CHAPTER 6
“รุก ไล่ รับ” รับสิมึง... รับ...
ไม่ได้บอกให้ไอ้พี่เลี้ยงเด็ก ‘รับ’ นะครับ ตอนนี้กำลังต่อสายหาไอ้ธามอยู่ กรุณาเข้าใจให้ตรงกันด้วย
[ ฮัล... โหลลลลลล~ ] อูย... ดีใจน้ำตาจะไหล แม่งรับสักที กูต่อสายไปห้าหกสายเพิ่งรับ [ นั่นใครครับ ]
“กูเอง”
[ กูไม่รู้จักคนชื่อกูเองว่ะ ]
…นี่มันกวนตีนแบบจงใจใช่มั้ย “เพชรไง”
[ อ๋อ ] พอผมตอบชื่อตัวเองไปปลายสายก็ร้องอ๋อขึ้นมาทันที [ กูจำได้ๆ แล้วมึงโทรมาทำไม ] น้ำเสียงดูมีสติขึ้นเยอะ
ผมเหลือบมองนาฬิกา พบว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่ม คนอย่างไอ้ธามจะนอนแล้วงั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้ เพิ่งดื่มเหล้ามาล่ะสิไม่ว่า
“กูโดนจีบ”
[ อ๋อ... โดนจีบ ] ไอ้ธามทวนคำเดิมนิดหน่อยก่อนที่จะนิ่งไปพักหนึ่ง
[ แล้วมึงมาบอกกูทำไมวะ!? ] “เชี่ย เบาๆ หูกูจะแตก!”
ผมกระซิบกระซาบเสียงเข้ม พยายามไม่พูดเสียงดังเพราะตอนนี้อยู่ในห้องตัวเองติดกับห้องนอนพระพาย ขืนหลานตื่นผมจะยุ่งเอาน่ะสิ ปกติผมให้แกนอนไม่เกินสี่ทุ่มครึ่งในช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ยังเด็กอยู่ต้องดูแลเรื่องนี้กันหน่อย
[ แค่มึงโดนจีบมึงมาบอกกู... เพื่ออัลไล ] น่าน จะสามสิบแล้วทำตัวตามวัยรุ่น พูดอะไรไม่ได้นะครับ ต้องพูดว่า ‘อัลไล’ [ ปกติเห็นมีคนมาจีบป๊ะกันสามคนมึงยังไม่เครียดเลย หรือมึงห่างหายจากเรื่องแบบนี้ไปนานแล้ววะ เลี้ยงหลานนานเกินอะไรงี้ ]
“ไม่ใช่เว้ย” ผมปฏิเสธ
[ แล้วมันยังไงวะ ]
พอโดนคำถามนี้ทำให้ผมอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนที่จะขยับปากอธิบายอย่างฝืนทน
“คือคนที่จีบกู... แม่งเป็นผู้ชาย” ปลายสายเงียบกริบเลยครับ คงอึ้งมาก แต่เพราะสาเหตุนี้ทำให้ผมโทรมาปรึกษามันเลยนะเว้ย
ไอ้ธามเนี่ยมันเป็นเกย์ แต่ฝั่งไหนไม่แน่ใจ คิดว่าฝั่งคิงแต่ไม่รู้จะใช่มั้ย ดีกรีมันมีตั้งแต่ตอนเรียนมหา’ ลัยในไทยแล้ว มันหล่อคนเลยวิจารณ์บ่อยๆ ว่าแม่งเป็นรึเปล่า ตอนนั้นผมก็ไม่สนิทกับมันเลยไม่รู้ พอไปเรียนต่างประเทศด้วยกัน... มึงเอ๊ย หนุ่มเอเชียตัวเล็กๆ โดนมันฟาดเรียบ แต่มันไม่สนใจพวกฝรั่งนะครับ มันบอกว่าน่ากลัว เดี๋ยวมันเสียเอกราช ซึ่งปัจจุบันผมก็ไม่รู้ว่ามันเสียเอกราชไปรึยัง ไอ้ธามแม่งชอบบอกว่ามันมีพลิกโผได้ในช่วงโมงเหิน หรือก็คือตอนป้าบๆ (เอาสองมือตบกัน) นั่นเอง
[ อุ๊บ... ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ]
“เชี่ย หัวเราะทำไม” ผมสบถอย่างเหลืออดเมื่อจู่ๆ ปลายสายหัวเราะออกมาเสียงดัง “ไม่ตลกนะเว้ย”
[ ตลกดิ... ฮ่ะๆ กูว่ามึงไม่ใช่สเป็กเกย์เลยนะ ทำไมมีคนมาจีบวะ ก๊ากกกก ] …เสียงหัวเราะมึงสะใจไปหน่อยปะธาม
“เออ ไม่ใช่สเป็กก็ดี แต่แม่งเกิดขึ้นแล้ว” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ทำไงดีวะมึง ไม่ตลกนะเว้ย กูยังอยากสืบพันธุ์เข้าใจปะ”
[ ฮ่ะๆๆๆ เข้าใจๆ ] มันเริ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้วกลับมาพูดกับผมเยี่ยงมนุษย์อีกครั้ง [ แล้วไปทำอิท่าไหนได้วะถึงมีผู้ชาย ฮ่ะๆ อุ๊บ เข้ามาจีบ ] ไม่ต้องกลั้นหัวเราะขนาดนั้นก็ได้นะ ถ้าอยากหัวเราะเดี๋ยวกูวางสายก่อนแล้วมึงโทรกลับมาดีกว่ามั้ย...
“พี่เลี้ยงพระพาย”
[ ห๊า นี่มึงเอาผู้ชายมาเลี้ยงหลานสาวเรอะ! ]
“เออดิ แต่เป็นน้องชายของครูพระพาย ก็คงไว้ใจได้” แต่บอกตรงๆ ตอนนี้เริ่มไว้ใจไม่ได้แล้วครับ
[ ไว้ใจได้แล้วทำไมจีบมึงวะ ] มันพูดน้ำเสียงล้อเลียน [ แล้วเป็นไง ตัวเล็ก ขาว ตี๋ ปากนิดจมูกหน่อย... ]
“ตัวสูง ขาว หน้าคม จมูกอย่างกับสันปันน้ำ”
[ ก๊ากกกกกกกกกก ]
ไอ้ธามแหกปากหัวเราะอีกรอบเมื่อผมอธิบายถึงไอ้พี่เลี้ยงเด็กยิ้มเทวดานั่นจบ ดูสะใจมากเลยนะ มึงช่วยสงสารกูหน่อยได้มั้ยวะ... ตอนนี้นายพชรเสียวก้นชิบหาย!
[ โอ๊ย... กูนึกว่ามีเกย์ตัวเล็กๆ มาจีบ ที่ไหนได้ ฮา ]
“ฮาอะไรเล่า” ผมเค้นเสียงต่ำลอดไรฟัน “ไม่ตลกเลยนะ จะหาพี่เลี้ยงเด็กได้จากไหนอีกวะ กูจะเอาคนเลี้ยงหลานเข้าใจมั้ย!”
[ นี่ไง ได้คุณพ่อแล้ว มึงก็เป็นคุณแม่ซะ กิกิกิ ]
…แม่งยังมาหัวเราะกิกิ ถ้าอยู่ตรงหน้านี่จะเอารองเท้าหนังเหยียบหน้ามันซะ “กูเป็นผู้ชาย”
[ แล้วกูไม่ใช่ผู้ชายเหรอวะ ] ไอ้ธามเริ่มสวนกลับมาเสียงขุ่นนิดหน่อย [ กูก็ผู้ชายนะเว้ย แต่พอดีกูชอบผู้ชายด้วยกันเฉยๆ นั่นแหละความหมายของคำว่าเกย์ ]
“กูกำลังถามว่ากูจะทำยังไงไอ้เด็กนี่ถึงจะเลิกจีบกูได้ โดยที่กูยังมีพี่เลี้ยงอยู่” ผมเบี่ยงเบนประเด็น
[ เด็กด้วยเรอะ! ]
“มหา’ ลัย ตอบกูมาว่าทำไง”
[ ง่ายๆ เว้ย ] ไอ้ธามเริ่มดูมีคุณค่าขึ้นมาทันทีเมื่อมันทำตัวให้คำปรึกษาผมประสาคนที่เป็นกูรูกูรู้เรื่องนี้
[ ยอมให้เด็กกินซะ มันจะเลิกจีบมึงเพราะมันจีบติด และมึงก็จะได้พี่เลี้ยงพระพายด้วย ง่ายมากกก! ] “ลาขาด”
ผมกดตัดสายมันแทบจะในทันทีเมื่อสมองประมวลผลเสร็จก่อนที่โยนมันลงเตียงทันที ใจจริงคืออยากปาออกนอกหน้าต่างแม่งเลยแต่ทำไม่ได้ เพิ่งใช้มาไม่นาน และก็กลัวหลานตื่นด้วย ตื่นมาตอนห้าทุ่มนี่คงไม่ดี
คำแนะนำเชี่ยของมึง! ถ้าเอาไปใช้เอกราชกูจะเป็นยังไง! ครืด~
มือถือบนเตียงสั่นขึ้นมาใหม่ ผมเหลือบตามอง เบอร์ที่เพิ่งตัดสายเมื่อกี้ขึ้นหราอยู่บนหน้าจอ
“มีอะไรอีก” ผมกดรับถามเสียงห้วน
[ ล้อเล่นเอง ตัดสายกันเลยเหรอ ]
“อย่ามาทำเสียงแบบนี้ กูขนลุก” เพื่อนผู้ชายนะครับไม่ใช่เพื่อนผู้หญิง ให้มันมาทำเสียงเล็กๆ เหมือนจะออดอ้อนนี่ขนตั้งชันทั้งตัว
[ ใช่สิ กูมันไร้ค่าแล้วนี่ ]
“สรุปมีอะไร” ...เดี๋ยวปั๊ดตัดสายอีกหรอก
[ กูจะบอกว่ามึงอย่าหลบมาก ] ไอ้ธามพูดออกมาน้ำเสียงจริงจังผิดกับตอนแรก [ อย่างเวลากูจีบผู้ชายใช่มั้ย ถ้าคนเขาหลบมากๆ มันก็ยิ่งสนุกอ่ะ ต้องรุกเข้าหาอะไรแบบนี้ แต่ถ้ามึงเล่นกลับบ้างอาจจะทำให้มันตกใจ ไม่กล้าเข้าใกล้มาก ]
ผมพยักหน้า เห็นคุณค่ามันขึ้นมาทันที “แน่ใจนะ?”
[ ระดับนี้แล้ว! ] มันยืนยันเสียงแข็งขัน [ก็ที่เขาบอกไงว่าการโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด เราก็เล่นกลับไปบ้างทีนี้มันก็จะไม่ค่อยกล้าเล่นกับมึงเท่าไหร่หรอก ]
“ถ้าเด็กนั่นไม่หยุดทำไง”
[ ง่ายๆ เว้ย ]
…
[ ก็หันก้นให้มันซะ มึงคงหนีไม่พ้น กร๊ากกก ] “ไปตายซะไอ้เวร”
ผมว่าและตัดสายมันอีกครั้งอย่างไม่ไยดีใดๆ ทั้งนั้น เหมือนจะดูดีในตอนแรกสุดท้ายตอนจบก็ล่ม... ทำไมกูไม่มีเพื่อนเก่าที่ดีๆ กว่านี้วะเนี่ย คนอื่นๆ ก็เลิกติดต่อไปหมดแล้ว ทำไมต้องติดต่อมันด้วยวะ
น่าสมเพชรจริงๆ นายพชร! หยุดได้แป๊บเดียวก็ถึงวันจันทร์อีกแล้ว ผมแอบขุ่นใจนิดหน่อย รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนไม่เพียงพอ
ตอนเช้าผมรอให้ฟ้าครามมาที่บ้านก่อนที่จะออกไปทำงานโดยการโหนรถเมล์เหมือนกับปกติ แต่รีบผละออกมานิดหน่อยเนื่องจากผวา กลัวว่าพี่เลี้ยงเด็กจะทำอะไรลามปามมากไปกว่านี้
นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ถึงเอาเจ้าเด็กนี่มาเป็นพี่เลี้ยงพระพาย… พี่เพลง ผมขอโทษ...
พอตอนเย็นผมก็กลับบ้านได้เร็วหน่อย อันที่จริงผมได้รับคำเชิญไปกินสังสรรค์กับคนในแผนกแต่ผมก็ต้องปฏิเสธเนื่องจากเป็นห่วงหลาน จนปลายรุ้งเอ่ยปากถามคำเชิญชวนออกมาด้วยรอยยิ้ม
“งั้นวันหลังเราไปดื่มกันมั้ย”
...แน่นอนว่าผมไม่ปฏิเสธแต่ยังไม่ได้นัดกันอย่างชัดเจนว่าจะเป็นเมื่อไหร่
ความสัมพันธ์ของผมกับปลายรุ้งค่อนข้างจะดูเรียบง่าย ผมคิดว่าผู้ชายเป็นแบบนี้เกือบทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น อย่างตอนนี้อีกไม่กี่เดือนผมก็จะสามสิบอยู่แล้ว ผมเริ่มมองหาคู่ชีวิตแล้วแหละ... แต่คงจะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ ผมอยากให้เรื่องพระพายลงตัวกว่านี้ก่อน และถ้าบอกตามตรงผมก็เข็ดขยาดกับเหตุการณ์ของเมียใหม่คุณปฐพีไม่ใช่น้อย ถ้าหากปลายรุ้งเป็นผู้หญิงแบบเดียวกัน รักผมแต่ไม่รักหลาน... แบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่
ขณะนี้ขอตั้งปฏิญาณไว้ก่อนว่าคู่ครองของผมต้องเป็นคนรักเด็ก
...
และเป็นผู้หญิงที่อายุใกล้ๆ กับผม ไม่ใช่คนที่เป็นผู้ชายตัวสูง อ่อนกว่าผมเกือบสิบปี เรียนทันตะฯ แถมดูเหมือนปรารถนาการเป็นหมอ ‘ฟัน’ เต็มที่... ตอนนี้ดูจ้องจะฟันกูเหลือเกิน!
ผมกลับมาถึงบ้านประมาณหกโมง กดกริ่งหน้าบ้านเพื่อเป็นการบอกก่อนที่จะเปิดประตู
“มาแล้วเหรอครับ”
...กูอยากเจอหลาน จะเจอหลาน เป็นพี่เลี้ยงเด็กอย่ามาก่อนหลานกู แง่งง
แม้ในใจจะอยากบ่นมากแค่ไหนแต่ผมก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “อือ”
“น้าเพชรค้า!”
“ว่าไงลูก” กำลังใจกลับมาแทบจะในทันทีเมื่อพระพายวิ่งเหยาะๆ มาหาผม พร้อมกับกระตุกกางเกงผมเบาๆ ผมก้มหน้าลง “มีอะไรคนเก่ง”
“วันนี้พี่ฟ้าสอนพระพายเล่นเปียโนด้วย!”
“จริงเหรอ” ผมแปลกใจนิดหน่อย อันที่จริงที่บ้านนี้มีอยู่ไม่ใช่เปียโนหรอก เป็นคีย์บอร์ดต่างหาก แต่ถ้าหลานบอกมาแบบนั้นผมก็ไม่อยากขัดอะไร “แล้วเล่นเพลงอะไร”
“เพลงแมงมุมมมม” หลานลากเสียงยาว “เพลงเดียวกับที่ครูน้ำเคยสอนเต้นเลย”
“เอาไว้เต้นให้น้าดูหน่อยนะคะ” ผมหอมแก้มซ้ายขวาของพระพายอย่างที่เคยทำประจำก่อนที่จะเดินถอดรองเท้าเข้าบ้านอย่างอ่อนแรง
“ผมช่วยครับ” จู่ๆ ฟ้าครามก็เอื้อมมือมาคว้ากระเป๋าใส่เอกสารที่วันนี้หนักกว่าทุกวันเนื่องจากผมแบกแมคบุ๊คไปทำงานด้วย เล่นเอาปวดไหล่เลย
“ฮะ? อ๋อ... ก็ดี”
“เดี๋ยวผมจะทำอาหารให้ทาน คุณเพชรไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ”
“อือ ขอบใจมาก” ผมพยักหน้าเออๆ ออๆ “เดี๋ยวนะ” ก่อนที่จะหันกลับไปเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“อะ อะไรเหรอครับ” ...สะดุ้งทำไมวะ ทำหน้าเหมือนคนโดนจับผิด
“ผมบอกว่าคุณไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวผมจัดการเองก็ได้ คุณกลับบ้านเถอะ” ผมเอ่ยขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่านี่มันจะถึงเวลาที่ผมตกลงกับเขาไว้ในตอนแรกแล้ว
“แต่...” ฟ้าครามทำหน้าเหมือนจะแย้ง “ผม...” จะพูดอะไรทำไมนานจังวะ “ผมสัญญากับพระพายแล้วว่าจะทำข้าวหน้าหมีเกาหลูให้ทาน!”
ผมเลิกคิ้ว “เหรอ”
“ครับ!” อีกฝ่ายยืนยันเสียงแข็ง
พอได้รับคำยืนยันแบบนั้นผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เออๆ ไปทำไป” มันสัญญากับเด็กไว้แล้วก็ปล่อยๆ ไปเถอะ ผมเองก็กลัวว่าพระพายจะเอาเป็นตัวอย่างเรื่องไม่ทำตามสัญญาเสียด้วยสิ
ตอนนี้พระพายก็วิ่งขึ้นไปดูการ์ตูนโจรสลัดต่อ (เรื่องเดิมนั่นแหละ) ผมเลยเดินขึ้นไปอาบน้ำอย่างสบายใจ ปล่อยให้ว่าที่หมอฟันที่ตอนนี้ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กไปเข้าครัว
มีพี่เลี้ยงเด็กแบบนี้ก็ดีนะ กลับบ้านมามีคนทำกับข้าวให้กิน มีคนเลี้ยงลูกให้ สบายเหลือเกิน
...
เดี๋ยวนะ?
เชี่ยเอ๊ยยย มึงเนียนไปแล้วไอ้เด็กเปรต นี่เป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือเมียกู ตอบ! “น้าเพชรเป็นอะไรอ่า ปวดท้องเหรอ หน้าบูดเลย”
“เปล่าค่ะ น้าเพชรสบายดี”
“แต่น้าหน้าบึ้ง” หลานทำหน้าตาบู้บี้ “บึ้งแบบนี้เลย”
“น้าโอเคจริงๆ จ้า” ผมยืนยันกับหลานอีกทีด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหันกลับมาแยกเขี้ยว มองดูคนที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่อย่างสบายอารมณ์ นี่ มึงเนียนไปแล้วจริงๆ แหละ!
“เสร็จแล้วเหรอครับ” ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนที่จะคลี่ยิ้มเทวดา ตอนนี้ผมเริ่มจะคุ้นชินกับมันเสียแล้ว “นั่งเถอะครับคุณเพชร ตอนนี้ยังร้อนๆ อยู่”
ผมไม่ได้พูดอะไร พ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนที่จะเดินไปหย่อนกายนั่ง ปล่อยให้หลานนั่งหัวโต๊ะ ส่วนตรงข้ามผมก็เจ้าพี่เลี้ยงเด็กนั่นแหละ
“ว้าววว” หลานร้องอย่างตื่นตาตื่นใจ “คุณหมีแหละๆ”
จานของพระพายมันก็แค่ข้าวผัดอเมริกันธรรมดาแหละครับ ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะทำอาหารยุ่งยากไม่เป็นเท่าไหร่ เพียงแต่มีการจัดจานให้เป็นรูปหมี เอาถั่วลันเตามาวางเป็นตา มะเขือเทศทำเป็นโบกับปาก ทำได้น่ารักน่าชังเหมาะกับเด็กสี่ขวบดี
“คุณเพชรเคยคิดจะซื้อรถรึเปล่าครับ” จู่ๆ พี่เลี้ยงเด็กก็เอ่ยปากออกมาแบบนั้น
ผมส่ายหน้า “ไม่หรอก ตอนนี้ยังไม่มีเงิน”
“แล้วคุณเพชรจะโหนรถเมล์ทุกวันเลยเหรอ”
“ตอนเช้าไม่เป็นไรหรอก แต่ตอนเย็นลำบากนิดหน่อย... ผมก็โอเคอยู่”
“ผมไปรับคุณเพชรตอนเย็นดีมั้ย”
ช้อนผมแทบร่วงเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองได้ยินอะไร
...อะ อีกแล้ว เสียวไขสันหลัง ทำยังไงดีวะเนี่ย “เอ่อ ไม่ต้องหรอก” ผมพยายามปฏิเสธให้สุภาพ “แค่นี้ผมก็รบกวนคุณมากแล้ว” ในใจตะโกนว่ามึงห้ามมารับกูนะ ดูมึงอยากเคลมกูมากเลยนะ!
“แต่คุณเพชรลำบากไม่ใช่เหรอครับ ยังไงผมก็มีรถ อีกอย่างพระพายคงจะอยากเจอคุณน้าเร็วๆ”
น่านนนนน จับจุดได้แล้วว่ากูใจอ่อนเวลาพูดเรื่องหลาน วุ้ย!
“แต่...” ผมพยายามจะหาคำแย้ง จู่ๆ ในหัวก็ย้อนคิดไปถึงคำแนะนำของไอ้ธาม
‘ถ้ามึงเล่นกลับบ้างอาจจะทำให้มันตกใจ ไม่กล้าเข้าใกล้มาก’
เล่นกลับ เล่นกลับ... เอาไงดีวะ เล่นกลับอะไรดี
ผมเหลือบตามองรอยยิ้มเทวดาที่ดูแสนดีของพี่เลี้ยงเด็ก นัยน์ตามันกำลังเป็นประกายเหมือนบอกว่ารีบตอบรับผมสิครับ
อะไรอย่างงั้น อย่าไล่ต้อนดิว่ะ อย่า!
“มารับตัวหรือมารับหัวใจล่ะ” ...
กริบเลยครับ กริบแม่งทั้งโต๊ะเลยทีนี้
ฟรักกกก กูทำอะไรลงป๊ายยยย! คือผมไม่ได้ตั้งใจจะเล่นมุกควายๆ แบบนี้เลยนะ แต่คือเมื่อกี้มันสิ้นคิดจริงๆ เข้าใจปะ คือแบบ เฮ้ย เฮ้ย!
ฟ้าครามมองผมอย่างตกตะลึงเหมือนกับไปต่อไม่ถูก เฮ้ย หรือเล่นมุกเสี่ยวจะได้ผลวะ มันอึ้งแล้วนะ แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกมานั้น คนที่นั่งตรงกันข้ามก็คลี่ยิ้มเทวดาออกมา
“ขอบคุณที่ให้โอกาสครับ” ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก ในหัวคิดออกแค่คำเดียว
...ชิบหายแล้วคุณเพชรเอ๊ย!--------------------------------------------------------
สุขสันต์วันปีใหม่ค่า 
ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ ในปีใหม่นี้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
สุขภาพร่างกายแข็งแรง หวังอะไรก็สมปรารถนานะคะ <3
อะไรดีๆ ก็ขอให้ดีขึ้น อะไรแย่ๆ ก็ขอให้จางหายไป
สวัสดีปีใหม่ค่า!
ขอบคุณทุกคนที่ให้ความรักกับคุณเพชร ฟ้าคราม น้องพระพาย และคุณปฐพี
รับประกันว่าหลังจากนี้ทุกคนจะได้รัก (?) คุณปฐพีมากขึ้น
ฮุๆๆๆๆ #หัวเราะมีเลศนัยแล้วหนีไป