@@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++  (อ่าน 623784 ครั้ง)

ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
วันอังคารแว้ววววน้า... :call:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2014 19:23:43 โดย KuMaY »

ออฟไลน์ luzileas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
รอๆๆ อยู่นะคะ  วันอังคารแล้วนะ 

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สู้ๆน้าคุณลักษณ์ ไม่ต้องรีบก็ได้
เพราะต้องมีงานส่วนตัวทำ แถมต้องคอยขัดเกลานิยายก่อนลงอีกเนอะ
เป็นกำลังใจให้ฮับ

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
สงครามทะเลทราย...ศึกเทพมหาธาตุ
Part 15...ตำแหน่งใหม่





   ”เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้า ใยเป็นเยี่ยงนี้”
องค์ชายวายุภักษ์ตรัสถาม หลังเสด็จกลับมายังพระตำหนัก เห็นสภาพห้องเละตุ้มเป๊ะเหมือนโจรบุก 
ข้าวของกระจัดกระจายเปียกโชก ต้นเหตุได้แต่ทำหน้าสลดส่งสายตาปริบๆ อย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน
แล้วสารภาพเสียงอ๋อยว่า

   “เป็นฝีมือผมครับ ตั้งใจเรียกสายน้ำ อยากรู้ว่าผมสามารถใช้เทพมหาธาตุได้หรือเปล่า
จึงมีสภาพอย่างที่คุณเห็นเนี่ยแหละ” พูดโดยไม่กล้าสบเนตรคมเข้มของอีกฝ่าย ดันเขินการทำตัวเป็นเด็กของตนเอง
จึงได้แต่ก้มหน้างุดอยู่บนเตียง ตั้งแต่เช้ายันขณะนี้ผักตบยังอยู่ในสภาพเดิม เขาไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในห้องอีกต่างหาก
 
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เรากลับกลัวเจ้าได้รับอันตราย รู้แล้วใช่ไหมว่าสามารถใช้เทพมหาธาตุได้
ทีหลังเลือกสถานที่ทดลองคงดีไม่น้อย..หึหึ!” พระดำรัสฟังแล้วรู้สึกอุ่นในใจ แต่ประโยคหลังเหมือนโดนสัพยอก
จากคนตรงหน้า เขาพานรู้สึกหน้าร้อนจนจะสุกแล้ว มียกยิ้มมุมปากส่งสายตาพราวระยับมาให้ด้วย
ไอ้ท่าทางแบบนี้มันดูเจ้าชู้ชะมัด ผักตบไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำเป็น เคยเห็นวางมาดดูดีทุกกระเบียด ตอนนี้มันอะไรกันเล่า..

“เอาน่า..ผมรับปากไม่ทดลองในห้องอีก ไม่รู้ว่าจะรุนแรงขนาดนี้ ทีคุณยังบังคับสายลมทำนั่นนี่นู้น
ผมก็นึกว่าจะทำได้บ้างดิ” ผักตบเถียงอย่างข้างๆ คูๆ ที่สำคัญใช้เป็นข้ออ้างแก้อาการเขินขณะนี้มากกว่า

“เรามิได้ตำหนิเจ้าเสียหน่อย เพียงแสดงความคิดเห็นให้เจ้านำไปปรับใช้เท่านั้นดอก เจ้าเพิ่งเริ่มเรียกพลังยังไม่รู้วิธีควบคุม
หลังเสวยเราจักชี้แนะให้เจ้า มิยากเย็นดอก เพียงกำหนดเป้าหมายจุดประสงค์ภายในใจ 
พลังเทพมหาธาตุจักเป็นไปตามต้องการ” พูดพร้อมกับผายพระหัตถ์โดยมิเปล่งวาจา ทันใดเปลวเพลิงก็ลุกพรึ่บ
เป็นก้อนกลมเท่าลูกฟุตบอล ลอยอยู่กลางอากาศตรงหน้าพระพักตร์เหมือนองค์ชายกำลังแสดงมายากลให้เขาดูเสียเช่นนั้น

“เฮ้ย! ง่ายแบบนี้เลยเหรอ คุณไม่ต้องเอ่ยชื่อ โหเหะ!..สุดยอดเว้ย” ผักตบพลอยตื่นเต้นตาม
องค์ชายสามารถเรียกมหาธาตุอัคคีมาปรากฎ ควบคุมด้านขนาดและรูปร่าง ให้เป็นไปตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

“เป็นเพราะเรากำหนดขึ้นในใจ ให้อัคคีธาตุมีลักษณะเยี่ยงนี้ดอก ควบคุมโดยใช้จิตสั่ง มิใช่เรียกพลังแล้วกำหนดรูปร่างไม่ได้
รวมทั้งวิถีคงอยู่ของพลังล้วนสำคัญยิ่ง มิเช่นนั้นย่อมสร้างความเสียหาย ด้วยมิสามารถควบคุมเอาไว้ได้”
พระองค์ทรงอธิบายให้ผักตบเข้าใจในพื้นฐาน แต่คนฟังรู้สึกเหมือนเขากำลังโดนอบรมยังไงไม่รู้..

“ได้ทีขี่แพะไล่เลยเนอะ ผมไม่เข้าใจหลักการนี่ครับ พลาดหนเดียวเอาใหญ่เชียวคุณ” ผักตบค้อนให้ทีหนึ่ง
หลังอีกฝ่ายเน้นสิ่งที่เขาทำไม่เลิก ดูคล้ายจะสอนด้วยความหวังดี แต่สายตากรุ้มกริ่มนี่สิ..มันอะไรกานนน!!!

“ทำไมต้องขี่แพะไล่ ใยมิเชื่องช้ากว่าอาชาดอกหรือ เรามิกระทำเรื่องไร้ปัญญาเยี่ยงนั้นดอก
แพะหาใช่สัตว์มีไว้สำหรับขี่เจ้าใยปรารถนาเล่า หรือมันมีรูปร่างไม่ใหญ่โต
เจ้ากลับเข้าใจสามารถควบขี่ง่ายดายกว่าอูฐม้าหรือเยี่ยงไร เรากลับเห็นว่าเจ้าคิดผิดเสียแล้ว
รูปกายเจ้าโตกว่าสัตว์ชนิดนี้อยู่มากโข มันคงมิสามารถทานน้ำหนักของเจ้าดอก” ผักตบอ้าปากหวอไปเรียบร้อย
ก่อนเอากำปั้นทุบหน้าผาก อนาถต่อความเข้าใจของอีกฝ่าย เขาแค่ยกสุภาษิตมาเปรียบเปรย แต่ไหงคุณเจ้าชายตีความไปโน่น
 
“เลิกคุยเรื่องปวดกบาลเหอะ ผมอยากอาบน้ำแล้ว” รีบตัดจบก่อนจะเข้าใจกันไปเสียยกใหญ่

“เช่นนั้นเราจักตามสุรทัต บุปผา ราตรี ให้มาเก็บกวาดห้องหับกลับคืนดังเดิม
ส่วนเจ้าเราจะพาไปยังบ่อน้ำ คิดว่าเจ้าต้องชมชอบไม่น้อย”

“มีบ่อให้อาบน้ำด้วยเหรอ” ผักตบถามด้วยความสงสัย

“ย่อมมีอยู่ทุกตำหนัก แต่เดิมพวกเรามิได้ขาดแคลนสายน้ำอันใด ย่อมสามารถลงแหวกว่ายในบ่อได้ทุกเพลา
กระทั่งไฟสงครามได้เริ่มต้นขึ้น ทำให้น้ำขาดแคลน เสด็จพ่อจึงมีพระราชโองการให้งดใช้น้ำโดยสิ้นเปลือง
บ่อน้ำในตำหนักจึงมิมีน้ำกักเก็บอีกต่อไป ผู้คนอาศัยการเช็ดถูร่างกายแทนการอาบน้ำเสียแล้ว
เป็นเพราะเจ้าช่วยให้พวกเราสามารถมีน้ำใช้อีกครา โดยมิต้องกังวลจักขาดแคลนขึ้นอีก
เราประสงค์ใคร่ตอบแทนเจ้า โดยการพาไปแช่น้ำยังบ่อในตำหนัก ไว้ให้เป็นภาระของเราดูแลเจ้าเถิด”
 พระดำรัสทุ้มนุ่มสายพระเนตรหวานเชื่อม พระองค์ทรงทอดมองผักตบอย่างให้รับรู้ในพระทัย
คนที่นั่งบนเตียงคลุมผ้าครึ่งท่อน เปลือยช่วงบนเห็นรอยจุมพิตประปรายทั่วแผ่นอกลาดไหล่
เกิดจากบทรักในราตรีที่ผ่านมา ถึงกับหน้าแดงเพราะเขินสายตาน้ำเสียงที่ส่งให้เขาโดยเฉพาะ

“มองอะไรเล่านำไปดิ ขอเสื้อคลุมให้ผมด้วยครับ” ผักตบตีรวนเขินเป็นจริงเป็นจัง
อาจเป็นเพราะผู้ชายคนนี้ คือคนที่ล่วงล้ำร่างกายคนแรก โดยที่เขาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ซ้ำยินยอมพร้อมใจ
ไม่ยักรู้สึกตะขิดตะขวงรังเกียจต่อสัมผัส ประสบการณ์ที่ได้รับหนนี้ มันชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
โดยเฉพาะภาพร่วมรักของเขาทั้งคู่ พอนึกถึงพานรู้สึกอายสุดๆ

“หึหึ!เรารู้ว่าเจ้ากำลังเขินอาย ใบหน้าจึงสุกปลั่งเยี่ยงนี้ กระทั่งเราเองมิเคยมีผู้ใดกล้าใช้ให้กระทำสิ่งใดมาก่อน
เจ้ากลับให้เราหยิบเสื้อคลุม  นับจากนี้เราคงมีเรื่องได้รับใช้เจ้าไม่น้อย แต่เรากลับยินดีกระทำเพื่อชายาของเราเสียแล้ว”
ผักตบฟังจบ ถึงกับตลบผ้าที่ร่นตกตรงเอวขึ้นคลุมยันหัว นั่งกัดลิ้นแทบชักดิ้นชักงอ เพราะคำพูดบ้าบอของอีกฝ่าย
ส่งผลให้หน้าเขาแทบระเบิดเป็นพลุไฟงานวัดแล้ว..ก่นบ่นตัวเองที่ไม่ทันคิด มีใครเขากล้าใช้องค์ชายกันเล่า
มิน่าอีกคนถึงหยิบยกมาอ้าง พาอายเขาไปใหญ่ให้ตาย!

เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขขององค์ชายวายุภักษ์ ข้าราชบริพารในตำหนักวาโยทิพย์มิเคยได้ยินมานานแล้ว
จำไม่ได้พระองค์ทรงหัวเราะครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ผู้ถวายงานเก่าแก่ในพระตำหนักนึกไม่ถึง
รัชทายาทไตรคานซึ่งองอาจสง่างาม ทรงเปล่งพระสุรเสียงหัวเราะขบขัน ถึงขั้นดังเล็ดลอดออกจากห้องบรรทม
ให้ได้ยินเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่หนอ

กลายเป็นประเด็นให้พวกเขาหยิบยกมาพูดคุย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี บุคคลซึ่งพวกเขาต่างยกความดีความชอบให้
ย่อมเป็นของพระชายาในอีกไม่กี่ราตรีข้างหน้าแล้ว คือผู้ทำให้องค์ยุพราชรูปงามพระอารมณ์ดีเยี่ยงนี้ได้
ไม่รู้สองพระองค์กระทำอันใดกัน ถึงสร้างเสียงหัวเราะขบขันมีความสุขในพระทัยให้กับองค์ชายวายุภักษ์
 
กระนั้นเหล่าข้าราชบริพาร พลอยมีความสุขตามเจ้านายไปด้วย ก่อนจะเร่งทำหน้าที่คนละไม้ละมือ
ใครดูแลเครื่องเสวยก็เร่งรีบจัดเตรียมกันยกใหญ่ บุปผาราตรีดูแลฉลองพระองค์ให้กับพระชายา
ไม่น้อยหน้ารีบจัดเตรียมอย่างพรักพร้อม อาภรณ์ตามฐานันดรศักดิ์ มิใช่ชุดเยี่ยงอิสตรี
เป็นชุดบุรุษเช่นเดียวกับองค์ชายวายุภักษ์..บ่งบอกศักดิ์ฐานะของผู้สวมใส่ในทันที
มิว่าข้าราชบริพารหรือเหล่าทหารเมื่อได้ยล ก็จักรับรู้พระตำแหน่ง..

ข่าวพิธีอภิเษกขององค์รัชทายาทจักจัดในวันเพ็ญอีก 15 ราตรีที่จะถึงนี้กลายเป็นข่าวใหญ่
เป็นงานมงคลซึ่งผู้คนต่างรอคอยที่จะได้เข้าร่วมเฉลิมฉลองแสดงความยินดีให้องค์ชายของพวกเขา
ทุกบ้านเรือนที่พักอาศัยต่างประดับโคมไฟอย่างสวยงาม ปักริ้วธงประจำราชวงศ์ร่วมเฉลิมฉลอง
ในพระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้ หลังสำนักพระราชวังศ์นำพระราชโองการขององค์เหนือหัวอนิละปิดประกาศไปทั่วทั้งนคร..

ผักตบรู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก เมื่อได้แช่น้ำอุ่นในสระขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของสระมาตรฐาน
ผู้คนที่นี่เรียกว่าบ่อ องค์ชายพาเขาไปยังสถานที่อาบน้ำในตำหนัก ปรากฏเป็นบ่อขุดมีพืชพันธุ์ไม้รายรอบ
น้ำในบ่อแห้งขอด ต้นไม้พืชสวนใกล้เฉาตาย คนอาสาพามาจึงใช้พลังเทพมหาธาตุเนรมิตบ่อให้มีน้ำฉับพลันทันตา
ซ้ำยังใช้อัคคีธาตุทำให้น้ำในบ่อมีอุณหภูมิอุ่นกำลังดี นั่นคือบริการชั้นเลิศที่ผักตบได้รับจากว่าที่พระสวามี

เสร็จจากนั้นพวกเขาร่วมทานอาหารเช้า โดยแม่เล็กของผักตบถูกรับเชิญเป็นแขกด้วย
ซ้ำยังได้รับอนุญาตจากองค์ชายเจ้าของตำหนัก รับสั่งให้บุปผาราตรีพาแม่เล็กไปอาบน้ำยังสระ
ที่ผักตบเพิ่งแหวกว่ายมาก่อนหน้า  แม่เล็กรู้สึกดีใจมาก เพราะเธอไม่ได้สัมผัสการอาบน้ำเต็มรูปแบบนานแล้ว
รอยยิ้มชื่นมื่นที่เกิดขึ้นภายในโต๊ะเสวย ล้วนสร้างบรรยากาศอบอุ่นดูเป็นครอบครัวขึ้นมาในทันที
เริ่มไม่สัมผัสถึงความแตกต่างของชั้นวรรณะแล้ว

เสร็จจากทานอาหาร ผักตบขอเวลาคุยธุระส่วนตัวกับแม่ โดยนัดองค์ชายเอาไว้
ยามพระอาทิตย์ตรงศีรษะจะไปสำรวจไตรคาน เพื่อเตรียมทะนุบำรุงฟื้นฟูสภาพ สร้างความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาอีกครั้ง

“ตกลงข่าวที่แกจะแต่งงานกับองค์ชาย เป็นเรื่องจริงใช่ไหม..ตบ”
แม่เล็กไม่เสียเวลา เปิดประเด็นซักฟอกในสิ่งที่กำลังเป็นกระแสขึ้นมาทันที

“ครับ..แม่ลำบากใจเรื่องนี้หรือเปล่า” ลูกชายยอมรับไปตรงๆ

“แสดงว่าแกกับเขา..โซเดมาคอมกันเรียบร้อย” แม่ไม่ตอบคำถาม กลับยิงคำถามตามมาอีก

“ครับ..ผมกับเขากินตับกันไปเมื่อคืน” ผักตบไม่ปิดบัง เขากับแม่เป็นอะไรที่ผูกพันเข้าใจกันลึกซึ้ง
เกินกว่าแม่ลูกทั่วไปเสียอีก การพูดตรงๆ มักเป็นเรื่องที่สองแม่ลูกเปิดใจให้กันมาโดยตลอด

“กะไว้แล้วเชียว วันก่อนเจ้าชายยังดูลูกผีลูกคนอยู่เลย วันนี้หน้าระรื่นยิ้มไม่หุบ เดาว่าแดกตับลูกชายกูชัวร์”
แม่เล็กพูดขึ้นลอยๆ ผักตบได้แต่นั่งหน้าแดงแปร๊ด เพราะคำพูดไม่มีอ้อมของผู้เป็นแม่

“แกคงไม่ได้ใช้ถุงยาง แดกยาคุมเลยสิท่า” แม่ถามตรงแน่วทีเดียว

“ยาคุมผมไม่มีอยู่แล้ว ถุงยางไม่ได้ติดมาด้วย อย่าลืมว่าผมกับแม่เราตั้งใจไปเที่ยวเขาใหญ่
พกถุงยางไปด้วยทำไม แม่กำลังคิดว่าผมจะ...?” ผักตบละคำพูดเอาไว้ในฐานที่เข้าใจกันดี

“ไม่คิดหรอกแกท้องชัวร์..เมนส์มาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
ลูกชายอึ้งหลังฟังคำพูดของแม่เล็ก แต่ยอมปริปากบอกหมดเปลือก

“อาทิตย์ก่อน” ประจำเดือนเขามาในวันที่เจ้าชายได้ล่วงรู้
จากนั้นก็มัวแต่ยุ่งวุ่นวายเตรียมรับศึก ซึ่งมันได้หายไปเป็นอาทิตย์แล้ว

“เหอๆ ฉันเตรียมอุ้มหลานได้เลย แข็งแรงปานม้าศึกขนาดนั้น”
แม่เล็กทำท่าทางหัวเราะได้น่ากลัวไม่น้อย ดูเหมือนจงใจหยอกเย้าผักตบ

“โธ่แม่!..ผมอาจจะมีมดลูกมีประจำเดือน ใช่ว่าจะต้องท้องได้น่า ผู้หญิงปกติบางคนอยากมีลูกยังมีไม่ได้
ผมอาจจะเข้าข่ายนี้ด้วย” ผักตบรีบแย้งโดยยกอ้างเรื่องที่น่าเชื่อถือ เขาไม่ได้เตรียมป้องกันเอาไว้ด้วยเลยรู้สึกหวั่นใจลึกๆ
แต่ไม่อยากนำมาเป็นข้อวิตกกังวล

“เหอะ!..แม่เข้าใจแกดีตบ เรื่องท้องไม่ท้องไม่ควรเก็บมารกสมอง สำคัญแกต้องแต่งกับเขานี่แหละ
เผื่อท้องขึ้นมาลูกแกจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เข้าใจดีใช่ไหมกับความรู้สึกขาดๆ หายๆ ของเด็กที่ไม่มีพ่อแม่”
แม่เล็กย้ำกับผักตบเป็นพิเศษ ใช่จะยุยงส่งเสริมให้ลูกไปเป็นเมียใครเขา แต่สถานภาพตอนนี้ไม่ต้องนั่งทางในใช้หมอดู
หลักฐานก็ชัดเจนว่าลูกชายกลายเป็นเมียเขาไปแล้ว ไม่มีจุดยืนในสถานนะอื่นแน่นอน..

“ผมรับปาก ไม่ยอมให้ลูกมีประสบการณ์แบบเดียวกับผมครับแม่” ผักตบยืนกรานหนักแน่น
 เขาเข้าใจเด็กที่ถูกสังคมตีตราว่าลูกกำพร้าได้ดี เขาถูกล้อเลียนถูกกดดันเรื่องนี้มาก่อน
หากมีลูกจะไม่ให้รู้สึกแบบเดียวกับสิ่งที่เขาได้รับเป็นอันขาด

“ถ้างั้นก็ต้องแต่งงาน ท้องขึ้นมาจะได้ไม่โดนหลอกเจาะไข่แดงฟรี
แกว่าแม่ควรจะเรียกสินสอดเท่าไหร่วะตบ ช่วยแม่คิดหน่อย” แม่เล็กยังคงชัดเจนด้านบุคลิก 
สองแม่ลูกมองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะขึ้นพร้อมกัน..

“ฮะฮ่าๆๆ...งกอีก..ฮะฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะประสานกันดังขึ้นภายในห้องของผู้เป็นแม่
ไม่ว่าเรื่องราวเครียดหรือไม่ สุดท้ายสองแม่ลูกจะทำให้เป็นเรื่องขบขันไปทุกครั้ง
เหมือนเป็นวิธีแก้ปัญหาของพวกเขาสองคน ยามประสบกับเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ให้มองเป็นเรื่องขบขันแทน

ผักตบนึกขอบคุณโชคชะตา ที่ทำให้เขามีแม่ประเสริฐดีเลิศอย่างแม่เล็กซึ่งเข้าใจในตัวลูกมาก
ไม่เคยบีบคั้นกดดันให้เขาต้องเลือก หรือต้องทำสิ่งไหนมาก่อน ทุกอย่างแม่เพียงแค่คอยชี้แนะ
พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างลูกเสมอ เขาจึงไม่เคยรู้สึกขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย
กลับรู้ว่ามันมีค่ามากมายมหาศาล ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็จะมีแม่คอยอยู่เคียงข้างเสมอมา

“ฮะฮ่าๆ ไม่ต้องกำหนดตายตัวหรอกครับ ผมเป็นพระชายาสมบัติของพระชายา
 เท่ากับเป็นสมบัติของแม่พระชายาเหมือนกันแม่..ฮะฮ่าๆๆ” สองแม่ลูกหัวเราะน้ำตาเล็ด
ย้อนไปสองสัปดาห์ก่อน ยังอยู่บ้านไม้ซอมซ่อในสลัมแออัด ฐานะถูกจัดให้อยู่ในจำพวกคนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำอยู่เลย

มาวันนี้ลูกชายกำลังจะแต่งงาน กับว่าที่กษัตริย์ในอนาคตได้รับตำแหน่งเป็นพระชายา
ส่วนผู้เป็นแม่มีลูกเขยเป็นถึงเจ้าชาย กลายเป็นแม่สะใภ้พระชายาไปเรียบร้อย อาหารการกินไม่ต้องพูดถึง
ที่อยู่อาศัยเรียกวังไปแล้ว มีข้าราชบริพารคอยรับใช้ปรนนิบัติดุจเจ้าขุนมูลนายอีกต่างหาก

เดินเหินไปทางไหน มีแต่คนค้อมหัวให้ความเคารพ สิ่งเหล่านี้กลับได้มาปานโชคอำนวย
ซึ่งเธอไม่คิดไม่ฝันเลยสักนิด เด็กทารกที่เก็บได้จากกอผักตบในคลองเน่าเหม็นสลัมแถวบ้าน
นำมาเลี้ยงเป็นลูกให้ความรักปานแก้วตาดวงใจ จะนำพาประสบการณ์ชีวิตซึ่งไม่สามารถบรรยายได้ให้เธอมีโอกาสสัมผัส
ด้วยวัยสาวใหญ่ย่างเข้าสู่วัยชราแล้วด้วยซ้ำ ยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเสียอีก..

“แม่อวยพรให้ล่วงหน้า ขอให้ตบลูกของแม่พบกับความสุขในการเริ่มต้นชีวิตคู่ มีครอบครัวผาสุก
มีหลานตัวน้อยให้แม่ไวๆ แม่รักตบนะลูก” พูดพร้อมกับลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน แววตาของผู้เป็นแม่ที่มองลูกชาย 
ยังคงเป็นแววตาแสนอบอุ่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักบริสุทธิ์มหาศาล

“ผมก็รักแม่ครับ ไม่มีใครที่ผมจะเคารพเทิดทูนเท่าแม่แล้ว”
ผักตบตื้นตันใจมาก เขารับรู้ความรักความอาทรของแม่ได้อย่างชัดเจน
ก่อนสองแม่ลูกจะกอดกันกลม เมื่อได้เวลาที่ผักตบต้องไปพบกับองค์ชายวายุภักษ์ตามนัดหมายไว้แล้ว..

“เจ้าพร้อมเดินทางสำรวจ อาณาเขตของไตรคานกับเราแล้วสินะ”
องค์ชายถามว่าที่พระชายาของพระองค์ หลังมาพบตามที่ได้นัดหมาย

“ผมพร้อมแล้ว เตรียมกล้องมาเก็บภาพ เพื่อจะวางแผนด้วยเลย” ผักตบตอบพระองค์กลับไป

“อืม..เรายอมรับประสิทธิภาพสิ่งประดิษฐ์ของเจ้า เพียงมีเหตุให้เสียใจนัก
กลกะลาองครักษ์ของเราเป็นตายเยี่ยงไรมิรู้ข่าว ไม่เช่นนั้นเขาย่อมไปกับพวกเราด้วย
ล่าสุดที่เราได้ข้อมูลมานั้น ทหารประตูวังรายงานว่าเขาควบขี่อาชาคู่กายออกไปในเพลาที่เราถูกพิษ
คาดว่าคงเสี่ยงชีวิตนำยาถอนพิษมารักษาเราเป็นแน่ ปานนี้เป็นเช่นไรแล้วเรากลับกังวลยิ่งนัก
เจ้าเข้าใจเราใช่ไหม กลกะลาหาใช่เพียงองครักษ์คู่กาย ยังเป็นสหายรู้ใจของเราตั้งแต่วัยเยาว์
เจ้าคิดว่าเราควรทำเยี่ยงไรดี” พระองค์สีพระพักตร์ไม่สู้ดีเท่าไหร่ หลังเปิดเผยพระทัย
ทรงห่วงใยองครักษ์ส่วนพระองค์ให้ผักตบรู้

“ผมก็ว่าเขาหายหน้าไปไหนเสียอีก นึกว่าเสด็จพ่อของคุณไหว้วานให้ไปทำภารกิจ
ไม่คิดจะบ้าบิ่นไปเสี่ยงตายเอายาถอนพิษเลยนะเนี่ย หายไปขนาดนี้ไม่ต้องเดาให้ปวดหัว
คงถูกจับตัวไว้เรียบร้อย ถ้าไม่โดนจับคงกลับมาแล้วครับ แต่คุณไม่ต้องกังวลว่าเขาจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
ถ้าหากเขาตายปานนี้อีกฝ่ายคงส่งข่าว หรือไม่คงข่มขู่พวกเรามาแล้ว ผมคิดว่าเขาถูกจับเป็นตัวประกันเสียมากกว่า
รอยื่นเงื่อนไขต่อรองกับคุณแทน ข้าศึกรู้ฐานะเขาดีว่าสำคัญกับคุณแค่ไหน คงไม่ผลีผลามทำอะไรเขาหรอก
เราคงต้องรอเพียงอย่างเดียว” ผักตบให้แนวคิดไปตามน้ำหนักที่น่าจะเป็น เขามั่นใจกลกะลายังไม่ตาย
 ที่จริงเขาชมชอบองครักษ์ปากหนักผู้นี้เป็นการส่วนตัว อีกฝ่ายดูหนักแน่นเด็ดเดี่ยว ตัดสินใจรวดเร็วในทุกสถานการณ์
หลังจากได้คลุกคลีร่วมมือกันมา จนพอจะเรียนรู้อุปนิสัยอยู่พอสมควร

กลกะลาไม่ใช่คนไม่มีสมอง บางครั้งการด่วนตัดสินใจทำอะไรไป เป็นเพราะคนผู้นี้จงรักภักดีต่อผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ
ชนิดยอมตายแทนได้เลย จึงสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นองครักษ์คู่กายมากที่สุด การเสี่ยงไปชิงเอายาถอนพิษ
โดยไม่ปรึกษาใคร คงเพราะไม่อยากให้ทักท้วง ลองได้ตัดสินใจแน่วแน่ไปแล้วล่ะก็นะ สำคัญระยะเวลาที่มหาโหราผู้เฒ่ากำหนด
 ย่อมเป็นเงื่อนไขบีบบังคับให้เขาต้องไปเสี่ยง ไม่มีใครคิดว่าผักตบจะยอมช่วยหรอก
ในเมื่อเขาไม่เคยแสดงท่าทีให้ใครคาดหวังเสียด้วยสิ..

“เจ้ากล่าวเช่นนี้เราค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หากจับกุมไว้กลกะลาย่อมอดทนได้
 เขากับเราฝึกฝนทักษะผ่านความทรมานมิใช่น้อย ต้องรอให้เราจัดการธุระทางนี้เสียก่อน
เราจักรีบไปช่วยเขาด้วยตัวเอง” องค์ยุพราชหนุ่มรู้สึกโล่งพระทัยขึ้นมามาก หลังผักตบยกเหตุผล
ซึ่งมีความเป็นไปได้แลดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือที่สุด บุรุษหนุ่มผู้นี้มีไหวพริบปฏิภาณเฉลียวฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก
พระองค์ทรงแอบชื่นชมภายในพระทัยเพียงลำพัง..

“อืม..สอนผมควบคุมพลังเทพมหาธาตุให้คล่องก่อน ผมจะไปช่วยเขากับคุณด้วย
อย่างน้อยตอบแทนที่เขายอมขายหน้า ผายลมช่วยชาติเพราะคำสั่งผมมาแล้ว ผมไม่ปล่อยให้เขาถูกจับไว้นานเด็ดขาด”
องค์ชายฟังว่าที่พระชายาพระองค์เอ่ยวาจาจากใจ รู้สึกภาคภูมิพระทัยยิ่งนัก พระองค์ทรงเลือกรักคนไม่ผิด
บุรุษที่เป็นชายาคู่ขวัญมีจิตใจกว้างขวางห่วงใยบริวารเยี่ยงนี้ สมกับเป็นชายาคู่บัลลังก์ของพระองค์แล้ว

“เช่นนั้นจงเรียนรู้ หากเจ้าต้องการจักใช้พลังมหาธาตุ มิว่าเรียกใช้มหาธาตุชนิดใด จงกำหนดคำสั่งภายในใจ
ตั้งจิตให้มั่นด้านรูปลักษณ์คุณสัมบัติตามที่เจ้าปรารถนา ควบคุมให้ได้อย่างที่ต้องการ เยี่ยงนี้มิยากเย็นอันใดแล้ว
เว้นเสียแต่เจ้าออกคำสั่งโดยมิกำหนดอันใด พลังที่ปรากฏย่อมไม่สามารถควบคุมได้ เป็นไปตามความนึกคิดชั่ววูบแล้ว
พอจักเข้าใจในหลักการที่เรากล่าวหรือไม่” พระองค์เริ่มสอน ให้เขารู้จักวิธีควบคุมพลังของเทพมหาธาตุ
ก่อนลูกศิษย์จำเป็นจะค่อยทำความเข้าใจทดลองเรียกใช้สายลม จนทำให้เขารู้แนวทาง
การนำเทพมหาธาตุออกมาใช้เป็นผลสำเร็จ

“ที่แท้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ผมชักเข้าใจแล้ว ว่าแต่เราจะไปสำรวจนครของคุณกันได้หรือยัง จะไปยังไง”
ผักตบถามองค์ชาย หลังช่ำชองการเรียกเทพมหาธาตุออกมาใช้เป็นที่พอใจแล้ว

ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2014 09:57:39 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




“เรากับเจ้า จักควบขี่เจ้าไต้ฝุ่นไปด้วยกัน”

“ห๊ะ! ว่าไงนะ” พระองค์ไม่ตอบ ทรงแย้มโอษฐ์อย่างหล่อเหลาก่อนเป่าปากวี๊ดวิ้ว
เสียงกีบเท้าของอาชาคู่บารมีดังมาแต่ไกล พริบตาเดียวก็มายืนยืดคอร้องฮี้ๆ อยู่ด้านหน้าคนทั้งคู่

“เออ!..แน่ใจจะให้ผมขี่ไต้ฝุ่นไปกับคุณ” ผักตบถามกึ่งอายปนเขิน
นี่เป็นอีกครั้งแล้ว ที่เขาจะต้องนั่งหลังม้าร่วมกับเจ้าชาย

“ย่อมเป็นเช่นนั้น เรามิต้องการให้เจ้าลำบาก แม้นเจ้าไม่ทุกข์ร้อน
 แต่เรากลับแน่ใจว่าบั้นท้ายเจ้าคงไม่สมบูรณ์นัก เราจึงเน้นอานม้าสำหรับให้เจ้านั่งนุ่มนิ่มเป็นพิเศษ
เช่นนั้นคงช่วยให้ลดความทรมานลงไปมิน้อย สำคัญเราจักใช้เทพมหาธาตุสร้างเกราะคุ้มกาย
มิให้เจ้ากระทบกระเทือน เช่นนี้ดีหรือไม่” ผักตบหน้าแดงอีกจนได้ เขารู้ตัวว่าแม้จะเดินเหินไม่ลำบากแต่ใช่จะไม่เจ็บก้น
ไม่นึกว่าอีกคนจะละเอียดอ่อน ถึงกับเตรียมการไว้ให้

“ขอบคุณที่ห่วง เอาเป็นว่าคุณแนะวิธีสร้างเกราะป้องกันร่างกายให้ผมทดลองทำขึ้นเองดีกว่า
ไม่ต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ ผมจะได้ลองใช้ให้คล่องไปด้วย” ผักตบไม่ปฏิเสธในสิ่งที่อีกฝ่ายคิด
แค่ต้องการสร้างเกราะมหาธาตุด้วยตัวเอง

“เจ้าจงกระทำเช่นเดียวกับการเรียกมหาธาตุวายุ เพียงกำหนดจิตให้มหาธาตุกลายเป็นผนึกไร้สภาพ
 คุ้มครองกายเจ้าแทน” คำเฉลยที่เปล่งจากโอษฐ์ได้รูป ซึ่งแย้มสรวลส่งให้ ผักตบเข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่าย
เขาเริ่มลงมือเรียกมหาธาตุวายุ กำหนดคำสั่งผนวกความต้องการขึ้นมาในใจ
ทันใดค่อยรู้สึกรอบกายมีมวลอากาศเข้ารายล้อม เหมือนผนังยืดหยุ่นที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
กำลังทำหน้าที่คุ้มครองร่างกายเขาอยู่

“ฮะฮ่าๆๆ..รู้สึกเหมือนอยู่ในถุงลมเห๊ะ..ฮะฮ่าๆๆ” ผักตบหัวเราะชอบใจใหญ่
ไม่คิดว่าเรื่องเหลือเชื่อจักเกิดขึ้นกับเขาจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ได้ฝัน ทุกอย่างเป็นความจริงแท้แน่นอน

“ไปกันเถิด เราจักมุ่งตรงไปยังแต่ละทิศของนคร เพื่อให้เจ้าได้เห็นความลำบากของไพร่ฟ้า
แหล่งน้ำสำคัญที่ต้องฟื้นฟู ให้พวกเขาได้ทำกิน” พระองค์ทรงดำรัส ค่อยถือวิสาสะเอื้อมพระหัตถ์
ยกร่างผักตบขึ้นนั่งยังอานม้าบนหลังไต้ฝุ่น อาชาแสนรู้กลับสงบนิ่ง ยอมรับผักตบประดุจนายของมัน
โดยไม่แสดงท่าทางพยศ ก่อนพระองค์จะโหนวรกายนั่งซ้อนด้านหลัง ค่อยเอื้อมหัตถ์จับสายบังเหียน
แล้วส่งสัญญาณให้อาชาคู่พระบารมี ห้อตะบึงเดินทางไปในทันที เป้าหมายคือเขตแดนของนครไตรคานทั้งหมด
ให้ผักตบได้สัมผัสวิถีไพร่ฟ้า โดยไม่ให้มีทหารติดตามมาด้วย ทรงเชื่อมั่นว่าสามารถดูแลความปลอดภัยได้ด้วยองค์เอง

“อืม..ไปเลยเจ้าชาย” ผักตบกลับไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกของอานม้าแม้แต่นิดเดียว
เหมือนนั่งบนถุงลมนุ่มนิ่มไปแล้ว ที่รับรู้ได้ตอนนี้คืออ้อมพระกรแกร่งทรงรวบกอดไว้แนบชิด
พระอุระกว้างทาบทับอยู่แผ่นหลังจนสัมผัสเสียงเต้นของหัวใจได้ยินชัด
เป็นเพราะองค์ชายวายุภักษ์ทรงกำหนดมหาธาตุวายุ เป็นเกราะกำบังพระวรกายใช้ร่วมกับของผักตบ

จึงกลายเป็นว่าคนทั้งคู่ อยู่ในอาณาเขตเกราะมหาธาตุด้วยกัน หาใช่ต่างคนต่างสร้างขึ้น
หากไม่ทรงทำเยี่ยงนี้เกรงว่าวรกายพระองค์คงไม่สามารถแนบชิดอีกฝ่ายได้
เกราะเทพมหาธาตุเป็นอุปสรรคขวางกั้นนั่นเอง การรวมเทพมหาธาตุระหว่างคนสองคน
 ซึ่งผ่านการหลอมรวมร่างกายย่อมไม่ใช่เรื่องลำบากอีกต่อไป ดุจเป็นคนเดียวกันไปแล้วด้วยซ้ำ

เรื่องนี้มีแต่องค์ชายเท่านั้นที่ทรงทราบ กลับมิยอมให้ผักตบล่วงรู้ พระองค์ทรงเก็บงำไว้
เพื่อไม่ให้ผักตบนำมาสร้างระยะห่าง หากผักตบรู้ถึงอำนาจของพลัง แล้วนำมากีดกันมิให้พระองค์ได้ชิดใกล้
ใยมิกลายเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ที่พระองค์จักเป็นผู้ทรมานแต่เพียงผู้เดียวเสียแล้ว

กลิ่นกายหอมกรุ่นที่ทรงสูดดมผ่านนาสิกขณะนี้ ทำให้พระองค์รู้สึกปลอดโปร่งมีความสุข
คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทรงกำชับมิให้มีหน่วยทหารอารักขาติดตามมาด้วย
ทรงต้องการอยู่กับพระชายาเป็นการส่วนพระองค์  เพลานี้นอกจากราชกิจ ยังได้แนบชิดพระชายาไปด้วยต่างหาก
>
>
“เจ้าเป็นเช่นไร รู้สึกดีขึ้นหรือยัง” องค์ชายธรณิณรับสั่งถามบุรุษหนุ่มที่นอนอยู่ในรถเทียมม้า
ซึ่งใช้กระโจมดัดแปลงทำขึ้น ใช้อาชาถึง 5 ตัว สำหรับให้เชลยหนุ่มของพระองค์พำนักในการเดินทาง
 พระองค์เองก็ทรงพำนักอยู่ด้วย ยกกองทัพเดินทางกลับสู่เวฬุวรรณนคร

กลกะลาไม่ตอบคำ นอกจากชำเลืองหางตามองอีกฝ่ายแวบเดียว ก่อนจะเบือนกลับไปนอนนิ่ง
ไม่กระดิกร่างกายแม้แต่น้อย ทานข้าวเขาก็ถูกบังคับให้กิน รู้สึกร่างกายเหมือนจะป่วยไปแล้ว
ไม่มีแรงเจ็บระบมไปทั้งสะโพก แต่องครักษ์หนุ่มไม่ได้แสดงท่าทางอันใด ตั้งแต่รู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย
 เขาก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาตั้งแต่นั้น จนขณะนี้ย่างเข้าสู่เขตนครใต้อาณัติของเวฬุวรรณแล้ว
 ซึ่งพระปิตุลาทรงมีรับสั่งให้พักกองทัพที่นครแห่งนี้ รุ่งขึ้นค่อยเดินทางกลับเวฬุวรรณต่อ

“ข้าถามเจ้าใยมิตอบคำ ขืนเจ้าเมินเฉยข้าอีก ข้าจักจับเจ้าสังวาสให้ได้อายบนรถม้าเสียเดี๋ยวนี้”
พระองค์ทรงขู่องครักษ์จอมโอหัง ด้วยไม่เห็นวิธีใดจะทำให้อีกฝ่ายยอมอ่อนข้อได้ นอกจากยกอ้างทำให้อาย

“หึ! ข้าจักเป็นเยี่ยงไร ธุระกงการอันใดท่านเล่า ตัวข้าก็แค่เชลยศึก ซึ่งพลาดท่าให้ท่านจับไปกักขังก็เท่านั้น
ยังมีสิ่งใดให้ข้าหลงเหลือศักดิ์ศรีต้องรักษาไว้อีกหรือ ท่านได้ย่ำยีสังวาสข้าประหนึ่งคณิกา
ในซ่องนางโลมไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จักต้องเกรงกลัวอันใดกับความอายกันอีก”

“ฮะฮ่าๆๆ..ข้าชมชอบยิ่งนัก ยามเจ้าใช้วาจาเสียดแทงเยี่ยงนี้ ทำให้ข้าได้รู้หัวใจเจ้าใช่ไร้ความรู้สึกเสียทีเดียว
 เจ้าย่อมเหนือกว่าคณิกาในซ่องนางโลมเป็นแน่แท้ ด้วยข้ามิเคยใช้บริการจากนางเหล่านั้นแม้แต่น้อย
หญิงงามนับไม่ถ้วนทั้งกุลธิดาสูงศักดิ์ในตระกูลชั้นสูง หรือขัตติยนารีที่ตกเป็นนครใต้อาณัติ
ต่างยินยอมสังวาสกับข้าด้วยความเต็มใจเสียยิ่งกระไร มีอยู่ไม่น้อยแก่งแย่งชิงดีกัน
ให้ได้ร่วมเตียงกับข้าในยามราตรีเล่า เจ้าสมควรภาคภูมิใจดอกจึงควรถูก ที่ได้รับเกียรติโดยข้ามิได้หมางเมินเจ้า
กลับร่วมสังวาสนับครั้งไม่ถ้วน ถือเป็นหนแรกที่ข้าใช้พลังในการนี้ไปมากโข อย่างที่มิเคยกระทำกับผู้ใดมาก่อน
ใครใช้ให้เจ้าเร่าร้อนยั่วกำหนัดข้าไม่รู้จักจบสิ้น นั่นเป็นเพราะเจ้าดอกที่กระทำขึ้นเอง”

“เหอะ!ท่านช่างกล้าป้ายความผิดให้ผู้อื่นอย่างหน้าไม่อายไปแล้ว  มิใช่ท่านวางยาข้าหรือไร
จึงทำให้ไม่สามารถต่อต้านท่านได้ เยี่ยงนี้จักเป็นชายชาตินักรบเยี่ยงไรกัน
ลอบทำร้ายผู้อื่นหาได้มีความสง่าผ่าเผยอันใดไม่  ข้ากลับไม่คิดมาก่อน
 เวฬุวรรณนครจักมีรัชทายาทเยี่ยงท่านอยู่ด้วย”  กลกะลาจ้องอีกฝ่ายอย่างจะเผาด้วยเพลิงโทสะ
แต่เขาทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เนื่องจากร่างกายถูกสะกดด้วยมนตราสลายพลัง
ทำให้ร่างกายอ่อนเปลี้ยเหมือนคนทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไปแล้ว

“เจ้าก็ใช่ตัวดีนัก ลักลอบเข้าค่ายทหารของข้าเยี่ยงโจรป่า เยี่ยงนี้ยังกล้าเอ่ยอ้างชายชาตินักรบ
หรือองครักษ์เอกแห่งไตรคานเยี่ยงเจ้า ซึ่งแอบลักลอบมิกล้าเปิดเผยอำพรางกระทั่งหน้าตา
มาถึงถิ่นข้าในยามวิกาล ประพฤติตนดุจโจรถ่อย จึงสมควรยกย่องเป็นนักรบแห่งไตรคานกันเล่า”
กลกะลาเผลอกำหมัดแน่น หลังถูกองค์ชายธรณิณตอกกลับให้ได้เจ็บช้ำใจเป็นยิ่งนัก
เขาหมดคำโต้เถียงอีกฝ่าย เพราะความเป็นจริงเขาเองก็ได้กระทำอย่างที่อีกคนกล่าวอ้างทั้งสิ้น
ได้แต่บอกกับตัวเองว่าเขาพลาด จำต้องตกอยู่ในฐานะเยี่ยงนี้

“หึหึ! มิมีวาจาหักล้างแล้วสิเจ้าถึงได้นิ่งเฉย ใยมิหมดความบันเทิงไปเสียแล้ว
 ข้ากลับชมชอบเจ้าตีฝีปากยิ่งนัก เอาเถิด..เพลานี้เจ้าสมควรได้พักผ่อน ขบวนทัพกำลังเข้าสู่นครไอยรา
พระบิดาข้ามีรับสั่งพักทัพที่นี่หนึ่งราตรี พรุ่งนี้ยามพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า เราจักเดินทางกลับเวฬุวรรณนคร
โดยปกติหากพักแรมที่ไอยรา ข้าต้องได้รับการปรนนิบัติจากองค์หญิงแก้วกัลยา
ราชธิดาขององค์จักรินทร์เสียทุกครั้งไป หนนี้ไม่แน่นางคงตามราวีข้าอีกเช่นเคย
 เจ้าคงต้องร่วมชมฉากรักของข้าเสียกระมัง วีรบุรุษนักรบแห่งไตรคาน..ฮะฮ่าๆ”
กลกะลาปิดเปลือกตา ไม่ยอมมองอีกฝ่ายที่แหงนพักตร์หัวเราะอย่างลำพอง
พร้อมกับประโยคที่ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจอย่างยิ่ง 
เมื่อคนเอ่ยวาจาจงใจจะให้เขากระทำเช่นนั้นจริงล่ะก็..คงน่าสมเพชนัก

“ถวายพระพรองค์ชาย ถวายพระพรพระชายาพะยะค่ะ” หลังจากผักตบกับองค์ชายวายุภักษ์เสด็จกลับเข้าวัง
ทหารองครักษ์รีบถวายพระพร เหมือนมีเรื่องด่วนต้องการรายงาน แต่สรรพนามที่เรียกขานผักตบ
ทำเอาคนหน้าขาวหูแดงหน้าแดงในพริบตา แต่ก็จนคำพูดที่จะว่ากล่าวอะไรได้
ขณะนี้แม้แต่การนั่งบนหลังม้าไต้ฝุ่น เขายังโดนโอบกอดอย่างไม่มีคำแก้ตัว

“ตามสบายเถิด เจ้ามีอันใดถึงขวางทางเรา” องค์ยุพราชทรงรับสั่งถามขึ้นทันที
หลังพาผักตบตระเวนถ่ายรูปสำรวจพื้นที่ ต้องรีบทำการฟื้นฟูจนเสร็จเรียบร้อย ค่อยพากลับเข้าวังก็ใกล้พลบค่ำเต็มทีแล้ว

“ข้าพระองค์ใคร่ถวายรายงาน ก่อนหน้าพระองค์จักเสด็จมาถึง องค์หญิงชลธารแห่งเวฬุวรรณนครได้เสด็จมาที่นี่
แจ้งความจำนงขอเข้าเฝ้าพระชายา พระนางยืนกรานจักขอเข้าเฝ้าพระชายาให้ได้..พะยะค่ะ”
องค์ชายกับผักตบต่างเลิกคิ้วแปลกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าองค์หญิงชลธารจะเดินทางมาขอพบผักตบ

“นางมาเพียงลำพัง หรือมีผู้ใดติดตามมาด้วย” องค์ชายวายุภักษ์ทรงรับสั่งถาม

“มาเพียงลำพังพร้อมอาชาคู่กายพะยะค่ะ ทรงแจ้งว่ามีข้อมูลสำคัญจักถวายรายงานพระชายา
พร้อมทั้งได้นำยาถอนพิษเบญจมาศดำมาถวายการรักษาองค์ชายด้วยพะยะค่ะ” คำตอบที่ได้รับ ทั้งคู่ยิ่งสงสัยนัก

“เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใดแล้ว” ผักตบปล่อยเป็นหน้าที่องค์ชายรับสั่งถามโดยไม่แทรกขัด

“ทรงพำนักตำหนักรับรองอาคันตุกะ ตามที่องค์เหนือหัวทรงรับสั่งพะยะค่ะ
พระองค์ทรงรอองค์ชายกับพระชายาเสด็จกลับมาเสียก่อน จักได้ให้เข้าเฝ้าพร้อมกันยังตำหนักส่วนพระองค์
บัดนี้ท่านมหาโหราพร้อมด้วยพระมเหสี พระปิตุลา องค์หญิงศศิธร ทรงประทับรออยู่แล้ว..พะยะค่ะ”

“เช่นนั้นเราจักไปเดี๋ยวนี้ เจ้าให้คนไปเชิญองค์หญิงชลธารมายังตำหนักเสด็จพ่อได้เลย
อย่าลืมให้คนไปเชิญพระมารดาพระชายามาพร้อมกันเสียด้วย หากเรื่องนี้เจาะจงพระชายาล่ะก็
มิควรที่จักให้พระมารดาของชายาข้าไม่ได้ร่วมรับรู้ การนี้อย่างไรต้องมีเงื่อนงำแน่นอน”
องค์ชายกลับมีพระบัญชาให้นายทหารองครักษ์ ไปเชิญแม่เล็กของผักตบเข้าร่วมด้วย
พระดำรัสทุกถ้อยคำกลับยกย่องให้เกียรติเขาและแม่อย่างเห็นได้ชัด
ตำแหน่งที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการนั้น เหล่าข้าราชบริพารกลับเรียกขานแล้วเรียบร้อย
ผักตบได้แต่ยอมรับโดยไม่มีทางปฏิเสธฐานะใหม่นี้อีกแล้ว ตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทวายุภักษ์...


มาอัพตามนัดแล้วนะคะ เจอกันอีกทีขอเป็นวันเสาร์เลยนะคะ ติดตรุษจีนค่ะ
มีเรื่องต้องทำเยอะพอสมควรทีเดียว

สำหรับคนอ่าน..ที่อาจมีแง่มุมสงสัยถึงความนึกคิดของตัวละคร หลายคนเข้าใจในมุมของตัวละคร
ได้เม้นท์แสดงความคิดเห็นตรงใจของคนเขียน แต่หลายคนอาจจะยังคลุมเครืออยู่นะคะ เราจึงถือโอกาสอธิบายเพิ่มเติม

องค์หญิงชลธาร นางได้รับการเลี้ยงดูจากพระปิตุลา ได้รับความรักการดูแลเอาใจใส่ดุจบิดา ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ที่นางจะเชื่อฟังพระปิตุลา โดยไม่มีเรื่องเคลือบแคลงสงสัย ในขณะผักตบคือคนแปลกหน้า ต่อให้รู้ฐานะว่าเป็นพี่น้องฝาแฝด
แต่ความผูกพันใกล้ชิดไม่เคยมีให้กันมาก่อน พอได้รับการบอกเล่ามาแบบนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะเชื่อเช่นกัน
คนเราทุกคน ย่อมไว้เนื้อเชื้อใจกับคนที่เรารักเคารพมาเป็นอันดับแรก ก่อนจะเชื่อคนอื่นต่อให้เป็นสายเลือดเดียวกัน
แต่ก็อย่างที่บอก ว่าความผูกพันใกล้ชิดไม่ได้มี ที่เหลือต้องให้นางได้เรียนรู้เอาเองล่ะค่ะ เรื่องนี้ยังต้องตามกันต่อ..อิอิ

กลกะลา ด้วยนิสัยผู้ชายที่เป็นองครักษ์ภักดีกับผู้มีพระคุณดุจจ้าวชีวิต
เมื่อบุคคลผู้นั้นชีวิตแขวนบนเส้นด้าย เขาย่อมไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือ
แม้ว่าจะเกินกำลังความสามารถ แค่มีโอกาส 1% คนที่เป็นนักรบย่อมไม่หวาดกลัวหรือคิดเยอะ
แต่ที่เขาพลาด ก็เตรียมใจตายมาล่วงหน้าแล้วเช่นกัน หากยังมีชีวิตรอด
แถมได้รับการบอกเล่าว่าคนที่เขาต้องการช่วยชีวิต ก็รอดชีวิตไม่ตายอย่างที่คิด
จะมีความจริงมากน้อยแค่ไหน เขาก็ต้องรักษาชีวิตไปดูให้รู้เห็นด้วยตา

การที่คนเราตกอยู่ในสถานการณ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ต้องรอจังหวะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส
กลกะลาคือคนประเภทนี้ ไม่ใช่โง่หรือสิ้นคิด แต่เพราะเป็นคนที่คิดเป็น แต่ก็ย่อมพลาดได้เมื่อเหตุการณ์บีบบังคับ

นักโทษเก่งๆ มากมายหลายคนที่ติดคุก โดนตำรวจจับเข้าห้องคุมขัง พวกเขามีฝีมืออาจจะเก่งกว่าตำรวจด้วยซ้ำ
แต่กลับไม่มีทางหนีรอดไปได้ เป็นเพราะสาเหตุอะไร นั่นเราก็คงต้องวิเคราะห์ไม่ต่างองครักษ์หนุ่มกลกะลา
ซึ่งยากกว่าตรงที่ สู้องค์ชายธรณิณไม่ได้อีกต่างหาก..รอแค่โอกาสเหมาะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ปล.ขอบคุณแฟนนิยายที่น่ารักทุกคนค่ะ เรื่องนี้ยังอีกหลายตอนกว่าจะจบ.. :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2014 09:59:32 โดย luxilove »

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :z13: ได้จิ้มอีกละดีใจ

กรี๊ด..............รับตำแหน่งใหม่ให้หนูตบ

รู้สึกวายุจะขี้แกล้งนะ ไม่ค่อยขรึมละ

หนูตบก็ดูน่ารักขึ้น รอลุ้นอุมหลานกับแม่เล็กด้วยคน คิๆ

สงสารกลกะลาจับใจ ขอให้โอกาสที่จะเอาคืนมาถึงเร็วๆ

ชลธารมาแล้วแต่ก็ดีที่วายุยังเฉลียวใจว่าต้องมีเงื่อนงำ


รอตอนหน้านะคะ แตก็ยังอยากอ่านเร็วๆจังเลย :mew2:


ปล.ขอให้หญิงชลเห็นหญิงศิแล้วตกหลุมรักกัน เพี้ยง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2014 15:40:58 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ nanazaa002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกมาก รออ่านตอนต่อไป o13

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
องค์ชายแกเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวัน

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เราเชื่อว่าผักตบจะไม่ตกหลุมง่ายๆ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดนี้ เจอคนมากเล่ห์มาก็หลายคน

คำว่าพี่น้องบางทีสายใยมันไม่ได้ผูกพันธ์กัน ความไม่เชื่อใจกันย่อมมี  หวังว่าผักตบจะไม่ตกหลุมพรางงง



ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ผักตบหน้าแดงตลอดเลย ><
องค์ชายก็เจ้าเล่ห์เชียวอะ รักผักตบมากๆนะคะองค์ชาย
ลุ้นว่าน้องผักจะแก้เกมแผนลวงของชลธารได้ไหมน๊าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 o13   คุณแม่และผักตบ  เป็นการวางแผนอนาคตที่ดีมาก   :hao3:

  กลกะลาน่าสงสารไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอีก

+1  รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
อดใจรอให้รวมเล่มไม่ไหวแล้ว :hao7:

สงสารกลกะลาค่ะ

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
วายุเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ เหมาะกับผักตบดีอ่าน่ะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
อ่านะคะ อืมมม ตอนนี้ก็เกือบจะได้เจอเจ้าหญิงชลแล้ว ต่อๆไปเรื่องคงวุ่นวายมากขึ้น ผักตบน่าจะรับมือเจ้าหญิงไหวนะ อืม...หวังว่าน่ะนะ :z2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
นางมาแบ้ว
นางมารมาแบ้ว
เหอะ ผักตบกับองค์ชายจัดไปให้นางสักชุดสิ
นางจะได้เงิบ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ขอให้ความฉลาดและกะล่อนของผักตบ กับความฉลาดของแม่เล็ก พาให้ผ่านกลโกง มารยา ขององค์หญิงชลธารไปให้ได้เถอะ :katai2-1:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
พระชายา พระชายา ทำตัวให้ชินกับคำนี้ไว้นะ ผักตบ
แต่อีกเดี๋ยวจะได้เลื่อนเป็น ราชินี  :hao6:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
องค์ชายชอบหวานใส่พระชายาผักตบยิ่งนัก 5555
ขอให้ฝ่ายผักตบรู้เท่าทันแผนการของนังมารร้ายด้วยเถอะ

FeeDtheCAT

  • บุคคลทั่วไป
คนเขียนสุดยอดค้า

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
เริ่มแล้วสินะ  :hao5:
สงสารพ่อหนุ่มองครักษ์ องค์ชายดินนี่น่าหมั่นไส้มากก :m16:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

Renei (loveless)

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้ว ><   :mew1:
ขอบคุณมากคร้าบบบบบบบบบ


สุขสันต์วันปีใหม่จีนล่วงหน้าฮะ  o13

ออฟไลน์ roseouioui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :-[ ผักตบใช้พลังเป็นแล้ว อิๆๆๆ
เจ้าหญิงชลธาร เข้าใจน้องชายตัวเองทีเพี๊ยง
 :serius2:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
แอบจิ้นไปไกลล่ะว่าผักตบจะท้องสภาพไหน  ท้องไม่เท่าไหร่แต่ตอนคลอดนี่จิ  :laugh:

ก็ไม่รู้ทำไมคิดประเด็นนี้มากกว่าจะมากังวลเรื่องสองแฝด  เพราะเชื่อว่ายังไงซะ

เลือดก็ต้องข้นกว่าน้ำ  :z2:

ยังสงสารกลกะลาเบาๆ. ขืนได้ดูฉากรักขององค์ชายธรณินกะหญิงอื่นคงช้ำ  :z3:

เอาใจช่วยทุกคนเลยค่ะ

 :pig4:  มีความสุขที่ได้อ่านทุกตอนเลยค่ะ

บวกเป็ด

 :กอด1:

ออฟไลน์ august_may

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
พี่สาวฝาแฝดของผักตบนี่หูเบาเชื่อคนง่ายจริงๆนะ อะไรๆก็ให้เป็นความผิดผักตบหมดเลย

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อยากให้ผักตบท้อง


องค์ชายหวานๆ

ออฟไลน์ kan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
    • http://twitter.com/BMW_CHO
เค้าชอบคู่องค์ชายธรณิณกับกลกะลาอ่ะ  น่าร็อกอ่ะ :impress2: :oo1: :z1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นางมาแล้ว

ออฟไลน์ แมวอัดกระป๋อง

  • ...
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มาได้อ่านสองตอนควบเลย ยาวจุใจสุดๆ คุณlux น่ารักกกกกกกกที่สุดดดด :hao7:

เจ้าชายกับผักตบ อุ กรี๊ดดดดดด หวานมดกัดยกรังกันมากๆ อิอิคุณค่ะ เขินนนนนแทน
ดูแลสุดๆๆๆๆ อร๊ายยยยยยย ไม่ไหวจะเขิน

กลกะลา ทางนั้นท่าจะจำเลยรัก หวานๆ ขมๆ กันพักใหญ่กว่าจะเข้าที่เข้าทาง

พระปิตุลานี้มีไส้ศึกเป็นใครนี่ รายงานรวดเร็ว ว่องไว เจาะ คม ชัด ลึก จริงๆใครล่ะนี่
แอบมีปมแม่องค์ชายดิน คนคู่นี้มีความหลังเป็นอย่างไรทำให้คิดการใหญ่ได้ขนาดนี้หนอ แถมยังปริศนาการเกิดองค์ชายดินที่ปกติต้องเกิดในราชวงศ์ แถมมีแผนส่งองค์หญิงชลไปทำให้คู่ข้าวใหม่ปลามันแตกแยกกันอีก อร๊ายยยยยย อย่าเพิ่งจิยังหวานไม่อิ่มเลยยยยยยย หวังว่าองค์ชายวายุ จะฉลาดรู้ทันนางนะ เข้ามาไตรคานแบบนี้สงสัยคู่ยูริคู่โหดจะบังเกิดดดดดดหรือเปล่าาาา เป็นการจับคู่ที่น่ากลัวมาก :a5:

แทบจะรอวันเสาร์ไม่ไหววว :hao5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2014 20:07:04 โดย แมวอัดกระป๋อง »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด