Part 6

ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าบ้านมองดูสองเพื่อนรักกำลังล่ำลากัน ผมยกมือไหว้คนที่หันมามอง..ก่อนจะถอนหายใจอย่างแรง คุณโอจากไปพร้อมความหนักอกหนักใจบางอย่างเกี่ยวกับงานที่ผมทำ...เพราะอีกสองวันจะส่งรถมารับผมกับคุณโต้ไปดูงานสวนเกษตร ที่อีกจังหวัดนึง...กังวลที่จะต้องไปแสดงตัวที่นั่นที่นี่ เพราะไม่รู้ว่าจะเจอคนของที่บ้านหรือเปล่า...
“เป็นอะไรรึเปล่าซอ สีหน้าไม่ค่อยสบายใจเลย หรือยังโกรธผมเรื่องเมื่อวานอยู่”
“เปล่าครับ ซอ ไม่ได้โกรธ ก็คุณโต้เมา...”
“อืม..” สีหน้าคุณโต้จากยิ้มอบอุ่น...ครู่นึงที่เห็นความผิดหวังวิ่งริ้วผ่านแววตาคู่นั้น...ก่อนจะส่งยิ้มให้ผมเหมือนเดิม...
“คุณโต้ครับ ที่ไปดูงานอะไรนั่นจะมีพวกไหนไปบ้างครับ”
“อ๋อ ก็แค่พวกชาวสวนทั่วไปนั่นแหละ เหมือนว่าคนที่จัดงานจะรู้จักโอเป็นการส่วนตัว..”
“ครับ ไม่มีหน่วยงานไหนไปอีกใช่ไหม”
“ไม่หนิ มีอะไรรึเปล่า เหมือนซอกังวลอะไรอยู่”
“เปล่าครับ...งั้นซอไปทำงานต่อนะครับ” รีบปฏิเสธคำถามและสีหน้าแปลกใจของคุณโต้...ผมคงกังวลเกินไป...คิดกลับไปบางที..อาจจะไม่มีใครสนใจผมเลยก็ได้...พวกพี่ก็คงจะตั้งใจทำงานกันอยู่...คุณพ่อก็คงมีความสุขกับลูกสาวคนเล็กที่กำลังเรียนมหาลัย...แล้วผมก็เป็นส่วนเกินที่คิดว่าตัวเองสำคัญ จนกลัวว่าจะมีใครมาตามกลับบ้าน...
“..ซอ...”
“..ครับ...”
“..เปล่า...แค่บางทีผมก็คิดว่า..ซอชอบทำหน้าเศร้า...มันทำให้ผมใจไม่ดีไปด้วย...”
“เปล่าครับ ซอไม่เป็นอะไร” ส่งยิ้มให้คนที่เดินเข้าบ้านพร้อมกัน ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา..กลืนก้อนที่จ่อจุก เงยหน้าน้อย ๆ เพื่อให้น้ำตาที่รื้นขึ้นมาไหลย้อนกลับไป...ตัวเบาหวิว...เหมือนคนไร้ค่าเมื่อคิดถึงเรื่องนี้....
“ให้บัวไปด้วยนะคะคุณน้อง!”
“แต่ว่า...”
“บัวไม่สนใจค่ะ บัวจะไปกับคุณน้อง จะปล่อยให้คุณน้องไปอย่างนั้นคนเดียวได้ยังไง”
“ คุณโต้ก็ไป”
“ไม่รู้ค่ะ บัวจะไป..ใครไปบัวก็ไม่อุ่นใจทั้งนั้น ถ้าคุณน้องไม่ให้บัวไป บัวก็จะไม่ยอมให้คุณน้องไปทำงานที่นั่นอีก”
“..................” ผมทำหน้าแหย ๆ ใส่บัวที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอารมณ์เธอกำลังขึ้นเพราะผมมาเล่าว่าต้องไปต่างจังหวัด...กะแล้วล่ะว่าต้องเป็นอย่างนี้ คิดไว้สองอย่างคือ ไม่ให้ไป กับจะขอไปด้วย..และผมก็เดาถูกอย่างนึง..
“ซอต้องไปขอคุณโต้ก่อน แล้วงานบัวล่ะ”
“บัวจะเปลี่ยนวันหยุด..พรุ่งนี้บัวจะไปขอด้วย นอนได้แล้วค่ะดึกแล้ว” บัวส่งยิ้มหลังจากกล่าวคำตัดบทว่ายังไงเธอก็จะไปด้วย...แต่ผมก็ไม่อยากจะไปกับคุณโต้สองคนเหมือนกัน ส่งยิ้มประจบตอบกลับไปก่อนจะหลับตาลง...ต่อจากนี้คือสิ่งที่ผมเลือกแล้ว...ไม่ว่าจะเป็นยังไง...ผมก็จะยอมรับมัน...
***************************************************************
ในที่สุดบัวก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังติดสอยห้อยตามมาอย่างที่คุณโต้เต็มใจ...เราออกเดินทางตอนสามโมงเช้าเมื่อให้ถึงสถานที่จัดงานตอนบ่าย และมีงานจัดเลี้ยงตอนกลางคืน..ซึ่งคุณโอจะไปเจอเราที่นั่นตอนงานเลี้ยง...นึกถึงคุณโอ วันนี้ผมเอาผ้าเช็ดหน้ามาด้วย เจอในกระเป๋าเสื้อผ้าคงจะเผลอหยิบมาด้วยตอนเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า...ถึงไม่เอาก็กะว่าจะคืน...เพราะเก็บไว้ผมก็ไม่ได้ใช้ ถ้าเจ้าตัวไม่เอาก็ให้ทิ้งเอง ถ้าให้ผมทิ้งก็คงทิ้งไม่ลงหรอก
“เอากระเป๋าเข้าไปเก็บเถอะ เดี๋ยวเจอกันที่เคาท์เตอร์ด้านล่าง”
“ครับคุณโต้”
ผมกับบัวนอนห้องเดียวกันตามความต้องการของเธอ ส่วนคุณโต้กับคุณโอก็นอนด้วยกัน เพราะโรงแรมที่พักแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาเข้าร่วมงานไม่มีห้องว่างเหลือพอที่จะอยู่คนละห้องได้..มองจากหน้าต่างโรงแรมออกไป เห็นรถวิ่งขวักไขว่ด้านล่างแล้วก็ต้องทอดถอนใจบรรยากาศและสิ่งของเครื่องใช้ในโรงแรมทำให้คิดถึงบ้าน คิดถึงแม้กระทั่งคนที่ใจร้ายกับผมที่สุด...พวกพี่ทำอะไรอยู่นะ...จะคิดถึงผมบ้างรึเปล่า...อย่างที่ผมคิดถึงทุกคนอยู่ตอนนี้
“คุณน้องคะ หิวไหม..”
“ชุดใครเหรอบัว” ผมมองคนที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดสูทสีดำ...ก่อนจะนำไปแขวนไว้ในตู้...
“ชุดคุณน้องค่ะ คุณโต้ให้เอามาให้บอกว่าคืนนี้คุณน้องไปไปงานเลี้ยงด้วย...แต่บัวคงจะเข้าไปด้วยไม่ได้แน่ ๆ”
“เหรอ..ไม่เห็นบอกซอเลย..บัวนอนรอที่นี่ก็ได้มีอะไรเดี๋ยวซอจะโทรหา..ซอแค่เดินตามคุณโต้กับคุณโอเท่านั้นคงไม่มีอะไร...” มือถือและเบอร์โทรใหม่ที่เปลี่ยนหลังจากทำงานได้เงินเดือนแล้ว...แต่งานเลี้ยงคืนนี้ผมไม่คิดว่าจะได้ไปด้วย เข้าใจว่าแค่คุณโต้กับคุณโอสองคนเท่านั้น...
“ใครบอกคะ งานเลี้ยงมีสองที่ค่ะ คุณโต้ไปอีกที่ส่วนคุณน้องกับคุณโอจะต้องไปอีกที่นึง...ท่าทางคุณโต้หงิดหงิดนิดนึง คงจะหงุดหงิดที่จะได้ไปคนเดียว..”
“ทำไมล่ะ” ผมย่นคิ้วฟังคนที่เอาเสื้อผ้าของใช้ผมออกจากกระเป๋ามาวางไว้ให้จะได้หยิบใช้ง่ายๆ ก่อนหน้านี้คุณโต้ไม่เห็นบอกอะไรผมถึงเรื่องพวกนี้เลยว่าจะต้องไปไหนมาไหน..ที่สำคัญทำไมงานต้องจัดสองที่ด้วย...
“ก็เห็นบ่นอุบอิบน่ะค่ะ ว่ามีใครพึ่งโทรมาบอก ว่าจะเป็นคุณโอรึเปล่า”
“เหรอ..” จ้องมองท้องฟ้าสีสดนั่นอีกครั้ง เพราะเป็นหน้าหนาวถึงจะไม่หนาวมาก แต่ท้องฟ้าในฤดูนี้มันแจ่มใสเอามาก ๆ
“คิดถึงบ้านไหมคะ”
“คิดถึง”
“อยากกลับไปไหม”
“ยัง ซอจะกลับไปก็ต่อเมื่อซอไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงบ้านหลังนั้นอีก กลับไปตอนนี้ก็ไปเป็นภาระของพวกพี่เหมือนเดิม”
“งั้นมีอะไรทุกข์ใจก็บอกบัวนะคะ ถึงบัวจะช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่บัวรับฟังและจะทำทุกอย่างให้คุณน้องสบายใจ”
“ขอบคุณ..ซอไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณพวกนี้ยังไงดี..” หันไปมองคนที่เดินมายืนข้างๆ เหมือนสิ่งที่ผมคิดจะส่งต่อไปหาอีกคนได้ไม่ยาก สวมกอดพี่สาวที่เข้มแข็งเสมอยามที่ผมมีปัญหา...
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะนี่มันเป็นหน้าที่ของบัว...บัวอาจจะเกิดมาเพื่อทำอย่างนี้...แค่ได้เห็นคุณน้องมีความสุขในฐานะพี่สาวคนนึงอย่างที่คุณน้องบอก...บัวก็มีความสุขที่สุดแล้ว..”
“..อืม มีอะไรซอจะบอกบัวคนแรกเลย..”
“ดีมากค่ะ เตรียมตัวเถอะค่ะ ป่านนี้คุณโต้คงเสร็จแล้ว”
“................” ส่งยิ้มก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้า ก็ชุดที่ใส่มานั่นแหละ แค่เตรียมสมุดโน้ตแล้วก็เตรียมสมองไปใส่ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับสวนเกษตรจำลองที่จัดขึ้นภายในห้องโถงโรงแรมแห่งนี้...
บัวเดินลงมาส่งผมที่เคาท์เตอร์พอคุณโต้ลงมาบัวก็ออกไปหาอะไรกินด้านนอก ส่วนผมกับคุณโต้จะมีอาหารจัดเลี้ยงไว้ข้างใน...ตอนนี้ผมกำลังตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้แปลกตาที่นำมาวางไว้ในงาน บอกชื่อพร้อมวิธีการเพาะพันธ์ุบำรุงรักษาไว้ตามป้ายที่ติดไว้ข้างดอกไม้...คุณโต้เดินไปทักทายคนในงานที่คงจะรู้จักกันแต่ผมเลือกที่เลี่ยงออกมา...ดอกกล้วยไม้หลากสีที่ผมพึ่งจะเคยเห็นเรียกความสนใจได้ไม่น้อย..
“ชอบเหรอครับ”
“เอ่อ ครับ ชอบ”
“จากสวนผมเอง..สวยไหมครับ”
“เห..สวยครับ สวยมาก” อารามดีใจที่ได้เจอคนเพาะทำให้ผมยิ้มให้จนตาหยี...สวยจริงๆ สีสดมากจนแอบคิดไม่ได้ว่าย้อมสีมารึเปล่า...ที่ทุกอย่างดูแปลกตาสำหรับผมก็คงเป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเก็บตัวอยู่แต่ในมุมเล็ก ๆ จนไม่ได้สัมผัสหรือรู้เห็นอะไรมากมายนอกเหนือจากที่อยากรู้จึงเซริจในเน็ทก็เท่านั้น...
“งั้นไว้เลิกงานแล้ว ผมยกให้ดีไหมสนใจสีไหนคุณเลือกได้เลย”
“ให้ผม?” ชี้มือเข้าหาตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนส์สีเข้ม...หน้าคมเข้ม ผิวคล้ำแดด แต่ก็ยังหลงเหลือความหล่อเหลาแบบไทย ๆ ได้อย่างชัดเจน...
“ครับ..เพราะที่สวนมีอีกเยอะเลย”
“จริงเหรอครับ...แต่กลัวว่าเอาไปแล้วมันจะตาย..”
“เดี๋ยวผมให้คู่มือไปเลี้ยงเลยดีไหม...หรือไม่ก็โทรมาหาผมก็ได้ถ้ามีปัญหาอะไร อยากให้เอาไปเผยแพร่บ้างครับ ผมไม่หวง มีสิ่งดี ๆ ก็อยากจะแบ่งปัน มีคนสนใจเยอะนะครับ ถ้าไม่รีบตกลงผมก็ไม่รับรองว่าจะเหลือหรือเปล่า”
“เอาครับ เอา..ซอเอาสีฟ้า..”
“ครับคุณซอ” ผมชะงักก่อนจะส่งยิ้มให้อีกครั้ง เพราะเผลอแทนตัวเองออกไปเหมือนกับที่พูดกับคุณโต้ อีกฝ่ายเลยยิ้มมาให้พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะที่ผมรีบตอบตกลงเพราะกลัวจะไม่ได้...
“ซอทำอะไรอยู่ ไม่หิวข้าวเหรอ”
“ครับคุณโต้..ขอบคุณนะครับคุณ..” ผมหันไปตอบคุณโต้ก่อนจะหันมาขอบคุณคนที่ยืนยิ้มอยู่...ผมจะเอากล้วยไม้ไปขยายพันธุ์ให้เต็มบ้านเลย
“ผมอาทิตย์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณซอและคุณ”
“ผมวีรวัฒน์ครับเรียกโต้ก็ได้...คุณใช่คนที่จัดงานนี้รึเปล่า พอดีผมเป็นหุ้นส่วนกับโอครับ เขาเป็นคนบอกให้พวกผมเข้าร่วมงานนี้” คุณโต้ย่นคิ้วลงเมื่อได้ยินเชื่อคนตรงหน้าก่อนจะแนะนำตัวเองแล้วเอ่ยปากถาม
“งั้นคุณก็คุณโต้เพื่อนโอฬาริศ ครับผมเป็นคนจัดงานนี้เองแล้วคุณกับคุณซอ..”
“ซอเป็นคนของผมครับ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ จัดงานได้ดีมากคนเยอะเลย.... ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะครับ”
“................” ผมสะดุ้งเมื่อแขนแข็งแรงนั่นจู่ๆ ก็มาเกี่ยวเอวผมแล้วรั้งเข้าหาตัวเอง...ส่งยิ้มแหย ๆ ให้คุณอาทิตย์แล้วก็ต้องเดินตามแรงโอบที่เอวออกมา...ทำไมคุณโต้ต้องทำขนาดนี้ด้วยนะ...ผมไม่ชอบเลย...
“เอาอย่างนี้นะซอ คุณเดินตามและจดสิ่งที่ผมบอกก็พอ ไม่ต้องไปไหนไกลผม”
“ครับคุณโต้” ได้แต่เดินตามคนที่สั่งผมด้วยเสียงเข้ม หลังจากยอมที่จะปล่อยเอวผม...แล้วอย่างนี้ผมจะได้กล้วยไม้ได้ยังไงกัน...
เดินดูในงานอีกนิดหน่อยก่อนจะมีการประชุมประมาณสองชั่วโมง ซึ่งก็ได้แต่ส่งยิ้มให้คนที่สัญญาจะให้กล้วยไม้ที่เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อคุณโต้หันมามองทำหน้าดุๆ ใส่... คงจะคิดว่าผมทำเกินหน้าที่อีกล่ะสิ ก็แค่ยิ้มเพราะกลัวอีกคนลืมกล้วยไม้ผมก็เท่านั้น...ส่วนรายละเอียดการประชุมผมจดแทบจะทุกรายละเอียดอยู่แล้ว...
“เหนื่อยจัง”
“น้ำเย็นค่ะ พักได้อีกไม่นานนะคะ เพราะนี่ก็เกือบทุ่มแล้ว คุณโต้โทรมาบอกว่าคุณโอมาถึงแล้วงานเลี้ยงที่จะไปด้วยเริ่มสามทุ่มค่ะ”
“อืมม..” เอาหน้าถูหมอนเล่น...ในที่สุดกล้วยไม้สีฟ้าสด...ผมก็ไม่ได้จริงๆ ด้วย เพราะต้องเดินตามคุณโต้ที่เอาแต่เดินเลี่ยงออกจากคุณอาทิตย์ตลอด เสียดายจัง อยากได้มากแท้ ๆ
นอนเล่นคุยกับบัวได้อีกไม่นานก็ต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว...ชุดสูทสีดำเข้ารูปถูกสวมหลังจากอาบน้ำและจัดการกับร่างกายเสร็จ..มันพอดีจนเหมือนกับว่าตัดมาเพื่อผมโดยเฉพาะ แต่ไม่น่าใช่เพราะคุณโอไม่เคยมารู้ไซส์ผมด้วยซ้ำ...คงจะแค่บังเอิญซื้อมาแล้วมันพอดี....เสื้อเชิ๊ตตัวในสีฟ้าอ่อนซึ่งเป็นสีที่ชอบพอดี เนคไทค์สีเดียวกับเสื้อถูกผูกและรูดขึ้นจนชิดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุด...
“ว้าวว ไม่ยักกะรู้ว่าคุณน้องใส่สูทแล้วดูดีมาก ๆ เลย”
“หล่ออ่ะดิ”
“สวยต่างหาก”
“..................” ทำหน้าทำตาไม่เชื่อให้บัว ก่อนจะหมุนตัวหน้ากระจกมันก็ดูแปลกตาไปเหมือนกัน แต่แน่นอนว่า...
ก๊อกๆๆ
“ เสร็จรึยัง “
“คุณโอ” สู้อีกคนที่จะไปด้วยไม่ได้แน่ ๆ แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อร่างสูงที่ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่บัวไปเปิดประตูทำให้ผมเผลอมองนานไปนิด ก็มันน่าดูน้อยที่ไหน ร่างสูง ในชุดสูท ทั้งหล่อและเท่ห์มาก ผิดกับผมที่ดูกระหร่องกระแหร่งยังไงชอบกล...สองมือหนาที่ล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับยืนอย่างสง่าอยู่หน้าประตูทำให้ผมรนรานหารองเท้ามาใส่....ดูดีจนคนมองแทบจะลืมหายใจ...ขนาดบัวยังจ้องแล้วจ้องอีก...แต่ทำไมต้องจ้องไปคิดไปขนาดนั้น หรือเคยเจอคุณโอที่ไหน...แต่ตอนที่คุณโอไปที่สวนบัวยังไม่ได้เจอคุณโอเลย...
“เสร็จแล้วครับ บัว เอ่อ พี่บัวซอไปก่อนนะ”
“คะ ค่ะคุณ นะ...อ๋อ ไปเถอะ ฝากด้วยนะคะคุณโอ น้องชายบัวไม่ค่อยประสาอะไร อย่าถือสานะคะถ้าทำอะไรไม่ถูกใจ”
“ได้ ผมจะดูแลให้ ไปกันเถอะ” ผมยิ้มให้บัวก่อนจะเดินออกมายืนข้างๆ คุณโอ..กลิ่นหอมอ่อน ๆในแบบของผู้ชายเตะจมูก จนเผลอเงยหน้ามองคนสูงกว่าที่กำลังออกเดินไปพร้อม ๆ กัน
“มีอะไร”
“เปล่าครับ” เผลอมองนานไปหน่อยอีกคนคงรู้สึกตัว คุณโอหันมามองผมในขณะที่กำลังลงลิฟท์แล้วเอ่ยปากถาม...จะกล้าตอบได้ยังไงว่าเพราะคุณน่ะหล่อจนผมเผลอมองนานไปหน่อย...ถูกโดนว่าบ้า หรือไม่ก็คิดว่าผมเป็น..แน่ ๆ
ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ถูกประดับประดาอย่างหรูหรา ผู้คนคลาคล่ำเต็มไปหมด ผมมองซ้ายขวามองคนในงาน มันใช่งานเลี้ยงสวนเกษตรแน่รึเปล่า เดินตามหลังคุณโอเข้าไปในงาน มองด้านหลังที่ตอนนี้มีผู้ชายร่างสูงใหญ่สองคนเดินตามผมกับคุณโอมาด้วย..จนต้องรีบสาวเท้าให้ทันคนที่เดินข้างหน้า...มาเดินตามตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่าทางน่ากลัว...
“คนของผมเอง”
“คะ ครับ” คนของคุณโอ...
“ยินดีต้อนรับคุณโอฬาริศ เป็นเกรียติมากที่คุณมางานนี้”
“ยินดีครับ พอดีคุณพ่อติดธุระเลยมาไม่ได้ต้องขอโทษด้วย” มองคนที่เดินเข้ามาต้อนรับ ดูเหมือนว่าคนในงานจะให้ความสนใจคนที่อยู่กับผมไม่น้อย รวมทั้งกล้องที่รัวชัตเตอร์ไม่หยุดตั้งแต่เข้างาน...ผมชักเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะมันเกินบรรยากาศที่ผมคิดไว้เกินไป มันทั้งหรูหราและ...ไม่เหมาะกับผม...หันมองผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยท่าทางนิ่ง ๆ แล้วคนอื่น ๆ ที่อยู่ในงานก็ดูดีเกินที่จะอยู่ในงานเลี้ยงสวนเกษตรอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรก...
“ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อผู้นำของพยัคฆราชมาเองแบบนี้ถือว่าเป็นเกรียติอย่างมากแล้ว...แล้วนี่..”
...พยัคฆราช!!....
“คุณซอเป็นเลขาของผมครับ”
“..คุณโอ...” พูดเสียงกระซิบออกไปอย่างแผ่วเบา...ก่อนจะจ้องหน้าคนที่หันมาแนะนำผมให้เจ้าของงานรู้จัก
...ผู้นำพยัคฆราช... ความรู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า...นี่ผมกำลังเจอกับเรื่องอะไรอยู่...
King Tiger / OP
...ราชาแห่งเสือ โอฬาริศ พยัคฆราช...ผู้นำพยัคฆราชคนใหม่...
“ผมขอตัวกลับก่อน”
“อย่าพึ่งไปสิ งานยังไม่เริ่มเลย ....ผมขอตัวนะครับขอคุยกับเลขาผมซักครู่...”
"เชิญครับ เชิญ"
“คุณเป็นใครกันแน่!” แขนผมถูกฉุดไว้ ก่อนจะถูกลากเข้าไปในมุมของห้องจัดเลี้ยง โดยมีคนร่างสูงสองคนเดินตามและประกบผมไว้...หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น...พร้อมกับตวัดสายตาคนที่ยังกำแขนผมแน่นจนเหมือนกระดูกจะหัก...
“ผมเป็นใครแล้วยังไง ผมก็เป็นเจ้านายคุณ...แล้วคุณเป็นใคร ทำไมต้องตกใจขนาดนี้..”
“คือ..ผม..มะ...”
“ว่ายังไงครับ คุณศนัญชา ราชสีห์เกริกไกร”
“คุณโอ!” ..ไม่จริง...คนตรงหน้าผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมเป็นใคร...แต่ทำไมถึง....ดวงตาแข็งกร้าวแววตาส่อประกายเย้ยหยันออกมาชัดเจน...ใช่คุณโอที่ผมรู้จักก่อนหน้านี้รึเปล่า
...ไม่ใช่...คน ๆ นี้ไม่ใช่คนที่ผมเคยรู้จัก...
“ตกใจล่ะสิ...เสียใจไหมที่หนีจากกรงทอง มาอยู่ในกรงของผม..”
“ปล่อยผมเถอะ!..ผมจะกลับ..” ร่างกายผมเย็นวาบไปหมด...แล้วตอนนี้คนที่กักขังผมอยู่ต้องการอะไร...ก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้นเพราะความหวาดกลัวที่วิ่งเข้ามาในหัวใจ...ขาสั่นไปจนแทบยืนไม่ไหว...รู้ตัวว่าหน้าผมคงจะซีดมาก...
“คุณมาในงานในฐานะเลขาผม และผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลย คุณกลัวอะไร”
“ไม่ผมจะออกไปจากที่นี่!! คุณต้องการอะไรกันแน่!” เหมือนถูกต้อนให้จนมุม เมื่ออีกคนยังพูดพร้อมรอยยิ้มเยาะ...คนในงานเริ่มหันมามองแต่ก็ไม่มีใครกล้าจ้องนานเพียงแค่การ์ดสองคนที่ยืนอยู่หันไปมอง...สติผมเริ่มหลุดแล้วตอนนี้...ผมพยายามหนีจากแวดวงสังคมของการแก่งแย่งชิงดีพวกนี้ ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่โอบกอดไปด้วยธรรมชาติ...คิดว่าจะดีแล้ว...แล้วทำไม!.ทำไมต้องเจอเรื่องเดิมๆ พวกนี้ด้วย!...
“ซอ!”
“...............”
“ซอ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง พี่ตามหา..”
“พี่โซ!!” หันมองตามเสียงเรียกจากภายในงาน ก่อนจะมองเห็นชัดว่าคนที่เดินเข้ามาหาคือใคร
...พี่โซ...แล้วยังมีพี่ซันกับพี่ไซน์ที่วิ่งตามเข้ามา...ทุกคนทำสีหน้าดีใจจนเหมือนว่าจะวิ่งมากอดผม...แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่จับแขนผมอยู่คือใคร....น้ำตาผมรื้นขึ้นมาเมื่อมองเห็นคนที่ผมคิดถึงที่สุดทั้งสามคนอยู่ตรงหน้า คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ อ้อมแขนที่พยุงผมเสมอ...แต่ผมเป็นคนจากพวกเขามา...ยิ่งอยู่ในเหตุการณ์สับสันอย่างนี้ผมอยากจะกอดพวกพี่มากที่สุด...
“สวัสดีครับ ราชสีห์เกริกไกรทุกคน”
“คุณโอ! แล้วซอ..”
“รู้จักกันเหรอครับ บังเอิญว่าตอนนี้ซอเป็นเลขาผมอยู่”
“เลขา...นี่มันเรื่องอะไร ซอ..”
“ พี่โซ..ฮึก...”
“เชิญในห้องพักดีกว่าครับ” น้ำตาผมไหลออกมาแล้วในที่สุด ไม่ใช่ว่าเจ็บเพราะแรงบีบที่ต้นแขน...แต่เจ็บเพราะสายตาที่พวกพี่มองมาที่ผมทอประกายเจ็บปวดและหวาดระแวง...
“ปล่อยน้องชายผมได้แล้วครับเจ้าสัวน้อย”
“พี่ โซ ฮึก”
“..ซอ...” ทันทีที่มือหนานั่นปล่อยแขนผม เหมือนแรงดึงดูดที่ทำให้โผเข้าหาอ้อมกอดพี่ชายที่รออยู่ สะอื้นฮักอย่างขวัญเสีย และตกใจกับสิ่งที่เจอ พี่โซกอดผมไว้ทั้งตัว กอดแน่นจนอึดอัด พร้อมกับลมหายใจที่สูดลงบนกลุ่มผม....ผละจากพี่โซ กอดพี่ซัน จนสุดท้ายก็มาอยู่ในอ้อมกอดพี่ไซน์พี่ชายที่อ่อนโยนกับผมมาตลอด...และตามใจผมที่สุด..
“ผมจะพาน้องผมกลับบ้านคุณคงไม่ว่านะครับ”
“คุณถามน้องชายคุณก่อนก็ได้ครับ” คนที่ยืนอย่างองอาจและหยิ่งผยองพูดขึ้น พร้อมกับตวัดสายตามามองผมพร้อมกับยิ้มมุมปาก...เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมอึดอัด...
“ซอ..มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปอยู่กับเขา..”
“ คือ ซอ..”
“ น้องพวกคุณเป็นคนเดินเข้ามาหาพวกผมเอง...ตอนนี้ก็เท่ากับเป็นคนของผม..ถึงน้องคุณจะตัดสินใจที่กลับไป แต่การตัดสินใจเด็ดขาดก็อยู่ที่ผม”
“คุณโอฬาริศ!!”
“...............” ในห้องพักที่ทั้งสองตระกูลเข้ามายืนอยู่ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ผมขย้ำเสื้อตรงหน้าอกพี่ไซน์แน่น...ก่อนจะก้มหน้าแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก...
“ซอ ว่ายังไง! กลับบ้านกับพี่!..”
“..ซอ..ไม่...”
“...ซอพูดตั้งแต่เมื่อไหร่...” ดูเหมือนเหตุการณ์ที่ชุลมุน จนพวกพี่ลืมไปว่าผมพูดออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่เจอกัน...พี่ไซน์หรี่ตาก้มลงมองผมที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง...
“ก็คงตั้งแต่มาอยู่กับผม...เห็นไหมล่ะว่าผมทำให้น้องพวกคุณดีขึ้น..”
“ไม่ จริง! ฮึก ซอ...ฮึก..”
“ ทำไมล่ะซอ! บอกเหตุผลพี่มา ว่าซอทำอย่างนี้ทำไม!! หนีออกจากบ้าน!แล้วไปอยู่กับคนอื่น มิหนำซ้ำยังยอมที่จะพูดกับคนอื่นมากกว่าที่จะพูดกับพวกพี่!! ทำไมล่ะซอ!!”
“ ฮึก ฮือ พี่โซ! ซอ เจ็บ!!” ทั้งที่พี่พูดเป็นความจริงทุกอย่างแต่ทำไมผมถึงรู้จักเจ็บเหมืิอนถูกตบหน้า...คำพูดของพี่โซทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนทรยศ...มือหนาของพี่ชายบีบที่บ่าและจับตัวผมเขย่าจนแทบจะยืนไม่อยู่...เป็นครั้งแรกที่พี่โซทำให้ผมเจ็บ แต่ก็สมควรแล้ว...
“พี่โซ ปล่อยซอก่อน!”
“โธ่เว้ยย!!”
“ฮึก ฮืออ พี่.. ซอ ขอโทษ ฮืออ” พี่ไซน์กอดผมไว้อีกครั้งเพราะกลัวว่าพี่โซจะเข้ามาทำผมเหมือนเมื่อครู่อีก...ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้โกรธ...ได้แต่โทษตัวเอง..โทษที่ผมมันไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย...พี่โซสบถอย่างหัวเสียก่อนจะเหวี่ยงเท้าเตะที่เก้าอี้จนสุดแรง...
“..กลับบ้านซอ..ไม่ต้องอยู่แล้วกลับให้หมด!..”
“คุณอยากจะยืนอยู่ด้วยตัวของตัวเองไม่ใช่หรือไง จะเลิกล้มกลางคันงั้นเหรอ”
“..ฮึก.ฮือ..อึก.....” หันมองคนที่พูดทั้งน้ำตาและแรงสะอื้น...ใช่ผมคิดไว้อย่างนั้น...และยังคิดว่าอยากจะทำอย่างที่คิด...หันมองหน้าพวกพี่ก็ยิ่งสะอื้นออกมาหนักกว่าเดิม...แล้วคุณโอรู้ได้ยังไงว่าผมตั้งใจจะทำอย่างนั้น..ทำไมถึงรู้เรื่องพวกนี้ได้ทั้งที่เจอกันแค่ครั้งเดียว...
“ซอ..ซอเป็นคนของราชสีห์เกริกไกร ซอจะไปยุ่งกับคนของพยัคฆราชได้ยังไง!!”
“พี่โซใจเย็น ๆ ครับ” พี่ซันเข้าไปห้ามพี่โซที่จะตรงดิ่งมาหาผม...เป็นผมที่ยืนนิ่ง...จะทำอะไรก็ได้ จะตบ จะตี..ผมยอมทุกอย่าง ให้สมกับสิ่งที่ผมทำให้พวกพี่เสียใจ...ผมจะบอกได้ยังไงว่ามันบังเอิญ...จะอธิบายยังไง...
“ซอ กลับบ้านกับพวกพี่นะ..พี่รู้ว่าซอโกรธคุณพ่อ..แต่ต่อจากนี้พี่จะพยายามเปลี่ยนใจคุณพ่อให้ล้มเลิกความเชื่อบ้า ๆนั่น...”
“..ฮึก คือ...คุณ พ่อ ไม่มี ทาง รักซอ..” พูดออกไปพร้อมกับส่ายหัวน้อย ๆ ให้พี่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้...
“ต้องได้สิ แล้วเราก็จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”
“ ...ฮึก....” รู้สึกว่าหัวใจจะอุ่นวาบขึ้นมาเพียงเพราะคำว่า...เราจะมีความสุขด้วยกัน....เลยนิ่งไปและเริ่มคิด...ก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชายที่นิ่งเหมือนกันเพราะรอคำตอบผมอยู่...
“...บริษัทส่งออกที่จะถูกถอนหุ้นเป็นกำลังทรัพย์สำคัญของราชสีห์เกริกไกร...ซึ่งกำลังจะถูกผมเทคโอเวอร์ในอีกไม่นาน...ถ้ายอมให้เรื่องนี้ผ่านไปเหมือนคุณไม่ได้เจอน้องชาย..ผมจะยอมพิจารณาคุยกับผู้ถือหุ้นเพื่อความเชื่อมั่น และไม่เข้าไปยุ่ง...”
“คุณอย่ามาอ้าง..คุณรู้ถ้ามีซอจะต่อรองหรือร้องขออะไรจากราชสีห์เกริกไกรก็ได้!!..”
“งั้นเหรอ ผมไม่เคยรู้เลยว่าน้องชายคุณจะเป็นจุดอ่อนของพวกคุณขนาดนี้” หันมองทั้งสองคนที่ยืนเผชิญหน้ากัน..พี่โซหน้าเข้มเหมือนว่าตัวเองกำลังพลาดอะไรซักอย่าง...
“คุณมัน!!.....ซอกลับกับพี่!!”
“แล้วแต่พวกคุณนะ..ผมเตือนคุณแล้ว คุณก็รู้ว่าตอนนี้...ผมสามารถที่จะทำอย่างที่พูดได้...” เสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากที่พวกพี่พยามโอบผมให้เดินออกมาด้วย
...ทำไมเรื่องแบบนี้พวกพี่ไม่เคยพูดให้ผมฟังเลย....เรื่องที่บ้านเรากำลังจะลำบาก....
“ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ คุณกล้าพูดไหมว่าจะไม่เก็บซอไว้ต่อรองกับพวกเรา..ไม่่งั้นคุณคงไม่พาซอมาที่นี่เพื่อให้เจอกับพวกเรา”
“..................” ไม่มีเสียงพูดจากอีกฝ่ายที่ยืนอยู่หลังจากพี่ซันพูดออกไปอย่างใจเย็น.. มีเพียงสายตาคมที่ทอดมาสบกับผมยามที่ผมหันไปมอง...สายตาที่บ่งบอกว่าเหนือกว่า และจะทำอะไรก็ได้ในตอนนี้..ร่างกายสูงใหญ่ดูมั่นคงและมั่นใจในสิ่งที่ตัดสินใจ แม้แต่น้ำเสียงเวลาพูดก็เหมือนคมมีดที่กรีดใครต่อใคร....
“...คุณเลือกสิซอ...”
***

มาอีกตอนแล้วจ้า พอดียุ่ง ๆ ช่วงเช้า ขอบคุณหลายคนที่ชอบนะคะ ตอนต่อไปก็เร็วๆ นี้ค่ะ ขอบคุณทุกบวก และบวกเป็ดจ้า ลงบ่อยห้ามเบื่อน้า..