ตอนที่ 29ศร บรรยาย
ผมนั่งมองกองเอกสารที่ทำไม่เสร็จเสียทีอย่างเบื่อหน่าย ไม่มีกระจิตกระใจจะทำ
และแล้วทันทีที่ว่างในหัวก็เริ่มคิดถึงเรื่องที่ผมเผชิญอยู่ในช่วงนี้พอดี...
คุณชายเงาแห่งตระกูลลึกลับในวงการมืด....
ชื่อนี้ไม่ธรรมดาเลย มันเริ่มดังกระฉ่อนในช่วงสองสามปีมานี้ เหตุผลก็คงจะเป็นเพราะหลังจากที่ตระกูลของ'คุณชาย'เริ่มตกอับจนถึงขีดสุด ด้วยฝีมือของเขาเพียงคนเดียวกลับทำให้ตระกูลรุ่งงเรืองขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หายตัวไปไม่ทิ้งเบาะแสอะไรเกี่ยวกับตัวของเขาเอาไว้ให้คนอื่นๆสืบหา
และตอนนี้ ผมกำลังคิดว่า ผมกำลังเผชิญหน้ากับบุคคลอันตรายอันดับต้นๆของวงการในสถาณการณ์ที่คลุมเครือจนน่าเป็นกังวล
ตั้งแต่แรกผมก็คิดๆเอาไว้อยู่แล้วว่า ไนติงเกลนั้นไม่ธรรมดาไม่ว่าจะกลิ่นอายชวนมึนเมา และเสน่ห์แปลกๆที่ลอยอยู่รอบๆตัว
เขานั้นราวกับเกิดมาเพื่อล่อลวงมนุษย์....
นั่นทำให้ผมเกิดความรู้สึกที่อยากจะกักขังเขาเอาไว้ให้เป็นของตัวเองคนเดียว อยากจะเก็บเขาเอาไว้ใกล้ๆตัว รู้อยู่แก่ใจว่าเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่สามารถควบคุมปีศาจที่กำลังกู่ร้องโหยโหนในใจของตัวเองได้เลย ราวกับว่าร่างกายนี้ไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไปเมื่อยามอยู่ใกล้ๆเขา
กำแพงที่สร้างขึ้นมาทำไมจึงพังทลายได้ง่ายดายนัก เพียงเพื่อรอยยิ้มอันหายากนั่น ผมสรุปอาการนี้ง่ายๆว่า อาการหลงใหลและอีกไม่นานมันอาจจะกลายเป็นหลงรักได้...ในกรณีที่ผมคิดว่าเขาไว้ใจได้จริงๆไม่ใช่สายที่ใครส่งมา
ใช่ว่าผมจะไม่มีหัวใจอย่างที่ใครๆเขาว่ากัน แต่หัวใจของผมมันถูกปิดตายเอาไว้ด้วยภาระที่ต้องเผชิญ การมีความรักมีคนที่ต้องเป็นห่วงทำให้ผมมีปัญหาได้ไม่ยาก
ก็อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับแม่ของเจ้าตัวแสบนั่น...
ถึงผมจะแสดงออกว่าตัวเองไร้หัวใจแค่ไหน แต่ตามจริงแล้ว มันไม่ใช่เลยเธอเป็นรักแรกของผมเลยด้วยซ้ำ แต่แล้วหน้าที่ของผมก็ทำให้เธอต้องจากไปอย่างที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้ ทิ้งเอาไว้เพียงลูกชายตัวแสบที่ราวกับเป็ยก็อปปี้อีกคนของผม ผมมีเขาตั้งแต่ตอนที่เรื่องราวภายในยังไม่พร้อมดีนัก เลยทำให้อะไรๆมันยุ่งวุ่นวายไปหมด
ผมรู้ตัวเองดี ว่าตัวเองมีความรู้สึกดีๆให้กับเกล และถ้าปล่อยมันไว้ อีกไม่นานมันจะต้องพัฒนาขึ้นอีกแน่ นั่นทำให้ผมตัดสินใจจบปัญหาคาราคาซังของตัวเองกับครอบครัวลงซะ และในระหว่างที่ผมกำลังขังเขาไว้ในกรง ถ้าเขายังไม่เกลียดผมไปเสียก่อน บางที...แต่ก็นั่นแหละ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าตกลงแล้ว เกลคนนั้นเป็นสายให้กับใครรึเปล่า
ที่ผมกำลังทำไม่ได้เพราะความหึงหวง มันเป็นเพียงแผนการณ์สำหรับเปิดใจคนที่ผมวางเอาไว้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเพิ่งจะสบโอกาสใช้กับเกลเมื่อไม่นานมานี้
ผมเอาจุดอ่อนในช่วงนี้ของเขามาเล่น ซึ่งก็คือความรู้สึกดีๆที่เขากำลังมีให้ผม คนเราเมื่อตกอยู่ในห้วงรัก ก็มักจะไม่มองสิ่งอื่นๆความฉลาดจะลดลงอย่างฮวบฮาบ การตัดสินใจก็จะทื่อๆลง ยิ่งกับเขาคนที่ดูเหมือนว่าจุดอ่อนอันยิ่งใหญ่จะอยู่ที่ความรัก
นั่นคือแผนการณ์ของผมตั้งแต่ที่ผมเริ่มรู้ว่าในใจของพวกเราทั้งคู่เปลี่ยนไป ผมก็ตัดสินใจที่จะเฉือนใจตัวเองมองดูเขาเจ็บปวดรวดร้าว ทั้งหมดนี่ก็เพื่อที่ผมจะได้ทุ่มเทให้เขาได้หมดใจ
เพื่อจะได้มั่นใจ...ว่าผมจะสามารถเก็บเขาเอาไว้ข้างกายได้จริงๆ
ผมถอนหายใจ ตอนแรกตั้งใจจะทำงานต่อ แต่แล้วจู่ๆใจก็นึกอยากจะเช็คดูอาการของคนที่ดูป่วยๆมาได้หลายวันแล้วขึ้นมา
ผมเปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊คเครื่องเล็กขึ้นมา คลิกไปที่โปรแกรมดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนจะชะงัก เผลอผุดตัวลุกขึ้นอย่างอัตโนมัติ
ร่างบางที่ซมซานออกจากห้องน้ำมายังเตียงใหญ่ด้วยท่าทางราวกับศพนั่นทำให้ผมตกใจ อาการเขาหนักขึ้นมาขนาดนี้แล้วหรือ?
ผมต่อสายหาใครคนหนึ่งทันที เขาเป็นคนคนเดียวที่ผมไว้ใจให้ดูแลคนใกล้ชิด
"Hi"
น้ำเสียงงัวเงียราวคนเพิ่งตื่นดังขึ้นปลายสายผมเพิ่งได้เบอร์ติดต่อของคนคนนี้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากเขาหายตัวไปเสียเนิ่นนาน ถูกแล้ว เขาเป็นพี่ชายคนที่หายตัวไปที่ผมเคยเล่าให้ฟังไง
"โร นี่ผมเองนะ ศร"
"อ้อศรเหรอ มีอะไร?"
"ช่วยมาหาผมหน่อย ที่ตึกทำการใหญ่ประเทศไทย"
ผมได้ยินเสียงทอดถอนใจจากอีกฝ่ายบางเบา ก่อนจะมีเสียงงึมงำๆประเภท'อย่างที่มิวสิคบอกไม่มีผิด''ว่าแล้ว'ดังหงุงหงิงมาตามสาย
"ฉันอยู่ไทยพอดี เดี๋ยวจะเข้าไป"
ตู๊ดๆๆ
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังคงนิสัยเสียๆเอาไว้อย่างครบถ้วน พอตัวเองหมดธุระก็วางสายไปทันที ผมส่ายหน้านึกระอาใจ
ผมมองไปยังถาพร่างบางฟุบลงบนเตียงอย่างหมดแรงแล้วมีอันต้องถอนหายใจ ผมเล่นแรงเกินไปสินะ แกล้งเขาแรงเกินไปแล้ว
ผมดูก็รู้แล้วว่าเกลมีความรู้สึกดีๆให้กับผม แต่ด้วยความงี่เง่าและความไม่แน่ใจในตัวของเขาผู้ซึ่งดูเหมือนเข้ามาหาผมได้อย่างประจวบเหมาะราวกับเป็นความจงใจ ไม่ใช่ความบังเอิญ แม้เวลาที่ผันผ่านจะทำให้ผมเริ่มคิดว่าทุกอย่างมันคงจะเป็นเพียงความบังเอิญจริงๆ แต่ก็เท่านั้น ความระแวงของผู้นำที่โดนหักหลังมาหลายต่อหลายครั้งไม่ใช่อะไรที่จะลบเลือนไปได้ง่ายๆ
ถ้าเขาผ่านตรงนี้ไปได้จริงๆ ผมกล้าสาบานเลยว่าผมจะไม่มีวันทำให้เขาทุกข์ใจอีกเป็นครั้งที่สอง...
ถ้าเขาสามารถผ่านมันไปได้ละก็นะ...
"เล่นแรงมากไปนะศร"น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจของญาติผู้พี่ที่กำลังตรวจร่างกายผอมแห้งที่ผมเพิ่งจัดการใส่เสื้่อผ้าและเช็ดตัวให้ไปหมาดดังขึ้น
"ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะศร แต่กับเขาที่ร่างกายมีความพิเศษมาก ผลจากการกระทำของนายมันเลยกลายเป็นแบบนี้"
ผมขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเขาใจในสิ่งที่โร ญาติผู้พี่ กำลังสื่อ
"เคยได้ยินเรื่องการทดลองต้องห้ามของกลุ่ม 'เอเดน' "
"อ่ะ..."อย่าบอกนะว่า...
กลุ่มเอเดน กลุ่มนักวิจัยที่รวบรวมพวกสติไม่ค่อยดีเข้ามาไว้ด้วยกัน มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว พวกมันผลิตหลายๆอย่างรวมไปถึง หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกมันโดนล้มล้างจากพวกคลั่งศาสนา ก็คือ การวิจัย 'แอปเปิ้ลต้องห้าม'พวกมั้นวิจัยเพื่อที่จะให้ผู้ชายสามารถตั้งครรภ์ได้เช่นผู้หญิง และ ผู้หญิงสามารถสืบพันธ์ได้เช่นผู้ชาย
"หลังจากกลุ่มวิจัยโง่เง่านี่โดนล้มล้าง ตัวทดลองgeneration 2ที่สมบูรณ์ที่สุดก็ถูกขายในตลาดมืดแทนที่จะทำลายอย่างที่ควรจะเป็น นั่นทำให้ทั่วโลกตอนนี้มีGeneration 3 ปะปนอยู่กับคนทั่วไปพวกเขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตามแต่"
"และร่างที่นอนอยู่ตรงนี้ก็คงเป็นเป็น generation 4 และดูเหมือนเขากำลัง...ตั้งครรภ์"
ผมเงียบเป็นเป่าสาก อึ้งไปกับเรื่องที่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเองแถม เรื่องที่เพิ่งรู้สดๆร้อนไปอีกเรื่อง
ผมกำลังจะมีลูกคนที่สอง??
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
จบดื้อไปแบบนี้ก่อนแล้วกัน

กระจ่างยังว่าทำไมเกลท้องได้
ขอโทษจริงๆนะค่ะที่มาลงช้ามากกก เมื่ออาทิตย์ที่แล้วติดติวความถนัดค่ะเลยมาอัพไม่ได้ แล้วก็partนี้แต่งยากมากกก พี่ศรแกเก็บงำเหลือเกินนน
สรุปว่าน้องเกลโดนต้มจนเปื่อยเลยค่ะ พี่ศรช่างร้ายกาจ ก๊าซซซซซ
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ค่ะ อ่านแล้วชื่นจายยยย

ป.ล.มีหลายๆคนชมว่าเรื่ิงนี้ดี อิงขอบคุณมากๆค่ะ
