Part 2
ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย..ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังอยู่ในชุดเดิมเมื่อตอนกลางวัน...มีเพียงถาดอาหารที่วางไว้ ยังมีควันลอยกรุ่นอยู่อบอวล...เสียงก๊อกแก๊กที่ระเบียงทำให้ลืมตาตื่นขึ้นมอง...ก็เห็นบัวกำลังปัดกวาดอยู่...เมื่อเจ้าตัวเห็นผมตื่นแล้วก็รีบเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาหาคงจะมาคะยั้นคะยอให้ทานข้าวเหมือนเดิม....
“คุณชายใหญ่กลับมาถึงแล้วค่ะ คงเพราะงานสำคัญทางนี้...มีของมาฝากคุณน้องด้วย คุณชายบอกว่าจะเอาเข้ามาให้เอง”
“................” พยักหน้ารับคำพูดรัวเร็ว แต่อาการอึน ๆ รวมทั้งปวดหนึบที่ศีรษะทำให้ต้องล้มตัวลงนอนอีกรอบ...ดีใจที่พี่โซกลับมา...หลังจากที่โกรธเป็นเด็ก ๆ เมื่อพี่ชายไปโดยไม่บอกผมซักคำ...รู้ตัวว่าทำไม่ถูก แต่ชั่ววูบที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่ใครจะมาแคร์ความรู้สึกอะไรมากมาย เพราะพวกพี่เป็นคนที่ผมรักเลยรู้สึกไม่ดี...แต่ตอนนี้อารมณ์ก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว...
“คุณน้องทานข้าวเถอะค่ะ ไม่งอแงแล้วนะ เดี๋ยวพวกพี่ ๆ ก็คงจะพากันแห่เข้ามาหาแน่ ๆ”
“.............” ส่ายหัวไปมาบนหมอนเบาๆ เพียงแค่นี้หัวก็หมุนติ้วจนต้องหลับตาลง....
“คุณน้องไม่สบายรึเปล่าคะ ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น”
“............”
“อุ๊ยตาย! ตัวร้อนจี๋เลย เพราะแอร์แรงไปแน่ๆ ปกติไม่เคยนอนกลางวัน บัวน่าจะเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว เดี๋ยวบัวไปบอกพวกคุณพี่นะคะ”
“............” ยกมือขึ้นห้ามคนที่เอามือมาทาบหน้าผากผม แล้วทำท่าจะเดินออกจากห้อง....ไม่อยากทำให้เรื่องมันวุ่นวาย...นาน ๆ ที ถึงจะป่วย แต่เวลาป่วยผมมักจะป่วยนานและฟื้นตัวยาก...ตอนนี้ดูเหตุการณ์ในบ้านก็จะตึง ๆ ไม่งั้นพี่โซไม่บินกลับมาด่วนขนาดนี้แน่ ๆ
“งั้นถ้าไม่อยากให้บัวบอก ก็ลุกมาทานข้าวนะคะ แล้วบัวจะเอายามาให้ทาน”
“.................” พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะค่อย ๆลุกขึ้นตามแรงพยุง เรี่ยวแรงหายหมด กลืนน้ำลายฝืด ๆ ทั้งที่ตอนกลางวันยังไม่มีอาการอะไรแท้ๆ มองดูคนที่กุลีกุจอ ยกข้าวมาวางไว้บนโต๊ะที่เคลื่อนมาวางไว้ข้างเตียงแล้วก็ได้แต่ยิ้ม...บัวเป็นอีกคนที่รักผมมากและผมก็รักเธอ.. เธอร้องไห้และหัวเราะไปพร้อมกับผมเสมอ...เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่สาว...ไม่เคยถือตัวว่าเป็นหญิงจะมาทำอะไรต่างๆ นา ๆ ให้ผม...เหมือนคุณแม่เลย...
“ทานสิคะ หรือจะให้บัวป้อน”
“...........” ส่งยิ้มพร้อมกับยื่นมือไปหยิบช้อน...ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ...หยดน้ำตาล่วงลงใส่แขนตัวเองที่กำลังเอื้อมตักต้มจืดตรงหน้า...อ่อนไหวเหลือเกินในเวลาอย่างนี้...ป่วยกายและป่วยใจในเวลาเดียวกัน...
“..คุณน้องขา...ทานข้าวนะคะ...บัวจะไปหยิบยามาให้...แล้วเช็ดตัวนิดนึงก่อนนอน...นะคะคนดี..”
“...............” พยักหน้ารับทั้งที่น้ำตายังล่วงลงใส่แขน...บัวรู้ว่าผมเป็นยังไง...วิธีการปลอบของเธอคือ...ทำตัวให้ปกติที่สุด เพราะถ้ายิ่งปลอบผมก็จะยิ่งร้อง...ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนค่อย ๆ ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวและกลืนอย่างยากลำบาก...
...คุณแม่...ซอคิดถึงคุณแม่ที่สุด....
หลังจากที่บัวเช็ดตัวให้ จัดการใส่เสื้อผ้าก็ล้มตัวลงนอน...คิดอะไรต่างๆ นา ๆ ที่ฟุ้งซ่านเพราะพิษไข้...แต่ไม่นานเพราะฤทธิยาทำให้หลับไปแต่ก็ยังได้ยินเสียงแว่ว ๆ เหมือนคนคุยโต้ตอบกัน...และสัมผัสที่แตะลงบนหน้าผากและลำคอ...เพราะสัมผัสที่แผ่วเบา ..อบอุ่น...ทำให้หลับลึกลงไปในที่สุด
จิ๊บๆๆ
“.........เดี๋ยวปลุก..........”
เสียงธรรมชาติที่ผมหลงใหล และเสียงพูดคุย ปลุกให้ตื่นจากการนอนหลับ....ยังหนักอึ้งที่หัว...และปวดตา....ค่อย ๆ กระพริบตาถี่เมื่อปรับความชัดเจน และขยับตัวอย่างช้า ๆ เพราะเจ็บไปหมดทั้งร่างกาย...เป็นไข้แบบสมบูรณ์แล้วสินะ....
“ตื่นแล้วค่ะคุณโซ..”
“...เป็นยังไงบ้างเรา...ตัวยังร้อนอยู่เลย...”
“...................” ส่งยิ้มให้คนที่ขึ้นมานั่งบนเตียง พร้อมกับยื่นมือมาสัมผัสที่พวงแก้มผม...ใช้มือตัวเองจับมือพี่โซไว้พร้อมกับแนบแก้มลงไปกับฝ่ามือหนาทำให้รู้สึกเย็นสบาย...จนต้องหลับตาพริ้มอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
“..เกิดมาก็ตัวเล็กกว่าใครเขา...ถึงจะป่วยยาก แต่ก็หายยากเหมือนกัน...แล้วอย่างนี้จะออกไปอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน...หืม...”
“............” ลืมตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา หลังจากฟังน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่พร่ำบ่นกลาย ๆ ...คงจะได้ยินมาจากพี่ซันพี่ไซน์แล้วล่ะสิ ถึงพูดอย่างนี้...ได้แต่มองหน้าพี่ชายแต่ก็ไม่พูดอะไร...ใช่...เป็นอย่างนี้จะออกไปอยู่คนเดียวได้ยังไง...แต่ผมก็ไม่อยากเป็นภาระใครเหมือนกัน...
“ไม่ต้องมามองหน้าตาแป๋ว เดี๋ยวให้บัวเตรียมตัวให้ พี่จะพาไปหาหมอ พี่โทรนัดเพื่อนไว้แล้ว “
“................”
“ ไม่ต้องมาทำท่าอย่างนี้ ถ้าดื้อจะอุ้มไปแล้วฉีดยาซัก 2 เข็มเอาไหม”
“...............” ได้แต่ทำหน้ามุ่ยหลังจากส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ...แต่ก็ถูกดักอย่างนี้ตลอด...ไปโรงพยาบาลที่มีผู้คนพรุกพร่านอย่างไม่ชิน...กลิ่นยาและความวุ่นวาย เป็นสิ่งที่ผมไม่ปรารถนาซักนิด...
“ จัดการด้วยบัว เสร็จแล้วพาลงไปที่ห้องนั่งเล่นเลย ผมจะรอที่นั่น”
“ค่ะคุณโซ...ไปค่ะคุณน้อง...เดี๋ยวถูกดุบัวไม่รู้ด้วยนะ” มองพี่โซที่เดินออกจากห้องก่อนจะหันมาทำหน้าอ้อน ๆ บัว แต่ก็ไม่ได้ผล...นั่นน่ะสิใครจะกล้าขัดพี่โซล่ะ...ใครจะกล้าขัดคนที่จะขึ้นเป็นผู้นำ ราชสีห์เกริกไกร ในอีกไม่ช้านี้...
ไม่นานรถยนต์ราคาแพงของของสารถีคนสำคัญของผมก็แล่นเข้าเขตโรงพยาบาล...ความวุ่นวายบนท้องถนน...ทำให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะป่วยมากขึ้นกว่าเดิม...ต้นไม้ที่มีอยู่จำกัดตั้งเรียงรายมันคงทรมนกับการที่ต้องมายืนตะหง่านอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ไม่เข้ากับตัวของมัน...พี่โซให้บัวตามมาด้วย ส่วนพี่ซันกับพี่ไซน์ออกไปธุระให้คุณพ่อตั้งแต่เช้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังโทรมาถามอาการผม....
“..เป็นยังไงบ้างครับคนป่วย..”
“..............”
“นอนป่วยตั้งแต่เมื่อคืน...ช่วยฉีดยาให้หน่อยสิ”
“ อือ...” ผมรีบเกาะแขนพี่ชายที่นั่งข้างกัน พร้อมกับส่ายหัวพรืด...มันไม่ได้ถึงขนาดนั้นซักหน่อย...ถึงจะรู้ว่าโดนแกล้งแต่ก็ยังกลัวจริงๆ ...
“...น่ารักจัง...เอาอย่างนี้ให้พี่ตรวจนะครับ...แล้วถ้าไม่ต้องฉีดยา เดี๋ยวพี่จะเอายาไปฉีดให้คนพามาแทน...”
“.................” ยอมที่นั่งนิ่งๆ ให้พี่หมอเพื่อนพี่โซใช้สายตรวจ มาทับ ๆ ทาบ ๆ หน้าอก...อุตส่าห์แซงคิวให้เพราะมาถึงก็ได้เข้าตรวจเลย...รูปร่างหน้าตาเหมาะกับการเป็นหมอที่สุด...สูงโปร่ง ผิวขาว ใส่แว่น ยิ้มสวย ท่าทางใจดี...พอพูดเสียงนุ่มๆ ทำให้ผมยอมนั่งนิ่งปล่อยแขนพี่โซได้...
“เจอคนหน้าหวานๆ หน่อยล่ะก็นิ่งเชียว ทีก่อนหน้านี้ต้องบังคับกันถึงจะมา”
“..............” หันไปค้อนให้พี่ชาย ก่อนจะต้องอ้าปากให้พี่หมอตรวจ....
“ออกมาข้างนอกแล้วมีชีวิตชีวา ทำไมถึงไม่ชอบออกนะเรา”
“..............” ไม่แสดงท่าทีอะไร...ผมมองคนที่ก้มจดอะไรยุกยิก มุมปากยังมีรอยยิ้มอยู่...ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมอย่างใจดี...
“ พรุ่งนี้ว่างรึ...”
“ไม่ว่าง...มีหมอลา..ต้องเข้าเวร...น้องซอใช่ไหม...เป็นไข้หวัดน่ะครับ เวลานอนอย่าเปิดแอร์แรงเกินไป...แล้วก็ทำร่างกายให้อบอุ่น อย่าอาบน้ำเย็น ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ”
“..............” บัวที่นั่งอยู่ด้านหลังพยักหน้ารับแทน...เหมือนกับเป็นหน้าที่ของตัวเอง อย่างนี้นี่เองพี่โซถึงเอามาด้วย...ส่วนอีกคนที่ถามคำถามแล้วทำหน้าเซ็ง ๆ เหมือนกับไม่พอใจคำตอบที่ได้รับ...
“เดี๋ยวรอยาแป๊บนึง ให้พยาบาลเอาเข้ามาให้”
“ว่าน...แล้วมะรืน...”
“จะให้คำตอบอีกทีนะ” คนตอบยังมีท่าทีนิ่งๆ รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำก็เลยหันไปหาบัว พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองพร้อมกับไล้ลงที่หน้าขา แค่นั้นบัวก็รีบลุกขึ้นมาหา...ความจริงแล้วผมก็น่าจะไปเองได้...แต่ความวุ่นวายด้านนอกทำให้รู้สึกแปลก ๆ
“เดี๋ยวบัวพาคุณน้องไปห้องน้ำนะคะ...”
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวผมพาไป..”
“.................” ผมจับแขนพี่โซไว้แล้วดึงให้นั่งลงเหมือนเดิม...เพราะดูเหมือนว่าพี่ชายผมจะหงุดหงิดอะไรขึ้นมา ถ้าให้เดาก็คงจากพี่หมอที่ตอบคำถามไม่ได้ดั่งใจเจ้าตัวแน่ๆ ปล่อยให้คุยกันให้ลงตัวกว่านี้ดีกว่า..
“ดูแลด้วยนะบัว มีอะไรให้โทรมา”
“ค่ะ คุณโซ” ไปเข้าห้องน้ำ...ไม่ได้ไปรบ...ความจริงแล้วเวลาผมออกมาข้างนอก ถึงบรรยากาศรอบ ๆ จะดูวุ่นวายไปบ้างแต่ก็รู้ตัวว่ารู้สึกสดชื่นยิ่งถ้าได้อยู่ในสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้เยอะ ๆ ยิ่งรู้สึกว่าอยากจะตั้งรกรากอยู่ตรงนั้น...
“บัวรออยู่ตรงนี้นะคะ”
“....................” ผมรีบชี้มือให้บัวไปรอที่ด้านนอกอีกนิดที่มีคนนั่งกันอยู่ ไม่ใช่มายืนรอหน้าห้องน้ำชายอย่างนี้.....รู้ว่าบัวไม่แคร์ที่ใครจะมองว่าตัวเองมายืนเกร่ออยู่หน้าห้องน้ำชาย แต่มันก็คงไม่เหมาะอย่างน้อย ๆ ก็ไม่อยากให้คนมองแล้วทำหน้าเหวอ เหมือนกับว่ามายืนทำอะไรตรงนี้
“แฮะๆ รอตรงนั้นก็ได้ค่ะ”
“...............” เดินเข้ามาในห้องน้ำ ....จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมายืนล้างมืออยู่หน้ากระจกเงา ที่ตอนนี้สะท้อนภาพผู้ชายหน้าซีด ๆ คนนึงก่อนจะถอนหายใจ...หัวยังปวดหนึบๆ ไม่หาย...
....ทิชชู่หมด...ยกมือตัวเองที่ตอนนี้เปียกชื้นเพราะพึ่งล้างมือเสร็จแล้วมองกล่องทิชชู่ที่เหลือแต่แกนสีน้ำตาลอ่อน....เช็ดกางเกงแล้วกัน...
“ ใช้นี่สิ..”
“.............” กำลังจะเอื้อมมือลงเช็ดกางเกง แต่ผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาลเข้มก็ถูกวางพาดที่บ่าจากด้านหลัง...หันมองคนที่อยู่ด้านหลังทันที อีกคนแค่ยกยิ้มมุมปากให้ก่อนจะยื่นมือไปรองน้ำที่ไหลออกจากก๊อก....
“..............”
“..ไม่ต้องหรอก เก็บไว้ใช้เถอะ..เดี๋ยวค่อยคืน...” อีกคนปฏิเสธหลังจากยกมือขึ้นสลัดน้ำออกจากมืออย่างไม่เดือดร้อนอะไรว่ามือจะแห้งรึเปล่า เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็รีบยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ยังไม่ได้เช็ดคืนให้...
“............” เมื่อไม่รับผมก็รีบเอาไปยัดใส่มือหนานั่นอีกรอบ จะได้คืนตอนไหน...เป็นใครมาจากไหนไม่รู้จัก...ไม่อยากจะเก็บอะไรของใครไว้ ไม่อยากรับอะไรจากใครทั้งนั้น..เพราะผมคงไม่มีปัญญาจะตอบแทน และไม่มีปัญญาที่จะตามหาตัวเพื่อเอาผ้าเช็ดหน้าไปคืนหรอก...
“ผมไม่เอาคืนก็ได้ เก็บไว้เถอะ ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งก็ได้..แล้วแต่คุณ”
“................” ผ้าเช็ดหน้าผืนสีน้ำตาลถูกเอามายัดใส่มือผมอีกรอบ...ก่อนที่อีกคนจะยิ้มให้ผม...รอยยิ้มที่เหมือนกับแฝงอะไรบางอย่าง...แต่คงจะคิดมากไปเองก็แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว...ร่างสูงหันหลังกลับ ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกไป...
รูปร่างสูงใหญ่พอ ๆ กับพี่โซ...หน้าตาถ้าจากความคิดผมก็ถือว่าหล่อหาตัวจับยากคนนึง...อาจจะเป็นเพราะผมอยู่กับพวกพี่ที่หน้าตาชนิดที่เรียกสาว ๆ แล้ววิ่งเหยีบบกันตายได้...ความหล่อแบบนี้เลยเหมือนจะชินตา...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหล่อกว่าพวกพี่ผมอีก ที่พยามนึกและจดจำไม่ใช่ว่าพิศวาสอะไร เผื่อบังเอิญเจอจะได้จำได้และคืนผ้าเช็ดหน้าให้...เพราะท่าทางถ้าผมไม่เอาเจ้าตัวก็คงจะเขวี้ยงทิ้งตรงนี้แน่ๆ
“.............” เช็ดมือกับผ้าเช็ดหน้า...ถึงจะยังรู้สึกแปลก ๆ และติดใจกับรอยยิ้มนั่น แต่ก็ยอมที่จะเช็ดมือจนแห้งก่อนจะสะบัดผ้าเพื่อจะพับเก็บทั้งที่ยังชื้นอยู่..
King Tiger / OP
ผมยกชายผ้าเช็ดหน้าขึ้นดูเพราะเป็นรอยปักไม่ใช่รอยสกรีน ตัวหนังสือถูกหวัดเป็นภาษาอังกฤษอย่างสวยงามและตัวเท่ากันหมด...เป็นสัญลักษณ์หรือยี่ห้อผ้าเช็ดหน้ารึเปล่า...ถ้าสำคัญเจ้าของคนไม่ทิ้งขว้างอย่างนี้แน่ ๆ เลิกสนใจก่อนจะพับลงกระเป๋ากางเกง...ออกมาก็เห็นบัวยืนยิ้มเผล่อยู่ ก่อนจะพากันรีบเดินกลับไปหาพี่โซ ที่ตอนนี้ออกมายืนคุยกับพี่หมอว่านที่หน้าห้องตรวจ...สีหน้าก็ยังดูตึงๆ เหมือนเดิม ผิดกับพี่หมอที่ยังหน้านิ่งๆ เหมือนเดิม ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมเมื่อเห็นว่าเดินเข้าไปใกล้แล้ว...
“ไปทานข้าวเถอะ แล้วจะได้กินยา...ไม่ไปด้วยกันจริง ๆ เหรอคุณหมอ..”
“ไม่ล่ะครับ คนไข้ผมยังมีอยู่ ขอตัวนะครับ หายเร็ว ๆ นะครับน้องซอ”
“.............” พยักหน้าก่อนจะยกมือไหว้คนที่เข้ามาขยี้หัวผมเบา ๆ พี่หมอว่านเดินเข้าไปในห้องตรวจเรียบร้อยแล้ว แต่พี่ชายผมยังมองตามไปไม่หันมาซักที...
“..งั้นเราไปหาที่ทานข้าวกันเถอะ..” พี่โซจูงมือผมให้เดินออกมาด้านนอก ตรงไปที่ลานจอด...ก่อนจะขึ้นรถถ้าผมไม่ตาฝาดหรือตามัวเพราะเป็นไข้...รู้สึกว่าเห็นคนที่จำได้ว่าพึ่งเจอกันในห้องน้ำ...ร่างสูงนั่นยืนมองผมกับพี่โซอยู่ ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไปก่อน.
..หรืออยากจะทวงผ้าเช็ดหน้า...
“ไปไหนกันมา”
“ซอไม่สบายครับคุณพ่อ ผมพาไปหาหมอมา”
“เลิกทำเรื่องไร้สาระแล้วตามฉันไปที่ห้องหนังสือ”
“แต่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ!”
“แต่สำหรับฉันมันไร้สาระ! อย่าให้ต้องพูดซ้ำโซ ตามฉันมา”
“...............” ปวดหนึบไปหมดตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้า...ตั้งแต่ออกจากบ้านจนกระทั่งก่อนจะก้าวเข้าบ้าน...มันยังมีความรู้สึกว่าผมเป็นคนมีชีวิตจิตใจเหมือนคนอื่น...จนกระทั่งตอนนี้
“ คุณน้องคะ ขึ้นห้องเถอะค่ะ”
“ขึ้นไปพักผ่อนนะซอ...เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพี่จะรีบตามขึ้นไป..” พยักหน้ารับคนที่ยื่นมือมาขยี้หัวผมอย่างเบามือ...ตอนนี้รู้สึกพิษไข้กำลังรุมผมจนแทบจะไม่มีแรงเดิน...ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นอะไรมากมาย...
สุดท้ายผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ล้มลงตรงที่ๆ เดิม และความรู้สึกเดิม ๆ บอกบัวว่าอยากอยู่คนเดียว และแน่นอนว่าบัวไม่ขัดผม เพียงแค่กำชับว่าไม่ให้คิดอะไรมาก...ชิน...ผมใช้คำนี้ได้ไม่เต็มปาก เพราะเจอจังๆ อย่างนี้ ก็แทบจะหยุดหายใจเหมือนกัน...
“ฮึก..คุณ แม่ ซอ..เหงา...”
...ผมเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคุณพ่อ แม่เป็นเศษฝุ่นเล็ก ๆ ที่ปลิวไปมาในบ้านหลังนี้...เป็นแค่ตัวน่ารำคาญถ่วงเวลาพวกพี่ เป็นแค่คนไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ที่ไม่มีวันจะเทียบใครได้เลย....
...คงมีซักวัน..ที่ผมจะตอบแทนบุญคุณคุณพ่อ...ที่อุตส่าห์ยอมให้ผมอยู่ที่นี่ ยอมให้ผมเกิดมาดูโลก....ผมจะทำตัวให้มีประโยชน์....โดยการทำให้คุณพ่อสบายใจ และไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ....ที่มีผมอยู่....
ยืนมองดาวที่เรียงรายอยู่บนท้องฟ้า...มองเส้นขอบฟ้าที่เหมือนกับจะโค้งบรรจบอยู่ตรงหน้า...เหงื่อซึมอยู่ตามไรผมเพราะพึ่งสร่างไข้...พวกพี่พึ่งจะออกจากห้องไปเมื่อไม่นาน...ลมเย็นพัดมาทำให้รู้สึกชื่นใจ รับรู้เรื่องราวต่างๆ จากสิ่งที่พวกพี่เล่าให้ฟัง....บอกไม่ถูกว่าผมรู้สึกยังไง...แต่ก็ต้องยินดีกับพี่โซสินะ...
/ เดือนหน้าจะมีงานจัดเลี้ยงใหญ่ที่บ้านเรา...คุณพ่อจะอำลาตำแหน่งผู้นำ ราชสีห์เกริกไกร ให้พี่โซรับช่วงต่อ/
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรแบบนี้หรอก รู้แค่สิ่งที่พี่เล่าให้ฟัง... มีอยู่ไม่กี่ตระกูลที่ตอนนี้กำลังฟาดฟันเพื่อขึ้นเป็นหนึ่ง พี่ซันบอกว่าคุณพ่อต้องรีบสละ พี่โซจะได้เตรียมตัวและเรียนรู้ทุกสิ่งให้เร็วที่สุด...เพราะวันก่อน...ตระกูล พยัคฆราช ก็พึ่งจะมีผู้นำใหม่ที่ไฟแรงพอตัว...ไม่ควรที่จะยื้อเวลาให้ผู้นำของ ราชสีห์เกรียงไกร กลายเป็นเด็กอ่อนหัด...แน่นอนว่าต่อจากนี้พวกพี่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะมาอยู่กับผม หรือมาดูแลเหมือนแต่ก่อน...เพราะต้องช่วยกันดูแลทุกอย่างต่อจากคุณพ่อ โดยมีพี่โซเป็นผู้นำ...แค่คิดก็รู้สึกโหวงเหวงในใจ...
“ยังไม่นอนเหรอคะ ดึกแล้วนะ เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีก”
“.................” ส่งยิ้มให้คนที่เดินออกมาส่องหาผมที่ระเบียง ยอมที่จะเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งลงบนเตียง....มองบัวที่หยิบบางอย่างออกมาจากตระกร้าเสื้อผ้าที่กำลังจะเอามาจัดเรียงใส่ตู้....
“อันนี้ของคุณน้องรึเปล่าคะ บัวซักแล้วก็รีดให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“.....................” พยักหน้ารับก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าผืนสีน้ำตาลเข้มมาไว้ในมือ....ขยับตัวให้ขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะดึงผ้าห่มให้คลุมถึงหน้าขา....เงยหน้ามองบัวที่กำลังเอาเสื้อผ้าเข้าตู้ ก่อนจะก้มมองดูผ้าเช็ดหน้าในมือ...และไม่พ้นมองลายปักที่เห็นอยู่อย่างชัดเจน...
...แล้วจะเอาไปคืนยังไงกัน....
“...พรุ่งนี้เรียนไหวไหมคะ บัวจะได้บอกคุณโซให้ยกเลิกการสอน..”
“.................” ยกมือขึ้นจรดนิ้วชี้กับนิ้วโป้งแล้วกางนิ้วที่เหลือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ว่า โอเค เรียนไหว....อยากน้อย ๆ นี่ก็ปี 2 แล้ว ถึงจะใช้เส้นของพวกพี่ แต่ผมก็ตั้งใจเรียนและอยากจบให้ไวที่สุด....
“งั้นพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้บัวจะเข้ามาปลุกค่ะ”
“...............” พยักหน้ารับ ก่อนจะเลื่อนตัวลงนอน บัวเดินมาปิดไฟให้แล้วออกจากห้องไป...มือยังถือผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นอยู่อย่างลืมตัว นอนลืมตาในความสลัวภายในห้อง ก่อนจะคิดเรื่องต่างๆ มากมาย รวมถึงเรื่องคุณพ่อด้วย..
....จะมีซักวันไหมนะ ที่คุณพ่อจะยอมรับผม...และสามารถที่จะอ้าปากเรียก..ผู้ให้กำเนิดได้อย่างคนอื่นๆ ....