[[THE CAGE]] . . . กรงรัก . . . ** รวมเล่มแล้วค่า p.59 **
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[THE CAGE]] . . . กรงรัก . . . ** รวมเล่มแล้วค่า p.59 **  (อ่าน 626313 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ชินพลาดเองแหละ
นี่คิดไม่ออกเลยนะ ถ้าวันไหนนทตัดใจได้ขึ้นมา
แล้วจะไปจากชินแบบจริง จะรับได้เหรอ
ตัวเองเป็นคนปล่อยเขาไป แต่กลับจะรั้งเขาไว้
แต่ไม่ให้สิทธิอะไรกับตัวนิชาเองเลย
โคตรน่าสงสารอะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คือยังไงก็ยังรับไม่ได้ที่ตาชินเป็นพระเอกอ่ะ  :z3:
ต่อมห้มีปมหลังดราม่ามาเบรคอีกซักสิบตอน พร่ำเพ้อว่ารักนทขนาดไหน
แต่สุดท้ายก็เป็นรักชั้นเลวที่เห็นแก่ตัวอยู่ดี เฮ้อออ
^
ถูกใจเม้นท์นี้ กร๊ากกก :m20: บวกเป็ดให้รุย

ใช่เลย อย่าเอาปมอดีตที่ขมขื่นของตัวเอง มาเที่ยวอ้าง..ไปทำร้ายใครต่อใคร
เรื่องของเมิงอ่ะ ฮ่าฮ่า :laugh:

เพราะสันดาน..ก็คือสันดาน
คนเลวๆๆๆๆๆๆ เพราะเห็นแก่ตัว
ถ้าจะรักใครซักคน แล้วต้องสร้างเงื่อนไขขึ้นมาเพื่อ...ตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวล
ก็อย่าเอ่ยปากพูดออกมาโดยใช้คำว่า "รัก" ให้มันดูมีน้ำหนักเลย
หึหึ ยังงี้ใช้คำว่า "รัก" กับคนอื่นได้..งั้นเหรอ

ฮ่าฮ่า..อ่านแล้ว ตรูจะบ้ากับคำว่า "รัก" ของพี่ชิน ซะเหลือ(เหลืออะไรดีฟ่ะ เริ่มงงกับพี่ชินว่ะ อิอิ)

+1 ให้คนแต่งน่ารักๆๆๆๆ...ชานม
 :L2: เยี่ยมคนป่วยคร้าบบบบบบ

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เม้นเกือบไม่ออก

นทนี่โคตรน่าสงสารเลย โดนสะกิดแลซ้ำหลายครั้งหลายรอบ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ห้ามใจอ่อนนะนท หาคนที่ดีกว่านี้เถอะ

ถ้าพี่ชินยังทำตัวแบบนี้ก็อย่ากลับไปเจ็บอีกเลยนะ  :sad4:

ladymoon_yy

  • บุคคลทั่วไป
สงสารทั้งชินแล้วก็นท 

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อย่ามาทำตัวแบบนี้นะชิน

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ถ้าเอกมาดี เราว่าสู้พี่ชินได้เลย รัศมีจับมากเด็กคนนี้ ><
นทก็ดูจะเข้มแข็งมากขึ้นบ้างแล้วล่ะ เรื่องหัวใจมันต้องค่อยเป็นค่อยไปนั่นแหละ
รอตอนหน้าๆๆๆๆ :z3:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:z3: :z3:ไม่น่าหลงมาอ่านเลยที่นี่ติดแล้วอะ :z3: :z3:


สงสารนทจังอะ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:



รออออออจ้า :call: :call: :call: :call: :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมื่อไรนทจะมีความสุขซะที

TreetheoneF

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะให้ชินเจ็บบ้าง
ขอแบบเจ็บหนักๆ
อย่าใช้คำว่า"รัก"มาพูดแบบนี้นะ
รักแล้วทำอย่างนี้หรอไง พอจะเสียเขาไปกลับอยากจะรั้งไว้
นทก็นะ เมื่อไหร่จะตัดใจ เมื่อไหร่จะเข้มแข็ง เมื่อไหร่จะหายโง่
ทั้งคู่ทำตัวเองทั้งนั้นอะ ถึงมาเจ็บแบบนี้ไง
 :z3: :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
สงสารนทอ่ะ พี่ชินโหดร้าย
แต่ก็เข้าใจถูกเลี้ยงมาแบบนั้น
แต่ถ้ารักนทจริงๆ มันก็ต้องเปลี่ยนได้ใช่มั๊ย ^_______^

midnightblue

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้แล้วอารมณ์ มันหน่วง หน่วงพิกล

สงสารนท แล้วก็สงสารพี่ชินอ่ะ ถึงจะร้ายก็เพราะการเลี้ยงดูนะนั่น  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ noonutty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่นทสู้ๆนะคะ  อย่าไปใจอ่อนให้ ผช คนนั้นง่ายๆ  :เฮ้อ:

ทุกคนมีเส้นความอดทนเท่ากันนะคะ ถ้าครั้งนี่พี่ยอม พี่ก็จะต้องยอมไปเรื่อยๆ สู้เขานะคะ  :เฮ้อ:


**** ขอให้คนเขียนหายเร็วๆนะคะ รอติดตามคะ o13

ออฟไลน์ elfeleves

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สมน้ำหน้าเตชินท์อีกสักรอบ
ถึงแม้เอกจะรู้ทุกอย่าง
แต่หวังว่าเอกคงไม่คิดร้ายกับนทหนะ

lovecomic

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งได้มาอ่าน อยากจะบอกว่า
ชอบเรื่องนี้ ชอบเนื้อเรื่อง ชอบนายเอก ชอบทุกอย่าง
ส่วนตัวชอบแนวดราม่าๆ
แถมพระเอกเรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกอยากจะเตะออกไปนอกลกเสียจริงๆ
เล วมากก ทำแบบนี้กับนทได้ไงย่ะ!!
พอมาอ่านตอนล่าสุด หึหึ สะใจ
นทอยาไปยอมเขาอีกนะลูกกกก
มองหาคนใหม่ซะเถอะ
ยังมีคนต่อคิวอีกมากมายยย อย่าไปยอมม!!
ปล.รออยู่นะคะ พี่คนเขียน >w<
สนุกมากเลยเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Talk: ขออภัยอย่างสูงที่หายไปซะนาน ชานมไปค่ายที่ต่างจังหวัดมาค่ะ ครึ่งแรกของเนื้อเรื่องที่พิมพ์ค้างไว้อยู่ในคอมที่บ้าน (มาถึงแล้วเพิ่งนึกได้ว่าลืมเซฟ draft ทิ้งไว้ในเมล์ = =") พอดีเพิ่งกลับวันนี้เนี่ยล่ะค่ะ ก็เลยรีบมาลงเพราะหายไปนานแล้ว >/\<" ขอโทษจริงๆค่า แต่ว่าตอนนี้ยาวอยู่นะ (ต้องสองรีพลายเลยทีเดียว) หวังว่าจะชดเชยกันได้นะคะ

อากาศที่ต่างจังหวัดดีมากเลย เริ่มเย็นแล้วนะคะ กทม.ได้ข่าวว่ายังร้อนอยู่ แต่ว่าเริ่มมีลมเย็นๆแล้วใช่มั้ย (คำพูดของคนไปโคราชมาตั้งแต่วันอาทิตย์) เจอนักกีฬา FIFA ที่ไปแข่งฟุตซอลด้วยล่ะ พักโรงแรมเดียวกัน ฝรั่งสูงๆขาวๆ หล่อ น่าเจี๊ยะ 55555 (เพ้อเจ้อละ)

แต่ว่าที่โรงแรมแอร์หนาวมาก เป็นแอร์ท่อแบบปรับไม่ได้ T-T อยู่มาหลายวัน วันนี้เป็นหวัดเลยค่ะ เดี๋ยวจะอัดดีคอลเจนแล้วนอนแล้วค่ะ
 


ป.ล. ที่วันนี้แปะ talk ก่อนเพราะว่าเดี๋ยวอ่านเนื้อเรื่องจบแล้วอารมณ์จะได้ไม่ต้องมาสะดุดกับ talk ตอนท้ายค่ะ ^ ^ ขอบคุณมากๆที่ติดตามเสมอมา และขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ

ป.ล.2 เปิดเพลง "เธอไม่ยอมปล่อย หรือฉันไม่ยอมไป" ประกอบด้วยนะ! ^^
 



[[ THE CAGE ]] . . กรงรัก . .






[25]




“คุณชิน เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ?”

“เปล่าครับ”

นภิสายังกังขา เธอไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของผู้ชายตรงหน้านัก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เมื่อพบว่าใบหน้าดูดีที่มักจะฉายแววมั่นใจเต็มเปี่ยมอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นใด ตอนนี้กลับดูหมองลงอย่างรู้สึกได้ เธอไม่ได้สอดรู้ แต่ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน ก็อดเป็นห่วงนิดๆไม่ได้

“ไม่เป็นไรก็ดีค่ะ”

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกา เมื่อพบว่าใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกที จึงรู้สึกว่าสมควรกลับบ้านได้แล้ว ส่วนพ่อแม่ของเธอนั้นกลับไปก่อนตั้งแต่ไม่ถึงสามทุ่มดี การนั่งอยู่ข้างๆผู้เป็นสามีโดยที่ไม่มีอะไรจะพูดมันน่าอึดอัดนักสำหรับคนอย่างเธอ

“คุณโอเคจริงๆนะ?”

“อืม ผมไม่ได้เป็นอะไร”

“งั้นเรากลับกันไหมคะ? นี่ก็ดึกแล้ว”

“ผมยังไม่อยากกลับ”

เตชินท์เอ่ยโดยไม่แม้แต่จะเบือนหน้าไปมองหญิงสาวในชุดสวยที่นั่งอยู่เคียงข้าง ในตอนนี้สายตาของเขาไม่ได้มีไว้เพื่อมองใคร แม้แต่ร่างบอบบางที่เขาเฝ้าคอยที่จะได้พบมาตลอดหลายเดือน เขาก็ยังเลือกที่จะไม่มอง ด้วยการหลุบดวงตาคมลงมองเพียงฝ่ามือของตนเองที่วางอยู่บนตัก
นับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรดี

นิชาไม่ได้ปฏิเสธเขาอย่างรุนแรง ไม่ได้ต่อว่าหรือพูดจาเสียดสีอะไร

เพียงแค่ถามสั้นๆ แต่กลับเป็นคำที่กระทบกระเทือนความรู้สึกของเขา ทำให้เขารู้ชัดว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของเรือนกายอันงดงามนั้นอีกต่อไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะทำตามความต้องการของเขาได้อีกต่อไป

ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเขา คนที่ไม่ว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ จะยอมจำนนได้ด้วยคำพูดสั้นๆง่ายๆแค่นั้น

เขาไม่ยอมรับเรื่องนี้ง่ายๆแน่

แต่ --- เขายังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร --- ก็เท่านั้นเอง

นกที่เคยบินอยู่บนอิสระบนฟากฟ้า เมื่อถูกจับมาเลี้ยงเอาไว้ในกรงตั้งแต่ยังไม่รู้เดียงสา แน่นอนว่าต้องติดมือคนเลี้ยง และไม่อาจกลับไปโผบินอย่างเสรีบนท้องฟ้าได้โดยสนิทใจได้อีก

ทว่า นกน้อยของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนจะเข้มแข็งมากกว่านั้น

ต่อให้ปีกจะเปราะบาง แต่ก็ยังกระพืออยู่อย่างไม่หวั่นไหว

หรือจะเป็นเขากันแน่ที่อ่อนแอลง?

เตชินท์สั่นศีรษะ พลางยกแก้วใสตรงหน้าขึ้นดื่ม

เขาไม่เชื่อหรอกว่านิชาจะลืมเขาได้อย่างง่ายดาย เด็กคนนั้นไม่มีวันลืมเขาได้ ไม่มีวันยอมเป็นของคนอื่นนอกเหนือจากเขา

ชายหนุ่มยังคงจมอยู่ในห้วงความนึกคิดของตนเอง โดยไม่เงยหน้าสนทนากับใครมาหลายชั่วโมง แน่นอนว่าร่างระหงที่นั่งจ่อมอยู่ข้างๆสังเกตเห็นได้เป็นอย่างดีว่ามีบางอย่างผิดแปลกไป แม้ว่าเธอจะไม่สนิทสนมกับผู้ชายคนนี้จนสามารถเดาความคิดได้ก็ตาม แต่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีมารยาทสังคมที่ดีเพียงพอที่จะไม่ทำให้ผู้หญิงที่มาด้วยต้องนั่งแกร่วเพียงลำพัง --- อย่างเธอในตอนนี้

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เตชินท์แว่บหายไปไม่กี่นาที ก่อนหน้าที่จะไปนั้นเขากล่าวเพียงแค่ว่าอยากไปห้องน้ำ --- ด้วยสีหน้าและท่าทางที่แลดูเหมือนจะไปฆ่าคนเสียมากกว่า --- แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งเขากลับมา แล้วก็นั่งอมทุกข์อยู่อย่างนี้ตั้งแต่ตอนนั้น

 “คุณดื่มมากไปแล้วรึเปล่าคะ?”

นภิสาปรายสายตามองไปทางขวดเหล้าที่ลดระดับจนเกือบไม่เหลือ ทั้งๆที่คนดื่มก็มีชายหนุ่มเพียงคนเดียว ดื่มเอาๆราวกับตายอดตายอยากมาจากไหน --- เธอไม่เคยดื่มหนักอย่างร่างตรงหน้าจึงไม่เข้าใจ คนที่ดื่มหนักเพื่อให้เมามาย เมื่ออยากจะลืมอะไรบางอย่าง หรือใครบางคน

“ฉันว่าเรากลับกันดีกว่า”

เธอเอ่ยพร้อมกับผุดลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นว่าร่างหนายังคงนั่งอยู่ท่าเดิม จึงช่วยพยุงกึ่งฉุดให้ลุกยืน ยังดีที่อีกฝ่ายยอมเดินตามเธอมาโดยไม่อิดออด และยอมเงยหน้ามองหน้าเธอแต่โดยดี ดวงตาสองคู่สบประสานกัน คู่สวยพิศมองด้วยสายตาไม่เข้าใจกึ่งรำคาญใจ คู่คมเพียงมองกลับโดยไม่ทอแววใดๆให้รับรู้ความคิดได้

“กลับกันได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานแต่เช้า”

เตชินท์นิ่งไปชั่วครู่ เขามองไปทางเคาน์เตอร์บาร์ที่มีร่างเพรียวของเขานั่งคุยอยู่กับเจ้าของร้านอย่างสนุกสนานด้วยสายตาที่สั่นระริก เขาต้องหักห้ามใจมากแค่ไหนที่จะไม่พุ่งเข้าไป ณ จุดนั้น ทั้งๆที่ตั้งใจจะไม่เข้าไปยุ่ง ทั้งๆที่มั่นใจว่านิชาต้องเลือกเขาไม่ว่าจะเมื่อไหร่ แต่เมื่อเห็นกับตาแบบนี้แล้ว ก็อดเจ็บในหัวใจขึ้นมาไม่ได้

นภิสามองตามสายตาคมเข้มที่แลดูมีประกายวาวอย่างหงุดหงิดให้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบหลายชั่วโมง เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ผู้จัดการร้านแลดูจะเหมือนเป็นคนที่เธอรู้จัก ตั้งใจจะเดินเข้าไปทักทาย แต่กลับถูกมือใหญ่รั้งเอาไว้

“ไหนว่าจะกลับบ้านไง”

“อ้าว ก็เห็นคุณยังไม่อยากกลับ”

“กลับกันได้แล้ว”

น้ำเสียงที่ติดจะออกไปทางสั่งหน่อยๆ ทำให้นภิสาประหลาดใจกับบุคลิกที่ดูหยาบขึ้นของร่างตรงหน้า แต่ก็คงไม่พ้นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นั่นแหละ เธอไม่พูดอะไร ยอมทำตามคำของอีกฝ่ายแต่โดยดี เพราะนั่นก็ตรงตามความตั้งใจของเธออยู่แล้ว

หญิงสาวเดินไปล่วงหน้าจนเห็นรถหรูคันงามที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะหันกลับมาเมื่อพบว่าไม่มีวี่แววของร่างสูงที่เป็นฝ่ายบอกให้กลับบ้าน เธอขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิดใจ แต่ไม่คิดจะเดินกลับไปตาม อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็ต้องกลับด้วยรถคันนี้อยู่ดี เข้าไปหาเดี๋ยวจะคลาดกันเสียเปล่า

เตชินท์ทอดสายตามองไปทางเคาน์เตอร์บาร์ เขาละสายตาไม่ได้ ไม่ได้แม้จะต้องทนเห็นร่างเพรียวของนิชาเขยิบเข้าไปใกล้ร่างสูงอีกร่างที่นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆเพื่อกระซิบกระซาบกันในร้านเหล้าที่มีแต่เสียงจ้อกแจ้กของแขกและพนักงานคนอื่นๆ

--- เป็นบรรยากาศที่ดูแสนสุข จนเขาอยากจะเข้าไปทำลายให้วอดเสียเดี๋ยวนั้น

ธนกรปรายสายตาไปที่ประตูทางออกเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตามุ่งร้ายที่มองตรงมาอย่างไม่ปิดบัง เขากระตุกรอยยิ้ม พร้อมกับโอบบ่าเล็กให้เคลื่อนมาใกล้

“นท ช่วยผมหน่อย.. เหมือนผมจะเมาแล้ว”

แม้ว่าจะเป็นมารยาแบบเดิมๆที่เห็นได้ในละครตอนเย็น แต่หากแสดงได้ดี ก็เนียนได้ไม่ยาก

“ไหวรึเปล่าครับ? บอกแล้วว่าอย่าดื่มเยอะไป”

นิชารีบพยุงร่างสูงกว่าเอาไว้ด้วยห่วงว่าอีกฝ่ายจะฟุบลงไป ดีที่ธนกรไม่ได้ตัวหนาเท่าไหร่ จึงไม่หนักมากจนรับไม่ไหว เขาช่วยพยุงให้อีกฝ่ายยืนขึ้น แล้วพาไปทางห้องพักด้านหลัง โดยมีสายตาคมกล้าทอประกายโกรธแค้นมองตามหลังอย่างทำอะไรไม่ได้

ภาพที่เขาเห็นคือ นิชากับไอ้เด็กนั่นจูงกันเข้าไปในห้องตามลำพัง!

เตชินท์กัดฟันกรอด มือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อเพื่อเรียกสติระงับอารมณ์ ทว่าไม่มากเพียงพอที่จะควบคุมอาการสั่นระริกของเรือนกายได้
เด็กคนนั้นเป็นของเขา เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

จะไม่ยอม ไม่ยอมยกให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น








นภิสาก้าวลงจากรถ โดยมีร่างสูงสง่าตามลงมาในอาการเฉยชาจนเดาความรู้สึกไม่ออกเช่นเคย เกือบตีสองแล้ว เธอถอนหายใจ เพราะมัวแต่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ กว่าชายหนุ่มจะตามเธอออกมาก็ร่วมยี่สิบนาที หนำซ้ำยังดูมึนหนักกว่าเดิม ไม่รู้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่

“คุณชิน วันนี้จะนอนบ้านรึเปล่าคะ?”

เธอเอ่ยถาม เพราะเห็นคนขับรถยังจอดรออยู่คล้ายกับรอฟังคำสั่งเช่นเดียวกัน

“อืม” เขาหันไปทางพนักงานขับรถส่วนตัวของเขา ที่ไม่แสดงออกทางสีหน้าว่าเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันแต่อย่างใด “กลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้ไม่ต้องมารับ เดี๋ยวฉันไปเอง”

“ครับท่าน”

หญิงสาวเพียงเลิกคิ้วกับคำพูดของเตชินท์ ไปเองอย่างนั้นหรือ จะไปอย่างไรในเมื่อรถทุกคันของร่างสูงอยู่ที่คอนโดหรือไม่ก็บริษัท ไม่เคยเอามาจอดไว้ที่บ้านสักที ในบ้านนี้ก็เหลือแต่รถของเธอ อย่าบอกนะว่าเธอต้องเป็นคนขับรถอ้อมไปส่งร่างตรงหน้าในตอนเช้า ฝันเถอะ แค่นี้ก็แทบไม่มีเวลาจะนอนแล้ว ขืนต้องไปส่งอีก เธอคงได้ไปทำงานสาย

“แล้วคุณจะไปยังไงล่ะพรุ่งนี้?”

“แท็กซี่”

“อ้อ... งั้นรีบไปนอนเถอะค่ะ ดึกมากแล้ว”

“ผมยังไม่ง่วง”

“แต่หน้าคุณดูเหนื่อยมากเลยนะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”

จบประโยคนี้ ร่างตรงหน้าที่เอาแต่เดินนำเข้าไปในตัวบ้านระหว่างที่เธอกำลังล็อกประตูก็หันกลับมา นภิสากะพริบตาด้วยความประหลาดใจเมื่ออีกฝ่ายเดินมาถึงตัวแล้วหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเธอโดยไม่พูดอะไร มือใหญ่แตะสัมผัสผิวแก้มที่ประดับด้วยบลัชออนสีส้มอ่อนเบาๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทีละนิด จนห่างเพียงไม่ถึงคืบกลับหยุดนิ่ง คล้ายกับต้องการจะหยั่งเชิงว่าเจ้าหล่อนจะปฏิเสธหรือไม่

นภิสาปิดตาแน่น กายงามแข็งเกร็งด้วยความหวาดหวั่น ใช่ว่าเธอจะไม่รู้จักเรื่องพรรค์นี้ แต่เธอไม่เคยประสบเข้ากับตนเองมาก่อนในช่วงชีวิตยี่สิบห้าปีที่ผ่านมา ไม่เคยแม้แต่จูบกับใครนอกจากคนในครอบครัวเสียด้วยซ้ำ

ชายหนุ่มลอบยิ้ม เขาผละออกมา แล้วสะกิดมือเล็กเบาๆ

“ไปที่ห้องนอนกันไหม?”

ร่างระหงลืมตาขึ้น เมื่อพบว่าอีกฝ่ายเพียงยืนกอดอกอยู่ด้านหน้าก็รู้สึกอายเสียจนผิวแก้มร้อนซู่ เธอพยักหน้าตอบตกลงเพราะเหนื่อยล้าเต็มที แม้ว่าตอนนี้หัวใจจะเต้นแรงเสียจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้งก็ตาม

ไม่ใช่ว่าเธอรู้สึกว่าเตชินท์นั้นพิเศษกว่าใครอย่างไร แม้ว่าชายคนนี้จะชื่อว่าเป็น ‘สามี’ ของเธอก็ตาม แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าการแต่งงานนี้จะก่อให้เกิดความรู้สึกใดๆ ไม่ว่าจะกับตัวเธอเอง หรือกับร่างตรงหน้าก็ตาม

ประตูปิดลง ร่างของเธอลอยขึ้นแล้วถูกอุ้มไปที่เตียง นภิสารู้สึกตระหนก เธอดิ้นรน แต่เพียงไม่นานก็ถูกปล่อยลงกับผืนเตียงโดยมีร่างสูงก้าวขึ้นคร่อมทับ

“เดี๋ยว! คุณชิน! ไหนว่า...!”

“ผมขอโทษ”

กลับกลายเป็นนภิสาเสียเองที่เงียบไป เมื่อได้ฟังคำขอโทษที่จู่ๆก็หลุดออกมาจากปากของร่างหนาโดยไม่ทันได้คาดคิด

“ผม...”

เขารู้สึกอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งชีวิต ไม่เคยเลยที่เขารู้สึกล้มเหลว นี่เป็นครั้งแรก และเป็นครั้งสำคัญมากเสียด้วย เขาเพิ่งรู้สึก หลังจากสูญเสียไปแล้วจริงๆ ว่านิชานั้นสำคัญสำหรับเขามากเพียงใด

ดวงหน้าคมที่ฉายแววโศกเศร้าอย่างที่เธอไม่เคยเห็นหรือแม้แต่เพียงคาดว่าจะได้เห็น ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บขึ้นมาในใจ เธอใช้ปลายนิ้วแทรกเข้าไปในกลุ่มผมสีเข้มแล้วลูบเบาๆอย่างปลอบประโลม ด้วยไม่รู้จะพูดคำใดเพื่อคลายความหมองเศร้าของร่างตรงหน้าได้

“คุณจะปลอบใจผมหรือ?”

เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนคนเพ้อ ไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ หรือด้วยความเจ็บปวดในใจที่ต้องการใครสักคนมาเยียวยา อย่างน้อยก็ในคืนนี้ ทำให้เขาเผลอทำในสิ่งต้องห้ามลงไปโดยไม่ได้สติ ไม่ทันรับรู้ว่าร่างที่ร้องครางอยู่เบื้องล่างของเขาเป็นใคร

ภาพที่เขาเห็น คือเด็กน้อยของเขา เด็กน้อยผู้งดงามที่เขาเป็นคนค้นพบและพันธนาการไว้ด้วยตนเอง

“นท... อา... นท”

เสียงทุ้มที่พร่าสั่น ที่เปล่งชื่อของใครบางคนที่เธอไม่คาดฝันออกมา ทำให้เธอที่ข่มความเจ็บร้าวในเรือนกาย ถึงกับเบิกตากว้างแล้วเงยหน้ามองใบหน้าดูดีที่หลับตาลงราวกับอยู่ในห้วงฝัน

ชื่อที่คุ้นหู ---

หรืออาจจะเป็นคนที่เธอพบเห็น?

--- เธออาจเดาบางอย่างไม่ผิดก็เป็นได้




แสงสว่างในยามเช้ามาถึงพร้อมกับความเย็นชืดบนที่นอนข้างกาย นภิสาลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกหนาวเนื่องด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ โดยปกติเธอจะตั้งอุณภูมิห้องเอาไว้ไม่ต่ำนัก แต่เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้นอนอยู่เพียงลำพัง --- หญิงสาวหันไปมองทางที่นอนว่างเปล่าข้างกาย --- ยังรู้สึกมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่หาย

เมื่อคืนนี้ เธอกับเตชินท์ ---

มือเรียวยกขึ้นแนบเข้ากับหน้าผากอย่างอ่อนแรง เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่า หรือเพราะสายตาคมที่ดูเหนื่อยล้ากับชีวิตคู่นั้นที่ทำให้เธอใจอ่อน ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของผู้ชายคนนั้น

--- แต่แบบนี้ก็เท่ากับว่า เธอนอนกับผู้ชายคนเดียวกับน้องสาวแท้ๆของตัวเอง

เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดอยากให้เกิด และไม่เคยคาดเอาไว้ว่าจะเกิดขึ้นเลย
 






"เล็ก พักนี้ดูอารมณ์ดีจังนะ"

เจ้าของนามละสายตาจากไอแพดมินิที่เธอเพิ่งถอยมาหมาดๆ แล้วหันไปทางเพื่อนสนิทที่นั่งปัดมาสคาร่าอยู่ข้างๆกลางสวนหย่อมในมหาวิทยาลัย เวลานี้เป็นเวลาเรียน และแน่นอนว่าพวกเธอไม่เข้า ตราบใดที่อาจารย์ไม่เช็คชื่อ

"อื้อ ดูออกขนาดนั้นเชียว?"

"มีอะไรดีๆ ไหนเล่าให้ฟังซิ"

"ก็นะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก"

"อย่ามา ตั้งแต่เลิกกับพี่ชินอะไรนั่นก็เห็นอารมณ์บูดอยู่ตลอด แต่จู่ๆก็กลับมาหน้าบลิ๊งค์เหมือนเดิม มันต้องมีอะไรสักอย่างสิน่า"

"ใครว่าฉันกับพี่ชินเลิกกัน"

"อ้าว ดีกันแล้วเหรอ?"

ลลดาอมยิ้ม "ฉันกับพี่เขาน่ะเกิดมาคู่กัน เราสองคนไม่มีวันเลิกกันได้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็แค่... บททดสอบของโชคชะตาเท่านั้น"

"โหย ยัยเว่อร์ เพ้อจริงๆเพื่อนรัก"

"ไม่ได้เพ้อนะ พี่เขากับฉันจะแต่งงานกันเร็วๆนี้แหละ"

"เอาจริงดิ"

"จริงสิ แหวนหมั้นก็มีแล้ว รอแค่อะไรหลายๆอย่างลงตัวเท่านั้นแหละ"

"เออจริงด้วย นี่พี่เขาซื้อแหวนหมั้นให้แกเหรอวะ"

"ช่าย ของคาร์เทียร์ด้วยนะ"

"รวยได้โล่ บอกให้พี่เขาแนะนำเพื่อนให้รู้จักมั่งดิ มีของดีจงแบ่งปัน"

ลลดาหัวเราะ "เอาไว้จะถามพี่ชินให้นะ พักนี้พี่เขายุ่งๆ ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ว่าเย็นนี้คงได้ไปกินข้าวด้วยกันล่ะ"

"ดีแล้วแหละ เจอกันซะบ้าง ไม่งั้นระวังจะโดนใครงาบไป"

"ใครจะกล้า พี่ชินน่ะ... เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นแหละ"

"ย่ะ แม่คุณ เสน่ห์แรงขนาดนี้ใครจะกล้า"

พวกเธอหัวเราะให้กัน แม้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย อย่างไรเสียลลดาก็เป็นเพียงเด็กสาววัยไม่ถึงยี่สิบปีที่ยังรักและติดเพื่อน ชีวิตของเธอไม่มีอะไรให้คิดมาก ในเมื่อเกิดมาบนกองเงินกองทอง สิ่งเดียวที่เธอปรารถนาก็มีเพียงคนรักที่จะรักเธอได้ตลอดชีวิต ซึ่งวันนี้เธอก็พบคนคนนั้นแล้ว ไม่มีอะไรให้เธอต้องเป็นกังวลอีกต่อไปแล้ว





 

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
ค่ำคืนมาเยือนอีกครั้งในเวลาที่ความมืดโรยตัว แสงสีส่องสว่างทั่วเมืองจนทำให้กรุงเทพฯกลายเป็นเมืองที่ดูแตกต่างไปจากยามกลางวัน ทุกพื้นที่กลายเป็นโลกของคนยามค่ำคืนที่ออกท่องเที่ยวหรือทำงาน ต่างคนต่างมีเป้าหมายแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับเขา

นิชายิ้มรับลูกค้าที่ทยอยแวะเวียนเข้ามาเรื่อยๆ ร้านของธนกรฮิตอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดเพลงมันส์ๆแสบแก้วหู ไม่แม้แต่จะมีฟลอร์ให้เต้น แต่กลับมีชื่อเสียงขึ้นทุกวัน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพนักงานหน้าตาดีที่บริการถึงที่ แต่ไม่มีการลวนลามเกิดขึ้นจริงอย่างที่ชายหนุ่มว่า หรืออาจเป็นเพราะลูกค้าที่เข้ามาล้วนต้องผ่านการสแกนมาหมดทุกคนแล้ว ว่าต้องเป็นลูกค้าที่มีระดับ ที่แน่ๆคือเงินหนา นิชาเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ตั้งแต่วันแรกที่ได้เปิดเมนูอาหารและเครื่องดื่มของร้าน Aphrodite แห่งนี้

"คุณนท ตอนนี้พอมีเวลาไหมคะ?"

เจ้าของนามรีบหันไปทางต้นเสียงหวานจากหญิงสาวในชุดรัดรูปสีดำที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหัวมุม เขาตรงไปที่นั่นพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ร่างตรงหน้าคือบุตรสาวของเจ้าของโรงแรมใหญ่แถวสีลมที่แวะมาที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่ร้านเปิด จนถึงวันนี้ก็สามวันติดกันแล้ว และทุกครั้งที่เธอมา ก็ได้เรียกเขาไปนั่งสนทนาด้วยทุกวัน เขาเองก็ไม่เข้าใจนักว่าเป็นเพราะเหตุใด จะว่าเขาหน้าตาดี ก็ไม่น่าใช่ เนื่องจากในร้านมีพนักงานหน้าตาหล่อเหลาจำนวนมาก หรือจะบอกว่าเขาคุยสนุก ก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะส่วนใหญ่แล้ว เขามักเป็นผู้ฟังเสียมากกว่า

นิชาลืมคิดไปว่า ปัจจุบันนี้ น้อยคนนักที่รู้จักรับฟังผู้อื่น ฟังอย่างตั้งใจจริงๆ ต่างคนต่างแย่งกันพูดทั้งนั้นไม่ว่าจะที่ไหนหรือกับใครก็ตาม

"คุณฝน เป็นยังไงบ้างครับ?"

"ดีค่ะ แต่ใกล้สอบแล้ว ยังไม่พร้อมเท่าไหร่"

"อ้าว ใกล้สอบ แล้วทำไมยังมาที่นี่อีกล่ะครับ?"

"ก็... อยู่บ้านอ่านหนังสือมันน่าเบื่อนี่นา"

"ทนหน่อยสิครับ ทำเกรดให้ได้ดีๆ จบไปจะได้หางานดีๆได้ไงครับ"

"ฝนคงต้องทำงานที่บ้านนั่นแหละค่ะ"

นิชาอมยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนทำหน้าบึ้งอย่างซังกะตายสุดๆ ทั้งๆที่โรงแรมที่บ้านของเธอจัดว่าโด่งดังและเสถียรจนไม่น่าเป็นห่วงแล้วก็ตาม

"อ้อ จริงสิ ผมเองก็ลืมไป ก็ดีนะครับ ไม่เครียดดี"

"ไม่เห็นจะดีเลยค่ะ ที่จริงฝนอยากจะเรียนสถาปัตย์ฯ แต่ที่บ้านไม่ยอมเพราะจะให้คุมกิจการต่อ" เธอถอนหายใจออกมายาวแล้วพูดต่อ "บางทีก็อิจฉาเพื่อนๆนะคะ อยากเรียนคณะไหนก็ได้เรียน ฝนน่ะ ได้แต่ทำตามคำสั่งของที่บ้าน ชีวิตไม่เป็นของตัวเองเลยค่ะ"

คนที่ 'มี' มาก ก็ใช่ว่าจะมีความสุข ในขณะที่คนที่ 'ไม่มี' กลับอาจจะมีความสุขได้มากกว่า


นิชาได้พบกับความเป็นจริงมากมาย หลังจากได้มาเป็นส่วนหนึ่งในร้านแห่งนี้ เขาได้พบกับผู้คนมากหน้าหลายตา ได้สนทนา ได้รับฟัง และได้รับรู้อะไรใหม่ๆ

อาจจะยังไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้ไปเขาจะทำอะไร

แต่ที่แน่ๆ เขามีความสุขกับชีวิตในตอนนี้ดี

"นท มาอยู่นี่เอง อ้าว คุณฝน สวัสดีครับ"

ธนกรเดินตรงมาที่โต๊ะพร้อมก้มศีรษะน้อยๆทักทายลูกค้าที่ท่าทางจะมาเป็นลูกค้าประจำเป็นแน่แท้ ร่างสูงในชุดสูทสีเลือดนกเดินมาด้วยท่วงท่าสง่างาม ทั้งๆที่นิชาเองก็ไม่ได้เห็นว่าร่างตรงหน้าเก๊กหรืออย่างไร แต่กลับดูดีและดึงดูดสายตาใครต่อใครได้มากมายโดยที่เจ้าตัวดูเหมือนว่าจะไม่รู้ตัว

"มีอะไรรึเปล่าคะ คุณเอก?"

"คือ ผมต้องขอรบกวนคุณฝนเล็กน้อยครับ พอดีมีธุระด่วนที่ต้องให้ผู้จัดการร้านไปจัดการนิดหน่อยน่ะครับ"

"อ๋อ งั้นเชิญค่ะ คุณนท ขอโทษนะคะที่ฝนรั้งตัวคุณไว้"

"ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากต้องขอโทษที่ต้องปลีกตัวไปก่อน"

"ผมให้พนักงานตามมารับรองคุณฝนแล้วครับ สักครู่คงตามมาครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ฝนใกล้จะกลับพอดี ต้องกลับไปอ่านหนังสือ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณนทดุ"

ธนกรหัวเราะในลำคอเมื่อผู้ถูกพาดพิงโดยไม่รู้ตัวทำตาโตด้วยความงุนงง ขณะที่เด็กสาวร่างเล็กเซ็นบัตรเครดิตแล้วยิ้มให้อีกครั้งเป็นการอำลา ก่อนจะตรงไปที่ประตูทางออก

"เด็กสมัยนี้ โตเร็วดีนะครับ"

นิชาหันไปมองทางผู้พูดด้วยสายตาแปลกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเพียงส่ายหน้าแล้วเดินไปทางลานจอดรถ เขารีบก้าวตามไปพลางเอ่ยถาม

"คุณมีอะไรเหรอครับ?"

"อ้อ ที่เรียกคุณมา เพราะผมมีอะไรจะให้ดูครับ"

เขาหยุดเดิน แล้วผายมือไปทาง Audi R8 V10 สีน้ำเงินที่ขัดจนขึ้นเงาวับ

"คันนี้ คุณขับนะ"

"... หมายความว่ายังไงครับ?"

"ผมเห็นว่าคุณไม่ยอมขับรถมาทำงานสักที ก็เลยซื้อรถให้คุณครับ"

นิชาเบิกตากว้างกับคำพูดง่ายๆของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า พูดด้วยท่วงท่าง่ายๆสบายๆอย่างกับว่าซื้อก๋วยเตี๋ยวจากปากซอยมาให้เป็นอาหารกลางวันอย่างนั้นแหละ ส่วนธนกรก็เอาแต่หัวเราะให้กับท่าทางตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกจากร่างบาง เขายื่นกุญแจรถให้มือเล็กรับเอาไว้

"เอ้า รับไว้สิครับ"

"เฮ้ย ไม่ได้หรอกครับ คุณจะบ้าเหรอ ของไม่ใช่บาทสองบาทนะ"

"รถยนต์ที่ไหนราคาบาทสองบาทล่ะครับ คุณนี่ก็แปลก"

"ก็นั่นน่ะสิครับ แล้วจู่ๆจะมาซื้อให้ผมได้ยังไงล่ะ"

"ก็อยากซื้อให้ผู้จัดการร้านนี่นา"

"ผมลำบากใจนะครับ ของแพงขนาดนี้ รับไว้ไม่ได้หรอกครับ"

"ก็คิดซะว่าเป็นรถประจำตำแหน่งสิครับ เป็นถึงผู้จัดการร้านเลยนะ มีรถประจำตำแหน่งก็ไม่แปลกหรอกครับ"

"แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ..."

"งั้นเอางี้ ผมจะถือว่ารถคันนี้เป็นของผมละกัน แต่ผมจะให้ผู้จัดการร้านของผมขับ เมื่อไหร่ที่คุณลาออก ก็ถือว่าคืนรถให้ผม โอเคไหม?"

นิชาช้อนสายตามองนัยน์ตาคมที่แฝงแววซุกซนอย่างระอาเมื่อพบว่าเถียงต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เขายกมือขึ้นกอดอก เดินมองรอบตัวรถที่งดงามจนไร้ที่ติ เขาก้าวเข้าไปนั่งบนเบาะ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยนั่งรถแบบนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ขับรถซิ่ง ช่างให้ความรู้สึกสดใหม่และน่าตื่นเต้นมากจริงๆ

"อ้อ และเพื่อความเหมาะสมสำหรับขับในกรุงเทพฯ ผมไปปรับเครื่องมาแล้ว ไม่ให้เร่งได้เกิน 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง"

ดวงตาคู่สวยตวัดมองคนพูดอย่างไม่ชอบใจในทันที ทำเอาธนกรที่กำลังอ้อมมานั่งข้างคนขับอมยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ เขาน่ะหวังจะได้เห็นสีหน้าที่หลากหลายของนิชาเช่นนี้ แม้จะไม่คาดว่าอีกฝ่ายจะชอบขับรถเร็ว แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร่างเพรียวขับซิ่งอยู่แล้ว แม้ว่าเขานั่นล่ะนักซิ่งตัวยง และแน่นอนว่าเรื่องปรับแต่งรถน่ะเรื่องจริง แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถปลดล็อกได้ เพียงแค่กดปุ่มเล็กๆที่ซ่อนอยู่ปุ่มเดียว ก็สามารถซิ่งได้สะใจเหมือนเดิมแล้ว และเชื่อสิว่านิชาไม่รู้

"คุณซ่อนปุ่มนั้นไว้ที่ไหน?"

"หืม? ปุ่มอะไรเหรอ?"

"อย่ามาไก๋ คุณไม่ได้เปลี่ยนเครื่อง แค่ล็อกความเร็วไว้เท่านั้น ผมจำได้ว่าอะไรทำนองนี้มันมีปุ่มทำให้เป็นเหมือนเดิมได้"

เป็นธนกรบ้างที่ทำตาปริบๆด้วยความประหลาดใจ

"คุณรู้ได้ไง?"

"อ้าว คุณก็รู้นี่ใช่ไหม เราสองคนอายุเท่าๆกัน ก็ไม่แปลกที่จะรู้นี่ถูกไหม?"

นิชาหัวเราะเสียงใส ในขณะที่ธนกรนิ่งคิด ไม่ใช่ร้านแต่งรถทุกร้านที่จะทำแบบนี้ได้ง่ายๆ และนิชาก็คงไม่ได้แต่งรถเอง แบบนี้ก็คงเป็นเพราะอยู่กับใครบางคนที่แต่งรถ และใช้ร้านที่แพงไม่ใช่น้อยซะด้วย เขาคิดมาเพียงเท่านี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนั้นคือใคร

ธนกรหยักรอยยิ้ม เมื่อเห็นแววตื่นเต้นดีใจอยู่ในสีหน้าที่พยายามตีนิ่งไว้

"สรุปว่า คุณยอมรับรถคันนี้ไปเป็นสินทรัพย์ประจำตัวของคุณแล้วใช่ไหม?"

"ไหนคุณว่าของร้านไงครับ"

"ของผู้จัดการร้านครับ ในเมื่อคุณอยู่ในตำแหน่งนี้ รถคันนี้ก็เป็นของคุณ เพราะงั้นอย่าไปซิ่งที่ไหนมากนะ เพราะถ้าไปโดนอะไรเข้า คุณต้องรับผิดชอบด้วยนะ"

"โห แบบนั้นจะให้ผมมาทำไมเนี่ย เกิดไปชนอะไรเข้าผมก็แย่สิ อะไหล่ไม่ใช่ถูกๆนะ"

"รู้แบบนั้นก็ขับดีๆ ระวังๆละกันนะครับ เอาไว้อยากซิ่งบอกผม ผมจะขับให้"

"ไม่เอาอ่ะ คุณก็มีแลมโบกินี่ของคุณแล้วนี่"

"แน่ะ มีหวงด้วย ที่จริงชอบใช่มั้ยล่ะ?"

ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วจิ้มไหล่บางพร้อมเอ่ยแซวเมื่อเห็นทีท่าของร่างตรงหน้า ทำเอานิชาที่พยายามจะเก๊กพลอยหัวเราะไปด้วยจนได้ เสียงหัวเราะใสๆดังก้องไปทั่วรถ น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาหัวเราะออกมาได้ทั้งปาก ทั้งตา ทั้งใจ ด้วยคำพูดง่ายๆ และท่าทางที่เป็นกันเอง

ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้รู้จักชายคนนี้นัก แต่กลับรู้สึกว่าเคยคุ้นกันมานาน เหมือนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้พบพานกันมาหลายปี แต่ความสนิทสนมก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

"สรุปว่า ธุระของคุณคือเรื่องนี้เหรอครับ?"

"อื้อ ใช่"

"โธ่ คุณนี่ สงสารคุณฝนเขา เห็นเครียดๆเรื่องที่บ้านอยู่"

"อ้าวเหรอ ไม่รู้นี่นา แต่นี่ก็ธุระด่วนจริงๆนะ เพราะเดี๋ยวผมต้องแวะไปหาเพื่อนต่อ"

"เหรอครับ ที่ไหน?"

นิชาเผลอหลุดปากเอ่ยถามไปตามบทสนทนา อย่างลืมไปว่านับโดยศักดิ์แล้ว อีกฝ่ายเป็นเจ้าของร้าน ส่วนเขาก็แค่ลูกจ้าง และอีกฝ่ายดูเหมือนจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าน่ารักที่ดูจืดลง

"ไปหาเพื่อนคนที่แนะนำตอนผมเปิดร้านไง ไปด้วยกันไหม?"

"ไม่เป็นไรครับ คุณรีบไปกับเพื่อนดีกว่า วันนี้นทเพลียๆ... เอ้ย... ผม..."

เขาเผลอเรียกแทนตัวเองไปเช่นนั้นโดยไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปิดปากแล้วเหลือบตามองใบหน้าดูดีที่อมยิ้มอยู่ข้างๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างประหม่า เนื่องจากไม่ใช่เด็กๆแล้วที่จะยังเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ แล้วธนกรก็ไม่ได้อายุมากกว่าเขาเลยสักนิด เรียกตัวเองแบบนี้กับคนที่อายุเท่ากันทำให้เขารู้สึกเก้อเขินอย่างห้ามไม่อยู่

"เรียกแบบนั้น..."

"ขะ ขอโทษทีครับ ผมเผลอไป"

"น่ารักดีนะครับ เหมือนที่บ้านผมเลย เวลาอยู่บ้านนะ ทุกคนก็เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นแบบนั้นแหละ ผมว่าน่ารักดีนะ เหมือนอยู่กับคนที่บ้านเลย"

นิชานึกโล่งอกเมื่อได้ฟังดังนั้น อีกฝ่ายเป็นคนที่มีความสามารถในการใช้คำพูดที่ทำให้คนรอบข้างสบายใจได้ด้วยท่าทางเรียบง่ายเช่นนั้นเสมอ นับว่าเป็นข้อดีที่เขานึกรักในร่างตรงหน้านัก

"ต่อจากนี้นทเรียกตัวเองแบบนั้นนะ เอกก็จะเรียกตัวเองแบบนี้เหมือนกัน ยังไงเราก็อายุเท่ากันเนอะ"

"... จะไม่ดูแอ๊บแบ๊วจริงๆเหรอครับ?"

"ไม่นะ เรายังเด็กกันอยู่เลย เอกอ่ะเด็กแน่ๆ ดูสิๆ หน้ายังเด้งอยู่เลยเห็นป่าว"

นิชาหลุดขำพรืดออกมาอย่างอดไม่ได้ เด็กที่ไหนดื่มเหล้าสูบบุหรี่จัดเต็มขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะ เขาเองก็สบายใจดีที่ได้อยู่กับธนกร การจะวางตัวกันเองเพื่อให้สนิทกันมากขึ้นก็ไม่เลว

"ก็ดีเหมือนกัน แต่ต่อหน้าแขกก็อย่าเลยนะ อายเขา"

"คิดมากครับ นท ชีวิตเป็นของเรา ใช้ชีวิตให้คุ้มกับที่เกิดมาสิครับ"

"นั่นเป็นวิถีของคุณชายเหรอ?"

".. แอบกัดนะ เอกก็แค่รู้สึกว่าคนเราคิดมากเกินไป เพราะสภาพสังคมที่เปลี่ยนนั่นแหละ ทำอะไรก็ต้องแคร์สายตาคนอื่น ทั้งๆที่สิ่งที่เราทำไป ก็เพราะแค่อยากให้ตัวเรามีความสุขเท่านั้นเอง เอกคิดว่าการมีความสุขไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะ หรือนทว่าไง?"

"... ก็จริงล่ะมั้งเนอะ"


การมีความสุขไม่ใช่เรื่องผิด --- นอกจากความสุขนั้น ไปบ่อนทำลายความสุขของคนอื่น

เรื่องนั้น เขารู้ดียิ่งกว่าใคร









"นท"

เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นหู ส่งผลให้เจ้าของร่างงามที่เพิ่งจะจอดรถเรียบร้อยในลานจอดรถชั้นล่างของคอนโด หันไปมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ใครจะไปคิดว่า อุตส่าห์ย้ายหนีออกมาอย่างสงบสุขได้ตั้งหลายเดือน แต่สุดท้ายคนที่เขาหนีก็ยังจะตามมาเจอจนได้ นิชาทอดสายตามองร่างสูงสง่าที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาอ่อนใจ

"ทำงานเหนื่อยรึเปล่า?"

"ไม่เท่าไหร่ครับ พี่มีธุระอะไรรึเปล่า?"

ร่างโปร่งเอ่ยพลางเดินตรงไปที่ลิฟต์ โดยไม่ใส่ใจต่อเสียงฝีเท้าที่เดินตามหลังมา เขาก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้น โดยไม่ได้กดปุ่มเปิดประตูลิฟต์ค้างเอาไว้ให้ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็เดินตามเข้ามาทันจนได้

"พี่จะไปไหน?"

"ไปห้องของนทไง"

"... ผมเชิญพี่เหรอ?"

"... นทจะไล่พี่ได้ลงคอเชียวหรือ?"

นิชาเมินหน้าหนีสายตาตัดพ้อที่ส่งมามองเขาราวกับว่าเขาเป็นอาชญากรใจร้ายใจดำ เขาพุ่งออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็ว พยายามก้าวเท้ายาวๆเพื่อเดินหนี แต่ด้วยความสูงที่แตกต่างกันตั้งแต่ต้น ก็ทำให้อีกฝ่ายสามารถเดินตามเขามาได้ติดๆอย่างง่ายดาย เขาเปิดประตูห้อง แล้วก้าวเข้าไป ใจหนึ่งนึกอยากจะปิดประตูใส่หน้าชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหลัง แต่สุดท้าย เขาก็ทำไม่ได้

เตชินท์ปิดประตูลง ภาพของแผ่นหลังบอบบางที่แม้จะอยู่ในชุดสูทดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาของเขาเสมอ รู้ตัวอีกที เขาก็รั้งข้อมือบางเพื่อดึงร่างเล็กให้เซปะทะแผ่นอกของเขาเสียแล้ว สิ่งเดียวที่เขาคิดคืออยากพบหน้า อยากเห็นหน้า อยากมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย และกอดร่างตรงหน้าเอาไว้แน่นๆเท่านั้น

"นทคิดถึงพี่ไหม?"

ดวงตาคู่สวยฉายแววสั่นไหว เมื่อพบกับดวงหน้าคมที่เคลื่อนเข้าใกล้ เขาใช้ปลายนิ้วแตะสัมผัสกับริมฝีปากที่ประชิดติดริมผิวกายเบาๆ เพื่อเป็นการปรามและเตือนสติของร่างตรงหน้าที่คล้ายกับคนที่ถูกมนต์ดำครอบงำ

"หยุดนะ... พี่... จะทำอะไร"

"... นท ไม่รักพี่แล้วหรือ?"

เสียงทุ้มออดอ้อนและเว้าวอน ก่อนที่ดวงตาคมจะฉายแววขุ่นเคืองเมื่อใบหน้างดงามเพียงแค่เบือนหนีแล้วพยายามถอยห่าง

"หรือเป็นเพราะไอ้เด็กไม่เจียมนั่น..."

"ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับเชษฐ์หรือเอกทั้งนั้น"

เขาไม่รู้ว่าเตชินท์หมายถึง 'เด็ก' คนไหน เพราะไม่ว่ากับใคร ชายหนุ่มก็ใช้สรรพนามแทนด้วยคำว่า 'ไอ้เด็กนั่น' แทบทุกครั้งที่เรียกสองคนนี้

"แน่ใจหรือ? ทั้งๆที่ซื้อรถให้แล้วเนี่ยนะ"

"เขาไม่ได้ซื้อให้นท หรือต่อให้ใช่ ก็ไม่ใช่เรื่องของพี่"

เตชินท์พยายามข่มอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นเอาไว้ เขาตั้งใจจะมาขอคืนดี ไม่ใช่มาชวนทะเลาะ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดเชือดเฉือนความรู้สึกมากเข้า จากร่างเพรียวบางที่เคยว่าง่ายและเชื่อฟังทุกอย่างเสมอ ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมา

"นี่พี่ไม่ยักรู้นะ ว่าเดี๋ยวนี้นทจะหันมาควบสอง"

ใบหน้าสวยหันไปเผชิญกับผู้ชายที่ดีแต่พูดจาหยาบคายเพื่อยุให้เขาสติแตกแล้วโพล่งคำพูดรุนแรงออกไป คำพูดที่เสียดสีโดยไร้เหตุผลทำให้เขาขัดเคือง ใช่ แต่เขาจะไม่ยอมเสียรู้ร่างตรงหน้าด้วยการระเบิดอารมณ์ตามต้องการ เรื่องแค่นี้เขาทนได้

"นทน่ะ รักใครได้ทีละคนครับ แต่ว่าความเชื่อใจ... นทให้ได้แค่คนละครั้งเท่านั้น"

"... นี่นทจะบอกว่าไม่เชื่อใจพี่อย่างนั้นสิ?"

"แล้วกับคนที่แต่งงานแล้ว แต่กลับมาวุ่นวายกับผู้ชายอย่างนท... มันมีอะไรที่น่าเชื่อด้วยเหรอครับ?"

"หึ ตั้งแต่อยู่ในวงการแบบนั้น การพูดการจาเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"

"นทเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร เพียงแต่... อดทนที่จะไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง"

"พูดอีกสิ ด่าพี่อีกก็ได้"

"พี่โรคจิตรึไงถึงชอบให้คนอื่นด่า?"

"ไม่หรอก"

มือหนารั้งเอวบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว อ้อมแขนแข็งแกร่งล็อกร่างบอบบางเอาไว้แน่นราวกับไม่มีวันจะปล่อยให้นกน้อยโบยบินหนีไปได้อีก

"ปล่อยนะพี่ชิน! ปล่อยนท!"


"ทุบอีกสิ ต่อยพี่เลย นทจะด่าจะเกลียดพี่ยังไงก็ได้... แต่พี่จะไม่ปล่อยนทไปอีกแล้ว"

หยดน้ำตารื้นขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่ เขาพยายามขืนกายออกห่างจากอ้อมกอดแข็งแรงอย่างสุดแรงเกิด ทว่าชายหนุ่มกลับยิ่งกอดแน่นยิ่งกว่าเดิมจนเขาหมดแรงสู้ ร่างเล็กหันหน้าหนีเพื่อซ่อนรอยน้ำตาที่เอ่อท้น

เกลียดตัวเองที่อ่อนแอ และพ่ายแพ้ต่อความรู้สึกที่ล้นเอ่อในหัวใจทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้

เกลียดทีเป็นเหมือน 'ของตาย' ที่ไม่ว่าชายหนุ่มมองกลับมาอีกกี่ครั้ง --- ก็ยังยืนรออยู่ที่เดิม

"พอที... อย่าทำให้นทรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่ามากไปกว่านี้เลย"

"การที่เราสองคนรักกันมันผิดตรงไหน...? นทไม่เห็นค่าของความรักของเราเลยหรือ?"

"... ไม่ได้ พี่ชิน มันเป็นไปไม่ได้... นทรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ ยิ่งฝืน... นทก็ยิ่งเกลียดตัวเอง"

"งั้นถ้านทไม่รู้... ก็ไม่ผิดใช่ไหม?"

มือใหญ่ทาบลงบนดวงตาคู่สวย ปิดบังทุกสิ่งจากการมองเห็น ร่างบางยังไม่ทันที่จะร้องประท้วง เขาก็รับรู้ได้ถึงความชิดใกล้ที่คืบคลานเข้ามา
กลิ่นกายอันแสนคุ้นเคย ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดผิวหน้า และบางสิ่งที่นุ่มหยุ่นค่อยๆกดลงบนริมฝีปากที่เม้มน้อยๆอย่างประหม่า

เขามองไม่เห็น แต่ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก

จูบ --- ที่แผ่วเบา ผิวเนื้อแตะสัมผัสกันเพียงชั่ววินาที

ทว่าหลงเหลือความรุ่มร้อนทิ้งไว้ที่เรียวปากแม้ทอดถอนไป

หยดน้ำใสหล่นวูบผ่านผิวแก้ม

แต่ไม่ใช่ด้วยเพราะความเสียใจ

และไม่ใช่ด้วยเพราะความยินดี

แต่ด้วยเหตุผลมากมาย มากมายเหลือเกิน ที่อยากจะบอก อยากจะพูด อยากจะให้เข้าใจ

ความเจ็บปวดกับความหลังครั้งเก่า ในยามที่หัวใจถูกบีบจนยับเยิน

ความผูกพันกับความทรงจำที่ดีที่สอนให้เขารู้จักความรัก และการได้อยู่เพื่อใครสักคนอันเป็นที่รัก

วันวานมากมายที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตา และรอยยิ้มที่เป็นสุขจากหัวใจวิ่งพล่านอยู่ในกล่องเก็บความทรงจำ

คิดถึง คิดถึง คิดถึง

คิดถึงมากเหลือเกิน

อยากจะกลับไปคบกัน อยากจะกลับไปอยู่ด้วยกัน หัวเราะให้กัน ก้าวเดินไปพร้อมกัน

--- อยากจะกลับไปเป็นของกันและกัน

แม้จะกลัวที่จะต้องเจ็บปวด กลัวเหลือเกินว่าทุกอย่างจะกลับไปลงเอยแบบเดิมก็ตาม

เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่ายังรัก และคงไม่มีวันลืมได้ --- ตลอดวินาทีที่ยังมีลมหายใจ

ความคิดมากมายวิ่งวน อยากจะบอกให้รับรู้ความรู้สึกที่มากมายจนล้นปรี่

แต่กลับไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกจากริมฝีปากคู่สวย นอกจากเสียงสะอื้นที่แผ่วเสียจนแทบไม่ได้ยิน








 
 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2012 22:12:21 โดย MilkTea »

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
 :z3: ไม่เอาน่ะพี่นท  :z3:
อีชินหลีกไปเหอะขอร้อง  :กอด1: นักเขียน

ออฟไลน์ beer

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ยุ่งกันเข้าไปใหญ อีพี่ชินเล่นนอนกับเค้าไปทั่ว
แล้วยังมีหน้ากลับมาตอแยกับนทอีกนะ
ช่างเป็นความรักที่เห็นแก่ตัวซะจริง
เงินก็จะเอา ความรักก็จะเอา แถมกะควบ 3 ซะด้วย
ไม่รู้จะสรรหาคนไหนมาเปรียบจริงๆ แบบนี้ไม่รู้อีกกี่ชาติถึงจะคิดได้  :เฮ้อ:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เบื่อนทจริง ๆ

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ให้ตายเถอะ!

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผู้ชายคนนี้ใช้เวลาในชีวิตหมดไปกับเรื่องไร้สาระเยอะนะ ไม่แปลกที่จะไม่รู้จักคิดถึงใจคนอื่น

นภิสาดูไม่หยี่ระกว่าที่ผมคิดไว้นะ บทเธอน่าจะดูอลังการและดูมีพลังมากกว่านี้ ถ้าเธอเป็นผู้หญิงเก่งถึงขั้นจบ MBA ได้จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เธอน่าจะดูน่าเกรงขามและมีความสามารถมากกว่านี้ อย่างนี้มันดูไม่ต่างจากผู้หญิงคนนึงที่สุดท้ายเตชินทร์ก็ได้จ้ำจี้เลยนะนั่น ความจริงผมว่าความสามารถเธอน่าจะ Attract เตชินทร์ได้มากกว่านี้นะ เพราะว่าเท่าที่ผมมองคาแรกเตอร์ scent appeal ของสองคนนี้มันคล้ายกันอยู่นะ ผมว่าถ้าสองคนนี้เข้าด้วยกันได้ จะเป็นคู่ที่สร้างผลประโยชน์ได้อย่างมหาศาลเลยนะเนี่ย เพราะบทเตชินทร์ก็ไม่ค่อยเหมาะเป็นพระเอกที่เป็นแบบอย่างที่ดีสักเท่าไหร่

นิชา สุดท้ายยูก็หนีอะไรไม่พ้น นิชาไม่เคยรู้เลยสักครั้งหรือว่าเวลาที่ต้องการการตัดใจหรืิอการทำให้ตนเองเข้มแข็งขึ้น ถ้าหากว่าเจตนารมย์ของตนเองไม่ได้มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง เราก็ต้องหาคนช่วย ไม่่ใช่คนดามใจ แต่เป็นคนที่จริงใจกับเรา พร้อมที่จะให้ระยะทางเพื่อให้เราได้ครุ่นคิดเงียบๆกับตัวเอง และพร้อมที่จะปกป้องเนื้อสด รอเวลาให้สะเก็ตแผลแข็งตัวขึ้น เพื่อที่ว่าเมื่อผิวนั้นเปิดเผยขึ้นอีกครั้ง แม้ร่องรอยอาจจะลบหายไปไม่มิด แต่แหล่งทำร้ายเดิมจะไม่มีทางทำอะไรผิวบริเวณนั้นได้อีกแล้ว เพราะเจ้าตัวจะระวังเป็นพิเศษ เอาน้ำมาโดนแผลสดอย่างนี้บ่อยๆ ใครมันจะไปลืมได้

ธนกร ประเด็นคนนี้ผมว่าเวิร์คนะ ภาษีดีมากอ่ะ เพราะหนึ่ง เขาไม่ละล้าบละล้วงมาก ทำทีละสเต็ปอย่างมีมารยาท สอง เขาแสดงออกว่าพร้อมที่จะป้องกันแผลใดๆที่นิชามีอยู่ ขอแค่เอ่ยปากเท่านั้น และคิดว่าน่าจะทำได้ดีพอสมควร (ข้อนี้มนุเชษฐ์ก็มี แต่ดูจากเบสแบ็คกราวน์ ท่าจะต่อกรกับเตชินทร์ยาก ยกเว้นเรื่องฝีปาก) แม้จะ flirt แต่ก็เป็นการ flirt ที่ทำให้คนถูกจีบรู้สึกดี ผ่อนคลาย ไม่ได้รุกเพราะคิดหวังฟัน

ไม่มีอะไรจะพูดกับเตชินทร์เท่าไหร่ เพราะดูเตชินทร์กำลังลดคุณค่าของตัวเองลงเรื่อยๆ ยิ่งทำยิ่งดู pitiful เพราะว่าเชื่อมั่นในตัวเองเกินไป ไม่มองคนรอบข้าง มองแต่ตัวเอง พอบทสนใจนิชาก็มองแต่นิชา ไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นรอบข้างบ้าง เป็นคนที่ self-oriented จริงๆ

เขียนมายาวมาก 555 ยังไงก็ขอโทษด้วยนะฮะถ้ายาวเกินไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2012 22:09:25 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
อีพี่ชินนนนนน รักนทก็อยู่กะนทเซ่

ออฟไลน์ 403

  • 4 0 3 Forbidden
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-2
โอ้ย ไอ้ชิน ไปตายซะ (ขออนุญาตด่า) ไม่ไหวแล้วจริงๆ อ่านนิยายมาหลายเรื่อง ไม่ว่าพระเอกจะเลวแค่ไหนก็พอรับได้ แต่สำหรับพระเอกเรื่องนี้รับไม่ได้จริงๆ ตอนนี้มีหญิงเข้ามาเกี่ยวข้องอีกมันชักจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่

ตัวนทเอง จากตอนแรกที่สงสารตอนนี้เริ่มเบื่อแล้ว อ่านแล้วเหมือนเรื่องมันวนไปวนมาไม่พ้นจุดๆนี้ไปสักที 

เราชอบนิยายจบแฮปปี้นะ แต่เรื่องนี้ถ้าไม่จบแฮปปี้เราก็ไม่เสียใจเลย 

ขอบคุณคุณชานมมากค่ะ  :3123:

YELLOWSTAR

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12:  เมื่อไรจะหายดราม่าซักทีละนี่
สงสารทุกคนไปหมดแล้ววว  :monkeysad:

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงเพลง "รักสามเศร้า" ของพริกไทยเลย อยากรู้จังว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร

  :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ ciel_f

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
รู้สึกเหนื่อยกับนท ที่นทไม่ค่อยรักตัวเองเท่าไหร่เลยอ่า และเบื่อกับชินที่ทำตัวแย่ๆ ไม่มีการปรับปรุงสักที พูดแต่ปากว่ารักๆ แต่ไม่ค่อยทำตัวน่ารักให้เหมาะจะเป็นแฟนกับนทเลย และนทก็ทำตัวดูเป็นของตายมากไปนะ ก็เข้าใจว่ารักมากแต่ก็ต้องรักตัวเองให้มากกว่านะ...

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ไม่เอานะนท อย่ากลับไปเป็นแบบนั้นอีก ฮือๆๆๆ  :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด