รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน  (อ่าน 265379 ครั้ง)

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เฮ่อ!!!!เศร้ากินใจ....เศร้าจริงๆT_T

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
รัก3เศร้า รึเปล่านี่ :sad2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
พูดได้คำเดียวว่าซึ้ง :m15:


 :L2: :L1: :L2: :c5: :L2:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2



   “ถ้าวันนั้น  ในวันที่โกเรียนจบ   โกมีคนอื่น  พี่สัญญา  โกจะไม่มีวันได้เห็นพี่อีกตลอดชีวิต  พี่สัญญา”  ผมร้องไห้  ใช้น้ำตาแทนคำสัญญา

   คำสัญญาที่มันมาผูกชีวิตผมเอาไว้ . . .

   


สิ่งนี้สินะที่ทำให้เป็นอย่างทุกวันนี้...........


แต่ยิ่งอ่านแล้วมันก็เจ็บจิ๊ดนะ  พี่โกพยายามรักษาระยะห่างเอาไว้แค่เพียงพี่ชาย

ถ้ารักแล้วมันจะเจ็บด้ายอย่างไร  แต่ถ้ารักเพราะผูกพันมันคงจะเจ็บไม่น้อย




แต่ก่อนฟังเพลงนี้ก็รู้สึกเฉย ๆ แต่พอตอนนี้รู้สึกว่าทำไมเพลงนี้มันเศร้าจังอ่า :o12: :o12: :o12:

Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป
ฮือ....

ร้องไห้อีกแล้ว   ร้องทุกตอนเลยTT__TT

 :m15: :m15:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
น้ำตาจะไหล

ชีวิตรันทดมากมาย

 o7 o7 o7

sarin

  • บุคคลทั่วไป
..เสียใจด้วยสำหรับเรื่องคุณแม่..
...แม่ไม่ได้หายไปไหน..แม่จะอยู่ในใจของคุณเสมอ..
......ไม่ได้แค่อยู่ในใจของคุณ ..
แต่....แม่คือทุกๆ ย่างก้าวในชีวิตของคุณ
เป็นกำลังใจให้ฮะ.... :L2:
..............แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป :กอด1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เสียใจเรื่องคุณแม่ย้อนหลังด้วยคนค่ะ T_T

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
พี่อาร์มใจร้าย....ใจร้ายที่สุด

น้ำท่วมกระทู้แล้ว  ฮือ ฮือ ฮือ   :m15:

sun

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:



อ่านมา สองสามตอน  อารมณ์   :sad2: ตลอดเลย แง๊ๆๆๆ


โนคอมเม้นท์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
แวะมาให้กำลังใจค่ะ :L2:

ปล.รักโก รักโอ๋ รักแดน และรักอาร์มนะ :กอด1:

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาจะไหล

ชีวิตรันทดมากมาย

 o7 o7 o7





อกพี่ว่าง . . .

ให้ยืมซับน้ำตา เอามะ

ชิส์


Entaneer#30

  • บุคคลทั่วไป
เพลงโดนมากๆเลยค่ะ
 o7 o7

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
น้ำตาจะไหล

ชีวิตรันทดมากมาย

 o7 o7 o7





อกพี่ว่าง . . .

ให้ยืมซับน้ำตา เอามะ

ชิส์



เก็บไว้ให้คนของตัวเตอะ

เค้ามีหัวเข่า ไม่ต้องพึ่ง

เชอะ

 :a14:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป


ตอนที่  ๑๘




   มุมมองผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่น ๆ  กระมัง  ผมรังเกียจการหากินในผ้าเหลือง  พระที่ควรจะกราบไหว้  คือพระที่ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ก่อให้เกิดกิเลสทั้งหลายมิใช่หรือ  เรื่องนี้  ผมไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เมื่อมันเกิดปะทุขึ้นมา  มันเลยยากที่ผมจะทำใจได้

   ทำไมนะหรือครับ . . .


   เพราะตั้งแต่กลับมาจากบ้านคราวก่อน . . . อาจารย์ที่มันเรียกนั่น  โทรมาปลุกมันทุกเช้า  เรื่องนี้ผมไม่พูด  ทั้ง ๆ  ที่ผมตะหงิด ๆ  ในใจเสียตั้งนานแล้ว  แต่ผมก็ปล่อย  เพราะผมรู้  การเข้าไปยุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวเขามาเกินไปไม่ดีหรอก

   ไม่มีใครอยากให้คนอื่นเดินล้ำเส้นตัวเองหรอก . .  .

   แต่ . . . เรื่องที่มันเอารถมาใช้นี่สิ  ผมรับไม่ได้หรอกนะครับ  รับไม่ได้จริง ๆ

   คนเรา . . .

   ควรมีศักดิ์ศรีในตัวเอง  แม้เราไม่ได้ร่ำรวยอะไร  แต่ถ้าเรามุมานะ  สักวัน  เราก็เดินไปถึงจุดหมายที่เราต้องการได้  แต่การเดินทางลัดแบบนั้น  ผมไม่เห็นด้วย  ผมละอายใจ  และค่อนข้างรับไม่ได้  หากมันจะรับการช่วยเหลือจากคนในศาสนา

   ถ้า . . . 

   . . . มันเป็นเด็กขายน้ำ . . .

   ผมยังมองมันด้วยความรู้สึกสงสารในชะตากรรม  และทางเลือกที่มีไม่มากนัก  แต่ถ้ามัน  รับจากคนในผ้าเหลืองนี่สิ 

   ผมรังเกียจ . . .   

   . . . รังเกียจมาก 

   ผมไม่รู้หรอก  มันรับอะไร  หรือ เสียอะไรไปบ้าง  เพราะมันไม่เล่า  และผมเองก็ไม่ได้ถาม  เพราะบางเรื่องผมคิดว่า  ถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร  เพราะในเมื่อเราตกลงกันตั้งแต่ต้นแล้ว  ว่ามีอะไรให้พูดกัน  เมื่อมันไม่พูดก็แล้วแต่มัน  สิทธิ์ของมัน  ที่จะไม่พูด  แต่เรื่องแบบนี้  สักวันมันก็ต้องรู้

   จะช้าหรือเร็วเท่านั้น . . .

   เวลา . . .

   . . . จะคลี่คลายทุก ๆ  ข้อปัญหาเอง

   ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเวลา . . .




   ผมขับรถมาจอดที่คอนโดไอ้แดน  ความรู้สึกบางอย่างมันเกิดขึ้นในใจ    สิ่งที่ทำอยู่ในเวลานี้  ดีแล้วใช่ไหม  ผมทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือ  ผมพยายามถามตัวเอง  ไม่ใช่ว่า  จะทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากกว่านี้หรอกนะ


   ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกกับแดนมันแบบที่ผมรู้สึกกับโกหรอก  แต่ผมกำลังต่อสู้กับตัวเองมากกว่า  สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี่มันถูกต้องหรือ . . .

   ผมออกมาค้างนอกบ้าน . . .

   ผมห่วงมันนะ แคร์ความรู้สึกมันมากด้วย  แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้  มันเหมือนน้ำเดือด  การอยู่ใกล้ความร้อน  น้ำที่พวยพุ่งอยู่มันไม่เย็นลงมาง่าย ๆ  หรอก  มีแต่จะร้อนยิ่งขึ้น

   หลายคนอาจมีคำถาม . . .

   ทำไมต้องแดน ?. .  .

   . . . ในเมื่อผมบอกเสมอว่า  ไอ้โอ๋คือเพื่อนสนิท

   ครับ . . .

   ไอ้โอ๋มันคือเพื่อนสนิท . . .  และผมก็รักมันมาก 

   แต่ . . .

   เรื่องเดียวที่ไอ้โอ๋ไม่รู้  ก็เรื่องที่ผมชอบผู้ชายนี่แหละ  และผมกลัวมาก หากผมบอกมันไป  แล้วผู้ชายที่ผมรักดันเป็นคนที่มันสนิทอีก  ผมไม่รู้  มันจะคิดยังไง  ผมแคร์ความรู้สึกมัน  ไม่กล้าที่จะคุยกับมันเรื่องนี้   แม้มันอาจจะมองผมแปลก ๆ  บ้าง  แต่ผมก็ไม่มีทีท่าให้มันสงสัยมากกว่านี้  เรื่องที่ผมทุกข์ตอนนี้  ผมคงคุยกับมันไม่รู้เรื่อง

   เพราะมันเป็น . . .

   . . . ผู้ชาย

   ผู้ชายที่ไหนจะมาเข้าใจเกย์แบบผม . . .

   จึงไม่แปลก ที่ผมเลือกที่จะโทรหาไอ้แดน   อย่างน้อยที่สุด  ผมคุยเรื่องแบบนี้ได้สนิทใจกว่าไอ้เพื่อนรักของผมแน่นอน 

   ผมยอมรับว่าตอนนั้น  ผมหวงโกเมศวร์มัน  หวงมากเสียด้วย  แล้วยิ่งมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์

   มารศาสนา  หลอกตุ๋ยเด็ก . . . 

   . . . รวบคาผ้าเหลือง  พร้อมยาบ้า

   สารพัดข่าวที่ไม่ดีในตอนนั้น มันทำให้ผมอดมองในทางลบไม่ได้  ผมไม่อยากให้คนที่ผมรัก  เจอกับเรื่องที่แย่ ๆ  ขนาดเรื่องที่มันมีอะไรกับผม  ผมเองยังรู้สึกละอายใจเลย  เพราะมันไม่เคยบอกรักผมสักครั้ง . . .

   ทุกครั้งที่มันบอกมา . . .

   . . . ผมรักพี่อาร์มนะ . . . แบบพี่ชาย

   ผมสงสัยนะ  รักแบบพี่ชาย  แต่นอนแก้ผ้ามีอะไรกันได้นี่นะ  มันทำได้อย่างไรกัน    ผมคิดแต่เรื่องตัวเอง  โดยไม่มองว่าทำไม  มันถึงยอม   เพราะถ้าผมมองไปในเวลานั้น  ผมอาจจะเจ็บปวดกับสิ่งที่มันทำก็ได้

   มันยอมเพราะรักผม . . .

   หรือ . . .

   . . . มันยอมเพราะนี่คือสิ่งที่ผมต้องการ

   จะยอมด้วยอะไรก็แล้วแต่ . . .

   ผมสรุปเอาเอง . . . 

   มันรักผม  ไม่น้อยไปกว่าที่ผมรักมันหรอก  เพียงแต่ว่า  ใครจะกล้าเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองมากกว่ากันก็เท่านั้น   ความรู้สึกที่ไม่เป็นปกติเหมือนมนุษย์ปถุชนทั่ว ๆ  ไป  น่าเปิดเผยมากนักหรือ 

   สำหรับตัวผมเอง . . . 

   . . . ไม่มีใครที่ผมต้องแคร์อยู่แล้ว

   ผมจะเป็นอะไร . . . แบบไหน

   ผมว่า . . .

   . . . ผมไม่ทำความเดือดร้อนให้ใครเป็นพอ

   แต่ . . .

   . . . สำหรับโกเมศวร์ . . .

   มันไม่ได้มีแค่ผม  มันมีอีกมากมายรอบ ๆ  ตัวมัน  มันยังมีเพื่อน  มีสังคม  เวลานั้น  ผมไม่เคยคิดแบบนี้  ผมมองเห็นแค่มันเหมือนน้องเล็ก ๆ  ที่ผมต้องดูแล  มันเหมือนทุกอย่างในชีวิตที่จะผิดพลาดไม่ได้

   ผมลืมไป . . .

   . . .มันคือคน . . .

   มีชีวิต . . . มีลมหายใจ

   . . . มีความรู้สึก . . .

   ใช่ตุ๊กตาที่ใครจะจับมันวางไว้ตรงไหนก็ได้  อาจเพราะผมเองเห็นสิ่งที่ตัวเองผิดพลาดมาแล้ว  การที่น้องจะเดินไปตามทางที่เคยผิดพลาด  ผมจึงเป็นห่วง  ห่วงมันมากกว่าที่เคยเสียด้วยซ้ำ . . .

   ผมคิดได้แค่ว่า . . .

   . . . สิ่งที่ผมเคยทำผิดพลาดมา . . .

   มันจะต้องไม่พลาด

   “ดูทำหน้าเข้า  งานเยอะหรือไง  ไอ้งานหลวงนี่คงไม่เท่าไหร่  แต่งานราษฏร์นี่สิ  สังสัยทำหนักหัวใจ”  ไอ้แดนมันแซวทันทีที่เจอหน้า

   “เยอะดิ  เหนื่อยว่ะ”   ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาที่มันใช้นั่งดูทีวี

   “เลิกตั้งแต่ห้าโมง มาถึงเกือบสามทุ่ม  ไมเหรอ  มีปัญหากับคนที่บ้านหรือไง”  มันส่งน้ำมาให้ผม

   “Kเหอะ  เสือกทำเป็นรู้”  ผมยิ้มให้มัน

   “แล้วจริงมั้ยล่ะ”   แดนจ้องหน้าผม

   ผมนิ่งเงียบ  ไม่ตอบมัน  หยิบรีโมทมากดช่องโน้นทีช่องนี้ที  หากสายตาปรายตามองมันอยู่  ผมรู้มันเองก็จับจ้องผมอยู่เหมือนกัน  ท่าทางมันอยากรู้เสียเต็มประดา  แต่ยิ่งมันอยากรู้  ผมจะยิ่งทำเฉย

   “อะไรจริง”

   “ไม่รู้  ใครก็ไม่รู้  ยืมทองเพื่อนไปตึ้งเพื่อเอาไปจ่ายค่าเทอมให้ . . .”    มันทำเสียงยานคาง

   “ไอ้เพื่อนเหี้ยอีกแล้ว”

   “นั่นยอมรับ . . . เลี้ยงต้อยซะด้วย  อิจฉาโว้ย”

   “ไอ้ทะลึ่ง”    ผมถีบมันเบา ๆ

   “พี่อาร์ม”

   ผมปรายตาไปมองมัน  เห็นแววตาของมันแล้วต้องหลบสายตา  เพราะไม่ชอบเลยกับแววตาที่มันมองด้วยความห่วงใยเช่นนี้  ผมไม่อยากแปลความหมายจากสายตาของมัน 

   “อะไร”

   “ทำแบบนั้นไม่เหนื่อยเหรอ”

   “ทำอะไร”

   “แอบโอนเงินเข้าบัญชีแทบทุกเดือน . . . “   ผมหลิ่วตามอง

   “. . .   ให้ผ่านพ่อชองเขา . . .” 

   คราวนี้ผมขมวดคิ้ว  มันเอาเรื่องแบบนี้มาจากไหน   ผมมองหน้ามัน  ใบหน้ามันยียวนกวนโมโหผมจังเลย

   “. . . แถมใจป้ำให้แม่เขายืมทั้ง ๆ    ที่ตัวเองก็แทบไม่มีเงินเก็บ  ผมเลยถามไงว่าสิ่งที่พี่ทำอยู่นั้นไม่เหนื่อยหรือ”     มันมองหน้าผม

   ผมแน่ใจเรื่องนี้ ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง  แม้กระทั่งไอ้เพื่อนรัก . . .

   มันเอามาจากไหนกัน . . . 

   “ไม่มีอ่ะ  แกเอาอะไรมาพูด  ไร้สาระน่า  ใครจะบ้าทำแบบนั้น  หาเรื่องอะไรที่มันน่าอำมากกว่านี้ดีกว่ามั้ง  คนที่ทำเรื่องที่แกว่าน่ะ  มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละ”

   “อย่าหลอกตัวเองเลยพี่  ผมไม่บอกใครหรอก  ผมบอกแล้วไงว่าผมรักพี่  และผมไม่หวังที่จะให้พี่มารักตอบผมด้วย  เพราะผมรู้  สิ่งที่พี่ทำทั้งหมด  ถ้าเป็นผม  ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้เท่ากับที่พี่ทำหรือเปล่า”

   “ขอบใจ”

   “เปลี่ยนจากคำขอบใจได้มะ”

   “เปลี่ยนอะไร”

   “ก็เปลี่ยนจากคำขอบใจ  มาเป็นเริ่มรักไอ้แดนวันละนิด ทีละหน่อยไง”

   “ทุกวันนี้ไม่รักหรือไง”

   “มันคนละแบบกัน”    มันทำหน้ากวนโอ้ยเสียด้วย  ผมละอ่อนใจกับมัน  เพียรพยายามจีบกูจัง เวลาอยู่กันสองต่อสอง   

   “ได้  รักแบบนั้นก็ได้  คืนนี้นอนกันเลยมะ  แล้วหลังจากพรุ่งนี้ก็กลายเป็นคนแปลกหน้ากัน  ประมาณว่าน้ำแตกก็แยกทางไง”   ผมยิ้มกับมัน

   “ไม่เอา  ผมรักพี่นะ  ไม่ได้ต้องการมีเซ็กส์  ผมรู้น่า เพราะยังไงพี่ก็รักผม  ผมแค่แหย่เล่น  ไม่อยากเห็นพี่ซีเรียส มีอะไรที่ผมช่วยได้มั้ยพี่”

   “มี”

   “อะไรครับท่าน”  มันชูสองนิ้ว

   “ใครพูดเรื่องนั้นกับแดน”

   “เรื่องไหน”  มันทำหน้า  ทำตาน่าถีบชะมัด

   “แอบโอนเงิน  อะไรพวกนี้”

   “ขอโทษพี่  ความลับ  บอกไม่ได้”

   “ไอ้โอ๋รู้มั้ย”  ผมมองหน้ามัน  ไม่อยากให้ไอ้เพื่อนรักรู้  เพราะผมยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยความรู้สึกในตอนนี้

   “ไม่รู้”

   “จะบอกมั้ย”    ผมมองหน้ามันทำตาละห้อย

   “เอ  บอกดีมั้ยน่า  พี่ว่าผมจะบอกดีมั้ย”    ผมอดยิ้มไม่ได้  มันน่าจะเป็นคนเดียวที่เข้าอกเข้าใจผมมากที่สุด  ในฐานะ  มันเองก็แอบรักคนอื่นเหมือนกัน   คนแอบรักเหมือนกัน  ย่อมเข้าใจกันเป็นธรรมดา

   “ไอ้แดนนนนนนนนนนนนนน”  มองมองมันตาเขียว

   “ครับผม  ความลับครับผม”    มันส่งมือมาให้ผมจับ

   “อีกเรื่องนึง” 

   “อะไรครับท่าน”   มันทำท่าล้อเลียนผม

   “ทำมาม่าให้กินหน่อยดิ  หิวมาก”   ผมเอามือลูบท้อง

   “ทุกทีอ่ะ”

   “อ้าว  ไม่เคยมีใครบอกเหรอ  ว่าน้องแดนทำมาม่าอร่อย  ถึงแดนจะไม่หล่อเท่าทอมครูช  แต่แดนทำมาม่าอร่อยนะครับ”   

   “ไอ้พี่เลว  หักคอกันแบบนี้เลยเหรอ”  มันบ่นแต่เดินกลับเข้าไปในมุมครัวของคอนโดมัน  เรื่องมาม่านี่  ยกให้มันละครับ  มันทำอร่อยจริง ๆ

   แต่เรื่องที่มันรู้นี่สิ . . .

   ผมคิดหนัก . . .

   . . . มันรู้ได้อย่างไร 

   ในเมื่อผมไม่เคยบอกใครเรื่องนี้  แล้วไอ้โกเองมันก็ไม่เคยรู้เสียด้วยซ้ำ  สักวันนึงผมต้องรู้ให้ได้  ว่ามันรู้เรื่องที่ผมทำทั้งหมดได้อย่างไร  ในเมื่อผมไม่เคยปริปาก  บางทีเหมือนกับที่เขาบอก

   ความลับไม่มีในโลก . . .   



   เพียงไม่นานมาม่าชามโตกลิ่นหอมก็โชยมาแต่ไกล  หลังจากหายโมโหความหิวมันก็มาเยือน  ผมผละจากหน้าจอทีวีไปช่วยมันยก  ก่อนมานั่งต่อที่เดิม   เปิดพัดลมเป่าเพื่อให้มันหายร้อนเร็ว ๆ


   “น่ากินจริ๊ง ๆ . . .”  ผมตะแคงชามให้พัดลมเป่า   

   “. . . อันนี้ขอนะอร่อย”  ผมเอาตะเกียบคีบแฮมในชามไอ้แดน  ของชอบผมอ่ะ

   “อะไรว่ะ  ใส่เท่ากันนะโว้ย”  มันเอาตะเกียบปัดป้องพัลวัน

   “หวงว่ะ”

   เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้น  มันหยิบมามอง 

   “พี่โอ๋ว่ะ . . .  เปิดโฟนเลยนะ”   มันบอกก่อนที่จะกดรับสาย 

   “. . . สวัสดีครับท่านพี่”

   “เรียกไอ้อาร์มมาคุยกับพี่หน่อย”  นั่น  เสียงมันสั่งมาเลย  ไอ้แดนมันเปิดโฟนอยู่น่ะครับ

   ผมทำสัญญาณบอกว่าไม่อยู่

   “ไม่มีนี่พี่ . . . แยกกันตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว”

   ผมชูหัวแม่โป้งสองนิ้วให้มัน  มันแหล . . .

   . . . ลื่น

   ได้ใจผมทีเดียว   เรื่องแบบนี้มันงานถนัดกันจริง ๆ    เรื่องสาระแนแหล ๆ  ขอให้บอก  ทำกันได้อย่างดีด้วย

   “อย่ามาฟอร์มไอ้แดน  เรียกมันมา”    ไอ้เพื่อนรักมันเหมือนมีตาทิพย์ซะงั้น

   “มีธุระอันใดไม่ทราบ”  ผมกรอกเสียงไป

   “ไอ้เหี้ย  โทรศัพท์เขามีไว้ติดต่อยามฉุกเฉิน  ปิดเครื่องทำพระบิดามึงเหรอ   กูกดหามือแทบหงิก”   

   “ไอ้นี่ด่าหลวงพ่อ  เดี๋ยวกูฟ้อง”

   “กูด่ามึง  ไอ้อาร์ม”  มันรีบแก้ตัวเชียว

   “มีอะไร โทรตามจิกอย่างกะกูเป็นเมียมึงงั้นแหละ”

   “มารับกูด้วย”

   “ไอ้บ้า  รับห่าไรที่ไหน  ก็ตอนเลิกงานก่อนกูเข้าบ้าน  กูแวะส่งมึงที่บ้านแล้วนี่หว่า  มึงจะออกมาทำเหี้ยอะไรอีก”

   “ยังไงก็ต้องมารับว่ะ  เพราะกูคงไม่มีรถกลับ”

   “Kเหอะ  กูจะนอน”

   “ไม่ได้  ต้องมาเดี๋ยวนี้ด้วย  เร็วเข้า  กูถึงนวนครแล้ว”

   “ไปไหนของมึง”  คิ้วผมขมวดเข้าหากัน

   “อยุธยา  รีบออกมาเลยไอ้ห่าอาร์ม”   นั่น  เพื่อนร๊ากกกกก  อยากให้ไปรับ  แต่พูดจากไม่ไพเราะเอาเสียเลย  ผมล่ะอ่อนใจกับมันจริง ๆ 

   “. . . อ้อ  ไอ้เจ้าของเครื่องด้วย  ออกมาเลย  แล้วเดี๋ยวกูโทรบอกให้รับที่ตรงไหน  อย่าลีลานะมึง  กูไม่อยากรอนาน”

   ไอ้เพื่อนเลว . . .

   . . . สั่ง ๆ ๆ ๆ ๆ  แล้วกดวางสายซะงั้น  ผมมองหน้าไอ้แดน  ก่อนทิ้งชามมาม่า  แล้วลงไปที่ลานจอดรถทันที

   ไม่รู้มันมีอะไรของมันนักหนา  ผมไม่เข้าใจมันหรอก  ว่ามันจะมาอยุธาทำไมดึก ๆ  ดื่น ๆ  ขนาดนี้  ผมไปถึงอยุยาอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา 

   ดึกแล้ว . . . 

   น่ากลัวเหมือนกันแฮะ  บรรยากาศเมืองเก่าเงียบสงบ    แต่หากให้ผมขับมาคนเดียวสงสัยได้ขับไปทั้งน้ำตาเป็นแน่  ทำไมมันน่ากลัวเช่นนี้หนอ

   ผมมองหาร้านที่มันบอกให้แวะไปรับ   ก่อนเลี้ยวรถเข้าไป . . .

   คนที่นั่งอยู่กับมัน . . .

   โกเมศวร์ . . .

   “พี่อาร์ม  โน่นพี่โอ๋กับไอ้โก”   แดนมันชี้  ผมเห็นแล้ว  เห็นก่อนที่มันบอกผมเสียด้วยซ้ำไป

   ผมจอดรดเทียบร้านที่มันสองคนนั่งกินข้าวอยู่ . . .

   “กินไรมั้ยมึง”  ไอ้เพื่อนผมมันหันมาถาม  แต่ปากมันเคี้ยวตุ้ย ๆ

   “รีบกินเหอะมึง  จะได้กลับ  กูง่วง   ขับด้วยนะมึง”   ผมโยนกุญแจรถไปที่โต๊ะ  ก่อนเดินกลับไปนั่งในรถ

   “แดนมากินข้าวต้มก่อนมา  ปล่อยแม่งมันนอน”

   ผมเหนื่อยนะ  . . .

   . . .  เหนื่อยมาก  วันนี้งานยุ่งทั้งวัน  แถมมาเจอเรื่องบ้า ๆ  อะไรอีกก็ไม่รู้  มันทำให้ผมผล็อยหลับไปมารู้สึกอีกทีก็เมื่อไอ้เพื่อนเลวมันปลุกผมนั่นแหละ

   “ห่านี่นอนมาตลอดทางเลยนะมึง”  มันเขย่าตัวผม

   “ที่ไหนว่ะ”

   “บ้านมึงไง” 

   ผมงัวเงีย  มองไปในบ้าน  ที่ลานจอดรถว่างเปล่า  ผมหันไปมองหน้าไอ้โก  ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน . . .

   “ไปแดนไปนอน  พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้าอีก”  ไอ้เพื่อนรักมันคว้าหมับเข้าที่คอไอ้แดน  ก่อนเดินเข้าไปในบ้านผมเฉยเลย

   “บ้านกู . . .”

   “แล้วไงเพื่อน  กูขับรถไปกับน้องมึง  เอารถไปส่งเจ้าของ  แล้วมึงจะใจดำไล่กูกลับบ้านเหรอ  เสียใจเพื่อน  ถ้ามึงไม่ให้กูนอนห้องมึง  น้องมึงมันยกห้องมันให้กูแล้วว่ะ  ราตรีสวัสดิ์เพื่อนรัก  พรุ่งนี้ตื่นเช้าปลุกกูด้วย . . .”   มันหันมาส่งจูบให้ผมซะงั้น 

   “ . . .แดน  จะนอนกับพี่หรือนอนกับไอ้อาร์ม  แต่นอนกับพี่รับรองหลับสนิทเพราะพี่นอนไม่กรน”  มันเสือกรู้อีก  เลวจริง ๆ

   “ผมนอนกับพี่โอ๋”   มันรีบวิ่งตามตูดเพื่อนผมไปอย่างรวดเร็ว

   ดีมาก . . . รู้งาน

   ผมไม่พูดอะไร  ได้แต่มองหน้ามัน  ก่อนเดินขึ้นไปห้องนอน  ทิ้งตัวลงกับที่นอน  ที่นอนที่ผมรู้สึกสนิทใจที่สุดยามล้มตัวลงนอน  ความรู้สึกตอนนี้ มันโล่งนะ  ผมว่าผมมีความรู้สึกดีขึ้นกว่าตอนที่ผมระเบิดอารมณ์ใส่มันเสียอีก  ตอนนั้นผมยังกลัวตัวเองเลย  จะเรียกว่าไงดี

   หึง . . . ก็อาจจะ  มีนะ  นิดนึง  แอบคิด  มันจะไปมีอะไรกับนักบวช

   แต่ . . .

   ไม่น่าจะใช่ทั้งหมด  ผมกลัวมากกว่า 

   . . . กลัว . . .

   กลัวว่ามันจะรักคนอื่นมากกว่าผม  กลัวว่าคนอื่นจะช่วยมัน  แล้วมันจะลืมผมอะไรทำนองนี้  ผมนี่คิดอะไรที่งี่เง่าดีแท้  ประมาณ  กลัวว่าตัวเองจะไม่มีความสำคัญอีก

   “พี่อาร์ม”  เสียงมันเรียกเมื่อล้มตัวลงนอน

   จากที่นอนหงาย ผมพลิกตัวกอดหมอนข้างทันที  นอนหันตูดให้มันเสียด้วย  ประมาณว่ากูงอนนะ 

   ง้อกูดิ  อิอิอิ

   “พี่อาร์ม  ผมรู้นะยังไม่นอน”

   เออ . . .  ก็กูยังไม่หลับ 

   ไม่งั้นพอมึงล้มตัวนอนกูจะหันตะแคงไปกอดหมอนข้างหาพระสวรรค์วิมานอะไรล่ะ  นี่มึงไม่รู้หรือว่าอาการแบบที่กูเป็นนี่เขากำลังเล่นตัว  อยากให้ง้อ  หัดเข้าใจคนอื่นเสียบ้างก็น่าจะดี

   “ผมเอารถไปคืนแล้วนะ . . .”   มันบอก  ก่อนสอดแขนมากอดผมเอาไว้

   นี่กูไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย . . .   

   มันมากอดกูก่อนซะงั้น  แต่อย่างว่าล่ะครับ  เรื่องงอนนะ  เรื่องถนัดของผมเสียด้วย

   “พูดกับผมหน่อยสิพี่  นะนะ”   มันจูบเข้าที่ท้ายทอยของผม

   “อย่ายุ่งจะนอน”  ผมดิ้นไปมา  ให้ตัวเองเข้าอยู่ในอ้อมกอดมันถนัดขึ้น  อิอิอิ  เลวได้ใจเลยกรู  เจ้าเล่ห์ชิบ

   “ผมอยากให้พี่รู้  ผมไม่อยากได้ของเขา  ไม่เคยคิดอยากได้”

   “ไม่เกี่ยวไรกัน”

   “เกี่ยวสิพี่”

   “เกี่ยวยังไง”

   “ก็พี่ไม่สบายใจ  ผมไม่อยากให้พี่ต้องไม่สบายใจ”   มันซุกหน้าเอาไว้ที่ท้ายทอยผม

   “ช่างเหอะ”

   “เออ  ผมเอาเงินที่อาจารย์ให้คืนแกหมดแล้วด้วยนะ  ผมคืนหมดทุกบาทเลย”

   ผมยิ้ม . . .

   มันโล่งมากที่สุด  อย่างน้อย  มันก็ไม่ได้อยากได้เงินของเขา  แต่ที่มันรับอาจเพราะมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์  หากแต่ผมยังนอนเฉย  นอนยิ้มในอ้อมกอดของมัน  ในขณะที่มันทุกข์เพราะกลัวผมโกรธ  แต่ผมมีความสุข

   เพราะอ้อมแขนมันร้อยรัดผมอยู่

   “ดีแล้ว  ขอโทษแล้วกันที่วันนี้พี่พูดแรงไป”

   “ทีหลังผมจะคิดให้มากกว่านี้  ผมรู้พี่ห่วงผม  ผมรู้ว่าพี่รักผม  ผมไม่อยากให้พี่ต้องไม่สบายใจ”

   “ดีแล้ว  งั้นคืนนี้นอนคนเดียวนะ”

   “ทำไมอ่ะพี่”

   “พี่จะไปนอนกับไอ้โอ๋มัน”

   “ทำไมอ่ะ”

   “ไม่อยากให้มันรู้  ไม่อยากให้มันมองโกไม่ดี นอนคนเดียวได้นะ”

   “ครับพี่”

   “พี่รักโกนะ”  ผมหันไปบอกมัน  ก่อนหอมที่แก้มของมัน  แล้วลุกเดินไปนอนที่อีกห้อง

   ผมมันพวกเจ้าเล่ห์ . . .  ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย

   . . . ส่วนดีของผมเหรอ . . .

   มีแค่เรื่องเดียวกระมัง . . . รักหมดใจ  รักหมดชาม 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 13:25:55 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
แก้วที่เริ่มร้าว   หากไม่ประสาน  นับวันยิ่งยากจะดังเดิม . . .


เห็นด้วยกับคำนี้อย่างแรง เริ่มเศร้าแล้วสิ  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ป.ล. เราเห็นว่า อาร์มน็อตหลุดไปหน่อย ถ้าค่อย ๆ พูดอย่างมีสติ อาจจะไม่ทะเลาะกันก็ได้นะ  :m15: :m15:

Entaneer#30

  • บุคคลทั่วไป
มาแนวนี้เหรอเนี่ย
ผิดคาด
 :a5: :a5:
.
.
.
.
รออ่านตอนต่อไปก่อนแล้วกันค่ะ
ยังไม่รู้จะว่าอะไรยังไง
 :a3: :a3:

sarin

  • บุคคลทั่วไป
เอ...ตอนนี้ไม่เสียน้ำตา
แต่...เครียด..อึดอัด

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
อย่างที่ว่า                  แก้วที่เริ่มร้าว   หากไม่ประสาน  นับวันยิ่งยากจะดังเดิม

เป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุด

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
กว่าจะอ่านตอนที่ 17 จบ อ่านไปแล้วก็หยุดอ่านทำใจก่อน

แล้วก็ค่อยอ่านต่อ  สุดท้ายก็น้ำตาไหลอยู่ดี :o12: :o12:


*-----*-----*-----*-----*-----*

ต่อจากนี้ไปเริ่มแล้วสินะ  แก้วเริ่มร้าว  รอวันแตก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เข้าใจว่าไม่อยากให้ศาสนาแปดเปื้อน

เลยเลี่ยงไปใช้นักบวชแทน

ช้อบชอบ

เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบบ

 :L2:

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
พี่อาร์มหึงน้องโกแล้ว

แก้วสารภาพตามตรงนะคะ 
แก้วสงสารโกค่ะ โกคงไม่อยากทำตัวเป็นภาระพี่นะคะ ถึงได้ทำอย่างนั้นไป
บางครั้งสิ่งที่โกทำไป คงยังไม่ทันนึกถึงความรู้สึกของพี่หรือของใคร ๆ   

โกยังเป็นเด็กนะคะ พี่อาร์มลองมองย้อนกลับไปเมื่อพี่ยังเด็กสิคะ
กี่ครั้งที่เคยทำผิดพลาด กี่ครั้งที่ไม่เข้าใจการกระทำของผู้ใหญ่
สิ่งเหล่านี้ต้องค่อย ๆ เรียนรู้ไม่ใช่หรือคะ 

การใช้อารมณ์บางครั้งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหรอกนะคะ
แก้วว่า น่าจะลองพูดคุยกันดีกว่ามั้ย ลองปรับอารมณ์ให้เย็นนิดนึง
คนเราเมื่อทำผิด ก็น่าให้อภัยกันได้ (ในกรณีน้องโก)
แต่ถ้าพี่อาร์มเป็นฝ่ายผิดเอง อย่าอายที่จะขอโทษนะคะ
สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้งค่ะ

ถ้าพี่อาร์มไม่พอใจ แก้วขอโทษนะคะที่บังอาจเขียนข้อความข้างต้น
 _/|\_ ขอโทษค่ะ


 :L2:


ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
อะไรบังตาโกน่อ (เงิน- -'?) เห็นผิดเป็นชอบ
บาปมากมาย  :sad2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โอ๊ะ................................ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
อ่านมาถึงตรงนี้ ถึงไม่จะยังไม่รุ้ก้อเหอะว่าข้างหน้าเรื่องราวจะเปนยังไง แต่ตอนนี้ เราคิดว่าเราเข้าใจความรู้สึกอาร์มนะ
และถ้าเราเปนอาร์ม เราก้อทำแบบที่อาร์มทำนั่นแหล่ะ รังเกียจ..ไม่อยากอยุ่ในที่นั้นอีกสักวินาทีเดียว แค่เหนสิ่งของๆใครคนนั้นมันก้อพาลหงุดหงิดโมโห จะบอกว่าหึงมันก้อไม่ใช่ทั้งหมด มันมีอะไรซ่อนอยุ่ในอารมณ์นั้น มันยากที่จะยอมรับ อ่านแล้วเหมือนเหนเงาของตัวเองในเรื่อง อินมากมาย นำตาคลอเบ้าไปหมด.....

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
กว่าจะอ่านตอนที่ 17 จบ อ่านไปแล้วก็หยุดอ่านทำใจก่อน

แล้วก็ค่อยอ่านต่อ  สุดท้ายก็น้ำตาไหลอยู่ดี :o12: :o12:


*-----*-----*-----*-----*-----*

ต่อจากนี้ไปเริ่มแล้วสินะ  แก้วเริ่มร้าว  รอวันแตก





มันเศร้ามากเลยเหรอครับ . . .

ตอนเขียนนี่  มันบอกไม่ถูกอะครับ  เหวง ๆ  ลอย ๆ  จุกที่หน้าอกอะครับ  ไม่อยากนึก  แต่ถ้าเราไม่เอาชนะสิ่งที่เราเป็นอยู่  เราก็คงเจ็บแบบนี้อีกนาน  ไม่อยากเจ็บมั่งครับ  เลยต้องเขียน


RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ ๑๙



   ไม่มีใครที่รู้อนาคตวันข้างหน้า  เพราะว่ามันยังมาไม่ถึง  หากคนเราควรคิดว่าจะทำอย่างไร  แล้วหากไม่ได้แบบที่เราคิด  เราจะมีแผนสำรองรองรับหรือไม่  สำหรับผมแล้ว  ผมรู้แค่ว่า  จะทำอย่างไรต่อไป  ผมไม่เคยคิดเลย . . .

   จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง . . .


   แล้ว . . . จะแก้ไขมันอย่างไร

   ผมได้ปล่อยให้วันเวลามันผ่านเลยไป  ด้วยความไว้ใจที่ผมมี  เพราะผมเชื่อ  ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายเขา  ผมอยากเห็นเขาเดินไปในทางที่ดี  แม้มันจะมีเรื่องที่เกิดรอยด่างขึ้นมาบ้าง 

   อาจเพราะ . . .

   เวลาที่อยู่กันมานาน  นานจนทำให้ผมเชื่อโดยสนิทใจว่า  เขาจะไม่มีวันทำร้ายผม  เพราะสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมด  เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีในระดับนึงว่า  หากจะมีใครที่ผมพอจะฝากผีฝากไข้ได้  น่าจะเป็นมัน . . .

   สิ่งที่แน่นอนอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิด . . .

   ผมลืมนึกไป . . .

   . . . ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปด้วยเวลา

   เวลา . . .

   . . . เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย . . .

   หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น  ดูเหมือนว่าผมจะมีเรื่องพูดกับโกน้อยลง  แต่มิได้หมายความว่าผมจะไม่สังเกตุ  ความเป็นไปของคนที่ผมรัก  ผมได้แต่มองดูเขาห่าง ๆ   ปล่อยให้เขาได้เติบโตไปตามทางที่เขาอยากจะโต  อยากจะเป็น

   “พี่อาร์ม  อีกสองอาทิตย์จะสอบแล้วล่ะ  สอบเสร็จแล้ว  ผมกลับบ้าน  พี่อาร์มจะกลับมั้ย”

   “ไม่ดีกว่า  เพิ่งไปมาเมื่อสงกรานต์เอง”

   “ว้า  น่าจะไปด้วยกัน  ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้สวยออก”

   “ก็งานมันยุ่งนี่หว่า”

   “จะฝากอะไรไปให้หลวงพ่อมั้ย  ผมจะแวะไปกราบก่อนเข้าบ้าน” 

   ผมยิ้ม  เพราะมันยังเสมอต้นเสมอปลาย  มันจะแวะไปกราบหลวงพ่อแทบทุกครั้งในเวลาที่มันกลับไปเยี่ยมบ้าน  มันเคารพเหมือนเป็นพ่อคนนึงของมัน  ผมมองการกระทำของมันเงียบ ๆ

   ไม่ต้องบอกหรอกว่าผมรู้สึกดีขนาดไหน . . .

   มันไม่ใช่สายเลือด . . .

   . . . แต่ผมอบอุ่นที่อยู่ใกล้

   . . . มันไม่ใช่น้อง . . .

   แต่มันคือชีวิต . . . 

   คือทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมกันเป็นผม   มันคือความหวังเดียวที่ผมมี  หวังที่อยากเห็นมันเดินไปถึงจุดหมายปลายทาง . . .

   ปลายทางที่ผมวาดหวัง . . .

   . . . และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่โยงใยผมเอาไว้มากที่สุดคือ

   อยากเห็นวันที่มันใส่ครุยแดง . . .

   วันนั้นคงเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต . .   

   วันที่ต้นไม้ที่ผมปลูกมากับมือ  ปริดอก ออกผล  ให้กับเจ้าของที่แท้จริง  ผมเป็นแค่คนปลูก  ที่หมั่นคอยรดน้ำพรวนดิน    เมื่อต้นไม้เจริญเต็มที่  ผมจะปล่อยคืนเจ้าของเดิม

   สิ่งเดียวที่ผมรอคอย  มันใกล้เข้ามาทุกที

   ผมเฝ้ารอวันนั้นด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข . . .

   . . . และความหวัง . . .

   หาก . . .

   ผมไม่เคยเตรียมใจไว้ก่อนเลย 

   . . . โลกมีสองด้านเสมอ . . .

   ความหวัง  เคียงคู่มากับ  ความผิดหวัง

   “แม่โทรมาพี่”    มันบอก  ผมต้องปล่อยมันออกจากอ้อมแขน 

   “. . .ครับแม่”

   ผมนอนนิ่ง ๆ    เวลานอน  เวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุด  ยามผมหลับตาภาพสุดท้ายของวัน  ผมเจอมัน  ยามลืมตาตอนเช้าคนแรกที่ผมเจอก็มันอีก . . . สิ่งที่ผมรักและหวงแหนยิ่งชีวิตของผมเอง

   “อยู่ครับแม่  เดี๋ยวนะครับ”

   มันยื่นโทรศัพท์ให้ผม   

   “. . .ครับป้าภา”

   “น้องอาร์ม  ป้าถามอะไรหน่อย”

   “อะไรเหรอครับ”’

   “น้องอาร์ม ออกมาคุยห่างน้องโกได้มั้ย”

   “ได้ครับได้”  ผมรับปาก  ก่อนเดินออกมาจากห้องนอน  เข้าใจว่าป้าภาคงมีเรื่องสำคัญที่ไม่อยากให้โกรู้

   “น้องอาร์มรู้จักทนายบ้างมั้ย”

   “ครับ  พอมีเหมือนกันครับ”

   “ป้าอยากรู้ว่าถ้าเราทำพินัยกรรมเอาไว้  เราต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง  แล้วเราจะต้องทำยังไง” 

   “มีอะไรหรือเปล่าครับ”   ผมไม่สบายใจกับสิ่งที่ป้าภาพูด  ระยะหลัง  โกบอก  ป้าภามาหาหมอบ่อย  ผมใจคอไม่ดีเลย

   ผมเคยสูญเสีย . . .

   ทำไมผมจะไม่รู้  คนที่ผมรัก  ค่อย ๆ  หายไปจากชีวิตของผมทีละคน  การสูญเสียมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

   “อยากทำไว้ให้เรียบร้อยก่อนนะ  ไม่มีอะไรหรอก”

   เห็นมั้ย . . .   

   ป้าภามีเรื่องอะไรในใจแน่ ๆ    ถึงไม่ยอมพูดให้หมด  แล้วไอ้เรื่องที่แกมาหาหมอบ่อย ๆ  มันน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แกคุยเรื่องนี้กับผมก็ได้  ผมได้แต่เก็บเอาความรู้สึกนี้ไว้ในหัวใจ

   “อย่าพูดแบบนั้นดิครับ  ใจคอไม่ค่อยดีเลย”

   “ไม่มีอะไรจริง ๆ    น้องอาร์มยังมีเงินใช้มั้ย”

   “มีครับ  ป้าจะเอาอีกหรือครับ”

   “ไม่เอาแล้ว  แต่อยากบอกว่า  อีกสักพักนะ  เดี๋ยวป้าจะรีบเคลียร์ให้”

   “ได้ครับผม  ไม่มีปัญหา  ถ้าไม่พอ  โทรมาบอกก็ได้ครับ อย่าไปกู้แถวนั้นเลย  ดอกแพง  เสียดาย”

   “จ้ะ  แล้วอย่าลืมเรื่องทนายนะน้องอาร์ม  ด่วนหน่อยก็ดี”

   “ครับ”

   ผมวางสายจากป้าภา  สมองผมคิด  คนเรา  ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจะทำพินัยกรรมไปเพื่ออะไร  แล้วเรื่องสำคัญอะไรที่เกี่ยวเนื่องกับพินัยกรรมนอกจาก . . .

   . . . ความตาย

   ความตาย . . .

   อีกแล้วหรือ ?

   ผมขนลุกชัน  หนาวเหน็บไปถึงหัวใจ

   คนที่ผมรักอีกคน . . .

   . . . รู้อะไรล่วงหน้าอย่างนั้นหรือ  มองผมหนัก ๆ  เพราะกังวลกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้มา  บางที  คนเราอาจจะต้องทำใจยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น    ไม่มีใครหรอกที่จะหนีมันได้พ้น

   ทุกคนล้วนเป็นไปตาม . . . กรรม

   ผมเดินกลับเข้ามาในห้องนอน  โกเมศวร์นอนดูทีวีอยู่  มันจะรู้เรื่องที่แม่กำลังทำอยู่หรือเปล่า  แล้วถ้ามันรู้มันจะทำยังไง  ผมมองมันได้แต่สงสารคนที่ผมรักอย่างเต็มหัวใจ   ผมล้มตัวลงนอน ก่อนกอดมันเอาไว้

   ร่างกายมันอบอุ่น . . .

   . . . ผมรู้สึกได้จากร่างที่เราเบียดชิดกัน  แต่ทำไมไม่รู้ 

   ผมกลับรู้สึก . . . หัวใจของผมมันหนาวเหน็บ

   . . . ผมอยากให้มันรู้  สิ่งที่อัดอั้นในหัวใจผมตอนนี้   ผมอึดอัดมากเหลือเกินกับคำพูดของป้าภา  มันมีอะไรแอบแฝงเป็นนัยยะแห่งคำพูดอย่างนั้นหรือ

   การสูญเสีย . . .

   คนที่ให้กำเนิดเรามามันทรมานขนาดไหน  ผมรู้ดี  เพราะผมผ่านเวลานั้นมาแล้ว  หากคนที่ผมรักเจอเข้าล่ะ  ผมบอกไม่ถูกเหมือนกัน  เพราะผมรู้จักโกเมศวร์ 

   คนที่มันรักยิ่งชีวิตของมัน . . . แม่



   
   ผมจัดการตามที่ป้าภาสั่งเรียบร้อยในอาทิตย์ถัดมา  อย่างน้อยที่สุด  สิ่งใดก็ตามที่เป็นความประสงค์ของคนที่เกี่ยวข้องกับคนที่ผมรัก  ผมทำให้ได้  ผมไม่ลังเลที่จะทำแม้แต่น้อย   

   โกกลับมาหลังจากที่มันกลับบ้านไปได้อาทิตย์เดียว  ผมสังเกตว่าการกลับมาของมันในครั้งนี้  มันเงียบลงมากกว่าเดิม  บางครั้งมันเหมือนมีอะไรที่เก็บเอาไว้ในใจ  ผมคิดเอาเอง  อาจเป็นเรื่องที่ป้าภาพูดมาในครั้งก่อน
 

   มันอาจจะรู้เรื่อง . . .

   ผมไม่ได้ถามมัน  เพราะผมรู้ดี  เรื่องแบบนี้  ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งคุยกัน  สมองผมตอนนั้นคิดแต่เรื่อง  เจ็บไข้  แต่จะเป็นโรคอะไรที่ต้องทำพินัยกรรมล่วงหน้านี่สิ  มันน่าคิด  ผมสงสารโก 

   ถ้ามันรู้ล่วงหน้า . . .

   . . . นับวันรอวันจากลา

   มันคงเป็นเวลาที่ทรมานน่าดู  กับการนับวันรอจากลาคนที่เรารัก  แตกต่างจากผม  ที่รู้แค่คืนเดียว  แล้วผมก็ลาจาก . . .

   ไม่มีใครอยากลาจาก . . .

   ไม่มีใครอยากที่จะสูญเสีย  แต่เราจะหนีมันได้หรือ  ในเมื่อสิ่งเหล่านั้น  มันพร้อมที่จะมาหาเราตลอดเวลา  สิ่งเดียวที่ผมทำได้  คืนนอนกอดมันเอาไว้ก่อนนอน  ผมอยากให้มันรู้  มันยังมีผม

   ผมอีกคนที่ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งมัน . . .

   . . . ผมสาบาน

   . . . มันจะอยู่ในความทรงจำของผมตราบลมหายใจสุดท้ายของผมเอง  วันข้างหน้า  ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  แต่ผมรู้  มันคือคนเดียวที่ผมจะรักได้ . . .

   “พี่อาร์ม  ปีใหม่ผมหยุดสิบวันนะพี่”

   “ดีเลย  ไปเที่ยวกระบี่กัน”

   “ผมว่าจะกลับบ้าน”

   “ทำไมอ่ะ  ก็นัดกันแล้ว ว่าจะไปกระบี่”   ผมมองหน้ามัน

   “หลังปีใหม่ได้มั้ยพี่  อยากกลับบ้าน”

   “เพิ่งกลับมาเมื่อเดือนก่อนเอง จะกลับอีกแล้วหรือ”   ผมมองหน้ามัน  มันไม่สดชื่นเลยตั้งแต่กลับมาเมื่อเดือนก่อน

   บางที . . .

   . . . มันอาจอยากจะกลับไปหา . . . แม่

   ผมสลัดความอยากส่วนตัวทิ้งไปในทันทีเมื่อนึกถึงเวลาที่มันมีเหลืออยู่  อาจเป็นเวลาที่เหลืออยู่อันน้อยนิด  และมันอยากจะอยู่กับคนที่มันรักให้นานที่สุด 

   “ไปเหอะ  อยากกลับก็กลับ  โทรหาพี่บ้างก็แล้วกัน”  ผมต้องสั่งมัน  เพราะมันงก  ไม่ค่อยโทรหาสักเท่าไหร่

   ถ้า . . .

   ผมรู้ล่วงหน้า . . .

   . . . ผมจะไม่ยอมให้มันกลับ

   ไม่มีวันยอมเด็ดขาด . . .

   . . . หัวเด็ดตีนขาดผมก็ไม่มีวันยอม

   มันกลับไปแล้ว  ผมต้องอยู่เหงาคนเดียวอีกหลายวัน  ปีที่เจ็ดแล้วที่อยู่ด้วยกัน  ผมชินกับการตื่นมาแล้วเจอหน้ามัน  ชินกับการกลับมาจากทำงานแล้วได้หอมแก้มมันก่อนนอน

   สิ่งที่ผ่านมาระหว่างมันกับผม . . .

   ความรัก . . . มีแน่ ๆ 

   ความผูกพัน . . . ฝังลึก

   ผมไม่รู้เหมือนกันระหว่างความรักกับความผูกพันที่ผมมีกับมัน  อย่างไหนจะมากกว่ากัน  เพราะผมไม่เคยนับ  ไม่เคยวัด  ไม่เคยตวง ไม่มีมาตราใดที่จะวัดความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี  นอกจาก . . . หัวใจ

   ผมรู้แค่ . . .

   ความรักสื่อออกมาจาก . . . คำพูด   

   . . . จากน้ำคำที่คน ๆ  นึงจะบอกให้อีกคนนึงได้รับฟัง  ในสิ่งที่หัวใจตนปรารถนา

   หาก . . .

   ความผูกพัน . . . พูดไม่ได้ 

   แต่มันคือการกระทำ  ที่เราสามารถรับรู้เองได้ว่า  มันใช่แบบที่เราคิดหรือไม่  คนเราหากไม่รัก  จะทำสิ่งที่ดีให้อีกฝ่ายได้หรือ แล้วอะไรก็ตามที่ไม่ได้กระทำออกมาจากหัวใจ  คนรับเขารับรู้ได้  สัมผัสได้จากสิ่งที่อีกฝ่ายส่งมา

   สิ่งนี้แหละที่เจ็บปวด . . .

   สิ่งดี ๆ  ที่ได้รับจากคนที่เรารักนี่แหละคือสิ่งที่เป็นตัววัดระดับความผูกพันแน่นลึก  บางครั้งมันแน่นหนาจนยากที่เราจะถอนตัวได้  กว่าที่เราจะรู้  มันก็หนักหนาสาหัสจนแทบไม่อยากหายใจเลยทีเดียว

   โกเมศวร์กลับมาหลังปีใหม่  ก่อนวันเกิดผมหนึ่งวัน . . .

   “สุขสันต์วันเกิดนะครับ”    มันกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง ผมนอนนิ่งยิ้ม  มีความสุขกับสิ่งที่มันทำ

   อย่างน้อยที่สุด . . .

   . . . ผมได้หัวใจมัน . . .

   ผมเชื่อเช่นนั้นเพราะหาไม่แล้ว . . . ไม่มีใครหรอกที่จะกระทำแบบนั้นกับคนที่ตัวเองไม่รัก  ผมไม่เชื่อว่านี่แค่ความรักของน้องที่มีต่อ . . . พี่ชาย

   ไม่มีพี่น้องคนไหนแสดงความรักออกมามากมายขนาดนี้เป็นแน่ . . .

   แต่ . . สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นภาพลวงตา

   ทำไมนะหรือครับ  มันเปลี่ยนไปมาก . . .

   ความเปลี่ยนแปลงที่ผมเองก็รับรู้ได้  อย่าลืมว่ามันอยู่กับผมมานานขนาดไหน  แล้วการเปลี่ยนไปของมันก็สร้างความรู้สึกเจ็บปวดให้กับผม

   มันนั่งอ่านหนังสือเหมือนเคย . . .

   . . . แต่มันคุยโทรศัพท์ไปด้วย

   อ่านรู้เรื่องได้อย่างไร . . .

   หรือมันเก่งสามารถแยกโสตประสาทได้  มันมีสมองที่แยกส่วนได้แบบนั้นจริงหรือ  ผมเคยเห็นมันตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือดึก ๆ  ผมยิ้มที่มันขยัน

   แต่ . . . ตอนนี้  ผมเกลียดภาพนี้จัง

   ภาพที่เริ่มเข้ามาชินตาสำหรับผม . . .

   โกเมศวร์คุยไป  เปิดหนังสือหน้าโน้นที  หน้านี้ที  สิ่งที่มันเป็นอยู่ตอนนี้มีหรือที่ผมจะไม่รู้  ผมได้แต่รู้สึกน้อยใจกับสิ่งที่มันทำ  ต้นไม้ที่ผมปลูก  เริ่มมีแมลงมาชอนไชอย่างนั้นหรือ

   สิ่งที่ผมทำได้ในเวลานั้น . . .

   . . . ผมเงียบ . . .

   ไม่พูดไม่จากับมันเลย  ผมคิดว่า  การที่ผมไม่พูด  อาจจะทำให้มันสนใจผมบ้าง  มันอาจจะอยากรู้บ้าง  ว่าผมเป็นอะไรที่ไม่ยอมพูด  ทั้ง ๆ  ที่มันพูดกับผม  แต่ผมจะนิ่งเงียบทุกครั้ง  . . .

   ถ้า . . . 

   . . . มันคิดสักนิด

   สิ่งที่ผมทำอยู่  เขาอาจมีอะไรในใจ ถ้ามันรักผมมันคงถามผมตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ผมไม่พูดไม่จา  มองมันเหมือนสิ่งแปลกหน้า  หากมันไม่เคยเฉลียวใจ  มันได้แต่ปล่อยให้ผมที่น้อยอกน้อยใจ  จนนอนน้ำตาไหล

   บางคืน . . .   

   . . . เจ็บปวดรวดร้าวกับสิ่งที่ได้ยิน

   “คิดถึงนะ  ดูแลตัวเองด้วยนะ”

   ผมนอนน้ำตาไหลพราก มันไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร  คนที่นอนอยู่กับผม  คุยโทรศัพท์ครั้งละสองสามชั่วโมง  ก่อนจากมีห่วงใย  นี่ผมเป็นตัวอะไร  ทำไมผมถึงทนอะไรได้ขนาดนี้  ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  อาจเพราะว่า

   ผมรักมันมาก . . .

   มากเกินไปกว่าจะจะทนเห็นมันเดินออกไปจากผมได้  ถ้ามันแค่คืนสองคืน  ผมจะไม่เจ็บปวด  แต่ตอนนี้มันทุกคืน  ตั้งแต่หลังจากวันเกิดผม  ทุกคืนที่ผมนอนหลับทั้งน้ำตา  ทุกคืนที่ผมต้องทนได้ยิน

   “คิดถึงหน่อยนะ  ดูแลตัวเองนะ”

   ผมได้แต่นอนกอดหมอนเอาไว้  ยึดหมอนเอาไว้  เป็นเพื่อนแท้ที่คอยซับน้ำตาผม  มันเกิดอะไรขึ้น  มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมไม่เข้าใจ  ขนาดมันไม่เคยบอกรักคนนั้นให้ผมได้ยิน  ผมก็เจ็บเจียนขาดใจ  แล้วหากวันใด . . .

   ผมไม่อยากจะคิด . . .

   . . . คนที่ผมรักยิ่งชีวิตจะทำร้ายผม

   มันฆ่าผมช้า ๆ  อย่างเลือดเย็นที่สุด . . .   

   คนที่ผมรักมากที่สุด  ค่อย ๆ  กรีดมีดลงในหัวใจผมช้า ๆ  เลือดในกายเหมือนค่อย ๆ  ไหล  มันไม่รวดเร็ว  แต่มันค่อย ๆ  ซึม  และในไม่ช้า  มันคงไหลจนหมดจากร่างกายของผมเอง      

. . . หน่อย . . .

   ชื่อนี้ผมจารจำไปจนวันหมดลม




   “พี่อาร์ม  เป็นไรหรือเปล่า  ข้าวปลาไม่ค่อยกิน  ซูบไปนะเนี่ย”  ไอ้แดนมันมองผมด้วยความห่วงใย

   “เปล่า  นอนไม่ค่อยหลับ”

   “ทะเลาะกับโกหรือ”


   “ไม่นี่  ไม่ได้ทะเลาะ” 

   ผมไม่ได้โกหก . . .

   ผมไม่ได้ทะเลาะกับมันจริง ๆ  นี่หว่า  ผมแค่น้อยใจกับสิ่งที่มันทำลงไป    มันเริ่มห่างหายไปทีละน้อย  จนผมเองก็รู้สึกได้  ผมได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้กับผมคนเดียว

   ของบางอย่างผมต้องค่อย ๆ  เรียนรู้ . . .

   . . . ใกล้ตัว  ไกลใจ . . .

   “พี่อาร์ม  ผมไม่รู้ว่าพี่เป็นอะไร  แต่ผมห่วงพี่นะ”

   ผมหันไปมองหน้าไอ้แดน  ผมยิ้มให้มัน  แม้จะเป็นยิ้มที่ขัดต่อความรู้สึกในตัวเองตอนนั้นก็เถอะ  แต่ผมก็อยากจะยิ้มให้มัน  คนที่มันห่วงผม  ผมจะทำร้ายน้ำใจคนที่เขาห่วงผมได้อย่างไร

   “กินเหล้าดีกว่าพี่คืนนี้  เดี๋ยวโทรบอกพี่โอ๋”

   เหล้า . . .

   สิ่งเดียวเท่านั้นมั้งที่ทำให้ผมลืม ๆ  ภาพอะไรบางอย่างได้  ภาพที่ผมเองก็ไม่อยากเห็น   ภาพที่แม้แต่วันนี้ผมเองก็เคยลบเลือน 

   เหมือนแผลเป็น . . . ตรงกลางหัวใจผม

   เสียงเพลงในยามค่ำ  ยังเป็นเพลงฟังนุ่ม ๆ  สบาย ๆ  วันนี้วันศุกร์ในร้านคนค่อนข้างมาก  โต๊ะผมมีกันแค่สามคนเอง  ผม  ไอ้เพื่อนรัก  ไอ้แดน  ผมนั่งกินเบา ๆ  หากเพลงแต่ละเพลงมันเสียดแทนความรู้สึกของคนที่กำลังสูญเสีย

   นักร้องนั่นเล่นกีตาร์โปร่งไปด้วย ร้องไปด้วย  ส่วนอีกคน  มีอะไรในมือไม่รู้  คอยเขย่าให้จังหวะ    ผมนั่งโซฟาเล็ก ๆ  สองที่นั่ง  ผมนั่งติดกับไอ้เพื่อนรัก  เพราะมันน่ะชอบมอมเหล้าคนอื่น  การนั่งไกลมันอันตราย

   “มึงเป็นอะไรมั้ยนี่”  มันกระซิบที่ข้างหูผม

   “ไม่มีไรนี่”

   “หมาเหอะ  เห็นเงียบ  ตั้งหน้าตั้งตาแดก  มึงจะรีบไปไหน  ยังอีกนานคืนนี้เพิ่งสี่ทุ่มกว่าเอง”

   “อ้าวมากินเหล้า”

   “เออ  อย่าแดกมาก  ขับรถอีก  กูห่วง”

   “ใครบอกกูขับ  มึงขับ”  ผมมองหน้ามันก่อนยกแก้วชนไอ้แดน  แล้วทำสัญญาณมือก้นแก้ว   ผมเริ่มตึงแล้วล่ะครับ  เหล้าหมดไปตั้งเกือบขวด  ก็คนมันอยากเมานี่หว่า  กินเหล้าก็ต้องกินให้เมาสิ  ไม่งั้นไปกินนมร้านมนต์ที่เสาชิงช้าไม่ดีกว่าหรือ

   “ครับผม  ต่อไปขอเชิญนักร้องรับเชิญนะครับ  คุณแดนสรวงครับ”   นักร้องนั้นผายมือมาที่โต๊ะผม

   ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ  . . . 

   เพราะปกติ  มันก็จะแจมเป็นประจำ  เสียงตบมือเกรียวกราว   ร้านนี้ส่วนมากมีแต่แขกประจำทั้งนั้น  แล้วเสียงมันก็ระดับออกเทปได้สบายเสียด้วย

   “มันไปนั่งประจำที่กลางเวที  แสงไฟสาดส่อง . . .

   “เพลงนี้ครับ  มอบให้ทุกคนนะครับ  พิเศษสุดสำหรับคนที่รู้ตัวว่าอกหักนะครับ”  ลูกเล่นมันแพรวพราว  เรียกเสียงตบมือเกรียวกราวอีกครั้ง

   เสียงกีตาร์เบา ๆ    ก่อนที่เสียงมันจะสะกดคนทั้งร้าน

   “ . . . เจอะเธอ  ทุก ๆ  ครั้ง  พร้อมรอยน้ำตากับความทุกข์ที่มีมาเพื่อมาระบาย  เมื่อคนที่เธอรักเขาไม่เคยแคร์  และเหมือนโดนเขารังแกอยู่ร่ำไป . . .

“    มันทอดสายตามาทางผม  ผมยิ้มให้มัน  ก่อนยกแก้วนั้น  ชูให้มัน  แล้วหมดแก้ว

   “เหี้ยนี่  เบา ๆ เดี๋ยวเมาตาย”  ไอ้เพื่อนรักปราม  แต่ยังเสือกเอาแก้วไปชงต่อ  มันรักกูจัง ปากห้ามมือช่วยส่งลงนรก

   “. . . ไม่อยากจะถามเธอ  ให้เสียบรรยากาศ  ว่ารักตัวเขามากมายสักเพียงไหน  มีเพียงคำถามเดียวที่ฉันไม่เข้าใจ  สิ่งที่ฉันนั้นห่วงใยและอยากรู้ . . .”  มันจะบอกอะไรผมอีก  มันชอบบอกผมผ่านเสียงเพลง

   มันรู้ไหม

   . . . ตอนนี้  หัวใจผมมันเต้นแรง  มันสั่นไปหมด 

   หัวตาผมมันร้อนผ่าว  ผมมองมันผ่านแสงสีหลากหลาย  กลางเวที  มันหล่อนะ  เสียงมันก็ดี  มันห่วงผม  ผมรู้ ผมสัมผัสได้  จากทุก ๆ  อย่างที่มันมีให้ผม

   “. . . เหนื่อยมั้ยสิ่งที่เธอทำอยู่  สิ่งที่ฉันได้คอยเฝ้าดู  ยิ่งรู้ยิ่งห่วงใย  เหนื่อยมั้ยกับที่ต้องร้องไห้  ให้กับเขาที่เธอปักใจ  แต่เขาไม่เคยรับรู้เลย . . .”

   ผมยิ้มทั้งน้ำตา . . .  ก่อนยกแก้วที่ไอ้โอ๋ชงให้ใหม่

   “พอเหอะ . . .  แก้วต่อแก้วแบบนี้เดี๋ยวเมาอ้วกหรอกมึง”  มันดึงมือผมเอาไว้  มันจ้องหน้าผม 

   มันเห็นแววตาผมมั้ย . . .

   ไอ้เพื่อนรักจะมองเห็นอะไรในตาผมหรือปล่าว     ความอ่อนแอที่มันถาโถมจู่โจมหัวใจผมอย่างรวดเร็ว  และตอนนี้มันมารออยู่ที่ดวงตา

   . . . แววตาที่เอ่อล้นด้วยอะไรบางอย่าง   

   “มึงเป็นอะไรนักหนาว่ะ  กินเบา ๆ”

   ผมไม่ตอบมันโผกอดมันเอาไว้แน่น   ผมเหมือนคนหมดแรงต้านทาน  กอดมันเอาไว้  ก่อนปล่อยสิ่งที่มันหนักหน่วงอยู่ในหัวใจตอนนี้  ดูมันตกใจ 

   “เฮ้ยมึงเป็นอะไร”

   ยิ่งมันพูด  ผมยิ่งห้ามตัวเองไม่ได้  ภาพที่ผมเห็นมันตามมาหลอนผม  เสียงที่มันเคยบอกคิดถึงคนอื่นมาตลอดสองเดือน  มันเจ็บ . . .

   หัวใจคล้ายถูกบีบ . .   

   มันเกินกว่าที่ผมจะเก็บเอาไว้ได้  ผมไม่อายเลย  ผมอายไม่เป็น  ตอนนั้น  ผมรู้แค่ว่า  มีแต่เพื่อนเท่านั้น

   ผมไม่หวังให้มันมาเข้าอกเข้าใจผม . . . 

   แต่ . . .มันคือเพื่อนผม 

   มันคือคนเดียวที่ผมรู้ว่ามันไม่ทิ้งผม  ผมกอดมันเอาไว้  ยึดมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมมี  ผมกลัวมาก  กลัวที่จะสูญเสียมันไป    น้ำตาน้ำมูกผมเลอะมันไปหมด  แต่มันไม่รังเกียจผม  มันกอดผมเอาไว้ 

   ไอ้โอ๋ได้แต่ลูบหัวผมเบา ๆ  เหมือนผมเป็นเด็ก

   “เอาน่า  มึงมีอะไร  ก็บอก  พูดสิว่ะ  กูเพื่อนมึงนะโว้ย”

   “ไม่มี  ไม่มี”  ผมกัดฟันบอกมัน 

   ทั้ง ๆ  ที่หัวใจผมมันโหยหา  ผมแค่อยากร้องไห้  หรือผมอ่อนแอกันแน่    ผมไม่รู้  ห้ามตัวเองไม่ได้ ผมห้ามสิ่งที่ผมเก็บเอาไว้ไม่ได้  ผมรู้  ต่อจากนี้  ผมต้องเจอกับการสูญเสีย

   การสูญเสียที่ผมเองก็เริ่มทำใจเอาไว้ . . .

   แต่ผมยังหวัง  ยังเข้าข้างตัวเอง  มันไม่ใช่  มันไม่ทิ้งผมหรอก  สิ่งที่ผมคิด  มันเข้าข้างตัวเองเสมอ  ผมอ่อนแอเกินกว่าที่จะยอมรับความเป็นจริงได้  ผมเหนื่อยเพราะร้องไห้เสียจนตัวโยน  สิ่งที่ผมเก็บกดมาสองเดือนโดนปลดปล่อย  เหมือนเขื่อนที่แตก  น้ำไหลบ่าเต็มไปหมด

   “เก็บอาการหน่อยมึง  คนมองใหญ่แล้ว”

   “เรื่องของกู  กูไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ”

   “เออ  งั้นมึงร้องไปจนกว่ามึงจะพอใจ  กูกอดมึงไว้แบบนี้ก็ได้”

   “พี่อาร์ม”  ไอ้แดนเอามือมาแตะไหล่ผมเอาไว้เบา  หลังจากที่มันทำหน้าที่ของมันบนเวทีเรียบร้อย  มันแน่มาก  เรียกน้ำตาผมกลางร้าน

   แล้วไอ้เวลาที่เริ่มเมา . . .

   เสียงเพลงมันบริ้วอารมณ์ขนาดนั้น   คนที่มันไปทำหน้าที่ตรงกลางเวที  มันอยากสื่ออะไรให้ผม   ทำกไมผมจะไม่รู้   มีหรือที่บ่อน้ำตาผมจะไม่แตก 

   “ไหวมั้ยพี่”  น้ำเสียงมันห่วงใยผม 

   แต่ . . .

   . . . ยิ่งมีคนแสดงความห่วงใยมากแค่ไหน 

   มันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้ผมมากเท่านั้น

   บางที  หากไม่มีใครเลย  ผมอาจจะเข้มแข็งมากกว่านี้    ผมเกลียดจริง ๆ  กับความอ่อนแอในตัวเอง  ทำไมผมไม่เข้มแข็งบ้างก็ไม่รู้  ผมอยากยืนได้  ยิ้มได้กับทุก ๆ  เรื่องราวที่มันผ่านเข้ามา

   แต่ดูเหมือนว่า . .

   ผมอ่อนแอเสียเหลือเกิน . . .

   ผมไม่รู้เหมือนกันว่าวันนั้น  ผมร้องไห้ไปนานแค่ไหน  ผมรู้แค่ว่า  เมื่อได้ปลดปล่อยมันออกไป ผมรู้สึกโล่งออกมา  แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะหายมิใช่หรือ . . .

   “โก  มาแล้วนั่ง ๆ”    ไอ้โอ๋บอกให้คนมาใหม่

   ผมมองหน้ามัน . . . ทั้ง ๆ  ที่ไม่อยากมอง  ผมเคยรักมันสุดหัวใจ  แม้แต่เวลานี้ก็ยังรัก  แต่ความน้อยอกน้อยใจ  ทำให้ผมไม่อยากที่จะมองหน้ามันเลย

   “ใครบอกว่าอยู่นี่”  ผมถามมัน

   “พี่แดนโทรไปบอกว่าพี่เมา”

   ผมหันไปมองหน้าไอ้แดน  มันยิ้มเจื่อน ๆ  “พี่โอ๋บอกให้โทรตาม”

   มันโยนกันไป  โยนกันมา  เห็นเป็นเรื่องสนุกนักหรือมึง . . .

   “ก็กูขับรถไม่ไหว  เพราะกูจะเมาเป็นเพื่อนมึงไง”  มันยกแก้วมันชนที่แก้วผม ก่อนกระดกหมดแก้ว 

   “ต้องรีบตามเพื่อนให้ทัน เพื่อนเมาล่วงหน้าไปแล้ว”   มันเทเหล้าไปอีกเกือบครึ่งแก้ว   ก่อนยกขึ้นซ้ำ

   “มองอะไร  มึงอยากเมาไม่ใช่เหรอ  เอาดิ กูเมาเป็นเพื่อน  แต่แดกมิกซ์  เปลือง ออนเดอะร๊อคแม่งเลย”    มันเทลงอีกค่อนแก้วก่อนยกอีกรอบ

   “พอเหอะมึง”    ผมบอกมันเสียงอ้อแอ้

   “สัสนี่  ทีเมื่อกี้  ใครแดกยังก๊ะน้ำ  เอาดิ มึงเมากูก็เมา”

   ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี 

   . . . สิ่งที่มันทำ  มันประชดผม  หรือว่ามันรักผม  แต่สิ่งที่ผมรู้  ช่วงเวลาที่ดี มันอยู่กับเราไม่นานหรอก  เราควรที่จะเก็บมันเอาไว้  รักษามันเอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

   สายเกินไป . . . 

   . . . ผมเกลียดคำนี้เหลือเกิน

   แต่ยิ่งเกลียด . . . เราก็ต้องยิ่งเจอมิใช่หรือ

   โกขับรถไปส่งไอ้โอ๋ที่บ้าน  มันดื้อไม่ยอมไปค้างที่บ้านผม  ส่วนไอ้แดนไม่เมา  แล้วคอนโดมันก็ใกล้ร้านเหล้ามากที่สุด  ผมเมานะวันนั้น  เมามาก  ตอนเดินเข้าบ้านแทบจะประคองตัวเองไม่อยู่  เหมือนบ้านหมุนติ้ว ๆ 

   เกือบตีสอง . . .

   ผมแหงนดูเวลา  ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน

   โกเมศวร์เข้ามาเปลี่ยนเสื้อให้ผม  มันถอดเสื้อผมออก  ก่อนเช็ดตัว  ทำไมมันต้องทำแบบนี้ด้วย  ผมไม่เข้าใจตัวเองกับสิ่งที่มันทำ

   เสียงโทรศัพท์มันดัง  หลังจากที่มันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมเรียบร้อยแล้ว . . .

   ผมยังไม่หลับ . . .

   ผมยังนอนอยู่  ยังหายใจ . . .

   ผมยังมีชีวิต  มีเลือดเนื้อ  เพราะหัวใจผมมันทำด้วยเนื้อ  ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเมา  มันคุยกันกระหนุงกระหนิงบีบหัวใจผมเหลือเกิน  มันจะรู้บ้างมั้ย  ทุกวันนี้  มันกำลังฆ่าผมอย่างเลือดเย็นมากที่สุด

   มันสุดจะทนทาน  ผมโผเข้าหามันกอดมันเอาไว้  ผมร้องไห้หนักกว่าตอนที่ผมกอดเพื่อนรักผมเอาไว้อีก   

   “พี่อาร์ม เป็นอะไร”  มันเขย่าตัวผม 

   “แค่นี้ก่อนนะหน่อย  คิดถึงนะ”

   จนเวลานี้แล้วมันยังไม่รู้  มันยังไม่รู้อีกหรือ  ผมได้แต่ปล่อยความอ่อนแอของตัวเองออกมา  มันกอดผมเอาไว้  แต่ยิ่งมันกอดผมเอาไว้มากเท่าไหร่  ผมยิ่งอ่อนแอมากเท่านั้น  ผมเหมือนคนที่หยุดตัวเองไม่ได้  ผมห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้  ความน้อยเนื้อต่ำใจมันประเดประดังเข้ามา  ผมไม่มีอะไรอีกแล้ว  ผมไม่เหลืออะไรอีก 

   แม้แต่ . . .

   คนที่นอนกอดผม  เช็ดน้ำตาผมอยู่ตอนนี้

   มันไม่ใช่ของผม . . .

   . . .ไม่ใช่อีกแล้วนะไอ้อาร์ม  ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจนะมึง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 13:34:13 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ดีกันแล้ว น่ารักจริง ๆ  :m1: :m1:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ดีจังคืนดีแล้ว ดูท่าทางจะหึงแรงนะพี่อาร์ม

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10
มีตอนนี้ละมั้งที่ไม่เศร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด