ตอน 23
“เล็ก เช็คของหลังร้านก่อนกลับด้วยนะ”
“ครับพี่ต้น” ผมรับคำก่อนจะเข้าไปเช็คของที่จะใช้พรุ่งนี้หลังร้าน ตอนนี้ผมทำงานที่ร้านกาแฟเล็กๆ ร้านนึงครับ เป็นร้านกาแฟที่ออกแนวเหมือนแกลอรี่ภาพได้เกือบเดือนแล้ว ที่นี่ทำให้ผมมีความสุข ความสุขที่ผมไม่เคยได้รับจากการเป็นชนาธี สิริพิทักษ์ ที่นี่ผมเป็นแค่ไอ้เล็ก เด็กจากต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพไม่ใช่ลูกหลานผู้ดีมีชาติตระกูลแต่ผมกลับได้รับความจริงใจจากคนรอบข้าง มากมายจนผมรับแทบไม่ทัน
“แล้วนี่กลับยังไงล่ะเรา” พี่ต้นเจ้าของร้านเอ่ยถามผม
“คงกลับพร้อมไอ้ไม้ อ่ะพี่”
ไม้ คือพนักงานอีกคนของร้าน “แกลอรี่” ที่ผมทำงานอยู่ ไอ้นี่มันเป็นเด็กช่าง แต่เป็นช่างทำขนมนะครับ มันเรียนคหกรรม เพราะไม้บอกว่าอยากเปิดร้าน เบเกอรี่เป็นของตัวเอง ไม้เป็นเด็กขยันนะครับถึงมันจะกวนส้นเท้าไปสักหน่อยแต่ก็ไม่ใช่คนเลวอะไร
“ไอ้ไม้เนี่ยนะ ให้พี่ไปส่งดีกว่าไหม กลับมอไซต์กับไอ้ไม้มันอันตรายนะ”
“โด่ อะไรอ่ะลุง ผมขับมอไซต์นิ่มจะตาย อันตรายตรงไหน เทพไม้ รู้จักเปล่า” ไอ้ไม้เหวลั่น ก่อนจะคักคิ้วกวนพี่ต้นไปหลายที
“ไอ้เด็กเวร บอกให้เรียกพี่ เรียกพี่ กูไปเป็นพี่พ่อมึงตอนไหนว่ะ” พี่ต้นด่ากลับ คู่นี้ประจำแหล่ะครับ ถ้าวันไหนไม่ได้ด่ากันวันนี้น้ำท่วมแน่ๆ
“ก็ลุงแก่อะ คนอาร๊ายยยยย อายุ 28 แต่หน้าเนี่ยนึกว่า 40 รู้จักกินคอลาเจนบ้างนะลุง หรือลุงซื้อไม่เป็นเดี๋ยวผมซื้อมาฝากนะ”
“ไอ้ไม้ พูดแบบนี้ กินโปรตีน ก่อนไหมห่ะ” พี่ต้นเหวลั่นก่อนจะวิ่งไล่เตะเจ้าเด็กจอมกวนลั่นร้าน
ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางที่ดูเหมือนจะตีกันตลอดเวลาของสองคนนี้ ถึงมันจะน่ารำคาญไปบ้างมันก็ดีกว่าอยู่เงียบๆคนเดียวเป็นไหนๆ
“พอเถอะครับ ผมว่ามันดึกแล้วนะ ปิดร้านดีกว่านะครับ” ผมเอ่ยห้าม ไม่งั้นคนแก่กับเด็กเกรียนคงวิ่งไล่กันทั้งคืนแน่ๆ
“ชิ เพราะลุงแหล่ะ ผมเลยโดนพี่เล็กดุเลย” ไอ้เด็กตัวแสบบอกกก่อนจะช่วยผมปิดร้าน
เราเอ่ยลาเจ้าของร้านใจดีก่อนที่ผมจะแปลงร่างเป็นสก๊อยส์ ซ้อนท้ายไอ้ไม้กลับบ้าน
ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนราคาถูก อย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ยังยิ้มได้ ถึงที่นี่จะเป็นแค่ห้องเช่าเล็กๆแต่ผมกลับมีความสุขมากตอนอยู่ในสิริพิทักษ์ ซะอีก และที่สำคัญที่นี่ก็ยังห่างจากโรงเรียนของพีพีแค่สองไฟแดง ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้อยู่ใกล้ลูกมากขึ้นถึงผมจะออกไปแสดงตัวไม่ได้ แต่ผมก็ยังดีใจที่ยังคงเห็นว่า พีพียังยิ้มกว้างได้ทุกวัน
“อ้าวพี่ จะไปที่โรงเรียนนั่นอีกแล้วเหรอ” ไม้ที่ดูท่าทางเหมือนเพิ่งไปวิ่งมาเอ่ยถามผม
“อืม”
“ไอ้โรงเรียนนั้นมันมีอะไรดีอ่ะ ผมเห็นพี่ไปทุกวันเลย หรือว่าแอบชอบครูที่โรงเรียนนั้นเหรอพี่” เจ้าเด็กเกรียนล้อ
“ไม่ใช่เว้ย ช่างพี่เถอะน่า แกไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวไปทำงานสายโดนพี่ต้นด่าไม่รู้ด้วยนะโว้ย”
“คร้าบๆๆ พี่เนี่ยคนกำลังอารมณ์ดี พูดถึงไอ้ลุงนั่นทำไมก็ไม่รู้ ไปดีกว่า” เจ้าไม้บอก ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป
ผมเดินฝ่าฝูงชนในชั่วโมงเร่งรีบออกมาถึงหน้าโรงเรียนพีพี จนได้เหลือบมองนาฬิกาที่เกือยจะไม่ทันอย่างโล่งอกปกติพีพีจะมาถึงโรงเรียนประมาณเจ็ดโมงครึ่ง นี่ก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงยี่สิบแล้ว เฮ้อ สงสัยพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ากว่านี้ซะแล้ว ผมยืนรออยู่สักพักรถยนต์คุ้นตาก็เข้ามาจอดที่หน้าโรงเรียนก่อนที่ไอ้วัตจะอุ้มพีพี ลงมาจากรถ จริงๆผมว่ามันก็แปลกนะ เพราะปกติแล้วไอ้วัตมันไม่เคยมาส่งพีพีเลยสักครั้งแต่เท่าที่สังเกตช่วงสักเดือนนึงที่ผ่านมาไอ้วัตมาส่งพีพีตลอดเลย แต่ช่างเถอะสงสัยมันคงจะอยากทำเพื่อทำหน้าที่ “พ่อ” ที่ดีบ้าง หน้าที่ที่ผมอยากจะทำแต่กลับไม่มีสิทธิ์อะไรเลย
ผมยืนมองพีพีที่เดินเข้าไปในโรงเรียนจนลับตา ถึงจะอยากไปหาใจจะขาดแต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปจากชีวิตเดิมๆที่เป็นอยู่แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันอาจจะเหมือนคนหนีปัญหา แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครจริงๆ
“เล็ก เหม่ออีกแล้ว วันนี้เป็นอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” พี่ต้นเอ่ยถามผมก่อนจะละมือจากกาแฟตรงหน้า
“เปล่าครับพี่ ผมแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เพราะถ้าไม่สบายขึ้นมามันจะยุ่ง พี่เป็นห่วง” พี่ต้นบอก
ผมทำได้แค่หลบสายตาห่วงใยที่ส่งมาให้ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไปเรื่อย ผมไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าพี่ต้น “คิด” กับผมแบบไหน แต่ผมเลือกที่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้มากกว่า ผมยังไม่อยากทำร้ายจิตใจพี่ต้น พี่ต้นเป็นคนดี ผมเชื่อว่าสักวันพี่เขาจะรู้ตัวว่าไม่ควรชอบคนอย่างผม
“ลุง ลาเต้ สอง เร็วๆด้วยลูกค้ารออย่ามัวแต่ทำตาหวานเดี๋ยวกาแฟจะกลายเป็นน้ำตาล”
“ไอ้ไม้ ไอ้ตัวมาร จะไปไหนก็ไปเลยไป๊”
“ไปอยู่แล้ว ไม่อยากอยู่นักหรอก เบื่อหน้าคนแก่ว่ะ” ไม้บอกก่อนจะเดินไปรับออร์เดอร์ที่หน้าร้านทิ้งให้พี่ต้นฮึดฮัดอยู่คนเดียว
“ผมว่าไม้มันน่ารักนะพี่ พี่คิดเหมือนผมไหม”
“น่ารักกับผีนะสิ ไอ้เด็กเวรนี่ กวนก็เท่านั้นแถมยังเกรียนอีก เล็กมองยังไงว่ามันน่ารักเนี่ย”
“เด็กคนนี้ถึงจะกวนไปหน่อยแต่ ก็จริงใจ นิสัยถึงจะห่ามๆไปบ้างแต่ก็ไม่เคยเสแสร้ง ผมว่าคนแบบนี้น่าคบกว่าพวกที่ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอเยอะนะพี่” ผมบอกอีกคน
“พี่ว่าเราเนี่ย คิดมากเกินอายุไปเยอะเลยนะ พูดแต่ละทีพี่นึกว่าอยู่กับคนแก่ซะอีก”
“อ้าว พี่ถ้าผมแก่เนี่ย พี่ก็คงเป็นวัตถุโบราณแล้วล่ะ พี่อย่าลืมดิว่าแก่กว่าผมตั้งสี่ปี ฮ่าๆๆ”
“อะไรกันว่ะ ไอ้เด็กพวกนี้พวกแกไม่แก่บ้างก็ให้มันรู้ไป” เจ้าของร้านกาแฟตัวโตบอกงอนๆ
“ทำงอนเป็นตุ๊ดเลยนะลุง อย่าทำเลยเสียสถาบันเค้าว่ะ ฮ่าๆๆ” ไอ้เจ้าไม้ที่เข้ามาได้จังหวะพอดีทับถมอีกแรงเล่นเอา เจ้าของร้านตัวโตไปแทบไม่เป็นเลย
กรุ๊งกริ๊งๆๆ เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นบ่งบอกว่ามีลูกค้าเข้าร้าน
“อ้าว พี่โอ๋มาได้ไงเนี่ย” ผมเอ่ยทักคนมาใหม่
“ก็พอดี พี่มีธุระแถวนี้น่ะเลยแวะมา เป็นไงบ้างตัวเล็ก”
“สบายดีครับ สบายกว่าอยู่ที่บ้านเยอะเลย” ผมยิ้มตอบก่อนจะแอบเห็นว่าเจ้าของร้านกับเด็กเสริฟ มองผมกับพี่โอ๋เขม็ง จริงๆพี่โอ๋จะมาที่นี่อาทิตย์ละครั้งน่ะครับเพราะว่าเป็นห่วงผมแล้วผมก็บอกใครๆว่าพี่โอ๋เป็นญาติห่างๆ แต่ก็ยังไม่วายถูกสงสัยอยู่ดี
“คุณต้น น้องไม้ เป็นไงบ้างครับช่วงนี้” พี่โอ๋เอ่ยทัก
“อะ อ๋อ ก็ดีครับ ” พี่ต้นตอบแก้เก้อ จนไอ้น้องไม่ที่อยู่ข้างๆขำก๊าก คนตัวโตไม่รอช้าจัดการเขกหัวไปที จนเด็กแสบคลำหัวป้อยๆ
“แล้วนี่พี่ มานี่มีอะไรหรือเปล่า”
“พอดี มีใครบางคนอยากเจอเล็กน่ะ”
“ไอ้เหี้ยเล็ก….ไอ้เพื่อนเวร!!!!” เสียงตะโกนมาแต่ไกลก่อนที่คนที่ผมคุ้นเคยดีจะวิ่งเข้ามาในร้าน
“ไอ้เล็ก ไอ้เพื่อนชั่ว ไอ้….โถ่เว้ย!!!” ไอ้เมฆสบถเสียงดัง ทำเอาลูกค้าทำหน้างงเป็นแถว
“เมฆเบาๆ ลูกค้าเค้ากลัวหมดแล้ว ” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะโดนคุณเพื่อนรักลากเข้าไปหลังร้าน
“ไอ้เล็ก มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะว่ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า”
“เมฆ คือกู กู..”
“มึงไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ มึงรู้ไหมว่ากูเป็นห่วงมึงมากแค่ไหน ไอ้เพื่อนเวร กูตามหามึงมาเดือนนึงเต็มๆ มึงรู้ไหมว่า กูเกือบจะคิด
ว่ามึงฆ่าตัวตายไปแล้วด้วยซ้ำ” ไอ้เมฆร่ายยาว ผมได้แต่มองหน้าเพื่อนด้วยความสำนึกผิด ผมแค่ไม่อยากให้มันกังวลแต่ดูเหมือนผมจะคิดผิดเพราะไอ้เมฆตอนนี้ดูเหมือนคนบ้ามากกว่า
“กูขอโทษนะ กูขอโทษ”
“เฮ้อ ช่างเหอะ ตอนนี้กูก็เจอมึงแล้วนินา แต่ต่อไปห้ามปิดกูอีกเข้าใจไหม” ไอ้เมฆบอกก่อนจะยิ้มให้ผม ความเป็นเพื่อนมันก็ดี
แบบนี้ล่ะครับ โกรธกันไม่ทันข้ามวันก็ดีกันแล้ว
“แล้วนี่มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ที่นี่”
“กูบังเอิญ เจอพี่โอ๋น่ะ แล้วก็เลยลองตามพี่โอ๋มา ไงกูฉลาดใช่ไหม”
“ไอ้เพื่อนบ้า ที่มึงสะกดรอยตามน่ะ ตำรวจนะ พี่โอ๋เค้ารู้ตัว ว่ามึงตามมาตั้งนานแล้วเว้ย ไอ้ปัญญาอ่อน” ผมบอกมัน อย่างขำๆ ไอ้นี่คิดว่าตัวเองเป็น 008 หรือไง
“กูว่าเราออกไปกันดีกว่า เข้ามานานแล้วเดี๋ยวคนอื่นสงสัย”
“อ้อ แล้วมึงไม่ต้องพูดอะไรนะ ฟังอย่างเดียวเข้าใจไหม” ผมบอกก่อนจะลากไอ้เมฆออกมา
แหมซื้อหวยทำไมไม่ถูกนะ ยืนกันครบทีมแถมหน้าแต่ละคนนี่มีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
“มีอะไรจะถามผมไหมครับพี่ต้น”
“อะ เอ่อ คือ ….”
“พี่เล็ก คนนี้เป็นแฟนพี่เหรอ” ไอ้ไม้โพล่งถามออกมาเสียงดัง จนพี่ต้นเองยังปิดปากไม่ทัน
“ไอ้ไม้ เสียมารยาท” พี่ต้นดุ
“อื้อ อุงอ่อย องอัยอ้อ อามอิ ” เจ้าตัวแสบโวยวายเสียงอู้อี้
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่หรอก คนนี้ไอ้เมฆเพื่อนสนิทที่บ้านนอกน่ะ พอดีพี่เข้ากรุงเทพไม่บอกมันมันเลยโกรธไง” ผมบอก
“แต่ดูท่าทาง ไม่น่าจะเป็นเด็กต่างจังหวัดนะ” พี่ต้นเอ่ยถาม
“อ้อ พี่ไอ้นี่มันลูกชายนายก อบต บ้านมันรวยน่ะเลยเข้ามาเรียนกรุงเทพ มันเลยมีราศีคนกรุงไง งั้นวันนี้ผมลาครึ่งวันนะพี่ ไปไอ้
เมฆ ไปครับพี่โอ๋”
ผมลากลูกชายนายก อบต จำเป็นออกมาจากร้าน ท่ามกลางความงงของทุกคน หนักสุดคงเป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมห้าดาวที่กลายเป็นลูกชายนายก อบต เนี่ยล่ะครับ
........................TBC................................
วันนี้แอบแวบไปที่คณะ ก็เลยไม่ได้มาลง แบบว่าไปส่องเด็กอ่า
น้องๆมาสอบสัมภาษณ์ รับตรง แหมเด็กนี่มันน่ารัก ดีเนาะ
ตอนนี้จัดเบาไม่หนักมากเพราะหนักมาทั้งเรื่องแล้ว
เอาเป็นเบาๆไปก่อน เนาะ
ส่วนนี่ ก็อิมเมจ
พี่ต้น
น้องไม้