รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน  (อ่าน 266017 ครั้ง)

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ยังไงก็รักอ่ะนะ
พี่อาร์มสู้ๆๆ

sarin

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ.." . . . รักหมดใจ  รักหมดชาม  " ..เนี่ย..มาม่าป่ะ..อิ.อิ. :เตะ1:
เง้อ..ล้อเล่นอ่ะ.... :pig4:
ไปแร่ะ.. :m32:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
มีตอนนี้ละมั้งที่ไม่เศร้า

ครายบอก

เศร้ายิ่งกว่า

สงสารทั้งหมดเลย

 :o12:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่  ๒๐



ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผม . . .

   คงจะผ่านไปแล้ว  ต่อจากนี้  ชีวิตที่เหลือของผมต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร  ผมเองยังไม่รู้  ผมไม่รู้ตัวเอง  ไม่รู้อะไรเลย  ผมรู้แค่  ผมอ่อนล้า หัวใจผมมันเจ็บปวดทุกครั้งยามเห็นหน้ามัน . . .

   แปลกจัง . . .

   . . . ทำไมผมเจ็บที่มันบอกว่าคิดถึงคนอื่น


   แล้ว . . .

   ถ้าวันนึง . . .

   . . . เปลี่ยนจากคำว่าคิดถึงเป็น ?

   ผมสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้ง  จะอย่างไรก็แล้วแต่  ผมก็ต้องเรียนรู้ และก้าวข้ามผ่านเวลาเหล่านี้ไปให้ได้

   ผมตื่นมาตอนเช้า  หัวมันหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง  ผมพยายามลืมตา  คนแรกที่ผมเห็น . . .

   . . . ผมน้ำตาไหล

   มันจะรู้บ้างไหม . . . ผมเจ็บ

   เจ็บจนทนจะไม่ไหวอยู่แล้ว  ผมจะอยู่แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน  ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  ชีวิตที่ไม่รู้อะไรเลยมันทรมาน  ผมคงต้องเรียนรู้กับความทรมานที่ผมเองก็ไม่ได้อยากเจอมันเลย

   ผมมองมัน จารจำมันผ่านม่านน้ำตา . . .

   “ไปดูหนังกันมั้ย”   ผมบอกมันหลังจากที่นอนหลับต่อไปอีกหนึ่งวันเต็ม ๆ   มันเป็นเวลามากพอที่ผมจะหายจากอาการเมาค้าง 

   “ไม่อยากไป”

   “พรุ่งนี้ก็กลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ  กว่าจะได้เจอกันอีกตั้งนาน”  เสียงผมสั่น ๆ 

   นาน . . .

   . . . หรือ . . .

   . . . อาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็เป็นได้  มันสอบเสร็จแล้ว  มันจะกลับไปหาคนของมันแล้วกระมัง

   ถ้าไม่เจอกันอีกตั้งแต่คราวนั้นก็คงจะดี  ผมคงไม่ต้องจากลี้หนีหน้าไปไกลสุดขอบฟ้าเช่นนี้    หากสิ่งที่เราเลือกมักจะเดินสวนทางกับสิ่งที่เราต้องการเสมอ ผมทำใจไว้แล้วสักวันมันต้องไป

   แต่ . . . หลังมันเรียนจบ 

   เส้นทางเดินจากนั้นเป็นของโกเมศวร์

   ส่วนผม . . .

   โลกใบใหญ่ใบนี้  มีสักที่ไหมให้ผมซุกลี้หนีความเจ็บปวด  สิ่งที่รวดร้าวที่สุดในตอนนี้คือหัวใจ   มันเหมือนอ่อนระโรยโรยแรงลงทุกวัน  ลมหายใจผมอ่อนลงอย่างนั้นหรือ 

   “ไปก็ไป  แต่ตัดผมก่อนได้ไหม”

   “ก็เอาดิ   ของพี่ก็ยาวแล้ว”

   “งั้นพี่ไปอาบน้ำ  เดี๋ยวออกไปเลย”

   ผมเดินไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย . . . 

   เข้าใจตัวเองดีว่า  เวลาต่อจากนี้   ไม่ใช่เวลาของผมแล้ว  เพราะหลังจากปีใหม่จนกระทั่งมันสอบเสร็จ  มันเปลี่ยนไปแล้ว  มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

   “ขับให้ด้วย”   ผมส่งกุญแจรถ  ก่อนล๊อคประตูบ้าน

   ผมมานั่งในรถ  มันขับออกมายังไม่ทันพ้นหน้าหมู่บ้าน . . .

   เสียงโทรศัพท์ของมันดัง  มันรับสาย  เสียงมันคุยบาดแทงไปในหัวใจของผม    ผมพยายามหนีหน้าออกไปนอกกระจก  ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว 

   . . . ผมกลายเป็นพวกหวาดระแวงเสียงโทรศัพท์

   มันคิดอะไรบ้างมั้ย  มันจะรู้สึกบ้างมั้ย  ว่าคนที่นั่งมากับมันจะรู้สึกอย่างไร  ที่มันเอาแต่คุยโทรศัพท์จนกระทั่งมาถึงร้านตัดผม  . . .

   . . . มันคงไม่รู้สึกอะไรหรอก . . 

   แต่ . . .

   ผมล่ะ . . .

   . . . ใครก็ไม่รู้มาควักหัวใจผมออกไปแล้ว

   ตอนนี้ผมมันเหมือนตัวอะไรสักอย่างกระมัง . . .

   . . . มีแค่ชีวิตกับลมหายใจ 

   . . . หากแต่ . . . ไร้วิญญาณ

   “ไปตัดก่อนไป๊”  ผมไล่มันไปตัดผม  เพื่อว่ามันจะได้วางหูจากคนนั้น

   หาก . . . เมื่อมันตัดเสร็จ  ผมต้องตัดต่อจากมัน

   มันหยิบโทรศัพท์มากดออกทันที . .  .

   ผมมองมันผ่านกระจกเงา ที่สะท้อนความเศร้าของตัวเอง  ผมอิจฉาปลายสาย  ผมอิจฉาทั้ง ๆ  ที่ผมยังไม่เคยเห็นหน้าฝ่ายโน้นด้วยซ้ำ

   นี่คือ . . .

   . . . ความหึง . . .

   . . . เหรอ . . .

   ผมหึงมัน  เพราะผมรักมันมากอย่างนั้นหรือ  ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม  ผมถึงต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นมันคุยโทรศัพท์นาน ๆ  อาจเพราะว่ามันไม่เคยคุยกับผมนาน ๆ  ก็เป็นได้

   ช่างจะตัดทรงไหน . . .

   สำหรับผมมันไม่สำคัญหรอก  เพราะผมไม่ได้สนใจว่ามันจะออกมาดูดี  หรือไม่ถูกใจ  แต่สิ่งที่ผมมอง  มันคุยไปยิ้มไปต่างหาก . . . 

   . . . รอยยิ้มมันเหมือนมีดที่กรีดลึกเข้าไปในหัวใจของผม . . .   

   มันเจ็บปวดเหลือเกินที่จะทนได้    ใครก็ได้  ช่วยเสกผมให้หายลับไปจากโลกนี้ได้ไหม ผมเหมือนคนหน้ามืดตามัว . . .

   ทั้ง ๆ  ที่ก่อนหน้านั้นสักเจ็ดปี  ผมเคยยิ้มตามมันยิ้มมิใช่หรือ ?

   แล้ว . .  .

   ทำไมตอนนี้ผมเจ็บปวด . . .

   . . . เพราะรักใช่ไหม  เพราะความรักนำพาความเจ็บปวดมาให้ผมอย่างนั้นหรือ    ผมมองมันหัวเราะ  มันยิ้ม เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงเนื้อ  มันเจ็บเหลือเกิน

   ผมตัดผมเสร็จ . . . เดินมาที่รถ

   โกเมศวร์  เดินตามา  มันเปิดล๊อคแต่มันไม่วางสาย  ผมน้อยใจสุดกำลัง  พรุ่งนี้มันก็จะกลับแล้ว  แต่ทำไม  มันทำเหมือนไม่มีผมอยู่ตรงหน้าของมันเลย  มันยังไม่วางสาย  ยังคงคุยมาเรื่อย ๆ  จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้าลานจอดรถ  นั่นแหล่ะ  มันถึงได้หยุดคุย . . .

   “หาไรกินก่อนหิว”

   “ตามใจพี่สิ”

   ยังดีที่มันยังพูดคำนี้  แค่ก้าวเท้าเข้าห้าง  มันรับโทรศัทพ์อีก 

   . . . ผมหรือ  แทบจะก้าวขาไม่ออกอีกแล้ว  มันเจ็บปวดไปทุกก้าวที่ผมย่างเท้า  ผมแทบยืนอยู่บนโลกใบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว

   หากความรัก . . .

   . . . คือความเจ็บปวดขนาดนี้

   ผมจะทนอยู่อีกหรือ . . .

   ผมเดินนำมันมาที่ร้านซิสเลอร์  พยายามมองมัน  อยากให้มันรู้ถึงความรู้สึกของผมในตอนนี้  ผมไม่พอใจ  ไม่พอใจเป็นที่สุดแล้ว  หากแต่ผมจะทำอย่างไรได้  ในเมื่อสายตาที่ผมส่งไป  มันไม่เคยมอง . . .

   ผมสั่งรายการของผม . . .

   . . . มันสั่งของมัน

   ผมเดินไปตักสลัดบาร์ . . .

   . . . มันตักของมัน

   หาก . . . มันไม่เคยวางสายโทรศัพท์

   . . . ผมเป็นตัวอะไรว่ะ . .  .

   ผมจะนั่งทนอยู่แบบนี้เพื่ออะไร  นี่ผมยังเป็นคนอยู่อีกหรือเปล่า  ผมไม่รู้เวลามันผ่านไปนานแค่ไหน  ผมรู้แค่อาหารมื้อนั้น  ผมกลืนไม่ลง  มันติดอยู่แค่ลำคอเท่านั้น . . .

   เพราะ . . .

   . . . น้ำตาผมท่วมหัวใจเสียแล้วกระมัง . .

   สิ่งที่พนักงานเอามาวางเสิร์ฟ  ผมแค่เขี่ยไปเขี่ยมา . . .

   ผมหยิบบิลก่อนเดินมาที่เคาน์เตอร์  เมื่อเห็นมันกินเสร็จ  มันเก่งมาก  กินไปคุยไปได้  หากเป็นผม  ผมคงทำไม่ได้หรอก  ผมไม่เก่งขนาดนั้น  และผมไม่สามารถที่จะฆ่าคนที่เขาดีกับผมได้ลงคอ

   ผมไม่แข็งแกร่งพอขนาดนั้น . . .

   “อ้าว  ไหนบอกว่าหิวทำไมไม่กิน”    มันบอกเมื่อเดินออกมานอกร้าน

   “กินไม่ลง”  ผมเดินออกจากร้าน

   มันไม่รู้ตัวเลยหรือว่าทำไม  ทำไมผมถึงกินไม่ลง  ที่ผ่านมา  มันไม่เคยรู้เลยหรือว่าผมรู้สึกอย่างไร มันไม่เคยเรียนรู้คนใกล้ตัวแบบผมเลยใช่ไหม  ผมเดินออกมาจากร้าน  ผมอยากกลับบ้าน

   ผมคิดถึงหมอน . . .

   หมอนที่มันคอยซับรับน้ำตาผมมาตลอดสองเดือนกว่า  ตอนนี้ผมอยากซบหน้ากับหมอน  ผมอ่อนล้าเหลือกำลัง

   “ดูเรื่องอะไร”

   “กลับบ้าน”

   “อ้าวทำไม”

   “ไม่มีอารมณ์”  ผมมองหน้ามัน  จ้องมันนาน  สายตาผมตอนนั้นคงประมาณอยากจะฉีกร่างมันออกมาเป็นชิ้น ๆ  เสียกระมัง

   “แค่นี้ก่อนนะ”    เสียงมันบอกไปตามโทรศัพท์

   มันอาจจะรู้ตัวแล้ว . .  .

   ช่างเหอะ. . .  ตอนนี้ผมไม่มีหัวจิตหัวใจทำอะไรทั้งนั้น  ผมอยากนอน  อยากอยู่เงียบ ๆ  มากกว่า   

   . . . ผมอาจรักมันมาก  มากจนลืมมองตัวเอง 

   ลืมนึกถึงตัวเอง . . . 

   และที่สำคัญที่สุด . . .

   . . . ลืมรักตัวเอง . . .

   บางที . . . มันถึงเวลาที่ผมควรจะหันมารักตัวเองบ้างก็ได้  หากเราไม่รักตัวเอง  ไม่รู้คุณค่าของตัวเอง  ใครจะมารักเรา  และเห็นคุณค่าในตัวเรา

   “ไหนบอกว่าอยากดูหนัง  มาถึงแล้วก็ไปดูสิ”  มันบอก

   “ไม่มีอารมณ์ก็ไม่มีอารมณ์สิ  กลับบ้าน” 

   ผมหันไปตะคอกใส่มัน  ก่อนเดินตัวปลิวไปที่รถ  อารมณ์ส่วนต่ำผมคงมีมาก  มากเกินกว่าที่ผมจะควบคุมมันเอาไว้ได้  เพราะอะไรนะหรือ  ผมหึง  ผมหวง  ผมกลัวเสียมันไป  ทุก ๆ  อย่างที่แปลว่า  มันกับผม  กำลังจะจบลง

   “พี่อาร์ม” มันเรียกเสียงละห้อย

   ผมยืนรอที่รถ  ทันทีที่มันกดล๊อค  ผมเข้าไปนั่งในรถทันที  ก่อนที่จะปรับเบาะเอน  ผมฝากแก้มไว้แนบกระจก  ปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมา  มันมีแค่น้ำตาที่ไหนริน  อย่าหวังเลยจะได้ยินเสียง 

   หาก . . .  ยิ่งกดเก็บไว้มันยิ่งเจ็บ

   “พี่อาร์มเป็นอะไร”

   “เป็นควาย” 

   “เอ้า  พูดดี ๆ  สิครับ”

   ผมเป็นอะไรได้ . . . เป็นคนดีอย่างนั้นเหรอ ผมคงได้แต่ยิ้มเยาะตัวเอง

   สิ่งที่คนดีได้รับคือน้ำตาใช่ไหม ?

   แล้วผมจะเป็นคนดีไปอีกมั้ย  ผมจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานขนาดไหน  ผมไม่อยากพูด  เพราะถึงพูดไป  มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  สิ่งที่ทำได้  คือการนิ่งเงียบ

   พร้อมกับความคิดวกไปวนมา . . .

   ผมเจ็บ . . .

   เจ็บจนพูดไม่ออกอยู่แล้ว  พรุ่งนี้มันจะกลับบ้าน  วันนี้น่าจะเป็นวันที่มันให้เวลากับผม  น่าจะเป็นวันที่เรากินข้าวกันแล้วยิ้มสบายใจที่สุด  แต่ทำไมมันกลับกลายเป็นวันที่ผมรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว . . .

   แล้วมันก็ลามไปถึง . . .

   . . . หัวใจ . . .

   น้ำตา . . .

   คือสิ่งเดียวที่อยู่ใกล้ผมที่สุดตอนนี้  ยิ่งคิดมันยิ่งเจ็บ มันแน่นมาถึงหน้าอก  แล้วสิ่งที่ผมพยายามกดเก็บมันเอาไว้  ก็หมดแรงต้านทาน  ผมร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง   มันคงไม่ไหวแล้ว  ถ้าผมไม่ได้ปลอดปล่อยผมคงแย่  ตอนนี้มันอัดแน่นเหมือนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

   “พี่อาร์มเป็นอะไร”

   เสียงของมัน  ทำให้ผมหมดความต้านทาน  มันไม่เคยรู้  ไม่เคยสนใจผมเลย  ถ้ามันสนใจผมมันจะถามผมมั้ยว่าเป็นอะไร  มันไม่รู้จริง ๆ  เลยหรือ  คนที่นอนกับมันมาหกปีเป็นอะไร

   ผมไม่ตอบ . .  .

   สิ่งเดียวที่ผมต้องการตอนนี้  การกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด . . .

   ผมเข้าไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเมื่อไปถึงบ้าน  ห้องนอนคือที่ของผม  มันคงเหมาะที่สุดสำหรับคนแบบผม  ผมกอดหมอนเอาไว้แน่น  ยึดมันเอาไว้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมมี

   ต่อจากนี้ . . .

   . . . ผมควรหัดรักตัวเอง . . .

   “พี่อาร์มเป็นอะไร”  มันเข้ามากอดผมเอาไว้

   ทำไม . .  . ทำไมมันต้องมาทำดีกับผมแบบนี้  ผมไม่อยากอ่อนแอ 

   “เป็นอะไร  ทำไมโกไม่ถามตัวเองล่ะว่าพี่เป็นอะไร”

   “อ้าว  พี่เอาแต่ร้องแล้วผมจะรู้มั้ย  บอกอยากดูหนังผมพาไปแล้วไง  พอไปถึงก็ไม่ดู” 

   ผมร้องหนักไปอีก . .  .

   “ดูเหรอโก  โกไม่รู้จริง ๆ  เหรอว่าพี่รักโกมากกว่าน้อง  พี่รักมาตั้งนานแล้ว”

   “ผมรู้”

   “โกรู้  แต่โกยังทำกับพี่ได้  โกทำกับพี่แบบนี้ได้อย่างไรกัน”  ผมสะอื้น  กอดหมอนข้างเอาไว้แน่น

   “ผมทำอะไร  ไม่เข้าใจ  งงไปหมดแล้วพี่”

   “โก  โกกำลังทำอะไรอยู่  พรุ่งนี้โกจะกลับบ้าน  แล้วอีกนานขนาดไหนที่จะได้เจอกันอีก  โกไม่คิดเหรอว่าพี่มีเรื่องจะคุยกับโก”

   “แล้วทำไมพี่ไม่คุย”

   “คุยตอนไหนล่ะโก  ตั้งแต่ออกไม่ทันพ้นหมู่บ้าน  โกก็เอาแต่คุยโทรศัพท์  ไปถึงร้านตัดผม  โกยังไม่วางเลย  ขนาดออกมาจากร้านตัดผม  ขับมาถึงเดอะมอลล์  ถ้าสัญญาณไม่ขาดไปโกจะวางมั้ย”   ผมสะอื้น

   ผมเจ็บ  มันปวดไปหมดแล้ว

   . . . เนื้อ . . .

   กระดูก . . . เหมือนมีใครมาสับ 

   มาฉีก  ผมแทบไม่อยากหายใจอีกแล้ว  มันทรมานเหลือเกิน  ทรมานอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต

   “ไม่วางหรอก  เพราะอะไรพี่คิดแบบนั้น  เพราะพี่เห็นไงโก  พี่เห็นมาตลอด  ขนาดเดินไปกินข้าว  โกยังไม่วางเลย   โกไม่วางไม่เคยวางโทรศัทพ์จากคนนั้นเพราอะไรเหรอ  เพราะโกไม่อยากคุยกับพี่ . . .”   ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม  ยิ่งคิดมันยิ่งเจ็บ  หัวใจผมทานทนอะไรได้ขนาดนี้เลยหรือ 

    “. .  พี่ไม่ว่าอะไรหรอก  แต่โกไม่รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหาร  ไม่ให้เกียรติคนที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยเลย  ทำไมเหรอโก  คนนั้นเขาสำคัญมากเลยเหรอ  โกรักเขามากเลยเหรอ”    ผมหยุดตัวเองไม่ได้  ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับสิ่งที่ได้รับ  มันมากมายมหาศาล

   “เพื่อนกันพี่”

   “โกหก  อย่ามาโกหกอีกเลย”

   “จริง ๆ พี่”

   “ไม่จริง  อย่าหลอกตัวเองเลยโก  ไม่มีเพื่อนที่ไหนเขาคุยกันยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก  เพื่อนที่ไหนเขาจะโทรมาตอนตีสองตีสาม  เพื่อนมันควรรู้เวลาไหนควรโทรหา  เวลาไหนควรวางสาย  คนที่สามารถโทรหากันได้ตลอดเวลา  มันมากกว่าเพื่อนแล้ว  โกไม่ต้องหลอกตัวเองหรอก  ไม่ต้องหลอกพี่”

   ผมสะอื้นหนักกว่าเดิมอีก  ถ้ามันยอมรับ  ผมคงไม่เจ็บปวดขนาดนี้  อย่างน้อยผมจะได้รู้  และมีเวลาทำใจ 

   แต่นี่ . . . 

   มันโกหกผม  มันโกหกอย่างหน้าด้าน ๆ  ที่สุด  ผมมีความรู้สึกมากพอว่านี่คือคำโกหกที่ผมได้รับ

   “เพื่อนกันจริง ๆ  นะครับพี่”

   “เหรอ  จะให้พี่เชื่อจริง ๆ  ว่านั่นคือเพื่อนหรือโก”

   “เพื่อนพี่  เพื่อนจริง ๆ ครับ”

   ผมคงไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีกแล้ว . . .

   . . .ทุกอย่างมันแน่น   

   มันอัดอั้น . . .

   ผมได้แต่นอนนิ่ง ๆ  ปล่อยน้ำตาไหลเป็นทางยาว  บางครั้งที่ผมสะอื้นมันจะมากอดผมเอาไว้  ผมอยากสลัดจากอ้อมแขนมัน  แต่ผมทำไม่ได้ในเมื่อหัวใจของผมยังอยากได้อ้อมแขนของมัน  ในเมื่อผมยังบอกว่านี่คือความสุขที่ผมมีจากมัน

   ความสุขเล็กน้อยที่ผมพอจะหาได้จากมัน . . .

   “โก โกไปเสียเหอะ  ออกไปจากชีวิตของพี่  ก่อนที่พี่จะเกลียดโก ก่อนที่พี่จะเกลียดตัวเองมากกว่านี้  แค่นี้พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว  พี่ไม่รู้จะทำไงแล้วโก”

   “พี่อาร์ม  ผมไม่มีอะไรนะพี่  มันแฟนไอ้ชัยไงพี่  มันทะเลาะกันแล้วโทรมาหาผม  ผมก็คุยปลอบมันเฉย ๆ  พี่”   มันกอดผมเอาไว้  มันค่อย ๆ  บอกออกมา

   “แฟนเพื่อน  โอโห  ไอ้ชัยมันก็นามสกุลเดียวกันกับโก  หนักกว่าเพื่อนอีก”

   “มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิด”

   “อย่าเลยโก  อย่าหลอกตัวเอง  โกบอกพี่มาตลอดว่าโกรักพี่แบบที่พี่รักโกไม่ได้  วันนี้โกมีคนอื่นเข้ามาในชีวิต  คนที่เป็นเพศที่โกไม่รังเกียจ  พี่ไม่ว่าอะไรโกหรอก  ถ้าโกจะเดินออกไปจากชีวิตของพี่  ไม่ต้องห่วงหรอกโก  พี่อยู่ได้ . . .”  ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม

   “. . . พี่ต้องอยู่ได้”   

   มันพลิกตัวผมให้หันมาหามัน  จมูกมันแตะที่ปลายจมูกของผม

   “ไม่นะพี่อาร์ม  พี่อาร์มไม่ไล่ผมนะ  ผมบอกว่าเพื่อนก็เพื่อนไงพี่    ทำไมพี่ไม่เชื่อผม  ทำไมพี่ไม่เชื่อใจผมล่ะครับ  ไหนพี่อาร์มบอกว่าอยากเห็นผมใส่ครุยแดงไง  ผมต้องทำได้พี่  ผมจะทำให้พี่เห็นให้ได้”    มันเองก็สะอื้น

   เรา . . . มีแต่ความเจ็บปวด

   ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว . . . 

   . . .  ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของมัน . . . 

   ผมไม่อยากเห็นมันเจ็บ . . . 

   แล้วผมก็ไม่อยาก . . .

   . . . เจ็บ . . . 

   ทางที่ดีที่สุดคือหยุดทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ตรงนี้  . . .

   แล้วต่างฝ่ายต่างเดินออกไปจากชีวิตของกันและกัน  นี่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับคนสองคน  ที่ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคงอยู่ในสถานะไหนกันแน่  มันยุ่งเหยิงไปเสียหมด

   เรากอดกันกลมราวกับจะประสานให้เป็นเนื้อเดียวกัน . . .

   . . . หรือ . . .

   ตอนนี้เรากำลังประสานกันอยู่  โดยมีตัวเชื่อมคือ . . .

   น้ำตา . . .

   เพราะทั้งมันและผมสภาพคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่  ต่างฝ่ายต่างมีน้ำตาทั้งคู่  แต่คนที่อาการหนักน่าจะเป็นผม  เพราะผมเก็บมันเอาไว้มาตลอดตั้งแต่หลังปีใหม่  ผมไม่อยากเจ็บอีก

   “จะให้พี่เชื่อหรือโก  ในเมื่อสองหูที่พี่ได้ยินมาตลอดสองสามเดือนก่อนนอน  คิดถึงนะ  ดูแลตัวเองนะ  แล้วพี่จะเชื่อมันได้อีกหรือโก  ในเมื่อทุกคืน  พี่ต้องหลับทั้งน้ำตา  บางคืน . . .”    ผมหอบตัวโยน 

   เพราะผมร้องไห้ออกมามากเกินไปแล้ว . . .

   ผมร้องไห้ทุก ๆ  ครั้งที่นึกถึงเรื่องที่ผมเจอมา  คำพูดที่ออกมา  มันออกมาจากส่วนน้อยเนื้อต่ำใจอย่างที่สุด 

   “. . . บางคืนพี่ต้องนอนสะดุ้งตื่นมา  ทั้ง ๆ  ที่น้ำตามันไม่แห้งไปจากแก้ม  มันเป็นฝันร้ายที่ยาวนานตลอดเลยโก  ถ้าพี่ย้อนเวลาได้  พี่รับร้องโกไม่มีวันได้กลับไปบ้านเมื่อตอนปีใหม่  แต่มันไม่ใช่โก  เราย้อนเวลาไม่ได้  สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้  คือทำยังไงก็ได้  ให้พี่ยืนบนโลกนี้ได้โดยไม่เจ็บปวดอีก”

   “พี่อาร์ม . . .”

   “แล้ววันนี้  มันที่สุดของพี่แล้วไงโก  มันถึงที่สุดแล้ว วันสุดท้ายที่คนที่พี่รักอยู่กรุงเทพฯ  พี่อยากกินข้าวอยากดูหนัง  แต่สิ่งที่พี่ได้รับคือน้ำตา  โกไม่รู้  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  พี่ต้องทนเจ็บปวดขนาดไหน  จากโกคนเดิมที่อ่านหนังสือด้วยความตั้งใจ  แล้วเป็นไงล่ะ  สองสามเดือนมานี้  โกเคยสนใจตำราเรียนเหมือนเมื่อก่อนมั้ย  ตั้งแต่มีผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิต  ทุกอย่างมันแปรเปลี่ยนไปหมด  มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว  โกเชื่อพี่เหอะ  เทอมนี้  โกสอบได้ไม่เท่าเทอมก่อนหรอก”

   “แล้วถ้าได้ล่ะ”

   “ไม่มีทางโก  ไม่มีวัน  ไม่มีวันที่โกจะได้เท่า”

   เกือบสามชั่วโมงแล้ว  ที่มันกอดผมเอาไว้ . . .

   . . . เกือบสามชั่วโมงที่ผมยังไม่สามารถหยุดตัวเองได้ 

   ผมมีแต่ความอัดอั้นอย่างที่สุด  ผมคิดแค่ว่า  ถ้ามันจะจบ  ผมยินดี  หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร  ผมไม่รู้ 

   แต่ . . .

   สิ่งที่ผมทำ  มันดีที่สุดแล้วสำหรับคนแบบผม  ผมไม่เรียกร้องให้มันต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของผม เพราะความรู้สึกที่ผมได้รับมา  มันไม่สามารถเรียกคืนได้อีก

   แก้วของผม . . .

   . . . ร้าว . . . ยากเกินจะประสานเสียแล้ว

   เสียงโทรศัพท์มันดัง . . . 

   ผมรังเกียจเสียแล้ว  ดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดรอดจากพันธนาการของมัน  มันปล่อยให้เสียงเรียกเงียบหายไปเอง . . .

   . . . เพียงไม่นาน เสียงนั้นเรียกกลับเข้ามาใหม่

   หากเจ้าของเครื่องยังทำเช่นเดิม . . .

   มันเป็นอยู่แบบนั้นร่วมสิบครั้ง . . .

   “รับ ๆ  ไปสักที  โทรแบบนี้ไม่ได้นอน”   ผมบอกมัน  น้ำเสียงเย็นชา

   “ฮัลโล  นอนแล้วแค่นี้นะ”  มันกดวางสายทิ้ง

   เพียงแค่ชั่วอึดใจ . . . มันโทรเข้ามาอีก  คราวนี้เสียงโกมันตะคอกกลับไป   

   “บอกว่านอนแล้วไง  แค่นี้”

   หาก . . .

   . . . อีกฝ่ายความพยายามสูงส่ง  โทรเข้ามาอีก 

   ผมรู้ได้ . . .

   . . .  ไม่ใช่เพื่อนอีกแล้ว . . . 

   มากกว่าที่มันบอก  สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้  มันมีอีกคนแทรกเข้ามาในหัวใจ อย่างช้า ๆ  กว่าที่มันจะรู้หัวใจตัวเองก็เมื่อสายเกินไป

   สายเกินไป . . .

   . . . ผมเกลียดคำนี้จับหัวใจ   

   มันทำร้ายหัวใจผมขนาดนี้เชียวหรือ . . .

   สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือสมน้ำหน้าตัวเอง  ผมร้องไห้อีก  หลังจากที่นิ่งเงียบไปพักใหญ่  ร้องมันเสียให้พอ  ให้สมกับความเจ็บปวดที่มีอยู่  ให้วันนี้อ่อนแอที่สุด  ก่อนจะลุกมายืนใหม่ในวันพรุ่งนี้นะอาร์ม

   “บอกว่านอนแล้ว นอนแล้ว  ไม่รู้เรื่องหรือไง  โทรมาทำไมนักหนา”    มันตะโกนกลับไป  ก่อนปิดเครื่อง

   มันมานอนกอดผมเอาไว้ . . .

   . . .  ผมหลับไปในอ้อมกอดของมัน . . .

   ผมหลับทั้ง ๆ  ที่น้ำตาอาบแก้ม  แล้วผมก็สะดุ้งตื่นอย่างไม่มีสาเหตุ  เหมือนฝันร้าย  หากแต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผมหายกลัวในตอนนั้น  มันนอนหลับสนิท  ทั้ง ๆ  ที่ยังกอดผมอยู่

   ผมหยิบโทรศัพท์มันมา . . .

   . . . ถือวิสาสะเปิดเครื่อง

   ๔๓   สายที่โทรเข้ามาตอนมันปิดเครื่อง . .  .

   ผมแกะแขนมันที่กอดผมอยู่ . . .

   . . . ต่อจากนี้ไป . . .

   ผมต้องเรียนรู้ในการอยู่คนเดียว  เวลาที่ผมมีอยู่  มันค่อย ๆ  หมดลงไปทุกที  ผมรู้ตัวดี    อีกไม่นานหรอก  โกมันก็ต้องเดินไปในเส้นทางที่มันอยากเดิน

   เส้นทางที่ผมกลัวมาตลอดตั้งแต่ที่เริ่มมีอะไรกับมัน . . .
   


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 13:41:54 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
   :a6: :a6: :a6: :a6:
ทำมายถึงเป็นอย่างงี้ได้

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
อานุภาพของความรัก ยิ่งใหญ่จริงๆๆเลยนะ   อย่างที่ว่าทุกอย่างมันมีสองด้าน

ถ้าความรักเรายังคงดีอยู่มันก็จะยิ่งใหญ่ และดูดีไปหมดซะทุกอย่าง  แต่เมื่อวันใดความรักเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง มันก็หันกลับมาทำร้ายเราได้อย่างเจ็บปวดที่สุด

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
บีบใจเหลือเกิน  :o12:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป



สิ่งที่เขียนมาตั้งแต่ต้น . . . มันยากจัง

แต่ . . .

. . . สิ่งที่จะเขียนต่อจากนี้ล่ะ . . .  มันจะไหวหรือ

ผมมานั่งอ่านซ้ำอีกรอบตั้งแต่ตอนแรก  ทุก ๆ  อย่าง  มันยังเหมือนเดิม  มันไม่ได้หายไปไหนเลย  ทุกภาพยังคงแจ่มชัด   เวลาที่นิ้วจิ้มลงไปที่แป้นพิมพ์  เหมือนเอานิ้วไปจิ้มปลายเข็มที่แหลมคม   มันเจ็บปวด  ทั้ง ๆ  ที่มันคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

เวลาที่เหลือต่อจากนี้ . . . ผมมองไม่เห็นทางเลยจริง ๆ



sun

  • บุคคลทั่วไป
 :เตะ1:    บอกแล้วว่าไม่เอาเพลงนี้ มันเศร้า    :angry2:

 :o12: :o12: :o12:  จะใหเศร้าไปไหน

แค่ย้อนอดิต กลับไปเขียนก้อ จะเเย่แล้ว   ยังมาเพิ่มน้ำตาอีกคนเรา   :sad2:


.................


ซินไม่รู้ว่า การที่พี่เขียนย้อนกลับไป มันจะทำให้พี่เจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า

แต่ถ้าคิดอีกทางนึง การที่เราเดินย้อนรอย กลับไปทางเดิม ที่ๆเคยเดินผ่านมา

มันก้อเหมือนเป็นการวัดใจอีกอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ

"ความเจ็บปวดทำให้ใจคนเราอ่อนแอ"

"แต่ความเจ็บปวดอีกนั่นแหล่ะ ก้อทำให้ใจเราเข้มแข็งขึ้นได้เช่นกัน"



ป๋อล๋อ*..แต่ก่อนพี่เอาแต่วิ่งหนีมัน  ..แต่ตอนนี้ พี่กลับเดินเข้าไปหามันเอง    :a2:   สู้ๆนะพี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008 17:17:46 โดย สวย~ถึก~บึก~บึน »

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อ่านมาถึงตอนนี้ เจ็บตามจนพูดไม่ออก จะปลอบก้อไม่กล้า เพราะถ้าเปนตัวเอง ยังไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้มั๊ย
รู้อย่างเดียวมันเหมือนใจจะสลาย อ่านไปน้ำตาไหลไป ทำไมถึงอินได้ขนาดนี้นะ แล้วคนที่เจอกะตัวล่ะ....
แรกอ่านเคยคิดอยากให้อาร์มคืนดีกับโกนะ แต่ตอนนี้ ชักไม่แน่ใจแล้วสิ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วแปล๊บด้วยคนไงเป็นกำลังใจให้น๊าค๊าบบ  อยากรู้จังที่โกกลับมาเพื่อขอโอกาสนั้นแบบน้องรึต้องการเป็นแฟน ถ้าต้องการเป็นแฟนหนึ่งก็อยากให้ลองเสี่ยงดูน๊า เพราะเขาอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ก็นะ สู้ๆๆน๊าค๊าบบจะมารออ่านต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008 20:53:05 โดย ifwedo »

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
หมดคำพูด   แต่ขอเป็นกำลังใจให้ละกัน :L2: :L2: :L2:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
 
"ความเจ็บปวดทำให้ใจคนเราอ่อนแอ"

"แต่ความเจ็บปวดอีกนั่นแหล่ะ ก้อทำให้ใจเราเข้มแข็งขึ้นได้เช่นกัน"



ป๋อล๋อ*..แต่ก่อนพี่เอาแต่วิ่งหนีมัน  ..แต่ตอนนี้ พี่กลับเดินเข้าไปหามันเอง    :a2:   สู้ๆนะพี่





น้องซินคิดเยี่ยม  o13

กลับมาอ่านเรื่องนี้แบบจริง ๆ  อีกรอบ

น้ำหูน้ำตาไหล . . . เจ็บหัวใจจังเลย  o7 o7 o7


Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป
จริงค่ะ

ไม่แปลกใจ....

บางคนว่าอกหักไม่ตาย  แต่ถ้าเขาไม่เคยเจอประสบการณ์แบบเรา

บางทีเค้าอาจจะไม่รู้ว่า

"อกหักไม่ทำให้ตาย ...แต่ความเจ็บปวดนั้นต่างหาก ที่ทำให้คนอยากตาย..."

สิ่งมีชีวิตมักหาทางหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ 

พอเราเจ็บปวดทางใจมากๆ ก็อยากหาวิธีหยุดมัน  แต่มันห้ามกันได้ง่ายๆซะที่ไหน

ถ้าผ่านไปไม่ได้  ก็คง....

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: :m1:

ได้ใจจริง ๆ นะครับ ไม่ได้เข้ามานานไปนิด แต่ได้ครบรสเลย ครับ
เป็นกำลังใจให้ นะครับ
 :m1: :m1:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

 
ประกาศ


หากเรื่องที่ผมเล่าจบลง . .  . ผมขอลบข้อความบางส่วนบางตอนภายใน ๓๐ วันนะครับ

สำหรับคนที่ชอบ  ก็เซฟเก็บไว้นะครับ  แต่กรุณาอย่านำไปโพสต์ที่อื่น  เพราะผมตั้งใจเขียนไว้ในเล้านี้ที่เดียวเท่านั้น  สำหรับคนที่เข้ามาหลังที่ผมเขียนจบ ๓๐ วัน  อาจได้เรื่องไม่ครบสมบูรณ์นะครับ

ขออนุญาตทำตามนี้นะครับ . .
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2008 22:46:28 โดย RAJCHABUT »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ขอทำใจก่อนอ่านนะ หวังว่าคงทันภายใน 30 วัน  :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
โกมีแฟนเหรอ งี้โกก็ไม่รักษาสัญญาที่บอกว่าจะไม่มีใครก่อนเรียนจบอ่ะจิ  มันน่านัก o12 o12

ป.ล. สงสารแดน จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังรอเหรอ รักมั่นจริง ๆ เสียดาย ที่เรื่องของหัวใจบังคับกันไม่ได้  o7 o7

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่ ๒๑


สิ่งที่ผมกลัวมาตลอด . . .

   ผมน่ะเข้าใจดี  ว่าเพศที่ไร้สถานะทางสังคม  มันไม่มีสิทธิ์ที่จะยืนมองหน้าคนอื่นอย่างเต็มภาคภูมิหรอก  ไม่มีใครหรอกที่จะเดินไปข้าง ๆ  เรา  เป็นทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนที่เราเป็น  สิ่งนี้ผมเข้าใจดี

   ผมถึงได้ขีดเส้นตัวเองเอาไว้ . .  .


   แค่มันเรียนจบเท่านั้น . . .

   . . . อีกแค่ปีเดียวเอง . . .

   หาก . . .

   บางที  มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้  วันที่ผมส่งมันถึงฝั่ง    ตอนนี้ผมพายเรือให้มันนั่ง เห็นฝั่งรำไร  แต่ดูเหมือนว่าจะเจอคลื่นลมขนาดใหญ่ จนเรือโคลงไปโคลงมา  ผมต้องประคองเรือเอาไว้  รักษาเรือเอาไว้ให้ดีที่สุด

   มันต้องไปถึงฝั่ง . . .

   ส่วนผม . . .

   ผมยอมที่จะจมน้ำตายหากเรือล่ม  แต่ผมไม่มีวันยอมให้มันจมน้ำไปกับผมด้วยหรอก  สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมด  จะสูญเปล่า  ผมไม่มีวันยอม  ไม่ยอมให้มันมีวันนั้นเด็ดขาด 

   โกเมศวร์ . . . ความหวังของทุกคนในบ้าน

   ผมไม่มีวันยอมให้ใครมาทำลายความหวังของคนแก่ ๆ  อีกหลาย ๆ  คนเด็ดขาด

   “พี่อาร์มลาพักร้อนหรือ”  แดนมันถาม  มันมองหน้าผมในเย็นวันที่ผมบอกมันว่าผมลาพักร้อนห้าวัน  รวมวันหยุดหัวท้ายก็เก้าวันเต็ม ๆ

   “อืม”

   “มีอะไรมั้ยพี่  ตั้งแต่คืนนั้น  พี่เงียบหนักกว่าเดิมอีก”

   “ไม่มีอะไรหรอก แค่เบื่อ ๆ  พักร้อน  กลับไปหาหลวงพ่อ  แล้วจะเลยไปปายด้วย”

   “ดีจริ๊ง อยู่กันที่กรุงเทพฯ  ไม่พอ  ยังต้องตามไปถึงปายอีก”  น้ำเสียงมันคล้ายคนน้อยใจ     หรือมันกำลังตัดพ้อผมอยู่กลาย ๆ

   “เย้ย  ไม่ใช่  แค่อยากรู้อะไร  เลยต้องไป”

   “ทะเลาะกันอีก”

   ผมมองหน้ามัน . . .

   เห็นแววตามัน  ผมไม่อาจปิดบังแววตามันได้เลย  ผมน่าจะดีใจที่มีคนที่รักและห่วงใยผม  แต่ทำไม  ผมไม่อยากใกล้มันมากกว่านี้ก็ไม่รู้  ผมได้แต่ยิ้มบาง ๆ  ให้มัน

   “มีบ้าง  แต่ช่างเหอะ  อีกแค่ปีเดียวเอง”

   “ปีเดียว”  แดนเลิกคิ้วสูง

   “ก็สัญญากับมันเอาไว้  มันเรียนจบเมื่อไหร่  จะไม่ยุ่งกับมันอีก  ถอยออกมาเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนที่เคยมา”

   “โอโห  พ่อพระ”

   “เหรอ  แต่บางทีนะ  อยากเป็นพระเพลิงว่ะ  เผาทุกอย่างให้มอดไหม้ไปกับไฟ  ไม่ต้องให้เหลือความรู้สึกอะไรไว้อีก”

   “ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือพี่”

   “ไม่รู้เหมือนกัน  ยังบอกอะไรไม่ได้  เจ็ดปีแล้วล่ะแดน  มันนานมาก  นานจนบางทีเหมือนกับว่ามันคือส่วนหนึ่งในชีวิต  ที่ขาดเสียมิได้”

   “มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะพี่”

   “ไม่เป็นไร  ยังไหวอยู่”

   “พี่ก็แบบนี้ทุกที”  มันน้อยใจผมเรื่องไรหว่า

   “อะไร”

   “มีอะไรไม่เคยบอกผม  ขนาดคืนนั้น  ผมนั่งอยู่ยังไม่เห็นผมเลย  ทีกับพี่โอ๋  กอดพี่โอ๋เสียแน่นเลย”

   ผมยิ้ม . . . 

   เอ็นดูมันนะ  มันเหมือนเด็กที่ขาดอะไรสักอย่าง  เหมือนมันจะอิจฉาเพื่อนผมที่ผมไม่เคยทำแบบนั้นกับมันสักครั้ง

   “อ้าว  ก็เพื่อนรัก”

   “แล้วผมล่ะ”

   “น้องรัก”

   “แล้วทำไมไม่กอดผมมั่งว้า”

   “กลัวไง”

   “กลัวอะไร”

   “กลัวอดใจไม่ไหว  พอกอดแล้วจะเลยเถิดมากไปกว่ากอด  เพราะแกกับไอ้โอ๋  มันคนละความรู้สึกกันไง  แต่ไม่ได้หมายว่าจะไม่รักไม่ห่วงแดนนะ  พี่รักแดน  และไม่อยากให้แดนต้องคิดแบบนั้น”

   “ครับ  ผมรู้”

   “เจ็บมั้ยล่ะ”

   “เรื่อง ?”  มันเลิกคิ้วมองหน้าผม

   “ก็เวลาที่เห็นพี่  แล้วเข้าใกล้ไม่ได้”

   “เมื่อก่อนอาจมีน้อยใจนะ  ทำไมพี่เขาไม่มองเราบ้าง  แต่หลัง ๆ  ผมบอกตรง ๆ  นะ  ผมนับถือน้ำใจพี่มากกว่า  ไม่รู้สิพี่  ถ้าผมมีพี่ชาย  ผมอยากมีพี่ชายแบบพี่นะ  พี่ห่วงใยคนรอบตัวเสมอ”

   ผมยิ้มให้กับมัน  เวลาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

   “ผมบอกจริง ๆ  นะพี่  สมัยเรียน  ผมอาจมีฝัน  อยากมีคนที่เราใช้ชีวิตร่วมด้วย  ผมชอบพี่นะ  แต่พอได้อยู่กันนาน ๆ  ผมว่า  ผมไม่ได้อยากรักพี่แบบนั้นมากกว่า  ผมมองพี่ด้วยความห่วงมากกว่า”

   “ห่วงอะไร”

   “ไม่รู้สิพี่  พี่เชื่อเรื่องลางสังหรณ์มั้ย”

   “ซิกส์เซ้นน์เหรอ”

   “ประมาณนั้นพี่”

   “เป็นไรมากมั้ยนี่”  ผมเอามือแตะหน้าผากไอ้แดน

   “เป็นการเป็นงานพี่  สบายดี  พี่ไม่เชื่อก็ตามใจ  แต่ผมกลับรู้สึกนะ  อีกไม่นานเราคงห่างกัน  ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ  นะพี่”

   “เฮ้ย  จะมีเมียแล้วเหรอแก”

   “บ้าดิพี่  ผมนะเฉย ๆ  อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว  เวลาเห็นพี่ยิ้มมาทำงาน  ผมก็มีความสุขแล้ว  แต่เวลาเห็นพี่ทำหน้าอย่างกะแบกโลกมาทำงานนี่สิ”

   “ขนาดนั้นเลยเหรอ  แกเห็นขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “ป่าวหรอกพี่  ผมไม่เห็นหรอก”

   “อ้าว”

   ผมงง  มองหน้ามัน  มันไม่เห็น  แล้วมันพูดออกมาเป็นวรรคเป็นเวรได้ขนาดนั้นนี่นะ  แล้วที่มันเห็น มันเห็นอะไรหรือ  ผมหมดฟอร์ม  ไร้การเก็บอาการได้ขนาดนี้เลยหรืออย่างไร

   “ก็พี่โอ๋นะสิพี่  พี่เขาสั่งเอาไว้”

   “ไอ้โอ๋เกี่ยวไร”  ผมเลิกคิ้วสูง

   “พี่โอ๋บอกผม  พี่มีอะไรในใจแน่ ๆ   ให้ผมคอยดูแลให้ดี  พี่เขาห่วงพี่นะ  ผมยังนึกอิจฉาเลย  ทำไมผมไม่มีเพื่อนที่ห่วงผมแบบที่พี่โอ๋มันห่วงพี่มั่งนะ”

   ผมมองมัน . . .

   มีความสุขนะสิ่งที่มันบอก  อย่างน้อยที่สุด  ในเวลาที่ผมเจ็บปวด  ผมยังมีคนที่ห่วงผม  แม้มันจะไม่เคยพูดกับผมโดยตรง  แต่สิ่งที่แดนเล่ามา  ผมรู้  มันคิดอะไร  เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตผม

   “เลยต้องทำตามคำสั่งมันว่างั้น”

   “ไม่ใช่พี่    คิดโน่น  ผมนะห่วงพี่น่า”

   “เออ  รู้ เอาน่า  ถ้าเป็นเรื่องไอ้โก  พี่ไม่ไหวเมื่อไหร่  พี่จะเล่าให้แดนฟังเป็นคนแรกแล้วกัน”

   “ยินดีมากครับพี่  ที่พี่เห็นผมมีประโยชน์บ้าง”

   “ถุย”

   “กลับบ้านเหอะพี่  เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าใครมาส่งสนามบิน”

   “ไอ้โอ๋มันจะไปค้างด้วยคืนนี้    พรุ่งนี้มันจะได้เอารถพี่ไว้ใช้”  ผมยิ้มให้แดน  ถึงผมจะรู้สึกแย่  แต่สิ่งที่ผมคุยกับมัน  ทำให้ผมมองมันมากกว่าเดิม

   ความรู้สึกที่ถอยเพื่อรักษาระยะห่างเริ่มหายไป . . .

   ผมให้มันเข้าใกล้ผมมากขึ้น . . .  เหมือนที่ไอ้เพื่อนรักผมเคยได้จากผม  ความรู้สึกที่ผมมีให้ไอ้แดน  ไม่แตกต่างกัน




   ทันทีที่ลงจากเจ้านกตัวเล็กใบพัดหกเฉก  ของสายการบินที่ผมทำงาน  ผมก็ตรงดิ่งไปที่วัด  หากแต่พระบอก  หลวงพ่อออกธุดงค์หลายอาทิตย์แล้ว  ผมเลยจับรถไปปาย   ผมเจอชัยบนรถ  เพิ่งรู้  มันมาเรียนที่เชียงใหม่ได้ปีนึงแล้ว  หากแต่  เรื่องนั้นผมไม่ได้ถาม  ผมแค่แลกเบอร์กับมันเอาไว้  กว่าจะถึงปายก็เกือบเย็น

   ที่นั่นเปลี่ยนไปมาก . . .


   ผมเหมือนคนแปลกหน้าเลย  ที่ท่ารถตู้  ทุกอย่างมันเจริญขึ้นอย่างผิดหูผิดตา  ผมเดินลัดเลาะมายังรีสอร์ทของอา   ถนนทุกเส้นผมจำได้ดี . . .

   หลังจากที่เก็บของเรียบร้อย  ผมเอาของฝากที่หิ้วติดมือมาไปฝากป้าภา . . .

   “น้องอาร์ม  มาเมื่อไหร่”  ป้าภายิ้มกว้าง  เมื่อเห็นผม

   “เพิ่งมาถึงครับ  เอาของมาฝาก”

   “ลำบากเปล่า ๆ    วันนี้กินข้าวที่นี่นะ”

   “ไว้พรุ่งนี้ดีกว่าครับ  พอดีอาปูทำของอร่อยรอเอาไว้  เดี๋ยวแกน้อยใจอีก  บ่น ๆ  อยู่  เวลามาไม่ค่อยเจอหน้า  มาขลุกอยู่บ้านป้าภา”

   “อ้าว  ก็ลูกป้าอีกคน”  แกกอดผมเบา ๆ

   “สบายดีมั้ยครับ”

   “เรื่อย ๆ  น้องอาร์มล่ะ  ผอมไปนะ”

   “ครับ   เอวสามสิบสี่แล้ว  เดี๋ยวที่ทำงานไล่ออก  ต้องลด ๆ  หน่อย  เดี๋ยวตกงาน”

   “ใครมาหรือภา”  เสียงจากด้านหลัง  ผมต้องหันไปมอง   

   ผมยกมือไหว้ด้วยความเคยชิน . . .

   หาก . . .

   . . . หน้าตาคุ้นเคย . . .

   “น้องอาร์ม  มาเมื่อไหร่”   ผู้ชายคนนั้นมานั่งติดกับป้าภา 

   ภาพชายคนนั้น . . .

   สมองผมแปลได้อย่างเดียว . . . คนคุ้นเคย

   “เพิ่งมาถึงครับ”  ผมตอบ  แต่ยังมองหน้า  เหมือนเคยเห็นที่ไหน  หน้าตาคุ้นมาก    เหมือนเคยเห็นที่ไหน  สักแห่ง

   “สบายดีนะ  มองอะไร  เหมือนไม่เคยเจออย่างนั้นแหละ”  ชายคนนั้นยิ้ม

   “ดีครับ  สบายดี” 

   ผมใจหายวาบ . . .

   . . . ภาพนักบวช  คนนั้น

   เหมือนใครเอาหินมาทุบหัวผม . . .

   ผมยิ้มค้างเอาไว้  หากแต่หัวใจผมมันหวิว ๆ    ชายคนนี้นักบวชในวันก่อน  สมองผมประมวลผลอย่างรวดเร็ว . . .

   สิ่งที่ผมคิด . . . ในวันก่อน

   กับความจริงตรงหน้าในเวลานี้ . . .

   . . . คนสองคน . . .

   ผมได้ยิ้มค้างเอาไว้  ตั้งแต่เมื่อไหร่  หลากหลายคำถามที่ยังค้างยังคาในหัวใจของผม  ผมนั่งอยู่ที่นั่นอีกเพียงครู่เดียว  ครู่เดียวเท่านั้น  ผมยังไม่พร้อมที่จะรับกับความจริงกระมัง

   ผมเดินกลับมาที่บ้านหลังเล็ก . . . เรือนพักที่อาสร้างเอาไว้  ผมไม่รู้เหมือนกัน  ว่าผมเดินมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ 

   ภาพป้าภา . . .

   . . . ชายคนนั้น . . . นักบวช 

   ทำไมคนรอบตัวผมต้องเป็นแบบนี้ด้วย  สิ่งที่ผมคิดในวันก่อน  มันเกิดขึ้นแล้ว  มันเกิดขึ้นจริง ๆ 

   ผมเคยแต่อ่านข่าวเจอ . . .

   สีกาสึกเจ้าอาวาส . . . แต่งงานเอิกเกริก 

   ขนาดในข่าว  ผมยังไม่ชอบ  ข่าวทำนองนั้น  ผมเกลียดมาก  ศาสนาต้องมามัวหมอง  สิ่งที่ผมรังเกียจมากที่สุด . . . เกิดกับคนที่ผมรัก   

   “ไปไหนมา”  อาถามเมื่อผมเดินมาที่เรือนพักของอาด้านหน้ารีสอร์ท

   “ไปบ้านป้าภามา”

   “เห็นอะไรมั้ย”

   ผมพยักหน้ารับแทนคำตอบ  มองหน้าอา  แบบที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี  สิ่งที่เห็นที่ได้เจอมา  มันยังติดตาผมอยู่เลย

   “เวรกรรม อาร์มเอ้ย  คนพูดกันทั้งบางทำอะไรไม่นึกถึงลูกมั่งเลย  สงสารโกมัน”   อาถอนหายใจ

   “ครับ”

   “น้าอาร์ม  น้าอาร์ม”  เสียงที่ดีใจ  ก่อนวิ่งมากอดเอาไว้  จนผมแทบล้ม

   “ไอ้ทัช  โตขึ้นเยอะเลยเรา  ไปไหนมานี่”

   “ไปกับพ่อมา”

   “แล้วพ่อไปไหน”

   “ไปอบต.”

   “น้าอาร์ม  เปิดเทอมทัชขึ้น ป.๑  แล้วน๊ะ”  มันยิ้ม  ผมลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู  ลูกชายคนโตของอา  โตเร็วมาก

   “อาปูมาอยู่นี่เจ็ดปีแล้วเหรอ”

   “แปดปีอาร์ม  แปดแล้ว”

   “นานจัง”  ผมบอกตัวเองเบา ๆ 

   “น้าอาร์ม  ทัชอยากกินแครป  น้าอาร์มพาไปหน่อยสิ”

   “เอางั้นหรือ  ได้เลย  ไป๊”  ผมจับมันขึ้นขี่คอ  ตัวมันใหญ่กว่าคราวก่อนที่ผมมาเยอะเลย 

   จับมันนั่งที่หน้ามอเตอร์ไซด์คันเก่ง  ก่อนขับไปที่ร้านขนม  ผมจอดรถไว้ที่หน้าร้านหนังสือ  ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านแครป

   “ไปสั่งก่อน  เดี๋ยวน้าอาร์มดูหนังสือแปบ  ดูรถดี ๆ นะ”

   “คร๊าบ”  มันมองซ้ายมองขวาก่อนวิ่งปรู้ดไปที่ร้านฝั่งตรงกันข้าม

   ผมเดินไปดูหนังสือในร้าน  ก่อนที่จะข้ามไปอีกฝั่ง 

   สายตาผมเห็น . . . ผมแทบก้าวขาไม่ออก

   โต๊ะที่อยู่หลังเตาแครปนั่น  เป็นโต๊ะหินขัด  คนที่นั่งหันหลังให้ผม  ผมรู้จัก  รู้จักดีเป็นที่สุด . . .

   หาก . . . ผู้หญิงที่นั่งตรงกันข้าม

   ผมสูดลมหายใจเข้าปอด  พยายามเดินให้ตรงเข้าไว้   ภาพที่ผมเห็น  ผู้หญิงคนนั้น  กำลังป้อนอะไรบางอย่างให้อีกคน  มันบาดลึก  หัวใจคล้ายใครควักอกไปแล้วขยี้จนมันไม่มีชิ้นดี

   “น้าอาร์ม  ยี่สิบ”  ทัชบอก  ผมล้วงกระเป๋าเอาธนบัตรให้หลานชาย

   คนที่นั่งหันหลังให้ผมคล้ายชะงัก . . .

   มันหันกลับมา  หลักฐานยังคาปาก   แววตามัน . . .

   . . . คล้ายตกใจ  ก่อนที่จะหม่นหมอง

   หัวใจผมล่ะ . . .

   . . . เงียบงัน

   “พี่อาร์ม  หวัดดีค่ะ”  ผู้หญิงคนนั้นยกมือไหว้ผม  ผมต้องรับไหว้

    รอยยิ้มของผมมันยังค้างไว้ริมฝีปาก  ผมรู้แล้ว  ผมแจ้งแก่หัวใจของตัวเอง  มันชาวาบไปทั้งตัวแล้ว  คล้าย ๆ  ตอนที่บาดเจ็บครั้งก่อน  ยังไม่นานเลยอาร์ม ทุก ๆ  อย่างมันยังแจ่มชัดเสมอ  ทุก ๆ  คำพูดที่ฝังในหัวของผม

   .... คิดถึงหน่อยจัง  ดูแลตัวเองนะ . .   

   ผมเคยมีบทเรียน  สมองมันสั่ง . . .

   . . . ยิ้ม . . .

   . . .  เอ็งต้องยิ้มนะโว้ย  อย่าให้เขารู้ว่าที่เป็นอยู่มันเจ็บปวด

   ผมยังไม่กล้ามองหน้าไอ้โก . . . 

   คอยเดี๋ยวนะ . . .

   คอยให้ความจริงที่อยู่ข้างหน้าในตอนนี้ค่อย ๆ  ซับลงในหัวใจก่อน    ให้มันซับลงให้เต็มหัวใจกับสิ่งที่เจอ  อย่ากลัวเลยอาร์ม  อย่ากลัวความจริง

   ความจริง . . .

   . . . มันโหดร้ายเสมอ

   “หน่อยสบายดีหรือ”  ในเมื่อมันรู้จักชื่อผม  ผมเองก็ควรที่จะรู้จักเอาไว้

   “ค่ะพี่  มาเมื่อไหร่  ได้ยินชื่อมานานเพิ่งเจอตัวจริง”

   คราวนี้มันแจ่มชัดแจ้งในหัวใจ . . . 

   ต้องพยายามอย่างมากที่จะเก็บบางอย่างไว้ในแววตา  ปรับแววตาเศร้าของตัวเองให้เป็นปกติเสียก่อน   ผมเดาเก่งนะ  เดาเรื่องราวเก่งเสมอ

   “มาเมื่อไหร่”  เสียงมันดุ ๆ  ยังไงไม่รู้  มันเดินออกมาจากโต๊ะ  มองหน้าผม

   “ไม่โทรมาบอกก่อน”

   ”เสร็จยังทัช . .  .”   ผมมองเจ้าตัวเล็ก 

   “. . .ไปก่อนนะหน่อย  ไว้เจอกัน”  ผมบอกลาเมื่อเห็นหน่อยเดินมา  คล้องหมับที่แขนไอ้โก

   . . .   ต่อจากนี้มันก็มีห่วงผูกคอแล้ว 

   มันจะสะบัดไม่หลุดหรอก 

   . . . จะสะบัดไปทำไมฟ้าสร้างชายมาคู่กับหญิงนี่  เหมือนเชือก

   . . . ตัดได้ . .

   แต่ . . .บ่วงดวงใจ

   . . . มันยากเหลือเกิน

   ผมยิ้มให้ผู้หญิงของมันอย่างเต็มตา  แต่ผมไม่กล้ามองหน้าโกเมศวร์

   แค่หันหลัง . . .

   ผมก็หมดความเข้มแข็งอีกต่อไป . . .

   . . . รู้แค่แก้มผมมันอุ่น    ผมต้องฝืนเดินให้ตรงที่สุด  ทั้ง ๆ  ที่แทบจะตายอยู่ตรงนั้น  ยังหรอก  ผมต้องไม่อ่อนแอ  ที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของผม  จะแสดงความอ่อนแอออกมาได้อย่างไรกัน 

   ผมไปส่งทัชที่บ้าน  ก่อนเดินไปที่ด้านหลังของรีสอร์ท  ยามหน้าแล้ง  น้ำในลำธารแห้ง  สามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งได้สบาย  ผมเดินย่ำ . . . ไปบนทรายริมแม่น้ำ

   ฝากไว้แค่รอยเท้า . . .

   . . . รอยเท้าบนพื้นทราย . . .

   ที่นี่ . . . จุดเริ่มต้นของหัวใจผม

   แต่ตอนนี้ . . .

   ผมเดินไปช้า ๆ  ย่ำไปบนริมตลิ่งที่มันเคยพาผมเดินไปไกล  ผมย่ำไปบนหัวใจตัวเองช้า ๆ     ย่ำไปบนหัวใจที่โดนฉีกชขาด  หาร่องรอยไม่เจออีก   

   ผมรู้สึกหนาวจับจิตเลยทีเดียว   ได้แต่กอดอกตัวเองเอาไว้  มันหนาวเหน็บ  จะเพราะอากาศหนาวหรือ ?  ผมถามตัวเอง

    . . . .  เดือนเมษาแบบนี้อากาศจะหนาวได้อย่างไรกัน  ?   เสียงผมตอบตัวเอง

   หรือที่หนาวเหน็บอยู่ตอนนี้คือ . . .

   . . . หัวใจ . . . อีกเสียงบอกผม

    แปลกนะ . . .  ผมยังเดินได้

   . . .  ทั้ง ๆ  ที่หัวใจมันยับเยินหมดแล้ว 

   ซากชีวิต . . . 

   ตอนนี้ผมมีแค่ลมหายใจ . . .  กับซากชีวิต 

   ดวงตามันกลับร้อนผ่าว ไม่มี . . .

   . . . อย่าว่าแต่น้ำตาเลย

   . . . ไม่มีแม้ละอองน้ำตาด้วยซ้ำ . . .

   ผมรู้ตอนนี้โลกกว้างเป็นอย่างไร  แต่ตอนนี้ผมอยากซุกที่ไหนของโลกก็ได้  ที่พอจะให้ความอบอุ่นได้. . . แต่ไม่มีเลย  ไม่มีแม้ที่เพียงน้อยนิดที่จะให้ผมนั่งซบหลบซ่อนตัวจากโลก

   รอบ ๆ  ตัวผมน่ากลัว . . .

   ผมเดินลัดจากลำน้ำปายออกสู่ถนน . . .   

   ถนนสายนี้ . . .

   ยาว . . .

   . . . ไกลแค่ไหนผมไม่รู้หรอก 

   เพราะร่างที่เดินริมถนนตอนนี้มันมีสมองซะที่ไหน  คนที่นั่งหันหลังอ้าปากรับการป้อนตามมาหลอกหลอนผมอยู่เลย  โชคดีที่ถนนไม่มีรถวิ่งมากมาย   ช่วยให้ผมเดินได้เร็วขึ้น  ผมเดินเร็ว ๆ  เร็วเท่าที่จะเร็วได้

   ผมกำลังหนี...

   . . . หนีหัวใจตัวเอง . . .

   อย่างนั้นหรือ ?

   แล้วข้างในอกซีกซ้ายมันมีหัวใจหรือปล่าวหว่า   ผมตอบตัวเองไม่ได้เช่นกัน      ทำได้แค่  เอามือข้างขวา  มาทาบไว้กับอก   

   อากาศที่นี่หนาวเสียเหลือเกิน . . . มันหนาวแปลก ๆ   

   ทั้ง ๆ     ที่ตอนนี้ใกล้สงกรานต์  หน้าร้อนที่สุดของปี  แต่ทำไมผมหนาวอย่างนี้ก็ไม่รู้คล้าย ๆ  มีใครเอาน้ำแข็งมาแช่หัวใจผมไว้ ! 

   ผมเดินริมฝีปากสั่นระริก . . . 

   เดินย้อนกลับไปตามถนนที่ตอนนี้เริ่มมืด  แสงดารานับหมื่นเริ่มกระพริบพรายบนฟากฟ้าสวยนั่น  ผมกอดอกไว้เพราะรู้สึกหนาวเหน็บ  ความหนาวใจเป็นอย่างไรผมรู้แล้วล่ะ 

   หากแต่มันรู้สึกอุ่นที่ดวงตา . . . 

   . . . ก่อนที่จะอุ่นลงมาเป็นทางตามแก้มของผม เสียงรถจากด้านหลังไกล ๆ 

   หรือ . .

   โกเมศวร์จะตามหา . . .   

   . . . แต่เป็นใครก็ช่างหัวมันเถอะ    ในตอนนี้ผมต้องการอยู่คนเดียวกับความเหงาที่เป็นเพื่อนแท้ของผม   ผมหลบไปในซอยเล็ก ๆ    ฟ้ามืด  แสงไฟสองข้างทางรำไร  เหมือนหัวใจผมตอนนี้ที่หม่น ๆ  ยังไงไม่รู้  สมองมันเริ่มคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา  สิ่งที่ผมเห็น

   ชัดเจนกว่าคำพูดใด ๆ  ทั้งหมด . . .

   ท้องฟ้ามืดความหนาวเหน็บค่อย ๆ  เกาะกินเนื้อทีละน้อย   ผมต้องเดินต่อ   เกสต์เฮ้าน์อาอยู่แค่เอื้อม . . .

   แค่เอื้อมจริง ๆ  เพราะคนที่อยู่หน้าเกสต์เฮ้าน์ผมจำได้ดี 

   ผมต้องรีบปรับสีหน้า . . .

   . . . จะให้มันเห็นร่องรอยบาดเจ็บได้อย่างไร  . . .

   โกวิ่งมาหาผม   แววตามันรวดร้าวไม่แตกต่างจากผม  ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ  แต่ผมเห็นแบบนั้นจริง ๆ 

   “หายไปไหนมา  เป็นห่วงแทบแย่  มาคอยนานแล้วนะ”   มันถามเสียงละห้อยแบบครั้งก่อน

   ผมไม่ได้ตอบ  เดินตรงไปที่ห้อง  ก่อนไขกุญแจเข้าไป  อย่าหวังเลยจะได้เข้ามา  ผมปิดประตูล้อคกลอนอย่าแน่นหนา   

   ขอเวลาหน่อยได้ไหม . . . 

   . . . ขอผมได้อยู่คนเดียว  ให้ผมได้ทบทวนกับทุก ๆ  อย่างที่ผ่านมา  ผมเอาหูฟังจากเครื่องเล่นเสียบเข้าหู  ก่อนเปิดเสียงดังที่สุด

   ตอนนี้ผมไม่อยากได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น . . .

   ผมหลับไป . . . ทั้ง ๆ  ที่สองหู  อัดแน่นด้วยเสียงเพลง  ผมหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้  รู้แค่มาสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย  ฝันร้ายที่หลอกหลอนผมมาสามเดือนกว่าแล้ว  ผมนอนนิ่ง ๆ  ปรับสายตากับสิ่งภายในห้อง  ข้างในห้องไม่ได้เปิดไฟสักดวง

   หาก . . . แสงภายนอกลอดมา

   ผมกดไฟที่นาฬิกาข้อมือ . . . ตีสองกว่าแล้ว

   ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือ  อาจเพราะผมเสียน้ำตาไปมาก  ร้องไห้จนหลับไป  ผมทำร้ายตัวเองได้ขนาดนี้เลยหรือ  ผมไม่กิน เพราะไม่หิว  หรือเพราะผมกินอะไรไม่ลงกันแน่

   จะอะไรก็ตามแต่ . . . ผมควรต้องกินมิใช่หรือ ?

   อย่างน้อยที่สุด  เพื่อตัวผมเอง  บางทีผมควรที่จะหันมามองตัวเองได้แล้ว  หลังจากที่ผมไม่เคยดูแลตัวเองมานาน 

   แต่เวลาขนาดนี้ . . . ร้านอะไรก็คงปิดหมดแล้ว

   ผมนอนไม่หลับ  และคงไม่หลับอีกแน่ ๆ  มันนอนมานานเสียขนาดนั้น  ผมอยากออกไปดูดาว  ฟ้าที่นี่สวย  มันเคยพาผมไปนอนดูดาวนี่หว่า  แต่ตอนนี้ไม่มีมันแล้ว  ผมไปดูคนเดียวก็ได้ 

   คงไม่ยากหรอก  ถ้าจะลองทำอะไรคนเดียวบ้าง

   ผมเปิดประตูบ้านพักออกไป  ลมอ่อน ๆ  โชยมาปะทะผิวหน้าที่แห้งกรังด้วยน้ำตา

   “พี่อาร์ม”  เสียงนั้นละห้อย

   ผมหันไปตามเสียง   คนที่นั่งกอดเข่าอยู่นั่น . .

   ผมมองหน้ามัน  แม้ไฟสลัว  แต่ทุกอณูของใบหน้ามันผมจำได้  มันนั่งแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว  คงตั้งแต่ค่ำที่ผมกลับมากระมัง  ก็มันยังอยู่ในชัดเดิม

   “ทำไมมองผมแบบนั้นล่ะพี่  พี่เกลียดผมหรือ”

   ผมนี่นะเกลียดมัน . . .

   แม้แต่คิดยังไม่เคย  ผมยืนนิ่งจะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อดี  จะเดินกลับเข้าห้อง  ปล่อยให้เรื่องราวมันคาราคาซังแบบนี้หรือ

   “ขอคุยได้มั้ย”  น้ำเสียงมัน  ทำผมหัวใจอ่อนยวบ

   ผมนั่งลงตรงกันข้ามมัน  ผมเจ็บนะ  เจ็บเหลือเกิน แต่ผมอยากจะรู้  มันจะทำร้ายผมอีกหรือ  หากมันอยากทำร้ายผมอีก  ผมยอม  ผมยินดีที่มันฆ่าผม  อย่างน้อยที่สุด ให้ผมตายเพราะคนที่ผมรัก  ผมยินดี

   “สิ่งที่พี่เห็นอาจจะไม่ใช่อย่างที่พี่คิด”

   ผมมองหน้ามัน  คนเราเห็นแก่ตัว  หรือจะหาคำแก้ตัวหรู ๆ  ที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือ  สิ่งที่เห็นมาด้วยสองตา  มันจะไม่ใช่แบบที่ผมคิดได้หรือ

   “เลิกกับพี่เหอะ  กลับไปคราวนี้  เราต่างคนต่างเดิน”  ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงที่เรียบที่สุดแล้ว

   “ทำไมล่ะพี่”

   “เพราะเราไม่ใช่ไงโก  เราอย่าทำร้ายกันอีกเลย”

   ผมมองหน้ามัน   แววตาผมตอนนั้น  พร้อมที่จะให้มันเดินไปจากผม  เพราะผมไม่อาจที่จะทนได้อีกต่อไปแล้ว  ผมไม่อยากเจ็บ  ไม่อยากที่จะอยู่ในสภาพแบบที่เป็นอยู่  เวลาผมเจ็บ  มันเจ็บกับผมด้วยหรือ . . .

   ผมเจ็บของผมอยู่คนเดียว

   “พี่จะให้ผมทำยังไง”

   “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น  โกก็ทำอย่างที่โกอยากทำ  เพราะอย่างไร  โกก็ทำแบบที่พี่อยากให้ทำไม่ได้  แล้วพี่ก็ไม่อยากดึงใครเอาไว้”

   “พี่จะให้ผมทำอะไร”

   “โกกลับมาเป็นคนเดิมได้มั้ย  กลับมาเป็นคนที่ตั้งใจเรียนแบบเดิมได้หรือ”

   “ถ้าผมทำได้ล่ะ”

   “แล้วถ้าทำไม่ได้ล่ะ  เราเดินมาไกลแล้วโก  ไกลเกินกว่าที่จะกลับไปเริ่มต้นอีกแล้ว  สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้    สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนสองคน  เราต่างคนต่างอยู่”

   “แต่ . . .”

   “ดีที่สุดแล้ว    ที่ผ่านมา  ขอบใจ  ขอบใจที่ทำให้พี่รู้ว่าความสุขมันมีอยู่จริง  แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ  แต่พี่ก็มีมัน”  ผมยิ้ม  ก่อนลุกขึ้นจะกลับเข้าห้อง

   มันลุกมากอดผมเอาไว้จากด้านหลัง . . .

   “พี่อาร์ม  ผมจะเป็นคนเดิม  เป็นน้องคนเดิมของพี่นะ”

   “อย่าเลยมันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกโก  เพราะถ้าโกกลับไปอยู่กับพี่  แล้วโกเอาแต่คุยโทรศัพท์อีก  พี่ก็ไม่มีความสุข แล้วพอพูด  เราก็ต้องทะเลาะกัน   ให้มันจบลงที่วันนี้  วันที่เรายังมีความรักให้กัน  พี่ไม่อยากให้เราจบกันด้วยความรู้สึกเกลียด”  ผมบอกมัน 

   แก้มผมอบอุ่นด้วยสิ่งที่ไหลมาจากภายในของผม   ผมเจ็บปวด  เจียนตาย  ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว  ไม่อยากทรมานตัวเองด้วยความรักอีก

   “มันไม่มีทางเลยหรือพี่”  เสียงมันสะอื้น 

   ผมรู้ . . .

   ทั้งมันทั้งผมเจ็บไม่แตกต่างกัน  หากแต่ผมไม่อยากจะเจ็บอีกกระมัง  บางที  การที่เราห่างกัน  อาจทำให้เรารู้จักหัวใจตัวเองมากขึ้น  เราจะได้รู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองได้เสียที

   “เลิกกับเขาได้หรือ  ไม่คุยกับเขาได้หรือ”

   มันเงียบ . . .

   . . . ผมรู้แล้ว  มันรักเขาไปแล้ว

   ผมเข้าใจดี . . .

   ผู้หญิงกับผู้ชาย  เกิดมาคู่กัน  ผมห้ามใครไม่ได้หรอก  หากใครจะรักกันผมควรยินดีมิใช่หรือ  โลกสร้างสิ่งที่ถูกต้องมาคู่กัน

   ส่วนผม . . .

   . . . มนุษย์ที่ถูกสาป

   ไม่รู้เพศตัวเอง . . .

   “ปล่อยเถอะ”  ผมแกะมือมันออกจากตัว

   “พี่อาร์ม  งั้นผมขออะไรสักอย่างได้มั้ย”

   “อะไร”

   “ผมเลิกกับเขาก็ได้  ผมขอแค่ให้เขาเป็นแค่เพื่อนผมเท่านั้น  นะพี่อาร์ม”

   “ไม่เข้าใจ”

   “ผมผิดเองมั้งพี่  แต่ผมจะเลิกกับเขา  ผมจะบอกเขาว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน  พี่อาร์มอย่าทิ้งผมไปนะ  ผมขอแค่เพื่อนเท่านั้น  พี่อาร์มจะให้ผมทำอะไรผมก็ยอม”

   ผมหันกลับมามองหน้ามัน . . .

   “ผมขอคบเขาแค่เพื่อนนะพี่อาร์ม”

   มันน้ำตาร่วงริน  หากหัวใจผมล่ะ  ท่วมไปด้วยน้ำตา  ผมรักมันมาก  มากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก  สิ่งที่มันขอ  ถ้าผมบอก . . .

   . . . ไม่ได้ . . .

   ผมคงเห็นแก่ตัวเกินไป

   หาก . . . ผมลืมคิด

   ถ้าวันนั้น . .  .

   ผมใจแข็งกว่านี้ . . .

   วันนี้ผมคงไม่เจ็บปวดเฉกเช่นนี้  ผมให้อภัยคนที่ผมรักเสมอ  ผมไม่เคยคิดจะโกรธหรือเกลียดคนที่ผมรัก  คนที่ผมบอกเสมอ  มันคือหัวใจของผม  ผมรักมัน รักมันมากมาย  ผมรักมันและยอมมันทุก ๆ  เรื่อง  แต่มีอยู่สิ่งนึงผมลืมไป

   ผมลืมให้อภัยตัวเอง . . .


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 13:51:08 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
เซฟเรียบร้อยละครับ
ได้ 217 หน้า  o2 o2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เซฟเรียบร้อยละครับ
ได้ 217 หน้า  o2 o2

เยอะขนาดนั้นเลยเหอรครับ

ขอมั้งจิครับ

แบบว่าขี้เกียจอะ

 :m13:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อยากได้ไฟล์เรื่องนี้ด้วยจัง เดี่ยวเสาร์อาทิตย์ว่างๆต้องมาตามเซฟแล้ว อิอิ

อ่านแล้วมันปวดหัวใจดีจิงๆ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
เซฟเรียบร้อยละครับ
ได้ 217 หน้า  o2 o2

เยอะขนาดนั้นเลยเหอรครับ

ขอมั้งจิครับ

แบบว่าขี้เกียจอะ

 :m13:





ถ้า . . . ตั้งค่าหน้ากระดาษ ให้เท่าพ็อกเก็ตบุคก็ ๒๓๑  หน้าแล้วล่ะ

แบบว่า . . . ถ้าส่งโรงพิมพ์  ไม่ต้องตั้งค่าอะไรใหม่  พิมพ์รวมเล่มได้ทันที ขนาดเท่า ๆ  นิยายที่ขายตอนนี้เลย  หนาขนาดนั้นอ่ะ



ปล.  ไม่ได้ส่งโรงพิมพ์  เขียนเพราะอยากเอามาเล่าในเล้า . . . จบแล้วค่อย ๆ  ทยอยลบ  ถึงโรงพิมพ์สนใจก็ไม่ขาย  แบบหวง  

ปล๒.  ใครอยากได้ฉบับจริง  ทิ้งเมล์ไว้ใน PM ก็ได้ครับ  จบบริบูรณ์เมื่อไหร่  จะส่งให้ทุกคนเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2008 13:03:31 โดย RAJCHABUT »

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
 เริ่มเศร้าอีกละ :sad2: :sad2: :sad2:

ป.ล. แต่จากที่เห็น โกเขาก็เลือกคุณอาร์มมากกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เหรอ อย่างนี้ก็พอจะแสดงให้เห็นว่าอาร์มมีความสำคัญกับโกอยู่นะ แต่โกอาจจะยังสับสนอ่ะ ไม่กล้ายอมรับความจริง น่าจะค่อย ๆ พูดกันนะ

ป.ล2 ส่งให้จริงเหรอ งั้นเขาส่ง PM ไปเลยนะ :m13:


ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยเลยล่ะครับ โกเขาคงสับสน เพราะถ้าโกเขาไม่สับสนเขาคงไม่ใส่ใจความรู้สึกพี่ขนาดนี้แน่ๆ ขนาดมีคนมาทุ่มให้ทั้งเงินทั้งรถ เขายังเชื่อพี่เลย ยังไงมีโอกาสก็ให้โอกาสโกเขาบ้างนะพี่เพื่อตัวของพี่และโก

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
สรุปง่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เชื่อใจตัวเองและการตัดสินใจของตัวเองดีที่สุด

 :a2: :a2: :a2:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ทำเพื่อตัวเราเอง ดีที่สุดแล้ว  ยืนให้ได้ด้วยตัวของเราเอง  เข้มแข็งเข้าไว้แม้ข้างในไม่ใช่ก็ตาม

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ง่า...เศร้าตามพี่อาร์มเลยอ่ะตอนนี้เจ็บได้ใจค่ะ
เห็นด้วยกับรีบนนะคะ เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง
รัก มากับคำว่า อภัย นะคะ
พี่อาร์มยังรักโกเห็นอยู่ชัดๆ...
ไม่ว่ายังงัยก็ขอให้พี่อาร์มมีความสุขกับสิ่งที่พี่เลือกแล้วกันค่ะ
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
 :sad2::a6: = อารมณ์หลังอ่านตอนนี้

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
เฮ้อ ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา บ่อน้ำตาได้ทำงานตลอดเลยแฮะ หึหึ o7
ว่าแต่เราชอบความคิด การตัดสินใจของอาร์มมากเลย ลุกขึ้นสู้ใหม่นะอาร์ม เราต้องยืนคนเดียวได้สิ ถึงไม่มีเค้า เราต้องอยู่ได้ โกพูดมาได้ไงนะ เราไม่อยากเชื่อนะว่าโกสับสน โกรู้ตลอดเวลานี่ว่าอาร์มรักโก แต่โกก้อยังทำแบบนั้น แล้วบอกว่าเปนแค่เพื่อนนี่นะ เอาไปหลอกควายเหอะ อย่าหาว่าเราใจร้ายเลยนะ เราเกลียดคนแบบนี้จริงๆ พอเราจะไปก้อมายื้อเราไว้ ทำเปนเหมือนว่าแคร์เรา ถ้าแคร์จริงๆจะไม่รู้เลยหรอว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดน่ะ มันทำร้ายเราแค่ไหน ของแบบนี้น่ะ หากใส่ใจสักนิดก้อรู้แล้วล่ะ แต่นี่อยุ่ด้วยกันมาหกปี จะมาบอกไม่รุ้งั้นหรอ พูดไปได้เนอะ อ่านมาถึงตรงนี้ บอกตรงๆ เราไม่เสียใจกับการกระทำของอาร์มเลยที่หนีไปอยู่ไกลบ้าน ถ้าเปนเราเราก้อทำ เข้มแข็งไว้นะอาร์ม เราเปนกำลังใจให้ :L2:

ว่าแต่ปัจจุบันไปถึงไหนแล้วอ่า อ่านเรื่องราวในอดีตจนเพลิน ได้ไปทะเลกับโอ๋รึเปล่า หนุกมั๊ย?? มาเล่าให้ฟังด้วยน้า อยากฟังมากมายจ้า :m1:

ปล.เราPMไปแล้วน้า ต้นฉบับๆๆ อย่าลืมล่ะ อิอิ :m4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด