หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ  (อ่าน 195154 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๘ ห่างไกล



เรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับพอลที่อเล็กซานเดอร์ออกจะมั่นใจว่าใช่แน่นั้น ที่สุดแล้วเจฟฟรี่ก็นำข้อมูลที่สอบสวนเค้นถามคนร้ายที่ถูกจับตัวจากเคมบริดจ์มารายงานอเล็กซานเดอร์ในวันหนึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ทำร้ายอัลเบิร์ตไม่ใช่พอล แต่เป็นคนอื่น ศัตรูเขามีรอบด้าน จำไม่ได้หรอกว่าสร้างความหมางใจให้ใครบ้าง ในวงการนี้มันไม่เคยมีมิตรแท้และศัตรูถาวรอยู่แล้ว วันนี้เป็นศัตรู พรุ่งนี้อาจมีผลประโยชน์ร่วมกันจนกลายเป็นมิตรสหายขึ้นมาก็เป็นได้

เมื่ออเล็กซานเดอร์ได้ฟังที่เจฟฟรี่บอกก็เหยียดริมฝีปากเล็กน้อยทั้งหัวเราะลงคอเชิงเยาะหยัน “ตาแก่นั่น... เล่นไม่เลิกจริงๆ”

“อยากให้จัดการแบบไหนครับ?” เจฟฟรี่เอ่ยถามแล้วรอคำสั่งจากนาย

“ยัง รอให้มันเผยตัวมากกว่านี้สักหน่อย ฉันจะได้มั่นใจว่าชี้คนร้ายถูกตัว”

“นิ่งนอนใจมากไปหรือเปล่า ผมกลัวว่ามันจะแว้งกัดเราโดยไม่ตั้งตัวแล้วโยนความผิดให้พอล เวสส์อีกหน”

เจฟฟรี่ทักท้วงพร้อมเหตุผล หากมีครั้งถัดไป แน่นอนว่าอเล็กซานเดอร์ต้องพุ่งเป้าไปที่พอลเป็นคนแรก และนั่นอาจร้ายแรงจนถึงขั้นต้องปะทะกันเข้าจริงๆ คนที่จะเสียผลประโยชน์คืออเล็กซานเดอร์และพอล ส่วนคนเสี้ยมกลับได้ประโยชน์ไปแต่เพียงผู้เดียว

“ไม่หรอกเจฟฟรี่ งานนี้ฉันจะถอนรากถอนโคนมันเลย แต่ออกจะเสี่ยงสักหน่อยนายคงไม่ว่ากันใช่ไหม?”

สีหน้าซ่อนเล่ห์แบบที่เจฟฟรี่ไม่ค่อยได้เห็นนักในพักหลังมา เวลานี้กลับผุดขึ้นมาให้บอดีการ์ดหนุ่มขยาดเล่น เวลาอเล็กซานเดอร์ทำหน้าแบบนี้มักมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเสมอ เพราะเจ้านายของเขาบ้าบิ่นเกินใคร

อเล็กซานเดอร์สั่งเจฟฟรี่เรียกลูกน้องที่ไว้ใจได้ประชุมวางแผนกันที่ห้องทำงานของตน งานแต่งงานของเขาที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้พวกมันต้องหาจังหวะเล่นงานเขาแน่ ดังนั้นแล้วเขาจึงอยากให้ดูแลให้รัดกุมและตลบหลังมันให้ได้ เขายอมเสี่ยงเอาตัวเข้าล่อ เพราะฉะนั้นแล้วก็จงอย่าให้มันพลาดไปได้แม้แต่นิดเดียว สิ้นคำสั่งบอดีการ์ดก็เหลือบมองหน้ากัน ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวอาจหมายถึงชีวิตของพวกเขาเลยก็เป็นได้

“อ้อ ฝากเชิญนายตำรวจน้ำดีคนนี้สักหน่อยสิเจฟฟ์ บอกเขาด้วยว่าผลงานชิ้นโบแดงกำลังรอเขาอยู่”

อเล็กซานเดอร์เลื่อนรูปนายตำรวจหนุ่มที่เคยทำคดีฮิวโก้กับลูกชายให้เจฟฟรี่ งานนี้จะไม่ใช่เพียงแค่คนของเฟอร์ริงตันที่จะคอยคุ้มกัน เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องภายในงานแต่ง เพราะยังมีบิดาของเขากับเกวนและผู้ร่วมงานคนอื่นอีก แต่หากเกิดอะไรขึ้นเขาต้องไม่ใช่ฝ่ายเสียผลประโยชน์

เมื่อตกลงกันจนเข้าใจดีแล้วลูกน้องของเขาก็ออกไปทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย อัลเบิร์ตค่อยเดินออกมาจากห้องพักที่เชื่อมต่อกันกับห้องทำงาน อเล็กซานเดอร์เงยมองคนที่เดินมาหยุดตรงหน้า เดี๋ยวนี้จะไปไหนมาไหนเขาต้องพกติดตัวไปด้วย เผื่อหนีหายไปอีกเขาขี้เกียจตามหา

“คุณจะทำแบบนั้นจริงหรือ อเล็กซ์?”

“ใช่ มีอะไรจะแย้งฉันอีกหรือไง?” อเล็กซานเดอร์เอนกายพิงพนักเก้าอี้ทรงสูงในท่าทีสบาย ตาสีฟ้ามองอัลเบิร์ตนิ่งก่อนเอ่ยถามกลับในท้ายประโยค

“มันเสี่ยงเกินไป งานนี้ไม่ได้มีแค่คุณนะ มิสเจฟเฟอร์สันก็อยู่ด้วย”

ถ้อยคำที่โต้ตอบมานั้นทำให้อเล็กซานเดอร์มองจ้องคนพูดแล้วว่าเสียงนิ่ง “ฉันไม่ปล่อยให้เจ้าสาวฉันเป็นอะไรไปหรอกน่ะ”

“มันจะดีกว่านี้ถ้าคุณไม่คิดทำอะไรแผลงๆ” อัลเบิร์ตว่าอีก

“แต่ไอ้ที่นายเรียกแผลงๆนั่น ฉันทำเพื่อนายทั้งนั้น”

“ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นสักหน่อย!”

“แต่ฉันอยาก!”

“.........” อัลเบิร์ตเงียบ มองอีกคนด้วยแววไม่ใคร่จะพอใจนัก อเล็กซานเดอร์ยืนขึ้น เท้ามือยันโต๊ะแล้วโน้มตัวไปหาคนตรงข้าม

“นายเป็นของฉัน คนที่มันทำร้ายนาย... ฉันไม่เอามันไว้แน่!”

“คุณทำเพื่อตัวเองต่างหาก... อย่าพูดเลยว่าทำเพื่อใคร” เมื่อได้ฟังเหตุผลอัลเบิร์ตก็มองสบสายตาอีกฝ่ายแล้วว่าเสียงเรียบ ก่อนจะผละไป

“จะไปไหน!?”

อัลเบิร์ตชะงัก ก่อนบอกแกมประชด “กลับห้อง กลัวหนีนักก็ล่ามโซ่เอาไว้เลย”

ปัง!

หลังประตูปิดลงอเล็กซานเดอร์ก็พ่นลมหายใจพรืด ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงนั่ง รู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ ยิ่งดึงดันก็ยิ่งห่างไกล ยิ่งรั้งไว้คนๆนั้นก็ยิ่งอยากหนีหาย

มือหนานวดขมับ เรื่องง่ายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเขามันกลับเป็นเรื่องที่ยากที่สุด


----------------


ยิ่งใกล้วันแต่งงาน อัลเบิร์ตยิ่งรู้สึกทดท้อหมดแรงกำลังลงทุกที แม้รู้เหตุผลที่อเล็กซานเดอร์แต่งกับเกวนดีว่าเพื่อสิ่งใด นอกจากแก้แค้นพอล เวสส์แล้ว ยังเป็นการรักษาหน้าตาทางสังคมให้หญิงสาวด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีกว่าว่าที่เจ้าบ่าว นั่นคือเรื่องที่เกวนมีใจให้ อเล็กซานเดอร์คงไม่รู้ หรืออาจจะรู้แต่ไม่ใส่ใจมัน อัลเบิร์ตได้แต่คิดวุ่นวายอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของคนที่นอนหลับอยู่ข้างกาย

“ยังไม่นอนอีก?”

เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง อัลเบิร์ตเหลือบสายตาขึ้นมอง ก่อนหลุบลงต่ำดังเคย

“คิดแผนจะหนีจากฉันอีกหรือไง?”

“.......” ความเงียบยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอัลเบิร์ตเสมอ

“บอกไว้ก่อนเลย ถึงนายจะหนีไปไหนฉันก็จะตามไปลากตัวนายกลับมาอยู่ดี”

“งั้นผมก็จะหนีไปอีก”

“หือ?”

อเล็กซานเดอร์ทำเสียงแปลกใจในลำคอ หรี่ตาก่อนจะลืมขึ้นมามองคนพูด เมื่อครู่เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม อัลเบิร์ตต่อปากต่อคำกับเขาเสียด้วย

“หนีไปอีกฉันก็จะจับมาขังไว้อีก” แขนแกร่งแกล้งกอดร่างอีกคนแน่นขึ้นเมื่อเอ่ยคำ

“ผมก็จะหนีไปอีก หนีไปอีกเรื่อยๆ” อัลเบิร์ตยังว่าต่อ

“ชอบหนีนักเรอะ!” หน้าคนพูดดูจะเริ่มบูด

“ไม่ได้ชอบ ไม่อยากหนีด้วย ถ้าคุณจะยอมปล่อยไป”

“ไม่มีทาง”

“เพราะไม่มีทางผมถึงต้องหนี หนีไปจนกว่าผมจะตาย ถึงวันนั้นคุณคงตามผมกลับมาไม่ได้อีก...”

“จะบ้าหรือไง ใครให้พูดถึงเรื่องความเป็นความตาย” อเล็กซานเดอร์ดุคนพูดไม่เป็นมงคล คิ้วขมวดไม่ชอบใจ

“คนเราทุกคนวันหนึ่งก็ต้องตาย” อีกคนยังลอยหน้าบอก

“เลิกพูดได้แล้ว นอน!”

“อเล็กซ์”

“ฮื่อ”

“อเล็กซานเดอร์...”

“อัลเบิร์ต! บอกให้นอน!!” อเล็กซานเดอร์ตะคอกเสียงดังเมื่ออีกคนยังกวนใจไม่เลิก ก่อนชะงักไปเมื่อมองแววตาคู่นั้น

“ผมจะไปจริงๆนะ”

“......”

“ไปในที่ที่คุณจะตามไปลากกลับมาไม่ได้... ในที่ที่คุณไม่มีทางหาเจอ...”

“เงียบเสียที!!”

ร่างสูงใหญ่พลิกกลับ กดคนพูดมากลงกับที่นอนขณะที่ตนเองคร่อมอยู่เหนือร่างกาย วันนี้เป็นอะไรไม่รู้ถึงได้พูดไม่หยุดแบบนี้

“จะไม่นอนง่ายๆใช่ไหม จะกวนประสาทกันใช่ไหม งั้นก็อย่านอนมันเลย!”

ว่าจบก็กระชากผ้าห่มผืนหนาโยนทิ้ง เปิดเปลือยผิวเนื้อภายใต้ผ้าห่มนั่นแก่สายตา ก่อนร่างหนาหนักจะโถมลงไปหาทั้งตัว ไม่ต้องนอนมันแล้ว ผ้าห่มก็ไม่ต้อง เขาจะใช้เนื้อตัวเองนี่ล่ะห่มแทนทั้งคืน!!


---------------


ทางด้านเกวน เจฟเฟอร์สัน มารดาของหญิงสาวออกจะตื่นเต้นกับการจะออกเรือนของลูกสาวคนเดียวเป็นยิ่งนัก นางพาลูกไปขัดสีฉวีวรรณเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเสียยกใหญ่ เกวนดูไม่ยินดียินร้ายกับมันสักเท่าไร รู้สึกตัวเองด้อยค่าเหลือเกินที่ถูกจับโยนไปทางนั้นทีทางนี้ที

เพราะเหตุนั้นทำให้พอล เวสส์สบโอกาสมาหาเกวน ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องอเล็กซานเดอร์ก็ให้คนเฝ้าเจฟเฟอร์สันอย่างแน่นหนา ทั้งเกวนยังไม่ออกไปไหนมาไหนเลยแม้แต่น้อย งานที่ร้านเธอก็ยกให้เด็กช่วยดูแล มีคนจากเจฟเฟอร์สันมาคุมบ้างในบางครั้ง แต่เขากลับไม่เห็นว่าเธอจะปรากฏตัวสักวัน จนกระทั่งวันนี้ที่มารดาของเธอพาออกจากถ้ำมาได้

มารดาของเกวนเลือกขั้นตอนทำสวยหลายอย่างให้ลูกสาว อยากให้ลูกของนางออกมาดูดีที่สุดในวันงาน เรื่องเงินทองอเล็กซานเดอร์ทุ่มให้ไม่อั้น เพราะฉะนั้นแล้วนางจึงเอามาประโคมแต่งสวยให้ลูกสาวอย่างเต็มที่ ว่าที่เจ้าบ่าวจะได้พออกพอใจ

หลังอาบน้ำแร่แช่น้ำนมเป็นสิ่งสุดท้ายอย่างที่มารดาของเธอต้องการเกวนก็เปลี่ยนชุดเพื่อจะได้กลับบ้านกันเสียที เธอเพลียเหลือเกินพักนี้ สงสัยคงเครียดมากไปหน่อย ร่างกายเธอถึงได้อ่อนแอเช่นนี้

เมื่อออกจากห้องเปลี่ยนชุดมาเกวนก็ต้องชะงัก มองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ ยิ่งคนๆนั้นย่างสามขุมเข้ามาหาหญิงสาวยิ่งถอยห่าง มองหาทางหนีทีไล่ ใครปล่อยให้ตาบ้านี่เข้ามา!

พอลก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอ กระชากแขนเรียวรั้งเข้ามาชิดกาย กลิ่นหอมจากกายสาวโชยแตะจมูก ผิวขาวเนียนลื่นมือจากเครื่องประทินที่ทางร้านเพิ่งทำให้ มองดูแล้วเธอมีน้ำมีนวลขึ้นจม คงสุขมากสินะที่จะได้แต่งกับมหาเศรษฐีอย่างอเล็กซานเดอร์ ถึงได้ดูเปล่งปลั่งเสียขนาดนี้ ยิ่งคิดพอลยิ่งหงุดหงิดใจ สิ่งที่เตรียมมาพูดปลิวหาย เหลือแต่อารมณ์ล้วนๆที่ปล่อยให้ปากมันพาไป

“ยกเลิกงานแต่งบ้าๆนั่นไปซะเกวน” พอลกระซิบสั่งราวคำราม สีหน้าเขาดูพร้อมจะขย้ำเธอได้ทุกเมื่อ

“ปล่อยนะพอล เวสส์!”

“ได้ยินที่ผมพูดไหม ยกเลิกงานแต่งไปเดี๋ยวนี้!!”

ชายหนุ่มออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจตน เกวนดิ้นรนหวังให้หลุดพ้น ไม่คิดจะฟังคำสั่งของคนบ้าอำนาจ

“ฉันบอกให้ปล่อยไง!”

“เกวน!” พอลตะคอกเมื่อเธอขืนตัวไม่ยอมอยู่นิ่ง “ผมบอกให้ยกเลิกงานแต่งงานบ้าๆนั่นไปเดี๋ยวนี้! อย่าให้ผมต้องแฉความสัมพันธ์ของเรานะ”

เกวนชะงักกึกกับคำขู่ หยุดนิ่งไร้การดิ้นรน มองพอล เวสส์ด้วยแววผิดหวังอย่างที่สุด พอลเองก็เพิ่งจะได้สติ จะแก้ตัวใหม่ก็ไม่ได้เสียแล้ว แขนเรียวบิดแรงให้หลุดจากการจับกุม ก้าวถอยออกมาเล็กน้อยเมื่อเอ่ยพ้อเสียงเครือ

“คุณอยากทำก็ทำไปเลย ไม่ต้องมาขู่ ฉันรู้ว่าคนอย่างคุณมันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว จะทำลายฉันให้เงยหน้าสู้ใครไม่ได้อีกก็ทำเลย!”

น้ำตาหญิงสาวรื้นขึ้นมาคลอเบ้า รู้สึกเจ็บใจที่ตนเองได้มาพบเจอกับคนแบบนี้ พอลยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเมื่อคำสั่งของเขาถูกตอกกลับด้วยน้ำตา ได้แต่ยืนกำมือแน่นเมื่อหญิงสาวเดินผ่านเขาไปโดยไม่เหลียวมองแม้หางตา ชายหนุ่มพิงกายกับผนังราวไร้เรี่ยวแรง

...เขาก้าวพลาดอีกแล้ว...


-----------------


ที่สุดแล้ววันงานก็มาถึง เกวนในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตานั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมราวเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิต สีหน้าเจ้าสาวที่ควรดูมีความสุขกับวันสำคัญกลับดูซีดเซียว เมื่อเช้านี้เธอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าร่างกายของเธอไม่พร้อมเอาเสียเลย มันไม่เป็นใจให้ลุกขึ้นมามีชีวิตชีวากับการแต่งงานจำยอมในครั้งนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าจุดประสงค์ของอเล็กซานเดอร์คืออะไร และจุดประสงค์ของเธอนั้นคืออะไร

“เกวน อย่าทำหน้าแบบนี้ได้ไหม ลูกกำลังจะแต่งงานมีความสุขนะ ยิ้มเข้าไว้สิ ยิ้ม” มารดาของเธอที่เข้ามาดูจ้ำจี้จ้ำไช แต่เธอกลับยิ้มไม่ออก

“แม่คะ หนูเพลียจัง” เอ่ยบอกมารดาเสียงค่อย ผู้เป็นมารดาได้ยินเช่นนั้นก็เข้ามาอังหน้าผากวัดไข้ ไม่ใช่จะมาป่วยวันแต่งงานหรอกนะ

“ตัวไม่ร้อน แม่ว่าคงเพราะยังไม่ได้กินอะไรแน่เลยล่ะสิ เดี๋ยวแม่ให้เด็กเอามาให้”

ผู้เป็นมารดาสรุปความเมื่ออุณหภูมิร่างกายของลูกสาวเป็นปรกติ กุลีกุจอสั่งการด้วยความรื่นเริงในหัวใจเต็มที่ เกวนถอนใจ ยิ้มบางให้ช่างแต่งหน้าที่มองเธออยู่ ฝ่ายนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆ แอบนินทาเธอในใจล่ะสิ


สถานที่จัดงานมีเจฟฟรี่คอยควบคุมดูแล งานทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี แขกเหรื่อเริ่มทยอยมาเรื่อยๆ ครอบครัวของพอล เวสส์ในฐานะนักธุรกิจเช่นเดียวกับเฟอร์ริงตันก็มาร่วมงาน สีหน้าพอลดูไม่ชอบใจกับงานนี้นัก แต่ก็จำต้องปั้นหน้าตามบิดามารดามา เพราะมันคือหนทางเดียวที่จะพบกับเกวนได้

เจฟฟรี่คุมลูกน้องให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย มีนายตำรวจที่อเล็กซานเดอร์ให้เชิญมาร่วมงานคอยช่วยดูด้วย ลูกน้องของนายตำรวจพากันบ่นลับหลังว่าจะให้พวกตนมาดูแลเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่พวกนี้ทำไม คนของเฟอร์ริงตันออกเยอะแยะมากมาย เล่นตลกอะไรกันถึงให้คนในกฎหมายมาคุ้มครองคนนอกกฎหมาย นึกว่าตำรวจไม่มีงานทำหรืออย่างไรกัน

เจฟฟรี่ที่ได้ยินพวกปากรั่วคุยกันก็ได้แต่ส่ายหน้า ถ้าไม่มีคำสั่งจากอเล็กซานเดอร์นึกว่าเขาจะอยากเชิญมาหรืออย่างไร สำคัญตัวผิดกันจริงๆ


ห้องแต่งตัวของอเล็กซานเดอร์

อัลเบิร์ตนั่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง มองร่างสูงใหญ่ที่กำลังแต่งกายเตรียมพร้อมไปร่วมงานในฐานะเจ้าบ่าว ดวงตาสีอ่อนมีแววเศร้า แต่พยายามกดมันเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่ตนเองจะสามารถ

หลังจากคนที่เข้ามาช่วยอเล็กซานเดอร์แต่งตัวพากันออกจากห้องไป อัลเบิร์ตที่นั่งมองแผ่นหลังกว้างในชุดสีขาวอยู่นานก็ค่อยขยับลุก ก้าวไปหาร่างนั้นแล้วสอดแขนสวมกอดคนๆนั้นจากด้านหลัง ซบใบหน้ากับแผ่นหลังกว้างนิ่ง

“อัล...” อเล็กซานเดอร์ชะงักงัน กายอัลเบิร์ตอุ่น แต่อ้อมกอดนี้กลับให้ความรู้สึกอ้างว้าง

“ขอโทษ ผมขออยู่แบบนี้สักเดี๋ยว...”

น้ำเสียงอู้อี้จากด้านหลังกลับดังสะท้อนเข้ามาในหัวใจ อเล็กซานเดอร์ค่อยแกะแขนที่กอดตนเองออกแล้วหันมาเผชิญหน้า มองแววตาเศร้าแล้วหัวใจแทบหล่นหายตามไปด้วย ไม่เคยเลยที่จะเห็นอัลเบิร์ตยิ้มอย่างมีความสุข แทบไม่มีให้เห็น เขาอยากย้อนเวลากลับไปช่วงที่ยังอยู่ด้วยกันแบบไม่ต้องคิดอะไร ช่วงเวลาที่กลับมาก็เห็นอัลเบิร์ตกำลังวุ่นอยู่ในครัว เวลาซื้อของถูกใจมาให้ก็จะได้จูบหวานๆตอบแทน แต่แล้วช่วงเวลาเหล่านั้นกลับเป็นเขาเองที่ทำลายมันลง อ้างไม่ได้หรอกว่าเพราะหน้าที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ มันเพราะเขาเองต่างหากที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมมองให้ลึกลงไปถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย

อัลเบิร์ตก้มหน้ามองปลายเท้า ไม่กล้าสบสายตาของคนตรงหน้า ไม่อยากให้เห็นความอ่อนแอของตนเองขณะที่อีกคนกำลังจะก้าวเข้าพิธีแต่งงานแบบนี้ เขามันคนบาป อดทนมาได้ตั้งนาน อย่าเพิ่งมาหมดเอาตอนนี้จะได้ไหม

ความอุ่นละมุนที่หน้าผากทำให้หัวใจอัลเบิร์ตกระตุกวูบ สั่นไหวรุนแรงกับสัมผัสอ่อนโยนที่ไม่เคยได้รับสักหน เพียงอเล็กซานเดอร์จูบหน้าผากเขา หัวใจไม่รักดีมันก็ไหวหวั่นขึ้นมาอีกแล้ว ทั้งที่มันไม่มีทางจะดีกว่านี้ ไม่มีทางจะสมหวังหากไม่มีคนผิดหวัง ไม่มีทางสมหวังหากไม่มีใครเจ็บ เขาบอกตัวเองว่าพอแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้วไม่ใช่หรือ

อเล็กซานเดอร์มองคนที่ยังก้มหน้านิ่งอย่างตัดใจ อยากกอดให้แนบแน่น แต่ก็ต้องหักห้ามใจเมื่อตนเองกำลังจะไปทำหน้าที่สำคัญ ร่างสูงใหญ่ก้าวห่างออกมา เมื่อหมุนกายจะผละไปอัลเบิร์ตก็เรียกไว้

“อเล็กซ์”

คนถูกเรียกหันมามองเชิงถาม

“ผมขอไปด้วยได้ไหม?”

คิ้วเข้มขมวดปมกับคำขอนั้น “อะไรนะ?”

“ผมอยากไปด้วย อยากไปร่วมงานแต่งของคุณ... ได้ไหม?”

ร่างอัลเบิร์ตถลามาอยู่ในอ้อมกอด เมื่ออเล็กซานเดอร์ทนมองแววตาเศร้านั้นไม่ไหวรวบกอดอีกคนแน่น เขากำลังทำอะไรอยู่ เคยมองบ้างไหมว่าคนๆนี้เจ็บมากแค่ไหน โง่จริงอเล็กซ์


อเล็กซานเดอร์พาอัลเบิร์ตขึ้นรถไปสถานที่จัดงานด้วยกัน มือหนากุมมือของอีกคนไว้มั่น ในตอนนี้เขาไม่สามารถถอยหลังกลับได้แล้ว จะทิ้งทุกอย่างกลางคันไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากปล่อยมือจากอัลเบิร์ตเช่นกัน

พิธีแต่งงานระหว่างอเล็กซานเดอร์และเกวนดำเนินไปอย่างเรียบร้อยเมื่อเจ้าบ่าวมาถึงงาน อัลเบิร์ตที่มาร่วมงานมองทั้งคู่ที่ดูอย่างไรก็เหมาะสมกันมากแล้วได้แต่เศร้าใจ ส่วนเกวนออกจะประหม่ากับงานแต่งในครั้งนี้ ในใจอดรู้สึกผิดไม่ได้เพราะเธอกำลังทำมันเพื่อตอกย้ำความพ่ายแพ้ให้แก่พอล เวสส์ ไม่รู้มันจะได้ผลแค่ไหน หรือเป็นเพียงวิธีโง่เง่าที่มีแต่ทำให้เธอด้อยค่าลงไปอีกเท่านั้น

งานทุกอย่างดำเนินเป็นไปเรื่อยๆ อัลเบิร์ตที่คอยลอบมองคู่บ่าวสาวจนเผลอไผล เมื่อสายตาอเล็กซานเดอร์หันมามองถึงได้เฉหลบตา ได้แต่ด่าตัวเองว่าอย่ามาอาลัยอาวรณ์ในงานแต่งคนอื่นจะได้ไหม

ขณะที่ผู้มาร่วมงานทั้งหลายกำลังมีความสุข มุมหนึ่งของงาน ชายคนหนึ่งเดินหามุมเหมาะที่จะกระทำการบางอย่าง สิ่งที่อเล็กซานเดอร์คาดการณ์ไว้ไม่ได้ผิดไปจากนั้นสักนิด เพราะโรเจอร์และศัตรูในที่มืดกำลังวางแผนจะใช้งานแต่งงานของเขาเป็นเป้าหมายในการลงมือ

“เตรียมการดีแล้วใช่ไหมโรเจอร์ งานนี้นายได้เป็นพระเอกเลยนะ แก้แค้นให้พ่อนายซะ”

คำพูดกรอกหูจากชายสูงวัยผ่านเครื่องมือสื่อสารมาถึงชายคนดังกล่าว ศัตรูในที่มืดของเฟอร์ริงตันที่เขาให้การร่วมมือ เขารู้ว่าตัวเองกำลังถูกหลอกใช้ความแค้นที่มี แต่เขาคนเดียวไม่มีทางสามารถทำอะไรอเล็กซานเดอร์ได้ ถึงต้องพึ่งพาเจ้าคนเล่ห์มากคนนี้

เวลานี้เขาสามารถแฝงตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมงานได้สำเร็จแล้ว สายตามองจ้องเจ้าบ่าวในงานด้วยแววเด็ดเดี่ยว วันแห่งความสุขของนาย มันจะกลายเป็นวันแห่งน้ำตา อเล็กซานเดอร์!!

พฤติกรรมน่าสงสัยเหล่านั้นไม่ได้รอดพ้นหูตาของมือขวาอย่างเจฟฟรี่ บอดีการ์ดหนุ่มออกคำสั่งกับเครื่องมือสื่อสารเล็กจิ๋วที่ติดใต้ปกเสื้อให้ลูกน้องรายรอบบริเวณเตรียมตัว สายตาคมมองจ้องบุคคลต้องสงสัยไม่ลดละขณะก้าวเข้าไปใกล้ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว ดวงตาบอดีการ์ดเบิกกว้างเมื่อเห็นอีกฝ่ายล้วงมือไปใต้เสื้อขณะที่สายตามาดร้ายจับจ้องอเล็กซานเดอร์ เจฟฟรี่รีบสั่งการ

“ชาร์จ!!!!!!!”

เปรี้ยงงงงงงงงงงง!!

เสียงหวีดร้องระงมดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงปืน เหตุการณ์ชุลมุนจนไม่รู้เหนือรู้ใต้ แขกที่มาร่วมงานต่างหลบมุมเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่น บอดีการ์ดทุกนายทำหน้าที่ป้องกันคุ้มภัยนายอัตโนมัติ นายตำรวจที่ถูกเชิญมารีบกรูเข้ามาช่วยระงับเหตุ

เจฟฟรี่สบถยาวยืดเมื่อมองไปยังผู้เป็นนายที่ทรุดลงไปเพราะคมกระสุน ช่วงขายาวๆจะวิ่งเข้าไปช่วย แต่เสียงปืนอีกนัดกลับดังขึ้นมา ร่างสูงใหญ่หันกลับไปมองเหตุการณ์ ลูกน้องนายตำรวจเป็นคนลั่นไกปลิดชีวิตผู้ร้ายปากสำคัญเสียเอง!

“มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!?”

เจฟฟรี่หัวหมุนเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน สั่งการลูกน้องรวดเร็วให้จัดการสะสางมันให้เรียบร้อยขณะที่ตนเองวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นนาย เขาทำพลาด เขาทำพลาด! เขาพลาด!!

“อเล็กซ์! อเล็กซ์!!”

เสียงอัลเบิร์ตเรียกคนที่นอนจมกองเลือดด้วยความตระหนก มือไม้ไม่รู้จะวางที่ไหน ไม่กล้าแตะเพราะอีกฝ่ายเลือดไหล ชุดสีขาวถูกชโลมด้วยสีแดงอย่างน่ากลัว ถูกจุดสำคัญหรือเปล่าไม่รู้

เกวนยกมือปิดปากกั้นเสียงร้องด้วยความตกใจไม่ต่างกัน สีหน้าหญิงสาวซีดเผือด พอลแทรกคนรายรอบเข้ามาหาเธอเมื่อเห็นว่าท่าทางของเธอน่าเป็นห่วง บอดีการ์ดดันอัลเบิร์ตออกห่างจากอเล็กซานเดอร์เพื่อที่จะพาเขาไปโรงพยาบาล แต่มือของคนเจ็บกลับคว้าแขนอัลเบิร์ตไว้ ทุกคนชะงัก รวมทั้งอัลเบิร์ตด้วย ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติแล้วช่วยบอดีการ์ดพยุงอเล็กซานเดอร์ขึ้นมา

“อเล็กซ์!” เจฟฟรี่มาถึง มองผู้เป็นนายด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“พาอเล็กซ์ไปโรงพยาบาลเถอะเจฟฟ์ เร็วเข้า”

เจฟฟรี่พยักหน้าเมื่ออัลเบิร์ตเอ่ยเร่ง รับร่างอเล็กซานเดอร์จากอัลเบิร์ตมาสานต่อ ทุกคนทำงานกันรวดเร็วเพื่อพานายส่งให้ถึงมือหมออย่างเร็วที่สุด ไม่สามารถรอรถพยาบาลมารับคนเจ็บได้แล้วในตอนนี้

เมื่อเจฟฟรี่จัดการทุกอย่างให้แล้วอัลเบิร์ตจึงหันมาฝากอีริคช่วยจัดการเรื่องในงานและคดีความต่อ ส่วนตนเองคว้ามือเกวนแล้วพาขึ้นรถตามอเล็กซานเดอร์ไป ระหว่างทางก็ได้แต่เฝ้าภาวนาขออย่าให้เป็นอันตราย เขาอยากไปจากอเล็กซานเดอร์ แต่อยากจากเป็น ไม่ใช่จากตาย...


-----------------
ต่อด้านล่างค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
อเล็กซานเดอร์นั่งเอนอยู่บนเตียงคนไข้ มองคนเฝ้ากิตติมศักดิ์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างเตียง หลังฟื้นขึ้นมาไม่นึกว่าคนแรกที่ได้เห็นหน้าจะเป็นอัลเบิร์ต นึกว่าจะฉวยโอกาสนี้ทิ้งเขาไปเสียแล้ว

มือหนาเอื้อมมาเกลี่ยข้างแก้ม อีกคนก็ยังคงก้มหน้านิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสัมผัสใดๆ

“เป็นอะไร?” เอ่ยถามเสียงนุ่มอย่างที่ตนเองยังแปลกใจ เขาทำแบบนี้ก็ได้ด้วยแฮะ หึ

“ผม... กลัวคุณตาย”

คำสารภาพแสนแผ่วเบาทำให้อเล็กซานเดอร์ยิ้มมุมปาก “เหมือนฉันจะเคยบอกนายไปแล้วว่าฉันจะอยู่ยงคงกระพันให้นายสาปแช่งฉันทุกวัน”

ชายหนุ่มยกคำพูดของตนเองเมื่อก่อนนี้มาพูดซ้ำเชิงหยอกเอิน อัลเบิร์ตยังคงก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม ไม่ยอมเงยมาสบตากันสักนิด

“เฮ้”

อเล็กซานเดอร์เรียกให้หันมาสนใจ แต่อัลเบิร์ตก็ยังคงก้มหน้าเงียบ

“เงยหน้าขึ้นมามองกันหน่อยสิ จะให้ฉันพูดกับอากาศอยู่แบบนี้หรือไง?”

“.......”

“อัล...”

“ผมกลัวจริงๆนะ กลัวจริงๆ...”

เสียงที่แผ่วยิ่งกว่าเดิมทำให้ใจอเล็กซานเดอร์กระตุกวูบ รั้งอีกคนมาใกล้แล้วโอบไว้ราวจะปลอบประโลมให้หายตกใจกลัว

“เป็นเด็กหรือไง?”

เสียงสะอื้นแผ่วแว่วมาให้ได้ยิน อเล็กซานเดอร์จูบหน้าผากนูน มันเสี่ยงเขารู้ แต่มีแค่วิธีนี้ถึงจะทำให้คนร้ายปรากฏตัวออกมา มองเจ้าเด็กขี้แยที่ซบอกร้องไห้แล้วอเล็กซานเดอร์ก็อยากกอดให้เต็มอ้อมแขน แต่มันก็ทำไม่ได้อย่างใจเพราะแผลผ่าตัดใหม่ยังเจ็บอยู่ ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ลูบกลุ่มผมนุ่มมือแล้วโน้มจูบหน้าผากอัลเบิร์ตอีกหน


หน้าประตูห้อง เกวนก้าวถอยออกมาแล้วค่อยปิดมันลงช้าๆ สีหน้าของเธอไม่สู้ดีนัก แม้พยายามฝืนยิ้มกับตัวเองแต่มันก็ดูเจื่อนเหลือเกิน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนหมุนกายกลับ ขณะที่จะก้าวเดินบานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับที่อัลเบิร์ตโผล่หน้ามาเรียกเธอไว้

“มิส”

เกวนชะงักกับเสียงเรียก ไม่คิดว่าอัลเบิร์ตจะรู้ว่าเธอมา

“ไม่เข้าไปเยี่ยมอเล็กซานเดอร์หรือครับ?”

หญิงสาวปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ใช้รอยยิ้มมากลบเกลื่อนความรู้สึกภายในขณะเอ่ยกระเซ้าแล้วหัวเราะน้อยๆ “พอดีฉันไม่อยากเป็นก้างขวางคอน่ะค่ะ”

อัลเบิร์ตไม่ได้รู้สึกเก้อเขินกับคำแซว ออกจะเจ็บในอกเมื่อคนพูดคือเกวน พอเห็นอีกฝ่ายหน้าเจื่อนไปกับคำพูดของเธอเกวนจึงค่อยหุบยิ้ม บรรยากาศรอบกายทั้งคู่ดูกระอักกระอ่วนชอบกล

“รอผมตรงนี้สักครู่นะครับ”

เกวนเลิกคิ้วแปลกใจเมื่ออีกคนบอกมาเช่นนั้น อัลเบิร์ตหายเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยครู่หนึ่งแล้วจึงกลับออกมา มีหลายเรื่องที่เขาอยากคุยกับหญิงสาว


ทางเดินชั้นล่างตึกหนึ่งของโรงพยาบาล บริเวณกว้างขวางถูกแต่งเป็นสวนสวยให้คนไข้และญาติได้หย่อนใจ น้ำพุกลางลานผลิพุ่งเคล้าคลอเสียงดนตรีเบาๆที่ถูกเปิดกล่อมอารมณ์ อัลเบิร์ตซื้อเครื่องดื่มจากร้านใกล้ๆนั้นมาให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนม้านั่งในสวน เกวนรับแก้วเครื่องดื่มมาพร้อมเอ่ยขอบคุณ

แก้วเครื่องดื่มที่วางไว้ข้างกายไม่ได้ถูกแตะ เมื่อทั้งคู่ยังคงปล่อยให้ความเงียบดำเนินไปช้าๆ เกวนไม่กล้าที่จะเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจเพราะกลัวคำตอบ ขณะที่อัลเบิร์ตก็กำลังรวบรวมความกล้าที่จะสารภาพบางสิ่งกับเธอ เขาคิดว่าหญิงสาวคงพอรู้เห็นบ้างแล้ว แต่ไม่พูดถึงมันเท่านั้น

“ช่วยดูแลเขาด้วยนะครับ”

หลังปล่อยความเงียบงันระหว่างกันให้โรยตัวอยู่นานอัลเบิร์ตก็เอ่ยขึ้นมาได้ เสียงดนตรี เสียงน้ำพุ หรือแม้แต่เสียงพูดคุยของผู้คนรอบข้างไม่ชัดเจนเท่ากับเสียงของอัลเบิร์ต ใจเกวนกระตุกไหว ทำให้เธอนิ่งไปกับคำพูดที่เจือรอยเศร้านั้น

“ที่จริงผมไม่ควรพูดคำนี้สินะ เพราะถึงอย่างไรคุณก็ต้องดูแลเขาอยู่แล้ว”

“คาร์ล...” เกวนเรียกคนข้างกายเสียงเบา สะท้อนสะท้านในอกกับถ้อยคำที่ราวกับจะเยาะหยันตัวเองของอีกฝ่าย

“ผมยังไม่ได้อวยพรให้พวกคุณเลย...”

“.......” เกวนน้ำตารื้น อัลเบิร์ตกำลังยิ้มให้เธอ เขาคงไม่รู้ว่าแววตาตัวเองเศร้ามากแค่ไหนในตอนนี้

“ขอให้พวกคุณมีความสุขกับชีวิตคู่ที่กำลังจะดำเนินต่อจากนี้ไป... ขอให้ทุกอย่างราบรื่น... มีเจ้าตัวน้อยแสนน่ารักเป็นโซ่ทองคล้องใจ...”

อัลเบิร์ตกลืนก้อนความรู้สึกลงไป พยายามจะพูดให้จบประโยค

“ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ขอให้... พวกคุณเข้มแข็งและผ่านมันไปได้ด้วยความเชื่อมั่นและเชื่อใจกัน...”

“.........”

“ผมขอโทษ...” อัลเบิร์ตก้มหน้าลง เขาไม่สามารถพูดอะไรต่อจากนี้ได้แล้ว ไม่สามารถยิ้มแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ ไม่ได้แล้วจริงๆ

“คาร์ล”

หญิงสาวเรียกเขาด้วยความตกใจ อัลเบิร์ตช้อนกุมมือของเธอทั้งสองข้างขณะที่เอ่ยคำโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบสายตา เขาทำไม่ได้...

“ที่ผ่านมาผมขอโทษจริงๆ อยากให้คุณอภัย... ในสิ่งที่เกิดขึ้น... รัก... และดูแลอเล็กซานเดอร์ให้ดีด้วย... ผมขอโทษจริงๆ”

อัลเบิร์ตบอกย้ำแต่คำว่าขอโทษ ทั้งที่เธอต่างหากที่ต้องขอให้พวกเขายกโทษให้ พวกเขารักกัน เธอรู้ แต่ยังก้าวต่อไปโดยไม่สนใจมัน น้ำตาของหญิงสาวรินไหลเป็นทาง ความเจ็บปวดเหล่านี้เมื่อไรมันจะจบลง...


เกวนกลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย อเล็กซานเดอร์หันมายิ้มให้เธอบางเบา สายตาคมชำเลืองหาคนที่ขอออกไปข้างนอก เมื่อไม่เห็นจะกลับมาคิ้วเข้มก็ขมวดเล็กน้อย แต่เมื่อหญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงอเล็กซานเดอร์จึงปรับสีหน้าให้ดีขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้างคะ?” เสียงหวานเอ่ยถามไถ่

“ก็ดี เดี๋ยวคงได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

เกวนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้เล็กน้อยแล้วเงียบไป อเล็กซานเดอร์รู้สึกตงิดใจอย่างประหลาด ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอกลับด้วยความห่วงใยบ้าง

“แล้วคุณ... ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆก่อนบอกเสียงค่อย “ไม่ค่ะ”

มือเรียวเอื้อมไปวางทับแล้วกุมมืออเล็กซานเดอร์เอาไว้ สีหน้าหญิงสาวออกจะดูเครียดไปสักนิดเมื่อเอ่ยคำ

“อเล็กซานเดอร์คะ...”

“...?” อเล็กซานเดอร์เลิกคิ้วเชิงถาม เกวนมีท่าทีอึกอักราวไม่ใช่เธอ

“...ถึงอย่างไรเราก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว ขอให้ฉัน... ได้ดูแลคุณนะคะ”

“........” หัวคิ้วเข้มขมวดกับถ้อยคำของหญิงสาวตรงหน้า

“ฉันรักคุณค่ะ”

สิ่งที่ได้ยินทำให้อเล็กซานเดอร์นิ่งงัน เขาเชื่อว่าเกวนไม่ได้โกหก แต่มีบางอย่างที่เธอพูดมันไม่หมด อเล็กซานเดอร์มองแววหวั่นในดวงตาของหญิงสาว กุมมือเธอตอบก่อนรั้งเธอเข้ามากอด ขณะที่ในใจกำลังพะวงถึงอัลเบิร์ต คิดว่าจากนี้ทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่ตอนนี้มันกลับยุ่งเหยิงมากกว่าเดิมเสียอีก หางตาเหลือบแลประตูห้องพัก กลัวว่าหากอีกคนมาได้ยินเข้าจะยิ่งถอยห่างเขาออกไปอีก


อัลเบิร์ตยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องนั้น ข้างกันคือปอนด์ที่จับมือเขาเอาไว้ตลอด แม้จะทำใจเอาไว้ก่อนแล้วแต่เขาก็ยังเจ็บ ความเจ็บปวดนี้ไม่เคยหายไปสักนาที

“นายทำดีแล้วอัล”

ปอนด์บีบมือเพื่อนอย่างให้กำลังใจ สอดมือกุมเอาไว้แล้วรั้งเบาๆให้เพื่อนเดินออกจากจุดนั้นมา ก้าวเดินของอัลเบิร์ตช้าพอๆกับหัวใจที่มันเต้นแผ่วเหลือเกิน ร่างสูงมองตรงไปข้างหน้าขณะที่ขาแม้จะเดินช้าแต่ยังไม่ยอมหยุดก้าว ทุกอย่างมันจบลงแล้ว จบลงเพียงเท่านี้ จบลงพร้อมกับสิ่งสุดท้ายที่ไม่เคยได้พูด และจากนี้คงไม่มีวันได้บอก ...

...ผมรักคุณ อเล็กซ์...



โปรดติดตามตอนต่อไป

http://www.youtube.com/v/qayqSqm9M2k?version=3&amp;hl
ขอบคุณเพลงประกอบจากคุณ bb_b ค่ะ


แงงงงงงงงงงงงงงงงงง :o12:

ขอบคุณทุกคน ทุกๆคอมเม้นต์ ทุกบวกหนึ่งและบวกเป็ดนะคะ บวกคืนทุกท่านทุกบวกเช่นกันค่ะ

เรื่องนี้มีแต่คนอยากทำร้ายเฮีย ดังนั้นก็จงจัดไปค่ะ ตอนจบเอาให้เฮียแห้งตายอยู่คนเดียวแล้วให้อัลไปสวีวี่วีอยู่กับสามีใหม่ คึคึ o18

ปล. แฟนคลับอัลเตรียมป้ายไฟค่ะ  :hao3:


อเล็กซ์ ช้านจะเปรียบแกกับอะไรดีเนี่ย สงสารอัลมากๆๆๆๆๆๆ เอ่อใหม่ เขียนฉากเลิฟๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อิอิ เวอร์ชั่นนี้ แซ่บเว่อร์
 ปล ช่วงนี้เค้างดบริโภคอะไรที่เป็นเส้นๆอ่ะ 555555555
 ปล2 โปร์ไฟล์น่ารัก รูปของคู่ไหนเนี่ย

โปรไฟล์คู่เดียวกับลายเซ็นค่ะ ป๋าอลัน กับ อิหนูเปียว แอร๊ยยย :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2013 23:07:08 โดย wanmai »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ followme

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
ไม่ว่าจะอ่านตอนเก่าหรือรีไรท์ใหม่ก้อยังเศร้าเหมือนเดิม
เรื่องเก่าว่าเศร้าแล้วนะ
รีไรท์ใหม่ โครตตตตตตตตตต หน่วง!
สงสารอัลสุดๆ

'ทุกอย่างมันจบลงแล้ว จบลงเพียงเท่านี้ จบลงพร้อมกับสิ่งสุดท้ายที่ไม่เคยได้พูด และจากนี้คงไม่มีวันได้บอก ...


...ผมรักคุณ อเลกซ์...

เท่านั้นแหล่ะ น้ำตาพรากเลย ปวดใจสุดๆ
 :m15: :m15:

ออฟไลน์ nnaon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
จิ้มบวกเป็ดก่อนใหม่ ออกพรรษาที่ไร 5555 ไม่เป็นอันทำงานทำการ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
คว้ามีดขึ้นมาแล้วจ้วงใส่อเล๊กซ์ไม่ยั้ง
ฮืออออออออออออ ทำได้แค่ในจินตนาการ

ทำไมอัลต้องเสียใจด้วย T___T

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
...ผมรักคุณ อเล็กซ์... สงสารอัลอ่ะ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เอ่อ พล็อตเรื่องมันเปลี่ยนไปหรือว่ายังไงคะ พอดีลืมเนื้อเรื่องเก่า  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
 :m15: :m15: สงสารอัล
อัลจะมาไทยกับปอนด์แล้วใช่มั้ย รีบๆมานะ   :pig2:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อัล! น้ำตากลบตาเลยค่ะ  :ling1:
เตรียมป้ายไฟได้แล้วเหรอ ขอไปค้นก่อน ^^
จะออกประตูเก้าหรือสิบ? (ทำเหมือนเคยไป 5555)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อัล สงสารอัลที่สุด ฮือออออออออออ

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
น้ำตาไหลก็ตอนที่อัลเดินเข้าไปกอดอเล็กซ์อะ
มันแบบ.. มันเป็นความรู้สึกของอัลจริงๆ ความรู้สึกที่ทนไม่ไหวอีกแล้วอะ
สงสารอัลมาก แต่ก็เฉยๆกับอเล็กซ์อยู่ดี -..-555 เข้าข้างอัล อัลสู้ๆ!
เข้มแข็งนะอัล :o12:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
น้ำตาแตก ฮือๆๆ สงสารอัลเหลือเกิน
งานนี้เ็จ็บกันทุกคน อัลคงคิดว่าไหนๆอเล็กซ์ก็มีเกวนแล้วตัวเองก็คงไม่จำเป็นอีกต่อไป
งานนี้อเล็กซ์น่าจะตอบใจตัวเองได้สักที ส่วนเกวนเหมือนจะเห็นใจเธอนะ แต่รู้ทั้งรู้ว่าเขารักกันแล้วยังทำแบบนี้ เฮ้อ ไม่ไหว

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เจ็บปวด มันหน่วง บีบหัวใจมากจริงๆ
เชื่อว่ามาถึงตอนนี้ทุกคนต่างกำลังเจ็บปวดกับสิ่งที่เป็นอยู่
เฮ้อออออ เพราะนายแท้ๆ อเล็กซานเดอร์
 :mew6:

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
อัลลลลลล  ฮือออ  :hao5:

ไม่เป็นไรนะ ปล่อยอเล็กซ์อยู่กะเมียมันเหอะ ส่วนอัลก็หาซะมีใหม่เบยย  :hao7: อิอิ

ขอบคุณค่ะ  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ฮือ................สงสารอัลอ่ะ :m15: :m15: :m15:


อ่านเวอร์ชั่นนี้แล้ว สงสารอเล็กซ์มากขึ้นนะ ต่างจากเวอร์ชั่นก่อนที่หมั่นไส้มาก เกลียดมาน 555 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
รู้สึกว่าฉบับปรับปรุงใหม่นี่เศร้ากว่าอันเดิมอีกอ่ะ
ตอนนี้นี่บีบหัวใจสุดๆ ปั๊ดโถ่ น้องอัล พ่อคนงามศรีสมรของพี่ เซ็งอิอเล็กซ์จริงๆ  :z3:  :katai1:

ออฟไลน์ bb_b

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ดูสิ มีกี่คนกันที่เจ็บปวดเพราะนายอเล็กซ์ ไม่อยากจะพูด :a14:
ดังนั้นเราสนับสนุนให้หาหนุ่มใหม่ให้อัลโดยด่วน :hao3:
เอาให้รู้กันไปเลยว่าเราก็มีดี ไม่ได้รอนายคนเดียวแห้งเหี่ยวอย่างนี้
ส่วนอเล็กซ์ก็ไปทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีต่อไปเถอะนะ
อัลดูอ่อนหวาน อ่อนไหวกว่าอันเก่าแต่เราก็ชอบทั้งสองแบบ
แล้วก็ยังเคืองอีตาอเล็กซ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนด้วย :m31:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดน้อย

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
มันเจ็บมากจังเลย แต่ก็ชอบมากจังเลย...ยิ่งเจ็บยิ่งชอบ
เวลาอ่านถึงช่วงโดนๆ แล้ววาบในอก เหมือนใจมันวูบ หล่นๆร่วงๆลงไป
เค้าเรียกกันว่าอะไร? มีคำศัพท์เฉพาะ ไว้เรียกมั้ย? ใครทราบรบกวนบอกที
รู้สึกแบบนั้นบ่อยมากกับเรื่องนี้ ชอบมากเวลาเกิดอาการที่ว่า...
เหมือนมันสามารถการันตีคุณภาพบางอย่าง +1 จัดไปค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เคยอ่านเรื่องนี้ไปแล้วรอบนึง  มาอ่านอีกทีก็ยังรู้สึกบีบหัวใจเหมือนเดิม

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
วันใหม่จ๋า เค้ายังรออยู่นะ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อัลเบิร์ต กำลังบินมาไทยใช่ไหมคะ
เดี๋ยว ไป รอ รับที่สุวรรณภูมิ

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๙ ซ่อนหัวใจให้ไกลรัก



อเล็กซานเดอร์นั่งพิงหัวเตียงคนไข้เหม่อมองนอกหน้าต่างกระจกใส เวลานี้อาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ แต่อัลเบิร์ตก็ยังคงไม่กลับมา เขาไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายคงไปทำธุระที่ไหนสักแห่ง นั่นมันคงเป็นการหลอกตัวเองมากจนเกินไป แต่ก็ไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่า... เขากำลังถูกทิ้ง ความคิดหลายอย่างตีกันให้วุ่นในหัว และทุกอย่างต้นเหตุมันก็มาจากเขาแทบทั้งสิ้น

เจฟฟรี่เคาะประตูก่อนเปิดเข้ามา มองผู้เป็นนายที่นั่งเหม่อแล้วก็รู้สึกหม่นมัวตามไปด้วย มีหลายเรื่องที่เขาต้องทำขณะที่เจ้านายยังเจ็บอยู่ ทั้งเรื่องคดีความที่ลูกน้องของนายตำรวจน้ำดีเป็นหนอนเสียเอง ปลิดชีวิตโรเจอร์ที่เป็นพยานปากสำคัญลงต่อหน้าทั้งที่เป็นผู้รักษากฎหมาย นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่เขาต้องจัดการนั่นก็คือ... คนตรงหน้าในเวลานี้ สถานการณ์ตอนนี้มันช่างชวนอึดอัดนัก

“ไปส่งเขากลับมาแล้วหรือ?”

เสียงทุ้มเอ่ยถามโดยไม่หันกลับมามอง เจฟฟรี่เงยมองผู้เป็นนายด้วยความอึ้งเมื่ออีกฝ่ายถามมาเช่นนั้น ก่อนจะก้มศีรษะเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิด

“ผมขอโทษครับ อเล็กซ์”

อเล็กซานเดอร์เงียบ ไม่ได้เอ่ยถ้อยคำตำหนิลูกน้องมือขวาแต่อย่างใดเพราะรู้ดีว่ามันหมดเวลาของเขาแล้ว เวลา... ที่เขาใช้มันเปลืองและไม่เคยเห็นค่า

“เขาบอกกับฉันว่าจะหนีไป ต่อให้ฉันตามเขากลับมาเขาก็จะหนีไปอีก...”

อเล็กซานเดอร์ว่าอย่างนั้น เจฟฟรี่มองเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้เป็นนายกระทบแสงสีส้มที่ลอดมา ดูเหงาเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็น คนอย่างอเล็กซานเดอร์ก็มีวันอ่อนแอเช่นคนอื่นเหมือนกัน

คนเจ็บบนเตียงระบายลมหายใจยาวราวหมดแรง อัลเบิร์ตจากไปแล้วจริงๆ เสียงที่เคยบอกเขาว่าจะไปในที่ที่เขาตามหาไม่เจอมันดังสะท้อนในหู ผลของการกระทำทั้งหมดมันย้อนกลับมาหาเขาแล้ว ที่สุดแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ความอดทนของอัลเบิร์ตหมดลง

“อเล็กซานเดอร์... ผมจะไปจริงๆนะ ไปในที่ที่คุณจะตามไปลากกลับมาไม่ได้... ในที่ที่คุณไม่มีทางหาเจอ...”


--------------------


เอกสารรายงานจากนักสืบมือดีถูกอเล็กซานเดอร์ขยำทิ้งไปหลายแผ่น เขาจ้างนักสืบให้ช่วยสืบเสาะหาตัวอัลเบิร์ต แต่ทุกที่ที่ทางนั้นรายงานมามันกลับไร้ซึ่งวี่แวว คนพวกนั้นเล่นตลกอะไรกับเขา รับเงินแต่เหตุใดถึงไม่ได้งาน!

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์เฝ้าตามหาแต่ก็ยังไร้เงา ทุกคนรอบกายไม่มีใครเห็นใจพอจะชี้เบาะแสให้เขาสักคน เขาเหนื่อย เขาท้อจนแทบหมดความพยายาม หลายครั้งที่คิดจะหยุด แต่ใจมันกลับร่ำร้องให้หาต่อ ให้ทำต่อไปจนกว่าจะเจอ อยากพบอีกครั้ง อยากพบเหลือเกินอัลเบิร์ต...

“นายอยู่ที่ไหน จะไม่กลับมาเลยจริงๆหรืออัล...?”

มือหนานวดขมับตนเอง เอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง จากวันเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนมาเป็นปี จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยได้พบอัลเบิร์ตสักหน ทุกอย่างในชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป อัลเบิร์ตจะรับรู้มันบ้างไหม เขาไม่มีใครแล้ว ไม่มีเลย...
นัยน์ตาสีน้ำทะเลหม่นมัว ทุกตารางนิ้วที่ตาของเขามองเห็นมันเต็มไปด้วยความทรงจำ ไม่มีตรงไหนเลยที่ไม่มีเงาของอัลเบิร์ต แต่นั่นมันก็แค่ความทรงจำ ความทรงจำที่ไม่มีวันย้อนมา...

เจฟฟรี่เห็นผู้เป็นนายหมดอาลัยขนาดนั้นแล้วก็ชักทนไม่ไหว บอดีการ์ดหนุ่มต่อสายถึงปอนด์ ผู้ที่อยู่กับอัลเบิร์ตเป็นคนสุดท้าย และเป็นคนเดียวที่รู้ว่าอัลเบิร์ตอยู่ที่ไหน

“ปอนด์ ผมว่าพอแค่นี้ดีไหม ซ่อนอัลไว้แบบนี้ผมเห็นใจอเล็กซ์นะ”

“อะไร ไม่ทันไรก็ใจอ่อนแล้ว” หนุ่มตัวเล็กบ่นมาตามสาย โทรมานึกว่าจะคิดถึงกัน ที่ไหนได้ เจ้ายักษ์บ้านี่

“ไม่ทันไรที่ว่ามันผ่านมาสามปีแล้วนะ” เจฟฟรี่แย้ง เวลามันผ่านไปเร็วจนเขายังนึกว่าอัลเบิร์ตเพิ่งไปได้ไม่นาน แต่สำหรับอเล็กซานเดอร์คงไม่ใช่

“ชิ!” ปอนด์จิ๊ปากที่ได้ยินเช่นนั้น เจฟฟรี่นี่ขี้ใจอ่อนจริง แค่สองปีสามปีมันจะไปพออะไร

เจฟฟรี่ที่เห็นอีกฝ่ายเงียบไปคิดว่าคงพอจะคุยกันได้จึงเอ่ยต่อรองเสียงนุ่ม “บอกอเล็กซ์ได้ไหมครับที่รัก?”

“ไม่ได้”

“โธ่” บอดีการ์ดหนุ่มครวญ เมื่อปอนด์ปฏิเสธเสียงแข็ง

“เรื่องนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรานะเจฟฟ์ ถ้าเขาสองคนเกิดมาคู่กันจริงสักวันก็ได้เจอกันเองแหละ” หนุ่มตัวเล็กอ้างโชคชะตาฟ้ากำหนด เบ้ปากเล็กน้อยเมื่อตนเองแค่โป้ปดไปตามเรื่อง

“เราช่วยเป็นเชื้อกระตุ้นไงปอนด์ ให้เขาสมหวังกันเร็วขึ้น” เจฟฟรี่ยังไม่ยอม ยกเหตุผลดีๆมาสนับสนุนคำพูดตนเอง ปอนด์รักเพื่อนมาก ต้องไม่อยากเห็นเพื่อนทุกข์เป็นแน่ ได้ยินเสียงทอดถอนใจจากปลายสายเจฟฟรี่พลอยอยากถอนใจตามไปด้วย ท่าจะยากเสียกระมัง

“อัลเจ็บมาตั้งเท่าไร แค่นี้อเล็กซานเดอร์เจ็บพอแล้วหรือ?”

ไม่ผิดจากที่คิดสักนิด เจฟฟรี่จึงได้ถอนใจสมอยากก่อนบอก “เพราะพวกเขาเจ็บกันมามากไงถึงได้อยากให้มีความสุขกันเสียที”

“ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาแล้วกัน”

ปอนด์ตัดบทแบบนั้นถือเป็นการจบเรื่องที่กำลังสนทนาอยู่ หากมีต่อจากนี้อีกอาจมีการเคืองกันเกิดขึ้น เจฟฟรี่จึงได้แต่ทอดถอนใจอีกหน เมียเขานี่ดื้อจริง

“ห้ามบอกเลยนะ ถ้าคุณบอกล่ะก็...” สั่งสำทับแล้วยังมีคำรามในตอนท้ายอีก

“ไม่กล้าหรอกครับ กลัวจะแย่” เจฟฟรี่หัวเราะในลำคอ น่ากลัวตายล่ะ

“ไว้ใจได้แน่หรือ?” น้ำเสียงจากปลายสายยังคงระแวง

“ได้ค่าปิดปากสักหน่อยรับรองความลับไม่มีกระเด็น”

“หื่น”

“หึ ๆ ”

เจฟฟรี่หัวเราะ ไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหา ปอนด์บินไปบินกลับระหว่างประเทศเพื่อทำงานให้ครบกำหนดเวลา มีช่วงลาพักร้อนก็กลับเมืองไทยไปเยี่ยมบ้านบ้างทำให้ห่างกัน ชักคิดถึงแล้วแฮะ

“กลับเมื่อไร?” บอดีการ์ดหนุ่มเอ่ยถามไถ่เป็นการเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่รู้ ไม่กลับแล้ว จะอยู่ที่นี่” ดูเหมือนอีกคนจะงอนแล้ว เรื่องอะไรไม่รู้ แต่เมียเขางอนบ่อยอยู่แล้วเลยไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ได้ทุบเขาสักทีสองทีก็หายงอนแล้ว

“อย่านะ เดี๋ยวตามไปฉกมาจากบ้านเลย... พาอเล็กซานเดอร์ไปด้วย” เจฟฟรี่ขู่กลับบ้าง

“เฮ้ย!” ปอนด์ร้องเสียงหลง ก่อนเสียงโวยวายยาวยืดจะดังมาจนแสบแก้วหู เจฟฟรี่หัวเราะ ไม่ได้หงุดหงิดกับคำต่อว่าโวยวาย

หลังจากอัลเบิร์ตไปได้ไม่นานอเล็กซานเดอร์ก็เคยพาคนไปบุกฟาร์มของครอบครัวปอนด์ บ้านปอนด์ทำธุรกิจฟาร์มโคนม เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างพอสมควร เมื่ออเล็กซานเดอร์บุกมาถึงที่ปอนด์เองก็ยอมให้อีกฝ่ายค้นได้ตามสะดวก แต่หากข้าวของเสียหายต้องจ่ายมาสองเท่า อเล็กซานเดอร์ได้แต่มองเพื่อนจอมงกของอัลเบิร์ตด้วยความระอา เขาแค่มาตามหาคน ไม่ได้มาปล้น

ตอนนั้นปอนด์โกรธเจฟฟรี่มากทีเดียวที่พาอเล็กซานเดอร์ไป แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของบอดีการ์ดหนุ่ม เพราะอเล็กซานเดอร์คิดว่าอัลเบิร์ตสนิทกับปอนด์มาก อัลเบิร์ตอาจจะมาที่นี่ก็เป็นได้ ทำให้หลังออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดทั้งที่แผลยังไม่หายดีอเล็กซานเดอร์ก็ตรงมาที่ฟาร์มเลย แต่สุดท้ายก็เสียแรงเปล่าเมื่อหาไม่พบ ไม่รู้ปอนด์พาไปซ่อนที่ไหน

ส่วนปอนด์ที่เห็นอเล็กซานเดอร์หน้าเสียก็แอบสะใจที่คลาดกันไปอีกครั้ง สมน้ำหน้าอเล็กซานเดอร์ชะมัด เชอะ!

หลังวางสายจากปอนด์ เมื่อหันไปมองอเล็กซานเดอร์ที่กุมขมับด้วยความเครียดแล้วเจฟฟรี่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเบา เขาถูกสั่งห้ามไม่ให้บอก ไม่ได้กลัวเมีย แต่แค่เกรงใจหน่อยๆ ช่วยไม่ได้จริงๆนะอเล็กซ์ เรื่องงานเขาช่วยได้เต็มที่ แต่เรื่องหัวใจ... ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน


-------------------


รีสอร์ตนับตะวัน

สถานที่พักทางภาคเหนือของประเทศไทย หน้าหนาวมาเยือนอีกหนในรอบปีที่รีสอร์ตแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้น ดอกไม้ประจำฤดูกาลออกดอกแข่งกันบานสะพรั่งในยามเช้าที่มีแดดอ่อนทอแสงมา สองข้างทางเดินที่ปูหินอ่อนมีไม้พุ่มเตี้ยและแซมดอกไม้เมืองเหนือดอกเล็กดอกน้อยสลับสับหว่างดูสวยงามทอดยาวสู่ตัวอาคารอำนวยการของรีสอร์ต ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและผืนน้ำที่สร้างสรรค์จากความคิดเจ้าของถูกตกแต่งไว้อย่างลงตัว แลดูแล้วเพลินตาเพลินใจ แถมความสะดวกสบายในการพักผ่อนในระดับดีเยี่ยมครบครัน

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ถูกอุ้มมาด้วยในอ้อมแขน เดินเคียงคู่มากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ลากกระเป๋าเข้ามาภายในรีสอร์ต ทั้งสามคนตรงเข้าไปหาเจ้าของที่กำลังวุ่นกับการทำงาน เมื่อฝ่ายนั้นหันกลับมาก็ทำหน้าแปลกใจที่เห็นพวกเขา ก่อนเปิดยิ้มให้

“คุณทัชธร”

“สวัสดีครับ คุณคาร์ล” ชายหนุ่มที่ชื่อทัชธรเอ่ยทักทายตอบกลับมา เจ้าของรีสอร์ตนับตะวันก็คืออัลเบิร์ต คาร์ล คนนี้เอง

อัลเบิร์ตมักจะบ่นว่าชื่อของอีกฝ่ายเรียกยาก ทัชธร ลิ้นฝรั่งแบบเขาเรียกอย่างไรก็ไม่ถูกเสียที เจ้าของชื่อเคยให้เรียกตนเองว่าโซล ซึ่งเป็นชื่อเล่น แต่นั่นมันก็ดูจะสนิทสนมกันไปสักหน่อยทำให้อัลเบิร์ตพยายามเรียกทัชธรให้ชินปาก จนสามารถเรียกได้ แม้ไม่ชัดเจนเหมือนเจ้าของภาษาแต่ก็ไม่ได้เพี้ยนไปจากเดิมมากนัก

ตาสีอ่อนมองเลยมาข้างกายของหนุ่มทัชธรคนดังกล่าว เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกันกำลังเอียงคอมองเขา เมื่อเขายิ้มให้ทั้งคู่จึงยกมือไหว้อย่างมีมารยาทอันดีพร้อมรอยยิ้มสยามเห็นฟันขาววาววับ

“แล้วมายังไงครับนี่ ไม่บอกกันก่อนเลยผมจะได้เตรียมที่พักไว้ให้” อัลเบิร์ตรับไหว้แบบไทยแล้วเอ่ยถามไถ่

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เห็นยุ่งๆอยู่ อีกอย่างคนนี้เขาก็จัดการจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว... อยากมาเที่ยว” ท้ายประโยคแอบกระเซ้าเด็กหนุ่มที่ยืนข้างกาย โยกศีรษะทุยไปมาอย่างหมั่นเขี้ยวเมื่อฝ่ายนั้นย่นจมูกใส่

“ต้าอยากมาเยี่ยมคุณอัลเบิร์ตต่างหากล่ะพี่โซล” เอ่ยแก้ตัวเสียงเง้างอด

ทัชธรซ่อนยิ้มแล้วว่า “แน่ใจ ไม่เที่ยวงั้นสิ?”

“เที่ยว!!” สองเสียงร้องออกมาพร้อมกัน ก่อนที่เด็กหนุ่มคนดังกล่าวกับน้องสาวตัวน้อยจะหัวเราะกันเองที่ใจตรงกันพอดี

“ต้าพาน้องไปเดินดูแถวนี้ได้ไหมครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม สายตากลมมองรอบบริเวณรีสอร์ต น่าถ่ายรูปเก็บไว้จัง

“มาถึงก็เล่นซนเลย” หนุ่มตัวโตว่า

“เปล่าสักหน่อย... เดินดูได้ไหมครับคุณอัล?” หันมาถามอัลเบิร์ตด้วยสายตามีความหวังวิบวับ อัลเบิร์ตอมยิ้มแล้วจึงว่า

“ตามสบายครับ แต่แดดร้อนนะ ใส่หมวกสักหน่อยไหมครับ?”

อัลเบิร์ตหันไปขอหมวกปีกจากพนักงานมาให้ อีกฝ่ายก็รีบยกมือไหว้ขอบคุณเขา

“ขอบคุณครับ”

ร่างสูงเพรียวของเด็กหนุ่มตาโตนั่งยองลงตรงหน้าน้องสาว ก่อนจะสวมหมวกให้น้อง มองแล้วอมยิ้มก่อนบอกว่าน่ารักแล้วจึงจูงมือกันไปเดินเล่นรอบบริเวณนั้น ทัชธรมองตามหลังทั้งคู่แล้วก็ยิ้ม เมื่อหันมาอัลเบิร์ตจึงเชิญชายหนุ่มไปนั่งที่เก้าอี้รับรองแขก เพื่อจะได้พูดคุยกัน

“คุณสบายดีนะครับ?” ทัชธรเอ่ยถามนำไปก่อน

“ครับ ไม่ได้ไปเยี่ยมพวกคุณเลย ต้องขอโทษมากๆ”

“ไม่เป็นไรครับ กิจการกำลังรุ่งเรืองก็แบบนี้ล่ะ”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” อัลเบิร์ตแบ่งรับยิ้มๆ

ชายหนุ่มตรงหน้าเขาคนนี้คือเจ้าของไร่องุ่นรณวีร์ ไร่องุ่นที่ใหญ่ระดับต้นๆทางภาคเหนือ และเพราะเขาเป็นคนให้ความช่วยเหลือ รีสอร์ตแห่งนี้ถึงได้ถูกสร้างขึ้นและเปิดให้บริการเป็นผลสำเร็จ

หลังจากมาไทยพร้อมปอนด์ ปอนด์ก็พาเขาหลบอเล็กซานเดอร์เสียทุกทางทำให้ไม่ว่าอเล็กซานเดอร์จะได้เบาะแสเรื่องเขามาจากไหนก็ไม่มีทางหาเจอได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งเขาบอกเพื่อนว่าเหนื่อยกับการเอาแต่หนีแบบนี้แล้ว อยากทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ปอนด์จึงได้พามารู้จักกับทัชธร อัครบดินทร์

พวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ครอบครัวปอนด์ทำธุรกิจฟาร์มโคนม ชื่อฟาร์มภาสกร ขณะที่ทัชธรมีไร่องุ่นและผลิตผลนานา ปอนด์บอกกับเขาว่าคนๆนี้มีเส้นสายเยอะพอดู หากเขาอยากทำอะไรพ่อเลี้ยงไร่องุ่นคนนี้ช่วยเขาได้แน่ อัลเบิร์ตรู้สึกว่ามันเป็นการรบกวน เพราะเขาเองเอาภาระมาให้ปอนด์แท้ๆ แต่ปอนด์กลับยินดีที่จะช่วยเหลือ ปอนด์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาจริงๆ

ทัชธรช่วยเขาเอาไว้หลายเรื่อง เขาที่เป็นคนต่างชาติต่างภาษาได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีเช่นนี้ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรได้ ในเวลาเดือดร้อน ยังมีน้ำใจจากคนรอบข้างมอบให้เขาได้มากขนาดนี้มันน่าซึ้งใจ

หลังจากที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอัลเบิร์ตก็ได้ชวนครอบครัวที่อังกฤษมาอยู่ด้วยกัน แต่บิดามารดาของเขาขอแค่มาเที่ยวพักผ่อนเป็นการชั่วคราว ไม่ขอมาอยู่ถาวร เพราะจะมีจะจนอย่างไรก็ขออยู่ที่ถิ่นฐานบ้านเกิดจะดีกว่า อัลเบิร์ตก็ไม่ได้ขัดใจท่านทั้งสอง

ตั้งแต่เขามาอยู่ไทยได้ข่าวจากครอบครัวมาเหมือนกันว่ามีคนของเฟอร์ริงตันมาตามหาเขา แต่ครอบครัวของเขาไม่ได้บอกอะไรไป ได้แต่ถามไถ่ว่าเกิดปัญหาอะไรกับทางนั้นหรือไม่ ซึ่งลุงมิลเลอร์ก็เป็นคนมาอธิบายทุกอย่างแทน แม้มันจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่มันทำให้ครอบครัวของเขาสบายใจ นั่นก็ดีแล้ว...

เมื่อลูกสาวกับน้องชายของทัชธรกลับมาจากไปเดินเที่ยวรอบๆ ทั้งหมดจึงขอตัวไปที่พักกันก่อน อัลเบิร์ตเรียกพนักงานให้นำทางทั้งสามคนไป หลังจากข้าวของถูกนำไปเก็บก่อนหน้าแล้วเรียบร้อย มองเด็กหนุ่มที่กอดแขนอ้อนทัชธรขณะเดินไปข้างกันแล้วอัลเบิร์ตก็ยิ้มบางเมื่อเห็นคนอื่นเขามีความสุขกันดี ทัชธรเป็นพ่อหม้ายลูกหนึ่ง แต่ข้างกายเขาไม่เดียวดายเพราะมีเด็กหนุ่มตาโตคนนั้นคอยเคียงคู่

อัลเบิร์ตถอนใจเบาเมื่อมองย้อนกลับมาที่ตนเอง เขายังไม่รู้เลยว่าเมื่อไรถึงจะสุขได้อย่างคนอื่นเขาเสียที ที่ทำงานเหนื่อยทุกวันก็เพื่อไม่ให้ตนเองฟุ้งซ่าน วันเวลาผ่านมาหลายปีแต่เขาก็ยังไม่ได้มีใครใหม่ หากถามว่ายังรักคนๆนั้นอยู่ไหม ยอมรับว่าบางช่วงเวลาก็นึกถึง ตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว ใจก็อดไพล่นึกไปไม่ได้ จะดูแลตัวเองดีไหม... อเล็กซานเดอร์


--------------------


“คุณจะไม่ไปด้วยกันจริงหรือคะอเล็กซ์?”

เกวนมายังเฟอร์ริงตันเพื่อชวนอเล็กซานเดอร์ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน ข้างกายหญิงสาวมีเด็กชายตัวน้อยนัยน์ตาสีควันบุหรี่ แน่ล่ะว่าคงไม่ใช่ลูกของอเล็กซานเดอร์ แต่เด็กคนนี้เป็นลูกของเธอ ของเธอเพียงคนเดียว

“ไปเที่ยวกันสองแม่ลูกเถอะ เที่ยวให้สนุกนะตัวป่วน” อเล็กซานเดอร์ยกตัวเล็กป้อมมานั่งบนตักก่อนหอมแก้มป่อง หนูน้อยหัวเราะเพราะคนหอมมีเคราครึ้มพาให้จั๊กจี้ หนวดเครานี่ไม่เคยคิดจะโกนจนหน้าตาดูราวมหาโจรแทนนักธุรกิจการเงิน

“แด๊ด หนวดๆ”

เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้นมาพร้อมนิ้วชี้จิ้มคางของเขา อเล็กซานเดอร์อมยิ้มก่อนแกล้งใช้แก้มสากเคราครึ้มถูกแก้มอีกฝ่าย เสียงหัวเราะของหนูน้อยทำให้เขาผ่อนคลาย อยากให้มาทุกวันเลยจริงๆ

เกวนมองชายหนุ่มตัวโตเล่นกับลูกของเธอแล้วก็ถอนใจ “พักบ้างนะคะอเล็กซ์ หลายปีมานี้คุณดูเหนื่อยๆ ฉันว่าไปเที่ยวพักผ่อนกับพวกเราดีกว่านะคะ”

เกวนยังเอ่ยชวนซ้ำ อเล็กซานเดอร์ดูเครียดไปเสียทุกเรื่องจนน่าห่วง ตอนนี้ลูกของเธอได้สามขวบแล้ว ถ้าเทียบเวลากับที่คนข้างกายอเล็กซานเดอร์หายไปก็ย่างเข้าสู่ปีที่สี่ เธอยังอดแปลกใจไม่ได้ว่า ช่วงเวลานานขนาดนั้นคนๆหนึ่งจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เหตุใดอเล็กซานเดอร์เฝ้าตามหาก็ยังไม่เจอเสียที แต่เมื่อนึกไปว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่ อาจมีตรอกซอกซอยมากมายให้เล็ดรอดสายตาไปก็เป็นได้

“ขอบคุณเกวน ผมยังไหว” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะเล่นตีมือกับหนูน้อยบนตัก

“เฮ้อ ฉันมองดูคุณแล้วฉันยังเหนื่อยแทนเลยค่ะ เชือกถ้ามันตึงไปมันก็ขาดได้ง่ายนะคะ ผ่อนคลายบ้างเถอะ”

“ผมไม่เป็นไร”

หญิงสาวถอนใจอีกหนเมื่อชายหนุ่มหัวดื้อยังบอกซ้ำคำเดิม “ยังตามหาเขาไม่พบหรือคะ?”

คำถามของเธอคงไปสะกิดใจอีกฝ่ายเข้า เมื่อรอยยิ้มบนใบหน้าค่อยหายไป แทนที่ด้วยเสียงถอนใจเบาๆ “ไม่รู้สิ เหมือนแต่ละคนจะคอยปิดบังซ่อนเร้น”

อเล็กซานเดอร์ยิ้มหยันตนเอง เขาไม่ได้คิดมากไปเอง เพราะเขาส่งคนไปเฝ้าบ้านอัลเบิร์ตที่เคมบริดจ์ คาดเอาไว้ว่ามันต้องมีบ้างที่อัลเบิร์ตจะกลับมาเยี่ยมครอบครัว แต่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านล่วงเลยไปก็ยังไม่มีรายงานอะไรจากคนที่เขาส่งไปเฝ้าเลย แม้กระทั่งเรื่องที่ครอบครัวอัลเบิร์ตเดินทางออกนอกประเทศ กว่ารายงานจะมาถึงเขาก็ตอนคนพวกนั้นกลับมาแล้ว พอให้นักสืบสืบเสาะก็ได้ความว่าพวกเขาเพียงไปเที่ยวกันที่เมืองไทยเท่านั้น

“อย่าเพิ่งหมดความหวังค่ะ ฉันเองก็หวังว่าคาร์ลจะกลับมาอยู่ข้างกายคุณในไม่ช้า” หญิงสาวให้กำลังใจ

“หึ” อเล็กซานเดอร์ทำเสียงในลำคอ ยกยิ้มมุมปากอย่างไม่เชื่อว่ามันจะมีทางเป็นไปได้ มือหนาลูบหลังหนูน้อยที่ฟุบหน้านอนซบอกเขาแล้วฮัมเพลงงึมงำ

“ถ้าหากเขากลับมา ถนอมเขาให้ดีๆนะคะ”

ดวงตาสีฟ้าเหลือบขึ้นมองเธอ เกวนยิ้มให้ ทำให้ชายหนุ่มตัวโตเหยียดยิ้มที่ต้องให้เธอมาสอน

“ไปลูก เอวาน”

เกวนเอ่ยเรียกลูกชายที่ซบแก้มกับอกอเล็กซานเดอร์ขณะขยับลุก เจ้าหนูน้อยผงกศีรษะขึ้นมามองมารดาที่ก้มมาหาตนเอง

“เตรียมตัวไปเที่ยวกันเนอะ”

ผู้เป็นมารดาว่าแล้วยิ้ม ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าหงึกเป็นการรับคำ ก่อนจะหันมาหาอเล็กซานเดอร์ที่ให้ตนเองนั่งตักอยู่

“แด๊ด”

“ครับ”

“เอวานจะไปเที่ยว”

“อือฮึ”

“เดี๋ยวเอวานจะเอาของมาฝากฮะ”

“ครับผม”

ริมฝีปากเล็กๆจุ๊บแก้มเขาเบาๆเป็นการบอกลาก่อนยิ้มกว้างจนตาหยี อเล็กซานเดอร์อมยิ้ม ยกตัวหนูน้อยเอวานลงไปยืนข้างเกวน ก่อนจะออกไปส่งทั้งคู่ขึ้นรถกลับเจฟเฟอร์สัน แล้วยืนมองส่งเจ้าตัวเล็กที่ขึ้นรถไปกับหญิงสาวจนรถคันดังกล่าวลับสายตาไป

เขากับเกวน หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นานเกวนก็เป็นฝ่ายขอหย่า ด้วยเหตุผลที่ทั้งเขาและเธอต่างรู้ดี เขามันไม่ได้เรื่อง อยากได้ทุกอย่างแต่สุดท้ายก็ต้องเสียไปทุกทาง

“เราควรเดินให้ถูกทางกันเสียที”

เกวนบอกเขามาเช่นนั้นเมื่อเขาถามหาเหตุผลที่เธอจะหย่า ทั้งที่เธอเป็นคนบอกเองว่ารักเขา ทั้งเขาและเธอต่างเลือกหนทางผิดด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ยังดันทุรังฝืนเดินกันต่อ

พวกเขาไม่ได้หย่าขาดจากกันในทันที เพราะขณะนั้นเกวนกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ หญิงสาวรู้ดีว่าไม่ใช่ลูกของอเล็กซานเดอร์ แต่นั่นทำให้อเล็กซานเดอร์บอกยุติการหย่าเอาไว้ เหตุเพราะนักข่าวคงเล่นละเลงสีกันไม่เกรงใจหากรู้เรื่องเข้า คงขุดคุ้ยจนทำให้เกวนเสียหายเข้าไปใหญ่ หม้อข้าวยังไม่ทันดำพวกเขาก็หย่ากันเสียแล้ว ยิ่งมีประเด็นท้องเข้ามาเกี่ยวอาจสาวไปถึงเรื่องของพอล เวสส์อีก

จนกระทั่งเกวนคลอดเอวาน วิคเตอร์เป็นผู้ตั้งชื่อให้หลานชายด้วยตนเอง ชายชรารักและเอ็นดูเด็กคนนี้มากจนเกวนละอายใจ ทั้งที่ไม่ใช่ทายาท ไม่ใช่เลือดเนื้อสายเดียวกันแท้ๆ หญิงสาวขอกลับไปอยู่เจฟเฟอร์สัน เพราะถึงอย่างไรเธอกับอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ใช่สามีภรรยากันตามกฎหมายอีกต่อไปแล้ว เมื่อเธอคิดจะมอบอิสรภาพให้ชายหนุ่ม

วิคเตอร์ไม่อยากให้ทำเช่นนั้น แต่เกวนยืนยันหนักแน่น ทั้งยังรับปากจะพาเอวานมาเยี่ยมบ่อยๆ จะบอกกับเอวานว่าปู่ของเขาคือวิคเตอร์ เฟอร์ริงตันคนนี้

“ฉันรักเขามากนะหนูเกวน อยากให้เขาเป็นหลานชายของฉันอย่างแท้จริง”

คำกล่าวของวิคเตอร์ในวันนั้นเกวนยังจำมันได้ เธอรู้สึกขอบคุณจากใจ และยังคงปฏิบัติตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้เรื่อยมา


---------------


เกวนและลูกเดินทางมาถึงที่พักในวันต่อมา เธอได้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวจากกลุ่มลูกค้าขาประจำของร้านเธอ ช่วงหน้าหนาวเมืองไทยจะอบอุ่นกว่าอังกฤษ บรรยากาศก็ต่างกันเอามากทำให้เธออยากมาเห็นด้วยตา อยากพาลูกมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง

ทุกอย่างมันน่าจะดีกว่านี้หากไม่มีพอล เวสส์ตามมาด้วย หญิงสาวมีสีหน้าเบื่อหน่าย พอรู้ว่าเอวานมีดวงตาสีเดียวกับตนเองพอลก็ตามเธอกับลูกไม่เลิก แม้จะบอกไปไม่รู้กี่หนว่าไม่ใช่ลูกของพอล แต่พอลก็ไม่เคยจะฟัง ผู้ชายพวกนี้เข้าใจอะไรกันยากจริง

ค่าใช้จ่ายต่างๆพอลเป็นคนออกให้สองแม่ลูกทั้งหมด เกวนไม่เคยคิดญาติดีกับเขา แม้พอลจะไม่ชอบใจกับสถานะแค่คนจ่ายเงินไม่ใช่ครอบครัวอย่างที่เกวนบอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เกินกว่านั้น ถ้าไม่มีเอวานมาด้วยหน่อยเขาจะหักคอเกวน เจฟเฟอร์สันจิ้มซอสพริก!

“ทำหน้าอะไรของคุณ ลูกฉันกลัวนะ”

เสียงเกวนแทรกเข้ามาในความคิด พอลหันมามองเธอกับลูก เอวานช้อนสายตามองเขา ตัวเล็กๆหลบหลังเกวนโผล่มาแต่หน้า พอลกะพริบตางงๆ ก่อนปรับสีหน้าให้มันดีขึ้น ลูกเต้าเขากลัวหมด

หญิงสาวดึงลูกถอยห่างจากพอลเมื่อร่างสูงใหญ่นั้นนั่งยองลง พอลส่งสายตาไม่พอใจให้เธอ แต่มีหรือเธอจะสน ก้มลงอุ้มลูกขึ้นมาแล้วเดินจากไปง่ายๆ พอลได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ผู้หญิงอะไร!

เกวนพาลูกเดินตามพนักงานมาถึงที่พัก ปล่อยให้ลูกลงยืนแล้วคุยกับพนักงานเรื่องอาหารที่จะนำมาให้พวกเธอ เพราะเอวานแพ้อาหารบางอย่าง เอวานน้อยเงยมองมารดาคุยกับพนักงานแล้วบุ้ยปากเพราะชักจะเบื่อ ก่อนหันไปหาที่เล่น เห็นเด็กผู้หญิงที่พักบ้านหลังข้างๆกำลังเล่นบอลกับพี่ชายเอวานก็ตาโต รอยยิ้มกว้างแตะแต้มริมฝีปากก่อนตัวเล็กป้อมจะวิ่งออกไป

“เอวาน!”

เกวนหันมาเห็นหลังลูกไวๆรีบเอ่ยเรียก เอวานหันกลับมาหามารดาแต่ขากลับไม่ได้หยุดวิ่งตามทำให้ชนเข้ากับอะไรบางอย่างเต็มรัก ร่างเล็กล้มคะมำก้นจ้ำเบ้า ริมฝีปากเริ่มเบ้ตั้งท่าจะเป่าปี่อยู่รอมร่อ

“เอวาน!”

เกวนรีบก้าวเข้ามาหาลูกชายที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพื้นหญ้าโดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังดูแลอยู่ ลูกของเธอคงวิ่งมาชนเขาเข้า หญิงสาวนั่งลงดูลูก ปัดแข้งปัดขาที่มีเศษดินเศษหญ้าติดออกดูว่ามีแผลตรงไหนหรือไม่ โดยไม่ทันสังเกตชายหนุ่มข้างกาย

“ลูกเป็นอะไรน่ะคุณ?” เสียงพอลเอ่ยถามเมื่อตามมาถึง

“ลูกหกล้มค่ะ แต่ไม่มีแผลอะไร”

หญิงสาวเอ่ยตอบกลับไปอย่างลืมตัว พอลเองก็นิ่งไม่ได้ทักท้วงคำพูดเธอ พอเห็นอีกฝ่ายเงียบหญิงสาวก็ย่นหัวคิ้ว มองพอลแปลกๆ นั่งยิ้มอะไรของเขา

“เอ่อ ... คุณคะ ต้องขอโทษด้วยที่ลูก...”

เกวนที่หันมาสนใจชายหนุ่มคนที่ลูกเธอวิ่งมาชนแล้วจะเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายกลับต้องชะงัก ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากอิ่มขยับเรียกชื่ออีกฝ่าย

“คาร์ล...”


+++++++++++++

ต่อหน้าถัดไปค่ะ :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2013 22:26:50 โดย wanmai »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด