หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ  (อ่าน 195209 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แอร๊ยยยยย น้องพิชญของเจ้ โถวๆๆ มามะ เป่ากระหม่อมทีนึง
ถูกอีตาอเล็กซ์กระทำชำเรา? ไม่เป็นไรนะลูก ถือว่าให้ทาน ชิส์ๆๆๆ

ขอบคุณวันใหม่ค่ะ

ปูลู. ฮอลล์คูลก็เอาไม่อยู่ค่ะวันใหม่ สำหรับผู้ชายที่ชื่ออเล็กซ์ ฮึ่มๆๆ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
สงสารอัลอ่ะ วิคเตอร์ใจร้ายเกิน

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
นอกจากปากไม่ตรงกับใจ ศักดิ์ศรีค้ำคอ แล้วยัง...
ตอกหน้าด้วยคู่นอนอีกคน!!! ทำประชดเพื่อ!!?!
สงสารอัล แค่นี้ก็เจียมตัวจะแย่แล้ว กระซิกๆ
อยากเร่งเวลาให้อัลหายไปทันตา...จุดนี้อยากเห็นอเล็กซ์เฟลดิ่งดีพมากมาย หึหึ
นี่คือ...กำลังจะต่อกับเล่ห์พรางรักสินะคะ ยังจำได้ดีเพราะเป็นช่วงที่ชอบมากๆ
ตอนนั้นมันเจ็บสุดๆแทนอัลจริงๆ อยากรู้ต่อจากความเดิมมากค่ะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
อเล็กซ์นิสัยไม่ดีทำอัลร้องไห้ :angry2:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
อ่านแล้วคงต้องรบกวนวันใหม่พาคนสองคนไปหาหมอที
คนแรกก็พ่ออเล็กซ์ตัวดี คอเคล็ดเพราะทิฐิมันค้ำอยู่ :m16:
คนที่สองก็อัล เจ็บจนไม่รู้จะรักษาได้หรือเปล่า :m15:
วันใหม่ต้องซาดิสต์แน่เลย ชอบเห็นอเล็กซ์โดนด่าและโดนเกลียด :laugh:
แต่อย่ามารุณกรรมอัลของเรานะ แค่นี้ก็น่าสงสารจะแย่
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
ป.ล. มัวแต่ไปหลงเด็กเอ๊าะๆอย่างน้องต้นน้ำ ก็เลยมาช้า อย่าว่าเค้านะ :o8:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๔ ตอกย้ำซ้ำรักให้หักใจ



ท่าทีของอัลเบิร์ตที่ดูคล้ายมีเรื่องไม่สบายใจทำให้เกวนที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดต้องเอ่ยถามไถ่ อัลเบิร์ตรู้สึกขอบคุณในน้ำใจ แต่สิ่งที่เขากังวลมันคือเรื่องที่บอกใครไม่ได้ โดยเฉพาะเธอ

“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง” ชายหนุ่มยิ้มบาง เอ่ยบอกเธออย่างขอบคุณจากใจจริง

เกวนถอนใจเบา “ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ก็บอกนะคะ”

หญิงสาวยังอดห่วงไม่ได้ ถึงอย่างไรเธอกับอัลเบิร์ตก็รู้จักกันมาสักพักแล้ว ทั้งยังอยู่ด้วยกันตลอด แม้จะเป็นเพียงการทำหน้าที่บอดีการ์ดของอัลเบิร์ตก็ตาม แต่นั่นมันก็คงพอเป็นเหตุผลให้เธอห่วงใยคนใกล้ตัวได้ไม่ใช่หรือ

“มิสเจฟเฟอร์สันครับ” อัลเบิร์ตเอ่ยเรียกอีกฝ่าย “อีกสัปดาห์จะมีคนใหม่มาเปลี่ยนกับผมนะครับ”

“อะไรกัน ทำไมต้องให้คนอื่นมาด้วย” ใบหน้าสวยมุ่ยลง เธอเริ่มสนิทกับอัลเบิร์ตแล้วแท้ๆ คราวนี้เฟอร์ริงตันจะให้คนอื่นมาแทน เพราะอะไรไม่รู้ล่ะ แต่ที่รู้แน่ๆคือเธอต้องเริ่มปรับตัวใหม่กับการต้องมีคนแปลกหน้าคอยติดตามเธอ

“มันเป็น...”

“เป็นคำสั่งน่ะครับ” เกวนดักอย่างรู้ทัน อย่างนี้ทุกที

“ครับ” อัลเบิร์ตอมยิ้มเล็กน้อยอย่างยอมรับตามนั้น เกวนค้อนให้บอดีการ์ดหน้านิ่งที่ตอนนี้กำลังยิ้มขำเธอ

“เอาเถอะ พวกเขาทำอะไรไม่ปรึกษาฉันอยู่แล้วนี่นา”

“เพื่อความปลอดภัยของคุณเองนะครับ”

“รู้แล้ว” หญิงสาวเน้นเสียงแล้วถอนใจอีกเฮือก เหตุผลนี้เธอฟังมาตั้งกี่รอบแล้ว เพื่อความปลอดภัย

ร่างเพรียวผละไปเตรียมข้าวของ วันนี้เธอก็ยังต้องออกไปข้างนอก เพื่อไปยังสถานที่ที่เธอจะเปิดร้าน งานนี้ไม่มีนักออกแบบตกแต่งใดๆ เพราะอยากประหยัดต้นทุนเธอจึงจะเป็นคนออกแบบมันเอง โดยมีอัลเบิร์ตคอยช่วยเหลือ เรื่องนี้เกวนคิดเองทำเองทุกอย่าง ครอบครัวของเธอไม่มีใครเห็นดีด้วยสักคน มารดาของเธอก็ไม่สนับสนุนสักนิด ชอบพูดจากระทบกระเทียบในสิ่งที่เธอทำบ่อยๆ

“จะไปไหนอีกล่ะเกวน?”

ขณะที่กำลังให้คนช่วยยกของขึ้นรถอยู่มารดาของเกวนที่เดินออกมาเจอจึงเอ่ยถาม สายตาหญิงสูงวัยกวาดมอง ลูกสาวของนางไม่อยู่นิ่งจริงๆเชียว

“ไปตึก LC ค่ะแม่” หญิงสาวบอก มารดาของเธอทำตาโต

“อย่าบอกนะว่าลูกจะเปิดร้านบ้าบออะไรนั่น รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นกันพอดี” เจ้าหล่อนจีบปากจีบคอว่า

“อายทำไมคะ หนูทำงานสุจริต” หญิงสาวโต้มารดาน้ำเสียงเบื่อหน่าย

“ยังจะมาพูด ลูกกำลังจะหมั้นกับอเล็กซานเดอร์ ทายาทธุรกิจการเงินเฟอร์ริงตันใครๆเขาก็รู้ แล้วอยู่ๆจะไปทำงานงกๆเพื่ออะไร เขาได้ตราหน้ากันพอดีสิว่าลูกแม่ถูกทิ้ง แล้วอีกอย่างนะ ตระกูลเราเป็นผู้ดีเก่า ออกจะมั่งมีทำไมต้องทำงานชั้นต่ำแบบนั้น”

เกวนล่ะอยากบอกจริงว่าคำว่ามั่งมีที่มารดาใช้มันคือเรื่องของอดีต เพราะตอนนี้ครอบครัวของเธอใช้คำนี้ไม่ได้แล้ว แต่นั่นมันคงเป็นการหักหน้ามารดา เธอจึงยั้งปากเอาไว้แล้วตัดบท

“งานชั้นต่ำที่แม่ว่ามันไม่ได้เงินหรือคะ หนูว่าเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า”

“เกวน!”

“แม่คะ แม่ให้ครอบครัวเราพึ่งพาเฟอร์ริงตัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะหมดประโยชน์สำหรับเขาอย่างนั้นหรือ จะพึ่งเขาได้สักแค่ไหนกันเชียว ถ้าเราหมดประโยชน์เขาก็เขี่ยทิ้งเท่านั้น” หญิงสาวให้เหตุผล ให้มารดาของเธอมองในแง่ความเป็นจริง ไม่ใช่ปิดหูปิดตาเชื่อเฉพาะในสิ่งที่อยากเชื่อ

“มันไม่มีวันนั้นถ้าลูกเอาใจอเล็กซานเดอร์ให้มากๆเข้า เรายังมีข้อดีเด่นเยอะแยะ”

เบื่อที่จะฟังมารดาพูดกรอกหูเต็มที เกวนจึงได้พยักหน้าชวนอัลเบิร์ตให้ออกไปกัน อัลเบิร์ตค้อมตัวให้มารดาของหญิงสาวเมื่อเดินผ่านนางไป

“เกวน ฟังที่แม่พูดหรือเปล่า กลับมานี่นะ!”

เสียงหวีดของมารดาไม่ได้ทำให้เกวนหยุด หญิงสาวก้าวขึ้นรถ อัลเบิร์ตปิดประตูให้เธอก่อนประจำที่คนขับเหมือนเคย บอดีการ์ดหนุ่มเหลือบมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นหญิงสาวนั่งกุมขมับท่าทางเครียด

“ไม่เห็นเข้าใจสังคมคนรวยเลย” เธอเปรยขึ้นมา อัลเบิร์ตไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เธอคงอยากระบาย

เมื่อก่อนเกวนก็เป็นแบบนั้น คำว่าสังคมมันค้ำคอ การมีหน้ามีตา การแข่งขันกันในสังคม เรื่องเงินทองมาเป็นที่หนึ่ง อวดร่ำอวดรวย ในวันนี้ที่เธอคิดได้สิ่งเหล่านั้นมันกลับดูน่าสมเพช เข้าใจดีว่าครอบครัวของเธอจมไม่ลงเพราะเธอก็เคยเป็น แต่นับวันบุญเก่าที่บ้านเธอมีก็เริ่มหมดลงเรื่อยๆ ถ้าไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเลยแล้วรอแต่ความช่วยเหลือจากคนอื่นในขณะที่สมบัติร่อยหรอ สุดท้ายแล้วเรื่องภายในก็คงถูกเปิดเผยในไม่ช้า เธออยากทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ครอบครัวเธอยืนหยัดได้แม้จะเล็กน้อยก็ตาม

“ฉันก็รวยนี่เนอะ” เธอว่าอีก สีหน้าหม่นหมอง

เมื่อนึกถึงการหมั้นที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าอเล็กซานเดอร์เป็นที่หมายปองของใครหลายคน รวมทั้งเธอเองก็ด้วย แม้ใจหนึ่งจะยินดีที่ถูกเลือก แต่อีกใจก็หดหู่เมื่อรู้สึกว่าตนเองราวสิ่งของที่จะหยิบโยนให้ใครก็ได้

“คาร์ลคะ”

“ครับ”

“พาหนีหน่อยสิ”

“ครับ!?” อัลเบิร์ตตกใจ ขณะที่เกวนหัวเราะขบขัน

“ล้อเล่น ถึงอยากจะทำก็ทำไม่ได้หรอก... เฮ้อ ไร้สาระจังฉัน”

น้ำเสียงหญิงสาวซึมลง อัลเบิร์ตเองก็ลอบถอนใจด้วยความโล่งอกที่เธอเพียงล้อเล่น เกวนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว

“ฉันชอบเขานะ ... อเล็กซานเดอร์น่ะ”

ใจอัลเบิร์ตกระตุกแรง น้ำเสียงแผ่วหวิวของเกวนมันช่างบีบหัวใจจนรู้สึกเจ็บหน่วงในอก ชายหนุ่มนิ่งเงียบ เหมือนเรี่ยวแรงมันหดหาย คำถามมากมายเกิดขึ้นมาและจบลงที่คำว่าเขากำลังทำอะไรอยู่...?

สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันผิดพลาด มันไม่ได้มีแค่เขาที่เจ็บ หนำซ้ำมันยังทำให้ผู้หญิงคนนี้เจ็บยิ่งกว่าหากเธอรู้ความจริง ราวเป็นห่วงโซ่ของความเจ็บปวดที่จุดเริ่มต้นของห่วงโซ่นั้นอยู่ที่คนๆเดียว

อัลเบิร์ตผ่อนลมหายใจยาวเมื่อนิ่งคิดแล้วตัดสินใจ ห่วงโซ่ที่มันผูกทุกคนเอาไว้เขาจะต้องจบมัน แม้จะเป็นจุดเล็กๆในห่วงโซ่ไม่มีผลกระทบที่จะทำให้ห่วงนั้นกระเพื่อมไหวจนขาดสะบั้น แต่มันคงทำให้ความรู้สึกหนักหน่วงในใจนี้หายไปเสียที อาจดูขี้ขลาด คล้ายว่าหนีปัญหา แต่เขาอยากทำ อยากจบมันลงด้วยตนเอง


---------------------


ห้องนอนของพิชญในค่ำคืนหนึ่ง อเล็กซานเดอร์ออกจากห้องไปหลังตื่นขึ้นมากลางดึก เขาเผลอหลับในห้องของเด็กหนุ่มคนนี้ไปเสียได้ เมื่อเสียงประตูปิดลงพิชญก็ค่อยลืมตาขึ้นมา ภายใต้ความมืดสลัวมือเรียวกำผ้าห่มแน่น เจ็บใจตัวเองที่เสียท่าอีกแล้ว เสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งทำให้เด็กหนุ่มขว้างหมอนไปโดยไม่ดูว่าใครที่ไหนมา เขากำลังพาล อยากทำลายทุกสิ่งอย่างในราบหากทำได้

“ว๊าย!!”

เสียงร้องของผู้หญิงทำให้เด็กหนุ่มชะงัก มองร่างอวบอิ่มที่เดินนวยนาดเข้ามาด้วยความไม่ถูกชะตา ยิ่งอีกฝ่ายเปิดปากพูดพิชญยิ่งอยากหาอะไรไปอุดมัน ไม่มีคำไหนที่ฟังรื่นหูสักนิด มีแต่ถ้อยคำดูถูกถากถาง เด็กหนุ่มต่อปากต่อคำกับเจ้าหล่อนอยู่หลายยกก่อนจะไล่ออกจากห้อง ยังมีเสียงหวีดร้องแหลมเล็กจนปวดแก้วหูก่อนเจ้าของเสียงจะตึงตังออกไป เด็กหนุ่มถอนใจยาวก่อนทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าซุกหมอน

เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดจากริมฝีปากบาง ตัดพ้อคนที่ทำให้ชีวิตตนเองเป็นแบบนี้ ก่อนจะร้องตะโกนอย่างอัดอั้น กำหมัดทุบหมอนอย่างขัดเคือง แล้วนอนนิ่งๆอยู่อย่างนั้น ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมาอีกหน เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันกลับไปด่าผู้ที่เข้ามาใหม่ด้วยความหงุดหงิด แต่กลับต้องชะงัก เมื่อผู้ที่ก้าวเข้ามาคือชายสูงวัยผมแซมสีดอกเลากับบอดีการ์ดตัวใหญ่ยักษ์ เด็กหนุ่มนิ่งค้าง กลืนน้ำลายอย่างหวาดๆ ใครกันอีกล่ะนี่!???

“พิชญสินะ?”

น้ำเสียงทรงอำนาจในความรู้สึกเอ่ยถาม เจ้าของชื่อกะพริบตาปริบก่อนตอบรับด้วยความมึนงงปนหวาดหวั่น

“ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ลำบาก คงอยากกลับบ้านสินะ”

น้ำเสียงเดิมยังคงเอ่ยถามเขามา มันก็ใช่ที่เขาอยากกลับบ้าน แต่คุณลุงคนนี้จะพาเขากลับหรือ?

“ฉันจะส่งเธอกลับบ้าน... พร้อมค่าทำขวัญ”

พิชญออกจะดีใจกับประโยคแรก แต่ประโยคปิดท้ายกลับทำเขาคอแข็ง ค่าทำขวัญคืออะไร จะเอาเงินฟาดหัวกันหรือ? บุคคลตรงหน้าน่ากลัว แต่พิชญก็ยังแผลงฤทธิ์ไม่กลัวตาย

“ถ้าลุงจะเอาเงินฟาดหัวก็ไม่ต้อง! ลุงคงไม่รู้จักคำว่าเห็นอกเห็นใจผู้อื่นถึงได้มองว่าจะเอาเศษเงินฟาดหัวแล้วเรื่องก็จบ!”

บอดีการ์ดร่างยักษ์ขยับกาย พิชญผงะถอย แววตาหวาดหวั่นแต่ยังไม่ยอมลงให้ วิคเตอร์ยกมือห้ามคนของตนทำให้หนุ่มร่างยักษ์เหล่านั้นหยุดนิ่ง

“ฉันจะให้คนของฉันไปส่งเธอก็แล้วกัน” วิคเตอร์บอกเช่นนั้น ไม่ยกประเด็นที่เด็กหนุ่มด่าทอมาต่อยอด ชายชราเหลือบสายตามองด้านหลังก่อนเอ่ยเรียกใครอีกคนเข้ามา

“อัลเบิร์ต”

พิชญมองชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาเสริมอีกคน หัวคิ้วขมวดมุ่น เมื่ออีกฝ่ายเงยขึ้นมาสบตาเด็กหนุ่มก็ชะงัก แววตาที่มองมานั่นต้องการสื่ออะไร?

“ฝากจัดการพาเด็กคนนี้ไปส่งให้ถึงที่ด้วย”

วิคเตอร์ออกคำสั่ง อัลเบิร์ตรับคำและพร้อมจะทำตาม การที่วิคเตอร์เรียกตัวกลับและส่งคนอื่นไปทำหน้าที่ดูแลเกวนแทนก็เพื่อการณ์นี้เองหรือ ถึงจะคิดเช่นไรอัลเบิร์ตก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องเป็นเขาที่พาพิชญกลับไทย

หลังสั่งการแล้ววิคเตอร์และคนอื่นก็ออกจากห้องไป อัลเบิร์ตจึงบอกเด็กหนุ่มให้รีบเตรียมตัว เพราะจะต้องออกเดินทางกันภายในคืนนี้เลย หากชักช้าเรื่องรู้ถึงหูอเล็กซานเดอร์มันคงไม่ง่ายที่จะพาพิชญออกไปจากที่นี่

“คุณ”

พิชญเอ่ยเรียกอัลเบิร์ตที่เดินนำหน้าตนเองไปยังรถที่จอดรอท่าอยู่ อัลเบิร์ตเหลียวกลับมามองเด็กหนุ่ม ขณะที่ขายาวยังก้าวต่อโดยไม่หยุดรอ

“จริงๆผมกลับเองก็ได้นะ”

“ถ้าผมไม่พาไปคุณอาจจะออกจากที่นี่ไม่ได้ เพราะตอนที่คุณมาไม่ได้มีเอกสารอะไรยืนยันตัวตนของคุณสักอย่าง”

สิ่งที่อัลเบิร์ตพูดมานั่นก็ถูก เขาถูกลักพามานี่นะ ถ้าถูกตรวจคนเข้าเมืองคงถูกจับเข้าคุกกลับบ้านไม่ได้แน่ แค่คิดเด็กหนุ่มก็ซึมลงไป ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

“คุณไม่เป็นไรนะ?” อัลเบิร์ตเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของเด็กหนุ่มไม่สู้ดีนัก

“พวกเขาเห็นชีวิตคนๆหนึ่งเป็นอะไร นึกอยากจะจับตัวมาก็ทำ อยากทำร้ายยังไงก็ได้ อยากจะผลักไสก็ไม่เคยลังเล บ้าชะมัด”

พิชญน้ำตาคลอ รู้สึกเจ็บใจ เจ็บปวด ปนเปกันเต็มไปหมดจนอธิบายไม่ถูก อัลเบิร์ตมองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

“อเล็กซานเดอร์ ไอ้คนเลว...”

อัลเบิร์ตชะงักกับเสียงพึมพำของอีกฝ่าย มองพิชญใช้หลังมือปาดเช็ดน้ำตาแล้วสูดจมูกแรงๆ เด็กหนุ่มคนนี้เอ่ยถึงเพียงอเล็กซานเดอร์ แววตาที่อีกฝ่ายมีมันไม่ได้ต่างจากที่เขาเป็น อัลเบิร์ตนิ่งงันเมื่อคิดว่าเด็กพิชญคนนี้อาจจะมีใจกับอเล็กซานเดอร์ มุมปากบอดีการ์ดหนุ่มเหยียดออกเล็กน้อย รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมาครามครัน เขาต่างมีใจให้กันก็ดีแล้วนี่

“ผมขอโทษแทนพวกเขาด้วย” อัลเบิร์ตเอ่ยบอก อยากปลอบใจแต่ไม่รู้จะใช้ถ้อยคำไหนดี เพราะตอนนี้หัวใจตนเองยังปลอบประโลมให้มันหายเจ็บไม่ได้เลย

“คุณจะมาขอโทษแทนทำไม บ้ารึเปล่า!?” พิชญแหว “ถ้ากลัวผมจะเหมารวมว่าคุณเลวด้วยก็ไม่ต้อง เพราะผมแยกแยะออกว่าคุณมันแค่ลูกน้อง ต้องก้มหน้าทำตามหน้าที่ที่เขาสั่ง ตาผมไม่ได้บอดถึงจะมองไม่ออกว่าคุณไม่เต็มใจ!”

น้ำเสียงแว้ดๆนั่นอัลเบิร์ตเพียงแต่นิ่งมอง พอจะเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดอเล็กซานเดอร์ถึงได้สนใจเด็กคนนี้

“คุณเป็นเด็กดีนะ สักวันคงได้พบกับคนดีๆที่เหมาะสมกับคุณ”

คิ้วพิชญขมวดกับคำพูดของบอดีการ์ดตัวโต เขาไม่ชอบคนที่พูดจาทำนองนี้เลย แต่จะด่าก็ด่าไม่ออก ทำไมแววตาหมอนี่ถึงได้เศร้าหมองแบบนี้กันนะ? แต่ก็อย่างว่า... อยู่กับพวกคนแบบนั้นถ้ามีความสุขก็แปลกแล้ว พิชญได้แต่ค่อนแคะในใจ

หลังจากไปถึงสนามบินที่จอดเครื่องบินส่วนตัวของเฟอร์ริงตัน กัปตันรอทั้งคู่อยู่ก่อนแล้วเพราะได้รับคำสั่งด่วนจากวิคเตอร์ ทั้งสองคนขึ้นไปบนเครื่อง ต่างคนก็ต่างนั่งเงียบไม่ได้คุยอะไรกันอีก จมอยู่ในภวังค์ของแต่ละคนจนกระทั่งไปส่งพิชญถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ


-------------------


เมื่อกลับมาถึงเฟอร์ริงตัน อัลเบิร์ตก็ต้องพบศึกหนัก เมื่ออเล็กซานเดอร์ตามหาพิชญไม่พบและได้ไปเอาเรื่องกับบิดามาแล้วนั้นล่วงรู้ว่าคนที่พาพิชญไปจากเขาคืออัลเบิร์ต ชายหนุ่มหาที่ลงไม่ได้ความผิดทุกอย่างจึงถูกโยนมาให้บอดีการ์ดหน้าซื่ออีกหน

ร่างสูงเซถลาตามแรงเหวี่ยงของผู้เป็นนาย หันกลับมามองสีหน้าถมึงทึงของอีกฝ่ายแล้วอัลเบิร์ตก็พยายามทำใจดีสู้เสือ แม้เสือนั้นจะไม่คิดเมตตาเขาก็ตาม

“กล้าดียังไงถึงพาเขาไป!” เสียงคำรามก้องทำให้อัลเบิร์ตสะดุ้ง

“ผมก็แค่ทำตามคำสั่ง”

บอดีการ์ดหนุ่มกลั้นใจตอบ ไม่ได้จะปัดความผิดให้พ้นตัว หากแต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นต่างหาก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่คิดเช่นนั้น เมื่อริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มดูแคลน

“ไม่มีคำแก้ตัวที่มันดีกว่านี้แล้วใช่ไหม? บอกมาสิว่านายมันพวกขี้อิจฉา จนต้องขี่ม้าสามศอกไปฟ้องวิคเตอร์!!”

สีหน้าอัลเบิร์ตอึ้งกับข้อกล่าวหา เขานี่นะขี่ม้าสามศอกไปฟ้องวิคเตอร์!?

“เพราะนายรู้ไงอัล... นายรู้ว่าวิคเตอร์จะต้องให้พิชญไปถ้ารู้ว่าเขามีความสำคัญกับฉัน!”

ตอกย้ำกันเข้าไป เอาให้เจ็บมากกว่านี้อีก อัลเบิร์ตมองอีกฝ่ายอย่างตัดพ้อ “ผมไม่รู้ว่าตลอดมาคุณเห็นผมเป็นคนยังไง แต่ถ้าคุณจะคิดแบบนั้นผมคงไม่มีอะไรจะพูดอีก”

ร่างสูงจะก้าวหนี แต่อเล็กซานเดอร์กระชากกลับแล้วตะคอกดัง “อย่ามาประชดประชัน ฉันไม่ชอบ!”

“แล้วคิดว่าผมชอบหรือไง!”

“....!!” อเล็กซานเดอร์อึ้งไปเมื่ออัลเบิร์ตโต้กลับ

“พอได้แล้วอเล็กซ์! พอสักที!! จะทำร้ายผมไปถึงไหน มันเจ็บ เจ็บตรงนี้จะตายอยู่แล้ว...”

มือเรียวขยุ้มอกข้างซ้าย น้ำตาคลอคลองหน่วยตาอย่างอัดอั้น อเล็กซานเดอร์นิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูถือเป็นการหย่าศึก อัลเบิร์ตเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อพ่อบ้านมิลเลอร์เปิดประตูเข้ามา บอดีการ์ดหนุ่มสูดจมูกเบาๆ กะพริบตาเพื่อไล่ความรู้สึกที่มันเอ่อท้น พ่อบ้านมิลเลอร์มองทั้งสองคนเพียงผ่าน ก่อนรายงานเรื่องที่ตนเองได้รับคำสั่งมา

“คุณวิคเตอร์ให้อัลเบิร์ตไปพบครับ” บอกอเล็กซานเดอร์ไปเช่นนั้นเป็นการขออนุญาต

อเล็กซานเดอร์คลายมือที่จับแขนอีกฝ่ายไว้แล้วผินกายไปทางอื่น อัลเบิร์ตจึงได้เลี่ยงออกไป พ่อบ้านมิลเลอร์มองหลานชายที่เดินผ่านตนด้วยแววกังวล ค้อมศีรษะให้อเล็กซานเดอร์ก่อนออกจากห้องตามหลังหลานชายมา

“อัลเบิร์ต...”

“ผมไม่เป็นไรครับ”

ยังไม่ทันที่จะทักถามผู้เป็นหลานก็ตอบกลับมาเช่นนั้น พ่อบ้านมิลเลอร์ได้แต่มองตามอย่างห่วงใย ไม่รู้หรืออย่างไรอัลเบิร์ต ยิ่งบอกว่าไม่เป็นไรก็ยิ่งน่าห่วง เห็นเช่นนี้แล้วพ่อบ้านมิลเลอร์ก็ไม่รู้ว่าหลานชายของตนจะอดทนไปได้อีกนานแค่ไหน...


---------------


หน้าคฤหาสน์เฟอร์ริงตัน

เจ้านายหนุ่มกับบอดีการ์ดยืนเผชิญหน้า ดวงตาคนหนึ่งฉายแววบังคับแต่อีกคนกลับดื้อรั้นไม่ยอมทำตาม

“ขึ้นรถ”

คำสั่งจากผู้เป็นนายดังขึ้น แต่คนถูกสั่งกลับไม่ยอมขยับ จะให้เขาไปด้วยทำไมกัน จะไปตามพิชญแล้วจะให้เขาไปเพื่ออะไร คิดบ้างไหมว่าเขาจะเจ็บ หรือต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว บอดีการ์ดหนุ่มได้แต่ตัดพ้อเพียงในใจ เพราะเวลานี้ไม่ได้มีเพียงเขาและอเล็กซานเดอร์ รอบกายยังคงมีคนของเฟอร์ริงตันอยู่เต็มไปหมด

อเล็กซานเดอร์กำลังจะออกเดินทางไปเมืองไทยเพื่อตามเด็กหนุ่มคนนั้นกลับมาอยู่ใต้อาณัติ และเขาที่อยู่ในตำแหน่งบอดีการ์ดข้างกายจำต้องติดตามไปด้วย นั่นคือเหตุผลที่อเล็กซานเดอร์ให้มา อัลเบิร์ตไม่เถียงว่ามันเป็นเช่นนั้น เขาไม่มีสิทธิ์บ่ายเบี่ยงเมื่อมันเป็นหน้าที่ แต่เขาไม่อยากไป

ราวกับจ้องตาวัดใจ สุดท้ายแล้วอัลเบิร์ตก็ต้องทำตามคำสั่ง บอดีการ์ดหนุ่มยอมขึ้นรถไปสนามบินกับผู้เป็นนายพร้อมคนคุ้มกันอีกสามนายรวมทั้งเจฟฟรี่ด้วย ในเมื่อไม่สนใจว่าเขาจะเจ็บจะปวดหรืออะไร เขาก็จะไป อยากตอกย้ำตัวเองให้เจ็บหนักๆ มันจะได้เลิก...รัก...คนๆนี้เสียที



บนเครื่องบินส่วนตัว อเล็กซานเดอร์ได้แต่ปวดหัวกับท่าทีกระด้างกระเดื่องของบอดีการ์ดตน แม้ไม่พูดอะไรแต่เขาก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ยินยอม แล้วตอนนี้เขายังมาซ้ำให้มันยิ่งย่ำแย่ ไหนจะตามคนนั้นแล้วยังมาห่วงคนนี้ สิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั่นมันบ้าชัดๆ
เพราะอัลเบิร์ตยอมเขาถึงทำ

เพราะอัลเบิร์ตยอมเขาถึงเยียบย่ำ

โดยไม่นึกถึงว่าถ้าวันหนึ่งอัลเบิร์ตจะไม่ยอมขึ้นมา...

ดวงตาสีฟ้าหันมามองคนที่นั่งตัวตรงอยู่ข้างกาย คิ้วเข้มขมวดเมื่อนึกไปว่าวันที่อัลเบิร์ตจะไม่ยอม... ตอนนี้มันคงมาถึงแล้วกระมัง

มือหนาเอื้อมมาบีบมือ อัลเบิร์ตชะงัก เบือนสายตามามองมือที่กุมทับอยู่แล้วเงยมองหน้าคนทำที่ยังคงนิ่งเฉย บอดีการ์ดหนุ่มหลุบสายตาลงต่ำ สิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วจะไม่มีวันย้อนคืน...


-----------------

ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
บ้านพฤทธาการในเวลาต่อมา

อัลเบิร์ตมองอเล็กซานเดอร์ชักกะเย่อยื้อยุดกับพิชญด้วยสายตาว่างเปล่า อยากให้ความรู้สึกมันด้านชามากกว่านี้อีก แค่นี้มันยังน้อยไป เขาถึงได้ยังเจ็บอยู่

เพียงเครื่องลงจอดอเล็กซานเดอร์ก็ให้คนขับรถตรงมาที่นี่โดยมีเขาและเจฟฟรี่ติดตามมา ขณะที่ลูกน้องอีกส่วนไปรอที่โรงแรม การจะพาพิชญออกจากที่นี่กลับไม่ง่ายนัก เมื่อพี่ชายของเด็กหนุ่มมาพร้อมบุคคลสำคัญ พี่ชายของพิชญเอาตัวเข้าบังคนเป็นน้องเอาไว้ ดูท่าอเล็กซานเดอร์จะหัวเสียไม่น้อยเมื่อมีคนมาขวาง

“อเล็กซ์?”

น้ำเสียงทุ้มที่ดังมาจากอีกฝั่งทำให้ทุกคนหันไปมอง อัลเบิร์ตมองผู้มาใหม่ด้วยความคุ้นหน้า ก่อนจะเบือนสายตากลับมายังผู้เป็นนายที่หยุดทุกอย่างลงเพียงเพราะเจ้าของเสียงคนนั้นก้าวเข้ามา

อเล็กซานเดอร์มองตอบคนเรียกด้วยสีหน้าเรียบเฉย คนที่เข้ามาใหม่คืออลัน น้องชายของเขาเอง นี่เขาลืมไปได้อย่างไรว่าน้องชายต่างมารดาของเขากำลังคบหาอยู่กับลูกชายคนรองของพฤทธาการ หึ ช่างมาได้จังหวะเหมาะจริงๆ

“มาทำอะไรที่นี่?”

อีกฝ่ายเอ่ยถามอย่างแปลกใจ แต่กลับไม่มีคำตอบจากผู้เป็นพี่ชาย นอกเสียจากการเบือนสายตาไปมองพิชญที่ยืนอยู่ด้านหลังเด็กของอลัน พิชญเองก็มองตอบกลับมาอย่างไม่ยอมกัน

ชายหนุ่มจ้องพิชญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านพฤทธาการไปราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น อัลเบิร์ตและเจฟฟรี่ก้าวตามผู้เป็นนายออกไปเงียบๆเช่นกัน ทิ้งความสงสัยใคร่รู้ไว้ให้คนในบ้านหลังนั้นขบคิดกันต่อไป

ที่สุดแล้วอเล็กซานเดอร์ก็จำต้องล่าถอย เพราะไม่อยากดึงดันทำอะไรลงไปขณะที่น้องชายของตนเองยังอยู่ เมื่อกลับมาถึงที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งเขาก็ได้แต่หัวเสีย

ยิ่งรอเวลาอเล็กซานเดอร์ก็ยิ่งหงุดหงิด คนที่อยู่ด้วยตอนนี้ก็ทำตัวเป็นท่อนไม้ไร้ความรู้สึก ทุกอย่างมันน่าหงุดหงิดไปเสียทั้งหมด หลังจากเข้าไปอาบน้ำที่อัลเบิร์ตตระเตรียมไว้ให้อเล็กซานเดอร์ก็ตรงมาหาอีกฝ่ายที่กำลังจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ แขนแกร่งสวมกอดร่างบอดีการ์ดของตนเอาไว้จากด้านหลัง กดจมูกกับซอกคอของอีกฝ่าย อ้างับผิวเนื้อไวต่อสัมผัสแล้วดุนลิ้นชื้นให้พอหวามไหว เขาไม่ได้สัมผัสร่างกายนี้มานานแค่ไหนแล้ว เหตุไฉนเพียงแค่แตะต้องภายนอกก็รุ่มร้อนถึงเพียงนี้

ร่างสูงถูกหมุนกลับมารับจูบ รู้สึกกระหายรสสัมผัสนี้จนต้องตักตวงด้วยความเร่งร้อน อัลเบิร์ตขืนตัวเอาไว้ แม้ไม่ยินยอมแต่กลับหลีกหนีไม่ได้ ริมฝีปากหนากดซับจูบหนักหน่วง ละมาที่ลำคอแล้วขบเม้ม ร่างสูงถูกดันไปที่เตียง เพียงแผ่นหลังสัมผัสฟูกอัลเบิร์ตก็ดีดตัวลุก มือหนารีบกดไหล่ไม่ให้หนีไปไหนได้

“ดื้อเรอะ!” เสียงคำรามในลำคอมาพร้อมกับจุมพิตรสปะแล่ม เมื่อฟันกระทบจนอีกคนได้เลือด

“อเล็กซ์!... อเล็กซ์ ไม่...”

แม้จะห้ามปรามแต่อเล็กซานเดอร์ก็ยังปลุกปล้ำจะเอาอย่างใจ อัลเบิร์ตใช้แรงทั้งหมดที่มีเหวี่ยงอเล็กซานเดอร์ลงไปนอนด้านล่าง แต่กลับลุกหนีไม่ได้เมื่อแขนถูกดึงเอาไว้ทั้งสองข้าง ร่างสูงใหญ่ยกยิ้มเย้ยก่อนพลิกกลับให้เขาลงไปนอนจุกที่เดิมอีกหนพร้อมโน้มลงมาซุกไซ้ อัลเบิร์ตอ้าปากกัดไหล่หนาที่โผล่พ้นเสื้อคลุมอาบน้ำที่หลุดลุ่ยจากความชุลมุนเมื่อครู่ อเล็กซานเดอร์ร้องคำรามก่อนจะกัดคอเขาเป็นการตอบแทน มันเจ็บจนน้ำตาเล็ด

“ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอก”

คนพูดยิ้มอย่างเหนือกว่าเมื่อยกตัวขึ้นมามอง อัลเบิร์ตที่จำต้องปล่อยไหล่ของอีกฝ่ายเพราะเจ็บคอเม้มปากแน่น เมื่ออีกฝ่ายไร้หนทางสู้อเล็กซานเดอร์จึงลงมืออย่างย่ามใจ แผ่นอกและที่ลับตาถูกฝากรอยรักเอาไว้จนถ้วนทั่ว ก่อนกดแทรกตัวตนเข้าลึกล้ำ เมื่อเขาขยับโยกกายเสียงครางของคนใต้ร่างที่ถูกกักเก็บไว้ในลำคอทำให้อเล็กซานเดอร์อยากที่จะทำให้มันดังขึ้นเรื่อยๆจนเผลอตัวเผลอใจไปกับเกมรักของเขา แต่ยังไม่ทันยินดีกับชัยชนะของตัวเองให้ถึงที่สุดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัด พร้อมเสียงลูกน้องหน้าห้องที่รายงานว่าอเล็กซานเดอร์ แอล เฟอร์ริงตัน มาขอพบ

ร่างสูงใหญ่เดาะลิ้นขัดใจ ของอร่อยลอยอยู่ตรงหน้าแล้วกลับพลาดที่จะได้ชิมเสียนี่ มองอัลเบิร์ตที่เบือนหน้าหนีเขาแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ค่อยถอดถอนกาย อีกคนกัดปากนิ่วหน้าแล้วขยับตัวหนี เห็นแบบนั้นแล้วมันน่าจะซ้ำอีกสักที แต่เมื่อตอนนี้น้องชายต่างมารดามารอพบเขาก็จำต้องหยุดทุกอย่างไว้แล้วไปจัดการธุระให้เรียบร้อย ชายหนุ่มจับเสื้อคลุมมาสวมก่อนออกไปพบน้องชายที่ตนเองเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้

อัลเบิร์ตหนีบขาแน่น ร่างกายยังร้อนผ่าวแต่ใจกลับปวดร้าวเกินทน เมื่อสติสตังกลับมาครบก็ยิ่งรู้สึกแย่กับตนเองมากขึ้น ทั้งที่รู้ดีว่าอเล็กซานเดอร์มาที่นี่เพราะต้องการคนอื่น แต่เขาก็ยังไม่จำ ยังให้ทุกอย่างมันซ้ำรอยเดิมอยู่เรื่อย

มือเรียวจับต้นคอตนเองที่ถูกกัดจนเป็นรอยชัดเจน ลุกไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหาอะไรปกปิดต้นคอเพื่อออกไปเตรียมน้ำท่ารับแขก สายตาน้องชายของผู้เป็นนายมองมาที่เขาจนรู้สึกได้ แต่อีกฝ่ายก็คงแค่สงสัย เพราะไม่นานก็เลิกสนใจแล้วหันไปคุยกับอเล็กซานเดอร์ต่อไป

เรื่องที่อลันมาคุยด้วยทำให้จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ของอเล็กซานเดอร์ถูกพับเก็บชั่วคราว เพราะอีกฝ่ายสงสัยในการมาของเขา หากเป็นไปได้ไม่อยากมีปัญหากับน้องชายของตนเองสักเท่าไร


--------------


อเล็กซานเดอร์มองบอดีการ์ดคนสนิทที่เดินไปเดินมา หยิบนั่น ทำนี่ อยู่ภายในห้องพักแล้วถอนใจ คนนี้ก็เหมือนกัน ชักมีปัญหากับเขาเยอะขึ้นแล้วทุกวันนี้ หลังจากตอบโต้เขาที่เฟอร์ริงตัน อัลเบิร์ตก็เอาแต่เงียบ ไม่ว่าจะทำอะไร จะไม่พอใจแค่ไหนอัลเบิร์ตก็ยังนิ่งสนิท มันชวนอึดอัดแทบบ้า

บอดีการ์ดหน้าห้องเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาเมื่อได้รับอนุญาต พร้อมรายงานข่าวที่ทำให้อเล็กซานเดอร์ประหลาดใจ บิดาของเขากำลังจะเดินทางมาที่นี่ ชายหนุ่มนึกไม่ถึงว่าวิคเตอร์ เฟอร์ริงตันจะลงมาจัดการกับเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นว่าลูกชายจะเลี้ยงดูเบี้ยขัดดอกสักคน ท่าทางเด็กหนุ่มคนนั้นจะไม่ธรรมดาเสียกระมัง

เจฟฟรี่เข้ามาในห้อง บอดีการ์ดที่เข้ามารายงานสถานการณ์จึงเลี่ยงออกไป บอดีการ์ดหนุ่มเอ่ยกับผู้เป็นนาย “รู้แล้วสินะ”

“อืม” อเล็กซานเดอร์ตอบกลับเพียงสั้นๆอย่างรู้กัน เจฟฟรี่จึงเอ่ยต่อ

“ท่านมีคำสั่ง”

“หึ ตัวยังมาไม่ถึง คำสั่งมาแล้ว” อเล็กซานเดอร์ว่าเสียงหยัน

“บ้านพักชั่วคราว” เจฟฟรี่บอกแล้วส่งกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆให้ “ท่านพักที่นี่ อยากให้คุณไปอยู่ที่เดียวกัน”

กระดาษบนโต๊ะกระจกไม่ได้รับความสนใจจากอเล็กซานเดอร์ ชายหนุ่มถอนใจก่อนเรียกอีกคน

“อัล”

อัลเบิร์ตหันมาตามเสียงเรียก ก้าวยาวๆมาหาโดยไม่ต้องมีคำสั่งซ้ำ ร่างสูงหยุดอยู่ต่อหน้าผู้เป็นนายเพื่อรอคำสั่ง มือหนาเอื้อมหยิบกระดาษที่เจฟฟรี่นำมาให้เมื่อครู่ส่งให้อัลเบิร์ต

“เก็บของ”

คำสั่งเพียงสั้นๆอัลเบิร์ตก็ทำตามอย่างเร็วไว เพียงไม่นานก็พร้อมออกเดินทางไปยังบ้านพักที่วิคเตอร์เช่าเอาไว้ พวกเขาไปถึงก่อนที่วิคเตอร์จะมาได้ไม่นาน เมื่อบิดามาถึงอเล็กซานเดอร์ก็มองด้วยแววหน่ายใจ

“มาถึงนานแล้วหรือคะอเล็กซ์?”

นาตาเซียเอ่ยถาม น้ำเสียงของเธอไม่ว่าจะฟังทีไรชายหนุ่มก็ไม่นึกชอบใจ จะว่าเขามีอคติก็ไม่ผิดนัก

“วิคเตอร์” อเล็กซานเดอร์เอ่ยเรียกบิดา ปรายมองนาตาเซียที่เกาะแขนผู้เป็นบิดาราวตุ๊กแกอย่างมีคำถาม

“เขาอยากตามมาด้วย” เอ่ยตอบลูกชายไปแบบนั้น คนเป็นลูกพยักหน้ารับรู้ก่อนเดินเลี่ยงไป ปัญหาส่วนตัวของบิดาเขาไม่อยากยุ่งด้วย

เมื่ออเล็กซานเดอร์เลี่ยงออกไปแล้วนาตาเซียก็หันมาฉอเลาะเอาอกเอาใจสามีเฒ่าของตนเอง ถึงเธอจะถูกใจอเล็ซานเดอร์ แต่วิคเตอร์ก็ยังเป็นบ่อเงินบ่อทองที่มั่นคงของเธออยู่

วิคเตอร์เองก็รู้ดีว่าภรรยาสาวของตนนั้นคิดหวังอะไร หากเพียงแต่เขาถือว่าต่างมีประโยชน์ร่วมกัน เขาได้ความสุขทางกาย ขณะที่เธอได้ทรัพย์สินเงินทองและหน้าตาทางสังคมเป็นสิ่งตอบแทนไป เรื่องที่เธอหมายตาอเล็กซานเดอร์นั้นเขาจะทำไม่รู้ไม่เห็น เพราะถึงอย่างไรเสียวิคเตอร์ก็เชื่อว่าต่อให้นาตาเซียอยากเสนอ แต่อเล็กซานเดอร์จะไม่มีทางสนอง หากนาตาเซียยังไม่ทำอะไรที่ล้ำเส้นมากกว่าที่เป็นอยู่เขาก็ยังให้เธออยู่ข้างกายได้จนกว่าเธอจะอยากจากไปเอง แต่ถ้าวันใดที่เธอหลงระเริงไปจนกู่ไม่กลับเขาก็พร้อมจะหยิบยื่นความโหดร้ายให้เธอเช่นกัน


---------------


โอกาสที่จะได้ตัวปฏิญญา พฤทธาการมาโดยไม่ให้ลูกชายคนเล็กของเขารู้ดูจะเป็นการยากสำหรับวิคเตอร์ เมื่ออลันให้คนติดตามเด็กคนนั้น แต่วิคเตอร์ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ หากเรื่องที่เขาทำจะรู้ถึงหูลูกชายเขาก็คงต้องแลก ชายชราสั่งคนของตนให้ไปพาเด็กปฏิญญามาพบ แต่ก่อนที่การนั้นจะสำเร็จกลับมีคนตัดหน้าไปเสียก่อน เมื่อปฏิญญาถูกลักพาตัว เรื่องดังกล่าวถูกรายงานให้วิคเตอร์ทราบในเวลาต่อมา

และเป็นที่แน่นอนว่าอลันต้องเข้าไปช่วยคนรักของตนเอง วิคเตอร์ออกจะเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาครั้งนี้มีความเสี่ยงต่อชีวิตลูกชายเขาเป็นยิ่งนัก ชายชราจึงอยู่เฉยไม่ได้ สั่งให้อเล็กซานเดอร์พาคนไปช่วยน้องโดยเร่งด่วน อเล็กซานเดอร์รับคำสั่งนั้น ชายหนุ่มเตรียมคนพร้อมสรรพ ป้องกันภัยทุกอย่างแน่นหนา เฟอร์ริงตันจะไม่มีทางสูญเสีย

อัลเบิร์ตไม่ได้รับอนุญาตให้ตามไป มีเพียงเจฟฟรี่และลูกน้องคนอื่นเท่านั้น ไม่มีคำอธิบายจากผู้เป็นนาย มีเพียงคำสั่งที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด เมื่อถึงเวลาที่ต้องปฏิบัติการ อัลเบิร์ตที่ตามออกมาส่งก็เอ่ยเรียกคนที่กำลังจะไปขึ้นรถเอาไว้

“อเล็กซ์”

เจ้าของชื่อชะงักก่อนจะหันกลับมามองคนเรียก ความเครียดขึ้งและกดดันจากสิ่งที่กำลังจะไปทำ ทำให้อารมณ์ของอเล็กซานเดอร์ไม่นิ่งนัก

“ระวังตัวด้วย”

ถ้อยคำแสดงความห่วงใยจากบอดีการ์ดหนุ่มทำให้อเล็กซานเดอร์มองอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะเอ่ยเรียกให้เดินมาหา “มานี่ซิ”

อัลเบิร์ตเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายงงๆ แขนแกร่งตวัดคว้าร่างบอดีการ์ดหนุ่มมาชิด ก่อนกดจูบรวดเร็ว อัลเบิร์ตดันตัวอีกฝ่ายไว้แต่ริมฝีปากที่บดจูบลงมากลับตามติดปากเขา บังคับให้รับจูบรุนแรงนั้นจนได้

“ฉันไม่ยอมเป็นอะไรง่ายๆหรอก จะอยู่ยงคงกระพันให้นายสาปแช่งฉันทุกวัน”

อเล็กซานเดอร์ถอนจูบ เอ่ยบอกอัลเบิร์ตทีเล่นทีจริง กดจูบปากเจ่อๆนั่นเสียอีกทีก่อนไป ความสัมพันธ์แสนคลุมเครือที่ทั้งคู่มีต่อกัน ในบางมุมที่อเล็กซานเดอร์แสดงออกให้เห็นมันก็ทำให้อัลเบิร์ตไม่อยากที่จะจากไป แต่การที่ยังอยู่ข้างกายคนๆนี้ทั้งที่เขาไม่คิดที่จะเหลียวกลับมามองนั้นมันก็เจ็บปวดเกินทน ใจของเขาที่มันเป็นเพียงก้อนเนื้อก้อนเล็กๆ ถูกกระทบกระแทกทุกวันมันก็เจ็บ ก็ช้ำ และอาจจะหยุดเต้นในสักวันหนึ่งก็เป็นได้


ในที่สุดแล้วการไปช่วยเหลือน้องชายของอเล็กซานเดอร์ในครั้งนี้ก็สำเร็จเสร็จสิ้นแต่โดยดี ชายหนุ่มกลับมาที่บ้านพักหลังใหญ่อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ผู้ที่จ้องจะทำร้ายน้องของเขานั้นมีปัญหาทางจิต อยากจะปลิดชีวิตอลันจนยอมแม้กระทั่งตายไปพร้อมกัน โดยวางระเบิดเอาไว้รอบบ้าน เหตุเพราะแค้นฝังใจว่าอลันเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้ครอบครัวของฝ่ายนั้นต้องล้มละลายจนผู้เป็นบิดา เสาหลักของครอบครัวต้องฆ่าตัวตายและไม่นานจากนั้นมารดาก็ตรอมใจไปตามกัน ทั้งที่อลันใจดีกว่าเขามาก หากเป็นเขามันคงไม่รอดมาจนทุกวันนี้แน่ อเล็กซานเดอร์อยากจะยิงมันผู้นั้นเสียให้พรุนไปทั้งร่าง กล้าดีคิดมาต่อกรกับเฟอร์ริงตันโดยไม่มองเงาหัวตนเอง

และเมื่อได้เห็นในสิ่งที่น้องชายทำเพื่อคนที่รักแล้วอเล็กซานเดอร์ก็เกิดความสงสัย เด็กคนนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด ไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาทางฝ่ายไหนทั้งนั้น แต่อลันกลับเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง อเล็กซานเดอร์พลันฉุกคิดขึ้นมาว่า...หากเป็นเขา เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้บ้าง... เขาจะยอมเสี่ยงเพื่อใครไหม...?


จุดประสงค์ในการมาไทยในครั้งนี้นั้นอเล็กซานเดอร์ยังไม่ลืม เรื่องพิชญที่ปล่อยไว้จนเวลาผ่านล่วงเลยมาโดยไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างนั้น ในวันนี้เขาก็ได้มีคำสั่งออกมาหลังจากให้คนตามเฝ้าดูเด็กหนุ่มมาตลอด

หน้าบริษัทของน้องชายอย่างอลัน รถยนต์ติดฟิล์มดำจอดอยู่ที่มุมหนึ่งเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย สายตาคมมองทางเข้าออกบริษัทนิ่ง เมื่อเห็นเป้าหมายเดินออกมามุมปากหนาก็ยกยิ้ม คนของเฟอร์ริงตันเข้าประชิดตัวเป้าหมายในทันที การปฏิบัติงานใช้เวลาเพียงไม่นานเมื่อที่สุดแล้วเด็กหนุ่มคนนั้นก็มาอยู่ในกำมือของเขา

พิชญถูกพาตัวขึ้นมาบนรถ ศีรษะเด็กหนุ่มวางพักอยู่บนตักของอเล็กซานเดอร์ที่นั่งนิ่งสีหน้าเรียบเฉย เบาะนั่งด้านหน้าคือบอดีการ์ดข้างกายของเขาทั้งสองนาย เจฟฟรี่รับหน้าที่ขับรถ ในขณะที่อัลเบิร์ตนั่งเงียบอยู่ข้างกัน

ดวงตาสีอ่อนเหลือบมองผ่านกระจกมองหลัง สบเข้ากับตาสีฟ้าของผู้เป็นนายที่คล้ายว่าจะจ้องอยู่ก่อนแล้วทำให้อัลเบิร์ตเผลอหลบสายตา

“มีอะไร?” อเล็กซานเดอร์เอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ พลอยทำให้เจฟฟรี่ชะงักเมื่อนึกไปว่าผู้เป็นนายเอ่ยถามตน

“เปล่าครับ”

เสียงตอบแสนเบาจากเพื่อนบอดีการ์ดที่นั่งข้างกันทำให้เจฟฟรี่ละความสนใจจากคำถามดังกล่าว หันเหความสนใจไปอยู่ที่การขับรถดังเดิม

“เปล่าก็อย่าหันมามองบ่อย มันน่ารำคาญ”

สิ้นคำสั่งอัลเบิร์ตที่เผลอเหลือบมองไปด้านหลังก็มองตรงไปด้านหน้าไม่เหลือบแลกลับไปอีก บรรยากาศภายในรถแสนเงียบงันและกดดันจนแทบหายใจไม่ออก แต่เจฟฟรี่ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ก็ดูจะชินชากับมันเสียแล้ว

อเล็กซานเดอร์มองกระจก สายตาของอีกฝ่ายที่เหลือบขึ้นมามองเมื่อครู่หากเขาไม่มองอยู่ก่อนคงไม่ทันได้เห็น ชายหนุ่มเบือนสายตาไปมองนอกรถ เริ่มไม่เข้าใจตนเองว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

เมื่อรถยนต์แล่นเข้ามาจอดลงที่หน้าบ้านพักอเล็กซานเดอร์ก็ก้าวลงมาจากรถ พร้อมกับที่อัลเบิร์ตอ้อมมาอีกด้านเพื่อที่จะเข้าไปช้อนอุ้มพิชญลงมา แต่อเล็กซานเดอร์กลับก้าวเข้ามาแทรกทำให้อัลเบิร์ตชะงัก ผู้เป็นนายปรายตามองก่อนเข้าช้อนตัวพิชญอุ้มลงจากรถเสียเอง อัลเบิร์ตก้าวหลบเมื่ออเล็กซานเดอร์พาพิชญเดินผ่านหน้าตนเองไป สีหน้าบอดีการ์ดหนุ่มยังคงฉาบทาด้วยความเรียบเฉย ก่อนก้าวตามผู้เป็นนายเข้าไปในบ้านพักหลังใหญ่นั้น

พิชญถูกพามายังห้องนอนห้องหนึ่งภายในบ้าน ชายหนุ่มวางร่างแบบบางที่ตนเองอุ้มมาลงบนที่นอนอย่างเบามือ กิริยาท่าทางเช่นนั้นทำให้คนที่ตามเข้ามาชะงักงัน อัลเบิร์ตไม่เคยเห็นอเล็กซานเดอร์แสดงออกกับใครเช่นนี้มาก่อน เขาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้อง มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหน่วงที่มันถ่วงอยู่ภายในอก

“จะยืนมองอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมอัลเบิร์ต หรือต้องให้ฉันบอกถึงจะรู้ว่าควรอยู่ตรงไหนเวลาฉันมีธุระกับคนอื่น?”

อัลเบิร์ตหน้าม้านกับคำพูดของผู้เป็นนาย เจ็บจนพูดไม่ออก บอดีการ์ดหนุ่มค้อมศีรษะเล็กน้อยก่อนก้าวถอยหลังแล้วหมุนตัวกลับออกจากห้องไป เสียงปิดประตูลงตามหลังแผ่วเบา ดวงตาสีน้ำทะเลไม่ได้มองตาม แต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกคนออกไปจากห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สีหน้าอเล็กซานเดอร์เครียดเคร่งจนทำให้บรรยากาศกดดันกระจายไปทั่วทั้งห้อง

‘ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ อัลไปจากคุณแน่’

เสียงเจฟฟรี่ดังแทรกเข้ามาในห้วงความคิด มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะลุกขึ้นแล้วก้าวเร็วๆไปยังประตูห้อง กระชากเปิดมันออกแล้วชะงักเมื่อเห็นเจฟฟรี่ยืนอยู่ตรงนั้นแทนที่จะเป็นอัลเบิร์ต อีกฝ่ายมองเขางงๆ เลิกคิ้วเชิงถาม แต่นอกจากจะไม่อธิบายอะไรแล้วอเล็กซานเดอร์กลับปิดประตูลงปังใหญ่ เจฟฟรี่ทำเสียงประหลาดในลำคอ ก่อนจะฝากลูกน้องของตนให้เฝ้าห้องไว้แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

อเล็กซานเดอร์กลับเข้ามาในห้องด้วยความว้าวุ่นที่เกิดขึ้นไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด สายตามองเด็กหนุ่มบนเตียงแล้วนิ่งคิด เขารู้สึกอย่างไรกับเด็กคนนี้ แล้วคนที่เพิ่งก้าวออกจากห้องไปนั้นเล่า ความรู้สึกที่มีให้มันคืออะไร ทุกๆครั้งที่อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาบางอย่างมันทำให้ความตั้งใจของเขาคลอนแคลนเหลือเกิน สายตาที่เขามักรู้สึกได้เสมอว่ามองมาที่เขาตลอด สายตาที่เต็มไปด้วยแววตัดพ้อ ผิดหวัง เสียใจ และทุกๆความรู้สึกด้านลบ แต่นั่น คนที่ทำให้มันเกิดขึ้นก็คือตัวเขาเองมิใช่หรือ

ถ้าถามว่าสนใจไหม ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่สน แต่ไม่เคยทำให้มันดีขึ้น มีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงบนเตียง มือหนาเสยผมตนเองแรงๆ มองพิชญที่ยังไม่ฟื้นคืนสติแล้วถอนใจหนักหน่วงด้วยคิดไม่ตก


หน้าประตูห้องทำงานภายในบ้านพักของวิคเตอร์ มืออัลเบิร์ตยังยกค้างไม่เคาะมันลงไป บอดีการ์ดหนุ่มยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น นิ่ง... นาน... ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าและแววตาฉายแววเด็ดเดี่ยว การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด เขาจะก้าวจากไป จะไม่ย้อนกลับมา ไม่กลับมา...




โปรดติดตามตอนต่อไป




ฮูเร่~ มาอย่างไวเพราะรีไรท์ของเดิม กร๊ากกก :laugh:

ขอบคุณทุกๆท่านที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ จัดบวกไปทุกบวก :L2:

ตอนนี้มันดูเป็นการเล่าเรื่องแบบย้อนความในเล่ห์พรางรักเลยเนอะ ตอนหน้าคงจะมีอะไรที่แปลกใหม่มากกว่านี้แล้วล่ะ ช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกันหมดลงแล้ว //ปาดเหงื่อ :try2:

พบกันใหม่ตอนหน้า...วันไหนไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้าเสร็จไวก็อัพไวเนอะ^^

วันใหม่ค่ะ


อ่านรอบนี้ด้วยความปวดใจหนักกว่าเดิม
ยังไงซะอัลก็น่าสงสารระดับสิบหัวกระโหลก

ฉบับปรับปรุงใหม่ เรียงเรื่องดีกว่าฉบับเดิมเยอะเลยค่ะ อะไรที่มันไม่เข้าที่เข้าทาง ก็หายไปเยอะ
เนื้อหามันกระชับขึ้นเยอะ และทำให้คนอ่านเจ็บเวลาอ่านหนักกว่าเดิมด้วยค่ะ T^T
ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ขอบคุณที่อินไปกับเราค่ะ ใหม่ยังแอบกังวลว่ามันจะไม่ต่อเนื่องกัน :monkeysad:

อ่านแล้วคงต้องรบกวนวันใหม่พาคนสองคนไปหาหมอที
คนแรกก็พ่ออเล็กซ์ตัวดี คอเคล็ดเพราะทิฐิมันค้ำอยู่ :m16:
คนที่สองก็อัล เจ็บจนไม่รู้จะรักษาได้หรือเปล่า :m15:
วันใหม่ต้องซาดิสต์แน่เลย ชอบเห็นอเล็กซ์โดนด่าและโดนเกลียด :laugh:
แต่อย่ามารุณกรรมอัลของเรานะ แค่นี้ก็น่าสงสารจะแย่
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
ป.ล. มัวแต่ไปหลงเด็กเอ๊าะๆอย่างน้องต้นน้ำ ก็เลยมาช้า อย่าว่าเค้านะ :o8:

เห็นพี่ greensnake บอกให้พาไปหาหมอ แอบตกใจ นึกว่าจะให้พาเฮียไปโรงพยาบาลบ้า กร๊ากก

ปล.ด้วยคน55555 สำหรับท่านที่รอน้องต้นน้ำอยู่คงอีกสักพักนะคะ ไว้ให้น้องตองที่เขียนร่วมกันกับใหม่ว่างก่อนเน้อ ช่วงนี้น้องกำลังสอบอยู่ ถ้าน้องปิดเทอมแล้วเราคงได้เจอน้องต้นน้ำบ่อยขึ้นค่ะ :D

ปล.อีกที ฮอลล์คูลเอาไม่อยู่ รับเย็นเย็นเพิ่มไหมคะ? >w<b
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2013 21:12:06 โดย wanmai »

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
หนีเลย หนีเลย หนีเลย  :ped149:
หนีไปให้ไกลๆเลยอัล อย่าให้อเล็กซ์มันหาเจอ  :m16:
จะได้สำนึกซะบ้าง ว่าเวลาไม่มีอัลอยู่ มันจะรู้สึกยังไง  :3125:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
โอ้ย น้ำตาซึมอ่ะ สงสารอัลสุดๆ

จับอเลกซ์เบิ้ดกะโหลกสักทีจะตาสว่างไหมเนี่ย!!

ตัดใจเถอะอัล ให้อเลกซ์รับรู้รสการสูญเสียบ้าง เนอะ  :katai1:

exoplanet

  • บุคคลทั่วไป
สงสาร อัล อ่ะ อเล็ก ใจร้ายไปแล้วนะ
เชียให้อัลไปไกลๆจากอเล็กเลย หน่วงสุดๆน้ำตาไหล :sad4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
มองแล้วฉบับใหม่อเล็กซ์เลวกว่าเดิมนะเนี่ย
อัลเองก็น่าสงสารกว่าเดิม ยิ่งอ่านยิ่งอยากเอารองเท้าปาหน้าอเล็กซ์ T^T

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
โอ๊ย ชีวิตอีเย็น(อัล) กับท่านขุน(อเล็กซ์)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ioohja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ตอนนี้ รู้สึกเจ็บราวกับเป็นอัลซะเองเลย :m15:

อัลทนได้สุดๆแล้วแหละ ไปพักเถอะ หาอะไรทำ :เฮ้อ:

เจ็บมากเลยค่ะตอนนี้ อเล็กซ์โลเลชอบน้องพิชญ์ก็อยู่กะน้องไป

ไม่ต้องมายุ่งให้อัลปวดใจเล่นอีกนะ เจ็บแทนอัลเฟ่ย :a5:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
และแล้วอัลก็เลือกที่จะไปแล้วสินะ
เตรียมหัวเราะเยาะอเล็กซ์

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
หาสามีใหม่ให้อัลหน่อย คนเก่ามันไม่ได้เรื่อง

ออฟไลน์ WoonMyuk

  • (*ФωФ)ゞเมื่อความแกร๊งบังเกิด เสียงกระป๋องดังแป๊งก็ตามมา☂
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อ่านแล้วหน่วงแท้  :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:
ขอพระรองแสนดีซักคนไว้ปลอบใจอัลได้มั้ยคะ :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ทำไมมันเจ็บปวดไปซะทุกครั้ง ที่อเล็กซ์กับอัลอยู่ร่วมซีนกัน
แล้วเด็กพิชญก็ช่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาไปซะทุกเรื่องเลย
จบเรื่องนู้นชอบขึ้นมานิดนึง พอมาเรื่องนี้ทำกราฟตัวเองตกอีกแล้ว แง่งๆ
แล้วทำไมจะต้องมาหลงอเล็กซ์ไปซะทุกคนด้วยเนี่ย หมั่นมาก ลงแส้หนักๆฺนะคะคุณวันใหม่
ชอบมาก แต่แน่นอกใจถลอกแทนอัล แล้วก็ดันยิ้มไปด้วยเพราะอ่านสนุก เอิ๊กๆ บ้าไปแล้ว
ไปซะอัล(แบบชั่วคราว เข้าใจนะ) ทำถูกแล้ว ปล่อยทั้งคู่ไปสู่ประตูสวรรค์(มั้ง) กระซิกๆ
//รออ่านต่อนะคะ มาอัพไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวกันเลย ...วันนี้รู้สึกจะอินไปหน่อยแฮะเรา อิอิ

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
โอยยย อ่านแล้วก็ยังร้องไห้ไปกับอัลอยู่ดี :monkeysad:
เจ็บหนักๆทีเดียวมันจะได้ตัดใจได้ง่ายขึ้นล่ะมั้งนะ
นึกถึงตอนหน้าแล้วสะใจชะมัด หอบผ้าตามอัลไปดีกว่า
ปล่อยให้เจ้าโคแก่มันเคี้ยวหญ้าอ่อนไปเถอะเนาะอัล
ไม่อยากกล่าวถึงอเล็กซ์ เพราะมันทำให้เราปรี๊ด :m16:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า

ออฟไลน์ neruko07

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ๊ากกกกก อเล็กซ์อะ  :m15:
ใจร้ายกะอัลของเค้า (?)
น่าติดตามมากๆ สู้ๆ นะคะคนเขียน ><

ออฟไลน์ leknoey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก

ตอนที่ ๕ ทางแยก


ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธร์ว

อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาไม่นานในการมาถึง หลังจากได้รู้ว่าบอดีการ์ดของตนหนีกลับประเทศพร้อมบิดา ชายหนุ่มตรงดิ่งออกจากสนามบินทันทีไม่มีการรอช้า หากช้ากว่านี้แม้สักนิดบอดีการ์ดข้างกายของเขาอาจหนีไปไกลแล้วก็เป็นได้ ร่างสูงใหญ่กับบรรยากาศอึมครึมที่โอบล้อม รายรอบไปด้วยบอดีการ์ดตัวใหญ่ยักษ์ที่สีหน้าเรียบเฉยไม่แพ้กันเรียกสายตาผู้คนในสนามบินให้หันมามองได้เป็นอย่างดี ก้าวเดินของทุกคนรีบเร่งให้ทันใจนายที่เวลานี้มันล้ำหน้าไปไกลถึงคฤหาสน์เฟอร์ริงตันแล้ว

หน้าสนามบิน อัลเบิร์ตมาถึงในเวลาไล่เลี่ย ขณะที่ชายหนุ่มลงจากรถมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบย่อมบนบ่า อเล็กซานเดอร์ก็กำลังจะไปขึ้นรถที่อยู่อีกฝั่งเช่นกัน แต่แค่เพียงเห็นด้วยหางตา ร่างสูงใหญ่ก็หยุดกึก พลอยทำให้บอดีการ์ดรอบกายตั้งท่าระวังภัยตามไปด้วย อเล็กซานเดอร์นิ่งมองจนแน่ใจ ขาแกร่งก็ก้าวตามไปอย่างไม่รอช้า ใจเขาเต้นกระหน่ำจนเจ็บหนึบ

ฝั่งผู้โดยสารขาออก อัลเบิร์ตที่จัดการเรื่องเอกสารอะไรเรียบร้อยก็ไปหาที่นั่งรอเวลาเครื่องออก ก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้เสียด้วยซ้ำก็มีเงาร่างสูงใหญ่ทอดมาทาบทับ อัลเบิร์ตเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีอ่อนฉายแววตกใจเมื่อเห็นว่าอเล็กซานเดอร์มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าด้วยอาการหอบเหนื่อย อัลเบิร์ตนิ่งอึ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว อีกฝ่ายก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าแขนเขาแล้วดึงให้ลุกขึ้นมา อัลเบิร์ตยึดยื้อไว้ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลฉายแววดุ มันตาวาวโรจน์ขึ้นมาเมื่อเจ้าของตะคอกดัง

“คิดจะหนีไปไหน!?”

“ผมไม่ใช่คนของเฟอร์ริงตันแล้ว” อัลเบิร์ตโต้กลับ ไม่ตอบคำถามแรกที่อีกฝ่ายตะคอกถามมา

“หึ อย่างนี้ก็ยิ่งดี... มานี่!” ริมฝีปากหยักยิ้มเหยียด กระชากอัลเบิร์ตลากติดมือมา ไม่สนใครหน้าไหนจะหันมามองแม้สักนิด

“อเล็กซ์ อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” อดีตบอดีการ์ดเอ่ยประท้วงเสียงตื่น เวลานี้อเล็กซานเดอร์ดูน่ากลัว เขากลัวใจอีกฝ่ายจริงๆ

“นายอยากเริ่มก่อนเองทำไม!” น้ำเสียงไม่ได้ลดระดับความโกรธกรุ่นลงแม้แต่น้อย มันน่าเจ็บใจนักที่บอดีการ์ดเพียงคนเดียวมีอิทธิพลต่อเขามากถึงเพียงนี้

“อเล็กซ์...”

อัลเบิร์ตขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามง่ายๆ แต่ยิ่งยื้อยิ่งเจ็บแขน เพราะอเล็กซานเดอร์ลากเขาเดินดุ่มไม่อนาทรเลยว่าเขาจะเจ็บหรือไม่ ใช่ว่าจะอ่อนแอจนหนีไปไม่ได้ แต่ไม่อยากทำร้ายอีกฝ่ายเท่านั้นเอง เข้าใจกันบ้างสิอเล็กซานเดอร์

อัลเบิร์ตมองหาทางหนีทีไล่ หากยอมกลับไปด้วยคงไม่พ้นต้องเจ็บซ้ำเก่า บางทีอาจมากกว่าเก่าเพราะอเล็กซานเดอร์เป็นพวกฝังใจ รู้ว่าเขาจะตีจากแบบนี้คงไม่ให้อยู่ดีมีสุขแน่ มืออีกข้างจับแขนอีกฝ่ายที่กำลังลากตนเองอยู่ อเล็กซานเดอร์หันกลับมามอง แต่เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็รู้สึกเหมือนโลกเอียงแล้วตีลังกากลับกะทันหัน รู้สึกตัวอีกทีก็ลงมานอนจุกอยู่บนพื้นเสียแล้ว

“ผมขอโทษ”

เอ่ยบอกเช่นนั้นแล้วอัลเบิร์ตก็ก้าวถอยก่อนออกวิ่ง เจฟฟรี่ยกแขนขึ้นเชิงห้ามไม่ให้ลูกน้องทำอะไรเพื่อนตนเมื่อหลายคนขยับ แต่คำสั่งจากผู้เป็นนายให้รีบตามไปจับกลับมาทำให้พวกเขาต้องรีบทำตาม เจฟฟรี่ยื่นมือให้นายจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้น แต่อีกฝ่ายปัดออกแล้วลุกขึ้นมาเองด้วยความหงุดหงิด

ความขุ่นมัวยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนของเขากลับมารายงานว่าตามอัลเบิร์ตไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายหายเข้าไปในกลุ่มผู้คน อเล็กซานเดอร์กำหมัดแน่น กัดกรามกรอดได้แต่เจ็บใจ


---------------------


อัลเบิร์ตที่หลุดจากการไล่ตามมาได้เรียกรถให้ไปส่งยังที่พักของเพื่อนสนิท เขายังออกจากลอนดอนในตอนนี้ไม่ได้ เพราะอเล็กซานเดอร์คงไม่หยุดให้คนตามเขา

ปอนด์เปิดประตูออกมารับเพื่อนงงๆ เมื่อเพื่อนโทรมาบอกว่าขอมาพักด้วยกะทันหัน หนุ่มตัวเล็กเบี่ยงกายให้เพื่อนตัวโตก้าวเข้ามาในห้อง ก่อนหาน้ำหาท่ามาให้เพื่อนดื่มแล้วนั่งคุยถามไถ่กันดูถึงที่มาที่ไป จนได้ความว่าเพื่อนของตนลาออกจากเฟอร์ริงตันแล้ว ได้ฟังเช่นนั้นหนุ่มตัวเล็กก็ถึงกับตบเข่าฉาด

“ให้มันได้อย่างนี้! ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว” น้ำเสียงรื่นเริงทั้งสีหน้าสาสมใจทำให้อัลเบิร์ตหรี่ตามองเพื่อนแปลกๆ

“อะไร ดีใจขนาดนั้นเลย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ

“แน่นอน ฉันอยากให้นายออกมาจากที่นั่นตั้งนานแล้วนายก็รู้” ปอนด์ยอมรับหน้าชื่นตาบาน

“เออนี่ ยังไงนายก็ออกจากที่นั่นมาแล้ว กลับบ้านกับฉันไหม คราวก่อนที่ฉันถามนายก็เอาแต่ยิ้มไม่ตอบ คราวนี้ต้องตอบตกลงมาเลยนะ”

“บังคับกันนี่” อัลเบิร์ตว่า หัวเราะขำเพื่อน

“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะพานายไปซ่อน” สีหน้าหนุ่มตัวเล็กมีลับลมคมใน

“หือ?”

“อเล็กซานเดอร์คงไม่ยอมให้นายไปง่ายๆใช่ไหมล่ะ นายถึงต้องหนีมาที่นี่” เดาเสียถูกเผง “เพราะฉะนั้นฉันจะพานายไปซ่อนเอง รับรองหมอนั่นต้องอกแตกตายเพราะหานายไม่เจอแน่ ฮ่าๆๆๆ”

หนุ่มตัวเล็กหัวเราะท่าทางสะใจเป็นอย่างมาก อัลเบิร์ตได้แต่ทำหน้าประหลาด ดูปอนด์จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเล็กซานเดอร์จนหยดสุดท้ายจริงๆ

ปอนด์ให้เพื่อนไปอาบน้ำให้สดชื่น ตนเองจะทำอาหารไว้รอท่า หลังอาบน้ำเสร็จอัลเบิร์ตก็ออกมาทานอาหารกับเพื่อน ได้คุยกันหลายเรื่อง ความรู้สึกสนิทสนมแบบเดิมๆกลับมาอีกหน หลังต่างฝ่ายต่างทำงานเวลาเจอกันมันก็น้อยลง

“อัล”

“หืม?”

“นายคิดว่าจะตัดใจจากเขาได้ไหม?”

อัลเบิร์ตนิ่งไปครู่หนึ่งกับคำถามจากเพื่อนก่อนเอ่ยเสียงเบา “ไม่รู้สิ”

“ตอบแบบนี้แสดงว่าตัดไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันจะช่วยนายเอง อเล็กซานเดอร์ต้องยอมสยบให้นายแน่”

คำพูดที่ดูมั่นอกมั่นใจของปอนด์ทำให้คิ้วอัลเบิร์ตเลิกสูง “ยังไง?”

“เรื่องนั้นนายแค่ใจแข็งเข้าไว้เป็นพอ เรื่องอื่นฉันจัดการให้” ปอนด์กล่าวสำทับพร้อมยักคิ้วแผล็บ

“อย่าเลย เขากำลังจะหมั้น อีกหน่อยก็แต่งงานมีครอบครัว เกวน เจฟเฟอร์สันเธอเป็นคนดีนะ ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ”

น้ำเสียงซึมลงไปทั้งยังยิ้มเศร้า ปอนด์กัดปาก กลอกตาทำท่าครุ่นคิดก่อนว่า “ถึงนายไม่ทำเธอก็เจ็บ อเล็กซานเดอร์น่ะไม่เหมาะกับการมีครอบครัวแสนสุขหรอก มันต้องเจอคนที่ทำให้เจ็บเจียนตายจนสุดท้ายต้องยอมสยบ แบบนั้นน่ะถึงจะเหมาะ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่สามารถทำให้อเล็กซานเดอร์สำนึกได้หรอก”

“ใครจะไปรู้”

“ฉันนี่ไงที่รู้”

เพื่อนตัวโตหันมามอง ปอนด์เลยรีบดักคอ “อย่าถามว่ารู้ได้ไง เอาเป็นว่าเอาอคติส่วนตัวของฉันประกันเลยว่ามันใช่ อย่าคิดมาก เชื่อมือไอ้ปอนด์เหอะ”

อัลเบิร์ตอมยิ้มขำกับการรวบรัดตัดตอนของเพื่อน เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นปอนด์จึงลุกไปเปิด อัลเบิร์ตหันมาเห็นว่าเพื่อนพาเจฟฟรี่เข้ามาก็ขยับลุก หันมามองปอนด์อย่างมีคำถาม

“ไม่ต้องหน้าตาตื่นขนาดนั้น หมอนี่ไม่ได้มาพานายกลับไปหรอก... ใช่ไหมเจฟฟรี่?” หนุ่มตัวเล็กหันมาถามเจฟฟรี่ในท้ายประโยค
เจฟฟรี่ยิ้มมีร้ายแล้วว่า “ใครบอก”

“เฮ่ย”

พออีกฝ่ายตอบกลับมาเช่นนั้นปอนด์ก็ตวัดสายตามามอง น้ำเสียงฟังดูนักเลงมากจนเจฟฟรี่หลุดหัวเราะ ถ้ายังไม่เลิกเล่นปอนด์คงได้วางมวยใส่เขาแน่

“ล้อเล่นน่ะเมียจ๋า” บอดีการ์ดหนุ่มตัวโตเอาเสียงเข้าอ้อน

“เดียะๆ จะได้ลงไปเล่นที่พื้น”

“กลัวจัง” ว่าแล้วก็หัวเราะอารมณ์ดี ปอนด์แยกเขี้ยวใส่ก่อนเดินเลี่ยงออกไปให้เพื่อนเขาคุยกัน

เจฟฟรี่พยักพเยิดให้อัลเบิร์ตนั่งลง อีกฝ่ายมองเขาอย่างระแวงหน่อยๆแต่ก็ยอมนั่งลงที่เดิมแต่โดยดี บอดีการ์ดหนุ่มมองเพื่อนแล้วเผยยิ้ม

“หึ”

“อะไร?” หัวคิ้วอัลเบิร์ตขมวดเมื่ออีกฝ่ายมองเขาแล้วหัวเราะในลำคอ

“เปล่า แค่ไม่คิดว่านายจะกล้า” เจฟฟรี่ว่า เอนหลังพิงพนักโซฟาในท่าทีสบายๆ

“ฉันก็ไม่คิด แต่มันคงถึงที่สุดแล้วมั้ง...” อัลเบิร์ตยิ้มหยันตนเอง ทั้งคู่เงียบไปเล็กน้อยก่อนที่อัลเบิร์ตจะเอ่ยถาม “นายจะบอกเรื่องนี้กับอเล็กซ์ไหม?”

“ไม่หรอก ถ้าเขาอยากเจอนายจริงก็ให้เขาพยายามด้วยตัวเองเสียบ้างก็ดี”

“น่าภูมิใจมีลูกน้องอย่างนาย” แดกดันเพื่อนเล็กน้อย

“อืม จริงๆฉันควรซื่อตรงและก้มหัวให้เจ้านายอย่างอเล็กซ์มากกว่านี้สินะ แต่ไม่รู้สิ คงอยู่ด้วยกันมานานมากไป ไม่ใช่ไม่เคารพหรอก แต่บางทีก็อยากให้โดนเอาคืนเสียบ้าง”

ฟังคำพูดเพื่อนบอดีการ์ดแล้วอัลเบิร์ตก็หัวเราะเบาๆ “ขอบใจ”

เจฟฟรี่พยักหน้ารับคำขอบคุณนั้น อัลเบิร์ตเจ็บมามากพอแล้ว ถึงแม้เส้นทางของพวกเขาสองคนอาจไม่สามารถมาบรรจบพบกันได้ มันก็ยังดีหากต่างคนต่างเจอคนที่ใช่สำหรับตัวเอง หรือหากวันหนึ่งพวกเขาจะมีวันเดินไปด้วยกันได้ เขาก็อยากให้ทั้งคู่ได้พบกับความสุขที่แท้จริงเสียที เปิดหัวใจคุยกันบ้างก็ยังดี ไม่ใช่ก่อกำแพงหนาไว้ปกป้องตัวเองจนทำร้ายอีกคนให้เจ็บปวดเช่นที่ผ่านมา

“เมียจ๋า หายไปไหนนานจัง คิดถึงแล้ว”

“ไอ้บ้า!!”

เสียงตวาดแว้ดมาทันทีที่เจฟฟรี่ตะโกนข้ามห้องไป อัลเบิร์ตยิ้มบาง สองคนนี้น่ารักและน่าอิจฉา ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟฟรี่กับปอนด์ดำเนินมาตั้งแต่ตอนเรียนจนตอนนี้ เห็นทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้าง แต่นั่นมันก็เป็นสีสันหนึ่งที่เกิดขึ้นกับความรัก ไม่เหมือนเขา... อัลเบิร์ตถอนใจเบา มันเทียบกันไม่ได้หรอก เพราะของเขามันเป็นรักข้างเดียวนี่นา


------------------


คฤหาสน์เฟอร์ริงตัน

เมื่ออเล็กซานเดอร์กลับจากทำงานก็ราวพายุลง เพราะเขาหงุดหงิดจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด เขาปล่อยมือจากพิชญตามบอดีการ์ดเจ้าปัญหากลับมา แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวเมื่อมันหลุดมือไปเสียทุกทาง

วิคเตอร์เรียกลูกชายมาพบเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกลับมาถึงแล้ว ทั้งยังอารมณ์ไม่ดี อาละวาดจนคนในคฤหาสน์ขวัญหนี ชายชรามองลูกอย่างหน่ายใจเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาพบด้วยสีหน้าที่ยังไม่คลายความเครียดขึ้ง ไม่ใช่เด็กๆแล้วแต่อเล็กซานเดอร์ก็เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน บุคลิกลักษณะภายนอกที่ใครเห็นว่าเคร่งขรึม ก็แค่เพียงฉากหน้า แต่แท้ที่จริงก็แค่หนุ่มอารมณ์ร้อนแสนมุทะลุดุดัน

“ปล่อยเขาไปเถอะ จะกักตัวเขาไว้ทำไมกัน” ชายชราเอ่ยน้ำเสียงเนิบนาบเมื่อรู้ดีว่าลูกกำลังอาละวาดเรื่องอะไรอยู่ ไม่อนาทรกับความโกรธแสนกราดเกรี้ยวของลูกชายแต่อย่างใด

“นั่นมันเรื่องของผมกับเขา ทำไมพ่อต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเสียทุกทีไป!”

“พอดีพ่อมันชอบแส่น่ะนะ” วิคเตอร์ว่าเสียงเรียบ

อเล็กซานเดอร์ชะงักเมื่อรู้ว่าตนเองพูดกับบิดาไม่ดีนัก ระบายลมหายใจยาว พยายามจะปรับอารมณ์ให้เย็นลง

“พ่อรู้ว่าอัลเบิร์ตกับแกล้ำเส้นไปไกลแค่ไหนแล้ว”

“เลยให้เขาไปอย่างนั้นสิ?” อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน

ผู้เป็นบิดาถอนใจก่อนเอ่ยต่อ “ไม่หรอก มันเป็นความประสงค์ของเขาเองต่างหาก เขาไม่อยากอยู่กับแกอีกต่อไปแล้วอเล็กซ์”

“หึ!”

ช่างเป็นถ้อยคำที่แสนตอกย้ำซ้ำเติมเขา แต่เขาไม่มีทางยอมแน่

“ถึงไม่อยากอยู่เขาก็ต้องอยู่!” อเล็กซานเดอร์ว่าอย่างเอาแต่ตนเองเป็นใหญ่ ขยับจะผละไปแต่คำพูดของบิดากลับทำให้เขานิ่งงัน

“อยู่ด้วยความเกลียดชังหรือ?”

เกลียด... อัลเบิร์ตเกลียดเขาอย่างนั้นหรือ ไม่ ไม่มีทาง!

“เขาไม่มีทางเกลียดผม”

อเล็กซานเดอร์แย้ง แม้จะไม่มั่นใจในสิ่งที่พูดออกไปนัก วิคเตอร์ยกยิ้มมุมปาก สายตาชายชรามองลูกราวเด็กไม่รู้จักโต ซึ่งอเล็กซานเดอร์เกลียดมันเป็นที่สุด

“อย่ามั่นใจนัก การที่อัลเบิร์ตเลือกจะจากไปนั่นเพราะเขาไม่อยากเกลียดแกไม่ใช่หรือ เพราะเขาคงรู้ตัวดีว่าหากอยู่กับแกต่อไปเขาอาจจะเกลียดแกจนให้อภัยไม่ได้อีก”

“อย่ามาขู่ผม! ผมไม่เชื่ออีกแล้ววิคเตอร์!”

ดวงตาสีฟ้าวาววับด้วยความโกรธ ลมหายใจหอบสะท้อนเมื่อพยายามระงับมัน เขาเชื่อฟังและทำตามที่บิดาสั่งมามากพอแล้ว เรื่องนี้เขาจะไม่ยอมให้มันเป็นไปตามที่บิดาต้องการเป็นแน่ ไม่ว่าวิคเตอร์ต้องการอะไรจะไม่มีทางสมหวัง เขาจะตามอัลเบิร์ตกลับมา จะต้องตามกลับมาให้ได้!


--------------------


หมู่บ้านเล็กๆในเคมบริดจ์

อัลเบิร์ตกลับมายังหมู่บ้านของตนหลังลาออกจากการเป็นบอดีการ์ดเฟอร์ริงตัน เพราะได้รับความช่วยเหลือจากปอนด์และเจฟฟรี่เขาจึงรอดพ้นหูตาของอเล็กซานเดอร์มาจนได้ คราแรกที่ตัดสินใจเข้าไปหาวิคเตอร์เขาไม่แน่ใจเสียด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะยอมให้เขาลาออกอย่างง่ายดาย แต่ก็ผิดคาด เมื่อวิคเตอร์ยินยอมและให้ความช่วยเหลือพาเขากลับอังกฤษเสียด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่ท่าทีที่วิคเตอร์มีหลังได้พบลูกชายคนเล็กและอดีตภรรยาดูจะอ่อนลงไม่น้อย ที่จริงแล้วภายใต้ท่าทีกระด้างและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม วิคเตอร์ก็เป็นเพียงตาแก่คนหนึ่งที่ต้องการการยอมรับจากลูกก็เท่านั้น เพียงแต่วิธีการของเขามันกลับทำให้ลูกถอยห่างเขาไปทุกที

อเล็กซานเดอร์คงโกรธเขามาก แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้จุดมุ่งหมายของเขาเปลี่ยนแปลงไป เมื่อคิดมาดีแล้วว่าต้องถอย เขาก็จะถอย การเดินหน้าไปพร้อมกันกับอีกฝ่ายมันแค่ฝันลมๆแล้งๆ ความเจียมเนื้อเจียมตัวว่าตนเองไม่มีสิทธิ์เขาทนมันมามากพอแล้ว ที่ผ่านมาเรียกว่ารักไหมสำหรับเขามันคือใช่ จะเพราะเหตุผลกลใดไม่รู้ รู้เพียงแต่รักไปแล้วอย่างไม่อาจถอนใจ

ชายหนุ่มเดินทอดน่องไปตามถนนเส้นเล็กของหมู่บ้านพร้อมกระเป๋าใบย่อมบนบ่า เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กเล็กที่วิ่งไล่กันผ่านเขาไปทำให้ริมฝีปากบางยกยิ้ม ผู้คนโดยรอบหันมามองเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ เดินผ่านร้านเหล้าที่เริ่มเปิดทำการเมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำอัลเบิร์ตก็หัวเราะเบาๆ เขาเคยมาที่นี่ตอนยังเด็ก มาตามบิดากลับบ้าน ในตอนนั้นเขาและน้องเดินตามกันเป็นพรวน คุณป้าเจ้าของร้านรู้จักกับครอบครัวของเขาดี ไว้โอกาสเหมาะจะแวะมาทักทาย

หมู่บ้านของเขาไม่ได้เจริญอะไรนัก ยังมีมุมที่โหดร้ายแฝงอยู่บ้างประปราย แต่ผู้คนก็มีน้ำใจให้กันพอสมควร เสียงบางอย่างดังแว่วมาเข้าหู อัลเบิร์ตเหลียวหาที่มาของเสียง เพราะคล้ายจะได้ยินแว่วว่ามีคนขอความช่วยเหลือ

สายตาเหลือบไปเห็นที่มุมหนึ่งมีวัตถุน่าสงสัย ร่างสูงค่อยก้าวเข้าไป เสียงที่ได้ยินค่อยชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้ คล้ายชายผ้าเก่ามอซอที่โผล่พ้นตรงมุมตึก อัลเบิร์ตก้าวมาหยุดตรงหน้า มองสำรวจคนในชุดขะมุกขะมอม พอเห็นประจักษ์แก่สายตาอัลเบิร์ตก็ถึงกับผงะ ริมฝีปากบางอุทานแผ่วเบา

“โรเจอร์ เมอร์นาส!!?”


----------------

ต่อด้านล่างค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5

“พี่อัล”

เด็กสาวคนหนึ่งที่มีส่วนละม้ายคล้ายอัลเบิร์ตเดินมาหาชายหนุ่มที่นั่งเหม่ออยู่ที่หน้าบ้าน วิกกี้ คาร์ล น้องสาวของอัลเบิร์ต ตั้งแต่กลับมาพี่ชายของเธอก็ดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไร ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นที่โน่นพี่ของเธอถึงได้เอาแต่เหม่อแบบนี้

“วิกกี้?”

“พี่นั่งเหม่ออีกแล้ว มีอะไรไม่สบายใจหรือคะ?” เด็กสาวนั่งลงข้างพี่ชาย เอ่ยถามด้วยความห่วงใย

“เปล่าหรอก พี่แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย” อัลเบิร์ตบอกปัด ปัญหาของเขาไม่อยากเอามาทำให้ครอบครัวต้องพลอยกังวลไปด้วย ซึ่งวิกกี้ก็คงพอเข้าใจมัน เธอมองหน้าเขาครู่หนึ่งราวค้นคว้า ก่อนพยักหน้าเข้าใจตามที่เขาบอก

ใบหน้าเรียวเล็กเหลียวซ้ายแลขวา ชะเง้อมองภายในบ้านก่อนจะเอ่ยกับพี่ชาย “ผู้ชายคนนั้นน่ะ...”

“ทำไมหรือ?”

อัลเบิร์ตเลิกคิ้วเมื่อเอ่ยถาม ผู้ชายคนนั้นที่น้องสาวของเขาพูดถึงก็คือโรเจอร์ เมอร์นาส เขาพาคนๆนั้นกลับมาที่บ้านด้วย แรกพบหน้ามารดาของเขากรีดร้องด้วยความตกใจ พอเขาอธิบายว่าเป็นเพื่อนที่ตอนนี้ตกที่นั่งลำบากท่านก็ยินยอมให้ความช่วยเหลือหาข้าวหาน้ำมาให้ แต่ดูเหมือนวิกกี้จะยังไม่วางใจ

“เขาเป็นเพื่อนพี่จริงหรือ ไม่น่าไว้ใจเลย หนูไม่ได้ดูถูกคนนะคะ แต่ว่าท่าทางเขาเหมือนไม่ปรกติ” ท้ายประโยคลดระดับเสียงลงมาอีก

อัลเบิร์ตยิ้มขำ “ไม่หรอก เขาก็เป็นคนปรกติเหมือนเรา บางทีอาจเพราะขาดน้ำขาดอาหารมานานเลยดูผอมบักโกรกแบบนั้นเราเลยมองว่าน่ากลัวใช่ไหม?”

“อาจใช่ก็ได้ แต่หนูไม่ไว้ใจเขา”

เธอยังยืนยันในความคิดของตนเอง ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไร วิกกี้ไม่ได้กลัวนายคนนั้นจะมาปล้นบ้าน แต่กลัวจะมาทำร้ายคนในครอบครัวเสียมากกว่า ในบ้านมีพ่อ มีแม่และน้องชายอีกสองคน หวังว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ทำอะไรพ่อแม่และน้องๆของเธอนะ

คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่ทันไรคนที่เธอกำลังปรักปรำในใจก็มายืนอยู่ใกล้เสียแล้ว อัลเบิร์ตขยับลุก วิกกี้จึงรีบลุกตามแล้วหลบหลังพี่ชาย โรเจอร์ได้ยินที่เด็กสาวพูด เขาเหลือบตามองเธอ เธอกลับแยกเขี้ยวใส่ ชายหนุ่มตัวโตกระแอมเล็กน้อยก่อนพูดกับอัลเบิร์ต

“ขอบคุณสำหรับอาหารและเสื้อผ้า ฉันคงไม่รบกวนมากไปกว่านี้”

“คุณจะไปไหนหรือครับ?”

“ไม่รู้สิ ไปเรื่อยๆ...” เหลือบมองน้องสาวของอัลเบิร์ตแล้วโรเจอร์ก็เน้นเสียงในประโยคถัดมาทำให้เด็กสาวตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน “นักโทษแหกคุกอย่างฉันจะไปที่ไหนได้นอกจากหนีไปเรื่อยๆ”

มือเรียวกระตุกชายเสื้อพี่ชายยิกๆเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นนักโทษแหกคุก คนพูดยกยิ้มกับท่าทีของเด็กสาว อัลเบิร์ตรั้งน้องมายืนข้างกันซึ่งอีกฝ่ายขืนตัวไว้ เธอไม่อยากเข้าใกล้นายคนนั้น พี่นี่ไม่รู้อะไรเลย

“แล้วพ่อของคุณ...?”

อัลเบิร์ตเอ่ยถามถึงฮิวโก้ แม้ไม่อยากสะกิดแต่เพราะไม่เห็นอยู่ด้วยกันจึงเอ่ยถาม โรเจอร์ถอนใจ สีหน้าเรียบเฉยแต่ตาแฝงแววเศร้า

“ตายแล้ว”

คำตอบเพียงสั้นๆทำให้สองพี่น้องตกใจไม่น้อย ยิ่งอัลเบิร์ตยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อนึกไปถึงว่าสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นมันเป็นเพราะใคร

“คุณคงไม่...”

“แค้นอเล็กซานเดอร์น่ะหรือ?”

ราวโรเจอร์จะอ่านใจเขาออก เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยต่อในส่วนที่เขากลัวจะเอ่ยถึงขึ้นมา อัลเบิร์ตพยักหน้ารับว่าสิ่งที่อีกฝ่ายคาดเดานั้นถูกต้อง

“แค้นสิ...” แววตระหนกจากดวงตาของอีกฝ่ายทำให้โรเจอร์ทำเสียงหึในลำคอ “แต่สาเหตุทั้งหมดมันก็ไม่ได้มาจากเขาคนเดียว เขามีส่วนที่ทำให้มันเป็นไป แต่คนเริ่มคือพ่อฉัน พ่อไม่ได้ตายเพราะกระสุนจากเฟอร์ริงตันก็จริง แต่เพราะเราหนีหัวซุกหัวซุนมาตลอดท่านเลยทนไม่ไหว จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง”

คำพูดทุกคำดูจะเป็นการเย้ยหยันตัวเองเสียมากกว่า อัลเบิร์ตมองชายตรงหน้านิ่ง ราวกำลังอ่านใจของอีกฝ่าย เมื่อโรเจอร์มองสบดวงตาเขา อัลเบิร์ตก็ไม่มีหลบ

“จะฆ่าฉันตอนนี้เลยไหมล่ะ นายมันคนของเฟอร์ริงตันนี่ อย่าปล่อยฉันไปนะ เพราะฉันไม่รับประกันว่าจะไม่กลับไปแก้แค้นอเล็กซานเดอร์”

“ผมไม่ทำหรอก”

คำพูดแกมขู่ของอีกฝ่ายได้รับการปฏิเสธที่จะทำตาม โรเจอร์ชะงัก ก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยกลบทุกความรู้สึกภายใน

“ถ้าผมทำมันก็สมใจคุณน่ะสิ คุณอยากตายแต่ไม่อยากได้ชื่อว่าฆ่าตัวตายเอง คิดจะโยนบาปให้กันหรือไง?”

โรเจอร์หัวเราะเยาะหยันตนเอง วิกกี้กำเสื้อพี่ชายแน่น ผู้ชายคนนี้ไม่ปรกติจริงๆด้วยใช่ไหม

“แล้วนายจะเสียใจ”

ทิ้งท้ายไว้เท่านั้นแล้วโรเจอร์ก็เดินออกไป อัลเบิร์ตมองตามหลังอีกฝ่ายอย่างไม่สบายใจนัก อดเป็นห่วงอเล็กซานเดอร์ไม่ได้ แต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายมีคนคอยคุ้มกันแน่นหนาคงไม่เป็นไร บอกตัวเองเช่นนั้นแต่ใจก็ยังคอยพะวงอยู่ไม่คลาย

“พี่คะ” วิกกี้เขย่าแขนเรียกสติพี่ชาย

“ไม่มีอะไรหรอกวิกกี้ เข้าบ้านเถอะ”

อัลเบิร์ตดันตัวน้องเข้าบ้านไป บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตนัก กับการจุคนถึงห้าคนมันค่อนข้างแออัดไม่น้อย เงินทองที่เขาส่งกลับมาก็เป็นค่าอยู่ค่ากินและค่าเล่าเรียนของน้องๆ ยังไม่ได้มากมีถึงขนาดขยับขยายบ้านใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ดังนั้นเขาคงต้องหางานใหม่

มารดาของเขาทำงานที่คลินิกแห่งหนึ่ง ขณะที่บิดารับจ้างทั่วไป ทั้งสองมีปัญหาระหองระแหงกันเรื่อยมา บิดาของเขาออกจะสำมะเลเทเมา แต่หลังจากล้มป่วยเพราะพิษสุราเรื้อรังแล้วมีมารดาคอยดูแลมาตลอดท่านก็เริ่มทำตัวดีขึ้น ครอบครัวดูเป็นครอบครัวมากขึ้น เท่านี้เขาก็พอใจแล้ว

“ปอนด์” อัลเบิร์ตกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิท เมื่ออีกฝ่ายกดรับเขาจึงบอก “เรื่องที่คุยกันไว้... ฉันตกลง”


-------------------


ในขณะที่อัลเบิร์ตกำลังวางใจในชีวิตแสนเรียบง่ายและวางแผนอนาคตของตนเองกับน้องๆอยู่นั้น อเล็กซานเดอร์กลับไม่คิดจะรามือจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย รู้ว่าอยู่ที่ไหนแต่กลับมาลากกลับไม่ได้เพราะวิคเตอร์ราวรู้เห็นเป็นใจ งานหนักงานเบาโยนมาให้เขารับผิดชอบจนหลังอาน อยากโยนมันทิ้งไปไม่แยแส แต่อเล็กซานเดอร์ก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อบิดาของเขารอหัวเราะเยาะกับความไม่เอาไหน
ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ด้วยความอ่อนล้า ผ่านพ่อบ้านมิลเลอร์ทีไรก็พาลจะนึกถึงหลานพ่อบ้านเสียทุกที เรื่องพิชญที่เขาถ่อไปหาถึงไทยไม่ได้อยู่ในหัว เมื่อเวลานี้หลานพ่อบ้านมีอิทธิพลกับเขามากกว่า อเล็กซานเดอร์กระแทกประตูห้องนอนปิดเสียแรงตามอารมณ์ บางทีเขาอาจต้องการการปลดปล่อย...


คลับหรูที่ประจำของอเล็กซานเดอร์ เขาไม่ได้มาที่นี่เสียนานทีเดียว เมื่อบอกเจฟฟรี่ว่าจะไปที่คลับอีกฝ่ายก็ทำหน้าประหลาดใจเสียอย่างนั้น เมื่อก่อนมาด้วยกันออกบ่อย จะมาประหลาดใจทำไมตอนนี้

รอบกายชายหนุ่มเต็มไปด้วยนวลเนื้อนาง มันชวนวูบวาบดีไม่น้อย สาวสวยที่คลอเคลียอยู่ใกล้ ทั้งแอลกอฮอล์ที่เข้าปากเพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้อเล็กซานเดอร์ยิ่งขึ้น เขาต้องการการปลดปล่อยจริงๆนั่นล่ะ แม่สาวผมแดงในอ้อมกอดถูกรั้งมาชิดใกล้ สายตาคนเมาเริ่มพร่ามัวมองภาพเบลอไปหมด ริมฝีปากหยักยิ้มเยิ้มเมื่อกดจูบปากอิ่มของเธอ สาวเจ้าบิดกายอย่างมีจริต สะโพกนิ่มเบียดบดบนหน้าตักจนอเล็กซานเดอร์ครางครึ้มในลำคอ ซุกไซ้ซอกคอสาว ร่างกายเสียดสีจนแทบจะลุกเป็นไฟ มองสบนัยน์ตาสีอ่อนที่ละม้ายคล้ายกับใครบางคนที่เริ่มซ้อนทับขึ้นมา ราวสติที่หลุดลอยกลับเข้าร่างกะทันหัน อเล็กซานเดอร์ผลักแม่สาวทรงโตออกห่างกายแล้วลุกพรวด ก้าวดุ่มออกจากคลับจนบอดีการ์ดตามกันแทบไม่ทัน หญิงสาวยังนั่งมึน ทั้งมึนงงทั้งเสียหน้าจนไม่รู้จะพูดอย่างไร เสียงกรีดร้องอย่างขัดใจดังขึ้นมาเพียงในลำคอ ก่อนเธอจะกระฟัดกระเฟียดไปอีกทาง

อเล็กซานเดอร์ขึ้นมานั่งบนรถ ตามด้วยเจฟฟรี่และบอดีการ์ดอีกหนึ่งคน เจ้านายหนุ่มลูบหน้าตนเองราวเรียกสติ เขามันบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วแน่ๆ

“เจฟฟรี่” เอ่ยเรียกบอดีการ์ดคู่กายเสียงเครียด

“ครับ”

“สั่งกัปตันเดรคเตรียมตัวให้พร้อมด้วย พรุ่งนี้ฉันจะไปเคมบริดจ์!”


-----------------


อเล็กซานเดอร์กลับมาถึงคฤหาสน์ก็สวนกับรถยนต์ของเกวนที่เลี้ยวออกไปพอดี ชายหนุ่มย่นคิ้วด้วยความแปลกใจที่หญิงสาวมา จะว่าไปเขาก็ไม่ได้ดูแลเธอเท่าที่ควรนัก ยิ่งตอนไปไทยยิ่งห่างจากการดูแลเอาใจใส่เธอ เมื่อเข้ามาถามไถ่จากบิดาถึงได้รู้ว่าหญิงสาวเธอมาขอให้ยกเลิกคำสั่งให้คนติดตามเธอ มันไม่สะดวกนัก หากเป็นอัลเบิร์ตก็ยังพอว่าเพราะอีกฝ่ายแม้จะซ่อนความรู้สึกภายใต้สีหน้านิ่งเฉย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวจนลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านเท่ากับคนใหม่ที่วิคเตอร์ส่งไปแทน

เรื่องที่เกวนเปิดร้านขายของเป็นที่วิพากษ์ในหมู่คนในสังคมที่เธอเคยอยู่ แต่เธอไม่สนใจกับคำพูดของคนเหล่านั้น ยังคงดำเนินการทุกอย่างต่อไปจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในที่สุด แม้มีคนมาคอยกระแนะกระแหนบ้าง นาตาเซีย ภรรยาวิคเตอร์เองก็ด้วย แต่เกวนก็ทำหูไปนาตาไปไร่เสีย ถ้าหน้าบางเธอคงยืนหยัดไม่ได้

วิคเตอร์ยังเสนอจะให้คนอื่นไปแทน แต่ทุกคนที่เขานึกออกก็ไม่ได้ต่างจากคนเดิมแม้แต่น้อย มีคนที่พอดูได้ก็คงเป็นเจฟฟรี่ ดีฟไคล์ แต่นั่นมันมือขวาของอเล็กซานเดอร์ ขาดอัลเบิร์ตไปแล้วยังขาดเจฟฟรี่อีกคงไม่ดีนัก

เมื่อเห็นถึงปัญหาหลายอย่างเกวนจึงบอกว่าให้ทำอย่างที่เธอขอ เพราะพอล เวสส์เองก็ไม่มายุ่งกับเธอแล้ว ตั้งแต่คราวที่เธอหักหน้าเขาต่อหน้าอัลเบิร์ต พอล เวสส์ก็ไม่ได้มาวุ่นวายกับเธออีก แต่สิ่งที่เกวนไม่คาดคิดคือพอลเหมือนดั่งคลื่นใต้น้ำที่รอวันซัดโหมไม่ตั้งตัว



เกวนมาที่ร้านหลังกลับจากเฟอร์ริงตัน หญิงสาวจอดรถก่อนเดินมาที่ร้าน เท้าเรียวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าร้านเธอ ท่าทางวางมาดใหญ่โตพาลทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ไม่น้อย

ร่างเพรียวก้าวเข้าไปแล้วหยุดตรงหน้า พอล เวสส์ยิ้มมุมปาก นัยน์ตาสีควันบุหรี่จับจ้องหญิงสาว

“ฉันจะบอกคุณอีกครั้งนะคะมิสเตอร์เวสส์ ฉันมีคู่หมั้นแล้ว และไม่คิดจะปันใจให้ใคร หวังว่าคุณจะเข้าใจตรงกัน”

เกวนเอ่ยเสียงราบเรียบ ก่อนจะหมุนกายแล้วเดินเข้าร้านไป พูดไปเช่นนั้นใช่เธอไม่กลัว ทั้งอเล็กซานเดอร์และพอลต่างก็สามารถทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้เสมอ

“ยากนักหรือเกวน เจฟเฟอร์สัน...? ก็ดี ยากๆแบบนี้ชีวิตจะได้มีสีสันหน่อย” พอลพึมพำกับตนเอง มือหนาลูบคางอย่างใช้ความคิด ริมฝีปากเหยียดยิ้ม พยักพเยิดให้บอดีการ์ดของตนขวางหน้าร้านเอาไว้ ส่วนตนเองเข้าไปในร้าน หญิงสาวที่กำลังช่วยเด็กในร้านจัดข้าวของคือเป้าหมายของเขา มือหนาเอื้อมรั้งแขน เกวนร้องหวีดด้วยความตกใจ

“ว๊าย!!”

“คุณบังคับให้ผมต้องทำแบบนี้เองนะคนสวย”

ดวงตาหญิงสาวเบิกกว้างเมื่อพอลก้มลงช้อนตัวเธอแบกขึ้นบ่า เด็กในร้านหน้าตาตื่น จะเข้ามาช่วยแต่ก็กลัวผู้ชายตัวโตคนนี้

“พอล เวสส์ ปล่อย!!”

เกวนทั้งทุบทั้งถองแต่ดูจะไม่ได้ผล เมื่อพอลทำราวกับมันไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย เธอถูกแบกไปใส่รถราวกับเป็นสิ่งของ ร่างสูงใหญ่โน้มมาหา เกวนกระเถิบถอยไปชนประตูรถ มองพอล เวสส์ด้วยความหวาดหวั่น

“มันช่วยไม่ได้นะ เพราะคุณเป็นคู่หมั้นของอเล็กซานเดอร์ ถ้าไม่รู้จะโทษใคร... ก็โทษหมอนั่นแล้วกัน”

เสียงหัวเราะในลำคอตบท้ายประโยคจากอีกฝ่ายทำให้เกวนจิกเล็บกับมือตนเอง ไม่น่าเลย เธอไม่น่าบอกให้วิคเตอร์เรียกบอดีการ์ดคืนไปเลย จะทำอย่างไรดี ใครก็ได้ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!




โปรดติดตามตอนต่อไป



มาแล้วค่าาา ตอนนี้ไม่ดราม่าเลยอ่ะ แง่มๆ :z2:

ขอบคุณทุกท่านที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ บวกและบวกเช่นเคย

วันใหม่ค่ะ :L2:

ปล. ภาคที่แล้วอัลเป็นโสรยา ภาคนี้อัลกลายเป็นอีเย็นไปซะแล้ว กร๊ากก

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ อ่านแล้วรู้สึกดีใจสุดๆที่ชอบกัน ขอบคุณมากค่ะ :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด