“ก็มาหาทิวไง..” เขาตอบยิ้มๆ “ดูทำหน้าสิ..ตกใจมากเหรอ”
“...”
“แล้ว..” ผมหันกลับไปมองมัน..ก็เห็นมันยืนจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว “ผมว่าวี..”
“ไม่ต้องกลัวหรอกทิว..” เขายื่นมือมาจีบมือผมเอาไว้ “ถ้าผมอยู่ในสถานะที่ต้องกลัวเขา..ผมคงไม่มาที่นี่ตั้งแต่แรก”
“มะ..หมายความว่าไง”
“มานี่สิ..”
วีดึงแขนผมให้เดินเข้าไปหาหญิงชายท่าทางภูมิฐานคู่หนึ่ง..เขาแนะนำให้ผมรู้จักว่าคือพ่อและแม่ของเขา ผมยืนอึ้งไปพักหนึ่ง..เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่ของเขาคือคู่ค้าคนสำคัญคนหนึ่งของครอบครัวมัน แล้วถ้าเป็นแบบนั้น..ทำไมวีถึงได้ทำเหมือนไม่เคยรู้จักมัน
.
.
“ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของครอบครัว..” เขาบอกแบบนั้น..ตอนเราเดินแยกออกมาคุยกันสองคนในสวน “อันที่จริงผมก็แค่ลูกติดของแม่น่ะ..”
“...”
“ผมแยกตัวออกมาอยู่หอเองตั้งแต่มอปลายแล้ว..”
“...”
“แต่ไม่ได้มีปัญหาในครอบครัวหรอกนะ..” เขาไหวไหล่ “น้องชายผมยังแยกตัวไปอยู่คนเดียวเลย..”
“วินน่ะเหรอ..”
“อืม..”
ผมรู้จักครับ..ลูกชายคนเล็กของตระกูลนี้ เขาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงพอสมควร..แต่ที่เพิ่งมารู้คือลูกชายคนโตที่ใครต่อใครต่างพูดถึงว่าอยากเห็นหน้าเห็นตานักหนาก็คือ วี
“ผมบอกแล้วไงว่าจะช่วย..”
“ยัง..ไง..”
พาหนีเหรอ..หรือจะทำยังไง ถึงรู้ว่าครอบครัวเขาคือใครแล้วมันจะเป็นยังไง..ในเมื่อตอนนี้ผมก็ยังต้องพึ่งพาครอบครัวมันอยู่ดี
“ผมก็ไม่รู้..”
“...”
ก็แค่นั้น..เพราะเราต่างก็ยังเด็กกันทั้งคู่ ถึงอายุ..หรือรูปร่างหน้าตาภายนอกจะดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ความจริงที่เราต่างต้องยอมรับก็คือ..เรายังดูแลตัวเองกันไม่ได้ เรายังต้องพึ่งพาครอบครัว..พึ่งพาอาศัยคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่อยู่
“แต่ผมคิดว่าหลังจากนี้ไป..ผมคงออกหน้าปกป้องวีได้บ้าง”
“หึ..”
ผมหัวเราะ..คิดสภาพตัวเองหลังจากที่มันเห็นผมยืนคุยกับวีในคืนนี้ มันคงโมโห..ลากผมไปทุบตี หรือไม่ก็ข่มขืนเหมือนทุกที ไม่ว่ายังไง..ผมก็คงไม่รอดจากสภาพน่าสมเพชพวกนี้
“ทิว..”
ผมมองหน้าเขา..มองคนที่คิดอะไรง่ายๆ แบบเด็กๆ บางทีวีก็คิดอะไรง่ายเกินไป..ไม่สิ เขาก็แค่คิดไปตามแบบของเขา คิดแบบเด็กที่ไม่เคยต้องพบเจออะไรร้ายๆ แบบผม..
“ขอบคุณนะ..” ผมยิ้มให้เขา “ขอบคุณจริงๆ”
ไม่จำเป็นต้องพูดต้องอธิบายอะไรมากมาย..ในเมื่อสิ่งที่เขาทำมันก็เพราะอยากช่วย ถึงมันจะดูไม่เข้าท่าเลยก็ตาม..
“กลับเข้าไปในงานเถอะ..”
ผมพาเขากลับเข้ามาในงาน..ยืนพูดคุยกับเขาไปจนกระทั่งถึงเวลากลับ ผมยืนส่งยิ้มให้วี..ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปช่วยงานในครัว ยืดเวลาที่ต้องถูกต่อว่าถูกตำหนิออกไปอีกนิด..ไม่ว่าจะทั้งจากพ่อแม่มัน หรือแม้กระทั่งจากตัวมันเอง..
.
.
“ร่าน..”
ถูกด่าทันทีที่เดินพ้นประตูห้องน้ำออกมา..มันนั่งรอผมอยู่ที่ปลายเตียงในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย รอยลิปสติกเปื้อนติดอยู่ตรงคอเสื้อหลายจุด คงจะเพิ่งออกมาจากห้อง..หลังจากกิจกรรมอะไรระหว่างมิวกับมันที่ผมไม่ได้อยากจะรู้นัก
“ทำไมไม่ออกไปต่อกับมันซะล่ะ..”
“...” ผมไม่ตอบอะไร..แต่เดินเลี่ยงไปพาดผ้าขนหนูที่ราวแทน
“กูถามได้ยินไหม !!” เสียงตะคอกบวกกับแรงกระชากที่ไหล่ทำผมถอนหายใจออกมา “กล้ามากนะที่มาพลอดรักกันในบ้านของกู..”
“วีเขามากับครอบครัว..”
“เห็นมันรวยแล้วสินะ..เลยกล้าพามันมาหยาม..”
“พูดอะไรของคุณครับ..” ผมถาม..ไม่เข้าใจมันเลยสักนิด
“มึงมันร่าน..คงได้รับสันดานเลวๆ ของแม่มึงมาเยอะสินะ”
“คุณนัท !!”
“ทำไม..มึงจะทำไม” บีบแขน..ก่อนจะลากผมกลับมาที่เตียง “กูถามว่ามึงจะทำอะไรกู !”
“อื้อ..” มันจูบผม..กัดปากผมแรงๆ หลายครั้ง ก่อนจะเริ่มฉีกทึ้งเสื้อผม “อย่าทำแบบนี้..คุณมิวก็อยู่ที่นี่นะ”
“แล้วยังไง..”
“ผมไม่อยากทำแบบนี้..รองรับความต้องการของคนที่เพิ่งจะนอนกับคนอื่นมา”
“หึ !” มันหัวเราะเยาะ “ไม่พอใจที่กูนอนกับมิวก่อนจะมาเอามึงหรือไง..”
ผมเบือนหน้าหนี..รู้สึกรำคาญที่ตัวเองพลั้งปากพูดอะไรออกมาแบบไม่คิดอย่างนี้ ผมไม่ได้แคร์หรอกครับ..ว่ามันจะไปนอนหรือไปทำอะไรกับใครมา รู้สึกแย่ก็แค่ที่มันเอาร่างกายที่เพิ่งผ่านเรื่องแบบนั้นมาทำร้ายผมทั้งที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดแบบนี้ !
“คิดว่าตัวเองมีสิทธิเรียกร้องอะไรหรือไง..”
“เปล่าครับ..”
“หึ..” มันย้ายตัวลงไปนอนข้างๆ ผม “นอนซะ..”
“ครับ ?”
“กูบอกให้นอนไง..” มันพูดแล้วลุกขึ้นจากที่นอน “หรืออยากให้กูเปลี่ยนใจ..”
“ไม่ครับ..” บอกแล้วรีบย้ายตัวขึ้นไปหนุนหมอนดีๆ “แล้วคุณนัท..”
“กูก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน..”
พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น..ก่อนจะเดินออกจากห้องผมไป ผมถอนหายใจออกมาแบบโล่งอก..ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปล็อคประตูห้อง ไม่เข้าใจสิ่งที่มันทำหรอกครับ..ไม่เข้าใจและไม่คิดอยากจะเข้าใจด้วย แค่มันยอมหยุดแล้วเดินกลับห้องตัวเองไปง่ายๆ แบบนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว..ผมจะมานั่งคิดอะไรให้มันเหนื่อยมากกว่านี้ไปทำไม
Ma-NuD_LaW
ยากว่ะ..โดนคนอ่านดักทางกันตลอดแบบนี้
.
.
ไม่ค่อยไว้ใจคนแต่งสักเท่าไรเลย // นับวัน คนเขียนช่างน่าสงสัยขึ้นเรื่อยๆ // ต่อไปนี้ แม้แต่คนเขียน อิชั้นก็จะไม่ไว้ใจๆๆๆๆๆๆๆ // คนเขียนเก่งมากที่สามารถทำให้นักอ่านหลายท่านระแวงได้ขนาดนี้555 // ก็คนเขียนธรรมดาซะที่ไหนหล่ะคะ นิยายหน่วงตับ ถือเป็นคำธรรมดาไปเลย 5555 // กลัวใจคนเขียนอ่า เกิดเขียนไปปมมันแน่นมากๆ หักมุมนายเอกถูกรถชนตายหนีปัญหา
รู้สึกตอนที่ผ่านมาคนเขียนจะโดนแซะมากเป็นพิเศษ อืม..นี่ไม่นิยมจบแบบดราม่านะ (ถึงมันจะเป็นแบบนั้นมาแทบจะตลอดก็เหอะ) เชื่อใจเค้านะ..เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน (?)
นอนๆๆๆๆๆๆ จะเที่ยงคืนละ