ตอนที่ 12 ย่อยยับ
“ภูมิ”
“พี่....”
“คิดถึงจัง”
ปิศาจ....ยังคงเป็นปิศาจวันยังค่ำ
ไม่ว่ายังไง.....ก็ไม่สามารถมองคน ๆนี้ในแง่ดีได้เลย
[บรรยาย]
กี่วันแล้วที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้อยู่กับสัตว์เลี้ยง ทั้ง ๆที่ตั้งแต่เกิดมาจนโต จนกระทั่งข้ามผ่านความตายไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เกียรติยศก็ไม่เคยถูกน้องชายทอดทิ้งกันนานแบบนี้มาก่อน
ใจหาย
เหงา
รู้สึกอ่อนแรงเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่
แต่พอรู้ว่าน้องกลับมาหา เขาก็เหมือนกับหมา ที่ดีใจเวลาที่เจ้าของกลับมาบ้าน
เขายิ้ม....
และน้องชายของเขาก็ยิ้ม....
แต่เป็นยิ้มคนละความหมาย
ขณะที่อีกคนหนึ่งดีใจจะเป็นจะตาย
แต่อีกฝ่ายกลับรู้สึกยิ่งเกลียดชัง
พี่ชาย......ทำไมยังยิ้มได้อยู่อีกทั้งที่ตัวเองทำแต่เรื่องเลวร้าย...
ฆ่าคนตายมาไม่รู้กี่ศพต่อกี่ศพ....
แต่ทำไมถึงยังยิ้มได้อยู่อีก!!!
ผลั่กภาคภูมิผลักเจ้าปิศาจร้ายในร่างของเด็กหนุ่มที่ดูไร้พิษสงจนลงไปกองกลับพื้น ถึงจะเคยตายมาแล้วหนหนึ่ง แต่พอกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็ยังรู้สึกเจ็บได้เหมือนเดิม
ทั้งร่างกาย....
ทั้งจิตใจ....
เจ็บจัง
“ภูมิ.......อูยยย”
ภาคภูมิหยิบมีดพกออกจากกระเป๋ากางเกง....เขาอยากให้คน ๆนี้ได้เจ็บปวดเสียบ้าง คนที่ทำร้ายคนอื่นมาตลอด ไม่สนว่าใครจะต้องเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเองอย่างเกียรติยศ สมควรได้รับบทเรียน ถึงแม้ว่าความตั้งใจจริง ๆที่เขาตัดสินใจมาในวันนี้ จะไม่ใช่เรื่องนี้ก็ตาม
รอยยิ้มของพี่มันน่าหงุดหงิด
“นายจะแทงพี่เหรอ....หึหึหึ.....คิดว่าจะฆ่าพี่ได้เหรอภูมิ ถ้านายทำแบบนั้น....แฟนของนาย พี่จะกินจนเหลือแต่กระดูก พี่จะทำให้นายยิ่งกว่าทรมานทั้งเป็น”
ภาคภูมิกรีดมีดลงไปเป็นทางยาว....
.....ที่แขนของเขา!!! เจ้าปิศาจร้ายมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ เลือดสด ๆไหลอาบแขน หยดลงบนพื้นกระเบื้่องสีเปลือกไข่
“ภูมิ......หยุดนะ.....หยุดนะเว้ย......ทำแบบนี้ทำไมวะ!!!” มันร้องห้าม พยายามจะแย่งมีดไปจากมือเขา ทำให้มันโดนบาดไปด้วย ภาคภูมิตกใจนิดหน่อยที่เห็นมันแสดงความเจ็บปวด แต่เพียงชั่วประเดี๋ยวรอยแผลที่มือของมันก็ค่อย ๆหายสนิท โดยที่มันเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้ เดาดูจากสีหน้าที่ตกใจและยังสับสนของมัน
“ทีนี้เห็นรึยัง ว่าผมไม่เหมือนกับพี่ พี่มันไม่ใช่คนอีกแล้ว ฆ่าก็ไม่ตาย อยู่ไปก็สร้างแต่ความเดือดร้อน”
“.......”
“กินสิ.....ผมกรีดแขนตัวเองก็เพื่อเอาเลือดให้พี่กินไง กินเลือดของผมซะ แล้วก็อย่าไปทำร้ายใครอีก”
เขาผลักมันจนล้มไปอีกครั้ง ยื่นแขนที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดเข้าหามัน มันส่ายหน้าหนี เขาจึงตะปบคอของมันเอาไว้ แล้วละเลงเลือดใส่มันอย่างบ้าคลั่ง
“กินสิ.....ผมบอกให้กินไง.....”
“ไม่.....ไม่กิน.....พี่จะกินเลือดของแฟนนาย....เลือดนายรสชาติห่วยแตก”
ยิ่งเจ้าปิศาจแสดงความชั่วร้ายออกมามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าของมันจนขาด แล้วก้มลงทำบางอย่างที่ทั้งเขาและมันต่างก็ไม่คาดคิด เขาจูบมัน บดขยี้จูบลงไปอย่างรุนแรง รสชาติเลือดของตัวเอง มันก็ไม่เลวนักสำหรับเขา
“ถ้าฆ่าพี่ไม่ได้ ผมจะทำให้พี่เจ็บปวด.....เจ็บปวดที่ใจบ้างก็ยังดี......”
“ไอ้เด็กบ้า...พี่จะฆ่านาย!!!”
“เอาสิ.....แล้วทีนี้พี่ก็จะไม่เหลือใครอีก”
ร่างกายขาว ๆที่เปรอะไปด้วยเลือด ส่งกลิ่นหอมหวานชวนให้ลิ้มลองอย่างน่าประหลาด มันนอนนิ่งปล่อยให้เขาจัดการกับร่างกายของมันอย่างไร้ความปราณี จากที่ทำลงไปด้วยความโกรธ ตอนนี้เขาไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของตัวเองได้เลย เขาจับขาของมันแยกออก แล้วสอดใส่อาวุธของเขาลงไปจนสุดในครั้งเดียว
ร่างกายของพี่...
ยิ่งสูดดมก็ยิ่งหอม...
กลิ่นคราวเลือดของเขาบนตัวพี่....กระตุ้นความต้องการของเขาจนลืมความผิดชอบชั่วดีไปจนสิ้น
ใบหน้าของปิศาจที่กำลังเจ็บปวด ดวงตาที่เอ่อท้นไปด้วยน้ำตา ยิ่งทำให้เขารู้สึก.....
รู้สึกสาแก่ใจ
.
.
.
.
.
.
[ภาคภูมิ]
ผมมีความสัมพันธ์กับพี่ชายของตัวเอง.....
ความตั้งใจที่กลับมาในวันนี้ ไม่ใช่เพราะความห่วงหา แต่เป็นเพราะอยากมาดูให้แน่ใจ....
และผมก็แน่ใจว่ามันสบายดี รอยยิ้มของมันทำเอาผมเกลียดจับใจ ส่วนมีดที่พกผิดตัวมา อันที่จริงผมเอามาเผื่อไว้ เผื่อมาเจอมันใจสภาพแห้งเหมือนผีตายซาก.....ผมก็อาจจะต้องปลุกมันให้ฟื้นขึ้นมาด้วยเลือดของผมอยู่ดี ไม่ก็....ฆ่ามันเสีย....ไม่รู้สิ ทำไมผมถึงจะฆ่ามันไม่ได้ล่ะ มีเหตุผลอื่นใดที่สมควรกว่านี้ไหมล่ะ
แต่มันก็ดูปกติดี ไม่ได้ร่างฝ่อหรือว่ากลายพันธุ์จนน่าเกลียดแต่อย่างใด แถมรอยแผลที่โดนมีดบาดจนเหวอะกลับหายสนิทในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่ปิศาจ มันก็คือผลการทดลองที่ผิดพลาด....
ผมยืนขึ้น แล้วดูสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป ดวงตาของมันในตอนนี้ว่างเปล่า ร่างกายขาว ๆเลอะเลือดผมเต็มไปหมด ผมเอาเศษเสื้อของมันมาพันแขนของตัวเองเอาไว้ เริ่มจะเจ็บที่แผลขึ้นมาบ้างแล้ว และเลือดก็ยังไม่หยุดไหล
ช่างคล้ายกันเหลือเกิน
ใบหน้าของมัน....พอพิจารณาดูดี ๆ แล้ว ไม่แตกต่างจากตัวผมเองในวัยเด็ก...เมื่อตอนอายุสักสิบสองขวบสักเท่าไหร่นัก อย่างที่บอก.....เรามันแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน มันเป็นอมตะ แต่ดูผมในตอนนี้สิ พอตั้งสติได้ในที่สุด ก็รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่นั่นกลับทำให้ผมดีใจ ที่อย่างน้อยตัวเองก็ไม่ได้เป็นอย่างมัน
ในวันนี้ผมมาเพื่อคุยกับมัน และหาข้อตกลง เพื่อให้เกิดผลดีกับทุกฝ่าย แต่กลับฟิวส์ขาดเมื่อถูกมันยั่วโมโห
จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะยอมช่วยมันเป็นครั้งสุดท้าย ผมคิดว่าถ้ามันสามารถสะกดจิตคนได้ แค่สะกดจิตใครสักคน แล้วใช้สลิงค์ดูดเลือดคน ๆนั้นออกมาสักนิดหนึ่ง แค่ขอแบ่งเลือดมาต่อชีวิตให้มันเท่านั้น หรืออาจจะไปหาเอาตามซุ้มบริจาคเลือด ห่าเอ๊ย.....ผมคิดวิธีระยำแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงกัน ทั้งที่มันเองก็แสนจะฉลาดเป็นกรด สามารถเอาตัวรอดได้เองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาผมเลยด้วยซ้ำ และถ้าวันนี้ผมไม่มา....ผมก็คงไม่ต้อง....ช่างเถอะ ก็ทำลงไปแล้ว แล้วก็รู้สึกดีมากด้วย
ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าคนอย่างพี่จะรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่ใบหน้าของมันตอนที่เห็นผมกรีดแขนตัวเอง กับตอนที่ผมขืนใจมัน มันทำให้ผมรู้สึกสะใจ
ผมทำให้มันเจ็บจนได้ ทำได้เสียที
ผมไม่อยากคิดว่าคนอย่างมันจะมารักใคร่อะไรผม แต่หลายครั้งที่ผมเองก็รู้สึก....ว่าตัวมันคงจะรู้สึกผิดบ้างเหมือนกัน......
ต่อให้เป็นปิศาจ แต่ก็ยังมีจุดอ่อน ยังมีบางอย่างในตัวมันที่ยังเป็นมนุษย์....สามัญสำนึกยังคงพอมีเหลืออยู่ แม้จะน้อยนิด
“จะนอนอยู่อย่างนั้นก็ตามใจนะ”
“................”
“ผมกลับล่ะ.....ถ้ารู้สึกอยากดื่มเลือด....พี่ก็โทรหาผมละกันนะคุณเกียรติยศ หรือจะไปฆ่าใครที่ไหนก็เรื่องของคุณ.....”
“นายเป็นห่วงพี่ใช่มั้ยล่ะ ถึงได้กลับมา มีดนั่น.....ไม่ได้เอามาเพื่อป้องกันตัว แต่เพราะตั้งใจจะให้พี่กินเลือดของนาย นายก็รู้ว่าไม่มีอะไรฆ่าพี่ได้.....”
บ้าเอ้ยยย จะยั่วกันไปถึงไหนกันวะ
“ก็จริง....แต่ผมทรมานพี่ได้ ผมจะทิ้งให้พี่อยู่อย่างโดดเดี่ยว ถ้าถึงวันที่โลกล่มสลาย ก็จะเหลือแค่พี่นั่งอยู่บนกองซากปรกหักพัง ถึงตอนนั้นความอมตะจะมีประโยชน์อะไร”
“ไร้สาระ.....พี่มีไมเคิล.....พี่หาอาหารกินเองได้.....ออกไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ ความโดดเดี่ยวมันก็แค่คำพูดของพวกขี้แพ้ พี่ไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ....ต่อให้ขาดนาย พี่ก็อยู่ได้ ที่พี่ฟื้นมาก็เป็นเพราะความสามารถของพี่ นายมันเป็นตัวถ่วงที่คอยขัดชวางพี่ไปซะทุกเรื่อง!!!!”
“ถ้าไม่รู้สึก....งั้นร้องไห้ทำไม ตอนที่ผมบอกว่าเกลียด”
มันลุกขึ้น ยืนมือออกมาข้างหน้า แล้วทำท่าบีบขย้ำอากาศ ทันใดนั้นผมรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกพลังลึกลับที่มองไม่เห็น กำลังบีบรัดลำคอผมอยู่ มันจ้องมองผมอย่างเคียดแค้น
“หึ.......เอาสิ......ใช้พลังของพี่......อึก.....ปลดปล่อยผมซะสิ”
“ไม่ใช่เรื่องยากเลยภูมิ.....พี่ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บนายเอาไว้ทำไม ในเมื่อนายมันไร้ประโยชน์”
ผมปล่อยให้มันทำร้ายผม โดยไม่ปริปากร้องขอความเมตตา ไม่ส่งเสียงร้องแสดงเจ็บปวดให้มันได้เห็น สุดท้ายเป็นมันเองที่ตัดสินใจปล่อยผมเป็นอิสระ
“นายรักพี่บ้างมั้ย.....ภาคภูมิ” มันถามผม อยู่ ๆ มันก็ดูอ่อนแรงลง
“ไม่...ไม่เคยรัก....นอกจากไม่รักแล้วยังเกลียดที่สุด”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงคอยช่วยเหลือกันมาตลอดล่ะ.....ทำไม”
“เพราะผมไม่ต้องการให้พี่ทำร้ายใครน่ะสิ....”
“แล้วทำไมตอนที่พี่กำลังจะหายไป นายถึงได้ดูเจ็บปวดนักล่ะ....ตั้งสองครั้ง นายเองก็ไม่อยากให้พี่ทิ้งนายไปเหมือนกันใช่ไหม”
“ไม่ใช่....ผมไม่ได้เจ็บปวด....แค่ผิดหวังที่พี่จะไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้กรรมต่างหาก คิดดูสิ ถ้าพี่ตาย แล้วเรื่องที่พี่ทำเอาไว้ล่ะ....”
"แต่นายก็ยังดีใจ ตอนที่พี่กลับมา สักนิดเดียวในความรู้สึกนาย พี่ยังมีความหมายบ้างใช่มั้ย?”
“ต้องดีใจสิ.....พี่คืนชีพกลับมาแล้ว กลับมาในร่างกายของตัวเอง พี่ก็ไม่ต้องทำร้ายใครอีก....ผมช่วยซ่อมแซมร่างกายให้พี่ ก็เพราะต้องการให้ดวงจิตของพี่มีที่อยู่ ทีนี้เข้าใจรึยังว่าช่วยไปทำไม เพราะผมทำให้พี่ตายไม่ได้ พี่ก็ต้องอยู่โดยที่ไม่ก่อปัญหา ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ว่ามันน่าเบื่อแค่ไหน ลองมาเป็นผมดูบ้างสิ ต้องดูแลไอ้ปัญญาอ่อนที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วตอนหลังก็ต้องมาดูแลซากศพที่ไม่ยอมตาย ทีนี้รู้รึยังว่าตัวเองน่ะเป็นตัวปัญหา ที่คอยสร้างแต่ความเดือดร้อน....”
“อืม.....เข้าใจแล้ว....ฮะฮะ....เคลียร์ทุกอย่างเลย หมดคำถามครับพร้ม” มันยิ้มแฉ่ง....ดูก็รู้ว่าฝืนยิ้ม
“ผมต้องไปแล้ว พี่จัดการตัวเองก็แล้วกัน ไม่ได้ปัญญาอ่อนแล้วนี่ อาบน้ำเองได้ใช่มั้ย”
“ภูมิ......”
ผมไม่อยากได้ยินเสียงพี่
ผมเกลียดตัวเองที่ทำเรื่องบ้า ๆลงไป
กลายเป็นผมเสียเองที่หาปัญหาใส่ตัวเอง ร่างกายของมัน....ใบหน้าของมัน....ทุกอย่างที่เป็นมันค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามา แล้วตามหลอกหลอนผม
ไอ้โง่....โง่...โง่....โง่ ทำไมถึงพูดอะไรแบบนั้น ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดมันมากถึงขนาดนั้น
ไม่....ผมมาที่นี่เพื่อจบปัญหา และผมไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไร ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องเป็นห่วงคนอย่างมันเลยสักนิดเดียว
อย่าให้มันหลอกผมได้อีก อย่าให้ความสงสารมัน....มารั้งตัวผมเองเอาไว้....
ผมต้องการที่จะเป็นอิสระจากมันเสียที
“ถ้าพี่ไม่อยู่.....นายดูและมันแทนพี่ได้มั้ย”
“อะไรอีกล่ะ!!!”
“ไมเคิลน่ะ.....ดูแลแทนทีนะ”
“พี่จะไปไหน.....พี่ไม่มีวันตาย.....อย่ามาทำเศร้าไปหน่อยเลย ก็แค่ลูกไม้เดิม ๆ”
“พี่จะลองดู”
"ลองอะไร...พี่จะทำอะไรอีก"
"ก็ลองตายดู....ตายเพื่อนายยังไงล่ะ...."
“ตามใจก็แล้วกัน”
ผมออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว
และคิดว่าจะไม่กลับไปอีก
คนอย่างพี่ไม่มีทางทำร้ายตัวเองหรอก
และไม่มีวันตายด้วย!!!!
ถ้าพี่อยากตายจริง ๆ พี่จะต้องไม่กลับมาตั้งแต่แรกสิ
.
.
.
.
.
.
[เกียรติยศ]
แง๊ว
หลังจากน้องกลับไป ผมพยายามที่จะตาย
แต่ทุกวิธีกลับไม่สำเร็จ และเสียเวลาเปล่า
เอานะ....จะสาธยายให้ฟัง
ผมลองกระโดดลงมาจากชั้นสามของบ้าน หน้าของผมกระแทกพื้น แขนหัก กระโหลกแตกมันสมองไหล ลูกตากลิ้งโคโร่
เจ็บที่สุด
ผมนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นวัน แล้วร่างกายของผมก็ค่อย ๆซ่อมแซมตัวเอง รู้สึกได้แม้กระทั่งเลือดทุกหยดที่ไหลออกไป ไหลย้อนกลับเข้ามา
ผมเหนื่อย.....แล้วก็นอนอยู่อย่างนั้นอีกเป็นวัน....รวมเป็นสองวัน
จริงสิ ต้องให้อาหารแมวนี่นา
ต่อมาผมจึงลองอีกหลายวิธี ทั้งใช้ขวานสับมือตัวเองจนขาด ตั้งใจปล่อยให้เลือดไหลหมดตัวอย่างช้า ๆ แต่เพียงไม่ถึงสิบนาที ทั้งเลือดและมือของตัวเอง กลับวิ่งเข้ามาต่อและซ่อมแซมตัวของมันเองโดยอัตโนมัติจนหายเป็นปกติ ไม่เหลือเลือดสักหยดบนพื้น....น่าทึ่งดีไหมล่ะ ตกดึกนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ พยายามกลั้นหายใจ อดทนทรมานจนกระทั่งถึงขีดสุด ส่วนอื่นของร่างกายเสือกหายใจให้ผมแทน ผมเห็นฟองอากาศผุดจากรูสะดือตัวเอง นี่กูเป็นตัวอะไรไปแล้ว....
ตอนนี้ผมกำลังแขวนคอตัวเองกับรั้วกั้นบนชั้นสอง ติดกับราวบันได
ทุกวิธีล้วนเจ็บหมด แต่ดูเหมือนร่างกายของผมมันหาทางออกได้เสียทุกครั้ง ไอ้แมวเปรตสะกิดเชือกที่ผูกคอผมอยู่ แล้วมันก็แทะจนขาด ร่างของผมร่วงลงไปกระแทกกับโต๊ะกินข้าว กระจกปักเต็มหน้าเลย....อูยยยยย
"แน่ใจนะว่าเอ็งช่วยข้า.....อ่อ.....ข้ารู้แล้ว วันนี้เอ็งยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หว่า"
"แง๊ววววววว"
"เอ็งน่ะ รีบหาบ้านใหม่ซะเถอะ ถ้าข้าตาย เอ็งก็ไปจากที่นี่ซะ อย่าไปเป็นภาระให้น้องข้าเลย แล้วอีกอย่าง น้องข้าคงดูแลเอ็งไม่ดีเหมือนข้าหรอก เผลอ ๆ มันอาจฆ่าเอ็ง.....ข้าเป็นห่วงเอ็งจริง ๆ นะไมเคิล"
"เมี๊ยวววว"
"มีแต่เอ็งที่ไม่ทอดทิ้งข้า.....แต่ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว.......เอ็งรู้มั้ยว่าตอนนี้อะไรเจ็บปวดที่สุด สำหรับข้า.....การที่ต้องทนมีชีวิตทั้งที่ไม่อยากมี มันแสนจะเจ็บปวด ข้าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ในเมื่อคนที่ข้ากลับมาหาเขา เขาไม่ต้องการข้าเลย.....ถึงตอนนี้เอ็งยังคิดว่าความเป็นอมตะมันมีประโยชน์อีกไหม....ข้าไม่เคยต้องการ....ไม่เคย"
ทุกครั้งที่ทำร้ายตัวเอง พลังของผมเริ่มอ่อนลง และต้องการเลือด ยิ่งฝืนตัวเองก็ยิ่งทรมาน ทำไมถึงไม่หายไปสักทีล่ะ คราวนี้ไม่เหมือนตอนที่ผมเป็นดวงจิตล่องลอย ควบคุมซากศพที่เป็นร่างของตัวเอง ในตอนนั้น ผมเกือบจะหายไปจากโลกนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง ทว่าตอนนี้มันกลับไม่ง่ายเหมือนอย่างตอนนั้นน่ะสิ
ถ้าฝืนทนต่อไป ร่างกายผมอาจหาทางออก ถึงตอนนั้นผมคงควบคุมอะไรไม่ได้ และคงไม่เป็นตัวเองอีกต่อไป
ผมฝันเห็นตัวเองอยู่ในทะเลเลือดหลายต่อหลายครั้ง ฝันเห็นตัวเองฆ่าคนไปมากมายเหลือเกิน เพียงเพื่อต้องการเลือดมาต่อพลังชีวิต กัดกินเนื้อหนังเพื่อซ่อมแซมอวัยวะในร่างกายของตัวเอง
ไม่อยากให้ถึงตอนนั้น อย่างแรกคือกลัวตัวเองจับแมวกิน ผมไม่อยากทำ....ไม่อยากทำร้ายใครทั้งนั้น แค่นี้ก็ถูกตราหน้าว่าเป็นปิศาจร้ายแล้ว
"ทำไมถึงไม่ยอมหายไปสักที ไหน ๆพลังก็อ่อนลงจนแทบจะไม่มีแรงทำอะไรแล้ว"
ผมเหลือบมองไมเคิล....และมองไปยังชามของมันที่มีทูน่ากระป๋องเทอยุ่ มันกินอย่างน่าอร่อย....
จนกว่าจะหาวิธีตายได้....
ผมคงต้องหาอะไรประทังชีวิตไปก่อน
"ขอข้ากินอาหารของเอ็งสักกระป๋องนะไอ้ตัวแสบ"
ทูน่าในน้ำเกลือรสชาติห่วยแตกสุด ๆ ไปเลยว่ะ
.
.
.
.
.
.
to be con
ดราม่าตรงไหนวะ 5555+ ตั้งใจให้ตอนนี้พีคและเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้า แต่อ่านจบแล้วกลัวคนอ่านไม่เศร้าอ่ะ มันตลก ๆไงไม่รู้
อีกไม่กี่ตอนจบแล้นน้า
เชียร์อัพพี่ยศหน่อยเร้ววว