Part 7
“...คุณเลือกสิซอ...”
ภายในห้องเหมือนถูกสะกด...ทุกอย่างชะงักนิ่งเพราะคำพูดเพียงประโยคเดียวจากคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม...คำพูดของอีกคนก็ยัววนเวียนอยู่ในความรู้สึกของผมเนิ่นนาน….น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เรียกชื่อทำให้ใจสั่น...แววตาท้าทายที่ส่งมาเหมือนเตือนสติให้รู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองตั้งใจว่ายังไง...และสถานการณ์ต่อจากนี้เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวขึ้นอยู่กับผมแล้ว...
“ไม่ต้องเลือกอะไรทั้งนั้น ราชสีห์เกริกไกรก็ต้องอยู่กับพวกเดียวกัน ไม่มีทางไปอยู่กับพยัคฆราชเด็ดขาด ถ้าคุณคิดว่าจะเอาเรื่องนั้นมาบีบบังคับ เชิญคุณทำสิ่งที่อยากจะทำ เพราะพวกเราไม่มีทางจนปัญญาแค่นั้นแน่...”
“ผมบอกแล้วไงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับซอ...ผมรู้ว่าพวกคุณมีความสามารถพอที่จะสร้างอะไรขึ้นมาได้ใหม่ และทำได้ดีด้วย...แต่ชื่อเสียงและหน้าตาที่เจ้าสัวศรันย์อุตส่าห์สร้างขึ้นมาล่ะ...จะให้พังเพราะผู้นำคนใหม่อย่างคุณเหรอครับคุณโซ”
“หุบปากไปได้แล้ว!! กลับ!!” ในที่สุดพี่โซก็ตวาดขึ้นเสียงดังหลังจากยอมที่จะหยุดเดิน ทั้งที่ไม่ได้หันมองคนพูดซักนิด..
..หัวใจเต้นรัวและเร็วเหมือนกับว่า กำลังแรนดอมหาคำตอบที่ถูกต้องที่สุดว่าตัวเองจะต้องทำยังไง...ผมมีประโยชน์ขนาดนั้นเลยรึไง มือพี่ซันที่กระชับมือผมแน่นขึ้นเหมือนกับรู้ความคิดที่โลเลอยู่...ถ้ากลับไป...ทุกอย่างก็ต้องพัง และผมก็คือตัวต้นเหตุในสายตาคุณพ่อ..เป็นตัวต้นเหตุที่ไม่น่าจะเกิดมาตั้งแต่ตอนแรก....กำลังจะออกจากห้องพักที่เป็นห้องของโรงแรมที่แยกส่วนจากห้องจัดเลี้ยงก็ยังหันมามองแววตาแข็งกร้าวที่ส่งมาท้าทายอยู่ตลอด...
..คุณแม่ครับ...ซอกำลังจะทำสิ่งที่ควรทำ...คุณแม่อยู่บนสวรรค์ให้อภัยลูกชายคนนี้ถ้าเรื่องที่ซอทำมันผิดต่อทุกเหตุผลที่ควรจะเป็น...
“.............”
“ซอ!” ทุกคนหยุดเดินแม้กระทั่งคนที่เดินนำออกไปอย่างพี่โซเมื่อผมขืนตัวไว้...หยดน้ำตาหยดลงเม็ดเป้ง...ก่อนจะมองหน้าพี่ชายที่หยุดเดินไปด้วย..ขืนมือตัวเองออกมาน้อย ๆ อย่างแผ่วเบา...น้ำตาก็พรั่งพรูออกมาเพราะทำนบของความเข้มแข็งที่มีน้อยนิดถูกทำลายจนหมดสิ้น....
“..ฮึก ซอ ไม่..ฮืออ ไป..ฮึก ซอ ขอโทษ..”
“ซอ ไม่นะ! กลับบ้านนะซอ”
“ไม่ ซอ กลับ อึก ฮืออ ไป ไม่ได้ อึก..” พี่ไซน์เดินเข้ามาจับแขนผมไว้ แต่สุดท้ายก็บิดแขนตัวเองออกมาจากมือพี่ชายพร้อมกับสีหน้าและแววตาเจ็บปวดที่พวกพี่แสดงออก
...พี่เสียใจใช่ไหม...ผิดหวังใช่ไหม ที่ซอทำอย่างนี้...ซอก็เสียใจ...เสียใจจนหัวใจจะสลาย...
“มานี่สิ ผมรอคุณอยู่”
“ไม่นะ!! ซอ!!”
“ฮึก ฮืออ ปล่อย! ฮึก ฮืออ ขอ โทษ ฮือ ขอโทษ! ราช สีห์ ฮึก เกริกไกร จะต้อง ยิ่งใหญ่ ฮือ อย่าง ที่คุณ พ่อ ต้อง ฮือ การ” สะอื้นจนยืนไม่อยู่...ไม่มีแรงแม้จะพยุงตัวเอง...หลังจากกลั้นใจปัดมือพี่โซที่เข้ามาหาออกแล้ววิ่งมายืนข้างผู้นำพยัคฆราช
“ไม่! ซอ พี่ขอ ร้อง! คนดี กลับบ้านกลับพี่นะ...นะดวงใจของพี่..ไม่มีซอ พวกเราก็ไม่ใช่ราชสีห์เกริกไกรที่สมบูรณ์ อึก...กลับบ้านกันนะ..”
“ฮือออ ฮืออ ซอ ขอโทษ! ขอโทษ!!! ฮืออ ขอโทษ!!!!”...มองพี่ซันที่เดินมาหา พร้อมกับเอื้อมมือมาอย่างเว้าวอน คำพูดที่แสดงให้เห็นว่าพี่ชายผมเสียใจแค่ไหน...น้ำเสียงที่พยายามข่มความสั่นและน้ำตาที่เอ่อคลอจากผู้ชายที่เข้มแข็งที่สุดในสายตาผม...เหมือนสติแตกและควบคุมตัวเองไม่ได้ ยอมที่จะให้ตระกูลคู่แข่งโอบกอดไว้เพื่อพยุงให้ยืนให้อยู่...เหมือนหัวใจถูกบีบ เหมือนลมหายใจกำลังจะสิ้น....เมื่อมองเห็นแววตาเจ็บปวดของพี่ทั้งสามคนที่ตอนนี้ทอดมองผมอย่างผิดหวัง...
...ซอขอโทษ...ซอเลือกไม่ได้....ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงใคร...ทั้งที่ดวงใจของพวกพี่ดวงนี้กำลังบอบช้ำปางตายเพราะการตัดสินใจของตัวเอง...ไม่มีซอ พวกพี่ก็จะยิ่งใหญ่และสมใจปรารถนาของคุณพ่อต่อไป....
แกร็ก!
แกร็ก!
“อย่านะ! ฮึก หยุด!!”
“อย่าพยายามเลยครับ พวกคุณควรจะให้เกรียติการตัดสินใจของน้องชายคุณบ้าง ผมรู้ว่าคุณสามคนเก่งพอที่จะชิงน้องชายคุณกลับ แต่ผมก็เก่งพอที่จะทำลายพวกคุณได้เหมือนกัน”
“คุณต้องการอะไรกันแน่” ตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงกลางระหว่างปืนเกือบสิบกระบอกที่หันใส่ฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่อีกฝั่งมีแค่สามคน ผมไม่รู้ว่าจะห้ามใคร ไม่อยากให้พี่ทำอย่างนี้ พี่ซันเอ่ยปากถามคนที่ยกปืนขึ้นเล็งไปที่พี่โซอย่างใจเย็น...
“ผมแค่อยากเลี้ยงหงส์...”
“น้องผมไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณ!!”
แกร็ก!!
“อย่านะพี่ซัน!!!”
“ซอ! ทำไม...ทำไมล่ะซอ ซอไม่รักพวกพี่แล้วเหรอ...ซอไม่ต้องทำอย่างนี้เพื่อพวกเราก็ได้!...ซอคิดเหรอว่าคนอย่างนี้มันจะรักษาสัญญา!”
“..ฮึก ฮือ..อย่า...” ผมทำผิดสินะ....ทำอะไรก็ผิดไปหมด...เลือกที่จะวิ่งเข้ามาขวางลำปืนพี่ชายที่พาดตรงมายังร่างสูงที่ยืนอยู่ และพร้อมที่จะลั่นไกในทันที...
“ผมเป็นลูกผู้ชายพอ...ในทุกเรื่อง...ผมพูดแล้วไม่มีทางคืนคำ เว้นแต่พวกคุณตุกติก”
“กลับ ฮึก ไป เถอะ ครับ แล้วซอ จะ โทรหา” ยืนตัวตรงด้านหน้าของผู้นำตระกูลคู่แข่ง ทั้งที่ขาแทบจะไม่มีแรงเพราะหัวใจมันอ่อนล้าไปหมด แต่ก็ต้องฝืนยืนอยู่ให้ได้ และข่มเสียงสะอื้นให้ออกมาเป็นคำพูดที่ฟังรู้เรื่องและทำเหมือนว่าตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว...ทั้งที่แค่เห็นแววตาพวกพี่ก็เหมือนเข็มนับพันวิ่งเข้าสู่กระแสเลือดให้เจ็บปวด....
“ซอ!”
“พอ ผม ออกไป เถอะ ครับ คุณโอ”
*********************************************
รถยนต์คันหรูราคาหลายตังค์กำลังวิ่งบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถที่วิ่งสวนไปมา...ผมเหม่อมองออกนอกตัวรถอย่างคนไม่มีชีวิต...แต่แค่นี้ก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งนึง...เพียงเพราะต้องจากถิ่นที่อยู่และพี่น้องที่รักออกมาอยู่ท่ามกลางฝ่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูและคู่แข่งกันตลอดกาลอย่างพยัคฆราช ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว จบในเวลาอันรวดเร็วเหมือนกัน..โดยที่ผมเป็นคนตัดสินใจเอง...
“คุณน้องหิวไหมคะ ไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า”
“...............” ส่ายหัวให้คนที่นั่งข้างกัน...เธอถามผมอย่างแผ่วเบา...ผมรู้ว่าบัวเป็นห่วงผมมาก...แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีใครรู้แม้กระทั่งคุณโต้ที่รู้เพียงว่าผมรู้แล้วว่าคุณโอเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่คนที่อยู่ในสวนอย่างเดียวก็คงจะไม่รู้ว่านามสกุลผมนั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน...ตอนนี้บนรถมีเพียงคนขับรถ คุณโอ คุณโต้ ผมและบัว...ส่วนรถตู้ถูกสั่งให้กลับก่อน และนี่ก็เป็นรถของคุณโอที่ใช้เดินทางออกต่างจังหวัดตามที่คุณโต้บอก
“จอดปั๊มก่อน”
“ครับเจ้าสัวน้อย”
“.................” รับคำสั่งอย่างแข็งขันจากเจ้านายตัวเอง ก่อนคนขับรถ จะชะลอความเร็วแล้วเลี้ยวเข้าจุดพักรถที่เป็นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ก่อนจะจอดเทียบศาลาขนาดเล็กที่อยู่ติดกับร้านอาหาร...
“พาน้องชายไปหาอะไรทานข้างในก่อนเถอะ”
“..ค่ะ....” ผมรู้ว่าบัวก็จะไม่ค่อยจะลงรอยกับเจ้าของรถเท่าไหร่หลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่ผมเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง... สายตาที่เธอมองไปก็แสดงออกได้ชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่ก็แค่นั้น เพราะตราบใดที่ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เธอก็ควรจะทำเฉยกับสิ่งที่ได้รับรู้ เพียงแค่ต้องปกป้องผมให้ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่พี่สาวคนนี้คิด...
“ซอไม่หิว”
“แต่ซอต้องกิน เอ่อ ซอไม่ค่อยสบายค่ะคุณโต้” ดูเหมือนว่าท่าทางพวกผมจะทำให้คุณโต้สงสัยไม่น้อยเลยเลิกคิ้วแทนคำถามว่าทำไมบัวจะต้องบังคับผมด้วย...
“งั้นเหรอ ลงไปทานข้าวเถอะซอ เดี๋ยวคุณจะไม่ไหว”
“รีบลงไปเถอะเรามีเวลาไม่มาก”
“...............” พยักให้ให้บัวหลังจากพี่เสียงทุ้มของเจ้าของรถดังขึ้น...ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่ควรที่จะจอดเลยตั้งแต่ตอนแรก...ผมไม่ได้หิวอะไรเลยตอนนี้ มันอื้ออึงในร่างกาย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น...
“คุณน้องคิดดีแล้วเหรอคะ”
“ซอคิดดีแล้ว” ผมเงยหน้ามองคนที่นั่งทานข้าวอยู่ตรงข้ามกัน หลังจากที่เขี่ยข้าวในจานตัวเองไปมา..บัวทำสีหน้าครุ่นคิดไม่น้อย...แต่ยังไงผมก็รู้ว่าเธอเข้าใจว่าผมคิดและตัดสินใจอย่างนี้เพราะอะไร...
“งั้นก็...”
“เข้มแข็ง”
“ใช่ค่ะ เข้มแข็งอย่างที่เราคุยกันไว้..เพราะฉะนั้นตอนนี้ทานข้าวเข้าไปได้แล้วค่ะ เขี่ยซะจนเละไปหมดแล้ว..”
“อืม..งั้นซอกินอันนี้” ผมส่งยิ้มให้บัวแล้วแกล้งไปตักชิ้นหมูที่เจ้าตัวชอบมากินหน้าตาเฉย...บัวทำหน้างอน ๆ แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา..ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็จะมีบัวเสมอ..ทำไมคน ๆ นี้ไม่เกิดมาเป็นคนในครอบครัวผมนะ...
***********************************************************
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า ทำให้ต้องสูดลมหายใจเข้าจนสุดหลังจากก้าวลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของบัวที่แวะมาส่งผมก่อนไปทำงาน...เสียงลมพัด เสียงนกร้อง และธรรมชาติรอบ ๆ ตัวทำให้ใจเย็นลงมาก....ในห้องรับแขกในตอน นี้มีการ์ดหน้าดุสองคนนั่งอยู่...ได้แต่ถอนหายใจกับความรู้สึกที่ยังอวลอยู่ในหัวใจ..เวลาจะช่วยผมได้ในทุก ๆ เรื่อง..เพราะมันอาจจะดีขึ้นถ้าผู้ชายคนนี้ยอมที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับราชสีห์เกริกไกร
“รับกาแฟไหมครับ”
“ขอบคุณครับ แม่บ้านเข้าไปจัดการให้แล้ว”
“...................” ส่งยิ้มให้ผู้ชายตัวสูงสองคนที่เมื่อวานยังชักปืนจะดวลกับพี่ชายผมอยู่เลย...ตัดสินใจไถ่ถามทั้งที่ยังกล้าๆ กลัว ๆ แต่รอยยิ้มและคำตอบทำให้รู้สึกเบาใจว่านิสัยก็ไม่ได้ดุเหมือนหน้าตาซักนิด...
“คุณไม่เข้าไปอยู่ที่กรุงเทพฯ กับเจ้าสัวน้อยเหรอครับ”
“...ผมอยากอยู่ที่นี่...” ชะงักกับคำถามหลังกำลังจะเปิดประตูห้องทำงาน....ผมไม่อยากจะไปอยู่ที่ไหนทั้งนั้น....ไม่ใช่ว่าไม่กลัวว่าอีกคนคิดและจำทำอะไรกับผมบ้าง...แต่ถ้าจะกรุณาให้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ได้ไหม...
“..พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้าสัวศรันย์มีลูกชายอีกคน..นึกว่านอกจากพวกเจ้าสัวน้อยสามคนนั่นก็มีเพียงลูกสาว..”
“..ครับ....”
“ขอโทษครับคุณซอ ถ้าพวกเราพูดอะไรล่วงเกิน”
“ไม่เป็นไรครับ” ไม่ผิดหรอก...คุณพ่อมีลูกแค่นั้นแหละ...พูดเบา ๆ ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงาน....อย่างน้อย ๆ คนพวกนี้ก็มีมารยาทกับผม และความคิดนั้นก็ไม่ผิดอะไรเมื่อที่ผ่านมาครอบครัวของราชสีห์เกริกไกร ก็ไม่มีผมตั้งแต่แรกแล้ว...
“คุณน้อง..นมอุ่น ๆ ค่ะ..เห็นบัวบอกว่าเมื่อเช้าตื่นสายไม่ได้ทานอะไร..”
“ขอบคุณครับ ซอไม่หิวเท่าไหร่”
“..งั้นพี่ต่ายไปเตรียมกับข้าวก่อนนะคะ พวกคุณ ๆ คงใกล้ลงมาแล้ว”
“ครับ” ผมรับนมอุ่น ๆ มาถือไว้ ก่อนจะยกขึ้นจิบเพราะรู้สึกว่าเริ่มจะแสบท้องเหมือนกัน...หยิบแฟ้มที่ใส่เอกสารจิปาถะขึ้นมาก่อนจะเสียบรายละเอียดที่ได้มาจากสวนเกษตรเข้าไป...
แกร็ก!
“...คุณโอ...”
“ มีคนฝากของมาให้ “
“................” ย่นคิ้วมองคนที่จู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงานคุณโต้ด้วยท่าทางนิ่ง ๆ เหมือนเดิม...ก่อนจะเอ่ยปากพูดกับผม...ท่าทางนิ่ง ๆ นั่นก็เหมือนก่อนหน้านี้ แต่ผิดกันที่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าน่ากลัวกว่าตอนแรกที่เจอกันซะอีก...แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อความอยู่รอดและเพื่อครอบครัวผมก็ไม่ควรที่จะแข็งกระด้างอะไรสินะ...มันเป็นสิ่งที่ตัวประกันอย่างผมจะต้องทำอยู่แล้ว...
“...ท่าทางเพื่อนผมเขาจะถูกชะตากับคุณนะ...”
“...............” พออีกคนพูดจบกล้วยไม้สีฟ้าสดในกระถังกระเบื้องเคลือบสีขาวก็ถูกยกเข้ามาพร้อมกับมีการ์ดแนบมาด้วยโดยกร์าดทีผมนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น...จ้องมองตาไม่กระพริบ..ก็กล้วยไม้สีสวยที่ผมคิดว่าจะไม่ได้ซะแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาวางอยู่บนโต๊ะ หนำซ้ำสียังสดและสวยเหมือนอย่างวันนั้นด้วย...
...ให้คุณซอครับ...ผิดสัญญาที่บอกว่าจะให้คู่มือไปด้วย..แต่ผมยินดีรับสายและตอบทุกคำถามที่คุณต้องการอยากรู้..081 XXX XXXX….อาทิตย์..
“กล้วยไม้พวกนี้ถูกประมูลในราคาสูงลิ่วทุกต้น แต่คุณกลับได้มาฟรี ๆ”
“ขอบคุณครับที่อุตส่าห์เอามาให้” ผมหยิบการ์ดออกมาจากกล้วยไม้สีดฟ้าสดนั่น ก่อนจะยกมันมาตั้งบนโต๊ะวางเอกสารที่อยู่ทางด้านขวามือ ไม่ใช่อะไรแค่อยากจะหันหน้าหนีคนที่มองอยุ่ แล้วพิจารณาความสวยของมันชัด ๆ....สวยจัง...เหมือนจะบอบบางแต่ก็แข็งแรงอยู่อย่างสง่าและสวยงาม...ผมจ้องกลีบดอกไม้ไม่มีรอยช้ำเลยซักนิด..อยากจะเอาไปอวดบัวจังเลย...ดีใจจนอดยิ้มออกมาไม่ได้...คิดว่าจะไม่ได้ซะแล้ว...ยังคิดเสียดายจนถึงเมื่อคืน..ก่อนนอนเลยตัดใจ...ก็มันถูกชะตาและเด่นที่สุดใสนงานสวนเกษตรเลย...
“ชอบมากเหรอ”
“...เอ่อ..ครับ ชอบ..”
“ อืม...”
“................” หันมองคนที่เปิดประตูออกไปหลังจากที่รับคำผม...อย่างน้อย ๆ ก็อุตส่าห์หอบหิ้วมาให้...คิดก่อนจะหันมาสนใจกล้วยไม้ต่อ...คงต้องโทรไปขอบคุณคุณอาทิตย์ด้วยสินะ...มองนาฬิกาก็ได้แต่คิดว่าบ่ายๆ ละกัน เผื่อยังไม่ตื่น...แต่ตอนนี้..มีสิ่งที่ผมคิดว่าจะต้องทำตั้งแต่เมื่อคืน...
ตื้ดดด ตื้ดดดด ตื้ดดดด
/ ฮัลโหล /
“..พี่..โซ..ซอเอง...”
/ .ซอ!! เป็นยังไงบ้าง แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน มันทำอะไรซอไหม!/
“ ซอสบายดี เขาไม่ได้ทำอะไรซอ..ซอแค่คิดถึงพวกพี่..เลยโทรหา..” ได้ยินเสียงพี่โซพร้อมน้ำเสียงที่เป็นห่วงก็ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วยตา...ถึงจะอยู่ที่นี่ในฐานะที่ผมก็ยังไม่รู้ว่าอะไร...แต่ดูเหมือนว่าอีกคนก็ไม่ได้สั่งให้ผมทำอะไรนอกเหนือไปจากที่เคยเป็นอยู่..แม้กระทั่งการติดต่อกับพวกพี่...ที่ตั้งแต่ออกจากบ้านผมก็พึ่งจะทำ..
/..โธ่..แล้วซอจะอยู่ยังไง ซอ..จะกินยังไง...ใครจะดูแลซอ..กลับบ้านเราเถอะนะ..พี่จะไปรับ../
“ ซออยู่ได้ บัวคอยดูแลซออยู่...ให้ซอช่วยเหลือตัวเองบ้างนะครับ...เพียงแค่รู้ว่าทุกคนเป็นห่วงซอ ซอก็ดีใจแล้ว..” ถึงแม้ว่าจะยกเว้นแค่บางคนก็ตาม...
/ เรื่องที่นายนั่นมันพูด ซอไม่ต้องใส่ใจก็ได้...เรามีธุรกิจอย่างอื่นอีกหลายอย่างไม่จำเป็นต้องไปฟังมัน../
“ไม่หรอก ซอแค่อยากทำอย่างที่ตัวเองตั้งใจไว้...พี่โซแค่นี้ก่อนนะครับ..ไม่ต้องตามซอมา..ไม่งั้นซอจะหนีพวกพี่ไปอีก...ฝากบอกพี่ซันกับพี่ไซน์ด้วย ว่าซอคิดถึง..”
/ ซอ..จะไม่เปลี่ยนใจเหรอ...พี่รอซอบอกว่าอยากกลับบ้าน พี่จะรีบไปทันที../ น้ำเสียงพี่โซฟังดูหม่นและอ่อนลงจนผมใจหาย...
“ไม่ครับ..ซอรักพี่โซนะครับ รักพี่ ๆ ทุกคน รัก คุณ พ่อ ด้วย..แค่นี้นะครับ..”
ติ๊ด!
“.............” กดวางสายโดยไม่รอให้พี่โซพูดอะไรอีก..หลังจากคำพูดสุดท้ายทำให้น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลลงมาจนได้...รีบเช็ดน้ำตาแล้วนั่งลงที่เก้าอี้..เปิดงานทำเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน..พวกพี่จะเข้าใจผมไหมนะ
...คนที่ซอรักจะเข้าใจซอรึเปล่า...
ก้าวเดินเหยียบใบไม้ที่ล่วงหล่นภายในสวนกว้าง...บรรยากาศที่อยู่รอบ ๆ ตัวตอนนี้ทำให้ผมสดชื่นขึ้นมาได้ แม้จะต้องเดินตามหลังคนที่ทำให้หนักอกหนักใจก่อนหน้านี้...มือถือเอกสารการสั่งซื้ออุปกรณ์เกษตรและยาสำหรับบำรุงพืชผลต่อเดือนมาด้วย...เป็นครั้งแรกที่ได้เดินในสวนอย่างนี้ ตอนนี้กำลังเดินอยู่ในสวนลำไย ที่มีพวงลำไยห้องลงมาจนต้องไม้ค้ำกิ่งไว้ด้วย...ด้านหน้าเห็นอยู่รำไรคือสวนส้ม...คุณโต้บอกว่าพึ่งจะลงใหม่เลยยังไม่เห็นลูกมันว่าจะดกแค่ไหน...เสียงนกโผไปมา ส่งเสียงร้องน่าฟังที่สุด ดีกว่าฟังเสียงรถวิ่งตามท้องถนนคอนกรีต...
ปึก!
“ขอโทษครับ!”
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ แค่มอง ลำไย เพลิน ไปหน่อย” รีบยกมือขึ้นจับจมูกตัวเองเมื่อมัวแต่มองพวงลำไย ต้นลำไยของจริงทั่งที่เคยเห็นแต่ลูกมัน เผลอ ๆ เปลือกก็ไม่เห็นเพราะบัวแกะออกหมด...เลยตื่นตาตื่นใจ เดินชนแผ่นหลังกว้างของผู้นำพยัคฆราชที่หยุดเดินตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...มองหาคุณโต้ก็เห็นเดินไปคุยกับคนงานที่กำลังใส่ปุ๋ยอยู่
“ตรงพื้นที่ว่าง...ข้างบ้าน ผมจะลงกล้วยไม้ คุณว่ายังไง”
“................”
“ผมขอความคิดเห็น”
“...ดีครับ...” ความจริงแล้วอยากจะบอกว่า ดีมาก!! เพียงเพราะคิดว่าจะได้เห็นกล้วยไม้หลากสีเหมือนของคุณอาทิตย์ก็รุ้สึกว่าโลกสดใสขึ้นมาทันที...แต่จะแสดงออกมากเกินไปคงจะถูกมองว่าเวอร์...แต่สิ่งนึงที่ผมไม่เคยคิดถึงก็คือ คนที่อยู่ในแวดวงของการแข่งขันและเป็นถึงผู้นำตระกูลดังจะชอบที่จะเข้าป่าเข้าสวนอย่างนี้ได้...
“แล้วผมก็จะให้อาทิตย์มาดูเรื่องพันธ์กล้วยไม้แล้วก็สอนวิธีดูแลรักษาให้กับคนงานด้วย”
“...ครับ...”
“ไม่ดีใจเหรอ...ผมทำเพื่อคุณเชียวนะ”
“ทำเพื่อผม” แอบใจเต้นที่ได้ยินอย่างนั้น...แต่คำพูดที่พูดต่อทำเอาต้องจ้องใบหน้าคนพูด...ว่าต้องการอะไรกันแน่...และความรู้สึกเหมือนกำลังถูกเข้าใจผิดและเริ่มจะหมิ่นเกรียติกันมีขึ้นในหัวใจ...
“..ก็ดูเหมือนว่าคุณจะชอบเจ้าของกล้วยไม้... มากกว่ากล้วยไม้ที่ได้รึเปล่า...ถึงได้ทำหน้าเกินความพอดีที่ได้เห็นแค่กล้วยไม้..”
**
มาอีกตอนแล้วค่ะ หวังว่าจะชอบกันเนอะ ตอนต่อไปก็เร็วๆ นี้อย่างเคยค่า ^^