The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 487609 ครั้ง)

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
สุดท้าน 2 หนุ่มเขาก็กุ๊กกิ๊กกันจนได้
แต่เฟี๊ยตดันจำไม่ได้ซะนี่ หวังว่าพอเข้าไปในเกมส์จะจำได้นะ

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
น้องเฟี๊ยตจำไม่ได้ เศร้าที่สุด แถมตื่นมาก่ออีก จะทำให้เรื่องราวพลิกผันไปรึเปล่าน้า

ยังคงไม่ชอบเธอมันทนา

คนอ่านยังรอคนเขียนมาอัพเรื่อยๆค่ะ

เอาเท่าที่ไหวนะจ๊ะ กำลังใจเต็มเปี่ยมส่งให้คนเขียนค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ tutankamen

  • ผีสิงประจำเล้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • Facebook ของผมเองครับ
หลังสงกรานต์เพิ่งจะได้กลับมาตามอ่าน หวังว่าผู้แต่ยังอยู่นะครับ

ตัวผมผมเจอเรื่อง คิดถึงวิทยา.....นิพนธ์ เข้าไปก็กว่าจะตั้งตัวได้กลับมาตามอ่าน

ถ้ายังอยู่ผมก็จะคอยอ่านนะครับ Sorry

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ช่วงนี้ช้ามากๆเลยฮะ

ออฟไลน์ Niinuii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราได้อ่านเรื่องนี้ตอนแรกๆสองสามตอนแล้วsaveไว้เป็น reading list
เราเป็นพวกนิสัยเสียที่ชอบอ่านนิยายแบบจบแล้ว เพราะลุ้นหลายๆรอบไม่ไหว เริ่มแก่แล้ว555 (แต่จะติดตามตลอดว่าอัพถึงไหนแล้ว) เลยไม่เคยเม้นหรืออาจจะเม้นเมื่อนานมาแล้ว
เราชอบนิยายเรื่องนี้นะเพราะมันมีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงบนโลก รู้สึกเหมือนอ่านวรรณกรรม ภาษาและการเว้นวรรคมันมีpatternที่เข้าใจง่ายและเรียบร้อย น้อยคนนะที่จะแต่งเรื่องแนวนี้ เราชื่นชมคนแต่งมากๆ
ช่วงนี้ที่บอกว่ามีปัญหา ไม่ต้องรีบหรอก ค่อยๆเป็นค่อยๆไป สบายใจและพร้อมเมื่อไหร่ค่อยอัพก็ได้ ถึงเรื่องนี้จะจบในอีกกี่ปีข้างหน้าเราก็จะรอ:)

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 153 Maneow

 

            เภสัชกรหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงอีกครั้งอย่างเกียจคร้าน เขาสะบัดหน้าไปมาหลายครั้งเพื่อทบทวนความทรงจำระยะสั้นๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ สิ่งที่เขาค้นพบคือ เขากำลังเล่นเกมออนไลน์อยู่ในโลกแห่งความฝันอยู่ ณ ขณะนั้น เขาและเพื่อนร่วมทีมช่วยกันแก้ปริศนาในหมู่บ้านเด็กผู้ชาย และพาตัวเองไปจนถึงยอดของสิ่งก่อสร้างใจกลางความลี้ลับ เขายังจำสีหน้าของธันที่พะยักเพยิดให้เขาเป็นคนเข้าไปหยิบอัญมณีเม็ดงามที่ตั้งเด่นเป็นสง่าราวกับว่าจะเป็นของรางวัลของผู้ที่สามารถพิชิตปริศนานั้นได้ดี และนั่นเองก็เป็นวูบสุดท้ายที่เขาจำความได้ เขาหลุดออกมาจากเกมอย่างเฉียบพลัน บางที มันอาจจะเป็นกับดักหรือเวทมนตร์อะไรสักอย่างที่ส่งเขาออกมานอกเกมอย่างกะทันหัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นตัวเขาที่ผิดปรกติเอง เข้าเกมไปครั้งหน้าอาจจะต้องหาวันพักผ่อนเสียบ้างแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองมึนๆ เบลอๆ ราวกับคนที่ทำงานมาอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานานแสนนาน

            เฟี๊ยตพาตัวเองไปอาบน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นในเช้าวันนี้ เขาจมดิ่งกับห้วงเวลาในห้องน้ำร่วมชั่วโมง เช้านี้ กระแสน้ำเย็นไม่ค่อยทำให้เขาร่าเริ่งขึ้นได้เลย ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าของเขาหล่นหายไปที่ไหนหมดก็ไม่รู้ ชายหนุ่มไดร์ผมจนแห้งสนิทดีแล้ว ก่อนจะแต่งตัวเป็นชุดเภสัชกรโรงพยาบาลที่แสนคุ้นเคย ใช่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันทำงานของเขาอีกวันหนึ่ง ใจจริงเขาอยากจะทิ้งตัวลงนอนให้หมดเวลาไปอีกวันมากกว่า การตกระกำลำบากในความฝันนี่สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้เขามากกว่าที่คิดมากมายนัก ตอนแรก เขาจินตนาการคำว่าเกมได้ต่างไปจากที่มันเป็นความจริงไปมาก แต่จะให้มาเลิกเล่นกลางคันเสียตอนนี้ก็อยู่จะไม่ได้ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มาก แต่จะให้ลาออกจากงานพาร์ทไทม์ตอนนี้ก็เห็นจะไม่ได้เหมือนกัน ทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ลาออกเสียแล้ว เสียชื่อ เสียประวัติป่นปี้หมด เฟี๊ยตจึงทำได้แค่โคลงหัวไปมาน้อยๆ อย่างจนใจ ก่อนจะก้าวเท้ายาวออกมาหาอะไรที่ทำให้เช้าวันนี้ของเขาสดชื่นขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี

 

            ชายหนุ่มยกกาแฟดำปราศจากนมและน้ำตาลขึ้นจรดริมฝีปากทีละน้อย สลับกับขนมปังที่ซื้อติดตู้เย็นตั้งแต่สองสามวันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ากาแฟขมคอแก้วนี้อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตของเขาเฟรชขึ้นเท่าใดนัก แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกตาสว่างขึ้นมาอย่างรู้สึกได้ ชายหนุ่มกวาดของสำคัญลงกระเป๋าคู่ใจ ก่อนจะออกจากคอนโดมิเนียม มุ่งหน้าไปสู่โรงพยาบาลที่เป็นสถานที่ทำงานนอกเวลาของเขา

 

            “อ๊าว มาเร็วแฮะวันนี้”

            เสียงหนึ่งทักขึ้นทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้องยาของฝ่ายเภสัชกรรมที่เขาแสนจะคุ้นเคย กวาดตามองครู่เดียวก็พบว่าเจ้าของเสียงคือต๊อบ เพื่อนวัยเดียวกันของเขานั่นเอง เขาเดินตรงเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวที่ยังว่างอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่ลังเล

            “ขยันก็ผิดแฮะ ฮ่าฮ่า”

            เฟี๊ยตตอบอย่างขำๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นอย่างสบายใจ เมื่อเห็นว่ายังไม่ถึงเวลางาน บรรยากาศเช้านี้ของห้องยายังค่อนข้างเงียบ เนื่องจากผู้ป่วยนอกส่วนใหญ่ที่มาหาหมอในวันนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการตรวจในส่วนงานของหมอ กว่าใบสั่งยาจะมาถึงห้องยาก็คงจะเกือบเที่ยง

            “เออ พี่ขวัญฝากมาบอกให้เข้าไปหาแหนะ เห็นว่ามีธุระจะคุยด้วย แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าให้เข้าไปเลยได้ไหม หรือรอเข้างานก่อน” ต๊อบหันมาพูดกับเขาอย่างนึกขึ้นได้

            “รอเวลางานละกัน ขยันเกินเดี๋ยวได้รางวัลพนักงานดีเด่น ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตพูดอย่างง่ายๆ ก่อนจะก้มลงกดเกมในมือถือต่อ จนกระทั่งมือถือที่ตั้งปลุกไว้เมื่อถึงเวลางานส่งสัญญาณดังขึ้น เขาจึงลุกขึ้นเดินไปหาพี่ขวัญที่ห้องส่วนตัวอย่างเงียบๆ

 

            “หวัดดีพี่ คิดถึงผมเหรอ เรียกหาแต่เช้าเชียว” เฟี๊ยตเปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนหัวของหัวหน้าแผนกเภสัชกรรม ก่อนจะกล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดี

            “อารมณ์ดีแต่เช้าเลยนะ” หญิงสาววัยกลางคนเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารพร้อมตอบรับสั้นๆ

            “เช้าไรพี่ นี่มันเกือบเที่ยงแล้วนะ ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตตอบ

            “เช้าสำหรับเวลางานเธอไงยะ เถียงเก่งจริงจริ๊งง” พี่ขวัญตอบออกมาอย่างเล่นๆ ก่อนจะปิดท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน

            “ว่าแต่พี่มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ เรียกมาแต่เช้าเชียว” เสียงของเฟี๊ยตเข้มขึ้นอย่างเป็นทางการเล็กน้อย หากแต่ก็ยังคงรอยยิ้มประดับไว้เช่นเดิม

            “ยังจำเคสน้องมะนาวได้เปล่า ที่เมื่อวานขึ้นไปราวน์วอร์ดแล้วน้องเขาหลับ” หญิงสาวเกริ่นคำถามขึ้น

            “จำได้พี่ จำได้” เขาจำได้ดีเลยทีเดียว มะนาว เด็กผู้หญิงอายุน้อยกว่าเขาไม่เท่าไหร่ที่เขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกติดใจเธอเป็นพิเศษ

            “ดีเลย พอดีทางโรงพยาบาลมีโครงการจะทำงานวิจัยเปรียบเทียบระหว่างการราวน์วอร์ดโดยสหวิชาชีพ กับการไม่มีการราวน์วอร์ดเพื่อเปรียบเทียบว่าผลที่ได้จะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า คราวนี้ เราเลยต้องทำโครงการนำร่องก่อน โดยมีผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มตััวอย่างที่เราจะต้องดูแลเพิ่มเพื่อที่จะได้หาข้อกำหนดที่เหมาะสมที่ใช้ในการทำงานวิจัยต่อไป งงไหม” พี่ขวัญอธิบายโครงการให้เขาฟัง

            “มะนาวจะเป็นตัวอย่างคนนั้นเหรอพี่” เขาถามออกมาอย่างไม่มั่นใจ

            “ใช่ ทางโรงพยาบาลยื่นเรื่องขอทำการวิจัยในมนุษย์เรียบร้อยแล้ว น้องมะนาวเป็นเคสที่สมัครใจ ทางเราเลยเซตให้น้องเป็นตัวอย่างแรกในการศึกษา” พี่ขวัญอธิบายต่อ

            “ศึกษาอะไรบ้างเหรอพี่” เฟี๊ยตถามอย่างสงสัย

            “ไม่มีอะไรมากหรอกเฟี๊ยต แค่ราวน์วอร์ดทุกวัน ดูแลผู้ป่วยมากขึ้น อาจจะมีการเข้าไปให้คำปรึกษาบ่อยๆ เพื่อดูว่าการดูแลอย่างพิเศษนี่จะทำให้ผลการรักษาดีขึ้นหรือเปล่า”

            “แล้วเกี่ยวกับผมอย่างไรบ้างครับพี่” เฟี๊ยตเอ่ยข้อสงสัยในใจออกไป

            “ทางโรงพยาบาลมีมติให้คนที่เคยราวน์วอร์ดมาแล้วเท่านั้นที่จะเข้าร่วมงานวิจัยนี้ได้ ฝ่ายเภสัชกรรมมีแค่ 3 คนที่เคยราวน์วอร์ดจริง มีพี่ พี่อ้อย แล้วก็เฟ๊ียต พี่เลยตั้งใจจะให้เฟี๊ยตรับงานเคสนี้เป็นหลักเลย เพราะว่าอายุใกล้เคียงกัน น่าจะเข้าใจผู้ป่วยมากกว่า เฟี๊ยตมีปัญหาหรือเปล่า พี่เช็ตให้ช่วงเช้าเฟี๊ยตอยู่ห้องยาเหมือนเดิม ส่วนตอนบ่ายก็ขึ้นวอร์ดไปดูน้องเขา จะมากจะน้อยอย่างไรก็แล้วแต่เฟี๊ยตจะพิจารณาความเหมาะสม เพราะนี่แค่ทดลองตั้งข้อกำหนดใหม่เลยยังไม่มีกรอบตายตัว แต่เฟี๊ยตต้องจดรายละเอียดทุกอย่างในการทำงานส่งให้พี่แค่นั้นเอง แบบฟอร์มที่จะให้กรอกพี่เตรียมให้แล้ว กรอกไม่ยาก ทำทุกวันก่อนกลับบ้าน สิบห้านาทีก็เสร็จ เฟี๊ยตมีปัญหาตรงไหนกับงานนี้ไหม”

            หัวหน้าฝ่ายที่เขาแสนจะคุ้นเคยถามคำถามมาอย่างเปิดโอกาส ชายหนุ่มรู้ดีว่าพี่สาวตรงหน้านี้สามารถคุยด้วยอย่างตรงไปตรงมาได้ พี่ขวัญถือเป็นคนที่แฟร์ในการทำงานมากทีเดียว

            “ไม่มีพี่ ผมโอเค เริ่มวันนี้เลยเปล่าครับ” เขาตอบออกมาอย่างง่ายๆ งานนี้ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย อย่างน้อย เขาก็หวังจะช่วยแบ่งเบาภาระความทุกข์ในใจของเด็กสาวเจ้าของใบหน้าหวานนั้นได้บ้าง

            “ดีเลย เริ่มต้ังแต่บ่ายนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยวช่วงเช้าลงไปช่วยห้องยาก่อน คนน่าจะเยอะ ไว้สักบ่ายสองค่อยขึ้นวอร์ด ที่เดิมนะ จำได้ใช่ไหม ไปคนเดียวเลย ขึ้นไปคุยๆ กับน้องเขาก่อน สัมภาษณ์ประวัติให้เข้าใจเคส ราวน์วอร์ดครั้งหน้าจะได้ไม่ติดขัด” พี่ขวัญเอ่ยสรุป พร้อมกับส่งยิ้มมาให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นไหว้หญิงสาวอีกครั้ง แล้วจึงเดินออกมาจากห้องส่วนตัวนั่น เพื่อกลับไปทำงานตามห้องยาดังเดิม

 

            หลังจากผจญภัยในพายุฝูงชนที่รุมมารับยากันในตอนเช้าเรียบร้อยแล้ว เฟี๊ยตก็ถือโอกาสปลีกตัวออกมาในช่วงบ่าย เพื่อไปปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายไว้ เขาแวะเติมพลังด้วยขนมปังชิ้นหนึ่ง ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเตียงคนป่วยเตียงนั้นที่เขาจำได้ดี ชายหนุ่มเดินอย่างมั่นใจ จนมาถึงเตียงของผู้ป่วยที่เขารู้สึกว่าคุ้นเคยกันอย่างบอกไม่ถูกคนนั้น

            “สวัสดีครับ”

            เฟี๊ยตพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง สายตาของเขาเหลือบดูชื่อผู้ป่วยที่เขียนไว้บนเตียงเพื่อตรวจว่าชื่อตรงกับคนที่เขาต้องการพบ เพื่อความแน่ใจ

            “สวัสดีค่ะ พี่เภสัชกรที่พี่ขวัญบอกไว้หรือเปล่าคะ”

            หญิงสาวคนนั้นยิ้มกว้างตอบมาอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มของเธอดูสดใสเกินกว่าที่จะเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่จะมานอนซมอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้

            “เรียกพี่ว่าพี่เฟี๊ยตก็ได้ครับ ง่ายดี”

            เฟี๊ยตส่งรอยยิ้มที่คุ้นเคยเวลาทำหน้าที่เภสัชกรให้กับหญิงสาวตรงหน้า ในชีวิตจริงแล้ว เขาเป็นคนยิ้มยากพอสมควร แต่เมื่อต้องมาทำงานสายนี้แล้ว ชายหนุ่มต้องเรียนรู้ที่จะยิ้มให้กับผู้ป่วยไม่ว่าตัวเองจะอยู่ในสภาวะแบบไหนก็ตาม เขาคุ้นเคยเสียแล้วกับการยิ้มแบบที่ในใจไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลย แต่ดูเหมือนคนตรงหน้านี้จะมีความสามารถในการเรียกรอยยิ้มคนรอบข้างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทุกครั้งที่เด็กสาวคนนี้คลี่ริมฝีปากสวยนั่น โลกรอบข้างนั้นก็ดูจะสว่างสดใสไปเสียหมดเลย

            มะนาวจัดว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยเสียทีเดียว แต่จัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มน่ารักได้อย่างไม่มีข้อแม้ มะนาวเป็นหญิงสาววัยประมาณยี่สิบปีน้อยกว่าเขาไม่มาก สูงประมาณมาตรฐานหญิงไทย ผิวขาวเหลืองสะอาด สิ่งที่ดูจะงดงามที่สุดในตัวผู้หญิงคนนี้นั้นเห็นจะเป็นรอยยิ้มที่เรียกได้ว่าสว่างสดใสจนแทบจะอดยิ้มตามไม่ได้ ดูจากลักษณะภายนอกอย่างนี้ มะนาวก็ดูจะเป็นเพียงหญิงสาวที่น่ารักสมวัยธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เธอไม่ได้มีเค้าของความเจ็บป่วยที่กำลังรุมทำร้ายเลยแม้แต่น้อย

            ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นใจเด็กสาวตรงหน้า เวรกรรมอันใดหนอที่ดลบันดาลให้เจ้าของรอยยิ้มสวยนี้ต้องมาป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายเช่นนี้ หากแต่เขาก็ได้แต่คิดเท่านั้น การพูดหรือวิจารณ์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บใดๆ ไปนั้น ดูจะเป็นเรื่องที่เปราะบางต่อความรู้สึกของคนตรงหน้ามากกว่าจะมีผลดี

            เภสัชกรหนุ่มยิ้มกว้างอีกครั้ง พร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้สำหรับคนมาเฝ้าไข้ที่ว่างเปล่าข้างๆ เตียงของหญิงสาวนั้น หลังจากได้รับคำเชื้อเชิญของเธอ

           
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
แหล่งกบดาน ลงรูป พูดคุยอย่างเป็นกันเอง : www.facebook.com/allornonetheauthor

จากผู้แต่ง : กลับมาแล้วน้า ลืมกันยัง อย่าเพิ่งลืมนะ ไปต่างประเทศเที่ยวๆๆๆๆ ทั้งวันเลย กลับถึงรร.ก็สลบ แต่งไม่ไหวจริง กลับมาแล้วนะ ลงเหมือนเดิม อย่าเพิ่งหนีน้า ห้ามเลิกอ่าน แอบด่าในใจได้นะ แต่อย่าแรง สงสารคนแต่ง อิอิ

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ดีใจที่สุดเลย คนแต่งกลับมาแล้ว
เค้ารอคนแต่งมาตั้งนาน
 :hao6: :hao6: :-[ :-[
ขอเดาว่า มะนาว อาจจะเกี่ยวข้องอะไรกับในเกมส์เป็นแน่แลย
อิอิ หรือมะนาวเป็น ราชินีเรือเหาะ หรือเป็น นางบนยอดศิลา หรือเป็น ตัวละคนในตอนต่อๆไป 555555
อยากอ่านต่อ อยากอ่านต่อ อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao5: ปลาบปลื้มที่คุณอ้นมาต่อแล้ว ถึงจะไม่ยาวสะใจก็เหอะ
ขอต้อนรับกลับมาจากทริปอันยาวนาน

เฟี๊ยตจำไม่ได้จริงๆด้วยแฮะ ธันเป็นไงบ้างเนี่ยป่านนี้
จะตื่นหรือยังอยู่ในเกมส์กันนะ จะคิดมากมั้ยเหนอ

มะนาวเหมือนจะมาเป็นตัวเด่นของเรื่องเลย รึว่าเดี๋ยวเฟี๊ยตจะชวนเล่นเกมส์
แล้วเธอคนนี้จะมาแทรกกลางระหว่างธันกับเฟี๊ยต
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย  :o12:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
กลับมาแล้ววว  ตี๋จำไรไม่ได้เลยอ่าาาาา   
มะนาวจะเกี่ยวไรกับแขกป่าวอ่ะ  เดาๆๆ  555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
รอเรื่องนี้ นานเลยย แต่ดีใจนะคะที่กลับมา อิอิ สนุกมากค่าา เอ..ขอแอบเดาว่า มะนาวต้องเป็นใครซักคนในเกมหรือเปล่าเอ่ยยย รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ

ออฟไลน์ mildmint0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ดีใจครับ ที่คนแต่งกลับมาแล้ว
เหนื่อยก็พัก ถ้าไหวก็กลับมา
ทุกคนรอไหวและเป็นกำลังใจให้อยู่นะครับ
เรื่องนี้ต้องไปถึงฝั่งฝันแน่ๆ ^^

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เฟี๊ยตตื่นมาแล้ว จำอะไรไม่ได้เลยอะ แล้วธันล่ะ เศร้าแทนเลย คิดถึงคนแต่งที่สุ๊ดดดดด รอติดตามเสมอน๊าาา

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เฟี๊ยตจำอะไรไม่ได้เลยอะ ว่าแต่มะนาวนี่เหมือนเคยโผล่แล้วใช่ปะ จำไม่ได้ 555

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ในที่สุดก็กลับมาแล้ว

หนูมะนาวจะใช่คนแกล้ตัวธันรึเปล่าน้อ

เผื่อชีวิตจริง ธันและเฟี๊ยตจะได้เจอกันมั่ง :hao7:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 154 Muttana

   “เฟี๊ยต!”
   เสียงห้าวห้วนกึ่งตกใจดังขึ้นมาท่ามกลางความเงีียบสงบในดินแดนร้างผู้คนแห่งนั้น ร่างเปล่าเปลือยของชายหนุ่มคนหนึ่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ธันค่อยๆ ใช้มือลูบไปตามใบหน้าตัวเองอย่างมึนงง ก่อนจะพบว่าร่างกายของเขาในเวลานี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลแห่งความเหนื่อยล้า ทันทีที่เขาเริ่มต้นตั้งสติคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาไม่นานที่ผ่านมานั้นได้ สายตาเขาก็กวาดไปทั่วบริเวณเพื่อมองหาชายอีกคนที่เขาก็ยากจะคาดคะเนได้เหลือเกินว่า ณ ขณะนั้นจะอยู่ในลักษณะไหน ชายเจ้าของชื่อเรียกแรกที่หลุดออกมาจากปากเขาหลังจากตื่นจากห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและยาวนาน

   “เฟี๊ยต!”
   เสียงเรียกนั้นยิ่งทวีความร้อนรนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเมื่อพบว่าปราศจากร่างของเพื่อนร่วมทีมของเขาคนนั้นเสียแล้ว อันที่จริงคือบริเวณสูงสุดของสิ่งปลูกสร้างนั้นปราศจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั้งปวง มีเพียงตัวเขาอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่มีร่องรอยของอีกคนที่ควรจะอยู่ตรงนี้เลย
   “โธ่เว๊ย ให้มันได้อย่างนี้สิวะ”
   เด็กหนุ่มสบถขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะตัดสินใจแต่งตัวอย่างลวกๆ เสื้อผ้าอาภรณ์ของเขากระจัดกระจายอยู่ใกล้ๆ นั้น หากแต่ไม่มีร่องรอยของสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับชายอีกคนที่ควรจะอยู่ตรงนี้เลย อย่างน้อยก็ควรจะเหลือหลักฐานอะไรไว้บ้าง มันเงียบเหงาและอ้างว้างไปหมด ราวกับว่าคนอีกคนคนนั้นจะได้จากเขาไป โดยไม่ให้เขารู้เนื้อรู้ตัวเสียแล้ว
   ความรู้สึกผิดพุ่งเข้าจู่โจมมาที่เขาอย่างรวดเร็ว เขาทรุดตัวลงนั่งที่พื้นอย่างหมดความหวัง มองไปทางไหนก็ไม่มีวี่แววของเภสัชกรหนุ่มอยู่เลย เด็กหนุ่มในเวลานั้นโกรธตัวเองและการกระทำของตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ เขาโกรธในความไร้สติยั้งคิดของเขา เขาเกลียดบรรยากาศคืนวันเงียบเหงาที่แสนจะเป็นใจ เขาโมโหไอ้วิญญาณบ้าบอนั่นที่ทำให้เขาต้องประพฤติตัวชั่วช้าลงไปแบบนี้ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งจมดิ่งลงในห้วงอารมณ์ที่ไม่อาจหาทางออกได้ เพื่อนคนสำคัญของเขาหนีไปเสียแล้ว เขาไม่โทษเฟี๊ยตแม้แต่นิดเดียวในเรื่องนี้ ความผิดทั้งหมดทั้งปวงเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว หากเป็นเขา เขาก็คงจะโกรธมากเช่นกัน
   เกิดมาชีวิตนี้ ตัวเขาเองไม่เคยคิดว่าตัวเองจะจับพลัดจับผลูมามีความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ได้เลย จะเรียกว่ารังเกียจก็ไม่ใช่ จะมีความสุขก็ไม่เชิง มันเป็นความรู้สึกดีที่ปนกับความรู้สึกผิดจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เหมือนช็อคโกแลตร้อนๆ ที่มันทั้งหวาน ทั้งขม ความสับสนร้อยแปดพันเก้าเกิดขึ้นทับซ้อนกันไปมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ธันก้มลงมองไปตามร่างกายของตนเองที่สวมไว้ด้วยเสื้อผ้าอย่างลวกๆ นั่น มือสองข้างนี้ได้ทำอะไรลงไปบ้าง ร่างกายของเขาได้ทำร้ายคนๆ นั้นไปมากมายขนาดไหน แค่คิดว่าถ้าตัวเองกลับกลายไปเป็นเฟี๊ยตในขณะนั้นจะอยู่รู้สึกอย่างไร เขาก็อดจะรังเกียจตัวเองไม่ได้เลย มันไม่แปลกหรอกที่เฟี๊ยตจะหนีหน้าหายไปแบบนี้ เพราะตัวเขาเองก็ยังรู้สึกขยะแขยงตัวเองด้วยเช่นกัน

   “เฟี๊ยต”
   เสียงเรียกชื่อคนที่หายตัวไปนั้นดังขึ้นเพียงแผ่วๆ จากชายที่นั่งอยู่เพียงลำพังท่ามกลางดินแดนรโหฐานสุดลูกหูลูกตานั่น เขาสัมผัสได้ถึงความชื้นที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นที่บริเวณหัวตาทั้งสองข้างของเขา น้ำตาลูกผู้ชายของธันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ความรู้สึกที่กลั่นตัวออกมานั้นมันผสมผสานปนเปกันจนแยกแยะไม่ออกเลย แต่ที่มีมากที่สุดเห็นจะเป็นความรู้สึกผิดต่อคนที่เขาสนิทที่สุดในดินแดนแห่งนี้ การกระทำของเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย ใจของเด็กหนุ่มอยากจะตามหาเพื่อนร่วมทีมให้พบเพื่อจะเอ่ยขอโทษจากใจไปสักครั้ง ไม่ว่าคำตอบรับมันจะเป็นอย่างไร อย่างน้อย มันคงทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งที่กำลังกดทับหน้าอกข้างซ้ายของเขาในเวลานี้เบาบางลงเสียบ้าง หากแต่น่าเสียดายที่เกมแห่งความฝันนี้ทิ้งร่องรอยความเกี่ยวข้องของบุคคลให้สืบหาไว้น้อยเหลือเกิน ดังเช่นที่หญิงสาวคนนั้นกล่าวไว้ไม่มีผิดว่าหากถ้าเฟี๊ยตหายไปนั้น เขาก็ไม่อาจจะติดตามพบได้อีกเลย ระบบความปลอดภัยของเกมกีดกันการตามหาในชีวิตจริงไว้อย่างทรงประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้ตัวเขาเองก็ไม่เคยขอข้อมูลส่วนตัวอะไรเพื่อนชายไว้แม้แต่น้อย เห็นทีจะเป็นอย่างที่มัทนาทำนายไว้ไม่มีผิด ถึงแม้ว่าสาเหตุจะต่างกันออกไปบ้าง แต่เขาก็สูญเสียเพื่อนคนสำคัญของเขาไปอย่างสมบูรณ์

   ในขณะที่เขากำลังคิดทบทวนหาทางออกของเรื่องราวตรงหน้าอยู่ สายตาของเด็กหนุ่มก็กระทบเข้ากับแสงวาบหนึ่งที่เจิดจริสขึ้นมาจากทางด้านขวาของตัวเขา และเมื่อเขาหันกลับไปเพื่อพิจารณาอย่างจริงจังก็พบว่ามันเป็นแสงสะท้อนมาจากอัญมณีลึกลับที่เขาตามหานั่นเอง คิดได้ดังนั้นเขาก็พ่นเสียงหัวเราะแค่นๆ ออกมาอย่างไม่เบานัก เขาลืมเจ้าต้นเรื่องของความวุ่นวายนี้ไปเสียสนิท ดูเหมือนว่าปัญหาใหม่นี่จะสร้างความลำบากยากเย็นให้กับเขามากกว่าเรื่องชะตากรรมขององค์หญิงจีน่าเสียแล้ว เด็กหนุ่มสายฟ้าโคลงหัวให้กับความพลิกผันของชีวิตตนเอง ก่อนจะตัดสินใจทรงตัวยืนขึ้นเพื่อตรงไปยังอัญมณีนั่น ครั้งที่แล้ว เฟี๊ยตเป็นคนแตะต้องเจ้านี่แล้วสลบไป พร้อมกับนำมาซึ่งวิญญาณหญิงสาวต้องคำสาปที่มีหน้าที่ปกป้องดินแดนแห่งนี้ คราวนี้ เหลือเพียงเขาคนเดียวแล้ว ถ้ารอบนี้เกิดเหตุร้ายอันใดขึ้นก็เห็นที่จะต้องยอมศิโรราบ เห็นทีว่าเขาจะหมดปัญญาต่อกรกับเจ้าเกมลึกลับในความฝันนี่ บางที ปล่อยให้เรื่องมันจบๆ ไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งตอบตัวเองได้อย่างยากเย็นว่า เขาจะกล้าสู้หน้าคนที่เขาได้ลงมือทำร้ายไปอย่างไม่สมควรที่สุดคนนั้นอีกครั้งได้อย่างไร

   “ชื่อ The Diamond of Cloepatra (เพชรของคลีโอพัตรา) ประเภท PC (ไพ่สูงสุด) ลำดับที่ 22 ความสามารถ ถอนคำสาปหรือป้องกันคำสาป”

   เสียงประกาศชื่อและลำดับของไพ่สูงสุดดังขึ้นกังวาลไปมาในโถงกว้างแห่งนั้นทันทีที่เขาเอื้อมมือเข้าไปยังอัญมณีที่ส่องประกายแวววาวนั่น รอยยิ้มเหยียดน้อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น ก่อนที่เขาจะเปิดสมุดเพื่อเก็บการ์ดนั่นอย่างไม่ยินดียินร้ายเท่าไหร่นัก

   “เกรงว่าสิ่งที่ท่านกำลังไตร่ตรองอยู่นั่นจะไปผิดทางเสียแล้ว”
   เสียงนุ่มลึกของหญิงสาวหนึ่งดังขึ้นอย่างเป็นปริศนา ณ บริเวณแห่งนั้น เสียงหัวเราะกึ่งยั่วเย้าดังขึ้นอย่างคุ้นเคย เสียงของมัทนา วิญญาณเจ้าเล่ห์ตนนั้นนั่นเอง เด็กหนุ่มรีบกวาดสายตาไปมาเพื่อหาต้นกำเนิดของเสียงนั้น ด้วยหวังว่าเจ้าของร่างที่หญิงสาวคนนั้นยืมไปจะปรากฎอยู่ด้วย หากแต่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีวี่แววของมนุษย์คนใดอยู่คลองจักษุของเขาในเวลานั้นเลย
   “เฟี๊ยตอยู่ไหน”
   ธันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ข่มให้ราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดาบไฮดราคู่ใจปรากฎอยู่ในมือของเขาเสียแล้ว เขากำอาวุธในมือแน่น อย่างน้อยถ้าความสัมพันธ์ของเขามันพังทลายไปเพราะเจ้าวิญญาณนี่จริง มันก็ควรจะได้รับผลของการกระทำของมันเสียบ้าง!

   “ใจเย็น ที่รัก เธอจะโกรธเราทั้งๆ ที่เราไม่ผิดอย่างนี้หรือ”
   เสียงของหญิงสาวคนนั้นยังดังออกมาอย่างใจเย็น หากแต่ในเวลานั้น เด็กหนุ่มรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความรู้สึกเยาะเย้ยถากถาง
   “ทำให้เพื่อนเขาทะเลาะกันจนแตกคอกันนี่ไม่ผิดรึไง”
   เสียงของธันตอนนั้นแทบจะเรียกได้ว่าคำรามออกมาจากลำคอก็เป็นได้ เขารู้ตัวว่าความผิดทั้งหมดที่เกินขึ้นมานั้นมาจากเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างน้อย ตัวต้นเรื่องก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าดูเหมือนการพยายามจะต่อสู้กับวิญญาณซุกซนนี่จะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใดก็ตาม
   “เธอคิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆ หรือ พ่อหนุ่มน้อย”
   เสียงนั้นที่ดังกังวาลมาอย่างไร้ตัวตนยังคงยั่วเย้าคนตรงหน้าอย่างไม่อาทรร้อนใจใดๆ ทั้งสิ้น คำกล่าวนั้นราวกับเป็นเชื้อเพลิงที่โหมลงในกองอัคคีที่คุกรุ่นอยู่แต่ก่อนแล้ว
   “ไปหาร่างกายมา! ผู้ชายที่ไหนก็ได้ เก่งแค่ไหนก็ได้ ไปเอามา ขอสู้กับวิญญาณดูสักทีเหอะ จะเป็นจะตายให้มันรู้กันไป!”
   ธันคำรามขึ้นอย่างเดือดด้วยโทสะถึงขีดสุด ราวกับว่าคำถามสั้นๆ ประโยคนั้นจี้ลงตรงใจดำของเขาอย่างถนัดถนี่ทีเดียว คำนิยามใดเล่าจะอธิบายความรู้สึกที่เขามีให้แก่เฟี๊ยตได้ดีไปกว่าคำว่าเพื่อน เสียงตอบนั่นดังขึ้นอยู่เพียงในใจเท่านั้น หากแต่เพียงสังเกตลงไปให้ดีเพียงแต่น้อย น้ำเสียงของความคิดนั่นดูจะสั่นคลอนด้วยความไม่มั่นใจเลย
   “ก่อนที่จะฆ่าฟันเราให้ตาย ทั้งๆ ที่เราเองก็ตายไปแล้วนี้ เธอรู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนของเธอแตกคอกับเธอเสียแล้ว” เสียงหญิงสาวย้อนกลับมาอย่างน่าคิด
   “เฟี๊ยตหนีไปแล้ว ถ้ามันไม่โกรธ แล้วมันจะหนีไปทำไม” เขาตอบออกไปเสียงดัง หากแต่ในใจก็เริ่มฉุกคิดถึงความไม่แน่นอนในคำถามนั่น
   “เธอไม่คิดบ้างหรือว่าเพื่อนเธอเพียงแค่ตื่นออกไปจากเกมเท่านั้น” เสียงนั้นปนเยาะน้อยๆ
   “ถ้ามันจะตื่น มันก็ต้องตื่นพร้อมกัน มันจะหายไปคนเดียวได้ไง ในเมื่อเราเข้าเกมมาพร้อมกัน” เขาตอบอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
   “ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอรู้มานั้นนั่นผิดตั้งแต่ต้นเสียแล้ว เพื่อนร่วมทีมที่เธอหวงนักหวงหนานั่นเข้าเกมมาก่อนเธอวันหนึ่งโดยที่เธอเองไม่รู้ตัว บัดนี้ เขาจึงตื่นออกไปก่อนเธอตามปรกติ เรื่องราวก็เป็นเพียงเท่านั้น เกรงใจว่าสิ่งที่เธอรู้มาเกี่ยวกับคนของเธอนั้นจะไม่ถูกต้องทั้งหมดเสียทีเดียว” ประโยคดังกล่าวนั่นปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะที่สะท้อนไปมาในดินแดนแห่งนั้นราวกับมันไม่มีวันสิ้นสุด
   “หมายความว่ายังไง!” ธันกระชากคำถามขึ้นด้วยเสียงห้วน
   “เราไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใดให้กับบุรุษที่หันคมดาบมาทางอิสตรีหรอก หนุ่มน้อย เราต้องการเพียงยืนยันสิ่งเดียวว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้นั้นไม่มีปรากฎอยู่ในความทรงจำของคนของเธอเพียงเท่านั้น เรารักษาสัญญา” เสียงนั่นก้องดังราวกับต้นกำเนิดนั้นครอบคลุมตัวเขาจากทุกทิศทาง
   “เฟี๊ยตจำอะไรไม่ได้เลย?” เสียงของธันในเวลานี้อ่อนลงมาก หางเสียงของเขาสูงขึ้นเป็นคำถามต่ออิสตรีผู้นั้น
   “เราพูดความจริงทั้งหมดทั้งสิ้น หากเธออยากจะตีความให้มันเป็นเท็จ นั่นก็สุดแท้แต่เธอ” เสียงนั่นตอบ

   “ขอบคุณ”
   เสียงดังแผ่วแต่หนักแน่นดังออกมาจากริมฝีปากของชายหนุ่มผู้นั้น ธันทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างโล่งใจ ความรู้สึกผิดมากมายมหาศาลเหล่านั้นระเหิดระเหยจากไหล่ของเขาไปกว่าครึ่ง เขาจมอยู่กับความผิดเหล่านี้เพียงคนเดียวก็พอ อย่าให้ตัวของเฟี๊ยตมารับรู้กับเรื่องราวสกปรกเหล่านี้เลย
   “คำถามสุดท้ายที่เราจะมีต่อเธอ คือ เธอปารถนาจะลืมเรื่องราวในคืนที่แล้วเช่นเดียวกับเพื่อนเธอหรือไม่ ร่างกายและจิตใจของเธอจะหวนกลับไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นแม้แต่น้อย เราจะดลบันดาลสิ่งเหล่านี้ให้ตราบเท่าที่เธอต้องการ” เสียงหญิงสาวผู้นั้นดังขึ้นพร้อมกับคำถามที่กระตุกความรู้สึกเขาไปทั้งหัวใจ

   “ไม่ ผมขอจดจำเรื่องราวเหล่านี้ไว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นผมคนเดียวที่สัมผัสมันได้ก็ตาม”


แหล่งกบดาน ลงรูป พูดคุยอย่างเป็นกันเอง : www.facebook.com/allornonetheauthor

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
จากผู้แต่ง : สารภาพว่าแต่งได้ช้ามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก คือหายไปนาน กว่าจะเรียบเรียงคำออกมาได้นี่เซริบรัมแทบแตกกระจายท่วมทุ่งข้าวสาลี ห้าห้า แต่ก็แต่งจนจบตอน เพราะไม่อยากให้คนอ่านเกลียดไปมากกว่านี้แล้ววววว แงงงงงงงงง หนีเที่ยวแป๊บเดียวเองงงงงงง

ปล. เสาร์อาทิตย์นี้ต้องไปเที่ยวอีกแล้วอ่ะ พยายามจะแต่งเก็บไว้ แต่ไม่รู้จะได้เอาคอมไปเปล่า จะพยายามหาวิธี รู้สึกว่าคนอ่านน้อยลงหลังจากหายไปนาน เอ๊ะ หรือคิดไปเอง ใครหนีไปอ่ะกลับมาได้แล้วนะ ให้อภัยเราได้แว้ววว

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อั้ยย่ะ  มาแล้วววววว   คนเขียน เที่ยวตล๊อดดด  (อิจฉา)
เริ่ม งง กับแขก  แขกไม่รู้เหรอมาเลท อ่ะ ตอนที่นัดกับตี๋  ตอนนั้นแน่ๆเลย (คิดเอง เออเอง นึกเอง  งงเอง กรำ)
งึ้ตอนต๊๋กลับมาก็ไม่เจอแขกอ่ะดิๆๆๆ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ขอบคุณที่มาต่อค่าา รออยู่ทีเดียว
ธันเลทอกที่จะจำ แต่เฟี๊ยตกลับลืม แล้วแบบนี้ เวลาเฟี๊ยตกลับเข้ามาในเกม ความรู้สึกที่ธันมี เวลามองหน้ากัน จะไม่อิหลักอิเหลื่อเหรอ รอติดตามผลตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ audio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 o18 มาต่อเร็วนะ  :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao5: กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
สงสารน้องธัน ถึงเฟี๊ยตจะจำไม่ได้แต่ธันก็ต้องรู็สึกไม่ดีไปตลอดเพราะมันแทบจะเหมือนการข่มขืนเลย
เพราะธันเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบเฟี๊ยตก็เลยเลือกที่จะเก็บความทรงจำไว้
กลัวธันจะไม่กล้าจีบเฟี๊ยตจัง กล้าๆหน่อยธัน แกยังมีหวัง
เจอกันคราวหน้าช่วยบอกข้อมูลแล้วไปเจอกันเถอะ

ปอลิง: คนเขียนจะหนีไปเที่ยวอีกแล้ว  :ling1:
ฉันยังต้องรอเธออีกนานมั้ย  :hao5:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ธันจีบเฟี๊ยตจริงจังเลยนะเนี่ย ทั้งที่คิดไปเกินกว่านั้นแล้วแท้ๆ

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อร๊ายยยยยย อยากจะกรี๊ดซักล้านครั้งให้โลกแตก ไม่เข้ามาเม้นพักใหญ่ๆ(ใหญ่มากอ่ะ) คนแต่งไม่โกรธเรานะ แค่นี้ก็โกรธตัวเองละ พลาดช็อตสำคัญธันได้เฟี๊ยตไป หลังจากนี้จะไม่พลาดละ เคลียร์คิวเพื่อรอเรื่องนี้เลย
เพราะงั้นให้ธันสารภาพความจริงกับเฟี๊ยตไปซะ เชื่อว่าเฟี๊ยตต้องเข้าใจแน่นอน ยังไงก็รอลุ้นให้เฟี๊ยตมีอะไรกับธันด้วยความเต็มใจนะ 555+

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เที่ยวบ๊อยย บ่อยเนาะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ธันมาเอง เล่นเอาเราหดหู่ตามไปด้วยเลยแฮะ

ว่าแต่คนแต่งจะไปเที่ยวอีกแล้วหรอ??? :katai5:

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ธันน่าสงสารอ่า....เฟี๊ยตจะจำเรื่องราวที่ผ่านไปได้ไหมเนี่ย...


ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 155 On and Off Phenomenon

   มะนาวเป็นเด็กสาวอายุยี่สิบปีต้นๆ ที่อาจจะเรียกได้ว่ามีชีวิตไม่เหมือนคนในรุ่นราวคราวเดียวกันเลย เธอเป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease) ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่เกิดจากการขาดแคลนโดพามีน (Dopamine) อันเป็นสารสื่อประสาทสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกายมนุษย์ โดยปรกติแล้ว ผู้ป่วยโรคนี้จะเริ่มแสดงอาการเมื่อเริ่มย่างเข้าสู่วัยกลางคน แต่ไม่ใช่สำหรับมะนาว เธอเริ่มมีอาการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย เธอเล่าว่าในงานวันเกิดปีที่ 15 ของเธอ ทุกอย่างกำลังดำเนินได้ไปอย่างงดงามที่สุด จนกระทั่งเวลาที่เธอจะต้องเป่าเค้กในเทียนวันเกิด เธอพบว่าตัวเองไม่สามารถบังคับกล้ามเนื้อในลำคอของเธอให้พ่นลมออกมาได้ ล่วงพ้นจากวินาทีนั้นเป็นต้นไป ชีวิตของเด็กหญิงคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
   ชีวิตของเธอหลังจากนั้นผูกพันอยู่กับยาเม็ดไม่เล็กเป็นต้นมา เป็นที่รู้กันดีในวงการการแพทย์ว่าโรคที่เด็กสาวเผชิญอยู่นั้นนับเป็นโรคที่จัดการเรื่องยาได้ยากจนเลื่องลือ ระยะต้นนั้นผู้ป่วยจะฟื้นฟูระดับโดพามีนในร่างกายได้อย่างดี จนคุณภาพชีวิตกลับมาเป็นปรกติ แต่เมื่อใช้ยาต่อไปเรื่อยๆ ระดับโดพามีนที่เคยควบคุมได้จะกลับมาควบคุมไม่ได้อีกครั้ง จากเม็ดเป็นสองเม็ด จากสองเม็ดเป็นสี่เม็ด จากสี่เม็ดเป็นแปดเม็ด จนเธอเองก็คงไม่อยากนับเสียแล้ว ปริมาณยาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อาการที่ไม่สามารถควบคุมได้ตามต้องการทำให้สุขภาพจิตของผู้ป่วยทรุดโทรมขึ้นทุกวัน ช่วงระยะเวลาที่ระดับโดพามีนขึ้นสูง ร่างกายผู้ป่วยจะกระตุกจนควบคุมแทบไม่ได้ ตัวเธอเองแลบลิ้นเข้าออกโดยไม่รู้สึกตัว เธอเริ่มเก็บตัวหลังจากเรียนมัธยมปลายจบ เธอเคยไปกินข้าวกับเพื่อนที่ห้างสรรพสินค้าและอาการกำเริบ เธอแลบลิ้นไม่หยุดจนคนอื่นคิดว่าเธอเป็นบ้า เธอร้องไห้ออกมาทั้งที่ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้อย่างนั้น เธอเกลียดตัวเอง เธอเกลียดร่างกายของเธอที่ไม่ได้เป็นของเธอเลย
   มะนาวไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเนื่องจากอาการของโรคนั้นรุดหน้าไปกว่าที่ประมาณกันไว้มาก บ่อยครั้งที่ระดับโดพามีนของเธอลดต่ำลงจนแสดงอาการ เธอเขียนหนังสือไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ มะนาวทำไม่ได้แม้กระทั่งจะกลืนน้ำลายตัวเอง กลางดึกคืนหนึ่ง เธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉินที่สุด เนื่องจากเธอตื่นมากลางดึกแล้วค้นพบว่าเธอพูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ แม้กระทั่งการหายใจ เธอก็ทำแต่อย่างแผ่วเบา หลังจากรถพยาบาลที่เข้ามาส่งเธอที่โรงพยาบาลแห่งนี้ในวันนั้น เธอก็ไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้อีกเลย
   เธอกับถุงน้ำเกลือกลายเป็นเพื่อนที่ไม่เคยแยกจากกันเสียแล้ว ระดับสารสื่อประสาทที่ไม่คงที่นั้นทำให้เธอต้องเปลี่ยนรูปแบบจากยากินเป็นยาฉีดแทน อาการที่เกิดจากการเหวี่ยงไปมาของระดับโดพามีนนั้นหายไปแทบเป็นปลิดทิ้ง สุขภาพที่ดีขึ้นเหล่านั้นแลกมาด้วยชีวิตที่เหลือเกือบทั้งหมดของเธอ ไม่มีมหาวิทยาลัยสำหรับเธอแล้ว ไม่มีการเที่ยวเล่นและชีวิตวัยรุ่นเหลือให้ใช้อีกต่อไป เพื่อนฝูงที่เคยสนิทสนมก็ตกหล่นหายไปตามการเวลาเพราะไม่มีโอกาสได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ดูเหมือนว่าครอบครัวจะเป็นสิ่งสุดท้ายเท่านั้นที่เธอเหลืออยู่ ยังโชคดีที่เธอเกิดมาในยุคที่ผู้ป่วยโรคร้ายแรงจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลแทบทั้งหมด หญิงสาวจึงเป็นภาระทางการเงินกับครอบครัวเพียงไม่มากนัก

   “มะนาวอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ มีอะไรที่พี่พอจะช่วยน้องได้ไหม มันไม่ใช่เรื่องวิจัยอะไรเป็นสำคัญนะ แต่พี่อยากให้น้องมีความสุขขึ้นจริงๆ”
   เขาพูดกับคนป่วยในความดูแลของเขาอย่างอ่อนโยน เขาเองก็จนปัญญาเรื่องการรักษา เพราะยาที่ได้รับก็ถูกต้องตามหลักเวชปฏิบัติทุกอย่างแล้ว คงจะมีแต่เพียงการเยียวยาด้านอื่นๆ เท่านั้นที่เขาพอจะทำได้ ถ้าเขาสามารถทำให้คนตรงหน้านี้มีความสุขได้เพียงแต่น้อย เขาก็อยากทำ
   “ไม่รู้สิคะ ทุกวันนี้มะนาวก็ไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายชีวิตคืออะไร แค่ใช้ชีวิตให้หมดเป็นวันๆ” เธอพูดออกมาจากใจจริง เสียงนั้นไม่ได้ดูเศร้า เธอดูผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน
   “มะนาวมีงานอดิเรกบ้างเปล่า ช่วงก่อนเข้าโรงพยาบาลชอบทำอะไรเป็นพิเศษไหม เผื่อว่างๆ ตอนบ่าย เราอาจจะหาอะไรทำกันสนุกๆ” เฟี๊ยตฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับถามคำถาม
   “จริงๆ แล้วมะนาวชอบทำเบเกอรี่มากเลยพี่เฟี๊ยต แต่ในโรงพยาบาลแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ”
   หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมาตามตรง เธอส่งรอยยิ้มมาให้อย่างเข้าใจถึงข้อจำกัดมากมายที่คงจะทำให้พี่ชายตรงหน้านี้ทำตามใจเธอไม่ได้ แค่มีคนมาใส่ใจพูดคุยกับเธอแบบนี้ เธอก็ดีใจมากแล้ว สายตาของชายหนุ่มแสดงถึงความเข้าใจในความเจ็บปวดของเธอมาก เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยแบบนี้ คนในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์คงจะรู้ดี

   เฟี๊ยตพาร่างกายมายังฟิตเนสอย่างเหนื่อยล้า เรื่องราวของมะนาวทำให้สมองเขาอื้อไปอย่างบอกไม่ถูกเลย วันนี้ชายหนุ่มมีนัดกับพี่หมู เอาตามความจริงคือเขาลืมไปแล้ว การไปผจญภัยในความฝันนั้นทำให้วันนี้กับเมื่อวานห่างกันเป็นสิบวันเห็นจะได้ โชคดีที่ฟิตเนสแห่งนี้มีระบบการแจ้งเตือนด้วยข้อความทางมือถือ มิเช่นนั้นเห็นทีว่านัดต่อยมวยคงจะกลายเป็นหมันอย่างง่ายดาย
   
   “เป็นไงบ้างน้อง ทำไมดูเพลียๆ” เสียงเข้มจากพี่หมูทักมาอย่างคุ้นเคย ทันทีที่เภสัชกรหนุ่มในชุดวอร์มเดินเข้าไปในห้องฝึก
   “โหยพี่ งานโคตรหนัก วันนี้ผมจะมีแรงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮ่าฮ่า”
   ใจจริงแล้วเฟี๊ยตอยากจะบ่นไอ้เรื่องเกมในฝันของเขามากกว่า แต่ดูจะติดที่ว่ามันดูจะเพ้อฝันเกินไป เขาจึงโบ้ยความผิดไปให้งานของเขาแทน ชายหนุ่มถือโอกาสออกตัวเรื่องความอ่อนล้า เผื่อจะยืมมาเป็นข้ออ้างระหว่างฝึกได้
   “ดีเลย เหนื่อยกับงานเนี่ย ต้องมาออกแรงกับกีฬา เตะป๊าบ เตะป๊าบ เอาให้สุดแรง ฮ่าฮ่า” พี่หมูพูดพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
   “โอ๊ย ไหงไปทางนั้นได้หละ พี่ ฮ่าฮ่า ลืมๆ ไปหลายท่าแล้วพี่ ทวนๆ ให้หน่อยนะครับ”
   เฟี๊ยตพูดพร้อมกับเก็บของสำคัญในล๊อกเกอร์ที่ตั้งอยู่ในตัวห้องแห่งนั้น ก่อนจะเดินขึ้นสู่สังเวียนผ้าใบแคบๆ ที่แสนจะคุ้นเคย

   “เตะ!”
   เสียงคำสั่งของเทรนเนอร์ของเขาดังขึ้นมาอย่างหนักแน่น พร้อมกันกับที่เฟี๊ยตสะบัดต้นขาเพื่อเอาหน้าแข้งอัดไปที่นวมที่สวมอยู่ที่แขนของครูของเขาอย่างเต็มแรง
   ป๊าบบบบบบ
   “เตะแรงอีก!”
   เสียงสั่งดังขึ้นอีกครั้ง เฟี๊ยตพยายามเกร็งหน้าขาให้มากขึ้น และเพิ่มองศาการสะบัดต้นขาให้กว้างกว่าเดิม เพื่อเพิ่มแรงให้ลูกเตะของเขาหนักแน่นขึ้นไปอีก
   ป๊าบบบบบบบบบบบบบ
   “เตะแรงกว่านี้อีก!”
   ความรู้สึกในเสี้ยววินาทีนั้นเหมือนมีอะไรมาดลใจให้เฟี๊ยตนึกถึงครูอิสราก็ไม่รู้ เขารวบรวมจิตไปที่ต้นขาอย่างรวดเร็ว เขากำหนดจิตให้มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเสี้ยวหนึ่ง ก่อนจะถอยหลังมาในสัดส่วนที่มากกว่า ผลคือขาเขาเลื่อนตีวงถอยหลังอย่างช้าๆ จังหวะนั้นเอง เขาเลื่อนจิตกำหนดมาไว้ที่หน้าแข้งนั่น ก่อนจะถ่ายเทแรงที่มีออกไปอย่างเต็มแรงพร้อมกับการเหวี่ยงขาไปยังนวมที่เล็งเป้าหมายไว้
   ตู๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
   พี่หมูของเขาตัวลอยจากพื้นขึ้นเกือบคืบหนึ่งได้ ก่อนที่ตัวจะลอยไปข้างหลังเล็กน้อยตามแรงนั่น เทรนเนอร์หุ่นล่ำของเขาล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว!
   “เฮ้ยย พี่เป็นไรเปล่า ขอโทษครับ ผมไม่นึกว่ามันจะแรงขนาดนี้”
   เฟี๊ยตรีบวิ่งเข้าไปขอโทษขอโพยครูของเขาอย่างรู้สึกผิด เขาไม่นึกเลยว่าทฤษฎีเรื่องจิตที่เรียนมาในความฝันนั่นจะเอามาประยุกต์ใช้ได้จริงๆ แวบนั้นเขาคิดถึงสายตาคมๆ ของครูอิสราอย่างอดไม่ได้ เขาเรื่องอยากจะเรียนรู้เรื่องจิตและจักระให้มากกว่านี้เสียแล้ว
   “แรงดีเหมือนกันนี่หว่าเรา ตอนแรกก็เตะซะเหยาะแหยะเชียว สับหลอกนะเนี่ย มา มาต่อกันอีกสักยก คราวนี้รับประกัน แรงแค่ไหนก็ไม่ยั่น จัดมา!”
   ครูหมูของเขาพูดอย่างร่าเริงแบบไม่ถือสา ก่อนจะจบท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะอย่างง่ายๆ บทเรียนการทบทวนหมัด เท้า เข่า ศอกของเขายังคงดำเนินต่อไปอย่างนั้นจนหมดเวลา เฟี๊ยตเริ่มจับเทคนิคในการรวบรวมจิตตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้ ทฤษฎีเรื่องจิตที่ได้รับการถ่ายทอดมาดูจะให้ผลเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าจิตที่เขาศึกษาเองอย่างงูๆ ปลาๆ ในตอนต้น หากแต่เขาก็ไม่สามารถพัฒนาอะไรไปได้ไกลนัก เพราะเนื้อหาที่ร่ำเรียนมาจากเวลาสามวันในฝันนั้นก็เรียกได้ว่าน้อยเหลือเกิน เห็นทีเขาจะต้องตามหาครูสอนจักระที่ชายเฒ่าคนนั้นฝากฝังไว้ให้เจอเสียแล้ว

   เฟี๊ยตแบกร่างที่ทรุดโทรมยิ่งกว่าตอนออกโรงพยาบาลกลับมาถึงห้องจนสำเร็จ เขาพุ่งตัวไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว สภาพของชายหนุ่มตอนนี้มันกะปลกกะเปลี้ยไปทั้งตัว เขาปล่อยให้สายน้ำเย็นๆ คืนความมีชีวิตชีวาให้กับเขาในเวลานี้ หลังจากอาบน้ำเสร็จเพียงไม่นาน เฟี๊ยตก็ตัดสินใจหาอะไรในครัวมารองท้องก่อนจะหมดวัน เขานัดกับธันไว้ตอนสองทุ่มเมื่อตอนเข้าเกมครั้งที่แล้ว แต่ออกมาจากเกมครั้งล่าสุด เขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันก่อนแม้แต่น้อย เฟี๊ยตหวังว่าธันน่าจะเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามเดิม ชายหนุ่มล้างจานกับแก้วน้ำ เมื่อเห็นว่าเวลาใกล้ถึงสองทุ่มเต็มทน เฟี๊ยตเดินกลับไปยังห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงที่แสนจะคุ้นเคย เขาเลือกที่จะสวดภาวนาในใจบทสั้นๆ ก่อนที่จะปล่อยให้ความรู้สึกในขณะนั้นล่องลอยไปไกลแสนไกล
   
   “ธัน”
   เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริง เมื่อพบว่าทันทีที่ตื่นขึ้น เขาก็กลับมาปรากฏอยู่ในหมู่บ้านลึกลับนั้นเช่นเดิม และที่สำคัญ ดูเหมือนว่าธันจะยังไม่ลืมเรื่องเวลาที่ตกลงกันไว้
   “วะ วะ วะ ว่าไงวะ”
   เสียงของธันตอบออกมาอย่างตะกุกตะกัก ธันในขณะนั้นได้เฝ้ามองเฟี๊ยตมาสักพักแล้ว เด็กหนุ่มตื่นก่อนเป็นเวลาชั่วไม่นานนัก
   “เป็นไรวะ ทำไมพูดติดๆ ขัดๆ” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
   “ปะ ปะ ปะ เปล่า โธ่เอ๊ย ก็บอกว่าเปล่าไง”
   ยิ่งธันพยายามจะทำให้คำพูดของตัวเองดูปรกติเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งไม่สามารถควบคุมตัวเองได้มากเท่าไหร่ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กหนุ่มที่กำลังแอบซ่อนความผิดต่อหน้าพ่อแม่อย่างนั้น ธันเริ่มวิตกจริตขึ้นไปอีกเมื่อสำนึกได้ว่าคนฉลาดอย่างเฟี๊ยตต้องจับพิรุธที่เกิดขึ้นในตัวเขาได้แน่ เด็กหนุ่มพยายามสูดลมหายใจลึกเพื่อปรับความรู้สึกไม่แสดงออกจนมากเกินไปแบบนี้ ดูเหมือนวิญญาณอาภัพนั่นจะหักหลังเขาเสียแล้ว

   “ธัน กูถามจริงๆ เถอะ นี่มึงคิดจะปกปิดไปถึงไหนวะ”
   เฟี๊ยตเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคนั้นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาของเขาจ้องมองลึกลงไปในแววตาของเด็กหนุ่มอย่างหาคำตอบ
   “เฟี๊ยต มึงรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเหรอวะ”
   เสียงของธันตอบมาเพียงสั้นๆ อย่างแผ่วเบา ชั่วขณะ ณ อารมณ์นั้น เขารู้สึกเหมือนก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายของเขามันบินหนีหายไปเสียแล้ว เขารู้สึกโหวงไปหมดทั้งใจ ลำคอมันแห้งผาก เขาไม่รู้จะเลือกใช้ประโยคหรือคำใดในสภาวการณ์เช่นนี้เลย
   
   ทางไปเม้ามอยหอยกาบ : www.facebook.com/allornonetheauthor
   
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
จากผู้แต่ง : ทริปไปเที่ยวโดนยกเลิกเลย ใครแช่งยอมรับมาเดี๋ยวนี้ เศร้า T_T ปล. เรื่องการเรียบเรียงตัวอักษรในนิยายอาจจะไม่ค่อยคงที่ดีบ้างแย่บ้างต้องขอโทษนะครับ คือผมพยายามลงให้มีเว้นวรรค ตัวใหญ่ อ่านง่าย แต่เปิดจากโน๊ตบุ๊คก็เห็นแบบนึง เปิดในแม๊คบุ๊คก็เห็นแบบนึง คือสรุปว่า ลงแบบไหนก็ตามมันก็ต้องมีคนอ่านที่อ่านง่ายและอ่านยากอยู่แล้วอ่าครับ ผมเลยลงตามผมสะดวกแล้วกันนะ แหะๆ

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 o22 สรุปว่าเอาสกิลในเกมส์มาใช้ได้ด้วยเหรอ
ยังงี้ GM ในชีวิตจริงไม่เทพเลยเหรอเนี่ย

 :hao6: น้องธันคิดไปไกลล่ะ เฟี๊ยตคงไม่ได้หมายถึงยะงงั้นหรอกหน่า

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อ่าา ตกลงเฟี๊ยตรู้หรือไม่รู้อ่า อ่านตอนที่ 153 เหมือนจะไม่รู้ เลย แล้วตอนนี้ มาไล่ต้อนธัน อ่าา รอคนเขียนมาเฉลยค่าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด