รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักฤๅผูกพัน . . . ก็เจ็บปวดเท่ากัน  (อ่าน 265723 ครั้ง)

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
หกปีที่อยูด้วยกัน ทั้ง ๆ รู้ว่าพี่อาร์มรัก
น้องโก ทำมายทำอย่างนี้   :angry2:

พี่อาร์มคะ   :m1:
เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ว่าพี่อาร์มจะตัดสินใจยังไง
แก้วคิดว่า คงเป็นทางออกที่พี่อาร์มเห็นว่าดีที่สุดแล้วค่ะ  :กอด1:

 

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:      :m15:      :m15:     :m15:    :m15:

Entaneer#30

  • บุคคลทั่วไป
อ่านอีกครั้งก็ยังน้ำตาซึม
 :m15: :m15:

sarin

  • บุคคลทั่วไป
 o7  ...อ่านช่วงเย็นไปหน่อย..ไม่จบตอนฮะ..
หยุดพัก...ปรับอารมณ์...ก่อน :m15:
จนค่ำ...อ่านต่อครับ... :o12:
มันก้อยัง..เศร้า..บีบคั้นใจอ่ะ....(ม่ายเน่านะ)
ลองถามตัวเองว่า....เปนเรา.. :serius2:
..จะผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นได้มั้ย.....
...ม่ายกล้าตอบฮะ.... :sad2:.
อืมห์...ส่งกำลังใจให้คุณ.....ผ่านเรื่องต่างไปได้... :กอด1:
ปล...แล้วมันก้อจะผ่านพ้นไป.... :L2:


Black Angel

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

เศร้า บอกได้คำเดียวครับ เศร้า

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่ ๒๒




   ผมไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวมากขนาดนั้น . . .

   สิ่งที่เขาขอมันคงไม่มากเกินไป  แต่ผมลืมไป  ผมลืมนึกไป  อะไรก็ตามแต่ที่ผมคิดไปแล้ว  มันมักจะเกิดขึ้นมาเสมอ  ผมมักจะคิดเรื่องที่มันยังไม่เกิด  แล้วมันจะเกิดตามมาอีกไม่ช้า . . .


   นักบวช . . .  ป้าภา  หรือ  อาจเป็นโกเมศวร์ 

   แต่ . . .  มาเจอที่ป้าภา

   โกเมศวร์ กับหน่อย  มันบอก  แฟนเพื่อน  โทรมาปรึกษา  แต่ผมบอกมันเอง  ว่ามันรักเขาไปแล้ว  มันรักไปแล้ว  ผมลืมเอาสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน  เพราะผมเชื่อใจมัน 

   ความรัก . . .

   . . . ความหลง

   สองอย่างนี้เคยแยกกันออกหรือ  เหมือนผมที่รักมัน  หรือเพราะที่จริงแล้วผมหลงมัน  ผมหลงในสิ่งที่ผมวาดเอาไว้  มันจะต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ . . .

   หากผมลืมที่จะมองมันให้แน่ใจ . . .

   . . . ขอคบเขาแค่เพื่อนได้มั้ยพี่อาร์ม . . .

   ในเมื่อคนที่ผมรักที่สุดเอ่ยปากขอ 

   ผมก็กล้าให้  ทั้ง ๆ  ที่ผมเองก็รู้อยู่เต็มอก  ว่ามันไม่ใช่แค่นั้นหรอก  มันไม่ใช่  เรื่องทุกอย่างมันไม่ได้จบง่าย ๆ  แต่ผมยังอยากที่จะเอาตัวเข้าไปพันผูก  หรือเพราะความเป็นจริงแล้ว  ผมมันเป็นแค่พวกที่ไม่รู้จักเจ็บรู้จักจำ  ไม่เคยเรียนรู้กับหยาดน้ำตาที่เสียไป 

   ไม่มีใครไม่เคยสูญเสีย . . .

   “กลับบ้านเหอะ  ดึกมากแล้ว”  ผมมองหน้ามัน

   “ไม่  ผมไม่กลับ  ให้ผมนอนกับพี่อาร์มนะ”   มันมองหน้าผม

   “อยากอยู่คนเดียว”

   “แสดงว่ายังไม่หายโกรธผม   ผมไม่กลับหรอก  เพราะผมตั้งใจไว้แล้ว  ถ้าพี่ไม่ยกโทษให้ผม  ผมจะอยู่ที่นี่  ผมนั่งรอมาเกือบทั้งคืน  ถ้าผมจะนั่งไปถึงเช้ามันก็ไม่แปลกอะไร”

   เห็นมั้ย . . .

   มันนั่งตั้งแต่ตอนค่ำ    ไอ้พวกดื้อตาใส  มันยอมนั่งตากยุงทั้งคืน  มันทำแบบนี้ทำไม  ผมไม่เข้าใจมัน  ในตอนนั้นผมรักมัน  น้อยใจมันสารพัด  สิ่งที่มันทำ  ผมเจ็บปวด  แต่ความรักที่ผมมีให้มันมาก 

   ผมอาจจะเคยเสียใจที่มันทำ . . .

   . . . น้อยใจที่มันโกหกผม . . .

   แต่ . . .

   ผมไม่เคยเกลียดมัน  ไม่เคยเกลียดมันเลยสักครั้งเดียว

   “ตามใจ”  ผมเดินกลับเข้าห้อง  แต่เปิดประตูทิ้งเอาไว้

   ผมไม่ใช่คนใจแข็งแบบที่ผมเคยเล่ามา   ผมใจอ่อน  และออกจะเป็นคนขี้แยเสียด้วยซ้ำ  ผมไปนอนครึ่งตัวบนเตียง หากสายตายังมองไปที่ประตู  ห่วงมันสารพัด  ยุงกัดมันบ้างมั้ย  เพราะรีสอร์ทอาต้นไม้เยอะ 

   “ถ้าอยากนอนข้างนอก  ปิดประตูด้วย  ไม่อยากนอนตากยุง”  ผมตะโกนออกไป  พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของหัวใจตัวเอง

   มันรีบเข้ามาในทันที  ก่อนที่จะมานอนขดตัวนิ่งใกล้ ๆ  ผม 

   “หนาว”  มันบอกตัวมันสั่นเหมือนลูกนกเจอฝน

   อาการของมัน  ผมอดยิ้มไม่ได้  มันเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต 

   แม้ผมจะเจ็บสักแค่ไหน  แต่ผมไม่อยากเสียมันไป ผมยังอยากเห็นมันอยู่ใกล้ ๆ  ผม  ก็มันสัญญากับผมเอง  ว่ามันจะเลิกกับเขา 

   ผมค่อย ๆ  คลี่ผ้าห่มไปห่มให้มัน  นอนมองมันที่หลับไปแล้ว . . .

   มันนั่งรอผมทั้งคืน  รอเพื่อที่จะได้คุยกับผม  แค่มันมานอนนิ่ง ๆ  ใกล้ ๆ  ผม  ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ผมมีมันก็หายไป  ทิ้งไว้แค่ร่องรอยของความเจ็บปวดเท่านั้น . . .

   ผมโง่ . . .

   . . . ไม่ฉลาดเอาเสียเลย

   ผมน่าจะรักด้วยสมอง . . .

   . . . ไม่ใช่รักด้วยหัวใจแบบนี้

   ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมหลับไปตอนไหน  แต่ผมมารู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อสายพอสมควร   มันนอนตะแคงมาทางผม  มันลืมตามองผมตาใสแจ๋ว . . .

   “ตื่นแล้ว”  มันยิ้ม

   ผมก็เขินเป็นนะครับ  ถึงจะตื่นมาเจอมันเกือบทุกเช้า  แต่ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน

   “มองอะไร”

   “ถ้าเราเป็นพี่น้องกันจริง ๆ  ก็ดีสินะ” 

   คำพูดมัน  . . .

   ผมรู้  มันแปลได้สถานเดียวเท่านั้น   มันย้ำเสมอมา  สถานะของมันกับผม  ที่จริงผมน่าจะเข้าใจ  เพราะหากเป็นแบบที่มันพูด  เราก็คงไม่มีใครเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

   “คงงั้น”

   “พี่อาร์ม”

   “เรียกทำไม”

   มันมากอดผมเอาไว้ . . .

   มันแทบจะไม่เคยทำแบบนี้เลย    ผมได้แต่นอนนิ่งสิครับ  มันเกิดอะไรขึ้นอีก    มันซุกตัวเข้ากับผม  จนผมต้องกอดมันตอบ    ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาจากรสสัมผัส  ไม่สามารถที่จะบอกออกมาเป็นคำบรรยายใด ๆ  ได้  ผมรู้  เวลานั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน  แทบหายสนิท . . .

   “เป็นอะไร”  ผมลูบหัวมันเบา ๆ 

   “อยากกอด”

   “เดี๋ยวเหอะ”

   “อะไร”

   “ถามอะไรโกได้มั้ย”   ผมจูบที่กระหม่อมมันเบา ๆ

   “ถามดิ”

   “เคยมีไรหรือยัง”    ผมไม่อยากเอ่ยชื่อนั้นให้มันเป็นรอยด่างในใจของผม  ชื่อที่ผมไม่อยากจดจำเอาไว้แม้แต่น้อย

   “เคย” 

   ผมเจ็บแปล๊บเลย . . .

   ต้องค่อย ๆ ปล่อยมันออกจากอ้อมกอด  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  ผมต้องรู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่มันพูด  ถึงก่อนหน้าที่ผมจะเจอมันผมจะมีอะไรมามากก็ตาม  แต่ผมทำใจไม่ได้มั้งที่ต้องใช้ของร่วมกับคนอื่น

   “เป็นอะไรไปอีก”    มันกอดผมเอาไว้

   “อย่าทำอย่างนี้เลย  ไม่ดี”    ผมพยายามแกะมันออก

   “ทำไมอีก”

   “ก็ไม่อยากมีอะไรกับคนที่ไปมีอะไรกับคนอื่น”

   “ใครมีอะไร”

   “ก็โก”

   “ผมทำไม”  มันทำหน้าได้ไร้เดียงสาขนาด  ผมอยากบีบคอมันจริง ๆ  เลย  มันไม่รู้เหรอ  บางเรื่องที่ตอบมา  มันปวดร้าวนะ

   เราจะทนได้หรือ . . .

   หากรับรู้ว่าคนที่เรารักไปมีอะไรกับคนอื่น  แล้วเราจะทนได้อย่างไร  เมื่อเรารับฟังคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากคนที่เรารักจริง ๆ  ความจริงที่มันแสนจะทรมาน  แต่เราก็ต้องรับให้ได้

   . . . ไม่มีใครหรอกหนีความจริงได้พ้น . . .

   “มีอะไรกันแล้วไง”

   “ก็มีแล้ว”

   “แล้วมากอดพี่ไว้ทำไม  ไม่รู้หรือ  ว่ามันเจ็บตรงนี้”  ผมเอามือแตะที่หัวใจ

   “รู้ครับ”

   “รู้แล้วยังทำอีก  ไปทำแบบนั้นทำไม”

   “ทำอะไร”

   “ก็ไปมีอะไร”

   “อ้าว  ก็มีออกบ่อย”

   ผมเจ็บหนักเข้าไปอีก  แค่รู้ว่ามันรักเขา  มันก็เจ็บปวดจะแย่อยู่แล้ว  แล้วยิ่งได้ฟังจากปากของมันอีก

   “โก . . .”  ผมเริ่มมีอารมณ์  มันไม่รู้หรือ  ช่างยั่วผมเสียจริง ๆ

   “คร๊าบบบบบบบ”

   “มีตั้งแต่เมื่อไหร่”

   “เดี๋ยวนะ . . .”  มันมองหน้าผม  ก่อนเอามือมานับ   

   “. . . หกปีกว่า  หรือเจ็ดปีนี่แหละ”

   “อย่ามานียน . . . เมื่อไหร่”

   “จริง ๆ”

   “งั้นถามใหม่  มีอะไรกับผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”  ผมมองหน้ามัน  จ้องตามันเอาไว้ 

   “แปดปีมาแล้ว”

   “โอ้ย  วกไปวนมาน่ารำคาญ” 

   “อ้าว  จริง ๆ  นะ”

   “ตั้งแต่นอนกับพี่  ยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนอื่นอีกเลย  ไม่เคยนอนแล้วจะไปมีอะไรกับใครได้ไง”  มันมองหน้าผม

   “แล้วกับหน่อย”  ผมไม่อยากเอ่ยชื่อนี้เลย

   “แค่จับมือ . . .มีหอมแก้มด้วยนิดนึง” 

   ผมเจ็บจิ้ดเลย . . .

   มันพัฒนาเร็วจัง  แต่ในความเจ็บ  มันมีอะไรที่ดีใจลึก ๆ  อย่างน้อยมันยังไม่ได้เลยเถิดขนาดนั้น

   “สาบานดิว่าจริง”

   “สาบาน  ไม่เคยได้นอนกับใครจริง ๆ”

   คำตอบนี้มั้งที่ทำให้ผมยิ้มได้  ผมจูบมันอีกครั้ง  หลังจากที่ผมไม่เคยมีอะไรกับมันมาเกือบสี่เดือน  เพราะที่ผ่านมา  ผมมีความรู้สึกเจ็บที่มันทำแบบผม  แต่ครั้งนี้  พอผมได้คุยกับมัน  ทำไมผมถึงรู้สึกโล่ง

   มันโล่ง . . .

   . . . แบบไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ติดตัวกันทั้งสองคน . . .




   สิ่งที่ผมทำลงไป . . .

   ผมเชื่อ  คนที่มีความรัก และรักคนอื่น ๆ  มาก  ย่อมทำแบบเดียวกับที่ผมทำในเวลานั้น  ผมเองก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ  เท่าไหร่  ผมมีเลือดเนื้อ  ผมมีหัวใจ  และในหัวใจของผมก็บอกเองว่าผมรักมัน . . .

   เราให้อภัยคนที่เรารักได้เสมอ . . .


   ความรัก . . .

   . . . คือการให้อภัยกัน 

   เหมือนที่ผมเคยอ่านเจอ . . .

   การให้อภัยคนอื่น  เป็นเมตตาอันสูงสุด  หากแต่การให้อภัยตัวเองเรื่อย ๆ  เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด

   ผมแน่แก่ใจ . . .

   . . .  ผมเป็นคนดีพอ  เป็นคนดคนนึง

   เพราะผมไม่ให้อภัยตัวเอง  ผมเลือกที่จะให้คนอื่นก่อนเสมอ  ทั้ง ๆ  ที่ในเวลานั้นคนที่เจ็บเจียนตายคือผม  น้ำตาแทบเป็นสายเลือดก็ผม  ส่วนมัน  แค่ตาแดง ๆ  มาร้องให้แล้วกอดผมเอาไว้  ผมก็ใจอ่อนยวบ

   ผมอยากเห็นแก่ตัวบ้างจัง !

   หากความรักที่ผมมี  ที่ผมคิดเอาไว้  คือการเข้าอกเข้าใจ  ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  แล้วเคยมีใครบอกผมบ้างมั้ย  สิ่งที่เจ็บปวดเพราะความรัก  เราควรนำมาเป็นบทเรียน    บทเรียนที่เราไม่สามารถหามันได้จากตำราที่ไหน  ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากสิ่งที่เราเจอทั้งนั้น

   โกกลับไปก่อนห้าโมงเล็กน้อย . . .

   ผมมานอนคิด ๆ  ดู  รู้สึกตลกตัวเองเหมือนกัน  ทำไมผมไม่ถามมัน  หรือคุยกับมันเสียตั้งแต่ทีแรก  ถ้ามันอยากไปมีอะไรกับใครบ้าง  ผมคิดว่าผมจะยอมมัน  เพราะอย่างน้อย  ผมไม่มีสิ่งนั้นที่จะให้มัน  หากมันอยากมี . . .

   แต่ . . .

   ผมคงเจ็บปวด  แค่นึกว่ามันจะไปมีอะไรกับคนอื่น  เชื่อมั้ย  วันนั้นความคิดผมสับสน  ไม่สามารถที่จะควบคุมสติตัวเองให้ดีแบบเมื่อก่อนเลย  ผมไม่อยากให้มันอยู่ที่นี่  ไม่อยากให้มันอยู่เลยจริง ๆ

   กว่าผมจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบบ่าย . . .

   แน่นอนที่สุดจุดหมายปลายทาง . . . บ้านป้าภา

   คนที่เพิ่งจะปรับความเข้าใจกันได้  ก็อยากที่จะอยู่ใกล้ ๆ  กันมิใช่หรือครับ  ผมเลยต้องไปหามัน  เพราะผมรู้ดี  เวลานี้  ผมอยากอยู่ใกล้ ๆ  มันอย่างที่สุด  อยากไปขี่รถเล่นนอกเมือง  อยากไปไหนต่อไหนที่เคยไปเมื่อตอนแรก ๆ  ที่ผมมาที่นี่ . . .

   มันกำลังซักผ้าอยู่ . . .

   ก็เครื่องแบบสองถัง  ปั่นน้ำผงซักฟอกถังนึง ปั่นหมาดอีกถัง  แต่วิธีการที่มันทำเป็นประจำก็คือ  ปั่นผงซักฟอก  แล้วปั่นหมาด  ก่อนเอามาซักน้ำที่กะละมังข้างนอก  ซึ่งก็ต้องใช้มือช่วยอยู่ดี . . .

   หาก . . . มันมีแค่มือเดียว

   อีกมือ . . .

   . . . มันคุยโทรศัพท์แนบหู

   ผมมองหน้ามัน  เพราะระแวง  และเกลียดที่มันใช้โทรศัพท์แบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  สีหน้าที่มันคุยอยู่ค่อนข้างเครียด  มันพยายามหลบไม่ให้ผมได้ยินว่าคุยอะไรกันบ้าง

   ผมนะรู้ในทันที . . .

   . . . คนนั้น

   มันเลิกไม่ได้หรอก  ผมคงโดนมันหลอกอีกครั้ง  หากแต่  การพูดไปก็ไม่มีอะไรที่ดีขึ้น  ผมเลยได้แต่มองมันเงียบ ๆ  รอเวลา  ว่าเมื่อไหร่ที่มันจะพูดจบสักที  เพื่อว่าผมจะได้พูดบ้าง

   สีหน้ามันเครียดขึ้นเป็นลำดับ . . .

   หัวใจผมล่ะ . . . รุ่มร้อนขึ้นเหมือนน้ำที่ใกล้เดือด

   บางที . . .

   มันคงหมดเวลาของผมแล้วก็ได้  ผมคงไม่มีความอดทนมากพอที่จะทนอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไป  ความเจ็บปวดที่ผมเองก็ไม่อยากเจอ

   ผมเดินเข้าไปหามัน . . . แบมือ

   มันมองหน้าผม . . .

   “อะไร”

   ผมไม่ตอบ  เอามือไปจับโทรศัพท์ที่มันคุย   ผมเหมือนคนที่ไร้สติ  ทำอะไรโดยไม่คิด  หรือเพราะว่านั่นคือความคิดที่กลั่นกรองออกมาแล้วว่าผมจะต้องทำแบบนั้น  ในเมื่อมันไม่เข้าใจความหมายของการ . . . แบมือ   

   ผมเลยต้องเอาโทรศัพท์มาจากมัน

   . . . หน่อย . . .

   . . . คือชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอ 

   ไม่ต้องบอกก็รู้  ผมรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น  มันเหมือนน้ำที่เดือดพล่านเพราะความร้อน  ในเมื่อมันบอกกับผมเอง  บอกมาไม่ถึงครึ่งวัน  แต่สิ่งที่มันทำอยู่ตอนนี้  ตรงกันข้ามกับสิ่งที่มันพูด

   ผมกดวางสาย . . .  02:15:46  เวลาที่โชว์หน้าจอ  คงตั้งแต่ที่มันออกมาจากผม  คนเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันนานขนาดนี้เลยหรือ

   “หมายความว่างัย”  ผมมองหน้าขอคำตอบ

   “เขาโทรมา”

   “คุยอะไรนักหนาตั้งสองชั่วโมงกว่า  คุยไปทำงานไป  คุยอ่านหนังสือไป  มันจะรู้เรื่องเหรอ  คนเราทำอะไรทีละอย่างสิ”

   โทรศัพท์ดังขึ้นอีก . . .

   ผมมองหน้ามัน  ก่อนกดสายทิ้ง  ผมเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขามากไปแล้ว  เสียมารยาท  แต่ตอนนั้นผมยอม  เพราะสิ่งที่ผมจะคุยกับมันสำคัญไม่น้อยไปว่าที่คนของมันอยากคุยเหมือนกัน

   “ก็เขาโทรมา”

   “ก็บอกไปสิ  ทำงานอยู่  ไม่สะดวกคุย พูดไม่เป็นใช่ไหม  เพื่อนที่ไหนจะคุยกันนานขนาดนี้”

   “มันต้องให้เวลากันบ้างนะพี่”

   ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยจริง ๆ  สิ่งที่มันพูดกับผม  แค่คำพูดที่สวยหรู  ไม่มีความจริงแม้แต่น้อย  สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าต่างหากคือความจริง  ผมไม่น่าหลงเชื่อในคำพูดของมันเลย 

   “ให้เวลาที่จะสนิทกันมากกว่า . . “  ผมยิ้มให้มัน  ยิ้มเยาะหัวใจตัวเองที่หลงเชื่ออะไรง่าย ๆ   

   “. . . ให้เวลาที่จะทำร้ายกันมากกว่านี้นะหรือโก  พอเหอะ  พอเสียที . . .”  ผมมองหน้ามัน

   ผมเจ็บ . . . มันจะรู้มั้ย

   “. . . ถ้าการเดินออกจากชีวิตเขามันยากมา    เดี๋ยวพี่จะทำให้มันง่ายเอง”  ผมมองหน้ามัน  ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว

   “พี่จะทำอะไร  อย่านะ”  แววตามันตกใจ

   “ไม่ต้องกลัวหรอก  เรื่องระหว่างเรา  จะไม่มีใครรู้  ตราบใดที่เขาไม่มาวุ่นวายกับพี่  เรื่องที่เราเป็นอะไรกันก็ไม่มีใครรู้”

   “พี่จะทำบ้าอะไร” 

   “เอาคืนไป . . .”  ผมส่งโทรศัพท์ให้มัน   

   “. . . พี่จะเดินจากไปเอง  มีความสุขกับสิ่งที่เลือกไปก็แล้วกัน”   ผมมองหน้ามันนิ่งก่อนหันหลังกลับ

   ไม่มีคำรั้งเอาไว้ . . .

   . . . ถ้ามันเรียกผมเอาไว้

   ผมไม่รู้เหมือนกัน  ว่าวันนั้น  ผมจะหันกลับไปหรือเปล่า . . .

   ผมเดินกลับมาที่ห้องอย่างรวดเร็ว  มันหมดเวลาของผมแล้วจริง ๆ 

   แปลกจัง . . . 

   ผมเจ็บปวด  แต่ไม่มีน้ำตา  อย่าว่าแต่น้ำตาเลย  แค่อยากร้อง  ผมยังไม่อยากร้อง  บางที  ที่ผมเจอมาเมื่อวานมันทำให้น้ำตาผมหมดไปแล้วก็เป็นได้

   ผมรู้แค่ . . .

   . . . มันเจ็บ

   เจ็บตรงที่หัวใจ . . .

   “อะไรกัน  มาเมื่อวาน  จะกลับแล้ว  ยังไม่หายเหนื่อยเลย  อยู่อีกสองสามวันก่อน”  อาพยายามที่จะรั้งผมเอาไว้

   “กลับเหอะ  เด็กที่วัดโทรมาบอก  หลวงพ่อกลับมาเมื่อเที่ยง  ต้องรีบไป  เดี๋ยวท่านไปอีก”  ผมโกหก

   ผมเกลียดตัวเอง . . .

   . . . เพราะผมเกลียดการโกหกเป็นที่สุด

   แต่ครั้งนี้ . . .

   ผมจำต้องทำ  มันจำเป็น  จะให้คนอื่นรู้ได้อย่างไร  ว่าผมพ่ายแพ้  ผมแพ้กับใครก็ไม่รู้ ผมไม่อยากแพ้หรอก  ความพ่ายแพ้  มันไม่น่าพิสมัยมากมายนัก

   “อ้าวเหรอ   แล้วเมื่อไหร่จะมาอีก”

   “ถ้าว่างครับ  ไปก่อนนะครับอา”  ผมไหว้ร่ำลา

   ผมเดินมาตามทางที่ผมเดินมาเมื่อวาน   แต่วันนี้ผมกำลังเดินสวนทางกับเมื่อวาน  ก่อนมา  ผมหวังดีใจลึก ๆ  เก้าวันนี้จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดอีกปีที่ผมได้อยู่กับมัน

   หาก . . .

   . . . มันไม่ใช่

   แต่ . . . กลับเป็นเวลาที่ผมจดจำไว้ชั่วชีวิต

   ถ้า . . .

   . . . เมื่อวานผมใจแข็งกว่านี้  วันนี้ผมคงไม่ต้องเดินคอตก  ในสภาพของคนที่ไร้ชีวิตเช่นนี้  หรือในความเป็นจริงแล้ว  ชีวิตผมมันหมดลมไปตั้งแต่เมื่อวาน  ตอนที่ผมเห็นภาพนั้นคาตา

   คนที่ยืนอยู่ท่ารถ . . .

   . . . มันคงมาส่งผม

   . . . ส่งให้ผมออกไปจากชีวิตของมันเสียที . . . 

   ผมต้องเดินขึ้นเวทีอีกแล้ว  ผมสูดลมหายใจเข้าปอด  อย่าหวังได้เห็นน้ำตาผมอีกเลย  ผมจะไม่มีวันยอมให้เขามาทำร้ายผมอีกแล้ว  ทุกสิ่งทุกอย่าง  มันควรจะจบลงได้แล้ว  สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด  ผมเริ่มเองทั้งนั้น

   ผมหลอกล่อให้มันอยากเรียนต่อ . . .

   . . . แล้ว . . .

   ถ้าวันนี้ผมจะจบมันด้วยมือของผม ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทุก ๆ  อย่าง  มันถลำลงมาลึกมากเหลือเกินแล้ว  มันลึกเกินกว่าที่เราจะรับมันได้อีก

   “จะกลับจริง ๆ  เหรอ”

   ผมหันไปมองหน้ามัน . . .

   ผมจ้องหน้ามัน  จารจำมันไปให้ติดตาผมเอาไว้  หลังจากนี้  คงไม่มีคำพูดดี ๆ และมีวันเวลาดี ๆ  กันอีกแล้ว

   ผมพยักหน้ารับเบา ๆ

   “อยู่ต่อไม่ได้เหรอพี่อาร์ม”

   อยู่ทำไม . . .

   อยู่เพื่อให้มันได้ทำร้ายผมหรือ  อยู่เพื่อให้มันเห็นผลงานที่มันฝากเอาไว้กับผมใช่ไหม  ผมคงไม่ยอมโง่กลับไปอีกแล้ว  สิ่งที่เกิดขึ้นมาตอนนี้ผมเกินจะทนทาน

   “ผมรู้ว่าผมผิด  แต่เขาโทรมาเองนะ  ผมไม่ได้โทรไป”

   ผมยิ้มให้มัน  ยิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุดแล้ว  มันจะพูดตอกย้ำผมเพื่ออะไร   ในเมื่อตอนนี้  ผมมันไม่มีหัวใจ  ไม่มีสมองที่จะรับรู้อะไรอีกแล้ว  ผมอยากกลับ  กลับไปในที่ที่ผมมา  อย่างน้อยที่สุดที่นั่นผมยังมีเพื่อน  เพื่อนที่มันไม่เคยทำร้ายผมเลย 

   “พี่อาร์ม”  มันจับข้อมือผมเอาไว้

   “อย่าไปเลยนะ . . .”  แววตามัน  ผมเกลียดแววตาแบบนี้ของมัน  เพราะทุกครั้งที่ผมเห็น  ผมอดใจอ่อนไม่ได้  ผมยิ้มให้มันอีก 

   “. . .ไม่ไปแล้วใช่มั้ย”

   “ลา . . . ก่อนนะ”    เหมือนมีก้อนแข็ง ๆ  มาจุกที่ลำคอของผม     

   ความหมายของคำพูด . . .

   ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้  ต่อจากนี้  ผมจะไม่มีมันอีกแล้ว  ชีวิตของผม  ไม่มีทางไปบรรจบกับมันได้อีก   

   ลาก่อน . . .

   ผมเดินไปซื้อตั๋วที่คนขาย . . .

   ตั๋วใบนี้ . . . จะพาผมออกไปจากที่นี่

   ถนนสายชีวิตที่ผมเดินมากับมัน . . .    

   กำลังจะจบลง เพราะมันมีถนนสายใหม่ที่ต้องร่วมเดินไปกับอีกคน  ผมควรจะยิ้มยินดีกับมันถึงจะถูก  เพราะมันคือชายคนแรกที่ผมรัก  แล้วในเมื่อมันเลือกที่จะไปเดินบนเส้นทางของความเป็นชาย  ผมจะดึงมันมาเดินบนเส้นทางที่ถูกสาปได้อย่างไร

   “พี่อาร์ม . . .”  เสียงมันเว้าวอน  เมื่อผมจะเดินขึ้นรถ 

   “อย่าไปเลยนะ”

   ผมหันมามองหน้ามัน . . .น้ำตามันไหล  หากมันเก่ง  เอามือปาดทิ้งเสียรวดเร็ว  บางที  สายใยที่ใกล้ขาด  อาจตัดด้วย

   . . .น้ำตา

   ผมเจ็บปวดยิ่งกว่ามันเสียอีก  ที่เห็นน้ำตาของมัน 

   หากแต่ . . .  ผมไม่อาจที่จะทนดู  และอยู่กับสิ่งที่ผ่านมาได้อีกแล้ว  ผมมองหน้ามันเต็มตา  ก่อนที่จะขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังสุด  นักท่องเที่ยวฝรั่งทยอยขึ้นรถ    ก่อนที่รถจะค่อย ๆ  ออกจากสถานี . . .

   ผมหันกลับไปมองมัน . . . ภาพสุดท้ายที่ผมจะจดจำเอาไว้

   . . . น้ำตาผมไหล . . .

   มันยืนที่เดิม . . .   มันมองรถที่ค่อย ๆ  ห่างมันออกไปเรื่อย ๆ  ร่างมันเล็กลง 

   แล้วภาพต่อมาที่ผมเห็น  มันวิ่งไปที่มอเตอร์ไซด์  แล้วมันก็ขับตามรถมา  มันตามผมมา  มันเร่งเครื่องตามมาอย่างกับพายุ

   มันขับรถตามผมมาเหมือนเมื่อเจ็ดปีก่อน . . .

   ภาพเก่าผมจำได้ดี  . . .

   ตอนนี้ผมรู้แล้วที่อบอุ่นที่สุด  แก้มผม . . .

   . . . ผมยิ้มทั้ง ๆ  ที่หัวใจผมแตกสลายหมดแล้ว   มันคงมาส่งผมออกจากชีวิตของมันจริง ๆ  และมันคงตามมาดู  ว่าผมไม่ได้ลงกลางทางเป็นแน่   รถตู้เพิ่มความเร็ว  เมื่ออกสู่เส้นทางหลัก  ภาพที่ผมเห็นค่อย ๆ  เลือนราง

   ผมหยิบโทรศัพท์ . . .

   “หวัดดีครับพี่อาร์ม”  ปลายสายบอกมา

   “แดน . .ไม่ไหวแล้ว   ไม่ไหวแล้วแดน” 

   ผมพูดได้แค่นั้น  ก่อนที่จะปล่อยโฮ  ผมไม่ไหวแล้ว  ตอนนี้ผมหมดความเข้มแข็งในตัวเอง  ผมเก็บสิ่งที่อยู่ในหัวใจไม่ได้  ผมปล่อยความอ่อนแอเกาะกุมหัวใจผมนานเกินไปแล้ว

   “พี่อาร์ม  เป็นอะไรครับ  พี่อาร์มอย่าร้องพี่  อย่าร้อง”

   ผมไม่ตอบได้แต่ร้องไห้  ผมร้องไห้ ไม่อายสายตาใครอีกแล้ว  ผมไม่มีอะไรอีก  ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

   “อยู่ไหนพี่”

   “กำลังกลับ . . . เชียงใหม่”   เสียงปนสะอื้น

   “โอเคครับพี่  พี่รอผมที่นั่นนะ  ผมจะหาทางไปเชียงใหม่  ผมจะไปให้เร็วที่สุด”    

   มันกดตัดสาย . . .

   ผมหันไปมองด้านหลังรถ . . .

   คนที่ขับมอเตอร์ไซด์ตามมา ทำให้ผมร้องดังกว่าเดิมอีก  มันทำแบบนั้นทำไม   มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นตัวอะไรสักอย่าง   

   ผมไม่ไหวแล้ว . . .

   . . . พลังชีวิตอ่อนล้าอย่างที่สุด   

   ตอนนี้ผมต้องการใครสักคน  ใครก็ได้ที่เข้าใจผม  และนั่งใกล้ ๆ  ผม   ผมต้องการแค่นั้น  แค่นั้นจริง ๆ . . .

   ผมไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวบนโลกนี้ใช่ไหม ?



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2010 18:04:44 โดย ราชบุตร »

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป



สำหรับคนที่ทิ้งเมล์เอาไว้ . . . ผมสัญญา

เขียนจบผมจะส่งต้นฉบับให้นะครับ . . .

. . . ผมว่ามันยากนะ  กับการที่เราเดินย้อนกลับไปเขียนตรงจุดเดิม . . . ผมรักมันนะ  แม้ตอนนี้ผมก็ยังรัก  เพราะนั่นคือผู้ชายคนแรกที่ผมรัก   ไม่มีอะไรที่มาทำให้ผมเปลี่ยนใจไปได้หรือ . . .

แต่ . . . บางที่

คนเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่กับคนที่เรารักมิใช่หรือ . . . แล้วการให้อภัย  ก็มิได้แปลว่าเราต้องกลับไปเดินด้วยกันอีก

ผมเขียนมาถึงตอนหลัง ๆ  . .  . ต้องซัดพาราทุก ๆ  หกชัวโมงเลยละครับ  มันปวดหัวมาก  คล้าย ๆ  ผมเพิ่งเจอเรื่องร้าย ๆ มาเมื่อสักครู่นี้เอง ทุกอย่างมันยังไม่ลืม  ลืมไม่ได้ . . .



แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
เศร้ามากมาย  ฮือ.....ฮือ   :m15:


อยากจะพูดคุยกับพี่อาร์ม แต่เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกคอ พูดไม่ออก
ทำได้เพียงยืนข้าง ๆ เกาะปลายเสื้อพี่อาร์มนะคะ  :กอด1:

sarin

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :sad2: :o12:
บอก กับฉัน ถ้าหาก เธอต้องการ จะไป
ตัวฉัน เข้าใจ จะไม่เหนี่ยว จะไม่รั้ง หรือดึงดัน ขัดขวาง
ในหนทาง ของเธอ นั้นต้องการ เรียกร้อง
แต่ขอ อย่าทำดี หยุดสงสาร ฉันเสียที
จบสิ้นกัน ในวันนี้ ฉันเจ็บ มาพอแล้ว
รอยยิ้ม ที่เหมือนห่วง เป็น แค่ เพียงกลลวง แกล้งทำ เป็นว่าหวง
แต่ สายตา เธอฟ้อง
น้ำตาที่ไหล แม้ว่าฉันจะต้องเสียใจ เพราะเธอ
ได้โปรด จงไป เมื่อใจฉัน ไม่อยากรับไว้
ปล...เรียกน้ำตา...สุด... สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2008 00:13:50 โดย sarin »

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เศร้าเกินบรรยาย....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






sun

  • บุคคลทั่วไป


7 ปี มันนานโข แถม + เข้าไปอีก 2 ปี  ก้อเป็น 9 ปีเข้าไปแล้ว

อ่านแล่ะนึกถึงตอนนั้น ...  :เฮ้อ:

ไม่มีใครอยากจะเดิน ย้อนอดีต กลับไปหาควมเจ็บปวด

ซินเชื่ออย่างนั้น  แต่ คุณ พี่ทำได้นะเค่อะ   และก้อทำไปแล้ว

หรืออาจจะเป็นเพราะว่า คนในอดีตนั้น เขาย้อนกลับ มาหาเราหรือเปล่า ?

แต่ทีนี้มันขึ้นอยู่ว่า

-  กลับไปเพื่อตอกย้ำ
-  กลับไปเพื่อหาคำตอบให้แน่ชัด อีกครั้ง


.
.


แล้วเมื่อไหร่ ที่หัวใจรู้คำตอบ...ทุกอย่างคงจะกระจ่างกว่านี้ชิมิ


...................................................................




ป๋อล๋อ*...ซินเอาด้วยนะ  เพราะว่า ซินไม่ขยันเซฟ ฮ่าๆ 

tonsai_2520

  • บุคคลทั่วไป


 
-  กลับไปเพื่อตอกย้ำ
-  กลับไปเพื่อหาคำตอบให้แน่ชัด อีกครั้ง


.
.


แล้วเมื่อไหร่ ที่หัวใจรู้คำตอบ...ทุกอย่างคงจะกระจ่างกว่านี้ชิมิ


...................................................................




ป๋อล๋อ*...ซินเอาด้วยนะ  เพราะว่า ซินไม่ขยันเซฟ ฮ่าๆ 




. . . . ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เธอไม่อยู่  ชีวิตดูเปลี่ยนไป . . . . แต่วันนี้มันว่าเปล่าเหงาจับใจ  คิดถึงเธอรู้ไหม . . . คิดถึง SIN ทุกทีที่อยู่คนเดียว


กลับเพื่อ . . . ค้นหามั้ง   "คำตอบของหัวใจ"


ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ร้องไห้ไปกับอาร์มอีกแล้ว ไมเราอ่อนไหวงี้นะ :o12:
ว่าแต่อาร์มอย่าทำร้ายตัวเองนะ รักตัวเองให้มากๆ เหนว่าต้องพึ่งยา เปนห่วงจัง ทำใจให้สบาย
ไม่รู้จะพูดไงดี พูดได้แค่เปนกำลังใจให้เสมอนะ สู้ๆจ้ะ :L1:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
พูดไม่ออก  มันตื้อไปหมดเลย  ร้องไห้ดีกว่า สู้ๆๆนะคับ


ปล ผมส่ง PM ขอต้นฉบับด้วยคนคับ

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจละกันครับ ไม่รู้จะพูดอะไร อ่านเรื่องนี้แล้วก็แอบกลัวความรักจัง
ปล. อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงเพลงๆนึงของพี่กบ เสาวนิตย์เลย ที่เนื้อเพลงบอกว่า อยู่กับคนไม่รักกันถึงจะใกล้กันเท่าไร สุดท้ายกลับเหงาหัวใจยิ่งกว่า :o12:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
พี่อาร์ม........T_T
พี่อาร์ม........................
..................ตอนนี้มีแต่น้ำตา....................

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
เง่อ พี่อาร์มรักษาสุขภาพด้วยนะ

เศร้าเกินจะบรรยาย

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
กว่าจะอ่านตอนที่ 17 จบ อ่านไปแล้วก็หยุดอ่านทำใจก่อน

แล้วก็ค่อยอ่านต่อ  สุดท้ายก็น้ำตาไหลอยู่ดี :o12: :o12:


*-----*-----*-----*-----*-----*

ต่อจากนี้ไปเริ่มแล้วสินะ  แก้วเริ่มร้าว  รอวันแตก





มันเศร้ามากเลยเหรอครับ . . .

ตอนเขียนนี่  มันบอกไม่ถูกอะครับ  เหวง ๆ  ลอย ๆ  จุกที่หน้าอกอะครับ  ไม่อยากนึก  แต่ถ้าเราไม่เอาชนะสิ่งที่เราเป็นอยู่  เราก็คงเจ็บแบบนี้อีกนาน  ไม่อยากเจ็บมั่งครับ  เลยต้องเขียน



เศร้ามากสิคับ  เพราะผมก็เคยเสียบุคคลอันเป็นที่รักมากคนหนึ่งไป

แบบว่า  ตอนนั้นต้องบวชให้ท่านด้วย  แล้วพอวันเผา  วันนั้นเป็นวันอะไรจำไม่ด้าย

ฆราวาสไม่สามารถวางไฟได้  แล้วเขาจิงให้ผมเป็นคนวาง

ตอนวางไฟ  ผมก็คิดแบบว่า  ตอนเราเจ็บแม้เพียงนิดเดียว  ท่านรีบหายามาทาให้

คอยดูแล  คอยเป็นห่วงเรา  แต่เรากลับเป็นคนที่จุดไฟเผาท่าน

ผลก็เลยห้องไห้จนเป็นลมไปเลย  หลังจากนั้นก็ไม่เคยร้องให้ให้ใครเห็นอีกเลย

Entaneer#30

  • บุคคลทั่วไป
ดูเหมือนว่าโกจะได้รับโอกาสไปแล้ว(รึเปล่า??)
อยากรู้ว่าที่โกบอกว่าขอโอกาสครั้งสุดท้ายน่ะ
โกทำอะไรเอาไว้
 :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
เอ่อ  :m22: มองซ้าย มองขวา

ขอสารภาพเลยว่า ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องนี้รู้สึกว่าไม่อยากอ่าน เพราะเรื่องต้องเศร้าแน่นอน เง้อ  :m15:

เข้า ๆ ออก ๆ บอร์ด ก็ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะกลัวว่าอดใจไม่ไหวจะคลิกเข้ามาอ่าน

และแล้ววันนี้  o7 ก็อดใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ คลิกเข้ามาจนได้

เริ่มอ่านตั้งแต่ประมาณทุ่มกว่า ๆ จนถึงตอนนี้ สามทุ่มกว่า ๆ  :sad2:

ในที่สุดก็อ่านจนทันตอนล่าสุดแล้วค่ะ เศร้ามากเลยค่ะ ไม่มีตอนไหนที่ไม่กดดัน ไม่เศร้า และไร้น้ำตา

ขอบคุณมากนะคะที่เล่าเรื่องนี้ให้ได้อ่าน อย่างน้อยก็เป็นสิ่งย้ำเตือนตัวเอง

บางครั้งความรักก็ไม่จำเป็นต้องครอบครอง ขอให้คนที่เรารักมีความสุขก็เพียงพอแล้ว ถึงแม้เราจะเจ็บก็ตาม

ขอเป็นกำลังใจให้คุณคนเล่าเรื่องนะคะ  ทุกความทรงจำมีค่าเสมอค่ะ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
คนบ้า

คนพี่ทะเล

เศร้ามากมาย

ไปกินเหล้าให้คลายเศร้าดีกว่า

อิอิิ

เด๋วค่อยกลับมาให้หนึ่งบวก  ถ้าไม่เมาจนหลับไปซะก่อน :laugh:

ปั่ น ป่ ว น

  • บุคคลทั่วไป
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้พี่อาร์มผ่านพ้นมันไปได้นะค่ะ  o7

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เศร้า

แต่จะกลับมาอีกไม่ว่าเพื่ออะไรก็ตามมันก็เจ็บ

รออ่านต่อค่ะ

birdy

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะคะ ขอให้สู้ต่อไป กับความทรงจำที่ผ่านมา กับชีวิตในวันนี้ และ กับอนาคตที่จะต้องก้าวต่อไป  :L2: :L2: :L2:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป

ตอนที่  ๒๓



   ถนนสายนี้ทอดยาวไปสิ้นสุดที่ไหนผมไม่รู้  ผมรู้เพียงแค่ว่า  ตอนนี้ผมเจ็บปวดไปหมด  ผมไม่อยากอยู่บนโลกนี้เสียด้วยซ้ำ  มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผม  คนที่ผมรัก  ค่อย ๆ  หายไปจากชีวิตของผมทีละคน . . .


   แม่ . . .

   . . . คนที่ผมรักมากที่สุด  จากผมไปโดยไม่มีวันกลับ

   คนที่ผมรักรองจากแม่ . . .

   . . . พ่อ  เข้าสู่ร่มเงาของพระศาสนา

   โกเมศวร์ . . . ผู้ชายที่ผมรัก  กำลังจะจากผมไป

   ความพลัดพราก . . . 

   . . . มรดกที่บรรพบุรุษมนุษย์ทิ้งเอาไว้ . . . 

   ทุกคนล้วนเจอกับความพลัดพรากตลอดเวลา  ผมเองก็หนีไม่พ้นข้อนั้นเช่นกัน  ที่ผ่านมาผมได้รู้จักกับการพลัดพราก . . .

   แม่ . . . พรากจากด้วยความตาย

   วันนี้ . . .

   โกเมศวร์  กำลังสอนให้ผมรู้จักกับการต้องลาจากอีกรูปแบบหนึ่ง  และผมรู้เองก็ได้รู้ว่ามันทรมานกว่าการจากแบบแรก . . . การจากเป็น

   การจากลาที่สร้างความเจ็บปวดอย่างที่สุดในหัวใจ . . .

   แล้ว . . .

   ผมยังต้องจากอะไรอีกในวันข้างหน้า  ยังมีใครอีกที่ผมต้องสูญเสีย  ในเมื่อคนที่ผมรัก  ค่อย ๆ  หายไปจากชีวิตของผม . . .

   ผมเปิดเครื่องอีกครั้งเมื่อเมื่อรถตู้มาถึงที่แยกแม่มาลัย  หลายสิบสายที่โทรเข้ามา ผมมองเครื่องในมือ . . .

   . . . ถ้าเราเลือกที่จะเดินแล้ว  เราจะถอยกลับไม่ได้มิใช่หรือ  ผมสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ    เลือกที่จะโทรไปหาบางคน

   หากแต่ . . .

   ผมยิ้ม  เมื่อสายที่ผมอยากโทรหา  โทรเข้ามาพอดี . . .

   “แดน”   ผมกรอกเสียงไปตามสาย

   “พี่อาร์ม  พี่อาร์มอยู่ไหน  ผมเพิ่งลงจากเครื่อง กำลังหารถเช่า”

   ผมหลับตา . . .

   . . . ความรู้สึกมันตื้นตัน  ผมไม่คาดคิดว่ามันจะทำตามที่มันพูด  แต่สิ่งที่มันทำ  ผมไม่แน่ใจ  ว่าผมกำลังทำร้ายคนดี ๆ  อีกคนหนึ่งอยู่อีกมั้ย 

   “แยกแม่มาลัย  มาทำไมก็ไม่รู้” 

   “เอาน่า  ไหน ๆ  ก็มาแล้วถือเสียว่ามาเล่นสงกรานต์เลยไง  พี่อาร์มรถจอดที่อาเขตหรือปล่าว”

   “อืม”

   “โอเค  งั้นผมไปรอที่อาเขตแล้วกันนะพี่”

   “ขอบใจนะแดน  ขอบใจ”

   ผมไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่านั้น  เพราะสิ่งที่มันอัดอั้นมาตลอดทางคือในสมองของผมจะมีแต่คำว่า . . .ทำไม

   ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับผม . . .

   . . . ทำไมมันต้องโกหกผม

   ทำไม . . . มันต้องขับรถตามผมมาด้วย

   ทำไม . . . ทำไม . . . ทำไม

   สารพัดคำถาม  ที่ผมเองก็ไม่สามารถที่จะตอบเองได้  ผมน่าจะคิดอะไรให้มากกว่านั้น  น่าจะหาเหตุผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมา  มันคืออะไร  แต่ในเวลาแบบนั้น  ผมคงไม่สามารถหาเหตุผลนั้นได้ . . .

   เพราะ . . .

   กิเลส . . . ความอยาก  มันมาบดบังผมเอาไว้เสียหมด  ผมรู้แค่ว่า  ผมต้องเสียมันไปแล้ว  ผมจะทำยังไง . . . จะเอายังไงกับชีวิตต่อดี

   สิ่งที่ผมเกลียดที่สุด . . . การโกหก

   ผมเหมือนคนที่โดนโกหกซ้ำ ๆ  . . .   แล้วไอ้หัวใจที่เป็นก้อนเนื้ออ่อน ๆ  ของผม  มันจะทานทนได้ไหวหรือ  ผมไม่ใช่คนเข้มแข็ง  เมื่อเจอแรงกระทบแบบนี้  ผมแทบจะไม่อยากหายใจอยู่แล้ว

      

   ทันทีที่รถจอที่อาเขต  ผมเจอหน้า . . . แดน

   มันมาช่วยรับกระเป๋าจากผม  มันเดินโอบไหล่ผมเอาไว้โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ  แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว  อย่างน้อยที่สุด  ในเวลานี้ผมไม่ต้องเดินคนเดียว  ผมยังมีอีกคนที่เขาจะเดินเคียงข้างผม


   “ไปไหนเหรอ”  ผมถามเมื่อเห็นแดนมันเลี้ยวขวามาทางถนนสุเทพ  ที่แยกชลประทาน

   “เอาน่า  อ่าเพิ่งถามเลย”

   ในเมื่อมันบอกไม่ให้ถาม  ผมก็ไม่ถาม  ผมนั่งมองลอดออกไปหน้ากระจก  ที่รถแล่นผ่านหน้า มช.  ผ่านสวนรุกขชาติ  แล้วก็ผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่   ก่อนที่แดนจะมาจอดที่ตีนดอยสุเทพ . . .

   “ครูบา”  ผมมองหน้า

   “ไหว้พระกัน”  แดนยิ้ม  ก่อนลงจากรถไปซื้อดอกไม้ธูปเทียน

   ผมมองมัน  ทำไมหนอ  ทำไมผมถึงรักแดนมันไม่ได้  ทำใมผมต้องรักคนที่เขาทำให้ผมต้องเจ็บปวดหัวใจอยู่เสมอ 

   ถ้าผมรักแดน . . .

   . . . อย่าคิดแบบนั้น . . .

   เหมือนมีอีกเสียงในร่างกายผมเตือน  อย่าลืมสิ  ว่าเมื่อก่อนก็เคยมีความสุขกับคน ๆ  นั้นมิใช่หรือ  ทุกอย่างมันมีทั้งสุขและทุกข์เสมอ   ไม่มีอะไรยืนยงตลอดกาลหรอก

   นั่นนะสิ . . .

   . . . จุดจบ  มันมาจากจุดเริ่มต้นทั้งนั้น

   แล้ว . . .

   ถ้าเราเริ่มต้นใหม่ . . .

   เราคิดหรือว่ามันจะไม่มีจุดจบ   ทุกสิ่งทุกอย่างที่เริ่มต้น  ล้วนต้องเดินไปข้างหน้า  แล้วมันก็จะจบลงทั้งนั้น

    “คิดอะไรอยู่”  แดนเดินมาสะกิดผมจากสิ่งที่คิดไปวนมา

   “ป่าว”  ผมรับดอกไม้พื้นเมือง  กับธูปเทียน  ก่อนเดินไปที่อนุสาวรีย์รูปปั้นนักบุญล้านนา

   ผมท่องคำไหว้คำบูชาครูบาที่นั่น  ผมมองหน้าท่าน  เหมือนท่านยิ้ม  ใบหน้าท่านมีแต่ความเมตตา ผมนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นนาน  ที่นั่นสงบร่มเย็น . . .

   “ไปกันเหอะ  จะห้าโมงแล้ว”  มันบอกผม

   ผมเดินตามมันเหมือนคนว่าง่าย . . . 

   ต่อจากนี้  มันจะพาผมไปไหน  ผมไปทั้งนั้น  ผมรู้ดี  คนที่นำทางผมอยู่ตอนนี้เขาไม่มีวันทำอันตรายผมเด็ดขาด   ดูเหมือนมันจะเงียบกว่าที่เคย  มันไม่ถามผมเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

   ผมมีความสุขที่มันไม่ได้ถาม . .  .

   มันขับรถขึ้นไปบนดอยสุเทพ  แดนปิดแอร์  ก่อนเปิดให้ลมลอดผ่านกระจกที่ลดต่ำลง  ใกล้ค่ำ  แม้จะช่วงปีใหม่เมือง  แต่อากาศไม่ร้อน  ยิ่งขึ้นไปด้านบนมาเท่าไหร่  อากาศยิ่งเย็นสบาย

   “ไปไหว้พระธาตุก่อน”

   “จะดีเหรอ”  ผมมองหน้า

   “ทำไมจะไม่ดีล่ะ” 

   “ก็ใจมันไม่สงบ มันร้อนรุ่มอยู่แบบนี้  กลัวจะทำให้ศาสนามัวหมอง”

   “พี่อาร์ม  วัดนะที่พึ่งทางใจนะครับ  เป็นที่สงบ เป็นที่มีแต่น้ำเย็น  ในเมื่อร้อนมา  เราก็ควรไปไหว้พระ  ไปดับร้อนในใจที่มีไงพี่”

   “แดนว่างั้นเหรอ”

   “ครับไปน่าพี่  แล้วเดี๋ยวลงมาค่อยบอกผมว่ามันสงบลงกว่าตอนนี้มั้ย”

   ผมเดินตามมันไป  ที่นี่บ้านผมแท้ ๆ  แต่ผมกลับให้คนกรุงเทพฯ  แบบมันเป็นคนนำทาง  นึกแล้วยังอดที่จะขำตัวเองไม่ได้  มันพาผมเดินไปขึ้นลิฟท์   ปลายทาง . . . พระธาตุดอยสุเทพ

   ใกล้ค่ำหากแต่คนยังมาก  . . .

   หลังไหว้พระธาตุ  ผมนั่งอยู่นาน  นั่งมองพระธาตุที่เป็นสีทองทั้งองค์ หากด้านหลัง ท้องฟ้าเริ่มมืด  ขับองค์พระธาตุโดดเด่น  น่าแปลกที่ผมรู้สึกสงบแบบที่แดนบอก  ใต้ร่มเงาใดคงไม่เย็นเท่าร่มเงา . . .

   . . . พระศาสนา

   มิน่า . . .

   . . . หลวงพ่อถึงไม่ยอมสึก . . .

   คนเรามีถนนสายชีวิตที่แตกต่างกันออกไป  ทุกคนล้วนเป็นไปตามกรรม  ผมนั่งทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างผมกับโกเมศวร์ . . .

   ผมแยกเขามา . . .  จากคนของเขาเมื่อเจ็ดปีก่อน

   คนของเขาคงเจ็บปวด  กับสิ่งที่โกเมศวร์ไม่เคยบอกให้เขาตั้งตัว   เขาคงทรมานที่ต้องสูญเสียของรักไป   ไม่มีใครยากสูญเสีย  แต่ความสูญเสียคือส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์

   มาวันนี้ . . .

   . . . กรรม . . .  ที่ผมเคยกระทำในครั้งนั้นมันย้อนมาทวงคืน

   ผลจากการที่ผมแยกเขามา  วันนี้มีอีกคนมาแยกเขาไป  กรรมที่เราได้กระทำลงไปในวันก่อนมันย้อนกลับมาหาเราแล้ว  กรรมใดที่เราก่อเอาไว้มันเริ่มตอบสนอง  เราไม่ควรวิ่งหนีกรรม

   หาก . . .

   . . . ควรยิ้มรับกับสิ่งที่เราเองหว่านเอาไว้

   เหมือนการหว่านพืช . . .

   . . . หว่านพืชชนิดใด  ย่อมให้ผลชนิดนั้น . . .

   กรรมที่แยกเขามา . . .

   ต้องรับกรรม โดยการที่เขาถูกแยกไป  ผมค่อย ๆ  เรียนรู้กฎแห่งกรรม  สิ่งเดียวที่ทำให้ผมค่อย ๆ  สบายใจ  และมีรอยยิ้ม  สิ่งที่ดีที่สุดมันผ่านมาแล้ว  สิ่งที่ผมทำลงไปนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว . . .

   “ขอบใจนะแดน”  ผมยิ้มให้มัน  หลังจากที่รู้ตัวว่า  อะไรที่ไม่ใช่ของ ๆ  เรา  สักวันนึงเขาก็ต้องไปจากเรา

   “ขอบใจทำไม”

   “ก็อยากขอบใจ  ที่ไม่ทิ้งกัน”

   “ทิ้งได้ไง  พี่ผมทั้งคน”

   ผมหันไปมองหน้ามัน   

   “. . . พี่ผมทั้งคน  หมายความว่างัย”

   “ก็พี่ไงครับ  พี่ชายผมเจ็บปวด  ผมก็ต้องคอยดูแลสิครับ”

   “แน่ใจเหรอ”

   “แน่นอนที่สุดพี่  ยิ่งผมเห็นพี่เจ็บปวดกับเรื่องที่พี่ทำลงไปมากเท่าไหร่  ผมยิ่งไม่อยากให้ตัวเองเดินไปหาพี่มากกว่านั้น  ระยะห่างบางทีมันก็ดีนะพี่  มันทำให้เราไม่ต้องเจ็บปวด”

   มันคิดอะไรมากกว่าที่ผมมอง  หรือเพราะว่าในความเป็นจริงตลอดเวลาที่ผมดูแลโกเมศวร์ผมไม่เคยมองสิ่งเหล่านั้น  พอถึงเวลาที่ควรมอง  ผมถึงรู้ว่า  ความจริงมันเป็นสิ่งที่เราหนีไม่ได้

   “ถ้าวันก่อนพี่ไม่เดินไปหามันมากกว่านี้ก็ดี”

   “เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้พี่  อดีตที่ผ่านมาแล้วเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้  แต่อดีตใหม่  เราทำมันให้ดีได้”

   “อดีตใหม่”  ผมงงกับคำที่มันสรรหามา

   “ครับ อดีตใหม่นับจากนี้  ก็คือวันนี้  เมื่อใดก็ตามที่เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด  ทำสิ่งที่เหมาะสมและถูกต้อง  พอถึงวันพรุ่งนี้  วันนี้ก็จะกลายเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้  เห็นมั้ย  อดีตใหม่มันก็ดี  และสวยงาม  เพราะเราทำวันนี้ให้มันดีไง”

   “เออ คิดแปลกดี”

   “ผมก็งี้แหละพี่ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  บางครั้งดูออกจะไร้สาระเสียด้วยซ้ำ”

   “ไม่นะ  พี่ว่าดีเสียอีก  ต่อไปนี้  พี่ควรจะเริ่มทำอดีตใหม่ให้ดี  หรือไม่ก็ ทำให้มันเลวสุดโต่งไปเลย”

   “พี่อาร์ม”

   “เอาน่า  เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลานะแดน  พี่อยู่กับมันมาตั้งหกเจ็ดปี  จะให้พี่เดินสะบัดตูดออกมา  แล้วบอกว่า  พี่ไม่ได้คิดอะไรนะหรือ  มันจะหลอกตัวเองเกินไปหรือเปล่า”

   “ผมไม่บอกนี่ครับว่าให้พี่ลืม”

   “แล้วที่พูด”

   “ก็หมายถึงทำทุก ๆ  วันต่อจากนี้ให้ดีที่สุด  หากวันไหนเหงา  นึกถึงสิ่งที่ผ่านมา  มันก็อาจอ่อนแอได้  แต่พี่ต้องลุกมาจากช่วงเวลาตรงนั้นให้ได้  ลุกมาเดินในช่วงเวลาเดิมของพี่ที่เป็นปัจจุบันให้เร็วที่สุด”

   “จะพยายามนะ”

   “ผมเชื่อว่าพี่ต้องทำได้  แม้มันจะยาก  แต่พี่อย่าลืมนะ  พี่ยังมีผม  มีพี่โอ๋  ไม่มีใครเขาทิ้งพี่หรอก”

   “เออ  ขอบใจ”    ผมยิ้มให้มัน 



   แดนขับรถมาจอดที่ลานจอดรถหน้าโรงแรมริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์  เพราะบ้านที่เชียงใหม่  ผมให้ฝรั่งเช่าเป็นรายปีไปแล้ว    ในเมื่อไม่มีใครอยู่ปล่อยร้างไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

   “พี่อาร์ม อยู่คนเดียวก่อนได้มั้ย”

   “จะไปไหน”  ผมมองมัน  เมื่อมันมาส่งผมถึงห้องพัก


   “ว่าจะไปหาซื้อเสื้อผ้า  ไม่ได้เอามาสักชุด”  ผมมองมัน  มันยังอยู่ในชุดทำงานเสียด้วยซ้ำ    ผมลืมไปเสียสนิท  ตอนผมโทรหามัน  ยังเป็นเวลางานมันเลย  มันทิ้งงานมาเพื่อผมนี่นะ 
   
“ใส่ของพี่ก็ได้”

   “เสื้อผ้านะได้  กางเกงในอีก  แปรงสีฟัน  โอ้ยหลายอย่าง  เดี๋ยวมา  อยู่คนเดียวนะพี่  แล้วอย่าคิดสั้นนะ  ชั้นสิบสองแบบนี้  ลงไปไม่สวย”

   “ไอ้บ้า ยังไม่ขนาดอยากตาย”

   “อ้าวรู้ได้เหรอ  บอกเอาไว้ก่อน  สัญญานะอย่าทำไรแบบที่ผมคิด”

   “เออ  รอแดกงานแต่งมึงก่อนค่อยตาย”  ผมยิ้ม 

   มันทำหน้าทะเล้นใส่ก่อนที่จะเดินกลับลงไป  ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเล็ก ๆ  ที่ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตา

   เบอร์ที่โทรเข้ามา . . .

   . . . ไอ้เพื่อนรัก

   “ว่าไงมึง  สบายดีมั้ย”  ผมทักทายไป

   “กูนี่ . . . ควรถามมึงมากกว่าไอ้คำถามนั้น”

   “อ้าว อะไรของมึง”

   “ปิดเครื่องทำบ้าไร  โทรไปไม่มีสัญญาณตลอด”

   “มึงบ้ามั้ยนี่  จากปายมาเชียงใหม่มีสัญญาณกี่จุดกัน  แล้วมึงไม่ต้องมาเนียนกับกู  ถ้ามึงโทรมากูเห็นแล้วสิ  แต่เบอร์ที่โทรเข้ามา  ไม่มีเบอร์มึงว่ะเพื่อน  อย่ามาอำ”  ผมบอกหากหัวใจแวบนึกไปถึงอีกคน

   หรือ . . .

   . . . มันจะโทรหาไอ้เพื่อนรักผม . . .

   “เออ  อยู่ไหนนะมึง”

   “เชียงใหม่”

   “อยู่กับใคร ?”

   “ซักอย่างก๊ะกูเป็นเมีย  เมื่อกี้อยู่กับไอ้แดน  แต่ตอนนี้อยู่คนเดียว  ไอ้แดนไปซื้อของเดี๋ยวคงมามั้ง  พอใจยัง”

   “ไหนบอกไปปาย”

   “ไปแล้ว . . . กลับมาแล้ว”

   “มีอะไร  ทำไมรีบกลับ  มีเรื่องอะไรทำไมไม่คุยให้เคลียร์ว่ะ  ต้องรอให้เกิดเรื่องจนได้สิน่า”

   ผมรู้แล้ว  สิ่งที่มันพูดแบบนี้ . . .

   ไม่ต้องตีความหมาย  มันอาจได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างมา  ใช่สิ  ผมลืมไป  มันสองคนสนิทกัน   บางที   สนิทกันแบบที่ผมอยากให้มันรู้ว่า  นี่คือเพื่อนที่ผมรักที่สุด  และนี่  คือ . . . หัวใจของผม 

   “เรื่องบ้าอะไร  ถ้ามึงเพื่อนกูก็เงียบปากซะ  ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น  กูยังไม่อยากคุยเรื่องที่มึงกำลังจะพูดกับกู  กูเหนื่อยอยากอยู่เงียบ ๆ  เข้าใจมั้ย”

   “ไม่เข้าใจโว้ย    ถ้ารักกูอย่างที่ปากบอก  อย่าเสือกตัดสายกูทิ้ง  ก่อนที่กูจะพูดกับมึงรู้เรื่อง  เข้าใจมั้ยไอ้อาร์ม  มึงทำไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ย”

   มันคล้ายต่อว่าผม . . .

   ผมน้ำตาคลอ  มันเพื่อนผมแท้ ๆ  แต่มันไม่ฟังผมสักคำ  มันน่าจะฟังผมก่อน  ก่อนที่มันจะฟังอะไรมาจากใคร 

   . . . ผมน้อยใจมันนะ

   น้อยใจมันเป็นที่สุด  ที่วันนี้มันไม่ได้อยู่ข้าง ๆ  ผมแบบเมื่อวันก่อน ๆ

   “รู้ดิ  กูรู้”    เสียงผมสั่น

   “รู้อะไร  มึงก็ดีแต่เอาแต่ใจตัวเอง  มึงไม่เคยมองคนอื่นบ้าง  มึงหัดเข้าใจคนอื่นบ้างก็คงจะดี”

   “ทำไมว่ะไอ้โอ๋  มึงเพื่อนกูนะโว้ย  แล้วทำไมมีเรื่องอะไรมึงถึงโทรมาว่ากูฉอด ๆ  มึงถามกูบ้างมั้ย   มันเกิดอะไรขึ้นกับกู   มึงฟังเองเออเองตลอด  ถ้ามึงไม่
รู้อะไรมึงเงียบไปเลย  กูอยากอยู่คนเดียว”   ผมไม่ไหวแล้ว  บอกมันไป  ร้องไปพลาง  ผมเสียใจ  น้อยใจ  มันทำอะไรกับผมแบบนั้น 

   “ไอ้อาร์ม เป็นไร  เฮ้ยมึง  เป็นไรไป”

   “มึงบอกกูเอง  กูเอาแต่ใจ  มึงจะมาสนใจกูทำไม  อย่ามาวุ่นวายกับกู  ตอนนี้กูไม่อยากคุยกับใคร  ไม่อยากคุยทั้งนั้น  ถ้ามึงไม่มีอะไรแล้วแค่นี่นะ”

   “เดี๋ยว . . . กูมีเรื่องจะบอก”

   “อะไรของมึงอีก  แค่นี้ยังไม่สาแก่ใจมึงอีกเหรอ  ที่โทรมาด่ากูปาว ๆ  นี่ยังไม่พอใช่มั้ยไอ้เหี้ย”  สุดท้ายก็ปล่อยสัตว์ใส่มันอีก

   “ไอ้โก . . . น้องมึงอ่ะรถมอเตอร์ไซด์แหกโค้ง  ตอนนี้แม่มันพามาเชียงใหม่ราม  กูอยากบอกมึงแค่นี้  ส่วนเรื่องอื่นมึงคงรู้เรื่องดีกว่ากูนะ”

   มันวางหูไปแล้ว . . .

   แต่ผมล่ะ  น้ำตายังไหล 

   . . . สิ่งที่มันบอก  เพราะผมหรือ  ผมทำให้มันเกิดเรื่องขึ้นหรือ  ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด  ผมเป็นฝ่ายเริ่มใช่ไหม  ผมอยากให้มันเป็นแบบนั้นหรือ

   ถ้าผมไม่กลับมา . . .

   . . . มันคงไม่เจ็บ

   ถ้ามันไม่ขับตามผมมา . . .

   . . . มันคงไม่เกิดอะไรขึ้น . . .

   เพราะผมคนเดียว . . .

   ผมทำให้คนที่ผมรักต้องเจ็บ  ผมน่าจะอยู่ตรงนั้น  ถึงผมจะเจ็บ  แต่ผมทนได้นะ  ทนได้กว่าตอนนี้ที่ผมรู้ว่ามันเจ็บเสียอีก  ตอนนี้ผมเจ็บปวด  เจ็บปวดกับข่าวที่ไอ้เพื่อนรักมันโทรมาบอกผม

   ผมได้แต่ล้มตัวลงนอน . . .

   . . . ปล่อยน้ำตาไหลรินเป็นทาง



   ผมเกลียดมันหรือ . . .

   ไม่ใช่แน่ ๆ  สิ่งที่เพื่อนบอกมา  ผมควรจะทำอย่างไรดี  ในใจยอมรับว่าห่วงมันสารพัด  มันจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า . . .

   เสียงเคาะปรพะตูหน้าห้อง . . . 


   ผมรีบปาดหยาดน้ำตาทิ้ง  เริ่มมืดแล้ว นี่ผมร้องไห้ไปร่วมชั่วโมงแล้วอย่างนั้นหรือ  ทำไมความอ่อนแอมันเกาะกุมหัวใจผมได้มากมายขนาดนี้

   “พี่อาร์ม  ไปกัน”  มันลุกลน

   “ไปไหน”

   “เอาน่า  อย่าเพิ่งถามเลย”    มันลากผมออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว  นี่เกิดไฟไหม้โรแรมหรือไง  มันถึงได้รีบร้อนขนาดนี้

   โทรศัพท์ผมเข้ามาอีกเมื่อลงมาถึงล้อบบี้ของโรงแรม . . .

   “สวัสดีครับ  อาร์มครับ”

   “พี่อาร์ม  ชัยเองนะครับ”

   “ว่าไง  มีอะไร”

   “ก็ไปหาพี่  น้าปูบอกพี่กลับแล้ว”

   “มีธุระนิดหน่อย  ชัยมีอะไรป่าว”

   “ไอ้โกรถแหกโค้ง  ป้าภาเอาไปโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ . . .”  เสียงมันบอกมา  ตอกย้ำให้ผมรู้  เรื่องนี้ผมผิด . . .   

   “. . . พี่อาร์ม  ฟังอยู่มั้ย”

   “ฟัง ๆ  มีอะไร”

   “ถามอะไรพี่สักนิดได้มั้ย”

   “ถามมา”

   “โกอยู่กรุงเทพฯ  มีแฟนมั้ย”

   “ไม่รู้เหมือนกัน  ทำไมเหรอ”

   “ป่าวพี่  แค่อยากรู้”

   “เรื่องหน่อยเหรอ”

   “พี่รู้ด้วยเหรอ . . .”

   “ก็เดาเอา  ว่าแต่เรื่องเป็นมายังไงเหรอ”

   “ก็ผมอยู่กันมาสองปี  คนแถวนั้นก็รู้  แต่แม่แกไม่ค่อยชอบหน่อยเท่าไหร่   แกบอกมันไม่เรียน  ไม่มีอนาคต  แล้วอีกอย่าง  มันค่อนข้างจะสนิทกับผู้ชายคนอื่นง่ายด้วย  แม่เลยยิ่งไม่ชอบใหญ่”

   “อือ”

   “แล้วทีนี้เมื่อปีที่แล้ว  ผมมาเรียนต่อที่เชียงใหม่  แต่ก็ยังกลับบ้านเกือบทุกอาทิตย์  พอดีตอนปีใหม่  เจอโกมันที่บาร์เบียร์  ผมไปกับหน่อย  เลยนั่งคุยกัน  พออีกวันผมเริ่มทะเลาะกับหน่อยมัน  แล้วมันก็เปลี่ยนไป”

   “เห็นโกบอกพี่    ชัยเจ้าชู้ไปอยู่เชียงใหม่มีคนอื่น”

   “โกบอกพี่แบบนั้นหรือ”

   “ก็ใช่  มันบอกว่าหน่อยบอกมันแบบนั้น  พี่ไม่ได้สนใจอะไร  เพราะไม่ใช่เรื่องอะไรของพี่”  ผมโกหกอีกแล้ว  ผมจะบอกคนอื่นได้อย่างไร  ว่าผมกับโกมีอะไรกัน 

   เรื่องแบบนี้  มันจะมองหน้าคนทั้งหมู่บ้านได้อย่างไร  ถ้ามีอะไรกับผู้ชาย . . .

   “ไม่ใช่แล้วพี่  ผมอาจจะทะเลาะกันก็จริง  แต่เราก็อยู่กันได้  แต่พอผมรู้ว่าโกมันแทรกเข้ามา  ผมก็คิดว่าผมควรจะถอย  จะแย่งผู้หญิงคนเดียวกันให้เสียเพื่อนทำไม  อีกอย่างมันกับผมก็นามสกุลเดียวกันอีก  พี่ว่ามั้ย”

   “อืม  แล้วไงต่อ”

   “ไม่รู้สิพี่  เมื่อคืนผมไปนอนบ้านหน่อย  เช้ามาเขามาขอเลิกกับผม”

   ผมยิ้มเยาะตัวเอง . . .

   สมเพช  บางคนทำอะไรได้ขนาดนั้นเลยหรือ  ทำไมคนอย่างมันจะหาคนที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือ  ในขณะที่คบอยู่กับอีกคน  แต่กลับไปนอนอยู่กับผู้ชายอีกคน

   คนแบบนี้ . . . ผมไม่อยากข้องแวะด้วย

   หาก . . . ผมจะปล่อยคนที่ผมรักต้องอยู่กับคนแบบนี้หรือ

   ผมเอามันไปจากชีวิตของหญิงบาร์เมื่อเจ็ดปีก่อน  แล้ววันนี้มันจะกลับมาเพื่อคว้าผู้หญิงแบบนี้ทำเมียอีกหรือ  ผมจะทำยังไงดี  ในเมื่อตอนนี้ผมเองก็รู้  ผมไม่เคยโกรธ  หรือเกลียดมันเลย  ผมจะยอมให้มันเจอกับผู้หญิงแบบนี้หรือ ?

   “แล้วชัยว่าไง”

   “เมียผมทั้งคนนะพี่  ผมเจ็บเป็นนะ  ผมว่าจะไปคุยกับโกมัน  แต่มันขับรถแหกโค้งเสียก่อน ถ้ามันอยากได้  ผมก็จะยกให้”

   “เอาน่า  อย่าคิดมาก  ของทุกอย่างมีทางแก้เสมอ  แค่นี้ก่อนนะ  เดี๋ยวว่าง ๆ พี่โทรกลับ”  ผมบอกเมื่อรถเลี้ยวมาในที่จอดรถของโรงพยาบาล

   “ทำอะไร”  ผมหันไปถามแดน

   “พี่โอ๋โทรบอกผมตอนที่ผมออกไปซื้อของ  ผมเลยคิดว่า. . .”  แดนมองหน้าผม 

   “. . .พี่อาร์ม  อย่าฐิทิเลยพี่”

   “เรื่องอะไร”

   “แล้วแต่พี่จะตัดสินใจแล้วกัน . . .“   มันจอดรถนิ่ง  มองหน้าผม

   “. . .แต่ถ้าเป็นผม  ผมจะไม่รีรออะไรเลย    ผมจะไปทันทีที่ผมรู้ว่าคนที่ผมรักเจ็บ”  มันจ้องหน้าผม

   “ขอบใจนะ  ขอบใจ”  ผมโผเข้ากอดมัน  เป็นกอดแรกที่ผมกอดมันด้วยความรู้สึกอยากกอด

   ผมเดินเข้าไปในโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่กลัว  ผมกลัวไปหมด    หลายสิ่งหลายอย่างมันเหมือนตีกันอยู่ในตัวผมเอง . . .

   ผมมาหยุดที่ป้ายชื่อหน้าห้อง . . .

   . . . โกเมศวร์   โชติช่วงชรินทร์ . . .

   ผมมองราวกับว่าจะให้ทะลุไปในห้อง  ถ้าผมเปิดประตูเข้าไป  แล้วมีคนของมันอยู่  ผมจะยังทำใจได้หรือ  แล้วถ้ามันเจ็บหนัก  ผมจะยังยืนมองมันได้หรือ  แดนมันเอามือมาแตะที่ไหล่ผม  มันบีบเบา ๆ 

   น่าแปลก . . .

   . . . ผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่มันมีให้ผม . . .

   ผมสูดลมหายใจเข้าปอด . . .ก่อนเคาะประตู

   “น้องอาร์ม”   ป้าภา  แกยังร้องไห้อยู่เลย  แกโผเข้ามากอดผมเอาไว้

   ผมมองไปที่ร่างที่นอนอยู่บนเตียง  ขาข้างหนึ่งหมอดามเอาไว้ด้วยเฝือกอ่อน  ผมกวาดสายตามองไปยังส่วนที่สูงขึ้นของร่างกาย  แขนมันมีรอยถลอกเป็นทาง  ผมแทบจะกลั้นความรู้สึกของตัวเองไม่อยู่แล้ว  มันอุ่น ๆ  ที่หางตา

   ผมมองมาที่ใบหน้า  ผิวที่ไถไปกับพื้นเหมือนมีรอยไหม้  หากบนศรีษะมันโพกไว้ด้วยผ้าขาวคล้ายมัมมี่  แววตามันที่มองผม  มีแต่น้ำตาคลอหน่วย . . .

   ผลงานของผม . . .

   “พี่อาร์ม  ผมนึกว่าพี่จะไม่มาหาผมอีกแล้ว”    เสียงมันเรียกน้ำตามันไหลอาบแก้ม

   ผมหมดความเข้มแข็งในตัวเอง  เดินไปกอดมันเอาไว้  ผมเสียใจ น้ำตาผมไหล  ผมรู้มันสะอื้นอยู่แนบอกของผม  มันร้องไห้  แต่หัวใจผมจะขาด  มันต้องมาเจ็บทั้งกายทั้งหัวใจ  มันเจ็บนะผมรู้  เพราะปกติมันจะไม่ร้องมันเก็บความรู้สึกเก่งจะตายไป

   “พี่ขอโทษ  ขอโทษ”  ผมลูบที่ท้ายทอยของมันเบา ๆ

   ในเวลานั้น  ผมหายโกรธ หายน้อยใจมันทุกเรื่อง  ผมได้หัวใจมัน  ผมควรยินดีไม่ใช่หรือ 

   “ผมผิดเองพี่  ผมผิดเอง”   มันสะอื้นเหมือนเด็กเล็ก ๆ

   หาก . . . มันจะรู้มั้ย  ยิ่งมันเจ็บ  ผมเจ็บกว่ามันเป็นร้อยเท่า  ผมเกลียดตัวเองที่บุ่มบ่ามใจร้อน  ถ้าวันนี้ผมเลือกที่จะกลับไปพร้อมกับมันที่ท่ารถ  ผมคงไม่เห็นมันเจ็บปวดแบบนี้

   มันเจ็บ . . .

   . . . แต่ผมแทบขาดใจอยู่แล้ว

   นี่ผมกำลังทำร้ายหัวใจผมเองอยู่หรือ ?


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2010 18:11:26 โดย ราชบุตร »

Bliss_Destiny

  • บุคคลทั่วไป

ฮือ....  อ่านตอนหลังๆ เสียนำตาทุกตอนTT__TT :m15:

พี่อาร์มเลือกทางเดินของตัวเองได้แล้ว  หนูก็เห็นด้วย เพราะถ้ามันยิ่งเรื้อรังก็ยิ่งเจ็บ  ขอเจ็บเลยทีเดียวคงจะดีกว่า

แต่ว่า   แล้วทางเดินของพี่ตอนนี้ล่ะคะ.... พี่จะเลือกเดินไปทางไหน....?

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ว่าจะไม่ร้องแล้วนะ แต่อดไม่ได้ :sad2:
เศร้านะ แต่ดีใจลึกๆที่อาร์มตัดใจเดินออกมา ดีกว่าจมอยู่กะสภาพเดิมๆ
ไม่คิดเลยว่าโกจะเปนคนแบบนี้ “ผมรู้ว่าผมผิด  แต่เขาโทรมาเองนะ  ผมไม่ได้โทรไป”
พุดปัดความรับผิดชอบ เหมือนคนเหนแก่ตัวไงไม่รุ้....เฮ้อ...... :เฮ้อ:

เปนกำลังใจให้เสมอนะ :L2:

sarin

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:จะรักทำไมให้เจ็บให้ช้ำ.. รักกันไปให้เหนื่อยให้ล้า
อยู่กันไปก็เปลืองเวลา...ก็มีแต่ทุกข์ในใจ
ที่เค้าดีๆทำไมไม่รัก..... รักทำไมแต่คนไม่ดี
จะมัวทนอย่างนี้ทำไม ทำไมอยู่
....จะทนเพื่ออะไรมีแต่เสียใจ  :m15:

ออฟไลน์ อิง

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-6
ให้อภัยเสมอกับคนที่เรารัก แต่เค้าก็ทำให้เราเจ็บแทบตายได้เสมอเหมือนกัน

ความรักและความผูกพันเป็นสิ่งที่ดีและสวยงามค่ะ

แต่อ่านตอนนี้แล้ว อยากให้คุณอาร์มรักตัวเองให้มากกว่าโกจริง ๆ เลย  :m15:  o7

ปลื้มคุณแดนจังเลยค่ะ เอาใจใส่คุณอาร์มดีจัง ถึงแม้จะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเรา แต่เค้าก็รักเราเนาะ  :m1:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เจ็บ...เจ็บมากเลยพี่อาร์ม อ่านตอนนี้เจ็บมากๆ
ถ้าเค้าไม่คิดว่าจะทำได้ในสิ่งที่พูดก็ไม่ควรพูดตั้งแต่แรกเลย
 :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด