@@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++  (อ่าน 594403 ครั้ง)

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



ปล.ฝากขอบคุณโมฯ ที่น่ารักทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยเช่นกัน[/color][/i]
 :pig4: :L1: :L1:


   

@@@ บทนำ @@@




                 ในความมืดมิดของราตรี ชายผู้หนึ่งแหงนมองท้องฟ้าหน้าต่างห้องนอน
เป็นห้องขนาดใหญ่งดงามวิจิตรสมฐานะคนพักอาศัย สีหน้าเขายากจะคาดเดา..ว่ากำลังครุ่นคิดถึงสิ่งใด

                  ดวงตาคมดุจเหยี่ยว คิ้วเฉียงดั่งผู้มีภูมิปัญญา รูปร่างสูงใหญ่แม้วัยล่วงเลยกลางคนไปไกลโข
กลับไม่ได้ลดทอนสง่าราศีลงแม้แต่น้อย

                 ตรงข้ามเสริมความน่าเกรงขามแลน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นอีก แม้จะพูดไม่ได้ว่ารูปงาม เมื่อเทียบอายุอานาม
คนวัยเดียวกัน กลับใช้คำว่าขี้เหร่ไม่ได้ โดยรวมทั้งน่ามองทั้งไม่ควรมอง โดยเฉพาะดวงตาเหยี่ยวยามจ้องเขม็งเมื่อใด
ใครต่อใครพากันเสียวสันหลัง หวาดกลัวกริ่งเกรงขนหัวลุกขึ้นมาดื้อๆ

                  ที่กล่าวมาเป็นเพียงบุคลิกเฉพาะตัว ไม่ได้พูดถึงอำนาจบารมีของตำแหน่ง ‘ราชครู’ อาจารย์ที่ปรึกษา
นครเวฬุวรรณ แผ่นดินทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาล มีนครแว่นแคว้นในอาณัติหลายแห่ง ปักปันเขตแดนร่วมกัน 
ตำแหน่งไม่ใช่เหตุผลหลัก ให้ขุนนางอำมาตย์รวมถึงนครต่างๆ กริ่งเกรงเขา ความสามารถด้านเวทมนต์ต่างหากไม่มีใครเทียบ
เชื่อกันว่าเขาเก่งมนตรา หาผู้ใดเทียบเทียมในยุคนี้ด้วยซ้ำ ราชครูใช้หัวแม่มือแตะไล่ยังนิ้วที่เหลือวนไปมาสีหน้าเคร่งขรึม
พักใหญ่ค่อยเปรยกับตนเองเพียงลำพัง


                 “ได้เวลาแล้วสินะ” จากนั้นแหงนมองท้องฟ้า จ้องความมืดมิดของรัตติกาล มีเพียงจันทร์เพ็ญเจิดจรัส
ดุจอัญมณีชิ้นเดียวตกแต่งผืนฟ้าสีดำ ไม่รู้หมู่ดาวดาราหายไปไหน หรือสู้รัศมีจันทร์เต็มดวงไม่ไหว ถูกแสงนวลบดบัง
แสงระยิบจ้อยไปเสียแล้ว เขายืนมือไพล่หลังท่าทางไม่อนาทรร้อนใจ ยังพอจับเค้าลางได้ เขากำลังรอบางอย่าง..

                 “ก๊อกๆ..ท่านราชครูเจ้าคะ” เสียงนางในเรียกขาน

                  “เข้ามา” น้ำเสียงทรงอำนาจตอบกลับ บานประตูค่อยแง้มเบาๆ ดรุณีนางหนึ่งเดินตัวลีบเข้าในห้อง
ท่าทางเธอกริ่งเกรงเขามากทีเดียว ค่อยยอบกายคารวะหยุดห่างเพียงไม่กี่ก้าว แจ้งความประสงค์ถึงการมารบกวนในยามวิกาล
ค่อนจะใกล้รุ่งสางในอีกไม่กี่เพลา

                   “พระนางประสูติกาลแล้วเจ้าค่ะ เหนือหัวให้รายงานท่าน” รอยยิ้มเขาจุดมุมปาก
ไม่สังเกตแทบมองไม่เห็น..เอ่ยกับเธอสั้นๆ

                    “อืม” พูดจบนำพาร่างสูงใหญ่ ก้าวออกจากห้องรับรองที่ใช้พำนัก ตรงดิ่งไปยังห้องประสูติกาลพระนางนรินทร์ธร
 ชายาคู่บรรลังก์องค์หัสดินเหนือหัวนครเวฬุวรรณ พระนางทรงพระครรภ์นานกว่าสิบสองเดือน
                    ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่ง เมื่อเทียบปุถุชนทั่วไป ซึ่งตั้งท้องเพียงเก้าเดือนก็มีกำหนดคลอดแล้ว
อาจดูแปลกพอสมควร แต่ไม่แปลกสำหรับผู้คนที่นี่ วิถีชีวิตผูกพันกับเหล่าเทพเทวา เคารพเลื่อมใสศรัทธาเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ก่อให้เกิดความสมดุลและความผาสุก บนผืนทะเลทรายมายาวนานหลายชั่วอายุคน ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ไม่แร้นแค้นลำบาก ด้วยการที่เหล่าเทพเทวา ประทานตัวแทนลงมาปกปักษ์รักษา ตลอดจนบันดาลความสมบูรณ์พูนสุข
เป็นที่รู้กันดีในนามธาตุทั้ง 4 ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ การเกิดสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติจึงเป็นความคุ้นชิน
ย่อมมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นเป็นประจำ

                       ทุกยุคทุกสมัยจากรุ่นสู่รุ่น หมุนเวียนเปลี่ยนผันนานหลายร้อยปี ธาตุทั้ง 4 จะกำเนิดในนครต่างๆ
จัดเป็นสิ่งวิเศษใช้ถ่วงดุลอำนาจต่อรองกับนครที่เหลือ ผู้ครองธาตุหรือ ‘มหาธาตุ’ มักกำเนิดวรรณะกษัตริย์
ทำให้แต่ละนครต่างเคยเป็นผู้นำนครแว่นแคว้นมาแล้วทั้งสิ้น
                       อาศัยหลักผืนแผ่นดินที่มองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากทะเลทรายกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
จะพลิกฟื้นให้อุดมสมบูรณ์ได้นั้น ย่อมอาศัยธาตุใดสำคัญเป็นที่สุด แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด ‘ธาตุน้ำ’ หรือวารีธาตุ
คือปัจจัยแก้ไขสถานการณ์ หากนครใดมีผู้ถือครองวารีธาตุถือกำเนิด นครนั้นจักมีอำนาจต่อรองกับนครที่เหลือ
บรรดามหาธาตุทั้ง 4 ยกย่องธาตุน้ำยิ่งใหญ่ แถมมีพลังมากกว่าธาตุทั้งหมดอีกต่างหาก

                       พอถึงยุคองค์หัสดิน ซึ่งมีอำนาจเหนือนครต่างๆ แม้นครเวฬุวรรณไม่มีผู้ถือครองวารีธาตุ
กลับไม่มีนครใดหาญกล้าต่อต้าน พวกเขาต่างไร้ทายาทถือครองมหาธาตุทั้งสี่เช่นกัน

                        ระหว่างที่แต่ละนครยังไม่มีผู้ถือครองธาตุกำเนิด องค์หัสดินกลับมีราชครูจอมขมังเวทเป็นที่โจษขาน
เช่นนี้มีใครหน้าไหนกล้าต่อกร พวกเขาต่างรอเวลาให้มหาธาตุถือกำเนิด กระทั่งภรรยาราชครูตั้งครรภ์คลอดบุตรชาย
ผู้ถือครองธาตุดิน เสริมรากฐานความแข็งแกร่งให้นครเวฬุวรรณดุจราชสีห์ติดปีก ถึงจะยังไม่ใช่วารีแห่งธาตุก็เถอะ
                         หลายคนตั้งข้อสงสัย ทำไมมหาธาตุถือกำเนิดครรภ์ภรรยาราชครู ประวัติเก่าแก่ไม่เคยมีปรากฏ
ว่าเหล่าเทพมหาธาตุถือกำเนิดในวรรณะต่ำกว่าเจ้าครองนคร ซึ่งไม่สืบสายโลหิตของกษัตริย์
                        ข้อสงสัยนี้ไม่มีคำตอบ แต่ไม่มีใครกล้าไม่ยอมรับบุตรชายราชครู ว่าเขาไม่ใช่ผู้ถือครองธาตุดิน
หลักฐานชี้ชัดตรงราวนมอกซ้าย มีสัญลักษณ์มหาธาตุปรากฎชัด ราชครูตั้งชื่อว่า ‘ธรณิน’ แปลว่าแผ่นดิน 

                       ความสามารถผู้ถือครองธาตุ ย่อมมีพลังพิเศษเรียกใช้ธาตุตามที่ตนครอบครอง สามารถฝึกฝนควบคุมพลังธาตุ
ที่ติดตัวจนเชี่ยวชาญ จักใช้เป็นอาวุธหรือสร้างประโยชน์ได้ดั่งใจปรารถนา เช่นนี้ผู้ถือครองมหาธาตุ ย่อมไม่ต่างศาสตราวุธ
ที่น่ากลัว ตามอานุภาพพลังของพวกเขา ซึ่งสามารถนำมาใช้ประหัตประหารในการสงครามนั่นเอง

                      บุคคลใดถือธาตุใด สังเกตได้จากสัญลักษณ์ติดกายบริเวณราวนมอกซ้ายตำแหน่งของหัวใจ
คือจุดที่ปานรูปธาตุจักปรากฏ ตามบันทึกตำราถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

                       นครเวฬุวรรณมีธาตุดินคือบุตรชายราชครู จากนั้น 1 ปี พระชายาท้าวอนิละนครไตรคาน
ประสูติโอรสถือครองธาตุลม องค์อนิละประทานพระนามองค์ชายน้อยว่า ‘วายุภักษ์’ สายโลหิตผู้ครองนคร
กลับไม่ใช่วารีธาตุเช่นกัน องค์หัสดินและราชครูจับตาดูเป็นพิเศษ องค์ชายน้อยย่อมเป็นภัยคุกคาม
ต่อเสถียรภาพของนครเวฬุวรรณในอนาคต
                      พระครรภ์ชายาองค์หัสดิน จึงเป็นสิ่งที่ผู้นำนครรวมถึงประชาชนต่างลุ้นอย่างจดจ่อ
รอดูทารกจักถือกำเนิดวารีธาตุหรือไม่

                       “ราชครู..ท่านมาแล้ว” องค์หัสดินทักผู้เป็นอาจารย์ เมื่ออีกฝ่ายอยู่ในสายพระเนตร

                        “ถวายพระพร..ฝ่าบาท” กล่าวจบค้อมศีรษะให้ตามธรรมเนียม

                         “ไม่ต้องมากพิธี ข้ากำลังกังวล พระชายาเจ็บครรภ์ค่อนคืน กระทั่งแม่นมรายงานเพลาประสูติกาล
จึงให้นางในไปตามท่านมาพบ หวังว่าคำทำนายของท่านจักเป็นจริง ไม่ผิดไปจากนั้น” เหนือหัวรับสั่งกับราชครู

                         “อย่าได้กังวลพระทัย ข้าพระองค์ทำนายไว้ไม่น่าเป็นอื่น พระนางต้องให้ประสูติกาลผู้ครองวารีธาตุพะยะค่ะ”
องค์หัสดินถอนพระทัยเบาๆ รู้สึกคลายความกังวลขึ้นมาก

                         “ข้าขอบใจท่าน ฟังแบบนี้ค่อยรู้สึกดี ทำไมแม่นมกับหมอหลวงไม่ออกมาซักที”
แม้จะควบคุมองค์สมเป็นผู้ครองนคร ยังมิวายร้อนรุ่มพระทัย

                        “พระองค์ทรงพักผ่อนก่อนเถอะพะยะค่ะ ของแบบนี้เร่งรัดไม่ได้ พอถึงเวลาเหมาะสมทรงมีประสูติกาลเธอเอง
ทรงห่วงพระวรกายดีกว่า หากมีประสูติกาล ข้าจักให้นางในรีบถวายรายงานทันทีพะยะค่ะ” คำเตือนราชครู ยังผลให้องค์หัสดิน
ไม่สามารถโต้แย้ง พระองค์เชื่อฟังพระอาจารย์  ด้วยบัลลังก์มั่นคงแข็งแกร่ง กำลังหลักคือราชครูผู้นี้ อย่างไม่สามารถบิดเบือน
เป็นอื่นได้ จะว่าไปแล้วราชครูดุจญาติผู้ใหญ่ องค์หัสดินยำเกรงอยู่หลายส่วน พระองค์จึงได้แต่ยอมรับฟังคำแนะนำ

ต่อด้านล่าง

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2014 13:50:56 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
- 2 -



                        “เช่นนั้นฝากท่านด้วย”

                        “ข้าพระองค์น้อมรับพระบัญชา” ค้อมศีรษะส่งเสด็จ รอจนคล้อยหลังองค์หัสดิน
สีหน้ายากคาดเดาความคิด กลับเรียบสงบดังน้ำไร้ระลอก จับกระแสใดๆ ในตาเหยี่ยวไม่ได้สักนิด
กระทั่งประตูเปิดแม่นมโผล่หน้ามาดูร้อนรนกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

                        “ท่านราชครู” น้ำเสียงเอ่ยทักติดประหวั่นเกรง ที่ชัดคือความกังวลจนไม่สามารถปกปิดเอาไว้
พอเห็นผู้ยืนอยู่หน้าห้องเหมือนเจอที่พึ่งสำคัญ

                       “เป็นเช่นไรแล้ว” ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แม่นมรีบรายงานไม่รอให้อีกฝ่ายถามย้ำ
นางรู้ดีบุคคลตรงหน้ามีอำนาจแค่ไหน แม้แต่เหนือหัวยังกริ่งเกรงหลายส่วน

                       “ครรภ์พระนางมีปัญหา หมอหลวงจนปัญญา ทารกใช่มีคนเดียว” พูดถึงตรงนี้ซุ่มเสียงแผ่วโหย
ความเป็นตายรอตรงหน้า แววตาหวาดหวั่นบ่งบอกได้อย่างดี

                        ยุคสมัยพันปีก่อน การมีครรภ์แฝดถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของผู้เป็นแม่ เสียเลือดเสียชีวิต
หมดแรงขับลมเบ่ง ตายทั้งกลมมานักต่อนัก

                        การตรวจให้รู้มีเด็กแฝดยิ่งเป็นเรื่องยาก เครื่องไม้เครื่องมือใช่ว่าทันสมัย โดยเฉพาะหน่อเนื้อเชื้อพระวงศ์
ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่สามารถจับต้องลูบคลำสัมผัสผิวได้โดยตรง หมอหลวงจึงไม่สามารถวินิจฉัยล่วงหน้า
ถึงความผิดปกติของครรภ์แฝด กระทั่งวันประสูติมาถึงนั่นแหละ

                       “ครรภ์แฝดงั้นรึ” คาดไม่ถึงเช่นกัน ตามคำทำนายผู้มีบุญญาธิการถือกำเนิด
แต่ไม่สามารถระบุคือผู้ถือครองมหาธาตุหรือไม่ อัศจรรย์ครรภ์แฝด คาดไม่ถึงจริงๆ คิ้วเฉี่ยวเฉียงถึงกับเลิกสูง
รอฟังคำยืนยันจากแม่นม ด้วยใบหน้าเยือกเย็นดูสงบชวนหวาดเกรงได้อีก

                      “พระครรภ์แฝดจริงแท้เจ้าค่ะ พระธิดาน้อยประสูติแล้ว แต่ยังคงอยู่อีกพระองค์
พระนางกลับหมดลมเบ่งไปเสียก่อน หมอหลวงเกรง..เออ” แม่นมทิ้งท้ายไว้เท่านั้น..นางไม่สามารถหลุดคำพูดที่เหลือออกมาได้

                      “ข้าเข้าใจแล้ว อย่าเพิ่งแพร่งพรายอะไรไป นอกจากหมอหลวงยังมีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้อีก”
นางรีบรายงานแทบไม่ต้องเสียเวลาไตร่ตรอง

                       “ยังมีนางในอีกสองคน คอยเป็นลูกมือช่วยหมอหลวงด้านใน”

                       “งั้นนำข้าเข้าไปอย่าชักช้า” แม่นมรีบผลักเปิดประตู เบี่ยงร่างหลบให้ราชครูก้าวเข้าสู่ภายในห้อง
นางค่อยเดินตามเข้ามาทีหลัง

                       “ท่านราชครู” ประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียง หมอหลวงสูงวัยผมสีดอกเลา
บริเวณหน้าผากผุดเหงื่อเม็ดเท่านิ้วโป้ง คงหนักใจเหตุการณ์ที่รับมืออยู่ ใช่มีเพียงชีวิตพระชายาที่แขวนบนเส้นด้าย
ศีรษะเขาก็เช่นกัน หากมีสิ่งใดผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เงาหัวเขาย่อมไม่เหลือ

                        “อาการพระนางเป็นเช่นไร” ราชครูไม่รังรอถามหมอหลวง พร้อมกับสำรวจใบหน้างามพิลาศ
ของพระนางนรินทร์ธร บัดนี้ซีดเผือดไร้สีเลือดการหายพระทัยแผ่วเบา ค่อนไปทางอ่อนโรยช่างน่าเป็นห่วงยิ่ง

                        “พระนางชีพจรอ่อนแรง ทั้งที่ประสูติการยังไม่เรียบร้อย..ขอรับ” คำตอบหมอหลวง
ซึ่งไม่กล้าสบตาราชครู บ่งบอกภาวะวิกฤติเลวร้ายสุดๆ

                        “พระธิดาน้อยเล่า” ราชครูถามถึงทารกหญิง ตามที่แม่นมรายงาน

                        “อยู่กับข้าน้อย..เจ้าค่ะ” นางในโอบกอดห่อผ้าดิ้นทองไว้ในวงแขน  น่าแปลกเด็กแรกเกิดกลับไม่ร้องสักแอะ!

                        “ไม่ร้องหรืออย่างไร” คำถามราชครู

                         “พระธิดาทรงร้องก่อนหน้า ทรงบรรทมหลับไปแล้ว รบกวนราชครูตรวจดูด้วยตนเอง”
ไม่รอช้า ราชครูรับห่อผ้าดิ้นทองอุ้มด้วยแขนแข็งแรงเพียงข้างเดียว ครั้งแรกที่เห็นพักตร์ขาวนวลดวงน้อย ตัวแดงวัยแรกเกิด
รู้สึกถูกชะตารักใคร่เป็นที่สุด ก่อนคลีห่อผ้าขยายกว้างอย่างเบามือ จับจ้องตรงอกด้านซ้ายตรวจดูบางอย่าง
กระทั่งเห็นสัญลักษณ์...

                         “พวกเจ้าเห็นแล้วสินะ” กล่าวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คนรับหน้าที่ดูแลการประสูติ
ประสานเสียงแทบไม่ต้องนัดหมาย

                        “เจ้าค่ะ..ขอรับ”

                         “มหาธาตุวารี!” เสียงเอ่ยนามจากปากราชครู เป็นการยืนยันให้พวกเขาแน่ใจอีกครั้ง
การกำเนิดของผู้ถือครองมหาธาตุแสนสำคัญ

                         “พระนางไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ รายงานเหนือหัวเถอะ” แม่นมผู้เห็นอาการพระชายา
ซึ่งยังไม่มีโอกาสทำหน้าที่พระมารดาเลยด้วยซ้ำ นอนหายพระทัยกระตุกเฮือก ทรมานทุรนทุราย
พานตกอกตกใจรีบบอกให้รับรู้

                         “ปล่อยเป็นหน้าที่ข้า พวกเจ้าถอยออกไปก่อน” ไม่มีใครกล้าขัด สายตาคมดุตวัดรวบยอด
ถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด

                         ทั้งแม่นม นางใน หมอหลวงพากันถอยห่างจากเตียง ราชครูส่งห่อผ้าพระธิดาน้อยให้แม่นมรับไว้
แล้วหันกลับไปบริกรรมคาถาภาษาใดไม่มีใครแปลความหมายออก ค่อยเป่าลงตรงกระหม่อมยังเนินพระนลาฎ

                          พระชายากระตุกเกร็งร่างแข็งอยู่ครู่ใหญ่ ค่อยปรือดวงเนตรขึ้น
ก่อนตรัสครางเรียกชื่อบุคคลตรงหน้า ดังมีสติรับรู้ได้

                         “ราชครู...!!”

                         “เป็นข้า..พระนางไม่ต้องกังวลสิ่งใด ข้าถวายพลังช่วยพระนางไว้ ทรงขับลมเบ่ง..
เพื่อให้ประสูติกาลอีกสักครั้ง” คำถวายรายงานราชครูดุจมนต์สะกด พระนางนรินทร์ธรสีหน้าเหยเก
จิกทึ้งผ้าปูจนข้อนิ้วโปนกรีดเสียงร้องเฮือกสุดท้าย

                         “กรี๊ดดด!!...อุแว้ๆๆ!!”  เสียงทารกร้องแผดจ้า ผสานเสียงพระธิดาน้อยในอ้อมแขนแม่นมร้องรับในทันที
หมอหลวงไม่รอช้า จัดการตัดสายรกสายสะดือทำความสะอาดฉับพลัน ราชครูใบหน้าดูนิ่งยากหยั่งความรู้สึก
กำลังจ้องมองหน้าสวยดุจนางสวรรค์ของพระนางนรินทร์ธร ดวงเนตรเบิกโพลงไร้ความรู้สึก ขาดสัญญาณชีวิตไปแล้วเรียบร้อย

                          หลังให้กำเนิดพระโอรสน้อย พระนางสิ้นพระชนม์ในทันที กว่าจะรู้ว่าพระนางไม่มีลมหายใจ
ต่อเมื่อทุกคนคลายอาการชื่นชมยินดีพระโอรส ที่ถือกำเนิดพร้อมสัญลักษณ์ธาตุ ‘ไฟ’ สิ่งมหัศจรรย์ในรอบร้อยปี
ก่อกำเนิดผู้ถือครองธาตุในครรภ์มารดาเดียวกัน แถมเป็นแฝดชายหญิง

                          กระทั่งรับรู้พระชายาคู่ใจเหนือหัวสิ้นพระชนม์ พวกเขาค่อยร้องไห้เสียงระงม หมอหลวงตัวสั่นงันงก
มือไม้หยิบจับไม่ถูกไปแล้ว นางในคนหนึ่งเพิ่งได้สติ..ขยับร่างตั้งท่าก้าวออกจากห้อง..

                         “เจ้าจะไปไหน” นางถึงกับสะดุ้งเฮือก เสียงทักฟังหนาวยะเยือก เธอหันกลับมารายงานตัวสั่น

                           “ไปถวายรายงานองค์เหนือหัวเจ้าค่ะ” ตาเหยี่ยวหรี่เล็กจ้องเขม็ง พาเอาคนถูกมอง
และผู้อยู่ในเหตุการณ์ขนหัวชูชันแปลกๆ

                           “ไม่ต้อง..ข้าจะเป็นผู้รายงานเอง” สิ้นสุดประโยค พวกเขาทั้งสี่พากันล้มฟุบหมดสติบนพื้น
ยกเว้นพระธิดากับโอรสน้อย ซึ่งอยู่ในห่อผ้าดิ้นทองกลับลอยเข้าสู่อ้อมแขนราชครู เหมือนมีเส้นใยไร้สภาพชักนำเข้ามา

                              “ระหว่างพวกเจ้าหนึ่งน้ำหนึ่งไฟ ข้าจำเป็นต้องเลือกเสียแล้วสิ” ประโยคที่ไม่มีใครรู้ความหมาย
รู้แต่ค่ำคืนนั้นประชากรนครเวฬุวรรณ ต่างรับทราบทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน

                             ข่าวดีคือพระนางนรินทร์ธรชายาองค์หัสดิน ทรงมีประสูติกาลให้กำเนิดพระธิดาผู้ถือครองธาตุน้ำ
บุคคลที่ปวงชนรอคอยนับร้อยปี

                            ข่าวร้ายพระนางสิ้นพระชนม์ จากการให้กำเนิดพระธิดาองค์น้อย หมอหลวงถูกประหารในสภาพ
เหมือนไร้สติ จดจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ ไม่รู้กระทั่งชื่อแซ่ตัวเอง นางในสองคนรวมทั้งแม่นมไม่ถูกสั่งประหาร
นอกจากนำตัวไปกักบริเวณยังตำหนักเย็น เป็นตำหนักร้างมีไว้ให้สนมนอกรีต อดีตผู้ครองนครกักขังพวกนางกระทั่งสิ้นอายุขัย
พวกนางถูกตัดขาดการติดต่อภายนอก อยู่แต่ตำหนักเย็นด้วยสภาพสติไม่สมประกอบ

                           ส่วนผู้รายงานเรื่องราวต่อองค์หัสดินคือราชครู คำพูดไม่กี่ประโยค
ก็สรุปเรื่องราวได้อย่างรวบรัดชัดเจนไร้ข้อกังขา..

                          “พวกเขาได้รับผลกระทบจากฤทธามหาวารีธาตุ จึงมีสภาพเช่นนี้”
องค์หัสดินไม่มีการซักไซร้ขยายความหาข้อเท็จจริง วาจาราชครูเชื่อถือได้ สำคัญไม่มีใครสามารถให้ข้อมูล
เพราะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนสูญเสียสติต่างเลื่อนลอยกันไปหมด

                         ประชากรรวมถึงข้าราชบริพารรับรู้แค่ว่า ท้าวหัสดินมีพระธิดาผู้ถือครองวารีธาตุทรงพระนาม ‘ชลธาร’
นามนี้ราชครูเป็นผู้ถวายแด่เหนือหัวตามอำนาจหน้าที่โดยตรง...

                        ท่ามกลางความโศรกเศร้าพระทัยขององค์หัสดิน พระองค์กลับไม่มีความสุขแม้พระธิดาน้อย
จักเป็นตัวแทนชายา แถมยังถือครองวารีธาตุ พระองค์กลับคิดตรงข้าม ในพระทัยทรงคิดว่าพระธิดาพรากพระชายาสุดที่รัก
จากองค์ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความรักของพ่อพึงมีให้ลูก กลายเป็นความเย็นชาเจ็บปวดทุกครั้ง เมื่อสบพักตร์แล้ว
พานนึกถึงชายาอันเป็นที่รัก

                       พระองค์จึงใช้ความห่างเหิน เพื่อหลีกหนีความเจ็บปวดรวดร้าวใจ  พระธิดาน้อยกลับคุ้นเคยอ้อมกอดราชครู
มากกว่าพระบิดาองค์เองเสียอีก ทารกน้อยรู้สึกใกล้ชิดราชครูประหนึ่งพ่อกับลูก..

                      เหล่าบรรดาขุนนางอำมาตย์ ตลอดจนนางในข้าราชบริพารต่างๆ ล้วนประจักษ์ความผิดปกติข้อนี้
แต่ไม่มีผู้ใดหลุดปากกล้าวิพากษ์วิจารณ์ เพราะพวกเขาต่างเกรง ‘ราชครู’ หัวหดปิดปากสนิทไปตามกัน
>
>
              ตีสี่กว่าย่านสลัมแออัดเมืองฟ้าอมร สาวใหญ่นางหนึ่งเพิ่งได้เวลากลับจากการไปนอนค้างกับแขกที่หิ้วเธอ
จังหวะเดินบนสะพานซอมซ่อกลิ่นน้ำครำเหม็นคลุ้ง ตรงไปยังบ้านไม้ที่อาศัยซุกหัวนอน เธออยู่ที่นี่เพราะไม่ต้องเช่า
เป็นมรดกตกทอดตั้งแต่ตายายจนถึงรุ่นแม่ ก่อนมาเป็นของเธอ อยู่ตัวคนเดียวหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น ‘โสเภณี’

              “แว้..แว้ๆๆๆ!!” ร้องเท้าส้นสูงถึงกับแทบสะดุดหัวคะมำหน้าทิ่ม

              “ฉิบหาย! ผีหลอก” สบถตาลีตาเหลือก นึกว่าโดนดีเข้าให้แล้ว

               “อุแว้..แว้ๆๆ” ชะงักตั้งหลักเหลียววอกแวก จนแน่ใจว่าหูไม่ฝาด เสียงร้องของเด็กทารก ดังอยู่แถวนี้

               “เด็กที่ไหนมาร้องเช้ามืด แล้วพ่อแม่ไปไหนไม่ดูแล ปี้กันไม่ลืมหูลืมตาหน้ามืดตามัวอยู่หรือไง
ปล่อยลูกร้องขาดใจอยู่ได้” บ่นไม่หยุด ใบหน้าฉาบเครื่องประทินโฉมเหลียวหาแหล่งที่มา เริ่มสงสัยเดินตรงไป
ยังกอผักตบหนาแน่น เหมือนได้ยินเสียงเด็กดังจากตรงนี้

              “กูคงไม่โชคดี เจอเด็กโผล่ในกอผักตบหรอกมั้ง” พูดพร้อมกับสอดสายตาหาไม้ค้ำยัน
เพื่อใช้เป็นเครื่องทุนแรงเขี่ยยังจุดสงสัย กระทั่งเห็นไม้ไผ่ใช้ค้ำผ้าใบ ขนาดกำลังดีพิงฝาบ้านใครไม่รู้
รีบดิ่งไปคว้ามากระชับมั่น ค่อยก้าวขากลับไปยังจุดเดิม ใช้ปลายไม้ตะกายกอผักตบมาสู่ระยะสายตา
สามารถมองฝ่าความสลัวรางของบรรยากาศเช้ามืดตี่สี่ ห่อผ้าดิ้นทองหลุดเสียงร้องแผดจ้าออกมา
ตัดสินใจคว้าใบผักตบดึงติดมาทั้งยวง ภายในห่อผ้าเห็นชัดเต็มสองตา

                 “แม่เจ้า!..ดะ..เด็กถูกทิ้ง” ตาเบิกโพลงปากสั่น พยายามควบคุมอาการตื่นเต้นสุดชีวิต
รู้ตัวอีกทีเธออุ้มเด็กผู้ชายกอดไว้ในอ้อมแขนไปแล้ว แถมยังเห่กล่อมให้เด็กหยุดร้องอีก ก่อนกระเตงพาไปด้วย
โดยมีคำถามในหัวเต็มไปหมด อาการอ่อนเพลียก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะมีสิ่งน่าสนใจเป็นภาระให้คิดหนัก
ในอ้อมแขน เช้ามืดแบบนี้ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้สว่างก่อนค่อยไปแจ้งความกับตำรวจ
   
                      เหมือนชะตาลิขิต เธอไปแจ้งความพร้อมหลักฐานตัวเป็นๆ ที่หลับปุ๋ยไม่รู้ฟ้าในห่อผ้าเนื้อดี
หลังแหกขี้ตาไปซื้อนมผงที่มินิมาร์ทมาชงให้ดูด ความสามารถดูแลเด็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ ก่อนผันตัวเองเป็นโสเภณี
เธอเคยเป็นเด็กรับใช้สมัยสาวรุ่น ให้บ้านคนมีอันจะกินมาแล้ว
                   เลี้ยงลูกเจ้าของบ้านตั้งแต่เกิดป้อนข้าวป้อนนม จนโดนคุณผู้ชายบุกปล้ำ ก่อนคุณผู้หญิงจะเฉดหัวส่ง
ชีวิตบัดซบตกระกำลำบากนานพอดู มีดีคือสมบัติติดตัวนาผืนน้อย เจอแรงยุในสภาพจนตรอกตอนแม่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง
ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก ทำให้ตัดสินใจเป็นโสเภณีนับแต่นั้น

             “แน่ใจเด็กถูกทิ้ง ตบตาเจ้าหน้าที่หรือเปล่า ผมสอบปากคำคนในละแวกเผื่อมีใครรู้ ไม่มีใครยืนยันสักคน
ว่ามีเด็กถูกทิ้งในกอผักตบ ต่างลงความเห็นคุณกุเรื่อง เอาลูกตัวเองมาปัดความรับผิดชอบ ผมว่าคุณเลี้ยงดูแกเองเถอะ
อย่าปล่อยให้เด็กถูกส่งไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า กลายเป็นเด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น สร้างปมด้อยให้เด็กเปล่าๆ
อาชีพของคุณคนแถวนี้ต่างพากันยืนยัน เป็นลูกคุณที่ท้องไม่มีพ่อ..จึงหาทางออกด้วยวิธีนี้”
              วาจาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเธอตั้งใจเป็นพลเมืองดีพาเจ้าหนูนิรนามมาแจ้งความ เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อแม่ตัวจริง
ดันกลายเป็นผู้ต้องหาซะเอง ปฏิเสธเสียงแข็งยืนกรานกลับไม่มีใครเชื่อ ถึงขั้นชาวบ้านในชุมชนโผล่มาชี้ตัวว่าเธอคือแม่เด็ก
ปล่อยตัวท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ถึงขั้นนี้เธอใบ้แดกพูดไม่ออก คนเห็นเหตุการณ์มีเธอลำพัง เวลาสถานที่ล้วนฟังไม่ขึ้น
วางแผนนำเด็กแรกเกิดมาทิ้งสลัม ในกอผักตบน้ำครำเหม็นคลุ้ง เสือกห่อผ้าดิ้นทองหรูมีราคา ช่างผิดที่ผิดทางเสียหมด
ผู้คนลงความเห็นสรุปกันเอาเอง..เด็กร้องขนาดนี้ไม่มีใครได้ยิน เธอบังเอิญได้ยินอยู่คนเดียว กลายเป็นสร้างสถานการณ์ขึ้นมา

                “เวรจริงกู..อยู่ดีไม่ว่าดีได้ลูกมาเลี้ยงฟรีไม่ต้องท้องซะงั้น เอาเว้ย! เมื่ออยากมาเป็นแม่ลูกกัน
ตามมีตามเกิดนะไอ้หนู อย่าเสือกแหกปากเชียวล่ะลูกรัก แม่ตั้งชื่อ ‘ผักตบ’ ชื่อจริง ‘อรรณพ’ ก็แล้วกันพ่อคู้ณ..!!!!


ฝากผลงานล่าสุดไว้อีกเรื่องนะคะ แนวแฟนตาซีค่ะ
วันจันทร์จะมาต่อบทที่ 1 นะคะ ขอกำลังใจจากนักอ่านขาประจำต้อนรับกันด้วยนะคะ

ปล.วันนี้ไปส่งหนังสือ สนามรัก..นักบอล ให้กับคนจองหมดแล้วนะคะ ไม่เกินวันอังคารหน้า
น้องดิ่งกับพี่โย่ คงถึงมือคนอ่านทุกคนที่รอคอยกันอยู่ ขอบคุณอีกครั้งที่ให้การอุดหนุน
รักพวกคุณทุกคนที่สุดค่ะ :L1: :กอด1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2013 16:59:22 โดย luxilove »

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
เรื่องใหม่มาแล้ววววว  :katai2-1:  แค่เริ่มเรื่องก็น่าติดตามแล้ว

น่าสงสารผักตบจัง เอาใจช่วยผักตบนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Weena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ทั้งดีใจที่จะได้อ่านนิยายเรื่องใหม่ของคุณ Lux แต่อีกใจก็เครียด ช้านนนนนต้องนั่งเฝ้าคอมพิวเตอร์อีกแล้วเหรอเนี่ย...เบื่อคุณ  Lux จริงชอบมาเขียนนิยายดีๆให้อ่าน.. :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ดีใจจังค่ะเรื่องใหม่มาแล้ว นึกว่าจะมาตอนสิ้นเดือน

ชอบแนวแฟนตาซีค่ะ ^_^

เป็นกำลังใจให้คุณ Luk. และผักตบ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :mc4:

มีเรื่องใหม่ของพี่ลักษณ์มาให้อ่านแล้ว  ดีใจเว่อร์ๆๆๆๆ

โครงเรื่องแปลกใหม่น่าสนใจอีกแล้วค่ะ   :z2:

แต่แอบสงสารอรรณพพ่อผักตบชวาน้อยเนอะ
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโดนทิ้ง  ทั้งๆที่ก็ถือธาตุไฟ
น่าจะสำคัญไม่ต่างจากธาตุอื่นๆนี่น่า

แต่จุดนี้ทำให้อยากรู้ว่าพ่อผักตบน้อยจะคู่กับใครระหว่าง  ดิน  และ  ลม

แค่บทนำก็อยากรู้ใจจะขาดแล้ววววว

บวกเป็ด +1  แถม  :กอด1:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยินดีต้อนรับกับเรื่องใหม่ของคุณลัก คราวนี้มาแปลกแนวแฟนตาซีทะเลทรายเชียว ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแนวอาหรับทะเลทรายซะแล้วเห็นแค่ชื่อ
รออ่านค่ะ ใครจะได้คู่กับใคร

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :mc4:  ต้อนรับเรื่องใหม่    รอตอนต่อไปจ้า

   +1  จ้า...... o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
จิ้มๆ เรื่องใหม่
ติดตามค่ะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด สนุกมากค่ะ


อิราชครูก็เลวเนอะ เห้ออออ เพื่ออำนาจ ถึงกับทิ้งชีวิตเด็กอีกคนไป แถมเด็กคนนี้ ยังมีมหาธาตุเหมือนกัน แล้วราชครูจะเสียใจที่เลือกผิดคน


ลุ้นๆดราม่าๆ มาเจอ มินิมาร์ท กับชื่อผักตบ ฮาเลยยยยย อิอิ

ขอบคุณมากค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ cakecoke

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เมื่อเทียบอายุอานามคนวัยเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเขาขี้เหร่ โดยรวมทั้งน่ามองทั้งไม่ควรมอง โดยเฉพาะดวงตาเหยี่ยวยามจ้องเขม็งเมื่อใด
ใครต่อใครพากันเสียวสันหลัง หวาดกลัวกริ่งเกรงขนหัวลุกขึ้นมาดื้อๆ

เจอจุดสะดุดนิดนึงค่ะ >> น่าจะเป็น กลับใช้คำว่าขี้เหร่มิได้

รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ราชครูนั่นน่ากลัวอ่ะ...วางแผนจะหุบราชบัลลังก์ป่าวเนี่ย
แต่  ผักตบน่าสงสารมากอ่ะ เห้ออ  พ่อก็ไม่ได้เจอ  แม่ก็ตาย
ต้องคอยลุ้นว่า  ผักตบ จะเป็นพระเอกหรือนางเอก อิอิ

ออฟไลน์ sulsul

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
มาเปิดเรื่องใหม่ด้วยคนค่ะ
อรรณพ เกิดมาก็รันทดแล้ว
 แถมมีธาตุไฟด้วยยย  รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ whipcream

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ผักตบ!!!  นายเอกโผล่แล้ว พระเอกอยู่ไหนนนนนนนน :mc4:
มั่นมากว่านางสวย ชั่ยม๊าย ผักตบต้องนายเอกสิ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ comkacom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :L2: ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ 555 จะเริ่มเดาใจคุณLUKดีมั๊ย
อย่างแรกหมั่นไส้ราชครู ขอเสนอศึก ลูกสะใภ้ผักตบปะทะพ่อสามีราชครูใจร้าย แบบว่าอยากให้พี่ดินคู่กะน้องผักอ่ะ
อย่างที่สอง ยัยน้องน้ำแอบหมั่นไส้เธอ(ลำเอียงอ่ะเข้าใจป่ะ) ไปอยู่กะพี่ลมล่ะกัน
ก็แล้วแต่คุณLukค่ะ ยังไงก็ติดตามอย่างเคย สู้ๆ :pig2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
แค่เริ่มก็สนุกแล้วครับ
ติดตามคุณ luk มาตลอด และจะติดตามต่อไปครับ
^^

ออฟไลน์ plumarch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เย้!!!!!!!!!!!!!!!!! เรื่องใหม่มาแล้วววววววววววววววววววว   :hao5:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เรื่องใหม่มาแล้ว :L2: :L2:
ราชครูร้ายมาก สงสารผักตบจัง

ออฟไลน์ wiwari

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
น้องชื่อน่ารักมากกก ชื่อผักตบ 5555555+
รอน้องโตนะคะ ว่าแต่ผักตบเราจิเป็นพระเอกหรือนายเอก ลุ้นนน

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อรรณพอาจคู่กับลม หรือไม่ก็อาจคู่ดิน ทว่าดินน่าจะกลายเป็นพระสหายของเจ้าหญิงมหาวารีธาตุไปเสียแล้ว ตอนนี้รอให้คุณลักซ์มาเฉลยอยู่ว่า เจ้าหนูน้อยถูกส่งข้ามเวลามาในปัจจุบันหรืออย่างไร

รอวันจันทร์เจ้าค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
น้องผักตบน่าสงสารจัง
อะไรไม่รู้แต่เกลียดราชครูไปล่ะเหอะๆ

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หลังจากติดหนึบมากทุกเรื่อง
กะจะพักสายตาซะหน่อย
มาอีกแล้ว...เฮ้อ...ไม่ใช่
ไม่ชอบนะเออ.....ขอบอก
รักที่ซู๊ดดดดด......ต้องรีบไป
หาวิตามินบำนุงลูกตามากิน
รับหนูผักตบของแม่ก่อน..
พ่อสามีใจร้ายเดี๋ยวแม่ไปตาม
ป้าตะเกียง..เอ๊ย...พี่ตะเกียง
คนสวยมาช่วยนะจ๊ะ...พ่วงพี่
พรตสุดรั่วมาอีกหนึ่งดีมั๊ยนี่.....
555...มันเกี่ยวกันรึป่าวหว่า...
รออ่านต่อไป... :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด