…………………………………………………16…………………………………………..
หลังจากวันที่รู้ความจริง ผมก็ยังต้องเป็นคนใช้ไอ้วัตมันเหมือนเดิม แต่เวลาของผมในบ้านหลังนี้เหลืออีกแค่สองอาทิตย์เท่านั้น สองอาทิตย์ที่ผมจะได้เป็นไท แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจสักนิดเลยนะ ผมยังอยากอยู่กับลูก ผมอยากดูแลพีพี อยากใช้เวลาทุกวินาที เพื่อชดเชยให้พีพี
“อาเล็กครับๆ ไปช่วยสอนการบ้านพีพีหน่อยครับ” ร่างเล็กวิ่งเข้ามาในครัวพลางลากผมออกมาข้างนอกด้วย ถ้าถามว่าไอ้วัตมันเลิกกีดกันผมแล้วเหรอต้องตอบว่าไม่หรอกครับ เคยเป็นยังไงมันก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนหรอก แต่แค่วันนี้มันไม่อยู่บ้านเท่านั้นเอง ผมเลยมีโอกาสได้เล่นกับ ลูก ก็เท่านั้น
“ไหนครับคนเก่ง”
“นี่ไงๆ” มือป้อมๆชี้ที่หนังสือ ระบายสี ก่อนจะนั่งลงพลางตบข้างตัวเป็นสัญญาณให้ผมนั่งลงด้วย
“วันนี้คุณครูให้ พีพีวาดรูปอะไรครับ”
“สวนสนุกครับ”
ผมยิ้มก่อนจะสอนแกวาดรูปเครื่องเล่นต่างๆในสวนสนุกมันก็ไม่บ่อยนักหรอกครับที่ผมจะได้ไปสวนสนุก อาศัยว่าเคยเห็นในทีวีบ้าง ก็เลยพอจะบอกลูกได้
“อาเล็กครับ วันหลังเราไปเที่ยวสวนสนุกกันไหมครับ”
“เจ้าตัวแสบ คราวก่อนก็ภูเขา คราวนี้ก็สวนสนุกชักเอาใหญ่แล้วนะเราน่ะ” ผมบอกอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะบีบจมูกเล็กๆนั่นเบาๆ
“ก็พีพี ไม่เคยไปนี่นา เพื่อนที่โรงเรียนชอบมาเล่าให้ พีพีฟัง อาเล็กพาพีพีไปหน่อยสิครับ” เด็กน้อยยังอ้อนต่อ
“คุยอะไรกันอยู่ครับ พีพี” เสียงทุ้มของเจ้าของบ้านเอ่ยถาม ก่อนที่พีพีจะวิ่งเข้าไปกอดคุณป๋าของแกแน่น
“ว่าไงครับ คุยอะไรกันเอ่ย”
“คุยเรื่องสวนสนุกครับ คุณป๋าพีพีอยากไปสวนสนุกเราไปเที่ยวกันนะครับ” เด็กชายอ้อน
“อืม เอาไงดีน๊า หอมแก้มคุณป๋าก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี่คุณป๋าพาไปดีไหมครับ” ไอ้วัตบอกก่อนจะชี้ที่แก้มของตัวเอง เด็กชายยิ้มกว้าง
ก่อนจะกดจมูกลงไป
ผมกำลังอิจฉา อิจฉาอยู่ลึกๆที่ไอ้วัตมีสิทธิ์เรียกตัวเองว่าพ่อ แต่ผมก็ไม่อยากเอาความจริงมาทำร้ายพีพี พีพียังเด็กเกินไปที่จะรับรู้เรื่องอะไรพวกนี้
“คุณป๋า สัญญาแล้วต้องพาไปนะ อ้อ พาอาเล็กไปด้วยนะ”
“เอ่อ พีพี ครับ อาไม่ไปก็ได้ครับ” ผมบอกถึงจะอยากไปใจแทบขาดแต่ผมก็รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะไป
“ก็ไปด้วยกันซะสิ ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นลอยๆ ผมได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าไอ้วัตมันจะใจดีขนาดที่อนุญาตให้ผมไปด้วย
“เย้ๆๆๆ พีพีจะได้ไปเที่ยวเย้ๆๆ”
เด็กน้อยกระโดดไปรอบๆตัวผมกับไอ้วัต อย่างร่าเริง ผมได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของพีพี ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากดูแลเด็กคนนี้ตลอดไป ถึงไม่ใช่ในฐานะพ่อ แต่ผมก็จะเป็นอาเล็กของพีพีตลอดไป
ผมเดินเข้ามาในห้องที่ผมแอบเรียกในใจว่า “ห้องมืด” อย่างเคยชิน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ผมเข้าออกห้องนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติ และเมื่อไหร่กันที่ผมเริ่มเห็นว่าไอ้ห้องสีทึบๆนี่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“วันนี้มึงมาช้า 5 นาทีนะ” เสียงทุ้มของเจ้าของห้องที่นอนดูทีวีอยู่บนโซฟาตัวใหญ่เอ่ยขึ้นลอยๆ
“วันนี้ พีพีไม่ยอมนอนน่ะ แกคงตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว” ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่บทสนทนาพวกนี้มักเกิดขึ้นทุกวันจนกลายเป็นเรื่อง
ปกติ น้ำเสียงประชดและท่าทางเหมือนเกลียดกันมันเริ่มลดลงอย่างช้าๆ เราสองคนพูดจากันดีขึ้นต่างจากเมื่อก่อนที่หน้าก็แทบจะไม่อยากมอง
“ก็ดี” ร่างสูงนั้นเอ่ย ก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
“ไม่ขัดขืนสักหน่อยเหรอ” ริมฝีปากได้รูปเอ่ยขึ้น พลางกดจูบที่ซอกคอของผม
“หึ แล้วมันมีประโยชน์หรือไงไอ้การขัดขืนน่ะ” ผมถามพลางบังคับให้เสียงตัวเองไม่สั่น เพราะมือหนานั่นกำลังลูบอยู่บนตัวผม
“มันก็ตื่นเต้นดี อย่างน้อยก็รู้ว่านอนกับคนไม่ใช่ท่อนไม้” เสียงทุ้มยังคงกระซิบตอบ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“มึงมันโรคจิต!!!”
“แต่มึงก็ชอบไม่ใช่หรือไง กูก็เห็นว่ามึงก็ครางอยู่ทุกคืน”
เอ่ยจบริมฝีปากได้รูปนั่นก็ประกบปากผมทันที มันไม่ได้อ่อนโยนแต่ก็ไม่ได้รุนแรงและเอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อน หลังๆมานี่ผมรู้สึกว่าไอ้วัตมันไม่ค่อยอารมณ์เสียใส่ผมเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามันเกิดจาก ความเวทนา หรือความสงสาร แต่มันกลับมีอิทธิพลกับหัวใจของผม จนบางครั้งผมอยากให้มันกลับไปร้ายใส่เหมือนเดิมเพราะอย่างน้อยเสียงหัวใจผมก็ยังร่ำร้องว่าเกลียดมัน แต่วันนี้ หัวใจผมมันกำลังเปลี่ยนไป เสียงแห่งความเกลียดมันกำลังเสียงเบาลงทุกทีๆ ผมกำลังกลัว กลัวว่าวันนึงผมจะเลิกเกลียดมัน
“คิดถึงใครอยู่ ตอนนี้มึงต้องคิดถึงกูเข้าใจไหมเล็ก” เสียงทุ้มบอกก่อนจะเริ่มนัวเนียซุกไซ้ผมไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีร่างของเราสองคนก็เปลือยเปล่าแล้ว
“อ๊ะ อื๊อ” เสียงครางที่ผมพยายามกลั้นไว้หลุดออกมาหลังจากที่มือหนาลูบแก่นกายที่ตื่นตัวของผม
“หึ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเพิ่มความเร็วมากขึ้น
“อะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อื้อ” เสียงหน้าอายพวกนั้น ผมไม่สามารถควบคุมมันได้อีกแล้ว สติและการควบคุมของผมเหมือนจะช้าลง จนเหมือนล่องลอยอยู่บนอากาศ ก่อนที่ร่างสูงจะเพิ่มจังหวะขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับส่งลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากผม ความร้อนแรงที่แผงไปด้วยความอ่อนโยนกำลังทำให้ผมแปลกใจอีกแล้ว เมื่อก่อนไอ้วัตไม่เคย เล้าโลม ไม่เคยแม้แต่จะจูบผมด้วยซ้ำ หัวใจผมมันเต้นแปลกๆอีกแล้ว
“อ๊ะ อื๊อ อ๊า” ผมแหงนหน้าก่อนจะกระตุกตัวอย่างแรงเพราะจึงจุดปลายทางของแรงอารมณ์
ไอ้วัตยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบเจลหล่อลื่นบนหัวเตียงชโลมนิ้วมือของตัว
“โอ๊ย ไอ้วัต เจ็บนะเว้ย” ผมเหวลั่น เพราะไอ้วัตมันใส่เข้ามาทีเดียวสองนิ้ว
“หึ กูบอกมึงแล้วไงว่าห้ามคิดถึงเรื่องอื่น ตอนนี้มึงต้องคิดถึงแต่กูเท่านั้น” ประโยคเอาแต่แบบเด็กๆของคนตัวโตกำลังทำผมใจเต้น
อีกจนได้ ไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด ผมจะใจเต้นกับมันไม่ได้เด็ดขาด
“กูทนไม่ไหวแล้วว่ะเล็ก ขอเข้าไปล่ะนะ” ไอ้วัตบอก ก่อนจะกดแก่นกายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาเข้ามาในตัวผม มันก็ยังเจ็บและจุกอยู่เหมือนเดิม
“นี่มึงยังไม่ชินอีกเหรอเนี่ย โดนทุกวันยังไม่ชินอีก”
“ใครมันจะไปโรคจิตเหมือนมึงกัน” ผมว่ากลับบ้าง
“เดี๋ยวนี้ต่อปากต่อคำเก่งนะ” ไอ้วัตบอกก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างแรง
“อื๊อ อ๊า อะ ไอ้ บ้า อุ๊บส์ อื๊ออออออออออ”
เสียงของผมหายไปทันทีที่คนตัวสูงประกบปากลงมา ลิ้นร้อนที่ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดกำลังดึงสติผมให้หลุดลอยไปอีกครั้งพร้อมกับความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“อื๊อออออออ”
เสียงกระทบกันของสะโพกทำเอาผมหน้ามืดตาลาย ผมก็เป็นแคมนุษย์ธรรมดานะครับ มีอารมณ์ มีความใคร่เหมือนกับทุกๆคน
ไหนจะโดนจูบช่ำชองของไอ้วัตเข้าไปมันทำให้ผมเผลอยกสะโพกตอบรับมันอย่างลืมตัว
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า ” ผมครางลั่น ก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้อง ไอ้วัตยังยิ้มมุมปากของมันอยู่ก่อนจะปล่อยเข้ามาในตัวผมบ้างเหมือนกัน
“หึ เดี๋ยวนี้รู้สึกว่ามึงจะ ร้อนแรงขึ้นนะ” ไอ้วัตบอกก่อนจะถอนแก่นกายออกจากตัวผม พลางกดจูบที่ซอกคอ ผมเลือกที่จะไม่ตอบเพราะตอนนี้หัวใจผมกำลังสับสน สับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของใครบางคน และที่สับสนที่สุดคือหัวใจของผม ผมกำลังไม่เข้าใจไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจผมถึงเต้นแรงแบบนี้ มันไม่ใช่ความรังเกียจ เหมือนเมื่อเดือนก่อน แต่มันกำลังเต้นแรงเพราะความรู้สึกที่คล้ายกับ “ความรัก” และมันทำให้ผมกลัว
อย่านะไอ้เล็ก อย่าหวั่นไหวเด็ดขาด มึงอยู่ที่นี่ในฐานะของ ทาส เท่านั้น อย่าใจเต้นกับความอ่อนโยนพวกนั้นอีกเลย เพราะสุดท้ายคนที่จะต้องเจ็บก็คือมึงคนเดียวต่อด้านล่าง