หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ  (อ่าน 195183 ครั้ง)

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น่าสงสาร เจ็บหน่วงๆ
น่าสงสารทั้งคู่เลย เพราะตาแก่นั่นคนเดียวเลย ฮึ!!!!!

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ชอบมากกกกก และสงสารอัลมากกกกกกก
ชอบตอนที่อัลคิดว่าอเล็กซ์เป็นคนที่ไม่คิดจะสู้ ฮรือออ อัลจ๋า!
มันบีบๆหน่วงๆ ชอบมากๆ รอตอนต่อไปนะคะ>_<

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
มาเจิมนิยายคุณวันใหม่  ^^

รอตอนต่อไป
ขอบคุณคร่าาาาาา

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
เพิ่งเห็นว่าลงใหม่
เราไปอยู่ไหนมา  :z3:
บวกและเป็ดเป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
กอดต้อนรับ :กอด1: อัลเบิร์ต(อีกครั้ง) ก็ยังน่าสงสารเหมือนเดิม
แต่ดูบรรยากาศตอนแรกซอฟท์กว่าเก่านะ หรือเราคิดไปเอง
ที่แน่ๆคือ เราคงจะไม่ชอบหน้าอเล็กซ์เหมือนเดิมแน่เลย :laugh:
เอาล่ะ มาตั้งต้นกันใหม่ อ่านแล้วก็ยังอยากอ่านอีกอยู่ดี
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ คิดถึงนะเนี่ย :กอด1:
+1และเป็ดนะจ๊ะๆ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๒ ซ่อนหัวใจใต้ปลายกระบอกปืน


เรือนจำแห่งหนึ่งในลอนดอน

ช่วงค่ำคืนที่ฟ้ามืดปรากฏแสงสว่างจากเปลวเพลิงวูบไหว เสียงโห่ร้องและเสียงสัญญาณของรถดับเพลิงดังจนน่าหนวกหู เจ้าหน้าที่ต่างวิ่งวุ่นเมื่อนักโทษเริ่มหาทางแหกคุก การจลาจลที่เกิดขึ้นเพราะพวกนั้นรวมหัวกันแท้ๆทีเดียว

ขณะที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย นักโทษพ่อลูกคู่หนึ่งก็หาทางหนีออกจากสถานที่กักกันแห่งนี้ได้สำเร็จ ผู้ร่วมชะตากรรมบางคนถูกจับได้ในขณะที่พวกเขาหาที่ซ่อนตัวได้ทันท่วงที ข้างในนั้นต่างโกลาหลทั้งดับไฟและตามจับนักโทษ กองกำลังเสริมถูกเรียกมาค้นหา สุนัขตำรวจก็ถูกนำมาใช้ สองพ่อลูกจึงต้องรีบจรลีลี้ไกลภายใต้ความมืดมิดในค่ำคืนนั้น

บ้านร้างห่างไกลผู้คน ฮิวโก้ เมอร์นาส นักโทษแหกคุกพร้อมลูกชาย โรเจอร์ เมอร์นาส ใช้มันเป็นที่พักชั่วคราว รอการสะสางความแค้นที่ก่อเกิด ฮิวโก้แค้นใจจนแทบกระอัก เฟอร์ริงตันมันทำกับเขาเจ็บแสบนัก มีประวัติแบบนี้แล้วจะอยู่ในสังคมได้อย่างไร เขาต้องเอาคืนพวกมันให้สาสม

แต่ความคิดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้เป็นลูกอย่างโรเจอร์ เขาอยากให้บิดาหนีไปตั้งต้นกันใหม่เสียมากกว่า เพราะสู้กับเฟอร์ริงตันไปก็ไม่มีทางชนะแน่

“แกจะให้พ่อยอมเรอะ อย่าขี้ขลาดตาขาวหน่อยเลย!” ฮิวโก้แย้งความคิดลูกชาย ไม่ใช่เพียงเฟอร์ริงตันที่เขาต้องสะสางแค้น คนหนุนหลังที่ทิ้งเขากลางทางนั่นก็เหมือนกัน พอเห็นเขาไม่รอดก็ไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ มันน่าแค้นใจนัก!

“พ่อ มันไม่ใช่เรื่องขี้ขลาดตาขาว พ่อก็รู้ว่าพวกเขายิ่งใหญ่แค่ไหน เราตัวแค่นี้ไม่มีทางสู้ได้ เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งเท่านั้น... ผมอยากอยู่กับพ่อไปอีกนานๆ อย่าเอาความแค้นมาทำให้ชีวิตเราต่ำลงเลย แค่นี้มันก็แย่พอแล้ว”

โรเจอร์ไม่รู้จะเปลี่ยนความคิดของบิดาได้เช่นไร การแหกคุกของพวกเขาในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า แต่เพราะเห็นช่องทางที่จะหนีจากเหตุที่นักโทษในเรือนจำลุกขึ้นมาสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้มา เพราะไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลยสักคน แม้แต่คนๆนั้นก็ตาม

“อย่าโง่ไปหน่อยเลยโรเจอร์ คิดหรือว่าโลกความเป็นจริงมันจะสวยหรูอย่างที่แกวาดฝัน ตอนนี้เราคือนักโทษแหกคุก ไม่มีทางที่จะมีชีวิตปรกติสุขอย่างที่แกต้องการได้หรอก... เราไม่เหลืออะไรแล้ว จำไว้!”

ฮิวโก้ตอกย้ำความจริงที่โหดร้ายนั้น โรเจอร์ยังอ่อนเดียงสาเกินไป ไม่มีทางยืนหยัดอยู่ได้แน่หากไม่มีเขา และก็เป็นเขาเองที่พาลูกจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความเลวร้ายทั้งหมด เขาใช้ลูกเป็นเครื่องมือเพราะถ้อยคำยุยงจากคนอื่นและความโลภของเขาเอง หากมีสิ่งใดที่เขาจะทำเป็นครั้งสุดท้าย ก็คือการจบความแค้นในใจที่มี แม้จะต้องแลกกับชีวิตของเขาก็ตาม

เฟอร์ริงตันมีธุรกิจทั้งด้านมืดและด้านสว่าง การจะต่อกรกับฝ่ายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีคนๆหนึ่งที่ช่วยเขาได้ แม้จะมีคดีติดค้างกันแต่ฮิวโก้ก็จำต้องอาศัยเขา หากไม่ใช่คนนี้แผนการของเขาไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่

ชายสูงวัยพรางตัวไปหาพอล เวสส์ เจ้าของธุรกิจด้านการเงินขนาดใหญ่ที่ไม่น้อยหน้าเฟอร์ริงตัน และพอล เวสส์คนนี้ยังเกลียดอเล็กซานเดอร์เข้าไส้ แถมยังหนุนหลังเขาให้ลอบกัดเฟอร์ริงตันจนเขาต้องเข้าไปอยู่ในคุก แม้จะแค้นใจที่พอลเพิกเฉยไม่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยเมื่อตกที่นั่งลำบาก แต่ฮิวโก้ก็จำต้องมาขอให้พอลช่วยเปิดทางให้ตนเองเข้าถึงตัวอเล็กซานเดอร์ เพราะอาศัยแค่เขาที่เป็นเพียงนักโทษแหกคุกที่โดนหมายหัวจากทางการคงไม่มีทางทำได้

“ช่วยคุณแล้วผมจะได้อะไรเมอร์นาส นอกจากจะโดนเฟอร์ริงตันเพ่งเล็งก็เท่านั้น” พอลเอ่ยถามเสียงเอื่อยด้วยนัยดูแคลน

“ทีอย่างนี้ล่ะหัวหดเชียวนะพอล เวสส์ นึกกลัวเฟอร์ริงตันขึ้นมาหรือไง?” ฮิวโก้เย้ยกลับ พอล เวสส์มัวแต่ยอกย้อนให้มันเยิ่นเย้อ น่ารำคาญจริง

“พูดแบบนั้นจะดีหรือเมอร์นาส การที่คุณออกมาจากที่นั่นได้เพราะใคร...? คิดหรือว่าแค่คุณกับลูกจะหนีพ้นหากไม่มีคนคอยช่วย”
พอลพูดเรื่อยเฉื่อยด้วยท่าทีเหนือกว่า ฮิวโก้นิ่งงันเมื่อรับรู้ถึงความจริงข้อนั้น พอลเป็นคนช่วยเขาแหกคุกอย่างนั้นหรือ

“ผมพาคุณออกมาได้ก็ส่งกลับเข้าไปใหม่ได้ ชีวิตในคุกสนุกดีไหมล่ะ?”

มันช่างเป็นประโยคคำถามที่โหดร้าย เขาไม่อยากจะนึกถึงมันเลยด้วยซ้ำกับชีวิตที่ไร้ซึ่งอิสรภาพนั่น มันเลวร้ายจนไม่อยากนึกถึงจริงๆ

“คุณไม่ต้องออกหน้าเรื่องนี้ก็ได้เวสส์ ผมจะจัดการกับเขาเอง ผลประโยชน์มันตกอยู่ที่คุณเต็มๆเลยนี่ แค่คุณเปิดทางให้ผมเข้าใกล้มันได้เท่านั้น” ฮิวโก้สรุปความ เขาไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้ ความจริงอะไรก็ไม่อยากรับรู้ทั้งนั้น

“คุณจะทำอะไร?”

พอลเอ่ยถาม น่าหวั่นสำหรับคนอย่างฮิวโก้ บ้าดีเดือดเช่นนี้อาจทำอะไรสิ้นคิดก็เป็นได้ แต่นั่นมันก็ไม่เกี่ยวกับเขา การกำจัดอเล็กซานเดอร์ให้พ้นทางเขารู้ดีว่ามันทำไม่ได้ง่ายๆ ทุกสิ่งที่ทำไปก็แค่ทำให้อีกฝ่ายแสบๆคันๆเท่านั้น อย่างฮิวโก้ในตอนนี้ที่อยากแก้แค้น การเข้าใกล้อเล็กซานเดอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชายสูงวัยก็ยอมสละทุกสิ่งเพราะความแค้นมันบังตา


--------------


คฤหาสน์เฟอร์ริงตัน

อเล็กซานเดอร์ออกจากห้องน้ำมาได้ยินเสียงโทรทัศน์จากห้องที่เขาจัดไว้หย่อนใจ ประตูเชื่อมกับห้องนอนของเขา คล้ายกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งที่แยกออกไป อัลเบิร์ตในชุดเสื้อเชิ้ตไม่เรียบร้อยนักยืนกอดอกดูรายงานข่าวในโทรทัศน์สีหน้าเครียด อเล็กซานเดอร์เดินเข้ามาถาม บอดีการ์ดหนุ่มจึงบอกว่าฮิวโก้กับลูกชายแหกคุกออกมาแล้ว เขากลัวว่าสองคนนั้นจะย้อนมาทำร้ายผู้เป็นนาย

“ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน รายงานข่าวช้าเกินไปจนน่าเอะใจว่ามันจะไม่ใช่เรื่องปรกติ” อัลเบิร์ตคาดเดาความเป็นไปได้ วันเกิดเหตุมีรายงานถึงสาเหตุและความเสียหาย แต่ไม่ได้รายงานเรื่องนักโทษที่แหกคุกไปได้นั้นมีใครบ้าง

“อย่าเดาให้เสียเวลาเลย” อเล็กซานเดอร์ว่า เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นฝีมือใคร ไอ้หมาลอบกัด พอล เวสส์

“เจ้านั่นมันชอบยืมมือคนอื่นมาโจมตีฉัน”

“แล้วเราควรจะทำยังไงต่อไปครับ?”

“ไม่ต้องทำอะไร”

“?” อัลเบิร์ตคิ้วขมวด จะอยู่เฉยๆเป็นเป้าโจมตีอย่างนั้นหรือ

“เลิกคิดได้แล้ว ไปนอน”

คำสั่งมาอีกแล้ว อเล็กซานเดอร์ตัดบทไปเช่นนั้นแล้วลากแขนบอดีการ์ดกลับห้องนอน จะมัวเต้นเป็นเจ้าเข้าให้พอล เวสส์ได้ใจไปทำไมกัน หรืออยากให้ไก่อย่างฮิวโก้ตื่น? ไม่ เขาไม่ทำเช่นนั้นหรอก ใครอยากมาก็มา เขาพร้อมจะลงมือเชือดแล้ว!


----------------


หลายวันต่อมา บริษัทการเงินเฟอร์ริงตัน

อเล็กซานเดอร์ออกจากบริษัทมาพร้อมบอดีการ์ดคู่กาย สถานการณ์ปั่นป่วนเกิดขึ้นไม่ตั้งตัวกับกลุ่มคนที่พุ่งเข้ามาไม่รู้จุดมุ่งหมาย บอดีการ์ดทุกนายที่คุ้มกันอเล็กซานเดอร์เข้าควบคุมสถานการณ์ ชายคนหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาหมายจะจัดการกับอเล็กซานเดอร์ แต่อัลเบิร์ตกับเจฟฟรี่ไวกว่า ปืนถูกลั่นไกออกไปอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็น ชายสูงวัยล้มลงไปกองที่พื้น เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นคือใครก็มีเพียงดวงตาสีฟ้าที่มองมาอย่างไร้ความรู้สึก

คนของเฟอร์ริงตันเข้ามาจัดการทุกอย่าง อเล็กซานเดอร์เหลือบมองอีกด้านหนึ่งที่เห็นเงามืดผลุบโผล่ ซึ่งฝั่งนั้นพอเห็นเขาปรายมองก็ผลุบหายไป มุมปากหยักเหยียดยิ้ม

“อัลเบิร์ต!”

เสียงเจฟฟรี่เอ่ยเรียกเพื่อนบอดีการ์ดทำให้อเล็กซานเดอร์ละความสนใจจากเงามืดนั้นมองที่มาของเสียง อัลเบิร์ตบาดเจ็บจากเหตุชุลมุนเมื่อครู่ อเล็กซานเดอร์เดาะลิ้นเบาๆเมื่อดวงตาสีอ่อนของบอดีการ์ดหนุ่มเงยขึ้นมามองสบกับเขาแล้วหลุบต่ำเพื่อหลบสายตา

“ให้มันได้อย่างนี้”

เสียงคำรามในลำคอจากผู้เป็นนายทำให้อัลเบิร์ตไม่กล้าสู้สายตา เขาเป็นบอดีการ์ดแต่พลาดจนบาดเจ็บบ่อยจนอเล็กซานเดอร์คาดโทษเอาไว้แล้วว่าถ้ามีการเจ็บตัวจนเลือดตกยางออกอีกจะถูกทำโทษซ้ำ

เสียงเอะอะเกิดขึ้นทำให้ทั้งสามหนุ่มหันไปมอง โรเจอร์ลูกชายของฮิวโก้กำลังยื้อร่างของบิดาตนจากคนของเฟอร์ริงตัน เขามาไม่ทัน มาห้ามไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าผู้เป็นบิดาจะทำถึงขนาดนี้ เอาชีวิตเข้าแลกทั้งที่บิดาน่าจะรู้ดีว่าไม่สามารถทำอะไรคนอย่างอเล็กซานเดอร์ได้ คนของเฟอร์ริงตันกันโรเจอร์ออกห่าง พวกเขาต้องจัดการก่อนที่เรื่องจะไปถึงหูพวกมียศ

อัลเบิร์ตมองโรเจอร์อย่างสลดใจ ก่อนร่างสูงจะขยับเร็วเมื่อเห็นว่าโรเจอร์ล้วงปืนออกมาแล้วเล็งที่ขมับของตัวเอง ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ลั่นไก อัลเบิร์ตก็ยิงสกัดยิ่งกว่าจับวาง เมื่อปืนในมือหล่นกระเด็นไปไกล โรเจอร์หันมามองที่เขา อัลเบิร์ตนิ่วหน้าเมื่อก้าวเดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ทรุดนั่งลงกับพื้น

“ชีวิตยังมีค่ามากกว่านี้” บอดีการ์ดหนุ่มเตือนสติ

“ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันเป็นนักโทษแหกคุก พ่อฉันก็มาตายต่อหน้า นายจะยังให้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร!”

“เพื่อตัวคุณเอง... การจบชีวิตตัวเองไม่ใช่ทางออกที่ดี มานึกเสียใจทีหลังก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“...........”

“ถ้าคุณยังยื้อยุดพ่อคุณอาจจะตายจริงๆก็ได้”

โรเจอร์มองร่างของบิดาที่ถูกนำไปขึ้นรถ อัลเบิร์ตทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นแล้วหันไปบอกคนของเฟอร์ริงตันให้พาโรเจอร์ไปกับพ่อของเขาด้วย ขืนปล่อยไว้ตรงนี้มีแต่จะถูกคนในกฎหมายซิ่วไปเท่านั้น หลังสั่งการบอดีการ์ดหนุ่มก็เดินออกมา ปล่อยให้คนทางนี้จัดการทุกอย่างต่อไป

อเล็กซานเดอร์เพียงแค่มองนิ่ง ไม่พูดอะไรกับสิ่งที่บอดีการ์ดของตนทำลงไป จนกระทั่งขึ้นรถมาด้วยกัน

“คุณไม่แย้งความคิดผมเลย” อัลเบิร์ตเอ่ยขึ้นมาขณะที่นั่งข้างกันกับอเล็กซานเดอร์บนรถที่กำลังแล่นสู่โรงพยาบาล

“จะแย้งเพื่ออะไร” น้ำเสียงเรียบเฉยเอ่ยลอยๆ ไม่ได้หันมามองคนข้างกาย

“คุณโกรธที่ผมปล่อยเขาไป?” บอดีการ์ดหนุ่มคาดเดา

“หน้าฉันมันบอกแบบนั้นหรือ?”

น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่งแต่รู้สึกได้ถึงความเคืองขุ่นที่มี อัลเบิร์ตอยากโต้กลับว่าสีหน้าอเล็กซานเดอร์เวลานี้มันยิ่งกว่าบอกเขาแบบนั้นเสียอีก แต่ก็ไม่พูดมันออกไป บอดีการ์ดหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มั่นใจ

“คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผม...”

“อย่าแม้แต่จะคิด” อเล็กซานเดอร์สวน

“ผมยังไม่ทันจะพูดเลย...”

“เงียบ”

จำต้องหุบปากเงียบตามคำสั่ง เขาแค่อยากช่วยผู้ชายคนนั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้เขาลุกขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง ไม่อยากให้เขาเดินทางผิด

“ความสงสารจะนำหายนะมาสู่ชีวิตนาย”

โดนเหน็บอีกจนได้ อัลเบิร์ตถอนใจ ไม่อยากโต้เถียงให้เหนื่อย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอัลเบิร์ตก็เข้าไปทำแผล ขณะที่อเล็กซานเดอร์โทรหาว่าที่คู่หมั้นอย่างเกวนเพื่อบอกเลื่อนนัดเพราะเกิดปัญหาเล็กน้อยทำให้ต้องมาที่โรงพยาบาล เกวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจแล้วถามกลับมาว่าเป็นอะไรมากหรือไม่

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก ขอโทษด้วยที่ต้องเลื่อนนัด” เอ่ยบอกกับปลายสายไปเช่นนั้น สายตาจับจ้องบอดีการ์ดของตนที่ออกจากห้องทำแผลมา

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

หญิงสาวบอกอย่างโล่งใจ อเล็กซานเดอร์ได้แต่เงียบฟัง เขาน่ะไม่เป็นอะไรหรอก เพราะคนที่เป็นคือบอดีการ์ดของเขาต่างหาก คุยกันอีกครู่หนึ่งทั้งสองจึงต่างวางสายเมื่อเข้าใจเหตุขัดข้องตรงกัน

ดวงตาสีน้ำทะเลมองอัลเบิร์ตที่ถือถุงยาเดินมาหา ริมฝีปากหนาบ่นพึมพำ “เจ็บตัวตลอด ไม่ให้เป็นก็ยังดื้อจะเป็น”

อัลเบิร์ตที่เห็นว่าเจ้านายทำปากขมุบขมิบแต่ไม่ได้ยินว่าพูดอะไรก็มองอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องโดนบ่นตลอด ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเลยหรืออย่างไรกัน


--------------------------


ถ้วยน้ำชาอุ่นร้อนถูกยกขึ้นจิบ ชายชราที่ปรากฏไรหนวดสีดอกเลามีท่าทีครุ่นคิด ไม่ไกลกันนั้นคือพ่อบ้านที่อยู่รับใช้กันมาช้านาน ท่าทีนอบน้อมที่อีกฝ่ายมีให้เสมอทำให้เขาวางใจ หลายเรื่องภายในคฤหาสน์เฟอร์ริงตันพ่อบ้านคนดังกล่าวก็ล่วงรู้ แต่ก็ไม่เคยปากสว่าง

ยิ่งชราลงวิคเตอร์ก็ยิ่งคิดหนัก ความห่วงใยในตัวลูกชายและสมบัติพัสถานยิ่งมีมากขึ้น เขามีลูกชายสองคนที่เกิดจากต่างภรรยา กับภรรยาคนแรกนั้นเธอได้ให้กำเนิดอเล็กซานเดอร์ ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงนักทำให้เจ็บป่วยบ่อย หลังคลอดอเล็กซานเดอร์อาการของเธอก็เริ่มทรุด ไม่นานจากนั้นก็เสียชีวิตลง เหลือเพียงเลือดเนื้อเชื้อไขอย่างอเล็กซานเดอร์เป็นสิ่งแทนใจ วิคเตอร์ในวัยหนุ่มเมื่อสูญเสียภรรยาไปก็ทนอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยเงาของเธอไม่ได้ มันพาลคิดถึงจนเจ็บร้าวในอก ตอนที่เธอมีชีวิตอยู่เขาไม่ได้เป็นสามีที่ดีนัก มีเล็กมีน้อยตามความคึกคะนองของตนเอง วิคเตอร์ทิ้งบ้านไปไกลเพื่อลบเลือนความผิดในใจ ฝากลูกน้อยไว้กับญาติฝ่ายภรรยาให้ช่วยเลี้ยงดู ทำให้ลูกชายคนโตอย่างอเล็กซานเดอร์ไม่สนิทใจกับเขานัก

วิคเตอร์เดินทางมาไกลถึงเมืองไทย การมาพักใจในครั้งนั้นทำให้เขาได้พบกับสาวชาวไทย เธอชื่ออัญชัน เธอเป็นคนอ่อนหวาน แต่เธอไม่เคยอ่อนแอ ออกจะเป็นผู้หญิงเก่งแต่ก็น่าถนอมในเวลาเดียวกัน เขาถูกตาต้องใจเธอแต่แรกพบ สานความสัมพันธ์เรื่อยมาจนได้แต่งงานกันและมีพยานรักคืออเล็กซานเดอร์ แอล เฟอร์ริงตัน หรือ อลัน

ตามวิสัยของเขาการมีเล็กมีน้อยไม่เคยเป็นเรื่องผิด เพราะถือว่าความสำคัญต่างกัน กับมารดาของอเล็กซานเดอร์เธอก็ไม่เคยห้าม วิคเตอร์จึงไม่คิดว่าคุณอัญชันจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องดังกล่าว และนั่นมันคือความคิดที่ผิดมหันต์ เมื่อคุณอัญชันทราบเรื่องเข้าก็ยื่นคำขาด หากไม่เลิกกับทางนั้นเธอจะเป็นฝ่ายเลิกกับวิคเตอร์เสียเอง วิคเตอร์ผู้เย่อหยิ่งไม่เคยสำนึกได้ สุดท้ายแล้วเขาจึงเป็นฝ่ายถูกทอดทิ้ง คุณอัญชันใจเด็ดกว่าที่เขาคิด หอบลูกชายวัยแบเบาะจากไปไม่หวนคืน และเขา ตาเฒ่าวิคเตอร์ เฟอร์ริงตันในวันนี้ ก็ถูกลูกชายคนเล็กเกลียดจนไม่อยากจะมองหน้า

ย้อนคิดถึงความหลังครั้งเก่าแล้วชายชราก็ทอดถอนใจ กี่ปีกันแล้วที่เขาไม่ได้พบหน้าลูกชายคนเล็กเลย ได้แต่ฟังรายงานจากคนที่ตนเองให้ติดตามดูความเคลื่อนไหวของลูกและอดีตภรรยาถึงความเป็นอยู่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี

“มิลเลอร์”

“ครับ” พ่อบ้านขานรับพร้อมก้มศีรษะเล็กน้อยรอฟังคำสั่ง

“นายว่าอัลเบิร์ตควรถึงเวลามีครอบครัวแล้วหรือยัง?” ราวถามความเห็น พ่อบ้านมิลเลอร์ชะงัก รอฟัง

“อีกไม่นานอเล็กซ์ก็จะหมั้นกับหนูเกวนแล้ว ถ้าอัลเบิร์ตแต่งงานมีครอบครัวด้วยก็น่าจะดีนะว่าไหม?”

“............” มิลเลอร์ยังไม่ออกความคิดเห็นใดๆ รอให้ผู้เป็นนายเอ่ยจนจบประโยค

“ลูกสาวนายโธมัส สกาเร็ตก็น่ารักดีนะ ครอบครัวนี้กำลังเป็นที่จับตา อาจได้ขึ้นเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาในอนาคตข้างหน้า เหมาะกับอัลเบิร์ตทีเดียว เด็กสองคนน่าจะได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ หรือนายว่าไง?”

วิคเตอร์ยกถ้วยชาขึ้นจิบท่าทีสบายใจเมื่อเอ่ยจบ พ่อบ้านมิลเลอร์กลับเป็นฝ่ายอึดอัดกับคำถามที่ผู้เป็นนายฝากไว้ เรื่องหลานชายของเขาอีกแล้วหรือ

ข้อความจากวิคเตอร์ถูกถ่ายทอดสู่อัลเบิร์ต บอดีการ์ดหนุ่มนั่งฟังนิ่ง ไม่หือไม่อือ พ่อบ้านมิลเลอร์มองหลานแล้วถอนใจยาว

“ถ้าไม่อยากไปลุงจะไปปฏิเสธให้...”

“ไม่หรอกครับ ลุงอย่าลำบากเลย” อัลเบิร์ตปฏิเสธ เขาไม่อยากให้ลุงต้องหมองใจกับผู้เป็นนาย แค่เขาไปตามที่วิคเตอร์ต้องการเรื่องทุกอย่างก็จบแล้ว

“ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทนนะอัล”

น้ำเสียงจริงจังจากผู้เป็นลุงทำให้อัลเบิร์ตเหลือบสายตาขึ้นมอง ก่อนเอ่ยปฏิเสธอีกหน “ผมไม่ได้อดทนอะไร”

“ยิ่งได้ยินแบบนี้ลุงยิ่งรู้สึกผิด”

มิลเลอร์คิดมาตลอดว่าการที่เขาพาหลานมาที่นี่มันถูกต้องหรือไม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาใช่ว่าเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลานชายกับลูกของนาย รวมถึงความกดดันที่หลานได้รับจากนายของตนอีกทอดหนึ่ง แต่เขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วยหลานได้ไม่ถนัดนักเมื่อหลานไม่เอ่ยปาก เขาก็กระดากที่จะเอ่ยถึง

“อย่ารู้สึกผิดเลยครับ ผมขอบคุณลุงเสมอที่ทำให้ผมมีโอกาสมากกว่าเด็กคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน”

พ่อบ้านมิลเลอร์ได้แต่ถอนใจกับคำพูดของคนเป็นหลาน โอกาสที่ได้มามันแลกกับอะไรบ้างล่ะหลานชาย


-------------------

ต่อด้านล่างค่ะ (นิดเดียวเองทำไมมันเกินสองหมื่นล่ะ :ling1:)

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5

“นายจะไปดูตัว!?”


น้ำเสียงแตกตื่นของหนุ่มตัวเล็กนำพาสายตาหลายคู่ในร้านอาหารไทยให้หันมามอง แต่เขาหาสนใจ ปอนด์วางจานอาหารลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนตัวโต สีหน้าคาดคั้นให้เพื่อนเล่ารายละเอียดแต่โดยดี

“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย?”

อัลเบิร์ตเอ่ยกลั้วหัวเราะ กับปอนด์ พวกเขายังเป็นเพื่อนที่สนิทสุด หนุ่มตัวเล็กยังไม่กลับไทยหลังเรียนจบ ยังคงทำงานที่ร้านอาหารแห่งเดิมในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการ เคยจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการสาขาแต่ปอนด์ขี้เกียจรับภาระพวกนั้น ทำในฐานะผู้ช่วยอย่างนี้สนุกกว่า รอเวลาให้ได้บัตรผ่านเข้าเมืองตลอดชีพค่อยกลับเมืองไทย

“นายสมัครใจไปเองหรือมีคนบังคับ?” ปอนด์ซักไซ้ ดวงตากลมจ้องเพื่อนเขม็ง

“ลองไปดูก็ไม่เสียหาย”

หนุ่มตัวเล็กทำหน้าเซ็งที่เพื่อนตอบไม่ตรงคำถาม “คราวนี้คนพ่อหรือคนลูก?”

อัลเบิร์ตเหลือบมองเพื่อนแล้วยิ้มไม่ตอบ ปอนด์กลอกตาหน่ายใจ เพื่อนของเขาช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้!

“สองพ่อลูกนี่กดขี่นายอยู่ได้ น่าโมโหจริงๆ”

ปอนด์เท้าคาง หัวคิ้วขมวดมุ่น รู้สึกโมโหแทนเพื่อน คนพวกนั้นร้ายกาจ อ้างบุญคุณหรืออะไรไม่รู้ล่ะ แต่ทำแบบนี้กับเพื่อนของเขาอยู่เรื่อยมันก็มากไป

“อัล”

“หือ?”

“กลับบ้านกับฉันไหม?”

“หือ?” อัลเบิร์ตเลิกคิ้วสูง มองเพื่อนที่ทำหน้าจริงจังอย่างแปลกใจ

“ไปอยู่ด้วยกันเถอะ ที่เมืองไทยน่ะ รับรองว่าชีวิตนายต้องดีกว่าที่เป็นอยู่แน่”

บอดีการ์ดหนุ่มยิ้มขำ ปอนด์หน้ามุ่ยแล้วว่างอนๆ

“ยังจะมาขำ ฉันจริงจังนะ”

“ขอบใจ รู้ว่านายอยากช่วย แต่เราไม่เป็นไรหรอกปอนด์”

“โธ่เอ๊ย” ปอนด์ทำเสียงขัดเคือง กอดอกหน้างอยิ่งกว่าเดิม เป็นแบบนี้ทุกทีอัลเบิร์ตน่ะ

เห็นเพื่อนเป็นแบบนั้นอัลเบิร์ตจึงเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาคิดมากเพราะเป็นห่วงเรื่องของตนเอง

“จะกลับบ้านบอกใครหรือยัง?”

“ใครที่ไหนเล่า” เสียงสะบัดเพราะยังงอนเพื่อนอยู่

“ยักษ์แถวๆนี้” อัลเบิร์ตยิ้มล้อ

“ยักษ์ก็อยู่ส่วนยักษ์สิ มาเกี่ยวอะไร?”

“ไม่บอกเขา ระวังเขาจะตามไปถึงที่”

“ไม่เห็นกลัว” หนุ่มตัวเล็กเบ้ปาก กลัวที่ไหนเจ้ายักษ์บ้านั่น

อัลเบิร์ตมองเพื่อนแล้วยิ้ม ถ้าเขาเป็นแบบปอนด์บ้างก็คงจะดี เจ้ายักษ์ที่ว่าแม้ไม่ได้หวานกันจนเลี่ยนแต่ก็ให้ความสำคัญสมกับเป็นคนรัก ส่วนเขาจากอดีตจนถึงปัจจุบันไม่ได้มีหลักประกันใดว่าเขาคือคนสำคัญ เขาเคยพอใจกับมันเพียงแค่ได้อยู่ข้างกันเท่านั้นพอ แต่เมื่อเห็นความรักของปอนด์ที่มันต่างออกไปกลับนึกอิจฉาอยู่ลึกๆ อิจฉาที่ความรู้สึกของเขามันไม่มีทางเป็นไปได้แบบปอนด์


-------------------


อัลเบิร์ตไปดูตัวตามที่วิคเตอร์เสนอแกมสั่ง บอดีการ์ดหนุ่มรายงานอเล็กซานเดอร์เพียงขอลาไปทำธุระโดยไม่ได้บอกรายละเอียด ซึ่งอีกฝ่ายก็อนุญาต

สถานที่นัดพบคือห้องอาหารในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง หญิงสาวเป็นลูกคนมีสี ฐานะครอบครัวของเธอค่อนข้างมีอันจะกิน แตกต่างกับอัลเบิร์ตที่ต้นกำเนิดเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาแถวชนบท เธอเป็นคนพูดคุยสนุก ในขณะที่เขาไม่ช่างพูดแต่เธอก็ช่างเอาใจและเข้าใจในจุดนั้น เพราะการแนะนำจากวิคเตอร์ทำให้ครอบครัวของหญิงสาวไม่นึกรังเกียจอัลเบิร์ตที่ฐานะไม่เท่าเทียม เพราะชายหนุ่มได้ชื่อว่าเป็นคนของเฟอร์ริงตันย่อมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ในภายภาคหน้าอาจได้พึ่งพากันก็เป็นได้

สองหนุ่มสาวออกมาเดินคุยกันในบริเวณสวนของโรงแรม เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น รถยนต์ติดฟิล์มดำคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดใกล้จุดที่ทั้งคู่อยู่ หญิงสาวมองอย่างสงสัย ขณะที่อัลเบิร์ตเกร็งตัวเพราะรู้ว่าภายในรถคันนั้นคือใคร

ประตูด้านหลังถูกเปิด อเล็กซานเดอร์ก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้ามาหาพวกเขา หญิงสาวข้างกายอัลเบิร์ตรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอเล็กซานเดอร์อย่างใกล้ชิดเพียงนี้ หลังจากได้ยินชื่อเสียงเรียงนามและเห็นตามข่าวในแวดวงธุรกิจ แต่สายตาของอเล็กซานเดอร์กลับไม่มองมาที่เธอเลยแม้แต่น้อย

“กลับ”

เสียงทุ้มที่ถูกกดต่ำเอ่ยคำเดียวสั้นๆแต่ต้องทำตามให้ไวว่อง สีหน้าคนถูกสั่งยังคงนิ่งเฉย ทั้งยังไม่ยอมก้าวตามผู้ออกคำสั่งไปเสียอีก หญิงสาวหนึ่งเดียวมองทั้งสองฝ่ายสลับกันไปมาด้วยความมึนงง อเล็กซานเดอร์หยุดเดินแล้วปรายตากลับมามองอัลเบิร์ตที่ยังอยู่จุดเดิมไม่ยอมขยับ แววตาสีฟ้าราวมีประกายไฟปะทุขึ้นมา

เจฟฟรี่มองทั้งสองคนที่ทำศึกทางสายตาแล้วส่ายหน้า เดินเข้าไปหาเพื่อนบอดีการ์ดแล้วเอ่ยบอก “ไปเถอะอัลเบิร์ต เดี๋ยวพายุลง”

“แต่...”

“ทางนี้ฉันจัดการเอง รีบไปก่อนที่อเล็กซานเดอร์จะทำอะไรที่นายคาดไม่ถึง”

เสียงเตือนจากเพื่อนมีหรือที่อัลเบิร์ตจะไม่รับฟัง ชายหนุ่มทอดถอนใจ หันมาหาหญิงสาวที่เป็นคู่ดูตัวของเขาในวันนี้

“ขอโทษด้วยนะครับ”

เอ่ยบอกด้วยความรู้สึกผิดอย่างจริงใจ ก่อนก้าวไปหาอเล็กซานเดอร์ที่ออกเดินต่อเมื่อเห็นว่าบอดีการ์ดของตนยอมจำนนแล้ว หญิงสาวที่เพิ่งเข้าใจสถานการณ์เริ่มโวยวายที่อัลเบิร์ตหักหน้าเธอ เจฟฟรี่หันมามองเธอ สายตาคมดุมองตรงมาทำให้เธอต้องเงียบเสียงลง แววตาเยียบเย็นทั้งที่ริมฝีปากยังยกยิ้มเป็นมิตร ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัว

“เรามาเจรจาตกลงกันสักหน่อยดีไหมครับคุณผู้หญิง?”

น้ำเสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายตัวโตตรงหน้าพาให้ใจสั่นแปลกๆ หญิงสาวกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่น รู้สึกตะครั่นตะครออยากจะหายไปเสียเดี๋ยวนี้ถ้าทำได้


-----------------


ทั้งสองกลับมาถึงเฟอร์ริงตันในเวลาต่อมา อัลเบิร์ตเดินตามผู้เป็นนายไม่ห่าง สีหน้าบอดีการ์ดหนุ่มนิ่งเฉย แต่ภายในใจไม่ได้นิ่งตาม เพราะรู้อยู่ว่าเวลานี้อเล็กซานเดอร์กำลังโกรธ

“ฉันจะไม่ถามว่าทำไม เพราะอย่างนายคงไม่มีเหตุผลไหนนอกจากทำตามที่พ่อฉันสั่ง”

อเล็กซานเดอร์พูดเสียงเรียบเมื่อเข้ามาอยู่ในพื้นที่รโหฐานกันเพียงสองคน การที่บอดีการ์ดข้างกายหายหน้าไปทั้งวันโดยไม่ได้แจ้งว่าธุระที่จะไปทำนั้นมันคืออะไร พลอยทำให้เขาหงุดหงิดงุ่นง่านจนต้องหาคำตอบ และมันก็ไม่ยากเลยที่จะได้มันมา แต่ที่ทำให้เขาควบคุมโมหะและโทสะไม่อยู่คงเพราะคำตอบที่ได้รับคือ... บอดีการ์ดของเขาจะแยกจากเพราะกำลังจะมีครอบครัว

ชายหนุ่มก็รู้ดีถึงเรื่องดังกล่าว รู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของอัลเบิร์ตแต่อดโมโหไม่ได้ ถ้าหากจะปฏิเสธสิ่งที่วิคเตอร์เสนอแกมสั่งอย่างละมุนละม่อมอัลเบิร์ตก็ทำได้ แต่กลับไม่เคยทำมัน ช่างเชื่อฟังบิดาของเขาเสียจริง เพียงเพราะฝ่ายนั้นส่งเสียให้เล่าเรียนเท่านั้นหรือ วิคเตอร์เองก็ชอบยุ่งวุ่นวายกับคนของเขาเหลือเกิน มีอะไรกับอัลเบิร์ตหนักหนากัน ยิ่งคิดอเล็กซานเดอร์ยิ่งไม่ชอบใจ

“บางทีฉันก็สงสัย...” อเล็กซานเดอร์เอ่ยขึ้น แววตาดูไม่น่าไว้ใจ “...ว่านายกับวิคเตอร์มีอะไรนอกเหนือจากนี้หรือเปล่า”

“อะไรนะ?” อัลเบิร์ตย้อนถามเสียงแผ่ว มองดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่มันสะท้อนภาพของเขาด้วยความดูแคลนนั้น ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากปากอเล็กซานเดอร์แม้แต่น้อย

“วิคเตอร์เอ็นดูนายมากกว่าใคร ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของนายไม่เลิก ดูแลนายดีกว่าคนอื่น เจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตนายมากจนเกินพอดี... เพราะอะไร?”

“ผมจะรู้ได้ยังไง”

“แน่ใจหรือ?”

อเล็กซานเดอร์ยังไล่ต้อน หรี่ตาเล็กน้อยขณะเอ่ยถาม ความคิดของเขามันติดลบแล้วตอนนี้ ยิ่งเห็นหน้าซื่อๆบอดีการ์ดของตนยิ่งคิดไปไกล ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้ อัลเบิร์ตมองอย่างหวาดหวั่น ก่อนที่ถ้อยคำร้ายกาจจะหลุดรอดออกมาจากปากของอีกฝ่าย

“นายไม่ได้ทำอะไรๆ... กับพ่อฉันเหมือนอย่างที่ทำกับฉันหรอกใช่ไหม?”

“อเล็กซ์!” อัลเบิร์ตกระแทกเสียง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะมองคนพูดอย่างผิดหวังและเสียใจอย่างที่สุด

“เสียงดังทำไม หรือเพราะมันคือความจริง...” แววตัดพ้อจากดวงตาสีอ่อนทำให้อเล็กซานเดอร์ชะงัก

อัลเบิร์ตหมุนกายกลับจะก้าวออกจากห้อง กระบอกตามันร้อนผ่าว ทั้งเจ็บใจที่โต้กลับไม่ได้ ทั้งเจ็บปวดที่อีกฝ่ายคิดแบบนั้น แต่มือหนากลับเอื้อมคว้ากระชากแขนแรงจนเขาเซถอย

“อย่าเดินหนี!!”

อเล็กซานเดอร์ตะคอกดัง ไม่เคยชอบใจที่มีใครหันหลังให้ในขณะที่ยังคุยกันไม่จบ อัลเบิร์ตสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่หันกลับมามองอีกคนเมื่อเอ่ยบอก

“ไม่เคยหวังความสำคัญจากคุณ แต่อย่างน้อยช่วยมองผมเป็นคนบ้าง ไม่ใช่แค่ตัวอะไรสักอย่างไว้รองรับอารมณ์”

ถึงจะทำเป็นเก่งแค่ไหนแต่หัวใจเขาก็เจ็บเป็น และยิ่งเจ็บเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังเกิดความโลภ กำลังอยากได้ในสิ่งที่ไม่สมควร ความน้อยเนื้อต่ำใจมันประเดประดังเข้ามาทุกครั้งที่อีกคนไม่เห็นความสำคัญ หรือแม้แต่เวลาที่ได้ยินถ้อยคำดูถูกถากถาง

มือที่กำต้นแขนผ่อนแรงลง อัลเบิร์ตดึงแขนกลับก่อนจะก้าวออกจากห้องไป อเล็กซานเดอร์ควรได้เรียนรู้เสียบ้างว่า... คำพูดที่สักแต่พูด มันทำร้ายคนที่รักเขามากแค่ไหน




โปรดติดตามตอนต่อไป



ผ่านไปอีกหนึ่งตอนด้วยความเชื่องช้า~

ขอบคุณทุกท่านที่ยังคงติดตามกันอย่างเหนียวแน่นกับนิยายรายสัปดาห์เรื่องนี้...ที่มันไม่ดราม่าเลย :z3:

บวกและบวกให้ทุกท่านเช่นเคยค่ะ

วันใหม่ :m13:



ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
จ้า ไม่ดราม่าเลยจ้า เล่นเอาปวดใจรุมๆเลยจ้า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ชอบๆ สนุกชวนติดตาม ระทมเบาๆ ห่วงนิดๆ หวงหน่อยๆ
อ่านจบปุ๊บ ทางนี้มีแอบอมยิ้ม ...สมใจแท้
//ตั้งตารอวันอาทิตย์หน้าค่ะ ฮี่ฮี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ฮึ่ม ขัดใจ! หวงเขาแต่คำพูดแต่ละคำเชือดเฉือนเสียอย่างนั้น!
อัลก็คนนะอเลกซ์! -- อินเกิน ขอสักทีนะอเลกซ์  :beat:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
สงสารอัล ทำอะไรก็ผิดตลอดตลอดแหละ ชิ!!!
 :ling1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อัลยังเจ็บได้อีกกกกกนี่มันยังน้อยไปปปปปปป ฮืออออออ คุณวันใหม่ใจร้าย

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
อ่านจบไปแล้ว แต่ตอนท้ายมันบีบหัวใจจัง

ออฟไลน์ WoonMyuk

  • (*ФωФ)ゞเมื่อความแกร๊งบังเกิด เสียงกระป๋องดังแป๊งก็ตามมา☂
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
มันไม่ดราม่าจริงๆ น่ะเหรอ
หืออออออออออออออ
 :hao5:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
จะมีสิ่งใดที่จะมาฉุดรั้งความเกลียดที่ชั้นมีต่ออเล็กซ์ได้บ้างนะ
ย๊ากก ว๊ากกก โว๊ยยยย :z6:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๓ เส้นแบ่งหัวใจ


หลังเหตุการณ์วันดูตัวของอัลเบิร์ต วิคเตอร์เรียกลูกชายมาพบ ชายชราตำหนิเรื่องที่ผู้เป็นลูกไปขัดขวางการดูตัว อเล็กซานเดอร์เงียบฟังแม้ภายในใจจะต่อต้าน บิดาของเขาเรียกมาตำหนิในเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้เองน่ะหรือ เรื่องที่บิดายกมากล่าวอ้างว่าด้วยฐานะทางสังคมของฝ่ายคู่ดูตัวของอัลเบิร์ตนั้นเขาหาได้ใส่ใจ ยังมีใครที่ไหนยิ่งใหญ่กว่าวิคเตอร์ เฟอร์ริงตันอีกอย่างนั้นหรือ

“ดูแกจะไม่ยี่หระกับคำพูดของพ่อเลยนะอเล็กซ์”

ตาสีน้ำทะเลมองสบกับบิดานิ่ง ไร้ซึ่งคำพูดโต้ตอบใด วิคเตอร์ถอนใจแรง อเล็กซานเดอร์มีท่าทีเช่นนี้กับเขามาแต่ไหนแต่ไร

“เรื่องหนูเกวน เอาใจใส่เขาบ้างนะอเล็กซ์ อย่าให้พ่อต้องพูดซ้ำซาก”

“ไม่เบื่อบ้างหรือวิคเตอร์ ผมฟังทุกวันยังเบื่อเลย” ผู้เป็นลูกประชดกลับ วิคเตอร์กระตุกยิ้ม มองสีหน้าเฉยชาของลูกชายแล้วทำเสียงหึในลำคอ

“พ่อจะให้อัลเบิร์ตไปคุ้มกันหนูเกวน”

อเล็กซานเดอร์ชะงัก มองบิดาราวเห็นตัวประหลาด ก่อนที่หัวคิ้วเข้มจะขมวดปม มายุ่งกับคนของเขาอีกแล้ว “ล้อเล่นใช่ไหม?”

“คิดว่ายังไงล่ะ?” วิคเตอร์ยอกย้อน อเล็กซานเดอร์คิ้วกระตุก

“ดูเหมือนพักนี้พอล เวสส์จะเข้าหาหนูเกวนมากขึ้น พ่อเกรงว่าหนูเกวนจะตกเป็นเป้าได้ง่ายๆ เพราะเจ้าหนุ่มนั่นมันไม่เลือกวิธีการที่จะทำลายเราอยู่แล้ว”

วิคเตอร์ขยายความ ตลอดมาการโจมตีพวกเขาของพอลไม่มีผลกระทบใดที่ทำให้เฟอร์ริงตันสั่นคลอน แต่หากพอลเข้าทางเกวนที่เป็นบุตรสาวตระกูลผู้ดีเก่า หญิงสาวที่เขาหมายมั่นปั้นมือจะให้แต่งงานกับลูกชาย และเธอเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรกับการแข่งขันทางธุรกิจระหว่างเฟอร์ริงตันกับเวสส์เสียด้วย หากถูกฝ่ายนั้นนำมาใช้เป็นเครื่องมือ สิ่งที่วาดหวังคงพังครืน

“ให้คนอื่นไป”

คำปฏิเสธเรียบๆจากลูกชายทำให้วิคเตอร์มองหน้า มุมปากตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ยกยิ้มแสยะ “พ่อไว้ใจอัลเบิร์ต”

“แต่อัลเป็นของผม” อเล็กซานเดอร์สวน

“หึ” วิคเตอร์หัวเราะลงคอกับท่าทีไม่ยินยอมของลูกชาย “สำคัญมากขนาดนั้นเลย?”

มันเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ เมื่ออเล็กซานเดอร์ไม่คิดที่จะตอบมัน

“ถ้าไม่สำคัญอะไรก็ตกลงตามนี้แล้วกัน”

วิคเตอร์รวบรัดสรุปความเมื่อคนเป็นลูกไม่ปริปากยอมรับหรือปฏิเสธ จะให้คนอย่างอเล็กซานเดอร์ยอมรับในสิ่งที่จะทำให้ตนเองตกเป็นรองง่ายๆ นั่นคงไม่ใช่อเล็กซานเดอร์ วิคเตอร์รู้ข้อนี้ดีถึงได้นำมันมาใช้ และมันก็ได้ผลทุกครั้งเสียด้วย

“ถ้าตกลงตามนี้ก็เรียกอัลเบิร์ตมาพบพ่อด้วย”

อเล็กซานเดอร์ขบกรามแน่น อยากตอบโต้เหลือเกินแต่ทำไม่ได้ ร่างสูงใหญ่ผุดลุกแล้วออกจากห้องไปทำตามคำสั่งของบิดา อัลเบิร์ตเข้ามาพบวิคเตอร์ในเวลาต่อมาเพื่อรับคำสั่งให้ไปทำหน้าที่คุ้มกันเกวน เจฟเฟอร์สัน ว่าที่คู่หมั้นของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบอดีการ์ดหนุ่มก็รับคำสั่งแล้วปฏิบัติตามในทันทีเช่นกัน


--------------------


อัลเบิร์ตมาที่คฤหาสน์เจฟเฟอร์สันตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เกวนมองบอดีการ์ดหนุ่มตรงหน้าเธอนิ่ง เธอไม่ได้อยากมีบอดีการ์ดคุ้มกันอะไรทั้งนั้น ครอบครัวของเธอไม่มีบอดีการ์ดมานานแล้ว อยู่อย่างสงบมาตลอด แล้วคราวนี้มันอะไร เหตุใดเฟอร์ริงตันจึงส่งคนมาคุ้มกันเธอ

“ผมเพียงทำตามหน้าที่ครับ” อัลเบิร์ตตอบเธอเพียงสั้นๆไม่ได้ขยายความต่อ เขาไม่มีหน้าที่มานั่งอธิบายในเรื่องที่ไม่ได้รับมอบหมาย เกวนมองเขาหน่ายๆ หญิงสาวรูปร่างสูงปราดเปรียว ท่าทีมาดมั่นดูเฉลียวฉลาด ช่างเหมาะสมกับอเล็กซานเดอร์

“เอาเถอะ ไหนๆคุณก็มาแล้วฉันคงไล่คุณกลับไปไม่ได้ เพราะคุณทำตามหน้าที่นี่นะ” หญิงสาวกล่าวแกมประชด

“ฉันจะออกไปข้างนอกพอดี ...” เธอเกริ่นนำมาเช่นนั้นแล้วยิ้มเก๋ “บอดีการ์ดขับรถได้หรือเปล่า?”

อัลเบิร์ตลอบยิ้มในใจกับท่าทีของหญิงสาว นึกว่าเธอจะเป็นคนหยิ่งยโสเหมือนคุณหนูบ้านรวยโดยทั่วไปเสียอีก บอดีการ์ดหนุ่มตอบรับในสิ่งที่เธอต้องการ ก่อนจะพาเธอไปข้างนอกตามประสงค์

ทางด้านพอล เวสส์ที่รู้ว่าเฟอร์ริงตันให้บอดีการ์ดมาคอยคุ้มกันเกวนก็ออกจะเจ็บใจที่ถูกดักทาง แต่คนอย่างเขาไม่มีทางยอมล้มเลิกง่ายๆเพียงเท่านี้ เมื่อฝ่ายนั้นเล่นไม้นี้กับเขา พอล เวสส์ก็ยิ่งอยากท้าทาย ชายหนุ่มคิดจะเข้าหาเกวนทั้งที่มีอัลเบิร์ตคอยคุ้มกัน

“คาร์ลคะ วันนี้พาไปที่เดิมหน่อยนะ ฉันอยากคุยกับเจ้าของที่ให้เรียบร้อย”

เกวนในชุดพร้อมออกนอกบ้านก้าวลงบันไดมา อัลเบิร์ตที่นั่งรออยู่ลุกขึ้นรับหน้า ตอนนี้เขากับหญิงสาวดูจะเข้ากันได้ดีขึ้น เกวนไม่ชอบคนจุกจิก ไม่ชอบให้ใครออกคำสั่ง ซึ่งนั่นมีครบในตัวอัลเบิร์ต ไม่ช่างพูดและเป็นที่ปรึกษาได้พอสมควร ทำให้หญิงสาววางใจที่จะให้อัลเบิร์ตทำหน้าที่คุ้มกันเธอต่อไป

“จะทำงานนี้จริงหรือครับ?”

อัลเบิร์ตเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเกวนให้เขาพาไปดูตึกแห่งหนึ่งเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อเปิดร้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไม้สอยและของทำมือ ซึ่งเธอศึกษาเรื่องพวกนี้มาพอสมควร แต่บอดีการ์ดหนุ่มยังไม่กล้าถามถึงเหตุผลที่เธออยากทำเพราะไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก

เกวนหันมายิ้มให้ก่อนว่า “ไม่คิดว่าคุณหนูบ้านรวยจะอยากทำงานล่ะสิ?”

สิ่งที่เธอพูดไม่ได้ต่างจากที่อัลเบิร์ตคิดเท่าไรนัก เธออยู่สุขสบายแล้วไยต้องมาทำงานให้เหนื่อยหนัก

“สิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด... เคยได้ยินไหมคะ?” หญิงสาวยิ้มเศร้าแล้วเดินนำไปที่รถ อัลเบิร์ตจำต้องตัดความสงสัยเรื่องดังกล่าวทิ้งไปเมื่อเธอไม่อยากเอ่ยถึง และมันไม่ได้มีผลกับงานของเขา ก่อนที่บอดีการ์ดหนุ่มจะเดินตามไปเป็นสารถีให้เธอเหมือนเคย

เมื่อมาถึงสถานที่ที่หญิงสาวบอกอัลเบิร์ตก็เข้าไปกับเธอด้วย จนกระทั่งคุยงานตกลงกันเสร็จสรรพถึงได้ออกมา เธอขอไปร้านหนังสืออัลเบิร์ตจึงต้องตามไปคุ้มกัน และที่นั่นทั้งคู่ได้พบกับพอล เวสส์

อัลเบิร์ตก้าวไปด้านหน้าเกวน เบี่ยงกายขวางพอลที่ก้าวเข้ามาหาหญิงสาวเอาไว้ นัยน์ตาสีควันบุหรี่ของชายหนุ่มจากตระกูลเวสส์มองอัลเบิร์ตอย่างไม่พอใจ แต่อัลเบิร์ตก็ยังคงปักหลักไม่ขยับไปไหน พอลทำเสียงหยันในลำคอก่อนเอ่ยถ้อยคำถากถาง

“คนของเฟอร์ริงตันคงไม่รู้จักคำว่ามารยาทสินะ”

ถึงจะถูกว่ากระทบเช่นนั้นแต่อัลเบิร์ตก็ยังคงนิ่ง เกวนมองบอดีการ์ดหนุ่มแล้วหันมามองพอล ริมฝีปากสวยบิดเบ้เล็กน้อยแสดงอาการไม่อยากเสวนากับชายหนุ่มนัยน์ตาควันบุหรี่ผู้นี้

“เจ้านายเขาจะคุยกันไม่รู้หรือ แบบนี้เขาเรียกสะเออะรู้ไหม?” น้ำเสียงดูถูกยังส่งมาให้บอดีการ์ดจากเฟอร์ริงตัน

“ก่อนจะว่าคนอื่นหัดดูตัวเองก่อนถอะค่ะมิสเตอร์เวสส์” เกวนที่เงียบฟังชักจะทนไม่ไหว ขาเรียวก้าวมายืนข้างอัลเบิร์ตพร้อมตอกหน้าพอลเวสส์กลับ

“กลับกันเถอะค่ะ คาร์ล”

หญิงสาวทิ้งสายตาไม่พอใจให้แล้วก้าวออกไปพร้อมอัลเบิร์ต บอดีการ์ดหนุ่มเหลียวกลับมามองพอล เวสส์ที่ยืนกำหมัดแน่นแล้วหันกลับช้าๆ ท่าทีเช่นนั้นกระตุ้นต่อมโมโหของพอล เวสส์มากยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บใจและเสียหน้าที่โดนเกวนตอกกลับเช่นนั้น ในใจหมายมาดว่าสักวันเขาจะต้องเอาคืนให้จงได้!


------------------


ทางด้านอเล็กซานเดอร์ ตั้งแต่วันที่มีเหตุหมางใจกับอัลเบิร์ตพวกเขาก็ยังไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย เหมือนความรู้สึกในใจมันตกตะกอนเรื่อยๆจนหนักอึ้ง การเริ่มต้นพูดกันจึงยากยิ่ง แถมอัลเบิร์ตยังไปประจำอยู่ที่คฤหาสน์เจฟเฟอร์สัน ยิ่งยากที่จะคุยเข้าไปใหญ่ นอกเสียจากอเล็กซานเดอร์จะไปหาเกวนที่นั่น พอคิดได้แบบนั้นแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ชักเอะใจขึ้นมา เหตุที่วิคเตอร์เจาะจงให้เป็นอัลเบิร์ตเพราะอย่างนี้หรือเปล่า วิคเตอร์ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ นี่คือวิธีให้เขาไปหาเกวนสินะ

คฤหาสน์เจฟเฟอร์สัน

สุดท้ายแล้วอเล็กซานเดอร์ก็จำต้องเดินตามเกมของบิดา เมื่อวันหนึ่งชายหนุ่มได้มาหาเกวนที่คฤหาสน์ บิดามารดาของหญิงสาวต้อนรับขับสู้เขาเป็นอย่างดี เกวนให้คนนำของว่างยามบ่ายไปให้เธอที่สวนสวย เธอจะได้พูดคุยกับว่าที่คู่หมั้นเป็นส่วนตัวสักหน่อย อัลเบิร์ตที่เดินผ่านมาก็เลี่ยงออกไปอย่างรู้หน้าที่ หางตาผู้เป็นนายปรายตาม ก่อนจะหันเหความสนใจมาที่เกวน

“ไม่คิดว่าคุณจะมาหา” หญิงสาวเปรยขึ้นมา รินน้ำชากลิ่นหอมละมุนใส่ในถ้วยให้อเล็กซานเดอร์

“ไม่ดีหรือ?” ชายหนุ่มรับถ้วยชาที่หญิงสาวเลื่อนมาให้พร้อมเอ่ยถามกลับ

“ไม่ใช่ไม่ดีหรอกค่ะ แค่แปลกใจ นานๆคุณจะมาที” เกวนตอบแล้วหัวเราะเบาๆ

อเล็กซานเดอร์ไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป เฉยกน้ำชาขึ้นจิบเล็กน้อยพอเป็นพิธี เกวนไม่ใช่คนอ่อนหวานจนอ่อนแอ เธอมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่หลงใหลคลั่งไคล้ไปตามกระแส จะรักชอบใครก็ไม่แสดงออกจนอีกฝ่ายอยากก้าวหนี หากไม่นับรวมปัญหาด้านการเงินของครอบครัวเธอที่ถูกปกปิดเอาไว้ อเล็กซานเดอร์เองก็คิดว่าเธอเหมาะที่จะเป็นนายหญิงของเฟอร์ริงตันเช่นเดียวกับบิดา แต่บิดาของเขากลับมองลึกไปกว่านั้น เรื่องทรัพย์สินไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะสิ่งที่วิคเตอร์ เฟอร์ริงตันต้องการคือชื่อเสียงของตระกูลเธอที่จะมาเกื้อหนุนให้เฟอร์ริงตันยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีกต่างหาก

“บางทีผมคงใส่ใจคุณน้อยไป” อเล็กซานเดอร์เปรยขึ้นมาเมื่อคิดอะไรสะระตะจนมันมาลงเอยที่สิ่งนี้

“คำพูดไม่สมกับเป็นคุณเลย” หญิงสาวยิ้มล้อ

“แบบไหนที่จะสมเป็นผมกัน?”

“แบบที่ไม่ใช่แบบนี้น่ะ” เธอยอกย้อนยียวนแล้วยกยิ้มมุมปาก

“หึ”

การดื่มน้ำชายามบ่ายพร้อมชมบรรยากาศรอบกายของทั้งคู่ดำเนินไปช้าๆ มารดาของเกวนมองภาพนั้นอย่างปลื้มใจ นางวาดหวังกับว่าที่เขยคนนี้เอาไว้มากทีเดียว หากได้ดองกับเฟอร์ริงตันใครบ้างจะไม่ชอบ บ่อเงินบ่อทองทั้งนั้น ใครก็อยากกระโจนเข้าใส่จนตัวสั่น แต่ความโชคดีนั้นมันมาตกที่ตระกูลของสามีนาง ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะหวังอะไรจากเจฟเฟอร์สัน แต่สิ่งที่เจฟเฟอร์สันจะได้มามันคุ้มค่ามากกว่าเสีย ขอให้ลูกสาวของนางอย่าทำให้ความหวังของนางต้องล่มก็แล้วกัน


ก่อนกลับอัลเบิร์ตก็ออกมาส่งผู้เป็นนายที่รถ ขณะที่เจฟฟรี่บอดีการ์ดข้างกายของอเล็กซานเดอร์ยืนรออยู่อีกฝั่งของรถ อัลเบิร์ตนิ่ง อเล็กซานเดอร์เองก็ยังเงียบ ไม่มีใครเริ่มต้นพูดอะไรกับใครก่อน บรรยากาศหนักหน่วงลอยวนอยู่เป็นนาน จนแล้วจนรอดอเล็กซานเดอร์ก็ไม่พูดอะไร ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปนั่งในรถ เจฟฟรี่ที่มองสถานการณ์กลอกตามองสูงก่อนถอนใจแล้วตามเข้าไปนั่งคู่คนขับ
อัลเบิร์ตยังคงยืนอยู่ที่เดิม อเล็กซานเดอร์ที่นั่งอยู่ในรถก็ไม่ได้หันกลับมามองอีก แต่รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ไปไหน รถเคลื่อนตัวออกไปช้าๆพร้อมกับโอกาสคืนดีได้หมดลง

เมื่อกลับมาถึงเฟอร์ริงตัน อเล็กซานเดอร์ก็มาหาบิดาที่ห้องทำงานส่วนตัว ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอให้อัลเบิร์ตได้กลับมาประจำที่นี่แล้วส่งคนอื่นไปทำหน้าที่แทน วิคเตอร์ที่ถือไพ่เหนือกว่าไม่มีทีท่าว่าจะให้กลับ

“เพราะอะไร?” ที่สุดแล้วอเล็กซานเดอร์ก็อดไม่ได้ที่จะถาม อยากรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงนัก

“คำถามนี้มีคำตอบ และคำตอบนั้นมันก็อยู่ที่แกเอง อเล็กซ์” ตาเฒ่าทิ้งปริศนาให้ได้ขบ

“ถ้าพ่อยังเล่นลิ้นไม่เลิก ผมจะไปลากคอหมอนั่นกลับมาเอง” อเล็กซานเดอร์ทิ้งไพ่ ผู้เป็นบิดากลับหัวเราะราวเป็นเรื่องขบขันหนักหนา

“แกไม่ทำอย่างนั้นหรอกอเล็กซ์ พ่อรู้” ท่าทีเหนือกว่าของวิคเตอร์ที่ทำราวกับรู้อะไรอยู่ตลอดเวลานั้นพาลทำให้อเล็กซานเดอร์ไม่ชอบใจ

“เดี๋ยวก็รู้”

ทิ้งท้ายเท่านั้นแล้วอเล็กซานเดอร์ก็จากไป วิคเตอร์มองตามหลังลูกชายแล้วเหยียดยิ้มแสยะ

“ดิ้นไปเถอะอเล็กซ์ หึ”


อเล็กซานเดอร์กลับมาที่ห้องด้วยความหงุดหงิด รู้สึกเหมือนตนเองสูญเสียการควบคุม แสดงอารมณ์ด้านลบออกมามากเกินไปเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย ชายหนุ่มได้แต่บอกย้ำกับตนเองซ้ำๆให้ควบคุมมันให้ได้ ควบคุมตัวเองให้ได้มากกว่านี้สิอเล็กซานเดอร์

ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มาโทรหาอัลเบิร์ต ตอนนี้เขาอยากมีคนคอยตามใจไม่ขัดเขามากไปกว่านี้ พออีกฝ่ายกดรับอเล็กซานเดอร์ก็ออกคำสั่ง

“กลับมาเดี๋ยวนี้”

ทางนั้นเงียบ อารมณ์ที่คล้ายจะสงบลงกลับหงุดหงิดขึ้นมาอีก อ้าปากเตรียมจะต่อว่าอีกฝ่ายแล้ว หากแต่เสียงอัลเบิร์ตกลับแทรกมา

“ไม่ครับ”

อเล็กซานเดอร์คำรามในคอกับคำปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่อีกฝ่ายใช้กับเขา อยากลากตัวกลับมาเสียเดี๋ยวนี้แต่กลับทำไม่ได้ เพราะสถานที่ที่อัลเบิร์ตอยู่คือเจฟเฟอร์สัน บ้านของเกวนว่าที่คู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มปิดโทรศัพท์แล้วขว้างไปที่เตียง นั่งลงบนเตียงด้วยความโมโห ชักจะเอาใหญ่แล้ว!


อัลเบิร์ตมองมือถือที่อีกฝ่ายวางสายไปแล้วด้วยความเหนื่อยใจ นอกจากคำสั่งแล้วอเล็กซานเดอร์คงใช้คำอื่นไม่เป็น...


-------------------


คฤหาสน์เจฟเฟอร์สันได้ต้อนรับว่าที่เขยบ่อยๆในพักหลังมานี้ จากที่เคยมานับครั้งได้ คราวนี้อเล็กซานเดอร์กลับมาหาเกวนเสียบ่อย พาไปออกงานร่วมกันบ้างตามโอกาส โดยมีอัลเบิร์ตและเจฟฟรี่ตามรักษาความปลอดภัย เจฟฟรี่ที่รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาแต่ต้นก็ได้แต่สงสารเพื่อน เรื่องช่วยเหลือเขาคงทำอะไรไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่

“เจฟฟ์” อัลเบิร์ตเอ่ยเรียกเพื่อนบอดีการ์ดที่อยู่ไม่ห่างกันนัก ตอนนี้พวกเขากำลังทำหน้าที่ตามอารักขาผู้เป็นนายกับว่าที่คู่หมั้นในขณะมาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง และทั้งคู่ก็หยุดอยู่ที่ร้านอัญมณีตามประสาคนมีเงิน

“ว่า?” เจฟฟรี่เลิกคิ้วข้างหนึ่งเชิงถาม

“ถ้าฉันจะเลิกเป็นบอดีการ์ดแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในชนบทเงียบๆนายว่ามันจะดีไหม?”

ราวขอความเห็น แต่ที่จริงมันคือการถามย้ำกับตนเองเสียมากกว่า เมื่อสายตาเขามันมองคู่ชายหญิงตรงหน้านิ่ง เจฟฟรี่ถอนใจเบาแล้วยิ้มบางอย่างเข้าใจ

“เรื่องนี้ถามฉันไม่ได้หรอก เพราะคำตอบมันอยู่ที่ใจของนายต่างหากว่าอยากทำมันไหม”

“นั่นสิ บางทีฉันอาจต้องหาคำตอบให้ได้เร็วๆก่อนที่...”

“ที่?”

อัลเบิร์ตไม่ตอบอะไรไปมากกว่านั้น บอดีการ์ดหนุ่มออกเดินเมื่อผู้เป็นนายกับว่าที่คู่หมั้นกำลังจะออกจากร้านอัญมณี เจฟฟรี่ย่นหัวคิ้วที่อีกฝ่ายทิ้งปริศนาไว้แล้วก็ไม่ตอบ หนุ่มตัวโตส่ายหน้าแล้วก้าวตามให้ทันกัน

อเล็กซานเดอร์เหลือบมองบอดีการ์ดหนุ่มของตนเองที่ก้าวล้ำหน้าไปทำหน้าที่คุ้มกัน ขณะที่เจฟฟรี่เดินเยื้องอยู่ด้านหลัง วันนี้เขามาทำอะไรที่นี่ไม่รู้ ทั้งที่มีงานกองพะเนินแต่กลับพาว่าที่คู่หมั้นมาเดินเที่ยว หรือที่จริงแล้วจุดประสงค์ของเขาจะอยู่ที่บอดีการ์ดด้านหน้านั่นกันแน่ บ่อยครั้งที่ปฏิกิริยาเฉยเมยของอัลเบิร์ตทำให้เขาเกือบๆจะตบะแตกเสียหลายหน อีกฝ่ายยังคงนิ่งเฉยไม่เปลี่ยน ในตอนนี้เขามั่นใจมากว่าอัลเบิร์ตนิ่งกว่าเดิมที่เคยเป็นเสียอีก อาจเพราะยังโกรธเขาอยู่กระมังถึงได้เป็นแบบนี้ แม้จะคิดไปสะระตะแต่ทิฐิที่มันค้ำคอก็ทำให้อเล็กซานเดอร์ไม่สามารถก้าวข้ามไปหาอีกฝ่ายได้ อเล็กซ์ หนอ อเล็กซ์ ไม่ได้รู้เลยว่าการชะล่าใจของเขากำลังนำความวุ่นวายเข้ามาโดยไม่รู้ตัว...


-----------------


ซองเอกสารถูกวางลงตรงหน้าในวันหนึ่ง อเล็กซานเดอร์เลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อปรายมองมัน วิคเตอร์เพียงมองลูกชายนิ่งไม่ได้พูดอะไรจากนั้น ผู้เป็นลูกจึงหยิบมาเปิดดูข้างใน หัวคิ้วเข้มขมวดเมื่อเห็นว่ากระดาษแต่ละแผ่นในนั้นมันบรรจุประวัติและข้อมูลของเด็กหนุ่มชาวไทยคนหนึ่ง อเล็กซานเดอร์เงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นบิดาอย่างมีคำถาม

“เด็กของแอล”

คำตอบเพียงสั้นๆจากบิดากลับทำให้หัวคิ้วชายหนุ่มขมวดปมยิ่งกว่าเก่า แอล คนที่บิดาเอ่ยถึงคือน้องชายต่างมารดาของเขา อเล็กซานเดอร์ แอล เฟอร์ริงตัน

“สืบประวัติเขาขนาดนี้ คิดจะทำอะไร?”

“อยากคุยด้วยนิดหน่อย”

“คุย?”

“ใช่ คุย” ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ยกยิ้มแสยะ “แกจัดการให้พ่อหน่อยได้ไหมล่ะอเล็กซ์?”

อเล็กซานเดอร์ถอนใจหนักๆ เหตุใดยังไปยุ่งวุ่นวายกับน้องชายเขาอีก บิดาของเขาไม่เคยเข็ดเลยจริงๆ อยากให้แอลมาถอนหงอกเอาหรืออย่างไร

“หมดธุระแล้วใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มจะขยับลุก

“ยัง” ผู้เป็นบิดารีบหยุดเอาไว้ อเล็กซานเดอร์จึงได้นั่งลงที่เดิมด้วยสีหน้าเหม็นเบื่อเมื่อบิดาเริ่มจาระไนถึงเรื่องเดิมๆ

“อย่าทำเป็นนิ่งเฉยนะอเล็กซ์ แกก็รู้ว่าพ่ออยากให้แกเป็นผู้นำพาเฟอร์ริงตันให้ยิ่งใหญ่”

“ด้วยการเกาะชายกระโปรงผู้หญิง”

“อเล็กซ์!!”

วิคเตอร์เอ่ยชื่อลูกชายเสียงดังเป็นการปรามในสิ่งที่พูด อเล็กซานเดอร์คว้าซองเอกสารบนโต๊ะและขยับลุกอีกครั้ง

“ผมทราบครับว่าต้องทำอะไร” ชายหนุ่มว่าเสียงเอื่อย

“ก็ดี อย่าได้หลงลืมตัวไป อย่าเป็นเหมือนน้องชายของแก”

อเล็กซานเดอร์ออกจากห้องทำงานของบิดามาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เอาเอกสารที่ถือติดมือมายัดใส่มือเจฟฟรี่

“ให้ลูกน้องนายจัดการให้ด้วย”

ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์ จะมีวันไหนที่เขาจะไม่หงุดหงิดกับสิ่งรอบกายและมีความสุขอย่างแท้จริงบ้าง ไม่สิ อย่างเขาเคยรู้จักคำว่าความสุขด้วยหรือ เขากับวิคเตอร์ไม่ต่างกัน ทำอะไรตามแต่ใจ หากคิดว่าใช่มันคือถูก ไม่คิดจะสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ ณ เวลานี้ผู้เป็นบิดาเข้ามาวุ่นวายมากเกินไปจนเขาอยากล้มกระดานบิดาให้คว่ำ!


----------------------


ในเวลาต่อมา ห้องนอนภายในคฤหาสน์กว้าง เด็กหนุ่มจากเมืองไทยสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียง อเล็กซานเดอร์ยืนกอดอกมองนิ่ง เขากลับจากที่ทำงานเพราะได้รับรายงานจากลูกน้องว่าจับตัว ‘เด็ก’ ของน้องชายต่างมารดามาแล้ว แต่ดูท่าการปฏิบัติงานครั้งนี้จะเกิดการผิดฝาผิดตัว เมื่อคนที่ได้ตัวมานั้นคือคนน้อง ไม่ใช่คนพี่ที่บิดาของเขาต้องการตัว

เด็กหนุ่มบนเตียงช่างแตกต่างจากเขานัก ตัวเพรียวบาง ผิวขาวละเอียด นี่ไม่ใช่เวลามาพินิจพิเคราะห์ แต่ดูเหมือนเขาจะว่างจัดที่ยังคงมองสำรวจตรวจตราไม่เลิก ใบหน้ายามหลับยังดูรั้น อยากจะรู้เสียจริงว่าหากตื่นขึ้นมาแล้วจะเป็นแบบไหน น้องชายของคนที่ยอมทอดกายขัดดอกกับอลัน อาจจะไม่ต่างกันเลยก็เป็นได้ หากเขาเสนอค่าตอบแทนให้เพียงเศษเบี้ยคงรีบตะครุบแทบไม่ทันกระมัง ความคิดด้านลบของอเล็กซานเดอร์ยังคงเส้นคงวา เขาถูกเสี้ยมสอนมาแบบนั้น การมองโลกในแง่ดีไม่ทำให้สามารถยืนอยู่บนโลกธุรกิจได้

คนบนเตียงเริ่มขยับตัว อเล็กซานเดอร์ยังคงปักหลักไม่ไปไหน เมื่อเด็กหนุ่มฟื้นคืนสติขึ้นมาเห็นเขา สายตาหวาดหวั่นก็ปรากฏให้เห็น ริมฝีปากหนายิ้มเหยียดเมื่อเอ่ยคำ

“ยินดีต้อนรับ พิชญ พฤทธาการ”


หลังจากวันที่ได้ทำความรู้จักกันพิชญก็แผลงฤทธิ์จนน่าปวดหัว แต่อเล็กซานเดอร์กลับไม่ได้รำคาญใจที่ได้ต่อล้อต่อเถียง เวลาเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นกลัวแต่ทำปากกล้ามันน่าแกล้ง น่าขย้ำให้จมเขี้ยว มีพิชญอยู่ด้วยก็ไม่เลวนัก ชายหนุ่มไม่ได้ไปหาเกวนเท่าก่อนหน้าที่เทียวไปเทียวมาบ่อยๆ แต่ยังคงความสำคัญเอาไว้ในฐานะว่าที่คู่หมั้นตามสมควร

อเล็กซานเดอร์ออกจากห้องที่ให้พิชญอยู่ในกลางดึกคืนหนึ่ง เจฟฟรี่ยังคงทำหน้าที่ของตนเองอยู่ ร่างสูงใหญ่หยุดลงเมื่อสายตาเหลือบเห็นบอดีการ์ดคนสนิทของตนถอนใจ

“อะไร?” เสียงห้วนห้าวเอ่ยถามไม่พอใจนักกับท่าทีของบอดีการ์ดตน

เจฟฟรี่ยักไหล่เล็กน้อย ไม่ตอบคำถามนั้น ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลฉายแววขุ่น ก่อนร่างสูงใหญ่จะก้าวยาวๆเพื่อกลับห้องของตนเองต่อไป เจฟฟรี่ก้าวตามไปส่งเพื่อทำหน้าที่ของตนในวันนี้ให้เสร็จสิ้นลง


--------------------


ความห่างเหินระหว่างอเล็กซานเดอร์และอัลเบิร์ตมีมากขึ้นเมื่อต่างคนต่างปิดกั้น ยิ่งอเล็กซานเดอร์เจอสิ่งถูกใจใหม่ ยิ่งทำให้พวกเขาห่างไกลกันออกไปอีก เมื่อเจออัลเบิร์ตครั้งที่มาเจฟเฟอร์สัน ท่าทีเฉยชาที่เห็นจนชินตายังทำให้เจ้านายหนุ่มขุ่นใจได้ทุกครั้ง
เมื่ออเล็กซานเดอร์จะกลับ ทุกครั้งอัลเบิร์ตจะต้องออกมาส่ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน อเล็กซานเดอร์ไม่ได้ขึ้นรถไปเฉยๆอย่างเคย ร่างสูงใหญ่ยังคงยืนเผชิญหน้ากับบอดีการ์ดของตน เพราะเขามีเรื่องอยากบอก

“นายไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน” เป็นการเกริ่นนำที่เรียกความสนใจได้ดี เมื่ออัลเบิร์ตเหลือบสายตาขึ้นมามองเขานิ่ง

“จะได้ไม่มีสายตาแบบนี้ของนายคอยมองเวลาที่ฉันอยู่กับ...คนอื่น...”

อัลเบิร์ตนิ่งงันกับสิ่งที่อีกคนพูดมา คนอื่นที่ว่าหมายถึงใครกัน เขาไม่รู้จุดประสงค์ของอเล็กซานเดอร์คืออะไร แต่หากต้องการให้เขาเจ็บกับคำพูดนั้น ตอนนี้มันสำเร็จแล้ว การที่อเล็กซานเดอร์มีเกวนเป็นคู่หมาย เขาเข้าใจและยอมรับมัน แต่ครั้งนี้อเล็กซานเดอร์กลับตอกย้ำเขาถึงความด้อยค่า ความเจ็บแปลบในใจที่เกิดขึ้นนี้อัลเบิร์ตพยายามอย่างยิ่งที่จะกดมันลงไป

“เขาต่างจากนายมากรู้ไหม?”

“.........” อัลเบิร์ตยังคงเงียบ ทั้งที่ใจมันเจ็บร้าวไปหมด

“ดูแลว่าที่คู่หมั้นฉันให้ดีล่ะ”

ทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นแล้วร่างสูงใหญ่ก็ขึ้นรถไป คงไม่ทันได้เห็น และไม่มีวันได้เห็น น้ำตาที่มันไม่เคยไหลตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้มันกำลังไหลเพราะคำพูดไม่กี่คำจากคนร้ายกาจที่ชื่ออเล็กซานเดอร์



“ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะอเล็กซ์” เจฟฟรี่เอ่ยขึ้นมาเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์เจฟเฟอร์สัน ทิ้งเพื่อนบอดีการ์ดเขาไว้เพียงเบื้องหลัง

“งั้นก็หุบปากไป” อเล็กซานเดอร์ว่า

เจฟฟรี่ถอนใจเฮือกกับการกวนของอีกฝ่ายที่เพียงแค่เขาเอ่ยปากก็สวนกลับมาในทันใด บอดีการ์ดหนุ่มเหลือบมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังแล้วกวนกลับ

“พอดีว่าเกิดอยากยุ่งขึ้นมากะทันหัน”

ตาสีฟ้าปรายมองคนพูด แต่เจฟฟรี่มีหรือจะกลัว เพราะเขามันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มั่นใจว่ารู้จักอเล็กซานเดอร์ดีพอสมควร รู้ว่าแค่ไหนถึงจะเกินเลยขอบเขตที่ไม่ควรล้อเล่น

“ไม่รู้คุณจะทำร้ายใจอัลเบิร์ตไปทำไม แต่ผมอยากบอกอะไรไว้อย่าง...”

บอดีการ์ดหนุ่มแกล้งเว้นจังหวะ พอเห็นสายตาขวางขุ่นของผู้เป็นนายที่มองจ้องผ่านกระจกมาเจฟฟรี่จึงได้พูดต่อ

“ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ อัลไปจากคุณแน่”

“ใครสนกัน?” อเล็กซานเดอร์ไม่ยี่หระ

“คุณไง” เจฟฟรี่ตอกกลับ

“เหอะ!”

มุมปากบอดีการ์ดหนุ่มยกยิ้มเมื่อผู้เป็นนายจบการต่อคำกับตนเพียงเท่านั้นแล้วหันออกไปมองนอกรถ พวกปากไม่ตรงกับใจ ปากอย่างใจอย่าง เมื่อเสียไปแล้วจะรู้สึก




โปรดติดตามตอนต่อไป



มาก่อนเวลาหนึ่งวัน เย้เย~

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์เช่นเคยค่ะ บวกและบวกให้ทุกท่าน :L2:

วันใหม่ค่ะ


อัลยังเจ็บได้อีกกกกกนี่มันยังน้อยไปปปปปปป ฮืออออออ คุณวันใหม่ใจร้าย
แงงงงงงง เค้าเปล่านะ :ling1:

จะมีสิ่งใดที่จะมาฉุดรั้งความเกลียดที่ชั้นมีต่ออเล็กซ์ได้บ้างนะ
ย๊ากก ว๊ากกก โว๊ยยยย :z6:
ส่งฮอลล์คูลไป! :m11:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2013 21:08:23 โดย wanmai »

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
 :beat: สำหรับอิตาอเล็กซ์
 :กอด1: สำหรับอัล
อย่าร้องน้า ปล่อยไอ้คนปากไม่ตรงกับใจไปเถอะ
สักวันจะรู้สึก  :fire:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านรอบนี้ด้วยความปวดใจหนักกว่าเดิม
ยังไงซะอัลก็น่าสงสารระดับสิบหัวกระโหลก

ฉบับปรับปรุงใหม่ เรียงเรื่องดีกว่าฉบับเดิมเยอะเลยค่ะ อะไรที่มันไม่เข้าที่เข้าทาง ก็หายไปเยอะ
เนื้อหามันกระชับขึ้นเยอะ และทำให้คนอ่านเจ็บเวลาอ่านหนักกว่าเดิมด้วยค่ะ T^T

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
มาก่อนหนึ่งวันแต่เข้ามาอ่านไม่ได้เพราะเน็ตเจ๊ง
ได้มาอ่านวันอาทิตย์อยู่ดี  :ling1:

ถ้าขาคู่ใส่อเลกซ์จะโดนเจฟฟรี่ต่อยไหมคะ หรือยืนมองกลอกตา ^^
(แต่ดิฉันจะเทคตัวไหวไหมนี่ 555)
อัลเอ้ย จะมีวันไหนไม่ถูกเขาทำร้ายจิตใจมั่งเนี่ย

เนื้อเรื่องกระชับ โยงไปถึงเรื่องของน้องแอลได้พอเหมาะ จำได้เป็นฉากๆค่ะ

รอว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป  :katai5:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
พิชญมาแล้ว
อเล็กซ์ใจร้ายไปนะ สงสารอัล มาอยู่กับเจ้มา ห๊ะ!!!! 5555

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
สงสารอัลมากมาย ยิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้อีตาอเล็กซ์  :m16: :m16:

ขอให้อัลรีบตัดสินใจไวๆเถอะ เชอะ................. :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
เจ็บๆหน่วงๆแบบนี้ของชอบเลย
อยากจะให้อัลหนีไปไกลๆ ซะใจดี อยากปากแข็งดีนัก! ชิ!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด