04
“พี่ธีร์ ไปดูหนังกับธานะ”เสียงหวานดังออดอ้อนมาตามปลายสายทันทีที่กดรับ กันตธีร์วางมือจากงานตรงหน้าแล้วหันไปคุยอย่างตั้งใจ
“เมื่อไหร่ล่ะ เราก็รู้นี่ว่าช่วงนี้พี่ยุ่ง”
“พฤหัสบ่ายได้ไหมคะ พี่ธีร์ไม่ต้องเข้าคณะนี่นา ไปกับธาแปปเดียวเอง” ‘ธา’ หรือ ‘กัลยธา’ น้องสาวคนเดียวของกันตธีร์แจ้งชัดเจนว่ารู้ตารางงานพี่ชายเป็นอย่างดี “ธาสัญญาว่าดูเสร็จจะรีบกลับหอ ไม่ลากพี่ชายไปเถรไถลแน่นอนค่ะ”
“ค่าาา พูดแบบนี้ตลอดล่ะค่าา” คนเป็นพี่ถอนหายใจอย่างไม่จริงจัง “แล้วเราจะดูเรื่องอะไร”
“เรื่อง...” ชื่อภาพยนต์ที่สร้างมาจากนิยายไซไฟที่มีเนื้อหาซับซ้อน แม้จะไม่ได้โด่งดังมากในประเทศไทยแต่ก็เป็นกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ “ธารู้ว่าพี่ธีร์ก็อยากดู เพราะอย่างนั้นพี่ชายห้ามเบี้ยวธานะคะ”
“ค่ะๆ พี่ชายไม่เบี้ยวเราแน่นอน แต่ตอนนี้พี่ชายขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“สัญญาแล้วนะคะ!! ธารักพี่ธีร์ที่สุดเลยอ่ะ ไว้นัดเวลากันอีกทีน้า”
“ค่า ไว้คุยกันค่ะ”
กันตธีร์กดวางสาย ก่อนจะหันกลับมาพบกับสายตานับสิบคู่ จนเจ้าตัวรู้สึกเหมือนทำอะไรแปลกประหลาดลงไปโดยไม่รู้ตัว
“เวอร์ไป” กฤษณ์ผู้ไม่ได้เป็นหนึ่งในสายตาที่ร่วมกันจับจ้องเอ่ยขึ้น “ตัวเล็กมันก็พูดกับน้องสาวมันแบบนี้แต่ไหนแต่ไร พวกมึงจะตื่นเต้นกันทำไม”
“แต่ฟังธีร์พูดกับน้องธาทีไรแล้วมันช่างรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ” จิรณัฐพูดพลางเอามือทาบอกด้วยท่วงท่าเกินจริง
“เชี่ยนี่ก็ตัวเวอร์...”
พ่อหมีบ่นเบาๆ แต่พิชามณที่นั่งติดกันก็หลุดหัวเราะออกมาจนต้องรีบพูดแก้เกี้ยว
“แต่มันก็น่ารักจริงนะหมี”
“ใช่ๆ พวกกูไม่ได้ยินมานานเหมือนมึงนี่ สมัยนี้มันหายากนะ พี่ชายที่พูดคะขากับน้องสาวจนโตเนี่ย” เพื่อนผู้ชายหลายคนที่นั่งร่วมโต๊ะพยักหน้าเห็นด้วย
“อะไรเล่า” ใบหน้าขาวตี๋เริ่มซับสีเลือด “กูก็คุยแบบนี้มาตั้งนานแล้ว พวกมึงก็ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยิน”
“เออ เคยได้ยิน แต่ไม่บ่อย ยังไม่ชิน เห็นมึงพูดคะขาแล้วคันตีน เหมือนเห็นตุ๊ดเด็กเพิ่งแตกเนื้อสาว” ใครสักคนออกความเห็นจนทั้งวงหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ
“จริง ถ้าอยากให้เพื่อนชิน ธีร์ก็พูดบ่อยๆ สิ มาพูดกับฉันก็ได้นะ ยินดีเสมอ” เนื้อหาบอกยี่ห้อคนพูด กันตธีร์ยิ้มแหยตอบเพื่อนร่วมภาคอย่างสุดจะเกรงใจ
“นั่นไง ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะ” ครั้งนี้พิชามณไม่หลุดขำแต่ก็อมยิ้มจนแก้มแทบปริ
“พอๆ จะคุยไหมงานน่ะ” คนตกเป็นเป้าเปลี่ยนเรื่องโดยการยกประเด็นที่ทำให้นักศึกษาคณะวิศวะปี4ที่แทบจะไม่ต้องมาคณะจำใจขุดสังขารมารวมตัวกันได้ “สรุปเราจะแบ่งกันยังไงดี”
“เอาแบบที่ธีร์ว่าเมื่อกี้ก็ได้ แต่แอมกับพวกผู้หญิงจะรับประสานงานรุ่นน้องเอง” พิชามณกลับมาสู่โหมดทำงานแม้จะยังมีรอยยิ้มติดหน้าอยู่ “ส่วนประสานงานวงเหล้า พวกผู้ชายก็เชิญเถอะ ...บอกก่อนนะว่าเบิกไม่ได้
“แอมมมมมมมมมมม/อีแอมมมมมมมมม”เสียงกรีดร้องประสานเสียงของคนหวังกินฟรีดังระงม เหรัญญิกสุดโหดของรุ่นยิ้มหวานแต่ไม่มีแววปราณี
“นี่มันก็งานไม่ใช่หรอ”
“จริงงงง”
“อีแอมอย่างกสิยะ”
“พอ!” กฤษณ์ตัดบทเสียงดัง ก่อนจะแจงอย่างเป็นธรรม “ไปก็ไปกันแค่นี้จะเบิกเงินรุ่นได้ไง พวกมึงจ่ายกันเองสิวะ”
“ตามนั้น พวกน้องๆ ขอภายในเดือนนี้นะ ส่วนเรื่องเดินเอกสารเดี๋ยวกูทำเอง” กันตธีร์ชิงสรุปจบ
งานที่ว่าก็คืองานนิทรรศการใหญ่ของมหาวิทยาลัย แล้วคณะวิศวะก็ได้รับงานฝ่ายเทคนิคต่างๆ มาตามความถนัดรวมถึงทำแปลนสแตนด์โชว์ ซึ่งถูกเอางานไปผูกติดไว้กับคณะสถาปัตย์
ฟังดูก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร หากว่าทั้งสองคณะนี้ไม่ค่อยจะกินเส้นกันนักเพราะอย่างไรก็ไม่ทราบ จะมีก็แต่รุ่นปี4ที่เดิมเคยมีงานแข่งกีฬากันมาแต่โดนยกเลิกไปในปีรุ่นน้องเนื่องจากเหตุผลบางประการ คราวนี้พอเรื่องเดือดร้อนมาถึงหูผู้อาวุโสก็อดจะออกปากไม่ได้ว่าจะลงไปไกล่เกลี่ยเชื่อมสัมพันธไมตรีให้ และแน่นอนต้องนำทีมโดยพ่อหมีของชาวคณะ
ด้วยเนื้องานก็สุดจะห่างไกลความถนัด กันตธีร์ที่โผล่มาร่วมวงด้วยเพราะความสนิทจึงอาสารับงานที่ปกติไม่มีใครเขาอยากทำ เพราะถึงอย่างไรมันก็แค่คนส่งเอกสาร อะไรๆ น้องมันก็คงเตรียมให้แล้ว เหลือแต่รับมาไปคุยๆ ให้รู้เรื่องก็พอ
“โอเค เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากจริงๆ นะหมี” เพื่อนผู้เป็นประธานชั้นปีในปีนี้กล่าวด้วยความซาบซึ้ง เพราะกฤษณ์ถูกเลือกเป็นประธานเมื่อตอนปี1 แต่ในปีต่อๆ มาก็ยังคงมาเป็นแรงงานสำคัญในการทำงานเสมอไม่เคยขาด
“แค่นี้เอง ไม่เป็นไรเว่ย ถ้าไม่มีอะไรอีกก็แยกย้ายเหอะ” คนใจใหญ่ตามตัวโบกมือ ก่อนจะทำหน้าเหนื่อยใจใส่ทุกคน “จะรีบกลับไปทำงานละ โปรเจคกูแม่งโดนอาจารย์เปลี่ยนหัวข้อ”
สิ้นสุดคำบ่น คนอยากกลับก็ไม่ได้ขยับอยู่ดี เนื่องจากเพื่อนร่วมรุ่นต่างแย่งกันแสดงความเห็นใจและเสนอความช่วยเหลือกันจมดังระงม
กันตธีร์ค่อยๆ ขยับออกมาจากวงอย่างแนบเนียน พร้อมกับที่พิชามณแหวกร่างเล็กๆ ออกมาจากฝูงชนเช่นกัน
“หมีโอเครึเปล่าน่ะธีร์” เพื่อนสาวคนสนิทหันมาถามอย่างเป็นห่วง “มีอะไรที่เราพอช่วยได้ไหม”
“อืม จะว่าโอเคก็คงไม่เสียทีเดียว แต่ธีร์ก็ช่วยๆ อยู่ คงไม่ต้องลำบากถึงแอมหรอก”
“มีอะไรก็บอกแล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ” กันตธีร์ที่ยิ้มรับความหวังดี “แล้วของธีร์นี่ฉลุยเลยสิ เก่งจังน้า ทั้งๆ ที่ได้ที่ปรึกษาสุดโหดแท้ๆ”
“ไม่หรอกๆ นี่ก็รออยู่ เสียวๆ อยู่เหมือนกันน้า ได้อาจารย์อิทธินนท์เนี่ย”
ชายหนุ่มคุยกับเพื่อนสนิทอีกสองสามคำก็บอกลา ช่วงเวลานำเสนอโปรเจคให้กับคณะสร้างความกดดันไม่น้อย นอกจากจะยุ่งแล้ว ความกังวลที่จะถูกแก้หัวข้อในเวลานี้ก็เป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกหน่วงไม่น้อย แม้เขาเองจะดูไม่มีปัญหาเรื่องหัวข้อจากที่ได้คุยกับที่ปรึกษามาสองสามครั้ง แต่ตอนนี้ที่ส่งข้อมูลนำเสนอโปรเจคตัวจริงให้ดูไปก็อดจะเริ่มเครียดขึ้นมาบ้างไม่ได้
พ่อหมีที่เพิ่งตะกายออกจากฝูงลูกหมีได้รีบเดินมาหากันตธีร์ที่รออยู่ พลางบ่นอุบว่าทำไมไม่อยู่ช่วยกันปฏิเสธ ทั้งๆ ที่เป็นคนมาช่วยจนไม่เดือดร้อนเท่าไรแท้ๆ กว่าจะยืนยันว่าโอเคแล้วจริงๆ ตัวเล็กมาช่วยเยอะแล้วจริงๆ ได้ก็หมดแรงกลับไปทำงานพอดี
อากาศใต้ตึกกลางช่วงนี้ก็ยังคงร้อนอบอ้าว แม้จะย่างเข้าเดือนกันยายนแล้วก็ตาม หนอนหนังสือเสนอว่าจะแวะห้องสมุดก่อนกลับหอ เพราะนอกจากจะไปหาข้อมูลนิดหน่อยแล้วยังได้พึ่งใบบุญเครื่องปรับอากาศวัยพ่อแก่อีกด้วย คนไม่รักการอ่านยักไหล่แต่ก็เดินตามไปโดยไม่ได้โต้เถียง
กันตธีร์ใช้เวลาไม่นานในการเลือกหนังสือ เพราะมีเป้าหมายในใจอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงตรงกลับหอเป็นอันดับต่อไปอย่างไม่เสียเวลานัก
“อ๊ะ อาจารย์อิทธินนท์ สวัสดีครับ” ชายร่างเล็กที่เดินสวนทางมาตรงมุมตึกทำให้ต้องปรับท่าทางแล้วยกมือไหว้อย่างสุภาพ
“วันนี้ปี4มีเรียนแค่ช่วงเช้านี่” คนถูกเรียกว่าอาจารย์รับไหว้ แต่ทักกลับอย่างเป็นกันเองเนื่องจากอายุห่างกันไม่มากแล้วยังเป็นรุ่นพี่คณะอีกด้วย
“มีประชุมงานของมหาลัยฯนิดหน่อยครับ” อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับคำตอบจากกฤษณ์แล้วหันไปหาคนตัวเล็กกว่า
“กันตธีร์ ผมอ่านที่คุณส่งมาแล้วนะ” คนถูกเรียกเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “มีประเด็นที่อยากให้แก้ตอนที่ทำจริง ผมจะส่งรายละเอียดให้ในอีเมลล์ แต่โดยรวมคุณทำได้ดี คงผ่านการเสนอแน่นอน”
“ครับ! ขอบคุณครับอาจารย์!!”
“รักษามาตรฐานไว้ล่ะ ผมจะรอดูโปรเจคของคุณ” อิทธินนท์ทิ้งท้ายไว้แล้วจึงขอตัวไปสอนช่วงบ่าย
“ตัวเล็กกกกก!!! โคตรเจ๋งอ่ะมึง!!”
เมื่อลับหลังอาจารย์พ่อหมีก็พองตัวดีใจแทนพร้อมกับเอาอุ้งมือตบตีเพื่อนโดยลืมไปว่าตัวเองแรงเยอะแค่ไหน แต่ดูเหมือนคนถูกเขย่าจะไม่รู้สึกอะไรเพราะได้แต่ยิ้มกว้างจนตาหยี
อาจารย์อิทธินนท์เป็นอาจารย์จบใหม่ไฟแรงดีกรีดอกเตอร์อิมพอร์ตมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัยจึงไม่ต้องสงสัยในความเฮี้ยบและเนี้ยบ ดังนั้นแม้อายุจะห่างกันไม่มากแต่ก็เป็นที่หวาดเกรงของนักศึกษา
ตอนเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจคกันตธีร์ตัดสินใจช้า อาจารย์ท่านที่ใจดีๆ ก็เต็มหมดแล้ว เขาก็เลยมาลงเอยกับอาจารย์อิทธินนท์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่พอได้คุยได้ปรึกษาจริงๆ ก็ไม่เลวร้ายอะไร อาจารย์เป็นคนเก่งมากและจบสาขาไฟฟ้าสื่อสารมาโดยตรง ซึ่งเข้ากับสาขาที่ชายหนุ่มถนัด แม้จะโดนดุบ้างแต่ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง
“ไปมึง กลับหอๆ” พูดโดยยังยิ้มไม่หุบพลางจับมือให้อีกฝ่ายหยุดเขย่า
“เฮ้ย งี้มันต้องฉลองดิ”
“ฉลองบ้านมึงสิ นี่แค่ผ่านเสนอว้อย ของจริงยังไม่ได้ทำเลย ...ไปๆ เดี๋ยวกูกลับไปช่วยมึงทำงาน”
ว่าแล้วคนตัวเล็กกว่าก็จัดแจงลากเพื่อนกลับหอพักทันที
แต่ในท้ายที่สุดกันตธีร์ก็ไม่ได้ทำอย่างปากว่า เนื่องจากกฤษณ์ค้านว่าตนได้รับการช่วยเหลือมากพอแล้ว และอีกประการก็คือนอกจากไฟล์นำเสนอที่ช่วยทำไปแล้ว ก็ไม่รู้จะช่วยอะไรอีกเพราะภาคโยธาเป็นอะไรที่คนตัวเล็กไม่ถนัดเอาเสียเลย
ในเมื่อว่างงานอย่างเฉียบพลันกันตธีร์จึงทิ้งตัวเกลือกกลิ้งกับเตียงนอนพลางส่งข้อความใน line ไปบอกที่บ้านเกี่ยวกับข่าวดีของโปรเจคจบ น้องสาวที่เพิ่งคุยกันไปตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมย้ำเรื่องนัดในวันพุธ แม้การพิมพ์จะไม่ให้ความรู้สึกดีเท่าได้ยินเสียง แต่สำหรับพ่อแม่ที่เดินทางบ่อยมากอย่างเช่นมิสเตอร์แอนด์มิสซิสวิจักษณ์วัฒนาการสื่อสารทางนี้ก็นับว่าสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายอยู่มากทีเดียว
กันตธีร์กำลังรัวสติ๊กเกอร์แข่งกับน้องสาวในตอนที่เหลือบไปเห็นว่ามีข้อความใหม่ในหน้าแชทอื่น เมื่อกดไปดูก็ต้องพบกับคำถามลอยๆ จากคนที่เพิ่งมีเหตุด้วยกันไปเมื่อไม่นานมานี้
Chotipat – วันพฤหัสตอนบ่ายว่างไหม
Thee – ไม่ว่างน่ะ
Thee – มีอะไรรึเปล่า
Chotipat – ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแล้ว
ชายหนุ่มมองคำตอบด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่คิดจะถามต่อจึงกลับไปก่อสงครามกับน้องสาวต่ออย่างไม่คิดติดใจอะไร ...บางทีมันคงจะเป็นวันพฤหัสแห่งชาติที่ทุกคนต้องมีกิจกรรมบางอย่างก็เป็นได้
++++++
วันนี้คงเป็นวันพฤหัสบดีแห่งชาติจริงๆ
กันตธีร์ปรารภกับตนเองในใจขณะยืนมองผู้คนผ่านกระจกใสของร้านหนังสือ อากาศที่ปรับแต่งจนเย็นฉ่ำชวนให้ชาวไทยพร้อมใจกันมาเดินห้างสรรพสินค้าแม้ว่าจะไม่มีธุระปะปังอะไร ทำเอาคนเกลียดความพลุกพล่านต้องมายืนหลบในมุมธรรมะที่ไม่ค่อยมีคนมาเหยียบ
ชายหนุ่มเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบเสพศิลปะทั้งหนังสือและภาพยนต์ ดังนั้นโรงหนังก็เป็นอีกสถานที่โปรดของเขา แต่ถ้ามาดูเพียงลำพังก็มักจะเป็นรอบดึกมากกว่าช่วงบ่ายวันธรรมดาแบบนี้
ซึ่งบังเอิญว่าในวันนี้เขามีคู่ควงที่น่ารักเป็นพิเศษเสียด้วย
“พี่ธีร์” เสียงคุ้นเคยดังมาพร้อมน้ำหนักที่กดลงบนไหล่ ใบหน้าสวยส่งยิ้มมาจากข้างหลัง
“ไปๆ คนเยอะขนาดนี้จะมีรอบไหมเนี่ย” คนถูกเรียกปัดมือที่มาเกาะแกะอยู่ออกแล้วหมุนตัวไปหาอีกฝ่าย
“ก็น่าจะมีน้า ธาไม่คิดว่าคนจะเยอะ” เด็กสาวทำหน้ามุ่ย “พี่ธีร์ก็ไม่จองให้ก่อนล่ะ”
“เอ้า ผิดที่พี่หรือ เราชวนพี่นะ”
“ธาลืมคิดนี่คะ พี่ธีร์ไม่เตือนธา” งอแงจนกันตธีร์ส่ายหัวยิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นทั้งสองข้าง
“โอเคๆ พี่ชายยอมแล้วค่ะ”
คนเป็นพี่เดินตามน้องสาวต้อยๆ ออกจากชั้นหนังสือละทางโลกพลางประเมิณจำนวนคนที่เรียงรายหน้าที่ขายตั๋วแล้วได้แต่ไว้อาลัยสมการในหัว
วันหนังเข้า บวกเงินเดือนออก บวกอากาศร้อน...เท่ากับโรงหนังเต็ม
“รู้งี้ธาน่าจะจองก่อน” กรีดเสียงเบาๆ อย่างเจ็บใจหลังจากเข้าแถวอยู่อย่างยาวนาน การรอคอยของสองพี่น้องก็ประสบความล้มเหลวเมื่อไม่สามารถหาที่นั่งแบบไม่ต้องแหงนคอดูได้ในรอบที่ตะวันไม่ตกดิน
“ไว้อาทิตย์หน้าพี่มาดูกับเราอีกทีก็ได้ค่ะ” กันตธีร์ลูบหัวน้องสาวอย่างเอาใจ
“อุตส่าห์ออกมาจากม.ทั้งทีนี่นา เซ็งจัง” เด็กสาวโอดครวญพลางประทุษร้ายเสื้อพี่ชาย
“เอาน่าๆ”
กันตธีร์วางแผนว่าจะพาเด็กอารมณ์ไม่ดีไปกินของหวานดับอารมณ์ แต่แล้วก็หันไปเจอคนที่พักนี้ดูจะมาพร้อมคำว่าบังเอิญบ่อยจนน่าแปลกใจ
อีกฝ่ายมองมาอยู่แล้ว เมื่อเขาหันไปสบตาจึงยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาหา
“มาดูหนังหรือ” โชติภัทรถามพลางส่งยิ้มเผื่อแผ่ให้กัลยธา
“ใช่ แต่เต็มหมดเลย เลยว่าจะไปหาอะไรกินแล้วกลับม.” ตอบก่อนจะหันกลับมาพูดกับคนข้างตัว “นี่ โช เพื่อนพี่ เรียนหมอปีเดียวกัน”
“สวัสดีค่ะพี่โช” เด็กสาวยกมือไหว้ทำเอาคนถูกแนะนำยกมือรับแทบไม่ทัน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องไหว้พี่หรอก”
“น้องฉันเด็กดีเว่ย” กันตธีร์หัวเราะ “นี่ ธา น้องสาวฉันเอง”
“น้องสาว?”
อันเป็นปฏิกิริยาที่สองพี่น้องคุ้นชินเป็นอย่างดี เนื่องจากกัลยธาเป็นเด็กสาวตาโตผิวสองสีมีลักยิ้มซึ่งโดยรวมไม่มีอะไรเหมือนพี่ชายผู้มีโหงวเฮ้งแบบขาวตี๋สักนิดนอกจากรูปหน้าที่มีคางเรียวเล็ก
ทำเอาตอนเด็กๆ กันตธีร์กับน้องเคยโดนพ่อแม่อำว่าทั้งคู่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่เป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงทั้งคู่อะไรประมาณนั้น...
“น้องสาวแท้ๆ คลานตามกันมาจากท้องแม่เลยล่ะ”
“...หน้าไม่เหมือนเลยนะ” เสียงประหลาดใจชัดเจน “ฉันนึกว่าแฟนธีร์”
“ทุกคนก็พูดงั้นแหละค่ะ” กัลยธาตอบเสียงใสพลางควงแขนพี่ชาย “แต่ถ้าธามีแฟน ธาจะหาแฟนที่น่ารักน้อยกว่าธาค่ะ”
“ยัยธา” กันตธีร์กดเสียงใส่แต่คนเป็นน้องก็ทำหน้าไม่รู้เรื่อง
“แล้วนี่จะดูเรื่องอะไรกัน ที่เพิ่งเข้าหรือเปล่า?” โชติภัทรเปลี่ยนเรื่องพร้อมกันยิ้มรับอาการแง่งอนของพี่น้อง
“นั่นแหละ เต็มแทบทุกรอบ ยอมแพ้เลย”
“...เอาบัตรฉันไปไหม”
“ห๊ะ...?”
โชติภัทรยื่นตั๋วหนังในมือให้ดู ซึ่งเป็นโรงพิเศษราคาแพงและที่นั่งชั้นดี รอบบ่ายสอง
“ฉันตอบคำถามตอนเรียนแล้วอาจารย์แจกตั๋วหนังที่จองล่วงหน้ามา แต่มันเป็นสองที่” เสียงเรียบเรื่อยอธิบาย “ถ้าฉันดูคนเดียวก็เสียดายตั๋ว ธีร์เอาไปดูกับน้องเถอะ”
“...เฮ้ย คือ” กันตธีร์รู้สึกได้ถึงความเกรงใจที่กำลังทะเลาะตบตีกับความยินดี
“ถ้าอย่างนี้พี่โชก็ไม่ได้ดูสิคะ อย่าเลยค่ะ” กัลยธาปฏิเสธทันทีทั้งที่ใจก็อยากดู
“พี่ค่อยมาดูวันหลังก็ได้ครับ ไม่อย่างนั้นก็เสียดายอีกที่นึงแย่เลย”
“...งั้น” เด็กสาวเม้มปาก “พี่ธีร์ไปดูกับเพื่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวธากลับม.เอง”
“ได้ไง เราต่างหากที่อยากดู”
“อืม...นั่นสิ ธีร์ไปดูกับน้องเหอะ” โชติภัทรวาดรอยยิ้มแบบที่ไม่น่าไว้วางใจ “หรือจะให้ฉันเข้าไปดูกับน้องธาสองคน?”
“เฮ้ย! ไม่ได้!!” โพล่งออกมาทันควันจนคนถามหลุดขำ
“นั่นก็ไม่นี่ก็ไม่ งั้นเอาไปนั่นแหละ” ไม่พูดเปล่าคว้ามือคนหวงน้องขึ้นมายัดตั๋วหนังใส่
“แต่...” คนถูกยัดเยียดอึกอักแต่รับมาถือไว้
“เอาไปเหอะ”
“ธาว่า ธาคิดออกละ”
เด็กสาวหยิบมือถือขึ้นมากดทันที ท่ามกลางความสงสัยของคนแก่กว่า กัลยธากดเข้าไปจองตั๋วหนังในรอบเดียวกันนั้นผ่านเวปของโรงหนัง ใช้เวลาไม่นานเธอก็เงยมาฉีกยิ้มให้
“ได้ตั๋วของพี่โชแล้วค่ะ เดี๋ยวธาออกเอง ที่นั่งอยู่ริมหน่อยไม่เป็นไรนะคะพี่” อธิบายอย่างรวดเร็วพลางชูหน้าจอมือถือให้ดู “ที่นั่งเดียวมันหาง่ายกว่า เมื่อกี้ธาก็เห็นว่ามันก็พอเหลืออยู่ด้วย ทำแบบนี้ก็จะไม่ต้องไปต่อแถวลุ้นว่ามีมั๊ย...ทำไมถึงคิดไม่ออกตั้งแต่แรกน้า ธาไปเอาตั๋วก่อนนะคะ”
พูดรัวๆ จบ ร่างบอบบางก็เดินตัวปลิวไปที่ช่องรับตั๋วจองทันทีไม่รอการตอบรับจากอีกสองคนที่ได้แต่อึ้ง
“น้องสาวธีร์น่ารักดีนะ”
“เออ น่ารัก แต่ห้ามจีบนะโว้ย”
“ไม่จีบหรอกน่า” โชติภัทรยิ้มจางๆ ไม่บอกความหมายจนคุณพี่ขี้หวงต้องเปลี่ยนเรื่องทันที
“เรื่องตั๋วหนังนี่รึเปล่า ที่เมื่อวันก่อนมาถาม”
“...เอ้อ ใช่” เจ้าของรางวัลตอบเสียงเก้อ “ไม่รู้จะชวนใครไปดู เลยถามเผื่อว่าจะสนใจ”
“ฉันยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย” กันตธีร์ส่ายหัวพลางชี้ไปทางช่องรับตั๋ว “คนนู้นน่ะชอบมาก อยากดูสุดๆ”
“เรื่องนี้มันไม่ใช่นิยายไซไฟขนาดนั้นนะ ฉันว่าธีร์น่าจะชอบ”
“อ่าว งั้นหรือ” พยักหน้ารับคำแนะนำก่อนจะหันไปมองโปสเตอร์หนัง “...อาทิตย์หน้าว่างหรือเปล่า”
“ก็มีเวรแหละ ทำไมหรือ”
“เกรงใจว่ะ ขอเลี้ยงข้าวสักมื้อเหอะ”
“เฮ้ยไม่ต้อง” โชติภัทรตอบทันควัน “นี่น้องธีร์ก็ซื้อตั๋วหนังให้แล้ว ไม่ต้องหรอก”
“รู้สึกเหมือนพักนี้รบกวนหลายเรื่อง บอกไม่ถูกแฮะ”
“ไม่ต้องหรอก จริงๆ ก็ไม่ได้รบกวนอะไรเลยนี่”
“อืม...” กันตธีร์ละสายตาจากภาพนักแสดงชื่อดังกลับมาที่คนข้างตัว “พักนี้บังเอิญเจอกันบ่อยนะ”
“...งั้นหรือ”
“ใช่สิ อยู่มหาลัยฯเดียวกันมา 3-4 ปี ไม่เห็นจะเคยเจอกันเลย” เป็นข้อสงสัยที่ติดใจมาสักพัก
“...ไม่ใช่หรอก” เจ้าของรอยยิ้มชวนมองตอบเสียงเรียบ “ฉันว่าที่คิดว่าไม่เคยเจอเพราะธีร์จำไม่ได้มากกว่า”
“ห๊ะ”
“ก็ตอนแรกธีร์หลบหน้าฉันไปไม่ใช่หรือไง” อธิบายกลั้วเสียงหัวเราะ “แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนจะจำกันไม่ได้ไปเลยหรือเปล่า”
“เฮ้ย...”
“ไม่ต้องเฮ้ย ฉันรู้ว่าธีร์ไม่ค่อยจำหน้าคน”
คนถูกดักคอเม้มปาก รู้สึกได้ว่าหน้าเห่อร้อน ไม่ใช่เพราะถูกว่าไม่จำหน้าคน แต่เพราะอีกฝ่ายรู้ตัวว่าถูกหลบหน้าเมื่อตอนปี1 หลังจากความเข้าใจผิดอย่างยิ่งใหญ่ในตอนนั้น
บทสนทนาสิ้นสุดลงเมื่อกัลยธาเดินแกมวิ่งกลับมาพร้อมตั๋วหนังอีกใบ โชติภัทรบอกลาสองพี่น้องเพราะต้องไปซื้อของ เด็กสาวบอกขอบคุณอีกฝ่ายเสียงใสพร้อมโบกมือลา ก่อนจะหันกลับมามองพี่ชายที่ยืนนิ่งเป็นรูปสลัก
“พี่ธีร์หน้าแดง”
“เปล่านะ!”TBC...
::TALK::
เฮือก! แอบมาดึกๆ
สารภาพว่าปั่นเกือบไม่ทัน 555 อาทิตย์นี้มีหลายสิ่งอย่างรุมเร้ามากค่ะ เกือบเอาตัวมิรอด

ตอนนี้เลยแทบไม่ได้อ่านทวน ไม่รู้มีพิมพ์ผิดสะกดผิดบ้างหรือเปล่า แหะๆ
มาแอบช้า แต่ตอนนี้ยาวนะคะ [หรือเปล่านะ? เหมือนตัวอักษรดูเยอะๆ]
สำหรับตอนหน้าแอบบอกก่อนว่าไม่แน่นอน พอดีชีวิตช่วงนี้ระหกระเหินเล็กน้อยอยู่ตจว.สลับกับกรุงเทพฯ ย้ายถิ่นฐานไปมา ไม่รู้ว่าจะมาต่อได้เมื่อไหร่ แต่สัญญาว่าจะไม่หายหัวนานเกินรอนะคะ

เจอกันตอนหน้าค่า [อย่าทิ้งกันนะคะ ฮืออออ //อ้อน]

::comment::
quiicheh. : โอ๊ะ ชอบอีกแล้ว 555 นั่นสิ เริ่มอะไรกันน่ะ //แต่แอบขอค้านเรื่องแฟนเป็นหมอค่ะ ไม่เห็นสบายเลยยยยย

iamnan : ที่สุดในเรื่องแล้วค่ะ 555
AGALIGO : เพราะงี้นี่แหละค่ะมันเลยเรื่อยเอื่อย แต่ก็จะค่อยๆ พัฒนาไปน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ
bulldog17 : เบามากจริงๆ ค่ะ 555
พลอยสวย : มาแล้วค่าาา

ปั่นสุดๆ แล้ว ฮืออ
mesomeo2 : ขอบคุณค่า ดีใจจัง อ่านแล้วต้องไปแอบเพิ่มชื่อไทยเลยอ่ะ
ขอบคุณทุกคนเลยนะคะ เลิฟฟฟฟฟ
