คำเตือน มันก็ม่าเหมือนทุกตอนนั่นแหล่ะ อิอิ
ตอน 10
“ขอโทษนะที่ขัดจังหวะ แต่ว่าถึงเวลาที่ผมต้องพา “คนรับใช้”กลับสักทีแล้วล่ะครับ” ไอ้วัตเอ่ยบอกพี่โอ๋
“หือ คนใช้ นี่มันอะไรกันเหรอตัวเล็ก แล้วตัวเล็กย้ายออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” พี่โอ๋หันมาถามผมบ้าง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เราแค่เล่นกันเฉยๆ พี่โอ๋ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ จริงๆนะ อ้อ นี่ก็ดึกแล้วผมกลับก่อนนะครับ”
ผมบอกพี่โอ๋ที่ยังคงนั่ง งงอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกเดินไปหน้าคนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ทันที
“ขอตัวนะครับ” ไอ้วัตบอกเสียงเข้มก่อนจะลากผมออกมาทันที
แรงบีบที่ข้อมือทำให้ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บแต่คนหน้านิ่งก็ยังคงลากผมให้ออกมาจากผับก่อนจะไปที่ลานจอดรถโดยที่ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ
ปัง ไอ้วัตเหวี่ยงผมกระแทกกับกระโปรงหน้ารถเสียงดังลั่น ก่อนที่ร่างสูงจะคร่อมผมไว้ แววตากราดเกรี้ยวที่ฉายแววโกรธจ้องผมเหมือนต้องการฆ่าให้ตาย นี่ผมทำอะไรผิดอีกหรือไงครับ
“สันด…..นมึงนี่มันไม่เคยเปลี่ยนจริงๆนะหึ มั่วไม่เลือก ร่าน!!!”
“มึงว่าใคร” ผมจ้องตอบสายตานั้นอย่างไม่ยอมแพ้
“หึ กูก็ว่ามึงไง ทำไม เมื่อคืนกูสนองให้มึงไม่พอหรือไงถึงต้องแรดไปหาคนอื่น น่ะห่ะ อยากทำไมไม่บอกกูจะได้จัดให้”
“ต่ำ มึงมันก็ดีแต่คิดต่ำๆ ซินะ”
“หึ แต่คนต่ำๆอย่างกูก็ทำให้มึงก็ยังครางลั่นเลยไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มบอกก่อนจะปากของไอ้วัตจะกัดเข้าที่ซอกคอของผมจนเลือดซึม
“อะ ไอ้เชี่ยกูเจ็บ”
“หึ ด้านๆอย่างมึงเจ็บเป็นด้วยเหรอห่ะ ไอ้เล็ก” ร่างสูงบอกเสียงเข้ม
“อะ ไอ้ วัต จะทำอะไร ปล่อยกูนะ”
“หึ อย่ามาทำขัดขืนเพื่อเพิ่มราคาตัวเองหน่อยเลยน่า มึงชอบโชว์มากไม่ใช่เหรอห๊ะ กูจะให้มึงได้โชว์สมใจไง”
“มึงพูดเรื่องบ้าอะไร” ผมตะโกนลั่นพลางออกแรงขัดขืนร่างที่พยายามคร่อมทับผมไว้
“หึ ทีเมื่อกี้มึงยังกอดกับไอ้เวรนั่นกลางผับ นี่ถ้ากูไม่ไปเจอคงทำมากกว่านี้สินะ หึ ทำไม เมื่อคืนกูสนองให้มึงไม่ถึงใจหรือไงถึงได้วิ่งไปให้คนอื่นกอดน่ะห่ะ” ร่างสูงของไอ้วัตตะโกนลั่นก่อนที่แรงบีบจากมือหนาจะเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ จนผมต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“ทำไม มึงพูดแบบนี้หึงกูรึไง”
“ฮ่าๆๆ หึงเหรอ หึ ทำไมกูต้องหึงมึงด้วยล่ะ ไหนมึงบอกไม่นับกูเป็นผัวไง จำไว้นะว่ากูไม่ได้หึงแต่กู่แค่ไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร อ้อ แต่ถ้าวันไหนที่มึงหาเงินมาใช้หนี้กูได้ มึงจะไปอ้าขาให้ใครอีกก็เชิญ” ไอ้วัตบอกเสียงเย็นก่อนจะลากลิ้นไปตามซอกคอผม
“ อย่านะวัต กูขอร้อง หยุดนะ” ผมบอกก่อนจะออกแรงขัดขืนเต็มที่
“อย่าดิ้นน่า มึงไม่รอดหรอก”
“ไอ้วัต มึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะ ถ้าใครมาเห็นเข้าจะทำไง”
“ก็ดีนะสิ คนอื่นจะได้รู้ไงว่ามึงมันง่าย!!”
ไอ้วัตบอกแม้ว่าปากจะเถียงกับผมไม่หยุดแต่มือหนากลับลูบเข้าไปในเสื้อผมอย่างจาบจ้วงสัมผัสที่หยาบโล้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังยิ่งทำให้ผมออกแรงดิ้นมากขึ้น
“วัต ถ้ามึงไม่เห็นแก่กู มึงก็เห็นแก่หน้าครอบครัวมึงบ้างสิ ถ้าใครมาเห็นว่าคุณวรวัต มาทำอะไรในที่แบบนี้ มึงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนห่ะ”
ผมยกเหตุผลมาอ้าง
“ช่างสิ กูไม่สน” ร่างสูงตอบอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะก้อมลงซุกไซ้ที่ซอกคอผมต่อ
“มึงจะให้กูทำยังไง มึงถึงจะหยุด” ผมถามออกมาเสียงแผ่ว ก่อนที่คนตัวสูงจะหยุดมือลง
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉายชัดในแววตาคม ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะยืนกอดอกนิ่ง
“ง่ายๆ มึงก็ทำให้มันสงบซะสิ”
“มึงหมายความว่าไง”
“อย่าทำเป็นไรเดียงสาหน่อยเลยน่า ” มือหนาบีบเข้าที่คางผมอย่างแรง ก่อนที่ไอ้วัตจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
“ทำสิ หึ” ร่างสูงยิ้มเยาะ
“กูให้มึงเลือกแล้วนะไอ้เล็ก จะเลือกทำเองหรือจะให้กูทำล่ะ”
ผมมองไอ้วัตด้วยสายตาขอร้องแต่กลับได้เพียงสายตาเย็นชาตอบกลับมา ผมทำได้เพียงแคถอนหายใจเสียงดังก่อนจะเข้าไปในรถบ้าง ร่างสูงแสยะยิ้มสมเพชก่อนจะมองผมที่ก้มหน้าลงอย่างเย็นชา ผมค่อยๆปลดตะขอและรูดซิบออกอย่างช้าๆถ้าเลือกได้อยากจะออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ซะให้พ้นๆ แต่ผมก็รู้ว่าด้วยอิธิพลและอำนาจเงินของไอ้วัตตอนนี้ผมหนีไปก็เหนื่อยเปล่า
“หึ ทำไมต้องทำหน้าเหมือนโดนบังคับแบบนั้นล่ะครับคุณชนาธี” เสียงทุ้มเอ่ยเยาะ
“อย่าทำเหมือนตัวเองบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไปหน่อยเลย หึ ” เสียงทุ้มยังพูดไปเรื่อยๆ แต่ทุกคำมันกลับทำให้ผมเจ็บ จนพูดไม่ออก
ผมแตะส่วนที่นูนจากบ๊อกเซอร์ อย่างขยะแขยง พลางหันหน้าออกไปอีกทางแต่ก็ถูกมือหนาจับให้หันกลับมามองจนได้
“ทำไม หึ รังเกียจเหรอ รังเกียจกูมากๆนะ เพราะยิ่งมึงทำท่ารังเกียจกูมากเท่าไหร่ มันแปลว่าตอนนี้กูกำลังจะชนะ ”
“อมซะสิ !!!”
ไอ้วัตสั่งพลางกระแทกแก่นกายของตัวเองเข้ามาในปากผม
แชะ เสียงกดชัดเตอร์ทำให้ผมเบิกตาโพรงก่อนที่ ไอ้วัตจะโชว์รูปจากโทรศัพท์เครื่องหรูให้ผมดู
“แหม โทรศัพท์ยี่ห้อนี้ถ่ายรูปชัดดีนะ ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราทุ้มที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่ามันน่าฟังแต่ทำไมวันนี้มันกลับเหมือนเสียงหัวเราะของซาตาน ซาตานที่ทำลายศักดิ์ศรีของผมจนไม่เหลือชิ้นดี ไอ้วัตหัวเราะลั่นก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาในปากผมอย่างแรง แรงที่ถาโถมเข้ามาทำให้เจ็บจนน้ำตาเล็ดแต่ทำได้เพียงทน ทนให้สัมผัสที่น่ารังเกียจพวกนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมได้กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ยอมให้มันไหลออกมา ผมเคยสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่มีวันร้องไห้ให้มันเห็นเด็ดขาด ไม่มีวันที่คนอย่างมันจะได้เห็นน้ำตาผมต่อให้ผมต้องตายก็ตาม
“อืม อ่า แหมไอ้เล็ก มึงนี่ก็แก้ขัดได้เหมือนกันนะ” เสียงทุ้มบอกก่อนจะจิกผมผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ แรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่ใกล้ถึงขีดสุดอีกคนยิ่งทำให้ผมอยากจะอ้วกเต็มแก่
“อืม อ๊า” แรงกระแทกครั้งสุดท้ายพร้อมกับร่างสูงที่แหงนหน้าพลางซู๊ดปากเสียงดัง ก่อนที่ของเหลวมากมายจะทะลักเข้าในปากผม ก่อนที่
มันจะถอนแก่นกายตัวเองออก
“อย่าคายนะมึง ถ้ามึงคายมึงได้ต่อจากเมื่อกี้แน่” มันสั่งเสียงเข้ม
ผมได้กลืนลงไปอย่างจำใจ ท่ามกลางสายตาสมเพชที่ไอ้วัตมองมา แววตาคมที่เหมือนมีดนับสิบเล่มกำลังค่อยๆกรีดลงบนตัวผมช้าๆ มันไม่ได้เจ็บที่กายก็จริง แต่มันกลับเจ็บลึกเข้าไปในหัวใจอย่างห้ามไม่อยู่ นี่ผมต้องทนอีกถึงเมื่อไหร่ ต้องทนไปอีกนานแค่ไหนกัน
“หึ จำไว้นะไอ้เล็ก อย่าทำให้กูโกรธอีก เพราะคนที่เดือดร้อนจะไม่ได้มีแค่มึง” ไอ้วัตคาดโทษก่อนจะขยับไปนั่งที่ที่นั่งคนขับ
บรรยากาศในรถยังคงเงียบเหมือนอย่างเคย ไอ้วัตที่เอาแต่จ้องถนนตาไม่กระพริบกับผมที่ทำได้แค่มองออกไปนอกกระจกอย่างไร้จุดหมาย บางครั้งผมก็อยากจะถามมัน เหมือนกันนะครับว่า เมื่อไหร่เรื่องระหว่างผมกับมันจะจบสักที
ผมมองท้องฟ้าตอนค่ำของกรุงเทพ พลางคิดว่า ถ้าผม เป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ ชนาธี สิริพิทักษ์ ชีวิตผมจะเป็นยังไง ผมอยากมีชีวิตธรรมดาเป็นแค่คนธรรมดา คนธรรมดาที่มีความสุขกับการวาดรูปของผมไปเรื่อยๆ แค่เท่านั้นจริงๆที่ผมต้องการ
“หึ มึงจะเหม่ออีกนานไหมห่ะไอ้เล็ก” เสียงทุ้มตะคอกพร้อมกับแรงกระชากให้ผมลงจากรถ ผมมองไปรอบๆตัวก็พบว่าตัวเองมาถึงบ้านไอ้วัตแล้ว ไม่รู้ตัวเลยแหะ สงสัยผมคงจะเหม่อมากไปจริงๆ
“ขอโทษครับ” ผมบอกอีกคนก่อนจะหันหลังเพื่อเดินกลับห้องตัวเอง
“นั่นมึงจะไปไหน”
“ผมจะกลับห้องครับ”
“ใครอนุญาตให้มึงกลับ มากับกู อย่าลืมสิว่าวันนี้ มึงทำผิด เพราะฉะนั้นมึงต้องถูกลงโทษ หึๆๆๆ”
................................TBC...............................
ตอนนี้ก็ยังม่าเหมือนเดิม อิอิ
สปอย ตอนหน้าหน่อยดีกว่า ตอนหน้ารู้แน่ค่ะ
“วัต กูขอโทษ กูขอโทษ”
“เก็บคำขอโทษของมึงไว้ซะเพราะกูไม่รับ คนอย่างมึงมันต้องรู้สึกผิดไปจนวันตาย กูจะทำให้มึงเจ็บยิ่งกว่าที่พัชเคยเจ็บ ทำให้เจ็บจนอยากจะตายไปให้พ้นๆ แต่อย่าหวังว่ามึงจะได้ตาย เพราะตราบใดที่กูยังมีลมหายใจ กูจะไม่ยอมปล่อยให้มึงตายแบบสบายๆหรอก จงอยู่กับความรู้สึกผิดไปจนตายเถอะ”
ปล เห็นมีคนถามว่า OS คืออะไร
แปลง่ายๆมันก็คือเรื่องสั้นตอนเดียวจบนั่นแหล่ะค่ะ
แต่ว่า OS เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนื่อเรื่องใดๆทั้งสิ้นนะคะ ลงเอามันส์เฉยๆ