ตอน คำถาม
ค่ำคืนวานนี้เราโอบกอดกันแนบแน่น ด้วยความรักและคิดถึง มันทั้งถวิลหา ต้องการ แยกไม่ออกว่าส่วนไหนมันมากกว่ากัน
รู้แต่ทุกๆ อย่างรวมเป็นคนตรงหน้าคนนี้ น้องซุกตัวเข้าหาอกผมอย่างคุ้นเคย ผมก็วาดแขนโอบกอดไอ้ตัวเล็ก
แทบจะจมหายไปกับอก ราวกับว่าถ้าปล่อยมือออก ทุกอย่างตรงหน้าจะมลายหายไปกระนั้น ...... อยากเก็บความรู้สึกตอนนี้
ตอนที่มีความสุขเอาไว้.... สุขซะจนไม่อยากให้วันพรุ่งนี้มาถึงด้วยซ้ำ นึกถึงถ้อยคำเหล่านั้น.....ผมเองก็เข้าใจ
สิ่งที่น้องหวาดกลัวและรู้สึกผิด ผมเอง......ก็ไม่ต่าง ล้วนผ่านการใคร่ครวญสิ่งที่น้องกังวลมาแล้วทั้งนั้น
ใช่ว่าจะเก่งกล้าสามารถมาจากไหน หรือใช่ว่าจะไม่กลัว สิ่งที่น้องพูดมาเมื่อครู่.....มันถูกทุกอย่าง ครอบครัวเราสนิทกันมาก
พ่อแม่ทั้งผมและน้องล้วนคิดว่าที่เราสนิทสนมกันมาอย่างยาวนานนั้น เป็นความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง หากแต่....ความจริงแล้ว
ผมกับแพนได้ก้าวข้ามผ่านเส้นบางๆ นั่นมาเนิ่นนานแล้ว ในความรู้สึกสับสนและงุนงง ระหว่างคำว่า “เป็นห่วง”
กับคำว่า “หวง” เกินความจำเป็นนั่นแหล่ะ ผมถึงได้เข้าใจว่าความรู้สึกทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น ที่กำลังคอยปั่นป่วน
ความรู้สึกข้างในใจของผมจนว้าวุ่น มันมากเกินกว่าจะเป็นความรู้สึก.... ระหว่างพี่กับน้อง
หากแต่มันเป็น ความหวงแหน ต้องการที่จะครอบครอง ต้องการที่จะเป็นเจ้าของ นี่หรือเปล่าที่เค้าเรียกว่า “ความรัก”
และนี่มันก็เกินกว่าที่จะทำให้เรากลับไปยืนจุดเดิมได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกมันค่อยๆ โตขึ้น อาจจะเป็นเพราะ
“จูบแรก” ผมไม่รู้ว่าแพนจะเรียกมันว่าจูบหรือเปล่า ด้วยความเข้าใจผิดแบบเด็ก ผมไล้ลิ้นเลียไปที่ริมฝีปากบางของอีกฝ่าย
จำได้แต่มันนุ่มหยุ่น รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกชอบมากๆ มากเสียจนอยากจะทำบ่อยๆ แต่ในความเป็นเด็ก
ผมไม่เคยคิดว่ามันแปลก หรือแตกต่างอะไร ก็แค่ “ความชอบ” ไม่ได้คิดว่ามันจะล่วงเลย...มาจนถึงความสัมพันธ์แบบนี้
สำหรับแพน...ที่ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองฮอทแค่ไหน คิดเหรอว่าไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้ ผู้คนมากมาย...พยายาม
หยิบยื่นความสัมพันธ์ที่มันก้าวล้ำเกินกว่าคำว่าเพื่อน ถ้าไม่มีผมที่คอยกันไว้ ป่านนี้...ก็คงเสียน้องไปแล้ว เห็นแก่ตัวใช่ไหม?
ก็จริง ...คงไม่เถียง หลายคนที่ค่อนข้างชัดเจนว่าแค่...อยากลอง.... อยากครอบครองแล้วก็เขี่ยทิ้ง มีเพียงบางคนที่ผมเข้า
ตา.
.... เป็นคนดี ที่ผมคิดว่าเค้าเหล่านั้นคงทำให้น้องมีความสุขได้ ...แม้จะไม่มีผม ถึงจะเจ็บบ้าง แต่บางครั้งมันก็เกินกว่า
จะหาเหตุผลข้างๆ คูๆ มาอ้าง ....เพียงเพื่อเก็บน้องไว้เป็นของผมคนเดียว “แพน” เองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนได้รักได้พอๆ กับ
ผม
ณ เวลานั้นที่ทำได้เพียงเฝ้ามอง ปล่อยให้แต่ละฝ่ายได้ลองศึกษากัน มันก็เจ็บ....จนบอกไม่ถูก แทบอยากจะทำลาย
คนที่เข้ามาใกล้ให้หายไป แต่....ก็ทำได้แค่มอง หงุดหงิดจนแทบบ้า... ถึงได้รู้ว่าเผลอ “รัก” น้องไปมากแค่ไหน แต่ทำไงได้
น้องเองก็มีหัวใจ ดังนั้นคนที่เลือกย่อมเป็นน้อง ในเมื่อที่ผ่านมา แพน ไม่เคยบอกสักครั้งว่า รักผม เกินไปกว่าคำว่า พี่ชาย
เลยต้องยอม แบบไม่มีเงื่อนไข เฝ้ามองอย่างหมาที่พักดีต่อเจ้าของ ... ต่อให้นายมัน “ไม่รัก” แต่ก็ยัง “ซื่อสัตย์” กับเจ้าของ
มัน
“แค่คนเดียว” หลายต่อหลายครั้ง.....ที่คิดจะเลิก “แอบรัก” เพราะทั้งหยอด ทั้งหลอกถามก็แล้ว คำว่า “รักแบบพี่ชาย”
มันก็โผล่มาเสมอ เจ็บจนท้อ แต่ก็.....ไม่เคยหยุดรัก ทำยังไงก็เลิกไม่ได้ ห้ามก็แล้ว เตือนตัวเองก็แล้ว ด่าตัวเองก็แล้ว
หลบหน้าก็แล้ว ทำไม.....หยุดรักไม่ได้สักครั้ง สุดท้าย....เมื่อเลิกไม่ได้ผมก็เลยตัดสินใจที่จะเดินเครื่องเต็มร้อย
แล้วสุดท้าย.....ก็สมหวังเสียที ดีใจเหลือเกินที่ไม่คิดจะหยุดตั้งแต่ตอนนั้น ผมว่าน้องเองก็รักผม ใครหลายคนที่เข้ามา
น้องก็ปฏิเสธได้อย่างอ่อนโยน ถ้าไม่ใช่ว่าน้อง ก็มีใจให้ผมเหมือนกัน ก็ยังไม่เห็นเหตุผลข้อไหนที่จะทำให้น้อง ไม่รัก คนเหล่า
นั้น
ส่วนเรื่องครอบครัวของเรา ไม่ใช่ผมไม่กลัว ตอบได้เลยว่า “กลัว” ถึง “กลัวมากที่สุด” แต่ถ้าต้องเลือกระหว่าง “เลิกรักแพน”
กับต้อง “โดนครอบครัวเราเกลียด” ผมยอมที่จะเสี่ยงมีปัญหา จะหนักหนาแค่ไหน.....ก็จะสู้จนสุดใจ ผมเชื่อ....ไม่ว่ายังไง
พวกท่านก็ต้องเห็นความสุขของพวกเรามาก่อน
.
.
.
.
.
“ตื่นแล้วเหรอครับ?” น้ำเสียงอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยเอ่ยถามเบาๆ ผมกระพริบตาถี่ ราวกับนี่มันเป็นเพียงความฝัน
ความฝัน......ที่ผมเคยฝันถึงเมื่อเนิ่นนามมาแล้ว จ้องมองรอยยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดในสายตาผม คุณเคยไหม ....
ที่หลงรักใครคนหนึ่งโดยไร้เหตุผล รู้แค่ว่าอยากอยู่ใกล้ อยากให้สายตาของเค้าคนนั้นจ้องมองมาที่ผม ..เพียงคนเดียว
ไม่รู้ว่ามันเป็นรักแบบไหน แค่มองไปทางไหน ก็เห็นเพียงคนๆ นี้ยืนอยู่ข้าง ในวันที่สุขใจ เศร้าใจ เสียใจ เจ็บปวด
ก็จะมีเค้าคนนี้ยืนอยู่ข้างๆ เสมอ ทั้งคอยโอบกอด ปลอบใจ หรือแม้แต่ซับน้ำตาให้ เลยเผลอรักไปหมดใจ ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ
ว่ามันเป็นรักแบบไหนด้วยซ้ำ
“อืมมม” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย โน้มคออีกฝ่ายลงมา ให้ใบหน้าอยู่ในระดับที่ริมฝีปากจะประทับถึง
“จุ๊บ...” แตะมันลงไปเบาๆ ที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“หึหึ.... ” ได้เห็นรอยยิ้มมุมปากตามแบบฉบับของภาค ดูดีจนไม่อยากละสายตาไปไหน เผลออมยิ้มทุกครั้งที่ได้มอง
“อย่ายั่วกันนักสิ รู้มั้ยว่าภาคทนไม่ไหว ....จุ๊บ” มือแข็งแรงสอดเข้าที่ท้ายทอยผม ค่อยๆ เหนี่ยวรั้งให้มันแหงนหงาย
แล้วประทับจูบลงที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน โดยมีผมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“อื๊อออ~ อย่า” เมื่อเห็นว่าเนิ่นนานเกินกว่าจะแค่เป็นจูบทักทายยามเช้า พร้อมๆ กับมืออีกข้างที่เริ่มสอดเข้ามาในเสื้อนอน
ลูบไล้ไปมา เห็นท่าจะไม่ดี...เลยดัน อกกว้างของอีกฝ่ายให้ผละออก
“บ้า...ใครไปยั่วภาคกัน แค่จุ๊บอรุณสวัสดิ์หรอก” ผมเบ้ปากใส่คนตรงหน้าแบบหมั่นไส้เต็มที่
“ฮ่าๆๆ เหรอ ภาคก็จูบบบบบบบ.... อรุณสวัสดิ์เหมือนกันนะ.” พ่อตัวดียกยิ้ม หูตาแพรวพราว
“เลิกยิ้มเลยภาค ชิส์” ทุบเข้าให้ โทษฐานทำตัวหน้าหมั่นไส้ แต่รู้สึกว่าพ่อตัวดีไม่ยักกะรู้สึกเจ็บเห็นยิ้มแป้นแล้นสบายใจ
เช่นเดิม
“ทำไมถึงกลับมาไทยได้หล่ะครับ? ไม่เห็นบอกภาคล่วงหน้าเลย” ฝ่ามือใหญ่เกลียเส้นผมที่ปกหน้าผมออกไปทัดหู
อย่างแผ่วเบา แล้วไล้นิ้วแข็งแรงเล่นกับแก้มผมอย่างมันมือ ราวกับมันเป็นเล่นถูกใจก็ไม่ปาน ถูๆ ไถๆ ไปมา
“โหหห กว่าจะถามอะ ทำอะไรแพนไปขนาดนี้ ไม่ต้องถามแล้วมั้ง รอถามตอนแพนกลับทีเดียวเลยดีกว่า” ผมว่าประชดให้
“อ้าว!! เหรออยากได้อย่างงั้นก็ไม่บอก ... ได้ๆ งั้นรอถามตอนแพนกลับทีเดียว หึหึ” โดนกวนเข้าให้ เล่นเอาผมเซ็ง
“นี่แนะ!! / โอ๊ยยยยย”
“คนเค้าประชดให้รู้มั่งเหอะ” ทุบอกเข้าให้ อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่า นี่ผมใจดีไปรึเปล่า อาจจะทุบเบาไป ได้ๆ รอบหน้าเอาให้
กระอักเลือดซะดีมั้ย
“คร๊าบบบบบบบ ภาคล้อเล่นอ่ะ สรุปว่ายังไงครับหืม? .... ถึงมาไทยได้ แล้วจะอยู่นานแค่ไหน? กลับไปอีกรึเปล่า?
จะกลับไปบ้านรึเปล่า? เอ๋...แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่น๊า พ่อกับแม่พี่ไปดูงานต่างจังหวัด แถมจะไปสัมนาต่อ และเลยไปฮานีมูนด้วย
กว่าจะกลับก็เป็นเดือนโน่นหล่ะ ส่วนพ่อแม่เรารึ...ก็พึ่งไปต่างประเทศ เห็นว่าจะไปเรื่องงานอะไรสักอย่าง สองสามประเทศ
ยาวไปถึงปลายเดือนนี่แหล่ะถึงจะกลับ ว่าไงทำไมไม่ตอบ” พ่อตัวดี หันมาถามหาคำตอบ ด้วยการทำหน้าสงสัย ที่ผมบู๊หน้า
ทำท่าเซ็งใส่
“แล้วจะให้แพนตอบตอนไหน ?” ผมถามแบบทำหน้าหาเรื่องตอบกลับไป
“เอ๊า...ก็ตอนที่ภาคไม่ได้ถามไง” พ่อตัวดีทำตาโต ตอบกลับราวกับนั่นเป็นคำถามที่ผมไม่น่าถามออกมา
“ลองไล่คำถามใหม่ได้ป่ะ?” เห็นยังงี้เลยต้องไล่เบี้ยให้สำนึกผิดขึ้นมาบ้าง
“เอ่อ...........................” พ่อตัวดีหุบปากฉับ คิ้วขมวดมุ่นทำท่าครุ่นคิด ถึงประโยคยืดยาวเมื่อครู่ที่ตัวเองเอ่ยออกไป
“ =_____ = ” ผมนอนมั่งแบบคาดโทษ สักพักภาคก็ฉีกยิ้มกว้าง กว้างมากและคาดว่าคงจะหวานที่สุดเท่าที่เคยเห็น
“แหะๆ แหะๆ”
“...........”
“แหะ....... จำไม่ได้แล้วครับ” เกาหัวตัวเองเบาๆ แล้วยิ้มเก้อ ๆ มาให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่บู้หน้าใส่
“ชิส์” สะบัดหน้าหนี พร้อมพลิกตัวหันหลังให้ งอน~ ๆๆๆๆ แค่หันหลังให้ได้แป๊บเดียว ผมก็ได้แต่แอบยิ้มกว้าง แขนแข็งแรง
ของอีกฝ่ายสอดเข้ามาที่ตัวผม แล้วดึงผมเข้าไปกอด แผ่นหลังแนบชิดเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่าย ผมก็แค่...อยากให้อีกฝ่าย
ง้อ
“น่านะ อย่างอนภาคเลยนะครับ ยิ่งมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นานด้วย” ภาคกดจูบมาที่หัว และซอกคอผม ผมแกล้งถอนหายใจ
ยืดยาว ราวกับต้องทำใจเต็มที่ ทั้งที่ความจริงแล้วปากผมกำลังฉีกยิ้มกว้าง แทบหุบปากไม่ไหว สุดท้ายก็เกินจะเก็บ
“หายงอนก็ได้ หุหุ” หัวเราะเสร็จก็รีบม้วนตัวซุกเข้าหาอกของอีกฝ่าย ไวๆ ซ่อนใบหน้าที่ยิ้มแก้มปริเอาไว้ไม่ให้ภาคทันสังเกตุ
“เดี๋ยวไอ้ตัวดีแกล้งกันเหรอเนี่ย เดี๋ยวโดนๆๆ” ฟอดด ~ ฟอดด ~ ฟอดด ~ ฟอดด ~ เดี๋ยวตรงไหนกัน ผมโดนอีกฝ่าย
จับหอมแก้ม จนแก้มระบมหมดแล้ว ได้แต่เอามือจับแก้มกุมไว้ทั้งสองข้าง อดทึ่งในความไวในการหอมแก้มของอีกฝ่ายไม่ได้
อ้าปากค้าง ทำหน้าเหวอ จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆ แล้วถอนหายใจยืดยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อย อันนี้เหนื่อยจริงๆ หมดแรงต่อสู้
“หึหึ ... เลิกปิดแก้มได้แล้วครับ เล่ามาเร็วคนดี ภาคอยากรู้ใจจะขาดแล้ว” ภาคเอานิ้วมาเขี่ยจมูกผมเบาๆ ผมมองตามนิ้ว
เรียวแต่แข็งแรงที่บรรจงหยอกล้อ อย่างมีความสุข โดยมีผมย่นจมูกเพราะรู้สึกระคายจมูก เล่นกันอยู่นานเลยได้ฤกษ์งาม
ยามดีเล่าเรื่องซะที
“ก็....ปิดเทอมใหญ่อ่ะสองเดือน แพนเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินได้เลยซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าก็เลยถูกหน่อย แต่พอกลับมาก็อย่างที่รู้
ไม่มีใครอยู่สักคนอ่ะ ไม่ว่าพ่อแม่ของเราทั้งสองคน กว่าจะรู้ ตั๋วก็ถูกจองไว้เรียบร้อยแล้วอ่ะ จะกลับบ้านก็เหงา
คิดถึงภาคก็คิดถึง เลยตั้งใจจะมาเซอร์ไพร์ใครบางคนที่นี่ไม่นึกเลย............ว่าจะโดนเซอร์ไพร์กลับยิ่งกว่า” พูดจบก็หลุบตา
ลงต่ำมองดูนิ้วตัวเองเขี่ยกันไปมา รู้สึกร้อนที่หน้าพิกล เหมือนๆ อยากจะแทรกแผ่นดินหนีหายไปยังไงไม่รู้
เริ่ม....ไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย ยิ่งนึกถึงภาพระหว่างเรา “คืนนั้น” เสียงครวญคราง รสสัมผัส รวมถึงเสียงกิจกรรมรัก เสียงร่างกาย
ยามเนื้อกระแทกกระทั้นกัน เสียง... ดูดกลืนลิ้นของกันและกัน และในยามที่ริมฝีปากผละออกจากกันอีก แค่คิด.....
ก็นึกอายเสียจนไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า ทำไม.....ตอนนั้นถึง “กล้า” ขนาดนั้น กล้า.....ที่จะบอกให้ภาคทำในสิ่งที่ผมกลัว
อาจจะเป็นเพราะ....ผมรู้ ว่าสิ่งที่ผมกลัวมันแค่ “ความเจ็บปวดทางร่างกาย” ไม่นานคงจะหายเจ็บได้อย่างง่ายดาย
แต่กับภาค...... “ความหวาดกลัว ” และ “ความเจ็บปวดทางใจ” ดูมันจะฝังรากลึกมากไปกว่านี้ หากผมยังเลือกที่จะกลัวเจ็บ
ตอนนั้นผมเลยเลือกจะทิ้งความหวาดกลัวทุกอย่าง เพื่อปลอบประโลมคนที่ “เจ็บยิ่งกว่า” และ “กลัวยิ่งกว่า”
ก็แค่ต้องการให้อีกฝ่าย “มั่นใจ” และรับรู้ว่าผมก็รักเค้าไม่น้อยไปกว่าที่เค้ารักผมเช่นกัน “ภาคคือคนที่ผมเลือกแล้ว”
เลือก.....ว่าต่อไปนี้ จะยินดีฝากชีวิตไว้ให้อีกฝ่ายดูแล ขอแค่รับ “มั่นคง” และ “เชื่อใจกันก็พอ”
“ภาคชอบจังเลย...เซอร์ไพร์คราวนี้ “ชอบมาก” และถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต” ภาคกดจูบแผ่วเบาที่กระหม่อม
“ขอบคุณ” ผมเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“หืม? อะไรนะครับ” ภาคทำหน้าฉงนสนเท่ห์ในการขอบคุณครั้งนี้ ผมได้แต่ลอบยิ้มไล้มือบนใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย
อย่างหลงไหล ไม่คิดว่าจะได้เป็นเจ้าของ ผู้ชายที่สมบูณร์แบบขนาดนี้ ....สำหรับผมมันเกินกว่าจะคาดไว้
“ขอบคุณที่รักกันนะ ขอบคุณที่รอ...ไม่ว่านานแค่ไหน แพนแอบเผลอคิดอยู่เหมือนกัน....ว่าภาคจะเปลี่ยนไปแล้วรึเปล่า
จะมีใครข้างกายภาคแล้วรึเปล่า ใจมากกว่าครึ่ง....มั่นใจไปแล้วว่ากลับมา ไม่มีทางที่ภาคจะยังรออยู่ แต่ภาคก็ยังรอ
รอ....ทั้งที่แพนไม่ยอมให้ภาคเป็นเจ้าของๆ แพน ขอบคุณจริงๆ นะ” ผมที่สารภาพความในใจทุกอย่างที่เก็บงำไว้เนิ่นนาน
ภาคยิ้ม ไล้มือเกลียใบหน้าผมตอบ เราสบตากัน ใบหน้าที่ห่างกันเพียงคืบ ทำให้เราความรู้สึกเราใกล้กันเข้าไปอีก
“ก็บอกแล้วไง..... ว่าภาครักแพน รักหมดใจเลย รอนานแค่ไหน.......ก็จะรอ”
.
.
.
จุ๊บ~
.
.
.
.
รอยยิ้มหล่อของภาค เริ่มขยับริมฝีปาก เพลงเดิมๆ ที่เคยฟัง ที่คุ้นเคย ..... แต่วันนี้....
ทำไม...มันถึงไพเราะกว่าทุกครั้งที่ฟัง
http://www.youtube.com/watch?v=3VXsGjdyw_o“เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่รอเธอ ฉันจำไม่ได้
ที่จำได้ดีคือฉันมีเพียงเธอ แม้นานสักแค่ไหน
เธออยู่ที่ใดยังรักกันไหม ฉันไม่รู้ แต่ที่รู้คือฉันนั้นยังไม่เปลี่ยนใจ
ยังอยู่ตรงนี้ถึงแม้จะเหงาและเดียวดาย
ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าใครจะมองว่าฉันงมงาย ฉันก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อเธอมีทางชีวิตไม่เหมือนฉัน ฉันห้ามไม่ได้
แต่ฉันจะมีชีวิตเพื่อรอเธอ แม้วันสุดท้าย
เกิดมาได้เจอคนที่ตามหามานานแสนนาน ทำให้รู้ว่าเธอมีค่ามากแค่ไหน
จะอยู่ตรงนี้ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เหลือใคร
ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าใครจะมองว่าฉันงมงาย ฉันก็ยังเหมือนเดิม
จะรอแค่เธอถึงแม้ใครหาว่างมงาย
ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่านานเท่าไรยังมีเพียงเธอ (ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันมีเธอคนเดียวในหัวใจ)
ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะรักเธอ”
“ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไปนะ”
“ครับ อย่าพึ่งเบื่อก็แล้วกัน”
“หึหึ”
“ขำไมอ่ะ”
“ก็ภาคอ่ะ... เว่อร์ตลอดอ่ะ”
“เว่อร์...แล้วรักป่ะหล่ะ”
“รัก หึหึ”
“เอาดีๆ ทำไมชอบขำนะ”
“รักคร๊าบบบบบ”
“รักใคร ..ไม่เห็นรู้เรื่อง”
“รักภาคคร๊าบบบบบบบบบบบ พอใจยั๊ง”
“หึหึ ค่อยชื่นใจหน่อย”