เสน่ห์รักลูกชิ้นปิ้ง ตอนที่ 73 [31-01-16] ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆมาแล้วจ้า!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสน่ห์รักลูกชิ้นปิ้ง ตอนที่ 73 [31-01-16] ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆมาแล้วจ้า!!!!  (อ่าน 68934 ครั้ง)

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0


                                                           ตอนที่ 28  คุณจะไปด้วยกันมั้ย?


                               ชินพัตน์ไม่เข้าใจความรู้สึกตนเองตอนนี้ เหมือนรู้สึกยินดีเพราะความสับสนวุ่นวายในใจเหมือนได้พบเจอคำตอบ แต่ตอนนี้ความรู้สึกใหม่เกิดขึ้นตรงหน้านี้คืออะไร กำลังเสียลูกค้าคนสำคัญไปงั้นเหรอ เมื่อมองแผ่นหลังที่ค่อยๆเดินห่างออกไป  กำลังเสียเพื่อนใช่ไหม  ความรู้สึกนี้มันคืออะไร กำลังจะเดินห่างไปไกลแล้ว หยุดไว้สิ อย่าพึ่งไป


"คะ-คุณ คุณนนท์ คุณไม่เดินเที่ยวงานวัดเหรอ"  พูดออกไปแล้ว

ทำไงดี แล้วจะพูดอะไรต่อ คงไม่ได้ยินมั้ง ดีแล้ว ดีแล้ว

ชินพันต์สับสนแต่ก็ส่งเสียงเรียกออกไปแล้วเร็วเท่าความคิด ทั้งที่ยังไม่เตรียมตัวว่าจะทำยังไงต่อหลังจากนี้

               
                  นนทนัฐเดินถอนหายใจเหมือนโล่งใจที่ได้บอกความรู้สึกแต่กลับเศร้าใจเกินกว่าจะทำอะไรได้ อยากกลับไปอยู่เงียบๆคนเดียว แต่แล้วก็มีเสียงเรียกจากด้านหลังที่ทำให้ หัวใจกลับมาเต้นแรงๆอีกครั้ง


"คะ ครับ" หยุดเดินและรีบหันหลังมาหาคนที่ยืนทำท่าที่สับสนเหมือนคนทำตัวไม่ถูก

"คุณว่าอะไรนะครับ" นนทนัฐไม่แน่ใจกับเสียงเรียกนั้นเลยเดินเข้ามาหาเพื่อถามให้แน่ใจ กับคนที่เอาแต่ก้มหน้าเกาท้ายถอยเก้อเขิน

"ผม อะ เออ คือ ผม ถามว่าคุณไม่เดินเที่ยวงานวัดหรือไง" ชินพัตน์ที่เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อคนที่ตนเองเรียกเดินกลับมาหา และถามซ้ำ

"คุณจะไปด้วยกันมั้ย?" นนทนัฐเห็นท่าที่ผ่อนคลายลงของคนตรงหน้าแล้ว ก็อยากที่จะเข้าข้างตนเองว่าคงจะให้โอกาสพิสูจน์สินะ ไม่ว่าจะใหนฐานะใหน เขายินดีที่จะได้อยู่ใกล้ๆคนคนนี้

"กะ-ก็ไปสิ" ชินพัตน์ยังไม่กล้าสบตากับคนที่ก้มลงมาถามใกล้ๆแบบนั้น รีบเดินนำกลับไปที่หน้างานประตูทางเข้าวัด

"หึหึ  ครับ "หัวใจที่ห่อเหี่ยวกับพ่องโตขึ้นมาอีกครั้ง เรียกร้อยยิ้มกลับมาบนใบหน้าของนนทนัฐ

"..................." ฮึ่ย!!! แค่เดินด้วยกันแค่นี้ ไม่ต้องยิ้มหน้าบานขนาดนั้นก็ได้  ชินพัตน์ที่แอบหันไปมองคนที่เดินข้างๆ และก็กลับไปสนใจมองของที่วางขายมากมาย เสื้อผ้า กระเป๋า ตุ๊กตา เต็มสองข้างทางเดินที่เข้างาน

"คุณอยากได้ตุ๊กตานี้เหรอ "นนทนัฐไม่ค่อยสนใจข้าวของในงานเลย แต่สนใจคนที่เดินด้วยมากกว่า ค่อยมองอยู่ตลอด และเห็นว่าชินพัตน์เอาแต่ยืนมองตุ๊กตา ที่ห้อยเรียงรายเต็มไปหมด มีทั้งตัวเล็กๆ ไปถึงตัวโตๆ ขนฟู่ๆน่ากอด

"เอ๊ะ ปะ เปล่าๆ  ดูเฉยๆมันน่ารักดี" ตอบแล้วก็เดินไปดูของร้านอื่นต่อ

"คุณทานอะไรมาหรือยัง"

"อะ อืม......คุณหิวเหรอ" ชินพัตน์ทานมื้อเย็นมาจากบ้านยายแล้ว แต่คิดได้ว่าคนถามคงจะหิวเลยถามขึ้นหรือเปล่า

"ครับ  เดินหาร้านที่นั่งทานได้กันดีกว่าไหมครับ" เพราะที่เดินผ่านมาเป็นร้านปลาหมึกปิ้ง ลูกชิ้นทอด ไส้กรอก  ของเดินทานเล่นทั้งนั้น นนทนัฐเดินนำชินพัตน์ไปตรง บริเวณร้านอาหารเรียงรายยาวจนสุดทางเดิน  มีทั้งก๋วยเตียวเรือ ขนมจีนน้ำยา ก๋วยจั๊บ ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ร้านยำร้านอาหารตาสั่ง มีโต๊ะนั่งให้ลูกค้า ให้ได้เลือกไปฝากท้อง มากมายแล้วแต่จะสั่งอะไร

"คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม" นนทนัฐที่เดินนำมองไปร้านขายอาหารที่เยอะมากจนเลือกไม่ถูกเลยหันกลับมาถามคนที่เดินตาม

"อืม   ขนมจีนดีไหม?" ชินพัตน์เสนอ

"ก็ดีเหมือนกันผมไม่ได้ทานนานแล้ว ไปดูตรงร้านนั้นกัน" นนทนัฐตอบรับข้อเสนอ และชวนเดินไปดูร้านขนมจีน ที่มีทั้งน้ำยากระทิ น้ำยาป่า แกงเขียวหวานไก่

"เชิญนั่งเลยจ้า รับอะไรดีจ๊ะ มีน้ำยากระทิพิเศษตีนไก่ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย น้ำยาป่าจ๊ะ " แม่ค้าขายขนมจีนเรียกให้ทั้งสองคนนั่ง บอกเมนูหลักให้ฟัง เรียกน้ำย่อยได้ดีที่เดียว

"ผมเอาขนมจีนแกงเขียวหวานครับ พิเศษลูกชิ้นให้ด้วยนะครับ" นนทนัฐสั่งลูกชิ้นเพิ่ม

"ได้จ๊ะ แล้วอีกคนล่ะจ๊ะ" แม่ค้ารีบจดลงในสมุดฉีกเล่มเล็ก

"ผมขอขนมจีนกระทิครับพิเศษตีนครับ"

"จ้าได้จ๊ะ น้ำบริการตนเองนะจ๊ะ" แม่ค้ารีบเดินไปสั่งที่หน้าร้าน

"หึหึ " นนทนัฐหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินคนที่นั่งใกล้กันสั่ง

"คุณหัวเราะอะไร ฮึ่ย!!" ชินพัตน์ขมวดคิ้ว งงกับคนตรงหน้า

"พิเศษตีน ไง  หึหึ ฮ่าๆๆ" นนทนัฐหัวเราะออกมาจนได้

"เงียบไปเลย พี่เขายังฟังเข้าใจเลย ขำตรงใหน? " ชินพันต์รีบบอกว่าแม่ค้ายังฟังที่ตนเองสั่งเข้าใจเลยไม่เห็นจะน่าขำตรงใหน หลบหน้าไม่มองคนที่เอาแต่พยายามกลั้นหัวเราะ จนหน้าดำหน้าแดง หัวเราะให้ตายไปเลยไป ฮื่ย!!!

"เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำให้นะ"

"ไปซื้อทำไมคุณ ที่ร้านเขาก็มีน้ำให้กินฟรี โน่นไงที่กระติกตรงนั้นอ่ะ" ชินพัตน์บอกทำท่าจะลุงไปตักเอง

"ไม่เป็นไร ซื้อแบบขวดทานเถอะครับ เดี๋ยวผมมานะ" นนทนัฐจับแขนให้ชินพัตน์นั่งลงที่เดิม แล้วลุกเดินออกไปจากร้านเพื่อซื้อน้ำดื่ม

"รักสะอาดขนาดนั้นเลยเหรอวะ " บ่นไปอย่างนั้น เพราะคนโดนบ่นเดินไปไกลแล้ว

"ได้แล้วจ้า แกงเขียวหวานพิเศษชิ้น แกงกระทิพิเศษตีนจ้า  ไข่ต้มลูกละ 5 บาทนะจ๊ะ"

"ครับ" ชินพัตน์รับกระกร้าใบเล็กๆที่เต็มไปด้วยไข่ต้มหลายฟอง  ช่วงที่นั่งรอชินพัตน์ก็นั่งปลอกไข่ใส่จานของตนเอง และกำลังจะปลอกไข่อีกลูกใส่จานขนมจีนของนนทนัฐ เจ้าของจานก็เดินกลับมาพอดี

"โอโฮ้ ซื้ออะไรมาเยอะแยะ" มองไปที่ถุงมีทั้งน้ำดื่มขวดลิตร ชาเขียว กระดาษทิชชู ติดมาด้วย

"เตรียมพร้อมไงครับ "นนทนัฐส่งยิ้มกลับมา

"อะ อืมๆ เอานี้ไข่ต้ม" เมื่อเจอกลับร้อยยิ้มกว้างที่ส่งกลับมา ชินพัตน์ก็ทำตัวไม่ถูกก้มหน้าปลอกไข่แล้วส่งให้นนทนัฐ

"ขอบคุณครับ" และยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น

"กิน กินเข้าไปสิ ยิ้มอยู่ได้ ฮื่ย" เดี๋ยวก็เอาซ้อมจิ๋มหน้าไห้ซะหรอก เอาแต่ยิ้มอยู่ได้  ชินพัตน์บ่นในใจ ก้มหน้ากินขนมจีนหลบซ่อนใบหน้าเขินของตนเอง เขินอะไรหว่า?????


เงียบเหมือนคนทะเลาะกัน เปล่าเลย ตั้งใจกินหรือเพราะหิวกันแน่นะ??
                       
"ชินครับ"

"อ๊ะ อืม ซู๊ดด   อะไร?" ชินพัตน์ตกใจเมื่อโดนเรียกชื่อแบบนั้น เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจัดการขนมจีนตรงหน้า รีบดูดเส้นขนมจีนขึ้น เมื่อโดนเรียกจากคนที่เงียบไปพักหนึ่ง

"คือ ผมอยากให้คุณลองกิน ลูกชิ้นปลาของร้านนี้ดูครับ ว่ารสชาติเป็นยังไง" นนทนัฐทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาจนชินพัตน์งง เมื่อคนตรงหน้ายืนช้อนที่มีลูกชิ้นปลามาที่ตนเอง  ขวมดคิ้วอย่างสงสัยแต่ก็รับมากินอย่างง่ายดาย

"อืม......อืม    ทำไมมันออกเปรี้ยวๆล่ะ?" ชินพัตน์เคียวเพื่อรับรู้รสชาติ  และพูดออกมาทันที

"ชู่  เบาๆสิครับ" นนทนัฐรีบกระเถิบเข้ามานั่งใกล้ชินพัตน์ที่บอกรสชาติลูกชิ้นออกมาตรงๆ

"ทำไมล่ะ ก็มันเปรี้ยวๆเหมือนของมันจะเสียเลยอ่ะ" ชินพัตน์ทำเสียงเบาลงก็จริงแต่ก็ยังสงสัยมองไปที่ลูกชิ้นปลาในจาน

"ผมว่าเราโดนเอาเปรียบแล้วล่ะ คุณกินอะไรเข้าไปบาง"มองไปที่จานของชินพัตน์

"ผมกินจะหมดจานแล้วเหลือแต่ตีนไก่อ่ะ "ชินพัตน์พูดออกมาเหมือนจะเสียดายอุตสาเหลือไว้จัดการตอนท้าย

"ผมว่าเราเปลี่ยนร้านเถอะ ไปครับ"นนทนัฐไม่รอคำตอบรีบหยิบข้าวของบนโต๊ะ และจูงมือชินพัตน์ไปจ่ายเงินและรีบเดินออกจากร้านทันที คนรอบข้างอาจจะไม่สังเกตุ แต่เจ้าของร้านมองตามอย่างแปลกใจ เพราะเห็นว่ากินกันแค่แปบเดี๋ยวก็พากับออกจากร้านไป

"คุณ จริงแล้วเราไม่น่าจะจ่ายเงินให้ร้านนั้นด้วยซ้ำ เอาของเสียมาขายให้ลูกค้าแบบนี้ได้ไง" ชินพัตน์พูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย

"ผมไม่แน่ใจว่าเป็นจากที่ร้านขนมจีน หรือจากร้านที่ขายลูกชิ้นมาให้กันแน่ที่ผิด เพราะถ้าพวกเราโวยวายไป ร้านขนมจีนอาจจะขายของไม่ได้อีกเลย แต่ถ้าไม่ใช่ความผิดจากร้านขนมจีนล่ะครับ "

".................."ชินพัตน์ยืนฟังคำอธิบายของคนตรงหน้า

"ร้านขายลูกชิ้นปลาก็เหมือนกัน อาจจะไม่ได้เช็คดูว่าของที่เอาขายมาให้เก็บไว้ได้กี่วัน ร้านขนมจีนอาจจะซื้อมาเยอะ แต่ก็ไม่ดูแลเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องผิดผลาดแบบที่พวกเราเจอวันนี้ก็ได้ จริงไหมครับ" เมื่ออธิบายจบหันกับมาหาคนที่ยืนฟัง เจอเขากับสายตาทีมองกลับมาแบบอึ้ง

"เออ ผมพูดมากไปเหรอ?" นนทนัฐร้อนรนขึ้นมาเมื่อเห็นคนตรงหน้าเอาแต่มองไม่ออกความคิดเห็นอะไรเลย


"เปล่า  แล้วคุณได้กินเข้าไปหรือเปล่าลูกชิ้นปลาอ่ะ" ชินพัตน์ไม่อยากจะบอกเลยว่าตนเอง แปลกใจเพราะคนตรงหน้าเข้าใจและเห็นใจคนอื่นได้มากขนาดนี้เลยเหรอทั้งๆที่เป็นคนที่เสียเปรียบเห็นๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป  เลยเปลี่ยนเรื่อง

"ผมกินไปครึ่งลูกเอง เพราะรู้สึกรสชาติมันแปลกเลยไม่ได้กินต่อ กินแต่ไข่ต้มที่คุณปลอกให้แค่นั้น" พอได้ยินว่ากินที่สิ่งที่ตนเองทำให้ก็รู้สึกหน้าร้อนๆขึ้นมา เลยตอนเดินนำไปดูร้านอื่นแทน

"ดีแล้วท้องจะได้ไม่เสีย แต่......เอ๊ะ!!!! เมื่อกี่คุณให้ผมกินเข้าไปทั้งลูกเลยนี้ คุณนี้มัน!!" ชินพัตน์เดินพูดไปเรื่อย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ก็หยุด หันมาเล่นงานคนที่เดินตามมา ต่อยเข้าไปที่หัวไหล่รัวๆแต่ไม่ได้รุนแรงอะไร

"ขอโทษครับ ถ้าคุณเข้าโรงพยาบาลผมจะไปเฝ้าคุณเอง" นนทนัฐรีบดึงมือที่เอาแต่ทุบตนเองไว้ และก้มกระซิบบอกใกล้ ทำเอาคนฟังทำตัวไม่ถูก เดินหนีไปเฉยเลย

"ผมไม่อ่อนแอถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลหรอกน่า ฮื่ย!!!" พูดไปแต่ไม่มองคนที่รีบเดินตามมาให้ทัน

"ผมรู้ว่าคุณเก่ง"

"..................." ชินพัตน์ทำเป็นไม่ได้ยิน เดินดูของไปเรื่อยๆ จริงแล้วก็แอบมองคนเดินคู่กันบาง ทำไมต้องยิ้มเหมือนดีใจอะไรขนาดนั้น
ก็แค่เดินเที่ยวงานวัด   


หรือเพราะพวกเราเดินด้วยกัน????





                                                                          ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆ หมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!

                           
                              :mew2:  มินมินขอโทษที่เงียบหายไปหลายวันนะคะ  วันนี้จะลง ตอนที่ 28 กับ 29  ให้อ่านกันนะคะ

                                                 

                                       :กอด1:      ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอ่านนิยายของมินมินอยู่นะคะ + เป็นให้ทุกคนคะ


                                        :L2:      สุขสันต์คริสมาสย้อนหลัง และช่วงวันหยุดยาวที่ใกล้จะมาถึงนี้ด้วยนะคะ



                                    ฝากนิยายเรื่องสั้น  เรื่องสั้นขยันซอยรอคอยคนเข้ามาทำให้มันเป็นเรื่องยาว  ด้วยนะคะ 

                                               http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44840.0


                                    :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0




                                                         ตอนที่ 29  เริ่มต้นในฐานะใหม่



"ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า?"

"อะ เปล่าๆ  ผมแค่เดินดูของเพลินๆนะ คุณพูดว่าอะไรนะ" รีบแก้ตัวเพราะมัวแต่มองรอยยิ้มของคนข้างๆ

"หึหึ  เปล่าครับ คุณอยากทานอะไรอีกมั้ย"

"ไม่ล่ะ จริงๆแล้วผมทานมื้อเย็นมาแล้วจากบ้านต้นนะ"

"น้องต้น อ้อ ที่ช่วยช่วยคุณขายลูกชิ้นใช่มั้ย" นนทนัฐได้ยินชื่อนี้ประจำ

"อืม น้องเขาขายผักกับยาย อยู่ร้านใกล้ๆกันไง"

"อ้อ ผมนึกออกแล้ว เป็นญาติกันเหรอครับ"

"เปล่า รู้จักกันที่ตลาดนี้แหละ พอดีรถที่เคยมารับส่งยายเกิดอุบัติเหตุ ผมเลยอาสาไปรับส่งยายมาที่ตลาดเองนะ ตั้งแต่วันแรกที่ผมมาขายของเลย คิดไปคิดมาผมก็มาขายของที่นี้ได้ 2 เดือนแล้วนะ" พูดอธิบายไปพร้อมกับหยิบน้ำชาเขียวมาจากถุงที่นนทนัฐขึ้นมาดื่ม

"เหรอครับ คุณเป็นคนมีน้ำใจ แบบนี้เองสินะครับ?" นนทนัฐเมื่อรับรู้เรื่องของคนใกล้ตัวมากขึ้น ยิ่งทำให้รู้ว่าคนที่เขารู้สึกดีด้วยเป็นคนที่มีจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ผิดหวังแถมภูมิใจ เผลอพูดออกมาแต่คนตรงหน้าไม่ได้ฟัง

"อะ คุณว่าอะไรนะ? ผมมั่วแต่ดูเสื้อ  "ชินพัตน์เห็นร้านเสื้อก็ทำให้นึกถึงต้นกล้าขึ้นมา จนไม่ได้ฟังคนข้างกายเท่าไร

"เสื้อสวยดีนะครับ " นนทนัฐเปลี่ยนเรื่องทันที ดีแล้วที่คนตรงหน้าไม่ได้ยิน

"อืม ผมว่าจะซื้อไปฝาก ต้นนะ คุณว่าตัวใหนดี" ชินพัตน์หันกลับไปสนใจเลือกเสื้ออีกครั้ง และหันมาขอความเห็น

"น้องเขาเรียนที่ใหนครับ อยู่ม.อะไรครับ" นนทนัฐอยากจะเลือกตามวัยของคนใส่เลยถามถึงที่เรียน (ม.ไม่ใช่มหาวิทยาลัย แต่หมายถึงมัธยมปลาย) เพราะเข้าใจว่าต้นกล้ายังเป็นเด็กม.ปลายอยู่

"ต้นเหรอ อีกเทอมเดียวจะฝึกงานแล้ว เห็นหน้าเด็กๆแบบนั้น จะจบปี 4 แล้วนะคุณ " พอหันมาตอบ ก็เจอกับหน้าเหรอหรา ไม่อยากจะเชื่อเท่าไร เรียกเสียงหัวเราะให้กับชินพัตน์

"หึหึ  ฮ่าๆๆๆ  คุณทำหน้าตลกอ่ะ ไม่เชื่อเหรอ น้องมันจะ 21 แล้วคุณ  ฮ่าาาๆ" ชินพัตน์เอามือกุมท้อง เอามือปิดปากพยายามกลั้นหัวเราะเอาไหว เพราะคนเดินไปมาในงานเยอะ

"แหะๆๆ ผมก็นึกว่าน้องเขายังอยู่แค่ม.ปลาย " นนทนัฐยิ้มแห้งเมื่อโดนหัวเราะใส่

"น่าๆ ตอนแรกผมก็เคยคิดแบบคุณเหมือนกัน หึหึ " ชินพัตน์ตบไหล่นนทนัฐเบาๆอย่าเข้าใจ

" ^___^" นนทนัฐรับรู้ถึงความเป็นกันเองของชินพตน์ที่ส่งกลับมาให้มันทำให้ ความหวังที่เหมือนจะริบหรี่ เริ่มเห็นแสงสว่าง นั้นสินะต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนก่อน เรียนรู้เรื่องต่างๆของกันและกัน นนทนัฐเมื่อคิดได้ก็เอาแต่ส่งยิ้มพราวไปให้ชินพัตน์

"แล้วคุณไม่อยากซื้ออะไรเหรอ" ชินพัตน์เริ่มจะรับมือกับร้อยยิ้มที่คอยส่งมานั้นไม่ค่อยไหวเปลี่ยนเรื่องเพื่อหลบเลี่ยง

"ไม่ล่ะ ผมอยากเดินเที่ยว(กับคุณ) เฉยๆ" มาผมช่วยถือ นนทนัฐดึงถุงเสื้อในมือของชินพัตน์มาถือไว้เอง

อยากจะพูดคำนั้นแต่อาจจะทำให้คนตรงหน้าหนีเขาไปไกลอีก ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีที่สุดแล้ว

"งั้นเดินดูไปก่อน เห็นอะไรอยากได้แล้วค่อยซื้อแล้วกันเนอะ" ชินพัตน์พูดเสร็จก็เดินนำหน้าไป


"คุณตรงนั้นเขามุงดูอะไรกันคนเยอะมากเลย ไปดูกันเถอะคุณ  "เดินไปได้สักพัก เจอเข้ากับกลุ่มคนที่ยืนมุงจนมองไม่เห็นว่าเป็นร้านขายอะไร เพราะของว่าอยู่กับพื้น ต่างจากร้านอื่นๆ ที่มีแผงว่าขาย ให้ลูกค้ายืนเลือกได้สะดวก ชินพัตน์เจอแรงกระตุ้นทำให้อยากรู้ขึ้นมา รีบลากคนที่เอาแต่เดินตาม รีบเดินเข้าไปดูด้วยกัน


"เร่เข้าๆ ปลาสวย ปลาทอง ปลาหางนกยู  ตักได้ให้ไปเลย  2 ไม้ 20 บาท เร่เข้ามาครับเร่เข้ามา" เสียงร้องเรียกของพ่อค้าวัยรุ่น ที่เรียกความสนใจจากลูกค้าวัยเด็ก ทั้งเด็กเล็ก เด็กโตได้อย่างดี พ่อแม่ก็ต้องตามใจ พามาให้ได้ลองตักเล่นเผื่อได้ปลากลับไปเลี้ยงที่บ้าน
                       
                          กลุ่มก้อนตรงหน้าที่มีลูกค้ายืนดู ยืนรอ ลายล้อมบ่อปลาจำลองไม่เล็กไม่ใหญ่  หรือถ้ามองให้ดีก็คือ สระน้ำเด็กเล็กๆ ที่มีน้ำเกือบเต็ม มีปลาสีสวยแวกว่ายมากมาย กับท่ออ๊อกซิเจนเพื่อให้ปลาหายใจได้อย่างสบาย คนที่ตักได้ก็ดีใจ ได้ปลาแสนสวยกลับไปเลี้ยงที่บ้าน คนที่ลงทุนซื้อไม้ตักปลาไปหลายบาท แต่ยังตักปลาไม่ได้สักตัวก็มี ทำให้คนสนใจพากันเดินมามุ่งดู และรอคิวที่จะได้นั่งลงตักปลาที่อยากได้ รวมไปถึงชินพัตน์และนนทนัฐที่ยืนดูอยู่

"คุณอยากลองตักดูมั้งป่ะ" ชินพัตน์หันไปถามคนข้างกาย

"ผมไม่แน่ใจว่าจะตักได้หรือเปล่า ดูที่ตักกระดาษมันบางเกินไป"

"งั้นเดี๋ยวผมจะตักให้คุณดู ผมนี้ เซียนเหมือนเรียนมาเลยนะคุณ หึหึ"  ชินพัตน์อยากโชว์ความสามารถ เพราะตอนเรียนมีจัดงานเรียนแบบงานวัดแบบนี้ เขาเคยตักได้เยอะเคยแข่งกับเพื่อน เลยเสนอตัวรีบเข้าไปนั่งประจำที่โต๊ะเล็กของร้าน ส่งเงินไป 40 บาท ได้ไม้ตักปลามา 4 อัน ส่งให้คนที่แทรกตัวตามเข้ามานั่งข้าง ไป 2 อัน

"คุณอยากได้กี่ตัว เดี๋ยวผมตกให้"โชว์พลังขึ้นมาทันที

"เออ สะ สอง ตัวก็ได้ครับ"ยังไม่มันใจว่าจะตักได้แต่บอกบอกออกไปแบบนั้น

"คุณดูถูกผมเกิ๊น  5 ตัว เดี๋ยวผมตักให้ดูเป็นขวัญตา " หันมาดุแล้วหันกลับไปถกแขนเสื้ออย่างมั่นใจ เตรียมพร้อม

สตาตโตะ!!!!!!!!


               ผ่านไป 1 นาที   ยังไม่ได้สักตัว ที่ตักก็ขาดเปียกน้ำเปื่อยหมด

               ผ่านไป 2 นาที ไม้ตักปลาอันที่ 2 ก็ยังตักไม่ได้  เปื่อยขาดเหมือนเคย

              ผ่านไป 3 นาที  ไม้ตักปลาที่แย่งจากคนข้างๆมา ก็ยังตักปลาไม่ได้สักตัว 

              ผ่านไป 4 นาที ไม้ตักอันสุดท้าย ค่อยๆช้อนลงไปในน้ำอย่างแผ่วเบาเพื่อต้อนปลาตัวน้อย เพื่อให้ขึ้นมาอยู่ในขันให้ได้


"โธ่เอ๊ย!!!! ขาดอีกแล้ว น้องเอาไม้ตักปลามาอีก "ชินพัตน์เริ่มหงุดหงิดที่ตนเองตักปลาไม่ได้สักตัว ส่งเงินแบงค์ 100 ไปให้พ่อค้า

"ผมขอลองมั้งได้มั้ย" นนทนัฐรับไม้ตักปลากระดาษมาจากมือพ่อค้ามาก่อนที่ชินพัตน์จะรับ

"อืมๆ  ค่อยๆตักนะคุณ"ชินพตน์หมดความมั่นใจ เลยฝากกำลังใจให้คนข้างๆแทน

"ได้ครับ "ยิ้มกลับไปเมื่อคนข้างๆส่งกำลังใจมาให้

           ดูเหมือนรอบข้างจะนิ่งเงียบเหมือนหยุดนิ่ง มองไม้ตักปลากระดาษที่ค่อยๆจุ๋มลงน้ออย่างแผ่วเบา แล้วช้อนปลาทองตัวใหญ่ขึ้นบนขันใบเล็กที่มีน้ำรอไว้ รีบตักอีกตัวขึ้นมาไว้ในขัน  และตามด้วยปลาหางนกหยูอีก 2 ตัว และไม้ตักกระดาษก็เปื่อยขาดใช้ตักต่อไปได้อีกแล้ว

"โอ้โห้ คุณโครตเทพเลยอ่ะ เจ๋งอ๊ะ เสือซุ่มนี้หว่า" ชินพันต์ที่นั่งมองคนตักปลาได้อย่างอึ้ง พอเห็นว่าตักได้ขึ้นมาตั้ง 4 ตัวในไม้เดียว ทั้งดีใจทั้งทึ่งคนตรงหน้า ใช้หัวไหล่ชนหัวไหล่นนทนัฐเบาๆ เหมือนชมเฉย


"ยังเหลืออีกไม้ คุณจะลองตักดูอีกครั้งมั้ย" นนทนัฐยืนไม้ตักปลาที่เหลือให้ชินพัตน์

"แหะๆ ผมกลัวหน้าแตกอ่ะ "ชินพัตน์อายที่ตนเองตักไม่ได้สักตัวหมดความมั่นใจไปดื้อๆ

"มาเดี๋ยวผมช่วย" นนทนัฐส่งไม้ให้ชินพัตน์จับ และตัวเขาเองก็เดินอ้อมไปนั่งข้างเพื่อจับมือชินพัตน์ไว้ แล้วช้อนปลาอย่างแผ่วเบาแต่รวดเร็วก่อนที่ปลาจะว่ายหนี และก่อนที่กระดาษจะเปื่อยขาด

                    ชินพัตน์ไม่ได้สนใจปลาในอ่างเลยเอาแต่มองคนที่จับมือตนเองอยู่อย่างไม่เข้าใจ ใกล้ชิดกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ? 

"คุณอยากได้ตัวใหนอีก" ชินพัตน์ถูกเรียกสติกลับมา

"อ๊ะ  อ้อ  เอาตัวสีดำนั้นอ่ะ " ชินพัตน์รีบทำตัวปกติ

"ครับ" และนนทนัฐก็จับมือชินนพัตน์ตักปลาทองสีดำปลอดตัวสุดท้ายขึ้นมาได้ก่อนกระดาษจะขาด

"ตักได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ" ชินพัตน์ก้มลงดูขันใบย่อม ที่มีปลาแวกว่ายไปมากว่า ถึง 8 ตัว


"พี่ๆ ตักเก่งจังเลย ผมตักไม่ได้สักตัวเลยอ๊ะ" เด็กน้อยที่ดึงขาเกาเกงนนทนัฐพูดขึ้น

"อยากได้ปลาไปเลี้ยงเหรอครับ"นั่งยองๆเพื่อให้เด็กน้อยไม่ต้องเงยหน้าคุย

"ครับ แต่ผมยังตักไม่ได้เลย แม่ให้เงินมาแค่ 20 บาทอ่ะ"ทำหน้าตาเศร้า

"......................"ชินพัตน์และนนทนัฐมองหน้ากัน

"อ๊ะพี่ให้ เลี้ยงและดูและดีๆนะครับ "  ชินพัตน์ส่งขันปลาให้เด็กน้อยตรงหน้า

"เดี๋ยวครับ " นนทนัฐเดินไปขอถุงใส่น้ำประมาณค่อนถุงและอัดก๊าซออกซิเจนจากที่ร้าน และที่ช้อนปลาเล็กๆมาตักปลา ทองตัวโตกับปลาทองสีดำสนิทขึ้นมาใส่ถุง และยืนขันปลาที่เหลืออีก 6 ตัวให้เด็กน้อยไป

"คุณไม่ว่าอะไรนะ"นนทนัฐหันขึ้นมาถามชินพัตน์เพื่อความแน่ใจ

"อืม แล้วแต่คุณสิ คุณเป็นคนตักมาอ่ะ" ชินพัตน์ยิ้มกลับ

"เอาที่เหลือพี่ให้นะ ไปให้พี่เขาใส่ถุงให้สิ" นนทนัฐบอกเด็กน้อย

"ขอบคุณครับ "ยกมือไหว้และวิ่งหายไปเลย




"คุณอยากเอาไปเลี้ยงเองเหรอ" ชินพัตน์ถามขึ้นเมือเดินออกมาจากร้านตักปลา

"อืม อ๊ะผมให้คุณ"

"ให้ผม ทำไม"

"ก็คุณออกเงิน"

"ไม่ๆ แต่คุณเป็นคนตักได้นะ"

"โอเค งั้นเราแบ่งกันคนละตัวดีมั้ยครับ"

"โอเอ งั้นก็แฟร์ดี"

"ผมขอตัวสีดำ"นนทนัฐชิ่งพูดข้นก่อน

"อ๊ะ อ้าวคุณตัวนี้คุณตักให้ผมไม่ใช่เหรอ"

"ใช่ครับ ก็มันเป็นปลาของคุณ แต่ผมจะเอาไปเลี้ยง ส่วนที่นี้ปลาของผมคุณก็เอาไปเลี้ยง นะครับ" ส่งยิ้มพิฆาตกลับมาอีกแล้ว

"อะ อืม อืม กะ-ก็ได้" ชินพัตน์รับมาแบบไม่เข้าใจ แต่ทำให้ใบหน้าเห่อร้อนๆอย่างไม่รู้ตัว


                        พอจะกลับมาขอถุงเพิ่มอีกใบเพื่อแบ่งปลากัน ก็ต้องเจอกับเรื่องที่ทำให็ชินพัตน์อารมณ์เสียขึ้นมาอีก เพราะเห็นเด็กคนที่เข้ามาขอปลาไป กำลังเทปลากลับเข้าไปที่ บ่อปลาของที่ร้านนั้น แล้วเจ้าของร้านก็ยื่นเงิน เหรียญ 10 ให้เด็กคนนั้น ชินพัตน์โมโหจะเดินเข้าไปเอาเรื่อง แต่นนทนัฐดึงตัวเอาไว้ก่อน

"ใจเย็นๆนะครับ"

"แต่คุณ เราอุตสาให้นะ เขาทำแบบนี้กับเราได้ยังไง"

"คุณฟังผมนะ ผมกับคุณตั้งใจให้ไปแล้วใช่มั้ยครับ"

"อืมๆ มันก็ใช่ " ตอบแต่ก็ยังติดเสียความรู้สึกอยู่

"นั้นแหละครับ หลังจากที่เราให้ไปแล้ว เขาจะเอาไปทำอะไรต่อก็ช่างเขาเถอะครับ "

"แต่ว่า...."

"นะครับ ถือว่าทำทาน อย่าจองเวร กรรมมันติดจรวดเร็วจะตายจริงมั้ยครับ พวกเราอยู่ภายในวัดด้วยนะครับ "

"................." ชินพัตน์ต้องทึ่งกับคำพูดของคนตรงหน้าอีกแล้ว ทำไมดูมีเหตุมีผลมากกว่าตัวเขาเองซะอีก

ความคิดแบบผู้ใหญ่งั้นสินะ

"นะครับ ใจเย็นๆ นะ  ไปเดินดูร้านอื่นต่อเถอะครับ" นนทนัฐยังเห็นชินพัตน์เอาแต่นิ่ง นึกว่ายังโมโหอยู่ เลยอยากที่จะให้สบายใจพาเดินเที่ยวต่อ


"คุณ!!!"


"ครับ?"

"คุณอายุเท่าไร"

"เอ๊ะ อายุผมเหรอ "นนทนัฐงงหันนิ้วชี้มาทีตนเอง เมื่อโดนถาม

"อืม ๆ นั้นแหละ"

"26 ครับ ผมทำไมเหรอ? หรือผมพูดมากไปเหมือนสอนคุณเหรอ  ผมเปล่านะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นนะครับ ผมขอโทษ"

"เปล่าๆ ผมก็แค่อยากรู้ขึ้นมาเฉยๆนะ ไม่ต้องคิดมากน่า" ชินพัตน์ดูท่าที่ร้อนร้นของคนตรงหน้าแล้วดูตลกมาก หลบหน้าไปซ้อนขำแถบไม่ทัน

"แต่คุณไม่มองหน้าผมเวลาคุยเลย ไม่ให้ผมคิดมากได้ไง "นนทนัฐพยายามก้มหน้ามามองตาคนที่เอาแต่หลบซ้อนใบหน้าที่เปื้อนยิ้มกลั้นขำตัวเองที่ไม่รู้อะไรเลย

"หึ อึก  เปล่าๆผมไม่ว่าอะไรคุณสักหน่อย" พอตั้งตัวกลับมาตอบคนที่เอาแต่กลัว  ชินพัตน์เริ่มสังเกตุว่า เหมือนจะเดินกลับมา ทีร้านค้าร้านแรกที่เดินเข้ามาซะแล้ว

"นี่คุณ พวกเราเดินวนกลับมาที่เดินหรือเปล่า ผมจำร้านขายตุ๊กตานี้ได้อ่ะ" 

"จริงด้วยครับ พวกเราเดินจนครบหมดงานแล้วเหรอเนี้ย เอ๊ะหรือพวกเราเดินผิดทาง"

"ผมว่าไม่ได้เดินผิดหรอกคุณ ดูเวลาสิ" ชินพัตน์หยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา

" 5 ทุ่มกว่าแล้วเหรอครับ?"

"อืมผมคงต้องกลับแล้วล่ะ ไม่ได้บอกที่บ้านว่าจะกลับดึกขนาดนี้ด้วย"

"เออ ครับ" นนทนัฐรู้สึกเสียดายเมื่อคนตรงหน้าบอกว่าจะกลับ

"งั้นกลับกันเถอะครับ ขับรถดึกมันอันตราย"


                               


"คุณเดินนำไปก่อนนะผมขอไป....ห้องน้ำก่อนเดี๋ยวผมเดินตามไป"นนทนัฐเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"อืมๆ ไปสิ"ชินพัตน์รับคำแล้วเดินออกไปรอหน้าวัด




                              ชินพัตน์เดินมองดูร้านค้าที่ยังมีลูกค้าเยอะอยู่พอสมควรถึงแม้จะดึกมาแล้วก็ตาม  เดินออกมาจนถึงหน้าประตูวัด ตอนนี้ไม่มีเสียงจากลำโพงที่ติดตั้งอยู่หน้าวัดแล้ว แต่เสียงที่ดังคงอยู่ที่เวทีแสดงดนตรีของนักร้อง แต่ชินพัตน์ไม่สนใจที่จะเดินไปดูแค่อยากมาเดินเที่ยวงานเท่านั้น  ยืนคิดและมองปลาทองที่ว่ายไปมาภายในถุง ก็ทำให้นึกถึงคนที่บอกความรู้สึกออกมาแบบตรงๆ ทำให้ใบหน้าของชินพัตน์ระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมนะ หลังจากนี้พวกเราจะเป็นยังไงต่อไป

                         

"ขอโทษครับ ครับรอนานมั้ย" นนทนัฐที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหา

"ไม่หรอก แล้วนั้นถุงอะไรอ่ะ แอบกลับไปซื้ออะไรมาอ่ะดิ ใช่มะ"  ชินพัตน์ถามแซวขึ้นเมื่อมองเห็นถุงหูหิ้งสีทึบใบใหญ่ที่นนทนัฐถือติดมือกลับมาด้วย

"อ้อ อ่ะ  ครับ  แหะๆๆ"  นนทนัฐไม่ตอบ เอาแต่หัวเราะแก้เขิน


                            ทั้งสองเดินกลับ มาตามทางเดินที่ยังคงมีไฟสี ของทางวัด ติดอยู่ตรงเสาไฟตลอดทาง ทำให้เดินได้อย่างปลอดภัย และเดินมาถึง หน้าตึกพานิชณ์ 4 ชั้น ขนาดใหญ่ 8 คูหา หน้าถนนใหญ่  พร้อมเข้าจองอีกไม่กี่วัน มองดูแล้วหมือนจะทำขึ้นมาเพื่อจะรองรับการเจริญเติบโตของชุมชนเมืองได้ดี  ชินพัตน์มองดูเมื่อเดินผ่าน และหันมองคนที่เป็นผู้รับผิดชอบคุมงาน ที่เดินมาพร้อมกันอย่างภูมิใจ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำงานออกมาได้ดี

"เปิดจองวันใหนเหรอคุณ" 

จากที่เดินเงียบกันมานาน ชินพัตน์ก็ถามขึ้นมาเมื่อเดินผ่านพ้นอาคาร ทั้ง 2 อาคาร

"ต้นเดือนหน้าครับ "

"น่าสนใจดี ติดถนนใหญ่ มีราคาคนกันเองมั้งมั้ยคุณ หึหึ" ชินพัตน์ถามที่เล่นที่จริง

"เอ๊ะ?" นนทนัฐงง คนกันเองเหรอ?


"เปล่าๆผมล้อเล่น  ว่าจะสอบถามราคาไว้ก่อน ซื้อผ่านคนที่คุมงานน่าจะได้ราคาถูกนะ หึหึ"

"เดี่ยวผมคุยให้นะ ถ้าคุณสนใจ"

"ขอถามคนที่บ้านก่อนแล้วกัน ผมกลับก่อนนะ" ชินพัตน์เดินมาถึงรถของตนเองพอดี

"คุณ"

"ว่าไง"

"ผมขอเป็นเพื่อนกับคุณได้ใช่มั้ย" นนทนัฐยังไม่กล้าเข้าข้างตนเองจนเกินไป เลยถามเพื่อความแน่ใจ

"อืม ก็เพื่อนกันแล้วนี้นะ เดินเที่ยวงานวัดเป็นเพื่อนแล้วไง" ชินพัตน์ตอบตกลงง่ายๆ คิดว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด กว่าการที่จะตอบรับความรู้สึกของคนตรงหน้า มันเร็วเกินไป ขอทำความรู้จักกันให้มากว่านี้อีกสักหน่อย และทำความเข้าใจเรื่องของความรู้สึกชอบพอ คงได้คำตอบที่ชัดเจน

"ขอบคุณครับ "ส่งยิ้มกลับ

"อืม ผมกลับก่อนนะ" จนทำให้ชินพัตน์อยากยิ้มตามแต่ต้องเก๊กหน้าไว้ ใจเย็นๆ

"ชินครับ"นนทนัฐยังไม่อยากให้คนตรงหน้ากลับ

"ว่าไงอีกคุณนนท์??" ชินพัตน์เริ่มเสียงแข็งเพราะคนที่เขาแต่เรียก

"ดีใจจังคุณเรียกชื่อผมแล้ว" ยิ้มดีใจจนตาหยี

"อะไรของคุณ?" ชินพัตน์ขวมดคิ้วกับร้อยยิ้มนั้น

"นี้ครับผมให้ เนื่องในวันที่เรา 2 เป็นเพื่อนกันครับ" นนทนัฐดึงตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ออกมาจากถุง ขนฟูสีน้ำตาลน่ากอด

"เฮ้ยคุณ!!!  นี้คุณกลับไปซื้อเจ้าตัวนี้มาเหรอ ฮ่าๆๆ ไม่อายหรือไง?" เมื่อเห็นตุ๊กตาก็ดีใจและตกใจเพราะมันน่ารัก และตัวใหญ่น่ากอดมาก  และแซวคนที่กล้าไปซื้อมาด้วย

"ก็อายครับ แต่ผมอยากซื้อให้คุณ"

"อืมๆ ขอบใจ ผมกลับก่อนนะ มันดึกมากแล้ว"อยากที่จะรีบซ้อนใบหน้าที่เลือดมันซูบฉีดขึ้นเต็มไปหมด

"ขับรถดีๆนะครับ"ส่งยิ้มเล็กๆ

" คุณนนท์ก็กลับเข้าไปในบ้านพักเถอะ"

"ยังครับ ผมยืนส่งคุณก่อน"

"โอเค งั้นผมไปแล้วนะ " ชินพัตน์พาตนเองเขาไปภายในรถ มองออกมายังคงเห็นนนทนัฐที่ยืนมองตนเองอยู่อย่างนั้น


ขับรถกลับบ้านได้แล้วเจ้าชินพัตน์ นั่งบื่ออะไรอยู่   จะมองเขาทำไม  รออะไร


นั้นไงเดินมานั้นแล้ว

ก๊อก ก๊อก   

ต้องกดปุ่มเลื่อนกระจกลง

"รถเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" นนทนัฐสงสัยทำไมชินพัตน์ไม่ขับรถออกไปสักที

"อ้อ ป่ะ เปล่า คือผมว่า ผมหาที่วางเจ้าหมีอยู่มันตัวใหญ่มาก หาที่วางยากนะ ไม่มีอะไรหรอกคุณ"

"ครับๆ งั้นกลับดีๆนะครับ"

"ครับ ครับ"

 กระจกกำลังจะเลื่อนขึ้น

"ชินครับ ฝันดีนะครับ"

"อะ  อืม อืม" 


                  ขับรถออกมาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แบ่งปลาทองให้กับเจ้าของตุ๊กตาหมี ที่รับหน้าที่เป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ตอนนี้











                                          :katai4:       มาแล้วจ้า ตอนที่  29 อ่านต่อเนื่องกันไปเลย ค่า

                                      ขอบคุณทุกคนที่อ่านนิยายของมินมิน ติชมได้นะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นค่า


                       :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:





ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอิ้กกกกกกก!!! อิ่มแปร้เลย คนแต่ง ขอบคุณคร้าบบบบบ :katai2-1:

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
เอิ้กกกกกกก!!! อิ่มแปร้เลย คนแต่ง ขอบคุณคร้าบบบบบ :katai2-1:


   ยินดีค่า ขอบคุณที่อ่านนิยายของมินมินนะคะ



ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
มันจะไม่ถอยหลังอีกแล้วใช่มั้ย??
เดินหน้าไปยาวๆเลยจ้าาา

แต่เดี๋ยวคุณนนท์จะย้ายแล้วสินะ

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0




                                                        ตอนที่ 30 มาทำอะไรกันแต่เช้า



                      นพคุณเตรียมตัวที่จะไปบ้านน้องชายตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเช้า เรียบอาบน้ำแต่งตัว เตรียมของที่ตนเองเตรียมไว้ตั้งแต่วันจันทร์ไปเก็บไว้ที่เก๊ะเก็บของตรงหน้ารถ แล้วตรงดิ่งไปบ้านน้องชายทันที น้องชายยังไม่แงะร่างออกจากที่นอนเลย รู้จากผู้เป็นป้าว่าเมื่อคืนแอบไม่เที่ยวใหนมากลับดึกมาก  นพคุเลยต้องอาสาเป็นคนไปงัดออกจากที่นอนเอง



"เช้าชิน ตื่นได้แล้ว" นพคุณดึงผ้าห่มออกจากตัวน้องชาย

"อืม  ....."เหมือนจะรับรู้แต่ก็ดึงผ้ากลับไปคุมตัวอีก

"เจ้าชิน ตื่น ตื่น ต้องไปรับยายกันต้นนะ"

"......."ชินพัตน์ค่อยๆหมุดออกจากผ้าผม ขยี้ตามองหานาฬิกา "โธ่พี่ ยังไม่ 7 โมงเลยจะรีบไปใหนอ่ะ" มุดเข้าไปในผ้าห่มต่อ

"ก็รีบไปช่วยยายเก็บผักไง  เร็วๆตื่นเลย ถ้านายไม่รีบลุก งั้นพี่ไปก่อนนะ"

"................................"

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขมราท่านเรียก

"ตามใจงั้นพี่ไปก่อนแล้วกัน แต่อยากไปสายนะ" นพคุณสายหัว แต่ก็เข้าใจเพราะตนเองก็รีบมาจริง แต่ใจของเขาไปอยู่ที่บ้านสวนแล้วตอนนี้ 


               เดินลงมาบอกป้าว่าจะไปช่วยยายเก็บผักก่อน และให้ป้าช่วยขึ้นไปปลุกน้องชายอีกครั้งด้วย  ก่อนที่จะขับรถคู่ใจออกไปยังท้องถนนที่คุ้นเคย ป้าที่เดินออกมาส่งหลานชายก็ยังไม่วายแปลกใจ ที่หลานชายตนเอง รีบร้อนไปใหนแต่เช้าเพราะเจ้าลูกชายของตนเองจะออกไปตอนสายๆ ทุกครั้ง แต่ไหงวันที่ถึงไปเร็วผิดปกติ


เอี๊ยด


เสียงรถจอกหน้าร้าน ทำให้คนที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหันกลับมาดูว่าใครมาแต่เช้า



"สวัสดีครับ"

"สวัสดีจ๊ะ มาแต่เช้าเลย ร้านเปิดตอน 9 โมงจ๊ะ"

"อะ เออ เหรอครับ" จริงๆแล้วไม่ได้อยากมาที่ร้านครับ ผมอยากมาเจอเจ้าของร้านตากหาก

"ทานข้าวเช้ามาหรือยังจ๊ะ เดี๋ยวทานด้วยกันเลยนะ แม่กำลังทำอยู่ เข้ามารอข้างในก่อน"

"เออ รบกวนหรือเปล่าครับ"

"ไม่หรอกจ้า  เข้ามานั่งข้างในก่อน  ตาชินยังไม่ตื่นเลย ไม่รู้ไปแอบเที่ยวที่ใหนกลับมาซะดึกเลย"

"อะ คะ ครับ" ยิ้มแห้งๆ ไปเที่ยวกับผมเองครับ

"งั้นเดี๋ยวแม่ไปตามตาชินก่อนนะ"

"เออ ไม่เป็นไรครับ ให้เขานอนไปก่อนก็ได้ครับ ผมคงมาเร็วเกินไปเลย......"

"เอานี้งั้น มาช่วยแม่ทำกับข้าวดีกว่านะ"

"เออ ได้ครับ "ยิ้มตอบรับเหมือนอีกฝ่ายแสดงความเป็นกันเองกับเขาถึงขนาดนี้



                   นพคุณขับรถมาถึงหน้าทางเข้าบ้านยาย อย่างอารมณ์ดี ตอนนี้แดดกำลังเริ่มออกแล้ว 7 โมงกว่าแล้ว ตอนนี้ยายและต้นคงกำลังช่วยกันเก็บผักอยู่แน่นอน  พอนึกขึ้นได้ก็รีบลงจากรถไปช่วย  เดินไปทางหลังบ้าน มองไปยังสวนผัก ที่มีผักมากมายหลายชนิด เห็นคนที่อยากเจอกำลังก้มเก็บผักอยู่ไกลๆ เลยรีบเดินไปหา



"อ้าว พ่อหนุ่ม มาแต่เช้าเลย" ยายทักขึ้นมาก่อนที่นนพคุณจะถึงตัวต้นกล้า

"สวัสดีครับยาย ผมรีบมาช่วยเก็บผักไงครับ" นนพคุณรีบหันไปตอบ เมื่อเห็นยายเดินถือตะกร้าใส่ผักเดินมาหา

"อ้าวพี่ มาทำไมแต่เช้าอ่ะ" ต้นกล้าที่ได้ยินเสียงพูดคุยก็เงยหน้าขึ้นมามอง และทักทายคนมาใหม่อย่างแปลกใจ

"ก็พี่รีบมาช่วยเก็บผักไง จะได้มีขายเยอะๆ"

"ครับ "ยิ้ม และหันไปชะเง้อมองด้านหลัง" แล้วพี่ชินล่ครับ ยังไม่ลงมาจากรถเหรอ หรือว่ามีของต้องยกลงหรือเปล่า"

"ไม่มีครับๆ ชินมันยังไม่มามันมาสาย พอดี เออ มันไปทำธุระนิดหน่อยเดี๋ยวก็มา" แหะๆ โกหกซะงั้น

"เหรอครับ  เมื่อวานพี่ชินไปรับต้นกลับมาบ้านด้วย เลยลองทำกล้วยปิ้ง น้ำกระทิไว้ให้พี่ชินลองกินอ่ะ ยังไม่มาก็ไม่เป็นไร"

           ต้นกล้าตอบรับและหันไปเก็บผักต่อ และพูดขึ้นลอยๆเพราะคนที่อยากให้มา ยังไม่มา  แต่คนที่ยืนอยู่ตอนนี้ หน้านิ่ว คิ้วผูกกันเป็นปม เมื่อรับรู้ว่า เมื่อวานน้องชาย มาหาต้นกล้าที่นี้  แล้วยังไปรับต้นกล้ากลับบ้าอีกด้วย  นพคุณเคยคิดอยากไปรับหลายครั้งแล้วแต่ไม่กล้า


หรือที่น้องชายกลับบ้านดึกเมื่อคืน มาอยู่ที่บ้านต้นเหรอ??


ยิ่งคิดยิ่งทำให้อารมณ์หงุดหงิดมากขึ้น



"พ่อหนุ่มกินข้าวเช้ามาหรือยัง ขึ้นไปกินบนเรือนก่อนสิ เจ้าต้นทำไว้เยอะแยะเลย"

"คะ ครับ" สติกลับมาเมื่อโดยเรียกถาม


ทำไว้ให้ใครตั้งเยอะแยะ?


"ยาย เดี๋ยวต้นขึ้นไป จัดข้าวให้พี่เขาเอง ยายก็ขึ้นไปพักก่อนเถอะ แล้วค่อยลงมาใหม่"  ต้นกล้าเก็นมาพยุงยายขึ้นบ้าน และรับอาสาเตรียมข้าวเช้าให้นพคุณ


"ไม่ทานด้วยกันเหรอครับ" นพคุณหันไปถามยาย ที่นั่งดื่มน้ำห่างออกไปนิดหน่อย

"ยายกินแล้วจ๊ะ พ่อหนุ่มกินตามสบายเลย"

"พี่กินเหอะ ต้นกับยายกินกันแล้วก่อนลงไปเก็บผักอ่ะ  นี้ต้นตำลึงผมทำเองนะ ไข่เจียวใส่หัวหอม ผัดผักรวม "

"อืม" นพคุณตอบรับสั้น และลงมือทานข้าวอย่างเงียบภายในใจมีคำถามเกิดขึ้นเยอะแยะไปหมด

"พี่ไม่อร่อยเหรอ?" ต้นกล้าที่เก็บสังเกตุว่าคนที่นั่งตรงหน้า นั่งกินเหมือนอาหารตรงหน้าไปม่ถูกปาก แต่ก็กินไปงั้นๆ

"เออ เปล่าๆ  อร่อยๆ" นนพคุณหลุดออกจากความคิด แล้วตั้งใจกินอาหารตรงหน้าเพื่อเอาใจคนทำ แต่ก็ยังไม่วายมีคำถามในใจอีกว่าทำให้ตนเองกินจริงๆหรือเปล่า หรือรอให้ใครมากินกันแน่

"ถ้าไม่อร่อย ต้นทำอย่างอื่นให้ก็ได้นะ พี่อยากจะกินอะไร" ต้นกล้านั่งลุ้น คนที่บอกว่าอยากกินต้มตำลึงที่ตนเองทำ แต่ก็ไม่เห็นมีปฎิกิริยาอะไรกลับมาเมื่อได้ลองทานไปแล้ว เอาแต่นั่งเหมอๆ ตอนกล้าเลยนึกว่าอาจจะไม่ถูกใจรสมือ ของตนเอง

"ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำเพิ่มหรอก พี่ใกล้จะอิ่มแล้ว" เพราะในจานข้าวเหลืออีกไม่กี่คำ

".................."เมื่อต้นกล้าฟังคำปฎิเสธ ก็ยิ่งไม่เข้าใจ เพราะปกติคนตรงหน้าทานเองมาก 2 จาน ขอเพิ่มข้าวตลอด แต่ทำไมวันนี้ทานแค่จานเดียว   ทำให้น้ำตารื่นขึ้นที่ตาของต้นกล้าอย่างห้ามไม่อยู่ ต้นกล้ารีบลุกหนี้เข้าครัวไปทันที  นพคุณเห็นท่าทีแปลก ก็เลยลุกตามไปที่ห้องครัวทันที

"ต้นเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า  ทำไมหน้าแดงๆ" ต้นกล้าที่เห็นคนเดินตามมา ก็รีบเช็ดน้ำตา และแกล้งทำเป็นดูน้ำกระทิที่ตั้งไฟอ่อนๆบนเตา

"ผมไม่ได้เป็นอะไร แค่รีบมาดูน้ำเชื่อมกระทิ" ไม่หันมามอง เอาแต่ค้นน้ำกระทิไปมา

"ทำไว้ให้เจ้าชินเหรอ"

"เปล่า ยายผมชอบกิน ผมเลยทำให้ยายกิน แต่แค่อยากให้พี่ชินมาลองชิม เพราะว่าเคยไปซื้อที่ บขส. ตอนที่ไปรับต้นเมื่อวาน แล้วมันอร่อยดียายชอบแบบนี้ ต้นเลยลองทำดู" ตอนกล้ายังไม่อยากมองหน้าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเลยหาเรื่องคุยไปเรื่อยๆ

"พี่เข้าใจแล้ว" นพคุณคลี่ยิ้มขึ้นทันที เมือรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจทำใให้น้องชายตนเอง งั้นลองถามอีกเรื่องที่สงสัยด้วยแล้วกัน

"วันนี้ทำไมทำกับข้าวเยอะจังเลย"

"พี่ไม่ถูกปากเหรอ บอกต้นมาตรงๆก็ได้นะ" ต้นกล้ารีบหันมาถามเพราะคนข้างหลังเปิดประเด็นที่ทำให้ตนเองน้อยใจขึ้นมา

"เปล่าอร่อยมากเลย " ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

"แต่เห็นพี่กินแค่จานเดียวอ่ะ" ต้นกล้าเหมือนจะดีใจเมื่อได้รับคำชมแต่คนตรงหน้าก็กินแค่นั้นจริง รู้สึกไม่ดีกับคำชมนั้น

"ใครว่า นี้ไงพี่จะเข้ามาตักข้าวเพิ่มนี้ไง"

"จริงเหรอครับ อิอิ ไม่เสียแรงที่ต้นตั้งใจทำตั้งหลายอย่าง อุ๊บ" ต้นกล้าตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที่ และก็คิดได้ว่าเผลอพูดอะไรแปลกออกไปรีบปิดปากตัวเองทันที่

"ทำไม หืม ตั้งใจทำให้พี่กินใช่มั้ย หืม" ต้นกล้าเห็นท่าทางดีใจและตกใจไปมาของคนตรงหน้ามันดูน่ารักมากๆ เดินเข้าไปใกล้แกล้งถาม

"ก็ ก็ ต้นเห็น ว่าพี่ กับพี่ชินจะมากินด้วยกันไง ต้นเลยทำไว้หลายอย่างอ่ะ "

"เหรอครับ  แล้วต้มตำลึงทำไว้ให้พี่หรือเปล่าน่า??? เพราะพี่พึงบอกใครบางคน ว่าอยากกิน"

"ก็ ก็  นั้นแหละ  ชิ  เอาจานมาเดี๋ยวต้นตักข้าวให้" ดึงจานออกไปแก้เขินเมื่อโดนจับได้  น่ารักน่าแกล้งเป็นบ้า 

นพคุณเดินเข้าไปหอมแก้มแดงๆนั้นอย่างแผ่วเบา แล้วกระซิบบอก

"ขอบคุณครับที่ทำให้พี่"  แล้วนพคุณก็เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องครัวไป ทิ้งให้ร่างที่ยืนแข็งเป็นหิน หน้าแดงๆ ตาโตๆ  ที่เมื่อเรียกสติกลับเข้าร่าง ก็เริ่มโวยวายตามหลัง   


"พี่ทำอะไรของพี่อ่ะ"  ต้นกล้าได้แต่เอาหลังมือตนเองมาลูบแก้มไปมาเหมือนเช็ดรอยสัมผัสที่ยังคงทิ้งไปไว้ ที่ทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบไปหมด

"ฮ่าๆๆๆ" นพคุณ ได้ยินแต่ไม่สนใจเดินมานั่งรอที่หน้าสำรับอาหาร อย่างอารมร์ดีที่ได้แกล้งคนในห้องครัว


                  นพคุณนั่งกินข้าวไปแอบมองหน้าคนที่นั่งอยู่กับยาย ที่เอาแต่ทำหน้างอน เมื่อมองหลับมาเห็นเข้ามองอยู่ก็ทำหน้าเมินหนี แกลังทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่เขารู้ว่า ต้นกล้าแอบมองเขากินข้าวตลอด เมื่อเขาสังเกตุเห็น ต้นกล้าก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้มอง  เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของนพคุณได้เป็นอย่างดี เพราะชอบใจในความน่ารักน่าเอ็นดูของคนตรงหน้า


"อิ่มแล้วใช่มั้ย ต้อนจะได้เก็บสำรับกับข้าว เอาแต่นั่งยิ้มอยู่ได้" ต้นกล้าที่เหมือนจะทนกับรอย ที่ส่งมาให้ไม่ไหวเลยเดินไปทำท่าจะเก็บสำหรับกับข้าว

"ต้น อย่าไปกวนพี่เขาจะกินข้าว" ยายดุขึ้นเหมือนเห็นต้นรีบเก็บ ทั้งๆที่อีกคนยังกินข้าวจานที่ 3 ยังไม่หมดจาน

"พี่ยังกินอยู่ครับ ต้มตำลึงใครทำน่า? อร่อยจังเลย "นพคุณแกล้งกระซิบชมให้คนที่เอาแต่ทำหน้าบึ่งฟัง

"อร่อย ก็กินให้ท้องแตกไปเลย ชิ" ต้นกล้าทำท่าจะลุง แต่โดนดึงมือไว้ก่อน

"ถ้าพี่ท้องแตกจริง ต้นต้องรับผิดชอบนะ" กระซิบบอกคนที่แสนงอน

"ท้องของพี่ ต้นไม่เกี่ยว" ทำหน้าเมิน

"แต่กับข้าวที่ต้นทำให้พี่กิน มันอร่อยมากๆ จนพี่ท้องจะแตกจริงนะ"

"จริงเหรอ งั้นพี่ไม่ต้องกินแล้วก็ได้ ไว้ให้มันย่อยก่อน แล้วค่อยกินใหม่ตอนเที่ยง" ตอนกล้าฟังแล้วนึกว่าเรื่องจริง เลยบอกให้คนตรงหน้าหยุดกิน

"พี่ล้อเล่น อร่อยแบบนี้พี่จะกินคนเดียวไม่แบ่งใครหรอกนะ ฮ่าๆๆๆ" ใครนี้คิดไปถึงหน้าน้องชาย และกับมาหัวเราะล้อคนตรงหน้า

"นี้พี่แกล้งผมอีกแล้วนะ!!! ชิ ไม่คุยด้วยแล้ว เก็บเองแล้วกัน" ต้นกล้าหน้าร้อนขึ้นมาทันที่ เมื่อรู้ว่าโดนแกล้งอีกแล้ว เดินหนีทิ้งให้คนตรงหน้าหัวเราะชอบใจ


                      ชินพัตน์ตื่นขึ้นมา เมื่อนาฬิกาที่ตนเองตั้งเวลาไว้ปลุก  8 โมงครึ่ง พาร่างกายงัวเงีย ผมเผาชี้ฟู เข้าไปอาบน้ำ ตอนที่อาบน้ำก็ยังคิดในใจว่าพี่ชายตอนเองก็รีบไปใหน ปกติออกสายกว่านี้ เพราะไม่ต้องไปรีบช่วยยายเก็บผัก เพราะต้นกลับมาจาเรียนแล้ว บวกกับที่ตัวเขาเองกลับดึกมาก กว่าจะถึงบ้าน ก็เกือบๆ ตี 1 แล้วกล้าจะได้เข้านอน เพราะต้องหาที่อยู่ให้กับเจ้า ปลาทอง 2 ตัวนั้นอีก ยิ่งทำให้นอนดึก  พอมาโดนปลุกแต่เช้าแบบนี้ เลยไม่อยากจะตื่น  พอออกจากห้องน้ำแต่งตัว ก็เดินไปหาโหล่ปลา บ้านใหม่ของเจ้าปลาน้อย  ต้องยกลงไปข้างล่าง เพื่อที่จะพาอีก 1 ตัวไปส่งเจ้าของ เดินลงบันไดมา ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันในครัว


ใครกัน ?



"เฮ้ย!!!!  คุณมาทำไมแต่เช้า!!!????"






       


                                                     ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆ หมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!  :laugh:


                                   ตอนนี้ขอคู่รองมาเรียกเรทติ้งบางเดี๋ยวจะ ลืมคู่น้องต้นกับพี่ใหญ่ไปซะก่อนจ้า


            :กอด1:      ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านนิยายของมินมินนะคะ  ฝากติชมเป็นกำลังใจให้มินมินด้วยค่า



                                                           กราบงามๆแบบแม่ค้าลูกชิ้น 




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
คู่นู้นนี่บรรยากาศฟรุ้งฟริ้งจริงๆ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่านพคุณจะไม่ทำให้น้องต้นเสียใจนะครับ รักกันเร็วๆ นะ รอลุ้นอยู่

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มาทีได้อ่านจุใจกันไปเลย
นพนี่ก็นะชอบแกล้งต้นตลอดๆ
คุณนนท์รีบมาแต่เช้าเลยนะ
แถมตีซี้กับว่าที่แม่ยายอีกแน่ะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ริดถึงทนไม่ไหวเลยรีบมาหาที่บ้าน  ตอบแบบนี้ต้นกับชินจะเป็นไง  :-[

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0




            สวัสดีปีใหม่เพื่อนทุกคนนะคะ  ขอให้ทุกคนมีความสุขในปีใหม่นี้ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยๆกันทุกๆคนนะค่า


   :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 



                                                                ตอนที่ 31  เสื้อคู่



"เฮ้ย!!!!  คุณมาทำไมแต่เช้า!!!????"  ชินพัตน์ตกใจที่เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาอยู่ในห้องครัวกับแม่ของตนเอง โหลปลาแถบล่วงหลุดมือ ดีทีจับไว้ทัน


"...................."นนทนัฐหันไปมองคนที่โวยวาย แต่เมื่อเห็นว่าถือโหล่ปลามาด้วยก็รีบเดินไปช่วยถือไว้ เพราะคนตรงหน้าเหมือนจะทำหลุดมือเสียให้ได้


"โวยวายอะไรกัน ตาชิน ลงมาก็ดีแล้ว มานี้เลยแม่ยังไม่ได้จัดการเราเลย แอบไปเที่ยวใหน จะกลับดึกก็ไม่ยอมโทรมาบอก" ผู้เป็นแม่ต่อว่าลูกชาย และเดินไปลากตัวมานั่งที่โต๊ะกินข้าว


"ผมไปหายายที่สวนมาครับ แล้วที่ผม...(หันไปมองคนที่มาแต่เช้า). กลับดึก ผมแค่ไปเดินเที่ยวงานวัดมาครับแม่"


"ไปเที่ยวแม่ไม่ว่าอะไร แต่น่าจะโทรมาบอกกันบางพ่อกับแม่เป็นห่วงรู้มั้ย"


"ขอโทษครับ" ชินพัตน์ยกมือไหว้ผู้เป็นแม่


"อืมๆ ไปยกกับข้าวในข้าวมาไป" ผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้โกรธเคื่องอะไร แต่ที่พูดเพราะเป็นห่วงเท่านั้นเอง


"เดี่ยวผมไปยกให้เองครับ"นนทนัฐที่เงียบอยู่นาน วางโหล่ปลา ไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ และอาสาจะไปยกเอง


"ไม่เป็นไรจ๊ะ ช่วยแม่ทำกำข้าวแล้วต้องมายกอีก  เจ้าชินไปยกออกมา" หันกลับไปดุลูกชายที่ยังมองแบบงง

อะไรนะช่วยแม่ของเขาทำกับข้าวงั้นเหรอ?


"เดี๋ยวแม่ไปตามพ่อคนนะจ๊ะ"


"ให้ผมไปตามให้มั้ยครับ"นนทนัฐรับอาสา


"จะดีเหรอจ๊ะ"


"ให้ผมไปตามที่ใหนครับ"


"อ้อ จ๊ะ เดินไปด้านหลังนะจ๊ะ ออกประตูไป ก็จะ เจอโรงงาน ด้านหลัง น่าจะอยู่กับพวกคนงานนะจ๊ะ"


"ครับ เดี๋ยวผมไปตามให้ครับ" นนทนัฐรับคำแล้วลุกเดินออกไปตามทางที่ผู้สูงวัยกว่าบอก


"มาแล้วครับ แม่ทำแต่ของโปรดชินทั้งนั้นเลยอ่ะ ใจดีจัง"


"เปล่าเลย แต่ทำให้นนท์เขากินต่างหาก เขาบอกว่าชอบกิน แม่ก็เลยทำให้ ทั้งกระเพราลูกชิ้น ไข่เจียวลูกชิ้น ต้มจืดลูกชิ้น แล้วเห็นบอกว่าชอบยำลูกชิ้นด้วย "


"อ้าว ไม่เห็นมียำลูกชิ้นเลยอ่ะแม่"


"ก็เขาบอกว่าชอบยำที่ลูกชายแม่ทำให้กิน แม่ก็เลยบอกว่า งั้นเอาไว้ให้ลูกชายแม่ทำให้กินเองก็แล้วกัน" แล้วก็หันไปจัดจานบนโต๊ะไม่ได้สนใจลุกชาย ที่ตอนนี้ หน้าขึ้นสีเมื่อฟังคำที่แม่ตนเองบอก

"เออ แล้วเขาหายไปใหนแล้วครับ"


"อ้อ แม่ให้ออกไปตามพ่อนะ"


"แล้วเขาจะเดินไปถูกเหรอครับแม่?"


"ไม่รู้สิ หาเจอไม่ยากมั้ง" พูดติดตลก เพราะโรงงานก็อยู่แค่ข้างหลัง ไม่ได้ห่างไกลถึงขนาดจะหาไม่เจอ


"งั้นผมเดินไปดูหน่อยดีกว่า " ชินพัตน์รีบเดินออกจากประตูไปทันที ผู้เป็นแม่มองตามอย่างสงสัยท่าทางแปลกของลูกชาย ตั้งแต่เพื่อนใหม่คนนี้เข้ามาทำความรู้จัก


                                   ผู้เป็นพ่อเดินดูความเรียบร้อย และสั่งงานกับหัวหน้าคนงานอยู่ นนทนัฐที่เดินออกมาจากบ้านและเดินมาตามทางเดิน มองเห็นโรงงานขนาดกลาง จึงเดินเข้าไปภายใน และเห็นคนที่เดินมาตาม จึงเดินเข้าไปเพื่อทักทาย


"สวัสดีครับ" นนทนัฐเดินเข้าไปยกมือไหว


"อ้าว ลมอะไรหอบมาละเนี้ย"


"คือ คุณแม่ให้เข้ามาตามไปทานข้าวเช้าครับ"


"อ้อเหรอ ไปไป " เดินมาตบไหล่เพื่อลูกชายอย่างเป็นกันเอง


"มีธุระกับเจ้าชินเหรอ มาแต่เช้าเลย"


"อ่ะ เออ คือ จะมารับไปดูตึกเช่านะครับ"


"หืม? ตึกเช่าอะไรงั้นเหรอ"


"คือ พอดีผมเป็นคนคุมงานก่อสร้างตึก พาณิชย์ ใกล้ตลาดที่คุณชิน ไปขายนะครับ ตอนนี้สร้างเสร็จแล้ว สามารถเข้าไปดูแล้วจองได้แล้วครับ" นนทนัฐตามน้ำไปก่อน เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้วนอกจากเรื่องนี้


"งั้นเหรอ เจ้าชินจะดูที่เอาไว้ขายของแล้วสินะ" คนเป็นพ่อเหมือนจะพอใจกับเรื่องที่เพื่อนของลูกชายเล่าให้ฟัง รีบเดินนำเข้าไปภายในบ้านเพื่อฟังจากปากลูกชายตนเองอีกครั้ง


"มาเลย กับข้าวพึ่งเสร็จกำลังร้อนๆ" แม่เห็นคนทั้ง 2 เดินมารีบชวน


"งั้นก็กินข้าวกันก่อนนะ ไว้คุยกันอีกที" หันไปคุยกับเพื่อนลูกชาย ทำให้ 2 แม่ลูกมองหน้ากันงงว่าคุยเรื่องอะไร


"โอ้วันนี้ ทำแต่กับข้าวของเจ้าชินทั้งนั้นเลยนะคุณ"


"ก็ไม่เชิง นนท์เขาบอกว่าชอบ ฉันเลยทำให้เขาทานนะ" ตอยสามีกลับไป


"อ้าวเหรอ ชอบเหมือนเจ้าชินเลยนะ" ผู้เป็นพ่อหันไปถามเพื่อนลูกชาย


"เอ่อ ครับ" ยิ้มรับแก้เขิน


"เอา ลงมือทานกันเถอะ ชอบก็ทานเยอะๆนะ" ผู้สูงวัยกว่าเริ่มต้นทานและหันไปคุยกับคนที่นั่งข้างๆ         



                                เมื่อทานมื้อเช้ากันจนอิ่ม ก็ย้ายกันออกมาหน้าร้านเพื่อดูพนักงานในร้านเตรียมของเพื่อเปิดร้าน  ขายของเตรียมวัตถุดิบ ของสดต่างๆ  วัตถุดิบหลักอยู่ภายในตู้แช่ ที่เอาไว้ทำขายในร้าน และขายปลีกให้กับลูกค้าที่จะซื้อกลับบ้านด้วย 



"เจ้าชิน เห็น นนท์บอกว่าจะไปดูที่เอาไว้ขายของเหรอ" พ่อถามขึ้นเมื่อลูกชายกำลังจะลุกออกไปดูของหลังรถ แต่ก็ต้องกลับมานั่งที่เดิม เมื่อเจอคำถาม


"เอ๊ะ ดูที่เหรอครับ"


"ใช่ ดีแล้วล่ะ พ่อว่าหาที่ลงของขายเป็นหลักเป็นแหล่งไว้ แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา"


"จริงเหรอตาชิน แบบนี้แม่ก็ว่าดี จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเวลาขับรถกลับดึกด้วย" ผู้เป็นแม่สมทบขึ้นทันที


"เออ คือผมจะไม่ได้ ตัดสิน เออ ใจเลย"


"ไม่ต้องลังเลอะไรเลยเจ้าชิน ไปดูที่วันนี้กับนนท์เขาซะ เย็นนี้พ่อต้องได้คำตอบ ไปไป๊ จะไปขายของก็รีบไป" พ่อเริ่มรำคาญลูกชายที่ไม่กล้าตัดสินใจ เลยตัดสินใจแทนและอยากได้คำตอบให้เร็วที่สุด


                                   ความลำบากใจตกอยู่ที่ชินพัตน์ ที่ยังได้ตกลงอะไรเลยว่าจะดูที่ทางขายของอะไรแบบนั้น เมื่อคิดได้ก็ขมวดคิ้ว และหันไปมองคนที่เดินตาม ต้นเหตุของเรื่องนี้ พ่อของเขาคงจะไม่รู้เรื่องนี้ถ้าคนที่เดินตามมาไม่บอกออกไปแบบนั้น



"นี้คุณนนท์  คุณบอกเรื่องนั้นกับพ่อผมทำไม"


"เออ ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับคุณพ่อคุณ ผมนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ผมเลยเผลอพูดออกมา แต่ผมไม่รู้ว่าคุณยังไม่ได้บอกพวกท่าน"


"โธ่เอ้ย!!!!"  ชินพัตน์หงุดหงิด แต่ก็ไม่รู้ว่าหงุดหงิดใคร  จะหงุดหงิดพ่อแม่ตนเองที่อยากจะให้เขามีที่ขายของเป็นหลักแหล่ง  หรืออีกคนที่ ยืนทำหน้าสำนึกผิดที่พูดอะไรออกไปอย่างไม่รู้ตัว  แต่ที่ผิดน่าจะผิดที่ตัวเขาเองนั้นแหละ ไม่น่าไปพูดเล่นเรื่องจะขอจองที่ไปแบบนั้น  หงุดหงิดโว้ย!!!!!!  ขยี้หัวตัวเองไปมา


"ชิน ผมขอโทษ เดี๋ยวผมเข้าไปอธิบายให้คุณพ่อคุณฟังเองนะ  "นนทนัฐเห็นอาการหงุดหงิดของคนตรงหน้า เพราะตนเองเลยอยากจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้


"ไม่ต้องหรอกคุณ ยังไงสักวันพ่อผมเขาก็ต้องให้ผมหาที่ขายของจนได้ แค่วันนี้มันมาเร็วเกินกว่าที่คาดไว้เท่านั้นเอง" ชินพัตน์ที่เหมือนจะยอมรับสภาพแล้วว่าตนต้องทำตามคำพ่อบอก อย่างปฎิเสธไม่ได้


" ผมขอโทษ" นนทนัฐก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี


"งั้นคุณก็ต้องรับผิดชอบ หาทำเลที่ดีให้ผมด้วยแล้วกัน" ชินพัตน์พูดจบก็เดินไปขึ้นรถคู่ใจ แล้วเตรียมจะขับออกไป แต่โดนเรียกไว้ก่อน


"ชิน คุณจะไปดูตึกกับผมใช่มั้ย"


"อืม  ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เย็นนี้ผมต้องมีคำตอบให้พ่อผม" ปิดประตูแล้วขับรถออกนำไปก่อน แล้วนนทนัฐก็ขับตามออกไป


                      นพคุณพายายกับต้นกล้ามาที่ตลาดนัดก่อน หน้าชินพัตน์พักใหญ่ เพราะนพคุณโทรไปบอกน้องชายว่า มาถึงตลาดนัดแล้ว น้องชายจะได้ไต้องเข้าไปแวะหาที่บ้านสวนอีกให้ตรงมาที่ตลาดเลย ไม่นาน ชินพัตน์ก็ขับรถเข้ามาเพื่อเอาของลง แต่ที่แปลกใจ ให้กับพี่ชายและต้นกล้า ก็คือ ลูกค้าประจำที่เดินตามรถของชินพัตน์มาด้วย เหมือนมาพร้อมกัน พร้อมทั้งช่วยยกของ จัดร้านอย่างคล่องเคล้ว


"มาด้วยกันได้ไงว่ะเจ้าชิน"


"คะ-ใคร มาพร้อมกันพี่?" ชินพัตน์ทำเป็นไม่เข้าใจคำถามของพี่ชายที่เดินเข้ามากระซิบถาม


"ของลูกค้าประจำนายไง "


"เจอกันหน้าตลาด ก็แค่นั้น" ตอบผ่านๆและหันไปจัดของต่อ


"..................."นพคุณมองตามน้องชายอย่างสงสัย และหันไปมองลูกค้าประจำของน้องชายอย่างไม่ค่อยเข้าใจ



"ผักสดๆ เยอะมากเลยนะครับ ปลูกเองทั้งหมดนี้เลยเหรอ?"นนทนัฐช่วยจัดของเสร็จ แล้วหันไปชวนยายกับต้นกล้าคุย


"ปลูกเองจ้า วันนี้เก็บได้เยอะเพราะมีคนช่วยกันเก็บหลายคนจ๊ะ" ยายตอบ


"วันหลัง ให้ผมไปช่วยเก็บด้วยนะครับ" นนทนัฐอยากลองเป็นหนุ่มสวนผักดูมั้ง


"จ้า จ้า"


"ยายตอนเย็นต้นของไปเดินเที่ยวงานวัดกับพี่ชินนะครับ"


"อืมไปสิ แต่อย่ากลับดึกมากนะเกรงใจพี่เขา"


"ขอบคุณครับ" ยกมือไหว้และรีบวิ่งไปหาชินพัตน์ นนทนัฐยิ้มเมื่อเห็นยายหลานพูดคุยเรื่องงานวัดที่ตนเองได้ไปเที่ยวมาเมื่อคืนกับคนที่ต้อนกล้าวิ่งไปหา


"พี่ชิน ไปทำธุระที่ใหนมาครับ ไม่มากินกล้วยปิ้งทุบที่ต้นลองทำ น้ำเชื่อมกะทิด้วยอ่ะ" ชินพัตน์เห็นต้นกล้เดินมาถามอย่างอ้อนๆ ก็ลูบหัวไปมา เพราะตนไม่ได้ไปที่บ้านสวนจริง


"พี่ก็ส่งพี่ใหญ่มาเป็นตัวแทนแล้วไงครับ หึหึ"


"ชิ   กินข้าวต้นหมดหม้อเลยอ่ะพี่ต้น" ต้นกล้าหันกลับไปมองคนที่โดนพูดถึง แล้วก็ฟ้อง


"นั้นแน่  แปลว่ากับข้าววันนี้ต้องอร่อยมากแน่ๆ พี่พลาดอะไรไปหรือเปล่า หืม"  ดึงแก้มที่เอาแต่ฟองลมเหมือนงอนๆ


"ต้นทำกับข้าวตั้งหลายอย่างรอพี่ชินไปกินอ่ะ  แต่พี่ชินก็ไม่มา"  พูดเสียงดังให้ใครบางคนได้ยิน และท้ายประโยค ก็ทำหน้าแกล้งเศร้า


"ครับๆ งั้นวันนี้ขอไถ่โทษด้วยนี้แล้วกัน"  ชินพัตน์ส่งถุงเสื้อที่ตนเองซื้อไว้เมื่อคืนให้ต้นกล้า


"ซื้อให้ต้นเหรอครับ"


"ครับ เปิดดูสิ ว่าชอบมั้ย" 


                  การกระทำของชินพัตน์และต้นกล้า อยู่ในสายตาของนพคุณและนนทนัฐ  ตลอดเวลาที่ทั้งคู่พูดคุยกัน โดนแอบฟังจากทั้ง 2 แต่ทำเป็นไม่ได้สนใจ แต่จริงๆแล้วอยากรู้มากๆ  และเห็นว่าให้ของกันด้วย ยิ่งทำให้อยากรู้ ขึ้นไปอีกว่าซื้อให้ในโอกาสอะไร 


               วันนี้ขายได้เยอะมาก ลูกค้ามาซื้อเป็นกิโลกลับบ้านเยอะมาก ทำให้ของที่เตรียมเอาไว้ขาย ไม่พอขายหน้าร้าน น้ำจิ้มเหลือ แต่ลูกชิ้นไม่มีปิ้งแล้ว  หมดตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง  เลยย้ายคนทั้งหมดไปจุกันอยู่ที่ร้าน ขายผัก  เพราะลูกค้าเข้ามาซื้อเยอะมากๆ เพราะผักวันนี้สดมากจริงๆ น่าจะเก็บไว้ทำอาหารได้หลายวัน ลูกค้าต่างพากันมาซื้อจำนวนมาก หลายๆอย่างรวมกัน  เพราะมั่นใจว่าผักร้านนี้ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงแน่นอน  และก็ขายหมดตอน 1 ทุ่ม


"วันนี้ขายของสนุกมาเลยอ่ะพี่ชิน"


"อืม ลูกค้าเยอะจริงๆเลยวันนี้"


"ขายหมดแล้ว จะได้ไปเดินเที่ยวแล้ว เย้ เย้" ต้นกล้าตื่นเต้นเพราะว่ากำลังจะได้ไปเดินเที่ยว ยังไงต้นก็ยังมีความเป็นนเด็กอยู่ในตัวเต็มเปี่ยม ถึงแม้จะพยายามทำตัวให้เป็นนที่พึ่งพาให้ยายก็ตาม


"งั้นรีบเก็บของกันเถอะ" ชินพัตน์รู้สึกเอ็นดูทำให้คิดถึงน้องสาวที่เรียนอยู่กรุงเทพขึ้นมา


"ยายครับ ไปเดินเที่ยวงานวัดด้วยกันมั้ยครับ"นนทนัฐเดินเข้าไปถามยายเมื่อยกของขึ้นรถเสร็จหมดแล้ว


" ไม่กว่าดี ยายขาแข่งไม่ค่อยดี คงเดินนานๆไม่ไหว"


"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขับรถกลับไปส่งให้ก่อนก็ได้ครับ" นนทนัฐอาสาและอยากที่จะรู้จักบ้านสวนของยายด้วย


"แล้วไม่เดินเที่ยวในงานเหรอ พ่อหนุ่ม"


"ผมไปเดินมาแล้วครับ  ให้ผมไปส่งนะครับ" นนทนัฐเดินพยุงยายไปด้วยชวนคุยไปด้วย

"จ้า แล้วแต่พ่อหนุ่มเถอะ"


 
                     แล้วทั้ง 5 คนก็ตกลงกันว่าจะเดินไป ส่วนยายและนนทนัฐจะนั่งรถกลับเลย ตามที่นนทนัฐอาสา ทุกคนก็ลงความเห็นตามนั้น  ตอนแรกต้นกล้าว่าจะกลับพร้อมยาย แต่ยายก็อยากให้ต้น ได้เดินที่เที่ยวงานอย่างที่ตั้งใจ กลับเป็นชินพัตน์ที่อาสาที่จะนั่งกลับไปบ้านยายเป็นเพื่อนนนทนัฐที่ยังไม่ชินพื้นที่แถวบ้านยาย 


"ต้นเดินเที่ยวไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปส่งยายแล้วจะรีบกลับมานะ ชินพัตน์บกอต้นกล้าที่เอาแต่ทำหน้าบึ่ง


"พี่ชินรีบกลับมานะครับ"


"ครับ ครับ"


"ต้นอย่างเดินเล่นเพลินนะเกรงใจพี่ๆเขา"


"ไม่เป็นไรครับ ยายเดี๋ยวผมส่งต้นถึงบ้านก่อน เที่ยงคืนแน่นอนครับ" นพคุณรีบตอบให้ผู้เป็นยายสบายใจ


"ขอบใจมากพ่อหนุ่ม"


"กลับกันเถอะครับยาย จะได้ผักผ่อนเร็วๆ " 2 ทุ่มครึ่ง ชินพัตน์อยากให้ยายได้ผักผ่อนเร็ว วันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว


                          นพคุณและต้นกล้ายืนมองยาย ชินพัตน์และนนทนัฐขึ้นรถขับออกไป จนลับสายตา แต่ก็ยังไม่มีใครเดินขยับไปใหน ยังยืนนิ่งเงียบ  จนนพคุณนึกสงสัยคนที่ตื่นเต้นอยากมาเที่ยวกลับ เงียบไม่กระตื้อรื้อร้นซะแล้ว



"ไป เดินเข้าไปที่วัดกันเถอะ" นพคุณเดินไปจะจูงมือต้นกล้าเพื่อจะเดินจากลานจอดที่ตลาดไปที่วัด


"...................."ต้นกล้าเงียบไม่ตอบรับและไม่ไห้นพคุณจับมือตนเองด้วย


"เป็นอะไรครับ งอนอะไรพี่ หืม" พยายามดึงมือคนที่เอาแต่เดินหนี


"ก็ วันนี้พี่แกล้งต้นทั้งวันเลยอ่ะ"


"หึหึ พี่เปล่าแกล้งนะ" หัวเราะชอบใจกับคนที่แสนงอนตรงหน้า


"ไม่แกล้งอะไร ที่ห้องครัว อ่ะ พี่แกล้งต้นทำไมล่ะ"ต้นกล้านึกถึงสิ่งที่คนตรงหน้าทำกับตนเองก็ทำให้หน้าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง


"ก็แก้มๆแดงตอนเขินมันน่ารักมากรู้มั้ย หืม"  แล้วก็ก้มไปหอมแก้มเด็กน้อยแสนงอนอีกครั้ง


"พี่!!!!!" ต้นกล้าตกใจเมื่อโดนขโมยหอมแก้มอีกแล้ว


"ว่าไงครับ หืม"  นพคุณดึงแก้มเล่นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว


"พี่แกล้งต้นอีกแล้วอ่ะ ไม่คุยกับพี่แล้ว ชิ" ต้นกล้าหน้าแดงไม่คิดว่าจะโดนแกล้งแบบเดิมอีก


"หึหึ "หัวเราะชอบใจเดินไปดึงมือ ต้นกล้ากลับมาที่รถตนเองอีกครั้ง


"ปล่อยนะต้นจะไปเดินเที่ยวคนเดียว" ต้นกล้าดึงมือตนเองให้หลุดจากคนที่เอาแต่แกล้ง


"เดี๋ยวค่อยไป พี่มีของจะให้"


"............................." ต้นกล้าหยุดนิ่งรอ


"นี้ครับ พี่ซื้อมาให้ต้นนะ พี่อยากให้ต้นใส่ไปเดินเที่ยวกับพี่ได้มั้ยครับ" นพคุณส่งถุงเสื้อที่ตนเองเตรียมซื้อไว้ส่งให้ ต้นกล้า


"ซื้อให้ต้นเหรอ? ซื้อพร้อมพี่ชินหรือเปล่า?" นพคุณขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อน้องชาย


"ต้นอยากใส่ ตัวนั้นก็แล้วแต่ต้นเถอะ" นพคุณเดินหนีออกมาทันที


"พี่  พี่เป็นแบบนั้นอีกแล้วนะครับ"ต้นกล้าวิ่งตามมาดึงเสื้อนพคุณไว้ให้หยุดเดิน


"ใหนพี่บอกว่าจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้วไง ฮึก" ต้นกล้าเริ่มจะร้องไห้เมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มทำอาการไม่พอใจตนเองขึ้นมาอีกแล้ว


"ต้นพี่ขอโทษนะ ไม่ร้องนะครับ  ต้นอยากจะใส่ตัวใหนก็ได้ พี่ไม่บังคับแล้วนะ ไม่ร้องนะครับ" ต้นกล้าฟังแบบนั้นก็พยายาม หายใจเข้าลึกๆเพื่อที่จะไม่ร้องไห้ออกมาอีก


"พี่อย่าโกรธต้นแบบนั้นอีกได้มั้ย"


"เปล่าๆ พี่ไม่ได้โกรธ  พี่แค่อยากเห็นต้นใส่เสื้อที่ต้นชอบ" นพคุณรีบแก้ตัวเพราะทำคนตรงหน้าเสียใจอีกแล้ว


"ต้น จะใส่เสื้อตัวนี้ รอต้นแปบหนึ่งนะครับ" ต้นวิ่งหายไปที่ห้องน้ำของตลาด นพคุณลูบหน้าตนเองเกือบไปแล้ว เกือบทำให้ต้นกล้าร้องไห้  เพราะนิสัยเสียๆของตนเองแท้ 


"มาแล้วครับ" จากใบหน้าที่เคร่งเครียดเมื่อครู่ เริ่มมีรอยยิ้มกลับมาอีกครั้งเมื่อเห็นคนตรงหน้าใสเสื้อลายน่ารักที่ตนเองเป็นคนเลือก


"น่ารักมากเลยครับ"


"ครับ" ต้นกล้าที่ล้างหน้าล้างตา แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ออกมา ยิ้มอย่างเขินเมื่อโดนชมตรงๆแบบนั้น


"ไปครับไปเดินเที่ยวที่งานกัน อ๊ะ เดี๋ยวรอพี่แปบนะ" นพคุณวิ่งกลับไปที่รออีกครังแล้วรีบวิ่งกลับมา


"พี่  ซื้อมาเป็นคู่เหรอครับ" ต้นกล้าเห็นสีและลายเสื้อที่เหมือนกัน แล้วก็ถามขึ้นอย่างอายๆ


"ครับ พี่อยากซื้อมาใส่พร้อมกับต้นไง" นพคุณก็ตอบออกไปแบบเขินๆเช่นเดียวกัน


"ขอบคุณนะครับ" ต้นกล้าพูดอ่อมแอมเสียงเบา


"หืม ว่าไงครับ" นพคุณเลยได้ยินไม่ชัดเลยต้องก้มหน้าลงไปถาม


"ต้นขอบคุณที่ซื้อเสื้อให้ต้นครับ"


"พี่ยินดีเสมอ"จับใบหน้าคนที่ตัวเล็กกว่าให้หันมาสบตา


"ไปครับพาพี่เดินเที่ยวงานหน่อย เป็นการตอบแทนได้มั้ย หืม"เปลี่ยนมาจับมือต้นกล้าและข้อร้องสิ่งตอบแทนเล็ก


"ครับ"  ยิ้มพราว แล้วรีบดึงมือนพคุณเพื่อรีบไปให้ถึงที่งานวัดไวๆ







 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


มีต่ออีกตอนที่ 32 นะคะ


                                                 

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0




                                              ตอนที่ 32  เดินเที่ยวงานวัดอีกครั้ง

 
                             ยายนั่งรถคันใหม่และสารถีคนใหม่พูดคุยเรื่องขายของที่ตลาด ร่วมไปถึงงานของสารถีหนุ่มด้วยว่า เป็นอย่างไรบางเลยรู้ว่างานที่รับผิดชอบสำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อย และเป็นช่วงเวลาพักยาวก่อนที่จะมีงานใหม่มา เลยมีเวลาออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้ได้ คนที่นั่งมาด้านเบาะหลังก็เป็นผู้ฟังที่ดี เก็บข้อมูลบางอย่างที่ตนเองไม่รู้ จนขับรถมาถึงบ้านยาย ข้นตะกร้าผักลงเก็บที่โรงเก็บของที่ประจำ


"ขึ้นมาบนบ้านก่อนสิจ๊ะ ไม่รีบใช่มั้ย" ยายชวนขึ้นบ้านเพราะหลานชายทำขนมไว้เยอะร


"คุณรีบหรือเปล่า ขึ้นข้างบนก่อนมั้ย" ชินพัตน์หันไปถามเพื่อนใหม่ที่ดูจะตื่นเต้นกลับบ้านสวน


"ไม่ครับ " ยิ้มแล้วเดินตามคนชวนขึ้นบ้าน


"นี้จ๊ะ เจ้าต้นทำไว้เยอะเลย ลองชิมดูสิจ๊ะ"ยายยกจานกล้วยปิ้งที่ทุบเรียบร้อย พร้อมถ้วยกะทิน้ำเชื่อม


"ต้นเป็นคนทำเองเหรอครับ" นนทนัฐลองชิมไป เมื่อรับรู้รสถึงความอร่อยหอมหวานไม่เลียน


"จ้า เห็นว่าอยากลองทำดู เห็นว่าไปซื้อที่ร้านมาแล้วติดใจ"


"ใช่ ผมลองไปกินมาแล้วครับ อร่อยมา ต้นทำได้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ" ยิ้มและชมหลานชายให้ยายฟัง


"ผมว่าแบบนี้ทำขายได้เลยนะครับ"


"อืม ก็ใช่แต่ต้นเขาไม่อยากให้ยายเหนื่อยที่ต้องมาทำอะไรเกินกำลังเพราะต้นไม่ได้ดูแลยายตลอดเวลานะคุณ"


"ยังเรียนอยู่สินะครับ"


"อืม คงจะคุยเรื่องนี้อีกที หลังเรียนจบ ใช่มั้ยครับยาย"


"ก็แล้วแต่เจ้าต้นจ๊ะ ยายไม่ค่อยเข้าในหรอกเรื่องเรียนนะ"



                                    คุยกันได้สักพัก ชินพัตน์กับนนทนัฐก็ขอตัวเพื่อให้ยายรีบผักผ่อน ต้องกลับไปหาต้นกล้าด้วยดูท่าทางรอนานแล้วจะงอแงแน่  ตลอดทางชินพัตน์นั่งข้างก็เริ่มถ้าเรื่องตึกที่ไปดูมาวันนี้ตอนช่วงสายๆกัยนนทนัฐ แต่มีอีกหลายจุดไม่เรียบร้อย เช่นขอบหน้าตาประตู และกระจกยังใส่ไม่เสร็จ เลยจะเข้ามาดูอีกครั้งเมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ แต่ก็เลือกคูหาแรกที่ใกล้ตลาดที่สุด ข้อมูลเพียงแค่นี้คงเป็นคำตอบให้กับผู้เป็นพ่อได้  แล้วันเปิดจองอาจจะให้ทั้งคู่มาดูด้วยกันอีกที่  หันไปมองคนขับที่นั่งเงียบตั้งแต่ออกมาจากบ้านยาย



"คุณจะไปเดินงานอีกหรือเปล่าหรือกลับไปห้องพักเลย"


"ผมยังไงก็ได้ แต่คุณจะไปเดินกับน้องต้นใช่มั้ย"


"อืม ต้นเขาบอกว่าจะพาเดินเที่ยวนะ "


"งั้นผมไปเดินด้วยแล้วกัน แวะไปดูเด็กร้านปลานั้นด้วย"


"เออใช่ คุณพูดขึ้นมาเลยนึกขึ้นได้ ทำไมคุณไม่ถ่วงผมล่ะ"


"ถ่วงอะไรครับ"


"ก็ปลาทองไง เมื่อเช้าผมว่าผมยกลงมาแล้วนะ แต่ก็ลมจนได้  ว่าจะลงมาใส่ถุงแล้วเอามาให้คุณตัวหนึ่ง"


"ผมว่าให้เขาอยู่คู่กันแบบนั้นแหละครับ อย่าแยกเลย อยู่ตัวเดียวมันจะเหงานะครับ" หันมามองคนที่ตั้งใจฟัง เหมือนสื่อความหมายที่มันต่างออกไปจากนั้น จนทำให้ชินพัตน์ต้องหันกลับไปมองทาง เลยไม่สังเกตุว่ารถมาจอดที่ลานจอดตั้งแต่เมื่อไร


"คุณจะจอดรถไว้ที่นี้เหรอ แล้วเดินไป"


"ครับ เมื่อพวกเราก็เดินไปนี้ครับ"


"อืม อืม" แล้วทั้งสองก็ลงจากรถ ชินพัตน์รีบโทรหาต้นกล้ากลัวต้นกล้าจะงอนที่ตนเองทำให้รอนาน แต่ฟังจากเสียงที่รับสายแล้วคงไม่ใช่แบบที่เขาคิดซะแล้ว ดูท่ากำลังสนุกแล้วเร่งให้เขาตามไปเร้ซด้วย


"พรุ่งนี้ผมแวะไปดูปลาที่บ้านคุณได้มั้ย"นนทนัฐถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายวางสาย


"อะไรนะ ?" ไม่แน่ใจในคำถาม


"ปลา ผมฝากคุณเลี้ยงไว้ก่อนแล้วกันนะครับ ถ้าคุณเบื่อพวกมันเมื่อไรผมจะไปรับมาเลี้ยงเอง" 


"เฮ้ยผมนะเซียนเลี้ยงปลาเลยนะ แค่ปลา 2 ผมเลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว" ชินพัตน์อยากจะอวดว่าตนเองเลี้ยงปลาเก่ง แต่เวลาให้อาหารไม่พ่อกับแม่เขา หรือคนในร้านที่คอยให้อาหารปลาตลอดไม่รู้เป็นยังไง


"ครับ" ส่งยิ้มแบบนั้นครับมาอีกแล้ว  ชินพัตน์พยักหน้ารับแล้วรีบเร่งฝีเท้าให้เดินถึงงานไวๆ



                                            ชินพัตน์เดินเข้ามาภายในวัดแต่ดูเหมือนวันนี้คนจะเยอะมากกว่าเมื่อวานซะอีก คิดในใจว่าจะหาต้นกล้าและพี่ชายของเขาไม่ง่ายแน่ เลยโทรหาก่อนเลยเป็นอย่างแรก เมื่อปลายสายบอกว่าอยู่โซนปาลูกโปร่งและตุ๊กตา ชินพัตน์ฟังแล้วก็นึกตามว่าอยู่แถวใหน เพราะเมื่อวานไม่เห็นเลย หรือว่าเขาเดินไม่ทั่วเองนะ เลยลองเดินหาไปเรื่อยๆ เริ่มสังเกตุคนที่เดินสวนไปมา อุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่บางเล็กบาง คงจะใกล้ๆแถวนี้ล่ะมั้ง



"คุณเดินหาน้องต้นเหรอ"


"อืม ต้นบอกว่าอยู่แถวซุ้มปาลูกโปร่งแลกกับตุ๊กตาอ่ะ แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่เห็นเลยล่ะ"


"เมื่อวานพวกเราคงเดินกันไม่ทั่วมั้งครับ" นนทนัฐเห็นท่าจะเดินหากันอีกนานเลยเดินเขาไปถามวัยรุ่นที่เดินกันมาเป็นกลุ่มที่อุ้มตุ๊กตากันคนละตัว


"น้องครับ ซุ้มปาลูกโปร่งอยู่แถวใหนครับ"


"อ้อ อยู่ใกล้แถวเวทีแสดงอ่ะพี่ มีตั้งหลายหลาย"


"ขอบใจนะ"นนทนัฐส่งยิ้มขอบใจวัยรุ่น


"ผมว่าเราเดินไปทางนี้แล้วกัน น่าจะอยู่แถวหน้าเวที"


"อืม จริงด้วยโซนนั้นเมื่อวานไม่ได้เดินไปเลย เพราะเสียงดนตรีมันดังมากอ่ะ"



                           ชินพัตน์เดินตามนนทนัฐไป พอพ้นบริเวณร้านที่ขายพวกเสื้อผ้า  ก็เจอกับเวทีขนาดใหญ่ ที่กำลังมีการแสดงของกลุ่มนักร้องลูกทุ่งหางเครื่อง เต้นกันยับเลย  และลานกว้างตรงหน้าเวทีก็มีโต๊ะให้กับคนที่เดินในงานจับจองดูดนตรี สั่งอาหารเครื่องดื่มมานั่งกิน  และร้านข้างๆ เครื่องดื่มนั้นเองที่ ยาวจนสุดทางเดิน ล้วนเป็นร้านปาลูกโปร่ง ด้วยลูกดอก  3 อัน 20 บาท และร้านรูปแบบคล้ายๆกัน อย่างเช่น ปากระป๋องที่เรียงไว้ ให้ตกให้หมดภายใน 2 ลูกบอลที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ เพื่อแลกกับตุ๊กตา  คล้องขอขวดที่นอนอยู่ ให้ตั้งขึ้น ครั้งละ 10 บาท แรกกับตุ๊กตาเหมือนกัน  โยนตะกร้าครอบขวด ปิงโก ยิงตุ๊กตาตัวเล็กๆ อีกมามายหลายร้านเดินไม่ทั่วจริงๆ 


"มาเล่นอยู่ร้านนี้เอง" ชินพัตน์ที่เห็นต้นกล้ากำลังยกขวดด้วยหวงที่มีเชือกรอยอยู่ อย่างสนุก ในมือพี่ชายตนเองมีแต่ตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อยเต็มไปหมด


"พี่ชินมาแล้วเหรอ ทำไมมาช้าจัง"


"พี่หาไม่เจออ่ะ กว่าจะเจอต้องถามคนอื่นเขานะ"


"เหรอครับ"


"โอโฮ้ พี่ใหญ่ นี้พี่เล่นทุกร้านเลยป่ะเนี้ย" หันไปแซวพี่ชายที่อุ้มตุ๊กกาเหมือนคนไปเดินช๊อบของแล้วลืมหยิบตร้ามา


"ผมช่วยถือครับ"นนทนัฐเดินไปช่วยดึงตุ๊กตาบางตัวที่เหมือนมันจะหล่นมาไว้แทน เลยทำให้เห็นสีและลายเสื้อที่เหมือนกันกับต้นกล้า


"เฮ้ยพี่  ตั้งใจป่ะเนี้ย ลงทุนเนอะ" เดิยเข้าไปดึงเสื้อพี่ชายแล้วแซวหนักขึ้น


"เรื่องของฉันน่า  ว่าแต่นายเหอะไปใหนกันมา ทำไมพึงมา"


"ก็เดินๆอยู่แถวนี้แหละพี่    .....ไม่อยากเป็นก้างคนแถวนี้" ลอยหน้าลอยตาตอบ แต่ท้ายประโยคก้มไปกระซิบให้พี่ชายคนเองได้อายเล่น


"เจ้าชิน  ไปเลยจะไปเดินดู ตรงใหนก็ไปซะ"


"ฮ่าๆๆๆๆ"  ชินพัตน์รีบหลบเท้าที่แกล้งทำท่าจะยกขึ้นมาเตะอย่างล้อเลียน หัวเราะท่าท่างเขินๆของพี่ชายตนเอง


"พี่ชินไปเดินกับต้นนะ ต้นพาไปตักปลาดีกว่า เมื่อกี้เดินผ่านมาเหนแล้วแต่ต้นรอพี่ชินมาก่อน"


"ต้นอยากเลื้ยงปลาเหรอ" นพคุณรีบพูดแทรก


"อืม ก็ไม่เชิงครับ แต่ต้นอยากลองตักดูยังไม่เคยลองเล่นเลย"


"ไปสิ  เดี่ยวพี่พาไป" ชินพัตนหันไปมองหน้านนทนัฐ และชวนต้นกล้าทันที


"พี่ชินพูดเหมือนเคยเมาเล่นแล้วเลยอ่ะ"


"อ่ะ  เออ  ก็เคยเล่นที่งานวัดแถวบ้านพี่นะ เนอะพี่ใหญ่เนอะ"ชินพัตน์รีบแก้ก่อนที่จะหาตัวช่วย


"พี่ก็อยากลองเล่นเหือนกันครับ"นนทนัฐเห็นสายตาขอความช่วยเหลือเลยพูดขึ้นมา


"ไปสิครับคุณนนท์ เดี๋ยวต้นจะตักให้ดูก่อนคนแรก"  แล้วก็พากันเดินไปยังร้านตักปลา ที่อยู่เกือบหน้าประตูทางเข้าวัดเลย



                                ชินพัตน์ให้ต้นกล้าลองตักดู แต่ต้นกล้าก็ตักไม่ได้เหมือนตนเองเช่นกัน เลยเปลี่ยนให้พี่ชายตนเองตักดูบ้างและก็ไม่ผิดหวัง ตักได้หลายตัว ทำให้ต้นกล้าตื่นเต้นใหญ่


"โอโฮ้ ตักได้ตั้งหลายตัวอ่ะ ต้นยังตักไม่ได้สักตัวเลย" ต้นกล้ามองดูขันปลาในมือนนพคุณ


"พี่ให้ต้น เอาไปเลี้ยงดีๆนะครับ" จะไม่ให้ตักเก่งได้ยังไง ก็มาฝึกตักปลาตั้งแต่วันจันทร์อ่ะ เป็นความลับนะ จุ๊จุ๊


"ขอบคุณครับ ให้ต้นหมดนี้เลยเหรอ" ต้นดีใจรับขันปลาทองมาอยู่ในมือ


"พี่ครับ ผมขอบางสิครับ วันนี้ผมตักไม่ได้สักตัวเลย" เด็กน้อยวิ่งมาดึงชายเสื้อของต้นกล้า
           


                       และก็เหมือนเดิมเด็กคนเดิม ที่ทั้งชินพัตน์และนนทนัฐยืนมองสังเกตุมาพักใหญ่วิ่งเขามาของปลาจากต้นกล้ากับพี่ชายของเขาแบบเดิม  ชินพัตน์เลยเดินเข้าไปพูดแทนเด็กคนในบทพูดเดิม



"หึ หึ  วันนี้ก็ตักปลาไม่ได้เหมือนเดิมใช่มั้ย "ชินพัตน์มองหน้าเด็กน้อย


"คะ ครับตักไม่ได้เลย  แม่ให้เงินมาแค่ 20 ก็หมดแล้วครับ" เด็กน้อนทำหน้าเศร้าสุดเพราะดูแล้วถ้าจะจำชินพัตน์กับนนทนัฐไม่ได้


"งั้นพาพี่ไปหาแม่หรือพ่อเราหน่อยได้มั้ย พี่จะเอาเงินให้เขาจะได้มีเงินไว้ไห้เราไว้ตกปลา"


"เรื่องอะไรกันเหรอครับ"ต้นกล้าเดินไปกระซิบถามนพคุณ นพคุณก็ได้แต่สายหน้าไปมาอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน


"เออ พ่อ(หันไปมองพ่อค้าร้านปลา) ไม่มาครับ แม่ก็ไม่มาครับ ผมมาคนเดียว" รีบแก้ตัว


"งั้นให้พี่พากลับบ้านมั้ย" ชินพัตน์ถามคำถามเด็กน้อย


"เอ่อ  เออ "


"มีอะไรกันครับ คุณลูกค้า" เจ้าของร้านตักปลาเดินมาที่กลุ่มพวกเขาเพราะเห็นมา ยืนมุงกลุ่มใหญ่บังหน้าร้าน พอเดินเข้ามาดูก็เห็นเด็กที่ต้นเองจ้างไว้ขอปลาจากลูกค้า เพื่อจะเอากลับมาลงบ่อ ให้ลูกค้าตักใหม่


"อ้อ คุณมาพอดีเลยครับ คุณรู้จักเด็กคนนี้หรือเปล่าครับ"


"เอ๊ะ อ่ะ  ไม่รู้จักหรอกครับ แค่เด็กมาเดินเที่ยวเฉย มีอะไรหรือเปล่า"


"พอดีจะพาเด็กกลับบ้าน เขาบอกว่ามาคนเดียว เงินก็ไม่มี อยากได้ปลาพวกผมก็อยากให้นะ แต่กลัวจะเอากลับไปไม่ถึงบ้านนะครับ"ชินพัตน์มองเจ้าของร้านปลาอย่างรู้ทัน


"ล่ะ แล้วไงครับ"


"หึหึ  ผมก็จะแจ้งตำรวจนะสิคุณ"


"เออ  คะ คุณจะจับเด็กเหรอครับ"


"ไม่หรอกครับ ผมจะจับคนที่เอาเปรียบคนอื่นต่างหากครับ"


"เอ่อ เอ่อ" 


             นนทนัฐเห็นท่าทางเกรงกลัวของเจ้าของร้านปลา เลยดึงตัวชินพัตน์ออกมาก่อน  และพาเจ้าของร้านไปคุย ด้านหลังร้าน สักพักก็กลับมา บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อย  เด็กคนนั้นก็วิ่งหนีหายไปใหนแล้ว ตั้งแต่ได้คิดคำว่าตำรวจ ชินพัตน์อยากจะเอาเรื่องแต่ก็ยังสงสาร ยิ่งเมื่อรู้ว่านนทนัฐอธิบายให้ฟังว่าพวกเรารู้วิธีการของทางร้านแล้ว ถ้ายังทำแบบเดิมอีก จะเรียกตำรวจมาจับ เพราะอ้างไปว่าถ่ายคลิปไว้แล้ว ทำให้เจ้าของร้านกลัว และรับปากว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก  สร้างความสงสัยให้กับต้นกล้าและนพคุณอย่างมาก


"พวกนายทำอะไรกันว่ะ งงไปหมดแล้วเนี้ย" นพคุณเปิดประเด็นถามขึ้นเมื่อเดินกันออกมาจากร้านปลา


"นั้นสิพี่ชินเรื่องอะไรกันเหรอครับ ดูสิได้ปลามาเยอะแยะเลย เจ้าของร้านใจดีจัง" ต้นกล้าสงสัยแต่ก็ยังไม่วายตื่นเต้นกับถุงปลาขนาดใหญ่ที่อักอากาศมาให้พร้อมปลาทองตัวอวบอ้วนหลาย 10  ตัว ยกขึ้นมาดูอย่างแปลกใจ


"ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ตักเตือนเล็กๆน้อยๆ" ชินพัตน์ทำท่าทางเต๊ะท่าเหมือนคนใหญ่คนโต เรียกเสียงหัวเราะจากคนที่เดินตามทันที


"ฮ่าๆๆ อะไรของนายว่ะ "นพคุณหัวเราะน้องชายที่ทำท่างตลก แต่ก็ทำให้บรรยาศที่ดูตึ่งเครียดผ่อนคลายลงได้เยอะ


"ไม่มีอะไรหรอกครับ ร้านนั้นเขามีเทคนิคใหนการขายแบบผิดเท่านั้นเอง เลยต้องเตือนกันนะครับ "นนทนัฐเป็นคนอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจ


"หมายถถึงเด็กคนที่มาขอปลานั้นด้วยเหรอครับ"


"อืม นั้นล่ะตัวดีเลย สอนเด็กให้ทำแต่เรื่องไม่ดีแย่ๆจริง"ชินพัตน์เหมือนจะยังหงุดหงุดอยู่เล็กๆ


"โอเค เข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่มีเรื่องสงสัยจะถาม"


"อะไรครับ"ชินพัตน์และนนทนัฐหันมาตอบนพคุณพร้อมกัน


"พวก นาย มา เดิน เที่ยว งาน กัน ก่อน หน้า นี้ แล้ว ใช่ มั้ย หืม?"นพคุณถามเน้นๆชัดๆทุกคำอย่างคนรู้ทัน หันไปถามทั้งน้องชายตนเองและนนทนัฐ


"!!!!!!!!!!!!!!!"  ชินพัตน์ตาโตอย่างตกใจไม่คิดว่าพี่ชายตนเองจะรู้


"ครับ"นนทนัฐยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบาน ทำให้เจอสายตาพิฆาตจากชินพัตน์


ไม่บอกพวกเขาทำม่ายยยยยยยยย







                                               

                                                   ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆหมูล้วนๆมาแล้วจ้า!!!!

                             มินมิน ลงให้อ่าน 2 ตอนกันเลย ยาวๆ  แบบจุใจ ตอนรับปีใหม่

                       ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านนิยายของมินมินนะคะ +เป็ดให้กับทุกคอมเม้นนะคะ





ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ต่างคนก็ต่างมีคดี 5555
รอตามจ้า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คุณนนท์ซื่อเนอะ
คราวนี้พี่นพก็เลิกคิดมาก
เรื่องระหว่างชินกับต้นกล้าได้แล้วนะ

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0


                                                       ตอนที่ 33  เข้าใจผิด




"เออ  ต้นเมื่อกี้ที่บ้านพี่ลองกินกล้วยทุบน้ำกะทิแล้วนะอร่อยมากเลย " ชินพัตน์รีบเปลี่ยนเรื่องคุย ทำเป็นไม่สนใจกับคำถามของพี่ชาย

"เหรอครับดีจัง ยายก็บอกว่าอร่อย เอาไว้ต้นจะทำให้กินบ่อยๆนะครับ" ต้นกล้าตื่นเต้นดีใจ ที่ชินพัตน์ได้ลองชิมแล้วชมว่าอร่อย

"พี่ยังไม่ได้ลองกินเลย" นพคุณเรียกร้องความสนใจจากคนตัวเล็กกว่า ทันที

"อะไรพี่ใหญ่ เมื่อเช้าเห็นออกมาแต่เช้า ทำไมยังไม่ได้กินล่ะ" ชินพัตน์ถามพี่ชายอย่างสงสัย

"อ้อ  ก็  มัวแต่เก็บผักไง เลยยังไม่ได้กิน" ตอบแบบไม่สบตา เพราะรู้ว่าตนเองโกหก ร่วมทั้งต้นกล้าที่แอบหัวเราะเบาๆ

"ให้มันจริงนะพี่ ถ้าผมรู้ว่าพี่แกล้งต้นอีกล่ะก็ ......."

"เฮ้ย!! ไม่ได้แกล้งหรอกน่า ไปไป จะเดินไปดูอะไรตรงใหนกันก็เดิน" นพคุณรีบดันหลังน้องชายให้เดินเที่ยวงานต่อ


                        เดินผ่านร้านค้ามากมาย เสื้อผ้า ของใช้ ร้านทุกอย่าง 20 บาทที่มีลูกค้าแน่ร้าน ร้านขายขนม ร้านน้ำปั่น นพคุณเดินไปสั่งให้ต้นกล้า เป็นน้ำแตงโมปั่น ชินพัตน์เป็นน้ำส้มปั่น ส่วนนนทนัฐไม่ยอมสั่งอะไร ยืนถือของให้อย่างเดียว

"คุณไม่สั่งน้ำเหรอ"

"ผมไม่ทานน้ำที่ใส่น้ำเชื่อมครับ "ชินพัตน์หันไปมองที่ร้าน จริงด้วยใส่น้ำเชื่อมจริงๆด้วย

"แล้วคุณไม่หิวเหรอไง"ชินพัตน์ถามอย่างสงสัย เพราะเดินเล่นกันมาสักพักใหญ่แล้วนนทนัฐยังไม่เห็นซื้ออะไรทานเลย

"ไม่ครับ ผมกินกล้วยปิ้งที่บ้านยายมายังอิ่มอยู่เลยครับ" จริงๆแล้วอยากบอกว่า อยากกินลูกชิ้นปิ้งของชินพัตน์มากกว่า แต่ก็จะดูเอาใจคนตรงหน้าเกินไป

"อืม อืม" พยักหน้าเข้าใจเลยไม่ถามอะไรต่อ


                 แล้วทั้ง 4 เดินเข้าไปไหว้พระ ปิดทองขอพรพระ ทำบุญกับทางวัด ใส่ตู้บริจาคที่ทางวัดตั้งไว้ ไหว้พระประจำวันเกิดของแต่ละคน และเดินกลับเข้ามาในบริเวณงานอีกครั้ง ต้นกล้ายังอยากได้ ตุ๊กตาตัวใหญ่จากร้านปาลูกโปร่ง ก่อนที่ชินพัตน์จะมาก เลยชวนทุกคนเดินไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง

"พี่ชินต้นจะไปปาลูกโปร่งตรงร้านนั้นอ่ะครับ"

"ตุ๊กตาที่กอดอยู่นี้ยังไม่พอหรือครับ หืม" ชินพัตน์มองตุ๊กตาที่ต้นกล้าอกอดอยู่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่

"ก็มันตัวเล็กอ่ะ ต้นอยากได้ตัวใหญ่ๆ" ต้นกล้าทำไม้ทำมือให้ดูว่ามันยังมีตัวที่ใหญ่กว่านี้อีก

"ใหน? ร้านใหนที่มันตัวใหญ่ๆ เดี๋ยวพี่จะซอยมาให้เอง" ชินพัตน์เห็นว่าต้นกล้าอยากได้มากเลยนึกสนุกอยากที่จะเป็นคนหามาให้เองเลยรีบให้พาไปที่ร้านนั้น

"อยู่ตรงใกล้ๆเวทีแสดงดนตรีอะพี่ชิน รีบไปเถอะ ไม่รู้ว่าโดนสอยไปหรือยัง"  ต้นกล้าดีใจที่ชินพัตน์จะไปเล่นกันตนเองด้วย

นพคุณและนนทนัฐมองตามทั้ง 2 คนที่ทำท่าทางเหมือนเด็กๆ อยากได้ของเล่นใหม่แล้วเอามาอวดกัน


"พี่ใหญ่เดินเร็วๆสิ  คุณด้วยเดี๋ยวตุ๊กตาโดยหิ้วไปก่อนหรอก" ชินพัตน์หันมาดูคนที่เดินตามมาห่างๆ สั่งให้เดินตามมาเร็วๆ


"ร้านนี้เลยพี่ชิน ตุ๊กตายังอยู่ " ชี้ไปที่ร้านและตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ห้อยอยู่

"มาเดี๋ยวพี่ปาให้เอง อยากได้ตัวนั้นใช่มั้ย"หันไปบอกกับต้นกล้า" พี่ครับ ถ้าจะได้เจ้าตัวใหญ่นั้นต้องทำไง" แล้วก็เรียกคนในร้านปาลูกโปร่งมาถาม

"ปาลูกโปร่ง แตก 3 ลูก เอาตุ๊กตาไปเลยตัวใหนก็ได้ ส่วนเจ้าตัวใหญ่นี้เหลือตัวสุดท้ายแล้วนะ "

"อ้อครับ "ชินพัตน์พยักหน้าเข้าใจ

"พี่ชินต้องซื้อลูกดอก 20 บาทได้ 3 อัน "ต้นกล้าบอก

"นี้ครับพี่ "ชินพัตน์ส่งแบงค์ 20 ไปให้เจ้าของร้าน

"นายแน่ใจนะว่าปาแตกหมด"นพคุณเดินเข้ามาแซวน้องชาย

"เชื่อมือผมสิ เดี๋ยวผมปาให้ดู" ชินพัตน์มั่นใจ

                           หมดเงินไปกับฝีมือการปาของ ชินพัตน์ 60 บาทแล้วแต่ยังทำไม่ได้สักที ต้นกล้าเลยบอกจะลองปาเอง  แต่ปาลูกโปร่งแตกไปแค่ 2 ลูก อีกลูกโดนลูกโปร่งแต่มันเด้งออกมา ทำให้พลาดตุ๊กตาที่อยากได้  ทำที่จะส่งเงินเพื่อที่เล่นต่ออีกแต่นพคุณห้ามไว้ก่อน ยืนดูทั้งคู่เอาจริงเอาจังมาก

"พอก่อนทั้งนายและทั้งต้น หมดไปจะเป็น 100 แล้วนะ" นพคุณห้ามเด็กตรงหน้าที่ไม่ยอมแพ้

"โธ่พี่ก็มันยังไม่ได้นี่น่า ต้นเขาอยากได้ตัวนั้นด้วย" ชินพัตน์หันมาบอกพี่ชาย แล้วชี้ไปที่ตุ๊กตา

"ได้ๆ ครั้งสุดท้ายตกลงมั้ย เดี๋ยวพี่ปาให้เอง แล้วก็กลับกันได้แล้ว ดึกแล้วด้วยเดี๋ยวยายเป็นห่วง" นพคุณยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

"พี่ใหญ่ต้องปาให้ได้นะ ไม่งั้นไม่กลับ"

"อย่าทำตัวเป็นเด็กน่าเจ้าชิน"

"แต่ผมอยากตุ๊กตาตัวนั้นให้ต้นนี่น่าพี่"

"ได้ๆ พี่จะพยายามแล้วกัน จะได้รีบๆกลับ โอเคมั้ย" หันไปมองทั้งชินพัตน์และต้นกล้า นนทนัฐเห็นพี่น้องคุยกันแบบนี้ ก็อยากที่จะมีขึ้นมาบาง  แต่คงจะอยากแล้ว

"ปาให้ได้นะพี่ " ต้นกล้าและชินพัตน์พูดขึ้นมาพร้อมกัน

"หึหึ  อืม" หัวเราะเบาๆกลับเสียงเชียร์เหมือนเด็กๆ ของคนที่ยืนขนาบข้างเพื่อลุ้นรางวัล



"เย้!!!!  พี่เก่งจังเลย"ต้นกล้ากระโดดเกาะแขนนพคุณอย่างดีใจ

"เยส!!!! พี่ครับๆ ตัวนั้นครับ "ชินพัตน์กระโดดยองๆเหมือนตัวเองเป็นคนทำได้ซะเอง รีบชี้ตุ๊กตาตัวที่ต้องการ

"ได้ครับ"เจ้าของร้านก็รีบสอยเจ้าตุ๊กตาตัวใหญ่ที่อยู่ใหนถุงใสใส่เพื่อกันฝุ่น

"นี้ไงต้นได้มาแล้ว ตัวใหญ่มากเลย "ชินพัตน์รีบส่งตุ๊กตามาให้

"ถ้าคุณมาประจำ ร้านผมเจ๋งแน่เลย ดีนะที่ยังมาวันเว้นวัน "พูดจบก็สายหัวไปมา  ทุกคนหันไปมองทางเจ้าของร้านที่พูดขึ้นและมองไปทางนพคุณ  คนที่โดนมองขมวดคิ้วมุนเมื่อโดนเจ้าของร้านทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่ซะแล้ว รีบพาต้นกล้าเดินหนีออกจากร้านไปเลย


                  ชินพัตน์มองดูพี่ชายทำตัวผิดสังเกตุ ที่รีบเดินจูงมือต้นกล้าออกมาตามทาง เพื่อจะเดินกลับไปที่รถ  ชินพัตน์ยังคงข้องใจกับคำพูดของเจ้าของร้านปาลูกโปร่งที่พูดขึ้นเหมือน  ส่วนนนทนัฐก็เหมือนจะเข้าใจนพคุณเลยเดินตามยกยิ้มอย่างเห็นใจ  แต่น้องชายเหมือนจะอยากรู้เสียให้ได้ รีบเดินตามเพื่อถามเรื่องที่ยังข้องใจ


"พี่ใหญ่  พี่จะรีบเดินไปใหน ต้นกล้าเดินตามไม่ทันแล้ว"

"ก็มันดึกมากแล้ว เดี๋ยวยายเป็นห่วง เดินเร็วๆจะได้กลับเร็วๆไง" ตอบคำถามน้องชายแต่ก็ไม่ได้ลดจังหวะการเดินลงเลย

"พึ่งจะ 5 ทุ่มเอง ยายไม่ว่าหรอกน่า พรุ่งนี้ต้นก็ไม่ต้องรีบตื่นขึ้นมาเก็บผักด้วย พี่นั้นแหละจะรีบไปใหน"

"ก็คุณนนท์เขาก็จะได้รีบกลับไง ดูสิให้เขาถือของตั้งเยอะแยะ" นพคุณหันมาตอบเมื่อน้องชายยังคงตื้อถาม และมองเห็นนนทนัฐที่เดินตาม ถือของมากมาย ทั้งตุ๊กตาทั้งถุงเสื้อผ้า ของกินเล่น เต็มมือไปหมดทั้งๆที่ไม่ใช่ของนนทนัฐเลย 

"ไม่เป็นไรครับ ห้องพักผมอยู่ข้างตลาดนี้เองครับ  ส่วนของพวกนี้ผมอยากช่วยถือเองครับ" ส่งยิ้มพิฆาตมาให้ทั้ง 3 คน

"เห็นมั้ย ไม่มีใครรีบเหมือนพี่หรอก  "

"งั้นพวกเราก็แยกกันตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปส่งต้นเอง" เมื่อเดินมาถึงรถนพคุณรีบตัดบท

"อะไรกันพี่ ผมไปส่งต้นเองก็ได้" ชินพัตน์อยากจะแกล้งพี่ชาย

"ฉันไปเอง นายรีบกลับบ้านเหอะเดี๋ยวป้าเป็นห่วง"

"ผมบอกไว้แล้วว่าวันนี้จะเดินเที่ยวกับต้น ว่าจะกลับดึกด้วย พี่นั้นแหล่ะ ที่น่าเป็นห่วง"

"เป็นห่วงอะไร" นพคุณชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถ

"แอบมาเดินเที่ยวเล่นกับสาวเหรอไง มาวันเว้นวัน เอาตุ๊กตาไปแจกสาวกี่ตัวแล้วล่ะ" ชินพัตน์เดาซุ่มเรื่องที่พี่ชายมาเดินเที่ยวที่งานบ่อยจนเจ้าของร้านทักขึ้นมา

"เฮ้ย!!!! ปะ เปล่ามาเดินกับสาวนะเว้ย!!! "นพคุณรีบปฎิเสธ และมองหน้าน้องชายกับต้นกล้าไปมา

"พี่ชินไปส่งต้นที่บ้านหน่อยครับ ต้นง่วงนอนแล้ว"ต้นกล้ารู้สึกไม่อยากฟังว่านพคุณจะไปเที่ยวกับใคร

"ไม่ต้น  ต้นกลับกับพี่นะ ให้พี่ไปส่งนะครับ" ต้นกล้าหลบหน้านพคุณไม่มองไม่ตอบอะไรทั้งนั้นจะเดินหาแต่ชินพัตน์ท่าเดียว

"พี่ก็ต้นจะให้ผมไปส่ง"ชินพัตน์แย้งขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของต้นกล้า

นพคุณรู้ได้ทันที่ว่าต้นกล้าต้องเข้าใจผิดเรื่องที่น้องชายต้นพูดแซวขึ้นมาแน่นอน เลยรีบดึงตัวต้นกล้าไว้

"เงียบไปเลยเจ้าชิน  ไว้เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่ ต้นไปกับพี่" นพคุณค่าโทษน้องชาย แล้งกึ่งลากกึ่งโอบต้นกล้าขึ้นรถอย่างไม่เต็มใจ

"พี่ชิน!!!!" ต้นกล้าหันมาเรียกเพื่อต้องการตัวช่วย แต่ไม่ทันแล้วโดนหิ้วขึ้นรถไปแล้ว


ชินพัตน์มองรถพี่ชายที่ขับออกไปจากลานจอดอย่างงง คุยเรื่องอะไร แล้วทำไมพี่ชายต้องทำหน้าตาจริงจังแบบนั้น


"คุณผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า" ชินพัตน์ยังคงไม่เข้าใจ งงกับเรื่องราวตรงหน้า

"ไม่ผิดครับ แต่แค่ไม่ถูกเวลาเท่านั้นเอง"นนทนัฐพูดเสียงเรียบอย่างเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

"?????????????" ชินพัตน์ยิ่งงงมากขึ้น

"คุณไม่เห็นเสื้อที่พี่ชายคุณใส่เหรอครับ"นนทนัฐขยายความ

"อืมเห็นๆ แล้วไง ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ"

"ผมว่าพี่ชายคุณเตรียมตัวเพื่อที่จะเดินเที่ยวครั้งนี้มาอย่างดีเลยนะครับ"

"?????ยังไง"

"เสื้อพี่ชายคุณกับเสื้อต้นกล้าไงครับ เขาเตรียมทุกอย่างไว้ เพื่อวันนี้เขาอาจะมาฝึกปาลูกโปร่งเพื่อต้นกล้า   ......"

"!!!!!!!! จริงด้วย  โธ่เอ้ย  ผมทำไมพูดอะไรไม่คิดแบบนั้นนะ "ชินพัตน์คิดตามคำพูดของนนทนัฐ ก็เข้าใจขึ้นมาทันที และคำพูดไม่คิดอาจจะทำให้พี่ชายรู้สึกไม่ดีแน่ๆ  และทำให้ต้นกล้าเข้าใจผิด ชินพัตน์ยกมือขึ้นมาตบปาก ตบหัวตนเองไปมา 

"ผมว่าอย่าคิดมากเลยครับ" นนทนัฐเดินมาจับมือชินพัตน์ให้เลิกตีตนเอง และพูดปลอบ  "ผมว่าพี่ชายคุณคงไม่เป็นคนคิดมากอะไร เพราะคุณก็ไม่ได้ตั้งใจ กลับไปก็ขอโทษพี่ชายคุณซะ นะ" นนทนัฐดึงมือชินพัตน์ให้หันมาฟัง

"................"ชินพัตน์พยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจกับคำพูดตนเอง

"อย่าคิดมานะครับ กลับบ้านเถอะดึกมาแล้วครับ"นนทนัฐเดินจูงมือคนที่คิดโทษตนเอง มาที่รถแล้วเปิดประตูให้

"ครับ" ชินพัตน์เข้าไปนั่งที่รถอย่างง่ายๆ เหมือนคนเหม่อๆ 

นนทนัฐยังคงยืนมองรอให้รถชินพัตน์ขับออกไปก่อน แล้วตนเองค่อยกลับเข้ามที่พัก แต่รถก็ยังอยู่กับที่ เลยเดินเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง

ชินพัตน์เลื่อนกระจกรถลง เมื่อเป็นคนที่มีเรื่องอยากถามแต่ไม่กล้าเดินมาที่รถ


"คุณผมมีเรื่องอยากจะถาม"ชินพัตน์ชิงถามก่อน

"ครับ?"

"คุณไปเดินเที่ยวงานมาก่อนแล้วใช่มั้ย?"

"เอ๊ะ เปล่านะครับ ทำไมถึงคิดแบบนั้น"

"ก็คุณตักปลาเก่งมากเลย"

"คือ  ผม................................"  ผมเป็นแชมป์ตักปลาตั้งแต่ตอนม.ปลายแล้ว เรื่องนี้จะบอกออกไปดีมั้ย ผมบ้าเล่นเกมตักปลามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว





มีต่ออีกตอนนะคะ

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0





                                                ตอนที่ 34  รอคำตอบจากคนที่กอดตุ๊กตา



                    ภายในรถเงียบไม่มีการพูดคุยกันระหว่าคนขับกับผู้โดยสารที่นั่งคู่กันมา  นพคุณลอบมองสีหน้าต้นกล้าตลอดเวลา ไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรก่อนดี คนที่นั่งข้างๆเขาต้องเข้าใจผิดเรื่องของเขาแน่ ถึงเอาแต่นั่งเงียบ มันต่างจากที่ตอนเดินเที่ยวเล่น ตอนได้ทุกตุ๊กตา และไม่มีรอยยิ้มเหมือนที่ตอนได้เสื้อที่เขาซื้อให้เลย ทำไมเขาถึงรู้สึกปวดใจแบบนี้ ใส่ใจความรู้สึกของคนข้างๆขนาดนี้


มันเรียกว่า ความรัก ได้หรือเปล่า


อยากให้มีความสุข มีรอยยิ้ม มีสายตาที่มองมาหากันเสมอ


แต่ตอนนี้มีบางอย่างทำให้เขาอาจจะไม่ได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นมาอีก


"ต้นครับ ต้นเป็นอะไร" นพคุณจอดรถเข้าข้างทางตรงหน้าซอยเข้าบ้านสวนของยาย

"................"ต้นกล้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตนเองทำไมถึงรู้สึกไม่ดี ไม่อยากเห็นหน้าคนที่แอบไปเที่ยวกับคนอื่น ก่อนตนเอง เพราะคนข้างๆบอกว่าจะรอไปเที่ยวพร้อมกัน แต่แล้วทำไม ความรู้สึกนี้คือเสียใจ น้อยใจ  มีแต่ความเงียบคือ คำตอบ


"ต้นหันมาคุนกันดีๆสิครับ อย่าเอาแต่เงียบแบบนี้ พี่รู้สึกไม่ดีเลย" นพคุณจับหัวไหล่ของต้นกล้าให้หันมามองหน้ากัน


"......................"ต้นกล้าหันมา แต่ไม่กล้าสบตาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ก้มหน้าเพื่อหลบซ้อนความรู้สึกที่เป็นยู่ตอนนี้


"ต้นครับ ต้นกำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้ไปเดินเที่ยวกับใครเลย"


"ฮึก แต่พี่ก็ไปเดินเที่ยวที่งานมาก่อน ฮึก ใช่มั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้น พี่ที่ร้านตุ๊กตาไม่พูดขึ้นแบบนั้นแน่ ฮึก" ต้นกล้าพูดไปสะอื้นไป ความรู้สึกที่ไม่อาจจะเก็บไว้พรั่งพรู่ออกมาทั้งน้ำตาและคำพูด


"........................."นพคุณทำตัวไม่ถูกเมื่อต้นกล้าเริ่มร็องไห้ออกมา


"ฮึก ต้นไม่สนว่า ฮือ  พี่จะไปเที่ยวกับใคร ฮือๆ แต่พี่บอกว่าจะไปเดินเที่ยวพร้อมกับต้น ฮึกฮือๆ" ต้นกล้าร้องไห้หนักขึ้นและเริ่มจะง้อแงไม่มีเหตุผล ผิดวิสัยเด็กดีที่ต้นกล้าทำมาตลอด แต่เมื่ออยู่กับคนตรงหน้า อยากที่จะเอาแต่ใจ อยากให้ตามใจ



"ขอโทษครับ ไม่ร้องนะ นะครับ" นพคุณดึงต้นกล้าเข้ามากอดปลอบ ลูบหัวลูบหลังอย่างแผ่วเบา

"ฮึก  ฮือ ฮือ  " ต้นกล้ายังคงสะอื่นอยู่ในอ้อมกอดของนพคุณ
 


                       ความรู้สึกนี้คืออะไร อ้อมกอดแบบนี้ มันช่างอบอุ่น แตกต่างจากอ้อมกอดของผู้เป็นยาย  แม้กระทั้งอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ก็ยังไม่จำแถบไม่ได้  อยากอยู่แบบนี้นาน  ลืมเรื่องขุ่นมั่วภายในใจได้ทันที่เมื่ออยู่ในอ้อมก่อนนี้


"ต้นครับ ฟังพี่นะ พี่ยอมรับว่าพี่ไปเดินที่งานวัดมาก่อนจริงๆ แต่พี่ไม่ได้ไปกับใครนะครับ"


"แล้ว ฮึก พี่ทำไมไม่รอต้นก่อน "ต้นกล้าผละออกจากอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างเสียงเอาแต่ใจ


"โอ๋ โอ๋  ไม่ร้องแล้วนะ" นพคุณดึงคนแสนงอนเข้ามากอดอีกครั้ง และจะเช็ดน้ำตาให้ แต่ต้นกล้าทำเป็นหลบ แล้วเอาหน้าไปถูไถที่หน้าอกของนพคุณแทน เรียกรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้านพคุณได้ไม่น้อย มันช่างน่ารักและแสนงอนอยู่ในคราวเดี๋ยวกัน


"พี่ไม่ได้ไปกับใครจริงนะ" โยกตัวคนที่อยู่ในอ้อมกอดไปมาเหมือนกล่อมเด็ก


"ละ แล้วพี่ไปที่ไปก่อนทำไมอ่ะ " ต้นกล้าพูดเสียงอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของนพคุณ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาถาม


"ก็ไปเดินหาซื้อเสื้อมาให้ใครบางคน " เมื่อต้นกล้าได้ยินก็พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเพื่อจะถาม แต่ก็โดนกอดไว้แน่นขึ้นกว่าเก่า เหมือนอยากจะให้ฟังคนที่กอดให้จบก่อน


"พี่ไม่ได้เดินเที่ยวงานวัดมานานมากแล้ว จนพี่แถบจำภาพงานวัดที่เคยไปครั้งสุดท้ายไม่ออก  เพราะช่วงวัยเด็กมีแต่เรื่องที่พี่ไม่อยากจะจดจำมันสักเท่าไร........" นพคุณเล่าให้คนในอ้อมกอดฟังเสียงเบาปนเศร้าจนคนในอ้อมกอดรู้สึกได้


ต้นกล้ารู้สึกอยากปลอบโยนคนที่กอดเข้าด้วยการกอดตอบและลูบหลังไปมาอย่างแผ่วเบาและรอฟังเรื่องต่างๆอย่างตั้งใจ


"พี่ไปเดินเที่ยวงานก่อนก็เพราะกลัวจะตามใครไม่ทัน  กลัวจะทำตัวเชยๆ เลยลองเดินดูก่อน ลองเล่นร้านต่างๆที่ต้นบอกว่าจะพาพี่ไปเล่น แล้วพี่ก็ตื่นเต้นมาที่จะได้มาเดินเที่ยวกับต้น "  ต้นกล้าฟังมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกดีใจและหัวใจเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ กับคนที่ทุ่มเทเพื่อที่จะเดินเที่ยวงานกับตนเอง


"แล้วพี่ไปตั้งแต่วันใหน" ต้นกล้าสงสัย


"เออ  แหะแหะ ตั้งแต่วันจันทร์ "นพคุณหัวเราะแก้เก้อเขินที่ต้องมาเล่าเรื่องที่ตนเองแอบคนตรงหน้าไปเตรียมตัวเที่ยว


"แล้วพี่ไปทำอะไรมั้ง"ต้นกล้าอยากรู้ว่านพคุณเดินเที่ยวที่งานเกือยทุกวันทำอะไร เพื่อตนเองบาง


"วันแรก หลังจากที่ส่งส่งยายกลับบ้าน พี่ก็แวะมาดูที่งานว่ามีอะไรบาง แล้วก็เดินไปดูซุ้มเกมส์ที่ต้นเคยบอก  แต่แค่เดินดูนะ ยังไม่กล้าเล่น ฮ่าๆๆๆ  เดินดูเฉยๆ" นพคุณนึกย้อนไปวันแรกที่มาเดินที่งาน แล้วก็นึกคำตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้น

"แล้วพี่ไปวันใหนอีก" ต้นกล้าตั้งใจฟังและอยากรู้มากขึ้น

"วันพุธ ก็เหมือนเดิมพี่ไปส่งยายที่บ้าน แล้วก็กลับมาที่งานวัด ลองเล่นเกือนทุกร้านที่พี่พอจะจำได้ ว่าต้นอยากจะเล่นอะไร  ปาลูกโปร่ง ได้เกือบทุกร้าน  จนตอนนี้ตุ๊กตาเต็มห้องไปหมดแล้ว ฮ่าๆๆ"


"ร้านตักปลาพี่ก็ไปลองเล่นด้วยเหรอ"


"เปล่ามีแค่ร้านนั้นแหละที่พี่นึกไม่ถึง"


"แล้วทำไมพี่ตักปลาเก่งจัง"


"ก็ที่บ้านเลี้ยงปลาเยอะ ก็เจ้าชินนั้นแหละ อยากเลี้ยงแต่ไม่เคยดูแล พี่เลยเป็นคนรับผิดชอบ เวลาให้อาหารเปลี่ยนน้ำ คงเคยชินมั้งเลยทำได้นะ ฮ่าๆๆๆ"  นพคุณเล่าไปก็เผาน้องชายตัวแสบของตนเองไปด้วย ต้นกล้าก็หัวเราะตามอย่างสนุกสนาน



"แล้วพี่ซื้อเสื้อจากที่งานมาให้ต้นใช่มั้ย" ต้นกล้า เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วยิ้มเอาใจคนที่ซื้อเสื้อให้


"ครับ"นพคุณตอบสั้นๆและยิ้มกลับ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกลับมาสู่ใบหน้าของคนที่เขาอยากจะทำให้มีความสุขมากที่สุดแล้ว นพคุณมองใบหน้าอ่อนเยาว์นั้น และเช็ดคราบหน้าตาที่ยังคงเหลือเล็กๆ ปัดผมบนหน้าผากมนที่ยุ่งเหยิงให้กลับมาเขาที่


"ชอบเสื้อที่พี่ซื้อให้มั้ย"


"ชอบครับ"


"แล้วชอบคนที่ซื้อให้หรือเปล่า"


"ชะ ชอบ??? อะไร ชอบทำไม" ต้นกล้าหน้าร้อนขึ้นมาทันทีกลับคำถามตีเนียนของคนตรงหน้าทำเสหน้าไปมองนอกรถ


"แล้วระหว่างตุ๊กตากับพี่ชอบอันใหนมากกว่ากัน"


"ต้น ......................ชะ ชอบตุ๊กตามากกว่าอยู่แล้ว " ต้นกล้ารู้ว่าคนข้างๆแกล้งถามตนเองแน่ๆ


"หึ หึ  "นพคุณดูท่าทางตอบแก้เขินของคนตัวเล็กว่ามันน่ารักน่าเอ็นดูเรียกเสียงหัวเราะ


"พี่หัวเราะอะไร!!!!! พาต้นกลับเข้าบ้านเลย " ต้นกล้าได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเลยหันมามองค้อนก็แล้วแวดใส่คนที่เอาแต่ยิ้ม


"ครับ ครับ" ตอบรับแบยิ้มๆ แล้วเอือมมือไปจับมือต้นกล้าไว้  ทำให้ต้นกล้าหันมามองแต่ก็ไม่ได้ดึงมือ นั่งยิ้มเงียบๆก็ความรู้สึกที่แสนอบุอ่นที่คนข้างๆมอบให้




"พรุ่งนี้ต้นทำอะไรบาง" นพคุณถามต้นกล้าที่ลงจากรถแล้วเดินมาส่งที่บันไดขึ้นบ้าน


"ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เข้าไปรดน้ำผักในสวนแค่นั้นครับ"


"พรุ่งนี้พี่มาหาได้มั้ย"


"เอ๊ะ? "

"พรุ่งนี้พี่อยากพาต้นไปเที่ยวบาง"

"เออ ต้นขอถามยายก่อนได้มั้ย"


"ได้ครับ แล้วพรุ่งนี้พี่จะมาฟังคำตอบนะ ขึ้นไปบนบ้านเถอะ" นพคุณลูบหัวต้นกล้าเบาๆ


"ครับพี่ก็ขับรถกลับบ้านดีนะ"


"ขึ้นบ้านเถอะยุงเยอะ"


"ครับ"


"ฝันดีนะต้น"


"ครับ พี่ก็ฝันดีนะครับ"


"ครับ พี่ขอฝันถึงต้นได้มั้ย หืม" นพคุณเดินกลับเข้ามาหาต้นกล้าอีกครั้ง ที่ยืนอยู่ที่ขั้นบันไดแรก ทำให้ความสูงของทั้งสองคน เท่ากันพอดี


"อะ  เออ  กะ ก็ได้ครับ" ต้นกล้าก้มหน้ากอดตุ๊กตาแล้วก็ตอบอ้อมแอ้มเสียงเบา เขินอายเกินจะมองหน้าคนขอ


"ดีใจจัง  งั้นต้นก็กอดตุ๊กตาตัวนี้แทนพี่ด้วยนะครับ" นพคุณเดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของต้นกล้าอย่างแผ่วเบาแล้วก้มลงจูบ........

.............
.........
....
...
..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
 ตุ๊กตา


 :hao6:













                                           แม่ค้าลูกชิ้นปิ้งมาแล้วจ้าๆๆๆๆ  :laugh:  :laugh:


                        เงียบหายไปหลายวัน  แวะไปเติมพลัง และไปหาวัตถุดิบมาทำลูกชิ้นแสนอร่อยอยู่จ้า


                    วันนี้ลง 2 ตอนให้อ่านกันแบบดร่ามา นิดๆ ปนหวานหน่อย นะคะ   อิอิ :hao7:  :hao7:  :hao7:



                  ขอบคุณที่ติดตามอานนิยายของมินมินนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นคะ +เป็ดให้นะคะ เลิฟคนอ่านค่า




 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:





ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
 :z13:  จิ้มคนเขียน

เตรียมตัวมาดีจัง นี่กลัวไม่ได้ของให้น้องใช่ไหม แอบไปเหมาร้านปาลูกโป่งมาละสิ  :hao3:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ ชอบๆ :katai2-1:
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เกือบไปแล้วนะพี่นพ
ชินนี่บทจะซื่อก็ซื่อซะนนท์ฉลาดเลย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
หายไปนาน คนอ่านมัวแต่ฉลองง
น้องต้นน่ารักมากกกก :hao6:

ออฟไลน์ jasmim_min

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0



                                                 ตอนที่ 35  ความรู้สึกนี้คืออะไร



                        นพคุณขับรถออกมาอย่างมีความสุขและความหวังว่าพรุ่งนี้จะได้พาคนตัวเล็กแสนน่ารักไปเที่ยวกันแค่ 2 คน แต่ก็ต้องเพื่อใจไว้เพราะยังไม่ไคำตอบที่แน่นอน  ขับรถออกมาสู่ถนนใหญ่เลยโทรหาน้องชายว่าถึงใหนแล้ว

Rrrrr  Rrrrr Rrrrr

"ว่าไงพี่"

"นายถึงใหนแล้ว ออกมานานยัง"

"ยังพี่ผมมีเรื่องคุณกับคุณนนท์นิดหน่อย เออ พี่ใหญ่ผมขอโทษเรื่องที่ผม....."

"ไม่เป็นไรเอาไว้ค่อยคุยกันที่หลัง ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ อย่าดึกมากเดี๋ยวป้าเป็นห่วง"

"ครับ ผมกำลังจะกลับแล้ว" ชินพัตน์ตอบรับเสียงใสขึ้น เมื่อฟังจากน้ำเสียงของพี่ชายแล้วคงไม่ได้โกรธตนเอง

"อืม แค่นี้นะ"แล้วนพคุณก็ว่างสายไป

   ชินพัตน์ที่เหมือนรอคำตอบจากคนที่ยังยืนนิ่ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบ เลยไม่อยากจะคาดเดาอะไรไปเองอีก

"คุณ งั้นผมกลับแล้วนะ คุณก็เข้าไปที่ห้องพักเถอะ"

"เอ่อ  คือ......"

"โอเค ผมจะนอนหลับฝันดี โอเคยัง ผมไปแล้วนะ" ชินพัตน์เหมือนจะเดาว่าคนที่เอาแต่ยืนเงียบคงจะพูดคำเดิมๆที่เคยพูดเช่นเคย

"....................." นนทนัฐที่โดนดักทุกคำพูดไว้หมด ทำได้แค่ยกมือโบกไปมาและส่งยิ้มแห้งๆส่งไปให้เท่านั้น



                         ชินพัตน์ขับรถออกมาแต่ก็ยังไม่วายมองคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่ลานจอด อย่างไม่เข้าใจเป็นอะไรของเขานะ เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดออกมา ปกติเห็นอยากจะพูดจะทำอะไรก็พูดออกมาเลย หรือเกรงใจอะไร 

"เอ๊ะ หรือว่าเราพูดอะไรผิดอีกหรือเปล่าว่ะ???" ชินพัตน์พูดขึ้นขณะขับรถสู่ถนนใหญ่

ยังคงเก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจ อยากรู้เรื่องของคนคนนั้นมากขึ้น เวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ทำให้ใครคนหนึ่งเข้ามามีอิทธิพลภายในจิตใจได้มากขนาดนี้เลยเหรอ  อยากรู้จัก อยากใกล้ชิด อย่างงั้นเหรอ ความรู้สึกเป็นแบบนี้เองสินะ คงจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจอีกสักหน่อย


                         เช้าวันอาทิตย์นพคุณรีบตื่นแต่เช้าเช่นเคย ดูร้านเช็คยอดลูกชิ้นที่เข้าสต๊อคมา และลูกชิ้นที่จะนำออกมาส่งและขายในแต่ละวัน วันนี้เตรียมตัวไว้ให้ เพื่อส่งต่อให้แมนช่วยดูแลแทน ช่วงที่นพคุณไม่อยู่ที่ร้าน  แมน เพื่อนบ้านตั้งแต่สมัยเรียนประถมของ นพคุณ สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก จบแค่ มัธยมปลายเหมือนกัน แต่ต่างกันตรง นพคุณออกมาหางานทำเพราะอยากจะช่วยงานลุงกับป้า ส่วนแมน มีเมียมีลูกก่อนวัย เลยต้องออกมาหางานเลี้ยงดูลูกเมีย เมื่อได้มาเปิดสาขาที่นี้ ป้าและลุงก็เลยชวน แมนมาช่วยงานนพคุณกลัวว่านพคุณจะดูแลคนเดียวไม่ไหวเลยหาผู้ช่วยไว้ให้หลานชาย และเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันเลยไม่น่ามีปัญหา

"วันนี้นายจะออกไปใหนแต่เช้าเหรอ"

"อ้อ พอดีมีธุระนะ ยังไงก็ฝากร้านด้วยนะ แล้วจะซื้อของมาฝากเด็กๆ "  เด็กๆนี้หมายถึงลูกของแมน ตอนนี้มีคนที่ 2 แล้วกำลังน่ารัก

"อืมได้ๆ แล้วของฝากนะ ไม่ต้องหรอก ตุ๊กตาเต็มบ้านไม่หมดแล้ว ของเล่นอีกเยอะไปหมด" แมนบ่นนพคุณทุกครั้งที่ชอบซื้อของเล่นมาให้เยอะแยะไปหมด

"น่าๆ  มีเยอะ ดีกว่าไม่มีเลย  ไปนะ" นพคุณตอบอย่างยิ้มแย้มอารมณ์ดีแบบสุดๆและเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถคู่ใจ


"อ้าวพี่จะไปใหนแต่เช้า" เสียงทักเมื่อนพคุณกำลังจะเปิดประตูขึ้นรถ 

 สาว    เมียของแมนกลับมาจากตลาด มีลูกชายคนโตวัย 5 ขวบเกาะหลังและคนเล็กนั่งอยู่เบาะเด็กด้านหน้ารถมอเตอร์ไซค์จอดรถหน้าร้าน มองเห็นเพื่อนของแฟนกำลังออกไปข้างนอกเลยทักทายอย่างสงสัย

"อ้อ พอดีมีธุระนะ ไปซือกลับข้าวมาเหรอ"

"จ๊ะ พาเด็กๆไปด้วย ดื้อกันจริงๆ"กันไปทำตาดุใส่ลูกๆ

"ใหนใครดื้อ ถ้าดื้อลุงไม่ซื้อของเล่นให้นะ"

"บาสไม่ดื้อ บอลอ่ะดื้อ" คนพี่รีบโบ้ยให้น้องแล้วมือชี้ไปที่น้องชาย

"ครับๆ ไม่ดื้อก็ดีแล้ว เป็นเด็กดีช่วยพ่อกับแม่ดูร้านนะครับ ลุงไปทำธุระเย็นๆจะกลับแล้วจะซื้อขนมมาฝากนะ" นพคุณลูกหัวหลานชายอย่างเอ็นดู


                 นพคุณพยายามเป็นหลานที่ดีของลุงกับป้าเพราะทั้งสองเลี้ยงดูนพคุณมาตั้งแต่เด็ก เมื่อท่านทั้งสอง ให้โอกาสรับผิดชอบดูแลร้านเขาก็ทำงานอย่างสุดความสามารถ และมีเพื่อนที่ดีค่อยช่วยเหลือ เขาจึงอยากที่จะช่วยเหลือเพื่อนเช่นเดียวกัน มองเห็นครอบครัวของเพื่อนแล้วก็ มองย้นกลับมาที่ตัวนพคุณเอง ตัวเขาจะมีโอกาสมีครอบครัวที่ดีแบบลุงกับป้าได้มั้ย  มีลูกๆที่น่ารักเหมือนเพื่อนของเขาได้มั้ย  ใช่แล้วตัวเขาเองก็ฝันอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์  ไม่ถูกทอดทิ้งจากผู้ให้กำเนิดเหมือนตนเอง  ไม่อยากโดดเดี่ยวอีกต่อไป อยากจะมีใครสักคนข้างกาย  มันถึงเวลาของเขาหรือยัง

           
"สวัสดีครับยาย"นพคุณเข้ามาทักท้ายยายที่นั่งบนโต๊ะ เรียงตะกร้าผักเข้าที่โรงเก็บของหน้าลานบ้าน

"อ้าวมาแต่เช้าเลยพอหนุ่ม"

"ครับ คือผมว่าจะมาพายายกับต้นไปเที่ยวนะครับ"

"ไปเที่ยวใหนกันล่ะ  "

"ไปเดินเที่ยวห้าง ทานอาหารอร่อยๆตามร้าน แล้วก็ซื้อของเข้าบ้านกันประมาณนี้ครับ"

"ไปกับต้นเถอะจ๊ะ ยายนั่งขายของอย่างเดียวก็พอไหวนะ แต่เดินไปโน่นมานี้ยายคงจะเดินไม่ไหวหรอกจ๊ะ"

"ผมว่า...."

"อ้าวพี่มาแล้วเหรอ"

"ครับ "ยิ้มเล็กๆส่งให้ต้นกล้าที่เดินลงมาจากบ้าน

"งั้นก็กินข้าวกินปลาก่อนแล้วค่อยออกไปกัน"

"ยายไม่ไปด้วยกันเหรอครับ"

"ไม่หรอกจ้า พาต้นไปเที่ยวแทนยายที่เถอะ ยายไม่มีรถมีราไปเที่ยวใหนไกลๆกับเขาก็ไม่ได้" ยายพูดเสียงปนเศร้าเล็ก เมื่อมองหลานชายที่ไม่ได้เที่ยวเล่นเหมือนเด็กวัยเดียวกัน เพราะฐานะไม่ดีและไม่มีเวลามากพอที่จะพาไปเที่ยวได้บ่อยๆ

"ยาย ต้นไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ยายไม่ต้องห่วงต้นหรอก ต้นอยู่กับบ้านกับสวนต้นก็มีความสุขแล้วก็ได้อยู่กับยายด้วย" ต้นกล้าเห็นยายเป็นห่วงเลยรีบเดินเข้าไปกอดยายอย่างเอาใจ ยิ้มและพูดออกไปจากใจจริง

"เอาเถอะใหนๆวันนี้ก็ไม่ได้ขายของ ก็ไปเที่ยวกับพี่เขา พักบางก็ได้ต้นเอย "

"ยายก็ไปกับต้นด้วยสิ ไปเดินซื้อของเขาบ้านกัน" ต้นกล้ากอดแขนอ้อนยายอยากให้ยายไปเดินเที่ยวด้วย เพราะไปใหนมาใหนก็จะไปกับยายตลอดตั้งแต่เด็กจนโต จนเข้าเรียนมหาลัยก็ต้องห่างกันบาง

"ไปกัน 2  คนเถอะ ยายว่าทำงานตรงนี้เสร็จก็ว่าจะนอนกลางวันสักงีบ ไม่อยากไปเดินมันเหนื่อย" ยายพูดเรื่องที่จะทำวันนี้ให้หลานฟัง

" งั้นเดี่ยวต้นรีบไปรีบกลับมานะครับ"

"ไม่ต้องรีบหรอก เดินเที่ยวเล่นให้สนุกเถอะ  ยายอยู่บ้านคนเดียวได้ไม่ต้องห่วงนะ" ยายเห็นหลานอยากไปแต่ติดที่เป็นห่วงตนเอง

"ครับ เดี่ยวตอนกลับมาต้นซื้อกล้วยปิ้งมาให้ยายนะครับ"

"จ้า จ้า ขึ้นไปกินขายเช้ากันก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน"


                   ทั้ง 3 นั่งทานข้าวด้วยกันและคุยถึงสถานที่ที่อยากจะไป และของที่อยากจะซื้อเข้ามาที่บ้านสวนด้วย ใหนๆก็มีรถแล้วก็ซื้อเข้ามาเลย และก็คุยเรื่องลุงมีด้วย บอกให้ยายบอกปฎิเสธกลายๆไปเลยว่าตอนนี้มีรถรับส่งแล้ว ไม่รบกวนลุงเขาอีกแล้ว แต่ยายก็เหมื่อนยังเกรงใจ ต้นกล้าเลยตัดปัญหาขอเป็นคนไปบอกเอง  เพราะถ้านึกๆดูแล้วมันจะดูไม่คุ้มถ้ายังให้ลุงมีมารับส่งแบบนั้นอีก ต้นกล้าตัดสินใจ ยายก็ไม่อยากขัดใจ  และก็ไม่อยากขัดศรัทธาของคนที่อาสามาช่วยเหลือตลอด ลดค่าใช้ได้ไปได้เยอะกำไรจากการขายผักก็มีเยอะขึ้น ตั้งแต่มีคนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องรถรับส่ง

"ต้นเอาเงินนี้ติดตัวไว้"ยายส่งเงินให้หลานชายเพื่อไว้ใช้ซื้อของที่อยากได้เที่ยวเล่นอย่างคนอื่นๆเขา

"ยายเก็บไว้เถอะครับ ผมดูแลเองครับ"นพคุณบอกว่าเขาจะดูแลเรื่องนี้เองเพราะเป็นคนพาต้นกล้าไปเที่ยว

"ไม่ได้จ๊ะ มารับมาส่งแล้งยังจะให้ออกเงินให้อีก ยายเกรงใจ"

"ยาย ต้นยังมีเงินเก็บจากที่ทำงานพิเศษ เงินนี้ยายเก็บไว้เถอะ ต้นมีแล้วจริงๆ" ต้นกล้ารีบหยิบเงินในมือยายพับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อยายแล้วรูดซิบปิดทันทีป้องกันยายหยิบขึ้นมาให้อีก

"แน่ใจนะ" ยายยังคงเป็นห่วงหลายจะอด

"แน่ใจครับ ตอนกลับต้นจะซื้อของชอบของยายมาฝากเยอะนะครับ"

"จ๊า จ้า  ไปเถอะเดี๋ยวจะสาย"ยายรีบเร่งให้ออกกันแต่เช้า หลานชายจะได้มีเวลาเที่ยวเล่นเยอะ

"ไปนะครับแล้วผมจะพาต้นกลับมาส่ง ก่อน 6 โมงเย็นครับ"

"จ้า ฝากหลานยายด้วยนะ พ่อหนุ่ม"

"ครับ" ยิ้ม และคิดในใจ ผมจะดูแลเท่าชีวิตของผมเลยครับ

                        ขับรถออกมาได้สักครู่ นพคุณเลยถามทางว่าจะไปเริ่มต้นที่ใหนก่อน ต้นกล้าเลยให้ไปที่ห้างใหญ่ห้างดังของจังหวัด เป็นแหล่งร่วมของวัยรุ่น มีทั้งโรงหนัง เกมส์เซนเตอร์ ร้านอินเตอร์เน็ท ร้านโทรศัพท์  ร้านอาหารฟ้าดฟู๊ดดังมากมาย ที่เหล่าวัยรุ่นเข้าไปเที่ยวเล่น เข้าไปนั่งกินกันตามเทรน ตามยุคสมัย  แต่มันเหมือนอีกโลกหนึ่งของต้นกล้าเลย เพราะต้นกล้าอยู่แต่กลับยายและอยู่กับสวน เมื่อเข้ามาหาลัยก็ใช่ว่าจะได้ม่เวลาได้ไปเที่ยวเล่นแบบนั้นได้ ต้นกล้าหาง่านพิเศษทำเพื่อช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่ยายต้องส่งมาให้ ต้นกล้าเลยเลิกที่จะใช้เวลาไปกับการเรียนและทำงาน พาทไทม์ และเมื่อถึงสุดสัปดาห์ ต้นกล้าจะรีบตรงกลับบ้านมาหายาย มาช่วยงานยายอยู่แบบนี้ เรื่องเที่ยวเล่นในสถานที่สุดฮิตนั้นจึงเป็นเรื่องไกลตัวมา  วันนี้ต้นกล้าเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ


"งั้นเราไปดูหนังกันสักเรื่องมั้ย" นพคุณเริ่มคุยเมื่อเข้ามาจอดรอดรถในลาดจอดห้างดังใจกลางเมอง

"พี่อยากดูเรื่องอะไรครับ ต้นไม่รู้ว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรเข้าโรงบาง"
               
"พี่ก็ไม่รู้ งั้นเราขึ้นไปดูโปรแกรมหนังกันก่อนแล้วค่อยเลือกนะ"

"ครับ"ยิ้มตาหยี่ เหมือนเด็กกำลังได้ของเล่น นพคุณเห็นแล้วก็มีความสุขอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

             ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาภายในห่างที่มีผู้คนมากมาย ทั้งคู่ไม่เคยชินกับการเดินห้างสักเท่าไร นานแค่ใหนแล้วที่ไม่ได้เดินเข้าสถานที่แบบนี้ หรู่สุดก็คงเป็นร้านสะดวกซื้อ  นพคุณและต้นกล้ามองร้านค้ามากมายที่อยู่ชั้นล่างของห้าง อย่างตื่นตาตื่นใจของสวยๆงามๆน่าสนใจมาก มีของให้เลือกมากมาย  การจัดร้านที่สวยสะดุดตาดึงดูดลูกค้า หน้าใหม่อย่างต้นกล้าและนพคุณได้ดี เดินเขาไปยืนดูอย่างสนใจ  แต่ก็ไม่ได้อยากซื้อ  เดินดูแถบทุกร้านที่เดินผ่าน  จนลืมว่าเป้าหมายหลักคืออะไร


"พี่แล้วโรงหนังอยู่ชั้นใหนอ่ะ" ต้นกล้าที่มั่วเดินมองของร้านโน่นที่ร้านนี้ที่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่รู้ว่าควรจะไปตรงใหนต่อ

"นั้นนะสิ  ชั้นนี้ก็ไม่น่าจะใช่"นพคุณมองไปทั่วชั้นล่างที่พวกเขาเดินเข้ามาได้สักพักใหญ่แล้วก็ไม่น่าจะมีโรงหนังอยู่ในชั้นนนี้

"อ๊ะ ตรงนั้นมีบันไดขึ้น ลองขึ้นไปดูข้างบนกัน" ต้นกล้ารีบจูงมือนพคุณ

"นี้ไงพี่ ป้ายบอกว่าแต่ละชั้นมีอะไรบาง" ต้นกล้าสังเกตุป้ายที่ตั้งวางไว้ตรงทางขึ้นบันไดเลื่อน ป้ายบอกว่าแต่ละชั้นจำหน่ายสินค้าอะไรบาง

ชั้น  2  ขายพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านโทรศัพท์ ร้านทอง ร้านหนังสือ
ชั้น  3  เสื้อผ้า ร้านเสริมสวย ร้านรองเท้า ร้านอาหาร
ชั้น  4  โรงหนัง เกมส์เซ็นเตอร์ ร้านอินเตอร์เน็ท ห้องคาราโอเกะ

"พวกเราต้องขึ้นไปที่ชั้น 4 โรงหนังอยู่ชั้นนั้นอ่ะ"

"ครับ" แล้วนพคุณกับต้นกล้าก็เดินขึ้นบันไดเลื่อน ไปยังชั้น 4 บรรยาศจะต่างออกไปจากทั้ง 3 ชั้นที่ผ่านมา แสงค่อยข้างสลัวๆ ทึบๆ  จะสว่างก็ตรงส่วน ร้านอินเตอร์เน็ท เดินดูไปรอบๆสั้น 4  บริเวณที่เป็นส่วนของโรงภาพยนต์ ก็จะมีเปิดหนังตัวอย่างให้คนที่มาเลือกดู
โปสเตอร์โปรโมรหนังเรื่องต่างๆ มากมาย มีเสรยงเพลงเปิดคลอเบาๆ อาการที่เย็นช่ำไปด้วยแอร์ คนมากมายนั่งรอเวลาหนังเข้า  หลายคนเลือกที่จะเดินดูของที่ระลึกจากหนังดังที่มีบูทมาวางขาย หรือไม่ก็เข้าคิวซื้อเครื่องดื่มเพื่อเข้าไปกินในโรงหนัง

"พี่จะดูเรื่องใหนดีอ่ะ" ต้นกล้าถามขึ้นเมื่อเดินมาหยุดตรงตารางเวลาหนังที่ก่อนฉายก่อนและหลังตามลำดับ

"งั้นเดินไปดูหนังตัวอย่างกัน"

"อืมก็ดีครับ" ต้นกล้าเดินนำไปตรงโซนจอขนาดเล็กใหญ่  มีหนังหลายเรื่องเปิดหนังตัวอย่างที่กำลังจะเข้าฉายวันนี้"

"เรื่องนี้ตลกดีอ่ะ ฮ่าๆๆ"

"งั้นดูเรื่องนี้มั้ย"

"ครับ"

"งั้นเดี่ยวพี่ไปซื้อบัตร ต้นรออยู่ตรงนี้นะ"

"ครับ"


                   นพคุณได้บัตร 11 โมงมา ตอนนี้ พึ่งจะ 10 โมง 20 นาที่เท่านั้น ทั้งคู่เลยเดินดูรอบๆ ชั้น 4 เข้าไปเล่นในเกมส์เซ็นเตอร์ หยอดเหรียญ ตู้เล่นเกมส์จับผิดภาพ ได้ยินเสียงหัวเราะจากต้นกล้า  เล่นตู้จับตุ๊กตา  ได้มา 1 ตัวต้นกล้ากอดไว้ตลอดเวลาที่เดินเที่ยวเล่น
และ ตู้หยอดเหรียญ ชู๊ตบาสลงห่วง  ทำเวลาได้ดี เพราะนพคุณตัวสูงโยนกีลูกก็ลงห่วงเกือบทุกลูก ต้นกล้าก็โยน แต่ก็ไม่ค่อยจะลงห่วงเท่าไร เรียกเสียงหัวเราะชอบใจ และเรียกเหงือได้มาก จนต้องพากันมานั่งพักร้านเค้กเล็ก ข้างเกมส์เว็นเตอร์

"ต้นหิวน้ำมั้ย เดี๋ยวพี่ไปสั่งให้"

"ต้น อยากกินโกโก้ปั่นครับ"

"ได้ครับ เดี๋ยวพี่สั่งให้เอาเค้กด้วยมั้ย"

"ก็ดีครับ"

            นั่งพักทานเครื่องดื่มเย็นๆกับเค้กแสนอร่อย ต้นกล้ารู้สึกจะชอบเป็นพิเศษบอกว่าอยากซื้อเค้กร้านนี้ไปฝากยาย บอกว่าตอนกลับจะแวะมาซื้อ อีก 15 นาที ถึงเวลาจะเข้าโรงหนัง ต้นกล้าและนพคุณจึงมายืนรอ ด้านหน้าทางเข้า

"ต้นอยากซื้ออะไรเข้าไปกินข้างในมั้ย"

"ไม่ครับ เมื่อกี่ก็ทานไปตั้งเยอะแล้ว ต้นกลัวป่วยฉี่ไม่อยากลุกไปใหนอ่ะ" ต้นกล้าบอกความจริงว่าไม่อยากพลาดหนังสักนาทีเลยปฎิเสธที่จะซื้อของเข้าไปกิน

"งั้นเดี๋ยวพี่มานะ" นพคุณบอกให้ต้นกล้ายืนรอ เพราะเขาเดินไปซื้อน้ำดื่มมาติดไว้เพราะหนังยาวเกือบๆ3 ชั่วโมง

                 และทั้งคู่ก็เข้ามาภายในโรงหนัง นั่งรอไม่นานภายในโรงก็มือสนิท มีหนังโปรโมตอีหลายๆเรื่องที่กำลังจะเข้ามาฉายใหนเดือนหน้า และเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น ทุกคนก็ยืนขึ้นอย่างพร้อมเพียง   หนังเริ่มฉาย นพคุณลอบมองต้นกล้าตลอด ต้นกล้าตั้งใจดูมาก ทำสีหน้าตาเนื้อเรื่อง สถานการณ์ตามหนังที่ฉายอยู่  นพคุณแถบจะไม่ได้ดูหนังได้แต่นั่งมองต้นกล้าอยู่แบบนั้น  มีช่วงเข้าเพลงเป็นเสียง ไม่มีบทพูด ทำให้ต้นกล้าละสายตาจากจอหนังหันมาเจอ  กับสายตาของนพคุณที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว ก็ตกใจและแปลกใจ

"นะ หนังสนุกมั้ยครับ"

"อ๊ะ เออ สนุกครับ "

"ต้นดีใจที่ได้มาดูหนังแบบนี้"

"ครับพี่ก็ดีใจที่ได้มาดูหนังกับต้น"

ต้นกล้าได้ยินชัดเจน หน้าเริ่มขึ้นสีเพราะอยู่ๆคนข้างๆก็บอกออกมาตรงๆ

"ต้นก็ดีใจครับ" ต้นกล้าเริ่มก้มหน้าซ่อนใบหน้าเขินอาย คนที่เอาแต่จ้อง ลืมเรื่องหนังที่ฉายอยู่ต่อหน้าไปเลย

"มีความสุขมั้ยครับ หืม"นพคุณเอืมมือมาจับมือต้นกล้ามากุมไวและกระซิบถาม

"ครับ" ต้นกล้าก็ยังคงก้มหน้าก้มตาตอบ ใช่แล้ววันนี้เข้ามีความสุขได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำได้ลองเล่นเหมือนคนวัยเดียวกัน

"ดีจัง อย่าก้มหน้าสิครับ เดี๋ยวดูหนังไม่รู้เรื่องนะ" นพคุณเข้ามากระซิบใกล้ๆหูของต้นกล้าพร้อมกลับแกล้งคนน่ารักเล่น

"เอ๊ะ อะใช่  ดูหนังอยู่" ต้นกล้ารีบเงยหน้าขึ้นมา ตอนเพลงที่กำลังบรรเลงจบลงพอดี

"หึหึ  "นพคุณกุมมือต้นกล้าไว้อย่างแผ่วเบา

           ต้นกล้าก็กับมาตั้งใจดูหนังอีกครั้ง แต่ความรู้สึกต่างออกไป คือความอบอุ่นจากมือที่เกาะกุมกันไว้ไปตลอดจนหนังจบ รู้สึกดี
หัวใจที่รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากคนข้างๆที่ส่งมาถึงตัวต้นกล้าเอง  ต่างจากผู้เป็นยายที่คอยดูแลเลี้ยงดูเอาใจใส่ให้ความรักให้ความอบอุ่น


แต่ความรู้สึกที่ได้รับและเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไร


บอกต้นหน่อยได้ไหมครับ


ต้นอยากรู้





                                    ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆ หมูล้วนกลับมาขายแล้วจ้า!!!! :laugh:


                        แม่ค้าลูกชิ้นหนีไปเที่ยวมาค่า  ขออภัยที่หายไปนาน ไปอ่านต่อกันเลยค่า

                  ขอบคุณที่ติดตามอ่านนิยายเรื่องแรกของมินมินนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นด้วยคะ





ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มันครือหลุมแห่งความรัก ขอโคแก่งัยต้น 55555 :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด