เสน่ห์รักลูกชิ้นปิ้ง ตอนที่ 73 [31-01-16] ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆมาแล้วจ้า!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสน่ห์รักลูกชิ้นปิ้ง ตอนที่ 73 [31-01-16] ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆมาแล้วจ้า!!!!  (อ่าน 68947 ครั้ง)

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                              ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์

 
“อืม  อืม  โอ้ย!!!  ทำไมคุณต้องกัดลิ้นผมด้วยล่ะ” นนทนัฐที่กำลังเคลิ้มกับรสจูบกับคนรัก โวยวายขึ้นเมื่อโดนกัดลิ้น

“ก็ ก็  ก็ แหะๆๆ มัน เคยตัวอะ ขอโทษนะ จูบใหม่ก็ได้ เจ็บมากเหรอ?” ชินพัตน์พูดออมแอ้ม เพราะรู้ว่าตนเองเผลอกัดลิ้นคนรักอีกแล้ว แล้วก็รีบอ้อนเพราะกลัวนนทนัฐโกรธ รีบประคองใบหน้านนทนัฐเข้ามาดู

“อืม นี้แค่คุณเผลอนะ แล้วถ้าคุณตั้งใจ ลิ้นผมไม่ขาดเลยเหรอ หืม?”   นนทนัฐชอบให้ชินพัตน์เอาใจและอ้อนเพื่อขอโทษแบบนี้ มันดูน่ารัก และน่าหมั่นเขี้ยวไปในตัว เลยหอมแก้มคนรักไปเต็มรัก
ฟอด

“อือ  พอแล้ว แก้มผมช้ำไปหมดแล้ว หอมอยู่ได้ “

“ก็วันนี้คุณทำตัวน่ารัก จนผมไม่อยากห่างจากคุณไปไหนเลย “นนทนัฐเปลี่ยนจากหอมแก้มคนรักมาเป็นกอดแล้วคลอเคลียทีซอกคอขาวอย่างเอาใจ

“ผมไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย ก็แค่……” ชินพัตน์ก้มหน้างุดๆ หลบใบหน้าเขินอายที่ตนเองพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะใช้เวลาวันนี้ เพื่อคนตรงหน้าจริงๆ เพราะเขารู้ว่าตนเองยุ่งอยู่กับงานที่ร้าน จนไม่มีเวลาให้

“แค่อะไรครับ หือ ไหนบอกสิครับ วันนี้ทำไมทำตัวน่ารักจัง ปกติผมก็รักคุณจนหาทางขึ้นมาไม่ได้อยู่แล้ว วันนี้ยิ่งทำให้ผมอยากทำผิดกฎ ที่ทำกับคุณไว้จังเลย”

“หาทางขึ้นอะไรของคุณ พูดอะไรผมไม่เห็นเข้าใจ ?” ชินพัตน์เอามือดันอกคนรักออกมาเพราะไม่เข้าใจคำพูด   เอียงคอมองหน้านนทนัฐอย่างสงสัยใคร่รู้ 

“หึหึ  คุณทำให้ผมตกหลุมรักคุณ จนผมหาทางขึ้นมาไม่ได้ไงครับ “นนทนัฐลูบแก้มคนรักเบาๆอย่ารักใคร และก้มจูบที่หน้าผากมนนั้นเพื่อย้ำกับคำพูดของตนเองมันเป็นเรื่องจริง  จ้องมองเพื่อสื่อให้คนตรงหน้ารับรู้ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหลงรัก อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ก็ยิ่งทำให้รักมากขึ้นเลยๆ และวันนี้ชินพัตน์ทำตัวน่ารักน่าฟัด จนเขาไม่อยากขยับตัวไปไหน อยากกอดอยากหอมอยู่แบบนี้ตลอดไป

“ผมก็รักคุณเหมือนกัน ผมขอโทษนะที่ช่วงนี้ยุ่งแต่กับงานที่ร้านเปิดใหม่ จน….เอ่อ….ไม่มีเวลาให้กับคุณเลย …. ผมก็เลย….. คือ…..” ชินพัตน์พูดออกมาตรงๆได้มากกว่าเมื่อก่อน เพราะรับรู้ความรู้สึกของตนเอง และก็รู้ถึงความรักที่คนตรงหน้ามีให้มันช่างมากมาย จนไม่รู้ว่าถ้ายังทำตัวเฉยชา ไม่ใส่ใจก็กลัว คนตรงหน้า จะหมดรักตนเองไปสักวัน เลยพยายามทำวันนี้ให้เป็นวันพิเศษที่สุด สำหรับเราทั้งสองคน แต่อายจนเกินจะบอกว่าอยากจะตามใจคนรักทุกอย่าง

“แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ แค่ได้รักคุณทุกวัน ได้อยู่ข้างคุณ ได้เห็นคุณสนุกกับงานที่คุณทำ ผมก็มีความสุขที่สุดแล้วครับ”นนทนัฐรับรู้ว่าคนรักอยากทำวันนี้เพื่อทดแทนช่วงนี้ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเลย

“คุณอย่าเบื่อที่จะรักผมนะ”

“ครับ ผมจะเบื่อคุณได้ยังไง กว่าคุณจะรับรักผม กว่าผมจะได้ตัวคุณมา ผมต้องผ่านอะไรมาตั้งเยอะ ผมไม่ยอมปล่อยคุณไปเพราะ คำว่า “เบื่อ” แน่นอน  ผมยิ่งรักคุณมากขึ้นทุกวันซะอีก รู้ตัวไหมหืม? “หอมแก้มเพราะหมั่นเขี้ยวกับความคิดแบบนั้นของคนรัก

“…………….”ชินพัตน์ยิ้มแก้มปริ โผล่เข้ากอดคนรักอย่างเอาใจแถมออดอ้อนเต็มกำลัง

“ชินครับ ผมขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม” ชินพัตน์รีบพยักหน้าตอบรับแบบง่ายๆ

“วันนี้ผมขอ……… เอาผ้าปิดตาคุณได้ไหม” ชินพัตน์ได้ยินถึงกับสะอึก ตาโต แต่ก็ไม่อยากขัดใจคนรัก ถึงแม้จะกลัวเล็กๆว่าคนรักจะทำอะไรแปลกกับตนเองหรือเปล่า แต่ก็ยอมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“งั้นรับตานะครับ” นนทนัฐเดินไปหยิบผ้ามาปิดตาของชินพัตน์ที่นั่งอยู่บนเตียง ที่นิ่งรอว่าคนรักจะทำอะไรกับตนเองบาง  ได้ยินเหมือนเสียงเปิดประตูออกไปนอกห้อง  เงียบหายไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดและปิดประตู เสียงเดินเข้ามาหาที่เตียง ทุกการกระทำที่ชินพัตน์ใช่ประสาทรับรู้จากเสียงมันทำให้ หัวใจเต้นแรง เพราะไม่รู้ว่าคนรักจะทำอะไร

“นนท์ อย่าเงียบแบบนี้สิ “ชินพัตน์ที่นิ่งรอ อยู่กับความเงียบรอบตัว และไม่รู้ว่านนทนัฐอยู่ตรงใหนภายในห้อง
“คุณกลัวเหรอ” ชินพัตน์สะดุ้งเล็กน้อย เพราะเสียงกระซิบมาประชิดข้างตัว อย่างไม่รู้ตัว

“ปะ เปล่า “ ชินพัตน์ออมแอ้มตอบ แต่ก็มีความกังวลเล็กๆเหมือนกัน

“เปิดตาได้แล้วครับ” นนทนัฐกระซิบบอก ชินพัตน์เลยแกะผ้าปิดตาออก สิ่งที่เห็นคือ 

ดอกกุหลาบสีแดง นับร้อยๆ วางอยู่บนเตียง ลูกโปร่งหลากสีเต็มพื้น และลอยเต็มอยู่เพดาน ชินพัตน์มองไปรอบๆ อย่างแปลกใจและดีใจ และคิดว่าคนรักของเขาเตรียมทุกอย่างที่เห็นนี้ไว้ให้เขา  น้ำตาก็เอ่อมาที่ขอบตา จนทุกอย่างที่เห็นเริ่มพร่ามัว

“สุขสันต์วันวาเลนไทนนะครับ ผมรักคุณนะ”  นนทนัฐเดินถือช่อกุหลาบช่อใหญ่ส่งมาให้ และจูบซับน้ำตาของคนรักให้ด้วย

“ฮือ ผม ฮือ รักคุณเหมือนคน “

“ร้องไห้ทำไมครับ ไม่ดีใจเหรอ หืม”

“ดีใจ ผมร้องไห้เพราะดีใจ คุณทำทุกอย่างนี้ให้ผมเลย  แต่ผมไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้คุณเลย ผมขอโท…..” ยังไม่ทันที่จะพูดออกไป นนทนัฐก็ปิดปากบางนั้นด้วยปลายนิ้วเพื่อให้หยุดฟังความในใจของตนเองแทน

“ชูว์…..แค่ผมมีคุณอยู่ตรงหน้าแค่นี้ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วครับ”

“ผมรักคุณจัง”ชินพัตน์โผล่เข้ากอด และมอบจูบที่แสนหวานให้เป็นของขวัญกับคนรักแทนคำพูดมากมาย

นนทนัฐยิ้มรับและมอบความรักและสัมผัสที่บงบอกถึงความรักทีมีให้คนตรงหน้าได้รับรู้ สื่อสารจากการสัมผัส ร่างกายที่เป็นหนึ่งเดียวกัน หัวใจที่หลอมร่วมเป็นหนึ่งเดียว ความรักที่มอบให้ซึ่งกันและกันนั้นช่างมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด





ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันพิเศษนี้นะคะ  :L2:


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

*ตอนพิเศษ เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเท่าไรนะคะ มินมินเขียนขึ้นเพื่อ ชินกับนนท์ โดยเฉพาะนะคะ อิอิ

แต่อยากให้ติดตามเนื้อเรื่องหลัก ว่าทำไม่ชิน ถึงชอบกัดลิ้น นนท์  โปรดติดตามอ่านต่อไปด้วยนะคะ อิอิ



ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
  สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ

ช่างนนท์กับชิน  น่ารักมุ้งมิ้งอ่ะ 

 :L2:    :L1:    :L1:

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0


                                           
                                                ตอนที่ 45 เขาเป็นใคร?



             สองพี่น้องต่างมองผู้มาใหม่ที่ยืน เกๆกังๆ เหมือนรู้ว่าตนเองเขามาไม่ถูกจังหวะหรือเปล่า ก็เลยยกมือไหว้คนที่คิดว่าเป็นเจ้าของร้านทันที่ ก่อนที่จะโดนว่า มาหางานทำและยังมาสายขนาดนี้ เพราะตอนนี้ บ่ายแก่ๆแล้ว ทั้งที่รู้ว่าติดประกาศรับสมัครมาหลายวันแล้ว แต่ก็พึ่งมาเอาวันนี้ เลยไม่แน่ใจว่า ทางร้านรับลูกจ้างไปหรือยัง


"สวัสดีครับ คือผมจะมาสมัครงาน ไม่รู้ว่ายังรับคนอยู่หรือเปล่าครับ" ยกมือไหว้และแนะนำตัวว่ามาทำอะไร


"นั่งก่อนสิ" นพคุณดูหน่วยก้านแล้วน่าจะทำงานงานหนักได้ เลยเรียกให้นั่งคุยกันดีๆ


"ขอบคุณครับ" ยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ


"ทำไมเอาป่านนี้ล่ะ เย็นมาแล้วนะ คิดว่าจะได้งานเหรอ"นพคุณถามเพื่อรองเชิง


"ขอโทษครับ พอดีผมช่วยงานน้าในสวนพึ่งเสร็จ จริงแล้วอยากจะมาแต่เช้าครับ แต่งานไม่เสร็จผมก็ออกมาไม่ได้ครับ"


"อ้าว ก็มีงานทำแล้วนี้ จะมาหางานทำ ทำไมอีก"


"เออ คือผมขออาศัยญาติอยู่นะครับ เลยต้องช่วยงานเพื่อแลกกับที่พัก แล้วพอเขารู้ว่าผมจะไปสมัครงาน หางานทำก็เลยให้ช่วยทำงานเป็นวันสุดท้ายนะครับ"


"อ้อ นี้นายจะบอกว่า ถ้าไม่ได้งานที่นี้แล้ว ก็จะไม่มีงานทำไม่มีที่ไปว่างั้นใช่มั้ย" นพคุณหรี่ตามองเหมือนสังเกตอาการเวลาพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้า ดูแล้วไม่มีพิษมีภัย แต่ก็ต้องพูดดักเอาไว้ก่อน


"พี่ใหญ่" ชินพัตน์เรียกชื่อพี่ชายเหมือนปราม เพราะดูเหมือนพี่ชายจะพูดเหมือนไม่ใสใจคนตรงหน้าสักเท่าไร


"เออ คือผมถ้าไม่ได้งานที่นี้ ก็คงต้องหางานทำที่อื่นนะครับ รบกวนญาติคนนี้มานานแล้ว ผมก็เลยเกรงใจเขานะครับ"


"แล้วครอบครัวของนายล่ะ"


"พ่อแม่ผมเสียตั้งแต่ผมอายุ 17 แล้วครับ อยู่กับญาติคนโน่นที่ คนนั้นที่ ผมเลยคิดว่าน่าจะหางานทำเป็นหลักแหล่งได้แล้วนะครับ ไม่อยากไปรบกวนพวกเขาอีกแล้ว"


"แล้วตอนนี้นายอายุเท่าไร"


"20 ย่าง 21 ครับ"


"แล้วเรียนจบอะไรมา"


"ม.6 ครับ "


"เคยทำงานอะไรมาก่อน ก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับญาติที่นี้"


"ผมก็รับจ้างทั่วไปนะครับ ล้างจานในร้านอาหาร เด็กปั้ม ขนผักในตลาด แล้วก็ล้าสุดที่บ้านญาติช่วยดูแลสวนครับ" เด็กหนุ่มเล่าทุกอย่าง อย่างละเอียด กับงานที่ตนเองทำมาตั้งแต่พ่อแม่เสียก็ทำงานหาเลี้ยงตนเองมาตลอด


"อืม อืม มีวุฒิการศึกษา ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชนมาหรือเปล่าล่ะ" นพคุณอยู่ก็เรียกหาเอกสารประจำตัวของเด็กหนุ่มขึ้นมา ชินพัตน์ก็ยังงงกับพี่ชายตนเองเหมือนกัน


"ครับ ๆ ผมเตรียมมาแล้ว แต่ทะเบียนบ้านผมอยู่อีกจังหวัดหนึ่งนะครับ ผมไม่ใช่คนที่นี้"


"อืม ไหนเอามาดูสิ" นพคุณขอดูเอกสาร


"นี้ครับ"เด็กหนุ่มดึงออกจากถุงกระดาษ ส่งให้นพคุณดู


"นาย กัมพล เอื้อใจ  อืม เรียนเก่งนี้ ไม่คิดอยากจะเรียนต่อหรือไง"นพคุณอ่านชื่อที่วุฒิและดูผลการเรียกแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ


"ผมพยายามเรียนให้จบม. ปลาย เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับญาติๆ พอจบผมก็เริ่มหางานทำเลยครับ อยากเรียนต่อเหมือนกันครับแต่เรื่องเงินไม่อำนวยครับ"ยิ้มแห้งปนเศร้าๆ


"อืม งั้นพรุ่งนี้ก็มาเริ่มงานเลยแล้วกัน นี้น้องชายฉัน ชื่อ ชินพัตน์  ส่วนฉันชื่อ นพคุณ เรียกใหญ่ก็ได้ "


"เอ๊ะ เออ ขอบคุณครับ รับผมเข้าทำงานแล้วใช่ไหมครับ "เด็กหนุ่มดีใจรีบยกมือไหว้ขอบคุณ ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะได้งาน


"อืม  ตั้งใจทำงานแล้วกัน" นพคุณบอกย้ำ


"ครับ ๆ ผมจะตั้งใจทำงานครับ ขอบคุณครับ เออ คุณ คุณใหญ่  แล้วก็ คุณ เออ คุณ???"


"เรียกพี่ว่า พี่ชินก็ได้ ฮ่าๆๆๆ" ชินพัตน์เห็นเด็กหนุ่มดีใจที่ได้งาน ก็ตื่นเต้นดีใจตามไปด้วย เหมือนได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มที่ไม่มีที่ไป ได้มีโอกาสได้ที่ทำงาน 


"ครับๆ พี่ชิน เรียกผมว่าพล ก็ได้ครับ"กัมพลรีบบอกชื่อเรียกที่ดูเป็นกันเองกับเจ้าของร้านที่ดูใจดี กว่าคนที่คุยกับเขา


"นี้ เรียกฉันว่าใหญ่ ไม่ต้องมีคุณมีเคินอะไรด้วย"นพคุณไม่ชอบเวลาที่โดนเรียกแบบนั้น


"เออ ได้ครับ พี่ใหญ่ ขอบคุณมากครับ พรุ่งนี้ผมจะมาแต่เช้าเลยครับ"กัมพลรีบเรียกตามที่คนต้องหน้าร้องขอ


"อืม มาเช้าๆนะ เพราะพี่เปิดร้าน 8 โมง มาช่วยยกของเตรียมของก่อนเปิดร้าน" ชินพัตน์อธิบายคราวๆว่ากัมพลต้องมาชวนทำอะไรบ้าง


"ได้ครับ ได้ครับ ผมจะรีบมา " กัมพลดูตื่นเต้นกับงานใหม่


"งั้นก็กลับไปก่อนไป" นพคุณรีบบอกให้เด็กหนุ่มกลับบ้านไปก่อน


"เออ คือ ผมกลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ผมขออยู่ช่วยงานที่นี้เลยได้ไหมครับ" ชินพัตน์หันไปมองหน้าพี่ชายเหมือนจะขอความเห็น นพคุณก็มองทั้งน้องชายและเด็กหนุ่มตรงหน้าสลับไปมา  คิดได้ว่ามาช่วยเร็วขึ้น จะได้รู้งานเร็ว ก็ไม่มีปัญหา


"พี่แล้วแต่นายนะ" นพคุณหันไปบอกน้องชาย เพราะตนเองจัดการเรื่องคนให้แล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของชินพัตน์แล้ว


"อืม งั้นก็ช่วยป้าพร ยกของล้างของ เช็ดโต๊ะไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแบ่งงานให้แล้วกัน" ชินพัตน์รีบหางานเล็กน้อยให้กัมพลช่วยทำไปก่อน


"ได้ครับ "กัมพลพยักหน้ายิ้มรับ เพราะอยากทำงานได็เป็นเร็วๆ


"ป้าพรครับ เด็กใหม่ให้มาช่วยยกของ เก็บร้าน บอกเด็กคนนี้ได้เลยนะครับ" ชินพัตน์เดินนำกัมพลไปแนะนำให้ป้าพรได้รู้จักและค่อยให้ช่วยงาน


"สวัสดีครับผมชื่อพลครับ " กัมพลยกมือไหว้ป้า


"จ้าๆมาช่วยกันอีกแรง "



                  ป้าพรก็ให้กัมพลงานงาน ยกถังแก็สมาเปลี่ยน ยกถุงผักไปล้าง ล้างจาน ในช่วงบ่ายแก่ๆ วันนั้นก็ได้ทำงานเล็กน้อยๆที่พอจะช่วยได้ งานใช้แรงที่เด็กๆผู้หญิงในร้าน ทำได้แต่ไม่ค่อยสะดวก พอมีกัมพลมาช่วยก็ทำให้งานในร้าน เสร็จเร็วขึ้น จนเลยมาถึงเวลาเก็บร้าน ก็เสร็จเรียบร้อย อย่างรวดเร็ว เพราะมีน้องใหม่อย่างกัมพลช่วยได้เยอะ มีเวลาพักผ่อนเร็วขึ้น ทั้งป้าและเด็กสาวในร้าน ต่างพากันดีใจ ที่มีคนมาช่วยงาน


"ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"


"บ้านอยู่แถวไหนเหรอ"ป้าถามขึ้นอย่างสงสัย


"เดินไปทางหลังวัดครับ พักอยู่กับญาติครับ"


"เดินมาเหรอพล" ชินพัตน์ที่นั่งคิดยอดรายได้อยู่ที่โต๊ะได้ยินก็ถามอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน


"ครับ ผมเดินมาจากสวนของญาติครับ"


"มันไกลมากไหม" ชินพัตน์ถามเพราะยังไม่คุ้นพื้นที่แถวนี้ เพราะรู้จักแค่ที่ตลาด วัด และบ้านสวนของยายเท่านั้น


"ผมเดินประจำครับ เลยไม่รู้จะบอกยังไงว่าไกลหรือเปล่า"กัมพลทำท่านึก


"แล้วไม่มีรถมอเตอร์ไซค์เหรอ"ป้าพรถามอย่างเป็นห่วง


"ของญาติมีครับ แต่ผมเกรงใจ เลยขอเดินมาดีกว่าครับ" กัมพลตอบด้วยรอยยิ้มแห้งๆ


"อืม"ชินพัตน์คิดถึงความอยากลำบากของ คนงานคนใหม่แล้ว ไม่รู้จะเริ่มต้นช่วยตรงไหนก่อนดี


"ไม่เป็นไรครับ ผมได้งานแล้ว เก็บเงินสักพักก็มาหาเช่าบ้านแถวนี้เอา จะได้ไม่รบกวนญาติด้วย แล้วก็จะได้มาทำงานเร็วขึ้นด้วยครับ"


            ชินพัตน์มองเด็กหนุ่มตรงหน้า คงจะตั้งใจแบบนั้นไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเด็กหนุ่มดูเหมือนจะเป็นคนขี้เกรงใจ แต่ก็ตั้งใจทำงาน ถึงแม้จะเห็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็พอจะดูออกว่าเป็นคนตั้งใจจริง พอได้งานก็คงอยากจะมีที่อยู่เป็นของตนเองสินะ  แต่ยังไงก็คงต้องดูไปก่อนซักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจช่วยเหลืออะไรไป  ขอดูการทำงานอีกสักหน่อย มั่นใจว่าตั้งใจทำงาน เอาการเอางาน เขาจะไม่เกียงงอนที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่มเลย


"งั้นก็กลับบ้านดีๆล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน"ชินพัตน์พูดบอกเด็กหนุ่ม


"ครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบมาแต่เช้าครับ" กัมพลยกยิ้มอย่างภูมิใจกับงานใหม่ของตนเอง และเดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี เพราะดูแล้วงานไม่ยาก เจ้านายก็ดูแล้วท่าทางใจดีด้วย พวกป้าและเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็ใจดีกับเขา งานที่นี้ดูแล้วยังสบายกว่างงานที่ทำในสวนซะอีก


            กัมพลเริ่มมาชวยทำงานที่ร้านผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว เข้ากับเพื่อนๆและป้าพรได้ดี ช่วยผ่อนเบางานที่ใช้แรง ได้หลายอย่าง ขนของที่ซื้อเข้าร้าน ยกของหนักๆ แทนเด็กสาวในร้าน เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก เพราะนพคุณกำชับ ชินพัตน์ไว้ว่าเดือนแรกให้แค่ 5000 บาทถ้าทำงานดีก็ค่อยให้เท่ากับเด็กคนอื่นๆ 6000 บาท  แต่สำหรับกัมพลแล้ว พอรู้ว่าตนเองจะได้เงินเดือนถึง 5000 ก็ดีใจจนเหมือนคนที่ได้เงินแสน  กัมพลบอกกับชินพัตน์ว่าตนเองไม่เคยได้เงินเป็นก้อนเลย รับจ้างทำงานเป็นวันตลอด วันละ 50 บาท วันละ 100 ก็ยังมี งานที่ทำก่อนหน้านี้หนักกว่านี้เยอะกว่าจะได้เงินมา กัมพลดีใจจนต้องยกมือขึ้นไหว้ ชินพัตน์หลายครั้งที่ รับตนเองเข้ามาทำงานที่ร้าน


"อืม ดีแล้ว ได้งานก็ตั้งใจทำงานนะ" ชินพัตน์พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะให้เด็กหนุ่มกลับไปช่วยทำงานหลังร้านต่อ



         ร้านใหม่ของชินพัตน์ ขายดีมากเพราะความอร่อยของลูกชิ้น ทำให้ลูกค้าพูดปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาที่ร้านเยอะ พอดีกับมีเด็กใหม่มาช่วยงานที่ร้านรับมือกับลูกค้า จำนวนมากในแต่ละวันได้อย่างสบาย รายได้ที่ร้านก็เพิ่มขึ้น ยอดสั่งลูกชิ้นก็เยอะขึ้นด้วย  ปกติ 1 อาทิตย์จะสั่งลูกชิ้น จากที่โรงงานมาส่ง 1 ครั้ง แต่พอเข้าเดือนที่ 2 ไม่พอ ต้องสั่งลูกชิ้นมาเพิ่ม ตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามามากขึ้น ทั้งพ่อและแม่ก็ต่างดีใจและเป็นห่วง กลัวชินพัตน์จะรับมือไม่ไหว  ส่งนพคุณคอย มาดูบางเป็นบางเป็นบางครั้ง


"พี่ใหญ่ มาส่งเองเลยเหรอวันนี้" นพคุณเข้ามาจากทางหลังร้าน เพราะเอาลูกชิ้นที่ชินพัตน์สั่งรอบที่สองของสัปดาห์มาส่งให้เอง


"ใช่ ก็ร้านนายทำยอด ได้เยอะกว่าร้านพี่อีกพี่ก็เลยต้องมาดู" นพคุณแกล้งพูดน้ำเสียงจริงจังเพื่อจะแกล้งน้องชาย


"ยอดเยอะอะไรกันพี่ ก็ร้านเปิดใหม่ลูกค้าก็เห่อแค่ช่วงแรกๆละครับ ต้องดูหลังจากนี้ สัก 2-3 เดือน ว่ายอดยังคงที่แบบนี้อยู่หรือเปล่า" ชินพัตน์รีบพูด ให้พี่ชายสบายใจว่าร้านตนเองไม่ได้ยอดสั่งลูกชิ้นเยอะเสมอไปหรอก


"ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ ขายได้ก็ดีแล้ว ร้านพี่มีลูกค้าประจำเยอะ ไม่ต้องห่วงรอกน่า ฮ่าๆๆ" นพคุณก็หลุดขำเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ชายตนเองคิดแบบนั้น


"โธ่พี่ แกล้งผมเหรอ"


"เออ โทษที่ วันนี้ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมเลยนะ"


"ครับ ลูกค้าหน้าใหม่ๆเข้ามาเยอะเลยครับ"


"อืม เมื่อกี่เห็นเด็กใหม่ ยกของอยู่หลังร้าน พี่เลยบอกให้ยกลูกชิ้นลงมาแล้วนะ"


"ครับ เดี๋ยวผมขอเดินไปดูพลหน่อย" ชินพัตน์เดินไปดูลูกน้องที่พอจะเริ่มชินกับงานแล้ว เพราะเขาและป้าพร แถบจะไม่ต้องเอยปากสั่ง เด็กหนุ่มก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ดี และช่วยเหลือส่วนของคนอื่นอีกด้วย ที่ร้านเลยทำอะไรๆได้เร็ว ลูกค้าก็ชมว่าสั่งแล้วก็ทานเร็ว ไม่รอนานเหมือนที่อื่น แถมลูกชิ้นในแต่ละเมนูก็อร่อยถูกใจ


"ยกลูกชิ้นเสร็จแล้วก็ไปพักมั้งเถอะพล พี่เห็นเราทำโน่นทำนี่ไม่หยุดเลย"


"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากนั่งพัก กลัวรากงอกอ่ะครับ ฮ่าๆๆ" กัมพลพูดติดตลกกับชินพัตน์ นพคุณก็ยืนฟังอยู่ด้วย มือก็ยังไม่หยุดยกถุงลูกชิ้นลงจากรถ กัมพลทำงานไวมาก นพคุณยังทึ้งเพราะเขาเองเดินจากหลังร้านไปคุยกับน้องชายแค่แปบเดี๋ยว กลับมาอีกที่ เด็กหนุ่ม ยกลงจากรถไปเกือบครึ่งแล้ว


"งั้นก็ตามใจ แต่อย่าโหมงานเกิน เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ" ชินพัตน์ยิ้มเอ็นดู กับความตั้งใจของเด็กใหม่


"ครับ" กัมพลเงยหน้าขึ้นมาตอบ แล้วก้มหน้าก้มตายกของต่อไป


"เด็กนั้น ทำงานเป็นยังไงมั้ง"


"ตั้งใจทำงานดีครับ ช่วยงานในร้านได้เยอะเลย"


"อืม แต่ก็ดูๆไปก่อนนะ อย่าพึงไว้ใจมาก"


"ครับ  ทำมาจะเกือบเดือนแล้ว ผมก็ไม่เห็นพลจะดูทำตัวไม่ดีนะครับ"


"เถอะน่า ดูๆไว้ก่อน ไม่แน่อาจจะออกลายทีหลัง"


"โธ่พี่ใหญ่ คิดมากไปหรือเปล่าครับ ผมว่าพลก็ตั้งใจทำงานนะครับ ขนาดให้เงินแค่ 5000 ยังดีใจเหมือนได้เงินเป็นหมื่นๆ"


"นั้นแหละยิ่งต้องจบตาดู เพราะเงินเข้าออกที่ร้านมันเยอะนะ ชิน นายก็อย่าไว้ใจเกินไป"


"ครับๆ ผมจะคอยระวัง แล้ววันนี้พี่จะไปรับต้นกล้าหรือเปล่า"


"เอ๊ะ เออ ไปสิ เฮ้ย บ่าย 2 กว่าแล้วเหรอ งั้นพี่ไปก่อนนะ" นพคุณรีบเด้งตัวเองออกจากโต๊ะเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ตั้งใจไปรับกลับบ้าน


"ฮ่าๆๆ ดูก่อนว่ายกของลงจากรถหมดหรือยังนะ ฮ่าๆๆ" ชินพัตน์ตลกท่าที่ของพี่ชายที่ดูร้อนร้นเมื่อพูดถึงต้นกล้า  ทั้งๆมีเวลาอีกตั้งนานกว่า ต้นกล้าจะนั่งรถกลับมาถึง บขส.


                 ช่วงบ่ายมีคนเข้ามาหาที่ร้านของชินพัตน์ หลายคนเข้าคุยว่าอยากจะซื้อลูกชิ้นของชินพัตน์ไปขายเอง เพราะเห็นว่าชินพัตน์ขายดี แต่ก็ยังไม่กล้าลงทุน เมื่อชินพัตน์ว่าต้องเปิดเป็นร้านแบบที่เขาเปิดแบบนี้ แต่ละรายที่เข้ามาก็บอกว่ายังไม่มีทุนบาง อยากขายแค่เล็กๆ ชินพัตน์เลยปฏิเสธที่จะคุยต่อ ในร้านก็ยุ่งเกินพอแล้ว  แถมบางคนที่สนใจลูกชิ้นของที่ร้าน แต่อยากที่จะให้ลดราคาให้อีก ชินพัตน์ก็ปฏิเสธเช่นเดิม  เพราะเขาคิดว่าลูกชิ้นที่โรงงานของเขามีคุณภาพที่ดี และความอร่อย เหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้แล้ว จะลดลงไปคงเป็นไปไม่ได้  จนมาถึงรายสุดท้ายที่เข้ามาคุยกับชินพัตน์ เขามาชมซะเป็นส่วนใหญ่ว่าร้านทำเลดี ลูกค้าเยอะ ลูกชิ้นอร่อย บริการดี จนสุดท้าย ก็ถามว่า ตึกข้างๆมีใครจ้องหรือยัง ทำไมยังปิดอยู่ คูหาอื่นๆที่ถัดไป เปิดร้านกันไปหมดแล้ว  ชินพัตน์ก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะตนเองก็ไม่รู้


"อืม ต้องขอโทษนะครับผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่ามีใครมาจ้องหรือยัง"


"เหรอค่ะแล้วฉันจะไปติดต่อกับใครได้ล่ะ"


"อืม สักครู่นะครับ เดี๋ยวผมลองหาเบอร์โทรติดต่อให้" ชินพัตน์ก้มลงในชองเก็บเอกสารเพื่อหา คนดูแลเช่าซื้อของที่ตึกนี้


"นี้ครับเบอร์โทร"


"ขอบคุณค่ะ" สาววัยกลางคน รับนามบัตรไปจากมือชินพัตน์ แล้วก็รีบกดโทรทันที



          ชินพัตน์ก็ไม่ค่อยอยากจะสนใจเท่าไรแต่ก็ลุกไปจากโต๊ะไม่ได้ เพราะว่าคนที่นั่งโทรศัพท์ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ยังไม่ลุกออกไป ชินพัตน์ก็ต้องรอ จนกว่าคนตรงหน้าจะโทรศัพท์เสร็จ


"งั้นผมขอตัวไปดูหน้าร้านก่อนนะครับ พอดีลูกค้าเยอะ" ชินพัตน์ออกปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายโทรเสร็จ


"เห็นคนดูแลบอกว่าคนที่จ้องตึกข้างร้านคุณก็รู้จักกับคุณนี้ค่ะ" ชินพัตน์ที่กำลังจะลุกขึ้น เมื่อได้ยินแบบนั้นเลยต้องกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง


"เอ๊ะ ผมไม่รู้จักใครที่นี้นะครับ เพราะผมพึ่งย้ายมาขายของที่นี้ไม่กี่เดือนเอง และก็ไม่ใช่คนที่นี้ด้วยครับ" ชินพัตน์บอกปัดอย่างไม่เข้าใจ


"เอ๊ะ แต่คนดูแลตึกบอกว่า เขาจ้องไว้พร้อมกับคุณตั้งแต่วันแรกที่เปิดจ้องแล้วนี้ค่ะ"


"เอ๊ะ เออ ผมไม่ทราบจริงๆนะครับ ว่าใครจ้องตึกข้างๆไว้ คุณคงต้องไปติดต่อกันเอาเองนะครับ งานที่ร้านผมก็ยุ่งมากจริง ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ " ชินพัตน์เริ่มงงและสับสัน และเริ่มรำคาญกับสายตาของผู้หญิงวัยกลางคนที่มองเขาเหมือนจับผิด ทั้งๆที่เขาไม่รู้อะไรเลย


"ก็ได้ วันนี้ฉันจะกลับไปก่อน แต่อย่าให้รู้นะว่าจ้องไว้กั๊กคนอื่น ชิ" แล้วผู้หญิงร่างกลมไม่สนใจใครก็เดินออกจากร้านไปแต่ยังทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ทำให้ชินพัตน์ยิ่งคิดหนักขึ้นไปอีก



อะไรของเขาว่ะ



"มีอะไรหรือเปล่าพี่ชิน" กัมพลที่สังเกตนายจ้างกับคนที่เขามานั่งคุยได้พักใหญ่ๆแล้ว ว่าทำไมต้องพูดจาแบบนั้นใส่เจ้านายของตนเองด้วย ไม่อยากที่จะแอบฟังหรอก แต่พอเห็นสีหน้าเจ้านายแล้วก็เลยเห็นห่วงขึ้นมา


"อืม ไม่มีอะไรหรอกพล" ชินพัตน์นั่งลงที่โต๊ะเหมือนคนหมดแรง ขายของที่ร้านถึงจะเหนื่อย ก็ยังไม่ล้าและเหนื่อยใจเท่าวันนี้ เจอแต่คนที่หวังผลประโยชน์ทั้งนั้น พอไม่ได้ดังใจตามที่ต้องการก็ต่างพากันไม่พอใจ ชินพัตน์นั่งคิดว่า ตนเองต้องมานั่งรับรู้ และค่อยลองรับอารมณ์คนพวกนี้ด้วยเหรอ มันเกินกว่าสิ่งที่เขาคิดไว้เยอะ  ถ้ากับลูกค้าเขาคิดว่าเขารับมือได้อย่างแน่นอน  แต่วันนี้มันเกินไปจริงๆ


นี้สินะ ที่เรียกว่าธุรกิจ


พ่อก็คงเจอแบบนี้เหมือนกันใช่ไหมครับ?


แล้วใครกันนะที่จ้องตึกข้างๆ


ที่มาทำให้เขาเดือนร้อนแบบนี้

         





                ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!  :laugh:

มาติดตามกันต่อเลยนะคะว่าเด็กหนุ่มกัมพลมาทำงานที่ร้าน จะทำให้คุณเจ้าของร้านเปลี่ยนไปหรือเปล่า?? อิอิ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนิยายของมินมินนะคะ +เป็ดให้ทุกคอมเม้นนะคะ   :กอด1:

ฝากติชมเป็นกำลังใจให้มินมินด้วยนะคะ ขอบคุณคะ  :pig4:




อ่านต่ออีกตอนกันไปเลยนะคะ





ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แอบมาจองข้างกันก็ไม่บอก พระเอกเราแน่ๆ อิอิ
ส่วนน้องพลนี่ดูท่าทางยังไม่น่าไว้วางใจเท่าไรอ่ะ (ไม่รู้สิ รู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป กลัวว่าจะมาสร้างความร้าวฉานให้ชินกับคุณนนท์)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นนท์เงียบหายไปเลย
ระวังเด็กพลทำคะแนนแซงหน้านะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                      ตอนที่ 46  รักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน? แล้วก็งานงอก?


             ลูกค้าที่ตลาดนัดก็ยังเยอะเหมือนเคย วันไหนที่ชินพัตน์ไปขายเองที่ตลาดนัดแล้วไปรับยายมาที่ตลาด ก็จะมีกัมพลไปช่วย ยกของ จัดร้านให้เสมอ ลูกค้าก็ต่างพูดชมเรื่องความอร่อยของเมนูต่างของที่ร้าน ไม่ขาดปาก ลูกชิ้นปิ้งก็ยังเป็นที่นิยมเหมือนเคย ขายดีแต่ก็ไม่เท่ากับทีร้านขาย รวมทั้งชินพัตน์เอาลูกชิ้นมาขายแค่พอขายลูกค้าที่เดินตลาดเท่านั้น จะไม่ได้เอามาเผื่อ ขาดหมดก็เก็บร้านทันที่ เพื่อจะกลับไปดูแลที่ร้านต่อ เรื่องเงินก็ให้ป้าพรดูแลแทน เพราะเด็กที่ช่วยป้าทำเองได้อย่างคล่องแคว รสชาติไม่ต่างไปจากที่ป้าพรสอนให้ทำ


"จะเก็บร้านแล้วเหรอ" แม่ค้าลูกค้าต่างถามเป็นเสียงเดียวกันเพราะตอนนี้พึ่งจะ 6 โมงเย็นเอง ลูกชิ้นที่เตรียมมาหมดแล้ว

"ครับ ถ้าจะซื้อเพิ่มแวะไปที่ร้านนะครับ" ชินพัตน์ยิ้มการค้า


           ชินพัตน์โทรไปที่เบอร์ร้านเพื่อให้กัมพลมาช่วยเก็บของ เพื่อทุ่นเวลาที่จะได้กลับไปที่ร้านเร็วขึ้น เขาเองต้องไปส่งยายที่บ้านสวนก่อนที่จะรีบกลับร้าน เพราะป้าพรบอกว่าวันนี้ ลูกค้าเยอะมาก ปลายเดือนลูกค้าเงินเดือนออกพาครอบครัวมานั่งที่ร้านเยอะพอสมควร ทำให้ชินพัตน์รีบกลับไปที่ร้านเพื่อช่วยเก็บเงิน


"ป้าครับ ลูกค้าเยอะมากเลยนะครับ"

"จ้าๆ กลับมาก็ดี ป้าคิดเงินไม่ทันเลย ไม่รู้ว่าถอนเงินผิดไปบางหรือเปล่า" ป้าพรรีบส่งประเป๋าเงินคืนให้ชินพัตน์และรีบเกาไปหน้าโต๊ะเครื่องปรุง เพราะมีลูกค้ากลุ่มใหญ่เข้ามา

"ครับๆ เดี๋ยวผมจัดการต่อให้เองครับ"


             ทั้งกัมพลและชินพัตน์ต้อง เข้ามาช่วยเสิรฟอาหารให้ลูกค้าอีกแรง เพราะวันนี้ลูกค้าเยอะจริงๆ บางที่ก็ไปช่วยปิ้งลูกชิ้นด้วย เพราะลูกค้าหน้าร้านที่มารอซื้อลูกชิ้นปิ้งกลับไปบ้านในช่วงหัวคำก็มีเยอะ น่าจะเป็นลูกค้าที่ตลาดนัด เพราะลูกค้ารู้ว่าชินพัตน์จะเก็บร้านเร็วขึ้น เลยต้องตามมาซื้อที่ร้านประจำ
..
.
.
.
.

"วันนี้ทุกคนคงเหนื่อยกันมากเลยใช่ไหมครับ ลูกค้าเยอะขนาดนี้" ชินพัตน์พูดขึ้นเมื่อลูกค้าชุดสุดท้ายออกจากร้านไป และเตรียมตัวจะปิดร้าน เก็บของแต่บางส่วนกัมพลก็เก็บล้างไปบางแล้ว ทำอีกนิดหน่อยก็เปิดร้านได้เลย


"วันนี้สิ้นเดือนเงินเดือนออกก็เลยพากันมาที่ร้านนะสิ ที่ตลาดนัดคนก็ยังเยอะอยู่เลย" ป้าที่มานั่งพักใกล้กับชินพัตน์ก็พูดเสริมขึ้น และหันไปมองทางตลาดนัด เพราะตอนนี้ 2 ทุ่มกว่าแล้ว ยังมีคนเดินตลาดอีกพอสมควร


                 รวมไปถึงที่ร้านของชินพัตน์ด้วยที่จ่ายเงินเดือนทุกคนในร้านไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน  ทุกคนก็มีเงินในกระเป๋าได้อุ่นใจ แต่ยังไม่มีเวลาไปใช้จ่าย เพราะต้องเปิดร้านมาเตรียมของไว้ขายตั้งแต่เช้า จนเย็นก็พึ่งจะได้นั่งพักกัน ชินพัตน์เห็นลูกน้องในร้านตั้งใจทำงาน ไม่เกียงงอนเรื่องวันหยุดที่มีอันน้อยนิดเลย เพราะทุกคนเข้าใจว่าร้านพึ่งเปิดใหม่ จะมาหยุดกันบ่อยๆก็ไม่ดีแน่  แต่ชินพัตน์เห็นว่า ผ่านมา 2 เดือนแล้ว น่าจะให้ทุกคนได้หยุดพักกันบ้าง

"ทุกคนครับ เดี๋ยวผมโทรสั่งหมูกระทะมานั่งกินกันที่ร้านดีไหมครับ พลอย่าพึ่งรีบกลับนะ" อยู่ชินพัตน์ก็รีบบอกคนงานในร้านทุกคนว่าจะเลี้ยง ร่วมไปถึงกัมพลด้วย


"ทำกินกันเองไม่ดีกว่าเหรอ ผักที่ยายให้มาก็มีไม่ใช่เหรอ" ป้าพรพูดเสริม

"ผมอยากให้ทุกคนได้พัก ถ้าต้องมาเตรียมของที่จะทำกินกันเองอีก จะเหนื่อยเพิ่มเปล่า สู้สั่งมาแล้วได้ทานเลยดีกว่านะครับ" ชินพัตน์อธิบาย

"งันก็ตามใจเถอะจ๊ะ"


                ขณะที่ทุกคนเริ่มเก็บร้าน ก็เป็นเวลาที่รอให้รถส่งหมูกระทะ 2 ชุดใหญ่มาส่ง ชินพัตน์อยากจะมีเวลาได้พูดคุยกับทุกคนในร้านบาง ไม่ใช่แค่ทำงานกันไปวันๆเพื่อรอรับเงิน อยากให้ทุกคนสนิทกันมากขึ้น วันนี้เลยเป็นโอกาสที่จะได้ลองได้พูดคุย เรื่องของแต่ละคนบางจนรถที่ร้านหมูกระทะมาส่ง ทุกคนก็ช่วยกันเก็บร้านเสร็จพอดีมานั่งร่วมตัวกันที่โต๊ะที่ลูกทานนั่งทานที่กลางร้าน ช่วยกันจุดไฟ เตรียมพักเตรียมหมูรอพร้อมน้ำเดือด


"ไม่ได้กินแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนี้" จอย ลูกของแม่ค้าที่รู้จักกับชินพัตน์ฝากมาทำงานที่ร้าน พูดขึ้นเมื่อเห็นอาหารตรงหน้า

"นานแค่ไหนล่ะจอยเอย" ป้าพรถามขึ้นแบบติดตลก

"ก็นานแล้วนะ เพราะไม่ค่อยมีเวลามากินของแบบนี้หรอก ช่วยแม่ขายของตลอด"

"พี่ถามได้ไหมทำไมจอยถึงไม่เรียนต่อ" ชินพัตน์ที่เริ่มคีบหมูมาปิ้งบนกระทะก็ถามขึ้น

"จอยก็อยากเรียนนะ แต่สงสารแม่ แม่ทำงานคนเดียว จอยเลยออกมาช่วยแม่ทำงานดีกว่า เก็บเงินได้เยอะๆก่อนแล้วค่อยกลับไปเรียน" ชินพัตน์ไม่ได้ถามตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานเพราะสนิทกับแม่ของจอย ที่ขายของในตลาดอุตสาฝากฝั่งมาเลยไม่ได้ถามอะไรมาก

"อืม จบแค่ม.6 ใช่ไหม เหมือนพลเลยสินะ" ชินพัตน์ชวนคุยต่อ และก็หันไปคุยกับกัมพลด้วย กัมพลก็ได้แต่พยักหน้าเงียบๆ ตั้งใจฟังคนในกลุ่มพูดคุยกัน

"แต่จอยอายยุน้อยกว่าพี่พลนะ จอยพึ่งจะ19 เองอ่า" จอยหยิบผักลงในน้ำชุบและหันมาบอกชินพัตน์ไปด้วย

"อ้าวแล้วพลอายุเท่าไรล่ะ ป้านึกว่า 2 คนนี้อายุเทากันซะอีก" ป้าคีบปลาหมึกมาปิ้งแล้วก็ถามขึ้นอย่างสงสัย

"ผมอายุ 21 แล้วครับ"พลตอบเสียงเบาแล้วก็กลับหมูที่กำลังปิ้งบนเตาไปด้วย


                ทุกคนก็ต่างพูดคุยกันต่อจนทุกคนเริ่มจะไม่ไหว เพราะชินพัตน์สั้งมาตั้ง 2 ชุดใหญ่ต้องช่วยกันปิ้งทานให้หมด กว่าจะหมดทุกคนก็ อิ่มกันไป จนลุกแถบไม่ขึ้น ต่างพากันหัวเราชอบใจที่แต่ละคนเล่าเรื่องตลกของตนเองให้ฟังบ้าง เรื่องลูกค้าในร้านก็มี และเรื่องที่กำลังพูดก็วนกลับมาที่เรื่องงานอีกครั้ง


"พรุ่งนี้ผมให้ทุกคนหยุดงาน 1 วันนะ จะได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาไปใช้เงินกันบ้าง" ทั้ง 3 คนมองหน้าชินพัตน์เหมือนจะตกใจ แต่เมื่อฟังจนจบก็ต่างพากันยิ้มพอใจที่ตนเองจะได้พักสักวัน

"ป้าจะกลับไปที่บ้านไหมครับ ผมจะได้ขับรถไปส่ง"

"ถ้าตาชินจะกลับ ป้าก็ขอติดรถไปด้วยนะ จะได้แวะกับไปดูที่บ้านบ้าง"

"ได้ครับ แล้วจอยกับพลล่ะ จะไปเที่ยวที่ไหนกัน"

"จอยจะไปช่วยแม่ขายของ เอาเงินไปให้แม่ด้วย พอดีเลย" จอยยิ้มเพราะตอนแรกตั้งใจจะเอาเงินไปให้แม่อยู่แล้ว แต่เพราะยังไม่มีเวลาว่างเลย

"อือ พรุ่งนี้พี่จุ๋มไปขายของที่ไหนล่ะ"

"ที่ตลาดแถวๆ คลองนะจ๊ะ"

"ให้พี่ไปส่งไหม"

"ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวจอยโทรบอกแม่ให้มารับ เพราะยังไงแม่ต้องผ่านที่หน้าร้านอยู่แล้วจ๊ะ"

"อืม ไหนๆก็เป็นวันหยุดแล้วพี่ก็อยากให้จอยกับแม่ของเราพักบ้างนะอย่าโหมงานเกินเดี๋ยวจะพากันป่วยเอานะ"

"จ้าจ้า ว่าแต่พี่ชินเถอะ เห็นทำแต่งาน ขายของอย่างเดียวเลย เอ๊ะหรือว่าเก็บเงินไปขอสาวหรือเปล่า" จอยคุ้นเคยกับชินพัตน์ตั้งแต่ขายของที่ตลาดนัดแล้ว เลยพูดแซวชินพัตน์ที่เอาแต่ขายของไม่สนใจสาวๆที่เข้ามาตามซื้อลูกชิ้นทุกวัน หมายตาเจ้าของร้านอย่างชินพัตน์ ที่ไม่เคยเล่นด้วยสักคน ทำให้จอย สงสัย

"เฮ้ย เปล่านะ พี่จะไปมีเวลาไปหาสาวที่ไหนกัน ขายของก็เก็บเงินใช้หนีพ่อแม่ต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆ" ชินพัตน์พูดปัด เพราะเขาไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องรักๆใครๆแบบนั้นอีกแล้ว 

"แหมๆ รีบแก้ตัวเลยนะจ๊ะแอบมีใครอยู่ในใจแล้วล่ะสิ อิอิ" จอยยังคงคุยล้อเล่นต่อ

"จอย พูดอะไรอย่าง ตาชิน เขาต้องเรียกว่า รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่งานมากกว่า ใช่ไหมตาชิน" ป้าพรรีบออกรับแทน เมื่อเห็นเด็กสาวเริ่มแซวหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

"แหมป้าจอยก็แค่ถามเล่นๆ ในร้านเรานะทุกคน จอยคิดว่าคงอยากจะทำงานหาเงิน มากว่ามานั่งเสียเวลา หาแฟนแน่นอน จอยว่าถ้าเนื้อคู่มันจะมาเดี๋ยวก็เจอกันเองสักวัน " หันไปยิ้มพราวเหมือนหาคนร่วมอุดมการณ์

"จ้า แล้วป้าจะคอยดูว่าใคร จะมีแฟนก่อนกัน ฮ่าๆๆ" ป้าก็เห็นด้วยกับจอย แต่ก็ยังไม่วายอดพูดล้อทิ้งท้ายไว้


          ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา แล้วก็พากันหัวเราะ จอยเองถึงจะเป็นเด็กสาวมั่นใจ แต่ก็ไม่ได้แก่แดดแก่ลม เพราะแม่สอนมาดี ส่วนกัมพล ยังคงต้องการทำงานมากกว่า หาเงินเพื่อสร้างฐานะตนเองก่อน เรื่องที่จะมีแฟน มันเป็นเรื่องที่ห่างไกลเกินเอือม  และชินพัตน์เหมือนโดนย้อยถามคำถามซ้ำ ที่พ่อของเขาเคยถาม  เขาเองก็คิดว่ายังสนุกกับการทำงานอยู่ หรือเพื่อต้องการ ให้ลืมใครบางคนที่ยังอาจจะยังอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ พยายามจะกลบให้มิด ไม่ให้คิดถึงอีก แต่วันนี้เขากลับคิดถึงคนคนนั้นขึ้นมาเพราะอะไร?


"ป้าว่าเราเลิกกินกันได้แล้วล่ะ คงจะต่อกันไม่ไหวแล้วล่ะสิ" หันไปยิ้มให้ทุกคนที่ดูจะกินต่อไปไหว ว่างอาวุธคู่กาย พ่ายแพ้ต่อสิ่งที่อัดแน่นในกะเพาะ เกินที่จะรับไหวแล้ว และดูเหมือนทุกคนจะเหนื่อยๆด้วย

"นั้นสิครับ พอท้องอิ่ม ตาผมก็เริ่มจะปิดซะให้ได้" ชินพัตน์พูดไปทำท่าจะหลับเสียให้ได้ เป็นที่ตลกของคนในร้าน

"งั้นก็เก็บของกันเถอะ จะได้รีบกลับไปพักผ่อนกัน" ป้าพรบอกให้ทุกคนเก็บของก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนและกลับบ้าน

"ของแค่นี้เดียวผมเก็บล้างเองครับ พี่ชิน ป้าพร จอยก็ ขึ้นไปพักเถอะ เดี๋ยวผมปิดร้านให้เอง" กัมพลเสนอตัว เพราะเห็นทุกคนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

"พี่ว่าช่วยๆกันจะได้เสร็จเร็ว เราก็จะได้กลับเร็วด้วยไง"

"ครับ"



                   ทุกคนช่วยกันไม่นานเก็บของบนโต๊ะเก็บล้างจนเสร็จเรียบร้อย ป้าพรและจอย ขึ้นไปข้างบนแล้ว ส่วนชินพัตน์ขออยู่เช็คยอดเพื่อจะสั่งของมาเตรียมไว้ เพราะแค่วันนี้วันเดียวใช้ลูกชิ้นไปเยอะจนต้องสั่งใหม่เพิ่ม ส่วนกัมพลก็ยืนยันว่าจะถูพื้นในร้านให้อีกรอบ เพราะพรุ่งนี้ร้านไม่เปิด ร้านจะได้สะอาดพร้อมเปิดในเช้าวันพุธ  ชินพัตน์ก็ไม่ได้ค้านอะไร ไหนๆเด็กอยากอาสาช่วยทำก็ไม่อยากขัดศรัทธา


"พลกลับบ้านได้แล้ว นี้จะ 4 ทุ่มแล้วนะ กลับเข้าบ้านมืดๆมันอันตรายนะ" ชินพัตน์มายืนดูเด็กหนุ่มที่ซักผ้าถูพื้นที่อยู่หลังบ้าน

"ครับผมทำเสร็จพอดี ผมกลับเลยนะครับ" ยกมือไหว้ชินพัตน์แบบนี้ประจำ จนชินพัตน์ไม่อยากที่จะห้ามแล้ว

"พล เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านดีกว่ามันดึกมากแล้ว"

"อย่าเลยครับ ทางเข้าที่สวนแถวบ้านญาติผมมันมืดมากเลย ผมไม่อยากให้พี่ขับรถกลับคนเดียวนะครับ"

"ก็นั้นนะสิ เพราะมืดพี่ถึงต้องไปส่งเราไง เดินคนเดียวคำมืดดึกดื่นมันอันตรายนะ"

"ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมเดินกลับแบบนี้ทุกวันจนชินแล้วครับ"

"พี่เข้าใจ แต่วันนี้มันดึกมากไง พี่เลยต้องไปส่ง ห้ามปฏิเสธวันอื่นไม่ว่า แต่วันนี้ต้องให้พี่ไปส่ง ตกลงไหม" ชินพัตน์ไม่รอคำตอบ รีบดึงแขนเด็กหนุ่ม ไปที่หลังร้าน พาขึ้นไปนั่งที่เบาะ แล้วเดินกลับมาใส่กุญแจที่ประตูหลังบ้าน

"ไปทางวัดใช่ไหม" พอชินพัตน์ขึ้นรถมาก็ถามจุดหมายปลายทางทันที่ ถึงจะเห็นสีหน้าลำบากใจของเด็กในร้าน แต่ยังไงก็อยากไปส่ง เพื่อตนเองจะได้สบายใจด้วย

"พี่ชิน ส่งผมแค่ปากทางหน้าวัดก็ได้ครับ ข้างในมันมืด"

"ไม่ได้ให้พี่ไปส่งถึงในบ้านนั้นแหละ จนกว่าเราจะเข้าถึงบ้าน พี่ถึงจะขับรถกลับออกมา"

"แต่พี่ครับ คือ....."

"ไม่มีแต่ แค่บอกทางมาก็พอ จบนะ" ชินพัตน์พูดเสียงเรียบทำให้กัมพลไม่กล้าพูดปฏิเสธอีก



"เลี้ยวเข้าซอยนี้ใช่ไหมพล"

"เออ คะ ครับ"

"ทำไม มันมืดขนาดนี้ล่ะ ไม่มีไฟข้างทางเลย "ชินพัตน์ที่มองทางเข้าบ้านญาติของกัมพลและพูดขึ้นอย่างสงสัย

"เออ คือ เป็นทางเข้าสวนนะครับ แล้วก็ไม่คอยมีบ้านคน เลยไม่มีใครมาติดไปข้างทางไหนนะครับ"

"งั้นเหรอแล้วนี้พลต้องเดินเข้าบ้านมามืดแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ" ชินพัตน์ถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจบนสงสัย

"เออ คะ ครับ" กัมพลตอบไม่เต็มเสียง

"นั้นใช่มั้ยที่เห็นแสงไปไกลๆ  ตรงโน่นนะ" ชินพัตน์พยายามเพ่งมองฝ่าความมืดและฝุ่นละอองที่ฟุ้งขึ้นมาจากข้างถนนดิน

"เออ ใช่ครับ"


            เมื่อรถของชินพัตน์ขับเข้ามาใกล้ ก็เริ่มเห็นตัวบ้านชัดเจนยิ่งขึ้น มองดูยังไงก็ไม่เป็น บ้านสวนเหมือนที่เด็กหนุ่มบอกเลย แถมใหญ่โตเกินกว่าที่จะมาสร้างในที่แบบนี้ซะอีก ชินพัตน์หันไปมองกัมพลที่ได้แต่นั่งก้มหน้า บีบมือตัวเองไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่


"พลถึงแล้วนะ แน่ใจว่านี้คือบ้านญาติของพล?" ชินพัตน์ที่เริ่มไม่มั่นใจกับสิ่งที่ตนเองรู้กับสิ่งที่ตนเองเห็นตอนนี้มันช่างแตกต่างไปจากที่คิดมากจริงๆ

"เออ คือเป็นบ้านเจ้านายของญาติของผมเองครับ ญาติผมดูแลบ้านหลังนี้ให้เจ้านาย ดูแลสวนที่อยู่ถัดไปตรงโน่นนะครับ"

"เออ คือพี่ชินอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมไม่ได้โกหก แต่ว่าญาติผมเข้าไม่อยากให้ใครเข้ามาในนี้ เพราะมันเป็นที่ของเจ้านาย ผมก็เลยไม่อยากให้พี่เข้ามาเพราะกลัวจะเป็นอันตรายนะครับ"

"มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอพล"

"ผมก็ไม่รู้วันนี้เจ้านายเขาไม่อยู่ เดี๋ยวผมไปอธิบายให้ญาติผมฟังเองครับ พี่ชินรีบขับรถออกไปเถอะครับ นะผมขอร้อง" ชินพัตน์เริ่มสังเกตอาการร้อนรนของ กัมพล ที่เอาแต่ร้องขอให้เขารีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วๆ

"อือ ได้ๆ" ชินพัตน์รีบรับปาก กัมพลเลยส่งยิ้มเล็กๆรีบส่งจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปทางด้านหลังของรั่วบ้านใหญ่ทันที ไม่หันกลับมามองเขาเลย แล้วเขาจะอยู่ต่อทำไมรีบกลับรถไปทางเดิม แล้วเหยียบคันเร่งจนมิด เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนในพื้นที่


            พอขับออกมาถึงหน้าวัด เจอแสงสว่างจากไฟที่ ถนนใหญ่ ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นขับรถกลับมาที่ร้าน แต่ยังไม่ลงจากรถ เพราะมั่วแต่คิดว่า ตนเองกำลังเผชิญหน้ากลับอะไรอยู่เมื่อกี้ แล้วทำไมต้องกลัวและทำตามเด็กหนุ่มบอกขนาดนั้น  พอคิดได้ว่าออกมาจากสถานที่แสนอึดอัด นั้นได้ก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังกังวลว่า เด็กในร้านของเขา ไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น ได้อย่างไง  แต่ก็ได้แต่สงสัย เพราะอยากรู้ก็ได้แต่รอ วันพุธให้กัมพลมาทำงานเสียก่อนค่อยถามไถ่อีกครั้ง



วันนี้เขาคงจะเหนื่อยเกินไป


ได้เวลาพักผ่อนแล้ว







         ลูกชิ้นร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!

     มาติดตามดูกันนะคะว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณเจ้าของร้านลูกชิ้นของเรา  :serius2:

     ต้นเหตุเกิดจากใครกันนะ โปรดติดตามตอนต่อด้วยนะคะ อิอิ  :z2:

     ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนิยายของมินมินนะคะ   :pig4:

     ขอบคุณทุกคอมเม้น+ เป็ดให้นะคะ  :กอด1:




ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
กัมพลนายเป็นคนของใคร
มาเฟียหรอ
เเต่อยู่หลังวัด??

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาา. เมื่อไหร่พระเอกของเราจะกลับมาอะครับบ. หายไปนานเกินไปละ เด้ยวชินพัฒน์ลืมไม่รู้นะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
นายกัมพลนี่อะไร ยังไง กันครับ ความลับเยอะจัง มาจะทำอะไรน้องชินเราเนี่ย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
กัมพลนี่บวกหรือลบกันนะ
มีส่วนเกี่ยวข้องกันคนที่เงียบไปเปล่านะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0


                                 
                                          ตอนที่ 47 ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน


                 เช้าวันรุ่งขึ้นชินพัตน์กับป้าพรก็ขับรถกลับบ้าน ก่อนออกจากร้านก็ไม่ลืมปิด ประกาศหน้าร้านไว้ ว่า หยุด 1 วัน เพื่อให้ลูกค้าได้รู้ และเดินทางแวะไปหายายที่สวนชวนยายไปเที่ยวที่บ้านของตนเองด้วย เมื่อยายตอบตกลงก็ออกเดินทางไปบ้านของเขากัน ระหว่างทางทั้งยายและป้าพรก็คุยกันถูกคอ  ชินพัตน์ก็นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองคุยกันไปด้วย 
.
.
.
.
“สวัสดีค่ะ ยายก็มาเที่ยวเหรอนี้ ตาชินทำไมไม่โทรมาบอกแม่ก่อน” ผู้เป็นแม่เห็นลูกชาย พายายมาด้วย ก็เข้ามายกมือไหว้ และต่อว่าลูกชายไปพร้อมกัน

"พอดีผมนึกขึ้นได้ก็ไปรับยายมา เลยไม่ได้โทรบอกก่อน ขอโทษที่ครับ แหะๆๆ” ชินพัตน์ก็แก้ตัว

“ลูกค้ากำลังเข้าร้านพอดีเลย รบกวนหรือเปล่าจ๊ะ”

“ไม่หรอกจ๊ะ เด็กๆในร้านดูแลกันเองได้ ฉันก็แค่ค่อยเก็บเงินนะจ๊ะ “ผู้เป็นแม่ตอบยายและพายายไปนั่งที่โต๊ะ เพื่อคุยถามถึงสารทุกข์สุกดิบ เพราะตั้งแต่เปิดร้าน กันไม่ได้เจอกันเลย สวนป้าพรก็ขอกลับไปดูที่บ้าน แล้วจะกลับเข้ามาช่วยที่ร้านอีกครั้ง

“ผมขอขึ้นไป เก็บของก่อนนะครับ  แม่แล้วพ่ออยู่ไหนครับ” ชินพัตน์ขอตัวไปเอาของที่ตนเองลืมเอาไปหลายๆอย่าง  แต่ก็ถามถึงพ่อ เพราะตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย

“พ่ออยู่ที่โรงงาน ไปตามพ่อมาที่นี้หน่อยไป”แม่บอกและก็สั่งกลายๆ

“ครับผม” ชินพัตน์เดินตรงไปหลังร้านเพื่อเจอหน้าพ่อของตนเอง

.
.
.
“สวัสดีครับทุกคน สบายดีกันหรือเปล่า คิดถึงผมกันหรือเปล่าเอย” ชินพัตน์ยกมือไหวรอบทิศ ร่วมถึงพ่อของตนเองที่ยืนคุมงานอยู่  พอทุกคนได้ยินเสียงทักทายจากด้านหน้าโรงงานก็ต่างพากันมองไปทางเดียวกัน 

“อ้าว เสี่ยชิน กลับมาบ้านแล้วเหรอ ฮ่าๆๆๆ” ลุงๆขึ้นเพราะยอดสั่งลูกชิ้นจากร้านชินพัตน์ทำให้พวกลุงป้า มีงานเพิ่มร่วมทั้งได้เงินเพิ่มด้วย เป็นที่ถูกใจของคนงาน ที่มีงานให้ทำตลอด

“ร่ำรวยกันใหญ่แล้ว นึกว่าจะไม่กลับบ้านกลับช่องซะแล้วสิ “ ป้าๆก็พูดล้อขึ้นสมทบ

“วันนี้ลมอะไรหอบมาเจ้าลูกชาย” พ่อเดินเข้ามาหา และตบไหล่เหมือนภูมิใจในตัวลูกชาย

“กลับมาเยี่ยมทุกคนไงครับ เดี๋ยวจะลืมหน้าผมซะก่อน” หันไปตอบพวกคนงาน ลุง ป้า น่า อา ทั้งหลายที่เป็นทั้งคนงานและเป็นทั้งเพื่อนบ้าน เห็นเขามาตั้งแต่เด็กจนโต

“นึกว่าไปหลงสาวแถวนั้นซะแล้ว ได้ข่าวว่าสาวๆ เข้าร้านมาให้เลือกเยอะไม่ใช่เหรอจ๊ะ” น้าปองที่กลับมาทำงานได้แล้วก็ถามล้อขึ้นอีกคน

“ไม่มีหรอกครับ ผมไปทำงานขายของนะครับ ไปได้ไปหาสาว โธ่” ชินพัตน์แก้ตัวแบบเขินๆที่ทุกคนรู้ว่ามีสาวๆมาที่ร้านเยอะ

“แล้วจะคอยดู ว่าเสี่ยชิน จะคว้าสาวที่ไหนมาเป็นแฟน ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนก็ตลกกันใหญ่ สนุกที่ได้พูดคุยหยอกล้อกันเหมือนเคย

“ไว้ผมจะแวะมาคุยด้วยใหม่นะครับ ผมขอเข้าบ้านก่อน” ชินพัตน์กับพ่อก็เดินกลับมาที่ร้าน

“พ่อครับ ผมพายายมาด้วย “ ชินพัตน์เดินนำพ่อเข้าไปในร้าน   ผู้ใหญ่ทั้งสามคนก็ได้นั่งคุยกัน ชินพัตน์ก็ขอตัวขึ้นไปบนบ้านเพื่อเก็บของที่จำเป็นที่เขาต้องใช้เตรียมไว้

     จนเลยเวลามาถึงช่วยบ่ายแก่ๆ ป้าพรก็กลับมาที่ร้าน มาช่วยที่ร้านด้วยและพูดคุยกับทั้งแม่และพ่อว่างานที่ร้านของชินพัตน์ คนงานที่ช่วยงานทำงานได้ดี ตั้งใจเรียนรู้ แล้วพูดถึงเด็กใหม่ที่มาช่วยงานได้เยอะขึ้นด้วย  จนผู้เป็นแม่ถามถึง

“เห็นตาใหญ่ก็เล่าให้ฟังอยู่เหมือนกัน ว่ารับเด็กผู้ชายเข้ามาช่วยที่ร้าน ไว้ใจได้แน่นะลูก”

“ครับแม่ ผมดูแล้วก็เป็นเด็กตั้งใจทำงานดีนะครับ ผมยังคิดว่าจะให้มาพักที่ร้านด้วยซ้ำ เพราะเมื่อคืนผมไปส่งเขาที่บ้าน มันทั้งห่างไกลผู้คน และทางเข้าบ้านเขาก็มืดมากๆครับ “

“ไว้ใจได้แน่เหรอ” พ่อเสริมขึ้นอีกคน

“แน่ใจครับ ถามป้าพรได้เลย ขยันทำงาน ไม่เกียงงายด้วยครับ” ชินพัตน์ยืนยันในสายตาของตนเองที่มองเห็นในตัวกัมพล

“ป้าก็เห็นว่าเป็นเด็กตั้งใจทำงานดีนะ แต่เรื่องที่จะมาให้พักด้วยกันที่ร้าน ป้าว่าดูไปก่อนอีกสักพักดีไหม?”

“นั้นสิเจ้าชิน”

“ก็ได้ครับ งันผมจะดูอีกสัก 1 เดือนแล้วกันนะครับ” ชินพัตน์ก็ต้องทำตามคำพูดใหญ่ไปก่อน

“จริงสิตาพัตน์เมื่อกี่แม่คุยกับยาย แล้วตานนท์ไม่ติดต่อกลับมาเลยหรือ หายหน้าไปหลายเดือนแล้วนะนี้” ชินพัตน์สะอึก เมื่อได้ยินชื่อคนที่เขาพยายามจะไม่นึกถึง จากปากผู้เป็นแม่

“ยายก็ไม่เป็นหน้า ตั้งแต่วันที่เขามาจ้องตึกไว้วันเปิดงาน  ยายก็ไม่เห็นลูกค้าคนนั้นมาที่ร้านอีกเลยนะ ไปอยุ่กรุงเทพแล้วเหรอ”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมขอไปคุยกับพวกลุงๆป้าๆที่โรงงานก่อนกลับก่อนนะครับ “ชินพัตน์อยากเลี่ยงที่จะพูดคุยเรื่องนี้ต่อ  ทำให้ผู้เป็นแม่เริ่มที่จะเข้าใจเรื่องที่คิดไว้นั้นคงจะเป็นเรื่องจริง  สงสัยลูกชายคงทะเลาะกับลูกค้าประจำอย่าง นนทนัฐแน่นอน เพราะดูเหมือนลูกชายตนเองจะเลี่ยงเสมอเมื่อคุยถึงเพื่อนคนนี้

“พี่พร ยังไงฉันก็ฝากตาชินด้วยนะจ๊ะ  ยายด้วยฝากดูลูกชายฉันด้วยนะจ๊ะ ถึงจะโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่เรื่องดูคน เรื่องงานทำงานกับคนก็ยังมีประสบการณ์น้อยอยู่” ยายพยักหน้ารับอย่างเข้าใจหัวออกของคนที่เป็นแม่ที่ยังห่วงลูก

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่เองเห็นตาชิน มาตั้งแต่เด็ก รักเหมือนลูกเหมือนหลาน “ป้าพรรับคำ

“จ๊ะ  ฉันไม่เป็นห่วงเรื่องเงินทองเลยสักนิด แต่เป็นห่วงเรื่องคนที่จะเข้ามา ในชีวิตของตาชิน ฉันไม่รู้ว่าจะจริงใจหรือหวังผลประโยชน์กับเขาหรือเปล่า”


             ทั้งป้าและยายก็รับปากที่จะเป็นคนค่อยเป็นหูเป็นตา คอยดูคนที่เข้ามาใกล้ชิดชินพัตน์ให้เสมอ เพราะคิดว่าชินพัตน์เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่งเหมือนกัน ทำให้ผู้เป็นแม่และพ่อเบาใจที่ยังมี ผู้ใหญ่ที่ค่อยอยู่ข้างกายลูกชายตนเองทั้ง สองคน ลูกชายมีคนให้ค่อยปรึกษาใกล้ๆก็เบาใจ  ถึงแม้บางเรื่องลูกชายจะยังไม่กล้าเอยปากคุยกับตนเองตรงๆ แต่คิดว่าก็ยังมี นพคุณที่เป็นพี่น้องวัยใกล้ๆกันค่อยรับฟังอยู่ก็ตาม

“แม่ครับ แล้วโหล่ปลาทอง 2 ตัวอยู่ไหนครับผมรีบเลยลืมเอาพวกมันไปด้วยเลย”

“แม่ก็นึกว่าจะทั้งไว้ให้แม่เลี้ยงเองซะแล้วสิ”

“ผมว่าผมจะเอาไปปล่อยนะครับ”

“จะเอาไปปล่อยจริงๆเหรอลูก คิดว่ามันจะรอดเหรอ “ผู้เป็นแม่ไม่เข้าใจการกระทำของลูกชายเท่าไร ร่วมทั้งห่วงปลาที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารจากคนมาตลอด แต่ต้องไปถูกปล่อยเพื่อหากินเองแบบนี้จะอยู่รอดได้ไหมก็เป็นห่วงขึ้นมา

“ผมก็ยังไม่แน่ใจ ไม่แน่อาจจะให้คนอื่นไปเลี้ยงแทนก็ได้ครับ” แม่เดินกลับลงมาจากชั้นบน เพราะเอาไปเลี้ยงที่ห้องทำงานและส่งโหลปากให้ลูกชาย ชินพัตน์ก็บอกปัดๆเมื่อไม่อยากใส่ใจกับของที่อยู่ในมือเท่าไร

“แล้วอย่ามาเสียใจที่หลังแล้วกันนะ ตาชิน” ผู้เป็นแม่พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินไปส่งยายและป้าพรขึ้นรถที่หน้า


               ชินพัตน์มองตามหลังผู้เป็นแม่ และมองกลับมาที่โหลที่มีปลาทอง สอง ตัวว่ายวนไปมาเหมือนดีใจว่าเจ้าของมันกลับมารับมันแล้ว ชินพัตน์ได้แต่ยิ้มเล็กๆให้กับสัตว์ตัวน้อยที่ไม่รับรู้ความรู้สึกของคนที่เลี้ยงว่าคิดอะไรอยู่

แต่ก็ดีใจที่กลับมารับมันไปเลี้ยง

จะได้ไม่มีใครมาว่าได้ว่า

ที่พยายามตักปลาให้แล้ว ก็ไม่ดูแลให้ดีดี

แล้วหัวใจของเขาล่ะ

ไม่คิดจะมาดูแลกันเลยหรือไง

หายเงียบไปแบบนี้?





         ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!  :laugh:

      ตอนใหม่มาแล้วจ้า คุณเจ้าของร้านแอบคิดถึงคนที่หายไปเบาๆด้วยนะ อิอิ  :z1:

      ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนิยายของมินมินนะคะ +เป็ดให้ทุกคอมเม้นคะ  :กอด1:



ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คุณนนท์หายไปไหนอ่ะ รีบกลับมาเถอะครับ คุณชินคิดถึงแย่แล้ว เล่นไม่ติดต่อมาเลย

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นนท์หายไปจากสายตาของชินนานมาก
จะไปหากินลูกชิ้นอร่อยๆแบบของชินได้ที่ไหนล่ะ

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                               ตอนที่ 48 เกิดเรื่องวุ่นวายจนได้

                   ชินพัตน์เปิดร้านในเช้าวันพุธ วุ่นวายพอดูเพราะ ลูกน้องหายไป 1 คน ทำให้ชินพัตน์นึกเป็นห่วง ว่ากัมพลจะเป็นอะไรหรือเปล่าถึงไม่มาทำงาน แต่ก็จะลำบากช่วงบ่ายที่ต้องออกไปขายที่ตลาดนัด เพราะไม่มีคนช่วยยกของจัดของ แต่ก็พยามยามไปรับยายมาที่ตลาดให้ทันเวลาก่อนลูกค้าจะเดินเข้าตลาดนัด วันนี้วุ่นวายพอสมควร แต่ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี

“เดี๋ยวผมช่วยเก็บของนะครับ” ชินพัตน์ช่วยยายเก็บร้านผักเพราะขายหมดแล้ว ยายเก็บผักเองคนเดียว เลยมีผักมาขายน้อย ทำให้วันนี้เก็บร้านเร็ว ร่วมทั้งร้านชินพัตน์ด้วย เอาของมาขายน้อยเช่นกัน

“แล้วเด็กในร้านหายไปไหน ไม่เรียกว่าช่วยกันล่ะจ๊ะ”ยายถามอยากสงสัยเพราะปกติเห็นมาช่วยตลอด

“วันนี้เขาไม่ได้มาทำงานครับ ผมนึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน”

  ชินพัตน์แวะไปส่งยายที่สวนแล้วก็โทรบอกป้าพรว่าจะแวะไปดูกัมพลที่บ้านญาติ แล้วค่อยกลับร้าน ป้าพรก็บอกว่าเป็นห่วงเหมือนกัน ขับรถเข้าไปภายในซอยหลังวัด ยังพอมีบ้านคนอยู่ แต่พอขับเข้าไปตามทางเรื่อย แถบจะไม่มีบ้านคน ครั้งก่อนเข้ามา ตอนมืดมองไม่เห็นอะไรเลย แต่วันนี้ตั้งใจมาตอนที่ยังสว่างอยู่ เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสบายใจของป้าพรด้วย  ขับมาพักใหญ่ ก็มองเห็นบ้านหลังใหญ่ปกคุมไปด้วยต้นไม้ มองจากภายนอก เหมือนบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย เงียบสงัดจนน่ากลัว  แต่ก็ต้องลงไปเพื่อสอบถามถึงเด็กหนุ่ม อยากรู้ว่าไม่สบายหรือเปล่า
ออด ออด   ชินพัตน์กดออดหน้าบ้าน

“สวัสดีครับมีใครอยู่ไหมครับ”

“……………………”ไม่มีเสียงตอบรับ ชินพัตน์จะกดออดอีกครั้งแต่ เสียงเรียกมาจากด้านหลังทำให้สะดุ้ง

“มาหาใคร”

“เออ คือผมเป็นเจ้าของร้านลูกชิ้น ที่พล  เออ  กัมพล นะครับทำงานอยู่ที่ร้าน วันนี้ไม่เห็นไปทำงาน ผมเลยเป็นห่วงนะครับ เลยมาดูว่าไม่สบายหรือเปล่า”

“กัมพล?  เด็กนั้นไม่สบาย “

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ให้ผมพาไปหาหมอก็ได้นะครับ”

“ไม่รบกวนคุณหรอก  เด็กนั้นนอนพักอีก 2-3 วันก็หาย ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อน”

“อา เออ ครับ ครับ”

“เดี๋ยวก่อนคุณ ผมขอเตือนคุณไว้นะครับ ว่าอย่าเข้ามาที่นี้อีก เพราะเจ้าของบ้านเข้าไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในที่ส่วนตัวของเขา”

“คะ ครับ” ชินพัตน์ตอบรับอย่างเกรงๆ และรีบเดินขึ้นรถขับออกมาทันที่ 

                  จอดรถที่หลังร้านแต่ยังไม่ลงจากรถ นั่งคิดถึงเรื่องที่ตนเองเจอมาเหมือนเจอเรื่องที่ระทึกขวัญ มาอย่างงันแหละ แต่ก็ยังไม่หายกังวลใจเรื่องของกัมพลเท่าไร ไม่สบายงันเหรอ ดูจากผู้ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนไม่ได้ห่วงใยกัมพลซักเท่าไรเลย อดห่วงไม่ได้จริงๆ แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว แค่รับรู้ไว้ว่าป่วยเท่านั้น

“เจ้าพลเป็นยังไงบ้าง ตาชิน” ป้าพรเข้ามาถามไถ่ถึงกัมพลอย่างเป็นห่วง

“ที่บ้านหลังนั้น เขาบอกว่า พลไม่สบายครับ “

“ตายจริง แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง”

“ผมก็ไม่รู้ครับ ทางนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยรับแขกเท่าไร ผมเลยรีบกลับออกมาก่อน ไม่ได้คุยแล้วก็ไม่เจอตัวพลด้วยครับ”

“อ้าวเหรอ เป็นอะไรมากหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“คงต้องรอดู อีก 2-3 วันนะครับ ถ้ายังเงียบหายอยู่แบบนี้ ผมว่าจะแวะไปเยี่ยมอีกครั้งครับ”

     
       ผ่านมาสองวันแล้วกัมพลก็ยังไม่มาทำงาน  ชินพัตน์เลยมานั่งดูประวัติของกัมพลอีกครั้งเพื่อหาเบอร์โทรติดต่อกัมพล เบอร์ที่ให้ไว้กัมพลบอกว่าเป็นเบอร์ ของญาติที่อาศัยอยู่ด้วย ชินพัตน์เลยลังเลว่าจะโทรติดต่อไปดีหรือเปล่า วันนี้วันเสาร์แล้ว ที่ร้านยังคงวุ่นวายแต่เช้าเช่นเคย ต้องเตรียมของที่ขายในร้านและขายที่ตลาด วันนี้ให้นพคุณมาช่วยขายที่ตลาด และไปรับยายมาส่งที่ตลาดให้ด้วย ชินพัตน์อยู่ที่ร้านเพื่อช่วยป้าพรขายของที่ร้าน และก็คิดว่าจะติดต่อไปหาญาติของกัมพล เพื่อถามถึงอาการดูอีกสักครั้ง

“สวัสดีครับ “

(คุณเป็นใคร เอาเบอร์โทรได้ยังไง) ปลายสายถามเสียงดุ

“ผมชื่อ ชินพัตน์ครับ  ที่ครั้งก่อนไปหากัมพลที่บ้าน นะครับ ผมจะโทรมาถามอาการครับว่า กัมพลหายดีหรือยังครับ”

(เด็กนั้นคงไม่ไปทำงานที่นั้นแล้ว คุณไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว ……) ปลายสายก็ตัดสายไปเลย ชินพัตน์ยังไม่ทันคุยกันให้รู้เรื่อง ก็โดยปฏิเสธกลายๆ ยิ่งทำให้สงสัยและเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก

อะไรของเขาวะ?

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ตาชิน”ป้าพรเห็นสีหน้ากังวลของหลานชาย

“เรื่องของพลครับ ดูท่าจะไม่ได้มาทำงานที่นี้แล้วนะครับ”

“อ้าว ทำไมล่ะ ไม่สบายมากเหรอ”

“เปล่าครับ ผมคิดว่าที่บ้านหลังนั้นคงไม่ให้มาทำมากกว่าครับ”

“ทำไมล่ะ”

“ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนญาติของกัมพล หรือคนที่บ้านหลังนั้นจะไม่อนุญาตให้พลออกมาทำงาน ข้างนอกก็ได้ครับ”

“น่าสงสาร เจ้าพลไม่รู้เป็นไงบ้าง”ป้าพรอดเป็นห่วงไม่ได้

“ผมก็ไม่รู้จะช่วยพล ยังไงเหมือนกันครับ “ ชินพัตน์ขมวดคิ้ว คิดไม่ออกว่าจะติดต่อและช่วยเหลือยังไงดี

“ป้าว่าอย่าไปยุ่งดีกว่านะ ป้ากลัวๆยังไงไม่รู้สิ “ ในใจป้าทั้งเป็นห่วงแต่ก็กลัวเจอเรื่องไม่ดีถ้าเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นมาจนเกินไป

“ผมขอคิดดูก่อนแล้วกันครับ”ชินพัตน์ยังคงเป็นห่วงแต่ก็ไม่ตัดใจเรื่องกัมพลซะที่เดียว

               ชินพัตน์ไม่รู้จะปรึกษาใครดี ถ้าบอกกับพ่อแม่ กลัวแต่จะให้เลิกติดต่อเหมือนที่ป้าพรพูดแน่ๆ  ตัวเขาเองได้ไปที่บ้านหลังนั้นก็พอจะที่จะมองออกว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่  จนกัมพลเงียบหายไปแบบนี้  เลยลองปรึกษาพี่ชายอย่างนพคุณดู น่าจะมีความเห็นดีๆให้เขาแน่

(ว่าไง) นพคุณไปส่งยายและต้นที่บ้านสวนกำลังขึ้นรถกลับบ้าน น้องชายก็โทรเข้ามาหาพอดี

“พี่ส่งยายกับต้นแล้วเหรอครับ “

(อือ กำลังออกจากสวน มีอะไรหรือเปล่า)นพคุณฟังจากเสียงของน้องชายดูแล้วแปลกๆ

“แวะมาคุยกับผมที่ร้านก่อนได้ไหมพี่”

(ได้ แล้วค่อยคุยกัน)นพคุณคิดไว้แล้วว่าชินพัตน์ต้องมีเรื่องกลุ้มใจแน่ เลยรีบที่จะไปหาทันที
 
         นพคุณขับรถกลับมาที่ร้านน้องชายอีกครั้ง ดูเหมือนน้องชายมีเรื่องกังวลใจ เพราะดูเหมือนที่ร้านจะวุ่นๆเพราะเด็กในร้านขาดงานไป เข้าร้านมาเห็นน้องชายนั่งหน้าเครียด เพราะเรื่องเด็กนั้นขาดงานหรือเปล่า

“เด็กนั้น ออกลายแล้วหรือไง”

“เปล่าพี่  พลไม่มาทำงาน หลายวันแล้วผมเลยเป็นห่วง”

“เด็กมันสู้งานไม่ไหว หรือเปล่า ก็เลยเงียบหายไปเฉยๆ”

“โธ่พี่ ผมจริงจังนะครับ ฟังผมเล่าก่อนสิ”

“ตกลงๆ เล่ามามีเรื่องอะไร”นพคุณต้องเลิกพูดเล่น เมื่อน้องชายพูดเสียงจริงจัง จนเขายังแปลกใจ

         ชินพัตน์เล่าตั้งแต่วันก่อนที่กัมพลจะหายเงียบไป และวันที่เขาไปบ้านญาติของกัมพลทั้ง 2 ครั้งให้นพคุณฟังอย่างละเอียด มีหลายอย่างที่ไม่เข้าใจและเป็นกังวล นพคุณที่ฟังเรื่องที่น้องชายเล่าแล้วก็อดเป็นห่วงตามไปด้วย เพราะเด็กหนุ่มก็ขยันทำงานอย่างที่ชินพัตน์บอกจริงๆ ต้องมีปัญหาจากญาติหรือไม่ก็คนที่บ้านหลังนั้นแน่ๆ 

“ให้พี่เข้าไปดูให้ดีไหม”

“อย่าเลยพี่ ป้าพรเขาไม่อยากให้เข้าไปที่นั้นอีก แกกลัวมีอันตราย”

“แล้วนายจะทำยังไงต่อ”

“ผมคงได้แต่รอ หรือไหมก็คงต้องปล่อยไปนะพี่ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”

“แต่นายก็ยังเป็นห่วงอยู่ใช่ไหมล่ะ “นพคุณรู้จักนิสัยน้องชายของตนเองดี เป็นห่วงคนรอบข้างเสมอ

“ครับ”

“ลองติดต่อไปอีกครั้งดูไหม”

“แต่เขาบอกว่า ไม่ไห้ติดต่อกลับไปอีก…..”

“ก็ต้องหาเรื่องติดต่อกัมพลดู ได้ลองคุยกับเจ้าตัวเลย นายจะได้สบายใจไง”

“แล้วเรื่องอะไรล่ะครับ”ชินพัตน์ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก งานก็ยุ่งมีเรื่องต้องมาให้คิดแบบนี้ ก็คิดไม่ออกจริงๆ

“เรื่องเงินไง  นายจ่ายเงินเดือนเด็กนั้นไปหรือยัง”นพคุณเสนอแนะขึ้น

“จ่ายแล้วพี่ เลยให้หยุดไง แล้วก็หายเงียบไปเลย”

“ ก็โทรไปบอกว่าให้กำพลมารับเงิน ค่าหมัดจำอะไรก็ได้ หรือแกล้งบอกไปว่า เด็กนั้น ยืมเงินนาย ต้องการเจอตัวกัมพลให้ได้เพื่อมาชดใช้ อะไรประมาณนี้ดีไหม”

“ครับ แล้วผมจะลองโทรดูนะครับ”

“ได้ผลยังไง โทรบอกพี่ด้วยแล้วกัน วันนี้พี่กลับก่อน หรือให้พี่อยู่เป็นเพื่อนด้วยไหม”

“พี่ผมโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ  หึหึ”

“หัวเราะได้แล้วสินะ” นพคุณเห็นน้องชายทำหน้าเครียดๆมาตลอดทั้งวันเลยแกล้งพูดล้อ

“ผมอยู่ได้นะพี่ เรื่องแค่นี้เอง”

“ได้ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน พี่กลับก่อนนะ”

“ขับรถกลับดีๆนะพี่”

              ชินพัตน์กลับมานั่งคิดดูว่าจะลองโทรกลับไปที่เบอร์นั้นยังไงดี เพื่อติดต่อพูดคุยกับกัมพลซักครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ากัมพลปลอดภัยดี ไม่ได้ป่วยอย่างที่คนบ้านนั้นบอก แต่ก็ไม่รู้จะยกเรื่องอะไรมาเป็นข้ออ้างดี  เลยเดินตรวจเช็คภายในร้านอีกครั้งก่อนจะขึ้นไปคิดต่อข้างบนห้องพัก เดินไปเช็คประตูหลังร้านอีกครั้ง แต่เขามองออกไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ภายในรั้วหลังร้าน เห็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนมีใครมายืนซุ่มอยู่  ชินพัตน์กลัวว่าจะเป็นโจรจะปีนร้านเข้ามาขโมยของ ใจหนึ่งอยากโทรแจ้งตำรวจ แต่อีกใจหนึ่งอยากเห็นให้ชัดๆว่าใครมาหลบๆซ่อนๆอยู่นอกรั้วแบบนั้น







“พี่ชิน ผมเอง!!!!”










          ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า !!!  :laugh:

     ทำไมต้องไปแอบอยู่แบบนั้นล่ะ หนุ่มน้อยกัมพล???  ติดตามตอนต่อไปกันนะคะ อิอิ  :z1:


     ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนิยายของมินมินนะคะ  :pig4:

 
     ขอบคุณทุกคอมเม้น + เป็ดให้ทุกคนนะคะ   :กอด1:


     มาลุ้นกันนะคะ ตอนหน้าว่าคนที่พวกเราคิดถึงกัน จะมาหรือยังนะ อิอิ  :mew3:





ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ
ว่าแต่ ... ในบ้านกัมพลอะไรเนี่ย ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ น่ากลัว

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
สรุปพระเอกของเรื่องยังมีชีวิตอยู่อีกปะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0


                                                  ตอนที่ 49 ช่วยเหลือ

“พี่ชิน ผมเอง!!!”

“พล  ทำไมมาหลบอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปที่ร้าน”

“ผมกลัวมีคนตามมา ผมเลยไม่กล้าเข้าไป กลัวพี่ชินจะเดือดร้อนเพราะผมด้วย” กัมพลพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว กอดประเป๋าเสื้อผ้าไว้แน่น ชินพัตน์รับรู้ได้ทันที่ว่า กัมพลต้องหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นมาแน่นอน

“ใจเย็นๆนะ เข้าไปคุยกันข้างในร้านก่อน”

“ไม่ได้ครับ ผมไม่อยากให้พี่ชินเดือนร้อน ที่ผมมาที่นี้ก็จะมาบอกพี่ว่าผมคงไม่ได้มาทำงานที่นี้แล้ว ผมคงต้องหนีไปจากที่นั้นผมทนอยู่กับคนแบบนั้นไม่ไหวแล้ว “ ชินพัตน์มองกัมพลที่เอาแต่ร้องไห้

“ถ้าไม่ใช่ที่นี้ก็ได้ใช่ไหม งันพี่จะพาไปอยู่ที่อื่นก่อนแล้วกัน”ชินพัตน์คิดถึงที่ที่จะพากัมพลไปหลบได้แล้ว

“พี่ชินจะพาผมไปไหนครับ”กัมพลรีบเช็ดน้ำตาลวกแล้วมองอย่างดีใจปนแปลกใจ

“เอาไว้ค่อยคุยกัน พวกเรารีบไปกันเถอะ”ชินพัตน์ไม่ตอบแต่อยากจะพากัมพลไปให้ห่างจากแถวนี้ให้เร็วที่สุด

                 ชินพัตน์โทรบอกป้าพรว่าจะไปทำธุระที่บ้านสวนของยาย ดึกๆจะกลับเพื่อไม่ให้ป้าพรเป็นห่วงและสงสัยตนเองหายไปไหน และก็โทรบอกต้นกล้า ว่าจะพาคนเข้าไปพักที่บ้านสวนด้วย รบกวนต้นกล้าเตรียมที่นอนไว้ให้ด้วย

“ยายผมขอรบกวน ฝากพลไว้ช่วยงานที่สวนซักพักนะครับ”ชินพัตน์มาถึงก็ยกมือไหว้ขอร้องยายทันทีรวมถึงกัมพลก็ทำด้วยเช่นกัน
“ได้จ๊ะ มีคนมาช่วยยายก็ขอบใจมากแล้ว ไม่รบกวนอะไรหรอกจ๊ะ”ยายไม่กังวลเรื่องคนที่จะมาอยู่ด้วยเลย เป็นเพราะชินพัตน์เป็นคนพามาเลยเชื่อมั่นว่าต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้เช่นเดียวกับตัวชินพัตน์แน่นอน ยอมช่วยเหลือโดยที่ไม่คิดมากอะไรเลย

“ต้นพี่ฝากพลด้วยนะ พอดีพลทะเลาะกับที่บ้านมา เลยขอมาพักที่นี้ก่อน “ ชินพัตน์ไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ยายและต้นกล้าฟัง บอกแต่เหตุผลที่พอฟังได้เท่านั้น

“ได้ครับ ต้นก็ดีใจที่มีพลมาอยู่ช่วยยาย เวลาต้นไปเรียนยายจะได้ไม่เหนื่อย” ต้นกล้ายิ้มรับเพื่อนใหม่

“พลอยู่ที่นี้ไปก่อนแล้วกันนะ “ ชินพัตน์พูดบอกกัมพลที่เดินออกมาส่งที่หน้าลานบ้าน

“ขอบคุณครับพี่ชิน” กัมพลยกมือไหว้

“อืม พี่ต้องรีบกลับร้านก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกัน”

“ครับ” ชินพัตน์รีบขับรถกลับไปที่ร้านเพราะก็กลัวว่าคนที่บ้านหลังนั้นหรือญาติของกัมพล จะมาตาหาที่นั้น เป็นห่วงป้าพรกับจอย แต่ไม่กล้าพูดตรงๆกับเด็กหนุ่ม เพราะกลัวเด็กนั้นจะกังวลตามไปด้วย

              ชินพัตน์กลับมาที่ร้าน มองดูรอบๆหน้าร้านเพื่อตรวจดูว่ามีใครมาหรือเปล่า เพื่อความแน่ใจ ชินพัตน์ขับรถเข้าไปจอดด้านหลังร้าน ใส่กุญแจรั้ว และประตูหลังร้านอย่างแน่นหนา เพื่อความสบายใจ ก่อนขึ้นไปพักบนห้อง วันนี้เขารู้สึกสบายใจแล้วที่เด็กหนุ่มปลอดภัย แต่ก็ยังมีเรื่องกังวลใจเรื่องใหม่เกิดขึ้นมาอีก  ทำไมเด็กหนุ่มถึงได้อยากจะหนีออกมาจากที่นั้น  หรือว่าถูกทำร้าย แต่ที่เขาสังเกตดู ร่างกายของกัมพลก็ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือดูป่วยไข้ เหมือนกับคนที่บ้านหลังนั้นบอกเลย คงต้องรอให้กัมพลเล่าออกมาเอง  ไม่คาดคั้นให้เล่าให้ฟังคงไม่ใช่เรื่องดี 

คงต้องรอเด็กนั้นพูดออกมาเองสินะ


             เช้าวันอาทิตย์ นพคุณแวะไปหาต้นกล้าที่บ้านสวนและตั้งใจจะแวะไปหาน้องชายที่ร้านใหม่ด้วยเพราะยังคงเป็นห่วงอยู่  นพคุณไม่ได้บอกต้นกล้าว่าจะมาหา อยากที่จะให้ต้นกล้าแปลกใจเล่น เลยจอกรถห่างออกจากหน้าบ้านเพื่อไม่ให้คนในบ้านได้ยินเสียงรถของตนเอง  เดินเข้าห้าบ้านไปหาอย่างเงียบๆ เพราะรู้ว่าตอนเช้าต้นกล้าจะต้องลงไปใส่ปุ๋ย พรวนดิน รดน้ำต้นไม้ในสวนเหมือนเคย เลยเดินตรงไปที่สวนเพื่อจะเจอคนที่อยากเจอ  เห็นใส่หมวกคุมกันแดด เสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันความร้อนของแดดยามเช้า นั่งหันหลังก้มหน้าพรวนดินอย่างตั้งใจ  นพคุณยกยิ้มแล้วเดินย่องเข้าหาหมายจะกอดให้เต็มรัก
 
เพื่อให้หายคิดถึง

หมับ!!!!

“เฮ้ย!!!!  คุณจะทำอะไรผม ปล่อยนะ!!!!” กัมพลที่ตกใจเพราะโดนคนกอดจากข้างหลัง ดิ้นรนเพื่อจะออกจากอ้อมกอดนั้น

“เฮ้ย!!! นี่นายเด็กที่ร้านเจ้าชินนี้ ทำไมมาอยู่ที่นี้ได้ไง!!!??” นพคุณเมื่อรู้ว่าคนในอ้อมกอดไม่ใช่ต้นกล้า ก็แทบจะผลักให้ล้มกลิ้ง แต่เมือเห็นหน้าชัดๆ ก็ดึงข้อมือไว้เพื่อไม่ให้ล้ม ด้วยความแปลกใจ

“เสียงดังอะไรกันครับ!!!” ต้นกล้าที่มุดออกมาจากพุ่มไม้ เพราะเดินเก็บผักตำลึงจนรอบรั้ว พอได้ยินเสียงเลยรีบหมุดออกมาจากทางนั้นแทน

“ต้น เจ้าเด็กนี้มันมาอยู่ที่นี้ได้ไง แล้วทำไมมันมาขุดดินอยู่ที่นี้ได้ แล้ว……”

“พี่   ต้นไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี ค่อยๆถามที่ละเรื่องก็ได้ครับ”

“นายมาอยู่ที่นี้ได้ไง” นพคุณเปลี่ยนคนถามทันที่ คิดว่าน่าจะได้คำตอบเร็วกว่า

“พี่ชินให้ผมมาพัก และช่วยงานที่สวนนี้ครับ”

“เจ้าชินเหรอ?  ทำไมไม่โทรมาบอกเลยวะ” นพคุณเมื่อได้คำตอบ พูดกับตนเองแถมบ่นถึงน้องชายตัวแสบที่ไม่บอกอะไรให้เขารู้เลย

“แล้วพี่มาทำอะไรแต่เช้าเลยครับ”ต้นกล้าเห็นนพคุณเงียบไปเลยถามขึ้นบ้าง

“พี่ก็อยากมากินข้าวเช้าฝีมือต้นไงครับ”เดินเข้าหาต้นกล้าหมายจะเอาใจ

“ดีเลยต้นกำลังเก็บตำลึงอยู่พอดี”ต้นกล้ายิ้มเล็กกับท่าที่คนที่หิ้วท้องมากินเช้าทีบ้านของตนเอง

“มาเดี๋ยวพี่ช่วยเก็บนะ” นพคุณรีบยิ้มประจบต้นกล้าทันที่เพราะอยากกินข้าวฝีมือคนตัวเล็กเร็วๆ

“ครับๆ”

               ช่วงสายๆ ทั้ง 4 คนก็นั่งทานข้าวที่ชานบ้าน ยายชวนกัมพลคุย นพคุณก็คุยแต่กับต้นกล้า ต้นกล้าเลยเปลี่ยนคนคุยบ้าง หันไปคุยกับกัมพลแทน ทำให้นพคุณมองกัมพลอย่างไม่ชอบใจ

“พลเป็นไง กับข้าวฝีมือพี่พอทานได้ไหม?” ต้นกล้าถาม

“อร่อยมากเลยครับ ต้มตำลึง สูตรเดียวกันกับที่ร้านพี่ชินใช่ไหม ถ้าผมจำได้”

“ใช่ พี่ชินเขาขอไปลองขายดูนะ พี่ก็ไม่คิดว่าจะขายดี บวกกับลูกชิ้นของพี่ชินอร่อยด้วย หึหึ”ต้นกล้ายิ้มภูมิใจกับเมนูของตนเองที่ได้ไปขายดีที่ร้านของชินพัตน์ แถมกัมพลยังจำได้ด้วย

“ครับ อร่อยไปกันคนละแบบ ที่ร้านเน้นลูกชิ้น  แต่ที่พี่ต้นทำมัน กลมกล่อมหมูสับก็อร่อยมาเลยครับ”กัมพลตักมาชิมไม่หยุด ชมไม่ขาดปาก

“อืม อร่อยก็กินเยอะๆสิ” ต้นกล้าส่งยิ้มให้เด็กหนุ่ม

“ครับ” กัมพลยิ้มกลับให้ต้นกล้า คนที่บ้านกับที่ร้านเป็นคนใจดี คิดว่าตนเองโชคดีจังที่เจอกับคนดีๆแบบนี้

“แล้วนายจะอยู่ที่นี้อีกนายแค่ไหน” อยู่ๆนพคุณที่รอจังหวะทั้งสองคนคุยกันจบก็โพล่งถามขึ้นทันที

“ผมก็ไม่รู้ครับ แล้วแต่พี่ชิน” ต้นกล้ามองตานพคุณอย่าฆ่าโทษเพราะอยู่ดีๆก็ถามคนที่พึงมาอยู่ด้วยไม่ถึงวันแบบนั้น

“พี่!!!” ต้นกล้าเรียกนพคุณด้วยเสียงไม่พอใจ

“ได้ งันฉันไปถามเจ้าชินเองก็ได้” นพคุณยังไม่หยุดที่จะคุยเรื่องเดิม ต้นกล้าเลยรวบช้อน ทั้งที่ข้าวในจานเหลืออีกตั้งครึ่ง

“ยายต้นอิ่มแล้ว ต้นลงไปดูผักที่สวนก่อนนะจ๊ะ” ต้นกล้ามองเมินนพคุณแล้วบอกกับยายว่าจะลงไปทำงานต่อ

“งั้นเดี๋ยวผมไปช่วยด้วยครับ” กัมพลรีบตักข้าวเข้าปากเพื่อให้อิ่มจะได้ลงไปทำงานพร้อมกับเจ้าของบ้าน

“พล กินต่อเถอะไม่ต้องรีบแบบนั้น เดี๋ยวติดคอ ค่อยๆกิน กินอิ่มแล้วค่อยลงไปช่วยพี่ก็ได้ “ก่อนที่ต้นกล้าจะลุกไปก็บอกต้นแบบนั้น

“พี่กินอิ่มแล้ว พี่ลงไปช่วยต้นนะครับ” นพคุณรีบเก็บจานหวังจะตามไปช่วยต้นกล้าแทนเด็กหนุ่ม

“คุณไม่ต้องลงไป อยู่คุยกับยายบนบ้านไปเถอะ” ต้นกล้าพูดแบบไม่มองหน้า เดินเลี่ยงเข้าครัวเพื่อจะเอาจานไปเก็บ  นพคุณรู้ทันที่ว่าตนเองโดนคนตัวเล็กโกรธเข้าให้แล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ต้องง้อเอาไว้ก่อน รีบเดินตามไปที่ครัวอย่างรวดเร็ว



“ต้นโกรธอะไรพี่เหรอ ดูสิยังกินข้าวไม่หมดเลย จะรีบอิ่มไปไหน “นพคุณเดินมาดักหน้าต้นกล้าที่กำลังจะเทเศษข้าวที่ตนเองทานไม่หมด ใส่กระมังข้าวที่เอาไว้ให้หมาแถวๆบ้านไว้กิน 

“ถ่อยไป ผมจะรีบไปทำงาน คุณจะมาเดินเกะกะทำไมกัน”

“ต้นอย่าเป็นแบบนี้สิครับ พี่ทำอะไรผิดบอกพี่สิ พี่ขอโทษนะครับ “

“คุณไม่รู้เหรอว่าคุณทำอะไรผิด  พลเข้ากำลังต้องการที่พึ่ง แต่คุณที่เป็นผู้ใหญ่กับมาถามเขาว่าจะอยู่ที่นี้อีกนายแค่ไหนแบบนั้น คุณนิสัยแย่กว่าที่ผมคิดอีกนะ คุณนพคุณ ถ่อยไป”  ต้นกล้าเดินหลบเอาจานไปว่างไว้ในกะละมัง แล้วเดินหนีไปหลังบ้าน ที่มีทางลงอีกทางไปยังสวนหลังบ้านได้
              นพคุณมองตามหลังต้นกล้า  ยืนคิดตามคำพูดของต้นกล้าที่ต่อว่าตนเองกลับมา ตอนนั้นที่เขาพูดออกไปไม่ได้คิดถึงอะไร ก็แค่อยากรู้ว่ากัมพลจะอยู่อีกนานไหมเท่านั้น  ไม่รับรู้ว่าเด็กคนนั้นมีเรื่องเดือดร้อนมาหรือเปล่าเลย ทำให้นพคุณรู้แล้วว่าต้นกล้าโกรธตนเองเพราะอะไร  เลยโทรหาน้องชายก่อนเพราะต้นเหตุทั้งหมดเริ่มจากน้องชายของเขา

(พี่ใหญ่ โทรมาแต่เช้าเลย)

“นายเจอเด็กนั้นที่ไหน แล้วทำไมต้องพามาไว้ที่บ้านสวนนี้ด้วย”

(พี่อยู่ที่บ้านยายเหรอ)

“เถอะน่า เล่าเรื่องเด็กนั้นมาเร็วๆเลย”

(ครับๆ  ผมเจอพลที่ร้านนี้แหละ พลหนีออกจากบ้านหลังนั้นมา พลกลัวจะโดนตามเจอเลยไม่กล้าอยู่ที่ร้าน ผมเลยพาไปฝากไว้บ้านยาย แล้วช่วยงานยายที่สวนด้วย)

“แล้วนายไม่คิดเหรอ ว่าคนที่บ้านนั้นมันไม่มาตามหาคนของมันที่บ้านของต้น แล้วทำให้ ต้นกับยายเดือดร้อน”

(ผมก็คิดไม่ใช่ไม่คิดนะพี่  แต่นอกจากที่นั้น ผมก็ไม่รู้จะพาพลไปหลบที่ไหนแล้ว)

“งั้นฉันเอาไปไว้ที่ร้านของฉันแล้วกัน ดีไหม”

(ผมว่าไปฝากไว้ที่ร้านแม่ดีกว่า ให้ทำงานที่โรงงานลูกชิ้นก็ได้ หลบๆอยู่ในโรงงานสักพักก่อน)

“แล้วแต่นายแล้วกัน พี่จะได้พาไปเย็นนี้เลย”

(เดี๋ยวสิพี่ ทำไมใจร้อนจัง ผมยังไม่รู้จะบอกแม่เรื่องพลยังไงเลย หรือพี่จะเป็นคนบอกเองล่ะ)

“เฮ้ย อย่ามาโยนให้กันแบบนี้สิวะ ไอ้น้องชาย คิดได้แล้วก็โทรมาบอกแล้วกัน ไปง้อต้นก่อนล่ะ แค่นี้นะ…..” ชินพัตน์งงกับพี่ชายตนเอง ที่ดูจะรีบร้อนอยากจะพาพลออกไปจากบ้านสวนของยายให้เร็วๆซะจริง

                 นพคุณเข้าใจเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับกัมพลแล้วแต่ก็อยากให้ออกห่างต้นกล้าอยู่ดี เพราะดูทั้งคู่จะสนิทกันเร็ว ทั้งๆที่พึ่งมาอยู่ไม่ถึงวันเลย แต่ก่อนอื่นต้องง้อให้ต้นกล้าหายโกรธตนเองเสียก่อน เรื่องพลไว้จัดการที่หลัง รีบเดินลงไปที่สวนเพื่อหาตัวคนตัวเล็ก เดินโกรธหายไปตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ เดินหาจนทั่ว

“มานั่งอยู่นี้เอง ต้นพี่ขอโทษที่พูดอะไรไม่เห็นใจคนอื่นแบบนั้น พี่ไม่รู้จริงๆว่าเขาลำบากไม่มีพี่พึ่ง แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วครับ พี่โทรไปถามเจ้าชินมาแล้ว พี่รู้แล้วว่าพลต้องอยู่ที่นี้ช่วยยายดูสวนไปก่อน  พี่ขอโทษนะ ต้นอย่าโกรธพี่นะครับ พี่จะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้วนะครับ หายโกรธพี่นะครับ” นพคุณนั่งลงข้างๆต้นกล้าที่นั่งอยู่ริมบ่อปลาที่ต้นกล้าเลี้ยงไว้  โอบกอดคนที่เอาแต่หันหน้าหนีไปทางอื่น นพคุณเลยพูดบอกว่าตนเองเข้าใจทุกอย่างและยอมรับผิดแล้ว ทำให้ต้นกล้าหันกลับมาคุยกันดีๆ

“พี่เป็นแบบนี้ ต้นไม่ชอบเลย พี่น่าจะถามให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยถามค่อยต่อว่าคนอื่นแบบนั้น ครั้งแรกที่เราสองคนเจอกัน พี่ก็เป็นแบบนี้ ไม่ถามหาเหตุและผลก่อนเลย มาถึงก็โวยวายใส่ท่าเดียว “ต้นกล้าพูดเหมือนน้อยใจเพราะตนเองก็เคยโดยเข้าใจผิดเพราะคนข้างๆทำแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน
   
“พี่ขอโทษครับ พี่นี้แย่จริงๆ  นิสัยไม่ดีเลย”นพคุณยกมือตีหัวตีปากตนเองไปมาเหมือนทำโทษตัวเอง จำได้ว่าต้นกล้าเคยขอร้องเรื่องนี้แล้วแต่เพราะอะไรกันที่ตนเอง พูดไม่ใส่ใจคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว
“พอเถอะครับ เลิกตีตัวเองแบบนั้นเถอะครับ  “ต้นกล้าดึงมือนพคุณไว้เพราะมองดูแล้วเหมือนคนข้างๆจะไม่หยุดทุบตีตนเองง่ายๆ เนื้อตัวเริ่มแดงเป็นรอย

“พี่ขอโทษนะครับ  ต้นอย่าโกรธพี่เลยนะครับ พี่สัญญาจะไม่ทำนิสัยแบบนี้อีก” นพคุณเปลี่ยนมาจับมือต้นกล้ามากุมไว้อย่างอ้อนขอ

“ต้นไม่ได้โกรธ แต่ต้นแค่ไม่เข้าใจว่าอยู่ดีพี่ก็พูดขึ้นมาแบบนั้นทำไม เหมือนเป็นคนไม่สนใจความลำบากของคนอื่นเลย”

“ต่อไปนี้ถ้าพี่ทำนิสัยแย่แบบนี้อีก ต้นลงโทษพี่ได้เลย”

“พี่พูดเองนะ “

“คร้าบบบบบ ขอแค่ต้นอย่าเมินพี่ ไม่คุยกับพี่แค่นี้ก็พอใจแล้ว  เดินมาบอกเลยว่าพี่ทำผิด พี่ยอมรับโทษจากต้นอย่างไม่เกียงงอนเลย นะครับนะ” นพคุณกอดต้นกล้าอย่างเอาใจ

“ได้ครับ”ต้นกล้ายกยิ้มอย่างพอใจ  โดยไม่ได้สั่งเกตุว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองอยู่ หลังต้นไม้ใหญ่ภายในสวนนั้น






             

              ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!  :laugh:

           
          น้องต้นกับพี่ใหญ่เกือบผิดใจกันเพราะใคร????    กัมพล?  :angry2:

          คุณเจ้าของร้านเจอเรื่องวุ่นวายเพราะใคร?????    กัมพล?   :serius2:

          คนที่หายไปนานๆจะกลับมาเพราะใคร???????    กัมพลหรือเปล่านะ????  :hao3:


              โปรดติดตามตอนต่อไปกันนะคะ มาลุ้นกันคะ อิอิ

          ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนิยายของมินมินนะคะ   :กอด1:

          +เป็ดให้ทุกคอมเม้น ที่เป็นกำลังใจอย่างดีมาก    :pig4:
 
          ในการเขียนนิยายของมินมินค่ะ  รีบไปปั้นตอนต่อไป  :katai4:

         


         

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                              ตอนที่50 ตามหาตัว?


               เช้าวันจันทร์ร้านก็เปิดขายปกติ ป้าพรกับจอยช่วยกันเตรียมของก่อนเปิดร้าน ชินพัตน์ก็ช่วยทำด้วยเพราะขาดกัมพล งานหนักเช่นยกของต่าง ชินพัตน์ลงมือช่วยเองทั้งหมด จนป้าต้องออกปากให้เขาติดประกาศรับสมัครคนงานเพิ่มอีก เพราะลูกค้าเยอะจริง มีกันอยู่แค่ 3 คนคงจะรับมือไม่ไหวถ้าต้องทำงานต่อเนื่องแถบไม่ได้พัก หรือมีลูกมีมาช่วยเพิ่มแบบนี้ ต้องมีเจ็บป่วยเป็นไข้แน่ๆ 

“ได้ครับ เดียวผมเอาไปติดที่ตลาดนัดด้วยครับ “ชินพัตน์ยังลังเลว่าจะไปขายที่ตลาดนัดด้วยดีหรือเปล่าเพราะมีลูกค้าเข้าร้านเยอะมากๆ แต่ก็ไม่อยากทิ้งลูกค้าที่เดินตลาด ที่สำคัญต้องไปรับยายมาที่ตลาดด้วย

          ชินพัตน์ขับรถไปรับยายที่สวนก็เจอกับกัมพลที่ช่วยยายเรียงผักลงตลาดรอเขามารับอย่างเตรียมพร้อม ดูสีหน้าของกัมพลแล้วดีขึ้น คงคลายกังวลไปได้เยอะที่มีที่อยู่ แต่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปได้นานขนาดใหญ่ ที่คนที่บ้านหลังนั้นจะตามตัวมาถึงที่นี้ เรื่องกังวลใจมีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ยังไม่ตัดออกไปจากความคิดได้

“พี่ชิน สวัสดีครับ” กัมพลที่เงยหน้ามาเจอก็ทักทายอย่างยิ้มแย้ม

“เป็นไงบ้างพล งานที่บ้านยายพอทำได้ไหม”

“สบายมากครับ ที่บ้าน เออ  ที่บ้านญาติผมเขาก็เป็นสวนผักผลไม้คลายๆแบบนี้เหมือนกันครับ” กัมพลเหมือนจะหลีกเลี่ยงไปอยากจะพูดถึงบ้านที่เขาหนีมาสักเท่าไร แต่ก็ยังคงสนุกกับงานที่บ้านสวนของยาย

“ดีแล้วล่ะ ช่วยพี่ยกขึ้นหลังรถหน่อยสิ”

 “ได้ครับ” ชินพัตน์เห็นเด็กหนุ่มทำงานอย่างตั้งใจ นึกเสียดายถ้าอยู่ที่ร้านของเขาตอนนี้คงช่วยงานได้เยอะมากแน่ๆ แต่คงให้กลับไปตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน

“พี่ขึ้นไปหายายบนบ้านก่อนนะ”

“ครับ”

             ชินพัตน์บอกเล่าเรื่องที่ร้านว่ามีลูกค้าเข้าร้านเยอะมาก เลยออกมารับยายสายไปหน่อย ยายก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังรู้สึกเป็นห่วงด้วยซ้ำไปที่ ชินพันต์ต้องมาลำบากรับส่งยายอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่ร้านก็ยุ่งมากอยู่แล้ว ชินพัตน์ได้แต่บอกว่า ตนเองสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ เพราะประกาศรับสมัครคนงานเพิ่มแล้ว อีกสัก 2-3 วันก็คงมีคนเข้ามาช่วย ไม่อยากให้ยายกังวลไปด้วย 
         
            ยายขายผักได้เยอะพอสมควรเพราะกัมพลช่วยเก็บผักได้เยอะมาก สดใหม่ลูกค้าซื้อเหมายกเข่งยังมีเลย ทำให้ขายหมดไว พอกับที่ร้านขายลูกชิ้นปิ้งของชินพัตน์ที่ขายแค่ลูกค้าประจำที่เดินตลาดเท่านั้น ไม่ได้ขายเยอะเท่าไร ส่วนลูกค้าที่มาซื้อไปทัน ชินพัตน์เลยบอกให้ไปสั่งที่ร้านของเขาแทน เพราะตนเองต้องเก็บของแล้วไปส่งยายที่บ้านสวน เป็นห่วงกัมพลที่อยู่ที่สวนคนเดียวด้วย  ห่วงที่ร้านด้วยไม่รู้ว่าป้าพรกับจอยจะรับมือลูกค้าได้หรือเปล่า

“งันผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พลพี่กลับก่อนนะ”ชินพัตน์ที่มาส่งยายที่บ้านและให้กัมพลขนของของยายลงจากหลังรถ บอกลาเพื่อจะรีบกลับไปที่ร้าน

“พี่ชิน ผมขอโทษนะครับที่ไปช่วยที่ร้านไม่ได้ คงยุ่งกันน่าดูเลยสิครับ” กัมพลทำหน้าลำบากใจที่ตนเองช่วยเหลือคนตรงหน้าไม่ได้เลย

“ไม่เป็นไร พี่ประกาศรับคนงานเพิ่มแล้วล่ะ พลก็ช่วยงานยายอยู่ที่นี้นะดีแล้ว เพราะยายอยู่บ้านคนเดียวพี่ก็เป็นห่วงเหมือนกัน กว่าต้นกล้าจะเลิกเรียนมาก็ วันศุกร์โน่น มีพลมาอยู่ด้วยแบบนี้พี่ก็สบายใจ อย่าคิดมากไปเลยนะ” ชินพัตน์ ตบไหล่กัมพลเบาๆ

“ครับพี่” กัมพลตอบรับเสียงเบา

         ชินพัตน์ ขับรถกลับมาที่ร้านก็ต้องตกใจ ที่ป้ากับจอยวิ่งหน้าตาตื่นเขามาหาเขาทันที่ลูกค้าก็หายไปไหนหมดไม่รู้ ทั้งๆที่เวลานี้ลูกค้าน่าจะเต็มร้าน เพราะเป็นเวลาเลิกงาน ลูกค้าที่ตลาดนัดก็เดินมาซื้อของที่ร้านนี้ด้วย แต่กลับเงียบหาไม่มีสักคน

“เกิดอะไรขึ้นครับป้าพร”

“เมื้อกี้มีพวกผู้ชายบุกเข้ามาในร้าน มาถามหาคนที่ร้านเรานะ ตาชิน”

“แล้วพวกนั้นทำอะไรป้ากับจอยหรือเปล่าครับ” ชินพัตน์รีบจับตัวป้าและจอยเข้ามาดูใกล้ๆอย่างเป็นห่วง

“พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรพวกป้าหรอกจะ  พอดีมีคนเข้ามาช่วยพูดห้ามไม่ให้พวกนั้นเข้ามาในร้านนะจ๊ะ ป้าล่ะกลัวจริงๆ ลูกค้าหนีกันกระเจิงเลย ยกพวกเข้ามากันแบบนั้น”

“แล้วคนพวกนั้นพูดอะไรบ้างครับ”

“ถามหาคนบอกว่าร้านเราเอาตัวคนของพวกนั้นมาหลบซ่อนไว้ที่นี้  ป้าก็ได้แต่บอกไปว่าไม่รู้เรื่อง ที่ร้านมีกันอยู่แค่นี้” ป้าพรมองไปที่จอยที่ยังคงขวัญเสียอยู่ที่จู่ๆใครก็ไม่รู้จะบุกเข้าร้าน

“แล้วคนพวกนั้นก็ถามหาเจ้าของร้าน ป้าเลยบอกว่าไปส่งของให้ลูกค้า ยังไม่กลับ พวกนั้นก็ไม่เชื่อจะเข้ามาค้นในร้าน แต่พอดีมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยพูดให้ พวกนั้นเลยล่าถอยออกไปจากร้าน คุยกันตรงหน้าร้านสักพัก กลุ่มคนพวกนั้นก็ขึ้นรถหายกันไปเลย ป้ายังกลัวๆ จะปิดร้านดีไหม กำลังจะโทรไปหาพอดี ตาชินก็กลับมานี้แหละ”  ป้าพรที่เล่าไปด้วยน้ำเสียงตื่นกลัวอยู่เลย

“แล้วคนที่ช่วยคุยให้นี้ใครครับ? ป้าพรรู้จักไหมครับ หรือว่าเป็นลูกค้าที่ร้านของเราหรือเปล่าครับ”ชินพัตน์ถามขึ้นอย่างสงสัย

“ป้าไม่เคยเห็นหน้าเลย คงไม่ใช่ลูกค้าที่ร้านของเราหรอก เพราะป้าพอจะจำหน้าลูกค้าได้นะ”

“เหรอครับ  ผมว่าพวกเราปิดร้านก่อนก็ได้ครับ ไหนลูกค้าก็ไม่อยู่แล้ว ป้ากับจอยคงตกใจมากสินะครับ  ผมขอโทษนะครับ ที่กลับมาช้า ป้ากับจอยเลยต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้”

“จอยไม่เป็นอะไรหรอกพี่ชิน แต่จอยแค่ไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นบุกมาตั้งมากมาย มาตามหาใครที่ร้านเราเหรอพี่??” จอยสงสัย แต่ชินพัตน์ไม่อยากจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจาก กัมพล เพราะทั้ง สองคนไม่รู้ว่ากัมพลกลับมาหาเขาที่นี้เพื่อต้องการความช่วยเหลือ

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเข้าใจผิดกัน  เดี๋ยวพี่โทรแจ้งตำรวจให้คอยมาตรวจแถวร้านเราบ่อยขึ้นแล้วกัน”

“ไปเก็บร้านกันเถอะ  ป้าอยากพักแล้ว “ ป้าพูดเสียงเหนื่อยๆ ต้องมาเจอเรื่องละทึกขวัญเอาแบบนี้ ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว

“ไปครับผมช่วยเก็บร้าน” ชินพัตน์ช่วยทั้งสองเก็บร้าน ทั้งๆที่ยังหัวคำอยู่เป็นครั้งแรกเลยที่ร้านของเข้าปิดร้านเร็วขนาดนี้ 

          ชินพัตน์โทรแจ้งตำรวจบอกว่าที่ร้านมีคนบุกเข้ามาภายในร้านให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบและเฝ้าระวังทีร้านให้ด้วยเพราะที่ร้านมีแต่ลูกจ้างผู้หญิง ทางตำรวจก็รับฟังและถามหาหลักฐานหรือภาพกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุเห็นหน้าหรือเปล่าเพื่อเอามาเป็นหลักฐานในการตามตัวคนร้ายที่บุกเข้ามา  ชินพัตน์ก็ได้บอกเพียงว่าตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และไม่มีหลักฐานอย่างที่ต้องการเลย ทำให้ตำรวจได้แค่รับปากว่าจะแวะเข้ามาตรวจ รอบๆบริเวณให้เท่านั้น  ชินพัตน์ก็ยังไม่คลายกังวลซักเท่าไร  คิดว่าพรุ่งนี้คงต้องปิดร้าน และไปแจ้งตำรวจที่สถานีถ้าจะดีกว่า  ลองไปถามหาภาพจากกล้องวงจรปิดร้านข้างๆดูเพื่อมี จะได้มีหลักฐานพอไปแจ้งความได้  แต่วันนี้ดึกมากแล้วเขาไม่อยากออกจากร้านไปตอนนี้กลัวป้ากับจอยจะเป็นอันตรายถ้าคนพวกนั้นย้อนกลับมาอีก ชินพัตน์คิดวนไปมาว่าคนพวกนั้น ต้องการตามตัวกัมพลกลับไปขนาดนั้น เพราะอะไร หรือว่ากัมพลไปทำอะไรไม่ดีที่บ้านหลังนั้นไว้ จนคนที่นั้นต้องมาตามตัวกันถึงขนาดนี้

แล้วใครกันที่เข้ามาช่วยพูดให้คนพวกนั้นกลับไปกันนะ?

ถ้าเจอตัวเขาอยากที่จะขอบคุณคนคนนั้นสักครั้ง

ที่ทำให้เรื่องวันนี้ไม่ปลายปาน แล้วไม่มีใครเป็นอะไร








              ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!!  :laugh:


     



ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
บ้านนายกัมพลแน่นอนเลย
แล้วตกลงว่านายกัมพลเนี่ยทำอะไร ยังไง เป็นใคร แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้น???

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                                   ตอนที่ 51  เผชิญหน้า?


          ชินพัตน์ปรึกษากับป้าพรว่าจะปิดร้านดีไหม ป้าและจอยตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เปิดร้านดีกว่า เพราะคิดว่ายังมีลูกค้าอีกเยอะที่ไม่รู้ว่าเมื่อวานที่ร้านมีเรื่อง ไม่อยากให้เสียงานเสียลูกค้าด้วย เลยเตรียมของเพื่อขายตามปกติ ส่วนชินพัตน์ก็ออกไปติดต่อกับร้านข้างๆว่ามีกล้องวงจรปิดหน้าร้านบ้างหรือเปล่า เพื่อจะเอาไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความ ร้านใกล้ๆ ไม่มีร้านไหนมีกล้องวงจรปิดเลย ถึงมีก็มองไม่เห็นมาถึงหน้าร้านของชินพัตน์  เลยต้องกลับมาตั้งหลักที่ร้านของตนเองอีกครั้งว่าจะทำไงต่อไปดี พยานก็มีแต่ป้าพรกับจอย แต่ถ้าหาคนที่ป้าพรบอกว่าเข้ามาช่วยพูดกับกลุ่มคนพวกนั้นออกไปจากร้าน คนนั้นได้ ก็จะช่วยได้เยอะ 
          ชินพัตน์ยืนคิดอยู่ด้านหน้าร้าน  มองไปรอบๆ อย่างระแวงกลัวกลุ่มคนพวกนั้นยังแอบซุ่มอยู่แถวนี้หรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องสะดุดกับ หน้าตึกคูหาติดกันที่ยังไม่มีใครมาเปิดร้านสักที่  เขาเดินไปดูใกล้ๆ ก็ยกยิ้มอย่างดีใจ เพราะเห็นกล้องวงจรปิดติดอยู่ตรงด้านหน้า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเปิดใช้งานหรือเปล่า เพราะไม่เห็นมีใครอยู่ที่ตึกนี้เลย ตั้งแต่เขามาเปิดร้าน มีแต่คนมาสอบถามอยากจะซื้อกันทั้งนั้นต้องลองถามดูว่าใครเป็นคนจองไว้สินะ
       
        ชินพัตน์เดินกลับเข้ามาที่ร้าน บอกเล่าให้ป้ากับจอยเรื่องกล้องวงจรปิดที่หาไม่ได้ แต่ยังมีหนทางขอลองโทรติดต่อกับผู้รับผิดชอบดูแลตึกนี้เสียก่อน  คงจะได้เรื่องมากกว่านี้ ถ้าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจากหนาตึกปิดนั้น

“สวัสดีครับ ผมชินพัตน์ ที่ซื้อตึก…….นะครับ”

(สวัสดีค่ะ ไม่ทราบติดต่อเรื่องอะไรค่ะ)

“ผมอยากทราบว่า ตึกคูหาข้างๆตึกของที่ผมซื้อ ใครเป็นเจ้าของครับ ผมอยากติดต่อกับเขานะครับ”

(อ้อ งั้นดิฉันจะลองติดต่อให้นะค่ะ รอสักครู่นะคะ”

“ขอบคุณครับ”
.
.
(คุณชินพัตน์ค่ะ เจ้าของตึกเขาบอกว่าจะไปพบคุณที่นั้นเองค่ะ)

“เอ๊ะ มาพบผมเองเหรอครับ ไม่ทราบพอจะบอกวันและเวลาที่จะมาได้ไหมครับ เพราะผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องรบกวนเจ้าของตึกนั้นด่วนมากเลยครับ”

(เออ ภายในวันนี้ค่ะ)

“เอ๊ะ วันนี้เหรอครับ”

(ค่ะ )

“ขอบคุณครับ” ชินพัตน์ยังคงอึ้งและสับสน ทำไมติดต่อไปแล้วตอบกลับมาง่ายแบบนี้ล่ะ จะมาเจอกันวันนี้ด้วย พอนึกถึงเรื่องที่มีคนมาสนใจตึกข้างๆนั้น เห็นบอกปฏิเสธตลอด แต่พอเรื่องของเขาที่ต้องการเจอ กับได้เจอง่ายๆเกินคาด

       ตลอดช่วงเช้าชินพัตน์ช่วยขายของที่ร้าน และก็รอคนที่บอกว่าจะมาพบ ยังกังวลเรื่องคนกลุ่มนั้นที่มาตามหากัมพลด้วย สติไม่ค่อยอยู่กับตัวเท่าไร คิดหลายๆเรื่องจน ไม่เป็นทำงาน จนป้าพรสังเกตเห็นและเป็นห่วงไปด้วย

“ตาชิน ตาชิน”

“อ๊ะ ครับป้า มีอะไรครับ “

“ป้าเห็นนั่งเหม่อ เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อ คือ ผมกำลังคิดว่า ปัญหาที่ผมเจออยู่นี้คงมีผลกับลูกค้าด้วยแน่ๆ เพราะตลอดบ่ายลูกค้าไม่มีเลยครับ” ชินพัตน์มองไปรอบๆร้าน และมองไปด้านหน้าร้าน เวลานี้ปกติต้องมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาซื้อไม่ขาดสาย แต่วันนี้เงียบจนอดคิดไม่ได้ว่าเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานหรือเปล่า ทำให้ลูกค้ากลัว จนไม่กล้ามาที่ร้าน

“ป้าว่าอย่าคิดมากไปเลยตาชิน  ดูไปอีก 2-3 วัน เดียวลูกค้าเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็กลับมาซื้อปกติเอง อย่าคิดว่าเลย” ป้าตบไหล่หลายชายเจ้าของร้าน ให้กำลังใจ และด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่ เจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ก็เคยเจอมาแล้ว เดียวทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติเอง

“ผมก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นครับป้า “ ป้าพรยิ้มรับให้กำลังใจ และเดินกลับไปรับหน้าทีมีลูกค้าเข้าร้าน ทิ้งชินพัตน์ที่ยังคิดเป็นกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ เขาจะผ่านปัญหานี้ไปได้หรือเปล่านะ
.
.
.
“ผมมาหาเจ้าของร้านครับ” ชายหนุ่มร่างใหญ่แต่งตัวภูมิฐานเดินเข้ามาหาป้าพร  ป้าพรก็แปลกใจเพราะนึกว่าลูกค้าเข้ามาซื้อของที่ร้าน แต่พอถามหาชินพัตน์ก็รู้สึกตกใจและกังวล ว่าคนตรงหน้าจะมาหาเพราะมีเรื่องอะไรกันแน่

“เชิญด้านในร้านค่ะ” ก่อนที่ป้าจะเดินนำ ได้มองออกไปนอกร้านเพื่อดูว่ามีใครมาด้วยอีกหรือเปล่า เพราะกลัวจะเป็นคนกลุ่มเมื่อวาน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครนอกจาก คนที่ยืนตรงหน้าแล้ว ป้าเลยเดินพาไปหา ชินพัตน์ที่โต๊ะทำงานในร้าน

“ตาชิน มีคนมาขอพบนะ” เสียงเรียกของป้าทำให้ชินพัตน์หลุดออกจากห้วงความคิด เงยหน้ามามองคนที่เดินตามหลังป้าพรทันที่

“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มวัยน่าจะประมาณ 30 กว่าทักทายขึ้นก่อน ทำให้ชินพัตน์ต้องรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อตอนรับแขกผู้มาใหม่ตรงหน้า ดูเป็นผู้ใหญ่จนชินพัตน์ทำตัวไม่ถูก คิดในใจว่าคนนี้อาจจะเป็น เจ้าของตึกข้างๆกันนี้ก็ได้

“สวัสดีครับ” ชินพัตน์คิดว่าตนเองน่าจะอายุน้อยกว่า เลยยกมือไหว้คนตรงหน้า

“เชิญนั่งก่อนครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ หรือจะติดต่อซื้อของที่ร้าน….”

“สวัสดีครับ คุณเนติธร วันนี้ก็มีธุระกับที่ร้านนี้เหมือนกันเหรอครับ ?” เสียงทักจากหน้าร้าน ทำให้สองคนที่นั่งคุยกันอยู่ก่อนหันออกไปมองตามเสียงทัก
       
         ชินพัตน์มองไปยังเจ้าของเสียง ก็ต้องนิ่งค้างมองใบหน้าของผู้มาใหม่อย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะเป็นใบหน้าของคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกันในเวลานี้ ตัวชาไปหมด หัวใจที่เต้นแรงผิดปกตินี้ เพราะคนคนนี้จริงๆ
       
         เจ้าของชื่อก็หันกลับไปมองคนที่ทักตนเอง ก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอคนที่ทำให้ลูกน้องของเขากลับไปมือเปล่า ตามหาคนที่เข้าต้องการไม่เจอ วันนี้เขาเลยต้องลงทุนมาด้วยตนเอง เพื่อพาตัวคนของเขากลับไปให้ได้

“สวัสดีครับ คุณนนทนัฐ หึ หึ คุณก็มีธุระกับที่ร้านนี้บ่อยเหมือนกันนะครับ  ลูกน้องผมบอกว่า เมื่อวานก็เจอคุณที่ร้านนี้” เนติธร เจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่ดูช่างแสนลึกลับนั้นกล้าทักทายกลับไปยัง ผู้มาใหม่อย่างนนทนัฐ

“ครับ พอดีผมเป็นลูกค้าประจำร้านนี้นะครับ ผมก็แวะมาหาของอร่อยๆทานประจำ แต่เมื่อวานลูกน้องคุณทำให้ที่ร้านนี้เดือนร้อนมากเลยนะครับ คุณน่าจะดูแลลูกน้องคุณซะบ้างนะครับ คุณเนติธร” นนทนัฐเห็นคนตรงหน้าพูดเรื่องเมื่อวานขึ้นมา เขาเลยพูดให้หนุ่มใหญ่ตรงหน้ารู้ตัวไว้บ้างว่าทำให้ใครๆเดือดร้อน

“เอ๊ะ หมายความว่า คุณ. . .คุณเป็นกลุ่มคนเมื่อวานที่พาพวกเข้ามาวุ่นวายที่ร้านผมงั้นเหรอ? “ชินพัตน์ที่พอเริ่มจะจับใจความของคนทั้งคู่ที่คุยกันได้ ก็ต้องโมโหขึ้นมาทันที่ ที่คนตรงหน้ายังมีหน้ากลับมาที่ร้านของเขาอีก ชินพัตน์รีบผุดลุกจากเก้าอี้เพื่อตรงไปหาคนที่ทำให้ร้านของเขาวุ่นวายทันที่

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวผมคุยกับเขาเองนะ” นนทนัฐรีบเดินมาขว้างและกระซิบบอกชินพัตน์ที่ทำท่าจะลุกเข้าหาหนุ่มใหญ่ที่ยังคงนั่งนิ่งเฉยเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นั่งหน้านิ่งเรียบเฉย

“ผมที่มาวันนี้ จะมาขอโทษเรื่องลูกน้องผมที่มาก่อเรื่องวุ่นวายเมื่อวานด้วยเหมือนกัน “ หนุ่มใหญ่ที่นั่งเงียบอยู่ก็พูดขึ้น ทำให้ทั้งชินพัตน์และนนทนัฐมองหน้ากัน อย่างคาดไม่ถึงว่าคนตรงหน้าจะมาเพื่อขอโทษ

“ผมสั่งให้ลูกน้องมาตามหาคนจริง แต่ไม่คิดว่าพวกเข้าจะทำให้เรื่องมันวุ่นว่ายขนาดนี้  ยังไงผมก็ขอโทษก็แล้วกัน ….แต่ผมอยากจะขอถามคุณเจ้าของร้านว่า คนของผมอยู่ที่ไหน ส่งตัวเขามาให้ผมซะดีกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อนไปมากกว่านี้”
ชินพัตน์ฟังดูแล้วเหมือนการมาขอโทษแต่พอฟังไปเรื่อยๆเหมือนการข่มขู่กันชัด

“นี้คุณข่มขู่ผมงั้นเหรอ ผมไม่รู้ว่าคนที่คุณตามหาคือใคร แล้วผมจะบอกได้ยังไงว่าเขาอยู่ที่ไหน” ชินพัตน์ที่ยืนฟังนิ่งมานานก็ต้อง หงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง และตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ

“คุณแน่ใจนะ  ว่าเด็กนั้นไม่ได้อยู่ที่นี้กับคุณ?  อย่าให้ผมรู้ว่า…”หนุ่มใหญ่ถามเสียงนิ่งอย่างคาดขั้น

“ถ้ากัมพลเขาไม่อยากที่จะอยู่กับคุณแล้ว คุณจะตามหาเขาไปเพื่ออะไร หรือเขาเป็นหนี้คุณเงินเหรอ ถึงต้องมาตามหากันถึงขนาดนี้” ชินพัตน์อดสงสัยไม่ได้เลยเอาสถานการณ์ตอนนี้ลองเชิงเพื่อถามดู

“เด็กนั้นไม่มีหนี้อะไรกับผมทั้งนั้น แต่เด็กนั้นไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนโดยที่ผมไม่อนุญาต” หนุ่มใหญ่นั่งกอดอกตอบเสียงนิ่ง

“แปลว่าคุณเป็นผู้ปกครองของกัมพลงั้นเหรอ หรือญาติของเขาล่ะ ถ้าเป็นญาติกันจริง ทำไมเขาถึงคิดหนีออกจากบ้านมาแบบนั้น” ชินพัตน์เมื่อจะถามคำถามจี้ใจดำคนตรงหน้า เพราะสังเกตสีหน้าที่ดูลังเลที่จะตอบ

“เรื่องนี้ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ คุณต่างหากที่ต้องบอกผมมาซักที่ว่าเด็กนั้นอยู่ที่ไหน” หนุ่มใหญ่วกเข้าเรื่อง

“ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าผมไม่รู้ว่า กัมพลอยู่ที่ไหน แล้วจะให้ผมตอบอะไรคุณอีก และที่สำคัญกรุณาอย่ามาก่อกวนที่ร้านของผมอีก ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจแน่” ชินพัตน์ขู่กลับไปบ้าง แต่ดูเหมือนหนุ่มใหญ่ตรงหน้าไม่สนใจกับคำขู่ของเขาเลย

“หึ หึ ตำรวจงั้นเหรอ ก็ได้ผมจะไม่มารบกวนที่ร้านนี้อีก แต่ผมคงจะต้องสืบเองด้วยวิธีของผมเองสินะ” หนุ่มใหญ่ตอบกลับมาอย่างมีเลศนัย ยกยิ้มเหมือนเขาเหนือกว่าทุกอย่าง ไม่กลัวกับคำขู่ของชินพัตน์ และเดินออกจากร้านไปเลย

“คุณไม่เป็นไรนะ” นนทนัฐที่ยืนฟังคนทั้งคู่คุยกันอยู่นานก็ถามชินพัตน์ ที่ทรุดนั่งลงที่เก้าอีกเมื่อเนติธรเดินออกจากร้านไป

“………”ชินพัตน์ไม่ได้ตอบอะไร มั่วแต่คิดว่าเขากำลังเจอกับเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ต้องมาทะเลาะกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ จนเรื่องมันวุ่นวายไปถึงขนาดนี้

“ตาชิน เป็นอะไรหรือเปล่า คนเมื่อกี้เข้ามาหาเรื่องอะไรหรือเปล่า” ป้าพรรีบเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง เพราะดูเหมือนว่า ทั้งคู่จะโต้เถียงกันไปมา ได้ยินไม่ชัดน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ร้านแน่นอน

“ป้าครับ ผมว่าเราปิดร้านก่อนก็ได้นะครับ ผมจะไปสถานีตำรวจ ผมไม่อยากให้ป้ากับจอย อยู่ร้านแค่ 2 คนผมเป็นห่วง”

“ให้ป้ากับจอยไปด้วยสิ แล้วหาภาพวงจรได้แล้วเหรอตาชิน “ป้าพรก็ถามหา

“จริงด้วย  ป้าครับมีใครมาหาผมอีกหรือเปล่าครับ” ชินพัตน์นึกได้ว่ามีคนที่ตนเองรออยู่ รีบลุกออกจากโต๊ะ เดินไปมองหาท่หน้าร้าน เพราะกลัวว่าเจ้าของตึกมาแล้ว แต่เห็นว่าเขามีแขกอยู่แล้ว เลยไม่เข้ามา

“ไม่มีนี้จ๊ะ ป้าก็เห็นมา แค่ผู้ชายคนที่กลับไปเมื่อกี้ กับพ่อหนุ่มคนนี้   เอ๊ะ พ่อหนุ่มคนนี้เข้ามาช่วยไว้เมื่อวานใช่ไหม”

“ใช่ๆๆๆ ป้าใช่ จอยจำหน้าได้” จอยเข้ามาช่วยยืนยันอีกคน

“คุณมาทำไม มีธุระอะไร” ชินพัตน์ที่ไม่รับรู้เรื่องยินดีที่ป้ากับจอยจำคนตรงหน้าที่ช่วยเหลือไว้ แต่กลับถามหาเหตุผลที่เขามาที่นี้แทน

“ชิน” นนทนัฐเรียกคนตรงหน้าเสียงเบา แต่ชินพัตน์ไม่สนใจ เปลียนเรื่องหันไปช่วยป้ากับจอยเก็บร้านแทน

“ป้าครับ เก็บร้านกันเถอะครับ แล้วเราค่อยไปสถานีตำรวจกัน ไม่มีภาพก็ไปแจ้งความไว้ก่อนก็ได้ครับ” ชินพัตน์เดินเลียงไปยกโต๊ะเก็บ ป้าพรกับจอยก็แยกย้ายกันไปเก็บของต่อ นนทนัฐเลยเดินไปช่วยชินพัตน์ยกโต๊ะเก็บด้วย  ชินพัตน์จะเดินไปทำอะไรตรงไหน นนทนัฐก็จะเดินไปอยู่ใกล้ๆ เสมอ

    จนทั้ง 4 เก็บของและปิดร้าน เพื่อจะไปสถานีตำรวจ เพื่อแจ้งความเอาไว้ก่อนเพื่อความอุ่นใจ เพราะชินพตน์เชื่อว่าคำขู่ของชายหนุ่มนั้นไมได้พูดเล่นๆแน่ เขาเป็นห่วงทั้งความปลอดภัยของป้าพรกับจอย และลูกค้าที่ร้านด้วย

“ป้าครับ จอยไปกันเถอะครับ”

“ตาชินป้าว่าน่าจะให้พ่อหนุ่มคนนั้นไปด้วย เพราะเขาก็อยู่ด้วยวันนั้น”

“………..”ชินพัตน์หันไปมองคนที่ยืนมองเขาอยู่แล้ว

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” นนทนัฐที่เห็นชินพัตน์ที่ดูยังลังเล เลยเข้าไปหาเสียเอง ดึงมือชินพัตน์เพื่อให้คนตรงหน้าหันมาฟังเขาบาง

“แต่ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณ” ชินพัตน์ที่เดินเลียงออกมาจากรถตนเอง ตามแรงลากของนนทนัฐที่พามาหยุดยืนอยู่ที่หน้าตึกปิดข้างๆร้านของเขาเอง

“แล้วถ้าเป็นเรื่องของตึกนี้ล่ะ คุยยังอยากจะคุยกับผมอยู่ไหม?” นนทนัฐเงยหน้ามองตึกที่ปิดเงียบมานานอย่างมีความหมาย ทำให้ชินพัตน์มองตาม

เรื่องของตึกนี้งั้นเหรอ?

หันกลับมามองหน้าคนตรงหน้าอีกครั้ง

ทั้งอยากรู้ทั้งสับสนไปหมด

ว่าสิ่งที่เขาอยากรู้ตอนนี้คือเรื่องอะไรกันแน่นะ










       หลบหน่อยพระเอกมา!!!!!!





   



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พระเอกมาแว้ววววววววว.  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
กว่าจะฌผล่มาได้นะนนท์
ไม่รอให้ชินโดนอุ้มไปก่อนล่ะ
แล้วกัมพลเป็นใครเป็นอะไรกับเนติธร

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ตัดจบแค่นี้ทำม้ายยยยยยยยยยยยยยย
เขาอยากอ่านต่ออ่ะ

พระเอกหายไปนานนะครับ ^^"
เพิ่งจะโผล่มาก็ตอนที่เขามีปัญหา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด