Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!  (อ่าน 425052 ครั้ง)

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
«ตอบ #990 เมื่อ13-08-2012 10:49:16 »

มาต่ออีกนร้าครับอิ๊กกี้

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #991 เมื่อ14-08-2012 07:39:52 »

Don’t call Me BaBy!!

เคยได้ยินคนพูดว่าเวลาที่เรามีความสุขเวลาหรืออะไรๆมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ มันก็จริงนะไม่น่าเชื่อว่าผมเองจะอยู่ที่นี่ได้หลายเดือนแล้วครับ ผ่านเรื่องดีๆร้ายๆมาก็เยอะพอสมควร ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะชอบที่นี่ได้มากมายเท่านี้ ความเรียบง่าย จริตของคนที่ไม่มากมายนัก หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ผมไม่รู้สึกเบื่อเลยที่จะอยู่ที่นี่ และที่สำคัญผมไม่เคยเหงาเลย เพื่อนของผมทุกคนล้วนแล้วแต่ทำให้ผมรู้สึกว่าคำๆนั้นมันยังห่างไกลจากตัวผมอยู่ และไอ้เน่าจากวันที่เราชอบกันจนถึงวันนี้มันก็ยังคงอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันมากไป จะเชื่อไหมว่าผมไม่เคยรำคาญมันเลย มันพูดไม่เพราะแถมยังห้าวๆอีกแต่ไม่รู้ทำไมผมไม่อยากห่างมันสักวินาที
   “ขี้คร้านเด้ มื้ออื่นสิไปเกี่ยวเข่านี่แหม่ะ” ปลายเดือนตุลาคมแล้วครับ ลมหนาวเข้ามาแทนที่อากาศร้อนอบอ้าวเต็มกำลัง ลมหนาวที่พัดมาทีไรก็จะหอบเอาฝุ่นปลิวคละคลุ้งมาด้วยเสมอ ยิ่งลานหน้าโรงเรียนฝุ่นที่มาจากสนามฟุตบอลที่ตอนนี้หญ้าในสนามเป็นเป็นสีน้ำตาลแก่ๆเหมือนมันตายครับ ลมมาทีไรฝุ่นปลิวมายังกับทอร์นาโด
   “เกี่ยวข้าวเหรอ” ผมสนใจขึ้นมาทันทีครับหันไปมองเล็กเรากำลังจะเก็บของกลับบ้านกัน
   “เฮาไปซ่อยบ่ อยู่เฮือนเพิ่นจ้างเกี่ยวแล้วๆ เอาเข่าตากไว้บ่มีแนวเฮ็ด” จอยมันเสนอครับ
   “เราไปด้วย อยากไปลองเกี่ยวข้าว” ผมเองก็อยากมานานแล้วครับ ตั้งแต่ข้าวยังไม่ตั้งท้องเถอะ
   “สิไปอีหลีติ๊ มันเมื่อยเด้อุ่น” “ไม่สนอ่ะ เราอยากไป” พอตกลงกันได้ผมก็ลั่นล้าเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนล่ะครับ ต้องไปรอไอ้เน่าที่หน้าโรงเรียน เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นทำให้ใครหลายคนรู้จักผมมากขึ้นล่ะครับแต่เหมือนจะไม่นินทาเหมือนแต่ก่อน ยิ่งไอ้เน่ามันไม่เอาใครเลยหน้ามันมีรอยแผลเป็นพาดครึ่งหน้า เวลามันทำหน้านิ่งๆซึ่งปกติก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งทำให้มันดูหน้าดุมากขึ้นเถอะแต่ผมว่ามันก็ดีนะเพราะไม่กล้ามีใครมาวอแวมันอีกเลย
   “เน่าๆ พรุ่งนี้ไปเกี่ยวข้าวนาเล็กนะ” พอมันมาผมก็ชวนทันทีครับ
   “เกี่ยวข้าวไร” อ้าวไอ้นี่ เกี่ยวข้าวในนาสิถามมาได้
   “เกี่ยวข้าวไง ไม่เคยทำเหรอ”
   “สัด ว่างมากไง ไม่เหนื่อยว่างั้น” “ไม่อ่ะ เน่าไม่ไปเราไปกะจอยนะ” ผมไม่สนใจครับ มันจิ๊ปากซึ่งนั่นหมายความว่ามันไปครับ ผมเลยแอบขำอยู่หลังมัน
   “มึงนี่นะ อยู่นิ่งๆบ้างไม่ได้ไงวะ” มันเริ่มบ่นครับ ผมก็ทำเป็นหูทวนลม
   “บักเคน มึงบอกบักเต้กับบักไม้แน่ มื้ออื่นสิไปซ่อยบักเล็กเกี่ยวเข่า” พอถึงบ้านมันก็โทรศัพท์ไปหาเคนทันทีครับ ผมก็ยืนรอลุ้นอยู่ว่ามันจะว่ายังไง
   “เออๆ อย่าถามหลาย เดี๋ยวมาเตะตระกร้อจั่งคุยกัน” มันวางสายแล้วหันมาทางผมล่ะครับ
   “แต่ไปแค่ครึ่งวันพอนะ กูจะกลับมานอน” อ่านะ มันยักคิ้วใส่ผมล่ะครับ
   “อืม แล้วไปแกะแผลทำไมอ่ะ” ผมเห็นมันเป็นรอยเลือดแดงๆล่ะครับ มันแห้งแล้วนะแต่เหมือนว่ามันจะคอยแกะอยู่ตลอดเวลาล่ะครับ ทายาไปมันก็เช็ดออกตอนผมเผลอ ไอ้นี่ท่าจะบ้า
   “คัน” “มานี่เลย แล้วมันจะหายไหมอ่ะเน่า” ผมดึงแขนมันมานั่งล่ะครับเพราะมันกำลังจะเปลี่ยนรองเท้าไปเล่นตระกร้อล่ะครับ
   “ไม่เอา เดี๋ยวก็เหงื่อออก ตอนเย็นค่อยทำ” อ่านะ
   “ก็ทาไว้ก่อนไง ตอนเย็นก็ทำอีก ก็ถ้าแกะก็จะทำอยู่แบบนี้ล่ะ” ผมก็ไม่ยอมครับ มันถลึงตาใส่ผม
   “เออๆ มึงนี่นะ เดี๋ยวๆคืนนี้กูจัดหนักเลยนี่” อ่า ไอ้บ้า เขินจัง ไม่น่ายอมเลยอ่ะท่านรู้ไหม พอยอมมันนะมันจัดผมบ่อยมากอ่ะ จนตอนนี้รู้สึกเวลามันทำไม่ค่อยเจ็บแล้วเถอะ โอ้ยนะอุรดิศ อารมณ์เสียมาก
   “บ้าเหรอ” อายครับอาย รีบวิ่งไปหาพี่ต้อยทันที มันหัวเราะอยู่นะ แหมๆ เดี๋ยวเถอะจะไม่ยอมแล้ว
   “พี่ต้อย พรุ่งนี้อุ่นจะไปเกี่ยวข้าวนะ ช่วยเล็ก” ผมเห็นพี่ต้อยกำลังเตรียมทำกับข้าวอยู่ล่ะครับ
   “หวืย ซาดจะแม่นหาแนวเฮ็ดน้อค่า คุณพ่อซายฮู้แล้วติ๊”
   “พ่อไม่ว่าหรอก พี่ต้อยทำกับข้าวไปช่วยเล็กด้วยดิ เพื่อนไปหลายคน”
   “อ้าว คือบ่ให้มันเฮ็ดไปเองล่ะค่า” “ก็เล็กอยู่กับแม่สองคนเองพี่ต้อย สงสารแม่เล็กออก” ผมก็เลยเล่าคร่าวๆให้ฟังว่าเล็กอยู่กับแม่ยังไง พี่ต้อยแกก็พยักหน้าครับ
   “ซั่นยามแลงเอื้อยสิไปซื้อแนวมาเฮ็ดให้กะได้ค่า บ่ให้เอื้อยไปนำบ่ คึดฮอดบ้านคือกันเด้ค่าคุณอุ่น ปานนี้อีแม่คือสิพวมเกี่ยวเข่าอยู่คือกัน” พี่ต้อยแกรำพึงออกมาครับสายตาชวนฝันเชียว
   “พาอุ่นไปเที่ยวบ้านพี่ต้อยด้วยสิ อุ่นอยากไป ไหนบอกบ้านพี่ต้อยติดโขงอ่ะ อยากไปเห็น”
   “บู้ย ไปยามนี้เพิ่นกะสิไล่ฆ่าลงนาท่อนแล้วค่าคุณอุ่น ไปยามเหมิดหน้านาดีกั่วค่า เดี๋ยวเอื้อยสิซวนคุณพ่อซายเมือไปยามเฮือนจักเทื่ออยู่” ผมก็ช่วยพี่ต้อยทำนั่นทำนี่ล่ะครับ ไม่นานนักแกก็ขอตัวออกไปตลาด พ่อผมกลับมาแล้วครับ เสียงเพื่อนๆที่เล่นตระกร้อก็เจี้ยจ้าวอยู่นอกบ้าน ผมเลยชงชาเย็นสูตรอุรดิศไปให้ คือว่ารู้ว่าหน้าหนาวอ่ะนะแต่เล่นเหงื่อแตกมาขนาดนั้นคงไม่มีใครจิบชาร้อนของผมหรอกนะครับ จะว่าไปตั้งแต่พ่อผมมาอยู่ที่นี่แกดูสุขภาพดีขึ้นมากนะ เพราะออกวิ่งทุกเช้าและเย็นยังมาเตะตระกร้อกับไอ้เน่าและเพื่อนๆอีกนับว่าเป็นผลพลอยได้ที่ดีทีเดียว ส่วนชาหิมาลายันสูตรอุรดิศ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ชงกับน้ำผึ้งใส่มะนาวแค่นั้นเอง อิอิ
   “กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูกค่อยกลับบ้าน หน้าหนาวนี่ค่ำไวจังนะ พ่อรู้สึกว่าเหงื่อยังไม่มากเท่าไหร่เลย” คุยครับคุย แหมนะพ่อผม คือช่วงเลิกเล่นล่ะครับก็มานั่งรวมกันอยู่ที่เก้าอี้หวายใต้ถุนบ้านดื่มชาเย็นสูตรพิเศษของผมอยู่
   “คุณปลัดหนุ่มขึ้นเด้ครับ เลยบ่เมื่อย” นายเคนครับ เสียงพ่อผมหัวเราะชอบใจ
   “พ่อครับ พรุ่งนี้ผมจะพาอุ่นไปเกี่ยวข้าวช่วยไอ้เล็กนะครับ” ไอ้เน่ามันเอ่ยขึ้นล่ะครับ ทุกคนจ้องหน้าพ่อผมทันที
   “หือ นี่มันถึงฤดูแล้วเหรอลูก จะไปช่วยเขาหรือไปทำให้เพื่อนลำบากหรือเปล่าล่ะลูก” พ่อผมพูดครับ แล้วหันมาทางผมที่ยืนลุ้นอยู่ แหมนะพ่อ ไม่เคยเถอะ
   “ผมกะว่าบ่ให้ไปๆ แต่อุ่นเพิ่นกะอยากไปครับ” นายเล็กครับ เออนะ รุมกูใหญ่เลยทีนี้
   “เดี๋ยวก็ดูอุ่นให้พ่อหน่อยละกัน สงสัยอยากเรียนต่อเกษตรแน่ๆ พ่อไม่เห็นสนใจเรื่องอื่น”
   “ผมก็ว่าอยู่ครับ มันคงอยากเรียนเพาะเห็ดขาย ฮ่าๆ” เอ่อ ไอ้เน่าครับ หัวเราะเสียงดังมาก เพื่อนๆรวมทั้งพ่อก็หัวเราะ ผมก็เลยจำเป็นต้องเดินหนีครับ พ่อนะพ่อ
   “มาค่ามา แกงปลาค่อใส่ผักอีฮุม แจ่วปลากระบอก” พอสักพักผมก็ช่วยพี่ต้อยยกอาหารออกมาล่ะครับ จะว่าไปนะที่บ้านผมเวลาทำกับข้าวนี่ทำแบบว่าเผื่อบ้านข้างคียงด้วยเถอะ เพราะถ้าวันไหนพ่อผมเล่นตระกร้อซึ่งก็ทุกวันนั่นล่ะครับ พี่ต้อยก็จะทำกับข้าวเผื่อ ถ้าวันไหนเพื่อนไม่อยู่กินก็จะเอาไปให้ที่บ้านโน้น บ้านโน้นก็บ้านไอ้เน่าล่ะครับ
   “คุณอุ่นขา เอื้อยซื้อหมวกใส่เกี่ยวเข่ามาให้ มันจั่งบ่ฮ้อน” พอตอนเก็บจานพี่ต้อยก็ยื่นถุงใส่หมวกมาให้ผมล่ะครับ หมวกสองใบ คงเอามาเผื่อผมกับไอ้เน่านั่นล่ะครับ
   “ขอบคุณครับพี่ต้อย มันจะร้อนไหมอ่ะ” “แฮงค่า มันหนาวแต่ยามเซ้ากับยามแลงท่อนล่ะ สิดำบ่น้อบ่านนี่” ผมอยู่คุยกับพี่ต้อยไม่นานนักก็ขึ้นไปบนบ้านล่ะครับต้องรีบอาบน้ำเพราะมันเริ่มจะมีลมมาแล้ว เสียงลมพัดต้นชมพู่ดังหวือๆอยู่ข้างนอก ลมแรงมากครับ ยิ่งค่ำเร็วก็ยิ่งลมแรง นี่ผมไม่ได้เปิดแอร์เลยนะยังหนาวได้ขนาดนี้
   “เร็วเบบี๋ไปอาบน้ำ หนาว” ไอ้เน่ามันเดินตามผมขึ้นมาล่ะครับ
   “เออเน่า พรุ่งนี้มันจะลมแรงป่ะ” ผมถามครับ ในใจอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆเถอะ อยากจะสัมผัสกับต้นข้าว อยากเห็นกับตาจังไอ้ทุ่งรวงทองนี่มันจะสวยแค่ไหนกันนะ
   “มองหน้ากูดิ๊” มันจับบ่าผมไว้ครับ ผมก็มองหน้ามันตามันเป็นประกายวาวๆ แล้วมันก็ยักคิ้วให้ผม
   “กูผัวมึง ไม่ใช่กรมอุตุ เข้าใจ๋” เอ่อ อึ้งครับ อ้าปากค้างนิดหน่อย
   “ไรอ่ะ ถามก็ไม่ได้นะเน่า” คือเขินอ่ะ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเถอะ
   “ถามได้ แต่กูตอบไมได้เว้ย ไม่ถามล่ะว่าคืนนี้กูจะเอากี่ยก แบบนั้นน่ะกูตอบได้เลย ไม่ต้องคิด”
   “บ้านะ ไม่เอาล่ะ อาบเองเลย” “นั่น หยุดเลยๆ เดี๋ยวกูบอกพ่อไม่ให้มึงไปเลยนะพรุ่งนี้”
   “อ่า นิสัยไม่ดีนะ” “จะทำไมเหรอ” คือไม่ว่าจะยังไง มันก็ยังคงกวนบาทาผมได้ตลอดล่ะครับ และไม่รู้ทำไมว่าผมถึงยังคงเขินมากหรืออายจัดเวลามันแซวหรืออยู่กับมัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็จนเหนื่อยครับ มันเล่นเบียดถูอยู่นั่นล่ะ เขินนะเว้ย
   “ไม่ทำได้ไหมอ่ะวันนี้อ่ะเน่า” ผมเริ่มจวนตัวครับ สายตามันท่าทางเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ ผมเลยต้องอ้อนครับ
   “ไม่ได้ มึงยั่วกูเองนะ” หือ กูเนี่ยนะยั่วมึง ตอนไหนวะเนี่ย
   “ไรอ่ะ ยั่วตรงไหน” “กวนตีนกูไง กวนตีนแปลว่ามึงอยากโดน” มันยิ้มครับ ทฤษฎีบ้าๆบ้อๆอะไรอ่ะไม่เคยได้ยิน
   “ไม่เอาอ่ะ เจ็บพรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีแรงเกี่ยวข้าวไง” ผมเริ่มแถครับ
   “งั้นมึงนอนเฉยๆ นอนคว่ำเลย เร็วๆ” อ่านะ มีแบบนี้ด้วย
   “กอดเฉยๆได้ป่าว นะนะ เนี่ยกอดๆ” ผมก็เบียดเข้าหามันล่ะครับ กอดมันแน่นเพราะมันล้วงเถอะ
   “จิ๊ ไม่ได้ มันขึ้นแล้วเนี่ย ช่วยไมได้นะมึงเริ่มเอง”
   “ไรอ่ะ ใครเริ่ม เราเริ่มตรงไหน” ผมเถียงครับไม่ยอมหรอกนะ ผมไม่ได้อยากขนาดนั้นนะ
   “ก็มึงอยากน่ารักเองทำไม ช่วยไมได้” อ่า เอิ๊กก เขิน
   “บ้าเหรอ” อายครับ แหมนะ มาลองโดนพูดแบบนี้ต่อหน้าบ้างเถอะ เออๆ ยอมก็ได้
   “กูอยากให้มันหนาวแบบนี้ไปนานๆเลยนะ” พอมันสมใจมันผมก็นะต้องลุกไปล้างตัวใหม่แถมยังเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้มันอีก คือว่ามันหนาวอ่ะนะเห็นใจกันบ้างไหม ส่วนมันนอนสบายอยู่ใต้ผ้าห่มนวม พอผมทำความสะอาดเสร็จมันก็กอดผมไว้ล่ะครับ
   “ไมอ่ะ” “ก็กูจะได้กอดมึงแบบนี้ไงตอนนอน”
   “ก็ทุกทีเห็นกอดตลอดนี่” “เดี๊ยะๆ ย้อนเหรอๆ หรือจะเอายกสอง”
   “อ่านะ งั้นกอดเถอะ ไม่ต้องพูด” ผมกอดเองก็ได้ครับ กลัวมันจะทำอีกไอ้นี่มันท้าได้ที่ไหนล่ะ จะว่าไปผมไม่เคยคิดเลยนะว่าหน้าหนาวมันจะมีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าผมจะมีความทรงจำอะไรกับหน้าหนาวที่แห้งแล้งแถมยังหนาวเย็นอีก แต่เพราะมัน มันที่ทำให้หน้าหนาวของผมมันดูอบอุ่นขึ้น เพราะมันล่ะที่ทำให้ใบไม้แห้งที่หลุดร่วงจากต้นมันดูสวยงาม ลมหนาวที่พัดเอาฝุ่นลอยมาคละคลุ้งมันก็ดูเหมือนมีมนต์เสน่ห์ เสื้อทหารของพ่อมันที่มันใส่ทับไปโรงเรียนเวลาผมซ้อนท้ายไปผมก็กอดจากข้างหลังได้โดยไม่ต้องแอบใครเพราะมันตัวโคร่ง เพราะมันล่ะครับ หน้าหนาวนี้ผมถึงรู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
   “อือ” ผมครางออกมาล่ะครับ ตอนเช้าเสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น ให้ตายเถอะไม่อยากลุกออกมาจากเตียงเลยนะ ยิ่งตัวของไอ้เน่ามันอุ่นๆผมยิ่งเบียดเข้าหาผ้าห่มอีก โอ้ย ไม่อยากจะลุกเลยอ่ะ
   “เน่าตื่นๆสายแล้ว” ผมเขย่าตัวมันล่ะครับเกือบจะเจ็ดโมงแล้วเถอะ
   “อือ” มันกอดผมแน่นขึ้นครับ
   “เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนนะเน่า” ผมยังคงพยายามอยู่ครับแม้ตัวเองจะง่วงอยู่ก็ตาม วันเสาร์ทั้งทีแทนที่จะนอนตื่นสายๆเนอะ แต่ก็เอาเถอะผมเองอยากไปมากเถอะ ไอ้เน่ามันไม่พูดครับแต่มันจับมือผมแล้วเอาไปกำของมัน อ่า ไอ้บ้า
   “งั้นเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมทำท่าจะลุกล่ะครับ มันไม่ยอมมันดึงตัวผมไปกอดไว้
   “ไรอ่ะเน่า ตื่นดิ” “แป๊บดิ” มันกอดผมแน่นครับเอาผ้าห่มมาคลุมอีก เอ่อ บรรยากาศก็นะ อีกหน่อยเถอะ อิอิ
   “คุณอุ่นขา มันสวยแล้วเด้อ แนวกินแล้วๆยามได๋สิลุกค้า” เสียงพี่ต้อยมาเคาะประตูล่ะครับ ผมเลยงัวเงียตื่นขึ้น มองไปที่นาฬิกา อะไรอ่ะพี่ต้อยเพิ่งจะสิบโมงเอง สิงโมง หา
   “อ่าสิบโมงแล้วอ่ะเน่า” ผมกระโดดลงจากเตียงทันทีครับ ไอ้เน่ามันก็งัวเงียลุกขึ้น กว่าจะอาบน้ำกว่าจะกินข้าวปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้วครับ โมโหมาก
   “แก่งไก่ใส่หยวกกับทอดปลาเอื้อยเอาใส่หม้อให้แล้วเด้อเดี๋ยว ติบเข่ากะอยู่ในนี้อย่าสิให้มันถืกลมเด้อมันสิแข็ง” ของกินอยู่ในหม้อแล้วใส่ตระกร้าไว้อย่างดีพี่ต้อยเองกำชับอย่างดีก่อนที่เราจะบึ่งรถออกจากบ้านครับ วันนี้พ่อไม่ไปทำงานครับเลยเอารถพ่อไป
   “เน่ารู้จักเหรอว่านาเล็กอยู่ไหนอ่ะ โทรหาจอยดีกว่าไหม” ผมถามมันล่ะครับตอนอยู่บนรถ
   “รู้ดิ นามันก็อยู่ใกล้ๆบ้านมันนั่นล่ะ” อ้อ ผมก็พยักหน้าครับ ไปถึงบ้านเล็กก็เที่ยงกว่าๆพอจอดรถผมก็รีบลงไปมองหาเพื่อนครับ อ้อ อยู่โน่นเอง อ่า มองไปแสงแดดยามเที่ยงมันสะท้อนทุ่งสีทองแบบว่าสวยดีนะครับ ไม่ล่ะ สวยมากต่างหากล่ะ กลิ่นของรวงข้าวมันหอมปลิวลอยลมมา
   “ว่าแม่นสิบ่มาแล้วแหม่ะอุ่น” จอยมันเดินมาหาผมล่ะครับ
   “โทษที นอนเพลินไปหน่อยอ่ะ ถึงไหนแล้ว” ผมหน้าตาตื่นล่ะครับมองลงไปแต่ทุ่งนา เสียงเพื่อนๆเจี้ยวจ้าวอยู่น่าสนุกมาก
   “ว่าอยู่ เอาผ้ามาขอมหน้าแน่บ่อุ่น สิดำเด้ ฮ้อนแท้ๆ” ขอม? เอ่อ น่าจะประมาณคลุมล่ะครับเพราะเห็นจอยมันทำคือเหมือนใส่หมวกโม่งล่ะครับเห็นแต่ตา แล้วมันหายใจยังไงวะนั่นเสื้อแขนยาวมิดชิดมีถุงมือใส่กางเกงขายาวมีรองเท้าบู้ท อืมนะ ท่าจะร้อนจริงๆล่ะ
   “เราใส่ผ้าใบลงได้ป่าวอ่ะจอย” ผมมองสำรวจล่ะครับ
   “ได้ๆ บ่มีน้ำดอก มาๆเฮาขอมให้ พวกนั้นแห่งจ่มอยู่เด้อเดี๋ยว” จอยมันหันไปบอกไอ้เน่าล่ะครับมันกำลังขนของลงจากท้ายรถ ไอ้เน่ามันก็สวมเสื้อแขนยาวกางเกงรดรองเท้าผ้าใบมันสวมหมวกสานปีกกว้างที่พี่ต้อยซื้อมาให้ล่ะครับ
   “เกี่ยวแม่เพิ่นมีอยู่บ่จอย” มันถามจอยครับ
   “มีๆ อยู่ไฮ่นาพู้นล่ะ” จอยมันบอกครับแล้วไอ้เน่ามันก็เดินลงไปนาทันทีส่วนผมจอยมันก็คลุมหน้าให้
   “หายใจไม่ออกอ่ะจอย” ผมหน้าเริ่มแดงครับ
   “อ้าว ซั่นเอาคลุมแต่หัวกับคอเนาะ” พอมันถอดผ้าออกผมก็ถอนหายใจแรงๆ เกือบตายเถอะ มันทนได้ไงเนี่ยของมันไม่มีช่องให้ลมหรือแดดเข้าได้เลยนะ
   “จอยไม่อึดอัดเหรอ” “เฮาซินแล้ว ป่ะไปลองเบิ่ง ระวังๆเด้อ เดี๋ยวเกี่ยวมันสิบาดมือเอา” ผมเดินตามจอยไปที่นาล่ะครับ คันนามันคลุมไปด้วยหญ้ามีดอกหญ้าสีม่วงๆเหลืองอยู่เต็มครับ ลมที่พัดมาลู่รวงข้าวสุกสีเหลืองทองไหวต้องลม มันสวยมากครับ สวยจริงๆ ผมยืนมองอยู่นานกว่าจะเดินตามจอยไป
   “ทำไงอ่ะ” ผมเดินไปอยู่ข้างๆไอ้เน่าล่ะครับ เออนะ ท่าทางมันทะมัดทะแมงดีเหมือนกันนะ เพิ่งจะรู้ว่ามันเกี่ยวข้าวเก่งมากครับ ฉับๆวาง มันไม่กลัวเคียวบาดมือเอาหรือไงนะ ผมล่ะเสียวแทนจังเพราะผมลองจับดูแล้วมันทำยากมากนะครับ ไม่ใช่ว่าทำง่ายๆ คือต้องจับเหนือกอข้าวตรงที่จะเกี่ยวแล้วเอาเคียวดึงแรงๆให้มันขาดพอเต็มกำก็เอาไปวางรวมกัน เขาเรียกว่าฟ่อนข้าว
   “โอ้ยน้อ แม่นให้ลูกเจ้าลูกนายมาเฮ็ดแนวนี้น้อบ่านนี่ บ่ไหวกะไปเซาเด้อลูก” เหมือนแม่ของเล้กเพิ่งจะเดินมาจากทางทิศใต้ล่ะครับ
   “หวัดดีครับแม่ สบายมากครับ สนุกดีออก แม่ไปไหนมาครับ” ผมยกมือไหว้แม่เล้กล่ะครับ
   “แม่ไปซ่อนกุ้งคองตามา ว่าสิเอามาเฮ็ดสู่กินงายนี่ล่ะหล่า พ่อเพิ่นบ่ว่าเอาบ้อมาตากแดดตากนายแนวนี้”
   “บ่ว่าครับ โหกุ้งยังดิ้นอยู่เลยอ่ะ แม่ไปซ่อนยังไงครับ” ผมวางกำข้าวทันทีครับหันมามองในถังที่แม่หิ้วมา
   “เอาหวิงนี่ล่ะลูก แม่มีแพรแง่งอยู่แต่ยามแลงพวกโตจั่งไปซ่อน” งงครับแต่ก็ยิ้ม
   “มึงไปช่วยแม่ทำกับข้าวดิ” ไอ้เน่ามันบอกผมครับ
   “ไม่เอาอ่ะ อยากเกี่ยวข้าว” “เกี่ยวเชี่ยไร กูเห็นได้สองสามต้นเองนะ” อ่า ก็คนมันไม่เคยนี่หว่าคือว่าผมพยายามแล้วนะครับ มันคันๆด้วยนะฟางข้าวน่ะ แล้วเม็ดข้าวมันก็มีขนด้วยครับ พอกำไปนานๆมันก็ปวดอุ้งมือ ปวดจนเหมือนจะกำไม่เข้าเถอะ แหมๆ ว่ากูใหญ่เลยนะไอ้เน่า

To be Continued
Written by eiky


ปล. ป่ะไปเกี่ยวข้าวกัน อิอิ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #992 เมื่อ14-08-2012 07:42:19 »

   “ป่ะอุ่นไปฝานบักหุ่งถ่าซุมพ่อซาย เซาซาท่อนโตน่ะ บ่คือดอก อิอิ”
   “ไรอ่ะจอย ไรบ่คือ คือๆ เนี่ยๆ” ผมไม่ยอมครับ ไอ้เน่ามันเหมือนจะรำคาญสายตามันมาจับมือผมแล้วดึงเคียวไป แล้วดันหลังให้ผมเดินตามจอยไปบนบ้านครับ มันหัวเราะด้วยล่ะเพื่อนๆก็หัวเราะ เออ วันนี้มีนายไม้นายเคน น้องเต้ น้องโจ้ เล็ก จอย ผมและไอ้เน่าครับ แกงค์เดิมนั่นล่ะ นาเพื่อนคนอื่นๆเขาใช้รถเกี่ยวข้าวทำเสร็จแล้วครับ เอาตากไว้ตามที่โล่งๆให้ข้าวแห้งแล้วค่อยเก็บเข้ายุ้ง ส่วนนาของเล็กมีไม่เยอะอีกอย่างเล็กเคยบอกว่าเปลืองเงินจ้างเขาดว้ยเลยทำเองทุกอย่างครับ ผมว่ามันก็ดีนะเพราะเดี๋ยวนี้การทำนาเหมือนสมัยเก่ามันหาดูยากมากแล้วเถอะ ผมว่ามันมีเสน่ห์กว่าการใช้เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยอีกนะ แต่ก็อย่างว่ามันเหนื่อยมากๆครับทำนา นี่ผมแค่เกี่ยวข้าวไปไม่กี่ต้นยังรู้สึกได้เลย อุ้งมือก็ปวด ร้อนก็ร้อน คันก็คันเหงื่อก็ไหลทั้งที่มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา ผมเดินตามคันนาตามจอยขึ้นไปบนบ้านล่ะครับ จอยมันถอดผ้าออกแล้ว อ่านะพอถอดออกเห็นว่าเหงื่อโทรมกายเลยครับ ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ
   “ซาดมาทนทุกข์ทนยากน้อหล่าเอ้ย แม่ล่ะอยากอาย” แม่เล็กนั่งเลือกกุ้งอยู่ล่ะครับผมเองก็เข้าไปช่วยแกเลยพูดขึ้นมา สีหน้าแกดูเกรงใจยังไงไม่รู้สิ
   “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมไม่ใช่ลูกผู้ดีอะไรหรอกครับ เพื่อนทำได้ผมก็อยากทำได้บ้าง”
   “บ่เป็นหยังดอกค่ะแม่ หมู่กันเนาะ มีหยังกะซ่อยเหลือกันตั้วค่า”
   “แม่ดีใจนำบักเล็กอีหลีที่มันมีหมู่ดีๆ อย่าสิทิ่มสิป๋ากันเด้อหล่า” ผมยิ้มๆล่ะครับฟังออกบ้างแต่ไม่หมดแกเองก็ยิ้มเปิดเผยล่ะครับ กลิ่นอายของที่นี่มันมีความสุขดีนะผมชอบ จอยปอกเปลือกมะละกอส่วนผมช่วยแม่ล้างกุ้งฝอยตัวใหญ่ แม่บอกว่าจะตำใส่มะกอกนากับเอาไปคั่วกินกับส้มตำ
   “แม่ผมให้พี่ที่บ้านทำกับข้าวมาด้วยล่ะครับ มีแกงไก่ใส่หยวกกับทอดปลา อ้าว เน่าเอาไปวางไว้ไหนอ่ะ” ผมบอกครับแล้วมองหาตระกร้าใส่กับข้าว
   “บ่แม่นนี่บ่ เพิ่นเอาห้อยไว้นี่เด้” จอยมันลุกขึ้นหยิบเอาตระกร้าที่ห้อยไว้กับขื่อบ้านลงมาครับ
   “ขอบใจหลายเด้อหล่า ซาดดีเนาะ แม่บ่มีแนวตอบแทนเด้อ” แม่เล็กทำท่าเหมือนจะร้องไห้ครับ
   “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ช่วยๆกันครับ ไอ้เน่ามันกินเยอะครับเดี๋ยวเปลืองแม่” ผมแถไปครับ
   “แม่นไผล่ะบักเน่านี่แหม่ะ” แม่เล็กถามขึ้นครับ
   “เดี๋ยวนั่นเด้แม่ เพิ่นเอิ้นกันแนวนี้ล่ะ” แม่เล็กหันมามองผมแล้วยิ้มครับ ผมก็เขินๆ ก็นะ เอาเป็นว่าพอประมาณบ่ายโมงกว่าๆเพื่อนๆก็ขึ้นมาจากนาแล้วครับ พูดคุยกันเสียงดังตอนนั้นเราก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี นายเคนเขาขอแบ่งกุ้งเอาไปส่วนหนึ่งบอกว่าจะเอาไปก้อย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งล้อมวงเอาเสื้อปูกันใต้ร่มไม้ครับ
   “แซ่บหลายก้อยกุ้ง คั่กแท้ๆน้ออ้ายเคน” น้องโจ้มันพูดขึ้นล่ะครับ
   “เชฟใหย่เด้นี่ฮู้บ่” “บู้ย คุยหลายบักห่ามึง เฮ็ดให้แซ่บคือแกงไก่เพิ่นนี่ก่อนเถาะจั่งคุย” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีครับ
   “มึงกินเป็นเหรอ มันยังดิบอยู่นะ” ก้อยกุ้งครับผมอยากลองเห็นกินกันจัง
   “แล้วไมเน่ากินอ่ะ” “อ้าว เออแดกเลย ขี้แตกมาไม่สนนะเว้ย” มันยักคิ้วครับ ผมเลยวางลงทันที แต่ก็มองมันกินตาปริบๆอยู่ล่ะ
   “ลองจั่กหน่อยกะบ่เป็นหยังดอก สิได้ฮู้เด้เดี๋ยว อ่ะนี่อุ่น” จอยครับตักก้อยกุ้งมาให้ผม ผมเหลือบไปมองไอ้เน่าก่อนครับ มันเคี้ยวตุ้ยๆไม่สนใจผมเลยแอบกิน อิอิ มันแปลกๆนะรสมันคาวเหมือนกินไข่มดแดง แต่มันคาวกว่ามากจะว่าหวานก็ไม่หวาน เออ เหมือนกินกุ้งดิบในร้านอาหารญี่ปุ่นนั่นล่ะครับแต่แค่มันตัวเล็กกว่า
   “หวานดีเนอะ” ผมกลืนลงคอครับแต่คงกินแค่คำเดียวล่ะ เพราะคนบางคนมันเหล่แล้ว
   “ซั่นลองกินตำกุ้งนี่ติ๊ลูก นี่เด้คั่วกุ้งเอาคุ้ยตำบักหุ่ง บ่เคยกินเนาะ” แม่ยื่นถ้วยตำกุ้งใส่มะกอกนามาให้ผมครับ ผมเลยเอาข้าวเหนียวไปจิ้ม อืมอร่อยดีนะ มันหอมมะกอก แต่ก็นะผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลยสนใจแต่ทอดปลากับส้มตำครับ
   “อ่ะนี่ ลองเป่าดูดิ” พอกินข้าวเสร็จเราก็ช่วยกับเก็บจานล่ะครับแต่แม่บอกว่าเดี๋ยวแม่ล้างเอง เราจึงเดินลงมานั่งที่คันนา ไอ้เน่ามันตัดเอาปล้องของต้นข้าวแล้วเอาเคียวฝานบางๆแล้วยื่นมาให้ผมครับ
   “ไรอ่ะ” “ปี่อ้ายอุ่น เดี๋ยวผมเปาให้เบิ่ง” น้องโจ้ครับ มันก็ตัดเอาต้นข้าวมาทำเหมือนที่ไอ้เน่ามันทำล่ะครับ แล้วน้องโจ้ก็เอาเป่าเป็นเสียงครับ เสียงไม่เพราะมากแต่มันน่าฟังจังเลย ผมนั่งท้าวคางฟังอยู่
   “เป่าดิ” ไอ้เน่ามันบอกครับผมเลยลองบ้าง
   “ไมไม่ออกอ่ะ” อ้าว ทำไมของผมไม่มีเสียง มีแต่เสียงลม ไอ้เน่ามันส่ายหัวครับ
   “เอามานี่ดิ มึงเป่าแบบนี้” มันเอาของผมไปแล้วเป่าให้ดูครับ ผมก็ยิ้ม
   “ไปๆสูฟ้าวเกี่ยวมันสิบ่แล้ว เหลืออยู่หน่อยเดียวหนึ่ง” นายไม้ครับ เดินมาแล้วทำท่าแข็งขันแล้วเดินลงนาไปก่อนใคร พวกเราก็เลยต้องเดินตามลงไปครับ
   “ฟังลำบ่สู” เล็กมันถามครับแต่ยังไม่มีใครตอบมันก็เดินกลับขึ้นไปที่บ้านครับแล้วสักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับวิทยุทรานซิสเตอร์ ยังมีอยู่อีกเหรอเนี่ย อ่า มีเสียงด้วยครับ ผมเดินไปหาทันที
   “ของจริงนี่” ผมร้องขึ้น
   “ฮ่วย ของจริงตั้วเนาะ บ่เคยเห็นเด้นี่ มาๆเฮาสิเปิดให้ฟัง” เล็กมันหมุนหาคลื่นครับแล้วเสียงหมอลำก็ดังแว่วออกมา มันไปตั้งไว้เหนือลม
   “โอ้ย จั่กแม่นคลื่นได๋อ้าย บ่ม่วนเอาฮ้าย ผมฮ้องให้ฟังเอาบ่” น้องเต้ครับ
   “โอ้ย กูสิฮากเด้ อย่าเด็ดขาดบักเต้” นายเคนร้องสวนขึ้นครับ เราทุกคนก็หัวเราะ บรรยากาศมันครึกครื้นดีจริงๆ เอาตามความจริงแล้วที่บอกว่าผมอยากไปช่วยน่ะ ผมช่วยได้ไม่เยอะหรอกครับ เพราะมันปวดอุ้งมือมากๆจนผมต้องเอามือมากางหุบเข้าหุบออกอยู่บ่อยๆ แต่ที่อยากมาเห็นก็คือบรรยากาศแบบนี้ล่ะครับ
   “ไม่ไหวก็ไปนั่งรอดิเบบี๋ เดี๋ยวเถอะคืนนี้จะปวดนอนไม่ได้” ไอ้เน่ามันก็มองผมอยู่ตลอดล่ะครับ
   “ไม่เอาอ่ะ เหงาดิไม่มีเพื่อน” ผมบอกครับ
   “งั้นก็ยืนเฉยๆดิ ไม่ต้องทำหรอก” ผมเลยไม่พูดอะไรครับ
   “หรือไม่อยากไปไกลจากกูเหรอมึง ฮ่าๆ” อ่านะ ไอ้บ้า พอมันพูดขึ้นเพื่อนๆก็แซวทันทีล่ะครับ ผมก็อายสิ นั่งลงเลยเถอะอยู่หลังมันนั่นล่ะครับให้เงามันบังแดด อิอิ
   “ป่ะอุ่น ไปเบิ่งเขาซ่อนกุ้ง” พอตะวันเริ่มคล้อยผมจากที่นั่งอยู่หลังไอ้เน่าก็เริ่มจะง่วงล่ะครับ มันเลยลากผมไปนั่งรอที่ใต้ร่มไม้ นั่งไปนั่งมาหลับเลยเถอะ อายจัง จอยเดินมาปลุกผมครับ ผมเลยสะดุ้งตื่น
   “เหรอ ที่ไหนอ่ะ” “ห้วยพู้นล่ะ ป่ะไปเอาบัวนำ เอาไปให้เอื้อยต้อยเพิ่นแกงให้กิน” ผมลุกเดินตามจอยไปทันทีครับ นายไม้กับเล็กยังช่วยแม่เกี่ยวข้าวอยู่ครับ ส่วนที่เหลือกำลังเดินไปที่ห้วยครับมีตาข่ายตาถี่ๆที่น้องโจ้ถือไป ส่วนน้องเต้ถือตะข้อง ตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำเรื่อยๆแสงยามเย็นหน้าหนาวนี่สวยจริงๆนะครับ ยิ่งมีฉากหลังเป็นเวิ้งของท้องนา กลิ่นรวงข้าวกลิ่นซังข้าว ผมยังต้องดิ้นรนไปหาอะไรอีกเนี่ย
   “ไวไวแน่ะบักเต้ ฮ่วยบ่มีแฮงติ๊” นายเคนร้องขึ้นล่ะครับ การลากตาข่ายเขาเรียกว่าอวนหรือเปล่าไม่รู้นะคือมีคนจับสองคน จำตอนที่ไปไล่เขียดได้ไหมครับแบบนั้นล่ะแต่อันนี้เป็นตาข่ายสีเหลืองๆทำด้วยไนล่อนตาถี่ๆ ผมยืนมองอยู่ริมคูห้วยล่ะครับ ลุ้นอยู่ไอ้เน่ามันรอลากกับน้องโจ้
   “เน่าๆ เอาสายบัวด้วยดิ เอาไปให้พี่ต้อยแกง” ผมร้องบอกมันล่ะครับ
   “เออๆ มึงไม่ลองลงมาเล่นน้ำล่ะเบบี๋ น้ำใสนะเว้ย”
   “ลงบ่อุ่น น้ำหน้านี้บ่ขุ่น ไปลอยจักบาดแน่ะ” จอยชวนครับ ผมก็เลยอยากลอง
   “แต่ไม่มีเสื้อเปลี่ยนนะจอย” ผมเพิ่งจะคิดได้ครับ เออนั่นสิ
   “บ่เป็นหยังดอก ขึ้นมาตากลมคราวเดียวกะแห้ง ป่ะ” จอยพูดแล้วกระโดดตูมลงไปเลยครับ
   “อ้าวจอย” ผมร้องเรียไม่ทันครับเลยกระโดดตาม เย็นมากๆขอบอก
   “เย็นคั่กแท้” จอยร้องออกมาครับผมเองก็สั่นเลย น้ำมันใสจริงๆนั่นล่ะครับ มองเห็นสาหร่ายเลยนะ น้ำไม่ลึกมากครับแค่คอผมเอง อิอิ นั่นอย่ามาหาว่าผมเตี้ยนะ แต่ผมก็ไม่กล้าเอาขาลงหรอกครับลอยอยู่เนี่ย แอบกลัวเถอะได้ความรู้สึกไม่เหมือนกับว่ายน้ำในสระเลยนะจะบอก มันตื่นเต้นกว่ามาก ฮ่าๆ
   “หนาวแล้วอ่ะจอย” ผมไม่ไหวครับ ตอนนี้ไอ้เน่าเปลี่ยนไปลากกับน้องโจ้แล้ว ส่วนน้องเต้กับนายเคนก็แหกปากโวยวายดำผุดดำว่ายอยู่ไม่ไกลจากเราครับ ผมหนาวมากแต่ก็สนุกนะเห็นเพื่อนๆเล่นกันก็เล่นบ้าง หนาวก็ทนครับ
   “ป่ะขึ้นซั่นเดี๋ยวสิโซ ได้พอแล้วบ่พวกโต หนาวแล้ว” จอยร้องไปถามน้องเต้ล่ะครับที่สะพายตะข้องอยู่
   “พอแล้วๆ ป่ะขึ้นๆ หนาวตะเว็นตกแล้ว” น้องเต้ร้องตอบมาครับพวกเราก็เลยขึ้นจากน้ำตัวเปียกกันทุกคน รอบนี้ได้กุ้งมาเยอะเหมือนกันมีปลาปากแหลมด้วยครับ ผมก็ช่วยเพื่อนเก็บกุ้ง
   “หนาวอ่ะดิ สั่นเชียวมึง” ไอ้เน่ามันมาแตะบ่าผมครับ แหมว่าแต่คนอื่นนะตัวเองก็ปากม่วงแล้วเถอะ
   “หนาวอ่ะ รีบไปเอาผ้ามาเช็ดดีกว่า” ผมบอกมันครับ ไอ้เน่ามันก็มาจับมือผม
   “ให้กูกอดป่ะ” “บ้าเหรอ เพื่อนอยู่เต็มไม่อายไง” ผมรีบกระเด้งตัวออกทันทีครับเพราะท่าทางของมันเหมือนจะทำจริงๆ ไอ้นี่ไม่อายใครเลยนะ
   “อายไม เขารู้กันทั่วแล้วว่ากูเป็นผัวมึง” อ่า ผมวิ่งหนีไปเลยครับ บ้าไปแล้ว พอไปถึงบ้านก็เอาผ้าขาวม้าที่แม่เล็กเตรียมไว้ให้มาเช็ดตัวล่ะครับ แต่มันก็ยังหนาวอยู่นะพอตกเย็นมาลมมาจากไหนไม่รู้แรงมากยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่
   “มื้ออื่นบ่ต้องมาดอกเด้อสู เหลือหน่อยเดียว ขอบใจพวกมึงหลายเด้อ” เล็กบอกตอนที่จะแยกย้านกันกลับล่ะครับ
   “แล้วยามได๋สิฟาดเข่า อย่าลืมเด้อเฮ้ย สิมากินต้มไก่” นายเคนพูดขึ้นครับ ผมหันไปมองไอ้เน่าจุดประสงค์ก็ให้มันอธิบายล่ะครับ อะไรฟาดเข่า
   “นวดข้าวนั่นล่ะ” มันบอกครับแล้วดันบ่าผมให้เข้าไปในรถ เอาถุงพลาสติกมารองเบาะเพราะกลัวมันจะเปียก พวกเราแยกย้ายกันกลับแล้วครับ พอถึงบ้านผมวิ่งขึ้นไปอาบน้ำทันที มีไอ้เน่าตามมาทีหลังครับ วันนี้เหนื่อย ร้อนในตอนกลางวัน หนาวตอนเย็นแต่เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ผมคงเดินหาเรื่องแบบนี้ตามสยามไม่ได้หรอกนะ อิอิ

..... คึดฮอดยามเกี่ยวเข่าสมัยก่อน เนาะ

คึดฮอดเด้หัวลมยามเกี่ยวเข่า    เสียงแคนเป่าลอยลมแม่นม่วนหลาย
ลมหนาวมาพัดผ่านสะท้านกาย   ข้องสะพายหาซ่อนกุ้งมาก้อยกิน
........ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ............

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #993 เมื่อ14-08-2012 08:10:18 »

เดี๋ยวมันหื่นเนอะ จะจับอุ่น... อย่างเดียวเลย

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #994 เมื่อ14-08-2012 09:22:54 »

ชนบทน่าอยู้จังเลย

แต่ทำไงได้ไอเราอ่ะมนุษย์เงินเดือน

เดี่ยวหื่นมากๆเลย ฮ่าๆหาช่องทางจับอุ่นทำเมียตลอด

รอติดตามนะ ชอบเรื่องแบบนี้ อ่านแล้วสบายใจดีจัง

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #995 เมื่อ14-08-2012 10:40:30 »

น่ารักมากๆๆๆ อีกหลายวันกว่าจะได้อ่าน มาแปะไว้ถึงหน้า34
สิ้นเดือนคงมาตามหาน้องอุ่นและน้องเดี๋ยวอีกต่อไป
ขอบคุณมากครับน้องอิ๊กกี้

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #996 เมื่อ14-08-2012 11:00:08 »

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34

ยามนี้มันเดือน August แล้วบ่ หรือว่ามันเป็นแนวของเรื่องนี้ค่ะ แปลกใจจังไม่มีใครทักเลยเน๊อะ :really2:

อยากไปอยู่บรรยากาศแบบนี้มั่ง ไม่ต้องซื้อต้องหา แค่ขยันก็มีกิน

บักเดี๋ยวคงหวงน้องอุ่นมากสินะ ข้ามช๊อตตอน :oo1:แบบไม่เหลือให้จินตนาการเลย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #997 เมื่อ14-08-2012 11:15:50 »

 “แม่นไผล่ะบักเน่านี่แหม่ะ” ขำก๊ากเลยประโยคนี้
กิจกรรมของอุ่นและผองเพื่อนน่าสนุกเหมือนเดิม แต่คงเหนื่อยน่าดู
เวลาอุ่นอายแล้วน่ารักเนาะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #998 เมื่อ14-08-2012 11:27:18 »

อยากกินกุ้งงง...ก้อยยย.... ก้อยกุ้ง!!! :-[

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #999 เมื่อ14-08-2012 11:34:13 »

เดี๋ยวหื่นตลอดเวลาเลย ก็อุ่นน่าฟัดนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
« ตอบ #999 เมื่อ: 14-08-2012 11:34:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #1000 เมื่อ14-08-2012 11:57:27 »

บรรยายได้เหมือนเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวข้าวเลยครับ  นับถือๆ
อ่านแล้วอิ่มเอมในอารมณ์จริงๆ

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
«ตอบ #1001 เมื่อ14-08-2012 16:33:41 »

เพื่อนกัน ร่วมด้วยช่วยกัน  o13

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1002 เมื่อ14-08-2012 17:23:51 »

“กูผัวมึง ไม่ใช่กรมอุตุ เข้าใจ๋”          :jul3:



จะว่าไปตามต่างจังหวัดเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นคนไปเดินเกี่ยวแล้วนะ เห็นแต่จ้างรถเกี่ยวข้าว

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1003 เมื่อ14-08-2012 17:33:49 »

 o13

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1004 เมื่อ14-08-2012 18:03:46 »

ชอบ บรรยากาศ จังเลยอ่า

มันแลดูแบบ เห็นภาพเลยนะ

อยากไป ทำนาเก็บข้าวบ้างจัง

เห้อออออออออ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1005 เมื่อ14-08-2012 18:13:12 »

อุ่นน่ารักตลอดดดดดด
เดี๋ยวจะหื่นเกินไปแล้ว :z1:

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1006 เมื่อ14-08-2012 18:24:20 »

 :o8: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยรักคู่นี้จัง

ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1007 เมื่อ14-08-2012 18:25:31 »

พี่เดี๋ยวหื่นตลอดเลยช่วงนี้ 55555555
ชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลยครับ อ่านแล้วซึ้ง ๆ คนเราไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างจริง ๆ แค่มีความสุขก็พอแล้ว ^ ^

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1008 เมื่อ14-08-2012 20:05:28 »

น่ารักเสมอเลยนะจ๊ะนู๋อุ่น...ชอบที่เจ้าเดี๋ยวตามใจเมียไม่มีขัด..
อ่านแล้วเห็นภาพมิตรภาพ...ความมีน้ำใจ...และความรักอย่างชัดเจน..
ความอบอุ่นก็สัมผัสได้...สุขใจกับสังคมแบบไทย ๆ อย่างแท้จริง .. o13

 :L1:  น้องอิ๊ก  :pig4:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1009 เมื่อ14-08-2012 20:36:06 »

 :z1:ชอบอ่ะ +1 ขอบใจน่ะที่ทำให้นึกถึง ปี่ ต้นข้าว  :pig4: :pig4: เรลืมไปหมดแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
« ตอบ #1009 เมื่อ: 14-08-2012 20:36:06 »





ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1010 เมื่อ14-08-2012 21:10:47 »

ชอบๆๆ อุ่นนี้โชคดีจัง ได้เดี่ยวเป็นสามี  :-[
แล้วก็มีเพื่อนดีๆๆๆ
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1011 เมื่อ14-08-2012 23:47:05 »

อ่านจบและยิ้มทุกตอนเลย :-[

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
«ตอบ #1012 เมื่อ16-08-2012 02:24:44 »

น่ารักมาก ๆ เลย   o13 :bye2:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
You’re My BaBy!!

ว่าไปนะ กูไม่ได้เกี่ยวข้าวมาหลายปีแล้วเถอะเพราะด้วยที่บ้านนาให้เขาเช่า และหน้านาแบบนี้ส่วนมากกูจะไปช่วยเพื่อนๆ ก็นาสัดเคนกับสัดไม้สองตัวนั่นล่ะครับ หรือไม่ก็ไปขลุกอยู่กับหลวงตาที่วัด หรือไม่ก็ไปขายของ เห็นไหมว่าชีวิตวันหนึ่งๆมันมีประโยชน์มากแค่ไหน ฮ่าๆๆ ถามว่าขี้เกียจไหม มากๆ ใครวะอยากไปจะไปตากแดดทั้งวัน ปวดหลัง ปวดมือ ร้อนก็ร้อน แล้วบางทีนาที่เกี่ยวข้าวน่ะมันไมได้แห้งเสมอไปนะเว้ย เสี่ยงมากๆกับโรคฉี่หนู เห็นแม่กูเคยบอกว่าสมัยก่อนไม่มีรองเท้าบู้ทให้ใส่เหมือนในสมัยนี้นะ เขาลุยกันแบบว่าทั้งอย่างนั้นเลย แต่สมัยนี้บางบ้านเขาก็ลุยกันแบบนั้นอยู่ล่ะครับ เห็นหรือยังว่าชาวนาน่ะเสี่ยงมากๆ ทำนาก็ยากลำบาก กว่าจะได้ข้าวมาแถมยังขายไม่ค่อยได้ราคาอีก แต่เอาเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องของกู ฮ่าๆ เรื่องของกูตอนนี้คือ ปวดหลัง อยากให้ไอ้เบบี๋มันนวดให้ก่อนนอน
   “เราก็ปวดมืออ่ะเน่า” ผมอ้อนมันแล้วครับแต่ท่าทางมันก็ดูจะเหนื่อยไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันไม่เคยทำด้วยล่ะ
   “งั้นนั่งบนหลังกูเฉยๆก็ได้ เอามือมึงมาดิกูนวดให้” ผมนอนคว่ำลงล่ะครับ
   “นั่งเฉยๆมันจะหายเมื่อยเหรอ”
   “เออน่า อย่างน้อยก้นมึงก็นุ่ม ดีกว่าให้มันปวดแต่ไม่ทำอะไร” มันยังนั่งอยู่ข้างเตียงล่ะครับ อายหน้าแดงขึ้นมาเชียว หน้านี้มีมะรุมเยอะครับ บวบอีกเพราะฉะนั้นเมนูอาหารก็หนีไม่พ้นของแนวๆนี้ ปลาก็เยอะเพราะหน้าเกี่ยวข้าวปลามันจะตัวโตแล้วครับ มีกบ เขียดไม่ค่อยมี มีปลาไหลอันนี้ของโปรดกูเลย เอามาผัดเผ็ดเด็ดที่สุดในสามโลก เมื่อตะกี๊ก็เพิ่งจะกินแกงปลาช่อนใส่ฝักอ่อนของมะรุม แล้วก็อ่อมปลาดุก อยากรู้ไหมเขาทำกันยังไงอ่อมปลาดุก ปลาดุกนี่ไม่เหมือนที่เขาย่างขายในกรุงเทพฯนะท่าน ปลาดุกนาตัวไม่ใหญ่มากครับ เอามาหั่นเป็นแว่นๆ ล้างให้สะอาดก่อนล่ะ ตำเครื่องแกงก็มีหัวหอมแดง ตะไคร้พริก เจ๊แกใส่ผิวมะกรูดด้วยครับ แล้วเอาเครื่องแกงไปคั่วกับปลาดุกให้หอมแล้วเติมน้ำนิดเดียวครับ ปรุงรส เอาข้าวคั่วโรยให้มันหอม แต่วันนี้เจ๊แกใส่ใบมะระขี้นกกับลูกอ่อนมัน ปิดฝาให้เนื้อปลาดุกเปื่อยแต่ต้องกะให้น้ำไม่แห้งจนเกินไปนะครับ เสร็จก็อร่อยสิ มันออกขมหน่อยๆ ขมมะระนี่ไม่ใช่ขมแบบกินไม่ได้นะ มันขมแบบว่ายังไงดี เอาเป็นว่าแซ่บครับท่าน กูกินข้าวไปกะติ๊บกว่าๆ ฮ่าๆ ปลัดเองก็ชอบกิน ไอ้เบบี๋เดี๋ยวนี้มันหันมากินข้าวเหนียวเหมือนกูแล้วครับ มันบอกว่ามันหลับสบายดี ฮ่าๆ ดีๆ กินเยอะๆ กูจะได้ลักหลับ
   “เราปวดมือเดียวอ่ะ เดี๋ยวใช้อีกมือนวดให้ก็ได้” มันบอกครับแล้วมานั่งข้างๆผม
   “อืม เอามือมึงมาดิ” ผมหันไปบอกมันล่ะครับ มันก็ยื่นมือข้างทีปวดมา ผมก็บีบๆให้มัน
   “มันร้าวๆอ่ะเน่า” “กล้ามเนื้อมันไม่ชินอ่ะดิ เดี๋ยวก็หาย” ผมบอกมันครับ มันก็นวดหลังให้ผมอยู่นะ สบายจัง
   “อ๊ะ ทำไรอ่ะเน่า” คือว่านวดนานๆก็ก็เมื่อยเนอะ ขี้เกียจนวดให้มันเถอะ เลยเอามือมันมาซุกตรงหน้าแล้วก็เอาปากจูบฝ่ามือมันล่ะครับ มันเหมือนจะชักมือออก เรื่องอะไรล่ะ มือมันนุ่มจะตายหอมด้วย กูเลยลองเอาลิ้นดุนๆดู มันตีผมเลยครับทีนี้
   “อ้าว ไมวะ” ผมผละหน้าออกจากมือมันล่ะครับ
   “เลียไมอ่ะ บ้าเหรอ” “ไม เลียมือเมียไม่เห็นแปลกให้เลียเยอะกว่านี้ยังเคยทำเลยนะเว้ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ อ้าวๆ
   “บ้า ไม่บีบแล้วเน่า นอนดีกว่า” มันอายครับหน้าแดงก่ำเลย ลมข้างนอกห้องมันตีฝาบ้านตึงๆอยู่นะครับ ยิ่งดึกยิ่งลมแรงเถอะ เสียงลมหวีดหวิวอยู่ตลอดเวลา กลางคืนที่ยาวนานกว่าปกติมันทำให้ผมนอนเต็มอิ่มมากๆ
   “เออดี นอนๆ อ้าว แล้วจะขยับไปทำไมวะ มาเบียดกูดิ” หนอยๆ ทำท่าไม่เข้าใกล้ครับ เหมือนมันจะรู้ชะตากรรม ฮ่าๆ ใครจะไปทนไหวล่ะท่าน มือมันนุ่มๆบีบหลังผม คิดไปโน่นแล้วครับ ไม่งั้นผมไม่เลียฝ่ามือมันให้เสียปากหรอกนะ มันมีการหวังผลเว้ย
   “ก็เพิ่งล้มตัวลงเองอ่ะ” “ไร ท่าเยอะนะมึง มานี่เลย”
   “กอดเฉยๆ” “หยุด กูจะทำไรก็เรื่องของกู เกี่ยวไร” ผมบอกมันก่อนที่มันจะพูดจบล่ะครับ มันอายอยู่ผมเลยดึงตัวมันมากอด พอจะคลุกวงในมันก็อ้อนครับ รีบหันหน้าเข้าหาผมเอาผ้าห่มม้วนตัวไว้เถอะ แหมนะ ทำไมมันไม่ค่อยชอบเลยวะกับการมีอะไรกับกูเนี่ย เป็นคนอื่นกูนะนอนเฉยๆมีแต่พวกนั้นคลานเข้ามา แต่ไอ้นี่แปลกว่ะ
   “ไรวะ” “จะทำไรอ่ะเน่า กอดแล้วนอนดิ” มันอ้อนผมครับ เอาหน้ามุดเข้าอกผม คิดภาพออกไหมเนี่ย คือมันนอนคู้ตัวเพื่อไม่ให้ไอ้ลูกชายผมสัมผัสกับมันโดยตรง เพราะมันมีผ้าห่มกั้น ส่วนมันชิงกอดผมก่อนโดยมุดหน้าเข้า ทีนี้ผมจะจูบหรือปลุกอารมณ์ก็ลำบากไงครับ เออว่ะ มันฉลาดนะเนี่ย
   “กูอยากว่ะเบบี๋ ทำหน่อยดิ” บอกไปเลยครับ ไม่ต้องมาลีลา
   “งดไมได้เหรอ นะนะ เน่านะ” “จิ๊ ไมวะ กูรู้สึกว่ามึงไม่ค่อยอยากมีไรกับกูเลยนะ ทำไม” ผมสงสัยครับ จับหน้ามันเงยขึ้นจ้องตามันล่ะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม กูไม่ดีตรงไหน
   “อ่า ปะ เปล่านี่เน่า” “เปล่าเชี่ยไร มึงปฏิเสธกูทุกทีเลยนะ มึงมีอะไรวะไอ้เบบี๋” ผมคาดคั้นครับ สายตาก็จ้องดูพิรุธอยู่ล่ะ ไหนแสดงออกมาซิ
   “ก็ ของเน่า เอ่อ มันใหญ่อ่ะ เราเจ็บ” มันหลุบตาลงครับ พูดเสียงเบามาก
   “หา ไรนะ” “มันแสบอ่ะ” มันพูดออกมา ผมแอบอมยิ้มเลยครับ ไม่เห็นจะใหญ่ตรงไหนเลยวะ ปกติเถอะ ไรวะ แค่เจ็ดจุดแปดคูณเจ็ดจุดห้าทำบ่น เดี๋ยวเถอะมึง
   “ก็ทำบ่อยๆไง มันได้คุ้น” ผมแหย่มันครับ
   “บ้า มันก็หลวมดิ ให้เราทำอย่างอื่นให้เอาป่าว” มันทำสายตาอ้อนครับ เฮ้อนะ มันน่ารักจะตายไป อยากได้มันทุกคืนก็อยากนะ แต่ก็อย่างที่มันบอกล่ะครับ เอามันบ่อยๆเดี๋ยวของมันหลวมขึ้นมาล่ะ น่าสงสารมันออกเนอะ ผมเลยลูบหัวมันเบาๆครับ จูบที่หน้าผากมันทีหนึ่ง
   “อืมก็ได้” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเชยคางมันขึ้นมาจูบ มันเองก็จูบตอบนะ ผมเลยพลิกตัวนอนทับมันครับ ไซร้ซอกคอมัน เลียคอเลียหูมัน ขบติ่งหูมัน ไอ้เบบี๋มันหลับตาปี๋เลยครับ มัดกอดคอผมแน่นเลย เอวมันก็เด้งขึ้นเบียดช่วงตัวของผม มือขวาผมเลื่อนลงข้างล่างล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของมันครับ แต่ล้วงจากด้านหลังนะ ลูบเป้าหมายทันทีมันคือถ้ำน้อยของมันที่ปากถ้ำไม่มีป่ารกหรือหญ้าขึ้นแม้แต่เส้นเดียว ผมเอามือดันขามันให้อ้าออกครับ ผมเลื่อนหน้าลงมาเรื่อยๆผ่านหน้าอกมัน ถลกเสื้อมันขึ้นจนถึงคอ ตอนนี้เหมือนผมเห็นร่างกายมันเป็นของหวานเลียกินไม่มีเบื่อ มันเม้มปากแน่นดิ้นอยู่ครับ มือมันขยุ้มหัวผมแน่นดีนะที่กูผมไม่ยาวสั้นเกรียน ไม่งั้นแม่งคงเจ็บน่าดู ผมเลื้อยลงมาเรื่อยครับแต่อย่างที่บอกว่าผมค่อนข้างเห็นแก่ตัวคือผมไม่ออรัลให้มันหรอกนะครับ แต่ทำอย่างอื่นน่ะทำหมดและมันเองก็ไม่ได้เรียกร้อง อย่าถามว่าทำไมไม่ทำ ไม่รู้ว่ะ ไม่คิดว่าจะทำ
   “ไหนบอกให้เราทำให้ไงอ่ะเน่า” มันจับหัวผมออกครับตอนที่ผมวนเวียนอยู่แถวก้นมัน
   “ก็กูทำให้ก่อนไง ไม่ชอบเหรอ” ผมยักคิ้วให้มันหน่อยๆครับ
   “อ่า ไม่เชื่ออ่ะ ทำไมทำขนาดนั้นอ่ะเน่า”
   “อายเหรอ กูทำให้เมียรักไง” ผมหยอดครับ ตวัดลิ้นต่อ มันเหมือนทนไม่ไหวครับดิ้นแล้วพลิกขึ้นบน เอาล่ะเว้ย ภรรยาไม่ไหวแล้ว มันทับตัวผมไว้ครับ คือตอนนี้ผมดึงกางเกงมันออกแล้วนะครับ ส่วนผมเองไม่ใส่เสื้อนอนอยู่แล้วใส่กางเกงบอลไม่ใส่กางเกงใน บางวันก็ใส่กางเกงเล ใส่โสร่งบ้างแล้วแต่วันครับ ไอ้เบบี๋เองมันก็เลื้อยเหมือนผม มันตวัดลิ้นแผ่วเบา โอ้ย ใจจะขาด กูว่ากูแน่แล้วนะมันแบบพลิ้วมากๆ แต่อดทนหน่อยเว้ยทำเป็นตัวแข็งๆ ตอนนี้หน้าของมันจ่ออยู่ที่ไอ้หนูของผมครับ มันดึงกางเกงออกแผ่วเบาเหมือนกลัวไอ้หนูผมมันจะตกใจยังไงอย่างงั้น ไอ้ผมก็ลุ้นอยู่ครับ อืม เว้นไปนะตรงนี้ เหมือนเริ่มจะไม่ไหวครับ ผมผงกหัวขึ้นมือคว้าไปที่ก้นของมันทันที
   “อ๊ะ เน่า จะทำไร” มันผงกหัวขึ้นทำสีหน้าตกใจ
   “ไม่ไหวแล้วอ่ะเบบี๋ ให้กูนะ” ผมทำหน้าอ้อนเต็มกำลังครับ
   “ไหนบอกจะไม่ทำไง” “ไม่ไหวอ่ะ นะนะ ใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย” ผมทำหน้าแบบว่าหิวโหยครับ มันเม้มปาก
   “มะ อ๊ะ เน่า” ไม่รอครับ จับกดเลยกูหน้ามืดล่ะ วิธีทำก็ดึงตัวมันขึ้นมาให้ตรงนั้นมันจ่อกับไอ้หนูผมพอดี แว้กก เผลอๆ เล่ามาซะไกลเลย นั่นแน่ แอบจิ้นตามล่ะสิ เอาเป็นว่ามันเป็นแผนกูเองล่ะ ฮ่าๆ ที่วนเวียนอยู่รอบๆก้นมันน่ะก็อยากทำนี่หว่า ใครจะยอมวะแค่ภายนอก เพราะตอนนี้กูกับมันคบกันแบบเปิดเผยเถอะ จะเหลือไว้เพื่อ จัดไปอย่าให้เสีย
   “หนาวเหรอ” ผมถามมันล่ะครับเพราะเห็นมันซุกตัวเข้ามาเบียดผม เออจะว่าไป ไม่ว่ามันจะทำอะไรให้ผม ให้ตายเถอะ ผมรักมันจนไม่รู้จะบอกว่ายังไงแล้วครับ อย่างพอมีอะไรกันเสร็จ ผมนอนแผ่สบายเลยนะ ส่วนมันเข้าห้องน้ำไปล้างตัว แม้อากาศมันจะหนาวแค่ไหนก็ตาม แล้วยังเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดให้ผมอีก กูใกล้จะง่อยรับประทานเต็มทนแล้วเถอะ
   “ก็เพิ่งจะโดนน้ำมานี่” มันบอกครับ โอ๋ๆ เหมือนจะเรียกร้อง จูบหน้าผากมันไปทีหนึ่งครับแต่ไม่ยอมถอนปากออก จนมันเองต้องถอยหน้าหนี
   “กูรักมึงนะเบบี๋ รักเข้าเส้นเลือดแล้ว” ผมพูดออกมาจากใจครับ
   “รักอะไรอ่ะ เข้าเส้นเลือด” มันอายครับรู้ได้เลยเพราะมันไม่ยอมมองหน้าผม เสียงสั่นๆ
   “ก็ตอนนี้รักมากไง รักเหมือนร่างกายที่ขาดเลือดไม่ได้ กูคิดไม่ออกเลยนะว่าถ้าหากว่าไม่มีมึงข้างๆ กูจะอยู่ยังไง”
   “เน่า” มันสะอื้นครับ อ้าวๆ ซึ้งอะไรขนาดนั้น
   “ไม่ต้องพูดหรอก แค่อยู่ตรงนี้กับกูไปนานๆนะ” ผมกอดมันแน่นครับ กอดให้สมกับที่ใจมันรัก บอกตามความจริงนะ ไม่ใช่ว่าเพราะความคะนองของวัยหรืออะไร แต่หัวใจคนเราไม่รู้สิ กูว่านะไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน มันมีจุดของมัน กูหมายถึง มันจะรู้สึกรักใครสักคนได้เต็มใจแบบนี้ได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้นล่ะ ว่าป่ะ
   “บักเล็ก มื้อได๋เกาะมึงสิฟาดเข่าน่ะ” พอไปโรงเรียนผ่านมาได้อาทิตย์กว่าๆล่ะครับผมก็ถามไอ้เล็ก คือตอนนี้พวกเรางดตระกร้อสักพักนะครับเพราะหน้านาเราทุกคน ยกเว้นผมกับไอ้เบบี๋ต้องไปช่วยงานที่นาหรือที่บ้านล่ะครับ
   “ว่าสิฟาดคืนวันศุกร์นี่ล่ะ สองแลสิแล้วบ่บู้”
   “ได้เข่าหลายติ๊” ผมถามมันตอนจะกลับบ้านล่ะครับ ที่ถามไม่ใช่ขยันอยากจะช่วยหรอกนะ แต่เชื่อเถอะเมียผมมันอยากไปแน่นอน อีกอย่างที่ถามเพราะมันได้กินเหล้าเถอะ ฮ่าๆ นานๆทีเว้ย
   “เติบอยู่ ขนยังบ่ทันแล้วอยู่ อีแม่เพิ่นขนผู้เดียว นี่กูเลิกเรียนกะว่าสิไปขนซ่อย” นามันก็ไม่ค่อยเยอะหรอกครับ แต่ที่นานคงเพราะขนมาไว้ที่นาติดบ้าน ที่มันทำเป็นลานไว้นั่นล่ะครับ
   “เออๆ เดี๋ยวกูสิไปซ่อย ฮ่วยมื้ออื่นนี้ตั้วซั่น มึงบอกพวกบักเคนยัง” ผมไม่ทันนึกครับ ตายล่ะสิ วันนี้วันพฤหัส
   “ยังบ่ทันบอกดอก กูกะเกรงใจพวกสูคือกัน” มันทำหน้าอ่อยๆล่ะครับ ผมเข้าใจมันนะ คือไอ้เล็กที่บ้านมันไม่ค่อยอะไรมาก พูดง่ายๆไม่มีฐานะนั่นเองครับ มันอยู่กับแม่สองคน แต่มันก็ขยันนะ
   “คึดหยังหลายบักห่านี่ เดี๋ยวกูบอกให้ พวกนี่มันมักกะด้อได้แดกเหล้าฟรี แฮงมีซ่ำได๋ให้ได้เหมิด”
   “กะเหล้านี่ล่ะ กูสิบ่มีให้ บ่มีเงินซื้อดอกมึง” มันพูดครับ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ขอพ่อตาก็ได้วะ ไหนๆก็จะไปช่วยมัน อีกอย่างเรื่องของกินไม่ต้องห่วงหรอกนะ ว่าจะต้มไก่ ซึ่งแม่กูก็ขายไก่ย่าง ขอได้สบายมาก
   “พรุ่งนี้เย็นไอ้เล็กมันจะขนข้าวขึ้นลานนะ มึงอยากไปป่ะ” ผมหันมาถามศรีภรรยาตอนจอดรับมันอยู่หน้าโรงเรียนล่ะครับ มันยืนรออยู่กับสาวจอย สนิทกันริงๆสองคนนี้
   “อ่า ไปดิไป จอย” นั่นไงครับ มันหันหน้าไปหาสาวจอยทันที สายตานี่แบบว่าเหมือนจะชวนมันไปแต่งงานเลยนะ สาวจอยก็โม้อยู่ ผมเองก็เล่ารายละเอียดไปว่าเราต้องเอาอะไรไปช่วยไอ้เล็กมันบ้าง ซึ่งแน่นอนครับ ไอ้เบบี๋มันบอกมันจะขอพ่อมันเอง ผมก็เลยไม่พูดอะไร
   “กูถามจริงๆนะ ทำไมมึงชอบใช้แรงงานจังวะเบบี๋” ผมถามมันตอนจะนอนล่ะครับ พ่อตาอนุมัติไม่มีปัญหา ตอนแรกก็มองมาทางผมเหมือนขอความคิดเห็น แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรมากครับ แค่เสริมๆไปว่าไม่ให้มันทำหรอกไปดูเฉยๆว่าเขาทำกันยังไง พ่อตาเลยไม่ว่าไรครับ อีกอย่างมันอ้อนซะจนพ่อมันหัวเราะล่ะครับ
   “ก็อยากรู้อ่ะ เราว่ามันมีเสน่ห์จะตายไป วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่รู้ดิ ชอบ”
   “อืม จะต่อเกษตรเหรอมึง ฮ่าๆ” ผมแซวมันครับ
   “ก็คิดๆอยู่อ่ะ น่าสนใจเหมือนกันนะ” อ้าวสัด ซะงั้น
   “อ่านะ แต่มึงจะมีผัวเป็นวิศวกรนะเว้ย หรืออยากมีผัวเป็นสถาปนิกดีล่ะ” ผมหัวเราะครับ
   “เน่าจะต่อวิศวะเหรอ” มันถามครับ
   “คิดว่านะ เพราะกูเก่ง หรือมึงอยากให้กูสอบหมอดีล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่านะ เรียนๆมาเถอะ เป็นไรก็ได้” สะอึกครับ
   “สัด” “อ้าว ไรอ่ะ ก็พูดจริงนี่” “น่ารักนะมึง แบบนี้ไม่ให้กูรักแล้วจะให้กูอยู่ไงวะเนี่ย หือ เมียจ๋า” คลุกวงในครับ
   “อ่านะ นั่นๆ อีกแล้วนะ กอดทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเน่าอ่ะ”
   “ก็มึงน่ารักเองนี่หว่า” ผมทั้งกอดทั้งหอม รักมันจริงๆนั่นล่ะ มีคำไหนที่มันมีความหมายมากกว่ารักไหมล่ะ จะได้พูด มันเต็มล้นใจไปหมดแล้วเนี่ย ผมทั้งหวงทั้งถนอมมัน นี่ถนอมนะจัดวันเว้นวัน ฮ่าๆ ก็ช่วยไมได้นี่หว่า อยู่ใกล้ไม่ได้เถอะ
   “ต้องไปนอนด้วยเหรอเน่า” พอเลิกเรียนไอ้เบบี๋มันวิ่งมาหาผมที่โรงรถเลยนะครับ แหมนะ อะไรมันจะเห่ออยากไปขนาดนั้นวะเนี่ย
   “มึงอยากค้างเหรอ” ผมถามกลับล่ะครับ
   “ไม่รู้ดิ แล้วแต่เน่าอ่ะ มันน่าสนุกออก”
   “เขานอนซุ้มกัน ไอ้เล็กมันไม่บอกเหรอว่ามันทำไว้แล้ว”
   “บอกดิ นี่ไงถึงอยากรู้อ่ะ” กูว่าแล้ว สาวจอยกับไอ้เล็กคงโม้ไว้เยอะแล้วล่ะ ไอ้นี่มันถึงทำท่าเหมือนอยากไปใจจะขาด พอถึงบ้านมันก็รีบบอกเจ๊แกให้เตรียมกับข้าวให้ล่ะครับ แล้วก็หันไปขอเงินพ่อมันไปซื้อเหล้า
   “ไหนบอกไปช่วยเขานวดข้าวไม่ใช่เหรอลูก จะกินเหล้าแล้วมันจะได้งานรึ” พ่อตาผมแหย่ครับแล้วยิ้มๆ
   “ก็เอาไปจิบไงพ่อ ไม่เมาหรอกน่า นะนะ” มันอ้อนครับ
   “จิบเหรอ งั้นเอาขวดเดียวก็คงพอ จริงไหมเดี๋ยวลูก” อ้าวนะ ซวยเลยกู
   “อ่าพ่ออ่ะ” พ่อตาทำหน้านิ่งๆครับ ไอ้เบบี๋มันอ้อนแล้วไม่เป็นผล หน้านี่หงิกเลยครับ มันขึ้นไปเอาของ รวมทั้งเสื้อผ้าผมกับมัน พอมันขึ้นไปพ่อตาก็ยื่นเงินให้ผมอีกทีล่ะครับหลังจากที่ให้มันไปแล้วส่วนหนึ่ง อ่านะ พ่อตากูเข้าใจเล่น
   “แวะเซเว่นก่อน” ผมหันมาบอกมันล่ะครับก่อนจะถึงเซเว่น
   “ซื้อถุงมือไปเผื่อเพื่อนๆด้วยไหมอ่ะเน่า” ผมพยักหน้าตามมันล่ะครับ ถุงมือนี่ต้องเดินไปที่ตลาดนะครับ
   “อ้าว ทำไมเอาไปสองอ่ะ มีตังค์เหรอเน่า” มันร้องขึ้นล่ะครับตอนผมสั่งเหล้าเขาไป
   “มีดิ กูก็มีเงินนะเว้ย” ผมคุยครับ ขอหน่อยเถอะ มันเบะปาก
   “งั้นเอาน้ำอัดลมไปเพิ่มได้ป่ะ จอยกับเราคงไม่กินเหล้าอ่ะ เอาสปายด้วย”
   “อ้าวๆ ได้ทีเลยนะมึง” “อ้าว ก็เน่ามีเงินนี่” ดูเอาครับ น่ารักนะแต่กวนตีน พอเราได้ของมาครบก็รีบไปรวมตัวกันที่จุดนัดพบล่ะครับ บ้านไอ้เล็กนั่นล่ะ แกงค์เดิมไม่มีเพิ่มไม่มีลด
   “จอยโตสิค้างได้ติ๊” ผมถามสาวจอยล่ะครับเพราะเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวในกลุ่ม
   “ว่าสินอนเทิงเฮือนกับอีแม่นี่ล่ะ บอกแม่ไว้แล้ว บ่เป็นหยัง” ผมพยักหน้าครับ ว่าไปนะจอยเองก็ติดไอ้เบบี๋มากเลยล่ะ ไปไหนไปกันทั้งที่เธอเป็นผู้หญิง บางทีผมก็เคยได้ยินคนนินทาเธอนะว่าคงโดนสอยจนพรุนประมาณนั้น แต่เหมือนจอยเองก็เคยพูดว่าไม่สนใจเพราะเธอเป็นยังไงพวกเรารู้ดี
   “ไหนอ่ะซุ้มอ่ะเน่า” ไอ้เบบี๋มันดูสนใจมากครับ ยังไม่วางของเลยนะ
   “โน่นไง” ผมบุ้ยปากไปทางนาล่ะครับ นาที่ติดกับบ้านมีเพิงที่ทำโครงด้วยลำไม้ไผ่หรือไม้อะไรก็ได้ครับ ที่มันพอจะต้านแรงลมได้ แล้วก็มุงข้างๆและด้านบนด้วยซังข้าว แต่ต้องเลือกที่มันต้นสูงหน่อยนะเพราะมันจะได้มุงได้ยาวหน่อยและต้องทำให้หนาๆพอที่จะต้านแรงลมกันน้ำค้างตอนย่ำรุ่งได้ โดยการทำก็จะหันด้านหลังให้ลมครับ เปิดทางเข้าสูงนอนได้สามสี่คนถ้าเบียดๆกัน แต่ส่วนมากที่เคยทำมาไม่เคยได้นอนหรอกนะครับ ฟาดเหล้าขาวนอนซุกตัวอยู่ในฟางข้าวเถอะ
   “น่าอยู่ดีเนอะเน่า” ไอ้เบบี๋มันเดินไปดูล่ะครับ ผมเองก็หิ้วของตามมันไป มีไอ้เล็กกับสัดไม้ และไอ้เต้มันช่วยกันทำอีกอันอยู่ครับ
   “สูคือเฮ็ดสองอัน” ผมร้องถามมันไปล่ะครับ
   “ฮ่วยกะสองอันตั้ว อันหนึ่งให้สูเด้นอน ไผสิกล้าไปนอนนำเพิ่นเนาะ ผัวเมียว่านี่แหม่ะ” อ้าวนะ รู้ใจกูอีก ฮ่าๆ แต่ไอ้เบบี๋มันอายล่ะครับ เอาล่ะๆ เดี๋ยวตอนหน้าค่อยเล่า แต่อยากจะบอกว่า บรรยากาศช่วงสี่ห้าโมงเย็นนี่มันเริ่มหนาวแล้วนะครับ หน้าหนาวมันค่ำเร็วอยู่แล้ว แสงแดดอุ่นๆเริ่มโดนขับไล่ด้วยลมหนาวที่ทั้งแรงและเสียดร่างกาย แต่กูไม่กลัวเพราะกูมีคนให้กอด อิอิ เจอกันตตอนหน้าครับ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ
จุ๊บๆๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เดี๋ยวหื่นอ่ะ  :oo1:

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากเลยเรื่อง o13 ชอบที่สุด

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เดี๋ยวมันหื่นตลอดอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เดี๋ยวหลงน้องอุ่นกู่ไม่กลับแล้วตอนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ
คุณปลัดช่างประเสริฐเหลือแสน มิน่าลูกถึงได้น่ารัก

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
อ่านและมีความสุขจังเลย :-[

ออฟไลน์ papa_paolo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

คู่นี้น่ารักขึ้นทุ๊กกกวัน  :L2: :3123:


 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด