บทที่ 95 The Sky Walker
“ของจริงหรือราคาคุย เดี๋ยวก็รู้ ถ้าแพ้แล้วก็เลิกเรียกว่าน้องเฟี๊ยตสักที ไอ้น้องธัน ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิด และทำตัวร่าเริงขึ้นมาบ้าง เขาเริ่มรู้สึกตัวการแสดงออกว่าตัวเองหัวเสียนั้นเป็นการหลงตามเกมของเด็กนี่ เขาต้องนิ่งไว้ ถึงแม้ว่าข้างในจะไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ก็ตาม
“รับครับ พี่ธันคันไม้คันมือจะแข่งแล้วครับ ฮ่าฮ่า” ชายหนุ่มขี้แกล้งตอบรับคำท้าสู้นั่นแต่โดยดี เขาค่อยๆ เปิดสมุดการ์ดเลือกไพ่อย่างใจเย็น ใจเย็นจนเฟี๊ยตเริ่มจะหน้าบูดเพราะความใจเย็นนั่นแล้ว
“กรุณาเลือกจำนวนการ์ดที่ใช้ในการประลอง”
“1 ใบ” เฟี๊ยตเป็นคนตอบ
“กรุณาเลือกเลเวลสูงสุดของการ์ดที่จะใช้ในการประลอง”
“เท่าไหร่ดีครับ น้องเฟี๊ยตตต” ธันจงใจลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท
“คิดเองดิ ไอ้คิ้วฝาบ้าน” เฟี๊ยตตอบกลับไปสั้นๆ หวังว่าจะทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มเลือกหยิบเอาประเด็นความหนาเข้มของคิ้วคนตรงหน้ามาเป็นอาวุธ
“งั้นเอา 10 ก็ได้ครับ คุณคนแคระเขาบอกว่าอะไรก็ได้” ธันตอบโต้กลับไปแบบเจ็บๆ คันๆ
“ใครคนแคระวะ เขาเรียกว่ามาตรฐานชายไทย” เฟี๊ยตเถียง เขาสูงเกือบๆ ร้อยเจ็ดสิบห้า และเขาไม่เคยมองว่ามันเป็นปัญหาเลย จนกระทั่งคนตรงหน้านี้ชี้ประเด็นขึ้นมา
“มาตรฐานชายไทย คือ 180 เซนติเมตรครับ ถ้าน้อยกว่านี้พี่ธันถือว่าเตี้ยนะครับ น้องเฟี๊ยต ฮ่าฮ่า” เจ้าของส่วนสูง 180 กว่าๆ นั่นพูดอย่างเข้าข้างตัวเอง พร้อมหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“กรุณาเลือกการ์ดที่จะเดิมพันค่ะ”
“ไม่เดิมพันครับ” เฟี๊ยตตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ว๊า อย่างนี้ก็ไม่สนุกนะครับน้องเฟี๊ยต” เสียงคู่แข่งของเขาพูดมาทั้งๆ ที่มือยังพลิกเลือกการ์ดในสมุดอยู่อย่างนั้น เฟี๊ยตเกือบจะโต้ตอบออกไป แต่ตัดสินใจเงียบเสีย เขาจะไม่หลงกลอารมณ์เสียตามเกมคนตรงหน้าอีกแล้ว
“กรุณาเลือกการ์ดที่จะใช้ต่อสู้ใส่ลงในช่องการ์ดท้ายสมุด”
“ทำไมเงียบไปละครับน้องเฟี๊ยต ยอมเป็นน้องแล้วหรอครับผม” เสียงใสนั่นเอ่ยขึ้นมาอย่างจงใจยั่วยวน แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรออกไปทั้งสิ้น เภสัชกรหนุ่มยืนนิ่งๆ รวมรวมสติเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้เท่านั้น เขาไม่ยอมแพ้ในศึกศักดิ์ศรีนี้แน่ แม้ว่าจะต้องงัดกลยุทธ์อะไรออกมาสู้ก็ตาม!
“กรุณายืนยันการเลือกการ์ด”
“ยืนยันครับ” บุคคลทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน หลังจากที่เฟี๊ยตเลิกต่อปากต่อคำกับธันไปแล้ว ธันก็ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวและเตรียมพร้อมกับการต่อสู้มากขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าตาของชายทั้งคู่จะยังคงเจือไปด้วยรอยยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าสายตาทั้งคู่ฉายแววเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ ศึกศักดิ์ศรีนี่ไม่มีใครยอมต่อให้ใครเป็นแน่
“DUEL!” เสียงประกาศดังสนั่นขึ้น หลังจากหนังสือของทั้งคู่เรืองแสง บ่งบอกว่าเตรียมพร้อมสู่การประลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“The Defensive Golem RELEASE!”
“The Sky Walker RELEASE!”
เสียงประกาศกร้าวเรียกใช้การ์ดหนึ่งใบที่ถูกเลือกไว้ดังขึ้นจากปากชายทั้งสองแทบจะในเวลาเดียวกันก็ว่าได้ ปีศาจที่ร่างถูกประดิษฐ์ขึ้นด้วยทรายปรากฏกายขึ้นเป็นองครักษ์อยู่ด้านหลังของเฟี๊ยตเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่ทางด้านฝั่งของธันยังเงียบสงบอยู่อย่างนั้น ไร้ร่องรอยของการเรียกใช้การ์ดใดๆ ทั้งสิ้น
“บางที น้องเฟี๊ยตอาจจะไม่รู้ว่าการดูเอลนั้นไม่นับไพ่พรสวรรค์ในการต่อสู้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้เล่นสามารถใช้การ์ดพรสวรรค์ได้ไม่จำกัด” ธันเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งเย้า
“The Sword of Hydra RELEASE!” คำประกาศสั่งดังขึ้นจากชายผู้เกิดมาพร้อมสายฟ้าผู้นั้น ดาบเล่มมหึหาปรากฏขึ้นในมือคู่นั้น ธันยกดาบยาวเกือบสองเมตรด้วยมือข้างเดียวราวกับว่ามันเป็นของไร้น้ำหนักอย่างใดอย่างนั้น สายตานั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“บางที น้องธันอาจจะไม่รู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเผยไต๋ทุกอย่างให้คู่ต่อสู้รู้ก็ได้นะครับ น้องเล่นบอกพี่หมดอย่างนี้ พี่ก็เอาชนะน้องง่ายๆ สิครับ ไม่เห็นสนุกเลย” เฟี๊ยตตอบอย่างเรียบๆ พร้อมยกริมฝีปากขึ้นเยาะน้อยๆ ชายหนุ่มกำลังสู้กับเด็กตรงหน้าด้วยจิตวิทยา เขาเองไม่เคยรู้ข้อเท็จจริงเรื่องที่ธันพูดมาก่อน แต่ถึงจะรู้มาก่อนมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนัก เพราะไพ่พรสวรรค์ของเขาแต่ละใบห่างไกลจากคำว่าต่อสู้นัก พูดให้ถูกคือการ์ดที่เขามีสะสมอยู่ในสมุดแทบจะเอามาใช้ต่อสู้ไม่ได้เลยต่างหาก!
ธันเอียงคอน้อยๆ พร้อมกับยิ้มมุมปาก แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรตอบโต้ออกมา ธันกระชับดาบในมืออย่างเตรียมพร้อม ก่อนจะประกาศออกมาอย่างมั่นใจ
“จะเริ่มลงมือแล้ว พี่ไม่ออมมือให้นะ บอกไว้ก่อน แต่พี่ก็จะไม่เลยเถิดไปถึงขั้นฆ่าแกงกัน เอาแค่ประลองฝีมือสนุกๆ ก็พอ เดี๋ยวตายไป ไม่มีคนลับฝีปากแล้วจะเฉาแย่ ฮ่าฮ่า” น้ำเสียงกึ่งจริงจังกึ่งเล่นนั่นส่งออกมาถึงเขา คนตรงหน้านี้ไม่ได้ดูเด็กตามอายุเลย ถึงแม้ว่าจะติดเล่นไปมาก แต่ก็ดูมีวุฒิภาวะมากพอสมควร
หลังจากจบคำพูดเปิดสมรภูมิรบนั่นแล้ว ธันก็ทำสิ่งที่เฟี๊ยตไม่คิดว่าจะเห็นได้ด้วยตาตัวเองมาก่อน นั่นก็คือ คู่ต่อสู้ของเขาเดินไปบนอากาศได้ราวกับมีมนต์วิเศษ ธันเหยียบอากาศราวกับว่ามันมีบันไดที่มองไม่เห็นได้รองรับอยู่อย่างใดอย่างนั้น เท้าคู่นั้นก้าวขึ้นไปเหนือพื้นดินอย่างมั่นคง ขณะนี้ธันกำลังยืนอยู่กลางอากาศสูงไปจากพื้นประมาณ 3 เมตรได้ ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับเดินเล่นอยู่ในสวนฉะนั้น
“กระสุนทราย!”
เฟี๊ยตสั่งการทันทีที่คู่ต่อสู้ยืนโดดเด่นเป็นเป้านิ่งอยู่บนอากาศ โกเลมของเขาชี้นิ้วไปทิศดังกล่าวก่อนจะยิงลูกปืนขนาดประมาณลูกบอลออกไปจากปลายนิ้ว กระสุนทรายนั่นพุ่งตรงเข้าสู่ร่างของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว
“ช้า”
คำสบประมาทเพียงสั้นๆ หลุดออกมาจากปากคู่ต่อสู้ที่ยังคงยิ้มกวนโมโหอยู่อย่างนั้น ฤทธิ์ของการ์ดตัวตนของธันทำให้เขาเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาสามารถหลบหลีกได้ทั้ง 360 องศา ราวกับว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นมารองรับเขาไว้ตลอด เพียงแค่เบี่ยงตัวไปด้านข้างเพียงนิดเดียว กระสุนทรายของเฟี๊ยตก็พลาดเป้าหมายไปอย่างน่าเสียดาย
“ฝนทราย!”
เฟี๊ยตเปลี่ยนแผนการอย่างฉับพลัน การ์ดของธันเป็นเพียงอาวุธเท่านั้น ไม่มีทางที่จะป้องกันการโจมตีปริมาณมากและต่อเนื่องอย่างนี้ได้แน่ กระสุนรัศมีประมาณหนึ่งนิ้วพุ่งเข้าหาธันราวกับห่าฝน ปริมาณมันมากมายมหาศาลเกินกว่าจะหลบได้โดยง่าย ห่ากระสุนนั้นดักชายหนุ่มนั่นไว้ทุกทิศทาง!
“ไม่เอาน่า นี่จะทดสอบฝีมือกันหรือไง น้องเฟี๊ยต”
ธันพูดพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี มือที่ถือดาบนั่นกวัดแกว่งไปมาเพื่อปัดกระสุนเหล่านั้น ถึงแม้ว่าท่าทางของคนตรงหน้าจะดูไม่จริงจังกับการต่อสู้มากแค่ไหน แต่ความเฉียบคมของการเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้ติดเล่นเหมือนคำพูดเลย ทุกการขยับข้อมือหนึ่งครั้ง หมายถึงจะต้องมีห่ากระสุนชุดหนึ่งถูกปัดหายไปจากแนวการต่อสู้ ห่ากระสุนมากมายแค่ไหนก็ดูจะทำภยันอันตรายอะไรไม่ได้เลย ชายคนนั้นกวัดแกว่งดาบได้ราวกับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเอง
‘เก่งกว่าที่คิด!’ เฟี๊ยตบ่นกับตัวเองในใจ คนตรงหน้านี้เชี่ยวชาญสนามแข่งมามากกว่าที่เขาคิดมาก ดูจากความนิ่งในการประลองก็รู้ การเคลื่อนไหวที่เฉียบคมภายใต้อาการสบายๆ ในการต่อสู้นั้น บ่งบอกได้ชัดว่าชายตรงหน้านี่เจนจัดเรื่องจิตวิทยาอยู่ไม่น้อยเลย แถมเจ้าเด็กนั่นยังสามารถใช้อาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ราวกับว่าคุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี
“บอลทราย!” เฟี๊ยตเปลี่ยนคำสั่งการกับเจ้าสมุนของเขา ปริมาณกระสุนที่ลดน้อยลง แลกมาด้วยขนาดของกระสุนที่ใหญ่ขึ้นเกือบสิบเท่าตัว
“ดาบธรรมดาอาจจะสู้กระสุนยักษ์พวกนี้ไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช้ดาบของพี่ธันนะครับ” คู่ต่อสู้ของเอ่ยออกมาเรียบๆ ก่อนจะค่อยๆ ใช้ดาบของตนตวัดไปที่ลูกกระสุนแต่ละลูกอย่างถนัดถนี่ ทุกการเคลื่อนไหวที่ว่องไวนั่นจะทำลายกระสุนให้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
‘จิต ไอ้เด็กนี่รวบรวมจิตได้แม่นยำมาก’ เฟี๊ยตเพ่งจิตไป และพบว่าดาบนั่นอัดแน่นไปด้วยจักระที่เต็มเปี่ยม การต่อสู้นี่ตึงมือกว่าที่วางแผนไว้มากนัก
เฟี๊ยตปรับกระบวนท่าการโจมตีหลายต่อหลายอย่างด้วยหวังจะเอาชนะคนตรงหน้า แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์เลย เพราะเจ้าเด็กสายฟ้านี่สามารถจัดการได้อย่างราบคาบ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีทีท่าว่าธันจะพยายามโจมตีสวนกลับมาสักนิด ราวกับว่าปล่อยให้เด็กอันธพาลอย่างเขาหาเรื่องไปเรื่อยๆ จนเหนื่อยไปเอง ซึ่งนั่นมันทำให้เขาหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเลย
“คุกทราย!”
เฟี๊ยตอาศัยช่วงจังหวะที่ธันกำลังรวมจิตไปที่ดาบนั่น สั่งใช้คำสั่งใหม่ที่เขาคิดว่าธันไม่มีทางรับมือทันได้แน่ มวลทรายปริมาณมหาศาลพุ่งมาจากทุกทิศทางอัดแน่นไปที่ตัวของเด็กหนุ่มคนนั้น
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ธันที่เคยเอาแต่ยิ้มระรื่น บัดนี้ถึงกับตะโกนร้องเสียงหลง เมื่อถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัว ทรายจากทุกทิศทางนั่นพุ่งเข้ามารวดเร็วและมากมายเกินกว่าจะปัดป้องได้ ทรายนั่นอัดแน่นที่ตัวเด็กหนุ่มจนมิดทุกทิศทาง คุกทรายทรงกลมสนิทคุมขังคู่ต่อสู้จอมอวดเก่งของเขาลอยอยู่กลางอากาศเพื่อรอคอยคำสั่งต่อไป
“Bungee Jump!” ความรู้สึกชั่ววูบสั่งให้เขาใช้ไม้ตายก้นหีบไปอย่างไม่ทันคิด ลูกบอลทรายยักษ์นั่นพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วจนไกลลิบ ก่อนจะพุ่งตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วเหมือนเครื่องเล่นบันจี้จั๊มพ์อย่างใดอย่างนั้น ต่างกันแค่ตรงที่ว่าลูกบอลที่บรรจุไอ้เด็กกวนประสาทอยู่นี่ไม่มีสายยางยืดป้องกันการกระแทกไว้เลย แรงที่เกิดจากการกระแทกจากที่สูงขนาดนั้นคงมากมายมหาศาล และกระทบส่งต่อกันไปมาในลูกบอลแคบๆ นั่น แรงบีบอัดเกินจินตนาการไหวคงจะป่นปี้ร่างกายของคู่ต่อสู้เขาจนไม่เหลือชิ้นดี!
‘ขอโทษนะธัน นายเก่งเกินไป คงต้องเอาชนะด้วยวิธีนี้แหละ ไว้ถ้ากลับเข้าเกมมาใหม่จะขอโทษจากปากละกัน ขอบคุณที่เคยช่วยชีวิตเราไว้’ เฟี๊ยตเอ่ยในใจขณะที่มองลูกบอลกำลังตกมาจากฟากฟ้านั่น
“ลาก่อน!”
จากผู้แต่ง : อยากอ่านคอมเมนท์จัง ใครอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วถูกใจ เมนท์เป็นกำลังใจให้หน่อยนะ T^T
![:ling1:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/ling1.gif)