ยคะ ส่วนใครที่สงสัยพฤติกรรมพี่เดียวที่ตั้งแต่ตอนแรกจนมาถึงตอนนี้แล้วมันดูไม่เหมือนเดิม มันมีเหตุผลนะคะ ไม่ได้หลุดคาแรคเตอร์แต่อย่างใด
เราย้อนไปอ่านตอนที่ลงแรกเห็นว่ามีคำผิด ตกหล่นหลายจุดทั้งที่พยายามอ่านทวนแล้วยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ จะพยายามแก้ไขเนอะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ ^^

 :mew1: :pig4:


   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 29-11-2015 23:55:42
มาต่อแล้วววววว ดีใจ มาต่อบ่อยๆนะคะ เรารออ่านเรื่องนี้ตลอด ชอบ จะรออ่านเนื้อเรื่องที่เข้มข้ม อยากอ่านพี่เดียวในรูปแบบที่ลึกกว่านี้  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 30-11-2015 00:32:59
รอติดตามนะคะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-11-2015 06:59:46
ตอนก่อนโน้นจะบอกว่า พายอาจจะคู่กับพี่อาร์ รึเปล่า
พี่เดียวนี่ตอนเจอกันแรกๆปากจัดใส่ พอจะจีบน้องเลยเมิน ฮา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 30-11-2015 22:21:36
ทำไมเริ่มรู้สึกระแวงอาจารย์พี่เดียวก็ไม่รู้ เหมือนมีอะไรยังไงซักอย่าง


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 30-11-2015 23:54:17
กำลังสนุกเลย มาต่อเร็วๆนะ :mew1:
ตอนนี้เหมือนบอกให้รู้ว่า มีหลายคู่! ใช่มะ? :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 01-12-2015 00:08:44
+1 เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ
เรื่องสนุกมาก เราว่าพี่เฟิร์สแอบชอบน่านมาก่อนแน่เลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 01-12-2015 14:05:17
พี่เดียวเเอบชอบปะเนี่ย55555555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 01-12-2015 14:27:44
พี่เดียวดูเจ้าเล่ห์ยังไงไม่รู้

มาต่ออีกน้าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 02-12-2015 20:03:50
พี่เดียว ชอบก็จีบ ชอบก็จีบเลยเซ่
เจอกันครั้งแรกด่าจนเขาเกลียดขี้หน้า
พอตอนนี้มาวอแว คนถูกรุกทำตัวไม่ถูกค่ะ
เพราะงั้นต้องรุกอีกเยอะๆ เอาให้ตั้งตัวไม่ติด อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.7 [29.11.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 02-12-2015 20:25:45
 :ling3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 03-12-2015 23:16:56
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 8 -






   ปึก!





   “ใครเป็นคนดูแลเรื่องนี้”ผมเอ่ยขึ้นหลังจากโยนแฟ้มรายงานค่าใช้จ่ายสำหรับการถ่ายโฟโต้ช็อตเครื่องเพชรที่ถูกเสนอมา กวาดตามองไปรอบห้องประชุมเล็กแต่ละคนก้มหน้าไม่สบสายตาทั้งที่ผมก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น



   “ผมถามว่าใคร!”ไม่ชอบจริงๆ เวลาถามอะไรแล้วไม่ได้คำตอบ ลืมเอาปากมาทำงานหรือไง



   “ผมเองครับ”



   “คุณอากร ไหนตอบผมสิ ทำไมงบประมาณการถ่ายรูปมันถึงได้สูงกว่าครั้งก่อนขนาดนี้ครับ ทั้งที่มันไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมหรือแปลกใหม่กว่าเดิมเลย”เรื่องราว คอนเซ็ปต์ สถานที่การถ่ายทำ เดิมๆซ้ำๆ แต่ค่านั่นค่านี่ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด ความจริงงานที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายก็สูงเกินจริงอยู่แล้วในความรู้สึกผม แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้ลงมาจับงานด้านนี้เต็มตัว คุณหญิงป้ายังคงเป็นคนดูแลงานอยู่ ผมจึงไม่ได้เจาะรายละเอียดลงลึก แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ผมเข้ามาบริหารที่นี่ อะไรเดิมๆที่มันไม่ดีก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว คุณหญิงป้าเป็นคนใจดี ความผิดเล็กๆน้อยๆท่านมันจะปล่อยผ่าน แต่สำหรับผมไม่ว่าความผิดนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็จะต้องถูกกำจัดออกไป เพราะจุดเล็กๆมันอาจจะลุกลามใหญ่โตได้



   “คือ...”



อึกอักเพราะไม่ได้เตรียมคำตอบมา แน่สิเพราะผมเรียกประชุมด่วนทันทีที่เห็นงบค่าใช้จ่าย พวกตัวเล็กๆนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย หัวหน้าสั่งให้ทำอะไรก็ทำ บางคนอาจจะสงสัยแต่เป็นผู้น้อยไม่กล้ามีปากเสียงเพราะกลัวจะเดือดร้อนไปด้วยจึงปิดปากเงียบ บางคนเผลอๆมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ด้วย ผมจะขุดรากถอนโคนให้หมด พวกเห็บเหาที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อ



   “คุณทิชาช่วยหาบริษัทใหม่เข้ามารับงานนี้ด้วย”ชักช้าน่ารำคาญ ผมไม่ต้องการบริษัทนี้ให้มาทำงานด้วยอีกต่อไป การฮั้วกันแบบนี้ผมไม่นิยม งานก็ไม่ได้มีการพัฒนา



   “แต่ว่าเราใช้บริษัทนี้มานานแล้วนะครับ”



   “แล้วยังไง คุณคิดจะใช้ไปจนตายหรือไงครับ อย่ายึดติด อะไรที่มันเก่าที่มันไม่ดีก็ควรมีการเปลี่ยนแปลง โลกมันไปไกลแล้วครับ สมัยนี้ช่างภาพฝีมือดีมีเยอะแยะไป ไม่จำเป็นต้องใช้อยู่บริษัทเดียว แล้วราคาขนาดนี้คุณคิดวามันสมควรกับผลงานดาษๆที่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอย่างนั้นหรือ”นับวันยิ่งห่วย



   “แต่บริษัทใหม่เราจะไว้ใจได้เหรอครับ เครื่องเพชรแต่ละชุดราคาสูงทั้งนั้น เกิดเล่นตุกติกขึ้นมา...”



   “คุณอากร...คุณคงลืมคิดไปว่าอะไรที่เก่า เห็นกันมานานก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ จริงมั้ยครับ?”หวังว่าจะรู้ตัวบ้างนะว่าถูกด่าอยู่



“แล้วคุณก็ทำงานมานานถ้าหากจะปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเครื่องเพชรของเราได้ ผมว่าคุณก็ควรพิจารณาตัวเองซะ!”



ถ้าไม่คิดว่าควรจะรักษาภาพลักษณ์ผู้บริหารไว้ผมจะด่าให้แรงกว่านี้อีก ชอบตอดเล็กตอดน้อย กินตรงไหนได้ก็กินแบบนี้มันไม่ควรเก็บไว้ ซ้ำยังน่าเจ็บใจตรงที่ว่าเป็นคนเก่าคนแก่ที่ควรจะรักในองค์กร ช่วยกันพัฒนาไม่ใช่คอยบ่อนทำลายแบบนี้



“เลิกประชุม คุณทิชา บ่ายนี้ผมต้องได้รายชื่อบริษัทใหม่ ให้คุณนำมาเสนอผมโดยตรง”



“ค่ะ”



เบื่อจะอารมณ์เสีย ความจริงผมไม่ค่อยชอบงานบริหารเท่าไหร่ แต่เมื่อมันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ผมสร้างไว้ลูกอย่างผมก็ต้องสานต่อและทำให้มันเจริญรุ่งเรืองเพื่อให้ท่านได้ภาคภูมิใจแม้ว่าท่านทั้งสองจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม ท่านจากไปตอนที่ผมอายุสิบขวบเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ฝรั่งเศสบ้านเกิดของแม่ผมเอง ผมเติบโตมากับคุณหญิงป้าที่เป็นพี่สาวแท้ๆของพ่อผม ญาติฝั่งแม่ก็มีเพียงแค่คนเดียวแต่เราไม่ได้สนิทกันมากนักตั้งแต่เกิดมาผมเคยเจอแค่สองครั้งเองมั้งซึ่งก็เด็กมากๆแทบจะจำหน้าไม่ได้ แม่ผมเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสเกาหลี ใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศสตั้งแต่เกิดแล้วพบรักกับพ่อที่นั่น ดังนั้นความเป็นเกาหลีจึงไม่หลงเหลืออยู่ตัวผมเลย  พอแต่งงานทั้งคู่ก็ต้องบินไปๆมาๆระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเพราะแม่มีห้องเสื้ออยู่ที่นั่น ส่วนพ่อผมมีธุรกิจที่สืบทอดมาจากคุณย่าก็คือธุรกิจจิวเวลรี่ ตอนเด็กๆผมเลยแทบไม่มีเพื่อนสนิทเพราะต้องบินตามพ่อกับแม่ จนกระทั่งทั้งสองเสียไปผมจึงอยู่ที่ไทยกับคุณหญิงป้า เริ่มมีเพื่อนก็กลุ่มพวกไอ้อาร์ ไอ้ทักษ์คบกันเรื่อยมา ห่างกันตอนผมไปเรียนปริญญาตรีที่ฝรั่งเศส แล้วก็เรียนปริญญาโทที่อเมริกา แต่ตอนเรียนปริญญาโทไอ้อาร์มันไปเรียนกับผมด้วยช่วงนั้นเลยสนุกกันสุดๆ



   “คุณอ้อม วันนี้ผมมีนัดสำคัญที่ไหนหรือเปล่า”ผมถามเลขาที่เลือกเองกับมือ ทำงานเก่งพอๆกับเก็บความลับเก่ง ความสามารถรอบด้านมากเหมาะสมกับเงินเดือน ที่สำคัญไม่มีการทอดสะพานเหมือนกับรายอื่นที่ผมเคยเจอ ซึ่งผมชอบมาก ผมต้องการคนที่มาทำงานจริงๆไม่ใช่มาเร่ขายของเก่า พยายามใช้เต้าไต่



   “มีดินเนอร์กับคุณหญิงที่บ้านค่ะ แต่ว่าต้องแวะรับคุณเฟิร์สที่มหาวิทยาลัยก่อนนะคะ”



   “ครับ”นึกถึงเฟิร์สแล้วก็ขำ เด็กบ้าอะไรกวนประสาทเป็นที่หนึ่ง แก่แดดแก่ลมแล้วก็ชอบมโนสมควรจะไปเรียนนิเทศมากกว่าบริหาร



   “บอสจะจัดการยังไงกับคุณอากรต่อไปคะ”



   “หลังจบงานนี้ผมจะจัดการขั้นเด็ดขาด คุณช่วยรวบรวมหลักฐานต่างๆให้ผมด้วย ผมคิดว่าไม่ได้มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว”



   “ได้ค่ะ แล้วคุณทิชาจะไม่เป็นไรเหรอคะ”



   “ทิชาผมก็เลือกเองกับมือเหมือนคุณ”พูดแค่นี้ก็น่าจะรู้ ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองแน่ แต่ผมก็ไม่ได้โง่ที่จะมองคนไม่ออก ผมรู้ว่าใครทำงานได้หรือไม่ได้ มีศักยภาพแค่ไหน ตั้งแต่เข้ามารับช่วงบริหารงานเต็มตัว ผมก็รับพนักงานใหม่เข้ามาสี่คน เลขานุการ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายบัญชี แล้วก็ฝ่ายออกแบบ สี่คนนี้เป็นคนของผมอย่างเต็มตัว ถึงจะใหม่สำหรับที่นี่แต่ฝีมือเก๋าพอตัว เลือดใหม่ไฟแรงและมีทัศนคติต่อการทำงานที่ดี



   “ค่ะ งั้นอ้อมขอตัวก่อนนะคะ”



   “อ้อ ขอกา...”



   “สวัสดีครับคุณเลขาคนสวยยยย”ผมยังไม่ทันจะพูดจบไอ้ตัวไร้มารยาทเปิดประตูผลัวะเข้ามาโดยไม่เคาะ นี่มันห้องผู้บริหารระดับสูงนะเว้ย ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ



   “สวัสดีค่ะคุณทักษ์ อ้อมคงสวยสู้เด็กหน้ารถคุณทักษ์เมื่อวันก่อนไม่ได้หรอกคะ”ถ้าคิดจะจีบเลขาผมต้องมีกึ๋นกว่านี้ คำยออย่างเดียวไม่มีผลอะไร



   “โถ่ คุณอ้อมก็ เล่นผมซะละ”ยิ้มตาหยีไม่มีสะทกสะท้าน



   “มึงมาทำไมไอ้ทักษ์”ผมโบกมือให้อ้อมออกไป รำคาญเสียงไอ้ทักษ์เห่าหอนเครื่องบิน อันที่จริงแล้วคุณหญิงป้าไม่ชอบให้ผมพูดคำหยาบคาย เพราะมันอาจจะทำให้ติดตัวติดปากเผลอพูดในสถานที่ที่ไม่ควร ผมก็ฟังท่านนะครับ แต่ว่าในระหว่างกลุ่มเพื่อนฝูงก็ต้องมีเว้นไว้บ้าง เรียกว่าพูดจาให้เหมาะสมกับบุคคลที่เราสนทนาด้วย รู้จักกาลเทศะ ต้องคิดก่อนพูดทุกครั้ง มีสติก่อนจะอ้าปากนั่นจะทำให้เราไม่พลาด



   “โหย เจอหน้าก็ทักกูแบบนี้เลยเสียใจนะเนี่ย”



   “มาทำไม”



   “มาชวนมึงไปแดกข้าวไง”



   “งานไม่ทำ?”



   “ทำสิวะ กูเพิ่งคุยกับลูกค้าเสร็จ มึงอยู่ใกล้ๆเลยแวะมาชวนมึงไปกินข้าว ไม่ติดนัดอะไรใช่มั้ย”



   “ถ้ากูติดล่ะ”



   “งั้นกูยืมตัวเลขามึงไปกินเป็นเพื่อนก็ได้”



   “เลิกฝันกลางวันเถอะ”





   X





   ผมวนหาที่จอดรถเพื่อรอเฟิร์สเลิกเรียน ไม่น่าเชื่อว่าผมจะมาถึงก่อนเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง จู่ๆวันนี้รถก็ไม่ติดขับผ่านฉลุย ถ้าเป็นวันอื่นๆติดแหงกเป็นชั่วโมงป่านนี้คงยังไม่ถึง ตอนที่ผมกลับมาถึงไทยใหม่ๆ เพื่อนได้แนะนำผมให้รู้จักกับคณบดีคณะบริหารของที่นี่ คุยกันไปคุยกันมาท่านเลยอยากให้ผมมาเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนึ่งวิชา ผมเห็นว่ามันน่าลองและอยากถ่ายทอดความรู้ที่เรียนมาให้พวกน้องๆเลยตกปากรับคำ ผมไม่ได้บอกเฟิร์สแต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปรู้มาจากไหนวันแรกที่ผมมาสอนไอ้ตัวดีก็ถลาเข้ามาหาแล้วดึงผมไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆเสียอย่างนั้น



   พอหาที่จอดรถได้ผมก็มานั่งรอที่ร้านกาแฟที่อยู่ด้านข้างของคณะ ไม่มีนักศึกษาในร้านเลยสักคน คงยังไม่เลิกเรียนกันหรือไม่ก็ไปสุมหัวกันที่ร้านเค้กเปิดใหม่แถวหน้ามหาวิทยาลัย ผมไล่สายตามองรายการเครื่องดื่ม มาร้านกาแฟแต่ไม่อยากดื่มกาแฟซะงั้น เลยสั่งชาผลไม้มาแทน หวานแสบคอแต่ก็ดีกว่าจืดเป็นน้ำล้างถ้วย มองออกไปด้านนอกก็ต้องหยุดสายตาไว้ที่คนๆหนึ่ง สีผมสะดุดตาแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าหน้าตาไม่ดีจริงทำสีนี้ดับเลยนะครับ อีกอย่างต้องมั่นใจในตัวเองมากๆด้วย ใครจะมองก็อย่าได้แคร์



   เด็กคนนี้ทำเอาผมไม่ถูกชะตาด้วยจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันหรอกนะครับ ความจริงผมก็จำชื่อกับหน้านักศึกษาได้ไม่ทุกคนหรอก เพียงแต่ผมจำได้ว่าใครที่ไม่ได้เข้าเรียนครั้งก่อนบ้าง วันนั้นเห็นว่ามาเช็คชื่อก็เลยจะเรียกมาคุยแล้วก็ชี้แจงเรื่องที่ผมสอนไปในครั้งก่อน และเป็นที่บังเอิญว่าพายแสดงละครเรื่องเดียวกับไอ้อาร์ ผมเคยเห็นเขาเลยจำหน้าได้  แล้ววันนั้นก็ดันมีนักศึกษาสีผมประหลาดสะดุดอยู่หนึ่งคนผมเลยลองเชิงถามไป แต่ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะดันตกหลุมตื้นๆที่ผมยังไม่ทันออกแรงขุดเลยด้วยซ้ำ



ชลธรหรือน้ำน่านที่ผมเพิ่งมารู้จักชื่อเล่นทีหลังเพราะได้ยินเฟิร์สเรียก ถึงจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่แต่ในสายตาผมเขาก็ยังคงเป็นเด็ก เด็กที่มีอีโก้สูงมากๆ เชื่อมั่นในตัวเองสุดๆ ตอนที่ผมว่ากระทบไปคงอยากจะเถียงน่าดู แต่คงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงได้เก็บอาการไว้ แต่ถึงอย่างหน้าสีหน้าก็ดูต่อต้านสุดๆ  แล้วเราก็มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งที่ร้านไอ้เสก ไม่รู้ว่าจำผมได้หรือเปล่าเพราะการแต่งตัวของผมวันนั้นกับตอนไปสอนที่มหาวิทยาลัยค่อนข้างแตกต่างกัน ก็คงจะจำได้ละมั้งแต่ผมไม่มีอารมณ์สนใจคนกำลังรีบ อีกอย่างตอนนั้นผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรด้วยก็แค่เพื่อนของลูกศิษย์ แต่ที่ผมจำได้ขึ้นใจโดยไม่ต้องพึ่งสีผมก็ตอนที่ได้ยินเด็กนั่นยืนด่าผมอยู่หน้าห้องน้ำ ซ้ำยังปากดีมาวิพากษ์วิจารณ์รสนิยมของคนอื่นอย่างไม่รู้จริง ผมไม่ชอบให้ใครมาตัดสินคนอื่นจากความคิดของตัวเองโดยที่ยังไม่รู้จักเขาดีพอ ยิ่งถ้าไปพูดกับคนอื่นก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับคนที่ถูกพาดพิงถึงได้  แต่วันนั้นผมก็ปากไวไปหน่อยแต่ก็ถือว่าได้สะใจเล็กๆน้อยๆที่เห็นสีหน้าเหมือนคนเห็นผีตอนที่ผมบอกว่าอาจจะสนใจในตัวเขา แน่นอนว่าผมไม่ได้คิดอย่างนั้น



ผมตั้งปณิธานไว้ในใจเลยว่าถ้าเจอกันอีกครั้งผมจะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้าง แล้วเราก็ต้องเจอกันอีกครั้งจนได้ เจอในสภาพที่เด็กนั่นเมาเหมือนหมามานอนฟุบอยู่ข้างรถจนผมต้องหิ้วขึ้นคอนโด ความจริงจะทิ้งไว้ก็ได้แต่สงสารและสมเพชเลยต้องพามานอนด้วย ตอนแรกว่าจะทิ้งให้นอนพื้นหน้าทีวีแต่ดันพาเข้าห้องนอนตามความเคยชินก็เลยปล่อยเลยตามเลย เด็กนั่นหน้าตาดีเอามากๆ ท่าทางจะเจ้าชู้ฟันสาวมาเยอะ ร่องรอยการกรำศึกที่อกและแผ่นหลังนั่นเป็นสิ่งการันตีความคิดของผมได้เป็นอย่างดี แล้วก็คงจะฟันผู้ชายมาด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่มองเฟิร์สตาพราวขนาดนั้น แล้วผมก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนี้คงมีคนมาติดพันไม่น้อย ซ้ำรสนิยมที่หญิงก็ดีชายก็ได้ต้องผ่านศึกมาอย่างโชกโชนแน่ๆ การจะทำให้คนแบบนี้เสียความมั่นใจได้ก็ต้องทำให้รู้สึกว่าตกเป็นรอง แม้ว่าจะพยายามสู้เท่าไหร่ก็สู้ไม่ได้ ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม คิดแล้วก็ชักสนุก ใครจะหาว่าผมรังแกเด็กก็ช่าง เด็กแบบนี้น่าสงสารตรงไหนกัน แต่ว่านะมีสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆในตัวของเด็กนั่น แต่ผมไม่บอกหรอกว่าอะไร



“นั่นแน่! ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้เจออะไรดีๆเข้าล่ะสิ”ไอ้ตัวดีโผล่มาแล้วครับ



“มองไรอยู่อ่ะ”หลังจากคว้าแก้วชาผลไม้ผมไปดูดอึกใหญ่ก็ชะเง้อคอมองตามสายตาของผม เด็กนั่นไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วครับ เดินไปกับพายก่อนที่เฟิร์สจะมาถึงได้เกือบสิบนาทีแล้ว แต่ที่ผมยิ้มอยู่ก็เพราะนึกถึงเรื่องที่ผมแกล้งเด็กนั่นยังไง นึกถึงวันที่ไปทานข้าวที่บ้านวันนั้น ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเวรกรรมหรือว่าโชคชะตาที่ทำให้เรามาเจอกันตลอด คนรอบข้างของเราทั้งคู่ก็พัวพันกันเหลือเกิน การเลี่ยงที่จะไม่เจอกันนั้นยากมากซึ่งก็เข้าทางผมพอดี



“ไม่ได้มองอะไรสักหน่อย ไปกันได้แล้วเดี๋ยวรถติด”ผมคว้าคอไอ้ตัวแสบติดมือมาที่ลานจอดรถ เป็นช่วงเวลาเลิกเรียนพอดีเลยมีคนมองอย่างสนใจค่อนข้างเยอะ เฟิร์สเป็นเด็กที่โดดเด่นอยู่แล้ว หน้าตาผิวพรรณดีมากๆ รูปร่างหน้าตาก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าดึงดูดเพศไหน ยิ่งมีตัวเสริมบารมีอย่างเพชรกับยุ่งก็ยิ่งเป็นที่สนใจ แต่วันนี้เดินกับผมนักศึกษาแถวนั้นยกมือไหว้ผมกันเป็นแถว ทำให้ผมต้องยกมือรับไหว้ เฟิร์สเดินแจกจ่ายยิ้มหวานเรี่ยราดอยู่ข้างๆ จากคนที่กำลังจะเดินผ่านไปก็ต้องหันมามองกันเป็นแถบ



“พี่เฟิร์ส!”



“อ้าว พายว่าไง”คนที่ผมคิดว่ากลับไปกับน้ำน่านแล้ววิ่งเข้ามาดูท่าทางรีบร้อน เหงื่อเต็มหน้าไปหมด



“เอกสารที่ผมเคยขอยืมพี่อ่ะจำได้ป่ะ พี่สะดวกเอามาให้เมื่อไหร่ครับ”



“อ๋อของอาจารย์พรรณใช่ป่ะ พรุ่งนี้พี่เอามาให้เลยก็ได้ โทษทีนะ พี่ลืมสนิทเลยอ่ะ”



“แฮ่ ไม่เป็นไรครับ แต่พรุ่งนี้ห้ามลืมนะ เอ้า อาจารย์หวัดดีครับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมผมไม่เห็น”พายหันมาทำตาโตใส่ผม ได้ข่าวว่ายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรกตัวก็ไม่เล็กทำไมไม่เห็น



“ไปก่อนนะครับ สวัสดี”



“เดี๋ยวพาย”ผมนึกอะไรบางอย่างได้ เดินไปหยิบถุงที่อยู่ติดรถตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนมา ปกติมาทำงานผมไม่ได้ขับแอสตันลูกรัก ลูกชายต้องเอาไปตอนออกงาน ออกเที่ยว



“ครับ?”



“ฝากไปคืนเพื่อนเราด้วย”



“....?”ทำหน้าเหมือนหมางงเลยเว้ย



“น้ำน่าน”



“อ๋อออ ครับ งั้นผมไปแล้วนะ”มาไวไปไว วิ่งปรู๊ดไปเลย ความจริงแล้วพายก็เป็นเด็กที่ร่าเริงแล้วก็น่ารักดี ดูมีมารยาทมากกว่าเพื่อนตัวเองเป็นไหนๆ แต่ทำไมไอ้อาร์ถึงไม่ค่อยชอบหน้าก็ไม่รู้ อาร์คือเพื่อนสนิทของผมที่เป็นนักธุรกิจอยู่ดีๆก็ผันตัวไปเป็นนักแสดงซะงั้น อันที่จริงก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่ถูกอาที่เป็นผู้จัดละครขอร้องแกมบังคับมา ก็นะหลานหน้าตาดีแบบโฉดๆเหมาะกับบทคนเลวๆ



“พี่เดียวอ่ะ!”พอหันมาไอ้เด็กข้างๆก็ทำหน้างอใส่



“อะไรอีกอ่ะ”



“ทำไมไม่ไปคืนน้ำน่านเองล่ะ ไม่ได้เรื่องเลยพี่นี่”



“บ่นอะไรหะ ขึ้นรถไป”ผมส่ายหน้าระอา เฟิร์สคงคิดว่าผมสนใจน้ำน่านจริงๆละมั้ง มโนเอาเองว่าที่ผมมองเด็กนั่นบ่อยๆนั้นเป็นเพราะผมชอบอีกฝ่ายซึ่งมันไม่ใช่เลย ผมกำลังเก็บข้อมูล เคยได้ยินมั้ยครับรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง



“ก็ถ้าเอาไปคืนเองก็จะได้มีเรื่องสานต่อกันอีกไง เฟิร์สชอบน้ำน่านนะ เท่อ่ะ หล่อมากด้วย แต่มองอีกทีก็ดูน่ารักนะ”



“เพ้อเจ้อ ไร้สาระ หันไปนั่งดีๆ”ผมเอามือผลักอกเฟิร์สให้หันกลับไปนั่งตัวตรง เพราะตะแคงข้างมาทั้งตัวแบบนี้มันบังกระจกข้าง ไอ้ตัวดีบ่นไปตลอดทางจนถึงบ้านนั่นแหละ ผมเลี้ยวรถเข้าสู่อาณาจักรเกียรติไพศาล สถานที่ที่ผมอยู่หลังจากพ่อกับแม่เสียไป ผมเป็นลูกชายคนเดียว แต่กลับไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิด เพราะผมเติบโตมากับลูกพี่ลูกน้องอีกสี่คน พี่แชมป์ วิน เฟิร์ส แล้วก็ยัยเกรทที่เป็นน้องสาวคนเดียวของพวกเรา



“พี่เดียวววว”ร่างเล็กถลาเข้ามากอดผมเต็มแรง ผมกอดหอมน้องอย่างเอ็นดู เกรทเพิ่งเรียนม.ห้าเอง แทบจะเรียกว่าเป็นลูกหลง ทุกคนคอยประคบประหงมสุดๆ จะมีก็แต่เฟิร์สที่คอยแหย่ คอยแกล้งน้อง จนทุกคนลงความเห็นเฟิร์สอิจฉาน้องที่เกิดมาเพื่อแย่งความสนใจและแย่งตำแหน่งน้องเล็กของบ้านไป แต่จริงๆเฟิร์สรักยัยเกรทมากนะครับ ก็แค่แหย่เล่นกันไป



“คิดถึงพี่เดียวจังเลย”



“เว่อร์ๆ เพิ่งเจอไปเมื่อวันอาทิตย์”



“ชิ เค้าไม่ได้พูดกะตัวซะหน่อย”นั่นไง เริ่มกันอีกแล้ว



“หยุดเลยๆ กัดกันทุกวันไม่เบื่อบ้างหรือไง”



“พี่เดียวเฟิร์สไม่ใช่หมานะ”



“พี่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นสักหน่อย”หน้างอเดินหนีไปเลยผมได้แต่ส่ายหน้า เกรทมาควงผมพาเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ในหนึ่งสัปดาห์ผมจะต้องมาทานข้าวที่บ้านใหญ่สองครั้งเป็นอย่างต่ำ คุณหญิงป้าไม่ประสงค์จะให้หลานชายอย่างผมหายหน้าหายตาไป ซ้ำยังคอยกล่อมให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ความจริงผมมีบ้านที่แยกเป็นส่วนตัวซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันแต่ห่างออกไป คุณหญิงป้าสร้างไว้ให้เพื่อรอผมกลับมาอยู่ที่ไทย แต่ผมดันไปซื้อคอนโดอยู่เป็นส่วนตัว



“ตาเดียวของป้า”คุณหญิงป้าเข้ามากอดหอมเหมือนผมเป็นเด็กน้อย แต่ผมชอบนะครับมันอบอุ่นดี คุณป้าดูแลผมดีมากๆตั้งแต่เด็กเพราะกลัวว่าผมจะขาดความรักเนื่องจากไม่มีพ่อแม่คอยดูแลแล้ว และท่านก็ทำได้ดีมากผมไม่เคยรู้สึกขาดเลย และก็ไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของครอบครัวนี้ด้วย คุณลุงเองก็รักผมเหมือนลูกแท้ๆ เวลาท่านไปดูงานที่อเมริกาก็จะไปหาผมตลอด ชวนกันไปเที่ยวจนคุณป้าต้องโทรมาตามให้กลับ แต่เสียดายที่ท่านมาด่วนจากไปเมื่อปีสองปีก่อน แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงเพราะมีลูกชายคนโตอย่างพี่แชมป์ที่มาสืบทอดทุกอย่างและทำได้ดีมากๆสมกับเป็นเกียรติไพศาล อีกไม่นานเฟิร์สก็จะมาช่วยงานอย่างเต็มตัว คุณหญิงป้าคงได้วางมือสักที ส่วนนายวินมันอายุเท่าผม ไม่ได้สืบทอดเป็นทายาทนักธุรกิจ ผ่าเหล่าไปเรียนหมอซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร เหลือแค่ยัยเกรทคนสุดท้ายที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนด้านไหน เห็นคุยว่าไม่ว่าจะด้านไหนก็เรียนดีไปหมด หมั่นไส้แกมเอ็นดูกันไป



“ผอมไปหรือเปล่าลูก”



“เปล่านะครับ ปกติดี”กินอิ่มนอนหลับ งานก็ไม่ได้เครียดอะไรมาก ดังนั้นไม่ผอมแน่นอน ถ้าจะอ้วนขึ้นนี่ก็ไม่แน่เพราะช่วงนี้ไม่ได้เข้ายิม แค่วิ่งตอนเช้านิดๆหน่อยๆ แต่เหมือนคุณป้าจะไม่เชื่อ ตอนทานอาหารจึงตักนั่นตกนี่ให้ผมไม่หยุดจนเฟิร์สต้องเอ่ยปากแซวแม่ตัวเอง



“เออ นายเดียว”



“ครับ”



“ช่วยหาแบบชุดเครื่องเพชรเอาไว้ให้พี่หน่อยสิ มะรืนนี้พี่จะพาคนเข้าไปดู”



“ใครครับ แล้วจะเอาแนวไหน?”ผมถามพี่แชมป์



“นลิน เอาแบบที่เจ้าสาวเขาใส่กันน่ะ”



“เจ้าสาว? พี่แชมป์จะแต่งงาน?!”โคตรเซอร์ไพรส์ ผมมองหน้าพี่แชมป์ที่ยิ้มเต็มใบหน้า คนอื่นๆก็เช่นกัน กรุ้มกริ่มกันทั้งบ้าน



“อือ”เขินด้วยเว้ยพี่ชายผม ฮ่าๆ



“แก่ป่านนี้แล้วยังจะมาเขินอีก”ทายสิว่าปากใคร



“ตาเฟิร์สก็ไปว่าพี่เขา นานๆทีจะเห็นลูกชายคนโตของแม่เขิน สามสิบกว่าปีจะมีสักที”



“คุณแม่คร้าบบบไม่แซวเลย”พี่แชมป์ครวญ



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารชื่นมื่นขึ้นมามากๆเลยละครับหลังจากที่ผมทราบข่าวดี จริงๆที่นัดมาทานข้าววันนี้ก็เพราะจะมาบอกเรื่องนี้นี่เอง เพิ่งไปตกลงสู่ขอกันเมื่อวานนี้เอง งานมงคลน่าดีใจ พี่แชมป์ก็เข้าเลขสามมาสามสี่ปีแล้วควรจะมีครอบครัวได้แล้ว ตอนนี้การงานทุกอย่างก็ลงตัว อยู่ตัวแล้ว ถ้าพี่แชมป์แต่งงานจะได้มีลูกมีหลานตัวเล็กๆมาให้บ้านสดชื่นสดใส



“พรุ่งนี้พาพี่นลินมาที่บ้านแล้วกันนะครับ ผมจะเอาแบบมาให้ดูเป็นแนวทางแล้วจะออกแบบให้เอง”



“นายจะออกแบบให้เองเลยเหรอ?”



“ใช่สิครับ งานสำคัญของพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ทั้งทีจะให้คนอื่นมาทำให้ได้ไง”งานออกแบบเครื่องประดับเป็นงานที่ผมรักมากๆ นอกจากคนในครอบครัวแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าผมออกแบบให้กับ VW Jewelry ทุกคนจะเห็นผมเป็นเพียงแค่ผู้บริหารเท่านั้น



ผมนั่งคุยกับคุณหญิงป้าอยู่พักใหญ่ก่อนจะขอตัวกลับ สวนกับนายวินที่ออกเวรมาพอดี คุณหมอดูท่าทางเหนื่อยอ่อน ก็อาชีพของเขาต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและเวลาให้กับการรักษา ผมนับถือจริงๆ






(ต่อหน้าถัดไป)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 03-12-2015 23:17:27
“เออ เดี๋ยวกูออกไป ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน มึงรีบหรือไงไอ้บอส”ผมจะขออาบน้ำหน่อยก็ไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้กลับห้องตามที่ตั้งใจ โดนโทรตามระหว่างทาง กินกันได้เกือบทุกวันเหล้ายา แต่บางทีก็แค่ไปจิบคลายอารมณ์ไม่ได้เมามายอะไร แค่อยากเจอเพื่อนฝูงนั่งคุยนั่งส่องของสวยๆงามๆแล้วก็แยกย้ายกันกลับ คือแต่ละคนก็มีหน้าที่การงานที่รับผิดชอบกันสูงส่งทั้งนั้น เลิกงานก็อยากผ่อนคลายกันบ้าง แต่ถึงจะเมาก็ไม่เคยเสียงาน ส่วนมากพวกผมรู้ลิมิตกันดีครับ โตแล้วไม่ใช่เด็กๆที่ขาดความยั้งคิด




“ต้องให้ได้อย่างนี้สิเพื่อนรัก กลับมาอยู่ไทยแล้วต้องตามตัวเจอ ไม่ใช่หายหัวไอ้สัด”



“ทำไม ไม่เห็นหน้ากูแล้วจะขี้เยี่ยวไม่ออกหรือไงถึงได้ว้อนท์นัก”



หลังจากเรียนจบที่อเมริกาแล้วผมก็กลับไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ไปดูแลร้านเสื้อของแม่ที่ตอนนี้ผมเป็นผู้ถือหุ้นครึ่งหนึ่งแต่ก็ตั้งใจว่าจะขายหุ้นทั้งหมดให้กับคนที่ดูแลปัจจุบัน ผมถือหุ้นนี้มานานตั้งแต่แม่เสียไป ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอะไรมากนัก ตอนที่เรียนอยู่ที่นั่นก็นานๆทีถึงจะแวะไปที่ร้าน ออกความเห็นบ้าง แต่คือคนที่ทำงานมานานรู้เทรนด์มีประสบการณ์สูงคงไม่มาฟังเสียงผม หุ้นที่ถืออยู่ก็เหมือนจะทำให้พวกเขาอึดอัดใจผมเลยว่าจะขาย แม่คงไม่ว่าอะไรเพราะผมต้องมาดูแลธุรกิจฝั่งพ่อ ผมเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง แต่ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องผิดแผน เกิดเรื่องยุ่งๆต้องบินไปบินมาอยู่เป็นปีกว่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ช่วงนั้นผมเลยกลายเป็นบุคคลที่ตามหาตัวยาก



“เออ ไม่เห็นหน้ามึงแล้วปี้สาวไม่สนุก ไอ้สัด”ไอ้ทักษ์ เพิ่งเจอหน้าเมื่อตอนกลางวันนะนั่น



“มึงมีให้ปี้ด้วย?”โดนไอ้ยอดย้อนเข้าให้ ปกติไอ้ตี๋ทักษ์ก็จีบไปทั่ว กะล่อนก็เท่านั้นแต่ไม่ค่อยได้กิน ไม่เหมือนไอ้ยอดมองรายไหนรายนั้นเสร็จมันหมด หน้าดี เป้าตุง กระเป๋าหนักเปไม่อั้น ขอให้ถูกใจลีลาเด็ดกระเป๋าใบละแสนใบละล้านก็ซื้อให้



“เหอะอย่ามาดูถูกกูนะครับพี่น้อง”



“กูก็ไม่เคยดูมึงผิดเลยนะเว้ย”ไอ้บอสร่วมด้วย คนนี้ไม่สนผู้หญิง เน้นผู้ชายล้วนๆ ขอแค่ตัวเล็กๆขาวๆ หน้าจิ้มลิ้มหน่อยพ่อสอยเรียบ



“พวกมึงนิ อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะเว้ย”



“เออถึงสักทีกูรอดูมึงมานานละไอ้เหี้ย ท่าดีทีเหลวตลอด”ไอ้ยอดส่ายหน้าหน่ายๆ



“ไอ้เดียวๆ สาวโต๊ะนู้นส่งสายตาให้มึงอ่ะ”ผมนั่งยังไม่ถึงสิบนาทีจะมีใครส่งสายตามาให้แล้วเหรอ ไอ้ยอดก็ตาดีเหลือเกินเพิ่งจะเปิดศึกน้ำลายกับไอ้ทักษ์ไปแหม่บๆ ไหงมันไปเห็นสายตาเขาได้ยังไง แต่ผมก็มองตามไปนะ ก็เห็นว่ามองมาจริงๆ แต่อาจจะไม่ใช่ผม โต๊ะนี้นั่งกันตั้งหลายคน คืนนี้ไม่มีไอ้อาร์มาด้วย คงสลบไปแล้วงานราษฎร์งานหลวงรุมเร้า



“มึงนิ ทำหน้าไร้อารมณ์ ไม่สนไม่สานต่อหน่อยเหรอวะ”ไอ้ยอดมากระแซะข้างๆ



“กูว่ามันแดกแต่ของนอกจนไม่สนของไทยแล้ว”ไอ้บอสพูด



“หึ”ผมทำได้แค่ยิ้ม ขำหน่อยๆ



“กูไม่เชื่อ อาทิตย์ก่อนมันหิ้วสาวไปเปิดโรงแรมอยู่เลย”เรื่องนี้ผมกินเงียบๆนะเนี่ย ไอ้ทักษ์เสือกรู้อีก ผมไม่พาขึ้นคอนโด ไม่พาเข้าบ้าน โรงแรมคือทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ก็ห้องของคู่นอนทั้งหลาย ผมค่อนข้างหวงพื้นที่ส่วนตัว



“รู้ดีไอ้สัด”



“ไม่ให้กูรู้ได้ไง มึงไปเอากันที่โรงแรมกู”เออจริง ผมลืมไปเลย ก็มันใกล้ที่สุดและคุ้นเคยดีเลยลืมนึกไป แล้วตอนนั้นก็นะอารมณ์มันพีคอ่ะแทบไม่ได้คิดอะไร



“โถะๆๆ กูก็นึกว่าช่วงนี้เหี่ยวเฉาซะอีก ที่ไหนได้ซุ่มเงียบ”



ผมก็ผู้ชายนะครับ เรื่องแบบนี้มันจะขาดไปได้ยังไง อาจจะห่างๆไปบ้างแต่ก็ไม่เคยร้างเรื่องบนเตียง ช่วงไหนที่มีเวลาก็มีคนนอนด้วยแทบจะไม่ได้พักสักคืน แต่ถ้างานมันยุ่งก็ต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานก่อนผมยังไม่หื่นขึ้นสมองอย่างไอ้ยอดมันนะครับ รายนั้นยุ่งแค่ไหนก็มีเวลาเพื่อเรื่องอย่างว่า บางครั้งมันก็เล่นเอาในเวลางานซะเลย สุดยอดตามชื่อมันนั่นแหละ



“ไอ้เดียว น้องไผ่บอกว่าคิดถึงมึงว่ะ อยากเจอ มึงจะให้มันมาหามั้ย”ไอ้บอสถาม มันกำลังคุยไลน์อยู่ ไผ่เป็นเด็กผู้ชายที่ผมเคยนอนด้วยสองสามครั้งมั้ง ตัวเล็กน่ารักตามสเปคไอ้บอสมันเลย เป็นเพื่อนกับเด็กที่ไอ้บอสเคยควงอยู่เลยมีโอกาสได้รู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันโดยตรงนะครับ ทุกครั้งที่ไปนอนด้วยกันไผ่ก็มากับเด็กไอ้บอส ถ้าผมไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษคืนนั้นผมก็จะไปนอนกับไผ่ แต่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะนึกว่าจะไปสนใจคนอื่นแล้วซะอีก



“มึงเคยนอนกับน้องมันยัง?”ผมว่าไม่น่าพลาด เพราะมันก็ไม่ได้ควงกับเด็กคนเก่าแล้ว แต่ยังติดต่อกับไผ่อยู่แบบนี้



“เคยครั้งนึง”




“ครั้งเดียว?”




“เออ พอดีกูไปเจอเด็กใหม่เลยต้องทำคะแนน ถ้าคืนนี้มึงไม่มีที่ลงก็ระลึกความหลังให้เด็กมันหน่อยเป็นไง”




แล้วผมจะไปขัดศรัทธาได้ยังไง?

   
   





-------------------


มาแว้วววว ไวสุดชีวิตแล้วค่าาา 5555 เป็นพาร์ทพี่เดียวกันมั่งเนอะ ชัดเจนแล้วมั้ยความสัมพันธ์ของเฟิร์สกับพี่เดียว หลายคนทายถูก แล้วก็มีคนที่สังเกตชื่อด้วย เก่งมาก ปรบมือค่ะ  :katai2-1: บ้านนี้มีแต่คนที่เป็นที่หนึ่ง ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น ฮ่า ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้นะคะ รักอ่ะ เจอกันตอนหน้าค่ะ  :L1: :pig4:

ปล.ชื่อ นามสกุลของตัวละครเป็นเรื่องที่สมมติขึ้นนะคะ หากไปตรงกับที่มีอยู่จริงก็อย่าถือโทษกันเลยนะคะ ไม่ได้มีเจตนาทำให้เสื่อมเสียหรือมีเจตนาไม่ดีอะไรเลย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-12-2015 00:58:52
เฟิร์สเป็นพี่น้องกับพี่เดียวจริงๆด้วยยยย 

รอตอนต่อไปปปป  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 04-12-2015 02:50:25
หนักใจแทนน้ำน่านเลย
เดียวรับมือยากแน่ๆ
เริ่มจาก 0 เลยมั๊ง
เผลอๆติดลบอีกที่เดียวรู้สึกกับน้ำน่าน
กลัวจะมาหลอกน้องฟันสิ

อีกคู่น่าจะอาร์-พายหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 04-12-2015 09:53:17
ทั้งพี่เดียวทั้งน้ำน่านก็เชี่ยวกันทั้งคู่โนะ :o8:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 04-12-2015 11:27:45
อ่านแล้วหมั่นไส้อีพี่เดียวมากเลยอ่ะ คือว่าคนอื่นอีโก้สูง แต่ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ยยย ทั้งอีโก้สูง มองเผินแล้วก็ตัดสินคนจากภายนอกทั้งที่ยังไม่ได้มองพิศคน ๆ นั้นให้ดีเลยแท้ ๆ

กะจะจีบเล่น ๆ นี้คือคนที่เรียกว่าตัวเองมีนิสัยโตแล้ว แล้วว่าคนอื่นมีนิสัยเด็ก ๆ เหรอคะ ก็ตะเภาเดียวกันนั้นแหละยังมาว่าคนอื่นเขาอีก เข้าตำราว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเองนะคะเนี่ย ระวังเถอะพ่อคุ๊ณณณ หลุมที่ตัวเองขุดไว้สักวันจะสะดุดตกลงไปก่อน


บริษัทของเดียวจริง ๆ ด้วยซินะ ไม่รู้ว่าที่เดียวชอบสิ่งหนึ่งของน้ำน่านมากเนี่ยคืออะไร จะใช่ฝีมือการออกแบบหรือเปล่า? ที่น้ำน่านไปถ่ายรูปก็งานบริษัทของเดียวใช่ป่ะ ถ้าใช่นี่อยากรู้จริงว่าเดียวจะรู้สึกยังไง จะคิดว่าน้ำน่านเป็นเด็กแบมือขอเงินที่บ้านใช่อยู่หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: naisojill ที่ 04-12-2015 12:08:48
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 04-12-2015 16:10:29

อืม... พี่เดียวนี่ก็ร้ายนะคะ
รออ่านเลยว่าน้ำน่านกับพี่เดียวจะลงเอยกันอีท่าไหน
ติดตามค่ะ   :L2:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 04-12-2015 21:45:46
พอได้อ่านพาร์ทพี่เดียวแล้วนึกไม่ออกเลยว่าทั้งคู่จะมารักกันได้ยังไง

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-12-2015 23:30:43
พี่เดียว ขอให้แค่ติดใจนิดหน่อยจริงๆเถ้อ
อย่ามาหลงน้องเค้าแล้วกัน จะหัวเราะให้ หึหึ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 06-12-2015 02:15:33
มาต่อแล้ว ได้รู้จักด้านเดียวมากขึ้น ตอนแรกนึกว่าชอบน่านจริงๆ ฮืออออ อยากรู้เลยจะเป็นยังไงต่อไป รออออออค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.8 [03.12.58] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-12-2015 21:27:45
 :ling2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.9 [18.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 18-12-2015 21:30:40
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 9 -








   ช่วงนี้งานยุ่งมากเพราะต้องเคลียร์อะไรหลายอย่าง รวมไปถึงการสรรหาบริษัทถ่ายภาพใหม่ที่ถูกเสนอชื่อมาทั้งหมดสิบกว่าแห่ง ซึ่งผมดูแล้วก็มีที่เข้าตาแค่สามแห่งเท่านั้น พิจารณาจากผลงานด้านต่างๆแล้วฝีมือค่อนข้างใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องราคาค่างวดจากที่ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก การที่จะให้ตัดสินใจว่าจะเลือกเจ้าไหนนั้นเป็นเรื่องต้องคิดให้รอบคอบ




   “คุณติดต่อสามที่นี้ไป แล้วนัดให้เขาเข้ามาถ่ายรูป เพื่อคัดเลือกอีกที บริษัทไหนที่ได้รับคัดเลือกเราจะเซ็นสัญญาให้ถ่ายงานกับเรา 1 ปี แล้วนับจากนี้ไป ผมจะทำแบบนี้ทุกปี จะไม่มีการผูกขาดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ถ้าใครที่สามารถรักษามาตรฐานและพัฒนาฝีมือแล้วถูกคัดเลือกอีกในปีต่อไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”




   “ได้ค่ะบอส แล้วทิชาจะนำแผนมาเสนอบอสอีกครั้งนะคะ”



   “ครับ  รีบหน่อยนะ ถ้าเป็นไปได้ให้เรียบร้อยภายในสัปดาห์หน้า”



“ได้ค่ะ”



“เชิญคุณไปทำงานต่อได้”



ผมเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้ทันทีที่เธอเดินออกจากห้องไปแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ผมยังไม่ได้หยุดพักเลย มีเรื่องที่ต้องให้เดินทางไปนู่นมานี่ ประชุมวันละสองรอบเป็นอย่างน้อย รู้สึกหัวหมุนมากๆ ผมถึงได้บอกว่าผมไม่ชอบงานบริหารเลย กลับห้องไปก็ไม่ได้พักเพราะต้องเตรียมการสอนแต่นั่นก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ความรู้มีอยู่แล้วในหัว เพียงแต่ต้องมาลำดับว่าจะสอนอะไรก่อนหลัง ควรจะชี้แนะอะไรบ้าง ผมพยายามสอนให้เข้าใจง่าย บางครั้งก็เน้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์มากกว่า



“บอสคะ คุณภวัตกับคุณนลินมาขอพบค่ะ”อ่า...วันนี้พี่แชมป์นัดไว้ว่าจะพาพี่นลินมาคุยเรื่องชุดเครื่องเพชรที่ใช้ในงานเลี้ยงแต่งงาน แต่เครื่องเพชรสำหรับงานเช้าจะใช้ของคุณหญิงป้าที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูล อดจะตื่นเต้นและดีใจไปกับคนที่กำลังจะมีครอบครัวไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะหาห่วงมาผูกคอตอนนี้ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องในชีวิตที่ยังจัดการไม่ลงตัว อีกอย่างผมก็ชอบชีวิตอิสระที่ไม่ต้องเอาหัวใจไปผูกกับใครด้วย




“เชิญเข้ามาเลยครับ แล้วเตรียมเครื่องดื่มกับของว่างให้ด้วยนะ”ผมย้ายตัวเองไปที่ชุดโซฟาสำหรับรับแขกที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง พี่แชมป์กับพี่นลินเปิดประตูเดินเข้ามาพอดี



“สวัสดีครับพี่นลิน คนจะเป็นเจ้าสาวนี่เขาสวยขึ้นกันแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่าครับ”ขอแซวว่าที่พี่สะใภ้สักหน่อย คู่นี้คบกันมาหลายปีแล้วครับ ผมเคยคิดๆว่าน่าจะแต่งกันไปได้นานแล้ว แต่ทางพี่นลินยังไม่ยอมแต่งสักที เป็นสาวสมัยใหม่ที่สนุกกับการทำงานมากๆ



“แหม เดียวก็อย่าแซวพี่เลย สวยอะไร นี่โทรมจะแย่แล้วนะ ต้องจัดการอะไรตั้งหลายอย่าง”



“โทรมที่ไหนกันครับ สวยขนาดนี้”



“นี่นายเดียว จะชมว่าที่เมียพี่อีกนานมั้ยเนี่ย”



“นิดหน่อยเองน่าพี่ชาย หวงหรือไงครับ”ผมแซวยิ้มๆ



“ไม่อ่ะ หมั่นไส้”พี่แชมป์แกล้งค้อนใส่คนข้างตัวเลยโดนหยิกเข้าที่เอว



“โอ๊ยๆลิน ผมเจ็บนะ”



“สม”



ผมมองทั้งคู่แล้วอดยิ้มไม่ได้ พี่แชมป์ค่อนข้างยอมพี่นลินมากๆ แล้วก่อนที่ทั้งสองจะหยอกล้อให้ผมกลายเป็นส่วนเกินไปมากกว่านี้ คุณอ้อมก็เข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มของว่างก่อนจะขอตัวออกไปอีกรอบ



“ผมให้คุณอ้อมหาแบบเครื่องเพชรมาให้แล้ว พี่นลินดูเป็นแนวทางนะครับ แล้วผมจะออกแบบใหม่ให้เข้ากับชุดของพี่เอง”หยิบสมุดภาพสองเล่มหนามาให้ลองเลือกดู เป็นธรรมดาที่ผู้หญิงมักจะชอบของสวยๆงามๆพวกนี้ พี่นลินหลุดอุทานออกมาแทบทุกหน้าที่เปิดดู ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวได้แต่มองยิ้มๆ สายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก



“สวยๆทั้งนั้นเลย พี่ไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี”



“แล้วพี่เลือกชุดเจ้าสาวได้หรือยังครับ ผมขอดูหน่อยเผื่อจะแนะนำอะไรได้บ้าง”



“จะไหวเร้อ นี่ก็เลือกไว้เป็นสิบชุด พี่กะจะจัดงานแต่งแบบเจ็ดวันเจ็ดคืนจะได้ให้เขาใส่ครบทุกชุด”



“พูดดีไป ถ้าเอาจริงแล้วจะหนาว”พี่นลินยู่หน้าใส่ ก่อนจะหยิบไอแพดแล้วเปิดชุดให้ผมดู



“พี่เลือกชุดนี้ค่ะ รายละเอียดอาจจะไม่เหมือนแต่แพทเทิ่นของชุดแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวพี่ส่งเข้าไลน์ให้เนอะ”




“ได้ครับผม”ผมลองดูชุดที่พี่นลินส่งมาให้แล้ว จึงเลือกแบบที่คิดว่าจะเข้ากับชุดให้ดู จากนั้นก็คุยถึงเรื่องรายละเอียดต่างๆ งานนี้บอกเลยครับพี่ชายผมกระเป๋าเบาแน่ๆ





X





“ว่าไงวะ”ผมรับโทรศัพท์ไอ้ทักษ์ระหว่างขับรถกลับบคอนโดวันนี้ไม่ต้องไปกินข้าวที่บ้านใหญ่ แต่พรุ่งนี้ต้องไป ที่สำคัญต้องแวะซื้อเค้กเจ้าประจำของโปรดของสองแสบเล็กเฟิร์สเกรทเข้าไปด้วย กินกันได้กินกันดีกินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ



“วันเสาร์นี้ที่เก่าเวลาเดิม เพิ่มเติมคือมึงต้องลากไอ้สัดคุณชายอาร์มาด้วย”



“ทำไมไม่ชวนมันเอง หน้าที่มึง”เป็นหน้าที่ไม่มีใครมอบหมายให้ แต่เวลาจะนัดรวมตัวทีไรไอ้ทักษ์จะเป็นตัวตั้งตัวตีคอยจัดการนั่นนี่ จนกลายเป็นหน้าที่ของมันไปโดยปริยาย



“กูชวนหลายครั้งละ ครั้งนี้มึงต้องเป็นคนชวนและลากมันออกมา พวกกูไม่ได้เจอมันมานานละ แทบจะลืมหน้าแล้วไอ้สัด”



   “เออๆกูชวนให้ แต่กูไม่ไปนะ”



“เอ้า อะไรของมึง”



“กูมีนัด แล้วไม่ต้องเสือกถามว่านัดอะไร”ขนาดดักคอไว้ก่อนแล้วมันยังยิงคำถามมาไม่หยุด พอใช้ความเงียบเป็นคำตอบก็โดนมันโวยใส่จนมันพอใจแล้วก็วางสายใส่ ผมเลยโทรหาไอ้คุณชายผู้ที่ทุกคนต้องการตัวมันอย่างมาก ผมเองก็ไม่ได้เจอมันมานานแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่มันเริ่มไปถ่ายละคร แต่โทรไปสามสายก็ไม่มีการตอบรับเลยเลิกโทรเพราะเลี้ยวเข้าคอนโดพอดี



หลังจากออกไปทานข้าวกลางวันกับพี่แชมป์และพี่นลินผมก็กลับมาลุยงานต่อจนเย็น กว่าจะฝ่าสงครามบนท้องถนนมาได้ตอนนี้ก็เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว ไม่ต้องบอกว่าหิวมากขนาดไหนแต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะมาทำอาหารกินเอง พอถึงห้องผมเลยโทรสั่งอาหารจากห้องอาหารด้านล่างของคอนโดที่ปิดประมาณสี่ทุ่มของทุกวัน เปิดเพลงคลอเบาๆไม่ให้ห้องเงียบเหงาจนเกินไป วางสูทกับเนคไทที่ผมถอดตั้งแต่อยู่ในลิฟต์ไว้ที่โซฟาตัวยาวแล้วเดินไปรินไวน์ใส่แก้วดื่มเพื่อเรียกน้ำย่อยสักเล็กน้อย อีกไม่เกินสิบห้านาทีอาหารที่สั่งไว้จะมาส่ง ระหว่างนี้ผมก็หยิบเอาแบบชุดเจ้าสาวและแบบเครื่องเพชรที่พี่นลินเลือกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นให้ผมต้องเอี้ยวตัวไปหยิบจากอีกด้านของโซฟา บุคคลที่หลายคนกำลังตามตัวมันโทรกลับมาแล้ว



“ไงมึง ยังมีชีวิตอยู่เหรอ”



“นี่คือคำทักทายในการรับโทรศัพท์ของมึงหรือไง”



“เออ ก็หายหน้าไปนานนี่หว่า”



“แต่คงไม่นานไปกว่ามึงหรอก โทรมามีไรวะ”น้ำเสียงมันดูเหนื่อยๆนะ



“ไอ้ทักษ์มันนัดเสาร์นี้ที่ร้านไอ้เสก มึงติดอะไรมั้ย ถ้าไม่ก็โผล่หน้าไปให้พวกมันเห็นหน่อย”



“กูไม่รับปาก เดี๋ยวดูตารางงานอีกทีก่อน”มันแบ่งรับแบ่งสู้



“เออ ถ้าไปมึงก็โทรไปบอกไอ้ทักษ์ให้มันสบายใจหน่อย กูขี้เกียจฟังมันบ่น”



“แล้วนี่มึงอยู่ไหนวะ ทำไมเงียบแปลกๆ”



“ชายทะเล หัวหิน ร้อนสัดไม่มีลมเลย”



“หะ? ไปทำไมวะ”



“วันนี้มีคิวถ่ายละคร ไอ้เหี้ยอย่างเหนื่อย กูไม่อยากเล่นแล้ว”มันบ่นทำเอาผมหลุดหัวเราะ งานหนักแค่ไหน ต่อให้บินอาทิตย์ละสามสี่รอบมันไม่เคยบ่น แต่ถ่ายละครแค่ฉากสองฉากมันบ่นได้เป็นวันๆ ก็มันไม่ใช่ทาง คนไม่มีใจรักไม่ชอบก็แบบนี้ ผมไม่ได้คุยอะไรกับมันต่อเพราะได้ยินเสียงคนเรียกมันไปเข้าฉากดังแว่วเข้ามา ดึกป่านนี้แล้วยังไม่เลิกกันอีกเหรอวะ พวกนักแสดงนี่สปิริตแรงกล้าจริงๆ



คิดแล้วก็นึกถึงเด็กคนหนึ่ง หลังจากที่ผมฝากเด็กอีกคนไปบอกก็มีความรับผิดชอบต่อการเรียนดีขึ้น เข้าเรียนครบทุกชั่วโมงไม่มีขาด ซ้ำยังตั้งใจเรียนมากๆ หัวไว เรียนดี  ผมชอบนะเด็กที่รู้จักทำงานหาเงินใช้เอง แต่ถ้ารักจะทำงานมันก็ต้องไม่เบียดเบียนเรื่องสำคัญอย่างการเรียนไป ต้องรู้จักจัดการบริหารเวลาให้เป็นจะได้ไม่เสียทีที่เรียนบริหาร แต่เด็กอีกคนนี่สิ ผมยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลย ไม่รู้ว่านอกจากหน้าตาดี ปากดีแล้วยังมีอะไรดีอีกบ้าง





X






โอ๊ะ...แค่คิดก็เห็นอีกคนมาอยู่ตรงหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว ผมไม่คิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่เลยจริงๆ ตอนแรกที่เห็นนั่งอยู่ที่โต๊ะกับพวกไอ้ทักษ์ก็ยังสงสัยว่านัดใครมาด้วย แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเด็กหัวเงิน ไม่สิ อดีตหัวเงิน ทำผมสีเข้มแบบนี้แล้วดูดีขึ้นชะมัด จะหล่อไปไหนวะ ว่าแต่มาได้ไงเนี่ย



เพื่อนๆเด็กนั่นยกมือไหว้ผมกันเป็นแถวแต่เจ้าตัวกลับตีหน้านิ่งมือไม้แข็ง แต่แวบแรกที่เห็นหน้าผมก็เห็นว่ามีชะงักไปนิดนึงนะ เหมือนมีดวงจะได้แกล้งเด็ก ไอ้บอสมันเว้นที่ว่างไว้ให้ผมนั่งข้างกันพอดี คิดไม่ผิดที่เบี้ยวนัดเฟิร์สมา โดนบ่นนิดหน่อยแต่พอเอาของมาล่อก็ยอมแต่โดยดี คือวันนี้ไอ้อาร์มันจะมาผมก็เลยไม่อยากพลาด นานๆทีจะอยู่ครบทั้งกลุ่ม



แค่นั่งใกล้ก็ได้กลิ่นหอมๆจากเจ้าตัวลอยแตะจมูก เหมือนกลิ่นดอกไม้หรืออะไรสักอย่าง ความจริงคืนนั้นที่นอนเตียงเดียวกันผมก็ได้กลิ่นนะแม้ว่ากลิ่นแอลกอฮอล์มันจะแรงกว่าก็ตาม ผมแกล้งแหย่เด็กข้างๆ เจ้าตัวก็ดูระวังตัวหรือจะเรียกว่ารังเกียจดีพยายามขยับตัวออกห่างผมแต่ก็ทำไม่ได้พื้นที่มันมีจำกัด ยิ่งเข้าใกล้กลิ่นหอมก็ยิ่งชัด จนเผลอคิดว่าอยากจะลองฝังจมูกลงไปสักที ยิ่งพอผมวางแขนพาดยาวเหมือนโอบไอ้เด็กข้างๆทำหน้าเหมือนกำลังจะถูกข่มขืน ผมนี่กลั้นยิ้มแทบไม่ทันแต่จะไม่ค่อยชอบใจก็ตอนพูดไม่เพราะนี่แหละ แกล้งหยอกพอหอมปากหอมคอผมก็เรียกไอ้มือชงอันดับหนึ่งมันจัดมาเบาๆหนึ่งแก้ว พอผมได้เหล้ามาเด็กนั่นก็ลุกไปทันทีได้ยินแว่วๆว่าจะออกไปสูบบุหรี่ ผมดื่มเหล้านะครับเวลามาเที่ยวสังสรรกับเพื่อนๆแบบนี้หรือตอนออกงานสังคม แต่ไม่สูบบุหรี่เพราะผมเป็นภูมิแพ้ แล้วก็ไม่เห็นว่ามันจะมีดีที่ตรงไหนด้วย แต่ถ้ามีใครย้อนถามผมว่าเหล้าก็ไม่ดีเหมือนกันทำไมยังดื่ม ก็นะเปอร์เซ็นต์การดื่มมันน้อยกว่าการสูบบุหรี่อยู่แล้วนี่ครับ บุหรี่นี่หาโอกาสสูบง่ายจะตายไป แต่เหล้าจะมาแวบเวลางานมาดื่มที่ดาดฟ้าหรือแอบไปดื่มในห้องน้ำได้ที่ไหน เอาจริงมันก็เป็นแค่ข้ออ้างแหละครับ รู้ว่าไม่ดี แต่มาสถานที่แบบนี้จะให้มามาดื่มน้ำผลไม้คุยกันมันก็มุ้งมิ้งไปนะครับผมว่า



“โหยยย ไอ้คุณชายเสด็จมาได้แล้วเหรอมึง นี่กูต้องเอาพรมแดงมาปูให้มั้ย”ไอ้ทักษ์ปากดีตลอด



“ได้ก็ดี ถ้าไม่มีมึงมานอนให้กูเหยียบหน้าสักทีก็พอ”



“แรว๊งงงง ไม่เจอกันนานปากคอเราะร้ายขึ้นนะมึง”ไอ้อาร์มันส่ายหน้าระอาปากของไอ้ทักษ์ก่อนจะนั่งลงแทนที่เด็กตัวหอม มันออกไปสูบบุหรี่นานเกินไปแล้วนะผมว่า กะเอาให้หมดซองเลยหรือไงวะ ไอ้เด็กธันว์ก็หิ้วสาวออกไปแล้วเมื่อกี้ไวมาก แต่ไม่นานคนที่ออกไปสูบบุหรี่ก็กลับมา แต่ที่นั่งข้างผมไม่ว่างแล้วเขาเลยไปนั่งข้างไอ้ยอดแทน ผมนั่งดื่มไปเงียบๆเรื่อยๆ คอยสังเกตเด็กนั่นตลอดเวลาดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าตกเป็นเป้าสายตา เพราะมัวแต่จ้องแต่อาหารตาที่ลอยไปลอยมายั่วใจ ท่าทางจะชอบผู้หญิงตัวไม่สูงมากแต่เซ็กซี่ๆ ถ้ามีไซส์นี้เดินผ่านเมื่อไหร่พ่อมองแทบเหลียวหลัง ไอ้ยอดก็เหมือนได้คู่หูใหม่ ส่งสัญญาณบอกกันตลอดเวลาแต่ไอ้เพื่อนผมมันเป็นประเภทถูกใจแล้วต้องพุ่งเข้าใส่ การที่มามองอย่างเดียวไม่ใช่แนวของมัน ไม่นานมันก็ลุกไปล่าเหยื่อของค่ำคืนนี้ ผมเลยขยับไปนั่งข้างๆเด็กนั่นแทน น่าแปลกถึงจะไปสูบบุหรี่มาแต่กลิ่นหอมๆนั่นยังไม่หายไป



ผมแกล้งถามเรื่องเสื้อไปเพื่อเป็นการเปิดบทสนทนา แต่อีกฝ่ายกลับไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่เกินความพยายาม ซึ่งอดีตเด็กหัวเงินก็กวนประสาทไม่หยอก ปากดีจนอยากจับบีบให้ขาดคามือจริงๆ ผมสนุกกับการเห็นท่าทีของเด็กคนนี้จริงๆ ยิ่งรังเกียจไม่อยากเจอ ไม่อยากคุยเท่าไหร่ผมก็อยากจะพาตัวเข้าไปพัวพันด้วย คืนนี้อย่าให้เมานะผมจะลากเข้าห้องซะเลย





X





เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัวถึงแม้จะตีความหมายผิดไปสักหน่อย แต่ก็ทำให้ผมได้หิ้วเด็กนี่กลับห้องในสภาพที่เมาแอ๋ จะว่าเป็นคนคออ่อนก็ไม่ใช่แต่ถ้าดื่มเข้าไปหลายขนานจนตีกันก็น็อคไปได้เหมือนกัน ความจริงก็แอบไม่เข้าใจตัวเองอยู่นิดหน่อยว่าทำไมถึงต้องอยากพามาที่ห้อง พามาเพื่ออะไร ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆน้ำหนักก็ไม่น้อย ถึงจะสูงน้อยกว่าผมอยู่หลายเซ็นแต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายสูง ดีที่ตัวไม่หนากล้ามเป็นมัดๆ มีแค่พอสวยๆให้รู้ว่าเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย เอาตรงๆก็เป็นคนที่มีรูปร่างดี ไม่บางจนตัวปลิวแต่ก็ไม่หนาล่ำบึก ไม่น่าแปลกใจถ้าหากใครจะติดเด็กคนนี้ เพราะผมเองที่ว่าไม่ได้อะไรมากยังถอนสายตาออกยากเลย เสน่ห์ของเด็กคนนี้นอกจากหน้าตาแล้วก็คงเป็นรอยสักมังกรบริเวณไหล่ด้านขวากินพื้นที่ลงมาถึงหน้าอกส่วบนและต้นแขน ถ้าใส่เสื้อแขนสั้นก็จะเห็นบางส่วนเล็ดรอดออกมา แต่ทุกครั้งที่ผมเจอเขาก็มักจะใส่แขนยาว



“อะไรของมึง”ไอ้บอสโทรมาครับ คืนนี้มันไม่ได้เด็กติดมือไปสักคนเลยมีเวลามาก่อกวนชาวบ้าน



“เป็นไงมั่งน้องน้ำน่านของมึงนะ”ไม่ใช่ของกูเว้ย!



“จะเป็นไรยังไงวะ ก็เมาหลับไปเนี่ย”



“เอ้าจริงดิ อะไรวะ นี่กูกะให้ยังพอมีสติกึ่งหลับกึ่งตื่นนะเนี่ย มึงจะได้สนุกทั้งคืน”ความหื่นเจือปนมากับเสียงหัวเราะของมัน ผมเหลือบมองคนที่เมาหลับไปอีกรอบ ยังนอนนิ่งไม่ไหวติง นี่หลับหรือตายกันแน่




“สนุกเหี้ยไร กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้คิดอะไรอย่างที่มึงคิด”




“ถุย ไม่คิดแต่มึงจ้องน้องเขาไม่วางตาเลย อย่ามาฟอร์มไอ้สัด ไอ้ยอดเป็นพยานได้ มันยังพนันกับกูอยู่เลยคืนนี้น้องมันไม่รอดมือมึงแน่ๆ”มันยังส่งเสียงเพ้อเจ้อมาตามสาย ผมส่ายหน้าระอากับความคิดของพวกมัน คิดเป็นตุเป็นตะรวมหัวกันมอมเหล้าเด็กปากดีแล้วจับใส่พานให้ผม  แต่ก็ต้องขอบคุณที่ทำให้ผมสามารถหิ้วเด็กนี่กลับมาได้ ผมไม่ได้คิดจะทำมิดีมิร้ายอะไร แค่อยากแกล้งเด็กก็เท่านั้น



“เพ้อเจ้อไร้สาระ แค่นี้นะ เสียเวลากูอาบน้ำ”ผมตัดสายแล้วปิดเครื่องทันที ถอดเสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ ระหว่างเดินผ่านเตียงนอนก็ตวัดผ้าห่มคลุมร่างที่ผมจับถอดเสื้อ ถอดกางเกงเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวกันอุจาด จะให้นอนในชุดเต็มยศก็อึดอัดแทน ถ้ามีอารมณ์ก็จะบริการเช็ดตัวให้อีกสักอย่าง



เฮ้อ...เหนื่อยเอาการกับการดูแลคนเมา ท้ายที่สุดจะอารมณ์ดีหรือไม่ดีผมก็ต้องมาเช็ดตัวให้ไอ้เด็กที่นอนข้างๆกินพื้นที่เตียงไปครึ่งหนึ่งเพราะจู่ๆก็รู้สึกสงสารเด็กที่จะนอนเหนียวตัวไปยันเช้า ถามตัวเองอีกครั้งว่าสร้างความลำบากลำบนให้ตัวเองทำไม คุ้มมั้ยกับการแกล้งเด็กสักคน ซึ่งเอาจริงๆแล้วผมก็แทบจะลืมไปแล้วว่าผมไม่ชอบใจเขาตรงไหนกัน




อืม...ท่าทางมั่นอกมั่นใจในตัวเอง ไม่ยอมลงให้แล้วก็พูดจาไม่ดีใส่อย่างนั้นใช่มั้ย คงใช่มั้ง...




พอมองดูตอนหลับก็ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่จะบอกว่าน่ารักน่าเอ็นดูก็คงไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาแบบนี้ต้องบอกว่าหล่อได้คำเดียว แล้วก็ดูมีเสน่ห์มากเสียด้วยสิ ชักอยากเห็นว่าอยู่บนเตียงในเวลาแบบนั้นจะเป็นยังไง แต่เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งคิดไกลไปถึงเรื่องนั้น เอาแค่พรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาแล้วเด็กนี่จะทำหน้ายังไงดีกว่า แค่คิดก็อยากจะเช้าไวๆเสียจริง









----------------


พี่เดียวมาแบบสั้นๆนะ #รักไม่ได้ออกแบบ #ทีมน้ำน่าน #ทีมเดียว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.9 [18.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 18-12-2015 23:40:17
เพื่อนพี่เดียวก็ช๊วยช่วยอ่ะ 555

เมาแอ๋เลยนะน้ำน่าน :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.9 [18.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 19-12-2015 12:46:29
มาต่อแล้ว คิดถึงงงง รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.9 [18.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 19-12-2015 17:14:14
ยังคง #ทีมน้ำน่าน เสมอ ไม่นอกใจจจจ  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-12-2015 23:04:00
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 10 -






   ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดซอกคอทำให้ผมค่อยๆดึงสติการรับรู้ขึ้นมาจากการหลับใหล รู้สึกปวดหัวตุบๆแบบนี้แสดงว่าเมื่อคืนเมาเป็นหมาเลยสินะ อยากจะนอนขดตัวซุกผ้าห่มอุ่นๆต่อแต่อะไรบางอย่างเหนี่ยวรั้งตัวผมไว้ ซ้ำยังรัดแน่นขึ้นอีกทำให้ผมไม่สามารถหลับต่อได้อย่างที่ตั้งใจไว้



อะไรวะ?




   “อื้อ...ใครวะ ไอ้เชี่ยอ๊อด!”ผมเรียกมันให้มันปล่อยแขนออกไปจากลำตัว ต้องเป็นมันแน่ๆจำได้ว่ามันคือคนเดียวที่ยังอยู่กับผมก่อนความทรงจำจะขาดหายไป ไอ้ห่ามานอนกอดกูทำเนี่ย ฟ้าผ่ากันพอดี!




   “ฮื่อ...เสียงดัง”



   ผมลืมตาโพลงขึ้นมาเพราะเสียงบ่นข้างหูนั่น ไม่ใช่เชี่ยอ๊อด แล้วใครวะ? จะหันไปมองหน้าคนที่นอนกอดก็ไม่ถนัดเพราะมันเล่นซุกหน้ากับซอกคอเห็นแต่กลุ่มผมดำๆ พอมองไล่ลงไปแขนขาวๆล่ำๆกอดลำตัวผมแน่น จากลาดไหล่เปลือยเปล่านั่นทำให้ผมรู้ว่าไอ้คนที่นอนกอดอยู่มันไม่ได้ใส่เสื้อ แต่ด้านล่างไม่รู้ว่าใส่มั้ยเพราะไม่เห็น ผมมองไปรอบห้องแล้วก็แน่ใจว่าที่นี่ที่ไหน ถึงจะเคยมาแค่ครั้งเดียวแต่ก็จำได้แม่น



   อีกละ...ช่วงนี้กูถูกหิ้วขึ้นคอนโดบ่อยไปป่ะวะ แต่ครั้งนี้มีนอนกอดด้วย!!



   “เห้ย! ปล่อยเว้ย”ผมทุบแขนที่กอดรัดตัวเองเต็มแรงครับขึ้นรอยทันที แต่ไอ้บ้านั่นไม่รู้สึกตัว หลับหรือไหลตายวะ เมื่อกี้ยังบ่นอยู่เลย จะลุกขึ้นสะบัดมันออกก็ไม่ได้เพราะมันกอดแน่นมาก ผมก็ตัวไม่เล็กนะแต่ช่วงจังหวะที่มันล็อคตัวผมไว้นี่ทำให้ขยับไม่ถนัดจริงๆ




   “เชี่ย! ตื่นเว้ย ปล่อยกู”นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังกอดแน่นขึ้นอีกนี่แขนหรืออนาคอนดาวะ จะรัดให้กระดูกแตกเลยหรือไง ไม่ตื่นใช่มั้ย หึ



   “โอ๊ยๆๆ เจ็บ ปล่อยๆ”ผมจิกผมมันเต็มแรงจับโยกๆจนมันร้องลั่นปล่อยแขนออกทันที



   “อะไรวะ?!”มันนั่งหน้ายุ่งผมยุ่งอยู่บนเตียง ส่วนผมกระโดดลงมาตั้งแต่มันคลายแขนออกแล้ว มีผมติดมือมาหลายเส้นเหมือนกัน แม่งน่าให้หลุดทั้งกระจุกเอาให้หนังหัวหลุดออกมาด้วยเลย



   “แล้วมันเรื่องอะไรที่มึงมานอนกอดกูเนี่ย”



   “เอ้าเหรอ ถึงว่าสิ ไม่นุ่มนิ่มเหมือนเด็กที่เคยกอด”ยังจะมีหน้ามายิ้มอ้อนตีนอีก



   “ไอ้เชี่ย”ขนาดไม่นุ่มมันยังกอดผมเนื้อนี่แทบเหลวเพราะแรงรัด



   “บอกกี่ครั้งแล้วเนี่ยว่าให้พูดเพราะๆ ชอบจังพูดคำหยาบเนี่ย”มันขมวดคิ้วมุ่น



   “ทำเหมือนตัวเองไม่พูด”เมื่อคืนนี้สัตว์เลื้อยคลานยั้วเยี้ยเต็มโต๊ะไปหมด แล้วมาว่าคนอื่น



   “กับเพื่อนจะพูดมันก็ได้ แต่กับคนที่อายุมากกว่ามันสมควรแล้วหรือไง”แม่งตื่นมาเทศนากันแต่เช้า น่าเบื่อว่ะ ใครเป็นเมียมันนี่โคตรซวย



   “พอดีเป็นคนเลือกปฏิบัติ”โดยเฉพาะกับมึงจะปฏิบัติให้เหี้ยที่สุด



“อ้อเหรอ”กวนตีน ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่ามันสวมกางเกงขายาวนอน พอก้มมองตัวเองแล้วก็ตกใจเล็กน้อย ทำไมชอบจับกูแก้ผ้านักวะ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่บ๊อกเซอร์กับกางเกงในที่ปกปิดตัวผมไว้ก็ยังดีกว่าล่อนจ้อนละวะ



“ตื่นมาแล้วเจอวิวดีแบบนี้ก็โอเคนะ”คนพูดกอดอกมองยิ้มๆอยู่บนเตียง



“โรคจิต”ผมได้แต่ว่ามันจะครั้นจะหาผ้ามาปิดก็ดูจะสาวน้อยเกินไป อีกอย่างพ่อให้มาเยอะก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจอยู่ เปิดโชว์แม่งอย่างนี้แหละ



“เสื้อผ้าอยู่ไหน”



“ส่งซัก ถ้าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไปหาเอาในตู้”



“ทำไมกูมาอยู่นี่ได้”ผมถามตอนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อินหลังใหญ่เรียงติดกันสามตู้ ผมเลยเปิดมันทั้งสามตู้นั่นแหละ เสื้อผ้ามึงจะเยอะไปนะ เหมือนจะแยกตู้เป็นชุดทำงาน ชุดใส่ไปเที่ยว แล้วก็ชุดออกงาน ไล่เรียงไปตามสีอ่อนแก่เป็นระเบียบเรียบร้อย



“ถ้าไม่พูดผมก็แทนตัวแทนด้วยชื่อไม่ใช่กู นี่เพื่อนเล่นหรือไง”ผมหันขวับไปมองมันมายืนอยู่ด้านหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ใกล้กันมากจนเห็นไรหนวดเขียวครึ้ม  มันสูงกว่าผมจนต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองมันนิดหน่อย



“ผ้าเช็ดตัวอยู่นี่ ส่วนเสื้อกับกางเกงเอาตัวนี้กับตัวนี้ไปแล้วกัน”ระหว่างที่มันพูดก็เอื้อมมือหยิบเสื้อผ้าไปด้วย แต่มันหยิบโดยโอบผ่านตัวผมไป ไอ้เราก็ไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้เลยเหมือนถูกมันกอด จมูกจิ้มคอมันอยู่เนี่ย



“ไอ้!....”



“ด่ามีจูบอ่ะ”ไอ้สัดยุคสมัยไหนแล้ววะด่าจูบตบจูบเนี่ยคิดว่าจะกลัวหรือไง



“ไอ้เหี้ย โอ๊ย! อื้อ!”ยังไม่ทันขาดคำมันก็เอามือบีบคางผมให้แหงนเงยกว่าเดิมแล้วกระแทกจูบลงมา ย้ำว่ากระแทกเจ็บน้ำตาแทบไหล เลือดด้วยมั้งเนี่ย แต่อย่าคิดว่าผมจะอยู่เฉยให้มันจูบ แต่ทั้งผลักทั้งทุบทั้งตีมันไม่สะเทือนเลย มิหนำซ้ำผมยังถูกดันจนหลังชนกับประตูตู้เสื้อผ้าที่มันเป็นคนปิด จะเบี่ยงหน้าหลบจูบมันก็ไม่ได้มือมันล็อคแน่นมาก ความรู้สึกชื้นแฉะน่ารังเกียจบริเวณริมฝีปากเป็นอะไรที่ผมขนลุกมาก มันไม่ได้ชวนวาบหวามวาบหวิวอะไรเลย มันพยายามส่งลิ้นเข้ามาแต่ผมก็เม้มปากแน่น เรื่องอะไรจะยอมวะ พอผมไม่ให้มันสมใจมันเลยเปลี่ยนมาจูบแก้ม เสียงจุ๊บๆดังข้างหูชวนขนลุก




“ไอ้สัด อ๊ะ โอ๊ย ทำเหี้ยอะไรเนี่ย!”มันกัดที่คอผมอย่างแรง โคตรเจ็บ เป็นหมาหรือไงวะ




“ท่าทางโชกโชน แต่ทำไมจูบห่วยจัง”หยามกูมากไปละ แต่อย่าคิดว่าจะหลงกลกระชากมึงกลับมาจูบ ไม่ได้เป็นควายเว้ย!



“มึงมันห่ว...อื้อ!”มึงมันห่วยเอง...แค่อยากจะพูดแบบนี้แต่ก็ถูกมันปิดปากเสียก่อนครั้งนี้มาเต็ม ลิ้นของมันพลิ้วไปละ พอจะกัดมันก็เหมือนรู้หลบหลีกได้ทัน เปลี่ยนมาดูดเม้มริมฝากแทน พอเผลอๆมันก็ส่งมาใหม่ ต่อสู้กันอยู่สักพักมาถึงตอนนี้จากที่ผมแฮงค์อยู่ก็เริ่มจะเบลอ มึงจูบเก่งไปละ เก่งจนตอบสนองกลับไปอย่างเท่าเทียมอย่าให้ใครมาดูถูกได้



“อื้อ อ่อยไอ้เอี้ย”มันมันลูบผ่านกลางลำตัวผมที่ตื่นตามมาด้วย ก็เล่นจูบกันปากลิ้นแทบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกันไม่รู้สึกอะไรก็เสื่อมสมรรถภาพแล้ว ยิ่งตื่นนอนหลังจากเมามาเมื่อคืนมันยิ่งรู้สึกง่ายเป็นธรรมดา มันไม่ยอมถอนริมฝีปากออก มือยังล้วงลึกเข้าไปในกางเกงใน ผมพยายามโก่งตัวหนีแต่ก็ไม่มีพื้นที่ให้หนีของกลางเลยเต็มไม้เต็มมือมัน พอมันหยอกเล่นกับส่วนปลายผมนี่แทบดิ้น เหมือนโลกตกอยู่ในมือของมัน มือที่นอกจากจะสวยแล้วยังนุ่มมากเหมือนคนไม่เคยทำงานหนัก มาลูบคลำขยับขึ้นลงเร้าอารมณ์แบบนี้ผมก็เตลิดน่ะสิ ใจอยากปฏิเสธแต่ร่างกายโคตรต้องการ เลยต้องปล่อยให้มันทำตามอำเภอใจ คนเราเวลาหน้ามืดมันก็ลืมไปหมดว่าอยู่ที่ไหนกับใคร เหมือนจะแตะขอบฟ้าอีกนิดเดียวเท่านั้นแต่ทุกอย่างก็ดิ่งลงเหวเมื่อมันหยุดมือ ผมมองมันตาขวาง ตอนจะทำก็บังคับกูนะ แล้วนี่นึกอยากหยุดก็หยุดไอ้สัด!



 “จะไปคนเดียวได้ไง โคตรไม่แฟร์”มันกระตุกยิ้มเลวก่อนจะควักของมันเองออกมา ผมก้มลงมอง อื้อหือ...แค่เห็นผมก็สะบัดหน้าหนี ไม่ได้เขินอายแต่เหมือนเสียความมั่นใจไปนิด ได้ยินมันหัวเราะเสียงต่ำ



“ไม่ต้องอาย ของเรามันก็ไม่น่าขายหน้าแค่สู้ไม่ได้ก็เท่านั้น”ไอ้สัดดดดดดดดดด ผมอยากจะผลักมันออกแต่ของกลางดันอยู่เต็มมือมันเลยทำอะไรไม่ได้ขืนดิ้นสะดีดสะดิ้งมันบีบจนเละคามือจะทำยังไง ตอนนี้มันก็ปวดหนึบมากๆเลยด้วย



“ไอ้สัด”เอามือผมไปจับของมัน กลับไปต้องล้างแอลกอฮอล์สักขวดสองขวดแล้ว



 “พูดไม่เพราะ หื้ม”มันยื่นปากมากัดปากผมโคตรเจ็บ ทำไมชอบกัดวะ มึงซาดิสม์หรือไง แต่พอกัดเสร็จมันก็จูบผมอีกแบบนุ่มๆเหมือนจะปลอบ ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า จากจูบปลอบเบาๆมันเริ่มรุนแรงขึ้นเหมือนจะกระชากวิญญาณ มือข้างหนึ่งของมันบังคับมือผมให้ขยับรูดรั้งไอ้นั่นของมัน ส่วนอีกมือของมันก็กำลังปฏิบัติภารกิจให้ผมอยู่ ผมกัดปากมันเพราะอารมณ์พาไปแต่มันไม่ยักจะร้องออกมาซ้ำยังจูบผมหนักกว่าเดิม ลิ้นของมันส่งลึกเข้ามาจนผมแทบสำลัก


 
“อื้อ!”ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกปัดมือออกจากไอ้นั่นของมันแล้วเปลี่ยนมาทักทายกับน้องชายผมแทน เท่านั้นไม่พอยังกระชากเอวผมเข้าไปใกล้อะไรๆเลยแนบชิดเบียดเสียดจนขนลุกเกรียว โคตรเสียว เพิ่งรู้ว่าการที่เอาไอ้น้องชายตัวเองถูไถกับน้องชายคนอื่นมันจะรู้สึกดีได้ขนาดนี้ ขาสั่นจนต้องยึดบ่ามันไว้ ไอ้บ้ามันก็เปลี่ยนมาไซ้คอไซ้หูผมไปเรื่อยถึงจะไม่ค่อยอยากให้ทำแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเร้าอารมณ์ได้ดีเหมือนกัน ผมต้องเม้มปากแน่นไม่อยากครางให้ขายขี้หน้าไปมากกว่านี้ เอาหัววางตรงไหล่มันเพราะไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน



“เห็นห่ามๆ ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย”หอมแก้มกูอีก อย่าทำเหมือนกูเป็นเกย์สาวตัวน้อยได้ป่ะวะ



“เอาเข้าไปได้มั้ย?”ผมลืมตาโพลงเมื่อได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงหื่นๆของมันข้างหู



“ไม่! อย่าแม้แต่จะคิด”



“โอเคๆ ไม่เห็นต้องทำตาดุเลย”มันยิ้มล้อ ไอ้สัดอยากจิ้มตาให้บอด ผมเกลียดสายตาของมัน พอๆกับเริ่มเกลียดอารมณ์ในตอนนี้ น้ำน่านมึงทำอะไรอยู่วะ!?



“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น รู้สึกไม่ดีหรือไง”



“คิดว่ากูควรรู้สึกดีเหรอที่ต้องโดนมึงทำเรื่องเหี้ยๆแบบนี้ด้วย”



“จิ๊ พูดจาไม่น่าฟังเลย อยากจะค้างแค่นี้ใช่มั้ย”



“เออ กูยอมค้าง”ผมผลักมันออก คราวนี้มันเซถอยออกไป ไอ้นั่นมันชี้หน้าผม ไม่ได้อยากจะมองแต่ตาไปเห็นเอง ตอนนี้ผมโคตรหงุดหงิด ไม่ชอบใจไปหมดทุกอย่างแล้วก็ต้องมาค้างๆคาๆแบบนี้อีกคนยิ่งไม่ได้เอาออกหลายวัน เอาออกเองก็ได้วะ



“โอ๊ย! ไอ้เหี้ย!”ยังเดินไปไม่ถึงห้องน้ำผมถูกเหวี่ยงมาบนที่นอน ทำไมแรงเยอะนักวะผมไม่ได้ตัวเล็กเลยนะเว้ย



“หึ แต่พี่ไม่ยอมค้างหรอกนะ”



“เห้ยๆ จะทำอะไร ไอ้สัด”มันคร่อมผมไว้แล้วกดไหล่ผมติดกับที่นอน ทำไมมันเหมือนผมกำลังจะถูกข่มขืนเลยวะ



“ไม่ด่าสักประโยคจะตายมั้ยหะ!”มันจ้องตาเขม็ง ผมก็จ้องมันแต่สู้ไม่ได้ต้องหลบไปก่อน รู้สึกเหมือนเสียเชิงยังไงไม่รู้ แต่ผมไม่เคยสู้ตามันได้นานๆเลย



“อื้อ!”มันยึดคางผมไว้ก่อนจะก้มลงมาจูบอีกครั้ง ขืนไว้ได้ไม่นาน มันก็ได้จูบผมสมใจเพราะผมเจ็บปากไปหมดแล้วทั้งแรงบดขยี้ ทั้งที่ถูกกัดก่อนหน้านี้เลยต้องจำยอม พอผมโอนอ่อนมันก็ผ่อนแรง จูบของมันทำให้ผมเริ่มคล้อยตาม ถูกกระตุ้นรุกเร้าขนาดนี้ ผมก็ไม่ใช่หินผาที่จะไม่รู้สึกรู้สมอะไร มือมันลูบไล้ไปทั่วตัวผมก่อนจะไปหยุดส่วนที่กำลังต้องการปลดปล่อย ผมครางอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อมันย้ำแรงผ่อนแรงเป็นจังหวะ เน้นย้ำส่วนปลายบางครั้ง บีบคั้นจนเหมือนทุกอย่างจะทะลักทลาย มันหยอกล้ออย่างนั้นอยู่แต่สุดท้ายมันก็ผละออกมาจนผมต้องแอ่นกายเหมือนกับเรียกร้องสัมผัสจากมัน ริมฝีปากอุ่นๆที่ไล่จูบไปทั่วเริ่มทำให้ผมรู้สึกมากกว่าเดิม พยายามจิกหัวมันขึ้นมาตอนที่มันลงลิ้นกับหน้าอกผม แต่ไอ้บ้ากามมันก็ไม่ยอมง่ายๆ ขบเม้มดูดดึงจนแทบจะหลุดติดริมฝีปากมันไป ตอนนี้ขนลุกไปหมดทั้งตัวเหมือนมีกระแสไฟแล่นผ่าน ชั้นเชิงมันดีมากจนไม่อาจต่อต้านได้ ผมได้ยินเสียงลมหายใจกระชั้นถี่ของมัน ตอนนี้ต่างคนต่างหยุดอารมณ์ของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ผมสนองจูบมันไป อารมณ์ที่ไต่พุ่งสูงตอนนี้ทำให้ความคิดทุกอย่างหยุดลงเหลือเพียงแต่ความต้องการที่จะปลดปล่อยความร้อนรุ่มนี้



“โอ๊ย! ไม่ๆ ไม่เอา ไม่ให้ใส่...”ผมร้องเสียงหลงเมื่อบางอย่างกำลังรุกล้ำเข้ามา ถูกหลอกล่อจนไม่รู้ตัวว่าอยู่ในท่วงท่าที่โคตรเสียเปรียบ จะยกขาถีบมันก็ไม่ได้เพราะถูกล็อคไว้แน่น



“ไม่ไหวแล้ว”เสียงของมันพร่า พูดเหมือนคนเมาเพ้อ แต่ตอนนี้สติผมกลับมาเต็มๆแล้ว



“กูไม่ให้ ไอ้สัด ปล่อย! โอ๊ย! อึก...”ผมต้องหยุดนิ่งเพราะความเจ็บร้าวเหมือนตัวจะฉีก เมื่อมันฝืนดันตัวเข้ามาได้ทั้งเจ็บทั้งจุกพูดอะไรไม่ออก รับรู้ได้เลยว่าน้ำตาของตัวเองไหลออกมา เรี่ยวแรงมันหายไปหมดเมื่อมันยิ่งแทรกตัวลึกเข้ามา เจ็บสุดๆในชีวิต แต่อย่าคิดว่าผมจะยอมง่ายๆ ขาใช้งานไม่ได้แต่มือยังว่างอยู่



พลั่ก!



ผมซัดไปหนึ่งมัดโดนที่มุมปากแต่ไม่เต็มแรงนักเพราะท่าทางในตอนนี้มันไม่เอื้ออำนวยให้ผมได้ต่อสู้ไอ้นั่นยังคงเสียบคาอยู่ ยิ่งขยับก็ยิ่งเจ็บ แต่หลังจากหมัดแรกที่โดนเข้าไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวมันก็สามารถปัดป้องได้หมด เป็นการต่อสู้ในท่าทางที่เหี้ยที่สุดและจบลงด้วยการผมกดลงกับที่นอนอีกครั้งแล้วกระแทกตัวเข้ามาเต็มแรงจนผมต้องแน่นิ่ง เจ็บไม่ไหวแล้ว...



กู เกลียด มึง!”ผมเค้นคำที่อยู่ในที่บรรยายทุกความรู้สึกออกมา



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะทำให้เปลี่ยนใจมาชอบเอง”



“ไม่มีวัน!”ไม่มีวันที่ผมจะเปลี่ยนความรู้สึกนี้ได้ ผมหันหน้าหนีไม่อยากเห็นหน้ามัน



“หึ หันมาจูบกันหน่อยสิ”



 “ไม่! กูไม่จูบ”ผมผลักหน้ามันออกแล้วหันหนีซ้ายขวาหลบปากมัน



“อย่าดื้อน่า หันมาหน่อยอยากจูบด้วย”



ได้ยินเสียงมันจิ๊ปากขัดใจที่ผมไม่ยอมหันไป มันเลยกระแทกตัวเข้ามาอย่างแรงอีกครั้งเพื่อให้ผมไม่ทันระวังตัว สุดท้ายมันก็ได้สมใจมันทั้งจูบและกระทำเหี้ยๆกับร่างกายของผม ทุกครั้งที่มันขยับสะโพกผมแทบขาดใจ รู้สึกรังเกียจทุกสัมผัสจากมัน



“น้ำน่าน...”ผมเกลียดน้ำเสียงของมัน เกลียดเวลาที่มาเรียกชื่อผมข้างๆหู



“อ๊ะ...”ผมต้องกดหน้าลงกับหมอนกลั้นเสียงของตัวเอง เมื่อมันกระแทกเข้าที่จุดหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเอามากๆ มันจี๊ดไปตามแนวสันหลัง บางอย่างแตกซ่านในตัวผม แต่เหมือนไอ้ตัวเหี้ยมันจะจับได้เลยย้ำเข้าที่เดิมถี่ๆจนผมต้องจิกผ้าปูที่นอนแน่น ตรงนั้นของผมเริ่มรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่สงบนิ่งเพราะความเจ็บปวดเหมือนส่วนล่างถูกฉีกออกจากกัน



“ตรงนี้...รู้สึกดีใช่มั้ย”มันกระซิบถามพร้อมกดจูบลงมาที่ใบหู ปลายลิ้นไล้วนจนผมขนลุกสะท้านไปหมด พร้อมกับที่มันย้ำไอ้จุดบ้าๆนั่น โคตรเกลียดร่างกายตัวเองที่ดันไปมีอารมณ์ร่วมกับมัน



“เจ็บ...กูเจ็บ”ผมร้องประท้วงเมื่อมันเหมือนจะหน้ามืดซัดผมไม่ยั้ง แต่ก็ยังดีที่มันยังได้ยินคำร้องประท้วงและพอมีสติแล้วเริ่มขยับช้าลงจังหวะเนิบนาบจนรู้สึกได้ถึงตัวตนของมันในร่างกายผมอย่างชัดเจน ไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะต้องมาถูกกระทำแบบนี้จากคนๆนี้  อยากให้ทุกอย่างมันจบลงเสียที ผมไม่อยากอยู่ในสภาพที่น่าอดสูนี้แม้อีกวินาทีเดียว












(ต่อ)





หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-12-2015 23:04:41
“มึงไหวนะ”ไอ้พายถามผมเมื่อเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวในครัว มันเทโจ๊กใส่ชามให้ผม เจ้าประจำหน้าหมู่บ้านขายแค่แป๊บเดียวก็หมด อยากกินต้องตื่นเช้ามากๆ



“อือ”ไม่ไหวก็ต้องไหว นอกจากต้องเรียนตอนเช้าแล้ว ตอนบ่ายผมต้องไปทำงานกับพี่ยศด้วย หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้น ตอนเย็นที่ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็หอบสังขารที่บอบช้ำกลับบ้านโดนมันจัดไปสองรอบบอกตรงๆว่าแทบคลาน ส่วนไอ้เหี้ยนั่นหลับสบายไม่รู้เรื่องรู้ราวจนผมอยากจะเอามีดปาดคอแม่งให้เน่าตายคาห้อง



“ดูอาการมึงไม่ดีเลยนะเนี่ย ไม่ต้องไปเรียนดีกว่ามั้ย”



“ไม่ได้”



“เออ งั้นกินเข้าแล้วจะได้กินยา”



“อืม”ไม่อยากขยับปากพูดจริงๆ ไม่มีอารมณ์ ตอนกลับมาโชคดีที่ไอ้พายกลับมาจากถ่ายละครแล้ว ไม่อย่างนั้นเมื่อคืนผมอาจจะจับไข้ตายไปแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นไข้ พวกคนที่ผมเคยนอนด้วยไม่เห็นมีใครเป็นสักคน โดนหนักแค่ไหน ทำจนฟ้าเหลืองอย่างมากก็แค่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงแต่ไม่มีใครจับไข้อย่างนี้ ไอ้พายมันเช็ดตัวให้ผม จับป้อนข้าวป้อนยาตามเวลาจนเช้านี้ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย แต่ช่วงล่างนี่กว่าจะขยับได้แต่ละทีนี่ร้าวไปหมดแต่ก็ต้องฝืนทำตัวให้ปกติ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้พายมันสงสัยอะไรหรือเปล่า ตอนผมอาบน้ำเมื่อกี้นี้มีรอยเต็มตัวไปหมด คงไม่มีสาวคนไหนที่ร้อนแรงทำรอยไว้มากมายขนาดนี้หรอก



“กูจะไม่ถามหรอกนะ ถ้ามึงอยากเล่าเมื่อไหร่ก็ค่อยเล่า”ผมเงยหน้ามองมัน ก่อนจะก้มลงมาจัดการกับโจ๊กตรงหน้า มันดูออกจริงๆสินะ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจคนมันมีประสบการณ์มาก่อน



“มึงทำเป็นใช่ป่ะวะ”



“อะไร?”โคตรไม่เข้าใจ ทำอะไรวะ ไอ้พายมันมองหน้าผมแล้วถอนใจทำหน้าเหมือนผมซื่อบื้อมาก



“เขาใส่ถุงป่ะล่ะ ถ้าใส่ก็เป็นไร แต่ถ้าไม่ใส่แล้วปล่อยในมึงเอาออกเป็นใช่มั้ย”



“ไอ้สัด”ชัดเจนจนผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ความรู้สึกหลายอย่างมันตีขึ้นมาจนหน้าร้อนวูบวาบ อาย เสียหน้า และกลายเป็นความอึดอัดแทน ผมไม่อยากปิดเพื่อนแต่ก็ไม่อยากพูดถึง มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอาไปเล่าให้ใครฟังได้ แต่มันก็พูดมาขนาดนี้แล้วจะปฏิเสธก็จะยังไงอยู่



“กูรู้ว่ามันยากสำหรับมึงที่จะทำใจยอมรับกับตำแหน่งที่เปลี่ยนไป”



“เหี้ย กูไม่เคยคิดเปลี่ยนตำแหน่ง เลิกพูดไอ้สัด!”



“เออๆ แล้วรถมึงไปไหนวะ กูไม่เห็นจอดอยู่”



“ร้านเฮียเสก”ผมโทรไปบอกเฮียแล้วว่าฝากไว้ก่อน คืนนี้จะไปเอา ถึงจะทำให้ไปไหนไม่สะดวกแต่มันก็ช่วยไม่ได้ บ่ายนี้ผมต้องไปทำงานกับพี่ยศจะไปเอาเลยหลังเลิกเรียนช่วงเช้าก็กลัวว่าจะไปไม่ทันงาน



“เออ งั้นเช้านี้ไปกับกู”



“อืม”



“เห้ย ฉิบหายละ รีบกินเร็วๆเลย กูลืมไปว่าวันนี้พี่เดียวมีควิซ เดี๋ยวกูไปอ่านโพยตองก่อน”



ชื่อที่ถูกเอ่ยออกมาทำเอาผมกินไม่ลง แต่ก็พยายามเก็บอาการแต่โชคดีที่ไอ้พายไม่ได้สนใจอะไรผม เพราะมัวแต่รีบก้มหน้าก้มตาเป่าโจ๊กของตัวเอง




“ว่าแต่ใครวะที่ทำให้มึงมีสภาพเหมือนโดนรถสิบล้อเหยียบ ครั้งแรกของกูไม่เห็นจะหนักเท่ามึงเลย”จู่ๆมันก็พูดขึ้นระหว่างที่ติดไฟแดง ไอ้เหี้ย ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยเหรอวะ เห็นเงียบไปตั้งแต่อยู่ที่บ้านก็คิดว่ามันจะไม่ติดใจอะไรแล้ว แล้วไอ้ที่ว่าอยากเล่าค่อยเล่านี่มึงพูดเพื่ออะไร?



“ขับรถของมึงไป ไม่ต้องเสือกอยากรู้”



“เอ้า เออๆ ไม่ถามก็ได้แม่ง”มันทำหน้าหงุดหงิดที่ต่อมเสือกถูกสกัดไว้



“แล้วก็ไม่ต้องไปหลุดปากคุยกับใครเข้าใจมั้ย”



“อืม แต่กูขอถามอีกคำถามละกัน”



“ทำไมมึงพลาดได้วะ”



“เมา”เป็นคำตอบเบสิคที่สุดแล้วคิดอะไรไม่ออกก็เมาไว้ก่อน แม้ว่าความเป็นจริงแล้วจะไม่ได้เมา รู้ตัวตลอดเวลาแต่พลาดเพราะตัณหาหน้ามืดของตัวเอง ประมาทมันเกินไปผมไม่คิดว่ามันจะเกินเลย ที่เจ็บใจคือสู้แล้วแต่มันสู้มันไม่ได้



“เมา...เมื่อคืนก่อนมึงไปแดกเหล้ากับไอ้ธันว์นี่หว่า มึงไปได้กับใครเนี่ย อย่าบอกนะว่าไอ้ธันว์”



“ค_ย คิดได้นะมึง จะได้กับใครก็เรื่องของกู เพราะกูไม่อยากนึกถึง ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ เลิกพูดถึงสักที”ผมหงุดหงิดถึงที่สุด ไอ้พายคงรับรู้ดีมันเงียบกริบไปเลยแต่ผมรู้ว่าในความเงียบนั้นมันยังไม่ได้หยุดคิดหรอกว่าผมไปนอนกับใครมา ในหัวมันคงพยายามสร้างสมมติฐานความเป็นไปได้อยู่ จนมาถึงหน้าคณะของผมที่มันวนรถมาจอดให้ไม่ต้องให้ผมเดินไกล



“ขอโทษนะเว้ย กูพูดมากไปหน่อย แต่กูห่วงมึงนะ เพราะมึงไม่เคยพลาด แต่กลับมีสภาพแบบนี้จะไม่ให้กูสงสัยได้ไงวะ แต่กูจะไม่พูดถึงอีก ยาที่กูให้ไปกินซะนะมึงจะได้ดีขึ้น”



“อืม ขอบใจ”





X





“สภาพมึงนี่จะไปถ่ายกับกูไหวมั้ย”พี่ยศทักทันทีที่เห็นหน้าผม นี่ขนาดนอนในคาบเรียนมาแล้วนะ สภาพผมมันไม่ดีขึ้นเลยหรือไงวะ ผมพยายามเซฟพลังงานอย่างที่สุดแล้วตอนมาหาพี่ยศก็ให้ไอ้เต้มาส่ง มันจะไปหาเด็กพอดี เพื่อนๆทุกคนมันสงสัยกับสภาพผมแต่ถามแล้วไม่ได้คำตอบมันก็เลิกถาม มีไอ้เต้นี่แหละที่มองแปลกๆไม่เลิก มองแล้วก็ทำท่าคิด อย่าบอกนะว่ามันดูออกว่าผมไปทำอะไรมา เคยมั้ยครับเหมือนเราไปทำความผิดแล้วกลัวคนอื่นรู้ความรู้สึกเหมือนวัวสันหลังหวะแบบนี้ผมไม่ชอบเลยจริงๆ




“ไหวสิพี่”ต่อให้เจ็บป่วยจะตายยังไงถ้าผมรับงานแล้วผมต้องมา จะไม่ยอมเสียเครดิตแน่ๆ ยกเว้นว่ามันจะหนักหนาถึงขั้นแอดมิดอ่ะนะ โชคดีอีกอย่างหนึ่งก็คือผมเตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อมแล้วตั้งแต่วันเสาร์ที่มาทดลองถ่ายกับพี่ยศแล้ว เลยไม่มีอะไรน่ากังวล



“กินไรมายังวะ กูให้อิบุ้งซื้อแซนด์วิชกับกาแฟไว้ให้แล้ว เดี๋ยวมึงไปกินบนรถก็ได้ รองท้องไว้ก่อนไปถึงนั่นเขามีอาหารเลี้ยงอยู่”



“ครับพี่ ยังไงก็ได้”แต่กินอะไรหน่อยก็ดีผมจะได้กินยาตามคำสั่งไอ้พาย ความเจ็บกับการเดินติดขัดมันคงไม่หายภายในวันสองวันนี้แต่ผมอยากให้มันดีขึ้น ทำอะไรได้สะดวก ไม่ต้องคอยเกร็งเวลาเดิน



“มึงเดินแปลกๆนะเนี่ย”พี่ยศหรี่ตามอง



“เหรอ เมื่อเช้าลงบันไดแล้วพลิกนิดหน่อย เจ็บแปลบๆแต่ไม่มีไรมากพี่”นาทีนี้กูแถอย่างเดียว จะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่ได้ เพราะบางทีอาจเผลอเดินไม่ปกติ ข้ออ้างนี้มันจะได้ดูเนียนๆหน่อย พอผมบอกไปพี่ยศก็ไม่ติดใจเดินนำไปที่รถ



“ตึกใหญ่ใช่เล่นนะพี่”ผมโน้มตัวไปมองตึกเบื้องหน้าผ่านกระจกหน้ารถ พี่ยศกำลังต่อคิวเพื่อเลี้ยวเข้าตัวอาคาร ด้านบนของประตูทางเข้าตึกมีอักษรย่อ VW สีทองตัวใหญ่ติดหรา รู้มาว่าเป็นบริษัทใหญ่แต่ไม่คิดว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้



“อืม กูถึงอยากได้งานนี้ไง ไม่ใช่ว่าจะได้เงินดีอย่างเดียว แต่จะทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัมากยิ่งขึ้น”ใช่ครับ การได้ทำงานให้กับบริษัทใหญ่ จะทำให้ได้เดรดิตดี ผมเองก็ดีใจที่ถูกเลือกมาเป็นผู้ช่วยทั้งที่ผมไม่ใช่พนักงานประจำของพี่ยศ เมื่อวันเสาร์หลังจากที่ไปลองฝึกฝีมือที่สตูดิโอของพี่ยศผมก็มั่นใจมากขึ้น ก่อนหน้านั้นผมก็ศึกษาการถ่ายมาเยอะ ดูตัวอย่างรูปมาเยอะมากๆ พอได้ลองของจริงสิ่งที่ดูแล้วเอามาประยุกต์เป็นแนวของตัวเองแล้วมันออกมาดีกว่าที่คิดไว้



การมาถ่ายงานครั้งนี้เขาระบุว่าสามารถพาผู้ติดตามมาได้สองคนเท่านั้น พี่ยศจึงเลือกพาผมและนางแบบมาอีกหนึ่งคน เพราะไม่รู้ว่าจะต้องถ่ายในแนวไหน เลยคิดว่าพานางแบบมาด้วยสักคนเผื่อไว้ ตอนที่มาถึงเธอก็มารอแล้วเรียบร้อย นางแบบของพี่ยศก็เป็นที่คุ้นเคยกันดี คุยง่ายซ้ำยังพร้อมด้วยการเตรียมชุดมาสำรองไว้อีก



หลังจากแจ้งเรื่องกับประชาสัมพันธ์และแลกบัตรเสร็จก็มีคนมาพาพวกผมมาที่สตูดิโอของบริษัทที่มีอุปกรณ์ในการถ่ายรูปทุกอย่างพร้อมมาก มีอุปกรณ์ประกอบฉากอยู่มุมหนึ่งแต่ยังไม่ได้มีการเซ็ตอะไร มีพนักงานของบริษัท 2 คนในห้อง ที่ยิ้มแย้มตอนรับพวกผมเป็นอย่างดี ตอนแรกก็เฉยๆแต่พอมาถึงห้องนี้กลับตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเด็กๆที่ได้ขึ้นไปร้องเพลงตอนงานโรงเรียน แม้แต่ตอนมีเซ็กส์ครั้งแรกยังไม่ประหม่าเท่านี้



“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวคุณทิชาจะเข้ามาชี้แจ้งรายการละเอียดในการถ่ายงานวันนี้นะคะ”



“ครับ”พี่ยศรับคำก่อนจะพาผมมาเซ็ตอุปกรณ์กล้อง ไม่ถึงห้านาทีก็มีผู้หญิงคนหนึ่งท่าทางทะมัดทะแมง ผมยาวดำถูกมัดเป็นหางม้าเรียบตึงเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มงานและชายชุดดำ 5 คน 3 คนแรกถือกล่องดำมาคนละ 1 กล่อง เดาว่าในนั้นคือเครื่องเพชรที่พวกผมต้องใช้ถ่าย



“สวัสดีค่ะ ดิฉันทิชาได้รับมอบหมายให้มาชี้แจ้งรายละเอียดงานในวันนี้”



“สวัสดีครับผมยศวี บริษัท... เป็นช่างภาพที่จะถ่ายงานวันนี้ ส่วนนี่ชลธรเป็นผู้ช่วยและช่างภาพมือลำดับที่ 2 แล้วนี่ก็ปราลีเป็นนางแบบของผมครับ”



“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณยศเตรียมพร้อมมากๆเลยนะคะ”เธอยิ้มเล็กน้อยแต่ดูดีมากในสายตาผม เอาตรงๆเธอโดนใจผมมากครับอยากสานต่อ



“ธีมในการถ่ายวันนี้คือดรีมหรือในฝันนะคะ เราจะมีเครื่องเพชร 3 ชุด ซึ่งอยู่ในนี้”เธอผายมือไปยังกล่องสีดำนั่น เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผมยืนฟังรายละเอียด ความเป็นมาของเครื่องเพชรแต่ละชุดที่ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทเปิดกล่องออกมาเพื่อให้ชมเป็นบุญตา พอบรีฟเสร็จก็ปล่อยให้พวกผมเริ่มงาน พี่ยศจะถ่ายทั้งสามเซ็ตตามไอเดียของตัวเอง และให้ผมทำแบบนั้นเหมือนกัน จากนั้นให้มาเลือกรูปที่เราพอใจเพื่อส่งให้พิจารณา ระหว่างการถ่ายทำชายชุดดำทั้ง 5 อยู่เฝ้าตลอด ก็นะเครื่องเพชรสามชุดนี้รวมๆกันแล้วอาจจะถึงสิบล้านเลยก็ได้



“น่าน”



“ครับพี่”ผมเงยหน้าจากโน้ตบุค พี่ยศเดินหน้ายุ่งเข้ามาหา ในมือถือกล้องคู่ใจ



“มึงไปยืนข้างปลาสิ”



“ห๊ะ!?”หูฝาดหรือเปล่าวะ ให้ผมไปยืนทำอะไร



“กูอยากได้นายแบบแล้วมึงคือคนนั้น”



“ตลกละพี่”บ้าไปแล้ว จู่ๆจะให้ผมเป็นนายแบบ



“มึงตลกตรงไหน กูจริงจัง ไปเลยเวลามีน้อย”



“เห้ยพี่! ผมเนี่ยนะ หน้าสดๆเนี่ยนะ ชุดนี้เนี่ยนะ”คือถึงจะมั่นใจในหน้าตาตัวเอง แต่การถ่ายแบบจะให้หน้าสดๆผมว่าไม่เวิร์คมั้ง



“จะเนี่ยนะอีกเยอะมั้ย มึงไปเลย ไปยืนข้างปลา ถอดแจ็คเกตออก ปลดกระดุมเสื้อมึงด้วย”



“ห๊ะ!”วันนี้ผมแต่งตัวสุภาพนะครับ เสื้อเชิ้ตสวมทับด้วยแจ็คเกตสีดำไม่ลำลองแต่ก็ไม่เป็นทางการเกินไป แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าถ้าปลดกระดุมจะต้องเห็นรอยบนตัวผมน่ะสิ



“ตกใจอะไร เร็วๆ”พี่ยศเริ่มมีอารมณ์แล้วครับผมเลยต้องทำตามคำบัญชา



“ให้ผมทำไงพี่”



“ลงไปนั่งบนโซฟา เอนหลังชิด ปลานั่งตกมันสิ พิงอกมันไป”ท่าล่อแหลมมากครับ นี่ธีมในฝันนะครับ พี่ยศคิดจะทำอะไรเนี่ย



“น่านทำท่าจะใส่สร้อยให้ปลาสิ”ผมรับสร้อยจากชายชุดดำมา



“ปลาหันไปปลดกระดุมไอ้น่านดิ กูบอกให้ปลดออกก็ไม่ปลด”พี่ยศบ่นมาครับ ผมนั่งตัวแข็งเลย



“แหม ทำไมนั่งเกร็งจังเลยน้องน่าน”พี่ปลาแซวพร้อมกับปลดกระดุมผมไปด้วย พอเธอแหวกสาบเสื้อผมออกก็ทำตาโต



“สาวไหนเนี่ย ร้อนแรงจัง มิน่าไม่ยอมถอด”



“อ่านะ”ผมไม่รู้จะพูดอะไร ดีที่ทักว่าเป็นผู้หญิงทำเลยไม่รู้สึกเสียหน้าเท่าไหร่ ผมเป็นนายแบบให้พี่ยศเกือบชั่วโมงกว่าพี่แกจะพอใจ เราถ่ายงานกันจนครบเวลาที่กำหนดไว้ จะว่าไปเหมือนพวกผมเป็นเด็กที่กำลังสอบอยู่เลย



“ภายในสองวันให้คุณยศวีส่งไฟล์ภาพมาให้เรานะคะ จากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์เราจะติดต่อไปเพื่อแจ้งผล”



“ครับ ผมหวังว่าจะได้ร่วมงานกัน”



“เช่นกันค่ะ”



จบไปอีกวัน เป็นวันที่แสนเหนื่อยมากของผม พองานจบไข้ก็มาทันที หนักหัวมากอยากจะล้มตัวลงนอน ส่วนล่างก็เริ่มเจ็บขึ้นเพราะผมเดินถ่ายรูปไม่หยุด ไหนจะที่พี่ปลามานั่งตักอีกเกร็งไปหมดทั้งตัว พี่ยศชวนไปกินข้าวเย็นเพราะตอนนี้ห้าโมงเย็นพอดีแต่ผมปฏิเสธไปอยากกลับมานอนใจจะขาด แกคงเห็นท่าทางผมไม่ดีด้วยมั้งเลยไม่รบเร้าแต่มาส่งที่บ้านแทน



ทั้งหิวทั้งเหนื่อย แต่ความเหนื่อยมันชนะดังนั้นพอถึงบ้านผมก็ทิ้งดิ่งลงบนโซฟาทันที ไม่มีแรงจะคลานขึ้นไปนอนบนห้อง เดี๋ยวไอ้พายคงมาเก็บศพผมเองวันนี้มันไม่มีงานตอนค่ำ ผมส่งข้อความไปบอกมันให้ซื้อข้าวกลับเข้ามาด้วยถึงจะมีของสดแต่ไม่มีแรงทำ จะรอมันกลับมาทำก็คงเหนื่อยแล้วก็ไม่ทันใจซื้อเข้ามาเลยดีกว่า จากนั้นผมก็หลับไปทันที ตื่นมาอีกทีก็มานอนอยู่บนเตียงของตัวเองแล้ว มาได้ไงวะ จะบอกว่าไอ้พายแบกผมมาก็คงไม่ใช่ ลำพังมันคนเดียวแบกผมไม่ไหวแน่ๆ หรือไอ้ธันว์กับไอ้คิมมาวะ



“ตื่นพอดี กูกำลังจะมาปลุกให้กินข้าว”ไอ้พายเปิดประตูเข้ามามีถาดอาหารเข้ามาด้วย



“กูลงไปกินข้างล่างก็ได้”



“มึงเดินลำบากกูรู้ กินนี่แหละ”สู่รู้จริงๆ แต่ก็อย่างที่มันว่านั่นแหละตอนนี้ตรงนั้นผมเจ็บมากขนาดนั่งบนที่นอนนุ่มๆยังรู้สึก



“ไข้มึงขึ้น ไม่ได้กินยาที่ให้ไปเหรอวะ”



“เออ กูยุ่งจนลืมไปเลย”ตอนแรกว่าจะกินยาบนรถพี่ยศหลังกินแซนด์วิชแต่ไม่มีน้ำเลยผมก็เอาไว้ก่อนแล้วก็ลืมไปเลย



“ดี มึงก็เจ็บไปเถอะ”



“ห่า...เออ แล้วมันจะเจ็บแบบนี้อีกกี่วันวะ”ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไหนๆมันก็รู้ แล้วก็คงมีแค่มันที่จะตอบคำถามพวกนี้ได้



“ก็แล้วแต่ว่ะ”



“แล้วแต่อะไร?”



“กูพูดไปแล้วมึงอย่าโกรธอ่ะ”



“เออ”ผมรับปากมันไปแต่ในใจเริ่มไม่ไว้ใจกับสิ่งที่มันจะพูด



“ก็แล้วแต่ว่าที่มึงโดนไปอ่ะ ใหญ่มั้ย แรงแค่ไหน แล้วก็กี่รอบ”



“เหี้ย!”ผมงี้หน้าร้อนขึ้นมาทันที ภาพย้อนเข้ามาเป็นฉากๆ อยากลืมแต่เสือกจำได้แม่น เลวจริงๆ ผมไม่น่าถามมันเลย



 “ไปให้พ้นหน้ากูเลยไป”ดูมันไล่ก็ไม่ไปยังมายิ้มระรื่นอีก



“อย่าไล่กูเลย มึงก็รู้ว่ามีแค่กูที่ให้คำปรึกษามึงได้”มันเข้าโหมดจริงจัง ผมไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาคุยเรื่องพวกนี้กับมัน มันน่าอายนะครับคนที่เคยเป็นฝ่ายกระทำมาตลอดต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่ได้อยากคร่ำครวญเหมือนเสียสาวแต่ผมไม่สามารถลืมความรู้สึกแย่ๆแบบนี้ไปได้จริงๆ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว



“อีก2-3 วันก็หายแล้ว มึงก็ออกไปร่อนฟันสาวอย่างเคยๆได้แล้ว อย่าเมาให้เขาฟันมาอีกอ่ะ กูว่ามึงจะมัลติฟังก์ชั่นเกินไปแล้ว”




ไอ้สัด คิดว่ากูอยากโดนหรือไง แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว หายดีเมื่อไหร่ผมจะออกล่าเหยื่อมันทุกคืนเลย!












----------------------------

มาแว้วววววววว เจอกันอีกทีหลังปีใหม่เลยนะคะ
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัย ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนที่รักอย่างมีความสุขนะคะ จุ๊บๆ :กอด1:

#รักไม่ได้ออกแบบ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-12-2015 23:22:47
ไอ้คุณพี่เดียวมาดูแล รับผิดชอบน้ำน่านด่วนเลยนะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-12-2015 23:30:01
หวายๆ น้ำน่านโดนพี่เดียวกินซะแล้ววว  :impress2: :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 27-12-2015 23:59:34
โกรธพี่เดียวววว  ขืนใจน่าน!!  จะนับว่าขืนใจดีมั้ย แต่น่านก็สู้สุดตัวอยู่นะ
ขอให้ผลจากการกระทำครั้งนี้ พี่เดียวจงหลงรักน่านแบบหาทางออกไม่ได้ #ทีมน่าน
แต่จริงๆนี่เดาความสัมพันธ์จากนี้ไม่ออกเลย ยิ่งอ่านมุมมองพี่เดียวก่อนหน้านี้ คือกลัวใจมากกก น่านต้องสตรองนะ สู้!!
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 28-12-2015 00:16:40
ดีงามมากๆเลย อยากรู้ความสัมพันธ์ต่อไปจองพี่เดียวกับน่านแล้ว อยากให้น่านพูดเพราะกับพี่เดียวด้วย(ซึ่งคงไม่ใช่บุคลิกน่าน) 55555555555 อยากให้คนเขียนมาต่อบ่อยๆ รอค่ะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-12-2015 00:35:17
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 28-12-2015 00:42:47
ไอพี่เดียวคือไร  แบบอยากหาอะไรมาฟาดหัวนางมาก 
น่านหายเร็วๆให้เดียวกดใหม่นะลูก  เอ้ย ผิดๆ มาเอาคืนนะน่า น
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-12-2015 16:57:28
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ครับ รวดเดียวสิบตอน
อยากจะบอกว่า เป็นเรื่องที่แต่งได้ดีมากๆ กับพล๊อตเรื่องที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นความคิดตัวละคร บทพูด การกระทำ ตรงนั้นตรงนี้ทำให้เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องแนวเดียวกันอยากชัดเจน เห็นได้ชัดว่าคนแต่งใส่ใจมากๆ เยี่ยมครับ
ขอแชร์ความเห็นสองประเด็นครับ

อ่านมาถึงตอนล่าสุด พี่เดียวนี่เลวกว่าที่คิด ถึงในเรื่องจะไม่มีใครใสๆ ซักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้มีใครเลวชัดเจนแบบนี้ สิ่งที่ทำมันเข้าข่ายข่มขืนเลยนะ แถมกับคนที่เป็นนักศึกษาในมหาลัยที่ตัวเองสอน แรงจูงใจก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่หมั่นไส้กับรูปลักษณ์ที่ตรงสเป็ค น่านอาจจะแสดงมารยาทที่ไม่ดีใส่แต่ก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เจ้าตัวพยายามเลี่ยงๆด้วยซ้ำ ถือว่าพี่เดียวเป็นคนที่ระดับศีลธรรมและความยับยั้งชั่งใจต่ำอยู่เหมือนกันนะ นี่ก็เป็นอันหนึ่งที่รู้สึกพลิกนิดๆ ซึ่งทำให้เรื่องนี้น่าสนใจขึ้น ไม่ใช่แนวแอบชอบแล้วหาทางเอาตัวไปพัวพันด้วย ไม่ใช่แนวมีความแค้นแล้วตั้งใจลงโทษ แต่เป็นแค่คนไม่ดีคนหนึ่งที่ทำอะไรตามอำเภอใจ ถ้าเดินเรื่องต่อยอดตรงนี้ได้ดี หรือใส่พัฒนาการของตัวละครได้เนียนๆ เรื่องจะมีมิติขึ้นไปอีกครับ เชื่อว่าคนแต่งวางไว้ล่วงหน้าแล้ว

อีกประเด็นที่อยากชวนคุยคือเรื่องที่น่านสู้แรงไม่ได้จนเสร็จพี่เดียว ผู้ชายขนาดตัวไม่ต่างกันมาก แรงจะต่างกันขนาดนั้นหรือ ถ้าดิ้นจริงๆ น่าจะรอดเปล่าครับ  เคยอ่านเหตุการณ์คนร้ายข่มขืนผู้หญิง ส่วนใหญ่จะโดนชกท้องจนหมดแรงก่อน นี่ไม่ได้โดนอย่างนั้น สร่างเมาแล้วด้วย ยิ่งน่านซิงอยู่ ตั้งใจร่วมมือยังน่าจะเข้ายากเลย หรือว่าจริงๆ กึ่งสมยอมแต่น่านไม่รู้ตัวเอง จริงๆ ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร แค่อยากชวนคุยครับว่าคนอื่นเห็นยังไงครับ

สรุปว่าเป็นเรื่องที่ชอบมากๆ ทั้งตัวละคร ภาษา การเดินเรื่อง และรายละเอียดที่ใส่มาอย่าง ปราณีต แปลกใจที่คนอ่านยังไม่ค่อยเยอะ แต่เชื่อว่าเดี๋ยวต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-12-2015 17:13:14
เราชอบเรื่องนี้นะ
แต่ล่าสุดนี้ต้องบอกเลยว่ารู้สึกเฟลค่ะ
เดียวขืนใจน่าน
เป็นลักษณะการกระทำที่ Ruthless มากๆ
ไม่ได้ตบตีแต่เล่นๆ เหมือนแมวหยอกหนู
ึืคือเหมือนกูทำได้ก็เลยทำ
ไม่ได้มีความละอายใจ ไม่ได้มีความยั้งคิด
คือไม่ได้เมา จงใจทำ  คือแบบนี้ยิ่งแย่กว่าเดิมค่ะ
คนโดนข่มขืนแล้วก็ไม่เต็มใจไม่น่าเสร็จตามค่ะ

ความดีงามของเดียวหายหมดแล้วสำหรับเรา นางติดลบ
เราเสียดายค่ะ  องค์ประกอปเรื่องดีทุกอย่าง
การปูเรื่อง ภาษาที่ใช้  ตัวละคร
ขอโทษค่ะ  เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 28-12-2015 19:14:41
55555555555555555

มัลติฟังค์ชั่นจริงๆ 555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.10 [27.12.58] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 29-12-2015 09:58:50
อืม เราว่ามันก็ไม่ได้เรียกว่าขืนใจซะทีเดียวนะ ผู้ชายเมื่อขึ้นแล้วก็ฉุดไม่อยู่ใช่ไหมล่ะ

พี่เดียวลึก ๆ เหมือนจะชอบน้ำน่านโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า เพราะตอนแรกพี่แกก็บอกว่าไม่คิดจะทำอะไร เหมือนสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกันนะ หรือเพราะว่าน้ำน่านเป็นคนไม่ยอมคนไม่เชื่อฟังง่าย ๆ พี่เดียวเลยรู้สึกท้าทายใช่เปล่า ประมาทเพราะอารมณ์กันทั้งคู่นั้นแหละ จะเลวหรือไม่เราว่ามันขึ้นอยู่กับการกระทำต่อจากนี้ต่างหาก

อยากรู้จังว่าพี่เดียวเห็นรูปแล้วจะรู้สึกยังไง กับการที่รู้ว่าน้ำน่านก็เป็นหนึ่งในช่างภาพและ...นายแบบ ให้กับงานของตัวเอง

ส่วนพี่บอสกับพี่ยอด ไม่รู้ว่าใครพนันข้างใคร แต่ว่าที่แน่ ๆ ทั้งคู่ได้กันตอนเช้าค่ะ ไม่ใช่ตอนคืนนั้น 555 ไม่รู้ว่าใครชนะเนอะ

แอบสงสัยเหมือนกันว่าพายคงไม่สามารถอุ้มน้ำน่านขึ้นไปส่งข้างบนได้แล้วใครหนอ จะเป็นเพื่อนหรือพี่เดียวอ่ะเปล่า

ปล.สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ นิยายยังสนุกเหมือนเดิมแล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ ชอบเรื่องนี้มากจริง ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 17-01-2016 18:18:08
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 11 -





   เสียงเพลงจากคลื่นวิทยุที่เปิดไว้ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดความน่าเบื่อของสภาพการจราจรที่ติดขัดจนอยากจะลงเดินให้รู้แล้วรู้รอดไปได้บ้าง เวลาแบบนี้คิดถึงไอ้หวานที่จอดนิ่งมาหลายวันขึ้นมาจับใจ ถ้าขับมันมาป่านนี้ก็อาจจะถึงบ้านนานแล้วแต่พอนึกว่าจะต้องแว๊นฝ่าเปลวแดดช่วงกลางวันก็รู้สึกท้อ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับว่าจะยอมแลกกับอะไร



วันนี้ผมมาส่งไฟล์รูปให้พี่ยศ ตามสเต็ปหลังจากคุยงานเสร็จก็ชวนกินข้าวด้วย แต่ไอ้พายมันนัดผมกับคนอื่นๆมากินหมูกระทะที่บ้านแล้วเลยผลัดไว้ก่อน ค่อยเอาไว้เลี้ยงทีเดียวตอนได้งานแล้ว พี่แกหัวเราะใหญ่แล้วบอกขอให้สมพรปาก แต่ผมไม่รู้ว่ารูปที่ถ่ายไปจะใช้ได้และถูกใจผู้บริหารบริษัทนั้นหรือเปล่า



ผมแวะซื้อเครื่องดื่มที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตามที่ไอ้พายสั่งมาหลังจากฝ่าฟันการจราจรมาได้ วันนี้ที่นัดก็ไม่มีอะไรมากมันแค่อยากจะกินฉลองที่มันได้พักกองหนึ่งสัปดาห์แล้วก็ฉลองที่ผมหายไข้ เรื่องเป็นไข้ก็โดนเพื่อนเชี้ยทั้งหลายแซวอยู่ไม่น้อยเพราะปกติแล้วพวกผมถึกกันจะตาย ร่างกายแข็งแรงตามประสาวัยหนุ่มต้นๆ เล่นกีฬากันทุกคน โดยเฉพาะบาสนี่เล่นกันแทบจะเป็นทีมมหาวิทยาลัยติดตรงที่ว่าพวกผมติดเที่ยวไม่อยากซ้อมกันเท่าไหร่เลยไม่ได้เข้าคัดตัวกัน แต่ถ้าให้เล่นๆกันนี่ถึงไหนถึงกัน พนันกันบ้างตามประสาหาเรื่องกินเหล้ากินข้าวฟรี



“น้ำน่าน!”ผมสะดุ้งเพราะเสียงเรียกที่ดังจากด้านหลัง กำลังเลือกพวกขนมขบเคี้ยวเพลินๆ เลยต้องหันมามองพี่เฟิร์สมาทำอะไรที่นี่อีกแล้ววะ ยืนฉีกยิ้มจนตาหยีน่ารักเชียว แต่หวังว่าจะไม่ได้มากับคนที่ผมไม่อยากเจอหรอกนะ



“เจอกันอีกแล้ว วันนี้มาคนเดียวเหรอ”มองพี่เฟิร์สทีไรเหมือนเห็นด้านหลังมีทุ่งดอกไม้บานแฉ่งเป็นแบล็คกราวด์



“ครับ”ผมมองไปรอบๆบริเวณนั้น รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที ไม่อยากเจอไอ้เหี้ยนั่น



“พี่ก็มาคนเดียวเหมือนกัน ซื้อของเสร็จยัง ถ้ายังขอเดินด้วยคนนะ”คำบอกเล่าทำให้ผมสบายใจขึ้นละยินดีจะมีรุ่นพี่ที่แสนน่ารักเดินอยู่ข้างๆ พี่เฟิร์สมีเพียงตะกร้าพลาสติกหนึ่งใบในนั้นมีพวกของสดอยู่นิดหน่อย ดูจากวัตถุดิบแล้วน่าจะทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับผักกาดขาว ส่วนผมมีรถเข็นที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว



“พี่จะทำอาหารกินเองเหรอ”



“ใช่ พี่ก็ทำเป็นแต่ง่ายๆนี่แหละ ที่จริงทำให้พี่เดียวน่ะไม่ได้กินเอง”ผมชะงักไป เพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ คนตรงหน้าผมเป็นแฟนกับไอ้บ้านั่น จะรู้หรือเปล่าว่าแฟนตัวเองเลวยังไง



“พี่เฟิร์สดูรักเขามากเลยนะครับ”



“ใช่รักมากกกก”



“คบกันมานานแล้วสินะ”ผมถามสายตามองส่วนผสมข้างถุงโปเต้ในมือ กินมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่เคยสนใจมันเท่านี้มาก่อน แต่หูก็เงี่ยฟังคำตอบ ทว่าอีกฝ่ายก็เงียบจนผมต้องหันไปมอง พี่เฟิร์สยิ้มกรุ้มกริ่มตาเป็นประกาย ก่อนจะขยับปากตอบคำถามผม



 “พี่กับพี่เดียวเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันมาก เราโตมาด้วยกันถึงจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆแต่ก็ไม่ต่างกัน พี่เดียวใจดีมากกกก พี่ถึงรักพี่เดียวมากกกกกก”ลากเสียงยาวให้รู้ว่ารักมากจริงๆ แต่เอ๊ะ...



“แบบนี้หมายความว่า...”ผมกำลังประมวลคำพูดของคนที่กำลังส่งยิ้มพิมพ์ใจมาให้



“หมายความว่าพี่กับพี่เดียวเราเป็นพี่น้องกัน จะพูดให้ชัดก็ลูกพี่ลูกน้องที่โตมาด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกัน ไม่เข้าใจผิดแล้วนะ โอเค๊”



อ่า...ทำไมเหมือนมีอะไรบางอย่างหลุดลอยจากอกไปก็ไม่รู้ มันรู้สึกโล่งแปลกๆ



“อ๊ะ เอาอันนี้ด้วยพี่เดียวชอบกิน”มือขาวๆจับป๊อกกี้รสสตรอว์เบอร์รี่สามสี่กล่องใส่ตะกร้า ทำเอาผมนึกขำในใจท่าทางไม่ให้กับการชอบกินขนมคิขุแบบนี้เลยจริงๆ



“กี่โมงแล้วเนี่ย เห้ย เครื่องจะลงแล้ว ตายๆ พี่ต้องรีบไปคอนโดพี่เดียวแล้ว”



“อ่าครับ...”เหมือนจะมีข้อสงสัยมากมายแต่ผมก็ไม่คิดจะถามไป เพราะไม่อยากรับรู้เรื่องราวของคนที่เกลียดขี้หน้า ผมรู้สึกเสียดายพี่เฟิร์สขึ้นมาถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนรักกันแต่จะให้จีบพี่เฟิร์สการเผชิญหน้ากับไอ้บ้านั่นย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากจริงๆ เลยได้แต่มองคนน่ารักตาละห้อย






X







“ทำไมนานนักวะ”ไอ้พายออกมารอรับถึงประตูรถในสภาพเสื้อกล้ามสีส้มกางเกงขาสั้นพอดีเข่าสีดำ ปากเป็นมันแผล่บ ผมด้านหน้ามัดจุกน้ำพุไม่เหลือสภาพไอดอลเลย



“กูเจอพี่รหัสมึงเลยคุยกันนานไปหน่อย”



“อ่อ แล้วไมมึงไม่ชวนพี่กูมาด้วยวะ”



“เขามีธุระ”



“อ้อ มาๆ พวกกูเริ่มกินกันไปสักพักละ”มันพูดพร้อมกับช่วยผมหิ้วถุงของที่พอหิ้วได้ ส่วนพวกลังเบียร์ เครื่องดื่มอื่นๆเดี๋ยวค่อยตามไอ้พวกในบ้านมาช่วยกันยก



“เออ กูหิวจะตายห่าแล้วเนี่ย จัดการปิ้งย่างให้กูด้วยเมียรัก”แกล้งมันสักหน่อย ไม่ได้เรียกมันแบบนี้มาสักพักละ มันหันมามองผมพร้อมกับกระตุกยิ้มเลวไม่น่าไว้ใจ



“กูไม่นิยมผัวที่ไปเป็นเมียคนอื่นว่ะ”



“ไอ้สัด! ค_ย เหี้ยเอ๊ย”นึกอะไรไม่ออกนอกจากคำด่าที่จะประทานให้ พลาดครั้งเดียวแต่ทำให้ชีวิตผมด่างพร้อยไปจนตาย



“มาเป็นชุดเลยนะ”ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก



“หุบปากมึงไปเลย แม่ง”ผมผลักหัวมันถ้ากระเด็นหลุดออกจากคอได้ก็อยากจะทำ เกลียดปากมันจริงๆ แต่ไอ้พายหาได้สำนึกไม่ยังทำหน้าล้อเลียนจนน่าถีบ ผมเลยเดินแยกขึ้นด้านบนมาล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นก่อนจะลงไปสมทบกับพวกมันที่มาถล่มบ้าน มากันทั้งเพื่อนผม เพื่อนไอ้ธันว์ เหลือแค่เพื่อนไอ้พายกับไอ้คิมที่ไม่มา อ้อ ไอ้อั้มอีกคน สอบถามได้ใจความว่าญี่ปุ่นกับตองมีนัด ส่วนเพื่อนไอ้คิมปกติก็ไม่ได้มาร่วมก๊วนกันเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนไอ้อั้มได้รับคำบอกกล่าวสั้นๆจากไอ้อ๊อดว่าติดผัว



พื้นที่ว่างบริเวณริมสระตอนนี้เต็มไปด้วยผู้ชายเกือบสิบชีวิตนั่งกินหมูกระทะแกล้มเบียร์ พอผมนั่งลงปุ๊บไอ้ธันว์เสิร์ฟเบียร์ด้านซ้าย ไอ้พายเสิร์ฟหมูใส่จานด้านขวา สบายโคตร กินกันจนดึกดื่น แน่นอนว่าสติหายไปทีละคน



“มึงจะกลับ?”ผมจะมาเข้าห้องน้ำหลังจากที่อั้นไว้นานเพราะขี้เกียจลุกแต่ก็ทนไม่ไหวต้องเดินมาเข้าจนได้ เจอไอ้ธันว์ที่เดินลงมาจากชั้นบน ในสภาพที่ดูดีกว่าตอนนั่งกินหมูกระทะตอนค่ำหลายเท่าตัว อาบน้ำแต่งตัวใหม่กลิ่นน้ำหอมงี้ฟุ้ง อิหรอบนี้ไปตีหม้อแน่ๆ



“กลับแต่ไม่ใช่ห้องกู”มันตอบพร้อมยิ้มเลว กูว่าละ ผมเลยผายมือเชิญมันออกจากบ้านไปอยากจะปูพรมแดงประชดด้วยซ้ำติดว่ามันไม่มีนี่สิ ไม่ออกล่าเหยื่อเองก็มีเหยื่อโทรมาตามให้ไปกินดีจริงๆ พูดแล้วก็เปรี้ยวปากอยากบ้าง แต่ช่วงนี้ซ่าไม่ได้รอยตามตัวยังไม่หายดี คิดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกละ เมื่อไหร่ผมจะลืมเรื่องเหี้ยๆนั่นสักที



พอเข้าห้องน้ำเสร็จก็รู้สึกเหนียวตัวเหม็นหัวผมเลยอาบน้ำสระผมเสียเลย พออาบเสร็จก็ไม่อยากลงไปต่อกับพวกข้างล่างแล้วเลยปล่อยให้พวกมันเมาเรื้อนกันไป ทนยุงกัดไม่ไหวเดี๋ยวก็คลานมานอนในบ้านเอง ผมตั้งใจจะทำงานที่อาจารย์สั่งมาต่อ ถึงจะยังไม่ถึงกำหนดส่งแต่ตอนนี้หัวมันแล่นและมีอารมณ์อยู่เลยต้องรีบทำก่อนที่ความรู้สึกอยากทำจะหายไป แต่ทำได้ไม่เท่าไหร่พี่ยศก็ส่งไลน์มาบอกให้ผมเช็คเมลแกส่งไฟล์รูปที่จะส่งให้ทางบริษัทจิวเวลรี่นั่นให้ผมดู ซึ่งที่จริงแล้วผมไม่มีความจำเป็นต้องดูเลยด้วยซ้ำ มันเป็นสิทธิ์การตัดสินใจของพี่ยศแต่เพียงผู้เดียว แต่ผมก็เปิดดู ทางนั้นขอหกรูปที่คิดว่าเด็ดสุด เซ็ตละสองรูป เป็นฝีมือผมสองรูป ของพี่ยศสี่รูป ผมเลื่อนดูพิจารณาแต่ละรูปโดยละเอียดพลางคิดไปด้วยว่าเหตุผลในการเลือกแต่ละรูปของพี่ยศคืออะไร มาสะดุดรูปสุดท้ายนี่แหละ ผมจะไม่อะไรเลยถ้าไม่ใช่รูปที่มีผมอยู่ด้วย ผมไม่เข้าใจว่ารูปนั้นมันสื่อถึงความฝันได้ยังไง



ผู้หญิงส่วนใหญ่ฝันอยากจะได้เครื่องเพชรจากชายที่รักทั้งนั้น คำตอบของพี่ยศที่พิมพ์กลับมาทำผมร้องอ้อในใจ แต่ก็นึกขำเอาเพชรไปทำไมวะกินก็ไม่ได้ กว่าจะขายได้ก็ยาก สู้เป็นทองดีกว่าร้อนเงินเมื่อไหร่ก็ขายกินสะดวก ผมคุยกับพี่ยศอีกนิดหน่อยพี่แกก็ขอไปทำงานต่อ ดึกดื่นยังทำงานไม่หลับไม่นอน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรวยเอาๆ



ผมตื่นมาตอนเช้าเจอไอ้คิมนั่งสลึมสะลืออยู่บนโซฟาหน้าทีวี ผมเผ้ายุ่งเหยิง ส่วนศพอื่นๆนอนนิ่งอยู่ตามพื้น แต่ไม่เห็นไอ้พาย วันนี้มีเรียนเช้ามันคงออกไปแล้วเมื่อคืนมันก็ดื่มไม่เยอะหายขึ้นข้างบนก่อนผมซะอีก



“มึงมีเรียนมั้ย”ผมจำตารางเรียนพวกมันยังไม่ได้ บางทียังสับสนกับของเทอมที่แล้วอยู่เลย



“มีบ่าย หิวสัด ทำไรให้กูกินหน่อย”



“เออ มึงขึ้นไปอาบน้ำไป”



“แล้วพวกนี้อ่ะ”มันปรายตามองพวกเพื่อนผม อยู่ครบไอ้โฟม ไอ้โอ๊ค ไอ้เต้ มีไอ้อ๊อดไอ้โก้นอนก่ายกันเหมือนผัวเมียอยู่ตรงมุมห้อง น่าถ่ายรูปประจานจริงๆ



“พวกเชี่ยนี่ปล่อยมันไป วันนี้พวกกูไม่มีเรียน แต่มึงลองปลุกผัวเมียตรงนั้นดิ ไม่รู้มีเรียนมั้ย ไอ้ห่าธันว์ก็ออกไปหาเด็กตั้งแต่เมื่อคืนลืมเพื่อนมันแล้วมั้ง”



“เออๆ”มันรับขำแล้วเดินเซนิดๆไปหาไอ้สองตัวมุมห้องเอาเท้าเขี่ยๆ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดไหวติง ผมเลิกสนใจเดินเข้าครัว เปิดตู้เย็นดูว่าจะทำอะไรกินได้บ้าง มีหมูที่ไอ้พายหมักไว้เหลืออยู่ มีคะน้า ดอกกะหล่ำ แครอท กะหล่ำปลีอีกครึ่งหัว ทำราดหน้าแล้วกันคงหนักท้องหน่อย จะให้ทำข้าวต้มนี่คงเอาพวกมันไม่อยู่ ตื่นมาคงหิวโซกันน่าดู ที่บ้านไม่มีเส้นใหญ่เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อเก็บไว้ทำอะไร ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านกัน แต่มีเส้นหมี่ที่ไอ้พายซื้อเก็บไว้อยู่หลายห่อ สบายไม่ต้องออกไปซื้อให้เสียเวลา



ผมลงมือทำไปเรื่อยๆพอเสร็จพวกมันก็ตื่นแล้วเดินเข้ามาในครัวอย่างรู้งาน ดีจริงๆแต่ละคน ไอ้หมวยหน้าตาบู้บี้ยับเยินมาก เดินมาถึงลากเก้าอี้เสียงครืดคราดทิ้งตัวลงนั่งได้ก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะผมแทบจุ่มลงไปในถ้วยพริกน้ำส้มที่ผมทำไว้ดีที่ไอ้เต้เลื่อนถ้วยออกไปทัน



“ไอ้ห่า มึงไปนอนต่อมั้ย ตื่นแล้วค่อยมากิน” ไอ้เต้ว่า ตัวมันคงตื่นดีแล้วล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแต่เสื้อผ้าชุดเดิม



“ม่ายยย กูจะกิน กูหิว อิ่มแล้วจะนอนต่อ”เสียงอู้อี้ตอบกลับมา ไอ้โอ๊คส่งมือไปตบกะโหลกมันเบาๆเหมือนเอ็นดูแต่ได้ยินเสียงตั้บชัดเจน เลยได้นิ้วกลางพร้อมคำด่าแบบงัวเงียมาหนึ่งชุด



“ไอ้อ๊อดไอ้โก้อ่ะ”ผมถาม



“ล้างหน้าอยู่เดี๋ยวตามมา โดดทั้งคู่ไอ้สัด”ไอ้คิมตอบ อาบน้ำ ใส่ชุดนักศึกษาเรียบร้อย ที่บ้านผมมีชุดไอ้ธันว์ไอ้คิมสำรองไว้ คณะไอ้คิมเป็นพวกเด็กเรียนครับต้องใส่ชุดนักศึกษาไปเรียน ส่วนคณะผมพวกปีหนึ่งเทอมแรกก็แต่งกันเรียบร้อย จากนั้นก็ฟรีสไตล์แต่ตอนสอบหรือมีงานอะไรก็ต้องใส่ทำตัวให้สมกับผู้มีการศึกษา



พอกินอิ่มก็แยกย้ายกันไป ไอ้คิมไปเรียน ไอ้โอ๊คหอบหิ้วไอ้หมวยกลับไปด้วย ส่วนไอ้โก้ไอ้อ๊อดก็กลับไปนอนต่อที่ห้อง



“แล้วไมมึงไม่กลับ”ผมหันไปถามไอ้เต้ ในมือมันมีไอติมหวานเย็นแฟนต้าน้ำแดงที่ไอ้พายทำไว้ ห่าทำคืนมันด้วยขี้เกียจฟังมันบ่น



“กูอยู่เป็นเพื่อนมึงไง”



ผมหรี่ตามองมัน ทำตัวแปลกๆ รู้สึกไม่ไว้ใจ ตั้งแต่วันที่ผมโดนกระทำกลับมาจนไข้ขึ้นมันก็เหมือนจะคอยสังเกตผมอยู่เรื่อยๆ จะเป็นพวกรู้ดีแบบไอ้พายหรือเปล่าวะ



“มึงหายดีแล้วใช่ป่ะ”



“ไข้อ่ะนะ หายแล้วดิ”



“อาหะ แล้วอย่างอื่นอ่ะ”



“อย่างอื่นอะไรวะ กูก็ปกติดี”เริ่มกลิ่นไม่ดีแล้วแหะ



“หึ กูดูออก แปลกใจสัดอ่ะ แต่ก็นะ กูก็เคยมาก่อน”



ห๊ะ...เคยอะไรวะ เคยโดนทะลวงมาแบบผมอ่ะนะ ผมหันขวับไปมอง มันเลยหัวเราะใส่ ท่าทางไม่ทุกข์ร้อน ดูดไอติมแท่งแดงสบายใจ ลิ้นแดงเลย



“เมาว่ะ ตอนเริ่มก็ไม่มีสติเท่าไหร่ แต่พอถึงไคลแม็กซ์ก็เริ่มรู้ตัว จะถีบออกก็ไม่ทัน เลยยอมๆไปถือว่าเป็นสีสัน เจ็บแต่มันก็เสียวดี แต่ให้ลองอีกทีก็ไม่เอาแล้ว ไม่ใช่แนวว่ะ”



ชัดเลยสิ่งที่มันพูดมาแสดงให้รู้ว่ามันรู้ว่าผมโดนอะไรมา แต่ผมไม่ยอมรับง่ายๆหรอก ทว่าสิ่งที่ต้องแปลกใจก็คือเรื่องที่มันเล่านี่แหละ ไอ้เต้เป็นประเภทเดียวกับผมเป๊ะเลยนะไม่คิดว่ามันจะพลาดมาก่อน แต่ของมันน่ะเมาจริง ส่วนของผมนี่ต้องเรียกว่าหน้ามืดเมาตัณหาบวกกับความเหี้ยของไอ้บ้านั่นด้วยที่ไม่ยอมหยุด แต่จะว่าไปพอมาคิดดูแล้วถ้าเป็นตัวผมในเวลานั้นจะยอมหยุดหรือเปล่า แล้วผมจะไปคิดในมุมมองมันทำไมวะ ยังไงผมก็เกลียดมันอยู่ดี



“เห้ย!”มันดีดนิ้วตรงหน้าเรียกสติผมกลับคืนมา



“อะไร”



“คิดอะไรอยู่”



“คิดว่ามึงพูดเหี้ยอะไร เล่าให้กูฟังเพื่อ?”



“เป็นวิทยาทาน”



“ทานส้นตีนอะไร เมาค้างหรือไง แดกเสร็จก็กลับบ้านมึงไป”



“หึหึ สองสามวันมาเนี่ยกูเห็นหน้าตามึงดูเครียดๆ กูก็เลยเล่าอยากให้มึงรู้ว่ามึงไม่ได้เป็นคนเดียวที่พลาดไอ้ห่า ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้หมามันแดก อย่าเก็บมาคิดมาก เจอกันเอากันแค่ครั้งเดียวเมาๆ จำหน้ากันไม่ได้หรอก”มันตบบ่าปุๆ ปลอบใจในฐานะรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ แต่ในกรณีของผมมันไม่เหมือนกัน ไม่ได้เมา ไม่ได้เอากันครั้งเดียว แถมยังจำหน้ากันได้แม่น ในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าจะได้เจอกันบ่อยด้วย



ผมไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าที่มันพูดไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถึงปฏิเสธยังไงไอ้เต้มันก็ปักใจเชื่อไปร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ถึงได้จงใจกลับคนสุดท้ายเพื่อคุยกับผม เอาจริงตอนนี้ผมอาจจะเริ่มปลงได้แล้ว ก็แค่เอากันอย่างที่ไอ้เต้มันบอกแต่ไอ้เรื่องเสียเซลฟ์แล้วก็เสียหน้ามันแก้ยากนะครับ ผมต้องไปเรียกความมั่นใจกลับคืนมาสักหน่อยแล้ว





X






บรรยากาศคลับเฉพาะเป็นที่เจริญหูเจริญตามากๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ของสวยๆงามๆเดินกันให้ว่อน นุ่งน้อยห่มน้อยเดินล่อตาล่อใจ แต่เสียตรงที่ว่ามีพวกลุงแก่ๆตัณหากลับหนีเมียเอาเงินมาถลุงให้กับแก้วดริ้งค์เต็มไปหมด มีพวกวัยทำงานบ้างเหมือนกัน ส่วนมากก็ดูเป็นพวกใกล้สามสิบมีกำลังทรัพย์มาก ผมไม่ค่อยได้มาสถานที่แบบนี้บ่อยๆเพราะมันต้องสมัครเมมเบอร์ไม่ใช่ถูกๆ แล้วบรรยากาศมันก็ไม่ชวนครึกครื้นตามประสาวัยรุ่นเท่าไหร่ แต่มันก็สะดวกสบาย ได้รับบริการแบบเต็มเปี่ยมนานๆทีได้มาก็กระชุ่มกระชวยเหมือนกัน ที่นี่ไอ้ธันว์มันดอดมาเปิดเมมเบอร์ไว้ มันว่าอยากลองผมเลยได้อานิสงส์มา ที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็ไม่พ้นไอ้โก้ ไอ้อ๊อด



“ตาเป็นมันเลยนะไอ้น่าน”ผมไม่ตอบ แค่ยิ้มๆสายตากวาดมองของดี คืนนี้ต้องมีติดไม้ติดมือกลับไป แต่ถ้าจะหิ้วกลับก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นซึ่งคืนนี้ผมยอมจ่าย ปกติจะเป็นพวกรักสนุกด้วยกัน แต่คืนนี้จะขอใช้บริการประเภทนี้บ้าง เปลี่ยนรสชาติ



“กูว่านะบางทีพวกเราถ้าไม่ตับแข็งตายก็ติดโรคตาย”จู่ๆไอ้อ๊อดก็พูดขึ้น พวกผมสามคนที่เหลือหันไปทำหน้าเอือมใส่มัน พูดจาหมาๆพาเสียบรรยากาศ



“มึงไม่มีอะไรจะพูดแล้วไง”ไอ้โก้ถามเสียงขุ่น ไอ้นี่เสือยิ้มยากแต่ได้มันไม่ยากแค่มีที่ให้มันเสียบ เอ่อ ที่ที่ว่านี่เฉพาะผู้หญิงนะครับ



“ถุงยางก็มีไอ้สัดจะควายให้ติดโรคก็ตายๆไปซะ ว่าแต่มึงเถอะจวยไม่ได้ใช้งานนานระวังลืมวิธีใช้นะเว้ย”ไอ้ธันว์ๆ ผู้ที่ใช้งานทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ คือไอ้อ๊อดช่วงนี้โดนแม่ควบคุมความประพฤติเพราะกลัวลูกชายจะไปทำสาวท้องก่อนเรียนจบ มันมีเหตุการณ์ที่ว่ามาหาลูกชายด้วยความคิดถึงเพราะลูกไม่ค่อยกลับบ้านแต่เจอแจ็คพ็อตไอ้อ๊อดซั่มสาวคาเตียงรับอรุณ ทั้งที่ปกติมันก็ไม่ค่อยหิ้วเข้าห้องเพราะแม่มันมีกุญแจคอนโดกลังมาจ๊ะเอ๋กัน แต่วันนั้นคงอยากจริงๆเลยลืมไปทุกอย่าง แจ็คพ็อตแตกเลย จากนั้นแม่มันเลยให้คนมาคอยสอดส่องดูแลเป็นพิเศษ ไอ้อ๊อดก็เลยเว้นๆเรื่องบนเตียงไปบ้าง เพื่อให้แม่สบายใจและตายใจครับ แต่ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ครับ หลังจากนี้เดี๋ยวมันก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิมอีก



“ค_ย คืนนี้แหละกูจะใช้งานทั้งคืนเลย”มันพูดอย่างหมายมาดด้วยความคับแค้นใจ แต่พวกผมนี่ฮากระจาย ไม่นานก็มีสาวๆเข้ามาขายดริ้งค์พร้อมกับไอ้จับลูบคลำได้ คือมันไม่ใช่แนวพวกผมก็เลยซื้อดริ้งค์แล้วก็ดูแต่ตาพอ สอดส่องหาคนที่พอใจแล้วค่อยติดต่อกับผู้จัดการร้านอีกที ระหว่างนี้ก็จิบบิ๊วอารมณ์ไปก่อน เอาแค่พอกรึ่มๆอย่าเมามากเดี๋ยวไม่มัน



“อ่า....”



ผมรีดทุกหยาดหยดออกมา กดส่วนปลายลงบนหน้าท้องที่เลอะคราบจากกิจกามที่เพิ่งจบยกสองไป กดวนจนความรู้สึกพองฟูนั้นค่อยๆทุเลาลง พริตตี้สาวสวยที่ผมตัดสินใจเลือกไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เซ็กซี่เร้าใจทำผมเครื่องร้อนทำสองรอบติดกันโดยไม่พักเลย ผมหยิบเศษซากถุงยางที่ดึงออกตอนวินาทีสุดท้ายก่อนจะปล่อยทุกอย่างกระจายบนหน้าท้องขาวเนียนของคนที่นอนหอบตาเยิ้มทิ้งลงถังขยะข้างเตียงที่มีอีกซากนอนรออยู่ในนั้นแล้ว ผมเปิดห้องของคลับไม่ต้องเสียเวลาพาไปกินที่อื่น ไอ้สามตัวที่เหลือก็เหมือนกัน ไอ้อ๊อดได้ใช้งานน้องชายมันสมใจ ฮ่าๆ



“เปิ้ลจะอาบน้ำ จะอาบด้วยกันมั้ยคะ?”อาบน้ำเท่ากับเปลี่ยนสถานที่ทำกิจกรรม ดังนั้นผมไม่พลาดแน่ๆ อยากจะเล่นมันทุกมุมห้องด้วยซ้ำ ถ้าสาวเจ้าเขาไหวอ่ะนะ แต่สุดท้ายก็ได้ในห้องน้ำอีกรอบ บนเตียงอีกรอบแค่นั้นดูเหมือนเธอจะไม่สู้แล้ว ก็น่าเห็นใจอยู่ผมเหมือนเก็บกดมีแรงเท่าไหร่ก็ใส่ไม่ยั้ง ซึ่งคนสวยเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ตอบสนองรุกไล่ดีสุดๆ แต่คงไม่เคยเจอแบบผมเลยหมดแรงไปเสียแล้ว



“จะกลับเลยเหรอคะ?”เธอถามตอนที่ผมกำลังสวมเสื้อเป็นอย่างสุดท้าย



“ครับ นี่ของคุณ”ผมหยิบเงินสดอีกจำนวนหนึ่งให้เธอ ถือเป็นเงินพิเศษที่บริการถูกใจ ความจริงผมก็เพลียนะแต่ไม่อยากค้าง กลับไปนอนบ้านดีกว่า คนสวยพอได้เงินก็นอนลงต่อ ผมคว้ากุญแจรถได้ก็เดินออกมาเลย จบไปอีกคืน





X





วันนี้วันอาทิตย์ผมว่างเลยออกมาเดินที่สวนจตุจักรคนเดียว ไอ้พายไม่อยู่ไปถ่ายละครเอารถผมไป ส่วนรถมันพี่ปอนด์พี่ชายมันลงมาทำธุระที่กรุงเทพยืมไปใช้ ไอ้คิมเห็นว่ากำลังจีบเด็กใหม่เลยไปทำคะแนน เพิ่งโสดไม่กี่วันมีเป้าหมายใหม่ซะแล้ว ส่วนไอ้ธันว์ไม่รู้โงหัวขึ้นจากนมได้หรือยังเห็นว่าเมื่อคืนออกไปแซ่บกับไอ้โก้ทั้งที่คืนก่อนก็เพิ่งไปบันเทิงเริงใจกับน้องพริตตี้มา แต่ที่ฮาคือไอ้อ๊อดต้องเข้าเฝ้านายแม่เพราะจับได้ว่าไปคลับกับพวกผมไม่ยอมกลับห้อง แว่วๆว่าจะถูกกักบริเวณให้ไปเรียนแล้วก็กลับมานอนที่บ้านจนกว่าจะเลิกนิสัยติดนมได้แต่ผมว่ายากนะ ของมันเคยๆ



ความสุข ความสบายใจมันไม่เคยอยู่กับเรานานเลยจริงๆ ผมกำลังเดินดูของเพลินๆแต่ดันมาเจอเข้ากับไอ้คนที่ผมไม่อยากเจอสุดๆ ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะมาเดินที่แบบนี้ด้วยซ้ำ มันอยู่ห่างจากผมไปสองร้าน มีเพื่อนมาด้วยสองคนพี่ทักษ์กับพี่บอส ผมหมุนตัวกลับไปอีกทางเป็นจังหวะที่มันหันมาเห็นพอดี



“น่าน น้ำน่าน!”จะอยู่ทำไมเดินหนีสิครับ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ผมไม่อยากเจอจะให้ยืนอยู่เฉยๆรอมันเดินเข้ามาหา หรือทำใจเดินผ่านหน้ามันก็ไม่ใช่



“น้ำน่าน!”



“โอ๊ย ไอ้เชี่ย ปล่อย!”มันวิ่งมากระชากไหล่ผมอย่างแรงทีเดียวทำเอาตัวผมหันไปตามแรงกระชากไหล่แทบหลุด ตอนนี้มีแต่คนมองเต็มไปหมด บางคนถึงกับเดินหนีคงคิดว่าจะมีเรื่องชกต่อยกันแน่ๆ



“คุยกันก่อน”



“กูไม่คุย!”



“ต้องคุย จะหนีไปตลอดชีวิตหรือไง”



“เรื่องของกู อย่ามายุ่งไอ้สัด!”ผมผลักจนมันเซไป แต่พอจะหมุนตัวกลับมันก็มาฉุดแขนไว้อีก ยื้อยุดกันชาวบ้านเริ่มซุบซิบ ผมโคตรอายที่ได้ยินว่าคู่เกย์ทะเลาะกัน ไม่ได้อายที่ถูกมองว่าเป็นเกย์ แต่อายที่ต้องมาถูกจับคู่กับมัน



“จะเสียงดังเพื่อ ไม่อายคนอื่นหรือไง ตามมานี่!”



ผมถูกมันถูลู่ถูกังออกมาจากซอยที่คนพลุกพล่านมาหยุดแถวซอยขายของตกแต่งบ้าน ระหว่างทางจะชนใครมันก็ไม่สนใจสักนิด



“ปล่อยกูได้แล้ว!”ผมสะบัดข้อมือให้หลุดออก ขึ้นแนวแดงเลยแรงมันจะเยอะไปไหน



“หายดีหรือยัง”



“อะไร”ผมกระชากเสียงถามกลับอย่างหงุดหงิด



“ที่ไม่สบายหายดีแล้วใช่มั้ย”


ผมชะงักไป มันรู้ได้ไงวะหรือไอ้พายจะบอก แล้วเรื่องอะไรที่มันต้องเอาเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยของผมไปบอกไอ้เลวนี่ด้วย



“เรื่องของกู”



“น้ำน่าน ถามดีๆนะอย่ารวนสิ”



ผมมองหน้ามันเต็มๆตา อยากรู้ว่ามันต้องการอะไรจากตัวผมนัก หรือจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็สมควรแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจ



“กูจะเป็นจะตายแล้วเกี่ยวอะไรกับมึง ที่ตอบว่าเรื่องของกูมันก็ถูกต้องแล้ว ถ้าไม่พอใจในพฤติกรรมของกูก็ไม่ต้องมายุ่งเพราะกูก็ไม่อยากยุ่งกับมึง”



“มาถึงขั้นนี้แล้วไม่ยุ่งไม่ได้”



“ทำไม?”สีหน้าของมันดูอึดอัดใจ จ้องหน้าผมคิ้วขมวด



“เรื่องวันนั้น...”



“อย่าพูดนะไอ้สัด หุบปากของมึงไปเลย!”ผมเอามืออุดปากมันก่อนที่จะพ่นคำพูดอะไรที่ผมไม่อยากฟังออกมา แถมยังมาพูดในที่สาธารณะอีก คนขายของในร้านก็เมียงมองออกมา พอหันกลับมาก็สบตาแพรวพราวของมันจนต้องรีบปล่อยมือออก



“หึ...งั้นไปคุยกันที่ห้องพี่”



“ไม่”พี่เพ่ออะไร ขนลุกสัด รอยยิ้มนั่นอีก



“กลัวอะไร?”



“ไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากข้องเกี่ยวด้วย”



“แต่พี่อยากข้องเกี่ยวด้วย อันที่จริงเราก็ทั้งเกี่ยวทั้งกอดกันไปแล้วนะ”



“ไอ้...”พูดไม่ออกเลยกู ภาพในวันนั้นไหลเข้ามาเป็นฉากๆ หน้าผมเหมือนจะไหม้



“อ้าว น่าน น้ำน่าน จะเดินหนีไปไหนเนี่ย”



เสียงมันร้องเรียกตามหลัง ผมไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว อยากจะไปไหนก็ได้ที่จะไม่ต้องเจอหน้ามัน ไอ้เลว ไอ้เหี้ย นรกส่งมึงมาหรือยังไงวะ ผมทำบาปอะไรไว้ทำไมถึงต้องเกิดมาเจอมัน



“โอ๊ย มึง!”มันวางมาดักหน้าผมไว้จนผมสะดุดขาตัวเองเกือบเซล้ม



“อย่าหนีเลย หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก”



“จะเอาอะไรกับกูนักหนาวะ ถ้ากูไปทำอะไรให้มึงไม่พอใจกูขอโทษแล้วกันแต่อย่ามายุ่งกับกูอีกเลย”ผมพูดจริงๆนะ อะไรที่เคยกวนตีนเคยด่ามันไว้ผมขอโทษมันก็ได้ ขอแค่เลิกแล้วต่อกัน



“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พี่ก็ยินดีที่จะทำตามอยู่นะ แต่ตอนนี้พี่คงทำตามไม่ได้”



“ทำไม? จะเอาคืนอะไรกู”



“ไม่ได้จะเอาคืน”




“....” แล้วจะเอาอะไรวะ?



แต่จะเอาน้ำน่าน








--------------------

มาแล้วค่า ผ่านปีใหม่มีครึ่งเดือนเพิ่งจะโผล่หัวมา ขอโทษที่ให้รอนานค่า พอดีเที่ยวเพลินมากไปหน่อย 555  :hao3:
เห็นคอมเมนต์แล้วแอบตกใจแต่ละคนยาวมาก ขอบคุณมากๆนะคะ ทุกคอมเมนต์เลย เราจะพยายามทำให้ทุกคนไม่ผิดหวังนะคะ
อยากให้ติดตามกันไปตลอดนะคะ ;-; อย่าทิ้งเค้าปายยยยย  :ling3:

----------

เรามีทวิตนะคะ พยายามติดแท็กมาตั้งแต่เริ่มลงเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าแท็กไม่ขึ้น เสิร์ชหาไม่เจอ #ร้องไห้หนักมาก  :o12:
แต่ล่าสุดลองเสิร์ชแล้วเจอ คาดว่าคงไม่มีอะไรผิดพลาดละ #รักไม่ได้ออกแบบ  หรือจะเข้าไปพูดคุยกันที่เพจตามลิ้งค์ด้านล่างได้นะคะ เพจเหมือนจะร้าง แต่ไม่ร้างนะคะ 5555555   :mew5:


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 19-01-2016 01:04:29
มาต่อแล้วววววว ดีใจมากๆเลย รอมานาน อยากเห็นความสัมพันธ์ที่จะพัฒนาต่อไปเร็วๆค่ะ อยากรู้ว่าน่านจะทำยังไง จะมีมุมหวานเร็วๆนี้ไหม 55555555555 รอต่อไปนะคะ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 19-01-2016 02:20:28
อ่านละติดเลยยยยยยค่ะ  :hao6:
คู่รองนี่ใช่พายกับเพื่อนพระเอก กับเฟิร์สธันว์หรือเปล่าคะ
เราแอบลุ้นว่าใครจะหยุดธันว์หนะค่ะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 19-01-2016 09:42:19
ทำไมเราติดใจเรื่องของเต้นะ รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่าง 555

พี่เดียวคะ พี่เริ่มสนใจน้องแล้วใช่ไหม แบบว่าที่พี่เดียวรู้ว่าน้องไม่สบายนี่ต้องใช่แน่ ๆ อ่ะ

อยากอ่านต่อจัง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-01-2016 19:57:24
ไม่เอาคืนแต่จะเอาน้ำน่านเลยนะพี่เดียว  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 19-01-2016 20:52:57
ตั้งแต่อ่านพาร์ทพี่เดียวมา สารภาพเลยว่าระแวงพี่เดียวหนักมากกกก

แบบนี่พี่เดียวจริงจัง ล้อเล่น หรืออะไร อย่างไร หรือรู้สึกแบบที่แสดงออกจริงๆ


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.11 [17.1.59] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 19-01-2016 23:36:06
สนุกดีคะ แต่แอบหมั่นไส้พระเอก  :m16:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.12 [27.1.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-01-2016 23:47:21
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 12 -





“ปากมึง!”ไอ้ทักษ์ทักเสียงดัง เมื่อผมเดินกลับมาหาพวกมันที่ร้านขายนมปั่นกับขนมปังปิ้งร้านประจำของไอ้ทักษ์ผมว่ารสชาติก็ไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย แต่ที่ติดใจคงเป็นนมแม่ค้ามากกว่า



   “ฝีมือน้องมัน?”ผมพยักหน้าให้ไอ้บอส จะปฏิเสธว่าหกล้มหน้าคว่ำก็คงไม่มีใครเชื่อนอกจากว่ามันจะมีเขางอกจากหัว ก็ผมเดินตามน้ำน่านไปคาตาพวกมันขนาดนั้น



“ฝีมือไอ้น่าน? โหดสัด”ไอ้ทักษ์ทำหน้าแหยงๆ เหมือนโดนต่อยเสียเอง



หลังจากผมพูดประโยคนั้นออกไปหมัดเน้นๆก็พุ่งกระแทกปากอย่างไม่ทันตั้งตัว เห็นดาวยิบๆลอยอยู่ตรงหน้า จากนั้นความเจ็บและความอายก็คืบคลานเข้ามาพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นออกมามองกันใหญ่ ส่วนไอ้คนทำมันเผ่นหนีไปไกลแล้ว ผมเห็นว่าวันนี้คงคุยอะไรกันไม่รู้เรื่องแล้วเลยปล่อยไปก่อน แล้วเดินกลับมาหาไอ้สองตัวที่ร้านนมปั่นนี่



ผมไม่แปลกใจหรอกที่ตัวเองโดนต่อย คาดเอาไว้อยู่แล้ว ถ้ามีใครมาพูดแบบนี้ผมก็ชกหน้ามันเหมือนกันนะ โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบขี้หน้า แต่ไม่คิดว่าหมัดจะหนักเอาเรื่อง รับรู้ได้ถึงรสคาวของเลือดที่แทรกมาตามไรฟันดีที่ฟันไม่โยกนะเนี่ย จะว่าผมบ้าก็ได้นะที่รู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วจะโดนแบบนี้แต่ก็ยังทำ แต่มันเป็นการลงโทษตัวเองของผมด้วย เรื่องในวันนั้นยอมรับว่าผิดเต็มๆที่ไม่ยอมยับยั้งชั่งใจ ตอนแรกก็แค่อยากแกล้งเด็กปากดี หลังๆชักเริ่มเตลิด กลิ่นหอมๆบนผิวเนื้อนั่นทำเอาผมไม่อยากผละห่างออกมาเลย แล้วความคิดด้านมืดก็ผุดออกมาผมอยากทำให้เด็กนั่นเป็นของตัวเอง ทุกอย่างเลยจบลงตรงที่ผมทำไปถึงสองรอบ รอบแรกเจ้าตัวขัดขืนน่าดูแต่ยังคงแฮงค์อยู่เลยสู้แรงผมไม่ค่อยจะได้ อีกอย่างผมออกกำลังกายเป็นประจำกล้ามเนื้อก็มากกว่า แรงก็มากกว่าเลยได้เปรียบ รู้สึกว่าตัวเองก็เลวไม่น้อย ปกติไม่เคยต้องใช้กำลังขืนใจใคร แต่รอบสองไม่รู้เพราะเหนื่อย เจ็บหรืออะไรจึงไม่มีการขัดขืนเลยหลังๆก็เหมือนจะให้ความร่วมมือดีด้วยซ้ำ แต่ตื่นมาเจ้าตัวก็ไม่อยู่แล้ว ผมอยากตามนะแต่ไม่แน่ใจว่าการไปหาถึงบ้านมันจะดีหรือเปล่า แต่จะให้โทรผมก็ไม่มีเบอร์น้ำน่านจนถึงตอนนี้ก็ไม่มี



“แล้วไปทำอิท่าไหนถึงได้โดนฝากรักมาวะ”ไอ้บอสสนอกสนใจเรื่องของผมมาก ด้วยมันคิดเอาไว้ว่าผมสนใจน้ำน่าน ตอนนั้นไม่ใช่แต่ตอนนี้ไม่สนใจคงไม่ได้ โดยปกติผมไม่ค่อยแคร์กับคู่นอนอยู่แล้วลงจากเตียงก็ถือว่าจบแล้ว แต่กับคนนี้มันแตกต่างเพราะเขาไม่ใช่คู่นอนที่จบอย่างวินวินทั้งคู่ มันเริ่มด้วยความหมั่นไส้ อยากแกล้ง อยากทำให้หายอวดดี ต่อมาก็เหมือนอยากเอาชนะเล็กๆที่อีกฝ่ายรังเกียจและไม่ชอบขี้หน้า ตอนนี้ก็ยังมีความรู้สึกนั้นอยู่ แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือความรู้สึกผิด



“เห้ย ว่าไง ถามแล้วเงียบ ถอดจิตไปไหนวะ”ไอ้บอสถามย้ำเมื่อผมยังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ช่วงนี้มีเวลาว่างจากสิ่งที่ทำอยู่ทีไรเป็นต้องคิดถึงเด็กนั่นทุกทีไป



“ไม่เสือกดิบอส”ผมแสยะยิ้มใส่มัน เรื่องนี้ผมยังไม่อยากบอกใคร



“เอ้า ไอ้เชี่ยนี่”มันหัวเสียขึ้นมา



“แล้วทำไมมันต่อยมึงด้วยวะ มีเรื่องอะไรกัน”ไอ้ทักษ์ถามบ้าง



“เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”



“ไม่หน่อยแล้วมั้งกูว่า”



“เออหน่า ช่างมันเถอะ”ผมไม่อยากถูกซักมากกว่านี้



“มึงสนใจน้องมันเหรอวะ”จู่ๆมันก็พูดขึ้นมา หรี่ตามองผมอย่างจับผิด ขณะที่ไอ้บอสหัวเราะเบาๆ ผมไม่เข้าใจตรรกะไอ้ทักษ์เท่าไหร่ การที่ผมโดนเด็กต่อยมันเอาไปเชื่อมโยงกับเรื่องความสนใจได้ยังไง เพราะสนใจเขาเลยเข้าไปให้ต่อยน่ะเหรอ บ้าแล้ว



“แต่น้องมันไม่ใช่แนวมึงเลยนะ”มันยังไม่เลิกคิด แต่ก็เก่งที่เดามาถูกทาง



“แล้วแนวกูนี่ต้องยังไง?”



“ก็...”ไอ้ทักษ์ทำท่าคิด มันไม่สามารถบอกได้ในทันทีเพราะสเป็คของผมไม่เคยตายตัว จะเรียกให้ถูกก็คงไม่มีสเป็ค ส่วนใหญ่ใช้อารมณ์ ความพอใจตัดสินตอนที่ได้เจอ ได้คุยมากกว่า โดยเฉพาะถ้าหากเน้นแค่เรื่องอย่างว่ามันไม่จำเป็นต้องลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยอะไรเลย แต่ถ้าถามถึงคนที่จะมาคบกันแบบจริงๆจังๆผมก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง หรือนิสัยใจคอต้องเป็นอย่างไร แต่ถ้าตอนที่ได้คุยแล้วอะไรบางอย่างในตัวเขาทำให้ผมสนใจ แล้วรู้สึกคลิกคนนั้นคือใช่ ซึ่งผมยังไม่เคยเจอคนที่ใช่เลยจริงๆ มีแค่เกือบๆเท่านั้น



“นึกนานไปแล้วไอ้สัด อย่างไอ้เดียวอ่ะ คลำไม่มีหาง ไม่ผูกมัดมันก็เอาหมด”ไอ้บอสตอบ



“กูไม่ใช่ไอ้ยอด”พูดซะเสียเลย ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียหน่อย ผมไม่มีสเป็คแต่ไม่ใช่ว่าเอาดะไม่เลือกนะ มันคนละความหมายกัน



“เดี๋ยวๆ อย่าทำให้กูเขว มึงยังไม่ตอบเลยว่าสนใจน้องมันเหรอวะ”ไอ้ทักษ์ผลักหน้าไอ้บอสจนหงายก่อนจะหันมาเซ้าซี้ผมต่อ



“ไม่รู้ดิ”ผมยังไม่อยากพูดอะไรมากในตอนนี้ มันมีหลายๆอย่าง หลากหลายความรู้สึกที่ล่องลอยไปมายังไม่ตกผลึก



“วู้ ตัวของมึงเองยังไม่รู้เลย”



“เออ แล้วมันไปหนักส่วนไหนของมึง”



“หนักหัวกูนี่แหละ กูอยากรู้!”



“เป็นเอามากไอ้สัด”ไอ้ยอดส่ายหน้าระอา “อยากรู้ก็รอดูไปเรื่อยๆ ตอนนี้มันไม่บอกต่อให้เอาชะแลงมาง้างปากมันก็ไม่พูดหรอก”



ไอ้บอสเหมือนจะช่วยผม แต่มองตามันแล้วผมว่ามันรอเวลาและโอกาสจะล้วงความลับกระชากตับผมออกมาสับๆให้ไอ้พวกที่เหลือกินแน่ๆ หน้าตามันไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้ว่าพวกมันจะมาสนใจเรื่องผมกับเด็กนั่นทำไมนักหนา มันน่าอยากรู้กว่าเรื่องที่ไอ้อาร์ถูกจับเป็นคู่จิ้นกับลูกศิษย์ผมตรงไหน



ผมพาดผ้าเช็ดตัวไว้ตรงที่แขวนหลังจากเช็ดผมจนหมาดไม่มีน้ำหยดแล้ว เดินมาส่องหน้าตัวเองที่หน้ากระจกแล้วก็รับไม่ค่อยได้ รอยช้ำอย่างชัด ตอนนี้ทั้งเจ็บทั้งระบมไม่กล้าเอาหน้าไปให้คุณหญิงป้าดูเลย ผมแยกกับไอ้สองคนนั้นกลับมาที่คอนโดก่อนเพราะรู้สึกเพลียมาก วันนี้ผมถูกไอ้ทักษ์กับไอ้บอสลากออกมาเดินสวนจตุจักร ไอ้บอสว่าจะมาเดินหาของ หาไอเดียไปตกแต่งคอนโดใหม่ไอ้นี่อยู่ประจำที่นานๆไม่ได้ มันลากไอ้ทักษ์มาคนเดียวไม่พอต้องถ่อมาลากผมถึงคอนโดให้ออกไปด้วยอีก ทั้งที่ผมอยากนอนจะแย่ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาชีวิตผมยุ่งมาก วันจันทร์หลังจากสอนเสร็จผมต้องบินไปดูงานที่สิงคโปร์กลับมาวันพุธเหนื่อยมากจนต้องสั่งให้เฟิร์สไปทำกับข้าวรอไว้ที่ห้อง แต่พอกลับมาถึงยังไม่ทันพ้นวันก็ต้องมีเหตุด่วนให้บินไปฝรั่งเศส กว่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกลับมาได้ก็เมื่อวานตอนเย็น ผมหลับเป็นตายเพราะเหนื่อยมาก วันนี้ก็กะว่าจะนอนยาวไม่ขยับไปไหนแต่ก็ถูกมารสองตัวผจญ แต่มันก็ทำให้ผมได้ไปเจอน้ำน่านแหละนะ



จากแรงต่อยเขาก็คงจะหายดีจากอาการไข้แล้ว ที่ผมรู้ก็เพราะว่าวันจันทร์หลังผมสอนเสร็จเฟิร์สต้องเอาของจากพายแต่ลูกศิษย์ผมดันลืมไว้ที่บ้าน เลยต้องพาเฟิร์สขับรถตามพายมาเอาของ ผมถึงได้เจอน้ำน่านนอนไข้ขึ้นที่โซฟาและก็เป็นผมเองที่พาเขาขึ้นไปนอนบนห้อง นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นห้องของว่าที่นักออกแบบภายใน แต่การตกแต่งนั้นก็ไม่ได้เรียกความสนใจมากได้เท่ากับกลิ่นหอมๆที่อวลอยู่ในห้อง กลิ่นของน้ำน่าน กลิ่นที่ทำให้ผมเตลิดไปไกล



พอเห็นสภาพของเด็กที่ตกเป็นของผมแล้วก็เลยอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย แต่ก็ไม่มีเหตุผลดีๆพอจะใช้เป็นข้ออ้างได้เพราะไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แม้แต่เฟิร์สที่ดูจะเชียร์จนออกนอกหน้ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรพูด ที่สำคัญผมต้องบินไปสิงคโปร์คืนนั้นเลยต้องรีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เรื่องมันเลยขาดตอนไป แต่ตอนนี้ผมกำลังจะสานต่อ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่อยากข้องเกี่ยวกับผมแค่ไหน อยากจะหลีกหนียังไงก็หนีผมไม่พ้นหรอก






X






สายตาเมียงมองของเลขาส่วนตัวผมทำให้ผมรู้ว่าไอ้รองพื้นที่เฟิร์สหามาให้มันคงกลบรอยช้ำบนหน้าผมไม่ได้ เมื่อวานเป็นวันที่ผมต้องกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้านใหญ่ แต่เพราะเพลียมากจากการเดินสวนฯกับไอ้สองตัวนั้นผมเลยไม่ได้ไป คุณหญิงป้าเลยส่งเฟิร์สมาแทน ตอนประมาณสองทุ่มไอ้ตัวแสบมาพร้อมกับอาหารที่คุณหญิงป้าบอกว่าตั้งใจทำให้แต่ไม่ยอมกลับไปทาน พอเจ้าตัวเห็นหน้าผมก็ร้องตกใจเหมือนเห็นผมถูกฆ่าปาดคอนอนอืดอยู่ในห้อง ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนทำไม่รู้จะตกใจจนช็อคตายไปเลยหรือเปล่า



“บอสต้องการคอนซิลเลอร์เพิ่มมั้ยคะ?”ปกติแล้วคุณอ้อมไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว แต่คงเห็นว่ารอยชัดเกินไปถึงได้เอ่ยปาก



“มันชัดมากเลยใช่มั้ย?”



“ก็ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ถ้าสังเกตดีๆก็เห็นค่ะ อ้อมว่ากลบรอยอีกสักนิดจะดีกว่า”เธอแสดงความคิดเห็น



“ถ้ามีก็เอามา”ผมยื่นเอกสารสองแฟ้มที่เธอเอามาให้เซ็นคืนให้แล้วก็หายออกไป รู้สึกกระดากนิดหน่อยแต่พวกเรื่องเมคอัพนี่ก็เคยสัมผัสมาบ้าง บางทีออกงานก็ต้องการความเนี๊ยบ คุณหญิงป้าจะมีช่างแต่งหน้าประจำครอบครัวคอยมาแต่งเติมเสริมสวย เสริมหล่อให้พวกเราทุกคน อันที่จริงก็ไม่อยากใช้เท่าไหร่แต่ตอนบ่ายผมต้องไปสอนจะให้หน้าม่วงหน้าเขียวไปสอนก็คงไม่ดีเท่าไหร่ เลขาของผมกลับมาอีกครั้งพร้อมกับไอ้สิ่งที่เจ้าตัวว่าจะช่วยกลบรอยช้ำได้



“ให้อ้อมทำให้มั้ยคะบอส ดูแล้วบอสคงไม่ถนัด”เธอคงเห็นผมจ้องไอ้ขวดเล็กๆสีเนื้อขุ่นอยู่นานเลยอาสา ผมไม่ขัดอยู่แล้ว เธอเอ่ยขออนุญาตก่อนจะลงมือจัดการให้อย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ เจ็บนิดๆเพราะยังไม่หายระบมแต่ดีที่มันไม่บวมมากจนสังเกตเห็นได้



“เรียบร้อยค่ะ ไม่เห็นแล้ว”เธอยื่นกระจกพับขนาดเท่าฝ่ามือให้ผมส่อง ไม่เห็นแล้วจริงๆด้วย



“ขอบคุณมาก แล้วมีงานอะไรอีกหรือเปล่า วันนี้ผมกะว่าจะออกเร็วหน่อย”



“เมื่อเช้าคุณทิชาแจ้งว่าจะนำรูปของบริษัทที่ถูกคัดเลือกให้มาทดลองถ่ายภาพขึ้นมาให้บอสพิจารณาตอนสิบโมงค่ะ”ผมมองนาฬิกาข้อมือ เหลือเวลาอีกสิบนาที



“โอเค ถ้าเขามาแล้วก็ให้เข้ามาได้เลย”



“ค่ะ”



สิบโมงไม่ขาดไม่เกิน คุณทิชาก็มาตามที่แจ้งไว้ ผมชอบทำงานกับคนที่ตรงเวลามากๆ ถ้าคุณตรงเวลาก็จะไม่ทำให้เวลาของคนอื่นถูกเบียดเบียนไปด้วย เวลาเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน แต่เด็กสมัยใหม่มักไม่เห็นความสำคัญ ชอบหาข้ออ้างสารพัดมาปัดความผิดทั้งที่ความจริงตัวเองไม่ยอมบริหารเวลาให้ดี จริงอยู่ที่ว่าเราไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้แต่หากมีการวางแผนงาน วางแผนการเดินทางที่ดีปัญหาการผิดเวลานัดจะเกิดขึ้นน้อยมาก



“พวกคุณได้ดูกันหมดแล้วใช่มั้ย”



“ใช่ค่ะ”



“ดี ผมขอเวลาพิจารณาก่อน ถ้าจะประชุมทีมงานวันไหนผมจะให้คุณอ้อมแจ้งคุณไป”



   วันนี้ผมออกจากบริษัทเพื่อไปที่มหาวิทยาลัยเร็วกว่าทุกครั้งที่มีสอน เพราะคิดว่าอาจจะได้เจอเด็กคนนั้นแต่กลับไม่ได้เจอทั้งที่ปกติที่ผมมานั่งรอสอนที่ร้านกาแฟทีไรจะต้องได้เจอเขามากับพายเกือบทุกครั้ง แต่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าผมนั่งมองอยู่ในนี้คอยสังเกตเขาตลอด เป็นเด็กที่หน้าตาดีมีแต่คนให้ความสนใจจนน่าหมั่นไส้



   “ไหนๆเอาหน้ามึงมาให้กูดูหน่อยสิ”ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่ง ไอ้ยอดก็เสนอหน้าเข้ามา จุดประสงค์ของมันชัดเจนมากคือรอยช้ำบนหน้าผม ทุกตัวคงรู้เรื่องมาจากไอ้ทักษ์กับไอ้บอสแล้วถึงได้พร้อมใจกันมาไม่เว้นแม้แต่ไอ้อาร์ แล้วก็พากันโทรมากดดันผมให้มา ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดงานติดธุระเพื่อนชวนผมก็มา วันนี้ไม่ได้นัดที่ร้านไอ้เสกนะ แต่นัดที่ร้านนั่งดื่ม มีอาหาร มีดนตรีสดให้ฟัง พวกมันสั่งเบียร์มาหนึ่งทาวเวอร์กับแกล้มอีกห้าหกอย่าง แบบนี้ไม่ได้กะเมา แค่มานั่งคุยกันเฉยๆ



   “ไหนไอ้ทักษ์ว่ามึงถูกเด็กต่อยจนปากเขียว กูไม่เห็นมีสักรอย”ไอ้ยอดผลักหน้าผมออกเพราะสิ่งที่คุณอ้อมทาให้มันปกปิดได้ดีมากทำให้มองไม่เห็น เสือกไม่เต็มที่ ถึงจะไม่มีรอยให้มันเห็นแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บ ตอนมันผลักเมื่อกี้นี้จี๊ดขึ้นมาเลย



   “จริงๆ ต้องมีสิวะ เมื่อวานปากมันแตกหน้าขึ้นรอยช้ำเลยนะเว้ย”ไอ้ทักโวยแข่งกับเสียงเพลงในร้าน โชคดีที่เพลงมันดังมากพอไม่ทำให้เสียโวยของมันดังคับร้าน ก็แค่ได้ยินกันในโต๊ะอาจจะเผื่อแผ่ไปโต๊ะข้างๆบ้างนิดหน่อย



   “สนใจไรปากกูนักหนา”



“ต้องสนใจดิวะ เพื่อนโดนต่อยทั้งที ทำไงถึงโดนวะ มึงทำมันไม่ถึงใจหรือไงเลยโดนมันสอยกลับมา”ถ้าไม่ใช่เรื่องงานไอ้ยอดมันไม่เคยคิดเรื่องอื่นเหนือสะดือเลย จะถึงใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ผมไม่ได้ถาม ถ้าถามก็คงจะโดนกลับมาอีกหมัดแน่นอน แต่ไม่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างผมกับน้ำน่านว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้ยอดก็คะนองปากไปตามประสา



“ทำเป็นนิ่งสยบความเคลื่อนไหว จะไม่พูดอะไรให้พวกกูฟังบ้างเหรอ”ไม่ยอดยังไม่หยุด



“ก็ไม่มีอะไรจะพูด มึงจะให้กูพูดอะไร ก็บอกไปแล้วว่ามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย”คนต้นคิดการนัดวันนี้ต้องเป็นไอ้ทักษ์แน่ๆ มันไม่ได้คำตอบจากผมเลยจะอาศัยแรงขุดคุ้ยของคนอื่นด้วย แต่อย่างที่ไอ้บอสเคยพูดเอาชะแลงมาง้างปากผมก็ไม่พูดหรอก



“กูไม่เชื่อ”ไอ้ทักษ์



“ก็เรื่องของมึง”



“ไอ้อาร์มึงจัดการมันดิ๊”ไอ้ทักษ์เริ่มหาตัวช่วย แต่คาดว่าคงผิดคนซะแล้ว



“ถ้ามันจะไม่บอก ถามยังไงมันก็ไม่บอก มึงไม่รู้จักมันหรือไง”ไอ้อาร์นั่งนิ่งมานานได้ฤกษ์พูดเสียที ตั้งแต่ผมมาถึง ส่งสายตาทักทายมาแค่นั้น แต่พอได้พูดทีก็ทำเอาไอ้ทักษ์เสียเส้น ไอ้พวกที่เหลือได้เลยหัวเราะสะใจ ไม่มีใครอยากรู้อยากเห็นเท่ามันอีกแล้วครับ ไอ้บอส ไอ้ยอดอยากรู้ก็จริงแต่ไม่เซ้าซี้อย่างไอ้ทักษ์มัน ส่วนไอ้อาร์ยังไงก็ได้ อยากให้รู้มันก็รอฟัง ถ้าไม่อยากให้รู้มันก็ไม่คาดคั้น



 “อื้อหือ โลกกลมพรหมลิขิต”ไอ้บอสพูดขึ้น มันนั่งหันหน้าไปทางประตูทางเข้าร้านแล้วก็เหมือนจะเจอใครบางคนถึงได้พูดขึ้นผมกับไอ้อาร์ที่นั่งหันหลังให้ทางเข้าเลยต้องหันไปมอง น้ำน่านเดินเข้ามากับเพื่อนๆ ที่ผมเคยเห็นหน้าแต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้างแต่ในกลุ่มไม่กลุ่มเพื่อนซี๊ทั้งสามคนของเขา แต่เด็กกลุ่มนี้หน้าตาดีกันทั้งกลุ่มจึงไม่แปลกใจเลยว่าหลายคนให้ความสนใจ อันที่จริงโต๊ะผมก็มีคนส่งสายตามาให้เป็นระยะเพราะไอ้ยอดมันขยันบริหารเสน่ห์เหลือเกิน แต่ไอ้นั่งนิ่งทำตัวเย็นชาอยู่ข้างผมอย่างไอ้อาร์คนก็สนใจมันไม่น้อย ถ้าละครมันออนแอร์เมื่อไหร่หนุ่มน้อยสาวน้อยคงวิ่งเข้าหามันดันเกรียวให้ปวดหัวกว่าเดิมแน่ๆ



เด็กกลุ่มนั้นนั่งอยู่กลางร้านเลยก็ว่าได้ มองจากจุดไหนของร้านก็เห็นแต่สำหรับตำแหน่งที่ผมนั่งถ้าอยากมองก็ต้องหันหลังกลับไป ผมเห็นเขาคุยยิ้ม หัวเราะกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน แต่ชั่วพริบตาก็หันกลับไปส่งยิ้มให้กับสาวโต๊ะข้างๆ



“มองขนาดนี้ ถ้ามึงจะลุกไปทักน้องมันก็ไม่มีใครว่านะ”ไอ้ยอดยื่นหน้าเข้ามากระซิบ ผมส่ายระอากับความคิดของพวกมัน ยกเบียร์ขึ้นมาจิบแทนการตอบโต้ ไอ้ยอดมันมองหน้าผมยิ้มๆแล้วหันไปสบตากับไอ้บอสที่กระตุกยิ้มเลวๆ รู้กันอยู่สองคน ในหัวพวกมันต้องคิดเรื่องที่ไม่เป็นผลดีกับผมอยู่แน่ๆ จากนั้นผมก็ไม่ได้หันไปสนใจเด็กกลุ่มนั้นอีก แต่ก็เห็นว่าไอ้บอสมันคอยมองไปทางนั้นตลอด



“น้องคนนั้นสเป็คเลยว่ะ”ไอ้บอสเอามือลูบปากมองไปที่กลุ่มน้ำน่านไม่ละสายตา ทำให้ผมต้องหันไปมองอีกครั้ง หนึ่งในกลุ่มนั้นมีคนเข้าพวกสุดๆเพราะตัวเล็กหน้าหวานตัวขาวๆนั่งอยู่ข้างน้ำน่าน



“หน้ามึงหื่นมากให้เหี้ยบอส”ไอ้ทักษ์ว่าหลังจากเงียบไปนานเพราะไอ้อาร์



“กูว่าเห็นแบบนั้นแต่คงไม่ใช่หรอก ไปเอาคนอื่นดีกว่า”ไอ้ยอดออกความเห็น ไม่ใช่ในที่นี้คือคงไม่ได้เป็นเกย์แบบไอ้บอสมันถึงรูปร่างหน้าตาจะให้ก็ตาม ผมก็คิดเหมือนกัน



“กูแค่บอกว่าสเป็คพูดสักคำยังว่าจะไปเอาน้องเขา พวกมึงนิ”



“ไม่พูดแต่สายตามึงนี่แทบจะกลืนน้องมันลงท้องอยู่แล้ว”ไอ้ทักษ์พูดซึ่งก็จริงของมัน จากนั้นพวกมันก็เลิกสนใจเด็กกลุ่มนั้น ผมก็นั่งดื่มเงียบๆแต่ลึกๆแล้วก็อยากจะคุยกับน้ำน่านอยู่เหมือนกัน ยังไงก่อนกลับคืนนี้มันต้องมีโอกาสได้คุยกันแน่ๆ แล้วมันก็เป็นจริง น้ำน่านเดินมาเข้าห้องน้ำซึ่งต้องผ่านตรงโต๊ะผม บังเอิญที่มีผู้หญิงอีกคนเดินสวนมา พื้นที่ทางเดินมันน้อยเลยต้องเบี่ยงตัวหลบจนมาชนกับผมที่นั่งอยู่ชิดทางเดินพอดี



“ขอโท...”คำขอโทษถูกกลืนลงคอเมื่อหันมาเจอหน้าผม เหมือนหนังถูกกดหยุดชั่วคราวไปชั่ววินาทีก่อนจะเล่นต่อ ผมไม่ได้หันกลับมามองเพื่อนตัวเองแต่รับรู้ได้ว่าพวกมันต่างจ้องมาที่เราสองคน



“โลกกลมว่ะ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่นะเนี่ย”ไอ้ทักษ์เปิดบทสนทนาขึ้น



“ครับพี่ บางทีก็กลมเกินไปอยากกระทืบให้มันเบี้ยวๆบ้าง”



“กระทืบโลกหรือคนวะ”พูดอย่างเดียวไม่พอยังหันมามองหน้าผมยิ้มๆอีกต่างหาก ลุกไปกระทืบตอนนี้ได้มั้ย



“โลกสิพี่ ผมจะกระทืบคนทำไมถ้าไม่ได้มาทำอะไรให้ ขอตัวก่อนนะครับ หวัดดีครับพี่”พูดจบก็เดินไปทันทีไม่รอให้ใครรั้งไว้



“กูโคตรสงสัยว่ามึงไปทำอะไรน้องมันวะ ถึงได้ดูไม่ชอบขี้หน้ามึงขนาดนี้ เข้าใจผิดอะไรกันวะ”ไอ้ยอดพูดขึ้น



“ไปแย่งแฟนมันเหรอวะ”



“หน้าอย่างกูจำเป็นต้องไปแย่งคนอื่นเหรอ”



“ก็จริงของมึง แล้วเรื่องอะไรวะ”ไอ้ทักษ์มันไม่เลิกคิดง่ายๆ



“หึ เดี๋ยวกูมา”ผมผลักหัวไอ้ทักษ์ไปหนึ่งทีแล้วเดินไปทางห้องน้ำได้ยินเสียงมันตะโกนถามว่าจะไปไหนแต่มันก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ จะถามทำไม
ด้านหลังร้านนอกจากจะเป็นห้องน้ำแล้ว ยังมีสวนหย่อมเล็กๆ เอาไว้สำหรับพวกที่สูบบุหรี่มานั่งปล่อยควันกัน แต่จะมีจุดสูบบุหรี่อยู่ด้านหน้าร้านแถวๆลาดจอดรถอีกที่ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะไปสูบแถวนั้นมากกว่ามันค่อนข้างโล่งและสะวดกกว่า ผมกำลังจะก้าวเข้าห้องน้ำแต่ได้ยินเสียงคุ้นๆดังมาจากในสวนเลยเดินเข้าไปดูจึงเห็นคนที่ผมตั้งใจเดินตามมา กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แต่ดูเหมือนจะคุยเสร็จพอดีเพราะเห็นเอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋ากางเกงไว้ พอเข้าไปใกล้จึงได้กลิ่นที่ไม่ค่อยชอบนัก



“ติดบุหรี่เหรอ”พอผมพูดอีกฝ่ายก็สะดุ้งหันมามองตาขวางเมื่อรู้ว่าเป็นผมที่เดินเข้ามาขัดอารมณ์ พอผมก้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายก็พยายามหลบแล้วจะเดินหนี



“คุยกันก่อน อย่าเอาแต่เดินหนี”



“กูไม่ได้หนี!”



“แล้วที่ทำทุกครั้งนี่คืออะไร”



“กูไม่อยากเห็นหน้ามึงไงไอ้สัด! เลิกยุ่งกับกูสักที! หรือมึงจะเอาอีกสักหมัด”อารมณ์มาเต็ม


 
“ไม่เลิก เหมือนพี่จะบอกไปแล้วนะว่าต้องการอะไร”ผมทวนความจำให้ และก็เป็นเด็กที่ความจำดีเสียด้วย



“ไอ้เหี้ย! ทำไมวะ ทำไมต้องกูด้วย คนอื่นไม่มีแล้วหรือไง ทำไมไม่ไปหาคนที่เขาเต็มใจวะ”



“คนที่เต็มใจก็ใช่ว่าจะถูกใจ จริงมั้ย?”น้ำน่านชะงักไปทันที มองผมอย่างระแวงสงสัย ที่พูดไปมันคือความจริงคนที่เต็มใจมาเสนอให้ก็ไม่ใช่คนที่ถูกใจเราทุกครั้งไป แต่ก็สามารถตอบสนองได้โดยไม่ฝืนใจ



“มึงถูกใจกู? พูดให้เด็กปัญญาอ่อนฟังมันยังไม่เชื่อเลย มึงก็ไม่ชอบหน้ากูเหมือนที่กูไม่ชอบหน้ามึงนั่นแหละ อย่ามาตอแหลเลย”อยากจะตบปากที่พ่นคำหยาบคายนั่นมาจริงๆ ด่าทุกประโยคที่พูดเลยนะ



“คิดว่าคนอย่างพี่จะยอมให้ใครมาต่อยแล้วเดินลอยนวลไปง่ายๆงั้นเหรอ คิดว่าหน้าอย่างนี้จำเป็นมั้ยว่าจะต้องมาคอยตอแยเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เจอหน้าแล้วด่าใส่เกือบทุกประโยคถ้าเกิดว่าไม่ได้สนใจขึ้นมาจริงๆ”



“แล้วยังไง ถ้าสนใจแล้วยังไง กูจำเป็นต้องสนตอบเหรอ ตลก”เหมือนถูกตบหน้าจนชา เสียหน้านิดๆ ตอบโต้กลับไม่ได้เพราะที่พูดมามันก็ถูกแต่ผมไม่สนใจ



“เอาเบอร์มา”ขี้เกียจคุยแล้ว ต่อไปนี้จะบังคับแม่งทุกอย่างเลย ให้รู้ไปว่าผมจะไม่มีปัญญาปราบเด็กคนนึง



“ห๊ะ”



“เอาเบอร์มา”



“ไม่ มึงบ้าหรือไง กูไม่ให้เว้ย”น้ำน่านเบี่ยงตัวหนีผมที่จะเข้าไปล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง กลายเป็นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน พอมีสติร่างกายสมบูรณ์พร้อมแรงดิ้นก็เยอะ ผมเองก็เหนื่อยแต่สุดท้ายก็ได้โทรศัพท์มาโชคดีที่ไม่ได้ใส่รหัสล็อคหน้าเจอผมเลยจัดการกดเบอร์ตัวเองลงไปแล้วโทรออกเพื่อให้โชว์เบอร์มาที่เครื่องของตัวเอง



“คิดว่ากูจะเปลี่ยนเบอร์ไม่ได้เหรอ”



“เปลี่ยนก็เปลี่ยนไป คิดว่าไม่มีปัญหาจะเอาเบอร์ใหม่มาได้หรือไง จะเปลี่ยนอีกกี่ร้อยเบอร์ก็ไม่มีประโยชน์ โทรไม่ได้ก็ตามไปที่คณะ ตารางเรียนเลิกตอนไหนบ้างพี่ก็รู้หมด บ้านก็รู้จัก ห้องนอนก็เคยเข้าแล้ว เอาสิอยากหนีก็หนีไป เจอตัวเมื่อไหร่จะทำให้ลุกจากเตียงหนีไปไหนไม่ได้เลย”



“ไอ้เหี้ย ไอ้โรคจิต ไปตายซะ”คงโมโหสุดๆ ง้างหมัดจะต่อยผม แต่ผมไม่หนี ไม่หลบ



“เอาสิ ต่อยเลย แต่ครั้งนี้พี่ต่อยกลับ สลบเมื่อไหร่ก็ลากกลับห้อง แล้วคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



“แม่งเว้ย! อะไรกับกูนักวะ!”เหมือนจะเสียสติไปแล้ว แต่ผมพอใจนะที่เห็นเด็กคลั่ง



“ว่าง่ายๆ ทำตัวดีๆ แล้วพี่จะมีรางวัลให้”



“ไปไกลๆกูเลยไป”



“อยากอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้เหรอ”ลองหยอดไปนิด อีกฝ่ายก็ชะงักไป ทำท่าทางขนพองสยองเกล้าได้ตลกมาก



“มึงมันเสียสติไปแล้ว”



“คงงั้น ถ้าไม่อยากให้เพื่อนรู้เรื่อง ก็อย่าทำตัวมีปัญหา โทรไปต้องรับ ไลน์ไปต้องตอบ เรียกให้มาหาก็ต้องมา เอ้านี่”ผมยัดนามบัตรตัวเองใส่มือนั้นพร้อมกับโทรศัพท์ของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้นามบัตรถูกขยำทิ้ง



“กูจำเป็นต้องเชื่อ?”



“ก็ลองไม่เชื่อดูสิ”



“คิดจะขู่กูเหรอ ใครเขาจะเชื่อเรื่องที่มึงพูด”ท่าทางมั่นอกมั่นใจมากคงคิดว่าผมไม่มีหลักฐาน แต่อีกใจก็คงไม่แน่ใจเพราะมีแววตาลังเลอยู่วูบหนึ่ง



“ไม่ใช่แค่ขู่แต่ทำจริง”



“กูไม่แคร์ อยากบอกใครก็บอกเลย”



“โอเคได้ เริ่มจากเพื่อนที่นั่งอยู่ในร้านนั้นก่อนก็แล้วกัน”



“เดี๋ยว!” ผมหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่เด็กด้านหลังก็รีบคว้าแขนไว้ทันที ผมค่อยๆหันกลับไป เลิกคิ้วเพื่อรอฟัง



“เออ ไอ้สัด! อย่าคิดว่ากูจะยอมไปตลอดนะ”กัดฟันพูดสุดชีวิตเลย ท่าทางจะแค้นมาก สุดท้ายก็มั่นใจไม่สุด เป็นเด็กที่กลัวเสียหน้า เสียศักดิ์ศรีจริงๆ



“หึ ดีมาก”ผมยื่นมือไปลูบแก้ม แต่ยังไม่ทันโดนก็ถูกปัดมือออก ไม่เป็นไรโอกาสหน้ายังมี



“คืนนี้จะปล่อยไปก่อน มีอารมณ์เมื่อไหร่แล้วจะเรียกไปหา นามบัตรเก็บไว้ให้ดี”



“แล้วจะเรียกกูไปทำไม”



“ไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง”



“ถ้าเรียกกูไปฆ่าจะทำไง”



“ดูหนังมากไปหรือเปล่า ใครเขาจะฆ่า เรียกไปปล้ำยังดีซะกว่า”



“ไอ้เลวเอ๊ย”



นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายระหว่างเรา ผมได้แต่ยืนยิ้มให้กับคนที่หมดคำด่าแล้วเดินหนีไป ชอบจังเวลาเห็นเขาสู้ไม่ได้ ผมอารมณ์ดีสุดๆจะหาว่ารังแกเด็กผมก็ไม่แคร์แล้วจุดนี้ ได้ทั้งเบอร์ ทั้งไลน์ ชอบหนีดีนักผมจะปั่นประสาทจนอยู่เฉยไม่ได้ต้องวิ่งแล่นมาหาถึงที่ แม้จะมาด้วยความโมโหก็เถอะ รับมือได้สบายอยู่แล้ว



ผมแยกตัวกลับมาก่อนไอ้บอสกับไอ้ยอดไปต่อส่วนไอ้อาร์กับไอ้ทักษ์บอกจะกลับไปนอน ผมเองก็มีงานที่ต้องทำเลยไม่อยากไปต่อ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็หยิบแฟ้มที่คุณทิชาให้มาขึ้นมาดูจนถึงบริษัทสุดท้ายที่ฝีมือเตะตาผมมากที่สุด แต่อะไรก็ไม่เท่ารูปสุดท้ายที่อยู่ในมือผมตอนนี้ โลกมันกลมเกินไปจริงๆ นายแบบในรูปคือคนที่ผมเพิ่งเจอเมื่อชั่วโมงก่อน ถึงจะเห็นแค่หน้าด้านข้าง ซ้ำยังก้มต่ำเพื่อมองนางแบบที่นอนแอบอิงอยู่แต่ผมก็จำได้ทั้งรอยสักและรอยจูบที่เป็นคนทำไว้เอง ยิ่งมองยิ่งถอนสายตาลำบาก




ผมคงสนใจเขาแล้วจริงๆ








--------------------------------

จะมาตั้งแต่วันอาทิตย์แต่ดันปวดท้องนอนขดทั้งวันเลย พอวันจันทร์ก็มีนัดกับคุณสิงห์เลยยังแต่งไม่เสร็จ เลยมาลงวันพุธแทน ฮือออ
จะพยายามมาทุกวันอาทิตย์นะคะ เป็นวันที่น่าจะว่างสุดๆแล้ว  :กอด1:





หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.12 [27.1.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-01-2016 09:11:47
พี่เดียวคงจะถูกใจมากอ่ะ

รอตอนต่อไปปปป :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.12 [27.1.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-01-2016 10:08:01
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.12 [27.1.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 28-01-2016 15:51:43
พี่เดียวพอสนใจน่านจริงๆ นี่รุกได้ตื้อสุดๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.12 [27.1.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Lyralyn ที่ 28-01-2016 20:48:43
 :mew3: พี่เดียวววววววชอบเค้าแล้วก็ยอมรับมาเหอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.13 [8.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 08-02-2016 22:19:27
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 13 -





   แดดเปรี้ยงยามบ่ายส่องลงมาทำเอาผิวแทบไหม้ ขนาดเดินหลบมาตามเงาไม้ก็ยังไม่พ้น ถ้าไม่ติดว่าหอสมุดหาที่จอดรถยากผมจะขับรถมาไม่ทนเดินร้อนอยู่อย่างนี้ ไอ้พวกเพื่อนชั่วทั้งหลายก็ไม่มีใครมาด้วยสักคน ผมหอบหนังสือเล่มหนาสี่เล่มที่เต็มไปด้วยรูปภาพของสถาปัตยกรรมยุโรป การออกแบบตกแต่งซึ่งพวกผมต้องใช้ประกอบการเรียน



   “พี่น่าน!”


   “เอ้า มีอะไรผิง”เพิ่งมีการจับสายรหัสเมื่อไม่นานมานี้ น้องรหัสผมเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่นิสัยห้าวหาญเหลือเกิน ตัวก็นิดเดียวแต่อาทิตย์ก่อนไปมีเรื่องกับไอ้ปาร์คเดือนคณะปีเดียวกัน เห็นว่าหยอดๆจีบๆกันอยู่แล้วก็มีผู้หญิงคณะบัญชีมาแสดงตนว่าเป็นแฟนไอ้ปาร์ค บังเอิญผมนั่งอยู่แถวนั้นเลยรู้เรื่องไปกับเขาด้วย ผู้หญิงคนนั้นด่าไฟแล่บเลยครับหาว่าไปแย่งแฟน ไอ้น้องผมมันก็ไม่ใช่คนยอมคนแล้วก็คงทั้งเสียใจที่โดนหลอกและเสียหน้าที่มีคนมาด่าถึงคณะเลยแจกหมัดไปคนละทีให้คู่กรณีแล้วก็ไอ้ปาร์คตัวต้นเหตุแถมด้วยตีเข่าซ้ำจนมันลงไปกอง พวกผมนั่งมองแล้วก็เสียวสันหลังวาบ



   “หิวข้าว พาไปกินข้าวหน่อยดิ”



   “เป็นเด็กสามขวบไง ต้องมีคนพาไปกินข้าว”



   “เป็นเด็กสาวอายุสิบแปดที่หน้าตาน่ารักแต่อยากให้พี่รหัสพาไปกินข้าวหน่อยนะๆ ผิงรู้ว่าพี่ว่างงงงง”


“ไม่ว่างโว้ยยยย เห็นมั้ยเนี่ย”ผมอยากเอาหนังสือกระแทกหน้ามันจริงๆ


“ว่างๆๆๆ พี่ต้องว่าง นะๆๆไปกินข้าวกับน้องหน่อย”


“เพื่อนไปไหนหมด ไม่ชวนไปวะ”


“มันโดดกันอ่า เมื่อคืนมันไปเมากันมาแล้วไม่ชวน เช้ามาก็โดดผิงเลยมาเรียนคนเดียว ถ้าต้องไปกินข้าวคนเดียวอีกมันน่าสงสารเกินไป”มันทำหน้าน่าสงสารแต่มารยาล้วนๆ ส่วนผมตอนนี้เริ่มหนักหนังสือที่ถืออยู่มากๆ


 “อ๊ะ ไอ้เชี่ยปาร์ค หลบๆ”มึนดึงผมมาหลบหลังต้นไม้ ต้นเท่าขาผมเองคงจะมิดหรอกนะ


“หนีมัน?”


“เออ แม่งตื๊ออยู่ได้ น่ามคาน”ภาษาระคายหูจริงๆ


“ตอนแรกก็เห็นชอบๆมันไม่ใช่เหรอ”


“ตอนนี้เกลียด ผู้ชายเหี้ยๆ เจ้าชู้มั่วฟันไม่เลือก คุยด้วยแล้วกลัวจะเป็นเอดส์ตาย”มาเต็มแต่เหมือนจะสะเทือนผมนิดหน่อย แต่เอดส์ไม่ได้ติดต่อทางการพูดคุยนะเว้ย เข้าใจอะไรผิดป่ะวะ


“พี่น่านไปกินข้าวกับผิงหน่อยนะ ไปจากตรงนี้เหอะ เดี๋ยวมันเห็นผิง”


“เออๆ”สงสารหรอกนะเลยยอมช่วย ท่าทางจะไม่อยากคุยด้วยจริงๆ ผมดึงมันเดินไปอีกทางที่จะไปโรงอาหารกลางแหล่งของกินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แบ่งหนังสือให้มันไปถือหนึ่งเล่ม มันบ่นหนังแต่ผมไม่สนใจเพราะอยากใช้แรงงานน้อง ผมโทรบอกพวกไอ้เต้ว่ามากินข้าวที่โรงอาหารกลางกับผิง ถ้าพวกมันอยากแจมด้วยก็ให้ตามมา


“เลี้ยงด้วยนะ”


“เออแม่ง เปลืองจริงๆ เจอหน้ากี่ทีให้เลี้ยงตลอด”ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกแค่อยากบ่นมันเท่านั้น เห็นตัวเล็กๆแต่กินเก่งมาก ดื่มเหล้าก็เก่ง ก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่ รุ่นผมแล้วก็รุ่นมันหลายคนอยากจะจีบมันทั้งนั้น พอรู้ว่าได้เป็นน้องรหัสผม ทุกคนเลยแซวๆว่าจะกินน้องตัวเอง คือผิงมันก็น่ารักนะครับแต่อย่างที่รู้ว่าผมไม่ได้ชอบแนวนี้ ยิ่งคนใกล้ตัวผมไม่อยากยุ่ง ไม่อยากมีปัญหา แต่ตั้งแต่มีไอ้ปาร์คเข้ามาพัวพันคนที่จะเข้ามาจีบมันก็เลยห่างๆไป แต่ผมว่าหลังจากนี้คงมีคนมาขายขนมจีบน้องผมเยอะแน่ๆ เพราะที่มีเรื่องกันข่าวก็ดังไปทั่ว ไอ้ผิงมันไม่เอาไอ้ปาร์คแล้ว


“อยากกินไรไปซื้อมา ซื้อมาให้ด้วยอะไรก็ได้”ผมยื่นแบงค์ห้าร้อยให้ผิงไป มันยกไหว้ย่อขาจนเข่าแทบติดพื้น ทะเล้นจริงๆ


“หมดนี่เลยนะ”


“ถ้ากินไม่หมด จะจับยาหัวแม่ง”


“ใจร้าย”มันว่าแล้วก็เดินกระโดดด๊องแด๊งไปซื้อของกินดีที่มันใส่พลีทยาวรองเท้าผ้าใบไม่งั้นคงได้มีล้มหน้าแหกแน่ๆ ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว โรงอาหารเลยค่อนข้างว่างผมเลยเลือกนั่งโต๊ะตัวยาวเพราะคิดว่าไอ้พวกนั้นต้องพากันมากินด้วยแน่ๆ ผมนั่งรอประมาณห้านาทีผิงก็ถือจานมาสองจาน เป็นพวกข้าวโพดทอด ผักทอด เต้าหู้ทอดจิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆมาถั่วลิสงโรย


“รองท้องไปก่อน”มันบอก


“แล้วสั่งอะไรกินวะ”


“ราดหน้าหมี่กรอบทะเลผักรวม เอาน้ำไร”


 “โค้ก”


“เคๆ”แล้วมันก็เดินกระโดดๆไปอีกรอบ มีน้องสาวแบบมันก็น่ารักดี ผมเป็นลูกคนเดียว เล่นคนเดียวบางครั้งก็รู้สึกเหงา แต่จะบอกให้พ่อมีน้องก็ไม่ได้ ในเมื่อผมไม่มีแม่จะมีน้องได้ยังไง

ผิงยังไม่กลับมาตอนที่ไอ้พวกนั้นพากันมา ซื้อหวยทำไมไม่ถูก มากันครบทั้งกลุ่มเสียงดังมาแต่ไกล มีไอ้คิมพ่วงมาด้วย มาได้ไงวะ



“มึงไม่มีเรียนไง?”


“จารย์งด ไปเรียนเสริมวันศุกร์”ไอ้คิมว่าจิ้มข้าวโพดทอดใส่ปาก


“มึงแดกไรวะ”ไอ้โฟมนั่งลงตรงข้ามผม ผมข้างหน้ามันมัดจุกมองแล้วเหมือนหมาชิสุเลย ผมห็นมีผู้ชายกลุ่มหนึ่งมองมันด้วย แต่จากชอปที่ใส่เด็กสถาปัตย์แน่ๆหน้าอย่างโหดหนวดเคราเฟิ้ม


“ผิงมันสั่งราดหน้าให้กู”


“น้องมึงดีว่ะ เป็นผู้หญิงใช้ง่าย มึงดูน้องกูดิไอ้สัด โคลนนิ่งพี่กั๊กชัดๆ”ไอ้โฟมบ่น น้องมันเป็นผู้ชายร่างใหญ่ถึก แถมกวนตีนมากๆด้วย เวลามันยืนอยู่กับพี่น้องรหัสมัน ไอ้โฟมเหมือนเป็นคนแคระไปเลย


“กูจะไปสั่งข้าวพวกมึงจะกินไรจดมาให้ไว”ไอ้คิมบอก ไอ้หมวยรีบกุลีกุจอหยิบโพสอิทสีเหลืองสะท้อนแสงมาเขียนอย่างไว เมนูก็สิ้นคิดสั่งตามๆกันไป


“ว้าวๆๆ มื้อนี้มีแต่หนุ่มหล่อมานั่งกินข้าวด้วย ชีวิตดี๊ดี”ไอ้ผิงกลับมาถึงมันก็กระดี๊กระด๊าทันทีที่เห็นพวกเพื่อนผมนั่งอยู่ มันวางจานราดหน้าลงบนโต๊ะก่อนจะถกกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วรวบเอาไว้ ยกขาข้ามเก้าอี้เพื่อจะนั่งลง ไอ้โฟมถึงกับส่ายหน้า


“หน้าตามึงก็ดีนะ แต่กิริยาท่าทางมึงนี่ไม่ไหวอ่ะ เสียราคาหมด มึงจะหาผัวได้มั้ยผิง”


“โห พูดงี้พี่เอาขี้มาป้ายหน้าผิงเลยดีกว่า”ไอ้ห่า ผมถึงกับสำลักราดหน้า คนกำลังกินพูดเรื่องขี้ทำไม


“รอเดี๋ยวตอนนี้กูยังไม่ปวด ปวดเมื่อไหร่กูจะเบ่งใส่ถุงมาป้ายหน้ามึง”ไอ้โฟมนี่ก็ไม่เลิก


“อี๋ อุบาทว์อ่ะพี่โฟม พูดจาแบบนี้พี่จะหาผัวได้มั้ย”ไอ้ผิงย้อนทำเอาพวกผมฮากระจาย ไอ้คิมที่กลับมาจากเอาโพยข้าวไปส่งได้ยินพอดียังหัวเราะอ่ะ


“เพื่อนพี่หาได้อยู่แล้ว มีคนจ้องจะเป็นผัวมันเยอะแยะไป”ไอ้โอ๊ค


“ไอ้พวกเชี่ยนี่กูจะมีเมียเว้ย!”


“แต่ผิงว่าพี่หาผัวง่ายกว่าหาเมียนะ ดูสิหน้าสวยกว่าผิงอีก”ไอ้ผิงยักคิ้วใส่ พวกผมฮากันอีกระลอก


“เดี๋ยวกูนี่แหละจะเป็นผัวมึง”


“โหยพี่อย่าเลย ถึงเวลาจริงๆพี่ทำป็นเหรอถามหน่อย ไม่ใช่ให้ผิงเป็นคนเริ่มนะ”


“ไอ้ผิง มึง!”ไอ้หมวยถลึงตาใส่แทบจะลุกไปหักคอแต่ไอ้โอ๊คคว้าตัวมันไว้ได้ก่อน แต่ผิงมันก็ไม่ได้สะทกสะท้านนั่งกินราดหน้าทะเลของมันอย่างมีความสุข


“มึงก็ขึ้นง่ายไอ้ห่า นั่งลงๆ น้องมันก็แหย่เล่น”ไอ้โอ๊คมันว่าแต่ก็ยังไม่หยุดหัวเราะ


“กูเพื่อนเล่นมันหรือไง นี่รุ่นพี่”มันนั่งลงอย่างหงุดหงิด


“อ่ะ น้ำๆ ไอ้ฟรีเลย ดื่มซะจะได้เย็นลง แหม แหย่นิดแหย่หน่อยพี่โฟมนี่”ไอ้ผิงมันส่งแฟนต้าน้ำแดงมาง้อไอ้หมวยแล้วก็ได้ผลนะ มันคว้าไปดูดทีเดียวครึ่งขวด


สงครามจบลงพวกผมก็นั่งกินข้าวกันจนอิ่มก่อนจะแยกย้ายไป อันที่จริงคนที่แยกย้ายก็คือผิงกับไอ้คิม ส่วนไอ้สามตัวที่เหลือมากระจุกกันที่บ้านผมเพื่อช่วยกันทำงานกลุ่ม จนค่ำก็พากันออกไปร่ำสุรากันแต่วันนี้ไม่อยากไปผับกันก็เลยพากันมาที่ร้านนั่งดื่มของคนรู้จักของไอ้เต้ บรรยากาศดีครับ คนแน่นร้านแต่ก็ไม่อึดอัด แต่จะมาอึดอัดก็ตอนที่จะออกมาเข้าห้องน้ำแล้วดันเจอไอ้ตัวเหี้ย ผมไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่อยากกระทืบมันจริงๆ ที่ต่อยมันไปเมื่อวานนี้ยังไม่สาแก่ใจเลย แต่น่าแปลกใจคือหน้ามันไม่เห็นจะมีรอยอะไรเลยหรือผมต่อยเบาไป


เข้าห้องน้ำเสร็จผมก็หลบมาสูบบุหรี่ต่อที่สวนหย่อมเล็กๆหลังร้าน ช่วงนี้สูบบ่อยกว่าปกติเพราะมีเรื่องให้คิดเยอะ ยิ่งหงุดหงิดแบบนี้ก็ยิ่งอยากสูบ แต่ยังไม่ถึงครึ่งมวนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ช่วงนี้โทรศัพท์ผมจึงมีรายชื่อบันทึกเพิ่มขึ้นหลายคน ตั้งแต่วันนั้นผมแหกกฏตัวเองเสียกระเจิง ตอบรับไมตรีเกือบทุกคนที่เสนอตัวมา


“ว่าไงครับเจน”คนนี้เพิ่งเจอเมื่อคืนก่อนอยู่นิเทศปี3 คนละมหาวิทยาลัย เจอหน้า สบตา ส่งยิ้มพูดคุยด้วยเล็กน้อยแล้วก็จบลงที่คอนโดอีกฝ่าย มีต่อช่วงเช้าอีกรอบก่อนจากลา ผมค่อนข้างพอใจกับฝีมือเลยทิ้งเบอร์ไว้ให้


“คืนนี้เหรอ มีงานต้องทำครับคงไม่ได้ มะรืนแล้วกันกินข้าวดูหนังแล้วก็...ของหวานปิดท้าย”พอได้โปรโมชั่นที่ถูกใจเธอก็วางไป แต่สายใหม่ก็เข้ามาแทน


“ครับพีท”คนนี้เจอเมื่อคืน กำลังหงุดหงิดเลยชวนไอ้ธันว์ไปกินเหล้าแล้วก็เจอกับพีท หน้าตาโดดเด่นจากทุกคน ถูกใจเพียงแค่แรกเห็น แต่คนนี้ก็ไม่ได้ง่ายๆ ถึงจะมีท่าทีสนอกสนใจในตัวผมแต่ก็เล่นตัวใช่ย่อย เมื่อคืนเราไม่ได้ไปต่อกันแต่ก็ทิ้งเบอร์ไว้ติดต่อ แต่ผมยังไม่ได้ติดต่อไปเพราะกะรอจังหวะเพื่อให้เหยื่อกระวนกระวายใจเล่น แต่ดูเหมือนจะใจร้อนไม่เบาแค่วันเดียวก็โทรมาแล้ว


“คืนนี้ไม่มาที่...เหรอ”พีทถามถึงผับที่เราเจอกันเมื่อคืน


“อยากให้ไปหรือไง”


“ก็เปล๊า แค่ไม่เห็นเลยโทรมาถามดู”หึ ฟอร์มจัดชะมัด


“นึกว่าอยากให้ไป จะได้ไป แต่ถ้าไม่อยากก็แค่นี้นะ”


“เดี๋ยวสิ จะไม่มาจริงเหรอ”ผมยิ้มกับตัวเอง ไม่แน่จริงนี่หว่า


“ก็แล้วแต่พีทสิว่าอยากเจอหรือเปล่า”


“อยากสิ”อ่า ไม่ได้ยากอย่างที่คิดแหะ แต่ก็ดีคืนนี้ผมก็อยาก หลังจากดื่มกับไอ้พวกนี้แล้วแวะไปหาสักหน่อยก็ได้


“งั้นเจอกัน เดี๋ยวไปรับ”


อารมณ์ดีๆของผมหดหายเมื่อเจอกับไอ้บ้านั่น มันจะตามรังควาญผมไปถึงไหนวะ มันบังคับขู่เข็ญเอาเบอร์ผมไป คำขู่บ้าๆของมันอีก ผมจะไม่ยอมมันก็ได้ แต่สุดท้ายก็ยอมเพราะไม่อยากให้ใครรู้ไปมากกว่านี้ ถ้าผมลองเล่นตามน้ำมันไปสักพักมันก็คงเบื่อแล้วเลิกยุ่งไปเอง แต่ไม่เชื่อหรอกว่ามันสนใจผมจริงๆ คงแค่อยากจะเอาชนะผมมากกว่า แต่ถึงจะสนใจจริงก็ช่างหัวมันสิ ผมไม่คิดจะสนใจมันอยู่แล้วเกลียดขี้หน้าจะแย่


ผมไม่ได้ไปหาพีทแต่ตรงกลับบ้านทันทีเพราะหมดอารมณ์พวกไอ้เต้ก็งงว่าทำไมผมรีบกลับแต่ผมไม่มีคำตอบให้ พอถึงบ้านก็อาบน้ำดับความหงุดหงิด ตั้งใจจะเข้านอนเลยแต่นึกขึ้นได้ว่าต้องอ่านรายงานที่ลุงเสริมส่งมา ลุงเสริมเป็นผู้จัดการไร่ของผม ทำงานมาตั้งแต่พ่อผมยังมีชีวิตอยู่ ทุกสัปดาห์แกจะส่งรายงานต่างๆมาให้ผมอ่าน แล้วก็รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นในไร่สม่ำเสมอ แต่ปกติแล้วอาฝนมีสิทธิ์ตัดใจได้เลย แต่สองปีมานี้อาอยากให้ผมเข้ามามีส่วนร่วมในไร่มากขึ้น บางเรื่องผมเลยต้องเป็นคนตัดสินใจเอง แล้วก็มีโครงการที่ผมกับไอ้พายช่วยกันคิดและบริหารงานกันเป็นการผลิตสินค้าจากดอกไม้ในไร่เป็นของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องหอม ของที่ระลึก แล้วก็เริ่มผลิตพวกสบู่ แชมพู ครีมทาผิวที่สกัดมาจากดอกไม้ต่างๆ ตอนนี้กำลังไปได้ดีมีร้านเล็กๆที่จำหน่ายในไร่ไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวหรือคนที่มาศึกษาดูงานที่ไร่กับอีกร้านที่อยู่ในเมือง นอกจากนี้ก็ยังไปฝากขายตามร้านค้าต่างๆที่สนใจ อาฝนสนุกมากกับพัฒนาสินค้าพวกครีมทาผิว ครีมอาบน้ำเพราะลงมาควบคุมทุกอย่างด้วยตนเอง ผมกับไอ้พายก็กลายเป็นหนูทดลองไป




X





 “กลับมาตอนไหนวะ”ผมลงมาตอนเช้าก็เจอไอ้พายนั่งกินโจ๊กอยู่หน้าทีวี ดูรายการข่าวช่วงเช้าไปด้วย


“ตีสอง มึงหลับไปแล้ว”ใช่ หลับคาคอมเลยด้วย มารู้สึกตัวตอนตีสามได้มั้งคลานขึ้นไปเตียงไปนอน ไม่ได้สนใจเลยว่าไอ้พายกลับมาหรือยัง


“กูซื้อโจ๊ก น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาเผื่อ ไปแกะกินดิ”ผมเดินไปในครัวเห็นของกินที่มันบอกอยู่บนโต๊ะ แกะโจ๊กใส่ชามเสร็จก็หิ้วถุงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋มานั่งกินข้างไอ้พาย ตอนนี้เจ็ดโมงเช้า ผมมีเรียนตอนสิบโมงเลยไม่ต้องรีบมาก มีเวลาเหลือเฟือในการจัดการอาหารเช้าแล้วขับรถไปเรียนแบบไม่รีบร้อน


“ทำไมตื่นเช้า มึงเรียนตั้งสิบโมง”


“ตื่นมาคุยกับอาฝนแล้วนอนไม่หลับ”อาฝนโทรมาตั้งแต่หกโมง เป็นเวลาปกติของอา ถ้าผมรู้ตัวก็จะตื่นมารับ แต่บางทีปิดเสียง แบตหมดเปิดเครื่องมาผมก็จะโทรกลับ


“คุยเรื่องไรวะ”


“ก็ทั่วไป แล้วก็ถามถึงครีมอาบน้ำว่าจะเลือกกี่สูตรกี่กลิ่นดี กูเลยบอกตามที่มึงบอกไป”


“เออ กูว่าจะโทรไปคุยกับอาฝนเหมือนกันลืมไปเลย มัวแต่ยุ่งๆ”


“ที่จริงก็ไม่ได้รีบอะไรนะ วางแผนไว้ว่าจะขายไตรมาสหน้า แต่อาฝนใจร้อน”


“ตลอดอ่ะ แล้วไร่มึงอ่ะ ที่ว่าลงผลไม้กับพวกผักสลัดเพิ่มเป็นไงวะ”


“ก็ดี ลุงเสริมบอกว่าตอนนี้ล็อตแรกเริ่มออกขายแล้วผลตอบรับก็ดี แต่ยังไงก็ต้องหาลูกค้าเพิ่ม”


ก่อนหน้านี้ไร่ของพ่อที่ตอนนี้กลายมาเป็นของผมโดยมีอาฝนช่วยบริหารงานปลูกดอกไม้ขายในเขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบน นอกนั้นก็ส่งออกเพื่อนบ้าน จีนและญี่ปุ่น การแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างสูง ผมกับไอ้พายเลยเริ่มคิดแตกไลน์ นำดอกไม้มาทำอย่างอื่นด้วยอย่างที่บอกไป ก่อนพ่อเสียพ่อก็ซื้อที่เพิ่มแต่ยังไม่ได้คิดทำอะไรกับมันพ่อก็มาจากไปก่อน ผมเลยเอาพื้นที่ตรงนั้นมาปลูกผลไม้เมืองหนาวและผักสลัด


“อาทิตย์หน้ากูออกต่างจังหวัดนะไปเย็นศุกร์กลับคืนวันอาทิตย์”ไอ้พายบอก หยิบเอาน้ำเต้าหู้ไปกัดก้นถุงแล้วดูด มันอุ่นกำลังดื่มได้ไม่ร้อนลวกปาก


“อือ ให้พี่บีขับรถนะมึง อย่าขับเอง”


“กูไปรถตู้ทีมงานว่ะ”


“เออก็ดี”ผมรู้มันเหนื่อยมากแต่มันไม่เคยบ่น ทั้งเรียนทั้งทำงานแบบไม่มีวันว่างเลย บางทีมันก็มากไปจนอดห่วงไม่ได้


“มึงจะออกยัง กูมีเรียนเก้าโมงติดรถไปด้วยดิ ขี้เกียจขับ”


“เออ รอแป๊บ”ผมรีบจัดการอาหารเช้า ล้างถ้วยชามเสร็จแล้วกำลังจะเดินไปหยิบกุญแจรถก็เห็นไอ้พายนั่งหลับคอพับที่โซฟา พอสะกิดปลุกมันก็สะดุ้งตกใจจนผมเองก็ตกใจ ถามว่าไหวมั้ยมันก็บอกว่าไหว แต่ผมว่าอาการมันน่าเป็นห่วง ระหว่างทางไปมหาวิทยาลัยมันหลับไปตลอดทาง ผมลองเอื้อมมือไปแตะหน้าแตะคอมันดูก็รู้ว่าตัวอุ่นๆ ผมจอดตรงข้างคณะไอ้พายเพราะยังพอมีที่ว่างอยู่ ปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาก็นั่งมึนๆเบลอๆลูบหน้าลูบตาตัวเอง


“มึงจะเป็นไข้รู้ตัวป่ะเนี่ย”


“อือ เมื่อเช้ากินยาแล้ว”


“เออ แล้วเอาติดมาด้วยเปล่า ตอนกลางวันมึงกินข้าวแล้วกินยาอีกรอบด้วยล่ะ เดี๋ยวกูจะสั่งตองกับญี่ปุ่นไว้”


“รู้แล้วครับผัว”มันยังจะมีหน้ามาทะเล้นใส่ ผมส่ายหน้าก่อนจะรีบให้มันลงไป ไม่อยากจอดอยู่แถวนี้นานๆ เมื่อคืนหลังจากได้เบอร์ผมไปมันก็ไม่ได้โทรหรือทำอะไรแปลกๆให้หงุดหงิดใจเล่น ผมว่ามันต้องการจะแกล้งขู่ผมมากกว่า ผมส่งไลน์หาเพื่อนไอ้พายทั้งสองคนบอกว่ามันไม่ค่อยสบายให้คอยดูให้ด้วย คืนนี้มันมีจัดรายการกลับดึกผมกลัวอาการมันจะหนักถ้ามันไม่ได้กินข้าวกินยา ตองตอบกลับผมมาอย่างไวพร้อมด้วยสติ๊กเกอร์จับจูบดุ๊กดิ๊กให้ผมต้องหัวเราะ


ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วขับรถมาที่คณะตัวเองโชคดีที่ยังพอมีที่จอดว่างอยู่หลายที่ไม่ต้องทำให้เสียอารมณ์วนหา ผมแวะเข้าสตูดิโอเพื่อทำงานที่ค้างไว้ พวกไอ้เต้ทยอยมาทีละคน เสียงเอะอะจนต้องพากันมานั่งคุยกันด้านนอกจะได้ไม่รบกวนคนอื่นที่ทำงานอยู่ก่อนจะเข้าเรียนเมื่อถึงเวลา พอพักเที่ยงปุ๊บพี่ยศก็โทรมาปั๊บ มาพร้อมกับข่าวดีที่ว่าบริษัทจิวเวลรี่เลือกบริษัทของพี่ยศในการถ่ายภาพโดยเซ็นสัญญาหนึ่งปี จากนั้นเมื่อครบปีแล้วจะมีการคัดสรรใหม่ โดยที่พี่ยศต้องเข้าไปเจอกับผู้บริหารในอีกสองวันที่จะถึงนี้ ผมรู้สึกดีใจไปกับพี่ยศมากจริงๆ แกหวังไว้มาก แล้วก็รู้สึกภูมิใจลึกๆที่มีส่วนทำให้ความปรารถนาของพี่ยศเป็นจริง



คาบบ่ายผมมีเรียนจนถึงสี่โมงครึ่ง เลิกช้ากว่าปกติไปครึ่งชั่วโมง ลงมาข้างล่างก็ถูกพวกพี่กั๊ก พี่หลงเรียกไปช่วยงานกว่าจะได้กลับบ้านก็หกโมงกว่าแล้ว ผมโทรหาไอ้พายเช็คอาการมันหน่อยว่าเป็นไงบ้าง เสียงมันยังดูโอเคอยู่ท่าทางจะดีขึ้นแล้วเพราะเห็นว่าตองกับญี่ปุ่นบังคับให้กินข้าวกันยาตามที่ผมสั่งไว้ไม่ขาดตกบกพร่อง



ผมแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต วันนี้อยากทำอาหารกินเอง ตั้งใจจะทำต้มจืดเต้าหู้หมูสับเผื่อไอ้พายมันด้วย เลิกงานกลับมาจะได้ซดอะไรร้อนๆคล่องคอก่อนนอน


“เอ้า...”ผมกำลังเลือกผักอยู่ หันมาอีกทีก็มีพวกเส้นพาสต้าวางอยู่ในรถเข็น มาได้ไงวะ พอหันไปมองว่ามีใครเอามาใส่รถเข็นผิดคันหรือเปล่า แต่ดูท่าทางของแต่ละคนก็ง่วนอยู่กับการเลือกของของตัวเอง หันกลับมาอีกทีก็มีพวกซอสวางอยู่ในรถเข็นอีกรอบคราวนี้มีอีกคนยืนยิ้มกวนประสาทอยู่ข้างหลัง ผมลืมไปได้ยังไงว่าคอนโดมันอยู่แถวนี้เหมือนกัน


“ฝากใส่ด้วย”


“ไปเอารถมาเองสิ”


“ซื้อไม่เยอะหรอก ฝากหน่อย”


ผมไม่อยากคุยกับมันเลยเดินไปหยิบตะกร้าที่อยู่ใกล้ๆมาใส่ของตัวเองที่เลือกไว้ แต่ก็ถูกมันหยิบออก จะโวยวายก็กลัวว่าคนอื่นจะหันมามองให้อายไปอีก


“อย่ามีปัญหาน่า ทำไมกลัวอะไร”


ผมยืนจ้องตาวัดใจกับมันอยู่อึดใจก่อนจะยอมตามน้ำไป มาคิดดูแล้วถ้าหากผมยิ่งต่อต้านมันก็ยิ่งเข้ามาวุ่นวาย จะหาวิธีอะไรมาต่อกรกับมันก็คงไม่เป็นผล จะดักตีหัวลอบฆ่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเกินไปแล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ทำเรื่องแบบนั้นได้ คงมีทางเดียวคือต้องยอมเล่นเกมกับมันสินะ แต่ผมก็ไม่อยากยอมมันเลยสักนิด เกลียดจังเวลาตกเป็นรองใครแบบนี้


“เข็นตามมา”ใช้มันซะเลย มันเลิกคิ้วยิ้มนิดๆแต่ก็ทำตาม


“จะทำอะไรกินอ่ะ”


“....”


“ชอบทำอาหารเหรอ ใครสอน”


“....”ผมไม่อยากคุยกับมัน อยากพูดอะไรก็พูดไป


“น้ำน่าน”


“....”


“แฟนผมเองครับชื่อน้ำน่าน เขางอนน่ะ ถามอะไรก็ไม่พูด”ผมหันกลับไปมองทันที ไอ้คนหน้าด้านมันคุยกับใครไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นมองผมตาโตก่อนจะยิ้มแหย แต่ใช่ว่าจะมีแค่ผู้หญิงคนนั้นที่ได้ยิน คนที่อยู่ในล็อคนั้นก็ได้ยิน บางคนมองด้วยสายตาแปลกๆ บางคนก็ยิ้มๆ ผมไม่ใช่ตัวตลกนะเว้ย


“พูดบ้าอะไรวะ!”


“ยอมพูดกับพี่แล้วเหรอ ไม่เอาน่า อย่างอนเลยพี่ก็รักน่านคนเดียว ที่คุยด้วยก็ลูกค้าทั้งนั้น”มันยังพูดจาน่าขนลุก พูดจาปั้นน้ำเป็นตัวได้หน้าตาเฉย คนแถวนั้นก็มองผมอายจนแทรกแผ่นดินหนี ผมกำลังจะอ้าปากด่าแต่ก็ถูกมันขัดไปก่อน


“นะ ไปเลือกของต่อเถอะพี่หิวแล้วอ่า มันดึงผมไปยืนข้างๆแล้วโอบเอวทำเหมือนเป็นคู่รักกันแต่ผมจะบิดตัวออกก็ถูกมันบีบเอวไว้พร้อมกับกระซิบขู่


“ถ้าขัดขืนจูบโชว์เลยนะ”


“ไอ้เชี่ย!”ผมไม่รู้จะด่ามันยังไงดี แต่ยังดีที่พอพ้นจากล็อคนั้นแล้วมันก็ปล่อยให้ผมเดินปกติ แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์จะซื้อของต่อแล้ว


“ซื้อครบแล้วเหรอ”


“เรื่องของกู”


“บอกแล้วว่าไอ้พูดดีๆ”


“กับคนอย่างมึงไม่จำเป็นพูดดีด้วยหรอก”


“แล้วพี่มันเลวมากเลยหรือไง”สีหน้าตอนถามนิ่งมากผมเดาไม่ออกว่ามันกำลังรู้สึกยังไง ซึ่งผมก็ไม่คิดจะใส่ใจอยู่แล้ว


“เออ!”ต้องให้บอกด้วยเหรอว่าเลวหรือไม่เลว ไม่รู้จักมองตัวเองบ้าง


ผมเดินมาต่อแถวจ่ายเงิน ยังดีว่าของที่เลือกมาพอทำอาหารได้สักสองสามอย่าง เอาไว้พรุ่งนี้เช้าจะออกไปซื้อที่ตลาดสดแต่เช้าไกลหน่อยแต่คิดว่าไม่เจอมันชัวร์ๆ ให้มันรู้ไปว่าผมจะเจอกับมันอีก ผมหยิบเฉพาะของตัวเองวางลงให้แคชเชียร์คิดเงิน


“คิดรวมเลยครับ”


“กูไม่จ่าย”


“พี่จ่ายเอง”มันส่งบัตรให้พนักงานซึ่งผมคว้าไว้ไม่ทัน พนักงานอีกคนก็หยิบเอาของมันใส่ถุงรวมกับของผมไปด้วย


“แยกถุงให้หน่อยครับ”


“ไม่ต้องครับใส่รวมไปเลย”


“แยกครับ”


“รวมไปเลยครับ”


“เอ่อ ยังไงดีครับลูกค้า”พนักงานทำหน้าไม่ถูก มองผมสลับกับมันไปมา คิวจ่ายเงินก็เริ่มยาวขึ้น มองมาที่พวกผมอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะทำให้เขาสียเวลา


“รวมไปเลยครับ ขอบคุณมาก”มันพูดแล้วดัมผมให้เดินนำหน้าคว้าถุงทั้งหมดถือไว้เอง


“เอาของมา”พอออกมาถึงลานจอดรถผมก็หันไปดึงถุงในมือมัน


“เดี๋ยวค่อยไปแยกที่บ้าน”


“หมายความว่าไง”


“เดี๋ยวพี่ขับตามไปที่บ้าน วันนี้ขอกินข้าวด้วยแล้วกัน”


“ไม่!”


“จำได้มั้ยว่าเมื่อคืนเราตกลงกันว่ายังไง อย่าทำตัวมีปัญหา โทรมาต้องรับ ไลน์มาต้องตอบ เรียกให้มาต้องมา”


“แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่ต้องไปกินข้าวบ้านกูด้วย”


“เกี่ยวสิ”


“ยังไง”


“ก็เพราะพี่อยากให้เกี่ยวไง”


“หน้าด้าน”


“ด้านได้อายอดเคยได้ยินมั้ย”


“ถามจริง จะจีบกันหรือไง”ผมกลั้นใจถามไป กระดากปากจริงๆให้ตาย เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แค่พลาดครั้งเดียวผมได้ตัวเหี้ยอะไรมาติดสอยห้อยตามเหมือนขี้ปลาทองเนี่ย


“คิดว่าไง”


“ห่วยแตก”ทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ ใครหลงผิดไปรักมันก็บ้าแล้ว


“แล้วทำยังไงจะว่าดี”


“ทำยังไงมันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แค่เป็นมึงทุกอย่างมันก็ติดลบ”



“เหรอ ก็คอยดูว่าพี่จะทำให้เราใจอ่อนได้มั้ย”หึ เอาจริงผมก็ไม่ได้อยากข้องเกี่ยวกับมันเลยนะ แต่ไอ้ความมั่นใจแบบนี้มันเริ่มทำให้ผมชักอยากจะรู้แล้วว่าคนอย่างมันมีดีอะไรที่จะมาชนะใจผมแล้วคิดว่าผมจะยอมใจอ่อนได้ ผมรู้จักตัวเองดี รู้ใจตัวเองมากที่สุดไม่มีทางใจอ่อนให้กับคำว่ารัก แล้วยิ่งเป็นอีกฝ่ายด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ถ้ามันอยากลองและมั่นใจในตัวเองนักก็มาลองกันสักตั้ง



“อยากทำอะไรก็ทำ”





X





   ผมมองคนที่กำลังทำปลาหมึกสดอย่างชำนาญ แล้วก็ได้แต่สงสัยว่าคนอย่างมันไม่น่าทำอาหารเป็น แต่ก็นะขนาดผมยังทำเป็นเลย ตอนแรกที่พวกไอ้เต้รู้ว่าผมทำอาหารเป็นมันก็อึ้งเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด เพราะผมชอบเที่ยวดื่มเหล้าเคล้าบุรุษสตรีแทบทุกคืนจะมีฝีมือด้านนี้



   “มองขนาดนี้อย่าบอกว่าตกหลุมรักพี่แล้วนะ”มันเงยหน้าขึ้นมาถาม เป็นคำถามที่ชวนเพลียจริงๆนะ   



“ถามจริงหลงตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่เกิดหรือเปล่า”มันไม่ตอบแค่ยิ้มๆแล้วยักไหล่ ผมเลยหันมาจัดการกับผักที่แช่ทิ้งไว้ พลางคิดเรื่องของอีกฝ่ายไปด้วย ครั้งแรกที่เจอกันผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นคนแบบนี้ไปได้ ช่างเป็นคนที่มีหลายบุคลิกเหลือเกิน บางทีก็เหมือนผู้ใหญ่ที่ดูมีความคิดดี ภูมิฐานอะไรประมาณนั้น แล้วเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายปากจัด กวนประสาท หลงตัวเองอย่างร้ายกาจ



   ผมรีบทำกับข้าวให้เสร็จจะได้กินๆ แล้วก็ไล่ไอ้บ้านี่กลับไปสักที เบื่อขี้หน้า คืนนี้ว่าจะออกไปหาพีทด้วยเมื่อคืนผมเบี้ยวพีทจนอีกฝ่ายโทรมาตัดพ้อ



   “ทำไมยังอยู่อีก”ผมล้างจานเสร็จเรียบร้อยกำลังจะขึ้นข้างบนไปอาบน้ำ เดินผ่านห้องนั่งเล่นยังเห็นมันนั่งอยู่ ผมกำลังจะเอ่ยปากไล่ แต่มันยกมือขึ้นห้ามพร้อมกับรัวภาษาต่างด้าวที่ฟังแล้วน่าจะเป็นฝรั่งเศส เลยรู้ว่ามันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าดูเคร่งเครียดอดไม่ได้ที่ยืนอยู่ที่เดิมฟังมันคุยโทรศัพท์ทั้งที่แปลไม่ออกสักคำ ผมมีความรู้ทางภาษาต่างประเทศแค่อังกฤษ เดนมาร์กแล้วก็เยอรมันเท่านั้น ผมยืนมองมันอยู่นานตอนนี้มันดูไม่เหมือนไอ้บ้าที่ชอบตอแยกวนประสาทผมเลยสักนิด มีแต่ความจริงจังในน้ำเสียง ใบหน้าเคร่งขรึมแม้เห็นเพียงแค่ด้านข้างก็ทำให้รู้สึกอิจฉาได้ ทำไมมันดูดีจังวะ ผมรีบหลบเมื่อคนที่โทรศัพท์อยู่ทำท่าจะหันมา แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าจะหลบทำไมแต่พอจะเดินขึ้นข้างบนมันที่เลิกคุยโทรศัพท์แล้วก็เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วเรียกไว้เสียก่อน



   “น้ำน่าน ผมจะกลับแล้ว”แปลกใจอีกรอบ กับคำแทนตัวเอง หลังๆที่มันตั้งใจกวนประสาทผมจะแทนตัวเองว่าพี่ให้ผมขนลุกทุกครั้งที่ได้ยิน แต่นี่กลับแทนตัวเองด้วยผม หน้าก็ดูเครียดๆ สงสัยนี่จะคืนตัวตนที่แท้จริง ไม่ใช่แอ๊บทำเป็นคนดีทำทีมาหยอดผม


   “อือ”จะไปไหนก็ไปเสียที เพราะผมก็อยากจะออกไปใจจะขาดแล้ว



   พอผมพยักหน้าให้มันก็กลับไปทันทีไม่มีการอิดออดหรือแกล้งพูดจากวนประสาทให้ผมอารมณ์เสียก่อนจากลาเหมือนทุกที แต่ประเด็นคือมาลืมสูทไว้ให้ดูต่างหน้าทำไมวะครับ!






----------------------------

 :katai5: :katai4: :ling2:

เฮงๆรวยๆนะคะทุกคน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.13 [8.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-02-2016 22:53:24
 :L2: :pig4:

ต้องรออ่านจุดเปลี่ยนที่ จะจูนสองคนนี้ เรื่องงานไหมนะ

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.13 [8.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 08-02-2016 23:53:24
พี่เดียวโผล่มาตอนท้ายเลย  มากินข้าวด้วยแล้วก็จากไป สงสัยค่าตัวแพง   
ในที่สุดก็มาแล้ว คิดถึงเรื่องนี้มากถึงขนาดตามไปทวงที่เพจ 5555   เฮงๆจ้าคนเขียน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 16-02-2016 23:44:32
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero



- 14 -






ถึงจะบอกว่ามาหาพีท แต่ผมก็หนีบไอ้ธันว์มาด้วย พอไอ้ธันว์มาไอ้อ๊อดกับไอ้โก้ก็ต้องมาเหมือนมีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมสอง แท็คทีมกันมาอย่างหล่อจนคนมองเหลียวหลัง คิดผิดหรือคิดถูกก็ไม่รู้ที่ให้พวกมันมาด้วย ผมนั่งดื่มนั่งส่องอาหารตาบ่มเพาะอารมณ์ให้พีคสุดๆก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ ช่วงนี้มีเด็กหน้าใหม่ๆมาให้ส่องแทบไม่หวาดไม่ไหว เพลินอ่ะ



   “แปลกนะมึง ปกติเคยที่ไหนแบบนี้อ่ะ”ไอ้ธันว์มันตั้งข้อสังเกต หลังจากที่ผมเล่าเรื่องเจนให้ฟัง รวมไปถึงกิ๊กกั๊กที่มหาวิทยาลัยซึ่งตอนนี้มีหลายคนที่เข้ามาคุยด้วย หยอดๆแหย่ๆบริหารเสน่ห์ไปวันๆ



“กูอยากลองมั่งไม่ได้หรือไง ปล่อยให้มึงทำแต้มนำไปนานละ”หลังจากหลุดจากกรอบที่ตัวเองตีไว้ ผมก็รู้สึกว่าโลกมันกว้างขึ้นนะ แต่กว้างแค่ไหนสุดท้ายก็จบที่เตียงอยู่ดี



“ได้น่ะมันได้ แค่ให้แน่ใจว่ามึงไม่ได้มีปัญหาอะไร หรือทำประชดชีวิต”ข้อเสียของการเป็นเพื่อนกันมานาน รู้จักกันดีจนเกินไป



“กูเนี่ยนะจะประชดชีวิต ตลกละ”ผมแค่เรียกความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมาก็เท่านั้น ซึ่งมันก็ได้ผลดี หนำซ้ำยังรู้สึกสนุกกว่าเมื่อก่อนอีก เพิ่งรู้ว่าตัวเองพลาดโอกาสงามๆไป ตอนที่รู้ว่าทั้งดาวทั้งเดือนหลายคณะก็อยากจะควงผมไม่แพ้ไอ้ธันว์ ของดีๆทั้งนั้น



“มึงจะตลกไม่ออก ถ้าคืนนี้มึงไปกับคนนั้น”ไอ้โก้พูดขึ้น




“ใคร?”



“พีท”



“รู้จัก?”ผมไม่ได้บอกใครเลยนะว่าติดต่อกับพีท ไอ้ธันว์ที่มาด้วยตอนที่ผมเจอพีทก็ไม่รู้ คืนนั้นมันก็ยุ่งกับการสอดส่องสายตาล่าเหยื่อแล้วลากออกไปกิน



“ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็พอรู้ว่าไม่ธรรมดา”ไอ้โก้ตอบกั๊ก จะพูดก็พูดไม่หมด ทำเป็นยิ้มกวนตีนอีก



 “ลีลามีอะไรก็ว่ามาดิ๊ แล้วรู้ได้ไงว่ากูจะไปกับเขาวะ”



“หึหึ เมื่อคืนกูมาที่นี่กับเพื่อนได้ยินเขาพูดกับเพื่อนว่าจะจับมึงให้ได้ แล้วคืนนี้มึงก็มาที่นี่”



“เหรอวะ? แน่ใจเหรอว่ากู”



“น้ำน่านที่กูรู้จักก็มีแค่มึง มึงเองก็อยู่ในทาร์เก็ตเขาพอดี แล้วเขาก็ส่งสายตาให้มึงขนาดนั้น”



ผมไม่ตอบได้แต่ยิ้มเพราะเป็นอย่างที่ไอ้โก้พูดจริงๆ พอฟังจากที่ไอ้โก้พูดมาก็ทำให้คิดได้ว่าที่ทำเป็นเล่นตัวนี่แกล้งแสดงละครเรียกร้องความสนใจสินะ



“เพื่อนในกลุ่มม.ปลายกูรู้จัก เคยควงกันมาก่อน จะว่าไปเรียกควงก็ไม่ได้ว่ะ คือสลัดทิ้งไม่หลุดมากกว่า ได้กันคืนเดียวตามจิกตามจี้จนน่ารำคาญ ไปกับคนอื่นก็อาละวาดใส่ตามราวีจนเขากระเจิง ทั้งที่ตกลงกันว่าแค่สนุกแต่แสดงความเป็นเจ้าของจนน่ารำคาญ กูไม่ได้โดนเองยังรำคาญเลย”



“แล้วทำไงเพื่อนมึงถึงพ้นบ่วงมาได้วะ”ไอ้อ๊อดถามด้วยความใส่ใจ



“เพื่อนกูไปเรียนที่เมกา”



“ถึงขั้นหนีเลยเหรอวะ?”แบบนี้ผมว่ามันน่าสยองเกินไป



“เปล่า มันตั้งใจจะไปเรียนตามใจที่บ้านอยู่แล้วประจวบเหมาะพอดีเลยพ้นเวรพ้นกรรม แต่ก่อนหน้าจะไปก็ประสาทแดกไปหลายเดือน”



“ดูจากหน้าแล้วใครก็อยากเข้าหาไม่ใช่เหรอวะ”พีทเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดึงดูดมาก น่าจะมีแต่คนเข้าหน้าให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ไม่น่ามีนิสัยอย่างที่ไอ้โก้เล่า



“ทำหน้ามาทั้งนั้น แต่ก่อนไม่ดูดีขนาดนี้หรอก”ไอ้โก้บอก ข้อมูลที่ได้รับฟังทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาอีกครั้ง ยังดีที่ผมยังไม่หลวมตัว งั้นคืนนี้ผมควรชิ่งก่อนสินะ ผมไม่อยากเจอเรื่องปวดหัว จากที่ไอ้โก้เล่ามา คนนิสัยแบบนี้ผมรับไม่ไหวจริงๆ แค่ขี้ปลาทองที่มีอยู่ตอนนี้ก็ปวดหัวพอแล้ว



   พวกผมนั่งดื่มกันไม่นาน ไอ้อ๊อดก็ชวนย้ายไปร้านเฮียเสก มันบอกว่าพี่ทักษ์ตามให้ไปกินด้วยกัน ผมว่าย้ายไปก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้เหมือนพีทจะไปเข้าห้องน้ำเห็นทิ้งสายตาเหมือนจะให้ผมตามไป แต่ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง



   “มึงไปสนิทกับพี่เขาตอนไหนวะ”ผมกอดคอไอ้อ๊อดไว้ระหว่างเดินไปหน้าร้านเฮียเสก วันนี้ผมขับรถมาเอง ไอ้ธันว์ก็ด้วย แต่ไอ้อ๊อดติดรถไอ้โก้มา มาถึงดึกแล้วที่จอดรถเลยอยู่ไกลไปหน่อย



   “ก็ตั้งแต่คืนนั้นแหละ แลกไลน์กัน ส่งต่อเด็กในสต็อค”มันแสยะยิ้มชั่ว



   ไอ๊อ๊อดพาพวกผมไปที่โต๊ะประจำของพวกพี่เขา ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องเจอไอ้บ้านั่น แต่คิดอีกทีอาจจะไม่เจอก็ได้เพราะตอนที่มันกลับไปก็ดูเครียดๆเหมือนจะมีเรื่อง พอไปถึงโต๊ะแล้วไม่เห็นมันผมก็รู้สึกปลอดโปร่ง พวกพี่ๆต้อนรับพวกผมอย่างเป็นกันเอง ดื่มไปคุยกันไปเลยได้รู้จักกันมากขึ้น แต่ละคนไม่ธรรมดาจริงๆ พอดึกขึ้นอีกหน่อยต่างก็แยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง พวกผมสี่คนก็ได้สบายตัวสมดังที่ปรารถนา




X





วันนี้วันเสาร์ผมเข้ามาหาพี่ยศที่บริษัท เนื่องจากจะมีลูกค้าเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งซึ่งมีลูกค้ารีเควสว่าต้องเป็นผมถ่ายแคนดิต ผมเริ่มจับทางตัวเองได้แล้วว่าเหมาะกับการถ่ายภาพแนวไหน



“นั่งรอก่อน ลูกค้านัดไว้ตอนสิบโมง กินไรยังเดี๋ยวกูให้อีบุ้งไปหาอะไรให้กิน”



“ก็ดีพี่ ตื่นมาอาบน้ำแล้วก็ออกมาเลย ไอ้พายไม่อยู่ไม่มีใครทำข้าวเช้าให้”เมื่อคืนไม่ได้ไปเมาที่ไหน นั่งทำงานที่อาจารย์สั่งกับเคลียร์งานของที่ไร่อยู่กว่าจะได้นอนก็ตีสองกว่าแล้ว ดีที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ไม่งั้นได้นอนยาวเลยเวลานัดแน่ๆ นอนดึกตื่นเช้าทำเอาผมขี้เกียจมากวันนี้เลยนั่งแท็กซี่มา ขอมีคนขับให้นั่งสบายๆดีกว่า คุยงานเสร็จก็จะกลับไปนอนต่อ



“น้องน่านอยากทานอะไรคะ พี่จัดให้ มีร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูกรอบอะไรพวกนี้มาเปิดใหม่ อร่อยนะ อยากลองมั้ย”พี่บุ้งเป็นชายที่ใจเป็นหญิงแต่ไม่ได้นุ่งกระโปรงแต่งหญิงนะครับ แต่สไตล์การแต่งตัวก็เหมือนแฟชั่นนิสต้าบางทีก็ดูหลุดโลกไปนิด พูดจาจีบปากจีบคอตลกโปกฮา เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน โดยเฉพาะเวลาที่จิกกัดกับพี่ยศที่เป็นเจ้านาย



“ข้าวมันไก่พิเศษไม่หนังไม่เลือดครับ”



“จัดไปค่ะ บอสอยากกินอะไรดีคะ หญ้าหรือฟาง”



“อิบุ้ง! หญ้ามึงเอามากินให้อิ่มแล้วก็เอาฟางมาเผาตัวเองเถอะ”



“แหมๆ บอสก็ล้อเล่นค่ะ ตกลงเอาไรคะ”



“ข้าวหมูแดงใส่ทุกอย่าง ไปถามพวกข้างนอกด้วยว่าจะเอาอะไร กูเลี้ยง”



“ได้ค่ะ บอสใจดีอีกแล้วบุ้งช๊อบชอบ”พี่ยศส่ายหน้าเอือม ผมได้แต่ยิ้ม ชอบจังบรรยากาศการทำงานเป็นกันเองแบบนี้



“ขอกาแฟด้วยนะครับพี่บุ้ง”หันไปยิ้มหวานให้หนึ่งทีเพื่ออาหารอร่อยและกาแฟประทังชีวิต



“ได้ค่ะ สุดหล่อ ไหนมาให้พี่ชื่นใจสักทีสิ”พี่บุ้งทำท่าจะเข้ามาจูบผมแต่ถูกพี่ยศเบรคด้วยการผลักหัวจนหน้าหงาย



“ให้มันน้อยๆหน่อยอิบุ้ง ไปเร็วๆ”



“ขัดลาภตลอดเลย”พี่บุ้งบ่น ค้อนใส่เจ้านายตัวเองแล้วเดินกระแทกเท้าออกไปบอกให้รู้ว่างอนแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร ขำๆกันไป



“ถ้าไม่มีพี่บุ้งออฟฟิซคงเงียบเหงานะพี่”



“เออ แต่บางทีก็รำคาญ พูดห่าอะไรทั้งวัน กูเหนื่อยแทน”



“ครับ เออพี่แล้วลูกค้า คนนี้เขาเป็นใครเหรอ ทำไมถึงเจาะจงให้เป็นผมด้วย”



“เจ้าสาวเป็นเพื่อนของไอ้ศิ มันเห็นรูปจากงานไอ้ศิที่มึงถ่ายแล้วชอบ”



“อ๋อครับ”พี่ศิคือญาติพี่ยศที่ผมไปถ่ายรูปให้ครั้งก่อน



“เออ ส่วนงานของ VW จะเริ่มงานครั้งแรกอีกสองอาทิตย์เดี๋ยวกูบอกวันที่แน่ๆอีกที ไปถ่ายที่สตูดิโอเขาแต่ทีมงานของเราเอง”



“ถ้าอย่างนั้นผมไม่ต้องไปก็ได้มั้งพี่”



“ไม่ได้ดิ กูได้งานก็เพราะมีมึงช่วยนะ มึงกังวลอะไร กลัวไอ้พวกนั้นจะว่ามึงหรือไง ไม่มีใครว่ามึงหรอก มันยังอยากให้มึงมารับงานเต็มตัวเลย เพราะตอนนี้งานล้นมือมากๆ กูปฏิเสธไปหลายงาน โคตรเสียดาย”



“ครับ”



“มึงนี่แปลกเห็นมั่นใจทุกเรื่อง ทำไมเรื่องนี้ป๊อดวะ ถ้ากูไม่เห็นว่ามึงมีฝีมือกูจะชวนมาทำงานมั้ย แล้วนี่โอกาสดี ประสบการณ์ที่ดีของมึงเลยนะ ถ่ายงานให้ VW เนี่ย”



“ครับพี่ ครับๆ ผมผิดไปแล้ว บ่นยาวเลยนะ”ยอมแพ้เลย พูดเรื่องนี้ทีไรพี่ยศเทศน์ยาวตลอด



“มึงทำตัวน่าบ่นไง เอาเป็นว่าถ้าครั้งไหนงานมันชนกับที่มึงเรียนกูจะให้คนอื่นไปแทน”



ผมสบายใจเมื่อพี่ยศพูดแบบนี้ ถึงผมจะดีใจกับงานที่ได้แต่ช่างภาพประจำบริษัทนั้นมีหลายคน การที่ผมที่เป็นแค่เด็กรับจ้างเป็นจ็อบจะมาทำงานแทนตลอดมันก็ดูไม่ดีแม้ผมจะมีส่วนที่ทำให้ได้งานนี้ก็ตาม อีกประเด็นที่สำคัญคือผมกลัวว่างานจะชนกับเวลาเรียน ผมไม่อยากให้กระทบการเรียน ยังไงผมก็ต้องเลือกหน้าที่หลักของตัวเอง



พี่บุ้งกลับมาพร้อมกับอาหารที่สั่งไป ผมกับพี่ยศรีบจัดการโดยไวเพราะใกล้เวลานัดของลูกค้าแล้ว ระหว่างนั้นก็รู้ว่าพี่ยศเปิดรับช่างภาพใหม่ เพราะงานที่เริ่มเพิ่มขึ้นและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเลยทำให้มีลูกค้าติดต่อมามากกว่าเดิม พี่ยศมีแผนที่จะแยกช่างภาพในแต่ละประเภทให้ชัดเจนขึ้น เลือกคนให้เหมาะกับงานเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น



ก่อนสิบโมงลูกค้าที่นัดไว้ก็มาถึงก่อนเวลาประมาณสิบนาที พี่ยศกับผมลงไปพบลูกค้าที่ห้องรับรองของบริษัทที่อยู่ชั้นสอง พี่บุ้งเดินเข้าไปพร้อมกับแม่บ้านเพื่อเสริ์ฟน้ำและของว่างให้ลูกค้า ผมกับพี่ยศตามเข้าไปพร้อมกับพี่ฉัตรที่เป็นช่างภาพหลักของงานนี้ ทันทีที่สบตากับเจ้าบ่าวผมก็ชะงักไป



ไอ้เหี้ยนั่น!




ตั้งแต่วันนั้นที่มันเดินหน้าเครียดกลับบ้านไป ผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย เบอร์ที่เอาไปมันก็ไม่ได้โทรมาก่อกวนเหมือนพวกโรคจิตหรือโทรจิกให้ผมไปหาอย่างที่มันเคยบอกไว้ แต่ผมก็ไม่คิดว่าการเจอกันอีกครั้งของผมกับมันจะอยู่ในสถานการณ์นี้ เจ้าบ่าว? จะแต่งงานแล้วมายุ่งกับผมทำไม เจ้าสาวจะรู้หรือเปล่าววะว่าเจ้าบ่าวแม่งนอนกับผู้ชายด้วย คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวผมจนพี่ยศเอ่ยแนะนำตัวกับคนทั้งคู่



“สวัสดีครับ ผมยศวี นี่ฉัตรเป็นช่างภาพหลัก นี่ชลธรช่างภาพแคนดิตที่รีเควสมา แล้วก็แป๋วครับจะเป็นคนประสานงานทุกเรื่องให้”



“สวัสดีค่ะ ฉันนลินค่ะ ส่วนนี่ภัทรดนัยค่ะ”ผู้หญิงสวยหวานมั่นคนนั้นแนะนำตัว



“ครับ แต่ผมแปลกใจจังเลยนะครับ ทำไมเจ้าบ่าวถึงได้กลายเป็นคุณภัทรดนัยได้ล่ะครับ”คำถามของพี่ยศทำให้ผมแปลกใจจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมองคนฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าจะเลือกที่นั่งเหมาะเจาะไปมั้ย อีกฝ่ายก็มองผมกลับมานิ่งๆ แต่ในแววตานั้นมันดูเหมือนมีอะไรไม่น่าไว้วางใจ



“อ๋อ ลินยังไม่ได้เปลี่ยนเจ้าบ่าวหรอกค่ะ เดี๋ยวคุณภวัตตามมาค่ะ พอดีติดธุระนิดหน่อย เลยส่งน้องชายมาเป็นตัวแทนก่อนค่ะ”ว่าที่เจ้าสาวหัวเราะเบาๆพร้อมกับตอบคำถาม เธอดูดีมากจริงๆ



“อ๋อครับ ผมก็ตกใจหมด อีกอย่างไม่คิดว่าโลกกลมจะเจอคุณภัทรดนัยที่นี่”



“ครับ โลกกลมจริงๆที่พี่แชมป์กับพี่ลินเลือกบริษัทของคุณยศ”เกิดความสงสัยขึ้นทันทีพี่ยศไปรู้จักกับมันได้ยังไง แต่ช่างมันก่อนครับ ตอนนี้ผมภาวนาให้การคุยงานจบลงเร็วๆจะได้กลับบ้านสักที



“นั่นสิครับ เรามาเริ่มกันก่อนเลยมั้ยครับหรือว่าจะรอคุณภวัตก่อน”



“เริ่มได้เลยค่ะ ยังไงคนตัดสินใจก็ต้องเป็นลินอยู่ดี ใครจะกล้าขัดใจเจ้าสาวคะ”ผมยิ้มเมื่อเธอพูดติดตลกได้น่ารัก แต่รอยยิ้มก็ต้องจางลงเมื่อสบตากับคนฝั่งตรงข้าม ผมเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นหน้ามัน เกลียดขี้หน้า



ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเจ้าบ่าวตัวจริงก็มา ดูแล้วค่อนข้างตามใจเจ้าสาวอยู่มาก แต่คนทั้งคู่ก็เหมือนจะชอบให้ตัวแถมคอยออกความเห็น จนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้ ถึงแม้ความคิดเห็นที่มันแสดงออกมาจะเจ๋งมาก็เถอะ ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงการสนทนาก็จบลง ได้ข้อสรุปธีมที่บ่าวสาวอยากได้ จากนั้นจะเป็นเรื่องของทีมงานที่ต้องหาสถานที่ให้ตรงตามต้องการ นัดวันถ่าย ส่วนเรื่องชุดสามารถไปเลือกได้ที่ร้านที่เป็นญาติของพี่ยศอีกที เรียกได้ว่าเงินทองหมุนเวียนอยู่ในเครือญาติพี่ยศนี่แหละครับ



ผมออกมาเรียกแท็กซี่ที่หน้าบริษัทแต่แอสตันมาร์ตินคันคุ้นตาก็มาจอดเทียบขวางทาง ผมจิ๊ปากหงุดหงิดแต่พอขยับเดินขึ้นหน้าไปมันก็ขับตามมาขวางอยู่นั่น ผมเลยหยุดมองลอดกระจกที่กำลังลดระดับลง



“ขึ้นมา”



“ไม่”เรื่องอะไรต้องขึ้นไปวะ ผมเดินหนีมันก็ขับตามอีก มีรถคันอื่นขับตามมาเหมือนกัน เริ่มมีเสียงบีบแตรไล่เพราะมันขวางทางการจราจร แท็กซี่ที่ผมจะเรียกก็ไม่สามารถขับเข้ามาได้ ไอ้บ้านั่นขับตีคู่ตลอดทางที่ผมเดิน ผมเลยเปลี่ยนทิศทางเดินย้อนกลับไป ยังไงมันก็ไม่สามารถกลับรถเพื่อขับตามได้อยู่แล้ว คิดว่าผมจะเป็นเหมือนนางเอกในนิยายในละครที่สุดท้ายทนความกดดันของรถคันอื่นไม่ไหวแล้วต้องยอมขึ้นรถไปกับมันด้วย



“เห้ย อ๊ะ ไอ้เชี่ย ปล่อยนะเว้ย!”โคตรตกใจอีกสองคันก็จะถึงแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าง แต่ก็มีมือมารมาคว้าไหล่กระชากเอวผมจนเซถลาไม่ทันตั้งตัวเลยถูกมันลากมายัดรถได้อย่างง่ายดายด้วยความมึนงงเพราะทุกอย่างมันเร็วมาก แรงควายจริงๆ ผมไม่ได้ตัวเล็กๆนะแต่ถูกมันอุ้มปลิวเลย



“โอ๊ย ไอ้เหี้ย เจ็บนะ”หัวผมโขกกับขอบประตูรถ โคตรเจ็บ พอมันจับผมยัดใส่รถปิดประตูกระแทกหน้าได้มันก็รีบกลับมาประจำที่อย่างไวเหมือนกลัวผมจะหนีลงจากรถ เจ็บหัวขนาดนี้ผมไม่หนีให้เหนื่อยหรอก อยากจะพาไปไหนก็ไปเลย หายเจ็บเมื่อไหร่ผมค่อยเอาคืน



“แม่งโนมั้ยเนี่ย”



“สม ให้ขึ้นดีๆไม่ขึ้น”



“ยุ่ง”



“ปากดี เดี๋ยวจับจูบซะเลย”



“ไอ้โรคจิต!”



“หึ กินไรดี”หะ อะไรของมัน เปลี่ยนเรื่องไวฉิบเป๋ง



“ไม่กิน”อยากกลับไปนอนจะแย่แล้ว แต่ดูท่าความตั้งใจของผมไม่เป็นผลหรอก นั่งอยู่บนรถที่มันเป็นคนขับมันจะพาไปไหนผมจะไปขัดขวางอะไรมันได้ จะให้เปิดประตูรถแล้วกระโดดลงไปก็มีแต่ในหนังเท่านั้นแหละที่ทำแล้วไม่ตาย ที่สำคัญมันเปิดประตูไม่ได้ด้วยไง



“หิว”



“ข้างหน้ามีร้านข้าว กินๆแล้วก็แยกย้าย กูอยากกลับบ้าน”



“ขอทีเถอะ เลิกพูดกูมึงได้มั้ยเนี่ย เห็นไม่ว่านี่พูดใหญ่เลยนะ”



“เรื่องของกู”



“ชลธร”มันเรียกเสียงต่ำคล้ายกำลังข่มอารมณ์สุดๆ



“จะมากะเกณฑ์ไรนักหนา พ่อแม่พี่น้องก็ไม่ใช่”



“ก็ไม่ใช่น่ะสิ แต่เป็นผั...”



“ไอ้สัด! หยุดพูด”ผมตะครุบปากมันไว้ก่อนจะหลุดพูดคำนั้นออกมา โคตรเกลียด เกลียดคำนั้นของมันที่สุด



“หึหึ”



ไอ้เสียงหัวเราะแบบนี้ของมันก็โคตรเกลียด เกลียดทุกอย่างที่เป็นมันนั่นแหละ เมื่อไหร่จะพ้นเวรพ้นกรรมสักที ถึงจะคิดได้หลายครั้งว่าควรไหลไปตามน้ำ แต่พอเจอหน้าจริงๆมันทำใจไม่ได้สักที มันยากจริงๆกับการที่ต้องฝืนใจทำอะไรที่ไม่อยากทำ



“จะไปไหน”หลังจากนั่งเงียบมาสักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกว่าเส้นทางมันห่างออกจากเมืองทุกที



“หัวหิน”



“ห๊ะ ไปทำไม?”



“หาของกิน”



“ไกลไป”



“นั่งเฉยๆเถอะน่า แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึง”มันพูดพร้อมกับหยิบแว่นกันแดดมาสวม รุ่นนี้โคตรสวยผมยังอยากได้อยู่เลย ว่าจะฝากเพื่อนไอ้โอ๊ดหิ้วกลับมาอยู่



“มองขนาดนี้ หลงรักพี่แล้วใช่มั้ย”ถามแบบนี้อีกแล้ว คิดว่ามันมีดีอะไรให้ผมหลงรักวะ



“รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันตกก่อนเถอะ”เพลียใจจริงๆ ผมไม่ต่อปากต่อคำกับมันอีก แต่เงียบไปไม่นานมันก็ชวนคุยอีก



“ชอบถ่ายรูปมากเลยเหรอ”



“อืม”



“ถ่ายมากี่ปีแล้ว ฝีมือดีเชียว”



“ห้าหกปีแล้ว”



“แล้วทำไมถึงได้มาทำงานกับคุณยศวีได้ล่ะ”



“เป็นนายทะเบียนหรือไง”ถามมากไปแล้ว ขับไปเฉยๆไม่ได้หรือไงวะ



“ก็อยากรู้ ถามดีๆนะเนี่ย กวนทำไม”



“จะรู้ไปทำไม”



“ใครๆก็อยากรู้เรื่องคนที่ตัวเองสนใจทั้งนั้นแหละ หรือน่านไม่อยากรู้”



“ไม่เคยอยากรู้ เพราะสิ่งเดียวที่สนใจคือเซ็กส์”



“เออ ตรงดี เคยคบใครแบบจริงจังมั้ย”



“ไม่เคย ไม่อยากคบ”



“สนุกไปวันๆว่างั้น”



“แน่นอน หรือว่ามึงไม่ทำอย่างนั้น”น้ำหน้าอย่างมันก็คงไม่ต่างจากผมนักหรอก อาจจะผ่านมาโชกโชนกว่าด้วยซ้ำ



“พี่ ไม่ใช่มึง”



“กระดากปากที่จะเรียก”จริงๆ เรียกพี่แล้วคันปากยิบๆเลยนะ



“แค่คำว่าพี่จะกระดากไรนักหนา ไม่ได้ให้เรียกที่รักสักหน่อย”



“โอ๊ย พูดไรวะ ขนลุกเลยเนี่ยเห็นมั้ย”ผมยื่นแขนให้มันดู มันเหลือบตามองก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นรถ ไอ้คนที่นั่งนิ่งๆตอนคุยกับพี่ยศมันหายไปแล้ว เหลือแต่ไอ้บ้ากวนตีนประสาทเสียและโรคจิต



“น่ารักว่ะน่าน”พูดไม่พอยังเอามือมาขยี้ผมผมอีก แต่ขอโทษเถอะครับ คนอย่างน้ำน่าน ชลธรต้องเรียกหล่อเว้ย ไม่ใช่น่ารัก!



แอสตัน มาร์ตินคันงามที่เบาะนิ่มก้นพาผมมาถึงชายทะเลหัวหิน คือถ้าหิวจริงๆผมไม่ถ่อมาไกลถึงนี่หรอกแวะกินข้าวมันไก่ข้างออฟฟิซที่ยศดีกว่า เมื่อเช้าที่ได้กินฝีมือเขาดีจริงๆ แต่ร้านที่ไอ้บ้านั่นพามาบรรยากาศโคตรดี อยู่ริมทะเล มีสาวๆในชุดบิกีนี่ให้ดูบ้างประปราย ลมทะเลพัดโชยเบาๆจนผมเผลอสูดกลิ่นเค็มของทะเลเข้ามาเต็มปอด ไม่ได้มาทะเลนานแล้ว ตอนที่รับน้องก็ไม่ได้มากับคนอื่นเขา



“สั่งเลยพี่เลี้ยง”



“แน่นอนอยู่แล้ว เป็นคนพามานี่หว่า”ผมเปิดเมนูขึ้นมา ตอนแรกก็เฉยๆนะแต่พอเห็นเมนูอาหารเท่านั้นแหละ น้ำย่อยทำงานหิวขึ้นมาทันที ทะเลเผาครั้งก่อนที่ทำกินที่บ้านมันก็ไม่สะใจและได้บรรยากาศเท่ากับมากินถึงทะเลจริงๆ ผมเลยจัดมาครบกุ้ง หอย ปู ปลา แถมกั้งด้วยเอาให้คนเลี้ยงกระเป๋าฉีก อยากป๋านัก จะจีบผมใช่มั้ย จีบได้จีบได้จีบไป ใจผมหนักแน่นซะอย่างใครจะมาทำอะไรได้



“ขอทวนรายการนะคะ ปลากะพงทอดน้ำปลา โป๊ะแตก ทะเลเผา กุ้งอบวุ้นเส้น ทะเลลวกจิ้ม กั้งทอดกระเทียม หมึกแดดเดียว ยำหอยนางรม ปลาหมึกผัดไข่เค็ม”



“อ้อ ข้าวผัดปูด้วยครับ จานกลางก็พอ”



“จะรับอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ”



“พอแค่นี้ก่อนครับ”ผมกำลังจะสั่งทอดมันเพิ่มแต่ถูกขัดเสียก่อน มันสั่งแค่น้ำเปล่ากับน้ำแข็งเพิ่มจากที่ผมสั่งไปเท่านั้น



“ทำไมจ่ายไม่ไหวหรือไง”



“เหมาทั้งร้านก็จ่ายไหว แต่สั่งมาเยอะแยะกินหมดหรือไง เหลือทิ้งเสียดายของ”



ผมเบ้ปากใส่มัน เบื่อคนขี้บ่น แต่พออาหารมาเสิร์ฟจริงๆผมก็ย้อนคิดถึงคำพูดของมันขึ้นมา แต่ละอย่างไม่ใช่น้อยๆ แล้วสั่งมาเกือบสิบอย่างชายหนุ่มสองคนต่อให้กินเก่งแค่ไหนก็ไม่หมดหรอก นึกถึงไอ้เพื่อนชั่วทั้งหลายทันที



“กินไม่หมดจะให้เดินกลับกรุงเทพเอง”



“ใครจะไปโง่เดินกลับวะ รถมีก็ขึ้นสิ จะให้ซื้อรถอีกคันขับกลับยังไหว”ขู่เหมือนผมเป็นเด็กอมมือไปได้ ปล่อยทิ้งไว้ผมก็มีปัญญากลับเองได้ จะเดินกลับออกไปตอนนี้เลยก็ได้ ติดแค่ขี้เกียจฝ่าเปลวแดดและลมทะเลเหนียวหนึบไปก็เท่านั้น ผมไม่สนใจไอ้คนตรงข้ามอีก กินดีกว่า มันเองก็คงหิวเหมือนกันดูมีความสุขกับการกินมากเหลือเกิน



“ทำไมไม่กินกุ้งอบวุ้นเส้น”มันกินทุกอย่างแต่ไม่แตะอยู่อย่างเดียว



“เหม็น”



“เหม็นอะไร”



“คื่นช่ายไง ไม่ชอบ”



“เด็กว่ะ”



“คนเรามันก็ต้องมีอะไรที่ไม่ชอบบ้างสิ”ก็จริง แต่ผมหมั่นไส้มันว่ะ ตักใส่จานแม่ง



“เห้ย เอาออกไป มันเหม็น”



“แค่ผักร้องโวยวายไปได้”



“กลิ่นมันติดข้าวเนี่ย เอาออกไปเลย”



“เอาออกเองดิ”



“น้ำน่านแม่ง”



โคตรตลกอ่ะ หน้ามันยี้กับกองผักในจานมาก ผมรู้สึกเหมือนเห็นเด็กห้าขวบถูกบังคับให้กินผักอยู่ตรงหน้า น่ารักสัด เอ๊ะ! ทำไมผมถึงมองมันน่ารักวะ



“แค่กลิ่นติดเอง”



“ไม่ชอบเว้ย”



“พูดจาไม่เพราะ”ขอเอาคืนมั่งเถอะวะ แต่ผมฮามันจริงๆนะ ผู้ชายตัวควายๆแต่ไม่สามารถจัดการกับผักเหี่ยวๆในจานตัวเองได้



“ได้ทีนี่เอาใหญ่เลยนะ เด็กบ้านี่”มันเรียกพนักงานมาขอจานใบใหม่แล้วเริ่มกินต่อ ผมนั่งกินนั่งตีกับมันไปจนอาหารที่สั่งมาเกือบหมด อิ่มจนอืดอ่ะครับ เสียดายแต่ยัดไม่ไหวแล้ว ต้องนั่งพักพุงอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเรียกเช็คบิล ผมคิดว่ามันจะกลับเลย แต่มันกลับพาผมไปวัดห้วยมงคลต่อ ผมก็ไม่ได้รีบไปไหนก็เลยปล่อยเลยตามเลย อยากทำอะไรก็ตามสบายเผื่อว่ามันจะเห็นว่าผมไม่ต่อต้านไม่มีความท้าทายใดให้มันได้สนุกจะได้เลิกตอแยผมเสียที



หลังจากไหว้พระเสร็จมันก็แวะไปจิบกาแฟต่อที่ร้านตรงสถานีรถไฟ ซึ่งผมชอบมาก เสียดายที่ไม่ได้เอากล้องมาด้วย แต่ก็ใช้กล้องโทรศัพท์ถ่ายเอาไว้หลายรูป ตอนแรกผมว่าจะไปดื่มเพราะมันเย็นแล้ว แต่กลิ่นกาแฟหอมก็ทำให้อดใจไม่ไหว



“เดี๋ยวไปโต้รุ่งมั้ย”ไม่ใช่คำถามจากมัน แต่เป็นคำถามจากผมเอง ไหนๆก็มาแล้ว อยากเดินเล่น หาของกินตอนค่ำต่อ มันก็ดูจะแปลกใจที่ผมเอ่ยชวน เอาจริงๆถ้าตัดเรื่องที่มันทำกับผมไว้วันนั้นออกไป มันก็ไม่ได้เลวร้าย เรื่องอื่นที่เคยไม่ถูกกันก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจแล้ว



“เอาสิ อยากไปก็จะพาไป”



“ป๋าเหลือเกินนะ”ตั้งแต่มาผมยังไม่ได้เสียเงินจ่ายค่าอะไรเลยนอกจากตอนทำบุญ มันควักออกให้หมด ที่จริงก็ไม่ได้อยากให้เป็นบุญคุณอะไร แต่ในเมื่อมันลากผมมาทำไมต้องต้องเสียเงินเองด้วย



“แล้วสนใจเป็นเด็กป๋ามั้ย”สายตามันเจ้าชู้มาก แต่ผมไม่หวั่นไหวหรอกนะ



“ฝันไปเถอะ”



นั่งชิลกันอีกพักใหญ่ก็เคลื่อนย้ายกันไปที่โต้รุ่ง เดินดูของกันไปเรื่อยๆ ส่วนมากผมจะถ่ายรูปมากกว่า ไว้วันหลังจะชวนพวกไอ้เต้มาถ่ายรูปกัน ไอ้โฟมมันก็ชอบ สงสัยต้องจัดสักทริปแล้วหลังสอบมิดเทอม



“ซื้อไปทำอะไรเยอะแยะ”



“ฝากเพื่อนฝากน้อง”ผมกำลังเลือกพวงกุญแจกะลามะพร้าวอยู่ อันที่จริงก็มีขายหลายที่ ที่เชียงใหม่ก็มี แต่ร้านนี้เขาทำกวนๆดีผมชอบ ไอ้คนถามมันก็มายืนเลือกด้วยเหมือนกัน แต่เลือกไปแค่สี่ตัว ผมไม่ได้ถามว่าเอาไปให้ใคร ธุระไม่ใช่ พอเลือกเสร็จจ่ายเงินก็ไปต่อแถวซื้อน้ำปั่น ก่อนจะเลือกสักร้านเพื่อกินมื้อเย็น แต่ละร้านก็มีเมนูไม่ต่างกันต้องเสี่ยงดวงแล้วว่าร้านไหนจะอร่อย ไอ้บ้านั่นเลือกร้านที่มีขายเบียร์สดด้วย พอได้โต๊ะสิ่งแรกที่สั่งก็คือเบียร์ ส่วนอาหารมันให้ผมจัดการ อยากจะสั่งยำคื่นช่ายมาให้จริงๆ



“ไม่ต้องสั่งที่มีคื่นช่ายมานะ ไม่กิน”มันรีบบอกทันที รู้ทันผมอีก



“อะไรจะขนาดนั้นวะ”



“ก็คนไม่ชอบ อย่าให้รู้ว่าไม่ชอบอะไรบ้างก็แล้วกัน”



“ที่ไม่ชอบน่ะเหรอ ก็นั่งอยู่ข้างหน้านี่ไง”ผมหมายถึงมัน แต่แทนที่มันจะไม่พอใจกลับยิ้มแล้วโน้มตัวเข้ามาหา



“ไม่ชอบ แต่ก็มาเดทด้วยกันละนะ”



“เดทบ้าอะไรวะ”ถูกบังคับให้นั่งรถมา ไม่เรียกว่าเดทเว้ย!



“หึ กินข้าวชายทะเล เที่ยวด้วยกัน ตบท้ายด้วยดินเนอร์ เดทชัดๆไม่รู้ตัวหรือไง”



“ไม่ใช่เว้ย แม่ง”หมดอารมณ์แล้ว อยากกลับ



“ล้อเล่นน่า เอ้า ดื่มๆเข้าไป จะได้ใจเย็นๆ”



“จะมอมหรือไง”



“คออ่อนขนาดนั้น? แต่วางใจเถอะ ถึงไม่เมาถ้าคิดจะทำอะไรจริงก็ทำได้”



“ใช่ กูไม่ลืมหรอก”มันพูดอารมณ์ผมก็ขึ้นทันที ถ้าไม่มาสะกิดผมก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องที่ตกเป็นรองแบบนนั้นมันน่าเจ็บใจ



“น้ำน่าน...พี่ขอโทษ”



ผมเลี่ยงที่จะพูดถึงมาตลอด เจอหน้ากันก็มีแต่ใส่อารมณ์ เลยทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่มันพูดคำนี้กับผมเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น



“ขอโทษจริงๆ”ผมเบือนหนีสายตาของอีกฝ่ายที่มองมา มันดูเว้าวอนถ้าไม่เข้าใจไปเองเหมือนมันจะมีส่งผ่านคำขอโทษผ่านสายตานั้นด้วย



“อืม”ผมไม่รู้จะตอบรับอะไรไปดีนอกจากยอมปล่อยผ่านมันไป



“แล้วก็ที่บอกว่าสนใจพี่ก็พูดจริงๆนะ”



คำขอโทษนี่ผมยอมรับได้ แต่ไอ้ความรู้สึกอื่นบอกตรงๆว่าไม่มีทาง ต่อให้ตัดเรื่องวันนั้นทิ้งไป ลบความไม่พอใจหรืออคติต่างๆก่อนหน้านี้ไปจนหมด ระหว่างผมกับมันก็คงเป็นได้แค่คนรู้จักเท่านั้น






-----------------

มาล้าวววววววววววววววว :hao7: :katai4:

พอดูจำนวนตอนแล้วบั่บ เอ๊ะ ทำไม 14 ตอนแล้ว เนื้อเรื่องยังไม่ถึงไหนเลย 5555
ขอบคุณคนที่ยังอยู่กับเรานะคะ ยังติดตามไม่ทิ้งไปไหน ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 17-02-2016 00:24:01
เดท  กันแล้วถึงน่านจะปากแข็งก็เถอะ รุสึกพี่เดียวทิ้งมาด อ.เนี้ยบๆดุๆตอนแรกไปหมดเลย
คถ. คนเขียนเสมอ ขอบคุณที่ยังมาต่อให้เราได้อ่าน   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-02-2016 00:46:51
ตลกตอนพี่เดียวกลัวคื่นช่ายจริงๆ 555

 :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 24-02-2016 23:20:48
สู้ๆ รอตอนต่อไปนะคะ อยากอ่านแล้วววววววว  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-02-2016 09:31:02
ง่อวว พี่เดียวง้อให้ได้นะ555ทำอะไรกับเขาไว้อ่า รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-02-2016 17:02:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.14 [16.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 26-02-2016 22:13:59
ค้างง่าาาาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 28-02-2016 23:36:41
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero







- 15 -








เทศกาลสอบกลางภาคที่ทำให้ผมหัวปั่นได้มาเยือนแล้ว ทั้งงานที่ต้องทำส่ง ทั้งหนังสือที่ต้องอ่านอยากจะแยกร่างได้จริงๆ ช่วงนี้ผมและผองเพื่อนไม่มีเวลาออกไปหาความสำราญเอาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคในตัวและหมาในปาก หมกตัวอยู่ที่คณะเป็นส่วนใหญ่เพื่อทำงาน แทบจะกินนอนที่นี่น้ำท่าไม่อาบ คำว่าเซอร์กับซกมกมีเพียงเส้นบางๆคั่นไว้ เส้นที่ว่านั่นก็ใกล้ขาดเต็มที




โทรศัพท์ที่ผมชาร์จทิ้งไว้เต็มพอดี มันเลยสว่างวาบขึ้นมาเรียกความสนใจให้ผมหันไปมองเลยทำให้รู้ว่าเป็นเวลา 21.37 น. และทำให้รู้ว่านั่งทำงานมานานแค่ไหนแล้ว พอรู้เวลาท้องก็หิวขึ้นมาทันที มื้ออาหารล่าสุดของผมก็คือตอนเที่ยงกว่าๆก่อนเรียนชดเชยคาบบ่าย เลิกเรียนก็นั่งทำงานต่อที่ใต้ตึกเรียน ยิงยาวมาจนถึงตอนนี้ มองซ้ายมองขวาแต่ละคนก็กำลังขะมักเขม้นทำงานของตัวเอง หรือเรียกอีกอย่างคือปั่นกันมือเป็นระวิงไม่มีใครสละเวลาไปหาอะไรกินแม้แต่คนเดียว ถ้าใครหลวมตัวมันจะถูกฝากทันที ซึ่งผมอาจจะเป็นคนโชคร้ายคนนั้นอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ ก็คนมันหิวจนทนไม่ไหวแล้วนี่หว่า อีกอย่างงานผมก็เกือบจะเสร็จแล้ว เหลือแค่เก็บรายละเอียดงาน




“กูจะไปเซเว่น...”ผมเอ่ยเพียงเท่านั้น พวกมันก็รีบพูดรายการของที่อยากได้ขึ้นมาทันที ครั้งนี้ไม่มีไอ้หมวยให้ผมลากไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะมันชิ่งกลับไปตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว ลุกลี้ลุกลนเหมือนหนีเจ้าหนี้ พอถามถึงงานมันบอกว่าจะไปทำที่หอแล้วก็วิ่งออกจากห้องไปเลย



ผมคว้ากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ได้ก็เดินออกมาพร้อมกับรายการที่ไอ้เต้มันจดให้ลายมือมันควรจะไปเรียนหมอมาก บางทีอาจจะต้องจ้างนักสืบจิ๋วมาช่วยสืบหาความจริงให้ว่ามันเขียนอะไรบ้าง ผมเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยเหมือนที่เคยเดินทุกครั้ง แต่วันนี้ไม่ได้ยินเสียงรับน้องเพราะหมดกิจกรรมไปแล้ว แต่เสียงจากโทรศัพท์ผมดังขึ้นแทน หลังจากที่กลับมาจากหัวหินครั้งนั้น มันดังขึ้นบ่อยๆไม่ระบุเวลาเพราะขึ้นอยู่กับความว่างและความกวนตีนของคนที่โทรมา



“อะไร”ผมรับอย่างเซ็งๆ จะไม่รับมันก็จะโทรมาจนรำคาญ ถ้าปิดเครื่องหนีมันจะตามมาถึงที่ ถ้าเปลี่ยนเบอร์มันก็หาเบอร์ใหม่ของผมได้อยู่ดี ดังนั้นผมควรจะแก้ที่ต้นเหตุ ไหลตามน้ำให้มันเบื่อๆไปสักที แต่นี่ก็เป็นเดือนๆแล้ว ทำไมไม่เบื่อสักทีวะ



“อยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้านอีก”



“รู้ได้ไง พี่อยู่บ้านกูเหรอ?”ผมยอมเรียกมันว่าพี่แล้ว แต่ในใจมักจะเรียกเต็มๆว่า ‘ไอ้เหี้ยพี่เดียว’ เสมอ ส่วนคำแทนตัวจะให้ผมแทนตัวด้วยชื่อมันก็ไม่ใช่ป่ะวะ จะให้ใช้ผมก็กระดากปากจริงๆ แต่มันก็คงจะเป็นอีกอย่างที่ไอ้เหี้ยพี่เดียวต้องยอมรับแลกกับการผมเรียกมันว่าพี่ละนะ



“ใช่ ว่าจะมาขอข้าวกินหน่อย ไปไหนอ่ะ หรือว่าร้านไอ้เสก”นี่ก็อีก ว่างเป็นไม่ได้ชอบแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมตลอด แต่เหมือนมันจะรู้เวลาดีไม่เคยมาชนกับไอ้พายสักที ซึ่งก็ดีแล้วผมไม่อยากให้ใครรู้ว่ามันมาทำตัวสนิทสนมกับผมแบบนี้



“เปล่า อยู่คณะทำงานอยู่”



“จะกลับกี่โมง”



“ไม่รู้ งานยังไม่เสร็จ”ถึงเสร็จผมก็ไม่กลับถ้ารู้ว่ามันจะรออยู่ที่บ้าน



“หิวเนี่ย”



“ก็ไปหาอะไรกินสิวะพี่ ขาไม่ได้ติดกัน ท้องก็ไม่ได้ติดกัน ไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ย”



“ขาไม่ได้ติดกันก็จริงแต่ท้องเราเคยติดกันนะ หลังกับอกเราอีก”



อ๊ะ...ไอ้เหี้ย ลากลงใต้สะดืออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ภาพความทรงจำไหลเข้ามาเลยทีเดียว ผมคุยกับมันทีไร แม่งชอบลากลงล่างตลอด หื่นขึ้นสมอง หน้าตาท่าทางไม่ให้เป็นคนสัปดนอย่างนี้เลย แต่ก็นะคนเรามันวัดจากสิ่งที่เห็นภายนอกไม่ได้ ไอ้ภาพเงียบขรึม ดูภูมิฐานที่เคยเห็นครั้งแรกนี่สร้างภาพทั้งนั้น



“แค่นี้นะ”



“เห้ย ถึงกับวางเลยเหรอ”มันหัวเราะร่วน ตลกมากไอ้สัด



“อยู่เซเว่นเหรอ”มันคงได้ยินเสียงตอนประตูเซเว่นเปิด เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็จะรู้กันทันที



“อือ”ผมหนีบโทรศัพท์เอาไว้ด้วยไหล่ข้างหนึ่งมือถือโพยลายมือไอ้เต้ ส่วนอีกมือถือตะกร้าไปหยิบพวกข้าวกล่อง เกี๊ยวกุ้งที่พวกมันสั่งเอาไปให้พนักงานเวฟ แล้วค่อยเอาตะกร้าใบใหม่เพื่อไปหยิบเครื่องดื่มกับขนมอย่างอื่น ครั้งนี้ไม่มีใครฝากถุงยางแล้วครับ



“อยู่ไหนอ่ะ ทำไมเงียบๆ”ผมเพิ่งสังเกตว่าเสียงรอบข้างมันเงียบไป ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ



“ขับรถอยู่”



“งั้นก็วางดิ”



“ไม่เอา จะคุย”เออ เรื่องของมึงรวยนักก็จ่ายค่าโทรศัพท์ไป ไม่รู้ว่าอยากจะคุยไรนักหนา แต่ผมก็บ้าไม่วางเพราะรู้ว่าวางมันก็โทรมาอีกอยู่ดี



“อยากกินครัวซองค์แฮมชีสกับเกี๊ยวกุ้ง”



“ก็แวะซื้อสิ”ใกล้คอนโดมันมีเซเว่นอยู่สาขาหนึ่ง ร้านใหญ่ด้วย



“ซื้อให้หน่อย”



“อยู่คนละที่จะให้ซื้อให้ทำไม”



“อีกห้านาทีจะถึงคณะแล้ว ซื้อให้หน่อย เดี๋ยวไปกินด้วย”



“เห้ย! อย่ามานะ เพื่อนอยู่เต็มเลย”ที่ว่าขับรถนั่นหมายถึงขับมาหาผมเหรอเนี่ย แต่อย่าคิดว่ามันจะฟังผม หัวเราะหึหึแล้วก็ตัดสายไปเลย ไอ้บ้าเอ๊ย ผมรีบซื้อของที่เพื่อนและมันสั่งให้ครบแล้วรีบเอากลับไปให้พวกที่ใต้ตึกก่อนจะแยกตัวออกมาพร้อมกับถุงของตัวเอง ไอ้เต้ตาไวหันมาถามว่าผมไปไหนผมเลยบอกว่าจะไปกินกับเด็กที่มารอ ช่วงนี้ผมคุยกับเด็กอยู่สองสามคนพวกมันเลยไม่ติดใจสงสัย แต่เด็กในที่นี้ใช่ว่าเป็นเด็กจริงๆ แต่เป็นคำที่เอาไว้เรียกคนที่คุยอยู่ด้วย ส่วนมากก็แก่กว่าผมปีสองปี แต่ก็แค่คุยยังไม่ได้นอน ผมกลัวจะมีปัญหาการตามติดแล้วสลัดออกยากยิ่งอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันด้วยยิ่งต้องระวัง ถ้าอยากมากจริงๆผมก็ซื้อเอาครั้งเดียวจบ มีอยู่คืนหนึ่งอยากจัดเลยโทรไปบอกไอ้เต้ให้หาเด็กมาให้ผมจะไปนอนคอนโดมัน คืนนั้นทั้งมันทั้งผมเลยสบายตัวกันไปหลายยกเพราะมันก็เรียกเด็กมาให้ตัวเองด้วย



“นัดเด็กไว้จะไปกินข้าวหรือกินอะไรวะ”ไอ้โอ๊คปากมากแซวขึ้นมา



“ปล่อยมันไปช่วงนี้มันกำลังได้หลังลืมหน้าอยู่”ไอ้เชี่ยเต้มันยักคิ้วกวนตีนใส่ ผมไม่อยากต่อปากต่อคำกับมัน หิ้วถุงของที่ซื้อมาเดินออกไปตรงจุดที่บอกให้ไอ้บ้านั่นไปจอดรถรอ ผมให้มันอ้อมไปจอดด้านข้างของสถาปัตย์ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับคณะผม ตรงนั้นมีลานดอกแก้วหอมฟุ้ง มีโต๊ะม้าหินอยู่หลายชุด ปกติพวกเด็กคณะนั้นไม่ค่อยมาทำงานกันตรงนั้นเพราะเอาแต่อยู่กันในห้องสตูดิโอ ผมเดินลัดผ่านสวนข้างคณะข้ามสะพานการเวกที่ยังคงส่งกลิ่นหอมเย็น ผ่านตึกเรียนที่ใต้ตึกมีไฟเปิดสว่างมีนักศึกษาของคณะนั่งอยู่เป็นไม่กี่คน เพราะอีกสามสี่คนที่เห็นนอนราบไปตามแนวยาวของม้านั่งผมเลือกที่จะเดินเลียบทางด้านข้างของตึกที่ไม่ค่อยสว่างนักแทน จนมาถึงลานดอกแก้วผมก็เห็นคนที่บอกให้รอนั่งอยู่ มันก้มๆเงยๆทำอะไรสักอย่างอยู่เลยย่องเข้าดูไป ไอ้เหี้ยพี่เดียวมันกำลังป้อนลูกชิ้นโรนัลโด้อยู่ มันเป็นหมาคณะสถาปัตย์ที่บางทีก็ออกหากินไปถึงคณะผม ไอ้หมวยมันยังเคยหลอกเอาปีโป้ให้มันกินแล้วมันก็กินนะตะกละสุดๆ ส่วนชื่ออันอลังการของมันไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้ง



“เห้ย!”ผมแกล้งผลักไหล่คนที่นั่งอยู่เบาๆ ตกใจทั้งคนทั้งหมา ลูกชิ้นในมือไอ้เหี้ยพี่เดียวหลุดมือตกพื้นกลิ้งหลุนๆให้ไอ้โรนัลโด้ที่ได้สติก่อนวิ่งตามไปเขมือบลงท้องแบบไม่เคี้ยว



“ตกใจหมด”มันทำหน้าบึ้ง เขวี้ยงลูกชิ้นในมือออกไปไกลให้โรนัลโด้วิ่งตามไปกิน คงกะว่าจะไม่ให้มารบกวน แต่อีกเดี๋ยวมันก็เสนอหน้ามาอีกแน่ๆ



“ขวัญอ่อนจริง แล้วไปเอาลูกชิ้นมาจากไหน”



“รถเข็นขายอยู่หน้ามอเลยแวะซื้อตอนแรกว่าจะเอามารองท้อง พอได้ที่นั่งไอ้นี่มาจากไหนไม่รู้มานอนเฝ้าเฉยเลย”



“มันคงได้กลิ่นลูกชิ้นพี่อ่ะแหละ เอ้านี่”ผมยื่นถุงเซเว่นให้มัน ของกินทั้งของผมของมันอยู่ในนั้น ไอ้พี่เดียวมันเอาออกมาวางเรียง ผมซื้อน้ำเปล่ามาเพราะก่อนหน้านี้ซื้อน้ำอัดลมมามันบ่นใหญ่ว่ากัดกระเพาะ อยากจะถุยใส่หน้านักเหล้าที่กินยิ่งกว่าอาบคืนเว้นคืนนั่นไม่กัดกระเพาะไม่ทำลายสุขภาพเลยนะ แต่เพื่อไม่ให้มันบ่นผมเลยต้องดื่มน้ำเปล่าแทน ผมหยิบลูกชิ้นที่เป็นส่วนแบ่งจากไอ้โด้มากิน แกล้มกับข้าวผัดขี้เมาหมูจากเซเว่น



“แล้วไมไม่กลับคอนโด ถ่อมากินทำไมถึงที่นี่”



“ที่คอนโดไม่มีน่านนี่หว่า”



“เห็นนี่มั้ย”ผมชูแขนให้มันดูขนที่ลุกชัน ทุกครั้งที่มันหยอดผมจะมีอาการแบบนี้ตลอด แม่เง้ยยย เกิดมาไม่เคยถูกไบด้วยกันหยอด สยองสุดๆ แต่มันกลับหัวเราะสนุกสนาน



“กินเสร็จแล้วก็รีบกลับไปเลย”



“รีบไล่จังนะ”



“เดี๋ยวคนมาเห็น”



“พี่เหมือนเป็นชู้จะมาเจอแต่ละทีต้องหลบซ่อน”



“พูดไรวะ”แสลงหูสุดๆ



“หึหึ”



หลังจากเสียงหัวเราะนั้นผมกับมันก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก รีบกินรีบให้มันกลับไป มันบอกจะรอผมจนกว่าจะเสร็จงานแล้วค่อยกลับ แต่ผมว่ามันบ้ารถก็ขับกันมาเองจะมารอกลับพร้อมกันเพื่ออะไร ตัวมันเองก็ทำงานดูท่าทางเหนื่อยขนาดนั้นแทนที่จะรีบกลับไปพักผ่อนดันถ่อมากินข้าวกล่องเซเว่นกับผมเพื่ออะไรไม่รู้ กว่าจะไล่มันกลับไปได้ก็เสียน้ำลายไปหลายหยด แต่ตอนที่ผมกำลังจะยัดมันเข้ารถ คนที่ผมคิดว่ามันกลับห้องไปจมกองงานแล้วดันเดินออกมาจากใต้ตึกโผล่มาทางลานดอกแก้วเหมือนกัน ยังอยู่ในชุดเดิมเสียด้วยเหมือนไม่ได้กลับห้องอย่างที่บอก



“เชี่ยน่าน!/ไอ้หมวย”ไอ้หมวยเรียกผมอย่างตกใจ ผมเองก็เหมือนกันแต่เก็บอาการดีกว่า สายตาผมและมันก็ไล่ไปยังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของกันและกันทันที ผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่สูงกว่ามันเป็นสิบเซ็นยืนหน้านิ่ง หนวดเคราครึ้มจนเดาหนังหน้าไม่ออกว่าดีหรือแย่จ้องผมกลับมา



“มึงมาทำอะไรที่นี่”ทั้งผมทั้งมันพูดพร้อมกันอีก



“กูมาเอาของจากรุ่นพี่กำลังจะกลับแล้ว ไปนะ”ว่าแล้วมันก็วิ่งปรู๊ดไปเลย ส่วนไอ้รุ่นพี่ที่ว่าคงจะเป็นคนตัวสูงๆที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม ท่าทางเขาเฉยมากแต่ผมก็คุ้นๆเหมือนเคยเห็นมาก่อน พอเขาเดินตามไปหมวยที่เผ่นแน่บไป คนด้านหลังผมเลยเอื้อมมากระตุกแขนเสื้อผมเบาๆ



“พี่กลับแล้วนะ”



“ควรกลับไปตั้งนานแล้ว”ผมว่า ชักสีหน้าใส่นิดหน่อย



โชคดีที่ไอ้หมวยมันตกใจที่ผมเจอมันที่นี่จนหนีกลับไปก่อน ไม่ได้ติดใจสงสัยไอ้เหี้ยพี่เดียว แต่ถ้ามันตั้งสติได้มันก็คงไม่ปล่อยประเด็นนี้ให้ตกไปแน่ๆ ผมเองก็เหมือนกันท่าทางมีพิรุธของไอ้หมวยทำให้ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันมาเอาของที่รุ่นพี่อย่างที่มันบอกจริงๆ





X






“มึงไม่ถาม กูไม่ถาม ดีล จบนะ”



วันรุ่งขึ้นผมมาเรียนแล้วเจอไอ้หมวยโฟมนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว มีนมเปรี้ยวหนึ่งกล่องวางอยู่ด้านหน้า กำลังจะอ้าปากทักทายตามประสาเพื่อนฝูงแต่มันกลับขัดขึ้นก่อนผมจะอ้าปากเปล่งเสียงซะอีก



“พิรุธสัดๆ”



“เรื่องของกู”มันทำหน้างอ เบือนหน้าหนี ก่อนจะหันหน้ากลับมาอีกรอบ



“คนเมื่อคืนกูคุ้นหน้าอ่ะ ใครวะ?”



“มึงไม่ถาม กูไม่ถาม ดีล จบนะ”ผมย้อนมันบ้าง มันยิ่งหน้างอ ขมุบขมิบปากด่าผมแน่ๆ



“แต่ถ้ามึงพลาดเมื่อไหร่ กูซ้ำมึงแน่ๆไอ้หมวย บ้านใกล้เรือนเคียงขนาดนี้คิดว่าจะรอดพ้นหูตาไปได้สักกี่น้ำกัน”



“ซ้ำเชี่ยไร ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ มโนแล้วไอ้สัด กู แค่ ไป เอา ของ”มันเน้นย้ำคำว่าไปเอาของชัดเจนมาก



“ก็ขอแค่ ไป เอา...ของจริงๆ”



“ไม่คุยกับมึงแล้ว!”มันงอนครับ เดินหน้าเป็นตูดไปทางซุ้มขายน้ำสวนกับไอ้โอ๊คที่เดินมาที่โต๊ะ ไอ้คนมาใหม่ทำหน้าเป็นหมางงเพราะโดนไอ้หมวยเตะขาอย่างไรเหตุผล พาลฉิบ



   “ทำไมวันนี้มาช้ากว่าไอ้หมวยวะ”



“ขอให้มึงเปลี่ยนคำถามใหม่ ต้องถามว่าไอ้เชี่ยหมวยทำไมมาเช้าตลอด”



“ยังไง?”คำว่าตลอดแสดงว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ปกติเวลาผมมาถึงมันก็อยู่กันเกือบครบแล้ว



“มึงไม่สังเกตเหรอ ตั้งแต่วันจันทร์มันมาเช้าตลอด ไม่เคยง้องแง้งให้กูแวะรับทั้งที่ลูกรักมันงองแงไปนอนอู่หลายวันแล้ว บางวันมีเรียนบ่ายก็ยังมาเช้า กูเคยเจอมันไปนั่งแป้นแล้นที่ห้องสมุดตั้งแต่เช้า ใช่นิสัยมันเหรอ”



“เหรอ”ผมว่าอีกไม่นานผมได้ซ้ำมันแน่ๆ ไอ้โอ๊คเพื่อนสนิทมันจับสังเกตได้ขนาดนี้ โคตรไม่ระวังตัว ถึงผมจะไม่รู้อะไร แต่คิดว่าตัวเองเดาไม่ผิดว่าต้องเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่ผมเห็นเดินมากับไอ้หมวยเมื่อคืนนี้แน่ๆ



ถึงเวลาเรียนก็เรียน พอเลิกเรียนก็คือเวลางานแต่งานผมเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วตอนนี้เลยมานั่งๆนอนๆ ก่อกวนไอ้พวกที่ยังไม่เสร็จให้มันด่าเล่น ส่วนไอ้หมวยหายหัวหายตูดไปตั้งแต่เรียนเสร็จ



“มึงอยู่ว่างๆไปหาอะไรให้พวกกูแดกหน่อยดิ”ไอ้โอ๊คมันว่ามาอย่างนั้น แต่ผมไม่ใช่เด็กรับใช้ของพวกมันนะเว้ย



“มีมือมีตีนก็เดินไปหาแดกเอาเองสิ”



“ห่า อยู่ก็ไร้ประโยชน์ไสหัวมึงกลับไปเลย”ไอ้เต้มันเดินมาเอายางลบปาลงบนอกผมที่นอนเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ งานไม่เสร็จแล้วมาลงอะไรกับกูวะเนี่ย พวกเชี่ยนี่



“เออ กูกลับก็ได้ แล้วจะนอนเผื่อนะพวกมึง”อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์อย่างที่มันว่าจริงๆครับ ไม่มีใครว่างมาเล่นมาคุยกับผมสักคน เซ็งๆ กลับดีกว่า ก่อนกลับแวะไปซื้อเสบียงให้พวกเพื่อนชั่วประทังชีวิตก่อนเดี๋ยวจะหาว่าคนหล่อใจดำ



ผมกลับถึงบ้านเจอไอ้พายมันนอนกระดิกเท้าดูการ์ตูนเน็ตเวิร์คอยู่บนโซฟา บนพื้นใกล้มือมันมีถุงป๊อบคอร์นชื่อดังกับเลย์แล้วโค้กวางอยู่



“มึงไม่มีงานเหรอวะ”



“ไม่ วันนี้กูว่าง ยกกอง”



“อ่อ ทำไรกินวะ”ถ้ารู้ว่ามันอยู่บ้านผมกลับมานานแล้ว



“ยังไม่รู้รอมึงกลับมาเนี่ย ขี้เกียจว่ะ ออกไปกินข้างนอกกันดีกว่า”



“เออ กูเปลี่ยนชุดก่อน”ตอนแรกว่าจะอาบน้ำเลยแต่ออกไปกินข้าวข้างนอกก็เจอฝุ่นควันอีก ค่อยอาบก่อนนอนเลยทีเดียว แต่ขอเปลี่ยนเป็นขาสั้นก่อนเพื่อความคล่องตัว



ผมขับไอ้หวานออกมาหาอะไรกิน ไอ้พายซ้อนหลัง บรรยากาศแบบนี้ห่างหายไปนานมากตั้งแต่ไอ้พายรับงานละคร เดี๋ยวนี้เดินห้างมีคนเข้ามากรี๊ดไอ้พายแล้วนะครับ เมื่อก่อนยังมีแค่คอยแอบมองแอบส่องด้วยความไม่แน่ใจเพราะมันยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ตอนนี้มันรับงานเยอะขึ้น มีถ่ายโฆษณาน้ำอัดลมที่เพิ่งออกอากาศไป เห็นว่าอาทิตย์หน้าจะไปถ่ายเอ็มวีด้วย ดังใหญ่แล้วเพื่อนผม




“ผัดไทกุ้งสดหนึ่ง ออส่วนหนึ่ง มึงเอาอะไร”ผมสั่งป้าเจ้าของร้านที่ยืนผัดอยู่หน้ากระทะใบใหญ่ ก่อนจะหันมาถามไอ้พายที่ชะเง้อคอมองไปทั่ว สงสัยคงอยากกินอย่างอื่น แต่ผมชอบร้านนี้ กับป้าเจ้าของร้านก็คุ้นหน้ากันดีเพราะมากินบ่อย ตรงนี้เหมือนเป็นแหล่งรวมอาหารการกิน มีเกือบทุกอย่างทุกประเภททุกภาคเลยก็ว่าได้ ของหวานก็มีให้เลือกมากมายขนมปังสังขยา น้ำแข็งไส ขนมไทย เต้าทึง เต้าฮวย คืออธิบายไม่หมดต้องมาดูเอง ห่างจากหมู่บ้านประมาณสองสามกิโลไม่ไกลมาก ช่วงไหนที่ผมกับไอ้พายขี้เกียจกันมากๆก็มาฝากท้องกันที่นี่



“เดี๋ยวกูไปสั่งเตี๋ยวเนื้อเปื่อยกับยำหมูยอ มึงจะเอาน้ำไรกูจะได้แวะสั่งให้เลย”



“แดงมะนาวโซดา”เต็มสตรีมหวานเปรี้ยวซ่า



ระหว่างรอผมก็มองไปเรื่อยพอไม่มีอะไรน่าสนใจก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่น วันนี้นอกจากแชทจากเด็กในสังกัดที่ตอนนี้เริ่มเบื่อไม่อยากคุยแล้วเพราะความงี่เง่าง้องแง้งแล้วก็ไม่มีวี่แววการติดต่อจากคนที่ชอบโทรมาเป็นประจำ ปกติมันต้องโทรมากวนตีนอย่างน้อยๆก็วันละรอบ ยิ่งถึงเวลาเลิกเรียนผมมันจะโทรมาหลังจากนั้นสิบนาทีตลอด แต่วันนี้กลับเงียบ



“คิดอะไรวะ หน้าเครียดฉิบหาย”



“กูอ่ะนะ”ไอ้พายมันวางแดงมะนาวโซดาลงตรงหน้าผมเลยก้มไปดูดปรื๊ดเย็นถึงก้านสมองแต่สะใจเป็นบ้า



“เออดิ มองโทรศัพท์แล้วก็คิด รอใครโทรมาวะ”



“เปล่า กูจะรอใครวะ”นั่นดิ ผมจะไปรอใคร ผมไม่ได้รอโทรศัพท์จากมันแน่ๆ แค่แปลกใจก็เท่านั้น แต่ไม่โทรมาก็ดีแล้ว ผมจะไปคิดเรื่องมันให้ปวดหัวทำไม ควรจะดีใจที่มันเลิกยุ่ง คงเบื่อแล้วสินะ ไปจากชีวิตผมได้สักที แต่อีกใจก็กลัวว่าจู่ๆมันจะโผล่มากินข้าวด้วยเหมือนทุกทีได้จ๊ะเอ๋กับไอ้พายแน่ๆ หรือผมควรส่งข้อความไปบอกมันดี ยังไงดีวะ คนหล่อเครียด!







X







หายใจคล่องได้แค่วันเดียว วันต่อมาอาจารย์ก็สั่งงานชิ้นใหม่พร้อมกันสองวิชาให้ผมต้องหัวปั่นอีกครั้ง กำหนดส่งคือวันสอบวันสุดท้ายพอดี อาจารย์กะไม่ให้พวกผมมีเวลาอ่านหนังสือสอบกันเลยสินะ ผมต้องการสมาธิในการคิดงานเลยกลับมาทำที่บ้าน ไอ้พายไปทำงานตามปกติ ก่อนเข้าบ้านก็แวะซื้อข้าวหมูกรอบเข้ามากินด้วยขี้เกียจทำกับข้าว เสียเวลาทำงาน  แต่ผมได้เสียเวลายิ่งกว่าการทำกับข้าวกินเองก็ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่ไม่ได้โทรหาผมมาสองวันแล้ว



“ไม่มีญาติพี่น้องหรือไงวะ”ผมถามไอ้คนที่นอนแผ่หมดสภาพบนโซฟาสุดหรู ที่หายไปสองวันคือไปพม่าเพื่อเจรจาธุรกิจอะไรสักอย่าง เจอฝนตลอดกลับมาเลยป่วย แต่มันใช่เรื่องมั้ยที่จะโทรตามผมให้มาหา ซื้อของมาให้กิน แทนที่จะโทรหาญาติตัวเองอย่างพี่เฟิร์สหรือเพื่อนฝูงมันเอง แต่พอได้ฟังเสียงเหมือนคนใกล้ตายก็อดเวทนาไม่ได้เลยต้องขับไอ้หวานมาดูพร้อมกับข้าวต้มปลาร้อนๆและยาแก้ปวดลดไข้ที่มันสั่งมา ยังดีที่มีแรงลุกมาเปิดประตูให้ไหวแต่สภาพแย่เต็มกลืนเพราะตอนที่มันกลับไปที่โซฟานั่นก็แทบคลาน



ปุ!



“ไอ้พี่เดียว ลุกขึ้นมากินดีๆจะได้กินยา”ผมโยนหมอนอิงใส่ท้องมัน แต่ก็ยังนอนนิ่งเอามือก่ายหน้าผาก



“เน่”ผมเอื้อมมือไปแตะตัวมันแต่เหมือนถูกลวกด้วยของร้อนๆ ถ้าตัวมันจะร้อนจนไฟจะลุกขนาดนี้ จะช็อคตายป่ะวะ




“เห้ย ไหวป่ะเนี่ย พี่เว้ย”



“อือ...”



“ลุกมากินข้าวกินยาจะได้หาย”มันเริ่มมีปฏิกริยาขยับพลิกตัว แล้วลืมตามองผม ตาแดงก่ำเลย



“ปวดหัว”ขณะที่พูดมั่นก็พยายามดันตัวเองขึ้นมานั่งพิงโซฟาแต่ก็ทุลักทุเลสุดๆจนผมต้องเข้าไปช่วย



“กินข้าว”



“ไม่อยาก”เอ้า แล้วโทรไปสั่งกูทำไมเนี่ย



“กลืนไม่ลงแล้วอ่ะ เจ็บคอ”เชื่อว่าคงเจ็บจริง เพราะเสียงมันไปแล้ว



“ฝืนๆกินเข้าไปหน่อย ไม่งั้นจะกินยาได้ไง กัดกระเพาะตาย เอ้า”ผมตักข้าวต้มจ่อปากมันหรือจะเรียกว่าป้อนนั่นแหละ ถือว่าสงเคราะห์คนแก่ ไหนๆก็มาถึงนี่แล้วจะไม่ดูดำดูดีก็จะใจดำไป



“กิน”ถลึงตาใส่ไปทีมันถึงยอมอ้าปากกินเข้าไป แต่แม่งเหมือนเด็กไม่ยอมเคี้ยว อมหาเตี่ยเหรอวะ



แปะ!



“อื้อ! เอ็บ”ผมตบแก้มข้างที่มันอมข้าวไว้เบาๆเองนะ สำออยจริง



“เคี้ยว!”



ผมบังคับป้อนมันไปได้ไม่กี่คำมันก็ส่ายหน้าล้มตัวนอน ผมเลยขี้เกียจเซ้าซี้อีกแต่ก็เรียกมันให้ลุกขึ้นมากินยาใหม่ พอกินเสร็จก็ปล่อยมันนอนยาวไป ล้างจานเสร็จก็ว่าจะกลับแต่หันไปมองคนป่วยที่นอนหน้าซีดอีกทีก็ต้องถอนใจเหนื่อยหน่ายตัวเอง เดินไปค้นตู้เสื้อผ้ามันหาผ้าขนหนู แต่ก็เจอแต่ผ้าเช็ดผมผืนไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กพอจะชุบมาเช็ดตัวได้แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีละนะ ผมเอากะละมังสแตนเลสมาจากในครัวรองน้ำอุ่นในห้องน้ำมาเช็ดตัวให้เพื่อคลายร้อนจากตัวมัน แกะแผ่นเจลที่แค่ซื้อมาเผื่อไว้แต่กลับได้ใช้งานจริงแปะลงบนหน้าผาก ลากผ้าห่มจากในห้องนอนมาห่มให้ ตัวใหญ่ขนาดนี้จะให้แบกไปนอนในห้องไม่มีทางแน่




“กลับเลยดีมั้ยวะ”จัดการทุกอย่างเสร็จก็เกิดความลังเล ใช่ว่าเราจะสนิทกันจนต้องมาเฝ้าไข้ดูแลใกล้ชิดขนาดนี้ แต่ถ้าปล่อยไว้เกิดมันไข้ขึ้นเป็นหนักกว่านี้ตายไป ผมจะบาปป่ะวะ หันซ้ายหันขวาอยู่หน้าประตูสุดท้ายก็ต้องเดินกลับมาใหม่ ไหนๆก็ไหนๆแล้วอยู่ต่อสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง กลับไปก็ไม่สบายใจอยู่ดี




(ต่อ)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 28-02-2016 23:37:40
(ต่อ)

.

.


.
ผมแอบไปงีบในห้องนอนมัน บนเตียงที่เคยเกิดความอัปยศแก่ชีวิตนายชลธร เห็นแล้วก็แสลงใจแต่ก็ช่างแม่ง พยายามเอาคำไอ้เต้มาปลอบใจ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต แต่ก็ไม่ทันได้หลับดีก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงไอโขลกๆจากคนด้านนอก ผมต้องลุกขึ้นไปดูแล้วคอยเช็ดตัวให้ ท่าทางจะนอนไม่สบายด้วย ปลายเท้ามันเลยโซฟาออกมาเล็กน้อย ผมเลยปลุกให้มันเข้าไปนอนในห้อง ตอนแรกมันก็สลึมสะลือ จะลุกขึ้นนั่งยังไม่ไหว ผมต้องช่วยพยุงกว่าจะลากตัวโตๆมาถึงเตียงได้ก็เล่นเอาเกือบคะมำหน้าคว่ำไปหลายรอบ



“น่าน...”เสียงที่เปล่งออกมาแหบแห้งจนแทบฟังไม่ออก ผมต้องเงี่ยหูฟังมัน



“น้ำ..”



“หิวน้ำ?”มันพยักหน้าทีนึง ผมเลยต้องเดินไปน้ำที่ด้านนอกมาพร้อมกับลากผ้าห่มที่โซฟามาด้วย พอดื่มน้ำเสร็จตามันก็ปิดสนิท ทั้งตัวทั้งลมหายใจร้อนผ่าวเหมือนไข้มันไม่ลดลงเลย ผมตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อตื่นมาเอายาให้มันกิน ถ้าจะถามว่าผมจะนอนที่ไหนก็ต้องเตียงเดียวกับมันนี่แหละ จะให้ผมไปนอนโซฟาทรมานตัวเองก็ใช่ที่ แต่ก่อนจะนอนผมก็ถือวิสาสะอาบน้ำและใส่เสื้อผ้าของมันเสียเลย ทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเองสุดๆ ของอะไรอยู่ตรงไหนก็พอรู้บ้างเพราะเคยมาอาบน้ำที่มันสองครั้งแล้ว




“จะป่วยก็ลำบากกูอีกนะ”อาบน้ำเสร็จผมก็มายืนดูคนป่วยที่หลับเป็นตาย กังวลอยู่ว่าถ้าคืนนี้ไข้ไม่ลดจะทำยังไง ผมไม่รู้จักใครที่เป็นญาติมันเลยนอกจากพี่เฟิร์ส ถ้าจะโทรไปบอกผมคงต้องตอบคำถามมากมายจากคนน่ารักนั่นแน่ๆ




ไอความร้อนจากคนข้างๆแผ่ออกมาจนผมร้อนไปด้วย แอร์ก็ไม่ได้เปิดเพราะกลัวไข้มันไม่ลด ขยับตัวพลิกไปมาอยู่นานกว่าจะหลับแต่อีกไม่นานก็ต้องตื่นเพราะนาฬิกาที่ตั้งไว้ ผมปลุกไอ้เชี่ยพี่เดียวมากินยาและเช็ดตัวอีกรอบ ทำแบบนี้ทั้งคืนจนเช้า รอบสุดท้ายไข้มันลดลง ตัวไม่ร้อนมากแล้ว ถึงวางใจแล้วข่มตานอนได้ รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนถูกงูใหญ่รัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก



“อือ...”ผมขยับจะพลิกตัวแต่ก็ขยับไปไหนไม่ได้ อะไรวะ ลมร้อนๆแถวต้นคอ แรงกอดรักที่เอว...กอด...รัด



“เห้ย!”ดิ้นแต่ไม่หลุด คนป่วยบ้าอะไรทำไมแรงยังเยอะอยู่ ผมไม่สามารถหันไปมองคนด้านหลังได้เลย ได้ยินเสียงแหบแห้งประท้วงเบาๆเพราะโดนขัดจังหวะการนอน ไอ้บ้านี่มาเนียนกอดผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วกอดแบบแนบชิดสุดๆประเด็นคือผมไม่ได้ใส่เสื้อนอนด้วยไง เพราะร้อนที่ไม่ได้เปิดแอร์ แต่ว่าตอนนี้แอร์มันเปิดได้ไงวะ




“พี่ ปล่อยดิวะ”



“หนาว”



“หนาวแล้วเปิดแอร์ทำแป๊ะอะไร ปล่อยเว้ย!”



“หนวกหูว่ะน่าน นี่ป่วยอยู่นะ”เหอะ ปากแบบนี้หายแล้วละมั้ง




“สำออย ปล่อยเว้ย จะกลับบ้าน”ความพยายามผมสำเร็จหรือเพราะมันรำคาญก็ไม่รู้เลยคลายวงแขนออก ผมกระโดดลงจากเตียงยืนมองคนบนเตียงตาขวาง แต่มันหาได้สะทกสะท้านไม่ นอนยิ้มเซียวๆมาให้



“เซ็กซี่ว่ะน่าน”



ผมชูนิ้วกลางให้มันแทนคำพูดในใจแล้วเดินไปเปิดตู้เอาเสื้อยืดมันมาหนึ่งตัวแล้วเข้าไปจัดการล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ ออกมาคนจับไข้ก็หลับไปอีกรอบ ผมเลยเดินไปวัดไข้มันแต่คนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับคว้ามือผมไว้แล้วลืมตาขึ้น



“ไข้ลดแล้ว”



“อืม”



“ปวดหัวป่ะ”



“นิดๆ”



“โทรเรียกพี่เฟิร์สมาเฝ้าไข้แล้วกัน”



“จะไปไหน”



“เรียนดิ เป็นคนมีการศึกษา”ผมยักคิ้วให้มัน



“จะทิ้งพี่ไว้งี้เนี่ยนะ”



“ก็บอกให้เรียกพี่เฟิร์สมาไง ญาติพี่น้องคนอื่นๆก็ได้”ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไร้ญาติขาดมิตร แล้วผมก็มีเรียนสิบโมงตอนนี้ก็แปดโมงกว่าแล้วเนี่ย ขืนโอเอ้คงได้เข้าเรียนสายแน่ๆ



“จะไปจริงเหรอ”มันดึงชายเสื้อไว้ ดึงให้ยืดผมก็ไม่อยู่แล้ว แล้วนี่ก็เสื้อมันจะพังจะย้วยผมก็ไม่เดือดร้อนหรอก



“เออ มีเรียน”



“เรียนเสร็จแวะมาด้วยนะ ซื้อของกินมาให้ด้วย”



“ไม่ว่าง มีงาน เอ้านี่ พูดกันรู้เรื่องขนาดนี้ก็โทรหาใครสักคนเอาแล้วกัน”ผมโยนโทรศัพท์ไว้ข้างตัวมันแล้วเดินออกมาเลย โชคดีที่เอาไอ้หวานมาเลยทำเวลาได้ อาบน้ำแต่งตัวก็เหลือเวลาไม่มากเลยจำต้องขับไอ้หวานฝ่าเปลวแดดร้อนแรงไปเรียน เข้าเรียนได้แบบเฉียดฉิวสุดๆ วันนี้มีเรียนแค่ตอนเช้า เรียนเสร็จก็บ่ายโมงพอดี คณะผมบางทีก็เรียนกินช่วงเที่ยงไปด้วยอย่างนี้ ไอ้เต้ชวนไปกินข้าวแต่ผมอยากนอนมากกว่าเมื่อคืนหลับไม่เต็มอิ่มเพราะมัวแต่เป็นพยาบาลคนไข้ แต่ระหว่างทางกลับบ้านก็อดนึกถึงคนตัวโตๆที่ป่วยไม่ได้ จะโทรหาใครมาอยู่เป็นเพื่อน หาข้าวหายาให้กินหรือเปล่าวะ สุดท้ายแล้วด้วยความเป็นคนดีผมก็แวะซื้อข้าวต้มร้านเดิม ขนมปังสังขยาร้านข้างๆ ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวกับบะหมี่เกี๊ยวน้ำสำหรับตัวเองแล้วตรงไปที่คอนโดของไอ้พี่เดียว




ผมสามารถเข้าคอนโดหรูแห่งนี้ได้เพราะก่อนหน้านี้ไอ้พี่เดียวมันให้ผมเอาเสื้อสูทที่มันเคยทิ้งไว้มาคืนที่นี่แล้วก็พาผมไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าถ้าผมมาหามันก็ให้ขึ้นไปได้เลย ดังนั้นเมื่อวานเย็นและตอนนี้ผมเลยสามารถขึ้นลิฟต์ของที่นี่ได้โดยมีพนักงานมาคอยอำนวยความสะดวกให้ พอมาถึงห้องมันผมก็สตั๊นไปหลายวินาที เพราะตอนที่กำลังจะกดกริ่งเรียกให้เจ้าของห้องมาเปิดประตูให้ คนบางคนก็เปิดประตูมาจากด้านในเสียก่อน ทั้งผมทั้งเขาต่างชะงักกันไป




“มาหาเดียวเหรอ เข้ามาสิ พี่กำลังจะกลับเลย”




 “วิน คุยกับใครวะ”ผมยังไม่ทันตอบรับก็ได้ยินเสียงเจ้าของห้องที่ยังแหบอยู่ถามขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวซ้อนหลังคนที่เปิดประตูค้างอยู่



“น้ำน่าน”หน้าตามันดีใจมากที่เห็นผม



“เด็กมึง?”พี่ผู้ชายที่ชื่อวินหันไปถามมัน



“เห้ย ไม่ใช่ครับ”ผมรีบปฏิเสธ แต่เขาหาได้ใส่ใจไม่



 “ไปก่อนนะ กินข้าวกินยาด้วยอ่ะ ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้าน”



“เออ รู้แล้วน่ะหมอ”



ผมยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง จนกระทั่งพี่วินที่เป็นหมอ นั่นคือสิ่งที่ผมสรุปได้จากบทสนทนาสั้นๆนั้นกลับไป ตัวผมก็โดนมันลากเข้ามาในห้อง




“ไม่คิดว่าจะมา”



“ก็ไม่ได้อยากมา แต่กลัวตายคาห้องเลยมาดูซะหน่อย”



“ขอบคุณที่เป็นห่วง”



“บอกเหรอว่าห่วง กินข้าวยังวะพี่ ซื้อข้าวต้มมาให้”



“ข้าวต้มอีกละ”



“บ่น จะกินไม่กิน”



“กินๆ ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้าเนี่ย”



“ทำไมไม่กิน”



“ก็เพิ่งฟื้น ไอ้หมอจู่ๆมันก็แวะมาไม่ได้บอกล่วงหน้าไม่งั้นก็ให้มันซื้อมาให้แล้ว”



“เพื่อนเหรอ”



“ไม่ใช่ ลูกพี่ลูกน้อง นั่นอ่ะพี่ชายคนรองของเฟิร์ส”บ้านนี้เขาหน้าตาดีจนน่าอิจฉา พี่วินคนนี้ไม่ได้หน้าหวานแบบพี่เฟิร์สแต่หล่อสะอาดสมเป็นหมอ ระหว่างที่คุยมันเดินตามผมมานั่งที่โต๊ะกินข้าว นั่งรออาหาร ผมหยิบจานชามมาวางไว้ ให้ยื่นถุงข้าวต้มให้มันแกะเอง ส่วนผมก็จัดการของตัวเอง



“อยากกินกะเพราอ่ะ”



“กินข้าวต้มไป คล่องคอ”



“ไม่อยากกิน”



“งั้นก็เททิ้งไป”เรื่องมากจังวะ



“ขอกินมั่งสองคำก็ยังดี”มีต่อรองด้วยเว้ย มองกะเพราไก่ไข่ดาวของผมตาละห้อย เหมือนเด็ก น่ารักว่ะ ทำไมผมถึงได้เห็นมันแบบนี้บ่อยจังวะ ผมเลยแบ่งใส่จานให้มันไปครึ่งนึงด้วยความสงสาร ก็เข้าใจหัวอกคนป่วยอ่ะนะ คงอยากกินรสจัดๆ ผมเองก็เคยอยากเหมือนกัน



“น่าน”



“อะไร?”



“น่ารัก”มือที่กำลังจะปรุงบะหมี่เกี๊ยวน้ำชะงักไปเลย มันใช่เหรอการชมคนอย่างผมว่าน่ารักเนี่ย จั๊กจี้รูหูเป็นบ้า



“ไข้ขึ้นจนเพี้ยนเหรอวะพี่ แบบนี้คือหล่อไม่ใช่น่ารักเว้ย!”



“หน้าตาอ่ะหล่อ แต่นิสัยอ่ะน่ารัก”จั๊กเดียมหัวใจพิลึก ไม่เคยถูกใครชมแบบนี้



“เหอะ ถ้าน่ารักผมกะพี่คงไม่ฉะกันตอนแรกหรอก”



“อ่ะนะ ก็ตอนนั้นเรามันกวนตีนแถมยังปากดีอีก”



“พี่ก็ปากจัด คิดว่าเป็นตุ๊ดซะอีก”



“แค่ไบก็พอ”



“ยอมรับอีกนะคนเราไม่อายไง”



“อายทำไม ไม่ได้ทำอะไรผิด หรือน่านอาย”



“ไม่อ่ะ ภูมิใจ รู้สึกชนะ”



ผมกับมันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา บรรยากาศระหว่างผมกับมันดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ได้คุยและได้เจอกันบ่อยๆ



“อร่อยว่ะ ซื้อที่ไหนมา”



“เลยหมู่บ้านไปอ่ะ ตอนเย็นๆจะขายเยอะกว่านี้ เป็นแหล่งอาหารเลย ไม่เคยไปเหรอ”



“ไม่อ่ะ”



“พลาดว่ะ วันหลังจะพาไปกิน”



“อืม”มันรับคำแล้วอมยิ้ม ยิ้มอะไรของมันวะ แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ หิวจัดเพราะยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเหมือนกัน กะเพราไก่ไข่ดาวครึ่งจานกับบะหมี่เกี๊ยวน้ำหนึ่งถ้วย อิ่มแบบพอดีๆ ตบท้ายด้วยขนมปังสังขยา มันไม่ร้อนแล้วแต่รสชาติยังโอเคอยู่ กินเสร็จผมก็ไล่ไอ้พี่เดียวไปกินยา



“เดี๋ยวซักชุดมาคืนให้”



“ฝากไว้ก่อนไม่ต้องรีบมาคืน”



“รกตู้”



“ชุดแค่นั้นจะรกอะไรนักหนา”



“เถียงได้แบบนี้ หายดีแล้วดิเนี่ย งั้นกลับแล้วนะ”



“รีบกลับไปไหน ยังไม่หายดีเลย แค่กๆ”



ตอแหลละไอ้เหี้ยพี่เดียว พูดเป็นต่อยห้อยได้ตั้งนาน ทีนี้ทำมาเป็นไอ ต่อยให้กระเดือกหลุดเลยดีมั้ย



“เนี่ยๆ ตัวยังร้อนอยู่เลย”มันเอามือผมไปทาบกับแก้มมัน ก็แค่อุ่นๆ ถ้าร้อนน่ะต้องแบบเมื่อคืนเหมือนมือโดนลวก



“สำออยว่ะพี่”ผมพยายามดึงมือกลับมาแต่มันก็ยื้อไว้ พอมันนั่งลงผมเลยเซไปข้างหน้าหน่อยๆ แต่ดีที่ยันอาร์มแชร์ไว้ทัน



“ก็อยากให้อยู่ด้วย ไม่เจอสองวัน คิดถึงนะ”พูดอะไรไม่เคยเกรงใจกันเลย คิดถึงอะไรวะ ขนลุกเชี่ยๆ



“เมื่อคืนก็อยู่ด้วยทั้งคืนเนี่ย”แต่ผมเองก็โต้ตอบมันกลับไป รู้สึกแปลกๆเหมือนกันแหะ มันเหมือนแฟนกันเลยป่ะวะแบบนี้ หรือยังไง ระหว่างที่ผมสับสนกับคำพูดของตัวเอง ก็เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีแขกสองคนมาเยือนถึงในห้องแล้ว



“ที่ไม่กลับบ้านเมื่อคืน มึงมานอนกับพี่เดียวเหรอวะ”



“โอ๊ะโอ อะไรยังไงกันเนี่ย พี่เดียว”



ผมชาวาบไปทั้งตัว ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าผู้มาใหม่นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคู่พี่น้องรหัสจากคณะบริหาร







-----------------------------
ไม่มีอะไรจะพูด ฮือออออออออออ  :hao7: :katai4:

เลิฟคนอ่านนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 29-02-2016 01:56:31
น่านงานเข้าาาาาา. คู่บริหารมาแว้ววววว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 29-02-2016 02:07:13
โอ้โหหหหห คนเขียนคะแบบนี้ต้องมาต่อแล้วค่ะ มันค้างคามากเลย ฮืออออ  :ling1: :ling1:
อยากอ่านต่อแล้วจริงๆนะ ความสัมพันธ์พี่เดียวและน่านดูพัฒนาดี พัฒนาแบบเป็นฟีลที่เหมาะกับทั้งคู่ดี  :impress2:
ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยู่ๆจะมาหวานคงไม่ใช่ ดีค่ะ ชอบๆ อยากเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเรื่อยๆจนรักกันนะคะ
(จริงๆแอบอยากรู้เรื่องของหมวยโฟมด้วย) แง้ง กับนิยายเรื่องนี้เรามีกิเลสมากอยากอ่านไปหมด  รอตอนต่อไปแล้ว
ป.ล. รักคนเขียนเหมือนกัน มาต่อไวไวนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-02-2016 17:12:22
โอ๊ะโอออ .. งานเข้าน่านเต็มๆ :hao3:

พี่เดียวก็สำออยจริง 555ขี้อ้อนด้วย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 29-02-2016 20:10:09
ค้างงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 01-03-2016 09:36:46
อ่าวๆน่านความลับแตกล่ะ555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 01-03-2016 16:14:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 01-03-2016 17:17:24
ชอบมากกกกกกกก. แต่งดีมากเลยค่า บุคลิกพี่เดียว มีสเน่ห์น่าเสียตัวมาก55
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.15 [28.2.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ma-prang ที่ 01-03-2016 18:58:43
ค้างจังค่ะ งือออออออออออ
น่ารักกกก เริ่มใจอ่อนแล้วสิน่าน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 11-03-2016 23:54:16
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero



- 16 -






“มาทำไมเนี่ย”



“พี่วินบอกว่าพี่ไม่สบาย ก็เลยมาเยี่ยม”



“ไหนของเยี่ยม”



“ยังต้องเอาอีกเหรอ ไม่ใช่ว่าอิ่มท้อง อิ่มอกอิ่มใจแล้วรึไง”



“พูดมาก”



“คึคึ ไหนๆมาดูสิ ตัวร้อนอยู่ป่ะเนี่ย”



ผมนั่งฟังพี่น้องเขาคุย สอบถามอาการ หยอกล้อกันอยู่ตรงโซฟากันเสียงดังราวกับจงใจให้ให้ได้ยิน ส่วนตัวเองนั่งหน้ามึนอยู่ที่โต๊ะกินข้าวโดยมีไอ้พายนั่งจ้องเขม็งอยู่



“กินไปดิ จ้องกูเพื่อ?”



“เพิ่งรู้ว่ามึงสนิทกับพี่เดียวขนาดนี้นะเนี่ย”



“สนิทห่าอะไร”ผมไม่เคยมีความคิดอยากจะสนิทกับไอ้เหี้ยพี่เดียวเลยจริงๆนะ แต่สถานการณ์มันบังคับให้ต้องมาเจอกัน มาวนเวียนอยู่ใกล้ๆเหมือนเจ้ากรรมนายเวร ไม่รู้ว่าจะต้องทำบุญกรวดน้ำที่วัดไหนถึงลาขาดกันได้สักที



“ไม่สนิทเลยเนอะ มาหาเขาถึงห้อง ไม่สบายก็มานอนเฝ้า”ไอ้พายลอยหน้าลอยตาพูดจนน่าถีบ สายตามันนี่บ่งบอกเลยว่ากำลังคิดอัปรีย์อยู่แน่ๆ



“หยุดความคิดในหัวมึงซะ”



“มึงจะให้กูหยุดคิดได้ยังไง ขนาดพี่เฟิร์สยังรู้ทีหลังมึงอีกว่าพี่เดียวไม่สบาย ไหนมึงลองบอกเหตุผลกูมาสิ ว่ากูควรหยุดคิดว่ามึงกับพี่เดียวไม่มีซัมติงกันได้ยังไง”



“แดกเข้าไปจะได้เลิกพูดมากน่ารำคาญ”จับไส้กรอกจากเซเว่นยัดปากแม่ง



“ไอ้เอี้ย ยัดมาได้ ปากกูแหกหมด”มันก็ไม่คายด้วยนะ เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ



“ใหญ่กว่านี้มึงก็เคยเอาเข้าปากมาแล้วทำเป็นบ่น”



“ห่า ลามกนะมึง”มันด่าหน้าแดงเลยครับ เวลาปฏิบัติไม่เคยอาย แค่พูดทำมาหน้าบาง แล้วใครกันแน่ที่ลามก ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าไอ้ที่ว่าใหญ่นั่นหมายถึงอะไร



“หึ ทำเป็นรับไม่ได้”



“ไม่ต้องมาเบี่ยงประเด็นเลย อย่าบอกว่าไม่มีอะไร เพราะกูไม่เชื่อ ภาพมันฟ้องไอ้สัด”มันจะเค้นเอาให้ได้สินะ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายมันยังไงดี ไอ้พายมันก็เพื่อนผมไม่ได้อยากปิดบังแต่อย่างที่รู้ผมก็ไม่ได้อยากเล่า มันไม่น่าภูมิใจเลยสักนิด



“มันหนักหนาขนาดที่มึงต้องทำหน้าเครียดขนาดนี้เลยเหรอวะ ทำเหมือนมึงถูกพี่เดียวข่มขืนแล้วท้องสองเดือนอย่างนั้นแหละ”



ไอ้สัด! ถึงการเดาเรื่องมันจะค่อยข้างจัญไรไม่สมกับหน้าตาของมัน แต่ก็มาถูกทางได้อย่างน่ากลัว ผมถึงกับชาไปทั้งตัว



“เดี๋ยวนะ”จากที่มันนั่งพิงพนักเก้าอี้สบายๆก็ยืดตัวตรงแล้วหรี่ตามองผม ในหัวมันคิดอะไรอยู่วะ



“ที่มึงเคยเมาแล้วพลาดอย่าบอกนะว่าเป็นพี่เดียว”



“ไม่ใช่!”ปฏิเสธทันควัน เหมือนเป็นระบบตอบโต้อัตโนมัติที่มีการตั้งค่าเอาไว้ และถึงผมจะร้อนรนเพียงใดระดับเสียงก็ยังคงแค่เพียงให้ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น ส่วนอีกสองชีวิตที่โซฟานั้นเข้าโหมดส่วนตัวตามประสาพี่น้องไปแล้ว



“แต่กูว่าใช่แน่ๆ อย่าหลบตากู นี่กูเป็นเพื่อนมึงนะ ถึงจะรู้จักมึงไม่นานเท่าไอ้ธันว์แต่ก็ไม่ใช่วันสองวันถึงจะไม่รู้ว่ามึงนิสัยเป็นเป็นยังไง”



“แล้วมึงจะรู้ให้ได้อะไร ถ้ามึงรู้จักกูก็ต้องรู้ดิว่าเรื่องที่กูไม่อยากพูด กูก็จะไม่พูด เรื่องส่วนตัวกูไม่อยากให้ใครยุ่ง”เสียงผมแข็งมากรู้ตัวเลย



“ขอโทษแล้วกันที่เสือกเรื่องของมึง”ไอ้พายมันหน้าตึง แววตากับรอยยิ้มหวนตีนขี้เล่นหายไปทันที มันลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินไปคุยอะไรไม่รู้กับเจ้าของห้องแล้วกลับไปเลย มันโกรธผมรู้ ผมเองก็หงุดหงิดที่ถูกมันจี้เลยพลั้งปากพูดจาไม่ดีไป



“น่านจะกลับแล้วเหรอ ทะเลาะอะไรกับพายหรือเปล่า”พี่เฟิร์สทักผมตอนที่เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองหลังจากที่ไอ้พายกลับไปไม่ถึงห้านาที ตอนนี้พี่เฟิร์สก็มาแล้วผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ ที่สำคัญต้องกลับไปเคลียร์กับไอ้พาย ผมไม่สบายใจที่ต้องมาโกรธกันแบบนี้



“ไม่มีอะไรครับ ผมกลับก่อนนะ”ผมบอกกับพี่เฟิร์ส ไม่ได้หันหน้าไปมองเจ้าของห้อง ทั้งที่รู้ว่ากำลังถูกอีกฝ่ายจ้องมองอยู่



รถไอ้พายจอดอยู่ที่โรงรถ ยังดีที่มันกลับบ้านผมจะได้ไม่ต้องไปตามหามันที่อื่น จะว่าไปผมกับมันก็เหมือนผัวเมียกันจริงๆนะเนี่ยต้องมาตามง้อกัน ไอ้พายมันค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องของคนที่มันรักไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน ยิ่งถ้าเป็นแฟนมันยิ่งเป็นคนคิดมาก พูดจาอะไรไปกระทบจุดอ่อนไหวของมันเข้ามันจะจิตตก ฟุ้งซ่านไปหลายวัน



“เปิดประตูดิ”ผมตะโกนบอกมันจากหน้าห้อง หลังจากเคาะประตูสองรอบแล้วมันไม่ยอมมาเปิด



“ไอ้พาย ไอ้ห่าถ้าอยากจะรู้เรื่องก็เปิดประตู อย่ามาทำงอนเป็นผู้หญิง”หลังจากประโยคเด็ดผมก็ได้ยินเสียงคนเดินกระแทกเท้า ไม่ถึงอึดใจประตูก็ถูกกระชากให้เปิดจากอีกด้าน ความเสือกชนะทุกสิ่งจริงๆ



“กูไม่ใช่ผู้หญิง!”มันตวาดใส่หน้าผม หน้างี้งอ บอกบุญไม่รับ



“เออ กูรู้ไม่ใช่ผู้หญิง แต่อยากมีผัว”เอาซะหน่อย ให้มันด่าเล่น ถ้ามันด่าได้แสดงว่ามันไม่โกรธแล้ว แต่แอบมีเคืองเบาๆ



“ไอ้เชี่ยนี่ จะมาทำให้กูโกรธมากกว่าเดิมใช่มั้ย _วยเอ๊ย”ผมไม่หลบปล่อยให้มันเตะหน้าแข้งเล่น แก้หงุดหงิด



“หยาบคายนะมึง”ผมดันหน้าผากมันให้เดินเข้าไปในห้อง มันจิ๊ปาก สะบัดหน้าเดินหนีไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือ ผนังด้านที่ติดกับโต๊ะที่มันนั่งเป็นชั้นวางหนังสือสูงเกือบถึงเพดาน เหมือนห้องสมุดขนาดย่อมที่อัดแน่นไปด้วยการ์ตูน นิยายทั้งไทยและเทศ แต่ที่ไม่เข้ากันคือหนังสือแต่งรถ



“อย่างที่มึงคิด”ผมเอ่ยออกมาในที่สุด หลังจากที่ให้ความเงียบช่วยให้จิตใจสงบลงเมื่อนึกถึงเรื่องที่ไม่อยากพูดถึง พูดแค่นี้มันน่าจะเข้าใจนะ ผมไม่อยากอธิบาย



“กูคิดอะไร กูไม่ได้คิดอะไรเล๊ย”เริ่มกวนตีนละ เสียงสูงเชียวไอ้ห่า  ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจไม่ให้เข้าไปกระทืบมันด้วยความหมั่นไส้เสียก่อน



“กูเคยมีอะไรกับมัน จบนะ”ขยายต่ออีกนิด จุดไคลแม็กซ์เลย



“หะ จริงดิ นี่กูเผื่อไว้ตั้งหนึ่งเปอร์เซ็นต์เลยนะว่าจะไม่ใช่พี่เดียว”



“กวนตีนนะมึง”



“เออ กูไม่กวนก็ได้ ขอเรียบเรียงก่อน จากข้อมูลที่กูเคยได้รับมา มึงเมาแล้วพลาดไปโดนเขาเสียบมา ซึ่งคนนั้นก็คือพี่เดียว ถูกมั้ย”



มันจะย้ำเพื่ออะไรวะ แล้วใช้คำว่าเสียบทำเอาผมเห็นภาพไม่น่าจดจำของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็พยักหน้ารับไปทั้งที่ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ แล้วก็ไม่คิดจะแก้ไขเหตุการณ์ให้ถูกต้องด้วย คือตอนเสียเปรียบผมไม่ได้เมา แค่แฮงค์แล้วก็เกิดตัณหาหน้ามืดจนเพลี่ยงพล้ำ ยังเจ็บใจตัวเองอยู่ จะว่าไปมันก็ใช้กำลังบังคับผมนะ



“แล้วจากนั้นยังไงต่อวะ มึงก็ไปเจอพี่เขาเรื่อยๆงี้เหรอ นอนด้วยกันอีก?”



“ไม่เว้ย ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว คนอย่างกูไม่พลาดซ้ำสองหรอก”มันเห็นผมเป็นคนยังไงวะ ถึงจะพลาดไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะยอมเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเอง ผมยังยืนยันที่จะเป็นฝ่ายกระทำไม่ใช่ถูกกระทำอย่างมัน เจ็บจะตายไม่รู้ทนกันได้ยังไง แม้ในตอนสุดท้ายมันจะทำให้ผมเสร็จไปพร้อมกันแต่ความรู้สึกนั้นมันก็ไม่ได้ดีถึงขนาดกับทำให้ผมเปลี่ยนใจได้



“เอ้า แล้วทำไมวันนี้มึงไปอยู่ที่คอนโดพี่เขาได้วะ เมื่อคืนก็ไปนอนกับเขามา”



“เมื่อคืนกูแค่ไปนอนเฝ้าไข้ ไม่มีอะไร”ผมรีบอธิบายความให้ถูกต้อง เพราะคำพูดของมันสามารถตีความหมายไปในทางอื่นได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้วเลยเล่าเรื่องที่ผมต้องยอมให้มันมาพัวพันอยู่แบบนี้ให้ฟังเสียเลย มันจะได้ไม่ต้องสงสัยแล้วคิดอะไรไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์อีก



“กูว่าอีกไม่นานอ่ะ”ผมเล่าจบไอ้พายก็พูดขึ้นมา มันคงคิดเหมือนผมว่าอีกไม่นานไอ้เหี้ยพี่เดียวมันคงจะเบื่อแล้วเลิกไปเอง



“เออ กูก็หวังให้มันไปพ้นๆชีวิตกูสักที”



“ไม่ใช่ กูหมายถึงอีกไม่นานมึงจะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนแน่ๆ”มันพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างเล่นเอาตีนผมกระตุก น่าจะปล่อยมันนอยด์ตายไม่กลับมาง้อเสียก็ดี



“สัด! ไม่มีทางเว้ย!”






X






อีกไม่นานจริงๆ





อีกไม่นานผมคงได้ประสาทกิน หลังจากที่ไอ้พายกับพี่เฟิร์สไปจ๊ะเอ๋ผมที่ห้องไอ้เหี้ยพี่เดียว หลังจากนั้นอีกสองวันมันก็หายดีเป็นปลิดทิ้งเหมือนไม่เคยป่วยไข้มาก่อน พกความหน้าด้านและกวนประสาทเบื้องล่างมาปั่นประสาทผมได้ทุกวัน คงคิดว่าไม่ต้องมีอะไรปิดบังคนรอบข้างแล้วละมั้ง ช่วงเย็นมันชอบแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผม แล้วก็เจอไอ้พายทุกครั้งที่มาเลย ไม่รู้ว่าแอบไปนัดกันไว้หรือเปล่า แต่วันนี้ไอ้พายไม่อยู่มันไปจัดรายการครั้งสุดท้าย มันไม่ต่อสัญญาวีเจแล้ว เพราะมีปัญหาภายในมันไม่อยากไปขัดแข้งขัดขาใครเลยถอนตัวออกมา ละครที่รับเล่นตอนนี้ก็มีแค่เรื่องเดียวถ่ายทำไปได้ครึ่งทางแล้ว นอกนั้นมีงานโฆษณา ถ่ายแบบบ้างประปราย



ส่วนไอ้คนที่แปลงร่างเป็นปลิงเกาะผมก็ลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมกลับมาถึงบ้านไม่ถึงห้านาทีมันก็มาจอดรถไว้ที่บ้านบ้านผม เวลาช่างเหมาะเจาะพอดีเหลือเกิน โชคดีที่ช่วงนี้พวกไอ้ธันว์กับไอ้คิมมันวุ่นวายกับการเรียนเลยไม่ค่อยได้แวะมาที่บ้าน เหล้าก็ไม่ค่อยได้ไปกินด้วยกัน ไม่งั้นถ้ามาเจอกันผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี ไม่ได้อยากปิดบัง แต่ก็ไม่ได้อยากเล่าให้ฟังเพราะถ้าไอ้พี่เดียวมันเบื่อเมื่อไหร่เรื่องนี้ก็จบลง ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติต่อไปได้ ซึ่งผมภาวนาอยู่ทุกวินาทีว่าให้มันรีบๆเบื่อไปเสียทีวันนี้พรุ่งนี้เลยยิ่งดี แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่าอาจจะต้องฉายหนังซ้ำให้ไอ้ธันว์กับไอ้คิมฟังในเร็ววันนี้ เอาเถอะเมื่อถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที



“ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วไง มาทำไมบ่อยๆเนี่ย”



“ก็จะจีบเจ้าของบ้านไม่มาหาที่บ้านให้ไปที่ไหน ที่มหาลัยเป็นไง?”มันยอกย้อน ผมเริ่มชินชากับการหยอดและการพูดตรงๆว่าจะจีบไปแล้ว โมโหไปก็เท่านั้นเหนื่อยเปล่า



“สำนึกหน่อยว่าเป็นอาจารย์อยู่”



“ก็สำนึกไง ถึงได้มาหาที่บ้าน งานยุ่งแค่ไหนพี่ก็ปลีกเวลามาหาเนี่ย”



“ไม่ได้ขอร้องให้มาเลย”อย่าคิดว่าผมจะซาบซึ้งในความพยายามของมัน ถ้ายุ่งมากนักก็ไม่ต้องมา ไม่ได้เรียกร้องเลยเอาจริงๆ มันยักไหล่ไม่ใส่ใจ กดเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ทำตัวเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง มาบ่อยจนรู้ทุกซอกหลืบในบ้านผมแล้วมั้งเนี่ย แต่ผมเองนี่ก็บ้าเปิดให้มันเข้ามาได้



“วันนี้ไม่ทำกับข้าวนะ งานเยอะ อยากกินไรก็ไปหาทำเอาเอง ไม่ก็กลับไปกินที่คอนโดโน่น”ผมยุ่งจริงๆ จะทำงานแล้วก็อ่านหนังสือ ยังมีงานที่ไร่ที่ต้องสะสางอีกนิดหน่อยด้วย พรุ่งนี้บ่ายผมต้องไปถ่ายงานกับพี่ยศที่บริษัทจิวเวลรี่ด้วย งานรัดตัวมากช่วงนี้



“แล้วจะไม่กินข้าวหรือไง”



“กินมาม่าก็ได้”



“เดี๋ยวพี่ทำอย่างอื่นให้กิน”มันว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ครัวเลย บอกแล้วว่าทำตัวเหมือนบ้านตัวเองสุดๆ ผมก็ปล่อยมันไปแล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วหอบงานมาทำที่โต๊ะริมสระ ต้องการแรงบันดาลใจในการทำงานครับ ปีสองแล้วเริ่มวาดด้วยเส้นปากกาแล้วก็เริ่มเรียนเกี่ยวกับการออกแบบมากขึ้น ช่วงปีหนึ่งพวกผมต้องฝึกวาดด้วยดินสอ แรงเงากันมือแทบหัก วาดซ้ำๆย้ำๆจนเอาไปฝันเลยก็มี


 
“ครับอาฝน น่านเห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านละเอียดเลยครับ ช่วงนี้งานเยอะ จะสอบแล้วด้วย”ทำงานไปได้สักพักอาฝนก็โทรมา ช่วงนี้อาก็ยุ่งผมก็ยุ่ง อาทิตย์นี้คุยกันแค่สองครั้งเองรวมครั้งนี้ด้วย



“งั้นไม่ต้องรีบก็ได้ เอาเรื่องเรียนก่อน”



“ครับอา อีกสักสองวันน่านจะบอกแล้วกันนะครับว่าจะเอายังไงต่อ”งานส่วนของผมกับไอ้พาย อาฝนอยากรู้ความคืบหน้าของแผนในไตรมาสสุดท้ายของปี เราต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อยก็สามเดือนเป็นอย่างต่ำ ต้องคิดให้รอบคอบในทุกด้าน



“จ้า น่านก็ดูแลสุขภาพนะลูกอาเป็นห่วง เรื่องเที่ยวก็เพลาๆลงบ้าง”



“ไม่ได้เที่ยวเลยครับอา เรียนอย่างเดียวเลย”เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นนะครับ เหอะๆ



“ขอให้จริงเถอะ”อาทำน้ำเสียงรู้ทัน ไม่ได้ห้ามเที่ยวนะครับ แต่อยากให้น้อยลงเพราะอารู้ดีว่าหลานชายอย่างผมแสบขนาดไหน สมัยเรียนที่เชียงใหม่อาก็กลัวว่าผมจะไปทำผู้หญิงท้อง ส่วนเรื่องยาหรือว่าจะโดนผู้หญิงจับนี่อาไม่ห่วงเลย เพราะอารู้ว่าผมเอาตัวรอดจากเรื่องพวกนี้ได้ แต่แปลกใจว่าทำไมอาถึงกลัวว่าผมจะไปทำใครท้อง



“จริงค้าบบบบ น่านไม่โกหกอาหรอก”



“จ้าพ่อคุณ งั้นอาไปสวดมนต์แล้วนะ แค่นี้นะลูก”



“ครับผม สวัสดีครับ คิดถึงนะ”อ้อนสักหน่อย เผื่ออาจะโอนเงินมาให้กินขนม ถึงจะมีเงินไหลเวียนเข้าบัญชีจากงานที่ทำอยู่ แต่ถ้าได้จากอาฝนมาเพิ่มผมก็ยินดีนะ จะเอาไปซื้อของ ว่าจะรื้อสวนหน้าบ้านแล้วจัดใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เดี๋ยวจะเกณฑ์พวกไอ้เต้มาใช้แรงงาน



“เวลาคุยกับอาก็น่ารักดีนี่”



“เห้ย!”มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วมาแอบฟังคนอื่นเขาคุยโทรศัพท์อีก



“นิสัยไม่ดีนะเนี่ย มาแอบฟังคนอื่น”



“แอบฟังอะไร มายืนอยู่นานแล้วเนี่ย ไม่รู้ตัวเอง”มันว่ายิ้มๆ ก่อนจะว่างจานข้าวผัดหอมๆควันกรุ่นสองจานลงตรงหน้าผม หน้าตาก็น่ากินมาก นึกว่าจะทำเป็นแต่อาหารฝรั่งนะ สังเกตจากอาหารที่มันทำให้กินบ่อยๆ จะเป็นแนวอิตาเลี่ยนพวกเส้นๆ ไม่ก็สเต็ก สลัด สารพัดซุป เลยคิดว่ามันน่าจะถนัดแนวนั้น



“ทำเป็นด้วยเหรอ”



“เป็นดิ ทำไมถามงั้น”



“ปกติเห็นทำแต่ฝรั่งๆ”



“เพิ่งให้ป้าสอนมา อยากทำอาหารไทยเป็นมั่ง”



“แล้วที่ทำแต่อาหารฝรั่งนี่ชอบเหรอ”



“จะว่าชอบก็ไม่เชิง เป็นความเคยชินมากกว่า ตอนเด็กๆอยู่ที่ฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ จนพ่อแม่เสียก็เลยอยู่ไทยตอนสิบขวบแต่ตอนปริญญาตรีก็ไปเรียนที่ฝรั่งเศส ปริญญาโทที่อเมริกา มันเลยชินกับอาหารพวกนี้มากกว่าอาหารไทย แล้วที่นั่นพวกวัตถุดิบอาหารไทยก็ค่อนข้างแพง บางอย่างก็หายากเลยไม่มีโอกาสได้ทำ”มันเล่าเรื่อยๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ภูมิหลังของมัน ตั้งแต่รู้จักกันมาผมไม่เคยคิดอยากจะรู้เรื่องของมันเลยสักนิด เลยไม่เคยถาม แต่ถ้ามันเล่ามาผมก็ฟังนะ เพลินดี



“เรียนไรที่ฝรั่งเศสอ่ะ”



“ออกแบบเครื่องประดับ”



“จริงดิ?”โคตรแปลกใจเลยนะ หน้าตาอย่างมันเนี่ยนะ โคตรไม่เข้า โม้ป่ะวะ คือมาดมันเหมาะกับพวกนักธุรกิจหรือไม่ก็เป็นอาจารย์อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้



“ทำไมทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ”



“บุคลิกโคตรไม่ให้”



“เหรอ”มันหัวเราะเบาๆ ยิ้มมุมปากหน่อยๆ ถ้าไม่มีอคติก็ต้องบอกตรงๆว่าดูดีมากจนน่าอิจฉา



“แล้วทำไมมาสอนบริหารได้”



“ปริญญาโทบริหารสองใบการตลาดกับไฟแนนซ์”มันยักคิ้วน่าหมั่นไส้ แต่ก็เคยได้ยินไอ้พายพูดว่ามันเก่งมากถึงจะโหดแต่ก็สอนเข้าใจง่ายด้วย แต่ถ้าใครไม่ทันจริงๆมันก็อธิบายซ้ำให้หลังเลิกคลาส โหดแต่ใจดีที่ไอ้พายมันว่าดูงงๆแต่ก็พอเข้าใจได้ ไอ้พายมันอวยให้ฟังถึงความเก่งอยู่หลายครั้งแต่ผมก็ฟังผ่านๆไม่อยากใส่ใจ



“นี่อะไร?”มันหยิบแฟ้มเอกสารของที่ไร่ผมขึ้นมาเปิดอ่านพร้อมกับกินข้าวไปด้วย ผมห้ามไม่ทัน นั่นเป็นแฟ้มข้อมูลของตลาดผักสลัดและผลไม้ของที่ไร่ ผมกะว่าจะหาตลาดรองรับผลผลิตเอาไว้ ยิ่งมีตลาดที่รองรับมาก ความเสี่ยงที่ผลผลิตจะล้นไร่ขายไม่ออกก็จะน้อยลง



“วางเลยนะพี่ นั่นมันงานกู”



“งานที่บ้านเหรอ? ทำไร่?”



“อือ”



“ทำงานกี่อย่างวะเนี่ย เรียนด้วย เป็นช่างภาพด้วย นี่บริหารงานที่บ้านด้วย แถมยังเป็นการบริหารไร่ด้วย”มันทำหน้าทึ่งๆนิดหน่อย คงความรู้สึกเดียวกับตอนที่ผมรู้ว่ามันเรียนออกแบบที่ฝรั่งเศส



“แล้วจะทำไม”



“ก็ไม่ทำไม”มันว่ายิ้มๆ แล้ววางแฟ้มลง



“ยิ้มอะไร?”



“ไม่มีอะไร”ไม่มีอะไรแต่ก็ยังยิ้มอยู่ ผมว่ามันต้องมีแน่ๆ แต่ขี้เกียจคั้นมันครับ ไม่เกิดประโยชน์อะไร กินข้าวต่อดีกว่า ผมจะได้ทำงานต่อ ช้าวผัดรสชาติมันไม่แย่นะ ผมกินจนหมดจานด้วยความหิว กินเสร็จมันก็เก็บจานไปล้างให้ ผมก็ไม่ขัด สบายจะตาย แต่แทนที่มันจะกลับคอนโดมันไปก็เอาตัวมาป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่างจากผมเหมือนพวกขาดความอบอุ่น แต่ก็ดีที่มันมานั่งเงียบๆ ทำอะไรของมันไม่รู้ ไม่ได้รบกวนผมก็เลยลืมไปเลยว่ามีมันอยู่ข้างๆ จนกระทั่งผมทำงานจนเมื่อยแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจก็เห็นมันหลับอยู่บนเดย์เบดข้างสระ ที่จริงผมสังเกตเห็นว่ามันดูเหนื่อยๆ ตาคล้ำ หน้าไม่สดใสน่าหมั่นไส้เหมือนตอนที่เจอกันแรกๆ



ผมเดินมาหยุดตรงข้างมัน เห็นกระดาษหลายแผ่นวางอยู่ข้างๆตัวคนหลับเลยถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู สิ่งที่อยู่บนกระดาษเหล่านั้นไขข้อข้องใจของผมจนหมดสิ้นที่ว่ามันโม้เรื่องเรียนออกแบบเครื่องประดับ ในนั้นเป็นแบบสร้อยคอที่ออกแบบค้างไว้ เหมือนว่ามันจะลองร่างเอาไว้หลายแบบ แต่คล้ายคลึงกันแตกต่างแค่รายละเอียด ลายเส้นอย่างสวย ถ้าผมไม่เห็นว่ามันนั่งทำอะไรขยุกขยิกอยู่นานผมจะไม่เชื่อเลยว่าเป็นฝีมือมัน แต่ลายเส้นคุ้นตาเหมือนเคยเห็นมาก่อน



“สวยมั้ย?”



“เอ้ย ตกใจหมด”



“ทำไมขวัญอ่อนจัง ท่าทางไม่ได้เป็นคนแบบนั้น”



“เห็นหลับอยู่แต่จู่ๆก็พูดขึ้นมา เป็นใครก็ตกใจ”



“หึหึ ว่าไงสวยหรือเปล่า”



“ก็งั้นๆ...”



“เหรอ งั้นคงต้องคิดใหม่ทำใหม่”มันว่าพลางดึงกระดาษในมือผมไปทำท่าจะขยำทิ้ง ผมรีบตะครุบไว้แทบไม่ทัน ยับนิดหน่อยแต่ดูกว่าถูกขยุ้มทั้งแผ่นละนะ



“ทำบ้าอะไรเนี่ย”



“ก็น่านบอกว่ามันไม่สวย”



“บ้าป่ะวะ แค่ความเห็นคนๆเดียว”



“แค่คนเดียวแต่มันก็มีความหมายนะ น่านมีหัวด้านนี้ ถ้าบอกว่าแค่งั้นๆแสดงว่ามันไม่สวย ก็ไม่เอา”



มันแกล้งอำผมก็ไม่รู้ แต่ถ้าคิดอย่างที่พูดจริงๆ ผมว่ามันเป็นคนจริงจังมากๆเลยนะ ถ้าเป็นผมมีใครมาบอกว่ามันไม่สวย ผมก็อาจจะเสียความมั่นใจแต่ก็ไม่ถึงขนาดจะขยำทิ้ง เพราะในความไม่สวยของคนๆหนึ่ง มันอาจจะสวยสำหรับคนอื่นอีกหลายคน มันเป็นเรื่องของรสนิยม คนเราจะมามองของสิ่งเดียวกันแล้วเห็นว่าสวยว่าดีเหมือนกันทุกคนเป็นไปไม่ได้



“แล้วถ้าบอกว่าสวยล่ะ”ผมลองถามดู



“ไม่ทันแล้ว”มันหัวเราะแล้วดึงกระดาษในมือผมไปอีกครั้ง แล้วฉีกทิ้งหน้าตาเฉย ผมนี่ยืนอ้าปากค้างเลย จริงๆแล้วมันสวยนะ ผมชอบแต่ที่บอกว่าก็งั้นๆเนี่ยแค่หมั่นไส้ ไม่อยากชมเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าจะส่งผลให้ผลงานนั้นถูกทำลาย



“สำหรับพี่ถ้าเห็นแวบแรกแล้วบอกว่าสวยเลยเท่านั้น จะถือว่าผ่าน”



“ไม่เสียดายเหรอ”



“ไม่ ของไม่ดีจะเสียดายทำไม อีกอย่างถ้าจะวาดออกมาใหม่มันก็ไม่ยาก ทุกอย่างมันอยู่ในนี้”มันเอานิ้วเคาะหัวเพื่อบอกว่าในนี้คือที่ไหน น่าหมั่นไส้ไปอีก ไอ้บ้านี่



“ว่าแต่ออกแบบให้ใครอ่ะ”ก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่ จะว่าไปนอกจากเป็นอาจารย์พิเศษแล้ว มันประกอบอาชีพอะไรฟระ



“พี่นลิน เป็นชุดเครื่องเพชรที่ใช้ในวันแต่งงาน”โอ้โห ไม่ธรรมดาเว้ย ออกแบบให้พี่สะใภ้ใส่ มันต้องมั่นใจในฝีมือของตัวเองมากๆ แต่สำคัญว่าใครจะรับทำ



“แล้วจะไปทำที่ไหน เกิดเขาทำไม่เหมือนแบบจะทำไง”ผมถามออกไปเลยได้สายตาแปลกๆจากมันกลับมา



“ถามจริง นามบัตรที่ให้ไปเนี่ยเคยอ่านบ้างมั้ย?”



“นามบัตร?”นามบัตรอะไรวะ ให้มาตอนไหน ทำไมนึกไม่ออกเลย



“ช่างเถอะ ก็คิดอยู่ว่าคงไม่เก็บไว้ แต่ขนาดไม่ได้อ่านเลยนี่ไม่รู้จะพูดยังไง”มันทำหน้าเซ็งมากถึงมากที่สุด เดี๋ยวยันตกสระเลยนี่ แค่นามบัตรทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตายไปได้



“งั้นก็เอามาใหม่ดิ เดี๋ยวอ่านเลย”



“ตอนนี้ไม่มี พรุ่งนี้ค่อยเอาแล้วกัน ยังไงก็ต้องได้เจอกัน”



“พรุ่งนี้ไม่ต้องมา มีงาน”ไปทำงานกับพี่ยศเสร็จก็จะเลยไปสังสรรค์กับพี่แกซะหน่อยผลัดมาหลายครั้งแล้ว เห็นว่าทางนั้นจะเลี้ยงรับรองกันด้วย



“หึหึ กลับแล้วนะ”มันหัวเราะแปลกอีกแล้ว ยิ้มแบบนั้นหมายความว่าไงวะ



“ควรกลับไปนานแล้ว”



“เจอกันพรุ่งนี้”



“ไม่เจอเว้ย บอกว่าไม่ต้องมาไง”



“ยังไงเราต้องได้เจอกันเชื่อเถอะ”มันบอกยิ้มๆ แล้วโบกมือบ๊ายบาย ทิ้งผมยืนงงอยู่ข้างสระคนเดียว









-------------------

รีบฝุดๆแล้ว เอื้ออออออ :katai4:

ยังรักคนอ่านเหมือนเดิมนะ จุ๊บๆ :mew1:





หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 12-03-2016 05:10:36
ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวก็ขาดกันไม่ได้เอง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-03-2016 09:50:43
ยังไงก็ต้องเจอออ  o18

น่านขี้ลืมหรือว่ายังไม่เจอกันที่บริษัทหว่า ?

รอตอนต่อไปน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 13-03-2016 07:28:00
หึๆๆนี่น่านยังไม่รู้อีกหรอว่าพี่เดียวเป็นเจ้าของบริษัทที่น่านจะไปถ่ายรูปฮาาาา พรุ่งนี้เจอกันน่านต้องอึ้งมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 16-03-2016 19:57:48
ในที่สุดก็ตามอ่านถึงตอนล่าสุดแล้ววว 555

อยากรู้จริงถ้าเจอพี่เดียวที่บริษัท จะทำไง  :hao6:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 17-03-2016 00:19:03
พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกนะค่ะ  อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ  อ่านแล้วเพลินไปกับความกวนของคุณเดียว

และความเกรียนของหนูน้ำน่าน  การพัฒนาการของตัวละครค่อยๆ เป็นค่อยๆไป  ไปหวนจนเกินไปค่ะ

เป็นคนอธิบายไม่เก่งค่ะ  แต่บอกได้เลยว่าชอบเรื่องนี้มาก ถ้าหากว่าร่วมเล่มเป็นหนังสือก็จะซื้อเก็บไว้ค่ะ

และอ่านตั้งแต่ หนึ่งทุ่ม ยันเที่ยงคืน  เป็นการอ่านมาราธานมากๆ เลยค่ะ  จะรออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

สู้ๆ ค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.16 [11.3.59] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 19-03-2016 18:15:26
ความสัมพันธ์ค่อยๆกระดึ๊บๆ ไปเรื่อยๆเนอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 29-03-2016 23:15:06
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero





- 17 -






   เสียงบีทหนักๆเร้าใจ แสงสีวิบวับตื่นตา สุรานารีตื่นใจ บรรยากาศที่ห่างหายไปนานเมื่อได้กลับเข้ามาในร้านเฮียเสกอีกครั้งทำเอาผมคึกคักอยากจะไปเต้นไปโยกใส่สาวกระโปรงดำสั้นเกือบเสมอน้องสาวคนนั้นเหลือเกิน เสื้อเกาะอกสีขาวที่รัดเอาหน้าอกหน้าใจล้นออกมานั่นก็ช่างดึงดูดสายตาเสียจริง ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้นานๆ พอได้มองก็พาลอยากจะเข้าไปลูบคลำให้หนำใจ



   “มึงชวนพี่เขาไปเปิดโรงแรมเลยดีมั้ย”เสียงไอ้เต้ดังแว่วเข้ามา ขัดขวางความสุขของผม



   “จ้องจนเขาพรุนไปทั้งตัวแล้วไอ้ห่า”เสียงไอ้โอ๊คลูกคู่ตัวดีตามมาติดๆ



   คืนนี้พวกผมตบะแตก จากที่ว่าจะเก็บตัวจนกว่าจะสอบเสร็จก็เป็นอันล้มเลิกไปทันทีที่ไอ้เต้โทรมาโวยวายว่าจะลงแดงตายเพราะร่างกายไม่ได้รับแอลกอฮอล์ ผิวหนังไม่โดนแสงสีเกินระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้วผื่นพาลจะขึ้น ผมเองก็เซ็งๆเลยตกปากรับคำว่าจะมาร่วมแจมด้วย ก่อนหน้านี้ผมไปทานข้าวเย็นกับพี่ยศมา จะพูดให้ถูกก็คือถูกผู้บริหารใหญ่ของบริษัทจิวเวลรี่แนวหน้าของประเทศไทยให้เกียรติพาไปเลี้ยงรับรองด้วยตัวเอง นึกถึงแล้วก็หงุดหงิดพิลึก ก็ท่านผู้บริหารใหญ่นั่นก็คือไอ้เหี้ยพี่เดียว ตอนแรกที่ผมเห็นมันเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถูกแนะนำว่าเป็นใคร ผมนี่ถึงกับอ้าปากค้าง หน้าตาตอนนั้นคงตลกมากๆ เห็นมันแอบหัวเราะด้วย อยากเอาตีนทาบหน้าขึ้นมาทันที ติดตรงที่ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่องานของพี่ยศได้ผมเลยต้องทำใจให้นิ่ง แต่ก็ต้องชมมันอยู่ในใจเวลาทำงานมันตั้งใจมากจริงๆ การเข้ามาพูดคุยกับผมก็เป็นงานเป็นการจนผมแอบเกร็งทำตัวไม่ถูกไปเหมือนกัน ดีที่มันแค่แวะมาพูดคุยแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีแล้วก็ไปทำงานต่อตามประสาคนงานเยอะ ที่รู้ว่าเยอะก็เพราะได้ยินลูกน้องมันพูดกัน แถมยังแปลกใจที่ท่านผู้บริหารใหญ่ลดตัวสละเวลามาดูทีมโปรดักส์ชั่นด้วยตัวเองอีก แบบนี้ใช่มั้ยมันถึงได้ถามผมถึงเรื่องนามบัตร เดี๋ยวกลับบ้านไปต้องไปคุ้ยดูสักหน่อย ไม่รู้ตอนนี้มันไปย่อยสลายอยู่ที่ไหนแล้ว



   “ไอ้เหี้ยโฟมมันจะมามั้ย”ไอ้เต้ถามขึ้นมา พวกผมมารวมตัวกันได้เกือบชั่วโมงแล้วแต่ไร้วี่แววไอ้หมวย



   “ตอนกูโทรไปมันก็บอกว่ามา”ไอ้โอ๊คตอบ



   “แล้วไมมึงไม่รับมันมาพร้อมกันเลยวะ”



   “มันไปทำธุระที่อื่นให้มาเจอที่ร้านเลย”ช่วงนี้ไอ้โฟมธุระเยอะจริงๆ ไอ้พวกสองตัวนี้มันคงไม่รู้ไม่เห็นอะไรอย่างที่ผมเคยเห็น ถ้าถูกจับได้เมื่อไหร่มันจะโดนเค้นจนตัวลีบตัวแบนแน่ๆ



   “กูไปสูบบุหรี่แป๊บ”ผมเดินออกมาที่หน้าร้านเพื่อสูบบุหรี่ ปกติจะไปสูบที่หลังร้าน แถวห้องน้ำมากกว่าแต่จะแวะหยิบโทรศัพท์ที่ลืมไว้ในรถด้วยเลยมาสูบที่หน้าร้านแทน พอออกมาจากร้านก็เจอของดีเลย ไอ้หมวยกับธุระของมัน สองคนกำลังยืนเถียงอะไรอยู่ข้างเล็กซัสสีแดงไวน์ ผมก็ไม่ได้อยากจะแกล้งอะไรมัน แต่บังเอิญว่ารถผมก็จอดอยู่ตรงนั้นพอดี สองคนนั้นมัวแต่ตั้งแต่ตั้งตาเถียงกันไม่รู้สึกตัวเลยว่าผมเดินไปใกล้จนได้ยินเสียงคุยกัน



   “กลับไปได้แล้ว”



“ไล่จังนะ”



“แล้วจะอยู่ทำไมเนี่ย”



“กินเหล้าบ้างไม่ได้ไง”



“ไปกินร้านอื่นดิวะ”



“หึ ทำไมกลัวเพื่อนเห็นเหรอ”



ปิ๊บๆ



ผมกดปลดล็อครถ เสียงของมันทำให้ไอ้หมวยสะดุ้ง ค่อยๆหันมามองทางผมเป็นภาพสโลว์โมชั่นเหมือนในหนัง พอมันเห็นหน้าผมก็ทำหน้าเหมือนเห็นผี ผมเตรียมรอยยิ้มมุมปากไว้รอท่ามันอยู่แล้ว ตรงที่ยืนอยู่มันไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แต่ผมก็พอเดาได้ว่าหน้ามันต้องซีดแน่ๆ



“เชี่ยน่าน”มันพูดเหมือเพ้อๆ ดูสติหลุด ผมเหลือบมองคนที่มากับมัน ทำเอาต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกับที่เคยเห็นที่คณะสถาปัตย์หรือเปล่าเพราะไม่มีหนวดเครารุงรัง ใบหน้าคมคายเกลี้ยงเกลาไม่ถึงกับหล่อจัดแต่ถือว่าดูดีมากๆ จะเรียกว่ามีเสน่ห์ก็คงไม่ผิด พอสบตาเท่านั้นผมก็แน่ใจเลยว่าเป็นคนเดียวกันแน่ๆ ตาคมดุคิ้วพาดเฉียง ทำให้หน้าดูเจ้าเล่ห์นิดๆ



“ตามสบายนะ เดี๋ยวกูบอกพวกข้างในให้ว่ามึงยังทำธุระไม่เสร็จ”ผมว่าแล้วหลังจากหยิบโทรศัพท์ในรถเสร็จแล้ว ไม่หมวยหน้างอเป็นส้นตีน หันไปค้อนใส่คนตัวโตนั่น



“เสร็จแล้วไอ้สัด อย่ากวนตีน”มันว่างั้นแล้วเดินหนีไปทางประตูร้าน ผมหันไปค้อมศีรษะให้อีกคนเล็กน้อย ทางนั้นก็พยักหน้ากลับมาแล้วยัดตัวเองใส่รถสีแดงไวน์ก่อนจะขับออกไป



“ออกมาทำไร”ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนเจ้ากรรมนายเวรผมก็ออกมาจากหลุมไหนก็ไม่รู้มาดักหน้า



“กินข้าวมั้ง”



“อ้าว ตอนเย็นยังกินไม่อิ่มเหรอ”มันพูดยิ้มๆ รู้ว่าผมประชดแล้วยังจะมาถามแบบนี้อีก กวนตีนไม่มีใครเกิน



“ว่างนักหรือไงท่านผู้บริหารใหญ่”



“อะไร โกรธอะไรเนี่ย”



“ไม่ได้โกรธ หลีกทางดิ”ผมขยับไปทางซ้ายมันก็ขยับตาม พอขยับขวาก็ขยับมาดักหน้าอีก



“เข้าไปด้วยกันดิ”ไม่ว่าเปล่ามันเดินเข้ามาโอบคอผมแล้วลากให้เดินไปด้วยกัน เน้นว่าลากจนขาผมเกือบสะดุดขาตัวเองหน้าคว่ำ เห็นกูเป็นอะไรเนี่ยลากเอาๆ



“ปล่อยเว้ย เดินเองได้”คิดว่าได้ผลมั้ย ครับมันไม่ได้ผล ไอ้เหี้ยพี่เดียวลากผมเข้ามาด้านในร้านจนได้



“ชวนเพื่อนไปนั่งด้วยกันดิ”



“ไม่เอา ไม่ใช่พวกไอ้ธันว์”ผมอยากนั่งเป็นส่วนตัวกับเพื่อนบ้าง ส่องสาวส่องหนุ่มไปตามประสา



“เหรอ ไม่ใช่ก็นั่งด้วยกันได้”มันก้มลงมาพูดข้างปาก ขนแขนลุกซู่ไปหมดเมื่อริมฝีปากมันสัมผัสโดนใบหูผม



“ฮึ่ย!”ผมผลักมันออกแล้วเดินมาที่โต๊ะ ส่วนมันจะไปไหนผมก็ไม่ได้สนใจแค่ไม่ตามผมมาก็พอ ไอ้หมวยนั่งประจำที่แล้ว แก้วที่วางข้างหน้ามันนี่เพียวไม่ผสมเลย มีเพียงน้ำแข็งแค่สองก้อน



“จัดหนักเลยนะมึงไอ้ห่า”ตบหัวมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ เมาหัวทิ่มมาก็เป็นภาระพวกผมอีก มันมองตาขวางแต่มือคว้าแก้วหมับไม่ยอมปล่อย



“ปล่อยแม่งไป เมาเมื่อไหร่กูจะทิ้งมันไว้ที่นี่ให้เกย์ล่ำๆลากไปตุ๋ยตูด”ไอ้โอ๊คซี้มันพูด



“ค_ย มึงสิโดนตุ๋ย”มันยกขาถีบไอ้โอ๊คไปที โดนสีข้างไปเต็มๆ ไอ้โอ๊คทำท่าจะกระโจนใส่แต่โดนไอ้เต้ล็อคคอไว้ได้ทัน ผมเลิกสนใจพวกมัน ออกมาเที่ยวทั้งทีขอดูอะไรที่เจริญตาเจริญใจดีกว่ามองไอ้พวกตัวเหี้ยมันตีกัน ไม่นานก็เจอของสวยงามสะดุดตา ไอ้เต้ที่นั่งข้างผมถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อฝ่ายนั้นชูแก้วขอชนกับผม



“คืนนี้สบายตัวแน่มึง”



“กูล่วงหน้าไปก่อนนะ”ผมกระตุกยิ้มมันแล้วคว้าแก้วตัวเองเดินไปหาสาวคนนั้น หน้าตาที่ว่าสวยแล้ว มาเห็นใกล้ๆยังหุ่นดีมากอีกต่างหาก ส่วนนูนส่วนเว้าเร้าใจจนอยากเปลืองผ้าออก อยากเห็นชัดๆเต็มตาแล้วก็อยากจะพิสูจน์ว่าเต็มไม้เต็มมือแค่ไหน พอเริ่มพูดคุยก็รู้ว่าแนวเดียวกัน จากนั้นไม่นานเราก็พากันไปต่อที่อื่น ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ ก่อนไปผมเดินผ่านโต๊ะที่ไอ้พวกเชี่ยนั่นนั่งอยู่อีกครั้ง แต่ไอ้เต้ไม่อยู่แล้ว คงได้สบายตัวเหมือนกัน ผมเลยโบกมือลาไอ้โอ๊ค ไอ้สัดนั่นมันเอามือประสานกันแล้วกระแทกปับๆเข้าหากันหน้าโคตรหื่น เป็นการบอกว่าให้ผมสุขสมอารมณ์หมาย





X





“กูนึกว่ามึงจะมาเรียนไม่ไหวแล้วไอ้สัด”มาถึงตอนเที่ยงก็เจอไอ้โอ๊คทักทาย ใจจริงผมกะมาเวลาเข้าเรียนเลยแต่หิวข้าวอยากมากินข้าวพร้อมพวกมันเลยโทรจิกรายตัว เหลือเวลาอีกชั่วโมงนิดๆให้ได้เอ้อระเหยหาของกระแทกปาก



“ระดับกู ยังไงก็ไหว ไอ้ห่านี่อ่ะ”ผมผลักหัวไอ้หมวยที่นอนฟุบอยู่ สภาพอย่างนี้มันคงโดนไอ้โอ๊คแงะมาจากเตียงแหง




“แฮงค์ไปดิ แดกเพียวไปขนาดนั้น เมื่อคืนเมาอ้วกแตกหมาไม่แดก บ่นห่าไรไม่รู้นักหนาโคตรรำคาญ อยากทิ้งให้จบกองอ้วกแม่ง แต่สมเพช”ไอ้โอ๊คบ่นยาว แต่ก็คงเป็นห่วงซี้มันนั่นแหละ เมาๆแบบนั้นปล่อยให้คลาดสายตาหน่อยถูกลากไปแน่



“เห้ยๆ ตื่น”เขย่าแขนมันแรงๆจนตัวสั่น มันเงยหน้าขึ้นมองตาขวางจิ๊ปากไม่สบอารมณ์ หน้าตาไม่พร้อมรับแขกสุดๆ



“ห่านี่”



“ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นปลาตีน แดกเองเมาเองแฮงค์เองโทษใครได้”ผมว่ามัน



“เออ เรื่องของกู ไอ้เต้มายังกูหิว”พอถามถึงไอ้เต้ก็โผล่หัวมาพอดี สีหน้าสดชื่นระรื่นจนน่าถีบ



“กูละเบื่อพวกมึงจริงๆ”ไอ้โอ๊คทำหน้าเหม็นเบื่ออีกรอบ มันคงอิจฉาที่พวกผมได้เด็กไปกก ส่วนมันต้องอยู่กับไอ้ขี้เมาคออ่อน แต่ถึงไอ้หมวยไม่เมา มันก็ไม่ได้ใครไปกินหรอก มันดวงอาภัพเรื่องผู้หญิงจีบรายไหนก็แห้วไปทุกราย แต่ก็ขยันจีบไม่เคยเข็ด สโลแกนมันจีบร้อยได้มาหนึ่งก็ถือว่าคุ้ม



พวกผมย้ายตัวเองที่ไปโรงอาหารกลาง เดินไปเพราะถ้าเอารถไปก็จะไม่มีที่จอด เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่แต่ก็พอให้เหงื่อออก ผมส่งไอ้หมวยไปจองโต๊ะเพราะดูท่าแล้วมันคงทนต่อแถวซื้อข้าวไม่ไหว เดินธรรมดายังหัวจะทิ่ม ไอ้โอ๊คฝากผมสั่งข้าวส่วนมันไปสั่งแดงมะนาวโซดาแก้แฮงค์ให้ซี้มัน



“น้ำน่านนนนน”เสียงมาก่อนตัวอีก ใครวะ แต่ก่อนที่ผมจะได้หันไปก็มีวัตถุขนาดใหญ่โถมเข้าใส่จากด้านหลัง กลิ่นแบบนี้ผมคุ้นดี



“เล่นเหี้ยไรของมึงเนี่ย”ไอ้พายหัวเราะร่า กอดคอผมแทบจะปีนขึ้นมาขี่หลัง ตัวมันก็พอๆกับผมเลยนะถึงจะบางกว่าแต่สภาพไม่ได้น่าดูเท่าไหร่ถึงจะหน้าตาดีทั้งคู่ก็เถอะ



“มึงลงไปเลย ห่า”ผมพยายามสะบัดมันออก แต่มือมันเหนียวเป็นตุ๊กแกเกาะหนึบไม่หลุด



“สั่งข้าวให้กูด้วยดิ หิวมากกกก”มันมีเรียนเช้า ผมกลับไปก็ไม่ทันมันออกมาก่อนแล้ว



“จะแดกก็ปล่อยกู จะเกาะทำเชี่ยไร”



“ความสุขกูอ่ะ”มันว่าแต่ก็ยอมปล่อย เพื่อนมันสองคนเพิ่งเดินมาถึง บังเอิญจริงๆที่มาเจอกัน ปกติมันจะชอบออกไปหาอะไรข้างนอก น้อยครั้งจะกินที่โรงอาหาร ผมบอกให้มันเดินไปนั่งกับไอ้หมวย แต่สงสัยต้องหาโต๊ะใหม่สมาชิกเพิ่มขึ้น



หลังจากกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปตามกรรมของตัวเอง คาบบ่ายผมเรียนยาวจนถึงหกโมง ไอ้หมวยฟุบไปตั้งแต่ชั่วโมงแรก อาจารย์ไม่ว่าอะไรเพราะเป็นศิษย์รัก แค่ไอ้โอ๊คบอกว่ามันไม่สบายอาจารย์ก็ไม่ซักไซ้อะไรอีก



“มึงจะไปไหนต่อ”ไอ้เต้ถามผม วันนี้ไม่มีแพลนใดๆ แต่จะว่าไปผมก็อยากกลับไปนอนเพราะเมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะ



“กูจะกลับไปนอนไม่ไปไหนทั้งนั้น เชี่ยโอ๊คกูไปนอนห้องมึงนะ”ไอ้หมวยบอก



“ลำบากกูน้อยที่ไหน ที่หลังแดกเข้าไปอีกดิเพียวๆอ่ะ”



“บ่นทำซากอะไร ห่านิ ยิ่งปวดหัวอยู่”



“สมน้ำหน้ามึง ฟาย”ไอ้เต้คงหมั่นไส้ตบกบาลมันเบาๆไปหนึ่งที



“งั้นแยกย้ายเหอะ กูจะพาภาระกลับห้อง จะกลับไปทำงานต่อด้วย”



ไอ้โอ๊คสรุป พวกผมจึงสลายตัว พูดถึงงานแล้วก็นึกได้ว่าผมต้องแวะซื้ออุปกรณ์บางอย่าง ก่อนกลับเลยแวะห้างเพื่อซื้ออุปกรณ์ มุมที่ผมยืนเลือกกระดาษอยู่ค่อนข้างลับตาคนสำหรับร้านขายเครื่องเขียน ดังนั้นไม่แปลกถ้าหากใครจะเข้ามาทำอะไรตรงนั้น ทั้งคู่เหมือนกำลังฉุดยื้อกันอยู่ ผู้หญิงพยายามขัดขืนไม่แห้แตะต้องตัว แต่ผู้ชายก็ดูจะตื๊อ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมน้องผู้หญิงไม่ร้องขอความช่วยเหลือวะ แต่คิดอีกทีก็คงเป็นแฟนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ละมั้ง



ผมเลือกเอื้อมมือหยิบกระดาษที่ตั้งใจมาซื้อ จู่ๆก็ต้องเซเพราะน้องผู้หญิงที่ผมเห็นเมื่อครู่วิ่งมาชนแล้วเกาะแขนผมไว้แน่น ละล่ำละลักให้ผมช่วยเสียงสั่น ส่วนผู้ชายเหมือนจะเข้ามาแต่พอเห็นผมยืนอยู่ด้วยมันเลยจ้องอย่างอาฆาตแล้วเดินหนีไป



“แฟน?”อดที่จะถามไม่ได้ ผมไม่นิยมเข้าไปพัวพันกับใคร



“แฟนเก่า เลิกแล้วเขาไม่ยอมเลิก”น้องผู้หญิงบอก ยังสั่นท่าทางจะกลัวจริง



“แล้วทำไมไม่ตะโกนขอความช่วยเหลือ”



“ไม่กล้า”เออแปลกดี เรื่องแบบนี้ไม่กล้า จะรอให้มันทำอะไรก่อนหรือไงวะ ผมแกะมือออกแล้วเดินจะไปจ่ายเงินแต่น้องเขาก็เดินมาจับแขนผมอีก คิดจะให้ผมเป็นไม้กันหมาหรือไง ขอโทษเถอะ เอาอะไรมาไว้ใจผม ถ้าเกิดผมเหี้ยหลอกไปทำอะไรจะทำไงวะ เพราะดูแล้วไม่น่าจะหลอกยากเลย ทำอะไรก็คงไม่โวยวายอย่างมากก็แค่กลัวตัวสั่น ปัดป้องแบบที่ไม่สามารถช่วยให้พ้นอันตรายได้เลย ยิ่งหน้าตาดี ผิวพรรณขาวเนียนเหมือนลูกคุณหนูที่ไม่เคยทำงานหนักแบบนี้ รับรองไม่รอด



“ตามมาทำไม”



“พี่ช่วยอยู่กับหนูจนกว่าเพื่อนหนูจะมาได้มั้ยคะ”



“ไม่ได้หรอก”



“แต่หนูกลัว”



“แล้วไม่กลัวผมหรือไง ไว้ใจคนที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกหรือไง”



“เอ่อ...คือ”มือที่จับแขนปมไว้คลายออก ท่าทางระแวงขึ้นมาทันที



“กลับบ้านไปสิ เพื่อนไม่ต้องรอนี่มันก็ค่ำแล้ว”



ผมไม่สนใจว่าเด็กนั่นจะทำยังไงต่อ เดินมาจ่ายเงินเสร็จก็ออกจากร้านก็เห็นเด็กคนนั้นอยู่หน้าร้าน ท่าทางหวาดระแวงกอดกระเป๋านักเรียนแน่น เอาวะ ถือซะว่าช่วยเอาบุญ เห็นแล้วก็สงสาร ถ้าเกิดผมไม่ช่วยแล้วเด็กผู้ชายคนนั้นมันย้อนกลับมาแล้วพาน้องเขาไปทำอะไรไม่ดี จะกลายเป็นบาปติดตัวเสียปล่าๆที่มีทางช่วยได้แต่ไม่ยอมช่วย



“นี่ บ้านอยู่ไหน”แค่ผมทักก็สะดุ้ง แววตาไม่ไว้ใจฉายอยู่ในดวงตากลมๆนั่น



“ไม่ทำอะไรหรอกน่า จะไปส่งให้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว”



“....”



“แต่ถ้าไม่เอาก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วยอยู่แล้ว”



“หนูไว้ใจพี่ได้ใช่มั้ยคะ”



“อย่าไว้ใจใครนอกจากตัวเอง แต่รับรองได้ว่าผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ไม่นิยมบังคับใจใคร”หน้าตา ฐานะอย่างผมมีแต่คนเข้าหา ไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่าไม่จำเป็นเลยที่ต้องไปเที่ยวหลอกใครต่อใครมานอนด้วย ยิ่งนักเรียนม.ปลายแบบนี้ไม่ใช่รสนิยมอย่างแรง



“ถ้าจะทำให้มันอุ่นใจขึ้นก็เอานี่ไป”เอาหยิบบัตรประชาชนตัวเองในกระเป๋าสตางค์ยื่นให้เป็นหลักประกัน พอรับไปดูแล้วก็เหมือนจะเบาใจขึ้น



“ไปเถอะ ค่ำแล้วยังไม่ถึงบ้านพ่อแม่ไม่ว่าเอาหรือไงเนี่ย อยู่ม.ไหนแล้ว”



“ม.4 ค่ะ”เด็กกว่าที่คิดอีก เพิ่งต้นม.ต้นมาไม่กี่เดือนเอง ซึ่งจะเอามาเทียบกับเด็กผู้ชายไม่ได้ พวกผมนี่หัวหกก้นขวิดมาตั้งแต่ขึ้นม.1 ด้วยซ้ำ มีเซ็กส์ตอนแรกก็ตอนนั้นแหละ แต่ไอ้ธันว์มีตั้งแต่ป.6 ไอ้ห่านี่แก่แดด ขึ้นครูกับพี่ม.2 ว่าแต่ผมชอบคนแก่กว่า มันเองก็ไม่เลือกละวะ ขอแค่เป็นผู้หญิง สวยหุ่นดีมันฟาดเรียบ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงม.4 มันยังก้ำกึ้งระหว่างคำว่าเด็กกับเป็นสาวอยู่นะผมว่า ถึงหลายคนจะมองว่าไม่เด็กแล้วก็เถอะ



“มาทำอะไรที่นี่" ผมชวนคุยระหว่างเดินไปหาทางออกเพื่อไปลานจอดรถ



“เพื่อนนัดมาค่ะ แต่รอรนานแล้วก็ไม่เห็นมา แล้วก็เจอท็อปก่อน”คงหมายถึงได้เด็กหัวสกินเฮดนั่น



“โทรหาเพื่อนหรือยัง”



“ไม่ติดค่ะ ปิดเครื่อง”ชัวร์ เพื่อนที่ว่ารู้เห็นกับไอ้เหี้ยท็อปนั่นแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าอยากให้คืนดีกันหรือประสงค์ร้ายอย่างอื่นผมไม่อยากฟันธงเพราะไม่ได้ไปรู้จักด้วย



“โอ๊ย!”ด้วยสัญชาติญาณผมหันไปคว้าคนเดินข้างไว้ทัน มีไอ้บ้าวิ่งมาจากไหนไม่รู้ท่าทางจะรีบจัดวิ่งมาชนเด็กข้างๆผมเข้า ดีที่ผมเอากระดาษที่ซื้อมาใส่ซูมไว้ไม่งั้นมียับแน่ๆ



“ขอบคุณค่ะพี่”



“ระวังหน่อย เดินก็อย่าเหม่อนักสิ”



“ค่ะ”พูดแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยวะ อดไม่ได้ที่จะขยี้หัวเด็กนี่ไม่ได้ ผมไม่ได้คิดพิศวาสอะไรหรอกแค่คิดว่าทำแบบนี้แล้วอาจจะหายกลัวหายเกร็งได้ ตอนที่กำลังจะเอามือผมก็ชะงักไปเมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ พอมองไปรอบๆก็เจอกับไอ้บ้าที่ผมรู้จักยืนหน้านิ่งเหมือนรูปปั้นยักษ์อยู่หน้าร้านจิวเวลรี่ ข้างกายมันมีผู้หญิงหน้าตาดีควงแขนมาด้วย เหมือนจะเป็นนางแบบที่เคยลงในหนังสือสักเล่ม มันเมินผมไปยิ้มให้กับคนข้างตัว ผมเองก็ไม่คิดจะเข้าไปทักหรือสนใจอะไร ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักกันอย่างนี้ก็ดีแล้ว ขอให้มันไม่สนใจกันแบบนี้ตลอดไป จะได้หลุดพ้นกันไปเสียที



“เปิดเพลงฟังได้มั้ยคะ”ระหว่างที่รถติดคนที่ผมพามาด้วยก็พูดขึ้น แทนคำตอบผมเลยเลื่อนมือไปเปิดให้ ผมเอาแผ่นเพลงออกไปเลยต้องฟังเพลงตามคลื่นวิทยุเอา เปิดแค่คลอเบาๆไม่ให้เงียบเกินไป ผมไม่ชอบฟังเพลงดังเท่าไหร่ น้องดูไม่เกร็งเหมือนตอนแรกๆ เพราะผมเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่ดีใส่ ถึงผมจะชอบเที่ยว แต่ก็ไม่ได้มีความหื่นกามอยู่ในกระแสเลือดจนเห็นใครหน้าตาดีก็คิดอยากจะได้ไปเสียหมด ยังคงมีสติและศีลธรรมประจำใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ผมหิวมากถ้าแวะกินข้าวแถวข้างหน้านี่เขาจะคิดว่าผมตุกติกอะไรป่ะวะ รถมันติดมากกว่าจะขับไปถึงบ้านน้องตามที่บอกมาท่าจะนานน่าดู กำลังช่างใจว่าจะชวนกินข้าวดีมั้ย เสียงท้องร้องของคนข้างๆก็ทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะออกมา ดังกลบเพลงมิดเลยนะ



“แวะกินข้าวก่อนมั้ย ข้างหน้ามีร้านอาหารเยอะ พวกบะหมี่เกี๊ยว เย็นตาโฟ มีก๋วยจั๊บด้วย”



“พี่จะเสียเวลา...”



“ไม่เป็นไร หิวเหมือนกัน กว่าจะถึงบ้านเราก็อีกไกลนี่”พอพ้นที่ติดไฟแดงก็ตบไฟเลี้ยวหาที่จอดในซอยข้างตึกแถวที่ว่าแถวนี้เป็นร้านอาหารติดๆกัน เลือกกินได้ตามชอบ เนื่องจากหิวจัดเราก็เลยเลือกร้านแรกที่เดินมาถึงเย็นตาโฟรสเด็ด จะเด็ดจริงมั้ยก็ต้องลอง มีเครื่องให้เลือกใส่เยอะมาก เลือกเสร็จก็รอ คนแน่นร้านขนาดนี้แสดงว่าเด็ดจริงๆ



“หนูเรียกพี่ว่าอะไรได้คะ พี่ชลหรือพี่ธร”คงเห็นชื่อจากบัตรประชาชน ไม่แปลกหรอกที่คิดจะเรียกผมด้วยสองชื่อนั้นเพื่อนเก่าสมัยเด็กผมก็เรียก บางคนก็เรียกน้ำ บางคนก็เรียกน่านแล้วแต่สะดวกปาก เรียกชื่อไหนก็หันหมด เรียกไอ้เหี้ยยังหันอ่ะครับ ฮ่า



“แล้วแต่”ผมไม่ซีเรียส ยังไงมันก็คงเจอกันแค่ครั้งเดียวกรุงเทพไม่ได้กว้างนัก แต่ก็ไม่ได้แคบ ผมเองก็ไม่ได้มีวังวนอะไรที่จะเข้าไปพัวพันกับนักเรียนม.ปลายอยู่แล้ว



“พี่ชลแล้วกันนะคะ”



“อืม”



“หนูชื่อปายนะ”



“อื้อ”ผมพยักหน้ารับ ก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาเสิร์ฟพอดี เวลาพูดคุยก็หมดลงต่างคนต่างกินกันไม่สนใจโลก ผมมองเด็กที่นั่งตรงข้ามแล้วอดยิ้มไม่ได้ เคี้ยวลูกชิ้นแก้มตุ่ย ปากแดงแจ๋เพราะปรุงพริกเข้าไปเยอะทั้งที่สั่งแบบต้มยำแล้วนะนั่น ไม่มีมาดเลย นี่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวต่อหน้าผู้ชายที่โคตรหล่อเลยนะเว้ย



“อร่อยอ่า”ดูดน้ำส้มปั่นเข้าไปอึกใหญ่แล้วก็พูดออกมา ท่าทางตอนที่พูดทำให้ผมนึกเอ็นดู



“ค่อยๆกินเดี๋ยวสำลัก”ผมบอก อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มอายๆแต่ก็ก้มลงไปกินต่อ ท่าทางจะอร่อยจริงๆ



อิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อ สามทุ่มนิดๆผมก็พามาส่งถึงหน้าบ้าน แต่ที่จริงต้องเรียกว่าคฤหาสน์เพราะหลังมันใหญ่โตมาก เป็นลูกคุณหนูจริงๆสินะ พอผมจอดส่งหน้าบ้าน รปภ. ก็มาเปิดประตูพอเห็นปายก็รีบกุลีกุจอมารับกระเป๋าไปถือทั้งที่มันไม่ได้หนักอะไรเลย เห็นรถกอล์ฟจอดอยู่ข้างประตู ระยะทางเข้าบ้านก็คงไกลเดินไปคงเหนื่อยก่อน ทุกอย่างในวันนี้มันกำลังจะจบลงด้วยดี การทำความดีของผมในวันนี้อาจจะทำให้ได้บุญกุศลครั้งใหญ่ มีคนมาให้กกกอดไม่ได้ขาด แต่ป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงประตูทางเข้าที่ไฟหน้ารถผมส่องไปถึงพอดีก็ทำให้ผมรู้สึกว่าคนอย่างผมมีกรรมหนักเกินกว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้








------------------------


มาแว้วววว หายไปสองอาทิตย์เห็นจะได้ กลับมาพร้อมกับตอนนี้ที่สั้น ฮ่าา  :hao7:
นิยายเรื่องนี้มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะค่ะ เลยตั้งใจว่าจะแต่งแต่ละจุดให้แน่นไต่ลำดับไปเรื่อยๆ
พระเอกของเราค่าตัวแพงมาก ออกน้อย บทน้อย ในช่วงนี้ แต่รับรองว่าหลังจากนี้จะเยอะจนเอียน 555
มันต้องมีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปทีเล็กทีละน้อย จากคนที่ไม่รู้จัก มาเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้า
คนที่ไม่ได้ทำดีต่อกันมาแต่แรก การที่จะพัฒนาปุบปับข้ามคืนมันก็ไม่ใช่เนอะ
แต่กว่าจะถึงวันที่เขาทั้งสองจะได้...เข้าใจกัน...ก็ยังอยากให้ทุกคนตามอ่านอยู่นะคะ

รักนะ จุ๊บๆ  :mew1:


ปล. อ่านทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ ทุกคำติชมนะคะ แต่อาจจะไม่ได้มาตอบเลยต้องขออภัยนะคะ
เราสนใจและใส่ใจนะ แต่ไม่ค่อยสะดวกตอบเท่าไหร่ค่ะ T_____T




 




หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-03-2016 23:43:46
 :mew1: เดียว น่าน ดีกัน เข้าใจกันซะที อยากเห็นฉากหวานๆ  :กอด1:
รอตอนต่อไป  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: fdcjsy ที่ 31-03-2016 14:10:47
ชอบบบบ~
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 31-03-2016 14:16:08
คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน หึๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 31-03-2016 22:26:43
ทำไม บ้านใครเหรอ บ้านนั้นจะเกี่ยวกับพี่เดียวไหมหนอ

แอบสงสัยใจพี่เดียวเหมือนกันนะ จีบจริงจีบเล่นคะ น้ำน่านหิ้วสาวกับได้สบายเลย ไม่มีออกมาท้วงมาขัด ไม่หึงบ้างเหรอ หรือเพราะยังไม่ได้คบกัน?
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.17 [29.3.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-04-2016 04:07:42
เราจะรอวันที่น่านมีผัวเป็นพี่ :hao7:
ักที
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 15-04-2016 21:53:34
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 18 -





   สองสัปดาห์แห่งการสอบกลางภาคได้ผ่านพ้นไปแล้ว พวกผมได้พักจากการเรียนแค่ห้าวันจากนั้นก็จะต้องกลับมาเรียนกันหนักหน่วงเหมือนเดิม ถึงแม้จะสอบเสร็จแต่งานที่ถูกสั่งมาตั้งแต่ก่อนสอบก็ยังเคลียร์ไม่จบ ผมเหลืองานที่ต้องส่งอีกหนึ่งชิ้นเริ่มทำไปได้เกินครึ่งแล้ว วันนี้เลยตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จ เพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้งกับพี่ยศที่ภูเก็ต ดังนั้นผมเลยปฏิเสธการออกไปสังสรรค์กับพวกไอ้เต้



   “อ้าว พวกมึงมานานแล้วเหรอ”เข้าบ้านมาก็เจอไอ้ธันว์นอนกระดิกเท้าดูหนังอยู่บนโซฟา ส่วนไอ้คิมหลับอยู่บนพื้นกอดตุ๊กตาหมาเน่าของไอ้พาย แต่ผมไม่เห็นรถมันสองคนจอดอยู่หน้าบ้าน นานเป็นเดือนแล้วที่ไม่เห็นหน้าพวกมันเลย ไอ้ธันว์ดูปกติธรรมดา แต่ไอ้คิมดูโทรมๆการเรียนเภสัชดูดพลังชีวิตมันขนาดนั้นเลยเหรอวะ



   “สักพักใหญ่ละ มึงสอบเสร็จแล้วใช่มั้ย”ไอ้ธันว์ละสายตาจากทีวีเงยหน้าขึ้นมาตอบผม



“เออ พวกมึงอ่ะ”



“กูเสร็จแล้ว แต่ไอ้คิมยัง”มันตอบเอาเท้าเขี่ยๆไอ้คิม ไอ้นั่นก็นอนนิ่งไม่ไหวติง ซ้อมตายหรือไงวะ



“แล้วมาทำไรกันวะ รถพวกมึงอ่ะ”



“มาพักผ่อนสมอง รถกูไอ้พายขับไปซื้อกับข้าว ส่วนรถไอ้คิมไม่ได้เอามากูไปขุดซากมันมาจากคอนโด”เออดี ขับปอร์เช่ไปซื้อกับข้าวแทนที่จะเอาไอ้หวานไป



“คืนนี้ไปปล่อยผีกัน”ไอ้ธันว์เดินตามผมเข้ามาในครัว ช่วงสอบตู้เย็นไม่ค่อยมีของสดติดไว้เพราะไม่มีใครมีเวลาว่างขนาดทำกับข้าวกินเอง แต่ยังมีพวกนมกับน้ำผลไม้ไว้ประทังชีวิต ผมหยิบขนมปังหลังตู้เย็นมากินรองท้องพร้อมกับนมอีกหนึ่งขวด



“ไม่ได้ว่ะ กูต้องเคลียร์งาน พรุ่งนี้กูต้องไปภูเก็ตทำงานกับพี่ยศ”




“ไรว้า กูอุตส่าห์วางแผนไว้อย่างดี ไอ้คิมถึงขนาดสละเวลาอ่านหนังสือมาเลยนะเว้ย



“ก่อนวางแผนมึงถามกูสักคำยังไอ้ห่า พวกมึงก็ไปกันดิ พวกไอ้เต้มันก็ไปร้านเฮียเสก มึงก็นัดพวกไอ้อ๊อดไอ้โก้ไปด้วยกันเลยดิ”งานนี้ได้สนุกลืมโลกแน่ถ้าพวกมันรวมตัวกัน ผมเริ่มอยากจะไปด้วยแล้วสิ แต่พอคิดถึงงานที่จะต้องทำแล้วก็คงต้องงดไปก่อน เพราะผมไปภูเก็ตสามวัน กลับมาก็คงเหนื่อยหมดอารมณ์ทำงานส่ง ตอนนี้ยังมีไฟอยู่ควรรีบทำก่อนไฟมอด



“คนครบขนาดนี้ มึงไม่เปลี่ยนใจ?”



“ไม่เว้ย กูมีงานพรุ่งนี้กูต้องไปไฟล์ทเช้าด้วย”



ผมเดินขึ้นมาเปลี่ยนชุดบนห้อง แต่คิดอีกทีลงไปว่ายน้ำดีกว่า ไม่ได้ว่ายนานแล้ว เส้นมันยึดไปหมด ว่ายสักสามสี่รอบให้ร่างกายมันตื่นตัวขึ้นมาบ้าง ว่ายไปได้สองรอบโผล่หน้าขึ้นมาก็เห็นไอ้ธันว์เอนตัวนอนจิบเบียร์บนเดย์เบด ไอ้คิมนั่งอยู่ข้างๆท่าทางมึนๆในมือถือกระป๋องเบียร์เช่นกัน



“แข่งกันสักรอบมั้ยพวกมึง”



“ตามสบาย กูเก็บแรงไว้คืนนี้”ไอ้ธันว์บอก หน้ามันตอนนี้ทั้งเลวทั้งหื่น แต่สาวๆเห็นคงกรี๊ดว่ามันหล่อเหี้ยๆ



“กูเอาด้วย”ไอ้คิมว่าถอดเสื้อออกเหลือแต่กางเกงขาสั้นแล้วมันก็กระโดดลงสระมาน้ำกระจายสาดใส่ไอ้เหี้ยธันว์ที่นอนชิลล์กระดิกเท้าดิ๊กๆอยู่ริมสระ



“สัดคิม!”ไอ้ธันว์ตะโกนด่าพร้อมยกนิ้วกลางให้



“โทษๆกูไม่ได้ตั้งใจ”ผมคิดว่ามันตั้งใจนะ



“ให้ดีไอ้เหี้ย กางเกงหลุดมาเสียสายตากูอีก”กางเกงมันเป็นขอบยางยืดคือใส่อยู่บ้านใส่นอนจะสบายตัว แต่พอมาเจอน้ำมันก็หน่วงก็รั้งจนเห็นกางเกงในมาครึ่งตัวแล้ว



“ที่จริงกูกะใส่แต่เกงในเนี่ย”ว่าแล้วมันก็ถอดกางเกงออกแล้วเหวี่ยงไว้ริมสระ เหี้ยไปอีก



ผมแข่งกับมันไปกลับสามรอบก็เล่นเอาหอบแฮ่ก ไม่ค่อยได้ออกกำลังเลยช่วงนี้เลยเหนื่อยไว พวกกล้ามเนื้อก็ไม่ค่อยเฟิร์มเท่าไหร่ ผมเคยพยายามจะทำให้หุ่นตัวเองล่ำๆกล้ามใหญ่ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ทำยังไงก็ไม่ได้อย่างที่หวัง กล้ามขึ้นมากสุดก็แค่เห็นเป็นเนื้อแน่นๆเฟิร์มๆ ตัวก็ยังไม่หนาอย่างที่ตั้งใจ แต่คนที่เคยนอนด้วยก็บอกว่าเซ็กซี่ทุกรายนะ



ไอ้พายไม่รู้กลับมาตั้งแต่ตอนไหนตะโกนเรียกให้ไปกินข้าวผมกับไอ้คิมถึงได้ฤกษ์ขึ้นจากสระที่ลอยคอเล่น ต่างคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำ พอลงมาไอ้ธันว์กับไอ้พายก็กินข้าวไปครึ่งจานแล้ว พวกผมคุยกันหลายเรื่องสัพเพเหระ บางทีพวกผู้ชายก็มีเรื่องคุยกันเยอะมากกว่าพวกผู้หญิงเสียอีก แล้วเรื่องนินทาผมบอกได้เลยว่าแรงกว่าพวกผู้หญิงแน่ๆ



“น้องหมิวอ่ะนะ ไม่อยากจะเชื่อ ก็เห็นขาวๆ เอ็กซ์ๆ สวยรองจากน้องขิงดาวคณะกูเลยนะ”ไอ้พายทำหน้าไม่อยากเชื่อ น้องหมิวคนนี้เป็นรุ่นน้องในคณะมัน ผมเคยได้ยินเพื่อนๆในคณะพูดถึงเหมือนกัน



“หลอกตาทั้งนั้น ไอ้อ๊อดพิสูจน์มาแล้ว นมนี่ทำมา ขาวๆก็แค่ที่เห็นพ้นจากเสื้อผ้านี่แหละ แต่ข้างในไอ้อ๊อดว่าไม่โอเค เห็นแล้วมันไม่อยากกินผัดหอยลายเลย”ไอ้ธันว์ทำเอาผมสำลักต้มยำ



“แค่ก เชี่ย กูเห็นภาพ”



“พวกมึงนี่นะ เอาน้องเขามาพูด”ไอ้คิมดูเหมือนเป็นคนดีปกป้องเกียรติสตรี



“มึงอย่ามา ได้ข่าวมึงไปขายขนมจีบลูกเกดบัญชีมานี่หว่า”ถึงจะไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ไอ้ธันว์นี่ข่าวไว ผมยังไม่รู้เลยนะเนี่ย



“รู้ดี”



“นี่ใคร กูธันว์นะครับ”



“แล้วเป็นไงวะ”อันนี้อยากรู้เป็นการส่วนตัว ไอ้คิมหลังจากเลิกกับเมียผมก็นึกว่ามันเพลียจนอยากพักเรื่องรักๆไป



“ไม่ยากอย่างที่เขาพูดกัน”



“พูดงี้แสดงว่ามึงไปแซ่บเขามาแล้วดิ”ไอ้พายพูด รู้สันดานซี้มัน



“หึ”ยิ้มกวนตีนแบบนี้แสดงว่าไม่พลาด



“เรียบร้อยอย่างนั้นอ่ะนะ เสร็จมึง”



“มาร้อยก็เสร็จเรียบสิไม่ว่า กูแทบไม่ต้องทำไรเลยห่า นอนเฉยๆก็ฟินได้”นี่แหละไอ้คิม ที่พูดดีเมื่อกี้นั่นตอแหลล้วน ผู้ชายนิ่งๆนี่ปากจัดที่สุดจำไว้นะครับ



“เหอะ ไอ้สัด”ไอ้พายผลักหัวเพื่อนมัน



“มึงไปภูเก็ต แบบนี้ก็เปรมเลยดิว้า กูอยากไปด้วยเลย”ไอ้ธันว์พาเรื่องวกเข้ามาที่ผม



“กูไปทำงานเว้ย ไม่ได้ไปเที่ยว”



“มึงจะทำตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยไง คนเรามันต้องมีเวลากินขี้ปี้เยี่ยวกันมั่ง”



ผมละหน่ายกับมันในหัวสมองไอ้ธันว์ไม่เคยคิดเรื่องเหนือสะดือเกินห้านาที ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เรียนก็หนัก โปรเจคท์ก็เยอะ หรือเพราะว่าเรียนหนักจนเครียดมากเลยต้องหาอะไรมาระบายให้หายเครียด



“มึงเรียนหนักไปหรือเปล่าวะ”ก่อนหน้านี้มันก็ไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่า แต่มาครั้งนี้หน้ามันหื่นขึ้นกว่าปกติ



“ทำไม?”



“มึงดูว้อนๆ เก็บกด?”



“เออ กูแทบจะได้หนังสือเป็นเมีย ถึงเวลาที่กูจะได้ปลดปล่อยแล้ว กูอิ่มละไปอาบน้ำดีกว่า รอเวลาที่จะได้ออกศึกไม่ไหวแล้วโว้ย”
พูดเสร็จสะบัดตูดหนีทันที ตกลงว่าคืนนี้มันจะไปแจมกับพวกไอ้เต้ ผมไล่ไอ้พายกับไอ้คิมไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้คิมนี่คงแค่เปลี่ยนชุดเพราะมันอาบไปแล้วตอนขึ้นจากสระ ส่วนผมอยู่ล้างจานเคลียร์โต๊ะกินข้าว แล้วเตรียมเอางานมาทำต่อ ตอนแรกว่าจะเอามาทำริมสระ แต่เปลี่ยนใจมาทำที่ห้องนั่งเล่นแทน เปิดม่านออกไปก็มองเห็นสระว่ายน้ำ ไฟสีส้มริมสระสะท้อนบนผืนน้ำที่สงบนิ่ง ทำให้ผมรู้สึกสงบตามไปด้วย



“พี่เดียวไม่ได้แวะมานี่นานแล้วเนอะ”ไอ้พายเข้ามาตอนไหนไม่รู้พูดขึ้น สมาธิผมแตกซ่านทันที มันแต่งตัวเสร็จแล้ว หอมฟุ้งไปทั่ว



“ไม่มาก็ดีแล้ว”ถ้ามันไม่ทัก ผมก็ไม่ได้นึกถึงเลย ครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้าก็วันที่มันเมินผมที่ห้างนั่นแหละ คงหมดสนุกกับการเล่นกับผมแล้วสินะ ดีจริง



“มึงคิดงั้นจริงเหรอวะ”ไอ้พายนั่งยองตรงหน้า ผมนั่งทำงานอยู่บนพื้น มันหยิบดินสอขึ้นมาหมุนเล่น



“เออ ทำไม?”



“ไม่รู้สึกว่าชีวิตขาดๆอะไรไปเหรอวะ หรือคิดถึงเขาสักนิดอะไรงี้”



“ไม่เลยสักนิด กูจะไปคิดถึงทำไมวะ รำคาญจะแย่ ไม่มีมันชีวิตกูโคตรสงบสุขเลย”ไอ้พายคิดว่าผมจะต้องมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไอ้บ้านั่นหรือไง



“เฮ้อ เสียดาย กูก็นึกว่าจะมีลุ้นบ้าง แต่ตอนนี้เขาก็...เออ ช่างเหอะ”มันบ่นอะไรพึมพำก็ไม่รู้



“ไปละ พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยละกัน ถึงภูเก็ตแล้วโทรหากูด้วย”



“เออ มึงก็อย่าเมาให้ใครลากไป”



“เออ กูไปเอาบรรยากาศไม่เมาแน่นนอน”






X






“กูถึงแล้ว ไหนใครบอกไม่เมา นอนเลยไปไอ้สัด”ผมด่ามันแล้วกดวางสาย ตอนนี้ผมอยู่ที่สนามบินภูเก็ตแล้ว รอคนมารับไปที่พัก นึกขึ้นได้เลยโทรบอกไอ้พายซะหน่อยแต่น้ำเสียงที่รับโทรศัพท์นี่อ้อแอ้ยังไม่สร่างเมา เมื่อคืนไอ้พายไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้ถามด้วยว่ามันไปค้างที่ไหนแต่ถ้าให้เดาก็คงไปนอนกับซี้มัน



“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มให้พนักงานที่ร้านกาแฟชื่อดัง พร้อมกับรับอเมริกาโน่ไม่ใส่ไซรัปมา ร่างกายต้องการคาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นอย่างแรง เมื่อคืนทำงานจนถึงตีสอง พอตีห้าก็ต้องตื่นเพื่อเตรียมตัวมาสนามบิน บนเครื่องก็หลับมาตลอดแต่เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ไม่ทำให้หลับเต็มอิ่มดีเลยต้องโด๊บกาแฟเข้าไป



ผมนั่งรออยู่ในร้านประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเบอร์ที่เงียบหายไปพักใหญ่แล้ว ชั่งใจอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับดีสายก็ตัดไปก่อนจะดังขึ้นมาใหม่อีกรอบ



“โทรมาไม?/อยู่ตรงไหน?”ผมกับปลายสายพูดขึ้นพร้อมกัน เรื่องมารยาทอันดีงามในการรับโทรศัพท์นั้นลืมไปได้เลย



“ทำไม?”



“แค่ตอบมาว่าอยู่ไหนมันจะตายหรือไง”



“เออ”



“เออ งั้นก็ไปรีสอร์ทเองแล้วกัน”



“ห๊ะ!”ผมยังไม่ทันฟังให้ชัดเลยมันก็กดตัดสายไปทันที”ไอ้เหี้ยเดียว! พอผมโทรกลับมันก็ไม่รับ เล่นตัวอีกนะมึง ผมโทรกลับไปสามรอบแล้วก็เลิกโทร คิดว่าคนอย่างผมจะง้อมันหรือไง แต่จากที่มันพูดเมื่อกี้ ถ้าฟังไม่ผิดมันพูดว่าให้ผมไปรีสอร์ทเอง แสดงว่ามันต้องมากับพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้มันแน่ๆ มาทำไมวะเนี่ย!



ผมโทรถามพี่ยศเรื่องที่พัก ถ้ารู้ว่าจะให้ใครมารับผมไปเองตั้งนานแล้ว ผมต่อคิวเพื่อรอแท็กซี่แต่จู่ๆก็มีมือดีมาลากผมออกจากแถว




“อะไรวะ!”ไอ้บ้านั่นมาทำหน้าโหดใส่ บีบแขนผมแน่นสะบัดก็ไม่หลุด ทำเอาผมเสียหลักเดินชนคนอื่นตั้งหลายคน หันไปขอโทษแทบไม่ทัน



“ตามมา”



“จะไปเอง”ผมขืนตัวไว้ ในที่สุดก็สะบัดแขนหลุดสักที โคตรเจ็บ



“อย่ามีปัญหามากได้มั้ย”มันเท้าเอว หน้าตาโคตรหาเรื่อง



“ใครกันแน่วะที่มีปัญหา”ทำไมต้องมาทำให้ผมอารมณ์เสียด้วยวะ ตอนนี้ทั้งหิว ทั้งง่วง ยังต้องมาประสาทแดกกับไอ้คนผีเข้าผีออกนี่อีก ทำเหมือนผมไปฆ่าญาติมันตาย



“แล้วจะไปด้วยกันดีๆมันจะตายหรือไง”



“แล้วพี่อ่ะพูดดีๆจะตายหรือไง กูไปทำอะไรให้มาอารมณ์เสียใส่ ทำหน้าแบบนี้ใครเขาจะอยากไปด้วยวะ”



“ตกลงจะไปหรือไม่ไป”



“จะให้ไปก็เดินนำไปดิ”



ไม่อยากเสียเวลาเถียงกับไอ้บ้านี่นานๆ ถ้าไม่ติดว่าอยากจะรีบไปให้ถึงไวๆผมไม่ยอมไปกับมันแน่ คิดว่าจะหลุดพ้นกันไปแล้วนะ ทำไมมันถึงเข้ามาในวงโคจรอีก แต่ก็ใช่ว่าระหว่างที่มันหายไปผมจะไม่รับรู้อะไรเลย เพราะมีไอ้พายอยู่มันชอบเล่านั่นเล่านี่ให้ฟังเป็นปกติ แต่เรื่องที่พูดบ่อยก็เป็นเรื่องไอ้บ้านี่แหละ เห็นว่ามีข่าวซุบซิบว่าคั่วกับนางแบบอยู่ คนเดียวกับที่ผมเห็นที่ห้างวันนั้นนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ใครจะไปมั่วคั่วกับใครก็ช่าง ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตผมอยู่แล้ว




ระหว่างผมกับมันไม่มีคำพูดเกิดขึ้นเลยแม้แต่คำเดียวจนมาถึงที่หมาย เจ้าของที่พักเป็นเพื่อนของพี่ชายมันเปิดบ้านให้หนึ่งหลัง วิวดีสวยมาก ถ้าได้มาพักผ่อนก็คงดีไม่น้อย ราคาไม่ต้องพูดถึงไม่รวยจริงคงไม่มีทางได้พัก ด้วยความที่มันแพงมาก เป็นหลังที่ใครๆก็อยากจอง บ้านหลังนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใช้ถ่ายภาพ จากที่เห็นบริเวณด้านหน้าผมว่ามันก็ควรค่านะเพราะว่าสวยมาก



“มาถึงกันแล้ว เป็นไงคะน้องน่าน เดินทางเหนื่อยมั้ย”ว่าที่เจ้าสาวปรี่เข้ามาทักผมทันที เธออยู่ในชุดเดรสยาวสีขาว ท่อนบนเป็นลูกไม้ กระโปรงยาวพริ้วกรอมพื้น ที่ผมมีดอกไม้แซมประปราย เข้ากับชุดและบรรยากาศริมทะเล



“ไม่ครับ คุณนลินสวยมากเลยครับ”



“ขอบคุณค่ะ แต่เรียกพี่ดีกว่าเนอะ ดูเป็นกันเองดี”ยิ้มสวยจริงๆ



“ครับ”



“เดียว พาน้องเอาของไปเก็บดีกว่าเนอะ พี่รบกวนด้วยนะ”



“ครับพี่ ไม่ได้รบกวนเลย ผมว่าพี่ไปนั่งเฉยๆดีกว่ามั้ยครับ เห็นเดินไปเดินมา เดี๋ยวว่าที่เจ้าสาวเหนื่อยแย่”



“ไม่ต้องมาแซวพี่เลยนะเรา น้องน่านคะ บ้านหลังนี้มีแค่สามห้องนะคะ น้องน่านนอนกับเดียวคงไม่รังเกียจนะคะ”ผมกำลังฟังเพลินๆมาสะดุดตรงประโยคสุดท้ายนี่แหละ ทำไมผมต้องนอนกับไอ้เหี้ยพี่เดียวด้วยวะ!



“ผมนอนกับพี่ยศก็ได้ครับ เกรงใจคุณเดียว”




 “ไม่ต้องเกรงใจหรอก คนกันเอง”เสียงมันสอดแทรกเข้ามาในบทสนทนา



“นั่นสิ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลยว่ารู้จักกันมาก่อน ตอนที่เจอที่ร้านก็ไม่ทักกัน ทำเหมือนคนไม่รู้จัก”ผมยิ้มแหย่ให้พี่นลินแล้วหันไปมองมันตาขวาง มันพูดถึงผมยังไงบ้างเนี่ย แต่มันกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้



“อีกอย่างคุณยศกับคุณฉัตรพักห้องเดียวกัน ถ้าน้องน่านนอนด้วยมันจะอึดอัดไปนะคะ”ยิ้มหวานจนผมไปต่อไม่เป็น จะแย้งอะไรก็เดี๋ยวจะกลายเป็นผมที่เรื่องมาก เขาจ้างมาทำงานก็ยังจะเรียกร้องเอานั่นเอานี่ ซึ่งผมไม่ยอมให้ใครมาว่าแบบนั้นได้



“ครับ งั้นก็ตามที่พี่นลินบอกครับ ผมไม่มีปัญหา”



“ตามมาสิ ไปเก็บของ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น”ทำเป็นพูดดี หน้าตายิ้มแย้ม เมื่อกี้อยู่กับผมสองคนทำหน้าอย่างกับถูกบังคับไอ้กลืนอึ ผมเดินตามมันมีที่ชั้นสอง ความจริงชั้นล่างมีห้องพักอีกห้องคาดว่าเป็นห้องที่พี่ยศกับพี่ฉัตรพัก



“เข้าไปสิ”ผมมองลอดประตูที่เปิดค้างไว้แล้วรู้สึกขัดใจมันเป็นดับเบิ้ลเบดคิงไซส์ ทำไมไม่ใช่ซิงเกิ้ลเบดฟระ ห้องค่อนข้างกว้าง ตกแต่งแนว less is more ผมวางกระเป๋าเป้ไว้ในตู้เสื้อผ้า ยังไม่จัดตอนนี้เพราะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปทำงานก่อน แต่ในตู้ก็มีเสื้อผ้าของอีกคนแขวนอย่างเป็นระเบียบอยู่ฝั่งหนึ่ง



“ผ้านี่ใช้ผืนไหนได้”



“จะใช้ผืนไหนก็หยิบๆไป”ห่านิ จะพูดดีๆไม่กวนไม่ได้ใช่ป่ะวะ ผมอุตส่าห์พูดดีด้วยแล้วนะ ต่อจากนี้ไปผมจะไม่คุยกับมันอีกคอยดู พอล้างหน้าเสร็จผมก็หยิบกระเป๋าสำหรับใส่ลูกรักลงไปชั้นล่าง ส่วนไอ้ผีบ้านั่งเป็นตอไม้อยู่บนเตียงเหมือนคนไม่มีอะไรทำ เอาจริงนะผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะมาด้วยทำไม ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเขาเลย




“พี่ยศ พี่ฉัตรหวัดดีครับ”



“เออดี กินไรมายัง นั่นของว่างรองท้องไปก่อน”



“ครับพี่ เดี๋ยวจะถ่ายตรงนี้ที่เดียวเหรอ”ผมเห็นเซ็ตฉากไว้ที่ระเบียงที่ยืนออกมาจากตัวบ้าน มองไปเห็นทะเลสีฟ้าใสจรดขอบฟ้า



“เดี๋ยวจะถ่ายที่ส่วนอื่นของรีสอร์ทด้วย”



“ครับ”ผมหยิบแซนด์วิสขึ้นมากัดหนึ่งคำแล้วคาบไว้เพื่อจะได้เคี้ยวเรื่อยๆ หยิบเอาลูกรักออกมาประกอบร่าง ผมชอบความรู้สึกแบบนี้ ตอนที่ผมได้ใช้เวลากับสิ่งที่ผมรัก เวลาจับกล้องทีไรเหมือนตัวมันจะลอยๆได้ ราวกับจะหลุดไปอีกโลก เวลามองผ่านเลนส์ไป เป็นความรู้สึกดีที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ เหมือนกับว่าเราได้เก็บโลกทั้งใบมาไว้ในมือ



ผมกดถ่ายเช็คแสงเงา เช็คภาพ ปรับตั้งค่าไปเรื่อย แล้วก็หยุดหยุดที่ไอ้เหี้ยพี่เดียวที่ไม่รู้ว่ามานั่งเกะกะการทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆมันนั่งคุยกับพี่ชายมันอีกด้านหนึ่งไม่ได้ขวางเท่าไหร่แต่ผมเห็นมันแล้วรู้สึกรกหูรกตา เลยเบนกล้องหนีไปทางอื่น หน้าที่ของผมคือถ่ายแคนดิตดังนั้นผมจะกดถ่ายตอนไหนก็ได้ อย่างเช่นนตอนนี้ที่พี่นลินกำลังทำหน้ามุ่ยเมื่อช่างแต่งหน้ากำลังถามอะไรเธอสักอย่าง อาจจะเป็นสีลิปสติก เพราะเห็นหยิบมาให้ดูหลายแท่งมาก รูปที่เป็นไปตามธรรมชาติมักจะออกมาดูดีเสมอ การถ่ายพรีเวดดิ้งส่วนมากอาจจะทำให้อาร์ตโดยการจัดแต่งท่าทางของว่าที่บ่าวสาวไม่มองกล้องยังไง แต่มันก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนกับตอนที่เราถ่ายเขาแบบไม่รู้ตัวอยู่ดี



พี่ยศกับพี่ฉัตรเริ่มทำงานหลังจากที่ว่าที่บ่าวสาวแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย แต่ผมเริ่มทำงานได้สักพักแล้ว ได้มาหลายหลายสิบรูป แต่ละรูปซึ่งผมว่ามันโอเค แต่คนที่จะบอกว่ามันดีหรือไม่ดีก็คงต้องเป็นเจ้าของรูปทั้งคู่ ถ่ายไปได้สักพักความหิวก็ทำร้ายผมแซนด์วิชสองชิ้นที่กินเข้าไปก่อนหน้าย่อยสลายไปหมดแล้ว ตอนนี้ร้อนด้วยอยากได้น้ำเย็นๆสักแก้ว ติดตรงที่ว่าโต๊ะสำหรับวางอาหารมีใครบางคนนั่งอยู่ ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่มึงบ้าหรือเปล่าครับ ถอดแว่นกันแดดออกก่อนดีมั้ย ไอ้เหี้ยพี่เดียวเหมือนมาพักผ่อนเสื้อยืดสีฟ้าตัวพอดีตัวเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กางเกงขาสั้นสีขาว สวมแว่นกันแดด ในมือมีหนังสืออ่านเล่น จิบน้ำมะพร้าวไปด้วย สบายเกิ๊น



ความหิวทำให้ผมทนไม่ไหวเดินเข้าไปหาของกินกับน้ำ โชคดีที่มันรับโทรศัพท์แล้วเดินไปคุยที่อื่นทางเลยสะดวกผมนเลยได้นั่งพักกินขนมกับน้ำรองท้องก่อนจะถึงมื้อเที่ยง



“หิวมากเหรอ กินข้าวมั้ยจะสั่งให้”



“แค่กๆ”มันเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย



“เห้ย กินดีๆ เอ้าน้ำ”ผมรับแก้วน้ำมาอย่างไม่อิดออดคือจะตายเพราะสำลักแล้วไม่มีเวลามาเล่นตัว



“ตะกละ”มันว่า ผมมองตาขวาง นับหนึ่งถึงสิบในใจผมจะไม่ตอบโต้ ไม่พูดไม่คุยกับมันเด็ดขาด ผมหยิบน้ำส้มมาหนึ่งขวดแล้วกลับมาทำงานของตัวเองต่อมันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรไม่รู้แต่ผมไม่สนใจ ตลอดวันนั้นผมไม่มองหน้ามันอีก มันเองก็ไม่ได้เอาตัวเข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แต่ผมก็รับรู้ได้ว่ามีคนคอยจับจ้องตลอดเวลาที่ทำงาน หันไปทีไรก็เจอมันมองมาตลอดเวลาด้วยสายตานิ่งๆ



“เย็นนี้เดี๋ยวอีกสักครู่ทางรีสอร์ทจะนำอาหารมาเสิร์ฟนะคะ แล้วก็มีพวกอาหารทะเลสดๆด้วย ลินสั่งมาปิ้งย่างกันทานกันน่าจะสนุกดี”ระหว่างที่พวกผมกำลังคุยกันเรื่องรูปที่ถ่ายมาวันนี้กันอยู่ พี่นลินที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ถ่ายเซ็ตเย็นริมทะเลที่เห็นพระอาทิตย์กำลังจะจมน้ำลงไปงานในวันนี้ก็สิ้นสุดลง



“ครับ ขอบคุณครับ”



“ว้าว รูปนี้สวยจัง”พี่นลินทำตาโตชี้มาที่โน้ตบุ๊คของผม ผมกำลังจะลองแต่งภาพดู




“เหมือนไม่ใช่พี่เลยค่ะ ถ่ายสวยกว่าตัวจริงอีก”




“ตัวจริงก็สวยครับพี่”



“ปากหวานนะคะ มีแฟนหรือยัง พี่แนะนำผู้หญิงดีๆให้เอามั้ย”



“อย่าเลยครับ สงสารผู้หญิงเปล่าๆ”



“แสดงว่าเราร้ายไม่เบาสินะ”พี่นลินค้อนใส่ น่ารักดี ผมก็หัวเราะเบาๆรับคำนั้น



“ผมว่าอย่าเรียกว่าร้ายดีกว่าครับ เด็กนี่เสือยังเรียกพี่ เกินคำว่าร้ายไปเยอะ”



“โห พี่ยศอย่าขายผมสิครับ”




“แบดบอยสินะ แต่แบบนี้สิเร้าใจผู้หญิง”พี่นลินตาวิบวับ ผมยิ้มรับอีกรอบไม่ปฏิเสธ



“พี่ลินครับ พี่แชมป์ถามหาอยู่ครับ”ไอ้มารจอมขัดขวางปรากฏตัวขึ้นอีกแล้ว บรรยากาศดีๆเมื่อครู่หายวับไปทันที



“อุ้ยตายจริง ว่าจะลงมาหยิบของให้แชมป์ลืมไปเลย”เธอว่าแล้วก็รีบเดินเร็วๆหายไป



“ไม่ไปอาบน้ำกันก่อนเหรอครับ เจอลมทะเลน่าจะเหนียวตัวกัน”มันถามโดยไม่เจาะจงตัวคน



“ว่าจะไปกันอยู่นี่แหละครับ พอดีคุยเรื่องรูปแล้วก็งานพรุ่งนี้เพลินไปหน่อย”หน้าที่คุยกับมันผมปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ยศ ผมปิดโน้ตบุ๊คแล้วเก็บเมโมรี่ลงกล่องพร้อมกับกล้องที่ถอดเลนส์ออกเรียบร้อยแล้วใส่ลงกระเป๋าเป้สำหรับเก็บอุปกรณ์ถ่ายรูปโดยเฉพาะ



“ครับ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ เหมือนเขาจะเอาอุปกรณ์ปิ้งย่างมาให้แล้ว”



“พี่ยศผมไปอาบน้ำก่อนนะ”ทันทีที่ให้เหี้ยพี่เดียวเดินไปทางด้านหลังของบ้านที่ติดกับชายหาด ผมก็บอกพี่ยศแล้วรีบเก็บของเดินขึ้นชั้นบน กำลังคิดอยู่เลยว่าจะหาทางมาอาบน้ำโดยไม่มีมันอยู่ในห้องได้ยังไง



ในห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัว อ่างอาบน้ำใหญ่จนผมอยากลงไปแช่ให้สบายตัวแต่กลัวว่าจะสบายจนเพลินเวลาแล้วทำให้คนอื่นรอทานข้าวเลยทำได้แค่รีบอาบน้ำ แต่ถึงจะรีบมากยังไงก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงอยู่ดี ออกมาก็ต้องตกใจเมื่อมีผีบ้านั่งอยู่บนเตียง กอดอกมองมาทางห้องน้ำ ดีที่ผมไม่ได้หลุดพูดอะไรออกมา แต่ไม่ดีตรงที่ผมใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำแค่ตัวเดียวนี่แหละ เสื้อผ้าก็ยังอยู่ในกระเป๋ายังไม่ได้รื้อออกมาจัดเลยเข้าตู้เลย หยิบแค่พวกอุปกรณ์สำหรับล้างหน้า อาบน้ำไปเท่านั้น มันต้องตั้งใจขึ้นมาหาเรื่องแน่ๆไม่อย่างนั้นมันจะขึ้นมาทำไมทั้งที่ตัวเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว



“คุยกันหน่อยสิ”เสียงเจ้ากรรมนายเวร



ผมหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าขึ้นมาแขวนทีละตัวอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาในห้องนี้ให้นานที่สุด แต่พอคิดอีกทียังไงคืนนี้ผมก็ต้องนอนในห้องนี้ ต้องเผชิญหน้ามันทั้งคืนอยู่ดีหรือว่าผมควรจะทำตัวเนียนๆ ไปคุยกับพี่ยศพี่ฉัตรแล้วก็นอนที่ห้องนั้นไปเลยดีนะ



“หูหนวกหรือไง”มันคว้าไหล่ผมให้หันไปหาแล้วกระชากเสื้อที่ผมกำลังจะใส่ออกจากมือไป ต่างคนต่างจ้องตากันอย่างไม่ลดละ



“หึ จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะไม่ยอมพูดด้วยใช่มั้ย ทำได้ทำได้ หลุดพูดเมื่อไหร่เจอดีแน่”มันชี้หน้าคาดโทษไว้แล้วจะปาเสื้อใส่ สัดเอ๊ย! อะไรของมันวะ?



ผมไม่รู้ว่าระหว่างผมกับมันทำไมถึงกลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ต้นเหตุมันมาจากอะไรนะ ผมก็ทำตัวปกติดี มีแต่มันนี่แหละที่มึนตึงใส่ก่อน พอผมตอบสนองบ้างทำมามีอารมณ์ ผมรีบแต่งตัวให้เสร็จ หยิบกล้องมิร์เรอร์เลสตัวใหม่ที่เพิ่งสอยมาลงมาด้วยกะเอาไว้ถ่ายเล่นๆตอนทานข้าว แล้วก็ลองฟังก์ชั่นของกล้องด้วย



อาหารมื้อเย็นก็อร่อยดี บรรยากาศดี พี่แชมป์กับพี่นลินก็เป็นกันเองมาก ทุกอย่างมันดีมากยกเว้นคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมนี่แหละ ที่ทำให้บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดี ขณะที่คนอื่นเขาสนุกสนานแล้วแฮปปี้กับอาหารมื้อนี้มากๆ พูดคุยกันเรื่องสถานที่จะไปถ่ายกัน มันก็นั่งกินเงียบๆ จิบไวน์หมดไปหลายแก้ว ไม่สนโลกเลย จะมีหืออือบ้างก็ตอนที่พี่ชายมันหันมาถามความเห็น ส่วนผมก็มีส่วนร่วมบ้างเป็นบางครั้งที่เกี่ยวกับงาน แต่นานเข้าก็เริ่มเบื่อๆ ขี้เกียจปั้นหน้าต่อหน้ามันเลยขอตัวออกมาถ่ายรูปเล่น เดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย เจออะไรน่าสนใจก็ถ่ายไปเรื่อย จนรู้ตัวว่าออกมาไกลจากวิลล่าที่พักพอสมควร ที่นี่เป็นรีสอร์ทระดับห้าดาว ที่ดินตรงนี้นับว่าเป็นจุดที่มองเห็นวิวทะเลอันดามันที่สวยมากๆแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน อาจจะสวยกว่าที่แหลมพรมเทพด้วยซ้ำ



ผมแวะนั่งดื่มเบาๆที่บาร์ด้านนอกของรีสอร์ท วิวตรงนี้มองไปก็เห็นท้องทะเลมืดดำ แต่สิ่งที่น่ามองก็คงเป็นสาวๆ ที่แต่งตัวได้เข้ากับอากาศของประเทศไทย ส่วนมากก็เป็นต่างชาติ คนเอเชียหรือคนไทยน้อยมาก มีสาวๆเข้ามาคุยเข้ามาขอชนกับผมบ้าง คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคก็แยกย้ายกันไป จุดหมายก็แค่การคุยไม่ได้มาหาเรื่องทำอย่างว่า ซึ่งถึงมีใครจะเสนอมาคืนนี้ผมก็ไม่พร้อมจะสนองทั้งนั้น มาทำงานด้วยแล้วก็ไม่มีอารมณ์ด้วย ผมดื่มเพลินจนลืมตัวกว่าจะรู้อีกทีเบียร์ขวดที่สี่ก็หมดลง เริ่มมึนนิดๆ แต่ก็เดินกลับได้สบายไม่มีซวนเซแน่นอน



“ไปไหนมาตั้งนาน โทรศัพท์ก็ไม่เอาไป”มันมายืนดักรอหน้าวิลล่า ผมเดินผ่านมันเข้ามาด้านใน พี่ยศกับพี่ฉัตรเดินเข้ามาหาทันที



“ไปไหนมาวะ”



“โทษทีพี่ ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยน่ะ แล้วก็ดื่มที่บาร์เพลินไปหน่อย”



“เมาป่ะเนี่ย”



“ไม่ครับ ดื่มนิดเดียวจริง นั่งซึบซับบรรยากาศมากกว่า”



“เออ งั้นก็ไปนอน พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปถ่ายพระอาทิตย์เช้าที่...”พี่ยศบอกสถานที่กับบอกเวลาที่จะต้องออกเดินทางเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันเข้านอน ว่าที่บ่าวสาวเข้านอนกันไปได้สักพักแล้ว





(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 15-04-2016 21:54:13
.


.



.





“คิดว่ามาเที่ยวเล่นหรือไง”เข้าห้องได้ไอ้คนที่เดินตามหลังมาก็เริ่มบ่น



“...”



“ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต”แม่งมากไปละ เห็นผมไม่ตอบโต้ก็เอาใหญ่ ผมคว้าหมอนอิงที่วางอยู่ปลายเตียงเขวี้ยงใส่หน้ามันไป เข้าเป้าเป๊ะ



“โอ๊ยๆๆ เจ็บเหี้ยปล่อย!”มันเข้ามาประชิดตัวผมไวมาก จับแขนผมบิดไปทางด้านหลัง แต่เมื่อบอกให้ปล่อยมันก็ยอมปล่อย แต่เป็นการปล่อยที่ผลักผมหน้าทิ่มลงบนเตียง



“เป็นบ้าอะไรวะ”



“ยอมพูดด้วยแล้วใช่มั้ย จำได้มั้ยว่าเคยบอกไว้ว่าไง”



เหี้ยละ!



มันขึ้นมาบนเตียงกระชากขาผมที่กำลังจะลุกขึ้นมายันมันจนล้มลงบนเตียงอีกรอบ หัวฟาดอย่างแรงถึงที่นอนมันจะนุ่มแต่ฟาดลงไปแรงๆก็มึนได้เหมือนกัน รวมกับมึนเบียร์ด้วยยิ่งไปกันใหญ่



“ทำไมชอบให้ใช้กำลัง”



“ไม่ได้ชอบเว้ยไอ้เชี่ย โอ๊ะ”โดนมันตบปากเน้นๆ โคตรเจ็บน้ำตาเล็ดเลยจริงๆนะ เลือดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้




“ถ้าจะเปิดปากแต่ละทีคือคำด่าก็เงียบๆไปเลยไป”




“จะเอาไง เดี๋ยวให้พูดเดี๋ยวไม่ให้พูด อื้อ!!”



ดิ้นสิครับรออะไร จู่ๆมันก็ก้มลงมาจูบผม แบบว่ากะจังหวะไว้เป๊ะๆ ไม่มีโอกาสให้ผมได้ตั้งตัวเลยสักนิด ขยับหนีก็ไม่ได้เพราะมือมันล็อคคอผมแน่น ทุกส่วนของร่างกายถูกมันตรึงแน่นด้วยร่างกายที่แข็งแรง ผมบิดมืออกมาได้ก็พยายามผลักมันออกจากตัวแต่มันไม่ขยับเลย



“โอ๊ย แม่งกัดทำไมวะ”ในที่สุดมันก็ยอมถอยแต่ก็ฝากเลือดไว้ที่ริมฝีปากผม



“หมั่นไส้คน”



“กูหมั่นไส้บ้างได้มั้ย แม่ม เลือดด้วย”



“ได้ แต่ต้องทำกลับด้วยวิธีเดียวกันนะ”มันยิ้มเลว ผมเลยผลักมันจนหน้าหงาย แล้วพลิกตัวมาอีกฝั่งของเตียง มันก็ไม่ได้ตามมาแต่ขยับตัวนอนแผ่หันหน้ามาทางผม



“ใครจะไปทำ คิดว่าตัวเองน่าจูบตายล่ะ”



“หึ จำคำพูดตัวเองไว้นะ อย่าให้ได้ยินวันไหนเรียกร้องจูบจากพี่”



“ไม่มีวัน”ผมถีบสีข้างมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ มันทำตาวาววับแล้วกระชากข้อเท้าจนผมไถลไปตามแรงดึง นอนราบลงไปบนเตียงอีกรอบ แรงควายไปไหนวะ



“เห้ยๆ ปล่อยก่อน มึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย”



“สมใครใช้ให้ไปดื่ม ชอบจังนะอ่อยสาวเนี่ย”ตามันดุมาก ผมไม่อยากสบตากับมันเลยจริงๆ แต่ถ้าแสดงออกว่ากลัวก็ไม่ใช่ผมสิ



“แล้วยุ่งไรด้วย”



“ยุ่งไรด้วยๆ พูดมาได้อยากโดนกัดปากอีกไง?”มันลุกขึ้นเงื้อมือจะตบผม ท่าทางมันหงุดหงิดจริงๆ แต่คือบอกว่าจะกัดปากแต่เงื้อมือคืออะไรวะ เอะอะก็ใช้กำลัง




“ตบมากูต่อยกลับอ่ะ”



“อยากจะบีบคอให้ตายเลยเด็กเหี้ยนี่”ผมคิดว่าตอนนี้ตาตัวเองต้องเบิกกว้างแน่ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมได้ยินชัดเต็มสองหูว่ามันด่าผมว่าเด็กเหี้ย และคงกว้างจนตาแทบถลนแน่ๆเมื่อคนที่อยากจะบีบคอผมกลับซบหน้าลงที่ซอกคอแล้วบ่นงึมงำให้ได้ยิน ลมหายใจอุ่นทำให้ผมจั๊กจี้แปลกๆ



“เป็นบ้าอะไรถึงไม่คุยด้วย”



“ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน”คนที่หายตัวไป พอเจอหน้ากันก็ทำเมิน มีโอกาสได้คุยก็เสือกกวนตีนมารวนใส่ซะงั้น



“ใคร ก็เห็นอยู่ว่าคุยด้วยก็ไม่ยอมคุย”มันว่า



“แล้วใครเมินก่อนวะ พอเจอหน้าก็พูดกวนตีน น่าจะหายๆไปเลย ไม่ต้องมาเจอกันอีก”



“หืม...นี่อย่าบอกนะว่างอนพี่”มันเงยหน้าขึ้นมาจากคอ แล้วยิ้มกรุ้มกริ่มน่าถีบ



“สมองมีปัญหาหรือไง ไม่ได้งอนเว้ย อย่ามาใช้คำน่าขนลุกแบบนี้”คำๆนี้ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของผมเลย มันคิดได้ไงวะ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องของมันเลย



“แล้วพี่พูดมาคือ?”



“แค่บอกให้ฟังเว้ย ลุกไปดิ มานอนทับอยู่ได้คิดว่าตัวเล็กไงวะ”



“ไม่เล็กหรอก น่านน่าจะรู้ดี”ผมว่ามันไม่ได้หมายถึงตัวแล้ว ไอ้เหี้ยพี่เดียวนี่แม่งเป็นคนหลายบุคลิกแน่ๆ แต่ความเหี้ย ความเสื่อมนี่คือคงสันดานส่วนลึกของมัน



กว่าจะได้แยกออกจากกันก็เปลืองพลังงานไปมากโข ไอ้เหี้ยพี่เดียวที่แสนกวนตีนฟื้นคืนชีพแล้ว สงสัยผีจะออก ถึงผมจะติดใจสงสัยกับการหายตัวของมันไปสองสัปดาห์แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม เดี๋ยวจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมไปคิดอะไรกับมัน



“นี่ไม่ถามหน่อยเหรอว่าหายไปไหน”ถึงผมไม่เริ่มมันก็เริ่มเอง ตอนนี้ปิดไฟแล้ว ผมเตรียมนอนเต็มที่เพราะต้องตื่นเช้ามาเตรียมตัวให้ทันก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไอ้คนข้างๆมันก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ



“ไม่ได้อยากรู้”พอผมบอกไปห้องก็เงียบลงได้ยินแค่เสียงลมหายใจเบาๆของผมกับมัน



“บังเอิญไปเห็นเด็กเหี้ยคนนึง ออกไปกับผู้หญิงไม่เห็นหัวกันก็เลยโมโห เย็นวันต่อมาก็ไปเที่ยวกับเด็กม.ปลายอีก เลยยิ่งโมโหไปใหญ่ ไม่อยากเห็นหน้า แต่พอไม่ได้เห็นหน้าก็ยิ่งคิดถึง แต่เด็กเหี้ยมันก็ไม่สนใจกันเลย เราไม่ไปหาไม่โทรไปก็ไม่มีการโทรมา”



ผมนอนฟังไอ้ผีบ้ามันพล่ามไปเรื่อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ‘เด็กเหี้ย’ นั่นหมายถึงใคร แต่ผมกลับยิ้มไม่ได้โกรธมันสักนิด ก็สิ่งที่มันพูดมาเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจไม่มีผิด แต่ไอ้ที่บอกว่าคิดถึงแล้วที่ควงกับนางแบบไปกินข้าวดูหนังนี่หมายความว่าไง ไอ้เหี้ยพี่เดียว!



“เห้ย หลับแล้วเหรอน่าน ได้ยินที่พูดป่ะเนี่ย”



“หลับๆไปสักทีพล่ามอยู่ได้”



“เด็กเหี้ยเอ๊ย”ท่าทางต่อไปนี้มันจะเรียกผมแบบนี้จริงจัง



“ด่าอีกที กูยันตกเตียงจริงๆไอ้เหี้ยพี่เดียว”ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาเอาหมอนฟาดมัน หมั่นไส้คนเว้ย!



“เออ นอนๆ ลงมานอนมาพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”มันวางหมอนผมลงแล้วตบเรียก คือผมคงหลับไปนานแล้วถ้ามันไม่มัวพล่ามบ้าบอ



“มากอดทำไมวะ ปล่อยดิ”พอผมหันหลังล้มตัวลงนอนปุ๊บมันก็กอดหมับปั๊บ ขนลุกไปทั้งตัว



“คิดถึง”เหมือนมีไฟฟ้าวิ่งผ่านไปตามเส้นเลือด ใจกระตุกไปกับเสียงนุ่มๆของมันที่ดังข้างหู ร่างกายหยุดนิ่งไม่ไหวติงทันทีราวกับเป็นอัมพาต



“ต่อไปนี้ จะไม่เป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวแล้ว ถ้าเจอว่าออกไปนอนกับผู้หญิงเมื่อไหร่จะตามไปลากกลับทันที”



“เป็นไรกันวะถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนี้”



“ต้องให้ย้ำมั้ยว่าเป็นอะไร ทบทวนกันหน่อยดีมั้ย หึหึ”ไอ้เลว! ไอ้เหี้ย!



“ถ้าอยากทีหลังก็มาหาพี่จะจัดให้หายอยากเลย แต่ห้ามไปนอนกับคนอื่น ไม่ชอบ หวง”เออ เอาเข้าไปผมนี่ก็นอนนิ่งให้มันกอด หาคำพูดมาโต้แย้งมันไม่ได้สักคำ เหมือนสมองมันตื้อๆยังไงไม่รู้



“ต่อจากนี้ไปให้ถือว่าเราสองคน...เป็นแฟนกันแล้วนะ”





 




----------------

จะมาลงคืน 11 แต่ไม่ทัน พอคืน 12 ก็กลับดึก ไม่ได้ลงอีก รีบเก็บของจะกลับบ้าน แล้วก็ลืมเอาที่พิมพ์ไว้แล้วกลับมาด้วย
ต้องมานั่งระลึกพิมพ์ใหม่อีก #ร้องไห้หนักมาก กว่าจะเสร็จก็เข้าคืน 15 ต้องมาต่อสู้กับเน็ตสัญญาณอ่อนยิ่งกว่าชีพจรคนใกล้ตาย
แต่ยังไงก็มาลงแล้วนะคะ T-T ขอให้มีความสุขช่วงวันหยุดนี้นะคะ อากาศร้อนมากดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
รักคนอ่านเสมอ  :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2016 22:34:51
เดียว เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของแบบเต็มที่ :katai2-1:
น่าน ก็มีอาการหวั่นไหวแล้ว  :mew1:
ชอบ รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-04-2016 01:15:28
ไรท์ก็ดูสุขตัวเองตัวเองด้วยน้าาา~~  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 16-04-2016 02:19:18
พี่เดียว นี่เอาแต่ใจจิงๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-04-2016 02:58:19
เมื่อไหร่น้ำน่านจะใจอ่อนน้าาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 16-04-2016 05:53:39
อ่อพี่เดียวที่หายไปนานๆคือหายไปเป็นบ้าอยู่คนเดียวสินะ โอ้โหวววยอมใจ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 17-04-2016 05:39:50
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 20-04-2016 07:20:05
อ่อ เพราะแบบนี้นี่เอง

แล้วน่านว่าไง ตกลงอ่ะเปล่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-04-2016 23:43:45
น่านว่าไงงง พี่เดียวขอแล้วนะ ตกลงป่าววว   :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.18 [15.4.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-04-2016 13:42:32
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 09-05-2016 23:16:37
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero




- 19 -







   ตลอดเวลาที่ผมทำงานอยู่ก็มีสายตาคมๆเคยจับจ้องไปทุกทีเหมือนมีพวกโรคจิตเคยติดตามชีวิตแบบเรียลลิตี้โชว์ ไอ้โรคจิตนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนหน้าด้านที่โมเมว่าผมเป็นแฟนมัน แน่นอนว่าเมื่อคืนถึงจะมึนๆ แต่ผมไม่คล้อยตามเออออไปด้วย การที่คนเราพลาดมีอะไรกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นแฟนกันนี่หว่า ไม่อย่างนั้นผมก็มีแฟนเป็นร้อยแล้วดิ สำหรับผมถ้าจะเรียกใครว่าเป็นแฟนก็คงต้องเป็นคนที่รู้สึกอะไรด้วยเท่านั้น อย่างน้อยต้องรู้สึกชอบในตัวคนๆนั้นที่นอกเหนือไปจากเรื่องบนเตียงที่เราเข้ากันได้ดี ซึ่งสำหรับผมแล้วเป็นไปได้ยากมากๆ แล้วยิ่งคนๆนั้นเป็นไอ้เหี้ยพี่เดียวมันยิ่งยากขึ้นไปอีก แล้วอย่างที่รู้กันว่าผมนิยมความสัมพันธ์คืนเดียวจบ บางคนอาจจะหลายครั้งถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วจำได้ว่าถึงใจ เรื่องที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ผูกมัดกับใครสักคนด้วยคำว่าแฟนมันเลยไม่เคยมีอยู่ในหัวเลยสักนิด ในทางกลับกันคนอย่างไอ้เหี้ยพี่เดียวก็คงไม่ต่างจากผม มันเลยทำให้ผมแปลกใจว่ามันต้องการอะไรถึงได้พยายามยัดเยีบดตัวเองเข้ามาในชีวิตผม ขู่เข็ญให้ยอมเป็นแฟนด้วย มันต้องประสาทกลับแน่ๆ




ส่วนผมนี่ประสาทจะกิน!




เลิกจ้องสักทีสิโว้ยยยยย เกร็งจนนิ้วกดชัตเตอร์ไม่ลงแล้ว!




คือมันจ้องแบบจริงจัง จ้องแบบไม่กลัวใครจะจับได้เลยว่ากำลังจ้องผมอยู่ ผมว่าทุกคนในที่นี้ต้องจับสังเกตได้แน่นอน ผมพยายามโฟกัสไปที่งานไม่สนใจสายตาแรงกล้าของคนว่างงาน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างแต่สุดท้ายการถ่ายรอบเช้าก็จบลง แล้วก็ต้องเตรียมตัวไปถ่ายบนเรือยอร์ชที่ได้อภินันทนาการมาจากเพื่อนเจ้าบ่าว สาวๆทีมคอร์สตูมที่แยกไปพักอีกรีสอร์ทหนึ่งต่างพากันตื่นเต้นกันใหญ่ที่จะได้ล่องเรือหรูกลางทะเลอันดามัน ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกน้ำที่แสนโรแมนติก ตัวผมเองก็หวังจะได้ภาพสวยๆติดมือกลับไปเหมือนกัน




“เห้ย!”ตกใจสิครับ จู่ๆก็มีอะไรเย็นๆมาแนบแก้มตอนที่ผมกำลังไล่ดูรูปในกล้อง




“น้ำสักหน่อยสิ”ผมรับโค้กกระป๋องเย็นๆมาอย่างไม่อิดออดกำลังอยากดื่มอะไรพอดี



“ขอบคุณ”



“ไม่เป็นไร ทำหวังผล เผื่อจะใจอ่อนเร็วๆ”




“หึ ฝัน”ผมยิ้มเหยียดใส่ไอ้พี่เดียว แต่มันกลับทำท่าสบายๆ ยิ้มบางๆไม่ทุกข์ร้อน เมื่อคืนผมคิดว่ามันจะแสดงอาการฟึดฟัดขัดอกขัดใจที่ผมไม่ไหลไปตามน้ำ ปฏิเสธการเป็นแฟนกับมัน ซ้ำยังถีบมันซ้ำเกือบตกเตียง มันแค่มองตาขวางๆแล้วถอนหายใจพร้อมกับพึมพำประมาณว่ากะอยู่แล้วว่าผมต้องปฏิเสธ คนเราอ่ะนะรู้แต่ก็ยังทำ ไม่เรียกว่าบ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร




“ฝันก็ฝัน เดี๋ยวฝันก็เป็นจริง”




“มั่นใจเหลือเกินนะ”ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกันวะ




“ก็นิดนึง”มันยิ้มน่าหมั่นไส้




ผมเพลียที่จะต่อปากต่อคำกับมัน เลยปล่อยให้มันเพ้อมโนไป ตอนนี้ระหว่างผมกับมันกลับมาคุยกันเหมือนปกติ ไอ้ที่ไม่สบอารมณ์ก่อนหน้านี้ก็ปล่อยผ่านมันไป โบราณว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา




เราพักทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เพื่อนเจ้าบ่าวแนะนำมาอีกตามเคย รสชาติดีมากๆผมซัดจนอิ่มพุงกาง สะสมพลังไว้ทำงาน แต่ไม่รู้ว่าพอขึ้นเรือไปแล้วจะเมาหรือเปล่าไอ้เรือยอร์ชอะไรนี่ยังไม่เคยขึ้นสักที แต่คิดว่ามันคงจะไม่เมาหรอกมั้งไม่งั้นผมคงได้ใจบุญเอามื้อเที่ยงที่กินเข้าไปบริจาคให้เป็นอาหารปลาในทะเลแน่ๆ ระหว่างที่นั่งทานก็มีคนให้ความสนใจกลุ่มของพวกผมเป็นพิเศษ อาจเพราะการแต่งตัวของว่าที่บ่าวสาวที่เด่นสะดุดตา แต่ที่น่าหมั่นไส้ก็คือมีสาวเข้ามาขอเบอร์ไอ้พี่เดียวด้วย แต่ผมไม่รู้ว่ามันให้ไปหรือเปล่า ไม่ได้สนใจออกมาเข้าห้องน้ำซะก่อน พอจบมื้อกลางวันเราก็มาที่ท่าเรือพร้อมจะขึ้นเรือยอร์ช




“อ่ะ กินซะ”



“?”ผมเลิกคิ้วถามแทนคำพูด เมื่อมันยื่นแผงยาอะไรก็ไม่รู้มาให้



   “ยาแก้เมาเรือ กินกันไว้ก่อน เผื่อเมาเรือแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ไหว”



   “แหม่ รักษาผลประโยชน์เหลือเกินนะครับท่านประธาน”อดประชดแดกดันมันไม่ได้จริงๆ




   “ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นห่วงต่างหาก”



   “....”มันพูดหน้าตาจริงจังมาก มาแบบนี้ไปต่อไม่ถูกเลย มันจั๊กจี้แปลกๆเวลามีคนพูดว่าเป็นห่วงแบบซึ่งหน้าอย่างนี้



   “รับไปสิ”



   “ขอบคุณ”



   “รู้จักขอบคุณ น่ารักๆ”



   “ฮึ่ย”ผมปัดมือที่ลูบหัวตามจังหวะที่มันพูดว่า ‘น่ารักๆ’ ออก ทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบไปได้ เจ้าของมือหวัเราะอารมณ์ดี ผมว่ามันต้องกินยาผิดมาแน่ๆ ไม่ก็พื้เนื้อ ถึงได้ทำตัวประหลาด นอกจากจะคอยมองคอยจ้องเวลาผมทำงานแล้ว ตอนไหนที่ผมว่างมันก็มักจะพาตัวมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆตลอด ใกล้จนพี่ยศต้องมาแอบกระซิบถามว่ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ผมเลยแถไปว่าไอ้พี่เดียวมันสนใจเรื่องถ่ายรูปเลยเข้ามาคุยด้วย




   พวกเรากลับมาถึงฝั่งตอนหนึ่งทุ่มหิวโซจนแทบจะจับหมึกกินสดๆตอนที่เรือยังไม่เทียบท่า แต่ด้วยความรอบคอบของพี่นลินที่เตรียมสั่งมื้อเย็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พอมาถึงรีสอร์ทก็สามารถทานกันได้เลย วันนี้พวกทีมคอร์สตูมก็มาร่วมทานกับพวกเราด้วย มีแอลกอฮอล์ให้จิบชุ่มคอด้วย เพราะพรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว สามารถตื่นสายได้แต่อย่าเลยเวลาเช็คเอ้าท์เท่านั้นเอง




   ตอนนี้ผมกำลังถูกรุมล้อมด้วยสาวๆที่เข้ามาดูรูปที่ผมถ่ายให้ อันที่จริงผมถ่ายทุกคนที่อยู่บนเรือ เพราะอาจจะมีโอกาสไม่มากที่จะได้มาชมควมงามของท้องทะเลแบบนี้อีก ใครก็คงอยากมีรูปดีๆวิวสวยๆเก็บไว้ชื่นชมหรือแชร์อวดคนอื่น ผมเลยถ่ายมาแบบเต็มที่แต่ก็ไม่ได้ละเลยหน้าที่ของตัวเองนะ บ่าวสาวเองก็มีรูปถ่ายเล่นเหมือนกัน พี่นลินพอรอเวลาเซ็ตฉาก เปลี่ยนมุมทีไรก็มาสะกิดให้ผมถ่ายรูปเล่นอยู่เรื่อย พี่แชมป์ก็ลากน้องชายตัวเองมาถ่ายคู่กัน พูดกันแบบไม่มีอคติละก็ความหล่อกินกันไม่ลงจริงๆ บางทีผมหมั่นไส้ก็อยากจะถ่ายไอ้พี่เดียวให้ตกขอบทุกที แต่เดี๋ยวจะหาว่าผมฝีมือห่วยเลยต้องจำใจถ่ายดีๆให้




   “เดี๋ยวผมไรท์ใส่แผ่นแล้วฝากพี่ยศไว้แล้วกันนะครับ”ด้วยความที่รูปมันรวมๆกันต้องใช้เวลาในการคัดแยก คืนนี้ยังไงก็คงไม่เสร็จเลยต้องหาทางออกให้พี่ๆเขาแบบนี้



   “ถ้าพี่อยากไปเอากับน้องน่านเองล่ะคะ”ไอ้คำว่าเอานี่เน้นชัดเจนมาก ไม่รู้ว่าอยากเอารูปหรือเอาอะไรกันแน่ พี่คนนี้เป็นสาวประเภทสองครับ แสดงออกแบบชัดเจนมากว่าอยากจะกลืนกินผมเข้าไป เล่นเอาผมขนลุกเลย ถึงผมจะเป็นไบแต่เจอพี่ๆประเภทนี้ทีไรผมไม่สู้ทุกที เลยได้แต่ยิ้มแหยให้



   “นังแป้งร่ำ! น้องมันกลัวแกจะแย่แล้ว ถอยออกมาเลย จะเข้าไปสิงน้องเขาเหรอยะ”



“แหม เจ๊ก็ ขัดคอหนูตลอดเลยนะ”แล้วก็โดนลากออกไป ผมเลยได้หายใจคล่องหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะแบบกวนประสาทเบื้องล่างดังเข้าหู พอหันไปมองก็เจอเจ้ากรรมนายเวรยืนยิ้มขำอยู่ในมือถือแก้วไวน์ดูมาดคุณชายเหลือเกิน



“ตลกๆ”




“เพิ่งรู้ว่ากลัวแบบนี้”




“ไม่ได้กลัว”



“นั่งเกร็งขนาดนั้น ยังปากแข็ง”นี่มันสังเกตผมตลอดเลยเหรอวะ



“ยุ่ง”



“หึหึ เขาสวยออก หุ่นก็ดีกว่าผู้หญิงบางคนอีก ไม่อยากลองหรือไง”



“ไปลองเองเถอะ”




“เคยแล้ว”




“หะ!!?”เชรี่ยยยยยย ผมไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย หน้าผมต้องตลกมากแน่ๆ มันถึงได้หลุดขำพรืดออกมา



“ล้อเล่น”ไม่ทันแล้วป่ะวะ ผมเชื่อไปแล้วเนี่ย มันต้องเคยมาแล้วจริงๆ




“ทำหน้าไม่เชื่ออีก ล้อเล่นจริงๆ ไม่เคย”



“แม่ม แล้วพูดเพื่อ”




“แค่อยากเห็นปฏิกริยา ทำหน้าตลกดีนะ”




ถ้าไม่หาเรื่องชวนให้ขนลุกด้วยการทำตัวเลี่ยนใส่ก็ต้องหาเรื่องมาให้ผมหงุดหงิดได้ตลอด ท่าทางจะไม่ปกติจริงๆนะเนี่ย



“ประสาท”



“หึ แล้วมีรูปพี่บ้างมั้ยเนี่ย”



“ไม่มี”อันที่จริงรูปเดี่ยวๆของมันก็มีเยอะเหมือนกันด้วยความที่ผมเป็นคนหน้าตาดีและจิตใจดี มีความเมตตาสงสารเลยถ่ายให้ แต่ผมไม่บอกมันหรอก หมั่นไส้ ยิ่งเห็นมันทำหน้าแบบเคืองๆแล้วผมก็มีความสุข





X






ตกดึกต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันพักผ่อนเพราะวันนี้เหนื่อยกันมามาก มีคนเมาเรือด้วย แต่ผมนี่สบายหายห่วงต้องขอบคุณไอ้บ้านั่นแหละนะที่เอายามาให้ผมกินกันไว้ก่อน ผมอาบน้ำเสร็จก็เห็นไอ้คนตัวโตแรงควายนอนจองเตียงฝั่งหนึ่งเอาไว้ ในมือถือไอแพดดูอะไรก็ไม่รู้ เท่าที่สังเกตดูมันถือติดตัวตลอดเหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของมัน ผมเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปผึ่งก่อนจะมาทาครีมที่หน้ากระจก ใช้หน้าตาหาเหยื่อก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ถึงจะต้นทุนดีแต่ถ้าไม่ดูแลบำรุงมันบ้างก็มีโทรมเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเพศไหนก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองครับ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วมันจะดูดีขึ้นมาเองได้ คนบนเตียงก็เหมือนกัน ครีมบำรุงของมันก็มีพอสมควร แถมแต่ละอย่างนี่เคาน์เตอร์แบรนด์ทั้งนั้น น้ำหอมก็พกมาตั้งสามขวด ฉีดวันละกลิ่นเลยหรือไงวะ ของผมนี่แค่ขวดเดียวกลิ่นประจำที่ชอบใช้ แต่ซื้อเป็นไซส์เล็กพกพาไปไหนมาไหนสะดวก



“น้ำน่าน ยังหยุดอีกสองวันใช่มั้ย”



“อือ”



“อยู่ต่อกัน”




“ห๊ะ?”



“อยู่ต่อด้วยกันอีกคืน”




“ไม่”



“ทำไม”




“ไม่อยากอยู่”



“เที่ยวฟรี กินฟรี พักฟรี ตั๋วเครื่องบินกลับฟรีด้วย”มาเป็นแพ็คเกจเลยนะ



“ป๋าเหลือเกิน”




“ก็กับน่านคนเดียวแหละน่า”เหอะ ผมไม่เชื่อน้ำคำมันหรอก ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ ผมไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาที่เอาของพวกนี้มาหลอกล่อแล้วยอมแลกทุกอย่าง



“ไม่”



“กลัว?”น้ำเสียงท้าทายจนคิ้วกระตุกเลย



“ทำไมต้องกลัว?”ผมหันไปมองมันนิ่งๆ



“ก็นั่นสิ ถ้าไม่ได้กลัวแล้วทำไมไม่อยู่ต่อด้วยกัน”ยิ้มยียวนท้าทายแต่ผมไม่หลงกลมันหรอก



“คำตอบก็เหมือนเดิม คือไม่อยากอยู่ ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ ชัดมั้ย?”คุยกับมันแล้วเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง เสียเวลาทาครีม เสียอารมณ์



“ชัด...แต่ก็อยากให้อยู่ด้วยกัน”



“เห้ยๆๆๆ ปล่อยเลยๆ”เผลอเป็นไม่ได้เข้าคลุกวงในตลอด มันเดินเข้ามากอดจากด้านหลังแล้วรัดแน่นทันทีชาติก่อนเป็นงูเหลือมหรือไง



“โอ๊ยๆๆ เจ็บๆ ยอมแล้ว โคตรโหดอ่ะ นั่นกระปุกแก้วนะ”มันร้องลั่น



“สม”ผมถอยไปตั้งหลักไกลจากมันหลายก้าว ในมือยังถือกระปุกครีมอาวุธสำคัญแน่น



“ไอ้เด็กโหด”




“ไม่เอาฟาดหัวก็บุญแล้ว”



“เห้ย แค่กอดเองนะ ใจร้ายไปแล้ว”มันโอดครวญ คืนนี้ผมไม่มึนไม่เมา ถึงจะเหนื่อยงานแต่ก็ยังมีแรงอยู่นะ ไม่ยอมให้กอดง่ายๆเหมือนคืนก่อนหรอก



“กอดก็ไม่ได้ ห้ามๆๆๆ”



“เออๆๆๆ”มันตอบกลับอย่างมีอารมณ์ อารมณ์หงุดหงิดอ่ะนะ แล้วก็เดินกลับไปนอนสิงสู่ไอแพดต่อ ผมยืนคุมเชิงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไปจัดการกับตัวเองต่อ พอจะล้มตัวลงนอนก็อดระแวงไม่ได้ว่าไอ้คนข้างๆจะตะครุบตัวเข้าไปกอด แต่มันยังคงสนใจเมียไอแพดต่อไป จนผมสงสัยว่าในนั้นมันมีอะไรดีนัก หรือว่าดูคลิปโป๊อยู่วะ



“จะนอนก็ปิดไฟได้เลยนะ”มันพูดไม่ได้หันมามอง สีหน้าตอนนี้จริงจังมาก ผิดกับที่กวนประสาทผมเมื่อกี้ลิบลับ หลายอารมณ์เหลือเกิน ผมปิดไฟตามที่มันบอกแต่เหลือไฟเฮ้าส์ไว้



“นี่ ไม่นอนหรือไง”ผมลองเรียกมันดู



“ไฟแยงตาเหรอ โทษทีเดี๋ยวออกไปทำข้างนอกก็ได้”มันทำท่าจะลุกออกไปจริงๆ แต่ผมคว้าแขนมันได้ทัน



“เปล่า แล้วทำอะไรอยู่?”มันทิ้งตัวลงพิงกับหมอนที่ใช้รองหลังเหมือนเดิมแล้วยื่นไอแพดมาให้ดูแทนคำตอบ หน้าจอมีแต่ภาษาต่างด้าว คาดว่าคงเป็นฝรั่งเศสที่มันเคยพ่นให้ผมได้ยิน ซึ่งไม่รู้เรื่องสักนิด แต่เดาว่าคงเกี่ยวกับเสื้อผ้าเพราะมีรูปประกอบ



“เปลี่ยนรสนิยมไง”ก็เสื้อผ้าในนั้นเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง ดึกดื่นขนาดนี้นั่งส่องเสื้อผ้าลูกไม้หวานพริ้วหน้าเคร่งเครียด มันก้มหน้าลงมามองผมที่ชะโงกดูหน้าจอด้วยสายตาแบบเอือมสุดชีวิต



“คิดได้เนอะ”



“เอ้า ก็เห็นดู”



“ทำงาน”



“?”



“ห้องเสื้อของแม่น่ะ”



“อ่อ มีปัญหาเหรอ”เห็นหน้ามันเครียดๆ



“ก็ไม่เชิง”มันถอนหายใจ คงมีปัญหานั่นแหละแต่คงไม่พร้อมเล่า ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ผมขยับตัวลงมานอนฝั่งตัวเองอยากจะหันหลังให้มันแต่ก็เสียวสันหลังแปลกๆ เลยนอนหงายแล้วหลับตาลง กำลังเคลิ้มๆ ไอ้คนข้างก็สะกิด



“อะไร คนจะนอน”



“อยู่ต่อด้วยกันเถอะ”มันยังไม่ยอมแพ้ครับ



“ไม่มีงานมีการทำหรือไง”ข้องใจนะครับ ถึงจะเป็นประธานบริษัทก็ใช่ว่าจะหยุดได้ตามใจชอบ ผมว่างานมันก็มีไม่น้อยนะ ไหนจะต้องสอนอีก



“มีสิ นี่ก็จะไปทำงานด้วย มีสัมมนาสมาคมค้าเพชรพลอย”



“แล้วจะชวนให้อยู่เพื่อ?”



“ก็อยู่เป็นเพื่อนหน่อย ว่างไม่ใช่เหรอ”



“รู้ได้ไงว่าว่าง”แต่ก็ว่างจริงๆนั่นแหละ ไม่มีแผนจะไปทำอะไร ตั้งใจจะนอน นอนและนอน



“แล้วไม่ว่าง?”



“สัมมนาที่ไหน?”



“ที่เดอะ นครา วิลล่า สนใจมั้ย ทุกอย่างฟรีนะ”ชื่อโรงแรมทำเอาผมตาโต โรงแรมนี้โคตรหรู ค่าห้องพักแต่ละคืนนี่ไม่ธรรมดาเผลอๆแพงกว่าที่นอนอยู่ตอนนี้อีก ตอนที่คิดว่าจะจ่ายเองก็รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้จิตใจเริ่มเอนเอียง ถึงจะมีเงินแต่ไอ้ของฟรีนี่ใครก็ชอบ ก่อนหน้านี้ที่ไอ้พี่เดียวเอามาล่อเป็นแพ็คเกจผมก็เฉยๆหรอกนะ แต่พอได้ยินชื่อโรงแรมนี่ชักเขว ไอ้พี่เดียวมันคงเห็นผมเริ่มสนใจเลยขุดเอาของฟรีอื่นๆมากมายมาล่อลวงผมสุดๆ ไม่ว่าจะกิจกรรมผาดโผน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อะไรก็ได้ฟรีแบบไม่อั้น สุดท้ายแล้วผมก็เห็นแก่ของฟรี ตกปากรับคำไปว่าจะอยู่ต่อเป็นเพื่อน นี่ผมไม่ได้ใจง่ายไปใช่มั้ย?





(มีต่อ)







   
   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 09-05-2016 23:17:01
แล้วก็พบคำตอบที่มาของของฟรีทั้งหลายที่ใช้ล่อลวงผมมา โรงแรมนี้เป็นโรงแรมของพี่ทักษ์เพื่อนมัน ที่ผมรู้ก็เพราะพอก้าวลงจากรถเช่าที่ไอ้พี่เดียวเช่าไว้ใช้ระหว่างพักอยู่ที่ภูเก็ต พี่ทักษ์ก็เอาหน้าตี๋ๆมารอรับถึงล็อบบี้ แต่ก็ต้องงงวยที่เห็นผมมากับไอ้พี่เดียวด้วย



“นี่คือเด็กที่มึงว่า?”พี่ทักษ์ถามไอ้พี่เดียวแต่ตาจ้องผมเขม็ง แต่เด็กอะไรวะ ผมไม่ใช่เด็กใครนะเว้ย!




“หึ”ทำมันเสียงในลำคอปรายตามองมาได้น่าถีบ ส่วนพี่ทักษ์ก็ยิ้มแปลกๆ ไอ้เหี้ยพี่เดียวมันคงไม่ได้เล่าเรื่องระหว่างผมกับมันให้เพื่อนๆฟังหรอกนะ แต่ก่อนที่ผมจะได้คำตอบก็โดนพี่ทักษ์ต้อนให้ไปทานข้าวในห้องอาหาร ที่เห็นวิวทะเลสีฟ้าสดใส พอนั่งปุ๊บอาหารก็พร้อมเสิร์ฟปั๊บ เรียงรายกันเต็มโต๊ะไปหมด แต่มีเพียงผมกับไอ้พี่เดียวที่กินกันสองคน พี่ทักษ์ขอตัวไปดูความเรียบร้อยของห้องสัมมนาที่จะเริ่มงานในตอนบ่าย



พอจัดการอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันไป ไอ้พี่เดียวไปเตรียมตัวสัมมนา ผมเพิ่งรู้ว่าเลขามันมารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนผมพี่ทักษ์ก็ให้พนักงานมาคอยดูแลอย่างดี พามาที่ห้องพักและให้การ์ดวีไอพีสำหรับใช้ในโรงแรม จะเรียกใช้บริหารหรือจะสั่งอะไรมาดื่มกินก็ได้ตามสบาย หวานหมูเลย
ผมเริ่มจากการสั่งเบียร์วุ้นมานอนจิบริมสระดูสาวๆเล่นน้ำคลายร้อน กะเอาไว้ว่าบ่ายแก่กว่านี้ค่อยไปเล่นพารามอเตอร์ แล้วก็ลงเล่นน้ำสักหน่อยไหนๆก็มาถึงทะเลแล้ว จะว่าไปผมก็รู้สึกดีนะเหมือนได้พักผ่อนจริงๆ เบียร์หมดไปสองขวดพนักงานก็มาแนะนำให้ไปลองสปา ผมก็ไม่ขัดศรัทธาจัดไปหนึ่งชั่วโมงออกมารู้สึกฟินมาก จากนั้นก็ไปทำนั่นนี่ที่อยากทำจนต้องกลับมานอนแผ่ที่ริมหาดหมดสภาพ ผมว่าพรุ่งนี้จะไปสปาอีกรอบก่อนหลับ




“หึหึ สนุกจนลืมพี่ไปเลยมั้ง”เงาดำที่ทาบทับลงบนหน้าผมไม่ใช่ใคร ไอ้คนที่หายไปสัมมนาครึ่งค่อนวัน ยืนกอดอกยิ้มอยู่ข้างผมยังอยู่ในชุดสูทเต็มยศ




“ป่ะ อาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวเย็นกัน”มันยื่นมือมาฉุดให้ผมลุกขึ้น ไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นเพราหมดแรงไปกับกิจกรรมโลดโผน



“กี่โมงแล้ว”



“ห้าโมง”



“ไหนว่าเลิกสี่โมง”



“ก็เลิกสัมมนาสี่โมง แต่พอคนทำธุรกิจเดียวกันมาเจอกันก็เลยมีคุยติดพันกันเลยช้าไปหน่อย ทำไมคิดถึงพี่เหรอ”มันยิ้มกรุ้มกริ่มชวนอ้วก



“อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้”



“หึ วันนี้ทำอะไรมาบ้าง”



“เยอะแยะ ขี้เกียจเล่า”ผมบอกปัดไป ไม่ใช่เด็กน้อยที่ทำอะไรแล้วต้องคอยรายงาน



“ดำขึ้นป่ะ”พอมันทักผมก็เลยต้องก้มลงมาแขนตัวเองแล้วพยักหน้ากับคำพูดของมัน คือใส่เสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้น โนแดดเต็มๆแบบนี้ไม่ดำขึ้นก็แปลก แต่ผมไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ ไม่ใช่ไอ้พายรายนั้นกลัวดำมาทะเลทีไรต้องทาครีมกันแดดเป็นขวดๆ นึกถึงแล้วก็ลืมไปเลยว่าผมยังไม่ได้โทรบอกมันเลยว่าจะอยู่ต่อ โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้บนห้องป่านนี้มันคงกระหน่ำโทรจนแบตหมดแล้วละมั้ง



ไอ้พี่เดียวให้ผมไปอาบน้ำก่อนเพราะเล่นมาทั้งวันแล้ว ผมก็ไม่ขัดดูเหมือนวันนี้ผมจะเชื่อฟังมันเกินไปหรือเปล่าวะ ให้ทำอะไรก็ทำ ผมขี้เกียจะเถียงด้วย แล้วสิ่งที่มันให้ผมทำก็ไม่ได้ขัดกับความต้องการเลยปล่อยๆไป ก่อนเข้าห้องน้ำผมเห็นมันหยิบไอแพดขึ้นมาทำหน้าเครียดอีกแล้ว พวกนักธุรกิจนี่ทำงานไม่เห็นน่าสนุกเลย



ผมอาบน้ำเสร็จออกมาก็เห็นไอ้พี่เดียวอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนอนหลับตาอยู่บนเตียง หลับจริงหรือพักสายตาก็ไม่รู้ ท่าทางมันดูเหนื่อยๆ



“พี่เดียว”ลองสะกิดดูครั้งแรกยังไม่เกิดอะไรขึ้นเลยต้องเขย่าแขนมันเบาๆและเพิ่มแรงขึ้นเมื่อมันยังไม่ไหวติง จนครั้งสุดท้ายมันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา



“ไปอาบน้ำดิ”



“อืม”มันดูงงๆเบลอๆ เดินเข้าห้องน้ำไป ไหวมั้ยนั่น




ผมแต่งตัวเสร็จก็หยิบโทรศัพท์มาเช็คดู สายจากไอ้พายห้าสาย น้อยกว่าที่คิด แต่ก็มีของไอ้ธันว์กับไอ้โอ๊คอีกคนละสาย นอกนั้นก็เป็นข้อความไลน์ ผมกดเข้าไปดูและตอบไอ้พายก่อน ขี้เกียจโทรกลับไปฟังมันบ่น ส่วนไอ้โอ๊คพอมันโทรไม่ติดก็กระหน่ำไลน์มา เรื่องงานล้วนๆไล่อ่านถึงข้อความสุดท้ายมันบอกไม่ง้อผมแล้ว คงจะได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นเรียบร้อย ส่วนไอ้ธันว์ห่านั่นชวนเมา ข้อความจากคนอื่นๆก็ไม่มีอะไร คนที่ผมคุยด้วยช่วงก่อนก็ทักมาเป็นปกติ แต่พอผมเบื่อไม่ได้ติดต่อไป ไม่ค่อยรับโทรศัพท์หรือตอบไลน์ส่วนใหญ่ก็ทยอยหายกันไปทีละคน สรุปแล้วผมไม่ได้โทรกลับหาใคร ทิ้งตัวนอนแผ่ด้วยความเมื่อยรอไอ้พี่เดียวมันอาบน้ำ หวังว่ามันคงไม่ได้หลับคาห้องน้ำหรอกนะ



รอไปรอมาผมก็เคลิ้ม แต่ก่อนจะหลับไปมันก็ออกมาพอดี แต่งตัวเสร็จก็พากันลงมาที่ห้องอาหารพี่ทักษ์รออยู่ ส่วนเลขาไอ้พี่เดียวกลับไปแล้ว



“ไม่คิดว่ามึงจะมากับไอ้เดียว”เพิ่งจะได้มีโอกาสคุยกันจริงจังตั้งแต่เจอกัน พี่ทักษ์เลยเริ่มบทสนทนาบนโต๊ะอาหารขึ้น



“ก็ว่างๆอ่ะพี่ แล้วทุกอย่างฟรีผมก็เลยมาด้วย”



“หึ เห็นแก่ของฟรี บ้านมึงไม่มีตังค์ไง๊? กูว่าไม่น่าใช่ดูจากรถที่มึงขับ”



“เงินมีก็เก็บไว้สิพี่ ได้ของฟรีใครจะไม่เอา”



“เพื่อนกูนี่ไง ได้ฟรีๆทำไมมึงไม่เอา”



พรวด!



ไวน์ขาวพุ่งออกปาก ลงใส่แก้วเหมือนเดิม



“โหย ไอ้เหี้ย ซกมก”



“ใครให้พี่พูดแบบนั้นวะ”พี่ทักษ์แม่มหัวเราะลั่นไม่เกรงใจใคร ส่วนไอ้เหี้ยพี่เดียวมันหัวเราะสองหึ แล้วจิบไวน์สบายอารมณ์ นี่เพื่อนมันรู้เรื่องของผมกับมันด้วยเหรอวะ พอมองไปทางไอ้พี่เดียว มันก็ยักไหล่แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้ามันต่อ ส่วนไอ้พี่ทักษ์ก็ยิ้มกรุ้มกริ่ ตาวิบวับน่าควักมาเตะเล่น



“กินๆ แหม่พูดเล่นแค่นี้ถึงกับกินไม่ลงเลยเหรอวะ”พี่ทักษ์มันเลื่อนจานกั้งทอดกระเทียมมาให้ กั้งตัวโตเท่าแขนได้มั้งเนี่ย แต่มันไม่ได้ทำให้ผมเจริญอาหารขึ้นเลย แต่ก็มีระฆังมาช่วยชีวิตโทรศัพท์ของไอ้พี่ทักษ์ดังขึ้นแล้วก็ขอตัวออกไปคุย ผมเลยได้จังหวะหันไปจัดการไอ้บ้าข้างๆ



“พี่เล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังเหรอวะ”



“เปล่า”



“แล้วไมเพื่อนพี่พูดงั้นวะ”



“มันแค่รู้ว่าพี่ชอบน่านอ่ะ ก็พูดไปงั้นแหละ ไอ้ทักษ์ปากมันดี”ผมมองมันอย่างเคลือบแคลงสงสัย



“พี่พูดจริง ทำไมทำหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น”



“ก็มันน่าเชื่อหรือไงเล่า”



“เชื่อเถอะ ‘เรื่องของเรา’ พี่ไม่มีทางเล่าให้ใครฟังหรอก”มันพูดยิ้มๆ เน้นย้ำคำว่าเรื่องของเราจนผมสะดุดหูแล้วนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ผมเป็นคนใช้คำนี้เอง แม่งพลาดละ



“รู้สึกดีจังเลยน้า...เรื่องของเรา หึหึ”



“เงียบแล้วกินไปเลยไป”



“อะไร นี่เขินเหรอ”



“ไม่ได้เขินเว้ย!”



“น่ารักจังเลยน้า”โคตรแสลงหู



“โว้ย! เงียบไปเลย หยุดพูด!”ผมอยากจะล้มโต๊ะใส่ให้รู้แล้วรู้รอด เกลียดท่าทางล้อเลียนของมันจริงๆเลย



“หยุดก็ได้ มากินๆ”ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนผมเป็นเด็กด้วยวะ ปิดปากผมด้วยของกินตลอด



“พอแล้ว มีมือตักเองได้”มันตักอาหารใส่จานผมใหญ่เลย จนแทบไม่เหลือที่ว่าง



“ก็อยากตักให้”



“ไม่ต้อง เห้ยๆ ไม่เอาเดี๋ยวน้ำมันปนกัน”ผมไม่ชอบให้กับข้าวมันปนกันเดี๋ยวจะเสียรสชาติ ยิ่งพวกที่เป็นน้ำๆด้วยแล้วต้องตักใส่ถ้วยแบ่ง อาหารมื้อนี้เป็นอาหารทะเลแบบไทย รสจัดจ้าน แต่ไอ้พี่เดียวกับเพื่อนมันกระแดะสั่งไวน์มาจิบแกล้ม คือมันขั้นเหรอวะ แต่เอาเถอะยังไงก็ฟรีผมไม่ขัดศรัทธาอยู่แล้ว ดื่มเพลินจนไม่รู้หมดไปกี่ขวด พอจบมื้อค่ำที่ไอ้พี่ทักษ์แว่บมาบอกหลังจากหายไปโทรศัพท์เกือบยี่สิบนาทีว่ามีธุระต้องไปทำต่อ ผมกับไอ้พี่เดียวก็ย้ายก้นมานั่งจิบที่บาร์ริมหาดต่อ บรรยากาศดีมาก ชิลล์จนลืมเวลา ดื่มจนรู้เลยว่าเดินไปตรงทางเหมือนจะมีสติพอรับรู้แต่บังคับตัวเองไม่ได้เลย



ไอ้พี่เดียวมันลากผมเดินมาจนถึงห้องแล้วผลักผมลงบนเตียง ที่นอนนุ่มๆรองรับตัวผมไว้แต่แทนที่จะสบายทำไม ห้องหมุนจนผมเวียนหัวแบบนี้ยนะ ไอ้พี่เดียวมันพูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วก็เอาอะไรเย็นๆมาถูตามหน้า ตามคอ



“อื้อ เย็นไม่เอา”



“.....”



“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย”



“......”



ผมพลิกตัวหนีมัน รำคาญทั้งเสียงหึ่งๆแล้วก็อะไรเย็นๆที่ลูบไปตามตัวด้วย แต่ก็ถูกมันจับพลิกให้นอนหงายเหมือนเดิม ผมพยายามเพ่งตามองเมื่อเงาดำๆบังตรงหน้าพอดี แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะไอ้เงาดำๆนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนลมอุ่นๆไล้ไปตามแก้ม ก่อนที่ความนุ่มของอะไรสักอย่างแตะลงที่ปากผม



อืม...นุ่ม รสหวานเฝื่อนเหมือนไวน์ด้วย แต่ก็ร้อนเหมือนถูกนาบด้วยไฟ แต่มันก็ไม่แสบไหม้ กลับรู้สึกดีมากๆ จนไม่อยากผละออก บดเบียดริมฝีปากเข้าหาเพราะอยากได้มากกว่านี้



สัมผัสแบบนี้มันคืออะไรกันนะ...ทำไมเหมือนผมกำลังลอยอยู่บนปุยเมฆ ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงเหมือนอกจะระเบิด




“อือ...อย่า...”ผมร้องเรียกเมื่อสัมผัสนั้นกำลังจะหายไป ต้องรีบคว้าไว้ แล้วเริ่มใหม่อีกครั้งและอีกครั้ง...




   





-------------------------------------

กรี๊ดดด มาช้ากว่าที่บอกไว้มากเลย พอวันที่ 2 ไม่ทัน แล้วมันก็เลยยาวไป เพราะหลังจากวันที่ 2 ก็ไปนั่นมานี่ไม่ได้ว่างเบย
แต่วันนี้ลงแล้วน้าาาาาา ใครลืมย้อนไปอ่านใหม่ค่ะ 555555555555
รักคนอ่านนะค้า เลิฟๆ
   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 09-05-2016 23:50:57
พี่มันยั่วพี่เดียวชัดๆเลยน่าน ถ้าพี่แกตบะแตกนี่ไม่แปลกใจเลย โดนจับปล้ำอีกรอบเเน่เลย :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-05-2016 23:56:08
โดนมอมซะแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 10-05-2016 02:52:36
ตัดได้โหดร้ายมากกกก.  พาร์ทนี้มีคำผิดหลายจุดอยู่นะคะ
คิดถึงคนเขียน. ถึงกับต้องไปงอแง้หน้าเพจ 555 :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PookPick ที่ 10-05-2016 03:11:08
กรี๊ดดดดด ตัดจบได้เหมาะสมมากค่ะ!!!

รอตอนต่อไปเลย สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 10-05-2016 03:17:02
 :L1: :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 10-05-2016 05:10:32
ตื่นมาพี่เดียวตายแน่ๆลักหลับน้อง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 10-05-2016 07:08:06
อ่านแล้วชอบมากค่ะ แต่งเก็บรายละเอียดเก่งมากค่ะ ชอบการพัฒนาของตัวละครทั้งน้ำน่านและเดียว รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆด้วย โชคดีที่กดเข้ามาอ่าน รอตามนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 10-05-2016 08:35:42
แหมน่าน ยั่วเขาซะงั้น555 ตื่นเช้ามาจะเป็นไงระบบ  ฮาาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-05-2016 13:43:41
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19 [9.5.59] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 14-05-2016 19:13:13
มาอ่าน19ตอนรวด สนุกค่ะดำเนินเรื่องดี
คู่นี้หล่อเสน่ห์แรงทั้งสอง ลุ้นกันนานเรื่องของเรา
คนของเราแฟนของเราเมียของเรา ฟินๆ
เสียดายน้องคนแต่งไม่ค่อยได้อัพถี่ๆไม่งั้น
เรทติ้งพี่เดียวกับน้องน่านคงแรงกว่านี้ 555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.20 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 02-06-2016 09:37:17
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 20 -





   ผมมาถึงภูเก็ตตอนค่ำของเมื่อวานนี้หลังจากที่เคลียร์งานมากมายที่คุณอ้อมนำเข้ามาให้เซ็นเกือบทั้งวัน แต่นอกจากงานหลวงแล้วก็ยังมีงานราษฎร์ที่ต้องตรวจเปเปอร์ของนักศึกษาที่เพิ่งสอบกลางภาคเสร็จไป พลังงานชีวิตของผมเข้าสู่ขีดแดงจวนเจียนใกล้จะหมดเต็มที่ ช่วงนี้โหมงานหนักเพราะมีหลายอย่างที่ต้องคอยจัดการให้เรียบร้อย เรื่องงานแต่งของพี่แชมป์ผมก็มีส่วนร่วมอยู่มาก บางอย่างต้องทำแทนเพราะพี่แชมป์ก็ต้องบินไปต่างประเทศบ่อย พี่นลินจัดการคนเดียวคงไม่ไหวเลยให้ผมช่วยดูแล แต่ในบางเรื่องพี่นลินเขาก็มีเพื่อนสนิทคอยช่วยอยู่ผมเองก็เคยเจออยู่หลายครั้ง



   “ตื่นเช้าเลยเว้ย นึกว่าจะนอนสบายๆตื่นบ่ายๆโน่น ที่ชวนมานี่กะให้พักผ่อนนะ”



   “เคยชินครับ แต่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร บรรยากาศดีๆแบบนี้ตื่นสายเสียดายแย่”นั่งจิบกาแฟยามเช้าริมทะเล นานๆทำทีผมว่ามันไม่เลวเลย มองแสงแรกของวันที่ค่อยๆทอแสงจับขอบฟ้า ความงามที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ



   “ก็จริง นลินโคตรชอบ อยากจะมีบ้านที่นี่”



   “หึหึ สงสัยพี่ชายผมต้องควักกระเป๋าแล้วละมั้งครับ”



“ก็ว่าอย่างนั้นนะ”พี่แชมป์พูดยิ้มๆ ผมว่าคงวางแผนเอาไว้แล้วแน่ๆ คุณหญิงป้าก็มีที่อยู่ที่ภูเก็ต ทำเลอาจจะไม่ดีเท่าที่นี่แต่ก็ติดทะเล ถ้าพี่แชมป์จะขอแบ่งมาก็คงไม่มีปัญหาอะไร



“แล้วนี่จะถ่ายหรือยังครับ”



   “ก็รอว่าที่เจ้าสาวเขาแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จน่ะ วันนี้ไม่รีบ แล้วก็รอช่างภาพอีกคนด้วย”



พอพี่ชายผมพูดถึงช่างภาพขึ้นมา ก็เลยเพิ่งนึกได้ว่ายังขาดไปอีกคน ลืมไปสนิทเลยว่าผมต้องเจอเด็กนั่นที่นี่ ตั้งแต่เจอกันโดยบังเอิญที่ห้างนั่น ผมก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ไม่ใช่ว่างานเยอะล้นมือจนไม่มีเวลาไปหา แต่ผมตั้งใจที่จะไม่ไปเจอเขาเหมือนก่อนหน้านั้นต่างหาก อะไรบางอย่างบอกว่าให้ผมควรพอเสียที กลับมาเป็นนายภัทรดนัยคนเดิม ที่ไม่ต้องคอยวิ่งตามจีบตามง้อใคร ผมไม่เคยทำกับใครเหมือนกับที่ทำให้เขา ยุ่งแค่ไหนก็ยังปลีกตัวไปหา ไปเจอหน้าทุกเย็น คอยทำอาหารให้ทาน เอาใจสารพัดแต่สุดท้ายสิ่งที่ทำไปกลับไร้ความหมาย



   “อ้าว คุณยศจะไปไหนเหรอครับ”พี่แชมป์ร้องทักคุณยศวีที่ดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปข้างนอก ทั้งที่น่าจะเตรียมตัวสำหรับการถ่ายงานในวันนี้



   “จะไปรับน้ำน่านที่สนามบินครับ ผมกำลังหาคุณแชมป์อยู่พอดีเลย จะรบกวนขอยืมรถหน่อยครับ”



   “ไม่รบกวนหรอกครับ แต่คุณยศต้องเตรียมสถานที่นี่ครับ นายเดียวว่างให้ไปรับก็ได้”



   “เอ่อ จะดีเหรอครับ”คุณยศวีดูท่าทางเกรงใจแต่สายตาดูมีความหวัง



   “ดีสิ ต้องไปตอนนี้เลยหรือเปล่าครับ”แต่พี่ชายผมก็จัดการเสียเสร็จโดยไม่ถามผมสักคำ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแค่ไปรับคนๆเดียว



   “ครับ เขากำลังจะขึ้นเครื่อง ออกไปตอนนี้น่าจะทันกันพอดีครับ”



   “ว่าไงนายเดียว”



“ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ คุณยศไปทำงานต่อเถอะครับ”



ผมขับรถที่เช่าไว้ตรงไปยังสนามบิน ไม่ได้ถามหรอกครับว่าทำไมเด็กนั่นถึงตามมาทีหลัง แต่ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเพราะเพิ่งสอบเสร็จ ผมใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็มาถึงสนามบิน คือขับมาเรื่อยๆไม่รีบร้อนอะไร ป่านนี้เด็กนั่นคงถึงแล้ว แต่เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ตรงส่วนไหนเลยต้องโทรหา ครั้งแรกไม่รับ ผมเลยโทรอีกครั้งถ้าไม่รับอีกผมจะวนรถกลับทันที แต่เขาก็กดรับเสียก่อน ทั้งผมและเขาต่างพูดขึ้นพร้อมกัน น้ำเสียงฟังดูไม่ยินดีเท่าไหร่ ก็เลยได้ฉะกันแบบเบาๆ แต่ใช่ว่าผมจะทิ้งเขาไว้ที่นี่แล้วให้ไปเองจริงๆ ผมเจอเขาที่ยืนต่อคิวแท็กซี่พอดีเลยลากมาด้วยก็พยศตามนิสัย คุยกันดีๆไม่ค่อยจะได้แต่อย่างน้อยก็ยังเรียกพี่



พอกลับมาถึงที่พักพี่นลินที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบออกมาต้อนรับ ท่าทางจะถูกชะตากับน้ำน่านมาก ไอ้เด็กนี่ก็ปากหวาน ซึ่งก็คงเป็นไปตามนิสัย ผมได้ยินแล้วก็พาลแสลงหู แต่จะแปลกใจก็ตรงที่น้ำน่านต้องพักห้องเดียวกับผมนี่แหละ แต่ผมก็ไหลไปตามน้ำ ใครจะไปขัดว่าที่เจ้าสาวได้ ยิ่งเห็นอีกคนดูไม่อยากอยู่ร่วมห้องด้วย ผมก็ยิ่งอยากแกล้ง อารมณ์หมั่นไส้มันกลับมาอีกแล้ว ท่าทางหยิ่งๆแบบนั้นจะแกล้งให้หนักเลยคอยดู



ระหว่างที่ทุกคนกำลังทำงานกันอยู่นั้นผมที่ไม่มีแพลนว่าจะทำอะไรก็หยิบหนังสืออ่านเล่นติดมือมาหนึ่งเล่น มานั่งอ่านใกล้ๆที่เขากำลังถ่ายรูปกันอยู่ ช่างภาพผู้มาใหม่กำลังง่วนอยู่กับกล้องในมือ ก็ว่าจะไม่สนใจแต่ไม่รู้ทำไมเผลอทีไรต้องคอยจับจ้องไปที่น้ำน่านตลอด เคยบอกไปแล้วว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ ซึ่งถึงแม้ตอนนี้ผมไม่ได้คิดอยากจะข้องเกี่ยวด้วยแล้วเขาก็ยังคงดึงดูดสายตาผมอยู่ดี ยังดีที่มีแว่นกันแดดบังสายตาอยู่ จึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่าผมกำลังสนใจอะไร



ผมเดินออกไปรับโทรศัพท์จากไอ้ทักษ์มันบอกว่าลงมาที่ภูเก็ตแล้วเหมือนกัน งานสัมมนาที่ผมต้องมาเข้าร่วมจัดที่โรงแรมมัน งานใหญ่เลยต้องลงมาดูด้วยตนเอง ไม่อย่างนั้นโดนเตี่ยมันด่าเละแน่ๆ แกลับมาที่โต๊ะผมก็เห็นเด็กผู้หิวโหยกำลังซัดแซนด์วิชแล้วก็ของกินเล่นที่ยกมาเสริ์ฟทีมงานอย่างเอาเป็นเอาตาย อาการคือรีบยัดมากจนผมกลัวจะติดคอ พอเข้าไปทักอีกคนก็สำลักตาเหลือกจนต้องรีบยื่นน้ำให้ด้วยความสงสาร แต่ก็เผลอแอบเขาไปคำนึง เลยได้สายตาขวางๆเป็นของตอบแทน เป็นเด็กที่ยั่วง่ายไม่เปลี่ยน การเฝ้าสังเกตการณ์ของผมเป็นอย่างสนุกสนานไม่รู้ว่าคิดเองหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายพยายามหลบเลี่ยงผม แต่ผมก็จ้องจนเขารู้ตัวนั่นแหละครับว่าต่อให้หลบยังไงก็ไม่พ้น



“คุยกันหน่อยสิ”ผมรู้สึกว่ามันชักจะมากเกินไปแล้วกับการถูกเมินแบบนี้ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันบังเอิญ อีกฝ่ายแค่ยุ่งกับงาน แต่จากการเฝ้ามองมาทั้งวันผมเลยรู้ว่ามันไม่ใช่ จนถึงตอนนี้ไอ้เด็กบ้านี่มันยังไม่มองหน้าผมเลย ทำเป็นหูทวนลม



“หึ จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะไม่ยอมพูดด้วยใช่มั้ย ทำได้ก็ทำไปหลุดพูดเมื่อไหร่เจอดีแน่”



ผมชักจะเดือดจริงๆแล้ว ผมไม่มีความหมายต่อเขาเลยใช่มั้ย ข้างในอกผมมันเหมือนจะระเบิดออกมา ทั้งที่ไม่อยากยุ่งด้วย ทั้งที่ตั้งใจจะออกห่างกลับกลายเป็นว่าผมไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจไว้ได้เลย ผมจมอยู่กับความคิดตัวเอง ทบทวนความรู้สึกและกำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี มารู้ตัวอีกทีอีกฝ่ายก็ไม่อยู่ในสายตาแล้ว รออยู่นานจนอดไม่ไหวต้องขึ้นห้องไปหยิบโทรศัพท์โทรหาเลยรู้ว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปเหมือนกันเพราะมันร้องดังอยู่ตรงกระเป๋ากล้อง



    ไม่ได้มีแต่ผมที่เป็นห่วงคนที่หายไป คุณยศวีเองก็เช่นกัน ตอนแรกว่าจะแยกย้ายกันไปหา แต่พอเดินไปถึงหน้าวิลล่าก็เห็นไอ้เด็กบ้าเดินกลับมา ผมพูดด้วยมันก็ไม่พูดด้วย ผมอดทนรอจนกระทั่งได้อยู่กันตามลำพัง แน่นอนว่าสถานการณ์ระหว่างผมกับน้ำน่านไม่ได้จบลงด้วยดี ตีกันและจบลงบนเตียง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีได้มีเสียกันเหมือนครั้งก่อน



“โอ๊ย แม่งกัดทำไมวะ”



“หมั่นไส้คน”หมั่นไส้จริงๆ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ทำ ใจจริงอยากจูบให้ขาดใจเลย ให้สมกับที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจมาหลายวัน ผมตัดสินใจแล้วไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ปล่อยให้เขาไปเป็นของใคร ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ตัวเขาเป็นของผมแล้ว ใจก็ต้องเป็นของผมด้วย



“กูหมั่นไส้บ้างได้มั้ย แม่ม เลือดด้วย”ทำเป็นบ่น เลือดออกน้อยกว่าเข็มจิ้มนิ้วอีก



“ได้ แต่ต้องทำกลับด้วยวิธีเดียวกันนะ”ผมแหย่กลับไป เราเลยได้ต่อสู้กันอีกยกบนเตียง ผมตลกสีหน้าของน้ำน่านมากตอนที่ผมหลุดปากเรียกเขาว่าเด็กเหี้ย ก็มันเหี้ยจริงๆ คำนี้แหละเหมาะสมแล้ว ทำคนอื่นเขารวนไปหมด จู่ๆผมก็รู้สึกว่าก้อนหนักๆที่มันทับอกได้สลายลงไปเพียงเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ผมอยากเก็บทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้คนเดียว กลิ่นกายหอมๆแบบนี้ไม่อยากให้ใครได้กลิ่นเลย ยิ่งพอได้คุยถึงสาเหตุการมึนตึงก่อนหน้านี้ก็ทำให้ผมอยากจะยิ้มกว้างๆ มันเหมือนแฟนงอนกันเลยว่ะ การแก้แค้นแบบเด็กๆเอาผมอยากกอดน้ำน่านให้กระดูกหัก



“คิดถึง”มันคือความรู้สึกลึกๆในใจ ตลอดเวลาที่ไม่ติดต่อไป ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเขา คิดถึงทุกช่วงเวลาทั้งที่ดีและไม่ดี พยายามไม่ใส่ใจเท่าไหร่ก็ยิ่งจดจำรายละเอียดได้แม่น ผมคงตกหลุมรักเด็กผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ไปแล้ว เมื่อรู้ตัวผมก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาไประเริงกับคนอื่นแน่ๆ ผมจะขัดขวางทุกวิถีทางให้เขาไม่เป็นสุข



“เป็นไรกันวะถึงมีสิทธิ์มาทำแบบนี้”



“ต้องให้ย้ำมั้ยว่าเป็นอะไร ทบทวนกันหน่อยดีมั้ย หึหึ ถ้าอยากทีหลังก็มาหาพี่จะจัดให้หายอยากเลย แต่ห้ามไปนอนกับคนอื่น ไม่ชอบ หวง”ถึงจะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมก็โมเมเอาได้ ที่บอกว่าหวงก็พูดจริงๆ ผมแกล้งเป่าลมหายใจรดใบหูเบาๆ ได้กลิ่นหอมๆจากซอกคอจนอยากจะกัดชิมรส ความจริงน้ำน่านก็ไม่ได้มีรูปร่างหรือหน้าตาที่ค่อนไปทางน่าฟัดเลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้อยากฟัดนัก หมั่นไส้ มันเขี้ยว แล้วก็อยากกอดรวมๆกัน คนในอ้อมกอดผมนอนนิ่งไม่ไหวติง ที่ไม่ตอบโต้เพราะยังตั้งตัวไม่ติดหรือว่าสมยอมกันแน่ แต่ความเป็นไปได้น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า ปฏิกิริยาแบบนี้ทำให้ผมยิ่งอยากแกล้ง




 “ต่อจากนี้ไปให้ถือว่าเราสองคน...เป็นแฟนกันแล้วนะ”รู้แน่อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงเด็กหัวดื้อคนนี้ไม่มีทางเออออแน่ๆ ถึงจะแอบหวังอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าปฏิกิริยาตอบกลับจะทำให้กระดูกซี่โครงของผมเกือบหัก ถีบจริงเจ็บจริง นอนจุกอยู่เกือบห้านาทีได้แต่ส่งสายตาขวางๆ ไปให้ไอ้ตัวดีดีดตัวไปยืนอยู่ข้างเตียง อย่าให้ถึงทีผมบ้าง จะเอาคืนให้ลุกจากเตียงไม่ได้เลย!





X





“ห้องที่กูขอ ตกลงได้มั้ย”หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมา ผมเลยคิดว่าจะหลอกล่อเด็กไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่โรงแรมหรูด้วยกันอีกสักคืน ไม่ได้คิดจะพาไปทำมิดีมิร้ายหรอก ไม่มีแผนอะไรเลยด้วยซ้ำแค่อยากให้ไปด้วยกัน เลยต้องตระเตรียมสถานที่ไว้ให้พร้อม



“มึงคุยกับใครครับ นี่ลูกชายเจ้าของโรงแรมนะเว้ย”



“เออ มึงเก่ง”ชื่นชมมันหน่อย จะใช้ประโยชน์จากมันทั้งที เวลาเตี่ยมันด่าก็ด่ามันไม่ด่ามาถึงผมแน่นอน



“แล้วมึงเปลี่ยนห้องเพื่อ?  เห็นหน้าอมทุกข์เหมือนคนอกหักมาหลายวัน ที่จริงมึงแอบหิ้วเด็กมากกใช่มั้ย บอกกูมาซะดีๆ”



“เออ”



“อั้ยย่ะ ไม่มีปฏิเสธด้วยเว้ย ต่อมเสือกกูทำงานละเนี่ย ใครวะ”



“หึหึผมไม่ตอบ ”ผมกดตัดสายไอ้ทักษ์ทันทีขี้เกียจคุยกับมันแล้ว ปล่อยให้มันอกแตกตาย เอาเวลาไปเฝ้าสังเกตการณ์เด็กดีกว่า ในโทรศัพท์มือถือของผมมีรูปเขาหลายรูปเลย แอบถ่ายไว้ตอนเจ้าตัวเผลอๆ เอาไว้ดูเล่น จะว่าไปผมก็ทำตัวเหมือนโรคจิตเหมือนกันนะ



หลังจากการถ่ายในช่วงเช้าเสร็จก็จะย้ายสถานที่ไปถ่ายบนเรือยอร์ช เราแวะทานอาหารกันที่ร้านอาหารที่เพื่อนพี่แชมป์แนะนำมา รสชาติก็สมคำร่ำลือผมเห็นน้ำน่านซัดเข้าไปเยอะมากคงจะถูกปากมาก เห็นแล้วกลัวแทน ถ้าเกิดเมาเรือขึ้นมาที่กินเข้าไปได้ทิ้งลงทะเลเป็นอาหารปลาให้เสียของ แต่ผมขอยาแก้เมาเรือมาจากทางที่พักเรียบร้อยแล้วกะว่าจะให้เขาทานหลังทานข้าว แต่ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน กว่าจะมีโอกาสได้คุยกันก็ที่ท่าเรือแล้ว



“ยาแก้เมาเรือ กินกันไว้ก่อน เผื่อเมาเรือแล้วเดี๋ยวทำงานไม่ไหว”



   “แหม่ รักษาผลประโยชน์เหลือเกินนะครับท่านประธาน”นี่ยังเคืองผมเรื่องนี้อยู่เหรอเนี่ย เด็กน้อยจริงๆ



   “ไม่ใช่อย่างนั้น เป็นห่วงต่างหาก”ผมเป็นห่วงจริงๆนะ เด็กนี่ตีความหมายไปเป็นอย่างอื่นเสียได้ น่ากัดปาก



   “รับไปสิ”



   “ขอบคุณ”



   ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากเขา ทำให้ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้ ทำตัวน่ารักกับเขาก็เป็น ยิ่งสีหน้าตอนที่ปัดผมออกนี่อยากจับมากอดมาฟัด พอรู้ตัวว่ารู้สึกยังไงก็ยิ่งเห็นว่าเด็กนี่น่ารักขึ้นทุกที แต่ก็ไม่ได้น่าเอ็นดูไปเสียทีเดียว เขาก็ยังเป็นเขาที่กวนตีน อารมณ์ขึ้นง่ายให้น่าแกล้งไม่เปลี่ยน ผมเลยหาเรื่องป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆเขาตลอด อยากจะรู้ว่าในกล้องที่ถือติดตัวนั่นมีรูปผมบ้างมั้ย



   “นี่ ไปนั่งเฉยๆได้มั้ยวะพี่”



   “ไม่อ่ะ”



“โว๊ะ เกะกะน่ารำคาญ”



“ถ่ายรูปพี่บ้างดิ”



“เปลืองเมม”



ไอ้เด็กนี่ ตอบแบบไม่หยุดคิดเลยแม้แต่น้อย พอผมทำตาดุใส่ ไอ้เด็กบ้าก็กระตุกยิ้มมุมปากใส่ สีหน้าดูสะใจที่เห็นผมตอบโต้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยผมก็พอจะมีรูปอยู่ในเมมนั้นบ้างแหละนะ ถึงจะเป็นเพราะพี่แชมป์ลากไปถ่ายด้วยก็ตาม





   X





   “เยิ้มเลยนะมึง”



   “อะไรของมึง”



“ก็นั่งมองน้องมันจนค...เยิ้มแล้วไง หน้ามึงหื่นมากไอ้เหี้ย”อะไรของมันวะ ผมก็ว่าผมมองปกติ อาจจะมีที่มันเขี้ยวอยากเตะเบาๆด้วยความเอ็นดูไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับที่ไอ้ทักษ์มันว่าแน่ๆ



“ความคิดมึงนี่ ไม่จังไรจริงๆคิดไม่ได้นะ”



“ทำมาด่ากู กูก็แค่พูดอย่างที่กูเห็นเว้ย”ผมส่ายหน้าระอากับความคิดมัน แล้วหันไปมองเด็กที่นอนแผ่บนหาดทราย ช่วงบ่ายที่ผ่านมาผมปล่อยน้ำน่านไว้คนเดียว ส่วนผมต้องสัมมนาอยู่หลายชั่วโมงแต่ระหว่างนั้นก็สั่งไอ้ทักษ์ไว้เรียบร้อยแล้วว่าให้ดูแลเป็นอย่างดี จริงอยู่ที่น้ำน่านเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองได้ แต่ผมเป็นคนชวนมาผมก็อยากให้สะดวกสบายและสนุกที่สุด แล้วมันก็ดูเป็นอย่างนั้นจริงๆถึงได้นอนหมดเรี่ยวแรงอย่างนั้น



เมื่อคืนหลังจากที่หลอกล่อปนท้าทาย สุดท้ายไอ้เด็กแสบก็ตอบตกลงมาจนได้ ถ้ารู้ว่าบอกชื่อโรงแรมไอ้ทักษ์ไปแล้วจะยอมมาด้วยผมคงบอกไปแต่แรกแล้ว แต่มันก็ไม่แย่นักเพราะเมื่อคืนผมก็ได้กำไรนิดๆหน่อยๆ ไม่นับเรื่องที่หวิดหัวแตกน่ะนะ



“มึงจริงจังกับน้องมันจริงๆเหรอวะ”ไอ้ทักษ์ถามอีกครั้งหลังจากที่เงียบกันไป มันยังคงสงสัยอยู่ อาจจะคิดว่าผมอยากแค่เอาชนะเพราะท้าทาย ได้มายาก พวกไอ้ทักษ์มันเคยเห็นน้ำน่านมานาน เพราะเป็นขาประจำร้านไอ้เสก แม้จะไม่เคยพูดคุยแต่ก็พอรู้พฤติกรรมดีว่าเป็นคนยังไง ผีเห็นผี


“คงอย่างนั้น”



“อะไรคือคงอย่างนั้นวะ จริงจังก็พูดมา ห่า มาถึงขนาดนี้แล้วครับพี่”



“เออ กูจริงจัง”


“รู้มั้ยตอนกูเห็นหน้าน้องมันกูโคตรงง ไม่คิดว่าเด็กที่ว่าจะเป็นไอ้หล่อนี่ มาด้วยกันได้ไงวะ”



“น่านเป็นทีมถ่ายพรีเวดดิ้งของพี่แชมป์”



“อ่อ แหม่ประจวบเหมาะอะไรแบบนี้วะ”



“หึ”



“หน้ามึงเหี้ยมากเลยรู้ตัวมั้ย”



“เหี้ยยังไงก็ดีกว่ามึง”


“เหอะ ไอ้สัด ไปเลยไป ไปหาเด็กมึงเลย”มันไล่ แต่อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่ามันก็พาสาวมาด้วย ได้ข่าวว่าเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ชอบนักเด็กในชุดนักศึกษาเนี่ย แต่ไม่รู้ว่าคนนี้จีบได้จริงๆหรือว่าเป็นไซด์ไลน์



พอขึ้นห้องผมก็ไล่ให้น้ำน่านไปอาบน้ำก่อนเพราะเล่นเหนื่อยมาตลอดบ่าย วันนี้ก็ดูว่าง่ายบอกอะไรก็ทำ น่ารักๆ



ผมหยิบไอแพดขึ้นมาเช็คหุ้น เช็คเมลงานต่างๆ มีเมลจากฝรั่งเศสส่งมาเกือบทุกวัน ช่วงนี้ร้านเสื้อผ้าที่ฝรั่งเศสเริ่มมีปัญหาอีกแล้ว ตอนแรกที่ว่าจะขายหุ้นให้กับหุ้นส่วนอีกคนที่บุกเบิกมาพร้อมกับแม่ผม แต่สุดท้ายผมก็ได้คนที่จะมาดูแลหุ้นในส่วนนี้แทน ผมเลยจะขายให้เขาแต่ตอนนี้ยังขลุกขลักอยู่ เพราะอีกฝ่ายเพิ่งคลอด เลยยังไม่สามารถเข้ามาดูร้านและบริหารงานได้อย่างเต็มที่ ทางหุ้นส่วนเก่าเขาก็หวังว่าจะได้หุ้นที่ผมถืออยู่ไปเป็นของตัวเองทั้งหมดก็เริ่มเล่นแง่ มีแต่ปัญหาให้ตามแก้ ผมเปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมอาบน้ำ ก่อนจะไล่ตอบเมลที่ถูกส่งเข้ามาแล้วเผลอหลับไปไม่รู้ตัวจนกระทั่งน้ำน่านมาปลุก รู้สึกมึนหัวไปหมด



อาบน้ำเสร็จก็พากันลงมากินข้าวไอ้ทักษ์จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ฟรีทั้งหมดทั้งอาหารและเครื่องดื่มเหมือนที่ผมใช้หลอกล่อน้ำน่านมา ตอนแรกที่ถูกปฏิเสธก็ใจแป้วเหมือนกัน อยากใช้เวลาด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้คุยกันดีๆเท่าไหร่ แต่แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็โอเคแล้ว นี่ผมกลายเป็นคนมักน้อย ดูเจียมตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน



ไอ้ทักษ์ทำหน้าที่ได้ดีมากทั้งหยอดทั้งชงให้ ประโยคโดนใจเรื่องของฟรีนั่นทำเอาผมอยากจะหัวเราะดังๆแต่ก็ต้องกลั้นไว้ แกล้งจิบไวน์กลบเกลื่อน ไอ้ตัวคนพูดมันไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรหัวเราะลั่นไม่ห่วงภาพพจน์ แต่น้ำน่านที่ได้ฟังคงต้องคิดไปไกลแน่ๆ พอไอ้ทักษ์ไปรับโทรศัพท์ถึงได้ไล่บี้เอากับผม



“พี่เล่าเรื่องของเราให้เพื่อนฟังเหรอวะ”



“เปล่า”ผมสะดุดหูกับคำว่าเรื่องของเรา กล้ามเนื้อมุมปากกระตุกยกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่



“แล้วไมเพื่อนพี่พูดงั้นวะ”



“มันแค่รู้ว่าพี่ชอบน่านอ่ะ ก็พูดไปงั้นแหละ ไอ้ทักษ์ปากมันดี พี่พูดจริง ทำไมทำหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น”ผมพูดย้ำอีกรอบเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แต่เป็นผมเองก็อาจจะเชื่อยาก ในเมื่อตอนแรกๆเราแทบไม่เคยคุยกันดีเลยๆ



“ก็มันน่าเชื่อหรือไงเล่า”



“เชื่อเถอะ ‘เรื่องของเรา’ พี่ไม่มีทางเล่าให้ใครฟังหรอก”ผมเน้นคำว่าเราชัดๆ น้ำน่านนิ่งไปเหมือนเพิ่งรู้ตัว ซ้ำไปอีกรอบทีนี้เลยได้เห็นท่าทางที่ไม่เคยเห็นมาก่อน น้ำน่านกำลังเขิน คือไม่ได้หน้าแดงนะครับ แต่มันรู้สึกได้เลยเพราะปฏิกิริยาของเขาแปลกไป อยากจถ่ายวีดิโอเก็บไว้จริงๆ ยิ่งแหย่ก็ยิ่งหลุดมาด โคตรน่ารักและโคตรฮา ฮ่าๆ



ผลจากเครื่องดื่มฟรีทุกอย่างทุกประเภททำให้ไอ้เด็กขี้เมาซัดไปเต็มคราบ เมาแบบไม่รู้ตัวเลย แต่ไม่มีคนเมาที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเมาหรอก ตอนพาเดินกลับมาที่ห้องนี่ยังจะเรียกร้องอยากดื่มอยู่เลย ผมพูดอะไรก็เหมือนจะฟังรู้เรื่องนะ แต่คิดว่าคงไม่เข้าใจเลย เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เหนื่อยมากกว่าจะลากมาถึงห้องได้ เขาเตี้ยกว่าผมอยู่หลายเซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กแบบพกพาง่าย



“น่าน รู้เรื่องอยู่มั้ยเนี่ย”ผมถามคนที่นอนตาปรือปรอยบนเตียง ปากขยับเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด ตกลงรู้เรื่องมั้ยวะ



“อาบน้ำมั้ย?”



“.....”



เฮ้อ...ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดผมในห้องน้ำชุบน้ำมาเช็ดตามตัวให้ กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องมาดูแลอีกฝ่ายในสภาพเมาแบบนี้ คิดแล้วก็ขำแล้วก็เหนื่อยใจเมื่อคนเมาไม่ยอมให้ความร่วมมือ เช็ดตัวให้ก็ปัดมือทิ้งบ่นว่าเย็นบ้างเปียกบ้าง เช็ดตัวมันก็ต้องเปียกต้องเย็นมั้ยล่ะ พอไม่ได้ดังใจมากๆก็พลิกตัวหนีผมก็ต้องออกแรงพลิกกลับมา การรบกับคนเมานี่ไม่ง่ายเลย ผมเลยต้องคร่อมทับขาเขาไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นไปไหนได้อีก ปลดกระดุมเสื้อเพื่อเช็ดตัวให้ แล้วความคิดบางอย่างก็แล่นเข้าหัว ตอนที่เห็นผิวเนื้อเนียนๆและรอยสักที่ทำให้เรือนร่างนี้ดูเซ็กซี่จนแทบละสายตาไม่ได้ อยากทำให้ร่างนี้ครวญครางใต้ร่าง




ดวงตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นราวกับจะเชิญชวนให้ผมขาดความยับยั้งช่างใจ ความรู้สึกตอนที่เคยได้ครอบครองเขาในครั้งนั้นตีขึ้นมาในอก มันชัดเจนและรุนแรงเมื่อมีสิ่งยั่วเย้าล่อตาล่อใจ กลิ่นหอมเฉพาะตัวผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์สารพัดอย่าง หลอกล่อมอมเมาผมให้เพลิดเพลินไปกับริมฝีปากนุ่มๆแดงๆ ผมได้สติเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรฉวยโอกาสและปล่อยให้ความต้องการครอบงำจนขาดสติอีก แต่น้ำน่านกลับไปฝ่ายไม่ยอมถอย และพาผมเตลิดไปกับความหวานลิ้นและร้อนรุ่มในอก




ผมแตะชิมไปทั่วร่างที่สติเริ่มขาดหายไปทุกที มีแต่อารมณ์ดิบครอบงำ ยิ่งเล่นกับร่างกายเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเรียกเสียงครางพึงพอใจจากเขาได้มากเท่านั้น บางครั้งก็เหมือนจะฮึดฮัดขัดใจเมื่อผมหยุด ตอนนี้ร่างกายของเขาเปล่าเปลือยอยู่กลางเตียง บอดี้ของเขาสวยมาก ดูดีไปทุกส่วน ใครต่อใครถึงได้หลงนัก ลีลาก็คงไม่ธรรมดา ผมก็อยากจะเห็นเขามีอะไรกับสาวๆดูสักครั้ง อยากรู้ว่าจะร้อนแรงแค่ไหน แต่ก็แอบหวงถ้าเขาไปทำจริงๆ ก็เคยลั่นวาจาไปแล้วว่าถ้าเขาไปนอนกับใครผมจะตามไม่ให้เขาได้สุขสมหวัง



“อือ...”เสียงครางเบาๆ ทำให้ผมหยุดคิด มองมือเรียวที่เลื่อนมากอบกุมตัวเอง คงทนไม่ไหวแล้ว ผมปัดมือนั้นทิ้งแล้วจัดการทำให้เขาแทน เอวสอบขยับตามจังหวะ หน้าแดง ตัวแดง ไปตามแรงอารมณ์ ผมอยากเห็นเขารู้สึกมากกว่านี้ อยากได้ยินเสียงครางที่ดังกว่านี้ จึงปรนเปรอให้อย่างที่ไม่เคยทำให้คู่นอนคนไหน แค่แตะลิ้นลงไปก็เรียกเสียงจากเขาได้ทันที ก่อนจะครอบครองทั้งหมดเมื่อทรมานเขาจนพอใจแล้ว



ผมบ่มเพาะอารมณ์อีกฝ่ายจนได้ที่แล้วเปลี่ยนมาเป็นมือแทน ขยับไม่กี่ทีเขาก็ไปถึงฝั่ง ซัดสาดทุกหยาดหยดเต็มฝ่ามือผม ไอ้เด็กแสบหายใจหอบถี่อยู่บนเตียงไม่นานก็หลับไป ก็สบายตัวเขาแล้วนี่ ผมทำความสะอาดให้ จับแต่งตัวให้นิดหน่อย ไม่กล้าให้นอนแก้ผ้าเดี๋ยวตื่นมาจะมีเรื่องอีก แล้วก็ป้องกันตัวเองหน้ามืดด้วย



อย่าถามว่าผมไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ แน่นอนว่าผมไม่ได้ตายด้าน รู้สึกมากจนปวดไปหมด อยากทำมากๆ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปลดปล่อยตัวเองในห้องน้ำแทน  คนเราไม่ควรจะทำผิดเรื่องเดิมซ้ำๆ



ผมไม่ได้เป็นคนดี เพียงแต่แค่รู้ใจตัวเองว่าต้องการอะไร








----------------------------------------


มาแว้วววว ความรู้สึกว่ายังไม่อยากให้ให้เป็นตอนที่ 20 เลยให้เป็น 19.2 ไปซะ เพื่ออะไรก็ไม่รู้ 55555 แก้เป็นตอนที่ 20 แล้ว
พี่เดียวอาจจะเป็นหนุ่มวัยทอง อารมณ์เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง บางคนอาจจะสงสัยว่านี่เอาจริงหรือหยอกเล่น
จริงๆความรู้สึกพี่เดียวไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น ที่ต้องระวังคือน้องน่าน(??)  :hao3:















หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 02-06-2016 14:22:03
พี่เดียวต้องจับแน่นๆค่ะ. เดี๋ยวน้องน่านหนีไปมีชู้~~  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 02-06-2016 20:47:13
 :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 03-06-2016 00:26:12
ชอบเรื่องนี้ยังเลยยยยยยยย   :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-06-2016 15:26:16
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 03-06-2016 23:46:07
รักที่น่านไม่ได้ออกแบบไว้สิน่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.19.2 [2.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 04-06-2016 09:03:36
สนุกมากเลยคะ เพิ่งเข้ามาอ่าน ตอนนี้พี่เดียวถลำเข้าไปในรักที่ไม่ได้ออกแบบแล้ว เหลือแต่น้ำน่านที่คงเริ่มถลำเข้าไปแบบไม่รู้ตัวแล้ว ตอนนี้ลุ้นตอนตื่น แล้วชีวิตประจำวันหลังจากนั้น ขอให้อย่ามีมาม่าเยอะคะ กลัว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 12-06-2016 21:04:44
ลำดับตอนชักจะเพี้ยนไปหมด เดี๋ยวมีจุด เดี๋ยวมีครึ่งแรก ครึ่งหลัง  :ling2:
เราเลยแก้ตอนที่แล้ว 19.2 ให้เป็น 20 แล้ว ตอนนี้เป็น 21 ครึ่งแรกนะคะ







รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 21 -

(ครึ่งแรก)








ผมนั่งอึนอยู่บนเตียง แสงตะวันที่ลอดผ่านผ้าม่านเจิดจ้าแยงตาสมกับเป็นแดดประเทศไทย โหดร้ายไม่แพ้ชาติใดในโลก กวาดสายตามองไปรอบห้องที่ซุกหัวนอนเมื่อคืนที่ผ่านมา ความทรงจำสุดท้ายของผมคือถูกไอ้พี่เดียวลากมาเหวี่ยงไว้บนเตียงหลังจากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรอีก ทั้งเพลียทั้งเมาไม่แปลกที่จะหลับเป็นตาย แต่เหตุการณ์ตอนตื่นนี่มันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว แตกต่างกันที่สถานที่เท่านั้นเอง เลยทำให้ผมระลึกได้ว่าควรสำรวจตัวเองเป็นอย่างแรกว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เสื้อผ้าก็มีทั้งล่างและบน แต่ว่าเป็นเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ ไม่ใช่ชุดที่ใส่เมื่อวาน ไอ้บ้านั่นจับผมแก้ผ้าอีกแล้ว อยากจะเตะมันสักที ส่วนร่างกายของผมยังปกติดี ขยับแล้วไม่เจ็บไม่ปวดที่ตรงไหนแสดงว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...จะถามว่าผมมั่นใจได้ยังไงก็คงเพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วเลยรู้ว่าถูกกระทำกับไม่ถูกกระทำมันต่างกันยังไง ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากจะมีนักหรอกไอ้ประสบการณ์เฮงซวยแบบนั้น ชีวิตผมอยู่ยากขึ้นเมื่อรู้จักกับไอ้เหี้ยพี่เดียว เคยที่ไหนที่ตื่นมาแล้วต้องมาคอยหวาดระแวงว่าโดนเสียบหรือเปล่าแบบนี้




   “ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำสิ แล้วเดี๋ยวลงไปทานอาหารข้างล่างกัน”ไอ้พี่เดียวเดินเข้ามา หน้าตาสดชื่นแจ่มใสแต่ดูกวนตีนในสายตาผม สายตามันที่มองมาก็แปลกๆมันระยิบระยับแพรวพราวน่าจิ้มให้ตาบอดนัก



   “เมื่อคืนนอนไหน”ผมถามมัน แต่คำตอบที่ได้รับคือการบุ้ยใบ้ให้ผมก้มมองพื้นที่ข้างตัวเอง รอยยับย่นของที่นอนและหมอนที่บุ๋มลงไปคือหลักฐานชั้นเยี่ยม ความจริงผมไม่น่าจะถามมันเลยด้วยซ้ำก็น่าจะรู้คำตอบดี ผมควรจะชินใช่มั้ยกับการนอนข้างๆมันเนี่ย



   “รีบไปอาบน้ำสิ”



“อือ”



ผมขี้เกียจเถียงเพราะแรมยังต่ำอยู่ประมวลผลช้าด้วย จัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัว ดีที่เอาชุดมาเผื่อไว้ด้วยไม่งั้นต้องวุ่นวายหาซื้ออีก




“ตื่นยังเนี่ย”มันเดินมาแหกตาผมให้กว้างขึ้น




“เจ็บนะเว้ย!”ผมปัดมือมันออกแล้วผลักอกมันให้ถอยไป คนยิ่งไม่ปกติอยู่อย่ามาทำให้หงุดหงิดนะ เดี๋ยวโดดกัดหูซะเลย




“หึหึ ไปครับ ไปหาอะไรกินแก้แฮงค์ดีกว่า”




ผมเหลือบตามองมันอย่างหมั่นไส้ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเพราะเลย แล้วถือวิสาสะอะไรมาโอบคอผมเนี่ย พอผมสะบัดออกมามันก็ตามมาโอบใหม่หลายรอบจนรำคาญเลยต้องปล่อยมันไป ไอ้โรคจิต!




ผมหิวหนักมาก อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์นั้นเหมาะมาก ดีที่ยังตื่นมาทันช่วงอาหารเช้าอยู่ มีอะไรผมก็ตักมาหมด รอบแรกสองจานผมก้มหน้าก้มตาซัดไม่สนใจคนที่นั่งร่วมโต๊ะ ไม่แคร์มารยาทใดๆทั้งสิ้น เงยหน้ามาก็เห็นมันมองผมยิ้มๆ ด้านหน้ามีแก้วกาแฟวางอยู่แก้วเดียว




“มองไร”




“มองเด็กน้อยผู้หิวโหย”หัวเราะหาแป๊ะเหรอวะ คนหิวตลกตรงไหน




“เอาอีกมั้ย พี่ไปตักให้”




“ออมเลต 2”ไม่ปฏิเสธหรอก อยากเสนอตัวผมก็สนอง มีคนรองมือรองเท้ามันก็ดีไปอีกแบบ ปกติก็ใช้ไอ้พายตลอด



“ไข่ลวกด้วยมั้ย โด๊ปซะหน่อย”




“ไม่เอา”จะโด๊ปไปทำไม ไม่ได้ไปออกกำลังเข้าจังหวะมาสักหน่อย มันอมยิ้มเดินไปทางโวนจัดวางอาหาร อารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ มันหายไปไม่นานก็มาพร้อมกับออมเลตตามที่ผมสั่ง ส่วนของมันมีไข่ลวกสองฟอง ไส้กรอกชิ้นเล็กๆอีกหนึ่ง ดูแล้วไม่น่าอิ่ม




“อิ่มไง?”




“ไม่ค่อยทานเช้าอยู่แล้ว”




“อาหารเช้าสำคัญต่อร่างกาย โตจนป่านนี้ไม่รู้หรือไง”อาฝนสอนผมมาตั้งแต่เด็ก ทานอาหารไม่เคยขาดสักมื้อ จะมาออกนอกลู่นอกทางก็ตอนที่ได้มาอยู่คนเดียวที่ออกเที่ยวเมาจนตื่นสายโด่งไม่ก็นอนกับสาวๆจนหมดแรง ถ้าไม่นับวันพวกนั้นผมก็ทานอาหารเช้าตลอด




“รู้ แต่มันชิน”




“แล้วแต่นะ”ยังไงก็ไม่ใช่ร่างกายของผม




“ขี้บ่นเหมือนกันนะเนี่ย”




“ไม่เท่าคนบางคนหรอก”ผมยังจำได้ไม่ลืม ไอ้พี่เดียวทั้งขี้บ่น ปากคอเราะร้าย ด่าทีเจ็บไปยันม้าม แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นกวนตีนแทนเสียแล้ว แต่ก็น่าเบื่อ น่ารำคาญไม่แพ้กัน




ผมกลับมาถึงบ้านตอนบ่ายแก่ไอ้พี่เดียวมันขับรถมาส่ง ผมไม่ปฏิเสธหรอก เหนื่อยมีคนขับให้นั่งก็สบายดี แต่วันนี้มันไม่ได้เข้าบ้านมาด้วย พอผมเดินเข้าบ้านมันก็ออกรถไป บ้านเงียบเชียบไม่มีคนอยู่ ไอ้พายไปทำงานเมื่อเช้าผมเห็นที่มันไลน์บอกไว้ มีถ่ายซ่อมซีนอะไรของมันไม่รู้ พอเห็นเตียงก็เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ผมต้องทิ้งดิ่งลงไป จากว่าจะนอนเล่นสักพักแล้วลุกไปอาบน้ำหาอะไรกิน ก็นอนเพลินมารู้สึกตัวอีกทีตอนสองทุ่มกว่าเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังปลุก




“อื้อ...”




“หลับอยู่เหรอ”คนปลายสายถามมาเสียงนุ่ม ผิดวิสัยจนถึงขนาดที่ผมยังงัวเงียขี้ตาอยู่ก็สามารถขนแขนลุกได้



“อือ”




“เพิ่งหลับหรือหลับตั้งแต่ตอนมาถึงเนี่ย”




“อย่างหลัง”ผมพลิกตัวไปกดเปิดไฟหัวเตียง พอจะลุกขึ้นนั่งก็มึนไปหมด นอนผิดเวลานี่ไม่ดีจริงๆ




“กินไรมั้ยเดี๋ยวจะซื้อเข้าไปให้”




“อยู่ไหนอ่ะ”




“เยาวราช”




“หะ ไปทำไร”



“ธุระนิดหน่อย”คงไม่อยากบอก ผมก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น ก็แค่ถามไปตามเรื่อง แต่ก็สงสัยว่ามันไม่เหนื่อยหรือไง “ตกลงจะกินอะไร”




“อะไรก็ซื้อมาเหอะ แล้วจะมาถึงกี่โมงเนี่ย”เยาวราชไม่ใกล้เท่าไหร่เลยนะ กว่าจะซื้อกว่าจะมาถึงนี่ไม่สี่ทุ่มไปแล้วเหรอวะ ผมไม่ห้ามหรอกที่มันจะมา ก่อนหน้านั้นก็มาบ่อยจนไอ้พายชิน อีกอย่างผมหิว ของกินเยาวราชก็อร่อยๆทั้งนั้น ไม่ได้กินนานแล้วด้วยมีคนซื้อมาให้กินถึงที่ดีจะตาย




“สักชั่วโมงกว่าๆ ลุกขึ้นไปอาบน้ำให้สดชื่นไป”




“อือ”ผมรับคำแล้วไปอาบน้ำ ไม่ได้เชื่อฟังแต่ตั้งใจจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว พออาบน้ำเสร็จลงมาข้างล่างไม่ได้เปิดไฟไว้ มีแค่แสงสลัวจากแสงไฟในสวนลอดผ่านเข้ามา ผมเปิดไฟไล่ความมืด ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อดูว่าในตู้เย็นมีของสดอะไรบ้าง ผมไม่อยู่บ้านหลายวัน ไอ้พายก็ไม่ค่อยอยู่กลัวจะเน่าคาตู้ มองดูแล้วมีแค่เนื้อหมูกับกุ้งอยู่นิดหน่อย ผักเหลือแค่ถั่วฝักยาว คงผัดกะเพราได้สักจาน แต่กะเพราต้องไปเก็บในสวน ผมลงพวกผักสวนครัวง่ายๆเอาไว้ในสวนหลังบ้าน ตอนแรกผมปลูกพริกกับกะเพราไว้ แต่ไอ้พายมันเอา ข่า ตะไคร้ ต้นมะกรูดมาลงเพิ่ม ไอ้ธันว์มันบอกว่าถ้าปลูกกะหล่ำปลีกับฟักทองด้วยจะดีมาก นั่นมันก็จริงจังเกินไป อีกอย่างไอ้คนคิดมันปลูกอะไรขึ้นที่ไหน มือร้อนปลูกอะไรตายหมด ไม่นานก็ได้ยินเสียงบีบแตรดังหน้าบ้าน เดินไปดูจอมอนิเตอร์เพื่อความแน่ใจอีกทีว่าเป็นไอ้พี่เดียวจริงๆก่อนจะกดเปิดประตูให้



“มาเร็วกว่าที่คิด”ผมเดินไปรับ จะไปช่วยถือของด้วย มีน้ำใจซื้อมาให้จะนิ่งดูดายมองมันขนเข้ามาประเคนถึงปากเลยก็เกรงใจ




“รถไม่ค่อยติด”




“ทำไมเยอะแยะขนาดนี้จะกินยังไงหมด”มันเปิดตอนหลังทำให้ผมเห็นถุงของสี่ห้าถุงวางเรียงกันบนเบาะ ขับแอสตันไปเยาวราชคนไม่มองกันเหลียวหลังเลยเหรอวะ เอาคันนี้ไปแสดงว่าไปกับหญิงชัวร์ เพิ่งสังเกตุเสื้อผ้าหน้าผมมันจัดเต็มเชียว ยืนกันคนละด้านน้ำหอมจากตัวมันก็ฟุ้งมาถึงนี่



“ซื้อมาเผื่อพายด้วย”



“มันไม่อยู่”



“ถ้าไม่หมดก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้”



“อือ”



ผมหยิบถุงมาถือไว้จะเดินเข้าบ้านมันก็ตามมาแย่งไปถือเอง พอผมมองมันดุๆถึงได้แบ่งมาให้ผมถือตั้งหนึ่งถุง ผมขี้เกียจเสียเวลาเลยเดินเข้าบ้านมาเลย มันก็เดินตามมาติดๆเพราะน้ำหอมของมันลอยตามชิดจมูก



“ทำไมรีบกลับ กินข้าวเสร็จแล้วไม่พากันไปกินตับต่ออ่ะ”ผมวางของไว้บนโต๊ะ เปิดดูทีละถุงว่ามีอะไรบ้าง มีก๋วยเตี๋ยวหลอด เกาเหลาเลือดหมู ก๋วยจั๊บ หมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปลาลวก แล้วก็เป็ดย่าง ของหวานมีขนมปังสังขยา เต้าทึง หมี่หวาน จัดเต็มไปหรือเปล่าวะ



“หึ พูดเหมือนรู้ว่าไปกับใคร”มันกระตุกยิ้มมุมปากกวนๆ แต่ก็ยอมรับว่าโคตรจะดูดี แบดฉิบเป๋ง



“แต่งตัวขนาดนี้คงไปกับเพื่อนหรอก”ผมเบ้ปากใส่ หมั่นไส้คนว่ะ



“ก็นะ ไปกับผู้หญิงจริงๆนั่นแหละ”



“เหอะ”ไม่มีอะไรจะพูด




“ทำไม หึงเหรอ?”




“เลิกมโนได้แล้ว”




“เอ้า ก็ท่าทางมันบอกว่าแบบนั้น”



“มั่ว”ผมไปแสดงท่าทางอะไรให้มันเข้าใจอย่างนั้นวะ หึงบ้าบออะไร ผมแค่หมั่นไส้มันก็เท่านั้น มันจำได้หรือเปล่าว่าบอกว่าชอบผม ขอเป็นแฟน แต่ดูการกระทำมันดิ ไม่ได้มีความจริงจังจริงใจเลย




“อันนี้พี่จะกิน เทใส่ชามให้หน่อย”มันชี้ไปที่ก๋วยจั๊บ อะไรวะผมก็เล็งไว้นะเว้ย แล้วดันซื้อมาถุงเดียวอีก



“ไม่ จะกิน”



“กินอย่างอื่นไปดิ ซื้อมาให้ตั้งเยอะ”




“ก็จะกินก๋วยจั๊บเหมือนกัน แล้วไปถึงที่ยังไม่ได้กินมาไง”




“กินแต่ไม่ถูกปาก อาหารเหลา เลี่ยน”




“แล้วพาเขาไปกินทำไม”




“ก็สาวๆเขาอยากกินเลยต้องพาไป”




“สาวๆ?”ผมเผลอทวนคำ แสดงว่าไม่ได้ไปกับผู้หญิงแค่คนเดียว “ไปหลายคน?”




“อือ สวยๆทั้งนั้น”ความหมั่นไส้พุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว จะบอกว่าตัวเองฮอตล่ะสิ




“เหอะ”ตอนแรกว่าจะเทก๋วยจั๊บให้แล้วแบ่งกันกิน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจละ




“หึหึ ท่าทางเหมือนจะหึงจริงๆนะเนี่ย”ยัง ยังไม่เลิกกวนตีน ผมเลื่อนชามเกาเหลาเลือดหมูไปให้มัน นึกถึงไอ้คิมเลยรายนั้นชอบมาก แต่ผมไม่ชอบกินเลือดเท่าไหร่ ให้มันกินเหมาะแล้ว




“อย่าหึงไปเลยครับน้อง พี่พาคุณหญิงป้าไปทานข้าวกับเพื่อนๆมา สาวห้าสิบขึ้นทั้งนั้น ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”มันบอกยิ้มๆ ผมเลื่อนชามก๋วยจั๊บไว้ตรงกลางจะได้กินด้วยกัน




“อีกอย่างคนสนใจก็ยืนอยู่ตรงหน้าเนี่ย ถึงได้มาหา”




โอ้...กูไปต่อไม่ถูกเลย ถูกมันจีบเอาซึ่งๆหน้า ทำตาหวานใส่ หัวใจเหมือนจะกระตุกไปวูบหนึ่ง หน้าก็ร้อนวูบวาบขึ้นมา เลื่อนชามก๋วยจั๊บกลับมา กินคนเดียวดีกว่า




“ประสาท กินๆเข้าไปเลยปากจะได้ไม่ว่าง”จับหมูสะเต๊ะยัดปากแม่ม




“หึหึ”




ผมล่ะเกลียดเสียงหัวเราะของมันจริงๆ









---------------------




ไม่อยากหายไปนานเลยเอาครึ่งแรกมาส่งก่อน ครึ่งหลังจะตามมาติดๆ
สวัสดีคนอ่านที่หลงเข้ามาใหม่นะคะ ดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มค่ะ 5555
เจ้าประจำเราก็รักนะคะ >.<


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 12-06-2016 22:22:18
น้องน่านขี้ซึนเน๊อะ~ :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-06-2016 22:36:25
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 12-06-2016 23:23:47
น่ารัก น่ารัก น่าร๊ากกกกกกกกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: peary ที่ 24-06-2016 19:29:41
สนุกมากเลยค่ะ ^^ ตามมาจากกระทู้แนะนำนิยาย
อ่านรวดเดียวจบ ไม่ผิดหวังจริงๆ
นับวันพี่เดียวก็ยิ่งน่ารักขึ้น น้ำน่านเองก็อาการเริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
แล้วมาต่อไว ๆ นะคะ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ยุกยิก ที่ 24-06-2016 20:05:41
น่านน่ารักอ่ะ  น่านหนีพี่เดียวไม่รอดแน่ๆอ่ะ...พี่แกรุกซะขนาดนี้
คนเขียนสู้ๆนะคะ

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 26-06-2016 22:08:17
สนุกมากกกกกกกก
ชอบทั้งพี่เดียวชอบทั้งน่านเลยยย
น้องน่านใจแข็งมากกกกก แต่ก้ใช่ว่าจะไม่สะเทือน ฮ่าาา
เอาใจช่วยพี่เดียวสุดใจค่าาา
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: anny_jr ที่ 28-06-2016 23:46:50
สนุกมาก อ่านรวดเดียวเลย แบบว่าว่างไม่ลง อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 29-06-2016 08:39:02
เดี๋ยวจะรีบมาต่อนะคะ เรากลับมาแล้ว T_T
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arakanji ที่ 18-07-2016 14:53:05
อ่านรวดเดียว 21 ตอน
สนุกมากค่ะ
รออยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งแรก [12.6.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Qmulonimbus ที่ 19-07-2016 12:20:00
ฮือออออ รีบมาต่อนะคะ. เราติดมากมายอ่าน2วันรวดเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 19-07-2016 23:26:47
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 21 -

(ครึ่งหลัง)







วันแรกหลังจากการหยุดยาวไปหลายวัน บรรยากาศที่หน้าคณะผมไม่ได้คึกคักเหมือนคณะอื่นกันหรอก มันดูเนือยๆอึนๆ เพราะแต่ละคนยังไม่สามารถทำใจให้กลับสู่สภาวะการเรียนตามปกติได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็นั่งอึนกันได้ไม่นานเพราะงานที่อาจารย์สั่งให้ทำแทนความคิดถึงที่ไม่ได้เห็นหน้ากันหลายวันก็ท่วมท้น แถมยังให้เวลาทำแค่สัปดาห์เดียวอีก งานนี้ไม่รีบทำก็คงเสร็จไม่ทัน แล้วก็ต้องทำให้ดีกว่างานที่เพิ่งส่งกันไปเมื่อเช้าด้วย เพราะถูกสับเละคาห้องกันไปหลายคน





“เย็นนี้พวกมึงเข้าประชุมกันด้วยนะเว้ย”เอเชียกระโจนเข้ามาตรงโต๊ะที่พวกผมนั่งเนือย นอนเลื้อยกันอยู่ พูดเสียงดังทำเอาไอ้หมวยที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาด่า




“เพลียอะไรนักหนา เพิ่งเปิดเรียนวันแรก เมื่อคืนผัวกวนหรือไง”




“ผัวหน้ามึงสิ! ถ้าไม่เห็นเป็นผู้หญิงกูเตะปากแตก”ไอ้หมวยด่าทันควัน พวกผมหัวเราะก๊ากอย่างหยุดไม่อยู่ มันทำหน้าหงิกหน้างอแต่ขึ้นสีแปลกๆ หน้าแดงทำไมวะ




“แหม่ แหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้เลย”




“กูเพื่อนเล่นมึงรึไง”ไอ้นี่ก็ไม่ยอมเลย




“พอเลยพวกมึง กูรำคาญ มึงจะให้พวกกูเข้าประชุมอะไร”ไอ้โอ๊คตัดบท ต้องต้องรำคาญมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ก็ไอ้สองคนนี้มันเถียงกันข้ามหัวไอ้โอ๊คจนหัวเปียกน้ำลายไปหมดแล้ว




 “งานสามสัมพันธ์ไง เดือนหน้าจะมีงานแล้ว พี่เอ้ฝากมาบอกว่าให้มึงเข้าประชุมด้วยเพราะจะให้เป็นเฮดช่วยงาน”งานสามสัมพันธ์เป็นงานระหว่างสามคณะคือคณะผม สถาปัตย์ แล้วก็ศิลปกรรม จับพวกน้องๆปีหนึ่งมาทำกิจกรรมเพื่อจะได้สนิทและรู้จักกัน เราต้องเรียนวิชาบางวิชาด้วยกันครับ สายงานมันเอื้อกันอยู่ ถือเป็นการขยายเครือข่ายการทำงานในอนาคตด้วย




“ไรว้า เห็นพวกกูเป็นคนมีความรับผิดชอบขนาดนั้นเลยหรือไง”ไอ้เต้โอดครวญ คือให้ไปช่วยงานพวกผมก็โอเคครับ แต่ถ้ามอบหมายให้ทำหน้าที่หลักเลยนี่ ไม่ไหวครับ ขี้เกียจคือคำตอบของทุกสิ่ง




“เออ พวกมึงต้องไป พี่เอ้ฝากมาบอกอีกว่าถ้าพวกมึงไม่ไปจะให้พี่กั๊กมาตามด้วยตัวเอง”




“โอ๊ย เหี้ยอย่าเอาพี่กั๊กมาขู่”พวกมันทำหน้าสยองกันสุดๆ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ตอนรับน้องผมไม่ได้เข้ากิจกรรม แต่ได้ยินว่าโหดสุด โหดจนไอ้หมวยเกลียดจนแทบจะลาออกเมื่อรู้ว่าเป็นน้องรหัส แต่ตอนนี้เขาดีกันแล้วครับ เพราะพี่กั๊กแม่มโอ๋ไอ้หมวย เหตุผลก็รู้ๆกันอยู่




“อย่าลืมนะพวกมึง ประชุมที่ห้องกิจกรรมสี่โมงเย็น”




“เออ”ไอ้เต้รับคำ “แต่กูสงสัยอยู่อย่าง มึงไปสนิทกับพี่เอ้ตอนไหนวะ ทำไมพี่เขาฝากบอกมึงมา จริงๆถ้าอยากให้พวกกูไปให้พี่กั๊กโทรบอกไอ้หมวยก็ได้”




“สนิทตอนไหนก็เรื่องของกู สู่รู้”มันว่าแล้วก็สะบัดกระโปรงพลีทพลิ้วๆหนีไป อะไรวะ ทำไมมีแต่คนหน้าแดง




“กูว่าเรื่องนี้มันมีกลิ่น”ไอ้โอ๊คมองตามเอเชียไปเอานิ้วถูคางเหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่




“หมวย มึงไปสืบกับพี่กั๊กสิ”




“เรื่อง อยากรู้พวกมึงก็ไปสืบกันเอง กูไม่ใช่คนชอบเสือก”




“เหรออออ”พวกผมประสานเสียงขึ้นมาทันที ผลักหัวมันคนละที




พวกผมแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองก่อนจะมารวมตัวตอนสี่โมงเย็นเพื่อประชุมงาน ผมได้รับมอบหมายให้เป็นคนประสานงานเรื่องสถานที่กับพี่หลง ส่วนคนอื่นๆก็ถูกกระจายไปทำหน้าที่อื่น ไอ้หมวยไปช่วยพี่วาวประสานงานกับคณะสถาปัตย์ ไอ้เต้ช่วยพี่ชิคประสานงานกับคณะศิลปกรรม ไอ้โอ๊คช่วยพี่กั๊กดูแลเรื่องสวัสดิการ เป็นพวกใช้แรงงานแบกหาม ประชุมวันนี้เป็นการแบ่งฝ่ายกันทำงานคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีการนัดประชุมของแต่ละฝ่ายอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง การประชุมวันนี้ก็เสร็จสิ้น อันที่จริงเรื่องคุยงานแค่ชั่วโมงเดียวก็เรียบร้อยแล้วแต่มัวแต่คุยเล่น นอกเรื่องกันเสียมากกว่าเลยช้า ก็นานๆทีจะได้มาเจอกัน ปกติก็มุดหัวมุดหางจมกองงานกันทั้งพี่ทั้งน้อง




“หาไรแดกกัน กูหิวมาก”ไอ้เต้พูดขึ้นระหว่างเดินไปที่ลานจอดรถ




“เออกูก็หิว กินไรวะ”




“กูอยากกินข้าวต้มหลังมออ่ะ พวกมึงต้องไป”ไอ้หมวยพูดขึ้นอย่างเผด็จการ




“เออ ไอ้สัด ไปก็ไป ไม่ต้องมาทำตาโตขู่”ไอ้โอ๊คว่า ผมเห็นด้วยกับมันนะ แล้วการที่มันทำตาอย่างนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเลย มันกลับดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ปกติมันก็ดูน่ารักถูกสเป็คพวกสายรุกอยู่แล้ว แต่ผมว่าช่วงนี้มันดูน่ารักมากกว่าเก่านะเนี่ย




   ร้านข้าวต้มหลังมอเป็นตึกแถวสองคูหาที่ไม่กว้างมากนัก ที่นี่แหล่งรวมเด็กมหาลัยทุกคณะ แต่ที่มากหน่อยก็คณะแพทย์เพราะอยู่ใกล้ที่สุด เปิดตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน ร้านแน่นทุกวัน มาหลังหกโมงเย็นไปแล้วต้องรอคิวนานมาก แต่วันนี้โชคดีที่มาถึงแล้วยังมีที่ว่างอยู่โต๊ะหนึ่งต้องนั่งเบียดๆกัน ไอ้หมวยเป็นคนสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว มากินด้วยกันบ่อยจนรู้ว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร พวกผมมีหน้าที่รอ ไอ้เต้ไปตักน้ำที่มีตั้งไว้บริการตัวเองด้านในของร้าน เป็นน้ำใบเตยหอมๆ ตั้งแต่เข้าร้านมาก็มีแต่คนมองพวกผม ส่วนมากก็เป็นสาวๆ แต่พวกผมหิวจนเกินกว่าจะสนใจ




   “โต๊ะเล็กจะวางกับข้าวพอมั้ยเนี่ย”ไอ้หมวยมานั่งที่โต๊ะแล้วบ่นเบาๆ



   “มึงสั่งไปกี่อย่างเนี่ย”



“เยอะอ่ะ แต่เชื่อเถอะไม่พอยาไส้พวกมึงหรอก”



“ไส้พวกกูหรือมึงคนเดียวกันแน่”ไอ้โอ๊คกัดซี้มัน



“งั้นมึงไม่ต้องแดก”



“โอ๋ๆ พี่โอ๊คแหย่นิดเดียวเอง น้องหมวยอย่างอนนะ”




“โอ๊ย ไอ้เหี้ยนี่!”ไอ้หมวยพยายามดิ้นรนออกจากการล็อคคอขยี้หัวของไอ้โอ๊ค มันไม่ดูน่ารักชวนจิ้นนะครับ มันตลกมากๆ เพราะไอ้หมวยมันสู้แรงควายๆของไอ้เชี่ยโอ๊คไม่ได้ ดิ้นแด่วๆเหมือนแมวถูกมัด แต่จู่ๆก็มีคนเดินมาชนไอ้โอ๊คอย่างแรงจนหน้าแทบทิ่ม ไอ้หมวยเลยดีดตัวออกมาได้ พวกผมตกใจหันไปมองคนที่เดินมาชน เขาสบตากับผมพอดี ก่อนที่จะเบือนสายตาไปยังไอ้หมวยที่ยังจับผมตัวเองให้เข้าที่ มันคงรับรู้ได้ว่ามีคนจ้องเลยเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ชะงักเบิกตากว้าง ผมจำได้ดี ผู้ชายคนนี้คือคนที่ผมเจอเขาอยู่กับไอ้หมวยสองครั้งแล้ว เขามองไอ้หมวยนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยขอโทษไอ้โอ๊คแล้วบอกว่าพื้นมันลื่นเลยเสียหลัก จากนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะด้านหลังพวกผมที่เพิ่งมีคนลุกออกไป แต่ผมว่าพื้นมันไม่ได้ลื่นหรอก เขาจงใจจะชนไอ้โอ๊คแน่ๆ สาเหตุก็เพราไอ้ตัวขาวๆ ที่นั่งสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันใดแต่สายตาล่อกแล่กคอยจะมองไปโต๊ะด้านหลังผม แต่พอสบตาผมเข้ามันก็หลบวูบ



“หึหึ”



“หัวเราะอะไรของมึงวะ”ไอ้เต้ที่นั่งข้างผมถามขึ้น



“ไม่มีไรมาก จู่ๆกูก็นึกเรื่องตลกขึ้นมาได้”ผมพูดแล้วมองหน้าไอ้หมวยยิ้มๆ มันถลึงตาใส่ผม ซึ่งก็ไม่ได้น่ากลัวเลย




พวกผมซัดกันจนอิ่มแปล้แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ไอ้โอ๊คจะไปส่งไอ้หมวย แต่มันกลับปฏิเสธอย่างผิดวิสัย แล้วบอกว่าจะแวะไปทำธุระก่อนแล้วก็ชิ่งไปทันทีปล่อยซี้มันยืนงงกับพฤติกรรม แต่ผมว่าผมรู้นะว่าธุระของมันคืออะไร พวกรุ่นพี่กลุ่มนั้นเพิ่งออกจากร้านก่อนพวกผมไปยังไม่ถึงสิบนาทีเลย ที่รู้ว่าเป็นรุ่นพี่ก็เพราะได้ยินเขาคุยกัน บ่นเรื่องงานของปีสี่อะไรทำนองนั้น





x
 





“เฮ้อออออออออออ”ผมถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะไถลตัวลงไปนอนแผ่กับพื้นด้วยความเบื่อหน่าย โยนไอแพดที่เล่นเกมจนแบตจะหมดลงบนพรมหนานุ่มสีเทาเข้ม ซึ่งก็ไม่ใช่ไอแพดของผมหรอก




“ถอนหายใจมากๆจะแก่เร็ว”ผมถีบขาคนพูดที่นั่งเอนตัว ใช้ศอกเท้ากับที่วางแขนโซฟา ในมือถือแฟ้มอย่างหนาสีดำ สวมแว่นสายตาเหมือนพวกเนิร์ด ที่ผมต้องมาถอนหายใจเซ็งชีวิตในคอนโดหรูหรานี่ก็เพราะมันนั่นแหละ หลังจากที่เดินออกจากร้านข้าวต้มจนมาถึงรถที่จอดอยู่อีกซอย ก็มีโทรศัพท์เจ้ากรรมนายเวรเข้ามาทั้งที่ไม่ได้ธูปเรียก ผมเลยต้องเอาส่วนบุญร้อนๆมาส่งให้ถึงคอนโด แต่พอมาถึงแล้วเจ้าของห้องกลับวุ่นวายอยู่กับการคุยโทรศัพท์ภาษาต่างด้าว ผมกะจะวางไว้ให้แล้วก็กลับแต่ก็ถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้อยู่ ด้วยการทำท่าทางชี้นิ้วสั่งว่าให้ไปเทข้าวต้มกับกับข้าวที่ซื้อมาใส่จานให้เรียบร้อยพร้อมทาน พ่อง! ซื้อมาให้ถึงที่ยังต้องมาบริการอีก พอผมทำท่าจะไม่ยอมมันก็กระทำการปล้นซึ่งๆหน้าแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยการยึดโทรศัพท์ กุญแจรถของผมไปใส่ลิ้นชักล็อคแล้วเอาลูกกุญแจใส่กระเป๋ากางเกง การกระทำทั้งหมดทั้งมวลนั้นเกิดขึ้นทั้งที่มันยังคุยโทรศัพท์อยู่ คือไอ้พี่เดียวมึงจะสามารถเกินไปละ




หลังจากที่คุยเสร็จแทนที่มันจะกินข้าวต้มที่ผมซื้อมา แล้วคืนทรัพย์สินที่ยึดไป มันกลับนั่งทำงานต่อแล้วโยนไอแพดเมียรักของมันมาให้ บอกให้ผมเล่นเกมรอ รอ รอและรอจนเบื่อมันก็ไม่ยอมไปกินสักที




“ไปกินข้าวดิ”กินให้จบๆผมจะได้กลับสักที




“อีกแป๊บเดียว”




“หลายแป๊บแล้วนะแม่ม!”



“พูดไม่เพราะ”




“เรื่องของกูครับพี่! อื้อๆๆ เอ็บอ๊ะ!”ไอ้ผีบ้ามันยื่นมือบีบปากผมอย่างแรง ดึงด้วยนะนั่นแทบจะยืดติดมือมันออกมาเลยเนี่ย




“ปากดี”




“แม่ม! เอาโทรศัพท์กับกุญแจรถมาดิ จะกลับบ้านแล้ว”




“รีบกลับไปไหน”




“คนก็มีงานมีการทำ ไม่ได้ว่างนะ!”ผมเตะขามันไปอีกที หงุดหงิดแล้วนะ! ทำไมต้องเสียเวลาไปกับมันด้วยเนี่ย ไม่น่าแวะมาเลยจริงๆ




“อีกแป๊บๆ”




“ไม่แป๊บแล้ว กุญแจลิ้นชักอยู่ไหน ในนี้ใช่มั้ย”ผมพุ่งตัวเข้าใส่มันที่นั่งอยู่บนโซฟาจนมันล้มลงนอน ส่วนแฟ้มตกไปอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว มันก็ได้แต่ปัดป้องผมที่พยายามปล้ำเอากุญในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของมัน แต่ตัวหนาๆของมันแทบไม่สะเทือน ทำไมผมรู้สึกว่ามันตัวใหญ่ขึ้น อย่าให้กูมีกล้ามมั่งนะเว้ย! แต่ทำไมไปๆมาๆเหมือนโดนกอดเลยวะ



ตุบ!



“โอ๊ะ!”



รู้สึกเหมือนเห็นดาวลอยวิบๆ ทันทีที่หลังกับหัวกระทบพื้นห้อง ถึงจะมีพรมแต่การมีคนตัวหนาๆหล่นลงมาทับด้วยนี่ก็จุกก็มึนได้เหมือนกัน



“อื้อ ปล่อยนะเว้ย!”ผมผลักอกและเบือนหน้าหนีมันที่พยายามโน้มหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ



ฟอด!



ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย ไม่พ้น! เต็มซอกคอเลย ขนลุกเกรียวตั้งแต่หัวจรดหัวแม่เท้า แล้วตอหนวดของมันก็ถูไปมาให้รู้สึกจั๊กจี้หัวใจ




“หอมว่ะ ใช้อะไรเนี่ย”




“ปล่อยเว้ย”รู้สึกตัวเองเป็นสาวน้อยเข้าไปทุกที




“หึหึ”เสียงหัวเราะของมันดังชิดหู ระยะแบบที่งับหูได้แบบหลับตาก็ยังโดน มันพยายามคลอเคลียนัวเนียคลุกวงในโดยที่ผมไม่สามารถปัดป้องหรือดิ้นรนหนีได้เลย ตัวมันหนักเหมือนหินทับผมจนกระดิกไม่ได้ มือที่คอยผลักมันก็ถูกรวบไปทั้งสองข้าง และกระทำการอุกอาจด้วยการจูบลงบนหลังมือ เออดี จูบไปมือจับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ยังไม่ได้ล้างเลย แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะปล่อยให้มันทำอะไรน่าสยดสยองแบบนี้ต่อไป และก่อนที่ผมจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ล่อแหลมนี้ ความนุ่มหนุ่นอุ่นๆก็แต้มลงบนหน้าผากอยากรวดเร็ว ทำให้ผมถึงกับนิ่งเหมือนถูกสาป ส่วนไอ้คนทำมันลุกขึ้น เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าไปในครัว




สิ่งเดียวในร่างกายของผมเคลื่อนไหวได้ก็คงเป็นหัวใจที่เต้นรัวในอก...




   
X






   ไอ้เต้คงเห็นผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่โทรศัพท์ตัวเองมันเลยชะโงกหน้าเข้ามาร่วมใส่ใจอย่างใกล้ชิดหรือเรียกง่ายๆคือสอใส่เกือก แต่ผมก็กดปิดหน้าจอแล้วเก็บลงกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว ก้มลงดูดแดงมะนาวโซดาเปรี้ยวปรี๊ดไม่สนใจหน้าหมาสงสัยของมัน




   ช่วงนี้ชีวิตผมวนเวียนอยู่ไม่กี่ที่ บ้าน มหาวิทยาลัยแล้วก็คอนโดไอ้เหี้ยพี่เดียว มีวันก่อนที่แวะไปหาที่ยศที่บริษัทคุยเรื่องงานของพี่แชมป์กับพี่นลินนิดหน่อยพร้อมกับแจ้งข่าวพี่ยศว่าเรียนหนักขึ้นไม่ค่อยมีเวลา จะไม่ขอรับงานสักพักซึ่งพี่ยศก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนงานถ่ายเครื่องเพชรของบริษัทไอ้พี่เดียวพี่ยศก็เป็นช่างภาพหลักอยู่แล้ว หลังๆแกไม่ค่อยเคี่ยวเข็ญให้ผมไปเพราะเห็นว่าเรียนหนัก แล้วช่วงที่ผ่านมาผมก็ติดสอบด้วย




   “คืนนี้ไปไหนกันดีวะ”ไอ้โอ๊คถาม หลังสอบกลางภาคที่ผ่านมาพวกผมก็ยังไม่ได้ออกร่อนกันเลย เหมือนชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่าง แต่ถ้าเที่ยวหนักมาก ชีวิตผมก็อาจจะหาไม่ได้เพราะทำงานส่งอาจารย์ไม่ทัน ไหนจะงานกิจกรรมที่พี่ๆมอบหมายหน้าที่ให้อีก งานราษฎร์งานหลวงวิ่งเข้าชนไม่ขาด




   “ร้านเฮียเสก”




   “แล้วมึงว่าไง”ไอ้โอ๊คหันมาถามผม




   “ตามใจพวกมึง”ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่ก่อนไปผมต้องแวะไปปฏิบัติภารกิจระดับชาติก่อน แค่นึกก็เซ็งแล้วเนี่ย




พอแยกกันผมก็ขับรถตรงไปยังคอนโดเจ้ากรรมนายเวร แวะซื้ออาหารเย็นเข้าไปด้วย ช่วงนี้ไอ้พี่เดียวมันเก็บเนื้อเก็บตัว เลิกงานแล้วก็กลับห้องทันทีไม่ได้ไปสังสรรค์ที่ไหน ไม่แวะไปหาผมที่บ้านแต่เรียกผมมาที่คอนโดแทนทุกวัน มันบอกว่ามีงานด่วนงานลับต้องทำ ซึ่งก็ลำบากผมที่ต้องหาเหยื่อมาหย่อนให้ถึงปาก เป็นภาระชิ้นโตที่อยากเขี่ยทิ้งแต่ก็เขี่ยไม่ได้




ไอเย็นฉ่ำปะทะหน้าทันทีที่เปิดประตูเข้ามา เจ้าของห้องมันคงเลี้ยงเพนกวินไว้ถึงได้เปิดแอร์แรงขนาดนี้ แต่ไม่ยักเห็นมันนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานประจำของมันเลย ผมเอาอาหารที่ซื้อมาวางไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินหาเจ้าของห้อง แล้วก็พบว่าไอ้พี่เดียวนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ นอนนิ่งไม่กระดุกกระดิกทั้งที่ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆจนที่นอนยวบแล้วก็ยังไม่รู้ตัวแสดงว่าหลับลึกมากๆ ผมเพิ่งสังเกตว่าใต้ตามันคล้ำมากแต่ไอ้ความหล่อจนน่าหมั่นไส้ก็ไม่ลดลง เหอะ เอาหมอนกดหน้ามันให้ขาดใจตายไปเลยซะดีมั้ยจะได้เลิกแล้วต่อกัน




“พี่เดียว”ผมลองเรียกแต่ไร้สัญญาณตอบรับ เลยเพิ่มออฟชั่นเขย่าเบาๆไปอีกที แต่สงสัยจะเบาไป เปลือกตาเลยยังคงปิดสนิท พอเพิ่มแรงไปอีกเท่าตัวอีกฝ่ายก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ส่งเสียงอืออาในลำคอ




“ตื่นๆ มากินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ”ผมพูดเมื่อเห็นว่าคนที่นอนค่อยลืมตาขึ้นมา




“ง่วง”




“งั้นก็นอนไป นอนให้ไหลตายไปเลย ไม่ต้องกินมันแล้วข้าวเนี่ย”



“อื้อ โกรธไรพี่เนี่ย มาแช่งให้ตายเดี๋ยวเหอะ”



ตั้บ!




“ก็ลุกขึ้นมากินข้าวดิ แล้วค่อยนอน”ผมฟาดมือลงบนอกแน่นๆของมัน แน่นมากจนผมเจ็บมือเสียเอง ส่วนมันได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นมองผมตาขวางเล็กๆ ก่อนจะขยับลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาแบบมึนๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง




“ไปล้างหน้าดิ จะได้ดีขึ้น”



ไอ้พี่เดียวพยักหน้าหงึกๆแล้วเดินเซๆเข้าห้องน้ำไป ว่าง่ายๆแบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย แต่ท่าทางแบบนี้จะไหวป่ะวะ โหมทำงานจนไม่ดูสภาพตัวเองเลย ผมส่ายหน้าระอาก่อนจะเดินไปเทกับข้าวที่ซื้อมาใส่จาน วันนี้ซื้อมาเผื่อตัวเองด้วยกินให้เสร็จค่อยกลับไปอาบน้ำแต่งตัวก็พอดีเวลาออกลาเหยื่อ ปกติผมก็กินกับมันบ้างไม่กินบ้างแล้วแต่อารมณ์และเวลาจะอำนวย สามสี่วันนี้ไอ้พี่เดียวมันไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวผมไว้เหมือนวันนั้นแล้ว เพราะยุ่งอยู่กับงาน พอกินข้าวเสร็จก็พุ่งตรงไปทำงาน นั่งหน้าดำคร่ำเครียดจนผมบอกว่าจะกลับมันก็ทำแค่พยักหน้าไม่เหลือบแลสายตามามองกันสักนิด




“นึกไงวันนี้กินด้วยกัน”เจ้าของห้องเดินออกมาด้วยหน้าตาสดชื่นกว่าเมื่อกี้แต่ใต้ตาก็คล้ำอยู่ดี




“วันไหนไม่กินก็บังคับป่ะวะ”



“ก็อยากมีเพื่อนกินข้าวด้วย”




“แล้วนี่เพื่อนหรือไง เพื่อนตัวเองมีเยอะแยะไม่ไปกินอ่ะ”




“เอาใหม่ อยากกินข้าวกับน้ำน่านอ่ะ”มันยิ้มตาใสแล้วนั่งลงประจำที่




“ทำไม มันเจริญอาหารขึ้นหรือไง”



“ใช่ เจริญตาเจริญใจด้วย”มันยิ้มอีก ตอนนี้ผมมีภูมิคุ้มกันแล้ว มันอยากจะหยอดอะไรก็หยอดมาเลย น้ำน่านแข็งแกร่งแล้วเว้ย!




“กำลังอยากกินพอดีเลยอ่ะ รู้ใจว่ะ”มันพูดถึงไก่ผัดขิงในจาน ผมเห็นว่าน่ากินดีก็เลยเอามา




“เพ้อเจ้อ”ผมว่ามันยิ้มรับ ตักข้าวกินคำโตเหมือนคนหิวโหย




“ค่อยๆก็ได้มั้ง อดอยากมาจากไหนเนี่ย”




“ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่กลางวันแล้ว”




“แล้วทำไมไม่กิน"



“ประชุมท้างวันเลย”มันลากเสียงยาว ตักผัดเผ็ดขาหมูกิน ตามด้วยซดน้ำแกงจืดเต้าหู พอเห็นแล้วก็นึกสงสารแล้วก็ดีใจแปลกๆที่กับข้าวถูกปากแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่รู้ว่ามันชอบหรือไม่ชอบอะไรแต่ซื้ออะไรมามันก็กินหมดทุกที อ้อ ยกเว้นคื่นช่ายที่ไม่กิน




“ล้างจานเองนะ”ผมบอกตอนที่กินอิ่มแล้ว



“ได้”



“กลับแล้วนะ”




“ทำไมรีบ มีงาน?”



ผมไม่ตอบแค่ยิ้มเบาๆที่มุมปาก ไอ้พี่เดียวทำหน้าโหดขึ้นมาทันทีเหมือนนึกรู้ว่าผมจะไปไหนต่อ แต่รู้ก็ช่างมันสิ ผมมีสิทธิ์จะไปไหนมาไหนก็ได้



“ไปไหน?”มันถามย้ำ



“จะไปไหนล่ะ ก็กลับบ้านไง”



“ให้มันจริง ถ้าจะไปเที่ยวก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หวังว่าจะไม่ลืมที่เคยบอกไปนะ”




ก็ไม่มีสิทธิ์ว่าอยู่แล้วป่ะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไปพูดทีไรก็ทะเลาะให้อารมณ์เสียทุกที แต่เรื่องที่บอกนี่เรื่องอะไรวะ ก็เรื่องที่ไอ้พี่เดียวมันบังคับให้ผมทำนั่นนี่ตามใจมันนั้นเยอะแยะไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำตามหรอก ผมยักไหล่คว้ากุญแจรถแล้วผิวปากเดินออกจากห้องมัน ไอ้โอ๊คไลน์มาย้ำอีกรอบว่าให้รีบมา มันกระหายแอลกอฮอล์จะแย่ แต่เอาจริงๆถึงไม่ได้ออกมาเที่ยว ห้องมันก็มีเหล้าเบียร์ติดไว้ตลอด ผมว่ามันกระสันอยากจะไปส่องของสวยๆงามๆมากกว่า





X





ผมมาถึงไอ้พวกนั้นก็มาพร้อมกันแล้วที่โต๊ะประจำ ไอ้โอ๊คมันโทรมาจองกับเฮียไว้ เหล้าตรงหน้าพร่องเกือบครึ่งขวดแล้ว ไวกันมาก บ่งบอกให้รู้ว่าเปรี้ยวปากกันแค่ไหน วันนี้ไอ้หมวยอารมณ์ดีนั่งจิบชิวๆสบายอารมณ์ ส่วนไอ้เต้นั่งป้อเด็กที่เพิ่งได้มา หลังๆมานี่ผมเห็นมันกินแต่ผู้ชายที่ดูใสๆตัวเล็กน่ารัก ไม่เห็นควงผู้หญิงเลยหรือมันจะแน่วแน่เอาทางนี้อย่างเดียวแล้ว




“มึงจะไปไหน”นั่งมาได้พักใหญ่ไอ้หมวยก็ลุกขึ้น หน้ามันเริ่มแดงแล้ว ยิ่งดูน่าหิ้วเข้าไปใหญ่ ขืนเดินไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้าคืนนี้ได้มีผัวไม่รู้ตัว ไอ้โอ๊คซี้มันก็ออกไปสีกับหญิงแล้ว




“เยี่ยว”



“กูไปด้วย”



ผมเข้าไปทำธุระเสร็จแล้วไอ้หมวยยังไม่เสร็จเพราะมันเข้าไปฉี่ในห้องน้ำไม่ใช่ตรงโถ ผมว่ามันก็ดีแล้วปลอดภัยสำหรับมันเอง ผมออกมารอที่ทางเดิน หยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นไปเรื่อย ไม่ได้คุยกับใคร ผมเลิกคุยเด็ดขาดไปแล้วเพราะมันไม่ใช่แนวจริงๆ กำลังกดเพลินๆโทรศัพท์ก็ถูกดึงออกไปจากมือ กำลังจะด่าเลยแต่พอเห็นคนที่แย่งไปก็ด่าไม่ลง สาวสวยตรงหน้ายิ้มเชิญชวนมาเต็มที่




“ขอโทรศัพท์ผมคืนด้วยครับ”ผมขอคืนอย่างสุภาพ แต่สิ่งที่ได้มาคือเรือนร่างสมส่วนที่เบียดชิดจนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ นัยตาหวานเยิ้มคงจะเริ่มกึ่มๆแล้ว




“ถ้าคืนให้แล้วจะได้อะไร”




“แล้ว...อยากได้อะไรล่ะครับ”ผมเลื่อนมือไปประคองเอวเธอกันล้มเพราะคุณเธอเล่นเอนตัวลงมาจทิ้งน้ำหนักใส่ผมแทบจะทั้งตัว ไอ้อะไรที่นูนๆนิ่มๆก็บดเบียดจนขนลุก ‘สู้’




“ก็อยากได้...ทั้งตัวเลย ให้ได้มั้ย?”คำตอบนั้นทำให้ผมกระหยิ่มยิ้มในใจ กำลังจะเอ่บปากตอบสนอง หางตาก็เห็นไอ้หมวยเดินออกมา มันเห็นผมก็จะอ้าปากพูดแต่พอเห็นว่ากำลังอยู่กับใครท่าล่อแหลมขนาดไหนมันก็ยิ้มแบบรู้กันแล้วเดินกลับโต๊ะไป




“หืม...ว่าไง?”เธอถามย้ำอีกรอบ ใจร้อนเสียจริงแม่คุณ ไม่รู้จะรีบไปทำไม คืนนี้มันยังอีกยาวไกล แต่เธอก็ไม่ได้รอคำตอบจู่โจมผมอยู่ตรงหน้าห้องน้ำทันที แหม สถานที่มันไม่ค่อยอำนวยแหะ จูบกันอยู่ครู่หนึ่งผมก็เลยลากเธอมาที่รถผลักให้เข้าไปทางด้านหลังคนขับแล้วปิดประตูลง แขนเรียวโน้มคอผมลงไปทันที เอาวะเร่งด่วนขนาดนี้ ในรถก็ไม่เลวแค่พรุ่งนี้ต้องเอารถไปล้างใหม่ โรมรันพันตูกันเหมือนตายอดตายอยาก ริมฝีปากไม่ละออกจากกัน แต่จะว่าไปก็นานเลยทีเดียวที่ไม่ได้มีตัวช่วยแบบนี้ ผมเลยมีอารมณ์มากเป็นพิเศษ ระหว่างที่ผมละมือจากเนินเนื้อนิ่มมาลูบไล้ต้นขาแล้วสอดมือเข้าไปในเดรสตัวสั้น เธอก็รีบมาจัดการกปลดกระดุมรูดซิปกางเกงผมทันควัน อีกนิดมือนิ่มๆของธอก็จะสัมผัสกับน้ำน่านจูเนียร์ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็แผดร้องเสียงดัง จนเราสะดุ้งทั้งคู่



ฟัค! ไอ้อีตัวไหนมันมาขัดจังหวะวะ ผมกดตัดสายโดยไม่ได้ดูแล้วจับมันโยนไปเบาะด้านหน้า แล้วก้มลงฟัดเนื้อขาวๆล่อตาล่อใจ ทว่าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกแล้วก็เงียบ แล้วก็ดังอีก แล้วก็เงียบ แล้วก็ดังอีก



“โว้ย! ใครวะ”เหมือนจะแกล้งกันมันโทรแล้วกดวางแล้วโทรแล้ววางอยู่อย่างนั้น ผมผละออกจากร่างขาวๆที่นอนหอบอยู่บนเบาะ เสื้อผ้าถูกร่นขึ้นมาจนแทบไม่ได้ปิดร่างกายแล้ว เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกครั้งมาดู



ไอ้เหี้ยพี่เดียว!




“เป็นบ้าอะไรเนี่ย โทรมาทำไม”



“ลงมาจากรถ!”



“หะ?!”ผมหันขวับไปมองนอกรถทันที ปัดมือที่กำลังไขว่คว้าผมลงไปแนบชิดออก



“ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงมันคุกคามมาก ทำเอาผมยิ่งหงุดหงิด




“อยู่ไหน?”




“ออกมาจากรถก่อนแล้วจะบอก”




“แม่ง!”ผมกระแทกเสียงใส่ปลายสาย ไม่มีอารมณ์ทำต่อแล้ว ติดกระดุมรูดซิปผมก็ลงมาจากรถ




“อยู่ไหนออกมาเลยมา มาก่อกวนคนอื่นเขาบ้าป่ะเนี่ย”




“ผู้หญิงกลับไปหรือยัง”




“อะไร”




“ผู้หญิงที่อยู่ในรถอ่ะ กลับไปหรือยัง ถ้ายังก็บอกให้เขากลับไป”ผมหันไปมองคุณเธอหน้าหงิกหน้างอลงมาจากรถผม ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่ผมเผ้ากระจุยกระจายเพราะการฟัดกันเมื่อครู่ เธอหันมามองจิกใส่แล้วก็กระแทกเท้าเดินหนีไป




“ทำไมต้องทำอย่างนั้น แล้วรู้ได้ไงเนี่ย ตกลงอยู่ไหนวะพี่”เสยผมอย่างหงุดหงิด กวาดตามองไปทั่วลานจอดรถก็ไม่เจอใครนอกจากคนดูแล ซึ่งเดินสำรวจตรวจตราอยู่อีกโซน




“อยู่คอนโดดิ”




“หะ!?”




“ให้รู้ซะบ้างว่านั่นถิ่นใคร แล้วเมื่อค่ำก็เตือนแล้วนะทำไมยังทำ”




“เตือนอะไร?”




“จำไม่ได้เหรอ พี่เคยพูดว่าไง”




แล้วคำพูดบางอย่างที่เคยได้ยินก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ





ถ้าเจอว่าออกไปนอนกับผู้หญิงเมื่อไหร่จะตามไปลากกลับทันที



   


   “ไม่ดื่มต่อก็กลับบ้านไป แต่ถ้าอยากจนทนไม่ไหวก็ขับรถมาหาพี่จะจัดให้ถึงใจเลย”มันส่งเสียงน่าขนลุกมาตามสาย




“ใครจะไปไอ้บ้าเอ๊ย!”ผมกดตัดสายอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งถ้าไม่ติดว่าเสียดาย




นอนกับผู้หญิงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงไม่มีปัญหาสินะ!







---------------

 :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-07-2016 23:37:38
พี่เดียวหึงโหดมีคนเฝ้าน้ำน่านตลอดแน่
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maixmix ที่ 20-07-2016 02:01:45
 :hao5: :hao5: โอ้โหหหหหหหหห ดีใจยิ่งกว่าความสัมพันธ์ของพี่เดียวกับน่านที่พัฒนาเรื่อยๆคือดีใจที่คนเขียนมาอัพนิยายต่อค่ะ
แบบเรารอๆๆๆๆๆ รอแล้วรอเล่า รอทุกวันจริงๆค่ะ อยากอ่านมาก ฮืออออออ คนเขียนสัญญากับเราได้ไหมว่าจะไม่หายไปนานแบบนี้อีก ใจคอไม่ดีเลยค่ะ  :mew6: :mew6: ได้โปรดมาอัพบ่อยๆนะคะ คิดถึงนิยายเรื่องนี้มากจริงๆ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-07-2016 08:59:30
สายเยอะจริงๆพี่เดียวเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-07-2016 09:59:38
พี่เดียวโดนน้ำน่านพยศใส่ซะแล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 20-07-2016 11:00:16
อิอิ  พี่เดียวเยี่ยม  ตามติด  ติดตามดูแล  อิอิ 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 20-07-2016 17:01:15
ตอนหน้า น่านโดนจัดแน่ อิอิ
ขอหนักๆนะพี่เดียว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-07-2016 18:25:59
พี่เดียว มีสายตามติดน้ำน่านสินะ :katai2-1:
น้ำน่าน ยังดื้อต่อ ผู้หญิงไม่ได้ งั้นผู้ชายได้ .....จริงหรอ? :katai1:
พี่เดียวจะยิ่งโกรธ ลุกเป็นไฟล่ะสิ  :fire:  :fire:  :z6:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-07-2016 21:04:57
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 24-07-2016 01:36:14
ถ้าน้ำน่านไปนอนกับผู้ชายนี่เจอดีแน่ๆ
เราว่าพี่เดียวคงปรี๊ดยิ่งกว่า เหอๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.21 ครึ่งหลัง [19.7.59] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 24-07-2016 14:30:10
 :katai2-1: ชอบเรื่องนี้ แมนๆ เค้าจะรักกัน น้ำน่านดื้อดีจัง พี่เดียวสู้ๆ อย่าเพิ่งท้อนะ น้องก็มีเป๋ๆ เหมือนกัน ต้องคุมใกล้ชิดหน่อย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 28-07-2016 21:05:38
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 22 -



(ครึ่งแรก)







   “ทางซ้ายมือมึงถัดไปอีกสามโต๊ะ มีคนจ้องจะกลืนกินมึงอยู่”



ผมหันไปตามที่พี่หลงว่า ก่อนจะโดนโบกหัวเบาๆ แล้วถูกจับหัวให้หันไปทางด้านหลังอีกนิด จากพิกัดดังกล่าวก็เจอกับความขาวกระแทกตา นั่นคนหรือหลอดไฟอะไรจะสว่างขนาดนั้น ผู้ชายตัวเล็กๆขาวๆ ปากนิดจมูกหน่อย ตาเรียวๆ สรุปรวมๆแล้วโคตรน่ารัก เขาจ้องผมแบบเปิดเผย ขนาดหันไปสบตาก็ไม่มีหลบ คิดว่าคงแรงไม่หยอก บอกตรงๆก็น่ากกน่ากอดแต่ไม่มีอารมณ์ว่ะ ถึงจะอารมณ์คั่งค้างมาจากเมื่อสองคืนก่อนแต่ถ้าอยากจะให้นอนจริงๆก็ขอผู้หญิงดีกว่า ทว่าผมก็ไม่ได้ออกเที่ยวอีก เพราะต้องทำงานส่งอาจารย์ คืนนั้นหลังจากถูกมารมาขัดจังหวะผมก็เซ็งถึงขั้นสุดไมได้กลับไปดื่มต่อแต่ขับรถกลับบ้านทันที วันรุ่งขึ้นไอ้พวกนั้นก็ไม่ได้ถามอะไร เพราะไอ้หมวยบอกไปว่าผมออกไปกับสาวซึ่งก็ได้แค่ดมๆ ไซ้อีกนิดหน่อยแต่ไม่ได้กิน



 “จ้องแบบนี้ไม่เข้ามาสิงมึงก็หมดเรื่อง”พี่หลงยังคงวิพากษ์วิจารณ์แต่ผมสนใจขนมปังปิ้งราดนมโรยน้ำตาลตรงหน้ามากกว่า อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ วันนี้หลังเลิกเรียนก็ถูกพี่หลงลากมาประชุมร่วมกับคณะสถาปัตย์กับศิลปกรรมเรื่องสถานที่ แต่ละคณะจะมีคนที่รับผิดชอบเรื่องสถานที่เลยต้องมาพูดคุยกันสักหน่อย หลังจากที่ฝ่ายกิจกรรมสรุปออกมาแล้วว่าจะทำอะไรบ้าง พี่หลงชวนผมมาก่อนเวลาเพื่อมาหาอะไรกินที่คณะศิลปกรรมซึ่งเป็นสถานที่นัดประชุม




   “มึงไม่สนเหรอ”




   “ไม่อ่ะ ไม่มีอารมณ์”




   “อะไรของมึงว้า ดูอารมณ์ไม่ดีไอ้สัด ไม่ได้เอาน้ำออกไง?”




ไอ้ห่าพี่กูช่างพูดแทงใจดำ...




“เปล่า ผมปวดขี้ ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะพี่”




บางทีถูกจ้องมากๆผมก็รำคาญนะ ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย เดี๋ยวห้ามใจไม่ไหวเดินเข้าไปชกหน้าแบบไม่รู้ตัวเลยหลบมาเข้าห้องน้ำแต่ไม่ได้ถ่ายหนักอย่างที่บอกหรอกครับ พอทำธุระเสร็จผมก็เดินมาล้างมือที่อ่างล้างมือ แล้วมนุษย์หลอดไฟก็เดินเข้ามาหา




“ขอเบอร์หน่อยดิ”




“เอาเบอร์รองเท้าไปก่อนมั้ย”อันนี้เต็มใจให้มาก จะยกประทับให้แบบไม่คิดเงินเลย




“โห โหดจังเลยนะ แต่ชอบอ่ะ”ยัง มันยังจะทำหน้าระริกระรี้ ไม่ได้สำเหนียกตัวเองเลย ช่วยดูหน้ากูด้วย!




“ไปไกลๆไป”ผมเดินเลี่ยงมาอีกทาง แต่อีกคนก็มาขวางทาง พอขยับไปอีกทางก็ขยับมาขวางอีก ถีบตุ๊ดจะบาปมากมั้ย




“เดี๋ยวสิ เราขอเบอร์หน่อยนะ”




“ไม่ให้ ไม่อยากรู้จัก ไม่อยากคุย ไปไกลๆตีนไป”คราวนี้ผมผลักไหล่จนมันเซไป เดินมาถึงประตูห้องน้ำมันก็ตามมาฉุดแขน วอนหาเรื่องจริงๆเว้ย!




“จะเอาไงวะ มึงอยากมีเรื่องใช่มั้ยหะ!”ผมตวาดมันเสียงดัง ผลักมันจนเซไปด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตัวสั่น สีหน้าตกใจแต่ก็แค่พริบตาเดียวมันก็กลับมาลอยหน้าลอยตาท้าทายอวัยวะในรองเท้า




“ก็แค่ขอเบอร์เอง จะอะไรนักหนา”มึงนั่นแหละจะอะไรนักหนา!




“เขาไม่ให้ก็น่าจะรู้ตัวนะ ยังจะมีหน้ามายืนอยู่ตรงนี้อีก”




นั่นไม่ใช่เสียงผม แต่เป็นเสียงคนที่ผมไม่ได้เจอหน้ามาพักใหญ่แล้ว แต่ไม่ว่าเจอทีไรความน่ารักก็ไม่เคยจืดจาง มีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน แบบนี้แหละที่น่าสน ไม่ใช่แบบคนที่ตื๊อไม่เลิกน่ารำคาญ




“ยุ่งอะไรด้วย”มันหันไปทำหน้าจิกใส่ทันที




“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกนะ แต่บังเอิญว่าเกะกะขวางทางชาวบ้าน แล้วก็อยากจะเตือนด้วยความหวังดีว่าถ้าผู้ชายเขาปฏิเสธแล้วก็รีบไสหัวไป เพราะถ้ายังตื๊ออยู่เขาจะหาว่าหน้าด้าน!”




   อึ้งรับประทานสิครับ พี่เฟิร์สโหมดนี้ไม่เคยเจอมาก่อน ไอ้หลอดไฟมันฮึดฮัดมองหน้าพี่เฟิร์สเหมือนจะอยากเข้าไปตบ แต่สุดท้ายก็เดินตึงตังหนีไป ดีแล้วที่ไม่มีเรื่อง




   “เนื้อหอมตลอดเลยนะ”



“ก็นะ คนมันหล่อนี่นา”




พี่เฟิร์สย่นจมูกใส่ โคตรน่ารัก อยากได้คนนี้จังครับต้องทำยังไงเนี่ย




“น่านมาทำอะไรที่นี่อ่ะ”




“มาประชุมกับรุ่นพี่ แล้วพี่มาทำอะไรครับ”




“มาเป็นเพื่อนเพื่อนเฝ้าแฟน ที่ประชุมงาน น่าจะงานเดียวกันนะ สามสัมพันธ์”คนน่ารักตอบ




“งั้นก็ใช่เลย จะเข้าห้องน้ำหรือเปล่าครับ”




“เปล่าหรอก พอดีเห็นน่านกำลังโดนปลิงเกาะเลยเข้ามาช่วย”




พี่เฟิร์สยิ้มล้อๆ แต่ก็ต้องขอบคุณ เพราะถ้าไม่เข้ามาผมคงได้เตะไอ้หลอดไฟนั่นไปแล้ว น่ารำคาญเป็นบ้า ผมเจอคนเข้าหามาก็เยอะแต่แบบนี้ไม่เคยเจอ ถือว่าปลิงเผือกนั่นชะตายังไม่ถึงฆาต




ผมประชุมเสร็จพี่เฟิร์สก็มาดักหน้าไว้ ใช้ความน่ารักล่อลวงผมให้มาส่งยังสถานที่ที่ผมไม่ค่อยอยากจะมา เลี้ยวรถเข้าจอดที่ลานจอดรถซึ่งมีที่ที่ประจำเป็นของตัวเองทั้งที่ไม่ได้อาศัยอยู่คอนโดนี้ ผมไม่ได้มาที่นี่หลายวันเพราะเกลียดขี้หน้าใครบางคน ไม่ใช่เพราะข้อความที่มันส่งมาบอกว่าต้องไปทำงานที่ฝรั่งเศสสองสามวัน จะไปไหนมาไหนก็เรื่องของมันผมไม่ได้อยากรับรู้ แต่วันนี้ที่ต้องมาก็เพราะตุ๊กตาหน้ารถออกปากขอร้องให้ผมมาส่ง ตอนแรกว่าส่งแล้วจะชิ่งกลับไม่อยากเจอเจ้าของห้องแต่เห็นทีจะไม่ใช่แค่มาส่งเพราะผมถูกลากขึ้นมาด้วย พี่เฟิร์สดูรื่นเริงบันเทิงใจมากเหมือนกำลังเล่นสนุกอะไรสักอย่าง ก่อนจะกดกริ่งเรียกคนด้านในก็หันมายิ้มหวานเสียจนขนคอลุกให้ผมหนึ่งที




“พาคนมาส่ง เอ้า พี่ทักษ์!”พี่เฟริ์สร้องดังจนผมตกใจ แต่ตกใจที่เห็นพี่ทักษ์อยู่นี่มากกว่า




“เข้ามาเลยๆ แหม่ วันนี้มาไม่เสียเที่ยวเว้ย”พี่ทักษ์ยิ้มกรุ้มกริ่มมีเลศนัยก่อนจะเปิดประตูกว้างแล้วลากผมเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว รองเท้ายังไม่ทันได้ถอดเลย ด้านในห้องมีชายฉกรรจ์หลายคนกำลังนั่งทำกิจกรรมสันทนาการอยู่บนพื้นกันระเกะระกะไปหมด ผมพยายามจะชิ่งหนีในขณะที่ยังไม่มีใครหันมาสนใจ แต่พี่เฟิร์สก็ปิดประตูล็อคพร้อมกับพี่ทักษ์ที่แหกปากลั่นห้อง




“พวกมึงมาดูสิว่าใครมา”







X







รู้สึกเหมือนกำลังโดนมอมยังไงไม่รู้ เบียร์แก้วแล้วแก้วเล่าถูกส่งมาจากพี่ยอดทางซ้ายให้ไม่ได้ขาด ส่วนทางขวาเป็นพี่บอสที่คอยส่งบลูเพียวมาเป็นระยะ พวกพี่ๆเขาดื่มกันแบบไม่สามัคคีเลย ไม่เลือกเอาอะไรสักอย่าง แถมยังดื่มได้ทุกระดับไม่ว่าจะถูกสุดยันแพงสุด




“พอแล้วพี่ เดี๋ยวเมา”ผมปฏิเสธแก้วทั้ง 2 ใบที่ถูกส่งมาจากคนละข้าง ผมไม่อยากเมาแล้วตื่นมาบนเตียงไอ้พี่เดียวอีก




“เมาก็ดีดิ”ด้านขวาพูด




“หะ?”




“เมาก็เมาดิกลัวห่าไร กลับไม่ไหวก็นอนนี่ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ไม่ต้องไปเรียนนี่หว่า”ด้านซ้ายเสริม




ผมตอบกลับไปได้มั้ยว่ากลัวเพื่อนพี่มันนั่นแหละ ตั้งแต่มาเรายังไม่ได้พูดคุยกันสักคำ ตอนไอ้พี่เดียวมันเห็นหน้าผมมันก็จ้องสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนสำรวจสินค้าหาตำหนิก่อนจะเข้าไปกอดคอพี่เฟิร์สแล้วลากหายเข้าห้องนอนไป ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่น้องกันผมว่าคงเข้าไปฟีทเชอริ่งกันแน่ๆ หายเข้าไปนานพี่เฟิร์สถึงได้ออกมาแล้วก็กลับบ้านไปเลย ทิ้งให้ผมอยู่กลางวงล้อมของพี่ๆที่มองด้วยสายตาแปลกๆ แล้วก็ถูกมอมอยู่ในตอนนี้




“ไม่เอาอ่ะ พรุ่งนี้มีงานต้องทำครับพี่”ผมบอกแล้วก็ขอตัวมาเข้าห้องน้ำปวดจนฉี่จะราดอยู่แล้ว แต่ห้องน้ำด้านนอกมีคนเข้าผมทนไม่ไหวเลยมาเข้าในห้องนอนพี่เดียวแทน เข้าห้องน้ำเสร็จเห็นเตียงก็รับรู้ถึงแรงดึดดูดบางอย่างที่ทำให้ผมต้องล้มตัวลงนอน ความนุ่มของมันทำให้สบายจนอยากจะหลับไปเลย แต่สติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ก็คอยฉุดรั้งว่าไม่ควรนอนในที่อันตรายแบบนี้ แต่ใจลึกๆก็อยากจะหลับให้รู้แล้วรู้รอด คิดไปก็เคลิ้มไป แอร์ก็เย็นกำลังดี




“จะนอนทำไมไม่อาบน้ำก่อน”




เคลิ้มไปหน่อยเดียวห้องนอนก็กลายเป็นห้องปิดตายเหมาะสำหรับการฆาตกรรมอำพรางศพเสียแล้ว โดยมีฆาตกรโรคจิตนั่งอยู่ปลายเตียงเหมือนรอเชือด บรรยากาศเหมือนหนังสยองขวัญไปหรือเปล่าวะ แสงไฟเหลืองนวลยิ่งสร้างบรรยากาศเข้าไปอีก




“จะกลับแล้ว”




“ดึกแล้วนอนนี่แหละ”




“ไม่เอา”




“เมาแล้วเนี่ย ตาก็จะปิดขนาดนี้”นิ้วที่จิ้มจึ้กๆตรงหน้าผากทำให้ผมที่เพิ่งลุกขึ้นนั่งต้องเอนตัวนอนลงไปอีกครั้ง




“เพราะเพื่อนใครล่ะ”




“แล้วดื่มทำไมไอ้เด็กขี้เมา”พูดอย่างเดียวก็ได้มั้ง ทำไมต้องคร่อมผมไว้ด้วยวะ




“อะไรเนี่ย ลุกไปดิ เห้ยๆ”รู้นะว่ามันจะก้มหน้าลงมาทำไม แต่ปฏิกิริยาของร่างกายมันไม่ทันสมอง หรือสมองผมทำงานช้าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ไม่รู้ มันเลยได้โอกาสหอมแก้มแล้วคลอเคลียอยู่แถวคอ




“พิสูจน์กลิ่น”




“กลิ่นบ้าอะไร เป็นหมาหรือไง”




“ก็กลิ่นของคนอื่นไง สรุปคืนนั้นได้ไปต่อหรือเปล่า”




“ไหนว่าสายเยอะไง ทำไมต้องมาถาม”




“ก็อยากรู้ว่าพูดจริงมั้ย”




   “ก็ไปต่อดิ ใครจะโง่ทำตามวะ”




“เหรอ ไม่ใช่ว่ากลับบ้านนอนเลยเหรือไง หืม?”มันยิ้มมุมปาก แววตาฉายชัดว่ารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร




“ลุกไปเลย”




“หึ ไปอาบน้ำไป คืนนี้นอนนี่แหละ”มันยอมลุกแต่โดยดี ผมมองนาฬิกาถึงได้รู้ว่ามันเกือบจะตีสองแล้ว นี่ผมถูกล่อลวงไว้นานขนาดนี้เลยเหรอวะ นอนก็นอน ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่




“อ่ะ เสื้อผ้า”




“ของใคร?”เสื้อผ้าที่ถูกเอามาวางไว้ข้างตัว เป็นเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นพร้อมกับชั้นในยังไม่แกะกล่อง ดุแล้วไม่น่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัวของไอ้พี่เดียวแน่ๆ ปกติมันใส่กางเกงขายาวกับเสื้อยืดแขนสั้นผ้านิ่มๆนอน เคยแอบเห็นชุดนอนสีพื้นในตู้มันอยู่สองชุด แต่เสื้อผ้าแนวนี้ไม่มี




“ของน่านแหละ ซื้อมาให้ของใหม่เลย”




“ไม่ใช่ของเด็กคนอื่นที่พามากกหรือไง”



“หึ เด็กก็มีอยู่คนเดียวเนี่ย อยากกกจะแย่แต่ไม่ยอมดีๆสักที”




“เกลียดว่ะแม่ง”ทำไรไม่ได้ก็เตะแข้งเตะขามันไปสองสามทีแล้วปรี่เข้ามาอาบน้ำไม่รอให้มันพูดอะไรเข้าตัวไปมากกว่านี้ พออาบน้ำเสร็จออกมาก็ไม่เจอเจ้าของห้องแล้วสงสัยไปสังสรรค์กับเพื่อนๆข้างนอก ผมเองก็เริ่มสร่างแต่ความง่วงก็เข้าจู่โจมระลอกใหญ่ ยิ่งอาบน้ำจนสบายตัวแล้วก็อยากจะทิ้งตัวลงนอนมาก เร็วกว่าความคิดหลังผมสัมผัสกับที่นอนนุ่ม เอาเท้าถีบๆเขี่ยๆผ้าห่มขึ้นมาซุกตัวใต้ผ้าห่มนุ่มหอม กลิ่นที่เริ่มคุ้นเคยแล้วหลับไปแทบจะทันที มารู้สึกตัวตอนที่มีอะไรมากอดรัด มีลมอุ่นๆรดต้นคอ




“อือ...”




“นอนนะ อย่างอแง...”




เสียงทุ้มดังเบาๆพร้อมกับความนุ่มที่ประทับลงบนแก้ม ว่าแต่...ใครงอแงฟระ อยากจะเถียงกลับไปแต่ความง่วงมีพลังรุนแรงจนผมต้องปล่อยผ่านทุกสิ่งแล้วหลับไปอีกครั้ง









-----------------------


เอามาส่งก่อนครึ่งนึง เดี๋ยวรีบมาต่ออีกครึ่งนะคะ  :hao7:


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 28-07-2016 22:08:33
้น้องน่านดื๊อดื้อ~~ :hao7:. //มาส่งเร็วๆน้าา~ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: thari ที่ 28-07-2016 22:30:54
แอร๊ ชอบที่พี่เฟิร์สกะพี่ทักษ์ดัก(?)เข้าห้องมากค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 28-07-2016 23:54:39
มาต่อตอนนี้เลย ฮืออออออออ   :ling1: :katai4: :katai4: :katai4:  อ้อยมาทั้งไร่  เบาหวานมากกก
น่านเดียว  กริ๊ดดดดด  :impress2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-07-2016 00:07:19
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งแรก [28.7.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-07-2016 08:02:36
โดนมอมเหล้าซะงั้น น่านเอ้ยย

แต่น่ารักดีอ่ะ บรรยากาศแบบ ... :-[ อธิบายไม่ถูก

รอครึ่งหลังน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 03-08-2016 00:15:40
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 22 -



(ครึ่งหลัง)





“ทำไมไม่มีอะไรที่กินแล้วอิ่มเลย”




   ตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว ตื่นมาปุ๊บก็หิวปั๊บเลย เจ้าของห้องมันก็เพิ่งตื่นเดินหูหัวฟูออกมาหน้ายังไม่ล้าง ขี้ฟันยังไม่ได้แปรง ส่วนผมเรียบร้อยแล้วด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวใหม่กิ๊งที่มีคนเจ้ากี้เจ้าการซื้อมาให้




   “ก็พวกมันกินหมดแล้วอ่ะดิ”





   พวกมันนั่นหมายถึงพวกพี่ๆที่มอมเหล้าผมเมื่อคืนแล้วก็อันตรธานหายตัวไปในตอนเช้า ผมตื่นมาก็ไม่เจอใครแล้ว ซากอารยธรรมเมื่อคืนก็ไม่หลงเหลือ แม่บ้านคงเข้ามาทำความสะอาดตั้งแต่เช้าแล้ว




   ตุบ!




   “ไปอาบน้ำแปรงฟัน”ผมอาหมอนฟาดไอ้พี่เดียวที่มาล้มตัวลงนอนคว่ำอยู่บนโซฟา ตื่นจนเดินออกมาคุยกันได้ขนาดนี้แล้วยังจะนอนต่ออีก




   “แป๊บๆ”




   “ตามใจ งั้นไปแล้วนะ”




“ไปไหน?”มันเด้งตัวขึ้นมาเหมือนติดสปริง คิ้วขมวด




“ไปหาอะไรกินแล้วก็จะกลับบ้าน”




“เดี๋ยว รอก่อน อาบน้ำ 5 นาที”




   “ให้สิบนาที”ห้านาทีเปลี่ยนกางเกงในก็หมดเวลาแล้ว ผมเลยใจดีต่อเวลาให้ แต่ความใจดีโปรดสัตว์ก็ทำให้หมาเลียปาก เอาขี้ฟันมาถูปากไปเต็มๆ มีการมายักคิ้วยิ้มมุมปากให้อีก เลว!




   กว่าจะได้ออกมาหาอะไรกิน ก็ปาไปเกือบบ่ายโมงเพราะพอผมเห็นมันอาบน้ำแต่งหล่อเพื่อออกมากินข้าวหน้าคอนโด ส่วนผมยังใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นดูแล้วโคตรเหมือนคนสวนเดินตามเจ้านายเลยต้องไปอาบน้ำแต่งตัวบ้าง กว่าจะเสร็จก็หิวจนไส้จะขาด พอแต่งหล่อกันทั้งคู่ไอ้พี่เดียวมันก็อุตริจะกินข้าวห้างที่อยู่ห่างไกลผมหิวจนทนไม่ไหวเลยเหวี่ยงใส่ไปชุดเล็กแต่สุดท้ายก็โดนมันลากมาห้างจนได้ แต่เป็นโลตัสนะไม่ใช่เซ็นทรัลหรือพารากอนหรูหรา




   “เอาเป็ดใหญ่”




   “เล็กก็พอมั้ง เมื่อกี้สั่งของไปเยอะแล้วจะกินหรือไง”




   “หมด! เอาเป็ดใหญ่ บะหมี่ผักสอง”




   “เพิ่มอีกสองครับ”




   “ไม่สั่งอย่างอื่นหรือไง”ผมถาม ตั้งแต่นั่งไอ้พี่เดียวเพิ่งสั่งไปเมื่อกี้เอง




   “ไม่ล่ะ กินที่น่านสั่งมาพี่ก็อิ่มแล้ว ไม่ต้องมองแบบนั้น ถ้าไม่อิ่มเดี๋ยวค่อยสั่งเพิ่ม”มันรีบดักคอ ผมเลยหยุดการสั่งไว้แค่นั้น เมื่อกี้หน้ามืดเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด แต่ถ้ากินไม่หมดขึ้นมาจริงๆ เสียหน้าแย่ เซฟตัวเองไว้หน่อยดีกว่า รอไม่นานสิ่งที่ผมสั่งๆไปก็มาเสริ์ฟโต๊ะถึงกับวางไม่พอต้องมีชั้นเสริม ไอ้พี่เดียวถึงกับมองตาค้าง แต่เชื่อเถอะความหิวของคนสองคนสามารถทำให้ไอ้คอนโดสูงนี่หายไปในพริบตาแน่ๆ ผมเริ่มลงเอาของลงหม้อ พี่เดียวก็คอยช่วยแต่เหมือนจะทำให้ยุ่งมากกว่าเดิม





   “ถามจริง เคยกินป่ะ”




   “เคยดิ”




   “วางๆเลยเดี๋ยวทำเอง”ผมเอาตะเกีบตีมือหนาๆนั่นให้พ้นทาง แล้วจัดการทุกอย่างเอง เหลือเกี๊ยวกุ้งกับตับสดไว้ลวก




   “กินได้ยัง”




   “เดี๋ยวดิ รอเดือดก่อน”เพิ่งเทไข่แล้วปิดฝาเองนะเว้ย ใจร้อนยิ่งกว่าผมอีก




   “แล้วนี่อ่ะ ไม่ใส่เหรอ”คื่นช่ายสีเขียวอี๋ก้านแข็งอย่างกับเสาบ้านนอนนิ่งอยู่ในถาดชุดผักมีเศษแครอทกับเห็ดเข็มทองทอดกายอยู่เคียงข้าง




   “ก็ไม่กินไม่ใช่ไง”




   “จำได้ด้วย”ไอ้พี่เดียวมันยิ้มแบบดีใจมากๆ ยิ้มกว้าง หน้าบานแข่งกับหม้อสุกี้




   “ดีใจไรนักหนา”จำไม่ได้ก็บ้าแล้ว กินข้าวด้วยกันมาตั้งกี่ครั้งแล้ว แล้วผมก็ซื้ออาหารไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไอ้พี่เดียวบ่อยยิ่งกว่าเจอหน้าไอ้พายอีก




   โชคดีที่ไม่สั่งอะไรเพิ่มมาอีก เพราะพอกินทุกอย่างหมดผมก็อิ่มจนลุกไม่ไหวต้องนั่งอ่านการ์ตูนที่แวะซื้อตอนผ่านร้านก่อนจะมากินสุกี้ผึ่งพุงไปพลางๆ โดยมีไอ้พี่เดียวนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับเมียไอแพดของมันหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ฝั่งตรงข้าม



   “น่าน...เกมนี้เล่นยังไง”



“ห๊ะ!?”




“เนี่ย ที่น่านเล่นค้างไว้”




โถ...พ่อคุณ กูก็นึกว่าเครียดเรื่องงาน




“ก็กดๆไปเนี่ย ยิงที่เป็นสีเดียวกัน แล้วเก็บไอ้ตัวพวกนี้ที่อยู่ข้างบนให้ครบตามจำนวนอ่ะ”เวรกรรมต้องมาสอนเด็กโข่งเล่นเกมในเอ็มเค กว่าจะผ่านด่านได้ผมก็เกือบจะหิวอีกรอบ




“ป่ะ”




“ไปไหน”




“ไปซื้อของเข้าห้องกัน”




“ไม่เอา จะกลับบ้านแล้ว”ผมจะกลับไปเคลียร์บ้านต้อนรับไอ้พวกเพื่อนชั่วพรุ่งนี้ ผมเกณฑ์พวกมันมาช่วยจัดสวนใหม่ ไอ้พายก็อยู่บ้าน ไอ้ธันว์ ไอ้คิมผมลากมันมาหมด จัดเสร็จกะปาร์ตี้ริมสระกันเบาๆ นอนเกลือกลิ้งกันจนเช้าอีกวัน เพราะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์อะไรก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้ มานึกดูแล้วพอช่วงไหนได้มีโอกาสสังสรรค์ แอลกอฮอล์ก็ไม่เคยได้ขาดปากสักวัน แต่ช่วงไหนที่ไม่ได้กินไอระเหยมันก็ไม่เคยได้กลิ่น




“ซื้อของเสร็จปล่อยกลับเลยเนี่ย”




“ซื้อบลูให้ขวดดิจะยอมเดินด้วย”




“แบล็คก็พอ”




“งกว่ะ”




“ปกติกินผสมอยู่แล้วนี่หว่า ลดเหลือเรดก็พอ”




ผมเหล่ตามองมันอย่างเหยียหยามขอบลูลดให้เหลือเรด เกินไปละๆ



“ให้เรด 3 ขวดเลยเอ้า”



“....”




“เมื่อคืนก็ซัดบลูของไอ้บอสไปตั้งเยอะแล้ว”




“ก็ได้ๆ”ก็ดีกว่าไม่ได้วะ ถึงจะมีเงินซื้อเองแต่ของฟรีย่อมดีกว่า ไอ้พวกนั้นยิ่งกินกันเหมือนเททิ้ง เมาๆหน่อยเดี๋ยวเติมน้ำชาผสมมันก็ไม่รู้หรอก
เชื่อเถอะเพื่อของฟรีสามขวดผมช่วยไอ้พี่เดียวซื้อของใช้ของกินนั่นนี่จนได้เวลาจำหน่ายสุรา แต่ก็ใช่ว่าจะซื้อแต่ของพี่เดียวอย่างเดียวผมก็ซื้อของตัวเองเหมือนกัน ไหนๆก็ไหนๆแล้วซื้อของสดไปเตรียมทำอาหารพรุ่งนี้ซะเลย




กลับถึงคอนโดพระอาทิตย์ก็ตกดินไปแล้ว ผมย้ายของจากรถไอ้พี่เดียวใส่รถตัวเอง ได้เวลากลับบ้านสักที ไม่มีการเหนี่ยวรั้งอีก เพราะเห็นมันคุยโทรศัพท์หน้าเครียดอีกแล้ว ผมขยับปากบอกแบบไม่มีเสียงว่าจะกลับแล้วมันก็แค่พยักหน้าให้หนึ่งที บทจะง่ายก็ง่ายไอ้บ้านี่






X







“หายหัวไปหนึ่งวันหนึ่งคืน โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง นึกว่าน้ำหมดตัวตายไปแล้ว ใครหิ้วมึงไปไหนบอกกูสิ”




ยังไม่ทันก้าวเข้าบ้านดีเลย ไอ้พายก็ใส่มาเป็นชุดแข่งกับเสียงระเบิดบึ้มๆในจอทีวีที่ไอ้คิมกับไอ้ธันว์ดูกันอยู่




“แล้วนี่ใส่ชุดใครวะ”




“ชุดกูดิ ไปเอาของหลังรถดิ๊”ผมโยนกุญแจรถให้มันไป ขี้เกียจให้มันซักมากไปกว่านี้ ผมเดินเข้าไปร่วมวงกับไอ้สองตัวที่ทำนั่งไร้ประโยชน์อยู่




“กูนึกว่าพวกมึงจะมาพรุ่งนี้”



“เหงาๆเลยมา”




“หูกูเพี้ยนเหรอวะ มึงเนี่ยนะเหงา เอาให้ดีเหงาหรือเงี่ยน”ไอ้คิมหัวเราะลั่น ชายธันว์บอกเหงาหิมะจะตกในกรุงเทพหรือเปล่าวะ




“เงี่ยนกูจะมาหามึงเพื่อ? ห่าพูดไม่คิด ว่าแต่มึงอ่ะไปไหนมาไอ้สัดบ้านช่องไม่กลับ ติดต่อไม่ได้ อาฝนโทรหากูเนี่ย”




“ซวยละ แบตกูหมดไม่มีที่ชาร์จ กูไปคุยกับอาก่อน”พอไอ้ยินชื่ออาฝนผมเลยรีบแจ้นเอาโทรศัพท์ขึ้นมาชาร์จก่อนบนห้องแล้วโทรหาอาสุดที่รักสักหน่อย โดนบ่นพอหอมปากหอมคอก็คุยเรื่องงาน เรื่องสัพเพเหระก่อนจะวางก็เกือบชั่วโมง ผมเลยอาบน้ำก่อนจะลงมาข้างล่างพวกมันเริ่มดูหนังเรื่องใหม่กันแล้ว ไอ้พายไม่อยู่แต่ได้กลิ่นอาหารผมเลยเดินเข้ามาดูในครัว




“ทำไรวะ”




“ผัดมาม่า มึงมาชิมดิ”




“เค็มอีกนิด”ผัดมาม่าไอ้พายนี่โคตรหนักเครื่อง หมูหมากาไก่ใส่แบบจัดเต็ม




“ตกลงเมื่อคืนมึงไปนอนไหน”




“ห้องไอ้พี่เดียว”




“บ่อยนะมึงอ่ะ ตกลงยังไงวะ”




“ก็ไม่ยังไง”




“ระวังพรุ่งนี้เกิดเขามาหามึง รอตอบคำถามไอ้พวกนั้นให้ดี”




“มาก็มาดิวะ กลัวไร”




“ตกลงจะเปิดตัว?”




“เปิดตัวห่าไร จะมาก็มากูจะไปว่าอะไรก็คนรู้จักกัน พวกมันจะมาสงสัยอะไร มีแต่มึงนี่แหละยุกูจั๊ง”




“กูอยากให้มึงได้ไง พี่เดียวดีนะมึง”




“ไม่เอาเองอ่ะ”




“ก็ถ้าเขาชอบกูอ่ะ ไม่มีปฏิเสธแน่”




“แรด”ขอยืมคำด่าของพวกผู้หญิงมาใช้หน่อยเถอะ




“น้อยกว่ามึง ปากก็ว่าไม่ แต่ก็เช้าถึงเย็นถึง กลางคืนก็ไปค้าง”จะเถียงก็เถียงไม่ออก ที่พูดมามันก็จริงที่ผมไปหาไอ้พี่เดียวมันบ่อย แต่ผมไม่ได้คิดอะไรไงที่ไปก็จำใจทั้งนั้น




“มึงผัดๆไปให้เสร็จเลย ห่า”ผมล่ะเกลียดรอยยิ้มของมันเหลือเกิน




“ถ้ามึงจะไม่เอา ก็ควรจะเอาตัวออกห่าง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆมึงได้รักพี่เขาแน่ๆ”มันยังไม่หยุดพูด แต่สีหน้าจริงจังไม่เหมือนก่อนหน้า





“ไม่ต้องห่วง มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”




ไม่ว่าจะกับใคร ต่อให้ดีขนาดไหน ก็ทำอะไรกับหัวใจผมไม่ได้ ยิ่งกับไอ้พี่เดียวที่มันเคยทำเลวกับผมไว้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ถึงตอนนี้ผมจะไม่รู้สึกอะไรแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะลืมมันไป





“อย่ามั่นใจไป ความรักที่มึงปฏิเสธมาตลอดบางทีมันอาจจะมาหามึงแบบไม่รู้ตัวแล้วก็ได้”





ทำไมจะไม่รู้ตัว เพราะผมรู้ตัวตลอด เลยรู้ว่า ‘รัก’ จะไม่มีวันเกิดขึ้น









-------------------------------------


กำลังพิมพ์เพลินๆ เงยหน้ามาอีกที 00.12  เลยวันที่บอกว่าจะลงมา 12 นาที ร้องไห้แป๊บ  :ling3:
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 03-08-2016 05:09:16
ความรักมักมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะจ๊ะน่านอย่ามั่นใจในตัวเองนัก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-08-2016 06:39:17
น้องน่านสายซึนตันหลอด~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-08-2016 23:17:31
เค้าเพิ่งมาอ่านนนน ยกป้ายไฟเชียร์พี่เดียวหนักมาก 555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 04-08-2016 01:54:07
คืออยากรู้ว่านางมีปมอะไรเกี่ยวกับความรักรึเปล่าทำไมมั่นอกมั่นใจขนาดนั้นว่าจะไม่รัก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-08-2016 15:17:12
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: FonJuz ที่ 04-08-2016 15:21:53
อ่านรวดเดียวเลยยย ทำไมเพิ่งได้เข้ามาอ่านนะ
พี่เดียวสู้ๆนะ เชียร์พี่เดียว !!!!!!!
น้องน้ำน่านนนนน เปิดใจให้พี่เดียวเถอะ นะจ้ะ

คนเขียนสู้ๆๆนะคะ  รออ่านๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 04-08-2016 15:39:35
น้ำน่านมั่นใจมากกกกกกเกินไปเปล่า
ปฏิเสธไปเถอะ รู้ตัวอีกที กลัวจะรักไปทั้งใจ
ปากบอกไม่ แต่การกระทำนี่ถึงบอกว่าจำใจก้ไม่ใช่ล่ะ
รอดูจุดพีคที่จะทำให้น่านรู้ตัวดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 14-08-2016 18:25:20
พี่เดียวสู้ๆจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.22 ครึ่งหลัง [3.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 15-08-2016 07:38:32
หูยยยยยยย เชียร์พี่เดียวนะ น้ำน่านหลอกตัวเองอยู่รึเปล่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 16-08-2016 00:14:48
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 23 -






   กลิ่นแกงเขียวหวานหอมตลบอบอวลไปทั่วบ้าน เรียกให้น้ำลายสอตั้งแต่เดินลงบันไดมาพร้อมกับได้ยินเสียงอู้คำเมืองแว่วๆมาจากในครัว วันนี้ไอ้พายอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน มันเลยตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าเพื่อรอต้อนรับพวกแรงงานทั้งหลาย ในครัวมีไอ้คิมเป็นลูกมือช่วยอยู่ ส่วนไอ้ธันว์ผมเพิ่งปลุกให้มันไปอาบน้ำเมื่อกี้นี้เอง




   “กูกินได้ยัง”ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวที่ตอนนี้มีทอดมันถาดใหญ่วางอยู่คู่กับผักเคียงหลายอย่างจนโต๊ะไม่มีพื่นที่ว่างให้วางอย่างอื่นอีก




   “สองโลที่ซื้อมามึงทอดหมดเลยเหรอ”ผมถามเพราะทอดมันมันเยอะมาก ซื้อมาทอดเองจะได้มั่นใจว่าน้ำมันทอดใหม่จริงๆ




   “เออ ไม่พอพวกมึงแดกหรอก มีอีกก็หมดอีก”ก็จริงของมัน




   “มึงทำข้าวซอยด้วยเหรอวะ”เครื่องเคียงบนโต๊ะมันคุ้นๆ ผักกาดดองซอย หอมแดงซอย มะนาวหั่นชิ้น




   “เออ กูอยาก”มันอยากก็ลาภปากผมสิ อยากกินพอดีเหมือนกัน ลาภปากไอ้พวกนั้นด้วย ลูกเจ้าของร้านอาหารเหนือลงมือเองไม่มีทางไม่อร่อย




   “ตื่นมาทำตั้งแต่กี่โมงวะ”จัดเต็มขนาดนี้ต้องเช้ามากๆ ไม่งั้นคงไม่เสร็จพร้อมกันขนาดนี้




   “หกโมง ลากกูมาด้วยไอ้ห่า โคตรง่วง”ไอ้คิมตอบ




   “บ่นนะไอ้ห่า ตอนมึงเอาผู้หญิงยันเช้ายังลุกไปเรียนไหว”




   “พูดมาก เอ้าเอาไป”มันกระแทกชามใส่โหระพาใส่ท้องไอ้พาย ส่วนผมเดินไปหาของกิน ข้าวซอยมันทำเสร็จแล้วผมเลยจัดการซะเลย ต้องทำให้ไอ้คิมด้วยเพราะมันสั่งมา ผมยกออกมากินที่ริมสระเพราะในครัวไม่มีพื้นที่ให้นั่งกินแล้ว




   “พวกมันจะมากันกี่โมงวะ”




   “กูนัดสิบ แต่เชื่อเหอะกว่าจะเสด็จกันมา ไอ้ห่าเต้เมื่อคืนออกไปกินตับไม่รู้จะมาไหวมั้ย”




   “เพื่อนมึงนี่ไม่เบา วันก่อนเห็นนัวกับเด็กผู้ชายปีหนึ่งคณะกู”




   “เออ ช่วงนี้เปลี่ยนบ่อยแถมเอาแต่ผู้ชาย แปลกใจอยู่เมื่อคืนมันไปกับหญิง”ที่รู้เพราะมันส่งรูปเข้ากรุ๊ปไลน์มาให้ดูหน้าจะซุกนมอยู่แล้ว เมาได้อีก




   “แล้วมึงอ่ะ”   




   “กูทำไม?”




   “ไม่ออกร่อนเหรอวะ ปกติก็ไปกับมันตลอด _วยไม่ค่อยได้ว่าง”




   “มันก็มีเบื่อบ้างอะไรบ้างสิวะ”




   “เบื่อหรือว่าถูกคุมกันแน่วะ”มาแล้วไอ้ตัวเสือกกับช่างยุ ยังมีหน้ามายักคิ้วใส่อีก เดี๋ยวกูถีบตกสระ




   “ใครวะ?”ไอ้คิมถามทันควัน ไม่ค่อยจะเสือกเท่าไหร่เลย




   “ไปฟังมัน ใครจะมาคุมกูได้ไอ้สัด”แต่ทำไมหน้าไอ้พี่เดียวมันลอยเข้ามาในหัววะ แถมเหตุการณ์ที่มันกวนตีนผมด้วยการโทรจิกตอนกำลังเข้าได้เข้าเข็มในรถคืนนั้นนี่ยังชัดเจน




   “นั่นสิ กูยังแปลกใจ แต่ถ้ามีจริงกูก็อยากเห็นหน้าว่ะ”ไอ้คิมมันว่ายิ้มๆ เป็นรอยยิ้มที่น่าถีบให้ตกสระไปพร้อมกับซี้มัน




   “ชาตินี้ก็ไม่ได้เห็น”ผมบอกอย่างมั่นใจ แต่ก็ไอ้พายก็สวนกลับมาทันที




   “ก็ไม่แน่ อาจจะได้เห็นวันนี้เลยก็ได้”ผมอยากจะหาอะไรปาหัวมันสักที ชักจะกวนตีนผมมากไปละ




   “อะไรของพวกมึงเนี่ย”ไอ้คิมทำหน้างง มองผมกับไอ้พายสลับไปมา




   “ไม่มีอะไร กูกวนตีนมันเล่น”ไอ้พายมันหัวเราะขำ แต่กูไม่ขำด้วยไอ้ห่า ผมยกเท้าขึ้นมากะถีบมันเต็มๆตีนไปสักที แต่ก็ดันรู้ตัวกระโดดหลบไปอยู่หลังไอ้ธันว์ที่เดินเกาไข่มาสมทบพอดี




   “เล่นห่าอะไรของมึงวะ ไอ้พายไปหาไรมาให้กินหน่อยดิ”




   “มาถึงก็ใช้เลยไอ้ห่า กูเมียมึงไง?”




   “แค่นี้ทำบ่น เร็วๆกูหิวแล้ว”




   “ของก็อยู่ในหม้อหาแดกเองไม่เป็นไงวะ ใครได้มึงเป็นผัวโคตรซวย”




   “อย่างน้อยก็เคยมีคนแถวนี้อยากได้กูละวะ”ไอ้ธันว์มันย้อน ผมถึงกับหลุดหัวเราะ ไอ้พายจากที่หน้าระรื่นเรื่องผมเมื่อกี้เปลี่ยนมางอเป็นจวัก แจกนิ้วกลางให้ไอ้ธันว์หนึ่งดอกก่อนจะสะบัดตูดเดินเข้าบ้านไป




   “มึงก็พูดไปไอ้ห่า เกิดมันเฮิร์ทขึ้นมาอีกทำไง”ไอ้คิมพูด ออกแนวขำๆมากกว่าจะจริงจัง เพราะพวกผมทุกคนรู้ดีว่าไอ้พายมันไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้แล้ว




   “มึงก็หาคนมาปลอบใจมันดิ จะว่าไปมันไม่มีใครเลยเหรอวะ”




   “มีมั้งไม่รู้ มึงอ่ะรู้มั้ยไอ้น่านอยู่บ้านเดียวกัน”




   “อยู่บ้านเดียวกันกูก็ไม่ค่อยได้เจอ มันทำงานตลอด ถ้ามีเดี๋ยวพวกมึงก็รู้เองแหละ”แต่ผมยังจำได้ที่มันบอกว่าจะพักเรื่องรักๆใคร่ๆไปก่อนเพราะจะทุ่มให้เรื่องงานกับเรื่องเรียน แต่ถึงอย่างนั้นแค่คนที่คุยด้วยผมว่ายังไงมันก็ต้องมีบ้างแหละ




   เก้าโมงกว่าๆไอ้โอ๊คกับไอ้หมวยก็เสนอหน้ามาเร็วกว่าที่คิด ไอ้หมวยมันเอาผลไม้จากสวนมันมาด้วยลังใหญ่ ไอ้โอ๊คมีหน้าที่แบกไปไว้ในครัว ไอ้พายเห็นนี่ยิ้มร่า แกะเงาะกินเป็นอย่างแรก ผมหยิบเงาะโยนไปให้ไอ้คิมที่เกาะอยู่ตรงประตูครัว




   “เมื่อวานพี่ที่สวนเข้ามาทำธุระให้แม่กู เขาเลยที่แวะเอามาให้กูโคตรเยอะไอ้สัด แม่กะให้กูเอามาขายตั้งตัวมั้งเนี่ย”แม่มันกับอาฝนก็ไม่ต่างกัน เวลาผมจะกลับมากรุงเทพทีไรขนของกินของใช้ให้อย่างกับผมจะไปอยู่ในที่กันดารไม่มีอะไรจะกิน หรือถ้าใครจะแวะมากรุงเทพก็ต้องฝากของมาให้จนกินได้เป็นเดือนๆ




   “สละโคตรหวานอ่ะ”ไอ้ธันว์ทำหน้าฟิน มันกินสละที่ไอ้พายปอกป้อน สบายไปละ




   “มึงต้องลองมังคุด เมื่อคืนกูกินจนพุงจะแตก”ไอ้โอ๊คโฆษณา




   “มัวแต่กิน ได้เวลาทำงานแล้วพวกมึงอ่ะ”ผมรีบไล่ก่อนที่พวกมันจะติดลมกินจนพุงกางแล้วหลับคาที่




   “เดี๋ยวดิ กูหิวข้าวมีไรให้กูกินมั่ง”ไอ้หมวยทำหน้าจริงจังลูบท้องแฟ่บๆของมันประกอบ




   “มึงเดินไปดูเอาเลยมีเยอะแยะ”ไอ้พายบอก




   สรุปแล้วกว่าจะได้เริ่มงานก็เกือบเที่ยง ไอ้เต้ก็โผล่หัวมาพอดีมันบอกแวะไปส่งเด็กก่อนแต่กว่าจะผละออกมาได้ก็เสียเหงื่อเสียน้ำไปอีกรอบ หิวโซมาซัดขนมจีนแกงเขียวหวานไปสองจาน  กาแฟเย็นอีกแก้วใหญ่ที่ไอ้พายออกไปซื้อตรงร้านหน้าหมู่บ้าน




ผมกางแบบที่วาดไว้ให้ไอ้หมวยดู ให้มันช่วยออกความเห็นบ้าง ส่วนพวกใช้แรงงานกำลังขนย้ายอิฐทางเดินของเก่าออก ผมจะปูลายใหม่สีใหม่ แล้วก็ลงพวกต้นไม้ใหม่ที่ผมไปซื้อที่สวนจตุจักรมาตั้งแต่เช้าวันพุธ ของเดิมมันต้นสูงมากแล้วถึงจะคอยตัดแต่งให้เป็นรูปทรงแต่ฟอร์มมันก็ไม่สวยอยู่ดี อีกอย่างผมอยากลองปลูกต้นใหม่พวกไม้ประดับใบสีสวยๆ ส่วนต้นเก่าเดี๋ยวคุณลุงที่มาทำสวนให้ทุกวันหยุดจะมาเอาไปปลูกที่บ้าน วันนี้แกก็ว่าจะมาช่วยแต่ผมเกรงใจ แกอายุมากแล้วให้ไอ้พวกนี้ช่วยดีกว่างานแบกหาม ทำกลางแดดเหมาะกับคนหนุ่มถึกๆ ส่วนที่ผมจะตกแต่งใหม่เป็นแค่มุมหนึ่งของสวนไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด ผมกะทำไว้เพื่อนั่งเล่นชมบรรยากาศในสวน ฟังเสียงน้ำตกจำลอง จิบเบียร์เบาๆ ไอ้พายมันอยากเลี้ยงปลาคาร์ฟด้วย แต่ผมให้มันไปลองคิดดีๆ ถ้าไม่มีเวลามาดูแลซื้อมามันก็อยู่ไม่ทนบาปเปล่าๆ




   “ใครมาวะ ไอ้พายมึงไปดูดิ”




ทำงานอยู่ก็ได้ยินเสียงกริ่งบ้านดัง ผมเลยใช้มันเพราะว่างงานที่สุดแล้ว มันบอกมีหน้าที่ทำอาหารกับเก็บล้างก็เหนื่อยจะแย่ ดังนั้นงานในสวนมันจะยืนให้กำลังใจเฉยๆ




   “กูว่ามึงเรียงสูงไปแล้ว เดี๋ยวก็ล้มมาหรอก”



ไอ้โอ๊คมันเรียงอิฐที่ใช้ปูทางเดินจนสูงเลยหัวไอ้คิมที่กำลังย้ายต้นไม้ออก ถ้ายืนอยู่มันล้มลงมาก็ทับเท้าแต่ถ้านั่งแบบไอ้คิมตอนนี้มีหวังหัวแตกแน่ๆ




   “ไม่เปลืองพื้นที่ไงมึง”




   “ตามใจระวังใครจะมาชนล้มแล้วกัน”




   “ไอ้น่าน”




   “ไรวะ”ไอ้พายมันหายไปจนผมลืมไปแล้วว่าใช้มันไปทำอะไร ปากกำลังจะถามเลยว่าใครมากดกริ่งเรียก แต่คำตอบก็เดินตามหลังมันมา



   “อ้าว พี่มาได้ไงอ่ะ”ไอ้ธันว์ร้องทัก ส่วนผมยังหาเสียงไม่เจอ ไอ้เหี้ยพี่เดียวมันมาทำไมวะ




   “ขับรถมาดิ”




   “โห พี่ตอบแบบนี้ผมไปต่อไม่เป็นเลย”ไอ้ธันว์ทำหน้าเซ็ง ถ้าเป็นเพื่อนกันมันคงด่าไปแล้ว แต่นี่รุ่นพี่ไงแถมมันไม่ได้สนิทมากขนาดจะเล่นหัวกันได้




   “ฮ่าๆ มีธุระกับน้ำน่านเลยแวะมา ขอยืมตัวแป๊บ”มันพูดจบปั๊บก็คว้าคอผมปั๊บแล้วลากๆออกมาจากตรงนั้น



   “เห้ยๆ ปล่อยได้แล้ว”ไอ้พี่เดียวมันลากผมมาจนถึงสระว่ายน้ำแล้ว ห่างไกลจากจุดที่ทำงานมากอยู่ ยังดีที่มีหัวคิด




   “เสียงดังทำไมเนี่ย”




   “แล้วมาทำไม ใครเชิญ”




   “โห พูดงี้เหรอ คนเขาเอาของมาให้ เมื่อคืนลืมไว้”



   “อะไร?”ผมว่าผมหยิบมาหมดทุกอย่างแล้วนะ ลืมอะไรวะ



   “เรดสามขวดที่ขอไว้ไง ลืมไว้ในรถพี่ หรือจะไม่เอา”



   “เอาดิ ให้แล้วให้เลยอย่าคืนคำ”ลืมของสำคัญได้ไงวะเนี่ย




   “ก็ให้ไง ใครคืนคำ ดันลืมไว้เอง”




   “ธุระมีแค่นี้ใช่มั้ย งั้นก็กลับไปได้แล้ว”




   “แล้วนี่ทำอะไรกันอ่ะ”ทำหูทวนลมไม่ได้ยินนะ ตบบ้องหูสักทีดีมั้ย




   “จัดสวนใหม่”




   “ช่วยป่ะ?”



   “ว่างไง?”



   “ถ้าอยากให้ช่วยก็ว่างเสมอ”มันยิ้มมุมปากทำตาเจ้าชู้ใส่ ทำเหมือนจีบหญิงไปได้ ผมไม่หวั่นไหวหรอกนะ



   “งั้นไม่ต้อง กลับไปเลยไป”หมั่นไส้มัน



   “งั้นช่วยดีกว่า”



   “เอ้ยๆๆๆ เดี๋ยวๆ”ผมรั้งมันไว้แทบไม่ทัน อะไรของมันวะ ตั้งใจมากวนตีนกันชัดๆ




   “อะไร จะไปช่วยไง”




   “ไม่ต้อง คนเยอะแล้ว กลับไปเลย”ผมไม่อยากให้มันอยู่ต่อ ตอนแรกที่คิดไว้ว่าถ้ามันมาผมก็ไม่เดือดร้อน พอเอาจริงๆแล้วทำไมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลย หรือผมจะร้อนตัวไปเอง



   “ไล่จัง ทำไมกลัวใครรู้เหรอว่าเราเป็นอะไรกัน”มันยื่นหน้าเข้ามาจมูกจะชนกันอยู่แล้ว ผมเลยผลักมันออกเต็มแรงแต่ก็ทำให้คนตัวใหญ่ๆอย่างมันเซไปนิดเดียวเท่านั้น




   “เป็นอะไร ไม่ได้เป็นอะไร อย่ามามั่วนะเว้ย”




   “หึหึ”หัวเราะเชี่ยอะไรเนี่ย หน้าตามันไม่น่าไว้ใจเลย หูตาแพรวพราว ต้องคิดอะไรเลวๆแน่




   “พี่เดียว...กลับเถอะ”นี่ผมใช้น้ำเสียงแบบอ่อนสุดๆเลยนะ ต้องพูดกับมันดีๆ ไม่งั้นมันเกิดอยากจะกวนประสาทผมขึ้นมาก็ซวยพอดี




   “นี่อ้อนพี่เหรอ?”มันยิ้มแบบพอใจมาก สายตามันแบบบอกไม่ถูก เหมือนจะอ่อนๆ ออกแนวเอ็นดูอะไรทำนองนั้น ซึ่งทำให้ผมขนลุก




   “ขอร้องเว้ย ไม่ได้อ้อน”




   “ไหนลองอ้อนพี่ดิ”




   “จิ๊ ไม่มีทาง!”ผมปัดมือที่ลูบแก้มออก สัมผัสของมันร้อนเหมือนเอาเหล็กเผามานาบหน้า




   “งั้นก็...ไม่ กลับ”มันพูดเน้นย้ำทีละคำด้วยสีหน้าที่กวนตีนสุดๆก่อนจะเดินฉับๆหนีไปเลย ผมเลยต้องวิ่งตามไปแต่ก็รั้งไว้ไม่อยู่ ไอ้พี่เดียวมันเข้าไปช่วยไอ้คิมย้ายต้นไม้ท่ามกลางสายตางงๆของเพื่อนผม ไม่อยากจะบอกเลยว่าชุดที่มันใส่มาวันนี้ก็เหมือนจะพร้อมมาทำงานมาก เสื้อยืดกางเกงขาสั้นพอดีเข่า ไอ้ธันว์ก็ช่วยแนะนำตัวไอ้โอ๊คกับไอ้หมวยด้วยความหวังดีและยินดีอย่างยิ่งที่ไอ้พี่เดียวจะมาช่วย ไอ้หมวยมันมองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา สายตาเหมือนจะพูดว่า ‘กูรู้นะ’ อะไรทำนองนี้ มึงอย่ามาทำหน้าทำตาแบบนั้น เพราะกูก็รู้เหมือนกัน ผมเลยยิ้มกลับไปแบบเดียวกัน แล้วขยับปากพูดอะไรบางอย่างแบบไม่มีเสียง มันชักสีหน้าก่อนจะขยับปากด่าผม ถึงจะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็รู้ความหมายเพราะมันชูนิ้วกลางขึ้นประกอบ




   “ส่วนนั่นไอ้เต้”ไอ้ธันว์ชี้มาทางไอ้เต้ที่เดินมาหยุดข้างๆผมพอดี เมื่อกี้มันหายไปไหนมาวะ




   “หวัดดีครับพี่”มันยิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเปลี่ยนมายิ้มแบบกรุ้มกริ่มมีเลศนัยอีกคน ไอ้นี่สิน่ากลัวกว่าไอ้หมวยอีก




   “ไม่ต้องกลัว กูไม่บอกใครกับสิ่งที่กูได้เห็นได้ยินมาหรอก”มันเข้ามากระซิบกระซาบ




   “อะไรของมึง”นิ่งเข้าไว้ ใจเย็นๆ




   “ไม่ต้องมาเนียนไอ้สัด กูอยู่ที่สระด้วยเมื่อกี้นี้”ผมหันไปมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ ดูท่าทางมันจะไม่ได้อำผมจริงๆ   “หึหึ”มันหัวเราะตบไหล่ผมปุๆแล้วเดินเข้าไปช่วยไอ้หมวยขนกระสอบดินกับทรายมารอเตรียมพื้นที่




   ดูเหมือนยิ่งไม่อยากไม่ให้มีใครรู้ก็ยิ่งกลายเป็นว่ามีคนรับรู้เพิ่มขึ้นทีละคนๆ ถึงไอ้พี่เดียวจะไม่ได้จู่โจมโจ่งแจ้งให้เพื่อนๆผมเห็นคาตา แต่ทุกครั้งที่มีคนรู้ก็ดูจะประจวบเหมาะทุกที ใครกำลังเล่นตลกกับชีวิตผมหรือเปล่าวะ





   X






   “เฮ้ยๆ พี่ระวัง”เสียงไอ้คิมร้องดัง จนผมที่กำลังขึงเอ็นเตรียมจะปูพื้นต้องเยหน้าขึ้นมา มันเกิดรวดเร็วมากถึงขนาดที่ว่ามองเห็นทุกอย่างแต่เข้าไปช่วยไว้ไม่ทัน กองอิฐที่ไอ้โอ๊คเรียงไว้มันล้มลงมาใส่เพราะไอ้ธันว์กับไอ้เต้ที่กำลังยกเก้าอี้ไม้ออกจากพื้นที่ไปชนมันเข้า มันจะไม่อะไรเลยถ้าตรงนั้นไม่มีคนนั่งอยู่ พี่เดียวมันช่วยผมดึงเอ็นจากอีกด้านอยู่ มันเลยไม่ทันระวังตัวก้อนอิฐเลยล้มใส่




   “พี่เดียว เป็นไรป่ะวะ”ผมรีบหยิบอิฐออกจากตัวไอ้พี่เดียว มันเอามือกุมหน้าอยู่ พอเอามือมันออกก็เห็นเลือดไหลลงมาจากหน้าผาก




   “เชี่ย เลือด ไอ้ห่าพวกมึงทำไมไม่ระวังเลยวะ”ผมหันไปว๊ากไอ้สองตัวที่ทำหน้าตกใจอยู่




   “ผมขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ มองไม่เห็น”ไอ้เต้พูดอย่างสำนึกผิด




   “ไม่เป็นไรๆ นิดเดียวเอง”




   “นิดเดียวบ้าอะไร เลือดออกเนี่ย ลุกดิ ไปหาหมอ”เลือดไหลจะเข้าตาอยู่แล้ว นิดเดียวตรงไหนวะ ไม่รู้เจ็บส่วนอื่นด้วยหรือเปล่า เพราะอิฐที่อยู่สองแถวบนมันร่วงลงมาหมดเลยเจ็ดแปดก้อน น้ำหนักไม่ใช่เบาๆ




   “ไม่เป็นไร แค่ล้างเลือดออกก็พอ”




   “.....”




   “โอเคก็ได้”ผมจ้องจนมันยอม ตอนนี้เลือดมันไหลลงมาเลอะเสื้อที่มันใส่อยู่แล้ว ผมให้พวกที่เหลือทำงานต่อให้ไอ้หมวยคุมงาน แล้วลากไอ้พี่เดียวมาคลินิกที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน สรุปว่าแผลที่ว่าไม่เป็นไรก็เย็บไปสามเข็ม ส่วนตรงอื่นก็แค่ถลอกแล้วก็ฟกช้ำ พรุ่งนี้คงจะเป็นจ้ำม่วงๆเขียวๆละม้ายคล้ายตุ๊กแก




   “เดี๋ยวๆ จะไปไหน”พอมาถึงบ้านแทนที่ไอ้พี่เดียวมันจะขับรถตัวเองกลับห้องไป แต่กลับเดินไปในสวนอีก




   “ไม่กลับงานยังไม่เสร็จเลย”




   “ไม่ต้องทำแล้ว เจ็บตัวแบบนี้กลับห้องไปเลย”




   “กลับห้องก็อยู่คนเดียว เกิดพี่เป็นไรไปจะทำยังไง”




   “อย่ามาเว่อร์ แค่หัวแตกจะเป็นไรได้ไง”




   “งั้นก็ทำงานต่อได้”




   “ไอ้บ้า อยากทำอะไรนักหนาหะ?”ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ




   “ที่จริงก็ไม่ได้อยากทำนักหรอก แต่อยากอยู่กับน่านมากกว่า”




   โอเค...จบ กูนี่แหละจบ หมดคำพูดเลย นึกอยากจะหยอดก็หยอดเหรอวะ




   “จารย์ เอ้ย พี่เดียวเป็นไงบ้างครับ”ไอ้พายถลาเข้ามาหาอาจารย์ของมัน คนอื่นๆก็ด้วยคงเพราะได้ยินเสียงรถผมเลยแห่กันมา




   “เย็บสามเข็ม”ผมตอบให้ ก่อนที่มันจะอ้าปากว่าไม่เป็นอะไรอีก




   “โห ผมขอโทษนะพี่”ไอ้ธันว์พูด




   “เห้ย ไม่เป็นไร แผลแค่นี้เอง ไม่ต้องซีเรียส”ผมแอบเบ้ปากกับคำตอบของมัน อวดเก่งจริงๆ




   “แล้วมีแผลตรงอื่นอีกมั้ยครับ”




   “ไม่มีแล้วแค่รอยถลอกนิดหน่อย ไม่ต้องคิดมาก มันเป็นอุบัติเหตุ”




   “เออ เจ้าตัวบอกว่าไม่เป็นไรพวกมึงก็ไปทำงานต่อไป”ไอ้เต้กับไอ้ธันว์มาท่าทีลังเลแต่ก็ยอมกลับไปทำงานต่อ ส่วนผมพาไอ้พี่เดียวขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนเลือดบนห้อง เพราะมันยืนยันว่าจะยังไม่กลับคอนโด




   “อ่ะ น่าจะใส่ได้”ผมยื่นเสื้อยืดตัวใหญ่สุดเท่าที่มีให้คนบนเตียงมี่กำลังใช้สายตาสำรวจห้องนอนผม แต่แทนที่มันจะเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำกลับทอดเสื้อโชว์หุ่นต่อหน้าผมนี่แหละ แต่ก็นะผู้ชายเหมือนกันไม่มีอะไรต้องอาย อีกอย่างผมไม่เกิดอารมณ์กับหุ่นบึ้กๆของมันแน่ แต่เหมือนมันจะไม่แน่นเหมือนก่อนหน้าแล้วป่ะวะ แล้วทำไมผมต้องมาสังเกตเห็นอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย



   “มองแบบนี้เข้ามาปล้ำพี่เลยดีกว่า”



   “น่าปล้ำตายอ่ะ ต่อให้ถอดหมดก็ไม่เกิดอารมณ์หรอก”แต่อารมณ์อยากกระทืบนี่มาเต็มอ่ะ



   “เหรอ แต่กับน่านนี่ชุดไหนพี่ก็มีอารมณ์นะ”



   “เหี้ย!”ผมตอบกลับไปทันที ไม่มีคำไหนจะเหมาะสมกับมันอีกแล้ว สารเลวจริงๆ ในหัวคิดแต่เรื่องแบบนี้



   “เดี๋ยวจะโดน”มันชี้หน้า ทำตาดุใส่ คิดว่าผมจะกลัวหรือไง แต่ก็ขยับถอยหลังมาหนึ่งก้าวเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง




   “เปลี่ยนเสร็จแล้วก็ลงไปได้ละ”




   “หิวข้าวอ่ะ ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า ทำไรให้กินหน่อยดิ”




   “ภาระ”ผมว่าแต่มันยิ้ม




   “นี่เจ็บอยู่นะ อย่าใจร้ายหน่อยเลย”เมื่อกี้ยังทำเป็นเก่งอยู่เลย ทีอย่างนี้จะมาอ้างตัวเป็นคนเจ็บมันน่าซ้ำให้เย็บอีกสักแผลสองแผล แต่เห็นว่าเจ็บตัวเพราะมาช่วยงานทั้งที่ไม่ร้องขอหรอกนะ จะทำทานให้สักมื้อ




   “จะกินก็ตามมา”




   ผมไม่ได้ทำอะไรให้มันกินเพราะขนมจีนแกงเขียวหวานไอ้พายยังมีอยู่ ทอดมัน ไข่ต้มก็ยังอยู่ผมเลยตักใส่จานแล้วให้มันนั่งกินในครัว กินเสร็จก็บังคับให้มันกินยาแก้ปวดกันไว้ เดี๋ยวมันต้องปวดแผลแน่ๆ




   “มึงมีอะไรจะบอกกูมั้ย?”




ทำไมเพื่อนผมมันชอบเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคแบบนี้กัน ตอนนี้งานเสร็จแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดีเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ยกเว้นเรื่องไอ้พี่เดียวอ่ะนะ ผมอาบน้ำแล้วมานั่งเล่นริมสระพร้อมกับเบียร์ในมือ คนอื่นๆแยกย้ายไปอาบน้ำ ไอ้พายทำกับข้าวอยู่ในครัวคงใกล้เสร็จแล้วเพราะมันทำมาตั้งแต่ก่อนผมจะจัดสวนกันเสร็จ ส่วนไอ้พี่เดียวหลังจากผมห้ามไม่ให้ไปช่วยงานมันก็มานั่งคุยกับไอ้พายแทน ไปๆมาก็คุยเรื่องเรียน ติวหนังสือไปซะงั้น ตอนนี้มันก็กลับไปแล้วเพราะถูกที่บ้านตามตัว




   “อะไร?”




   “มึงกับพี่เดียวไง”




   ไอ้ธันว์ถามแบบนี้แสดงว่ามันต้องสังเกตเห็นอะไรแน่ๆ ไม่อย่างนั้นจู่ๆจะพูดขึ้นมาทำไม ผมมั่นใจว่าไม่มีใครเอาอะไรไปบอกมันแน่นอน ทั้งไอ้พาย ไอ้เต้ ถึงมันจะรู้และชอบเสือกแต่ไม่ใช่คนปากโป้ง เรื่องอะไรที่ผมยังไม่เปิดเผยหรือพูดแทงลงไปชัดๆ มันก็จะเก็บเงียบ ส่วนไอ้หมวยรายนั้นมีชะนักปักหลังมันไม่พูดให้เข้าตัว เสี่ยงแก่การที่ผมจะเอาความลับมันมาบอกต่อเป็นการแก้แค้น แต่คิดไปคิดมา การที่ผมทำแบบนี้คิดแบบนี้ก็เหมือนกับว่ายอมรับในสิ่งที่ไอ้พวกนั้นคิดว่าเป็นเรื่องจริงเลย ทั้งที่ระหว่างผมกับไอ้พี่เดียวมันไม่มีอะไรทั้งนั้น




   “พูดมาให้ชัดดิ จะถามอะไรกูกันแน่”




   “ตอนแรกกูก็แค่คิดว่าพี่เดียวสนใจมึง”




   “แล้ว?”




   “แล้วตอนนี้กูก็รู้สึกว่ามึงเองก็ใส่ใจพี่เขามากเหมือนกัน”




“เอาอะไรมาคิดว่า”ผมไปใส่ใจมันตอนไหน ถ้าจะเป็นเรื่องที่มันเจ็บตัว ก็นั่นแหละมันมาช่วยงานและเจ็บในบ้านผม จะให้ผมทำเป็นมองไม่เห็นหรือไง ไม่ว่าจะเป็นใครเจ็บผมก็ต้องทำเหมือนที่ทำกับไอ้พี่เดียววันนี้เหมือนกัน




“ก็เอาสิ่งที่กูเห็นมาคิดนี่แหละ คือกูไม่แปลกใจเลยนะเว้ยถ้าพี่เขาจะมาสนใจมึง ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องทำนองนี้ แต่ที่กูแปลกใจที่มึงยอมให้เขาเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ”มันรู้ดีว่าถ้าใครเข้าหาผมในลักษณะนี้ผมจะจัดการจนมันไม่กล้าเข้ามายุ่งด้วย ชกกันปากแตกหัวแตกก็เคยมาแล้ว




   “แล้วมึงคิดว่ากูไม่เคยทำอะไรเหรอวะ”คิดว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ผมยินยอมพร้อมใจหรือยังไง




   “มีด้วยเหรอวะคนที่มึงรับมือไม่ได้ แสดงว่าเขาต้องพิเศษมากแน่ๆ”มันเน้นย้ำคำว่าพิเศษจนสะดุดหู มึงต้องการจะสื่ออะไรวะครับไอ้เพื่อนเลว อย่าทำมามีความนัยแอบแฝง




   “ไม่มีอะไรพิเศษนอกไปจากความหน้าด้านของมัน”ผมตอบอย่างหงุดหงิด




   “แค่นั้น?”




   “เออ มึงจะเอาแค่ไหนไอ้สัด มึงคิดว่ากูจะสนใจไอ้พี่เดียวหรือไง”เมื่อวานก็ไอ้พาย วันนี้ก็ไอ้ธันว์ มันแค่มาเห็นวันเดียวก็คิดไปไกลแล้ว




   “แล้วมึงสนใจหรือเปล่าล่ะ”




   “ไม่เลยสักนิด”
   





   
   
   
   (มีต่อ)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 16-08-2016 00:15:20
(ต่อ)





X





   
   ไม่สนใจเลยสักนิด...



   แต่ทำไมผมต้องมาอยู่ตรงนี้ด้วยนะ คงเป็นเพราะว่าความเป็นคนดีมีศีลธรรม มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ผมได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆอย่างนี้ แต่ถ้าให้พูดถึงความจริง ไม่อิงข้ออ้างก็คือ เออ ผมเป็นห่วงมัน! จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง วันนี้ไอ้พายบอกว่าไอ้พี่เดียวไม่ไปสอน ลาป่วยทั้งที่เป็นคนที่มีวินัย ทำอะไรตามตารางเป๊ะๆ เป็นไข้สูงมันยังไปสอนได้ แต่นี่ถึงกับลาป่วย ต้องอาการสาหัสมากแน่ๆ แค่หัวแตกเย็บสามเข็มมันก็ไม่ได้สาหัสเท่ากับสิบล้อทับช่วงล่างหรอกมั้ง แต่มันก็พูดจนผมรู้สึกผิดมากๆถ้าหากผมไม่มาดูใจไอ้พี่เดียว ซึ่งจริงๆแล้วคนที่จะรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ควรเป็นไอ้เชี่ยเต้กับไอ้สัดธันว์หรือเปล่าวะ



   ผมมองคีย์การ์ดในมือ แล้วก็ถอนใจ...บางทีผมก็ข้องเกี่ยวกับไอ้พี่เดียวมากกว่าที่ตัวเองคิดไว้เสียอีก ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ



   “พี่เดียว”ผมเรียกเจ้าของห้องที่ไม่รู้ไปซ่อนตัวอยู่หลืบไหน แต่แอร์นี่เย็บเฉียบ เปิดให้คนอยู่หรือจำลองห้องดับจิตวะ



   ผมวางอาหารที่ซื้อมาไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินไปดูมันในห้องนอน ถ้าไม่นอนอืดอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีก็ต้องอยู่ในห้องนอนนี่แหละ แต่ก็ผิดคาด ในห้องมีแต่ที่นอนยับยู่ยี่ที่บอกให้รู้ว่าผ่านการใช้งานมา ในห้องน้ำก็ไม่มี




   “พี่เดียว”หรือว่ามันเจ็บแผลตายไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็ใจเสาะเกินไปละ




   “ไอ้พี่เดียวอยู่ไหนวะ”ในห้องทำงานก็ไม่มี ระเบียงก็เดินไปดูแล้ว จะให้เปิดตู้เย็นดูก็ใช่ที่ ตัวควายขนาดนั้นเข้าไปไม่ได้หรอก




   “พี่ดะ...เห้ย!”ตกใจหมด ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมหันหลังมาก็เจอไอ้พี่เดียวในระยะประชิด โผล่มาจากไหนวะ ไม่ได้ยินเสียงเลยแม้แต่นิด




   “ตกใจไร คนไม่ใช่ผี”




   “ยิ่งกว่าผีอีก มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปไหนมา เรียกตั้งนานไม่ได้ยินหรือไง”




   “ใจเย็นๆ ถามทีละคำถามดิ”มันพูดกลั้วหัวเราะ มีอะไรให้ขำ




   “ตกลงไปไหนมา”หมั่นไส้ อยากจะเข้าไปตบแผลที่หน้าผากสักป้าบ




   “ลงไปที่ล็อบบี้มา เห็นน่านแว๊บๆจะเรียกไว้ก็ไม่ทัน”




   “ไหนว่าป่วย ทำไมดูปกติดี ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”นอกจากผ้าก๊อซที่แปะอยู่ที่หน้าผากแล้ว มันก็ดูไม่เหมือนคนป่วยไข้ใกล้ตายจนต้องมาดูใจเลย แต่ตามตัวมันเริ่มมีรอยเขียวช้ำชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อวาน




   “ก็ป่วยไง”มันชี้ไปที่แผลบนหน้าผาก




   “ถึงขนาดกับต้องลาเลยเหรอ”




   “ใครบอก พายเหรอ?”




   “อือ ซื้อข้าวมาให้อ่ะ ไปกินดิ”




   “ดีจัง เจ็บแบบนี้แล้วไม่ต้องโทรตามก็มาหา อยากเจ็บทุกวันเลย”




   ผมมองมันอย่างเหยียดหยามสุดชีวิต แต่มันกลับหัวเราะแล้วดึงมือผมให้เดินเข้าไปในครัว มือมันอุ่นจนเกือบจะร้อน




   “มีไข้เหรอวะพี่”ผมเลื่อนมือไปจับแขน จนไปถึงคอ มันก็ยืนนิ่งให้ลูบให้จับ




   “นิดหน่อย”




   “อีกนิดก็จะไม่หน่อยแล้วนะ ยาอยู่ไหน”




   “ในห้อง ก่อนนอนค่อยกินเลยทีเดียว”




   “ได้เหรอ”ระหว่างนี้ก็จะเลี้ยงไข้ไว้งั้นเหรอวะ เดี๋ยวได้เป็นหนักกว่านี้พอดี




   “ได้ดิ ไม่ต้องห่วง มากินข้าวเถอะ หิวแล้ว”มันเดินไปนั่งรอให้ผมเอาอาหารมาประเคนให้ถึงปาก ซื้อมาให้แล้วต้องมาทำให้อีก กูเป็นทาสในเรือนเบี้ยป่ะเนี่ย




   ผมนั่งกินข้าวกับมันจนอิ่ม กับข้าวที่ซื้อมาหมดเกลี้ยงทุกอย่าง กินเสร็จก็ต้องมาเก็บล้าง ส่วนไอ้พี่เดียวผมไล่ไปกินยาแล้วจะรอกินก่อนนอนทีเดียวยังไงไหว ยังดีที่มันชื่อฟังไม่มีอิดออด พอล้างจานเสร็จกะว่าจะกลับบ้านเลย แต่แวะไปบอกมันสักหน่อยก็เห็นไอ้พี่เดียวมันนั่งทำงานอยู่




   “ไม่นอนอ่ะ”




   “งานเยอะ”




   “แล้วจะหายมั้ย”




   “หายดิ”




   “ป่วยแล้วไม่เจียมนะ เป็นหนักขึ้นมาไม่ต้องโทรไปตามเลย”ยังจำครั้งก่อนที่มันไม่สบายแล้วผมต้องมานอนเฝ้า มันวางปากกาที่กำลังเซ็นยิกๆลง ลุกขึ้นเดินมาหาที่เกาะขอบประตูอยู่ มันคว้ามือผมไปจับ ห่า คุยปกติก็ได้มั้งต้องถึงเนื้อถึงตัวตลอด




   “จะใจร้ายไม่ยอมมาจริงเหรอ”ทำไมต้องมาทำเสียงอ่อนขัดรูหูด้วยวะ รู้สึกหยึ๋ยๆแปลกๆ




   “เออสิ”ผมสวนกลับทันควัน จะปล่อยให้เน่าคาห้องนี่แหละ แต่แทนที่จะไม่พอใจมันกลับยิ้มคล้ายกับไม่เชื่อว่าผมจะทำแบบที่พูดจริงๆ




   “เห้ย ปล่อยดิ”จับอย่างเดียวไม่พอยังมาลูบมือผมให้ขนลุกไปอีก




   “คืนนี้นอนด้วยกันเหอะ”




   “เพื่ออะไรวะ”




   “เผื่อพี่ไข้ขึ้นน่านจะได้ดูแลไง”




   “ใช่เรื่อง ญาติตัวเองก็มีโทรตามมาดิ ปล่อยได้แล้วจะกลับบ้านเว้ย”ผมสะบัดมือออก มันหลุดออกมาอย่างง่ายดาย แปลกที่มันยอมง่ายๆ ปกติจะต้องมีออกแรงกันสักยกสองยก ด่ากันอีกสองสามประโยคถึงจะยอมปล่อย




   “หึ วันนี้จะยอมไปก่อน งานเยอะไม่มีเวลามาเล่นด้วย”มันว่า เห็นผมเป็นเด็กสามขวบหรือไงที่ต้องมีเพื่อนเล่น อีกอย่าง กูไม่เคยเล่นอะไรกับมึงเว้ย เข้าใจอะไรผิดป่ะเนี่ย น่าหงุดหงิดเสียจริง ผมคว้าโทรศัพท์กับกุญแจรถมาได้ก็ตรงลิ่วไปที่ประตู เบื่อขี้หน้าเจ้าของห้อง แต่ก็ยังได้ยินเสียงมันตะโกนตามมา




   “พรุ่งนี้ส่งข้าวส่งน้ำด้วย อย่าให้พี่ต้องโทรตามนะครับน้อง”




   กูไม่ใช่เด็กส่งปิ่นโตเว้ย!
   
   
   

   






--------------------


เอาน้ำน่านมาส่งค่ะ และกล่าวสวัสดีท่านผู้อ่านที่หลงเข้ามาใหม่ด้วยนะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ ฮ่าา
น้ำน่านนี่ซึ๊นซึนเนอะ อุปสรรคความรักอันใหญ่หลวงของพี่เดียวก็คือตัวน้ำน่านี่แหละนะ 555555
แต่ว่าพี่เดียวผู้ช่วยเยอะบอกเลย คือเพื่อนตัวเองและเพื่อนน้ำน่านที่รู้กันทั้งกลุ่มแล้วละมั้งเนี่ย

ใครอยากได้คู่น้องหมวยโฟมกับพายบ้างมั้ยคะ แต่มีคนบอกว่ามันไม่ควรมีคู่รองเลย เพราะคู่รองมีกจะเด่นกว่าเสมอ
ซึ่งก็อาจจะจริงค่ะ 555555  อยากแต่งหมวยโฟมมาก แต่สารภาพว่าดันไปแอบแต่งเรื่องของธันว์อีกเรื่องเอาไว้
แต่ก็แต่งเล่นๆ ยังไม่ได้ลงที่ไหนและยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนัก จริงๆควรเอาเวลามาแต่งน้ำน่านให้จบดีกว่า
23 ตอนแล้วยังไม่รักกันเลย ยาวนานไป๊ กีสๆๆๆ

เจอกันใหม่ตอนหน้าค่าาาา  :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [13.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-08-2016 07:05:52
โถ่ หนูน่านนน~  :hao4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [13.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-08-2016 07:40:12
น่านน่ารักตลอดดด

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 16-08-2016 09:22:44
เอามาลงเถอะค่ะ ทั้งน่านทั้งหมวยทั้งพาย น่ารักกกกก ตื่นเต้นๆๆๆ อ้อ ของธันว์ด้วยขอหนักๆเลยโทษฐานทำพายเจ็บปวด


ตอนนี้น่านเริ่มหวั่นไหวนิดๆล่ะนะ พี่เดียวก็เต๊าะน้องตลอดดดดดด

พี่เดียวน้ำน่าน
หมวยโฟมกะพี่วิดวะ
พายกะพี่พระเอก?
ธันว์กะตัวละครลับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-08-2016 10:08:38
น่านนน ใจอ่อนที 555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2016 15:20:03
น้ำน่าน ใจอ่อนให้พี่เดียวบ้าง :mew1: :mew1: :mew1:
พี่เดียว ออกตัวหนักขนาดนี้
แถมไปช่วยทำสวน เจ็บตัว หัวแตก เลือดไหล
ต้องเย็บแผลด้วย
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-08-2016 21:18:30
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 18-08-2016 09:12:21
ซึนละก้ปากแข็งอีกทั้งปากไม่ตรงกับใจได้อีกกกกก
น้ำน่านต้องโดนพี่เดียวลงโทษหนักๆนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: TITAN ที่ 27-08-2016 21:21:55
พี่เดียว นี่หลงจนไม่เหลือเค้าจากตอนแรกเลยน้าาาคนแต่งแต่งเก่งมากๆเลยจ้าาา o13 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 29-08-2016 23:06:40
น้ำรู้ใจตัวเองสักที ฮื้ออออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-09-2016 22:34:03
ปุกาดๆ  วันจันทร์น่าจะมาอัพนิยายได้นะค้าาา
เสาร์-อาทิตย์นี้ไม่อยู่ แต่อาทิตย์เย็นน่าจะพอมีเวลาแต่งและขัดเกลาบ้าง  :katai4:
จะรับมาค่าาาา  :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 03-09-2016 09:10:47
สนุกค่ะ อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.23 [16.8.59] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: leenanhyun ที่ 11-09-2016 14:08:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 25-09-2016 22:07:28
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 24 -





   บางทีก็น่าสงสัยนะว่าผมมีชีวิตรอดมาได้ยังไงจนถึงเย็นวันนี้ เพราะตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมานอนแทบจะนับชั่วโมงได้ ส่วนข้าวถ้าไม่ได้ไอ้ธันว์หรือไอ้คิมมาคอยส่งให้ก็คงต้องกินมาม่าจนหัวโตเพราะมีเวลาแค่สามนาทีในการปรุงอาหารเท่านั้น ชวนให้สงสัยอีกอย่างว่านี่ผมเรียนปีสองหรือว่าเป็นนักศึกษาทำโปรเจคจบกันแน่ แต่ใช่ว่าส่งงานแล้วชีวิตจะสบายได้พักเต็มที่ นอนข้ามวันข้ามคืนอย่างที่ตั้งใจได้ ผมมีเวลาประมาณสามชั่วโมงหลังจากส่งงานในคาบสุดท้ายเสร็จเพื่อกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วมารวมตัวอีกครั้งที่ใต้ตึกคณะตามคำสั่งของรุ่นพี่ คืนนี้ผมต้องเดินทางไปหัวหินเพื่อไปเตรียมสถานที่สำหรับรับน้องในวันพรุ่งนี้ ที่จริงมีรุ่นพี่บางคนได้ล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่เช้า แต่เหมือนอะไรๆจะยังไม่ค่อยเรียบร้อยดีพวกผมจึงต้องตามไปสมทบ แล้วก็มารอต้อนรับน้องเช้าพรุ่งนี้ด้วย





   ก่อนแยกกันกลับบ้าน ยังจะเจอพี่กั๊กตรงหน้าตึกมายืนตีหน้ายักษ์ข่มขวัญพร้อมกับพูดข่มขู่ว่าถึงเวลานัดไม่เห็นหัวใครจะตามไปกระทืบถึงห้อง แล้วใครมันจะกล้าถ้าท้ายไม่มาได้




   “กูจะไปเซเว่นพวกมึงจะเอาอะไรมั้ย”ไอ้เต้ถามแล้วลุกขึ้นยืนเอาโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง ตอนนี้เวลาสองทุ่มครึ่งโดยประมาณอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาล้อหมุน พวกเราจะไปกันโดยรถตู้ที่พี่ๆเขาหามา ส่วนพี่หลงจะขับรถตัวเองไปตอนแรกผมก็ว่าจะขับรถไปเองเผื่อวันกลับจะแว่บไปไหนบ้าง แต่เนื่องจากสังขารไม่เอื้ออำนวยผมนั่งรถตู้สบายๆไปดีกว่า กะนอนยาวจนถึงหัวหินเลย




   “กูหิวอะไรกินแล้วอิ่มเอามาให้หมดเลย” ไอ้หมวยเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนที่มันนอนซบอยู่ หน้าตาอ่อนระโหยโรยแรง โทรมแบบสุดๆ ตาคล้ำอย่างกับเป็นญาติหลินปิง




   ตุบ!




   ทันทีที่สั่งเสร็จถุงจากร้านสะดวกซื้อชื่อดังก็วางลงกลางโต๊ะม้าหินที่พวกผมนั่งอยู่ จะเรียกว่าวางก็ไม่ถูกต้องนักต้องเรียกว่าโยนลงมาเลยดีกว่า ของที่อยู่ของในกระเด็นออกมานอกถุง ของกินทั้งนั้น ขนมปัง ขนมขบเคี้ยว น้ำ นม




   “อะไรของพี่วะ”ไอ้หมวยหันไปชักสีหน้าใส่พี่รหัสตัวเอง มันเกือบโดนของในนั้นกระแทกหน้า ดีที่เด้งตัวหลบออกมาทัน




   “ของมึง”พี่กั๊กนิ่งทั้งหน้าทั้งเสียงเหมือนกำลังโกรธใครอยู่ ตางี้ขวางปกติคุยกับน้องรหัสตัวเองทีไรตานี่เป็นประกายเหมือนสิงโตเห็นกระต่ายน้อยน่ากิน




   “พี่ซื้อให้?”ไอ้นี่ก็ยิ้มร่า เห็นของฟรีเป็นไม่ได้ สักวันเขาเอายาเบี่อผสมมาให้กินเพื่อฆ่าหมาในปากแล้วจะรู้สึก




   “มีคนฝากมาให้”พี่กั๊กบอกแล้วหันหลังเดินไปทันที ผิดวิสัยพี่รหัสจอมเนียน ปกติต้องอยู่แหย่ ลูบคลำไอ้หมวยจนพอใจนั่นแหละถึงจะยอมไปได้




   “ใครวะ แต่ช่างแม่งของชอบกูทั้งนั้นเลย”มันรื้อของดูแล้วก็ยิ้มร่าตาเป็นประกาย




   “ตกลงมีใครจะฝากอะไรมั้ยเนี่ย กูจะไปแล้ว”ไอ้เต้ถามอีกรอบผมเลยฝากมันซื้อโค้กมาขวดดื่มสักหน่อยเผื่อจะสดชื่นขึ้น




   “ของใครฝากมาให้ก็ไม่รู้มึงก็ยังจะกล้าแดกอีก”อดปากไม่ได้จริงๆ เห็นมันแฮปปี้กับของกินจนน่าหมั่นไส้




   “คนดีๆหน้าตาดีๆอย่างกูไม่มีศัตรูปองร้ายหรอก จะมีแต่แฟนคลับสาวๆกูนี่แหละที่ส่งมา”มันพูดอย่างภาคภูมิใจและมั่นหน้ามาก ถ้าเปลี่ยนจากแฟนคลับสาวๆมาเป็นหนุ่มๆยังจะน่าเชื่อกว่าอีก ผมแหวกๆในถุงดูมีแต่ของที่มันชอบจริงๆ ต้องรู้จักมันดีในระดับหนึ่งทีเดียว




   “อ๊ะ ไอ้เหี้ย”จู่ๆมันก็ด่าขึ้นมา ด่าใครวะ ทั้งโต๊ะมีแค่ผมกับมัน




   “ด่ากูทำเหี้ยอะไร กูไม่แย่งของมึงหรอก”





   “ไม่ใช่ กูไม่ได้ด่ามึง”มันพูดแต่ตาไม่ละจากหน้าจอโทรศัพท์นิ้วพิมพ์ยิกๆๆ มีสมาธิจดจ่อมากจนผมยื่นหน้าเข้าไปอ่านแล้วมันยังไม่รู้ตัว




   “กินไม่หมดก็แบ่งเพื่อนบ้าง กินข้าวด้วยอย่ากินแต่ขนมเดี๋ยวก็ปวดท้องอีก ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ นอนกับเพื่อนก็แยกเตียงด้วยเข้าใจมั้ยน้องโฟม... ใครวะไอ้ห่า ผัวมึงเหรอ”มันชวนสงสัยจริงๆ




   “อะ...ไอ้เหี้ย”อันนี้ด่าผมแน่ๆ มันรีบเอาโทรศัพท์แอบไว้ใต้โต๊ะ แต่ช้าไปแล้วผมอ่านหมดทุกข้อความที่เห็นในหน้าจอนั่นแหละ




   “หน้าแดงนะน้องโฟม”




   “ไอ้! ใครน้องมึง”ยิ่งแดงเข้าไปอีก เห็นแล้วน่าแกล้ง ผมว่าผมเดาได้ว่าคู่สนทนาเป็นใครถึงจะเขาจะใช้รูปดิสเพลย์เป็นรูปหมาสีขาวขนฟูฟ่องก็ตาม




   “หึหึ ไม่ต้องปิดกูหรอก มึงก็รู้ว่ากูเดาได้ แต่เรื่องสถานะมึงจะให้กูเดาหรือจะบอกเอง ถ้าให้กูเดานี่อาจจะเกินจริงอย่างเช่นมึงตกเป็น เมียเขาแล้ว”




   “ยังเว้ย กูไม่ได้อ่อนขนาดนั้น!”หลุดมาเต็มๆ ผมนี่กลั้นยิ้มไว้แทบไม่ทัน




   “เดี๋ยว ไอ้สัด! มึงหลอกให้กูพูด”แต่มันก็รู้ตัวเร็วดี




   “ฮ่าๆ กูไปหลอกมึงตอนไหน มึงพูดของมึงเอง”




   “กูเกลียดมึงไอ้น่าน อย่าให้ถึงทีกูบ้างกูจะซักเรื่องพี่เดียวให้ขาวสะอาดเลย”มันถลึงตาโตๆใส่ รับกับปากแดงๆส้มๆของมัน ไม่ได้ดูน่ากลัวเลย




   “เรื่องของกูมันไม่มีอะไรทั้งนั้น”




   “อมวัดมาพูดกูก็ไม่เชื่อ”




   “เชื่อกูเหอะ กูยังไม่คิดจะเปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง ว่าแต่มึงเหอะทำอิท่าไหนถึงได้ผัวมา”




   “เชี่ย กูบอกว่าไม่ใช่”




   “ตอนนี้ยังแต่อนาคตกูว่าไม่น่ารอด”ผมเพิ่งเก็ทตอนนี้เองว่าทำไมพี่กั๊กถึงได้หน้าตาไม่สบอารมณ์ตอนเอาขนมมาให้มัน เพราะต้องรับฝากมาจากหนุ่มสถาปัตย์คนนั้นโดยตรงแน่ๆ




   “มึงอย่ามาปากเสีย”




   “สรุปว่าเป็นแฟนกันแล้ว”




   “ยัง”




   “แต่เท่าที่กูอ่านเมื่อกี้มันใช่นะ”




   “ไม่ใช่เว้ย มันบ้า ชอบบังคับขู่เข็ญ อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะ”มันทำเสียงจิ๊จ๊ะ ท่าทางอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาคืนเขา ตัวเท่าเมี่ยงจะไปทำอะไรใครได้เขาดีดทีเดียวก็กระเด็นละ




โอกาสในการแกล้งไอ้หมวยจบลงเมื่อไอ้เต้กับไอ้โอ๊คกลับมา ผมปลีกตัวออกมาสูบบุหรี่พร้อมกับโค้กที่ฝากซื้อ ช่วงนี้ชักจะเริ่มติดบุหรี่แล้วสิ ตอนทำงานเครียดก็สูบตลอด แทบจะมีติดนิ้วตลอดเวลา สงสัยคงต้องเพลาๆลงบ้างไม่งั้นเดี๋ยวโดนไอ้พี่เดียวมันบ่นอีก จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอมันเลยไม่รู้แผลที่หัวหายหรือยัง หลังจากวันนั้นที่มันสั่งให้ผมเอาข้าวเอาน้ำไปส่งให้ผมก็ไม่ได้เจอมันเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ไปหามันตามที่สั่ง แต่ไปแล้วไม่เจอใคร มารู้จากไอ้พายให้หลังไปสามวันแล้วว่ามันบินไปต่างประเทศ นัดสอนเพิ่มนอกเวลาแทนเพื่อจะได้สอนทันวันกำหนดปิดคอร์ส




“ตายยากจริงเว้ย”ผมหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋าหลังกางเกงมาดูเห็นชื่อไอ้คนที่ผมกำลังนึกด่าอย่าในใจ หายหัวไปนานจู่ๆก็นึกจะโทรมาหรือไงวะ ไม่รับแม่ม แต่ก็ใช่ว่ามันจะละความพยายามโทรมาอยู่นั่นแหละ ผมไม่ได้รับปล่อยจนสายตัดไป ก่อนจะปิดเสียงแล้วเตรียมตัวขึ้นรถจะได้ออกเดินทาง






X







มาถึงหัวหินตอนห้าทุ่มกว่าเกือบเที่ยงคืน ช่วยกันขนของเข้าที่พักแล้วก็นำพวกอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำกิจกรรมไปเก็บอีกที่ แล้วช่วยกันทำงานที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจนเกือบตีสามถึงแยกย้ายกันไปนอน ทั้งผมทั้งไอ้หมวยเราตกลงกันไว้ว่าจะอาบน้ำทีเดียวตอนเช้าเลย เพราะเดี๋ยวหกโมงก็ต้องตื่นขึ้นมาช่วยพี่ๆในแต่ละฐาน ต้อนรับน้องๆที่จะมาถึงตอนเก้าโมงเช้า ไอ้หมวยมันรีเควสที่จะนอนกับผมเอง ทั้งที่ปกติมันจะต้องนอนกับไอ้โอ๊ค เพราะผมไปรู้ความลับมันเข้าละมั้ง ถ้าพักห้องเดียวกับผมมันก็ไม่ต้องระแวดระวังอะไรมากนัก




   ในระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มก็ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งดังมาจากอีกเตียง ท่ามกลางแสงสลัวผมเห็นแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์รางๆมาจากเตียงไอ้หมวย ผมเลยคิดอะไรดีๆออก คนบนเตียงสะดุ้งตกใจเมื่อผมล้มทับมันไปครึ่งตัวแล้วกอดมันไว้




   “อืม...โฟม เลิกคุยสักทีสิ กูไม่ไหวแล้วนะ อ่า”




   “ไอ้!...อื้อ!”ผมเอามือปิดปากมันที่กำลังจะอ้าปากด่า ก่อนจะกระซิบเสียงกระเส่าชวนให้คิดลึกจงใจให้คนปลายสายได้ยิน ไอ้หมวยดิ้นขลุกขลักพยายามจะผลักผมออก ผมเห็นว่าปลายสายกดวางไปแล้ว เลยเลิกแกล้งปล่อยมันเป็นอิสระ




   “ไอ้สัด ไอ้เหี้ย ไอ้เลวมึงทำส้นตีนอะไรเนี่ย!”มันกดเปิดไฟหัวเตีงแล้วโวยวายแทบจะมาแหกอกผมที่นั่งขำมันอยู่บนเตียงของตัวเอง




   “โกรธเหรอน้องหมวย แค่แหย่เล่นน่า”




   “แหย่เหี้ยไรแบบนี้มึงไม่อยากตายดีใช่มั้ย มึงเตรียมโดนตีนมันเลย ควาย! อยู่ดีๆก็หาเรื่องนะมึงเนี่ย”มันบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทำหน้าเหมือนโลกจะถล่ม




   “ผัวมึงนี่โหดใช่ย่อย”




   “ไม่ใช่ผัวเว้ย!”มันโวย แต่มือนี่จิ้มโทรศัพท์รัวๆ




   “แล้วไมต้องกลัวขนาดนี้วะ”




   “มึงไม่เป็นกูไม่เข้าใจหรอก ห่า นอนไปเลย นี่แม่งก็ปิดโทรศัพท์ใส่กู ฟาย”   




“เหอะ สงสัยจะงอนมึงไปแล้วมั้ง ไรวะงอนเป็นตุ๊ดเลย”




   “สัด เดี๋ยวมึงได้เจอตีนตุ๊ด กูจะสมน้ำหน้าให้”




   ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจคำขู่ ไม่ได้กลัวสักนิด แต่ขำท่าทางไอ้หมวยมากกว่า ดูมันแคร์เขามากเลยถึงได้ร้อนรนขนาดนี้ ผมสงบศึกกับไอ้หมวยแล้วปิดไฟนอนอีกรอบ คราวนี้หลับจริงจังตอนได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกยังไม่อยากจะตื่นเลย แต่กลัวจะถูกพี่กั๊กมากระทืบจมเตียงเลยต้องรีบตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปรวมกับพี่ๆตรงจุดนัดพบ สภาพของแต่ละคนเหมือนศพเดินได้ ไอ้เต้ซัดกาแฟโฮกๆหมดไปสองกระป๋องแล้ว ส่วนคนอื่นก็นั่งอึนเมาขี้ตากันอยู่ พอถูกรุ่นพี่กระตุ้นจึงได้แยกย้ายกันไปทำงาน เจ็ดโมงกว่าๆทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย จึงได้ทานอาหารเช้ากัน




รีสอร์ทที่มาทำกิจกรรมเป็นของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วหลายปี แต่ก็ยังให้สิทธิพิเศษกับน้องร่วมคณะในการใช้สถานที่ประกอบกิจกรรม และลดค่าที่พักให้เป็นพิเศษ ดังนั้นไม่ว่ารุ่นไหนๆก็จะมาที่นี่เสมอ นอกจากสถานที่จะเป็นส่วนตัว ติดชายหาดแล้ว อาหารยังอร่อยมากอีกต่างหาก ข้าวต้มหอยเชลล์ทำเอาผมเบิ้ลไปสามรอบ




   “กูว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาคุ้นๆว่ะ”ไอ้โอ๊คบุ้ยใบ้ไปทางโต๊ะที่อยู่ถัดไปอีกสามโต๊ะ ผมนี่แอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสบตากับสายตาดุๆนั่นอย่างจัง หอยติดคอเลยแม่ม ไอ้หมวยเองก็ตาค้างเพรามันไม่คิดว่าจะได้เห็นผัวตัวเองมานั่งทำหน้าโหดตั้งแต่เช้าขนาดนี้ได้




   “เพราะมึงเลยไอ้สัดมันถึงแล่นมาที่นี่”ไอ้หมวยเค้นเสียงต่ำกระซิบอยู่ข้างหูผม ก็ใครจะคิดว่าพี่มันจะบ้าจี้ตามมากระทืบจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทนแบบนี้ เพื่อนผมนี่มันเด็ดจริงว่ะ ทำไงให้เขารักเขาหลงขนาดนี้วะ




   ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมกันอยู่ไอ้หมวยมันผูกติดกับผมเหมือนเงาตามตัว ไหนว่ากลัวผมจะถูกผัวมันกระทืบตายไงวะ แต่ที่ทำอยู่นี่เหมือนเพิ่มโอกาสตายให้ผมยิ่งขึ้นไปอีก แต่พี่เขาก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายอะไรกับพวกเรา ไม่ได้ตามติดไปทุกฝีก้าว แต่ก็ไม่ได้หายไปไหนนานจนต้องถามหา เพราะมักจะโผล่หน้ามาให้เห็นอยู่เป็นพักๆ เหมือนมาเช็คว่าไอ้หมวยมันอยู่ดีมีสุขมั้ย บางทีผมก็เห็นพี่กั๊กเดินไปคุยอะไรกับพี่เขา ท่าทางจะรู้จักกันมาก่อน




    ตกบ่ายแดดก็แรงจนผมแสบผิวและเหนียวตัวหนึบหนับจากลมทะเลจนอยากจะหนีไปอาบน้ำ แต่ก็ต้องยืนขาแข็งช่วยพวกปีเดียวกันดูแลสวัสดิการให้พี่น้องทั้งหลาย




   “เห้ย!”กระติกน้ำแทบหลุดจากมือ  หัวหินนี่มันใกล้เหมือนพารากอนหรือยังไงวะ ทำไมใครๆถึงได้มากันง่ายจัง




   “โทรมาก็ไม่รับเลยนะ โทรศัพท์นี่มีไว้ประดับบารมีหรือไง”เจอหน้าก็ใส่กูเลยนะ




   “ไม่อยากรับก็ไม่รับไง เข้าใจยากตรงไหน”




   “ปากดีจังเลยน้า”




   “อื้อ!”ผมปัดมือมันออก แม่ง เจ็บนะเว้ยดึงมาได้นี่ปากคนไม่ใช่หนังสติ๊ก จะได้ดึงยืดๆ




   “มาทำไมเนี่ย”




   “ก็มาหาไง คิดถึงจะแย่ กลับมานึกว่าจะได้เห็นหน้า ที่ไหนได้หนีมาหัวหินซะงั้น”




   “ไม่ได้หนีเฟ้ย แล้วนี่รู้ได้ไง”




“เก่งไง”




“เหอะ ไอ้พายบอกก็พูดมา”ทำเป็นเต๊ะท่า น่าหมั่นไส้




“แสนรู้จังครับน้องน้ำน่าน”มันยังเล่นไม่เลิก เอามือมาลูบหัวอีก ปั๊ดเตะผ่าหมากซะนี่ แต่ไม่เจอกันหลายวันไอ้พี่เดียวมันดูซูบไปนะ ตาก็คล้ำๆ งานหนักไปป่ะวะ




“ไอ้น่านนนน อุ้ย หวัดดีคร้าบ ตามมาเฝ้าถึงที่เลยนะพี่”ไอ้หมวยวิ่งทะเร่อทะร่าเข้ามา พอเห็นใครยืนอยู่กับผมก็ทำเป็นแกล้งตกใจได้น่าถีบ




“ควาย เฝ้าห่าไร แล้วมึงมาทำไร”




“พี่วาวให้มาตามน้ำแข็ง ได้ยังอ่ะ”




“ยัง”ถ้าไม่เจอไอ้บ้านี่ ก็คงได้นานแล้ว





“ให้ไวๆ ก่อนที่องค์เจ้าแม่จะลง”ผมกำลังจะเดินไป แต่มือหนาก็รั้งเอาไว้ ไอ้หมวยก็อำนวยความสะดวกให้เหลือเกิน คว้ากระติกน้ำในมือผมไปแล้วเดินลิ่ว เห็นจากหางตาว่ามีใครบางคนเดินตามมันไปด้วย




“อะไรเนี่ย ปล่อยดิ ไม่ได้วางนะเนี่ย”




“คุยแป๊บเดียว ห้านาที”




“ให้ไว”




“เลิกกิจกรรมกี่โมง”




“ไม่รู้ สองสามทุ่มมั้ง”หรืออาจจะยาวกว่านั้น เพราะวันนี้จะมีบายศรีสู่ขวัญ ผูกข้อมือจากนั้นก็มีปาร์ตี้ตามประสาพี่น้อง เรียกว่าเมากันยาวๆไป




“งั้นเดี๋ยวหกโมงโทรหา รับด้วย ไม่รับนี่จะเข้าไปตามถึงตัวเลยนะ”




“ขู่จัง เออ ถ้าว่างก็จะรับ ถ้าไม่รับแสดงว่าไม่ว่าง ไม่ต้องเสนอหน้ามาตามเลยนะ”ต้องสั่งไว้ก่อน เผื่อมันเกิดบ้าทำอย่างที่พูดขึ้นมาจริงจะซวยเอา มันพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก็ขอให้มันเข้าใจและปฏิบัติตามจริงๆ




พอกลับมาที่ฐานไอ้หมวยก็ทำหน้าทำตาล้อเลียน น่าหมั่นไส้จนอยากจะถีบให้ตกทะเล แต่หวั่นว่าจะถูกรุ่นพี่สถาปัตย์เอาคืนอย่างสาสม ผมไม่อยากเสี่ยงเลยต้องปล่อยมันไป ประมาณสี่โมงเย็นกิจกรรมตามฐานต่างๆก็เสร็จเรียบร้อย เหน็ดเหนื่อยกันทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ อ่อนเพลียเสียแรงกันไปมากทั้งจากกิจกรรมและแสงแดดที่แผดเผา ขนาดสี่โมงเย็นแล้วยังร้อนอยู่เลย มีน้องผู้หญิงเป็นลมสองคน กิจกรรมตอนบ่ายส่วนใหญ่จึงให้น้องผู้ชายเล่น ส่วนผู้หญิงแกล้งให้เต้นหรือทำอะไรนิดหน่อยก็เลยให้มาพักกับพวกพี่ๆ อันที่จริงมันก็กะจะหยอดน้องหน้าตาน่ารักกัน





ค่ำนี้จะเป็นการสั่งลาการรับน้องที่ต่อเนื่องยาวนานเกือบสามเดือน แม้ว่าช่วงหลังสอบกลางภาคจะไม่ได้คุมเข้ม เข้มข้นเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็ใช่ว่ารุ่นพี่จะปล่อยปละละเลย น้องๆยังคงต้องทำตามกฏ ปฏิบัติตัวตามคำสั่งของรุ่นพี่เหมือนเคย ทว่าวันนี้จะเป็นการปิดกิจกรรมรับน้องอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันน้องๆจึงเริ่มขึ้นหลังจากมื้อเย็นที่ทุกคนกำลังอิ่มหนำและผ่อนคลายเต็มที่ โดยมีพี่กั๊กสวมวิญญาณพี่ว้ากสุดโหด เรียกรวมทุกคน จากนั้นพี่ว้ากชั้นปีอื่นและพี่ที่จบไปแล้วจะเข้ามาร่วมกดดันน้องๆด้วย ส่วนพวกผมปีสองมีหน้าที่เตรียมการรับขวัญผูกข้อมือน้องๆที่ชายหาด รอพวกพี่สันทนาการปีสามพาน้องๆมา




“กูว่ามันต้องมีแฟน”ไอ้โอ๊คพูดขึ้นตามันหรี่มองไอ้หมวยที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงต้นมะพร้าวริมหาด เอามือป้องปากเหมือนกระซิบกระซาบคุย




“แล้วกูคิดว่าแฟนมันต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ”ผมนี่อยากจะหัวเราะดังๆกับข้อสันนิษฐานของไอ้โอ๊ค





“ทำไมมึงคิดงั้นวะ อาจจะเป็นผู้หญิงเซ็กซี่นมบึ้มๆอย่างที่มันชอบก็ได้นะ”ไอ้หมวยผู้ไม่เจียมบอดี้ ชอบพูดว่าสาวในสเป็คของตัวเองต้องหุ่นน่ากินนมเป็นนมก้นเป็นก้น แบบเนื้อนมไข่ แต่ซึ่งตอนนี้มันก็ได้มาแต่ไข่อ่ะนะ





“น้ำหน้าอย่างมันนะจะได้แฟนเป็นผู้หญิง ถ้าได้จริงๆกูให้มึงเหยียบหน้าเลย”ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่ได้เหยียบ





“รอก่อนเหอะ เดี๋ยวกูจะจับให้ได้คาหนังคาเขาเลย”ไอ้โอ๊คหมายมั่นปั้นมือมาก ซึ่งผมก็จะเงียบๆไว้ ไม่บอกเรื่องไอ้หมวยกับไอ้โอ๊ค และไม่บอกเรื่องไอ้โอ๊คจะจับผิดกับไอ้หมวยด้วย รอดูอะไรสนุกๆดีกว่า




“น่านมาอยู่นี่เอง ให้กูหาตั้งนาน”เอเชียครับ เดินหน้ามันเหงื่อซึมมาเลย




“หาทำไม”




“กูจะมาบอกให้มึงระวังตัวไว้ มีชะนีอยากมีผัวจะรวบหัวรวบหางมึง”




 “หะ? ใครวะ”




“นางชื่อน้ำผึ้งเป็นดาวปีนี้ นางมั่นหน้ามาก ภูมิใจในความสวยของตัวเองมาก อ่อยไปทั่ว นางเคยมีเรื่องกับน้องรหัสมึงด้วยไม่รู้เหรอ”




“ไม่รู้ กูไม่ได้สนใจ แล้วยังที่ว่าจะรวบหัวรวบหาง”




“ก็กูไปได้ยินว่าคืนนี้นางจะเผด็จศึกมึง”ผมไม่อยากจะเชื่อที่มันพูด แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงมันจะพูดทำไม




   “เห็นกูง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ”




   “เขาคงไม่ได้เห็นมึงง่าย แต่แค่ได้หมด”




   “หลอกด่ากูป่ะเนี่ย กูก็เลือกเว้ย”




   “เลือกที่จะเอาทุกคนสิไม่ว่า”




   “ไม่ทุกคนหรอก ไม่งั้นกูเอามึงไปละ”แหม่ ขอสักหน่อยแขวะกูจังเลยนะครับ ไอ้โอ๊คนี่ขำก๊ากเลย




“ไอ้เลว!”




“หึหึ คนไหนวะ กูไม่รู้จัก”อยากจะเห็นหน้าจริงๆ




“กูจำได้ละ คนที่มาขอลายเซ็นมึงแล้วก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ไง”ไอ้โอ๊คบอก ผมลองนึกดูก็จำได้แค่รางๆ คือจำเรื่องได้แต่จำหน้าไม่ได้




“ชี้ให้กูดูด้วยแล้วกัน”




“ทำไม มึงจะได้ฟันถูกคนเหรอ”




“เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ย กูจะได้ระวังตัวถูกเว้ย”




เดี๋ยวนี้เอเชียมันไม่ค่อยมองผมในแง่ดีเท่าไหร่ มีช่วงนึงที่ผมเสียศูนย์เรื่องไอ้เหี้ยพี่เดียวไปนิด แล้วจีบดะ คุยกับสาวๆไปทั่ว เอเชียมันรับรู้พฤติกรรมแล้วรับไม่ค่อยได้ ประมาณว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ถ้าเป็นเพื่อนมันก็คุยนั่นแหละครับ แต่เจอหน้าชอบหาเรื่องแขวะ จิกกัดประมาณนั้น ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาแอนตี้




   “กูพูดจริง กูจะระวังตัวไม่อยากมีปัญหาว่ะ”มันทำหน้าไม่เชื่อ จนผมต้องออกปากอีกรอบ




   “เออๆ เดี๋ยวกูชี้ให้ดู ไปล่ะ พวกมึงก็เตรียมได้ละ พี่กั๊กเรียกรวมน้องแล้ว อีกแป๊บคงพากันมา”




   ผมเดินไปตามไอ้หมวยที่แทบแทรกเข้าไปในต้นมะพร้าว ก่อนจะพากันกลับไปที่จุดที่เตรียมไว้ ช่วยกันดูอีกรอบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว มีคนวิ่งมาให้สัญญาณว่าให้จุดเทียนได้ ไม่นานพี่สันทนาการปีสามก็พาน้องๆเดินจับมือกันมาเป็นแถว มีผ้าสีดำปิดตากันทุกคน น้องผู้หญิงบางคนก็เหมือนจะร้องไห้กันด้วย พวกผมและรุ่นพี่คนอื่นๆก็เข้าไปนั่งประจำที่ ส่งต่อสายสิญจน์ที่ถูกตัดไว้สำหรับผูกข้อมือ ในขณะที่พี่หลงบอกให้น้องๆแกะเชือกผูกตาออก เสียงเพลงรับขวัญก็ดังขึ้นจากพี่เชียร์ทุกชั้นปี น้องผู้หญิงบางคนที่ร้องไห้อยู่แล้วก็ร้องหนักขึ้นไปอีก ร้องจากความตื้นตันไม่ใช่ความกดดัน




   “ขอให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้นะครับ ตั้งใจเรียนล่ะ”




   “ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่น่าน”ผมเงยหน้าขึ้นมองน้องตรงหน้า เธอยิ้มหวานมาให้




   “น้ำผึ้งนะคะ จำได้หรือเปล่า หนูให้เบอร์พี่ไปไม่เห็นโทรมาบ้างเลย”




   อื้อหือ ของเขาแรงจริงเว้ย หน้าตาก็สวยหวานอ่ะนะ ผมพอจะจำได้แล้ว แต่พุ่งเข้าหาขนาดนี้พี่ว่าน้องเปรี้ยวมากเลยครับ




   “เสร็จแล้วก็ไปค่ะ คนอื่นจะได้ต่อ นั่งแช่จะรอให้รากงอกหรือไง”




   “เอ๊ะ ผิงมายุ่งอะไรด้วย”




“ก็จะยุ่งอ่ะ ทำไม นี่พี่รหัสเรา เราจะให้พี่รหัสผูกข้อมือ”สองสาวส่งสายตาฟาดฟันอย่างไม่ยอมกัน ผมกลัวว่าจะมีตบกัน เลยต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์





“มาๆ ผิง พี่ผูกให้”ไอ้ตัวดีหันไปยิ้มเยาะเย้ยใส่อีกคนที่เม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป




“พี่น่าน!”ตกใจนะเว้ย จู่ๆก็หันมาแว้ดใส่




“อะไรของแก”



“ชิ พี่ไปคุยกับมันทำไม”




“เอ้า ก็เขาคุยด้วยนี่หว่า”




“ที่หลังไม่ต้องไปคุยกับมัน เกลียดขี้หน้า”เกลียดขี้หน้าคนอื่นไปทั่วเลยเว้ย สร้างแต่ศัตรูจริงๆน้องผมคนนี้




“พาลนะเรา มายื่นแขนมาดิ”มันยื่นแขนมา มือแทบจะกระแทกหน้า ความอ่อนหวานไม่เคยจะมี




“พี่จะเอาใครก็ได้แต่อย่าไปเอามันนะ มันแรด”




“ปากคอเราะร้าย”




“พูดเรื่องจริง มันคุยไปทั่วนะว่ามันจะเอาพี่เป็นแฟนให้ได้ มโนมากกกก”




เรื่องนี้มีมูลจริงสินะ คือผมก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาประทับใจเลยนะ อ่อยสักนิดก็ไม่มี มาติดใจอะไรผมกันเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ




“พี่ไม่ง่ายนะเว้ย”ไม่ง่ายถ้าไม่ใช่ทาง แต่ถ้าเข้าทางนี่ก็ถึงไหนถึงกัน ทั้งวันทั้งคืนก็ไหว





“เออ ไม่ง่ายก็ดีแล้วค่ะ ถนอมเนื้อตัวไว้บ้าง ชิ”พูดเสร็จก็สะบัดตูดไป อะไรของมัน งอนกูซะงั้น ไอ้เด็กบ้า




กิจกรรมซึ้งๆได้จบลง พี่หลงกล่าวปิดการรับน้องและชี้แจงเหตุผลต่างๆสำหรับการกระทำทุกอย่างที่ผ่านมาเพื่อให้น้องๆรับทราบ เรียกว่าเป็นการเคลียร์ใจกัน เพราะรู้ว่ามีน้องๆบางส่วนที่ไม่เห็นกับการเข้ากิจกรรม หลังจากนี้ไปก็เป็นการดื่มกินกันเต็มที่ ผมไม่ได้สนใจโทรศัพท์ตัวเองตั้งแต่เย็นแล้ว เพราะไม่ว่างจริงๆ พอหยิบมาดูก็เห็นมีมิสคอลมาแค่ครั้งเดียวจากเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งก็เป็นที่น่าแปลกใจ ปกติอย่างน้อยๆก็ต้องโทรสามครั้งเป็นอย่างต่ำ หรือว่าครั้งนี้ไอ้พี่เดียวมันจะเชื่อฟังตามที่สั่งไว้




“ไอ้น่านมานี่เลยมึง”




ผมเดินมาที่โต๊ะของพี่ว้ากตามคำร้องเรียกของพี่หลง หลังจากนั้นก็ยาวๆไป ใครมาขอชนแก้วก็ชนไปกับเขาหมด ไม่เช้าไม่เลิก ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเพราะพรุ่งนี้ไม่มีโปรแกรมอะไร แค่ตื่นมาเช็คเอ้าท์ให้ทัน แวะซื้อของฝากเจ้าดัง แล้วมุ่งหน้ากลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพเป็นอันจบ




เป็นอันจบจริงๆ ผมตื่นมาก็ปาเข้าไปบ่ายสองแล้ว ยังงงตัวเองว่านอนหรือซ้อมตาย ยอมรับเลยว่าเมื่อคืนดื่มไม่ยั้ง ทั้งที่ตั้งใจไว้หลายครั้งแล้วว่าจะไม่เมาเป็นหมาอีก แต่บรรยากาศมันพาไป รุ่นพี่รุ่นน้องสนุกสนานเลยเพลินไปหน่อย มาฟื้นคืนสติเมื่อครู่นี้เอง ตอนแรกก็มึนงงๆ ไม่ได้สังเกตอะไร แต่ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้วแม้จะยังแฮงค์ทว่าก็ยังแยกออกว่านี่ไม่ใช่ห้องพักของผมกับไอ้หมวย สมองผมเริ่มทำงานว่าเมื่อคืนหลังจากชนแก้วกับพวกสาวๆปีหนึ่งแล้วเกิดอะไรขึ้น แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก คำเตือนของเอเชียลอยเข้ามาในหัว หรือผมจะพลาดท่าจนได้ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเสียหายอะไร แต่ไม่อยากพบเจอกับความยุ่งยากที่น่าปวดหัว เพราะผมรู้ว่าเรื่องมันจะไม่จบง่ายๆ ในขณะที่ผมกำลังคิดไปต่างๆนานา คนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอก็เดินเข้ามาในห้องนอน สีหน้าเรียบนิ่งจนเดาอารมณ์ไม่ถูก




แต่เชื่อมั้ยผมดีใจมากๆที่ได้เห็นหน้า ดีใจที่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือมัน




 “พี่เดียว...”




“ไปอาบน้ำแต่งตัว เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”










---------------------------------------------------

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 25-09-2016 22:31:04
ไรท์!!!!!~ กรีดร้องงงงงง~ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เทวดาปอนๆ ที่ 25-09-2016 22:44:17
 :z3: :z3: ค้างงงงงง กริ๊ดดดด~~
รอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆ ค่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 25-09-2016 22:50:46
เอาอีกกกกกกกกกก :katai1: :katai1: :katai1: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-09-2016 00:15:16
มาต่ออีกนะจ๊ะ  อยากอ่านอีกจ้า  นานๆ  มาที 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-09-2016 00:52:11
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 26-09-2016 12:00:06
โอ๊ยยยยย ค้างมากกกกกกค่าาาาา พี่เดียวจะคุยอะไรกับน้องคะ
ถ้าให้เดาคงเมาแบบไม่ไหวแล้วละเกือบโดนเอาไปแดกเอ้ย กิน
พอดีกับที่พี่เดียวมาเจอ ไม่ก้น้องหมวยต้องโทรไป
นี่ก้เดาไปเรื่อย 555 อยากอ่านต่อจังเลยค่ะ เอาอีกได้มั้ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Fonz_Juz19 ที่ 26-09-2016 17:15:16
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22
มาต่ออีกนะคะ
อยากอ่านมากเลยยย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-09-2016 18:06:39
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 26-09-2016 18:57:46
ดีใจอ่ะ มาต่อแล้ว

น้องน่าน ก่อวีรกรรมอะไรเอาไว้นะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-09-2016 19:09:33
เสร็จพี่เดียวยัง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 04-10-2016 10:03:43
เรื่องนี้สนุกกกกกกก เห็นนานแล้วแต่ไม่ได้เข้ามาอ่าน เจอในกระทู้แนะนำนิยาย
ชอบมากกกกกก อ่านตั้งแต่เมื่อคืนยิงยาวเลย เราชอบแนวนี้นะ
ชอบน่านด้วย คนอะไรซึนได้โล่ หล่อแล้วยังกวนตีนอีก  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 06-10-2016 00:28:03
งื้ออออ ค้างงงง  :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 [25.9.59] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 06-10-2016 11:11:26
หือออ เกิดอะไรขึ้น ทำไมดูโมโหจัง เกิดอะไรระหว่างที่น้ำน่านวาร์ปรึเล่าหว่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 P.8 || แจ้งเรื่อง P.8 [14.10.16]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-10-2016 22:08:20
.

.

.

แจ้งงดอัพเดตนิยาย เป็นระยะเวลา 1 เดือนนะคะ หลังจากนั้นจะกลับมาอัพตามปกติค่ะ

พบกัน 14.11.16

.

.

.
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 P.8 || แจ้งเรื่อง P.8 [14.10.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-10-2016 05:22:49
ค้างเลยยย :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 P.8 || แจ้งเรื่อง P.8 [14.10.16]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-10-2016 13:36:42
รับทราบค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 P.8 || แจ้งเรื่อง P.8 [14.10.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 15-10-2016 14:27:06
หวังว่าน่านจะใจอ่อนเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.24 P.8 || แจ้งเรื่อง P.8 [14.10.16]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 30-10-2016 13:55:36
ค้างจริง ขออย่าให้เสร็จน้ำผึ้งนะ ไม่งั้นยุ่งยาก :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-11-2016 16:21:16
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero



- 25 -



(ครึ่งแรก)





   ฟอร์จูนเนอร์สีขาวเงาวับทะยานไปบนถนน ภายในรถเงียบกริบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนข้างๆ ผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดเท่านี้มาก่อน ทำไมไอ้บ้าที่ขับรถอยู่ถึงได้แผ่รังสีน่ากลัวขนาดนี้ ผมไม่ได้ไปฆ่าใครตายนะ ก็แค่เกือบพลาดท่าเสียที โดยทำเรื่องขายขี้หน้าโดนผู้หญิงวางยา ตั้งแต่เกิดมานี่ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกเลย บางทีก็กลุ้มใจกับเสน่ห์ของตัวเอง ช่วงนี้ก็มีแต่คนแปลกๆมาติดพัน นี่ก็โดนวางยาแถมเป็นยานอนหลับ อยากจะบอกว่าน้องครับทีหลังวางยาอย่างอื่นนะ พี่หลับอยู่น้องจะไปมันอะไร ผมก็แค่คิดให้ตลกไปอย่างนั้นเอง สร้างความผ่อนคลายให้ตัวเองเพื่อไปต่อสู้กับความอึมครึมของคนข้างๆ



เชื่อมั้ยครับ ตั้งแต่ผมนั่งโง่ๆแฮงค์ๆให้มันด่าจนสาแก่ใจมันก็ไม่พูดไม่จาอะไรอีกเลย เดินหิ้วกระเป๋าหนี ผมที่คิดได้ว่าถ้าไม่อยากถูกทิ้งก็ให้รีบตามไป ดีที่มันยังพอมีน้ำใจรอหน้าลิฟต์ ตอนแวะกินข้าวก็ไม่บอกพอจอดรถปุ๊บมันก็ลงปั๊บ ผมก็ต้องคิดได้เองว่าควรลงตามไม่อย่างนั้นได้แขวนท้องจนถึงบ้านแน่ๆ



“นี่จะเงียบทำไมเนี่ย”



“.....”



“พี่เดียว”



“.....”



“เน่”



“ถึงแล้วก็ลงไปสิ”พูดไม่พอยังปัดมือผมที่ยื่นไปสะกิดไหล่เบาๆเมื่อกี้ออกด้วย ทำหน้าไม่สบอารมณ์สุดๆ



โอเค จบ กูไม่ง้อ!



แกร๊ก...



กวนตีนกูละ พอจะเปิดประตูก็เสือกกดล็อค สับสนในตัวเองหรือไงวะ ผมหันไปมองหน้ามันก็มองกลับมานิ่งๆ ก่อนจะกดปลดล็อครถอีกครั้ง คราวนี้ผมรีบลงจากรถก่อนจะได้มีวางมวยกันบ้าง ปิดประตูดังปังเพื่อความสะใจ แต่แทนที่มันจะขับรถกลับไปมา ก็ดันกระแดะเดินตามมาด้วย



“ตามมาไม”



“....”



ถามก็ไม่ตอบ ผมเลยเตะหน้าแข้งมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ มันก็จ้องกลับมาตาโคตรดุอ่ะ รีบเข้าบ้านดีกว่า ผมเปิดประตูเล็กเข้าไปก็เห็นไอ้พายเดินออกมาพร้อมกับรีโมทกดเปิดประตูใหญ่



“พี่เดียวหวัดดีคร้าบ ก็นึกว่าใครรถไม่คุ้นผมเลยต้องออกมาดูเนี่ย ไม่งั้นเปิดประตูให้แล้ว”เห็นเพื่อนเสือกไม่ทัก ทักคนอื่นก่อนอีก



“ไม่เป็นไร”



“เข้าบ้านครับพี่”




“อะไรวะ ที่บ้านมีอะไร”ทำเหมือนนัดกันไว้งั้นแหละ ผมซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่รู้เรื่องอะไรเลย



“กูกับพี่เดียวมีธุระจะคุยกัน ไม่เกี่ยวกับมึง”พูดไม่พอยังจิ้มหน้าผากผมจึ้กๆจนหน้าหงาย ห่า มันเจ็บนะเว้ย!



“เออเรื่องของมึง”หงุดหงิดจริงโว้ย!



ผมแยกตัวขึ้นห้อง เห็นที่นอนแล้วรู้สึกมีแรงดึงดูดบางอย่างพอล้มตัวลงก็อยากจะหลับทันที เพราะทั้งเพลียทั้งมึน ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรือฤทธิ์ยาที่หลงเหลืออยู่ในร่างกาย บนรถก็จะหลับสัปหงกไปหลายทีแต่ก็ฝืนตัวเองไว้เพราะกลัวว่าตื่นมาแล้วจะลอยคออยู่กลางทะเล ไอ้พี่เดียวมันน่ากลัวจริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่นเลย



มีแฟ้มงานจากที่ไร่วางอยู่บนเตียง เมื่อวานอาฝนโทรมาบอกว่าจะให้ลุงปันแวะเอาเข้ามาให้เพราะมาทำธุระที่กรุงเทพให้อาพอดี อาทิตย์หน้าอาก็จะลงมาด้วยบอกว่าทนคิดถึงหลานชายอย่างผมไม่ไหว แต่ผมคิดว่าน่าจะลงมาสอดส่องความประพฤติผมมากกว่า ทั้งที่ผมออกจะเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย ไม่สร้างเรื่องปวดหัวให้ ไม่มีอะไรที่คุณอาต้องกังวลสักหน่อย




“อื้อ...”อะไรบางอย่างที่คลอเคลียอยู่แถวหน้าทำให้ผมนึกรำคาญ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งจนแทบจะยกไม่ขึ้นทีละนิดก็เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ตรงหน้า ใช้เวลาปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งจึงรู้ว่าเป็นเวลาค่ำแล้ว มีเพียงแสงไฟสีเหลืองนวลตรงมุมห้องให้แสงสว่าง และเงาตะคุ่มที่ว่านั่นก็ส่งสายตาดุคมมาให้ในระยะใกล้ชนิดที่ว่าลมหายใจรดปลายจมูก




“ถอยออกไป”คิดเอาไว้ว่านั่นเป็นเสียงที่ดังพอจะให้อีกฝ่ายขยับหนีไป แต่มันกลับแหบพร่าฟังเป็นคำได้ยากเหลือเกิน เกลียดเสียงตอนเพิ่งตื่นของตัวเองชะมัด ผมคงเผลอหลับไปตอนที่อ่านแฟ้มงานอยู่ เพิ่งรู้สึกตัวก็เมื่อครู่นี้เอง คงจะหลับไปนานพอสมควร



“หิวมั้ย ค่ำแล้วนะ”มันพูดกลับมาเสียงเบา สายตานิ่งๆ หน้านิ่งๆ แต่ไม่กดดันเท่าตอนที่นั่งรถกลับมาด้วยกัน



“ก็ลุกไปสิ”เมื่อไหร่เสียงผมจะกลับมาวะ มันฟังดูงุ้งงิ้งสิ้นดี



“แม่ง @%^*(___&*$”




มันสบถเป็นภาษาบ้าบอที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ ก่อนจะโน้มหน้าลงมา ผมที่ไม่ได้ตั้งตัวเลยหลบไม่ทัน เลยโดนมันดูดปากไปเต็มๆ สองแขนก็ถูกมันล็อคติดกับเตียง อย่าพูดถึงด้านล่างที่โดนมันทับไว้แน่น ไอ้ห่าดิ้นหนีก็ไม่ได้ เอาแต่ใจฉิบหายคนอะไรวะ ผมไม่ยอมเปิดปากให้มันก็เล่นกัดซะได้เลือด โคตรซาดิสม์ เจ็บจี๊ดน้ำตาเกือบเล็ด มันเลยสบโอกาสรุกล้ำเข้ามาได้สำเร็จ ความรู้สึกแรกมันขนลุกไปทั้งตัว เพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกอยากจะทำเรื่องทำนองนี้กับมันเลย แต่ก็ต้องปล่อยไปตามที่มันต้องการไม่อย่างนั้นมันคงจะบดจนปากผมพังแน่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเจ๋งมันเก่ง ทำเอาผมเคลิ้มคล้อยตามได้ นานจนเกือบลืมหายใจ การจูบกับมันทำเอาสมองผมเบลอคิดอะไรไม่ออก นอกจากรับรู้ทุกสัมผัสของมันที่ส่งผ่านมาทางปลายลิ้นและริมฝีปาก




“อืม...”โคตรน่าอาย ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นเสียงของตัวเอง ผมหอบหายใจรัวราวกับวิ่งมาเป็นสิบกิโลเมตร นี่กะจะสูบวิญญาณกันหรือไงวะ สายตาที่มองมาเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาที่เล่นเอาใจผมสั่น หน้าร้อนไปหมด ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเซ็กซี่วะ แต่ก็มีออร่าน่ากลัวปกคลุมอยู่




“อย่าให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกนะ”



“อะไร?”เรื่องอะไรวะ ไม่เห็นจะเข้าใจ



“จะกินเหล้าจะสนุกยังไง ก็ระวังตัวด้วย”



“มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ ยังไงก็ผู้ชายไม่เสียเปรียบอยู่แล้ว”



“ไม่เสียหาย แต่ไม่ชอบ”ตามันดุวาบขึ้นมาทันที



“จะมาไม่ชอบเรื่องอะไร ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย”



“หวง”คำที่กระซิบบอกมีอำนายทำลายล้างเหลือเกิน มันพูดคำนี้อีกแล้ว ผมไม่กล้าสบตามันตรงๆเลยต้องเบือนหนี



“น้ำน่าน คบกันเถอะ เป็นแฟนกัน”



“มีเหตุผลอะไรที่ต้องคบกันแบบนั้น”เป็นครั้งที่สองที่มันขอผมเป็นแฟน ความจริงจังของมันทำให้ผมสงสัย



“คนที่จะคบกัน มันควรเริ่มมาจากความรู้สึกชอบพอกันไม่ใช่หรือไง”โดยทั่วไปมันเป็นอย่างนั้น ซึ่งไม่ใช่ระหว่างผมกับมัน



“แล้วน่านไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เลยหรือ”



“จะให้รู้สึกยังไงกับคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับตัวเอง”




ยอมรับตามตรงเลยก็ได้ถึงแม้เรื่องตอนนั้นมันจะใช้กำลังเข้าข่ม ใจผมไม่ยินยอมแต่ร่างกายผมเองก็ดันมีอารมณ์ร่วมไปกับมันด้วยไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถูกมันชักจูงไปถึงฝั่งได้ ผมสู้มันก็จริงแต่ลึกๆแล้วผมอาจจะไม่ได้ต่อต้านมันอย่างจริงจังหรือเปล่า ร่างกายก็คงต้องการด้วยนั่นแหละมั้ง ผมเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ อารมณ์ในตอนนั้นผมก็ชักจะเลือนๆไปแล้ว แต่ที่รู้สึกโกรธก็เพราะผมก็มีศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายอยู่ เสียหน้า พลาดเสียท่า พอเวลาผ่านไปผมก็ทำใจได้ว่ามันก็เป็นแค่เซ็กส์ครั้งเดียว เป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้น่าประทับใจนัก



ผมจบกับเรื่องนั้นไปแล้ว แต่ถึงจะจบก็ใช่ว่าจะลืม จะอธิบายให้เข้าใจง่ายก็คงคล้ายกับรอยแผลเป็น ที่เราไม่ได้รู้สึกเจ็บกับรอยแผลนั้นแล้วแต่เราก็ไม่เคยลืมว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทว่ามันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ผมหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธมัน เพราะเหตุผลที่แท้จริงก็คือผม 'ไม่ได้ชอบ' มันต่างหาก



ผมไม่เห็นว่าไอ้พี่เดียวมีสีหน้าอย่างไร เพราะมันซบลงมาตรงไหล่ผม เรานิ่งกันอยู่อย่างนั้นไร้คำพูดใดๆ ผมจมอยู่กับความคิดในหัวของตัวเอง ส่วนอีกฝ่ายไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่




“พี่ขอโทษ เราเริ่มกันใหม่ได้ไหม พี่รู้ว่าเรื่องนั้นทำให้น่านรู้สึกแย่ พี่เองก็รู้สึกผิดและรู้ว่าต่อให้ทำดีมันก็ไม่สามารถลบล้างกันได้”
จริงอย่างที่มันพูด การทำความดีมันไม่ช่วยลบล้างความผิดที่ทำไว้ เพราะดีก็ส่วนดี เลวก็ส่วนเลว หักล้างกันไม่ได้ แต่ผมก็รู้ว่าที่มันทำดีก็เพราะอยากทำ อยากให้ผมรู้สึกดีด้วย ทว่ามันไม่เกิดประโยชน์เพราะยังไงผมก็ให้ในสิ่งที่ไอ้พี่เดียวปรารถนาไม่ได้ วันนี้เราควรจะเคลียร์ความรู้สึกให้ชัดๆกันไปเลย



“พี่รู้มั้ย ถึงไม่มีเรื่องนั้น ผมก็คบกับพี่ไม่ได้ ตัดเรื่องนั้นทิ้งไปเลยก็ได้ เพราะใจความสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่าผมไม่ได้ชอบพี่ ผมไม่คิดจะคบกับใคร เพราะอะไรรู้มั้ย?”



“เพราะอะไร?”คนที่ซบไหล่ผมอยู่เงยหน้าขึ้นมา ผมมองไม่ถนัดว่าแววตาคนตรงหน้ากำลังสะท้อนความรู้สึกเช่นไรเพราะความสว่างในห้องนั้นน้อยเกินไป



“เพราะผมไม่เชื่อในความสัมพันธ์รูปแบบนี้”



“กลัวอะไรอยู่?”



คำตอบของคำถามคือความเงียบงัน ผู้มาเยือนได้จากไปทิ้งไว้เพียงผมที่นั่งฟังเสียงลมหายใจของตัวเอง ค่ำคืนนี้มันเหมือนยาวไกลเกินไป...






X






“หน้าตาเหมือนไม่ได้นอน ไหวมั้ยมึง”ผมลงมาข้างล่างในตอนเช้า สภาพคงดูไม่จืดไอ้พายถึงกับออกปากทัก ก็คนไม่ได้นอนจริงๆ เมื่อคืนผมนั่งอ่านเอกสารที่อาฝนฝากมาให้ทั้งคืน ตามันสว่างยังไงก็ไม่รู้คงเพราะนอนตั้งแต่บ่ายยันค่ำ



“ขอกาแฟดำน้ำตาลช้อนนึง”ขอหวานสักหน่อย ขมไปเดี๋ยวกระเดือกไม่ลง แต่เหล้าเบียร์นี่ไม่มีหวั่นไหลลื่นลงคอเหมือนน้ำเปล่า



“เออๆ”



ผมทิ้งตัวลงนั่งตรงโต๊ะทานข้าว วันนี้ไอ้พายทำอาหารเช้าง่ายๆแค่ไส้กรอกนึ่ง แฮมนึ่ง ไข่ดาวน้ำ ผมรู้สึกตื้อๆรู้สึกไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ก็สำนึกได้ว่าควรมีอะไรตกถึงท้องบ้างเพราะวันนี้มีเรียนทั้งวัน ตอนเที่ยงว่าจะไปหอสมุดด้วยคงไม่มีเวลากินข้าว เลยต้องฝืนกินเข้าไป



“เอาขนมปังด้วยมั้ย กูจะปิ้งเผื่อ”



“ไม่เอา”



จบมื้อเช้าก็ถึงเวลาไปเรียน วันนี้ไอ้พายเรียนเช้า บ่ายว่างแต่ไม่รู้มันมีงานที่ไหนหรือเปล่า เลิกรับงานไปอย่างหนึ่งแต่ก็มีงานอื่นเข้ามาเสียบต่อ



“เอ้า มึงไม่ขับรถไปเหรอ”มันแปลกใจที่เห็นผมเปิดประตูขึ้นไปนั่งคู่กับมัน



“เออ ขี้เกียจมึงไปส่งกูที่คณะด้วย”




“ได้ แล้วตอนเย็นมึงจะกลับยังไง ตอนบ่ายกูมีนัดกับพี่บี ไปแคสงาน”งานอะไรอีกวะ ช่วงนี้งานชุกตลอด ดังใหญ่แล้วมั้ง เดี๋ยวหาเวลาไปตามข่าวคราวมันบ้างดีกว่า




“เดี๋ยวกูให้ใครสักคนมาส่ง ไม่ก็แท็กซี่”ผมตอบแล้วหลับตาลงเมื่อคาดเข็มขัดเสร็จแล้ว วันนี้ไม่อยากขยับตัวทำอะไรเลย รู้สึกเหนื่อยๆเพลียๆ ขับรถก็กลัวหลับในแล้วจะยุ่งกันไปใหญ่



แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ นอกจากมื้อเช้าที่บ้าน ผมก็ไม่ได้แตะอาหารอะไรอีกนอกจากน้ำ รู้สึกหิวมากถึงมากที่สุด แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกไปหาอะไรกิน เลยนอนตายซากอยู่ที่โต๊ะม้านั่งยาวใต้ถุนอาคารเรียนหลังคาบสุดท้ายสิ้นสุดลง



“เป็นไรของมึงนอนหมดเรี่ยวหมดแรงขนาดนี้”




“กูหิว กูง่วง กูเหนื่อยยยยยยย”ผมโวยวายไป รู้สึกอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ อยากนอนแต่ก็ไม่อยากกลับบ้านเพื่อไปนอนแห้งอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่อยากอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆที่มองไปทางไหนก็ดูขวางหูขวางตา สับสนอามรมณ์ตัวเองอยู่เหมือนกันถึงได้หงุดหงิดไม่หาย



“แหกปากทำห่าไร หิวก็ไปกินลุกๆ”ไอ้โอ๊คมันมันเอาซูมตีลงมาบนท้องผม ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดไปอีก


 
“จิตหงุดเงี้ยวนะมึงเนี่ย วัยทองหรือไงไอ้สัดเห็นอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้า”ไอ้เต้ว่า วัยทองห่าอะไร ผมมองมันตาขวางแต่มันเสือกหัวเราะ อารมณ์ดีอะไรนักหนาวันนี้ยิ้มทั้งวันเหมือนดูดเนื้อมา



“ไปๆ ไปกินข้าวต้มหลังมอกัน แล้วมึงอยากจะกลับไปนอนก็ไป”



“เออ ไปก็ไป”



ผมขึ้นรถมากับไอ้เต้ส่วนไอ้หมวยไปกับไอ้โอ๊ค วันนี้ไม่มีองครักษ์หน้าดุมาลักลอบพาตัวมันไป แต่รู้สึกว่าการขึ้นรถมากับไอ้เต้จะเป็นการตัดสินใจผิด



“ตกลงมึงคบกับพี่เดียวเหรอวะ”



“คบห่าอะไร”



“เอ้า ก็ตามไปเฝ้ามึงถึงหัวหิน หิ้วมึงไปนอนด้วยอีก”



“มึงรู้ได้ไง?”



“ควาย กูมีตา ก็เห็นๆอยู่ อีกอย่างกูเองที่ช่วยให้มึงรอดพ้นจากการตกเป็นผัวเด็กปีหนึ่งนั่น”จะว่าไปผมก็ยังไม่รู้รายละเอียดของเหตุการณ์ในคืนนั้นเลยนอกจากรู้ว่าตัวเองถูกวางยา ตอนไอ้พี่เดียวมันเล่า ไม่สิต้องเรียกด่า ผมก็อึนๆ สมองคิดอะไรไม่ออกเลย ลืมถามไปด้วยซ้ำว่าทำไมผมถึงไปอยู่กับมันได้ แล้วมีใครรู้เรื่องบ้าง ลืมนึกถึงคนอื่นๆที่คณะไปเลย



“มึงเล่ามาดิ เกิดไรขึ้นวะ”



“พี่เดียวไม่ได้เล่าให้ฟังแล้วเหรอวะ”



“เล่าส้นตีนอะไร ด่ากูฉิบหายเหมือนกูไปฆ่าใครตาย”ไอ้เต้หัวเราะลั่นรถ



“ตลกสัดตลก เล่ามาดิอย่าลีลา”



“เอาสั้นๆนะ กูเห็นว่ามึงหายไปจากวงนานก็เลยลองมองหาดูก็เห็นมึงยืนอยู่ตรงกลุ่มของดาวปีหนึ่งนั่น ตอนแรกก็ไม่ได้ติดอะไรแต่ละสายตาแป๊บเดียวหันไปอีกทีก็เห็นเขาก็พากันหามมึงออกไป มันทะแม่งๆกูก็เลยตามไป กูกำลังเค้นถามเลยว่าทำอะไรมึง ไอ้หมวยกับพี่เดียวก็มาจากไหนไม่รู้ พวกเด็กนั่นเห็นท่าไม่ดีเขาก็แทบจะโยนมึงลงไปกองกับพื้นแล้วชิ่งหนีความผิดดีที่พี่เดียวเข้าไปรับไว้ทันไม่งั้นมึงหน้าแหกหมดหล่อแล้วไอ้สัด”



เล่าอย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องด่ากูก็ได้มั้ง โดนมาเยอะหูยังชาไม่หาย



“แล้วไงต่อวะ”



“แล้วน้องรหัสมึงก็โผล่มาอีกคน คนนี้ตัวจี๊ดเลย น้องมึงอย่างแรงเค้นจนได้เรื่องแถมด่าน้องคนที่วางยามึงเสียกูสร่างๆเลยไอ้ห่า พอกูกับไอ้หมวยจะพามึงกลับห้อง พี่เดียวเขาก็บอกว่าจะพามึงไปนอนกับเขาแทน”



“แล้วมึงก็ยอม”



“แล้วทำไมกูต้องไม่ยอมวะ พี่เขาเป็นห่วงมึงมากนะแทบจะพาไปโรงพยาบาลเพราะไม่รู้มึงโดนยาไปเยอะแค่ไหนกลัวจะเป็นอันตราย หวงด้วยตอนเด็กคนนั้นบอกว่าคิดจะทำอะไรมึง ตางี้โคตรดุเลย ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กผู้หญิงกูว่าพี่เขาชกหน้าหงายไปแล้ว”



ฟังจบก็รู้สึกก้อนเนื้อในอกมันเต้นตึกตัก เป็นอะไรไปวะเนี่ย



“จะยิ้มก็ยิ้มไอ้สัด เก๊กทำเชี่ยไร”



“ใครยิ้ม ควาย”



“ก็ควายอย่างมึงไงที่ยิ้ม”เหรอวะ เขายิ้มอย่างนั้นหรือ ยิ้มทำไมวะ



“ชอบเขาแล้วสิมึง”



“เอาสมองส่วนไหนคิด”



“ส่วนที่ดีที่สุดของกูนี่แหละ ก็เห็นๆกันอยู่ อย่ามาปากแข็ง”



“กูไม่ได้ปากแข็ง...”



ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับไอ้พี่เดียวให้ไอ้เต้มันฟังจนหมด ไม่มีหมกเม็ด มันก็รับฟังเงียบๆไม่มีการแซวอะไร ไอ้เต้มีดีก็ตรงนี้ที่มันรู้ว่าเวลาควรเล่นเวลาไหนควรจริงจัง ผมก็รู้สึกโล่งที่ได้พูดออกไปด้วย



“กูว่านะมึงไม่ได้ปากแข็งหรอก แต่มึงกำลังกลัวต่างหาก”






-----------------------

เอามาส่งแค่นี้ก่อนเน้อ เดี๋ยวที่เหลือจะตามมาอีก  :hao5:
คิดถึงทุกคนเลยยยยยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-11-2016 17:00:35
น่าน กลัวความรัก ความผูกพัน
รักกัน ต้องดูแลกัน เอาใจใส่กัน
เพราะกลัวดูแลไม่ดี จะจบกัน เลิกกัน
แต่ถ้าเซ็กส์ มันจบเลย ไม่ผูกพัน
พี่เดียว แสดงให้น่าน เห็นความห่วงใย
ความผูกพัน ดูแลน่านได้ดี
แถมขอคบน่าน เป็นแฟนถึงสองครั้ง
พอน่าน รู้ว่าพี่เดียว ดูแลน่านที่ถูกวางยาเต็มที่
น่าน เริ่มหวั่นไหวละสิ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-11-2016 17:35:25
น่านสู้ ๆ น้ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-11-2016 17:39:21
น้ำน่านนนนนน~ :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 14-11-2016 18:23:26
เต้ ตรงมาก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 14-11-2016 19:22:10
ถูกจี้๒คนแล้วเนอะ น้ำน่านน่าจะลองพิจารณาพี่เดียวอีกครั้ง
พี่แกก็ดูจริงจังอยู่นา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-11-2016 19:23:37
รออ่านอย่างใจจดจ่อจ้า  ว่าเมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเอง  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-11-2016 20:05:06
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 14-11-2016 20:19:11
ลองดูสักตั้งสิน่าน ข่มความกลัวไว้
พี่เดียวเทหมดหน้าตักขนาดนี้ ลองดูเถอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งแรก) P.8 || [14.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 14-11-2016 20:31:25
เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็อัพ!!
#เย่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 ll [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 19-11-2016 22:47:05
รัก...ไม่ได้ออกแบบ be zero




- 25 -



(ครึ่งหลัง)






ตอนนี้ผมยืนอยู่ในบ้านชั้นเดียวหลังเล็กพื้นที่ใช้สอยเพียงไม่กี่ตารางวา ขยับไปทางไหนก็เหมือนจะหายใจรดกันได้ มันเล็กและคับแคบ เฟอร์นิเจอร์ก็น้อยชิ้น ผ้าม่านก็เก่าซีด ของเครื่องใช้ต่างๆถูกวางซ้อนกันเพื่อประหยัดพื้นที่ เมื่อต้องการจะหยิบใช้แต่ละครั้งคงลำบากไม่น้อย เสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยดังมาจากประตูบ้าน ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง เด็กชายตัวเล็กๆกับผู้หญิงสองคนที่คุ้นตายืนอยู่ตรงนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อม ใบหน้าสะสวยดูเกรี้ยวกราด พยายามผลักร่างเด็กน้อยออกจากตัว จนร่างเล็กๆนั่นกระเด็นแล้วล้มลงกับพื้น ก่อนจะหิ้วกระเป๋าเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเจ้าตัวเล็กที่แผดเสียงร้องไห้ดังลั่น





“ไปไหน...แม่ค้าบ ฮือ แม่ไปไหน ฮือ ทำไมแม่ไม่อยู่กะหนู ฮึก...ฮือ”เด็กชายตัวน้อย เกาะชายกระโปรงของผู้หญิงอีกคนไว้แน่น ดวงแก้วแววใสบัดนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำที่เอ่อล้นลงมาเปรอเปื้อนใบหน้า ตัวเล็กๆสะท้านตามแรงสะอื้น ผมรู้สึกว่ามีใครกำลังบีบหัวใจของตัวเองอยู่ รู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย




“คุณแม่ไปหาคุณตาคุณยายครับ”




   “ฮึก..ละ..อึก...ละ...แล้วคุณแม่จะกลับมะ...มามั้ย ฮือออ”กว่าจะพูดครบประโยค ก็เกือบขาดใจเพราะแรงสะอื้น




   “กลับสิ เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับมานะคนเก่ง ไม่ร้องนะ”หญิงสาวประมาณยี่สิบปี ใบหน้าซีดเซียวอิดโรยเอ่ยบอกเสียงเบา มือขาวๆพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสายให้




   “แม่แกจะไม่กลับมาแล้ว! หยุดร้อง ร้องให้ตายแม่แกก็ไม่กลับมา!”เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังกร้าวขึ้น ใบหน้าทะมึงทึง แต่ดวงตาฉายความรวดร้าวราวกับใจได้แตกสลาย




   “หนูจะหาแม่ ฮือออออออ”




   ผมกะพริบตาถี่ๆเมื่อรับรู้หยาดหยดบางอย่างกำลังไหลออกจากตา เมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นร้องไห้สะอึ้กสะอื้น พยายามดิ้นรนจะวิ่งไปตามผู้หญิงที่เดินจากไป




   “หยุดร้อง! อย่าทำตัวน่าสมเพช”




“แม่ ฮือ แม่ไปแล้ว”




“ใช่เขาไปแล้ว และแกก็ต้องอยู่ให้ได้ แล้วจำไว้ ผู้หญิงซื้อได้ด้วยเงินไม่ใช่ความรัก เข้าใจมั้ย ตอบพ่อสิ”




   “ฮึก ขะ...เข้าใจครับ...”เสียงเล็กๆตอบรับกลับไป




ภาพเด็กน้อยค่อยๆเลือนหายไป เหลือเพียงผมที่ยืนอยู่ที่เดิมกับความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้เข้าใจที่คนเป็นพ่อพูดเลยสักนิด เพียงแต่คิดว่าถ้าหากรับคำไปแล้วจะทำให้พ่อหยุดร้องไห้ได้ก็เท่านั้น





“มาหาพ่อสิ...เข้ามาหาพ่อ”มือแห้งหยาบกร้านที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสดแดงฉานเอื้อมมาหาอย่างสั่นเทาเพราะเรี่ยวแรงเหลือน้อยเต็มทีแล้ว




“พ่อ...”




“ทุกอย่างที่พ่อสร้างมาเป็นของลูก จะไม่มีใครมาดูถูกลูกของพ่อได้ จะไม่มีใครคนไหนรังเกียจลูก”




“ผมไม่ได้ต้องการเลย ผมแค่มีพ่อกับอาก็พอแล้ว”




“พ่อรักลูกนะ ต่อให้ใครไม่รักไม่ต้องการลูก แต่จำไว้ว่าพ่อรักลูกที่สุด”




“พ่อ...พ่อ!!”




เฮือก!





“พ่อ!!...”ผมตะโกนออกมาสุดเสียง ผุดลุกขึ้นนั่ง ประสาททุกส่วนตึงเครียดจนผมเผลอกลั้นหายใจเอาไว้ ความมืดรอบตัวทำให้แยกไม่ออกว่านี่ตื่นหรือฝันอยู่ ฝันที่เหมือนจริงจนรู้สึกได้ ไม่สิ...มันคือเรื่องจริงที่ผ่านมานานแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ นานแล้วที่ผมไม่ได้ฝันถึงอดีตเหล่านั้น ทำไมจู่ๆถึงได้เกิดฝันขึ้นมาได้ ไม่อยากรื้อฟื้นมันขึ้นมาเลยสักนิด




   ผมนอนไม่หลับเลยตัดสินใจลงมาดูหนังข้างล่าง กำลังจะเดินเข้าครัวไปเตรียมเสบียงก็ได้ยินเสียงรถเคลื่อนมาจอดที่โรงรถเลยเปิดม่านส่องดู ไอ้พายเพิ่งกลับมา มองนาฬิกาแล้วก็ตีหนึ่ง นิดๆ




   “เอ้า ทำไมมึงยังไม่นอน ก็ว่าทำไมไฟในบ้านเปิด”พอเดินเข้าบ้านมาเห็นผมมันก็ร้องทักทันที




   “นอนไม่หลับ”




   “ไปแฟ้บดิ พอสบายตัวก็หลับสบาย”




   ผมยื่นนิ้วที่ยาวที่สุดให้มันไปเป็นการตอบแทนคำแนะนำ มันหัวเราะร่าถูกอกถูกใจ อารมณ์ดีเกินไปละเพิ่งสังเกตว่าหน้ามันแดง และได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆมาจากตัวมัน




   “ไปแดกกับใครมา”




   “พี่ที่คลื่นอ่ะ นิดหน่อยพอเป็นกระษัย”



   “เออ ไปอาบน้ำนอนไป”




   “แล้วมึงจะอยู่ทำไร ดูหนัง?”




   “เออ กะโต้รุ่ง”




   “เดี๋ยวกูอาบน้ำแป๊บ จะลงมาดูด้วย ไหนๆพรุ่งนี้ก็หยุด”มันว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดขึ้นข้างบน ผมเลยเข้าครัวไปหาของกินมาเตรียมไว้ ตอนแรกว่าจะกินขนมขบเคี้ยวแกล้มเบียร์เล่นๆ แต่เห็นแหนมกับหมูยอในตู้เย็นเลยเอามายำซะเลย




   “โห มึงจริงจังไปมั้ย”ปากว่าแต่มือก็หยิบแหนมเข้าปาก ไอ้พายอาบน้ำไวมาก แต่ก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งจากตัวมัน ผมด้านหน้ายาวจนต้องใช้ที่คาดผมคาดขึ้นไป




   “อร่อยเด็ด มาๆไหนเอาไรมั่งกูจะได้ยกไป”




   “ไปเอาถังใส่น้ำแข็งแล้วเอาเบียร์แช่ไป”มีเบียร์กระป๋องอยู่เต็มลัง เหลือตั้งแต่คราวก่อนที่ไอ้ธันว์ซื้อมา ผมแช่ตู้เย็นไว้ครึ่งนึง อีกครึ่งยังไม่ได้แช่ พอเตรียมของทุกอย่างเสร็จก็ยกไปตั้งวงหน้าทีวีกันสองคน เราตกลงกันว่าจะดูหนังแอคชั่น ยิงกันสนั่นจอ ผมซื้อเก็บสะสมไว้เพียบ




   “ถามจริง ทำไมนึกครึ้มจะมาดูหนังตอนนี้วะ”หนังเริ่มฉายไปสักพักแล้วไอ้พายก็พูดขึ้น ยำหมดจานไปอย่างไว ไม่ได้หิวนะ แต่พอได้กินแล้วก็หยุดไม่อยู่




   “นอนไม่หลับ...กูฝันถึงพ่อว่ะ”




   “ห๊ะ!?”มันตกใจจนเบียร์กระเซ็นออกจากปากเป็นฝอย โคตรซกมก




   “ตกใจอะไรขนาดนั้น”



   “อานที มาหามึงเหรอ”มันเบียดตัวเข้าหาผม ถ้านั่งตักได้คงทำ




   “กูบอกว่ากูฝัน สัดนี่”ผมดันมันออกห่าง ปากล่องทิชชู่ให้มัน




   “แล้วฝันว่าไงวะ”




   “ก็ฝันถึงตอนที่เขาจะไป...”ผมพูดแค่นี้ ไอ้พายก็เข้าใจเองได้ว่าผมหมายถึงอะไร ตอนนั้นพวกเพื่อนผมทุกคนก็อยู่ด้วย




   “มึงคิดถึงเขาก็เก็บไปฝันอ่ะดิ”




   “คงงั้น”แต่กับอีกคน ผมไม่ได้คิดถึงสักนิด ทำไมถึงได้ฝันถึง




   “พรุ่งนี้ไปทำบุญกัน ไปถวายสังฆทาน แล้วก็เลี้ยงขนมเด็กด้วยดีมั้ย”




   “อืม เอาดิ”





   X


   



   เสียงไอ้คิมหาว เสียงดูดกาแฟที่ในแก้วเหลือแต่น้ำแข็งของไอ้ธันว์ดังเป็นแบคกราวน์ขณะที่ผมกับไอ้พายกำลังโปรยอาหารให้ปลาในเขตวัด ต้องโปรยไปไกลๆไม่อยากนั้นน้องปลาจะมาเบียดกันแย่งกินอาหารจนน้ำกระเด็นเปียกางเกง วันนี้ผมมาทำบุญตาม เมื่อคืนพอตกลงกันได้ว่าจะมาถวายสังฆทานเราก็เลยดูหนังแค่เรื่องเดียวแล้วแยกย้ายขึ้นมานอน ก่อนที่ไอ้พายจะปลุกผมแต่เช้าเพื่อให้ตื่นมาใส่บาตรหน้าปากซอย ก่อนจะพากันมาถวายสังฆทานที่วัดนี้โดยแวะไปรับไอ้สองตัวจากคอนโดของแต่ละคน สภาพบอกได้เลยว่าดูไม่จืด




   “พวกมึงนี่จะนั่งหมดสภาพอีกนานมั้ย ลุกๆ เอาขนปังมาให้ปลา”ไอ้พายโยนขนมปังกะโหลกลงบนโต๊ะที่ไอ้สองตัวนั้นนั่งอยู่ดังตุ้บ




   “ก็พวกกูง่วงงง แล้วจะมาก็ไม่มีการบอกล่วงหน้าไอ้สัด”ไอ้คิมโวย มันบอกว่าอ่านหนังสือถึงตีสี่ ได้นอนไปนิดเดียวเอง




   “จริง ดีที่เมื่อคืนกูไม่ได้ไปไหน”ไอ้ธันว์ว่าก่อนจะโยนแก้วกาแฟที่ซื้อมาจากรถเข็นลงถังขยะแถวนั้น




   “ก็ไม่ได้มีแผนว่าจะมาตั้งแต่แรกไง งานด่วนๆ”ไอ้ตัวดีเจ้ากี้เจ้าการลงไปนั่งข้างซี้มัน




   “ด่วนอะไรวะ”




   “ก็เมื่อคืนไอ้น่านมันฝันถึงอานที”พอจบคำไอ้พาย ไอ้สองตัวที่ฟังอยู่เหมือนจะตาสว่างขึ้นมาทันที




   “ดีหรือไม่ดีวะ”ไอ้ธันว์หันมาถามผมแทน




   “ฝันถึงตอนที่เขากำลังจะไปว่ะ”มันจะเรียกว่าฝันร้ายหรือเปล่า หรือจะเรียกว่าอะไรดีในเมื่อมันคือเรื่องจริง ซึ่งมันก็ไม่ใช่การบอกเหตุอะไร




“กูแค่คิดถึงพ่อก็เท่านั้นแหละ ได้มาทำบุญก็สบายใจขึ้น”




ผมบอกเพื่อให้พวกมันสบายใจเพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกมันไม่ได้พูดอะไรต่อ เรานั่งอยู่ที่ศาลาให้อาหารปลาอยู่พักใหญ่ก่อนจะตกลงกันว่าไปหาอะไรกินแล้วก็เที่ยวแถวๆนี้สักหน่อย ก็ไอ้พายเล่นพาพวกผมมาถึงนครปฐม จะมาทำบุญแล้วกลับเลยก็เสียเที่ยวแย่ แต่ถึงจะสบายใจขึ้น ก็ยังมีบางเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ในใจ แต่ก็ช่างมันผมไม่อยากคิดอะไรแล้ว เปลืองเวลาเปลืองสมอง




พวกผมกินเที่ยวเล่นกันแถวตลาดชื่อดังของนครปฐม ของกินละลานตาไปหมด อยากจะกินมันทุกร้าน ได้ของติดไม้ติดเมือมากันเพียบ ไม่ได้เอาไปฝากใครแต่ซื้อไปกินกันเอง วันนี้ไอ้คิมกับไอ้ธันว์ตกลงจะกลับไปนอนที่บ้านผม เลยคิดจะจัดปาร์ตี้เล็กๆ แล้วก็ดูหนังกัน ตอนแรกว่าจะไปไหว้พระที่วัดพระปฐมเจดีย์แต่มันต้องขับไปอีกไกลพวกผมเลยตัดสินใจกลับกัน ขากลับไอ้ธันว์เป็นคนขับไอ้พายไปนั่งหลังกับไอ้คิม อยู่ในรถก็ไม่มีอะไรทำก็เลยได้คุยกันหลายเรื่อง เหมือนไม่เคยคุยกันมาก่อน ก็นะหาเวลาว่างตรงกันยากมาก โดยเฉพาะไอ้พาย




กลับมาถึงก็ค่ำพอดี มาเสียเวลารถติดในกรุงเทพนี่แหละ มีของกินที่ซื้อมาหลายอย่างพวกผมเลยไม่คิดจะทำอะไรเพิ่ม เครื่องดื่มอะไรก็มีแล้วกะกินแค่พอกรึ่มๆ ไม่ได้เอาเมาหัวราน้ำ แต่พอขับมาถึงหน้าบ้านคนที่ผมไม่ได้เห็นหน้าและขาดการติดต่อไปหลายวันก็มารออยู่ ดูเหมือนกำลังจะกลับด้วยซ้ำแต่พวกผมก็มาเสียก่อน ในใจคิดได้อย่างเดียว




ซวยละกู!





 “กูว่านะ ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้คุยกันอีกเรื่องว่ะ กูสงสัยมาสักพักละ มึงกับพี่เดียวนี่มีซัมติงกันใช่ป่ะวะ”





คำพูดไอ้คิมทำเอาผมพูดไม่ออกเลย เห็นเงียบๆ แต่เก็บข้อมูลเพียบนะครับมึง!









------------------------

มาแล้ววววววว เค้าขอโทษษษษษษษษ เมื่อวานเค้าลืมมมมมมมมม ฮือออออออออ   :sad4:
วันนี้มาแล้วน้าาาาาาาาาาาาาา แต่ครึ่งหลังสั้นหน่อย เพราะอีกส่วนที่เหลือมันไม่ค่อยเข้ากับตอนเลยตัดไป
แล้วแจอกันค่าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-11-2016 23:52:44
เพราะชีวิตครอบครัวแตกแยก
แม่แยกจากน่าน กับพ่อตั้งแต่น่าน ยังเด็ก
มีแต่พ่อกับอาเลี้ยงดูน่าน แล้วพ่อก็มาเสียชีวิต
ทิ้งให้น่านอยู่กับอา
นี่คงเป็นสาเหตุให้น่าน ไม่เชื่อความรัก
เลยทำให้รักใครยาก
เดียว ต้องทำให้น่าน รู้ว่าเดียวรักน่าน จริง
มีแต่น่าน ใส่ใจแต่น่าน คนเดียวเท่านั้น
ต้องให้ความอบอุ่น ความเชื่อมั่นกับน่าน
จนน่าน ประทับใจ ซึ้งใจ ถึงจะได้ความรักจากน่าน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-11-2016 10:13:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-11-2016 10:23:27
พี่เดียวค่ะ อย่าเพิ่งท้อนะ พี่ต้องทำให้น่านเชื่อว่า รัก ไม่ได้มีแค่ความผิดหวังนะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 20-11-2016 19:11:29
 :mew1: :mew1: :mew1:

รออออออออออออออออ
กำลังสนุกเลยยยยยย

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-11-2016 21:35:30
อยากอ่านอีกๆๆๆๆ~ :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 20-11-2016 21:50:25
งานเข้าแล้วน้ำน่านนนนนนนน :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 21-11-2016 09:57:39
 :sad4: รอออออ น้ำน่านเปิดใจให้พี่เดียวเถอะนะะะะะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-11-2016 10:40:19
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.25 (ครึ่งหลัง) P.9 || [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 25-11-2016 22:15:32
เย้ มาแล้ว รอ รอ รอเผื่อรักกันได้ซักที :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 05-12-2016 11:19:17
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 26 -





   แขกผู้มาเยือนทั้งสองคนถูกเชื้อเชิญให้เข้ามานั่งในห้องนั่งเล่น โดยมีไอ้พายเป็นคนต้อนรับขับสู้ ไอ้ธันว์ ไอ้คิมก็เข้าไปร่วมวงสนทนาคุยกันอย่างออกรส ส่วนผมต้องพาตัวเองมาตั้งหลักในครัวพร้อมกับข้าวของมากมายที่ขนซื้อมาจากดอนหวาย พยายามหยิบจับนั่นนี่มาใส่จานแต่ใจมันก็ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำได้เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำต้องรู้สึกอย่างนี้ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ทำไมถึงได้รู้สึกไม่ดี เมื่ออีกฝ่ายเอามองมาแต่ไม่พูดอะไร ไม่ทักทายหรือแม้กระทั่งส่งยิ้มมาให้ หรือนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีที่อีกฝ่ายจะเลิกวุ่นวายกับผมแล้ว มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง แต่อาการใจหายแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันวะ




   ‘กลัวอะไรอยู่’





   คำถามนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด ไม่หลุดออกไปไหน แต่ผมไม่เคยคิดจะหาคำตอบจริงจัง แม้กระทั่งตอนที่ไอ้เต้ได้พูดทำนองเดียวกันว่าผมกำลังกลัว ผมก็พยายามปัดมันออกไป และเฝ้าบอกว่าไม่ได้กลัว ไม่มีอะไรที่น่ากลัวและต้องกลัว



   “น้ำน่าน!”



   “เฮ้ย!”



เพล้ง!



“โอ๊ย!”



“เห้ย! เป็นไรมั้ย เลือดด้วยอ่า พี่ขอโทษน้า”




“พี่อย่าเพิ่งเดินมาครับ”ผมรีบร้องบอกคนน่ารักกลัวจะมาเหยียบเศษจานที่แตก สีหน้าพี่เฟิร์สไม่สู้ดีเมื่อเห็นเลือดที่ไหลจากฝ่าเท้า ผมมัวแต่เหม่อเลยตกใจที่ถูกเรียกเลยเผลอทำจานหลุดมือ ซ้ำยังโง่เหยียบเศษจานที่แตกอีก คนมันจะซวยเอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่จริงๆ



“พี่ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”



“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ต้องร้องนะ”ผมแหย่ขำๆ เพราะพี่เฟิร์สทำท่าจะเบะปากร้องเต็มที น่ารักว่ะ



“ไม่ตลกนะเนี่ย”



ผมพยายามพาตัวเองมานั่งที่เก้าอี้ เดินหลบหลีกเศษจานที่เกลื่อนพื้นเพราะกลัวจะได้อีกแผล มองเลือดหยดลงบนพื้นแล้วก็ใจไม่ค่อยดีเพราะมันเยอะมาก เหมือนจะไหลไม่หยุด พอยกเท้าดูก็หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม เศษจานที่เหยียบมันใหญ่พอสมควรแล้วก็ฝังอยู่ที่ฝ่าเท้า พอเห็นแผลก็รู้สึกปวดขึ้นมาทันที ทั้งที่เมื่อกี้ยังชาอยู่เลย



“เกิดอะไรขึ้น เห้ย! มึงเป็นไรเนี่ย”ไอ้พายร้องทักตาโตเมื่อเห็นเลือดบนพื้นแล้วมองเลยมาที่ฝ่าเท้าผม



“กูทำจานแตกแล้วก็เหยียบเข้าว่ะ”



“โง่จริงมึง”เจ็บแล้วยังโดนด่าซ้ำอีก



“พี่เฟิร์สออกไปรอข้างนอกก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง”



“แต่พาน่านไปหาหมอก่อนมั้ย เลือดไหลไม่หยุดเลย”หน้าพี่เฟิร์สยิ่งเสียตามปริมาณเลือดที่ไหลออกมา นี่มันจำลองน้ำตกมาชัดๆ อะไรจะไหลขนาดนี้วะ



“เออจริง งั้นผมฝากพี่ไปบอกไอ้สองตัวนั้นให้มาหามไอ้โง่นี่ไปหาหมอหน่อย”



“ห่าด่ากูจัง”โง่แล้วโง่อีก ทีเดียวก็รู้เรื่องแล้ว แต่ว่าแผลแม่งจะปวดรุนแรงไปแล้ว ผมไม่กล้าจะดึงออกด้วยกลัวเลือดแม่งพุ่งปรี๊ดออกมา ไปหาหมอคงดีที่สุด



“โอเค รอแป๊บนะ”พี่เฟิร์สวิ่งออกไปทันที ไอ้พายไปหยิบหยิบผ้าก๊อซในตู้ยาโยนมาให้ผมใช้ซับเลือด ก่อนจะไปหยิบไม้กวาดกับที่โกยผงมาจัดเศษจานที่แตก เสร็จแล้วก็มานั่งพิจารณาแผลที่เท้าผม



“ต้องปฐมพยาบาลยังไงก่อนวะ เลือดขนาดนี้ โอ๊ย ห่า โคตรใหญ่”มันเห็นเศษจานที่ฝังอยู่ก็เบ้หน้า เหมือนเป็นคนโดนซะเอง




“ต้องตัดขาออกมั้ย”




“เว่อร์ละไอ้สัด โดนบาดไม่ใช่เหยียบระเบิด”แต่ผมใจหวิวๆแล้วตอนนี้




“ทำไมไม่ห้ามเลือดก่อน”เสียงแข็งๆดังขึ้นจากประตูห้องครัว ไอ้พี่เดียวเดินหน้านิ่งเข้ามาแล้วนั่งคุกเข่าลงที่ปลายเท้าผม แล้วยกขึ้นมาสำรวจดูบาดแผลโดยไม่สนใจสายตาอีกสี่คู่ที่มองมา ผมเจ็บมากแต่ก็ร้องไม่ออกตอนมันพยายามเอาผ้าก๊อซซับเลือด ก็พอรู้มาบ้างนะว่าจะห้ามเลือดต้องกดที่บาดแผลแต่ยังมีเศษจานคาอยู่แบบนี้ถ้ากดลงไปผมคงต้องตัดขาจริงๆ




“พันไว้แบบนี้ก่อนแล้วกัน รีบไปหาหมอ หน้าซีดแล้วเนี่ย”ไอ้พี่เดียวคงเห็นว่าทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้




“เห้ย พี่ทำไรวะ”ผมร้องตกใจ เมื่อมันจะเข้ามาช้อนตัวผม



“เดินไปไหวหรือไง”



“เดินได้”ไม่ไหวก็จะเดิน ใครจะยอมให้อุ้มวะ โดยเฉพาะต่อหน้าไอ้พวกนี้ ดูสาวแตกฉิบหาย



“ไอ้ธันว์มึงมาช่วยกูดิ”แต่ไอ้ธันว์ยังไม่ทันจะเดินมาถึง ไอ้พี่เดียวก็จัดการเข้ามาประคองผมเรียบร้อย ตัวมันสูงหนาเป็นหลักที่แข็งแรงเพียงพอที่จะเป็นขาอีกข้างของผมได้สบายๆ ไอ้ธันว์เลยชะงักอยู่กับที่



“เดี๋ยวผมไปเปิดประตูรถให้แล้วกัน”ไอ้ธันว์ว่าแล้วเดินนำไป กว่าจะมาถึงรถก็ทุลักทุเลพอสมควรก็คนมันไม่เคยเดินขาเดียว ถึงจะมีคนคอยประคองอยู่ก็ตาม ยังไงมันก็ไม่ถนัด แล้วผมก็รู้สึกหวิวๆตลอดเมื่อเห็นเลือดหยดลงบนพื้นตามทางที่เดินมา



“อย่าไปก้มมองสิ มองไปข้างหน้า”เสียงทุ้มพูดอยู่ข้างหู



“อืม”






X






ไอ้พี่เดียวพาผมไปโรงพยาบาลใกล้ๆ ตอนแรกว่าจะให้พาไปแค่คลินิกแต่คนขับไม่ยอมพาผมมาโรงพยาบาลเฉยเลย ห้องฉุกเฉินดูวุ่นวาย พยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออก เพื่อดูคนไข้หลายราย ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น พยาบาลมาสอบถามประวัตินั่นนี่ ถามอาการดูแผลอะไรหลายอย่าง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลืมตาขึ้นมาในห้องพักฟื้นแล้ว



ผมถูกจับแอดมิดหนึ่งคืน หลังจากหมดสติเพราะเสียเลือดไปพอสมควร ร่างกายอ่อนเพลียเลยต้องให้น้ำเกลือ พอรู้สึกตัวความปวดระบมก็เข้าจู่โจมทันที




“ปวดแผลมั้ย”คนที่ควรจะกลับไปนอนก็ยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง จับมือผมจนชื้นเหงื่อ ทำเหมือนผมประสบอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาการโคม่า ทั้งที่แค่ถูกเศษจานบาดที่เท้า ใครรู้ถึงไหนอายถึงท่าน ดูใจเสาะบอบบางจริงๆ แค่นี้ถึงกับต้องแอดมิด




“ปวด”




“งั้นกินยา”




“หิวข้าวอ่ะ”หลังจากมื้อกลางวันผมยังไม่ได้กินอะไรอีกเลย ตั้งใจจะกลับมากินบ้านแต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน



“รอเดี๋ยว”คนพูดลุกขึ้นไปทำอะไรก๊อกแก๊กอยู่ตรงมุมห้องไม่รู้ ผมขยับตัวขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงเอาหมอนรองหลัง ได้กลิ่นอาหารลอยเข้าจมูก ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วไม่ใช่เวลาทานอาหารตามเวลาของโรงพยาบาล แต่ช่างมันเถอะครับผมหิว ผมจะกิน



“รู้ว่าต้องหิวเลยไปซื้อมาไว้ให้”



“ขอบคุณนะ”มันอุ่นๆที่ใจ อย่างบอกไม่ถูกจนเผลอจ้องหน้ามันนานไปหน่อย มันเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ แล้วพยักหน้ามาทางกล่องข้างตรงหน้าผม



“กินได้เนอะ?”



“อื้ม”ข้าวผัดหมูอยู่ในกล่องพลาสติกดูน่ากิน ปริมาณมันเยอะมากแต่ผมจัดการได้ไม่มีปัญหา แค่ได้กลิ่นตอนนี้น้ำย่อยก็ทำงานแล้ว ผมลงมือกินข้าวมื้อดึก ไอ้พี่เดียวนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆจ้องผมทุกอิริยาบท



“พวกนั้นอ่ะ”ไอ้เพื่อนชั่วมันไม่คิดจะมาดูดำดูดีเลยหรือไง อยากจะโทรไปด่าติดตรงที่มาแต่ตัว กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์อะไรได้เอามาสักอย่าง




“พี่บอกให้อยู่บ้าน ส่วนเฟิร์สให้พายไปส่งบ้านแล้ว”




“แล้วไมพี่ยังอยู่ ไม่กลับไปนอนอ่ะ”




“ไปแล้วใครจะเฝ้า”




“อยู่คนเดียวได้”แต่ถ้ามีคนอยู่ด้วยก็คงจะดีละมั้ง ก็ขาเจ็บนี่หว่าเดินไม่สะดวก แต่ก็ไม่อยากรับกวนมันไง ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วจะให้มันมาเฝ้าอีกก็จะแปลกๆเกินไป




“อยากอยู่ด้วย”แม่ง...ทำไมต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นด้วย ทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลย มือไม้มันดูเกะกะเก้งก้างไปหมด สายตาอ่อนโยนนั่นมันอะไรกันวะ ทั้งที่พูดไปขนาดนั้นแล้วยังไม่ตัดใจอีกหรือไง




“แล้วหายไปไหนมา”อยากรู้ นึกว่าที่หายไปจะไม่มายุ่งด้วยแล้ว เพราะไม่มีการติดต่อมาสักทาง




“กลับไปตั้งหลัก”มันตอบ อมยิ้มนิดๆ ดูดีไปนะบางที




“แล้วตั้งได้แล้ว?”




“อืม”




“....”อยากถามต่อแต่ผมกลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดียิ่งกว่าก่อนหน้านี้




“หึหึ เด็กขี้กลัว”มืออุ่นขยี้ลงบนผมทำราวกับว่าผมเป็นเด็กเล็กๆ ผมขยับหัวหนีแต่อีกฝ่ายก็ขยับมือตาม จิ๊ นี่หัวคนนะเว้ยไม่ใช่ตุ๊กตาจะได้จับโยกจับโคลง




“กินข้าวต่อซะ จะได้กินยา ปวดแผลอยู่ไม่ใช่เหรอ”




“ก็เอามืออกไปดิ”



“ครับๆ”




ข้าวผัดกล่องใหญ่หมดเกลี้ยงลงภายในไม่กี่นาที พี่เดียวให้ผมพักครู่หนึ่งก่อนจะให้กินยาแก้ปวดตามเข้าไป แล้วเก็บกล่องไปทิ้งขยะให้



“ง่วงยัง?”



“ยัง”



“ดูทีวีมั้ย?”พี่เดียวบุ้ยใบ้ไปทางทีวีที่ปิดอยู่ เพิ่งสังเกตว่ามีด้วย



“ก็ดี”



พี่เดียวมันเปิดทีวีช่องสารคดีสัตว์โลก ผมก็ดูไปงั้นๆ ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะดูอะไร แค่ไม่รู้จะทำอะไรแล้วก็ไม่อยากให้ห้องเงียบเท่านั้นเอง ไอ้พี่เดียวมันก็ก้มหน้าก้มตาไถเมียไอแพด ปล่อยให้ผมดูสิงโตผสมพันธุ์กัน เอ้อ กูนอนดีกว่ามั้ยเนี่ย!



“จะไปไหน?”พอผมทำท่าจะขยับตัว คนที่นั่งข้างเตียงก็หันขวับมาถามทันที



“เข้าห้องน้ำ”



“เดี๋ยวพาไป หยุด ห้ามเถียง”แม่ม โหดไปแล้วครับพี่ ยังไม่ทันจะพูดอะไรเลย แล้วก็ไม่ได้คิดจะไปเองด้วย แค่จะบอกว่าให้ช่วยถือขวดน้ำเกลือให้หน่อย ดุทำไมเนี่ย!



พอพาเข้ามาในห้องน้ำเสร็จแทนที่จะออกไปก็ยืนจ้องผมจากด้านหลัง กดดันแบบนี้ใครจะไปฉี่ออกวะ



“ออกไปได้แล้ว”ผมหันไปบอก



“นึกว่าจะให้ช่วยประคองอย่างอื่นด้วย”พูดอย่างเดียวไม่พอ ยังทำตาวิบวับอีก อยากจกตามาเตะเล่น



“ไม่ต้อง!”



“อ้อ ลืมไป ไม่ได้ใหญ่อะไรมากเอานิ้วก้อยเกี่ยวยังไหว”



“ไอ้!...ออกไปเลย!”ผมเอี้ยวตัวไปผลักมันเลยเสียหลักลืมตัวเอาเท้าที่เจ็บยันพื้น เลยได้เรื่องเลย



“โอ๊ย!”



“เป็นไงล่ะ”มันถลาเข้ามารับผมไว้ก่อนจะหงายหลังไปกองกับพื้น พอเงยหน้าขึ้นมาจมูกผมก็กระแทกกับคางมันอีก เจ็บล่างเจ็บบนเลยทีนี้ แต่มันกลับหัวเราะชอบใจ



“ก็เพราะใครล่ะ แม่ง ออกไปเลย ปวดฉี่จะราดแล้วโว้ย”



“แล้วยืนไหวหรือไง”



“ไหว!”



“หึหึ เสร็จแล้วเรียกแล้วกัน”มันประคองผมให้ยืนประจำที่ก่อนจะปล่อยมือ



“อือ”



ไอ้พี่เดียวมันยอมปล่อยผมให้ทำธุระแต่โดยดี ถ้าออกไปตั้งแต่แรกผมจะเจ็บตัวซ้ำซ้อนอย่างนี้มั้ย ทำไมต้องมาทำให้หงุดหงิดเสียอารมณ์ก่อนทุกที ไม่เข้าใจจริงๆ เป็นโรคจิตหรือเปล่าวะ



พอจัดการตัวเองเสร็จก็เรียกคนด้านนอกให้มาพากลับไปนอน พี่เดียวมันจัดการให้ผมทุกอย่าง ตั้งแต่ปรับเตียง จัดหมอน ห่มผ้า ปรับแอร์ ก่อนจะปิดไฟแล้วมานอนที่โซฟาข้างเตียง



“ความจริงพี่ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ”ผมพูดขึ้นในความมืด รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่หลับ ไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องมาดูแลผมแบบนี้



“แบบไหน ที่ดูแลน่ะเหรอ”



“อืม”



“ไม่เป็นไร อยากทำ”



“.....”



“.....”



“ถามจริง ที่ขอคบเพราะพี่ชอบผมเหรอ”เอาจริงๆผมก็จำไม่ได้นะว่าพี่เดียวมันเคยบอกชอบผมหรือเปล่า เคยได้ยินแต่คำว่าหวง แล้วคำนี้มันมีความรู้สึกอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมั้ย ที่ขอคบเพราะอะไรกัน



“ใช่”



“ใช่คือ?”



“ชอบ”



ยอมรับตรงๆเลยแหะ นึกว่าจะมีมาดปากแข็งอะไรทำนองนั้น แต่พอมันยอมรับง่ายๆก็ทำให้ผมทำตัวไม่ค่อยถูก กับคนอื่นๆที่เข้าหา ที่บอกว่าชอบมันให้ความรู้สึกต่างกัน



“ชอบผมตรงไหน”คือถ้าเป็นผู้หญิงมาชอบผมก็พอจะนึกออกละนะว่าชอบเพราะอะไรบ้าง หน้าตา เงิน หรืออาจจะติดใจเรื่องบนเตียง แต่ที่ชอบเพราะนิสัยนี่แทบจะไม่มี เพราะผมไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษจนมารู้จักนิสัยใจคอกัน และมั่นใจว่าถ้าใครรู้จักนิสัยจริงๆของผมคงถอยห่างกันทั้งนั้น



“ไม่รู้”



“เอ้า!”อะไรของมันวะ



“หึหึ นอนได้แล้ว”



“ขี้โกง”ทำเป็นหลีกเลี่ยงไม่พูดถึง ที่ว่าชอบแสดงว่าโกหกสินะ



“ใครขี้โกง”มันมานั่งอยู่ข้างเตียงตั้งแต่ตอนไหนวะ ถึงจะมืดแต่ตอนนี้สายตาเริ่มชินแล้ว เลยพอมองเห็นว่าอะไรเป็นอะไร หน้ามันใกล้ผมมาก ฟันขาวๆที่เห็นรำไรบอกให้รู้ว่ามันกำลังยิ้มอยู่



“ใครกันแน่ที่ขี้โกง ความรู้สึกของตัวเองยังไม่รู้ ไม่ยอมรับเลย แล้วจะให้คนอื่นเขาพูด”



“แล้วใครเป็นคนขอคบก่อนวะ นี่ก็มีสิทธิ์จะรู้ไม่ใช่หรือไง”



“หึหึ นี่ น้ำน่าน อยากเลิกกลัวมั้ย?”



“.....”ปากอยากจะเถียงว่าไม่ได้กลัว แต่ผมกลับนิ่งเพื่อรอฟังมันพูดต่อ



“อยากรู้จักสิ่งที่กำลังวิ่งหนีหรือเปล่า?”



“.....”



“อยากรู้มั้ยว่าพี่ไปตั้งหลักแล้วพี่คิดอะไรได้”



“อะไร?”



“สักวันจะรู้เอง”







X






   ผมออกจากโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น แต่แทนที่จะได้กลับบ้านก็ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ห้องไอ้พี่เดียว มันไม่ยอมพาผมไปส่งบ้าน อ้างเหตุผลว่าที่บ้านไม่มีใครอยู่ ไม่มีคนดูแล พอผมไลน์เข้าไปในกลุ่มสี่คน ทุกคนก็พร้อมใจกันให้ผมพักอยู่กับพี่เดียวจนกว่าจะหาย แต่ละคนดีๆทั้งนั้น ไม่รู้ไอ้ธันว์กับไอ้คิมมันจินตนาการกันไปถึงไหนแล้ว



   “อยากอาบน้ำ”ไม่ได้อาบมาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน กลัวตัวเองจะเน่า ตัวเหนียวเหนอะหนะไปหมด



   “ได้ มาถอดเสื้อผ้าออกก่อน”



“ไม่ต้องๆ ถอดเองได้”ผมขยับตัวหนีแทบไม่ทัน ไอ้พี่เดียวตรงดิ่งมาเหมือนจะกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวผม ดูโคตรโรคจิต



“ถอดเองจะถนัดหรือไง”



“เจ็บเท้าอย่าเดียว ส่วนอื่นไม่ได้พิการ แค่พาไปห้องน้ำก็พอแล้ว”



“หึหึ งั้นก็ไป”



ไม้เท้าก็มีนะแต่ผมใช้ไม่ถนัดหน้าจะทิ่มตลอด ไอ้พี่เดียวเลยจับมันโยนไว้ข้างนอก เลยต้องกระเตงๆกันไปแบบนี้



“นั่งลงก่อน”



“จะทำอะไร”มันพาผมมานั่งที่ขอบอ่าง



“แผลห้ามโดนน้ำ เดี๋ยวเอาถุงพลาสติกห่อก่อน นั่งรอแป๊บ”ไอ้พี่เดียวหายออกไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกใบไม่เล็กไม่ใหญ่กับเทปใส มันคุกเข่าลงกับพื้นแล้วจับเท้าผมวางลยบนหน้าขา



“เห้ย พี่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ เดี๋ยวทำเอง”ผมจะชักเท้าหนีแต่มันก็ดึงไว้



“ทำเองจะถนัดหรือไง นั่งเฉยๆเดี๋ยวพี่ทำให้”



‘เดี๋ยวพี่ทำให้’ ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกดี ตั้งแต่ผมเจ็บ มันพูดคำนี้หลายครั้งมาก ผมมองพี่เดียวที่กำลังเอาเทปใสพันปากถุงที่สวมเท้าผมอย่างตั้งอกตั้งใจ



“ทำไมถึงเป็นผมวะพี่”คนอย่างไอ้พี่เดียวจะหาดีกว่าผมสักกี่คนก็ได้ คนที่มีความเหมาะสมในทุกด้านคงมีมาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ทำไมถึงต้องมาสนใจคนอย่างผม หรือเพราะเรื่องวันนั้นเลยทำให้ต้องยึดติดกับผมอยู่อย่างนี้



“ถ้าพี่ทำเพราะเรื่องวันนั้น พี่ก็เลิกเถอะ”



มือที่กำลังพันเทปหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะขยับทำหน้าที่ของมันต่ออย่างเบามือ ความอุ่นของฝ่ามือแทรกมาตามผิวหนังที่ถูกสัมผัส อุ่นที่หัวใจ ความรู้สึกแบบนี้ผมเคยสัมผัสเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ตอนที่จักรยานล้มหัวเข่าเป็นแผลเหวอะ พ่อก็ดูแลผมแบบนี้



“ไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้นเหตุผลเดียวหรอก อ่ะ เสร็จแล้วอาบน้ำได้”




   “.....”



   “น้ำน่าน เป็นอะไร ทำไมมองพี่แบบนี้”



   “ขอบคุณนะ”



   “พี่เต็มใจ”






   X






   “นอนเลยนะ”




   “อือ”ใครจะว่าผมว่านอนสอนง่ายหรืออะไรก็ว่าไป มันปวดแผลเกินกว่าจะดื้อดึงต่อไปได้ กินยาแล้วก็อยากจะหลับๆไปเสียทันทีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทรมานปวดแผล แต่การที่มีไอ้พี่เดียวอยู่ก็สบายไปล้านแปด กินอยู่อย่างราชามีคนรองมือรองเท้า อยากได้อะไรก็มีคนหยิบทำให้ ถ้าให้ผมอยู่กับมันนานๆต้องนิสัยเสีย หยิบจับอะไรไม่เป็นแน่ๆ




   “อื้อ ทำไร”กำลังเคลิ้มๆก็มีคนมายกขาผมขึ้น ไอ้พี่เดียวกำลังเอาหมอนสอดใต้ขาผม




   “รองไว้ จะได้ไม่เผลอไปโดนแผลตัวเองตอนหลับ น่าจะช่วยให้ไม่ปวดด้วย”



   ผมดันตัวขึ้นเพื่อมองคนที่วุ่นวายอยู่ตรงปลายเท้า ทุกครั้งที่พี่เดียวมันทำอะไรให้ผม สีหน้าของมันบ่งบอกได้ว่าตั้งอกตั้งใจทำให้มากๆ ทำไมต้องมาทำดีกับผมขนาดนี้ด้วยวะ มาทำให้ผมต้องสับสนทำไม



   “ขอบคุณนะ”



   “พี่เต็มใจ”



   อีกแล้ว...มันจะรู้มั้ยว่าคำนี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกผมขนาดไหน การกลับมาของมันครั้งนี้จะว่าเหมือนเดิมก็ไม่ใช่ จะว่าเปลี่ยนไปก็ไม่เชิง



   “นอนซะ น้ำอยู่ตรงนี้นะ พี่วางไว้ตรงนี้จะได้หยิบถึงแต่ถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็เรียกพี่ เดี๋ยวจะนั่งทำงานอยู่ข้างนอก ไม่ได้ปิดห้องนะเวลาเรียกจะได้ได้ยิน”



   “อืม”ผมทำได้แค่รับคำเบาๆ พูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกมากมายมันอัดแน่นอยู่ในอก มองเจ้าของแผ่นหลังกว้างเดินออกไปจากห้อง เวลาสามทุ่มไม่ใช่เวลาปกติที่ผมจะเข้านอน แต่ถ้าหากหลับไปแล้วจะช่วยให้ผมหยุดคิด หยุดรู้สึกได้ผมก็อยากจะหลับไปทันทีที่หลับตาลง ผมพลิกตัวไปมาอยู่นานพอจะเคลิ้มๆก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตลอด แต่ครั้งนี้ได้ยินเสียงคนพูดแว่วๆดังมาจากนอกห้องนอน ผมลุกขึ้นนั่งมึนๆ




“โอ๊ย!”แต่พอก้าวเท้าลงจากเตียงเท่านั้นหายมึนเลย ไอ้เหี้ยยยย นี่กูโง่หรือกูโง่วะเนี่ย ผมเจ็บน้ำตาเล็ดมันจี๊ดตั้งแต่ฝ่าเท้าไปยันก้านสมอง เสียการทรงตัวกลิ้งลงไปนอนอยู่ข้างเตียงเป็นที่น่าอเนจอนาถ ครวญครางเหมือนถูกรถทับขา มันเจ็บจริงๆนะ




“น่าน!”มันร้องเรียกผม ไฟในห้องสว่างขึ้นมาจนผมต้องหยีตา ก่อนจะได้ยินมันพ่นภาษาต่างดาวใส่โทรศัพท์ แล้วเข้ามาประคองผมให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง




“จะเอาไร ทำไมไม่เรียกเนี่ย เป็นไงมั่ง”




“เจ็บแผลอ่ะ เมื่อกี้เอาเท้านั้นลง”ผมบอกอย่างไม่มีฟอร์มใดๆ ก็คนมันเจ็บนะเว้ย




“แล้วจะเอาไร”




“เปล่า แค่จะออกไปดูว่าคุยกับใคร แต่มันลืมตัวนี่หว่าว่ามีแผลอยู่”



“เห้อ”



“อย่ามาถอนหายใจใส่นะ”




“นอน ไป เลย”ไอ้เหี้ยพี่เดียวมันจิ้มหน้าผากผมจึ้กๆตามคำพูด ไม่แรงมากแต่ก็พอให้หงายเงิบลงบนหมอนได้




“นอนไม่หลับ”



“หลับตาไปเดี๋ยวก็หลับเองนั่นแหละ”มันว่าแล้วห็หายออกไปจากห้อง ผมคิดว่ามันคงไปทำงานต่อแต่แค่ครู่เดียวมันก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล



“ทำไร”



“ทำกับข้าวมั้ง แผลเลือดออกเนี่ย เมื่อกี้คงเหยียบพื้นเต็มแรงเลยสินะ”เออสิ แบบเต็มเท้าแนบสนิทลงไปกับพื้นเลย แต่เลือดเลยเหรอวะ




“อักเสบแน่ๆ”มันว่าพร้อมกับค่อยๆแกะผ้าพันแผลอันเดิมออก ผมพยายามจะดันตัวขึ้นมาดูก็ถูกมันทำตาดุใส่แล้วผลักให้นอนลงไปตามเดิม




   “จิ๊ อยู่นิ่งๆสิ”



   “เออๆ”



ไอ้พี่เดียวมันทำทุกอย่างเบามือมาก แต่จะบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บก็คงไม่ได้แต่มันไม่ได้ คืนนี้ได้นอนทรมานไปทั้งคืนแน่ๆ




“เอ้า เสร็จแล้ว เดี๋ยวกินยาด้วย”มันส่งยากับแก้วน้ำให้



“ยาไรอีก”



“แก้ปวดไง ยังไงคืนนี้ปวดแน่ๆ หาเรื่องเจ็บตัวซ้ำซากจริง”



“อย่าบ่นได้มั้ย ยิ่งบ่นยิ่งเจ็บ”มันมองผมตาขวาง ผมรับยามากินแล้วส่งแก้วน้ำคืน ไม่อยากขยับตัวไปไหนเลย เข็ด



“เอ้า ไม่ทำงานต่อแล้วเหรอ”ผมถามเมื่อมันปิดไฟหลักของห้อง เหลือเพียงไฟส้มมุมห้อง



“ไม่อ่ะ นอนดีกว่า จะนอนฝ้าเด็กด้วยเดี๋ยวหาเรื่องใส่ตัวอีก”



“ไม่ใช่เด็กเล็กๆนะ”



“เหรอออ นอนได้แล้ว”แล้วไฟทั้งหมดก็ดับลง ห้องมืดสนิท



“อื้อ อะไรวะ มากอดทำไมเนี่ย”จู่ๆตัวผมก็ถูกรั้งเข้าไปกอดทั้งที่ยังนอนหงายอยู่ แถมขาข้างที่ปกติดียังถูกก่ายทับจนกระดิกไม่ได้



“ป้องกันไว้ก่อน เดี๋ยวจะนอนดิ้นไปโดนแผลตัวเองอีก”ลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่แถวซอกคอทำให้รู้สึกจั๊กจี้ ขนลุกไปทั้งตัว



“ไม่ได้โง่ขนาดนั้นป่ะวะ”



“ก็ไม่แน่”



   “ไอ้!...เออ แม่ง เอาที่สบายใจเลยครับพี่ครับ”ผมหมดคำพูดจริงๆ เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรมันก็หาเหตุผลมาลบล้างได้จนหมด ไอ้คนข้างๆก็นอนหัวเราะถูกใจ



   “นี่ ไม่ต้องแน่นขนาดนี้ก็ได้ มันอึดอัด”ผมใช้ศอกกระทุงหน้าท้องมันไป ไอ้คนกอดก็หัวเราะสองหึแต่ก็ยอมคลายวงแขนออกให้ได้หายใจหายคอคล่องขึ้น



   “ตัวอุ่นๆนะ ไข้มาแน่ๆ”



   “อือ”ผมได้แต่อือออกลับไปเพราะรู้สึกหนังตาหนักๆ ก็มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เจ้าของเตียงมันพูดอะไรอีกก็ไม่รู้ผมไม่ได้สนใจ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบไปพร้อมกับแผลที่ปวดตุบๆ และสัมผัสอุ่นๆที่หน้าผาก






------------------------------

เอาเด็กขี้กลัวมาส่งค่าาาา  :hao3:
คิดถึงกันม้ายยยยยย เค้าคิดถึงทุกคนนะ แล้วจะรีบมาต่อนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-12-2016 11:48:42
ถ้าน่านกลัวนัก เอาพี่เดียวมาให้เราก็ได้
อยากได้แบบนี้บ้าง
ดีต่อใจ   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 05-12-2016 11:59:19
ซึนกว่าน้ำน่านก็น้ำน่านแล้วค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 05-12-2016 14:40:13
หมั่นไส้เด็กดื้อ อยากให้อิพี่เดียวฟัดให้หายซึน
ใจก็คิดอะไรๆกับเขาไปแล้วก็ยังปากเเข็ง
อย่างน้อยอิทธิฤทธิ์ตอนเจ็บตัวก็เบาบางลงนิดนึง
มีอิพี่เดียวดูแล แปปๆเดี๋ยวแผลก็หายล่ะ
เอาใจช่วยพี่เดียวเหมือนเดิม ปราบเด็กดื้อให้ได้นะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-12-2016 14:47:14
น้ำน่าน ขี้กลัวจริงๆ :katai1:
พี่เดียว พร้อมรับมือน้ำน่านแล้ว
เจ็บคราวนี้ พี่เดียวน่าจะได้ใจน้ำน่าน
ก็ดูแล ปรนนิบัติเต็มที่ อบอุ่นน่ารักนะพี่เดียว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-12-2016 17:45:41
น่านเอ้ยยย ก้าวผ่านความกลัวให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-12-2016 18:13:54
ขอบคุณค่ะ  พี่เดียวอบอุ่นสมการรอคอย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 05-12-2016 22:57:39
ความละมุนของพี่เดียวทำให้น่านใจอ่อนขึ้นมาแล้วอ่ะดิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 05-12-2016 23:13:40
โหยยยยยย เกือบลืมไปแล้วเนี่ย คืดถึงง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 06-12-2016 00:01:26
รอนานมากแต่รออยู่เสมอ ดีใจที่มาต่อ ชอบคู่นี้ รักกันเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 07-12-2016 00:11:36
ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน มารอจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: tamaya ที่ 09-12-2016 07:00:44
เข้ามาอ่านรวดเดียวเป็นนิยายที่น่าติดตามมาก :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 09-12-2016 13:39:21
อ่านหลายตอนจนตาแฉะเลย 555

หวังว่าให้รู้ใจตัวเองเร็ว ๆ เนอะ พี่เขาดีขนาดนี้
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-12-2016 21:07:38
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 10-12-2016 15:36:43
พี่ดียวดูแลดีมากอ่ะ น้องน่านหายกลัวเถอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 10-12-2016 21:52:11
 :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.26 P.9 || [5.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kokyo ที่ 16-12-2016 14:21:49
น้องน่านรับรักพี่เดียวเถอะะะะะะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 03-01-2017 22:34:27
รัก...ไม่ได้ออกแบบ  by zero





- 27 -




   
   “โอ๊ย ไอ้สัดตีนกู!”ผมร้องลั่นเมื่อไอ้ธันว์เหยียบลงบนเท้าข้างที่เป็นแผลแบบเต็มแรง ไอ้ห่า คนก็นั่งอยู่ตัวเท่าควาย มองไม่เห็นหรือไงวะ เหยียบมาได้




   “ขอโทษๆ กูขอโทษไอ้เหี้ย ไม่ได้ตั้งใจเว้ย”มันยกมือไหว้ปลกๆ แล้วทำท่าจะเข้ามาจับเท้า ผมนี่ยกหนีแทบไม่ทัน




   “นี่ถ้ามึงตั้งใจกูคงขาขาด”




   “ก็พูดเกินไป แหม เดี๋ยวนี้บอบบางนะครับคุณชลธร”สีหน้าสำนึกผิดเปลี่ยนเป็นยิ้มล้อๆ อยากเอาหัวแม่เท้ายัดปากมันจริงๆ




   “_วย”ผมแจกจ่ายความรักให้ มันก็ยิ้มรับหน้าระรื่น พร้อมกับส่งความรักกลับคืนมาด้วยนิ้วมือที่ยาวที่สุดหนึ่งนิ้วเฉกเช่นเดียวกัน




   วันนี้ผมหยุดเรียนหนึ่งวันเพราะเมื่อคืนเป็นไข้ จากคำบอกเล่าของไอ้พี่เดียวที่ปลุกผมขึ้นมากินข้าวกินยาในตอนเช้า หน้าตามันก็ดูมึนๆอึนๆเหมือนคนไม่ได้นอน พอผมกินข้าวกินยาเสร็จมันก็ออกไปทำงาน แต่มิวายส่งพยาบาลน่ารักมาดูแลแทน ก็พี่เฟิร์สนั่นแหละครับ รายนั้นก็เชื่อไปแล้วว่าผมกับไอ้พี่เดียวคบกัน เอาเถอะ ผมไม่คิดจะแก้ตัวอะไรอยากเข้าใจว่ายังไงก็เอาที่สบายใจเลย พี่เฟิร์สกลับไปตอนเที่ยงเพราะมีเรียนช่วงบ่าย แต่ก็ไม่ทิ้งช่วงให้ผมต้องนอนเหี่ยวเฉาเป็นผักรอวันเขี่ยลงจากแผง ไอ้พวกนี้มันก็พากันมาสร้างความวุ่นวาย ไอ้พายบอกว่าไอ้พี่เดียวมันบอกให้มาอยู่เป็นเพื่อน จะทำให้ผมไข้กลับหรือเปล่าวะ เอาจริงๆนี่ก็ยังไม่สร่างไข้ดีเลย หัวยังหนักๆ แต่ที่หนักกว่าคงเป็นแผลที่เท้านี่แหละ เดี๋ยวโดนนั่นโดนนี่ ไอ้เชี่ยธันว์ยังมาเหยียบซ้ำอีก กรรมเวรอะไรของผมก็ไม่รู้




   “เอ้า กินซะ แล้วยามึงอยู่ไหน พี่เดียวสั่งไว้ให้กินยาให้ครบ”ไอ้พายมันวางจานข้าวลงตรงหน้าผม มันซื้อกับข้าวมาหลายอย่างเพื่อกินด้วยกัน ตอนนี้เลยตั้งวงกันอยู่หน้าทีวี ดูหนังที่ฉายทางเคเบิ้ล ทำตัวสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง




   “อยู่ในห้องนอน”




   “ห้องไหน?”ผมชี้ไปทางห้องนอนใหญ่ให้ไอ้พายไปหยิบยาให้




   “มึงหยิบหมอนสีเทาบนเตียงมาด้วยนะ”ผมตะโกนบอกมันไป นั่งห้อยขาแล้วรู้สึกปวดแผลขึ้นมา เลยไถลตัวลงจากโซฟาลงไปนั่งพื้นรอไอ้พายมันหยิบหมอนมารองเท้า




   “มองห่าไร”ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปากแต่ก็ชะงักเพราะรับรู้ถึงการจ้องอย่างแรงกล้า ไอ้สองตัวที่นั่งอยู่บนโซฟามันจ้องผมเขม็ง




   “จะถามอะไรก็ถามมา จ้องอยู่นั่นกูแดกข้าวไม่ลง”มันมากันได้สักพักแล้วนะ ผมคิดว่ามันน่าจะถามตั้งแต่เจอหน้า แต่พอมันไม่ถามผมก็เลยคิดว่ามันไม่ติดใจอะไรกันที่ไหนได้รอจังหวะอยู่นี่เอง วันนี้ดันว่างตรงกันอีกนะ ปกติไม่เคยเห็นหัว




   “มึงนั่นแหละไอ้สัดมีอะไรก็เล่ามา”ไอ้ธันว์กอดอกเอาเท้าถีบขาผม ดีที่ไม่ใช่ข้างที่เจ็บ แต่ก็แอบหวาดเสียวขยับขาหนีโดยอัตโนมัติ




   “มึงไม่ได้ถามไอ้พายไปหมดแล้วหรือไงวะ”




   “มันบอกให้พวกกูถามมึงเอง”




   ผมถอนหายใจ คิดไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้ที่ต้องฉายหนังซ้ำ แต่มาถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่ได้อยากจะปิดบังอะไรอีก ผมเล่าให้พวกมันฟังว่าไอ้พี่เดียวมันจีบผมอยู่ แต่เรื่องที่พลาดท่าเสียทีก็คงต้องเก็บไว้ ไม่ใช่อะไรนะ ผมอาย!




    ไอ้พายมันมานั่งข้างๆผมพร้อมกับถุงยาและหมอน แอบเห็นว่ามันกระตุกยิ้มรู้ทันว่าผมเลี่ยงที่จะเล่าถึงเรื่องอะไร แต่มันก็ไม่ได้ขัดขึ้นมา




   “ห่า เรื่องแค่เนี๊ยะ กูนึกว่ามึงได้กับพี่เขาแล้ว”




แค่ก แค่ก! ผมสำลักน้ำต้มยำทันทีที่ไอ้ธันว์มันพูดแทงใจดำ ส่วนไอ้พายนี่หัวเราะจนลงไปกลิ้งกับพื้น ไอ้นี่ก็เต็มที่ไป




“เดี๋ยวๆ อย่าบอกนะว่าจริง?”ไอ้คิมเสือกฉลาดขึ้นมาอีก มันหรี่ตามองผมนิ่ง ไอ้ธันว์ที่กำลังจะตักข้าวกินก็ถึงกับชะงักหันขวับมามองเช่นกัน




“กูว่าแน่ๆ ดูท่าทางมึงกับไอ้เชี่ยพายแล้ว”




“สงสัยห่าไรพวกมึงเนี่ย แดกๆไป ไม่แดกก็กลับไป โอ๊ย! ไอ้สัด!”หน้าผมเกือบทิ่มลงไปในจานข้าว ไอ้ธันว์แม่มตบหัวผมแบบไม่ออมแรงเลย




“ปิดกูทำซากอะไร กูไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ”มันทำหน้าจริงจังมาก จนผมกลัวว่ามันจะโกรธจริง




“กูอายยยยยย ไอ้เหี้ย!”สุดท้ายก็ต้องยอมรับ ซึ่งทำให้หน้าผมเหมือนจะไหม้ ผมกับไอ้ธันว์ไม่เคยมีความลับต่อกัน อย่างที่เคยบอกนอนกับผู้หญิงพร้อมกันยังเคยทำไม่เคยอายด้วยซ้ำ แต่กับเรื่องนี้ไม่ไหวอ่ะ หน้าผมบางขึ้นมากะทันหัน




“เออ ก็แค่เนี้ยะ”มันตบหัวผมอีกทีแต่คราวนี้เบาๆ คล้ายเอ็นดู ถุย!




“ไอ้สัด”




“น่ารักขึ้นนะมึงเนี่ย รู้จักอายเป็น”ยังๆ ยังไม่จบมันเอามือมาเชยคางผมแล้วจับหน้าหันไปมา สีหน้ามันสนุกสนานมากกับการได้แหย่ให้ผมอายมากกว่าเดิม




“เพื่อนเล่นมึงเหรอ”ผมปัดมือมันทิ้ง รำคาญ!




“มึงก็อีกตัว หยุดหัวเราะได้แล้วสัด”




“อะไรๆ พาลนะมึงเนี่ย กินซะ จะได้กินยา”ไอ้พายวางกุ้งตัวโตที่แก้ผ้าล่อนจ้อนแล้วใส่จานผม




“มึงสองตัวดูไม่ตกใจเลย มึงรู้กันอยู่แล้วใช่มั้ย?”ผมหันไปไล่บี้ ไอ้คิมมันแค่ยิ้มๆส่ายหน้าไปมา ส่วนไอ้ธันว์ซัดข้าวแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น




“กูเพิ่งรู้เมื่อกี้ที่มึงยอมรับนั่นแหละ”ไอ้คิมว่า




“มันน่าตกใจยังไงวะ กูคิดเอาไว้แล้วว่าสักวันมึงต้องโดน แต่แค่ไม่คิดว่าเร็วแบบนี้”ไอ้ธันว์บอก




“ทำไมถึงคิดว่ากูต้องโดนวะ”เอาสมองส่วนไหนคิดกันวะเนี่ย




   “ก็มึงเป็นพวกดึงดูดทั้งผู้ชายผู้หญิงไง แล้วผู้ชายที่เข้าหามึงก็ไม่ได้มีแต่เกย์น้อยอ้อนแอ้นแบบดีดทีเดียวปลิว ล่ำๆกล้ามปูที่จะเคลมมึงก็เยอะแยะไอ้สาด”ไอ้ธันว์อธิบาย




   “ถูกต้องแล้วคร้าบบบ”ไอ้พายเสริม




   “มึงเป็นพวกที่ไม่ค่อยยอมรับตัวเอง คิดว่าแมนสัดใครก็กดมึงไม่ลง”ไอ้คิมเพิ่มเติม เอาเข้าไปพวกมึง เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเรื่องฝังกลบกูเนี่ย




   “แล้วสุดท้ายก็มีคนกดมึงลงจนได้ ไม่ธรรมดาๆ”หนุ่มวิศวะ



   “ถ้าเป็นพี่เดียว เป็นกูก็ยอมให้กดล่ะวะ”หนุ่มบริหาร




   “มึงมันใจง่ายไง”ว่าที่หมอยา



“ไอ้สัด ด่ากู”ซี้ตีกันเองละ




แล้วเรื่องมันก็ไหลออกอ่าวออกทะเล ซึ่งผมก็ไม่ขัดเลย ให้มันออกไปไกลตัวผมเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ผมนั่งกินข้าวเงียบๆเสร็จแล้วก็กินยาที่ไอ้พายเตรียมไว้ให้ แต่ยังไม่คิดจะนอนเพราะตาสว่างมากนอนมาทั้งคืนกับอีกครึ่งวันเช้า เลยออกมานั่งเล่นที่ระเบียงด้านนอก อย่างน้อยก็มีต้นไม้ใบหญ้า ดอกไม้สีขาวๆที่ไอ้พี่เดียวปลูกไว้ให้มองแก้เบื่อ




“ขยับดิ๊ กูนั่งด้วย”นั่งสงบไม่ทันไรก็มีคนมาก่อกวน ผมขยับเว้นที่ให้ไอ้ธันว์นั่งบนเดย์เบดตัวเดียวกัน มันขยับไม้เท้าที่ผมใช้พยุงตัวเองไปไว้อีกมุม




“มีไรจะถามกูอีกอ่ะ”



“หึหึ กลัวกูจะซักอะไรมึงหะ กูไม่ถามหรอกว่ามึงได้กับพี่เขาท่าไหน”



“_วย”ผมด่ามันก็หัวเราะร่วน แล้วก็หยุดหัวเราะไปเสียเฉยๆ




“ตอนนี้มึงมีความสุขป่ะวะ”ไม่บ่อยนักที่ผมกับมันจะมานั่งซีเรียสคุยอะไรกันจริงจัง แต่ไอ้ธันว์มันคงรู้ว่าผมอยู่ในช่วงเวลาที่ผมกำลังคิดอะไรหลายอย่างๆ อาจจะต้องคำปรึกษา ชี้แนะ หรือด่าสักคำเพื่อกระตุ้นให้ความคิดตกตะกอนไวๆแต่สำหรับเรื่องที่ผมคิดอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ยากมากเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมเลย




“กูไม่รู้”




“อะไรที่มีความสุขก็ทำไป ไม่ต้องแคร์ใครหรือะไรเหมือนที่มึงทำมาตลอดนั่นแหละ”




“อืม”




 “จำได้ใช่มั้ยที่กูเคยพูดไว้ว่ากูรู้สึกว่ามึงเองก็สนใจพี่เดียวเหมือนกัน กูก็ไม่อยากชี้นำอะไร อยากให้มึงคิดได้เอง คิดแบบที่ใช้ใจคิด ให้รู้ว่ามึงรู้สึกยังไงแล้วก็ลองทำตามความรู้สึกของตัวเองดู”




ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่ มีแต่คำพูดคนนั้นคนนี้เต็มหัวไปหมด ผมขอเวลาให้ตัวเองจัดการกับสิ่งที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนี้ก่อน




“แต่กูว่ามึงลองเปิดใจหน่อยก็ดี ไหนๆมึงก็หญิงก็ได้ชายก็ไม่เกี่ยง ยิ่งมาทางด้านนี้แล้ว กูว่าพี่เดียวแม่งก็เหมาะกับมึงดี”




“เหมาะยังไงไอ้สัด”




“ก็แก่กว่าแบบที่มึงชอบ ดูแลตัวเองได้ หาเงินใช้เองได้ รวยกว่ามึงอีกไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเข้าหาเพราะหวังเงินมึง กลับกันเขาเลี้ยงมึงได้สบาย เขาเป็นได้ทั้งพ่อ ทั้งพี่ชายแล้วก็ผัวให้มึงได้ด้วย”




“หยุดพล่ามเลยไอ้เชี่ย คิดส้นตีนไรเนี่ย”ไหนว่ามันไม่อยากชี้นำอยากให้ผมคิดเองได้ แล้วที่พูดมานี่คืออะไรวะ เหมือนกำลังปูพรมแดงให้ผมเดินสู่เส้นทางสายรับแบบวันเวย์ไม่มียูเทิร์นกลับ แล้วผมก็ดันเสือกคิดตามมันด้วยนะ อยากจะตบตัวเองแรงๆเพื่อเรียกสติจริงๆ




“หรือไม่จริง ไอ้สัด มึงไม่ต้องคิดเหี้ยไรละ กว่าจะคิดได้กูว่าแก่ตายพอดี กูคิดให้แล้วเนี่ย หลับหูหลับตาให้พี่เขาเอาๆไปเดี๋ยวก็ดีเอง”



“มึงมาโดนเอาเองมั้ย ไอ้สัด ไปไกลๆตีนกูเลยไป มาทำให้กูเครียดกว่าเดิมอีก _วยธันว์เอ๊ย”ผมโมโหมันจริงๆแล้วนะ พูดมาได้ให้หลับหูหลับตา โดนเข้าไปแบบนั้นมีแต่ตาเหลือกทั้งนั้นแหละ




“ฮ่าๆ ไอ้สัด เครียดทำไมว้า ลองดูดิกูไม่ได้แนะนำให้มึงไปตายนะเว้ย ถ้าเกิดมันไม่เวิร์ค มันไม่ใช่ มึงไม่มีความสุขมึงก็ก้าวออกมาดิ ถ้ากลัวจะเสียใจมึงก็เลยคิดเลย เสียใจอยู่แล้วถ้ามีเรื่องความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง แต่แค่มึงหันหลังกลับมา ก็จะเจอพวกกูที่คอยปลอบมึงอยู่ เดี๋ยวกูแดกเหล้าเป็นเพื่อน พามึงไปฟันหญิงให้ลืมเศร้าเอง”




เหมือนจะซึ้งแต่ทำไมผมอยากด่ามันวะ ทว่าที่ทำก็คือหัวเราะออกมากับสิ่งที่มันพูด มาถึงตรงนี้ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าที่มานั่งเครียดแบบนี้ เพราะใจผมเริ่มรู้สึกอะไรๆกับไอ้พี่เดียวมันแล้วสินะ จู่ๆผมก็นึกถึงคำพูดใครสักคนที่เคยพูดไว้ได้ขึ้นมา ‘เรื่องของหัวใจต้องใช้ใจคิด ไม่ใช่สมอง’




“พูดอะไรแบบนี้ก็เป็นเหรอวะไอ้สัด เหมือนเชี่ยวชาญเรื่องความรักนะมึงอ่ะ”




“กูก็จำๆเขามา ไอ้อั้มมันเพ้อกรอกหูกูทุกวันจนกูแทบจะบรรลุ”




“แนะนำกูให้เปิดใจแล้วตัวมึงอ่ะ แล้วมึงอ่ะกะจะฟันไปเรื่อยๆอย่างนี้เหรอวะ”




“หึหึ กูยังไม่เจอใครที่ทำกูรู้สึกอย่างอื่นนอกจากจะลากขึ้นเตียงนี่หว่า”




“แบบนั้นก็ดีแล้วไม่ปวดหัว”




“ตอนนี้มึงปวดหัว ต่อไปเดี๋ยวมึงก็ปวดตูด”



“_วย”วกเข้าเรื่องนี้เฉย ไอ้เพื่อนเลว



“แจกกูบ่อยเหลือเกินนะ เหลือกินเหลือใช้นะเดี๋ยวนี้”




“ไสหัวไปเลยไอ้สัด”




“ฮ่าๆ กูไปก็ได้ เออ ไอ้น่าน แต่ก็ไม่แน่นะ”




“อะไร?”




“กูอาจจะบรรลุเรื่องความรักเร็วๆนี้ก็ได้”



“ห๊ะ”แล้วมันก็ไม่อยู่ให้ผมถามรายละเอียด เดินเข้าห้องไปเฉย




“ไอ้ควาย มาทำให้อยากรู้แล้วก็ไปสันดานนะมึง” เอาเถอะ มันคงยังไม่พร้อม ผมรอได้ แต่ถ้ารอไม่ไหวกูสืบเองก็ได้วะ!





X






   ดาวบนดินที่เรียงรายเป็นสายสีแดงยามค่ำคืน ถือเป็นทัศนียภาพที่สวยงามไปอีกแบบสำหรับชีวิตคนเมือง แต่ก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นเลย ถ้าหากไม่ยืนอยู่บนตึกศูงอย่างในตอนนี้ ผมนึกถึงกล้องคู่ใจที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ถูกหยิบออกมาใช้งานเลย เพราะแค่เวลาทำงานส่งอาจารย์ยังไม่พอเลย




   “น่านกินข้าวได้แล้ว”ไอ้พี่เดียวโผล่หน้ามาเรียกผมที่นั่งเล่นระหว่างรอมันทำอาหารมื้อเย็นที่เลทมาจนค่ำแล้ว แขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถูกพับลวกๆมากองไว้เหนือข้อศอก ส่วนกางเกงยังเป็นกางเกงสแล็คที่มันใส่ไปทำงานเมื่อเช้า บนตัวมันมีผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลลายแม่เป็ดตัวเหลืองอ๋อยมีลูกเป็ดสีเดียวกันอีกสามตัวเดินตามสวมทับอีกชั้น ใครเลือกผ้ากันเปื้อนให้วะ ผมอยากรู้มากแต่ก็ไม่ได้ถาม ผมพยักหน้าให้มันเป็นการตอบรับแล้วพยุงตัวเองลุกขึ้น



อันที่จริงจะสั่งอาหารขึ้นมากินก็ทำได้แต่ดันกระแดะอยากจะทำเอง ผมเลยต้องหิ้วท้องรอมาจนถึงตอนนี้




   “ให้ช่วยพยุงมั้ย?”   




   “ไม่อ่ะ มีไม้”ผมใช้ไม้คล่องขึ้นบ้างแล้ว หลังจากอยู่กับมันมาทั้งวัน วันนี้ไม่มีใครแวะเวียนมาเยี่ยมที่ห้องเหมือนวันแรก ข้าวปลาอาหารไอ้พี่เดียวก็จัดการไว้เสร็จสรรพไม่รู้ตื่นมาทำตั้งแต่กี่โมง แต่คงเช้ามากๆ ไม่อย่างนั้นมันคงไปทำงานสายแน่ๆ เพราะทำไว้หลายอย่างทั้งมื้อเช้ามื้อกลางวัน ฝีมืออาหารไทยของมันดีขึ้น แถมทำได้หลายอย่างด้วย เอาเวลาไปหัดทำก็ไม่รู้




   “ทำไรเยอะแยะเนี่ย”เอาจริงนะข้าวไข่เจียวกับน้ำปลาพริกก็พอแล้ว นี่พี่ท่านเล่นต้มยำกุ้ง ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักรวม หมึกผัดผงกะหรี่ จัดเต็มไปมั้ย แล้วกลิ่นผงกะหรี่นี่อบอวลไปทั่วห้องเลยนะ




   “กินๆไปเหอะน่า”




   ผมนั่งลงประจำที่รอพ่อบ้านตักข้าวมาให้ อยู่กับไอ้พี่เดียวก็สบาย งานการไม่ต้องทำ ข้าวถ้าป้อนได้มันคงป้อนด้วย ไม่รู้จะบ้าอะไรเบอร์นั้น



 
   “อร่อยมั้ย?”สีหน้าลุ้นมาก ผมแกล้งเคี้ยวนานๆกว่าจะกลืนลงคอแล้วตอบมันสั้นๆ




   “อืม”




   “แค่อืมเองเหรอ”




   “ก็ดีอ่ะ เออๆ อร่อยๆ”แม่ม ผมกลับคำพูดแทบไม่ทัน ก็มันเล่นทำหน้าทำตาผิดหวังซะขนาดนั้น กลัวมันเอาไปทิ้งด้วย เหมือนที่ผมเคยบอกเรื่องเครื่องประดับที่มันออกแบบว่างั้นๆแล้วมันก็ขยำทิ้ง คือมันก็ไม่ได้อร่อยแบบอร่อยมากกินคำแรกแล้วร้องว้าวหรืออะไรประมาณนั้น แต่มันก็ไม่ได้รสชาติแย่ จัดอยู่ในระดับที่กินได้ค่อนข้างไปทางอร่อยนิดหน่อย




   “ไม่ต้องตอบเอาใจกันหรอก ถ้าไม่อร่อย”



   “ประสาทป่ะเนี่ย ต้องการไรจากสังคมวะพี่ กินๆเข้าไป”ผมตักหมึกผัดผงกะหรี่ให้มัน ซึ่งเป็นผัดผงกะหรี่พิการเนื่องจากไม่มีคื่นช่ายสักใบ ก็คนทำมันไม่ชอบกินไง




   “พรุ่งนี้เช้าไปส่งบ้านด้วยนะ”ผมค้างห้องไอ้พี่เดียวมาสองคืนแล้ว ถ้านับคืนนี้ก็เป็นคืนที่สามซึ่งเพียงพอแล้ว นานกว่านี้คงไม่ไหวยังมีงานอีกหลายอย่างที่ผมต้องกลับไปจัดการ ขาดเรียนไปสองวันไม่รู้มีงานอะไรบ้าง พรุ่งนี้บ่ายไม่มีเรียนผมเลยให้ไอ้หมวยกับไอ้เต้มันเอางานกับสมุดจดมาให้ที่บ้าน ช่วงเช้าก็คงต้องโดดไปตามระเบียบ แต่ไอ้พี่เดียวมันก็เอาใบลาไปส่งให้ผมแล้ว ตอนแรกผมจะฝากไอ้พายเอาไปให้พวกไอ้เต้จัดการให้ แต่คนทางนี้เขาดันเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย




   “ทำไม?”




   “คนเขามีบ้านมีช่องให้กลับบ้างสิ”จะให้อยู่นี่ไปตลอดชีวิตเลยหรือไง แล้วอีกอย่างนะ ตอนกลางวันก็อยู่คนเดียวไม่รู้จะคุยกับใครประสาทจะกิน สู้กลับไปอยู่บ้านทำนั่นทำนี่ดีกว่า ว่าจะกล้องออกมาเช็คสภาพด้วย ใกล้วันแต่งงานของพี่แชมป์กับพี่นลินเข้ามาทุกทีแล้ว




   “มีงานให้กลับไปทำเยอะแยะ”



   “เอามาทำนี่สิ”




   “ไม่เอา”




   “ตามใจ”




   หลังจากนั้นมันก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ผมก็ไม่พูดกินข้าวไปเงียบๆจนอิ่มมันก็เก็บล้างตามปกติ ผมเลยเดินไปนั่งเล่นที่ริมระเบียงซึ่งกลายเป็นมุมโปรดผมไปแล้ว ถ้าได้กีตาร์สักตัว เบียร์สักขวดจะดีมาก บรรยากาศโคตรดีอ่ะ นั่งอยู่พักใหญ่ก็รู้สึกผิดปกติเพราะไม่มีคนออกมาตาม ทุกทีไม่ถึงสิบนาทีก็ถูกตามให้กลับเข้าด้านในเพราะกลัวไข้จะกลับ แต่วันนี้เงียบกริบ ผมแอบมองลอดผ่านผ้าม่านระเบียงที่ปิดไม่สนิท ก็ไม่เห็นไอ้พี่เดียวอยู่ด้านใน ปกติจะนั่งๆเดินๆคุยโทรศัพท์เรื่องงานอยู่แถวโซฟาแต่วันนี้ไม่เห็น จะว่าล้างจานยังไม่เสร็จก็ไม่ใช่ เลยตัดสินใจเดินเข้ามาดูแล้วก็พบว่าเจ้าของห้องนอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา ในมือมีโทรศัพท์ถือค้างไว้ บนอกมีแฟ้มงานวางคว้ำอยู่




   “พี่...พี่เดียว”ผมเขย่าตัวมันแรงๆ ปลุกแบบทะนุถนอมไม่ได้หรอกครับ มันไม่สะเทือน




   “อื้อ...อะ...น่านมีไร”มันงัวเงียลุกขึ้นนั่งสภาพมึนเต็มที่ ไปอาบน้ำนอนดีกว่ามั้งแบบนี้




   “ไปอาบน้ำแล้วนอนเถอะ”



   “งานยังไม่เสร็จเลย”




   “แต่เมื่อกี้ก็ไม่เห็นจะได้งาน ถ้าจะทำต่อก็ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่ามั้ย”




   “อืม ก็ได้”มันเดินมึนๆเข้าห้องไป ผมเลยจัดแฟ้มที่กองบนพื้นให้เป็นระเบียบ ปิดไฟด้านนอกแล้วตามเข้าไปในห้อง ไม่คิดจะให้มันทำงานต่อหรอก ดูท่าจะไม่ไหว เดี๋ยวก็ได้นอนเฝ้ากองแฟ้มอีก




ผมล้มตัวลงนอน ที่นอนไอ้พี่เดียวมันนุ่มได้ใจมาก นอนแล้วไม่อยากลุกเลย อยากขโมยกลับไปนอนที่บ้าน นอนกลิ้งไปมาบนเตียงรอไอ้พี่เดียวอาบน้ำ




ผมนอนกับมันมาสามคืนผมก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี คำพูดไอ้ธันว์ยังชัดเจนเหมือนมันมาพูดกรอกหูซ้ำๆทุกนาที ผมเข้าใจที่มันบอก และเข้าใจความรู้สึกตัวเองดี ความรู้สึกที่ลอยขุ่นทำให้ใจสับสนตอนนี้มันตกตะกอนแล้ว เหลือแค่ตัดสินใจเท่านั้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากมาก




ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดถึงความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ ยิ่งกับผู้ชายด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ นึกไม่ออกเลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร คิดไปคิดมาก็กลายเป็นว่าผมจริงจังกับเรื่องนี้เกินไป จริงจังจนผิดวิสัยคนที่ไม่แคร์เรื่องความสัมพันธ์อย่างที่ผมควรจะเป็น ก็คนมันไม่เคยรัก ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รักมันหรอก ยอมรับว่าก็รู้สึกดีๆกับสิ่งที่มันทำให้แล้วก็ไม่อยากเสียมันไปในตอนนี้ อยากรู้ว่ามันจะพัฒนาต่อได้อีกมั้ย แต่อีกใจก็ไม่กล้าที่จะก้าวต่อไป




“คิดอะไร หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”




“เอ้ย!”ผมตกใจ คิดเพลินไปหน่อยจนไม่รู้ว่ามันมาค้ำแขนคร่อมผมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำจากเส้นผมสีดำหยดลงบนแก้มผม




มันหัวเราะสองหึแล้วก็ลุกขึ้นนั่งริมขอบเตียง ผมรีบขยับลุกขึ้นนั่งหลังพิงหัวเตียง แล้วพี่ท่านก็นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว อวดร่างหนาๆที่ตอนนี้ลดความหนาลงมานิดหน่อยแต่ก็หนากว่าผมอยู่ดีเพราะตอนผมน้ำหนักลดเพราะทั้งสอบทั้งทำงานส่งอาจารย์จนไม่มีเวลาจะฟิตร่างกาย ลายสักกราฟฟิครูปมังกรที่สีข้างด้านขวาของไอ้พี่เดียวทำให้ผมอยากไปสักเพิ่มอีก แต่กลัวอาฝนจะบ่น แค่ลายที่อยู่บนตัวตอนนี้ผมก็โดนบ่นเป็นเดือนๆ



“มองพี่ตาเป็นมันขนาดนี้ เข้ามาปล้ำพี่เลยดีกว่า”




“ได้เหรอ พี่ยอมให้ผมเสียบใช่ป่ะ”




“หึหึ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู”มันยิ้มมุมปากน่าต่อยมาก ดูท้าทายความสามารถผมสุดๆ




“เหอะ”ไม่ใช่ว่าผมจะทำไม่ได้นะ แต่ไม่อยากทำ เพราะผมไม่ได้พิศวาสอยากจะทำอย่างนั้นกับมัน แค่คิดภาพตามก็ขนลุกแล้ว ไม่ไหวๆ




“ทำหน้าประหลาดอย่างนี้คิดอะไรพิเรนทร์อยู่หืม?”มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สายตาเจ้าชู้แพรวพราว มันเป็นคนตาดุ แต่เวลาทำตาแบบนี้แล้วก็นะ...เป็นผู้หญิงคงระทวย ยอมมันทุกราย




“คิดตอนที่พี่โดนผมเสียบไง โคตรสยอง”




“หึหึ ถ้าจะคิด คิดตอนที่พี่ทำน่านดีกว่ามั้ยครับ”




“เอ้ยๆ ถอยไปๆ”ผมรีบผลักมันพัลวัน ตอนที่มันเอนตัวเข้าหาจนผมขยับหนีไม่ได้ หลังติดหัวเตียง อีกนิดเดียวมันจะจูบผมอยู่แล้ว ปากว่ามือถึงตลอด




“ฮ่าๆ”มันหัวเราะอารมณ์ดี เลิกนอยด์ที่ผมจะกลับบ้านพรุ่งนี้แล้วสิ แต่ผมนี่อกสั่นขวัญแขวน กลายเป็นคนกลัวถูกมันปล้ำไปเฉย




“ออกไปทำงานเลยไป”ผมไล่ ก็สถานการณ์มันไม่ค่อยปลอดภัย




“ไม่ทำแล้ว นอนกอดน่านดีกว่า พรุ่งนี้ก็ไม่อยู่ให้กอดแล้ว”นี่ก็เหมือนกันไม่มีคืนไหนที่มันไม่กอดผม ข้ออ้างก็เดิมๆกลัวผมนอนดิ้นโดนแผลตัวเอง ผมก็ยอมๆมันไปเป็นการพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองไปด้วย แล้วก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ผมคุ้นกับสัมผัสมันตั้งแต่เมื่อไหร่ เลิกรังเกียจหรือขนลุกตั้งแต่เมื่อไหร่




เฮ้อ...ท่าทางมึงจะไม่ไหวแล้วไอ้น่าน







--------------------------------------------------


มาแล้วค่าาาา ไม่ได้ตั้งใจจะมาช้า หลังจากไปเที่ยวก็ดันลืมกระเป๋าใส่พวกเมมกับทั้มไดร์ฟไว้ในรถเพื่อนแล้วเพิ่งได้เจอได้ส่งของคืนกัน ถถถ
ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้รอกันนานเลย ลืมกันไปหรือยังคะ ใครที่ลืมตอนเก่าย้อนกลับไปอ่านได้ค่ะ ฮ่าาาา (ยังไม่สำนึก)
เอ้อ ลืมเลย สวัสดีปีใหม่นะคะ คนอ่านที่น่ารักทุกท่าน ขอให้เป็นปีที่ดีอีกปีนะคะ
ขอให้สุขสมหวังในทุกเรื่องและมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรงสดใสนะคะ
ปีระกาปีไก่ ไม่ใช่ปีนก ปีนี้เราจะไม่นกกันนะคะ (อะไรของแก๊ 55555)  :hao3:

ในส่วนของน้ำน่านกับพี่เดียวนั้นก็ค่อยๆพัฒนาไปทีละขั้นเนอะ เรื่องนี้มันอาจจะยาว หรือเนื้อหายืดเยื้อในความคิดของใครหลายคน
ดูไม่ค่อยน่าติดตาม แต่เราตั้งใจให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ไม่อยากรีบเร่ง อยากให้ค่อยๆผูกพัน ซึมซับกันไปทีละน้อย
ด้วยบุคลิกของน้ำน่านเองก็ไม่ใช่คนที่จะตกหลุมรักใครง่ายๆ ก็เด็กมันกลัวความรักอ่ะเนอะ
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกแบบไหนที่เรียกว่ารัก คนแต่งก็ไม่รู้ #อ้าว 555 ดังนั้นการที่จะลงเอยกันภายในสิบตอน(??) มันก็คงไม่ใช่
เรื่องของเพื่อนๆก็มีเข้ามาในเรื่องค่อนข้างเยอะ พอๆกับฉากที่น่านกับพี่เดียวจะอยู่ด้วยกันเลย ใครเบื่อบ้าง 555
เราอยากให้เห็นว่าชีวิตจริงคนเราไม่ได้มีแค่พระเอก นายเอก มันมีตัวแปรหลายอย่างทำให้รักเกิดขึ้น
แม้ว่ารักนั้นจะเป็นเรื่องของคนสองคนก็ตาม เพื่อนๆเป็นตัวชูโรงให้รักอร่อยขึ้นนะคะ
(ชอบกลุ่มเพื่อนน้ำน่านมาก ก๊ากกก แอบเทใจให้น้องหมวยไปครึ่งดวง  :กอด1:)


พล่ามมาเยอะ ใจจริงแค่อยากจะบอกว่า ถ้าหากที่ผ่านมาเราทำไม่ดีพอ เราก็จะพยายามทำให้มันดีขึ้นนะคะ รักคนอ่านทุกคน
คนอ่านคือกำลังใจของเรา ทุกครั้งที่เห็นคอมเมนต์เห็นการติดตามทวงถามให้อัพเราก็อยากจะอัพทันทีเลย
แต่เวลาเราไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่เลยมาอัพช้าตลอด ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้รอกันนานๆนะคะ  :hao5:



ปล. ใครนึกรอยสักพี่เดียวไม่ออกเดี๋ยวจะอัพรูปไว้ในเพจนะคะ จะอัพในนี้ก็กลัวมันจะประเจิดประเจ้อไป รูปมันก็ค่อนข้างจะเซ็กซี่(??) 555

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-01-2017 22:49:47
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 03-01-2017 23:57:28
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 04-01-2017 00:12:14
มาแล้วววววว ชอบเรื่องนี้มากกกกกก ขอบคุณนะคะะะะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 04-01-2017 00:23:51
ดีใจที่มาต่อนะ ชอบมากจร้า อยากอ่านต่อเร็วๆ จร้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 04-01-2017 01:17:51
รอตอนต่อไป ไรท์อย่าหายไปนานน้าาา~~~ :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-01-2017 02:34:41
เราก็ชอบแบบนี้ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ได้กันทีเดียวแล้วจากรุกแมนๆอยู่ๆดีๆก็ไปหวั่นไหวกับเขาซะงั้น
รอติดตามตอนต่อไปจ้า
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 04-01-2017 04:15:55
รอตอนต่อไปป
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-01-2017 05:54:55
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากๆ
。◕‿◕。
น่าน เลิกสับสน คิดมากได้และ
รู้ตัวว่าเริ่มมีใจ ก็ปล่อยไปตามเสียงของหัวไจเถอะ
พี่เดียว ดีงาม อบอุ่น น่ารัก น่ากอด
แหะๆ............คนอ่านก็ชอบบบบบ :impress2:
น่าน ยอมรับรักพี่เดียวได้แล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 04-01-2017 08:25:59
เรายังรออยู่ คิดถึงจังเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-01-2017 14:48:10
ขอบคุุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 04-01-2017 19:11:54
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 05-01-2017 17:17:48
รอวันที่น่านเปิดใจ :mew1:
รอว่าเมื่อไหร่จะได้กัน..............อีก :hao6:
เด็กที่ชื่อปายนี่เป็นน้องคนละพ่อกับน่านปะ?
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-01-2017 21:53:37
มาแล้ว ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [03.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 16-01-2017 21:49:26
รอๆๆๆ นะ รอเสมอไม่เคยลืม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.28 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 16-01-2017 22:22:36
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 28 -







   แผลจานบาดนี่ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้ บางอย่างที่เคยทำได้ตอนนี้ก็ทำไม่ได้ อย่างเช่นการขับรถไปเรียน เมื่อเช้าก็ลองพยายามแล้วครับแต่มันไม่เวิร์ค คือมันก็พอถูไถไปได้แต่ไม่ถนัดไอ้พายก็บ่นผมใหญ่ว่าดันทุรัง ไม่เจียมสังขาร สุดท้ายลากเข้าดราม่ากลัวว่าผมจะไปประสบอุบัติเหตุเลยจับผมยัดใส่รถมันแล้วขับมาส่งถึงคณะ พอดีเจอกับไอ้เต้ที่หน้าคณะมันเลยฝากฝังให้ไปส่งผมตอนเลิกเรียนด้วย



   ไม่ได้มาเรียนหลายวัน พอกลับมาก็มีอุปกรณ์เสริมแบบพกพา ไปไหนต้องถือติดมือไว้ไม่งั้นจะเดินไม่ได้ต้องคลานเอา เลยเป็นที่สนอกสนใจของชาวคณะทุกชั้นปี ต่างเข้ามาทักทายเหมือนผมเป็นเซเลปทำคลิปหลุด เท่านั้นยังไม่พอขอลองอุปกรณ์เสริมผมด้วย เออ ลองกันไปเมื่อไหร่มีเป็นของตัวเองแล้วจะรู้สึกว่าชีวิตมันอยู่ยาก ลำบาก เป็นภาระสุดๆ



   “กูว่ามึงนั่งวีลแชร์อาจจะดีกว่า”



   “ห่า กูไม่ได้สาหัสขนาดนั้น”



   “แต่จะสาหัสแน่ถ้ามึงตกบันได คราวนี้คอหักแทนขาแน่ๆ ลำบากคนมาเก็บศพอีก”วันนี้ผมเรียนตึกเก่า มีสามชั้นซึ่งไม่มีลิฟต์ต้องลากสังขารเป๋ๆของตัวเองขึ้นลงบันได โดยมีไอ้พวกชั่วนี่คอยจิกกัดเป็นระยะทั้งขาขึ้นขาลง ไม่ช่วยแล้วยังจะซ้ำเติมกันอีกนะพวกมึง



   “ปากมึงนี่นะ กับผัวมึงพูดแบบนี้มั้ย”



   “ไอ้สัดกูไม่มีผัว! เดี๋ยวกูยันตกบันได”ไอ้หมวยโวยวายใหญ่ อะไรวะ ป่านนี้แล้วรุ่นพี่สถาปัตย์ยังไม่ได้กินเพื่อนผมอีกหรือยังไง



   “หึหึ อย่าให้พวกกูจับได้คาหนังคาเขาก็แล้วกัน”



ผมไม่ได้พูดนะ ไอ้เต้นู่น ไอ้นี่ก็น่ากลัว มันรู้เยอะเกินไปแล้ว นี่คงไปรู้อะไรดีๆมาแน่ ไม่งั้นไม่พูดแบบนี้ ไอ้โอ๊คก็น่าจะรู้ดูจากสีหน้าและรอยยิ้มมุมปากอันแสนกวนตีนของมัน ส่วนเจ้าของเรื่องได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดอะไรไม่ออก



   “ทำหน้าเหมือนหมาขาดอากาศ เอาน่ามึงจะมีผัวหรือมีเมียยังไงก็เพื่อนกู”ไอ้โอ๊คมันตบบ่าซี้มันปุๆ ก่อนจะเดินลากคอกันลงไป ไอ้หมวยหาเสียงเจอแล้วก็โวยวายไปตลอดทาง



   “มึงไปรู้อะไรกันมา”ผมถามไอ้คนที่เหลือ



   “เห็นกับตาว่ามันถูกผัวมันกระชากคอมาจูบที่สะพานการเวก”



   “ห๊ะ กล้ากันขนาดนั้น”โจ่งแจ้งกันในสถานศึกษาเลยนะ



   “คงไม่ได้ตั้งใจมั้ง น่าจะทะเลาะกันอยู่ เมื่อวานตอนค่ำกูกับไอ้โอ๊คจะเดินไปเซเว่นพอดี บังเอิญเห็นโคตรดุเดือด พี่เขาจูบแล้วเดินหนีทิ้งเพื่อมึงให้ยืนเป็นตอไม้ สงสัยไปกระตุ้นต่อมโมโหพี่เขามั้งเลยเจอดี”



   “เหอะๆ กูว่าแล้วว่าสักวันมันต้องโดนจับได้”



   “มึงก็รู้มาก่อนแล้ว?”



   “เออเจอกับตัวมาสองสามครั้งแล้ว แต่ไม่เด็ดเท่าที่พวกมึงเห็น”ก็มารับมาส่ง ตามไปเฝ้าที่หัวหิน



   “ผัวมันไม่ทำธรรมดานะ พี่ไวท์เฮดว้ากสถาปัตย์ปีนี้ โหดกว่าพี่กั๊กอีก ที่สำคัญพี่เขาดังมาก รวยมากทายาทเอสพีเอ็มกรุ๊ป สาวตรึม ผู้ชายก็ตามต้อยๆ”ข้อมูลไอ้เต้มาเต็ม ไปเรียนพวกสื่อสารมวลชนหรือควรจะเป็นนักสืบบ้านเล็กอะไรพวกนี้น่าจะรุ่ง ผมบอกแล้วว่าอย่าให้พวกมันจับได้ ต่อไปนี้ไอ้หมวยมันโดนเละแน่ๆ แต่ชีวิตมันคงหนีไม่พ้นพี่ว้ากเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น



   “กว่าจะมาถึงนะไอ้พวกเชี่ย มึงแดกเต่าเป็นอาหารหรือไง”ไอ้คนพูดมานั่งจองโต๊ะหน้าบึ้งหน้างอที่โรงอาหารคณะสงสัยระหว่างทาคงโดนไอ้โอ๊คไปหลายดอก



   “จะด่าก็ช่วยดูสังขารกูด้วย อย่ามาพาลกลบเกลื่อน เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย”ผมผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปสั่งไอ้เต้ให้ซื้อข้าวมาให้ ไอ้หมวยมันอยากกินข้าวมันไก่ที่โรงอาหารกลางโดยไม่สงสารร่างกายผมเลยสักนิด ที่มาช้าก็กว่าจะยัดไม้เท้าเข้ารถไอ้เต้แล้ววนมาหาที่จอดแถวโรงอาหารได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน



   “ไหนเอาสมุดจดงานมึงมาดูสิ”เมื่อวานที่ผมนัดพวกมันไปที่บ้านก็ไม่ได้ไปเพราะอยู่ทำงานกันจนดึก แต่มันก็ส่งรายละเอียดงานคร่าวๆมาให้ทางไลน์บ้างแล้ว



   “เอาไปเลย กูให้”ไอ้หมวยส่งกระดาษที่มันจดงานอย่างละเอียดมาให้ ถึงจะปากสุนัขชอบกัดไปทั่วแต่มันก็เป็นคนใจดี   



“แต๊งกิ้วน้องหมวยขอให้ผัวรักผัวหลง”



   “เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ”



   “เดี๋ยวกูโบก”ผมยกมือขึ้นจะตบกบาลมันแต่ก็มีใครมาดึงมือไว้ซะก่อน พอหันไปมองก็ต้องสะดุ้ง หน้าโหดมาก ตาจะดุไปไหนวะ



   “พี่มาไมเนี่ย”ไอ้หมวยมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวจะมีใครมาเห็น แต่แค่พี่เขาเหยียบเท้าเข้ามาในโรงอาหารกลางก็เป็นจุดสนใจแล้วป่ะวะ เห็นกันทุกคนนั่นแหละ



   “แล้วทำไมจะมาไม่ได้”พี่ไวท์นามที่ผมรู้จักจากไอ้เต้พูดขึ้นพร้อมกับวางถุงที่มีสัญลักษณ์ร้านสะดวกซื้อชื่อดังลงบนโต๊ะ ในนั้นมีขนมขบเคี้ยวที่ไอ้หมวยชอบอัดแน่นเต็มถุง เลี้ยงดูกันดีเหลือเกิน



   “มึงไม่ต้องกลัวไอ้เต้กับไอ้โอ๊คเห็นหรอก เพราะไม่ทันแล้ว”ผมบอกมันยังทำหน้างง จ้องหน้าผมนิ่ง



   “ก็เมื่อวานมึงเล่นจูบโชว์พวกมันไปเองนะ”



   “หะ!”มันร้องเสียงหลง อ้าปากพะงาบๆ หน้าค่อยๆแดงลามไปถึงหูโคตรตลกและน่าแกล้ง



   “หึหึ รู้กันหมดแล้วใช่มั้ย?”ถึงพี่แกจะหน้าโหดแต่เวลายิ้มแล้วโคตรจะดูดี แถมยังดูอบอุ่นขึ้นมาทันตาเมื่อมือใหญ่ลูบหัวไอ้หมวยอย่างเอ็นดู ไอ้ตัวดีตวัดตามองค้อนตาคว่ำหน้างอ



   “ใช่พี่”



   “ดี กูจะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ ทำเหมือนเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน เมียกูแท้ๆ”



   “ไม่ใช่เมียเว้ย!”เถียงทันควัน



   “จับปล้ำทำเมียเลยพี่จะได้หายปากดี”ผมบอกไม่สนใจเสียงหมาเห่า พี่ไวท์ก็ยังเอามือลูบหัวหมาเล่นพี่แกก็คงเพลินมือ ขน เอ้ย ผมมันนิ่มนะผมเคยจับ



   “ไอ้เชี่ยน่านหุบปากไปเลย”มันถลึงตาโตๆใส่ผม ไม่ได้น่ากลัวเลย เหมือนชิสุที่พยายามคิดว่าตัวเองเป็นเยอรมันเชฟเฟิร์ด



   “ก็อยากอยู่แต่สงสาร”สายตาพี่เขาโคตรอ่อนโยน เอ้อ ผมรู้สึกจั้กจี้ ทำไมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยนะ



   “กลับไปได้แล้ว รู้จักกันหรือไง คุยกันอยู่ได้”



   “พาลนะ ไปก็ได้ ตอนเย็นแวะไปหาด้วยล่ะ”พี่ไวท์ใช้เสียงสองในการคุยกับไอ้หมวย



   “ทำไมต้องไป...เออๆ เดี๋ยวไป”ผมกลั้นขำแทบตาย อยากจะงัดข้อกับเขาแต่แค่เขาจ้องหน้าทำตาดุใส่ก็หงอทันที ไอ้ลูกหมาเอ๊ย



   “ของกินด้วย”



   “เออ”



   “หึหึ เหมาะกับมึงดี”ผมพูดหลังจากพี่เขาเดินเท่จากไป โต๊ะข้างเคียงนี่มองกันเหลียวหลัง คนอะไรวะโคตรเท่



   “เงียบไปเลยไอ้สัด”



   “เอ้ามาด่ากูอีก”



   “ระวังตัวมึงไว้ด้วย”



   ผมยักไหล่ รู้ว่ามันหมายถึงเรื่องอะไร แต่ไม่สนและไม่แคร์ด้วยว่าใครจะรู้เรื่อง ระหว่างที่ผมนั่งฟังไอ้หมวยบ่นไอ้สองตัวที่หายไปนานมากก็กลับมาพร้อมกับจานข้าวมันไก่แบบพิเศษสี่จาน



   “เมื่อกี้กูเห็นใครมาแว๊บๆวะ”



   “คนที่พวกมึงเห็นจูบปากกับไอ้หมวยเมื่อคืนไง”ผมบอกไอ้หมวยหยิบกล่องป๊อกกี้ปาผมทันทีแต่รับไว้ทัน



   “อ๋อออออออออ”ไอ้สองตัวร้องยาว สีหน้ากรุ้มกริ่ม



   “เสาร์หน้าแดกเหล้าร้านเฮียเสกพามาแนะนำอย่างเป็นทางการกับพวกกูด้วยครับมึง”



   “ทำไมกูต้องทำงั้น”



   “ถ้าไม่คิดว่าพวกกูเป็นเพื่อนก็ไม่ต้องทำ”



   เจอไม้เด็ดไอ้โอ๊คไปไอ้หมวยก็นิ่งไป พวกผมก็เงียบนั่งกินข้าวไม่พูดไม่คุยเหมือนปกติ สร้างความกดดันให้ไอ้หมวยมัน ตอนแรกมันก็ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ผ่านไปสักพักมันก็นั่งไม่เป็นสุข



    “เออๆ ไอ้พวกเชี่ย รุมกูนะ”



   “รุมห่าอะไร ก็แค่พามาแค่นี้ ทำเป็นท่ามากนะมึง เก็บท่าไว้เล่นกับผัวมึงเถอะ”



   “ไม่ใช่เว้ย!”



   “ไม่ใช่แล้วยังไง มึงคบกับพี่เขายังไงก็ไม่รอด”ไอ้เต้ว่า



   “มึงไม่คิดว่ากูจะเป็นผัวมั่งไง?”



   พวกผมนี่ถึงกับวางช้อนลงยกมือขึ้นกอดอก พร้อมใจกันมองหน้ามัน ก่อนจะพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย




    “ถุย!!!”






X






“กูคงไม่ต้องไปส่งมึงแล้วสินะ”



พอลงมาจากห้องเรียนกำลังจะเดินไปขึ้นรถไอ้เต้ ก็เห็นคัมรี่ไฮบริดสีขาวมุกจอดเด่นอยู่หน้าคณะ เจ้าของรถเปิดประตูลงมาพอดี ได้ยินเสียงเปรตเพศเมียแถวนี้กรี๊ดขอส่วนบุญแสบแก้วหูชะมัด นี่มันก็เย็นมากแล้ว แดดก็ไม่มีไม่รู้พี่ท่านจะใส่แว่นกันแดดทำไม ชุดทำงานสุดเนี๊ยบเหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกพับแขนมาถึงข้อศอกปลดกระดุมบนสองเม็ดกับกางเกงแสล็คสีเทาอ่อนแบบพอดีตัว ดูดีจนน่าหมั่นไส้ เหมือนจะไปเที่ยวกลางคืนต่อ



“พี่มารับ”



“มาได้ไง”



“พายบอก”



“วุ่นวายจริงๆ”เมื่อเช้ามันก็สั่งไอ้เต้ไว้แล้วจะบอกไอ้พี่เดียวให้มารับทำไมวะ



“ผมฝากมันด้วยนะพี่”ไอ้เต้มันรีบชิ่งพร้อมกับส่งกระเป๋ากับซูมของผมให้พี่เดียวเฉย แต่เอาเถอะบ้านผมกับคอนโดมันคนละทางไปกับไอ้พี่เดียวก็ได้ เดี๋ยวคนมารับจะเสียน้ำใจ



ไอ้พี่เดียวมันเอาของผมไว้ด้านหลัง ส่วนผมก็เดินไปเปิดประตูข้างคนขับแล้วยัดตัวเองเข้าไปก่อนแล้วส่งไม้ค้ำให้ไอ้พี่เดียวไปเก็บ ก่อนจะปิดประตูก็เห็นไอ้โอ๊คมันยืนกอดคอไอ้หมวยมองผมมาจากบันไดขั้นบนสุดหน้าอาคาร ไอ้หมวยยักคิ้วให้ผม ส่วนไอ้โอ๊คหรี่ตามองเหมือนกำลังจับผิดเมียที่กำลังมีชู้



พอรถเคลื่อนตัวออก โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมก็สั่นครืดๆทันที พอหยิบออกมาดูก็เป็นกรุ๊ปแชทที่ไอ้หมวยมันรัวข้อความพร้อมสติ๊กเกอร์มาไม่ยั้ง ผมอ่านข้อความแล้วถึงกับหลุดหัวเราะ คำพูดที่ไอ้โอ๊คใช้กดดันไอ้หมวยเมื่อตอนเที่ยงถูกมันเอามาย้อน แต่เรื่องของผมกับมันมันไม่เหมือนกัน ผมอ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไร ปิดสั่นเปิดเสียงแล้ววางโทรศัพท์ไว้ตรงช่องด้านข้างประตู



“ขำอะไร”



“เพื่อนมันบ้า แล้วนี่ไม่ไปกินเลี้ยงกับลูกค้าหรือไง”



“วันนี้ไม่มี อยากกินไรเดี๋ยวพี่พาไป”



“ผัดไทย จำที่เคยบอกได้ป่ะว่ามีร้านขายอาหารเยอะๆแถวบ้านอ่ะ”



“อาหะ”



“เดี๋ยวบอกทางให้”ผมอยากกินใกล้ๆบ้านรีบกินรีบกลับ ไม่ใช่อะไรงานเยอะต้องรีบกลับมาเคลียร์



“ดีนะวันนี้เอาคันนี้มา”



พี่เดียวมันมีรถหลายคันมาก คนมันรวยอ่ะนะนึกแล้วก็หมั่นไส้ คันที่มันขับไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวันจะมีอยู่สองคันคือคัมรี่คันนี้กับเบนซ์ SLK ส่วนแอสตันมีไว้ขับล่อสาวใช้ตอนเที่ยวหรือไปงานเลี้ยงหรู ซึ่งผมก็คิดว่าดีแล้วที่มันเอาคันนี้มา ขืนเอาแอสตันมาแล้วไปจอดแวะกินข้าวข้างทางกลับมารถเป็นรอยคงเสียดายแย่ ส่วนฟอร์จูนเนอร์ที่เคยเอามาใช้เป็นของพี่หมอวิน



“เดี๋ยวพี่มารับมาส่งดีกว่า จะได้ไม่ลำบาก”



“ไม่ต้อง เทียวไปเทียวมาทำไม ที่ทำงานกับมหาลัยก็คนละทาง”



“ก็ไม่ได้มาทุกวัน วันไหนมีเรียนเช้าพี่ก็ไปส่ง ตอนเย็นถ้าไม่ติดงานพี่ก็ไปรับไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนมาไม่ได้พี่จะโทรมาบอก”



“ตามใจ”



“หืม?”



“อะไร?”หยุดมือที่กำลังเลื่อนไปปรับแอร์แล้วหันไปมองหน้ามัน



“ทำไมว่าง่ายจัง”



“เอ้า งั้นไม่ก็ไม่ต้อง”



“ไม่เอา แค่แปลกใจปกติต้องด่าให้แสลงหูสักยกสองยก”



 “ขี้เกียจ ด่าไปก็ไม่รู้สึก ชอบบังคับอยู่แล้วนี่”จริงๆผมแค่อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำบ้างก็เท่านั้น ลองดูสักครั้งให้รู้กันไปว่าดีหรือไม่ดี
พี่เดียวมาส่งผมที่บ้านหลังจากมื้อเย็นที่อิ่มจนท้องจะแตกเพราะกินทุกอย่างที่อยากกิน กินไม่หมดก็ให้คนพามาช่วยกินด้วย ไอ้พี่เดียวดูตื่นตาตื่นใจมาก ไม่เคยกินร้านข้างทางแบบนี้สินะ พลาดแล้ว



“ทำเองก็ได้”ผมบอกไอ้พี่เดียวที่กำลังล้างแผลเปลี่ยนผ้าพันให้ใหม่ กลับมาถึงมันก็ไล่ผมไปอาบน้ำ ข้าวยังไม่ทันย่อยดีด้วยซ้ำ แต่ผมก็เหนียวตัวเลยยอมทำตาม อาบเสร็จไอ้พี่เดียวก็นั่งรอบนเตียงผมพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผลครบมือ มันบอกแวะซื้อก่อนจะไปรับผมที่คณะ



“ทำเองจะไปถนัดได้ยังไง นั่งเฉยๆเถอะจะดีเอง”พอมันว่าอย่างนั้น ผมก็เลยยื่นเท้าไปให้มันอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ เท้าเกือบโดนหน้าอกมัน ไอ้พี่เดียวเลยทำตาดูใส่แล้วดีดตาตุ่มผม ไม่เจ็บแต่ก็อยากทำเท้ากระตุกใส่อีกสักรอบ



“พรุ่งนี้มีเรียนเช้านะ”



“พี่รู้ ตอนบ่ายไม่มีเรียน มีเรียนอีกทีสี่โมงเย็นเลิกหนึ่งทุ่ม”



“รู้ดี”



“เจ็ดโมงพี่มารับที่บ้าน เลิกเรียนแล้วก็รอด้วยนะ”



“อืม”



“ว่าง่ายๆ แบบนี้สิดีพี่ชอบ”



“ชอบให้ได้ตลอดเหอะ”



“ก็รอดูกันต่อไป”มันยิ้มมุมปาก เก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องก่อนจะเดินไปล้างมือในห้องน้ำ ส่วนผมก็ขยับตัวเองลงมานั่งทำงานบนพื้นบริเวณปลายเตียง ใจจริงอยากจะลงไปทำที่ห้องนั่งเล่น พื้นที่กว้างๆแต่ก็ขี้เกียจยิ่งเท้ายังไม่หายก็ไม่อยากเดินเยอะลำบากตัวเอง พี่เดียวมานั่งลงข้างๆ มือก็คอยลูบหัวผมไปด้วย เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย รบกวนสมาธิจริงๆ



“ไม่เหนื่อยหรือไง ไม่รีบกลับไปอาบน้ำนอน”ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้า เพราะกำลังอ่านรายละเอียดงานที่จะต้องทำส่งชิ้นแรกอยู่



“นอนนี่ได้มั้ยล่ะ”



“โซฟาข้างล่างว่าง”



“อะไรว้า เตียงตั้งกว้างให้พี่นอนด้วยไม่ได้เหรอ”



ผมหันไปแสยะยิ้มให้มัน




“ฝัน!”





X






ช่วงนี้มีมรสุมเข้าฝนตกทุกวัน ถ้าไม่ตกเช้าในเวลาเร่งด่วนที่ทุกคนรีบเร่งไปทำงาน ก็ตกเย็นเวลาเลิกงานพอดิบพอดีราวกับตั้งโปรแกรมไว้ รถที่ติดอยู่แล้วยิ่งสาหัสเข้าไปอีก ขนาดมีคนขับให้นั่งเฉยๆผมยังรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ ขนมขบเคี้ยวที่กินฆ่าเวลาไม่ช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย



“พี่แวะห้างข้างหน้าเหอะ หาอะไรกิน ดึกกว่านี้ค่อยกลับ”ผมบอกสารถีส่วนตัวที่ช่วงนี้ก็ดูว่างแปลกๆ ปกติจะบินไปนั่นไปนี่ หายตัวครั้งละหลายวัน แต่ตั้งแต่ผมเจ็บเท้าก็เช้าถึงเย็นถึงรับส่งไม่ขาด ไอ้พวกเพื่อนชั่วทั้งหลายก็แซวจนเลิกแซว เพราะผมไม่เต้นไปตามพวกมัน หมดสนุกก็เลิกกันไป



“ดีเหมือนกันพี่หิวมากเลย กลางวันไม่ได้กินข้าว”



“แล้วทำไมไม่กิน”



“มีประชุมยาวเลย เสร็จอีกทีก็บ่ายต้องออกไปดูโรงงานที่นครนายกด้วยเลยไม่มีเวลา”



“ถ้างานยุ่งแบบนี้ก็ไม่ต้องมารับดิ แทนที่จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น”



“ไม่อ่ะ ทำอย่างอื่นก็ไม่ดีเท่าอยู่กับน่าน”



“ต้องเขินมั้ย?”หยอดเหมือนผมเป็นผู้หญิงเลยนะ



“แล้วอยากเขินมั้ย?”



มันหันมาทั้งตัว เอามือวางที่ต้นขาผมแล้วลูบขึ้นลงเบาๆพร้อมกับสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม ใบหน้าโน้มเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนตัวหนี



“ใกล้ไปแล้วๆ”



“โอ๊ยๆ น่านเลอะหมดแล้ว ฮ่าๆ”ผมรีบเอามันฝรั่งทอดแผ่นหยักยัดปากมัน เผลอไม่ได้จ้องจะลวนลามตลอด นับวันผมก็ยิ่งสงสัยว่าตัวเองมีอะไรให้ผู้ชายอย่างไอ้พี่เดียวมาพิศวาส หรือมันจะติดใจลีลาผมวะ โอ่ย แค่คิดก็ขนลุก



ใช้เวลาอีกเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะมาถึงทางเข้าห้างสรรพสินค้าที่ผมหมายตาไว้ แล้วก็มาเสียเวลาวนหาที่จอดอีกร่วมสิบนาที ผมนึกอยากให้พี่เดียวมันขับแอสตันมาวันนี้เหลือเกิน



“ให้พี่ช่วยพยุงมั้ย”



“ไม่เป็นไร แค่เดินช้าๆก็พอ”ตอนนี้ผมทิ้งอุปกรณ์เสริมไว้ที่บ้านเพราะแผลเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังลงน้ำหนักเต็มๆไม่ได้ ยังรู้สึกเจ็บแปล๊บๆอยู่บ้าง เวลาเดินก็ต้องเดินช้าๆ



“สุกี้นะ”ผมตัดสินใจเอง อากาศเย็นๆแบบนี้ได้กินอะไรร้อนๆก็คงดี



“ได้ทั้งนั้น”



โชคดีที่ร้านสุกี้ชื่อดังคิวไม่เยอะมาถึงเลยได้โต๊ะเลย ผมจิ้มรายการอาหารที่ต้องการแบบรัวๆ ตอนแรกก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่พอเข้าร้านมาได้กลิ่นอาหารก็หิวมากขึ้นมาทันที



“เอาไรเพิ่มมั้ย?” ผมกวาดสายตามองรายการอาหารที่กดสั่งไป



“เอาหมูกรอบจานเล็กมาด้วยพี่อยากกิน แล้วก็บะหมี่ผัก”



นั่งรอไม่นานทุกอย่างที่สั่งก็มาเสิร์ฟจนโต๊ะไม่มีพื้นที่ว่างผมเลยรีบจัดการเอาทุกอย่างลงหม้อ ราดไข่เป็นอย่างสุดท้ายแล้วปิดฝา ส่วนไอ้พี่เดียวพอหมูกรอบกับบะหมี่ผักมามันก็ไม่สนใจอะไร ตั้งหน้าตั้งตากินท่าทางจะหิวมากจริงๆเห็นแล้วก็สงสาร



“ค่อยๆกินดิ เดี๋ยวก็ติดคอ”ผมคีบเป็ดใส่จานพี่เดียวไปสองชิ้น แล้วนั่งมองมันกิน พอน้ำในหม้อเดือดของทุกอย่างสุกก็ตักสุกี้ให้จนเต็มถ้วย



“ร้อนนะ”



“ขอบคุณนะ”มันยิ้มให้



“กินเหมือนเด็กเลยพี่ อะไรจะหิวขนาดนั้น”



“ทั้งวันได้กินกาแฟกับแซนด์วิชไปชิ้นเดียวเอง”



ช่วงแรกก็นั่งกินกันไปเงียบๆ แต่พอไอ้พี่เดียวเริ่มอิ่มมันก็ชวนผมคุยพร้อมกับบริการตักอาหารให้ ของที่สั่งมาหมดเกลี้ยงทุกอย่าง น้ำซุปเหลือติดหม้อพอไม่ให้ไหม้ พ่อครัวมาเห็นคงจะร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้ม



“ไปเดินย่อยกันพี่”ผมยังไม่อยากกลับ อยากเดินดูของใช้สักหน่อย เหมือนไม่ได้มาเดินห้างนานแล้ว



“เหมือนมาเดทกันเลย”คนข้างๆพูดขึ้นมา ผมทำหน้าเอือมใส่ ไม่สนใจรอยยิ้มที่มันมอบให้ แต่พอมาคิดดูแล้วก็เหมือนจะใช่ กินมื้อเย็นด้วย เดินเล่น ถ้ามีดูหนังด้วยก็ครบเลย ผมเดินเข้าออกอยู่หลายร้านแต่ได้ของมาแค่สองอย่าง ส่วนไอ้พี่เดียวได้เสื้อโปโลยี่ห้อเดียวกับผมมาหนึ่งตัว ใจจริงผมอยากได้รองเท้าด้วยแต่เท้าเจ็บลองไม่ได้เลยต้องผ่านไปก่อน ตอนนี้ก็เริ่มเจ็บขึ้นมานิดๆแล้วเพราะเดินเยอะ เลยต้องเกาะแขนไอ้พี่เดียวไว้เป็นหลัก



“นั่งพักก่อนมั้ย”



“พี่จะไปดูหนังสือไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวค่อยไปนั่งในนั้น”



พี่เดียวพาผมมาปล่อยไว้ตรงที่นั่งอ่านหนังสือในร้าน ส่วนตัวมันก็หายไปกับชั้นหนังสือต่างประเทศ ระหว่างนั่งพักขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีข้อความจากโปรแกรมแชทสีเขียวขึ้นเตือนหลายข้อความ ผมเลือกเข้าไปอ่านกรุ๊ปไอ้เต้ก่อนเพราะมีอยู่ยี่สิบแปดข้อความ พอไล่ดูขึ้นไปเรื่อยจึงรู้ว่าผมเป็นหัวข้อสนทนาของพวกมันอยู่ โดยมีรูปหนึ่งรูปใช้เปิดประเด็น เป็นรูปที่ผมเกาะแขนไอ้พี่เดียวเดินออกจากร้านเสื้อเมื่อสิบนาทีก่อน คนส่งคือไอ้หมวย ผมกดโทรหามัน เหมือนมันจะรออยู่แล้วเลยกดรับแทบจะทันที



“ว่างนะมึงไอ้สัด ตอนนี้อยู่ไหน ไสหัวมาให้กูตบซะดีๆ”



“อะไรๆ จะตบหัวกูเรื่อง?”แล้วมันก็หัวเราะลั่น



“อย่าให้กูทำมั่งนะมึง กูจะเอาให้หนักเลย”



“อย่าๆ มึงอย่ามาขู่กูซะให้ยาก กูไม่กลัวเว้ย ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”



“เดี๋ยวกูจะส่งรูปที่วันนี้ไอ้ฐามันเอาขนมมาให้มึงส่งให้พี่ไวท์”



“เชี่ย อย่ามาขู่มึงไม่มีหรอก แล้วมึงก็ไม่มีไลน์พี่ไวท์ด้วย”



“แน่ใจ?”



ใครว่าผมไม่มี พี่ไวท์มันแอดไลน์ผมมาเองเลย มีเบอร์ด้วย ไม่รู้ไปเสาะหามาจากไหน พอเปิดตัวแล้วก็ใช้ผมเป็นสายซะงั้น ให้สอดส่องและรายงานความประพฤติของไอ้หมวย แต่ผมก็ไม่ได้รายงานอะไร คนคบกันก็ต้องไว้ใจกันสิ แล้วเพื่อนผมมันก็ดูแลตัวเองได้ พวกลิ้นไรที่มาตอมก็มีไอ้โอ๊คคอยปัดเป่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามันมีอะไรที่พวกผมจัดการไม่ได้เมื่อนั้นช่องทางการติดต่อที่มีก็คงได้ใช้



“ไอ้น่าน มึงอย่าทำนะเว้ย กูยังอยากมีชีวิตอยู่”



“พี่เขาจะทำอะไรมึง ดูเขารักมึง เอ็นดูมึงขนาดนั้น”



“มันขี้หึง โหดด้วย”



“หึหึ ไม่แน่จริงนี่หว่า”



“เออๆ กูป๊อด กูยอมรับ มึงอย่าส่งนะเว้ย”



“แล้วมึงถ่ายรูปกูทำไม ตกลงอยู่ไหน”



“อยู่ในห้างนี้แหละมากินข้าวกับพี่มัน กูเห็นมึงพอดี ควงกันขนาดนี้มึงยังปฏิเสธว่ายังไม่คบกันอีกเหรอวะ”



“เออ ไม่ได้คบ”



“แล้วในรูป แล้วที่กูเห็นคืออะไร”



“กูเจ็บตีน กูเลยจับมันไว้ มึงก็มโนไอ้สัด”ผมด่ามันก็หัวเราะก่อนจะชิงวางสายไป ได้ยินเสียงที่ลอดเข้ามาว่าให้มันรีบกินได้แล้ว พอผมวางสายไอ้พี่เดียวก็เดินกลับมาพร้อมหนังสืออ่านเล่นภาษาอังกฤษสองเล่ม



“แค่นี้?”หายไปนานคิดว่าจะได้มากกว่านี้ แอบไปหลับมาหรือเปล่าเนี่ย



“ครับ กลับกันเลยมั้ย น่านอยากได้อะไรอีกมั้ย แต่พี่ว่ารอให้หายดีก่อนมั้ย เดี๋ยวแผลไม่หาย”



“อืม กลับก็ได้ รถคงเลิกติดแล้ว”กว่าจะไปถึงบ้านก็คงดึก แล้วกว่าไอ้พี่เดียวจะกลับคอนโดตัวเองอีก จากที่ไปอยู่ร่วมห้องมาหลายวัน พี่เดียวมันไม่เคยนอนเร็ว กลับห้องไปก็ยังต้องทำงานอีก จะว่าบ้างานก็คงไม่ใช่ แต่พี่ท่านก็ทำงานหลายอย่าง รวยจนไม่รู้จะรวยยังไงแล้วยังจะทำงานเหมือนกลัวว่าพรุ่งนี้เงินในบัญชีจะหมด



ถึงรถจะยังคงหนาแน่นอยู่ในบางช่วงแต่ก็ยังดีกว่ารถติดไม่เคลื่อนที่ไปไหนเลย พี่เดียวพาผมมาส่งบ้านในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่แทนที่จะรีบกลับก็ยังต้องมานั่งรอผมอาบน้ำแล้วทำแผลให้ ไอ้พี่เดียวทำอย่างนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่มาส่ง การที่มีใครสักคนมาคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยมันรู้สึกดีแบบนี้เอง



“เหนื่อยมั้ย?”



ใบหน้าของคนที่คุกเข่าก้มหน้าตั้งอกตั้งใจทำแผลให้ค่อยๆเงยขึ้นมอง ทำให้ระยะห่างระหว่างผมกับพี่เดียวนั้นลดลง เราสบตากันในระยะประชิด ก่อนที่อีกฝ่ายจะคลี่ยิ้มบางๆ คิดว่าคงจะเข้าใจคำถามที่ผมส่งไป



“ไม่เหนื่อยหรอก”



“โม้”



“งั้นก็เหนื่อยนิดหน่อย ขอกำลังใจหน่อยสิ”พูดไม่พอหันหันแก้มมาให้ด้วย ผมผลักออก เจ้าของแก้มก็หัวเราะเบาๆ



“ทำดีหวังผล?”มือผมหยุดค้างอยู่ข้างแก้มคนตรงหน้า สายตาที่ส่งตรงมามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะ



“อาหะ หวังผลระยะยาวด้วย”มันยิ้มมุมปาก ยกมือขึ้นแตะแก้มผมกลับมาบ้าง ทำไมต้องมาใจดี ต้องมาอ่อนโยนใส่ มาใส่ใจห่วงใยกันด้วยนะ มาทำให้ระบบชีวิตของผมรวนทำไมกัน



“อยากหายกลัวหรือยัง?”




“ผม...ไม่ได้นิสัยดีหรอกนะ ในอนาคตไม่รู้ว่าจะแย่กว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า”ผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าถ้าหากจริงจังกับใครขึ้นมาสักคนตัวเองจะเป็นคนยังไง ผมจะทำให้คนตรงหน้าหายไปหรือเปล่า ถึงจะยังไม่ได้รัก ถึงจะไม่รู้ว่าจักคำว่ารัก แต่ถ้าใครสักคนที่ดีกับเราหายไป มันก็คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า



“ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตสิ ตอนนี้เราก็ค่อยๆศึกษากันไป พี่เองก็มีส่วนไม่ดี ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก”



“...”



“พี่จะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ”




“...”



“เป็นแฟนกันนะ”




ชีวิตคนเรามักจะพบกับจุดเปลี่ยนหลายครั้งหลายหน การที่ต้องเลือกเส้นทางเดินที่รออยู่ข้างหน้าซึ่งไม่รู้ว่าแต่ละเส้นทางนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง มันทำให้เราวิตกกังวล บางครั้งก็สับสนและลังเลที่จะเลือก ความกลัวเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจ สมองคิดไปไกลกว่าตรงจุดที่เท้ายืนอยู่







ก้าวแรกมักจะยากเสมอ แต่ผมก็ตัดสินใจที่จะก้าวออกไป












-----------------------------------------------

ในที่สุดดดดดดดดดด คนบางคนก็เริ่มจะหายกลัวแล้วววว :hao5:

#รักไม่ได้ออกแบบ
#รักทุกคนนะคะ
#กอดเรียงตัว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 16-01-2017 22:58:11
ดีใจที่มานะ เม้นต์ว่ารอ พอกดอีกทีเห็นมาเลย เย้ แต่คำตอบนี่ต้องรอเรื่องมาต่ออีกหลายวันหรือเป็นเดือนไหมนะ  :mew6: อยากอ่านต่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-01-2017 23:26:55
ได้อ่านแล้ว  ดีใจจัง  มาบ่อยๆนะ 
น่านใจอ่อนให้พี่เดียวแล้ว  เป็นนิมิตหมายอันดี
พี่เดียวน่ารักมาก  ดูแลน่านดีมาก
คู่น้องหมวยก็น่ารัก  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-01-2017 23:29:19
ตอบตกลงสิคะ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องคิดมันล่ะค่ะ

ทิ้งความกลัว แล้วก้าวออกมาจ่ะ เด็กน้อยของเจ้
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-01-2017 23:58:11
ในที่สุดวันนี้ที่รอคอย....นิยาย#ผิดๆ ต้องเป็นรอคอย....น้ำน่านก้าวเดิน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-01-2017 00:38:24
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 17-01-2017 00:49:29
มีพัฒนาการอย่างแรงกล้า ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ 555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 17-01-2017 01:08:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-01-2017 14:52:38
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 17-01-2017 17:54:31
อยากได้แบบพี่เดียวบ้าง หาได้ที่ไหน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 17-01-2017 19:20:41
โอ้ จุดพลุฉลองด่วนๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 18-01-2017 13:36:28
โอ้ยยย ปิดร้านสุกี้เลี้ยงเล้ยยยย กว่าจะคบกั๋นนนน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-01-2017 14:28:34
น่าน รู้ตัวแล้วว่ามีความรู้สึกดีๆกับพี่เดียว
ซึ้งกับการที่มีใครสักคนมาคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยมันรู้สึกดี
น่าน ก็ยอมเป็นแฟนกับพี่เดียวได้ละ
พี่เดียว คงเสียหน้าแย่ ถ้าน่านเมิน
พี่เขาเคยขอเป็นแฟนน่านมาแล้วนี่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.27 P.10 || [16.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 21-01-2017 00:30:16
ชอบความพยายามของพี่เดียวจีง ถึงแม้จะเริ่มความสัมพัธ์แบบกระท่อนกระแท่นก็ตาม แต่พี่เดียวเป็นพระเอกที่สมบูรณ์แบบมากๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 20-02-2017 21:39:03
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 29 -





   
   “อื้อ...อย่ากวน”




   ผมพลิกตัวหนีความเย็นที่สัมผัสใบหน้า แต่สิ่งนั้นก็ยังคงตามมารบกวนการนอน จนต้องลืมตาแล้วพลิกตัวกลับมามอง ที่มาของความเย็นคือขวดน้ำเปล่าที่มีไอน้ำเกาะพราว มองไล่ขึ้นไปก็เห็นไอ้พี่เดียวยืนยิ้มอยู่ เสื้อที่ใส่ปลดกระดุมทุกเม็ดโชว์กล้ามท้องเป็นลอนกับอกแน่นๆ ถ้าเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นเบียร์สักประป๋องคงจะเหมาะกว่านี้



   “กินข้าวได้แล้ว เผลอไม่ได้เลย หลับตลอด”



   ผมลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อไล่ความง่วง ช่วงนี้เร่งทำงานให้ทัน เพราะเสียเวลาตอนป่วยไปเยอะ สามวันที่ผ่านมาผมนอนวันสามสี่ชั่วโมงเห็นจะได้ แล้ววันนี้ก็เพิ่งได้เจอไอ้พี่เดียวหลังจากวันนั้นที่ยอมตกลงคบกันมันไป




   สถานะตอนนี้คือ ‘แฟน’ เป็นสถานะที่ผมไม่คิดว่าจะได้ใช้กับใครในชีวิตนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าคนแรกที่ได้ใช้จะเป็นไอ้พี่บ้านี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแฟนมันต้องเป็นกันยังไง แต่ผมก็ยังทำตัวปกติเหมือนเดิม ส่วนพี่เดียวที่ทำตัวว่างมานาน หลังจากผมตอบตกลงปุ๊บคิวงานต้องบินไปต่างประเทศก็เข้ามาปั๊บเหมือนรู้จังหวะ มันเพิ่งกลับมาเมื่อคืน เช้ามาก็ไปทำงานและเพิ่งได้เจอกันเมื่อเย็นนี้เอง




   “ก็คนมันง่วงอ่ะ”




   “พี่อุ่นกับข้าวไม่ถึงสิบนาทีก็ยังจะหลับได้นะ ไปล้างหน้าไป”




ผมลากตัวเองมาล้างหน้าไล่ความง่วง วันนี้หลังเลิกเรียนไอ้พี่เดียวไปรับที่คณะมาที่คอนโดมัน เมื่อเช้าผมติดรถไอ้พายไป รถตัวเองไม่ได้แตะเลยตั้งแต่เท้าเจ็บ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเกือบจะหายสนิทแล้ว และพบว่าการมีคนขับรถให้นั่งนี่มันโคตรสบายเลย




“โห บ้านพี่ทำกับข้าวทีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”ผมมองกับข้าวห้าหกอย่างที่วางเรียงบนโต๊ะแทบไม่มีพื้นที่ว่าง แล้วปริมาณแต่ละอย่างมันไม่น้อยเลย




“ป้าให้เด็กทำให้โดยเฉพาะ พี่บ่นๆไปว่าอยากกิน เลยจัดมาให้ชุดใหญ่เลย”




“อร่อยอ่ะ!”ยำสามกรอบนี่อร่อยสุดๆ ตัวเอกทั้งสามยังกรอบอยู่เลยสงสัยพี่เดียวมันจะเอามาคลุกเอง




“งั้นกินเยอะๆ”




พอคำแรกเข้าปากไปก็รู้ตัวว่าหิวโซมาก อาหารบนโต๊ะอร่อยทุกอย่างจนผมกินเพลินเติมข้าวไปสามจาน เสร็จแล้วก็ต้องนั่งนิ่งขยับตัวไม่ไปไหนไม่ไหว




“เดี๋ยววันหลังพาไปกินที่บ้านใหญ่”



“ไม่เอา”




“ทำไม มีแต่คนดีใจอยากจะให้พี่พาเข้าบ้านทั้งนั้น”




“งั้นก็ไปพาคนที่เขาอยากไปดิ”แม่งพูดจาไม่เข้าหู




“อะไรๆ งอนหรือไง ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”




“ใครงอน พูดมาก ล้างจานไปเลย”




ไอ้พี่เดียวหัวเราะน่าหมันไส้ ผมเดินหนีมานั่งดูทีวีที่โซฟา รอไอ้พี่เดียวไปส่งที่บ้าน คืนนี้มีนัดกันกับพวกเพื่อนชั่วที่ร้านเฮียเสก ไอ้พี่เดียวมันก็นัดเพื่อนมันเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการรวมโต๊ะนั่งแต่อย่างใด




“อย่าแต่งให้มันหล่อมากนัก”ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ไอ้พี่เดียวก็ตะโกนบอกมา มันนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านผม ตัวมันเองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วถึงได้มาส่งผมที่บ้าน ตอนแรกผมจะขับรถไปเองแต่มันไม่ยอม เถียงกันอยู่นานสุดท้ายผมก็ต้องยอมมัน ผมจะกินให้เต็มที่เลยไหนๆก็มีคนพากลับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่มันจะปล้ำผมตอนเมานั้นผมไม่กลัว เพราะบอกมันไปแล้วถ้าทำก็ถือว่าขาดกัน ผมพูดจริงทำจริง




“ทำไม?”



“หวง!”



ผมแสยะยิ้ม กูจัดเต็มแน่ครับคืนนี้




X





“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นปวดท้องไง?”คนข้างๆผมหน้าตาไม่สบอารมณ์ หน้าหงิกตั้งแต่เห็นผมแต่งตัวเสร็จ ก็บอกแล้วคืนนี้จะจัดเต็ม จะเอาให้สาวๆเหลียวหลังจนคอเคล็ดไปเลย




“ยังจะมาถามอีก”




“ก็มาเที่ยวอ่ะ จะให้ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขสั้นลากแตะมาไง”ผมถามมันกวนๆ ไอ้พี่เดียวทำเสียงจิ๊จ๊ะม่พอใจ เห็นมันอารมณ์ไม่ดีแล้วมีความสุข ถึงใครจะเข้าหาแต่ถ้าผมไม่เล่นด้วยใครจะมาทำอะไรได้ แค่นี้ทำไมคิดไม่ได้นะ




“มาเที่ยวครับคุณ ยิ้มหน่อยๆ โต๊ะคุณยังไงก็มองเห็นโต๊ะผมนี่ ระแวงไรวะ”ผมตบแก้มมันเบาๆ โต๊ะประจำของมันอยู่ด้านบน เป็นส่วนตัว มองลงมาก็เห็นด้านล่างเกือบทุกโต๊ะ




“ไม่ได้ระแวง แต่หวงเข้าใจมั้ย”




“เออๆ เข้าไปข้างในไป ทำหน้าดีๆด้วยพี่ หน้าบึงแบบนี้สาวๆหนีหมดจะหาว่าไม่เตือน”




“อยากให้ได้สาว?”




“ก็แล้วแต่นะ”ถ้ามันได้ผมก็จะเอามั่ง ควบสองคนไปเลย




“หึ ระวังตัวด้วยล่ะ แล้วท่องไว้ด้วยว่ามีแฟนแล้วนะครับคุณน้ำน่าน”มันชี้หน้าผมเป็นเชิงขู่ คิดว่ากลัวไงวะ ผมขี้เกียจพูดด้วยก็เลยเดินเข้ามาก่อน ร้านเฮียเสกเปลี่ยนของตกแต่งใหม่ บรรยากาศแปลกตาไปอีกแบบ แต่มุมการจัดวางโต๊ะยังเหมือนเดิม ผมเดินตรงไปที่โต๊ะประจำ เห็นแวบๆว่าไอ้พี่เดียวเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว ตอนนี้สามทุ่มคนเริ่มหนาตา แต่ถ้าดึกกว่านี้จะยิ่งเยอะขึ้น เพลงก็จะมันขึ้นด้วย




“ช้านะไอ้สัด”ยังไม่ทันหย่อนก้นนั่ง ไอ้หมวยก็สรรเสริญทันที




“มึงรีบมากไง?”ผมย้อน ที่จริงเรานัดกันวันเสาร์ แต่จู่ๆเปลี่ยนกะทันหัน เพราะร่างกายมันเรียกร้องอยากจะได้รับแอลกอฮอล์ แต่เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่แต่ละคนก็ติดภารกิจนั่นนี่กันเลยไม่ได้ระบุเวลาที่แน่นอนใครมาก่อนก็เริ่มก่อนได้เลย ตอนนี้ไอ้คิมก็มาแล้วนั่งกดโทรศัพท์อยู่ข้างไอ้หมวย




“เออ ไอ้เชี่ย ไหนพี่เดียววะ”




“ถามหามันทำไม คิดถึงมันหรือไง”




“เออ คิดถึงม๊ากมาก”ท่าทางน่าหมั่นไส้จนอยากดีดกระโหลก




“ข้างบนนู่น คิดถึงก็ขึ้นไปหา แล้วผัวมึงล่ะ”




“ไม่ใช่ผัว! เดี๋ยวมันมา”ตลกมากครับเพื่อน ถึงจะแย้งแต่อีกคำตอบก็เหมือนจะยอมรับ ผมส่ายหน้าแล้วรับแก้วมาจากไอ้เต้ที่นั่งหัวเราะกับคำตอบของไอ้หมวย ไม่ถึงสิบนาทีแก๊งวิศวะก็ตามมาช่วยกันเรียกเรตติ้งให้โต๊ะผม เริ่มมีสาวๆเข้ามาคุยด้วย แต่ผมเฉยๆ พวกนี้เป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกับพวกผมรู้จักกับพวกไอ้ธันว์ มีส่งสายตาให้ผมบ้างแต่ผมไม่ค่อยสนแนวนี้




“ผมไม่ได้สั่งนะพี่โต้ง”ผมบอกพี่พนักงานเสิร์ฟที่คุ้นกันดี เหล้าสองขวดพร้อมมิกซ์อีกจำนวนหนึ่งที่ถูกยกมาทำเอาพวกผมงง




“อภินันทนาการจากด้านบนครับ”ทั้งโต๊ะเงยหน้าขึ้นไปทันที มีใครบางคนทำตัวเป็นพระเอกยืนเท้ากับราวกั้นด้านบนพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าทักทาย ผมเบ้ปากทันที ทำตัวเป็นป๋านะ แต่เสนอมาจะไม่สนองกลับไปก็กระไรอยู่ ของฟรีใครบ้างไม่ชอบ




“เฮียเขาฝากบอกมาว่าวันนี้กินให้เต็มที่ครับ เฮียเลี้ยง แต่คุณน่านห้ามเมานะครับ”




“อะไรวะพี่ เต็มที่แต่ห้ามเมา”




“หมายถึงเพื่อนๆคุณน่านที่เต็มที่ครับ ส่วนคุณน่านห้าม มีอะไรเคลียร์กับเฮียเอง ผมไม่เกี่ยวนะ”แล้วพี่โต้งก็เดินจากไป




“กูพลาดอะไรไปหรือเปล่าวะ”ไอ้อ๊อดมองหน้าผมแล้วอมยิ้ม พอผมหันกลับมา ไอ้พวกเลวทั้งหลายก็ส่งสายตาสอดรู้สอดเห็นกันเต็มที่




“มองกูทำซากอะไร มีของฟรีให้แดกก็แดกไปดิ”




“อะไรยังไงครับมึง อย่ามาเฉไฉ ตกลงคบกับพี่เขาแล้ว?”ไอ้เต้พุ่งตรงเข้าประเด็นไม่มีการอ้อมค้อม




“การที่เขาเลี้ยงเหล้า หมายความว่าต้องคบเหรอวะ?”




“ให้ตอบไม่ได้ให้ย้อนถามไอ้สัด”ไอ้โอ๊คปาเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาแต่พลาดไปโดนไอ้ธันว์ที่นั่งข้างๆ มันก็เสือกเก็บไปกินอีกนะ




“เออ ไอ้สัด หายข้องใจกันยัง ถามกันอยู่ได้ รู้แล้วพ่อมึงจะได้เป็นนายกกันรึไง”คือผมก็ไม่ได้จะปิดอะไรพวกมันอยู่แล้ว แต่ขอกวนตีนสักหน่อยเหอะ




“เออ ก็แค่เนี๊ยะ”ไอ้โอ๊คว่า ส่วนไอ้เต้ก็หัวเราะอยู่ข้างๆ ไอ้ธันว์ ไอ้คิมก็เฉยๆเหมือนมันจะเดาได้อยู่แล้ว




“จริง ยึกยักอยู่ได้ แดกเหล้าดีกว่า”




“แหมไอ้คุณโฟม อย่าไปว่ามันมึงเองก็ใช่ย่อย ถ้าพวกกูไม่จับได้เองมึงจะยอมบอกมั้ยไอ้ลูกหมา”ไอ้โอ๊คตบกบาลเพื่อนมันด้วยความเอ็นดู คนถูกตบค้อนตาคว่ำ




“อะไรวะ มึงก็มีแฟนแล้วเหรอไอ้โฟม ใครวะ”ไอ้โก้ที่นานๆจะพูดสักทีถึงกับเอ่ยปากถาม




“นั่นไง มานั่นแล้ว”ทุกคนพร้อมใจกันหันไปมองทางที่ไอ้เต้บุ้ยปาก ถึงคนจะเยอะแค่ไหนแต่พี่ไวท์ก็โคตรมีออร่าเห็นเด่นมาแต่ไกล อาจเพราะด้วยความสูงด้วยละมั้งที่ทำให้เป็นจุดสนใจของคนได้ไม่ยาก



“พี่ไวท์?”คนข้างๆผมพูดขึ้น



“มึงรู้จัก?”




“ก็เคยคุยด้วยไม่ได้สนิทอะไร เป็นเพื่อนในกลุ่มเพื่อนพี่รหัสกู”ไอ้ธันว์ตอบ ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นแต่ก็ไม่ได้ถามไป คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะอีกฝ่ายไม่ได้หันมามองพวกผมเลยสักนิด พี่ไวท์เดินเข้ามาถึงโต๊ะก้มคุยอะไรกับไอ้หมวยสองสามประโยคแล้วก็แยกตัวไปนั่งกับเพื่อนตัวเอง ทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาพวกผมตลอด ส่วนไอ้หมวยก็ดูสงบเสงี่ยมไม่ปากดีเหมือนตอนแรก เพราะมีผู้ปกครองตามมาคุมถึงที่



“งานนี้ต้องฉลองแล้ว เพื่อนกูมีผัวตั้งสองคน”




“ควาย!”ผมกับไอ้หมวยด่าออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้โอ๊คกลับหัวเราะชอบใจ คนอื่นๆก็ด้วย




“ไอ้โฟมกูไม่แปลกใจนะเว้ย แต่มึงดิไอ้น่าน ทำไมถึงเปลี่ยนแนววะ”ไอ้อ๊อดดูข้องใจมาก แต่เอาจริงนะไม่ว่าใครก็ตามที่รู้จักผมก็ต้องแปลกใจทั้งนั้น ผมยังแปลกใจตัวเองเลย




“กูอ่ะผัว”ผมแก้ต่าง แต่ทันทีที่พูดจบทั้งไอ้เต้และไอ้ธันว์ที่นั่งขนาบข้างก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน



“จริง?”ไอ้อ๊อดดูทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ ทำไมวะ ผมจะเป็นผัวไอ้พี่เดียวไม่ได้หรือไง เกย์ควีนร่างยักษ์มีถมเถไป



“เชื่อมันเมียมึงก็ออกลูกเป็นลิงแล้วไอ้สัด”บางทีก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ธันว์คือเพื่อนรักหรือศัตรูในหมู่มิตรกันแน่ ผมเลยถีบมันไปนั่งกับแก๊งมันที่เอาแต่หัวเราะ





X





“เมายัง?”




“เมาบ้าอะไร กินไปนิดเดียวเอง”ตั้งใจว่าจะซัดให้หมอบเลย แต่ดูเหมือนคืนนี้พวกผมจะมีเรื่องคุยกันเยอะ เลยไม่ค่อยได้กินสักเท่าไหร่ เหล้าที่ชงไว้ยุงแทบจะลงไปวางไข่ได้ สงสัยที่มีคนเลี้ยงต้องเก็บไว้กินคราวหน้า ผมเดินมาเข้าห้องน้ำพอทำธุระเสร็จก็เจอไอ้พี่เดียวดักรออยู่หน้าห้องน้ำ




“ไหนมาพิสูจน์ดิ”มันลากผมออกมาด้านหลังขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องพักของเฮียเสก ยังไม่ทันตั้งตัวมันก็ประกบปากลงมา เมาหรือเปล่าวะเนี่ย ตาเยิ้มแปลกๆ รสจูบยังชวนให้มึนงงอีกต่างหาก




“อืม...”ไอ้พี่เดียวมันครางเบาๆก่อนจะถอนจูบออก ผมหอบเล็กน้อยกับจูบที่กินเวลานานหลายนาที จูบกันเหมือนตายอดตายอยาก




“อยากกลับว่ะน่าน”มันบอกเสียงกระเส่า ปลายจมูกคลอเคลียแถวคอผมก่อนจะวกกลับมากดจูบมุมปาก




“ก็กลับไปดิ แต่ไม่กลับด้วยนะจะกินต่อ”ผมพูดโดยไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของมัน




“อย่าพูดเหมือนไม่รู้”




“ขึ้นเองก็เอาลงเองนะครับคุณ ผมไม่เกี่ยว”ผมก็เริ่มรู้สึกนิดๆแต่ก็ยังพอทนไหวกับมันผมต้องใจแข็งมากๆเพราะมันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่านมา เพราะถ้าปล่อยไปตามอารมณ์ผมจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ ผมผลักมันออกแต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกมันรั้งเข้าไปอีกแล้วจูบกันอีกรอบ
ปึง!




“อ่าว เห้ย เชิญเลยๆ เชิญมึงสองคนตามสบาย”




ผมผลักไอ้พี่เดียวกระเด็น โคตรตกใจที่เห็นเฮียเสกเปิดประตูเข้ามา เจ้าของสถานที่ทำท่าขอโทษขอโพยแล้วก็ปิดประตูล็อกให้ด้วยความปรารถนาดี โดยที่ผมไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ




“ไอ้เหี้ยเสก!”ไอ้พี่เดียวสบถออกมามันดูหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ แต่ผมนี่สิโคตรอายอยากจะแทรกพื้นกระเบื้องหนี




“แม่ม เพราะพี่เลย!”ไม่รู้เฮียเสกจะคิดไปถึงไหนแล้ว




“เพราะพี่อะไร? พวกมันรู้กันทุกคนแหละ จูบกับแฟนผิดตรงไหน หรือไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นแฟนกัน”




“จิ๊ พูดสักคำยังวะ อย่ามามองแบบนั้นนะเว้ย”ผมแค่อาย ก็สถานะผมกับมันตอนนี้มันไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่าน กับพวกผู้หญิงหรือพวกที่ผมเหนือกว่าผมไม่อายเลยที่จะจูบโชว์ แต่นี่มันไม่ใช่นี่หว่า




“อย่ามาวะเว้ยกับพี่นะ เห็นไม่ว่านี่เอาใหญ่”กลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้ว ขี้บ่น โคตรน่าเบื่อ




“งั้นก็ไม่ต้องมาคุยกัน”ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยนะเว้ย คืนนี้ตั้งใจมาสนุกให้เต็มที่ผ่อนคลายความเครียด ไม่ใช่มาหาเรื่องปวดหัวเพิ่ม




“อย่าเดินหนี”




“แล้วจะอยู่ให้ทะเลาะกันหรือไง”อย่าให้ผมต้องหงุดหงิดมากไปกว่านี้เลย อะไรๆที่เพิ่งเริ่มต้นมันจะสะดุดได้ ผมสะบัดแขนออก กลับเข้ามาในร้าน พอถึงโต๊ะเพื่อนผมก็หายไปบางคน คงได้สาวๆกันแล้ว ไม่ก็ออกไปสูบบุหรี่ อารมณ์สนุกหายไปกว่าครึ่ง รู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที




“ไปเข้าห้องน้ำที่ไหนมาวะ นานสัดแล้วหน้าหงิกมาขนาดนี้ใครทำไรมึง”




“ไม่มีอะไร”




“หึ มาๆแดกๆ ของฟรีทั้งนั้น อย่ามานั่งทำหน้าเซ็งเสียบรรยากาศหมด”ไอ้ธันว์เลื่อนแก้วใบใหม่มาให้รู้สึกจะชงเข้มมากดูจากสีน้ำในแก้ว



 
“แล้วไมมึงยังอยู่ ไม่ออกไปล่าแหยื่อวะ”เป็นที่น่าแปลกใจสุดๆ ปกติมันจะลุกออกไปคนแรกของกลุ่มด้วยซ้ำ ฮอตจนไฟลุก แต่คำตอบของมันทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่า




“ช่วงนี้กูเบื่อๆ”




“หึ เบื่อบ้างก็ดี”




“ทำไม หาพวกหรือไง ถอดเล็บหรือไงวะ อ้อ มีคนเฝ้าเลยเริงร่าไม่ได้”




“หุบปากไปไอ้สัด อย่าทำให้กูหงุดหงิดขึ้นมาอีก”




“เอ้า ทำไมวะ เมื่อกี้ไปตีกันมาหรือไง”




“เออ ปัญญาอ่อนฉิบหาย”ว่าแล้วก็กระดกเหล้าที่มันเอามาให้เป็นการแก้แค้น คืนนี้กูจกินแม่งให้หมดร้านเลย เอาให้กระเป๋าฉีก ผมกับไอ้ธันว์นั่งดวลกันอยู่สองคน ส่วนคนอื่นๆก็ไปตามทางของตัวเอง ไอ้หมวยโดนพี่ไวท์ลากไปนั่งด้วยตอนนี้โดนแซวจนพรุนไปหมดแล้วมั้ง ไอ้เต้เจอเด็กเก่าเลยไปรำลึกความหลัง ไอ้อ๊อด ไอ้โก้ ไอ้คิม ไอ้โอ๊คหายหัว




“เมาแล้ว”




“.....”ผมปรายตามองคนที่ถือวิสาสะมานั่งตรงที่ว่างข้างผมแบบไม่ได้รับเชิญ ไอ้ธันว์ก็ขยับออกไปนั่งอีกฝั่งทันที




“เชิญง้อกันตามสบายเลยครับพี่”




ง้อบ้าบออะไร ผมไม่ได้งอนใครสักหน่อย




“บอกว่าอย่าเมาไง”




“ยังไม่เมา”




“เห็นยกเอาๆ เข้มขึ้นทุกที”สายตาจะดีไปแล้วนั่งข้างบนจะมาเห็นได้ไงว่าชงเข้มไม่เข้ม มั่วชะมัด



“กลับกันเถอะ ดึกแล้ว”พอมันพูดแบบนี้แล้วผมเลยต้องก้มดูนาฬิกา เที่ยงคืนกว่าแล้ว เหมือนเวลามันผ่านไปช้าผิดปกติ ผมแค่มึนๆยังไม่เมา อยากดื่มต่ออีกหน่อยแต่เหมือนไอ้พี่เดียวจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น




“ไม่กลับไปนั่งกับเพื่อนอ่ะ”



“อยากนั่งกับแฟน ทำไมมีปัญหาหรือไง?”



“เออ เรตติ้งตกหมด”ผมแสยะยิ้มให้มันกวนๆ




“หึหึ ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงร่ำลากับเพื่อนซะ จะได้กลับกัน”พูดจบมันก็เดินไปทางหลังร้าน




ห่า! ครึ่งชั่วโมงจะไปทำอะไรได้วะ แค่รินเหล้าก็หมดเวลาแล้ว




“มีเคอร์ฟิวด้วยเว้ย”




“พูดมาก รินเพียวๆมาให้กูเลย สัดต้องทำเวลา”




“ฮ่าๆ กูก็นึกว่ามึงจะไม่ทำตาม กลัวผัวนะมึงเนี่ย”




“ผัวพ่อง!”




   ด้วยความที่รีบเร่งทำเวลาทำให้ผมเกือบอ้วก ตอนนี้มึนหัวไปหมด รู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่มันหมุนได้ คือผมรู้เรื่องทุกอย่างนะ แต่บังคับตัวเองไม่ได้แต่กระทั่งการยืนตรงๆ ดีที่มีไอ้พี่เดียวมันคอยพยุงอยู่



   “อยากนอนอ่ะ อยากนอน”



   “รู้แล้วๆ นี่มันหน้าบ้านจะนอนตรงนี้หรือไง”



   “ไม่นอน! จะเอาเตียงนุ่มๆ”



   “งั้นก็ยืนดีๆก่อนสิ”



   “ดีแล้วเนี่ยๆ”ผมกระทืบเท้าให้ดูด้วย ให้เห็นชัดๆว่ายืนดีแล้วแม้จะไม่ตรงเท่าไหร่



   “เมาแล้วปัญญาอ่อนนะเราน่ะ”



   “ว่าใคร”



   “ว่าน่านนั่นแหละ”



“ไม่ได้ชื่อน่าน”



“แล้วชื่ออะไร”



“ชน ละ ทอน”ชื่อผมเพราะมาก พ่อตั้งให้ ผมชอบมากเลยนะ



“อ๋อ ครับๆ น่านนี่ชื่อหมาเนอะ”




“ช่าย”



“ฮ่าๆ”



“หัวเราะอะไร?”



”หัวเราะหมาครับ”




“ไหน?”



“มันวิ่งหนีไปแล้ว เอ้า นั่งลงก่อนพี่ถอดรองเท้าให้”



“ถอดกางเกงด้วยนะ อึดอัด”



“ได้ครับ จะถอดให้เกลี้ยงทั้งตัวเลย”



“ดีๆ”



“น่าน อย่าเพิ่งหลับ ลุกขึ้นก่อน ไปนอนบนห้อง”



“อื้อ ยังไม่ถอดกางเกงเลย”



“เดี๋ยวไปถอดข้างบนไง”



ก็ได้วะ แต่ขี้เกียจเดินอ่ะ ทำไงดี ทำไมที่บ้านไม่มีทางเลื่อนเหมือนที่สนามบินบ้าง บันไดก็ควรเลื่อนได้ด้วยนะ ให้เดินขึ้นเองมันเมื่อย แล้วทำไมขั้นบันไดมันถึงได้มีซ้อนกันเยอะแบบนี้ด้วยนะ



“โอ๊ย!”



“เดินดีๆ ยกเท้าสูงๆจะได้ไม่เตะมัน”



“สูงแล้วๆ”




“เอ้อ ไม่น่าเผลอเลย”



“เผลออะไร?”



ถามก็ไม่ตอบ ยังมายิ้มใส่อีก แล้วจะลากผมไปไหนเนี่ย อยากจะขัดขืนมันนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย แค่จะดึงมือออกยังไม่มีแรง โชคดีที่มันไม่ได้พาผมไปไหนไกล พอผมเห็นเตียงที่คุ้นเคยก็รีบถลาลงไปหาทันที ความนุ่มแบบนี้ที่ผมชอบ กลิ่นแบบนี้ที่ช่วยให้หลับสบายจนถึงเช้า





X






ตึก ตึก...ตึก ตึก



เสียงดังน่ารำคาญข้างหูมันคืออะไรก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมาพบกับความปวดหัวหนึบๆและลำคอแห้งผากเหมือนอยู่ในทะเลทราย พอลืมตาก็เจอกับกำแพงที่ทำจากหนังมนุษย์ สติสัมปชัญญะกลับเข้าสู่ร่างผมทันที ที่มาของเสียงตึกๆดังหนวกหูผมมาจากด้านในกำแพงที่ว่านั่นเอง ผมขยับตัวออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของแผ่นอกล่ำๆที่ยังหลับสนิท พอผมลุกขึ้นนั่งแขนที่พาดเอวผมไว้ก็ล่วงผล็อยลงไป เมื่อคืนมาส่งแล้วก็ตีเนียนนอนด้วยสินะ ผมฟาดมือลงบนอกมันไปหนึ่งที เห็นมันคิ้วกระตุกก็รู้สึกพอใจ ว่าจะลงไปดื่มน้ำข้างล่างแต่เหลือบมองที่ข้างเตียงก็เห็นมีขวดน้ำวางอยู่เลยไม่ต้องลงไปด้านล่างให้เสียเวลานอน ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองว่าขวดน้ำมาตั้งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ผมพลิกตัวลงนอนอีกรอบแขนปลาหมึกก็ตวัดมารัดทันที ไอ้พี่เดียวมันตื่นแล้วแน่ๆ




“มาตีพี่ทำไมหืม”มึนงึมงำถามจมูกซุกอยู่หลังคอ




“ไม่กลับไปนอนที่คอนโดอ่ะ”




“ที่คอนโดไม่มีน่านให้นอนกอด”




“หึ...เดี๋ยวซื้อตุ๊กตายางให้กอด”




“ตุ๊กตาจะสู้คนจริงได้ยังไง หอมกว่า อุ่นกว่า แถมยังทำให้ตื่นตัวดีกว่าด้วย”




ครับ ตื่นตัวจริงด้วย ไอ้สิ่งที่ทิ่มขาผมอยู่มันน่าจะจับหักเป็นสองท่อนจริงๆ




“ไปไกลๆเลยแม่ง”ใช้ศอกถองท้องมันไปหนึ่งทีแต่ไม่แรงมากเพราะมันรัดผมแน่นเกินไปไม่มีที่ให้ขยับตัวมากพอ




“อยากอยู่ใกล้ๆ”




“ไปจัดการตัวเองก่อนไป”จะให้มานอนทิ่มกันแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆ ถึงมันจะเป็นเรื่องปกติในยามเช้าของผู้ชาย แต่ไอ้การที่เหมือนมีอะไรมาจี้ตัวเองคล้ายเป็นตัวประกันอย่างนี้มันไม่ปกติ




“เดี๋ยวมันก็สงบไปเองแหละ เชื่อใจพี่ได้นะ นอนเถอะ”




ไอ้เชื่อมันก็เชื่อได้อยู่ แต่มันขนลุกป่ะวะ ผมถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะรู้แน่ว่าไอ้พี่เดียวมันคงกอดผมไม่ปล่อยแน่ แล้วอากาศเย็นๆยามเช้าเพราะฝนพรำแบบนี้ก็ดีเกินกว่าจะมาต่อปากต่อคำกับมัน พยายามไม่สนใจร่างกายของอีกฝ่าย หลับหูหลับตาเดี๋ยวมันก็หลับไปเอง
ผมตื่นอีกทีก็บ่ายโมง ไม่เห็นไอ้พี่เดียวอยู่บนเตียงแล้ว ที่นอนด้านข้างก็เย็นเฉียบแสดงว่ามันลุกไปนานแล้ว ผมจัดการตัวเองที่หมักหมมมาทั้งคืนก่อนจะเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่าง พอได้นอนเต็มอิ่มอาการปวดหัวก็หายไป ความหิวก็มาเยือนแทน ไอ้พายไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานกลับอีกทีก็พรุ่งนี้ค่ำๆ บ้านเลยเงียบเชียบ แต่ที่แย่คือไม่มีคนทำกับข้าวไว้ให้กินนี่สิ




“อ่าว นึกว่ากลับไปแล้ว”ผมเห็นไอ้พี่เดียวเดินเข้ามาพอดี




“กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามา หิวยัง พี่ซื้อของกินมาเยอะเลย”มันยกของในมือให้ดูมีหลายถุงเลย




“หิวมาก”ผมเข้าไปช่วยมันถือถุงของ มีกับข้าวหลายอย่าง ขนมกับผลไม้ก็มี




“แล้วนั่นอะไร?”กระเป๋าสะพายใบไม่ใหญ่มากที่มันสะพายมาแต่ก็สะดุดตาจนทำให้ต้องถาม




“เสื้อผ้า”




“จะไปไหน?”




“เอามาไว้ที่นี่ไง ถ้าพี่มาค้างจะได้มีใส่”




“ถามเจ้าของบ้านยัง?”




“ไม่ต้องถาม ยังไงก็อนุญาตอยู่แล้ว จริงมั้ย หรือจะใจร้ายกับแฟนตัวเอง”มันเน้นย้ำคำว่าแฟนกระแทกใส่หน้าผม เหมือนกลัวว่าผมจะลืมสถานะระหว่างกัน




“เออ อยากทำไรก็ทำ”




ผมประชดแต่สำหรับพี่เดียวมันคงคิดว่าผมอนุญาตเลยเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บด้านบน ผมขี้เกียจท้วงเลยเอากับข้าวที่มันซื้อมาเทใส่จาน เพิ่งเห็นว่ามันหุงข้าวทิ้งไว้ด้วย รอบคอบไม่เบา ระหว่างรอไอ้พี่เดียวผมก็เอาชมพู่กับฝรั่งมาหั่นแช่ตู้เย็นไว้กินหลังอาหาร




“วันนี้ไม่ไปไหนหรือไง”ผมถามไอ้พี่เดียวที่นั่งลงประจำที่




“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ อีกอย่างอยากอยู่กับน่านมากกว่า”หยอดได้หยอดดี คิดว่าผมจะรู้สึกอะไรหรือไง จะว่าไปมันก็เป็นคนปากหวานเหมือนกัน คิดถึงอย่างนั้นคิดถึงอย่างนี้ อยากอยู่ด้วย แป๊บๆเดี๋ยวก็ชมน่ารัก ถ้ามันจีบผู้หญิงผู้หญิงคนติดใจมันมาก ผมไม่รู้เลยว่าอะไรที่ทำให้มันคิดกับผมเกินเลย ทั้งที่ตอนแรกแทบจะต่อยปากกัน แต่ตอนนี้สิสายตาของมันเหมือนอยากจะจับผมจูบตลอดเวลา ฮึ่ย ขนลุก




“หยุดพูดอะไรที่มันชวนกินข้าวไม่ลงได้มั้ยพี่ เลี่ยน”



“พูดจริงก็หาว่าเลี่ยน”



“พี่เป็นคนติดแฟนเหรอวะ”ผมก็ไม่เคยมีแฟน เลยไม่รู้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลามั้ย แต่เห็นคนอื่นที่มีแฟนเขาก็ไม่ได้เป็นแบบไอ้พี่เดียว มันทำเหมือนคลั่งผมมาก หวงแบบไร้สาระ แค่แต่งตัวหล่อก็ไม่พอใจ ชอบคลอเคลียนัวเนียให้รำคาญใจเล่น แล้วที่บอกว่าคิดถึงๆนี่ก็ไม่รู้จะอะไรนักหนา ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับมันเลยสักนิด ไอ้พี่เดียวในตอนนี้กับตอนที่เจอกันแรกแทบจะกลายเป็นคนละคนกันเลย




“ไม่รู้สิ ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน”



“จริง?”หน้าอย่างมันเนี่ยนะ



“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”



“ก็ไม่น่าเชื่ออ่ะดิ แฟนไม่มีแต่คู่นอนนี่เพียบใช่หรือเปล่า”



“หึหึ แต่น้อยกว่าเราแน่นอน”



“เอ้า มีของดีก็ต้องใช้ให้คุ้มดิ”



“แต่หลังจากนี้ไปก็เอามาใช้กับพี่แค่คนเดียว คนอื่นห้าม”



“เหอะๆ”




   จากใจเลยนะ กับมันเนี่ยผมไม่เคยคิดจะเอามาใช้เลย!










----------------------------------------------

มาแล้วค่าาาา มาช้ามีสองสาเหตุคือทำงานกับเที่ยวค่า 555555
นี่เพิ่งออกจากป่าเขามา เพลินเลยอ่า  :hao7:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-02-2017 21:46:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2017 13:51:26
 :L2: :pig4:

เป็นแฟนแล้ว น่านมันยังไม่ลงให้พี่เดียวเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-02-2017 14:22:11
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 17:27:30
พี่เดียว อบอุ่น น่ารัก
แล้วเมื่อไหร่ น่านจะรู้สึกดีๆ รักพี่เดียวซักที
หรื่อน่านสับสน หลอกตัวเอง
เพราะไม่เคยมีแฟน ที่สำคัญแฟนผู้ชาย
คงต้องมีตัวกระตุ้นหรือเปล่า
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 21-02-2017 18:05:37
อืม น่านไม่ได้ใช้หรอก เดี๋ยวพี่เดี่ยวใช้ให้~~
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 21-02-2017 18:15:25
เขินน  :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-02-2017 22:10:43
น่านน่ารักขึ้น จากเดิมที่นิ่งงงงงงงๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 22-02-2017 00:27:49
รอเสมอนะ ชอบๆๆ เรื่องนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 24-02-2017 08:27:19
น่ารักมากจ้า ชอบๆติดตามนะคะ

อ่านแปปก็ครบละ น้องน่านน่ารักขึ่นเยอะเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.29 P.10 || [20.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 28-02-2017 22:27:35
เอออ ป๋านางดูติดแฟนจริงด้วยน้องน่าน อย่ารำคาญป๋าแกเลย แกน่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 02-04-2017 00:57:50
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero





- 30 -






บางทีผมก็อยากให้มีวันเสาร์อาทิตย์สักหกวันต่อสัปดาห์ ไม่ใช่ว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับไอ้พี่เดียวแบบลืมวันลืมคืน แต่เพราะผมขี้เกียจมาเรียนในเช้าวันจันทร์ต่างหาก ฝ่าด่านรถติดมหาประลัยมาได้ก็แทบจะหมดพลังชีวิต วันนี้ผมขับรถมาเรียนเอง แผลที่เท้าหายดีแล้ว แอบเสียวแปล๊บๆอยู่บ้างแต่ไม่เจ็บอะไร ออกจากบ้านได้ไม่โดนไอ้พายบ่น




“กูไม่ได้เห็นรถมึงนานมาก นึกว่าขายทิ้งไปแล้ว”ไอ้เต้ว่า มันมาเสนอหน้าแต่เช้าเป็นคนแรกของกลุ่ม แสดงว่าเมื่อคืนไม่ได้ไปนอนกกใครที่ไหน



“เออ ไม่ได้ขับนานกูแทบจะลืมไปแล้วว่าขับยังไง”




“มึงจะลืมก็เพราะมีคนไปรับไปส่งจนเคยตัวมากกว่า แล้ววันนี้พี่เขาไปไหนวะ”




“คนก็มีงานทำป่ะวะ แล้วกูก็ไม่ได้เป็นง่อยมาเรียนเองได้”




“แหม่ แล้วเป็นไงวะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วรู้สึกยังไง”




“ก็ไม่ยังไง บางทีก็รำคาญทำตัวติดกูเกินไป”



“ไอ้ห่าพูดซะกูสงสารพี่เขาเลย”



“สงสารมันทำไม สงสารกูนี่ รู้สึกว่าคิดผิดจริงๆ”



“ทำไมวะพี่เขาไม่ดีกับมึงเลยหรือไง”



“ดีมันก็ดี แต่มันไม่เป็นตัวของตัวเองว่ะ”ก็ข้อห้ามทั้งหลายแหล่ที่มันสั่งไว้ ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด เวลาที่อยากจะทำอะไรอย่างที่เคยๆ คำพูดของมันจะตามมาหลอกหลอนจนผมทำต่อไม่ได้




“ก็แค่ช่วงแรก ต่อไปปรับตัวเข้าหากันได้มึงก็คงจะรู้สึกดีขึ้นเอง”



“พูดเหมือนมีประสบการณ์เยอะนะมึง”




“เยอะกว่ามึงแน่นอน”




“เหอะไอ้สัด ถ้าการมีแฟนมันดีจริง มึงไม่ลอยไปลอยมาแบบนี้หรอก”




“ก็คนที่ชอบดันไม่ใช่คนที่ใช่นี่หว่า”



“แต่ไม่ใช่ก็เอาได้ไม่ใช่เหรอ”




“มึงนี่มันอิโรติคอย่างเดียว ความโรแมนติคไม่มีเลยไอ้สัด”




เหอะ มันก็ไม่ต่างจากผมเหมือนกันละวะ ทำมาเป็นพูดดี ผมไม่อยากถกกับมันเรื่องนี้เลยชวนมันไปหากาแฟแก้ง่วงระหว่างรอไอ้โอ๊คกับไอ้หมวย แต่ไปๆมาก็กลายเป็นกินข้าวเช้าแบบจริงจังแทน เมื่อเจอไอ้หมวยนั่งหาวอยู่ที่โรงอาหารกับกลุ่มรุ่นพี่สถาปัตย์ พวกพี่ๆเขาชวนให้พวกผมนั่งด้วยก็เลยไม่ปฏิเสธการผูกมิตร




“มาถึงแล้วก็ไม่บอกนะมึง”ผมว่าถ้าไม่เดินมาเจอเองคงนั่งโง่รออยู่หน้าคณะ




“กูเพิ่งถึงเนี่ย นั่งตูดยังไม่ทันร้อนเลย”




“โฟมเอาไร”พี่ไวท์ที่คุยกับเพื่อนเสร็จแล้วหันมาถามไอ้หมวยอย่างใส่ใจ ผมว่าเวลาพี่เขาอยู่เฉยๆจะดูนิ่งๆออกแนวเย็นชา แต่สังเกตได้ว่าเวลาคุยกับไอ้หมวยสายตาโคตรอ่อนโยน แต่ก็นะ ถ้ามองข้ามเรื่องปากหมาไปไอ้หมวยมันก็น่าทะนุถนอมไม่น้อย




“เดี๋ยวผมไปซื้อกับพวกมันเอง”



“ตามใจ”



“พี่ซื้อกาแฟให้ด้วยดิ ไม่จ่ายนะ”




“เคยให้จ่ายหรือไง”พี่ไวท์ว่าผลักหัวไอ้หมวยไปหนึ่งทีก่อนจะเดินเท่ออกไป




“ยิ้มส้นตีนไร”มันหันมาเหวี่ยงใส่ซะงั้น




“อะไรของมึงเปลี่ยนอารมณ์ไวจังนะ ทีอยู่กับพี่เขานี่หงอ”ไอ้หมวยเถียงไม่ออกได้แต่ถลึงตาใส่ ผมเลยลุกขึ้นลากมันไปซื้อข้าว ไอ้เต้ที่ล่วงหน้าไปซื้อเดินมาที่โต๊ะพอดี




วันนี้ผมมีเรียนถึงแค่บ่ายสามแต่ก็ยังกลับบ้านไม่ได้ พี่หลงให้อยู่ประชุมเรื่องงานสามสัมพันธ์ที่ใกล้เข้ามาทุกที พวกผมนั่งทำงานในสตูดิโอเป็นการฆ่าเวลา ปกติไม่ค่อยได้ใช้ห้องนี้กันเท่าไหร่ เพราะมันอึดอัด คิดงานไม่ค่อยออก แต่ถ้าหากต้องการความเงียบสงบก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ไอ้หมวยถูกตามตัวจากคนที่รู้ว่าใคร พอเปิดตัวมันก็หายตัวบ่อยกว่าเดิมซ้ำยังไปอย่างเปิดเผยไม่ต้องหลบซ่อนอีกแล้ว ส่วนเรื่องงานของมันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถึงพี่ไวท์จะเรียนคนละคณะ แต่มันก็มีความคาบเกี่ยวกัน ฝีมือไอ้หมวยมันพัฒนาขึ้นมากเพราะมีตัวช่วยขั้นเทพ




“ว่า?”ผมรับโทรศัพท์จากไอ้พี่เดียวที่โทรมาได้เวลาพอดี กำลังจะออกมาสูบบุหรี่ แต่พอมันโทรมาผมเลยเดินมาซื้อแดงโซดามะนาวกินดีกว่าเพื่อเรียกความสดชื่น




“เลิกกี่โมง”




“เลิกเรียนแล้ว แต่เดี๋ยวมีประชุมงานต่อไม่รู้จะเสร็จกี่โมง”ผมตอบไปตามความจริง เผลอๆอาจจะลากยาวไปกินข้าวแล้วนั่งจิบอีกเล็กน้อยที่ร้านหลังมหา’ลัย แว่วๆว่ามีร้านเปิดใหม่เด็ดดวง แต่ผมยังไม่เคยไปลองเลยสักครั้ง




“ให้ไปรับมั้ย”




“ไม่ต้อง ขับรถมา เลิกงานก็กลับห้องไปพักผ่อนไป”




“อืม ถ้าเสร็จแล้วแวะมาหาหน่อย”




“ไปทำไม”



“อยากเจอ”




“เหอะ เมื่อวานก็อยู่ด้วยกันทั้งวัน ไม่ไปอ่ะ คิดว่าเดี๋ยวคงไปกินข้าวต่อกับพวกพี่ๆ”




“ตามใจ”



แล้วมันก็วางไปทิ้งให้ผมงงกับเสียงสัญญาณที่เกิดจากการถูกตัดสายไป อะไรวะนึกจะวางก็วาง อย่าบอกนะว่าไม่พอใจที่ผมไม่ไปหา ทำเป็นสาวน้อยไปได้ ผมไม่ได้โทรกลับไปเพราะได้เวลาเข้าประชุมพอดี การประชุมครั้งนี้จริงจังกว่าครั้งก่อนๆ เพราะหลายอย่างต้องเรียบร้อยแล้วเช่นการเรื่องสถานที่ที่ผมเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบอยู่ มีการจองเรียบร้อยแล้ว ส่วนอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ก็มีการติดต่อไว้แล้ว ก่อนวันงานหนึ่งวันพวกผมต้องไปจัดเตรียมอีกครั้ง ระหว่างนี้ก็ถือว่าลอยตัวไปหนักอีกทีก็วันงานนู่น




ประชุมเกือบสองชั่วโมงก็จบลง วันนี้สาระล้วนๆ ไม่มีใครนอกลู่นอกทาง ประชุมเสร็จก็เฮโลไปร้านหลังมหา’ลัยตามคาด แค่กลุ่มพวกผมก็แทบจะเต็มร้านแล้ว เด็กเสิร์ฟคงตกใจนึกว่ามีคนยกพวกมาตีกัน พวกผมเอาโต๊ะมาต่อกันยาวถึงสี่โต๊ะ เสียงสั่งอาหารดังล้งเล้ง พนักงานคงมีจดผิดกันบ้าง ผมนั่งมองบรรยากาศร้านไปเรื่อยไม่ได้มีส่วนร่วมกับคนอื่น สั่งอะไรมาก็กินได้ทั้งนั้น ที่นี่ร้านอาหารที่มีเหล้าปั่นขาย หน้าร้านมีซุ้มยาดอง มีคนมานั่งจับจองพื้นที่หน้าร้านที่มีโต๊ะตัวเล็กๆสำหรับนั่งได้สองคนตั้งอยู่สามโต๊ะ




“เอ้าๆ พวกมึงคนละเป๊กๆ เรียกน้ำย่อยก่อนอาหาร”พี่หลงยกถาดที่มียาดองแก้วเล็กๆเป็นสิบแก้วมาเสิร์ฟถึงที่ พวกผมหยิบกันคนละแก้ว ชนกันพอเป็นพิธีก่อนจะกรึ๊บทีเดียว รู้สึกร้อนวูบวาบตามทางที่ของเหลวไหลผ่าน ความอุ่นซ่านแผ่ไปทั่วท้อง ผมดื่มไม่มากแค่จิบๆพอให้ครื้นเครง ไม่ถึงสามทุ่มก็แยกย้ายกันกลับ เพราะมีงานรออยู่อีกเพียบ กว่าจะถึงบ้านก็สี่ทุ่ม อาบน้ำเสร็จก็นั่งทำงานจนลืมเวลา เห็นไอ้พายกลับมาหน้าตาดูมึนๆ พอมันเดินเข้ามาใกล้เลยรู้ว่าไปดื่มมา




“ไปกินเหล้ากับใครมาวะ”




“ฉลองปิดกอง”




“อ่อ แล้วใครมาส่ง กูไม่เห็นได้ยินเสียงรถมึง”




“พี่บีอ่ะ กลัวกูขับไปเสยเสาไฟ”




“เออ ไปอาบน้ำไป”




“ขี้เกียจว่ะ”พูดจบมนก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาที่ผมพิงอยู่แล้วหลับตานิ่ง ผมขี้เกียจบ่นเลยปล่อยให้มันนอนไปอย่างนั้น




“น่าน”




“ไร”ผมคิดว่ามันหลับไปแล้วซะอีก




“กับพี่เดียวมึงมีความสุขดีมั้ย”ช่วงนี้ทุกคนดูใส่ใจกับการมีแฟนครั้งแรกของผมมาก เนื่องจากเป็นของแปลก




“ก็เรื่อยๆ”




“แฟนคนแรกของมึงเลยนะ”




“เออ กูยังงงอยู่”




“เอาๆกันไปเดี๋ยวก็หายงงเอง”




“ไอ้สัด!”อยากจะเอากระบอกซูมฟาดปาก ทำไมชอบพูดอะไรทำนองนี้กันนักวะ




“ฮ่าๆ กูว่ามึงเจอคนแบบพี่เดียวก็เหมาะแล้ว”




“อย่าเพิ่งด่วนสรุป”



“กูอยากมีแฟนบ้าง”




“อยากมีแฟนหรืออยากอย่างอื่น”




“อย่างอื่นที่ว่าไม่ต้องเป็นแฟนก็ทำแทนได้”




“ระวังจะได้ลงหน้าหนึ่ง ดังข้ามปี”




“เออน่ะ กูระวังตัวดีเว้ย”




“เอาให้ดี”ผมอดห่วงมันไม่ได้ แม้จะรู้ว่ามันเอาตัวรอดได้ก็ตาม




“กูไปอาบน้ำนอนละ มึงจะโต้รุ่งหรือไง”




“ไม่อ่ะ ตรงนี้เสร็จก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”




“เออน่าน กูอยากจะเตือนมึงถ้าอยากคบกับใครนานๆ มึงก็ควรจะใส่ใจเขาบ้าง อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางที่คิดว่าเขาจะต้องมาคอยตามโลกของมึงได้ตลอดเวลา”




“มึงไปรู้อะไรมาเนี่ย”คำเตือนของมันทำเอาผมข้องใจ นึกถึงเรื่องที่ไอ้พี่เดียวให้ผมไปหาแต่ไม่ได้ไปขึ้นมาทันที




“ไม่ได้รู้อะไรมา แต่แค่อยากจะเตือนมึงเพราะกูรู้ว่าสันดานมึงเป็นยังไง แล้วคนไม่เคยมีแฟน ไม่เคยต้องแคร์ใครอย่างมึงก็คงจะไม่คิดถึงจุดนี้เลยเตือนเอาไว้ก็แค่นั้น”




“เออ ก็ต้องให้เวลากูปรับตัวมั่งดิว้า อีกอย่างกูก็ไม่รู้ว่าจะคบกับไอ้พี่เดียวไปได้นานแค่ไหน พรุ่งนี้มะรืนนี้อาจจะเลิกกันแล้วก็ได้”




“ห่าเร็วไป เอาน่ากูว่าคนนี้ดีแล้ว คบกันไปนานๆ กูอยากเห็นมึงมีความรัก”




“สัด! ไปเลยไป พูดจาชวนขนลุก”






X






“จิ๊”




“เป็นอะไรของมึง กูเห็นกดโทรศัพท์แล้วหน้าหงิกหน้างอมาสองวันแล้ว”



“สมมติว่ามึงบอกให้แฟนมาหาแล้วเขาไม่มามึงจะโกรธจนต้องปิดโทรศัพท์หนีเลยป่ะวะ”




“อย่าเอาเรื่องจริงมาสมมติ กูไม่ใช่ควาย ทำไมพี่เดียวปิดเครื่องใส่มึง?”




“จิ๊ เออ เป็นห่าอะไรก็ไม่รู้ ก็กูไม่ว่างนี่หว่ากว่าจะทำงานเสร็จ ทำเป็นสะดีดสะดิ้งปิดเครื่องใส่กู”




“ดูมึงใช้คำ กูนึกถึงภาพพี่เขาแล้วขนลุกเลย”



“ก็มึงดูมันทำตัวเหมือนเป็นผู้หญิงไปได้ ไม่โทรแล้วแม่ง กูไม่ง้อ”ผมโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ไอ้เต้ส่ายหน้าคล้ายเหนื่อยหน่ายใจ หยิบแก้วน้ำมาดูดจนได้ยินเสียงฟืด




“พี่เขาไม่ว่างก็ได้มั้งมึง ติดงาน ประชุมพันล้านอะไรก็ว่าไป”




“ประชุมทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไงวะ สองวันมาแล้วนะเว้ยโทรเวลาไหนก็ปิดเครื่อง ควาย”




“ใจเย็นครับพี่ กูเพื่อนมึงครับไม่ใช่ผัว อย่ามาใส่อารมณ์”




“ผัวหน้าพ่อง เดี๋ยวกูยันไปนู่นยิ่งอารมณ์ไม่ดี”




เมื่อวันก่อนผมก็ยังไม่ติดใจอะไร ทำงานเสร็จก็โทรหามัน นึกถึงคำไอ้พายที่มันเตือนไว้ก็ทำให้ความเป็นคนดี อยากจะทำหน้าที่แฟนที่ดีบ้าง แต่พอโทรแล้วก็เจอว่าพี่เดียวมันปิดเครื่อง ผมก็คิดว่ามันคงติดประชุมนั่นแหละ แต่พอเที่ยงคืนโทรไปปิดเครื่อง ผมก็คิดว่ามันอาจจะนอนไวทั้งที่ไม่ใช่นิสัยมันเท่าไหร่ พอมาเมื่อวานผมคิดว่ามันเริ่มไม่ปกติแล้ว จนถึงเช้าวันนี้ผมโทรหามันเป็นสิบๆสายได้แล้วมั้ง ผลที่ได้รับกลับมาก็เหมือนกันทุกครั้ง




“เป็นอะไรกันครับมึง”ไอ้หมวยกับไอ้โอ๊คกลับมาจากห้องน้ำ แต่มีเด็กสถาปัตย์ติดสอยห้อยตามมาด้วยอย่างกับขี้ปลาทอง เป็นแฟนกันมันต้องตัวติดกันขนาดนี้เลยเหรอวะ




“พี่ต้องมาตามเฝ้ามันตลอดเลยเหรอ”พี่ไวท์เลิกคิ้วก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กๆ โคตรเท่อ่ะ




“อืม ต้องเฝ้า แมลงหวี่แมลงวันเยอะ แย่งกันตอมยิ่งกว่าขี้”นี่คือคำที่พูดถึงแฟนเหรอวะ ทำเอาผมกับพวกที่เหลือฮากะรจาย มีแต่เจ้าตัวที่โวยขึ้นมาทันที




“พี่สิขี้ ไอ้บ้า”




“หึหึ กินเข้าไป”นี่คือวิธีการปิดปากไอ้หมวยที่ดีที่สุด โยนอาหารให้มันซะเรื่องก็จบ




“พวกมึงยังไม่ตอบกูเลยว่าเป็นอะไร ไอ้น่านหน้างอเป็นส้นตีนหมา”




“แฟนมีชู้ ปิดเครื่องหนีไม่รับโทรศัพท์”ผมไม่ได้ตอบนะ ไอ้เต้นู่นสาระแนใส่สีตีไข่




“เอาจริง?”ไอ้หมวยก็พาซื่อทำหน้าเหมือนเชื่อซะงั้น




“พี่เขาติดงานหรือเปล่า”




ข้อสันนิษฐานของไอ้โอ๊ค ทำเอาผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว รู้สึกหัวร้อนๆยังไงชอบกล พอเลิกเรียนผมก็ตรงไปห้องไอ้พี่เดียวทันที ยังไงวันนี้ต้องได้คุย ผมมีกุญแจ คีย์การ์ดและรู้รหัสห้องไอ้พี่เดียวทุกอย่าง ประหนึ่งเป็นเจ้าของห้องเองเลย ไอ้พี่เดียวเป็นคนแรกเลยที่ทำให้ผมวุ่นวายใจแบบนี้ แต่ก็คงเป็นเพราะคำว่าแฟนที่เชื่อมโยงเราอยู่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ ผมเพิ่งรู้ว่าคำนี้มีอิทธิพลกับผมพอสมควร




ผมมาถึงห้องไอ้พี่เดียวก็ทุ่มกว่าแล้ว เพราะเลิกเรียนเย็นแล้วรถก็ติดมาก ที่ห้องไม่วี่แววของไอ้พี่เดียวเลย ผมไม่รู้ว่ามันต้องไปพบลูกค้า ดินเนอร์ คุยงาน หรือกลับไปทานข้าวที่บ้านใหญ่หรือเปล่า ทำให้ผมฉุกคิดได้ว่าผมรู้เรื่องเกี่ยวกับไอ้พี่เดียวน้อยเกินไป คำพูดของไอ้พายก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกรอบ หลอกหลอนจนผมจิตตกหน่อยๆ เป็นแฟนที่ดีนี่ต้องเป็นยังไงวะเนี่ย



ผมมองนาฬิกาอีกรอบ ไอ้พี่เดียวอาจจะกำลังกลับมาก็ได้ ไม่รู้ว่าหินอะไรหรือยังแต่ถ้ายังกลับมาก็ควรจะมีกับข้าวไว้รอหรือเปล่านะ พอคิดปุ๊บเท้าผมก็ก้าวไปที่ตู้เย็นทันที แต่น่าแปลกที่ในตู้เย็นของไอ้พี่เดียวไม่มีของสดเลย ขณะที่กำลังคิดว่าจะออกไปซื้อกับข้าวหรือของสดดี ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องดังขึ้น



“อ้าว?/น่าน!”



“น่านมาทำอะไรเหรอ”เป็นพี่เฟิร์สที่เอ่ยขึ้นมาก่อน หน้าตาน่ารักดูแปลกใจที่เห็นผมที่นี่



“ก็มาหาพี่เดียว”พี่เฟิร์สรู้ว่าผมกับไอ้พี่เดียวคบกัน ผมไม่จำเป็นต้องแถ ถึงอยากจะแถมันจะแถยังไงไหว เมื่อผมมาเสนอหน้าอยู่ในห้องที่เจ้าของเขาไม่อยู่แบบนี้



“มาหาพี่เดียว? เห้ย นี่ไม่รู้เหรอว่าพี่เดียวไปรัสเซียหลายวันแล้ว”



“ว่าไงนะ”ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย ไอ้พี่เดียวไปรัสเซีย



“พี่เดียวไปคุยงานที่รัสเซียเกือบอาทิตย์แล้ว อีกสองวันถึงจะกลับ”




“ผมไม่รู้ เขาไม่ได้บอก”ผมแทบไม่เชื่อว่าเสียงตัวเองจะนิ่งได้ขนาดนี้ทั้งที่ข้างในกำลังเดือดดาล




“น่านเป็นอะไรมั้ย เอ้า จะไปไหนอ่ะ”



“ผมกลับแล้วพี่ ไปก่อนนะ”ผมตัดบทอย่างรวดเร็ว รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในร่างกายกำลังจะระเบิด หน้าร้อน หัวร้อน มันร้อนไปหมด ถ้าวันนี้ผมไม่เจอพี่เฟิร์สผมก็คงจะไม่รู้อะไรเลย ผมไม่มีตัวตนสำหรับพี่เดียวมันเลยหรือไง โกรธที่ผมไม่มาหาจนต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือไง






x






ผมเกลียดความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้มาก มันอึดอัดจนอยากจะชกหน้าไงสักคนเพื่อระบายมันออกมา แต่ที่ทำได้ก็คือลากไอ้ธันว์ออกมาหาเหล้ากิน ผมไม่อยากเจอคนอื่นเลยชวนมันออกมาคนเดียว มันก็ตกปากรับคำทันที




“นึกไงชวนกูออกมาวะ”ผมนั่งรอมันที่เคาน์เตอร์บาร์ มากันแค่สองคนขี้เกียจนั่งโต๊ะ




“เซ็งๆ นั่งแดกไปอย่าถามมาก”




“เอ้า ที่ชวนกูมาเพื่อให้นั่งแดกเป็นเพื่อนแค่นั้น? นึกว่าอยากจะระบายอะไรให้กูฟังซะอีก”




“ขอกูเรียบเรียงความคิดก่อน”ผมคงไม่มีอะไรจะปรึกษามัน ลากมันออกมาเป็นเพื่อนแล้วก็ตั้งใจจะระบายนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมยังไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวในหัวได้




“เอาเถอะกูมีเวลาทั้งคืน”




“ได้ข่าวว่าช่วงนี้มึงไม่ค่อยควงใครเลย ทำไมวะ”ถึงจะเรียนคนละคณะ แล้วก็ไม่ได้โทรคุยกันบ่อยๆ แต่เรื่องของไอ้ธันว์ผมก็รับรู้ตลอดเพราะมันเป็นคนดังของมหาวิทยาลัย ใครๆก็ต้องรู้จัก




“ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เบื่อการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ”มันตอบผมยิ้มๆ สายตามันมีอะไรมากกว่านั้น แต่มันอาจจะยังไม่แน่ใจเลยไม่เล่าอะไร จำได้ว่ามันเคยพูดทำนองนี้มาแล้ว




พวกเรานั่งดื่มกันเงียบๆ จู่ๆก็มีเครื่องดื่มที่ผมไม่ได้สั่งมาวางตรงหน้า บาร์เทนเดอร์จึงบอกให้ผมหันไปมองด้านหลัง ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยถูกใจผม แต่ดูหน้าแล้วคุ้นๆเหมือนจะเคยเจอกันมาก่อน




“อย่าลืมว่ามึงมีแฟนแล้วไอ้ห่า”ไอ้ธันว์กระซิบเตือนผม




“กูโสด”




“หะ เดี๋ยวนะ อะไรวะ นี่เกี่ยวกับที่มึงชวนกูออกมาแล้วไม่เสือกเล่าอะไรให้ฟังป่ะเนี่ย”




“ตามนั้น ตอนนี้กูโสดว่ะ มาคิดดูแล้วกูไม่เหมาะจะคบใครเป็นตัวเป็นตนหรอก”ผมบอกหลังจากตัดสินใจได้แล้ว ให้มันจบๆไปเลยดีกว่า ผมอึดอัดกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่อยากจะเป็นบ้าฟุ้งซ่านคิดเรื่องพวกนี้ให้รกสมอง กลับไปเป็นแบบเดิมดีกว่า




“ทำอะไรก็คิดดีๆนะมึง ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง”




“มึงโสดแล้วพี่เขายอมโสดกับมึงหรือเปล่าเนี่ย ถ้ามึงไม่เล่ามากูไม่ให้มึงไป”




ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่มันก็รั้งผมไว้ไม่ได้เมื่อเหยื่อมาเสนอตัวถึงที่ ผมแทบจะไม่สนอย่างอื่นนอกจากผู้หญิงตรงหน้าที่คุยไปคุยมาก็จำได้ว่าคือนางฟ้าคนที่พาผมขึ้นสวรรค์รับเปิดเทอม สงสัยจะติดใจอุตส่าห์จำผมได้แล้วมาทักทายก่อน ผมก็ตอบสนองเต็มที่ ตอนที่ออกมาไอ้ธันว์ก็มองผมด้วยสายตาที่เป็นกังวล แต่มันคิดมากไปเอง เรื่องของผมไม่มีอะไรต้องน่ากังวลเลยสักนิด มีแต่เรื่องดีๆที่ทำให้เบาสบายทั้งตัวเกือบเช้า




“มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย”ตื่นเช้ามาก็เจอไอ้พายทำหน้ายักษ์ใส่ เมื่อคืนกลับมาเกือบตีสาม สองคืนที่ผ่านมาผมอยู่กับพี่นางฟ้าตลอด แต่เมื่อคืนกลับมานอนบ้านเพราะมีเรียนเช้า




“ทำอะไรวะ?”



“ไอ้ธันว์บอกกูว่ามึงไปนอนกับผู้หญิงมาสองคืนแล้ว ไอ้เหี้ย มึงมีแฟนแล้วนะเว้ย ทำไมทำตัวแบบนี้”




“กูโสด”นึกอยากเตะไอ้ธันว์ปากมากนัก




“โสดเหี้ยอะไร มึงเป็นอะไร ไหนบอกกูมาดิ เมื่อวานกูเจอพี่เฟิร์สเขาถามถึงมึงว่าเป็นยังไง หายโกรธพี่เดียวหรือยัง เรื่องพี่เดียวไปทำงานแล้วไม่บอกมึง อย่าบอกนะว่านี่มึงทำประชดพี่เขาเนี่ย”



“มึงจะโวยวายหาอะไรเนี่ย”




“ไม่ให้กูโวยวายได้ยังไง ดูมึงทำตัวดิ”




“กูแค่กลับไปเป็นเหมือนเดิมก็เท่านั้น การมีแฟนมันไม่ใช่สไตล์กู”




“ก่อนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มึงเลิกกับพี่เขาอย่างเป็นทางการหรือยัง ถ้ายังก็รู้ไว้ว่าสิ่งที่มึงทำอยู่คือนอกใจ”




“จะนอกใจได้ไง ในเมื่อกูไม่ได้อยู่ในใจใคร และไม่มีใครอยู่ในใจกูด้วย”




“แน่ใจ?”




“เออ!”




“แล้วมึงจะเสียใจ”เพราะไม่อยากเสียใจผมจึงต้องยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้




“บางทีใจมึงคงบอดจริงๆที่ไม่รับรู้อะไรเลย แม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง”




“นี่มึงเพื่อนกูนะเว้ย”



“เพราะเป็นเพื่อนกูถึงได้พูดตรงๆแรงๆได้ไง ไม่งั้นมึงคงไม่รู้สึก ขนาดกรอกหูอยู่ทุกวันมันยังไม่ซึมไปถึงใจมึงเลย เอาเถอะ อยากทำอะไรก็แล้วแต่มึงเลย เอาที่มึงสบายใจ แต่ขอให้แน่ใจว่ามึงคิดดีแล้วจริงๆ”ไอ้พายทิ้งท้ายไว้ เหมือนจนปัญญาที่จะจัดการกับผมแล้ว




ผมมาเรียนอย่างไม่มีสมาธิเลย คำพูดของไอ้พายทำให้ผมยิ่งรู้สึกไม่ดี ยอมรับเลยว่าหลังจากคืนแรกที่นอนกับพี่ฟ้า นางฟ้าเดินดินคนนั้นไปผมก็ไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่พยายามแสดงออกเลยแม้แต่นิด แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าเพราะร้างราจากเรื่องนี้ไปพอสมควรเลยทำให้รู้สึกแปลกๆไป คืนที่สองผมเลยตอบรับคำชวนออกไปเจอกันอีกครั้งแต่ทำเรื่องเดิมซ้ำ คืนนี้ก็เช่นกัน แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกแย่ ผมกำลังทำอะไรอยู่ นับวันตัวตนของผมยิ่งหายไป ไม่ดีเลย...





X





“อื้อ! อะไรวะ!”ผมตกใจที่จู่ๆก็ถูกกระชากคอเสื้ออกมาขณะกำลังจูบดูดดื่มกับนางฟ้าคนเดิม เพื่อที่จะหยุดเรื่องฟุ้งซ่านในหัว พอหันไปมองต้นเหตุก็ทำเอาผมชาไปทั้งตัว




“ทำอะไร?”น้ำเสียงเย็นๆ หน้านิ่งๆ ที่ผมไม่ได้เห็นมานานมันกลับมา ตาคมดุและเหมือนมีแสงไฟสว่างวาบในดวงตาคู่นั้น เหลือบไปด้านหลังเห็นพวกเพื่อนไอ้พี่เดียวยืนเป็นแบล็คกราวน์




“มีอะไรหรือเปล่าคะ”




“ไม่มีอะไรครับคุณคนสวย พอดีเพื่อนผมมาตามแฟนกลับบ้าน”พี่บอสเป็นคนตอบ ส่วนผมยืนนิ่งเล่นเกมต้องตากับไอ้พี่เดียวอยู่ ก่อนจะถูกลากออกมา ผมไม่ได้หันไปมองเลยว่าพวกพี่ที่เหลืออยู่จัดการกับพี่ฟ้ายังไง ผมนั่งนิ่ง พี่เดียวขับรถกลับมาคอนโดเงียบๆ ไม่มีคำพูดสักคำ ผมยังงงๆอยู่ว่าพี่เดียวกลับมาเมื่อไหร่ ไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง




ผมเดินตามพี่เดียวขึ้นห้องมา ตอนอยู่ในลิฟต์มองเลขชั้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด ใบหน้าของพี่เดียวเรียบนิ่งมากจนผมเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธมาก พอเข้าห้องมาไอ้พี่เดียวก็ถอดเสื้อนอกแล้วโยนลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับผมอีกครั้ง หน้าตาเหมือนคนที่พยายามระงับอารมณ์อย่างที่สุด




“ทำบ้าอะไร?”




“ก็ไม่ได้ทำอะไร”รู้เลยว่าตอบไม่เต็มเสียงนัก เหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำความผิด




“กอดจูบแทบจะได้กันขนาดนั้นบอกว่าไม่ได้ทำอะไรงั้นเหรอ? ต้องเอากันก่อนมั้ยถึงจะว่ามีอะไรได้ หะ!”เสียงตวาดดังลั่นทำเอาผมสะดุ้ง พร้อมกับเดือดปุดๆขึ้นมาบ้าง ผมไม่ชอบให้ใครมาตะคอกใส่แบบนี้




“เออ! ถ้าอย่างนั้นมีอะไรก็ได้ เพราะเอากันไปแล้วตั้งสองคืน! ถ้าไม่มาขัดคืนนี้ก็คงได้เอากันอีก”




“น้ำน่าน!”ผมไม่อยากเห็นสีหน้าแบบนั้นของไอ้พี่เดียวเลย ทำไมทำหน้าผิดหวังขนาดนั้น




“เลิกกันเหอะว่ะพี่”ผมเอ่ยออกมาในที่สุด มันน่าจะเป็นทางออกที่ดี




“ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ มันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย”




“แล้วผมอ่ะ มีความหมายกับพี่มากเลยใช่มั้ย ไปไหนถึงไม่บอกกันสักคำ ไอ้เหี้ย! แฟนเขาทำกันแบบนี้เหรอวะ”




“แล้วแฟนกันเขาไปนอนกับคนอื่นเหรอวะน่าน”




“ผม...”ผมพูดไม่ออก เริ่มตะหนักถึงคำพูดของไอ้ธันว์กับไอ้พาย จู่ๆเหมือนมีใครมาจุดไฟขึ้นมากลางใจ ส่องให้เห็นอะไรบางอย่าง




“พี่ทำไมไม่บอกผมวะ หายไปเฉยๆได้ยังไง โกรธกันขนาดนั้นเลยหรือไง”ในใจผมคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้ไม่ยอมหยุด




“ที่ทำไปสาเหตุเพราะเรื่องนี้เหรอ? เออพี่ยอมรับว่าน้อยใจที่ไม่มาหา เลยไม่ได้บอก แค่จะแกล้งเล่นวันสองวันแล้วค่อยโทรหา บังเอิญว่าวันหลังๆงานมันติดพันเวลาก็ไม่ตรงกัน เลยรีบทำงานจะได้รีบกลับ แต่ไม่คิดว่ากลับมาจะเจอเรื่องแบบนี้ น่านทำเกินไปจริงๆ”




“พี่ก็เกินไป ทำไมให้ผมรู้จากคนอื่นวะ ผมดูเป็นคนที่โคตรโง่เลย”




“แล้วพี่ล่ะ เป็นไอ้งั่งใช่มั้ยที่แฟนนอกใจไปเริงร่ากับคนอื่น”




“ผมไม่ได้นอกใจ!”




“แล้วที่ทำเรียกว่าอะไร อย่ามาเห็นแก่ตัวพูดว่าแค่นอกกาย”




“นอกใจเขาใช้กับคนที่รักกันหรือเปล่าวะพี่”




“หมายความว่าไง...?”




“........”




“อ่อ...พี่เข้าใจแล้ว ไม่น่าลืมเลย...”




ผม...เพิ่งรู้ตัวว่าได้พูดคำพูดที่งี่เง่ามากที่สุดออกไปตอนที่เห็นสีหน้าของพี่เดียวในตอนนี้ จากตอนแรกที่อ่านไม่ออกว่าพี่เดียวรู้สึกอย่างไร ทว่าตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่ผมรับรู้ได้คือความเสียใจของผู้ชายตรงหน้า




ผมพยายามจะยื่นมือออกไปหา แต่ก็ไปไม่ถึง





“กลับไปก่อนเถอะ ขอเวลาพี่หน่อย”









-----------------------


กลับมาแล้วค่า ก้มกราบรอบทิศ ขออภัยที่หายไปนานเลย
พอดีหนีไปเที่ยวทั้งสองอาทิตย์ติดๆกันเลยไม่ได้แต่ง ตั้งใจว่ากลับมาจะมาอัพให้ แต่ดันต้องมาชดใช้กรรมที่หนีเที่ยวลัลล้า
อาทิตย์ก่อนไม่สบายไปอาทิตย์นึงเต็มๆเลยค่ะหยุดงานยาวๆไป นอนพะงาบๆอยู่บ้านอันเนื่องมาจากอาหารเป็นพิษ ติดเชื้อในกระเพาะ
วนเวียนเข้าห้องน้ำ - อาเจียน เข้าห้องน้ำ - อาเจียนอย่างนี้จนหมดแรง เปลี่ยน รพ. ไป 2 รพ. เลย
อากาศร้อนๆทานอะไรก็ระวังด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเจอแจ็คพอร์ตเหมือนเค้า รู้สึกเข็ดไปเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4:



มาเข้าเรื่องนิยายดีกว่า กลับมาพร้อมกับความดราม่าแบบไม่ทันตั้งตัว 5555555
แต่อย่าเพิ่งเกลียดน้ำน่านกันนะคะ วันนี้จะทอล์กยาวๆสักนิด ด้วยความที่กลัวท่านผู้อ่านจะรู้สึกขัดใจกับการกระทำของน้ำน่าน
คือน่านเป็นคนที่เอาแต่ใจและอีโก้สูงจากที่อ่านในตอนแรก เพราะเขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก
ที่สำคัญเขาไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยต้องแคร์ใครอย่างที่พายพูด จึงไม่รู้ว่าควรจะต้องทำตัวอย่างไร
เขาอาจจะเก่งในเรื่องการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน หรือมีความคิดดี การแก้ปัญหาที่ดีในเรื่องอื่น
แต่ในเรื่องของความรักประสบการณ์เขาเป็นศูนย์ และเขายังมีความสับสนในตัวเองค่อนข้างมาก
เพราะหนึ่งตำแหน่งที่เปลี่ยนไป สองเขาไม่รู้จักความรักและยังไม่รู้ว่าความรู้สึกตัวเองที่มีต่อพี่เดียวนั้นคืออะไร
ดังนั้นสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองออกว่าน่านอาจจะมีใจ(?)ให้พี่เดียวนั้น แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ เลยทำให้ตัดสินทำอะไรลงไป
โดยไม่ได้คิดให้ดี ไม่ได้คิดให้เยอะๆ เรื่องมันเลยเกิดขึ้น จากจุดนิดเดียวจนเลยเถิดเป็นเรื่องใหญ่
คนบางคนสะกิดนิดหน่อยอาจจะรู้และคิดได้ บางคนอาจต้องใช้ของแข็งถึงรู้ว่าและเข้าใจ ดังนั้นน่านต้องเจอของแข็งค่ะ
และมาคอยติดตามพํฒนาการด้านความรักของน่านไปด้วยกันนะคะ 
ต้องให้เวลาคนไม่เคยมีความรักปรับตัวและเรียนรู้กับการมีแฟนเป็นตัวเป็นตน อย่าเพิ่งเกลียดน้องกันนะ แต่สงสารพี่เดียวได้ค่ะ 55555


ปล. เรื่องของคนชื่อฟ้า จะเห็นว่าเรียกนางฟ้าบ้าง ฟ้าเฉยๆบ้าง ไม่ได้พิมพ์ผิดนะคะ ถ้าหากจำตอนแรกๆได้ เธอชื่อฟ้าค่ะ ทำงานเป็นแอร์โฮสเตส น่านเลยเรียกนางฟ้าค่ะ



เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ รักคนอ่านทุกคนเลย  :mew1:








   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-04-2017 01:26:28
ถึงจะอีโก้สูงยังไงก็ไม่ควรทำอย่างเนาะ
บางทีก็ใจเขาใจเราโนะะะะ

 o22
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 02-04-2017 06:38:13
งือออ เข้าใจทั้งสองคนนะ  :mew4: มาบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 02-04-2017 08:37:11
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 02-04-2017 08:56:21
โอ้ยยยย อยากจะจับน้ำน่านมาตีซักสองสามที
ขัดใจอะ แต่ก้เข้าใจคนแต่ง ถ้าไม่ฟาดแรงๆให้ได้สติ น้ำน่านคงวนอยู่แค่ในอ่าง
บางทีต้องให้เป็นแบบนี้แหละ ถึงจะรู้ตัว ถ้าสุดๆไปอีกคือพี่เดียวยอมแพ้
ละเป็นคนยอมปล่อย น้ำน่านดิ้นแน่ ต่อให้ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองคิดไง
เจอพี่เดียวยอมเลิก ก็คงไปไม่เป็น คนอีโก้เยอะก้ต้องแบบนี้แหละ
เดี๋ยวพอรู้ตัวจริงๆ ไปง้อพี่เขา พี่เขาจะยกโทษให้มั้ยเหอะ
นอกใจเลยนะเว้ยยย คดีที่ก่อนี่น้อยคนจะรับได้นะ
จริงๆขนาดอ่านในมุมนน้ำน่าน เรายังรู้สึกผิดหวังเลย
ไม่ต้องถามถึงความรู้สึกพี่เดียว อย่างน้อยถ้าไม่รักก็ให้เกียรติกันบ้างก็ได้
ถ้าน่านไม่พร้อมกับการแคร์หรือใส่ใจใครซักคน ทำไมถึงยอมคบวะ
ถ้าไม่รู้ ทำไมไม่ลองหาคำตอบให้รู้ ก็ไม่เข้าใจน่านเท่าไหร่
ละก็เป็นคนที่อีโก้สูงขนาดแบบที่โคตรน่าหมั่นไส้เลย
ถ้าพี่เดียวทิ้ง เราจะสมน้ำหน้า ทำตัวเองทั้งนั้น
นี่ในใจยุให้พี่เดียวยอมแพ้ ยอมเลิกไปเลยนะ เผื่อเด็กดื้อบางคน
มันจะไม่ยอมละกลับมาง้อ กลับมาไถ่โทษทำตัวดีๆกับเขาบ้าง
#ยกป้ายไฟพี่เดียวเต็มขั้น น้ำน่านหรอ? ขอไม่รู้จัพักนึงละกัน ทำเกินไปหน่อย
ถ้าไม่ติดว่าน้ำน่านเป็นนายเอกนะ จะให้อิพี่เดียวหาเมียใหม่
จะนอกใจหรือนอกกายมันค่อนข้างเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้อะ
ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรก็เถอะ แต่ก็นะ คิดว่าจะพยายามเข้าใจน้ำน่าน
คนที่แม้แต่หัวใจตัวเองยังไม่ซื่อสัตย์ไม่ได้ จะให้ไปซื่อสัตย์กับคนอื่นได้ยังไง

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ รอติดตามอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-04-2017 12:34:27
น่าน อายุขนาดนี้ ยังคิดไม่เป็น
อาตัวเองเป็นศูนย์กลางจริงๆ
รู้ทั้งรู้ว่ามีสถานะแฟนกับพี่เดียว
ที่ผ่านมามีแต่พี่เดียวเอาใจ บอกรักชัดเจน
แต่ตัวน่านเอง จะบอกว่าไม่เคยมีแฟน
แต่ก็มีแล้วนี่ เสียหน้า น้อยใจเป็นคนเดียวใช่ไหม
ยังไม่ทันพูดจากันรู้เรื่อง ก็ชิงบอกว่าตัวเองเป็นโสด
ทั้งที่ธันว์ พาย เตือนมาตลอด 
แล้วยังไปพูดย้อนพี่เดียวอีกว่า
“นอกใจเขาใช้กับคนที่รักกันหรือเปล่าวะพี่”
ตัวเองไม่ได้รักพี่เดียว
น่าน ทำผิด แล้วยังทำร้ายจิตใจคนที่รักตัวเองอีก  :z3: :เฮ้อ:
ถ้าพี่เดียวตัดใจ จากน่าน
น่านคงสบายใจได้นะ ก็น่านไม่ได้รักพี่เดียวนี่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-04-2017 13:06:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 02-04-2017 14:07:53
ไม่เบื่อดราม่านะ แต่เบื่อความค้างคับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-04-2017 14:22:43
กรมม เศร้าสะงั้น

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 02-04-2017 17:38:45
เคยเข้าข้างน่าน

แต่ตอนนี้เข้าข้างไม่ลงอ่ะ สงสารพี่เดียวเลย

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-04-2017 19:30:17
ฮืออออออออออออออ สงสารพี่เดียวอะ    :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 02-04-2017 21:33:08
เลิกกันอาจจะดีกว่าไม่ใช่ว่าดีกะตัวเองนะ  แต่ดีกว่าอีกฝ่าย เหมือนกับว่า คนนู้คนนี้ก็บอกว่าดี แต่เราล่ะ ความดีเค้าไม่ใช่ประเด็นมั้ย
คือเข้าใจน่านนะ แบบไม่อินกับสถานะแฟน มีแล้วอึดอัด ไม่เป็นตัวเอง ระแวง คิดว่าไม่มีน่าจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 02-04-2017 22:48:04
กลับมาก็แจกมาม่ากันเลยทีเดียว :z2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-04-2017 01:03:17
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 04-04-2017 11:12:29
สนุกดีค่ะ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Himbeere20 ที่ 04-04-2017 17:18:39
อ่านทันแล้ว!!! ขอเม้นท์หน่อย.   "นอกใจเขาใช้กับคนที่รักกันหรือเปล่าวะพี่"  จะรักหรือไม่รักตกลงคบเป็นแฟนกันแล้ว มันก็เป็นช่วงเวลาศึกษาดูใจกัน อย่างน้อยซื่อสัตย์กับคนที่ตัวเองคบ ไม่ไปยุ่งกับคนอื่น เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องอัจฉริยะก็เข้าใจได้นะ. สิ่งที่น่านพูด ทำ ครั้งนี้เราว่ามันทำลายทุกอย่างลงหมดเลย ไม่เหลืออะไรให้ต้องลังเลใจเลย  จะรอดูว่าครั้งนี้จะใช่ยาแรงที่ทำให้น่านเปลี่ยนไปไหม หรือก็ยังเหมือนเดิม เพราะน่านไม่ได้"รัก" พี่เดียว ทั้งหมดก็แค่ถูกบังคับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: yummiie ที่ 04-04-2017 17:46:00
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-04-2017 19:41:20
ถึงแม้จะไม่ชอบที่น่านประชดด้วยการทำแบบนี้
แต่เราว่ามันก็เป็นวิถีของน่านไง คนมันเอาแต่ใจ555
ห่างกันแบบนี้ก็ดี น่านจะได้รู้ว่าตกลงพี่เดียวสำคัญขนาดไหน
ใช่หรือไม่ใช่ ดีหรือไม่ดี ตรองด้วยความคิดตัวเองโดยไม่ต้องฟังเพื่อนบิ้ว
แล้วก็ถ้าคิดได้ว่าสำคัญจริงๆก็ง้อเถอะนะ จะได้ไม่ลาแล้วลาลับ

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-04-2017 02:21:02
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 05-04-2017 03:36:36
มาอัพบ่อยๆน้าาาาา

ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.30 P.11 || [02.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 09-04-2017 11:59:14
สงสารพี่เดียวอ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 09-04-2017 22:01:09
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by Zero





- 31 -




“ไม่แดกก็กลับบ้านไปไป๊”ผมวางตะเกียบลงบนจานหลังจากได้ยินไอ้โอ๊คพูด มันทำหน้าเซ็งใส่ผมขั้นสุดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันนี้หลังเลิกเรียนที่เย็นกว่าปกติพวกมันก็ตกลงกันว่าจะมากินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่เปิดใหม่ร้านหนึ่งที่ไอ้โอ๊คได้คูปองส่วนลดมา ผมก็ถูกลากมาด้วยทั้งที่ใจไม่ได้อยากมา



   “มานั่งทำหน้าซังกะตายอยู่ได้ ปลาหมึกกับกุ้งกูเสียรสชาติหมด”มันว่าขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนเลยหันมาสนใจผมกันหมด สายตาดูเป็นห่วง



   “เป็นไรมึงดูซึมๆหงอยๆเหมือนไม่ใช่มึง”ไอ้เต้เป็นคนถามขึ้น



   “มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย กูกลับก่อนแล้วกัน”ผมก็อยากกลับบ้านไปทำอะไรบ้าง ไม่มีอารมณ์จะกินหรือเฮฮากับใคร อันที่จริงกลับบ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไร แค่อยากอยู่กับตัวเองเงียบๆ นอนมองเพดานนิ่งๆ เผื่อความรู้สึกข้างในมันจะสงบลงบ้าง



   “แล้วมึงจะกลับยังไง ไม่ได้เอารถมานี่”



   “เดี๋ยวเรียกแท็กซี่หน้าร้านเอา”เมื่อเช้าผมติดรถไอ้พายมา เพราะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร แต่มันไม่คุยกับผมสักคำ ดูท่ายังเคืองกับสิ่งที่ผมทำลงไป ขนาดมันไม่ได้เป็นคนที่ได้รับผลกระทบยังรู้สึกแบบนี้แล้วคนที่ได้รับไปเต็มนั้นจะยิ่งรู้สึกมากขนาดไหน



   “เออกลับดีๆ”ไม่มีใครรั้งผมไว้สักคน คงรู้ว่าผมอยู่ในอารมณ์ไม่ปกติ ก็แน่นอนเพราะผมเองก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมและแสร้งทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ได้



   บ้านเงียบเชียบเพราะไอ้พายยังไม่กลับ ผมเปิดไฟทิ้งไว้แค่ด้านหน้าแล้วเดินผ่านแสงสลัวมาทิ้งตัวนอนบนโซฟาอย่างอ่อนแรง
   ผมหยุดคิดเรื่องพี่เดียวไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่วันนั้นที่ออกมาจากห้อง ทั้งที่คิดว่าจบลงแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกค้างคา สรุปว่าเราเลิกกันหรือยังนะ ที่บอกว่าขอเวลานั้นหมายถึงอะไร หมายถึงให้ห่างกัน เลิกกันอย่างที่ผมพูด หรือว่าอะไร พี่เดียวไม่ได้โทรมาและผมก็ไม่กล้าโทรไป รู้แน่ชัดแล้วว่าตัวเองผิดมาก แต่ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป ผมเหมือนเด็กหลงทางไม่รู้จะเดินต่อไปทางไหนดี เส้นทางข้างหน้ามันมืดมนไปหมด



   “มานอนตายอะไรตรงนี้วะ”



   ไม่รู้ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งไอ้พายกลับมาเปิดไฟสว่างไปทั้งบ้านยังไม่รู้ตัว ผมลืมตาขึ้นมอง เห็นมันยืนค้ำหัวอยู่ หน้านิ่วคิ้วขมวด



   “มึงโอเคมั้ยเนี่ย?”



   ผมลุกขึ้นนั่ง รู้สึกเหมือนบ้านหมุนได้ทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ มันยอมพูดด้วยแล้วแสดงว่าคงหายเคืองไปบ้างแล้ว



   “กูไม่โอเค พี่เดียวรู้เรื่องนั้นแล้ว”



   “รู้ได้ไง?”



   “กูบอกเอง”



   “หึ แล้วเป็นไง ได้เลิก กลับมาเป็นโสดสมใจมึงแล้วสิ ไม่ดีใจออกไปร่อนฉลองโสดหรือไง”ไอ้พายประชดประชันให้ผมเจ็บใจเล่น



   “มึงนี่นะ ตอนเตือนไม่ฟัง ตอนนี้มานั่งซึมกระทือเหมือนคนจะตาย”



   “สภาพกูเป็นถึงขนาดนั้น?”จะตายเลยเหรอ ไม่นะ แต่ก็แค่ไม่มีความสุข ไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่ควรจะเป็น มันหน่วงอยู่ในใจ



   “หึ ก็คงไม่ขนาดนั้น แต่ก็ไม่มีความสุขใช่มั้ย หน้ามึงอมทุกข์มาก คิดอะไรอยู่”



   “พี่เดียวบอกว่าขอเวลาหน่อย ขอเวลาอะไรวะ?”



   “กูจะไปรู้มั้ย ถ้ามึงอยากรู้ก็ถามเขา ไปคุยกันตรงๆเลย เอาให้เคลียร์จะเลิก จะคบต่อก็เอาให้ชัดเจน แต่ถ้าให้กูเดาเขาก็คงอยากทบทวนเหมือนกันว่าจะคบกับมึงต่อไปดีมั้ย ทำกับเขาขนาดนั้น ถึงไม่ได้รักเขาแต่มึงก็ตกลงคบกับเขาป่ะวะ การไปนอนกับคนอื่นมันใช่เรื่องที่ควรทำมั้ย ถ้าพี่เขาทำมั่งมึงจะรู้สึกยังไง หรือว่ามึงด้านชาไร้ความรู้สึก แม้แต่ความผิดชอบชั่วดีก็แยกแยะไม่ได้”



   “มึงขึ้นทำไมเนี่ย”มันร่ายยาวแต่ละคำปักลงกลางใจผมอย่างจัง ความรู้สึกผิดไหลท่วมท้นหัวใจ รู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว การกระทำแบบไม่ยั้งคิดมันร้ายแรง ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นได้อย่างสาหัสากรรจ์ สีหน้าและแววตาผิดหวังของพี่เดียวในวันนั้นยังติดอยู่ในใจผม



   “กูอยากด่ามึงมากกว่านี้อีก ให้สมกับเรื่องโง่ๆที่มึงทำ แต่เห็นแล้วกูสงสารเด็กน้อยไม่ประสากับความรัก”หน้ามันดูเหยียดหยามผมมาก



   “กูควรทำไงดีวะ”



   “ถามใจมึงสิ ไม่มั่นใจเหมือนตอนที่บอกว่าโสดแล้วหรือไง ถ้ามั่นใจว่าอยากกลับไปแบบเดิมก็ไปคุยให้เคลียร์เลิกกันให้จริงจังไป พี่เขาจะได้ไปเจอกับคนดีๆ”ไม่วายแดกดันผมให้ยิ่งคิดมากไปอีก ให้ผมถามใจตัวเองแล้วผมจะได้คำตอบมั้ย เพราะหลายวันผ่านมาผมก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อไปดี



   “กูหิวไปหาอะไรกินดีกว่า มึงจะกินด้วยมั้ย?”



   “ไม่อ่ะ กูไปอาบน้ำนอนแล้ว”



   “ขอให้หลับสบาย”ผมมองมันตาขวางเพราะรู้ว่ามันประชดใส่ ผมตาค้างทั้งคืนทั้งที่ร่างกายอยากพักผ่อน เพราะนอนไม่หลับมาหลายคืนแต่ไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ในหัวมีแต่เรื่องพี่เดียววนไปวนมา พร้อมกับคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้



   ใจผมคิดยังไงกันแน่นะ

   



   X





   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อเรียกขวัญกำลังใจก่อนจะกดลิฟต์เพื่อพาตัวเองไปยังชั้นจุดหมายปลายทาง ผมตัดสินใจมาหาพี่เดียวที่คอนโด ในเมื่อคิดจนหัวจะระเบิดแล้วก็ยังคิดไม่ออก แต่ผมก็ยังอยากเจอพี่เดียว อย่างน้อยผมก็ควรขอโทษเขาในสิ่งที่ทำลงไป แต่คำพูดอย่างเดียวมันอาจจะน้อยไป ผมเลยแวะซื้อของสดมาด้วยวันนี้ตั้งใจจะทำกับข้าวไว้รอพี่เดียวกลับมา แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะกินอะไรมาหรือยัง มีนัดที่ไหนหรือเปล่า แต่ผมก็อยากจะทำให้ ทว่าความคิดผมก็สะดุดลงเมื่อผมไม่สามารถเปิดประตูห้องของพี่เดียวได้



รหัสผ่านถูกเปลี่ยน...



มือผมสั่นคล้ายจะหมดแรงเสียดื้อๆ ผมลองกดรหัสเดิมอีกครั้งแต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเพราะเมื่อครู่อาจกดพลาดไปสักตัว แต่ผลก็ออกมาเหมือนเดิม เปลี่ยนเพราะไม่อยากให้ผมเข้าไปได้หรือเพราะมีเหตุผลอื่น แต่ผมก็คิดหาเหตุผลอื่นไม่ได้เลย มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ผมก็ยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ เลยตัดสินใจนั่งรออยู่หน้าห้อง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ไม่กล้าโทรไปหา ตอนนี้สี่โมงเย็นยังไม่ถึงเวลาเลิกงานผมกลัวจะโทรไปรบกวนเลยพิมพ์ข้อความส่งผ่านไลน์ไปแทน แล้วนั่งจ้องมันอยู่อย่างนั้นผ่านไปสิบนาทีก็ยังไม่ได้ถูกเปิดอ่าน อาจจะทำงานยุ่งหรือประชุมอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีใจผมก็เต้นแรงขึ้นมา เมื่อเห็นว่าข้อความถูกอ่านแล้ว ทว่าก็ไม่มีการตอบกลับมาจากนาทีกลายเป็นชั่วโมง ผมตัดสินใจโทรไปหลังเวลาเลิกงาน รอจนสายตัดไปถึงสามครั้งจึงเลิกโทร และนั่งรออยู่ที่เดิมจนเที่ยงคืนก็ไม่มีวี่แววว่าพี่เดียวจะกลับห้อง ผมคงต้องกลับไปตั้งหลักใหม่



 “ไปไหนมาวะ?”



“ไปหาพี่เดียวมา”



“เคลียร์กันแล้ว?”



“ไม่เจอว่ะ พี่เดียวไม่กลับห้อง ไม่ตอบไลน์ โทรไปก็ไม่รับ”



“พี่เขาคงต้องการเวลาอย่างที่บอกไว้ เขาคงไม่พร้อมจะคุยกับมึงจริงๆนั่นแหละ”



“แล้วต้องการไปถึงเมื่อไหร่วะ”



“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่กูถามมึงอย่าง มึงเจอพี่เขามึงจะคุยอะไร ที่พยายามจะติดต่อพี่เขามึงตัดสินใจได้แล้วหรือไงว่าจะเอายังไงต่อไป คิดดีหรือยัง ถามใจตัวเองหรือยังว่ารู้สึกยังไง คิดดีๆ กูกลัวว่ามึงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”



“กูอยากขอโทษเขา”



“แล้วยังไงต่อ”



“......”




นั่นสิแล้วยังไงต่อดี ผมรู้แค่ว่าผมไม่มีความสุขเลย หลายอย่างต่างไปจากที่เคยคิดว่า ถ้าให้ถามว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้กับก่อนหน้าที่มีพี่เดียวอยู่ ผมกลับชอบการมีพี่เดียวอยู่มากกว่า ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมคุ้นชินกับการมีเขาอยู่ข้างๆ



“มึงนี่นะ ใช้นี่เยอะๆ”มันจิ้มจึ้กๆมาที่หน้าอกด้านซ้ายของผม ที่มีหัวใจอยู่ในนั้น หัวใจที่เหมือนมีหินก้อนใหญ่ถ่วงไว้



ผมยังไปเรียนตามปกติ พยายามเพ่งสมาธิกับการเรียนการสอน แต่พอถึงเวลาพักผมก็รีบมาที่คณะบริหารเพื่อเจอพี่เฟิร์ส ผมถามตารางเรียนมาจากไอ้พายอีกที รอไม่นานก็เห็นพี่เฟิร์สเดินมากับเพื่อนอีกสองคน



“พี่เฟิร์ส”พอผมเดินไปดักหน้า เพื่อนพี่เฟิร์สทั้งสองคนก็พากันจ้องเขม็งเหมือนผมจะเข้าไปทำมิดีมิร้ายอย่างนั้น



“น่านมีอะไร?”ใบหน้าน่ารักแสดงความแปลกใจ



“ผมขอคุยด้วยหน่อยครับ”




“ได้สิ เพชรกับยุ่งไปรอที่ห้องสมุดก่อนก็ได้เดี๋ยวเราตามไป”พี่เฟิร์สหันไปบอกเพื่อนสองคนที่ดูท่าทางไม่อยากไปจากตรงนี้เท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็จากไปพร้อมกับทิ้งสายตาไม่เป็นมิตรไว้ที่ผม



“ผมติดต่อพี่เดียวไม่ได้เลย เขาไปทำงานต่างประเทศหรือเปล่าครับ”



“หืม ไม่นะ แต่กลับไปนอนที่บ้านทุกวันเลย มีอะไรหรือเปล่า เอ๊ะ! ทะเลาะกันเหรอ?”พี่เฟิร์สทำตาโตท่าทางตกใจ เขาคงไม่ระแคะระคายเรื่องระหว่างผมกับพี่เดียว



“ก็ทำนองนั้นครับ ผมอยากคุยกับพี่เดียว พี่ช่วยผมหน่อยได้มั้ย?”



“ก็ได้ เย็นนี้ไปที่บ้านพี่สิ มีนัดทานข้าวเย็นพร้อมกันในครอบครัว พี่เดียวกลับบ้านไวแน่ๆ”



“ขอบคุณครับ”แม้จะใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะผมทำตัวไม่ถูกแต่อย่างน้อยก็ดีใจที่จะได้เจอพี่เดียวอีกครั้งหลังจากเกิดเรื่อง



ตอนเย็นพอเลิกเรียนผมก็พุ่งตรงไปที่บ้านของพี่เฟิร์สตามโลเคชั่นที่พี่เขาแชร์ไว้ ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะมาถึง พอมีเวลาพูดคุยก่อนจะถึงเวลาอาหารของครอบครัวพี่เฟิร์ส ผมตั้งใจแค่จะมาคุยไม่ได้อยากร่วมโต๊ะด้วย พี่เฟิร์สรอรับอยู่หน้าบ้าน พอผมจอดรถเสร็จก็ตรงเข้ามาหาทันที
“มาไวดีเหมือนกันนะ พี่เดียวอยู่อีกบ้านเดี๋ยวพี่พาไป พี่ไม่รู้หรอกนะว่าทะเลาะอะไรกันแต่ก็คุยกันดีๆนะ พี่เดียวเป็นคนมีเหตุผล แต่เวลาโกรธจะปากจัดมากก็อย่าไปถือสานะ น่านต้องใจเย็น”พี่เฟิร์สเอ่ยด้วยความปรารถนาดี ถ้าผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยังให้ความช่วยเหลืออยู่หรือเปล่า



พี่เดียวมีบ้านแยกออกมาเป็นส่วนตัวอีกหลัง เป็นบ้านปูนสองชั้นขนาดกลางเหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวหรือการมีครอบครัวเล็กๆเป็นของตัวเอง มีสระว่ายน้ำส่วนตัวความยาว 15 เมตร บริเวณรอบบ้านดูร่มรื่นน่าอยู่กว่าคอนโดที่อาศัยอยู่ประจำเสียอีก พอพี่เฟิร์สเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่เดียวที่ยังอยู่ในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมกับกางเกงสแล็คเอนตัวหลับตาอยู่บนโซฟา ขวดบรั่นดีที่ตั้งอยู่บนพื้นพร่องไปเกือบครึ่ง



“พี่เดียว ดูสิใครมาหา ท้าดา~”พี่เฟิร์สดูร่าเริงขัดกับบรรยากาศระหว่างผมกับพี่เดียว อีกฝ่ายเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นผม คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากัน ใบหน้าดูนิ่งขึงขึ้นกว่าเดิม



“คุยกันดีๆนะ เสร็จแล้วก็พาไปทานข้าวด้วยเฟิร์สบอกคุณแม่ไว้ว่ามีแขกพี่มาทานด้วย”พี่เฟิร์สถอยฉากออกไป คงรับรู้ได้ถึงความไม่ปกติของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง ผมยืนเคว้งอยู่ที่เดิม ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้ผมรู้สึกประหม่าที่สุดในชีวิต จนไม่กล้าสบตากับพี่เดียวตรงๆ



“มาทำไม”



“ก็พี่ไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์ ผมอยากคุยกับพี่”



“โง่จนไม่เข้าใจคำว่าขอเวลาหรือไง”โดนย้อนจนผมสะอึก แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ ผมต้องใจเย็น



“แล้วพี่ขอเวลาไปถึงเมื่อไหร่ กี่วัน กี่อาทิตย์หรือเป็นเดือน ผมไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไร ตอนนี้เราอยู่ในสถานะไหน”



“คุณจะถามถึงสถานะทำไมวะ เพราะมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันไม่ใช่เหรอ?”พี่เดียวย่างเข้าหาท่าทางคุกคามแต่ผมก็ไม่ได้ถอยหนี



“จะคบหรือไม่คบมันดูไม่ต่างกันเลย เพราะคุณก็ยังคงทำตัวไม่แคร์ใครอยู่ดี ฉะนั้นตอนนี้อยากจะไปทำอะไรก็ตามใจเถอะ เพราะแค่ผมขอเวลาคุณยังให้ผมไม่ได้เลย ในเมื่อให้ไม่ได้ผมก็ไม่เอา!”



“ผมก็แค่ไม่เข้าใจเท่านั้น ที่มาวันนี้ผมก็แค่อยากจะมาขอโทษพี่ ผมขอโทษ”พี่เดียวแค่นหัวเราะออกมา



“รู้เหรอที่ทำไปมันผิด แต่คำขอโทษของคุณไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย คุณไม่รักผมก็พอเข้าใจได้ แต่ในเมื่อคุณตกลงคบกับผมแล้วคุณก็ควรซื่อสัตย์หรือเปล่าวะ หลักพื้นฐานง่ายๆเลย ถึงจะไม่เคยรักใครแต่คุณก็ต้องรู้”



“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว”ผมยอมรับแต่โดยดี มันถูกอย่างที่พี่เดียวพูดมาทุกอย่าง



“ผมจะไม่ถามย้อนไปหรอกนะ ถ้าเกิดเป็นผมทำบ้างคุณจะรู้สึกยังไง เพราะผมรู้ว่าคุณคงไม่รู้สึกอะไร”สายตาของพี่เดียวตัดพ้อ เจ็บปวด



“วันนี้คุณมาก็ดีเหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะยื้อเวลาต่อไปทำไม เราคงไปกันไม่รอดจริงๆ ต่อไปนี้คุณก็ไปใช้ชีวิตอย่างที่คุณชอบเถอะ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก”





ขอบตาผมร้อนผ่าวขึ้นมาทันที นี่คือการบอกเลิกสินะ





ผมไม่ใช่คนไร้ความรู้สึก แต่แค่รู้ตัวช้าเกินไป...







X






ปึง ปึง ปึง!




เสียงเคาะประตูหนักๆ เหมือนจะพังเข้ามา ทำให้ผมลืมตาขึ้น ผมไม่ได้หลับเพียงแค่พักสายตา พักดวงตาที่บวมแดงจนแทบลืมไม่ขึ้นของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาอะไร กลางวันหรือกลางคืน ตั้งแต่กลับมาจากบ้านพี่เดียวผมก็เก็บตัวอยู่ในห้องตลอด ผ่านมากี่วันแล้วนะ



“ไอ้เชี่ยน่าน ถ้ายังไม่ตายก็มาเปิดประตูให้กู”เสียงไอ้พายดังแว่วเข้ามาฟังดูร้อนรน แต่ผมไม่ได้ขยับตัว ไม่อยากทำอะไร ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากคิดอะไรเลย เสียงคุยกันดังแว่วมาจากหน้าห้อง มีใครอีกคนหรืออาจจะหลายคนอยู่ตรงนั้น แต่ผมไม่อยากพบใครเลย



“ไอ้สัด ทำไมห้องมืดขนาดนี้”ผมหันไปมองเงาตะคุ่มๆที่เดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่แสงสว่างจะสาดส่องเข้ามาเพราไอ้พายเดินไปเปิดม่านออก ไอ้ธันว์ ไอ้คิมก็มา มันยืนอยู่ปลายเตียง ผมลุกขึ้นนั่งลูบหน้าตาตัวเอง แล้วเอามือปิดหน้าตัวเองค้างไว้ ไม่อยากให้ใครเห็น



“พวกมึงมีไร”



“ห่า ไอ้เสือกูหมดสภาพเลย”ไอ้ธันว์



“มึงไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย”ไอ้พาย มันนั่งลงข้างผม ดึงแขนเสื้อนักศึกษาที่ผมใส่อยู่ตั้งแต่วันที่ไปหาไอ้พี่เดียว



“ไม่ต้องมาปิดหน้าหนีพวกกู”ไอ้พายดึงมือผมออก ส่วนไอ้ธันว์ก็ยื่นมือมาจับหน้าผมเงยขึ้นอย่างไม่ปราณี หันหน้าหนีก็ไม่ได้เพราะแรงมันเยอะ



“โทรมสัด นี่มึงเพื่อนกูป่ะเนี่ย”



“มึงจะฆ่าตัวตายอยู่ในห้องปิดตายหรือไงวะ”ไอ้คิมมันว่า ดูโคนันมากไปหรือไงวะ ผมไม่ได้จะฆ่าตัวตายสักหน่อย



“พวกมึงมาทำไมหมดวะ”



พวกมันพร้อมใจกันถอนหายใจใส่ผม ก่อนที่ไอ้พายจะเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ไอ้เต้มันติดต่อผมไม่ได้เพราะแบตผมหมดแล้วก็ไม่ได้ชาร์จ มันเลยถามไอ้พายเพราะผมไม่ได้ไปเรียนสองวันแล้ว ตอนแรกไอ้พายก็คิดว่าผมเคลียร์กับพี่เดียวได้แล้วเลยไปนอนค้างที่คอนโดพี่เดียวเพราะไม่เห็นรถผม จนตอนเที่ยงวันนี้มันเจอกับพี่เฟิร์สแล้วบอกว่ารถผมยังอยู่ที่บ้านเขาจะเข้าไปเอากลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ มันเลยเอะใจชวนพวกไอ้สองคนนี้มาดูผมที่บ้าน วันนั้นหลังจากถูกพี่เดียวตัดขาดแบบไร้เยื่อใยผมก็โบกแท็กซี่กลับมาอย่างคนไร้สติ ลืมแม้กระทั่งรถตัวเองที่จอดทิ้งไว้



“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นวะ”



“พี่เดียว...เลิกกับกูแล้ว”น้ำเสียงผมสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขอบตาร้อนผ่าว ปวดกระบอกตาจนร้าวไปถึงท้ายทอย



“แล้วตอนนี้มึงรู้สึกยังไง”



“กู....”ผมอธิบายความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ไม่ได้เลย ผมเคยอึดอัดกับสถานะแฟนที่ทำอะไรต้องคอยนึกถึง หงุดหงิดกับคำพูด คำสั่ง พฤติกรรมเกาะติดของพี่เดียว แต่พอมาถึงวันที่เขาคืนอิสรภาพให้ผม ผมกลับโหยหามัน แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆที่เป็นแฟนกัน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนาน สายใยบางๆที่มันถักท่อขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันผูกเราไว้ด้วยกัน มันคือความผูกพันที่เกิดขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว



“ตรงนี้ของมึงมันเหมือนถูกบีบคั้นจนปวดไปหมดใช่มั้ย”ไอ้พายมันจิ้มมาที่อกผม



“ในหัวของมึงคิดแต่เรื่องของเขาใช่มั้ย มองไปทางไหนก็ทำให้นึกถึงแต่เขา ไม่ว่าจะนอน เข้าห้องน้ำ กินข้าว ขับรถ ทุกที่ที่มึงไป ทุกอย่างที่มึงทำ มึงจะเห็นแต่ภาพของเขา จนมึงไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอใครใช่มั้ย?”



ไอ้พายเหมือนเข้ามานั่งอยู่ในใจผม ผมนึกถึงแต่เรื่องที่พี่เดียวเคยทำให้ จริงอยู่ที่เราเริ่มต้นไม่ดี แต่หลังจากนั้นพี่เดียวก็ดีกับผมมาตลอด อดทนกับความเอาแต่ใจของผม ผมรู้ว่าเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องลงให้ใคร ผู้ชายอย่างนั้นที่ถูกเอาใจมาจนเคยชินและมีแต่คนมาเสนอตัวให้กลับต้องมาอดทนกับเด็กผู้ชายอย่างผม งานหนักแค่ไหนก็ยังปลีกตัวมาหา ถ้ามาไม่ได้ก็จะโทรมาถามด้วยความห่วงใย แต่ผมกลับมองข้ามมันและรู้สึกอึดอัดรำคาญ เพียงเพราะไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้น พยายามหนีด้วยความกลัว



จนกระทั่งสูญเสียมันไปแล้ว ถึงได้รู้ใจตัวเอง...



“กู...ต้องทำยังไงถึงจะเหมือนเดิม”ไม่เหมือนเดิมก็ได้ ขอแค่ให้มีโอกาสอีกสักครั้ง ให้คนโง่ๆอย่างผมได้แก้ตัว



“มึงรู้ใจตัวเองแล้วใช่มั้ย”



“คิดว่ารู้”ถึงจะไม่มั่นใจว่ามัน เพราะผมไม่รู้ว่ารักเป็นความรู้สึกแบบไหน การอยากเจอพี่เดียวทุกวัน อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พูดคุยกัน ดีกันบ้างตีกันบ้าง แต่ผมก็มีความสุข มันใช่ความรักหรือเปล่า ถ้าหากใช่ผมก็อยากได้วันเวลาเหล่านั้นกลับคืนมา




“ถ้ารู้ใจตัวเองก็ดีแล้ว แต่จะทำยังไงให้เหมือนเดิมคงเป็นงานยากว่ะ แต่ถ้ามึงจริงจังพวกกูจะช่วยเอง”



“เออ แต่ก่อนอื่น เช็ดน้ำตาก่อนเหอะ หน้ามึงตอนนี้โคตรอุบาวท์”ไอ้ธันว์ผลักหัวผมแทบหงาย ผมยกมือลูบหน้าตัวเองทันที น้ำตาผมไหลออกมาไม่รู้ตัว คิดว่ามันจะไม่มีให้ไหลแล้วเสียอีก ผมไม่เคยเสียศูนย์ขนาดนี้มาก่อน จะมีความรักครั้งแรกก็วุ่นวายวุ่นวายเหลือเกิน



“หมดกันเพื่อนกู น่าถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ไอ้ห่าน่านสภาพเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้ง”



“ห่า กูไม่ใช่หมา”ผมเอาเท้ายันไอ้คิมไปที จะพูดทั้งทียังปากหมา



“หึหึ เด็กชายน้ำน่านรู้จักความรักแล้วโว้ย”ไอ้พายมันยีหัวผมเป็นเด็กน้อย ผมเลยปัดออก ได้ทีก็เหยียบกูใหญ่เลยนะพวกมึง


“เลิกนอนรอเวลาตายแล้วลุกไปอาบน้ำไป มึงไม่ได้กินไม่ได้นอนมากี่วันแล้วเนี่ย ซูบไปเยอะ หน้าก็โทรม ถ้าจะง้อผัวด้วยสภาพนี้เป็นกูก็ไม่เอาอ่ะ”




“ไอ้สัดพาย”




“ฮ่าๆๆ”แล้วมันก็พากันหัวเราะผม เห็นเพื่อนเป็นทุกข์มึงมีความสุขกันนักใช่มั้ย กูจะพลาดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ!









--------------------------------


มาแล้วค่ะ เอาน้ำน่านมาให้ยำ ฮ่าาาา รู้ใจตัวเองสักทีเนอะ
ต่อจากนี้ก็เจองานหิน งานยักษ์ งานง้อชุดใหญ่ไฟกะพริบ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-04-2017 22:17:30
พี่เดียวตั้งใจตัดน่านจริงๆเหรอ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 09-04-2017 22:32:18
55555  น้ำน่านได้รับบทเรียนซะแล้ว
ตอนหน้าพี่เดียว  อย่าเพิ่งใจอ่อนนะ
ให้น้ำน่านเข็ดไปเลย  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 09-04-2017 22:35:41
งือออ น่านเดินหน้าง้อพี่เดียวต่อไปนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-04-2017 22:46:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-04-2017 23:00:20
ดีใจมากกกกกกก ครั้งนี้มาเร็ว  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 09-04-2017 23:11:47
ง้องานใหญ่แน่ๆ น่านเอ้ยยย ทำอะไรไม่คิด ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี
สำหรับคนบางคนเรื่องนี้เรื่องใหญ่มากขนาดที่ต่อให้รักก้เลือกที่จะไม่กลับไป
ความรักอาจจะยังมีอยู่แต่ความเชื่อใจมันหายไปแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าไม่ง่าย
เว้นแต่พี่เดียวจะรักน้ำน่านมากๆ มากพอที่จะมองข้ามความเจ็บปวดของตัวเอง ให้อภัยและเริ่มใหม่อีกครั้ง
แต่มันต้องใช้เวลาแน่นอน ฉะนั้นจะอยู่ที่น้ำน่านคนเดียวแล้วนะ อยากได้คืนก้ต้องสู้
จะแบไต๋ จะเสียเซลฟ์ยังไงก้ต้องทำ ทำให้พี่เขาได้รู้ว่าจริงๆเขาสำคัญมากกว่าอะไรทั้งนั้น
ง้อแรกๆเชื่อเถอะ ว่าอาจจะต้องง้อทั้งน้ำตา ดูท่าพี่เดียวไม่ง่ายเลยซักนิด
และคนที่เป็นผู้ใหญ่แบบนั่นการให้เกียรตินั่นก้ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่น่านพังมันหมดเลย
ฉะนั้นต่อให้โดนอะไรกลับมาก้นะ สู้ต่อไป ถ้าคิดได้แล้วจริงๆก้จะเป็นกำลังใจให้ละกัน

ปล.โทษทีนะคะ อินไปหน่อย 555 แต่ก้นะคนเรามันพลาดกันได้
แต่แค่น่านพลาดหนักไปหน่อย เรื่องเซ้นซีทีฟซะด้วย น้อยคนจะรับกันได้พูดจริงๆ
ถ้าพี่เดียวให้อภัย น้ำน่านจำไว้เลยว่าหัวใจของผู้ชายคนนั้นกว้างใหญ่มากๆ
และที่สำคัญเขารักน่านมาก มากขนาดที่น้ำน่านคิดไม่ถึงหรอก
ควรจะสำนึกและรู้จักรักษาให้ดีๆนะ ดังนั้นกว่าจะได้คืนดี
ก้ขอเชิญเดินหน้าง้อชุดใหญ่ต่อไปนะคะ ละก้อย่ากินน้ำตาแทนข้าวล่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-04-2017 23:42:37
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 09-04-2017 23:52:15
งานหิน งานฟอสซิล งานเพชรก็มา น่านแกง้อพี่เดียวจนตายแน่ //กุมขมับ :hao4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Himbeere20 ที่ 10-04-2017 00:53:40
สมน้ำหน้าน่านได้ไหม แต่เอาเถอะ เหมือนน่านจะเข้าใจอะไรๆขึ้นแล้ว จะง้อพี่เดียวนี่ คงไม่ง่าย อยากรู้ว่าน่านจะทำยังไง จะอดทนได้ไหม แล้วจะสำเร็จรึเปล่า
 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 10-04-2017 06:59:47
 :pig4:          :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-04-2017 09:33:44
จะเสียไปแล้วถึงรูสึก พี่เดียวใจแข็งไว้เพ่ !!!
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-04-2017 09:44:35
เตรียมตัวง้อพี่เดียวได้เลยนะน่าน~ :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-04-2017 10:57:38
ถ้าไม่เกิดเรื่อง
น่าน ก็ไม่รู้ใจตัวเองซักทีว่ารักพี่เดียวไปแล้ว
พี่เดียว ใจแข็ง คงสอนน่านไปเลย
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 10-04-2017 11:42:39
รู้ใจตัวเองซักที น่านเตรียมตัวง้อพี่เดียวชุดใหญ่ๆเลย
ดูท่าพี่เดียวจะไม่ใช่คนที่ง้อได้ง่ายๆแน่ๆ
น่านก็ทำลายความเชื่อใจความรู้สึกพี่เดียวหนักซะขนาดนั้น
เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เองนะ น้ำน่าน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 10-04-2017 11:45:29
ทีมพี่เดียววว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 12-04-2017 02:44:31
นี่ยังไม่เห็นรู้สึกเลยว่าน่านจะผิดอะไรนักหนาขนาดนี้
อย่าลืมว่าจุดเริ่มต้นมาจากอะไร
-ได้เป็นผัวเมียเพราะจากการขืนใจ ถึงจะไม่ถึงขั้นข่มขืนแต่ก็เพราะสู้แรงไม่ได้และถูกปลุกเร้าจนแค่เพียงร่างกายสมยอม
-อย่ารีบเอาคำว่าเพราะติดใจเลยอยากจะจีบเป็นแฟนมาให้อภัยไอ่พวกฝ่ายรุกทั้งหลายนักเลยเถอะ
แค่onsฝ่ายที่ถูกบังคับให้เป็นรับเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนเลือกคนกำหนดไหม
ไม่ใช่ว่าเพราะกุเป็นผัวนะเมียๆอย่างมึงอ่ะควรจะริกรี้ดีใจสิที่กุยอมเลิกสำส่อนมาเอามึงคนเดียว
คือถามเขาก่อนไหมว่าเขาอยากได้มึงทำผัวตั้งแต่มะไหร่ นอกจากการยัดเยียดให้จากมึง
-คนเราไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด ที่สำคัญคือยอมรับผิดและตั้งใจที่จะแก้ไข
กับน่านเองแล้วอยากจะยกผลประโยชน์ให้เลยด้วยซ้ำ ไม่เคยได้ยินหรอว่า..คนไม่รู้ไม่ผิด..
น่านยังเป็นมือใหม่กับเรื่องความรักและการเป็นฝ่ายรับ ให้โอกาสกันได้เรียนได้ศึกษาหน่อยไหม
ทำไมถึงให้แต่โจทย์ยากๆที่ยังเรียนไม่ถึง แต่พอสอบตกก็ไม่ให้แก้แม้แต่0 ร มส กลับไล่ออกจากรร.อย่างเดียว
-ความผิดของเดียวก็มีไม่ใช่หรอ ทำไมไม่เห็นมีบทลงโทษเลย ทั้งๆที่เหตุผลก็โคตรจะงี่เง่าไม่ต่างกัน
แถมวิธีแก้ตัวก็แค่พอพูดให้พ้นๆตัวไปกลับเท่ากับว่าไม่ผิดแล้ว คือคิดว่าน่านน่าจะได้ลดหย่อนโทษบ้างไหมจากสาเหตนี้
-คำว่า..นอกใจกับคนรัก..ของน่านนั้น เข้าใจว่าแรง
แต่ประเด็นคืออะไร พูดเพราะอารมณ์ไง พูดเพราะเถียงกัน พูดเพราะอยากจะเอาชนะ
ไม่ใช่พูดเพราะหมายความตามนั้นจริงๆ ไม่เคยเป็นหรอ เฟริสยังบอกเลยว่าเดียวเวลาโกรธจะปากจัด
-คืออะไร...โกรธอ่ะ ทำไมเวลารุกเป็นฝ่ายนอกใจมีแต่คนบอกรีบให้อภัย
เวลารับ(ที่ถูกบังคับให้เป็น)ทำบ้าง ทำไมมันผิดร้ายแรงอภัยไม่ได้กันขนาดนี้
นี่ชอบมากๆเลยเวลาเดียวเล่นตัวแล้วน่านไม่ง้อต่อ คือชอบคนมีจุดยืนของตัวเองมากๆ
ไม่ชอบเดียวอยู่แล้วจากการกลั่นแกล้งกวนตีนจนไปถึงการใช้กำลังบังคับเอาแล้วยังจะมาบังคับจีบบังคับคบ
ไม่รู้สึกเลยหรอว่าการโทรมาสั่งให้มาหาน่ะมันไม่ใช่วิถีที่คนเป้นแฟนคนแมนๆเขาทำกัน
น่านจะไม่ไปหาเพราะไม่ว่างแล้วไง ผิดหรอ ต้องมีงอนเอาคืน ตกลงเรื่องนี้ใครมันเด้กน้อยกว่ากันกันแน่
นี่จะไม่เสียใจเสียดายเลยนะถ้าน่านตัดใจไม่ง้อต่อ
พอคนเขียนบอกว่าตอนต่อๆไปน่านจะต้องง้อชุดใหญ่นี่ เฮ้อเลย คงต้องรอง้อเสร็จก่อนค่อยกลับมาอ่านแล้วงั้น
เกลียดมันอิพี่เดียว :katai1:
#ขออภัยใช้คำรุนแรง#ขออภัยอินจัด#ขออภัยทีมอวยฝ่ายรับ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆที่ทำให้ป้าขึ้นจนเกือบลงไม่ได้ขนาดนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-04-2017 17:51:14
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: wildride ที่ 16-04-2017 20:22:13
กับความสัมพันธ์ที่เกิดในลักษณะเน้ คือรัย ยังงัย ทำมัย  น่านจะต้องง้อชุดใหญ่   :m16:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 17-04-2017 16:47:16
รอค่ะรอ คนเขียนเมื่อไหร่จะมาน้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-04-2017 23:53:13
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai4: :katai4: :katai4: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 18-04-2017 03:40:41
ไม่รู้สิ  แต่รู้สึกว่า น่านเป็นตัวละครที่ไม่มีความพัฒนาเลย วนเวียนอยู่ที่เก่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-05-2017 22:38:20
อยากอ่านต่อแล้ว   :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 13-05-2017 08:31:27
รอตอนต่อไปนะคะ อยากรู้ว่าน่านจะง้อพี่เดียวยังไงละเนี่ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 13-05-2017 09:20:03
มาอัพต่อที แง #ทีมน่านอยู่ดี :katai4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 21-05-2017 22:17:06
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 32 -







(เดียว)




   “เออ เรื่องนี้น้องมันก็ผิดจริง”




   ผมใช้เวลาพักใหญ่ในการเรียบเรียงและเล่าเรื่องของผมกับใครอีกคนให้ไอ้อาร์ฟัง อยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้เจอกันดันมาเจอกันที่ฝรั่งเศส ผมมาทำธุระเรื่องเครื่องประดับและชุดเจ้าสาวให้พี่นลิน ก่อนหน้านี้ไอ้อาร์ก็รู้เพียงแค่ผมมีแฟน แต่ผมไม่ได้เล่ารายละเอียดให้มันฟัง




   “แต่เอาจริงๆนะ เรื่องของพวกมึงมันก็ผิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มึงผิดที่ไปทำกับน้องมันแบบนั้น เป็นกูกระทืบมึงไส้แตกไปแล้ว นี่ยังมีหน้าไปตื๊อขอเขาคบอีก จุดเริ่มต้นของความรู้สึกของพวกมึงอยู่ตรงไหนวะ เกลียดกัน เอากัน คบกัน มาเร็วเคลมเร็วกูว่าไม่แปลกหรอกที่มันจะจบแบบนี้”




“ที่กูขอคบเพราะกูชอบไง ถ้าไม่รู้สึกอะไรกูจะอยากพัฒนาความสัมพันธ์ทำไม”




“กูก็เข้าใจ กูเพื่อนมึงรู้นิสัยมึงดี บางทีรู้ดีกว่าตัวมึงอีก แต่มึงก็รีบเกินไป น้องมันก็ฟันคนอื่นมาตลอดชีวิต มึงไม่เปิดโอกาสให้น้องมันได้ทบทวนความรู้สึกตัวเองเลย เด็กมันก็ต้องมีสับสนกันบ้าง กูไม่ได้จะเข้าข้างน้องมันนะ อย่าเข้าใจผิด”ถึงมันจะออกตัวอย่างนั้น ทว่าแต่ละคำพูดก็แก้ต่างให้น้ำน่านแล้วโยนความผิดมาที่ผม




“แล้วสันดานชอบแกล้ง คิดจะดัดนิสัยคนอื่นก็เลิกเถอะ เพราะที่มึงทำเขาเรียกว่าลองใจ มึงไม่ชอบการกระทำของน้องมัน กูคิดว่าเขาก็คงไม่ชอบให้ใครมาลองใจเหมือนกัน”



“ที่พูดมาทั้งหมดมึงอยากให้กูยอมกลับไปคืนดีใช่มั้ย”




“เปล่า จะคืนดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับมึง แต่ที่กูพูดก็อยากให้มึงคิดในมุมของน้องมันบ้าง ถึงเรื่องที่น้องทำมึงจะคิดว่าน้องไม่ซื่อสัตย์กับมึงก็ตาม ใครรู้ก็บอกว่าไม่ถูกต้องทั้งนั้น แต่มึงก็บอกเองว่าน้องมันมาขอโทษ มาบอกว่าสำนึกผิดแล้ว คนที่ยอมรับว่าตัวเองผิด มันก็ไม่ใช่ที่เลวโดยแท้ไม่ใช่เหรอวะ”




ผมไม่รู้ว่าควรจะเชื่อกับคำขอโทษนั้นดีมั้ย อารมณ์ในตอนนั้นมีแต่ความโกรธความผิดหวัง ยอมรับว่าเต็มไปด้วยทิฐิ




“คงไม่คิดหรอกนะว่าน้องมันจะมาขอโทษไปอย่างนั้น มันจะทำไปทำไมไม่มีประโยชน์กับใครเลย เป็นกูนะถ้าตั้งใจทำจริงๆ ไม่มานั่งคิดกังวลหรือรู้สึกผิดหรอก จะเอาโชว์ตรงหน้าอีกรอบด้วยซ้ำ”




“มึงมันเลวไง”




“กูแค่ชัดเจน”




   ผมว่ามันเป็นคนเลือดเย็นมากต่างหาก ความเป็นสุภาพบุรุษของมันทำร้ายมาไม่รู้ต่อกี่คนแล้ว มันชัดเจนก็จริงแต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือทุกคนที่เข้าหาไปง่ายๆ หลายคนจึงติดกับคล้ายกับเหล่าแมลงที่ติดใยแมงมุมแล้วหาทางหนีไม่เจอ กว่าจะรู้ตัวก็สายไป




“มึงฉลาด เก่งทุกเรื่อง แต่ห่วยเรื่องความรักว่ะ เพราะตลอดชีวิตของมึงมีแต่คนมาคอยมอบความรักให้โดยไม่ต้องร้องขอ ถึงวันที่อยากจะขอความรักจากใครสักคนมึงกลับทำพลาดอย่างใหญ่หลวง”




มันจี้จุดในใจ ผมรู้ว่าพลาด และตอนนี้ก็รู้ตัวว่าเผลอลืมสิ่งที่ทำกับน้ำน่านไป นี่สินะที่เขาบอกว่าความผิดตัวเองมักเล็กเท่าเม็ดทราย ความผิดคนอื่นมักใหญ่เท่าผืนฟ้า




“บางทีความคิดมึงก็หุนหันยิ่งกว่าวัยรุ่น ความรักทำให้ระบบความคิดมึงรวนขนาดนี้เลยเหรอวะ ก่อนจะมามึงคงจัดเต็มให้น้องมันเลยสิ”




“เจอแบบกูไม่จัดได้เหรอ”อันที่จริงผมยั้งเอาไว้แล้วไม่อย่างนั้นคงพูดแรงกว่านี้ พอนึกถึงขึ้นมา สีหน้าในวันนั้นของน้ำน่านก็ผุดขึ้นมาจากความทรงจำ เขารู้สึกไม่ดีกับคำพูดของผมและนั่นทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม




“เออ เป็นกูก็คงผิดหวังนั่นแหละ เสียความรู้สึกด้วย แต่มึงก็ยังมีเยื่อใยอยู่กูรู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่หนีมาพักใจถึงที่นี่”




“กูมาทำธุระให้พี่นลิน”




“ได้ข่าวมึงมาก่อนกำหนด อย่ามาโกหกกูไอ้เสือ”




“เออๆ กูกลัวว่าถ้าเจอหน้าน่านแล้วจะเผลอพูดจาร้ายๆใส่อีก”




“หึ รักน้องมันมากเลยใช่มั้ย”




“ก็ไม่ได้มากขนาดจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปเฉยๆได้”ผมไม่คิดจะหาทางเอาคืนแต่อย่างใด แค่กำลังหาหนทางเดินต่อไป




“ถ้ามึงยังไม่อยากตัดขาดจากน้องมันไปจริงๆ ก็ต้องให้อภัย เอาง่ายๆ ถึงแม้มันอาจจะไม่ค่อยถูกต้องแต่ก็คิดเสียว่าเจ๊ากันไปในสิ่งที่มึงทำกับเขา พลาดกันคนละครั้ง ผิดกันคนละที แล้วมาเริ่มใหม่ ในกรณีที่พวกมึงทั้งสองคนยังอยากจะคบกันอยู่อ่ะนะ”




ผมได้แต่ทอดถอนใจอย่างหนัก ใจหนึ่งก็รักใจหนึ่งก็ยังเจ็บกับสิ่งที่เขาทำอยู่ คงต้องปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก เวลาที่ผมขอจากน้ำน่าน ถ้าวันนั้นเขาไม่ดื้อรั้นที่มาพบผม ผมคงจะไม่เอ่ยคำนั้นออกไป ที่สำคัญคำพูดของเขาในคืนนั้นมันยังก้องอยู่ในหัว มันมีผลกับการตัดสินใจของผมมากจริงๆ




‘นอกใจเขาใช้กับคนที่รักกันหรือเปล่าวะพี่’





“แล้วไอ้พวกนั้นรู้เรื่องมั้ย”




“กูไม่ได้บอกใคร อยากทบทวนอะไรๆก่อน”ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างผมกับน้ำน่านแบบเจาะลึกเท่ากับไอ้อาร์แล้ว




“แล้วนึกยังไงบอกกูวะ”




“อึดอัด”เหมือนหัวจะระเบิด ทั้งที่ไม่อยากนึกถึง บินมาไกลถึงที่นี่ แต่ผมก็หยุดคิดเรื่องของน้ำน่านไม่ได้เลย แล้วไอ้อาร์ก็โผล่มาได้เวลาพอดี ผมมันคงอ่อนหัดเรื่องความรักจริงๆ ถึงได้อยากมีที่ปรึกษา




“ออกไปหาอะไรกินดีกว่า นั่งแช่อยู่แต่ในห้องก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร”




จริงอย่างที่มันว่า ผมปิดโน้ตบุคที่เปิดไว้เพื่อที่จะทำงานแต่ก็ไม่ได้งานอยู่ดีลง ออกไปข้างนอกหาอะไรทำให้หยุดคิดเรื่องนี้บ้างก็คงจะดี ไหนๆก็มาอุตส่าห์มาไกลถึงที่นี่แล้ว




ไอ้อาร์อยู่กับผมได้สองสามวันก็ต้องไปอิตาลีต่อ แต่ระหว่างที่มันมาพักอยู่ด้วยก็ทำหน้าที่เป็นทนายแทนผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์ด้วยการซักฟอกผมอย่างละเอียดยิบ ทำให้ผมรู้ตัวว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาผมเปลี่ยนไปเยอะมาก เรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับน้ำน่านมันจะทำให้ผมหลุดออกจากความสุขุม ความนิ่งความคูลตามที่ไอ้อาร์มันวิเคราะห์ ซ้ำยังถูกมันสอนเรื่องรักๆใคร่ๆ ว่าอย่าใช้หลักการบริหารงานมาบริหารหัวใจ




ตอนนี้ผมจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว แต่เรื่องส่วนตัวก็คงต้องพักไปก่อน เพราะผมยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ อย่างน้อยๆระยะเวลาเกือบครึ่งเดือนที่อยู่ที่นี่ก็ขอให้ผมได้อยู่กับตัวเอง และตกตะกอนความคิดให้ดีก่อนจะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ถ้าเกิดว่ามันจะจบผมก็จะขอคุยกับน้ำน่านอีกครั้งแบบไม่ใช้อารมณ์หรือหากจะเริ่มใหม่ การเริ่มครั้งนี้ต้องไม่เหมือนเดิม ที่สำคัญน้ำน่านเองก็จะได้มีเวลาทบทวนด้วย เมื่อถึงวันที่เราพบกันอีกครั้ง เราคงได้พูดความรู้สึกจากใจจริงได้เสียที




ผมกดปิดหน้าแอพพลิเคชั่นสีเขียวลง หลังจากที่อัพเดตเรื่องต่างๆของเพื่อนในกลุ่มที่ตอนนี้ยึดการสื่อสารผ่านช่องทางนี้เป็นหลัก และเห็นว่ามีข้อความจากน้ำน่านเตือนขึ้นมา หลังจากวันนั้นสองสามวันน้ำน่านก็ส่งข้อความมาหาผม แรกๆผมก็เปิดอ่านแต่ไม่ได้ตอบ หลังๆผมไม่ได้เปิดอ่านเลยเพราะมันทำให้ผมสับสน แต่ก็ไม่ได้ลบไป ตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากอารมณ์และจิตใจสงบลงจะตามอ่านทีหลัง การง้อของน้ำน่าน...มันไม่ได้หวานอะไร อ่านเผินๆเหมือนเป็นการชวนคุยธรรมดา แต่ผมรับรู้ได้ว่าเขากำลังง้ออยู่




ง้อ...เพราะผมสำคัญใช่มั้ย หรือเพราะอะไรกัน ไม่อยากให้ความหวังตัวเองเลยจริงๆ






X







“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ เดี๋ยวผมนำชุดกลับไปให้และพาช่างกลับไปด้วยแน่นอนครับ โอเคครับ สวัสดีครับ”




ผมโทรรายงานพี่นลินเรื่องชุดเจ้าสาวที่ตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย ไม่เกินอาทิตย์หน้าก็กลับได้เลย ส่วนเครื่องประดับที่ผมตามมาคุมเองก็ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้พนักงานจะนำมาส่งให้ ว่าที่บ่าวสาวช่วงนี้ก็หัวหมุนอยู่กับการแจกการ์ดและเชิญญาติผู้ใหญ่ ผมจึงอาสามาเป็นธุระให้ พอดีกับที่ผมต้องมาคุยงานกับคู่ค้าอยู่แล้ว มารอบเดียวคุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน




“ว่าไงหึเรา พี่เพิ่งวางสายจากพี่นลินไปเอง”ผมกำลังจะเดินไปหาอะไรทานเฟิร์สก็โทรมา รายนี้โทรมาบ่อยเกือบทุกวัน พูดจ้อไม่หยุดเหมือนอยู่ไทยแล้วไม่มีคนคุยด้วย




“คิดถึงไงเลยโทรหา”



“หึ จะให้พี่เชื่อ?”




“เชื่อเหอะ แล้วก็มีเรื่องจะถามด้วย”เป็นอย่างหลังเสียมากกว่ามั้งที่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริง




“จะถามเรื่อง?”




“พี่เดียวววววว พี่เดียวคร้าบบบ”




“เอาตรงๆเลย ไม่ต้องลีลา”ผมอดขำไม่ได้ เรียกเสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้จะอ้อนให้ซื้อของให้แน่ๆ




“จะถามเรื่องน้ำน่านอ่ะ”ผิดจากที่ผมเดาไปไกลจนต้องชะงัก




“อย่างเงียบสิ จะถามว่าพี่ยังไม่คืนดีกับน้ำน่านเหรอ”




“ไปรู้อะไรมาล่ะ”




“ก็ไม่ได้รู้อะไร วันนี้น่านมาถามถึงพี่กับเฟิร์สอ่ะ น้องไม่รู้ว่าพี่ไปฝรั่งเศส พี่เดียวอ่ะทำแบบนี้อีกแล้ว ไปไหนไม่ยอมบอกแฟน ต้องให้รู้จากคนอื่นเป็นเฟิร์สงอนตายเลย ทำเหมือนว่าเราไม่สำคัญ”




“จุ้นจริงเรา”




“เหอะ อย่ามาขอให้เราช่วยทีหลังก็แล้วกัน เฟิร์สจะเล่นตัวให้เข็ด จะยุน้ำน่านให้มีคนใหม่ด้วย คนชอบน้องเยอะจะตายทั้งชายทั้งหญิง”




ผมอยากจะพูดออกไปใจจะขาดว่า ถึงไม่ยุน้ำน่านก็พร้อมจะมีคนใหม่ได้เสมอ ถ้าพูดถึงเรื่องการให้ความสำคัญต่อกัน เราทั้งคู่ก็คงสอบตก ผมนอนคิดมาหลายคืนและค้นพบว่า ทั้งเขาและผมยังต้องมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับตัวเข้าหากันถ้าหากเราจะกลับมาเริ่มต้นกันใหม่




“นี่พี่เดียว รีบกลับมานะ มาคุยกันให้รู้เรื่อง น้ำน่านที่เฟิร์สเห็นวันนี้ไม่เหมือนที่เคยรู้จักเลย หน้าตาอมทุกข์เชียว”เฟิร์สเปลี่ยนมาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น และทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าใครอีกคนก็มีความรู้สึก ไม่ได้มีแต่ผมที่คิดมากกับความสัมพันธ์ของเรา




“หึหึ...”




“หัวเราะอะไร เป็นคนชอบทำร้ายจิตใจแฟนหรือไงพี่เดียวอ่ะ”




“เปล่า”ผมไม่ได้หัวเราะน้ำน่าน แต่หัวเราะตัวเองต่างหาก เพิ่งรู้สึกตัวว่าผมรักเด็กบ้านั่นมากขนาดนี้เชียวหรือ มาดีใจอะไรกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านั้น อีกอย่างคนที่ชอบทำร้ายจิตใจแฟนคงไม่ใช่ผมแน่นอน



“เสร็จงานแล้วพี่จะรีบกลับ”




หลังจากประชุมกับลูกค้าและจัดการธุระให้พี่แชมป์พี่นลินเสร็จผมก็เหลือเวลาอีกสองวันในการอยู่ที่ฝรั่งเศส เลยได้มีโอกาสนัดเจอกับเพื่อนที่นี่บ้าง ดื่มกันเล็กน้อยก่อนจะแยกกันกลับเพราะต่างคนต่างมีงานในวันรุ่งขึ้น ผมเตรียมจัดกระเป๋า เช็คของฝากและของที่ฝากซื้อว่าครบหมดทุกคนทุกอย่างหรือยัง หนึ่งในนั้นก็มีของน้ำน่านด้วย เห็นแล้วก็นึกถึง ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ผมยังได้รับข้อความจากน้ำน่านทุกวัน ทำให้ผมเห็นถึงความพยายาม น้ำน่านโทรหาผมหลายครั้งแต่ผมไม่ได้รับสาย อยากกลับไปคุยกันแบบเห็นหน้ามากกว่า แต่สองสามวันนี้เงียบไปเลย ข้อความไม่มี โทรก็ไม่โทรมา แต่ช่วงนี้ก็ใกล้สอบปลายภาคแล้วอาจจะทำงานยุ่งอยู่ก็ได้ ผมไล่อ่านข้อความที่เขาส่งมาจนหมด กำลังคิดว่าจะตอบกลับไปดีมั้ยไอ้ทักษ์ก็โทรมาเสียก่อน




“อะไรของมึงอีก จะฝากซื้อของให้เด็กคนไหนอีก”




“ห่า ไม่ต้องสนเด็กกู สนเด็กมึงดีกว่า เห็นไลน์ที่กูส่งไปหรือยัง”




“ยัง กูเพิ่งว่าง ทำไม มีอะไร”




“สองวันก่อนเด็กมึงแม่งไปมีเรื่องกับใครมาไม่รู้หมดสภาพเลย แล้ววันนี้กูเห็นเดินควงกับเด็กผู้หญิงม.ปลายที่ห้าง ตกลงพวกมึงนี่เลิกกันจริงเหรอวะ”




“มึงแน่ใจว่าไม่ได้จำคนผิด”




“สายตาและความจำกูยังดีอยู่โว้ย”




“ที่โทรมามีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย”




“เออ แล้วมึงจะเอายังไงวะ”



“ก็ไม่เอาไง มะรืนกูจะกลับมารับกูแล้วเอาของที่ฝากซื้อไปด้วย เดี๋ยวกูส่งไฟล์ทให้”




ผมรีบตัดบทแล้วเปิดเข้าไปดูไลน์ที่ไอ้ทักษ์ส่งมา เนื้อหาก็ตามที่โทรมาเล่า มันคงร้อนอกร้อนใจที่ไม่เห็นผมอ่านไลน์เลยต้องโทรมา แต่นอกเหนือจากนั้นยังมีรูปที่ถ่ายน้ำน่านกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเคยเห็นเธอมาครั้งหนึ่งแล้ว เท่าที่ผมรู้มาน้ำน่านจะมีความสัมพันธ์กับผู้ที่หญิงที่ทำงานแล้ว แต่เด็กคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆถึงได้เป็นข้อยกเว้น ความรู้สึกของผมที่ดีขึ้นมันกลับมาขุ่นมัวอีกครั้ง พอรู้ว่าที่เขาหายไปสองสามวันนั้นเพราะเด็กผู้หญิงคนนี้แล้วก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด ตกลงจะเอายังไงกันแน่ ถ้าไปคบกับคนอื่นแล้วจะส่งข้อความมาหาผมทำไมนักหนา ถ้าคิดจะปั่นหัวก็ขอบอกไว้ว่าคิดผิดแล้ว





X






ผมกลับไทยมาได้หลายวันแล้ว นอกจากไอ้ทักษ์ที่มารับที่สนามบินวันกลับก็ยังไม่ได้เจอใครเลย ทุกเย็นก็กลับบ้านดึกเพราะต้องเคลียร์งานหลายอย่างที่ค้างคาระหว่างผมไปฝรั่งเศส แต่วันนี้ผมมีนัดกันที่ร้านไอ้เสกเลยอนุญาตให้ตัวเองเลิกงานเร็วกว่าวันอื่น แต่อาจจะเร็วไปจึงยังไม่มีใครมาถึง เลยต้องนั่งแกร่วอยู่ในห้องวีไอพีคนเดียว ระหว่างนั้นก็โทรบอกคุณหญิงป้าว่าจะกลับดึก ผมยังคงพักที่บ้านไม่ได้กลับคอนโด เฟิร์สเจอผมเมื่อวานนี้เข้ามาพูดเรื่องน้ำน่านอีกครั้ง และทำให้ผมรู้ว่าน้ำน่านกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเจอกันทุกวันเพราะเฟิร์สเจอทั้งคู่ที่มหาวิทยาลัยตลอด
เสียงไลน์ที่ดังเตือนทำให้ผมละสายตาจากผนังห้อง ข้อความจากน้ำน่านเช่นเคย ไม่ได้ส่งมาถี่เหมือนก่อนหน้าที่ผมจะรับรู้ว่าเขาคบเด็กม.ปลาย แต่ก็ยังมีส่งมาวันละครั้งสองครั้ง การกระทำของเขาทำให้ผมข้องใจ




“นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เป็นไรวะ”ไอ้บอสมาถึงก่อนคนแรก




“ช้านะมึง แล้วคนอื่นอ่ะ”




“กำลังมา นี่ก็เวลาปกติป่ะวะ มึงรีบมาเอง เออ เมื่อกี้กูเจอเด็กมึงมากับกลุ่มมันอ่ะ มันถามถึงมึงกับกูด้วย”




“มากับใครวะ”



“ใคร หมายถึงกูเหรอ?”ผมรู้ว่ามันรู้ว่าหมายถึงใคร แต่แค่อยากจะกวนตีนผม




“กูจะอยากรู้เรื่องมึงไปทำอะไร”




“หึหึ ก็บอกแล้วว่ามันมากับเพื่อนมัน อีกอย่างนะเว้ยเด็กม.ปลายมันเข้าร้านไอ้เสกไม่ได้หรอก มึงควรห่วงเรื่องผู้หญิงคนอื่นมากกว่านะ”




“เดี๋ยวกูมา”



“จะไปหาน้องมัน?”




“กูจะไปเข้าห้องน้ำ”ผมบอก แต่ก่อนจะไปห้องน้ำผมขอแวะไปดูให้เห็นกับตาสักหน่อย




ผมยืนมองจากชั้นบน น้ำน่านนั่งที่โต๊ะประจำกับกลุ่มเพื่อน พวกเต้กับโอ๊ค ผมคงจ้องนานไปหน่อยเขาถึงรู้ตัวจึงมองขึ้นมา เราสบตากันพอดี ผมไม่ได้คิดจะหลบอยู่แล้ว ส่วนเขาที่เห็นว่าผมมองอยู่ก็เบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนทำท่าจะมาหาผม แต่ผมไม่พร้อมที่จะคุยตอนนี้เลยหลบมาเข้าห้องน้ำ ทันเห็นว่าไอ้ทักษ์กับไอ้ยอดเข้าไปขวางไว้พอดี





ผมดื่มนิดหน่อยเพราะต้องขับรถกลับบ้าน ที่นัดเพื่อจะเอาของที่ฝากซื้อมาให้ แต่ละคนก็ไม่ได้ตั้งใจมาเมา แค่มาผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ไอ้บอสกับไอ้ทักษ์ไม่ได้พูดถึงน้ำน่าน ผมเลยไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ห้าทุ่มพวกผมก็แยกย้าย แต่ดันมาเกิดเรื่องที่หน้าร้าน ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่ก็ต้องเข้าไปพัวพันจนได้




“ไอ้สัด มาซัดอะไรกันหน้าร้านกูวะ หาเรื่องมาให้ฉิบหาย”ไอ้เสกดูหัวเสีย สั่งการ์ดให้เข้าไปแยกกลุ่มคนที่ตะลุมบอลกันอยู่ สี่ต่อสิบไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะเละ




“เห้ยๆ มันพวกไอ้น่านนี่หว่า”ไอ้ทักษ์ร้องขึ้นมาชี้มือไปที่พวกที่ถูกรุม ไฟไม่สว่างมากนักทำให้ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ และกลายเป็นวิ่งทันทีที่เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามหยิบมีดออกมา



“ไอ้น่าน! / น้ำน่าน!”เสียงเรียกดังไปทั่ว ผมใจหายวาบ รู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว เมื่อร่างนั้นทรุดลงกับพื้น ความกลัวเข้าจู่โจมในใจ เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะแทงซ้ำอีกครั้ง ผมถีบมือมีดจนกระเด็น จากนั้นมันก็ถูกไอ้บอสที่วิ่งตามมากระทืบซ้ำ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นยังไงต่อผมไม่รู้เลย คิดแค่ว่าต้องพาเด็กบ้าที่สร้างเรื่องให้ผมร้อนใจได้ตลอดไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด





--------------------------------------------


 :katai5: :katai5:





หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-05-2017 22:23:36
มาแล้วววววววววว   :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-05-2017 22:37:52
ตัดฉึบบบบ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 21-05-2017 22:39:37
มาแล้ว  และค้างอีกอ่ะ  งือ
น้ำน่านจะเป็นไรไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-05-2017 22:56:54
 :ling1: :ling1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 21-05-2017 22:58:54
น้ำน่านนน ~ จะเป็นไรมั้ยอ่ะ  :katai1:

ลุ้นอ่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-05-2017 23:04:20
อาร์ ให้ข้อคิดเห็นดีจริงๆ เป็นเพื่อนที่ดี
แม้ตัวอาร์เองชัดเจน แต่ก็เจ้าชู้ ร้ายเช่นกัน

"คิดเสียว่าเจ๊ากันไปในสิ่งที่มึงทำกับเขา พลาดกันคนละครั้ง
ผิดกันคนละที แล้วมาเริ่มใหม่ ในกรณีที่พวกมึงทั้งสองคนยังอยากจะคบกันอยู่อ่ะนะ”


กลับไปแม้เจอกัน เดียวก็ยังงอนน่าน
ถ้าได้คุยกัน อาจไม่เกิดเรื่องจนน่านต้องถูกรุม ถูกแทงเจ็บตัว     
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 21-05-2017 23:07:18
อยากจะได้นาฬิกาเร่งเวลาให้มาอัพอีก โอ่ย น่านคงมีอะไรแน่ๆเพราะตอนเจอพี่เดียวยังทำท่าจะไปหาอยู่เลย อีพี่เดี่ยวอย่าให้มันเยอะนักกก จะยุให้น่านไปมีแฟนใหม่ :katai4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 21-05-2017 23:10:15

มาต่อด่วนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 21-05-2017 23:45:52
เหยยย ตัดอย่างนี้ก็ได้เหรอออ ㅠㅜ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-05-2017 12:08:41
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 22-05-2017 17:15:12
แล้วเค้าจะคืนดีกันใช่มั้ยอะ พี่เดียวอย่ามาทำเมินแล้วเป็นไงละทีนี้  :katai1:

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 22-05-2017 18:13:08
ดีใจมากมาต่อล้าววววว
ก่อนอื่นเลยขอนอกเรื่องแปป ชอบอาร์จัง จะแต่งเรื่องของอาร์ไหมคะ นี่รออ่านเลยจ้า

ขอบคุณสำหรับตอนนี้มากๆ รู้สึกเหมือนได้รับการตอบเม้นท์(มโนไปเองก็เอานะคนเรา)
จากที่ตั้งใจว่าถ้าเน้นการง้อของน่านและเอาคืนของเดียวจะยังไม่อ่านต่อ
เห็นตอนใหม่ปุ๊บกดอ่านปั๊บคร่า คิดถึงมากมาย
แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย

คนเราน่ะนะฝุ่นเข้าตามันเขี่ยออกเองไม่ได้จริงๆ
ดีที่เดียวมีเพื่อนที่หวังดี และใจกว้าง มีทัศนคติในแง่บวกมากกว่าจะลำเอียงเข้าข้างเพื่อนตะพึดตะพือ

ชอบที่ให้มีเหตุการณ์มาให้ได้คิดได้ว่า
ความโกรธผิดหวังเสียใจเป็นความสูญเสียที่น้อยกว่าการตายจากกันไปขนาดไหนค่ะ

รออ่านต่อตอนต่อไป อยากรู้จักผู้หญิงคนนั้นจริงๆ
ขอบคุณนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-05-2017 21:59:06
ค้างอะ ค้าง!!!!!! :a5: :a5: :katai1: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: valenpinkpink ที่ 23-05-2017 14:55:10
รอค่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.32 P.12 || [21.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 28-05-2017 21:21:01
รออออ  :mew3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 29-05-2017 23:50:36
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 33 -





   กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ทำให้ผมรู้ทันทีที่รู้สึกตัวว่าอยู่ที่ไหน พยายามจะลืมตาขึ้นมาแต่มันก็ยากเหมือนใครเอาอะไรหนักๆมาถ่วงไว้ที่เปลือกตาจนต้องรวบรวมลมหายใจเพื่อให้มีแรง แต่เหมือนจะคาดคะเนผิดไปเมื่อความเจ็บแล่นแปลบไปทั่วท้อง



   “โอยย...”ไม่ได้อยากจะร้องออกมา แต่เหมือนเป็นกลไกของร่างกาย ปากขยับไปโดยอัตโนมัติ




   “ไอ้น่าน!/น่าน!/น้ำน่าน!”เสียงเรียกดังจากทุกทิศ พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ขยับเข้าใกล้ และเสียงขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้น ผมใช้ความพยายามอีกครั้งเพื่อลืมตา แต่พอเจอกับแสงไฟก็ต้องหลับลงใหม่




   “เจ็บแผลเหรอวะ”เสียงไอ้เต้



“ไอ้เต้มึงตามหมอดิ”เสียงไอ้หมวย




“น่านได้ยินพวกกูมั้ยเนี่ย”และไอ้โอ๊ค




“อือ”ผมครางรับปรือตามองไปรอบๆ ภาพพร่ามั่วค่อยๆชัดขึ้นทีละนิด นอกจากเพื่อนผมแล้ว พวกเพื่อนพี่เดียวก็อยู่กันครบ แต่เจ้าตัวกลับไม่อยู่ด้วย ก่อนหมดสติผมจำได้ว่าใครเป็นคนช่วยผมไว้ ทว่าตอนนี้ไม่เห็นแม้เงา




“เป็นยังไงมั่งวะ”พี่ยอด




“เจ็บแผล”รู้สึกเจ็บตึงที่ท้อง อาการวิงเวียนก็เข้าจู่โจมอย่างชัดเจน รู้สึกพะอืดพะอม




“เออ ก็สมควรถูกมีดแทงไม่ใช่เข็มจิ้ม”พี่ทักษ์




“ห่า มึงจะไปกัดน้องมันทำไม”พี่บอส




“เกิดไรขึ้นวะ จู่ๆทำไมถึงโดนยำตีน”พี่ยอด




 “ไปแย่งเมียใครเขา”พี่ทักษ์




“ใช่ที่ไหนพี่ เรื่องมันยาวอ่ะ ไร้สาระด้วย”




“ไร้สาระแต่ทำให้มึงตายได้ ถ้าไอ้เดียวเข้าไปไม่ทัน มึงพรุนไปทั้งตัวแน่”พี่ทักษ์พูดอย่างเคืองๆ




“แล้วพี่เดียวเป็นอะไรหรือเปล่า”ถ้าต้องมาเจ็บตัวไปด้วย ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก




“มันไม่ได้เป็นอะไร ตกลงบอกได้ยังว่าเกิดไรขึ้น”




ผมไม่พร้อมที่จะเล่าสาเหตุในตอนนี้จริงๆ พวกไอ้เต้ก็คงอยากรู้ไม่แพ้กันเพราะได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย พี่บอสคงรู้ว่าผมไม่พร้อมจะเล่าจึงได้ตัดบท




“มึงก็อย่าไปกดดันน้อง ให้มันพักก่อน”




“กี่โมงแล้วอ่ะพี่”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที




“ตีสามกว่า”




“ทำไมพวกพี่ถึงอยู่นี่อ่ะ”นี่มันดึกมากจะเรียกว่าใกล้เช้าแล้วก็ไม่ผิด ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่โยงกันจนป่านนี้




“ถามไม่คิด พวกกูเป็นห่วงไง”พี่ทักษ์พูดขึ้นด้วยสีหน้าหงุดหงิดแต่สายตาก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง




“ขอบคุณครับ แต่พวกพี่กลับไปพักกันเถอะ เพื่อนผมก็อยู่”ผมรู้สึกเกรงใจทุกคนที่อยู่ที่นี่ แทนที่จะได้นอนหลับสบายฝันไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดแต่ต้องมาอดหลับอดนอนอยู่ในโรงพยาบาลอย่างนี้




“มึงเห็นสภาพเพื่อนมึงชัดๆหรือยังห่า สะบักสะบอมพอกัน ดีแค่ไม่โดนแทงเหมือนมึง”พี่ทักษ์กอดอกอยู่ข้างเตียง พยักเพยิดให้ผมหันไปมองพวกไอ้เต้อย่างเต็มตา หน้าตาพวกมันดูไม่จืดเหมือนโดนหมาฟัดมาทั้งฝูง ก็นะมันเป็นหมาหมู่ยกพวกมารุมผมคนเดียว แต่พวกไอ้เต้ดันมาซวยไปด้วยเพราะเข้ามาช่วยผมไว้




“งั้นก็กลับไปพักผ่อนกันให้หมดเลยครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว”




“มึงยังไม่ต้องรีบไล่พวกกู รอพ่อมึงมาก่อนพวกกูกลับแน่”




“พ่อ?”




ยังไม่ทันได้คำตอบประตูห้องก็ถูกเปิด ลุงหมอท่าทางใจดีเดินเข้ามาพร้อมกับใครอีกคนที่ผมอยากเจอ นึกว่าไม่อยากเห็นหน้ากันจนหนีกลับไปแล้วเสียอีก ระหว่างที่หมอสอบถามอาการ ผมก็คอยชำเลืองมองอีกคนที่ยืนนิ่งพิงผนังห้องอยู่ปลายเตียง เมื่อเห็นว่าไม่มีอาการน่าเป็นห่วงหมอจึงให้ผมนอนพัก คนอื่นๆก็ทยอยกันกลับ ผมคุยกับพวกไอ้เต้ไม่กี่คำ แค่ถามไถ่อาการและขอโทษพวกมันที่ต้องมาเจ็บตัวไปด้วย พวกมันไม่ได้ว่าอะไรผมสักคำ ไม่ถามถึงสาเหตุทั้งที่มันคงอยากรู้ ผมนึกขอบคุณพวกมันในใจที่เข้าใจกัน




ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับเพราะฤทธิ์ยา ประตูห้องก็ถูกเปิดอีกครั้ง พี่เดียวกลับเข้ามาอีกทั้งที่เป็นคนแรกที่เดินออกไปพร้อมหมอ ร่างสูงใหญ่นั่งลงข้างเตียง สายตาที่มองมาทำให้ผมอยากร้องไห้ออกมา ร่างกายอ่อนแอ จิตใจก็อ่อนไหวตามไปด้วย เกือบเดือนที่ผมไม่ได้เจอหน้า...คิดถึง




“หลับซะ ยังไม่ต้องพูดอะไร”




ถ้าผมตื่นขึ้นมาเขาจะไม่หายไปใช่มั้ย เขาจะยังอยู่พร้อมกับสายตาที่ฉายชัดถึงความห่วงใยเช่นนี้ใช่หรือเปล่า แต่ถ้าไม่ ผมก็ไม่อยากหลับตาลงเลย ทว่าฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้เบาๆที่ศีรษะก็ทำให้ผมไม่อาจต้านทานความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยาได้
อย่าเพิ่งหนีกันไปอีกนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไป





X






“เชี่ย แม่ง”ผมสบถออกมา แค่ขยับก็เจ็บไปทั้งร่าง ทั้งแผลโดนซ้อมและโดนแทงแย่งกันเจ็บแบบไม่ปราณี




“มึงจะไปไหนวะ”



“เข้าห้องน้ำ”ผมบอก ไอ้คิมรีบวางหนังสือที่อ่านอยู่แล้วเข้ามาประคองผมลงจากเตียง ผมยืดตัวเอามือกุมท้องไว้ เมื่อคืนที่ตื่นขึ้นมายังไม่เจ็บเท่าตอนนี้เลย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ถูกแทง ประสบการณ์ที่ไม่อยากพบเจอแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเลือกได้ผมขอเลือกไม่เจอมันจะดีกว่า




“มึงจะนอนต่อมั้ย?”



“ไม่นอนแล้ว”



ผมเอนตัวลงบนหมอนที่ไอ้คิมเอามารองหลังไว้ หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จมันก็พาผมกลับมาที่เตียงทุลักทุเลนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ลำบากมากนัก ตอนนี้ผมตาสว่างมากเพราะหลับยาวตั้งแต่เมื่อคืนมาตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยง เจอไอ้คิมนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง คนที่ผมขอร้องให้อยู่ไม่มีแม้เงา หรือว่าเมื่อคืนนี้ผมแค่ฝันไปกันแน่



“มึงจะดูอะไรมั้ย กูเปิดทีวีให้”



“ไม่อ่ะ เอาการ์ตูนมึงมาอ่านมั่งดิ”ผมขี้เกียจดู ไม่ได้ติดรายการอะไรเป็นพิเศษ ปกติถ้าเปิดทีวีก็คือดูหนังเสียมากกว่า ไอ้คิมเอาการ์ตูนมาให้ผมอ่าน ส่วนมันกลับไปคร่ำเคร่งกับตำราเรียนตามเดิม ไอ้พายติดเรียนเลิกบ่ายสองคิดว่าอีกสักพักมันก็คงโผล่หน้ามา ส่วนไอ้ธันว์เรียนคาบเช้าเสร็จก็ไปรับอาฝนที่สนามบิน ไอ้พายเป็นคนโทรไปบอกอาฝนว่าผมโดนแทงตั้งแต่เช้า สาระแนนัก




ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไอ้พายเสนอหน้ามาพร้อมกับของกินเต็มสองมือทั้งของเยี่ยมผม และของกินมันกับไอ้คิม มันเอาผลไม้ที่ปอกแล้วมาวางให้ผมบนเตียง ก่อนจะไปจัดการของกินที่มันขนซื้อมา




“เหมือนมึงมาปิคนิกเลยเนอะ”ผมอดว่ามันไม่ได้ กลิ่นส้มตำ น้ำตก ไก่ย่างตีกันคลุ้งในห้อง เตรียมถ้วยโฟมกับช้อนมาครบ ผมก็อยากกินบ้างเหมือนกันแต่ต้องทนกินอาหารคนป่วยไปก่อน อีกชั่วโมงกว่าถึงจะได้เวลาอาหารเย็นของผม




“กูอยากกินมาหลายวันแล้ว ขอกูเหอะ ว่าแต่พี่พยาบาลเขาคงไม่ว่าใช่ป่ะวะ”




“มึงควรคิดก่อนที่จะซื้อมานะ”อาหารพวกนี้เขาห้ามเอาเข้ามากินในห้องพักผู้ป่วยไม่ใช่หรือไงวะ




“ไอ้คิม มึงรีบกินเลยจะได้รีบทำลายหลักฐาน”มันหันไปเร่งซี้มันที่แทะไก่อยู่ ใช้เวลาไม่นานมันสองคนช่วยกันจัดการอาหารกลางวันที่ค่อนไปทางบ่ายแก่จนเกลี้ยง เก็บขยะไปทิ้งทำลายหลักฐาน ก่อนที่ไอ้พายจะเอาน้ำหอมขนาดพกพาของมันฉีดฟืดๆไปทั่วห้อง




“พอแล้วเว้ย กูจะตายเพราะน้ำหอมมึงแทนเนี่ย”ไอ้คิมโวย เอามือปัดไปมาเพื่อไล่กลิ่น อีกมือดึงคอเสื้อนักศึกษาขึ้นมาปิดจมูก




“พวกมึงนี่มาให้กูอาการทรุดกว่าเดิมนะ”




“กูว่าที่อาการทรุดหนักกว่าเดิมเพราะใครบางคนไม่มามากกว่ามั้ง”มันเดินยิ้มกริ่มกวนส้นเท้ามานั่งข้างเตียงหยิบแอปเปิ้ลในจานผมไปกินหน้าตาเฉย ถ้าปกติดีจะยันมันให้กลิ้ง หมั่นไส้นัก ไอ้คิมก็ใช่ย่อย ไม่พูดแต่กระตุกยิ้มมุมปากแบบรู้กันว่าหมายถึงใคร




“อย่าน้อยใจไปน้องน้ำน่าน เดี๋ยวพี่เขาก็มา”




“เงียบปากไปเลยไป”




“โอ๊ยๆ มีหงุดหงิดเว้ยแก้เขิน ฮ่าๆ”




เขินพ่อง! ตลก ตลกมากไอ้สัด! ผมอยากจะขับไล่มันออกจากความเป็นเพื่อนชอบแปรพักตร์ดีนัก




“มึงควรถือโอกาสนี้อ้อนๆพี่เขาไว้นะ เจ็บตัวแบบนี้พี่เขาคงใจอ่อนไว”




“หึ”




ให้โผล่หน้ามาก่อนเถอะ ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะเปิดโอกาสให้ผมง้อสักนิดหนีหายไปอยู่ต่างประเทศเกือบเดือน แต่ก็อย่างที่ไอ้พายมันว่าควรใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ ถึงมันจะดูขี้โกงไปสักหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้วางแผนให้ตัวเองถูกแทงเสียเมื่อไหร่ ถือว่าในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่บ้าง แต่มันจะโชคดีจริงๆถ้าพี่เดียวมาเยี่ยมผม ไม่ใช่หายหน้าไปอีก




“น้ำน่าน!”ผมสะดุ้ง เมื่อประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงของอาฝน ผู้หญิงร่างเล็กบอบบางถลาเข้ามาหาผมถึงเตียงทันที ยังไม่ทันจะยกมือไหว้ก็ถูกรวบเข้าไปกอดแน่น




“โอ๊ย อาครับน่านเจ็บ”




“อุ๊ย อาขอโทษ ไหนเจ็บตรงไหนอาขอดูหน่อย”




“อาครับๆ ใจเย็นๆ”จับมืออาที่พยายามดึงชายเสื้อผมขึ้นไว้แทบไม่ทัน รู้ว่าเป็นห่วงแต่อาจะจับผมแก้ผ้าแบบนี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่เด็กชายน้ำน่านห้าขวบนะครับ




“จะให้อาใจเย็นได้ไง นี่ถูกแทงนะ ถ้าเป็นอะไรไปอาจะทำยังไง อามีน่านแค่คนเดียวนะ”ผมเห็นน้ำตาที่คลอจวนจะหยดของอาแล้วก็รู้สึกไม่ดี ผมเหลืออาเพียงคนเดียวและผมเองก็เป็นที่พึ่งเดียวของอา เป็นความหวังที่อาจะฝากทุกอย่างไว้ที่ผม เรามีกันแค่นี้ ผมไม่อยากให้อาต้องเป็นทุกข์




“น่านหัวแข็งไม่เป็นอะไรไปง่ายๆหรอก อาสบายใจได้”




“ย่ะ ไม่เป็นอะไรง่ายๆ แต่ช่วงนี้เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเลย”อาฝนค้อนขวับทั้งที่ตายังแดงก่ำ แถมยังหยิกแขนผมจนสะดุ้งเฮือก เนื้อแทบจะหลุดติดเล็บไปด้วย




“นั่นสิครับอา ผมว่าออกจากโรงพยาบาลคราวนี้จะพามันไปรดน้ำมนต์ล้างซวย เอาสักสิบแปดวัดไปแล้ว คูณสองจากคนอื่นรับรองดวงดียันชาติหน้า”ไอ้ธันว์ว่า มันพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่พอมาคิดดูก็จริงของมัน ปีนี้เป็นปีชงของผมหรือยังไงก็ไม่รู้




“เรานี่ทำเป็นเล่นไป”อาฝนเอื้อมมือมาหยิกไอ้ธันว์จนมันซี๊ดปาก ขยับแขนหนีสะบัดเร่าๆ โดนตีโดนฟาดยังพอทนได้แต่โดนหยิกทีไรเนื้อตัวจะอ่อนปวกเปียก มันจี๊ดดด




“แล้วตกลงเรื่องเป็นไงมาไง อาถามธันว์ก็บอกว่าไม่รู้”




ผมเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ สัปดาห์ก่อนผมบังเอิญไปเจอเด็กผู้หญิงกำลังถูกกลุ่มผู้ชายสามคนรุมรังแกอยู่ก็เลยเข้าไปช่วยถึงได้รู้ว่านั่นคือปาย วันนั้นก็เจ็บตัวกลับมาเบาะๆ ไอ้บ้านั่นมันคงคิดว่าผมเป็นแฟนใหม่ของปายเลยแค้นจึงตามมาทำร้ายเมื่อคืนนี้ มันจะสะกดรอยตามผมถึงได้ตามมาถูก ยกพวกมาสิบคนได้กะรุมผมให้ตายเลยมั้งโคตรหมาหมู่ แต่พวกไอ้เต้อยู่ด้วยเลยพลอยเจ็บตัวกันตามๆไป สี่คนจะไปสู้คนสิบคนได้ยังไง แล้วผมก็ไม่คิดว่ามันจะพกอาวุธเลยไม่ทันได้ระวังตัว พอนึกถึงแล้วก็เสียวแปล๊บที่ท้องขึ้นมาทันที ถ้าโดนแทงซ้ำอีกสักทีสองทีผมอาจจะไม่มานั่งอยู่ตรงนี้แล้วก็ได้




“แล้วเด็กชื่อปายอะไรนั่น เราไปรู้จักได้ยังไง เป็นลูกเต้าเหล่าใคร เราถึงต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงแบบนี้”




“น่านเจอเขาโดยบังเอิญ เคยช่วยเขาไว้ครั้งนึง ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก เห็นท่าไม่ดีจะไม่ช่วยก็ไม่ได้”




“มึงก็เลยซวยไปด้วย ถามจริงไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขาใช่มั้ยวะ”ไอ้ธันว์ถาม มันคงคิดว่าผมคงจะติดใจเด็กคนนั้น




“กูจะไปคิดอะไร ต่อให้สวย ดี น่ารักแค่ไหนกับคนนี้กูก็ไม่เป็นอย่างอื่น นอกจากอยากช่วยก็แค่นั้น”ไอ้ธันว์ดูข้องใจกับคำพูดของผม แต่ก็ไม่ได้ถามออกมา




“อาจะแจ้งความนะ อาไม่ยอม”อาฝนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมลำบากใจ




“อาครับ อย่าแจ้งเลย น่านไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย”




“หมายความว่ายังไง?”




“น่านอยากให้มันจบอ่ะอา”




“ถ้าไม่ให้ตำรวจจัดการมันจะจบได้ยังไงน่าน อาไม่เข้าใจ มีอะไรมากว่านี้หรือเปล่า”




ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่เล่า แต่ทุกคนที่อยู่ในที่นี้เป็นคนที่ผมรักและไว้ใจมากที่สุดในชีวิต จึงไม่คิดว่าควรจะปิดบังเรื่องนี้ไว้ พอผมเล่าจบทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไปชั่วอึดใจ




“กูเข้าใจแล้ว่าทำไมมึงพูดแบบนั้น”ไอ้ธันว์




“ถึงมึงจะไม่แจ้งความ แต่พี่เสกอาจไม่ยอมคงจัดการไปแล้วเพราะไปมีเรื่องหน้าร้านเขา”ผมลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปสนิทเลย ก็จริงอย่างที่ไอ้พายพูด




“อาว่าน่านไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก เราก็ยืนยันถึงเหตุการณ์เท่านั้นพอ ไม่ต้องไปพาดพิงถึงใคร และถึงเขาจะรู้ก็ปล่อยไปเถอะลูก เขาจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น น่านไม่จำเป็นต้องไปรับผิดชอบชีวิตใคร ที่ทำอยู่นี่ก็เกินพอแล้ว”



“กูเห็นด้วยกับอาฝนนะ”ไอ้พาย




“กูด้วย”ไอ้คิม




“มึงแค่รักษาตัวให้หายไวๆก็พอ ชีวิตมึงมีค่ากับอาฝนแล้วก็พวกกูทุกคนมากนะ”



นั่นสินะ...ผมควรจะนึกถึงแค่คนที่รักผมเท่านั้นก็พอ





X






ไอ้พายพาอาฝนกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ไอ้คิมกับไอ้ธันว์ก็กลับไปด้วย พวกมันต้องไปอ่านหนังสือสอบ ตอนแรกอาฝนจะนอนฝ้า แต่ผมไม่อยากให้อาต้องมาลำบาก ถ้าผมหลับแล้วก็คงยาวเลยไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แผลที่โดนแทงก็ปกติดี ไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่กว่าจะกล่อมอาฝนได้ก็เล่นเอาเหนื่อย สุดท้ายอาก็ยอมพร้อมกับบอกว่าจะมาหาแต่เช้าแทน




ส่วนพวกไอ้เต้วันนี้ไม่ได้มาเยี่ยมเพราะจับไข้กันเป็นแถวไม่มีใครไปเรียนสักคน ไอ้โอ๊คคงจะมีสภาพดีสุดจึงไลน์มาบอกผม แล้วบอกว่าสั่งเอเชียจดงานไว้ให้แล้ว ตอนนี้ใกล้สอบปลายภาคแล้วงานเยอะเป็นพิเศษ หยุดเรียนไปวันเดียวก็อาจจะตายได้



ผมพยุงตัวเองมาเข้าห้องน้ำ ไม่มีคนช่วยก็เก้ๆกังๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถแค่อย่าเอี้ยวตัวหรือขยับตัวแรง แต่ยากตอนผูกปมกางเกงนี่แหละ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ออกแบบชุดคนไข้มาให้ใส่ง่ายๆ ระหว่างที่กำลังต่อสู้กับกางเกงผมก็ได้ยินเสียงคนคุยมาจากด้านนอก ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะถูกเคาะรัว



“ใครครับ?”ผมร้องถาม รีบจัดการแต่งตัวแล้วไถเสาน้ำเกลือไปเปิดประตู




“เห้ย!”ผมตกใจถอยหลังกลับมาสองก้าวยาวๆ สะเทือนแผลจนแทบทรุด




“เห้ยๆ ไอ้น่าน!”แต่ก็มีคนมาประคองไว้ทัน ไม่งั้นมีเจ็บซ้ำ แผลเปิดแน่ๆ




“เป็นอะไรมากป่ะวะ”ผมโดนพี่บอสหิ้วปีกมาที่เตียง มีพี่ทักษก์เข็นเสาน้ำเกลือตามมาติดๆ




“เจ็บสิพี่”




“ก็มึงตกใจอะไรขนาดนั้น”



“จะไม่ให้ตกใจได้ไง อยู่ๆพวกพี่ก็โผล่พรวดเข้ามา” พอผมเปิดประตูก็มีผู้ชายสองคนพรวดพราดเข้ามา เป็นใครจะไม่ถอยหนี แล้วผมก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยี่ยมในเวลานี้ด้วย แห่มากันทั้งแก๊งยกเว้นเฮียเสก แต่ละคนอยู่ในชุดสูทอย่างกับบอยแบนด์มาถ่ายรายการอะไรสักอย่าง




“ขวัญอ่อนจริงนะมึง แล้วเป็นไงมั่งวะ ดีขึ้นยัง”พี่ทักษ์เป็นคนเดียวที่พูดมากที่สุดในห้องแล้ว




“มันจะดีขึ้นแล้วล่ะพี่ ถ้าไม่นับรวมเมื่อกี้”ความเจ็บยังตราตรึงอยู่เลย ผมค่อยๆเอนตัวลงพิงกับหมอน มองไปรอบห้อง พี่เดียวนั่งอยู่ที่โซฟาข้างเตียง กอดอกมองมานิ่ง ส่วนพี่ๆคนอื่นก็ล้อมรอบเตียงเว้นช่องไว้ตรงพี่เดียวพอดี




“ปากดี แล้วไม่มีใครมาเฝ้ามึงเลยหรือไง”




“ผมให้กลับไปหมดแล้ว”




“พ่อแม่มึงรู้หรือยัง พวกกูจะมาคุยเรื่องคดีด้วย ไอ้เสกมันแจ้งความไปแล้ว พรุ่งนี้ตำรวจจะเข้ามาคุยกับมึง”




“ผมมีแค่อาคนเดียวครับ ผมให้กลับไปพักที่บ้าน ส่วนเรื่องตำรวจมาได้เลยครับ ผมไม่มีปัญหา”อย่างที่อาฝนพูดไว้ ผมไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องอื่น




“ทีนี้บอกพวกกูได้หรือยังว่าไปทำอิท่าไหนถึงได้โดนแทง”




ผมเล่าเรื่องให้พวกพี่ๆมันฟังแค่ว่าไปช่วยคนนึงไว้แล้วเกิดเข้าใจผิดกัน มันเลยตามมาแก้แค้นเท่านั้น บางเรื่องที่คิดว่ามันไม่จำเป็นผมไม่ได้เล่า มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมไม่อยากให้ใครรู้เรื่องมากนัก




“ใช่เด็กผู้หญิงม.ปลายหรือเปล่าคนที่มึงไปช่วยไว้”




“พี่รู้ได้ไง?”ผมไม่ได้บอกสักคำ




“กูเคยเห็นมึงกับเด็กคนนั้นเดินควงกันกะหนุงกะหนิงอยู่”




“ไม่ได้ควงพี่! ไม่ได้มีอะไรอย่างที่พี่พูดเลย”




“หึ ไม่ต้องร้อนตัวไปไอ้เสือ”พี่ทักษ์หัวเราะร่วน เหลือบตาไปมองเพื่อนตัวเองที่คงลืมเอาปากมา นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นประดับห้อง เมื่อยหน้ามั้ยเก๊กอยู่ได้




“สรุปว่าเด็กคนนั้นเป็นสาเหตุจริงๆ”




“ครับ”ผมเล่ารายละเอียดเพิ่มไปอีกนิดหน่อย ว่าผมไปเจอกับปายได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วที่พี่ทักษ์เห็นผมเดินกับปายที่ห้าง ก็เพราะปายนัดผมไปเลี้ยงขอบคุณ ตอนแรกว่าจะไม่ไปแต่ก็ถูกรบเร้ามาผมเลยไปเพื่อตัดรำคาญ ส่วนปายเองก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วเพราะเห็นให้ที่บ้านไปรับไปส่ง ไม่ได้ไปไหนมาไหนคนเดียว น่าจะเข็ดได้แล้ว บ้านก็มีฐานะ เรียนก็โรงเรียนดี สังคม ครอบครัว สภาพแวดล้อมดีหมด แต่ไม่รู้ไปคบพวกอันธพาลแบบนั้นได้ยังไง




“เสือกอยากจะเป็นคนดีก็ดันมาซวย คดีเก่ามึงยังไม่เคลียร์กับเพื่อนกูเลย ก่อคดีใหม่อีกแล้ว”พี่บอสผลักหัวผมเบาๆ




“ผมอยากให้มันเกิดที่ไหนเล่า อยู่ๆใครอยากจะมีรูที่ท้องวะพี่”




“คดีใหม่มึงไม่ได้ตั้งใจ แต่คดีเก่ามึงนี่คงไม่ใช่ เจ็บตัวก็ดี เพื่อนกูจะได้เบามือลงบ้าง คุยกันดีๆอ่ะ พวกกูกลับก่อน”พี่ยอดตัดบท ไม่ให้ผมได้ตั้งตัวเลย นึกจะมาก็มากันนึกจะไปก็ไป ทิ้งระเบิดลูใหญ่ไว้ให้ผมกู้ จะกู้ได้หรือจะระเบิดจนร่างแหลกก็ไม่รู้ เสียวว่าจะเป็นอย่างหลัง




“หายไวๆนะมึง”




“ขอบคุณพี่”




“นี่กูซื้อมาให้ แดกๆซะจะได้มีแรงไปสู้กับเพื่อนกู”ผมมองพวกซุปไก่ รังนกที่วางอยู่ข้างเตียง กินหมดนั่นจะสู้ไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ พอทุกคนกลับไปห้องก็เงียบ ผมไม่รู้จะเริ่มคุยอะไรก่อน มีแต่เสียงจากละครทีวีที่เปิดทิ้งไว้ดังเบาๆ




“พี่กินข้าวหรือยัง”ดูโง่ๆไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ ผมไม่รู้ว่าจะโอกาสได้อยู่กับพี่เดียวตามลำพังแบบนี้อีกเมื่อไหร่




“ยัง”




“อ้าว หิวมั้ย มีผลไม้ พี่กินได้นะ”ไอ้พายซื้อมาหลายอย่าง ที่ปอกและหั่นพร้อมกินก็มีแช่อยู่ในตู้เย็น




“ไม่เป็นไร”ผมมองพี่เดียวถอดสูท ปลดเนคไทพาดไว้บนโซฟา ปลดกระดุมแขนเสื้อแล้วถกมันขึ้นมากองที่ต้นแขนอย่างลวกๆ




“สามทุ่มกว่าแล้วนอนมั้ย”




“ยังไม่ง่วง”




“จะง่วงเมื่อไหร่”




“ไม่รู้”ผมตอบแบบเหวี่ยงๆ ง่วงเดี๋ยวมันก็ง่วงเองแหละ จะไปรู้มั้ยว่าตอนไหน อยากให้ผมหลับไปแล้วจะได้หนีกลับสินะ




“ถ้าพี่อยากกลับก็กลับไปได้เลยนะ”




“ไล่?”




“.....”ผมได้แต่เม้มปากแน่นเมื่อเห็นพี่เดียวมันหยิบสูทขึ้นมา เตรียมจะกลับ ขอบตามันร้อนๆจนต้องเบือนหน้าหนี




“หึ...ไหนว่าอยากเจอ มีเรื่องอยากจะคุย”




พอหันกลับมาก็เห็นร่างใหญ่ๆกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคยนั่งอยู่ริมเตียง สายตาของพี่เดียวเหมือนเมื่อคืนที่ผมเห็น ผมไม่ได้ฝันไป รอยยิ้มนิดๆที่ค้างอยู่บนใบหน้า ทำให้ผมน้ำตารื้น จู่ๆก็อยากร้องไห้ขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ที่ผมคิดถึง ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาหายไป ผมเอื้อมมือไปจับมือหนาที่วางอยู่ บีบมันเบาๆอีกฝ่ายก็พลิกหงายฝ่ามือขึ้นแล้วบีบกระชับตอบกลับ




ผมขอโทษ”จากหัวใจ ผมขยับตัวนั่งถึงจะเจ็บแต่ก็อยากกอดเขาไว้ พี่เดียวเหมือนจะรู้จึงปล่อยมือผม อ้าแขนออก แล้วโอบกอดผมไว้ทั้งตัว




“ผมขอโทษ”น้ำตาผมไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่



“......”




“ขอโทษครับ”



“อย่าทำอีก”ผมสะอื้นฮักอยู่ในอ้อมกอดนี้ เหมือนเด็กน้อยที่ต้องการการปลอบโยน เหมือนทำนบแตก ความรู้สึกมากมายมันหลั่งไหลออกมาเป็นน้ำตา




“เข้าใจมั้ย อย่าทำอีก”พี่เดียวย้ำอีกครั้ง ผมได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะถูกับไหล่หนาเพื่อเช็ดน้ำตา




“ร้องอะไรขนาดนี้ ไม่สมกับเป็นน้ำน่าน”พี่เดียวดันตัวผมออก




“ผมไม่คิดว่าพี่จะอภัยให้ง่ายๆ”เคยเป็นมั้ยครับความรู้สึกที่ทั้งโล่งอก ดีใจและรู้สึกผิดในคราวเดียวกัน ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแบบนั้น




“มันก็ไม่ง่ายหรอก แต่ความโกรธ ความเจ็บปวดทุกอย่างมันหายไปหมดในวินาทีที่เห็นน่านโดนแทง”




“.......”ดวงตาของพี่เดียวสั่นไหว




“มีแต่ความกลัว มีแต่ความคิดว่าที่ว่าถ้าช่วยไม่ทันจะป็นยังไง”




“ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้”




“ต้องขอบคุณไอ้หมอนั่นด้วย ไม่อย่างนั้นเราคงจะยังไม่ได้คุยกัน”




“ก็พี่นั่นแหละไม่ยอมคุยกับผม หนีไปตั้งไกล”




“ดีแล้วที่พี่ไปตั้งไกล”




“นั่นสินะ”ทุกอย่างมีจังหวะเวลาของมัน ที่เป็นอย่างนี้มันก็ดีแล้วจริงๆนั่นแหละ




“น่าน พี่ขอโทษนะเรื่องครั้งนั้น ขอโทษจริงๆ”




“อืม...หายกันได้มั้ย”ผมไม่รู้มันจะชดใช้กันได้มั้ย แต่ผมอยากปลดล็อคความรู้สึกในใจของเราทั้งคู่ เราต้องก้าวผ่านอดีตที่ผิดพลาดไปด้วยกัน ทิ้งไว้ให้มันเป็นบทเรียนที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก




“อือ หายกัน เริ่มกันใหม่เนอะ”




“ใช่เริ่มกันใหม่”ไม่รู้ว่าเราต้องเริ่มกันใหม่สักกี่ครั้ง แต่ผมว่าครั้งนี้มันจะต้องดีกว่าเก่าแน่นอน เมื่อผมรู้หัวใจของตัวเองแล้ว




“เราต้องคุยกันให้มากขึ้นนะ เราต้องปรับตัวเข้าหากัน ถ้าไม่พอใจอะไรก็พูดกับพี่ตรงๆอย่าประชดเข้าใจมั้ย”




“อื้อ พี่ก็อย่างอนมากนะ ผมง้อไม่เป็น แล้วก็อารมณ์เย็นๆเข้าไว้นะ เวลาจะด่าก็ยั้งๆไว้บ้าง”ปากพี่เดียวแม่มอย่างเจ็บ



“น่าน”



“?”



“พี่จูบนะ”



“หะ...ยังอยากจูบผมอยู่อีกเหรอ?”ถึงจะปรับความเข้าใจกันได้ แต่พี่เดียวไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจใช่มั้ย




“ตลอดเวลา”




รอยยิ้มแบบนั้น สายตาแบบนั้น ผมจะทำอะไรได้นอกจาก...ยอม







------------------------------------


ฮิ้วววววววววววววว มาลงแล้วนะ  กรีดร้องในทวิต #รักไม่ได้ออกแบบ #ทีมน้ำน่าน #ทีมพี่เดียว เราจะแวะไปอ่านนะคะ
หรือจะแวะไปคุยกันที่เพจก็ได้ เราเหงา ฮ่าาาา

เราอ่านทุกคอมมเ้นต์นะคะ แต่อาจจะไม่ได้ตอบกลับ เราขอบคุณมากๆที่ทุกคนติดตามอย่างใกล้ชิด รักนะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 30-05-2017 00:22:09
#ทีมพี่เดียว ค่าาาาาาาาา เย้ๆ เขาดีกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-05-2017 00:31:58
 :monkeysad:

อึมครึมมานาน หวานกันสักทีดีไหม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 30-05-2017 01:42:03
โอ้โห ยาวมาก คนเขียนน่ารักมาก คนอ่านก็ชอบมากเช่นกัน 55555
ดีกันสักทีนะสองคนนี้ โฮร ปลื้ม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 30-05-2017 04:44:26
เค้าดีกันแล้วว ฮืออ รักนิยายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 30-05-2017 06:22:54
มาบอกรักเรื่องนี้ด้วยอีกคนค่ะ :L1:
เริ่มอ่านด้วยความหลงรักน้ำน่านและหมั่นไส้ลำใยอิพี่เดียว
แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนุกการใช้ภาษาที่ลื่นไหลอ่านเพลินไม่มีให้สะดุดขัดใจ
จึงคอยติดตามรออ่านตอนต่ออย่างใจจดจ่อ
ขอบคุณสำหรับตอนนี้ที่มีการตกลงกันว่าทั้งคู่จะประคับประคองความรักไว้ยังไง
เพราะเป็นความเชื่อที่มีเหมือนกันว่าการสื่อสารสำคัญกับทุกๆความสัมพันธ์
อ่านตอนนี้จบแล้วถึงกับอยากกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่เริ่มเรื่องเพื่อเก็บรายละเอียดของเนื้อหาและอารมณ์
ขอบคุณมากๆสำหรับความสนุกความสุขที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-05-2017 07:42:54
เขาดีกันแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่เดียว น้ำน่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ดีกันๆ หายขุ่นมัว อารมณ์ดี สดชื่น ดีกว่า นะๆๆๆๆ

น่าน ก็เฝ้ารอพี่เดียว อยู่คนเดียว
พี่เดียว ก็หายโกรธ หายงอนทันที ที่เห็นน่านถูกแทง
พี่เดียว แสนดี รักมั่นกับน่าน แม้น่านจะพยศ
น่านอย่าปล่อยให้หลุดไป
ทั้งหล่อ ทั้งรวย สาวๆแย่งกันแน่
ให้กกกอดอยู่กับน่านดีกว่านะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-05-2017 08:35:18
โอ้ยยยย ในที่สุด ก็ ดี กันนน  :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-05-2017 10:06:07
เฮ้ออออ~ :เฮ้อ: หายใจทั่วท้องได้สักที ดีกันแล้วๆๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 30-05-2017 12:22:53
เรื่องร้ายๆน่าจะยังไม่จบ แต่ขอแค่เข้าใจกันก็พอแล้ว ขอบคุณนะคะที่มาอัพ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 30-05-2017 12:23:53
ต้องให้น่านเลือดตก ถึงจะรู้สึกนะว่าดีกันดีกว่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 30-05-2017 12:34:06
เข้าใจกันสักทีนะพี่เดียวน้ำน่าน~  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 30-05-2017 13:37:14
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-05-2017 13:49:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 30-05-2017 15:40:01
อ่านซ้ำจนถึงปัจจุบันแล้ว
เออเนาะขำตัวเองยิ่งอ่านใหม่ยิ่งโมโหอิพี่เดียวมากขึ้น :fire:
ปากจัดกวนโอ้ยขี้งอนชอบสั่งบังคับจิตใจไม่พอยังมีมุมงี่เง่าๆเป็นเด็กน้อยมาให้ประหลาดใจเรื่อยๆ
แต่ว่าถ้าน่านรักและพยายามปรับเข้าหากัน ก็คงจะโอเคขึ้นเรื่อยๆได้ สู้ๆ

จากการอ่านซ้ำเลยทำให้จำได้ว่าตัวป้าเองเคยสงสัยว่าพายจะได้กะอาร์???
แต่พออ่านบรรยายนิสัยหลอกเก็บเอาไว้ล่อของอาร์แล้ว ขอเถอะเลย สงสารพาย

คู่ธันว์ก็น่าสนใจ อยากรู้จังว่าใครนะที่จะทำให้ธันว์ยอมหยุดหัวใจไว้กับเขาได้
คู่หมวยก็ชอบ พี่ไวท์โหดได้มุ้งมิ้งน่ารัก หมวยก็น่าหมั่นเขี้ยว อยากเห็นมุมอ้อนๆของหมวยบ้าง
ที่อยากอ่านมากๆอีกคนคือเฟริส สงสัยมากว่าจะเป็น3Pหรือเปล่า :z1:
 รออ่านต่ออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-05-2017 21:45:32
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 12-06-2017 23:13:20
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้แบบจริงจัง เริ่มอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นจนตอนล่าสุด พออ่านใหม่แบบต่อเนื่องมันได้อารมณ์ มันอินมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า หลายฉากใจกระตุกตามอย่างห้ามไม่ได้ แรกๆที่ตามอ่านว่าชอบแล้ว รอบนี้อ่านแล้วรักเลยอ่ะ ขอบอกกก

 ฉากแรกที่เขียนได้กระแทกใจเราสุดๆ คือฉากที่พี่เดียวรู้สึกว่าถูกน่านเมินตอนไปถ่ายพรีฯที่ทะเล ตอนง้อพี่เดียวกอดน้องแล้วบอกว่า...อย่าเมินได้ไหม???  โอ๊ยยยย หัวใจจจจจ

ฉากที่สอง คิดว่าหลายๆคนคงประทับใจเหมือนกัน ฉากพี่เดียวเปลี่ยนผ้าพันแผลที่เท้าให้น้อง แล้วน้องถามว่า "เหนื่อยมั๊ย" เปนจุดที่น้ำแข็งของน่านกำลังค่อยๆละลาย อ่านแล้ว... มันดีจริงๆ

ฉากที่สาม ฉากพีคของเรื่อง ฉากปะทะอารมณ์กันตอนน้ำน่านตามไปง้อที่บ้านพี่เฟิร์ส เจ็บแทนน่านจี๊ดเลยยยย ทุกคำที่พี่เดียวพูด เสียดหัวใจมาก โดยเฉพาะคำแทนตัวที่ใช้ มันเปลี่ยนจาก "พี่ - น่าน" เป็น "ผม - คุณ" แทน เจ็บไปอี๊กกก

และสุดท้ายตอนล่าสุด สะเทือนหัวใจตั้งแต่น่านเห็นพี่เดียวมาเยี่ยมแต่พิงผนังอยู่ปลายเตียงบ้าง นั่งกอดอกไม่พูดจาอยู่โซฟาบ้าง มันร้าวแทนหัวใจคนรอ..รอที่จะง้อ ที่ไม่รู้ว่าจะยังได้รับโอกาสให้ง้อหรือเปล่า? จนสุดท้ายพี่เดินมากอดแล้วเปิดใจเริ่มต้นกันใหม่ คือ... มันดีอ่ะ

สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด สิ่งที่พี่เดียวยังติดใจ คงเป็นเรื่องที่ยังสงสัยว่าน้ำน่านมีใจให้พี่เดียวบ้างไหม? หากน้ำน่านมั่นใจกว่านี้ ใช้เวลาที่ได้รับโอกาสใหม่ในครั้งนี้เรียนรู้กับสิ่งที่ยังไม่เคยรู้ ไม่เคยรู้จัก แล้วตอบพี่เดียวไป พี่เดียวคงฟินกว่านี้ (รวมถึงคนอ่านด้วย...)

สุดท้าย #กี่สุดท้ายแล้ว ตอบ!  นิยายเรื่องนี้คุณ zero เขียนได้ดีมากเลยนะคะ เราชอบมากกก แต่จังหวะการอัพมามาขาดๆ ห่างๆ ทำให้ความฟินมันต่อไม่ค่อยติด หลงๆลืมๆไป จนได้กลับมาอ่านใหม่ถึงได้เข้ามาเม้นแบบเต็มปาก เต็มอารมณ์แบบนี้ เปนกำลังใจให้นะคะ รออ่านอยู่ค่ะ 5555 มาอัพเรื่อยๆน้าาาา พรีสสส  :mew1:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-06-2017 23:14:56
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.33 P.13 || [29.05.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 13-06-2017 15:08:00
คิดถึงพี่เดียวกับน้ำน่านแล้วค่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 15-06-2017 23:15:06
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero






- 34 -






   “อย่าเพิ่งขยับตัวมากนะ ก็รู้ว่ายังหนุ่มยังแน่นฟื้นตัวไวแต่แผลยังไม่ทันสมานกันเลย โชคดีที่เลือดซึมออกมาแค่นิดหน่อย ไม่มีเลือดออกภายใน ถ้าจะลุกไปไหนช่วงนี้ควรมีคนช่วยประคองไปก่อนนะ เดี๋ยวแผลอักเสบ ติดเชื้อขึ้นมาเรื่องใหญ่เลยนะ อย่าใจร้อนนัก”




   “ครับ”




   ก่อนหน้านี้ผมจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วยังไม่มีใครมาก็เลยว่าจะไปเอง เพราะแผลก็ผ่านมาสองวันแล้ว ถึงจะเจ็บอยู่แต่ก็ไม่ได้ระบมเหมือนวันแรก แต่ไม่คิดว่าจะโง่ขาพันกันตอนก้าวลงจากเตียงเลยล้มคว่ำไม่เป็นท่า ดีที่พยาบาลเข้ามาเตรียมยาตอนเที่ยงให้พอดีไม่งั้นผมต้องนอนตายอยู่บนพื้นไปอีกพักใหญ่ ตอนนี้เลยต้องมานั่งฟังคุณลุงหมอบ่น




   “เดี๋ยวให้คุณพยาบาลทำแผลให้ใหม่”




   “ครับ”ผมได้แต่รับคำอย่างเซื่องๆ ความเจ็บทำให้ผมซ่าไม่ออกจริงๆ เมื่อไหร่จะหายสักทีนะ




   “เดี๋ยวทานข้าวแล้วทานยานะคะ มีอะไรกดเรียกได้เลย พยายามอย่าขยับตัวมากเดี๋ยวจะหายช้านะคะ”




คุณพยาบาลที่ดูมีอายุหน่อยบอกผมด้วยท่าทางใจดี ทำแผลมือเบามากด้วย พอทำแผลให้เสร็จก็เลื่อนถาดอาหารมาให้ จัดท่าทางให้ผมได้นั่งถนัดขึ้น อาหารก็รสชาติอ่อนเหมาะสำหรับคนเจ็บคนไข้แต่มันทำให้ผมไม่ค่อยเจริญอาหารสักเท่าไหร่ คิดถึงส้มตำน้ำตกที่ไอ้พายซื้อมากินเมื่อวันก่อน ถ้าหายเมื่อไหร่ผมจะจัดเต็มชุดใหญ่เลย




ผมนั่งละเลียดกินอาหารอย่างช้าๆ วันนี้ช่างเงียบเหงา อาฝนกลับไปแล้วไอ้ธันว์ไปส่งตอนเช้า เห็นว่าบ่ายนี้มีนัดกับใครที่ไร่ก็ไม่รู้ พวกไอ้เต้ก็สุมหัวกันทำงาน ไอ้ธันว์บอกมีธุระต่อหลังจากไปส่งอาฝน ไอ้พายติดงาน ไอ้คิมมีเรียนเสริม ทุกคนพร้อมใจกันไม่ว่างผมเลยได้แต่นั่งเหงาอยู่คนเดียว




แกร๊ก...





ผมหันขวับไปทางประตูห้องทันที มุมปากมันยกยิ้มขึ้นมาเองอัตโนมัติ สาเหตุที่ทำให้อาฝนวางใจและยอมกลับไปลำพูนอย่างไร้กังวลก็เพราะคนที่เดินเข้ามานี่แหละ เมื่อวานพี่เดียวแอบอู้งานมาเฝ้าผมตั้งแต่ตอนบ่าย จ๊ะเอ๋กับอาฝนที่อยู่โยงเฝ้าผมตั้งแต่เช้าพอดี ซ้ำยังแนะนำตัวเสร็จสรรพว่าเป็นแฟนผม หน้าที่การงานอะไร นอบน้อมจนน่าหมั่นไส้ ตอนแรกอาฝนก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าแฟนคนแรกของผมจะเป็นผู้ชาย แต่อาฝนก็รู้ว่าผมเป็นยังไงเลยไม่ได้คัดค้านอะไร จริงๆอาฝนตามใจผมอยู่แล้ว หากสิ่งใดที่ผมทำแล้วมีความสุขก็พร้อมจะให้การสนับสนุน ยิ่งเห็นพี่เดียวเป็นที่พึ่งพาให้ผมได้ ก็ยิ่งวางใจรีบยกผมให้ทันที จนผมต้องรีบเบรคไว้ ไม่งั้นผมคงจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงกำลังถูกสู่ขออยู่ ทำให้ผมได้อายนี่มีความสุขมากสินะ เหอะ!




“ยิ้มแบบนี้ตอนเห็นหน้าพี่ค่อยชื่นใจหน่อย”




“ทำไมเพิ่งมา”




“เพิ่งตื่น เมื่อคืนทำงานถึงตีสี่”




“อาหะ”




“ทำไมคิดถึงจนทนไม่ไหวแล้วหรือไง”




“คิดถึงอาหารที่พี่หิ้วมามากกว่า มีไรกินมั่ง”พี่เดียวมันต้องซื้อแต่ของอร่อยๆมาให้ผมแน่นอน




“ก็กินของโรงพยาบาลไปดิ น่าอร่อยออก”เดินมาดูอาหารที่วางเรียงตรงหน้าผมแล้วหยิบหมูไปกินหนึ่งชิ้น




“ยกให้เลย แล้วเอาของที่ซื้อมาให้กินเลย”




“หึหึ”มันผลักหัวผมหนึ่งทีก่อนจะเดินไปจัดการของที่ซื้อมาใส่จานให้ ได้กลิ่นก็รู้ว่าต้องอร่อยแน่ๆ




“ผัดไทยกุ้งสด แต่ห้ามปรุงนะ”ผมมองค้อนมันทีนึง




“หรือจะไม่กิน”




“กินดิ”ผมคว้าจานไว้มั่น มองกุ้งตัวโตที่นอนตัวส้มอยู่ในจานแล้วแอบกลืนน้ำลาย คือผมไม่ได้ตะกละนะ แต่ใครที่เคยนอนโรงพยาบาลจะเข้าใจความรู้สึกของผมในตอนนี้




“กินสิ จ้องอยู่ได้”




“นั่นอะไรอ่ะ”




“ข้าวหน้าเป็ดของพี่”




“กินด้วยดิ แบ่งกันคนละครึ่ง”



“จูบก่อนดิ”




“......”




ผมก้มหน้าก้มตากินผัดไทยในจานตัวเองไม่สนใจข้าวหน้าเป็ดของพี่เดียวอีก อะไรวะ ผมไม่ได้เอาเปรียบสักหน่อย แบ่งกันครึ่งๆก็แฟร์แล้วยังจะมาเรียกร้องอีก ไม่กินก็ได้ รอหายดีก่อนเถอะจะสั่งเป็ดย่างมากินทั้งตัวเลย




“เด็กขี้งก”



“เห้ย!”แทบสำลักผัดไทย มันก้มลงมากระซิบข้างหูไม่พอยังฉวยโอกาสหอมแก้มผมไปอีก แต่ก็ได้เป็ดหนังกรอบเนื้อนุ่มมาวางอยู่ในจานสามชิ้น




“กินเข้าไปจะได้หายไวๆ”




“น้ำจิ้มด้วยดิ”




“คร้าบ คุณชาย”




ในความซวยของผมก็มีความโชคดี ถ้าผมไม่ถูกแทงวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสมานั่งกินข้าวไปด้วยตีกับพี่เดียวไปด้วย ผมชอบความรู้สึกอุ่นๆแบบนี้ อุ่นหัวใจ






X






“พี่จะย้ายมาอยู่ถาวรเลยหรือไง”ผมนั่งมองพี่เดียวเอาเสื้อผ้าตัวเองใส่ไม้แขวนแล้วเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าของผม วันนี้ได้รับอนุญาตให้กลับมาพักที่บ้านได้ พี่เดียวเป็นคนไปรับผมกลับบ้านและผมก็พบว่าอีกฝ่ายเตรียมเสื้อผ้ามาเพื่อจะค้างด้วย เหตุเพราะอยากจะอยู่ดูแลผมในช่วงที่แผลยังไม่หายดี แต่เสื้อผ้าที่เอามามันจะเยอะไปหรือเปล่าเนี่ย พี่ท่านเล่นเอามาเต็มกระเป๋าเดินทางใบย่อมเลย




“ก็ดีนะ มีห้องว่างให้พี่ใช้เป็นห้องทำงานมั้ยล่ะ”




“เอาจริง?”




“จริงครับ”ผมชอบที่พี่เดียวพูดเพราะๆนะ แต่มันก็รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ หน้าผมมันจะร้อนๆ ประเด็นสำคัญเลยพูดอย่างเดียวไม่พอทำไมต้องมาหมอแก้มผมด้วยเนี่ย ไม่รู้เป็นอะไรนักหนาถึงเนื้อถึงตัวตลอด




“ก็พอมีอยู่นะ”ผมมีห้องทำงานอยู่หนึ่งห้อง ตอนแรกที่ออกแบบก็ตั้งใจจะใช้ห้องนั้นทำงาน แต่เอาเข้าจริงก็ก็นั่งทำงานไปทั่ว แล้วแต่อารมณ์ตัวเอง ห้องนั้นก็เลยไม่ได้ถูกใช้งานเท่าไหร่ ส่วนมากเอาไว้เก็บเอกสารเกี่ยวกับที่ไร่ เก็บแบบ เก็บงานที่ผมส่งอาจารย์




“หิวยัง”




“นิดๆ”




“งั้นนอนรอไปก่อนแล้วกันพี่ไปทำอะไรให้กิน”




“ไม่นอน จะลงไปด้วย”ผมขี้เกียจนอนแล้ว นอนในโรงพยาบาลจนเกินพอ เบื่อมาก แต่คนเราก็แบบนี้ตอนที่ให้นอนก็ไม่อยากนอน ตอนที่นอนไม่ได้ก็อยากจะนอน คิดถึงแต่เตียงนุ่มๆ




ผมพาพี่เดียวไปดูห้องทำงานก่อนจะพาตัวเองมาถึงห้องครัวอย่างปลอดภัย ตอนก้าวเดินยังมีเจ็บๆตึงๆอยู่บ้าง แต่สบายมากเดินเองได้ไม่ต้องให้ใครพยุง ถ้าไม่ขยับหรือเอี้ยวตัวแรงๆก็ไม่สะเทือนเลย




ไอ้พายไปถ่ายโฆษณาแต่ทำกับข้าวไว้ให้สองอย่างพร้อมกับหุงข้าวไว้ให้ด้วย ทำหน้าที่เมียได้ไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆ มีไข่พะโล้กับผัดกะเพราหมูชิ้น ในตู้เย็นมีผักอยู่หลายอย่างผมเลยให้พี่เดียวผัดผักให้ด้วย พอกินเสร็จพี่เดียวก็จัดแจงให้ผมกินยาเสร็จสรรพ ระหว่างนั่งรอให้ข้าวเรียงเม็ดพวกไอ้เต้ก็บุกมา มันบอกว่าจะมาช่วยผมทำงาน แล้วก็ติวช่วงที่ผมขาดเรียนไป พี่เดียวเลยแยกตัวไปทำงานของตัวเอง




“พี่คนคอยดูแลแบบนี้พรุ่งนี้มึงก็วิ่งปร๋อแล้ว”




“เหอะ”




“ไม่ต้องมาทำเสียงทำหน้าอย่างนั้น เขินเหรอจ๊ะน้องน่าน”




“ควาย ถ้าจะมาเพื่อล้อกูมึงกลับไปซบอกผัวมึงเลย”ไอ้หมวยมันปากดีไม่ได้ดูตัวเองเลย พอผมว่ามันเข้าหน่อยก็ทำมาค้อนตาคว่ำ บนหน้ามันยังมีรอยช้ำจางๆเหลืออยู่ ผมเลยได้โอกาสมองพวกมันทุกคนอย่างพิจารณา แต่ละคนยังมีร่องรอยในคืนนั้นหลงเหลืออยู่




“กูขอโทษนะเว้ย ที่ทำให้พวกมึงเจ็บตัว แล้วต้องมาลำบากช่วยกูทำงานอีก”




“มึงพูดไปกี่รอบแล้วไอ้สัด ไม่จบนะมึงเนี่ย”ไอ้โอ๊คชักสีหน้าขึ้นมาทัน




“เออ พูดเหมือนพวกกูเป็นคนอื่น ไม่ช่วยเพื่อนแล้วให้พวกกูไปช่วยหมาที่ไหน”ไอ้เต้มันพูดสีหน้าจริงจัง




“เออๆ ก็กูรู้สึกผิดนี่หว่า”




“ถ้ามันจะทำให้มึงหายรู้สึกผิดก็เลี้ยงเหล้าพวกกูดิ”ไอ้หมวยยักคิ้วให้ ผัวมันอนุญาตหรือยังจะให้ผมเลี้ยงเหล้าเนี่ย




“เออ กูเลี้ยงแดกกันให้เมาไม่เช้าไม่เลิกนะ แต่มึงไอ้หมวยไปขอผัวมึงมาให้ได้ก่อนเถอะ”




“เลิกพูดว่าผัวๆสักทีไอ้ควาย แสลงหู”




“มึงควรชินเพราะพวกกูจะเรียกพี่ไวท์แบบนี้ไปตลอดชีวิตมึงอ่ะ”ไอ้เต้ว่า พวกผมนี่ฮากระจาย แต่ผมขำได้ไม่สุดมันสะเทือนแผล โอ่ย อยากจะหายวันนี้พรุ่งนี้เลย




   พวกมันผลัดกันติวแต่ละวิชาให้ผม ส่วนไอ้หมวยอธิบายงานที่ต้องทำส่งให้ฟังอย่างละเอียด แต่ระหว่างที่นั่งติวกันอยู่ผมต้องขยับตัวเปลี่ยนท่าบ่อยๆ เพราะมันเริ่มเจ็บแผล




   “น่านพักก่อนดีมั้ย พี่ว่าเอนหลังดีกว่านะ”ไม่รู้ว่าพี่เดียวแอบมาดูตั้งแต่เม่อไหร่ แต่คงเห็นสีหน้าไม่ดีของผมเลยพูดขึ้น




   “มึงเจ็บแผลเหรอ”ไอ้เต้ที่ตอนแรกไม่ได้สักเกตเลยถามขึ้นมาบ้าง




“เออ เริ่มเจ็บนิดๆ”




พอได้ยินผมบอกแบบนั้นพวกมันก็พร้อมใจกันให้ผมพัก พี่เดียวบอกให้พวกมันไปพักกินน้ำกินขนมในครัวได้เพราะเตรียมไว้ให้แล้ว ก่อนจะมาพยุงผมขึ้นนั่งบนโซฟา




“ฝืนทำไม”




“ก็มันยังพอไหวอยู่”



“นอนพักมั้ย”




“อืม”พอเอนตัวลงนอนได้ก็สบายขึ้นสบายจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีพวกไอ้เต้ก็พากันกลับไปหมดแล้ว ทิ้งเลคเชอร์ที่ซีร็อกมาจากเอเชียไว้ให้ ไอ้หมวยทิ้งโน้ตจดงานทั้งหมดไว้พร้อมกับเขียนกำกับไว้ว่าชิ้นไหนควรทำก่อนทำหลัง




“อ้าว มึงกลับมาแล้วเหรอ”ผมได้ยินเสียงคนคุยกันในครัวเลยเดินเข้ามาดูเจอไอ้พายกับพี่เดียวกำลังช่วยกันทำกับข้าวอยู่




“เออ ถ่ายเสร็จไว มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อนมั้ย กับข้าวยังไม่เสร็จเลย”




“อืม”ผมขึ้นมาล้างหน้าบนห้อง เห็นเตียงแล้วก็อยากนอนต่อ เหมือนมันยังนอนไม่อิ่ม มึนๆงงๆ เมื่อกี้ยังเห็นว่ายังเตรียมของยังไม่ได้ลงมือทำอาหารเลยคิดจะนอนรอข้างบนแต่ไม่คิดว่าจะเผลอหลับไปอีกรอบ




“อื้อ...”




“ตื่นได้แล้วครับ”เสียงนุ่มๆพูดอยู่ข้างหู ผมค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นหน้าพี่เดียวอยู่ใกล้มาก ปลายจมูกแทบชนกัน ตัวผมถูกกักไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง แต่พี่เดียวไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวทับลงมา




“ง่วง”




“กินข้าวกินยาก่อน เดี๋ยวค่อยนอนต่อ”




“กินบนนี้ได้มั้ย”จู่ๆก็รู้สึกขี้เกียจขึ้นมากะทันหัน ทั้งที่ไม่ชอบเอาอะไรเข้ามากินในห้อง ไหนจะกลิ่นไหนจะมด แต่ผมอยากจะแหกกฏของตัวเอง




“ไม่ได้ ลุกเร็ว”พี่เดียวดีดหน้าผากผมเบาๆ แล้วช้อนหลังผมให้ลุกขึ้นนั่งช้าๆ ทำตัวไร้กระดูกเพราะความขี้เกียจไหลพิงไหล่พี่เดียว




“จริงๆแล้วเป็นคนขี้อ้อนหรือไงเรา”




“เปล่าสักหน่อย”



“หึหึ”ไอ้พี่เดียวนั่งลูบหน้าลูบตาผมสักพักกว่าผมจะสลัดตัวขี้เกียจออกจากตัวแล้วไปล้างหน้าใหม่อีกรอบเพื่อลงไปกินข้าวเย็น ลงมาเจอไอ้พายนั่งอมยิ้มกรุ้มกริ่มมองผมกับพี่เดียวสัลบกันไปมา




“นึกว่าจะได้กินข้าวคนเดียวซะแล้ว”




“ทำไมวะ”




“เอ้า ก็เห็นพี่เดียวขึ้นไปตามนานมาก นึกว่ากินอย่างอื่นแทนข้าวแล้วเนี่ย”




“สัด ถ้าปากว่างนักก็กินๆเข้าไป”ผมจับน่องไก่ทอดยัดปากมัน ยังร้อนๆอยู่เลยขอให้ปากพองตายไปซะ พี่เดียวก็นั่งยิ้มอยู่ได้ไม่มีการแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น




“อ่ะๆ กินซะมึง อยากกินไม่ใช่เหรอกูตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะ”น้ำพริกอ่องครับ ผมอยากกินมาหลายวันแล้ว มีหมูยอทอดกับไก่ทอดแกล้ม ส่วนผักสดนี่เต็มจาน เป็นมืออาหารที่ผมเจริญอาหารสุดๆ กินจนอิ่มแน่นจนกลัวแผลจะปริ อยากกินผลไม้ล้างปากแต่ก็ไม่กล้าเลยได้แต่มองพี่เดียวกับไอ้พายกินกันสองคน ก่อนจะแยกย้ายกันไป ไอ้พายล้างจาน พี่เดียวเอาขยะไปทิ้ง ส่วนผมสบายนั่งผึ่งพุงที่มีรูเพิ่มอยู่หน้าทีวี พรุ่งนี้วันจันทร์ผมตั้งใจจะกลับไปเรียนตามปกติ เพราะขาดเรียนมาสองวันแล้ว แค่ไปนั่งฟังอาจารย์เฉยๆ ไม่ได้ออกแรงอะไรให้กระทบกระเทือนแผล




“พรุ่งนี้จะไปเรียนจริงเหรอ”




“อื้อ หยุดหลายวันแล้ว”




พี่เดียวหันมามองหน้าผม ตอนนี้เราอยู่ในห้องนอน ผมนั่งอยู่บนเตียงอ่านเลคเชอร์ที่ได้มา ส่วนพี่เดียวเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยังไม่ได้แต่งตัวมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวไว้หลวมๆจนน่ากระตุกผ้าให้หลุด แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า ไม่อยากเห็นอะไรที่ไม่น่าดู




“ตอนเช้าพี่ไปส่ง แต่ตอนเย็นคงไปรับไม่ได้นะ มีนัดลูกค้าต่อ”




“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ไอ้เต้มาส่ง”ผมยังเจ็บแผลอยู่นั่งขับรถนานๆคงไม่ไหว ช่วงนี้ใครอาสาไปรับไปส่งไม่มีปฏิเสธ ผมว่าการมีคนขับรถให้นั่งนี่โคตรสบาย






   X






   “โหดสัดรัสเซีย ทำไมทำกับพี่โอ๊คแบบนี้ครับ”




   “ช่วยไม่ได้มึงอยากไม่ตั้งใจทำเอง”



“สาด กูตั้งใจทำทุกงานเว้ย แต่บางงานกูทำไม่ทันมันก็ต้องเผากันบ้าง”




“อย่ามาอ้างไอ้ควาย ถ้ามึงเอาเวลาที่ไปส่องนมกับพวกไอ้เจษมาทำงานมึงก็ทำทัน”



“ซ้ำเติมกูจริง”




“กูอยากกระทืบซ้ำด้วยซ้ำ”



“แหมๆ กับเพื่อนนี่โหดจริงกับผัวมึงโหดอย่างนี้มั้ย”



“กูไม่ช่วยแก้งานแล้ว มึงเอาไปทำเอง”




“เห้ยๆ อย่าทำอย่างนั้นกับกูน้องหมวยช่วยกูก่อนนนน กูไปก่อนเว้ยเจอกันวันจันทร์”ไอ้โอ๊คมันหันมาบอกผมก่อนจะวิ่งตามไอ้หมวยที่เดินงอนไป




“ยิ่งกว่าผัวเมียอีกไอ้สัด”ไอ้เต้ว่าพลางส่ายหน้ามองไอ้โอ๊คที่วิ่งดักหน้าดักหลังไอ้หมวยเหมือนหมาอยากเล่นกับเจ้าของ




ก่อนหน้านี้พวกผมไปดูคะแนนงานกันมาไอ้โอ๊คคะแนนน้อยสุดในกลุ่มแถมโดนอาจารย์ด่ายับก็งานมันไม่ละเอียด ดูก็รู้ว่าเผาเอาวันก่อนส่งแน่ๆ ส่วนของผมสบายๆคะแนนไม่ผิดจากที่คิดไว้ ถ้าน้อยกว่านี้ผมจะไปเผาห้องพักอาจารย์เลยคอยดู ผมตั้งใจทำมากอดหลับอดนอนทำ เพราะมีเวลาน้อยกว่าคนอื่น ผมตั้งใจว่าต่อไปนี้จะดูแลตัวเองดีๆ ไม่ทำให้ตัวเองต้องมาเจ็บป่วยอีก การขาดเรียนหลายๆครั้งทำเอาผมท้อเวลาตามงาน การอ่านเลคเชอร์จากเพื่อนมันก็ไม่เหมือนกับเรานั่งเรียนเอง




“กลับดีๆอ่ะมึง”




“เออ”



“งั้นกูไปก่อนนัดเด็กไว้”




“เออ วันจันทร์มาเรียนด้วยไอ้สัดไม่ใช่ตายคาอกใคร”




“ควาย”




แผลที่ถูกแทงอาหารดีขึ้นแล้ว เกือบจะหายเป็นปกติคือมันยังเสียวๆแปล๊บๆเวลาขยับตัวแรงๆอยู่แต่โดยรวมแล้วถือว่าปกติ ส่วนเรื่องคดีทางตำรวจจับตัวคนที่แทงผมได้แล้วผมไม่คิดจะเอาความอะไร แต่ผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย




“ว่าไงวะ”ไอ้หมวยมันโทรมา เพิ่งแยกจากกันเมื่อกี้นี้เอง




“มึงอย่าลืมงานอาจารย์เทพที่ต้องส่งวันจันทร์นะเว้ย มึงทำเสร็จยัง”




“เสร็จแล้วๆ ดีที่มึงเตือนกูลืมไปแล้วว่าต้องส่งวันจันทร์”




“เออ งั้นแค่นี้นะ ควายข้างๆมันเรียก”ผมหัวเราะก่อนไอ้หมวยวางสายได้ยินควายชื่อโอ๊คโวยวายเสียงดัง ชอบแหย่ชอบตีกันแต่เวลาเดือนร้อนพวกมันก็ไม่เคยทิ้งกัน




ผมเปลี่ยนเป้าหมายจากกลับบ้านไปคอนโดพี่เดียวแทน เพราะงานที่ต้องส่งอาจารย์เทพสุดโหดอยู่ที่ห้องพี่เดียว เสาร์อาทิตย์ผมขี้เกียจออกไปไหนตั้งใจจะทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ จะได้มีเวลาอ่านหนังสือไม่อยากไปเร่งช่วงอาทิตย์ที่มีสอบ ไม่ใกล้ไม่ไกลอีกแค่สองอาทิตย์เท่านั้น




ผมไม่เจอพี่เดียวมาสามวันแล้วฝ่ายนั้นบินไปพม่ากลับมาเมื่อวาน วันนี้ที่ไม่มารับผมเห็นบอกว่าติดธุระคงกลับดึก ช่วงที่ผมยังเจ็บอยู่พี่เดียวมารับส่งทุกครั้งที่ว่าง เจอหน้ากันทุกวันเพราะมาอาศัยนอนที่บ้านผมตลอดเพิ่งจะกลับมานอนคอนโดตัวเองเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่ก็ยังลากผมมาด้วยที่นี่ด้วยอยู่ดี จนผมเริ่มชินกับการนอนเตียงเดียวกันไปแล้ว ยอมรับเลยว่าถึงจะรู้ตัวว่ารู้สึกยังไง แต่ผมก็ไม่ชินกับการมีใครอีกคนมาร่วมแชร์อะไรๆกัน ไม่ชินกับการถูกนัวเนียคลอเคลียแต่พี่เดียวก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการจูบ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผมชินอีกอย่าง จูบกับพี่เดียวทีไรเล่นเอาปากแตก เพราะมันรุนแรงและยาวนานบางทีก็แทบขาดใจแต่พอเริ่มจับจังหวะได้หลังๆก็สบายตอบโต้กลับไปอย่าให้น้อยหน้า




“รถพี่เดียวนี่หว่า”ผมมาจอดที่ประจำของตัวเองเห็นรถพี่เดียวจอดครบทุกคัน ไหนว่ามีธุระกลับดึก แล้วรถที่จอดอยู่คืออะไร ผมได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจจนมาถึงห้องพี่เดียวที่ตอนนี้ผมมีทุกอย่าง ทั้งกุญแจ คีย์การ์ดสำรองและรหัสผ่านที่ถ้าเปลี่ยนอีกผมจะทุบประตูทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด




พอเปิดประตูห้องเข้าไปไอเย็นฉ่ำก็ปะทะใบหน้าจนผมชะงัก ไฟในห้องเปิดสว่างแสดงว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้ว แต่คนที่เดินออกมาไม่น่าจะใช่เจ้าของห้องที่ผมรู้จัก




“ว้าย คุณเป็นใคร?! เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง”ผมมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ชุดคลุมอาบน้ำ ผมพยายามห้ามความคิดของตัวเองไม่ให้ไปไกลกว่าที่เห็น




“คุยกับใครน่ะโรส”เจ้าของห้องตัวจริงปรากฏตัวออกจากห้องนอนในสภาพที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แบบนี้ไม่ต้องคิดหรือเดาอะไรแล้วมั้ง มันชัดเจนขนาดนี้ ผมร้อนไปทั้งตัว รู้สึกหูอื้อ ในอกมันตื้อไปหมด




“น่าน!”




ผมพยายามนับหนึ่งถึงร้อย เดินผ่านคนทั้งคู่ไปหยิบกระบอกซูมที่พิงอยู่ข้างทีวี อยากจะรีบไปให้พ้นๆจากตรงนี้




“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไป”ไอ้พี่เดียวมันมาขวางไว้ ผมไม่อยากเห็นหน้า แต่ก็เลี่ยงไม่ได้




“อย่ามาจับ”ผมใช้ซูมปัดมือมันออก ไม่สนใจว่าจะแรงจนทำให้มือมันหักหรือเปล่าก่อนจะเดินออกมา ถ้าทำได้ผมอยากจะหายตัวไปเสียเดี๋ยวนี้เลย



“น้ำน่าน! น่าน! ฟังก่อน”



“เดียว จะไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้นะ”



ได้ยินเสียงเรียกตามหลังแต่ผมไม่คิดจะหันกลับไป รีบเดินเข้าลิฟต์และกดปิดทันที ผมหลับตาลงในหัวว่างเปล่า ไม่อยากคิด ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ไม่อยากรู้สึกเหมือนที่รู้สึกในตอนนี้


กรรมกำลังตามสนองผมอย่างนั้นหรือ...





-----------------------------------

รักแบบลุ่มๆดอนๆ สามวันดีสี่วันตีกัน อิอิ
ตามอ่านในทวิตอยู่นะคะ พูดคุย กรีดร้อง ทวงถาม รีวิว อย่าลืมแท็กนะคะ

#รักไม่ได้ออกแบบ #ทีมน้ำน่าน #ทีมพี่เดียว

 :mew1:

ในเพจก็อ่านนะคะ แต่มันไม่ค่อยเตือนอาจจะตอบช้าไปบ้างค่ะ

-----------------------

ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะคะ ดีใจมากๆ เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของเราเลยค่ะ
จะพยายามมาอัพอย่างสม่ำเสมอนะคะ อย่าเบื่อที่จะรอนะคะ 55555
คนรอบข้างเราก็เข็นเราให้อัพไวๆ แต่บางช่วงก็เร็วได้ บางช่วงยุ่งๆก็ช้าบ้าง ต้องขอโทษด้วย ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว 555

-----------------------

เราว่านอกจากคุณป้ากิ่งแล้วคงมีอีกหลายคนที่อยากอ่านและเชียร์คู่อื่นๆบ้าง ที่เราคิดไว้มีแพลนอยู่ 2 เรื่อง
- คู่ของธันว์ เนื้อคู่ที่ยังไม่ปรากฏในเรื่องนี้ น่ารัก ฟีลกู๊ด : เริ่มแต่งแล้ว
- คู่ของพาย เนื้อคู่เดากันได้มั้ย? แต่เรื่องนี้ดราม่าแน่นอน : ยังไม่เริ่มพิมพ์สักตัว

ส่วนน้องหมวยพี่ไวท์จริงๆแล้วเราชอบคู่นี้มากแต่คิดว่าเรื่องของหมวยโฟมไม่น่าจะเป็นเรื่องยาวได้ ขอติดไว้ก่อน
ส่วนใครที่อยากให้เต้มีคู่ ตอบได้เลยค่ะเราจะไม่แต่งค่ะ ปล่อยเต้ไป  5555555555555555555
เราแค่รู้สึกว่าตัวละครทุกตัวจะเป็นชายคู่ชายหมดมันไม่โอเคค่ะ แม้ว่าตอนนี้จะมีหลายคู่มากก็ตาม -*-
แล้วตอนที่คิดพล็อตน่านเราไม่เคยคิดเรื่องเต้เลย

ทั้งนี้ทั้งนั้น...ที่กล่าวมาเป็นแค่แพลนค่ะ จะเป็นรูปร่างมั้ยยังไงเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ตอนนี้ขอเต็มที่กับเดียวน่านก่อนค่ะ



หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 15-06-2017 23:57:46
อะไรอีกนิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 16-06-2017 00:59:51
คิดถึงพี่เดียวกับน้ำน่านมากมาย ดราม่าอีกแล้วเหรอ ผญคนนั้นคงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-06-2017 01:20:04
 :katai1: :katai1: :z3: :z3: กรรม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-06-2017 05:36:07
ไม่ใช่ว่า (ตั้งใจให้)อะไรหกรดชุดที่สวม
แล้วขอใช้ห้องน้ำเพื่ออ่อยเดียวนะ

แต่เห็นอย่างนี้ ใครก็ต้องคิดอย่างว่าละนะ
เดียว เอากล้องวงจรปิด ให้น่านดูเลย ถ้ามี
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 16-06-2017 06:14:16
โรคจิตไหมถามใจดู???
ค่อยๆไล่อ่านทีละคำใจลุ้นขอให้เป็นอย่างที่คิด พอเห็นรถพอเห็นหญิงพอเห็นเดียว
แบบว่าโป๊ะเช้ะ โอ้ยถูกใจ o13
คู่นี้มันยังสมูทไม่ได้ อย่าเพิ่งหวานเลย
กินมาม่ามานานจู่ๆจะให้ดีกันแล้วสวีทหวานรักจี๋จ๋า ป้ารับไม่ได้555
ขออีกค่ะ ชอบ
รออ่านทุกเรื่องเลยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-06-2017 08:36:16
เอิ่บบ เพิ่งดีกันไป
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 16-06-2017 10:44:23
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 16-06-2017 11:28:06
หวานกันนานไม่ได้หรอกคู่นี้ 55
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 16-06-2017 13:43:20
โอ้ยยยย จะดีกันได้นานๆซักทีมั้ยเนี่ย
เพิ่งจะดีกัน มีแววตีกันอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 16-06-2017 17:36:51
อืมมมมม แค่นับหนึ่งถึงร้อยได้นี่ น้ำน่านก็ถือว่าเก่งแล้วนะเห็นแบบนี้ ใช่ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ภาพมันส่อมากกกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-06-2017 20:21:18
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-06-2017 22:06:59
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-06-2017 00:42:22
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: worry ที่ 18-06-2017 09:23:08
โอยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 22-06-2017 14:45:48
เดี๋ยวดีกันเดี๋ยวตีกันจริงๆ คู่นี้
เคยอ่านตอนแรกๆ ไป แล้วก็ไม่ได้ตามอีก
เพิ่งกลับมาอ่านอีกครั้ง ชอบมากๆ เลยค่ะ
คนเขียนเขียนได้ดีจัง
หลายๆ เหตุการณ์แม้จะอดขัดใจไม่ได้
แต่เราว่ามันเกิดขึ้นได้เมื่อมองในมุมปุถุชนธรรมดา
เชื่อว่าอีกไม่นานทั้งคู่จะเติบโตขึ้นและเข้าใจกันมากกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
ปูเสื่อรอตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: krayfanxing ที่ 22-06-2017 19:23:21
อ่านคู่นี้แล้วให้อารมณ์ผัวเมียที่สุดอ่ะ สามวันดีสี่วันร้าย น่านหนูต้องใจร่มๆนะลูก แต่ป้าของให้ฟังอีพี่อธิบายก่อนอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปก่อน ถ้าพี่เดียวเป็นของหนู หนูต้องสู้นะลูก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 22-06-2017 21:19:01
ไม่ได้อ่านมาหลายตอน อ่านติดๆกัน พอเลื่อนมาล่างสุดเห็นว่าไม่มีต่อ นี่ึงกับร้องเอ้าเลย ฮืออออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 24-06-2017 09:14:44
อ่านแบบสามสิบกว่าตอนรวดเดียว....สนุกมากค่ะมาต่อไวไวน้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: awfsp ที่ 26-06-2017 20:16:29
เหมือนมันกำลังจะดีขึ้นแต่ก็ไม่
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.34 P.14 || [15.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 27-06-2017 19:48:40
ตีกันบ่อยมากค่ะ  :sad4: คนที่อ่านมาราทอนตั้งแต่ตอนแรกยันตอนล่าสุดอย่างเรานี่แทบแบกความรู้สึกอึดอัด หน่วง เศร้า ไม่ไหว ใจจะขาดเอาแล้วค่ะ  :sad5: :sad5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 29-06-2017 22:36:43
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 35 -




      
   “เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ”




   หลังจากกลับมาถึงบ้านผมก็ทำให้อารมณ์เย็นลงด้วยการแช่น้ำเกือบชั่วโมง แต่มันไม่ได้ผลเท่าไหร่เลยมาออกแรงล้างห้องน้ำซะเอี่ยมอ่อง มีแรงเท่าไหร่ก็ใส่ไปให้เต็มที่ พอออกมาอารมณ์ที่เย็นลงก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาอีกเมื่อเจอกับคนที่ผมไม่อยากเจอนั่งรออยู่บนเตียง หันซ้ายหันขวาอยากจะหาอะไรปา คว้าเอาแก้วเทียนหอมสินค้าตัวใหม่ของที่ไร่ได้ ไอ้พี่เดียวมันรีบถลาเข้ามาคว้ามือผมไว้



   “ออกไป!”



   “ใจเย็นแล้วฟังพี่ก่อน”ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก เห็นแล้วอยากกระทืบให้จมดิน รู้สึกขัดหูขัดตาขัดใจ



   “ขี้หึงเหมือนกันนี่หว่า”



ใครหึง!?




ผมโกรธต่างหาก เข้าขั้นเกลียดเลย ถ้าจะมีผู้หญิงอื่นจะกลับมาคบกับผมทำไม หรือว่าจะใช้วิธีนี้แก้แค้นกัน ทำได้เจ็บแสบมาก ทำให้ผมได้รู้ซึ้งเลยว่าเจ็บที่ใจมันเป็นยังไง




   “เห้...คิดอะไรอยู่ เลิกคิดๆ”มันดึงเข้าไปกอดแต่ผมขืนตัวไว้และผลักมันออก แต่ไอ้พี่เดียวมันไม่สะเทือนสักนิด มันดึงดันกอดผมจนสำเร็จรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก จู่ๆก็รู้สึกร้อนที่ขอบตา ผมเกลียดอารมณ์อ่อนไหวของตัวเอง เกลียดที่ต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นความรู้สึกที่รับมือยาก ไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไร อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อระบายออก




   “อยู่เฉยๆแล้วฟังให้จบก่อน”มันพูดเสียงนุ่มพร้อมกับลูบหัวผมไปด้วย ด้วยความที่เราแนบชิดกันมากมันไม่ยอมปล่อยและผมก็ไม่อยากมองหน้ามันเลยต้องก้มหน้าลงกลายเป็นว่าผมวางศีรษะลงบนอกไอ้พี่เดียว จิกเล็บลงบนหลังมันแน่น




“โรส...ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทพี่ตั้งแต่สมัยเรียนที่ฝรั่งเศสแล้ว วันนี้พี่ไปรับเขาที่สนามบินก็ธุระที่ว่านั่นแหละ ตอนแรกโรสเขาจะไปเจอเพื่อนๆทันทีที่มาถึงพี่เลยบอกว่าจะกลับดึก แต่พอเจอกันเขาก็เปลี่ยนใจอยากพักพี่เลยพาเขาไปที่ห้อง แล้วน่านก็มาพอดี”



“มาขัดจังหวะพอดี? หรือว่าเอากันเสร็จพอดี?”ผมผลักมันออกในจังหวะที่มันเผลอคลายวงแขนจนมันเซไปเล็กน้อย ใจจริงผมอยากให้มันกระเด็นไปนอกโลกด้วยซ้ำ



“น่าน...พูดดีๆ”



ไม่ต้องมาทำตาดุเลย ผมพอใจจะพูดแบบนี้ ใครจะทำไม เห็นคาตาแบบนั้นจะให้คิดเป็นอื่นได้ยังไง โอ๊ย อยากต่อยคน! ผมง้างหมัดขึ้นไอ้พี่เดียวรีบมาคว้าไว้



“เอ้ยๆ ไม่ได้มีอะไรทั้งนั้น ที่เห็นก็แค่จะอาบน้ำ โรสเขาอาบเสร็จแล้ว พี่กำลังจะเข้าไปอาบต่อก็แค่นั้น ไม่มีอะไรจริงๆ”



“มีความจำเป็นอะไรที่ต้องอาบต่อกันด้วย นั่นห้องส่วนตัวพี่ป่ะวะ ห้องเล็กก็มีไม่ใช่ไง”โคตรข้องใจอ่ะ สนิทกันมากขนาดนั้นเลยหรือไง แม่ง หงุดหงิดว่ะ



“เอ้า ก็ห้องน้ำอีกห้องฝักบัวมันเสียยังไม่ได้ซ่อมเลย”



ข้ออ้าง!



“จำไม่ได้เหรอว่าเป็นคนทำพังเองนะ”




“แล้วไง หลังจากอาบน้ำแล้วจะทำไงต่อ ถ้าไม่เข้าไปก็คงจะรำลึกความหลังกันต่อสินะ”




“ไปกันใหญ่แล้ว บอกว่าไม่มีไรไง อาบเสร็จพี่ก็ตั้งใจจะมาหานี่แหละ ตั้งใจจะมานอนกับน่านอยู่แล้ว ห้องนั้นก็ให้โรสพักไป เดี๋ยวงานแต่งพี่แชมป์เสร็จเขาก็กลับแล้ว เห็นมั้ยเนี่ยพี่เอาเสื้อผ้ามาด้วย”มันชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ครั้งก่อนที่ขนมาก็ยังไม่ได้เอากลับมา นี่เอามาเพิ่มอีกแล้ว ตกลงจะย้ายมาอยู่กับผมจริงๆเลยใช่มั้ย




“ใครจะให้อยู่ บ้านตัวเองก็มีกลับไปนอนบ้านดิ”




“ไม่อ่ะ อยากนอนกับแฟน”มันพูดยิ้มๆ ผมคว้าแก้วเทียนหอมขึ้นมาอีกครั้ง หมั่นไส้จริงๆ ยิ้มระรื่นอยู่ได้




“จะทำร้ายร่างกายกันตลอด เมื่อกี้จิกหลังพี่จนเจ็บไปหมดแล้วเนี่ย”มันพูดพร้อมกับดึงแก้วเทียนหอมวางไว้



“สมควร”อยากจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ผมอารมณ์ขึ้นสุดๆ แม้ตอนนี้จะเย็นลงแล้วแต่ก็ยังลงไม่สุด




“เชื่อพี่แล้วใช่มั้ย”ใจหนึ่งก็อยากเชื่อ แต่อีกใจก็ยังลังเล ถ้ามันคิดจะหลอกผมก็ทำได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำและผมก็ไม่อยากโง่มีเขางอก




“เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปรู้จักกับโรสเลยจะได้หายข้องใจ โอเคมั้ย?”




“ไม่อยากรู้จัก”



“แต่โรสเขาอยากรู้จักนะ นี่ก็แทบจะตามมาด้วยแต่พี่เบรคไว้ก่อน กลัวเราจะเอาปืนไล่ยิงเสียก่อน”




“ใครจะไปทำอย่างนั้นวะ”ผมไม่ใช่คนเถื่อนนะเว้ย จะได้เอาปืนไปไล่ยิงชาวบ้าน




“หึหึ”




“ปล่อย!”เอะอะก็ดึงเข้าไปกอด จะกอดอะไรนักหนาวะ




“น้ำน่าน...ไหนบอกให้พี่ใจเย็นๆเข้าไว้ไง พูดเองก็ต้องทำเองให้ได้ด้วยนะ”




“.......”




“เชื่อพี่เถอะกับโรสมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย กับคนอื่นๆก็เหมือนกัน ถ้าจะมีคนอื่นแล้วพี่จะมาเริ่มต้นใหม่กับเราอีกทำไม”




“.......”




“เงียบแบบนี้นี่เข้าใจแล้วใช่มั้ย”




“ปล่อยสักที จะไปแต่งตัว”ผมเชื่อก็ได้แต่ก็ยังรู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่ดี




“ไม่ต้องแต่งหรอก แบบนี้เซ็กซี่ดี”มันมองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม กวาดสายตามาหยุดที่หน้าอกผมม ซึ่งตอนนี้ชุดคลุมที่ใส่ไว้มันแหวกออกจนถึงปมที่ผูกไว้โชคดีที่ด้านล่างยังถูกปกปิดอยู่




“จะเข้ามาทำไมเนี่ย”ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ผมถอยหลังจนชนเตียงก่อนที่ไอ้พี่เดียวมันจะผลักผมจนล้มลงไปแล้วตามมาคร่อมทับไว้ ผมยกขาขึ้นจะยันไอ้พี่เดียวให้ออกห่าง แต่กลายเป็นว่าเปิดช่องให้มันแทรกตัวเข้ามาได้อย่างสะดวกชุดคลุมผมร่นมากองที่ต้นขา ประเด็นคือผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จไม่ได้ใส่อะไรไว้ด้านในแม้แต่ชิ้นเดียว ท่าทางหมิ่นเหม่ไม่ปลอดภัยที่สุด




“อยากจูบเด็กขี้หึง”




“ไม่ได้หึง!”เข้าใจไปเองทั้งนั้น




“หึ ไม่หึงก็ไม่หึง แต่ขอจูบหน่อยแล้วกัน”




“ไม่ให้!”



“อย่างกน่า ไม่ได้เจอกันตั้งสามวันคิดถึงจะแย่”หน้าของเราใกล้กันมาก สายตาของพี่เดียวโคตรเจ้าชู้ ยิ้มมุมปากนั่นอีก โคตรจะมีพลังทำลายล้าง ไหนจะน้ำเสียงอ้อนๆ




“นะ...”




 “อืม...”






X






“เอ่อ...พี่ไม่ทานเหรอครับ?”



“ทานน้องน่านได้หรือเปล่าล่ะ”ไม่พูดเปล่ามีขยิบตาให้ผมอีก โอ่ย อยากจะเลิกเป็นแฟนกับไอ้พี่เดียวจริงๆ สเป็คผมเลยเนี่ย สวยสมกับชื่อ เย้ายวนมาก แต่งตัวก็เซ็กซี่ เมื่อวานมัวแต่โมโหเลยมองไม่เห็นความงามของพี่เขา แจ่มว่ะ



“นี่...ไม่ได้นั่งกันอยู่สองคนนะ”เสียงห้วนๆเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมา



“เลิกเป็นแฟนเดียวแล้วมาเป็นเด็กพี่เถอะ พี่จะตามใจทุกอย่างเลย”สายเปย์ผมชอบมากเลย



“โรส!”



“อะไรเล่า แหย่เล่นน่า”



“นี่ก็อีกคนมองไม่ละสายตาเลยนะ”เอ้า พาลนี่หว่า ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็มองปกตินะ เหมือนปกติที่เห็นผู้หญิงสวยๆถูกใจ




“ขี้หวงจังเลยนะ จริงอย่างที่เขาว่าผู้ชายเจ้าชู้เวลามีแฟนแล้วจะขี้หวงขี้หึง”



“ก็คงจะจริง”ไอ้พี่เดียวยืดอกรับ แต่ทำไมต้องหันมามองผมแล้วยิ้มแบบนั้นด้วยวะ



“น่านว่าไง?”



“จะไปรู้เหรอ พี่โรสทานนี่ดีกว่า อร่อยมากครับ”ผมถลึงตาใส่ไอ้พี่เดียว ก่อนจะหันมายิ้มให้พี่โรส



ตอนนี้เรามาทานกลางวันกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งไอ้พี่เดียวลากผมมาทั้งที่ผมไม่อยากมา แต่พอมาถึงแล้วก็รู้สึกว่าโชคดีแล้วที่มาเพราะพี่โรสสวยมาก น่ารักด้วย คุยเก่ง ยิ้มเก่ง แต่ผมก็ต้องอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อพี่เขายืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการโทรหาสามีที่อยู่ต่างประเทศเพื่อให้ช่วยยืนยัน พร้อมกับเปิดรูปลูกสาวที่อายุ 6 เดือนให้ดู ไม่รู้ว่าไอ้พี่เดียวไปพูดอะไรกับเพื่อนไว้ถึงต้องขุดทุกอย่างมาเป็นหลักฐานขนาดนี้ พี่โรสจะมองผมเป็นคนยังไงเนี่ย




“น่ารักอ่ะ เดียว โรสขอจริงๆนะ”




“ให้มันน้อยๆหน่อย เธอจะเอาเอริกไว้ที่ไหน”




“ก็เอาไว้ที่เดิมไง ส่วนน้ำน่านเนี่ยกิ๊กอันดับหนึ่ง”มีลูลแก้มด้วยอ่ะครับ มือนุ่มมากๆ หอมด้วย




“ยินดีค้าบ โอ๊ย! ตีทำไมเนี่ย”ไอ้พี่เดียว ไอ้บ้า เอาช้อนตีลงบนหลังมือผมสกปรกมาก ไม่ต้องมาถลึงตาใส่เลยนะ!




“ออกนอกหน้าไปแล้ว ไหนตอนแรกบอกว่าไม่อยากมา”




“คิก น่ารักอ่ะ เพิ่งเคยเห็นเดียวเป็นแบบนี้”




“อะไรครับคุณ”




“ไม่ต้องมาเก๊กกลบเกลื่อน หึหึ”




“พูดมาก”




“เชอะ”พี่โรสเบ้ปากใส่ มองยังไงก็ดูดี เห้อ เห็นแล้วหวั่นไหว อยากได้อ่ะครับ ไม่น่าเจอกันช้าเลย ทำไมต้องแต่งงานแล้วด้วยเนี่ย คือถ้าเจอกันที่อื่นผมก็คงไม่เชื่อว่าพี่เขาจะมีลูกแล้วก็หุ่นเป๊ะเว่อร์อยู่เลยอ่ะ




“รักกันนานๆนะน้องน่าน เดียวเป็นผู้ชายที่ดีมากนะ พึ่งพาได้ทุกเรื่องเลย แต่บางทีก็แอบงี่เง่าไปบ้างก็มองข้ามมันไปแล้วกัน”




ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่ยิ้มแห้งๆไปให้ จะรักจะคบกันนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้เลย สามวันดีสี่วันตีกันแบบนี้ แต่เราก็คุยกันแล้วว่าจะพยายามปรับตัวเข้าหากัน ถึงผมจะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องความรักแต่ก็ไม่อยากให้รักครั้งแรกมันจบลงเร็วนัก ในอนาคตหากเราไปกันไม่รอดต้องเลิกกันไป ผมก็คงไม่คิดจะคบกับใครอีก แค่ลองรักคนเดียว ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วสำหรับคนอย่างผม มันบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าจะเข็ดหรือว่าอะไร เพียงแค่ไม่อยากเริ่มความรู้สึกแบบนี้กับใครอีก




หลังจากทานกลางวันเสร็จพี่โรสก็ขอแยกตัวไปทำธุระ ได้ยินว่าคืนนี้จะไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันนานเลยต้องไปเสริมสวยก่อน ส่วนพี่เดียวก็ลากผมมาเดินซื้อของ หมดกันวันหยุดที่ผมตั้งใจจะหมกตัวอยู่บ้านทำงานให้เสร็จ




“น่าน”มันกวักมือเรียก ผมถอนหายใจเซ็งๆลากเท้าเข้าไปหาไอ้พี่เดียวที่กำลังเลือกนาฬิกาอยู่



“ไมอีก”



“ยื่นแขนมา”




“เพื่อ?”



“เถอะน่า”ไอ้พี่เดียวทำเสียงรำคาญใส่ดึงแขนผมไปปุ๊บก็วางนาฬิกาทาบลงมาปั๊บ



“จะซื้อให้หรือไง”มองมันจับอีกสองเรือนมาทาบลงบนข้อมือผม เรือนสุดท้ายสวยว่ะ สายหนังสีดำตัวเรือนก็สวยเพชรเม็ดเล็กๆ สองเม็ดแทนเลขสิบสองและเลขสามถูกจัดเรียงอย่างดี ดูโดยรวมแล้วเรียบเท่ ไม่ขัดตา ไม่ดูสาว



“ชอบเรือนไหน”




“ทั้งหมด”ถามแบบนี้จะซื้อให้แหง งั้นผมเหมาหมด


 

“โลภ”




“โอ๊ย พี่แม่ง”มันดีดหน้าผม ดีดแบบจริงจัง แรงด้วย แดงเลยมั้งเนี่ย



“แค่เรือนเดียวครับคุณ”




“เรือนนี้ดิ”




“หึ คิดไว้ไม่ผิด”มันกระตุกยิ้มมุมปาก ส่งนาฬิกาที่ผมเลือกให้พนักงาน




“ซื้อให้จริงอ่ะ”




“ถามมาก หรือจะไม่เอา”




“เอาดิ แล้วซื้อให้ทำไม”ของฟรีไม่มีปฏิเสธอยู่แล้ว แพงนะครับ เมื่อกี้แอบเห็นป้ายราคาหกหลัก




“ของขวัญในการคบกันแบบจริงจังสักที”




“หึ แล้วผมต้องให้ด้วยป่ะ”




“ก็แล้วแต่ดิ”




“งั้นไม่ให้”ความจริงคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้ ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนี้เลย ไม่เคยมีแฟนเลยไม่รู้ว่าต้องทำเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย ตอนนอนกับผู้หญิงก็ไม่ได้เสียค่าอะไรนอกจากค่าห้อง ค่าเหล้า เอาไว้มีอารมณ์แล้วคิดออกก่อน ค่อยเอาละกันของขวัญน่ะ




พอจบจากร้านนาฬิกาพี่เดียวก็พาผมเข้าออกอีกสองสามร้านซื้อของใช้ส่วนตัวก่อนจะพากันกลับ เพราะผมเป็นห่วงงาน ก่อนกลับก็แวะซื้อของสดติดมือกลับมาอีกนิดหน่อยเพราะที่บ้านไม่มีอะไรเลย



“ไหนว่าจะทำงาน”




พอเปลี่ยนชุดเสร็จเห็นที่นอนก็ทิ้งดิ่งทันที รู้สึกปวดหลังปวดขาทั้งที่ก็เดินไม่เยอะ ผมลืมตาเมื่อที่นอนยวบลงไอ้พี่เดียวมาเท้าแขนคร่อมผมไว้อีกแล้ว




“พักแป๊บ”




“เดี๋ยวก็นอนยาว งานไม่ได้ทำ”




“อื้อ...เอาหน้าออกไป”ผมผลักหน้าพี่เดียวออก ชอบเอามาใกล้ทุกทีแล้วก็เนียนจูบ เมื่อคืนกว่าจะเลิกจูบก็เกือบเลยเถิดดีที่ผมไหวตัวถีบมันออกไปทัน คนบ้าอะไรมือไวอย่างกับลิง เดี๋ยวจับตรงนั้นลูบตรงนี้ อยู่ใกล้แล้วเปลืองตัว




“จูบทีนึงเดี๋ยวปล่อยให้นอนเลย”




“ตลอดอ่ะ เป็นไรกับจูบมากมั้ยเนี่ย”



“ก็แค่จูบเอง ไม่ได้ขอทำอย่างอื่นสักหน่อย อย่าบ่นดิ”ไม่บ่นป่านนนี้ปากผมคงหลุดไปแล้ว จูบแต่ละทีหนักหน่วงเหลือเกิน




“ไม่โว้ยยยย”ผมตะโกนใส่หูเอาให้หูดับ อาศัยจังหวะนี้พลิกตัวหนีออกมา




“หูจะแตกตะโกนมาได้”




“สม ว่างนักพี่ก็ไปทำกับข้าวไป หิวแล้ว จะไปทำงานรอ”ว่าจะพักสายตาสักครึ่งชั่วโมงหมดอารมณ์เลย กลัวโดนลักหลับ




“อยากกินก็ทำเอง”




“เออ จำไว้ งั้นพี่อย่ามากินที่ผมทำนะ แล้วเก็บเสื้อผ้าออกไปเลย ไม่ต้อนรับ”




“ขึ้นง่ายจริงๆเลยนะ ฟอด”




อะ...ไม่ทันระวังตัวก็โดนฉกแก้มไปฟอดใหญ่ ผมละหน่าย



“ไปทำงานไป เดี๋ยวพี่ทำกับข้าวให้ เสร็จแล้วจะไปเรียก”




“อืม”





หึ คิดว่าจะแน่ ผมชอบจังเวลาพี่เดียวมันยอมผมแบบนี้ ความจริงจะไม่ยอมก็ได้ แต่ทุกครั้งจะลงให้ก่อนเสมอยกเว้นถ้าผมเป็นคนทำผิดจริงๆ รักผมมากขนาดไหนกันนะ ผมจะตอบแทนเขาได้ถึงครึ่งหรือเปล่า




“พี่เดียว”



“หืม?”




มันเลิกคิ้วเป็นคำถาม ผมเลยโน้มคอมันลงมา แค่จูบเดียวมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร เอาใจปีศาจจูบเขาหน่อยก็แล้วกัน






X






“ตอนเย็นเจอกัน”



“เลิกทุ่มนึงนะ”



“ครับ”



พอพี่เดียวรับคำผมก็ลงมาหยิบงานที่วางไว้เบาะหลัง ในที่สุดก็ไล่ทำงานทัน อดหลับอดนอน กัดฟันสู้แบบสุดๆ จนไอ้พี่เดียวบ่นว่าผมหักโหมเกินไป ว่าแต่ผมไม่ยอมดูตัวเอง เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีสองกว่า นั่งขีดๆเขียนๆอะไรอยู่ในห้องทำงานก็ไม่รู้ผมไม่ได้เดินเข้าไปดู ทำงานของตัวเองอยู่เหมือนกัน




“พี่น่าน! แฮ่~~~”




“ตกใจหมดเลยยยย”ผมแกล้งลากเสียงประชดมัน ไอ้ผิงที่ไม่ได้เจอมาสักพักแล้วเข้ามาทักอย่างกับลิงกับค่าง




“โว๊ะ ไม่สนุกเลย อะไรว้า”



“ว่างๆ ไม่มีเรียนหรือไง”



“เค้าเรียนบ่ายค่ะพี่น่านมีเรียนกี่โมง”



“เรียนบ่ายเหมือนกัน”แต่มาเช้าเพราะผมจะมาส่งงานแล้วจะแวะไปห้องสมุดหาข้อมูลอะไรนิดหน่อย




“ดีเลย พาน้องไปกินหนมหน่อย”เจอหน้าทีไรเรียกร้องแต่จะกิน ที่บ้านเลี้ยงอดอยากเหรอวะ




“เออ รอแป๊บไปส่งงานก่อน นั่งเฝ้าของไว้ดิ”เดินมาถึงโต๊ะประจำพอดี ผมเลยให้มันเฝ้าของให้ หยิบแค่งานไปส่ง ว่าจะไปแป๊บเดียวแต่ดันเจออาจารย์เลยคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง ถามเรื่องแผลแล้วก็เรื่องเรียนว่าตามเพื่อนทันหรือเปล่า อาจารย์แกใจดี เอ็นดูผมกับไอ้หมวยเป็นพิเศษ เพราะทำงานถูกใจแก แน่สิครับพวกผมงานละเอียด




“มันมาทำอะไรอีก”ผมถามตอนที่เดินมาถึงเห็นไอ้ปาร์คเดินออกไปจากโต๊ะพอดี คนที่เคยจีบไอ้ผิงแต่ดันมีคดีเสียก่อนไอ้ผิงเลยถีบหัวส่ง




“เข้ามาทักเฉยๆ”




“จะรีเทิร์น?”




“โนค่ะ ตอนนี้คิวเต็มเชิญป้ายหน้าค่ะ”ดูมันทำหน้าทำตาน่าเขกกะโหลกจริงๆ




ผมพามันมาที่โรงอาหารกลาง เช้าแบบนี้คนเยอะพอสมควรแต่อาหารก็เยอะด้วย ไอ้ผิงตรงไปร้านน้ำแข็งไสทันที ส่วนผมไปหากาแฟโด๊ป เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านกินขนมปังรองท้องมาแล้ว ส่วนข้าวรอกินพร้อมพวกไอ้เต้มันไลน์นัดกันเมื่อคืนนี้




นั่งส่องขาขาวๆได้ไม่นานไอ้หมวยก็มาพร้อมพี่ไวท์ มันทนหิวไม่ไหวเลยจัดก่อนใครไม่รอไอ้เต้กับไอ้โอ๊คผมเลยนั่งกินกับมันด้วย ไอ้หมวยก็ไม่เหงาปากกัดกับไอ้ผิงฆ่าเวลา จนไอ้สองตัวนั้นมาผมก็กินของหวานไปอีกอย่าง เข้าเรียนตอนบ่ายก็เลยจะง่วงๆหน่อย เพราะหนังท้องตึงแล้วแอร์ก็เย็นฉ่ำ เรียนมาราธอนบ่ายยันคำมีพักให้เข้าห้องน้ำ เปลี่ยนอิริยาบถสองรอบแล้วก็กลับมาเรียนใหม่ เป็นคลาสสุดท้ายก่อนสอบเลยอัดแน่น



“กูนึกว่าจะต้องทนจนหมดคาบจริงๆแล้วนะเนี่ย”



“จะบ่นทำไมปกติก็ทุ่มนึงอยู่แล้ว”



“แต่มันคาบสุดท้ายไงมึง จะมายัดเยียดความรู้ให้ตอนนี้สมองกูไม่รับแล้ว”ไอ้โอ๊คโอดควรญ แต่ผมก็เห็นด้วยกับมัน อัดเนื้อหามาในคาบสุดท้ายมันจะได้อะไร แทนที่จะวางแผนการสอนมาให้ดีๆ ผมว่ามันจะดีกับคนสอนและคนเรียน แต่จะทำไงได้เขาเป็นอาจารย์พวกผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับฟังไป ถ้าจะมีใครเข้ามาดูแลบ้างก็คงดี




“เด็กม.ปลายที่ไหนวะ แม่งโคตรน่ารักอ่ะ”ไอ้โอ๊คก็หยุดคร่ำครวญเปลี่ยนมาเป็นกระดี๊กระด๊าแทน พวกผมเลยต้องมองตามไป ผมชะงักทันทีที่สบตากับเด็กคนนั้น ดูท่าทางจะดีใจมากที่เห็นผมต่างกับผมลิบลับ ทำไมต้องมาเจอกันอีก




“พี่ชล!”




“ปาย...”





X






“เป็นอะไรนั่งเงียบเชียว เหนื่อยเหรอ”




“อือ หิวด้วย พาไปกินของอร่อยหน่อย”ผมกอดหมอนนั่งหันข้างไปทางพี่เดียว ใบหน้าด้านข้างตอนขับรถของพี่เดียวโคตรดูดี คนอะไรวะจมูกโคตรโด่ง แต่ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะมีเชื้อฝรั่งเศส พี่เดียวเป็นลูกเสี้ยวที่เชื้อชาติทั้งฝั่งเอเชียและฝั่งยุโรปผสมกันได้แบบพอดี หน้าไม่ดูฝรั่งจ๋าแต่ก็ไม่เอเชียชัดเจน มองผ่านๆแล้วเดาได้อยากเป็นคนชาติไหน




“อ้อนพี่อยู่เหรอ”




“อือ”พี่เดียวลูบหัวผมเบาๆ รู้สึกดีชะมัด




“ทำไมวันนี้ว่านอนสอนง่าย ไม่พยศเลยแหะ”




“ชอบให้ออกฤทธิ์ใช่มั้ย”ก็เหนื่อยบ้างอะไรบ้าง ไม่มีอารมณ์จะกวนประสาทใคร อีกอย่างผมอยากอยู่นิ่งๆคิดอะไรบางอย่าง




“เปล่าครับ แบบนี้น่ารักดี พี่ชอบ จุ๊บ!”




แสรด เวลาเพียงแค่สองวินาทีก่อนไฟเขียวยังอุตส่าห์ยื่นหน้าเข้ามาจูบอีก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้า ผมค้อนให้มันก่อนจะหลับตาลง ปล่อยการเลือกร้านเป็นหน้าที่ของคนขับ




“น้ำน่าน พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้พี่ฟังได้นะ”ฝ่ามืออุ่นสัมผัสที่ข้างแก้มเบาๆ ความอุ่นส่งตรงไปถึงใจทำให้ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ รู้สึกขอบคุณที่ไม่เร่งรัดให้ผมพูดอะไร ขอบคุณที่ใส่ใจกันถึงรู้ว่าผมมีเรื่องไม่สบายใจอยู่




ผมคว้ามือพี่เดียวมากุมไว้ บีบเบาๆเพื่อบอกให้รู้ว่าผมรับรู้ความห่วงใยจากเขาและเป็นสัญญาว่าเมื่อถึงเวลาผมจะเล่าให้เขาฟังอย่างแน่นอน
















----------------------------------------
ไหนขอเสียงหน่อย ใคร #ทีมพี่เดียว   ใคร #ทีมน้ำน่าน

#รักไม่ได้ออกแบบ    เอามาส่งแล้วนะคะ จุ๊บๆ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ทุกการติดตามนะคะ
ขอบคุณที่แนะนำนิยายเรื่องนี้แก่เพื่อนๆนะคะ
ดีใจจังที่มีคนชื่นชอบ หวังว่าจะติดตามกันไปจนจบนะคะ เลิฟฟฟฟฟฟฟ


      
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-06-2017 22:48:34
เข้าใจกัน ก็ดีแล้ว  :mew1:
ประวัติแต่ละคนไม่เบาทั้งคู่  o22

แล้วใครโผล่มากันอีกล่ะ  :katai1:

พี่เดียว น่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 29-06-2017 22:54:10
คือความดีงาม  ดีต่อใจ  ไม่มีดราม่า 
ชอบพี่เดียว  อบอุ่นมากกกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 29-06-2017 23:23:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 30-06-2017 00:04:12
ชอบเวลาน้ำน่านเป็นเด็กดี
เวลาอ้อนพี่เดียวนี่น่ารักมากจริงๆอะ
แต่ก็นานๆทีเหลือเกิน

ไม่รู้นะ ว่าใครจะโผล่มาใหม่อะไรยังไง
แต่เท่าที่รู้ ตอนนี้สถานะชัดเจน รักทั้งคู่แคร์ทั้งคู่
มีบทเรียนกันมาหลายอย่างล่ะ มันต้องดีขึ้นแน่นอน
อีกอย่างขี้หึงตัวพ่อตัวแม่กันทั้งนั้น ไม่รู้ใครควรจะระวังตัวกัน
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-06-2017 03:34:45
สู้ๆ #ทีมทั้งสองคนเลย #เดี่ยวน่าน :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-06-2017 09:38:16
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 30-06-2017 12:09:36
อยากให้น้ำน่านเป็นเด็กดีบ่อยๆ
เห็นตีกันละเหนื่อยแทน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-06-2017 12:24:28
เอ้า ใครอีกเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 30-06-2017 15:41:46
มีอะไรก็คุยกับพี่เขานะน่าน อย่าดื้อมากเหนื่อยแทนไม่ใช่อะไร
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 30-06-2017 16:18:56
เดี๋ยวนี้มีอ้อนด้วยอ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-06-2017 22:27:06
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sangzaja122 ที่ 01-07-2017 10:27:22
ขอให้หวานกันไปนานๆค่ะ ลดสถิติ3วันดี4วันร้าย ให้เหลือสัก 6วันดี1วันร้ายก็พอ  o9 o9 :try2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 02-07-2017 14:07:21
น่านอ้อนน่ารักแต่ถ้าพยศมาก เดี๋ยวเก็บตังจ้างพี่เดียวให้หนีไปอีกรอบนะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 04-07-2017 17:51:33
ได้อย่างใจจริงๆ ชอบน่านมากๆๆๆๆ
คิดในแง่คนเป็นแม่นะ
ถ้ามีลูกที่มีการตอบสนองต่อปัญหาในชีวิตแบบน่าน
ป้าว่าป้าประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกแล้วล่ะ
ขอบคุณค่ะ รออ่านต่ออยู่นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.35 P.14 || [29.06.17]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 04-07-2017 20:01:10
ชอบนะ ที่มีแง่มุมที่แสดงให้เห็นว่าน้ำน่านไม่ได้มองความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต ยังคงรู้ว่ามีวันที่เริ่มรักก็ต้องมีวันรักจืดจาง เเละเลิกรากันไป มองชีวิตเป็นไปตามความจริง นานๆทีเห็นน่านยอมอ่อนลงให้พี่เดียวบ้างก็ดีเหมือนกัน ดูเป็นคนคิดมากดี ในหัวไม่ได้คิดถึงแค่เรื่องความรักอย่างเดียว555 แต่โทนเรื่องมาแนวนี้แล้ว สงสัยคงไม่มีดราม่าแล้วมั้งคะ? ใจจริงอยากเห็นดราม่าอีกซักฉากก่อนจบ เพราะยังเห็นความไม่เเน่นอนในความรู้สึก/อารมณ์ของน้ำน่านอยู่ แต่ถักทอความสัมพันธ์ของคู่นี้มาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ อ่านแล้วอินตามเลย ยังไงก็ยังรอพัฒนาการด้านความรู้สึกของน้ำน่านเเละพี่เดียวอยู่นะคะ หกล้มคลุกคลานยังไงแม่ก็จะอยู่ข้างหนูเสมอนะลูก #ทีมน้ำน่าน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 23-07-2017 23:51:24
รัก...ไม่ได้ออกแบบ




- 36 -


(ครึ่งแรก)


ผมมองบ่าวสาวบนเวทีด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นครั้งแรกที่มางานแต่งงานแล้วรู้สึกดีใจไปกับความรักของคนทั้งคู่ด้วย อาจเป็นเพราะผมได้รู้จักกับพวกเขามากกว่าบ่าวสาวคู่อื่น หรือเป็นเพราะว่าวันนี้ผมได้รู้จักกับความรู้สึกที่เรียกว่ารักแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมยินดีกับพี่แชมป์พี่นลินด้วยจริงๆ



   “กูเพิ่งเคยเห็นมึงแฮปปี้กับการถ่ายรูปงานแต่งก็วันนี้แหละ”



   “แฮปปี้ที่ได้มาทำงานมากกว่าพี่”หลังจากพักไปยาวๆ ผมกลับมาถ่ายงานแรกก็คืองานฉลองมงคลสมรสของพี่แชมป์กับพี่นลินวันนี้แหละครับ พิธียกน้ำชา พิธีหมั้นและพิธีรดน้ำสังข์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมอยู่ในช่วงสอบไฟนอลเลยไม่ได้มาทำหน้าที่



   “แล้วนี่กินไรยังวะ”




“เรียบร้อยแล้วพี่”ก่อนมางานผมจัดการมาเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้ว่าถ้างานเริ่มก็คงไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ขนาดอยากจะเข้าห้องน้ำยังต้องกลั้นไว้ก่อน แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะทนไม่ไหวแล้ว




“พี่ยศขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่ อั้นมานานไม่ไหวแล้ว”




“เออๆ อย่ามายืนฉี่ราดตรงนี้ ไปๆ”




พอได้รับคำอนุญาตผมก็ตรงไปห้องน้ำทันที ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดคงก้าวขาไม่ออก ห้องน้ำโรงแรมหรูมันใหญ่โตและเงียบเป็นส่วนตัวมาก ผมล้างมือหลังจากทำธุระเสร็จ เห็นตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกว่าโทรมลงไปเยอะเพราะสอบไฟนอลเอาเวลานอนผมไปหมด เพิ่งจะฟื้นคืนชีพมาได้สองวันเอง ถ้าถามถึงชีวิตรักของผมว่าเป็นยังไงก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะหลังจากที่ดีกันพี่เดียวมานอนค้างกับผมแค่สองวันจากนั้นก็กลับไปอยู่บ้านเพราะต้องช่วยงานแต่งของพี่แชมป์แล้วก็มีประชุมบ้าบออะไรก็ไม่รู้เลยไม่ได้เจอกันเลย แค่คุยโทรศัพท์กันวันห้านาทีสิบนาทีพอให้รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ก็เท่านั้น วันนี้ในงานก็แค่มองหน้ากันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แขกเหรื่อในงานก็เยอะแยะละลานตาตามประสางานไฮโซ ผมเห็นผู้หญิงแวะเวียนเข้ามาทักไอ้พี่เดียวไม่ขาดอะไรจะฮอตขนาดนั้น หมั่นไส้!




“เห้ย! อะ....อื้อ!”ใครวะ! ผมไม่มีโอกาสร้องเพราะมือใหญ่ปิดปากผมเลยมาถึงจมูกแทบหายใจไม่ออก แต่กลิ่นน้ำหอมมันคุ้นมาก




“ชู่”




“อะไรของพี่เนี่ย!”ผมสะบัดตัวออกจากวงแขน มือดีที่ลากผมมาจากประตูห้องน้ำไม่ใช่ใครที่ไหน




“อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวคนเขารู้ว่าเราแอบอยู่ตรงนี้”ตรงนี้ของพี่เดียวคือซอกหลืบข้างห้องน้ำติดกับทางหนีไฟ




“เลนส์กระแทกอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ เล่นบ้าอะไรของพี่วะ”คือเข้าใจมั้ยครับผมมาทำงานถ่ายรูป ตัวผมนอกจากกล้องที่แขวนคออยู่ก็มีกระเป๋าสะพายใส่เลนส์และอุปกรณ์อื่นๆอีก มันไม่ได้รุงรังมากแต่ก็ไม่ได้ตัวเปล่าที่จะขยับตัวโดยไม่ต้องระวังได้ ลำพังแค่เลนส์ที่ติดกล้องอยู่ก็เฉียดแสนแล้ว ยืมพี่ยศมาด้วย



“ถ้าพังเดี๋ยวซื้อให้ใหม่”




“รวยนักนะ”




“ขี้บ่นจัง หืมๆ”




“โอ๊ย เจ็บนะ”พูดอะไรไม่เข้าหู บ่นนั่นนิดนี่หน่อยก็คอยแต่จะดึงปากผมอยู่เรื่อย ดึงจนมันจะห้อยอยู่แล้ว



“ไหนมาจูบทีดิ”



“บ้าป่ะเนี่ย!”จู่ๆมาขอจูบไม่ดูสถานที่เลย ถึงจะเป็นซอกหลืบแต่มันก็ไม่ใช่ที่รโหฐานหรือเปล่าวะ



“คิดถึง”



คำเดียวทำเอาไปไม่เป็นเลย



“ปีศาจจูบชัดๆ”



“หึหึ...”



ผมเอนหน้าหนีเมื่อใบหน้าอีกฝ่ายโน้มลงมาใกล้แต่ก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะด้านหลังผมคือผนัง ริมฝีปากอุ่นๆทาบทับลงมาอย่างแผ่วเบา ขบเม้มเหมือนทักทายก่อนจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นและความร้อนชื้นก็สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากรับรู้ได้ถึงความหอมหวานของแชมเปญ ใจผมเต้นตึกตักหนักหน่วงกับสัมผัสที่ได้รับ พี่เดียวทำเหมือนจะผละออกแต่ก็ไม่ กลับกดย้ำแทรกซ้ำเข้ามาใหม่ ครั้งนี้ไม่ใช่เนิบนาบอ่อนหวานแต่ร้อนแรงชวนให้เมามัว เกือบสองสัปดาห์ที่ไม่ได้เจอกัน ทำให้ผมคิดถึงพี่เดียวเหมือนกันนะ ไม่ดีเลย พอยอมรับความรู้สึกหนึ่งความรู้สึกอื่นๆที่ไม่เคยเกิดก็ผุดขึ้นมาเป็นพรวน ช่างจัดการยากและรับมือยากจริงๆ



“พอ...พอแล้ว”ผมรีบผลักพี่เดียวออกเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันดังใกล้เข้ามาคงจะเป็นแขกในงานที่มาเข้าห้องน้ำ



“ไม่ได้เอารถมาใช่มั้ย”



“อืม”ก็เป็นคนส่งข้อความมาบอกเองว่าให้ผมนั่งแท็กซี่มา



“เลิกงานแล้วรอพี่ที่ล็อบบี้นะ คืนนี้ไปนอนด้วย”



“ไม่ต้องอยู่ช่วยทางนี้หรือไง”



“ไม่มีอะไรแล้วล่ะให้ออแกไนซ์เขาจัดการไป”



“อืม”



พวกผมรอจนแน่ใจว่าคนที่เดินมาเข้าห้องน้ำกันไปหมดแล้วจึงเดินออกมาแล้วกลับเข้าไปในงาน เจอพี่เฟิร์สที่หน้างานกำลังคุยอะไรกับน้องสาวตัวเองอยู่ พอเห็นพวกผมเดินมาก็ส่งสายตาล้อเลียน ผมรีบปลีกตัวกลับเข้าไปในงานปล่อยให้พี่ๆน้องๆเขาสนทนากันตามสบาย ตอนนี้บ่าวสาวกำลังเดินไปทักทายแขกตามโต๊ะ คงเพิ่งลงจากเวทีเพราะยังอยู่แถวโต๊ะผู้ใหญ่ด้านหน้าเวที ผมกำลังจะเข้าไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อแต่ก็ถูกเรียกไว้



“พี่ชล!”



“ปาย”



“พี่ชลจริงๆด้วย”เด็กสาวที่วันนี้แต่งตัวสวยเกินวัยไปหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นงานเลี้ยงไฮโซ ที่ต้องแต่งกันมาเต็มตามประสาลูกคนมีเงิน



“ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่”ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอปายที่นี้ หลังจากที่เขามาหาผมถึงคณะคราวก่อน ปายรู้เรื่องที่ผมโดนแทงเลยอยากมาถามอาการและขอโทษที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมเจ็บตัว ส่วนคดีผมไม่รู้ว่ามันไปถึงไหนแล้วเพราะเงียบไป ตัวผมก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรถือว่าเป็นคราวซวย



“นั่นสิ”



“พี่เป็นช่างภาพงานนี้เหรอ เท่จังเลย เพิ่งรู้ว่าพี่ทำงานแบบนี้ด้วย”



“ก็แค่รับจ็อบเป็นงานๆไปอ่ะ”



“ปาย!”



น้ำเสียงเข้างวดดังมาจากด้านหลัง เพียงแค่เหลือบตามองก็ทำให้ร่างกายของผมนิ่งงันเหมือนถูกสาป ผมไม่น่าลืมว่างานแบบนี้เด็กสาวมัธยมปลายคงไม่ได้มาเพียงลำพังแน่ๆ



“คุณแม่”



“มาทำอะไรตรงนี้ แล้วนี่ใครรู้จักหรือไงถึงมายืนคุยกับเขา”



“นี่พี่ชลค่ะ ที่ช่วยปายไว้ พี่ชลคะนี่คุณแม่ปายค่ะ”



หลังจากรับไหว้ผมตามมารยาท สายตก็ไล่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนดูสินค้าเพื่อหาตำหนิ ซึ่งเป็นสายตาที่ผมเกลียดมากๆ



“ขอบใจที่ช่วยลูกสาวฉัน แต่แค่ช่วยก็จบแล้วมั้งไม่จำเป็นต้องสานต่ออะไรกัน เธอคงไม่ได้หวังผลอะไรใช่มั้ย”



“คุณแม่คะ”



“เงียบไปน่ะเรา ที่ผ่านมาทำเรื่องไว้ขนาดนั้นยังไม่พอหรือไง ยังมายืนคุยกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้จักรักษาเกียรติของตัวเองเสียเลย กลับไปนั่งโต๊ะเดี๋ยวนี้”



“แต่คุณแม่คะ”



“แม่บอกให้ไป”ปายดูมีท่าทีฮึดฮัดแต่ก็คงขัดแม่ตัวเองไม่ได้เลยเดินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง พอดึงสายตากลับมาก็เจอกับผู้หญิงตรงหน้าที่จ้องผมเขม็ง ดูก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่



“ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้คุณคน ได้ข่าวว่าถูกทำร้ายด้วยนี่ ค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายไปฉันยินดีจ่ายคืนให้ ไปพบฉันตามนามบัตรนี้แล้วเลขาฉันจะช่วยจัดการให้”



ผมมองนามบัตรสีทองหรูหราที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาวางเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกยังไงดี แค่คิดว่าอยากจะออกไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้



“เก็บเงินของคุณไว้เถอะครับ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร แค่อยากช่วยเท่านั้นไม่ได้หวังเงินทองของใคร”ไม่คิดว่าการช่วยเหลือใครสักคนมันจะทำให้ผมต้องมาเจอเรื่องงี่เง่าแบบนี้



“ฉันก็ไม่ได้จะอะไรนะ แต่เงินนี่อาจจะจำเป็นสำหรับเธอรับไว้เถอะ ทำงานแบบนี้เงินเดือนก็คงไม่มากมายอะไร ถือว่าฉันช่วยเยียวยาตอนที่เธอต้องหยุดงานก็แล้วกัน ยังดูเด็กอยู่เลยนะ ต้องมาทำงานแบบนี้ ฉันก็เห็นใจ”



“ขอบคุณสำหรับความเห็นใจ แต่ถ้าคุณจะรู้สึกขอบคุณใครหรือเห็นใจคนอื่นจริงๆก็ช่วยแสดงมันออกมาจากใจ ไม่ใช่ด้วยท่าทีการดูถูกคนอื่นแบบนี้ เงินจำเป็นในการใช้ชีวิตก็จริงครับ แต่เงินของคุณมันไร้ค่ามากสำหรับผม”



“เธอ!”



“แต่ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้นก็ช่วยเอาเงินไปบริจาคเอาหน้าตามงานสังคมดีกว่าครับ”



“อวดดีนักนะ ไม่มีใครสั่งสอนหรือไงว่าอย่ามาต่อปากต่อคำกับผู้ใหญ่”ผู้หญิงตรงหน้าผมกำลังโกรธจัดแต่ยังคงระงับอารมณ์และรักษาท่าทีเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม



“ขอตัวนะครับ คุณทำให้ผมเสียเวลาอันมีค่าไปมากเลย”



“ไม่รู้โตมายังไง ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย”



คำตำหนิติเตียนยังดังตามหลังมา ไม่อยากใส่ใจกับคำพูดพวกนี้แต่ก็โกหกตัวเองไม่ได้ว่าผมไม่รู้สึกกับทุกคำพูดที่เขาพูด โชคดีที่เป็นช่วงท้ายของงานแล้วหลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงแขกก็ทยอยกลับ ผมเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงขอพี่ยศกลับ ส่วนไฟล์รูปจะส่งตามไปให้ ผมส่งข้อความบอกพี่เดียวว่าจะลงไปรอที่ล็อบบี้ทั้งที่ใจจริงผมอยากจะตรงดิ่งกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่อยากมีปัญหายุ่งยากเลยต้องอยู่รอ ซึ่งไม่นานเท่าไหร่




x



“น่านมานี่สิ”ผมกำลังจะเข้าไปอาบน้ำเลยต้องหามามองคนเรียกที่ตอนนี้เปลือยท่อนบนนั่งอยู่ปลายเตียงอวดกล้ามท้องและอก ผมเดินไปหยุดตรงหน้าอย่างเนือยๆ



“ว่า?”



“เป็นอะไรท่าทางซึมๆ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”



“ทำไมถามอย่างนั้น”



“ก็แปลกไปตอนไปเข้าห้องน้ำยังดีอยู่เลย”



“ปกติ”



“โกหก”พี่เดียวมั่นอกมั่นใจมาก ซึ่งท่าทางผมก็คงแสดงออกมาหมดจริงๆ ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ต้องสังเกตอะไรมากก็คงรับรู้ได้ ยิ่งถ้าเป็นคนที่มองผมอยู่ตลอดเวลาด้วยแล้วละก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ ในงานผมรู้ว่าพี่เดียวมองมาตลอด เพราะทุกครั้งที่ผมรู้สึกตัวและมองกลับไปทางโต๊ะนั้นก็จะสบตากับพี่เดียวเสมอ



“ขอผมอาบน้ำก่อนได้มั้ย”ผมไม่พร้อม ยังไม่อยากเล่าเพราะยังเรียบเรียงอะไรไม่ได้



“เอางั้นก็ได้”



ผมอยากประวิงเวลาด้วยการอาบนานๆ แต่มันก็ดึกมากแล้วพี่เดียวเหนื่อยมาทั้งวันคงอยากพักผมเลยไม่อยากให้รอนาน พี่เดียวเข้าไปอาบต่อจากผมทันที เหมือนอีกฝ่ายก็ไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปนาน



 นั่งไดร์ผมจนแห้งพี่เดียวก็ออกมาพอดี ผมเลยไม่ได้เก็บไดร์รออีกคนมาใช้ต่อก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งบนเตียง ระหว่างนั้นไม่มีการพูดคุยใดๆ ต่างทำกิจกรรมของตัวเองไปอย่างเงียบๆ ผมหญิบโทรศัพท์ออกมาดูอย่างไม่รู้จะทำอะไร พวกไอ้เต้คุยเรื่องไปเที่ยวกันขึ้นเตือนมาสามร้อยกว่าข้อความแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ผมเลื่อนดูผ่านๆเพราะส่วนมากมีแต่คำด่าไร้สาระ ส่วนกรุ๊ปของพวกไอ้ธันว์ก็เงียบเหมือนตายจาก คงกลายเป็นศพหลังไฟนอลกันถ้วนหน้า



“พี่ปิดไฟแล้วนะ”



“อ้าว”



“ทำไม ยังไม่นอนเหรอแต่ดึกแล้วนะ เดินทั้งงานไม่เหนื่อยหรือไง”



“อือ นึกว่าจะคุย...”



“นอนไปคุยไปก็ได้ แต่ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องเล่า นอนๆ”ผมรู้ว่าพี่เดียวอยากรู้แต่ก็เว้นช่องว่างไว้ให้ผมเสมอ



ผมนอนมองเพดานผ่านความมืด ข้างกันมีร่างใหญ่นอนอยู่ ได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ ไออุ่นที่แผ่ออกมาจนรู้สึกได้




ผมไม่ได้อยู่คนเดียว...




อะไรบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในอกจนผมต้องเอามือกุมไว้ พยายามฝืนกล้ำกลืนมันลงไป แต่กลับทำให้หลุดสะอื้นออกมา




“น่าน...เป็นอะไร”



“อย่า! อย่าเปิดไฟ”ผมร้องบอก ทั้งที่พยายามบังคับแต่เสียงที่หลุดออกไปก็ยังคงสั่นพร่า ผมเห็นเงาอีกฝ่ายชะงักไปแล้วพลิกตัวกลับมาก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปกอด มันทำให้ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม รู้เลยว่าสั่นไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่ พี่เดียวไม่ถามไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่กอดผมไว้และลูบหลังเบาๆเพื่อปลอบประโลม เสื้อนอนพี่เดียวเปียกชื้นไปหมดเพราะผมฝั่งหน้าลงบนอกอุ่นๆนั่นไม่ยอมปล่อย



“อยู่กับผมนะ”



“อืม พี่อยู่นี่ไง ไม่ได้ไปไหน”



ผมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอจนถึงที่สุด แต่ขอแค่คืนนี้ แค่คืนเดียว แล้วผมจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้อีก






--------

พรุ่งนี้มาต่ออีกครึ่งนึงค่ะ ตอนแรกจะลงตอนของพี่ไวท์น้องหมวย แต่เปลี่ยนใจลงน้ำน่านพี่เดียวดีกว่า เลยมาได้แค่ครึ่งเดียวค่ะ
ดราม่าระลอกสุดท้ายค่ะ คิดว่านะ 555555 (จริงๆเป็นคนถนัดแต่งดราม่ามากๆ แต่เรื่องนี้ถือว่าซอฟมากเลย ไม่อยากให้หนักไป พล็อตไม่ได้มาทางดราม่าน้ำตาตก)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-07-2017 00:22:23
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-07-2017 01:15:32
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 24-07-2017 02:30:32
จริงๆป้าชอบเรื่องนี้เพราะไม่ดราม่านะ
ชอบความเป็นเหตุเป็นผลที่อ่านแล้วไม่หงิดหัวใจ
แต่พอบอกถนัดแต่งม่ามากกว่า นี่รอร้องไห้รอหน่วงเรื่องของพาย?เลย :m15:
ขอบคุณนะคะ ติดตาม ตามติดค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-07-2017 05:26:07
น่านเป็นอารายจ๊ะ  พี่เดียวปลอบใจด่วนจ้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 24-07-2017 06:29:47
อร๊ายยย เรื่องของหมวกก็น่ารักนะ ส่วนคนเขียนจะถนัดแต่งดราม่าเเต่ข้าไม่สนับนนุนกะเรื่องเน๊น้าา 5555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-07-2017 09:02:37
ปากน่าตบมากป้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-07-2017 14:14:18
นี่เป็นวิธีขอบคุณ คนที่ช่วยลูกสาวตัวเองหรอเนี่ย  :fire:
คำพูด กิริยาท่าที ไมได้บ่งว่าขอบคุณที่มาจากใจเลย
คงคิดว่าน่านเป็นช่างภาพจนๆ โยนเงินให้ไปก็ดีเท่าไรแล้ว

มีหาว่าน่านไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ถึงแสดงท่าทีไม่ดีต่อผู้ใหญ่
แล้วผู้ใหญ่ที่เลว ไม่มีมารยาทกับเด็กก่อน สมควรได้รับมารยาทดีๆกลับหรือ  :hao3:
     
น่านเปิดใจกับพี่เดียวไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งแรก) P.15 || [23.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 24-07-2017 14:18:40
น้องน่าน หนูยังมีพี่เดียวอยู่ข้างๆ หนูตรงนี้นะคะ
 :m15:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 26-07-2017 00:02:24
ชื่อคนและสถานที่เป็นสิ่งที่คนแต่งคิดขึ้นมาเอง หากไปตรงกับชื่อคนจริงหรือสถานที่จริงต้องขออภัยด้วยนะคะ



รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 36 -


(ครึ่งหลัง)






วันนี้เป็นวันหยุดที่ผมรู้สึกว่าได้หยุดจริงๆสักที แม้ว่าในตอนแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมายังรู้สึกมึนงงแล้วเผลอตกใจว่ามีเรียนเช้าหรือเปล่า แต่พอตั้งสติได้ก็รู้ว่าวิตกจริตไปเอง นอกจากจะเป็นวันหยุดของผมแล้วก็ยังเป็นวันหยุดของคนข้างๆผมอีกด้วย พี่เดียวยังคงหลับสบายแขนขากอดก่ายผมไว้เหมือนกลัวหาย แต่ผมชินกับมันแล้ว กลายเป็นว่าช่วงเวลาที่พี่เดียวกลับไปนอนที่บ้านผมรู้สึกโหวงๆไปเสียอย่างนั้นเมื่อตื่นมาแล้วข้างกายวางเปล่า ทำไมผมถึงได้เคยชินกับคนข้างๆไวขนาดนี้


ผมขยับตัวนอนตะแคงเพื่อมองหน้าคนที่หลับอยู่ เมื่อคืนผมร้องไห้จนหลับไป ตื่นเช้ามาถึงได้ปวดตาแบบนี้ นึกถึงแล้วก็ขายขี้หน้าแต่ก็ยังปลอบใจได้ว่ามันมืดพี่เดียวไม่เห็นสภาพที่แสนน่าอายนั้นหรอก



   ครืด....ครืด...



   เสียงสั่นของโทรศัพท์ดึงผมออกจากห้วงความคิด ชื่อที่ปรากฏที่หน้าจอทำให้ผมยิ้มออก เหมือนอีกฝ่ายจะมีสัมผัสพิเศษรับรู้ได้ว่าผมกำลังรู้สึกแย่ถึงได้โทรมาได้จังหวะพอดี



   “ครับอาฝน”ผมเดินออกมาที่ระเบียงห้องไม่อยากเสียงดังรบกวนคนที่หลับอยู่ ท่าทางจะเพลียจัดเหนื่อยทั้งงานราษฎร์งานหลวง



   “เพิ่งตื่นหรือไงสิบโมงแล้วนะ”



   “ค้าบ เมื่อคืนน่านกลับดึกไปทำงานมา”



   “อย่าหักโหมนัก ทำแค่พอดีเราไม่ได้ลำบากเรื่องเงินทองนะลูก”



   “รู้ครับ น่านก็ทำแค่สนุกๆอ่ะ”



   ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองขัดสน แม้ว่าในตอนเด็กๆบ้านผมจะไม่ได้ร่ำรวยมากขนาดนี้ แต่พ่อก็ไม่เคยให้ผมลำบาก พ่อทำงานหนักมากเพื่อครอบครัวของเรา ครอบครัวที่มีพ่อ อาฝนและผม



   “ปิดเทอมแล้วใช่มั้ยจะกลับบ้านมาหาอาหรือว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ”



   “ยังไม่ได้คิดเลยครับก็คงเที่ยวด้วยแล้วก็คงกลับไปหาสักสองอาทิตย์ ยังไงเดี๋ยวน่านบอกอีกทีนะครับ”เพราะมีหลายเรื่องให้ต้องคิดต้องทำเลยยังไม่ได้วางแผนอะไรสักอย่าง แล้วในแผนผมก็คงต้องพ่วงพี่เดียวเข้าไปด้วย ไม่อย่างนั้นคนแก่บางคนจะน้อยอกน้อยใจเป็นบ้าไปอีก



   “อ้าว”



   พอกลับเข้ามาคนบนเตียงก็ตื่นขึ้นมานั่งงัวเงียผมชี้ฟูหมดสภาพผู้บริหารสุดเนี๊ยบ พี่เดียวเอียงมองผมพร้อมกับตบท้ายทอยตัวเองเบาๆ



   “นอนต่อก็ได้นะถ้าพี่ไม่ไหว”อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ตบที่วางข้างตัวเบาๆให้ผมต้องเดินเข้าไปนั่ง



   “รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”ปลายนิ้วอุ่นลูบไล้ใต้ตาผมเบาๆ



   “อืม”เอาจริงๆก็แค่นิดเดียว มันยังรู้สึกหนักหน่วงในใจอยู่ ซึ่งผมต้องพยายามกำจัดมันออกไปให้ได้ คำพูดไม่ดีของคนอื่นก็เหมือนกับขยะเน่าเหม็น เราไม่ควรเก็บมาใส่ใจ ทั้งที่รู้แต่บางครั้งมันก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด



   “ดีขึ้นก็ดีแล้ว พี่เป็นห่วง”



   “เพราะมีพี่อยู่ผมเลยรู้สึกดีขึ้น”แม่ง พูดแล้วก็ขนลุกเอง แต่มันเป็นเรื่องจริง พี่เดียวทำให้ผมไม่รู้สึกว่าอยู่คนเดียว เขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจ



   “ดีใจจัง”



   “เดี๋ยวๆ ทำไมหูแดง พี่เขินเหรอ”ผมอยากจะหัวเราะดังๆ ทำเป็นหน้านิ่งกลบเกลื่อนแต่หูแดงจัด กลบยังไงก็ไม่มิด



   “อะไร ใครเขิน ไปอาบน้ำไปพี่จะได้อาบมั่ง”



   “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย เขินก็ยอมรับมา พูดแค่นี้ก็เขิน อ่อนว่ะ”



   “ว่าใครอ่อนครับน้อง หืมๆๆ”



“เอ้ยๆ ไม่เล่นเว้ยพี่ อ๊ากกกกก”ไอ้พี่เดียวมันใช้กำลังช้างสารกดผมลงบนที่นอน สองแขนถูกตรึง สองขาถูกล็อค ส่วนคอก็ถูกกัด ขึ้นรอยแน่ๆ



“อื้อ!”



เชี่ย!!!! กัดเสร็จก็เลียซ้ำเล่นเอาขนลุกชันไปทั้งตัว



“อ๊ะ ปล่อย อย่าเลีย โอ๊ย พี่อย่ากัด มือๆ อื้อ...”



เสร็จปีศาจจูบอีกจนได้...กว่าจะปล่อยก็เล่นเอาหอบ



 “หึ...ยังอ่อนอยู่มั้ย?”



แสรด...ปืนขึ้นลำขนาดนี้คงจะอ่อนอยู่หรอกนะ เพิ่งตื่นมานัวเนียๆแบบนี้อะไรก็ขึ้นง่ายเป็นธรรมดา ผมว่านี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว
“อื้อ อย่าจับ อย่าขยับ อะ...”



ห้ามก็ไม่ทันแล้ว น่านน้อยถูกจับเป็นตัวประกันไปเรียบร้อย แล้วเข้าใจมั้ยว่าผมก็ห่างเรื่องแบบนี้มานาน โดนนิดแตะหน่อยก็สู้มือทันทีแม้จะมีเนื้อผ้ากั้นกลาง ก่อนที่ฝ่ามือร้อนจะสอดผ่านขอบกางเกงเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ด้านในอย่างช้าๆในขณะที่ริมฝีปากเราไม่ห่างออกจากกัน ในหัวผมกำลังขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างให้หยุดเพียงเท่านี้หรือปล่อยไปตามความรู้สึก ไม่อยากยอมแต่มันก็รู้สึกดีเมื่อมีคนทำให้ ผมรู้ดีว่าเป็นแฟนกันเรื่องนี้มันเลี่ยงยาก ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันแล้วก็ยิ่งเข้าใจกันดีว่าต้องการอะไร แต่ผมยังไม่อยากโดนนี่หว่า ไอ้มือที่ขยับเนิบนาบก็ปั่นป่วนจนผมคิดหาทางหนีทีไล่ไม่ออก



   “น่าน...ช่วยพี่หน่อย”เสียงทุ้มพร่ากระซิบข้างหู ความรู้สึกบางอย่างมันวาบเข้ามาในอก ใจเต้นแรง



   “อย่าเพิ่งทำได้มั้ยพี่...”ผมเลื่อนมือลงจับมือพี่เดียวให้หยุดนิ่ง



   “พี่ไม่เข้าไป แต่ช่วยพี่ด้วย โอเคมั้ย?”



   “.......”มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร มันฉายชัดในดวงตาคมคู่นั้น ถ้าหากผมจะให้หยุดเขาจะทำตามมั้ย



   “ถ้าไม่ล่ะ”



“.....ก็ได้”สายตาผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่ดูทรมานจากความต้องการซุกลงตรงซอกคอผม



“แป๊บนะ ขอเวลาแป๊บนึง”เสียงพูดอู้อี้ดังข้างหู ก่อนที่กลีบปากจะกดย้ำมาตรงลำคอผมแช่นิ่งนาน



“พี่เดียว...”ผมลูบท้ายทอยคนข้างบนเบาๆ



“ก็ได้...แต่ไม่เข้าไปนะ”สุดท้ายผมก็ต้องใจอ่อน ใช่ว่าผมจะไม่ต้องการ แต่การจะทำให้ถึงที่สุดผมเองก็ยังไม่พร้อม ขอเวลาทำใจหน่อยก็แล้วกัน ค่อยๆเริ่มไปทีละขั้น อย่ารีบร้อนเลย เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้วผมก็คงไม่สามารถย้อนกลับไปเดินทางเก่าได้อีก ถ้าคบกับพี่เดียวอยู่



   “ถ้าไม่โอเค พี่ไม่ทำก็ได้”



   “ก็โอเคอยู่ ถ้าแค่ข้างนอกอ่ะ พี่แม่ง อย่าให้พูดเยอะสิ”ผมที่ผ่านศึกมาหลายสนามไม่เคยต้องอายแบบนี้มาก่อน  พี่เดียวคำรามในคอเหมือนว่าความอดทนสิ้นสุดลงแล้ว



   “อ๊ะ เห้ย พี่ ใจเย็นๆ”มือใหญ่ดึงเสื้อยืดของเราทั้งคู่ปาลงข้างเตียงอย่างรวดเร็วราวกับกลัวผมจะเปลี่ยนใจ ตามด้วยกางเกงนอนขายาวของเจ้าตัว ทุกสัดส่วนโชว์ตรงหน้าผมชัดแบบฟูลเอชดี จนไม่กล้ามองนานเห็นแล้วใจไม่ดี ทำไมต้องเอามาขู่กันด้วยว้า เปลี่ยนใจทันมั้ยเนี่ย



   “หึหึ...”ไอ้พี่เดียวมันยิ้มมุมปากหน้าตาโคตรเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเลวโน้มต่ำลงมาจนปลายจมูกเราชนกัน



“เย็นกว่านี้ก็น้ำแข็งขั้วโลกแล้วครับน้องน่าน”พูดจบก็ประกบปากลงมาไม่ให้ผมได้โต้แย้งอะไรอีก กางเกงของผมถูกดึงออกไปจนสุดปลายเท้า กายใหญ่ก็แทรกตัวเข้ามาแทน



“ไหนว่าไม่ทำ...”ผมรีบท้วง รู้สึกตัวเองเหมือนสาวน้อยกำลังจะถูกพรากความบริสุทธิ์ไปทั้งที่มันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว



   “ไม่ทำจริงๆ”



   “........”อดหวั่นใจไม่ได้ เมื่ออารมณ์มันพีดสุดๆพี่เดียวมันจะคุมตัวเองได้มั้ย กลัวว่ามันจะดึงดันทำถึงที่สุดเหมือนครั้งนั้นอีก



   “เชื่อใจพี่นะ”



   “.....”



   “นะ”



   ผม...ต้องแพ้ทางพี่เดียวแน่ๆ แค่ ‘นะ’ คำเดียวก็ทำให้เสียวยาวๆได้



เราเริ่มจูบกันอีกครั้ง ลึกซึ้งจนทำให้ทั้งร่างร้อนรุ่ม มือใหญ่ลูบไล้ไปทั้วทั้งตัว สัมผัสแตะต้องไปทุกส่วน เน้นย้ำตรงจุดที่ไวสัมผัสทำให้ผมแทบคลั่ง ไม่เคยมีใครทำให้ผมรู้สึกได้มากขนาดนี้ จนกลัวใจตัวเองว่าจะคล้อยตามแล้วยอมไปในที่สุด



“อือ..”ผมหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลายลิ้นไล้วนแถวท้องน้อย เสียงจุ๊บเบาๆทำให้ผมหน้าร้อน ก่อนจะต้องกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถเมื่อโพรงปากร้อนครอบครองผมจนสุด ในหัวมันขาวโพลนไปหมดแต่ก็มีภาพอย่างแทรกเข้ามาเป็นระยะ ราวกับความฝัน เหตุการณ์แบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน ในความเลือนลางนั้น แยกไม่ออกว่าจริงหรือฝัน พี่เดียวเคยทำแบบนี้ให้ผมจริงๆ หรือแค่คิดไปเอง...แต่เมื่อไหร่กัน นึกไม่ออกเลย ยิ่งถูกอีกฝ่ายรุกหนักทั้งมือและปาก สมองก็เหมือนจะหยุดทำงานไปเสียดื้อๆ



“พี่...พี่..พี่เดียว อะ...”อยากจะบอกว่าให้ช้าลงหน่อยแต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ สมองกับร่างกายทำงานสวนทางกันไปหมด ประสาทรับรู้ต่างๆถูกปิดไปทีละส่วน มีเพียงหัวใจก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง จู่ๆก็เหมือนถูกจับเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศทะยานขึ้นสูงก่อนจะดิ่งวูบลงมา




“แฮ่ก...พี่แม่ง...”...เกือบตาย...ผมหายใจแรงเหมือนไปวิ่งข้ามเขามาสองลูก ส่วนไอ้พี่เดียวน่ะเหรอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ใช้หลังมือเช็ดปากตัวเองอยู่ โคตรเซ็กซี่ และเป็นผมเองที่โน้มคอคนตัวใหญ่กว่าลงมาอีกครั้ง






X






หลังจากเสร็จภารกิจระดับชาติก็เย็นย่ำ จะไม่ให้เย็นได้ยังไงบนเตียงเสร็จยังไม่พอคนโลภมากยังตามมาระรานต่อในห้องน้ำอีก เรื่องแบบนี้ไอ้พี่เดียวมันหน้าด้านมากจนผมนี่กลายเป็นคนหน้าบางไปเลย กว่าจะเป็นที่พอใจก็ค่ำพอดี ผมนี่หิวซกเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแถมยังมาเสียงน้ำเสียเหงื่ออีก ผมขี้เกียจทำกับข้าวประกอบกับในตู้ก็ไม่มีของสดเลย พี่เดียวเลยพาผมมานั่งชิลร้านอาหารริมแม่น้ำจิบเบียร์เย็นๆชมบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารก็อร่อยดี ถ้าไม่อร่อยผมจะด่าจริงๆด้วยเพราะผมทนหิ้วท้องฝ่ารถติดนรกมา



“หุบยิ้มบ้างก็ได้”น่าหมั่นไส้ จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา



“เอ้า อารมณ์ดีก็ผิดอีก”



“เอาแบบนั้นอีกจานได้ป่ะ อร่อยอ่ะ”ผมขี้เกียจเถียงให้เสียอารมณ์ หันมาเชยชมอาหารดีกว่า



“อะไร นี่เหรอ กุ้งทอดราดซอสมะขาม?”



“อือ”กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ผ่ากลางแล้วนำไปทอดราดด้วยซอสมะขาม ถือว่าเด็ดมากอร่อยจนลืมโมโห



“เอาอย่างอื่นอีกมั้ย”ผมส่ายหน้า พี่เดียวเลยเรียกพนักงานมาสั่งเพิ่ม ผมหันไปมองวิวอีกครั้ง เห็นพระปรางค์วัดอรุณฯอยู่ฝั่งตรงข้าม เสียดายที่ไม่ได้พกกล้องมาด้วย



“ชื่อน้ำน่านนี่ใครเป็นคนตั้งให้”ความสุนทรีถูกขัดจังหวะลง ทำไมต้องถามคำถามนี้ด้วยวะ



“ถามทำไม”



“อยากรู้ไง เลยถาม ไม่ได้เหรอ?”



“แม่ตั้งให้”สิ่งเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ผมก็คือชื่อ น้ำน่าน ใครได้ยินก็มีแต่คนชอบมันดูเก๋เมื่อนำมาตั้งเป็นชื่อคน



“แต่เกิดที่ลำพูนนี่ ทำไมไม่ชื่อน้ำปิง”



“พ่อกับแม่เขาไปเจอกันที่น่าน”



“อาหะ”



“แล้วพี่ชื่อเดียวเพราะเป็นลูกคนเดียวสินะ”พี่เดียวทำท่าจะถามต่อ แต่ผมชิงถามกลับไปก่อนเพราะไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นเลย ไม่อยากพูดถึง แต่ผมไม่สามารถบอกอีกฝ่ายตรงๆได้



“ใช่”



“แล้วไม่คิดเหรอว่าพี่จะมีน้องๆตามมาเกิดอีก”



“ไม่มีหรอก พอคลอดพี่แล้วแม่ก็ไม่สามารถมีลูกได้อีก ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน่ะ”



“แต่พี่ก็ไม่น่าจะเหงานะ ลูกพี่ลูกน้องพี่เต็มบ้านขนาดนั้น”



“หึหึ ปวดหัวซะมากกว่า โดยเฉพาะเฟิร์สแสบมากๆ”บ้านนี้เขาก็มีวิธีการตั้งชื่อลูกแบบแปลกๆ ชื่อเฟิร์สแต่กลับไม่ใช่ลูกคนแรก แต่ดูความหมายโดยรวมแล้วแต่ละคนก็บ่งบอกถึงความเป็นหนึ่ง แชมป์ วิน เฟิร์ส เกรท เดียว ไม่เข้ากันแต่ก็ไม่ได้แปลกแยก



“ถึงจะปวดหัวแต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะ”ผมก็อยากมีเรื่องปวดหัวแบบพี่เดียวเหมือนกัน แต่ก็เป็นไปไม่ได้



“นั่นสินะ”



“โทรศัพท์เข้าอ่ะ”ผมเหลือบไปเห็นหน้าจอที่สว่างขึ้นของพี่เดียวพอดี


“อ้าว ปิดเสียงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้ทักษ์น่ะ”



“รับดิ เผื่อมีธุระด่วน”



“โทรมาตอนนี้ธุระเดียวที่มีก็กินเหล้านั่นแหละ”ถึงจะบ่นแต่ก็กดรับ เมื่อคืนพวกเพื่อนพี่เดียวก็ไปกันครบนะ แต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันเพราะผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ แต่ถึงจะไม่ได้คุยกันก็ยังอุตว่าห์ส่งสายตาล้อเลียนมาให้อีก



พี่เดียวคุยไม่นานก็วางสายไป จากที่ได้ยินก็คงชวนกันไปดื่มมตามปกติแน่ๆ



“มันชวนให้ไปร้านไอ้เสก อยากไปมั้ย”



“ถ้าพี่จะไปก็ไปได้นะ ผมกลับบ้านดีกว่าอยากนอนอ่ะ”



“แวะไปแป๊บเดียวได้มั้ย ไปให้มันเห็นหน้า นั่งสักชั่วโมงแล้วค่อยกลับ ไม่งั้นไม่ก็โทรตามอยู่นั่น”




“บอกแล้วไงพี่จะไปกินกับเพื่อนก็ได้ ผมไม่ไปหรอก พี่จะได้นั่งนานๆ”ตัวไม่ได้ติดกันสักหน่อย ผมโอเคมากนะถ้าพี่มันจะไปมีชีวิตส่วนตัว เที่ยวกับเพื่อนฝูง ผมไม่ได้เป็นคนติดแฟนนะ ไม่ได้อยากมีโมเม้นต์ที่ตัวติดกันยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเป็นอย่างนั้นคงบ้าตายไปก่อน ขนาดคนที่เขาแต่งงานกันยังไม่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเลย



“ก็ไม่อยากนั่งนานไงเลยอยากให้ไปด้วย...นะ”



ไอ้ ‘นะ’ นี่ซื้อไปทิ้งได้มั้ย ‘นะ’ ทีไร ยอมทุกทีเลยกู



“ก็ได้ๆ แค่ชั่วโมงเดียวนะ”



หลังจากจัดการกุ้งตัวโตเสร็จ พี่เดียวเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ผมเลยขอไปเข้าห้องน้ำ แต่พอออกมาดันเจอแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่โต๊ะพอดี พี่เดียวกำลังยืนคุยกับคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุด อยากจะหันหลังกลับไปแต่พี่เดียวดันหันมาเห็นแล้วเรียกไว้เสียก่อน




น้ำน่าน จะไปไหน”



คนๆนั้นหันมาทางผมทันทีที่ได้ยินพี่เดียวเรียกชื่อผม เราสบตากัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าตกใจออกมาให้เห็น ส่วนผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น



“เธอชื่อน้ำน่านเหรอ ไหนยัยปายว่าชื่อชล”



“น้ำน่านคือชื่อเล่นครับ ชื่อจริงชลธร...ชลธร อิทธินันท์





---------------------------------

ช้าไปหนึ่งวันซอรี่ค่ะ เบลอปานกลางถึงเบลอมากเราคิดว่าตัวเองลงครึ่งหลังไปแล้ว
วันนี้เลยเข้ามาทำสารบัญปรากฏว่า เอ้า ไม่ได้ลงนี่นา
มานั่งนึกดูพอจัดหน้าเสร็จกดปิดหน้าเว็บไม่ได้กดบันทึกแล้วปิดคอมไปเลย ถถถถถถถ

ตอนนี้หลายอารมณ์มากค่ะ ตัดตอนไม่ถูกเลย 5555555 อ่านกันไปเพลินๆนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 26-07-2017 01:00:21
ขอโวยวายเล็กน้อยว่า ขอตอนหน้าตอนนี้เลยได้ไหม??? :hao7:
รออ่านต่อนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 26-07-2017 05:30:18
ดูอีโรติกเบาๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-07-2017 06:24:33
ดูท่าที่น่านเฮิร์ท ไม่ใช่เรื่องเล็กๆละ
แม่ของปาย เป็นแม่น้ำน่านหรือเปล่า ดราม่าและ  :hao5: :z3:
ผู้หญิงที่ทิ้งพ่อกับน่านไป  :z6: :z6: :z6:
น้ำน่านเข้มแข็งนะ  :mew1: :mew1: :mew1:

นี่แหละ ที่ทำให้น่านไม่อยากคุยต่อเรื่องพวกนี้กับเดียว
โอ๊ยยย......อยากอ่านต่อแล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 26-07-2017 07:14:58
โถ่ น้ำน่าน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-07-2017 09:36:15
กลิ่นมาม่าโชยมาอีกแล้ววว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 26-07-2017 09:54:54
หนูจะเตรียมท้องรอมาม่านะคะ...ฮือๆ :ling3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 26-07-2017 17:40:17
ตะหงิดๆว่าแม่ปายจะมีต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับน้ำน่านแน่ๆอ่ะ o22
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-07-2017 11:31:44
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 10-08-2017 14:49:19
คิดถึงน่านกับพี่เดียวจังค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.36 (ครึ่งหลัง) P.15 || [26.07.17]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 14-08-2017 22:51:55
อยู่สองทีมเลยค่ะ
อยากอ่านต่อแล้วว  :katai4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 22-08-2017 21:46:28
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 37 -



   ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว สนามบินเชียงใหม่จึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บ้านพักบางแห่งคิวยาวไปยันต้นปีหน้าแล้ว พวกเพื่อนผมก็ตั้งใจจะขึ้นมาเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่ วางแผนไว้คร่าวๆแล้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะขับรถมากันเรื่อยๆหรือจะนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่แล้วใช้รถที่บ้านผมตระเวนเที่ยวดี ซึ่งอย่างหลังจะช่วยประหยัดเวลาและสะดวกสบายมากกว่า การขับรถไกลๆมันเหนื่อยมาก ขนาดนั่งเฉยๆยังรู้สึกเหนื่อยเลย แต่ถ้าหากมีเพื่อนร่วมเดินทางด้วยมันก็คงจะสนุกจนลืมเหนื่อยไปเลยก็ได้


   ผมเดินเลี่ยงนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่เห็นได้ทั่วไปในเมืองเชียงใหม่ระยะหลังมีมากกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่นเท่าตัว กว่าจะไปถึงทางออกก็ใช้เวลาพอดู พอออกมาก็เจอลุงปันที่อาฝนให้มารับ แกทำงานกับพ่อมาหลายปี เมียกับลูกแกก็ทำงานที่ไร่ อยู่กันเหมือนญาติ แกเอ็นดูผมเหมือนลูกเหมือนหลาน



   “พ่อเลี้ยงครับ”


   “ลุงปัน ผมบอกแล้วว่าอย่าเรียกแบบนี้”ได้ยินทีไรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแก่พุงพลุ้ยทุกทีและผมก็ยังไม่อยากได้ตำแหน่งทางสังคมแบบนี้ ยังรู้สึกว่ามันควรเป็นของพ่ออยู่



   “ครับๆ นายน้อย”แกยิ้มซื่อๆมาให้ ผมก็จนใจนายน้อยก็ยังดีกว่าพ่อเลี้ยงละนะ   



“จะปิ๊กไฮ่เลย ก๊ะว่าไปแวะไหนก่อนก่อนายน้อย”



   “กลับไร่เลยดีกว่า”คิดถึงอาฝนจะแย่แล้ว...คิดถึงบ้าน



   ผมกำลังจะกลับบ้าน สถานที่ที่ทำให้ผมเป็นสุขที่สุด อาณาจักรของผมที่พ่อสร้างขึ้นมาด้วยแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีเพื่อให้ลูกชายและน้องสาวได้อยู่สุขสบาย ไม่ให้ใครมาดูถูกเราได้แต่พอมีเงินก็มีคนเข้าหวังผลประโยชน์ ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงมาตลอดหลายปี จนเอียนและชาชินกับพวกที่มองแค่เปลือก



   ถ้าจะถามถึงเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ค่อยจริงจังกับการคบหาผู้หญิงสักคนก็คงเป็นเพราะผมเห็นผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหาพ่อผม ปากบอกว่ารักอย่างนั้นอย่างนี้สุดท้ายก็หวังแค่เงิน ความรักมันไม่มีจริง ใครจะมาทนอยู่กับคนแก่ที่บ้างานได้นาน พอสมใจอยากก็จากไป ได้บ้านบ้าง ได้รถบ้าง บางคนพ่อก็ส่งเสียให้เรียนจนจบ



ผมเคยถามพ่อว่าทำไมถึงไม่หยุดสักทีทั้งที่รู้ว่าไม่เคยมีใครจริงใจ และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือพ่อไม่ได้มองว่าเป็นการถูกหลอกหรือปอกลอก แต่มันคือการแลกเปลี่ยน  พ่อก็ได้ในสิ่งที่พ่ออยากได้ เขาก็ได้ในสิ่งที่เขาอยากได้จากพ่อ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อีกฝ่ายล้ำเส้นก็คือจบกันไป เช่นการมาแสดงตัวที่บ้านต่อหน้าผมและทุกคนว่าเป็นอะไรกับพ่อ พยายามจะเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ ซึ่งทุกรายที่ทำแบบนี้ก็กระเด็นหายไปจากชีวิตพ่อทันที



ทิวทัศน์ด้านนอกค่อยๆเปลี่ยนจากเมืองเข้าสู่เขตเขา ใช้เวลาไม่นานก็ออกจากเชียงใหม่เข้าสู่ลำพูน ผมนั่งมองข้างทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นป้ายตรงปากทางเข้า ‘ไร่น่านนที’ สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่สลับกับนางพญาเสือโคร่ง พอปลายปีก็จะแข่งกันบานสะพรั่ง ขับเข้ามาประมาณ 100 เมตรจะเจอร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ของไร่ เพิ่งเปิดมาได้สองปี อาฝนคิดว่าถ้าหากเปิดไร่โซนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมและมีเพิ่มส่วนร้านอาหารเข้าไปด้วยน่าจะเพิ่มรายได้ให้กับไร่ได้ แต่โซนผักปลอดสารพิษก็เพิ่งเป็นรูปเป็นร่าง ผมอยากให้อะไรๆมันเข้าระบบไปก่อน จากนั้นค่อยเริ่มโครงการที่อาฝนเสนอไอเดียมา รายได้หลักของไร่ยังเป็นการส่งออกดอกไม้ ลำไยและน้ำผึ้งจากเกสรลำไยที่เป็นที่นิยม



ผมสูดอากศเข้าเต็มปอด ถึงจะใกล้เที่ยงแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเย็นๆนิดหน่อย อากาศก็ปลอดโปร่งต่างจากกรุงเทพ บ้านไร่ผมอยู่ลึกจากถนนสายหลัก เข้ามาจนเกือบจะติดเขา กลางคืนอากาศเย็นแบบไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ร่างท้วมของแม่บ้านเดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะสวมกอดผมเอาไว้



   “นายน้อย กึ๊ดเติงหาขนาด ยะหยังมาผอมจะอี้ล่ะเจ้า”



“ผอมตี้ไหนครับ ก็ปกตินะ”



“ผอมก่ะ แก้มก่ะตอบ บ่มีน้ำมีนวลเลย ปิ๊กมาอยู่บ้านปี้แก้วจะขุนหื้ออ้วนเลยเจ้า”




   พี่แก้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงผมใหญ่เลย สงสัยจะได้อ้วนขึ้นจริงๆ เพราะฝีมือการทำอาหารของพี่แก้วเนี่ยสุดยอดในแดนเหนือเลย ก่อนกลับก็คงมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปเพียบ หวานหมูไอ้พวกนั้นแน่ๆ




   “เอ้าๆ จะกอดกันอีกนานมั้ย ไม่ขึ้นบ้านหรือไง”




   ผมขึ้นเรือนไปหาอาฝนที่ยืนรออยู่ตรงชานบ้าน ก่อนจะโถมตัวเข้ากอด ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้เป็นที่พักพิงใจ และมีอ้อมกอดที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ไม่ใช่แม่ก็เหมือนแม่




   “ไปพักก่อนไป เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงอาให้คนไปเรียกมาทานกลางวันกัน”




   ผมรับคำเบาๆก่อนแยกตัวออกมา ลงบันไดที่ด้านข้างของเรือนใหญ่ ผ่านสวนดอกไม้และต้นไม้หนาเพื่อตรงไปที่เรือนเล็กของตัวเอง พ่อเป็นคนสร้างให้ตอนผมขึ้นม.ปลาย ช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอม พวกเพื่อนๆก็จะมาขลุกอยู่ที่นี่ เล่นเกมกันข้ามวัน หรือเมากันข้ามคืนก็ไม่มีใครว่า อาหารการกินมีพร้อมทุกมื้อเงินไม่เสียเงินสักบาท ดียิ่งกว่าโรงแรมห้าดาว




   ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดโทรออก ได้ยินเสียงรอสายแค่ครั้งเดียวอีกฝ่ายก็กดรับ เหมือนกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ



   “ถึงแล้วนะ”



   “กำลังคิดถึงอยู่พอดี ถ้าถึงแล้วก็โอเค พักซะ พี่ต้องเข้าประชุมแล้วเดี๋ยวเลิกงานพี่โทรหาใหม่”



   “อื้อ”



   ต้องโทรรายงานพ่อคนที่สองก่อนไม่งั้นเดี๋ยวจะมีปัญหาได้ แค่ผมกลับบ้านกะทันหันพี่ท่านก็หน้าตึงแล้ว พี่เดียวมันเป็นคนติดแฟนครับ บางทีผมก็ส่องกระจกมองตัวเองว่ามีอะไรให้ผู้ชายตัวถึกๆแบบนั้นมารักมาหลงได้ หวงเว่อร์ ที่จริงผมก็ชวนพี่เดียวมาด้วย แต่รายนั้นเขางานยุ่งมากเห็นว่ามีประชุมสำคัญ พรุ่งนี้ต้องไปฮ่องกงด้วย แต่ก็จะตามมาตอนสุดสัปดาห์ เพื่อมารับผมกลับ



ความจริงผมวางแผนที่จะกลับบ้านตอนสองสัปดาห์ก่อนจะเปิดเทอม แต่เพราะมีเหตุบางอย่างทำให้ต้องเปลี่ยนแผน และเพื่อไม่ให้ชนกับแพลนเที่ยวที่พวกไอ้เต้วางไว้ผมเลยมีเวลาอยู่กับอาฝนแค่สัปดาห์เดียว



ส่วนไอ้พายผู้อยู่ร่วมบ้านแต่ก็เหมือนไม่ได้อยู่ มันโทรมาเม้งใส่ตอนที่ผมกำลังจะขึ้นเครื่องหาว่าผมกลับบ้านแล้วไม่ชวนมัน จะให้ผมชวนได้ยังไง ช่วงนี้มันหายตัวไปไหนบ่อยๆก็ไม่รู้ โทรไปก็ไม่ค่อยจะรับ จะว่าติดงานก็ไม่น่าใช่เพราะช่วงสอบมันบอกพี่บีว่าไม่รับงาน แต่ผมก็ขี้เกียจจะถาม เพราะวุ่นๆกับเรื่องของตัวเองอยู่เหมือนกัน ด้านไอ้ธันว์กับไอ้คิมมันไม่กลับบ้าน ไอ้ธันว์ไปค่ายอะไรก็ไม่รู้ ส่วนไอ้คิมมีเรียนต่อได้พักแค่อาทิตย์เดียวเองมั้ง น่าสงสาร



   “ทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนใจกลับมาก่อนล่ะ”



   “่น่านคิดถึงอาไงเลยกลับมาก่อน”



   “จ้า พ่อคนปากหวาน เฉไฉไปเรื่อยนะเรา”อาหรี่ตามองอย่างรู้ทัน



   “หึหึ ทานข้าวก่อนดีกว่า น่านมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”



   ที่กลับบ้านมาก็เพราะอยากเล่าให้อาฝนฟังว่าผมไปเจอใครมา อยากเล่าแบบต่อหน้าไม่ใช่ทางโทรศัพท์ อีกอย่างผมอยากกลับมาหาพ่อด้วย



   “ท่าทางจะเรื่องสำคัญ ทำเอาอาตื่นเต้นไปด้วย”อาฝนว่ายิ้มๆ แต่ถ้ารู้เรื่องที่ผมเล่าอาจจะยิ้มไม่ออก ผมไม่อยากทำลายบรรยากาศและรสชาติอาหารแสนอร่อยฝีมือพี่แก้ว เลยเลือกที่เงียบไว้ก่อน





X





   พอทานข้าวเสร็จเราก็ย้ายกันมาที่ห้องนั่งเล่น พี่แก้วตามเอาขนมนมเนยมาบริการถึงที่ก่อนจะเลี่ยงออกไปเปิดโอกาสให้ผมกับอาฝนได้คุยกันตามลำพัง



   “ไหนมีอะไรจะเล่าให้อาฟัง”



“น่านเจอแม่มา”ผมไม่อ้อมค้อม อาฝนชะงักไปเล็กน้อยก่อนมองมาที่ผมด้วยสายตาเป็นห่วง



“น่านก็โอเคนะ ไม่ได้อะไร”



“โอเคจริงๆใช่มั้ยน่าน”



“ก็คิดว่าอย่างนั้นนะครับ”มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ที่ผ่านมาผมภาวนาว่าขออย่าให้ได้เจอกับคนที่ให้กำเนิดผมอีกเลย แต่ลึกๆในใจมันก็มีเศษเสี้ยวหนึ่งของความคิดว่าอยากจะเจออีกสักครั้ง



ในความทรงจำของผมมีเรื่องดีๆเกี่ยวกับแม่น้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ ตอนเด็กๆแม่ไม่ค่อยกอดหรืออุ้มผม จะมีแต่พ่อที่จับผมขี่คอแล้วพาไปเที่ยวเล่น แต่พ่อบอกว่าผมติดแม่ไม่รู้ทำไมถึงได้ติดทั้งๆที่แม่ก็ไม่ได้ใจดีกับผมมากนัก ผมเองก็จำไม่ได้เพราะเด็กมาก ทุกอย่างมันดูเลือนลางไปหมด แต่สิ่งที่จำได้ขึ้นใจคือวันที่แม่ทิ้งพวกเราไป ในตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องไปได้แต่ร้องไห้โวยวาย แต่พ่อบอกให้ผมไม่ร้อง อย่าเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่รักเรา ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่เด็กอย่างผมไม่เข้าใจอยู่ดี ความรักคืออะไร



พอโตขึ้นมาจนรู้ความมากขึ้นผมได้รู้และเข้าใจว่า ที่แม่ทิ้งไปเพราะทนกัดก้อนเกลือกินกับพ่อไม่ไหว แม่เป็นลูกคนรวยเจ้าของห้างทองใหญ่ เจอกับพ่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พ่อผมเรียนเกษตร แม่ผมเรียนบัญชี เพราะพ่อเป็นคนหน้าตาดี เก่งทุกอย่างจึงเป็นที่ชื่นชมของสาวๆ ติดตรงที่ว่าไม่รวย แต่ตอนนั้นความรักมันบังตาทำให้แม่ตัดสินใจพาผมที่อยู่ในท้องหนีตามพ่อมาหลังจากเรียนจบ และคิดว่ารักจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปได้
พ่อผมมีที่ดินที่ได้มาจากปู่ก่อนท่านสิ้นใจแค่สามไร่ที่ลำพูนและเงินอีกไม่มาก แต่เพราะที่มันกันดารปลูกอะไรก็ไม่ค่อยได้ผลจึงทำให้เงินเก็บที่มีค่อยๆร่อยหรอ ในตอนนั้นก็เกิดเรื่องกับอาฝนที่ถูกย่าพาไปอยู่กรุงเทพตั้งแต่เลิกกับปู่ไป อาฝนถูกแฟนที่คบกันมาหลายปีหลอกเอาเงินไปแล้วที่ทิ้งไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ ซ้ำร้ายยังถูกทำร้ายจนแท้ง ย่าอับอายและไล่อาฝนออกจากบ้าน พ่อจึงไปรับอาฝนมาอยู่ด้วย ตอนนั้นสภาพการเงินเริ่มไม่ดี แต่พ่อก็ไม่ละความพยายาม อดทนสู้มาเรื่อย พ่อทำงานหนัก กู้หนี้ยืมสินมาไม่น้อย ทำให้ครอบครัวเราเริ่มลำบากเพราะมีคนมาทวงหนี้บ่อยๆ ทำลายข้าวของทำร้ายร่างกายบ้าง ในที่สุดแม่ทนไม่ไหวจึงทิ้งพวกเราไป กลับไปใช้ชีวิตสุขสบายที่กรุงเทพและแต่งงานใหม่กับเศรษฐีเจ้าของธุรกิจส่งออกที่ตอนนี้เอยชื่อไปใครๆก็รู้จัก



   “อาก็กะไว้แล้วว่าสักวันน่านต้องได้เผชิญหน้ากับเขาหลังจากที่เราไปช่วยน้องไว้”




   “หึ นั่นสินะครับ”ผมไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ผมช่วยไว้จะกลายเป็นคนที่ผมไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งๆที่รู้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกตอนไปส่งที่บ้านนั้นแล้ว แต่เหมือนโชชะตาจะเล่นตลกทำให้ผมได้เจอกับน้ำปายอีกและอดไม่ได้ที่จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทำให้มีเรื่องให้เราต้องพัวพันกัน



“แล้วได้คุยกับเขามั้ย”




   “นิดหน่อยครับ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน่านเป็นใคร”แม่จำผมไม่ได้ ถ้าที่ร้านอาหารวันนั้นผมไม่บอกชื่อไปเขาก็คงนึกไม่ออกว่าเคยมีลูกชายอีกคนที่เขาทิ้งไป



   “แล้วได้บอกมั้ยว่าน่านเป็นลูก”



   “แค่บอกชื่อ เผื่อว่าเขาจะจำได้ก็แค่นั้น แต่ถึงเขาจะจำไม่ได้มันก็ใช่เรื่องใหญ่นี่ครับ ยอมรับว่าแอบผิดหวัง แต่ก็นั่นแหละ เขากับเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันมาตั้งนานแล้ว จะให้ไปบอกว่าน่านเป็นลูกเขานะ ถ้าเขาปฏิเสธว่าไม่ใช่น่านจะต้องทำยังไง”



   “น่าน”



   ผมผิดหวังที่เขาเป็นยิ่งกว่าที่ผมเคยรับรู้ ผมเคยแอบคิดว่าบางทีพ่ออาจจะเข้าใจผิดเรื่องที่แม่ทิ้งไป มันอาจจะมีความจำเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่เพราะทนลำบากไม่ไหว ไม่ใช่เพราะพ่อจน มันเป็นความคิดที่หลบอยู่ในซอกมุมเล็กๆ แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากเขาในการพูดคุยเพียงแค่ครั้งเดียวมันทำให้ผมรู้ว่า ที่พ่อบอกที่ผมเข้าใจมันมาตลอดนั้นถูกต้องแล้ว เขามีชีวิตที่ดีสุขสบายบนกองเงินกองทองกับครอบครัวใหม่ ทิ้งผู้ชายที่มีแต่ความรักกับลูกชายเพียงแค่ห้าขวบไปให้อยู่กับความลำบากเพียงลำพัง



   “อยากรู้จังตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามีความสุขได้ยังไง ไม่รู้สึกอะไรกับการที่ต้องทิ้งพ่อกับน่านไปเลยใช่มั้ย”ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนเราจะลืมคนที่เคยอยู่ด้วยกัน จะลืมลูกที่คลอดออกมาเองได้ลง



   “น้ำน่าน ฟังอานะ”อาฝนนั่งลงข้างผมและคว้ามือที่กำกันแน่นของผมไปกุมไว้



   “คนเราย่อมมีเหตุผลของตัวเอง แม้ว่าเหตุผลนั้นจะไม่ถูกใจคนอื่น คนเราย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง และพี่ทิพย์ได้เลือกทางเดินของเขาแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่น่านจะต้องมานั่งคิดนั่งหาเหตุผลให้กับการกระทำในอดีตนะลูก ทิ้งมันไปแล้วเดินไปข้างหน้า ใครที่เขาไม่รักเราไม่ต้องการเราก็ปล่อยเขาไป ให้มองคนที่รักเราและอยู่เคียงข้างเราก็พอ”



   “.......”



   “ที่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้น่านเกลียดแม่เขา มันจะเป็นบาป อาอยากให้น่านปล่อยวางและรู้สึกเฉยๆกับเรื่องที่ผ่านมาเพราะมันจะทำให้น่านไม่ทุกข์ เราอยู่ส่วนเราเขาอยู่ส่วนเขา หากเจอกันอาก็ทักทายในฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง พูดจากับเขาดีๆ เราเป็นเด็ก เราเป็นลูกต้องนอบน้อม ต้องเคารพ อย่าให้เขามาว่าได้ว่าพ่อกับอาเลี้ยงเรามาไม่ดี”



   “น่านจะพยายาม”ผมก็ไม่เคยคิดที่จะพูดจาไม่ดีกับเขา แต่บางครั้งในอารมณ์ชั่ววูบผมก็อยากจะพูดอะไรแรงๆ ให้เขาได้รับรู้ว่าผมกับพ่อเสียใจแค่ไหนกับสิ่งที่เขาทำ



   “ดีมาก พยายามทำให้ได้แล้วมันจะดีกับตัวน่านเองนะลูก”



   “แต่มันทำยากจัง ในหัวผมมีแต่คำถามว่าทำไมๆเต็มไปหมด”



   “คิดแล้วมันจะไดอะไรขึ้นมา ก็มีแต่เราเองที่ต้องแบบความรู้สึกแย่ๆเอาไว้ ในขณะที่เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ถ้ามันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ก็คิดเสียว่าการที่แม่เขาทิ้งไปมันก็ทำให้พวกเรามีวันนี้นะลูก เขาถือเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ของพี่นที และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนี้น่านเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไปใช่มั้ย หรือว่าแค่มีพ่อกับอามันไม่พอ”



   “พอสิครับ เกินพอด้วยซ้ำ อาฝนก็เหมือนเป็นแม่น่าน”



   “ดีมาก ไหนมาให้อากอดหน่อยสิสุดหล่อของอา”ผมขยับเข้าไปกอดอาไว้แน่น อ้อมกอดของอาเยียวยาผมได้ดีจริงๆ คำพูดขออาเย็นฉ่ำเหมือนสายฝนที่ชะล้างความขุ่นหมองออกไปจากใจ




   X
   



   หลังจากที่ได้คุยกับอาฝนจนสบายใจแล้ววันต่อมาผมก็ไปหาพ่อที่วัด ที่เก็บกระดูกของพ่อสะอาดสะอ้านและมีดอกไม้มาวางไว้ใหม่ๆ ผมไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนมาทำความสะอาดและมาไหว้พ่อ คงจะเป็นคนที่รู้จักกัน เพื่อนหรือใครที่พ่อเคยช่วยเหลือไว้ ผมรู้สึกดีที่ยังมีคนระลึกถึงพ่ออยู่ พอกลับจากวัดผมก็ไม่เคยได้ว่างอีกเลย เรพาะมีงานหลายอย่างรอผมอยู่ จริงๆแล้วก็มีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ผมที่รับช่วงต่อมาก็ต้องดูแลเองทุกอย่าง ถึงแม้จะไม่ได้ลงลึกไปจนถึงการปักชำกับมือทุกต้นแต่ก็ต้องรู้รายละเอียดทุกอย่าง ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง ไปให้คนงานเห็นหน้า พบป่ะพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบบ้าง ผักปลอดสารพิษที่เพิ่งเริ่มทำให้ผลตอบรับดี มีคนมาติดต่อขอซื้อเพิ่มขึ้น จากโรงแรมดังในเชียงใหม่ก็มี แต่เพราะผลผลิตยังไม่มากและไม่คงที่เท่าไหร่ จึงไม่สามารถตอบรับทุกเจ้าได้




   “ลุงเสริมครับ ผมว่าถ้าเราขยายแปลงอีกก็น่าจะดีนะ แต่ต้องหาคนงานเพิ่มด้วย”



   “ลุงก็คิดว่าดีครับ แต่เราต้องปรับพื้นที่หน้าดินใหม่ด้วย”



   “ครับ ถ้ายังไงลุงลองวางแผนมาให้ผมดูก่อนก็ได้ครับ ยังมีพื้นที่ของเราที่ว่างอยู่ ผมไม่อยากให้มันเสียประโยชน์ไป”



   “ได้ครับ เห็นว่าไร่ข้างๆเขาก็อยากจะขายที่ให้เรานะครับ”



   “อ้าว ทำไมละครับ”



   “ตาคำแกแก่แล้ว ทำเองก็ไม่ค่อยไหว ลูกแกก็ไปได้ผัวอยู่เมืองนอกคงไม่คิดจะกลับมา ได้แต่ส่งเงินมาให้ แค่อยากจะแบ่งขายที่ส่วนหนึ่ง เหลือไว้อยู่กับปลูกอะไรเล็กๆน้อยๆไว้กินก็พอ”



   “ถ้าอย่างนั้นก้น่าสนใจนะผมว่า ถ้าแกจะขายผมก็ยินดีซื้อ แล้วถ้าแกเหงาก็ให้แกมาทำงานกับเราก็ได้นะ”คนที่ทำงานมาตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าตอนแก่ควรจะพักสบายๆ แต่ผมเข้าใจว่าแกก็คงอยากทำอะไรบ้างไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆ



   “เห็นว่าแกมีความรู้เรื่องปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวิภาพดี ผมว่าให้แกมาช่วยดูแลส่วนนี้น่าจะดี”



   “ครับ ยังไงเดี๋ยวลุงไปลองคุยดูให้นะ คุณฝนเองก็เคยเปรยๆไว้เหมือนกัน แต่ก็บอกว่ารอให้คุณน่านมาตัดสินใจเองดีกว่า”



   ผมอยากทำให้ได้เหมือนพ่อจุนเจือชาวบ้านในละแวกนี้ด้วยการให้งานทำและให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อที่พวกเขาจะได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ไม่ต้องดิ้นรนไปหางานต่างถิ่นหรือทำงานในโรงงานให้เสียสุขภาพ ที่สำคัญสามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัวได้เต็มที่ มีสวัสดิการเผื่อแผ่ไปถึงลูกหลานของคนงานในไร่



   “ว่าไงจ๊ะ ไม่เห็นหน้าค่าตาเลยนะ ไหนว่าจะมาอยู่กับอาให้หายคิดถึง เช้ามาก็เข้าไร่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง กว่าจะกลับอาก็จะนอนแล้วเนี่ย”



   “นี่ก็กลับมาให้เจอแล้วไงครับ วันนี้กลับมาทานข้าวเย็นด้วยนี่ไง”ผมยิ้มแล้วเข้าไปกอดอาฝนอย่างเอาใจ



   “ไม่ต้องมากอดอาเลย ไปทำอะไรมาเนื้อตัวมอมแมมไปหมด”



   “ไปช่วยเขาขนกล้าเก็บครับ คนงานลาไปสองคน เลยทำกันไม่ทันเลยต้องไปช่วย หิวมากเลยมีอะไรให้น่านกินมั่ง”



   “เปอเลอะเปอเต๋อเลยเจ้า ของซ่อบของนายน้อยตึงฮั้นเลย”พี่แก้วรายงาน ผมไปล้างมือล้างหน้าแล้วมานั่งทานข้าวกับอาฝน



    “เดียวเขาจะมาพรุ่งนี้ใช่มั้ย?”



   “ครับ เดี๋ยวน่านขับรถไปรับ”ตอนแรกพี่เดียวมันจะขับรถมาแต่ผมห้ามไว้ หยุดแค่สามวันจะมัวขับรถไปกลับให้เสียเวลาทำไม ผมเลยให้นั่งเครื่องมาแล้วจะขับรถไปรับที่สนามบินเอง ผมอยากให้พี่เดียวมาเพื่อจะได้พาไปหาพ่อและผมจะเล่าเรื่องแม่ให้เขาฟังด้วย ผมรู้ว่าเขาข้องใจตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว ที่จริงก็คงสงสัยมาตั้งแต่ที่งานแต่งพี่แชมป์และรอให้ผมเล่าอยู่



   “อาโอเคใช่มั้ยเรื่องน่านกับพี่เดียว”อยากถามให้หายข้องใจอีกครั้ง



   “โอเคสิ อาเชื่อการตัดสินใจน่านนะ ถึงจะแปลกใจในตอนแรกแต่พอมาคิดดูแล้วเขาอาจจะเป็นคนที่เหมาะสมกับน่านมากกว่าใครๆก็ได้”



   “อายังไม่รู้จักเขาดีเลย”



   “อาถึงได้บอกว่าอาจจะไงจ๊ะ ของแบบนี้ต้องดูกันไปเรื่อยๆ แต่ถ้าน่านตกลงเป็นแฟนกับเขาได้ อาก็ถือว่าผ่านในระดับหนึ่งแล้วล่ะ”อาฝนรู้จักผมดีที่สุด อาเลยมั่นใจแบบนี้ ผมก็อยากให้การตัดสินใจของผมนั้นไม่ผิดพลาดเหมือนกัน



   
X




   “พรุ่งนี้พี่จะมาถึงกี่โมงนะ”




   หลังทานข้าวเสร็จอยู่คุยกับอาอีกนิดหน่อยเราก็แยกย้ายกันไป ผมอาบน้ำแล้วเลยมานอนคุยโทรศัพท์กับพี่เดียวที่โทรมาพอดี




   “ไปไฟล์ทเดียวกับน่านอ่ะ”



   “อ่อ”ผมมองนาฬิกาแล้วกะเวลาเอาไว้ว่าจะต้องออกไปรับกี่โมงถึงจะพอดีกัน เหมือนที่ลุงปันไปรับผม



   “เออ ไอ้ทักษ์กับกับไอ้ยอดมันมาด้วยนะ แต่มันจะไปนอนโรงแรมกัน อาจะต้องให้น่านขับรถไปส่งที่โรงแรมก่อน”



   “ไม่มีปัญหาแล้วพี่เขามาทำไมกันอ่ะ”



   “มันจะตามมาเฉยๆ ทีมเสือกเฉพาะกิจ”ผมขำ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้ว่าพี่ทักษ์ชอบใส่ใจเรื่องชาวบ้านเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นคนฮาๆ ไม่มีพิษมีภัย ตลกดี



   “จองโรงแรมไว้ยังอ่ะ ถ้ายังก็ไม่ต้องจองหรอกพี่ มานอนบ้านผมดิห้องว่างเยอะแยะ เดี๋ยวพาเที่ยวไร่”



   “ปล่อยพวกมันไปตามยถากรรมดีกว่า อยากเสือกดีนัก”พี่เดียวมันว่างั้น ดูมันจะเคืองหรือหมั่นไส้เพื่อนตัวเองมาก ผมคุยเล่นกับพี่เดียวอีกแป๊บเดียวก็ง่วงตาจะปิดวันนี้ใช้แรงงานไปเยอะ



   “ง่วงละอ่ะ”



   “งั้นก็ไปนอนไป เดี๋ยวพี่ไปเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”



   “นิดหน่อยตลอดอ่ะ เดี๋ยวก็ตื่นไม่ทันมาขึ้นเครื่อง”



   “หึ เป็ห่วงพี่ก็พูดมาตรงๆ”



   “ขี้มโนว่ะ”



   “เด็กปากแข็งเอ๊ย”



   “วางไปได้เล่า คนจะนอน”



   “ครับๆ ฝันดี”



   “อือ ดีๆ”ผมกระดากปากเกินกว่าจะพูดฝันดี ราตรีสวัสดิ์ได้ เอาแค่นี้ก็พอ



   “เจอกันพรุ่งนี้นะที่รัก”แต่เหมือนพี่เดียวมันจะขยันเสี่ยวใส่ผมเหลือเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ทักษ์มาผมจะจับล็อกตัวนั่งเสวนาด้วยสักหน่อย ว่าตกลงแล้วพี่เดียวนี่มันเป็นคนยังไงกันแน่ อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเร็วๆจัง



อย่าคิดเยอะนะ! ผมแค่อยากคุยกับพี่ทักษ์เท่านั้นเอง!








-------------------------------

เอาน้ำน่านกับพี่เดียวมาส่งค่าตอนนี้เครียดนิดหนึ่งเรื่องของคุณแม่ เฉลยออกมาแล้วนะคะ
หลายคนคงเดาได้ เราปูเรื่องไว้มาตั้งแต่ตอนที่น่านขับรถไปส่งปายแล้ว
อันที่จริงน่าจะเดาได้จากชื่อปายเนอะว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน น้ำน่าน และ น้ำปายค่ะ และมีอีกหนึ่งน้ำที่ยังไม่ออก 55555
ให้เดาๆ ว่าชื่ออะไร
เจอกันตอนหน้าค่ะ  :mew1:

   
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-08-2017 22:51:42
อีกชื่อ น้ำปิง หรือป่าวน้า > เดา

มีให้อมยิ้มกรุบกริบ

เป็นกำลังใจให้น่านจ้า คนเขียนด้วยน้าา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-08-2017 22:58:21
ยังมีอีกเรอะ เดาว่าชื่อน้ำอิงละกัน ฮา เหมือนจะเคยได้ยิน (จากละคร) อยู่ ถ้าให้แต่งเองเห็นจะไม่รอด ฮา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 22-08-2017 23:05:36
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-08-2017 23:12:26
ใช่แม่น่านจริงๆด้วย  o22

ชอบ ที่อาฝนพูดจริงๆ
"ไม่มีประโยชน์ที่น่านจะต้องมานั่งคิดนั่งหาเหตุผล
ให้กับการกระทำในอดีตนะลูก ทิ้งมันไปแล้วเดินไปข้างหน้า
ใครที่เขาไม่รักเราไม่ต้องการเราก็ปล่อยเขาไป
ให้มองคนที่รักเราและอยู่เคียงข้างเราก็พอ

       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-08-2017 10:55:34
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-08-2017 20:21:57
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 24-08-2017 21:44:47
รอพี่เดียว :m13:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 25-08-2017 00:36:37
ตอนนี้ไม่มีเรื่องความรู้สึกของคุณแม่
แต่เราว่าแม่รักน่านนะ เพราะได้ยินชื่อก็ถามเลย
คงคิดถึงน่านแน่ๆ
ใช่มั้ย?  :z10:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 25-08-2017 13:00:53
ตามอ่านทันแร้วววว
อ่านตอนแรก น่านนี่นึกว่ารุก ไปๆมาๆ โดนรุกซะงั้น 5555
นรักดีค่ะ ตอนรักกันแล้ว ค่อยๆปรับตัวกันเนอะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.37 P.15 || [22.08.17]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-08-2017 17:54:16
ว้าว ไม่เจอกันนานเลยน้ำน่าน คิดตึ๋งงงง

น้ำ...รึป่าว? อุ๊ฟ!! นั้นเคยออกแล้วนี้! วะฮ่าๆๆ :hao6: //อย่าใส่ใจหนูเลย...
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-09-2017 21:35:30
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero





- 38 -


   วันนี้อากาศดีมาก เพราะเมื่อคืนฝนตกเลยทำให้ตอนเช้าอากาศเย็นกว่าปกติ ตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหมอกจางๆอยู่ตามแนวเขา จนต้องวิ่งไปหยิบกล้องมาถ่ายไว้ คิดไม่ผิดที่หอบมันกลับบ้านมาด้วย แต่อ้อยอิงชมความงดงามของธรรมชาติได้ไม่นานผมก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว ขับรถเข้าเชียงใหม่เพื่อมารับไอ้คนข้างๆที่ขึ้นรถมาก็หลับตาเฉย เดาว่าเมื่อคืนมันไม่ได้นอนแน่ๆหรือไม่ก็นอนไม่เกินสองชั่วโมง ผิดกับสองคนด้านหลังที่ตาใส ส่องสาวจีนที่สนามบินตาเป็นมัน ขึ้นรถมายังชวนกันส่องนมสาวในไอจี




   “ทำไมพวกพี่ดูหิวกันวะ”




   “พวกกูอดเปรี้ยวไว้กินหวานเว้ย กะว่ามาเชียงใหม่จะกินไม่ซ้ำหน้าทุกคืน ฟาดแม่งทุกชาติ”




   “นี่กะจะมาอยู่กี่วันเนี่ย”




   “ห้า กูมาเพื่อสำรวจตลาดโดยเฉพาะ”ยอมใจพี่ทักษ์




   “พวกพี่นี่ว่างกันเนอะ”




   “รวยแล้วก็ให้เงินทำงานมั่ง จะนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานไปทำไม”อันนี้กูยอมกว่า แต่พี่ยอดมันรวยจริงๆครับ ที่เคยไปกินเหล้าด้วยกันก็ป๋าตลอด เวลาเจอเด็กก็จ่ายหนัก




   “แบ่งมาให้ผมใช้มั่งก็ได้”




   “ไอ้ห่า กูรู้ว่ามึงก็รวยใช่เล่นอย่ามาทำเป็นเด็กขาดเงิน แต่ถ้าการเงินมึงมีปัญหาก็ใส่ชุดนักศึกษาแล้วไปหาไอ้เดียวดิ รับรองสบายไปทั้งชาติ สบายตูดด้วย”




เชี่ย!




“เหอะๆ ผมมีเหลือใช้แล้วพี่”ไม่น่าเลยกู เข้าตัวเองไปอีก




“รีบเลยนะมึง กลัวอะไร เป็นแฟนกันแล้วยังไงมึงก็หนีไม่พ้น นอกจากมึงจะเสียบเพื่อนกู ฮ่าๆ”




เออ ตลกกันเข้าไป ผมเริ่มอยากจะเลี้ยวรถกลับแล้วเอาพวกพี่เขาไปทิ้งไว้ที่เชียงใหม่แทนที่จะพากลับมาที่ไร่ด้วย




“พวกมึงไม่มีเรื่องจะคุยกันแล้วหรือไงวะ”คนที่ผมคิดว่าไปเฝ้าพระอินทร์แล้วพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่




“ไร หลับก็หลับไปดิ ไม่เสือกสิจ๊ะ”เอ่อ ผมว่าพี่ทักษ์ควบอกตัวเองมากกว่านะ จากวีรกรรมที่พี่เดียวเคยเล่าให้ฟัง




“น่าน ขับรถไปทิ้งพวกมันไว้ที่เชียงใหม่ดิ ให้มันไปล่อซะให้ติดเอดส์ตายๆไปซะ”



“เพื่อนครับ คุณมึงจะเคืองไรพวกกูหนักหนา แค่มาเป็นก้างขวางคว...วันสองวันเอง”ไอ้คำในช่องว่างที่พี่ยอดเว้นไว้ ทำเอาผมคิ้วกระตุกเพราะเหลือบมองกระจกหลังแล้วเห็นปากพี่เขาขยับพอดี แหมะ พี่ครับเขาเรียกว่าก้างขวางคอปะวะ




“สัด”มันด่าแค่นั้นก็กอดอกหันหน้าไปนอกรถ ตั้งท่าจะหลับจริงจังตัดรำคาญเพื่อนตัวเอง




   ตอนแรกพี่สองคนเขาก็จะพักที่เชียงใหม่เลย แต่พอผมเอ่ยชวนไปพักที่บ้านก่อน ก็ไม่มีปฏิเสธ ยิ้มกรุ้มกริ่มกันใหญ่ เหมือนกับว่าเข้าทางพวกพี่เขาซะงั้น แต่ก็มาพักด้วยแค่คืนเดียวเท่านั้นแหละครับ เพราะพวกพี่เขาตั้งใจโดดงานกันมาหาเด็กโดยเฉพาะ จริงใจแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง




   พอใกล้ถึงไร่ผมก็สะกิดคนข้างๆให้ตื่นขึ้นมา ตอนนี้อาฝนเตรียมต้อนรับอย่างใจจดจ่อ ตื่นเต้นยิ่งกว่าผมจะกลับมาบ้านอีก




   “ไร่มึงนี่กี่ไร่วะ ทางเข้าแม่งไกลเป็นกิโลแล้วมั้ง”




   “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกพี่”




   “ไม่เท่าไหร่ของมึงนี่เป็นพันใช่มั้ยไอ้สัด”




   “ฮ่าๆ ก็ประมาณนั้นมั้ง”




   “แล้วทำไมมึงไม่เรียนอะไรที่เกี่ยวกับเกษตรว้า มาเรียนออกแบบทำไม”




   “ก็ผมชอบอ่ะพี่ แต่ไร่ผมก็ทำได้เหมือนกันนะ”เพียงแต่ไม่คิดว่าจะต้องมารับช่วงต่อเร็วขนาดนี้




ผมไม่คิดว่าพ่อจะมาด่วนจากไป สิ่งที่วางแผนไว้เลยรวนไปหมด แต่ด้วยความที่คลุกคลีในไร่มาแต่เด็ก ตามพ่อไปทำงานในไร่เสมอเลยทำให้ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่การรับรู้กับการลงมือทำจริงมันก็ต่างกัน ในช่วงแรกผมเองก็มืดแปดด้าน ยังทำใจเรื่องพ่อไม่ได้ซ้ำยังรู้สึกมีภาระหนักอึ้งวางไว้บนบ่า แต่อาฝนก็เป็นหญิงแกร่งที่ประคับประคองทุกอย่างให้ดำเนินไปด้วยดี อีกทั้งยังมีลุงเสริม พี่วิทย์คอยช่วยผมเลยผ่านมันมาได้




   “ไร่มึงปลูกอะไรมั่งวะ”




   “หลายอย่างพี่ แต่หลักๆคือดอกไม้เพื่อส่งออก ลำไย แล้วก็เพิ่งเปิดไลน์ผักปลอดสารพิษ”




   “แล้วร้านที่ผ่านมาเมื่อกี้อ่ะ”




   “ร้านขายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ของไร่พี่ คือเพิ่งเปิดเป็นร้านต้นแบบ อากับผมมีโครงการว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมไร่ในอนาคต ไอ้พายมันเลยเสนอไอเดียเรื่องทำพวกครีม น้ำหอม ของที่ระลึกโดยใช้วัตถุดิบในไร่ขึ้นแล้วทดลองขายให้ติดตลาดก่อน”




   “เจ๋งสัด มีการต่อยอด”ผมยิ้มรับคำชมจากพี่ยอด




   “กูแนะนำว่าถ้าอยากไปไกลกว่านี้ปรึกษาผัวมึงได้ ไอ้เดียวมันเทพ”คือแค่แฟนก็พอมั้งครับพี่ มันก็จั๊กจี้หัวใจพอแล้ว ใช้คำว่าผัวนี่ผมรับไม่ค่อยได้ แสลงใจ




   ผมจอดรถที่หน้าบ้านแล้วอัญเชิญแขกผู้เกียรติลงจากรถ พี่ทักษ์ดูจะชื่นชอบกับบ้านของผมมาก ร้องอู้หู้ โอ้โห อยู่หลายรอบ พี่ยอดก็ดูจะถูกใจบรรยากาศรอบๆ ส่วนอีกคนยืนถูจมูกจนแดง ทำฟุดฟิดๆ ก่อนจะจามเสียงดังออกมาติดๆกัน




   “เห้ย พี่ไม่สบายเหรอวะ”จามจนหน้าดำหน้าแดง



   “เปล่า...ฮะ...ฮัดเช่ย!!!!”แล้วก็จามต่อทันที แสรด ยังจะปฏิเสธอีก




   “ตอนมาก็ปกตินี่หว่า จู่ๆทำไมมึงป่วยวะ”ไอ้พี่ทักษ์เดินเข้ามาดูเพื่อนมัน




   “เดี๋ยวๆ ไอ้น่าน ที่มึงบอกว่าปลุกดอกไม้เนี่ย ดอกอะไรวะ”พี่ยอดจะมาอยากรู้อะไรตอนนี้วะ ไปดูเพื่อนพี่มั้ยครับ จามจนปอดจะหลุดออกมาแล้วนั่น




   “กุหลาบแปดสิบเปอร์เซ็นอ่ะพี่ นอกนั้นก็...”




   “พอ ก็ดอกแรกก็จบแล้ว ฮ่าๆ”แล้วพี่มันก็หัวเราะขึ้นมา พี่มึงครับช่วยอธิบายให้กูเข้าใจด้วย




   “ไม่ต้องงง ฮ่าๆ ไอ้เหี้ยนี่ แพ้เกสรกุหลาบ”พี่ทักษ์เฉลย ผมนี่ตาเหลือก ฉิบหาย! แล้วมึงจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงวะไอ้พี่เดียว ที่นี่มีกุหลาบเป็นร้อยๆไร่เลยนะเว้ย!!!





   X





   “พี่เขาเป็นไงมั่งลูก”



   “หลับไปแล้วครับ เมื่อคืนไม่ได้นอน มาเจอพิษกุหลาบไปอีกน็อคเลยครับ”




   “ตายจริง น่านไม่ได้บอกพี่เขาก่อนเหรอว่าไร่เราปลูกกุหลาบ”




   “ก็น่านไม่รู้นี่ว่าแพ้ เลยไม่ได้บอก”เคยบอกไปแค่ว่าไร่ปลูกดอกไม้ ปลูกผักแต่ก็ไม่ได้ถามต่อนี่หว่าว่าดอกอะไร เจอแจ็คพอตเลยเป็นไง สงสารก็สงสารนะ แต่ก็ขำมันอยู่เหมือนกัน ตัวอย่างควายมาแพ้อะไรเล็กแบบนี้




   หลังจากมันจามเสียงดังลั่นไร่ อาฝนก็ออกมาเจอพอดี พอรู้ว่าแพ้เกสรกุหลาบเท่านั้นแหละวิ่งวุ่นให้หายาแก้แพ้แล้วให้ผมพามันไปพัก ส่วนพี่อีกสองคนที่ขำในความซวยของเพื่อนตัวเองก็ถูกเด็กๆพาไปห้องพักสำหรับแขกเพื่อเก็บสัมภาระ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น



   “น่าน อาว่าพาเดียวไปพักโรงแรมดีมั้ย ขืนอยู่ที่นี่คงแย่แน่”อาฝนดูเป็นห่วงไอ้พี่เดียวมาก ประหนึ่งเป็นหลานในไส้




   “ไม่ต้องหรอกครับคุณอา ให้กินยาแก้แพ้ก็พอครับ เดี๋ยวมันตื่นมาก็ดีขึ้นเอง แต่ยังไงขอผ้าปิดปากให้มันก็พอครับ”พี่ทักษ์เดินเข้ามาพอีแล้วอธิบายกับอาฝน ท่าทางจะรู้อาการของเพื่อนตัวเองดี



   “งั้นเหรอ”อาฝนมีท่าทางลังเล




   “ครับ คุณอาไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ ความจริงมันถึกไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ แต่ถ้านอนไม่พอมันก็จะออกอาการหนักหน่อย”



   “งั้นเหรอจ๊ะ ถ้าเป็นแบบนั้นอาก็ค่อยสบายใจหน่อย แล้วนี่หิวกันหรือยัง เดี๋ยวอาให้เด็กไปตั้งโต๊ะให้”




   “ก็นิดนึงครับ”พี่ทักษ์ว่า หัวเราะแหะๆ ยิ้มประจบ



   “รอแป๊บนะ เดี๋ยวอาจัดการให้ ส่วนน่านไปเตรียมสำรับแล้วยกไปทานกับพี่เขาที่บ้านเล็กไป”



   “โหย อาครับ มะ..เอ้ย พี่เขาหลับไปแล้วอ่ะ ขอน่านกินกับอาด้วยนะ”



   “ไม่ได้ จะทิ้งให้เดียวอยู่คนเดียวได้ไง แล้วเราทำไมไม่หาอะไรให้พี่เขาทานก่อน ปล่อยให้หลับไปทั้งอย่างนั้นตื่นมาหิวแย่”



   “แต่...”




   “ไปเดี๋ยวนี้เลย”



   “คร้าบๆ”ผมรับคำอย่างจำใจ ก็คนมันหลับไปแล้วจะให้ปลุกมากินหรือไง ปลุกแล้วจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่าเหอะ แล้วทำไมพี่สองคนต้องมองผมยิ้มๆด้วยว้า



   “อ้าว ไม่ได้หลับเหรอ”พอยกสำรับเข้ามาในห้องก็เจออีกคนนอนตาใสอยู่บนเตียง



   “ไปไหนมา”มันลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ผ้าห่มไปกองบนตัก เสียงที่เปล่งออกมาฟังดูขึ้นจมูก



   “ไปเอาข้าวมาให้กิน ไม่หลับก็ดีแล้ว กินก่อนแล้วค่อยนอน”ผมวางถาดอาหารไว้ตรงชุดนั่งเล่นเล็กๆตรงมุมห้องก่อนจะเดินมานั่งข้างมันบนเตียง ตาแดงๆแหะ



   “กินด้วยกันดิ”



   “แน่อยู่แล้ว”อาฝนบังคับมานี่นะ ส่วนแขกอีกสองคนก็สำเริงสำราญกับเมนูอาหารเหนือที่พี่แก้วทำไว้ต้อนรับขับสู้พร้อมกับหยอดคำหวานชมฝีมือไม่ขาด ป่านนี้พี่แก้วตัวลอยทะลุเพดานแล้วมั้ง



   “หยุดจามแล้วใช่มั้ย?”



   “อืม แต่ก็คันจมูกนิดๆ”



   “ตัวก็โต ไม่น่าเป็นอะไรแบบนี้นะ แล้วแพ้อะไรอีกป่ะเนี่ย”



   “แพ้คนแถวนี้ละมั้ง”พูดจบก็ยิ้มมุมปาก แสรดดดด



   “ไปกินข้าวไปแล้วก็หลับๆไปสักที เมื่อคืนบอกแล้วว่าให้นอนๆ”



   “เขินทีไรเปลี่ยนเรื่องทุกที”



   “เขินไร ใครเขิน พูดมากว่ะ”



   “กินออเดิร์ฟก่อนแล้วกัน”



   “ไหน ไม่เห็นมี”ที่ยกมามีแต่จานหลักทั้งนั้นแหละ



   “นี่ไง”



   “หะ..อื้อ!”ฮาร์ดคอร์ไปมั้ย กระชากคอไปจูบเนี่ย ดีที่ปากไมได้กระแทกแรงไม่งั้นมีต่อยแน่ ไอ้พี่เดียวมันละเอียดชิมปากผมอยู่นาน ทำเอาเคลิ้มไปเหมือนกัน



   “คิดถึงว่ะ”มันพูดชิดริมฝีปาก ใบหน้าคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ผมเผยอปากหายใจเบาๆ ก่อนจะถูกปิดปากอีกครั้ง เป็นจูบที่รู้สึกอุ่นๆในใจ มันไม่ได้ดุเดือดร้อนแรง แต่นุ่มๆหวานๆเต็มไปด้วยความรู้สึกคิดถึงอะไรแบบนั้น ดีว่ะ...



   “อื้อ! อะไรวะ”จู่ๆมันก็ผลักผมออกอย่างแรง



   “ฮัดเช่ย!”



   เวร! หมดกัน



   “ไปกินข้าวได้แล้วไปแล้วก็นอนพักซะ”



   “ปลูกไว้กี่ไร่วะเนี่ย”ดูท่าทางมันหงุดหงิดอ่ะ ฮ่าๆ



   “หึหึ ตายแน่ๆ”



   “ไม่ยอมตายง่ายๆหรอก ยังไมได้เจ้าของไร่เป็นเมียอีกรอบเลย”



   “มึงจะตายเพราะกูนี่แหละไอ้พี่เดียว!”



   “โว๊ะ ขึ้นมึงขึ้นกูเลยนะ ล้อเล่นน่า ไปๆไปกินข้าว”



   “เดินไปดิ”ผมหลีกให้มันเดินไปนั่งก่อน แต่ตอนที่มันกำลังจะเดินผ่านผมไปก็ยังไม่วายกระซิบข้างหูผม



   “คืนนี้เสียตัวแน่ หึหึ”



   ควายเอ๊ย!







   X






   พอมื้อกลางวันจบลงผมก็ให้พี่เดียวมันนอนพักไป ส่วนตัวเองก็พาแขกอีกสองคนเที่ยวชมไร่กุหลาบ ที่สร้างรายได้หลักให้กับไร่ ที่นี่ถึงแม้จะไม่ใช่ไร่กุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในปะเทศ แต่กูกินพื้นที่หลายร้อยไร่ มีกุหลาบหลายสายพันธุ์ ที่ออกดอกให้เก็บเกี่ยวทุกวันไม่ขาด



   “มึงสนใจส่งกุหลาบให้โรงแรมกูที่เชียงใหม่บ้างมั้ย”พี่ทักษ์เอ่ยขึ้น ทำเอาผมหูผึ่ง




   “ได้ก็ดีสิพี่”



   “เห็นว่ามีผักปลอดสารด้วย  พากูไปดูหน่อยดิ”



   “ได้เลยครับ”



   “มึงโคตรเจ๋งวะ อายุแค่นี้ก็ทำงานใหญ่ได้ขนาดนี้”พี่ยอดท่าทางจะชอบมาก เห็นถ่ายรูปใหญ่เลย เอาหน้าไปแนบอีกต่างหาก เอาจริงๆนะต่อให้เป็นผู้ชายแมนแค่ไหน มาเจอกุหลสบดอกโตๆสวยๆเป็นดงแบบนี้ก็อดใจที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่ได้



   “คนที่เจ๋งคือพ่อผมต่างหาก”



   “เออแล้วพ่อมึงไปไหนวะ”



   “เสียไปแล้วพี่ เมื่อปีก่อน”



   “กูเสียใจด้วยนะเว้ย”



   “ขอบคุณมากพี่”



   “มึงก็อยู่กับอาแค่สองคนเองเหรอวะ”



   “ใช่พี่ เรามีกันแค่นี้ ถ้าไม่มีอาผมก็แย่เหมือนกัน แต่ก็มีคนเก่คนแก่ที่ทำงานร่วมกันมาช่วยด้วย ทุกอย่างเลยยังเป็นไปด้วยดี”



   “ดีแล้ว แต่ถ้ามึงไม่ไหวหรือต้องการที่ปรึกษา เพื่อนกูช่วยมึงได้นะเว้ย อย่าลืมมัน”



   “เหอะๆ ปล่อยเพื่อนพี่ทำงานตัวเองไปเถอะ แค่นี้ก็ไม่ค่อยจะได้นอนแล้ว เดี๋ยวจะตายไปซะก่อน”



   “เออก็จริง แต่ก็อย่าลืมมันแล้วกัน”



   ผมไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มรับ ใครจะไปลืมแฟนคนแรกได้ เรื่องปรึกษาก็คิดไว้เหมือนกัน แต่รอจังหวะเหมาะสมก่อน เพราะก็ไม่คิดว่าจะต้องเลิกรากันไปในเร็วๆนี้



   ตลอดบ่ายผมพาพี่ทักษ์กับพี่ยอดทัวร์ไร่ แล้วพาไปเที่ยวลำธารที่อยู่ตรงท้ายไร่ ก่อนจะแวะเก็บลำไยสดๆจากต้นมากินที่บ้าน กลับมาก็เจอไอ้พี่เดียวนั่งคุยจ้ออยู่กับอาฝนที่ชานเรือน



   “มากันแล้ว”อาฝนยิ้มรับ ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ




   “ไปอาบน้ำกันก่อนเลย เกสรกุหลาบน่าจะติดเสื้อผ้ามาด้วย เดี๋ยวเดียวก็อาการกำเริบอีก”




   “แหม อาครับ ห่วงอยู่คนเดียวเนี่ย”ส่วนไอ้พี่เดียวที่คุยจ้อเมื่อกี้พอเห็นพวกผมเดินเข้ามาก็ดึงผ้าปิดปากขึ้นมาปิดไปครึ่งหน้า



   “เอ๊ น้ำน่านนี่ ไปเลย”อาฝนยกมือขึ้นจะตีแต่ผมหลบทัน จึงได้แต่ค้อนให้ขวับใหญ่ ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้สองหนุ่มหล่อ
“ไปอาบน้ำกันนะจ๊ะ จะได้มาทานข้าวเย็นกัน”ผมเดินแยกตัวออกมาแต่เหมือนจะมีคนตามมาจนถึงห้องไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร



   “ตามมาทำไม ไม่นั่งคุยกับอาฝนไปอ่ะ”



   “คุยจบแล้ว”



   “คุยไรกัน”



   “หลายเรื่อง คุยไปเรื่อย อาฝนน่ารักดี”



   “อย่าแม้แต่จะคิดนะ”ผมปิดประตูห้องแล้วหันไปชี้หน้ามัน



   “คิดอะไรเนี่ย หึงแม้กระทั่งอาของตัวเองเหรอ”



   “ไม่ได้หึงเว้ย แต่ห้ามคิดอะไรไม่ดีกับอานะ”อาฝนเป็นคนน่ารัก ใครได้เห็นได้คุยก็อยากจะสานสัมพันธ์ต่อทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีใครมาไปไกลกว่าคำว่าเพื่อน เพราะทุ่มเทเวลาทั้งหมดที่มีเพื่อพ่อ เพื่องานและเพื่อผม



   “ประสาท”มันดีดหน้าผากผมอย่างแรงหนึ่งที




   “เจ็บนะเว้ย!”แดงแน่ๆ ทำไมชอบดีดหน้าผากผมนักวะ



   “สม อยากคิดอะไรไร้สาระ”มันส่ายหน้าแล้วเดินไปนั่งบนเตียง ผมถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกปาใส่หน้ามันด้วยความหมั่นไส้ล้วน มันมองหน้านิ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์มองตรงหน้าอกผมที่ไม่มีอะไรปกปิด ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาทันที แต่เรื่องอะไรผมจะอยู่รอ รีบหนีเข้าห้องน้ำทันที ไม่ได้แอ้มกูร๊อกกก



   “หนีได้ก็หนีไป หึหึ”เสียงของมันดังผ่านประตูเข้ามา ไอ้บ้าเอ๊ย นับวันผมก็ยิ่งเหมือนเด็กสาวที่กลัวลุงแก่ๆจะมาทำมิดีมิร้ายตัวเอง




   X




   
   มีพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่วางอยู่หน้าที่เก็บกระดูกของพ่อและธูปยังไม่หมดดอก คนที่มาไหว้คงเพิ่งจากไปไม่นาน ผมวางพวงมาลัยของตัวเองลงไปข้างกันก่อนจะขยับให้คนที่มาด้วยทำเช่นเดียวกัน พี่เดียวยกมือไหว้พ่อนานจนผมสงสัยว่ากำลังคุยอะไรกับพ่ออยู่ ส่วนผมแค่บอกพ่อว่าพี่เดียวเป็นใครและพามาไหว้เท่านั้น เมื่อคืนผมเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้พี่เดียวฟังไปแล้ว อีกฝ่ายดูประหลาดใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีความเกี่ยวข้องอะไรกับผม ผมเลยได้ข้อมูลมาอีกนิดหน่อยว่า พี่เดียวกับทางฝั่งนั้นมีความเกี่ยวข้องกันทางธุรกิจเป็นคู่ค้ากันอยู่ ที่สำคัญบ้านของสามีใหม่ของผู้หญิงคนนั้นสนิทกับคุณหญิงป้าของพี่เดียว



   “ไหว้นานจัง คุยอะไรกับพ่อเนี่ย”



   “ไม่ได้คุย แค่บอกเฉยๆว่าให้พ่อหมดห่วงได้เพราะต่อไปนี้พี่จะดูแลน่านให้เอง”



   “พระเอกไปอีก”ผมเบ้ปากใส่



   “เพิ่งรู้หรือไง”



   “ลืมไรไปป่ะพี่ ผมผู้ชายนะ ดูแลตัวเองได้”



   “รู้ แต่ก็อยากดูแลด้วย พี่เองก็อยากได้คนดูแลหมือนกัน”



   “จะบอกให้ช่วยกันดูว่างั้น”



   “ได้มั้ยล่ะ?”



   มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องได้แล้วล่ะมั้ง การที่มีคนมาใส่ใจดูแลเรามันก็เป็นเรื่องที่ดี ในบางครั้งผมก็อยากอ่อนแอบบ้าง อยากพึ่งพิงบ้าง ถึงผมจะมีอาฝนแต่ผมก็ไม่อยากเอาเรื่องหนักใจไปกวนอา อาเหนื่อยกับผมมามากแล้ว



   “ไม่ชอบดูแลใคร”



   “ไม่เป็นไรพี่ดูแลคนเดียวก็ได้”



   “แล้วจะรอดู”ของแบบนี้ต้องดูกันไปนานๆ เรื่องระหว่างผมกับไอ้พี่เดียวมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า และผมเองก็แฟร์พอ ใครให้ใจมาผมก็ให้ใจกลับไปอยู่แล้ว



   “อยากไปไหนมั้ย”ผมหันไปถามคนที่นั่งข้างๆ เราออกมาจากวัดแล้ว วันนี้ว่างทั้งวัน ตอนนี้เพิ่งเก้าโมงเช้าเอง อาฝนไม่ยอมให้ผมกลับไร่บอกให้พาไอ้พี่เดียวไปเที่ยว แต่ผมโนไอเดียมากๆ ไม่รู้ว่ามันชอบเที่ยวแนวไหน



   “ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปไหว้พระธาตุกัน”



   “ที่เชียงใหม่?”



   "ที่นี่แหละ ชื่ออะไรนะ พระธาตหริภุญชัย?”



   “อ๋อ เอาดิ”



   “แล้วค่อยไปเชียงใหม่ขึ้นดอยสุเทพ แล้วก็เดินถนนคนเดินกัน”



   “นี่ทำการบ้านมาก่อนป่ะเนี่ย”ดูรู้เยอะ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยอยู่ไทย



   “ไอ้ทักษ์มันบอกตอนอยู่บนเครื่อง”



   “โถ่ นึกว่ารู้จริง”ผมขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อน หิวก็แวะ ง่วงก็จอด เจออะไรน่าสนใจก็ซื้อมากิน บางอย่างก็อยากแกล้งไอ้พี่เดียวมันให้กินของแปลกๆ แต่มันก็ไม่ได้สะทกสะท้าน เราใช้เวลาทั้งวันจนมาจบที่ถนนคนเดินที่คนยั้วเยี้ยอย่างกับหนอน แทบไม่ได้เดินเองเรพาะต้องไหลไปตามฝูงชน ไอ้พี่เดียวไม่สู้เลยชวนผมกลับ มาถึงบ้านอาฝนกำลังจะเข้านอนพอดี คนที่นี่นอนเร็วปกติสองทุ่มก็นอนกันหมดแล้ว ส่วนอาฝนจะนอนช่วงสามทุ่มสี่ทุ่มแล้วแต่งานที่ค้างอยู่



   “หิวมั้ย จะทานอะไรกันมั้ยเดี๋ยวอาไปทำให้”อาฝนถาม รอยยิ้มแต้มบนใบหน้า แต่คนที่ถูกถามไม่ใช่หลานรักอย่างผม รู้สึกจะห่วงใยไอ้พี่เดียวเหลือเกินจนผมหมั่นไส้มันตงิดๆ



   “เรียบร้อยกันมาแล้วครับ”



   “อาไปนอนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงอยากได้อะไรเดี๋ยวน่านจัดการเอง มาๆเดี๋ยวน่านไปส่ง”ผมรีบประคองอาฝนไปส่งที่ห้อง ไม่รอให้ร่ำลากัน



   “เอ๊ น้ำน่านนี่ ยังไงกันเด็กคนนี้ เป็นอะไรเนี่ย”



   “อายังคุยไม่เสร็จเลย”



   “ดึกแล้วครับ ค่อยมาคุยต่อพรุ่งนี้เช้า ตอนนี้นอนได้แล้ว”



   “เด็กขี้อิจฉา”



   “ใคร๊ ไหนขี้อิจฉา ไม่มี๊ไม่มี”อารู้ทันอีก แต่เรื่องอะไรจะยอมรับ ผมไม่ได้ขี้อิจฉา แต่ผมหวงอาของผมต่างหาก



   “ย่ะ อาไปนอนแล้ว เราก็ดูแลพี่เขาด้วย อย่าลืมให้กินยา หน้าต่างประตูก็ปิดให้สนิทลมจะได้ไม่พัดเอาเกสรเข้าห้อง”



   “คร้าบๆ ฝันดีครับ ฟอด!”แก้มอานี่ชื่นใจกว่าแก้มสาวอีกครับ ฮ่าๆ



   ส่งอาฝนเสร็จก็เดินกลับห้อง เห็นไอ้พี่เดียวใส่แว่นนั่งเขี่ยเมียไอแพดของมันอยู่ เปลือยท่อนบน ส่วนท่อนล่างคือกางเกงที่ใส่วันนี้



   “ทำไมไม่อาบน้ำอ่ะ”



   “เช็คงานแป๊บ น่านไปอาบก่อนเลย”



   งานตลอด ขนาดวันหยุดยังต้องทำงาน ผมรีบจัดการตัวเองเพื่อจะได้รีบเข้านอน ขับรถทั้งวันรู้สึกเพลียๆ อันที่จริงพี่เดียวมันก็อาสาจะขับให้แต่ผมขี้เกียจบอกทางมันเลยขับเองดีกว่า พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับแล้วว่าจะกลับเย็นๆหน่อย ตอนเช้าตั้งใจจะพาพี่เดียวไปดูไร่ แต่คงไม่ไปโซนกุหลาบ ผมยังไม่อยากเป็นฆาตกร



   “ไปอาบน้ำได้แล้ว”



   “อีกแป๊บเดียว ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลย”



   “แน่นอน”ผมง่วงมากไม่คิดจะรอใครอยู่แล้ว รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่รีบกลับกันมาไม่รอให้ดึกกว่านี้



พอล้มตัวลงบนเตียงหัวถึงหมอนความเหนื่อยล้ามันก็แสดงอาการอย่างชัดเจน แต่โทรศัพท์ที่สั่นอยู่ข้างตัวทำให้ผมต้องหยิบขึ้นมาดู ไลน์ผมแจ้งเตือนรัวๆ มาจากกรุ๊ปของพวกไอ้เต้ มันคุยเรื่องไปเที่ยวกัน ตอนแรกตกลงกันได้แล้วแต่จองที่พักไม่ได้ พอไม่ได้ที่พักที่ต้องการเลยเปลี่ยนที่กะทันหัน ไอ้หมวยมันส่งที่เที่ยวมาให้ดูหลายที่ แต่ละที่สวยๆทั้งนั้น บางที่ก็อยู่ทางใต้ แต่จะไปทะเลใต้ช่วงนี้มันจะเจอมรสุมหรือเปล่า ผมไล่อ่านไปเรื่อยพวกมันคุยกันเยอะมากเกือบสี่ร้อยข้อความได้ จนสุดท้ายมันได้ข้อสรุปว่าจะไปเกาะกูดขากลับแวะค้างบ้านไอ้หมวยที่จันทบุรีสองคืนแล้วค่อยกลับกรุงเทพ พวกมันรอให้ผมยืนยันกลับไปอีกที ผมเปิดดูที่พักและที่เที่ยวที่ไอ้หมวยมันส่งมา เห็นว่าสวยและน่าสนใจดี คงได้รูปสวยๆกับมาเพียบเลยส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับไปก่อนจะปิดเครื่องชาร์จแบตแล้วนอนเสียที



   “อ้าว อาบเสร็จแล้ว?”พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นพี่เดียวมันเดินออกมาจากห้องน้ำใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว



   “อืม ทำไรอยู่เห็นจ้องแต่โทรศัพท์”



   “ดูที่เที่ยวอยู่ กลับไปแล้วจะไปเที่ยวกับพวกไอ้เต้ต่อนะ”



   “ไปไหนกัน?”



   “เกาะกูด ขากลับแวะบ้านไอ้หมวยที่จันท์ด้วยบ้านมันเป็นสวนผลไม้”



“แล้วจะไปเมื่อไหร่ กี่วัน ไปกันยังไง”



“ใจเย็นครับพี่ อะไรจะถามรัวขนาดนี้”ถามจนผมขำ



“พุธหน้า ไปอาทิตย์นึงอ่ะ ขับรถกันไปนี่แหละคงเอารถไอ้เต้ไปมั้ง”



“เอาฟอร์จูนเนอร์พี่ไปสิ คันใหญ่หน่อยจะได้นั่งกันสบายๆ ขนของได้เยอะ”



“เป็นความคิดที่ดี แล้วไม่ได้ใช้เหรอ”



“ทำงานก็ใช้อยู่แค่สองคัน”สองคันที่ว่าคือคัมรี่กับแอสตัน แต่แอสตันนี่จะงานสำคัญๆอย่างไปงานเลี้ยงหรือไม่ก็ออกเที่ยวกลางคืน เอาไว้ล่อสาว เหอะๆ



“งั้นขอน้ำมันเต็มถังด้วยดิ”



“หึ งั้นจะเอาไรมาแลก”มันนั่งลงข้างเตียงฝั่งที่ผมนอนอยู่ ยิ้มเลวเชียว แล้วทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยเนี่ย ฝั่งของตัวเองก็ว่าง ตอนแรกอาฝนจะจัดห้องให้มันนอนคนเดียวสบายๆ แต่ผมให้มันมานอนด้วยนี่แหละ เพราะรู้ว่ามันไม่ยอมนอนคนเดียวแน่ๆ



“โห่ ไรว้า ต้องแลกด้วยเหรอ แค่น้ำมันเอง”



“ไม่มีอะไรได้มาฟรี”



“จะแลกกับอะไร?”



“น้ำมันเต็มถังกับ...หนึ่งน้ำเป็นไง?”



“ไอ้หื่นนนนนนน”



“ฮ่าๆๆ หื่นบ้าอะไร มันเรื่องธรรมชาติ พี่ไม่ได้จ้องจะทำตลอดเวลาถึงมาว่าหื่นเนี่ย”



“ถ้าจ้องจะทำตลอดเวลานั่นเรียกบ้ากามแล้ว”



“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กน้อย เมื่อก่อนก็ทำข้ามวันข้ามคืนเลยไม่ใช่ไง”



เมื่อก่อนกับตอนนี้มันเหมือนกันที่ไหนวะ ลองมาแก้ผ้านอนคว่ำดูสิ พ่อจะทำมันสามเวลาหลังอาหารเลย แต่คิดอีกทีก็ขนลุกละ ผมไม่ได้พิศวาสประตูหลังไอ้พี่เดียวเลยสักนิด ส่วนไอ้เสาประตูด้านหน้ายิ่งแล้วใหญ่



“เดี๋ยวเติมน้ำมันเองก็ได้วะ”



“หึ พี่จะเติมให้ เดี๋ยวให้พ็อคเกตมันนี่ติดตัวไปด้วย...”



ก็นั่นแหละครับ จะปฏิเสธไปมันก็ไม่ฟัง จะเรียกให้ถูกคือปฏิเสธไม่ได้มากกว่าเพราะมันปิดปากผมด้วยปากมัน ตกลงคืนนี้จะได้นอนกี่โมงกี่ยามกัน



“อืม...”ทุกครั้งที่ได้จูบกันผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งถลำลึกลงไปทุกที เหมือนกับสารเสพติดที่ค่อยๆต้องการมันทีละน้อยๆแต่เสพติดมันในที่สุด



“พี่อยู่กับน่านเสมอนะ”



“?”



“จะดีใจ เสียใจ ทุกข์ใจอะไรมาก็ขอให้จำไว้ว่ายังมีพี่ที่พร้อมจะรับฟังทุกอย่างนะ”



“มาดึงซึ้งทำไมเนี่ย”แววตาของพี่เดียวอ่อนโยนแต่ก็ดูมั่นคง



“เปล่าสักหน่อย แค่อยากบอกให้รู้ แล้วก็อยากจะบอกอีกว่าอย่าเอาความรักของคนที่ไม่สมหวังมาตัดสินว่าความรักมันไม่ดีหรือไม่มีจริง”
“ความรักทำให้เจ็บปวด”ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคงกลัวจริงๆ ไมได้กลัวความรักแต่กลัวความเจ็บปวดและสูญเสียต่างหาก



“ความรักไม่ทำให้เจ็บปวดหรอก แต่อย่างอื่นต่างหากที่ทำให้เจ็บ...”นั่นไง ลากลงล่างอีกแล้ว แววตาอบอุ่นเปลี่ยนเป็นแพรวพราวเจ้าเล่ห์ เปลี่ยนไวยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี แต่เอาก็เอาวะ







ครั้งนี้ผม...ยอมเจ็บ

   
   




--------------------------------

อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วนะคะ

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-09-2017 22:40:13
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 14-09-2017 22:45:24
ไหนๆก็จะจบแล้วขอหสวีทหวานๆสักตอนเถอะค่ะ 555 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-09-2017 02:07:33
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 15-09-2017 04:25:01
น่านยอมเจ็บไปเถอะลูก เพราะเจ็บที่น่านผ่านมายังไงก็ผ่านจุดคุ้มค่าคืนทุนแถมกำไรมาแล้ว
คนเจ็บจริงๆแถมไม่รู้จะหาจุดแค่จะเสมอตัวได้เมื่อไรคงต้องไปรอถามพาย
นี่ป้าอ่านน่านไปยังหลอนถึงพายตลอดนะ ของน่านแค่เจ็บเล็กๆป้ายังสงสารขนาดนี้ :mew6:
เรื่องของพายป้าต้องใช้พลังใจในการอ่านขนาดไหนนี่  :o12:
รออ่านต่อนะคะ
ขอบคุณค่า^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-09-2017 09:43:33
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-09-2017 11:41:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 16-09-2017 14:04:53
้ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 19-09-2017 20:26:11
อยากให้แม่น่านเจ็บบ้าง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.38 P.16 || [14.09.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sarano123 ที่ 23-09-2017 06:28:42
รู้สึกค้างงงงง ละมุนใจมากกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ประกาศ!!! P.16 || [18.10.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 18-10-2017 09:00:39
ประกาศจากผู้แต่ง

ตอนต่อไปจะอัปเดตเดือน พ.ย. นะคะ
ขอโทษที่ให้รอกันนานเลย
ช่วงนี้จะขอแต่งเก็บเอาไว้ก่อนค่ะ
อดใจรอกันก่อนน้าาาา

 :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4:


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ประกาศ!!! P.16 || [18.10.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 18-10-2017 09:38:19
รอค่ะๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ประกาศ!!! P.16 || [18.10.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-10-2017 11:38:51
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ประกาศ!!! P.16 || [18.10.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-10-2017 11:43:15
รอ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 12-11-2017 20:28:37
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 39 -





   “วู้วววววววว~~~~ทะเลจ๋าพี่มาแล้ว”



   “เชี่ยๆ มึงดูนั่นๆ อื้อหือแม่ให้มาเยอะจังเลยคร้าบ ขาวด้วย”ไอ้โอ๊คมองสาวชุดบิกินี่สีฟ้าแบบเหลียวหลัง



   “ควาย มองโจ่งแจ้งไม่มีศิลปะเลยมึงเดี๋ยวเขาก็ด่าแม่มึงหรอก”




   “แหม พออาร์ตทิส เมื่อกี้ใครวะที่มองนมน้องคนนั้นจนแฟนเขาแทบจะเข้ามากระทืบ แล้วมาว่ากู”



   “กูไม่ได้มองนมเว้ย กูมองมะพร้าวที่น้องเขาถืออยู่ กูอยากกิน”



   “เหรอออออ”



   “พวกมึงจะเถียงกันอีกนานมั้ย ไอ้หมวยแม่งลงไปลอยคอในทะเลแล้ว”ผมยืนฟังไอ้โอ๊คกับไอ้เต้เถียงกัน พลางเหลือบมองไอ้คนตัวขาวที่ส่งเสียงร่าเริงเกินเหตุวิ่งถลาลงทะเลเหมือนเด็กน้อยทั้งที่มันก็อยู่ใกล้ชิดติดทะเลตั้งแต่เกิด มาทะเลก็บ่อยแทนที่จะเบื่อกลับชอบมาก



   “ปล่อยมันไป”



   “มึงรับปากผัวมันไว้ไม่ใช่เหรอว่าจะช่วยดูมันไอ้โอ๊ค นั่นๆ มีฝรั่งเข้าไปคุยกับมันแล้ว”คลาดสายตาแป๊บเดียวเป็นได้เรื่อง ช่วงนี้ฟีโรโมนเรียกเพศเดียวกันของไอ้หมวยทำงานหนักมาก หนุ่มๆเข้ามาจีบเหมือนแมลงวันตอมขี้ ก่อนปิดเทอมก็มีคนเข้าหาอยู่หลายคนแต่มาแค่แป๊บๆก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย โดนคนที่คุณก็รู้ว่าใครจัดการเรียบ



   “มึงก็ไปดิว้า”



   “มึงเป็นคนรับปากมึงก็ไป กูจะนอน”ผมถีบตูดไอ้โอ๊คจนมันเซไปข้างหน้าก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ชายหาดหน้าบ้านพักพร้อมกับน้ำสับปะรดปั่น ส่วนไอ้เต้มีน้ำมะพร้าวที่มันอยากกินหนึ่งลูกมาจิบแก้กระหาย พวกผมตกลงกันว่าทริปนี้จะงดแอลกอฮอล์ เหล้าเมื่อไหร่ก็กินได้ กินมาเยอะแล้วด้วย เลยงดเด็ดขาด ครั้งนี้มาเพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ชาร์จพลังให้เต็มที่ก่อนจะเปิดเรียนไปเจอกับขุมนรก เทอมสองเรียนหนักขึ้น เนื้อหาเข้มข้นมาพร้อมกับงานที่ถาโถมอย่างไม่ต้องสงสัย



   “โทรศัพท์มึงสั่น”พอไอ้เต้บอกผมเลยมองโทรศัพท์ที่เปิดเพียงระบบสั่นบนโต๊ะ คนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น



   “ว่างายยย”ผมแกล้งรับแบบกวนๆ ปลายสายเลยหัวเราะสองหึ ก่อนจะบอกว่าได้ถึงฝรั่งเศสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



ไอ้พี่เดียวมันบินไปกลับฝรั่งเศสบ่อยมากเหมือนบินไปกรุงเทพเชียงใหม่จนผมคิดว่ามันมีเมียมีลูกซ่อนอยู่ที่นั่น พอพูดไปเลยโดนโบกหัวมาหนึ่งที ก่อนจะได้รับคำอธิบายว่าดีไซน์เนอร์มือหนึ่งที่ออกแบบเครื่องประดับให้บริษัทมันเป็นคนฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเพื่อนของมันเอง อีกไม่นานก็จะมีคอลเลคชั่นใหม่ออกมา มันเลยต้องบินไปคุยงาน ไปคัดสรรเพชรพลอยเม็ดงามด้วยตนเอง ส่วนพี่เดียวเองก็ต้องออกแบบด้วยแต่เห็นบอกว่าน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้



ผมเห็นงานมันแต่ละอย่างก็เบ้ปากใส่อะไรจะเยอะแยะมากมาย จะทำให้เงินทองทับตัวตายเลยหรือไง พอถามมันก็ดันบอกว่าไม่อยากให้บริษัทที่ได้รับการสืบทอดต้องมาพังในมือตัวเอง ซึ่งผมก็เข้าใจได้ดีเลย เพราะตัวผมเองก็ตกอยู่ในสถานะนั้นเหมือนกัน ผมชอบการออกแบบแต่ไม่ได้การทำไร่ทำสวน แต่วันหนึ่งที่ผมต้องมารับผิดชอบผมก็จะทำให้เต็มที่ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันเพราะไม่อยากให้สิ่งที่พ่อสร้างมาต้องย่อยยับด้วยน้ำมือผม



“รีบทำงานแล้วรีบกลับมา”



“จะรีบกลับไปทำไม ตัวเองก็ลัลล้าอยู่ทะเล”



“ช่วยไม่ได้อยากไม่ว่างเอง เดี๋ยวเที่ยวเผื่อแล้วกัน”ผมจะถ่ายรูปไปเยอะ เอาไปอวดให้มันเจ็บใจที่พลาดของสวยๆงามๆไป



“ทำตัวดีๆอย่าวอกแวกไปกับสิ่งล่อตาล่อใจ”ทำมาเป็นรู้ทัน มีมาให้มองผมก็มอง แต่ไม่ได้คิดจะไปสานต่อหรือทำอะไร เข็ดแล้ว ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบในตอนนั้นเลยสักนิดเดียว



“บอกตัวเองด้วยนะ แค่นี้นะ เบื่อคุยด้วยเล่า”แค่รู้ว่ามันถึงอย่างปลอดภัยผมก็โอเคแล้ว



“เบื่อคุยด้วยเล่า”ไอ้เต้ๆ ผมวางสาย ก็ได้ยินมันพูดล้อเลียน ลอยหน้าลอยตาน่าถีบ



 “เดี๋ยวนี้มุ้งมิ้งนะมึงเนี่ย”



“มิ้งบ้านพ่อง”



“โห เล่นถึงพ่อกูเลยไอ้สัด แต่กูพูดจริงๆนะเนี่ย”



“กูก็ปกติป่ะวะ”



“ไม่อ่ะ มึงดูซอฟต์ลง แล้วก็เหมือนจะอ้อนๆขึ้นด้วย”ผมว่าผมปกตินะ แต่ที่เปลี่ยนอาจจะเป็นเพราะคุยดีๆกับพี่เดียวมากขึ้น แต่อ้อนนี่ไม่นะ ถ้าจะอ้อนก็อ้อนแต่อาฝนกับพี่แก้วนั่นแหละ



“กูไม่ไหวจะสู้รบด้วย อยู่กันแบบสงบๆอย่างนี้ก็สบายใจดี”ได้เพื่อน ได้พี่ ได้ที่ปรึกษา ชีวิตก็ดีขึ้นมานิดนึง หลังๆนี่ก็ประหยัดเงินได้เยอะ จะกินอะไรหรือซื้ออะไรมีป๋าออกให้ตลอดผมก็รับมั่งไม่รับมั่ง จะเอาเปรียบมันอย่างเดียวไม่ได้ บางอย่างผมก็ซื้อให้มันเหมือนกัน แต่ก็นานๆทีนะ



“หึหึ ส่วนไอ้เหี้ยโฟมจะวอร์กับพี่เขาทุกวัน”



“แต่ก็สู้เขาไม่ได้ไงเก่งแต่ปาก”ผมเห็นมันด่าพี่เขาทุกวัน แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ พอเขาดุก็ทำตาโตใส่ ปากขมุบขมิบสาปแช่ง



“จริง พอพี่เขามองมันนิดเดียวก็หงอเป็นลูกแมวเชื่องๆ”



   “เหมือนลูกแมวกับราชสีห์”



   “แล้วมึงอ่ะเหมือนอะไร”



   แล้ววกเข้าเรื่องกูทำไมเนี่ย!



   
   X




   “โหย ไอ้เชี่ย ทำไมมันดำขนาดนี้วะ”



   พวกผมเหลือบมองคนที่โวยวายก่อนจะหันกลับมาสนใจ ข้าวต้มทะเลอาหารเช้ามื้อสุดท้ายบนเกาะนี้ เวลาสี่วันสามคืนผ่านไปไวมากเหมือนผมเพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง พวกเราสนุกกันมาก ทำทุกกิจกรรมที่รีสอร์ทมี และกินอาหารทะเลทุกมื้อสะใจมากๆ



   “มึงดูแขนกูดิ”ยัง ยังไม่จบเดินมานั่งข้างผมแล้วก็ยื่นแขนให้ดู



   “มึงจะโวยวายทำไมเนี่ย มาทะเลก็ต้องดำเป็นปกติ”



   “แต่มันดำเกินไปแล้ว”



   “ก็ใครใช้ให้มึงเอะอะวิ่งลงทะเล เล่นเองดำเองมึงจะโทษใคร”ใครห้ามก็ไม่ฟัง เช้าลงทะเล บ่ายลงทะเล เย็นลงทะเล ไหนจะดำน้ำอีก ไม่ดำให้รู้ไป



   “บอกให้ขึ้นไม่ขึ้น ไม่อยากดำแล้วเสือกถอดเสื้อเล่นอีกต่างหาก รับกรรมของมึงไป”



   “พวกเชี่ย ดีแต่ซ้ำเติมกู”



   “แดกๆไปอย่าพูดมาก พูดไปก็ไม่ขาวขึ้นมาหรอกของมันดำไปแล้ว”ผมเลื่อนถ้วยข้าวต้มให้มัน รำคาญหูบ่นอยู่ได้ มันก็หน้าง้ำหน้างอแต่ก็ตักข้าวกิน ที่จริงมันไม่ได้ดำขึ้นเลยนะ แค่แดงนิดๆตามประสาคนขาว ส่วนผมเองไม่ค่อยได้ถูกแดดเท่าไหร่



หลังจากกินอิ่มพวกผมก็เช็คเอ้าท์แล้วเดินทางกลับจากเกาะ ตรงไปบ้านไม่หมวยไม่แวะที่ไหน ยิงยาวไปเพื่อไปกินมื้อเที่ยงฝีมือแม่ไอ้หมวยที่คุยนักหนาว่าอร่อยมาก แล้ววันนี้พี่สาวมันกลับมาบ้านพอดีเลยมีขนมอร่อยๆกินด้วย พี่สาวไอ้หมวยเปิดร้านเบเกอร์รี่อยู่ที่สัตหีบ สามีเป็นทหารเรือ นานๆกลับบ้านที



   สองชั่วโมงกว่าๆที่ผมเหยียบมาในที่สุดก็มาถึงบ้านไอ้หมวย ทางเข้าบ้านมันมีต้นไม้ที่คาดว่าจะเป็นผลไม้สักอย่างสลับกับต้นอินทนิลจนถึงประตูรั้ว มันลงไปเปิดประตูให้ผมขับรถเข้าไปจอดที่ลานหิวกรวดกว้าง พวกเราขนของลงจากรถแล้วมองไปรอบๆ ตรงหน้าผมคือบ้านไม้ทั้งหลังยกใต้ถุนสูง ด้านล่างก่อปูนเป็นห้องครัวกินพื้นที่หนึ่งในสาม นอกนั้นก็มีชุดรับแขกไม้สักตั้งอยู่ และมีโต๊ะกินข้าวอยู่หน้าครัว บริเวณพื้นที่หน้าบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน ด้านขวามือเป็นสระบัวมีศาลาไม้ยื่นลงไปในน้ำ มองเห็นบัวกอใหญ่ลอยเหนือผิวน้ำหลายกอ มีเรือลำเล็กผูกอยู่กับบันไดศาลา รอบสระมีต้นมะพร้าวไม่สูงมากปลูกเรียงกันอยู่



   “หวัดดีค้าบ”พวกผมยกมือสวัสดีแม่ไอ้หมวยที่ออกมาต้อนรับ ใครเห็นครั้งแรกก็รู้ได้ทันทีว่าสองคนนี้เป็นแม่ลูกกัน ถอดแบบออกมาเหมือนกันเปี๊ยบ เพียงแต่แม่ไอ้หมวยจะดูอวบๆเจ้าเนื้อตามประสาคนมีอายุ



   “ม๊าอ้วนขึ้นป่ะเนี่ย”ไอ้หมวยมันเข้าไปนัวเนียแล้วบีบพุงแม่มันเล่น



   “เอ๊ เรานี่ทักผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง เดี๋ยวตีตายเลย”



   “แหย่เล่นน่า มีน้ำมีนวลแบบนี้ดีแล้วกอดถนัดมือดี”



   “หึ ชอบกอดแบบมีน้ำมีนวลแล้วไหงถึงได้แบบนั้นมาฝากม๊าล่ะ”แม่ไอ้หมวยพยักหน้าไปด้านบนทำให้เห็นว่ามีอีกคนยืนอยู่ เชรดดดด เปิดตัวกันแล้วเหรอวะ ทำไมหนุ่มสุดเซอร์จากสถาปัตย์ถึงมายืนเท่บนบ้านไอ้หมวยได้ พวกผมได้แต่มองหน้ากัน ส่วนไอ้หมวยยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจแล้วเดินเข้าครัวไป ทิ้งให้แม่มันส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะหันมาพูดกับพวกผม



   “หนุ่มๆเอาของขึ้นไปเก็บบนบ้านไปลูก เดี๋ยวให้เจ้าเงาะพาไป เงาะ เงาะเอ๊ย พาพี่ๆเขาไปที่ห้องหน่อยลูก”



   ‘เจ้าเงาะ’ ที่ว่าโผล่หน้ามาจากในครัวได้ยินเสียงตำโป๊กตั้งแต่มาละ ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายตัวดำถึกบึกบึนแบบเจ้าเงาะรจนาเสียอีก ที่ไหนได้เป็นเด็กผู้ชายตัวขาวจั๊วะหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูแล้วน่าจะอยู่ม.ต้น



   “สมชื่อเงาะจริงๆว่ะ”ไอ้เต้ยิ้มมองตาพราว เจอของถูกใจสินะ



   “ยังไงวะ”



   “ก็ขาวเหมือนเนื้อเงาะไง อยากรู้จะหวานมั้ย โอ๊ย! เชี่ยน่านตบหัวเพื่อ?”



   “เก็บหูปิดฝาให้ดีอย่าหน้าม่อนักมึง ดูด้วยว่านั่นอ่ะเด็ก คุกๆๆ มึงรู้จักมั้ย”



   “เชี่ย กูยังไม่ได้คิดอะไรเลย แค่บอกว่าน้องมันขาวสมชื่อ”



   “อมวัดมาพูดกูก็ไม่เชื่อ”ไอ้โอ๊คก็คิดเหมือนผม สันดานเป็นยังไงรู้ๆกันอยู่



   “หวัดดีฮะ พี่ๆตามผมมาทางนี้เลยฮะ”เด็กน้อยเชื้อเชิญอย่างมีมารยาท เสียงพูดก็นิ่มๆ ยิ้มก็หวาน ดูน่ารักมุ้งมิ้งจนจั๊กจี้หัวใจ เหมาะจะเป็นรจนามากกว่าเจ้าเงาะจริงๆ แต่ระหว่างนี้คงต้องระวังไอ้เต้ให้ดีๆ อย่าเผลอเชียวเดี๋ยวมันได้แกะเนื้อเงาะชิม งานนี้ไปนอนคุกข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ
   



X




   “โอ่ยยย”



ผมทิ้งตัวลงบนโซฟา รู้สึกเหมือนร่างจะแหลก เหน็ดเหนื่อยกับการขับรถมาก ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนกันขับแต่ไปๆมาๆผมก็เหมาคนเดียวหมด เห็นพวกมันหลับกันแล้วก็ขี้เกียจปลุก ตอนไปสี่คนแต่ตอนกลับเหลือแค่สาม ไอ้หมวยมันอยู่บ้านต่อ แน่นอนว่าพี่ไวท์ต้องอยู่เฝ้า ดูเขาเข้ากันได้ดีกับครอบครัวของไอ้หมวยไม่มีใครตั้งแง่รังเกียจการรักชอบเพศเดียวกัน ทั้งที่สังคมต่างจังหวัดไม่ค่อยเปิดรับเรื่องทำนองนี้สักเท่าไหร่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดี



ค้างบ้านไอ้หมวยสองคืนรู้สึกเหมือนน้ำหนักจะขึ้นเพราะอาหารการกินมีไม่ขาดมากกว่าสามมื้อ แถมยังมีผลไม้ไม่ซ้ำให้กินทุกมื้อ อุดมสมบูรณ์มาก พพี่สาวไอ้หมวยทำขนมมาให้กินอีก คือกินกันจนกระเพาะย่อยไม่ทันอ่ะครับ พี่สาวไอ้หมวยสวยมาก หน้าหวานๆมองดูคือไอ้หมวยฉบับผู้หญิงจริงๆ ตอนกลับยังฝากขนมให้เอากลับมากินอีก ผลไม้ก็เต็มรถ กินเองไม่หมดต้องแจกบ้างไม่งั้นเน่าแน่ๆ



ผมวนส่งไอ้เต้กับไอ้โอ๊คเสร็จแล้วก็กลับมาตายที่บ้าน ข้าวของยังอยู่บนรถไม่มีแรงจะขนลง ขอหลับสักตื่นแล้วค่อยมาจัดการแล้วกัน แอร์เย็นๆโซฟานิ่มๆไม่นานสติผมก็หลุดลอย



“อื้อ...อ๊ะ”



เฮือก!



 ผมลุกขึ้นนั่งตาเหลือก ความรู้สึกเมื่อกี้เหมือนกำลังจะตาย หายใจไม่ออก มันหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับบนอก แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามีอะไรดุ๊กดิ๊กอยู่บนตัก พอก้มลงมอง....เชี่ยยยยยย



“น่าร้ากกกกกกกกกกกก”ผมจับไอ้ตัวเล็กที่ล่วงไปกองบนตักขึ้นมาอุ้ม มายังไงวะ โคตรของโคตรน่ารัก หน้าตาแบบนี้ หูแบบนี้ และขาสั้นๆอันเป็นเอกลักษณ์แบบนี้ คอร์กี้!



“กูว่าแล้วว่ามึงต้องชอบ”



“สัดพาย!”ผมตกใจหันขวับไปมองมันที่นั่งยองจ้องผมอยู่ มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย



“มึงมาตอนไหน?”



“สักพักละ กูกลับจากทำงานก็เห็นมึงนอนอยู่เนี่ย จนทำกับข้าวเสร็จมึงก็ยังไม่ตื่น”



“แล้วนี่?”ผมจับไอ้ตัวเล็กชูขึ้นมาอีกรอบ มันแลบลิ้นยาว ขาสั้นๆก็กระตุกยิกๆ ตามันแวววาวมาก โอ่ย น่ารักโว้ย!



“มีคนให้มา”



“ใคร?”



“คนที่กูคุยๆอยู่”



“งั้นไอ้นี่ก็ของรักแทนใจ?”



“ประมาณนั้นอ่ะ”



“ได้กันยัง?”



“เห็นกูเป็นคนยังไงวะ ถึงจะอดอยากมานานแต่กูก็ไม่ได้ง่ายนะเว้ย”



“ดูกันไปยาวๆ มึงเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว บางคนเขาอาจจะเข้าหาแบบไม่บริสุทธิ์ใจ”



“กูรู้ ขอบใจที่เป็นห่วง”



“ถามใหม่แค่คุยจริงๆหรือว่าคบกันแล้วแต่เสือกตอบแบบดารา”เดี๋ยวนี้ฟังอะไรต้องคิดให้ลึก ยิ่งพวกคำตอบของดารานี่ยังตีความ



“แค่คุยเว้ย”



“แค่คุยแต่ก็ได้ไอ้นี่มาซะแล้ว”ถ้าคบกันจริงๆ มันจะได้ตัวอะไรมาอีกมั้ย



“เขาซื้อให้มาแล้วกูก็ต้องเลี้ยง ว่าจะถามมึงก่อนเหมือนกัน แต่เห็นหน้ามันแล้วกูคิดว่ามึงต้องชอบแน่ๆไม่น่ามีปัญหาเลยไม่ได้ถาม”



“เออ กูชอบน่ารักดี แต่หมามึง มึงต้องอยู่เลี้ยงด้วยนะ”ต้องดักคอมันไว้ก่อน เพราะมันไม่ค่อยอยู่บ้าน ถ้าจะเลี้ยงจริงๆก็ต้องดูแลจะทิ้งให้เป็นหน้าที่ผมไม่ได้ เพราะเปิดเทอมมางานเยอะแน่นอน ยิ่งเรียนยิ่งเข้มข้นงานก็หนักหน่วง



“ถ้ากูอยู่กูก็เลี้ยงไง ถ้าไม่อยู่ก็ต้องเป็นมึงแล้วล่ะ”



“สัด!”มีแววว่าจะเป็นมากกว่าที่ต้องเลี้ยง เป็นภาระเลยทีนี้จะไปไหนแต่ละทีก็ต้องมาคอยห่วงไอ้หมานี่


 
“แล้วมันชื่ออะไรวะ?”



“ออร์ดี้”



“โอ้โหชื่อดีมีคลาสนะมึงเนี่ย”จับเขย่ามันเบาๆ



“แอ้ก!”เสียงตอบรับแบบหมาเด็กโคตรตลก



“มันชอบมึงๆ”ไอ้พายหัวเราะใหญ่ ผมมองด้วยหางตา จะประเหลาะให้เลี้ยงสิไม่ว่า เอาเถอะมีหมาก็ดีบ้านจะได้ไม่เงียบเหงาแต่อาจจะปวดหัวแทนเพราะความซนของมัน เคยเห็นในคลิปไอ้พันธุ์นี้มันซนมากด้วยนะ



“มึงไปขนของบนรถลงมาดิ แม่ไอ้หมวยให้ผลไม้มาเยอะเลย มีพวกของทะเลแห้งด้วยกูซื้อมากิน”ผมโยนกุญแจให้มันแล้ววางไอ้เตี้ยลงบนพื้นมันใช้ขาสั้นๆตะกุยพื้นวิ่งไปหาเจ้านายของมันที่เดินไปทางหน้าบ้าน ผมขึ้นมาอาบน้ำให้สดชื่นแต่ยังไม่ทันได้แต่งตัว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เหลือบมองนาฬิกาที่วางอยู่ตอนนี้ก็สองทุ่มแล้ว หลับไปนานเหมือนกันมิน่าถึงได้หิวมาก



“อยู่ไหนแล้ว”



“บ้านดิ”ผมกรอกเสียงลงไป มือก็หยิบกางเกงในขึ้นมาใส่ แต่ไม่ค่อยถนัดเพราะใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์คุยไปด้วย



“เหนื่อยหรือเปล่า พอมีแรงอยู่มั้ยเนี่ย”



“ก็เหนื่อยนิดนึง ทำไมอ่ะจะชวนไปไหน”เพลียๆ ถึงจะนอนไปแล้วแต่ก็ยังอยากนอนอีก ดีที่ไอ้พายปลุกขึ้นมาไม่งั้นคงนอนตื่นเที่ยงคืนขึ้นมาหิวก็ลำบากต้องมาทำอะไรกินดึกๆดื่นๆอีก



“ร้านไอ้เสก พวกเพื่อนพี่นัดกัน”



“แล้วจะเอาผมไปด้วยทำไม”



“อยากเจอ คืนนี้มานอนคอนโดพี่นะ”



“แล้วไมไม่มานอนที่บ้านอ่ะ”ปกติก็มานอนจนจะเป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว



“มีอะไรจะให้ดูด้วย”



“อะไร?”



“เถอะน่า”จะให้ดูอะไรวะ ทำไมต้องลีลา ผมมองนาฬิกาอีกทีก่อนจะตัดสินใจรับปากไป ออกไปเจอแสงสีบ้างก็ดี อีกอย่างได้กินฟรีแน่ๆถ้าไปนั่งกับพวกพี่มัน ผมแต่งตัวเสร็จก็ลงมารอข้างล่าง ไอ้พายตั้งโต๊ะเสร็จพอดี มีปลาหมึกแห้งที่ผมซื้อมาไอ้พายจัดการทอดอย่างรวดเร็วแกล้มกับแกงส้มที่มันทำไว้ เห็นแล้วน้ำลายสอ ไม่รอช้าเข้าประจำที่ให้ไอ้พายตักข้าวให้



“จะไปไหนวะ?”



“ร้านเฮียเสก”



“กับพวกไอ้เต้?”



“หึ กับพี่เดียว”



“อ่อ คืนนี้จะกลับบ้านมั้ย?”



“ไม่กลับ มึงล็อกบ้านเลย”



“ถามจริง หลังจากคบกันมึงนอนกับพี่เขายังวะ”



“ก็นอนด้วยกันบ่อยๆ”



“กูหมายถึงมีอะไรกันอ่ะ อย่ามาทำไร้เดียงสา”



“ถามส้นตีนอะไรเนี่ย”



“อย่ามาหน้าบาง ตอบๆมา”



“ไม่เสือกดิเพื่อน”



“แบบนี้แสดงว่ายังอ่ะดิ หึหึ ทำไมว้าไม่ติดใจเหรอ หรือว่าพี่เดียวไม่เด็ด แต่กูว่าน่าจะเผ็ดอยู่นะ”



“แดกๆไปพูดมากอยู่ได้”เผ็ดบ้าเผ็ดบออะไรวะ



“แล้วสักวันมึงจะต้องพึ่งกู”มันเอาช้อนชี้หน้าก่อนจะกินข้าวต่อ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะต้องพึ่งอะไรมันในเรื่องแบบนี้ เพ้อเจ้อไปเรื่อย



“มึงดูที่กูส่งไลน์ไปให้ดิ”



ตอนนี้อิ่มแล้วผมมานั่งดูละครหลังข่าวระหว่างรอพี่เดียวที่กลับคอนโดไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยมารับผม ไอ้พายมานั่งข้างๆ นั่งแชทนั่งเล่นเกมไปเรื่อย บนตักมีสมาชิกใหม่ของบ้านนอนหลับพริ้ม กินอิ่มนอนหลับอนาคตมึงกลายร่างเป็นหมูแน่ๆ



“ส่งไรมา”



“ดูๆ”



ผมจิ๊ปากแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันส่งมาสามสี่ข้อความ เป็นลิงค์ของเว็บไซต์พอจิ้มขึ้นมาดูก็แทบจะปาโทรศัพท์ใส่หน้ามัน



“ส่งเชี่ยไรมาเนี่ย!”



“มันจำเป็น กูไม่ได้กวนตีนเลยนะเนี่ย”ผมเลื่อนอ่านคร่าวๆแล้วก็รู้สึกแปลกๆ



“ยังไงเรื่องพวกนี้ก็หนีไม่พ้น แล้วมึงก็ไม่เคยด้วย อ้อ เคยแล้วสินะแต่ก็ครั้งเดียวถือว่าประสบการณ์เป็นศูนย์ มันมีเรื่องที่มึงควรรู้จะได้ปฏิบัติตัวถูก”



“คบกันใช่จะต้องทำเรื่องอย่างว่า”เดี๋ยวผมจะชวนพี่เดียวไปเตะบอล เข้าวัดฟังเทศน์ สนทนาธรรมกับหลวงพ่อ ปล่อยนกปล่อยปลา ปั่นจักรยาน จะได้ไม่หมกมุ่น



“ถุย”มันทำหน้าเหยียดหยามผมมาก ทำเป็นรับสิ่งที่ผมพูดไม่ได้



“อยากจะปลอบใจยังไงก็เรื่องของมึงเถอะ ชี้ทางสว่างให้แล้วก็ไม่เอา”



ผมผลักหัวมันไปที สาระแนนัก ผมรู้ดีว่ามันหนีไม่พ้นหรอกเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะต้องเตรียมตัวอะไรเลยนี่หว่า แค่เตรียมใจให้พร้อมก็พอ ซึ่งไม่อยากพร้อมเลย



“กูไปละ”ไลน์พี่เดียวมันขึ้นเตือนมาพอดี บอกว่าจอดรอหน้าบ้านแล้ว เดี๋ยวนี้มันไลน์มาบ่อยๆ ส่งรูปส่งสติ๊กเกอร์ เหมือนคนเห่อของใหม่ คือปกติมันไม่ค่อยตอบใคร ได้แต่อ่านๆ เลื่อนผ่านไปเพราะมันงานเยอะ แต่หลังจากที่คบกันมันก็เริ่มติด จะต้องส่งอะไรมาหาผมเกือบทุกชั่วโมงแม่งบ้ามาก



“เออ ขอให้สนุกสุขสันต์วันเข้าหอ มึงไม่รอดแน่ๆคืนนี้”



ผมยกนิ้วกลางให้ไปหนึ่งทีถ้วน แล้วเดินมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ พอเห็นคนขับแล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจด้วยความแปลกตา



“ผมยาวไปมั้ย?”ไม่เจอกันแค่อาทิตย์เดียวเองนะ



“ก็ว่าจะไปตัดอยู่ แต่มันก็ยาวจากที่เจอครั้งก่อนไม่มากนะ สงสัยพี่ไม่ได้เอาผมขึ้น”



“ก็จริง”มลองเอามือจับๆผมพี่เดียวดูก็นิ่มดีหรอกนะ แต่ยาวๆแบบนี้ไม่โอเคเท่าไหร่ หน้าดูโทรมด้วย



“พรุ่งนี้หยุดนี่ไปตัดผมด้วยนะ”



“ไปด้วยกันดิ”



“ก็ได้ อยากทำสีใหม่เหมือนกัน”



“ไม่ต้องทำ สีนี้ดีแล้ว พี่ชอบ”



“เบื่อ”



“ถ้าจะทำก็ไม่เอาสีเงินๆนั่นนะ แรงเกินไป”สีตอนที่ผมทำช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ เป็นช่วงที่เจอมันตอนแรกเท่จะตายแรงเริงอะไรกัน



“งั้นแดงนะ”แล้วพี่มันก็มองแรงใส่ผม อะไรว้า แดงไม่ดีตรงไหน นักร้องเกาหลีเขาทำกันเยอะแยะไป นักร้องไทยยังทำผมชมพูเลย เขียวก็มี ผมก็ออกจะหน้าตาดี ทำสีไหนก็ผ่านฉลุยอยู่แล้ว





X





ผมมาถึงเพื่อนๆพี่เดียวก็พร้อมหน้ากันที่โต๊ะประจำของพวกพี่เขาอยู่แล้ว พอเห็นหน้าผมก็พากันหยุดกิจกรรมทุกอย่างตั้งท่าจะแซว แต่โดนพี่เดียวชี้หน้าไว้ก่อน ก็เลยไม่มีใครขยับปากพูดอะไร แต่ก็เว้นไว้อยู่หนึ่งคน



“มาคุมไอ้เดียวมันหรือไง”



“เพื่อนพี่เป็นนักโทษเหรอ”จากที่ไปบ้านผม ก็เลยเริ่มคุ้นเคยกันจนพอรู้ว่าพี่ทักษ์เป็นคนยังไง



“เอ้า ไอ้นี่กวนตีนกูละ”



“เปล่าเลยพี่ แค่ถามว่าเพื่อนพี่เป็นนักโทษเหรอแค่นั้นเอง ประโยคคำถามครับไม่ใช่ประโยคกวนตีน”พอผมพูดจบพวกพี่ๆเขาก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่



“กูว่ามึงเงียบๆไปเหอะไอ้ทักษ์ นั่งส่องนมไปแบบเดิมก็ดีแล้ว”พี่บอสว่า ส่วนคนที่ไม่มีใครเข้าข้างก็ได้แต่จิ๊ปากแล้วหันไปส่องสาวตามเดิม



พี่เดียวดึงให้ผมนั่งลงข้างมัน พี่ยอดจัดการชงเหล้าให้ ตอนนี้ผมเริ่มไม่ค่อยอยากเท่าไหร่ ทั้งที่ตอนนั่งรถมาก็ตั้งใจว่าจะเอาให้เมาสักหน่อยพรุ่งนี้ตื่นสายได้ อีกอย่างมีคนขับรถจะเมาแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวล แต่พอมาถึงเห็นแก้วเหล้าวางตรงหน้ากลับไม่อยากซะงั้น




(มีต่อ)



.


.


.
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 12-11-2017 20:29:17
(ต่อ)



.



.



.




พวกพี่ๆเขาก็คุยกันไป มีพี่ยอดหันมาคุยกับผมบ้างแต่สักพักก็ได้เหยื่อเลยลุกออกไป ไอ้พี่เดียวมันหายไปไหนไม่รู้เห็นมีเด็กเสิร์ฟมากระซิบอะไรสักอย่าง ผมไม่มีอะไรทำไม่รู้จะคุยอะไรกับคนอื่นด้วย เลยนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย รู้สึกเซ็งที่ไม่ปฏิเสธพี่เดียวไป ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงได้หลับไปหลายตลบแล้ว เซ็งมากถึงขั้นอ่านเว็บที่ไอ้พายส่งมา เหมือนเปิดโลกใหม่ ก้าวไปสู่ดินแดนสนธยา ได้แต่ร้องด่าอยู่ในใจกับโลกที่ผมเหยียบย่างเข้ามา ไอ้ที่เคยโดนมามันแทบจะลืมเลือนไปแล้ว แต่พอได้มาอ่านก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอีกครั้ง



“เห้ย!”ตกใจหมด อ่านอยู่ดีๆก็โลกมืด มีคนมาดึงฮู้ดที่ผมดึงขึ้นมาคลุมหัวลงจนปิดตา



“อ่านอะไรจ้องขนาดนั้นเสียสายตาหมด”ไอ้พี่เดียวมันกลับมาก็บ่นทันที ไม่ให้ผมอ่านก็อย่าทิ้งกันไปดิวะ ถึงผมจะเจอกับพวกเพื่อนมันบ่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าจะมีเรื่องอะไรให้คุยนักหนา เหล้าก็ไม่ค่อยได้กิน สาวก็ส่องไม่ได้เพราะเดี๋ยวเพื่อนมันเอาไปฟ้อง



“อ่านไปเรื่อย”



“ไม่สนุกหรือไง ไม่เห็นดื่มเลย แก้วนี้ยุงลงไปวางไข่แล้วมั้ง”



“ไม่อยากอ่ะ”



“ไม่อยากก็ดีละไม่เสียสุขภาพ”โอ้โห อย่าพูดถึงเรื่องสุขภาพ มันเสียต้องแต่ชวนมาแล้วมั้ย แต่ผมก็ไม่เห็นไอ้พี่เดียวมันดื่มเท่าไหร่ ก่อนที่มันจะหายตัวไปก็แค่ยกจิบสองสามครั้งเอง



“ไปไหนมา”



“ไปคุยงานกับไอ้เสกที่ห้องทำงานมัน”



“อ่อ”



“ถ้าไม่ดื่มก็กลับกัน”



“อือ”



พี่เดียวมันบอกกับเพื่อนว่าขอกลับก่อนก็ไม่มีใครรั้งไว้ แต่มองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์กันทั้งนั้น มองอะไรกันครับพี่! ผมยกมือไหว้แล้วเดินออกมาก่อนไม่อยากอยู่เป็นเป้านิ่ง พอมาถึงรถพี่เดียวก็ตามมาติดๆ



“หิวมั้ย จะแวะซื้ออะไรเข้าไปกินป่ะ”



“ไม่เอาอ่ะ”รู้สึกง่วง อยากนอนมากกว่า พอผมตอบ พี่เดียวเลยยิงยาวถึงคอนโด ห้องมันสะอาดสะอ้านเหมือนไม่ได้ใช้งานเหมือนเดิม ผมตรงเข้าห้องนอน ถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้พี่เดียวมันวุ่นวายอยู่ในครัวไป



“อ้าว อาบน้ำแล้วเหรอ?”



พอออกมาก็เห็นพี่เดียวมันนั่งอยู่บนเตียงมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างตามตัวมีน้ำเกาะพราว ผมว่าก็ไม่ได้อาบนานนะ แต่ไอ้พี่เดียวไวกว่า



“อาบจริงป่ะเนี่ย”



“อาบจริง”มันตอบพร้อมกับกลั้วหัวเราะเพราะผมมองมันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อสุดๆ



“ห้องน้ำห้องนอนเล็กซ่อมแล้วพี่เลยไปอาบในนั้น พี่เพิ่งอาบไปตอนหัวค่ำเอง ออกไปแป๊บเดียวยังไม่ทันสกปรกหรอก ไม่ต้องอาบนาน”


“งั้นก็ไปแต่งตัวดิ”มานั่งอวดหุ่นอยู่ได้ เพิ่งสังเกตว่ามันเอาไวน์มานั่งจิบด้วย อารมณ์ไหนวะ



“หยิบให้หน่อย”มันบอก ผมไม่ได้ว่าอะไรเพราะจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอยู่แล้ว



“เห้ย!”สะดุ้งสิครับ จู่ๆมันก็เข้ามากอดจากข้างหลัง เนื้องี้แนบเนื้อเลย เพราะผมก็มีแค่ผ้าขนหนูปิดส่วนล่างไว้ หลังสัมผัสกับแผ่นอกเรียบตึงคนด้านหลัง น้ำจากตัวมันก็มีเปียกตัวผมที่เช็ดจนแห้งไปแล้วรอบนึง



“อื้อ ทำไรวะ”ขนลุกขึ้นมาทันที มันจูบที่ไหล่ไล่มาถึงคอ โอ่ย มาอิหรอบนี้สงสัยจะสมพรปากไอ้พาย



“หอม”เสียงพร่าดังอยู่ข้างหู มือก็เริ่มลูบจากด้านข้างอ้อมมาจนถึงด้านหน้าผมเกร็งตัวทันที เมื่อฝ่ามืออุ่นลูบเบาๆที่หน้าท้อง มันวูบวาบไปทั้งตัว ใจเต้นตึกตัก



“พะ...พี่ เดี๋ยวก่อนๆ”ผมต้องเบรกมันไว้ก่อน อยากจะบ้า จู่ๆก็มาทำอะไรแบบนี้ แถมไม่พูดไม่จา กลัวนะเว้ย!



“ไม่ได้เหรอ”มันทำเสียงผิดหวัง มือที่ยุ่มย่ามกับตัวผมก็ทำท่าจะละออกไปจนผมต้องคว้ามันไว้ที่เดิม แต่มันจะเหมือนดูว่าผมว้อนท์ป่าววะ แต่ช่างมันก่อน



“คือ ตกใจเฉยๆ จู่ๆก็มาทำ อะไรวะพี่ไม่ได้ตั้งตัวเลย”



“ก็แค่อยากทำ อยากกอด อยากทำต่อจากวันนั้น”



อ่า...วันนั้น...หมายถึงคืนสุดท้ายที่ไร่ คืนนั้นผมรู้ดีเลยว่าถ้าปล่อยไปมันต้องไปไกลแบบกู่ไม่กลับ ตอนนั้นผมก็คล้อยตามมันไปง่าย ในหัวไม่ได้คิดอะไร เหมือนตัดสินใจแบบคนที่อยู่ตรงหน้าผาแล้วคิดว่าเป็นไงเป็นกันแล้วก็กระโดดลงไปทันที แต่ที่มันไปไม่ถึงไหนเพราะไอ้พี่เดียวมันตัดโอกาสตัวเองด้วยการจามแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบ จนอารมณ์กระเจิงกันไปทั้งคู่



“วางแผนไว้แล้วดิ”ดูมันพร้อมรบมาก อาบน้ำรอ บิ๊วด้วยไวน์ ให้ทายว่าล้วงไปใต้หมอนมันต้องเจออุปกรณ์ประกอบกิจกรรม



“ตอนแรกก็ไม่ แต่พอมาถึงห้องแล้วก็คิดว่าทำดีกว่า”



“ไม่ถามกันสักคำ”



“ถามอยู่นี่ไงว่าได้มั้ย”ไม่ถามธรรมดานะ เสียงโคตรอ้อน มือก็ไม่อยู่นิ่งเลยแทบจะล้วงเข้าไปใต้ผ้าขนหนู มาถึงขั้นนี้แล้วยังไงก็ต้องให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น คือยังไงดีล่ะ มนุษย์เพศผู้อย่างผมนี่ก็ต้องการเรื่องอย่างว่าอยู่นะ แล้วผมคบกับพี่เดียว รู้ตัวแล้วว่ารู้สึกยังไงกับมัน จะไม่ให้ทำกับมันแล้วจะไปทำกับใคร



“ถ้าทำผมเจ็บพี่อดยาวๆแน่ จะไม่ให้ทำอีกเลย”ขู่มันไว้ก่อน



“คุณครับ ครั้งแรกๆมันต้องมีเจ็บกันบ้าง หยวนหน่อยนะ สัญญาเลยว่าจะพยายามเบาที่สุด”



นี่เราคุยเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องมีการต่อรอง แต่ก็ยังดีที่เอาความจริงมาพูดกันมันไม่พยายามปลอบใจผมว่ามันจะไม่เจ็บเหมือนในนิยาย ใครบ้างจะไม่เจ็บ ยิ่งเจอไอ้พี่เดียวที่เป็นลูกครึ่งเข้าไป คนที่ชอบซาดิสม์เท่านั้นแหละที่จะปลาบปลื้มยินดี แค่คิดอารมณ์ก็เหือดหาย กูจะตายมั้ย...



“ดูทำหน้าเข้า เชื่อใจพี่ดิ”



“เออแม่ง”



“หึหึ งั้นก็ไม่ต้องหาเสื้อแล้ว ยังไงก็ไม่ได้ใส่”



ครับ ไม่ได้ใส่ แล้วไอ้ที่ใส่อยู่ชิ้นเดียวก็ถูกปลดลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็วผมคว้าไว้ไม่ทัน แต่มืออีกคนนั้นไวมากจับของกลางผมไว้เป็นตัวประกันเพื่อไม่ให้ผมเปลี่ยนใจ เสียววูบไปทั้งตัว ไอ้ลูกชายก็ห่างหายเรื่องนี้มานานมันก็สู้มือทันทีไม่ไว้หน้าพ่อมันบ้างเลย มือพี่เดียวใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ผมเลยคล้อยตามไปง่ายๆ เผลอตัวทิ้งน้ำหนักใส่พี่เดียวไปทั้งตัว หัวหนุนไหล่คนด้านหลังพอดี เปิดโอกาสให้จมูกโด่งซุกไซ้ลงมาที่ลำคอ ตอหนวดสั้นๆสีไปมารู้สึกจั๊กจี้และเสียววูบแปลกๆ



“อะ....”ขึ้นรอยแน่ๆดูดแรงขนาดนี้ กัดอีกต่างหาก เสียงจุ๊บดังข้างๆหูทำเอาหน้าร้อน แต่ไม่เท่ากับที่มืออีกข้างย้ายมาบีบคลึงที่สะโพกคล้ายจะมันเขี้ยว โดนไปทั้งหน้าและหลัง ขาสั่น...



“ไปที่เตียงเหอะ”ผมบอกเพราะไม่ไหวแล้ว จะยืนไม่อยู่ อีกอย่างผมไม่อยากโดนตรงนี้ หน้าตู้เสื้อผ้า ไม่อยากถูกทำในท่านี้หรือบนพื้นแข็งๆ ขอแบบเบสิกก่อนอย่าเพิ่งผาดโผนหรือวิบาก เหมือนจะขำแต่ตอนนี้ผมโคตรเครียดเลย



พี่เดียวมันทำตามที่ผมขอ พอถึงเตียงมันก็ดันให้นอนลงและตามมาทาบทับทันที ผ้าขนหนูของมันก็กองอยู่ที่เดียวกับผมนั่นแหละ อาวุธก็พร้อมทำงานมากๆ เมื่อกี้ผมถึงได้ขอให้มันเปลี่ยนที่เพราะโดนจี้ระยะประชิด



“หน้านิ่วคิ้วขมวด อย่าเครียดดิ”มันเย้ายิ้มๆ ลองมาเป็นกูดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่ามันสมควรเครียด!



ฟอด...



เอาเข้าไป! คือจูบยังไม่เขินเท่ากับถูกหอมแก้มเลยนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยิ่งเห็นมันยิ้มเอ็นดู ผมยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กน้อย ใบหน้าที่ค่อยๆเคลื่อนลงมาจนปลายจมูกจนชนกันทำเอาการมองเห็นพร่าเบลอ



รสชาติของน้ำองุ่นหมักถูกส่งผ่านริมฝีปากและปลายลิ้น มันเริ่มด้วยจูบนุ่มๆ เชื่องช้า เหมือนกับต้องการให้ผมละเลียดชิมความหอมหวานทีละนิดจนเริ่มเมาไปกับจูบที่ยาวนาน



“อืม...อะ”พอได้เป็นอิสะก็ต้องรีบหายใจเข้าปอด ริมฝีปากร้อนก็เคลื่อนย้ายไปยังจุดหมายใหม่ พี่เดียวมันทำเหมือนร่างกายผมเป็นขนมหวาน เที่ยวชิมไปทั่ว แต่บริเวณที่มันชอบมากที่สุดคงจะเป็นไหล่ด้านขวาทั้งดูด ทั้งขบกัด



“ย...อย่ากัด”



“เซ็กซี่จนพี่จะบ้าอยู่แล้ว”มันกระซิบเสียงพร่า ผมไม่เข้าใจ เซ็กซี่อะไรของมันวะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย



“อื้อ...อืม”ผมหลุดคราง เสียววูบที่มันเคลื่อนตัวลงไปอยู่ตรงกลางลำตัว จูบย้ำๆแถวต้นขา ส่วนมือก็ขยับปลุกปั่นอารมณ์ให้กระเจิดกระเจิง โอ่ย ผมเกร็งไปทั้งตัวเมื่อถูกครอบครองด้วยความอุ่นร้อน รังสีความร้อนแผ่ออกมาจากทุกรูขุมขนจนรู้สึกได้



“โอ๊ย...เจ็บ...เอาออกไป”



เชี่ย! จากที่เคลิ้มๆล่องลอยอยู่บนสวรรค์ก็ถูกฉุดกระชากลงนรกทันที



“ชู่ววว ใจเย็นๆ”มันขยับตัวขึ้นมาจูบปลอบและหอมแก้มผมเบาๆ แต่นิ้วก็ยังดันเข้ามาในตัวผม เจ็บจริงอะไรจริง ตอนนั้นกูรอดตายมาได้ไงวะ



“อย่าเกร็งสิ”



ทำไมได้โว้ยยย ผมได้แต่โวยวายอยู่ในใจ แม่ง อยากจะร้องไห้ ได้แต่หลับตาเอาหน้าซุกหมอน



“น้ำน่าน...”พี่เดียวทิ้งตัวเอาหน้าซบแถวซอกคอผม



“พี่ไม่ทำแล้วก็ได้”



ผมลืมตาขึ้นทันที เพิ่งรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำอะไรกับร่างกายผมแล้วนอกจากนอนกอดไว้เฉยๆ



“ทำไม?”คือหมูขึ้นเขียงแล้วอ่ะ เป็นผมไม่มีทางหยุดแน่ๆ



“ก็น่านยังไม่พร้อมจริงๆ”มันเงยหน้าขึ้นมาตอบ แววตาที่มองมา รอยยิ้มของมันอ่อนโยนมาก จะพระเอกไปไหนวะ ใจผมอ่อนยวบ




“อยากเป็นพระเอก?”ผมลูบหน้ามันเบาๆ ทำไมหล่อจังวะ




“ไม่ได้อยากเป็นพระเอก แต่อยากเป็นคนที่จะไม่ทำให้น่านเสียใจอีก”




“เลี่ยนโคตร”เลี่ยนจนผมต้องดึงมันลงมาจูบแก้เลี่ยน




“ทำต่อเถอะพี่”












------------------------------


สวัสดีค่ะไม่เจอกันนานเลย ตอนนี้ค่อนข้างยาว แล้วก็ถูกตัดฉับๆ เหมือนแกล้งคนอ่าน 55555
เอามาลงให้หายคิดถึงค่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า

 :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 12-11-2017 20:56:42
อย่าแพนก้องไปที่โคมไฟนะคนเขียน รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: flyingploy ที่ 12-11-2017 21:10:07
อร๊ายยยยยยย มาแล้วๆๆๆ อย่าแกล้งกันนานนะค้า 555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-11-2017 21:13:47
 :katai1: :katai1: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: aukuzt ที่ 12-11-2017 21:19:17
ตัดฉับ :ling1: :ling1: สตั้นไป1วิ เฮ้ย...จบแล้ว  อ่านเพลินๆๆ  :hao7:  กลับมาไวไวๆนะคะ ยังไม่หายคิดถึงพี่เดียวน้องน่านเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-11-2017 22:16:12
ถถถถถถถถ ค้างเลย  :z3: :z3: :z3:
รอฉากนี้มานานมากๆๆ เลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

น่าน ดูยอมรับเดียวมากขึ้น
รู้ตัวว่าทำแบบไหนจะไม่ดีต่อกัน
ไม่ชอบความห่างเหิน ระหว่างกันที่เกิดเพราะตัวเองทำแบบไม่คิด

ทั้งคู่มีความสนิทสนม ผูกพันกันแล้ว
เดียว อบอุ่น จริงจังกับความสัมพันธ์
พี่เดียว น้ำน่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 12-11-2017 22:40:58
55555ตัดฉับเลยนะ  เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 12-11-2017 23:22:06
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 13-11-2017 12:36:45
ฮือออออ ตัดฉับไปอีกกกก :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-11-2017 14:24:20
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 13-11-2017 16:02:21
ม่ายยยยยยยยย มาต่อเดี๋ยวเน้ ได้โปรดดดด
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 14-11-2017 01:26:30
เหมือนเป็นไปกับไกด์นำเที่ยวแล้วถูกลอยแพ5555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-11-2017 09:59:33
แว้ก ค้าง ฮ่า ๆๆๆๆ รออยู่จ้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.39 P.16 || [12.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: aiirada ที่ 25-11-2017 19:59:08
คิดถึงอ่า มารอทู้กวัน จงมาๆๆๆๆ  :call:  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 27-11-2017 20:07:58
 :katai2-1:รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 40 -




   “อือ...”




   เสียงครางคล้ายรำคาญใจ พร้อมกับขมวดคิ้วพลิกตัวหนีแต่พอหนีไม่ได้ก็ซุกหน้าอยู่กับหมอนนิ่ง ทำเอาอดยิ้มออกมาไม่ได้ นับวันก็ยิ่งเห็นถึงมุมน่ารักๆ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ยิ่งน่ารัก ผมไล่มองตั้งแต่คิ้ว เปลือกตา จมูก และริมฝีปากแดงทั้งที่ชอบบุหรี่ แต่ช่วงหลังก็ลดลง แต่ผมรู้ว่าเขามักจะแอบสูบตอนอยู่มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เครียดจากงานที่ต้องทำส่ง ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่ามันจะช่วยคลายเครียดตรงไหนดีแต่ทำลายสุขภาพ แต่ก็เข้าใจว่าคนเคยสูบจะให้เลิกไปในทันทีก็คงยาก ปากบอกไม่ได้ติด แต่พอให้เลิกก็อิดออด หรือเป็นเพราะอยากจะต่อต้านผมก็ไม่รู้



ถึงจะอ่อนลงมากตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น แต่น้ำน่านก็ยังคงเป็นน้ำน่านที่เป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นในความคิดของตนเองและกวนประสาทผมอยู่เนืองๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าผมมองว่ามันน่ารักและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมตกหลุมจนปีนขึ้นมาไม่ไหว ยิ่งเมื่อคืนได้ผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น ความรู้สึกข้างในใจก็เอ่อล้นออกมา นึกถึงสัมผัสที่ได้รับ ความอบอุ่นตอนร่างกายได้แนบชิด ความร้อนเร่ายามขยับสอดประสาน ผิวขาวแดงเรื่อตามอารมณ์ที่ไต่สูง เสียงครางเครือที่ไม่ได้หวานล้ำ หากแต่เซ็กซี่จนเผลอถาโถมแรงเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่ากระทั่งจับจูงกันไปจนถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ น้ำน่านเป็นของผมแล้วจริงๆด้วยความเต็มใจ


รัก...แบบที่ไม่เคยคิดว่าจะรัก



“อื้อ...”



ผมคลายวงแขนออกเมื่อเขาร้องประท้วงอีกครั้ง เด็กอะไรขี้งกแม้กระทั่งตอนหลับแต่กอดนิดจูบหน่อยก็ต้องหวงตัว แต่ถึงจะหวงยังไง พื้นที่ผิวขาวๆก็ถูกแต่งแต้มเป็นจุดแดงจางๆ ไม่ได้มากมายไปทั้งตัวแต่ทุกจุดที่ผมสัมผัสก็ต้องมีสักรอยสองรอยฝากไว้ แต่ช่วงไหล่ขวาจะมากเป็นพิเศษ ตรงที่มีรอยสักคือส่วนที่ผมชอบที่สุด เซ็กซี่อย่าบอกใคร แต่ร่องรอยแผลเป็นที่ท้องก็ทำให้ผมใจหาย อดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นช่วยเขาไว้ไม่ทันจะเป็นอย่างไร เราจะต้องจากกันทั้งที่ยังค้างคาใจแบบนั้นหรือ มันเลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราอย่าเสียเวลาไปกับทิฐิโง่ๆ นั่นเลยทำให้ผมให้อภัยเขาอย่างง่ายดายและเริ่มต้นกันใหม่ ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เราถึงได้มีวันนี้




ผมขยับผ้าขึ้นคลุมตัวเขาถึงคอ เพราะมองไปมองมาก็อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรอีกรอบแต่ต้องหักห้ามใจไว้ แค่เมื่อคืนทำติดต่อไปกันไปสองรอบอีกฝ่ายก็หมดแรงไปดื้อๆ ท่าทางจะเจ็บไม่น้อยผมเลยไม่อยากซ้ำอีก สงสารเด็ก ผมหอมแก้มขาวๆนั่นอีกทีสองทีแล้วตัดใจลุกขึ้นจากเตียงอันแสนสุขเพื่อไปอาบน้ำและสั่งอาหารเช้ารวบอาหารกลางวันให้ตัวเองและคนที่หลับอยู่ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว กว่าจะเรียบร้อยก็คงเกือบบ่ายได้เวลาปลุกเด็กขี้เซาขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวกินยา



   อาบน้ำเสร็จก็โทรสั่งอาหารจากร้านใต้คอนโด เป็นอาหารไทยที่น้ำน่านชอบทั้งหมด ก่อนจะเดินไปเปิดทีวีช่องข่าวต่างประเทศทิ้งไว้ ปิดโทรศัพท์เครื่องที่เกี่ยวกับงานทุกเครื่อง วันนี้ผมจะพักเรื่องงานไว้ทั้งหมด ให้วันหยุดได้เป็นวันของการพักผ่อนจริงๆ



   “น้ำน่านครับตื่นได้แล้วนะ”ผมนั่งลงข้างเตียงสะกิดเรียกคนที่พลิกตัวนอนคว่ำตั้งแต่เมื่อไม่รู้ หายใจออกได้ยังไงกัน



   “น้ำน่าน”ก้มลงไปกระซิบพร้อมกับจูบแก้มขาวๆอีกที เด็กบ้าหน้าตาดีแม้กระทั่งตอนหลับ



   “น้ำน่านครับ”ผมลองเรียกอีกที เปลือกตาบางเริ่มขยุกขยิก



   “เที่ยงกว่าแล้วนะ ตื่นมาอาบน้ำกินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ”



   “อื้อ...”



   “ตื่นเร้ว”ผมเร่ง รู้แล้วล่ะว่าเขารู้สึกตัวแล้ว สติก็เริ่มมาแล้วด้วย เพราะหน้าเขาเริ่มขึ้นสีจางๆตอนผมไล่จูบไปตามลาดไหล่ หอมจังน้า



   “ไม่ตื่นพี่ต่ออีกรอบนะ”



   “ถอยไป”เสียงแหบแห้งเอ่ยไล่ เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้นมา นิ่งไปอึดใจกว่าจะยอมขยับตัว



   “พี่ช่วยพยุง”



   “ไม่ต้อง แค่ถอยไปก็พอ”



ผมลุกขึ้นยืนข้างเตียง เพื่อให้เขามีพื้นที่ขยับตัว แต่ใบหน้าที่บิดเบี้ยวบ่งบอกถึงการเจ็บช่วงล่างทำให้ผมต้องถลาเข้าไปช่วย พอนั่งพิงหัวเตียงได้ก็ผลักผมออกอีก เมื่อคืนกอดแน่นอยู่เลย



“โอ๊ย แม่ง เจ็บฉิบหาย”เขาบ่นหน้าตาบู้บี้ ทั้งน่ารักและตลกแต่ผมต้องกลั้นยิ้มไว้ ไม่งั้นจะซวยได้



“เดี๋ยวกินยาก็หาย”หันมาค้อนเมื่อผมพูดจบ



“ไม่โดนก็พูดได้ดิ ไปไกลๆเลยไป”หน้างอง้ำแต่ก็ยังน่ารักในสายตาผม



“ไปไกลๆแล้วใครจะช่วยพาเข้าห้องน้ำล่ะ”



“ไปเองได้”



“แน่ใจ?”



เขามองผมตาขวางเหมือนแค้นเคืองมาเป็นสิบชาติ แต่ผมยิ้มสู้ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากเบาๆ เขาตาโต อ้าปากค้างหน่อยๆ หน้าเริ่มสีเข้มขึ้นกว่าเดิม



“จำไว้นะ อย่าให้มีโอกาสบ้าง”นิ้วเรียวๆชี้หน้าผมแต่ก็ไม่ได้นึกโกรธหรอกคว้ามาจูบเสียเลย ทำให้เขาถลึงตาใส่



“ปล่อย จะไปอาบน้ำ! โอ๊ย...แม่ง”



“นั่นไง มาพี่ช่วย”เขาพยายามจะลุกขึ้นเอง แต่ร่างกายไม่อำนวยก็ทรุดลงบนที่นอนอีกรอบ น่าสงสาร ตอนนั้นที่ผมทำเขายังไม่เห็นหนักเหมือนครั้งนี้เลย หรือเมื่อคืนผมทำรุนแรงเกินไป ผมว่าผมยั้งตัวเองไว้สุดๆแล้วนะ



“ไม่ต้องอุ้ม พยุงไปก็พอ”



ผมพาเขาไปส่งในห้องน้ำ ใจจริงอยากจะช่วยอาบให้ แต่อีกฝ่ายปฏิเสธเสียงแข็งด้วยใบหน้าแดงๆน่ารังแก ผมเลยต้องออกมาก่อนที่เขาจะเขินและโกรธไปมากกว่านี้ ระหว่างที่รอเขาอาบน้ำ อาหารที่สั่งไว้ก็มาส่งพอดี พอจัดโต๊ะเสร็จก็เดินกลับเข้ามาดูข้างในห้องนอน เลยทันได้เห็นเจ้าตัวดีเดินด้วยท่าทางแปลกๆ



“ยิ้มทำไม”เขาหันมาถามเสียงเขียวตาขวาง



“มีความสุขก็ต้องยิ้มสิ”



“อ๋อ มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น”



“มาโกรธอะไรพี่เนี่ย เมื่อคืนเราก็มีความสุขด้วยกัน ร่วมมือกันแท้ๆ ไหงตื่นมาเคืองพี่ซะงั้น”



“ก็ถ้ารอบเดียวจะเป็นแบบนี้มั้ย ห้ามก็ไม่ฟัง ไอ้บ้านี่ ทีหลังไม่ให้แล้ว”



“เอ้ยได้ไงอ่ะ”



“ไม่ให้คือไม่ให้จบนะ”



“โอเค จบก็ได้”แต่ในใจผมไม่จบแน่ๆ ตอนนี้ต้องรับปากไปก่อน รอให้อารมณ์ดีๆ บรรยากาศเป็นใจค่อยเข้าคลุกวงในเอาก็ได้



“ไปนั่งรอที่เตียงไปเดี๋ยวพี่หาเสื้อผ้าให้”ผมเดินไปหยิบเสื้อผ้ารวมถึงชั้นในมาวางไว้ให้บนเตียง ไม่อยากให้ขยับตัว เพราะท่าทางจะเจ็บมาก



“มาพี่ช่วยใส่ให้”เห็นเขากำลังจะใส่ชั้นในแต่ดูท่าทางจะไม่ถนัด แต่พออาสาจะทำให้ก็เจอสายตาพิฆาตเลยต้องยืนดูเฉยๆจนแต่งตัวเสร็จ แล้วก็ออกมาทานข้าว กับข้าวสี่อย่างบนโต๊ะถูกกวาดเรียบอย่างรวดเร็วทดแทนพลังงานที่เสีย



พอทานข้าวทานยาเสร็จน้ำน่านก็ย้ายตัวเองไปประจำที่โซฟาหน้าทีวี ส่วนผมเรียกพนักงานมาเก็บจานกลับไป ว่าจะหาขนมผลไม้ว่ามาเอาใจเด็กแต่ลืมไปว่าผมไม่ค่อยได้อยู่ห้องตู้เย็นเลยว่างเปล่า



“อ้าว”ตอนแรกว่าจะชวนน้ำน่านไปด้วย แต่ดันหลับปุ๋ยไปแล้ว ผมเลยปิดทีวีแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถเพื่อออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆ



“จะไปไหน”



“อ้าวทำไมตื่นไว”ยังไม่ทันไปไหนเลย



“ไม่ได้หลับ แค่พักสายตา จะออกไปไหน”



“ไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ตู้เย็นไม่มีอะไรกินเลย”



“งั้นพากลับบ้านดิ ของกินเพียบเลย เพิ่งเอากลับมาจากบ้านไอ้หมวย”



“งั้นพี่แวะไปเอาให้”



“ไม่เอาจะกลับบ้าน”เอาแล้วไง เริ่มเอาแต่ใจและดูท่าจะไม่ยอมลงให้ผมด้วย หน้านิ่งมาก



“ค้างกับพี่อีกคืนไม่ได้เหรอ”



“ก็ไปค้างที่บ้านดิ จะไม่พาไป กลับเองก็ได้”



“โอเคๆ พี่พากลับ รอแป๊บนะ พี่หยิบของก่อน”คือผมมีบางอย่างจะให้เขา วางแผนไว้นิดหน่อยว่าจะใช้ห้องนี้ทำเซอร์ไพรส์ แต่ไม่เป็นไรเปลี่ยนสถานที่ก็ได้



“วันนี้พายไม่อยู่บ้านเหรอ”ผมไม่เห็นตั้งแต่รถจอดที่โรงรถ บ้านก็เงียบ



“อือ มีงานมั้ง”น้ำน่านตอบเสียงอู้อี้เพราะเพิ่งตื่นแม้จะไม่ถึงสิบห้านาทีที่ขับรถมาแต่เขาก็หลับได้ ตอนนี้ก็เดินโซเซเตรียมจะทิ้งตัวที่โซฟาแต่ผมไปดึงแขนเอาไว้ก่อน



“อะไร คนจะนอน”



“ไปนอนบนห้องดีๆ จะได้สบายตัว”



“ขี้เกียจ”



“งั้นพี่อุ้ม”



“ตกบันไดคอหักตายพอดี หลบดิ”ผมอมยิ้มเมื่อเห็นเขาเดินตุปัดตุเป๋ไปทางบันได เลยเดินตามไปเพราะกลัวเขาจะก้าวพลาดตกลงมา



“ห้าโมงปลุกด้วย”



“โอเค”



“ทำกับข้าวไว้ด้วยนะ ของในครัว ในตู้อยากกินไรก็กิน”



“ครับ หลับซะเดี๋ยวพี่ปลุกมากินข้าวกินยาอีก”



“อือ”เวลาเขาเซื่องซึมแบบนี้โคตรน่ารัก ให้ทำอะไรก็ทำแม้จะเถียงบ้างแต่ส่วนมากจะว่าง่าย อดไม่ได้ที่จะกดจูบลงบนหน้าผากสักที
ผมปล่อยให้เขานอนตามสบาย หลับเท่าที่เขาอยากหลับเพราะจะได้มีเวลาเตรียมเซอร์ไพรส์ ผมโทรหาพายว่าจะกลับมาบ้านหรือไม่เจ้าเด็กนั่นบอกไม่กลับเพราะจะไปค้างห้องเพื่อน บอกให้ผมใช้ทุกส่วนของบ้านได้ตามสะดวก แต่อย่าจัดหนักจัดเต็มเพื่อนเขามากนัก แต่ดูเหมือนคำเตือนนั้นสายเกินไป



ผมลงมือทำอาหารไทยง่ายๆที่พอทำได้จากวัตถุดิบที่อัดแน่นเต็มตู้เย็น เนื่องจากใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่เลยผมถนัดอาหารฝรั่งมากกว่า แต่ตั้งแต่รู้จักกับน้ำน่านและรู้ว่าเขาชอบอาหารไทย ผมเลยไปฝึกฝีมือมา ดูจากเน็ตบ้าง ถามคุณหญิงป้าบ้าง ท่านก็สงสัยแต่ผมก็แถไปเรื่อยว่าอยากทำกินเองบ้าง จริงๆผมก็พร้อมที่จะพาน้ำน่านไปเปิดตัวแล้ว แต่ยังหาช่วงเวลาเหมาะๆไม่ได้ ที่บ้านมีเฟิร์สกับวินที่รู้ว่าผมคบกับน้ำน่าน ส่วนคนอื่นเขาก็รู้ว่าผมได้ทั้งหญิงและชาย แต่คุณหญิงป้าก็คงอยากให้ผมมีครอบครัวเหมือนผู้ชายทั่วไปมากกว่า



ห้าโมงนิดๆที่ผมทำทุกอย่างเสร็จพอดีกับข้าวสี่อย่างและผลไม้ที่ปอกเปลือกคว้านเม็ดแช่เย็นไว้ ผมยกมาจัดโต๊ะที่ริมสระ พร้อมสำหรับดินเนอร์จึงย่องไปอาบน้ำเปลีย่นเสื้อผ้าแล้วค่อยปลุกไอ้ตัวแสบขึ้นมา



“หึ ไปล้างหน้าล้างตาไป”



“อยากอาบน้ำอ่ะ”



“งั้นก็อาบ ให้พี่ช่วยมั้ย”



“ไม่ต้อง ตลอดเลยนะ”เขาค้อนผมเบาๆ น่ารักอ่ะ



“อะไรเล่า พี่กลัวอาบไม่ถนัดไง”



“เหอะ”เขาทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ ซึ่งตอนที่พูดผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แต่ถ้าได้ทำจริงๆมันก็อาจจะเกินเลยอ่ะนะ



“งั้นพี่ลงไปรอข้างล่างนะ”



“อือ”



ผมนำกับข้าวไปอุ่นอีกรอบจะได้ทานร้อนๆ มีไวน์ที่ผมเอาติดมือมาด้วยเป็นเครื่องดื่ม ถึงมันจะไม่เข้ากับอาหารบนโต๊ะก็ตาม และของที่ผมจะให้เขาก็จัดเตรียมไม่เรียบร้อยแล้ว รอไม่นานนักก็เห็นเจ้าของบ้านเดินงงๆออกมาพร้อมกับเรียกชื่อผมไปด้วย พอเห็นโต๊ะที่ผมจัดไว้ริมสระอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมา



“อะไรเนี่ย”



“ดินเนอร์ริมสระไง”



“ไวน์กับผัดกะเพรา ต้มจืด หมูทอด ยำปลากระป๋องนี่เข้ากันมากเลยนะ”



“ก็เอาความชอบเราสองคนมารวมกันไง”อาหารไทยของน้ำน้าน ไวน์ของผม



“มานั่งๆ”ผมเลื่อนเก้าอี้ให้เขานั่ง



“ไม่ต้องก็ได้พี่ โอ๊ยอย่าทำแบบนี้ดิว้า”ไอ้ตัวดีคว้าเก้าอี้ไว้แน่น หน้าแดง เขินกับเรื่องแบบนี้เหรอเนี่ย



“พี่อยากทำให้แฟนพี่ นะครับ”



“พี่แม่ง”พอจับทางได้แล้วนะครับ ถ้าผมอ้อนนิดๆพร้อมกับน้ำเสียงนุ่มๆ น้ำน่านจะอ่อนลง น่าจะเรียกว่าแพ้ทาง แต่ผมจะไม่ทำบ่อยเดี๋ยวไม่ขลัง



“แล้วนี่ไปเด็ดดอกไม้มาอีก มือบอน”หาเรื่องบ่นกลบเกลื่อนความเขินใช่มั้ย ก็แค่ดอกลีลาวดีที่ร่วงกับพื้นผมก็เลยเก็บมาใส่ถ้วยเล็กๆลอยน้ำไว้เพื่อให้โต๊ะดูสดชื่น



“มันร่วงแล้วเหอะ กินๆ เดี๋ยวขะเขินจนไม่ได้กอนกันพอดี”



“เงียบไปเลย”



ผมรินไวน์ ตักอาหารให้เขาก่อนจะลงมือทานของตัวเอง น้ำน่านดูเจริญอาหาร รสชาติคงถูกปาก ผมเองก็ดีใจ ถ้าเราทำอะไรให้คนที่รักแล้วเขาพอใจมันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก



“นึกไงมาทำแบบนี้”



“ก็ไม่นึกไง แค่อยากทำอะไรโรแมนติกๆบ้าง”



“เหอะๆ ไม่ต้องทำบ่อยนะ”



“ทำไม?”



“มันแปลกๆ ไม่ชิน”



“เขินก็บอกมา”



“.....”ไม่ตอบ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว น่ารัก



“ไม่ต้องเอาไปเล่าให้ใครฟังนะ”



“ไม่เล่าหรอกเก็บไว้เป็นเรื่องที่รู้กันสองคนก็พอ”



“อือหึ”ผมรู้ว่าเขาเขิน ก็นะคนไม่เคยถูกทำแบบนี้ อีกอย่างเรื่องที่ผมทำในวันนี้ก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว



เราทานกันไปคุยกันไปส่วนมากก็เป็นเรื่องระหว่างที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรื่องที่น้ำน่านไปเที่ยวทะเล ค้างบ้านเพื่อนแล้วก็เรื่องตลกๆของเพื่อนแต่ละคน ทำให้ผมรู้จักเด็กกลุ่มนี้มากขึ้น ส่วนผมก็ไม่มีอะไรมากวันๆก็ทำแต่งาน



“ครั้งหน้าไปกับพี่มั้ย”



“ไปไหน ฝรั่งเศสอ่ะนะ”



“ใช่”



“เอาดิ ถ่ายรูปคงสวย”



“หึ ชอบถ่ายรูปขนาดนี้ไม่เรียนตรงไปเลยล่ะ”



“ไม่เอาอ่ะ ชอบออกแบบมากกว่า ส่วนถ่ายรูปแค่งานอดิเรกก็พอ”



“แล้วงานที่ไร่”



“งานที่ไร่เป็นหน้าที่ ไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียด แล้วก็คิดว่าจะทำให้ดีไม่แพ้สิ่งที่ชอบด้วย”



ผมชอบความคิดเขามากๆ เป็นเด็กที่มีความคิดดี เก่ง และลงมือทำจริงๆไม่ใช่แค่วาดฝันไว้ จะมีสักกี่คนที่อายุเท่านี้แล้วต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างและทำออกมาได้ดีขนาดนี้



“แล้วพี่อ่ะชอบงานบริหารหรืออกแบบมากกว่า”



“ก็ต้องออกแบบอยู่แล้ว แต่บริษัทพ่อแม่พี่สร้างมาพี่ก็ต้องสานต่อ”



“แล้วก็ทำได้ดีด้วยใช่มั้ยล่ะ”เรายิ้มให้กัน จะว่าไปแล้วเราทั้งคู่ก็มีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่าง ผมดีใจที่ได้รู้จักและรักเขา



“อ่ะ กินเยอะๆ”



“พอแล้ว ตะ....เห้ย!”เขาร้องตกใจเมื่อสิ่งที่อยู่บนข้าวในจานไม่ใช่กับข้าวที่ผมทำ แต่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ น้ำน่านมองของในจานกับหน้าผมสลับกันไปมา ใบหน้าเริ่มมีสีเลือดนิดๆ ผมลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเด็กแสบ ที่ไม่ยอมสบตายกมือขึ้นปิดปากเบือนหน้าหนีไปทางอื่น




“ทำบ้าอะไรของพี่วะ”




“แสดงความเป็นเจ้าของไง”ผมจับมือข้างซ้ายของเขาไว้พร้อมกับหยิบแหวนสีเงินเกลี้ยงแต่ด้านในสลักอักษรย่อชื่อเล่นของเราทั้งคู่ไว้ ใจจริงผมอยากออกแบบให้มีลูกเล่นมากกว่านี้ แต่ดูจากไลฟ์สไตล์ของผมกับน้ำน่านแล้ว แบบเรียบๆน่าจะเหมาะกว่า



“นี่หันมามองพี่หน่อย”



“ลงไปนั่งทำไมเนี่ย พี่อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย”พอหันมาเห็นผมที่นั่งคุกเข่าข้างเดียวอยู่ เขาก็โวยวายด้วยความเขิน



“น้ำน่าน”ผมเรียกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังมั่นคง และเขาก็คงรับรู้ว่าผมไม่อยากให้เขาโยกโย้อิดออดอะไร จึงนั่งนิ่ง เม้มปากแน่น สายตาค่อยๆจับจ้องมาที่ผม ดวงตาคู่นั้นไหวระริก



“พี่รักน่านนะ”



“อืม...”



“คบกับพี่ไปนานๆนะ อยู่กับพี่ไปจนแก่จนเฒ่านะ”



“ก็ต้องดูความประพฤติกันไป”เล่นตัวอีกนะ



“พี่น่ะดีอยู่แล้ว เรานั่นแหละ อย่าให้จับได้นะ คราวนี้พี่จะไม่ปล่อยแต่จะอัดให้เละทั้งคู่เลย”




“แต่ถ้าจับไม่ได้ก็โอเคใช่ป่ะ”



“น่าน!”



“ล้อเล่น พี่ก็อย่านอกใจอ่ะ ไหนแหวนอีกวงอ่ะ มันต้องเป็นคู่แน่ๆ”เขาแบมือกระดิกนิ้วรัวๆ



“แสนรู้”



“จิ๊ งั้นไปใส่เองเลย”



“โอ๋ ใส่ให้พี่ก่อน”ผมหัวเราะ รีบหยิบแหวนอีกวงที่ใหญ่กว่าออกมา แหย่มากกว่านี้เดี๋ยวจะอด



“หึ ใส่ให้แล้วห้ามถอด ถ้าถอดถือว่าจบกัน”



“โหดจริง”



“แน่นอน นี่ไม่ได้มาเล่นๆ”



“ไม่เห็นบอกรักพี่เลย”



“ไปกินข้าวไป”



“น้ำน่านครับ”



“อย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย”นิ่งทั้งหน้าและน้ำเสียง เด็กบ้านี่จะยอมให้สักนิดก็ไม่ได้



“ใจร้ายกับพี่จังเลย”



เคร้ง!



“เก็บให้หน่อย”กวนประสาทจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าจงใจทำช้อนตก เป็นการเปลี่ยนเรื่องที่น่าบีบคอนัก



“เดี๋ยวไปหยิบคันใหม่ อื้อ...!!!”



“น่ารำคาญ ทีนี้ไปกินต่อได้ยัง?”



“โอเคครับ แต่พี่ชักอิ่มๆแล้วสิ หึหึ”



“งั้นจะไปไหนก็ไปเลย”



ไอ้ตัวแสบเอ๊ย ถึงไม่ได้ยินคำบอกรัก แต่จูบหวานๆที่ได้มาก็ทำให้ผมอิ่มอกอิ่มใจ จนไม่นึกอยากอะไรอีก วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง และขอให้สุขแบบนี้ไปทุกๆวัน







-------------------------------------------------


กรี๊ดดดดดดดด เอาพาร์ทพี่เดียวมาเสิร์ฟค่า สั้นหน่อย ตอนหน้าจะมายาวๆนะคะ 5555
ส่วนฉากนั้นก็นะ...แพนที่หัวเตียง ผ้าม่าน โคมไฟ อะไรก็ว่าไปค่ะ 555555555555555
คนที่เฝ้ารอก็ขอกระซิบบอกไว้ว่า วันพระไม่ได้มีหันเดียวค่ะ อิอิ เปล่าให้ความหวังน้าาา

เจอกันตอนหน้าค่ะ ฟิ้วววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 27-11-2017 20:37:51
น้ำน่านน่ารักขึ้นเยอะเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-11-2017 21:01:51
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-11-2017 21:09:51
ชอบบบบบ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

น่าน น่ารัก แพ้ทางเวลาพี่เดียวพูดเสียงอ่อน นุ่ม  :ling1: :ling1: :ling1:
พี่เดียว อบอุ่น รักน่าน หลงน่าน
พี่เดียว น่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อยากอ่านพาร์ทน่าน ความรู้สึกเวลาอย่างนั้นกับพี่เดียวอ่ะ  :z3: :z3: :z3:
รอ nc ไม่ชอบมองเพดาน โคมไฟ ฯลฯ
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 27-11-2017 21:18:42
หวานมากที่สุด  หวานๆๆ  ชอบจ้า
หวานเรื่อยๆ  ไปนะจ๊ะน้องน่าน  อิอิ
น้องน่านเขินน่ารักดีนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-11-2017 21:19:30
มาแบบหวานๆ ตั้งรับแทบไม่ทัน น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 27-11-2017 22:28:25
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 28-11-2017 00:07:50
 :-[ :-[ :mew3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-11-2017 01:02:19
หวานจุงงง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 28-11-2017 10:11:26
งุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-11-2017 20:01:21
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-11-2017 20:46:47
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-11-2017 21:14:19
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 29-11-2017 15:52:43
น่ารักทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: flyingploy ที่ 30-11-2017 01:07:40
หวานมากกกกเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 01-12-2017 16:41:05
น่ำน่าน.... นู๋้ก้อหวานๆ กับพี่เค้ามั่ง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-12-2017 09:46:51
แลกแหวนแทนใจ น่ารัก หวานๆๆๆ เหม็นความรัก ชิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 11-12-2017 18:14:30
คิดถึงแล้วค่าาา เมื่อไหร่จะมา ฮื้อๆๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.40 P.17 || [27.11.17]
เริ่มหัวข้อโดย: aiirada ที่ 10-01-2018 19:14:48
คิดถึงพี่เดียว น้องน้ำน่านเด้น้อ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 10-01-2018 22:36:55
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 41 -





   ใครวะ?


   คนที่ยืนอยู่หน้ากระจกตอนนี้มันเป็นใครกัน นี่ตัวผมจริงใช่มั้ย ทำไมถึงยิ้มไม่หุบอย่างนี้ ดีใจอะไรนักหนากับแหวนวงเดียว ไอ้พี่เดียวแม่ง ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเอาแต่จ้องตัวเองในกระจกห้องน้ำนานสองนาน ไม่กล้าออกไปเจอหน้าคนด้านนอก ยังรู้สึกขัดเขินกับเหตุการณ์ตอนค่ำ แล้วก็เรื่องเมื่อคืนด้วย ก็รู้ว่าต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ แต่มันยากจริงๆ
แล้วตอนนี้ก็... โอ๊ยยยย ไม่อยากออกไปเลยยยย




ผมเกลียดสายตาไอ้พี่เดียวชะมัด ตั้งแต่ตื่นมามันก็มองผมด้วยตาแวววาว เวลาเข้าใกล้แล้วรู้สึกเหมือนจะถูกตะปบกินหัวกินหางยังไงก็ไม่รู้ เหมือนเสือเห็นเหยื่ออันโอชะ




   ก๊อก ก๊อก ก๊อก




   ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูที่เหมือนระฆังตีบอกว่าหมดเวลาพักต้องออกไปได้แล้ว ผมหันมองกระจกอีกครั้งเพื่อปรับสีหน้าตัวเองให้เรียบนิ่งเข้าไว้ อย่าให้ศัตรูล่วงรู้ความคิด ไม่อย่างนั้นจะโดนตีป้อมแตก เช็คสีหน้าตัวเองจนแน่ใจแล้วจึงค่อยๆเปิดประตู




   “ไร?”ทำเสียงแข็งเข้าข่ม




   “เห็นว่าเข้าไปนาน เป็นห่วงเฉยๆ”




   “ก็อาบน้ำนานเป็นปกติอยู่แล้ว”อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมงอ่ะครับ ผมเดินจับนั่นนี่หน้ากระจก คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี มือไม้มันเกะกะไปหมด เกลียดความรู้สึกสาวน้อยจับใจ แต่พี่เดียวมันก็ตามมาคลอเคลียจากด้านหลัง สองแขนโอบรอบเอวผมไว้ ลมหายใจอุ่นๆรินรดที่ใบหู




   “เหรอ นึกว่าเขินจนไม่อยากออกมา”



เกลียดคนรู้ทัน!




“ระดับนี้แล้วไม่มีคำว่าเขิน”




“ครับไม่เขินก็ไม่เขิน แค่หน้าแดงแล้วไม่ยอมสบตาพี่เลย”




ผมหันไปจ้องตาทันที แล้วก็รู้ตัวว่าพลาดเผลอเหยียบหลุมพลางที่อีกฝ่ายขุดไว้ ไอ้ที่แกล้งนิ่งข่มความเขินเอาไว้ พอได้สบตากำแพงก็ทลายลง หน้าร้อนวูบวาบไปกับสายตากรุ้มกริ่ม




“หึหึ น่ารัก”



ฟอด....หนึ่งทีเน้นๆที่แก้ม ได้แต่ยืนตัวแข็งให้อีกฝ่ายกินแก้มกินหู



“นอนกัน”



“นอนเฉยๆนะ”




“นอนกอด”



“แค่กอด”



“ขอจูบอีกนิดหน่อย”ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกไม่พอ เดี๋ยวจัดเข่าให้ซะเลย



“ไปนอนห้องแขกไป”




“หึหึ โอเค นอนกอดเฉยๆก็ได้ค้าบ”




ผมเผลอถอนหายใจเมื่อพี่เดียวผละออกไป ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะคุ้นเคยกับความใกล้ชิดขั้นลึกซึ้งนี้




พอล้มตัวลงนอนปุ๊บอีกฝ่ายก็เข้ามาประกบทันที ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวเลย รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร็วขึ้น คนที่กอดผมอยู่ต้องรู้แน่ๆ




“พี่แค่กอดเองนะ ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น”




“ตกใจต่างหากเล่า”ผมก็ไหลไปได้นั่นแหละ




“น้ำน่าน...คืนนี้ไม่ได้จริงเหรอ”เสียงกระซิบถามแผ่วเบาข้างหู



“อืม...เจ็บ”ยอมรับแบบแมนๆเลย ถ้าถูกซ้ำอีก สภาพคงไม่ต่างจากหมาถูกรถทับขาหลัง กูต้องเดินไม่ได้แน่ๆ



“พี่ขอโทษ”



“อือ”ผมก็เข้าใจดีนะ ในฐานะที่เป็นฝ่ายกระทำมาตลอด ของแบบนี้ให้ทำทุกวันก็ยังไหว ก่อนหน้าที่เคยนอนกับพวกกวางตัวน้อยทั้งหลายผมเองก็ใส่ไม่ยั้ง กลางคืนไม่พอต่อตอนเช้า ความรู้สึกตอนนั้นคืออยากทำไปเรื่อยๆเพราะมันปลดปล่อยได้แบบสุดๆ พี่เดียวมันก็เป็นผู้ชายวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่เคยขัดสนเรื่องทำนองนี้ การที่มันอยากจะทำทุกครั้งที่มีโอกาสมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคนที่มันอยากทำด้วยคือผมไง ซึ่งผมไม่ได้บอร์นทูบีมานะเฟ้ย ต้องให้เวลากันบ้าง




“อีกสองสามวันค่อยว่ากันใหม่”




“หะ?”




“นอนๆ”




“โอเคครับ นอนๆ เวลาจะได้ผ่านไปเร็วๆ หึหึ”




อยากจะย้อนเวลาเอาคำพูดเมื่อครู่กลับคืนมา ไม่น่าเปิดโอกาสเลย เปิดประตูรับข้าศึกเข้าบ้านเฉยเลย แต่เอาเถอะ ถึงเวลาค่อยว่ากันใหม่






X







เลขที่เปลี่ยนไปตามระดับชั้นที่ขึ้นสูงเรื่อยๆ เป็นสิ่งเดียวที่ผมโฟกัสอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่แจ้งความจำนงแก่พนักงานต้อนรับด้านล่างว่าจะขอขึ้นมาชั้นบนสุดเพื่อพบท่านประธาน เธอก็มีสีหน้ากังขาทันที คงคิดว่าไอ้เด็กนี่มันบ้าหรือเปล่า เดินดุ่มๆเข้ามาเพื่อพบผู้บริหารระดับสูงแบบไม่มีหมายนัด ก็จะให้มีได้อย่างไร เมื่อผมเพิ่งได้รับคำสั่งจากท่านว่าให้มาหาที่ทำงานเพื่อนจะได้ออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่มันจะต้องเดินทางไปจันทบุรีพรุ่งนี้ ส่วนเย็นนี้มันต้องไปงานเลี้ยงลูกค้า ซึ่งจะทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกสองวัน ผมโอเคมากเลยนะที่จะไม่ได้เจอกัน สองวันก็แค่แป๊บเดียวแต่ไอ้พี่เดียวมันไม่คิดอย่างนั้น แถมยังขู่ด้วยว่าถ้าไม่มาหาตอนนี้ มันกลับมาเมื่อไหร่จะจัดหนักให้ผมลุกไม่ขึ้น ผมชั่งใจอยู่ว่าจะมาดีหรือไม่มาดี แต่สุดท้ายก็มากลัวมันบ้าทำขึ้นมาจริงๆ ผมนี่แหละที่จะลำบาก




พอผมมาถึงก็ต้องติดต่อด้านล่างตามปกติ แต่ติดที่ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปหานี่แหละ ทำให้อดหงุดหงิดไม่ได้ให้มาหาแล้วไม่จัดการเคลียร์ทางให้ด้วย ต้องให้โทรไปโวยก่อนถึงได้ส่งเลขามันลงมารับ




 “ทางนี้ค่ะคุณชลธร”




“ขอบคุณครับ แต่พี่เรียกผมว่าน้ำน่านก็ได้ครับ”รู้สึกเกรงใจยังไม่รู้ เธอดูจะอ่อนน้อมถ่อนตนกับผมมาก ไม่รู้ว่าไอ้พี่เดียวมันบอกเธอไว้ว่ายังไงบ้าง ผมเคยเห็นตอนที่มาถ่ายรูปกับพี่ยศนะ และคิดว่าเธอเองก็น่าจะจำผมได้ด้วย ตอนที่ลงไปรับเมื่อครู่นี้ผมแอบเห็นว่าเธอมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะปรับให้เป็นปกติ




“ไม่ได้หรอกค่ะ คนสำคัญของบอส”




“ว่าไงนะครับ?”เหมือนจะได้ยินไม่ถนัด แต่เธอก็ไม่พูดซ้ำ ทำแค่เพียงยิ้มให้และกดอินเตอร์คอมแจ้งคนด้านในว่าผมมาถึงแล้ว พี่เดียวไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกแล้วผมก็ถูกลากเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว




“โอ๊ย อะไรของพี่เนี่ย เดินเองได้ไม่ต้องลาก”เซหลุนๆเดินตามแรงควายของมันมา ขาขวิดกันเกือบจะล้ม




“มาช้า”




“รีบอะไรนักหนาเล่านี่ก็ยังไม่เที่ยงเลย”นี่ถือว่าเร็วแล้วนะ ผมอยู่ข้างนอกใกล้ๆกับออฟฟิศมันพอดีด้วย ตอนแรกกะว่าจะลากไอ้เต้ออกมาหาอะไรกินแก้เซ็ง แต่พี่ท่านก็มาเร่งๆให้ผมมาหาเสียก่อน




“อยากเจอหน้าไวๆ เมื่อวานก็ไม่ได้เจอกัน”เมื่อวานไอ้พี่เดียวมันกลับไปบ้านใหญ่ เห็นว่านัดทานข้าวกันครบทุกคน มันจะให้ผมไปด้วยแต่ผมก็ปฏิเสธมันไปแทบจะทันที ผมไม่พร้อม ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับครอบครัวไอ้พี่เดียวมัน ขอให้อะไรๆมันลงตัวกว่านี้ก่อนดีกว่า




“บ้าบอว่ะพี่ ฟุ้งซ่านนักก็ไปทำงานไป ไหนว่างานเยอะ”




“หึหึ โอเค งั้นนั่งรอไปไปก่อนนะขอเวลาเคลียร์งานอีกครึ่งชั่วโมงแล้วเราค่อยไปกินข้าวกัน




พอสิ้นคำผมก็ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว เพราะไอ้พี่เดียวมันมีสมาธิกับงานมากผมก็ได้นั่งส่องนั่นนี่ในอินสตาแกรมไปพลางๆ มีสาวๆน่ารักเต็มไปหมด ไอ้เต้กับไอ้โอ๊คมันส่งมาให้ดู รอจนเกือบจะหลับไอ้พี่เดียวก็เรียกพอดี มันพาผมมากินข้าวร้านใกล้ๆออฟฟิศเป็นอาหารอิตาเลี่ยน รสชาติดีถูกปากพอสมควร ราคาก็โอเค การตกแต่งร้านก็เก๋ดี




“แล้วจะไปไหนต่อ ถ้าไม่ได้ไปไหนก็มานั่งเฝ้าพี่ทำงานมา”




“เรื่อง เฝ้าเพื่อ? เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า”




“เดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันตั้งสองวัน”




“พี่เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย”ผมก็ไม่ได้เอายาสเน่ห์อะไรให้กินนะ มันต้องบ้าแน่ๆที่ชอบมานัวเนียคลอเคลียและอยากอยู่ใกล้ชิดตลอดเวลา




“ก็ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้ น่านว่างยังไม่เปิดเทอมก็มาอยู่กับพี่ดิ มาให้นั่งมองก็ยังดี”




“ประสาท อยากมองก็นั่งดูรูปไปดิ”




“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า”




“พนักงานพี่รู้มั้ยเนี่ย ว่าท่านประธานบ้าบอแบบนี้”




“อะไรว้า ถ้าพี่ไม่มีเวลาให้ ไม่ได้เจอกันนานๆก็อย่ามางอแงก็แล้วกัน”




“เหอะๆ ไม่เจอกันเดือนนึงยังไหวอ่ะ”คิดว่าไหวนะ ถ้าไม่ไหวก็ค่อยว่ากันอีกที ฮ่าๆ




“ใจแข็งจริงๆ สรุปว่าวันนี้ก็จะไม่อยู่กับพี่ใช่มั้ย”




“ถ้าจะให้อยู่มีอะไรมาแลกเปลี่ยนมั้ยล่ะ”




“หัวใจพี่ไง”




“......”อยากจะคายอาหารกลางวันที่กินเข้าไปออกมาเสียจริง




“หึหึ อย่าทำหน้างั้นดิ”




“อายมั้ยเนี่ยที่พูดมา”ผมขำ ตัวมันเองก็ดูเหมือนจะรับไม่ค่อยได้เหมือนกันเหอะ




สุดท้ายผมก็มานั่งๆนอนๆอยู่ในห้องทำงานพี่มัน เพราะไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน ไม่มีอารมณ์ออกไปเที่ยวเล่นแล้ว ผมถ่ายรูปวิวจากหลังโต๊ะทำงานพี่เดียวอัปลงอินสตาแกรมของตัวเอง มีไอ้หมวยเข้ามากดไลค์คนแรก ช่วงนี้ผมก็ลืมมันไปเลย ไม่ได้ถามด้วยว่ามันกลับมาจากบ้านหรือยัง เพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆแล้วขาดการติดต่อกับเพื่อนๆไปหลายคน ไอ้ธันว์ ไอ้คิม ส่วนไอ้พายเจอหน้ากันแค่แป๊บๆ ไม่มันก็ผมต้องออกไปข้างนอกไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ไม่ได้การละ ต้องเรียกรวมพลก่อนจะเปิดเทอม




“กลับแล้วนะ”ผมลุกขึ้นบอกไอ้พี่เดียวที่นั่งจมอยู่กับเอกสารกองโตตลอดช่วงบ่าย




“รีบไปไหน อีกแป๊บพี่จะเลิกงานแล้ว”




“เลิกงานแต่ก็ไปงานเลี้ยงต่ออยู่ดีจะให้อยู่ต่อทำไมเนี่ย คุยก็ไม่ได้คุยกัน ไม่อยู่เล่า จะกลับ”




“โอเค กลับก็กลับ ไม่งอแงนะ”




“ใครงอแง”อะไรๆก็หาว่าผมงอแงทำเหมือนเป็นเด็กเล็กไปได้




“ไม่งอแงก็ได้ อยากได้อะไรเป็นของฝากมั้ย”




“ไม่เอาอ่ะ”ของฝากจากเมืองจันท์ที่บ้านผมยังมีอยู่เยอะแยะเลย




“แค่เดินทางปลอดภัยก็พอ”คำพูดผมคงถูกใจมันมาก ยิ้มปากจนจะฉีกถึงหู




“ขอบคุณครับ ไหนมาให้ชื่นใจก่อนสิ”




แล้วผมก็ต้องเสียจูบไปอีกหลายครั้ง กว่าจะถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องได้กก็กินเวลาหลายนาที ก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่าเสียจูบก็ยังดีกว่าเสียตัว ผมยังไม่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆในห้องทำงานมันเหมือนกัน





X





บ้านผมกลายเป็นสถานที่ส่องสุมของบรรดาเหล่าเพื่อนชั่วทั้งหลายในวันถัดมา สมาชิกครบทีม ทั้งเพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ยกเว้นไอ้หมวยที่ยังกบดานอยู่ที่บ้านมัน แต่ไร้วี่แววขององค์รักษ์พิทักษ์หมวย เห็นมันบอกว่าพี่ไวท์ต้องไปต่างประเทศกับพ่อเรื่องงานอะไรสักอย่างทิ้งให้มันโดดเดี่ยวคนเดียว พอผมบอกว่าจะมีปาร์ตี้จัดหนักกันที่บ้านมันก็โทรมาโวยใส่ผมทันทีว่าไม่รอมัน สงสัยคงคิดถึงแสงสีจะแย่แล้ว อยู่บ้านมันก็เห็นแต่ต้นไม้ผลไม้




“อะไรเสร็จแล้วมั่งวะ กูหิวแล้วเนี่ย”ไอ้ธันว์โผล่หัวเข้ามาในครัว ขณะที่ผม ไอ้พาย ไอ้คิมกำลังทำอาหาร มีสั่งหมูกระทะมาสี่ชุด รอให้เขามาส่ง แล้วก็มีที่ทำเองอีกส่วนหนึ่ง ไอ้เต้ ไอ้โอ๊ค จัดสถานที่อยู่ริมสระ ไอ้โก้ ไอ้อ๊อด ไอ้อั้มที่เพิ่งเลิกกับแฟนก็มาแจมกำลังเดินทางกันมาอยู่พร้อมเครื่องดื่มอีกจำนวนหนึ่ง เพราะที่ผมเตรียมไว้น่าจะไม่พอในคืนนี้




“ยังไม่เสร็จสักอย่าง หิวมึงก็มาช่วยทำห่า ไม่ใช่กระดิกตีนรอกินอย่างเดียว”




“มึงนี่ขี้บ่นไม่เปลี่ยน ไหนจะให้ทำอะไร”




“เอาผักนี่ไปหั่นจัดใส่จาน คงไม่ยากเกินว่าที่วิศวกรอย่างมึงหรอกนะ”ไอ้พายมันกำลังเตรียมเครื่องสุกี้อยู่ สารพัดผักและเนื้อสัตว์กำลังถูกจัดเตรียม ส่วนผมทำพวกยำอยู่ ไอ้คิมทำประเภทต้ม แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน




“เออเชี่ย บ่นมากเดี๋ยวจับทำเมีย”




“เสียใจด้วยไอ้ธันว์ มึงช้า มีคนสอยไปแล้ว”




“ไอ้น่านเงียบไปเลยมึง”




“ไม่นานมันก็ต้องรู้บอกๆไป ทีเรื่องกู มึงนี่สาระแนนัก”




“เรื่องมึงมันน่าใส่ใจมากกว่าเรื่องของกูอยู่แล้ว”




“ตกลงมึงมีผัวใหม่แล้ว?”ไอ้ธันว์หันไปถามไอ้พาย มือมันก็หั่นผักไปด้วย มึงจะหั่นนิ้วตัวเองไปด้วยมั้ย



“แค่คุยเฉยๆ ผัวบ้าอะไรเล่า”




“อีกไม่นานก็ใช่ พวกมึงยังไม่เห็นออร์ดี้กันนี่หว่า”ลืมไปเลย ไอ้พายชอบขังหมาไว้ในห้องนอนมันเอง คืนไหนกลับมานอนบ้านก็เอาไอ้เตี้ยขึ้นไปนอนด้วย แต่ถ้าวันไหนอยู่ออร์ดี้มันอยู่กับผม ที่นอนมันคือบ้านหมาหลังเล็กตรงห้องซักล้างนั่นแหละ แต่มันเป็นหมาที่รู้เรื่องขับถ่ายเป็นที่




“ออร์ดี้??”




“หมาไอ้พายมัน สื่อรักแทนใจ”




“แค่คุยจริงๆใช่มั้ย”เห็นมั้ย ไอ้สองตัวนี้ก็สงสัยเหมือนผม




“จริงๆ ไม่หลอก”




“ใครวะ?”




“เอาไว้กูชัวร์ก่อนแล้วจะบอกพวกมึงแล้วกัน ไม่ได้คิดจะปิดอยู่แล้ว กูขอเวลาหน่อย”




“เออ ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปอย่าลืมมาให้พวกกูสแกน”ไอ้คิมกำชับ มันไม่อยากเห็นไอ้พายเสียใจอีก พวกผมก็เหมือนกัน
ปาร์ตี้ของเราเริ่มขึ้นเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ทุกคนมากันครบแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดกันทันที กินกันไปเรื่อยๆ พออิ่มข้าว ของคาวหมดก็เหลือแต่แอลกอฮอร์ล้วน บางคนก็โดดลงสระ เล่นน้ำกันจนกระเด็นขึ้นมาถึงที่ผมนั่งอยู่




“ถ้ามีสาวๆด้วยจะดีมากๆ อวบๆอึ๋มๆเหมือนพริตตี้มอเตอร์โชว์”




“เออ น่าสนใจ น่าโทรเรียกมาสักสามสี่คน”




“พริตตี้ไม่ใช่พิซซ่าโทรเรียกถึงมา”




“มึงไม่รู้อะไร กูเคยมาแล้ว เด็ดมากกูพูดเลย”




ผมส่ายหน้าให้ไอ้โอ๊คกับไอ้อ๊อดที่เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย




“อยากมากมึงไปหาแดกกันข้างนอก ห้ามเอาเข้าบ้านกู”ผมปาน้ำแข็งใส่หัวพวกมันที่หันมาค้อนใส่แล้วลากกันไปอีกฝั่ง ปรึกษาหารือกัน ไม่แคล้วได้ลากกันออกไปหาของหวานกินกันแน่ๆ




ไม่ถึงเที่ยงคืนดีก็สลายตัวกันหมด ไอ้ธันว์กลับไปก่อนใคร เหมือนจะมีใครโทรตามคงไม่พ้นเด็กในสังกัด ไอ้โอ๊คอ๊อดจูงมือกันไปแพ็คคู่สงสัยจะได้เด็ก นอกนั้นก็ทยอยกันกลับ มีไอ้คิมที่อยู่ค้างมันนั่งดูหนังต่อกับไอ้พายข้างล่าง ผมง่วงแล้วเลยขึ้นมาอาบน้ำนอนเลยเพิ่งนึกได้ว่าเอาโทรศัพท์วางไว้บนเตียงแล้วก็ลืมมันไปเลย ไอ้พี่เดียวโทรมาเป็นสิบสาย ครั้งล่าสุดคือเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว มีข้อความไลน์บ่นมาอีกสิบข้อความ ผมขี้เกียจโทรไปมันอาจจะหลับแล้วเลยไลน์ไปบอกว่าลืมโทรศัพท์ไว้บนห้องพรุ่งนี้ค่อยคุย จากนั้นก็อาบน้ำเข้านอน




เช้ามาผมโทรไปหามันช่วงสายแต่ไม่รับก็เลยไม่ได้สนใจอีก คนงานเยอะบางทีก็น่าสงสาร กินนอนไม่ค่อยเป็นเวลา ไหนจะต้องเหนื่อยกับการเดินทางอีก ผมไม่รู้ว่ามันจะยุ่งแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้รู้สึกเฉยๆถ้าจะเจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง แต่บางครั้งก็ยอมรับว่าเหงานิดหน่อยแต่ก็พอมีกิจกรรมทำให้ลืมๆไปได้บ้าง




ไอ้พายตื่นมาก็ลากผมกับไอ้คิมไปห้าง มันจะไปตัดผมทำสีใหม่และทำทรีตเม้นท์หน้า แล้วบังคับให้ผมกับไอ้คิมไปทำเป็นเพื่อนมันด้วย มันบอกว่าไอ้คิมเรียนหนักหน้าโทรมเกินไป ส่วนผมต้องทำเอาไว้มัดใจผัว ผมนี่แทบอยากจะถีบมันตกบันไดเลื่อน 




ครั้งแรกกับการดูแลรักษาหน้าในร้านแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน มันสบายแล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น เรตติ้งต้องพุ่งขึ้นแน่ๆ ไอ้คิมก็เหมือนจะพอใจนั่งส่องหน้าตัวอย่างใหญ่ หลังจากเสียเวลามาครึ่งค่อนวัน เราก็มาจบที่ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ผมนั่งเฉยๆให้ไอ้พายบริการ ระหว่างนั้นก็เล่นโทรศัพท์ เช็คอะไรไปเรื่อยเพราผมปิดเสียงปิดสั่นไว้ตอนที่ทำหน้าอยู่ น่าแปลกที่พี่เดียวมันไม่โทรมาเลย ปกติมันต้องหาเวลาโทรมาหยอดครั้งละนิดละหน่อย นี่มีแต่ไอ้หมวยที่โทรมาห้าสาย ผมเลยโทรกลับ




“มึงมีเรื่องอะไรวะโทรมาตั้งหลายครั้ง”




“ไม่ใช่เรื่องของกู แต่เป็นเรื่องของมึง กูช่างใจอยู่ว่าจะบอกมึงดีมั้ย แต่กูเพื่อนมึง กูอยากให้มึงรับรู้ไว้ แต่มึงต้องใจเย็นๆนะเว้ย”



“เรื่องเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย”ทำเอาผมใจไม่ดีไปด้วย




“กูจะเล่า แต่มึงต้องใจเย็น”




“ว่ามา”



“เมื่อวานค่ำๆกูมางานเลี้ยงเป็นเพื่อนม๊าที่โรงแรม...ก็กินกันจนเกือบสี่ทุ่มอ่ะ ตอนจะกลับกูเจอพี่เดียว ตอนแรกไม่แน่ใจเพราะเห็นด้านข้าง แต่มีจังหวะหนึ่งพี่เขาหันมา กูเห็นหน้าตรงก็เลยมั่นใจ แต่เขาไม่เห็นกูหรอกนะ”




“อ้อ มันไปคุยงานที่นั่นอ่ะ พี่มันบอกอยู่เหมือนกัน น่าจะพักโรงแรมนั้นกูก็จำไม่ค่อยได้”



“เหรอ...เออ”




“เอ้า สรุปมึงจะบอกกูแค่ว่ามึงเจอพี่เดียวมันแค่นั้นเหรอ”




“ก็...มันไม่แค่นั้นว่ะ”




“เล่ามาให้หมด มึงจะเว้นช่วงทำเชี่ยไร”ไม่รู้ว่ามันไปเจออะไร แต่ใจผมตอนนี้มันเต้นรัวขึ้นมา เคยเป็นกันมั้ยครับที่มีคนเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่ถึงไคลแม็กซ์สักที เราก็ลุ้นไปเถอะ แน่นอนว่าเป็นไปในทางที่ไม่ดีสักเท่าไหร่



“กูเจอเขากลับเข้ามากับผู้หญิง แบบโอบประคองกันมา แล้วก็พากันขึ้นห้องกันไป”




“.......”ผมนิ่งกำลังประมวลผล และสำรวจอารมณ์ตัวเอง ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร เฉยๆ โกรธ ผิดหวังหรืออะไร ที่แน่ๆไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็พยายามรั้งสติตัวเองเอาไว้ บอกตัวเองว่ามันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้




“แล้วเมื่อสักชั่วโมงก่อนนี้กูมากินโต๊ะแชร์กับม๊าที่โรงแรมนี้เหมือนเดิม กูเจอพี่เขาลงมากับผู้หญิงคนเมื่อคืนพอดี ผู้หญิงดูท่าทางไม่ดี เดินประคองกันออกไปอีก”




“อืม”




“มึง ใจเย็นไว้ก่อนนะเว้ย ที่กูบอกคืออยากให้มึงรับรู้ แต่มันก็อาจจะไม่มีอะไรไปมากกว่าที่กูเห็นก็ได้ เขาอาจจะไม่ได้พักด้วยกัน ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ก็ได้ โอ๊ย กูว่ากูไม่ควรบอกมึงแต่แรกแล้ว”เหมือนมันจะสติแตกไปแล้ว




“มึงไม่ต้องคิดมาก มึงคิดทำถูกแล้ว มึงเป็นเพื่อนกู ขอบใจที่บอก สมมติว่าถ้ามันมีอะไรขึ้นมาจริงๆแล้วกูมารู้ทีหลังว่ามึงไม่บอกกู กูจะรู้สึกแย่มากๆ”




“อืม มึงจะไม่ทะเลาะกับพี่เขาใช่มั้ยวะ แต่กูว่าพี่เดียวไม่ใช่คนทำอะไรลับหลังมึงหรอก”




“แต่ซึ่งๆหน้าก็ไม่แน่ใช่มั้ย”



“เห้ย ไม่ใช่เว้ย มึงอ่ะ กูขอโทษ มึงอย่าคิดมากนะเว้ย”ขณะที่ไอ้หมวยมันคร่ำครวญไอ้พายกับไอ้คิมก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารที่มันไปตักกันมา ทั้งสองคนมองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว สงสัยสีหน้าผมตอนนี้คงไม่ดี



“มึงจะขอโทษกูทำไม มึงนั่นแหละไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวกูกินข้าวก่อน แค่นี้นะ”



“ใครวะ?”



“ไอ้โฟม โทรมาปรึกษาเรื่องผัว”ผมบอกปัดไป ไม่อยากให้พวกมันมาเป็นห่วงด้วยเรื่องไร้สาระ




“หึหึ เดี๋ยวนี้มึงปรึกษาปัญหาผัวกันแล้วเหรอวะ พัฒนาไปไกลมาก”



“สัด กินๆไป”



ผมพยายามทำตัวให้ปกติ และบอกว่ามันคงไม่ได้มีอะไรหรอก แต่ในใจลึกๆแล้วก็อดคิดไม่ได้ และช่วงเวลาแบบนี้มันเป็นอะไรที่แย่มาก และผมก็ผ่านมันไปให้ได้ไวๆ ผมจะยังไม่ตัดสินใคร อยากให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่ายก่อน แม้ว่าการจัดการกับความรู้สึกแย่ๆในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่ยากมากก็ตาม




หลังจากกินเสร็จพวกผมสามคนก็แยกย้ายกันไป ไอ้คิมกับห้องมันขับรถมาเอง ส่วนไอ้พายมันจะไปหาคนของมัน แต่จะแวะมาส่งผมที่บ้านก่อนเพราะผมมาคันเดียวกับมัน แต่ผมไม่อยากให้มันขับวนไปมาให้เสียเวลาเลยโบกแท็กซี่กลับเอง พอถึงบ้านก็เจอออร์ดี้เสนอหน้าเข้ามาหา สงสัยจะหิว อาหารที่ไอ้พายให้ก่อนออกไปคงหมดแล้ว



“กินเก่งไปแล้วมึง ตัวใหญ่ขึ้นเยอะแล้วเนี่ย”บ่นไปก็เท่านั้นมันไม่รู้สึกอะไร ก้มหน้าก้มตากินอาหารเอาจมูกไถๆจนจานเลื่อนวนเป็นวงกลม



“เอาตีนจับดิว้า ทำไมมึงโง่”แต่ผมคงโง่กว่าที่มานั่งคุยกับหมาแบบนี้ ผมนั่งมองไอ้ตัวอ้วนกินอาหารจนอิ่ม ก่อนจะชวนมันออกไปวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้าน ตอนนี้ห้าโมงกว่าแล้ว เหลือแสงอีกนิดหน่อยก่อนจะหมดวัน ออร์ดี้วิ่งเล่นไปมา เอาจมูกดันดินเหมือนค้นหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะวิ่งไปอีกที่แล้วทำแบบเดียวกัน ท่าทางร่าเริงดี ผมยิ้มให้กับภาพนั้น แต่ในใจกลับว่างเปล่า



ไม่ชอบเลย...




ที่ไม่อยากมีความรักก็แบบนี้ ไม่ชอบความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้แบบนี้



ครืด ครืด ครืด...



ผมสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น คนที่ผมกำลังนึกถึงโทรมาพอดี ช่างใจอยู่ว่าจะรับดีหรือไม่ แต่ผมได้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่าต้องให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่ายก่อนจึงกดรับในที่สุด




“น่าน โทษทีที่เพิ่งโทรหา พอดีวันนี้พี่ยุ่งมากเลย”




“อือ ไปทำอะไรมาบ้างล่ะ”




“ก็คุยงานกับพวกเจ้าของบ่อพลอยอ่ะ แต่ทำคนเดียวเลยวุ่นๆ พอดีคุณทิชาฝ่ายจัดซื้อไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืน แพ้อาหารทะเลที่ลูกค้าจัดเลี้ยง พาไปหาหมอแล้วกลับมาพักที่โรงแรม วันนี้พี่เลยให้เขาพักแล้วไปคุยงานเอง พอกลับมาตอนบ่ายเขายังอาการไม่ดีขึ้น แถมท้องเสียเพิ่มอีกเลยพาไปโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพี่ก็ต้องไปคุยงานต่ออีกที่เพิ่งเสร็จเนี่ย”




พี่เดียวมันร่ายยาวเหมือนเก็บกด เล่าเสร็จก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนคนที่เหน้ดเหนื่อยมาก แต่ผมกลับยิ้มออกมา มันไม่ได้มีอะไรจริงๆสินะ ถ้าถามว่าผมเชื่อพี่เดียวมันมั้ย ผมเชื่อนะ ก็ผมยังไม่ทันได้ซักอะไร แล้วมันก็ไม่รู้ด้วยว่าผมไปรู้อะไรมา แต่มันกลับเล่าหมดและช่วงเวลาก็สอดคล้องกับที่ไอ้หมวยเล่า




 “หัวหมุนไปหมด เพราะมากับเขาแค่สองคน คุณอ้อมทำงานให้พี่อยู่ที่บริษัท เหนื่อยจัง”ท้ายประโยคฟังดูอ้อนๆยังไงไม่รู้




“ถ้าเหนื่อยก็หยุดบ่นสิ แล้วตอนนี้อยู่ไหน”




“อยู่โรงแรมเดี๋ยวจะไปอาบน้ำแล้วค่อยไปดูคุณทิชาที่โรงพยาบาลอีกรอบ พรุ่งนี้เช้าหมอบอกว่าให้ออกจากโรงพยาบาลได้”




“อืม ก็ดูแลเขาดีๆ งานเสร็จแล้วใช่มั้ย”




“ครับ พรุ่งนี้เช้าพี่ก็กลับแล้ว ใจจริงว่าจะกลับเย็นนี้เลยแต่คุณทิชาดันป่วยผิดแผนไปหมด ว่าจะรีบทำงานรีบกลับสักหน่อย”




“พรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว ไม่ต้องขับรถตอนกลางคืนก็ดีแล้ว”บางทีมันควรมีคนขับรถส่วนตัวเหมือนผู้บริหารทั่วไปนะ เดินทางบ่อยแบบนี้ผมไม่อยากให้ขับรถเองเลย




“ก็อยากกลับไปนอนกอดแฟนนี่ครับ”




“กลับแล้วจะเข้าบริษัทเลยมั้ย”ผมไม่ใส่ใจคำออดอ้อนที่ทำให้หน้าร้อน




“อืม คงต้องแวะเข้าไปเซ็นเอกสารที่ค้างอยู่ พรุ่งนี้ว่างมั้ย มาหาพี่หน่อยสิสักเที่ยงๆ”อ้อนมาอีกระลอก




“ได้ เดี๋ยวไปหา”




“เอ๊ะ ทำไมว่าง่าย”



“ไม่ชอบหรือไง”



“อืมไม่ชอบ”



“..............”




“แต่รักเลย”




“หึ รักให้จริงเถอะ อย่าให้รู้ว่าไปมีคนอื่น หรือจับได้ว่าไม่ได้ไปทำงานแต่ไปกกอิหนูที่ไหนนะ”ผมแกล้งทำเสียงเข้ม




“ทำไมครับ น้ำน่านจะทำอะไรพี่”




“ไม่ทำหรอก แค่เลิก”เลิกจริงๆนะ ถ้าจับได้คาหนังคาเขา




“เดี๋ยวๆ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย ไม่ได้คิดว่ามีคนอื่นจริงๆใช่มั้ย”




“เปล่า”




“น้ำน่าน เชื่อใจพี่ได้นะ”มันปรับน้ำเสียงจริงจังทันที




“อืม ก็เชื่อใจอยู่”ยิ่งอยู่ห่างก็ต้องยิ่งเชื่อใจกันสินะ มันคือบททดสอบที่เราต้องผ่านไปให้ได้ เพื่อให้ความรักของเราแข็งแรงขึ้น




“คิดถึงนะ พี่จะรีบกลับไปหา”




“อืม รีบกลับมา”










คิดถึงเหมือนกัน


   
   






---------------------

เจอกันตอนหน้าค่ะ  :กอด1:
   

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 10-01-2018 23:22:09
หวีดดดดดดดด น้ำน่านกระทำอะไรซักอย่างออกมาให้เป็นกิจลักษณะให้พี่เดียวรับรู้เถอะว่าน่านรักเค้า ชั้นรู้สึกไม่มั่นคงกับความสัมพันธ์ของพวกเธอเลย กลัว ยังคงเห็นว่าหนทางรักของพวกเธอทั้งสองยังเป็นถนนดินลูกรังขรุขระ มีหลุมมีบ่อ มีแอ่งน้ำอยู่เลยหนูเอ้ยยย กลัวซักวันจะเหนื่อยที่จะข้ามหลุมข้ามบ่อจนยอมแพ้ซะก่อน เป็นคนแฟนกันมันก็ต้องปรับตัวเป็นเรื่องธรรมดาอยู่
่แล้วลูก คิดถึงใจอีกฝ่ายที่รักหนูให้มากๆ ใจเย็นๆ มีสติ ใตรตรองให้ดีนะลูกก่อนจะทำอะไรลงไป//ลูบมือปลอบ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 10-01-2018 23:45:19
เชื่อใจ  ท่องไว้นะน้ำน่าน  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 10-01-2018 23:56:35
น้ำน่านอย่าปากแข็งนักซิ สงสารพี่เดียว #ทีมพี่เดียว# :a3: :a11:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-01-2018 23:57:12
น่านสู้ ๆ หนักแน่นเข้าไว้น้าาา

อิพี่มันกว่าจะได้แกมาเป็นแฟน นางตรากตรำมาเยอะ

นางไม่พังบ้านตัวเองหรอกน่ะ

หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-01-2018 02:56:29
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-01-2018 04:37:17
หมวย ทำดี รู้เห็นอะไรก็มาเล่า
แต่เล่าแบบเตือนสติให้ใจเย็นไปด้วย

น้ำน่าน น่ารักมาก แค่คิดๆแต่ไม่โวยวาย  :mew1: :mew1: :mew1:
พี่เดียว ยิ่งน่าร้าก อ้อน คิดถึงแต่น่าน เอ่อ....หื่นน่ะแหละ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-01-2018 09:42:34
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 11-01-2018 10:41:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 11-01-2018 12:19:33
น้ำน่านเริ่มอ่อนลงแล้วววว อ้อนพี่เขาบ้างสิลูก ให้พี่เขาชื่นใจหน่อย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 11-01-2018 12:45:21
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 11-01-2018 21:44:50
 :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-01-2018 21:58:12
น้องน่านความคิดโตขึ้นนะ เลิกคิดเองเออเองแล้ว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 12-01-2018 00:18:27
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 14-01-2018 07:16:32
ทำดี ทำถูกแล้วน้ำน่าน ใจร่มๆไว้นะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 15-01-2018 16:06:52
น้ำน่านหนูจะแข็งไปไหนลูก

เป็นคนรักกันต้องแชร์ความรู้สึกด้วยนะค่ะ

คิดถึงก็บอก รักก็ต้องบอก พี่เดียวเค้าไม่รู้หลอกถ้าหนูไม่บอก

สู้ๆนะค่ะทั้งคู่เลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 15-01-2018 23:47:18
ชอบพี่เดียวมากเลย อยากได้ๆๆๆๆ.///.

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 26-01-2018 11:00:43
น้ำน่านพี่เดียวเชื่อใจได้อยู่นะ ต้องสู้นะลูกรักครั้งแรกก็จะแปลกใหม่หน่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.41 P.17 || [10.01.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 26-01-2018 23:07:17
คนสองคนจะรักกันก็ยากนะ แต่รักกันแล้ว ต้องหนักแน่นนะน้ำน่าน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-02-2018 21:31:56
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero




- 42 -




   
   “กูกลับก่อนนะ”




   ผมเอ่ยลาไอ้สามหน่อที่เดินตามมาด้านหลัง นักศึกษาปีสองเทอมสองอย่างพวกผมอ่อนล้าอ่อนแรงมาก งานเยอะรุมเร้าเงยหน้าจากกองงานอีกทีก็พบว่าเปิดเทอมมาได้เดือนกว่าแล้ว เวลาผ่านไปไวมาก แป๊บๆก็จะหมดปี ใกล้สิ้นปีก็ใกล้สิ้นใจเพราะกำหนดส่งงานก็ใกล้เข้ามา รวมถึงสอบกลางภาคด้วย แต่เทอมนี้มีสอบแค่สามวิชา เหมือนจะดีแต่ไม่ดี เพราะพวกผมเน้นปฏิบัติส่งชิ้นงานเป็นหลัก ก็ทำให้มือหักกันไปข้าง




   “เออ เจอกันวันจันทร์เว้ย”ไอ้เต้ตอบกลับแล้วก็แยกย้ายกันไป ช่วงนี้ไม่ได้ไปสังสรรค์กันเท่าไหร่ ต่างคนต่างใช้ชีวิตอยู่กับงานและคนของตัวเอง ไอ้หมวยไปหาพี่ไวท์ที่คณะ ไอ้โอ๊คติดเด็ก ส่วนไอ้เต้มันขอพักและทุ่มเทให้กับการเรียน มันจะทำเกรด ซึ่งมันควรคิดได้ตั้งนานแล้ว แต่เกรดมันก็ไม่ได้แย่ อยู่ในขั้นดีเลยเพียงแต่ถ้ามันตั้งใจมันจะทำได้ดีกว่านี้



   ผมเดินมาที่ประจำที่มักจะเห็นคัมรี่สีขาวจอดรออยู่ทุกเย็นวันศุกร์ เปิดประตูเอาของไว้ที่เบาะหลัง ก่อนจะกลับมานั่งที่ประจำของตัวเอง เอาหน้าจ่อแอร์เพื่อรับความเย็น




   “รอนานยัง”หันไปถามเขาสักหน่อย




   “ไม่นานครับ ไม่ถึงสิบนาที”พี่เดียวตอบพร้อมกับปิดไอแพดเมียรักแล้วส่งมาให้ผมถือไว้ เตรียมตัวออกรถ ความสัมพันธ์ของผมกับพี่เดียวดำเนินไปด้วยดี เรื่องที่จันท์ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรและไม่ได้เล่าให้ใครฟังด้วย มีแค่ไอ้หมวยที่รู้และมาถามเอาทีหลังว่าเป็นยังไง ผมก็เล่าให้มันฟังไม่ได้ปิดบังอะไร




   “หิวอ่ะ อยากกินสุกี้”




   “เอาสิ”



   “เป็ดใหญ่นะ หมูกรอบด้วย”




   “โอเคครับ”




“งั้นไปเลย ลุย!”




“หึหึ”



ทุกวันศุกร์พี่เดียวจะมารับผมที่คณะและไปทานข้าว ทำกิจกรรมอะไรด้วยกันเหมือนคู่รัก คิดทีไรก็จั๊กจี้หัวใจ แต่มันก็รู้สึกดี ช่วงนี้ท่านประธานเขาตารางงานลงตัวแล้ว ไม่ต้องวิ่งรอกไปนั่นมานี้บ่อยๆ ก่อนหน้านี้พี่เดียวเพิ่งเข้ามาทำงานเต็มตัว มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งภายในที่สำคัญ คนที่เคยทำประจำถูกปลดออก บางงานท่านประธานเลยต้องลงไปจับด้วยตัวเอง เลยทำให้งานหนักมาก แต่หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณเขาก็เลยมีเวลาว่างมากขึ้น ช่วงนี้ผมเห็นเขานั่งออกแบบเครื่องประดับมากกว่าเอางานเอกสารกลับมาทำที่บ้านเสียอีก




“ปีใหม่มีแพลนไปไหนหรือเปล่า”



ระหว่างมื้ออาหารพี่เดียวก็ถามขึ้นมา ผมเงยหน้าจากชามตัวเองขึ้นมองคนถามที่มองมาอยู่ก่อนแล้วก่อนจะส่ายหน้า ปีใหม่กะจะนอนยาวแบบซ้อมตาย เพราะรู้เลยว่าตัวเองต้องหมดแรงไปกับงานที่อาจารย์สั่งแบบไร้ความปราณี



“ไปญี่ปุ่นกัน”




“นึกยังไง?”




“อยากไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟนบ้าง”มันยิ้มมุมปาก ผมพยายามทำหน้านิ่งเมื่อรู้ตัวว่าถูกหยอดอีกแล้ว ไม่เคยชินสักที




“ชวนไปต้องจ่ายนะ”




“แน่นอนอยู่แล้วครับคุณ งกจริงๆ เคยให้ออกเองด้วยเหรอ”




พูดอีกก็ถูกอีก คบกับพี่เดียวโคตรสบาย อยากได้อะไรขอแค่เอ่ยปาก อยากไปไหนขอแค่บอก ถ้าคุณเขามีเวลาก็จะพาไปตลอด แต่ผมก็ไม่ได้เอาแต่รับฝ่ายเดียวนะ เวลาไปเดินเที่ยวเจออะไรที่คิดว่าพี่มันจะชอบผมก็ซื้อกลับมาให้ทุกที เวลาอยากจะกินอะไรผมก็ไม่ได้เลือกกินของแพงๆในห้างตลอดสักหน่อย ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางก็เคยพาไปกินมาแล้ว มีแต่คุณเขานั่นแหละที่ชอบพาผมไปกินของหรู จานใบใหญ่แต่มีอาหารกองอยู่นิดเดียว กินก็ไม่อิ่มแพงก็แพง แต่ถือว่าผลัดกัน ต่างคนต่างเรียนรู้สไตล์ของกันและกัน ปรับตัวเข้าหากัน




“พี่จะซื้อนาฬิกาทุกครั้งที่มาไม่ได้นะ”ผมดึงแขนพี่เดียวไว้ เมื่ออีกฝ่ายจะเลี้ยวเข้าร้านนาฬิกาแบรนด์โปรด ถ้าเรือนละพันสองพันจะไม่ว่านี่เรือนเป็นแสน บางเรือนเป็นล้านบ้าไปแล้ว ผมได้มาสองเรือนตั้งแต่คบกัน รู้ราคาแล้วไม่อยากเอามาใส่เลย แต่จะไม่ใส่ก็ไม่ได้เดี๋ยวคนให้เขาจะน้อยใจ




“แค่ดู”




“เหรอ?”ผมหรี่ตามอง ไม่อยากจะเชื่อ มันอมยิ้ม




“น่านะ พี่ชอบอ่ะ”




“เหอะ ตามใจ”ผมจะไปว่าอะไรได้ ก็เงินเขาทั้งนั้น ไม่ใช่เงินผม ถึงวันนี้ผมห้ามไม่เข้าร้านได้ แต่เดี๋ยวไอ้พี่เดียวมันก็มีนาฬิกาเรือนใหม่โผล่มาเก็บไว้ในตู้อยู่ดี พอผมเปิดไฟเขียวก็เลยถูกลากเข้ามาในร้าน ที่พนักงานเห็นหน้ากันจนคุ้นเคยดี มาบ่อยแค่ไหนก็คิดเอาเองแล้วกัน




“มารับของที่สั่งไว้ครับ ชื่อภัทรดนัย”



หะ? สั่งไว้?




ผมหันขวับไปมองทันที พี่เดียวยิ้มหล่อมาให้ ตั้งใจมาแต่แรกแล้วนี่หว่า แล้วทำมาบอกว่าแค่ดู น่าซัดให้น่วม พนักงานหายเข้าไปด้านในประมาณห้านาทีก่อนจะกลับมาพร้อมของที่ว่า



“นี่คะ เช็คได้เลยค่ะ”กล่องนาฬิกาสองกล่อวางไว้ตรงหน้าก่อนจะถูกเปิดออก มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่านาฬิกาคู่ สั่งทำแน่นอน




“ลองดูสิ”ผมกลอกตาไปมาก่อนถอดเรือนที่ใส่อยู่ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกันออก แล้วหยิบเรือนทางซ้ายที่หน้าปัดเล็กกว่านิดหน่อยขึ้นมาใส่ที่ข้อมือตัวเอง




พอดีเป๊ะ...สวยมากด้วย




“ชอบใช่มั้ย?”




“อืม”



เฮ้อ ผมแพ้อีกแล้ว




“ใส่เลยแล้วกัน”พี่เดียวว่าแล้วถอดนาฬิกาที่ใส่อยู่ออกแล้วใส่เรือนใหม่ ดูเป็นคนขี้เห่อทั้งคู่ พนักงานสาวสวยได้แต่มองยิ้มๆ และนำนาฬิกาของพวกเราทั้งคู่เก็บใส่กล่องให้แทน พี่เดียวจัดการจ่ายเงินส่วนที่เหลือก่อนจะพากันออกมาจากร้าน คนได้ใช้เงินยิ้มหน้าบาน




“เนื่องในโอกาสอะไร”เดี๋ยวนี้ถ้าจะให้อะไรก็ไม่ได้หวานโรแมนติกแล้วครับ ผมขอไว้ เข็ดจากตอนได้แหวนมา แต่ทุกครั้งที่ให้มันจะต้องมีโอกาสพิเศษ




“ครบรอบห้าเดือน”มันบอกยิ้มๆ




“ห้าเดือนแล้วเหรอ”จะว่านานมั้ยก็นานสำหรับคนอย่างผมที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีแฟน แต่ผมกลับรู้สึกว่าช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมันผ่านไปไวมาก แล้วตัวผมเองก็ไม่ได้มานั่งจำอะไรแบบนี้ด้วยสิ ทว่าอีกฝ่ายจำได้ตลอด ความใส่ใจของเขาทำให้ผมตื้นตันอยู่ในอก ผมรู้สึกว่าตัวเองสำคัญมากๆเมื่ออยู่กับคนๆนี้




“ขอบคุณนะพี่”ผมสอดมือเข้าไปจับกระชับไว้แน่น ไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาใคร เพราะคนที่ผมแคร์คือผู้ชายที่อยู่ข้างๆตอนนี้





X






“อื้ม...น่าน...ใจเย็นครับ”




ถึงจะบอกให้ผมใจเย็นแต่มือหนานั่นก็กระชากเสื้อนักศึกษาของผมออกจากตัวไปอย่างรวดเร็ว มือเลื่อนลงมาปลดกระดุมกางเกงรูดซิปบริการให้อย่างว่องไว ส่วนผมหน้ามืดมัวเมาจูบมันอยู่ มือก็เค้นคลึงส่วนที่หลับใหลภายใต้กางเกงสแลคเนื้อดีแบรนด์ดังให้คนด้านใต้ครางรับเสียงต่ำ แน่นอนว่าหลังจากเริ่มเมคเลิฟแบบคนรักกันครั้งแรกแล้ว มันย่อมมีครั้งต่อๆมา ผมยอมรับตัวเองได้แล้ว ความอายเริ่มลดลงแต่ไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ครั้งนี้พี่เดียวมันเลยดูแปลกใจมากพอๆกับความพอใจที่ฉายชัดในแววตาที่เริ่มหื่นของมัน




เราทั้งคู่โรมรันกันอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ภายในคอนโดหรูของพี่เดียว ผมให้พี่เดียวพุ่งตรงมาที่นี่แทนที่จะเป็นบ้านของตัวเอง วันนี้ไอ้พายอยู่บ้าน ทางไม่สะดวก...




“จะทำตรงนี้เลยเหรอ?”พี่เดียวถามกลับมาเสียงกระเส่า สายตามันโคตรเจ้าชู้




“มีปัญหา?”




“กลัวน่านเจ็บหลัง”เหอะ บนพื้นยังเคยโดนมาแล้ว ทำเสร็จหลังแดงเป็นแถบเกือบถลอกเพราะแรงกระแทกกระทั้น ตอนนั้นยังไม่เห็นเป็นห่วง
ผมลุกขึ้นสลัดกางเกงให้หลุดไปจากตัว ไอ้พี่เดียวรู้งานช่วยดึงผ้าชิ้นสุดท้ายออก ริมฝีปากร้อนทักทายกับเจ้าน้องชายผมที่เริ่มร้องไห้โยเย ปลายลิ้นหยอกล้อให้ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวก่อนที่ส่วนั้นของผมจะหายเข้าไปในโพรงปากร้อนจนสุด กลีบปากที่โอบรัด จังหวะการเคลื่อนไหวที่เล่นเอาขาสั่นจนต้องยึดท้ายทอยคนที่นั่งอยู่บนโซฟาไว้แน่น




“อ่า...”ผมครางรับจังหวะที่เร็วขึ้น ไม่ไหวแล้ว ขาไม่มีแรง เหมือนไอ้พี่เดียวมันจะรู้เลยจับผมนอนลงไปตามความยาวของโซฟา แล้วเริ่มปฏิบัติการใหม่ ผมแทรกปลายนิ้วไปตามเรือนผมสีดำที่ก้มๆเงยๆอยู่กลางลำตัว แหงนเงยหน้ากัดปากกลั้นเสียงที่เกิดจากความรู้สึกดีๆ



 
เก่ง...เกินไปแล้ว




“อ่า...อา...อื้อ”ผมเกร็งตัวเมื่อปลายนิ้วแข็งถูกดันเข้ามาเรื่อยๆจนสุดและเพิ่มจำนวนนิ้วเพราะตระเตรียมร่างกายผมให้พร้อม เทคนิคบ้าบออะไรที่ไอ้พายส่งให้อ่าน ตอนแรกก็ผมก็เมินหนี แต่ตอนนี้กี่เว็บที่ส่งมาก็ผ่านตาผมมาหมดแล้ว ก็ใครมันอยากจะเจ็บตัวทุกครั้งที่มีอะไรกัน พี่เดียวก็ฉีกซองถุงยางด้วยปากจัดการสวมให้กับตัวเองเมื่อเห็นว่าผมพร้อมแล้ว ผมลุกขึ้นนั่งหยิบซองเจลมาฉีกบ้าง รีดของเหลวในนั้นลูบไล้ไปบนส่วนร้อนและแข็งจัดของอีกฝ่าย พี่เดียวยื่นหน้าเข้ามาจูบอย่างลึกซึ้ง ดูดดึงริมฝีปากเหมือนจะให้หลุดออกไป รู้เลยว่ามันต้องบวมเจ่อมากแน่ๆ




“ยกตัวขึ้นหน่อยครับ”เสียงทุ่มนุ่มนวลแหบพร่านิดๆ มือหนาประคองเอวผมให้ยกสูงขึ้นยกเงยที่หน้าตัก ผมประคองส่วนนั้นของอีกฝ่ายให้ตั้งตรงก่อนจะกดตัวลงมา ครั้งแรกที่ทำแบบนี้ผมโคตรอายแต่เมื่อพบว่ามันทำให้ตัวเองเจ็บน้อยและสามารถควบคุมทุกอย่างได้ ผมก็ละความอายนั้นทิ้งไป




แต่...ผมก็ควบคุมมันได้แค่ช่วงแรกๆเท่านั้นแหละ หลังจากนั้นอย่าให้พูดถึง โดนซัดจนน่วม ไม่คิดว่าท่านประธานเขาจะมีความโลดโผนซุกซ่อนไว้ แต่อย่างน้อยผมก็พอรับได้ ไม่ถึงขั้นวิบากตะกายกำแพง ไต่เพดาน ใช้ลวดสลิงแบบนั้นมันก็จะเกินไป แต่พี่เดียวมันชอบกัดไหล่ผมด้านที่มีรอยสัก มันบอกว่าเซ็กซี่มาก เห็นทีไรแล้วมีอารมณ์ อยากทำแรงๆ โคตรโรคจิตอ่ะ




“อืม...เด็กดี เร็วอีกนิดสิ”




“ไม่...”




“ไม่ตามใจพี่หน่อยเหรอ”ถ้าตามใจผมต้องตายแน่ๆ




“ไม่...อ๊ะ..อ่า โอ๊ย ไอ้!!”




“หึหึ”




แล้วมันฟังที่ไหน สุดท้ายก็เอาแต่ใจตัวเองอยู่ดี ผมถูกกดลงกับโซฟาขาสองข้างถูกแยกออกกว้างรองรับอารมณ์คนด้านบน




“โอ๊ย อย่ากัด!”




“ชอบอ่ะ”




“เดี๋ยวก็กัดบ้างหรอก”




“เอาสิ แรงมาแค่ไหนพี่ก็แรงกลับไปเท่านั้น แต่ไม่ได้กัดตอบนะ”




“โอ๊ะ!”ไอ้พี่เดียวมันสาธิตให้ดูว่าสิ่งที่มันจะตอบแทนมาคืออะไร บอกได้คำเดียว...จุก!




ไอ้บ้า! ไอ้หื่น! ไอ้โรคจิต!




ผมด่ามันในใจ ไม่กล้าด่าออกมาจริงๆเดี๋ยวจะโดนหนัก หน้ามันตอนนี้ยิ่งดูหื่นๆ พร้อมที่จะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ผมคลั่งตาย เลยทำได้แค่เพียงซบหน้าลงกับโซฟา ปล่อยเสียงครางออกมาในบางครั้งเมื่อรู้สึกมากๆจนเก็บกลั้นไม่ไหว




“พี่รักน่านนะ”




จู่ๆก็มาหวาน ผมตามอารมณ์มันไม่ค่อยทัน จังหวะร้อนแรงก็เปลี่ยนมาอ่อนโยน การเคลื่อนไหวเชื่องช้าเนิบนาบทำให้ผมรับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้ดีกว่าตอนก่อนหน้าเสียอีก และมันให้ความเขินอายพุ่งขึ้นสูงจนไม่กล้าสบตาด้วย นับวันยิ่งเหมือนสาวน้อย น้ำน่านมึงมาไกลเกินไปแล้ว




“หึ เด็กดี มองหน้าพี่ก่อน”




“ไม่เอา”




“น่านครับ”




“อื้อ...”




“น้ำน่าน...”



“ไม่เอา พี่เดียวอย่าแกล้ง”



“ไม่แกล้งก็ได้ งั้นเอาจริงกันเถอะ”




โอ่ย มาถึงขั้นนี้ยังไม่เรียกว่าเอาจริงอีกหรือไง!






X






“อย่ากวนดิ”มือไม้ที่ยุ่มย่ามแถวสะโพกนี่น่ารำคาญที่สุด แต่พอปัดออกมันก็ย้ายตัวเองมาอยู่แถวไหล่ ปัดอีกทีก็มาอยู่ตรงเอว ผมหันไปมองคนที่ชอบก่อกวน ไอ้พี่เดียวมันกำลังจ้องมองเมียไอแพดมันอย่างรักใคร่ แต่มือกลับรุกรานร่างกายผมไม่หยุด คนจะเล่นเกมเสียสมาธิหมด




“พี่เดียว เอามือไปไว้ที่อื่นดิว้า”




“พี่ชอบตรงนี้นี่นา”




“โรคจิต!”หมดอารมณ์จะเล่นเกมแล้ว ผมเลยว่าจะไปอาบน้ำแก้เซ็ง คือเราตื่นกันมาสักพักแล้วครับแต่ยังไม่มีใครลุกขึ้นจากเตียง เสื้อผ้าที่มติดตัวผมคือบ๊อกเซอร์ ส่วนพี่เดียวมีแค่กางเกงผ้าขายาวตัวเดียว ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง ผมเล่นเกม พี่เดียวเช็คหุ้น อ่านข่าว ตามประสานักธุรกิจ




“จะไปไหน?”



“อาบน้ำ”



“งั้นอาบด้วย”



“ไม่ต้องเลย”ผมชี้หน้า มันได้แต่ยิ้มขำตาพราวแต่ไม่ได้ขยับตัวตามมา ตั้งใจจะแกล้งผมชัดๆ




เมื่อคืนเสร็จรอบสองบนเตียง ผมก็ลากสังขารไปอาบน้ำแต่ลืมล็อคประตู ไอ้พี่เดียวก็หน้ามึนตามเข้ามาอาบด้วยพร้อมเหตุผลว่าจะได้ไม่เสียเวลา รีบอาบรีบนอน ครับ รีบนอนมากเลย เสร็จมันไปในห้องน้ำอีกรอบฉลองครบห้าเดือนกันจนถึงใจ ผมนี่เพลียสุด ซีดไปทั้งตัว เชื่อมั้ยว่าเคยทำแต้มนอนกับสาวๆนับรอบแข่งกับไอ้ธันว์ยันเช้ายังไม่เหนื่อยเท่ากับทำกับไอ้พี่เดียวสามรอบเมื่อคืนเลย



“ออกไปกินข้าวข้างนอกกันนะ”ผมบอกเมื่อพี่เดียวมันอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาใส่เสื้อผ้า ส่วนผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว




“โอเคครับ อยากกินอะไรเลือกเลย”



ผมเลือกร้านอาหารในห้าง เพราะจะมาซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียนอะไรพวกนี้ด้วย ช่วงนี้ใช้เปลือง เมื่อวานก็ลืมซื้อ แต่เพราะเราตื่นสายกว่าจะอาบน้ำแต่งตัว กว่าจะขับรถมาถึงก็เป็นช่วงเที่ยงกว่าพอดี ร้านอาหารคนเยอะมากเลยต้องรอคิว ระหว่างรอผมก็เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย พี่เดียวขอตัวคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงป้าเรื่องงานประมูลการกุศลอะไรสักอย่าง




ผมเคยไปทานข้าวกับบ้านพี่เดียวมาแล้ว เจอกันครบทุกคนไม่มีใครรังเกียจที่พี่เดียวคบผู้ชาย ทุกคนในครอบครัวล้วนเข้าใจรสนิยมของพี่มันและยอมรับการตัดสินใจของหลานชายคนนี้ ผมได้รู้เรื่องของพี่เดียวเพิ่มขึ้นเยอะแยะ แล้วก็มีข่าวดีที่พี่แชมป์กับพี่นลินกำลังจะมีเจ้าตัวน้อย พี่นลินจองตัวผมไปถ่ายรูปให้วันคลอดและจองเป็นตากล้องประจำตัวลูกที่ยังไม่รู้เลยว่าเพศอะไร ขอมาผมก็จัดให้ ยังไม่เคยถ่ายเด็กเหมือนกัน น่าจะสนุก




หลังจากจัดการเรื่องปากท้องเสร็จแล้ว ก็ไปจัดการอุปกรณ์การเรียนของผม ส่วนนี้ผมจ่ายเอง พี่เดียวพยายามให้ผมใช้บัตรเครดิตเสริมที่มันให้มาแต่ผมไม่ใช้หรอกครับ เขาให้ผมก็แค่รับไว้แต่ไม่อยากใช้ มันรู้สึกแปลกๆถ้าต้องใช้เงินคนอื่น ถึงพี่เดียวมันจะไม่ใช่คนอื่นแล้วก็ตาม



ผมก็ชวนพี่เดียวไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับบ้านนิดๆหน่อยๆ พอประทังชีวิตได้ในวันหยุด ช่วงนี้งานเยอะขี้เกียจทำอาหารกินเอง ก็อาศัยฝากท้องตามร้านต่างๆ แต่ถ้าวันหยุดก็ขี้เกียจออกมา เลยจะซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารง่ายๆแทน เลือกของยังไม่ทันเสร็จไอ้พายก็โทรมาคงจะให้ผมซื้อของกินเข้าไปให้




“ว่าไงเมีย”



“เลิกเรียกกูแบบนี้สักที กูรับไม่ได้ที่ให้คนเป็นเมียเหมือนกันมาเรียก”




“สัด! โทรมามีไรให้ไวๆ”




“มึงจะกลับเข้าบ้านกี่โมง”




“อีกสักพักอ่ะ กูซื้อของสดอยู่ที่...”ผมบอกมันไป เผื่อมันอยากจะได้อะไร



“เออ ซื้อเสร็จแล้วก็รีบกลับมาแล้วกัน”



“ทำไม มึงจะออกไปไหนหรือไง”จะให้กลับไปดูลูกมันแน่ๆ




“เปล่า แต่มีคนมาหามึง”



“ใครวะ?”



“อยากรู้มึงก็รีบกลับมา”




“สัด ใครก็บอกมา ลีลา”




“สัญญากับกูก่อน ถ้ากูบอกมึงต้องกลับมา อย่าหนี”




ผมนิ่งคิด ใครกันที่จะทำให้ผมหนี ชีวิตนี้ก็ไม่เคยต้องหนีใครสักคน




“เออ”




มันเงียบไปอึดใจ ให้ผมต้องคอยลุ้น




“แม่มึงมาหา”





.



.



.




(มีต่อ)





หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 01-02-2018 21:32:17
.



.



.





“อยากเจอเขาหรือเปล่า”




“บอกไม่ถูก”




“ผู้ใหญ่มาหา ถึงไม่อยากเจอยังไงก็ต้องไปพบ”




“ก็คงต้องอย่างนั้น”ตอนนี้ผมถึงได้ให้พี่เดียวมันขับรถมาส่งที่บ้าน ถึงจะตอบตัวเองไม่ได้ว่าอยากเจอหรือเปล่า แต่ถ้าเขามาหาถึงที่ แสดงว่าเขาคงอยากเจอผม แล้วจะอยากเจอไปทำไม หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยสนใจ วันนี้จะกลับเข้ามาในชีวิตผมอีกทำไม




“คิดอะไรอยู่”




“คิดว่าเขามาหาผมทำไม”




“ไม่ต้องเครียดหรอก ไม่ว่าเขาจะมาหาทำไม แต่พี่คิดว่าเขามาดีไม่ได้มาร้าย อย่างน้อยเขาก็แม่ของเรา”




“เขาน่าจะลืมไปแล้วว่าผมเป็นลูกเขา”




“พี่รู้ว่าอดีตมันเจ็บปวด แต่อย่าเอามันมาทำให้ปัจจุบันของเราไม่มีความสุขไปด้วย สิ่งที่ผ่านมามันแก้ไขไม่ได้ แต่เราทำให้วันนี้และวันต่อๆไปเป็นวันที่ดีได้นะ ละทิ้งความเจ็บปวดนั้นไปซะ”




นั่นสินะ ผมเคยรับปากอาฝนไปแล้วว่าจะพยายามปล่อยวางกับอดีต ทั้งที่คิดว่าจะทำได้ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา ผมกลับไม่สามารถละทิ้งความรู้สึกแย่ๆนี้ทั้งไปได้สักที




“พูดคุยกับแม่เขาดีๆ รู้ตัวใช่มั้ยว่าเวลาโกรธ ไม่พอใจอะไรตัวเองเป็นยังไง”รู้สิ ก็พูดด้วยอารมณ์ล้วนๆ และเคยทำให้คนข้างๆเสียใจมาแล้ว




“รู้เล่า”




“ดีแล้ว โตแล้วต้องคิดได้เนอะ”




“เหอะ”ผมปัดมือที่ยื่นมาลูบหัวออก ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆไปได้ แล้วเราก็นั่งเงียบมาตลอดทาง พี่เดียวคงอยากให้ผมมีเวลาตกผลึกความคิด แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาไม่นาน พี่เดียวก็เลี้ยวรถเข้าบ้าน ผ่านรถตู้หรูที่จอดอยู่ด้านนอก มองเข้าไปเห็นมีคนขับรถนั่งรอในนั้น




“เดี๋ยวพี่ขึ้นไปรอบนห้องนะ ถ้าร้องไห้ก็วิ่งขึ้นไปหาเดี๋ยวจะปลอบเอง”




“ตลกละ”อยากจะทุบสักทีสองที




“หึหึ ไหนยิ้มสิ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนจะไปฆ่าใคร”




“เหรอ จะไปฆ่าคนเขาทำหน้าแบบนี้เหรอ”




“กวน ลงไปได้แล้วครับ อย่าถ่วงเวลา”รู้อีก ผมมองแรงไปอีกที ก่อนจะลงจากรถแล้วก้าวเข้าบ้านตัวเอง ด้วยอาการหน่วงในอก แต่ละย่างก้าวดูยากลำบาก พอเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนี้ทีไรมันดูยากสำหรับผมไปหมด พี่เดียวเอื้อมมาบีบมือให้กำลังใจผมเบาๆ ทำท่าจะแยกไปทางด้านข้างบ้าน แต่ต้องถูกหยุดไว้เพราะแขกผู้มาเยือน




“น้ำน่าน”น้ำเสียงที่เรียกผมดูร้อนรนนิดๆ พร้อมกับท่าทางที่รีบเร่งเดินมาหาผมถึงประตูบ้านก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้มาคนเดียว
“คุณเดียว?”




“อ่าครับ สวัสดีครับคุณทิพย์”พี่เดียวทักทายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่องรอยความแปลกใจฉายชัดในแววตาของผู้หญิงตรงหน้า ก่อนที่จะหันมามองทางผม เลยต้องยกมือไหว้ตามมารยาท จำคำที่อาฝนสอนได้ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นผู้ให้กำเนิด ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ลบล้างความจริงนี้ไปไม่ได้




“เข้าไปด้านในกันเถอะครับ”กลายเป็นพี่เดียวที่ต้องทำหน้าที่แทนผมที่ไม่รู้จะเริ่มบทสนทนายังไง ที่ห้องนั่งเล่นมีไอ้พายนั่งอยู่กับน้ำปาย และเด็กผู้ชายอีกคนไม่ต้องแนะนำก็รู้ว่าเป็นใคร ลูกชายอีกคนของผู้หญิงคนนี้




“พี่น่าน!”ปายเข้ามาเกาะแขนผมด้วยท่าทางดีใจ ซ้ำยังเรียกชื่อเล่นของผมแทนที่จะเป็น ‘พี่ชล’ อย่างที่เคยเรียก ผมทำได้แต่ยิ้มให้น้อง ไม่รู้จะพูดอะไร มันกระอักกระอ่วนไปหมด




“เอ่อ น่านมึงคุยกับคุณน้าไปนะ กูขอตัวก่อน”ไอ้พายชิ่งก่อนคนแรก




“อืม”




“คุณเดียวยังไงน้าขอคุยกับน้ำน่านเขาสักครู่นะคะ”




“ได้ครับ ตามสบายเลยครับ”พี่เดียวตอบแล้วหันมามองผมด้วยสายตาเป็นห่วง ผมพยักหน้าให้เบาๆ ถ้าผมจะร้องไห้จริงๆเดี๋ยววิ่งขึ้นไปซบอกเลย พอพี่เดียวแยกตัวไป น้ำปายกับน้ำปิงที่ผมรู้ชื่อจากการเรียกขานก็ถูกให้ออกไปเล่นกันข้างนอก น้ำปายดูเหมือนไม่อยากไปแต่ก็ค้านคนเป็นแม่ไม่ได้ พออยู่ด้วยกันตามลำพังผมก็เลือกที่มองออกไปด้านนอก




“น้ำน่าน...”น้ำเสียงช่างแตกต่างที่เขาใช้กับผมในงานแต่งคืนนั้น




“ครับ”




“หันมามองกันหน่อยได้มั้ยลูก”




ลูก เขายังใช้คำนี้กับผมได้อยู่ใช่มั้ย ยังจำได้ว่าเคยมีผมอยู่บนโลกใช่มั้ย




“คุณมาทำไมครับ”




“แม่แค่อยากมาหาลูก”





แม่ อย่างนั้นเหรอ?



“แม่? ผมเป็นลูกคุณเหรอครับ? ไม่เห็นจำได้เลย”ข้างในสั่นไหวอย่างรุนแรง




“น้ำน่านเป็นลูกแม่เสมอนะ”ผมถอยออกมาเมื่อเขาพยายามยื่นมือมาจับแขนผม




“แล้วทิ้งผมกับพ่อไปทำไม?”สิบกว่าปีที่ผมเฝ้าถามตัวเองมาตลอด วันนี้ผมมีโอกาสได้ถามเจ้าตัวแล้ว




“แม่...แม่ขอโทษ”แววตาเสียใจนั่นของจริงใช่มั้ย คนที่เสียใจคือผมไม่ใช่หรือไง




“คุณจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าผมไม่บอกชื่อไปวันนั้น คุณก็คงไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แล้วจะมาบอกว่าผมเป็นลูกคุณเสมอได้ยังไง วันนี้คุณมาเพื่ออะไร ถ้าอยากมาหาผมจริงคุณควรไปหาผมที่ลำพูนนานแล้ว ไม่ปล่อยต้องให้ผมรอเป็นสิบๆปีอย่างนี้”มันคือความคับข้องใจที่ไม่ลืมไปสักที




“น้ำน่าน แม่ขอโทษ แต่แม่ไม่กล้ากลับไปที่นั่น เพราะแม่รู้ว่าแม่ผิด รู้สึกผิดตลอดเวลา”




“แต่สิ่งที่ผมรู้คือคุณมีความสุขตลอดเวลา ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย มีเงินมีทองใช้ มีครอบครัวใหม่ที่แสนอบอุ่น ลูกสาวลูกชายพร้อมหน้า ส่วนผมกับพ่อมันก็แค่คนที่ถูกลืม ใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก”มันคือความเสียใจที่กัดกินหัวใจ



“.....”




“คำพูดกับการกระทำของคุณมันสวนทางกัน แต่อย่างน้อยผมก็ขอบคุณมากนะครับ ที่ไม่ได้ปฏิเสธว่าผมเป็นลูกคุณ ทำให้ผมรู้ว่าคุณก็ไม่ได้ตั้งใจจะลืมผมจริงๆ”ได้แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องบอกว่ารักผมเพราะผมไม่พร้อมจะเชื่อมัน ที่มาวันนี้และพูดออกมาว่าผมเป็นลูก ก็ดีมากๆแล้ว




“น้ำน่าน ไม่ร้องนะลูก”ผมไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังร้องไห้ สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยจนกระทั่งเขาเข้ามากอดผมไว้ทั้งตัว เขาตัวเล็กกว่าผมอีก สูงแค่ไหล่ผมเอง แต่อ้อมกอดนี้ที่ผมเลือมเลือนไปแล้วกลับอุ่นเหลือเกิน




“แม่ขอโทษ ขอโทษนะลูก”





X






มันเหมือนความรู้สึกที่สั่งสมมาสิบกว่าปี สลายไปเพียงเพราะอ้อมกอดเดียวของผู้หญิงคนนั้น




แม่...แม่ของผม




ผมร้องไห้เหมือนคนจะขาดใจ กว่าจะหยุดได้ก็ใช้เวลานานพอควร หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับแม่ ตอนแรกก็คิดว่าไม่อยากรับฟังเรื่องราวอะไรแล้ว แต่ผมควรหยุดความรู้สึกเจ็บปวดในอดีตและรับฟังเรื่องด้วยเหตุผล เลยได้รู้ว่าแม่ได้บอกเรื่องผมกับสามีใหม่และน้ำปายน้ำปิงเรียบร้อยแล้ว แม่บอกว่าสามีใหม่ของแม่ไม่รู้ว่าแม่เคยมีผมเพราะตากับยายผมอายที่แม่หนีตามพ่อไปแล้วก็ยังมีลูกด้วยกันอีก พอแม่ผมหนีกลับไปที่บ้าน ตากับยายที่โกรธมากแทบจะตัดขาดกัน แต่ถ้าแม่รับปากว่าจะเลิกติดต่อกับพ่อและแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่พวกท่านหาให้ ก็จะยอมให้อภัย ตอนนั้นแม่เข็ดกับความลำบากเลยรับปากไป




ผมฟังมาถึงตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจแทนพ่อและนึกโกรธขึ้นมา แต่ความโกรธก็จางหายไป เมื่อนึกถึงคำพูดของอาฝน




คนเราย่อมมีเหตุผลของตัวเอง และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองทั้งนั้น




แม่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยมีความรักและความรักของแม่ก็คงไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้มันจึงไปไม่รอด แม่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำผิดพลาดได้ ไม่เคยมีใครที่ไม่ทำผิด และคนที่ทำผิดก็ควรได้รับโอกาส ได้รับการอภัย ผมเองก็เคยทำผิดและได้รับการอภัยมาก่อน พอคิดได้แบบนี้แล้วใจผมก็เบาขึ้นเยอะ




ผมให้อภัยแม่ แต่ถ้าจะให้คุยกันได้อย่างสนิทใจมันเป็นเรื่องที่ยาก คงต้องใช้เวลา




แม่บอกว่าจะมาหาผมบ่อยๆถ้าหากผมไม่ว่าอะไร และถ้าผมอยากไปหาเขาที่บ้านก็ได้เขายินดีต้อนรับ ทุกคนที่บ้าน หมายถึงสามีใหม่และน้องอีกสองคน แม่บอกว่าตอนที่แม่สารภาพว่าเคยมีลูกมาก่อนและเพิ่งได้เจอกัน สามีใหม่ของแม่โกรธมาก โกรธที่ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก เขาไม่ได้รังเกียจที่แม่เคยมีลูกแล้ว เขาแก่กว่าแม่เป็นสิบปีก่อนที่จะแต่งงานกับแม่เขาก็เคยแต่งงานมาก่อนแต่ไม่มีลูก ภรรยาเก่าป่วยเสียชีวิตไปก่อน ถ้ารู้ว่าแม่มีผมเขาเองก็ยินดีที่จะรับผมไปอยู่ด้วย





ผมก็ได้แต่นิ่งฟังเฉยๆไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร แต่ในใจกลับคิดว่าอดีตที่ผ่านมามันก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้อยากเปลี่ยนอะไร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ ซึ่งผมควรคิดได้นานแล้ว




ที่เขามาหาวันนี้เพราะไม่อยากปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อนานไปกว่านี้ ตั้งแต่เจอผมครั้งล่าสุด เขาก็ใช้เวลาทำใจที่จะบอกสามีใหม่อยู่หลายวัน พอทุกอย่างเคลียร์เขาก็อยากพบผมเลยสืบหาที่อยู่ พอได้ที่อยู่เขาก็เกิดลังเลขึ้นมาอีกเพราะไม่รู้ว่าผมจะต้อนรับเขามั้ย แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจมาหา แล้วก็พาน้องสองคนมาด้วยเพราทั้งคู่อยากเจอพี่ชายอย่างผม แม่บอกว่าน้ำปายดีใจมากที่ผมเป็นพี่ชายเขาจริงๆ เอาแต่พูดถึงไม่หยุด น้ำปิงเองที่เห็นมีท่าทีเฉยๆที่จริงก็ตื่นเต้นแต่เป็นเด็กไม่ค่อยแสดงออก




“เหมือนฝันไป”ผมนอนคว่ำฝั่งหน้าลงกับหมอนไปซีกหนึ่งมองไอ้พี่เดียวถูไถเมียไอแพด อีกไม่นานคงต้องซื้อใหม่ ใช้งานหนักเหลือเกิน




“เก่งมากวันนี้”ลูบหัวเหมือนผมเป็นไอ้ออร์ดี้ไปได้ แต่เพลินดีผมเลยไม่ว่าอะไร




“พี่นิสัยไม่ดี”ไอ้พี่เดียวที่แสนมีมารยาทวันนี้มันยืนแอบฟังผมคุยโดยตลอด อยากจะซัดให้น่วม แต่ท่านประธานเขาก็มีเหตุผลเสมอแหละ เพราะเป็นห่วงผมเลยอยากอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนผมร้องไห้ก็ไม่เห็นจะมาปลอบเลย แต่ก็ดีแล้วแค่นี้ก็อายจะแย่ อายน้องมันด้วย ตอนเดินออกไปส่งแม่ไอ้สองคนนั้นมันจ้องหน้าผมใหญ่เลย ก็ตาแดงบวมขนาดนั้น หน้าตาผมคงอุบาทว์สุดๆ 




น้ำปายผมพอจบนิสัยได้ว่าเป็นเด็ดสดใสร่าเริงดี แต่ก็ดื้อมาก แต่กับน้ำปิงน้องดูเป็นเด็กเงียบๆ เลยไม่รู้ว่าเป็นเด็กยังไง แต่แววตาที่มองผมก็ดูเป็นมิตรดี เหมือนจะอยากคุยด้วยแต่ก็ไม่ค่อยกล้า ก็เพิ่งเจอกันครั้งแรกนี่นะ เกิดมาสิบกว่าปีจู่ๆก็มารู้ว่าตัวเองมีพี่น้องเพิ่มขึ้น มันคงเป็นธรรมดาที่จะอึดอัดขัดเขินกัน




“ถ้าพ่ออยู่ พ่อจะให้อภัยแม่มั้ยนะ”




“ให้สิ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงน่านมา น่านคือกระจกสะท้อนของคุณพ่อ”ผมอมยิ้ม เมื่อคิดว่าเป็นจริงอย่างที่พี่เดียวบอก ผมเหมือนพ่อมากเพราะพ่อเลี้ยงผมมาก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือผมเองก็พยายามทำตัวให้เหมือนพ่อด้วย พ่อเป็นฮีโร่ของผม เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง




“ดึกละ นอนได้แล้ว”แหม พอตัวเองงานเสร็จก็ให้นอน ทีผมชวนนอนตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วก็บอกเดี๋ยวก่อนๆ ไล่ไปนอนกับออร์ดี้ดีมั้ยเนี่ย




ตุบ!




“โอ๊ย! ทุบพี่ทำไมเนี่ย”




“หมั่นไส้”




“เอ้า พี่ไปทำอะไรให้เนี่ย”



“ปิดไฟ จะนอนแล้ว”



“ครับๆ”




พอไฟในห้องดับลงผมก็เบียดตัวเข้าหาคนข้างๆ พี่เดียววัดแขนโอบผมไว้หลวมๆ ไม่ได้นอนหนุนแขน ซุกอกกันหรอกครับ ใครจะไปทำอย่างนั้น เป็นท่านอนที่โคตรจะไม่สบายตัว แต่ถ้าแค่นอนใกล้ๆเอาแขนเอาขาพาดๆแตะๆกันไว้ก็โอเค




“จริงๆพี่ก็เหมือนพ่อนะ”




“หืม? นิสัยพี่เหมือนพ่อน่าน?”




อบอุ่นเหมือนพ่อ





ให้คำปรึกษาเหมือนพี่





กวนประสาทเหมือนเพื่อน





มีแฟนคนเดียวเหมือนได้ครบทุกอย่าง มีใครให้มากกว่านี้มั้ย?





--------------------------------------------------
นับถอยหลังได้เลยค่ะ เหลืออีก 1 ตอนเท่านั้น
ในส่วนของ nc นั้น เราขอลงในเว็บแบบเบาๆนะคะ
เราแต่งไว้หลายระดับ แต่เลือกแบบซอฟท์มาลงดีกว่า ฮ่าาา /เขิน
มีคนถามเรื่องรวมเล่มมาหลายคนนะคะ มีสำนักพิมพ์ติดต่อมา 3 ที่
แต่ว่าเราจะทำเล่มเอง ในการเปิดจองจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในกระทู้นิยายเรื่องนี้แล้วก็ในเพจนะคะ
 ZERO  (https://web.facebook.com/ZERO-392731780925258/)
ไม่รู้ว่าจะยังมีคนอยากได้เป็นเล่มอยู่มั้ย 55555 ที่เราคิดไว้ในเล่มมีตอนพิเศษอยู่หลายตอน แน่ชัดยังไงแล้วจะอัปเดตนะคะ

ฝากพี่ปั้นน้องครามไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ    แรงดึงดูด  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64145.msg3771703#msg3771703)  #ทีมปั้นคราม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 01-02-2018 21:42:42
 :m15:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 01-02-2018 22:48:01
ฮืออออ จะจบแล้วหรอ เผลอแปปเดียวก็ 42 ตอนแล้ว
ขอบใจไรท์ที่จะรวมเล่มนะคะ เราเตรียมเงินซื้อแน่นอน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 01-02-2018 23:27:14
รอเล่มเลย เดี๋ยวเก็บตังค์รอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-02-2018 23:59:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 02-02-2018 02:10:21
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-02-2018 09:41:28
ขอบคุณ :)  :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 02-02-2018 15:11:58
ฮือ จะจบแล้ว รู้สึกอาลัยอาวรณ์สองคนนี้มากๆ จะซื้อหนังสือแน่ๆข่ะ รักน้ำน่าน ลูกแม่
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: MacaroonCookie ที่ 16-02-2018 15:02:39
น่ารักคู่นี้ คอยๆปรับตัวเข้าหากัน เข้าใจน่านนะที่เคยเป็นฝ่ายกดมาตลอด พี่เดียวก็น่ารักมากก ตามใจ ดูแลน้องดีเว่ออ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-02-2018 20:47:34
ดีต่อใจจจจ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 17-02-2018 14:05:44
อ่านรวดเดียวเกือบจบเลย 55555 ชอบมากค่าา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 18-02-2018 00:39:43
ใกล้จบแล้วหรือ.... ไม่นะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-03-2018 09:00:06
มารอ   นานแล้วนะ    :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.42 P.18 || [01.02.18]
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 10-04-2018 09:26:48
เพิ่งได้มาอ่าน อ่านรวดเดียวเลย
สนุกครบรสมากจริงๆค่ะ

ปกติเราไม่ชอบเรื่องดราม่าแต่แบบ
เรื่องนี้ตอนดราม่าคุณคนเขียนแต่งดีมาก
ไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัด เป็นสีเทาจางๆดีมากเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะคะ
รอเล่มค่า ^^
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 22-04-2018 22:39:37
รัก...ไม่ได้ออกแบบ by zero


- บทส่งท้าย -



   “จะเอาอะไรอีกมั้ย?”



ผมถามไอ้พี่เดียวที่นอนเอนตัวอยู่บนเตียงจิ้มเมียไอแพดอยู่ สบายเหลือเกินคุณชาย ใช้งานผมเยี่ยงทาสแต่ตัวเองนอนสบาย อันที่จริงก็อาจจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่มันใช่เรื่องไหมที่ผมต้องมาจัดกระเป๋าให้คุณเขาเนี่ย ปกติจะบินไปไหนก็จัดเองตลอด มาตอนนี้ทำเป็นจัดเองไม่เป็น




   “ถ้าน่านว่าครบแล้วพี่ก็ไม่เอาอะไรเพิ่ม”




   “โว๊ะ ถ้าไปถึงแล้วขาดอะไรอย่ามาโทษแล้วกัน”



   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อเอา”



จ้า พ่อคนรวย



ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะปิดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แล้วลากไปแอบไว้ข้างตู้เสื้อผ้า อีกสามวันผมจะไปเที่ยวญี่ปุ่นฉลองปีใหม่ตามคำชวนของไอ้พี่เดียว วันนี้ก็เลยต้องมาจัดกระเป๋าเตรียมตัวเดินทาง ส่วนของตัวเองจัดเสร็จแล้วเมื่อเช้า ก็คิดเอาไว้เหมือนกันถ้าขาดอะไรเดี๋ยวค่อยไปหาซื้อเอา ฮ่าๆ



“มานี่มา”ไอ้พี่เดียวตบเตียงเรียกให้ผมเดินไปหา สายตายังไม่ละไปจากเมียรักจอแบน



“มีไร?”



“มานอนให้ลูบหน่อย”




“โรคจิต”ผมว่าแล้วเดินออกจากห้องมา รู้สึกหิว มื้อเย็นย่อยไวมาก เปิดตู้เย็นดูก็เจอหมูนิด ผักหน่อย ไข่อีกสองฟอง ก็เลยเอามารวมๆต้มมาม่ากิน ห้องพี่เดียวตอนนี้ไม่ค่อยมีของสดติดตู้แล้วเพราะส่วนมากก็ไปฝากท้องไว้ที่บ้านผมไม่ก็หากินจากข้างนอก




“ทำไร?”เจ้าของห้องเดินตามมา พี่เดียวมันเป็นโรคติดแฟน อยู่ห่างมากไม่ค่อยได้จะขาดใจ ผมเคยบอกมันไปแบบนี้มันก็เถียงกลับมาว่าไม่ได้ติดแฟนแต่ติดน้ำน่าน ผมก็เลยหมดคำพูด




“ต้มมาม่า กินมั้ย?”




“ไม่ดีกว่า”มันว่าแล้วเดินมารินน้ำดื่ม




“พรุ่งนี้จะไปแต่เช้านะ”ผมบอก พรุ่งนี้ต้องไปจ่ายตลาดเตรียมของมาทำอาหาร จะมีจัดปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าล่วงหน้าที่บ้านของผม สมาชิกจากทุกกลุ่มมากันครบรวมถึงเพื่อนพี่เดียวด้วย




“โอเค แล้วใครไปช่วย”




“ไอ้พายกับไอคิม เดี๋ยวแวะรับพวกมันที่บ้านแล้วค่อยไปตลาด”ไอ้คิมแวะมานอนที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนแต่ผมถูกพี่เดียวหิ้วมานอนที่คอนโดแทน เพราะต้องมาจัดกระเป๋าให้คุณชาย




“เฟิร์สไม่มีเรียนบ่ายเห็นว่าจะไปช่วยนะ”




“ได้ ต้องการคนช่วยเหมือนกัน”




สมาชิกเยอะ อาหารที่ทำก็ต้องเยอะตามไปด้วย ทำแค่สามคนคงเสร็จไม่ทัน พวกเพื่อนๆผมก็จะมาช่วยเพราะไม่มีเรียน พวกไอ้ธันว์ก็จะมาช่วงบ่ายพร้อมกับเครื่องดื่มต่างๆ ส่วนเงินผมได้รวบรวมมาจากทุกคนแล้ว ตกลงกันแล้วว่าใครจะออกกันเท่าไหร่ แต่พวกเพื่อนพี่เดียวรุ่นใหญ่กระเป๋าหนักก็เลยควักเงินก้อนฟาดหัวผมมา ผมนี่รีบตะครุบเลย งบเยอะก็ได้กินของดีๆกัน ตั้งใจจะซื้อกุ้งแม่น้ำตัวเท่าแขนมาย่างกิน ทำน้ำจิ้มแซ่บๆหน่อย แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว




จัดการมาม่ารอบค่ำเสร็จผมก็มานั่งลิสต์เมนูที่จะทำ มีทั้งที่รีเควสกันมา แล้วก็ที่อยากกินเองด้วย จากนั้นก็มาแยกว่าต้องซื้ออะไร เท่าไหร่บ้าง แบ่งเป็นสามกลุ่มใหญ่ พวกเนื้อสัตว์ ผัก เครื่องปรุง พรุ่งนี้ไปถึงแล้วก็แยกกันไปซื้อจะได้ไม่เสียเวลา เสร็จงานนี้ผมว่าไปเปิดร้านอาหารเป็นงานอดิเรกได้เลย




“จะนอนยัง?”พี่เดียวเดินออกมาถามจากห้องนอน ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนพื้นหน้าทีวี




“อีกแป๊บ




“มาพี่ช่วยดู”พี่เดียวนั่งลงบนโซฟาหยิบกระดาษเมนูที่ผมทำไว้ไปดู ส่วนมือที่ว่างก็ลูบหัวผมไปด้วย




“เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”




“ก็กินกันตั้งหลายคน เดี๋ยวไม่พอ อีกอย่างงบเยอะด้วย”




“อยากกินปีกไก่ทอดเกลือด้วย”พี่เดียวพูด



“ได้ เดี๋ยวทำให้”




“ขอบคุณครับ” ฟอด...




“แค่ขอบคุณก็พอ”ตอดเล็กตอดน้อยตลอด แก้ไม่หายนิสัยพวกนี้




“เดี๋ยวไม่ถึงใจ”มันว่า




“ถามด้วยว่าต้องการมั้ย”




“ไม่เป็นไรพี่เต็มใจให้”




หมั่นไส้! ผมเลยหันกลับไปแล้วกระชากคอมันลงมาจูบมันให้มันจบๆ ยิ่งปัดป้องมันยิ่งแกล้ง แต่การทำแบบนี้ก็ใช่ว่ามันจะหยุดกลับยิ่งได้ใจ แต่ไม่เป็นไรผมสมยอมเอง




“จุ๊บ”ยังจะอุตส่าห์ทิ้งท้ายเล็กๆไว้ให้ผมเขินอีกนะ




“อยากกินอะไรอีกป่ะ?”ผมถามพร้อมกับเช็ดปากที่ถูกกินเมื่อครู่นี้เบาๆ




“อยากกินน้ำน่าน”




 “จิ๊ เอาดีๆ”




“ก็ดีตลอดนะ...หรือว่าน่านว่าไง”




“โว๊ย! คนละเรื่องแล้ว”




“ฮ่าๆ อย่าเดือดสิ แค่นี้ก็พอแล้วเยอะแยะ”




“โอเค งั้นก็เรียบร้อยแล้ว นอนได้”




ผมเก็บของวางไว้บนโต๊ะ พี่เดียวยืนรอเข้าห้องพร้อมกัน ตั้งแต่อะไรๆเข้าที่เข้าทาง คุณเขาก็ไม่ต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้ว ก็เลยมีเวลาพักผ่อนได้เต็มที่




“อื้อ ไม่เอาพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”ผมพลิกตัวหลบริมฝีปากที่คอยรุกราน




“รอบเดียว”




“ไม่”



“นะ...”




เฮ้อ...แล้วก็มีเวลาทำอย่างอื่นได้เต็มที่ด้วยเหมือนกัน ผมไม่ขอบรรยายต่อแล้วกัน ตัดฉากไปที่เมียไอแพดซึ่งหมดความสำคัญแล้ว

 



x






   “เชิญดื่มให้กับคู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้ด้วยครับ”



ตู้ม!




ทันทีที่ไอ้โอ๊คพูดจบขาผมมันก็ไปเองอัตโนมัติ ไอ้คนพูดมันลงไปลอยคออยู่ในสระเป็นที่เรียบร้อย เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนตรงนั้น




“เชี่ยน่าน! ถีบกูทำไมวะ”




“กูจำได้ว่ามึงชอบเล่นน้ำเลยช่วย”




“ส้นตีน!”




“ไอ้โอ๊ค มันยังไม่ได้เอ่ยชื่อใคร มึงร้อนตัวอ่อ?”ไอ้เต้ที่นั่งข้างๆก็กวนตีนดีเหลือเกิน




“กูจำได้ว่ามึงก็ชอบเล่นน้ำ”ผมยกเท้าขึ้นอีกรอบ แต่ไอ้เต้จับไว้ได้ก่อน มันหัวเราะ




“ตอนนี้กูยังไม่อยากว่ะ มึงใจเย็นก่อน”




ผมส่ายหน้าแล้วเอาเท้าลง ถึงจะไม่เอ่ยชื่อว่าหมายถึงใคร แต่ตั้งแต่รวมตัวกันพวกเพื่อนไอ้พี่เดียวมันก็แซวกันหนักว่าจัดเลี้ยงฉลองมงคลสมรสระหว่างผมกับไอ้พี่เดียวใช่ไหม ไอ้พวกนี้ได้ยินก็ชอบใจใหญ่ แต่ละคนร่วมผสมโรงไปด้วย แล้วจะไม่ให้ผมขึ้นได้ยังไง




พวกไอ้ธันว์หลังจากมาพร้อมกับเครื่องดื่มมันก็มาจัดสถานที่พร้อมเมาไว้เรียบร้อย ส่วนผม ไอ้พาย ไอ้คิม ไอ้อั้ม พี่เฟิร์ส ทำกับข้าวอยู่ในครัว อันไหนที่จะเอาไว้ปิ้งย่างก็ให้ไอ้เต้ ไอ้โอ๊คจัดการ กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ถึงเวลาเลิกงานของพวกพี่ๆเขาพอดี




งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าเริ่มตั้งแต่ห้าโมงกว่า จนถึงตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว ดื่มกินกันเต็มที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ต้องมีอะไรน่ากังวล ตอนนี้กลุ่มถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามกิจกรรมที่ทำอยู่ มีทั้งวงไพ่ วงเหล้า พวกที่ลงเล่นน้ำกันก็มี ส่วนผมขอนั่งชิลล์จิบอยู่ขอบสระรวมกับเพื่อนพี่เดียว ไอ้พายมันเอาลูกบอลสีๆมาปล่อยลอยเต็มสระไปหมด มันบอกสร้างสีสันโดยมีพี่เฟิร์สเป็นลูกคู่ด้วย ส่วนเสียงเพลงที่ดังอยู่ตอนนี้พวกว่าที่วิศวกรมันขนกันมา เปิดเพลงกันอย่างกับดีเจระดับโลก




“ถ้ามีสาวๆนะ จะแจ่มมากเลย”พี่ยอดพูดขึ้นมา วันนี้ขนบลูมาให้พวกผมเชยชมด้วย




“มึงห่างๆบ้างสักวันคงไม่ตายหรอกไอ้ห่า”พี่ทักษ์ว่า




“มันห่างไม่ได้หรอกเว้ย เดี๋ยวลงแดง”




“แหม่ะ ว่าแต่กูไม่ดูตัวมึงเลยนะสัดบอส กูเห็นนะว่ามึงมองใครตาเป็นมันเลย กูเตือนไว้ถ้าจะเล่นๆก็อย่ามาเอาคนใกล้ตัว”




“เออหน่ะ”




“หวังว่าพี่ไม่ได้เล็งเพื่อนผมคนใดคนหนึ่งไว้นะ”




“มึงหวงเพื่อนไง?”




“ต้องพูดว่าห่วงถึงจะถูกพี่”




“กูก็ไม่ได้เลวร้ายนะเว้ย”กล้าพูดจริงๆว่าไม่ได้เลวร้าย




“แต่กูว่าไอ้น่านมันห่วงก็ถูกแล้ว”




“พวกมึงก็จริงจังกันไปได้ ไม่ต้องห่วง กูไม่ยุ่งด้วยหรอกน่า มาๆชน”ผมส่ายหน้าเมื่อพี่แกเปลี่ยนเรื่อง ถึงปากจะบอกว่าไม่ยุ่งแต่สายตาก็จับจ้องไปที่เพื่อนผม พอรู้ว่าผมมองอยู่แกก็แกล้งเสทำมองไปที่อื่น ผมไม่พูดอะไรปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนแล้วกัน แต่ผมจะไม่บอกหรอกว่าแกเล็งใครเอาไว้ ไปลุ้นกันเอาเอง




พวกผมนั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อยๆผลัดเปลี่ยนกลุ่มกันไป จนสุดท้ายเหมือนไม่มีอะไรจะทำ พวกไอ้โอ๊คก็พากันแกล้งจับคนอื่นโยนลงน้ำ แต่ไม่มีใครกล้าแกล้งพวกพี่ๆเขา ไอ้พี่เดียวเลยประเดิมด้วยการถีบพี่ทักษ์ลงสระ เท่านั้นแหละครับความโกลาหลก็เริ่มขึ้น กลายเป็นวิ่งไล่กันรอบขอบสระ แต่นึกสภาพออกกันไหมครับ ดื่มกันไปไม่น้อย เดินยังเซ แล้วจะมาวิ่งไล่จับกันก็เป๋ไปเป๋มา ตกสระไปเองก็มี ผมยืนดูความวุ่นวายเพลินๆ ก็มีวัตถุวิ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง




“เชี่ยๆ กูไม่เล่นเว้ย นี่กูเจ้าของบ้านไอ้สัด อ้ากกกก”




ตู้ม!!



“แค่กๆ”โผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ผมก็ไอสำลัก แสบคอฉิบ




“ค_”ผมด่า ไอ้เต้กับไอ้โอ๊คที่แท็กมือกันกับความสำเร็จในครั้งนี้



“เป็นเจ้าของบ้านยิ่งต้องโดน ฮ่าๆ”ไอ้สองตัวยืนหัวเราะสะใจอยู่ขอบสระ




“กูจำได้ว่ามึงชอบว่ายน้ำ”ไอ้โอ๊คมันเอาคำผมมาย้อน ก่อนที่มันสองตัวจะกระโดดลงสระจนน้ำกระจายแบบไม่ต้องรอใครถีบส่ง




“ไง น้ำเย็นดีมั้ย?”พี่เดียวมันเดินมานั่งยองข้างสระแล้วถามผมอย่างกวนๆ ไม่ช่วยแล้วยังซ้ำอีก มันตัวดีเลยที่ผลักผมไปให้ไอ้สองตัวนั้นจับโยนลงน้ำ




“ลองลงมาเองสิ”ผมวักน้ำใส่มัน โดนหน้าไปเต็มๆแต่มันกลับหัวเราะ




“จะขึ้นมามั้ย?”




“ไม่อ่ะ”ไหนๆก็เปียกแล้ว เล่นน้ำเลยดีกว่า




“แล้วไม่ดื่มแล้ว?”




“เอาไว้ก่อน”




“โอเค ถ้าจะดื่มเรียกพี่แล้วกันเดี๋ยวเอามาให้”




“อืม พี่เดียว”




“หืม?”




“ไม่ลงมาเล่นด้วยกันเหรอ?”




“เอาไว้ก่อน”มันบอกยิ้มๆ ทำไมใครๆก็ต้องเลียนแบบคำพูดผมด้วยเนี่ย




“ลงมาเหอะ”




“หาเพื่อนเปียกอ่ะดิ”




“เปล่า หาแฟนเปียกต่างหาก”พี่เดียวมันชะงักไปนิดก่อนจะยิ้มมากกว่าเดิม ยื่นมือมาเกลี่ยผมแถวหน้าผากที่เปียกน้ำให้




“หึหึ เมาหรือไง?”




“คงงั้น”




“ถ้างั้นจะทำอะไรคนเมาก็ได้สิ”




“แล้วจะทำอะไร?”




คำตอบของคำถามคือใบหน้าหล่อๆที่โน้มลงมาใกล้จนกระทั่งริมฝีปากเราแตะต้องกันอย่างแผ่วเบา ทุกอย่างรอบตัวเงียบลงทันทีเหมือนมีแต่ผมกับพี่มันที่อยู่ตรงนี้ น้ำหนักย้ำเพิ่มขึ้นทุกวินาทีเหมือนจะหลอมรวมเราเอาไว้ด้วยกัน ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน




“เอ่อ...คือกูว่าพวกมึงขึ้นห้องกันไปก่อนก็ได้นะ”




เสียงของพี่ทักษ์ทำให้ผมรู้สึกตัวว่าอยู่ที่ไหน พอผละออกจากพี่เดียวแล้วมองไปรอบๆ ก็เจอทุกคนหยุดกิจกรรมที่ทำก่อนหน้าแล้วมองมาเป็นตาเดียวกัน แต่ละคนยิ้มแซวกันเต็มที่ ผมหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที




“นานสัดไอ้เหี้ย”พี่บอส




“มึงไม่น่าทักมันเลย กูอยากจะรู้ว่าแม่งจะนานกว่านี้ได้อีกมั้ย”พี่ยอด




“เชี่ยน่านกูถ่ายรูปไว้ให้ด้วยเว้ย”ไอ้ธันว์




“ใครอยากได้คลิปแอดไลน์มาเลยคร้าบ”เชี่ยพาย คนอื่นเขาอยากจะได้คลิปกูไปเพื่ออะไรวะ ควาย!




“พวกมึงแม่ง หุบปากไปเลยไอ้สัด”




“อ้าว หมายถึงพวกกูด้วยป่ะ”พี่ทักษ์ ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง




“พี่กลับไปเลยไป”




“เอ้าๆ ไล่แขกกลับ พวกมึงจะฟีทกันในสระเหรอ”




ฮิ้วววววววววว แล้วเสียงโห่ฮาก็ดังลั่น เชี่ยเอ๊ย ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไอ้พี่เดียวก็ไม่ช่วยอะไรยิ้มรับอย่างเดียว หาทางหนีไม่ได้ก็ดำน้ำหนีซะเลย
กูหนอกูไม่น่าเคลิ้มเลย!

 




x





“เลิกดูได้เล่า”




งานเลี้ยงจบลงแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ยกเว้นไอ้ธันว์กับไอ้คิมที่อยู่ต่อ ปกติไอ้ธันว์มันจะนอนห้องผม แต่คืนนี้พี่เดียวค้างด้วยผมเลยไล่มันไปนอนห้องสำหรับแขกแทน ส่วนไอ้คิมก็นอนห้องซี้มันนั่นแหละ




“พี่ชอบ น่ารักดี”




คลิปที่ผมจูบกับพี่มันในสระน้ำมันน่ารักตรงไหนวะ ไอ้พี่เดียวมันถึงดูแล้วดูอีก ทุกคนที่ถ่ายได้ก็พร้อมใจกันส่งทั้งคลิปทั้งรูปให้ผมกับพี่เดียว แต่ถามผมสักคำไหมว่าอยากได้หรือเปล่า แต่ไอ้พี่เดียวนี่สิอาการหนัก นอกจากจะเก็บไว้ในโทรศัพท์แล้ว ยังเก็บไว้ในแมคบุค ในเมียไอแพดของมันอีก เยอะเกิ๊น




“มาดูด้วยกันดิ”




“ไม่เอา พี่ก็เลิกดูได้แล้ว บ้าป่ะเนี่ย”




กว่าผมจะทำใจโผล่ขึ้นจากน้ำได้ก็เกือบจะขาดใจตาย ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรกับสายตาและเสียงแซวของผองเพื่อน ไอ้อั้มมีการยกนิ้วแล้วบอกว่าเด็ดให้ผมอีกนะ พี่เฟิร์สก็เข้ามากระเซ้าพี่ตัวเองและมองผมสายตาวิบวับตลอด ได้ยินแว่วๆว่าอยากได้มั่งอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันได้ฟังจบผมก็เดินหนีมาเสียก่อน




“ยังไม่เลิกเขินอีก”




“ผมไม่ได้หน้าหนาแบบพี่มั้ย ความผิดพี่เลยเนี่ย มาจูบทำไมวะ”




“เอ้า ไม่โทษตัวเองมั่งล่ะ อยากทำตัวน่ารักทำไม พี่ก็อดใจไม่ไหวดิ”




ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีกับเหตุผลของมัน จะมาโทษว่าเป็นความผิดผมได้ไงวะ




“จูบก็จูบด้วยกัน เคลิ้มก็เคลิ้มด้วยกัน โทษพี่คนเดียวมันไม่แฟร์นะครับน้องน้ำน่าน”




“โอเค งั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่เรื่องในอนาคตก็อดไปแล้วกัน”




“เอ้ย ได้ไง พี่ไม่ยอม”มันเด้งตัวขึ้นมาทันที




“ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน กลับไปนอนคอนโดตัวเองเลย ไป ไป ไป ไป”ผมเอาหมอนฟาดมันรัวๆ พี่เดียวมันก็ปัดป้องก่อนจะกระชากหมอนจนผมตัวปลิวตาม แรงควายเกินไปแล้ว




“โอ๊ย ปล่อยเว้ยพี่ รัดแน่นเกินไปแล้ว”มันคว้าตัวผมไปกอดได้ก็กดลงกับเตียงกระดูกแทบหัก




“หึหึ ชอบให้ออกกำลังตอนดึกๆใช่มั้ย หืมๆๆ”




“โอ๊ยๆ พี่อย่า มันจั๊กจี้ ฮ่าๆ”ไอ้พี่เดียวมันเอาหน้ามาซุกไซ้ซอกคอผมแรงๆ ตอหนวดมันทิ่มทั้งเจ็บทั้งจั๊กจี้





“จะยอมหรือไม่ยอม”มันหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นถาม ผมว่าถ้านานกว่านี้อีกนิดมันได้เลยเถิดแน่ๆ เมื่อคืนก็เพิ่งโดนไป คืนนี้ผมจะต้องรอด ทำทุกคืนๆก็ไม่ไหวนะ ร่างกายต้องการการฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ




“ไม่ยอม”




“จริงอ่ะ?”




“อื้ออ หนักว่ะพี่ ขยับออกไปหน่อย”




“แค่นี้ทำบ่น ทีตอน...อื้มมม”ผมรีบเอามือปิดปากมันก่อนจะพูดจบ เพราะรู้ว่าไอ้พี่เดียวมันจะพูดอะไร ชั่วร้ายจริงๆ




“โว้ย ไอ้พี่บ้านี่”ผมดึงมือออกแล้วเอาเช็ดเสื้อนอนมัน มาเลียมือเฉย




“ฮ่าๆ ไม่แกล้งแล้ว นอนๆ”




ผมถอนใจเฮือกใหญ่เมื่อตัวโตๆของมันขยับไปนอนที่ตัวเอง




“โรคจิต!”ฟาดมันไปอีกที หมั่นไส้




“ก็มีน่านคนเดียวไม่ให้แกล้งน่านแล้วจะให้พี่ไปแกล้งใคร”




“ก็เลิกแกล้งไงง่ายกว่าเยอะ ไปปิดไฟเลย”




ถือโอกาสใช้ซะเลย ผมขี้เกียจลุก ตอนนี้ก็เกือบจะตีสองแล้ว เมื่อเช้าก็ตื่นแต่เช้าแถมยังเสียพลังงานไปฝนการทำนั่นนี่ไปเยอะ แบตใกล้หมดเต็มที พี่เดียวปิดไฟหลักของห้องแล้วก็กลับมานอนข้างๆตามเดิม ลากผมเข้าไปกอดเหมือนทุกคืน ผมพลิกตัวหันไปมองหน้ามัน




“มีอะไรครับ?”




“ฝันดี”จริงๆอยากบอกมากกว่านี้ แต่ใจยังไม่กล้าพอ



“หึหึ ครับ ฝันดีเหมือนกัน”




ผมหลับตาลงเพื่อจะได้พักผ่อนสักที สัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากช่วยให้หลับสนิทเหมือนเช่นทุกคืน ถึงจะโรคจิตชอบแกล้ง แต่ก็เป็นคนที่ทำให้ผมอบอุ่นใจเสมอ พี่เดียวเป็นคนที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของผมมาก่อน เคยถามตัวเองว่าถ้าหากผมจะมีความรัก คนที่ผมจะรักต้องเป็นคนแบบไหน แต่ก็ไม่เคยได้พบคำตอบ เพราะคิดอยู่เสมอว่าความรักนั้นไม่เคยมีอยู่จริงๆ


จนกระทั่งผมได้เจอพี่เดียว คนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาแต่ในวันนี้กลับอยู่ในหัวใจของผม




ความรักหนึ่งเดียว เป็นรักที่ไม่เคยวาดฝันไว้ว่าจะได้พบเจอ




รักที่ไม่ได้ออกแบบ...










- END -






---------------------------------------
ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่พี่เดียวและน้ำน่านเดินทางมาถึงตอนสุดท้าย
เนิ่นนานกว่าคิดไว้มากเลยค่ะ ต้องขอขอบคุณทุกกำลัง ทุกการติดตามนะคะ
เป็นนิยายที่ใช้เวลาในการแต่งนานที่สุดเท่าที่เราเคยแต่งมาเลยค่ะ 2 ปี กับอีก 9 เดือน
นอกจากตอนนี้แล้ว เราจะลงตอนพิเศษในเว็บอีก 2 ตอนนะคะ นอกนั้นพบกันในเล่มค่ะ
รายละเอียดการสั่งจองติดตามได้ในเพจนะคะ   Zero  (https://web.facebook.com/ZERO-392731780925258/) 

เรารักและผูกพันกับน้ำน่านมาก เพราะเป็นตัวละครที่เราตั้งใจกับมันมากสุดๆ ตั้งแต่คิดคาแร็คเตอร์ คิดชื่อและอะไรอีกหลายอย่าง
จริงๆแล้วน้ำน่านเป็นผู้ชายในสเปคเรามากๆเลย 55555555 แต่เราก็เอาน้องมาปู้ยี่ปู้ยำ
อันที่จริงเราอยากจะแต่งเรื่องนี้ต่อไปยาวๆ แต่มันก็ต้องดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย
ในอนาคตอาจจมีตอนสั้นๆ ออกมาให้หายคิดถึงนะคะ แต่เราก็ยังไม่รับปากค่ะ
เรื่องต่อไปที่เกี่ยวข้องกับตัวละครในเรื่องนี้อาจจะเป็นคู่ของธันว์นะคะ
ส่วนเรื่องของพี่บอสที่เราแอบหย่อนไว้ ก็ทิ้งไว้ให้ลุ้นเล่นค่ะ #ทำไมเป็นคนแบบนี้

ยังไงก็ฝากติตดามนิยายเรื่องต่อๆไปด้วยนะคะ แต่ก็ตามสไตล์ อัปช้ามาก แต่อย่าทิ้งเราไปนะ
รักผู้อ่านทุกท่านมากๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 22-04-2018 23:06:00
รักเรื่องนี้เช่นกัน
ขอบคุณนะคะ รอตอนพิเศษและเรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 22-04-2018 23:49:04
ฮรือออ จบแล้ววว รักกกกกกกก
/// ชั้นรอฉากที่จะไปญี่ปุ่นอยู่วววววว
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-04-2018 00:10:21
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ถึงน่านจะน่าตีไปบ้าง

แต่หลัง ๆ นางน่ารักมากก ให้อภัยยย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 23-04-2018 00:37:45
 :m1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ceylon ที่ 23-04-2018 02:09:34
เหมือนจะลืมเนื้อเรื่องเก่า แง 555555 แอบใจหายเบาๆนิยายที่ติดตามจบไปทีละเรื่องสองเรื่อง หวังว่าจะได้มีโอกาสติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 23-04-2018 06:29:15
ขอบคุณมากๆสำหรับนิยายดีดีนะคะ
สนุกมาก ครบรสมากจริงๆ ชอบลักษณะการบรรยายเป็นพิเศษเลย ไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป

จากนี้จะไปติดตามต่อที่คู่ปั้นครามนะคะ สู้ๆค่า

ว่าแต่เรื่องของธันว์นี่น่าสนใจนา
คู่กับใครลุ้นจัง จะเป็นน้องพายรึป่าวนะะ

ส่วนพี่บอสกับเพื่อนน้ำน่านอีกคนนั้น
งงเลยยยยยยย ใครนั่นเดายากล้ำ
ไม่น่าจะใช่โอ๊คกับเต้ ขอเดาว่าคิมละกันนน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 23-04-2018 11:56:59
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ

 :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-04-2018 18:43:49
 :pig4: ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-04-2018 20:09:24
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 23-04-2018 20:41:03
จบแบบนุ่มๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-04-2018 19:39:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

เพิ่งกลับเข้าเล้ามา หลังจากไม่ได้เข้ามาหลายปี

พอมาเจอเรื่องนี้ จั่วหัวว่าจบแล้ว  ก็เลยอ่าน

ผลปรากฏว่า   หยุดอ่านไม่ได้เลย 

เสียการเสียงานเสียสุขภาพเพราะอดหลับอดนอน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-04-2018 20:48:32
ดีต่อใจจริงๆ รอมาตลอด   :mew1:
พี่เดียว น้ำน่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ผองเพื่อนรักใคร่กลมเกลียวกันมากๆ
ใครนะที่พี่บอสเล็งๆไว้ พาย เต้ คิม ?   :really2: :really2: :really2:
รอตอนพิเศษ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 25-04-2018 07:41:22
รักเรื่องนี้เลย  ตามอ่านแบบไม่หลับไม่นอน 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 28-04-2018 22:32:52
ชอบเรื่องนี้มากกกกก มีครบทุกรสชาติ
น้ำน่านดื้อมากแต่น่าเอ็นดู พี่เดียวอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ พึ่งพาได้
เราเป็นคนไม่ชอบดราม่าเรื่องนอกใจหรือมือที่3เลย มันแย่และร้ายแรงมากแต่สำหรับน่านเราแอบเข้าใจน้องนะ ชายแท้รุกมาตลอด โดนกระทำแต่ยังไม่เกลียดพี่เพราะอิพี่ตื๊อมาก งอนกันไปงอนกันมา เป็นเรื่องเลย
สุดท้ายก็ดีใจนะที่น่านยอมรับตัวเองได้ หวานๆ แฮปปี้กันทุกฝ่าย

อยากอ่านเรื่องของคู่อื่นๆบ้างจังง รู้สึกโผล่มาหลายคู่ :hao3:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 01-05-2018 13:23:03
รักเรื่องนี้มาก  :mew1: น้ำน่านเป็นนายเอกในสเปกเราเลย ขอบคุณจากใจจริงค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 01-05-2018 23:17:10
ชอบน้ำน่านมากๆ นิสัยเด็ดเดี่ยวเป็นตัวของตัวเองดี เพื่อนๆก็น่ารักสร้างสีสันดีค่ะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 03-05-2018 23:24:01
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 04-05-2018 09:13:24
สนุกมากเลย
ชอบที่ทุกคนได้รับบทเรียนทั้งหมด
อยากอ่านเรื่องพายแล้ว
จะเกี่ยวกับอาร์ไหมนะ
ส่วนธันว์ จะคู่กับบอสไหม
หรือเป็นคนในกลุ่มเดียวคนอื่น
เหมือนจะโยงกันหมดเลย
อยากอ่านคู่ต่อไปแล้ว
จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 04-05-2018 19:10:47
หื้ออออ จบแล้ว
อยากได้แบบพี่เดียวสักคน
ท้ายๆนี่หวานกันตลอด
อยากอ่านคู่น้องหมวยโฟมมากเลย
อยากอ่านเรื่องของเฟิร์สด้วย
พายด้วย ธันด้วย โอ้ยอยากของทุกคู่เลย 5555+
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 04-05-2018 22:11:10
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 05-05-2018 22:22:54
แค่อ่านบรรทัดแรกก็ยิ้มแล้วอ่ะ บ้าบอมาก
เป็นเรื่องที่ชอบมากจริงๆ จบจริงๆ แล้วฮือออ
เราจะเก็บเงินสอยเล่มให้ได้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 06-05-2018 05:36:49
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 10-05-2018 08:47:50
เรื่องนี้สนุกค่ะ เขียนดีมาก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 11-05-2018 03:19:55
กว่าเราะอ่านจบ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: nizzarinz ที่ 11-05-2018 15:38:47
อ่านรวดเดียวจบเลยย สนุกมากค่ะชอบมากกกกก อยากแย่งพี่เดียวจากน้ำน่าน 555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 11-05-2018 20:17:23
ชอบน้ำน่านมากเลยค่ะ รอตอนพิเศษนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 14-05-2018 22:26:02
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 16-05-2018 00:12:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 18-05-2018 13:59:50
ขอบคุณมากๆค่ะ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 20-05-2018 20:35:31
ชอบอะ สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 28-05-2018 23:08:47
สนุกมากๆ ค่ะ
ลุ้นระทึกมาก ว่าน้องน่านจะรับรักพี่เดียวมั้ย 5555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
 :3123:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : บทส่งท้าย P.19 || [22.04.18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 09-06-2018 22:18:35
จบแล้ว แรกๆนี่คิดจะเลิกอ่านเหมือนกันนะ คือบั่บเกินทนกับน้ำน่านเหมือนกันบางที แต่อ่านไปๆก็หลงรักซะงั้น พี่เดียวก็แบบแบดๆหน่อย แบบคู่กันแล้วมันได้

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 14-06-2018 22:34:18
รัก...ไม่ได้ออกแบบ ตอนพิเศษ 1




Happy Family




   ปาร์ตี้เมื่อคืนเมาไม่มาก แต่ตอนนี้ผมกลับมึนมากเมื่อพี่เดียวบอกว่าจะพาผมไปกินข้าวกับครอบครัวด้วย เนื่องด้วยปีใหม่ปีนี้แต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปเที่ยวพักผ่อน คุณหญิงป้าเลยถือโอกาสวันนี้เรียกรวมตัวทุกคนมาทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา คือถ้าพี่เดียวมันจะไปรวมญาติก็ไปเถอะผมไม่ได้ว่าอะไร ทำไมต้องพ่วงผมมาด้วย ซึ่งก่อนหน้าพี่เดียวมันไม่เคยบอกอะไรผมเลย ไม่เปิดโอกาสให้ผมปฏิเสธ เพราะมันเล่นบอกผมตอนที่นั่งรถออกมาแล้วว่าจะพาไปหาของอร่อยๆกิน พอถามว่าที่ไหนมันก็บอกว่าที่บ้าน ผมนี่ตาเหลือกทันที ถ้าไม่ติดว่าอยู่บนทางด่วนจะเปิดประตูรถแล้วโดดลงไปแล้ว



ผมเคยเจอทุกคนในครอบครัวพี่เดียวหมดแล้วตอนงานแต่งพี่แชมป์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าผมกับพี่เดียวเป็นอะไรกัน นอกจากพี่เฟิร์ส บ้านพี่เดียวผมก็เคยไป ตอนที่ไปง้อมันจำกันได้ไหมครับ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เจอใครเลย แตกต่างกับครั้งนี้ที่อยู่กัยครบองค์ประชุม



   “ไม่ไปได้มั้ยอ่ะ”



ต่อให้ผมใจกล้าหน้าด้านแค่ไหนแต่เรื่องนี้ผมไม่สู้ เมื่อก่อนผมไม่เคยสนเลยว่าใครจะมองผมยังไงเกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศเพราะมันเป็นความพอใจส่วนบุคคล ทว่าตอนนี้ผมกลับคิดมาก กลัวไปสารพัดว่าจะถูกมองว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงแล้วจะทำให้เรื่องระหว่างผมกับพี่เดียวต้องจบลง



   “ไม่ทันแล้วครับ”พูดจบปุ๊บพี่เดียวก็เลี้ยวรถเข้าหมู่บ้าน ผมนี่นั่งเกร็ง อยากจะกรีดร้องออกมาแต่เดี๋ยวจะหาว่าสาวแตกหรือไม่ก็เป็นคนบ้า



   “ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้วะ”



   “อะไร แค่พามากินข้าวไม่ได้พามาฆ่าสักหน่อย”มันหัวเราะอารมณ์ดีไม่มีทุกข์ร้อน ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอก



   “แล้วพี่จะแนะนำผมว่าไงอ่ะ”



   “ก็แฟนไงหรือจะให้บอกว่าเมียดีล่ะ”



   “เลวละ”ถ้าไม่ติดว่าขับรถอยู่ผมก็อยากจะทุบสักทีสองที



   “ไม่ต้องเครียดไปหรอกน่า ทำตัวตามสบาย ไหนหลับตาลงแล้วหายใจเข้าลึกๆสิ”




   ผมก็บ้าจี้ทำตามที่พี่มันบอก ก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้นมานิดหน่อย ก่อนจะจะสติจะแตกเมื่อได้ยินประโยคถัดไป



   “ลืมตาได้ ถึงแล้ว”รถจอดสนิทอยู่หน้าคฤหาสน์หลังงามที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง



   “ผมว่าผมกลับเลยดีกว่า



   “เห้ยๆ ถ้ากลับพี่โกรธจริงๆนะ บอกแล้วไงอย่าคิดมาก”




“ไม่คิดมากได้ไงวะ ทำไมพี่ไม่บอกล่วงหน้าอ่ะ”ให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจหน่อยก็ยังดี


 
“คิ้วผูกโบว์แล้วเนี่ย”



ใช่ครับ ผมนี่หน้านิ่วคิ้วขมวด แต่พี่เดียวยิ้มระรื่นจนน่าหมั่นไส้ พี่ช่วยเครียดหน่อยได้ไหมเนี่ย



   “เชื่อใจพี่สิ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย แต่ถ้าคุณหญิงป้าไม่ยอมรับพี่ก็ไม่ทิ้งน่านหรอก เราจะสู้ไปด้วยกันทำให้ท่านยอมรับให้ได้ โอเคมั้ย?”พี่เดียวกุมมือผมไว้ลูบเบาๆเพื่อให้คลายกังวล



   เอาวะ ไม่รู้วันนี้ก็รู้วันอื่นอยู่ดี ถ้าเกิดคุณหญิงป้าของพี่เดียวไม่ยอมรับขึ้นมาจริงๆ ก็จะได้มีเวลาปรับปรุงตัวเร็วขึ้นแล้วก็พยายามทำให้ท่านยอมรับให้ได้อย่างที่พี่เดียวบอก



   ผมจริงจังกับความสัมพันธ์นี้และอยากจะรักษามันไว้ให้นานที่สุด




X




   นอกจากจะนั่งเกร็งบนรถแล้ว ตอนนี้ผมต้องมานั่งเกร็งอยู่ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของคฤหาสน์เกียรติไพศาลที่ตั้งชื่อตามนามสกุลใหญ่ของสามีคุณหญิงป้าซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ผมไม่เคยสงบเสงี่ยมเท่านี้มาก่อนในชีวิต สายตาคมกริบของผู้อาวุโสที่สุดในบ้านจับจ้องมาที่ผมนิ่งๆให้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง




   “ชื่อน้ำน่านใช่มั้ยเรา”



“ครับ”



 “เป็นช่างภาพงานของตาแชมป์นี่ป้าจำได้”



   “ครับ”ผมตอบแบบประหยัดคำพูดสุดๆ เห็นไอ้พี่เดียวมันกลั้นขำอยู่ มันมีอะไรน่าขำฟระ คนเครียดจะแย่



   “ชื่อจริง นามสกุลอะไรล่ะ”



   “ชลธร อิทธินันท์ครับ”
   “เอ๊ะ อิทธินันท์เหรอ คุ้นๆนะ เป็นอะไรกับพ่อเลี้ยงนที”



   “คุณหญิงรู้จักกับพ่อด้วยเหรอครับ?”



   “หืม? เป็นลูกชายพ่อเลี้ยงเหรอเรา”



   “ครับ”ท่าทางคุณหญิงป้าดูแปลกใจ ผมเองก็ไม่ต่างกัน



   “งั้นก็เสียใจด้วยนะเรื่องอุบัติเหตุ”



   “ขอบคุณครับ”นึกถึงทีไรก็รู้สึกใจหายทุกที ภาพนาทีสุดท้ายของพ่อยังคงอยู่ในความทรงจำของผม



   “พ่อเราไม่ได้ไปไหนเขาก็อยู่กับเราตลอดนั่นแหละ”



   ผมยิ้มให้กับคำปลอบโยนนั้น แววตาของท่านเปี่ยมไปด้วยความเตตา ทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้น จากที่ดูเหมือนจะดุก็กลายมาเป็นอ่อนโยน



   “ป้ารู้จักกับพ่อเลี้ยงมาหลายปี เคยติดต่อเรื่องที่ดินแถบนั้นกันอยู่ ยังเคยไปที่ไร่น่านนทีอยู่เลย”



   “ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ”



   “ไม่แปลกหรอกตอนนั้นเราก็ยังอยู่ที่เชียงใหม่ ใช้ชีวิตสนุกสนานตามประสาวัยรุ่นอยู่น่ะสิ พ่อเลี้ยงเขาพูดให้ฟังบ่อยๆ”ผมยิ้มแห้งกับรอยยิ้มและแววตารู้ทันของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน รู้ขนาดนี้แสดงว่าก็คุ้นเคยกับพ่อผมในระดับหนึ่งไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่พูดถึงผมให้ฟัง



   “คุณฝนสบายดีนะ”



   “ครับ คุณอาสบายดีครับ ช่วงนี้ดอกไม้ที่ไร่กำลังออกดอกเต็มที่ ถ้าคุณหญิงป้าพอมีเวลาผมขอเชิญไปพักผ่อนที่ไร่นะครับ”



   “ขอบใจมาก คิดถึงอยู่เหมือนกัน อากาศดีๆดอกไม้สวยๆ เอาไว้จะไปรบกวนนะจ๊ะ”



   “ไม่รบกวนหรอกครับผมกับอาฝนยินดีต้อนรับครับ”ผมยิ้มเอาใจ อย่างน้อยการพูดคุยนี้ก็ทำให้บรรยากาศดีขึ้นเยอะ



   “แล้วมาคบกับตาเดียวได้ยังไง”



   “เอ่อ...”เหมือนถูกเบรคจนหัวทิ่ม ผมไม่รู้จะตอบยังไงดีเมื่อถูกจู่โจมด้วยคำถามนี้ เหลือบมองไอ้พี่เดียวเพื่อขอความช่วยเหลือแต่อีกฝ่ายก็ทำเพียงยักไหล่ แล้วปล่อยผมไว้เพียงลำพัง ไหนว่าเราจะสู้ไปด้วยกันไง ไม่ทันไรลอยแพกันซะแล้ว



   “ก็รู้จักผ่านเพื่อนๆกันมาอีกทีอ่ะครับ”



   “ไม่ใช่เพราะตาเดียวไปทำไม่ดีแล้วก็ถูกบังคับให้มาคบด้วยหรือไง”



   “ครับ?”อำผมเล่นหรือเปล่าเนี่ย ทำไมเดาได้ถูกทาง หรือว่าจะรู้จริง?



   “ไม่ต้องงงหรอก ตาเดียวเล่าเรื่องให้ป้าฟังหมดแล้ว”



   “ครับ? ทั้งหมดเลยเหรอครับ”ผมหันขวับไปมองพี่เดียวที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้



   “ใช่ ไหนมาใกล้ๆป้าสิ”ผมคลานเข่าเข้าไปหาแล้วหยุดอยู่ตรงหน้า แต่ก็ถูกคุณหญิงป้าดึงให้ขึ้นไปนั่งด้วย



   “ป้าขอโทษแทนหลานของป้าด้วยนะ ที่ทำไม่ดีกับเราไว้ ตอนนี้รักกันแล้วก็ดูแลกันดีๆนะ ถ้าตาเดียวทำไม่ดีกับเราก็มาบอกป้า เดี๋ยวจะจัดการให้”



   ผมรู้สึกผิดคาดมากเมื่อทุกอย่างมันออกมาในรูปแบบนี้ สิ่งที่เป็นกังวลทุกหมดถูกปัดเป่าไปด้วยฝ่ามือที่ลูบลงบนศีรษะผมเบาๆ



   “คุณหญิงป้าไม่รังเกียจที่ผมเป็นผู้ชายเหรอครับ ไม่คิดว่าพี่เดียวควรจะได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆมีครอบครัวที่สมบูรณ์เหรอครับ”



   “ถึงป้าจะแก่ แต่ก็ไม่ได้มีโลกทัศน์คับแคบ สมัยนี้เรื่องความรักมันไม่ได้จำกัดอยู่ที่แค่หญิงชายอีกแล้ว ป้าขอแค่ให้ทั้งคู่มีความสุขและดูแลกันในยามทุกข์ยามสุขก็เท่านั้น เรื่องชีวิตคู่ป้าให้สิทธิ์ลูกหลานทุกคนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นยังไงป้าก็ยอมรับได้เสมอ ในเมื่อเราไม่ได้ทำผิดคิดร้ายกับใครก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เข้าใจมั้ย?”



“ครับ”



“ความสมบูรณ์ของครอบครัวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่เราไม่ได้เป็นเหมือนครอบครัวอื่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราขาดอะไรไปถ้าหากเรายังรักกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”



วันนี้เป็นอีกวันที่ผมรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ ความรู้สึกมากมายหลั่งไหลเข้ามา นึกย้อนไปถึงวันวาน ที่ผ่านมาผมทำตัวมีปัญหา ใช้ชีวิตอย่างมีอคติเพียงเพราะคิดไม่เป็น จนกระทั่งคำพูดของคุณหญิงป้ามากระทบใจ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวสมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้จะไม่มีแม่แต่ผมมีพ่อกับอาที่รักผมมาก เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม มาวันนี้ก็มีพี่เดียวที่รักผมอีกคนและพาผมมาพบกับครอบครัวใหญ่ ที่ยินดีต้อนรับผมเข้ามาเป็นสมาชิกอีกหนึ่งคน



พวกพี่ๆทุกคนให้ความเป็นกันเองกับผมมากผมจึงลดความเกร็งและได้เป็นตัวของตัวเอง น้องเกรทก็น่ารักและเหมือนน้องจะปลื้มผมมากชวนคุยไม่หยุดจนพี่เฟิร์สต้องคอยขัดอยู่หลายครั้ง พี่น้องสองคนนี้ดูเป็นไม้เบื้อไม้เมากันแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าทั้งคู่ก็รักกันมาก อีกเหตุผลหนึ่งที่คุณหญิงป้ายอมรักความรักในรูปแบบนี้ได้ก็คือพี่เฟิร์ส ถ้าไม่สามารถยอมรับได้ก็คงจะทำให้ลูกชายคนนี้ไม่มีความสุขไปด้วย




X




“บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล”



ผมเหลือบตามองคนพูด แล้วก็กลับมาสนใจเกมในมือต่อ ไม่อยากพูดด้วยหรอก ชอบแกล้งให้ผมเป็นบ้า ตบหัวแล้วมาลูบหลังตลอด



“งอนเหรอ โอ๋นะ แค่แกล้งเล่นเอง”ไอพี่เดียวพยายามตัวผมไปกอดแต่ผมก็เบี่ยงหนีสุดตัวจนแทบจะตกเตียงอยู่แล้ว สุดท้ายมันก็ทิ้งตัวนอนตักผมเฉยเลย



“สนุกมากป่ะ”ผมขยุ้มผมมันเบาๆ ใจจริงอยากกระชากด้วยซ้ำแต่กลัวมันเตะเอา



“ก็นิดนึง”



ยัง...ยังไม่สำนึก เดี๋ยวไล่ให้ไปสนุกนอกห้องให้พอใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะอยู่ในห้องนอนที่บ้านของอีกฝ่ายก็ตาม ผมเล่นเกมต่อแต่ก็ถูกอีกฝ่ายกระตุกชายแขนเสื้อยิกๆ



“น้ำน่าน สนใจพี่หน่อยดิ”



“ปัญญาอ่อน”ผมขนลุกกับน้ำเสียงง้องแง้งของพี่มัน ตัวเล็กๆหน้าตาจิ้มลิ้มทำมันก็คงน่ารัก แต่พี่เดียวทำแล้วมันไม่ใช่



“พี่ไม่น่ารักบ้างเลยเหรอ”



“ไม่สยองตัวเองบ้างเหรอถามมาได้”ยังมาทำตาบ้องแบ๊วอีก บอกตรงๆเลยว่าไม่เข้ากับมันสักนิด



“ฮ่าๆ อะไรวะ คนก็อยากจะสวีทบ้าง หมดมู้ดพอดี ไอ้เด็กบ้านี่”



“อยากสวีทก็ไปกินน้ำตาลไป”



“มุกนี้ไม่ผ่าน ไปเรียนมาใหม่ไป”



ผมนั่งตีนั่งเถียงกับพี่เดียวจนเหนื่อยมานอนซบกันตอนไหนก็ไม่รู้ พี่เดียวลูบหลังให้จนผมรู้สึกเคลิ้มๆ นับวันก็ยิ่งติดสัมผัสของพี่มัน ไม่ดีเลย วันไหนถ้าไม่ได้นอนด้วยกันผมจะหลับได้ยังไง



“พี่เดียว”



“ครับ”



“เล่าอะไรให้คุณหญิงป้าฟังบ้างอ่ะ”



“ก็ทุกเรื่อง ตั้งแต่เจอน่าน”



“เรื่องนั้นด้วยเหรอ”



“ที่พี่ปล้ำเราอ่ะนะ”แม่งดูใช้คำผมรู้สึกเหมือนนางเอกร่างบอบบาง ไร้แรงต่อสู้เลยอ่ะ แต่มันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แม้ตอนนั้นจะอารมณ์พาไปด้วยก็ตาม



“อืม”



“ก็เล่าหมดแหละ บอกไปตามความจริง ตอนที่เห็นสีหน้าผิดหวังของคุณหญิงป้าตอนนั้นพี่ก็ยิ่งเสียใจ”



ผมเงยหน้ามองหน้าพี่มัน ตอนนี้พี่เดียวมันก็ยังคงเสียใจอยู่



“แล้วเล่าทำไมอ่ะ”มันต้องใช้ความกล้าขนาดไหนที่จะบอกเล่าสิ่งที่ไม่ดีที่ตัวเองทำไว้ ถ้าเป็นผมก็อาจจะไม่กล้าเล่าให้อาฝนฟัง เพราะรู้ว่าอาจะต้องผิดหวังในตัวผมแน่ๆ



“พี่รู้ว่าท่านจะเข้าใจเพราะผ่านโลกมาเยอะ มีลูกตั้งกี่คนล่ะ แต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป ท่านจึงเลี้ยงดูพวกเราด้วยความเข้าใจ ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดจะปิดบังคุณหญิงป้าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”



“แล้วไงต่ออ่ะ”



“หลังจากนั้นท่านก็พูดนิ่งๆว่าให้พาน่านมาหา ไม่ว่าอะไรพี่สักคำ แต่พี่กลับรู้สึกไม่ดีเลย ให้ถูกด่าว่ายังดีเสียกว่า พอถามกลับไปท่านก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องด่าว่าเพราะท่านรู้ว่าความรู้สึกผิดในเรื่องที่พี่ทำมันจะติดตัวไปจนวันตาย นั่นคือผลของการกระทำไม่ดีที่พี่ก่อไว้ ท่านจะไม่ซ้ำเติมแต่จะช่วยแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบาให้”



“ท่านใจดีจัง”เลี้ยงดูลูกหลานด้วยความเข้าใจและมีเหตุผล สิ่งที่คุณหญิงป้าพูดนั้นเป็นจริงที่สุด เพราะตอนนี้ผมได้ลืมความรู้สึกโกรธเกลียดพี่เดียวกับเหตุการณ์ครั้งนั้นไปแล้ว แต่สำหรับพี่เดียวมันยังคงติดอยู่ในใจ แม้ว่าผมจะให้อภัยมันแล้วก็ตาม



“มากๆเลยล่ะ มาหาท่านบ่อยๆก็ได้นะ คิดเสียว่านี่เป็นอีกครอบครัวหนึ่งของน่าน”



ผมรู้สึกดีใจที่วันนี้พี่เดียวพาผมมาที่นี่และแนะนำผมกับทุกคน ทำให้ผมได้พบเจอกับสิ่งดีๆ ครอบครัวดีๆ



“น้ำน่าน”



“อือ


“ไปหาคุณทิพย์กันมั้ย?”




X




จากคำชวนของพี่เดียว ทำให้วันรุ่งขึ้นผมต้องโทรไปหาแม่ ทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจโทรได้ ผมคุยกับแม่ไม่ค่อยบ่อย ทุกครั้งอีกฝ่ายจะเป็นคนโทรมาหา ถามไถ่เรื่องทั่วไป ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็วางสาย ต้นเหตุอาจะเป็นเพราะตัวผมเองที่พูดคุยไม่เก่ง ยังไม่ชินกับความสัมพันธ์ประดักประเดิดนี้ แม่เองก็คงจับความรู้สึกได้ เลยไม่กล้าคุยกับผมมากกว่านี้



พี่เดียวมันก็บอกให้ผมพยายามปรับตัว ผมก็ทำอยู่ แต่จะให้เปลี่ยนทันทีเลยมันก็ไม่ได้ ดังนั้นมันจึงเสนอให้ผมพยายามเข้าหาแม่ก่อนบ้าง โทรไปหาชวนไปกินข้าว หรือให้ไปหาที่บ้านอะไรทำนองนี้ ซึ่งผมตัดอย่างหลังทิ้งไป ผมไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับครอบครัวใหม่ของแม่ แต่ถ้าจะให้โทรไปหาก่อนก็พอทำได้



หลังจากที่ผมโทรหาและชวนแม่มากินข้าวที่บ้าน เขาก็ตอบรับทันที และขอพาน้องอีกสองคนมาด้วย ผมก็โอเค แต่แม่ขอมาหลังปีใหม่ที่กลับจากเที่ยวยุโรปแล้ว จริงๆแม่ก็ชวนผมนะแต่อย่างที่บอกผมยังไม่ชินและไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับทางนั้นมาก ที่สำคัญผมก็จะไปญี่ปุ่นกับพี่เดียวอยู่แล้วด้วยเลยปฏิเสธไป



“เก่งมาก แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆเชื่อพี่”



“อือ ก็เชื่อไงเล่า”ไม่เชื่อแล้วจะโทรไปทำไม แล้วนี่เห็นผมเป็นหมาหรือไงลูบหัวอยู่ได้



“งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ เจอกันคืนนี้”



พี่เดียวมันเอาผมกลับมาทิ้งไว้บ้าน ผมมีเรียนบ่าย วันนี้เรียนวันสุดท้ายก่อนหยุดปีใหม่ ผมขับรถไปเองเพราพี่เดียวมีงานเลี้ยงตอนเย็นไม่ว่างไปรับ ก่อนเข้าเรียนผมได้ข้อความจากน้ำปายบอกว่าอยากมาหาจะชวนไปกินข้าวเย็นนี้ผมก็เลยตอบตกลงไป น้ำปายไลน์มาคุยกับผมบ่อยๆ บางครั้งก็วีดีโอคอลมา นานๆจะเจอน้ำปิงมาร่วมจอด้วย



เรียนเสร็จผมก็แยกตัวออกมา ไม่มีใครรั้งไว้เพราะแต่ละคนต่างมีธุระ ไอ้หมวยถูกพี่ไวท์มาดักฉุดไปตั้งแต่หน้าห้องได้ยินว่าจะไปเที่ยวเขาค้อกันกับพวกเพื่อนๆพี่เขา ไอ้เต้กับไอ้โอ๊คนัดเด็กไว้ นานๆทีไอ้โอ๊คจะมีเด็กกับเขาบ้าง กากมานาน



ผมแวะรับน้องสองคนที่โรงเรียนแล้วพาไปห้างสรรพสินค้าในเมือง น้ำปายอยากกินอาหารเกาหลี ส่วนน้ำปิงอยากได้รองเท้ากีฬาใหม่



“พี่น่าน ทำไมไม่ไปเที่ยวด้วยกันอ่ะ”



“พี่ไปญี่ปุ่นกับแฟนอ่ะ”



“หูย สวีทอ่ะ ซื้อขนมมาฝากน้องบ้างนะ”



“ขนมเต็มบ้านแล้ว กินมากๆก็มาบ่นว่าอ้วนอีก”น้ำปิงที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ขึ้นรถก็เอ่ยปากขัดพี่สาวตัวเอง



“เอ๊ะปิงนี่ อย่ามาแย่งพี่กินก็แล้วกัน”



“ไม่เคยแย่งอ่ะ พอกินไม่หมด กลัวอ้วนก็โยนมาให้ปิงทุกที”ผมฟังสองพี่น้องเถียงกันเพลินๆ พอปิงเริ่มคุ้นเคยกับผมก็เริ่มพูดเยอะขึ้น ถึงจะเป็นเด็กเงียบๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนยอมคน เขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวเองสูง ไม่ค่อยชอบยุ่งกับใคร แต่ถ้าใครมาระรานก็พร้อมลุย เป็นประเภทพูดน้อยต่อยหนัก



“ปิงอยากได้อะไรมั้ย?”



“ปิงอยากได้โมเดลกันดั้มอ่ะพี่น่าน”



“ไร้สาระอ่ะปิง”หนึ่งสาวขัดขึ้นมาทันที



“เงียบไปเลยพี่ปาย ทีตัวเองไขกาชาปองเป็นร้อยๆตัวปิงยังไม่ว่าเลยนะ”



“เอามาทำไรเยอะแยะอ่ะปาย”เป็นร้อยๆตัว เสียเงินไม่ใช่น้อยนะนั่น



“ก็ปายชอบอ่า”



“ปิงก็ชอบกันดั้มเหมือนกัน ปายก็อย่าไปว่าน้อง”



“โหย ไรอ่ะ ผู้ชายก็เข้าข้างกัน”



“ถ้างอนพี่ไม่ง้อนะ”



“พี่น่านนนนนนนนน”




X





ผมเพิ่งรู้ว่าการมีพี่น้องมันก็สนุกดี ชีวิตมีสีสันดี ตลอดมื้ออาหารหูผมไม่ได้ว่างเลยนั่งฟังปายเล่นนั่นนี่ โดยมีปิงขัดเป็นระยะ คุยกันดีๆม่กี่คำก็เริ่มตีกันอีกแล้ว แต่ผมก็สังเกตเห็นว่าปายจะคอยปิ้งย่างพอสุกก็จะคีบให้น้องตลอด ส่วนปิงก็จะคอยเดินไปหยิบพวกอาหารที่ปายชอบจากบาร์มาให้



“แม่อยากให้พี่น่านไปด้วยกันนะ”แล้วน้ำปายก็วกมาเรื่องไปเที่ยวต่อ



“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน”



“เดี๋ยวพี่น่านก็หาเรื่องเลี่ยงอีก”



รู้ทันอีกเด็กคนนี้



“พี่น่านไม่อยากเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเราเหรอ”



“มันต้องใช้เวลานะ แต่ที่เป็นอยู่แบบนี้พี่ก็โอเคดี”ผมไม่ได้ปิดกั้นเหมือนแต่ก่อนแล้ว ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองหรือคิดแค้นอะไรอีก เรียกได้ว่าผมมีความสุขกับปัจจุบันดีอยู่แล้ว ในอนาคตจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไป



“พวกเราจะไปเที่ยวที่ไร่พี่น่านได้มั้ย?”



“ได้สิ ไปกันทั้งหมดเลยก็ได้นะ”บางทีผมก็ยินดีมากกว่าที่จะให้พวกเขาก้าวเข้ามาในพื้นที่ของผม มากกว่าการที่ผมจะก้าวเข้าไปในพื้นที่ของคนอื่น
หลังจากจบมื้อค่ำผมก็พาน้องๆไปซื้อของที่ต้องการ ผมว่าจะจ่ายให้น้องๆแต่ทั้งคู่ก็ถูกสั่งมาอย่างดีว่าไม่ให้มารบกวนผม พอได้ของครบผมก็พามาส่งที่บ้าน และบังเอิญว่าผู้ปกครองทั้งคู่อยู่กันครบเลยต้องลงไปทำความเคารพผู้ใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้



“ไปไหนกันมาบ้าง หืม?”



“ไปทานปิ้งย่างเกาหลีมาค่ะ ก็ก็ช้อปนิดๆหน่อยๆ”น้ำปายเข้าไปออดอ้อนผู้เป็นพ่อ



“รบกวนอะไรพี่เขาหรือเปล่าน้ำปาย”



“ปายไม่ได้กวนอะไรพี่น่านเลยนะคะคุณแม่”



“ปิงก็เปล่าครับ”



“ขอบใจนะที่พาน้องๆมาส่ง ทานน้ำกับขนมก่อนนะ แม่ให้แม่บ้านไปจัดมาให้”



“ไม่เป็นไรครับ ยังอิ่มอยู่เลย”ผมรู้สึกแปลกๆกับบรรยากาศแบบนี้ เหมือนอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง



“นี่ก็ดึกแล้ว ถ้าอย่างนั้นค้างที่นี่มั้ยลูก แม่จะได้ให้เด็กเตรียมห้องให้”



“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า”



“แต่ว่า...”



“คุณทิพย์ อย่าทำให้ลูกลำบากใจสิ”



“คุณนิพนธ์ ทิพย์อยากคุยกับลูกอีกสักหน่อยนี่คะ”



“น่านเขาก็ไปเรียนเหนื่อยมาทั้งวัน ไหนเจ้าสองหน่อนี่ก็ลากไปนั่นไปนี่ ให้ลูกกลับไปพักเถอะ เห็นว่าจะไปญี่ปุ่นนี่ต้องเตรียมตัวอะไรอีกเยอะแยะ ใช่มั้ยน้ำน่าน”



“ครับ คืนนี้คงไม่สะดวก เอาไว้โอกาสนะครับ แล้วผมจะมารบกวน”ผมรู้สึกขอบคุณสามีใหม่ของแม่ที่เข้าใจผมดี



“มาได้ตลอดเลยนะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับ”



“ขอบคุณครับ”คุณนิพนธ์เป็นผู้ใหญ่ที่มีเมตตา ทำให้ผม่ไม่รู้สึกอึดอัดใจที่จะพูดคุยด้วย



“ถ้าอย่างนั้นรอก่อนนะ เอาขนมไปทานนะลูก”ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรแม่ก็หายลับไปแล้ว น้องสองคนถูกผู้เป็นพ่อไล่ขึ้นข้างบน ก่อนที่ท่านจะหันมาคุยกับผม



“อยากเจอตัวจริงตั้งแต่รู้เรื่องจากคุณทิพย์แล้ว ได้เจอเสียที อย่าโกรธเคืองอะไรแม่เขาเลยนะ ที่ผ่านมาเขาก็คงทุกข์ใจมากพอแล้วเพราะต้องเก็บทุกอย่างไว้ไม่ยอมบอกใคร เขาไม่ได้เป็นคนใจร้ายใจดำอะไร ชื่อของเจ้าสองหน่อนั่นก็น่าจะยืนยันได้ว่าแม่เขายังระลึกถึงเราเสมอถึงได้ตั้งชื่อให้คล้องกัน แต่เพราะตอนนั้นประสบการณ์ชีวิตยังน้อยเลยทำให้ตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปให้อภัยแม่เขาเถอะนะ”



“ครับ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว”



“ดีแล้วล่ะ คุณทิพย์เขาดีใจนะที่ได้เจอเราอีก ที่ผ่านมาเขาก็คงอยากเจอแต่ไม่กล้าไปหา แล้วก็ไม่กล้าบอกใครด้วย แต่พอเขาได้เจอเราอีกครั้งเขากลับสารภาพออกมาโดยไม่กลัวอะไรเลย”



“แล้วคุณลุงไม่โกรธเหรอครับ”



“ก็โกรธอยู่ โกรธที่เขาไม่ยอมบอก ลุงไม่ใช่คนใจแคบที่จะรับไม่ได้ แต่เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วเปล่าประโยชน์ที่จะรื้อฟื้น อีกอย่างเราเองก็เติบโตมาอย่างดี ถ้าวันนั้นไม่เป็นอย่างนั้นวันนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง จะดีร้ายก็ไม่รู้ ทุกอย่างมันเป็นจังหวะชีวิตนั่นแหละนะ”



“ครับ”ผมก็เห็นจริงดังนั้น เป็นจังหวะชีวิตจริงๆ อดีตทำให้มีผมในปัจจุบันนี้ และปัจจุบันนี้ก็จะส่งผลไปถึงอนาคต ดังนั้นแค่ทำตอนนี้ให้ดีที่สุดก็พอ



“มาแล้วๆ นี่จ้ะ เอาไปแบ่งน้องพายด้วยนะ”แม่กลับมาพร้อมกับกล่องทัฟเปอแวร์สามกล่อง ทำให้ผมต้องหยุดบทสนทนาไปโดยปริยาย



“ขอบคุณครับ”



“แล้วคุยอะไรกันอยู่เหรอ”



“ก็เรื่องทั่วไปน่ะ ให้ลูกกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวจะถึงบ้านดึกไปกว่านี้”คุณนิพนธ์ตัดบทให้



“ก็ได้ ขับรถดีๆนะลูกถึงแล้วก็โทรบอกแม่หน่อย”



“ครับแม่ งั้นผมกลับก่อนนะครับ”ผมไหว้ลาคุณนิพนธ์ก่อนจะหันมาทางแม่และทำในสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำ นั่นคือการสวมกอดผู้ให้กำเนิดเอาไว้ แม่เหมือนจะตกใจแต่ก็กอดผมกลับในที่สุด



“ผมกลับก่อนนะ”



“จ้า...”แม่ตอบรับสั้นๆด้วยน้ำเสียงสั่น น้ำตาคลอแต่เจ้าตัวก็พยายามกลั้นไว้ ผมกอดแม่อีกทีก่อนจะลากลับ ผมขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในใจ มองกล่องขนมไปยิ้มไปเหมือนคนบ้า เพียงแต่ให้อภัย เพียงแค่เปิดใจ ทุกอย่างก็ค่อยๆดีขึ้น ชีวิตที่เคยมีแค่อากับพ่อและเพื่อนไม่กี่คน ตอนนี้มีคนที่รักและหวังดีกับผมเข้ามาอีกมากมาย



รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย



“กลับดึกจัง ไปซนที่ไหนมา”พี่เดียวงัวเงียขึ้นจากโซฟา ช่องข่าวต่างประเทศยังเปิดค้างไว้



“ไปบ้านแม่มา”



“หืม? จริง?”



“อื้อ ตอนเย็นไปกินข้าวกับน้องๆมา เลยแวะไปส่งที่บ้านก็เลยได้เจอแม่คุยกันนิดหน่อย”



“แล้วเป็นไง?”



“ก็ดี...ดีมากๆเลย”ผมบอกด้วยรอยยิ้ม จึงได้รับรอยยิ้มกว้างๆของพี่เดียวมาเป็ของตอบแทน ก่อนอีกฝ่ายจะอ้าแขนออก



“ไหนคนเก่งมาให้พี่กอดหน่อย”ผมส่ายหน้ากับท่าทางที่ทำเหมือนผมเป็นเด็กเล็กๆ แต่ก็ยอมเดินเข้าสู่อ้อมกอดของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย




   หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของผม




   “ผมรักพี่นะ”







---------------------------------------

เอาตอนพิเศษมาลงตามสัญญาค่ะ
พรุ่งนี้เปิดจองวันสุดท้ายแล้วน้า
ใครที่อยากได้ตามไปอ่านรายละเอียดในเพจได้เลยค่ะ  Zero (https://web.facebook.com/ZERO-392731780925258/) 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 14-06-2018 23:28:38
โถ เด็กน้อย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 15-06-2018 05:21:00
เห็นด้วยกับคุณหญิงป้า่ทุกอย่างเลยค่ะ
เชื่อเรื่องอยากให้คนที่เรารักมีความสุขและชีวิตมีจังหวะของมันมาตลอด
ทุกๆเหตุการณ์ในชีวิตที่ผ่านประสบพบมาล้วนแล้วแต่สร้างให้เราเป็นเราในวันนี้ทั้งสิ้น
อ่านแล้วอิ่มใจใน happy family ของน่านจริงๆ
ขอบคุณนะคะ^^ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-06-2018 09:40:48
 :pig4: ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-06-2018 09:57:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-06-2018 13:11:31
 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-06-2018 21:50:19
สนุกมาก...กกกกกก บทจะขำก้อขำ บทจะซึ้งก้อน้ำตาแตก รอเรื่องใหม่นะจ๊ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-06-2018 21:56:54
สนุกมาก...กกกกกก บทจะขำก้อขำ บทจะซึ้งก้อน้ำตาแตก รอเรื่องใหม่นะจ๊ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-06-2018 06:23:19
ชอบเรื่องนี้อ่ะ. ได้แง่คิดแล้วก็ความสุนทรีไปพร้อมๆกัน

ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy family P.20 || [14.06.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-06-2018 08:14:27
ชอบบบบบบบบบบ  :katai2-1:
ประทับใจคำพูดของคุณหญิงป้า   :mew1: :mew1: :mew1:
“ความสมบูรณ์ของครอบครัว แต่ละคนไม่เหมือนกัน
การที่เราไม่ได้เป็นเหมือนครอบครัวอื่น
ก็ไม่ได้หมายความว่าเราขาดอะไรไปถ้าหากเรายังรักกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
สุดยอดดดดด   :3123:

น้ำน่าน ได้คนรักเพิ่มมากขึ้น :mew1:
ครอบครัวใหม่ก็น่ารัก เข้าใจกับแม่ สามีใหม่แม่  :katai2-1:

พี่เดียว  น้ำน่าน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มากกกกกกกกกกก   :L2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixes ที่ 08-07-2018 12:38:05
ตอนพิเศษ  Happy Ending




   “นอนได้แล้วนะ”



   “อีกแป๊บครับ”ผมเร่งมือจัดข้าวของที่ได้รับมาจากรุ่นพี่รุ่นน้องที่มาร่วมแสดงความยินดีตลอดทั้งวัน




   “วางทิ้งไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวอาให้คำแก้วจัดการให้”




   “โอเคครับ ยอมแล้วๆ”จริงๆผมก็เหนื่อยมากนะ อยากพักจะแย่เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันรับจริงๆแล้ว แต่ข้าวของมากมายที่ขนลงมาจากรถนี่สิ วางเต็มห้องนั่งเล่นไปหมด เห็นแล้วรกตา




   ผมเรียนจบแล้วครับด้วยเกรดสวยหรูตามที่ตั้งใจไว้ สร้างความภูมิใจให้กับทุกคน อาฝนซื้อรถคันใหม่ให้ใจปล้ำสุดๆ ส่วนแม่ก็ซื้อคอนโดที่หัวหินให้เพราะผมเคยเปรยว่าอยากมีที่พักติดทะเล ไม่คิดว่าแม่จะลงทุนขนาดนี้ ห้องสวย วิวดี ตกแต่งพร้อมอยู่และตรงใจผมมาก อย่าถามถึงป๋าข้างกายเลยครับว่าให้อะไร พี่ท่านว่าให้มาทั้งตัวและหัวใจแล้วไม่มีอะไรจะให้อีก ผมนี่วิ่งเข้าห้องน้ำไปอ้วกแทบไม่ทัน จริงๆแล้วพี่เดียวมันจะพาผมไปฉลองเรียนจบที่ยุโรปแล้วแวะไปพักและเที่ยวที่ฝรั่งเศสก่อนกลับ ก่อนหน้านี้ที่เรียนจบใหม่ๆระหว่างรอรับปริญญาผมก็อ้อนขอไปเที่ยวนิวซีแลนด์มาแล้ว ไปโดดบันจี้จัมพ์มา ตอนแรกว่าจะไปให้ครบทุกที่ แต่เจอที่แรกเข้าไปก็เปลี่ยนใจทันที รู้สึกรักชีวิตขึ้นมากเลย อาฝน แม่ คุณหญิงป้ารู้ก็บ่นกันใหญ่เลยครับตามประสาคนแก่ขี้กังวล




   “พรุ่งนี้ตื่นตีสี่ใช่มั้ย?”




   “อือ ง่วงจัง”




   “ทนหน่อยครับ พรุ่งนี้ก็จบแล้ว”




   “อื้อ”จริงๆก็ดีใจนะครับ แต่กว่าทุกอย่างจะเสร็จก็หมดแรงเหมือนกัน ยังดีนะครับที่ผู้ชายไม่ต้องแจต่งเสริมอะไรมาก ไม่เหมือนพวกผู้หญิงต้องตื่นมาติดขนตาปลอมตั้งแต่ตีสอง ฮ่าๆ




   ผมรู้สึกว่าเวลาสี่ปีผ่านไปเร็วมาก แต่พอนึกย้อนไปก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัว จากนี้ไปผมกับเพื่อนก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง ไอ้เต้กับผมทำงานอยู่ที่เดียวกัน ส่วนไอ้หมสยถูกดึงตัวไปอยู่บริษัทพี่ไวท์ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่เห็นว่าอีกสักปีสองปีมันจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ผิดคาดที่สุดคงเป็นไอ้โอ๊คที่รับปริญญาเสร็จมันจะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษเลย มันไม่เคยพูดถึงเรื่องเรียนต่อมาก่อน พวกผมรู้กันเมื่อเดือนก่อนนี้เองปิดเงียบน่าเตะจริงๆ มันบอกหางานที่ถูกใจไม่ได้สักทีเลยไปเรียนต่อซะเลย ที่บ้านมันก็สนับสนุน รีบให้มันไปเรียนตั้งแต่ยังมีไฟอยู่ดีกว่าทิ้งเวลาไปนาน




   ผมเองก็คิดๆไว้เหมือนกันว่าอยากไปเรียนต่อ แต่ก็ห่วงงานที่ไร่ อาฝนกับพี่เดียวจะบอกว่าไม่ต้องกังวลอะไร เพราะอายังมีแรงทำไหวอีกหลายสิบปี พี่เดียวมันก็เข้ามาช่วยบริหารจัดการจนที่ไร่เป็นระบบระเบียบมากขึ้นและพัฒนาไปมาก แม่เองก็อยากให้ผมเรียนต่อ ผมเลยคิดไว้ว่าอาจจะไปพร้อมไอ้หมวยก็ได้เพราะเล็งที่เดียวกันไว้ ตอนนี้ก็ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน





X





   ตอนเช้าผมตื่นแต่เช้า พี่เดียวเป็นคนปลุก ไม่อยากลุกก็ต้องลุก เดินโซเซไปอาบน้ำ ก่อนจะถูกลากออกมาแต่งหน้าโดยพี่เฟิร์สที่มานอนค้างที่บ้านผมตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ได้แต่งอะไรมากมายนะครับ รองพื้นเบาๆ ทาแป้งนิดๆ ตบด้วยลิปกลอส เอาจริงนะผมไม่ได้ต้องการเลย แต่พวกรุ่นพี่มาไซโคให้แต่งไปนิดๆ ไม่งั้นถ่ายรูปออกมาแล้วจะรับตัวเองที่หน้ามัน ปากแห้ง หัวหูยุ่งไม่ได้




   “กินข้าวก่อนนะลุก เดี๋ยวเข้าหอประชุมแล้วจะหิว นานกว่าพิธีจะเสร็จ”ถึงจะเช้ามากแค่ไหน กระเพาะจะไม่รับยังไงผมก็ต้องยัดอาหารเข้าไปให้อิ่มท้อง อย่างที่อาฝนว่าถ้าไม่กินตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้กินแล้ว




พอไปถึงมหาวิทยาลัย ทุกคนก็ไปรอกันที่นั่นแล้ว ครอบครัวของแม่ ครอบครัวของพี่เดียว ทุกคนมากันหมด เหมือนกับผมเป็นคนในครอบครัวจริงๆ 




ไอ้ธันว์ ไอ้พายก็รับปริญญาพร้อมกัน ไอ้คิมเรียนปีสุดท้ายต้องรับปริญญาโดดเดี่ยวคนเดียว วันนี้ไอ้ธันว์มาอย่างหล่อสมตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย คาสโนว่าหน้าหยกที่ตอนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเรียบร้อยแล้วครับ เป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกลตัวพวกผมเท่าไหร่




“แฟนมึงอ่ะ?”




“อยู่ที่บ้านมันอ่ะ”




“อ่อ นึกว่าถูกทิ้งซะแล้ว”




“เออ กลัวอยู่เหมือนกัน ห่า แม่งมีแต่คนจ้องจะคาบไปแดก”




“กรรมสนองมึงแล้ว”เสือถูกถอดเขี้ยวเล็บไปหมดแล้วครับ ตอนนี้อยู่ในช่วงใช้กรรม ถูกแฟนข่มจนหงอไปหมด




“อย่าพูดถึง กูยิ่งมันเขี้ยวอยู่อยากจับแม่งฟัดให้สาแก่ใจ”




“มึงจะได้เจอตีนพี่ชายมันไง”




มันทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่ ก่อนจะถูกเพื่อนคณะมันลากตัวไปถ่ายรูปด้วยเราเลยมีโอกาสได้คุยกันเท่านั้น ส่วนผมก็ไล่ถ่ายรูปกับทุกคนจนเมมเต็มแล้วเต็มอีก ช่างภาพก็ไม่ใช่คนอื่นไกลเลย พี่ยศกับพี่ฉัตรครับ แกสองคนมาถ่ายให้ฟรีไม่คิดเงิน ผมโคตรเกรงใจเลย แต่พอพูดถึงเรื่องค่าเหนื่อยก็ถูกโบกหัวกลับมา แกบอกว่าถือเป็นของขวัญรับปริญญาของผม ก็เลยต้องเลยตามเลย




ผมให้ทุกคนกลับไปรอที่บ้านก่อนที่ผมจะเข้าหอประชุม เพราะระหว่างรอก็ไม่มีอะไรทำ นั่งเฉยๆมันเสียเวลาแถมยังร้อนอีกต่างหาก จะเหลือก็แค่พี่เดียวกับอาฝนที่ไม่ยอมไปไหน พี่เดียวเลยพาอาฝนไปนั่งที่ร้านกาแฟแทน พอออกจากห้องประชุมมาก็ถูกเพื่อนๆลากไปถ่ายรูป ดันมีเพื่อนเยอะหลายกลุ่มกว่าจะหลุดออกมาได้เล่นเอามึนไปหมด




ส่วนคนสุดท้ายที่ผมจะถ่ายรูปด้วยก็คือคนที่ผมคิดถึงมากที่สุดแต่ไม่มีโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้




...พ่อ...




ผมนำรูปพ่อมางานด้วย อาฝนร้องไห้โฮออกมาตอนที่ผมถือรูปพ่อไว้แนบอกไว้พร้อมกับปริญญาบัตร ทำเอาผมน้ำตาคลอไปด้วย




   ผมเรียนจบแล้วนะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง



   
   “พ่อจะต้องดีใจและภูมิใจมากแน่ๆ พี่เชื่ออย่างนั้น”




   “ผมอยากให้พ่อมาเห็น”



   “ตอนนี้ท่านก็มองดูน่านอยู่นะ”



   “นั่นสินะ”



   “กลับบ้านเรากันเถอะ ทุกคนรออยู่”พี่เดียวยื่นมามือให้ มือใหญ่และอบอุ่นนี้จะคอยจับมือกันเดินไปข้างหน้า ถ้าหากผมเสียหลักล้มลงก็จะมีมือคู่นี้คอยประคองให้เดินไปด้วยกัน





   ขอบคุณนะครับที่มาเป็นความรักของผม








Happy ending...

 :L2:



Ebook

  รัก...ไม่ได้ออกแบบ เล่ม 1  (https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMjIwODAwNyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg0NjkzIjt9) 
  รัก...ไม่ได้ออกแบบ เล่ม 2  (https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMjIwODAwNyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg0Njk0Ijt9) 


หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-07-2018 12:59:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 08-07-2018 16:29:47
เรียนจบแล้ววววว นึกว่าจะมีตอนพิเศษไปเที่ยวญี่ปุ่น TT

ว่าแต่ใครแฟนธันว์?? 
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-07-2018 17:32:19
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-07-2018 17:24:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-07-2018 21:55:23
ชีวิตน่านต่อจากนี้คงเป็นชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมแล้วจริงๆ แต่ว่าคิดจะไปเรียนต่อเนี่ยะปรึกษาพี่มันยัง
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 28-07-2018 19:16:30
สนุกมากค่ะ แรกๆเกือบอ่านไม่รอด เพราะตัวละครเยอะ และอคติกับตัวละครที่เสเพล กินแต่เหล้า นอนกับสาวไปวันๆ แต่เพื่อนก็คอยไซโคว่าสนุกๆ เลยฝืนอ่าน แต่อ่านไปเรื่อยๆยิ่งชอบ ชอบการบรรยาย ง่ายๆแต่เห็นภาพ ชอบจนอินตอนซดมาม่าหม้อแรก อิพี่เดียวไล่น้องกลับบ้าน นอนร้องไห้เลย ชอบมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-07-2018 19:55:40
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 14-08-2018 13:20:44
สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านซ้ำหลายครั้งเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: lipure ที่ 05-09-2018 13:30:11
อ่านแล้วอบอุ่น

 อยากมีพ่อแบบพี่เดียว

มีแม่แบบน้ำน่าน..ล้อเล่น

คิคิ สิริรวมแล้วสนุกมากจ้า  :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 24-09-2018 22:28:31
สนุกมาก ๆ เลย เป็นนิยายที่มีทุกรสชาติ คีพคาแรคเตอร์ตัวละครไว้ได้ดีมาก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 29-09-2018 07:43:17
ขอบคุนค่าาาา  สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 31-10-2018 09:38:39
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 07-11-2018 10:20:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: meepoohyoyo ที่ 11-11-2018 00:57:40
อ่านรวดเดียวจบเลยค่าาา ชอบความสัมพันธ์แบบค่อยๆรู้จักกันแบบนี้มาก o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 11-11-2018 02:52:31
ขอบคุณนะคับ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 11-11-2018 08:44:32
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 12-11-2018 09:46:11
 :mew1:   อ่านรวดเดียว  จบเลย  ดีจริงๆค่ะ  นิสัยเหมือนจะแรงทั้งคู่  ไม่น่าเชื่อว่าจะลงเอยกันได้.....  แต่พี่เดียว   ปากจัดจริงๆนะ........555555
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: _leoonearth_ ที่ 12-11-2018 16:45:49
นี่ว่าน้องพายของเราสมหวังรึเปล่านะ อรุมมมมม >///<
อยากอ่านเรื่องของธันว์เร็วๆจังงงเลยอ่ะ อยากเห็นคาสโนว่า ตกหลุมรักเพื่อนสนิท
แงงงงง จะได้อ่านเมื่อไรน้อออออออ
แฟนธันว์จะใช่พายรึเปล่า แล้วที่น่านพูดว่า "จะเจอตีนพี่ชายมัน" ?!?!?!?!?!?
นี่คิดเข้าข้างสุดๆว่าจะใช่พายเพราะอยากให้พายสมหวังและเค้าจะได้มีความสุขสักที
แต่เราจะหวังมากไปรึเปล่านะ....
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 13-11-2018 00:53:04
กว่าคำว่ารักจะหลุดออกมาจากปากลูกน่านน้อยของแม่บรรทัดสุดท้ายแหนะที่ชัดเจนสุดแต่การกระทำก็ชัดแล้วล่ะน้าาาา
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 13-11-2018 21:48:15
โอย เรื่องนี้คือ ดี
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 19-11-2018 00:34:08
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 30-11-2018 23:02:24
 :mew1: :mew2: :mew3: :mew4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 01-12-2018 11:28:57
 :pig4: :L1: เขียนดีมาก ๆ เลยค่ะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-12-2018 22:50:32
โอ๊ยมันดีมาก ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: poontriple ที่ 09-02-2019 17:19:58
 :impress3: :impress3: :impress3:
แล้วเรื่องนี้มีภาคต่อไหมคะ

แบบค้างคาเรื่องของพายกับอาร์ (เผื่อสองคนนี้คู่กัน)
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterCucumber ที่ 09-02-2019 21:35:51
คิดถึงอ่า กลับมาอ่านซ้ำ :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 21-02-2019 22:05:22
อ่านรวดเดียวจุใจจริงๆสนุกมากกกกกก

อ่านไปยิ้มไป รักพี่เดียวเลย
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 13-05-2019 21:18:00
ชอบเรื่องนี้.  ชอบมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ.   


 :mew1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-05-2019 10:41:51
“มึงจะได้เจอตีนพี่ชายมันไง”
คนที่ถอดเขี้ยวเล็บธันว์นี่ใช่น้องชายน่านหรือเปล่า
ตอนแรกคิดว่าเป็นพาย แต่ไม่น่าใช่เพราะธันว์บอกแฟนอยู่บ้านซึ่งพายมารับปริญญา

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 18-05-2019 08:33:52
ธันว์ แย่งซีนตอนจบทำไม 555 นี่อยากรู้เลยว่า แฟนเป็นใคร ในบริบทบอกว่า ครอบครัวแม่น่าน กับครอบครัวพี่เดียวมากันหมด งั้น เฟิร์ส กับน้ำปิงก็มาสิ   งืมมมม มีใครที่มีพี่ชาย คนใกล้ตัว แล้วอยู่บ้านไหมนะ น้องเงาะ? โอ้ยยยยย อยากรู้
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 04-04-2020 11:31:12
อ่านจบหน้า1ละค่ะ เราชอบทุกอย่างที่อ่านเลยนะยกเว้นนายเอก คือช่วงที่อยู่กับเพื่อนหรือคนอื่นเค้าก็ดูปรกติดี แต่พอเข้าซีนกับอาจารย์เดียวปุ้ปเหมือนผู้หญิงเป็นเมนส์มาก ในเรื่องเข้าใจว่านายเอกไม่ชอบหน้าพระเอก(แต่ก็ชมทุกครั้งที่เจอว่าหล่อ) ใช้คำพูดกระแหนะกระแหน เสียดสี คือแบบ....55555 เดี๋ยวขออนุญาตอ่านต่อแล้วค่อยมาตัดสินน้ำน่านอีกทีว่าเป็นประเภทไหนกันแน่



Edit//จบหน้าสองละ น้ำน่านก็เหมือนเดิมแต่พี่เดียวนี่เรียกว่าข่มขืนได้เลยนะเพราะน่านไม่เต็มใจ+ปฏิเสธแล้ว เอาจริงๆเราไม่รู้พื้นฐานนิสัยเดียวเท่าไหร่แต่เดียวน่าจะมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่านี้นะ เป็นครูในฐานะที่น้ำน่านเป็นนักศึกษาและเป็นเจ้าของกิจการที่คนต้องดูแล จะพูดว่าจากชายหนุ่มที่พอจะมีความน่าสนใจอยู่กลายเป็นไอ้หื่นที่สมสู่ได้แม้คู่จะไม่เต็มใจ5555 อาจจะฟังดูแรงไปแต่คาแรคเตอร์ออกมาเป็นผู้ใหญ่จ๋ามาก พอมาหลุดแบบนี้แอบผิดหวังกะนางอะค่ะ


Edit//จบตอนที่26ละ น้ำน่านสายซึน ตรงไปตรงมากับหัวใจตัวเองเถอะเธอ ไม่ใช่ไรหรอก คนอ่านอย่างเรารำคาญ5555 เวลาเจอสายซึนนี่ปวดตับหนักมากเหมือนเราเอาใจช่วยนะ แต่เธอก็ไม่ช่วยตัวเองเลยและยังคงซึนอย่างต่อเนื่อง ความรักของพ่อแม่มันก็เป็นเรื่องของพ่อแม่ น้ำน่านก็ต้องมีความรักแบบของน้ำน่านเองและมันไม่มีทางจะเหมือนกันหรอกอิหนู ถ้าไม่มีความรักเพราะไม่สนใจจะไม่ว่าเลยนี่ไม่มีเพรระกลัว เฮิ่มมม อ่านต่อแปป



Edit/// อ่านตอนน้ำน่านไปเอาหญิงละพี่เดียวจับได้ละ ท็อปฟอร์มจริงๆน้ำน่าน นายเอกน้อยคนในเล้านะที่เราจะไม่เอาใจช่วย หนึ่งในนั้นคือน้ำน่าน555555 เหมือนจะโตเหมือนจะมีประสบการณ์เหมือนจะเข้าใจชีวิตแต่ก็แต่เหมือนจะอะเนอะ จงเรียนรู้ไปน้ำน่าน
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 05-04-2020 22:54:27
❤️❤️❤️
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 08-04-2020 20:34:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 12-04-2020 18:21:07
อ่านอีกรอบก็ยังสนุกอยู่  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 13-04-2020 10:39:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 09:12:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 14-04-2020 21:06:08
 :z13:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 27-04-2020 19:48:14
 :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.6 [24.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 02-09-2020 23:01:58




“มึงขึ้นคอนโดจารย์มา?”ไอ้พาย




“อะไรยังไง”ไอ้ธันว์



“ได้กันแล้วเหรอ”พี่เฟิร์ส



“เปลี่ยนแนวก็ไม่บอกนะมึง”ไอ้คิม




พวกมึงคิดเหี้ยอะไรกันเนี่ยยยยยยย








 
ชายแท้จะกลายเป็นรับแล้ว :ling1: :ling1:
แค่คิดก็ฟินแล้ว เอ๊ะหรือเดียวจะเทิร์นรับ  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : CH.31 P.12 || [09.04.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 03-09-2020 12:14:12



“วันนี้คุณมาก็ดีเหมือนกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะยื้อเวลาต่อไปทำไม เราคงไปกันไม่รอดจริงๆ ต่อไปนี้คุณก็ไปใช้ชีวิตอย่างที่คุณชอบเถอะ ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก”

 
3คำสั้นๆ
สม น้ำ หน้า
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-09-2020 12:22:10
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Ploybudz ที่ 05-09-2020 14:49:07
สนุกมาก  o13
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 06-09-2020 08:14:25
มาอ่านอีกรอบคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Malibu ที่ 11-10-2020 02:09:11
แม่น่านตอนหลังๆคือดูหลุดคาแรกเตอร์​จากตอนที่ว่าน่านในงานแต่งไปเลย งงๆ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: kiddie ที่ 19-10-2020 21:12:38
ชอบเรื่องนี้มากเลยยยยยยย  :L2: :L2: :L2: :3123: :3123: :3123: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 25-10-2020 10:31:02
อยากรู้เลยครับ  เพื่อนแต้ละคน เป็นยังไง ได้คู่กับใคร  อิอิ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 01-12-2020 00:28:18
งื้ออออ สนุกมากกก เราชอบวิธีการเล่าเรื่องของคุณนักเขียนมากๆเลยครับบบ
เรื่องของน้ำน่านกับพี่เดียวมันเริ่มมาจากความผิดพลาดมากจริงๆ แต่ดีใจที่เค้าก้าวข้ามผ่านมันไป ทิ้งไว้ให้เป็นบทเรียนบทใหญ่ ของทั้งคู่ ชอบที่ทั้งคู่ต้องค่อยๆเรียนรู้กัน ขนาดคบกันแล้วมันยังมีเรื่อฃให้ปรับจูนหากันอีกเยอะมาดๆ เรรู่สึกผูกพันไปกับทั้งสองคนเพราะเห็นเค้าค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ มันดีมากกกกก ชอบมากๆ อยากเห็นคุณเขียนนิยายอีกเยอะๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้มากกกกกๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะครับบ
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 28-06-2021 14:07:33
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 12-10-2023 11:10:06
กลับเข้ามาอ่านอีกรอบ ยังรักน้ำน่านเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 13-10-2023 21:11:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [♡] ----- รัก...ไม่ได้ออกแบบ ----- : ตอนพิเศษ Happy ending P.20 || [8.7.18]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 19-10-2023 22:37:04
มีแฟนเป็นพี่เดียวนี่น่าจะดีสุดๆ