หัวใจซ่อนรัก
ตอนที่ ๗ ยอมแพ้
โรเจอร์ เมอร์นาสได้เข้ามายังคฤหาสน์ศัตรูของเฟอร์ริงตันในวันหนึ่ง ชายหนุ่มโวยเจ้าของคฤหาสน์ที่ส่งคนไปทำร้ายอัลเบิร์ต เขาแค่บอกให้ไปจับตัวมาเท่านั้น แต่รายงานที่ได้รับกลับเป็นอัลเบิร์ตเกือบเอาชีวิตไม่รอด ยอมรับว่าแผนการทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นจากเขาที่เข้าหาศัตรูของเฟอร์ริงตันเพื่อยืมมือมาแก้แค้นอเล็กซานเดอร์ แต่ไม่ได้คิดจะทำร้ายอัลเบิร์ต คาร์ลแต่อย่างใด
“จะโวยวายไปทำไมโรเจอร์ เจ้าบอดีการ์ดกิ๊กก๊อกนั่นเป็นอะไรกับนายอย่างนั้นหรือ?” เจ้าของคฤหาสน์หลังงามเอ่ยถาม ไม่สบอารมณ์กับท่าทางของเจ้าเด็กตรงหน้านี่สักเท่าไร
“ไม่ได้เป็นอะไรกับผม เพียงแต่คุณไม่น่าทำรุนแรงขนาดนี้” โรเจอร์เอ่ยแย้งทั้งให้เหตุผล
“ฉันจะทำมากกว่านี้อีก แค่บอดีการ์ดของเฟอร์ริงตันตายไปสักคนไม่เห็นเป็นไร แต่ถ้ามันจะเป็นก็เพราะนายบอกเองว่าเจ้าคาร์ลนั่นมีความสัมพันธ์พิเศษกับอเล็กซานเดอร์ มันคงแทบกระอักถ้าเจ้านั่นตาย” กล่าวถ้อยคำอย่างไร้ความปรานีจนโรเจอร์ขนลุก
“คุณไม่กลัวว่าอเล็กซานเดอร์จะตามมาฆ่าล้างโคตรถึงที่นี่หรือ หากรู้ตัวคนบงการ”
คำพูดของโรเจอร์ช่างแสลงหู ชายเจ้าของคฤหาสน์พยายามข่มใจไม่ให้สั่งลูกน้องเก็บเจ้าเด็กปากดีนี่ มันยังมีประโยชน์กับเขา อย่างน้อยๆให้มันเป็นแพะรับบาปอีกสักตัวก็ยังดี
“ใครจะมาสงสัยฉันล่ะจริงไหม ระหว่างคนที่อยู่เงียบๆอย่างฉันกับร้ายอย่างเปิดเผยแบบพอล คิดว่าอเล็กซานเดอร์ เฟอร์ริงตันจะสงสัยใครมากกว่ากัน เพราะฉะนั้น ความผิดทุกอย่างพอล เวสส์ก็จงรับไปเสียเถอะ! ฮ่า ๆ ๆ"
เสียงหัวเราะบาดแก้วหูพาให้โรเจอร์หวั่นใจกับคนๆนี้ เขาแค้นอเล็กซานเดอร์ สืบเสาะเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับฝ่ายนั้นเพื่อเอาคืน จนไปพบความลับที่ไม่ลับเรื่องอัลเบิร์ตเข้า เขาอยากแก้แค้นอเล็กซานเดอร์แต่ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับอัลเบิร์ต หากคนที่เขามายืมมือนั้นจะทำร้ายอัลเบิร์ตจนต้องจบชีวิตลง เขาคงรู้สึกผิด อย่างน้อยๆอัลเบิร์ตก็เคยช่วยเขาเอาไว้ตั้งสองครั้งสองครา
--------------------
คฤหาสน์เฟอร์ริงตัน
นายแพทย์จากโรงพยาบาลดังถูกเชิญตัวมาเพื่อทำแผลให้อัลเบิร์ตโดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ยืนกอดอกมองการทำงานของคุณหมอหนุ่มแว่นหนา จนคนถูกจับตามองมือสั่นเพราะกดดันกับสายตาสีน้ำทะเลที่มองจ้อง พออัลเบิร์ตเจ็บจนสะดุ้งทีอเล็กซานเดอร์ก็ขยับที พลอยทำให้คุณหมอหนุ่มเหงื่อตกตามไปด้วย
“เอ่อ... มิสเตอร์เฟอร์ริงตัน คุณยืนจ้องแบบนี้ผมทำงานลำบาก...นะครับ”
อเล็กซานเดอร์มองคนพูดเขม็ง ก่อนจะหมุนกายกลับแล้วเดินไปอีกทาง คุณหมอหนุ่มลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อนึกไปว่าอีกฝ่ายยอมออกจากห้องไปแต่โดยดีแล้ว แต่เมื่อหันกลับไปมอง ร่างสูงใหญ่ก็เพียงแค่เปลี่ยนอิริยาบถไปนั่งที่โซฟาแทนเท่านั้นเอง
“จะทำก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ให้หมอคนใหม่มา”
ประโยคง่ายๆจากชายเจ้าของคฤหาสน์ทำให้คนฟังกลืนน้ำลายหวาดๆ อัลเบิร์ตเหลือบมองคนก่อกวน ก่อนบอกกับหมอ
“พอแล้วครับ ไม่ต้องทำแล้ว”
“อ้าว? เอ่อ... แต่แผลคุณถ้าไม่ทำความสะอาดให้ดีอาจติดเชื้อจนมันแย่เอาได้นะครับ” คุณหมอเอ่ยบอก สีหน้าเป็นกังวล
“ช่างมันเถอะครับ เพราะเขาคงต้องการให้แผลผมติดเชื้อจนมันเน่ามากกว่าอยากให้มันหาย”
อเล็กซานเดอร์คอแข็งกับคำเหน็บแนมเรียบๆจากคนเจ็บ คุณหมอหนุ่มผู้เป็นคนกลางออกจะลำบากใจ เมื่ออเล็กซานเดอร์ขยับลุก คุณหมอก็แอบสะดุ้งในใจ แต่เมื่ออีกฝ่ายเพียงทิ้งสายตาเคืองขุ่นแล้วออกจากห้องไปคุณหมอก็ถึงกับผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก อัลเบิร์ตเองก็ส่ายหน้าแล้วถอนใจเบาๆ ก่อนหันมาบอกหมอด้วยรอยยิ้มบาง
“ทำแผลต่อเถอะครับ”
คุณหมอยังมึนงงเล็กน้อยกับสถานการณ์ ก่อนจะรีบทำแผลให้อัลเบิร์ตจนเสร็จ พอไม่มีคนคอยกดดันแล้วงานเดินเร็วมากทีเดียว หลังจากทำหน้าที่เรียบร้อยพอออกมาข้างนอกก็ปะหน้ากับอเล็กซานเดอร์เข้าอีกหน ร่างหนายังยืนกอดอกอยู่หน้าห้อง ปรายตามามองจนคุณหมอแว่นสะดุ้งรอบที่สิบกว่าๆของวัน
“ครั้งต่อไปไม่ต้องมาแล้วนะคุณหมอ”
เอ่ยบอกเสียงเรียบโดยไม่มีการอธิบายขยายความใดๆต่อ ก่อนจะเดินผ่านคุณหมอหนุ่มเข้าห้องปิดประตู ทางคุณหมอได้แต่เอ้ออ้าไม่ทันทักท้วง พ่อบ้านมิลเลอร์ก้าวเข้ามาในระยะสายตาด้วยท่าทีนอบน้อมก่อนจะเดินตัวตรงนำทางคุณหมอหนุ่มไปส่งที่รถ ให้คนขับรถพากลับโรงพยาบาลให้เรียบร้อย
อเล็กซานเดอร์เข้ามาภายในห้อง เห็นอัลเบิร์ตกำลังสวมเสื้อติดกระดุมก็ยืนมองนิ่ง “หมอนั่นมันคิดอะไรกับนายหรือเปล่า ทำทีนานจริง”
แอบบ่นคุณหมอที่ทำแผลให้คนเจ็บนานเกินความจำเป็นในความรู้สึกเขา
“ยังไม่รู้ตัวอีก?” อัลเบิร์ตว่า
“ฉันไม่ผิด ฉันยืนของฉันอยู่เฉยๆ” คนไม่ผิดใช้สีข้างแถ นั่งลงข้างๆอัลเบิร์ต มองสำรวจแล้วเอ่ยถาม “แผลเป็นยังไง ยังเจ็บอยู่มากไหม?”
“ครับ หมอบอกมันอักเสบ” เอ่ยบอกไปตามจริง อเล็กซานเดอร์มองท่าทีเฉื่อยชาของอีกฝ่ายแล้วคิ้วกระตุกเบาๆ
“แล้วต้องทำแผลอีกทีวันไหน?”
“วันศุกร์ครับ ต้องไปที่โรงพยาบาล”
คนฟังคิ้วขมวด ชักพื้นเสีย “ทำไมต้องไป ฉันให้คนไปรับหมอหรือพยาบาลมาทำที่นี่ก็ได้ นายก็เห็น”
“เผื่อมันเป็นหนอง เครื่องมือเขาก็ครบกว่าด้วย...” เอ่ยบอกไปเช่นนั้นแล้วอัลเบิร์ตก็นิ่ง เมื่ออีกคนหน้าบูดหน้าบึ้งที่เขาไม่ยอมทำตามใจ
“ไม่ไปก็ได้ เดี๋ยวมันหายเร็ว...”
“ช่างประชดประชัน”
จุ๊บ!ร่างสูงใหญ่เคลื่อนเร็ว ฉกจูบปากคนช่างประชดแรงๆ บดจูบด้วยความหมั่นไส้ปนหมั่นเขี้ยว อัลเบิร์ตทำเสียงประท้วงในลำคอ ดันไหล่หนาให้ออกห่าง แต่อเล็กซานเดอร์ยังดื้อดึง มือเหนียวหนึบกอดเอวคนเจ็บไว้พอหลวมๆขณะที่บดเบียดริมฝีปาก ยิ่งอีกฝ่ายดิ้นหนีไม่ถนัดอเล็กซานเดอร์ยิ่งแกล้งตักตวงเอาตามใจอยาก ก่อนจะจบลงที่การจูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆจนฝ่ายนั้นชะงักนิ่ง
อเล็กซานเดอร์ผละออกมา มองแก้มแดงๆของอดีตบอดีการ์ดของตนเองแล้วอมยิ้ม ทำไมเขารู้สึกว่าหมอนี่น่ารัก ร่างสูงใหญ่ขยับลุกขึ้นเต็มความสูง ก่อนเอ่ยบอกคนที่นั่งนิ่งอยู่ปลายเตียง
“พักผ่อนซะ ฉันขอไปทำงานที่ค้างไว้สักเดี๋ยว”
อเล็กซานเดอร์ออกจากห้องไปแล้ว อัลเบิร์ตยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ริมฝีปากบางเม้มแน่น หัวใจเผลอเต้นแรงขึ้นมาเพียงครู่ก่อนจะอ่อนแรงลงเมื่อหันกลับมามองความจริงที่เป็นอยู่ เขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะหัวใจพองโตกับเรื่องอะไรแบบนี้
เสียงเคาะประตูดังขึ้น อัลเบิร์ตหันไปมองอย่างสงสัยก่อนเอ่ยอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาได้ เกวนค่อยเปิดประตูเดินเข้ามาหา อัลเบิร์ตชะงัก แอบหวั่นใจที่เห็นเธอมา เพราะนี่มันห้องของอเล็กซานเดอร์ แต่เขากลับอยู่ที่นี่... บนเตียงของอเล็กซ์
อัลเบิร์ตลุกเดินมาที่โซฟามุมห้อง ผายมือเชิญหญิงสาวให้นั่งลงคุยกัน
“ฉันได้ยินมาว่าคุณบาดเจ็บ” เกวนเกริ่นนำขึ้นมา สีหน้าเธอดูห่วงใยเขาอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”
“ถูกยิงน่ะหรือคะเรียกว่าไม่เป็นอะไร?” คิ้วสวยขมวด ก่อนจะถอนใจเบา สีหน้าเศร้าหมองลงเมื่อเอ่ยคำพูดต่อมา
“ฉันเองก็แย่พอกันเลย...” น้ำใสคลอหน่วยตาเมื่อนึกถึงในสิ่งที่พูด เกวนกะพริบตาถี่ไล่ความรู้สึก อัลเบิร์ตมองเธอแล้วสะท้อนใจ
“หายไวๆนะคะ ฉันว่าจะมาบอกอเล็กซานเดอร์ว่าจะกลับบ้านสักหน่อย แต่เขาไม่อยู่เสียนี่” เกวนฝืนยิ้ม หญิงสาวขยับลุก มีบางอย่างที่อยากรู้ แต่เธอกลับไม่กล้าพอที่จะถาม
“อเล็กซ์อยู่ที่ห้องทำงานครับ” อัลเบิร์ตบอกเธอไปเช่นนั้น ซึ่งเธอก็ยิ้มรับ
“ค่ะ”
มองรอยยิ้มแบบฝืดเฝื่อนของหญิงสาวแล้วอัลเบิร์ตก็ละอายใจ ไม่สามารถมองเธอแบบเต็มที่ได้ เมื่อเกวนออกไปแล้วห้องก็กลับมาเงียบเหมือนเคย ชายหนุ่มจมอยู่กับภวังค์ของตนเอง เวลานี้ยิ่งเดินต่อไปมันยิ่งถลำลึก หากไม่ถอนตัวถอนใจเสียแต่ตอนนี้ เขาคงไม่มีโอกาสทำมันได้อีก
ภายในห้องนี้ไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆสักอย่างพอที่จะให้เขาติดต่อกับคนภายนอก นอกห้องมีบอดีการ์ดเฝ้าตามปรกติ เขาสามารถออกไปนอกห้องนี้ได้แต่เรื่องก็คงไม่แคล้วถึงหูอเล็กซานเดอร์จนเกิดปัญหาตามมา คงกะจะขังเขาเอาไว้อย่างเต็มรูปแบบ เพียงแต่ไม่มีโซ่ล่ามก็เท่านั้น หากจะหนีไปไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพราะมีคนรอให้ความช่วยเหลือเขาอยู่หลายคนทีเดียว ทุกคนคงสมเพชกับความอ่อนแอของเขาเต็มที
“หึ...” อัลเบิร์ตทำเสียงหยันตนเองในลำคอ เขามันคนน่าสงสารสินะ
-----------------
วิคเตอร์ที่พักหลังไม่ค่อยได้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตลูกชายคนโตก็ใช่ว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ อเล็กซานเดอร์กำลังผูกเงื่อนรัดคอตัวเอง ชายชราเพียงมองดู ไม่คิดจะเข้าไปช่วยหรือซ้ำเติมให้เรื่องมันหนัก เพราะเวลานี้เขาก็มีเรื่องเครียดพอกัน
อลัน ลูกชายคนเล็กโทรมาบอกกับเขาว่านาตาเซียไปก่อเรื่องที่ไทย บอกให้ช่วยจัดการกับเธอด้วย วิคเตอร์ที่ได้ทราบเรื่องก็ร้อนรนทีเดียว ความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักระหว่างเขากับลูกมันเริ่มจะดีขึ้น ไม่อยากให้อะไรมากระทบมันให้แย่ลงไปกว่านี้อีก ชายชราจึงรับปากจะจัดการนาตาเซียให้ สั่งคนไปรับตัวเธอกลับมา ก่อนไปที่โน่นเธอบอกกับเขาเพียงว่าอยากจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง พักหลังมาก็มีเรื่องระหองระแหงเง้างอนจนเขาขี้เกียจจะง้อ เพราะเธอคิดว่าเขามีอีหนูคนใหม่และหลงลืมการใส่ใจเธอ
วิคเตอร์ที่ได้ฟังเหตุผลนั้นก็ถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเหนื่อยเกินพอที่จะมีใครที่ไหนได้อีก ช่วงนี้เขาจ้างนักโภชนาการมาคอยดูแลแนะนำเรื่องอาหารการกินและสุขภาพตามที่คุณอัญชัน มาราดาของอลันแนะนำมาอีกทีหนึ่ง และนั่นคงเป็นสาเหตุให้นาตาเซียคิดว่าเขามีหญิงอื่นเพราะนักโภชนาการเป็นผู้หญิง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่คอยทำหน้าที่ควบคุมอาหารการกินและดูแลเขาก็ยังเป็นพ่อบ้านเก่าแก่อย่างมิลเลอร์ คาร์ลอยู่ดี ภรรยาสาวของเขานี่ช่างไม่ฟังอะไรเอาเสียเลย
ทางด้านอเล็กซานเดอร์ที่ผูกโยงเรื่องคนที่ทำร้ายอัลเบิร์ตเข้ากับเรื่องของเกวนทำให้สรุปได้ว่ามันเป็นการวางแผนของพอล เวสส์ ที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความด้วยซ้ำ เพราะหมอนั่นมันหมาลอบกัด จะเป็นใครที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่มัน
“คุณโยงเรื่องนั้นมาใส่เรื่องนี้แล้วสรุปแบบนี้ไม่ได้นะอเล็กซ์” อัลเบิร์ตที่นั่งฟังอดีตนายจ้างสรุปความเอ่ยแย้ง
อเล็กซานเดอร์ปรายมองคนพูดแล้วถามกลับ “ทำไมจะไม่ได้ หรือนายคิดว่าใครมันน่าสงสัยมากกว่านี้อย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องนั้นผมไม่รู้หรอก แค่ไม่อยากให้คุณตัดสินจากอคติของตัวเอง”
“เข้าข้างมันทำไม หลงเสน่ห์มันหรือไง?”
“คุณนี่”
คำถามกวนประสาทจนอัลเบิร์ตไม่อยากคุยด้วย จะวางแผนอะไรมาพูดให้เขาฟังทำไมไม่รู้ ใช่ว่ารู้แล้วจะไปช่วยอะไรได้สักหน่อย ถูกขังไว้ในห้องนี่ เขาแทบไม่ได้อยู่ที่ไหนนานกว่าเตียงนอน เมื่อไรแผลมันจะหายสนิทสักทีไม่รู้
อเล็กซานเดอร์ร่ายแผนการเอาคืนพอลให้อัลเบิร์ตฟัง รู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากฟังเขาพูด แต่เขาอยากบอกเอาไว้ ไม่รู้อัลเบิร์ตจะเข้าใจจุดประสงค์ของเขามากแค่ไหนนี่สิ แต่จะบอกออกไปตามตรงมันก็ช่างยากเย็น อะไรมันค้ำคออยู่ไม่รู้แน่ น่ารำคาญตัวเองจริง
เพราะวันนั้นที่เขาไปช่วยเกวน พอลได้พูดราวรู้เห็นบางอย่าง ทำให้เขามั่นใจว่าต้องเป็นพอล จะว่าเอาอคติเข้าร่วมตัดสินก็ไม่ผิดนัก ในเมื่อพอลเล่นไม่ซื่อก่อน ทำร้ายเกวนที่ไม่รู้เรื่องอะไรแบบนั้น ถ้าเขาจะเอาคืนมันบ้างก็สาสมแล้ว ทั้งที่คิดเช่นนั้น แต่อเล็กซานเดอร์คงลืมไปว่าตนเองก็กำลังจะนำเกวนมาใช้เป็นเครื่องมือด้วยอีกคน อัลเบิร์ตที่ได้ฟังความคิดของอีกฝ่ายได้แต่ถอนใจ
“อะไร?”
ดวงตาสีฟ้าตวัดมองพร้อมคำถามที่ส่งมา อัลเบิร์ตไม่ได้ตอบคำถามนั้นเพียงแค่ถอนหายใจอีกรอบ อเล็กซานเดอร์จึงโถมกายกดคนกวนประสาทลงบนเตียงแล้วถามซ้ำ
“อะไร ถอนใจแต่พอถามแล้วกลับไม่พูด กวนหรือ?”
“ถึงพูดไปคุณคงไม่ฟัง” อัลเบิร์ตว่าอย่างรู้ดี
“รู้ก็ดี”
นั่นอย่างไรล่ะ ได้ยินเช่นนั้นอัลเบิร์ตก็ถอนใจอีกหน ริมฝีปากอเล็กซานเดอร์กระตุกเมื่อเอ่ยเสียงลอดไรฟัน
“อัลเบิร์ต อยากโดนใช่ไหมฮึ!?”
ใบหน้าคมซุกไซ้ซอกคอหนุ่ม หนวดเคราแข็งๆทิ่มผิวเนื้อทำให้อัลเบิร์ตหดคอหนี เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัด อเล็กซานเดอร์ยกตัวขึ้นหันมองทางประตูแล้วถอนใจเบา ก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิด
เกวนมาหา บอกจะกลับเจฟเฟอร์สันแล้วเพราะเธอมารบกวนเสียตั้งนาน ป่านนี้ครอบครัวของเธอไม่รู้จะคิดไปอย่างไรบ้างแล้ว อาจทำให้อเล็กซานเดอร์เดือดร้อนเอาได้หากพวกท่านมาที่นี่
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก ถ้าครอบครัวคุณจะเร่งรัดให้เราแต่งงานกันเพราะเหตุผลนี้ เพราะถึงอย่างไรอีกไม่นานคุณก็ต้องมาเป็นนายหญิงของที่นี่อยู่แล้ว”
คำพูดของอเล็กซานเดอร์ทำให้เกวนอึ้งไป อัลเบิร์ตเองก็นิ่งงันเมื่อได้ยิน ขณะที่คนพูดกำลังคิดวางแผนการใหญ่
“คุณ... ไม่รังเกียจฉันหรือคะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรจะเป็นภรรยาใครได้อีกแล้ว” เกวนเอ่ยถามน้ำเสียงหวาดหวั่น แววตาเธอสับสนจนปิดไม่มิด
“ไม่เกวน ผมไม่เคยคิดว่าคุณน่ารังเกียจ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั่นเพราะคุณถูกรังแก คุณไม่ได้เต็มใจที่จะให้มันเกิด”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยปลอบประโลม อัลเบิร์ตลุกจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูลงกลอน ไม่อยากได้ยินเสียงสนทนาของทั้งคู่ที่หน้าประตูห้อง
เกวนก้มหน้าลงเล็กน้อย ความสับสนว้าวุ่นในใจไม่ได้คลายลงสักนิด “แต่ฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียเขาไปแล้ว...”
ยิ่งพูดยิ่งสะท้อนใจ สมัยนี้อาจไม่มีใครถือเรื่องพรหมจรรย์เป็นใหญ่ แต่เธอที่รู้แก่ใจดีว่าถูกทำอะไรมาบ้างกลับรู้สึกรับมันไม่ได้เสียเอง เธอจะยังหน้าชื่นตาบานนั่งเชิดหน้าเคียงคู่อเล็กซานเดอร์ได้อีกหรือ หากเป็นเช่นนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในวันหน้าจะไม่ถูกพอล เวสส์ตราหน้าและดูถูกเอาอีก คำพูดของผู้ชายคนนั้นยังดังก้องในหู เธอแทบหลับไม่ลงเมื่อมันยังตามหลอกหลอน พอลไม่ได้ใช้กำลังตบตี แต่เขาใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่าบังคับเธอ แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่เธอก็ให้อภัยพอลไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เธอไม่มีทางให้อภัยได้ก็คือ...ตัวเธอเอง
“ผมบอกคุณแล้วว่าไม่ต้องคิดมาก ผมจะจัดการทุกอย่างเอง การหมั้นหมายของเราจะไม่ล้มเลิกเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแน่”
อเล็กซานเดอร์ให้ความมั่นใจกับหญิงสาว เกวนช้อนสายตามองเขา ความยินดีที่เคยเป็นผู้ถูกเลือก ในเวลานี้มันกลับไม่มีเหลืออยู่เลย...
ชายหนุ่มพาเธอกลับไปส่งที่เจฟเฟอร์สัน ได้พูดคุยกับทางครอบครัวของเธอก่อนกลับ ดูทีท่าว่าบิดามารดาของหญิงสาวจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่เขาพาเกวนไปอยู่ด้วยเสียนานวัน โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าลูกสาวตนเองถูกพอลลักพา เด็กในร้านถูกข่มขู่จนไม่กล้าบอกใคร ทำให้ข่าวเรื่องเกวนเงียบหายราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ข่าวอยู่ก่อนแต่งของอเล็กซานเดอร์กับเธอกลับผุดขึ้นมาแทน
ครอบครัวเกวนใช้เหตุนี้มาไล่ต้อนเขา อเล็กซานเดอร์เพียงนิ่งฟังที่ทั้งสองพล่าม ก่อนจะเอ่ยปิดท้ายเพียงสั้นๆว่าจะจัดงานแต่งตามที่อีกฝ่ายต้องการให้เร็วที่สุด โดยไม่ได้ถามความเห็นเกวนที่นั่งอยู่ข้างกายแม้แต่น้อย
เกวนจิกเล็บกับมือตัวเองที่สั่นเทา มือเธอเย็นจนซีดเมื่อฟังบิดา มารดา และอเล็กซานเดอร์พูดคุยเรื่องแต่งงานราวกำลังเจรจาธุรกิจค้ากำไรอะไรสักอย่าง ขณะที่ครอบครัวของเธอพอใจในคำตอบของอเล็กซานเดอร์ แต่เธอกลับไม่รู้สึกเหมือนพวกท่านเลยสักนิด
...เธอคือคนนะ ไม่ใช่สิ่งของ...
หลังจากอเล็กซานเดอร์กลับไปหญิงสาวก็ขอขึ้นมาพักบนห้อง ครอบครัวของเธอไม่มีใครซักไซ้อะไรสักอย่าง เพราะกำลังยินดีกับสิ่งที่ใกล้จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ เจฟเฟอร์สันกำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกับเฟอร์ริงตัน จะหาใครยิ่งใหญ่เทียมเท่าได้อีก
เกวนทรุดนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง ซบใบหน้ากับผ่ามือแล้วสะอื้นแผ่วเบา เสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น เกวนเงยหน้าขึ้นมามอง มือเรียวปาดน้ำตาก่อนลุกไปรับสาย
“เกวน...”
แกร๊ก!เพียงได้ยินเสียงเกวนก็รีบวางสายทันทีด้วยความตื่นตระหนก เธอจำเสียงเขาได้ พอล เวสส์!
มือเรียวยกขึ้นปิดหู เดินวนไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกหนหญิงสาวถึงกับสะดุ้ง มองที่มาของเสียงอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะถลันไปที่เต้าเสียบแล้วดึงสายโทรศัพท์ออก มองผลงานของตัวเองแล้วเม้มปาก สูดลมหายใจช้าๆแล้วระบายออกแผ่วเบาก่อนยกยิ้ม
ทางด้านพอลที่อยู่ๆสายก็ถูกตัดคาหู ชายหนุ่มถือโทรศัพท์ค้าง เมื่อโทรไปอีกครั้งกลับต่อสายไม่ติดเสียแล้ว พอลสบถ ได้แต่เจ็บใจอยู่คนเดียว
+++++++++++++
ต่อด้านล่างค่ะ