พิมพ์หน้านี้ - Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: eiky ที่ 22-03-2012 12:45:29

หัวข้อ: Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 22-03-2012 12:45:29
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

(http://images.temppic.com/03-02-2013/images_vertis/1359893869_0.14134000.jpg)

(http://images.temppic.com/03-02-2013/images_vertis/1359893869_0.47576100.jpg)

************** From Eiky*************

สวัสดีครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องล่าสุดนะครับที่เขียน แหะๆๆๆ ทั้งที่มีเรื่องค้างอยู่ แต่เรื่องนั้นๆก็จะเขียนอยู่ครับแต่พอดีเรื่องนี้มันเด่นขึ้นมาเลยเขียนก่อนเดี๋ยวจะลืม เอาเป็นว่าจะพยายามเขียนทุกเรื่องให้จบนะครับผม อิอิ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เปิดเข้ามาดูแม้จะอ่านไม่อ่านก็ขอบคุณมากครับ

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ

ขอบคุณมาก

ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เครียดนะครับ เบาๆ พยายามจะให้มันโรแมนติก ฮ่าๆๆ คอยดูกันว่าจะได้สักแค่ไหน
ต้องขออภัยที่ภาษาพูดอาจจะไม่สุภาพและเป็นภาษาถิ่นเสียส่วนใหญ่ ลองๆอ่านดูนะครับ เผื่อว่าจะชอบ





Don't call Me BaBy!!!
[/b]

ไม่เข้าใจ ยังไงผมก็ไม่มีวันเข้าใจ ทำใจไม่ได้ อาจจะได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ จะอะไรล่ะครับ ก็เรื่องย้ายโรงเรียนกลางเทอมนี่น่ะสิมันสุดจะทนจริงๆนะ จิ๊ โมโห อารมณ์เสียหงุดหงิด พ่อนะพ่อทำไปได้ ตัวเองเป็นข้าราชการแต่ดันไปรับเงินสินบน เอ่อนะ แหะๆ ลืมแนะนำตัว ผมชื่อ อุ่นครับ อุรดิศ ชื่อไม่แปลกครับ แม่ผมตั้งให้ล่ะพ่อผมบอก ตอนแรกแม่จะตั้งว่าอุดรทิศแต่แม่บอกมันเชยคนไม่ได้เดาประมาณนั้น ส่วนนามสกุลอย่าอยากรู้เลยครับเอาเป็นว่านามสกุลผมค่อนข้างเก่า ผมเป็นคนภูมิใจในนามสกุลนะครับเพราะบรรพบุรุษผมค่อนข้างจะสร้างชื่อเพราะเป็นเจ้าขุนมูลนายกันเสียทุกรุ่นแต่นะ พ่อผมทำอะไรเนี่ย ทำอะไรลงไปไม่เข้าใจ เงินทองเราก็พอมีนะครับ แม่ผมเสียตั้งแต่ผมอายุ 8 ขวบ ตอนนี้ 16 ย่าง 17 ผมอยู่ ม.5 ครับ เรียนโรงเรียนชื่อดังที่สวมกางเกงน้ำเงินหรูหราไฮโซที่สุดย่านบางเขนนั่นล่ะครับ แต่เอาเถอะๆ ไม่ใช่เวลาจะมาภาคภูมิใจอะไรตอนนี้ ผมต้องระเห็จออกจากโรงเรียนกลางเทอมหนึ่งทั้งที่อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะสอบมิดเทอม อะไรเนี่ย ผมไม่เข้าใจ พ่อนะพ่อ โกรธพ่อมากเลยนะครับขอบอก โกรธจนไม่ยอมคุย ผมอายเพื่อนๆ ผมอายแทนบรรพบุรุษ นี่เราสิ้นไร้ไม้ตอกมากขนาดถึงว่าพ่อผมต้องไปรับสินบนเขามาเลยเหรอ ผมไม่เข้าใจ ไม่รับฟังไม่ว่าพ่อจะพูดอะไรก็ตาม แต่ก็นะพ่อผมไม่บอกหรอกครับมีแต่บอกให้เก็บของ
   “โรงเรียนใหม่ก็เข้าท่าอยู่นะอุ่น พอเรียนได้ล่ะ” ไม่พูดดีกว่าไหมพ่อหน้าลูกหงิกตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯตอนเช้ามืดแล้วไม่เห็นหรือไง เบื่อพ่อเว้ย โอ๊ยย อยากจะกลั้นหายใจให้มันตายๆไปซะรู้แล้วรู้รอดเลย
   “พ่อพลาดไปแล้ว อย่าว่าพ่อเลยนะอุ่น พ่อคิดผิดช่วยเขา ตอนแรกบอกไม่เอาๆแต่เขาก็ยัดให้ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้” จะบ่นเพื่อ? เฮอะนี่ล่ะนะอะไรเนี่ยตอนทำน่ะไม่คิดมาคิดตอนนี้เป็นไงล่ะ เขาไม่ไล่ออกจากราชการก็บุญเท่าไหร่แล้วดีนะแค่โยกย้ายตำแหน่ง
   “ครับ” ผมพูดออกไปดอกพิกุลยอมหลุดออกจากปากเสียทีหลังจากที่นิ่งมานาน ก็นะมีกันอยู่สองคนพ่อลูกนี่นะให้ทำไง
   “ตอนแรกอาจจะขลุกขลักหน่อยนะลูก แต่เดี๋ยวสักพักเราค่อยหาทางขยับขยาย” ขยับขยาย? ไปไหนพ่อหือจะพาย้ายไปไหนอีก ต้องจากเพื่อนที่รักจากแฟนสุดหล่อ โว๊ยยนะ อยากจะเอาหัวโขกพื้นปูนให้ตาย
   “เราย้ายไปจังหวัดไรนะพ่อ” ผมถามออกมาครับเพราะกำลังจะบอกโจ้ เอ่อ คือแฟนสุดหล่อของผมเองครับ อิอิ มีบ้างนะก็แหมนะผมก็ไม่ใช่ขี้เหร่นี่นา สูง ไม่ถึง 170หรอกนะครับแต่ก็ไม่เตี้ยเกิน 165 อิอิ ในระหว่างนั้นล่ะ ผิวของผมขาวๆอมเหลืองไทยแท้นี่ครับแต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือผมหน้าตาดี เฮอะ ใครจะไม่เห็นด้วยไม่รู้แต่ไม่เคยมีใครว่าผมขี้เหร่ ออกแนวหลงตัวเอง ไม่นะเพราะเพื่อนๆผมชมบ่อยๆ โว๊ยย สรุปตามนั้นล่ะครับไม่งั้นผมจะได้ โจ้เป็นแฟนเหรอเนอะ โจ้เป็นนักกีฬาบาสฯของโรงเรียนเป็นดาวของรุ่น คนจีบคนตอมนี่อย่าให้บอกแต่เขาเลือกผมนะขอบอก เป็นไงล่ะขอโทษเขาเดินมาขอคบกับผมเองเถอะนะ ไม่อยากจะคุย
   “อำนาจเจริญ” นั่นล่ะครับตามที่ผมเล่าชีวิตผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนะครับก็มีคนงานพี่ต้อยซึ่งตอนนี้ก็นั่งรถไปรอเราอยู่ที่ไหนนะพ่อพูดเมื่อกี๊
   “อะไรนะพ่อ” ผมเป็นพวกพูดเยอะครับ ไม่สิคิดเยอะแต่ไม่ค่อยพูด ไม่ใช่เพ้อนะครับผมคิดเยอะจริงๆ คนคิดเยอะนี่ดีไหมนะผมไม่รู้เหมือนกันแต่ผมจะชอบยิ้มๆมากกว่า นี่ล่ะมั้งที่มัดใจโจ้ โอ๊ยย ภูมิใจ ว่าแล้วก็คิดถึงจัง
   “อำนาจเจริญลูก ในเมืองนะไม่ใช่ตัวอำเภอ”
   “หา อะไรอ่ะพ่อไหนบอกจะไปสกลนคร” ว่าแต่สกลนครนี่มันภาคไหนนะน่าจะเหนือตอนบนป่ะ เฮอะก็คนหน้าตาดีมักจะไม่เก่งภูมิศาสตร์นี่นา อย่า หยุด ห้ามว่าผมโง่ ผมไม่ได้โง่นะผมแค่ช้าเท่านั้นเอง
   “อำ นาจ เจริญ” พ่อผมเน้นคำหันหน้ามาทำหน้าจริงจัง ผมทำหน้างงๆ
   “ที่ติดแม่น้ำโขงน่ะลูกที่แยกตัวออกจากจังหวัดอุบลฯ” อุบลฯ นั่นบ้านที่ต้อยนี่ พี่ต้อย เว้าอีสาน อ๊ะ อีสาน กรีซซ อยากจะกระอักออกมาเป็นน้ำเขียวโซดา
   “ครับ” เอ่อ นี่ล่ะครับผม บ่นในใจไปสามกิโลฯพูดออกมาแค่นี้ล่ะครับ ตอนนี้ผมคิดไปถึงจังหวัดอำนาจเจริญ มันจะมีรถเมล์ไหมนะ มันจะมีแมคโดนัลไหมล่ะ มีเซเว่นหรือเปล่าจะมีน้ำเขียวโซดาไหม แล้วบ้าน บ้านเราจะมีแอร์หรือเปล่า ตายแล้วๆ ผมจะดำกว่าเดิมไหมเนี่ย โว๊ยย พ่อนะพ่อ ฮึ เริ่มโมโหมากกว่าเดิม
   “อุ่นๆ ถึงแล้วลูก” พ่อผมเขย่าตัวครับหลังจากที่แวะปั๊มมาสามพันรอบ นอนตื่นๆหลับๆมานับครั้งไม่ถ้วน ที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ยจำได้ว่าออกจากบ้านที่บางเขนมาประมาณสามทุ่มเมื่อคืนถึงนี่ประมาณเจ็โมงเช้าเกือบแปดโมง โว๊ยย จะไกลไปไหนเนี่ย นั่งๆนอนๆมาจนปวดก้นไปหมดแล้ว
   “นี่บ้านพักเราเอาของขึ้นไปเก็บสิอุ่น ต้อยเรียบร้อยดีไหม” พ่อผมเดินลงไปกอ่นส่วนผม เอ่อ ยืนอึ้งอยู่ อ้อลืมบอกพ่อผมทำงานอยู่ในสำนักงานเขตครับภ้าย้ายมาที่นี่ก็น่าจะประมาณปลัดอำเภอหรือเปล่าไม่แน่ใจ และบ้านไม้สองชั้นหลังนี้สภาพแบบว่าเก่าเอี๊ยดอ๊าดสีขาวเหรอ? มันดูเก่ามากๆ โว๊ยย อะไรอ่าพ่อ ผมยืนอึ้งอยู่นานแสนนานจะถามว่ารับได้ไหม ไม่นะ ไม่อาวว ไม่สามารถจะมีเตียงไหมเนี่ยหรือว่าต้องนอนกับฟูก จะมีแอร์ไหมดูสภาพแล้วไม่เลยไม่น่ามี โว๊ยย ทำไงดี
   “เป็นตาอยู่เด้ค่าน้องอุ่นมีแอร์พร้อม ห้องคุณอุ่นเอื้อยเตรียมไว้แล้ว อย่าสิเฮ็ดหน้าจั่งซั่นติ๊ค่า” เอ่อพี่ต้อยครับแกเลี้ยงผมมาล่ะผมเข้าใจแก ก็ประมาณว่าแกไม่เคยพูดภาษากลางเลยนะเวลาอยู่ที่บ้าน ผมน่าจะพูดได้นะแต่ไม่เลยครับได้นิดหน่อยเอง เฮอะไม่มีเวลามาเรียนหรอกนะเข้าใจแกได้ก็บุญล่ะ
   “หิวอ่ะพี่ต้อย” ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับแกมากครับ ลืมบอกว่าพรุ่งนี้พ่อจะพาไปโรงเรียนใหม่ เฮอะ ไม่อยากจะจิ้นเลยว่าจะมีสภาพยังไง ตอนแรกก็จิ้นไว้วะว่ามันเป็นภาคเหนือตอนบน เป็นไงล่ะอีซานฟรานซะงั้น แล้วโรงเรียนล่ะ เพื่อนใหม่ โอ๊ยต้องเว้าอีสานไหมเนี่ย เครียดๆๆ ผมเดินขึ้นห้องไปด้วยใบหน้าที่หงิกงอตามเดิม ตอนนี้คิดถึงแม่จังเลย ถ้าแม่อยู่พ่อโดนเละแน่ๆขอบอกว่าแม่ผมดุมากๆและผมก็คงไม่ต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้แน่ๆ โว๊ยย แม่คิดถึงจัง ประตูไม้สีน้ำตาลเก่าถึงเก่ามากนี่คือห้องผมเหรอเนี่ย ผมค่อยๆแง้มประตูเข้าไป เฮ้อ ค่อยยังชั่วพี่อ้อยเปิดแอร์รอไว้แล้วค่อยรู้สึกดีหน่อย ผมค่อยๆนั่งหย่อนก้นลงบนเตียง เตียงนี่หรือคือเตียงทำไมมันเสียงเหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่แบบนี้ โว๊ยย เอาเถอะๆ อย่าคิดมากขอนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ
   “อุ่นรีบอาบน้ำแต่งตัวเลยนะพ่อจะพาไปฝากที่โรงเรียน” หือ หา อะไรนะไหนบอกไปพรุ่งนี้ไงล่ะพ่อ อะไรเนี่ยไม่ไปนะไม่มีทางคนเพิ่งจะมาถึงยังง่วงอยู่เลย อะไรจะให้ไปดรงเรียนตั้งรับไปม่ทันหรอกนะปรับตัวไม่ได้
   “ครับพ่อ” อ่าฮะ โว๊ยยอะไรของผมเนี่ย เออๆ ไปก็ไปพ่อนี่นะ แหะๆ จะให้เถียงได้ไง ผมต้องเหวี่ยงกระเป๋าเดินทางเข้ามุมห้องแล้วก็รื้อเสื้อผ้านักเรียนออกมาล่ะครับ
   “เดี๋ยวเอื้อยรีดให้ ท่าคราวเดียวน้องอุ่นไปอาบน้ำโลดค่า” ตามนั้นครับไม่ต้องแปลเนอะ ผมล้วงหาเครื่องอาบน้ำแสนแพงของบอดี้ช็อปออกมาแล้วเดินออกมาหาห้องน้ำ
   “ห้องน้ำอยู่ตาล่างค่าน้องอุ่น” โว๊ยย มีอะไรที่มันแย่ไปกว่านี้อีกไหมเนี่ย เคยแต่ตื่นขึ้นมาเดินเข้าห้องน้ำเลยแล้วนี่อะไรต้องกระเตงลงไปข้างล่าง โว๊ยย เอ่อ ที่แย่ไปกว่านั้นคือมันไม่มีฝักบัวครับ ตักอาบเอาเหรอ? ไม่เคยเค้าไม่เคย โว๊ยย อะไรเนี่ย ชีวิตของอุรดิศต้องมาเป็นแบบนี้เพราะอะไรเนี่ย จิ๊
   “ครับคุณปลัดโรงเรียนของเรายินดีต้อนรับอุรดิศ มีอะไรมาปรึกษา ผอ.ได้เลยนะ ที่นี่เราอยู่กันแบบอบอุ่น” ในห้องผอ.ครับผมนั่งก้มหน้าไม่อยากจะอะไรกับใคร เบื่อที่จะมองก็ตามประสาผู้ใหญ่เขาคุยกันนั่นล่ะครับ ผมนี่เบื่อแล้วนัดกันกินนั่นกินนี่ ไม่ใช่นี่จ่ายเงินใต้โต๊ะหรอกนะถึงได้เข้าเรียนกางเทอมเนี่ย
   “สวัสดีค่ะอุรดิศ ครูชื่อจิรดานะคะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาห้อง 5/9 ตามครูมาทางนี้เลยจ๊ะ หนังสือเรียนเตรียมมาจากที่เดิมไหมคะ หลักสูตรน่าจะเหมือนๆกัน แต่เท่าที่ครูทราบจากท่าน ผอ. อุรดิศย้ายมาจากโรงเรียนคริสต์ อืม น่าจะแตกต่างกันบ้างนิดหน่อย” พอแนะนำตัวฝากฝังกับผอ.เสร็จพ่อผมก็ต้องไปที่อำเภอล่ะครับ ทิ้งผมอีกแล้ว โว๊ยยนะ อาจารย์รุ่นป้าๆใส่แว่นหนาๆแกกำลังแนะนำตัวครับผมก็ยกมือไหว้เดินตามแกไป ตึกอำนวยการและวิชาการเท่าที่ผมคาดการณ์นะว่ามันน่าจะใช่เก่าซะนี่มันสร้างตั้งแต่สมัยไหนเนี่ยจะพังแหล่ไม่พังแหล่ประมาณนั้นล่ะครับ ผมเดินผ่านห้องนั้นห้องนี้ไปเรื่อยๆ ห้องของแต่ละฝ่ายวิชาการนั่นล่ะครับ เดินลงตึกมาอาจารย์ป้าแกก็พาเดินเลี้ยวไปด้านหลัง
   “นี่เป็นตึกเรียนของนักเรียนทั้ง ม.ต้น ส่วนด้านโน้นเป็นของ ม.ปลาย โรงเรียนของเรามีนักเรียนไม่มากหรอกค่ะอุรดิศ แค่สี่พันกว่าเท่านั้นเองค่ะ” ประชดป่ะเนี่ยป้า เฮ้ย สี่พันกว่านี่มันไม่น้อยนะเนี่ย โหไม่อยากจะเชื่อนี่โรงเรียนชนบทนะเนี่ยทำไมเด็กนักเรียนมันเยอะจังวะเผลอๆเยอะกว่าที่โรงเรียนผมอีกด้วยซ้ำ อ้อ ลืมเล่า ทางเข้าผมยังไม่ทันได้มองเพราะเซ็งพ่อแต่รู้ว่าเสาธงอยู่ด้านหน้ามีสนามฟุตบอลอยู่ติดถนนใหญ่ ตรงนี้คือด้านหลังอาคารเรียนชั้น ม.ต้นตามที่ป้าแกชี้บอกสีออกตุ่นๆมีสามชั้นหรือเปล่านั่นน่ะเพราะมันเหมือนมีใต้ดินด้วยน่ะสิครับ อาคารเรียนเรียงรายเป็นแถบไป ส่วนอาคารเรียนของนักเรียนชั้น ม.ปลาย อยู่ด้านหลังครับต้องเดินไปอีกหน่อยผมไม่ได้มองอะไรมากนักเพราะเหมือนคนหลายคนกำลังจ้องมองผมอยู่น่ะสิ แต่สนเหรอไม่เลย จะว่าไปที่นี่ก็ใหญ่เอาการเหมือนกันนะเนี่ย พอเดินผ่านตึกแรกก็ได้ยินเสียงเด็กนักเรียนดังจอแจแว่วออกมาไม่แว่วล่ะดังมาก นั่นมันเรียนหรือมันกำลังแหกปากกันวะนั่นน่ะแล้วนั่น เอ่อ มองกูทำไมวะเนี่ย อ้อ เพราะผมหน้าตาดีไง เออเนอะลืมๆ เชิดคอขึ้นดีกว่า มองตรงหลังตรงระหงส์ๆตามต้นตำรับต้นตระกูล อิอิ
   “ไม่ต้องอายหรอกนะอุรดิศ นักเรียนที่นี่เขาคงไม่เคยเห็นเด็กนักเรียนใหม่กางเกงน้ำเงินเหมือนอุรดิศ ท่าน ผอ.แจ้งทางคุณปลัดไปแล้วว่าร้านขายชุดนักเรียนที่ไหนที่รับปักเสื้อของโรงเรียนเรา พรุ่งนี้ค่อยใส่มานะจ๊ะ” คุณป้าแกพูดครับ เออนะ ใส่กางเกงน้ำเงินรองเท้าหนังนี่เอง แล้วพ่อจะพามาทำไมวันนี้วะเนี่ย ทำไมไม่พามาตอนที่ไปซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วเอาให้มันเหมือนชาวบ้านเขาก่อนค่อยมาก็ได้นี่นะ โหนี่จะให้ลูกคนนี้อายคนเขาไปถึงไหนกันวะเนี่ย โว๊ยย พ่อนะพ่อ ก้มหน้าสิครับท่าน จะมาระหงส์อะไรล่ะ หงส์ไม่มีขนน่ะสิ เว้ยโมโห และแล้วเพราะด้วยมัวแต่เดินก้มหน้า
   “อ่า” โว้ยย อะไรวะเนี่ยผมเดินตกขี้โคลนน่ะสิครับ รองเท้าหนังมันระยับของผมจมโคลนไปครึ่งหนึ่ง คุณป้าแกหันกลับมาแล้วหัวเราะ
   “เดินระวังหน่อยนะคะอุรดิศที่นี่เราไม่ได้ลาดซีเมนต์ไว้ทุกที่เหมือนในกรุงเทพฯนะ ไปล้างก่อนไหม” เอ่อ แกคงไม่ได้ประชดผมหรอกนะครับ จะให้ผมทำไงได้นอกจากเดินไปตามที่แกชี้ไปที่ด้านหลังของโรงเรียน จะอธิบายยังไงดีว่าอาคารเรียนมันตั้งยังไง สมมติว่ามีทิศเหนือละกันนะครับ ทางเข้าอยู่ทางทิศเหนือกับสนามฟุตบอลรวมทั้งเสาธง พอเข้ามาก็จะเป็นอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเรียงกันไปเรื่อยๆทางทิศตะวันตกผมกำลังเดินลัดเลาะอาคารไปทางทิศตะวันตก ส่วนทิศใต้เป็นรั้วโรงเรียนและมีห้องน้ำเรียงรายกันอยู่หลายห้อง เข้าใจไหมเนี่ยผมตั้งใจอธิบายแล้วนะเอ๊ะหรือว่ายังไม่ดี งงเหมือนกันแฮะ ผมเดินไปที่ห้องน้ำล่ะครับ นักเรียนออกันอยู่เต็มทั่วบริเวณ ระหว่างทางก็มีต้นไม้ม้านั่งวางอยู่เต็มพื้นที่ มองเข้าไป อ่ะมองให้พอแหมนะมองกูซะ แต่ทำไมพวกมันมองแล้วยิ้มๆด้วยเนี่ยเพราะรองเท้าผมแน่ๆ กว่าจะล้างเสร็จก็นานอยู่ครับเพราะมัวแต่คิดไปว่านับจากนี้ที่นี่คือที่ที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่อีกนานเท่าไหร่ไม่รู้จนกว่าพ่อจะเลิกไปรับสินบนเขามานั่นล่ะครับ ผมต้องรีบปรับตัวไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เฮ้อ สู้ไหมเนี่ยกู สู้ว้อยย
   “อ้าวนักเรียน วันนี้มีเพื่อนใหม่ย้ายมาจากกรุงเทพฯ เงียบๆกันหน่อย” ไม่อยากจะเล่าเลยว่าตอนเดินขึ้นตึกไปนั่นมีคนมามองผมมากมายเพียงไหน แต่ก็ไม่อายนะแค่เขินๆ ผมคงดูแปลกตาไปจริงๆล่ะครับ ก็แหมนะไม่อยากจะคุยว่าตัวเองเป็นเด็กเมืองกรุงนี่นาย้ายมาอยู่นี่ก็ย่อมผิดหูผิดตาเป็นเรื่องปกติ คุณป้าแกพาผมเดินเข้าไปในห้องล่ะครับผมก็เดินตามเลยสิไม่อาย อายทำไมผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นะ แหะๆ มันก็มีบ้างน่าเรื่องประหม่าน่ะธรรมดาล่ะครับ
   “อ้าว อุรดิศแนะนำตัวหน่อยจ๊ะ” คุณป้าแกโยนมุขมาครับผมก็เงยหน้าขึ้นยิ้มน้อยๆ
   “หวัดดีครับ ผมชื่อ อุ่น อุรดิศ (นามสกุล) เพิ่งย้ายมาจาก(โรงเรียนชื่อดัง) ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆใหม่ทุกคนครับ” ผมเปล่งเสียงออกไปครับ ทำไมต้องให้แนะนำตัวแบบนี้ด้วย ทำไมคุณป้าไม่พูดเองวะไม่เข้าใจ
   “นายเกิดที่อุตรดิตถ์แม่นบ่อ” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น นั่นกูว่าแล้ว พวกบ้านนอก เว้ย ชื่อกูมันมาจาก อุดรทิศต่างหากหรอกพ่อผมเคยบอกว่าแม่เป็นคนตั้ง ไอ้พวกนี้ไม่รู้อะไร
   “ใช่” ผมรำคาญจะตอบครับเลยนะ แก้ปัญหาไปพูดมากปวดปากเสียเวลาออก
   “ทำไมอุ่นอ่ะ อุ่นจริงเหรอ” ทีนี้เสียงดังมาจากเพื่อนผู้หญิงหน้าตากับท่าทางเธอมันแย้งกันชัดๆ โอ๊ยไม่อยากจะบอกว่าหน้าเธอออกแนวตุ๊กกี้แต่ท่าทางเธอเหมือนกำลังพยายามทำให้เหมือนกิ๊บซี่ประมาณนั้นล่ะครับ คิดภาพออกไหม
   “นี่รังสิยาอย่าแซวเพื่อนสิ ไปนั่งข้างๆภานุพงศ์ก็ได้ นายภานุพงศ์เลื่อนโต๊ะให้ชิดกันซิ” คุณป้าแกตัดบทครับผมแอบถอนหายใจ เฮ้อ จะเจออะไรอีกเนี่ยวันนี้ ทำใจมาแล้วนะว่าเพื่อนต้องถามนั่นถามนี่แน่ๆ แต่ไม่คิดเตรียมใจจะมาเจออะไรประหลาดๆหรอกนะ ว่าแล้วกวาดสายตามองเพื่อนในห้องดีกว่ามีใครหน้าตาพอคุยด้วยได้บ้าง อิอิ เฮ้อ มีพอได้อยู่นะนี่มันห้องรวมดาวโจ๊กหรือไงนะ เอ๊ะนั่น นายคนนั้นแจ่มใช้ได้ๆ ไม่อยากจะเชื่อที่นี่มีคนหน้าตาตี๋อินเทรนขนาดนี้เลยเหรอ ว้าวน่าสนใจล่ะ ผมไม่ได้มองเหมือนจ้องหรอกนะครับอย่าเข้าใจผิดผมปราดตามองแว๊บเดียวพอเห็นแต่สายตาเหมือนตกอยู่ตรงเขานานกว่าใครก็เท่านั้นเอง อิอิ ส่วนไอ้คนที่นั่งข้างผมที่ผมกำลังเดินเข้าไปหาเนี่ยก็ใช้ได้นะแต่ตัวมันคล้ำๆหน่อย
   “เป็นหยังจั่งซื่ออุ่น” แปลไหมครับ โว๊ยย อยากจะบอกว่าไปถามแม่กูสิวะถามกูกูจะบอกยังไงล่ะพ่อแม่กูตั้งให้ไอ้หน้าหักนี่นะ
   “บ่อฮู้” “ฮ่วยเว้าอีสานกะเป็นติ๊” เอ่อ ไม่น่าพูดออกไปเลยกูสำเนียงก็ไม่ได้นะ ไอ้หน้าหักนี่สนใจใหญ่ไม่เพียงแต่มันนะเพื่อนๆก็เหมือนจะหันมา
   “เอาล่ะๆ เดี๋ยวค่อยสานสัมพันธ์กันนะคะนักเรียน คาบต่อไปวิชาอะไรเตรียมตัวเรียนได้แล้ว ครูฝากเพื่อนใหม่ด้วยนะคะเพราะอุรดิศมาจากโรงเรียนชายล้วนนะอย่าแซวอะไรรุนแรงล่ะ” คุณป้าบอกแล้วยิ้มให้ผมแกเดินออกไปแล้วครับ พอได้ยินคำว่าชายล้วนเท่านั้นเองคราวนี้ล่ะ ทุกคนก็หันมารุมจ้องผมเป็นตาเดียว
   “ย้ายมาจากโรงเรียนไรเหรอเธอ” เสียงดัดจริตมากๆ
   “ชุดนักเรียนเด็กในเมืองนี่สวยเนอะ” อ๊ะแน่นอน
   “อยู่ชายล้วนก็มีแต่ผู้ชายสิ ว้ายอยากไปจังเลยคงจะมีแต่หนุ่มหล่อๆแน่ๆ” หล่อน่ะใช่แต่มองแกไหมคิดว่าไม่
   “ใส่รองเท้าหนังด้วยเงาวับเชียว” เออสิก้มลงส่องดูไหมเห็นหน้ามึงด้วยนะ
   “แล้วพ่อนายเป็นปลัดเหรอ ว้าวลูกปลัด โก้จัง” งดบรรยาย
   “แล้วนายทำไมพูดภาษาอีสานได้ นายเป็นคนพื้นเพที่นี่เหรอ หรือว่ามีญาติอยู่ที่นี่” อ๊ะ นายรูปหล่อถามครับผมแหวกวงเพื่อนๆใหม่ออกทันที
   “อ้อเปล่าหรอก พอดีพี่เลี้ยงที่บ้านเป็นคนแถวนี้ล่ะ เราเลยพอเข้าใจ” ตอบเสียงนุ่มเหมือนเด็กในเมืองให้มากที่สุดจ้องหน้าเขา อืม ตอนนี้เองถึงรู้ว่าคำว่าช้างเผือกนั่นมีจริงนะเออ โว๊ยย จะหล่อไปไหนเนี่ย อ๊ะ เขายิ้มให้ผมด้วย ดัดฟันอีก
   “นายหล่อจังเลยอ่ะตัวเธอ” นังตุ๊กกี้ครับเงียบๆบ้างก็ดีนะเธอน่ะ
   “นั่นสิผิวดี๊ดีๆเนอะ ขาวจัง ว้ายนุ่มอีกต่างหาก” เอ่อ มือไวไปไหมตัวเธอจับผมด้วยอ่ะครับ น่าอายจังผู้หญิงอะไรเนี่ย
   “แหมก็แค่นั้นล่ะจิ๊บ ก็วันๆทำอะไรล่ะยะนอกจากนั่งในห้องแอร์ทาครีม เดี๋ยวนี้เขามีคอร์สทำหน้าทำตา ไม่ต้องโดนแดดโดดนลมเหมือนเรานี่ ไม่ขาวก็ให้มันรู้ไปสิยะ” เสียงกะเทยดังแทรกขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของกะเทยหัวโปกท่าทางแรดๆคนหนึ่ง จะอิจฉากูทำไมเนี่ยไม่อยากจะบอกว่าหน้ากูน่ะไม่เคยพึ่งหมอเว้ย อีกอย่างตัวก็ไม่ได้ทาครีมแค่กูชอบอาบน้ำเท่านั้นเอง ช่วยไม่ได้เองนะพ่อแม่กูมีเชื่อผู้ดีเก่า อิอิ
   “ทำหน้ามาเหรอเธอ” นังตุ๊กกี้ครับ โว๊ยย กูบอกไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำซิวะอะไรเนี่ย
   “เปล่าเราไม่เคยไปหาหมอหน้าหรอก เปลือง” ผมพูดออกไปครับแล้วก็หันไปมองพ่อรูปหล่อต่อ มันจรรโลงใจมากกว่าเป็นไหนๆ พวกตัวประกอบพวกนี้อะไรเนี่ย
   “นามสกุลนายเป็นผู้ดีเก่าป่ะเราคุ้นๆ” นั่นว่าแล้วเชียว โว๊ยย นี่จะมาอะไรกับกูหนักหนาวะเนี่ยเบื่อแล้วนะ
   “ไม่ใช่หรอกมันแค่คุ้นๆน่ะ” ผมตอบออกไปครับผมไม่ใช่คนขี้โอ่นะขอบอกคือในใจน่ะพราวสุดๆแต่เวลาคนถามก็แบบนี้ล่ะครับ ผมเป็นคนนิ่งๆนะบุคลิกภายนอกแต่ภายในนี่ เคยมีเพื่อนสนิทผมที่บางเขนมันด่าผมว่า “แรดหลบใน” ดูมันด่าผมสิครับ บ้าเหรอผมแค่คิดอะไรเยอะไปหน่อยด่าคนในใจอะไรประมาณนี้ อิอิ
   “อุ๊ยกระเป๋าสวยจังเธอ” เอ่อนังตุ๊กกี้ครับเริ่มล่ะเริ่มล้วงข้าวของกูล่ะอีพวกนี้อะไรวะเนี่ย โว๊ย อดทนๆ
   “แล้วพวกเธอชื่ออะไรกันบ้างล่ะเรายังไมได้รู้จักใครสักคนเลยนะ” ผมพูดออกมาทำท่ามองไปรอบๆตัวครับ หายใจไม่ออกนี่เห็นกูเป็นเอเลี่ยนหรือไงกันวะเนี่ยมุงได้มุงดี
   “เราชื่อเชอรี่” หามึงเนี่ยนะชื่อเชอรี่ นังตุ๊กกี้ครับท่านผมทำหน้าเหวอเหมือนไม่เชื่อ
   “ส่วนนี่” “พอแล้วอีตะขบ เดี๋ยวให้หัวหน้าห้องแนะนำดีกว่าไหมยะหล่อน” อีกะเทยหัวโปกจีบปากจีบคอพูดขึ้นล่ะครับ
   “เราชื่อทายนะเป็นหัวหน้าห้อง” อ่าพ่อรูปหล่อของผมเป็นถึงหัวหน้าห้องว่าแล้วเชียวคนมันมีราศีอ่ะนะ ตาคมจริงๆไอ้อุ่นเอ้ย อิอิ
   “ส่วนนี่น้ำหวาน จอย แตง เพ็ญ โต้ง ต๊อก ไก่ ชาติ” “ว้ายอะไรกันหัวหน้าบอกว่าชื่อญาญ่า มาชงมาชาติอะไร” เอ่อ อีกะเทยหัวโปกมันค้านขึ้นครับ ตอนหัวหน้าแนะนำผมไม่ได้หันไปมองตามเลยนะเพราะมัวแต่เพลินมองหน้าหัวหน้าห้องสุดหล่อ ว่าไปเขาก็มีเสน่ห์ดีนะ เหล็กดัดฟันสีเขียวเหมือนกินสาหร่ายดิบเกาะตามฟันมันทำให้เขาดูน่ารักมาก โอ๊ย อยากเข้าไปส่องใกล้ๆจังเลยคุณ แต่พออีกะเทยหัวโปกนี่กรี๊ดขึ้นเพื่อนๆก็โห่มันล่ะครับผมเลยหมดอารมณ์ หือ มันว่ามันชื่ออะไรนะ ญาญ่า โอ๊ย อย่างมึงน่ะน่าจะคุณย่ามากกว่านะกล้าพูดเนอะ ญาญ่า ถ้ามึงญาญ่าไอ้นั่งหน้าห้องนั่นก็ ณเดชแล้วล่ะเว้ย
“จ๊ะญาญ่าก็ญาญ่า อ้าวส่วนคนที่นั่งข้างนายชื่อเล็ก” โหยยิ่งเวลาเขาแซวกลับนะน่ารักอ่ะ น่ารักจังเลยคุณ ผมอมยิ้มแล้วหันมองหน้าไอ้คนที่นั่งข้างๆ มันยิ้มฟันขาวให้ผม ผมก็พยักหน้า
   “เล็กแต่ชื่อนะเว้ย อย่างอื่นไม่เล็ก” เอ่อ มันพูดขึ้นครับเสียงแซวโห่ดังขึ้นอื้ออึงทันที หือ ว่าไรนะ ผมมองหน้ามันทันทีครับ อดไม่ได้เลยจะเหลือบสายตาลงต่ำ โว๊ยย ไม่เอาๆ มีโจ้อยู่ทั้งคนไม่เอาๆไม่ลามกๆ
   “ทำอะไรกันพวกเธอ จะไม่เรียนหรือไง สุมหัวทำอะไรกันอยู่” เสียงอาจารย์ผู้หญิงดังขึ้นหน้าห้อง วงแตกสิครับท่าน
   “หือทำอะไรกันทำไมไม่นั่งที่” อาจารย์หญิงรูปร่างตันเตี้ยผมบ๊อบสั้นดั้งมีนิดเดียวเดินเข้ามากลางห้อง โอ้โหท่าทางตอนเดินเข้ามานั่นเธอคงคิดว่าตัวเองเป็นแพนเค้กหรือไงนะ
   “มีนักเรียนมาใหม่ครับจารย์วัณวิภา” หัวหน้าห้องบอกครับผมก็ยืนขึ้นยกมือไหว้ ไม่รู้จริงๆต้องทำตัวยังไงให้ตายเถอะ กูเริ่มเครียดแล้วโว้ย
   “อ้อ เธอสินะที่ว่าจะย้ายมาจากกรุงเทพฯ หน่วยก้านใช้ได้นี่” ท่าทางที่พูดทำไมต้องแสยะปากด้วยเนี่ยไม่เข้าใจ “แต่ดูสำอางไปนะ จะอยู่ได้เหรอบ้านนอกคอกนาน่ะ” เธอยังคงมองผมจากหัวจรดเท้าครับ เฮ้อนะเอออยากมองก็มอง
   “ว้ายใส่น้ำหอมมาด้วยเหรอ อะไรเธอที่นี่ไม่ใช่ในกรุงเทพฯนะจะใส่น้ำหอมมาเรียนไมได้ ฉันเหม็นจะเป็นลม” เอ่อ เธอทำท่าเหมือนมาดมสูดกลิ่นหาอะไรรอบๆตัวผมครับ เวอร์ไปไหมป้า ผมน่ะไม่ได้ใส่น้ำหอมอะไรมาเลยนะแค่อาบน้ำเท่านั้น ครีมก็ไม่เคยทาเพราะมันเหนียว ขี้เกียจด้วย เอ๊ะแต่ได้กลิ่นโคโลญจ์มาจากเธอนั่นล่ะนะผมว่า
   “ผมไม่เคยใส่ครับ” ผมพูดออกไปก้มหน้า เคยโดนสอนมาว่าเวลาค้านผู้ใหญ่อย่าไปจ้องหน้าเขาจะหาว่าเราก้าวร้าว ก็นิดนึงล่ะครับ

ยังมะจบตอนนะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 22-03-2012 12:46:59
   “แล้วกลิ่นนี่มันอะไร อย่ามาโกหกครูนะ ได้กลิ่นไหมล่ะภานุพงศ์” อ้าวป้าคนนี้ก็คนมันตัวหอมอ่ะจะอะไรหนักหนาวะเนี่ย ไอ้ดำมันก็นะสั่งได้ทำจมูกสูดรอบๆเอวผมทันที
   “หอมดีครับ” เอากับมันครับ ไอ้ห่านี่
   “คงเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำมั้งครับ ผมไม่เคยใช้น้ำหอมจริงๆ” ผมพูดออกไปทำสายตาบอกเธอไปว่ากูไม่ไหวแล้วนะตัวเธอ อย่านะๆ อย่ามากไปกว่านี้นะไม่งั้นเดินออกจากห้องจริงๆด้วยนะ ไม่ไหวแล้วนะโว้ย
   “อ้อ จริงเหรอ ยี่ห้ออะไรของครูใช้แพร็อทเธอรู้จักไหม” เธอทำหน้าเชิดขึ้นผมคิดไม่ออกครับ คงจะแพงน่าดูสิท่ากลิ่นคงหอมเหมือนส้มเช้งเน่าแบบที่ติดกลิ่นตัวเธอมาล่ะสิ เฮอะ
   “ปกติผมใช้ของบอดี้ช็อปส์ครับ แต่เมื่อเช้าผมแอบใช้บลูการีของพ่อ อ้อ คงจะเพราะแบบนี้นี่เอง งั้นผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ เผื่อกลิ่นมันจะหาย” ผมพูดออกไป เออเนอะเมื่อเช้าง่วงจัดนี่นาเลยหยิบของพ่อมาใช้ถึงว่ากลิ่นทะแม่งๆ
   “อ่า บลูการี คุ้นๆนะตั๊กลีลาที่โฆษณาหรือเปล่า” หือ เขาเคยโฆษณาโทรทัศน์หรือยูบีซีด้วยเหรอ แล้วตั๊กลีลานี่ใช่คนที่เล่นตลกน่ะเหรอ โว้ย บ้าไปแล้วอะไรอ่ะป้า ไม่ไหวๆ ผมขอตัวก่อนล่ะไม่ไหวจะเคลียร์ ผมยกมือขึ้นไหว้แล้ววิ่งออกมาจากห้องทันที ไม่ไหวจริงๆ พ่อนะพ่อ โรงเรียนอะไรเนี่ย โอ๊ย คิดถึงเพื่อน คิดถึงโจ้ คิดถึงห้องเรียนที่มีแอร์ แล้วที่นี่อะไร? อะไร? โว้ยยย พ่อ โมโหจังเลย ผมวิ่งลงตึกไปล่ะครับอยากไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บริเวณนี้ ตอนวิ่งลงมาคนก็มองนะ ไม่สนใจช่างแม่งอยากมองก็มองไป ผมวิ่งไปทางด้านหลังอาคารซึ่งมีเหมือนโรงยิมหอประชุมอะไรสักอย่างไม่สนใจจะมองไม่สนใจจะดู ผมอยากไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีคนอยากจะกดโทรศัพท์ไปหาแฟน
   “ฮัลโลๆๆๆ” โว้ย ไม่มีสัญญาณ ที่ไหนเนี่ย ที่ไหน ที่นี่คือที่ไหนในโลกนี้ อยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งจังเลย แต่เอ๊ะ ทำไมมันไม่มีไฟอะไรขึ้นเลยหว่า โว๊ะ แบตฯหมดล่ะตัวเอง แหะๆ เขินจัง ผมเดินเขินคนเดียวไปเข้าห้องน้ำ
   “แหวะห้องน้ำหรือห้องไรวะเนี่ยเหม็นเป็นบ้า” ผมบ่นอยู่หน้าอ่างล้างหน้าที่เหมือนไม่เคยมีคนทำความสะอาดมาก่อนเลย เสียงเด็กนักเรียนคุยกันในห้องน้ำเบาๆ
   “อ้อ แอบดูดบุหรี่นี่เอง บ้านนอกเอ้ย” ผมแสยะปากแต่ก็ไม่สนใจค่อยๆเปิดน้ำดูสีของน้ำก่อนว่าปลอดภัยไหม อ้อ ใช้ได้ไม่ขุ่นแฮะค่อยเอามือจ่อไปที่อ่าง อ้าวปวดฉี่ ห้องน้ำดันเต็มอีก
   “นี่นายๆ ถ้าจะดูดแค่บุหรี่น่ะเราขอฉี่ก่อนได้ป่ะ ปวดฉี่” ผมทนไม่ไหวครับยืนปิดรอไอ้คนที่อยู่ในห้องน้ำ คือมันมีประมาณ ๕ ห้องล่ะครับแต่เต็มล็อคทุกห้องผมยืนกระดิกเท้ารออยู่นานจนทนไม่ไหวเคาะสิครับจะรอให้มันราดเหรอ ตอนแรกว่าจะไปยืนถี่ที่โถฉี่แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะฉี่ไม่ออกหรอกครับสกปรกมากๆ แหวะๆเหมือนน้ำส่งน้ำล้างมันไม่ไหลประมาณนั้นกลิ่นนี่แบบว่าหงายหลังแปดร้อยรอบได้
   “เชี่ยไผวะ มึงอยู่ ม.หยัง” เสียงตวาดดังออกมา ขอโทษคิดว่ากูจะกลัวรึไง รู้จัก อุ่น อุรดิศน้อยไปซะแล้ว
   “เดี๋ยวบอก ฉี่ก่อนได้ป่าว นายนะนะ” แหะๆ ผมไม่ใช่นักเลงนี่นาปวดฉี่ด้วยล่ะ
   “มึงฮู้จักชื่อกูได้จั่งได๋วะ” ผ่างประตูเปิดออก โว๊ะ ไอ้นี่ตัวสูงใช้ได้น่าจะประมาณโจ้เลยนะหน้าตานี่เถื่อนดิบน่ากลัวมากผิวดำจนแดง
   “เฮ้ย มึงมาจากโรงเรียนหยังวะ” มันทำท่าตื่นเต้นครับ ขอโทษอีกทีกูไม่มีเวลา ผมรีบจับแขนมันแล้วเหวี่ยงไปอีกทางครับก็จะราดอยู่แล้ว
   “เข้ามาทำไม” ไอ้เชี่ยนี่มันตามผมเข้ามาสิครับผมร้องลั่นเลยงัดออกมาแล้ว ฉี่แล้วด้วยอั้นไม่อยู่แล้ว
   “ก็กูถาม ทำไมมึงไม่ตอบ” ปากมันยังคาบบุหรี่อยู่เลยนะครับมันตบหลังผมแรงๆ แสรดรู้ไหมเนี่ยว่ากูฉี่อยู่นะเว้ยเดี๋ยวหันไปฉี่ใส่แม่งเลยนี่
   “ฉี่ก่อนได้ป่ะ” ผมตอบเสียงเบาๆมันเหมือนจะหยุดฉี่ไปเลยอ่ะ โหยไอ้นี่เดี๋ยวเถอะมึง
   “อ้อเด็กเทพฯนี่เอง แสดงว่ากูต้องพูดภาษากลางกะมึงดิ มึงเว้าอีสานไม่เป็นเหรอหรือว่ามึงกระแดะ สัด” อ้าวด่าตัวเองทำไมวะเนี่ยเอ้อนะแปลกคนไอ้นี่
   “ว่าไง มีไรจะถาม เออเรามาจากกรุงเทพฯ นายจะพูดอีสานก็ได้นะเราพอฟังรู้เรื่อง ไม่ได้กระแดะแต่พูดไม่เป็น ถอยจะล้างมือ” ผมทำหน้าเซ็งๆแล้วดันตัวมันออกไปจากทางครับ
   “ป๊าด กล้าเนาะมึง ปึ๊ก” “โอ๊ย” เอ่อ มันผลักหลังผมครับท่าน ผมนี่เซไปข้างหน้าทันทีดีนะมีอ่างผมเลยเอามือยันไว้ทัน โหยๆหน้ากูกระแทกพื้นมามึงตายแน่ไอ้หน้าเอี้ย
   “ทำไร” ผมหันกลับมาทำตาใหญ่ใส่มัน”
   “ผลักมึงดิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร” อ้าวควายแล้วตัวเองยังไม่รู้จักว่าตัวเองเป็นใครแล้วใครจะไปรู้กับมึงไอ้เวรเอ้ยผมเริ่มโมโหล่ะครับ
   “เออไม่รู้ แล้วมาผลักทำไม ใหญ่เหรอ” อันนี้คิดครับ อิอิ
   “ก็ไม่ได้ว่าไร” แหะๆ อันนี้พูดจริง ก็แหมนะพอไอ้นี่มันโวยวายเพื่อนๆมันที่สิงอยู่ในห้องน้ำก็โผล่ออกมา เอ่อ ขอบอกว่านี่มันโจรหรือว่านักเรียนวะเนี่ย ผมก็ยาวผิดกฎแน่ๆเท่าที่มองดู หน้าตานี่เหมือนพวกในข่าวหน้าหนึ่งที่ฆ่าข่มขืน เฮ้ย
   “ท่าทางแน่นี่มึงน่ะ ไหนมึงมาจากไหน” มันเดินตรงเข้ามาหาผมครับหน้าตาเอาเรื่องมากๆ
   “มาจาก เอ่อ อ้าวสวัสดีครับ ผอ.” ใครบอกผมเรียนไม่เก่ง เออ จริงครับผมน่ะเรียนไม่เก่งหรอกนะแต่เรื่องแบบนี้ผมล่ะคิดว่าผมเก่ง อิอิ วิ่งสิครับท่านจะรอให้พวกมันกระทืบเหรอ
   “เฮ้ย เชี่ย ตามมันมากระทืบ” โว้ดูมันขู่ร้องตามมาครับ ผมตัวเล็กผมเลยวิ่งเร็ว วิ่งแบบว่าไม่หันหลังกลับ วิ่งไปไหนต่อไหน ที่ไหนวะเนี่ย โว้ย วันนี้กูจะเจออะไรบ้างวะนี่มันวันอะไรก็ไม่รู้ซวยเป็นบ้าเลย
   “แฮ่กๆ” ผมไปทรุดตัวลงจับเข่าตัวเองอยู่ข้างๆสนามบาสฯครับ นี่มันโรงยิมหรือช็อปช่างอะไรสักอย่างผมไม่แน่ใจ
   “หนีไผมาน้อง” เอ่อ ให้กูหายใจก่อนได้ป่ะค่อยถาม อะไรวะทำไมมาวุ่นวายวอแวกับกูจังเลยไอ้คนพวกนี้ โว้ยหันไปด่ามันเลยดีไหมเนี่ย
   “อ่า แฮ่ก อ่า” อึ้งสิครับ พระเจ้า หล่อมากหล่อกระซวกหล่อโฮก จะโฮกไปไหนครับท่าน
   “อ้าว บ่อแม่นเด็กโรงเรียนเฮานี่” เขาทำท่าทางตกใจ
   “แม่นๆ แฮ่กๆ แม่นๆ ผมเป็น ผมเป็น” ผมหอบนะมากด้วยแต่อยากพูดอ่ะ อยากคุยกับเขา อยากรู้จัก แรดไปไหมเนี่ยกู แต่ไม่รู้ล่ะไวก็ได้ช้าก็อาจจะได้แต่เมื่อไหร่ล่ะ โว๊ะกู
   “อ้าวคนกรุงเทพฯนี่ พักก่อนน้องค่อยพูด พี่รอได้” พี่ด้วยอ่ะ โอ๊ยเขินแสดงว่าหน้าผมอ่อนกว่าวัยแน่ๆ โอ๊ยพี่อ่ะจะหล่อไปไหน น่ารักอีกต่างหาก
   “อ่า ครับพี่ ผมชื่อ อุ่นครับ เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ มาวันนี้” พอเริ่มหายใจได้ผมก็ใส่เป็นชุดไม่ได้ๆ โอกาสมีไม่มากต้องรีบๆ
   “อ้อครับ ไม่ยักรู้” เขายิ้ม ให้ตายเถอะยิ่งยิ้มยิ่งปวดใจ โอ๊ยนะพี่จ๋าไม่ไหวแล้วน้า
   “พี่ไม่มีชื่อเหรอ” อิอิ ผมอยากรู้อ่ะ
   “อ้อครับ พี่ชื่อขอมครับ เป็นประธานนักเรียน” อ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆกลืนน้ำลาย คุณคือผู้ชนะ ไม่ต้องจีบใครแล้วล่ะกู เอาคนนี้ล่ะ โว๊ะ แล้วโจ้ล่ะ ไม่ๆ โจ้คือตัวจริงส่วนพี่เขา ชื่อไรนะ ขอมเป็นอ่า อะไรดีเป็นคนรู้ใจอะไรประมาณนั้น อิอิ
   “อ้อ ครับ” ผมตอบออกไปยิ้มให้เขา
   “ไม่เรียนเหรอเรา หรือว่าหาห้องไม่เจอ”
   “เรียนพี่ ผมเอ่อผมจำไม่ได้อ่ะ พี่พาไปหน่อย” อิอิ นิดนึงน่าเนอะ ขอหน่อยเถอะนานไม่ได้บริหารเสน่ห์มานานมากแล้วตั้งแต่คบกับโจ้
   “พี่ไม่ว่างอ่ะดิ พี่กำลังจะเข้าประชุม” ถอนหายใจบริหารเสนห์ของผมได้ผลสรปุว่าล้มเหลวครับท่าน ฮึ กูไม่น่ามองตรงไหนวะเนี่ย
   “อ๊ะๆ เดี๋ยวพาไปก็ได้ อยู่ทับไหน” อิอิ ไม่จริงครับแสดงว่ายังมีอะไรในตัวอยู่ ยิ้มหน่อยๆ
   “ทับทรวง” อิอิ อยากตอบแบบนี้แต่ดูไม่ดีเท่าไหร่ ดูแก่แดดไปเดี๋ยวพี่เขาจะมองผมไม่ดีไม่เอาหรอก
   “อ่า นั่นดิผมลืมเลยอ่ะพี่ อ่าทำไงๆ”
   “ฮ่าๆ ไหวไหมเนี่ย” พระเจ้าเขาหัวเราะยิ่งหล่อ โว๊ยพี่ผมคิดว่าผมชอบพี่อ่ะ อยากบอกจังเลย เคยเจอไหม รักแรกพบ โว๊ะ เร็วไปไหมกู
   “ทำไมอ่ะ ผมจำไม่ได้จริงๆนะครับพี่ ผมวิ่งลงมา ห้องมันอยู่ตรงมุม ชั้นไหนหว่า” ผมทำท่าคิด ไม่ได้ทำท่าหรอกจำไม่ได้จริงๆก็ใครจะไปจำได้เนอะเวลาเดินขึ้นก็ก้มหน้านี่นา ผมก็ยืนมองหน้าเขาพยายามส่งสายตาขอความเห็นใจออกไปมากที่สุดล่ะครับ
   “เดี๋ยวพี่พาไป ป่ะแต่ต้องรีบหน่อยนะเขาจะเข้าห้องประชุมอยู่แล้ว” สำเร็จ ผมยิ้มออกมาอยากจะกระโดดกอดพี่เขามากเลยนะ พี่ขอม เออคนอะไรวะชื่อขอมประหลาดแต่ขอบอกว่าเท่มากพี่ขอมต่อไปเถอะอย่าหยุดเท่เลยขอร้องผมมีความสุขแล้ว พี่ขอมเดินนำผมไปครับผ่านโรงยิมไปแล้วก็เป็นอาคารเรียน เฮ้ย ไอ้พวกนั้นมันยืนจ้องผมตาเขียวอยู่ตรงใต้ตึกเรียนครับ
   “เป็นหยังบ่อไปเรียน มาเฮ็ดหยังอยู่แถวนี้” พี่ขอมตวาดออกไปครับ พวกนั้นหน้าซีดกันทุกคนยกเว้นไอ้คนที่มีเรื่องกับผม
“อย่าเสือก บ่อแม่นเรื่องของอ้าย” เอ่อไอ้นั่นมันพูดออกมาครับ พี่ขอมทำท่าขึงขังใส่แต่ไอ้นั่นมันกลัวที่ไหนล่ะมันจับแขนเสื้อมันขึ้นแล้ว
   “อย่าไปยุ่งกับพวกนี้นะ นักเลง ดีแต่เรียนเก่งแต่นิสัยไม่ดีอย่าไปยุ่งนะ” พี่เขาหันมาบอกผมครับ ครับผมเชื่อพี่เลยเชื่อทั้งใจ
   “มึงน่ะกูมีเรื่องจะคุยนะ” มันเรียกใครไม่สนใจเดินตามหลังพี่เขาไปครับ
   “เฮ้ย มึงน่ะอยากโดนเตะใช่ไหมวะ” ยังอีกยังแหกปากตะโกนอยู่ได้ดีแต่แหกปากหรือไงนะ
   “มีหยังกัน อย่ามาวอแวกับนักเรียนใหม่นะเดี๋ยว” พี่ขอมหันมาทำตาดุใส่มันครับ เท่จังพี่ เท่มากๆ
   “อ้อนี่มึงเป็นนักเรียนใหม่เหรอ วอนโดนตีนซะแล้วนะมึงไอ้หน้าจืด” ว่าพี่เขาอีกแล้วไอ้นี่เขาเป็นประธานนักเรียนนะเว้ยมึง มึงนั่นล่ะวอนหนอยแน่ เดี๋ยวกูเตะก้านคอเลยนี่
   “ไม่มีอะไรกันนะพี่ ผมไม่รู้จักเขา” ผมตอบออกไปแล้วเดินตามหลังพี่เขาไปล่ะครับ พอเดินไปหน่อยผมก็เอามือขวาปล่อยลงข้างตัวแล้วเอามาทำท่าจับก้นแต่ก็งอนิ้วทั้งสี่ขึ้นกำให้เหลือนิ้วเดียวชูลงข้างล่าง
   “สัด ไอ้เชี่ยนี่มึงด่ากูเหรอ” มันวิ่งตามทันทีครับ
   “หยุดนะบักเดี๋ยว มึงเป็นอีหยัง มายุ่งกับเขาทำไม ว่างมากไม่มีเรียนบ่อเดี๋ยวจะให้ไปล้างห้องน้ำ มึงสิเอาจั่งได๋” พี่ขอมเขาหันมาขู่มันครับผมทำท่ากลัว โหยนะกลัวตายล่ะ แต่ก็นะ อิอิ ไปแอบอยู่หลังพี่เขาดีกว่าก็ไอ้บ้านี่มันตัวยังกะยักษ์ไม่ไหวหรอกครับผม เราต้องใช้สมองที่มีให้เป็นประโยชน์ เออๆ ถึงจะเรียนไม่เก่งก็ตามทีเถอะ ใครจะทำไมไม่ทราบ
   “เราขึ้นไปเองได้ไหมครับ พี่จะจัดการกับไอ้นี่ก่อน เดินขึ้นไปบนตึกชั้นสามนะห้องมุมสุด” อ้าว โว้ยเพราะมึงคนเดียวโมโห ไอ้บ้านี่มาขัดขวางกำลังว่าจะขอเบอร์อยู่เชียว โว้ย เออๆ ไปก็ได้วะ ผมทำหน้าหงิกแล้วเดินขึ้นตึกไปล่ะครับ เออจะว่าไปโรงเรียนนี้มันก็เด็กนักเรียนเยอะเหมือนกันนะ พวกมันไม่เรียนกันหรือไงนะเดินกันยั้วเยี๊ยะไปหมด เริ่มเวียนหัวล่ะก็จะอะไรล่ะครับ ก็ตอนเดินขึ้นมันเล่นแซวผมซะนี่สิ เออๆก็แปลกตาแต่แหมนะเกรงใจกูหน่อยเถ๊อะไม่กลัวกูจะเขินจะอายบ้างหรือไงนะ
   “ขออนุญาตครับ” ผมเปล่งเสียงออกไปก่อนเข้าห้อง ก็เจ๊คนเมื่อกี๊ยังยืนเหมือนจะเด่นอยู่หน้าห้องเลยนี่ครับ
   “ไปนานจังนะคะ แหมไปเข้าห้องน้ำที่ไหนเนี่ย แอบไปบิ๊กซีมารึเปล่า” หือมีห้างด้วยเหรอ แว้กก ดีมากดีเลยเลิกเรียนกูจะได้ไปเดินหาไรกิน แหมไม่คิดเลยนะว่าที่นี่จะมีห้างบิ๊กซีก็ตามทีเถอะวะอย่างน้อยก็ยังดี
   “เพื่อนเขาเรียนไปไกลแล้วนะ ภานุพงศ์บอกเพื่อนซิว่าเราเรียนกันถึงไหน” พอผมไม่สนใจเธอเดินเลยมาที่โต๊ะเจ๊แกก็บอกไอ้ดำนี่ล่ะครับ
   “เรียนถึงเวกเตอร์หน้า ๔๖” หือคืออะไรนี่มันวิชาอะไรกันวะต้องเรียนด้วยเหรออะไรเวกเตอร์ เอ๊ะหรือว่าจะเป็นภาษาใหม่เหรอ ผมหันไปมองหน้ามันงงๆ
   “ฟิสิกส์” อื้ม อ้อ เฮ้ย แว้กก อะไรอ่ะ ทำไมบ้านนอกขนาดนี้ต้องเรียนฟิสิกส์ด้วยจะเรียนไปทำไมกัน โอ๊ย อุตส่าห์หนีมาแล้วนะ ทำไมกันวะใครนะคิดหลักสูตรเกลียดๆๆๆๆ
   “นายบ่อได้เอาหนังสือมาติ๊” มันถามครับ ผมรีบพยักหน้าทันทีอย่างรวดเร็ว
   “อ่ะดูกับเฮา” จะมาใจดีอะไรตอนนี้กูไม่มีหนังสือก็ไม่ต้องให้เรียนสิวะ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากดูเวียนหัวขึ้นมาทันที
   “ไหนลองความรู้จากเด็กในเมืองหน่อยซิ ครูเคยไปกรุงเทพฯเขามีติวฟิสิกส์กันด้วยนะคะ เธอน่ะเคยไปติวหรือเปล่า” ใครวะนักเรียนใหม่ ใคร๊ ไม่มี๊ ตายล่ะสิทำไมต้องมองมาที่กูคนเดียวแบบนั้นวะ
   “เอ่อ คือผมไม่ถนัดวิชานี้ครับ ถ้าเป็นเคมีก็ว่าไปอย่าง” เอาวะแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ไม่มีทางไอ้แอ้มหรอกนะเจ๊คนอย่างอุรดิศไม่มีทางหลงกลหรอก วะฮ่าๆๆ
   “อุ๊ยเก่งเคมีด้วย พอดีเลยอาจารย์บุญมีกำลังหาเด็กไปแข่งทักษะเดี๋ยวครูฝากให้นะ” หือ อะไรนะ พูดอะไรอ่ะเจ๊ไม่ค่อยได้ยินเลย แว้กก ตายๆเหงื่อตกเลย ทำไงดีๆ
   “คาบต่อไปนี่ล่ะเคมีน่ะ” ไอ้ดำมันตอกย้ำครับ หา มึงว่าไงนะ แงๆ แม่จ๋าไม่เอาเค้าไม่อยากเรียน เค้าอยากกลับบ้าน โอ๊ยเป็นลมดีไหมเนี่ย ไม่ดีนะไม่ดี
“นายไหวบ่อหน้าซีดจัง” ไอ้ดำมันถามครับ ไม่ไหวกูไม่ไหว
“เมื่อไหร่จะกินข้าวเหรอ” ผมถามมันครับมันยิ้มทันที อุ๊ย แอบหล่อนะมึง เสียดายดำไปหน่อย
“เบิ่งหยัง มีหยังติดแข้วเฮาเหรอ”
“เปล่า ทำไมคุยกะนายไม่มองหน้าให้มองจู๋เหรอ”
“เฮ้ยบ่อดีๆ ของเฮาขึ้นง่ายอย่ามองมันสิขึ้น” หือแปลว่าไงวะเนี่ยมองสิครับ อิอิมองทันทีทันใด
“นั่นบ่อเอาๆ”
“นี่เธอสองคนน่ะคุยอะไรกัน เดี๋ยวค่อยสานสัมพันธ์ได้ไหมคะครูสอนอยู่นะ มารยาทน่ะสะกดเป็นไหม” เจ๊หน้าห้องแกแว้ดเสียงขึ้นครับ สะกดเป็นสิเธอง่ายจะตาย มา ระ ยาด จบป่ะ อิอิ ผมแอบยิ้มในใจหนอยกะอีแค่ภาษาไทยคำบ้านๆใครสะกดไม่ถูกก็โง่เต็มที
“นายสะกดถูกป่ะ” ผมแอบกระซิบถามมันครับ
“เป็นสิง่ายจะตาย” มันยักคิ้วใส่ผม
“ไหนเขียนซิ” ผมแอบแกล้งถามมันมันก็เขียนคำว่า “มารยาท” หือ ฮ่าๆ ไอ้บ้าสอบที่ไหนก็ตกเว้ยตลกล่ะนี่ล่ะนะเล่นเอ็มเยอะเลยโง่
“บ้าเหรอ เขาเขียนแบบนี้ นายอย่าไปเขียนให้ใครดูนะอายเขา ไปสอบก็ตกนะเนี่ย” ผมพูดอย่างมั่นใจแล้วก็เขียนคำว่า มาระยาดตัวใหญ่ๆเหนือตัวหนังสือที่มันเขียนเผื่อมันจะคัดลายมือลอกผมไง อิอิ
“เฮ้ยบ้าแล้ว บ่อแม่นๆ”
“แม่น จั่งซี้ล่ะนาย” ผมล้อเลียนมันครับทำหน้าแบบมั่นใจมากๆใส่มัน มันก็ทำหน้าเหวอเหมือนคนสูญเสียความมั่นใจไป
“บ่อแม่นต้องเขียนจั่งซี้”
“แม่น นายนั่นล่ะบ่อแม่น” ผมก็ไม่ยอมสิเออนะยังจะมาเถียงรู้ไหมค่าเทอมกูเท่าไหร่ที่กรุงเทพฯน่ะ อย่านะมึงอย่าๆขอร้องอย่าแสดงความเขลาออกมาให้กูเห็นขำว่ะ
“บ่อแม่นทั้งสองคน ออกไปยืนหน้าห้อง อุษนีเอาไม้บรรทัดให้สองคนนี้คาบด้วย ยืนขาเดียว ตอนนี้ จะแม่นก็ไปแม่นข้างนอก” หือ เจ๊แกเดินมาตรงโต๊ะของเราครับ หมายถึงมันหรือผมหรือว่าเราสองคนวะเนี่ยเสียงเพื่อนๆในห้องหัวเราะกันเกรียวกราวชอบใจ เอ่อ นับเป็นประสบการณ์ใหม่ผมไม่ผิด อะไรอ่ะเจ๊ก็แค่มันเขียนไม่ถูกแล้วผมสอนมันอะไรอ่า
“เห็นบ่อย้อนเจ้าผู้เดียวมาเถียงเฮา” ไอ้ดำมันบ่นครับ
“อะไร ก็นายเขียนไม่ถูกอ่ะเราก็บอกที่มันถูกผิดตรงไหนไม่ยุติธรรมนะ” ผมก็ไม่ยอมสิครับอะไรกันแต่ก็นะสรุปก็คือสรุปผมกับมันก็ไปยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัด เอ่อ คือว่าห้องมุมก็จริงนะแต่มันตรงระเบียงนี่ คนเดินก็อย่างที่บอกว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้มันไม่ได้น้อยเลยนะและตึกนี้ก็มีแต่ ม.ปลาย แว้กก
“สมน้ำหน้า” เสียงคนพูดขึ้นข้างๆครับ ผมหันไปปรายตามองไม่ได้สนใจมาก อ่าไอ้ยักษ์เมื่อกี๊มันมายืนกอดอกดูเรา
“ฮึ” ผมสะบัดหน้ากลับไม่สนใจมัน แต่มันเดินเข้ามาใกล้ เอ๊ะหรือว่ามันเป็นเพื่อนสนิทกับไอ้ดำนี่วะ โว้ย อย่ามาใกล้กูมากกูเหม็น
“เป็นไงล่ะ มาวันแรกก็โดนทำโทษ แน่เหมือนกันนี่มึงน่ะ ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะครับ อ้าวมาจี้เอวผมอีก แสรดด นี่แน่ะ ดีดเท้าออกไปเลยสิครับเข้าหน้าขามัน
“โอ๊ย ถีบกูเหรอมึง” มันกระโจนเข้ามาหาผมครับ ผมก็เอาขาลงสิจะยืนขาเดียวเพื่อ พอเอาลงเสร็จก็กระโดดหนี
“จารย์บักเดี๋ยวมันมากวน” ไอ้ดำมันร้องขึ้นครับ
“อะไร มากวนอะไรไปให้พ้นนะไอ้เดี๋ยว ไม่งั้นมึงเจอดีแน่” โอ้พระเจ้าเสียงนั้นเหมือนกับเสียงนางพญาเสือดาวดังคำรามออกมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เอ่อ พอตัวมายืนท้าวสะเอวอยู่นั้นมันช่างแตกต่างกับเสียงที่เปล่งออกมาเสียเหลือเกินไอ้ยักษ์นี่ท่าทางจะกลัวอาจารย์อยู่ไม่น้อยครับมันกัดฟันแล้วชี้หน้าผม ชี้เลยเอาสิยังไงหน้ากูก็ไม่ติดไปกะนิ้วมึงหรอกนะเว้ย ฮ่าๆ สมน้ำหน้ากูเหรอเป็นไงล่ะ มันยอมเดินหนีไปแล้ว ส่วนผมก็ยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดต่อไป ไม่อยากจะเชื่อว่าการทำโทษบ้านนอกจริงๆ อายคนก็อาย โว้ยย อะไรวะไม่เข้าใจไม่เข้าใจ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. เอาไปอ่านแค่นี้ก่อนนิ เดี๋ยวมาต่อให้คร้าบ เรื่องนี้เขียนเป็นสองบุคลิกครับ แห่ๆ ยังไงฝากด้วยนะคร้าบบบ

ขอบคุณคร้าบ......เช่นเคย แนะนำ ติชมได้เลยครับผม ขอบคุณทุกคำติชมครับ
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: popup2u ที่ 22-03-2012 12:49:05
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

คนแรกอิอิ
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 22-03-2012 13:31:16
 :mc4:

อุ่น ชีวิตในโรงเรียนใหม่วันแรกของนายดูสนุกจริงๆ!!
 
:L2: :L2:
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 22-03-2012 14:15:59
รับเรื่องใหม่ :mc4:
ขยันจริงๆ น้องเรา o13
+1
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-03-2012 14:59:01
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-03-2012 15:32:12
ชีวิตน้องอุ่นที่โรงเรียนใหม่น่าสนุกเนอะ
วันแรกก็เจอคู่ปรับซะแล้ว
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 22-03-2012 15:40:00
สนุกมากๆๆเลยน้องอิ๊กกี้ เอาใจช่วยน้องอุ่น
แล้วน้องอุ่นจะมีแฟนเป็นประธานนักเรียนไหมอะ :o8: :L1:
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-03-2012 15:43:08
 :mc4:

เข้ามารอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-03-2012 16:08:50
 :pig2:เรื่องใหม่น้องอิ๊ก
เปิดตัวมานี่"ผู้ชาย"ที่น่าสนใจ มีหลายคนจังเด้อน้องอุ่น
สถานที่เกิดเหตุในเรื่องนี้ดูคุ้นๆนะคะน้องอิ๊ก อิ อิ อิ
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 22-03-2012 16:11:22
ฮามากกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบมากๆเลยค่ะ แต่หมั่นไส้อุ่นอ่ะชอบเขาไปทั่ว  ขอให้นกทุกคน กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 22-03-2012 18:23:58
รอตอนต่อไปนะครับ คิดถึงพี่อิ๊ก ^_______^  :impress3:  :impress3:
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 22-03-2012 19:32:31
พี่อิ๊ฏ  กลับมาแล้ว หรอ?

คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงง

เจิมๆๆๆ เรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 22-03-2012 20:46:00
 :m20: ชอบอุ่นอ่ะ แต่ละความคิดอย่างฮา
แล้วใครจะเป็นพระเอกเนี่ย หลายคนเหลือเกิน เดาไม่ถูก
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 22-03-2012 22:26:33
แวะมาดูก่อนครับแต่ยังไม่ได้อ่านเต็มๆ  เด๋วว่างแล้วจะรีบมาติดตาม  สู้ๆนะคร้าบ o13
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 22-03-2012 22:49:20
คำเดียวน้าาา ชอบอ่ะ ฮึฮึ อุ่นน่าร๊ากกอ่ะ
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 23-03-2012 00:20:21
ตกลงนางเอกฉลาดมั้ยอ่า หรือแกล้งไม่ฉลาด
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 23-03-2012 10:07:29
ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 23-03-2012 14:33:42
เข้ามาเปิบเรื่องใหม่ :mc4: :mc4:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 23-03-2012 17:37:27
กร๊าก สนุกมากเลยคะ แอบไม่เข้าใจบ้างประโยคแต่อ่านร่วมๆเอาพอไหวคะ ตอนนี้ตัวเก็งมี3-4คนแน่ะ นายเอกเราจะเลือกคนไหนนะ ลุ้นๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: นิยาย** Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-03-2012 21:20:40
เข้ามาบอกว่า เรื่องนี้ไม่มีตัวเก็งนะครับ มีเป็นพระเอกไปเลย อิอิ

ตอนหน้าจะเป็นพรเอกเป็นคนเล่าน้า

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 23-03-2012 21:49:45
วันนี้จะมาต่อไหมน้าาา รออยู่อ่ะ แอบเข้ามาดูบ่อยมาก ชอบเรื่องนี้น่าร๊ากกกดี นายเอกนะ ฮึฮึ ส่วนพระเอกก็นะ ขอดูอีกหน่อย
แต่ถ้าจะเถื่อนดี มาต่อเถอะ อยากยิ้มไปกับเรื่องนี้ วันนี้ยิ้มไม่ค่อยออกเลย เครียดก่างานมาก วันนี้อะไรก็ผิดพลาดไปหมดเลยอ่ะ
ถ้าว่างก็มาต่อน้าถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ยังไงก็คอย ขอบคุณจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-03-2012 22:11:28
นายเอกแรดหลบในจริงๆค่ะ
มีชายหนุ่มออกมาหลายคน ไม่รู้คนไหนตัวจริง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-03-2012 22:23:46
รอพระเอกตอนหน้า 555 เดาพระเอกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 24-03-2012 09:25:36
You’re My Baby!!
โอ๊ยยยย โมโห หงุดหงิดโว้ยย แม่งเกิดมาไม่เคยมีใครหยามกูขนาดนี้มาก่อน จิ๊ คอยดูนะมึงเลิกเรียนกูจะไปดักหน้าโรงเรียนต่อยแม่งให้ฟันหลุดไปเลย สัตว์เอ้ย ก็จะใครล่ะครับไอ้นักเรียนใหม่กางเกงน้ำเงินหน้าขาวๆนั่นล่ะ เจอมันในห้องน้ำ หน้าตามันนิ่งๆนะแต่แม่งแอบกวนตีน ผมชื่อ เดี๋ยวครับ ไม่ใช่แป๊บเดี๋ยวหรือเดี๋ยวก่อน เดี๋ยวเฉยๆ ใครเรียกไม่ถูกมีอันต้องสังเวยด้วยตีนเพียวๆ โอเคมะ ผมเรียนเก่งครับมากถึงมากๆ แต่ไม่ชอบเข้าเรียน จะเรียนทำไมในเมื่อบางอย่างอาจารย์ยังถามผมเลย แม่งสอบเป็นครูได้ไงวะกะอีแค่โจทย์ง่ายๆเสือกมาถามผม เข้าห้องไปก็มีแต่เพื่อนๆขอลอก ถามเสียงนกเสียงกาบ้าง กูเบื่อบอกตามความจริง อาชีพผมมีนะเว้ยเฮ้ย แม่กูจ้างมาเรียนไง ฮ่าๆๆ เอาน่าๆ ผมไม่ใช่คนเลวอะไรขนาดนั้น เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน ไหนจะเป็นตัวแทนไปแข่งทักษะทางวิชาการทุกปี ทั้งที่ไม่อยากไปเลยนะแข่งทักษะวิชาการเพราะหน้าตามันไม่ให้ มีแต่พวกแว่นหนาๆ ชวนไปดูดหรี่ก็ไม่ไป งั่งเอ้ย ไปทีไรหงุดหงิดทุกที พูดจาก็นุ่มนิ่มรำคาญ สรุปง่ายๆผมเป็นนักเลงประจำโรงเรียนแต่ที่ไม่โดนทำโทษก็เพราะผมเก่ง โอเคมะ เก่งแบบว่าหาตัวจับยากครับไม่ได้คุยเว้ย กูเก่งจริง ข้อสอบยากๆกูตีแตกหมด ดูจากรางวัลในห้องไอ้หัวล้าน(ผอ) ก็ของกูทั้งนั้น ทั้งเลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไหนจะถ้วยฟุตบอลอีก ตั้งแต่ ม. ๑ แล้วเว้ยไม่ใช่เพิ่งจะเก่ง โรงเรียนนี้จึงติดหนี้บุญคุณผมอยู่มาก ประมาณนั้น ฮ่าๆๆ
“สัดเคนเอาบุหรี่มาอีกตัวดิ๊ แม่งหงุดหงิดว่ะ” ผมหันไปตวาดไอ้เคนเพื่อนซี้ครับ
“แม่งสิเรียนแล้วเด้ หว่างฮั่นกะเพิ่งไปมาอีหยังวะ เปลืองของกูเด้มึง” หนอยทำบ่นๆ ทีวิ่งข้ามห้องมาขอลอกการบ้านกูไม่คิดนะสัตว์ ผมตบหัวมันทันทีครับ อ้อ ลืมบอกนี่มันห้อง ทับ ๗ ผม ห้องทับ ๑ ห้องคิงส์นั่นเองครับแต่เด็กห้องผมอย่าให้พูดก็อย่างที่บอกแม่งแว่นหนาๆตาปรือๆเหมือนพวกเรียนหนักมีแต่สมองไม่มีพละกำลัง เหม็นครับเวลานั่งเรียนกูจะอ๊วก
“แม่งบ่น เอามานี่” ผมไม่เคยซื้อครับเรื่องอะไรจะซื้อไถแม่งพวกนี้ล่ะประหยัดดีเดี๋ยวแม่ผมแพ่นกบาลเอา แม่ผมเปิดร้านขายสลัดพะพาย่าอยู่ในตลาดครับขายดีมากๆ พ่อผมก็เป็นโชว์เฟอร์ในตอนเช้าก็ให้แม่ผมนั่นล่ะครับพาไปตลาด โอเคมะ ผมแย่งเอาบุหรี่มาจากไอ้เคนครับแล้วเดินหัวเสียลงไปห้องน้ำอีก พอเดินจะผ่านก็เห็นไอ้หน้าจืดนั่นยืนขาเดียวคาบไม้บรรทัดอยู่ ฮ่าๆ สม ว่าแล้วไปนั่งเยาะเย้ยมันหน่อย แม่งเมื่อกี๊ป้าวัณวิภาก็ด่าผมกระเจิงแล้ว
“บักเล็กเป็นหยังมึงมาคาบไม้บรรทัดวะ บ่อมีหยังกินติ๊” ผมถามไอ้เล็กครับแล้วก็ยักคิ้วขาไขว่ห้างกระดิกเท้าตามแบบของคนมีสไตล์
“ย้อนเพิ่นนี่ล่ะ” ไอ้เล็กมันพูดอู้อี้ครับฟังไม่รู้เรื่อง ส่วนไอ้หน้าจืด แม่งดูมันทำหน้าใส่ผม ลอยหน้าลอยตา เออลืมบอกผมเกิดและโตที่กรุงเทพฯล่ะครับเคยเรียนอยู่โรงเรียนตรงข้ามเมเจอร์เอกมัยจนเมื่อจบ ป.หก แม่ผมตกงานพ่อผมก็เบื่อเราเลยย้ายกลับมาบ้านยาย พ่อผมเป็นคนเพชรบุรีครับปกติเพื่อนๆผมมันจะพูดภาษากลางกับผมล่ะครับแต่ภาษาอีสานผมก็พอพูดได้บ้าง ลิ้นยังไม่แข็ง โอเคมะ
“เพิ่งมากวนตีนซะแล้วนะมึง เมื่อกี๊อีกกระทงนะ ในห้องน้ำอีกกระทง มึงโดนแน่เลิกเรียน” ผมขู่มันครับ ไม่สิไม่ได้ขู่ผมไม่เคยขู่ใครจะทำก็ทำเลย เรื่องต่อยตีผมก็ถนัดนะ มันเป็นวิถีของลูกผู้ชายอย่างผม ไปถามดูเลยตั้งแต่ ม.๑ ถึง ม. ๖ มีใครไม่รู้จัก ไอ้เดี๋ยว วิชพงศ์บ้าง เอาหัวเป็นประกันเลย ก็คนมันดังอ่ะนะช่วยไมได้ ดูมันครับผมยักคิ้วใส่ผมอีก
“บักเล็กเมื่อกี๊มึงปากหมาบอกเจ๊เตาแม่นบ่อ หรือมึงสิเอากะกู” ผมหันไปกัดฟันใส่ไอ้เล็กครับมันสั่นเลย พอได้ทีผมเลยเดินเข้าไปหาไอ้หน้าจืดอีกครั้งหมั่นไส้มาก ไม่ได้ตบหัวมันนี่ผมคงนอนไม่หลับ
“มึงยักคิ้วใส่กูเหรอ” ผมตบบ่ามันแรงๆทีหนึ่งแล้วเอาหน้าพยักไปใกล้ๆมันยักคิ้วคืน มันถอยไปชนผนังห้องครับ
“ไม่รู้จักกูอ่ะดิ มึงเตรียมตัวเลือดปากออกได้เลยไอ้หน้าจืด ลูบคมกูสองกระทง มึงตายแน่ๆ” ผมบีบบ่ามันแรงๆ แต่ทำไมมันไม่สั่นเหมือนไอ้เล็กวะเนี่ย หนอยแน่ไม่กลัวกูเหรอ เอ๊ะหรือว่าผมยังเสียงดุไม่พอ
“สัด” ผมขู่มันอีกครับ
“แปรงฟันป่ะเนี่ย ลืมหรือว่าไง ลืมน่ะก็อย่ามาพูดใกล้คนอื่น จะอ๊วก” ป๊าด มันว่าผมครับ สัตว์ไม่เคยมีใครว่าผมได้ขนาดนี้ผมจับบ่ามันผลักใส่กำแพงทันที
“ปากดีนะมึง เออกูลืม ฮ่า” นี่แน่เป่าใส่หน้ามันเลยสิครับมันก็ย่นหน้าเอามือปิดจมูกไว้ หนอยทำท่าดัดจริตเหลือเกินนะมึง
“ปากดี” ผมบีบคอมันครับ มันก็ดิ้นหมั่นไส้แม่งมันจริงๆนะ
“นายๆ” มันหน้าแดงแล้วครับตัวเท่าลูกหมายังมีหน้ามากล้าลองดีกับกูอีกเป็นไงล่ะ
“อะไร” ผมตวาดใส่มันครับ
“นายอ่ะลืมรูดซิบ เกงในเป็นคราบอ่ะ แหวะทุเรศ” เฮ้ย สัตว์ ผมรีบก้มหน้าดูทันที
“เชี่ย” พอก้มแค่นั้นล่ะครับมันผลักผมเซถอยหลังไปทันที มันสองคนก็วิ่งเข้าห้องไปแล้วครับ หนอยแน่ โว้ย ผมเสียรู้มันเหรอเนี่ย สามกระทง มึงตายๆ ไอ้หน้าจืด มึงตายแน่ กล้ามากๆ โอ๊ยผมหงุดหงิด โมโหเว้ย แม่งไปหาเด็กมาแกล้งเล่นดีกว่า ระบายอารมณ์รอ มึงจำไว้ เย็นนี้ล่ะมึงตายแน่กูจะไม่ให้มึงกล้ามาเรียนอีกเลย คอยดู รู้จักไอ้เดี๋ยวน้อยไปแล้วตั้งแต่มาเรียนที่นี่ไม่เคยมีใครไม่กลัวผมเลยนะ ผมนักเลงครับ นักเลงโตด้วยใครจะทำไม ผมติดนิสัยเกเร เอ้ยใครบอกเกเรแค่ผมแสดงความแมนผิดตรงไหนวะ ก็ผมไม่ชอบให้คนมาข่มเหงรังแกแต่ไปข่มเหงคนอื่นแทน ก๊ากก ใครจะว่าผมนิสัยไม่ดีก็ช่างแม่งก็กูเป็นแบบนี้นี่หว่า พ่อแม่ผมเอือมผมไหม ไม่เลยครับเพราะเวลากลับบ้านผมก็จะบังคับไอ้เพื่อนๆน้องๆนี่ล่ะไปช่วยแม่อุดหนุนส้มตำร้านแม่ผม บังคับให้มันล้างจานด้วยสำหรับใครที่อยากจะลอกการบ้าน เห็นไหมผมเป็นลูกที่ดี เกเรตรงไหน แต่เอาเถอะตอนนี้ผมโมโห ต้องหาที่ระบายออกซะหน่อยแล้ว
“เดี๋ยวๆอาจารย์พรตามหาน่ะ” พอผมเดินลงจากตึกก็เห็นรุ่นพี่เรียกครับ พี่ดาว หึหึ เมียเก่าผมเองล่ะครับไม่อยากจะคุย ก็คนมันหล่ออ่ะนะ ผมไม่ได้มั่วนะเว้ยก็ทำไงได้ก็เขามาเสนอตัวเองนี่นาผมก็แค่ปฏิเสธใครไม่เป็นแค่นั้นเอง อย่าให้ผมเผาเลยนะครับเพราะยังไงผู้หญิงก็เพศแม่ของผม มีตั้งแต่ ม.๑ถึง ม.๖ เลยนะที่มาเสนอตัวให้ผม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้หญิงเขาถึงชอบผู้ชายเลวๆ เอ้ยกูเลวตรงไหนวะเนี่ย เอาเป็นว่าผู้ชายประมาณผมล่ะกันครับ แต่ผมมีคติประจำใจคือจะไม่กินเด็กที่ต่ำกว่า ม. ๓ เป็นไงล่ะผมยังมีคุณธรรมในใจอยู่ล่ะกันไม่ใช่เลวแบบไม่มีแนวทางนะเว้ยเฮ้ย
“ตามไมสิไปขี้” ผมตอบไปครับแต่ยิ้มให้พี่ดาว พี่แกสวยนะเป็นดาวเลยล่ะแต่แกมาชอบผมมากได้กันไม่กี่ทีผมไม่ติดแกครับเพราะอะไร ไม่รู้ดิผมไม่ชอบผู้หญิงที่ภายนอกทำเป็นเรียบร้อยแต่เวลาอยู่กับผมสองต่อสองนี่นะ ไม่อยากจะเผาที่นี่เขาเรียก “จก” ครับคือแกจะล้วงผมเองตลอดเลยนะ ลีลาท่าทางนี่ โอ้โหผมไม่ต้องทำอะไรเลยครับท่าน เป็นไงบอกแล้วอย่าให้ผมเผา ผมยิ่งปากหมาอยู่ด้วย
“คงเรื่องจะไปแข่งวิชาการนั่นล่ะ ไปหาแกหน่อยสิที่ห้องภาษาอังกฤษ”
“ไม่ว่างบอกแล้วจะไปขี้” ผมเดินหนีไปครับพี่แกวิ่งตามมา
“เดี๋ยวสิเดี๋ยว เย็นนี้ไปหาได้ป่ะ” นั่นไงครับ ผมพูดอะไรผิดตรงไหน
“บ่อว่าง สิไปต่อยปากคน”
“จะไปมีเรื่องอีกแล้วเหรอ ดาวขอได้ไหมอย่าไปมีเรื่องกันเลย ดาวเป็นห่วง” ฮ่วย เมียเก่านะไม่ใช่แม่ อย่ามาขอไม่มีให้เว้ย ผมหันหน้ามามองแกแบบรำคาญเต็มทีครับ แสดงตัวเป็นข้าเจ้าของกูจังนะ
“สิไป” ผมตอบออกไปครับ
“ดาวไม่ให้ไปนะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวมาอีกนะ ดาวไปหาดีกว่านะ นะๆเดี๋ยว”
“เป็นเมียบ่อแม่นเหรอ บ่อแม่นแม่นะอย่ามาสั่ง เมียเก่าด้วย” ผมบอกแล้วผมเป็นคนพูดตรงๆไม่เก็บไว้ในใจครับ แกหน้าหงายไปเลย ผมเดินหนีไปแล้ว แม่งเอ้ย อารมณ์เสียว่ะมีเมียมาไม่รู้กี่คนไม่เคยถูกใจเลยสักคน กับคนที่คบอยู่ตอนนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ผมคิดว่าเธอดีที่สุดแล้วล่ะครับ ชื่อ เพ็ญ อยู่ห้อง ๕/๙ ครับ ลีลาเด็ดดวงมากขอบอกผมติดใจเธอแต่ก็ไม่มากนัก ท่าทางภายนอกเธอดูแรดๆภายในก็แรด กูชอบว่ะไม่ดัดจริตไม่เหมือนหลายคนที่แอ๊บเป็นเรียบร้อยแต่เอาเข้าจริงแรดกว่าเห็นๆ ผมเดินไปห้องน้ำที่เดิม อ้าวสัตว์เอ้ย มีแต่บุหรี่ไม่มีไฟแช็ก ฮ่วย อะไรของกูวะเนี่ย โว้ย โมโห เพราะไอ้เชี่ยนั่นคนเดียวเลย สี่กระทงจดไว้แล้ว มึงเจอจัดหนักแน่ๆ คอยดูเถอะ กูไม่เลี้ยงไว้แน่ หนอยเด็กใหม่ทำกูแสบได้ถึงสามสี่กระทง
“จารย์พงษ์ยืมไฟแช็กหน่อยเดะ” ผมเดินไปที่ช็อปอุตสาหกรรมครับ เห็นอาจารย์สมพงษ์กำลังสอนเด็ก ม.๓ อยู่
“มึงจะดูดบุหรี่เหรอ” แกตวาดมาครับ
“ไม่ครับ ผมจะเอาไปให้ลุงสมแกจะสุมอันหยังบ่อฮู้” ผมแถไปครับ ลุงสมภารโรงครับ สุมคือเผาอ่ะแปลให้
“อย่ามาโกหก มึงจะเอาไปสูบบุหรี่ล่ะสิ ไม่ให้เว้ย”
“ฮ่วย จารย์ บ่อได้ดูด นั่นไงลุงสมแกกวาดใบไม้อยู่ จะให้ยืมไม่ให้ยืมเนี่ย”
“เออๆ เอามาคืนด้วยนะมึง นี่มึงมายืมหรือมาขู่กูวะไอ้เดี๋ยว” เออนะ แหมก็ยืมดีๆพูดไปซะหลายตลบยื่นให้ก็จบ โอเคมะ พอได้ไฟแช็กมาผมก็แว้บเข้าห้องน้ำล่ะครับ อัดบุหรี่เข้าปอด อืมค่อยยังชั่ว ขี้เกียจเรียนจังเลยวะ ไปโรงอาหารดีกว่าอีกไม่นานก็จะพักเที่ยงแล้วนี่ แต่ไปหาจารย์พรก่อนดีกว่าเผื่อแกจะให้เงินกินหนม อิอิ
“มีหยังครับจารย์” ผมโผล่หน้าเข้าไปในห้องภาษาอังกฤษครับ เขากำลังเรียนกันอยู่นะรู้สึกจะเป็น ม. ๔ สนใจที่ไหนก็ตามผมเองนี่หว่า
“ตอนเที่ยงค่อยมาครูสอนอยู่” ฮ่วย อยากจะเรียกตอนไหนก็เรียกเหรอวะ
“ไม่ว่างครับ ผมต้องไปกินข้าว ไปหาจารย์เอมอรอีก” ผมพูดออกไปลอยหน้าลอยตาแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้อง เออลืมบอกห้องวิชาการที่นี่เขาจะให้นักเรียนถอดรองเท้าไว้นอกห้องนะครับ แต่ไอ้เดี๋ยวเป็นใครไม่เคยถอด หรือจะให้ถอดกับถุงเท้าที่ไม่เคยซักเลยน่ะ หรือจะดม?
“เออๆ จิ๊ แปบนะคะนักเรียน” เป็นไงครับ ผมบอกแล้วครูที่นี่เขาง้อผมจะตายก็ผมมันเรียนเก่งเทพๆ ตอบปัญหาแข่งทักษะเชี่ยไรไม่เคยได้หรอกนะที่สอง บอกแล้วไปดูโล่ประกาศเกียรติคุณในห้องไอ้หัวล้านไอ้เลยมีแต่ของผมทั้งนั้น
“ก็วันศุกร์นี้จะมีเข้าค่ายภาษอังกฤษที่มุกดาหาร เป็นค่ายของภาคอีสานทั้งหมดเลยนะสามวันกลับวันจันทร์”
“ไม่ไปครับ ไม่อยากไปค้างที่อื่น” ผมตอบไม่คิดเลย ไม่จำเป็นต้องคิดไม่อยากไปคือไม่อยากไป
“ทำไม ครูขอล่ะไปกับพี่ ม.๖ สามคน นะนะเดี๋ยวครูขอล่ะเป็นโอกาสที่ดีนะได้สร้างชื่อ”
“ผมดังพอแล้วครับ ไม่ไปคือไม่ไปแค่นี้เหรอจารย์” ผมเดินออกมาจากห้องทันที
“โว้ย เล่นตัวนักนะกูล่ะเบื่อ จิ๊” เสียงแกอวยพรไล่หลังมาครับ ไม่ต้องอวยพรกูขนาดนั้นเบื่อจะฟัง ก็คนมันไม่อยากไปนี่จะให้ทำยังไงวะ แม่งหาคนอื่นไปดิวะไม่อยากไปค้างที่อื่น เบื่อจะเจอหน้าเบื่อจะคุย เบื่อจะตอบเข้าใจไหม โอเคมะ
“น้าติ๋วเอาเตี๋ยวมาแดกหน่อย เอาพิเศษเด้อ” เป็นไงครับวิธีการสั่งก๋วยเตี๋ยวของผม น้าผมเองล่ะน้องสาวแม่ ตระกูลนี้ขายของกินกันทั้งตระกูลเลยมั้งเนี่ย กินพิเศษน่ะฟรีนะครับท่านอย่าได้หวังว่าจะได้เงินไอ้เดี๋ยว
“อีหยังเที่ยงแล้วติ๊บักเดี๋ยว” น้าผมดีกับผมเสมอครับ ผมพูดไม่เพราะหรือเกเรมีเรื่องแค่ไหนแกก็ไม่เคยว่าพูดเพราะกับผมมาก แปลกใจไหมไม่นะ ผมว่าน้าผมต้องมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวผม ฮ่าๆ
“บ่อเที่ยงแต่หิว เอาลูกชิ้นเยอะๆเด้อ”
“มาเข้ามาเฮ็ดเอง น้าจะเตรียมของขาย” แกบอกครับอ้าวนะ เออๆ ทำเองก็ทำเองวะผมเดินเข้าไปในร้านแกล่ะครับ ลูกชิ้นก็ไม่เยอะหรอกครึ่งถุง เส้นสองกำ ผักไม่กินเพราะมันไม่มีราคา พอทำเสร็จผมก็เดินมานั่งที่อย่างสบายอารมณ์
“ป๊าด บ่อเอาไปเหมิดห่อโลดล่ะบักเดี๋ยว โพดพะโลเนาะหลานเจ้าน่ะเจ๊งพอดี” น้าเต๋าครับผัวน้าติ๋วแกบ่นไปงั้นล่ะครับเพราะแกถือไก่ย่างมาให้ผมอีกจาน ฮ่าๆ ผมรู้ดีครับว่าน้าผมเขารักผม
“ฮ่วยบ่อเจ๊งดอกน่า แค่นี้เอง แล้วสิให้ขายช่อยบ่อน้า” ผมถามแกครับปากก็กินก๋วยเตี๋ยวไป
“บ่อต้องดอก เออ จารย์พรเขามาบอกแล้วบ่อว่าให้ไปเข้าค่าย” จิ๊ วางตะเกียบทันทีครับ
“บอก บ่อไป”
“อ้าวเป็นหยังบ่อไป มีเบี้ยเลี้ยงนำเด้”
“โอ๊ยน้า เบี้ยเลี้ยงร้อยสองร้อยบ่ออยากได้ดอก บ่อไปขี้คร้าน”
“มึงไปคุยกับแม่มึงเองโลด จารย์พรไปบอกแม่มึงแล้ว”
“โอ๊ย” จบครับ แม่ผมน่ะผมเกรงพ่อผมอีก ตายห่านล่ะอะไรวะ ร้ายนักนะจารย์พรเดี๋ยวๆจะเจอหักหน้า แม่งไรวะบอกไม่ไปๆนี่แกเล่นไปบอกแม่ผมก่อนจะมาบอกผมอีก จิ๊ กูเบื่อเว้ย ผมไม่สนใจครับกินก๋วยเตี๋ยวต่อสักพักเสียงออดเที่ยงก็ดัง เด็กนักเรียนกรูกันเข้ามาในโรงอาหาร ไม่อยากจะเล่ามันยั๊วเยี๊ยะเหมือนปลวกหนีน้ำท่วมครับ ผมยืนเป็นนางกวักอยู่หน้าร้านครับ คอยขู่เด็กๆให้มากินก๋วยเตี๋ยว ต้องซื้อเท่านั้น ฮ่าๆๆ กลวิธีการขายเป็นไงใช้ได้มะ
“เอาเส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใสครับ” สำเนียงที่แปลกแตกต่าง เป็นการพูดภาษากลางที่ไม่ได้กระแดะกกลิ้นแข็งเหมือนที่เด็กๆในโรงเรียนพูดกัน ผมหันขวับทันที ป๊าดติโธ่ กล้ามากครับ ไอ้ห่านนี่กล้ามากๆมันมายืนสั่งก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าร้าน ผมมัวแต่หลีสาวเลยไม่ทันมองครับ
“ไม่ขายเว้ย” ผมเดินเข้าประชิดตัวมันทันทีเปล่งเสียงออกไปอย่างดัง เด็กๆแถวนั้นวงแตกฮือ เป็นไงครับอิทธิฤทธิ์ของผม
“หือ ร้านนายเหรอ” ดูมันทำหน้าครับ มันกวนตีนมากๆ หันหน้ามามองผมแล้วยักคิ้วขึ้นเหมือนไม่เชื่อ
“เออร้านกู กูไม่ขาย”
“อีหยังบักเดี๋ยว ขายจ้าหนู เพิ่งย้ายมาเหรอจ๊ะ หน้าตาดีเชียว หล่อนะเรา” อ้าวนะน้าติ๋วพวกบ้าคนหล่อกูล่ะเซ็งจริงๆ หลานก็หล่อเว้ยเฮ้ยไม่เคยชม
“เอาเส้นหมี่” “ไม่ขาย กูไม่ขาย” “กูจะขาย” เป็นสามเสียงครับผมกัดฟันแล้วเดินปรี่จับบ่ามันแล้ว
“นี่นาย ถามหน่อยดิ” มันทำหน้าเซ็งผมครับ โว้ไอ้เชี่ยนี่ไม่เคยมีใครทำหน้าเซ็งใส่กูมาก่อนเลยนะ มึงคนแรกสงสัยวอนจะโดนตีน ห้ากระทงแล้วมึง
“อีหยัง” ผมตะคอกใส่มันครับ
“เหนื่อยป่ะเนี่ย”
“เหนื่อยไร”
“แอ๊บนักเลงเนี่ยเหนื่อยมากป่ะ อยู่นิ่งๆเป็นคนธรรมดาบ้างก็ได้นะ เบื่อจะคุย หิว” ป๊าด ผมนี่จุกไปเลยครับมันทำหน้าแบบว่ากวนส้นตีนมากๆ
“เชี่ย” ผมผลักบ่ามันแรงๆหน้าคะมำไปข้างหน้า
“หยุดนะบักเดี๋ยว มึงบ่อหยุดกูสิบอกแม่มึง ไปหนีไปให้พ้นร้านกู” เอ่อ น้าติ๋วแกออกมายืนขวางไว้ครับ จี๊ด ปวดใจๆ มึงนะมึงผมกัดฟันกรอดเหมือนโดนเหยียบหัวใจ คอยดูๆ กูจัดหนักแน่ๆไอ้หน้าจืด มึงจะหน้าเป็นแผลก็วันนี้ล่ะ โอ๊ย กูเจ็บปวด เชี่ยเอ้ยทำไงดีวะเนี่ย
“เอาพิเศษนะครับ อยากกินทุกวันจังครับน้าแต่น้าบอกคนนั้นอย่ามาอีกได้ป่าวอ่ะ” ป๊าด ผมหยุดกึกทันทีครับ มันทำหน้าแบบว่าไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนะครับ ผมนี่จะถอยกลับไปตั้นหน้ามันสักที แต่น้าเต๋าออกมายืนยักคิ้วให้ไป โอยๆ ตายๆกูไม่เคยโดนหยามหน้าขนาดนี้มาก่อน ตายมึงตาย ตายสถานเดียว คอยดูถ้ามึงไม่เละอย่ามาเรียกกูว่าไอ้เดี๋ยว โว้ยย
“บักเดี๋ยว แลงนี้ซ้อมบอลเด้อมึง มื้อฮือโรงเรียนจากยโสฯสิมาแข่ง” อ้าวนะ พอเดินออกมายังไม่พ้นจากโรงอาหารไอ้แบงค์รุ่นพี่ล่ะครับมันก็ร้องมาบอกผม ผมหยุดกึกลงแม่งอะไรกันหนักหนาวะเนี่ย เรื่องเตะบอลคือหัวใจของผมเลยก็ว่าได้รักเข้าเส้น เรื่องเรียนเป็นงานอดิเรกครับ เรียนเก่งเองโดยกรรมพันธุ์ ฮ่าๆ มือฮือก็มะรืนอ่ะแปลให้อีก
“เออๆ” ผมบอกไปแล้วหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาจากโรงอาหาร แม่งเอ้ย แล้วเรื่องที่จะไปตั้นหน้าไอ้บ้านั่นล่ะ เอาไงดีวะ หรือว่าจะไปดักต่อยหน้ามันก่อนขึ้นเรียน ไม่ดีๆ ผมนักเลงก็จริงแต่ไม่เคยต่อยตีใครในสถานที่เดี๋ยวแม่จะมาเด็ดหัวเอา โอ๊ย แม่งเซ็งว่ะ เอาไงดีวะเนี่ย ไปห้องพยาบาลนอนสักงีบดีกว่าเผื่อจะคิดออก ตอนนี้ไม่มีคนแน่ๆนอนแม่งสักงีบ ว่าแล้วผมก็เดินไปตึกอำนวยการล่ะครับไปห้องพยาบาล
“เราว่านะพี่แบงค์ ม.๖ อ่ะเท่สุด หล่อด้วยแมนมากๆ” เสียงเด็กนักเรียนแรดๆพูดภาษากลางแบบกกลิ้นแข็งๆดังแว่วมาครับผมกำลังนอนอยู่ ไม่สนใจได้ยินทุกวันอยู่แล้ว
“แต่เราชอบพี่เดี๋ยว ม.๕ นะเลว ดิบเถื่อน สเป็ค” อ้าวเชี่ยแล้วมีกูด้วยวะ
“นั่นดิ หล่อนะแต่เลว กร่างมากๆ เห็นอีพรมันบอกว่าใหญ่ด้วยนะเธอ กรี๊ด” เอ่อ แบบนี้เขาเรียกเผากูป่ะวะเนี่ย แต่เอาเถอะเพราะได้ยินท่อนหลังว่าใหญ่ก็โอเคแล้วล่ะและผมก็นอนต่อไปสักพักล่ะครับเสียงเด็กแรดๆพวกนั้นก็ยังดังแว่วๆอยู่

To be Continued[/color]
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!!
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 24-03-2012 09:28:29
“นายๆ จารย์บ่ออยู่ว่ะ เวียนหัวเหรอ” อีกเสียงดังแว่วเข้ามาครับ
“อืม เราอยากนอนสักพัก แต่เอ๊ะ เหม็นอะไรอ่ะ หนูตายป่าว” เสียงนี้มันคุ้นจริงๆเลยให้ตายเถอะ ผมลืมตาขึ้นเงี่ยหูฟังเต็มที่
“อ๊วก เหม็นมากเลยใครเอาหนูตายมาปล่อยไว้ในนี้แน่เลยอ่ะนาย” หนูตายห่านอะไรวะกลิ่นตีนกูเองเว้ยเชี่ย
“อ้าว นักเรียนใหม่ ไม่สบายเหรอคะ” เสียงอาจารย์ประจำห้องดังมาอีกครับ คงจะกลับเข้ามาแล้ว เสียงเด็กนักเรียนแรดๆเงียบไปแล้วคงเข้ามาเมาท์ผู้ชายตามประสาแล้วคงออกไปเมื่อมีคนเข้ามา เขาให้มาเรียนหรือพวกมึงมาหาผัววะเนี่ย
“ผมเวียนหัวนิดหน่อยครับ”
“นอนพักก่อนไหมเผื่อจะดีขึ้น เอ๊ะ เหม็นอะไรเนี่ย ไอ้เดี๋ยวแน่ๆ” อ้าวเจ๊ รู้อีก ตายห่านล่ะกู
“ไอ้เดี๋ยวมึงมาแอบนอนอีกแล้วใช่ไหม” เสียงดังก้องห้องมาครับ เออกูเอง โว้ยจะงีบสักหน่อย
“จะนอนน่ะรองเท้าไม่ต้องถอดเหม็น จะอ๊วก” ยังอีกแหมนะกลิ่นออกจะรัญจวนใจทำไมวะ
“อ้อ นักเรียนที่นี่เองล่ะจ๊ะ ไม่ต้องไปสนใจ สกปรก เกเร” เอ่อ ชมผมใช่ไหมครับเนี่ย ผมทนไม่ไหวดีดตัวเดินออกจากเตียงทันทีครับ ไปยืนมองหน้ามัน ไอ้เล็กกับไอ้หน้าจืดนั่น ดูครับดูมันมองหน้าผมแล้วอมยิ้ม มองเชี่ยไรวะยิ้มห่านไร ยิ้มที่มึงจะโดนตีนกูน่ะเหรอ
“ไม่นอนแล้วครับ ผมคิดว่าคงนอนไม่ได้หรอก กลิ่นแบบนี้น่าจะเวียนหัวกว่าเดิมอีกนะ” มันพูดครับผมกัดฟันแล้ว หนอยแน่มึง หกกระทงแล้วนะวันนี้
“ไม่สบายหรือมาอู้ไอ้เดี๋ยว ออกไปเลยนักเรียนใหม่เขาจะนอนพัก เหม็นเน่ามากหัดซักบ้างนะถุงเท้ามึงน่ะ”
“โหยจารย์ ซักก็ไม่ใช่ไอ้เดี๋ยวดิ ทำไมผมมาก่อน อยากนอนก็ทนเอาดิวะ เป็นเทวดามาจากไหนจะมาไล่คนมาก่อนออกเนี่ยมึง” ผมไม่ยอมดิครับเรื่องอะไร
“นี่เดี๋ยวพูดจาไม่ดีนะ”
“หรือไม่จริงล่ะจารย์ จารย์ไม่เกี่ยวออกไปเลย” ผมยักคิ้วให้
“โอ๊ย นักเลงจริงๆ งั้นครูไปห้องธุรการก่อนนะ เอายาไหมคะนักเรียนใหม่” ไปเลยครับเป็นไงล่ะผมบอกแล้วผมน่ะเจ้าที่ไอ้นี่มันเป็นใคร
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็จะไป”
“เดี๋ยว มึงจะไปไหน”
“นี่ไอ้เดี๋ยวอย่ามามีเรื่องในห้องพยาบาลนะ มึงโดนแน่”
“ไม่มีหรอกจารย์ ผมไม่ได้เลวขนาดนั้นหรอกนะ” ไม่จริง อย่าบอกว่าไม่จริงเพราะมันเป็นเรื่องจริงเว้ย
“เออๆ งั้นครูไปนะคะ มีอะไรวิ่งไปห้องปกครองนะคะ” อ้าวนะมีกระซิบบอกมันอีก อะไรวะเนี่ยเห็นกูเป็นยักษ์เป็นมารไปได้ แต่ว่าไอ้นี่มันไม่ไปครับมันยืนนิ่งๆมองไปรอบๆห้อง ผมได้ทีเดินเข้าไปใกล้มันทันที
“มึงกวนตีนกูมากนะวันนี้” มันจับบ่ามันไว้ครับ มาหากูเองนะมึง คราวนี้ล่ะกูจะเอาให้น่วมเลย เอาแบบเบาะๆก่อนของว่างอาหารหนักตอนเย็น แม้กูจะซ้อมบอลก็ตามทีเถอะ
“ใคร เราน่ะเหรอ เราไม่ได้กวนนะ นายเองอ่ะที่มากวน”
“เถียงเหรอ” ผมดันตัวมันเข้าไปข้างในครับทำตาแบบจะกินหัวมันลงท้องให้ได้
“บักเล็ก มึงออกไป” ผมหันไปบอกไอ้เล็กครับ มันเริ่มหน้าซีดแล้ว จะซีดทำเชี่ยไรยิ่งหน้าดำๆอยู่ไอ้ห่านนี่
“นายจะทำไร” แหมๆ ทำร้องทีแบบนี้มาทำหน้าซีด
“ทำไร ใครจะทำไร กูจะสั่งสอนมึงไงไอ้หน้าจืด ลองดีกับกูเหรอมึง”
“อ๊ะ ผอ.” “อย่าๆ ไม่ได้ผล กูโง่แค่ครั้งเดียวเว้ย” ผมไม่หันตามเสียงมันครับ ดูท่ามันเหมือนกำลังจะหาทางหนี แต่ไม่มีทางมึงไปไหนไม่รอดแล้ววันนี้ไอ้หน้าจืด ตายแน่ๆ
“เออๆ จะทำอะไรก็ทำ” อ้าว ทำไมยอมง่ายขนาดนี้วะ มันทำท่าเซ็งๆแล้วอยู่นิ่งๆ หนอยแน่ท้าทายอำนาจกูนะมึง
“มึงท้าทายกูเหรอ หรือมึงจะเอา”
“ไม่เอา”
“ย้อนๆ ปึ๊ก” ต่อยท้องมันครับ แม่งคนอะไรท้องอ่อนเป็นบ้าต่อยเบาๆตัวงอ ผมกระชากตัวมันขึ้นมาหน้ามันแดงก่ำแล้ว
“ปากดีอีกนะมึง จะตายอยู่แล้วยังปากดี มึงรู้จักกูน้อยไปนะ”
“เฮ้ย” มันไม่พูดครับแต่มันกุมท้องน้ำตาไหล ไม่ร้องสักแอ่ะ เว้ยไอ้นี่เก่งนี่หว่าแต่ทำไมกูตกใจเนี่ย จะตกใจทำไมวะ เอ๊ะ หรือว่ากระเพาะมันแตก ตายห่านแล้ว
“สำออยนะมึง”
“เรา เราปวดท้อง” มันครางออกมาแล้วทรุดตัวลงกับพื้นมือมันยังกำแขนผมไว้อยู่ครับ มันแสดงละครอีกล่ะสิ ไม่มีทางเว้ย กูไม่เชื่อมึงแล้วเด็กในเมืองมันลีลาเยอะอย่าคิดว่าจะหลอกกูได้ ไม่มีทาง
“ไม่ต้องมาโกหก กูไม่เชื่อ”
“เจ็บ เจ็บ” เอ่อ ท่าทางมันนี่เหมือนคนกำลังจะตายเลยครับ หน้าซีดมากๆเหงื่อไหลออกมาน้ำหูน้ำตาไหล ทำไมมันแสดงละครเก่งจังเลยวะ แม่งกูล่ะเชื่อเลยลงทุนขนาดนี้
“ไม่ต้องมาสำออย” ผมกระชากตัวที่งอๆของมันขึ้นมาให้ยืนผมจะได้จ้องหน้ามันได้ แต่ตัวมันหนักมากครับ ไอ้เชี่ยนี่ขืนตัวไว้อีก เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย ผมไม่ยอมเหมือนกันครับกระชากๆ สนุกดี
“ทำอะไรกัน ไอ้เดี๋ยว” อ้าวอาจารย์มาครับ ผมรีบปล่อยตัวมันลงมันก็ฟุบลงกับพื้นทันที
“ว้ายตายแล้ว เป็นอะไรคะนักเรียนใหม่” อาจารย์ร้องเสียงดังแล้วเข้าไปชอนตัวมันขึ้น
“ผมปวดท้อง ปวด” มันครางออกมา
“ตายแล้วเป็นโรคกระเพาะหรือเปล่าคะนักเรียน” ผมยืนมองอยู่ครับ มันพยักหน้าแล้วเสียงอาจารย์ก็ร้องลั่น อ้าวกูผิดไหมเนี่ยต่อยเบาๆเองนะเว้ยเฮ้ยเป็นโรคกระเพาะเลยเหรอ ผมรีบถอยครับเดี๋ยวจะซวย วิ่งออกจากห้องพยาบาลเลย ไม่ได้หนีนะเว้ยแค่เอาตัวรอดก่อน อิอิ
“เออมึงบักเดี๋ยว นักเรียนที่มาใหม่น่ะ ไปโรงบาลนะเว้ย” ไอ้เคนมันบอกผมครับตอนเข้าเรียนคาบแรก
“มาบอกกูเฮ็ดหยัง” ผมตะเบ็งเสียงใส่มันให้มันรู้ว่าผมไม่อยากรู้ครับ
“ก็กูเห็นเขาบอกว่ามึงต่อยท้องเขานะ เขาลือกันทั้งโรงเรียน”
“อ้าวสัด กูผิดว่างั้น” อ้าวซวยจริงๆเลยกู
“เออดิ มึงเตรียมไปพบจารย์เดชเลยนะมึง ลูกปลัดเด้อเว้ยนั่นน่ะ” กลัวเหรอวะลูกนายกกูก็ไม่กลัวกวนตีนกูก่อนนี่หว่า สัตว์ ซวยแล้วกู ทำไงดีวะเนี่ย อย่าเข้าใจผิดว่าผมจะกลัวอาจารย์เดชหรือกลัวพ่อของไอ้หน้าจืดนั่นนะครับ แต่ที่ผมกลัวและคิดว่าต้องซวยคือแม่ผมต้องรู้แน่ๆเพราะเรื่องมันดังขนาดนี้น้าติ๋วกับน้าต๋องต้องไปบอกแม่แน่ๆ ตายแล้วกู
“เออๆ” ผมตอบออกไปแม่งเอ้ยไม่น่าเลยว่ะ เสือกสำออยอีก ไอ้เดี๋ยวนะไอ้เดี๋ยวน่าจะใจเย็นรอตอนเลิกเรียนค่อยจัดหนักให้มัน แต่ก็นั่นล่ะพอเย็นก็ต้องซ้อมบอลอีก โว้ยอะไรมันจะมะรุมมะตุ้มกูขนาดนี้วะเนี่ย ผมเดินออกจากห้องทันทีไปที่ห้องปกครอง เบื่อจะฟังคำด่าครับ จะอะไรล่ะก็อาจารย์เดชเป็นโค้ชทีมฟุตบอลด้วยน่ะสิครับ แกน่ะไม่ทำอะไรผมหรอกเพราะผมน่ะตัวสำคัญ แต่แกจะบ่นเหมือนพ่อยิ่งกว่าพ่อนี่สิครับมันทรมานหูกูนี่เซ่ โว้ย
“กูว่าแล้ว ทำไมมึงอยู่นิ่งๆเฉยๆเหมือนชาวบ้านเขาไมได้บ้างเหรอวะไอ้เดี๋ยว สร้างแต่เรื่องเรียนเก่งเล่นกีฬาเก่งแล้วยังไงความประพฤติเลวระยำ เป็นนักเลงนี่มันดีตรงไหน หา บอกกูมา มึงไปทำมันทำไมเด็กมันเพิ่งย้ายมา มันหน้าตาน่ารักท่าทางไม่มีอะไรเลย แล้วมึงไปทำมันทำไม มึงรู้ไหมพ่อมันเป็นปลัดนะมึงถ้าเรื่องถึงผอ กูก็คงช่วยไมได้หรอกนะมึง เก่งดีนัก โดนซะบ้าง” นี่ถามเหรอหรือว่าบ่น ปล่อยช่องให้พูดบ้างไหมเนี่ย ผมทำหน้าเซ็งสุดๆครับ
“จารย์เดช ผอ.เรียก” อ้าวไหนบอกว่าจะไม่ถึง ถึงจนได้ อะไรวะ แม่งเอ้ยซวยฉิบหายเพราะไอ้เชี่ยนั่นคนเดียว คอยดูนะมึง กูจะเอาให้เจ็บเลย
“ซวยแล้วมึง ใครวะปากไวไปบอก” อาจารย์เดชแกคุยกับอาจารย์แอ๊ดล่ะครับส่วนผมก็ทำหน้าแบบไม่สนใจ เซ็งแต่ก็ไม่ใช่จะทำหน้าแบบกูกำลังจะตาย ทำไงได้ก็กูทำไปแล้วนี่จะให้กูร้องไห้ไงวะ
“รออยู่นี่ล่ะอย่าไปไหน” เออๆ กูจะไปไหนได้ล่ะ พออาจารย์เดชออกจากห้องไปผมก็เดินไปที่โต๊ะแกล่ะครับ ค้นหากุญแจตู้แก จะเอาอะไรน่ะเหรอหนังสือโป๊ไง แกยึดมาสะสมกองพะเนิน ดูไปพลางๆแก้ขัดครับท่านเผื่อได้สักน้ำ ฮ่าๆ ผมไม่ได้ลามกนะครับท่าน ทั้งทีมฟุตบอลมันก็มาทำประจำล่ะในห้องนี้ เรารู้กันทั้งทีม จะถามหาว่าใครเป็นคนพาเพื่อนๆทำไม่ต้องถามครับ ผมเอง
“นายเดี๋ยว ผอ.เรียกให้ไปพบ” ผมรอนานมากครับนานจนหลับไปเลยมั้งสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็ตอนที่มีคนมาปลุก ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วมองไปตามอาจารย์ที่มาเรียกแล้วก็เดินตามขึ้นไป กลัวไหมไม่เลยครับท่าน
“เสียดายนะวิชพงศ์ เสียดายความสามารถเธอจริงๆ แต่ครั้งนี้ผอ.คงต้องให้บทเรียนเธอบ้าง” แม่กู แม่กูมาครับ แว้กก ตายๆ ผมตายทั้งเป็น แม่ผมมาตั้งแต่ตอนไหนกันวะเนี่ย พ่อไม่มามีแต่แม่มา สายตามองผมนี่นะเสียวไปถึงสันหลัง ตายๆกู
“อย่าทำอะไรให้มันรุนแรงเกินไปนะคะ ผอ.” แม่ผมขอร้องครับ ไม่เคยเห็นเลยนะไม่ว่าผมจะมีเรื่องกับใครเตะต่อยตีใครไม่เคยเห็นแม่ผมต้องวิงวอน ผอ.เลย ครั้งนี้ครั้งแรก
“ไม่หรอกคุณสาวิตรี แต่ผอ.คงต้องให้พักการเรียนสักอาทิตย์นะ ถ้ายังคงเป็นอีก ฮึ่ม” ถอนหายใจเพื่อ เว้ยจะพูดอะไรก็พูดมาเลยสิวะ
“จะอะไรคะท่านผอ.” แม่ผมร้องขึ้นครับหน้าตาเหมือนคนเจอผี ผมนี่เริ่มซีดแล้วครับ
“เราก็คงต้องจำหน่ายออก”
“กรี๊ดด” จะให้เล่าต่อไหมว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ผมแทนที่จะขอร้องผอ.ต่อนะ กลับโผเข้ามาหาผมตบตีจิกทึ้ง โอยๆ ตายกูตาย ใครตีก็ไม่เจ็บเท่าแม่นะครับท่าน ตีต่อหน้าครูอาจารย์ด้วย อายว่ะเฮ้ย
“มึงอยู่ในช่วงควบคุมการประพฤติ ไม่ให้ออกจากบ้าน ไปอยู่ที่ร้านขายส้มตำอย่างเดียว จำไว้ เก่งนักเป็นยังไง เรียนเก่งแล้วยังไง เล่นบอลเก่งแล้วเห็นไหม ใครเขาจะเอา มีใครจะเอามึงไหม สันดานเลว คนเลวอยู่ไหนก็ไม่มีใครเอา มึงจำไว้ ต่อให้มึงเสกน้ำเสกดินได้ ไอ้เดี๋ยว นี่ก็ต้องลำบากกูแบกหน้างามๆไปหาปลัดใหม่สิเนี่ย กรี๊ด ลูกทรพี” นี่คือบริบทย่อยๆครับ ก่อนหน้านี้ในรถก็สวดเอาซะผมยับเยิน หน้าตาผมอย่ามาขอดูเลยแดงเขียวขึ้นมาทันที เสื้อผ้าก็ขาดวิ่น แม่ผมไม่เคยลงไม้ลงมือกับผมเลยนะ ครั้งแรกเหมือนกัน ฮึ่ม เจ็บนี้หนักหนาสาหัสนัก เพราะมึงไอ้หน้าจืด ชาตินี้มึงกับกูอย่าได้หวังจะได้ญาติดีกันเลย มึงคอยดู

Written by eiky

ปล. นี่คือพระเอกครับ อิอิ เป็นไงบ้างเอ่ยถูกใจกันไหม แต่ถ้าไม่ถูกใจก็คงเปลี่ยนไม่ทันล่ะนิ อิอิ คอยดูต่อไปน้า
ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!!
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2012 10:44:06
ช่างเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันจริง ๆ
นายเดี๋ยวมันเถื่อนได้ใจมาก
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 24-03-2012 21:48:32
lสเปคพระเอก แปลกใหม่มากค่ะพี่อิ๊ค

กระแทกใจน้องอย่างแฮงงงง  o13
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 24-03-2012 22:18:38
อ่า ถูกใจพระเอกอ่ะ
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 24-03-2012 22:54:04
อ้ายอิ๊ก    สวัสดีเดอคับ   คิดฮอดอ้ายอิ๊กหลายๆๆๆๆๆ  บ่เห็นอ้ายอิ๊กหลายวันเล้วเด้อ  555
เรื่องใหม่เรื่องใหม  อ่านๆๆๆๆ   
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-03-2012 23:08:22
พระเอกเถื่อนสุดๆ แอบฮาตอนกลัวแม่นี่แหละ
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 24-03-2012 23:37:11
เดี๋ยวมันฮามากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 25-03-2012 13:38:25
แอบส่อง  อิอิ
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 25-03-2012 14:02:23
พระเอกเถื่อนมากกกกกกกกกกกกกก ตบจูบๆๆเปล่าเนี่ย
ตายแล้วน้องพี่จะไหวเนี่ย อย่าทไรน้องเขาเลยนะน้องเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 25-03-2012 14:35:24
พระเอกเถื่อนมากๆเลยค่ะ!!

อย่ารุนแรงกับนายเอกมากนะ เดี๋ยวช้ำหมด!!  :laugh:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: saintangel ที่ 25-03-2012 15:28:45
ชื่อเรื่องไม่ค่อยดึงดูดแฮะ ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องกดผ่านไป ชื่อเรื่องดูอินเตอร์แต่เนื้อหานี่อีสานแท้ แต่ฮามากๆ ขำจริงๆเรื่องนี้ น่าจะแอบวงเล็บที่ชื่อหน่อยนะว่าฮาขี้แตก  o13
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 25-03-2012 15:32:43
ชอบจังเลยครับเรื่องนี้ ฮิๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: You’re My Baby!! Version (Dio) 24 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 25-03-2012 23:06:47
โหดแต่ฮา ว่างั้น
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 26-03-2012 10:31:36

Don’t Call Me BaBy!!!อิอิ อายจังถ้าจะบอกว่าที่ปวดท้องน่ะคือว่าท้องเสียอ่ะครับท่าน ก็ผมกินก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำส้มสายชูแล้วไอ้ดำมันก็สั่งส้มตำมาลองชิมคำเดียวเองนะไม่อยากจะเชื่อว่ามันมีพิษสงรุนแรงปานนี้ ไปไม่ถึงโรงพยาบาลหรอกครับเพราะขอเข้าข้างทางไม่ไหว เคยเป็นไหมแบบว่าท้องเสียจนจะเป็นลมน่ะ มันมีเหงื่อไหลออกมาตามตัวให้ตายเถอะเกิดมาผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ อายจริงจัง
   “แหมเฮาก็นึกว่าปวดท้องโรคกระเพาะเนาะ อีหยังปวดขี้จนจะเป็นลม” ไอ้เล็กดำครับ แหมนะมาลองเป็นเหมือนกูดูไหมล่ะมึง อะไรล่ะก็คนมันไม่เคยกินนี่หว่า เพราะมึงนั่นล่ะเอาส้มตำน้ำดำๆมาให้กินเห็นมะ
   “นี่นาย อย่าไปบอกใครนะเรา เอ่อ อาย” ผมบอกมันออกไปมันมาส่งที่บ้านล่ะครับพี่ต้อยก็ต้อนรับมันอย่างดีผมนอนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้หวายชั้นล่าง
   “เห็นบ่อไปกินหยังบ่อเบิ่งติ๊นี่ขี้แตกขี้แตน” ขอร้องอย่าบ่นคนยิ่งร่างกายขาดน้ำอยู่นะว้อย
   “เอื้อยเป็นคนไสครับ” ไอ้ดำมันคุยกับพี่ต้อยล่ะครับ ผมก็นอนหายใจพะงาบๆอยู่
   “เอื้อยเป็นคนอุบล คนวารินทร์เคยไปอยู่บ่อ”
   “บ่อเคย เคยไปแต่เมืองอุบล”
   “ฮ่วยเมืองอุบลกับวารินทร์มันติดกันเด้ แม่นเคยไปอีหลีบ่อหรือขี้ตั๋ว”
   “แหะๆ เคยๆ ผมไปสอบเด้เคยไปสอบเข้าเบญฯ แต่บ่อได้”
   “ว้าย บ่ออยากจะคุยเอื้อยเป็นศิษย์เก่าเบญฯเด้อค่า สมัยเอื้อยเรียนน่ะบ่อแม่นคือแนวนี้เด้”
   “เอ่อ พี่ต้อย อยากกินน้ำอุ่นๆอ่ะ อย่าเม้ากันเยอะได้ป่ะ เวียนหัว ฟังไม่ทัน” ผมขัดจังหวะครับเพราะดูท่าคงจะน้ำไหลไฟดับแน่ๆสองคนนี้
   “อย่าฟ้าวเมือเด้อ เอื้อยสิตำบักยมสู่กิน เนี่ยต้นข้างบ้านดกอีหลี” ฟังออกไม่ออกก็พยายามหน่อยนะครับ ผมขี้เกียจจะแปลเพราะปวดปากแทนเหมือนกัน
   “บ้านนายน่าอยู่เนาะ” ไอ้ดำมันมองไปรอบๆบ้านครับ หน้าอยู่ตรงไหนวะเนี่ยพูดไปแล้วคิดถึงบ้านที่บางเขนโว้ย ป่านนี้คงกำลังเดินกับโจ้ที่สยามอยู่แน่ๆ เป็นไงบ้างก็ไม่รู้ ว่าแล้วบีบีหาดีกว่า
   “ตัวเอง คิดถึง” อิอิ น่านะนิดหน่อยเอง ผมกดโทรศัพท์อยู่ไอ้ดำมันทำท่าสนใจครับ
   “โว้ ใช้บีบีด้วย ของเฮายังเป็นโนเกียรุ่นโบราณอยู่เลยนิ ดูหน่อย” มันทำท่าอยากรู้มากครับผมเลยตัดใจ จะมาทำท่าหวงของตอนนี้ก็คงไม่ดี
   “แป๊บ” แหมนะคนเขาจะสวีตกับแฟนไอ้นี่มารจริงๆ ที่โรงเรียนยิ่งไม่มีสัญญาณอยู่ด้วย
   “คุยกะแฟนติ๊ ไสแฟนนายสวยบ่อ” มันทำท่ายื่นหน้ามาดูครับ
   “ไม่ให้ดู นี่นายไม่กลับไปเรียนเหรอ เพิ่งจะบ่ายเองนะ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ เพราะเรื่องส่วนตัวไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายมากนัก ผมไม่ชอบ
   “บ่อไปขี้คร้าน สิอยู่กินตำบักยม” เออดี แหมนะผมจะกดบีบีก็ไม่ค่อยถนัดคุณแฟนก็ไม่ยอมตอบเสียที อ้าว หรือว่าเขาเรียนอยู่วะเนี่ย อ่า
   “อ่ะดูดิ” ผมเลยจำเป็นต้องยื่นให้มันครับ ไอ้ดำมันก็จับเล่นไปมาผมก็นอนผ่อนลมหายใจ
   “เป็นอะไร ไหนเป็นอะไรอุ่นพ่อได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียนว่าอุ่นปวดท้องต้องพาไปโรงบาล ไหนเป็นอะไร” เอ่อ พ่อผมกลับมาครับตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เออลืม ก็บ้านผมอยู่ในละแวกของที่ว่าการอำเภอนี่นะ ก็จวนผู้ว่านั่นล่ะครับทำเป็นลืมไปได้กู
   “ไม่เป็นไรหรอกพ่อ อุ่นแค่ท้องไม่ดี” ผมตอบออกไปไม่อยากจะบอกความจริง ไอ้ดำมันยกมือไหว้พ่อผมครับพ่อผมเองก็ยืมมองมันอยู่
   “อุ่นเป็นอะไรเหรอลูก เราเป็นคนพาไปหาหมอเหรอ” พ่อผมนั่งลงแล้วถามมัน แหมนะพอคุยกับไอ้ดำทำเสียงยังกะพระเอกของทีมพากษ์นนทนันประมาณนั้นเวอร์มากคุณพ่อ
   “เอ่อครับ แต่ว่าอุ่นเขา” ไอ้ดำมันหันมามองผม อย่านะมึงอย่าบอกนะว่ากูขี้แตก ผมเองก็ถลึงตาใส่มันครับ เงียบไปเลย ผมด่ามันด้วยสายตา เงียบ
   “อุ่นทำไมลูก” พ่อผมก็นะสอบสวนเหมือนโคนัน อะไรเนี่ย
   “อุ่นไม่ป็นไรหรอกพ่อ แล้วพ่อไม่ทำงานเหรอ” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องครับ
   “คุณผู้ซาย กลับมาเฮ็ดหยังคะ น้องอุ่นขี้แตกเฉยๆ ไปกินส้มตำมาค่า บ่อได้เป็นโรค” ผ่าง เจ็บปวดผมที่กำลังจะยันตัวขึ้นจากเก้าอี้หวายล้มลงไปเหมือนเดิมทันทีพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
   “ขี้แตก!!!!” พ่อผมลุกขึ้นยืนในทันทีเสียงพระเอกเมื่อครู่กลายเป็นตัวร้ายขึ้นมาทันที
   “พ่อเสียเวลาทำงานนะรู้ไหมอุ่น เนี่ยเพิ่งจะได้รับตำแหน่งใหม่ ขี้แตกก็ลาโรงเรียนเหรอ ทำไมทำแบบนี้” อ่า นี่ผมผิดเหรอเนี่ย อะไรวะก็คนมันท้องเสียแบบรุนแรงอ่ะ ทำไมไม่มีใครเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องตลกนะท่านผู้ชม เคยเป็นป่ะถามจริงๆ แบบว่าปวดท้องตอนแรกไม่คิดว่าจะปวดท้องห้องน้ำนี่ มันปวดมากๆ ปวดจนเหงื่อแตกหน้ามืดอ่ะ ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะอาหารเป็นพิษ เข้าใจกันบ้างไหมเนี่ย
   “เอ่อ แล้วกินยาหรือยังล่ะลูก” อ่านะ เปลี่ยนเสียงโดยทันทีครับ พ่อผมไม่ได้สร้างภาพอะไรหรอกครับเวลาอยู่กับผมน่ะ แต่ด้วยความที่ผมบ่นในใจไม่พูด พ่อผมก็เลยคงคิดได้เองล่ะว่าผม ไม่พอใจ!! ไอ้ดำนี่มันทำท่าเหวอไปเลยครับ ผมไม่ตอบเช่นเคยเมินหน้าหนี เบื่อพี่ต้อยด้วยอะไรไม่รู้
   “อุ้ย เคียดเด้ค่านั่นน่ะ คุณผู้ซายไปเฮ็ดงานโลดค่า เดี๋ยวต้อยสิเฮ็ดบัวลอยสู่คุณอุ่นเดี๋ยวกะเซาเคียดค่า” งดแปลนะครับ อ่า ใช้ไม้ตายอีกแล้ว ผมรักบัวลอยไข่หวานมากๆ ชอบเข้าเส้น
   “จริงนะพี่ต้อย” ผมพูดออกมาครับแอบทำตาแบบว่าวิ้งๆเต็มที่ หวานปากล่ะวันนี้ อิอิ
   “นั่นแน่ เซาเคียดแล้วติ๊ค่า” แหมนะคนยิ่งมีอารมณ์ๆอยู่นะอย่ามายั่วโมโหให้มากนะเดี๋ยวจะจัดหนัก
   “เอื้อยไสว่าสิตำบักยม ฮ่วยถ่ากินอยู่เด้นี่” ไอ้ดำครับทวงๆ มีทวงแหมนะส้มตำนรกนั่นมึงยังไม่พอใจอีกเหรอจะกินตำมะยมอีกว่างั้น
   “ตำค่าบักยมกะสิตำ บัวลอยกะสิเฮ็ด ไปซ่อยเอื้อยต่อยมาแน่ติ๊ล่ะ” แปลให้ครับเอาท่อนสุดท้ายพอ ผมไม่สบายนะ พี่ต้อยบอกว่าให้ไอ้ดำไปช่วยสอยมะยมให้หน่อยเดี๋ยวจะตำให้กินประมาณนี้ถ้าแกนโลกไม่เคลื่อนเสียก่อนความหมายก็คงไม่คลาดไปจากนี้ แว้กก อ้างไปโน่นเกี่ยวไร เกี่ยวสิก็จะได้แสดงให้รู้ว่าผมน่ะเรียนเก่งแค่ไหน เฮอะ สรุปว่าไอ้ดำมันก็รีบวิ่งไปหลังบ้านกับพี่ต้อยเสียงคุยกันออกรสออกชาติ แหมนะ แล้วกูล่ะ ผมก็จิบชาหิมาลายันไปพลางๆ มีจริงนะชาเนี่ยพ่อผมได้มา ปกติผมไม่กินชาแต่ยกเว้นอันนี้เพราะมันหอมมาก ขอบอกว่ามากๆ นานเท่าไหร่ไม่รู้รู้แต่ว่าผมหลับไปจะด้วยเพลียหรืออะไรไม่รู้แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เพราะเสียงสองคนนี่ล่ะครับจอแจอยู่ข้างหู
   “ตื่นแล้วติ๊คุณอุ่น เป็นจั่งได๋ไคแน่บ่อค่า” พี่ต้อยที่กำลังปั้นแป้งทำบัวลอยถามผมไอ้ดำมันก็ช่วยอยู่ อ้าวไอ้นี่ยังไม่กลับบ้านกลับช่องเหรอเนี่ย เหลวไหลจริงๆ
   “อ้าว ตื่นแล้วติ๊ มาๆมาปั้นบัวลอยซ่อยกัน” ไอ้ดำมันพูดครับแหมมึงเห็นกูหลับตาอยู่หรือไงวะ ผมลุกจากเก้าอี้หวายล่ะครับแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้า
   “ใกล้เสร็จยังอ่ะพี่ต้อย อยากกินแล้วนะ” พอออกมาผมก็นั่งลงม้านั่งหินอ่อนตรงข้ามกับทั้งสองคนมองดูอยู่เฉยๆ ไม่มีทางหรอกนะที่คนอย่างอุรดิศจะมาทำแบบนี้
   “อ้าวไม่ช่วยล่ะจะได้เสร็จไวไว” ไอ้ดำครับ แน้ยังมาเร่งอีกกูไม่ทำเว้ย
   “ทำไมนายปั้นลูกใหญ่จังอ่ะ มันก็ไม่สุกง่ายอ่ะดิ มานี่ ทำเป็นป่ะเนี่ย” เอ่อนะ ก็แหมคนมันทนไม่ได้อ่ะเห็นไอ้ดำทำแล้วท่าทางจะเคี้ยวไม่ลงต้มอยู่เป็นวันแน่ๆ มานี่มาต้นตำรับทำให้ดู
   “อย่าโสกันเด้อค่าเดี๋ยวพี่ต้อยไปเตรียมทำกับข้าวก่อนเดี๋ยวคุณพ่อกลับมาจะว่าเอา น้องเล็กไปต้มน้ำไว้ลวกติ๊ให้คุณอุ่นเฮ็ดถ่า” ผู้กำกับเดินไปแล้วครับ แหมนะสั่งเอาๆแล้วก็ไป ไอ้ดำมันก็ลุกตามไปทันทีครับ ผมสิ โว้ยยนะ สรุปก็กู เออนะ อยากกินต้องทำเองด้วยเหรอวะเนี่ย ไม่ยุติธรรมเลย
   “สวัสดีจ๊ะ พ่ออยู่ไหมจ๊ะ” หือใคร หมายถึงใครถามกูอยู่เหรอ ผมเงยหน้าขึ้นครับหันไปมองรถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้าน ป้าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาผม
   “เอ่อ สวัสดีครับ พ่อยังไม่กลับครับ” ผมลุกขึ้นไหว้แกล่ะครับ ก็แหมนะบอกแล้วว่าตระกูลผมผู้ดีเก่ามารยาทน่ะมี
   “นี่หนูเป็นลูกชายคุณปลัดใช่ไหมจ๊ะ” อ้าวป้า หลานมั้งเนี่ย
   “ครับ” “ไอ้เดี๋ยวมานี่เดี๋ยวนี้ นี่ใช่ไหมที่มึงไปทำร้ายน้องเขา มึงไปทำน้องเขาทำไม หน้าตาเขาออกจะผู้ดี มึงนี่มันจัญไรจริงๆ มานี่เดี๋ยวนี้” เอ่อ โอ้ป้า ป้าชมผมเหรอ ชมผมอยู่ใช่ไหมว่าผมดูมีสกุลรุนชาติ แน่นอนเห็นมะผมบอกแล้วว่าผมน่ะมาจากตระกูลผู้ดีเก่า อิอิ แต่เอ๊ะ อะไรเดี๋ยวๆนะ
   “ไรอ่ะแม่ ก็ปลัดยังไม่กลับไม่ใช่เหรอ มาขอโทษปลัดนี่ไม่ใช่มัน” เชี่ย ไอ้เลวมาบ้านกูทำไม หนอยแน่ถ้าไม่เห็นแก่แม่มึงนะกูกระโดดเตะแล้วนะ เห็นแก่หน้าแม่มึงนะเนี่ย
   “ยังอีก ทำผิดแล้วยังไม่สำนึก มาขอโทษน้องเขาเดี๋ยวนี้” โอ้ป้า ผมรักป้าจังเลย ฮ่าๆ อยากจะตะโกนให้ก้องฟ้า แสดงว่านี่ป้าเห็นว่าผมหน้าเด็กกว่าอายุใช่ไหมเนี่ย อ๊ากก ดีใจ มีความสุข
   “น้องไรล่ะแม่ มันอายุเท่ากัน”
   “ไม่เท่า” เอ่อ ผมดอดขึ้นครับ มันทำตายักษ์ใส่ผม อ้าวทำไมอ่ะก็พูดเรื่องจริง อย่างน้อยก็หน้ากูเด็กกว่ามึงก็แล้วกันวะ
   “มึงเกิดเดือนไร” “ตุลา” อ้าวกูไปตอบมันทำไมเนี่ย
   “มึงพี่กู กูเกิด ธันวา เห็นป่าวแม่ มันพี่เดี๋ยวอีกนะ” เอ่อ ไม่น่าเลยกู
   “มึงนั่นล่ะขอโทษเพื่อนเขา ขอโทษเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่ปลัดจะมาหรือมึงจะขอโทษเพื่อนเขาต่อหน้าปลัด” คุณป้าแกตะเบ็งเสียงใส่ไอ้บ้านี่เต็มที่ครับ หนอยนะนักเลงโตต่อหน้าแม่นี่หงอยเชียว
   “โทษ” มันกระแทกเสียงมาครับ ผมก็เชิดหน้าทำเป็นไม่ได้ยิน แหมนะจะขอโทษกูน่ะขอโทษกูดีๆหน่อยได้มะ ดีๆแบบว่าพอจะหลับหูหลับตาพอให้อภัยได้อ่ะ
   “พูดดีๆ” แม่มันกระแทกหลังมันครับ อิอิ มีความสุข ผมรักป้ามากนะ ป้าเข้าใจผมที่สุด
   “ไม่ แค่นี้ล่ะพอแล้ว ไรอ่ะแม่ พ่อมันมาเดี๋ยวก็ต้องขอโทษมันอีกอยู่ดี พูดไรหลายรอบปวดปาก” เอ่อ ไอ้เชี่ยนี่
   “ไอ้เดี๋ยว” มันเดินหนีออกไปแล้วครับ พอดีเลยพ่อผมขับรถกลับมาแล้ว มึงนะมึงคอยดูกูจะเอาให้หนักเลย ผมรีบลุกขึ้นทำหน้าให้ดูว่าไม่สบายเข้าให้มาก กูดูตอแหลไปไหมเนี่ย ไม่รู้โว้ยหมั่นไส้มัน หนอยแน่ดูมันทำหน้าใส่ผมนะ ไม่มีสำนึกผิดเอาเสียเลย ไอ้เลว!
   “สวัสดีค่ะคุณปลัด ดิฉันเป็นแม่ของตาเดี๋ยว วันนี้จะมาขอขมาที่ลูกชายดิฉันไปทำร้ายลูกชายของคุณปลัดน่ะค่ะ ดิฉันเลี้ยงลูกไม่ดีเอง ขอให้คุณปลัดอย่าถือสาหาความเลยนะคะ เพราะตอนนี้ลูกชายดิฉันก็ถูกพักการเรียนแล้วค่ะ” คุณป้าแกเพ้อออกมยาวเหยียดครับ พ่อผมยืนนิ่งอยู่แล้วหันมามองที่ผม
   “อ้าวไหนบอกท้อง” “พ่อ” เอ่อ อย่านะอย่ามาเผาลูกตัวเองต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้นะ ไม่ยอมจริงๆด้วย
   “ลูกดิฉันมันเลวเองล่ะค่ะ สั่งสอนไม่หลาบไม่จำ กลับบ้านไปดิฉันจะลงโทษให้หนักและสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไอ้เดี๋ยวมากราบขอโทษคุณปลัดเดี๋ยวนี้นะ” คุณป้าแกทำหน้าเศร้าเหมือนกำลังดูละครที่แพนเค้กเล่นแล้วแพนเค้กโดนนางอิจฉาตบประมาณนั้นล่ะครับ
   “หือ ไม่เป็นไรหรอกครับ มีเรื่องกันเหรออุ่น” อ้าวแทนที่จะถามพวกมันนะ มาถามลูกตัวเองทำไมเนี่ย คุณป้าแกก็บอกปาวๆอยู่ อะไรอ่ะพ่อ
   “อ่า มะ มี มะ ไม่ นิดหน่อยอ่ะพ่อ” อ้าวกูดันติดอ่างซะงั้น พอดีกับพี่ต้อยกับไอ้ดำมันเดินออกมาครับ คนที่โดนสอบก็เป็นไอ้ดำไปแทนผมซะนี่ ผมนั่งฟังอยู่ แต่ไม่นานพ่อผมก็ไล่ให้ผมขึ้นห้องไป อ้าวอยากรู้อ่ะ ทำไงดีวะเนี่ย ไม่เป็นไรเดี๋ยวสืบจากศพ เอ้ย สืบจากพี่ต้อยก็ได้รายนี้มีอะไรถึงผมหมดทุกเรื่องเหมือนกัน ผมรออยู่บนห้องใจเต้นตึกตัก หมั่นไส้ไอ้นั่นก็หมั่นไส้ ตอนที่แม่มันเรียกให้เข้ามาไหว้พ่อผมมันทำหน้าแบบว่าไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลยนะ จองหองที่สุด คอยดูนะมึง
   “นายๆ พ่อนายให้มาเอิ้นน่ะ” เสียงไอ้ดำครับมันเคาะห้องผม ผมรีบเปิดประตูออกไปทันที
   “อ่า เดี๋ยวนะ เราปวดท้องอีกแล้วอ่ะเล็ก บอกพ่อรอแป๊บนะ เออ พวกนั้นไปหรือยัง” ไม่ได้ปวดหรอกครับแต่ว่าแสดงไปงั้นล่ะให้ผู้ใหญ่เขาเห็นใจ เรยาไปไหมเนี่ยกู
   “บ่อทันไป เร็วๆเด้อ มีข่าวดีจะบอก อิอิ”
   “หือ ข่าวดีไร บอกมาเร็ว”
   “ไสว่าปวดท้อง ไปขี้ก่อนติ๊เดี๋ยวขี้แตกนะ” จิ๊ ไอ้บ้านี่อารมณ์เสียดันมารู้ทันกูอีก หนอยนะแทนที่จะบอกมา ผมทำหน้าหงิกใส่มันแล้วเดินเข้าห้องน้ำตรงทางขึ้นชั้นสอง เข้าไปดูหน้าตัวเองเท่านั้นล่ะครับ จะเอาน้ำสาดใส่หน้าให้ดูเหมือนเหงื่อออกเยอะๆดีไหมเนี่ย เอ๊ะ หรือว่าจะขยี้ตาให้เหมือนว่าปวดท้องหนักจนร้องไห้ดีไหมนะ ไม่ได้ๆ เราต้องเล่นแบบนี้ให้ไอ้นั่นมันโดนพ่อด่า อิอิ
   “น้องอุ่นขา แล้วหรือยังคะ เพิ่นถ่าโดนแล้วเด้” แง่ว พี่ต้อยนะ เออๆ ออกไปก็ได้วะ สรุปก็ไมได้สาดอะไรใส่ตัวเองทั้งนั้นล่ะครับ ได้แต่คิด คิดนานไปไหมเนี่ยกู ฮึ ในที่สุดก็ต้องเดินลงมาแบบหน้างอๆล่ะครับ
   “อุ่น พ่อรู้เรื่องแล้วนะ อย่าไปโกรธเพื่อนเขาเลยนะ เพื่อนเขายอมรับผิดแล้ว พอดีพ่อกับคุณแม่ของเพื่อนเขาคิดว่าจะให้ลูกกับ ชื่อไรนะ” “เดี๋ยวค่ะ” “อืมกับนายเดี๋ยวเนี่ย พอดีพ่อโทรไปถามทางโรงเรียนเมื่อกี๊ เห็นเขาบอกว่าจะมีการเข้าค่ายภาษาอังกฤษ ไหนๆอุ่นก็ถนัดอยู่แล้วนี่ เลยจะให้ไปด้วยกัน เผื่อว่าจะได้ปรับความเข้าใจกันได้เป็นเพื่อนกัน เพื่อนเขาอยากจะแก้ตัว” พ่อผมพูดยืดยาวครับผมไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่นักหรอกไม่ใส่ใจ เห็นไหมผมบอกแล้วว่าผมน่ะเรียนเก่ง อิอิ แม้จะเก่งวิชาเดียวก็เถอะไม่อยากจะโม้อ่ะก็เด็กโรงเรียนคริสต์เก่านี่นะ แต่เอ๊ะ ให้ไปไหนนะ แว้กก พ่อ
   “ไม่ใช่แก้ตัวค่ะคุณปลัดขา เป็นการทำโทษไถ่โทษมากกว่าค่ะ น้องลูกอุ่นขาถ้าหากว่าไอ้เดี๋ยวมันทำอะไรไม่ดีมาบอกแม่ได้เลยนะคะ แม่จะจัดการมันเอง” “ไรอ่ะแม่ ไม่เอา” “หุบปาก ไม่เอาหรือมึงจะพักการเรียน” อิอิ สม เสือกดีนักผู้ใหญ่เขาคุยกันดันมาทำสู่รู้ ผมยิ้มออกมา ไอ้บ้านั่นมันถลึงตาใส่ผมล่ะครับ แต่ แว้กก พ่ออ่ะไม่เอาแบบนี้นะไม่ไปกับมัน ไม่เอาๆๆ
   “ว่าไงอุ่น โอเคไหมเราน่ะ” ไม่ๆ ไม่โอเค ไม่เอาแบบนี้ แบบนี้มันไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหา ถ้าหากว่าไปเข้าค่ายอะไรนั่นแล้วมันทำร้ายผมล่ะ พ่ออ่ะคิดอะไรบ้างไหมเนี่ย คิดบ้างไหม แว้กก โมโห
   “อะเค” เอ่อ ตบผมที โมโหตัวเอง พูดอะไรที่มันยาวๆกว่านี้หน่อยได้ไหมเนี่ยอุรดิศ แว้กก ทำไงดีๆ
   “งั้นตามนี้นะครับคุณแต๋ว สรุปว่าวันศุกร์นี้ให้ทั้งสองคนเป็นตัวแทนโรงเรียนไปเข้าค่ายภาษอังกฤษ เมื่อกี๊ผอ บอกว่าจะให้อาจารย์พรมาคุยกับผมอีกทีหนึ่ง ไม่ทราบว่าทานข้าวเย็นมาหรือยังครับ ทานข้าวเย็นด้วยกันเลยก็แล้วกันนะครับ เรื่องเด็กมีเรื่องกันนั้นอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ คิดว่าเป็นการเข้าใจผิดกันดีกว่า วัยรุ่นก็แบบนี้ล่ะ หน้าตาอุ่นคงจะไม่เข้าตาเราสินะ นายเดี๋ยว”
   “ครับ หน้ามันกวนตีน” “ฮ่าๆๆ ตรงดีนะเราน่ะ” เอ่อ พ่อชมมันทำไมเนี่ย อะไรอ่ะพ่อ โว้ยย โมโห ไหนจะไปชวนมันกินข้าวเย็นอีก ไม่เข้าใจ ไม่มีวันเข้าใจ จะด้วยมีมารยาทหรืออะไรก็ไม่รู้นะ แต่ไม่ชอบ ไม่เอาแบบนี้ พ่อนะพ่อ

เขียนโดย อิ๊กกี้

เพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารของนิยายและความเคลื่อนไหวของกระผม อิอิ ได้ที่
http://www.facebook.com/pages/Eikys-Story/173993032657995 (http://www.facebook.com/pages/Eikys-Story/173993032657995)
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 26-03-2012 10:46:03
เอาละทีนี้น้องอุ่นเอ๋ย จะลงแบบไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-03-2012 11:02:23
ฮาไปสามบ้านแปดบ้าน ถ้าอิเดี๋ยวมันรู้สงสัยล้อไปจนลูกโตแน่
มีสองคนนี้ไปร่วม ค่ายภาษาเขาจะแตกไหมนี่
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 26-03-2012 11:12:50
55555 ฮาอ่ะ  ชอบไอ้ดำอ่ะ ซื่อๆดีน่ารักสุด จะมีคู่กะเค้ามั้ยน้อ  ทั้งอุ่นทั้งเดี๋ยวนี่เหมาะสมกันดีแท้
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-03-2012 11:56:19
555 ไอ้เราก็คิด เดี๋ยวมันท่าจะมือหนัก
ที่ไหนได้ อุ่นดันท้องเสีย 5555
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 26-03-2012 19:09:01
จะเอาอีก

กี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส


สนุกอ่า  ชอบๆๆ  ชอบของพี่อิ๊กกี้ ทุกเรื่อง คิคิ
แต่รอน้อง ญี่ปุ่นอยู่น๊าาา
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 26-03-2012 21:45:45
มันสิเป๋นจังไดน้อทีนิ คือสิเป็นตามันส์แท้น้อ
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 26-03-2012 22:46:20
ไปเข้าค่ายด้วยกันจะตีกันไหมเนี่ย  :jul3:
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 26-03-2012 23:09:51
สนุกนะ Eiky
แต่ทำความเร็วการอ่านภาษาไทยลดลงเลย  :laugh:
+1
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 27-03-2012 00:23:07
ไปค่ายนี่ ไปจะปรับความเข้าใจกันหรือไปตีกันเนี่ย!!  :laugh:

อยากได้วุ้นแปลภาษาจังค่ะ!!  :really2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-03-2012 19:15:05
 หุ หุ น้องอุ่นโก๊ะ  น่ารักดี   
เรื่องนี้ต้องบรรจงอ่านอ่ะ....ภาษาไม่แข็งแรงเด้อ

 :L2: น้องอิ๊ก  :pig4:

หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-03-2012 20:37:15
มารับเรื่องใหม่ครับ
เปิดฉากมาก็ฮาระเบิดแล้วครับ
หัวข้อ: Re: Don't Call Me BaBy!! ตอน 2 Version (อุ่น) 26 Mar 12
เริ่มหัวข้อโดย: Rawint_PK ที่ 27-03-2012 21:54:32
โว๊ะ..มาบ่จักตอนกะม่วนปานนี่...
มาอีกหลายๆเด้อน้องอิ๊ก...
อ้ายสิถ่าเบิ่ง อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 28-03-2012 21:46:04
You’re my Baby!!!
โว้ยยย ฆ่าผมให้ตายเสียเลยดีไหม จะให้กูเนี่ยนะไปเข้าค่ายกับไอ้เตี้ยนั่น มีอะไรที่แก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ไหมเนี่ย คิดได้แค่นี้?? สัตว์เอ้ย ดีเหมือนกันทีนี้ล่ะมึงกูจะเอาให้ตายเลย ทำหน้ากวนตีนกูดีนัก ผมไม่ชอบเลยนะเวลาด่าใครแล้วมันนิ่งๆทำหน้ากวนตีนๆอย่างเดียวหรือไม่ก็เบะปากใส่เนี่ย กูไม่เคยเจอ มึงตายแน่ไอ้หน้าจืด แม่งเอ้ยทำให้กูเสียท่า มึงกล้ามาลูบคมกูนะ คอยดูมึงจะหาว่าไอ้เดี๋ยวไม่เตือน คนอะไรหน้ามึนกวนส้นทีนเป็นอย่างยิ่ง วันศุกร์นี่ล่ะกูจะประเคนส้นทีนกูใส่พานถวายมึง
   “คิดอะไรอยู่ หยุดเลยนะมึง นี่สายตาคิดจะแก้แค้นเพื่อนอยู่ใช่ไหม ไอ้เดี๋ยว” เอ่อ แม่ผมครับกรี๊ดขึ้นในรถ แหมนะอ่านใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกด้วยเก่งจังแม่ อิอิ
   “ไรแม่ ไม่ได้คิดไรซะหน่อย”
   “อย่ามากูรู้จักมึงดี มึงเห็นหรือยังว่าคุณปลัดเขาหล่อปานใด เอ้ย เขาใจดีแค่ไหน”
   “นั่นเดี๋ยวฟ้องพ่อนะแม่ ไรอ่ะเห็นคนหล่อหน่อยตาวาวเชียวนะ” “ป๊าบ” “โอ๊ย แม่อ่ะ ตบหัวเดี๋ยวไมอ่ะ”
   “ปากหมานะมึง ลองไปฟ้องพ่อมึงสิ มึงนั่นล่ะจะตาย ก็กูพูดเรื่องจริง คนอะไรหล่อจัง กล้ามใหญ่ อื้อฮื้อ หล่อจัง อื้อฮื้อมาดแมน” อ่านะไปได้เป็นเพลงแม่กู
   “ลูกอุ่นก็น่ารักแลดูเป็นผู้ดีมีชาติมีตระกูล ไม่เหมือนมึงเลยสักอย่าง นี่มึงยังมีหน้าไปทำร้ายเขาอีกนะ เลวได้ใจ เชี่ย” อ้าวๆ ไหงมาด่าลูกตัวเองซะงั้นแม่กู
   “ไรแม่ ด่าเดี๋ยวทำไม ก็คนมันไม่ถูกตา แม่ดูมันเบะปากใส่เดี๋ยวสิ”
   “ป๊าบ” “โอ๊ย แม่อ่ะ ตบหัวเดี๋ยวอีกแล้วนะ เรียนโง่อย่ามาว่านะ”
   “หุบปาก อย่ามาขึ้นเสียง สอนไม่รู้จักจำ มึงเห็นไหมว่าเขาไม่เอาเรื่องมึงก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว มีหน้าไปว่าเขาอีก กูไม่เห็นว่าลูกอุ่นจะมีท่าทีกริยามารยาทเหมือนมึงเลยนะ กรี๊ด ทำไมนะ เลี้ยงลูกไม่ได้อย่างเขา ท่าทางเขาดูดีมากมีชาติมีตระกูลหน้าตาผิวพรรณขับเปล่งประกาย ผู้ดีจริงๆ”
   “เอ่อ แม่ ได้ข่าวมีลูกคนเดียวนะ ไปรับมันเป็นลูกตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมไม่พอใจครับ อะไรวะจะไปชอบมันมากมายขนาดนั้น แต่กูเกลียดมัน เกลียดโว้ย
   “หุบปาก ขับรถดีๆ กูกำลังเคลิ้ม” เอ่อนะ เออเดี๋ยวจะไปฟ้องพ่อคอยดูสิว่าจะเปรี้ยวอยู่ไหมคุณนายแต๋ว
   “เพิ่นว่าจั่งได๋” พ่อผมครับ โลกนี้มันประหลาดไปจริงๆ พ่อผมเป็นคนเพชรบุรีนะแต่พูดภาษาอีสานที่ฟังแล้วยังไงก็ไม่อีสาน ส่วนแม่ผมคนที่นี่เกิดที่นี่โตที่นี่แต่พูดภาษากลางที่ฟังยังไงก็ไม่กลาง เข้าใจผมป่ะเนี่ย
   “ท่านปลัดดีมากเลยพี่ ไม่เอาเรื่องแต่ยังจะให้ไอ้เดี๋ยวไปเข้าค่ายกับกับลูกอุ่นอีก ลูกอุ่นนะพี่ อย่างนั้นอย่างนี้” กูขี้เกียจบรรยาย แม่งเอ้ยยิ่งยอมันเท่าไหร่ยิ่งเกลียดมันมากเท่านั้น มึงคอยดูนะ มึง
   “เดี๋ยวขา ญ่าเอาส้มตำไทยหวานๆครกนึงจ้า” คือเพิงร้านผมปิดสามทุ่มครับ ตอนนี้สองทุ่มครึ่ง นี่ก็เสียงอีชาติห้องทับเก้า อีนี่เป็นกะเทยที่ไม่ดูสารรูปตัวเองเอาเสียเลย หนอยมีหน้ากระแดะเรียกตัวเองว่าญาญ่า ถุยหน้าอย่างมึงเนี่ย น่าจะเป็นหญ้าใกล้ตายหรือไม่ก็หญ้าเหี่ยวให้ควายแก่ๆกินโน่น สัตว์
   “บ่อขายเว้ย ร้านปิดแล้ว” ผมกระแทกสากใส่มันครับ มันทำท่าดัดจริตสะดีดสะดิ้ง
   “ว้ายเดี๋ยวอ่ะ ทำไมตะคอกใส่ญ่าแบบนั้นอ่ะ เค้าตกใจนะตะเอง”
   “เชี่ย ตะเองพ่อมึงสิ อย่างมึงแดกตำไทยด้วยติ๊ ไม่แดกปูปลาแดกใส่ตีนกูบ่อ” นี่แน่ขอระบายหน่อยเถอะแม่งกวนตีน โมโหไอ้เชี่ยนั่นล่ะครับเอามาลงกับอีกะเทยนี่เสียเลย
   “บักเดี๋ยว” เอ่อ คุณนายแม่ครับตะโกนมาแต่ไกล
   “อิอิ เอาตำไทย แบบ ซี๊ด แซ่บๆนะคะเดี๋ยวขา” “อ๊วกก สัด แลบลิ้นเป็นตาย่านแท้ ได้แซ่บแน่ๆ” ดูมันทำท่าทางนะครับแลบลิ้นออกมาออกมาเลียปาก อ๊วกก ทุเรศลูกตาที่สุด หน้าตามันไม่ได้มีคุณค่าอะไรที่จะเป็นกะเทยนะครับ ถึกมากๆ หน้าแข้งนี่ใหญ่กว่าผมอีกมั้งนั่นน่ะ
   “เดี๋ยวอ่ะ ทำไมวันนี้อารมณ์ไม่ดีใส่ญ่าตลอดเลยอ่ะ ไม่รู้เหรอว่าญ่าคิดถึงมั่กๆ”
   “สัด อย่าสิดัดจริตหลาย ไปตายไสกะไป สิแดกบ่อทำไทยใส่ตีนมึงน่ะ” ผมตวาดใส่มันครับเสียงดังพอประมาณเพราะเดี๋ยวแม่ผมได้ยินซวยกูอีก
   “อุ๊ย ดิบเถื่อน ชอบ สเป็ก” “เคร้งๆๆ” ทนไม่ไหวครับ ตีนเตะจานที่เก็บมายังไม่ล้างทันที
   “ว้ายย” “เป็นหยังอีก” พ่อผมครับเดินมาแล้ว
   “ตีนไปถืกพ่อ เก็บให้แน่ะสิตำไทยใส่ตีนให้อีตุ๊ดนี่แดก”
   “เป็นหยังไปว่าลูกค้าแนวนั่น นิสัยเสียนะบักเดี๋ยว”
   “ฮ่วย พ่อมาตำให้มันติ๊ เดี๋ยวสิไปเก็บของล้างจาน” ผมวางสากทันทีครับ เดินหนีไปเลย พ่อผมดุไม่เท่าแม่นะแม่ผมน่ะสุดๆแล้วล่ะ ผมเดินหนีไปล้างจานล่ะครับไม่อยากจะมีเรื่องกับเพศที่อ่อนแอกว่า ทำไมวันนี้กูหงุดหงิดจังวะ แม่งเพราะไอ้หน้าจืดนั่นคนเดียวแท้ๆ จิ๊ อารมณ์เสียเว้ย ไปแดกเหล้าดีกว่า
   “มึงสิไปไส ล้างจานบ่อทันแล้วเด้” คุณพ่อครับ ล้างจานบ่อทันแล้วคือล้างยังไม่เสร็จครับ อ่ะแปลให้ คุณนายแต๋วเธอมัวแต่เม้าส์กับลูกค้าอยู่ ผมหยุดกึกลง
   “เดี๋ยวสิมาล้าง ไปเอาการบ้านบักเคน”
   “ไปเอาการบ้านหรือสิไปแดกเหล้า อย่านะมึง ล้างให้แล้ว” โว้ยยนะ อะไรวะ หงุดหงิดๆ อยากจะเตะคนจริงๆเพราะไอ้เตี้ยนั่นทีเดียว เพราะมันผมถึงหงุดหงิดได้มากขนาดนี้ โว้ยย กูเซ็ง คอยดูๆๆ
   “ทำไร” ผมกดโทรศัพท์ไปหาแฟนคนปัจจุบันครับ เพ็ญ ไปหาเธอให้เธอรีดความเครียดออกดีกว่า
   “อ้าวเดี๋ยว กำลังดูแคตตาล็อกอ่ะ พอดีเลยเค้าอยากได้อายไลน์เนอร์ที่อั้มโฆษณาอ่ะ เดี๋ยวซื้อให้เค้าหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวขา” เอ่อ เห็นกูเป็นเสี่ยหรือไงวะเนี่ย แม่งเอ้ย กูล่ะโคตรเกลียดเลยนะพวกเห็นแก่เงินเนี่ย
   “ไม่มีเงินซื้อเองหรือไง ไม่ซื้อให้โว้ย”  นี่คือภาษาที่พูดกับคนที่ผมเรียกว่าแฟน คูลพอมะ
   “โหยพี่เดี๋ยวอ่ะ แค่นี้ก็ไม่ได้ วันนั้นไปกินสุกี้เค้าก็ออกตังค์นะ เนี่ยใกล้วันเกิดเค้าแล้วอ่ะ ให้เป็นของขวัญวันเกิดไม่ได้ไง”
   “ใครพี่ เธอเกิดมีนาไม่ใช่ไง หน้ากูก็เด็กกว่านะ มีทวงๆหรือว่าจะเลิก” ผมขู่ครับ รักมันไหม ไม่นะไม่รู้ดิผมมันพวกใครดีก็อยู่ด้วยได้ เพ็ญไม่ได้ดีแต่มันแรดโดนใจแค่นั้นเองอีกอย่างเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีใครสู้ได้ ผมไม่ได้เลวนะ อ๊ะๆ อย่าๆ อย่ามาประนามผม ก็ผมเป็นคนแบบนี้ใครจะทำไมวะ
   “อ่า ไม่เลิกนะเดี๋ยว โอเคๆ เดี๋ยวเค้าซื้อเองก็ได้ เค้าดูแคตตาล็อกต่อนะ” อ้าว จะวางสายใส่กูซะงั้น
   “เดี๋ยวดิ คืนนี้จะไปหานะ อยาก” ตรงดีไหมครับ ไม่อ้อมค้อม
   “ไมได้อ่ะ เค้าเป็นเมนส์”
   “จิ๊ หงุดหงิดโว้ย เออๆ ไปเอาอีดาวก็ได้วะ” คือว่าตัวเลือกมันเยอะอ่ะนะครับ คนมันหล่อเร้าใจก็งี้ล่ะเรื่องธรรมดา
   “อย่านะเดี๋ยว เออๆ จะมากี่โมงล่ะ” นั่นแน่น่าสงสัยกูจำได้ว่าอาทิตย์ที่แล้วนี่มึงเพิ่งจะเป็นเมนส์แล้วนี่อะไร มันต้องมีอะไรแน่ๆ ที่จริงผมรู้ล่ะครับว่าเพ็ญไม่ได้มีแต่ผม เห็นมันคั่วอยู่กับเด็กเทคโนฯอยู่ แต่ผมก็ไมได้อะไรเพราะไม่ได้คิดว่าจะเอามันทำแม่ของลูกของผมแน่นอน ผมไม่ได้เลวนะในเมื่อผู้หญิงมันง่ายเอง ไม่รู้สิผมไม่ได้ดูถูกผู้หญิงนะเว้ยเฮ้ยอย่าเข้าใจผิด เขามาเสนอเองนะ ผมอยู่ของผมดีๆ ตอนมันอยากได้ผมแรกๆนี่มาที่ร้านผมทุกเย็น เช้าถึงเย็นถึง และตอนมีอะไรกันเธอก็เป็นคนทำเองทุกอย่าง ผมไม่ได้เลวเผาผู้หญิงนะ หรือว่าไม่อยากรู้จะได้ไม่ต้องเล่าปวดปากเหมือนกันนะเว้ย
   “ไม่ไปล่ะ กูเปลี่ยนใจ ว่าวเองก็ได้วะ” กดสายทิ้งทันที เธอโทรกลับมาหลายครั้งครับแต่ไม่รับสาย เบื่อจริงๆว่ะ โอ๊ย ทำไมมันหงุดหงิดแบบนี้วะเนี่ยจะนอนหลับไหมเนี่ยกู
   “ยกถาดมาเร็วๆหน่อยสิลูก พระมาแล้ว” ชีวิตประจำวันที่แสนจะน่าเบื่อ จะอะไรกับผมหนักหนาไม่รู้ เนี่ยเห็นมะผมต้องแหกขี้ตาตื่นมาแต่เช้า แต่ก็นะเอาน่าไอ้เดี๋ยวอย่าบ่นมากทำบุญๆ
   “หลวงเพ่นิมนต์ครับ มื้อนี้บักเข้มบ่อมาเหรอหลวงเพ่” หลวงพี่ในวัดล่ะครับผมสนิทกัน วิธีการนิมนต์ก็พยักหน้าเรียกเหมือนญาติสนิทประมาณนั้นล่ะครับ ผมบอกแล้วว่าผมน่ะคอนเน็กชั่นเยอะ
   “มันฟ้าวสิไปโรงเรียน มึงบ่อไปโรงเรียนติ๊บักเดี๋ยว” หลวงพี่ของผมพูดเนิบๆครับตามแบบฉบับพระดีมองต่ำไม่มองสูงเท้านี่ดำปี๋เพราะไม่ใส่รองเท้าเดินแม่ผมศัทรามากครับรูปนี้
   “ฟ้าวล่ะหลวงเพ่ แม่เพิ่นพาเฮ็ด”
   “เฮ็ดดีนำกะดีเด้อมึงน่ะ อย่าเฮ็ดแต่ซั่วหลาย นรกเขาสิเปิด” แปลว่าทำดีบ้างก็ดี อย่าทำแต่ชั่วเพราะนรกเขายังหน่าย อืม หลวงพี่ให้พรแต่เช้า จ้ากก
   “หยังหลวงเพ่มาแช่งผมแต่เช้าแท้น้อ ฮ่วยสิเอาบ่อของใส่บาตรนี่แม่ะ” ป๊าด หลวงพี่กล้ามาก กล้าให้พรผมแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย
   “ไอ้เดี๋ยว หยุดเลย วันนี้ทำอ่อมกบนะคะหลวงพี่ มีทอดเขียด ตอนแรกว่าจะหมกฮวกแต่ทำไม่ทันค่า” แม่ผมกันไว้ครับรายการอาหารไม่ได้พิศดารแต่อย่างใด ตอนผมมาอยู่ใหม่ๆนี่ไม่แตะเลยะ เอาไปเอามาผมเองนั่นล่ะที่เป็นคนไปสรรหามาให้แม่ผมทำให้กิน ผัดเผ็ดกบนี่นะสุดยอด
   “อ้าวไอ้เดี๋ยวจกข้าวเหนียวใส่บาตรสิลูก เร็วๆเดี๋ยวแม่จะไปไม่ทันตลาด”
   “ใส่บาตรน่ะอย่าฟ้าวหลายโยมแต๋ว มาอาตมาจะให้พร” อ่านะ หลวงพี่ผมเป็นไงล่ะครับมีเหน็บแม่ผมด้วย ฮ่าๆ เป็นไงล่ะด่าลูกใส่หน้าพระดีนักว่าแล้วหลวงพี่ก็ให้พรครับแม่ผมนั่งลงส่วนผมยืนพนมมืออยู่
   “ไปอาบน้ำไปโรงเรียนนะแม่” ผมยกถาดเข้ามาครับสะพายกะติ๊บข้าวอย่างคล่องแคล่ว ใครจะเชื่อว่าคนหน้าตาเหมือน อนาวินบวกมาริโอ้อย่างผมจะมาสะพายกะติ๊บข้าวแต่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทำได้เหมือนผมป่ะล่ะ ฮ่าๆ
   “ฮ่วยเป็นหยังน้อพ่อปู่” คุณปู่คือรถเครื่องประจำตำแหน่งของผมล่ะครับ ยามาฮ่า เอสอาร์ 400 รุ่นแบบว่าคลาสสิกมากๆ ผมรักคุณปู่ของผมมากนะขอบอก ไปไหนไปกันผมเคยพาคุณปู่ผมไปเที่ยวไกลถึงหนองคายมาแล้วนะเว้ย แต่วันนี้เป็นไรวะเนี่ยปกติคุณปู่ผมจะไม่ดื้อกับหลานเลยนะ
   “ฮ่วย สิไปทันคาบแรกบ่อน้อ เป็นหยังปู่” ผมก้มๆเงยๆอยู่ครับ อ้าวเชี่ย น้ำมันหมด กูว่าแล้ว
   “แม่ขอตังค์หน่อยปู่น้ำมันหมด” เบิกธนาคารครับ ผมมีธนาคารกระแสรายวันกับออมทรัพย์ กระแสรายวันก็คุณนายแต๋ว ส่วนออมทรัพย์ก็คุณพ่ออุดม กระแสรายวันเบิกง่ายหน่อยเพราะให้ครั้งละไม่เยอะ แต่ออมทรัพย์พ่อให้เป็นเดือนครับเป็นเงินฝากจริงๆจังๆจากการที่ผมได้เงินเบี้ยเลี้ยงจากการไปแข่งบอลหนึ่ง ไปตอบปัญหาหนึ่ง แล้วก็ที่ไปขายส้มตำอีกหนึ่ง ฮ่าๆๆ ผมเก็บได้เยอะแล้วคร้าบกะว่าจะเปลี่ยนแม็กใหม่ให้คุณปู่ของเก่ามันสนิมเริ่มจับขัดไม่ออก กูจะเอาแม็กสีแดงดำเล็งไว้แล้วล่ะ
   “แดกแต่น้ำมันนะไอ้คุณปู่ของมึงเนี่ย กินน้ำเปล่าได้ไหม น้ำมันคือเงินนะ หายากนะรู้ไหม” เรื่องปกติครับถ้าไม่เทศน์นี่สิผิดปกติผมก็ทำหน้าเศร้าๆอ้อนวอนอยู่ล่ะ แม่ผมบ่นเก่งด่าเก่งแต่ว่าใจดีครับ ยังไงก็ให้ล่ะ ผมเลยเข้าใจไง อิอิ สรุปก็ต้องขับรถกระบะแม่ไปซื้อน้ำมันที่เขาใส่ขวดขายหน้าซอยล่ะครับกว่าจะไปกลับทำนั่นทำนี่ตอนนี้ก็อีกห้านาทีแปดโมงเรื่องปกติครับ วันไหนผมไปก่อนแปดโมงนี่สิแปลก
   “บักเดี๋ยวจารย์พรเอิ้น” จิ๊ แม่งเรื่องไปเข้าค่ายแน่ๆเลย เซ็งโคตรๆ
   “เออๆ” ผมบอกไอ้เคนไปล่ะครับ หงุดหงิดแต่เช้าเลยวะ ตอนแรกว่าจะไปเตะบอลคาบอาจารย์วัณวิภาล่ะครับแต่ไปโผล่หน้าให้เห็นหน่อยจะได้เกรดสี่อีกตัว ฟิสิกส์เบสิกๆไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ผมน่ะมันขวัญใจอาจารย์โดยเฉพาะอาจารย์วัณวิภาเพราะแกบ้าผู้ชายทั้งที่หน้าตาไม่เอื้อ ใครหล่อๆหน่อยโดยเฉพาะผมไม่จำเป็นต้องทำการบ้าน ไม่จำเป็นต้องส่งงานแกแจกเกรดกระหน่ำครับ ไม่ได้เผาอาจารย์นะแต่มันเรื่องจริง ที่ว่าแกไม่สวยน่ะก็ดั้งก็ไม่มี จมูกบ้าอะไรมีแต่ปลายจมูกเหมือนลูกชมพู่อยู่ตรงปลายให้หายใจ ผิวก็กระดำกระด่างหนังหน้าขรุขระ ผมก็ดูกลายๆเหมือนฝอยขัดหม้อที่ร้านผม เตี้ยล่ำ น่องโป่งเหมือนแกไปแอบเตะฟุตบอลหลังสอนประมาณนั้นครับ คิดภาพออกไหม ถ้ายังก็ต่อให้ ตาแกจะหยีๆคิ้วน้อยมากๆทั้งที่เขียนแล้วนะ แต่เหมือนแกเขียนไม่เป็นเพราะผมคิดว่ามันไม่เท่ากันสักวัน แต่งหน้าก็อยากจะแต่งแต่ว่าทาบ้าอะไรมาไม่รู้มันไม่เหมาะกับแกเลย ตัวแกดำแต่แกเลือกสีตัดกันแบบว่าเดินมาแต่ไกลเห็นแต่สีแดงบนปากประมาณนั้นครับ เอาล่ะๆ เผาแกมากไม่ดีอย่างน้อยผมก็ได้เกรดสี่วิชาแกมาทุกเทอมครับ ไม่ใช่เพราะผมหล่อหรอกนะเว้ย แต่เพราะผมเก่งเองเว้ยไม่เกี่ยวเลย
   “อ้าวไปไหนนายเดี๋ยว” พอถึงคาบแกผมก็นั่งอยู่ก่อนล่ะครับพอแกยิ้มให้ผม ผมก็ลุกทันที
   “ไปหาจารย์พร” ผมบอกแกไปแล้วเดินต่อทันที
   “จะกลับมาไหมเดี๋ยว” โอ๊ยนะ ทำเสียงเหมือนเมียจะส่งผัวไปออกรบประมาณนั้นครับเสียงเพื่อนๆอือ ฮือขึ้นมาทันที ผมหยุดแล้วหันไปมองหน้าแก
   “ไม่กลับครับ ผมจะไปเตะบอล บักเคนไปถ่ากูที่สนามนะ” ผมไม่สนใจแกครับหันไปบอกไอ้เคนหน้าตาเฉย
   “อ้าว อย่าลืมไปหาครูที่ห้องนะ มีงานให้ทำ”
   “สั่งไว้นี่ล่ะจารย์ผมยุ่ง ไม่มีเวลาหรอก” ผมเดินออกไปเลยครับเสียงเพื่อนๆในห้องหัวเราะดังขึ้น แล้วก็เสียงแกแว้ดเสียงขึ้น จะว่าไปแล้วถ้าผมไม่ขี้โอ่เกินไป ผมว่าทั้งชั้น ม.๕นี่นะผมหล่อสุดแล้วครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น จริงนะเว้ยไม่เชื่อไปถามพวกเด็ก ม.ต้นที่มันแรดๆได้เลยว่าใครหล่อสุด ผมน่ะติดอันดับของโรงเรียนนะเว้ยเฮ้ยว่าไป นั่นๆ อย่าๆรู้นะว่าแอบด่าอะไรผม จะว่าผมเลวติดอันดับน่ะเหรอ อันนั้นอันดับไม่เคยเปลี่ยนครับ หนึ่งเสมอมา หึหึ
   “หยังจารย์” ผมโผล่พรวดพราดเข้าไปในห้องของอาจารย์พรฤดีทันทีครับ รู้สึกว่าจะเป็น ม. ๖ นะที่เรียนแล็ปอยู่ ไม่สนเว้ย
   “นี่บักเดี๋ยวมารยาทน่ะสะกดเป็นไหม ครูสอนพี่เขาอยู่นะ”
   “เป็น แต่ไม่ทำ ไม่มีไรแม่นบ่อ งั้นผมไปนะ” สนใจที่ไหนล่ะ ผมรู้ล่ะว่าแกจะคุยเรื่องอะไร ก็จะเรื่องอะไรล่ะครับ ก็เรื่องเข้าค่ายนั่นไง
   “เออๆ แป๊บนะคะนักเรียน ครูคุยกับไอ้นี่ก่อน”
   “แบงค์มีบุหรี่บ่อ ขอแน่ะ” ผมเดินไปหารุ่นพี่ทันที ผมไม่เคยเรียกพวกมันว่าพี่ครับ ก็มันเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอล นักกีฬาแต่ทำตัวเอี้ยกันทุกตัวครับท่านขอบอก มันทำหน้าเหรอหราเพราะรู้ว่าอาจารย์พรฤดีแกดุ แต่ผมไม่สนใจครับ เพราะผมแน่กว่ามัน
   “บ่อมีดอก มึงเป็นบ้าติ๊” มันกัดฟันพูดครับ ไรวะไอ้บ้านี่เดี๋ยวเถอะมึง
   “อะไรกัน มานี่เลยบักเดี๋ยวมึงนี่เหลือเกินจริงๆนะ เดี๋ยวกูจะบอกให้พ่อมึงจัดการเลยนะ อย่าซ่าให้มาก” พ่อผมในที่นี้หมายถึงอาจารย์เดชนะครับ ก็โค้ชทีมฟุตบอลและอาจารย์ปกครองที่ดุที่สุดในโรงเรียนนั่นล่ะครับ แต่อาจารย์พรฤดีแกคงจะลืมไปว่าผมไม่กลัว เป็นไงล่ะขู่ใครไม่ขู่มาขู่ไอ้เดี๋ยวนะเว้ยเฮ้ย
   “เดี๋ยวกูมาเอา” ผมยังไม่สนใจแกครับแต่บอกไอ้แบงค์ไว้แล้วหันหน้าไปหาแก แกเดินออกไปนอกห้องรอผมแล้ว ทำไมต้องคุยนอกห้องแอร์ด้วยวะเนี่ยกูไม่เข้าใจ
   “แม่งดูดเปลืองแต่บ่อซื้อเอง” อ้าวไอ้เชี่ยแบงค์บ่นครับ ผมหันขวับทันที พยักหน้าให้มันประมาณว่ามึงพูดอะไรวะ มันก็หลบหน้าไปทางอื่นทันทีครับ
   “เรื่องไปเข้าค่ายน่ะรู้แล้วใช่ไหมบักเดี๋ยว”
   “ฮู้ครับ”
   “คุณปลัดเขามีเมตตากับมึงมากนะ เขาไม่ให้พักการเรียนแต่ให้ไปเข้าค่ายกับอุรดิศ เดี๋ยวครูจะให้พี่สายใจไปด้วยกับพี่พงศ์ห้องหนึ่ง”
   “ไปหยังสี่ห้าคนจารย์ ผมสละ”
   “หยุด หุบปากเลย นี่เขาเมตตามึงนะยังจะมาสละอะไร” อ้าวนะยังพูดไม่ทันจบเลย
   “สละไซเดอร์ไงจารย์อีหยังเนี่ย ครับไปก็ไป แต่ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของนักเรียนโรงเรียนอื่นเด้อจารย์” โดยเฉพาะไอ้หน้าจืดนั่นครับ มึงตายคาตีนกูแน่ๆ
   “เอาสิบักเดี๋ยว คราวนี้มีแต่หัวกะทิมาจากโรงเรียนทั้งหมดในภาคอีสาน ถ้ามึงจะกล้าก็เอาเลยมีวิทยากรมาจากต่างประเทศ มึงกล้าทำก็เอาเลย” อ้าวขู่กันว่างั้น หนอยแน่ ผมไม่ตอบครับเดินหนีไปทันที โว้ย หงุดหงิดเว้ย ไปเตะบอลดีกว่า แม่งหาบุหรี่ดูดก็ไม่มี
   “มึงเอามาตัวดิ๊บักเคน” พอเห็นหน้าไอ้เคนผมก็ปรี่เข้าไปหามันครับ
   “จารย์เอมด่ากู แม่งทีมึงบ่อเห็นว่าหยัง อีหยังวะบ่อยุติธรรม” มันบ่นครับ คือไอ้เคนมันไม่หล่อนะครับ แต่ อ๊ะๆ ผมไม่เผาเพื่อนผมหรอกน่าอย่ามาอยากรู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ไม่มีทางบอกเว้ย
   “เออ มึงอย่าคิดมาก เอามาตัว”
   “กูลืมซื้อ มึงออกไปซื้อแน่ะ”
   “เชี่ย เออๆ บ่อมีก็บ่อมี ไปเตะบอล” หงุดหงิดครับ จะซื้อได้ไงก็คุณนายแต๋วให้เงินมาจำกัด แม่ผมน่ะนะที่ว่าผมฉลาดแล้วแม่ผมคูณสองครับ ไม่มีเงินเหลือจะไปทำนั่นนี่หรอก อยากกินขนมบ้าง คุณนายแกบอกว่า โตแล้วจะกินทำไมขนมไม่ใช่เด็ก ลิ้นจุกปากเลยสิผมน่ะ เอาเป็นว่าผมกับไอ้เคนก็เตะบอลวิ่งไล่บอลกันอยู่สองคนข้างสนามครับ ใครจะไปเล่นในสนามร้อนจะตายชัก
   “โจ้เหรอ เค้าขอโทษก็ที่นี่มันไม่มีสัญญาณอ่ะ เนี่ยคิดถึงตัวเองจะตาย ตัวเองคิดถึงเค้าป่าว” หือ เสียงคุ้นๆครับ ผมทำท่าให้ไอ้เคนมันหยุดเล่น พอมันหยุดผมก็เงี่ยหูฟัง
   “ไม่เลยตัวเอง ที่นี่ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลย มันร้อนมาก ต้นไม้ก็แดงๆ เด็กก็บ้านๆอ่ะ เค้าคิดถึงตัวเองจัง ไม่มี ใครจะมาหล่อ เค้าไม่ได้มองใครหรอกน่า ตัวเองอ่ะอย่านอกใจเค้านะ” เฮ้ย นี่มันไอ้หน้าจืดนี่หว่า จากเท่าที่คุย อย่าบอกนะว่ามัน ฮ่าๆ อีแอบเอ้ย ดีเลย กูจะแกล้งมึง กูว่าแล้วเชียวไม่ค่อยพูดมีแต่มองมันต้องผิดปกติแน่ๆ ที่แท้ก็เป็นตุ๊ด ทักทายมันหน่อยครับ
   “ปึ่ก เฮ้ย” ผมเตะลูกบอลผ่าเข้าไปตรงกอดอกไม้ที่มันนั่งคุยโทรศัพท์อยู่นั่นล่ะครับ มันตกใจลุกขึ้นทันที
   “อ้าว ไอ้เชี่ย มึงมาแอบทำไรตรงนี้วะ แม่งกูนึกว่าอีแอบที่ไหน” ผมทักทายก่อนครับ เดินตรงเข้าหามัน ตอนนี้สายตาผมมันคงเหมือนเสือเจอก้อนเนื้อมั้งผมว่านะ
   “เตะมาทำไมตรงนี้” แหมนะ ออกสาวมาหน่อยเถ๊อะกูอยากเห็น มาทำแอ๊บแมนใส่กูอีก แสรด เดี๋ยวเถอะมึง
   “เฮ้ยบักเคน ไปเก็บบอลให้กูแน่ะ ตัวเองอ่ะ” ผมล้อมันครับแล้วยิ้มพราว มันยังนิ่งอยู่ อ้าวไม่อายเหรอวะ
   “แค่นี้ก่อนนะตัวเอง” มันวางสายครับแล้วทำท่าจะเดินหนี
   “เดี๋ยวตัวเอง” ผมปรี่เข้าหามันดึงแขนไว้ครับ คำว่าตัวเองนี่พยามทำเสียงให้มันอ่อนหวานมากที่สุด ขำตัวเองเหมือนกันครับ แต่ก็อยากจะแกล้งมัน
   “อะไร” มันหันมาตวาดครับ โว้ ทำหน้าดุใส่กูด้วยเฮ้ย   
   “มันเสียวเหรอวะเวลาเอากันน่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ คราวนี้แก้มมันแผ่สีแดงอมชมพูระเรื่อกระจายเต็มแก้มเลยครับ ฮ่าๆ ผมยังจ้องอยู่คิดว่าจะแน่ไอ้นี่อายก็เป็นเว้ย
   “อยากรู้ทำไม” มันเหมือนไม่อยากจะตอบแต่ก็ตอบ แต่มันก็จ้องตาผมเหมือนกันนะครับไม่ยอมเว้ยเฮ้ยไอ้นี่
   “สกปรก” ผมกัดฟันพูด ที่จริงไม่ได้อยากจะว่ามันแบบนี้นะ เอ้ย ผิดคอนเซ็ปส์ผมไม่ใช่คนดีอะไรไงแต่ผมก็ไม่เคยดูถูกใคร แต่กับไอ้นี่ทำไมไม่รู้ ก็ดูมันจ้องหน้าผมสิครับไม่ยอมวางตา มันคนแรกเลยนะที่ไม่กลัวผมเนี่ย ยอมไม่ได้ไงเข้าใจป่ะเนี่ย
   “สกปรกน่ะใจนายไม่ใช่ที่เราเป็น” ป๊าด ผมสะอึกไปเลยครับ มันสะบัดมือออกจากมือผม แต่นี่กูไอ้เดี๋ยวนะเว้ย จะมาสะบัดมือออกจากกูง่ายๆเหรอวะ ไม่มีทาง ผมรีบคว้ามือมันไว้อีกทันที
   “มึงว่าไรนะ” ผมขึ้นเสียงครับ บีบข้อมือมันแรงๆ
   “นอกจากใจสกปรกยังหูตึงอีกเหรอ” อ๊อก จุกครับ ไอ้เชี่ยนี่ ผมกระชากมือมันให้เข้ามาหาตัว ตอนนี้มันหน้าอยู่ที่คอของผม
   “อยากตายเหรอไอ้เตี้ย ปากหมานะมึง”
   “อ๊ะ อาจารย์” มันทำตาโตครับ ผมรีบดันตัวมันออกทันที เพราะเพิ่งจะมีคดี พอผมดันตัวมันออกมันก็วิ่งทันที อ้าวเชี่ย ฉลาดมาตลอดมาเสือกโง่เอาตอนนี้เนี่ยนะกู หนอยแน่ ผมกำหมัดขึ้นทันที ไม่เคยมีใครท้าทายผมได้มากขนาดนี้ ไม่มี มันเป็นใครวะ ตายๆ มึงต้องตาย
   “อิอิ กูเห็นเด้บักเดี๋ยว” ไอ้เคนครับมันยืนมองดูอยู่
   “สัด เดี๋ยวมึงจะแดกตีนกู ถ่ากูบ่อได้เหยียบหน้ามัน บ่อแม่นกูบักเดี๋ยว” ผมเหมือนสั่งฟ้าสั่งลมให้เป็นพยานครับ โมโหจริงจังนะเว้ย ผมเดินขึ้นอาคารเรียนไปแล้ว โมโหเห็นใครก็เคืองตาไปหมด มึงคอยดูนะเว้ยมึง ตายแน่ๆ ตายศพไม่สวยด้วย
   “มึงเอาเสื้อมาบ่อแบงค์” พอตอนเย็นเลิกเรียนก็ถึงเวลาซ้อมบอลล่ะครับ ผมมีความสุขที่สุดก็ตอนนี้ล่ะ แต่เสือกลืมเสื้อเอามาแต่กางเกง ส่วนรองเท้าพันปีกับถุงเท้าร้อยปีอยู่ในห้องอาจารย์เดชครับ เวลานักเรียนคนอื่นเข้าไปห้องอาจารย์เดชจะทำหน้าเหมือนได้กลิ่นหนูตายกันทั้งนั้นก็จากบรรดาพวกนี้ล่ะครับ ของผมนี่กลิ่นอ่อนสุดแล้วนะเว้ย อิอิ
   “บ่อเอามา เอามาตัวเดียว”
   “อ้าว เออกูถอดเสื้อกะได้วะ” ผมทำหน้าไม่พอใจ จะไม่พอใจใครล่ะ ก็ตัวผมเองดิ แม่งรีบจนลืม แต่ไม่สนใจครับถอดเสื้อโชว์แม่งไปเลย เพราะผมจะมีสาวๆมากรี๊ดประจำ ก็อย่างที่บอกว่ามีเด็ก ม. ต้นที่มันแรดๆน่ะหลายคน
   “ว้ายพี่เดี๋ยว หุ่นอื้มมากๆ พี่เดี๋ยวขา” เป็นไงครับ ผมบอกแล้ว ไม่แน่จริงผมไม่พูด ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยินครับวิ่งไล่บอลไปตามประสา แต่ไม่เข้าใจอีเด็กพวกนี้จริงๆนะ ทำไมมันไม่กลับบ้านกลับช่องวะ มาคอยกรี๊ดผู้ชายอยู่แบบนี้ ผมจะบอกตรงนี้เลยนะว่าถ้าให้เอาน่ะได้ แต่ให้จีบเป็นแฟนน่ะไม่มีทาง แต่พวกมันก็คงแค่อยากได้ผมล่ะมั้งผมว่านะ อ่านี่ผมดูมีค่าขึ้นมาทันทีเลยนะเนี่ย อิอิ
   “บักเดี๋ยว วันพุธหน้าไปแข่งที่อุบลนะ หลังจากมึงกลับมาจากเข้าค่ายกับจารย์พรน่ะ” พอเลิกซ้อมประมาณห้าโมงอาจารย์เดชก็เอ่ยขึ้นครับ
   “ไปโรงเรียนได๋จารย์”
   “นารี” ซี๊ด แค่ได้ยินชื่อโรงเรียนผมก็ขนลุกอยากไปมันคอนนี้เลยล่ะครับ นารีฯที่อุบล แต่ได้ข่าวว่ามันเป็นสหะไปแล้วนี่หว่า แต่ไม่เป็นไรสาวอุบลแจ่มๆเยอะแยะ เผื่อได้สักคนสองคน ฮ่าๆ ผมรีบไปที่โรงรถไปเอาคุณปู่ผมขับกลับล่ะครับ จุดหมายคือร้านผมนั่นล่ะ ต้องรีบไปช่วยที่บ้านไม่งั้นคุณนายแต๋วแพ่นกะบาลเอาตายแน่ๆ แต่พอขับคุณปู่ออกมาพ้นประตูโรงเรียนก็เห็นไอ้หน้าจืดมันเดินอยู่ครับ เหมือนมันงงว่าจะไปทางไหนดี วันนี้มันวันของผมจริงๆ จอดรถดริฟฟ์ตัดหน้ามันทันที อ๊ะๆอย่าคิดว่าคุณปู่จะทำไม่ได้ ผมดริฟฟ์มาหลายรอบแล้วเว้ย
   “เฮ้ย” มันร้องครับตอนแรกทำหน้าตกใจแต่พอเห็นผมมันต้องทำหน้าตกใจกว่า แต่ไม่เลย มันทำหน้าเซ็ง
   “ทำไมทำหน้าแบบนั้นใส่กู วันนี้ล่ะกูจะชำระแค้น ไอ้เชี่ย” ผมรีบจอดคุณปู่ครับก่อนที่มันจะวิ่งหนีไปก่อน
   “ความไร ไม่มีความ มีแต่ควายนะแถวนี้” ป๊าด สิบกว่ากระทงแล้วครับ ผมปรี่เข้าหามันทันที
   “ปากดีนะมึง ปึ๊ก” ต่อยเข้าที่ท้องมันทันทีครับ แล้วผลักบ่ามัน
   “โอ๊ย ต่อยทำไมอ่ะ”
   “มึงด่ากูเหรอ มึงอยากตายเหรออีตุ๊ด” ผมตวาดออกไปครับ แล้วประชิดตัวมัน
   “ด่ามันเจ็บเหรอ” อ้าวนะกล้าถาม ไม่เจ็บเว้ยแต่ไม่เคยมีใครด่ากูฟรีๆ
   “ยังอีก” ผมกระชากบ่ามันขึ้นมาครับ
   “ทีนายต่อยเรา เราก็เจ็บนะ แค่ด่าให้เราต่อยคืนบ้างไหมล่ะ” พูดเชี่ยไรเนี่ยกูงง
   “ไม่ต้องพล่าม วันนี้ล่ะเลือดหัวมึงไม่ออกอย่ามาเรียกกูว่าไอ้เดี๋ยว ไอ้หน้าจืด ไอ้ตุ๊ด” ผมพลักบ่ามันแรกๆครับด้วยมือขวา มือซ้ายก็จับบ่าอีกข้างไว้ ดึงไปดึงมา
   “โว้ยย จะต่อยก็ต่อยสิวะ ผลักทำไมเนี่ย เวียนหัวนะ” โว้ ผมตาค้างทันที นี่มันวอนมากๆครับ มันส่ายหน้าเหมือนว่าเวียนหัวจริงๆ ให้ตายเถอะผมไม่เคยเจอใครหน้ามึนเท่ามันมาก่อนเลยนะ ไม่กลัวผมไม่ว่าแต่หน้ามึนใส่นี่นะ มันเกินจะทนจริงๆ
   “ปึ๊กๆ” “แอ่ก” มันตัวงอลงครับแต่ผมดึงตัวมันเอาไว้ไม่ให้มันลงนั่ง ไม่ได้ต่อยท้องนะเพราะเดี๋ยวมันจะเป็นเหตุอีกผมต่อยตรงหน้าอกมันแรงๆ มันไม่พูดอะไรครับก้มหน้า
   “เป็นไง ท้าทายกูดีนักนะมึง” ผมกระชากให้มันมองจ้องหน้าผมเหมือนที่มันเคยทำ
   “พอใจหรือยัง เราจะ จะรีบกลับบ้าน” เอ่อ งดบรรยายครับ สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมปล่อยมือจากมันทันที ผมเคยต่อยใครต่อใครร้องไห้มาเยอะแล้วนะแต่ไม่เคยเห็นแบบนี้เลยว่ะให้ตายเถอะ
   “สำออยอีก อีตุ๊ด” แต่ผมปากสุนัขผมบอกแล้ว มันไม่ตอบครับมันเดินเซหนีไป ผมยืนนิ่งอยู่สักพักแล้วก็กลับบ้าน ทำไมกูไม่รู้สึกสะใจเลยวะ ทำไมได้ต่อยมันขนาดนั้นแล้วกูไม่รู้สึกดีใจอะไรเลยเนี่ย ทำไมในใจมันเหมือนว่ามืดๆดำๆอยู่เลยวะเนี่ย เกิดอะไรขึ้นไอ้เดี๋ยว

Written by eiky

ติดตามข่าวสารได้ทาง เว็บเพจของผมนะคร้าบ ที่ร้าก อิอิ ชอบกันไหมอ่า ภาษาสเปนนิ ก๊ากกก

http://www.facebook.com/pages/Eikys-Story/173993032657995 (http://www.facebook.com/pages/Eikys-Story/173993032657995)
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 28-03-2012 22:21:29
น้องเดี๋ยวเกเรจัง แต่อุ่นหน้ามึนมากอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: area71 ที่ 28-03-2012 22:59:19
อ่านแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ มีคนชอบแกล้งแบบนี้แหละเห็นหน้าแล้วเซ็งเลย แต่เสียดายที่ไม่หล่อแบบเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 28-03-2012 23:40:19
ดีค่ะ เรียนภาษาเพิ่มเติม เป็นความรู้ใหม่ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 29-03-2012 04:07:03
แล้ว "เดี๋ยว" จะติดใจ ถ้าคุณได้ลอง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 29-03-2012 12:21:10
ชอบอุ่นมากๆๆๆๆๆๆ
สู้โว้ย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 29-03-2012 12:55:47
บักเดี๋ยวเริ่มชอบอุ่นโดยไม่รู้ตัวแล้ววว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 29-03-2012 14:54:27
พระเอกร้ายจริงๆ
+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-03-2012 16:48:12
เดี๋ยวเกเรมาก ไปรังแกน้องอุ่นทำไม
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 2 Version (เดี๋ยว) 28 Mar 12 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 29-03-2012 21:07:09
 :m20: เดี๋ยวโคตรดื้อ รังแกอุ่น สักวันเถอะจะซ่าไม่ออก
ดีนะที่เราเป็นคนอิสานเลยอ่านรู้เรื่อง ฮ่าๆ  :jul3: ไม่งั้นคงงงๆกับภาษา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 30-03-2012 18:44:36
Don't call Me BaBy!!
“เมื่อวานเข้าโรงบาลเลยเหรอจ๊ะตัวเธอ” อีกะเทยหัวโปกออกสาวร้าวรานมันทำเสียงดัดจริตใส่ผมแต่เช้าครับ จิ๊ ไม่อยากจะตอบ จะรู้ไปทำไมเนี่ยช่วยกูออกค่าหมอหรือไง อย่าๆอย่าบอกว่าเป็นห่วงเพราะน้ำเสียงนี้มันไม่ใช่ห่วงแต่มันเหมือนหยันๆเย้ยๆยังไงไม่รู้
   “อืม” ผมครางออกไปล่ะครับทำเป็นไม่สนใจมัน
   “แชรี่ว่าดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นไรมาก ยังปวดท้องอยู่ไหมอุ่น” เชอรี่ที่หน้าเหมือนตุ๊กกี้ เวลาเธอพูดนี่บีบปากห่อปากซะเหมือนลูกครึ่งที่พูดไทยไม่ชัดประมาณนั้นล่ะครับ ผมไม่อยากจะตอบครับส่ายหน้า
   “อย่าไปยุ่งกับมันมากนะไอ้เดี๋ยวน่ะ มันนักเลง” อุ๊ย หัวหน้าห้องเดินเข้ามาทักครับผมยิ้มออกมาทันที
   “ว้ายไรยะไอ้ทาย เดี๋ยวเขาออกจะนิสัยดีเถื่อนดิบ ใหญ่ อย่ามาเดี๋ยวของฉันนะยะ” คุณชาติครับหรือญาญ่าดัดจริตวี๊ดเสียงขึ้นผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเด็กที่นี่เขาพูดกันยังไงไม่รู้ก็จะอะไรล่ะครับ บางคนคุยกันเป็นภาษากลางแต่บางคนก็อย่างไอ้ดำนั่นไง เออ ช่างมันเถอะแต่ตอนนี้ไม่อยากได้ยินใครรำคาญเว้ย
   “นี่นังย่า เดี๋ยวน่ะผัวกูนะ พูดอะไรระวังปากหน่อย จะโดนตบ” ผมหันขวับไปมองผู้หญิงที่เอ่ยถึงผู้ชายโต้งๆและยังไปเรียกเขาว่า เอ่อ ผัวอีก กล้าจังเลยนะเธอ
   “อะไรนังเพ็ญ ผัวแกก็ผัวแกสิ ฉันแค่อยากกิน จะทำไม” อีกะเทยหัวโปกทำท่าแบบว่าไม่ยอมถอยครับ จะได้ดูมวยเหรอวะเนี่ย ดีจัง เอาเลย ตีกันเลยกูจะคอยดูจะไม่ห้ามสักคำเอาเลยสิวะ
   “เดี๋ยวเขาคงกินมึงหรอกนะอีกะเทยโรคจิต อีไม่สวย สวยก่อนค่อยมาคิดนะยะ” เสียงเพื่อนๆหัวเราะดังขึ้น
   “โอ๊ย สวยไม่สวยก็กินมาหลายคนแล้วล่ะย่ะ ไม่เคยได้ยินเหรอ ไม่สวยแต่แซ่บน่ะ หล่อนน่ะก็ดีแต่หน้ากลางๆไม่แซ่บเดี๋ยวเขาคงเขี่ยสักวัน” ที่จริงเธอสวยนะผมว่าแต่ถ้าไม่แอบทาแป้งมาคงจะดูสดใสมากกว่านี้
   “อีชาติหมา ตบกันเลยไหม อย่างหล่อนน่ะตายสิบชาติหนังหน้าก็คงไม่เท่านี้หรอก” เพ็ญเองก็ไม่ยอมครับ เอ่อ ตอนแรกนึกว่าจะสนุกแต่ดันเวียนหัวขึ้นมา อะไรวะเนี่ย
   “อุ่นๆ จารย์พรเรียกน่ะ” อ่า หัวหน้าห้องครับผมยิ้มให้ทันทีแบบไม่ต้องแอ๊บอะไรทั้งนั้น
   “เรียกเราเหรอ ที่ไหน” ผมดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ทันทียิ้มให้หัวหน้าห้องเหมือนว่าในห้องนี้มีแต่เขาคนเดียว เหล็กดัดฟันนั่นก็นะทำไมมันมีเสน่ห์เหลือเกิน ยิ้มอีกสิหัวหน้า ยิ้มๆๆ
   “ห้องแล็ปสิเธอจารย์พรเขาสิงอยู่ในห้องนั้นล่ะ” อีกะเทยหัวโปกมันตอบแทนหัวหน้าครับผมหน้ามุ่ยลงทันที แล้วไอ้ห้องแล็ปนี่มันอยู่ตรงไหนล่ะ อาคารมีตั้ง ๗ อาคาร
   “อาคาร ๔ นะอุ่นหมวดภาษาน่ะ” ปลื้มใจเป็นที่สุด นี่ล่ะถึงจะสมเป็นหัวหน้าห้องและยังเป็นคนที่ถูกตาต้องใจกูเป็นที่สุด ผมเดินออกจากห้องไปทันทีครับเดินเรื่อยเปื่อยลอยละลิ่วไป สายตาคนที่มองก็ยังมองอยู่คราวนี้ไม่ใช่มองอย่างเดียวมีแซวด้วยนะเพราะกางเกงกับเสื้อนักเรียนของผมยังไม่ได้เปลี่ยน เอาเข้าไป แต่นะเริ่มจะชินก็คนมันเด่นนี่นะมองได้มองไปแซวได้แซวไปเถอะไม่สนใจหรอก ผมเดินขึ้นอาคาร ๔ ไปเดินหาอยู่ว่าไอ้ห้องแล็ปภาษาอังกฤษนี่มันอยู่ไหนกันวะเนี่ย
   “อ๊ะ ขอโทษเราไม่ทันมอง” ผมก็นะไม่ได้เอ๋อนะเว้ยก็มัวแต่มองสูงหาป้ายนี่หว่าใครจะมองอย่างอื่นล่ะ ก็ผมดันไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า
   “ย่างจั่งได๋บ่อเบิ่ง ขอโทษแหม่ะ” อ้าวไอ้นี่ เมื่อกี้กูบอกขอบคุณหรือไงวะ ไอ้บ้า
   “เอ่อ เราเพิ่งขอโทษไปนะ” ผมพูดออกไปมองหน้ามัน มันก็จ้องหน้าผม ทำไมเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้มันโย่งๆกันเยอะจังวะเนี่ย ผิวนี้เกรียวดำเชียวคงจะไปตากแดดมา
   “บ่อแม่นเด็กนักเรียนนี้แม่นบ่อ เอ่อ ใช่ไหม มาใหม่เหรอ มาทำไร” เออนะนึกว่าจะโง่ เออสิ ถ้าใช่จะหน้าตาผุดผาดใส่กางเกงสีต่างจากพวกมึงแบบนี้ไหมเนี่ย
   “บ่อแม่น เอ้ย แม่น เราเพิ่งย้ายมา” ผมก็นะบ้าจี้ตอบมันออกไป
   “อ้าวเว้าลาวได้ติ๊ อยู่ ม.หยัง” เอ่อ กูพอฟังได้เว้ยไม่ได้พูดได้
   “ม. ๕” “ฮ่วยเป็นน้องเด้นี่ เอิ้นพี่ดิ” อ่านะไม่บอกก็รู้เว้ย แหมนะไอ้บ้าอำนาจ
   “นายๆ เอ่อ พี่ๆ ห้องแล็ปภาษาอังกฤษอยู่ไสนะ” ได้โอกาสถามเลยสิครับจะเดินหาทำไมให้เมื่อย
   “ไปหาจารย์พรติ๊ นี่ห้องนี่” มันชี้ไปห้องใกล้ๆนั่นล่ะครับ ป้ายตัวเท่าช้าง เออนะกูไม่น่าถามมันเลยผมเดินผ่านมันไปทันที
   “เดี๋ยว มาหาจารย์พรเฮ็ดหยัง สิไปเข้าค่ายติ๊” อุ๊ย ลืมๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีสกุลรุนชาติ
   “อ้อ ไม่รู้เหมือนกันพี่ ขอบคุณนะครับที่บอก” อิอิ ขอบคุณเขาหน่อยสินะ ผมหันมายิ้มให้มันแล้วเดินไปหน้าห้องเคาะประตูก่อน
   “เข้าไปโลดจารย์พรเพิ่งจะด่าบักเดี๋ยวไป เออ เจ้าแม่นบ่อที่มีเรื่องกับบักเดี๋ยวเห็นเขาลือกัน มานี่แน่ะให้ถามแน่ะ” อ้าวนะมันเดินมาดึงแขนผมทันทีครับ
   “อ่า ผมจะไปหาจารย์อ่ะพี่ ค่อยคุยได้ไหม”
   “เพิ่นบ่อว่าหยังดอกอ้ายเพิ่งจะออกมาจากห้อง”
   “อ้าวพี่ไม่เรียนเหรอ”
   “เรียนแต่จะไปดูดหรี่ อยากดูดบ่อไปนำกัน” ผมแสยะปากทันที ถึงว่าทำไมมันปากดำๆ
   “ไม่ดูด พี่ไปเถอะ ผมไม่ดูด”
   “อ้าว บ่อดูดกะมาเว้าให้ฟังแน่ะไปเฮ็ดหยังบักเดี๋ยวคือสิตีเอา” โว้ยย ขี้เกียจเล่าเว้ย ผมทำหน้ามึนๆ งงๆใส่มันครับ
   “บ่อเข้าใจติ๊ ไปทำไรไอ้เดี๋ยวถึงจะตีเอาน่ะ” มันอธิบายอีกรอบผมก็ทำท่าพยักหน้า
   “บ่อได้ทำหยังนะพี่ ผมไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ แค่นี้ใช่ป่าวผมจะไปหาจารย์ผมจะรีบไปเรียน” เอาวิชาการเข้าอ้างครับผมก็เดินกลับไปที่ประตูทันที อ้าวไอ้นี่มันเดินตามมาครับ มิหนำซ้ำมันดึงแขนผมเข้าไปในห้องอีก
   “จารย์น้องเขามาหา” มันพูดออกไปครับ เปิดห้องเข้าไป โว้ เด็กนักเรียนนั่งอยู่เต็มห้องแล็ปและก็พุ่งสายตามาทางผมกับมันทุกคู่
   “อ้าวมาแล้วเหรอคะนักเรียนใหม่” เสียงอาจารย์ทักมาครับผมก็รีบสะบัดมือมันออกแล้วยกมือไหว้อจารย์ทันที
   “ครับ จารย์หาผมเหรอครับ” ผมตอบออกไป เสียงแซวดังขึ้นทันที แซวอะไร? แซวทำไม?
   “เฮ้ย บักแบงค์ไปเอาน้องเขามาแต่ไสอย่าไปใกล้น้องเขาหลายเด้อสีมันสิตกใส่น้องเขา” เสียงเพื่อนๆในห้องแซวมันครับผมก็ยืนหน้าเอ๋ออยู่
   “นี่ๆเบาๆหน่อยสิพวกเธอ อุรดิศคือเรื่องไปเข้าค่ายน่ะจ๊ะ รู้เรื่องแล้วใช่ไหมจ๊ะ ก็บ่ายวันศุกร์นี้ล่ะออกเดินทางเก็บของให้พร้อมสำหรับสามวันนะจ๊ะ ตอนไปใส่ชุดนักเรียนไปด้วย ว่าแต่เรายังไม่มีชุดใหม่เหรอ” หือ อะไรนะ ผมมัวแต่ฟังพี่ๆในห้องเขาแซวไอ้นี่ตลกดี
   “อ่า เอ่อ ครับๆ ได้ครับ” ผมตอบออกไปเหรอหรา
   “ครูถามว่ายังไม่มีชุดเหมือนเพื่อนๆเขาเหรอ กางเกงน้ำตาลรองเท้าน้ำตาลน่ะ”
   “อ่า ยัง มี ครับ” “หือ ยังไม่มี หรือว่ามีแล้ว”
   “มีไม่แล้ว เอ้ย พ่อบอกว่าซื้อแล้วครับ” เสียงหัวเราะดังขึ้นคับห้องครับ เอ่อ นี่กูตลกตรงไหนวะก็พ่อกูบอกว่าไปสั่งตัดไว้แล้วนี่หว่าแต่ยังไมได้ไปเอามา ทำไมอ่ะผิดตรงไหนเนี่ย
   “ไหวบ่อน้อจารย์คือเป็นแต่เอ๋อแท้” เสียงลอดออกมาครับพร้อมกับเสียงหัวเราะดังกระหน่ำ หนอยแน่ได้ทีเอาใหญ่เลยนะพวกมึง
   “อ้อ จ้า แล้วเมื่อไหร่จะได้ล่ะ วันศุกร์ทันไหมจ๊ะอุรดิศ ครูไม่อยากให้เราดูต่างจากเพื่อนน่ะ” พูดแล้วหัวเราะหมายความว่าไงวะเนี่ย ผมก็ตอบไปครับแล้วรีบออกมาจากห้อง โว้ยย จะหัวเราะส่งเสียงอะไรกันขนาดนั้นวะเนี่ยคนเขินนะเว้ย จิ๊ อารมณ์เสียไปกินน้ำดีกว่า
   “เดี๋ยวๆ น้องๆ อุรดิศ อิอิ” เอ่อ เสียงเรียกดังมาจากข้างหลังครับผมหยุดแล้วหันไปมอง อ้าว ไอ้บ้านั่นนี่
   “มีไรพี่” ผมถามเขาไป มันจะวิ่งตามกูมาทำไมวะเนี่ย เออ พอดีเลยถามเลยก็แล้วกัน
   “สหกรณ์อยู่ไหนเหรอพี่ ผมอยากกินน้ำ” ผมชิงถามมันไปก่อนครับ
   “อยู่ตึก ๓ สิไปสหกรณ์ติ๊ อ้ายไปนำ” อ้าวมึงไม่เรียนว่างั้นแหมนะเรียนสบายจังเลยนะมึง
   “พี่ไม่เรียนเหรอ” ผมถามมันออกไปครับ
   “เรียน ก็จารย์พรเพิ่นให้มาบอกว่าตอนเลิกเรียนให้มาเทสต์ภาษากับเพิ่นเด้เลยแล่นออกมาบอก” เอ่อ เออจริงสินะผมเพิ่งจะเข้ามาได้สองวันและยังได้รับเลือกให้ไปเข้าค่ายภาษาอังกฤษอีก คงไม่มีใครเชื่อฝีมือล่ะ เป็นผมเองก็คงไม่เชื่อที่ได้ไปนั่นก็คงเพราะพ่อผมล่ะที่คุยไว้ เฮ้อนะ เออๆ เทสต์ก็เทสต์ไม่กลัวหรอก ไม่ใช่ฟิสิกส์ ภาษาไทย อะไรพวกนี้นี่ อิอิ พวกนี้ไม่ถนัดนี่นา หยุดนะ ห้ามหัวเราะเยาะผมนะก็จะทำไมล่ะ ก็คนมันถนัดวิชาเดียวนี่หว่า ซิงเกิ้ลสคิลน่ะเข้าใจป่ะ อิอิ
   “ชื่อเล่นบ่อมีติ๊” มันถามครับ
   “ชื่ออุ่นพี่” ผมตอบออกไปครับรีบเดินลงจากตึกมันก็เดินตามมา เอ๊ะ จะเดินติดกูทำไมหนักหนาวะเนี่ย กูร้อน
   “พี่ชื่อแบงค์เด้อ อยู่ ม. ๖ ทับ ๓ ไปหาได้ตลอด” หือ ไปหาทำไม ผมมองหน้ามันงงๆครับ
   “อ้าวก็เผื่อมีปัญหาหยังกับบักเดี๋ยว เดี๋ยวอ้ายจะเคลียร์ให้เอง” ว้าว มีคนอาสาแล้วครับท่าน ผมยิ้มออกมาทันที
   “จริงเหรอพี่ ผมไม่ชอบเขาเหมือนกันชอบทำตัวกร่าง นิสัยเสีย ผมไม่ได้ทำอะไรเขาเลยนะแต่เขาน่ะชอบมาหาเรื่องผม คงไม่มีเพื่อนคบล่ะสิ คนมีปมด้อยเนอะพี่ว่าไหม” ผมได้ทีเผามันใหญ่เลยครับ
   “มันเตะบอลเด้ มันเรียนเก่ง เอ่อ มันเป็นหมู่อ้ายเองล่ะ” แปลว่า มันเป็นเพื่อนกูเองล่ะอะไรประมาณนั้น แว้กก ไอ้บ้าแล้วจะมาบอกกูทำไมวะเนี่ย
   “อ้าว เอ่อ อ่า พี่อย่าไปบอกเขานะผมไม่อยากให้เขามาวอแว”
   “ฮ่าๆ บ่อบอกดอก เจ้ายิ้มแล้วเป็นตาฮักเนาะ” หือ อ่านี่พี่เขาชมผมอยู่ใช่ไหม แว้กก เขิน ไหนดูหน้ามันชัดๆซิ ว่าไปแล้วถ้าไม่ติดดำกับมีสิวเม็ดใหญ่ๆนี่ก็ใช้ได้นะเนี่ย หา นี่ผมมีคนมาจีบ พี่เขาจีบอผมอยู่ใช่ไหม แว้กก เสน่ห์แรงอะไรแบบนี้เรา เห็นมะผมบอกแล้วว่าผมน่ะแค่ไหน โฮะๆ ไม่ต้องให้บรรยายสรรพคุณหรอกนะจะบอก เห็นกันอยู่โต้งๆ คนมันมีอะไรดีก็งี้ล่ะนะ อิอิ
   “เฮ้ย บ่อได้หมายความว่าอ้ายมักผู้ชายเด้อ แค่เว้าเท่าที่เห็น ยิ้มแล้วดูน่าฮัก” เอ่อ อารมณ์เสีย เออๆกูรู้เว้ย
   “ไหนอ่ะสหกรณ์” หุบยิ้มทันทีในบัดดล แหมนะกูก็ไม่ได้คิดว่ามึงจะชอบหรอกนะหน้าตาก็งั้นๆล่ะ คงไม่มีใครเขาเอา ก๊ากก โมโหเลยๆ
   “เคียดติ๊” มันมาสะกิดผมครับ
   “เครียดไร ผมไม่มีอะไรให้เครียดพี่”
   “โกรธติ๊” “หา โกรธเรื่องไร อย่าพูดมากพี่พาไปเร็วๆเลยผมสายแล้วเนี่ย พี่นี่ขี้ซักจังนะ คิดไรกะผมป่ะเนี่ย”
   “เฮ้ย คิดบ้าติ๊ ฮ่วยคนสิพาไปดีๆมาเว้าแนวนี้เด๊ะ เตะเอาเด๊ะ” อ้าวๆ อารมณ์ขึ้นครับท่าน
   “โหยพี่อ่ะ ล้อเล่นน่า ขอบคุณนะครับพี่ที่พามา” ผมยิ้มแห้งๆเพราะท่าทางมันคงจะเอาจริงล่ะครับ ผมรีบเดินตรงดิ่งไปที่สหกรณ์ครับซื้อนมเปรี้ยวกับน้ำเปล่ามาดื่มพอแก้กระหายแล้วรีบเดินกลับไปที่อาคารเรียน พอตอนเย็นผมก็ไปหาอาจารย์พรฤดีที่ห้องแล็ปครับ แกให้ผมลองอ่านออกเสียงแล้วก็สนทนากับแกสองสามประโยค
   “เอาล่ะอุรดิศ คำเดียวเลย เริ่ดค่า อิอิ เธอเป็นคนเดียวในโรงเรียนนี้นะที่ออกเสียงภาษาอังกฤษได้กระแดะที่สุด” เอ่อ นี่ชมหรือว่ากัดเนี่ยจารย์
   “ว้าย อย่าคิดแบบนั้น กระแดะคือพูดแล้วถ้าหลับตาฟังครูคิดว่าเจ้าของภาษามาเอง ดีมาก คอยดูนะเบญฯก็เบญฯเถอะ ขอนแก่นก็ขอนแก่นเถอะ มาเจอ อ.จ หน่อยสิ กรี๊ดด ครูดีใจจัง” เอ่อ นี่แกเสียจริตไปเลยเหรอเนี่ย อะไรกันแค่พูดธรรมดาเองนะก็โรงเรียนผมเขามีแต่ฝรั่งมาสอนนี่นะ จะไม่ให้พูดเหมือนเขาได้ยังไง พอเสร็จจากอาจารย์ผมก็เดินออกจากโรงเรียนล่ะครับ แต่ว่า เอ่อ ตอนมากูมาทางไหนวะเนี่ย เลี้ยวซ้ายไปก็ศาลจังหวัด ขวาหรือเปล่าหรือว่าข้ามฝั่งไปทางโน้น ไปทางไหนอ่ะ ตายๆไอ้อุ่นมาดันจำทางกลับบ้านไม่ได้
   “เอี๊ยดด” “เอ้ย” เชี่ย ตกใจครับ แม่งก็มีรถเครื่องรุ่นสงครามโลกมาล้มปาดหน้าผมน่ะสิ เอ๊ะหรือว่ามันพยายามจะดริฟท์ต่อนห้าผมเนี่ย แต่ดูท่าทางแล้วยังไงเขาก็ไม่เรียกว่าดริฟท์นะ รถเก่ามากๆขอบอก พอผมเห็นว่าใครก็ถอนหายใจออกมาทำหน้าเซ็งสุดๆ
   “ทำไมทำหน้าแบบนั้นใส่กู วันนี้ล่ะกูจะชำระแค้น ไอ้เชี่ย” อ้าวก็กูเหมือนเจอควายเหม็นๆตัวหนึ่งอ่ะกูเลยทำหน้าแบบนั้นออกไป เห็นไหมครับไอ้นี่มันนิสัยไม่ดีคำก็ด่าสองคำก็ด่าสงสัยแม่มันจะต้มใส่ข้าวให้กินทุกวันมันเลยซึมเข้าเส้นเลือดมัน
   “ความไร ไม่มีความ มีแต่ควายนะแถวนี้” ผมถอยนิดหน่อยพอเป็นพิธีไม่ได้กลัวมันหรอกนะขอบอก คนอย่างอุรดิศไม่เคยกลัวใครแต่ก็นะแหมมาดูตัวมันก่อนเถอะครับตัวอย่างควายแล้วผมล่ะ ตัวอย่างกะนกกระเรียนขาว ว้ากก
   “ปากดีนะมึง ปึ๊ก” โว้ยย ต่อยกูอีกแล้ว ไอ้เชี่ยเอะอะก็ต่อย ผมตัวงอลงทันทีครับกูเพิ่งจะหายท้องเสียนะเว้ยไอ้บ้านิสัยเสีย เดี๋ยวตั้นคืนสักหมัดดีไหมเนี่ย
   “โอ๊ย ต่อยทำไมอ่ะ”
   “มึงด่ากูเหรอ มึงอยากตายเหรออีตุ๊ด” หา ว่าไงนะไม่เคยมีใครว่าผมแบบนี้เลยนะ เพราะอะไรเพราะผมไม่ได้เป็นตุ๊ดผมแค่มีแฟนเป็นผู้ชายไม่ได้เป็นตุ๊ดเข้าใจไหม ผมเป็นชายรักชายไม่ได้อยากจะเป็นหญิง เข้าใจไหม ไอ้เชี่ยด่ากูเพื่อ
   “ด่ามันเจ็บเหรอ” ผมพูดออกไป แหมแล้วทีด่ากูล่ะแต่ละคำมีแต่ซึ้งๆทั้งนั้นแล้วทำไมด่าคืนแค่นี้จะรับไม่ได้
   “ยังอีก” มันกระชากบ่าผมขึ้นแรงๆครับ โอ๊ย กูตัวเล็กกว่ามึงนะเว้ยแค่ดึงเบาๆกูก็ขึ้นมาแล้วจะดึงหาเตี่ยมึงรึไง
   “ทีนายต่อยเรา เราก็เจ็บนะแค่ด่าให้เราต่อยคืนบ้างไหมล่ะ” จริงไหมล่ะ ผมไม่ได้ต่อยมันสักหน่อยนะมันยังบอกว่าเจ็บผมแค่ด่ามันเองแล้วทีมันด่าผมล่ะ ไหนจะต่อยผมอีกคนเรานี่นะนิสัยแย่จริงๆ
   “ไม่ต้องพล่าม วันนี้ล่ะเลือดหัวมึงไม่ออกอย่ามาเรียกกูว่าไอ้เดี๋ยว ไอ้หน้าจืด ไอ้ตุ๊ด” อีกล่ะ แม่งว่ากูตุ๊ดอีกล่ะ อย่างน้อยกูว่ากูแมนกว่ามึงก็แล้วกันเพราะกูไม่เคยไปเทียวหาเรื่องใครต่อใครประกาศศักดาว่าตัวเองแมนเต็มร้อยแต่ที่ทำอยู่ตอนนี้น่ะมันหน้าตัวเมียมึงรู้ไหม ไอ้เชี่ยยย
   “โว้ยย จะต่อยก็ต่อยสิวะ ผลักทำไมเนี่ย เวียนหัวนะ” นี่แน่ รำคาญเว้ย แม่งจะต่อยก็ไม่ต่อยดึงหน้าดึงหลังอยู่นั่นล่ะกูเบื่อเวียนหัวเว้ย แม่งจะต่อยก็รีบต่อยกูจะรีบกลับๆไอ้ห่า
   “ปึ๊กๆ” “แอ่ก” โหย เล่นชกกลางอกกูเลยนะมึง จุกสิครับมันต่อยตรงหน้าอกข้างซ้ายผมพอดิบพอดี เจ็บสิวะเป็นใครก็ต้องเจ็บ มือมันก็บีบที่บ่าผมแรงๆอยู่ มาถึงตอนนี้ผมไม่เข้าใจเลยว่าผมไปทำอะไรให้มันมากมายขนาดนั้นเหรอ ทำไมมันถึงมาคอยตามราวีผมอยู่ ไม่ชอบหน้าผมขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าไม่ชอบขนาดนั้นก็ไม่ต้องมองหน้าผมสิผมจะดีใจมาก ผมเสียใจนะเว้ยที่เด่น ที่หน้าตาดีกว่ามัน แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะจะให้ทำให้ตัวเองเสียโฉมเพราะมันน่ะเหรอ เฮอะ ฝันไปเถอะ
   “เป็นไง ท้าทายกูดีนักนะมึง”
   “พอใจหรือยัง เราจะ จะรีบกลับบ้าน” ผมเหนื่อยครับ ไม่รู้สิคิดไปเยอะแล้วมันคงจะไม่หยุดแค่นี้หรอก แต่ตอนนี้เบื่อแล้ว เหนื่อยแล้วจะทำอะไรก็ทำ แต่ทำไมกูน้ำตาไหลวะเนี่ย ก็มันเจ็บนี่หว่า ไม่ได้ร้องไห้นะเว้ยแต่มันแค่น้ำตาซึม ตั้งแต่เกิดมาผมเคยมีเรื่องครั้งเดียวแต่ครั้งนั้นผมไม่ได้ร้องไห้นะแล้วนี่อะไรเนี่ย
   “สำออยอีก อีตุ๊ด”   
   “ไม่ต่อยใช่ไหม เรากลับบ้านนะ” ผมพูดออกไปครับแล้วเดินหนีไป ไอ้ควายเอ้ย เกลียดมึงจริงๆเลยให้ตายเถอะ แล้วให้กูไปทางไหนเนี่ย เว้ย อารมณ์เสียคนยิ่งรีบๆอยู่ด้วย
   “นี่ตัวเธอๆ ไปหาจารย์พรมาเหรอ ไปกินส้มตำกับเราไหม” เอ่อ พอเดินพ้นหน้าโรงเรียนมาอีกะเทยหัวโปกที่ยืนจีบผู้ชายอยู่หน้าโรงเรียนมันก็ผละออกจากกลุ่มผู้ชายมาทางผม ใคร คุยกับใครกูเหรอ
   “อืม เออ ชาติ เอ้ย ญ่า จวนผู้ว่านี่ไปทางไหนเหรอ” ผมถามมันครับ
   “ว้าย อย่าบอกนะว่าจำทางกลับบ้านไม่ได้ อะไรอ่ะตัวเธอ สมองปลาทองจริงๆ ดีแต่หน้านะ” อ้าว อีนี่เดี๋ยวเถอะไม่น่าถามมันเลยผม
   “อ้าวๆ ล้อเล่นน่า เดี๋ยวเราพาไป” ผมเดินหนีครับ ไม่มีอะไรจะคุยกับคนพวกนี้ เออกูหน้าตาดี ไม่ได้ดีแต่หน้าเว้ย นิสัยกูก็ดี กูไม่เอาทองไปลู่น้ำครำอย่างมึงหรอกอีบ้า
   “ไม่เป็นไร เราจำได้ กลับล่ะนะ” ผมตอบออกไปครับคนอย่างอุรดิศฆ่าได้หยามไม่ได้เว้ย ต่อให้หลงทางก็ไม่มีทางไปขอความช่วยเหลือคนอย่างนี้ ไม่มีทาง ให้มันรู้ไปสิว่าคนเมืองนี้จะไม่มีใครรู้จักจวนผู้ว่า ผมรีบเดินมาครับผ่านสวนกลางเมืองแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ เด็กนักเรียนก็ออกันอยู่นั่นล่ะครับแต่ผมจะไม่เอ่ยถามใครอีกล่ะ เสียฟอร์มสิวะ แหมนะเดี๋ยวมันก็เอาไปเผาทั้งโรงเรียนสิ ขี้เกียจจะแก้ข่าว คนดังก็งี้ล่ะนะ
   “อ้าว น้องอุ่นไปไส” เอ่อ โว้ยย จะอะไรกับกูหนักหนาวะเนี่ย เรียกกูอีกแล้ว ผมหันไปตามเสียงเรียกครับ อ่า ไอ้พี่คนนั้น
   “พี่” ผมร้องออกไปเหมือนเจอแสงสว่างของชีวิตทำตาวิ้งๆ เขาขับฟีโน่ครับถ่างขาออกร้อยแปดสิบองศาได้มั้ง แหมนะกลัวคนไม่รู้หรือไงนะว่ามีไข่ ไอ้บ้านี่
   “ไปไสล่ะเจ้า บ่อเมือบ้านติ๊”
   “เมือ แต่จำทาง เอ่อ” ผมหุบปากครับไม่อยากเป็นปลาหมอตายเพราะปาก
   “ฮ่าๆ อย่าบอกจำทางเมือบ้านบ่อถืก” นั่นไง หัวเราะกูอีกล่ะ ไม่น่าเลยกู โว้ยย
   “ป่าวซะหน่อย จะไปบิ๊กซี” ผมแถไปล่ะครับเห็นเพื่อนในห้องบอกว่ามีบิ๊กซีนี่นะ
   “บิ๊กซีไปทางพู้นเด้ อย่าๆ อย่ามาตั๋ว ไปอ้ายสิไปส่ง” อ่า ไม่ต้องเลยนะมึงหลอกด่าแล้วหัวเราะกูแล้วไม่ให้อภัยเด็ดขาดไม่มีทางหรอกนะที่จะไปด้วยเสื่อมเกียรติวงศ์ตระกูลอย่างยิ่ง
   “จับดีๆเด้อ กอดแอวกะได้อ้ายบ่อว่า แต่อย่ามากอดใกล้ลูกชายเด้อเดี๋ยวมันสิตื่น” เอ่อ แล้วกูปีนขึ้นรถมันทำไมวะเนี่ย โว้ยย กูนี่นะ โมโหตัวเองเหลือเกิน
   “ไม่กอดหรอก พี่จะไปส่งที่ไหนเหรอ”
   “อ้าวกะสิไปบิ๊กซีบ่อแม่นติ๊ อ้ายสิไปส่ง”
   “อ้อ ครับๆ” เออนะ ไม่เป็นไรให้มันพาไปนั่นก่อนแล้วค่อยถามทาง ไหนๆก็ไปเดินหาซื้ออะไรหน่อยก็ดี เอ๊ะ ว่าแต่กลิ่นไรเนี่ยสาบๆ
   “ฟุดฟิดๆ” ผมทำจมูกฟุดฟิดครับ
   “เหม็นติ๊ อ้ายเพิ่งจะเตะบอลมาบ่อทันได้อาบน้ำ เหม็นเหงื่อ” เออนั่นสิ แหวะพอบอกออกมาเกือบจะอ๊วกแตก ไรอ่ะทำไมตัวเหม็นจังวะพี่ไม่ผ่านนะเว้ย
   “เอ้ย พี่” เชี่ย มันเบรกสิครับ ไอ้บ้านี่มันแกล้งผมครับเพราะพอผมบอกว่าเหม็นทำท่าทางผมก็ถอยออกมานั่งริมเบาะเลยสิ ใครจะไปนั่งใกล้มัน มันก็เลยเบรก
   “อ้าว ถอยออกไปหยังล่ะเดี๋ยวกะตกรถ ลมพัดคราวเดียวเหงื่อกะแห้งดอกน่า อย่าเฮ็ดคือหลาย”
   “เฮ็ดคือ คืออะไร” ผมไม่เข้าใจครับ ไม่ได้แอ๊ปนะเว้ยคำนี้ไม่เข้าใจจริงๆ
   “ก็ทำท่าดัดจริตไง” เอ่อ ขอบคุณ ด่ากูอีกล่ะ ให้กูกอดเลยมะจะได้เหม็นพอกันไอ้บ้านี่ เอาเป็นว่าผมก็นั่งเข้าไปใกล้มันกว่าเดิมล่ะครับแล้วก็จับที่จับด้านหลังไม่มีทางหรอกที่จะไปกอดมันรับไม่ได้ มันเหม็นเหงื่อมันจริงๆนะขอบอก

เขียนโดย อิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-03-2012 19:53:18
พี่แบงค์ตลกดี คบไว้เป็นไม้กันหมา
น้องอุ่นเอ๋อตลอดศก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 30-03-2012 19:59:26
555 อุ่นโดนไปหลายดอกเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 30-03-2012 20:09:07
พี่แบงค์คิดอะไรกับอุ่นป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 30-03-2012 21:41:45
 :m15: ทั้งสงสาร ทั้งฮาอุ่น  :m20:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 3 Version (อุ่น) 30 Mar 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 30-03-2012 23:21:26
เด๋วนิมัน  เอิ่ม = =
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 01-04-2012 10:07:50
You're My BaBy!!
หลังจากที่ยืนเอ๋ออยู่สักพักกับสิ่งที่ไม่เคยเห็น ไอ้นั่นมันก็เดินหนีไปครับ ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม จะว่าไปกูทำเกินไปไหมเนี่ย ไม่ๆ ไม่เกินไปแค่นี้มันยังน้อยไป คนกรุงเทพฯมารยาเยอะ ต้องจัดการแบบนี้ล่ะมันถึงจะเข็ด กูเกลียดมันนี่หว่า แต่ตอนที่ตัวติดกับมันตัวมันหอมดีนะ แว้กก ไอ้เชี่ยไม่ดีๆ ไม่คิดต้องหาทางต่อยมันอีกให้ได้ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้เว้ย นักเลงใหญ่อย่างไอ้เดี๋ยวไม่มีทางปล่อยให้เหยื่อหายไปง่ายๆแบบนี้ แต่ทำไมกูหงุดหงิดไม่ลงซะทีวะ
   “ว้ายเดี๋ยวขา คิดถึงเดี๋ยวมากมายเลยรู้ไหม” อ๊วก อีกะเทยหน้าแข้งโตครับขับคุณปู่ออกมากะว่าจะไปที่ร้านซะหน่อยมาเจออีนี่ก่อน มันมายืนขวางเลยนะผมเคยขับชนมันหลายรอบแล้วนะไม่เข็ดนะมึงเดี๋ยวกูชนไข่แตกได้แปลงเพศสมใจอยากมึงเลยนี่
   “อารมณ์บ่อดีถอยไป” ผมตะคอกไปครับมันก็ถอยนะ
   “ให้ญ่าปลอบใจให้ไหมคะเดี๋ยวขา รับรองว่าอารมณ์ดีขึ้นแน่นอน” เออนั่นสินะ ดีเหมือนกัน ผมดับเครื่องทันทีก้าวลงจากรถ
   “พลั่ก ปั๊บๆๆ” กรี๊ดดด ทำไมต่อยเตะญ่า” “นี่ล่ะปลอบใจ เออ ไคแน่ ขอบใจนะเว้ย” ค่อยเบาตัวหน่อยครับได้ออกกำลังในเชิงสร้างสรรค์ ไคแน่ ไม่ใช่ใครแน่ แปลว่าค่อยยังชั่วเว้ย ดีขึ้นประมาณนี้
   “เดี๋ยวๆ พาเพ็ญไปบิ๊กซีหน่อยดิอยากกินไอติมอ่ะ” โว้ เสียงภรรเมียครับเดินออกมาจากซอยข้างๆสวนมิ่งเมือง มันเข้าไปทำอะไรวะนั่น เอ๊ะ นั่นไอ้ปอนด์ ม.๖ ทีมบาสฯนี่ทำไมมันขับรถเครื่องออกไปทางนั้นวะ นี่มันไม่ได้มีแต่เด็กเทคโนฯเหรอเนี่ย อ้าวกูมีเขางอกแล้วเว้ยเฮ้ย
   “ติมหยัง” ผมหันไปมองมันตาเขียวครับ อีนี่มีพิรุธนะเนี่ย
   “ติม อิอิ เดี๋ยวอ่ะ อายน้า” “ดัดจริต อยากดูดเหรอ ยังไม่ได้ล้างนะ” เป็นไงครับผมบอกแล้วปากผมไม่ดีแต่เธออายไหมไม่เลยครับ อ้อ ลืมบอกเพ็ญเธอขับคลิ๊กล่ะครับปกติจะกลับกับจอยห้องเดียวกันแต่วันนี้จอยไปไหนไม่รู้ ไม่อยากจะคุยนะว่าจอยนี่ก็มองผมอยู่นะเออ ฮ่าๆ โว้ย คนมันหล่อเท่อ่ะทำไงวะเนี่ย
   “ว้ายบ้า ไม่รู้ล่ะ เพ็ญไปรอที่ห้องน้ำ เอ้ย ไปรอที่บิ๊กซีนะตามมาเร็วๆล่ะ” อ้าวนะอีนี่ บอกจะไปก็ไปเลยเว้ยเฮ้ย อ้าวแล้วทำไมหัวมันมีใบไม้แห้งติดวะนั่น จิ๊ๆๆ เอากูแล้วไหมล่ะ หึหึ ได้ยังไงๆกูก็ไม่คิดจะเอามึงทำเมียอยู่แล้วล่ะวะ งั้นที่กูเคยบอกว่าตอนนี้คบกับมึงอยู่กูพูดเล่นไปงั้นล่ะเว้ย แม่งกูก็เลวมันก็เลวพอกัน โอเคมะ ผมขับคุณปู่ตามไปครับพอดีอีกะเทยหน้าแข้งโตมันก็ขับรถมันตามไปด้วย ผมไม่ว่าอะไรครับแล้วแต่มันตอนนี้ในใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้ เจ็บเหรอ ไม่เว้ย นักเลงไม่เคยเจ็บกับเรื่องแบบนี้ขอบอก
   “เลี้ยงหน่อยดิเดี๋ยวขา” พอไปถึงร้านไอติมในบิ๊กซีมันก็เข้ามากอดรัดผมทันทีล่ะครับ ดูเอานะผมไม่ได้เผาเพศแม่นะเว้ยแต่ดูเอาเองเถอะ
   “บ่อมีเงิน” “ไรอ่ะ มาทีไรก็ไม่เคยมีเงิน มีแต่เพ็ญนะเลี้ยงอ่ะเดี๋ยว เดี๋ยวเป็นแฟนเพ็ญนะไม่เคยดูแลเพ็ญเลย” มันหวีดเสียงขึ้นครับจิกหน้าทำปากใส่ผม โว้ แล้วไงวะ
   “เลิกกันบ่อล่ะ” ผมพูดออกไปนิ่งๆเสียงเข้มๆเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้เพราะรู้สึกโมโหอีนี่เต็มทนเหมือนกัน
   “อ่า ไม่เอาอ่ะเดี๋ยว อย่าพูดแบบนี้สิ ไม่เอานะเพ็ญไม่เลิก โอเคๆ เพ็ญเลี้ยงเองก็ได้” จบมะ แหมนะมึงทำเป็นลีลาท่ามาก กูไม่เคยเลี้ยงที่ไหน ไปดูหนังกูก็ออกตลอด กูแค่ไม่ตามใจที่มึงอยากแวะร้านนั้นร้านนี้ต่างหากเสียนิสัยหาเงินไม่ทันเป็นแม่งชี้เอานั่นเอานี่ แดกนั่นแดกนี่เหมือนพ่อมันมีโรงผลิตแบงค์เองว่างั้น กูไม่สนเว้ย แม่กูสอนมาแบบนี้และกูก็รักแม่กูกูเชื่อแม่กูกูถึงได้ดีอยู่เท่าทุกวันนี้ไง ก๊ากก
   “อีญ่าเอาเงินมายืมก่อนซิ” มันเดินไปหาอีกะเทยที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆล่ะครับ มันไม่กล้ามานั่งโต๊ะเดียวกับผมเพราะกลัวผมจะเตะเอาอีก
   “ไรยะ ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายก็หลบไปฉันจะดูแลเดี๋ยวเอง” เห็นไหมครับคนอยากจะดูแลผมมีออกเยอะแยะ ฮ่าๆ จำเป็นต้องแคร์ไหมวะเนี่ย
   “อีนี่ ยืมก่อนพรุ่งนี้คืน อย่ามาพูดมาก”
   “ไม่ได้พกมาเผื่อเธออ่ะนะเพ็ญแต่พกมาเผื่อพี่เดี๋ยวของญ่า อิอิ” ผมเริ่มรำคาญครับ นี่คนจะมองว่าผมเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินไหมวะเนี่ย เฮ้ย ไม่นะเว้ย คนชวนดูดีๆนะไม่ใช่ผม ผมไม่ทำตัวไร้สาระแบบนี้หรอกเว้ย ว่าแล้วจึงลุกทันทีครับ
   “อ้าวเดี๋ยวไปไหนอ่ะ เพราะมึงคนเดียวเลยอีสุชาติกะเทยไม่สวย” เพ็ญร้องขึ้นแล้ววิ่งตามผมออกมา แต่ตอนนี้กูเบื่อว่ะไม่อยากจะเจอ ผมวิ่งดิครับไปหาที่หลบก่อนวิ่งเข้าไปในห้างแล้วหลบก่อน
   “พี่ๆ กินติมป่าวผมเลี้ยงตอบแทนที่พี่จะไปส่งบ้าน” เสียงนี้อีกแล้วครับท่าน ทำไมมันคุ้นจังเลยวะ
   “เฮ้ย บ่อกินเด้ แต่ถ้าน้องจะกินติมพี่ได้เลย”
   “ไรอ่ะพี่ คิดอะไรกะผมป่ะเนี่ย ไหนบอกไม่คิด”
   “ล้อเล่น ฮ่าๆ อายหน้าแดงเด้นั่น” มันเสียงไอ้เชี่ยแบงค์นี่หว่า คันปากเว้ยอยากออกไปดูว่าใช่จริงหรือเปล่า
   “กินหรือไม่กินพี่อย่าคิดเยอะ ผมอยากจะกลับแล้วนะ”
   “อ๊ะๆ กินกะได้ มีคนเลี้ยงดีจะตาย” “อ่ะแฮ่ม” ไม่ไหวครับท่าน ทำไมผมรู้สึกว่าอยากจะมีเรื่องกับไอ้นี่จังวะ ผมไม่เข้าใจตัวเอง เพราะมันขาว แก้มแดงเหรอ เฮ้ย บ้าไปแล้วเว้ยไม่เกี่ยว เพราะมันกวนตีนและที่สำคัญผมยังไม่ได้ชำระความมันสักกระทงเลยนี่ เออนั่นสินะ ไม่ได้ๆ
   “อ้าว บักเดี๋ยวมึงมาหยัง” ไอ้แบงค์จริงๆด้วยครับ แม่งยังใส่ชุดบอลอยู่เลยนะมัน ตัวนี่เหมือนหมาตกน้ำ แหะๆ ว่าแต่มันผมใส่กางเกงเตะบอลกับเสื้อพละโรงเรียนล่ะครับเพราะลืมเอาเสื้อใส่เตะบอลมาไม่งั้นก็คงเข้าทำนองเดียวกับมัน ไม่ดิ ผมดีกว่าเว้ย
   “ฮ่วย มาหยังหนักหัวมึงติ๊ ห้างสาธารณะเด้นี่”
   “อ้าว ถามดีๆกวนส้นตีนเด้อมึง” อ้าวๆ พูดแบบนี้สอยปากไอ้รุ่นพี่นี่ก่อนดีไหมเนี่ย
   “ป๊าด มึงว่าหยังเก๊าะบักแบงค์” ผมเดินเข้าหาทันทีครับ ไม่สนใจหรอกว่าเป็นที่ไหน
   “ป่ะน้องอุ่น เฮาไปกินติมกันดีกว่า อยู่นานเดี๋ยวหมาว้อมันสิกัดเอา” ป๊าด หมาว้อต้องให้แปลไหมท่านว่าแปลว่าอะไร มันด่าผมว่าหมาบ้าเว้ยเฮ้ย ไอ้เชี่ยนี่ ตายมึงตาย
   “เดี๋ยว” ผมเรียกมันไว้ครับแล้วเดินไปกระชากบ่าไอ้แบงค์ไว้ทันทีเข่ากระทุ้งไปที่บั้นท้ายมัน มันจะหันมาผมอัดหมัดเข้าไปที่สีข้างมันอีกที คราวนี้มันงอตัวลงเลย อ้อไม่ต้องห่วงผมทำเร็วครับไม่ทันมีคนมอง
   “ปากหมาเด้อมึงบักแบงค์ อยากตายติ๊” ผมยังจับบ่ามันกดลงอยู่ครับแล้วขู่มันออกไป
   “นี่นาย ไปทำพี่เขาทำไมอ่ะ นายนะที่มาหาเรื่อง” อ้าวๆ มีคนอยากโดนอีกคนครับ เออนั่นสินะ ไอ้แบงค์นี่เป้าหมายรองแต่ไอ้หน้าจืดนั่นเป้าหมายหลัก ผมผลักไอ้แบงค์ออกไปทันที
   “กูจะมาหาเรื่องมึงนั่นล่ะ มานี่หน่อยดิ๊” ผมปรี่เข้าหามันครับแล้วลากแขนมันกระชากเข้าหาตัว
   “อะไรอีก” มันทำหน้าเซ็งๆใส่ผมเช่นเคย จิ๊ ไอ้นี่ท้าทายอำนาจมืดกูดีแท้เว้ย
   “เมื่อกี๊หน้าโรงเรียนกูทำไปนิดเดียวเอง ตอนนี้ล่ะกูจะจัดหนัก”
   “นี่มันในห้างนะ เราร้องนะ” แหมๆ คิดว่ากูโง่หรือไง มีเหรอกูจะมาต่อยมึงในนี้ โน่นหลังห้างโน่นมีทุ่งนาอยู่กูจะไปจัดการมึงตรงโน้นล่ะ
   “แล้วไง ตรงไหนกูก็ทำได้” ผมพยักหน้ายักคิ้วใส่มันครับ ผมจ้องหน้าผม
   “นายๆ” “อะไร” ผมตวาดมันไปครับ
   “เราว่านายก็หน้าตาดีนะ สูงด้วย” “กูรู้เว้ย เฮ้ย อย่าบอกนะเว้ย ว่ามึงชอบกู สัด อีตุ๊ด” ผมดันตัวมันออกครับ พอดันตัวมันออกมันเบะปากทันที
   “เปล่าเราจะบอกว่า ทำไมนายทำตัวตรงข้ามกับหน้าตานายจังอ่ะ” เฮ้ย นี่มันด่ากูนี่หว่า ตายมึงตาย
   “มึง” “แว้กก”  อ้าวเชี่ยเสือกวิ่งครับ มันวิ่งแล้วกูล่ะวิ่งตามดิ มันวิ่งลัดเลาะไปนั่นออกนี่ ไอ้แบงค์ก็วิ่งตาม สรุปเราวิ่งไล่กันสามคนในห้าง เอาเป็นว่าเรื่องไปจบลงที่ห้อง รปภ.ครับ โดนหิ้วไปทั้งสามคนเลยดิ แม่งซวยจริงๆ
   “นี่ลูกชายคุณปลัดใหม่ใช่ไหม ทำไมมาวิ่งเล่นกันในห้างล่ะครับหนู” หัวหน้ายามถามมันครับ
   “เอ่อ อ้อ คือเราเล่นกันเฉยๆครับ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับพี่ แต่ข้าวของไม่ได้เสียหายนะครับ อย่าบอกพ่อผมเลยนะครับ” มันอ้อนวอนครับ เออ จริงสินะถ้าแม่กูรู้เรื่องนี่ ตายห่านสิกู
   “รับปากกับพี่ก่อนนะครับว่าอย่าทำแบบนี้อีก พี่เห็นแก่คุณปลัดนะเพราะแกเพิ่งมาที่นี่เมื่อเช้านี้เอง”
   “ครับพี่ ขอบคุณมากนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ” มันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ไอ้แบงค์ก็ทำ อ้าวกูล่ะ ทำก็ได้วะ
   “เชี่ยเอ้ย ย้อนมึงผู้เดียวบักเดี๋ยวมาหาเรื่อง ติมกะบ่อได้แดก” ไอ้ห่านแบงค์มันบ่นครับพอออกมาจากห้าง ผมกำลังจะอ้าปากด่ามันพอดีโทรศัพท์มันมีสายเรียกเข้า
   “กำลังสิเมือแม่ เนี่ยอยู่หน้าทางเข้าบ้านแล้ว ครับๆ” ฮ่าๆ แม่โทรมาตามเว้ยเฮ้ยสม ปากหมาดีนัก
   “น้องอุ่นป่ะฟ้าวเมืออ้ายสิไปส่งแม่อ้ายโทรนำแล้ว” ไอ้แบงค์มันหันไปบอกไอ้หน้าจืดนั่นล่ะครับ ผมยืนมองอยู่
   “พี่รีบหรือเปล่าครับพี่ พอดีผมยังไม่ได้ซื้อของเลยอ่ะ พี่กลับก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวผมโทรบอกพ่อให้มารับก็ได้ ขอบคุณนะครับพี่” ไอ้หน้าจืดมันบอกครับ ผมไม่ได้สอดรู้นะเว้ยก็มันยืนอยู่ค่นี้เองพูดเบาให้ตายก็ได้ยิน
   “เอ่อ เอางั้นเบ๊าะ งั้นอ้ายเมือก่อนเด้อ มื้ออื่นพ้อกันเน๊าะ อ้ายยังบ่อทันได้กินติมเลยเด้ออย่าลืม” อ่านะ ห่วงแดกอีกนะมึงเห็นแก่กินไอ้นี่ เอ๊ะ ไอ้แบงค์กลับแล้ว หึหึ หวานกูล่ะไม่มีคนมาขวาง ตายมึงตายไอ้หน้าจืด
   “แต่ระวังหมาว้อแน่เด้อน้องอุ่น” อ้าวเชี่ยจะกลับก็ไม่กลับมาด่ากูอีก เดี๋ยวเถอะมึง
   “ครับ ขอบคุณนะครับพี่” ผมยืนจ้องมันอยู่ครับเอาสิมึงตอนนี้มึงไม่มีไม้กันหมาแล้วนะเว้ยตายแน่ๆไอ้หน้าจืด แต่ว่าผมจะไม่บุ่มบ่ามอีกแล้วครับเห็นไหมจะทำมันทีไรแม่งมีเหตุทุกที ผมต้องวางแผนให้รอบคอบ ดูมันมองผมนะ แม่งกวนตีนได้อีก มันมองแบบว่าอย่าตามมานะมึงประมาณนั้นล่ะครับ
   “ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า” แหมๆ เชี่ยทำมาเป็นบอกจุดหมายปลายทางแล้วจะให้ผมตามไปแล้วมันก็หลบน่ะเหรอ ไปหลอกควายโน่นไปไอ้เชี่ย คนอย่างไอ้เดี๋ยวไม่มีทางหลงกลเว้ย แน่ะๆพูดแล้วมีมามองผมอีกนะมัน เออกูจะเชื่อมึง เชื่อก็ควายแล้วเว้ย
   “กลับบ้านเว้ย” ผมทำท่าไม่สนใจมันครับแล้วเดินไปที่คุณปู่มันก็มองแบบงงๆแล้วผมเห็นมันอมยิ้มด้วย หึหึ คิดว่าหลอกกูได้ว่างั้น ดีกูจะไปรอมึงหน้าห้างแล้วจะพาไปเชือดไอ้หน้าจืดเอ้ยตายแน่ๆมึง เออดีเหมือนกันตีมันตอนดึกๆค่ำๆไม่เห็นหน้าพอมันจะมาเอาเรื่องก็ไม่ได้ เดี๋ยวโทรไปเตรียมกับไอ้เคนไว้ดีกว่า ว่าแล้วผมก็โทรไปหาไอ้เคนครับ เป็นไงผมแผนสูงมะ หึหึ
   “บ่อได้ดอก มึงสิไปตีมันเฮ็ดหยัง ต่างคนต่างอยู่บ่อเป็นติ๊ กูบ่อเห็นมันเฮ็ดหยังให้มึงเด้ มีแต่มึงไปกวนมันเอง” อ้าวแสรด นี่กูโทรมาเพื่อจะบอกให้มึงยืนยันสถานที่ให้กูเท่านั้นนะเว้ย ไม่ได้ให้ออกความเห็น
   “เชี่ย อย่าสิปากมากกูบอกหยังกะตามนั้น กูซังมันกูสิตีมันเข้าใจ๋” ซังมันคือความหมายตรงข้ามกับไม่ได้ชอบอ่ะนะแปลเองเว้ยปวดปาก
   “เออๆ บ่อเข็ดเนาะมึงน่ะ อย่าเฮ็ดโพดไปหลายล่ะ” หนอยๆมีมาสอนกูอีก ไม่มากหรอกเว้ยแค่เบาะๆ แต่แม่งมันซื้อห่านอะไรวะเนี่ยจะทุ่มอยู่แล้วไม่ยอมออกมาซะที เอ๊ะหรือว่ามันแอบกลับไปแล้ว อ้าวซวยแล้วกูเชี่ยเอ้ยอุตส่าห์รอ ผมยืนรอมันด้วยความร้อนใจล่ะครับมองเข้าไปตรงหน้าห้าง นั่นไงๆ หอบอะไรมาเยอะแยะ หึหึ ไอ้เดี๋ยวพร้อม
   “ว่าไงมึง” “อ๊ะ” พอมันเดินออกมาผมก็โผเข้าไปหาทันทีครับ มันทำท่าตกใจผมพับแขนเสื้อพละขึ้นพับหัวกางเกงเตะบอลให้มันดูเกเรๆเข้าไว้ ผมยักคิ้วให้มัน
   “นายพูดกับเราเหรอ” ป๊าด บักห่านนี่แม่ะ เตะสักทีแล้วค่อยพูดดีไหมเนี่ยกวนตีนสุดเกิดมาไม่เคยมีใครทำหน้าทำตา คำพูดคำจากวนตีนผมอย่างนี้มาก่อนเลยนะ มันไม่ได้กลัวผมเลยแม้แต่น้อย
   “พูดกับหมามั้ง” ผมกัดฟันกรอดทำตาโตใส่มันครับ ตายแน่มึง
   “เหรอ พอดีไม่ใช่หมา ถึงว่าเราฟังไม่รู้เรื่อง”
   “ฮ่วย” ไม่ไหวแล้วครับผมปรี่เข้าหามันจะผลักหน้ามันให้หงาย
   “อ่ะถือช่วยหน่อย เราซื้อของเยอะ” มันยื่นถุงใส่มือผมทันทีครับ แล้วกูไปรับเอาถุงมันมาทำไมวะเนี่ย
   “นายๆไปส่งเราที่บ้านหน่อยสิ เราให้หนมตอบแทน นะนะ” เอ่อ ฝันไปเว้ย แสรดหลอกด่ากูแล้วใช้กูเนี่ยนะ
   “ส้นตีนดิ กูจะต่อยปากมึงยังมาใช้กูอีกกล้ามากนะมึง” ผมตวาดมันออกไปครับเอามือเหวี่ยงใส่ถุงที่มันยื่นมาถุงกระจายเต็มพื้น เชี่ยซื้อแต่ขนมกับกระปุกห่านไรไม่รู้
   “เออรู้ แต่ช่วยก่อนแล้วค่อยต่อยได้ป่ะ เราเหนื่อยอ่ะ กลับไม่ถูกด้วย นะนะ” เอ่อ นี่มันไม่กลัวผมเลยเหรอครับ หรือว่ากูยังทำท่านักเลงไม่พอวะเนี่ย แสรด ไม่ได้เว้ย
   “กวนตีนนะมึง” ผมเดินปรี่เข้าหามันแล้วผลักอกมันจนมันเซไปด้านหลังครับ
   “จะช่วยไม่ช่วย” มันตวาดครับ อ้าวแล้วกูทำไมตกใจวะเนี่ย ผมหยุดกึกเลยครับ
   “ช่วยไปส่งเราก่อนได้ไหมแล้วค่อยทำ จะทำอะไรก็ทำ ตอนนี้อยากอาบน้ำ” มันไม่ได้สนใจผมเลยครับก้มลงเก็บของ ผมยืนเอ๋อสิครับท่าน แม่งอะไรวะเนี่ยเตะสอยปลายคางมันสักทีดีไหมเนี่ยกวนตีนกูเหลือเกินนะมึง
   “มีปัญญาก็กลับเองดิ เกี่ยวไรกะกู” ผมพูดออกไปครับ ทำไมต้องพูดประโยคนี้ด้วยวะเนี่ย
   “ไม่มีปัญญาอ่ะตอนนี้ เข้าใจไหม นายนั่นล่ะไปส่งเรา นะนะ เรากลับไม่ถูกจริงๆ” มันทำท่าอ้อนครับ แม่งเอ้ย ทำไมมันทำท่าแบบนี้วะเนี่ย มันยิ้มด้วยเว้ย แสรด น่ารักว่ะ เฮ้ย เชี่ยแระไม่ได้ๆ เป้าหมายคือต่อยมันต่อยมันก่อนแล้วค่อยว่ากัน
   “กูต่อยมึงก่อนดิ” ผมไม่ยอมครับ
   “จะต่อยตรงไหนล่ะ ไม่ให้ต่อยหน้านะจะผิดสังเกต” แหมๆ มียื่นข้อเสนอไอ้เชี่ยนี่ แปลกว่ะให้ตายเถอะผมไม่เคยเจอ มันน่าสนใจดีนะ จะว่าไปแล้ว เอ้ยไม่ว่าๆ เชี่ยล่ะกูคิดอะไรอยู่วะเนี่ย
   “แล้วมึงซื้ออะไรมาเยอะแยะ หิ้วเองนะเว้ย” เอ่อ พูดแบบนี้แปลว่าอะไรวะ แว้กก แปลว่ากูต้องไปส่งมันเหรอเนี่ย เวรแล้วไอ้เดี๋ยว มันยิ้มร่าทันทีครับแล้ว อ้าวๆ ปีนขึ้นไปนั่งบนคุณปู่กูทันทีนะมึง

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ตอนนี้มาสั้นๆนิ เขียนรีบๆ อิอิ ขอบคุณที่ติดตามคร้าบ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับผม
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 01-04-2012 10:29:40
อ่า เดี่ยวน่ารักอ่ะ เถื่อน ต๊อง น่าร๊าก นายเอกก็ต๊อง น่าร๊ากพอกัน อยากอ่านต่อจัง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-04-2012 00:40:56
เดี๋ยวนี่เอะอะต่อยท่าเดียวเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-04-2012 00:58:15
อีกหน่อยเดี๋ยวก็แพ้ความน่ารักของน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 02-04-2012 18:49:12
อุ่นน่ารักจัง!! :o8:

เดี๋ยว เริ่มจะหลุดออกมาบ่อยๆละ ระวังจะชอบอุ่นไม่รู้ตัวนะ!!

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 02-04-2012 20:51:17
เป็นงง..ไปละซิเจ้าเดี๋ยว....ออกแนวตูจะโหดรึตูจะไม่โหดดีหว่า...
เจอความโก๊ะของนู๋อุ่นเข้าไป....แต่สงสารนู๋อุ่นนะ...ช้ำในบ้างไหมนั่น..
แต่...ก็เห็นแววคุณหนูอุ่นเอาเจ้าเดี๋ยวอยู่..ริบ ๆ ล่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 3 Version (เดี๋ยว) 1 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 02-04-2012 22:46:24
เห้ยยย  น่ารักอ่า :)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 03-04-2012 11:00:49
Don’t’ call Me BaBy!!!


แหมนะถ้ากูมีตัวเลือกนี่กูจะไม่ยอมเสวนาด้วยหรอกนะไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ด่ากูอยู่ได้เป็นไรมากป่ะเนี่ย มีปมด้อยอะไรในใจแน่ๆเลย อยากนั่งตายล่ะรถโกโรโกโสแบบนี้น่ะเบาะจะติดก้นกูมาป่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่ามีเชื้อรา แว้กก จะดีต่อสุขภาพก้นไหมเนี่ย อึ๋ยๆๆ น่ากลัวน่าเกลียดที่สุด
   “ไม่ต้องกอดเอวกูนะ” เอ่อ มันบอกครับหลังจากที่ผมปีนขึ้นไปนั่งบนรถแสนจะเก่าแก่รุ่นสงครามโลกเวียดนามคันนี้ แหมนะอยากกอดมาก อ๊วก ฝันไปเถอะต่อให้เหลือผู้ชายคนเดียวในโลกเป็นมึงกูก็คงต้องเอา แว้กก ยังไง โอ๊ย อย่าสงสัยมากได้ไหม ก็ว่าไปแล้วมันก็หล่อนะแต่ชอบไหม ไม่เลยแต่ถ้าให้เหลือมันคนเดียวน่ะหลับตาลงก็คงเหมือนๆกันนั่นล่ะนะผู้ชายอ่ะ อิอิ
   “เฮ้ย” เชี่ยแล้วไหมล่ะครับพอมันออกตัวก็ล้อฟรีทันที ไอ้เชี่ยนี่มันแกล้งผมชัดๆ
   “อ้าว กูบอกไม่ให้กอดนะ กอดกูไมวะอยากโดนถีบลงรถเหรอ” มันตวาดครับ
   “ก็ออกตัวแรงอ่ะ เรากลัวตก” ผมตอบออกไป แหมนะไอ้เวรเอ้ยนิสัยแย่สุดๆ เมื่อไหร่จะถึงบ้านเนี่ย บ้านอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ รู้แต่อยู่แถวจวนผู้ว่ามีต้นมะยมหลังบ้าน แล้วซอยอะไร เอ่อ จำไม่ได้นิ
   “อย่านะมึง แล้วที่กูสงเคราะห์มาส่งเนี่ยไม่ได้มาส่งฟรีๆนะเว้ย” นั่นไงครับ ผมว่าแล้วเชียวช่างมันเถอะมันอยากได้อะไรก็ช่างมัน แต่พริงเกิ้ลซื้อมาแค่หกกระป๋องเองนะ แบ่งให้มันสักกระป๋องก็คงไม่เป็นไร แต่มีแต่รสที่ชอบทั้งนั้นเลยอ่ะ แว้กก เสียดายจัง
   “ทำไมเงียบ ไม่มีปากเหรอ” อ้าว ดูมันครับ
   “หือ” “กูถามน่ะทำไมไม่ตอบ” ถาม? มึงถามกูตอนไหนวะ เห็นมีแต่ด่ากูตะเบ็งเสียงแว้ดๆอยู่ บ้าป่ะเนี่ยมึง จิตไม่ปกติหรือเปล่าเนี่ย
   “ถามว่า” ผมตะโกนออกไปครับเพราะลมเริ่มแรง เอ๊ะทำไมมันครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก
   “เชี่ยเอ้ย ฝนตก” เอ่อ ผมไม่ได้เรียกมันมานะแค่คิดมันดันตกลงมาจริงๆ
   “ฝนตกๆ” “เออ กูไม่ได้ตาบอด” เอ่อ นี่จะให้กูพูดบ้างโดยที่ไมด่ากูได้ไหมเนี่ย เงียบก็ด่าไอ้บ้าเอ้ย มันพาผมขับรถเข้าไปในป่า แว้กก ในป่า ไม่เอาๆ มันจะฆ่าผมหรือเปล่าเนี่ย ยังไม่อยากตายนะเว้ย ไม่เอาๆ ร้องดีไหม ร้องขอความช่วยเหลือ
   “เฮ้ย” โหย มันขับรถเข้าไปในศาลาครับผมนี่กระเด้งเกือบตกรถ
   “ลงสิมึงจะนั่งอีกนานไหม หลบฝนก่อน เพราะมึงคนเดียวแท้ๆ แม่งซวยฉิบหายแม่กูด่าตายแน่ๆ” เอ่อ ขอบคุณนะที่มอบทุกอย่างให้กู กูไม่ซวยว่างั้นที่เจอมึงแหมนะ เข้าใจพูดนะไอ้ควาย ขอด่าหน่อยเถอะ ผมก้าวลงจากรถเอาของวางบนที่นั่งแล้วมองไปรอบๆ มันมืดแล้วอ่ะ ที่ไหนวะเนี่ย เอ๊ะ อะไรแว้บๆ อยู่ตรงนั้น แว้กก หรือว่าจะเป็นผี
   “เฮ้ย มาเบียดกูทำไมวะ สัด” ผมกระเด้งตัวเข้าหามันครับ
   “อะไรอ่ะ นั่นน่ะ” ผมบุ้ยปากไปทางที่ผมเห็นลึกเข้าไปในป่าอีกล่ะครับแล้วจะสั่นทำไมเนี่ยกู
   “พระไง มึงไม่เคยเห็นพระหรือไง พระมิ่งมงคล” อ้อ พระ ถอยออกจากมันทันทีสิครับผมยกมือขึ้นไหว้ทันที ใจหายหมดหลวงพ่อนะหลวงพ่อ ทำไมองค์ใหญ่จังลูกตกใจนะเนี่ย อิอิ
   “อะไรมึงคิว่าผีหรือไง ไอ้ห่า ฮ่าๆ หน้าซีดเลยวะ ป๊อดเอ้ยใจตุ๊ดสัดๆ” เออ หัวเราะได้หัวเราะไป อย่ามากลัวอะไรให้กูเห็นอีกล่ะไอ้นี่เดี๋ยวแม่งจะล้อสามปีสี่ปีเลย
   “แม่งท่าทางตกหนัก หยุดซะทีเว้ย” “เปรี้ยง” “แว้กก” ไอ้เชี่ยนี่ แหกปากเพื่อ ผมกระโจนเข้าหามันทันทีครับ
   “นั่นๆ กอดกูอีกแล้ว แรดนะมึงน่ะ” จิ๊ โอ๊ยย กูอยากกอดมึงมากๆ โว้ยยนะ กอดเสาก็ได้วะ มันหัวเราะชอบใจครับแต่ผมกลัวนี่หว่า ใครไม่มาตกอยู่ในสถานการณ์แบบผมคงไม่มีวันเข้าใจหรอกนะ ฮึ งอน
   “เออพอดีเลย ระหว่างรอฝนหยุดมาให้กูต่อยเล่นดิ๊” หือ ผมทำท่าเป็นไม่ได้ยินครับเมินหน้าไปเสียทางอื่น
   “มาเร็วดิ จะได้หายกัน” มันพยักหน้าให้ผมเข้าไปหาครับ เรื่องอะไรล่ะกอดเสาไว้ดีกว่า
   “ทำไมนายไม่ชอบหน้าเราขนาดนั้นเลยเหรอ เราไปทำอะไรให้นายอ่ะ” ผมคาใจครับ ไม่เข้าใจเลยคนไม่ชอบหน้ากันนี่มันมากมายขนาดนี้เลยเหรอ
   “เออดิ กูไม่ชอบหน้ามึง มึงหน้ากวนตีน ทำหน้ามึนใส่กู ไม่รู้เว้ยเห็นหน้ามึงแล้วกูคันตีน”
   “อืม แล้วต่อยแล้วมันจะหายคันไหมล่ะ” ผมถามออกไป คำถามที่แสนจะฉลาดผมคิดว่านะ ใครจะว่าตัวเองโง่ เฮอะฝันไปเถอะ แม้จะคิดน้อยไปหน่อยก็ตามทีเถอะ อิอิ
   “ไม่หาย ต้องให้กูต่อยทุกวัน” มันหัวเราะชอบใจครับ ผมนี่มันน่าหมั่นไส้ขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย
   “ถ้านายเห็นเราเป็นที่ระบายอารมณ์ (หยุดถอนหายใจเพราะระอา อิอิ) ก็ต่อยเถอะ แต่ต่อยแต่เราได้ไหม อย่าไปต่อยคนอื่น สงสารเขา คนที่เขาโดนรังแกคงไม่มีใครชอบหรอก” ผมตอบออกไปหลังจากที่เงียบประมาณสี่นาทีสามสิบห้าวินาที อิอิ มันอึ้งเหมือนกันครับเพราะเงียบไปผมจ้องหน้ามัน มันหน้าเหวอๆ
   “สัด มึงเป็นบ้าป่ะเนี่ย หรือว่าชอบซาดิสต์ ถ้าให้กูต่อยแทนคนอื่นกูต่อยเยอะนะเว้ย วันนึงๆกูต่อยเป็นสิบ”
   “จะต่อยจนตายก็ทำเถอะ ถ้ามันจะช่วยคนอื่นได้บ้าง” ปรบมือเดี๋ยวนี้ แว้กก ตอบเหมือนนางงามเลยอ่ะ ถ้าขึ้นประกวดนี่เอามงกุฎมาๆอย่างเดียวเท่านั้น ปลื้มใจกับคำตอบของตัวเองจังเลย
   “อ๊วก ถุย อย่ามาทำเป็นนางงามแถวนี้เว้ย มึงเป็นใครมาขอร้องกู กูจะต่อยมึงทุกวัน คนอื่นกูก็จะต่อย ฮ่าๆ ไอ้หน้าจืด ไอ้ตุ๊ด” เอ่อ เสือกรู้ทันกูอีกนี่ล่ะนะที่เขาบอกคนไม่มีสุนทรีย์ในจิตมันเป็นคนเลว คำกลอนเขามีว่าอะไรไม่รู้จำไม่ได้ เพิ่งเจอกับตัวไอ้เชี่ยนี่เอง
   “เออ กูถามมึงหน่อยสิ ทำไมมึงไม่จีบหญิงวะ ท่าทางมึงก็ไม่เหมือนไอ้ชาตินี่หว่า ทำไมมึงยอมให้เขาอัดตูดวะ มันเสียวเหรอ” ถามเชี่ยไรเนี่ย ความชอบส่วนบุคคลเว้ย ถ้ากูถามมึงกลับว่าทำไมมึงถึงชอบผู้หญิงล่ะมึงจะตอบกูได้ไหม อย่าๆ อย่าบอกว่าพระเจ้าสร้าง ในเมื่อพระเจ้าสร้างมึงให้ชอบผู้หญิง พระเจ้าก็สร้างกูให้ชอบผู้ชายเหมือนกันนั่นล่ะ ทีกูยังไม่อยากรู้เรื่องอะไรของมึงเลย แล้วนี่มาถามอะไร ไร้มารยาท เลวทรามต่ำช้า สถุล แว้กก
   “เสียว” อ้าวตอบมันทำไมเนี่ย แว้กกกู
   “เสียวยังไง”
   “ทำไมอยากรู้ นายอยากลองเหรอ” อย่าเข้าใจผิดว่าผมจะบอกว่าลองกับกูไหมนะครับ ไม่มีทาง ฝันไปเถอะที่คนอย่างมันจะเห็นเรือนร่างประหนึ่งเทวดาปั้นมาเนี่ยนะ อิอิ มีบ้างน่า อย่าหัวเราะ อย่าเบะปากขอร้องเห็นแล้วเหรอพวกคุณน่ะ
   “สัด ใครจะอยากลองสกปรกจะตายรูขี้น่ะ อึ๋ย สกปรก”
   “แล้วถามทำไม อยากคุยก็คุยเรื่องอื่น” ผมทำหน้ารำคาญมันเต็มที่ มันปรี่เข้าหาผมทันทีครับ
   “สัด อยากตายอยู่นี่หรือไง กวนตีนกูนะมึง”
   “บ้านเราอีกไกลไหม” ผมเปลี่ยนเรื่องเองครับ ผมยังคงไม่พอใจมันอยู่มากแต่พอเถอะ เหนื่อยที่จะต่อกร มันอึ้งไป
   “มะ ไม่ไกล”
   “ฝนหยุดนายไปส่งเราตรงถนนใหญ่ก็ได้ เดี๋ยวเราเรียกแท็กซี่กลับเอง” ผมเมินหน้าหนีไปทางอื่นครับไม่อยากมองหน้ามันแล้ว
   “สัด นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯนะเว้ย แท็กซี่บ้านมึงสิจะมีแถวนี้ หรือว่าจะเดินกลับเอง ปากดีนักนะมึง”
   “อ่า ไม่อ่ะ นายไปส่งก็ได้” แหะๆ แหมนะมาปากเก่งอะไรตอนนี้ เดี๋ยวได้เดินกลับสมใจอยากบรรยากาศยิ่งน่ากลัวอยู่ด้วย
   “สัด กูนึกว่าจะเก่ง”
   “นายๆ” “อะไรเรียกพ่อไมลูก” หนอยแน่ เรียกหน่อยไม่ได้นะมึง คอยดู
   “มีอะไรติดปากนายอ่ะ” ผมชี้ไปที่ปากมันครับ มันรีบเอามือปาดออกทันที
   “ไรวะ ไม่เห็นมี มึงหลอกกูเหรอเชี่ย” มันทำท่าขึงขังใส่ผม
   “มีสิ แต่มันไม่ได้ติดอยู่หรอกนะมันฝังอยู่อ่ะ”
   “ไรวะ พูดดีๆนะมึงไม่งั้นมึงตาย”
   “สัดไง เชี่ยด้วย” “เชี่ย” หลบสิครับมันง้างเท้าขึ้นแล้ว
   “นี่มึงด่ากูเหรอ มึงตาย” จะให้เล่าไหมว่าเกิดอะไรขึ้น อ๊ะๆ ย่าคิดไปไกลขนาดนั้นมันก็แค่ไล่เตะผมอ้อมศาลาที่มีขนาดเล็กกระจิ๋วนั่นล่ะครับ ไล่จนเหนื่อยแต่มันเตะผมไปทีเดียวไม่แรงมากพอทนๆ เป็นไงล่ะขอด่าหน่อยเถอะ คำก็สัดสองคำก็เชี่ยไม่ชอบเว้ย สรุปเลยละกันนะว่าพอฝนหยุดก็เกือบสามทุ่มครับ มันยอมมาส่งผมที่บ้านแต่โดยดี แต่รู้ไหมอากาศมันดีจริงๆนะ กลิ่นหอมแปลกๆ อากาศเย็นสบายมันเต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำแสงไฟของรถบนถนนที่สาดสะท้อนแผ่นน้ำที่เปียกปอนอยู่ตามถนนส่องแระกาย สวยดีนะ
   “อากาศดีใช่ไหมล่ะ ไม่เหมือนในกรุงเทพฯ” มันพูดขึ้นครับ ใครถามมึงเนี่ยเสียอารมณ์หมดคนกำลังดื่มด่ำ
   “อืม” “ลงไปถึงแล้ว แม่งแม่กูแพ่นกะบาลแน่ๆ” มันบ่นครับ อ้าวถึงบ้านแล้วเหรอเนี่ย พอผมก้าวลงจากรถมันก็เลี้ยวรถมันกลับทันทีครับ
   “นายเดี๋ยวก่อน” ผมร้องเรียกมันไว้ครับ
   “อะไรอีกกูรีบนะเว้ยสัด” มันทำหน้ายักษ์ใส่ผมเหมือนเคยล่ะครับ เอ๊ะ ทำไมพูดว่าเหมือนเคย ไปเคยกันตอนไหนเนี่ยกู
   “ขอบใจนะที่มาส่ง อ่ะนี่เราให้ตอบแทนที่นายมาส่ง” ผมยื่นกระป๋องพริงเกิ้ลให้มันครับ
   “สัด ให้หนมกูเนี่ยนะ ปัญญาอ่อนป่ะมึง” อ้าวนะไอ้นี่ ให้ไม่เอายังด่ากูอีก
   “ไม่เอาเหรอ” ผมชักมือกลับ มันรีบมาคว้าไปจากมือผมครับ
   “ไม่เอาก็ควายสิวะ เออเอาก็ได้เห็นแก่มนุษย์โลกนะเนี่ย” เฮอะ เวรเอ้ย มีอะไรที่มันดีกว่านี้ไหมเนี่ย เก๊กมากๆ อยากได้ก็ไม่รับเอาไปดีๆนะมีมาพูดนั่นพูดนี่อีก นิสัยๆ
   “ทำไมเพิ่งกลับอุ่น พ่อเป็นห่วงนะ” พอเดินเข้าบ้านไปพ่อผมก็ยืนจังก้ารออยู่แล้วครับ ห่วงจริงเหรอพ่อ ห่วงจริงไม่ออกไปรับมาล่ะ มารออยู่บ้านเนี่ยนะ แล้วไม่โทรหาลูกตัวเองล่ะมาบ่นทำไม แต่เอ๊ะ มันอาจจะไม่มีสัญญาณ
   “ติดฝนอ่ะพ่อ”
   “แล้วใครมาส่งเพื่อนเหรอ”
   “ครับ”
   “ไม่ชวนเพื่อนเข้ามากินน้ำกินท่าก่อนล่ะ แต่ฝนมันตกตอนทุ่มกว่าๆนะ เลิกเรียนตั้งสามโมงครึ่ง ไปทำอะไรมา เพิ่งเข้าเรียนนะอุ่นทำไมเถลไถล” เอ่อ เข้าใจพ่อนะ เพราะว่าพ่อเป็นห่วงแล้วพ่อเข้าใจผมไหม เคยเข้าใจลูกคนนี้บ้างไหม ขออะไรทำให้หมดเลย จากที่เคยเป็นคนคิดอะไรพูดแบบนั้นก็กลายเป็นคนคิดเยอะไม่พูด ปากไม่ตรงกับใจเพราะใคร เพราะทำให้พ่อนะ เข้าใจลูกบ้างไหมเนี่ย โอ๊ย ปวดใจ
   “ก็คุยกับอาจารย์เรื่องไปเข้าค่าย อาจารย์เขาเทสต์ภาษา” ผมจ้องหน้าพ่อ ไม่รู้ทำไมน้ำตามันเอ่อออกมา ผมพยายามไม่คิดนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
   “อุ่น พ่อขอโทษ” พ่อผมโผเข้ามากอดตัวผมไว้ผมเม้มปากแน่น อะไรเนี่ยทำอะไรกัน
   “อุ่นอยากอาบน้ำพ่อ อุ่นกินข้าวมาแล้วนะ จะนอนเลย” ผมผละออกครับแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย
   “อ้าวคุณอุ่นขาบ่อกินข้าวติ๊ค่า คุณพ่อถ่าอยู่เด้ค่า” พี่ต้อยครับ ผมไม่สนใจเดินขึ้นข้างบนไปเลย น้อยใจไหมมีบ้างนะแต่มันไม่มากนักหรอกครับ ผมแค่สะเทือนใจนิดหน่อย คิดถึงแม่จังเลย ถ้าแม่อยู่ตอนนี้เราจะกำลังทำอะไรกันอยู่นะ
   “อุ่นๆ พ่อเข้าไปได้ไหม” ผมกำลังนอนคิดอะไรเพลินๆครับ รอให้โจ้ตอบวอทแอบไอ้บ้านี่ก็อะไรไม่รู้บอกไปงานวันเกิดไอ้ต่อ นึกถึงภาพแล้วอยากไปด้วยจังเลย พวกเขาคงกำลังสนุกกันอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดแล้วผมล่ะกำลังทำอะไรอยู่
   “ครับพ่อ” ผมเดินไปเปิดประตูให้พ่อครับ สีหน้าพ่อเหมือนว่าจะมาขอโทษหรืออะไรไม่รู้แต่แววตาของพ่อมันสะท้อนแววแปลกๆ
   “พ่อขอโทษนะที่ว่าอุ่นไป พ่อเป็นห่วงอุ่นนะ”
   “ครับ อุ่นไม่ได้คิดอะไร อุ่นเข้าใจ”
   “อุ่น รู้ไว้นะที่พ่อทำทุกอย่างก็เพื่ออุ่นนะ เรามีกันแค่สองคนนะลูก” โว้ยย ทำไมน้ำตาไหลเนี่ย
   “พ่อ” ผมโผเข้ากอดพ่อครับ ร้องไห้ออกมา ร้องทำไมวะ ซึ้งตรงไหน แต่ทำไมร้องไม่หยุดเลยวะเนี่ย ต่อมน้ำตาแตกร้องจนเหนื่อยล่ะครับท่าน จนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
   “คุณอุ่นขา ตื่นได้แล้วค่า ไปใส่บาตรกับเอื้อยคุณพ่อถ่าอยู่ตาล่างค่า” พี่ต้อยมาเคาะห้องครับผมสะดุ้งตื่น หือ นี่มันกี่โมงวะเนี่ย อ่ายังไม่หกโมงเลย อะไรอ่ะพี่ต้อย
   “ไปใส่บาตรค่า มื้อนี้ครบรอบคุณแม่เสียเด้อ จำบ่อได้ติ๊” เอ่อ ผมรีบกระโจนลงจากเตียงทันทีครับ รีบเดินออกจากห้องไปล้างหน้าล้างตา พอเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นพ่อยืนรออยู่แล้ว
   “นิมนต์ครับหลวงพ่อ” พอสายหน่อยพระก็เดินผ่านมาครับ ผมไม่เข้าใจว่าจะตื่นมารอทำไมในเมื่อพระท่านมาเกือบจะหกโมงครึ่ง เตรียมตัวสินะ เฮ้อ เอาน่ะๆ วันนี้ต้องไม่คิดสิ่งที่ไม่ดีทำบุญให้แม่ พอพระท่านให้พรเราก็กรวดน้ำให้แม่ล่ะครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งไหน ภพภูมิใดขอให้แม่ได้รับกุศลผลบุญนี้ อย่าให้แม่ต้องลำบาก ผมตั้งจิตแผ่ส่วนกุศลให้ครับ รู้สึกดีขึ้นจริงๆ
   “อ้าวสิไปโรงเรียนติ๊ค่าน้องอุ่น มื้อนี้วันศุกร์เด้ บ่อเก็บของไปเข้าค่ายบ่อ” พี่ต้อยแกเตือนก่อนออกจากบ้านครับ ค่ายอะไรอีก เก็บของไปทำไม แว้กก ลืมเสียสนิทเลย
   “อ่า ลืมอ่ะพี่ต้อย ช่วยหน่อย” ผมลนลานขึ้นมาทันทีครับ เป็นอย่างนี้ทุกทีเลย ชอบลืมแล้วต้องเอาอะไรไปบ้างเนี่ยกูนี่มันไม่ใช่วันพฤหัสฯหรอกเหรอเนี่ย โว้ยอะไรวะต้องมารีบอีกแล้วอะไรเนี่ย ผมรีบเข้าห้องน้ำ ที่เข้าห้องน้ำก็ไปเอาเครื่องอาบน้ำ ไมได้หรอกนะผมชอบของผมนี่นาไปไหนต้องเอาไปด้วย ส่วนเรื่องครีมทาหน้าไม่ได้ดูแลอะไรมากพื้นฐานหนังหน้ามันค่อนข้างดีอ่ะนะ อิอิ
   “จะทันไหมเนี่ยกู” ผมวิ่งออกไปจากบ้านล่ะครับ แต่วิ่งทำไมเนี่ยเพิ่งจะ ๗.๕๐ อีกตั้ง ๑๐ นาทีแน่ะ แว้กก ๑๐ นาทีมันจะทันไหมเนี่ยกู วิ่งสิเอ้า แต่นะผมวิ่งไปได้ไม่นานก็เหนื่อยไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนี่หว่าเล่นแต่บีบีถ้ามาวัดกำลังนิ้วกันมาเลยมา สู้กันสักตั้งแต่กำลังขานี่ไม่ไหวจริงๆ อิอิ
   “ฮ่าๆ ไปสายเหรอมึง สัด” เอ่อ แทบอยากจะวิ่งไปให้ถึงโรงเรียนในบัดดล ทำไมต้องได้ยินเสียงนี้ก่อนเพื่อนคนอื่นด้วยวะเนี่ย เบื่อและหน่ายอย่างรุนแรง
   “อ๊ะๆ อย่าทำสายตาวิงวอน กูไม่ให้ไปด้วยหรอกนะเว้ย ฮ่าๆ สมตื่นสายล่ะสิมึง” จะเชื่อผมไหมว่ามันจอดรถลงมาวอแวกับผม ไอ้นี่มันเป็นเอามากจริงๆ รู้นะว่าเกลียดกูแต่ทำไมมาวอแวกูจังวะ เออ กูจะคอยหลบเองก็ได้เว้ย
   “ทำไมกูคุยด้วยไม่คุย สัดหยิ่งอีกนะมึง” ดูเอาเองนะครับ พิจารณาเอาเองมันเลวแค่ไหน กูหอบยู่เนี่ยไอ้เชี่ยยยย จะให้กูพูดแป๊ะไรวะ กูหายใจไม่ทัน
   “เรา เราเหนื่อย อย่า” ผมหยุดเอามือลงค้ำเข่าเอาไว้ครับไม่ไหว
   “อย่าเชี่ยไร ไม่ให้ไปด้วยเว้ย อยากเห็นนักเรียนใหม่วิ่งรอบเสาธง ฮ่าๆ มาไม่ทันไรลายออกนะมึง สม ปากเก่งดีนักเป็นไงล่ะ เออ หนมที่ให้มาน่ะไม่ได้เรื่อง ไม่เห็นอร่อยตรงไหน กูชอบกินเลย์เว้ย” บอกกูทำไมเนี่ย
   “อย่า” “อย่าเชี่ยไร” “อย่าชวนคุยได้ไหม เหนื่อย” ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดครับ หนอยแน่ด่ากูอยู่ได้ฉอดๆ กูเหนื่อยหรอกนะมึงไอ้บ้า อยากรีบไปก็ไปเลยกูก็เบื่อหน้ามึงเหมือนกันนั่นล่ะวะไปให้พ้นๆเสียทีเว้ย
   “ขึ้นมาดิ กูสงสารเดี๋ยวมึงจะขาดใจตายซะก่อนกูจะไม่มีคนแกล้ง” หือ มีนว่าอะไรนะ ฝันไปเถอะนี่ถ้ากูขึ้นรถไปกับมึงนี่คงพูดไปสามปีเจ็ดปีเลยสิ คนอย่างอุ่นไม่เคยง้อใคร ไม่แคร์ไม่แลมองเว้ย จำไว้ จำใส่หัวเอาไว้
   “มาดิ ยืนบื้ออยู่ได้หรือมึงอยากวิ่งรอบเสาธงไอ้เชี่ยนี่” อ้าว ตวาดกูเพื่อ ไอ้นี่นิสัยเสียมากเกิดมาไม่เคยเจอใครเถื่อนดิบเท่าไอ้บ้านี่มาก่อนเลยนะให้ตายเถอะ
   “ไม่ไปใช่ไหม เออ ดีกูจะไปบอกจารย์เดชให้มึงวิ่งรอบเสาธงสักสิบรอบ เอ๊ะหรือจะเอาสนามบอลดีวะ ฮ่าๆ”
   “จิ๊ ออกรถดิ” เอ่อ อุ่นๆ ทำไมอุ่นทำตัวแบบนี้อ่ะ แว้กก ขึ้นรถมันทำไม โอ๊ย ไม่เข้าใจตัวเอง ศักดิ์ศรีน่ะมีบ้างไหม หือ มันด่าเอาฉอดๆแบบนั้นทำไมต้องไปยุ่งกับมันอีก อะไรอ่ะไม่เข้าใจตัวเอง
   “สัด สั่งกูนะเดี๋ยวให้แม่งวิ่งไปเลยเลยนี่”
   “นายๆ” “เรียกพ่อไมลูก” หนอย ไอ้นี่มันวอนนะ
   “นายอาบน้ำมาโรงเรียนป่ะ” “เอี๊ยดด” “นั่น ปากหมาอยากกินตีนกูแต่เช้านะมึง”
   “ก็มันมีกลิ่นอ่ะ เราจะอ๊วก” “ลงไปเลยมึง ปากหมานักเดินเอาเลย อาบดิเชี่ย กูอาบสะอาดเว้ย แม่งกูเสียความมั่นใจนะเว้ย” ที่จริงมันไม่ได้เหม็นหรอกครับผมแกล้งมัน หนอยด่ากูอยู่ได้ไอ้บ้า เป็นไงล่ะเสียความมั่นใจไปเลย ฮ่าๆ เก่งดีนักมาเจอกูๆ
   “ไม่เอาอ่ะ เราจะทน อีกไกลไหมกว่าจะถึงโรงเรียนน่ะ” ผมแถไปครับเรื่องอะไรจะลงเดิน มาถึงขั้นนี้แล้ว
   “สัด จะลงไม่ลง” มันยังตวาดอยู่ครับแต่ผมไม่สนใจ
   “ไม่อ่ะ เราไม่อ๊วกหรอก เออๆ ไม่พูดแล้วก็ได้” ผมสงบปากสงบคำครับ มันก็ด่าอะไรไม่รู้ไม่ได้ใส่ใจฟัง ด่าได้ด่าไปสิกูไม่ลงอ่ะมึงจะทำไม เก่าหน่อยแต่ก็โอเควะดีกว่าเดิน
   “แล้วมึงหอบเสื้อผ้ามาทำไมวะเนี่ยจะหนีตามผู้ชายเรหอ ฮ่าๆ” พอขับไปได้สักพักมันก็ถามขึ้นล่ะครับ ควายอีกแล้วแหมนะแล้วมึงไม่ไปหรือไงเข้าค่ายดัดสันดานมึงน่ะไอ้บ้า เออแล้วมันขับรถแบบอ้อยอิ่งมากเลยนะครับแทนที่จะรีบ ที่คิดว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะแปดโมงถ้าได้นั่งรถมันไปนี่คงทันแบบคาบเส้นพอดีแต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ แต่ดูมันไม่สะทกสะท้านเลยนะครับ
   “เข้าค่ายไง นายไม่ไปเหรอ” ผมทำเสียงแบบเหยียดหยามเต็มที่ เป็นไงล่ะไอ้บ้าดีแต่กร่างสมองฟ่อเอ้ย
   “วันนี้วันพฤหัสฯ เข้าค่ายพรุ่งนี้ไม่ใช่ไง” “เอ่อ ไม่จริง วันนี้วันศุกร์ นายลืมเหรอ อิอิ” ได้ทีครับหัวเราะมันเลย ไอ้นี่กูนึกว่าจะแน่นี่ล่ะนะมัวแต่มาคอยหาเรื่องชาวบ้านจนลืมวันลืมคืน สม
   “ฮ่าๆ สัด ไอ้เชี่ย วันนี้วันพฤหัสฯเว้ย ฮ่าๆ” มันจอดรถทันทีครับ อ้าว จอดทำไมวะเนี่ย
   “ไหนกูดูหน้ามึงหน่อยซิ เชี่ย ฮ่าๆๆ ไอ้โง่ เอ๋อนะมึง ฮ่าๆๆ” เอ่อ มันจอดรถเพื่อที่จะมาหัวเราะผมเนี่ยนะ เอ่อ จริงเหรอ ไม่จริงนะไม่มีทางวันนี้วันศุกร์ยังไงก็ศุกร์เว้ย ไม่มีทางที่จะเป็น เอ่อ ดูโทรศัพท์กูก็ได้วะ แว้กก ทำไมมันบอกวันพฤหัสฯ ไม่จริง อุรดิศไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่จริง
   “ฮ่าๆ ไอ้เอ๋อ สัด ฮ่าๆ” อ่า อายก็เป็นนะเว้ย อะไรอ่ะ ทำไมพี่ต้อยทำแบบนี้ แว้กก โมโห
   “อ่ะ อายๆ หน้าแดง เป็นไงล่ะเถียงอยู่ได้ ฮ่าๆ โอ๊ย กูปวดท้องแม่ง หน้าเอ๋อเลยนะมึง ไปเข้าค่ายไหนอ่ะจ๊ะตัวเอง” เออ เอาเข้าไปล้อกูเข้าไป ไอ้บ้า หนอยคนเรามันก็มีบ้างอ่ะนะ
   “ไปได้ยังอ่ะ” ผมพูดออกไปครับ ไม่รู้จะเถียงมันยังไงดี ไม่น่าเลยกูไอ้อุ่นทำไมนะ เว้ย
   “ยัง ฮ่าๆ มึงนี่เหลือเกินจริงๆนะ นอกจากจะหน้ามึน กวนส้นตีนแล้วยังเสือกเอ๋ออีก ฮ่าๆ” เอ่อ ชมกูเพื่อ กูไม่ต้องการคำชมจากมึง รีบไปเสียทีได้ไหมเนี่ย กูร้อน โว้ย
   “โอ๊ย แม่งปวดท้องแต่เช้า” มันหัวเราะ เอ่อ จนน้ำตาไหลครับนั่งลงหัวเราะ ส่วนผมก็ยังคงเกาะอยู่บนเบาะรถรุ่นสงครามโลกของมัน เอาเข้าไปได้ทีมึงเอาใหญ่เลยนะไอ้บ้าเอ้ย อย่าให้มีทีกูบ้างนะมึงกูจะหัวเราะไปสามวันเจ็ดวันเลย

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ไม่น่าอ่านเหรอคร้าบ แหะๆ มันฮาๆ ดีออกนิ แต่ไม่เป็นไร เค้าชอบเลยจะเขียน กร๊ากก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 03-04-2012 12:43:05
ตลกดีอ่ะ 555 แม้บางคำจะแปลไม่ออก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-04-2012 12:51:30
สนุกดีค่ะ น้องอุ่นโก๊ะตลอดศก
ชอบให้ทะเลาะ ต่อปากต่อคำแบบนี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 03-04-2012 13:00:14
สนุกมากมาย น่ารักดีอีกต่างหากชอบบบบบบบบ :L1:
 :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 03-04-2012 13:20:25
อุ่นนี่ฮาดีจัง!!  :laugh:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 03-04-2012 15:21:06
 :m20: โคตรฮา ที่เดี๋ยวบอกว่าชอบเลย์เพราะอยากให้อุ่นซื้อให้กินอ่ะดิ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 03-04-2012 16:57:31
ชอบอุ่นจัง
โก๊ะได้ใจ!!!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 03-04-2012 20:21:34
ทุกทีฉากติดฝนมันต้องมีอะไรวิ้ง ๆ อะไรบ้างซิ...
แต่เวอร์ชั่นนี้เค้าไล่เตะรอบศาลาสานสัมพันธ์กันซะงั้น..
แล้วน้องอุ่น..โก๊ะสุด ๆ อ่ะ...น่ารัก..คิดอย่างทำอย่างเอกลักษณ์ของตัวเธอนิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-04-2012 21:21:20
น้องอุ่นคิดเยอะจริงๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: vitaminbb♥ ที่ 03-04-2012 22:24:56
อุ่นน่ารักนะ   :o8:
แต่เดี๋ยวตัวเหม็นจริงดิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 03-04-2012 23:22:08
โอ๊ยอฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

แต่เมื่อไรจะสปาคกันอ่า  อะจึ๊กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 4 Version (อุ่น) 3 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 04-04-2012 10:30:07
เอ๋อ ฮาได้อีกนะอุ่น :m20: :m20:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 06-04-2012 11:06:03
You’re My BaBy!!!


ให้ตายเถอะครับผมไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานมากๆแล้วนะ มาดูเอาเองเถอะหน้าไอ้เชี่ยนี่มันแบบว่าเอ๋อไปเลย ฮ่าๆ โอ๊ย มีความสุขจังวะ หนอยๆ ตอนแรกทำเถียงนะ มันอายแก้มแดงไปเลยครับ สรุปว่าผมยืนหัวเราะมันจนเหนื่อยล่ะครับท่าน เว้ย มันมีความสุขจริงๆนะเนี่ย ไอ้เอ๋อนี่นอกจากจะหน้ามึนไม่กลัวอิทธิพลมืดของผมแล้วมันยังเอ๋อเชี่ยๆไปเลย เวลาอายก็เหมือนจะเถียงในใจนะแต่ไม่พูดแต่แก้มมันแดงๆดีนะผมชอบ เฮ้ย ไม่ชอบๆ ก็คนมันแก้มแดงใครเห็นก็มองล่ะวะหรือว่าไม่จริง เถียงดิเดี๋ยวจะสอยให้
   “จารย์ครับ วันนี้วันศุกร์ใช่ไหม” ฮ่าๆ พอเข้ามาถึงโรงเรียน เอ่อ คือพ่อกูก็ให้ไปยืนรอทำโทษอยู่ท้ายแถวล่ะครับ ไอ้เอ๋อนี่มีหน้าไปถามพ่อกูอีกนะ ฮ่าๆ ผมอมยิ้มขึ้นมาทันที
   “หือ นอนดึกหรือเปล่าเราน่ะ วันนี้วันพฤหัสฯนะ” “ฮ่าๆๆ” ไม่ไหวแล้วเว้ย แม่งเอ้ย ผมปล่อยก๊ากออกไปทันทีครับ มันทำหน้าแบบว่าผิดหวัง โอยๆ ไม่มีทีจะยืนแล้วกู
   “อะไรบักเดี๋ยว หัวเราะเพื่อนทำไม” อ้าวพ่อกู อย่าๆ ตัวเองก็ยิ้มเถอะพ่อ
   “ฮ่าๆ ฮ่วย แม่นเพิ่นนอนบ่อกลับหมอนบ่อน้อจารย์” ผมได้ทีครับ มันค้อนผมทันที
   “แล้วนี่เราหอบกระเป๋าอะไรมาเยอะแยะอุรดิศ อย่าบอกนะว่า” ฮ่าๆ พ่อกูนี่ก็นะอมยิ้มนะเหมือนจะรู้แต่ก็ถามมัน
   “อ้อ อ่า คือว่าผมเอามาเผื่อคาบพละไงครับจารย์ คือผมยังไม่มีชุดพละ” แถๆนะมึง ฮ่าๆ โอ๊ยยังไงก็ไม่เหมือน ผมนี่นั่งลงเลยครับไม่ไหวจริงๆ หัวเราะจนน้ำตาไหล
   “บักเดี๋ยว หัวเราะเพื่อนนะมึง อ้าวเหรอ ดีๆ แต่ทำไมแก้มแดงๆ เหนื่อยเหรอ หรือว่าร้อน จะเหนื่อยจะร้อนยังไงก็ต้องโดนทำโทษนะอุรดิศ โทษที่เรามาสาย มึงด้วยบักเดี๋ยว” อ้าวนะ รู้เว้ยพ่อต่อให้วิ่งรอบสนามบอลสักสิบรอบก็ไหววะวันนี้ มันมีความสุขจริงๆให้ตายเถอะ
   “แต่เห็นว่าเราเพิ่งมาครูจะให้วิ่งแค่รอบเสาธงก็พอ วันหลังรีบออกจากบ้านหน่อยสิ บ้านก็อยู่แค่นี้เองไม่ใช่เหรอ” นั่นๆครับ สายตามันเหมือนตอบโต้อะไรสักอย่าง มันก้มหน้าล่ะครับแต่ผมนั่งไงผมเลยเห็น
   “แต่มึงบักเดี๋ยว โน่นสนามบอล มาสายรายวันนะมึงน่ะ วันนี้ห้ารอบพอเสร็จแล้วไปหากูที่ห้อง”
   “อ้าว บ่อยุติธรรมเด้อจารย์ มันมากับผมเด้ เป็นหยังมันได้แล่นรอบเสาธง”
   “ฮ่วย หรือมึงจะเอาสิบรอบ อย่ามาเถียง” เอ่อ พ่อผมตวาดใส่ครับ แต่กลัวที่ไหนล่ะ
   “แล้วมีหยัง” ผมถามพ่อไปล่ะครับ
   “เรื่องจะไปแข่งบอลที่อุบลฯ เขาเลื่อนขึ้นมาเป็นวันพุธหน้า” ว้าว เลื่อนขึ้นมา ดีๆผมจะได้ไปสีสาวๆที่นารีฯ อิอิ ดีใจเว้ย วันนี้มันโชคสองชั้นจริงๆนะเนี่ย ได้หัวเราะแต่เช้าแล้วก็จะได้ไปสีหญิงอาทิตย์หน้า พออาจารย์ปล่อยแถวพวกที่มาสายก็โดนทำโทษตามธรรมเนียมล่ะครับ คือโรงเรียนผมน่ะมีนักเรียนสี่พันกว่าคนนะครับ มาสายก็ไม่ได้มีแต่ผมกับไอ้หน้าจืดนั่นสองคนหรอกนะเกือบร้อยได้มั้ง ฮ่าๆ เป็นเรื่องปกติล่ะครับท่าน มีเด็กนักเรียนบางพวกที่ไม่ยอมเข้ามาโรงเรียนก็มี พวกมันจะชอบเข้าทางรั้วหลังโรงเรียนเพราะมันเป็นรั้วหนามไม่ใช่กำแพง เออนะ ทำไมกูไม่เข้าทางนั้นวะเนี่ย ไม่เดีๆ นักเลงโตอย่างผมไม่มีทางทำอะไรลับหลังใครเว้ย มาให้เห็นโต้งๆแบบนี้ล่ะ
   “อ้าวนี่ชุดใหม่ของมึง” พอผมเดินหอบเข้าไปในห้องปกครองพ่อผมก็โยนถุงกระดาษมาให้ล่ะครับ
   “เบอร์ ๑ คือเก่าบ่อจารย์” ผมถามทันทีครับเบอร์แห่งโชคลาภของผมผมต้องเป็นที่หนึ่งเว้ยเบอร์อื่นไม่เตะแค่นั้น
   “เออดิ จะมีไผยาดมึงวะ เชี่ย” ป้าด ใครวะ โอ้ ไอ้เชี่ยแบงค์ เมื่อคืนกูยังไม่ได้ชำระความเลยนะมึง ยาดแปลว่าแย่งนะขอรับ
   “สัด ยาดแล้วเตะได้คือกูบ่อล่ะ เมื่อวานกูยังบ่อได้ชำระความเด้อมึง” ผมถลนตาใส่มันล่ะครับ
   “น้อยๆหน่อยเฮ้ย นี่ห้องกูนะ เอาล่ะๆ กูแค่จะบอกว่าเย็นนี้ซ้อมและก็จะซ้อมทุกวันเพิ่มจากเดิม ๒ ชั่วโมงเป็น ๓” พ่อกูสาธยายครับ
   “อ่า หยังอ่ะจารย์ ซ้อมโดนแท้เมื่อยเด้” หลายเสียงครับ แต่กูนี่สิเครียดหนัก ก็จะอะไรล่ะเย็นวันศุกร์นี้กูต้องไปเข้าค่ายเชี่ยไรนั่นดิ แม่งไมได้ซ้อมเลยกู เซ็งเว้ย
   “หรือพวกมึงอยากแพ้ นารีฯน่ะเขาแชมป์อุบลนะมึง กูไม่เสียค่าน้ำมันรถไปเพื่อแพ้หรอกนะ อย่าประมาท” เสียงอันทรงอำนาจพูดครั้งเดียวจอดครับ ไม่มีใครอิ๊อ๊ะอะไรอีก กูนี่สิ
   “แล้วผมล่ะจารย์ต้องไปเข่าค่ายเด้ สิซ้อมจั่งได๋” ผมพยายามทำสีหน้าให้มันเครียดเข้าไว้ครับ
   “ไม่กี่วันหรอกน่า กูเชื่อมือมึง ไม่ไปไม่ได้ด้วยอันนี้ไฟลท์บังคับ” “เฮือก” เสียงผมถอนหายใจหน่ายเสียเหลือเกินครับ แม่งจะมีอะไรดีกว่าการไปเข้าค่ายปัญยาอ่อนนี้ไหมวะเนี่ย เว้ย เซ็งเว้ย
   “มึงเอายาสูบมานี่แน่ะบักแบงค์”
   “บ่อมีเว้ย ไถตลอดแม่งบ่อเคยซื้อเอง เกิดดาวไถบ่อมึงน่ะ” ป้าดพูดแล้ววิ่งออกไปเลยนะครับมันคงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับมัน
   “สัดเอ้ย ไถเตี่ยมึงติ๊ เขาเอิ้นขอเว้ย บักเต้มึงมีบ่อ” ไอ้เต้มัน ม.๔ ครับ มันต้องเกรงใจผม ฮ่าๆ ผมตรงดิ่งไปหามันทันที
   “อ่ะ เหลือตัวสุดท้ายเด้นี่” มันทำหน้าแบบว่ากูขอแบ่งมรดกของพ่อมันประมาณนั้นล่ะครับ แม่งไอ้เชี่ยนี่เตะหงายหลังสักทีดีไหม เพราะเกรงใจพ่อกูหรอกนะ
   “สูบเข้าไปเยอะๆ เดี๋ยวมึงก็วิ่งไม่ออก พวกมึงนี่มันเลวทุกตัวจริงๆนะ เรื่องดีๆน่ะหัดทำเป็นไหมวะ หา” นั่นไงครับแกคงเหล่อยู่นาน จะว่าไปแล้วพวกผม คือทั้งทีมฟุตบอลนี่นะดูดบุหรี่กันทุกคนแต่ไม่ได้ติดเป็นจริงเป็นจังหรอกนะเว้ยเฮ้ย ดูดเป็นแฟชั่นน่ะเข้าใจไหม อย่ามาบอกว่ามันไม่ดี รู้เว้ย บางทีกูก็แค่ดูดเข้าไปไม่ถึงคอแล้วพ่นออกมา มันเป็นสังคมของลูกผู้ชายแถวนี้เว้ย ใครจะทำไมวะ
   “อ้าว น้องอุ่นๆ ไสบอกสิเลี้ยงติมอ้าย อ้ายถ่ากินอยู่เด้นี่” ผมได้บุหรี่จากไอ้เต้มาก็เดินตรงไปห้องน้ำหลังโรงเรียนล่ะครับ แต่ว่าหูเสือกดีอีกไปได้ยินเสียงไอ้เชี่ยแบงค์มันร้องเรียกไอ้เตี้ยหน้าจืด พักบุหรี่ไว้ก่อนวะ แต่เอ๊ะ กูจะไปยุ่งกับมันทำไมวะเนี่ย เสียเวลาแท้ๆ
   “ไรอ่ะพี่ เพิ่งจะเข้าเรียนนะ จะกินเลยเหรอ ตอนเที่ยงได้ป่าวผมรีบ” เสียงไอ้เตี้ยมันโตตอบครับ
   “ซั่นเลี้ยงเข่าอ้ายนำเด้อ” เลี้ยงเข่านี่ไม่ใช่แข้งเข่าหรอกนะครับ ข้าวๆเว้ย
   “โครม” ผมถีบถังขยะครับ ทนไม่ไหวไม่รู้ทำไม แม่งพวกเห็นแก่กินนี่โคตรเกลียดเลยนะกู แต่เอ๊ะ แล้วเกี่ยวอะไรกะกูวะเนี่ย เว้ย ทำให้มันเกี่ยวมันก็เกี่ยวล่ะวะสงสัยไปได้
   “เฮ้ย มาสิงอยู่หยังในห้องน้ำบักห่านี่” ดูเอานะครับไอ้เชี่ยแบงค์ปากมอมด่าผมอีกแล้ว
   “สัด อยากตายติ๊บักแบงค์ มึงด่ากูแล้วหนีสองเทื่อแล้วเด้ ตายคั่กๆมึง” ผมตรงดิ่งเข้าหามันครับ
   “ฮ่วย น้องอุ่นๆ อ้ายไปก่อนเด้อ หมาว้อมันมาแล้ว” มันวิ่งหนีไปครับ ผมทำท่าจะวิ่งตามแต่สายตาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มถากถางของใครบางคน
   “ยิ้มไร หรือมึงจะเอา” ผมเปลี่ยนเป้าหมายครับ ถามจริงๆเถอะคิดว่าผมเกเรไหมเนี่ย ไม่นะเว้ย ผมน่ะมันคนดีแท้ๆ อิอิ โว้ย ใครจะไปทนไหววะก็ไอ้รอยยิ้มที่มันยิ้มที่มุมปากนั่นน่ะมันเยาะเย้ยผมชัดๆ มาดูเองเลยมา
   “หือ ใคร เราเหรอ”
   “มึงนั่นล่ะไอ้เอ๋อ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ไม่ได้ยิ้มนี่ หลบได้ป่ะ เราจะเข้าห้องน้ำ” ป้าด มันยักคิ้วคืนครับท่าน ท้าทายๆ ผมเลยเอาบ่ากระแทกมันแรงๆ ตัวมันนี่เซไปเลยครับ ผมยืนยักคิ้วอีก
   “นาย” มันเรียกครับ นั่นๆ มีเม้มปากด่ากูทางสายตาอีกแล้วเดี๋ยวเถอะมึง
   “หยัง อยากเลียเท้าเหรอน้อง”
   “ได้ข่าวว่าเรียนเก่งนี่นายอ่ะ” โว้ มันรู้ด้วยเว้ย ไม่รู้ก็แปลกล่ะ บอกตามตรงในโรงเรียนนี้มีใครไม่รู้จักไอ้เดี๋ยว วิชพงศ์บ้างกูให้เตะเลยอ่ะ
   “มันแน่นอนเว้ย” ผมไม่ได้ดีใจนะเว้ย แต่มันเขาเรียกว่าอะไรอ่ะ เขาเรียกว่าความภาคภูมิใจประมาณนั้น
   “แต่ไม่เห็นจะใช้สมองเลยนิ ใช้แต่กำลัง” เออนะ มันเข้าใจชม เฮ้ย สัด ด่ากูนี่หว่า มึง
   “เชี่ย มึงด่ากูเหรอ” มันวิ่งเข้าห้องน้ำครับ หนอยแน่ไอ้เชี่ยนี่แทนที่จะวิ่งหนีไปทางอื่นเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูเนี่ยนะ มึงตายแน่ๆไอ้เตี้ย
   “ออกมาเลย มาสังเวยตีนกูซะดีๆ มึงด่ากูสองทีแล้วนะวันนี้” ผมตะโกนทุบประตูห้องน้ำอยู่ครับ เออ ขอบรรยายเรื่องห้องน้ำหน่อยนะว่าห้องน้ำที่นี่มันไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดหรอกนะครับ เพราะเขาแบ่งเวรกันทำ เว้ยแต่ไอ้ห้องน้ำหลังช็อปของอาจารย์สมพงษ์นั่นล่ะที่เน่าหน่อยเพราะพวกอย่างผมๆเนี่ยไปแอบสูบบุหรี่กันไง
   “โอ๊ย นาย เราจะฉี่อ่ะ อย่าเสียงดังได้ป่ะ เราฉี่ไม่ออก”
   “เชี่ย ยังจะมามีอารมณ์ฉี่อยู่อีก มึงตายแน่ๆ ไอ้เตี้ย กวนตีนกูมาหลายครั้งแล้วนะ คราวนี้ล่ะมึง”
   “อ่า จะเจ็บไหมอ่ะนาย เรากลัว เรากลัว” โอ๊ย เชี่ยเอ้ย ดูมันทำเสียงครับ กูนี่กัดฟันกรอดๆ หน้าแดงแล้ว ความจริงถ้าถีบประตูเข้าไปโครมเดียวกลอนมันก็คงหลุดแต่ไม่เอาๆ ตอนนี้กูยิ่งมีคดีอยู่ด้วย ทำไงดีวะ
   “อ๊ะ นายจะทำไร” กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้โง่ออกจะฉลาด มึงอยากจะแอบอยูในห้องน้ำนั่นก็เชิญ มึงคิดว่ามันจะปลอดภัยว่างั้นไอ้เตี้ยเอ้ย ผมปีนสิครับท่าน ห้องข้างๆเลย คือว่าผมน่ะสูงอยู่แล้วไม่ได้เกิดมาเตี้ยก็เลยใช้มือเกาะแล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไม่ยากและใช้เวลาไม่นาน พอกระโดดลงไปในห้องน้ำเดียวกับไอ้เตี้ยที่กำลังจะเปิดประตูออกมาผมก็ยกเท้ายันประตูไว้สิครับ
   “อ่า ขนขาเยอะนะ แหะๆ” แม่งเอ้ย ผมไม่รู้จะขำหรือจะโกรธมันดีครับ มันกลัวนะผมรู้สีหน้ามันบอกเพราะหน้ามันซีดแต่คำที่มันพูดออกมานั่นสิมันทำให้ผมเม้มปากแทบตาย สัด
   “ยังอีก มึงนี่มันวอนกินตีนกูจริงๆนะ ไอ้เตี้ย” ผมยังอยู่ในท่าเดิมครับ คิดว่าเท่มากแล้วท่านี้มันก็อยู่ตรงกลางหว่างขาของผมนั่นล่ะ เคยเห็นไหมล่ะห้องน้ำในโรงเรียนมัธยมน่ะหรือว่าไม่เคยเรียน กร๊าก
   “ไรอ่ะ เรายังไม่”
   “หุบปาก วันนี้ล่ะกูจะจัดการมึง” พูดไปสองไพเบี้ยครับ กระชากคอมันเข้ามาหาเลย บีบคอมันแรงๆเนื้อแดงขึ้นมาทันที
   “โอ๊ย เจ็บเป็นนะเว้ย” มันร้องครับสนเหรอกูน่ะ
   “ทำให้เจ็บไง จะได้ไม่ปากหมา”
   “นายๆ” มันหน้าแดงจัดขึ้นมาทันทีครับ ผมยิ้มที่มุมปากเป็นไงล่ะเจอกูบีบคอ
   “ไร กูทำเบาไปเหรอ หรือว่ามึงจะอ้อนวอนกู ฮ่าๆ”
   “ปะ เปล่า” “เชี่ย แล้วเรียกกูทำไมสัด กูกำลังมัน”
   “นายช่วยเอาขาลงได้ป่ะ เหม็นอ่ะ” อึ๊ก จุกครับท่าน ป้าดบักห่านี่แม่ะ เป้ากูน่ะมีแต่คนอยากลิ้มลองแล้วนี่มันอะไร ผมเอาขาลงผลักหลังมันให้กระแทกกับผนังห้องน้ำทันทีครับ
   “อยากตายมากใช่ไหมมึงน่ะ หา” ทนไม่ไหวแล้วครับ ผมเอามือกดที่กลางคอมันแล้วตะคอกแรงๆใส่หน้ามัน มันเม้มปากหน้าแดงจัดเหงื่อเริ่มผุดออกมาตอนนี้หน้ามันอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงนิ้วครับ เห็นเหงื่อเม็ดโป้งๆเลย
   “ฮ่า นาย เรา เรา หายใจมะ” มันเหมือนจะขาดอากาศครับผมเลยเอามือออก เผื่อมาตาย กูสิจะซวย มันก้มลงทันที
   “จำไว้อย่ามาลองดีกับกู”
   “ลองดีไรอ่ะ” “นั่น ยังอีก” ผมกระชากแขนมันขึ้นมาครับ หน้ามันอยู่แค่บ่าของผมผมบีบปลายคางมันให้เงยหน้าขึ้นมองผม แม่งเอ้ย น้ำตามันคลอเบ้าอีกแล้วครับ ผมจ้องนัยน์ตามันอยู่ไม่เกินสามวิ ให้ตายเถอะ มือกูอ่อนเลย
   “ออกไปได้ไหม เราจะฉี่” มันครางออกมาครับ ผมทำอะไรไม่ถูก ตายห่านแล้ว กูเป็นเชี่ยไรวะเนี่ย ทำไมมองตามันแล้วใจกูหวิวๆแปลกๆแบบนี้วะ
   “ทะ ทำไม กูอยู่แล้วฉี่ไม่ได้ไง หรือว่าอาย เจี้ยวเล็กเหรอมึงน่ะ” ผมพูดไปงั้นล่ะครับ ไม่รู้จะพูดอะไร
   “ฮ่า” มันหายใจทางปากแล้วนั่งยองๆลงกับพื้นเลยครับ ผมนี่เอ๋อแดกไปเลย ห่านเอ้ยแล้วกูจะยืนให้มันดมเป้าอยู่หรือไงวะเนี่ย
   “เฮ้ย บีบเบาๆจะตายจริงเหรอวะ” ผมกลัวมันตายจริงๆครับ เพราะท่าทางมันร่อแร่เหลือทน
   “จะออกไปไม่ออก” มันเงยหน้าขึ้นมาครับ สายตามันนี่ด่าผมทั้งโคตรแล้วมั้งนั่นน่ะ
   “ไม่” ผมมันแบบนี้ไง
   “โว้ย ฉี่แล้วนะ” “สัด” เอ่อ ให้บรรยายไหมวะ ว่ามันรูดซิปกางเกงลงเลยแล้วก้าวมาเขี่ยผมออกจากโถส้มคือผมยืนอยู่โถส้วมอ่ะนะแล้วมันก็งัดออกมาปล่อยเลยครับท่าน ทั้งที่ผมยืนอ้าปากค้างอยู่นั่น แสรดด เกิดมาไม่เคยดูของคนอื่น ฮ่าๆ เว้ย ใครไม่เคยเห็นของเด็กอนุบาลยกมือขึ้น ฮ่าๆ เท่านิ้วหัวแม่เท้ากูเองมั้งนั่นน่ะ เอ่อ ว่าแต่กูไปดูทำไมวะนั่น เฮ้ยกู ผมก้าวออกมาให้พ้นจากมันครับ
   “เชี่ย เลวนะมึง”
   “อ่า สบายจัง” “สัด ยังมีหน้ามาครางอีก เดี๋ยวกูถีบให้”
   “อ้าวก็เราจะฉี่อ่ะ นายเข้ามาเองนะช่วยไม่ได้” หนอยแน่ยังมีหน้ามาต่อล้อต่อเถียง
   “กูถามจริงๆ นั่นมันอะไรวะ ฮ่าๆ สัดเล็กมากๆ เจี้ยวเด็กเอ้ย” ผมล้อมันครับ ได้ผลมันอายหน้าแดงเลย มันรูดซิบแล้วก้มหน้าลงเลยครับ
   “ใหญ่นักเหรอนายอ่ะ”
   “ใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้เว้ย แต่สี่เท่าของของมึงละกัน ฮ่าๆ กูนึกว่าของหลานกู สัดเอ้ย”
   “นิสัยไม่ดี แล้วไง ถอยเราจะออก” มันอายจัดครับหน้านี่แดงถึงหู ฮ่าๆ เว้ยมีความสุขเว้ย
   “กูไปบอกคนอื่นๆดีกว่าว่ากูเห็นของเด็ก ฮ่าๆ” อ๊ะๆ อย่าคิดว่าผมจะทำอย่างที่พูด ไม่เว้ย มันไม่แมน ที่จริงมันก็เรื่องส่วนตัวมันล่ะครับ มันจะใหญ่จะเล็กผมไม่เกี่ยวนี่จริงไหม แค่ล้อมันให้มันอายแค่นั้นเอง จบตรงนี้ไม่มีต่อเว้ยเฮ้ย เป็นไงล่ะไอ้เดี๋ยวแมนมะ
   “ฮึ ก็คงพอกันล่ะ เราก็จะไปบอกใครๆว่า เป้านายเน่า อิอิ” เอ่อ นี่มัน ซี๊ด กูว่าจะไม่เอาเรื่องมึงแล้วนะไอ้เตี้ย ยังมีหน้ามายักคิ้วให้กูอีก หนอยแน่มึง ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหมเนี่ย อ้าวเชี่ย มันวิ่งหนีไปหน้าอาคารแล้วครับ หนอยแน่มึงไอ้เตี้ย โว้ย กูก็มาเซ็งอีกสิวะทีนี้ เดินไปหาไรยัดที่สหกรณ์ดีกว่า
   “อ้าว ไม่เรียนบ่อเดี๋ยว” ถามไรโง่ๆวะ ถ้าเรียนกูจะมาเดินหล่ออยู่ตรงนี้ไหมเนี่ย แต่นะคนนี้ให้อภัยครับ อิอิ พี่นก คนนี้ผมปลื้มมากๆแต่แกไม่แลผม เออนั่นสิทำไมถึงไม่มองกูวะทั้งที่ผู้หญิงในโรงเรียนต่างก็มองกู แต่ผมพอจะรู้ด้วยความชาญฉลาดของผมเองล่ะครับว่าทำไม ผมว่านะมีผู้หญิงบางประเภทคือประเภทพี่นกนี่ไงที่ชอบให้ตายก็จะทำเป็นเฉยๆไม่สนใจไม่แล แต่เฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา ผมคิดว่างั้นนะเพราะผมว่าผมอ่านสายตาของพี่เขาออก ฮ่าๆ เป็นไงล่ะทฤษฏีเรื่องผู้หญิงของไอ้เดี๋ยวเจ๋งมะ
   “บ่อเรียนเอื้อย เอาโค้กใส่น้ำแข็งถุงหนึ่ง” ผมบอกแกไปครับ ถ้าเดาไม่ผิดนี่คงเป็นคาบแนะแนวของพี่นกแกถึงมาเฝ้าสหกรณ์ให้คุยยายวรนารท ก็อาจารย์สอนภาษาไทย ม.ต้นล่ะครับ แว่นแกหนาๆตาดุๆเลยได้รับฉายานี้ไปไง ฮ่าๆ
   “ได้ข่าวว่าสิไปแข่งภาษาอังกฤษแม่นบ่อเดี๋ยว”
   “แม่น” ผมยิ้มให้แกครับ เห็นไหมว่าแกอายแก้มแดงเลย ตอนนี้พี่นกคบอยู่กับไอ้ไม้เพื่อนของผมเองนั่นล่ะครับ ไอ้เชี่ยนี่เวลาชวนไปไหนไม่เคยไปเพราะมันบอกว่าติดแฟนมาก ท่าทางก็น่าติดอยู่หรอกนะ ขาวซะ เว้ยกู
   “ขอให้ชนะเด้อ เอาใจซ่อย”
   “คร้าบ ถ้าสิให้ดีโค้กฟรีได้บ่อ” กร๊ากนิสัยไม่ดีนะกู พี่แกทำหน้าเหวอๆ ผมเลยควักตังค์จ่ายไปครับ แหมๆรีบเบะปากเลยนะพวกคุณ เขาเรียกว่าคนมันลื่นไหลเว้ย ให้ทำจริงไม่เอาหรอก เดี๋ยวหาว่ากูจนอีก เขาเรียกรู้จักใช้เงินเว้ยเฮ้ย
   “บักเดี๋ยวพ่อมึงให้มาเอิ้นไปซ้อม” บักเคนเพื่อนรักผมเองครับ ไรวะเพิ่งจะคาบเช้าต้องซ้อมแล้วเหรอวะเนี่ย
   “เพิ่นป่วงติ๊ ซ้อมหยังแต่เซ้าบ่อเป็นลมแดดตายเหมิดทีมบ่อ”
   “เพิ่นสิพาไปซ้อมในโรงยิม เพิ่นว่าเพิ่นขอจารย์คาบเซ้าให้แล้ว”
   “ป๊าด คือสิเอาคั่กเนาะ” คือประมาณว่าพ่อผมเอาจริงกับงานนี้น่ะครับ ผมก็บ่นไปงั้นล่ะก็ผมเคยบอกแล้วว่าเตะบอลเป็นอาชีพหลักเรียนเป็นงานอดิเรก ผมเดินไปที่ห้องของพ่อผมทันทีครับ เพื่อนๆในทีมก็กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เสียงเจี้ยวจ้าว เล่าคร่าวๆก็แล้วกันนะว่าเราไปซ้อมในโรงยิมครับก็วิ่งรอบโรงยิมก่อน แต่เอาไปเอามาก็ไม่ได้เรื่องเพราะเตะไซร้ก้อยไม่ได้มันไปโดนนั่นนี่รำคาญเลยตกลงใจกันว่าไปซ้อมมันแดดเปรี้ยงๆนั่นล่ะครับ พอเล่นจริงๆลืมร้อนไปเลยกู พ่อผมก็เน้นเรื่องไล่บอล ส่งบอล ครองบอลให้นานต่อลูกกันอย่าให้คู่ต่อสู้แย่งไปได้ง่ายๆ ตอนเย็นค่อยซ้อมเล่นเข้าทีม ตอนนี้ผมกำลังคิดลูกใหม่คือการเตะจากกราบซ้ายขวาเพื่อหวังผลในระยะที่หวังได้โดยไม่ส่งลูกต่อให้เพื่อนประมาณนั้น แต่แม่กู ร้อนมากๆเหงื่อนี่ไหลเหมือนอาบน้ำกลางแดด เสียงออดพักเที่ยงผมรีบวิ่งไปล้มตัวลงนอนใต้ต้นไม้ครับ
   “โว้ย ฮ้อนหลาย ตายๆ สิยัดเข่าลงบ่อน้อ” บักเคนครับ เข่านี้ก็ข้าวนั่นล่ะครับเสียงในภาษาอีสานมันจะสั้นกว่ายัดก็ แหมนะให้แปลด้วยเหรอคำนี้ ฮ่าๆ จิ้นเองเว้ย
   “ไปเอาน้ำเย็นมาแดกแน่ะ แฮ่กๆ กูสิตาย” ผมนอนแผ่ลงกับพื้นครับ มันเหนื่อยจริงๆให้ตายเถอะ
   “เดี๋ยวกูไปซื้อให้ มึงเอาน้ำหยัง สูแดกน้ำแล้วสิกินเข่าลงติ๊บักเคนบักเดี๋ยว” ไอ้ไม้ครับ แหมๆ ที่มันจะไปซื้อให้นี่ก็พี่นกไงครับที่อยู่ในสหกรณ์แต่ไม่อยากจะบอกมันเลยว่าไปเอาป่านนี้พี่แกไปกินข้าวแล้วล่ะแต่ไม่ห้ามครับเดี๋ยวไม่ได้กินน้ำ ฮ่าๆ
   “เออน่า เอามาดับกระหายก่อน ฟ้าวๆแน่ะ” บักเคนได้ใจผมจริงๆครับมันนอนแผ่ลงข้างๆผม คนอื่นๆเขาทยอยกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้ว จะอาบทำไมวะในเมื่อคาบบ่ายก็ต้องซ้อมอีก เปลี่ยนเสื้อเพื่อ เปลืองดิวะไอ้พวกนี้
   “เล็ก นายจะเอาเส้นใหญ่เหรอ น้ำหรือแห้ง” เอ่อ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะฟังแต่มันหรือได้ยินแต่เสียงมันนะ แต่ทำไมวะเสียงไอ้เตี้ยนี่มันถึงโดดเด่นกว่าใคร อีกอย่างเวลามันยืนอยู่ท่ามกลางเด็กนักเรียนที่นี่มันเหมือนผ่องเปล่งออร่าขาวโอโม่กว่าใครนั่นล่ะมั้ง มันเลยเตะตาผม เฮ้ยๆ อย่าเข้าใจผิด เตะตาก็เด่นกว่าใครไงเว้ย
   “เส้นใหญ่แห้ง” เสียงบักเล็กมันร้องอยู่ข้างๆครับ ผมเดินตรงดิ่งเข้าไปหาน้าผมเพราะมันคงไปสั่งที่ร้านน้าของผมแน่ๆ
   “อย่านะบักเดี๋ยว” อ้าวกูยังไมได้ทำไรเลยนะ น้าผมร้องห้ามแล้วดูเอานะท่านผู้ชม
   “หยังน้า สิมากินเตี๋ยวมาห้ามเฮ็ดหยัง” ผมยักคิ้วให้มันครับเพราะเรื่องเมื่อเช้ามันยังค้างคาอยู่ ไหนลองมองดูสายตาของคนอื่นซิว่าเขามองผมยังไง เอ๊ะ ปกตินี่หว่า แสดงว่ามันยังไม่ได้ไปนินทาผมหรือว่าพวกนี้มันยังไม่พูดวะ
   “เออๆ สิแดกหยังล่ะสิเฮ็ดให้” น้าติ๋วครับยิ้มให้ไอ้เตี้ยแต่ทำหน้ามารร้ายใส่ผมหมายความว่าไงเนี่ยน้า ผมหลานนะเว้ย
   “อ้าว บ่อให้เฮ็ดเองติ๊ สิเฮ็ดให้บักนี่นำ” ผมบุ้ยปากไปหามันล่ะครับ
   “บ่อได้เดี๋ยวสิเสียลูกค้า หนูกินไรคะวันนี้ หน้าใสจังเลยนะ เป็นตาฮักหลาย” เอาเข้าไปไม่ยกก้นมันมาดมเลยล่ะน้า แหมๆ หลานตัวเองหล่อยังกะดารายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่เห็นชมสักคำ เว้ยนะ
   “ขอบคุณครับน้า ผมเอาเส้นเล็กน้ำตกหมูครับ ไม่เอาเครื่องใน เอาแต่เนื้อหมูไม่เอาลูกชิ้น ไม่เอาถั่วงอก ไม่”
   “ไม่ต้องแดก” ผมสวนขึ้นครับ มันทำตาโตใส่ผม
   “บักเดี๋ยว” อันนี้น้าติ๋วครับ
   “เรื่องมากนักก็ไม่ต้องแดก โน่นไปสั่งร้านอื่นเว้ย ขวางทางตีน” ผมยักคิ้วใส่มันล่ะครับ
   “น้าครับ น้าไม่อยากขายให้ผมเหรอ ผมไม่เอานั่นเอานี่ผมว่าดีสำหรับน้าออก ประหยัดจะตายราคาก็เท่าเดิม” ป๊าดมันพูดกับน้าผมนะแต่มองหน้าผมไม่วางตา บักห่านี่แหม่ะวอนๆ
   “ว้าย แม่นค่าแม่น ถอยไปเลยมึงบักเดี๋ยว ของหนูน้าทำให้พิเศษเลยนะจ๊ะ ของเพื่อนล่ะเอาไร”
   “ฮ่วยน้าติ๋ว อีหยังนี่”
   “ไปพู้นเลย ไปไกลๆ เดี๋ยวสิให้น้าเต๋าเอาไปให้ ของมึงแดกธรรมดาแบบตัดทอน เข้าใจ๋” จุก ผมยืนกำหมัดแน่น หนอยแน่เจอหน้าไอ้เตี้ยนี่ทีไรผมต้องคันตีนคันมือตลอดเลยสิน่า ผมมองหน้ามันอย่างเคียดแค้นครับ คอยดูนะมึง คอยดูๆ ไปเข้าค่ายนี่ล่ะกูจะอัดให้น่วมเลย มึงคอยดู สรุปว่ากูต้องกินก๋วยเตี๋ยวกับลูกชิ้นสองลูก โหน้าผมนะใจร้ายว่ะ ว่าจะเอาเงินเก็บไว้เป็นท่าบำรุงคุณปู่กูซะหน่อยต้องไปฟาดข้าวแกงร้านยายสีเลยกู อดๆๆ เพราะมันคนเดียว เว้ย ก่อนจะซ้อมคาบบ่ายกูไปของีบห้องพยาบาลสักตื่นสองตื่นก่อนละกัน สมองจะได้ปลอดโปร่ง แม่งเครียดๆ
   “ใครเห็นนายเดี๋ยวบ้างคะนักเรียน” พอนอนไปได้กำลังจะเคลิ้มเสียงของอาจารย์พรฤดีก็ดังแว่วเข้ามาหลอกหลอนผมทันที แม่งจะนอนสักหน่อยนี่ยังตามมาเข้าฝันเลยเหรอเนี่ย
   “ไม่เห็นนี่คะจารย์ เดี๋ยวถ้าหนูเห็นจะบอกให้ค่ะ” เสียงของเด็กเฝ้าห้องแทนอาจารย์เวรล่ะครับ น้องเขาเข้ามาทีหลังตอนที่ผมเข้ามานอนแล้วนะ
   “จ๊ะ ถ้าเจอบอกให้ไปหาครูที่ห้องหน่อยนะ จะเรียกไปคุย เนี่ยอุรดิศนักเรียนใหม่ก็ไปรออยู่แล้ว พี่ๆเขาก็ไปรอพร้อมแล้วเหลือแต่นายเดี๋ยวคนเดียว เจอบอกให้ด้วยนะคะนักเรียน จะประกาศก็จะเกินไป” เหมือนแกบ่นเนอะ เล่าอะไรให้ใครที่มันไม่รู้เรื่องฟังนี่มันจะได้ประโยชน์อะไรไหมเนี่ยป้า เฮ้อ กูล่ะเพลียใจ แต่เอ๊ะ เมื่อกี๊อาจารย์พูดถึงใครนะ ไอ้เตี้ยนี่ ไม่ได้ล่ะขึ้นไปราวีมันหน่อย อิอิ นอนไม่หลับแล้วล่ะกูน่ะแต่เอ๊ะ ทำไมกูชอบไปวอแววุ่นวายกับมันจังวะ เอ้ย อย่ามาถามไม่มีคำตอบรู้แต่ว่ามันกวนตีนอีกอย่างมันท้าทายผมมากๆอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
   “มึงสิไปไสบักเดี๋ยว มาเบิ่งนี่ๆ” พอเดินผ่านห้องปกครอง (ห้องพ่อผมเอง) ไอ้แดนรุ่นพี่มันก็ร้องเรียกผมทันทีครับ บ๊ะ ไอ้นี่กูกำลังจะไปกวนไอ้เตี้ยเล่น
   “มีหยังฟ้าวอยู่เด้นี่”
   “จารย์เดชเพิ่นยึดของดีมาจากพวกบักเขียว บ่ออยากเบิ่งกะตามใจ” จิ๊ ซี๊ดครับ ของใหม่ๆต้องแวบหน่อยล่ะผมตรงดิ่งเข้าไปหามันทันที เว้ย พ่อกูก็อยู่นั่งให้ทีมล้อมรอบเลยนะนั่น โหยนะพ่อกู
   “อ้าวบ่อเบิ่งติ๊ สุดยอด” มันยังชักชวนอยู่ครับแต่ผมไม่ชอบดูคนเยอะๆ มันไม่มัน ฮ่าๆ รีดไม่ถนัดนั่นเอง
   “เดี๋ยวมาเบิ่ง กูสิไปหาจารย์พร” ผมเดินออกจากห้องครับ พอเดินออกมา ก็นะป๊ะหน้ากับไอ้เตี้ยมันเพิ่งจะเดินลงมาจากชั้นบนล่ะครับ
   “วี๊ดวิ้ว เจี้ยวเด็ก” ปากแมวอย่างผมทักทายมันไปก่อนสิครับจะรอให้มันทักนี่คงไม่มีทาง มันหันมามองผมแวบหนึ่งแล้วทำเป็นเมิน แหมๆนะมึง ทำเป็นไม่ได้ยิน
   “ไงมึง ไอ้เจี้ยวเด็ก ทำเมินนะ” มันไม่สนใจผมเลยให้ตายเถอะ ผมต้องปรี่เข้าหาเองดึงแขนมันไว้
   “ไรเหรอเป้าเน่า” ป๊าด เห็นไหมครับ ผมปากหมาน่ะผมยอมรับนะเว้ย แต่มันจะยอมรับไหมว่ามันน่ะกวนส้นทีนที่สุดเหมือนกัน หรือคุณว่าไง หน้ามึนใส่ผมอีกคนแบบมันนี่มันสมควรโดนสถานเดียวใช่มะ
   “เป้าเน่าแต่ก็ใหญ่เว้ย ไม่ใช่เจี้ยวเด็ก ไรมึงอายุเท่าไหร่ เจี้ยวเหมือนเด็กอนุบาล ฮ่าๆ”
   “เวลามึงว่าวทำไงวะ เอานิ้วชี้จับแบบนี้อ่ะเหรอ ฮ่าๆ” ผมได้ทีครับล้อเลียนมัน หูมันเริ่มแดง แน่ะๆ มีกำหมัดๆ เอาดิ๊ต่อยกูเลย
   “สนุกนักหรือไงนาย ปล่อยนะเราจะไปเรียน”
   “จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะ อ้อ กูรู้แล้วที่มึงเจี้ยวเด็กนี่มึงไมได้ใช้อ่ะดิ แสดงว่า หึหึ”
   “อะไร แสดงว่าอะไร นายพูดดีๆนะ” มันทำตาถลึงโตใส่ผมครับแก้มแดงปั๊ด เอาล่ะเว้ยเฮ้ย
   “ทำไม มึงจะทำไมกู”
   “หนอยแน่ ป๊าบ” “เฮ้ย” มันเตะผมครับแล้วผลักตัวผม เซเหมือนกันนะเนี่ย แม่งแข้งเล็กๆเตะก้นกบผมเจ็บเหมือนกันนะเนี่ย
   “เฮ้ย มึงกล้าเตะกูเหรอ”
   “ถ้านายยังไม่เลิกล้อเรา เราจะเตะอีกนะ” มันทำท่าเอาจริงเอาจังครับ
   “กูกลัวว่างั้น แน่จริงเตะอีกดิ” “ป๊าบ” ป๊าดติ๊โธ่ กูพูดยังไม่ทันขาดคำมันเตะเข้าอีกครั้ง ผมนี่กัดฟันแล้ว ง้างหมัดแล้ว
   “นายจะต่อยเราคืนไม่ได้นะ เราร้องให้ ผอมาจัดการนายนะ” ซี๊ด มันขู่ผมครับ กล้ามากนะมึง แต่โกรธไหม ตอบตามตรงไม่เลยครับ ทำไมไม่รู้ว่ะ ผมว่าแกล้งมันแล้วสนุกดี มันทำท่าเหมือนโกรธถ้ามาเห็นจะถามว่า นี่มึงโกรธแล้วเหรอ คงเพราะแก้มมันแดงล่ะมั้งครับ ผมเลยไม่คิดว่ามันโกรธ
   “แน่จริงมึงไล่เตะกูให้ทันดิ ไอ้เจี้ยวเด็ก” ผมล้อมันต่อครับ มาคิดๆดูแหย่มันให้แก้มแดงเล่นๆก็ดีเหมือนกันนะ มันกำหมัดกัดฟัน อ้าวเฮ้ย วิ่งมาทางผมแล้ว วิ่งสิกู เข้าไปในห้องพ่อกูดีกว่า
   “ปากไม่ดีนะ นาย นี่แน่” ไม่คิดว่าไอ้นี่มันจะบ้าจี้ไล่เตะผมจริงๆครับ ตัวเท่าลูกหมาวิ่งไล่คนตัวโตอย่างผมเนี่ยนะมันเอาอะไรคิด ผมวิ่งเข้าในห้องทันที
   “ผลั่ก โอ๊ย” เอ่อ กร๊าก เฮ้ย พ่อกู ฮ่าๆๆ โดนกลางยอดอกเลยเว้ย กูนี่อึ้งไปเลย

เขียนโดย อิ๊กกี้ น้า อิอิ

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะขอรับผม อิอิ ความสุขผมแบ่งให้ได้ก็แค่ทางนี้เท่านั้นล่ะน้า สำหรับตอนนี้นิ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 06-04-2012 11:17:50
 :z13:

เดี๋ยวหวั่นไหว!!  :laugh:

อุ่นนี่กวนเก่งจริงๆ!!  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 06-04-2012 12:10:00
เรื่องน่ารักนะ....เจ้าเดี๋ยวมันกร่างดีแท้...
แต่ก็เริ่มแพ้ทางนู๋อุ่นแล้ว....
เตะพิฆาตรอบนี้...ชีวิตนู๋อุ่นจะเป็นเช่นไรนิ  :กอด1:
รอต่อไปจ้า....น้องอิ๊ค  :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-04-2012 14:36:23
รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 06-04-2012 15:27:31
ชอบอ่ะ ชอบอ่านเรื่องนี้ เมื่อไรบักเดี๋ยวจะรู้ตัวอ่ะ อยากเห็นตอนเดี๋ยวหื่นอ่ะ ถ้ารู้ว่ารักจะเป็นไงน้า อีกหลายตอนไหมอ่ะกว่าเดี๋ยวจะรู้ตัวว่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-04-2012 16:18:12
อุ่นก็หน้ามึนได้ใจ เดี๋ยวก็เกรียน เข้ากันมาก เหมาะกันราวกับกิ่งทองใบหยก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 07-04-2012 10:09:21
น่ารักมาก สนุกๆๆฮาๆๆๆดี อุ่นสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-04-2012 10:45:56
แกล้งไปแกล้งมาตกหลุมรักน้องอุ่นไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-04-2012 14:44:15
มันส์ๆๆๆๆๆๆ
เดี๋ยวชักเริ่มๆแล้ว
อีกสักพักคงได้.....
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: area71 ที่ 08-04-2012 09:47:40
ใกล้เข้าค่ายภาษาแล้ว ~~
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 4 Version (เดี๋ยว) 6 Apr 12 หน้า 3
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-04-2012 13:52:37
เรื่องน่ารักจัง
จะฮาไปไหน :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 09-04-2012 12:51:54
Don’t Call Me BaBy!!!
เอ่อ นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ นี่มันเกิดอะไรขึ้น แว้กก นั่นอาจารย์เดชนี่ แล้วทำไมเท้าผมมันไปปักอยู่กลางอกอาจารย์แบบนั้น แงๆ ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย ตกใจมาก กลัว บอกไม่ถูกตั้งแต่เกิดเป็นคนมาไม่เคยก้าวร้าวแบบนี้มาก่อน พ่อแม่ไม่เคยสอนบรรพบุรุษไม่เคยเสี้ยม แว้กก แล้วกูทำลงไปได้ยังไง จะทำยังไงดีล่ะทีนี้ ช่วยด้วยแม่จ๋า
   “เจ้านี่กล้าคั่กน้อ บ่อเคยมีไผล่วงเกินจารย์เดชเลยเด้อเจ้าฮู้บ่อ น้องอุ่น” คือผมร้องไห้ด้วยนะ ร้องออกมาจริงๆอ่ะ ไม่ได้แอ๊บตุ๊ดอะไรนะเว้ย มันตกใจ ผมทำร้ายครูบาอาจารย์ ตายๆ จากที่เรียนเก่งๆ (ในทางตรงข้าม) มันจะไม่ดำดิ่งยิ่งกว่าเดิมหรอกเหรอเนี่ย โอ๊ย ทำไงดี ผมเสียใจจังเลยอ่ะ ผมวิ่งออกมาจากห้องที่แสนจะเหม็นสาบนั่นมีไอ้พี่คนนั้นวิ่งตามออกมาครับ ผมเริ่มเกลียดไอ้บ้านั่นจริงจังแล้ว มันวอแวกับผมมากเกินไปแล้วนะ มันทำให้ผมขาดสติไปเลย ขาดสติถึงกระทั่งเตะอาจารย์ไม่สิถีบ แว้กก
   “ผมไม่ได้ ฮึกๆ ตั้งใจนะ” กูร้องไห้อยู่นะเนี่ย ยังจะมาชวนกูคุยอยู่ได้เว้ย ไอ้นี่ก็อะไรก็ไม่รู้
   “โอ๋ๆ อย่าสิเสียใจ บ่อเป็นหยังดอก จารย์เดชคั่นเพิ่นเคียดเพิ่นจัดการเจ้าตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว นี่เพิ่นว่าบ่อเป็นหยังก็บ่อเป็นหยังดอกน่า อย่าคิดหลาย” เออ กูจะเชื่อ แต่ทำใจไม่ได้อยู่ดี เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยก้าวร้าวแบบนี้มาก่อน เพราะมันคนเดียวไอ้บ้าอำนาจ เพราะมันแท้ๆเลย ทำไมไม่โทษตัวเอง เอ่อ ใครวะ คนเสียใจอยู่นะ เออกูทำเองล่ะ กูไม่มีสติเอง พลาดไปแล้วนี่ให้ทำยังไง จะให้ไปโทษมันทำไม ในเมื่อมันมาคอยวอแวแต่ตัวเราเองที่ไม่เข้มแข็งเอง โอ๊ยนะ
   “พี่ๆ แถวนี้มีเซเว่นป่าว” ผมถามมันทั้งน้ำตาครับ ไอ้นี่มันก็นั่งลงข้างๆผม
   “บ่อมีดอกแถวนี้ มีอยู่ในตลาดพู้น” แปลว่าไกลสินะ จิ๊ ทำไงดี โดดเรียนดีกว่า
   “พี่พาผมไปหน่อยได้ป่าว” ผมอ้อนมันครับ ไม่มีทางเลือกแล้วนี่
   “เว้ย สิซ้อมบอลอยู่เด้ เดี๋ยวจารย์เดชเอาตาย”
   “อ่า นะนะพี่นะ เนี่ยผมยังไมได้เลี้ยงติมพี่เลยนะ ถือโอกาสไปเลี้ยงติมด้วยเลย นะนะพี่” ผมอ้อนเต็มกำลังครับ จับแขนมันด้วย ทำตาปริบๆ ได้โปรดเถิดผีห่าซาตานที่ไหนก็ได้มาดลใจให้มันพาผมไปที
   “ฮ่วย ย้อนว่าเป็นตาฮักเด้นี่จั่งยอม” แว้กก มันยอมแล้ว ผมกอดแขนมันทันทีครับ
   “เฮ้ยๆ กอดเฮ็ดหยัง ฟ้าสิผ่าเอาเด้ ย่านฮู้บ่อ” เออ นั่นสิ กอดมันทำไมวะเนี่ย แหมก็คนมันดีใจอ่ะนะ กอดแขนหน่อยทำเป็นสะดีดสะดิ้งนะ ไอ้บ้า น่ากอดตายล่ะตัวก็เหม็น อูแหวะ
   “แล้วสิไปจั่งได๋ เอารถออกไปบ่อได้เด้” แง่ว จบข่าวกีฬาและการเมือง โว้ย แล้วให้กูหลงดีใจทำไมเนี่ยไอ้ดำตัวเหม็น หนอยแน่
   “เดี๋ยวพาโดดฮั้วออกไปทางหลัง ไปนั่งวินเอา มีเงินค่าวินบ่อ” ตาวาวขึ้นมาอีกครั้ง เห็นไหมอุ่นในความมืดย่อมมีแสงสว่างอยู่เสมอ จริงไหม อิอิ ผมดึงแขนมันให้ลุกทันทีครับ มันก็พาผมเดินอ้อมไปด้านหลัง แหมนะทำท่าแบบว่าเซียนมากๆ ทำเป็นเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วแว้บไปด้านหลัง ลอดรั้วออกไปเลยครับท่าน ผมยืนเอ๋ออยู่ ก็คนมันไม่เคยนี่นา
   “อ้าว มาแหม๋ สิไปบ่อนั่น” มันเร่งครับผมเลยต้องยอมก้มลอดรั้วลอดหนาม “แคว่ก” หือ อะไรวะ
   “เฮ้ย ส่งขาดๆ” ส่งอะไร ขาดอะไร ผมหันมองล่ะครับหลังจากที่ออกไปยืนข้างๆมัน ไอ้นี่มันชี้มาที่ก้นของผม แว้กก กางเกงผม ตรงกลางก้นเลยอ่ะ กางเกงเพิ่งได้มาวันนี้? อะไรกัน อะไรนี่ โว้ย
   “ฮ่าๆ ดากข้าวขาวเนาะ” เอ่อ ไอ้บ้านี่ผมรีบเอามือปิดไว้ล่ะครับ มันไม่ใหญ่มากแต่มันข้างๆขอบกางเกงในอ่ะที่มันขาด
   “พี่ไม่ขาวไง หัวเราะไมอ่ะ” ผมว่ามันครับ แหมนะเวลาเห็นคนลำบากนี่หัวเราะนะมึง
   “อิอิ เป็นตาเบิ่งเนาะเจ้าน่ะ”
   “เร็วดิพี่ ไหนอ่ะวินพี่อ่ะ” ผมทำเป็นไม่สนใจครับ ถ้าสนใจมากเดี๋ยวมันจะมาชอบผม ทำไงล่ะทีนี้ แว้กก อิอิ เอาน่านะ คนมันพอจะมีอะไรดีอ่ะ ช่วยไม่ได้นี่นา
   “พู้นเด้” มันชี้ไปที่วิน วิน? เอ่อ กูนึกว่ารถเครื่องรับจ้าง รถสามล้อถีบ? นี่น่ะเหรอวิน? เอ่อ พรุ่งนี้จะถึงไหมเนี่ยคุณตา ผมยืนมองอยู่ด้วยความอึ้ง เอ่อแล้วเอ่ออีก
   “เป็นหยังบ่อเคยนั่งสามล้อถีบบ่อ ลุงแดงนี่เพิ่นสุดยอดเด้ ป่ะ” เอ่อ อีกครั้งพร้อมกับการถูกลากมือตรงดิ่งไปหาลคุณตาสามล้อถีบ
   “ไปเซเว่นหน้าตลาดลุง” มันบอกคุณตาแกไปล่ะครับ ที่เรียกลุงนี่คงเป็นการเพิ่มเสริมกำลังใจให้แกมั้งผมคิดว่านะ
   “เอ่อ ตา เอ้ย ลุงจะไหวเหรอพี่ สองคนนะ” ผมทำท่าลังเลครับ
   “ฮ่วย บักหล่า ขึ้นมาโลดพ่อใหญ่สิซิ่งให้เบิ่ง” แกดันฟังผมรู้เรื่องอีก อ่า ขึ้นก็ขึ้นวะ ตายเป็นตาย สรุปว่าคุณตาแกปั่นได้แซ่บสะใจเหลือเกินครับ ฮ่าๆ ตอนแรกนั่งตัวเกร็งแทบตายกลัวบาปแต่เอาไปเอามาแกดูมีความสุขมากๆเลยนะกับการได้ปั่นสามล้อถีบ
   “สูหนีโรงเรียนไปซื้อเหล้าแม่นบ่อนี่” อยู่ๆแกก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “เหวย โพดหลายลุงพาน้องเพิ่นไปซื้อของ สิไปซื้อหยังบู้นี่” คงแปลว่าจะไปซื้ออะไรไม่รู้ประมาณนั้นล่ะมั้งครับผมก็นั่งตั้งใจฟังเหมือนกัน ไม่ได้แตกฉานนะเว้ยเฮ้ย ตั้งใจฟังช่วยผมหน่อยดิ
   “สิไปซื้อหยังล่ะบักหล่า หน้าตาบ่อคือคนทางเฮาเนาะ ขาวจู้นผู่นอยู่แหมะ” เอ่อ อันนี้ต้องใช้ตัวช่วยครับผมหันหน้าไปมองไอ้คนที่นั่งข้างผมทำที ทำตาประหนึ่งว่า แปลๆด่วนๆ แต่มันดันหัวเราะครับ
   “เพิ่นเพิ่งจะย้ายมาจากกรุงเทพฯตั่วลุง แก้มแด้งแดงเนาะ เป็นตา” มันหุบปากลงทันทีครับ อ้อ มันบอกว่าผมเพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ แก้มแดงๆ
   “เป็นตาฮักอีหลีเนาะ” คุณตาแกพูดขึ้นครับหลังจากที่ไอ้นี่มันเงียบ มันอาย อ้าวอายอะไรวะเนี่ยก็เรื่องจริงอ่ะกูน่ารักใครๆก็ชมว่าผิวสดใส อิอิ ยืมมาจากโอเลย์นิดหน่อยนะ
   “ฮ่วย บ่อได้เว้าเด้อลุงเจ้าเว้าเองเด้อ” มันรีบโบกไม้โบกมือออกตัว แหมๆนะ
   “สิเป็นหยัง คนเพิ่นเป็นตาเบิ่ง เป็นตาฮักกะว่าเป็นตาฮัก ไผสิว่าหยัง” ปรบมือให้คุณตาอย่างแรง ขอบคุณมากครับคุณตาที่เล็งเห็นในความน่ารักของผม อิอิ อยากกราบคุณตางามๆ
   “ซื้อไปให้ไผนี่ วันเกิดเจ้าติ๊” หลังจากที่ให้คุณตารออยู่หน้าเซเว่นผมพร้อมทั้งไอ้นี่ก็เดินเข้าไปในเซเว่นล่ะครับ ผมซื้อแบรนด์แบบเป็นกระเช้าไปหนึ่งกระเช้า
   “อย่าเพิ่งถามดิ พี่จะกินติมไม่ใช่เหรอ ไปเลือกเอาดิ” ผมยังไม่อยากบอกมันครับ ไม่สนใจมันด้วยกำลังคำนวณอยู่ว่านี่มันค่าขนมกูทั้งเดือนเลยนะเว้ยเฮ้ย มีอะไรที่มันถูกๆแต่ดูมีราคาไหมวะเนี่ย เอ๊ะยังไง
   “เจ้าบ่อกินติ๊” มันยังถามอยู่ครับ
   “ยังไม่อยากกินอ่ะพี่ พี่เลือกเอาเลยนะ เอาหางเสือนั่นล่ะ” ผมเลือกให้เลยครับ
   “บ่อเอาดอก” “อ้าว ทำไมอ่ะพี่ ผมเลี้ยงนะ” ผมหันไปมองหน้ามันทันทีครับ เออนะแปลกคน
   “หางเสืออันละซาวหนึ่ง มันถืกโพด” หือ แปลว่าอะไรวะเนี่ย ผมมองหน้ามันงงๆ
   “ไว้ไปกินติมที่บิ๊กซีดีกว่า มีแอร์เย็นๆนั่งนำ มักกินแบบเป็นถ้วยๆ” เอ่อ พอจะเข้าใจล่ะ ถืกก็คือถูก นี่มัน ไอ้บ้าเอ้ย มันหาว่าถ้ากินหางเสือมันจะถูกเกินไป อารมณ์บูดขึ้นมาทันที
   “อ่านะ” ผมพูดไม่ออกครับ คนเรานี่นะเห็นแก่กินเป็นบ้าเลยอ่ะ นึกว่าจะช่วยเราจริงใจอะไรวะ โมโห
   “แล้วพี่เดินตามหลังผมทำไมอ่ะ มองไร” ผมผิดสังเกตล่ะครับไอ้บ้านี่มองต่ำอยู่ตลอดเวลา พอถามมันก็ยิ้มหน้าแดงขึ้นมาทันที คนอื่นก็มองนะ มีอะไรวะ
   “อิอิ บ่อเคยเห็นดากขาวๆ” เอ่อ ไอ้เลวผมรีบเอามือปิดไว้ทันที ลืมไปเลยว่ากางเกงขาด โมโห หนอยแน่กูว่าแล้วทำไมมันเดินตามหลังต้อยๆในระยะที่ไม่ประชิดมาก ที่แท้มันก็หวังผลแบบนี้นี่เอง ไอ้บ้า
   “อยากได้พวงมาลัยสวยๆสักพวงอ่ะพี่ ที่ไหนขาย” ผมถามมันล่ะครับหน้านี่หงิกแล้วเหลือตังค์ไม่เท่าไหร่เอง
   “สิเอาไปหยัง” “เออน่า ผมอยากได้ ตรงไหนอ่ะ” เริ่มรำคาญมันครับจะถามทำไมก็ไม่รู้
   “เอาพวงจั่งได๋อ้ายสิไปซื้อให้แล่นไปในตลาดคราวเดียว”
   “เอาพวงสวยๆ ไม่ใช่เอาไปไหว้พระอ่ะ เอาไปไหว้คน” ผมบอกใบ้ให้มันครับ มันมองหน้าผมแปลกๆแล้วก็ยื่นมือมาเอาเงิน เออนะ กูลืมขอโทษแหมๆ เอาเป็นว่าตอนนี้อยู่ในโรงเรียนแล้วครับ ขี้เกียจเล่า อยู่บนรถคุณตามันก็พยายามชวนคุยล่ะครับแต่ผมไม่อยากคุยแล้ว อะไรอ่ะคนเรานะ ผมไม่ได้รวยขนาดนั้นนะเว้ย แค่พ่อผมพอมีเงินอีกทั้งเงินที่แม่ผมฝากไว้ให้แต่เด็กก่อนที่แม่จะเสียอ่ะก็พอมีแต่ไม่รวยเข้าใจไหม ถึงรวยก็ไม่อยากใช้เงินโดยที่ไม่รู้จักค่าของมันเพราะผมยังเป็นเด็กนักเรียน ม.๕ ซึ่งหาเงินไม่เป็น เริ่มงงล่ะสิว่าตกลงมันจะรวยหรือไม่รวย เอาเป็นว่าพอมีพอกินก็แล้วกัน โอเคมะ
   “ซั่นแลงนี้พ้อกันเนาะน้องอุ่น อ้ายสิไปเปลี่ยนเสื้อก่อน ไปซ้อมบอล” มันบอกล่ะครับ ผมก็พยักหน้า เออทำให้มันจบๆ เลี้ยงก็เลี้ยงจะได้เลิกมาวุ่นวายกูซะที คนเห็นแก่กินนะเกลียดสุดๆเลย พอแยกจากมันผมก็เดินไปที่สนามบอลล่ะครับ คือเราเข้าทางเดิมก็คือด้านหลัง สนามบอลมันอยู่หน้าโรงเรียน ผมหอบกระเช้ากับพวงมาลัยไป สูดลมหายใจเข้าในปอด ผมทำไม่ถูกนี่นะ ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าควรจะทำยังไง ไหนจะพ่อ ไหนจะครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ผมไม่รู้สิผมคิดได้แค่นี้ในตอนนี้ ผมเดินไปที่ข้างสนามครับ นักกีฬาเขาก็เหมือนกำลังจะพักด้วยอ่ะ ทำไงดี
   “เฮ้ย บักเป็นตาย่านมาหยังจารย์” เอ่อ ไอ้นั่นมันอยู่ตรงนั้นด้วย ตายๆ ผมนี่เริ่มเหงื่อตกแล้วครับ ทำไงดี ขาก้าวไม่ออก อายจังเลยอ่ะ ไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ เสียงพวกมันแซวกันดังอื้ออึงครับ
   “อ้าว มีอะไรเหรออุรดิศ อย่าบอกนะว่ามาซ้ำ” อาจารย์เขาพูดขึ้นครับแล้วเสียงหัวเราะเป่าปากก็ดังขึ้นกระหึ่ม เอ่อ นี่กูเผลอตัวก้าวเข้ามาใกล้พวกเขามากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย แว้กก ไหนบอกกลัวขาก้าวไม่ออกแล้วมันพาผมมายืนบิดอยู่ห่างไม่เกินห้าก้าวได้ขนาดนี้เลยเหรอ
   “ป๊าด สิมาโพดแท้เจ้าน่ะ” เสียงใครไม่รู้ครับแต่รู้สึกว่าผมเริ่มจะหูอื้อตาลายแล้ว ก่อนที่จะไม่มีสติหรือป็นลมไปก่อน
   “เอ่อ คือ ผมมาขอขมาอาจารย์ครับ ผมมากราบขอโทษ ผม ผม ไม่ได้ตั้งใจ” ผมก้มหน้าพูดครับ อยากร้องไห้มากแต่ตอนนี้ไม่มีน้ำตา แต่รู้ว่าหน้ามันหนักมากๆ ผมก้มหน้าอยู่ พอไม่มีเสียง ผมก็รีบตรงดิ่งเข้าไปนั่งคุกเข่าหน้าอาจารย์ คือแกนั่งบนเก้าอี้ แล้วไอ้พวกที่มันแซวผมก็นั่งอยู่กับพื้นแถวๆนั้นล่ะครับ ผมยื่นกระเช้าให้อาจารย์แล้วถือพวงมาลัยไว้ในมือ ยังคงก้มหน้าอยู่ แต่เสียงแซวมันดังขึ้นกว่าเดิมมาก เสียงอื้อฮื้ออ้าฮ้าอยู่ ผมไม่สนใจฟังครับ
   “ผมขอขมาด้วยครับ สิ่งที่ผมทำไปเพราะผมไม่ได้ตั้งใจ สิ่งที่ผมทำไปเพราะผมล่วงเกินอาจารย์” ผมรีบพูดครับจนรู้สึกว่าตัวเองพูดวกไปเวียนมา
   “เอ่อ อะไรกันอุรดิศ ครูไม่ได้ว่าอะไรนะ มันผิดพลาดกันได้”
   “ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับอาจารย์” ผมเม้มปากแน่นครับเงยหน้าขึ้นมอง แค่แวบเดียวแต่รู้ว่าอาจารย์แกอ้าปากค้าง ผมรีบก้มลงกราบที่เข่าแกทันทีครับ เงียบ แล้วก็เงียบ มากๆ มากเสียจน ไม่ไหวแล้ว
   “อ้าว ไปไหนล่ะ” วิ่งสิวะ ใครจะอยู่ แงๆ แม่ อุ่นโดนรังแกอ่า แงๆ วิ่งๆ แว้กก เกิดมาไม่เคยกราบใครนอกจากพ่อแม่เลยนะ แต่เอ๊ะ นี่มันคือสิ่งที่น่าภาคภูมิในไม่ใช่เหรอ แล้วกูเป็นไรวะเนี่ย หรือว่าอาย เอออาย อายมากอ่ะ ไม่รู้ทำไม
   “โอ๊ย” อยากจะสลายร่างไปในทันที ทำไมเคาระห์ซ้ำกำซัดกูขนาดนี้ อะไรวะ โว้ย เริ่มไม่ไหวแล้วนะ ชนใครอีกเนี่ย
   “รีบไปไหนครับน้องอุ่น” เสียงนี้
   “อ่า พี่ๆ พี่ พี่ เอ่อ พี่อะไรนะ” แหะๆ จำไมได้อ่ะ จำได้แต่เขาเป็นประธานนักเรียนและหล่อ และหล่อมาก อิอิ ตาสว่างขึ้นมาทันที
   “อ้าว จำกันไม่ได้วะแระ พี่ชื่อขอมครับ”
   “เป็นประธานนักเรียน ชื่อพี่อ่ะจำยากรู้ป่ะ ชื่อขุ่นดิ” เอิ๊ก เป็นไงล่ะเรื่องจีบ ผช นี่อุรดิศก็ไม่น้อยอ่ะนะในบางมุมว้อยไม่ใช่ทุกมุม
   “หือ ชื่อดูไม่ใสจัง ทำไมล่ะครับ ขอม ท่องดิจะได้จำได้” อึ๊ก จุกครับ เจอเหนือเมฆกว่าอึ้งไปเลย นับจากนี้ผมคงต้องจำขึ้นใจแล้วล่ะพี่ พี่ขอม พี่ขอม
   “ว่าแต่หนีไรมา พี่เจอเราทีไรเหมือนวิ่งหนีอะไรมาตลอดเลยนะ อย่าบอกนะว่าหนีไอ้เดี๋ยวมันอีก” เขายิ้มครับ ได้โปรด อย่ายิ้ม โอ๊ย ลืมไปเลยเมื่อกี๊ที่ว่าอาย ก็แหมนะ พี่เขาหล่อจริงๆนะพวกเธอ หล่อแบบว่าไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่ในละแวกนี้ แต่ว่าไปแล้วหน้าตาพี่เขายังไม่หล่อเหมือนใครสักคนนี่ล่ะแต่คิดไม่ออก ภาพมันเลือนๆ โอ๊ย ช่างมันแต่ตอนนี้เขาหล่อมากๆ ลากเสียงไปยาวๆเลยนะ
   “ปะ ป่าวหรอกพี่ พอดีจะรีบขึ้นเรียน พี่ไปไหนเหรอ” ผมยิ้มตอบครับ ชอบจังเวลามองเขายิ้ม
   “พี่จะไปสหกรณ์” “อ่า หิวน้ำพอดีเลยอ่ะ ไปด้วยได้ป่าวพี่” อย่า หยุด อย่าหาว่าผมแรด แรดตรงไหนวะ ก็แค่หิวน้ำอ่ะอยากกินจริงๆนะ พอดีพี่เขาพูดขึ้นมาก็เลยนึกได้นี่นา
   “อ้าวไหนบอกรีบขึ้นเรียน เรานี่ยังไง”
   “อ้อ เออใช่ งั้นผมไปนะพี่” นี่คือวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราดูสูงขึ้น ไม่รู้คิดมาได้ยังไงทฤษฏีใครไม่รู้ แต่ผมว่านะเรื่องอะไรล่ะผมจะตามเขา เขาก็รู้สิว่าผมชอบเขา คนอย่างอุรดิศอ่ะนะไม่มีทางจีบ ผช ก่อนหรอกนะเสื่อมเกียรติ อ๊วก เอ่อ นะคือว่าไม่รู้สิ เท่าที่รู้ก็มีคนชมผมเยอะนะว่าผมน่ารัก หรือว่าไม่จริง เพราะฉะนั้นผมจะต้องไว้ตัวให้สมกับที่อยู่ในต้นสกุลที่ดีงาม อิอิ เอาเป็นว่าขึ้นเรียนก่อนนะ ผมโดดมานานล่ะ
   “ไปไสมาคือไปโดนแท้” บักดำครับมันถามขึ้นตอนที่ผมเข้าห้องไปแล้ว แต่เอ่อใครเอาวิชาฟิสิกส์มาไว้คาบบ่ายเนี่ย แว้กก กลัวที่สุด รู้งี้กูยอมเสื่อมเกียรติไปสหกรณ์จีบ ผช ก็ดีหรอก อะไรอ่ะไม่เข้าใจ
   “นักเรียนคะนี่มันผ่านไป ๔๕ นาที ๑๖ วินาทีแล้วนะคะ อีกไม่นานก็จะหมดคาบแล้วนะ ถ้าจะมาเข้าเรียนเอาป่านนี้หลบไปเลยค่ะ” นั่นไง กูว่าแล้ว ป้าแกไม่ค่อยจะชอบหน้าผมเท่าไหร่อยู่แล้วด้วย
   “ขอโทษครับ พอดีผมไปหาจารย์พรมาครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ขอโทษแกล่ะครับตามมารยาทที่ดีงาม
   “ยังมาโกหกอีก จารย์พรสอนอยู่ห้อง ๖ เดินเข้าห้องมาพร้อมครูเนี่ย อะไรคะ จะไปไหนไปทำอะไรมันก็เรื่องของเธอ แต่ที่ครูบอกไปน่ะคือถ้าจะเข้าสายไม่เข้าเสียเลยดีกว่า” ผมก้มหน้านิ่งครับ จะบ่นอีกนานไหมเนี่ย เออรู้นะว่าผิดแต่ขามันก้าวเข้ามาแล้วอ่ะให้ทำยังไง ถ้าให้เดินออกไปเลยน่ะเดี๋ยวก็หาว่าไม่ไว้หน้ากีนอีก คนเรานี่จะเอายังไงกันแน่วะเนี่ย เอาเป็นว่ากูผิดเองก็แล้วกัน จบมะ
   “เพิ่นคือสิบ่อมักเจ้าเนาะ จ่มได้จ่มดีหนวกหู” ไอ้ดำมันกระซิบบอกผมล่ะครับ เออสิ ถ้าชอบกูเธอจะบ่นขนาดนนี้ไหมเนี่ยมึง จ่มคือบ่นนะครับ
   “แล้วไปไสมา” นั่นยังอีกถามอยู่ได้ เว้ยอะไรเนี่ยเดี๋ยวคุณป้าเธอก็ด่าเอาอีกหรอกมึง
   “ไปเซเว่นมา” ผมบอกมันออกไปล่ะครับครางเบาๆมากๆ
   “หือ ไปไสเกาะ” แปลว่าไปไหนมานะ? คืองงประมาณนั้น เอ่อ แล้วเอาหน้าเข้ามาใกล้กูมากไปไหมเนี่ยมึงไอ้ดำ
   “เซเว่น” “เซเว่นไส น้าตลาดพู้นบ่อ ป๊าด โดดเรียนไปเด้นี่”
   “นี่เธอสองคนน่ะ ถ้าไม่เรียนออกไปเลยค่ะ ไปเลยรบกวนเพื่อนๆเขา” นั่น กูว่าแล้ว เอากูจนได้นะมึงไอ้ดำ โว้ย วันนี้มันอะไรของมันเนี่ยซวยได้ซวยดี ตั้งแต่เช้าแล้ว โว้ย
   “เลิกเรียนแล้วเมือเฮือนเลยติ๊เจ้า” ไอ้ดำครับ มันตามผมออกมาจากโรงเรียน รู้ไหมว่านับจากเจอรังสีอำมหิตของคุณป้าแล้วคาบต่อๆมาผมโดนแซวตลอดเลยอ่ะ ปวดตับร้าวไตเป็นที่สุด วันนี้ผมก้าวเท้าไหนออกมาวะเนี่ย เริ่มวันตั้งแต่พี่ต้อยโกหกเรื่องวัน ไหนจะเจอไอ้บ้านั่นแล้ว เจอคนนั้น เจอคนนี้ แว้กก อยากจะปิดตัวเองลงสักสามวันเลยไม่ให้ใครเจอ
   “อืม” ผมครางตอบมันออกไปครับไม่อยากจะพูดอะไรมากเหนื่อยมากวันนี้
   “เฮาเมือนำแน่ สิไปเล่นเกม” มันยิ้มแห้งๆครับ เอ่อ กูอยากอยู่คนเดียวบ้างอ่ะได้ไหมเนี่ย จะตามมาทำไมอีก เว้ย
   “อืมเอาดิ” เฮ้อ กูล่ะเพลียกับตัวเองเหลือจะประมาณ เอาเถอะวะไหนๆก็ดันเป็นคนแบบนี้ไม่ทนตัวเองใครจะมาทนล่ะจริงมะ
   “คนคือแนมแต่ดากเจ้า ไปนั่งหยังมา” ไอ้ดำมันสังเกตล่ะครับผมมัวแต่ล่องลอยอยู่
   “หือ อ่า” ตายห่าน โอ๊ย คือเข้าใจผมไหมว่าวันนี้ผมเจอศึกหนักมาทั้งวันเรื่องกางเกงขาดก้นน่ะลืมไปเลย แม้ใครต่อใคระทักแล้วทักอีก คนมันลืมอ่ะเพราะมันมีเรื่องที่ใจมันต้องพะวงอยู่มากกว่ากางเกงขาดนี่ พอผมรู้ตัวไอ้ดำมันเห็นมันก็หัวเราะไม่หยุดล่ะครับ ผมทำหน้าเซ็งสุดๆมันจึงหยุดแล้วมันแนะนำให้เอากระเป๋าถือมาปิดไว้ ขอบใจนะ ฮึ
   “การบ้านฟิสิกส์เจ้าเฮ้ดได้บ่อ เป็นหยังบ่ออยากเว้าติ๊ ถามหยังกะบ่อปาก เคียดบ่อ” เอ่อ ยิงมาเป็นชุดกูจะฟังทันไหมเนี่ย ผมมองหน้ามันทำหน้างงๆครับ งงจริงนี่หว่า
   “เจ้าเคียดให้เฮาติ๊ที่ซวนคุยคาบฟิสิกส์น่ะ หรือเคียดให้เฮาติ๊ที่ล้อเรื่องส่งเจ้าขาดเห็นดากขาวๆ อิอิ” อ้อ เอ่อ ไอ้นี่มีหน้ามาหัวเราะอีกนะ
   “ปะ ป่าวนี่ บ่อได้เคียด บ่อยากเว้านะ” ลองฝึกเว้าอีสาน อิอิ มันได้ยินแล้วก็หัวเราะครับ
   “กะซั่น ถ่าเฮาอยู่นี่ล่ะเดี๋ยวสิไปขอลอกนำหมู่” มันวิ่งไปเลยครับ มันคงหมายถึงให้ผมรออยู่นี่ก่อนมันจะไปหาเพื่อนอะไรประมาณนั้น ผมก็เดินรอมันเรื่อยเปื่อย ทอดน่องไป แต่ทางออกโรงเรียนอ่ะนะครับมันติดกับสนามฟุตบอลและไอ้ดำมันก็วิ่งเข้าไปในบริเวณ ผมพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด สาธุอย่ามองมาทางกูเลยนะขอร้อง นักเรียนสามสี่พันคนเนี่ยอย่ามองเห็นกูเลยนะ
   “บักเดี๋ยวๆ มึงได้เฮ็ดการบ้านฟิสิกส์บ่อ หน้า ๔๕ น่ะ กูขอลอกแน่ะ” เอ่อ ทำไมต้องได้ยินชื่อนี้อยู่ตลอดทั้งวันเลยนะ โว้ย กูจะหลบหนีไปที่ไหนได้วะเนี่ย ไม่อยากได้ยิน
   “ฮ่วย เป็นหยังบ่อเฮ็ดเอง” เหมือนว่ามันกำลังออกมายืนโชว์ให้สาวๆกรี๊ดล่ะครับ แหมนะ หน้าหล่อแต่นิสัยเถื่อนนี่ใครกรี๊ดให้มันก็บ้าเต็มทนล่ะ เออ ที่บอกว่าหน้าหล่อ มันนี่เองนึกว่าใคร แว้กก ไม่จริงไม่ใช่มันต้องไม่ใช่มัน แต่ทำไมหน้ามันลอยมาก่อนใครเลยวะเนี่ย เว้ย
   “กูบ่อได้เอาไปลอกผู้เดียวเด้ พู้นเพิ่นนั่นกะเฮ็ดบ่อได้” อ้าวๆ ไหงชี้มาทางผมล่ะเนี่ย ไอ้นั่นมันก็หันมา กูอุตส่าห์หลบนะเนี่ยดันชี้มาเจอกูจนได้ แล้วไอ้บ้านั่นมันก็ตรงดิ่งมาหาผมเลยสิครับ
   “ไรเจี้ยวเด็ก ทำการบ้านไมได้เหรอ ฮ่าๆ อ้อนวอนกูดิกูจะใจดีให้ลอก” เห็นไหมครับ จิ๊ ไอ้ดำนะไอ้ดำอารมณ์เสีย
   “ใคร เราน่ะเหรอ” ผมทำหน้ามึนๆครับไม่มองหน้ามันเพราะยังอายอยู่ ก็แหมนะตอนที่ไปขอขมาอาจารย์เดชมันก็อยู่ มันล้อผมแน่ๆผมว่านะ
   “มึงนั่นล่ะ ขอลอกกูดีๆดิแล้วกูจะยอม ฮ่าๆ สงสารเด็กตาดำๆ ว่าแต่มีอะไรติดก้นมึงเรหอถึงเอากระเป๋าปิด ฮ่าๆ ไม่ต้องปิดหรอกเว้ยเขาเห็นกันทั้งโรงเรียนแล้ว” ดูมันมีความสุขมากเลยนะ ในตอนที่ผมรู้สึกหดหู่มากที่สุด ผมหันไปมองไอ้ดำครับ พยักหน้าให้มันประมาณว่ารีบไปเถอะกูรำคาญไอ้นี่เต็มทนแล้วประมาณนั้น
   “โอ๋ๆ ทำงอนไปได้ เดี๋ยวกูให้ลอกก็ได้วะ แหมๆ ล้อนิดล้อหน่อยทำเป็นจะร้องไห้นะมึง” เอ่อ เห็นไหมมันล้อผมจริงๆด้วย ผมมองมันตาเขียวล่ะครับ ไอ้ควายเอ้ย มีอะไรที่ดีกว่ามาล้อกูไหม ไปทำเลยไปอย่ามายุ่งกับกู
   “อ้าว เล่นด้วยก็ไม่เล่น เล่นตัวเหรอมึง เจี้ยวเด็ก ก้นขาวดีนี่หว่า” นี่เขาเล่นเหรอ ไอ้บ้าล้อกูเนี่ยนะ ผมไม่พูดกับมันครับ
   “เล็กไปได้ยังอ่ะ เราอยากกลับแล้ว” ผมมองข้ามหัวมันไปครับ สูงนักแล้วยังไงกูก็มองข้ามไปได้เว้ย
   “ฮ่วย คือเล่นโตแท้ เตะเอาจั่กบาดซั่นเด้ล่ะ” มันบ่นครับ ผมฟังไม่รู้เรื่องไม่สนใจ
   “มึงสิไปไสบักเล็ก” มันเข้ามาขวางผมไว้ครับ อ้าวไอ้บ้านี่อะไรเนี่ย
   “กูสิไปเล่นเกมเฮือนเพิ่นนี่ล่ะ” อ้าวไอ้ดำบอกมันทำไมเนี่ย โว้ย
   “ซั่นบ่อ กูไปนำ ได้ไหม เจี้ยวเด็ก” มันหันมาหาผมครับ ฝันไปเถอะ ใครจะให้มึงไปด้วย กูไม่ชอบมึงเข้าใจไหม ไอ้บ้า ไอ้บ้าอำนาจ
   “ไม่ได้ เราอยากไปกับเล็กสองคน” ผมพูดออกไปครับ ไม่มองหน้ามัน
   “ไม่สนใจอ่ะ มึงจะทำไม กูจะไป” เอ่อ หน้าหนาหน้าทนมาก นั่นมันบ้านกูนะเว้ย
   “ถ่ากูอยู่นี่ล่ะบักเล็ก เดี๋ยวกูไปบอกพ่อกูก่อน มึงไปก่อนกูเบิ่งติ๊ กูบ่อให้ลอกการบ้าน” มันหันไปขู่ไอ้ดำครับ ผมนี่ทำหน้าแบบว่าเบื่อเหมือนหนูโดนยาเบื่อเลยล่ะครับ เป็นยังไงไม่รู้หรอกนะแต่คงจะประมาณนั้น อะไรของมันวะเนี่ยทำไมมันชอบมาวุ่นวายกับผมจังเลย
   “นายจะไปไมอ่ะ เรา” “ทำไม หวงบ้านเหรอ หรือมึงจะไม่ลอกการบ้าน” เอ่อ จำเป็นด้วยเหรอที่ผมจะต้องลอกมัน แต่ว่าถ้าไม่ทำไปส่งคุณป้าภายในพรุ่งนี้เธอบอกจะให้ผมเกรดหนึ่ง ดีใจอ่ะ ดีใจมาก แหะๆก็เท่าที่เรียนมาไม่เคยได้นี่หว่า ได้แต่เลขกลมๆอ่ะ หยุด อย่านะห้ามหัวเราะทำไมอ่ะก็คนมันไม่ถนัดนี่นา
   “มะ” “อย่าๆ ถึงมึงไม่ลอกกูก็จะไป มึงจะทำไรกูได้ กูอยากเล่นเกมอยู่พอดี ฮ่าๆ” เอ่อ นี่ผมซวยหรืออะไรวะเนี่ย ต้องไปรดน้ำมันต์แล้ว ทำไมกันนะ โว้ย อุรดิศทำอะไรสักอย่างสิ ทำอะไรก้ได้
   “บักเล็กมึงเอารถมาบ่อ ให้มันมาซ้อนท้ายกู” เอ่อ ให้กูตัดสินใจได้ไหมเนี่ยมาลากแขนกูทำไม ไม่เอาไม่ไปกับมึง
   “อ่า เราจะไปกับเล็ก” ผมพยายามสะบัดมืออกครับ
   “ทำไม จะทำไรมัน อย่านะมึง ไอ้เล็กมันเพื่อนกูนะ อย่าคิดมิดีมิร้ายกับเพื่อนกูนะเว้ย กูต่อยไส้แตกเลยนะ” เอ่อ ดูมันพูดนะครับ แหมแล้วกูล่ะไม่คิดว่ามันจะทำอะไรกูบ้างว่างั้น
   “แล้วจะลากเราไปไหนเนี่ย” มันลากผมไปข้างสนามครับ เอ่อ อาจารย์
   “อ้าวอุรดิศ ขอบใจมากนะสำหรับแบรนด์” พออาจารย์พูดเสร็จเสียงโห่ร้องแซวผมสาระพัดก็ดังขึ้นล่ะครับ
   “อ้าวน้องอุ่น บ่อถ่าอ้ายบ่อไสบอกสิพาไปกินติม” ไอ้บ้านั่นก็อีกคนครับเสียงแซวผมดังอึกทึกจนฟังไม่รู้เรื่องว่าใครมันว่าอะไร
   “มีหยังติดก้นน้อคือเอากระเป๋าปิดดีแท้ อิอิ” “เฮ้ย พวกมึงไปซ้อมต่อ ไปล้อเพื่อนเขาทำไม ไปกูบอกให้ไป” อยากโผเข้าไปกราบอาจารย์เดชมากๆเลยครับ ขอบคุณมากนะครับอาจารย์ที่เห็นแก่มนุษยธรรม
   “จารย์ผมสิพาเพิ่นกลับบ้านเด้อครับ ผอ เพิ่นสั่งไว้ พ่อเพิ่นนี้นำว่าให้ผมไปส่ง เมื่อวานเพิ่นกะเมือบ่อถืก” มันพูดหน้าตาเฉยครับ เอ๊ะ เมหือนมันอ้างพ่อกับท่านผอเลยนะ ผมฟังไม่ทัน
   “เออได้ พรุ่งนี้มึงจะไปแข่งทักษะสินะ วันจันทร์ค่อยมาซ้อม อุรดิศ ขอบใจมากนะ อย่าคิดมากล่ะ ครูไม่ได้โกรธเธอหรอกนะ” อาจารย์เดชพูดกับผมแล้วยิ้มๆครับ สรปุแล้วนี่กูเป็นตัวอะไรวะเนี่ย มันดึงไปไหนก็ไปเหรอ เว้ยนะ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ขอให้มีความสุขในการอ่านนะขอรับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 09-04-2012 12:55:14
 :z13:

มึน  :really2:

อุ่นกางเกงขาด!!  :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-04-2012 15:41:09
มีเรื่องได้ทุกวัน แถมหนุ่ม ๆ มาวอแวอีกเพียบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 09-04-2012 16:06:01
งุนงงกะภาษา ขอซับภาษากลางได้มั้ยยยยย
อุ่นถ้าจะอายไปหลายวัน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: area71 ที่ 09-04-2012 18:31:46
เดี๋ยวไม่หวงอุ่นเลย ปล่อยให้เดินโชว์ก้นขาวทั้วโรงเรียน ><
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 09-04-2012 19:14:27
“ทำไม จะทำไรมัน อย่านะมึง ไอ้เล็กมันเพื่อนกูนะ อย่าคิดมิดีมิร้ายกับเพื่อนกูนะเว้ย กูต่อยไส้แตกเลยนะ”
คิดไรกับน้องอุ่นหรือเปล่าบักเดี๋ยว :z1: :z1:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 09-04-2012 19:33:55
เป็นวันที่วุ่นวายของน้องอุ่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 5 Version (อุ่น) 9 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 09-04-2012 20:03:07
ดังรายวันจริง ๆ นะนู๋อุ่น...แต่วันนี้หนักหน่อย...โชว์โอโม่ด้วยอ่ะ
ชอบอ่ะ ...ถึงจะโก๊ะ..จะมึน..แต่นู๋อุ่นก็รู้จักว่าควรทำอย่างไร...
ขอขมาอาจารย์น่ะดีแล้ว....เจ้าเดี๋ยวดูไว้..น่ารักครบสูตร(โก๊ะมึนฮา)แบบนี้มีคนเดียว
แล้ว....เหมือนเจ้าเดี๋ยวหวง ๆ นู๋นะ...คิด ๆ แล้วบักดำก็ซื่อดีนะ..นู๋อุ่นไม่สนเหรอ..
รอวันเจ้าเดี๋ยวสิ้นลาย..นะน้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 13-04-2012 08:41:08
You’re My BaBy!!
ฮ่าๆ อยากหัวเราะสักสามวันเจ็ดวัน ให้ตายเถอะทำไมวันนี้ผมมีความสุขจังเลยวะ มีความสุขจริงๆนะเว้ยเฮ้ยเพราะได้แกล้งมัน ผมว่าไอ้เตี้ยนี่มันเอ๋อจริงจังจริงๆนะ ไม่อยากจะเชื่อหน้าตามันนี่นะทำเป็นแบบว่ากูไม่สนยิ่งมันทำหน้าแบบนั้นเท่าไหร่มันยิ่งดูตลก แม่งโคตรขำเลยนะ แต่ตอนที่เห็นมันเอากระเช้ามากราบขอขมาพ่อกูน่ะ อึ้งว่ะ ก็กูไม่เคยทำไม่เคยเจอ หน้าตามันดูรู้สึกผิดจริงๆนะ อืมจะว่ายังไงดีมันซึ้งว่ะ ผมเกิดมายังไม่เคยทำแบบนี้เลยนะเว้ยไม่ว่าวันพ่อวันแม่หรือวันครู อย่างมากก็แค่ไหว้ อย่าๆ ใครหลายคนก็คงไม่เคยทำเหมือนกูนั่นล่ะวะ อยากทำไหม อยากนะแต่ไม่รู้ทำไมไม่กล้าทำ ไม่ใช่ไม่กล้ามันกระดากยังไงไม่รู้ เว้ยช่างแม่ง แต่เห็นมันทำแล้วผมรู้สึกดีว่ะให้ตายเถอะ สงสารมันด้วยนะ อ้าวๆ สงสารมันทำไมเนี่ยกูเดี๋ยวก็ไม่ได้แกล้งมันพอดี
   “เร็วดิวะ เดินต้วมเตี้ยมอยู่ กูอยากเล่นเกม บักเล็กมึงไปเอารถมึงมาแม่ะ” ผมยังจับแขนมันไม่ปล่อยครับกลัวมันวิ่งหนี ไอ้นี่ไว้ใจไม่ได้มันยิ่งวิ่งเร็วอยู่ด้วย
   “อ้าวเดี๋ยว จะไปไหนอ่ะ” อ้าวนะกูว่าแล้วช้าทีไรได้เรื่องตลอด เพ็ญครับวันนี้เธอมากับจอย
   “ไปไหนกันเหรออุ่น” จอยถามไอ้เตี้ยครับ
   “กลับบ้าน” มันตอบครับ
   “อ้าวแล้วเดี๋ยวจะไปไหนล่ะ อุ่นเขาจะกลับบ้านนนะ” ช่างสงสัยจริงนะ เวลาโดนกูเอานี่จะสงสัยแบบนี้ไหมเนี่ยมึง เว้ย
   “สิไปคุยกันเรื่องไปเข้าค่าย เป็นหยัง ไปเร็วดิมึง” ผมหันไปบอกมันครับแล้วลากแขนไป
   “แล้วทำไมต้องจับแขนอุ่นด้วยอ่ะเดี๋ยว เพ็ญคิดนะ”
   “คิดเชี่ยหยัง เป็นหยังจับบ่อได้ติ๊ มันเป็นตาจับกว่าเจ้าเด้ล่ะ” อ้าปากค้างเลยครับ ผมเริ่มรำคาญแล้ว กูไปเล่นเกมเว้ยไม่ได้ไปเอากัน ทำหน้าเหมือนว่ากูจะไปทำอะไรมันประมาณนั้นล่ะ
   “อย่าแอบกอดเอวกูนะมึง” พอสตาร์ทคุณปู่ติดผมก็พูดออกไปล่ะครับ
   “นายไม่เปลี่ยนชุดนักเรียนเหรอ” มันถามขึ้นครับ
   “ไม่เปลี่ยน ทำไม อย่าบอกนะว่าเหม็น สัด” ว่าแล้วกูก็ไม่มั่นใจขึ้นมาทันทีครับ แหมๆ ไอ้ห่านนี่ถอยออกไปนั่งริมเบาะ มันต้องแกล้งซะหน่อยแล้ว
   “เอ้ย” ผมออกตัวแรงๆครับให้มันเข้ามาประชิดตัวผม มันก็รีบคว้าเอวผมไว้ทันที
   “นั่นๆ จับกูอีกแล้วนะมึง ทำไมอยากกินกูเหรอ” ไมได้เข้าข้างตัวเองนะเว้ย แต่มันเป็นเรื่องจริง คนในโรงเรียนอยากสัมผัสกูทั้งนั้นล่ะ กร๊าก
   “ก็นายออกตัวแรงอ่ะ ขับดีๆได้ป่ะ ไม่งั้นเราไปนั่งกับเล็กนะ” มันเถียงครับ หนอยแน่มีหน้ามาเถียงอีกนะ
   “มึงจะพาไอ้แบงค์ไปกินติมอะไรวะ กินติมจริงๆหรือว่าติมอันนั้น” พอออกมานอกโรงเรียนผมก็หันไปถามมันล่ะครับ มันทำท่าไม่สนใจไม่ได้ยิน หนอยแน่
   “กูถามน่ะไม่ได้ยินไง” ผมเริ่มตะโกน
   “กินทุกติมอ่ะ” สัด กวนตีนที่สุด เบะปากใส่ผมด้วยอีก เอ้ามึงเดี๋ยวเถอะๆ
   “สัด อยากตายเหรอ เฮ้ย บักเล็กมึงอยากกินติมบ่อ” ไอ้เล็กมันก็ขับเทน่ามันมาข้างๆล่ะครับ ผมเลยตะโกนถามมันออกไป
   “อยากๆ แต่ย้านเงินบ่อพอมึง” สัดพกเงินมาโรงเรียนวันละเท่าไหร่วะเนี่ย แต่ก็นะกูเองก็ใช่ว่าจะพกมาเยอะ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเป้าหมายเปลี่ยนเป็นที่บิ๊กซีล่ะครับท่าน คือกูก็อยากกินอ่ะนะอีกอย่างไม่รู้ทำไมรู้สึกไม่พอใจที่เห็นมันไปกินกับคนอื่นแล้วไม่ชวนกู เฮ้ย อย่าเข้าใจผิดไม่รู้เว้ยอย่ามาถาม
   “เอาแผ่นดินไหว” กูสั่งไม่ให้พวกมันสองตัวดูเมนูเว้ย ฮ่าๆ แต่อ๊ะๆ ไม่ใช่คนเลวบอกแล้วก็กูให้พวกมันเลือกรสไอติมนี่หว่า
   “เฮาเอาชาเขียว แคนตาลู๊ป ส้ม ช็อกโกเลต” “บักเล็กโพดไป ให้มึงเลือกสองอันพอ” ผมเบรกมันไว้ครับ แหมๆไอ้ห่านนี่ไม่มีเกรงใจ
   “อ้าว กะได้คนละสี่บ่อแม่นบ้อ” มันเถียงครับ
   “สี่บ้านมึงติ๊ มึงน่ะกูให้สาม มันให้สี่ กูห้า ฮ่าๆๆ” พอใจมากครับมันสองคนมองหน้ากันแล้วเบะปาก
   “อ้อ แม่นเนาะ มึงสิเป็นผู้จ่ายเงิน โอเช” อ้าวๆไอ้ห่านเล็ก มันหุบปากลงทันทีไอ้เตี้ยนี่ก็หัวเราะครับ
   “บ๊ะ จ่ายซ่ำกันเด้อ กินกะกินซ่ำกัน” ผมไม่ยอมครับ
   “นี่นาย จะกินก็รีบสั่งได้ไหมเราเหนื่อย อยากนอน” ไอ้เตี้ยมันโพล่งขึ้นครับ ทำเป็นบ่นอะไรไม่รู้อุบอิบอยู่คนเดียว เออๆ ก็ได้วะ ผมก็เลือกไอติมรสที่ชอบล่ะครับ ไอ้เตี้ยมันก็เลือกของมัน
   “เดี๋ยวกูมา ไปห้องน้ำก่อน” บักเล็กมันบอกครับแล้วลุกขึ้น
   “เฮ้ยๆ อย่าหนีเด้อมึง นิสัยๆ” ผมรู้ทันเกมครับ
   “บ่อหนีดอกน่า ย้านคือหลาย” แหน่ะยังมีหน้ามาว่าผมอีก ไอ้เล็กมันเดินไปแล้วครับ เหลือผมกับไอ้เตี้ยอยู่สองคน มันก็ก้มหน้าก้มตากิน จะว่าไปมันไม่ว่าเลยนะที่ผมแย่งไอติมมันกิน ผมกับไอ้เล็กนี่เหมือนปอบไม่เคยเจอไส้แย่งกันวุ่นวาย ส่วนมันกินแบบต้อยๆไม่สนใจ เฮ้ย ไม่ได้แอบมองมันนะเว้ยก็มันนั่งอยู่ข้างหน้าผมนี่หว่า
   “มึงๆ อะไรติดจมูก แดกไงวะติมติดจมูก”
   “อ๊ะ” มันรีบเอามือปาดจมูกทันทีครับ
   “ไหนอ่ะ ไม่เห็นมี” มันดูที่มือของมันแล้วทำตาโตใส่ผม อ้าวไอ้นี่
   “นี่ไง” ผมยื่นช้อนไปจิ้มที่จมูกมันล่ะครับ ฮ่าๆ สมน้ำหน้ามันไม่มีหรอกไอติมติดจมูกมันน่ะ แต่ตอนนี้มันมีแล้วไง
   “อ่า นิสัยไม่ดีนะ” มันทำท่างอนผมครับ แล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำทันที
   “ไปกันได้ยังอ่ะ” พอพวกมันกลับมาไอ้เตี้ยมันก็เร่งครับ เออไปก็ไปวะ ผมคอยมองโอกาสที่จะแกล้งมันตลอดเวลาล่ะครับ อิอิ แกล้งมันแล้วสนุกดี มันเหมือนไม่โกรธนะท่าทางมันเหมือนจะโกรธแต่แป๊บเดียวจริงๆ ซึ่งมันทำให้ผมกระหยิ่มใจอยากแกล้งมันตลอดเวลา กร๊าก
   “เรียกเขามาคิดตังค์ดิ” มันบอกครับ
   “คิดตังค์ไร เชี่ยกูจ่ายไปแล้วเว้ย บักเล็กเอามาให้กูนำเด้อ คนละร้อยห้าสิบ”
   “อีหยัง ไอติมแพงปานนั้นบ่อ” ป๊าดบักห่านนี่แหม่ะ ไอติมในแอร์นะเว้ยไม่ใช่รถเข็น สัดนี่ทำท่าเป็นบ้านนอกอีกแล้ว ทีกินนี่มึงไม่คิดหน้าคิดหลังเลยนะพอจะจ่ายนี่อิดออดนะเว้ย
   “นาย” ไอ้เตี้ยมันเรียกผมครับ ทำตาวิ้งๆ
   “ไร ของมึงก็จ่ายมาด้วย” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ขอบใจนะที่เลี้ยง” สัด พูดแล้วจูงมือไอ้เล็กออกไปจากร้านทันที เออนะ ดีมาก ที่จริงผมว่าจะเลี้ยงอยู่แล้วล่ะครับ แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าผมไม่เคยเลี้ยงใครเลย หมายถึงอาหารนะไม่เกี่ยวกับหนังหรืออย่างอื่น พอจะเลี้ยงขึ้นมามันก็รู้สึกแปลกๆไง กระดากใจยังไงไม่รู้แต่ความตั้งใจคือผมจะจ่ายเงินเอง ทำไมวะ ไม่รู้เหมือนกันดิ
   “อ้าว หมู่มานำติ๊ค่าคุณอุ่น” พอไปถึงบ้านมันพี่ที่บ้านไอ้เตี้ยแกก็กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ล่ะครับ ทำท่าเหมือนเจอญาติเพราะไอ้เล็กมันก็จอดรถแล้วยกมือไหว้พี่ต้อยอย่างคุ้นเคย มาคุ้นเคยกันตอนไหนวะเนี่ย
   “มาเล่นเกมอ่ะพี่ต้อย มีไรกินไหม” ไอ้เตี้ยมันลงจากรถผมแล้วเดินเข้าบ้านครับผมก็จอดรถแล้วเดินตามเข้าไป
   “มีเมี่ยงปลาทูค่า” “อ่า ไม่เอาอ่ะมันเหม็น มีหนมป่าว” กูยืนมองอยู่นะเนี่ยไอ้นี่อ้อนคนที่บ้านเหมือนเด็กๆเลยนะ
   “มีสาคูไส้หมู เอื้อยฮู้เด้ว่าบ่อกิน เผื่อหมู่เขากินเด้ค่ะคุณอุ่น” แง่ว ฮ่าๆ มันทำท่างอนพี่แกล่ะครับ ได้ใจจริงๆเออนะกูอยากกินอยู่พอดีไม่เคยกิน นานๆได้กินอะไรแบบนี้
   “แม่นๆ เอื้อย อยากกินเมี่ยงปลาทู เอื้อยเฮ็ดเองบ่อ” ไอ้เล็กครับ
   “วุ้ย ของทุกอย่างเฮ็ดเองค่า คนเฮือนนี้เพิ่นบ่อกินของตลาด บ่อเคยซื้อเด้อค่าอาหารปรุงสำเร็จ รสมือบ่อเถิง” นะมียอตัวเอง
   “ไปซ่อยเอื้อยกออกมาแน่ติ๊ค่า” ไอ้เล็กเดินตามไปครับ แต่ไอ้เดี๋ยวเรื่องไรจะไปวะ เป็นแขกนะเว้ยผมก็นั่งอยู่เก้าอี้หวายตรงข้ามมันล่ะ พอผมนั่งมันก็ลุกทันที
   “พี่ต้อยๆ น้ำแดงในตู้เย็นเหลือป่าว” มันเดินตามสองคนนั่นเข้าไปในครัวครับ
   “เหลือค่า สิกินน้ำแดงโซดาบ่อ” “นายกินป่าวเล็ก” ผมเงี่ยหูฟังอยู่ครับ อ้าวไม่ถามกูล่ะสัด กูก็อยากกินนะเว้ย
   “ว้าย คุณอุ่น ดากขาด บ่ออายหมู่ติ๊” เสียงพี่ต้อยร้องกรี๊ดขึ้นครับ ผมพอได้ยินหัวเราะออกมาทันที
   “อ่า ลืมไปเลย เออ พี่ต้อยไปซื้อตัวใหม่ให้ด้วยนะ”
   “ไปเฮ็ดหยังมาน้อคือดากขาด แม่นโชว์ให้เขาเบิ่งทั่วโรงเรียนแล้วบ่อ เพิ่งจะได้มาเมื่อวานเด้ค่าเนี่ยขาดซ่ำ”
   “ก็ได้มาสองตัวนี่นา ไม่รู้ล่ะพี่ต้อยไปซื้อให้ใหม่ด้วย อุ่นไม่ใส่นะกางเกงปะก้นอ่ะ” ผมหัวเราะอยู่ครับ พอไอ้เตี้ยมันเดินออกมามันก็มาพร้อมกับแก้วเปล่าสามใบแล้วก็เหยือกใส่น้ำแดงแล้วก็ขวดโซดา
   “นาย กินป่ะน้ำแดงโซดา” ถามได้นะมึง
   “กินดิ อย่าเอามือคนนะสกปรก”
   “จ๊ะ” เอ่อ มันทำท่าแบบประชดผมครับ แล้วกูเขินทำไมวะเนี่ย สัดเอ้ย ไม่ได้ๆ
   “แล้วนายมานี่แม่นายไม่ว่าเอาเหรอ” มันถามครับ ยักคิ้วอีก หนอยแน่ มันถามเหมือนว่ามึงมาบ้านกูทำไมนั่นล่ะครับ
   “ไม่ว่า เดี๋ยวกูโทรบอก” ผมตอบยักคิ้วกลับครับ
   “เราถามจริงๆนะนาย” มันทำท่าจริงจังครับ ผมพอจะรู้ว่ามันจะถามว่าอะไร
   “ว่ามาดิ กูกำลังอารมณ์ดี” ผมก็พิงพนักกระดิกเท้าสบายอารมณ์
   “นายไม่ชอบเราไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมนาย เอ่อ ชอบมาวอแวกับเราจัง” กูว่าแล้วเชียว เห็นไหมว่ากูน่ะเก่งฉลาดนะเว้ย หึหึ ไอ้นี่อ้าปากก็เดาใจได้
   “มึงกวนตีนไง น่าแกล้ง กูอยากแกล้ง และก็อย่าบอกว่าห้ามมาแกล้ง เพราะกูจะแกล้ง กูสนุก เข้าใจป่ะ” ผมยักคิ้วให้มันอีกทีครับ มันเม้มปากเหมือนคนไม่มีทางไปไม่มีอะไรจะพูด ฮ่าๆ ตายไปเลยถามดีนักเป็นไงล่ะมึง
   “ฮึ เดี๋ยวเราจะแกล้งคืนบ้าง อย่ามาว่าเรานะ” โว้ กล้านะมึง
   “ป๊าด เอาดิ มึงอยากแกล้งก็แกล้งดิ โอ๊ยอยากโดนแกล้ง อยากโดน” ผมทำท่าดิ้นล่ะครับ มันเม้มปากหนักขึ้นกว่าเดิม ด่าผมทางสายตา ฮ่าๆ ชอบจริงๆให้ตายเถอะ แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าแกล้งมัน พอไอ้เล็กกับพี่ต้อยยกถาดใส่ผักกับน้ำจิ้มแล้วก็ปลาทูย่างมาเราสามคน คือผมไอ้เล็กพี่ต้อยก็งดสนทนาชั่วครู่ สวาปามกันเต็มที่ส่วนไอ้เตี้ยมันถือแก้วน้ำแดงออกไปเดินอยู่นอกบ้านครับเหมือนจะคุยโทรศัพท์
   “เลิกเรียนแล้วไม่ใช่เหรอโจ้ ทำไมอุ่นไม่เคยเห็นมิสคอลโจ้เลยอ่ะ” พอกินเสร็จผมก็ย่องออกไปแอบฟังล่ะครับ ต่อมอยากรู้มันประทุ อิอิ ส่วนไอ้เล็กโน่นดิ หน้าที่ของมันมีอยู่หลังครับกับพี่ต้อยโน่นครับ
   “เหรอ อืมๆ คิดถึงอุ่นบ้างป่ะ” นิสัยไม่ดีว่ะกู ผมเลยเดินหนีครับ เรื่องของมันดิเกี่ยวอะไรกับผมจริงมะ ผมเลยเดินไปหลังบ้านไปหาไอ้เล็ก
   “เอื้อยๆ มื้อเซ้าจัดของให้เพิ่นนั่นบ่อ” ผมถามครับ มันคงลืมแต่ผมไม่ลืมเว้ย
   “อ้อ แม่นๆ ไปเข้าค่าย ว้ายตายๆ เป็นจั่งได๋” ทำท่าตกใจครับคงจะคิดได้ว่าไปเข้าค่ายปะไรตัวมันอยู่ที่บ้านนี่ตอนนี้แหมนะ
   “กะบ่อเป็นจั่งได๋ ถืกหมู่ล้อ” ผมทำเสียงนิ่งๆ จะทำเสียงนิ่งเพื่อไรวะเนี่ยกู
   “ตายแล้วคุณอุ่น เอื้อยลืม ตายๆ เพิ่นแห่งบ่อคือไผอยู่เด้ เคียดกะบ่อเคยเว้า บ่อมักกะบ่อปาก” อ้อ กูว่าแล้วเชียวว่าไอ้นี่มันต้องเป็นคนแบบนี้ เป็นไงฉลาดมะหลอกถาม ฮ่าๆ จะได้แกล้งมันได้สะใจๆหน่อย ดีเลยไม่ชอบแต่ไม่พูดเนี่ยกูชอบจะได้ไม่ต้องโต้แย้ง โว้ยกูมาเจอที่ระบายอารมณ์สมปรารถนาแล้วเว้ย
   “จิ๊ แม่โทรมานำว่ะ กำลังมัน” ไอ้เล็กล่ะครับมันบ่นขึ้นหลังจากที่เล่นเกมไปได้สองเกมเองมั้ง ไอ้เตี้ยนั่นมันล้มตัวลงนอนเอาสายฟังเพลงยัดเข้าหูนอนอยู่บนเตียง
   “อ้าว แล้วกูสิเล่นกับไผล่ะ”
   “เล่นผู้เดียวติ๊ ซั่นกะเอิ้นเพิ่นนั่นมาเล่นนำ แต่คือสิหลับแล้วล่ะ” ไอ้เล็กมันลุกขึ้นเก็บของครับ มันไปเขย่าเท้าของไอ้เตี้ยแต่ไอ้นั่นนอนนิ่ง คงจะหลับ อ้าวกูทำไงวะเนี่ย
   “เฮ้ยๆ มึงๆ มาเล่นเกมเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” ผมไปเขย่าตัวมันบ้างครับ
   “อือ” อ้าวเสือกครางแต่ไม่ลืมตา ไอ้นี่เดี๋ยวพ่อถีบตกเตียงเลยนี่
   “ลุก เร็วๆ” “อือ เราเหนื่อยอ่ะ ขอนอนได้ป่ะ”
   “ไม่ได้ กูไม่มีเพื่อนเล่น” แม่งท่าทางมันเหมือนเด็กเลยนะ นอนเอาผ้าห่มปิดหน้าดิ้นพรวดๆอยู่ โดนเตะนี่มันยังจะทำท่านี้อยู่ไหมเนี่ย กูไม่ยอมเว้ยไม่มีเพื่อนเล่นแล้วจะชวนกูมาบ้านทำไมวะ เอ๊ะ มันชวนกูเหรอ ไม่รู้เว้ยกูเป็นแขกมันต้องดูแลดิวะแบบนี้ได้ไง
   “เร็วลุก หรือจะให้กูเตะ” ผมขู่มันครับ กูสนที่ไหนล่ะนั่นนอนตะแคงให้เฉยเลย ทำไงดีวะกูจะรีบกลับก็ขี้เกียจไปขายส้มตำ วะไอ้นี่
   “ลุกไม่ลุก” นี่แน่ลากขามันเลยครับ
   “อ่า เอ้ย นาย ทำไรอ่ะ” “ก็กูให้ลุกมึงไม่ลุกเองนี่ ลุกมาเล่นเป็นเพื่อนกูเลย”
   “อ่า บ้าป่าวเนี่ย คนนอนอยู่นะ นายเล่นคนเดียวไม่เป็นเหรอ” โว้ มีการเถียงอีกทำหน้าแบบว่าไม่พอใจสุดๆ
   “เล่นคนเดียวได้กูจะปลุกมึงไหมเนี่ย สัด เร็วๆ มาให้กูซ้อมวะดีๆ”
   “โรคจิต” “หือ มึงว่าไงนะ” ผมปรี่เข้าหามันครับ
   “เออๆ เล่นเกมไรอ่ะ ไม่เล่นนะเตะบอล ไร้สาระ” ป๊าดติโธ่ บักห่านนี่แหม่ะ เตะยอดคางมันสักทีก่อนดีไหมเนี่ย มันทำหน้าแบบว่าเซ็งสุดๆล่ะครับ ผมนี่จิ๊ปากคันตีนเลยนะ หนอยแน่ แต่ก็ยังดีวะที่มันไม่อะไรมากบอกให้ตื่นก็ตื่น เออนะแปลกจริงๆว่ะกูไม่เคยเจอให้ตายเถอะ มันเหมือนจะไม่พอใจนะ ใครก็คงไม่พอใจแต่มันไม่พูดเลยครับ มีแสดงอาการไม่พอใจบ้างแต่ท้ายที่สุดมันก็ยอม กูชอบว่ะ ฮ่าๆ
   “อ่อนนะมึง” ผมนั่งลงข้างๆมันล่ะครับ ยังอยากจะแกล้งมันอยู่ผมเลยเอาแข้งไปพาดที่หน้าตักของมัน
   “ไรอ่ะ หนักนะ” “สบายตีนเว้ย ห้ามดุกดิกนะ เดี๋ยวกูเตะเลยนิ” “นิสัยไม่ดีนะ พาดขามาแบบนี้แล้วเราจะขยับยังไงอ่ะ” มันแย้งครับพยายามดิ้นอยู่ ผมไม่สนใจ แต่ตัวมันนุ่มนิ่มดีนะ ฮ่าๆ อันนี้กูก็ชอบแม่งไม่เคยออกกำลังกายแน่ๆตัวเหลวๆ
   “นี่นาย มันจะทุ่มแล้วนะ แม่นายไม่ว่าเหรอ” มันเอ่ยขึ้นครับ เออจริงสิ ตายห่านแล้ว ว่าแล้วก็คว้าโทรศัพท์มากดหามารดาสุดที่รักทันที
   “แม่ มื้อนี้เมือค่ำแน่เด้อ” ผมพูดไปล่ะครับพอคุณนายสาวิตรีรับสาย
   “อะไรกัน นี่กูรออยู่นานแล้วนะ เถลไถลใหญ่แล้วนะ อะไรของมึง เลวมาก เลิกเรียนเลิกซ้อมบอลแทนที่จะรีบกลับมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน รู้ไหมว่าเงินแต่ละบาทน่ะมันหายากเย็นแค่ไหน วันๆเอาแต่ผลาญ ฯลฯ” เอ่อ กูไม่ทันได้อ้าปากเลยครับคุณแม่เทศน์ไปสิบห้ากัณฑ์ ผมต้องเอาหูออกไกลๆโทรศัพท์เลยนะ เสียงนี่ดังแว่วออกมาผมเหลือบตาไปมองไอ้เตี้ยมันแอบอมยิ้ม หนอยแน่มึง
   “หยังอ่ะ กะลูกปลัดเด้ มันให้มาสอนการบ้าน เนี่ยโง๊โง่ เดี๋ยวสอนแล้วสอนอีกกะยังบ่อเข้าใจ” ผมแถไปครับ ไม่ใช่เป็นคนโกหกเก่งนะเว้ยเขาเรียกว่าเอาตัวรอดเก่งเว้ย อิอิ ไอ้เตี้ยมันหน้าหักทันทีครับ ฮ่าๆ
   “หา มึงนั่นบ่อไปสอนลูกปลัด ว้าย ลาวแคดแร่ดเลย มึงนั่นเหรอไปสอนลูกอุ่นลูกชายคุณปลัด ดีมากลูกเดี๋ยวของแม่ ต้องแบบนี้สิ น่ารักมาก ไม่ต้องรีบมาหรอกนะลูก สอนให้เพื่อนจนกว่าเพื่อนจะเข้าใจ” เอ่อ กูนี่นะยิ่งหมั่นไส้ไอ้เตี้ยนี่เข้าไปอีก โหยนะแม่กูนะเนี่ย พอเอ่ยถึงมันนี่เปลี่ยนทำนองเสียงทันที โมโหเว้ย อ้อ ลาวแคดแร่ด ก็ตกลาวนั่นล่ะคุณๆทั้งหลาย เป็นอาการของคนที่พูดภาษาอีสานจนชิน พอพูดภาษากลางมันก็แพล่บออกมานั่นล่ะ ฮ่าๆ
   “คุณอุ่นขา คุณพ่อกลับมาแล้วค่า สิกินเข่าเลยบ่อ” พอผมวางสายจากแม่ไม่นานพี่ต้อยแกก็มาเคาะประตูเรียกล่ะครับ ไอ้เตี้ยมันพยักหน้าให้ผมประมาณว่ามึงกลับได้แล้วอะไรแบบนี้ เออก็ได้วะ
   “กินข้าวกับปลัดดีกว่าเผื่ออร่อย” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ไรอ่ะ นายไม่กลับบ้านเหรอ มันค่ำ” “ยังไม่อยากกลับ ไรมึงไล่แขกเหรอ” ผมสวนกลับครับ มันเม้มปากทำสายตาประมาณว่าใครเชิญมึงเหรอ หนอยๆกูอ่านออกนะเว้ยสายตามึงน่ะ
   “ไม่เชิญกูก็จะอยู่เว้ย จะอยู่จนกว่ากูจะพอใจ มีไรมะ” ผมเดินเอาไหล่ไปกระทบมันครับ มันกัดปากเลยนะ แล้วก็บ่นอะไรไม่รู้ไม่สนใจเพราะผมเดินลงมาก่อน
   “สวัสดีครับคุณปลัด” ผมปรี่เข้าหายกมือไหว้ทั้งที่นานๆทำที นี่แสดงว่าปลัดแกมีค่าคู่ควรกับการไหว้ของกูนะเว้ยนี่
   “อ้าว ลูกเดี๋ยว มาเที่ยวเหรอ” ปลัดทำหน้าตกใจหน่อยๆครับแต่ก็ยิ้มรับไหว้ผม
   “ผมมาเล่นเกมครับ ว่าจะสอนการบ้านลูกชายปลัดด้วย เห็นเรียนไม่เก่ง” เป็นไงตรงประเด็นมะ ปลัดแกทำหน้าเหวอแล้วหัวเราะ
   “ฮ่าๆ เออดีๆ อุ่นน่ะเขาพอได้อยู่แต่วิชาภาษาอังกฤษ นอกนั้นไม่รู้ทำไม ทั้งที่ท่าทางเหมือนจะตั้งใจเรียนนะ”
   “พ่ออ่ะ พูดไรเนี่ย ไม่ได้ให้เขามาสอนอุ่นนะ อุ่นจะไปติวเอง” มันเดินตามลงมาครับทำหน้าแบบว่าอายที่พ่อตัวเองเผาแบบชนิดต่อหน้าต่อตา
   “ไปเสียเงินติวทำไมวะ กูสอนให้ฟรีๆกูน่ะเก่งนะเว้ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ ทำท่าแบบว่ามึงเสร็จแน่ๆ เรื่องติว ใครจะไปติวให้โง่วะ ที่หาข้ออ้างแบบนี้ หนึ่งปลัดแกจะไว้ใจให้ผมเข้าบ้านได้เรื่อยๆ สองแม่กูจะเห็นดีเห็นงามด้วย แล้วเหตุผลที่ทำไมกูถึงอยากมาบ้านไอ้เตี้ยนี่มากน่ะเหรอ หนึ่งก็เกม สองของกิน ฮ่าๆ ใครจะว่ากูยังไงไม่รู้เว้ย แต่กูชอบ ด่าดิด่าได้ด่าไปกูสนเหรอ
   “นั่นสิลูกอุ่น เพื่อนมาติวให้ก็ดีแล้วนี่ แล้วนี่มานานหรือยังลูกเดี๋ยว หิวหรือยัง ต้อยหาสำรับมาเร็ว เด็กๆจะได้ไปดูหนังสือต่อ” ฮ่าๆ โอ๊ย มีความสุขเว้ย ไอ้เตี้ยมันยืนทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวอยู่ แต่กูสิมีความสุขที่สุดในสามโลก
   “พ่อขอบใจมากนะเดี๋ยวที่มาติวหนังสือให้ลูกอุ่นเขา ขอบใจนะที่ไม่เกลียดอุ่นเขาแล้ว อุ่นเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด เพราะพ่อขอไว้เองล่ะ แต่ก่อนอุ่นจะเป็นคนคิดอะไรพูดอันนั้น” พอกินข้าวเสร็จไอ้เตี้ยมันไปอาบน้ำล่ะครับผมเลยอยู่คุยกับปลัดข้างล่าง อ้อ พอรู้ๆ แต่เพิ่งจะรู้ว่าพ่อมันขอมันไมได้เป็นเอง
   “แล้วทำไมคุณปลัดถึงขอมันแบบนั้นล่ะครับ” ผมถามครับ
   “อ้อ เอ่อ คือไม่มีอะไรหรอก แค่พ่อเห็นว่าคนที่คิดอะไรแล้วพูดอย่างนั้นมันจะทำให้เราพลาดพลั้งได้ คำพูดที่หลุดจากปากไปแล้วเอาคืนไม่ได้ พ่ออยากให้อุ่นเขาเป็นคนใจเย็นกว่าแต่ก่อน ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาก็เป็นอย่างนั้น แต่บางทีเขานิ่งเสียจนพ่อก็กลัว” เอ่อ ดราม่าเข้าโหมดครอบครัวแล้วไหมล่ะกู ไม่ชอบคุยเรื่องแบบนี้เว้ย
   “คุณปลัดชอบเตะบอลไหมครับ” ผมเปลี่ยนเรื่องกลางอากาศครับ ไม่ชอบฟังไม่อยากฟังเรื่องของใครก็เรื่องของมันดิวะกูไม่อยากรับรู้เรื่องเศร้าๆ
   “ก็เคยเล่นนะตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ เออ เห็นว่าเราเตะบอลเก่งเหรอ วันหลังพ่อไปเตะด้วยสิ”
   “เอาดิครับ อาทิตย์หน้าผมก็ต้องไปแข่งที่อุบลฯครับ วันหยุดคุณปลัดเราไปเตะกันก็ดีครับ แต่คุณปลัดจะไหวเหรอครับ” อ้าวกูแอบเหน็บผู้ใหญ่ซะงั้น แต่แกหัวเราะครับ
   “เรานี่เป็นคนตรงๆดีนะ ดีแล้วล่ะ ไหวสิเห็นแบบนี้พ่อยังเตะปี๊บดังอยู่นะลูกเดี๋ยว” สังเกตไหมว่าคุณปลัดแกพูดเพราะนะผมว่า ถ้าหากเทียบกับแม่ผมกับครูในโรงเรียน แกพูดไม่เนิบมากแต่ทุกคำน้ำเสียงเท่ากันหมด มีขึ้นลงบ้าง ไม่มีรวบคำ เออว่ะ กูเพิ่งจะสังเกตว่าคนพูดแบบนี้มันน่าฟังจังเลยวะ ผมคุยกับปลัดอยู่สักพักล่ะครับจนไอ้เตี้ยมันลงมา มันใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีตุ่นๆ คอย้วยถึงท้องแล้วมั้งนั่นน่ะ
   “อ่า นี่นายยังไม่กลับเหรอ” มันร้องขึ้นครับทำหน้าแบบว่าผิดหวังมากๆ
   “อะไรกันอุ่น ทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้น เพื่อนเขาอุตส่าห์มาติวให้นะ” ฮ่าๆ สมน้ำหน้าพ่อดุเลยไอ้เตี้ยเอ้ยมึงน่ะยังเบบี๋อยู่เว้ย กูน่ะมันรุ่นพ่อมึงแล้วเว้ยเรื่องลาย
   “แล้วกลับดึกๆนี่คุณสาวิตรีเขาไม่ว่าเอาเหรอลูกเดี๋ยว”
   “โทรบอกแล้วครับ แม่ไม่ว่า แต่ถ้ากลับดึกๆก็คงจะลำบาก” อะแฮ่มเป็นไงกูพอได้มะลายน่ะ
   “ถ้ามันดึกเกินไปก็ค้างที่นี่ก็ได้นี่ เดี๋ยวพ่อจะโทรไปบอกคุณสาวิตรีอีกที”
   “พ่ออ่ะ นอนไหนอ่ะ ไม่” “อุ่น กริยาไม่ดีนะลูก” พ่อมันเอ็ดเอาครับไอ้เตี้ยทำหน้าเหวอไปเลย เม้มปากแล้วเดินขึ้นบ้านไปเลย ผมนี่แอบยิ้มในใจ ฮ่าๆ ว่าไปแล้วกูไม่นอนหรอกเว้ย ใครจะนอนวะ ทำท่าซะไอ้ห่านนี่เดี๋ยวเถอะมึง
   “มาเล่นเกมเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” พอคุณปลัดไปอาบน้ำผมก็เดินขึ้นมากวนมันต่อล่ะครับ ตอนแรกมันล็อกห้องนะแต่ผมทุบซะมันต้องมาเปิด หน้านี่หงิกซะ ฮ่าๆ เห็นแล้วมีความสุขจังวะ
   “ไม่เล่น นายเมื่อไหร่จะกลับเหรอ เราง่วงแล้วนะ”
   “สัด คำก็ไล่สองคำก็ไล่นะ ทำไมกูยังไม่กลับ”
   “ฮึ หน้าด้า” “นั่นๆ ด่ากูเหรอมึง” ผมปรี่เข้าหามันทันทีครับกดคอมันแน่นๆ
   “อ่า มะ ไม่ได้ด่า ชมนะ” “ชมบ้านมึงสิ มึงจะว่ากูหน้าด้านน่ะสิ ใช่ไหม”
   “มะ ไม่ใช่ อ่า ปล่อยก่อนได้ป่ะ เราหายใจไม่ออก” หน้ามันเริ่มแดงครับ ผมก็กลัวมันจะตายมาฆ่าลูกชายเขานี่ตายแน่กูติดคุกหัวโตแน่ๆ
   “ปากหมานะมึง ไหนมึงจะว่าอะไร” ผมจี้มันครับทำหน้าตาแบบว่าโหดๆ
   “หน้าทน หน้าหนา” “สัด” เห็นหรือยังว่ามันกวนตีนแค่ไหนครับ พูดเสร็จแล้วกระเด้งตัวออกจากเตียง จะหนีไปไหนล่ะมึง ตัวเท่าลูกหมาผมกระชากแขนมันไว้ล่ะครับดึงแรงๆให้มันล้มลงที่เดิม
   “อยากตายใช่ไหม” ผมกัดฟันครับ ตอนนี้กดหน้ามันลงกับที่นอนเอาแขนมันพาดมาด้านหลังผมก็ขึ้นไปทับ เอาสิกูหนัก ๗๕ ทับแม่งให้ขี้แตกไปเลย
   “อ่า อ่า เราหนัก เราหายใจไม่ออก”
   “อย่าเรียกร้อง ปากหมาแบบมึงต้องเจอแบบนี้ จะมาเล่นเกมกับกูดีๆไหม” ผมขู่มันครับ
   “ไม่เอา เราจะนอน”
   “งั้นมึงก็เตรียมตัวตายได้เลย” “อ่า เล่นๆ เล่นเทนนิสนะ” ป๊าด มีมายื่นข้อเสนอครับ ไอ้ห่านนี่ ผมยอมลงจากตัวมันแต่โดยดีครับ
   “สัด อ่อนนะมึงน่ะ” “จิ๊ รบกวนนะรู้ป่ะเนี่ย” มันบ่นครับแล้วคลานลงจากเตียงมานั่งหน้าโทรทัศน์ กูก็เลยเล่นกับมันเกมสองเกมไอ้นี่มันก็หาว เอาไปเอามามันหลับครับท่าน กูนั่งเกาหัวเลย ทีนี้พอปลุกยังไงมันก็ไม่ตื่นครับ เพิ่งจะเคยเห็นคนนั่งหลับ ฮ่าๆ ว่าไปตอนมันหลับนี่เหมือนเด็กเลยนะ แก้มมันแดงๆ ปากเผยอๆ เออว่ะน่ามองดีนะ เว้ยกูมองมันทำไม กูหล่อกว่ามันเห็นๆ แอร์ห้องมันนี่เย็นจังวะ ฮ้าว นั่นเตียง กูของีบก่อนละกันนะ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. สงกรานต์นี้ขอให้มีความสุขมากๆนะครับผม อิอิ เจอกันวันที่ ๑๕ ไปเที่ยวปราจีนก่อนเนะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 13-04-2012 11:37:17
เอาละงานนี้ อุ่นจะเกิดไหมนะความรัก เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 13-04-2012 11:51:02
 :-[ เดี๋ยวเริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะสิ กัดกันดีเหลือเกิน อุ่นน่าสงสารเขาเห็นก้นทั้งโรงเรียนเลย มีแต่คนแกล้งอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-04-2012 12:52:46
สงสารน้องอุ่น!!!!!
ถูกกลั่นแกล้งงงงงงงง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 13-04-2012 16:17:10
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ของคุณอิ๊กกี้ เรื่องนี้น่ารักค่ะ
น้องอุ่นน่ารักแต่แอบเอ๋อ 55 แต่ดูแล้วเจ้าเดี๋ยวจะหลงน้องอุ่นแบบไม่รู้ตัวเข้าแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 13-04-2012 16:57:39
สุขสันต์วันสงกรานต์
& Happy Birthday ...Eiky
มีความสุขมากๆ นะครับ
+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 13-04-2012 17:53:38
อืม......เอาไงดีล่ะ!!อ่านไปก็รู้สึกแปลกๆชอบกลอ่านแล้วไม่ลื่นหรอเราไม่ค่อยพอใจกับนิสัยของตัวละครกันแน่เดี่ยวมีความขัดแย้งในตัวสูงมากจะปล่อยเต็มก็ไม่ความรู้สึกเลยครึ่งๆกลางๆเคยอ่านเลวก็เลวสุดขั่ว แต่เข้าใจอยู่ว่านี้เป็นนิยายใสๆ ตกลงที่งงคือตัวเจ้เองแล้วล่ะ?ไปนั่งทำความเข้าใจต่อดีกว่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-04-2012 23:56:18
สุขสันต์วันสงกรานต์จ้า
เดี๋ยวยังคิดว่าตัวเองสนุกกับการแกล้งสินะ
เริ่มถลำตัวไปเรื่อย ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 14-04-2012 00:13:16
โจ้มันต้องมีคนใหม่แน่เลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 15-04-2012 09:50:35
สุขสันต์วันสงกรานต์
& Happy Birthday ...Eiky
มีความสุขมากๆ นะครับ
+1

ขอบคุณมากครับพี่ที่ยังจำได้
ขอให้พรนั้นกลับคืนสู่พี่ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 15-04-2012 10:31:16
สักพักเถอะ จะตกหลุมรักอุ่นจนถอนตัวไม่ขึ้น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 16-04-2012 12:18:05
นับวันน้องอุ่นยิ่งน่ารักขึ้นนะ...แก้มแดงแป๋ว ๆ..
เจ้าเดี๋ยวมันก็อ่อนลง...มีอิจฉาอยากกินไอติม...
สุดท้ายก็เลี้ยงเค้า...เดี๋ยวเอ๋ย..ช่างไม่รู้ตัวซะเลย... :really2:

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะจ๊ะน้องอิ๊ก...
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-04-2012 13:07:39
น้องอุ่นน่ารักขนาด :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 5 Version (เดี๋ยว) 13 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 16-04-2012 23:33:23
สู้ๆนะอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 18-04-2012 09:21:05
Don’t call Me BaBy!!!
ทำไมมันแข็งๆวะเนี่ย เตียงกูเป็นไรอ่ะทำไมมันแข็งจัง อ่านี่มันนุ่มๆ ปีนขึ้นไปๆ
   “คร่อกๆๆ โฮกๆๆ” เสียงไรวะ ใครมาเปิดปั๊มน้ำแต่เช้าวะเนี่ย พี่ต้อยอีกแล้ว อะไรนี่เช้าแล้วเหรอ ผมงัวเงียขึ้นล่ะครับ เบียดหมอนข้างต่อดีกว่า อิอิ รอให้พี่ต้อยมาปลุก แต่เอ๊ะ นี่อะไรแข็งๆมีขนด้วย จับๆ ฟุดฟิดๆ กลิ่นอะไรเน่าเนี่ย เอ๊ะ หรือว่ากูตดวะ ไม่จริงกลิ่นตดของอุรดิศไม่มีกลิ่นแบบนี้ มีกลิ่นเฉพาะไม่ลาเวนเดอร์ก็วานิลลาเท่านั้น อิอิ
   “อ๊ะ” พอลืมตาไม่อยากจะบรรยาย แว้กก ตีนใคร หา อย่าบอกนะว่าผีหลอก หา ผีหลอก แว้กก ตัวเริ่มแข็งขยับไม่ได้ ช่วยด้วยๆ ช่วยด้วย แม่จ๋า อุ่นโดนผีหลอก แม่จ๋า ผีเน่าแล้วด้วย ด้วยความกลัวสุดขีด ต้องดิ้นต้องหนีไปให้พ้น อย่าคิดจะมาอำกูเลยนะผี เดี๋ยวจะไปใส่บาตรให้เลยอย่ามาอำกันเลยนะ
   “พลั่ก” “โอ๊ย สัดใครเตะกู” พอดิ้นก็เหวี่ยงเท้ายันออกไปสิครับ เอ่อ แว้กก ไอ้บ้านี่ ไอ้นี่มันมาอยู่บนเตียงกูได้ยังไง แว้กก ผมรีบกระโดดออกจากเตียงครับ มองไปที่เตียงให้แน่ใจว่าอะไรกันแน่ ขยี้ตาให้มั่นใจกว่าเดิม ว่าผมตาไม่ฝาด
   “สัดเตะกูไมวะ อยากตายเหรอ” เอ่อ ไม่ใช่ฝันใช่ไหมเนี่ย ไม่ใช่ฝันใช่ไหม
   “เอ่อ นี่ผีหรือเปล่า” เอ่อ กูทำไมถามออกไปอย่างนั้น
   “ฮ่าๆ สัด ดูหน้ามึงดิ ฮ่าๆ หน้าซีดเลย ผีเชี่ยดิ กูคนเว้ย สัดนะมึงเตะหน้ากูเพื่อ หนอยแน่ มึงตายๆ เอากูแต่เช้า” เอ่อ ไอ้บ้านี่ยังใส่ชุดเมื่อวานอยู่เลยนะ ที่ว่าเหม็นๆนั่นมันเองเหรอ ตายแล้วกลิ่นมันจะติดเตียงกูไหมเนี่ย อูแหวะสกปรกที่สุด อ๊วก วิ่งสิครับท่านจะอยู่ให้มันมาเตะเอาเหรอ ผมรีบเปิดประตูออกจากห้องทันที
   “อ้าวตื่นแล้วติ๊ค่าคุณอุ่น เป็นจั่งได๋หลับสบายบ่อ คิคิ” เอ่อ หัวเราะแบบนี้แปลว่าไรเนี่ยพี่ต้อย
   “ไรอ่ะ พี่ต้อยไอ้นั่นมันนอนนี่เหรอ” ผมถามออกไปครับ ไอ้บ้านั่นมันไม่ได้วิ่งตามลงมาครับ มันคงอายสาระรูปตัวเอง
   “ซ่างถามเนาะ นอนกอดอยู่เหมิดคืนเด้ค่า คิคิ” เอ่อ ใครกอด ใครพูดดีๆนะ กูเนี่ยนะกอดไอ้เน่านั่นน่ะ ไม่มีทาง พิสูจน์มีกลิ่นติดตัวหรือเปล่า อ๊ะ ทำไมกลิ่นมันเหมือนหนูตายแว้กก
   “ไรอ่ะพี่ต้อย อะไร คิคิ อย่ามาหัวเราะอุ่นนะ” ผมทำท่าเคืองล่ะครับ
   “ล้อเล่นดอกค่า โอ๋ๆ เคียดไวเนาะ มากินน้ำส้มก่อนมา”
   “พ่ออ่ะ ยังไม่ตื่นเหรอ” ผมแถไปเรื่องอื่นครับ อายเหมือนกันนะเว้ย
   “ตื่นโดนแล้วค่า ไปแล่น” “อ้อ” “แล้วหมู่เด้ค่า ยังบ่อตื่นติ๊” ห่วงใยกันจริงนะ แหมนะอารมณ์เสียแต่เช้า ไปแล่นก็ไปวิ่งนั่นล่ะครับ
   “ตื่นแล้วเอื้อย นอนสบายเนาะมีแอร์เย็นๆ ฮู้จั่งซี้มานอนดู๋ๆดีกว่า” เอ่อ มันเดินลงมาครับ
   “ว้าย บ่อใส่กางในบ่อค่า ว้ายเอื้อยเขิน” เอ่อ พี่ต้อยนี่แรดไปไหมเนี่ย แล้วไอ้เชี่ยนี่ทำไมเดินโทงๆมาแบบนั้นเนี่ย แว้กก พี่ต้อยอายทำท่าปิดหน้าครับ ไอ้บ้านั่นก็รีบมานั่งลงข้างๆผมทันที มันยิ้มเขินๆ อย่างมึงเนี่ยนะเขิน
   “ฮ่วย คนเพิ่งจะตื่นเนาะ ธรรมดาล่ะเอื้อย อิอิ” ไม่ต้องหันมาทางกู กูไม่ได้อยากจะมองหรอกนะ ถุย อย่านะอุรดิศอย่าเหลือบไปมองนะ ห้ามเด็ดขาด
   “โพดพะโลเนาะ” พี่ต้อยครับ แหมนะทำท่าแบบว่าสาววัยรุ่นเจอผู้ชายมาจีบประมาณนั้น
   “บ่อโพดดอกเอื้อย คนมันมีดีเด้ ฮ่าๆ บ่อแม่นของเด็กน้อยอนุบาล” เอ่อ หมายถึงใคร มองมาหากูแล้วยิ้มทำไม เกลียดมึงนะรู้ป่ะเนี่ย
   “ของเพิ่นนี่กำลังเป็นตาฮักเด้ค่า อิอิ แม่นบ่อค่าคุณอุ่น” เอ่อ นี่นินทากูต่อหน้าเลยเนี่ยนะ
   “ไรอ่ะพี่ต้อย ไปอาบน้ำล่ะ คุยไรกันไม่รู้ เออพี่ต้อยวันนี้จัดกระเปาให้อุ่นด้วยนะ เมื่อวานน่ะ” ผมลุกขึ้นล่ะครับหนีก่อนดีกว่าไม่อยากจะเสวนากับเรื่องไร้สาระ
   “อ่า เอื้อยขอโทษเด้อค่า เอื้อยลืมอีหลี อย่าเคียดเนาะ มื้อนี้สิเอาเครื่องอาบน้ำหอมๆใส่ไปให้นำ เนาะๆคุณอุ่นขา” แหมนะอย่ามาทำเป็นพูดดีเลยนะ งอนแล้วล่ะ
   “มื้อเซ้าบ่อมีแนวกินบ่อเอื้อยหิวเด้” พอผมลุกไอ้บ้านี่มันก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “มีข้าวต้มปลาค่า สิกินโลดบ่อบ่อไปอาบน้ำก่อนติ๊” “กินโลดหิว” แหมนะ นี่บ้านกูนะสั่งเอาๆเหมือนเป็นบ้านมึงเลยเนอะ ไอ้คนไม่มียางอาย อารมณ์เสียเว้ย อะไรเนี่ย
   “ซั่นเอื้อยสิไปตักมาให้” พี่ต้อยวิ่งเข้าไปหลังบ้านล่ะครับ ผมก็ลุกขึ้นจะเดินขึ้นไปอาบน้ำ
   “กูอาบด้วยดิ ตะเอง” หือ มันว่าไรนะ ผมหันขวับทันที อย่ามาตะเองตะเอิงอะไรนะ ไอ้นี่เล่นไม่รู้เรื่องเดี๋ยวเถอะ
   “ไร” ผมตะคอกเสียงใส่มันล่ะครับ นานๆทำที
   “แหมๆ เมื่อคืนนี่เอาหน้าซุกใหญ่เลยนะ พอตื่นเช้ามาทำเป็นลืม” มันพูดแล้วยักคิ้วให้ผมครับ เกลียดมากเลยนะคนพูดแล้วยักคิ้วเนี่ย เดี๋ยวจะเอาฝ่ามือฟาดลงสักทีมึงจะยักขึ้นอีกไหมคิ้วมึงน่ะ ไอ้เชี่ย
   “ไร พูดดีๆนะ ใครซุก อะไร” “อ่ะๆ ได้เค้าแล้วทำเป็นไม่รู้เรื่องน้าตะเอง” เอ่อ มันทำท่าแบบว่าน่ารังเกียจมากเลยนะครับ ไอ้เชี่ยนี่มันพูดอะไรวะ
   “ไม่สนใจ ไปอาบน้ำดีกว่า” ผมสู้ไม่ได้หรอกครับ คนหน้าหนาแบบมันน่ะผมไม่เถียงหรอกนะ เดินหนีดีกว่า มันจะล้ออะไรก็เรื่องของมันไม่สนใจ
   “เดี๋ยวดิ เนี่ย” มันลุกขึ้นแล้วมาจับมือผมไว้ครับ แล้วมัน เอ่อ เอาตรงนั้นมาถูก้นผมอ่ะ แว้กก เขิน เอ่อ จะเขินทำไมเหรออุรดิศ ก็แหมนะมันแบบว่า แว้กก ไม่อยากบรรยายเลยอ่ะ อายอ่ะคือมัน เอ่อ มันแบบว่ามากกว่าของโจ้เสียอีก แว้กก วิ่งขึ้นข้างบนดีกว่า มันหัวเราะไล่หลังมาครับ ทำไมใจเต้นตึกตั่กจังเลย อ่า นี่มันอะไรกัน อาบน้ำๆ รู้ไหมผมใช้เวลาในการอาบน้ำนานมากๆ ไม่รู้ทำไม พออาบน้ำเสร็จก็ปเลี่ยนเสื้อผ้าลงมาข้างล่าง เอ่อ มันอาบน้ำเสร็จแล้วครับมันใส่เสื้อนักเรียนของเมื่อวานที่พี่ต้อยคงเอาไปรีดให้ใหม่แต่กลิ่นมันก็ยังคงเก่าอยู่ รู้สึกว่ามันกินข้าวเสร็จแล้วนะ พ่อผมก็นั่งคุยกับมันหัวเราะสนุกสนาน ขอมันเอามาเป็นลูกเลยดีไหมเนี่ย อะไรอ่ะไม่เกรงใจลุกคนนี้เลยนะ
   “อาบน้ำนานจังลูก มากินข้าวสิจะได้ไปโรงเรียน นี่ลูกเดี๋ยวน่ะเขาเคยไปแข่งทักษะวิทยาศาสตร์ได้ที่หนึ่งของเขตมาแล้วนะ” เอ่อ ชมมัน? ชมทำไม แล้วไม่บอกมันล่ะว่าลูกอุ่นน่ะไม่เคยได้เกรดสองเลยนะ ได้แต่เกรดหนึ่งเกือบทุกวิชา อันนี้แบบซ่อมแล้วนะถ้ายังไม่ซ่อมก็จะสวยงามมากเพราะมันเป็นกลมๆเกือบทุกสาขาวิชา ไม่บอกมันไปล่ะพ่อ อะไรอ่ะ ฮึ งอนเป็นเหมือนกันนะ ผมไม่กินข้าวล่ะครับไม่มีอารมณ์
   “อ้าวๆ รีบไปไหนล่ะที่รัก ไม่ซ้อนท้ายผัวเหรอ” เอ่อ พอเดินออกมานอกบ้านไอ้บ้านี่มันก็ขับรถรุ่นสงครามโลกรถเครื่องที่โกโรโกโสที่สุดที่ที่ม่านประสาทตาจะสัมผัสผ่าน มันพูดว่าอะไรนะ อ๊ะ
   “ใครที่รัก นายพูดกับใคร” ผมแว้ดเสียงใส่มันล่ะครับ
   “แหมๆ ทำเสียงแข็งทีเมื่อคืนกูเอามึงไม่เห็นพูดแบบนี้วะ”
   “เอาเรา เอาอะไร อ๊ะ นี่นาย” เอ่อ ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกอายขึ้นมามากเลย อายจังเลย นี่มันทำอะไรผมไปเหรอเมื่อคืน แว้กก เสียพรมจรรย์แล้วเหรออุรดิศ นี่ๆอย่าสับสนกับโจ้น่ะแค่ภายนอกนะจะบอกให้ ผมไม่เคยให้ใครล่วงล้ำอธิปไตยของตัวเองหรอกนะ แต่ไอ้นี่ แว้กก เกลียดมันๆ
   “เออดิ เมื่อคือกูเอามึง ไม่รู้ตัวเหรอ ไรวะ ถึงว่าไม่เห็นดีเลย สัด” อ่า ใจสลาย ผมโดนเอาโดยที่ไม่รู้สึกตัว ตายมึงตาย
   “ไม่จริงอ่ะ ถ้านายเอาเราทำไมเราไม่รู้สึก” แหะๆ มันก็จริงอ่ะใช่ไหมล่ะของมันเท่าที่แอบดู แว้กก คือพอดีเห็นและสัมผัสเมื่อเช้ามันไม่น้อยนะถ้ามันทำอะไรผมจริงก็ต้องรู้สึกดิ
   “รู้สึกเชี่ยไรมึงนอนหลับเป็นตาย กูกระแทกออกจะแรง” เอ่อ จริงเหรอ ไม่จริงอ่ะแต่เอ๊ะ เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำมันก็แสบอยู่นะ
   “เมื่อเช้ามึงขี้มันไม่แสบตูดเหรอวะ” เออนั่นสิ หา นี่ผมโดนมันเอาแล้วเหรอ แว้กก ไม่ยอมนะ ไม่เชื่อๆ
   “มัวแต่คิดโต้แย้งกันอยู่นั่นล่ะ จะได้ไปไหมโรงเรียน เร็วดิวะสัดนี่” เดี๋ยวค่อยคิดแต่เอ๊ะ ตอนนั่งบนรถมันก็เจ็บๆตูดนะ อ่า ไม่จริงนะ
   “นายแอบยิ้มไรอ่ะ” นั่นๆ ผมเห็นมุมปากมันครับ มันหลอกผมแน่ๆ
   “แอบยิ้มไร ใครยิ้ม มึงบ้าป่ะเนี่ย” “อย่านะ นายหลอกเราเหรอ”
   “หลอกเชี่ยไร มึงไม่รู้ตัวจริงๆเหรอว่ามึงได้กูแล้วนะ สัด มึงเป็นเมียกูแล้วนะเว้ย ไรวะได้เค้าแล้วทิ้งเหรอสัด เลวนะมึง” เอ่อ ชมกูเพื่อ กูได้มึง? เมื่อกี๊มึงบอกมึงเอากูอยู่เลย งงว่ะ นี่กูได้มันตรงไหนวะ เว้ย ไอ้นี่ แต่แว้กก ผมโดนมันเอาอ่ะพี่น้อง ไมได้นะ คนอย่างมันสกปรกโสโครกสุดๆ นิสัยเลวทรามอย่างมันเนี่ยนะจะมาเป็น ผอสะระอัวของอุรดิศ แว้กก ไม่มีทางเว้ย
   “เราไม่เอานาย” เอ่อ คืออยากจะบอกมันว่า คนอย่างกูน่ะไม่เอามึงหรอกนะ
   “กูก็ไม่ได้ให้มึงเอากูนี่ กูจะเอามึงเอง”
   “เอ่อ เราไม่อยากเอานาย”
   “สัด พูดไรเนี่ย หุบปากไปเลยเมีย นั่งนิ่งๆได้ป่ะ อยากกอดก็ได้นะ กูไม่หวงตัวล่ะ เพราะมึงได้กูแล้วนี่” อืม เหรอ กอดเอวมันนี่นะ แว้กก ไม่มีทางไม่จริง นี่มันคือความฝันใช่ไหม มันไม่ใช่เรื่องจริง นับตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่มีแต่สิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้น นี่มันอะไรกันวะ ไม่เข้าใจ เว้ย พอมันจอดรถที่โรงรถผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีครับ เออ ลืมบอกว่าวันนี้ไปทันเข้าแถวด้วยล่ะ อิอิ ต่อๆผมวิ่งเข้าห้องน้ำไมได้ปวดท้องหรือปวดฉี่นะจะบอก แต่ผมแค่อยากจะพิสูจน์ว่าผมเสียตัวไปให้มันแล้วจริงๆเหรอ
   “เอ๊ะ ก็ยังฟิตอยู่นี่ หนอยแน่ ไอ้บ้าหลอกกูนะมึง” ผมก็เอานิ้วลองแหย่ดูสินะ ไม่ได้โง่นะเว้ย หนอยแน่ช่างกล้านะมึงไอ้เวรเอ้ย จิตตกไปได้กู ต้องออกไปด่ามันหน่อยล่ะ ว่าอยู่คนอย่างผมเนี่ยนะจะนอนไม่รู้เรื่อง
   “ไอ้เน่า” นี่แน่ผมเห็นมันยืนอยู่กับเพื่อนๆมันล่ะครับ กลัวที่ไหน ร้องเรียกออกไปเลย ทั้งกลุ่มของมันหันมาพร้อมกัน
   “ว่าไงจ๊ะ” เอ่อ จ๊ะเพื่อกูมาด่ามึงนะเนี่ยไอ้เลวเอ้ย
   “นายหลอกเรา ไม่เห็นมีไรซะหน่อย” “ฮ่าๆ ไอ้เอ๋อเอ้ย เฮ้ย เมื่อกี๊มึงเรียกกูว่าไงนะ” มันหัวเราะครับ หัวเราะเพื่อ
   “นี่มึงด่ากูเหรอ แล้วที่มึงวิ่งเข้าห้องน้ำไปเมื่อกี๊ อย่าบอกนะว่า ฮ่าๆ” เอ่อ มันหัวเราะเสียงดังมากครับ มากจนเพื่อนๆมันหัวเราะตาม ไอ้พวกนี้ก็บ้า เอ่อ กูล่ะอายสิ
   “ไอ้เน่า นิสัยไม่ดี” วิ่งก่อนดีกว่า อิอิ ด่ามันแล้ววิ่ง มันเหมือนจะวิ่งตามล่ะครับแต่ก็ไม่วิ่ง อารมณ์เสียมากๆ ไม่ได้แล้วอุรดิศต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ ต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ไม่ไหวติงกับคนเลวๆอย่างมัน มันแกล้งผม ทำไมวะ เออนั่นสิ ทำไมมันถึงชอบแกล้งผม มันบอกว่าผมกวนตีน มันล่ะยิ่งกวนตีนกว่าผมอีกนะ โอ๊ย วันนี้ขออยู่แบบเงียบๆหน่อยได้ป่ะ
   “อุ่นๆ เมื่อคืนบักเดี๋ยวมันนอนนำเจ้าบ่อ” พอเข้าห้องไอ้ดำมันก็เข้ามาถามครับ อะไรอีกล่ะเนี่ย ขออยู่เงียบๆได้ป่ะไม่อยากพูดเว้ย เอาเป็นว่าผมขอผ่านวันนี้ไปเลยละกันนะขี้เกียจเล่า แม่งอะไรไม่รู้ถามนั่นถามนี่ ที่แย่ที่สุดคือมีคนลือว่าไอ้บ้านั่นโดนผมกินไปแล้ว เอ่อ ลืออะไรก็ให้เกียรติกูบ้างนะพวกมึง คนอย่างอุรดิศเนี่ยนะจะไปรับประทานคนอย่างไอ้ทุเรศนั่น เว้ยนะเข้าใจลือว่ะ กูล่ะอยากจะอ๊วก
   “นี่เธอน่ะ บอกมาเลยนะว่าเมื่อคืนมันจริงอย่างที่ข่าวเขาลือหรือเปล่า” อีกะเทยหัวโปกครับมันมายืนท้าวสะเอวชี้หน้าผมตอนที่เข้าเรียนคาบแรก นี่ผมพยายามไม่พูดกับไอ้ดำแล้วนะ แล้วนี่อะไร และดูเหมือนว่าเพื่อนๆในห้องก็ต่างมารุมล้อมล่ะครับคงจะอยากรู้กันมาก
   “ถามทำไมไม่พูด อย่าบอกนะว่าจริง กรี๊ด มักง่าย ใจง่าย หนีมาจากกรุงเทพฯทำไม ในกรุงเทพฯมีคนหน้าตาดีๆเยอะแยะทำไมไม่กิน มากินพี่เดี๋ยวฉันทำไม แพศยา” เอ่อ อีนี่ชมกูเพื่อ
   “ป๊าด โพดหลายอีห่ามึง เพิ่นนี่ยังบ่อทันเว้าหยังจักคำมึงมาฮอดกะด่าเอาๆ มึงนั่นล่ะนิสัยเสีย” ไอ้ดำครับมันยืนขึ้นชี้หน้าอีกะเทยสุชาติ ผมรู้สึกหนักหน้ามากๆ เคยโดนด่ามาเยอะนะแต่ทำไมวันนี้อายจัง
   “อย่ามาเสือก กูถามมันเด้บ่อได้ถามมึงบักเล็ก”
   “เป็นหยังสิเสือกบ่อได้ เมื่อคืนกูกะไปนอนกเฮือนเพิ่นนี่คือกัน” ไอ้ดำมันทำท่าเอาจริงครับ
   “เอ้า มึงกะไปนอนนำกันติ๊ ซั่นซุมนั่นมันกะเว้าหมาๆติ๊ซั่นน่ะ” เพื่อนในห้องพูดขึ้นเกือบพร้อมกันครับ ผมฟังไม่ค่อยเข้าใจเพราะก้มหน้าอยู่สิตกระเจิดกระเจิงไปแล้ว จะมาเอาอะไรกับกูนัหนาวะเนี่ย
   “กูบ่อเซื่อ คั่นมึงไปนอนนำเป็นหยังเขาจั่งเว้าพื้นแต่อ้ายเดี๋ยวกับมัน บ่อเว้าฮอดมึง” อีกะเทยมันยังไม่ยอมครับ
   “ฮ่วย มันกะถืกแล้วเด้ที่เขาเว้าพื้นเพิ่นนี่กับบักเดี๋ยว ดีกว่าเว้าพื้นบักเดี๋ยวกับมึงสิบขุม เพราะเขาสองคนเป็นตาเว้าพื้นกว่าเว้าพื้นมึง” “กรี๊ดดด บักดำ”
   “อีหยังอีกะเทยถึก” เอ่อ จะวางมวยกันไหมเนี่ย
   “ขอบใจนะเล็กที่ช่วยพูดให้เราน่ะ” พออาจารย์เข้าห้องมาผมก็เอ่ยขอบคุณมันล่ะครับ
   “บ่อเป็นหยัง แล้วเจ้าคือบ่อเว้าหยังแน่ล่ะ ให้เขามาด่าเอาฟรีๆแท้”
   “เราเคยบอกนายแล้วนี่ ข่าวลือมันไม่ใช่เรื่องจริง เราไม่อยากพูด” “โว้ยเนาะ ซาดเพิ่นผู้ดี” มันประชดผมครับ จะให้กูทำยังไงวะใครอยากจะว่าอะไร อยากจะมองยังไงห้ามคนเขาได้ด้วยเหรอ ใจจริงนะกูอยากจะต่อยปากมันตั้งแต่มันมายืนชี้หน้าด่ากูแล้ว แต่จะทำเพื่อประโยชน์ไม่เกิด ถึงจะเรียนไม่เก่งแต่กูก็จิตใจสูงเว้ย แว้กก ปรบมือๆ ปรบมือเดี๋ยวนี้ อิอิ
   “นี่อุ่น ได้ข่าวว่าเมื่อคืนเดี๋ยวไปนอนบ้านเธอเหรอ” พออาจารย์ออกไปจากห้อง อีกเสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองครับ เพ็ญ ผมมองหน้าเธอเหมือนจะตอบว่า เออมันไปนอนบ้านกู
   “ไม่รู้ว่ามันจริงไม่จริงนะ แต่อยากจะบอกเธอไว้ว่าเดี๋ยวน่ะ ผัวเรา กินของคนอื่นน่ะคิดดีแล้วเหรอ”
   “ห๊า กินไร เธอพูดเรื่องไร” ผมพูดขึ้นครับ
   “อย่ามาทำเป็นเด็กในเมืองหน่อยเลย ไม่รู้ล่ะ แค่อยากจะบอกให้เธอรู้ว่าเดี๋ยวน่ะของเรา อย่ามายุ่งและอย่าหาว่าไม่เตือนด้วย” “ใช่ เดี๋ยวก็ของเรา อย่าหาว่าเราไม่เตือนเหมือนกัน” อีกะเทยนั่นเสริมครับ โอยนะ กูอยากจะยุ่งกับมันตายล่ะ เพลียใจจริงๆเลยนะแย่งผู้ชายกันเนี่ย ทำไมข่าวคาวๆทุเรศๆแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นกับกูด้วยวะ ถ้าเป็นข่าวกับพี่ขอมหรือไม่ก็หัวหน้าห้องนี่ยังจะยอมเถียงหน่อยแต่นี่ไอ้บ้านั่น อยากได้เชิญ กูไม่เอาเว้ย
   “อย่าเสือกได้ไหมอีกะเทย” เพ็ญเธอตวาดมันล่ะครับ สรุปสองคนนั่นก็ด่ากันเสียงดังไปสามชั้นสี่ชั้น เฮ้อนะ
   “อุรดิศ มาพบอาจารย์พรฤดีที่ห้องแล็ปภาษาอังกฤาด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ” คาบที่สองตอนบ่ายครับนั่งสัปงกอยู่ เอ้ยนั่งเรียนอยู่ดีๆก็มีเสียงประกาศขึ้น เอ่อ เรียกกูคนเดียวเนี่ยนะ ผมสะดุ้งเลยสิครับ เฮ้อ ทั้งวันผมเจอศึกรอบด้านเลยนะเหนื่อยมาก เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวแท้ๆ ผมเดินไปหาอาจารย์ที่ห้องแล็ปตามเสียงประกาศนั่นล่ะครับ
   “อุรดิศเราต้องไปกันแล้ว เพื่อนๆเขารอในรถแล้วจ๊ะ เตรียมของมาไหมพอดีเพื่อนครูที่โน่นเขาโทรมาบอกน่ะจ๊ะว่าให้ไปก่อนเดี๋ยวจะพาไปกินข้าวแล้วค่อยไปรายงานตัว” เอ่อ ทำไมเพิ่งจะมาบอกวะเนี่ยไม่บอกตอเย็นเลยล่ะ ผมจึงต้องเดินกลับไปที่ห้องเอากระเป๋ามาล่ะครับ พอขึ้นไปบนรถตู้ของโรงเรียนก็เห็นไอ้บ้านั่นนั่งยิ้มอยู่
   “มาสายนะมึง” มันพูดครับ พูดกับใครไม่สนใจเว้ย เพราะมึงๆ
   “เอาล่ะค่ะเราจะไปกันแล้วนะคะนักเรียน ครูกะว่าจะพาไปกินข้าวริมโขง” อาจารย์แกพูดขึ้นล่ะครับเสียงพวกนั้นก็ปรบมือกันเกรียวกราวขึ้นทันที แหมนะ
   “มึงมานั่งนี่” มันตบเบาะข้างๆมันให้ผมเดินเข้าไปด้านในสุดครับ ใครจะไปหามึง ฝันไปเถอะไอ้เน่า กูเกลียดมึง
   “เพิ่งสิเห็นใกล้ๆ หน้าใสคั่กเนาะ” เสียงรุ่นพี่ที่นั่งอยู่แถวหน้าพูดขึ้นล่ะครับ ผมก็เลยยิ้มเขาชมนี่นา แล้วก็เสียงอะไรต่อมิอะไร จะชมกูทำไมเยอะแยะเนี่ยเขินเป็นนะเว้ย
   “ฮ่วย มานี่ดิวะ เรียกไมได้ยินเหรอ” มันดึงแขนผมเข้าไปนั่งเบาะหลังกับมันครับ เอ๊ะ ไอ้นี่เป็นไรมากกะกูป่ะเนี่ย
   “ไรอ่ะ ไม่อยากนั่งข้างหลัง” ผมตอบไปครับแต่ดันปีนตามแรงดึงของมันเข้าไป
   “มึงมานี่เลย มึงเรียกกูว่าไรนะ” “ไรอ่ะ เราเรียกนายว่าไร ไม่ได้จำ” เบะปากใส่มันครับให้มันรับรู้ว่ากูไม่เคยสนใจมึงเลย เกลียดมึงมากๆด้วยตอนนี้
   “ป๊าด หนอยแน่ ได้กูแล้วจะทิ้งเหรอ ฝันไปเถอะ” มันจับแขนผมไว้ครับ ผมมองหน้ามันตาเขียว
   “อย่ามายุ่งกับเราได้ไหม เราโดนบรรดาแฟนๆนายมารุมด่านี่ก็มากพอแล้วนะ เหนื่อย” ผมพูดออกไปอย่างที่รู้สึกครับ มันเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็นิ่ง ดีนิ่งๆไปเลย ผมนั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่าง มองอะไรผ่านๆตาไป ไม่ยอมหันไปมองมันครับ มันก็กระแซะเข้ามาเหมือนจะแกล้งแต่ผมทำเป็นไม่สนใจ กูเกลียดมึงจริงๆนะ มากๆด้วย ไอ้ควาย

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. เพิ่งมาคร้าบ มัวแต่ดูหนังทางยูทูป อิอิ ปัญญา เรณู ภาคแรก น่าร้ากๆๆๆ เว้าอีสานกันทั้งเรื่อง 5555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 18-04-2012 09:25:02
 :z13:

อุ่นแอบหื่นนะเรา  :laugh:

เดี๋ยวง้ออุ่นด้วยนะ!!  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-04-2012 12:49:17
เดี๋ยวต้องไปช่วยอุ่นเลยนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 18-04-2012 12:56:40
เอิ๊ฟ! พึ่งมาอ่านค่ะ
ตอนแรกๆก็แปลกใจน้องเหมือนกัน
ว่าทำไมบ่นในใจอะไรยาวจัง? (แปลกใจว่าตรงข้ามกับที่พูดน่ะ)
แล้วก็เข้าใจ อ๋ออออออ สองบุคลิก!! ฮุฮิ อยากเห็นน้องระเบิดไวๆจัง 55555
นายเดี๋ยว.....ชื่อเพราะจังนะ (ผิดประเด็น?) มีแอบหื่นด้วยนิ
แอบโล่งใจที่ดู(เหมือน)น้องจะไม่ได้อะไรมากมายกับนายโจ้ที่กรุงเทพฯน่ะนะ
เผื่อใจไว้บ้างก็ดี เดี๋ยวพอจิตตก ได้โดนเดี๋ยวเสียบเอานะ 5555
รอตอนต่อไปจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-04-2012 12:57:14
นู๋อุ่นไม่คิดจริงเหรอ :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 18-04-2012 13:47:08
ถ้าเดี๋ยวไม่ออกมาเคลียร์เรื่องข่าวมีหวังแฟนคลับเดี๋ยวมารุมแกล้งอุ่นแน่ๆ
อุ่นอย่ายอมนะถ้ามีคนมาแกล้งอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-04-2012 14:16:34
เดี๋ยวเล่นอะไร เหมือนอยากจับจองเป็นเจ้าของน้องอุ่น
ในอนาคตถ้าเป็นแฟนกันแล้ว น้องอุ่นช่วยขจัดกลิ่นเน่า ๆ ของเดี๋ยวด้วย พระเอกอะไรซกมก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 18-04-2012 19:59:57
เจ้าเดี๋ยวเนี่ย...มันก็ฮอตเหมือนกันนะ...
มาทำนัวเนียนู๋อุ่น...ชิ..เค้าไม่ง่ายหรอกนะ..
เข้าค่ายด้วยกันรอบนี้...เจ้าเดี๋ยวหลงนู๋อุ่นแน่ ๆ ฟันธง!

รอต่อไปจ๊ะน้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 19-04-2012 09:41:27
สนุกมว๊าก.....เสียงในฟิล์มอ่านแล้วมันส์...สุดยอดครับ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 6 Version (อุ่น) 18 Apr 12 หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 19-04-2012 22:16:09
มามะ  มาต่อไวไว

แอบ เข้มข้นขึ้นแล้วนะเนี่ย

อร๊ายยยยยยยยยย  ชอบอ่า 

น่ารักดี
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-04-2012 08:24:04
You’re My BaBy!!!

สัดเอ้ย ทำไมต้องทำท่าโกรธกูขนาดนั้นด้วยวะเนี่ย แม่งสวนท้องให้สักทีดีไหม ทำหน้าเหมือนว่ากูไปทำอะไรมันมากมายงั้นล่ะ แต่เอ๊ะ จะว่าไปกูก็ทำมันเยอะเหมือนกันนะ แต่จะทำไมวะกูอยากจะแกล้งมันนี่หว่า ทำหน้าโกรธได้โกรธไปดิวะกูสนใจที่ไหน แต่ว่าวันนี้รู้ไหมที่ทำไมผมถึงแกล้งบอกมันว่าผมได้มันแล้ว ไม่ได้ได้มันจริงๆนะเว้ย กูไม่ได้อยากได้มันแบบนั้นและก็ไม่ได้อยากได้มันด้วยอะไรทั้งนั้นแค่อยากรู้ว่าตอนที่บอกมันว่าผมเอามันน่ะมันจะทำหน้ายังไง และมันก็ทำหน้าอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ ให้ตายเถอะมันเป็นคนที่น่าแกล้งมากๆ หน้าเอ๋อๆของมันนี่นะสุดแสนจะกวนตีน
   “กูว่าอยู่ เป็นหยังมึงจั่งไปมักวุ่นวายมันแท้ ไสมึงบอกมึงซังกะเทย เอ้ย แต่เพิ่นนั่นมันบ่อคือกะเทยเด้” บักเคนครับ มันถามผมตอนที่ไอ้เตี้ยนั่นมันวิ่งไปด่าผมตอนเช้าก่อนเข้าแถว
   “ฮ่วย คนเฮามันกะเปลี่ยนได้เด้บักเคน เป็นจั่งได๋วะบักเดี๋ยว เสียวเด็ดขาดบ่อ” สัดไม้ครับ แหมนะถ้ากูจะบอกว่ากูไมได้ทำอะไรกันกับมันนี่มันคงไม่เชื่อ
   “บ่อเสียว แต่กูอยากลอง จั่งซั่นล่ะบ่อดีดอก”
   “หยุดๆ หยุดเลยมึง หวงไว้สิกินผู้เดียวบ้อ กูว่ามันคือสิขาวจั๊วคั่กน้อ”
   “แม่นอยู่บักเคน กูว่าคือสิดากขาวขนาด”
   “เซาเว้าได้บ่อ กูขี้คร้านเว้า” ผมรำคาญครับไอ้คนนี้พูดไอ้คนนั้นก็อยากรู้ไม่จบไม่สิ้นเสียที
   “แล้วมึงสิเป็นกะเทยบ่อบักเดี๋ยว” “สัด เห่าหยัง กะเทยพ่อมึงตี๊ เป็นหยังกูเอาผู้ชายนำกันกูต้องเป็นกะเทยบ่อ มึงเฮ็ดได้คือกูบ่อล่ะ ผู้หญิงกะติดผู้ชายกะได้” ผมหันไปตวาดใส่ไอ้สัดเคนครับ มันหน้าซีดลงเพราะผมดูขึงขังมาก
   “เฮ้ยๆ เป็นหยังคือเคียดแท้ มันเว้าหยอกซื่อๆดอกบักห่ามึง” ช่างแม่ง ใครจะว่ายังไงก็ช่างเพราะอะไรเป็นอะไรผมรู้แก่ใจดี ผมแค่อยากจะแกล้งมัน แต่เอ๊ะ แบบนี้ใครวะที่จะซวยกูหรือมัน เว้ยๆ ไม่คิดๆ ค่อยแก้ปัญหาไปทีละอย่าง เรื่องยังไม่เกิดจะมาร้อนตัวก่อนทำไมวะ พอขึ้นรถตู้มาได้ไอ้เตี้ยมันก็มาทีหลังเพื่อนล่ะครับ ผมก็เพิ่งจะมาแต่ไปนั่งด้านหลังคนเดียวเลย พอไอ้เตี้ยมาผมก็เรียกให้มันมานั่งใกล้ๆครับ ตอนแรกมันจะไม่มานะแต่ผมก็ดึงแขนมันมาจนได้ แต่มันทำท่าแบบว่าเซ็งกูสุดๆ เดี๋ยวเถอะมึงทำหน้าหมาเบื่อใส่กูเหรอจะโดนไม่น้อย แต่มีรึคนอย่างไอ้เดี๋ยวจะยอมแพ้ง่ายๆ ผมแหย่มันต่อไปครับแต่มันมีประโยคนึงที่มันโพล่งออกมาเหมือนมันจะสุดทน ก็ที่บอกว่าบรรดาแฟนๆของผมไปราวีมันนั่นล่ะครับ เออว่ะ กูลืมไปเลยว่ากูน่ะมันคนดัง แล้วพวกที่คลั่งๆผมก็พอมีอยู่ ผมมองหน้ามันและใช้ความคิด อืมว่าไปแล้ว ผมก็ไม่ควรให้เรื่องมันเป็นไปในแนวทางนี้นะ ผมน่าจะแกล้งมันให้เยอะกว่านี้ ฮ่าๆ หนอยแน่แค่นี้มาทำเป็นหน้างอใส่กูนะมึง คิดว่ากูจะใจอ่อนง่ายๆเหรอ ไม่มีทางเว้ย ปากก็มีใช่ไม่ใช่ตัวมันก็รู้ คนที่ตายเพราะเรื่องไม่จริงก็คือคนอ่อนแอยอมแพ้ต่อเรื่องที่ใจเราเองรู้ดีว่ามันใช่ไม่ใช่ก็ตายๆไปเถอะวะ กูคิดแบบนี้ ใครมาด่าก็ด่ากลับไปสิวะจะมานั่งทำหน้าหงอยให้เขาด่าก็เรื่องของมัน แล้วจะให้กูไปบอกแฟนคลับกูเรื่องไร นั่นๆ คิดว่ากูไม่แมนล่ะสิ ถ้ากูใจอ่อนไม่แกล้งมันมันก็ไม่หนุกดิวะ
   “ไปลงทะเบียนก่อนค่ะนักเรียน” พอไปถึงที่โรงเรียนในมุกดาหารอาจารย์พรฤดีก็ให้เราลงจากรถล่ะครับ ไหนบอกจะพาไปแดกข้าวก่อนวะ ไรวะเนี่ยกูอุตส่าห์ไม่กินไรมา
   “จารย์ไสบอกสิพาไปกินเข่าก่อนนิ เป็นหยังจั่งตั๋ว” ผมโวยวายครับไม่ยอมลง ไอ้เตี้ยนี่ลงไปก่อนใคร หนอยแน่มึง
   “มาลงทะเบียนก่อนสิ แหมนะมึงเพื่อนๆเขาไม่เห็นแก่กินมีมึงอยู่คนเดียวนี่ล่ะ อย่าทำตัวเป็นหมาดำ”
   “ฮ่วย กองทัพเดินด้วยท้องเด้อจารย์ แล้วสิพาไปกินบ่อนี่”
   “พาไป รีบลงมาได้แล้วลงให้เสร็จไวจะได้พาไปกิน เดี๋ยวครูโทรหาเพื่อนก่อนว่าอยู่ไหนแล้ว” ค่อยยังชั่วหน่อยครับ ผมเดินตามหลังเพื่อนๆไปที่ที่เขาจัดไว้สำหรับลงทะเบียนนั่นล่ะครับ ผมเดินไปตามประกบหลังไอ้เตี้ยนั่นทันที
   “จะเบียดไมอ่ะ ที่ว่างเยอะแยะ” มันโวยวายครับ แหมทำท่าโกรธกูได้สักกี่น้ำวะอยากจะรู้ สีหน้ามันเป็นปกติแล้วครับ ผมเลยเริ่มแกล้งต่อ อิอิ
   “อ้าว ก็คิดถึงอ่ะ” “คิดถึงไร อย่ามาหมอลำแถวนี้นะ” ป๊าด ผมกัดฟันกรอดเลยครับ มันทำหน้าแบบว่าเหม็นขี้ประมาณนั้น
   “คิดถึงมึงนั่นล่ะ ทำไมมีปัญหาเหรอ” ผมเอาหน้าไปใกล้ๆมันครับแล้วยักคิ้วให้ทำเสียงเข้มๆ มันเหมือนจะอายนะ นี่ไงกูไม่เข้าใจมันเลยจริงๆนะเหมือนมันไม่ชอบแต่แม่งแก้มแดงทำไมวะ และท่าทางมันนี่นะน่าแกล้งสุดๆไปเลยล่ะพ่อแม่พี่น้อง แบบนี้จัดไปอย่าให้เสีย
   “เสร็จหรือยังคะนักเรียน เพื่อนครูรออยู่ที่ร้านอาหารแล้ว รีบไปแล้วมาเข้ากลุ่ม งานเริ่มห้าโมงเย็นเขาจะแบ่งกลุ่มแล้วแยกย้ายกันไปเข้าที่พัก” อาจารย์พรฤดีบรรยายยืดยาวครับ ผมก็รีบขึ้นรถไปหิวจะตายอยู่แล้ว ขอบรรยายว่าร้านอาหารริมโขงนี่แจ่มมากๆ อาหารก็พอกินได้อร่อยสู้แม่กูทำไม่ได้หรอกนะแต่ก็พอทน แต่บรรยากาศที่สุดๆ ตอนเย็นๆไม่ร้อนมาก น้ำโขงสีขุ่นๆปริ่มขึ้นมาริมตลิ่งเลยล่ะเพราะมันช่วงหน้าฝน ท่าทางจะไหลแรงอยู่นะนั่น
   “คนหลายเนาะ” รุ่นพี่พูดขึ้นครับหลังจากที่กินข้าวเสร็จเราก็กลับมาที่โรงเรียนที่เป็นเจ้าภาพล่ะครับ โรงเรียนนี้ใส่กางเกงสีน้ำเงินรองเท้าหนัง อ๊ะๆ อย่าคิดว่าที่บ้านนอกแบบนี้จะไม่มีโรงเรียนแบบนี้นะ มีเว้ยเป็นโรงเรียนของเจ้าฟ้ามาสร้างให้ เด็กนักเรียนจึงทำท่าเหมือนตัวเองเป็นคนมีเชื้อเจ้า เห็นแล้วกูล่ะจะอ๊วกแม่งหน้าตาไม่ได้ขี้ตีนกูเลยนะแต่กระแดะพูดภาษากลางแบบกกลิ้นแข็งๆ ฮ่าๆ
   “เขาสิแบ่งกลุ่มจั่งได๋เกาะจารย์” พี่อีกคนถาม
   “ก็กลุ่มทำกิจกรรมรู้สึกจะจับฉลากเอานะ โรงเรียนละคนในแต่ละกลุ่มแต่ที่พักนี่แยกพักเป็นชายหญิง” ว้าว แยกกันพัก หึหึ แสดงว่ามันจะได้นอนกับกูแน่นอน จัดหนักไปเลยมึงไอ้เตี้ย พอถึงเวลาก็พากันไปนั่งในหอประชุมครับ นักเรียนเยอะมาก เสียงคุยกันถามชื่อกันจอแจเหมือนนกแตกรัง ไม่อยากจะนินทานะไอ้มาอบรมวิชาการแบบนี้ที่กูเบื่อก็ไอ้พวกเด็กที่คิดว่าตัวเองเรียนเก่งน่ะมันจะทำท่าว่า กูเว้ยๆที่สุดในแผ่นดิน แข่งทักษะเลขก็คุยกันเรื่องสูตรเรื่องข้อสอบ แข่งวิทย์ก็คุยกันเรื่องสูตรนั่นนี่ แล้วไอ้เข้าค่ายภาษานี่คิดว่าจะเหลือรึ กูบอกตามตรงกูไม่ชอบว่ะ ไม่รู้จะคุยกันหาแป๊ะไรในเมื่อไม่เคยรู้จักกันแทนที่จะถามสารทุกข์สุกดิบกันนะ แม่งเสือกมาคุยเรื่องวิชานั้นวิชานี้ กูเลยนั่งนิ่งๆ ผมมองไปทางไอ้เตี้ยเหมือนมันเองก็คงไม่ชอบครับ เออว่ะ มีอย่างนึงล่ะที่กูกับมันเหมือนกันคือไม่ชอบ
   “มึงๆ เบื่อไหม” ผมสะกิดถามมันครับ
   “เบื่อ” มันตอบเบาๆครับ สัด
   “ไปหาน้ำกินป่ะ”
   “ไม่อ่ะ เดี๋ยวเขาก็จะแบ่งกลุ่ม” “สัด ป๊อดนะมึงไม่รำคาญเหรอวะคุยกันเชี่ยไรไม่รู้หนวกหู” ทีนี้ผมพูดเสียงดังครับ ได้ผลแถบนั้นหันมามองผมเป็นตาเดียว มองดิกูหล่อมองเลย ไอ้เตี้ยมันไม่ได้สนใจผมเลยครับหนอยแน่ไอ้ห่านนี่เดี๋ยวเถอะมึง พอสักพักก็มีคนมาเปิดงานรู้สึกจะตำแหน่งใหญ่สุดของเขตการศึกษานี้ประมาณนั้นครับ พอเปิดงานเสร็จไอ้หัวล้านมันแว้บนี่มันพูดไปประมาณสิบห้านาที แล้วก็มีวิยากรสาวแก่ดำๆคนหนึ่ง เปิดฉากด้วยการพูดภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งๆแกก็แนะนำฝรั่งหัวทองสามคนล่ะครับ ผู้ชายตัวโย่งๆคนหนึ่งท่าทางเหมือนคนเผยแผ่ศาสนาเลยนะเพราะฝรั่งหน้าตาแบบนี้เคยเห็นมันมาปั่นจักรยานแถวๆบ้านผมอยู่ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงอ้วนระยะสุดท้าย อ้วนมากมึงจะอ้วนไปไหนเนี่ย เคยคิดไหมว่ามันจะใส่กางเกงในไซส์ไหนวะ แว้กก
   “กูได้อยู่กลุ่มเอฟ” พอจับฉลากเสร็จผมก็เรียกร้องความสนใจหันไปบอกมันทันทีครับ แต่ว่ามันไม่ได้หันมามองผมเลยนะ
   “สัดกูคุยกะมึงนะ” ผมจับแขนมันครับ
   “ไรอ่ะ เราอยู่กลุ่มเอ็ม” มันหันมาทำหน้าอารมณ์เสียใส่ผมแล้วหันไปคุยกับรุ่นพี่ต่อ หนอยแน่ เดี๋ยวเถอะขึ้นหอนอนก่อนกูจะจัดหนัก และแล้วเวลาที่กูรอคอยก็มาถึง เขาแบ่งให้โรงเรียนของผมนอนกับโรงเรียนขอนแก่นอะไรสักอย่างนี่ล่ะไม่ได้จำแล้วก็อุดรเพราะห้องก็ห้องเรียนนั่นล่ะท่านเอาโต๊ะไว้หลังห้องแล้วปูเสื่อมีหมอนให้ผ้าห่มไม่มีแต่อาจารย์พรแกไปยืมมาจากวัดให้ เหอๆ ขอเล่าก่อนๆ คือโรงเรียนผมมีผม ไอ้เตี้ยแล้วก็ไอ้พงษ์พี่ ม.๖ ที่ใส่แว่นขยายมาเรียนมันเรียนเก่งมาก สรุปก็สามคน ส่วนของขอนแก่นมีห้าคน ขนมาทำไมเยอะแยะวะเนี่ย ส่วนอุดรมีสี่คน สรุปโรงเรียนกูน้อยสุด แต่รู้ไหมขอเล่าอีกๆ ขอนแก่นเป็นผู้ชายซะสี่อีกคนเป็นกะเทยแบบที่กูไม่ชอบ แบบไอ้ชาตินั่นล่ะพวกแรดมากๆ ทาปากแดงๆหน้าขาวๆ ส่วนของอุดรมีออกตุ้งติ้งสามคน ฮ่าๆ เออนะ ทำไมไอ้เตี้ยมันไม่ออกเหมือนเขาวะ อ้อ มันเป็นเกย์หน้ามึนนั่นเอง กูสรุปให้เลยในห้องมีกระเทยสี่คนมีเกย์หนึ่ง มีผู้ชายท่าทางคงแก่เรียนห้าคน มีกูกับไอ้คนที่มาจากขอนแก่นที่ท่าทางมันจะไม่น้อยไม่เหมือนเด็กเรียน เพราะพอเข้าห้องมามันควักบุหรี่ออกมาแล้วเดินไปที่ระเบียงทันที มีรึกูจะอยู่รอ
   “เฮ้ย สูบนำแน่ะ” ผมทักทายครับ
   “อ้าว มึงด้วยเหรอ” “ฮ่วย อย่าสิเว้าไทยหลายบ่อปวดปากบ่อ” ผมว่ามันครับหน้าตามันก็พอได้ล่ะแต่ขี้เหร่กว่าผมเท่านั้นเอง
   “ฮ่าๆ เออๆ แม่งให้กูมาหยังบู๊ บ่ออยากมาจั่กเม็ดเด้” สัดเอ้ย พอพูดขึ้นกูล่ะอยากจะหัวเราะ คือภาษาอีสานหรือที่พวกคุณๆว่ากันว่าพูดลาวนั่นน่ะเขามีหลายท้องถิ่นนะครับ อย่างของผมน่ะจะออกเหน่อๆน้อยๆเหมือนคนอุบลฯก็มันแตกจังหวัดออกมาจากอุบลฯนี่หว่า บางถิ่นก็จะพูดภูไทไปเลยคือกูไม่มีปัญญาจะฟัง อย่างคำว่าจะไปไหน บ้านกูจะพูดว่า สิไปไส แต่ทางภูไทเขาจะพูดว่า ไปผิเหรอ หรือเปล่าไม่แน่ใจแต่น่าจะประมาณนี้ ส่วนไอ้นี่มันพูดเหน่ออย่างแรง เหมือนคนคางยานลากคำ ฮ่าๆฟังแล้วขนลุก
   “กูกะบ่ออยากมา มีคดีจั่งได้มา มึงซื่อหยัง” ผมถามมันครับ ไอ้ควายนี่จะให้บุหรี่ก็ไม่ให้ชักไปชักมาผมแย่งเอาจากมือมันเลยครับ อ่าค่อยรู้สึกอยากคุยด้วยหน่อย
   “แบงค์ มึงเด้” มันถามคืน “เดี๋ยว” “เดี๋ยวหยัง กูถามซื่อมึงเดี๋ยวหยัง” “สัด กูซื่อเดี๋ยว” มันหัวเราะครับ เชี่ยนี่มันตลกตรงไหนวะเดี๋ยวเตะยอดอกสักทีดีไหมจะได้ขำไม่ออก
   “มึงว่าบ่อมีแต่กะเทย แม่งกูล่ะบ่ออยากมาคั่นว่าบ่อมีคนงามนี่กูบ่อมาคั่กๆเด้” มันบ่นครับ
   “มาจากโรงเรียนมึงนั่นแห่งเป็นตาย้าน หวึ๋ยทาหน้าพร้อมตาขี้เดียดแฮง” ผมเสริมครับ
   “อีห่าก้อง ระวังเด้อมันสิมาจกมึง” “ส้นตีนติ๊ มาจกเอาตีนกูนี่” “ฮ่าๆ กูกะว่าจั่งซั่นล่ะ มาจกกะเต๋เอาโลด เพิ่นขาวๆจากโรงเรียนมึงนั่นคือบ่อแม่นคนทางเฮาแม่นบ่อ” มันบุ้ยปากไปทางไอ้เตี้ยครับที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนใหม่ที่เป็นกะเทยเหมือนจะชอบที่มันหล่อมารุมล้อมอยู่
   “แม่น มันมาจากกรุงเทพฯ คองตาย้ายมา” “กูว่ายู้ หน้าตาดีเนาะคนอำนาจคือสิบ่อหน้าตาดีปานนี้ดอก” “ป๊าด แล้วคนขอนแก่นนั่นหน้าตาดีบ่อ มึงเบิ่งกูแน่ะหล่อกว่ามึงเด้ล่ะกูว่า” ผมไม่ยอมครับ
   “เออๆ บักรูปหล่อ แต่เพิ่นนั่นคือสิบ่อค่อยปากเนาะ ท่าทางเป็นผู้ดีหลาย”
   “ฮ่วย คือเว้าแต่ฮอดมันแถะ คิดหยังอยู่บ่อนี่มึง” ผมรำคาญครับสายตามันจ้องมองไอ้เตี้ยนั่นอยู่ตลอดเวลานะปากคุยกับกูแต่ตามองไอ้นั่นแปลว่าไรวะ
   “บ่อแม่นๆ กะเพิ่นเด่นกว่าหมู่ในนี้เด้เลยแปลกตา อยากแดกเบียร์บ่อ” มันชวนครับ
   “อยาก” ตอบแบบไม่คิด เปรี้ยวปากอยู่พอดี
   “ซั่นเข้ากลุ่มแล้วเฮาไปหากินบ่อ” ผมตกลงทันทีครับ
   “หน้าเนี้ยนเนียนอ่ะ หล่อจัง ผิวดีมากๆ” กะเทยจากอุดรมันรุมไอ้เตี้ยอยู่ครับ
   “ชมพูไปหมดเลยอ่ะเธอ แล้วข้างนะชมพูไหมเนี่ย” “นั่นสิ ผิวดีมากอยากดูมั่กเลยอ่ะข้างในจะชมพูป่าว” เสียงดัดจริตผิดวิสัยมนุษย์ดังอยู่รอบตัวมัน ไอ้เตี้ยนี่ก็นั่งให้เขาจับอยู่ได้มันเหมือนจะไม่อยากคุยด้วยล่ะครับ เอ๊ะ แกล้งมันหน่อยดีกว่า เพราะผมเหลือบเห็นสายตาไอ้ห่านแบงค์มองมันอยู่ตลอดเวลา นี่ตกลงเด็กผู้ชายแท้ๆนี่มันจะมีเหลืออยู่ในประเทศนี้ไหมเนี่ย เว้ย
   “เฮ้ย พวกสูน่ะ ซุมเดียวกันเด้นั่น” ผมร้องเข้าไปบอกพวกนั้นล่ะครับ ไอ้เตี้ยมันหันมามองผมหน้ามันนี่งงไม่เข้าใจนะแต่อีพวกกะเทยทั้งหลายวงแตกฮือทันที
   “ว้ายเพื่อนสาวหรอกเหรอ ถึงว่าหน้าตาดีเชียว ไปทำร้านไหนมายะ” “เออนั่นสิเธอ ใช้ครีมอะไรเหรอแนะนำหน่อยสิ” “นี่ๆ หน้าตาอย่างเธอเนี่ยกินผู้ชายเปรมเลยสิท่า” ฮ่าๆ ไอ้เตี้ยมันหันมามองผมแบบค้อนสายตาเหมือนจะกินกูว่างั้น
   “เอ้า เพิ่นนั่นกะเป็นบ่อ” นั่นไงครับกูคิดแล้วไม่ผิดตาวาวขึ้นมาทีเดียวเชียวนะมึงไอ้ห่านนี่
   “ลองไปสีเบิ่งติ๊ ห่าเพิ่นเล่นนำมึง” ผมยุครับ อยากจะดูว่าไอ้เตี้ยนั่นมันจะทำยังไง ฮ่าๆ พอคุยกันสักพักก็แยกกันไปอาบน้ำล่ะครับ ห้องน้ำคนก็ต่อคิวกันยาวเหยียด ผมยังไม่เห็นไอ้เตี้ยนั่นเลยนะมันไปไหนของมันวะว่าจะแกล้งตอนอาบน้ำซะหน่อย หนอยแน่หลบดีนักนะมึง แล้วอีพวกกะเทยนี่เสียงดังเจี้ยวจ้าวลั่นไปหมดกระแดะจริงๆอยากจะเตะแม่งรายตัวเลยนะ
   “อ้าวบักพงษ์มึงอาบน้ำแล้วติ๊” พอผมขึ้นมาบนห้องก็เห็นไอ้พี่พงษ์กำลังนั่งทาแป้งเด็กอยู่ครับ อ๊ะๆ เหลือบไปเห็นไอ้เตี้ยมันกำลังเปลี่ยนเสื้อพอดี
   “อาบแล้ว เร็วเด้อมึงเดี๋ยวเพิ่นสิให้รวมกลุ่ม” เออน่ากูรู้แล้วผมเดินไปนั่งลงข้างๆไอ้เตี้ยล่ะครับ หนอยแน่พอกูนั่งหันหลังให้ทันที
   “ทาแป้งให้กูหน่อยดิ” ผมบอกมันครับอุปกรณ์ก็ของมันของผมไมได้เอาอะไรมา
   “มือไม่มีเหรอ” นั่นไงครับ “ปึ๊ก” “อ๊ะ มาทุบหลังเราไมอ่ะ” “ปากหมานะมึง อยากตายเหรอ บอกให้ทาก็ทาดิ” ผมกระชากตัวมันให้หันหน้ามาหาผมครับ
   “บ้าอำนาจ” “หือ ว่าไงนะ อยากโดนมากใช่ไหมมึงน่ะ” “ทาตรงไหนอ่ะ” สายตามันนี่ด่าไปถึงต้นตระกูลผมแล้วครับแต่มันก็ยอมทำ
   “แป้งเชี่ยไรเนี่ย แป้งเด็ก มึงไม่มีแป้งเย็นเหรอ”
   “ไม่มีอ่ะ งั้นก็ไม่ต้องทา” “ทา ทาหลังให้กู” เรื่องอะไรล่ะแป้งเด็กก็เอาวะ
   “ว้าย สวีตกันเนาะ อย่าบอกเด้อว่ากินกันเอง” เสียงอีกะเทยในห้องที่กำลังทาปากร้องดังขึ้นครับ
   “เอากันหลายรอบแล้วล่ะ เป็นหยังอิจฉาบ่อ” ผมร้องโต้ตอบกลับไปครับ
   “อ่า ไม่อยากกินเราบ้างเหรอ” “อ๊วก หน้าคือปลาหลดนี่ไผสิแดกลง อย่าสิเว้าหลายกูสิฮาก” เสียงกรี๊ดดังขึ้นทันที สมชอบมาสอดรู้สอดเห็นดีนัก
   “บู้ย ทาแป้งให้กันพร้อม คั่กเนาะมึง” ไอ้แบงค์ครับมันเดินเข้ามาโชว์หน้าอกเต็มที่ใส่แต่ผ้าเช็ดตัวผมเลยแกล้งทำให้มันอิจฉาโดยหันหน้ามาหาไอ้เตี้ยที่กำลังทาแป้งที่หลังให้ผมอยู่ มันทาหรือมันถูวะเนี่ยแรงเป็นบ้าไอ้ห่านนี่ พอหันหน้ามามันก็เหมือนกำลังออกแรงมันหัวคะมำเข้ามาหาผมล่ะครับ จมูกผมชนกับจมูกมัน เอ่อ สัดทำไมรู้สึกแปลกๆวะ
   “วี๊ดวิ้ว โอ้ย อย่ามาเฮ็ดหยังกันอยู่นี่เด้อ หลูโตนกูแน่” บักแบงค์ครับมันร้องขึ้นเสียงอีพวกกะเทยก็ดังขึ้นไม่ยอมแพ้ ไอ้เตี้ยมันรีบกระเด้งตัวออกแล้วลุกออกจากห้องไปเลย ส่วนกูก็นั่งยิ้มกริ่มมีความสุขอยู่ตรงนั้นล่ะ ฮ่าๆ มันอายแก้มแดงวิ่งหนีไปแล้วครับ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มารวมกันที่หอประชุม คราวนี้มันให้แยกนั่งตามกลุ่ม กลุ่มเอฟของกูนี่มีสมาชิก ๑๕ คน มาจากทั่วทุกทิศของภาคอีสานเลยก็ว่าได้ ผู้หญิงเสีย ๓ คน นอกนั้นชายแท้น่าจะ ๕ ที่เหลือก็พวกนุ่มนิ่มออกกะเทยเลยไม่มี แต่ผมเหลือบมองไปเห็นกลุ่มของไอ้เตี้ยนั่น ฮ่าๆ มีแต่หญิงว่ะมีผู้ชายอยู่ สี่คนเองนะแต่ว่าไปนะมันเด่นกว่าใครเพื่อนเถอะ แต่เอ๊ะทำไมกูสนใจมันจังเลยวะ แค่มองเว้ยไมได้สนใจอะไรมากซะหน่อย คิดมากน่า
   “สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนที่มาเข้าค่ายภาษาอังกฤษครั้งนี้นะคะ ตอนนี้แบ่งกลุ่มเรียบร้อยแล้วนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คืนนี้เรามาเข้าฐานกันเลยก็แล้วกัน โดยจะจับให้กลุ่มละสามตัวอักษรอยู่ในฐานเดียวกันนะคะ กิจกรรมแรกก็ไม่มีอะไรมากอยากให้ทุกคนแนะนำตัวเอง ป้ายชื่อที่คล้องที่คออย่าเอาออกนะคะ” วิทยากรพูดยืดยาวจนกูหาวนอน
   “อ้าว เอฟ เอ็ม โอ ทางนี้ค่ะ” เขาแบ่งกลุ่มให้แล้วครับ ว้าวได้อยู่กับไอ้เตี้ยจนได้กูเหมือนจับวางเลยนะ
   “ขอให้ทุกคนยืนขึ้นแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษนะคะ เดี๋ยวครูจะทำเป็นตัวอย่าง Hi everyone my name is Kat, I come from Ubonrachthani and today we have Mr. Martin Petersen who will come to be our host, please give him a big applause” ฮ่าๆ ป้าคนนี้ดูเวอร์จริงๆเอ็กซ์เซ็นท์นี่เหลือกินเลยนะไอ้ฝรั่งตัวโย่งนั่นก็เป็นวิทยากรอีกคนล่ะครับ คราวนี้ก็แนะนำตัวกันทีละคน โว้ สำเนียงของเด็กแต่ละคนไม่ยอมแพ้กันเลยนะ มาถึงกูนี่กูจะใส่สำเนียงลาวให้ฟัง ฮ่าๆๆ “Hello you I AM DIO” มาถึงตากูก็นะลุกขึ้นเปล่งเสียงออกไปยักคิ้วให้สาวๆนิดหน่อย นั่นไงๆได้ผลสาวๆหันมามองกูแบบว่า เยส เสป็กเลยอะไรแบบเน้ ฮ่าๆ
   “Hi my name is Aun, I come from Umnajcharoen” หือ ทุกคนนิ่งเงียบกันหมดครับ ไอ้เตี้ยมันพูดเหมือนคนอื่นนะไม่ได้ดัดจริตแต่ว่าสำเนียงมันแบบว่าเสียงขึ้นจมูกเหมือนเคยดูในหนัง
   “เก่งจังค่ะนักเรียน สำเนียงดีมากไปเรียนมาจากไหนคะ” วิทยากรปรี่เข้ามาหามันที่ทำหน้าแบบว่าเฉยมากๆ กูว่าคนสนใจกูเยอะแล้วนะแต่ไอ้นี่คนมองมันแบบว่าทึ่งประมาณนั้น
   “ปวดปากไหมจ๊ะ แหมพูดธรรมดาก็ได้ไม่ได้ใส่สำเนียงอังกฤษแท้ขนาดนั้นหรอกนะ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่ามาจากอำนาจ นึกว่ามาจากลอนด้อนซะอีก” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มล่ะครับ หน้าตานี่ก็พอดูได้นะแต่ตอนที่เธอแนะนำตัวออกสำเสียงเต็มที่เพี่อนๆปรบมือให้เพียบ แต่พอไอ้เตี้ยเพื่อนๆเงียบพอมันนั่งลงเขาถึงปรบมือกัน คือจะว่ายังไงดีสำเนียงมันไม่ได้กระแดะเหมือนยัยคนที่แซวมันหรอกนะครับ แต่มันไม่รู้สิมันน่าฟังกว่า
   “เราพูดธรรมดาแล้วนะ ไม่ได้กระแดะถ้านี่กระแดะที่โรงเรียนเก่าเราก็คงกระแดะกันทั้งโรงเรียนแล้วล่ะครับ” โว้ เอาล่ะเฮ้ย ไอ้เตี้ยมันไม่ยอมครับท่านสายตาสีหน้ามันแบบว่า มายุ่งอะไรกะกูมากมายวะ ฮ่าๆ อีนั่นหน้าหงายไปเลย

ยังบ่อจบเด้อคร้าบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-04-2012 08:24:58
   “อ้าว เธอย้ายมาจากไหนเหรอ” ผมน่ะรู้ครับแต่อีพวกนี้คงไม่มีใครรู้ พอมันบอกชื่อโรงเรียนออกมาพวกนี้ก็อ้าปากอึ้งไปตามๆกัน
   “ถึงว่าสำเนียงเป๊ะมากๆ” เอาเป็นว่าต่อไปก็เป็นการเล่นเกมเชี่ยไรไม่รู้ครับ น่าเบื่อมาก เสียงเด็กผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดกันสนุกสนาน กว่าจะเสร็จให้แยกกันก้เกือบสี่ทุ่ม แม่งเอ้ย พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมาแต่เช้าอีก เวรแท้ๆ
   “เฮ้ยๆ บักเดี๋ยวๆ ป่ะไปกินเบียรืกัน นี่กูซวนหมู่ได้อีกสองคน” เสียงนี้ที่รอคอยมาซะที กูรอจนเหนื่อยเปรี้ยวปากอยากแดกเบียร์จะแย่ บักแบงค์ล่ะครับมันชวนเพื่อนมาได้อีกสองคน สอบถามแล้วได้ความว่าไอ้พวกนี้เป็นเด็กเรียนแต่คงจะแอบซ่าส์ประมาณนั้น คนหนึ่งชื่อต๋องมาจากเลย อีกคนชื่อคิมมาจากอุบล ท่าทางมันนี่ไม่น่าจะเป็นเด็กเลวเลยนะ
   “ป่ะกูอยากกินอยู่พอดี แล้วสูสิพากันไปกินไส” ผมถามล่ะครับระหว่างที่เราสี่คนยืนตกลงกันอยู่หน้าห้องน้ำ
   “ตอนนั่งรถมากูเห็นร้านค้าอยู่ ป่ะปีนออกไปทางนี้กูเบิ่งต้นทางมาแล้ว” บักคิมมันบอกครับ ว่าแล้วก็เดินตามกันออกไปข้างโรงเรียนปีนตามกันออกไป
   “ยังบ่อปิดร้านๆ” บักต๋องวิ่งไปที่ร้านก่อนใคร สรุปดวลเบียร์กันคนละสามขวดหารกันจ่าย อ่า มีความสุขที่สุดเลยเว้ย
   “เมาเว้ย เมาแล้วอยากเอาน้ำออกว่ะ” สัดต๋องครับทำตาหวานฉ่ำ
   “อยากคือกัน มีสาวได๋น่าสนแน่วะ” บักคิมเสริมครับ กูก็คึกตามไอ้เชี่ยแบงค์ก็ตาหวานฉ่ำ
   “สาวๆยุ่งได้บ่อเดี๋ยวกะซวยดอกกูว่า” บักแบงค์มันเสนอครับ จริงของมันถ้าหากไปวุ่นวายนี่อาจจะซวยในแบบข้ามคืน
   “แล้วห้องมึงนอนบ่อมีกะเทยบ่อ เอากะเทยแก้ขัด” สัดต๋องครับคิดขึ้นมาได้นะมึง
   “มีๆ เป็นตาฮักนำ ขาวขนาด” “อีหลีบ่อ ซั่นไปจัดการมันเลย” อ้าวๆ มันหมายถึงใครวะอีพวกกะเทยในห้องมีแต่ถึกๆบึกบึนทั้งนั้น เฮ้ย
   “บักแบงค์มึงหมายถึงไผ” ผมถามมันเสียงดุครับ
   “แหะๆกะเพิ่นนั่นเด้ที่ทาแป้งให้มึงน่ะ” “ป๊าด ทาแป้งให้กันนำบ่อ เป็นจั่งได๋ แสดงว่ามึงลองแล้วติ๊ ดีบ่อๆ” นั่นกูว่าแล้วไอ้เชี่ยต๋องกับไอ้คิมทำตาวาวๆเลยนะครับ
   “ดีๆ เสียวคั่กๆ” ได้ทีครับเสริม ตายแน่มึงไอ้เตี้ยเจอเข้าไปสี่ดอกนี่มึงตูดระบมแน่ๆ ฮ่าๆ เลวไปไหมเนี่ยกู ไม่สนเว้ยเผลอๆมันอาจจะชอบก็ได้นะเว้ยเฮ้ย เขาบอกว่าหาคู่ให้คนอื่นนี้กุศลแรงเผื่อกูได้กุศลไง
   “ไปๆ ซั่นกูก่อนหมู่เด้อ” บักแบงค์ครับ
   “บ่อได้ๆ กูต้องก่อนหมู่ ซั่นพวกมึงอย่าหวัง” ผมขวางไว้ครับ บักแบงค์มันจิ๊ปากไม่พอใจแต่ผมไม่สนใจ ไม่ได้ดิกูก็ยังไม่ได้มันนี่หว่า สรุปพวกเราปีนกันเข้าไปในโรงเรียนเหมือนเดิมครับ ต้องหาวิธีแอบเข้าห้องเพราะเหมือนว่าอาจารย์ที่คุมห้องนอนยังยืนเฝ้าอยู่เลย
   “ปีนๆ มีหน้าต่างปีนได้” บักคิมเป็นคนเสนอครับ หือกูพักอยู่ชั้นสี่เนี่ยนะ สัดให้กูปีนยิ่งมึนๆอยู่ไมได้ตกลงมาตายกันพอดี ก็เป็นว่าได้ปีนล่ะท่าน หายเมาเลยกูหวาดเสียว
   “ว้าย โจรค่าโจร” “สัด เงียบๆได้บ่อ ฮ้องสิตายบ่อ ฮ่วย” บักแบงค์มันร้องด่าอีกะเทยอุดรล่ะครับ มันลุกขึ้นมาทำไมไม่รู้เพื่อนคนอื่นๆเท่าที่กวาดสายตามองนอนบ้างไม่อยู่บ้าง โดยเฉพาะพวกกะเทยเหลืออีนี่คนเดียว ส่วนพวกผู้ชายเอ๋อๆก็นอนกันแล้วครับ
   “อ้าว นายเองบ่อ ตกใจเหมิดเนาะ เป็นหยังปีนเข้ามา อ๊ะ กลิ่นเหล้า” มันทำท่าดัดจริตเข้ามาดมบักแบงค์ล่ะครับ ถีบอีนี่สักทีดีไหมเนี่ย ผมมองไปที่ไอ้เตี้ยครับมันนอนแล้ว ห่มผ้าด้วยเว้ยเฮ้ย
   “อย่าปากมาก ซั่นเจ็บโตเด้” สองตัวที่มาด้วยช่วยกันขู่ครับ
   “มึงเอาอีนี่ไปแก้ขัดก่อนติ๊บักต๋อง” บักแบงค์มันเสนอให้บักต๋องครับ ไอ้ห่านนี่ก็เมาตาปรือ
   “บ่อเอา ไสล่ะที่มึงว่าขาวๆน่ะ” “นั่นๆ เพิ่นนอนแล้วว่ะ” “นอนแล้วกะปลุกติ๊” บักคิมเสนอแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหาครับ ผมยืนมองอยู่ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปนะ
   “ป๊าด เพิ่นคือหล่อแท้ล่ะ กูบ่อกล้าว่ะ” อ้าวสัดนี่ป๊อด
   “เชี่ย มากูเอง” บักต๋องครับ “เดี๋ยวๆ กูเองๆ สูนั่งเบิ่ง” บักแบงค์มันดันตัวบักต๋องออกครับ ตามันที่วาวเชียวนะ
   “มึงสิมาเฮ็ดอยู่นี่ติ๊ บ่อย้านเพิ่นฮ้องบ่อ” อืมนะใช่ของบักคิม บักแบงค์มันเลยมองมาทางผม
   “เดี๋ยวกูปิดปากเพิ่นไว้เอง มึงมาจับขาเพิ่นไว้แน่ะ เถื่อเพิ่นเตะสิพากันซวย” นี่ตกลงมาแกล้งมันเล่นๆหรือว่าจะมาข่มขืนมันวะเนี่ย เฮ้ย ไมได้นะเว้ย อ๊ะ ทำไมไม่ได้วะกูก็อยากจะแกล้งมันจะตายอยู่แล้วนี่หว่าให้พวกนี้แกล้งแทนก็ดีจะตาย แต่ว่าถ้าหากว่าไอ้พวกนี้ข่มขืนมันจริงๆจะดีเหรอ? นั่นสิ กูคิดอะไรอยู่วะเนี่ย
   “เฮ้ยๆ เซาๆ ม่วนกันพอแล้ว” ผมเดินเข้าไปยืนขวางครับก่อนที่พวกมันจะยื่นมือไปแตะขาไอ้เตี้ยที่นอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ จะมีผัวสี่คนพร้อมกันนี่มันยังไม่รู้ตัวอีกนะ
   “อีหยังอีก เว้ยเนาะ” บักแบงค์ครับ
   “ฮ่วย กูบอกให้เซากะเซาเป็นหยัง” “บ่อเซา เป็นหยังจั่งเซา กูเบิ่งเพิ่นนี่ตั้งแต่เข้าห้องมาแล้ว ขาวเป็นตาฮักกว่าหมู่” มันอธิบายครับสายตาดูจริงจัง
   “ย้อนมันขาวเป็นตาฮักนี่ล่ะจั่งให้เซา หรือมึงสิกินตีนกู” มันลุกขึ้นทันทีครับ ทำท่าไม่พอใจ หนอยไอ้เชี่ยนี่คิดว่ากูจะถอยไง พอมันลุกขึ้นได้ผมก็กระชากคอเสื้อมันทันทีครับ
   “นี่เมียกู” ผมกัดฟันพูดครับ มันอ้าปากค้างตาใหญ่ขึ้นทันที
   “หา มะเมียมึง อีหลีบ่อ เป็นหยังมึงจั่งให้พวกกูมากวนเพิ่น” มันถามตะกุกตะกัก
   “กูสิหยอกมันเล่นซื่อๆนี่ มันเคียดให้กู มึงบ่อเห็นบ่อมันบ่อเบิ่งฮอดหน้ากู สูลองแตะมันเบิ่งตี้บ่อเซื่อกู”
   “อ๊ะ ผะ ผี” ไอ้เตี้ยนี่เสือกตื่นครับมันดิ้นไปมาเตะเข้าที่สีข้างบักต๋องที่นั่งอยู่ข้างๆ
   “นี่พวกเจ้ามาเฮ็ดอะไรกันอ่ะ เฮาเบิ่งอยู่โดนแล้วเด้” อีกะเทยนั่นเดินเข้ามาถามครับเพราะมันคงเห็นกระชากคอไอ้เชี่ยแบงค์ ผมเลยผลักไอ้แบงค์ให้เซไปทางอีกะเทยนั่นครับ
   “ไม่มีไร ทำไมมึงนอนไม่หลับไง” ผมยักคิ้วให้มันครับ แม่งดูท่าทางมันตอนตื่นขำมากๆเหมือนตอนนั้นเลยที่มันตื่นมาเตะผม
   “อ่า นายมาทำไรตรงนี้ มายืนดูไรอ่ะ” มันลุกนั่งทันทีครับมองไปรอบๆตัว ทีนี้ล่ะ
   “ป๊าด เป็นตาฮักอีหลีตั่วนี่” บักคิมครับ “แม่นๆ แก้มแดงอ่องต่อง เจ้าซื่อหยัง ข้อยซื่อต๋องมาจากเลย” สีใหญ่เลยนะมึง ผมเอาตีนเขี่ยไอ้สองตัวนี่ออกครับปล่อยมือจากไอ้แบงค์
   “เซาๆ พู้น ไปหาสาวนั่นเพิ่นว่างอยู่ นี่ของกู” ผมยืนขวางเลยครับทีนี้
   “ฮ่วย คั่นเป็นเจ้าของเป็นหยังให้ผู้อื่นมาเฮ็ดแนวนี้ มึงนี่ บ่อแม่นดอก คั่นแม่นแฟนกูจ้างให้กูกะบ่อทิ่ม” โว้ สัดคิมแหงนหน้ามาด่ากูฉอดๆ สอยปลายคางมันสักทีดีไหมเนี่ย
   “มึงไปถามบักแบงค์เบิ่ง ว่าย้อนหยัง ไปได้แล้วกูสินอนกอดเมีย” ผมนั่งลงทันทีครับ สองตัวนี่ก็คลานออกไปหาไอ้แบงค์ที่ยืนตาเขียวอยู่
   “ไรอ่ะ นายมานั่งตรงนี้ทำไม” อ้าวนะกูอุตส่าห์ช่วยไม่ให้ตกเป็นเมียของไอ้พวกนี้ กวนตีนกูอีกล่ะ
   “ทำไม กูจะนอนตรงนี้ มีปัญหาไง” ผมยักคิ้วให้มัน
   “อ๊ะ นี่นายดื่มเหล้ามาเหรอ” มันทำท่าปิดจมูก แหมนะมึงกระแดะได้อีก
   “ฮ่า เออ ทำไม ฮ่าๆ” ผมฮ่าใส่หน้ามันแล้วกดคอมันไว้ครับ มันพยายามจะดิ้นหนีแต่ไม่พ้น ผมเลยหัวเราะออกมาเป็นไงล่ะกระแดะดีนัก
   “แล้วเมื่อกี้ อะไรเมียๆ ใครเมีย” แน่ะยังเสือกได้ยินอีก
   “ทำไมจ๊ะเมียจ๋า ผัวเมาอ่ะ ขอนอนกอดหน่อยดิ นะนะ” ผมมีหรือจะรอให้มันพูดผมกอดมันล้มตัวลงนอนทันทีเอาขาพาดเอวมันทันทีครับ มันก็ดิ้นล่ะนะตามประสา แต่คนอย่างไอ้เดี๋ยวตัวใหญ่อย่างยักษ์กะมันตัวเท่าลูกหมา เอาดิมึงดิ้นได้ดิ้นไป ส่วนไอ้พวกตัวปะกอบพวกนั้นยืนมองตาปริบๆ
   “เอาอีนี่กะได้วะ” สัดคิมพูดขึ้นครับ ส่วนไอ้แบงค์มันไม่เล่นด้วย สรุปเหมือนจะมีบักคิมกับบักต๋องปีนออกไปตรงระเบียงไม่รู้ให้อีกะเทยนั่นทำอะไรให้ ส่วนบักแบงค์ ฮ่าๆ เมหือนตอนนอนได้ยินเสียงคนกัดฟันเลยว่ะ ฮ่าๆ

เขียนโดย อ้ายอิ๊กกี้เด้อ อิอิ

ปล. เรื่องภาษาอีสานนั้นหนา ลองฝึกอ่านๆดูนะคร้าบ มันตลกดีเด้ อิอิ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 21-04-2012 09:27:55
หวาๆๆๆ นี่เริ่มจะแกล้งเกินไปแล้วนะ ระวังเถอะ - -+
หนูอุ่นเยี่ยมมากๆ อึ้งไปเป็นแถบ เป็นไงล่ะ สำเนียงลูกฉัน(?)
รอตอนต่อไปค่ะ

ปล.อ่านเรื่องนี้ ฝึกภาษา 555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-04-2012 09:52:56
เกินไปและเดี๋ยว
ทำแบบนี้ได้ยังไงนิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: area71 ที่ 21-04-2012 11:19:40
หนูอุ่นเก่งมาก สมแล้วที่เป็นรุ่นน้องมาแต คุณพี่ภูมิใจ ~~
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 21-04-2012 11:22:41
ม่วนๆ แหงอ่านแหงมัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 21-04-2012 12:33:27
 :-[ เดี๋ยวสนใจอุ่นขึ้นเรื่อยๆแล้วสิเนี่ย จะแกล้งก็อย่าแกล้งแรงนัก อุ่นโกรธขึ้นมาจริงๆแล้วจะรู้สึก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-04-2012 12:51:47
อ่านแล้วติดเด้....5555 เม้นแบบติดสำเนียงค้าบ ชอบเรื่องนี้อ่ะ อ่านแล้วสนุกดี จริงๆนะ 5555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 21-04-2012 14:26:36
พลาดแท้  พลากอีกแล้ว อุ๊แว่ๆ
ต้องกินถั่วเยอะๆ ไม่เห็นนิยายพี่อิ๊คกี้ สายตาไม่ดี
ชอบพระเอกแบบนี้จังๆ >< เถื่อนๆดี เร้าใจ
อย่าแกล้งอุ่นมากนักดิ เดี๋ยวน้องอุ่นช้ำหมด
ติดนิยายพีอิ๊คทุกเรื่องเลย แถมติดเรื่องนี้ด้วย สนุกมากๆเลย
ชอบการใช้ภาษาท้องถิ่นอิสานแบบนี้จริง เข้าถึงบรรยากาศ
ได้รับรส ได้เรียนรู้ ยอมรับไอเราอ่ะพูดไม่ได้ บางคำก็ฟังออก
บางคำก็ เอ้ย มันแปลว่าไรว่ะ แอบค้นกูรูมั้ง แต่ชอบนะ มีความรู้
แถมสนุกอีกต่างหาก น่ารักใสๆ วัยเรียน แอบสงสัยพี่อิ๊กชอบกินเด็กป่าว
เห็นชอบแต่แตกตัวเด็ก อิอิ จะรอตอนต่อไปจ่ะ แฟนพันธุแท้เลยนะ อิอิ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 21-04-2012 14:59:15
พี่ไม่ชอบคำว่าอีกระเทยเลยค่ะทำไมหรอค่ะจะลองจะเงี่ยนจะอยากหาชะนีไม่ได้ลงที่กระเทยหมด กระเทยเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์เป็นแค่สิ่งของที่ไว้ระบายอารมณ์ยากของผู้ชายเท่านั้นหรอค่ะหรอค่ะเกลียดกระเทยอีกแต่ก็จะเอากระเทยทั้งนั้นเห็นพวกเราเป็นตัวอะไรหรอต่างจังหวัดบางทีก็เข้าใจอยู่ว่ากระเทยคงดูน่ากลัวแต่พี่ก็อยากจะบอกว่า"บ้านนอก"ก็ไม่ได้แปลว่ากระเทยจะกลายเป็นควายซะทุกคน เขียนกระเทยเป็นตัวตลกเป็นตัวฮายังพอรับได้แต่ครั้งนี้กระเทยเป็นตัวระบายอารมณ์กระเทยจะเป็นตัวประหลาดอะไรอีกไหมค่ะเคยชื่นชมงานเขียนของอิ๊กทุกเรื่องแต่มาเจอแบบนี้ความชื่นชอบมันหมดไปทันที มันคงมากไปใช้ไหมทีกระเทยอยากให้นักเขียนต่างๆที่เขียนตัวละครที่เป็นกระเทยให้ดูดีกว่านี้
คำพูดบางคำที่รุงแรงก็ขออภัยผู้อ่านไว้ ณที่นี้ด้วยขอโทษนะค่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-04-2012 16:09:07
อ่านตอนนี้แล้ว   ไม่ชอบเดี๋ยวเลย   แกล้งกันพอเหมาะสมดีกว่าไหม  แม้ตอนหลังจะมีสติก็เถอะ   แต่มันจะก่อป้ญหาตามมาได้เนอะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 21-04-2012 17:10:13
หวงน้องอุ่นละสิบักเดี๋ยวเอ้ย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-04-2012 17:14:05
เดี๋ยวเป็นเอามาก วุ่นวายกะอุ่นตลอดเลย
พอมีคนอื่นเริ่มสนใจน้องอุ่น เดี๋ยวก็เริ่มหวง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-04-2012 21:57:59
พี่ไม่ชอบคำว่าอีกระเทยเลยค่ะทำไมหรอค่ะจะลองจะเงี่ยนจะอยากหาชะนีไม่ได้ลงที่กระเทยหมด กระเทยเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์เป็นแค่สิ่งของที่ไว้ระบายอารมณ์ยากของผู้ชายเท่านั้นหรอค่ะหรอค่ะเกลียดกระเทยอีกแต่ก็จะเอากระเทยทั้งนั้นเห็นพวกเราเป็นตัวอะไรหรอต่างจังหวัดบางทีก็เข้าใจอยู่ว่ากระเทยคงดูน่ากลัวแต่พี่ก็อยากจะบอกว่า"บ้านนอก"ก็ไม่ได้แปลว่ากระเทยจะกลายเป็นควายซะทุกคน เขียนกระเทยเป็นตัวตลกเป็นตัวฮายังพอรับได้แต่ครั้งนี้กระเทยเป็นตัวระบายอารมณ์กระเทยจะเป็นตัวประหลาดอะไรอีกไหมค่ะเคยชื่นชมงานเขียนของอิ๊กทุกเรื่องแต่มาเจอแบบนี้ความชื่นชอบมันหมดไปทันที มันคงมากไปใช้ไหมทีกระเทยอยากให้นักเขียนต่างๆที่เขียนตัวละครที่เป็นกระเทยให้ดูดีกว่านี้
คำพูดบางคำที่รุงแรงก็ขออภัยผู้อ่านไว้ ณที่นี้ด้วยขอโทษนะค่ะ

ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้เสียความรู้สึก ตัวผมเองไม่ได้มีจุดประสงค์จะเขียนให้กะเทยหรือเกย์เป็นตัวตลกหรอกนะครับผม เพราะตัวผมเองก็เป็นเกย์ แต่ที่สื่อออกไปแบบนั้นก็ยึดเอาตามหลักความเป็นจริง เพราะผมเองก็มีเพื่อนผู้ชายเวลาเข้ากลุ่มกัน เวลากล่าวอ้างถึงกะเทยหรือเกย์ ยิ่งคนพูดตรงๆเหมือนตัวเอกของเรื่อง เขาก็จะเรียกว่า อีกะเทย อีตุ๊ด หรือเวลาพูดเรื่องลามกอะไรต่างๆก็จะพูดตรงๆ ผมไม่อยากให้ใครเสียความรู้สึกในการอ่านนิยายที่ผมเขียน แต่ก็คงทำได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะทำได้คือ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่พอใจ มันเป็นแค่นิยายนะครับผม อยากให้คิดว่ามันเป็นจุดด้อยของตัวละครเพราะผมแค่กล่าวถึงเล็กน้อย แต่ถ้ากล่าวถึงกันจริงๆกะเทยคนนั้นก็อาจจะมีแง่มุมที่ประเสริฐกว่าตัวเอกของเรื่องก็เป็นได้ แต่อยากจะขออธิบายว่าทำไมเดี๋ยวและเพื่อนๆมันถึงพูดประมาณว่าเวลาอยากให้ไปหากะเทยระบายอารมณ์ ด้วยสิ่งแวดล้อมของเขามีเพื่อนอย่าง ชาติหรือญาญ่าในเรื่อง คือมันเป็นความเชื่อของไอ้เดี๋ยวมันนะครับว่ากะเทยต้องเป็นแบบนี้มีลักษณะแบบนี้ จนตอนนี้มารู้จักอุ่น ไอ้เดี๋ยวมันก็กำลังซึมซับเอาอะไรที่ดีๆจากอุ่น

ขอบคุณมากนะครับที่ติดตามผลงานของผมเสมอมา และขอบคุณสำหรับเวลาที่สละให้กับการรออ่านนิยายที่ผมเขียน ถ้าหากว่าผมทำผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล. ผมเองอาจจะเขียนเรื่องต่างๆมาจากประสบการณ์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม มันเลยอาจจะดูแคบไปหน่อยนะครับ จินตนาการก็ไปได้ไม่มากเพราะยังต้องพัฒนาฝีมืออีกเยอะ ขอบคุณสำหรับคำติชมครับผม ขอบคุณจากใจ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 22-04-2012 01:35:34
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้เสียความรู้สึก ตัวผมเองไม่ได้มีจุดประสงค์จะเขียนให้กะเทยหรือเกย์เป็นตัวตลกหรอกนะครับผม เพราะตัวผมเองก็เป็นเกย์ แต่ที่สื่อออกไปแบบนั้นก็ยึดเอาตามหลักความเป็นจริง เพราะผมเองก็มีเพื่อนผู้ชายเวลาเข้ากลุ่มกัน เวลากล่าวอ้างถึงกะเทยหรือเกย์ ยิ่งคนพูดตรงๆเหมือนตัวเอกของเรื่อง เขาก็จะเรียกว่า อีกะเทย อีตุ๊ด หรือเวลาพูดเรื่องลามกอะไรต่างๆก็จะพูดตรงๆ ผมไม่อยากให้ใครเสียความรู้สึกในการอ่านนิยายที่ผมเขียน แต่ก็คงทำได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะทำได้คือ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่พอใจ มันเป็นแค่นิยายนะครับผม อยากให้คิดว่ามันเป็นจุดด้อยของตัวละครเพราะผมแค่กล่าวถึงเล็กน้อย แต่ถ้ากล่าวถึงกันจริงๆกะเทยคนนั้นก็อาจจะมีแง่มุมที่ประเสริฐกว่าตัวเอกของเรื่องก็เป็นได้ แต่อยากจะขออธิบายว่าทำไมเดี๋ยวและเพื่อนๆมันถึงพูดประมาณว่าเวลาอยากให้ไปหากะเทยระบายอารมณ์ ด้วยสิ่งแวดล้อมของเขามีเพื่อนอย่าง ชาติหรือญาญ่าในเรื่อง คือมันเป็นความเชื่อของไอ้เดี๋ยวมันนะครับว่ากะเทยต้องเป็นแบบนี้มีลักษณะแบบนี้ จนตอนนี้มารู้จักอุ่น ไอ้เดี๋ยวมันก็กำลังซึมซับเอาอะไรที่ดีๆจากอุ่น

ขอบคุณมากนะครับที่ติดตามผลงานของผมเสมอมา และขอบคุณสำหรับเวลาที่สละให้กับการรออ่านนิยายที่ผมเขียน ถ้าหากว่าผมทำผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปล. ผมเองอาจจะเขียนเรื่องต่างๆมาจากประสบการณ์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม มันเลยอาจจะดูแคบไปหน่อยนะครับ จินตนาการก็ไปได้ไม่มากเพราะยังต้องพัฒนาฝีมืออีกเยอะ ขอบคุณสำหรับคำติชมครับผม ขอบคุณจากใจ


โดยส่วนตัวก็ต้องขอโทษก่อนเลยเพราะเม้นไปแรงมากเพราะตอนที่อ่านจบค่อนข้างเสียความรู้สึกทันทีแต่พอมาคิดดูอีกทีมันก็เป็นเพียงความคิดของตัวละครตัวหนึ่งที่โลกอาจจะยังไม่กว้างพอสิ่งที่อิ๊กกี๊อธิบายมาก็พอเขาใจอยู่และไม่ได้เก็บไปคิดเท่าไรแต่ขอชี้แจงนิดนึงซึ้งตัวอิ๊กเองก็บอกว่าตัวเองเป็นเกย์ซึ่งก็น่าจะมีกระเทยเป็นเพื่อนบ้างและตัวของเจ้เองก็เป็นกระเทย(สาวประเภทสอง)ถ้าจะมองว่าสังคมบ้านนอกนั้นการเรียกเพศที่สามรวมกันว่าตุ๊ดกับกระเทยนั้นอาจจะใช่เพราะเขายังแยกแยะคำว่าเกย์ไม่ได้ตัวละครที่สื่อออกมาคือหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิง จึงทำให้เหมารวมได้หมด แต่ก็อยากฝากนิดนึงการสื่อถึงเนื้อหาต่างๆถ้าอิ๊กบอกว่าตัวเองยังมองไม่กว้างก็ต้องศึกษาให้เข้าใจ อย่างตัวละครที่เป็นกระเทยเราก็ต้องไปดูการใช้ชีวิตของเขาเป็นอย่างไรสังคมจริงๆมันเป็นอย่างไรเพราะถ้าเราไม่รู้จริงเราก็เขียนออกมาได้แค่เท่าที่เราคิดหรอสิ่งที่เราเห็นเท่านั้นเอง
ปล.ขออภัยนักอ่านท่านอื่นๆด้วยที่อีกระเทยแก่ๆคนนี้มั้นเรื่องมาก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 22-04-2012 23:32:03
ไอ้เดี๋ยวแกล้งอุ่นมากๆ แล้ว"เดี๋ยว"จะได้"อุ่น"จนร้อนแน่ 555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 6 Version (เดี๋ยว) 21 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-04-2012 07:36:40
อยากบอกว่า ตอนต่อไป น่าร้ากก คิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้แต่เขียนเองยิ้มเอง นิ รอหน่อยน้ากำลังตรวจทาน
จุ๊บๆๆ

รีเทคๆๆๆๆ

Don’t call Me BaBy!!!


กอดกูทำไมเนี่ย ไอ้เวรนี่ เพราะมันคนเดียวหนอยแน่คนอื่นเขาถึงมองกูแบบนี้ โอ๊ย แล้วเอาขามาทับกูทำไมวะ
   “ปล่อยได้ไหม เราหายใจไม่ออก” เลวมากมันเกี่ยวขาพันรอบเอวผมไว้นะ โว้ย อะไรอ่ะ
   “ไรอ่ะคะตัวเอง นอนๆ อยากดมจั๊กแร้เหรอ” แว้กก ไอ้ควายมีหน้าเอาจั๊กแร้คร่อมมาที่หน้ากูอีก เอาออกๆ แหวะจะอ๊วก โอ๊ย เหม็นๆ ฮือๆทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ
   “ดันทำไมอ่ะ อย่าดันได้ป่ะ เราอึดอัด” ผมไม่รู้จะว่าอะไรมันดีมันถึงจะยอมปล่อย
   “อ้าวไม่ดันแฟนตัวเองจะให้ไปดันใครอ่ะคะ” หือ ว่าไรนะ มันพูดคะ แว้กก เกลียดๆ เกลียดที่สุดมันเยาะเย้ยผมนี่นา ไอ้ควาย ไอ้เลว
   “นี่นาย ตกลงจะเอายังไงกับเรา หา ทนไม่ไหวแล้วนะ วอแวอยู่ได้” นี่แน่ตะโกนใส่หูมันเลยครับ มันผงะออกมองหน้าผมแบบว่าสายตาเคืองแค้น
   “วันนี้ยังไม่เอา ไม่อยาก วันหลังได้ป่ะ” สัด เลวที่สุด อยากจะกรี๊ดใส่หน้ามัน โว้ยอะไร อุรดิศเจออะไรที่เลวร้ายตลอดเลยนะ ทำไมกันวะ
   “นอนๆ อย่าดิ้นดิ ยิ่งดิ้นมันยิ่งลุกนะเนี่ย ไม่รู้สึกเหรอมึงน่ะ” เอ่อ อายอ่ะ แว้กก อายเพื่อ แล้วใจจะเต้นทำไมเนี่ยทำเหมือนยังกะไม่เคยเลยนะกู แล้วจะดันมาเพื่อ โอ๊ย เดี๋ยวจัดการ เอ้ย เดี๋ยวถีบซะเลยนี่ไอ้บ้า
   “คร่อกๆๆ “ “นายๆ ปลอ่ยเราได้ป่ะ เราจะไปฉี่” “อือ คร่อกๆ” เอ่อ แล้วทำไมมันดันไม่ออกวะ เกาะแน่นยังกะตุ๊กแก ปล่อยกูสิวะ เว้ยไอ้บ้า มันเป็นกรรมเก่าของผมหรือยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเช้าแล้วอ่ะตื่นมาอีกที
   “เฮ้ย สูสองคนน่ะสิกอดกันอีกโดนบ่อเนี่ย หมู่เขาไปออกกำลังกายเหมิดแล้วเด้ ฮู้อยู่ดอกว่าฮักกันน่ะ อย่าแสดงหลาย” เสียงใครมาปลุกครับ ผมงัวเงียตื่นก่อน พอรู้สึกตัวก็เหมือนมีท่อนไม้อะไรหนักๆมาทับตัวไว้
   “อ๊ะ แกะไม่ออก นายๆ ช่วยเราหน่อยได้ป่าว ดึงไอ้นี่ออกหน่อย” ผมร้องขอความช่วยเหลือจากไอ้คนนี้ล่ะครับ มันยืนมองอยู่ จะมองเพื่อมาเร็วๆ มันนั่งลงแล้วแกะขาไอ้บ้านี่ออกครับ
   “ปั๊บ นี่แน่” พอลุกขึ้นได้จะลุกขึ้นมากราบมันอยู่หรอกนะเตะให้เลย
   “โอ๊ย ไผเตะกูวะ” แหมถามได้ พอเตะมันเสร็จผมก็รีบคว้าอุปกรณ์ล้างหน้าแปรงฟันแจ้นไปเลยสิ ใครจะอยู่รอ อิอิ
   “มึงเตะกูเฮ็ดหยังบักแบงค์ อยากตายแม่นบ่อ” “ฮ่วยกูบ่อได้เตะเด้อ เมียมึงนั่นล่ะเตะ” เสียงด่าทอกันแว่วออกมาครับ ฮ่าๆ อุรดิศกำลังลั่นล้าลงจากตึกครับท่าน ด่ากันไปเลย
   “อ้าว น้องคนนั้นน่ะมาช้านะคะ ขึ้นมาบนเวทีเต้นนำเพื่อนๆเลยค่ะ” เอ่อ กูเหรอ ไม่จริงมั้งก็กูออกจะแอบวิ่งเข้ามารวมแถวก็เขากำลังเต้นแอโรบิกกันอยู่ล่ะครับคงไม่มีใครเห็นกูหรอกนะตัวออกจะเล็ก
   “ยังอีก น้องที่ใส่เสื้อเขียวๆที่เพิ่งวิ่งเข้ามานั่นล่ะค่ะ ขึ้นมาเลย” เอ่อกู? โอ๊ย อะไรเนี่ย ผมก็ต้องจำใจขึ้นไปบนเวทีสำหรับเต้นแอโรบิกล่ะครับ เต้นตามคนสอน โมโห อะไรๆก็เหมือนจะมาลงที่กูหมดเลยนะ ซวยเป็นบ้าเลยเอากูแต่เช้าเลยนะ
   “นายๆ นายชื่อไรอ่ะ มาจากอำนาจเหรอ” พอตอนกินข้าวเช้าก็ไปรวมกันที่โรงอาหารล่ะครับ ไปรับถาดหลุมมาแล้วเดินไปรับอาหารเหมือนทหารประมาณนั้น
   “เราชื่ออุ่น เธอล่ะ” “อุ่นเหรอ ชื่อน่าซบจังเธอหน้าตาไม่เหมือนคนอีสานเลยนะ มีเชื้อจีนเหรอ” อ้าวกูถามชื่อมึงคืนนี่ไม่คิดจะตอบว่างั้น ไรวะ
   “ไทยแท้ครับ” ผมหันไปบอกเธอคนนั้นที่มากับเพื่อนสองสามคน
   “เห็นเขาบอกว่าเธอพูดภาษาอังกฤษสำเนียงดีมาก เธอเรียนที่ไหนเหรอ” เฮ้อนะ กูไม่ได้พูดดีพูดเก่งอะไรเลยก็กูถูกสอนมาแบบนี้นี่ จะให้กูพูดยังไงกูเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลครูสอนเป็นฝรั่งหมด จะให้พูดสำเนียงยังไงวะ เบื่อจะตอบแล้วนะ
   “เจ้าๆ มานั่งกับเฮาติล่ะ” ไอ้คนเมื่อเช้ามันเรียกผมครับ ผมเลยยิ้มให้พวกเธอๆทั้งหลายแล้วเดินไปหามัน ขอบใจนะที่มาช่วยทันเวลา
   “คนรุมเจ้าหลายเนาะ ดังใหญ่แล้วเด้อ” มันยิ้มให้ผมครับ อย่าถามอะไรกูแบบนั้นนะไม่งั้นไม่คุยด้วยจริงๆด้วย
   “เจ้าซื่อหยัง ยังบ่อฮู้จักซื่อเลย เฮาซื่อแบงค์” “เราชื่ออุ่น นายมาจากไหนเหรอ” ผมถามมันครับ เออแบบนี้ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย
   “ขอนแก่น เจ้ามาจากอำนาจแม่นบ่อ” “แม่น” “ฮ่าๆ เว้าอีสานกะบ่อคือ เป็นตาฮักเนาะ” หือ มันชมหรือว่ามันด่ากูวะเนี่ย
   “เราฟังรู้เรื่องนะ” “อีหลีติ๊ ผู้บ่าวเจ้าไปไสล่ะบ่อมากินเข่านำกันบ่อ” ผู้บ่าวคือแฟนหรือแปลว่าเด็กหนุ่ม ใครล่ะเด็กหนุ่มกู อ่า
   “ใครอ่ะ ไอ้นั่นไม่ใช่แฟนเรานะ อย่าไปเชื่อมัน” ผมรีบโบกไม้โบกมือ
   “บ่อเซื่อดอก นอนกอดกันเป็นตาอิจฉาคือหยังนี่ บักเดี๋ยวมันหล่อแต่ท่าทางนักเลงเนาะ เจ้ากะหล่อเป็นตาฮักหลาย” “ไม่ใช่นะ เราไม่ใช่ฟะ” “ไรคะ ไม่ใช่ไร” นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำมันมาเลย ตายยากนักนะมึงไอ้บ้า
   “มึงมาสีหยังบักแบงค์ยังบ่อเข็ดแม่นบ่อ” มาถึงก็ขู่คนอื่นเลยนะ กร่างเกรียนจริงๆ
   “ฮ่วย เอิ้นเพิ่นมานั่งนำซื่อๆเด้ บ่อกล้ายุ่งดอกน่า”
   “ดี หนมนี่ไม่กินใช่ป่ะคะตัวเอง กูกินนะ” เอ่อ เฮ้อ มารยาทมันน่ะนะอย่าไปเอาอะไรกับมันมันแย่งขนมผมไปด้วยล่ะท่าน นิสัยเสียที่สุดอดอยากปากแห้ง กร่างเกรียนเลวทราม มารยาทแย่ถึงแย่มากนิสัยชั่ว แว้กก โอ๊ย แล้วกูจะต้องเจอไอ้เชี่ยนี่อีกนานแค่ไหนเนี่ย รู้ไหมมันตามติดผมคอยแหย่นั่นแหย่นี่อยู่จนจะทนไม่ไหว ดีนะที่เข้าไปในหอประชุมก่อนไม่งั้นมึงตายแน่เดี๋ยวกูกรี๊ดใส่เลยนี่ไอ้บ้า
   “ฐานนี้เราจะมาทำให้อาหารพื้นบ้านของเราโกเตอร์กันนะคะนักเรียน แต่ว่าครูจะให้แบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละสามคน อาหารอย่างเดียวกันแต่ต้องจับฉลากเพื่อให้ได้คนละเวอร์ชั่น น่าสนุกใช่ไหมคะ เอาล่ะแบ่งกลุ่มกันก่อน” เอ่อ พูดซะยาวเหยียดสรุปให้ทำไรวะเนี่ย
   “นายๆ มาอยู่กับเราสิ” พออาจารย์บอกแบ่งกลุ่มเพื่อนๆก็วิ่งเข้าหากัน
   “ว้ายไม่เอาค่ะ ยืนเรียงหนึ่งเลย แบบนี้ไม่ยุติธรรม” สม แย่งกันดีนัก พออาจารย์ให้ยืนเรียงหนึ่งก็ให้นับห้าล่ะครับ กูนับสี่และกลุ่มของกระผมนี่มีแต่ผู้หญิงใส่แว่นคนหนึ่ง ผมม้าคนหนึ่งท่างเรียบร้อยมากเหมือนผมเลย อิอิ
   “เอ่อ เฮาซื่อฝ้ายเด้อ มาจากสกลนคร” หญิงแว่นหนาแนะนำตัว
   “เฮาซื่อปูจ้ามาจากสารคาม” สาวหน้าม้าครับ และถึงตาผมก็แนะนำตัวเหมือนกับเพื่อนๆ
   “ส่งตัวแทนออกมาจับฉลากเลือกโจทย์ค่ะนักเรียน ได้กลุ่มกันแล้วใช่ไหม ครูให้ทำเวิร์กช็อป ๑๐ นาทีนะคะแล้วมาแสดงให้เพื่อนๆดู ห้ามพูดภาษาไทยเด็ดขาดนะคะจำไว้” ส่งตัวแทนไปจับฉลากก็ต้อเงป็นผมสินะ ผมออกไปยืนข้างๆเพื่อนตัวแทนคนอื่นๆ
   “อ้อครูลืมบอก อาหารของเราคือส้มตำนะคะ มาค่ะกลุ่มหนึ่ง” ส้มตำ? แล้วจะให้แสดงยังไงวะเนี่ย
   “ผลออกมาแล้วค่ะ กลุ่มที่หนึ่ง ได้ Fun  กลุ่มที่สอง Sad กลุ่มที่สาม Mafia กลุ่มที่สี่ ว้าว ครูอยากดูมากๆเลยนะกลุ่มนี้ ได้ Sexy กลุ่มสุดท้ายได้ Hurry” เอ่อ กลุ่มที่สี่คือกลุ่มของกูแล้วเซ็กซี่ส้มตำ ทำไงอ่ะท่านผู้ชม
   “เฮ็ดจั่งได๋ล่ะอุ่น ส้มตำเซ็กซี่ เฮาแห่งบ่อคืออยู่ เซ็กเสื่อมน่ะพอได้” สาวปูบอกครับ อย่าว่าแต่เธอเลย เหอๆ มันจะออกมาในรูปแบบไหนวะเนี่ย
   “เนาะ ได้โจทย์หยังบู๊นี่ ตายๆเฮาแห่งแว่นหนาๆสิเซ็กส์ออกบ่อน้อ” ผมพยายามฟังอยู่ครับว่าสองสาวเขาบ่นอะไรกัน เฮ้อนะ แล้วกูล่ะจะให้กูทำท่ายังไงล่ะถึงจะเซ็กซี่
   “เอาล่ะค่ะนักเรียนหมดเวลาแล้ว กลุ่มแรกออกมาแสดงเลยค่ะ” ตายแล้วๆ ยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย ขอบอกว่าอาจารย์มีครกกับสากให้พร้อมนะครับท่าน โอ๊ยนะ เริ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาแล้วสองสาวก็นั่งสั่นอยู่ข้างๆผม
   “ปรบมือให้เพื่อนหน่อยค่ะนักเรียน” พอกลุ่มแรกแสดงจบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นล่ะครับ ฟันนี่ส้มตำไม่เห็นมันทำแป๊ะไรเลยนะหัวเราะกันท่าเดียวหัวเราะทุกท่วงท่าว่างั้น กลุ่มสองก็ร้องให้อย่างเดียว แต่พวกเพื่อนๆเขากล้าดีนะ แล้วกลุ่มกูล่ะ เอาไงวะเนี่ย เฮ้ยๆ ทำไงดี
   “มาๆ เรามาทำให้ดีที่สุด ฝ้ายเธอเป็นแม่ค้านะ”
“อ่า บ่อเอาอ่ะเฮาอยากเป็นคนซื้อ” แน่ะเลือกอีกนังนี่
“โอเคๆงั้นเธอเป็นคนซื้อนะ ส่วนเราเป็นคนตำเอง ปูเธอเป็นลูกเรานะ เรามาตำส้มตำเซ็กซี่กันเพื่อนๆ” เอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้วไม่มีอะไรจะเสีย
   “เซ็กซี่นะเธอ ไม่ใช่ไปยืนแข็งๆ ท่าทางคงจะเก่งแต่พูดเนอะภาษาอังกฤษน่ะแต่แสดงคงจะไม่ อิอิ” เอ่อ พอใกล้ถึงกลุ่มเราอีคนที่แซวผมเรื่องปวดปากมันก็พูดขึ้นอีกครับ กลุ่มมันได้มาเฟียส้มตำแสดงดีนะยอมรับ ดีมากๆเลยล่ะเพราะนางแอ้คติ้งแบบว่าดารามาเอง แต่นะมาวอแวกูทำไมล่ะหนอยแน่อีนังนี่เดี๋ยวเถอะ
   “อย่าไปสนใจเขา เอาตามนี้นะจัดเต็มไปเลยนะฝ้าย ปู มาๆ สู้ตายเว้ย” เราสามคนมาจับมือกันครับแล้วร้องขึ้น
   “ว้าย กลุ่มสี่พร้อมแล้วค่า ดูตั้งใจมากเลย ไหนมาทำให้ครูกับเพื่อนๆดูซิว่าเซ็กซี่ส้มตำน่ะเขาทำกันยังไง” เออนะเชียร์กันเข้าไป โอ๊ย อายเหมือนกันนะเนี่ย
   “Hey baby, can I Ahh order Seeed Ohhh Maya” เอ่อ ฝ้ายๆใส่เต็มที่ไปไหมแค่เริ่มแสดงนางก็เดินออกไปตรงจุดประจำที่ล่ะครับผมกับปูก็มายืนที่จุด ฝ้ายมันเดินแบบยั่วมาเลยนะแบบว่าหมุนขา พ้อยท์เท้าโยกสะโพก ที่เสียงกรี๊ดดังกว่าใครเพื่อนก็ตอนที่นางถอดแว่นตาแล้วสะบัดผมนางนั่นล่ะครับ มือค้ำไว้ที่โต๊ะที่ผมกับปูยืนรออยู่ ทีนี้นางก็ส่ายสะโพกร่อนลง เอ่อ ฝ้ายๆ เยอะไปนะนึกว่าสาวๆเต้นตอนสงกรานต์ซะอีก เสียงกรี๊ดดังมากๆครับจนปูเธอจับแขนผมเหมือนจะเริ่มสั่น ผมหันไปพยักหน้าให้เธอให้กำลังใจขนาดฝ้ายยังทำได้แล้วผมกับปูก็ต้องทำได้
   “Oh yes, tell me your teaste honey, tell me ohh yess tell me ahh come here baby ahh” โอ๊ย อายตัวเองจังเลยอ่ะ ไม่อยากจะบรรยายเลยนะครับท่าน มันเกินไปเกิดมาไม่เคยทำ เสียงกรี๊ดนี่ดังสนั่นหวั่นไหว ก็ผมพูดไปเลียปากไปแล้วจับนิ้วของปูมาเลียตอนแรกไม่ได้เลียจริงนะแต่เสียงกรี๊ดมันผลักดัน เอาไปเอามาเลยเลียจริงไปจับอะไรมาป่ะเนี่ยปู ส่วนปูพอเห็นผมกับฝ้ายทำท่าแรดๆเวอร์ๆนางก็เอาบ้างสิครับ นางดึงคอเสื้อแล้วจับลูกมะนาวมาเลียครับ ได้ใจกูจริงๆให้ตายสิ
   “I need ohh baby I need hot, ahh hot uhh” ทำท่ากัดปากครับนางพลิกตัวไปมาหน้าโต๊ะ เวอร์จริงๆให้ตายเถอะเห็นใส่แว่นหนาๆนี่อย่าเพิ่งวางใจนะท่าน เจออย่างฝ้ายเข้าไปกูอึ้งเลย
   “and very spicy can you?” “tell her baby, tell her that it’s our beloved teaste ahh” “ohh sure mommy I’ll tell her” ปูมันเดินร่อนออกไปเหมือนกันครับ แว้กก มันเอาลูกแครอทไปยัดใส่ปากฝ้าย แรงจริงอะไรจริงฝ้ายมันก็ไม่ได้อายหรือหลบ มันเลีย?? ขอจบการบรรยายเพียงเท่านี้หน้ารู้สึกตึงและร้อนมากๆขอบอกอายจริงอายจัง เอาเป็นว่าการแสดงของเราได้รับเสียงกรี๊ดดังมาก ดังจนฐานใกล้ๆเขามาดูด้วยล่ะครับ เอาไปเอามาคนมุงดูเยอะมาก เสียงกรี๊ดดังมาก อ่ะเล่าต่อหน่อยนึง อิอิ
   “teaste it! Teaste it!” ตอนทำท่าตำผมให้ปูเป็นคนฝานอะไรใส่ลงในครกล่ะครับ โอ้โห นางแบบว่าสะบัดผมส่ายสะโพกโยกศีรษะส่วนผมก็ทำท่าตำแบบเน้นๆ โยกสะโพกกระเด้งๆเหมือนเขาเต้นเพลงหมอลำอ่ะ ที่ตอนท้ายมัน ตึ๊งๆๆแล้วเขาก็โยกยักเอวแบบนั้นล่ะ อิอิ แอบจำมานะไมได้ทำเป็นเอง ปูก็ไม่ยอมน้อยหน้ายกครกขึ้นให้ผมตำอีกนะ เอาเข้าไปเสียงกรี๊ดนี่จนหายอายเป็นหนวกหูแทน ตอนให้ชิมผมก็ยื่นสากไปทั้งสากให้ฝ้ายมันชิม นังฝ้ายมันชิมยังไงรู้ไหม มันเลียสากสิครับท่าน เสียงกรี๊ดนี่ไม่อยากจะบอกว่ามันดังมากทั้งเสียงเป่าปากโห่ฮาจนไม่รู้ว่าเสียงอะไรเป็นอะไร
   “กรี๊ด สุดยอดมากค่ะนักเรียน ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนหน่อยค่ะ” พอแสดงจบก็เล่นเอาอายกันทั้งสามคน เสียงกรี๊ดกระหึ่มดังกึกก้องมากๆ นี่มันอะไรกันวะเนี่ย
   “โอ๊ย เฮาอายคนเด้” ฝ้ายมันก้มหน้าลงครับ ผมเองก็ก้มหน้าน้อยๆ แหมนะตอนทำนี่มึงไม่อายทีมาตอนนี้ล่ะอายแล้วกูล่ะเผลอตัวทำตามมึงนั่นล่ะเป็นไงล่ะ สรุปหันหน้าเข้าหากันก้มหน้าใส่กัน เพื่อ?
   “คนซาดมาเบิ่งหลายเนาะ เฮากะอาย” ปูครับสรุปเราสามคนนั่งเบียดกันอยู่ เสียงแซวด้วยคำต่างๆที่เราแสดงไปดังแว่วมาตลอดเวลา อายนะเว้ยเฮ้ยไอ้พวกนี้นี่
   “อิอิ อุ่นๆ เฮาเอาส้มตำแซ่บๆจักครกแน่ะ” พอไปกินข้าวครับไอ้คนเมื่อเช้ามันก็เข้ามาทัก ยิ้มด้วยนะล้อเลียนกูนะมึง เดี๋ยวเถอะไอ้บ้านี่
   “ไรอ่ะ ไม่ใช่คนขายส้มตำนะ”
   “ท่าทางเจ้าตำบักหุ่งเป็นตาแซบอีหลี โอ๊ย อยากลองเด้” อ่าฮะ ลองกินบาทากูก่อนไหมเนี่ยไอ้บ้า ทำหน้าหื่นกามมากๆขอบอก
   “ลองตีนบ่อล่ะบักแบงค์” เอ่อ หนีเสือประควายของแท้ ไอ้บ้านั่นมาแล้วอ่ะ โว้ย จะได้กินข้าวแบบอร่อยๆบ้างไหมเนี่ยปูกับฝ้ายก็มาทานข้าวกับผมนะเพราะเดินออกไปไหนไม่ได้เลยคนล้อเลียนเยอะมากๆ สรุปมันดีหรือมันซวยวะเนี่ย
   “ฮ่วย เว้าหยอกซื่อๆเด้บักนี่แหม่ะ หวงคือเนาะ”
   “หวงเว้ย มึงหยับไปนั่งไกลๆแน่ะกูสินั่งหม่องนี้” มันเขี่ยไอ้นั่นออกแล้วมันก็นั่งแทนที่ครับ อ้าวแล้วมาเบียดกูทำไมเนี่ย กูรำคาญนะเว้ยมึง
   “ทำท่าแรดไปป่ะมึงน่ะ เห็นหงิ๋มๆไม่น่าเชื่อว่าจะแรด” เอ่อ ชมกูเพื่อ?
   “ไรอ่ะ ก็แสดงไง” ไม่ได้อยากจะคุยกับมันเลยนะแต่ห้ามปากไมได้เลยวะเป็นไรเนี่ยกู
   “แสดงเชี่ยไร แสดงท่าทางยั่วผู้ชายแบบนี้เนี่ยนะ เจนจัดเหลือเกินๆ” เอ่อ แล้วจะตวาดกูทำไมวะเนี่ย
   “หึงเว้ยหึง” “หึงอีหยัง เว้าดีๆเด้อบักแบงค์ถืกตีนกูเด้” เอ่อ ผมมองหน้าฝ้ายกับปูที่มองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว
   “อย่าบอกเด้อว่านี่ ผบ เจ้าน่ะอุ่น” ฝ้ายมันถามขึ้นแล้วอมยิ้มครับ
   “ไรอ่ะ ผบ” ผมงงครับ
   “ผู้บ่าว เด้” ปูมันตอบให้ครับแล้วก็หัวเราะกันสองคน
   “ไม่ใช่ๆ บ้าเหรอ เราไม่คบคนแบบนี้หรอกนะ” “หือ มึงว่าไรนะ” เอ่อ เสือกได้ยินอีก จะว่าไปมันก็นั่งติดผมนี่นะ
   “ไรอ่ะ จะกินข้าวได้ป่ะ อย่ามาวอแว” ไม่ได้กลัวมันนะแต่ผมรำคาญเข้าใจป่ะเนี่ย
   “อย่าให้รู้นะว่าไปแรดที่ไหนอีก” เอ่อ พูดเหมือนพ่อกูเลยเนอะ เป็นพ่อกูหรือไงเนี่ย
   “เราไม่ได้แรดนะ กินข้าวก่อนได้ป่ะ” ผมไม่สนใจมันครับแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าว เพื่อนๆที่นั่งอยู่หัวเราะคิกคัก อะไรกันเนี่ย เฮ้ย อย่าบอกนะว่าพวกนี้คิดว่าผมกับไอ้บ้าอำนาจนี่เป็นแฟนกัน แว้กก เพิ่งจะคิดได้อ่ะ
   “ไม่ใช่นะไม่ใช่” เอ่อ คิดได้ก็พูดออกมาเลย ทุกคนอึ้งหันมามองหน้าผมแบบงงๆ
   “เป็นเชี่ยไรอีกเนี่ย ไม่ใช่เชี่ยไร เพ้อไรจ๊ะ” เอ่อ ไอ้บ้านั่นมันทำหน้ากวนตีนใส่ผมครับ ฝ้ายปูรวมถึงแบงค์อมยิ้มแล้วเหมือนจะนินทาผมในใจ ฮึ่มนะ คิดเบาๆก็ได้นะอุรดิศ
   “เมื่อยเนาะ โอ๊ย ยามได๋สิเบรกหิวแล้วเด้เนี่ย” พอคาบบ่ายก็ง่วงหงาวหาวนอนมาก ใครกันนะอุตริเชิญวิทยากรฝรั่งมาจากออสเตรเลีย ไม่อยากจะว่านะแต่ไม่รู้สิไม่ชอบพูดแปลกๆ แต่เอาเถอะหิวเหมือนกัน ปูมันบ่นขึ้นล่ะครับผมหันไปพยักหน้าให้ฝ้ายมันก็ทำเหมือนกัน สรุปแม้จะไปตามฐานต่างๆเราสามคนก็กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว
   “นี่อุ่นๆ อีนั่นน่ะที่มันมาถ่าตอดว่าเจ้าน่ะ มันซื่อเมย์มาจากขอนแก่น คั่กเนาะคือสิว่าเพิ่นเก่ง” ฝ้ายมันมากระซิบบอกตอนที่เบรกล่ะครับมีขนมให้กินด้วยค่อยยังชั่วหน่อย
   “แม่นๆเฮากะสงสัยเป็นหยังอีนั่นคือมักมาว่าเจ้า คือสิอิจฉาเนาะ หน้าคือแมวเป้านี่ ฮ่าๆ”
   “อะไรอ่ะแมวเป้า” ผมหัวเราะตามปูมันล่ะครับแต่งง
   “เฮากะบ่อเคยเห็น แต่คือสิเป็นตาขี้เดียดแฮง” เราสามคนหัวเราะกันเสียงดังทั้งคาบบ่ายก็ยังเข้าฐานนั่นนี่อยู่จนเย็นครับถึงปล่อย เราสามคนสนิทกันอย่างรวดเร็วครับ ฝ้ายมันห้าวๆนะพูดตรง ส่วนปูจะซื่อๆเหมือนผมนี่ล่ะ อิอิ
   “เพิ่นปล่อยแล้วออกไปซื้อของบ่อ” ฝ้ายมันชวนครับระหว่างเดินเล่นดูรอบๆโรงเรียน
   “เขาให้ออออกได้เหรอ” ผมสงสัยครับ
   “ออกได้ๆ เฮาไปถามครูมาแล้วแต่ไปได้คราวเดียว” ปูมันเสริมครับตกลงเราก็ออกไปข้างนอกโดยที่ผมวิ่งขึ้นไปบนห้องเอากระเป๋าสตางค์นัดเจอกันหน้าโรงเรียนล่ะครับ

ยังบ่อทันจบเด้อคร้าบผม
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-04-2012 10:20:24
   “เจ้าสิไปไส” เอ่อ คนชื่อแบงค์ถามครับ จะอยากรู้ทำไมเนี่ย
   “ไปข้างนอก” “ไปไส” หือ ไม่ถามเลยล่ะว่าไปกับใคร ไปทำไม กลับมาเมื่อไหร่
   “ไปซื้อของอ่ะ” “ไปกับไผ” นี่นายจะมากไปแล้วนะ เป็นผู้ปกครองหรือไงเนี่ย
   “เพื่อนอ่ะ” แล้วตอบมันเพื่ออุรดิศ เว้ยนะ ผมรีบเดินออกมาจากห้องครับ
   “เฮาไปนำแน่” เอ่อ มันวิ่งตามออกมาครับ อะไรเนี่ยชอบวุ่นวายกูจังวะ
   “เฮ้ย บักแบงค์มึงสิไปไส” นั่น ไอ้บ้านั่นสวนทางขึ้นมาทันทีครับ ผมไม่มองหน้ามันเพราะไม่อยากเสวนาด้วย
   “ไปเข่าห้องน้ำ” ผมหันขวับทันทีครับ อ่า คนโกหกเพิ่งเห็นวันนี้เองซึ่งๆหน้าเลยนะเนี่ย
   “แล้วมึงล่ะจะไปไหน” นั่น มันหันมาถามผมครับ ผมไม่ตอบไม่สนใจเดินลงจากตึกทันที
   “เฮ้ย ไอ้เตี้ยกูถามน่ะไม่ได้ยินไง สัด” เบื่อไอ้นี่จังเลยอ่ะ คำก็ด่าสองคำก็ด่าเป็นไรมากป่ะเนี่ยมึง ไอ้ควาย
   “ไม่บอก” อิอิ วิ่งลงมาเลยครับ เรื่องไรจะไปบอกมันเผื่อมันตามมาราวีทำไงอ่ะ
   “แล่นหนีหยังมาอุ่น” พอลงไปได้ผมก็วิ่งล่ะครับกลัวมันจะวิ่งตาม อิอิ มีบ้างน่า
   “ป่าวๆ ไม่ได้วิ่งหนีไร เรากลัวพวกเธอจะรอ” ผมหอบพูดออกไป
   “แม่นบ่อ บ่อได้หนีไผ นั่นแม่นไผคั่นน่ะสองคนนั่น” เอ่อ แว้กก มันตามมาจริงๆด้วย ตามมาทำไมเนี่ย โอ๊ย
   “สิไปไสผู้สาว” ไอ้บ้านั่นมันถามปูล่ะครับ
   “ไปซื้อของตั้วผู้บ่าว อิอิ” “ไปนำแน่” หน้าด้านเนอะเขาไมได้ชวนยังจะไปอีกคนเรานะ ไอ้บ้าแบงค์นั่นอีกตามมาทำไมเป็นพรวนเนี่ย
   “ไปติ๊ล่ะ อยากไปซื้อของอีหลีบ่อน้อหรือนำไผไปนี่” ฝ้ายครับพูดแล้วยิ้ม
   “นำไผ สิไปซื้อของคือกัน” ไอ้บ้านั่นตอบครับแล้วหันมาทางผม
   “แล้วถามทำไมไม่บอกวะ กวนตีนนะมึง” อ้าว เรื่องไรจะบอกมึงล่ะ ไม่อยากคุยด้วยนะรู้ป่ะเนี่ย
   “เป็นตาฮักกันเนาะ เจ้าสองคนน่ะ อิจฉาเด้” เอ่อ ปูมันร้องขึ้นครับแล้วหัวเราะกับฝ้าย เพื่อ?
   “ไม่นะ เราไมได้” “ไปยังล่ะ เพิ่นนี่เพิ่นอยากกินโค้กแข็งๆ” มันพูดครับแล้วพวกนี้ก็หัวเราะกรี๊ดกันเสียงดัง อะไรวะเสียมารยาทรอกูพูดให้จบก่อนดีไหม ไอ้บ้านั่นมันต้อนสองสาวออกนอกโรงเรียนไปเลยครับ ส่วนผมอ้าปากค้าง กูพูดช้าไปเหรอวะเนี่ย
   “ตาฮักเนาะ” หือ ไอ้แบงค์มันชมใครวะ ผมหันไปหามันครับ มันยิ้มแฉ่ง
   “เราเหรอ” เอ่อกู อายจังเหมือนจะเข้าข้างตัวเอง
   “เจ้านั่นล่ะ แก้มเจ้าคือแดงแท้ เป็นตาเบิ่งหลาย” “อ้อ เฮาฮู้นะ” ผมลองพูดภาษาอีสานบ้างครับ มันหัวเราะ อ้าว กูพูดไม่ถูกเหรอเนี่ย
   “เป็นตาอิจฉาบักห่าเดี๋ยวเนาะ แต่มันท่าทางนักเลงขนาดเจ้าคือไปมักมันล่ะ” หือ แปลหน่อยๆ
   “ท่าทางเจ้ากะเป็นผู้ดีนิสัยดีเด้ เป็นหยังมีผู้บ่าวเป็นตาซังคั่ก” เอ่อ มันพูดเหน่อๆนะแต่ทำไมกูบ่อเข้าใจ๋ล่ะเนี่ย
   “ทำไมอ่ะ” ลองถามออกไปครับเผื่อมันจะอธิบายมากกว่านี้
   “สนใจเฮาบ่อ เฮากะหล่อเด้ เฮานิสัยดีนำ เล่นบาส เตะบอล เรียนเก่ง ใหย่” เอ่อ นี่มันเหมือนกำลังเสนอตัวเลยนะ
   “อื้ม แล้วมันแปลว่าไรเหรอแบงค์” ผมทำหน้าซื่อถามมันออกไปครับ มันหัวเราะ
   “มักแล้วล่ะ โอ๊ย มักของเขาเด้พ่อแม่พี่น้อง” เอ่อ มันร้องออกมาครับ บ้าป่ะเนี่ย รีบวิ่งไปหาพวกนั้นดีกว่า
   “ว้าย ปิ๊ดเป๊ด” ปูมันร้องขึ้นล่ะครับ มีรถจักรยานของลุงแก่ๆคนหนึ่งข้างหลังบรรทุกลังอลูมีเนียมใบเขื่องมาด้วย
   “อุ่นๆ เคยกินบ่อ ปิ๊ดเป๊ด” ฝ้ายมันร้องเรียกครับ ผมก็ตื่นเต้นวิ่งเข้าไปดู ไอติม?? แล้วไอ้ปิ๊ดเป๊ดนี่มันอะไร
   “ติมนี่ แล้วไรอ่ะปิ๊ดเป๊ด” ผมงงครับเลยถาม
   “อ้อ สมัยเด็กน้อยเฮาซิน เสียงนี่เด้” ฝ้ายมันเดินไปหน้ารถจักรยานของลุงแล้วบีบแตร อ้อ แบบนี้นี่เอง
   “ลองลอดช่องบ่อ แซ่บเด้” เราสามคนล้อมรถของลุงล่ะครับ ไอ้บ้านั่นกับไอ้แบงค์ยืนอยู่ห่างๆ
   “อืม น่าสนๆ” “พ่อใหย่เอาลอดช่อง 2 กะทิ 1 เอ้า เจ้าบ่อกินบ่อสองคนนั่น” ฝ้ายมันร้องเรียกครับ จะไปเรียกมันทำไมเนี่ย
   “บ่อมีถั่วดำบ่อพ่อใหย่ อยากกิน “ถั่วดำ” “ เอ่อ หันมาทางกูทำไมเนี่ย สองสาวอายหน้าแดงแล้วหัวเราะ
   “มีๆ แซ่บเด้ถั่วดำบ่อเอาแน่บ่ออีนาง” พ่อใหย่นี่ก็บ้าจี้ไปกับไอ้บ้านี่เนอะ
   “ข่อยเอาๆ ข่อยกะอยากลองกิน “ถั่วดำ” “ บักแบงค์ครับ แล้วมองมาทางกูเพื่อ แหมนะกรี๊ดใส่สักทีดีไหมเนี่ย
   “อายเด้ เว้าหยังกะดายเนาะสู” ปูมันร้องขึ้นครับ แหมเธอยังอายแล้วกูล่ะ สายตาสองคนนี่มันมองผมแล้วแปลกๆยังไงไม่รู้ นิสัยไม่ดี
   “ว้าย ไอติมย้อย เลียแหม่ะอุ่น” เอ่อ กูก็นะมัวแต่มองไอ้บ้าสองตัวนั่นไอติมไหลเปรอะปาก
   “ฮ่าๆ ซาดคือเด็กน้อยเนาะเจ้าน่ะ แก้มกะแดงปากกะแดง เป็นตาฮักหลาย” ฝ้ายมันชมผมนะ อิอิ เขินเป็นนะเว้ย
   “บ้า เราไม่ค่อยได้โดนแดดไง แก้มเธอก็ เอ่อ” ว่าจะบอกว่าแดงแต่มันไม่แดงอ่ะ หาคำไม่ทัน ทำไงวะ
   “เนาะแก้มเฮาดำกะว่ามาโลด ฮ่าๆ คนผู้ดำปานนี่คั่นแก้มแดงคนสิเว้าพื้นเอาล่ะเนาะ” ฝ้ายมันหัวเราะครับ เราสามคนก็หัวเราะตาม เออนะ เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันทำไมผมถึงรู้สึกสนิทกันได้มากขนาดนี้นะ มีอะไรบางอย่างมันสื่อออกมาจากแววตาของเพื่อนใหม่สองคนนี้ มันไม่ใช่การอวดโอ้เราใช้นั่นเราใช้นี่หรอกนะถึงหน้าใส หรือไม่ก็กระเป๋าเธอของไรอ่ะ ของเราเพิ่งไปสอยโค้ชมา ไม่รู้สิหรือว่าผมรู้สึกไปเอง เด็กผู้หญิงสองคนนี้ทำให้ผมยิ้มได้แบบที่ผมอยากยิ้ม มันออกมาจากความรู้สึกสุขจริงๆไม่ใช่ยิ้มเหมือนที่เขายิงฟันกันอย่างที่ผมเคยทำกับเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่า
   “วู้ย เบิ่ง ผบ แนมแนะ ตาหวานเนาะ” ปูมันสะกิดครับ ผมหันไปดูไอ้สองคนนั่นมันมองมาที่ผม อะไรอ่ะแอบมองกูเหรอ แล้วทำไมต้องยิ้มแบบเขินๆด้วยวะ
   “เออไหนบอกจะมาซื้อของ ไหนอ่ะร้านขายของเธอน่ะฝ้าย” ผมเบนความสนใจครับ อย่าบอกนะว่าไอ้บ้านั่นมันแอบชอบผมจริงจัง แว้กก ไม่ได้นะ ไม่มีทางคนอย่างอุรดิศนะจะไม่บริโภคของไม่ผ่าน อย มอก เด็ดขาดท่าทางมันนะ อึ๋ยย ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ
   “พู้นเด้ เฮาสิมาซื้อโกเต็ก แหะๆ ลืมเอามา” “ว้าย บ่ออายหมู่เนาะ ฝ้าย” ปูมันหัวเราะขึ้นล่ะครับทำท่าอาย ตอนแรกผมก็งงว่าอะไรวะ แต่เหมือนเคยได้ยินเลยหัวเราะไปด้วย ยิ่งกูหัวเราะไอ้สองตัวนั่นมันยิ่งมองครับ
   “มึงกินหนมป่ะ” ระหว่างที่เพื่อนๆสองสาวเลือกของอยู่นั้นเอง ไอ้บ้านี่ก็เข้ามากระแซะผมครับ
   “ไม่อยาก....กิน” “ไรของมึง แดกไม่แดก” เอ่อ ขู่กูอีกล่ะ
   “ไมอ่ะ จะเลี้ยงไง ถามจัง” รำคาญมันครับ
   “อ่ะ” เอ่อ มันยื่นซองขนมให้ผมครับ อึ้งเลยกู
   “อ่า อย่าบอกนะว่า นาย นาย” “นายเชี่ยไร จะพูดไร” มันตวาด แต่ทำไมกูเขินวะเนี่ย โว้ยนะ
   “นายแอบชอบ เอ่อ” “มึงมองหน้ากูนะ” มันจับบ่าผมครับ ตายแล้วมันจะบอกว่าชอบผมตรงนี้เหรอ ไม่ได้นะอายคนเขา ไอ้บ้า เลือกสถานที่บ้างก็ได้นะ เพราะว่ากูจะได้บอกว่าไม่อ่ะ เราไม่ชอบนาย คือจะบอกปัดไงกลัวมันจะเสียใจ เห็นมะว่าอุรดิศเป็นคนดีมากแค่ไหน ไมได้กร่างหาเรื่องชาวบ้านเหมือนมึงหรอกนะไอ้บ้า
   “อื้ม” เอ่อ ทำเสีบยงชวนฝันเพื่อ กูนะกูไม่ได้ๆอย่าเขินเยอะเดี๋ยวมันจะเข้าใจผิด
   “สัด” เอ่อ “กูเห็นมึงเดินดูเหมือนคนไม่มีเงินเว้ย สงสาร สัดนี่มึงคิดว่ากูแอบชอบมึงเหรอ ไม่มีทางเว้ย ไอ้เตี้ย ไอ้เจี้ยวอนุบาล” แว้กก กรี๊ดใส่หน้ามันดีไหมเนี่ย ไรอ่ะคนเขาอุตส่าห์คิด เอ่อ เปล่าๆไม่ได้คิด โว้ย โมโห
   “ไรอ่ะ” “งั้นไม่ต้องแดก เอาคืนมา” มีงี้ด้วยเว้ยคนเรามันแย่งขนมคืนจากมือผมครับ
   “เอาของเฮานี่ เฮาซื้อมาให้” ไอ้แบงค์ครับเข้ามาดันตัวไอ้บ้านั่นออกทันที ผมมองหน้าไอ้แบงค์จะมาแกล้งอะไรกูอีกเนี่ย คิดก่อน ค่อยๆคิดอย่าไปรับของมันมาเลยเดี๋ยวมันแย่งกลับคืนกูอายเป็นนะเว้ย พ่อแม่ไม่เคยสอนให้ขอใครกิน เข้าใจป่ะ
   “เฮามอบให้ด้วยใจ ด้วยความฮัก ด้วยความผูกพันธ์ ขนมถุงน้อยๆ” “อ๊วก กูสิฮาก คือหมอลำเนาะบักแบงค์ ป๊าด มึงกล้ามาจีบเมียกูต่อหน้ากูปานนี้บ่อ อยากตายติ๊” เอ่อ เมีย? ใครเมียมึงอย่ามาขี้ตู่นะนิสัยไม่ดีที่สุดไอ้บ้านี่
   “เอ้า มึงยาดขนมเพิ่นคืนเองเด้ กูเลยซื้อให้เป็นหยั่งล่ะ เนาะอุ่นเนาะ วู๊ย ซื่อเป็นตากอดเนาะ” “ปั่ก” “โอ๊ย มาเขกหัวกูเฮ็ดหยัง” “ปากหมาๆ กอดตีนกูนี่ติ๊ ยังบ่อไปอีก เดี๋ยวจะเตะเด้บ่านนี้” ผมยืนมองสองคนมันทำอะไรกันล่ะครับ ใครนะช่างเป็นต้นเหตุให้สองตัวนี่ทะเลาะกัน คงไม่ใช่กู? กู? โอ๊ย อายคนที่สุด
   “ไปเถอะฝ้าย เสร็จยังอ่ะ” ผมรีบเดินไปหาสองสาวที่ยืนมองอยู่เช่นกันครับ
   “เพิ่นเดี๋ยวนั่นเป็นตาฮักเจ้าแฮงเนาะ หึงขนาดเด้นั่น”
   “ไม่นะๆ เราไมได้เป็นแฟนกับมันนะเธอสองคนอย่าเข้าใจผิด” ผมรีบปฏิเสธครับ
   “บ่อเซื่อดอก เห็นปานนี้ บ่อต้องอายดอกอุ่น เกย์สู่มื้อนี่เขายอมรับกันแล้วเด้ เฮายังถือเป็นเรื่องธรรมดา อิอิ” ปูครับ
   “ว้ายปู บ่อแม่นเจ้ากะมี ผบ ทอมบ่อ” “ว้าย ฮู้ได้จั่งได๋ บ้าติ๊ฝ้าย รึบ่อแม่นล่ะ สิเป็นหยังก็เป็นไปขอให้เป็นคนดีกะพอแล้วบ่อแม่นติ้ สมัยสังคมสู่มื้อนี่น่ะ” ผมมองหน้าฝ้ายแล้วครบมือขึ้นพร้อมกันครับ ปูมันเขินจัดแล้วเราสามคนก็วิ่งไล่กัน? เพื่อ? นี่ ม.๕ นะไม่ใช่เด็กประถมกูนะกูทำอะไรไม่ห่วงภาพพจน์เลย
   “เจ้าสิไปอาบน้ำล่ะเบาะอุ่น เฮาสิไปเป็นหมู่” พอขึ้นห้องผมก็ไปนั่งเลือกเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าล่ะครับ ไอ้แบงค์มันตามขึ้นมาแล้วมานั่งลงข้างๆผม
   “ยังอ่ะ” ผมไม่ได้สนใจมันครับ อยากจะอยู่เงียบๆสักพัก
   “อ่า กอดหน่อยดิที่รัก” เอ่อ หมาที่ไหนมันมาคลุกวงในผมเนี่ย แว้กก ไอ้บ้า มากอดกูทำไมเนี่ย
   “ไรอ่ะ กอดไมอ่ะ” ผมสะดุ้งครับ พอรู้ว่าใครผมก็ดิ้นแต่นะ ไอ้บ้านี่มันบ้าพลังครับนอนลงตักผมทันที แว้กก ไรเนี่ย โจ้ยังไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ
   “โพดเนาะ ย้านแต่เขาบ่อฮู้เนาะว่าเพิ่นมีเจ้าของแล้วน่ะ” ไอ้แบงค์มันพูดครับแล้วลุกขึ้นหน้างอเดินหนีไปเลย
   “ยั่วไรไอ้แบงค์” หือ คุยกะกูป่ะเนี่ย
   “กูถามน่ะ” “ไรอ่ะ ยั่วไปงั้นล่ะ” “สัด กวนตีนนะ” มันทำท่าจะยกมือขึ้นมาผลักหน้าผมครับ
   “กวนไรอ่ะ เงียบหน่อยได้ป่ะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่หมอน ถ้าจะนอนก็นิ่งๆ รำคาญ” นี่แน่ด่ามันหน่อย ด่าแต่กูนะมึงผมเอามืออุดปากมันไว้ครับ มันทำท่าจะขึงขังขึ้นมาทำร้ายผมนั่นล่ะ แต่ผมยักคิ้วให้มันกดคอมันลงกับตัก เอ๊ะ ทำไมต้องเป็นตักให้มันนอนตักทำไมเนี่ยกู โอ๊ย อุรดิศ!!

เขียนโดย อิ๊กกี้

หวังว่าอ่านแล้วทุกคนคงมีความสุขกันนะครับ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟสบุ้คของผม Eiky Thaiboyslove ....
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 23-04-2012 11:21:34
ป๊าดดดดดดดดดด น่ารักแท้่~
แหมหวานเบาๆ แบบเถื่อนๆ 555
รอตอนต่อไปค่ะ

ปล.ไม่เอาอิแบงค์~ พี่เดี๋ยวสู้ๆ ยอมยกอุ่นให้ชั่วคราว(?) ปกป้องด้วยล่ะ!?
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-04-2012 11:42:45
Sexy เหลา 5555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 23-04-2012 11:51:32
น่ารักดีครับ แต่เดื๋ยวนี่มันปากแข็งจริงๆเนอะ :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-04-2012 14:47:25
ผีเข้าเดี๋ยวหรือไง พูดจาน่ารัก
ปล่อยให้คลุกวงในบ่อย ๆ ประเดี๋ยวก็ไฟลุกนะจ๊ะน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 23-04-2012 15:24:01
 :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 23-04-2012 16:14:17
หึหึหึหึ เดี๋ยวเอ้ยยย เอาแล้วไงล่ะ
อุ่นหวั่นหวายยย >w<
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-04-2012 16:42:10
5555+...คู่นี้คงจิกๆ กัดๆ หวานๆ มันๆ กันไปอีกสักพักสินะฮับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 23-04-2012 17:26:47
อุ่นเริ่มแล้วอิอิ รอตอนต่อไปค้าบบบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-04-2012 18:37:21
อุ่นน่ารักดีแท้ :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-04-2012 19:32:30
น่ารักๆ สนับสนุนให้น้องอุ่นกรี๊ดเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 23-04-2012 21:18:25
น่ารักอ่ะ อุ่นแอบแรงนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 23-04-2012 22:28:10
บักเดี๋ยว เจ้าสิ อารมณ์รุนแรงแท้

เริ่มชอบ ก็บอกเส่

ปากแข็งแท้เหลา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 24-04-2012 02:12:54
ฮามากกกกก สงสารอุ่น บักเดี๋ยวมันโรคจิตหลาย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: DikkyDot ที่ 24-04-2012 03:40:41
 :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 24-04-2012 19:11:45
ม่วนๆๆหลายคักแท้น้อ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 7 Version (อุ่น) 23 Apr 12 หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 25-04-2012 20:23:33
ดังอีกแล้วนู๋อุ่น...ครั้งนี้อาจมีคนขอนแก่นย้ายตามก็ได้นะ..
เจ้าแบงค์รอเสียบบบ...เจ้าเดี๋ยวไม่แน่จริงก็ถอยปายยยเด้อ..

 :L2: น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 26-04-2012 09:00:59
You’re My BaBy!!

กูมีอะไรจะสารภาพว่ะ แม่งกูเคลิ้ม เว้ยนี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย แม่งเอ้ย แต่ทำไมตอนมองมันยิ้มกูถึงรู้สึกใจเต้นแปลกๆวะ แล้วไปสนใจมันทำไมวะเนี่ยกูบ้าไปแล้ว ไมได้ๆนะเว้ย วิชพงศ์เสียเกียรติลุกผู้ชายหัวใจเบิกบานอย่างกูหมด แต่แม่ง มันน่ารักจริงๆนะ เฮ้ยกูพูดว่าไงนะ น่ารักเหรอ ถุยๆ ไม่หรอกมันไม่น่ารักนะแต่มันแก้มแดงๆ ฟันมันก็สวย เวลามันยิ้มมันน่ามองไง เอ้อพวกคุณนี่อะไรกัน จับผิดกูตลอดล่ะ แล้วตอนนี้กูนอนอยู่บนตักมันมือของมันปิดปากกูอยู่ ให้ตายเถอะมือมันนุ่มจังวะหอมอีกต่างหาก เอ๊ะ หรือว่า
   “มือมึงไปล้วงตูดมาป่ะเนี่ย” ผมพูดอู้อี้ขึ้นล่ะครับ สายตายังจ้องมองหน้ามันอยู่
   “เออดิ ไมได้ล้างด้วยนะ” “เฮ้ย สัด” “นี่แน่ อ้าปากเลยๆ” สัดมันยัดนิ้วเข้ามาในปากผมจริงๆครับ แม่งงับเลยดีไหม นี่แน่ “โอ๊ย กัดมือเราไมอ่ะ” มันร้องครับจะชักนิ้วออกมีหรือกูจะปล่อย มันดิ้นแล้ว
   “ยัดเข้ามาดีนักนะ สม” “เป็นหมาป่ะ” นั่นไง ดูเอานะว่ามันกวนตีนแค่ไหน หนอยแน่จากที่กูนอนตักมันเป็นปล้ำมันให้มันลงล่างกูขึ้นบน อ๊ะๆ คราวนี้มันสู้เว้ย มันดิ้น สัดเอ้ยกูเสียท่ามันกูลงข้างล่างเหมือนเดิมมันกอดหน้ากูไว้ ตอนนี้มันนั่งทับหน้าท้องกู สัดจุกนะเว้ยมือมันกดหน้าผมไว้ทั้งสองมือ อ้าวๆ มือกูก็ว่างนี่ ด้วยความที่กูตัวใหญ่มือยาวเลยสาวมือขึ้นไปกดหัวมันลงมา
   “อ๊ะ” “สะ” แรงกดทำให้หน้ามันมาจรดอยู่ที่หน้ากูพอดี สายตามันตรงกันจมูกบี้กันอยู่ ปากอย่าให้เล่า สัดเอ้ย นี่มันจูบกูเหรอเนี่ย
   “กรี๊ดด ทำไรกันอ่ะ ไม่อาย พวกเราอายน้า” เอ่อ เหมือนนาฬิกามันหยุดเดินไปประมาณสามวิ
   “อ่า ไอ้บ้า” มันกระเด้งตัวออกครับ แก้มมันนี่นะแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกอีกนะแดงไปถึงหู มันตีผมด้วยล่ะแล้วดึงเอาเสื้อผ้าเหมือนจะหนี ฮ่าๆ มันอายเว้ยเฮ้ย แต่กูก็ร้อนหน้าไปเลยเหมือนกันนะ ลมหายใจของมันกลิ่นมันหอมจังวะ ท่าทางจะหวาน ริมฝีปากมันนุ่มจนกูสะท้านไปทั้งตัว สายตามันประกายนั้นมันเหมือนสะท้อนแสงเข้าถึงวิญญาณกูเลยนะ แว้กก เพ้อไรวะไอ้เชี่ยเดี๋ยว สัดนี่เคลิ้มไปได้นะมึง ไมได้ๆ ต้องแกล้งมันหนอยแน่ทำให้กูเขินเหรอมึง
   “มึงยิ้มหยังนี่บักเดี๋ยว ฮู้อยู่ดอกว่ามีแฟนเป็นตาฮักน่ะ อย่าสิเฮ็ดคือหลาย” สัดเอ้ย กูสะดุ้งเลยตกใจเป็นนะเว้ยเฮ้ย กูยิ้ม? กูเนี่ยนะยิ้ม
   “ไผยิ้มกูบ่อได้ยิ้ม ห่านิ” “อย่าๆ มึงนั่นล่ะ อยู่ซื่อๆกะยิ้ม โว้ย เป็นตาอิจฉาเนาะ เบิ่งแน่ล่ะ อุ่นเป็นตาฮักขนาด” ไอ้ห่านแบงค์ครับมันแซวผมแล้วมันก็ชี้ไปที่กลุ่มเอ็มที่เขากำลังเข้าฐานเหมือนให้ออกมาแสดงละครกลุ่มอะไรสักอย่าง ส่วนกลุ่มกูเบรกนั่งแดกหนมอยู่เนี่ย สัดแบงค์ก็เข้ามาแซวพอดีกูเคลิ้มๆอยู่สะดุ้งเลย
   “เว้ย จั่งซั่นบ่อเป็นตาฮัก คนพอซ่ำนั่น”
   “ฮ่วย แปลว่าหยังนี่ มึงว่าบ่อเป็นตาฮักแล้วไปเป็นผู้บ่าวเพิ่นเฮ็ดหยัง มึงบ่อเอากูเอาเด้” นั่นสัด เผลอไม่ได้ แม่งเอ้ยคอยเสียบอยู่ตลอดเวลา เออๆ กูบอกไปแล้วนี่ว่ากูเป็นผัวมัน เป็นให้ตลอดก็แล้วกันวะ
   “อย่าฝันบักหมาแบงค์ คนอื่นเป็นตาฮักหลายกะด้อเป็นหยังบ่อไปจีบ มักแท้น้อเมียผู้อื่นน่ะ”
   “ฮ่วย มักแหล่ว กะผู้บ่าวเพิ่นบ่อสนใจเด้” “สัด ไปไกลๆตีนเด้อ คนแห่งกำลังอารมณ์ดีๆเดี๋ยวอารมณ์เสียขึ้นมามึงสิซวยเด้”
   “กูถามอีหลีถ่อบักเดี๋ยว แม่นมึงมักเพิ่นนั่นอีหลีบ่อ กูเห็นคือไปฮ้องด่าเพิ่นคั่ก จับแฮงๆนำบ่อย้านเพิ่นซ้ำมือบ่อ” เอ่อ สัดแบงค์ถามครับ กูอึ้งไปเลย
   “มึงเกี่ยวหยัง เออ กูถามแน่ะมึงเป็นหยังจั่งมักมัน ย้อนหยัง” ผมอยากรู้ครับเพราะดูเหมือนว่าใครๆก็มองแต่มันล่ะครับและไอ้สัดนี่ตาวาวเป็นประกายกว่าใคร
   “มักซื่อๆบ่อมีเหตุผล” “สัด” กวนตีนได้อีกผมขี้เกียจจะทะเลาะกับมันล่ะครับ เอ ที่กูว่าจะจัดหนักไอ้เตี้ยนั่นกูไม่เห็นทำไรมันเลยนะ พอจะทำเข้าจริงๆก็รู้สึกไม่ดี ยังไงวะเนี่ยกู เอาไงดีวะกับแผนการของกู
   “เดี๋ยวๆ กลุ่มเจ้าได้แสดงละครบ่อ” สาวฝ้ายล่ะครับเดินมาก่อนใคร ผมหันไปเธอคงจะเบรกพอดี
   “หือละครหยัง บ่อฮู้” ผมมองข้ามหัวเธอไปเพราะไอ้เตี้ยนั่นกำลังเดินหัวเราะมากับสาวปู
   “อ้าวละครแลงนี้เด้ เพิ่นให้แสดงกลุ่มละเรื่อง กลุ่มเฮาล่ะมีแนวแสดงแล้ว”
   “ติ๊ แสดงหยังล่ะ เฮาคือสิบ่อสนใจดอกกลุ่มเขาพาเฮ็ดหยังเฮากะบ่อเฮ็ดขี้คร้าน”
   “แม่นอยู่ดอกเบิ่งทรงกะเป็นตะขี้คร้านอยู่ อิอิ อุ่นๆ กินน้ำหวานบ่อ ปู” เธอหันไปร้องเรียกไอ้เตี้ยกับสาวปูล่ะครับ อ้าวๆสัดแบงค์ดิ่งเข้าหามันทันที ไอ้นี่สงสัยวอนตีนจริงๆ
   “มีน้ำแดงป่าว” มันร้องถามมาครับแต่ไม่ยอมเข้ามานะ หนอยๆ ทำหน้าแบบเมินกูมากๆ ไอ้นี่
   “มะ” “เป็นกุมารทองบ่อจั่งอยากแดกน้ำแดง” ผมก็ตามสไตล์ดอดขึ้นก่อนสาวฝ้ายจะอ้าปากซะอีก มันทำปากเบะใส่ผมแล้วหันหน้าไปคุยกับสัดแบงค์ ป๊าดติโธ่ ท้าทายอำนาจกูเหลือเกินนะมึง
   “เว้าบาปเพิ่นหลาย ผู้จบปานนั่นซางว่าเนาะเจ้ากะดาย”
   “เว้ย นั่นบ่อจบ คั่นมันผู้จบเฮาบ่อแม่น ณ เดช พู้นบ่อ” สาวฝ้ายหันหน้ามามองผม เอ่อ มองกูตั้งแต่หัวจรดเท้า เออจบแปลว่างามหรือหน้าตาดีนะครับท่าน ไม่ใช่จบเห่
   “แม่นๆ ว่าอยู่แต่บ่อคือดอก ณ เดช น่ะ เจ้าดำกว่า ปากบ่อดีหลาย คิ้วดกกว่า ณ เดช ดังบ่อโด่งสู้ สูงกว่าเพิ่นสูงโพดน่ะ เว้าลาวอีก บ่อแม่นๆ ณ เดชอุดมน่ะแม่นอยู่” “ฮ่วย เว้าตาซังแท่ะฝ้าย ผู้บ่องามเว้ากะบ่อม่วนเนาะ” “ค่า ถอยแน่ค่าคุณเพิ่นผู้จบ หือดิฉันสิเอาน้ำหวานค่า” ป๊าด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนด่าผมจอดไม่เป็นท่าแบบนี้เลยนะยกเว้ยคุณแม่ เธอเก่งมากๆทำหน้าใส่ผมอีก หนอยๆ สงสัยไอ้เตี้ยนั่นเสี้ยมมา มันได้ยินล่ะครับที่สาวฝ้ายพูด เหมือนว่ามันถามสาวปูกับสัดแบงค์แล้วทั้งกลุ่มก็หัวเราะออกมา หัวเราะใคร กู? หนอยแน่ พอกลับเข้าไปร่วมกิจกรรมอีกเขาก็มาบอกล่ะครับว่าตอนเย็นจะมีการแสดงละครเพราะเป็นคืนสุดท้าย แน่นอนคนหล่อๆอย่างกูย่อมไม่ได้แสดง ฮ่าๆ ทำไมล่ะก็กูไม่อยากแสดงอะไรปัญญาอ่อนน่ะสิวะ ให้พวกอยากแสดงทำไป
   “เป็นตาซังสาวเมย์เนาะ ย้านแต่บ่อได้เป็นนางเอก เฮาล่ะหน่าย” พอตอนกินข้าวเย็นสาวฝ้ายก็บ่นตอนกูเดินเข้าไปนี่เห็นคุยกันออกรสออกชาติเชียว แน่ะๆ อย่าเข้าใจผิดที่เดินเข้าไปหาก็เพราะเห็นสัดแบงค์มันนั่งคั่วไอ้เตี้ยอยู่ล่ะครับ อ้าวแล้วเกี่ยวไรกะกูวะเนี่ย แต่ขากูมันพาไปยืนข้างหน้ามันแล้วครับ
   “แม่นอยู่ ย้านแต่บ่อได้เล่น โพดพะโลเนาะ ดีแล้วล่ะที่เพิ่นได้เป็นนางเอกแล้วพวกเฮาได้เป็นนางร้าย สิตบเอาอีหลีจักบาดอยู่ อิอิ” โว้ สาวปูเห็นหงิ๋มๆแต่ท่าทางคงจะหมั่นไส้คนชื่อมย์มากล่ะครับ เออ ขอเล่าตอนที่มันทำท่าตำส้มตำเซ็กซี่หน่อยเถอะ แม่งเห็นแล้วสยิวเลยนะ คือไม่รู้สิคนกรี๊ดเยอะนะไม่คิดว่ามันจะกล้าทำ ฮ่าๆ กูก็มองเพลินตาดีเหมือนกันเห็นมันเอ๋อๆแบบนี้แม่งเล่นบทเซ็กซี่ก็น่าดูนะเว้ยเฮ้ยทำเป็นเล่นไป มันขาวด้วยล่ะมั้งหน้าตาก็ไม่ได้น่าเกลียดเลยน่าดูแทน
   “ป๊าด เจ้านั่นบ่อสิตบเขา สิกล้าบ่อล่ะปู” สาวฝ้ายแหย่ครับแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น ได้ข่าวว่ากูมายืนอยู่นานแล้วนะสนใจกูบ้างเฮ้ยพวกมึง
   “แสดงหยังกันสาวๆ” ผมทักครับ เออกูทักก่อนก็ได้วะ
   “พวกเฮาสิแสดงละครเรื่องอีซิน เอ้ย นางซิน” สาวฝ้ายแสดงอาการขึงขัง ฮ่าๆ น่ากลัวเป็นบ้าแว่นหนาๆตาหยีๆทำหน้าตาดุๆ เข้ากันดีจริงๆ
   “แล้วหมู่เจ้าเล่นบทหยัง ได้แสดงอยู่บ่อ” สัดแบงค์ครับเสือกได้ทุกงาน มันถามไอ้เตี้ยนะเพราะสายตามันจับจ้องอยู่ที่หน้าไอ้เตี้ยคนเดียวเลย
   “เล่นตั้วเนาะ ผู้จบปานนี้บ่อได้เล่นแล้วสิเสียใจ” สาวฝ้ายตอบแทนครับ สม เสือกดีนัก
   “เล่นเป็นหยังล่ะ แล้วเจ้าได้เล่นนำเขาบ่ออุ่น” นั่นๆ เห็นไหมไอ้นี่มันวอนกินตีนกูวะแล้ว แต่เอ๊ะ เหมือนกูหึงมันเลยนะ ไม่หรอกน่ากูแค่จะทำให้มันตายใจแค่นั้นเอง อย่าคิดมากน่า
   “เล่นตั้วเนาะ สิขาดได้บ่ออุ่นน่ะเขาถืกเสนอซื่อก่อนหมู่เด้ แต่อีเมย์มันแย้ง มันอยากเล่นเป็นอีซินเอง” สาวปูครับ
   “อ้าว แล้วอุ่นเล่นเป็นหยัง” สัดแบงค์ครับทำท่าตกใจมองหน้า หน้าของมันนี่ห่างแค่คืบเขาตีนสะกัดดาวรุ่งออกมาดีไหมเนี่ย
   “เออเว้ามากะซังหลายซะอีเมย์น่ะ ฮู้บ่อว่ามันล้ออุ่นว่าเป็นกะเทยเด้เลยให้เล่นบทแม่เลี้ยงใจร้าย เฮาสองคนกะได้เล่นเป็นลูก” ฮ่าๆ โดนล้อว่าเป็นกะเทยเป็นไงล่ะ ท่าทางคงจะอายเพื่อนแต่เอ๊ะทำไมมันทำหน้าเฉยๆวะ
   “ซั่นกะเล่นให้มันสมบทบาทไปเลยเนาะ ตบจริงแสดงจริง อิอิ” สาวฝ้ายทำท่าจริงจังครับ
   “ใช่ คอยดูนะ” อ้าวๆ ไอ้เตี้ยพูดบ้างครับ
   “ฮ่วย สิตบเขาอีหลีบ้อนี่ อย่าเป็นตาย่านหลายเด้อ ความเป็นตาฮักมันสิเหมิดเด้” สัดแบงค์ครับหมอลำจริงๆให้ตายเถอะ
   “โอ๊ยเจ้ากะดายเนาะ คนเป็นตาฮักสิฮ้ายสิดีกะยังเป็นตาฮักอยู่ดีล่ะเนาะ แม่นบ่ออุ่น อิอิ” สาวปูครับพูดแล้วก็หัวเราะไอ้เตี้ยมันอายหน้าแดง หน้าแดงง่ายมากๆเออนะกูก็ชอบมองมันนะ อ้าวๆ หรือไม่จริงคนหน้าแดงดีกว่าหน้าดำละกันวะ
   “มึงจะแสดงเป็นตุ๊ดเหรอ” พอเขาปล่อยให้พักไม่รู้ทำไมพวกเราก็ออกมาข้างนอกอีกอยู่ดีครับ ไม่ใช่นกในกรงนี่หว่ามันต้องออกมาดูโลกภายนอกบ้างนะเว้ย ผมรีบปรี่เข้าไปหามันเอาตัวประชิดทันทีครับ มันไม่ตอบไม่มองกูด้วย สัดนี่
   “แต่ก็เหมือนอยู่แล้วนี่นะ คงไม่ต้องฝืนธรรมชาติมาก” แหย่ต่อครับไม่สนใจมันต้องคุยดิก็กูคุยอยู่กับมันนี่หว่า
   “อืม” สัดตอบมาคำเดียวแล้วหันไปหาสองสาวต่อ
   “ไหนทำท่าตุ๊ดให้ดูหน่อยซิ ออกสาวมากๆน่ะทำเป็นป่ะ ไหนๆ” ผมจับบ่ามันครับเขย่าๆ
   “ออกมากๆทำไม่เป็นน่ะ เป็นแต่แบบออกสาวไปเลย เป็นผู้หญิงอะไรงี้ จะดูป่ะ” สัด ท้าทายครับ มันท้าทายทำหน้าแบบเซ็งเหม็นขี้สุดๆ หนอยแน่
   “ทำไงอ่ะ ไหนกูจะดู” อยากเห็นเหมือนกันนะ
   “ไม่มีรมณ์” “สัด ป๊อดนี่หว่าดีแต่คุย”
   “ไรอ่ะตัวเอง ทำไมชอบพูดจาไม่สุภาพล่ะคะ อุ่นไม่ชอบนะ” เอ่อ กูอึ้งรับประทานไปเลย มันไมได้ออกสาวเลยนะแต่มันพูดจาแบบนุ่มนิ่มทำตาปริบๆ สัดกูอึ้งว่ะเหมือนโดนสะกด บทจะหวานแม่งสาวๆอายเลยว่ะเฮ้ยกูเคลิ้มเลยนะมึง
   “พอใจยังคะ” แน่ะมีย้อนกูอีก สัดเขินว่ะ
   “อุ่นๆ ปิ๊ดเป๊ดอีกแล้วกินบ่อ” สาวฝ้ายมาขัดจังหวะครับกูยังยืนอยู่ที่เดิมส่วนพวกมันวิ่งไปโน่นแล้วครับที่เก่าเวลาเกือบจะเดิม กูยืนยิ้มเขินเชี่ยไรไม่รู้อยู่คนเดียว เว้ย
   “เอาถั่วดำพ่อใหย่” ผมเดินฝ่าวงเข้าไปครับพวกนั้นกำลังหัวเราะกันสนุกสนาน
   “อ้าวกินคือแบงค์เลยเนาะเดี๋ยว ติดใจติ๊” สาวฝ้ายครับสาวปูเองก็หัวเราะ ไอ้เตี้ยมันยืนเอ๋ออยู่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาหรอกนะ
   “ฮ่วย บ่อเคยกินแต่อยากสิกิน มึงกินแนวอื่นได้บ่อบักแบงค์อย่าเลียนแบบหลาย”
   “ฮ่วยกูกินมาโดนแล้วเด้ บ่อสนว้อย” หนอยแน่ไอ้ห่านนี่กวนบาทาจริงๆมีมายอกย้อนด้วยนะ
   “อย่าโสกันๆ จั่งได๋กะมักคือกันบ่อแม่นบ่อ อิอิ” ผ่าง วงแตกครับสาวฝ้ายนี่แสบจริงๆ พูดแล้วก็ลากสาวปูกับไอ้เตี้ยวิ่งไปเข้าร้านขายของ พอพ้นจากหน้าสาวๆกูก็
   “ผลั่ว” “ฮ่วย มาปัดไอติมกันเฮ็ดหยัง หาเรื่องบ่อบักเดี๋ยว” กูมันคนนิสัยไม่ดีอ่ะนะ ใครจะทำไม ปากหมาท่ากวน
   “แดกแนวใหม่ ห้ามเลียนแบบเข้าใจบ่อ” ผมขู่มันครับแล้วเดินตามพวกนั้นไป ฮ่าๆ มีความสุขเว้ย
   “มื้อนี้อ้ายเลี้ยงน้ำเอง กินเลยๆ” เห็นไหมว่ากูก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะเว้ย หน้าใหญ่ใจปั้มเหมือนกันนะสู ทั้งสามคนหันขวับทันที
   “สิดีบ่อเดี๋ยวพวกเฮาเกรงใจเด้” สาวปูครับ
   “แม่นๆ เกรงใจหลาย บ่อเป็นหยังดอกมั้งเนาะอุ่นเนาะ” เหมือนสองสาวจะหันไปถามความเห็นของไอ้เตี้ยล่ะครับ มันเบะปากใส่ผมแล้วหันไปหาสองสาว
   “นั่นสิ แต่เราอยากกินชาเขียวอ่ะ เอาโค้กกระป๋องขึ้นไปเก็บไว้กินด้วยแล้วตอนเช้าเอาโอวัลตินกล่องด้วยดีไหมอ่ะ” สัด ดูมันนะครับคราวนี้ล่ะยิ้มเชียวนะมึงหนอยแน่ สองสาวก็ตาวาวสรุปกูสูญเงินหลายร้อยเลยนะนั่น เบี้ยเลี้ยงกูๆ แม่งเอ้ยไม่น่าเลยกูหน้าใจใจปั้มหำหดเลยกู
   “ฮ่าๆ โอ๊ยตาอยากหัวคนเด้ อวดรวยเนาะ” “สัด มึงว่าไผอยากตายติ๊บักแบงค์” พอเดินออกมาครับ เจอแสงแดดนี่หน้ามืดเลยกู มีคนมาล้ออีกมันน่าไหมเนี่ย
   “บ่อได้ว่าไผเด้ล่ะ อุ่นๆเฮาซ่อยถือมา” มันปรี่เข้าหาไอ้เตี้ยครับแล้วก็แย่งถุงไปถือ หนอยมึงกูเป็นคนจ่ายมึงได้หน้าว่างั้นสัด เลวมากไม่ได้ล่ะต้องกันมันออกไม่งั้นมันจะถลำ
   “เฮ้ย อย่าเสือกเรื่องผัวเมียเขาได้บ่อมึงน่ะบักแบงค์ อยากเป็นแท้บ่อซู้น่ะ” ผมไปแย่งของมาจากมือสัดแบงค์ครับ แต่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะว่าทำไมกูถึงทุ่มทุนส้รางขนาดนี้ ไม่คิดมากๆ กูไมได้คิดอะไรแค่อยากจะสนุกๆ พอเดินกลับเข้าไปในโรงเรียนสองสาวก็แยกไปทำธุระส่วนตัวล่ะครับเหลือเราสามคน ทำไมต้องเราสามคนวะเนี่ย อย่ามาถามว่าใครสักคนต้องเป้นฝ่ายไป สัดแบงค์คือคำตอบสุดท้าย
   “ที่รัก อาบน้ำกันป่ะ” ผมเดินเข้าไปแหย่มันครับตอนมันกำลังรื้อเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า เออ กลิ่นเสื้อมันกลิ่นตัวมันหอมเหมือนน้ำยาปรับผ้านุ่มเลยนะครับ แม่งใช้ยี่ห้ออะไรวะหอมเป็นบ้า แล้วเสื้อผ้ากูนะเหมือนจะไม่มีกลิ่นหรือเปล่า อิอิ
   “พูดกับมึงนะ สัด” มันทำหน้าแบบว่าอยากรับประทานบาทาเป็นมื้อเย็นมากครับ หนอยแน่กวนกูได้ตลอดเวลานะมึง
   “อาบเองไม่เป็นเหรอ” ดูเอานะครับกระแทกเสียงมานี่กูหน้าหงาย
   “เป็น แต่กูอยากอาบกะมึง มีไรป่ะ เผื่อจะได้เอากันไง” ทะลึ่งใส่เลย
   “ชวนแบงค์สิ เผื่ออยากเอากะแบงค์ อิอิ” “สัด กวนตีนนะ จะไปไม่ไป ไปถูหลังให้กู” ต้องขู่ครับไอ้นี่ชอบซาดิสต์
   “พิการไงถูเองไม่เป็นอ่ะ” ป๊าด ว่าจะไม่ทำอะไรมันแล้วนะเนี่ย แต่กูประเภทมือไวว่ะตบหัวมันเลย แต่ไม่ตบแรงมากเดี๋ยวมันงอนไม่ให้กูแกล้งอีกคราวนี้หาที่ลงไม่ได้แน่ๆ
   “อ่า นี่แน่” เอ่อ คือมันนั่งอ่ะนะกูยืนพอกูก้มลงตบหัวมันรู้ไหมมันทำอะไรมันชกมาที่เป้ากูสิครับท่าน แว้กก จุก
   “สัด โอ๊ย จุก” กูล้มตัวลงข้างๆมันเลยครับ มันถอยหนี
   “สม ชอบใช้กำลังดีนัก ขอให้เป็นหมันไปเล้ย อิอิ” สัด ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะกูอีกนะมึง ตายมึงตาย กูว่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงแต่ดูเอาเองนะ พวกตัวประกอบในห้องก็หัวเราะชอบใจ สัดเอ้ย กูจุกจริงนะเว้ย กูตบมันเบาๆแต่แม่งมันต่อยกูจริงจัง ไข่แตกไหมวะเนี่ย โอยๆ
   “อิอิ เป็นจั่งได๋น้อไข่น่ะ” ตอนจะอาบน้ำครับสัดแบงค์มันยืนยิ้มอยู่หัวเราะด้วยนะมัน
   “อยากตายติ๊” ผมขู่ออกไปครับ
   “โอ๊ย ย้านเด้ ย้าน” “พลั่ก” “โอ๊ย ถีบกูเฮ็ดหยังบักเดี๋ยว” “อยากถืกหลายกะจัดให้ตีนน่ะ ปากหมาเด้อมึง สิหาว่ากูบ่อเตือน” พูดจริงทำจริงเว้ย กูไอ้เดี๋ยวนะไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง สัด ล้อมาตีนก็ปลิวไปทันใดเข้าหน้าท้องมันล้มระเนระนาด ทั้งห้องน้ำแตกฮือ สัดแบงค์ล้มลงไปกองกับพื้น มันหน้าซีดเลยครับ ส่วนกูเดินเข้าไปอาบน้ำสบายใจจัง พอตอนเย็นกินข้าวกูก็ไม่เห็นไอ้เตี้ยนั่นนะครับ แม่งหลบดีเป็นบ้าคงกลัวว่ากูจะจัดหนัก อย่าให้เจอนะมึง กูยังเจ็บไข่อยู่เลยนี่ จะใช้งานได้หรือเปล่าไม่รู้ ถ้ากูพิการไข่ไม่ผลิตน้ำเชื้อมาล่ะก้อมึงตายแน่ๆ
   “เอาล่ะครับทุกคน ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะทำการแสดงละครแล้ว คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ด้วยกัน มิตรภาพที่สวยงามอยากให้ทุกคนจดจำไว้ให้ดีนะครับ” พอให้รวมตัวกันในหอประชุมพิธีกรก็กล่าวขึ้นล่ะครับ ตอนนี้ยังนั่งตามกลุ่มกันอยู่แต่บางคนก็แยกไปนั่งกับเพื่อนใหม่ซึ่งกูไม่มี ฮ่าๆ ไม่ได้เสียใจเว้ยกูไม่อยากรู้จักใครต่างหาก มีคนมาถามชื่อขอเบอร์เยอะแยะ ไม่ให้เว้ย กูหยิ่งเข้าใจ๋
   “การแสดงของกลุ่มเอในวันนี้ เห็นบอกว่าจะแสดงเรื่องโรมีโอกับจูเลียต ตอนนี้กลุ่มเอพร้อมแล้ว ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนๆหน่อยครับ” การแสดงเริ่มขึ้นล่ะครับเสียงปรบมือโห่ร้องดังขึ้น จะโห่ทำไมวะเนี่ยกูรำคาญเว้ย การแสดงง่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้ากลุ่มแล้วกลุ่มเล่าพอจบก็จะอวยกันว่า “ยอดเยี่ยม ดีมาก” ถุย ถ้าจะแสดงแบบนี้มึงอย่าแสดงเลยดีกว่า สัด ดูแล้วรำคาญลูกกะตา กูเลยนั่งหลับแม่งซะเลย ฮ่าๆ สนใจที่ไหน
   “กลุ่มนี้ทีเด็ดครับทุกคน เมื่อตอนกลางวันทุกคนคงจะได้เห็นลีลาเซ็กซี่ส้มตำแล้วนะครับ ขอบอกว่ากลุ่มนี้วันนี้จะแสดงในเรื่อง ซินเดอเรล่า ขอเสียงปรบมือให้กับกลุ่มเอ็มด้วยครับ” หือ กลุ่มไรนะ คุ้นๆว่ะ แม่งแต่เสียงโห่เสียงกรี๊ดดังมากจนกูสะดุ้งตื่นเลยนะ เฮ้ย นั่นมันกลุ่มไอ้เตี้ยนี่หว่า เออๆ ไหนๆ เห็นได้ยินแว่วๆว่ามันได้รับบทเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย ฮ่าๆ แต่งหญิงจริงป่ะเนี่ย อยากดูเว้ยอยากดู
   “ E Sin, where the hell are U? Come here, you have to polish my nails, are you hear me?” เอ่อ พอเปิดตัวออกมาเสียงไอ้เตี้ยนั่นดังมากครับ แว้ดดังจนทุกคนสะดุ้งไปเลย เสียงฮือฮาดังขึ้น ฮ่าๆ ดูมันแต่งตัวนะ มันใส่กระโปรงด้วยว่ะไปเอามาจากไหนไม่รู้ ใส่หมวกใบใหญ่ๆเหมือนหมวดชาวนานะแต่มันใหญ่กว่ามีดอกเชี่ยไรไม่รู้อยู่บนหมวกดอกเท่ากระด้ง แม่งมันทาปากแดงแจ้ดออกมายืนท้าวสะเอวส่งเสียงดังมากๆ กูจนสะดุ้ง เสียงกรี๊ดเสียงโห่ดังอึกทึก เพราะสำเนียงมันนี่นะ กูนึกว่าฝรั่งมาเอง สัด
   “Mommy, did you call E Sin? I need her to clean up my high-heel also, where are u E sin? E Bitch Sin!” เอ่อ สาวฝ้ายครับแต่งตัวเหมือนๆกัน แต่คำสุดท้ายนี่เล่นเอาเสียง อื้อ เอ่อ ดังระงม
   “Are you palying with a guy, see mommy she is a real bitch! You really need husband huh? E Sin. Why you come so late what are you doing ha E Sin?” คราวนี้สาวปูครับท่าทางของทั้งสาวดูกระแดะน่าเกลียดจริงๆ จริตเยอะจนกูอึ้งไม่อยากจะเชื่อ คราวนี้พอสาวนางเอกออกมา พวกสามคนนี้ก็เข้าไปล้อมวง เสียงด่าเอะอะจนฟังไม่รู้เรื่อง
   “Oh please mommy don’t hit me! don’t” “ Don’t what? This is what you want me to do? So what? Your job is to served us not to be so lazy or begging for a guy, are you nuts? You think you’re so beauty? You think the prince will come to drag you to a castle? No way! If I’m here, there is no anyway, you hear me!” โว้ ไอ้เตี้ยมันพูดออกสำเนียงเร็วจนฟังแทบไม่ทันล่ะครับ มันผลักหัวสาวนางเอกจนหงายเงิบสาวปูสาวฝ้ายก็เข้ามาทึ้งทั้งดึงแขนทั้งจิกผม กระเซอะกระเซิงเลยนะสาวนางเอก ทำไมมันแสดงสมบทบาทจริงๆวะ สาวนั่นเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริงๆเลยนะนั่น เออว่ะ มันแสดงดีจริงๆดีกว่าทุกกลุ่มเลยนะ กูเลยนั่งดูจนจบ
   “สุดยอดมากครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ แสดงเก่งมากๆ สมบทบาทที่สุดเลย ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนๆอีกครั้งนึงครับ” พอแสดงจบเสียงปรบมือเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นล่ะครับ กูก็เป่าปากสมทบซะหน่อยเสียงมันจะได้ดังกว่าเดิม แต่กว่าการแสดงจะจบมันหลายกลุ่มอ่ะนะ ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วเมื่อไหร่มึงจะปล่อยซะทีเนี่ย ตอนพวกนั้นลงจากเวทีกูก็เลยออกไปหาอะไรดื่มหน่อยอยากกินน้ำ
   “สม กรี๊ดสะใจอีหลี มันฮ้องไห้อีหลีเด้อนั่น” เอ๊ะ เสียงสาวฝ้ายนี่ มาทำอะไรตรงที่กดน้ำวะ
   “แม่นๆ สะใจอีหลี ปากกะบ่อออก จำบทคือสิบ่อได้ โอ๊ย เจ้านี่กะผลักหัวมันแฮงคั่กเนาะ เฮาลักดึงผมมันอยู่ ซัง” เสียงสาวปูครับ แน่ล่ะพวกนี้แน่ๆผมเลยยืนนิ่งฟังอยู่ครับ
   “อยากให้เราเล่นดีนักนี่ อยากให้คนล้อเราว่าเป็นตุ๊ดล่ะสิ สมใจยัง” หือ น้ำเสียงไอ้เตี้ยแบบนี้แสดงว่ามันโกรธอยู่ครับเพราะมันเป็นน้ำเสียงปกติล่ะเวลาที่มันคุยกับผม แต่กับคนอื่นจะไม่แบบนี้นะมันจะนุ่มๆกว่านี้
   “อยากดังหลายดังบ่อบ่านนี่ เป็นตาอยากหัวเนาะตอนพวกเฮาใซ้มันเซ็ดเกิบน่ะ คือสิเคียดพวกเฮาแฮง”
   “อ่ะแฮ่ม” ทนไม่ไหวครับโผล่ออกไปหน่อย รู้ล่ะว่าพวกนี้แสดงจริงอะไรจริง น่ากลัวนะเว้ยเฮ้ยก็กูนึกว่าเล่นสมบทบาทดีนะไม่ตบกันบนเวที ฮ่าๆ สัดเอ้ยตลกเป็นบ้า
   “ว้าย เดี๋ยว นึกว่าผี” สาวฝ้ายร้องขึ้นครับ แหมๆ
   “ฮ่วย ผีหยังสิหล่อปานนี้”
   “โอ๊ยเนาะ ย่องจะของเนาะเพิ่น” สาวปูครับ
   “เว้าหยังว่างฮั่น หมู่เจ้าแสดงหรือเฮ็ดอีหลีบ่อ เฮาฮู้เรื่องแล้ว” อิอิ ขู่ครับสาวๆจะได้กลัว
   “ฮู้กะฮู้ไปติ๊ พวกหมู่เขากะฮู้กันเหมิดกลุ่ม” ผ่าง สาวฝ้ายนี่มันน่าจริงๆ แม่งเอากูจอดสองรอบแล้วนะเนี่ย
   “ไปเถอะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน” ไอ้เตี้ยมันชวนสองสาวครับ แต่มันรู้อะไรป่ะเนี่ยว่าผู้หญิงกับผู้ชายมันต้องแยกกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ดี ฮ่าๆ ตามสิครับ
   “สวยนะเราน่ะ” ผมเอาไหล่ไปกระแทกมันล่ะครับ
   “อ๊ะ ชนทำไมอ่ะ” “กูว่ามึงไม่เหมือนกะเทยนะ แต่ใช่เลย ฮ่าๆ จะตัดเมื่อไหร่อ่ะตะเอง” ล้อมันครับ
   “ฮึ” อ้าวๆ ทำท่าค้อนกูเพื่อ เดินไปโน่นแลวครับ ตามต่อๆ
   “เป็นผู้ชายทำไมไปผลักหัวผู้หญิงแบบนั้นวะ ไม่แมนเลยนะมึง” ผมแหย่มันอีกล่ะครับ ตอนนี้มันหอบเสื้อผ้ามันอยู่ในมือกำลังจะขึ้นตกกลับไปที่ห้อง
   “นี่นาย เมื่อกี๊บอกว่าเราเป็นกะเทยแล้วมาถามหาความแมน เอาไรคิดเนี่ย สมองป่ะหรือว่า” “สัด” เอ่อ กูหน้าชาไปครับ มันมองลงที่ตีนผมน่ะสิ ผมผลักตัวมันแรงๆจนตัวมันเซไปติดผนังทางขึ้นบันได
   “อยากตายไง ปากหมานะ”
   “เลิกตอแยกับเราได้แล้ว เรารำคาญ” ป๊าด สายตามันแบบว่าแข็งมากๆเลยนะครับ กูสะอึกไป แต่มีเหรอคนอย่างไอ้เดี๋ยวจะยอมจำนน
   “ไม่เลิก มึงจะทำไม” อ้าว ถอนหายใจใส่กูเพื่อ
   “ทำไม ล้อแค่นี้จะตายไง ทำเป็นกระแดะรับไม่ได้นะ”
   “ไม่ใช่รับไม่ได้ จะมองยังไงเราก็เป็นอย่างงั้นล่ะ หลบได้ป่ะจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” สัด มันเดินขึ้นแล้วครับ กูยืนนิ่งอยู่ แม่งวันนี้เหมือนโดนมันจวกเอาหลายรอบแล้วนะครับ กูยอมได้ไงวะเนี่ย
   “พูดแทงใจดำอ่ะดิ๊ ถึงทำเป็นโกรธ” ผมยังเดินตามมันอยู่ครับ พอเข้าห้องไปก็มีกูกับมันสองคน จับทำเมียซะเลยดีไหมเนี่ยสัดเอ้ย
   “เข้ามาทำไมอ่ะ เราจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
   “ทำไม อายไง” ป๊าดมันไม่ตอบครับแต่มันถอดเสื้อผ้าออกเลยต่อหน้ากู กูก็เฉยๆนะแต่แม่ง ขาวฉิบหายขาวแบบว่าเนียนไปทั้งตัว มันใส่กางเกงขาสั้นข้างในกระโปรงล่ะครับแต่ตัวมันขาว ตัวตันๆไม่ผอม หัวนมยังไม่เห็นเพราะมันหันหลัง ฮ่าๆ
   “ขาวนี่หว่า น่าเอานะมึง” ผมเดินไปประชิดมันครับ
   “ไหนบอกไม่ใช่เกย์ มาวอแวทำไมเนี่ย”
   “ใครบอกกูไม่ใช่ ถึงกูไม่ใช่กูก็เอาได้เว้ย หรือมึงจะลอง” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “แหวะ คงดีแต่ใหญ่ เอาเป็นรึเปล่าเถอะนายน่ะ อิอิ” สัด ท้าทายๆ ผมดึงตัวมันเข้ามากอดทันทีครับ
   “อ๊ะ นายจะทำไรอ่ะ” “เอามึงทำเมียไง จะได้เลิกปากเสีย” ผมซุกหน้าลงต้นคอมันครับมือก็คลึงไปที่นมมัน
   “อา ไม่นะ” มันดิ้นครับมีหรือกูจะยอมผมต่อสู้กับมันอยู่สักหน่อยล่ะครับก็มันไม่ยอมนี่หว่า เอาไปเอามากูกับมันนอนปล้ำกันอยู่
   “อย่านะ บีบคอตายนะ” โอ๊ย กูล่ะขำมันนอนให้กูทับอยู่เนี่ยนะจะมามีปัญญาบีบคอกู
   “เหรอ โอ๊ย อยากตายๆ บีบดิมึงมีปัญญา” ผมท้าทายมันครับผมเอาหน้าลงจ่อใกล้ๆมัน หน้ามันแดงจัดเพราะผมทับไว้ทั้งตัว
   “อ่า เรา เราหายใจมะ”
   “ทำไมคะ หือ อย่าดิ้นสิผัวจะเอา”
   “อ่า หายใจมะ ไม่ออก”
   “สัด แล้วทำเป็นเก่งนะมึง” ผมยอมครับเพราะหน้าตามันเหมือนคนจะตายจริงๆ ผมเลยผ่อนน้ำหนักตัว มันหายใจแรงๆแล้วหลับตาอยู่
   “เลว” นั่น พอหลุดได้มันก็ด่าทันทีเลยครับ จัดการมันซะหน่อยดีไหม
   “อ๊ะ” เอ่อ กูไม่รู้ว่ากูคิดอะไรอยู่นะ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะเว้ย สรุปเลยละกันกูไม่อยากเล่า ไอ้นั่นมันเดินลงไปแล้วล่ะครับกูนี่สินั่งเอ๋ออยู่บนห้อง สักพักก็เดินกลับลงไปที่หอประชุมตามหาตัวสัดแบงค์แล้วไถบุหรี่มันมาอัอเข้าปอดซะหน่อย แม่งกูเป็นอะไรวะเนี่ย

เขียนโดย อิ๊กกี้ อิอิ

ปลนิ. ชอบอ่ะป่าวคร้าบ อิอิ อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านมีความสุข อย่าคิดมากนะครับผม อยากให้มีรอยยิ้มกันทุกๆคนนะคร้าบ
จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 26-04-2012 09:43:54
เริ่มรุกหนักๆๆๆๆ -..-)b!
ชอบหนูอุ่นอ่ะ น่าร้ากกกกกกก ><"
แต่เหมือนจะรำคาญจริงๆแฮะ น่าสงสารเบาๆ
รอตอนต่อไปแล้วกัน ว่ารำคาญจริงป่าวววว 5555

ปล.ชอบอ่านเรื่องนี้จัง แลดูได้ภาษาเพิ่ม 5555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 26-04-2012 12:24:50
จะน่ารักไปถงไหนน้องเดี๋ยว น้องอุ่นเนี่ย จัดหนักเลยลูก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 26-04-2012 13:07:37
เมื่อไหร่เดี๋ยวมันจะยอมรับแล้วลงมือทำอะไรจริงๆสักทีก๊ากกก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-04-2012 13:15:19
อุ่นน่ารักจริง
ปล. เราคงยังมีปัญหากับภาษา ไม่รู้เรื่องจริงๆอ่ะ
เวลาอ่านได้แต่เดาๆเอาว่ามันคงจะหมายถึงอย่างนี้อ่ะมั้ง
ชอบอ่านตอนของอุ่นสุดและ รู้เรื่องและเข้าใจความนึกคิดของตัวละคร
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-04-2012 14:12:43
เดี๋ยวยังคงบทบาทผู้ก่อกวนรักได้สม่ำเสมอ ถึงเนื้อถึงตัวบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ถอนตัวไม่ขึ้น
สาวฝ้ายกะสาวปูรวมทั้งหนุ่มแบงค์ทำให้การเข้าค่ายครั้งนี้มีสีสันขึ้นมาหน่อย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-04-2012 18:56:12
เดี๋ยวเคลิ้มบ่อยๆนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 26-04-2012 20:09:24
เอาเลยๆๆๆ :)
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 26-04-2012 20:31:23
อ๊าย ชอบอ่ะพี่อิ๊ก มาต่อไว ๆ นะครับ
ชอบน้องอุ่นมาก ๆ เลย >,,<"
  :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 26-04-2012 21:14:08
เจ้าเดี๋ยวทำเป็นซ่า....ฟาดหัวฟาดหางเค้าไปทั่ว..
ไม่กล้ากะนู๋อุ่นละซิ....อนาคตกลัวเมียเห็น ๆ เลยนะเนี่ย...
น้องอุ่นครบเครื่องดี...ไม่ค่อยอึนแระ...เล่นงานเจ้าเดี๋ยวไป
หลายดอก...สะใจดีแท้....เอาอีก ๆๆๆ   :laugh:

 :L2:  น้องอิ๊ก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-04-2012 20:12:32
นู๋อุ่นจัดหนักเดี๋ยวเลย :z1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-04-2012 05:06:19
แง่ม    หาไม่เจอ   ที่แท้  ชื่อเปลี่ยนนี่เอง

กดหาตั้งหลายหน้า     *(โง่  ไม่ยอมถามอากู๋  555+)



เรื่องนี้  นายเอกเราแอบรั่วนะเนี่ย  แถม  ตลกตอนที่  สะกดคำว่า  มารยาท   สวดยอดมาก !!   ช่างกล้าอ่ะ  เจ้าอุ่นเอ๊ย


หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 30-04-2012 14:09:33
คนแต่งก็เป็นตาฮักนะ อ่านไปยิ้มไป ถึงบางคำจะไม่ค่อยรู้  ^_^

ตอนนี้เดี่ยว สงสัยตกหลุมฮักแล้ว แม่น บ่ แต่คงบ่ รู้ตัว แต่ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่ ได้กลายจากเสือเป็นแมวน้อยดีๆ นี่เอง

ขอบคุณหลายๆเด้อ  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 7 Version (เดี๋ยว) 26 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 30-04-2012 15:48:50
บางทีก็ข้ามเพราะอ่านบ่ฮู้เฮื่อง :-P
แต่โดยรวมแล้ว มันส์ตามสไตล์จริงๆ
เดี๋ยว แกเนี่ย ปากก็ว่าเค้าแต่มือนี่ไปแล้วนะ ! 555*
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 30-04-2012 17:19:08
Don’t call Me BaBy!!!

อืม ก่อนอื่นขอเล่าบรรยากาศตอนที่จะแสดงละครหน่อยนะ หมั่นเขี้ยวไม่หายเลยอ่ะ คนอะไรนึกว่าจะมีแต่ในละคร ขี้อิจฉามาก แล้วนางเมย์นั่นจะมาอิจฉาอะไรผมวะไม่เข้าใจ ผมเป็นผู้ชายนะ หรือเธออาจจะมองว่าผมเป็นเกย์ กะเทย ตุ๊ด อีแอบอะไรก็ตามแต่ แต่ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะมาอะไรกับกูมากมายวะเนี่ย
   “เพื่อนๆคะ ทานข้าวเย็นแล้วเรามาซ้อมกันนะคะจะได้เล่นเข้าขากัน เมย์ไม่อยากให้กลุ่มเราเล่นไม่ดีทำให้กลุ่มอื่นหัวเราะเอา” นางก็ทำตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มไปโดยปริยายครับ หัวหน้ากลุ่มมาจากชัยภูมินี่ล่ะถ้าจำไม่ผิด ผู้หญิงเก่งนะแต่เธอเงียบๆเลยสู้คุณเมย์เธอไม่ได้
   “แล้วเลือกตัวละครแล้วบ่อ ยังบ่อทันเลือกเลยสิมาซ้อมจั่งได๋” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ
   “ก็เลือกเลยจ๊ะ ให้นพเป็นเจ้าชายก็แล้วกันเพราะแมนสุด” ไม่สนใจไม่ได้พาดพิงถึงกูโดยตรง
   “ส่วน ครีมเป็นลูกเลี้ยงกับน็อตนะ” พูดถึงแค่นี้ก็หยุดแล้วก็แสยะยิ้ม ผมไม่ได้มองหรอกนะแต่สาวปูสะกิดให้ดู
   “แล้วแม่เลี้ยงใจร้ายล่ะ นางเอกอีก” เพื่อนยังคงสงสัย แล้วเธอก็ยิ้มออกมา
   “เราว่าบทซินเดอเรล่าเล่นยากมาก เราจึงขออาสา” เอ่อ กล้ามากเพื่อนๆมองหน้ากันเป็นแถบครับ แหมนะ แต่ก็กล้าดีนี่อยากแสดงก็บอกออกมาเลย
   “ส่วนแม่เลี้ยงใจร้ายเราว่าถ้าจะให้เพื่อนผู้หญิงเล่นเราว่ามันจะเฉยๆไม่ฮาอ่ะ เราอยากให้อุ่นเล่น เพราะท่าทางอุ่นคงจะเหมาะสุด ทั้งสำเนียงหน้าตาเราได้ข่าวว่าแฟนอุ่นเป็นผู้ชายนี่จริงไหม” หือ ว่าไงนะ ผมไม่ได้สนใจฟังมันพูดอะไรมากครับ สะดุ้งอยู่แต่เพื่อนๆหันมามองเป็นตาเดียว
   “หือ ไรอ่ะ” ผมถามฝ้ายครับ
   “โพดไปเด้อค่าเมย์ เพิ่นสิเป็นหยังกะบ่อควรสิเอาเรื่องส่วนโตมาเล่นเด้” ฝ้ายมันพูดขึ้นครับปูมันกระซิบบอกผมว่ามันพูดอะไร ผมเองก็เม้มปาก หนอยแน่นังนี่เกินไปนะ
   “อ้าว ก็ถ้าให้เพื่อนผู้ชายแท้ๆแสดงความแมนมันก็ออกมาสิจ๊ะ ต้องให้คนที่เขาเป็นอยู่แล้วแสดงสิถึงจะได้อารมณ์ เราไมได้จะล้อหรือเอาเรื่องส่วนตัวของอุ่นมาเล่นนะ เราแค่พูดในสิ่งที่เขาลือกันน่ะ ผิดด้วยเหรอ” เออ ไม่ผิดหรอก อย่าให้มีคนล้อมึงบ้างละกัน เรียนเก่งแต่วิชาการใช่ไหมเขาว่าคนแบบนี้น่ะ
   “จะแสดงไหมล่ะอุ่น หรือบทจะรับบทนางเอกเองเลย” ทุกคำพูดมันจิกกัดผมตลอดเลยนะ ไม่เข้าใจจริงๆ
   “ได้สิ แต่ถ้าจะให้เรารับบทเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายเราจะให้ปูกับฝ้ายเป็นลูกเรา งั้นก็ไม่เล่น” ผมพูดออกไปครับจ้องหน้ามัน เพื่อนๆทำเสียงอื้ออึงขึ้นมาทันที มองหน้าผมทีนังเมย์ที
   “แล้วครีมกับน็อตล่ะ” แหมแอ๊บเสียงนางเอกเพื่อ คงมีใครมองว่าแกเป็นนางเอกอยู่หรอกนะ
   “เฮาเล่นเป็นฉากกะได้เนาะครีมเนาะ” สาวน็อตครับเธอสะกิดบอกครีมทันทีเพราะคงรู้ดีว่าบรรยากาศคงจะระอุแน่ๆ สาวครีมตกลงอย่างง่ายดาย
   “ตาซังคั่กเนาะอีห่านี่ คนอีหยังวะหน้าตากะพอเบิ่ง นิสัยแย่หลาย คิดว่าเพินเป็นนางฟ้าบ่อ” ฝ้ายมันบ่นครับตอนเราเดินออกมาจะไปกินข้าว
   “แม่นอยู่ อีหยังสิมาพาดพิงกันคั่กโพดเนาะ”
   “ช่างเขาเถอะ แต่อย่าหาว่าเราเล่นสมบทบาทไปล่ะ” ผมพูดออกมาครับ
   “ว้าย เป็นตาย้านแท้อุ่น เฮ็ดตาคือนางร้ายในหนังนิ โอ๊ย เฮาย้าน” ฝ้ายมันร้องขึ้นล่ะครับ แล้วเราสามคนก็ไปฝึกกรี๊ด ฝึกจิกหัว ผลักหัวที่หลังอาคารคนไม่พลุกพล่าน เอ่อ คิดว่ากูคนเดียวนะที่แค้นใจแต่เพื่อนสองคนนี่ซ้อมดึง จิกหัวกันเอาจริงเอาจังมากล่ะครับ สรุปว่าพอแสดงจริงก็ตีบทแตกละเอียด เสียงสาวปูกับสาวฝ้ายกรี๊ดแบบไม่ต้องใช้ไมโครโฟนส่วนผมเองก็แอ๊บเสียงกระแดะๆแรดๆ เออกูเป็นเกย์ กะเทย ตุ๊ด เห็นกันทั่วทั้งหมดหรือยัง พอใจมะ
   “อ่า เรา เราหายใจมะ”
   “ทำไมคะ หือ อย่าดิ้นสิผัวจะเอา”
   “อ่า หายใจมะ ไม่ออก”
   “สัด แล้วทำเป็นเก่งนะมึง” และนี่ผมก็ไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมไอ้บ้านี่มันถึงมาคอยวอแวผมจัง ไหนบอกว่ามันไม่ได้คิดชอบผม แล้วนี่อะไรวะ หรือว่ามันแค่อยากแกล้ง คนเลว ชั่วช้าที่สุด
   “เลว” ผมกัดฟันพูดออกไปล่ะครับ ตามปกติวิสัยของผมจะไม่พูดคำหยาบนะ แต่กับไอ้นี่ขอหน่อยเถอะมันไม่ไหวจริงๆ พอพูดแค่นั้นมันก็ เอ่อ แว้กก
   “อ๊ะ” นี่เป็นเสียงเดียวที่ลอดออกจากปากของผมครับ มัน มัน มัน มันก้มลงเอาปากทาบกับปากผมทันทีอ่ะท่านผู้ชม อ่า ดีใจ เอ้ย ไม่ๆ ตกใจอึ้งไปเลย มันบดปากมันเข้ามาแหย่ลิ้นเข้ามาด้วยอ่ะ ทำไงดีอ่ะ ทำไงดี ช่วยผมด้วย เผยอปากรับหน่อยดีกว่าเดี๋ยวลิ้นมันจะโดนฟันผมเป็นแผลอีกแล้วจะมาด่าผม เอ๊ะ แต่จะดีเหรอ อ่าเผยอไปแล้วอ่ะ
   “อ่า” แต่ก็แค่ชั่วครู่ล่ะ อย่าๆ อย่ามาหาว่าอุรดิศเป็นคนใจง่ายฝันไปเถอะ พอเรียกสติได้ผมก็ผงะหน้าออกจากมันดันตัวมันออกล่ะครับ ถ้านานกว่านี้กลัวอ่ะ กลัวว่ามันจะยาว แว้กก
   “ไอ้บ้า” ผมด่ามันครับแล้ววิ่งออกไปเลย ตกใจ อึ้ง ช็อกหลากหลายอารมณ์ ปากมันหนาๆ ลิ้นมันอุ่นๆ กลิ่นลมหายใจที่เหม็นบุหรี่ทำไมมันยังติดอยู่ตรงนี้นะ โว๊ย ไปเข้าห้องน้ำ อ๊ะ อย่าคิดว่าคนอย่างอุรดิศจะเลียนแบบในละครเกาหลีที่เอาน้ำวักล้างออกล่ะ หึ เชย ไม่หรอกเขาไปยืนเฉยๆตั้งหลักจูบแล้วจูบไปสิเอาไรคืนได้ จูบ? อ่า ผมเพิ่งจูบกับมันเหรอเนี่ย ขอกรี๊ดเป็นภาษาฮิบรูหน่อยได้ไหม กรี๊ดดด ฮิบรูๆๆ อายจังอ่ะ อายจริงๆนะ ผมหลบอยู่ในห้องน้ำนานมากๆคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนเสียงเพื่อนๆเขาเหมือนจะเลิกแล้วล่ะครับ ตายล่ะกูอยู่ในนี้นานเกินไปนานแค่ไหนวะเนี่ย มัวแต่บิ้วเพลินไปหน่อย อิอิ
   “อุ่นๆ ไปไสมาเฮาสองคนนำหาทั่วแล้วกะบ่อเห็น” พอเดินกลับไปในหอประชุมเพื่อนๆก็แยกกันไปเกือบหมดแล้วล่ะครับเหลืออยู่ก็แต่พวกที่ขอเบอร์ที่อยู่ติดต่อกัน
   “เอ่อ เราไปแอบงีบในห้องน้ำมาอ่ะ” “โพดเนาะ บ่อเหม็นติ๊ เออ อุ่นมีเบอร์บ่อมาแลกกันเอาไว้ติดต่อ” สาวฝ้ายครับ ทีนี้เราสามคนก็แลกเบอร์กันวุ่นวายอยู่
   “ขอนำแน้เบอร์น่ะผู้สาว” ไอ้แบงค์ครับมันเดินเข้ามายิ้มมาแต่ไกล
   “ขอเบอร์เฮาติ๊หรือสิเอาเบอร์ไผกันแน่” สาวฝ้ายดักคอครับมันหัวเราะออกมา
   “เอาเหมิดนั่นล่ะ หมู่กันเนาะ ห่าได้ไปอำนาจเด้” “ว้าย เพิ่นนี่เด้ล่ะอยู่อำนาจ เฮาอยู่สารคามเด้อ” สาวปูพูดแล้วหัวเราะครับ ไอ้แบงค์ทำท่าเขิน จะเขินเพื่อ เอออยากได้ก็จะให้วะ
   “เจ้าใซ้บีบีติ๊ ซั่นขอพินนำแน่ะ” เอ่อ เนื่องด้วยผมยื่นโทรศัพท์ให้มันล่ะครับอยากกดเบอร์เมมอะไรก็ตามใจมัน ไม่น่าเลยกู
   “เอาไปต้มติ๊” เอ่อ อ่า มันมาอ่ะจะอายทำไมเนี่ยอุรดิศ ไม่นะๆ เข้มแข็งๆ ผมหันหลังให้มันทันทีครับ
   “ฮ่วย เอาไปเผื่อสิส่งรูปให้กันเด้”
   “บ่อได้ ไสเอามานี่” เอ่อ เหมือนมันสองคนแย่งโทรศัพท์ผมเลยนะครับ อย่าหันไปมองนะอุรดิศ เราต้องอดทน แล้วจะใจเต้นแรงเพื่อ
   “เฮาคือสิคึดฮอดเจ้าหลายเนาะอุ่น เฮาดีใจเด้อที่ได้ฮู้จักเจ้า” ฝ้ายมันมาจับมือผมครับ ผมตื่นจากภวังค์ทันที
   “แม่นๆ เฮากะคือสิคึดฮอดพวกโตสองคนหลาย ขอบใจเด้ออุ่นที่ให้เฮาเป็นหมู่” สาวปูครับ บอกตามความจริง แม้เราสามคนจะเพิ่งรู้จักกันไม่นานแค่สามวันในการเข้าค่าย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้าจริงจังครับ มันเป็นความรู้สึกเหมือนต้องจากเพื่อนที่รู้จักกันมานานนับปี
   “เราก็ดีใจนะที่ได้รู้จักเธอสองคน ติดต่อกันนะปู ฝ้าย วันไหนจะมาเที่ยวมุกดาหารบอกเรานะ” ผมพูดออกไปครับน้ำตาคลอเบ้าเสียงเริ่มสั่นจับมือกันไว้ทั้งสามคน
   “หือ เจ้าอยู่อำนาจบ่อแม่นติ๊อุ่น” เอ่อ นั่นสินะ เออๆ แหะๆ ลืมๆ
   “อ้อ อำนาจหรอกเหรอ แหะๆ” “ฮ่าๆ ซาดเพิ่นเนาะสู” เราสามคนหัวเราะกันขึ้นล่ะครับ บรรยากาศที่แทนที่จะซึ้งกลายเป็นตลกโปกฮาไปซะได้กู เออดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องซึ้งน้ำตาไหลพราก แต่ก็นะอยากมีบ้างอะไรบ้างนะ
   “อุ่นๆ ถ่ายรูปกับเฮาแนะ” ไอ้แบงค์ครับ มันวิ่งมาเอาหน้าแทรกเข้ามาหน้ามันนี่ประชิดหน้าผมทันที
   “กูถ่ายนำๆ” เอ่อ ไอ้บ้านั่นก็เข้ามาครับ
   “มึงเอาหัวออกไกลๆแนะบักแบงค์”
   “ฮ่วยกูสิถ่ายกับเพิ่นสองคนเด้ มึงบ่อเกี่ยว”
   “บ่อเกี่ยวบ่อได้ มึงบ่อฮู้ติ๊ว่าคั่นมันถ่ายรูปต้องมีกูนำตลอด” เอ่อ พูดข้ามหัวกูทำไมเนี่ย
   “จิ๊ ซังคนเด้ อุ่นเฮาอยากถ่ายรูปกับเจ้าสองคนเด้ บอกมันไปก่อนได้บ่อ” เอ่อ แล้วทำไมไม่บอกเองวะ
   “นาย ออกไปก่อนได้ป่ะ”  ผมยอมหันไปบอกไอ้บ้าอำนาจนี่ล่ะครับ มันกัดฟันกรอด กันฟันเพื่อ กัดให้ฟันแตกไปเลยนะ
   “เออ ตามใจ อยากมีคั่กบ่อผัวใหม่น่ะ” เอ่อ ใคร หมายถึงใคร ไอ้แบงค์เหรอ ถามมันสิมาว่าใส่กูเพื่อมึงนี่นะ
   “เคียดเด้นั่น” เออ กูรู้แล้วไม่ต้องบอกแล้วนี่มึงจะถ่ายไม่ถ่ายวะพูดมากจัง สรุปก็ล่ำลาเพื่อนๆล่ะครับ เราขึ้นรถตู้เตรียมจะกลับแล้ว ผมเห็นที่นั่งด้านหลังมันว่างล่ะครับเพราะรุ่นพี่นั่งข้างหน้าหมดแล้ว ไอ้บ้านั่นนั่งหน้าหักอยู่
   “อย่ามาใกล้เด้อ หนหวยเตะเอาเด้” เอ่อ พอแค่ผมยื่นหน้าจะเข้าไปนั่งด้านหลังมันก็พูดขึ้นล่ะครับ
   “อุรดิศ เก่งมากๆ ครูดีใจมากเลยนะ รู้ไหมชื่อของอุรดิศดังไปทั่วแล้วนะ มีแต่คนชมว่าสำเนียงดีมาก แสดงเก่งมาก” อาจารย์พรฤดีแกก็ชวนคุยล่ะครับผมก็ยิ้มแห้งๆ
   “แม่นๆจารย์ ตอนเพิ่นตำส้มตำมั่กคั่ก วู้ย เป็นตาเบิ่งหลาย”
   “แม่นแท้ตอนแสดง ซาดแสดงสมบทบาท มั่กอีหลีเด้อน้องอุ่น” เสียงรุ่นพี่ดังสลับกันไปมาล่ะครับผมเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เออพวกมึงน่ะชอบ กูน่ะอาย ทำลงไปเพราะมันจวนตัวหรอกนะเข้าใจป่ะเนี่ย
   “คั่กเนาะ” เอ่อ เสียงคนกัดฟันดังอยู่ข้างๆครับ ผมหันไปเบะปากใส่มัน
   “ไรอ่ะ” ผมถามมันครับแล้วเบะปากใส่มัน
   “อ๊ะ ผลักหัวเราไมอ่ะ” หนอยไอ้บ้านี่เหมือนสู้ไม่ได้ทางด้านวาจามันเลยยื่นมือมันผลักหัวผมล่ะครับ ควายมาก
   “อย่าแรดให้มากเข้าใจไหม” ใครแรด กูเนี่ยนะ ผมหันไปว่าจะว่ามันล่ะครับแต่มันยักคิ้วให้ผม ทำให้คิดไปถึงตอนนั้น ริมฝีปากของมันที่มีไรหนวดเขียวๆอ่อนๆคงจะไม่เคยโกนเลยสิท่า ลิ้นของมันแหย่เข้ามาในปากผม แล้วทำไมตอนนั้นผมไม่งับริมฝีปากไว้นะ ทำไมเป็นคนใจง่ายแบบนี้นะอุรดิศ อ้าปากให้มันรุกรานได้ยังไง แว้กก
   “เฮ้ย ตาเคลิ้มเชียวนะ คิดถึงจูบกูเหรอ สัด” เอ่อ
      “เออสิ เอ้ย บ้าเหรอ ใคร ใครจะคิดนายพูดดีๆนะ” มันหัวเราะครับ เกลียดตัวเองที่สุดทำไมเวลาเคลิ้มๆนี่ไม่ยอมหุบปากบ้างนะกู โอ๊ยนะอะไรไม่รู้
   “แหมๆ กูว่าแล้ว กูแค่ทำเล่นๆสัดดูดปากกูจริงนะมึง แหวะ น้ำลายยืดติดปากกู คิดแล้ว อึ๋ยย” เอ่อ มันทำท่ารังเกียจนะครับ ผมนี่เม้มปาก
   “ไอ้บ้า” ผมไม่มีอะไรจะพูดครับ หันหน้าหนีทันที ตอนนี้รู้สึกว่ามันแค่อยากจะแกล้งผม ผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะแต่ทำไมใจผมมันเต้นในจังหวะแปลกๆ เออนั่นสินะ คงเพราะผมเหมือนโดนแกล้งเลยใจเต้นแบบนี้ ไม่มีอะไรหรอก
   “โอ๋ๆ ล้อเล่นหรอกน่า งอนไปได้นะมึง” คือว่ามันพูดเบาๆล่ะครับ รุ่นพี่ที่นั่งด้านหน้าบางคนก็นอนบางคนก็โม้กับอาจารย์พรฤดีจึงไม่มีใครสนใจ และไอ้บ้านี่ก็เหมือนจะตบหัวแล้วกอดหลังผม เอ๊ะ เขาว่าอย่างนี้หรือเปล่านะ เออๆ นั่นล่ะเหมือนๆกันล่ะน่า อย่าสงสัยมาก
   “มึงๆ กูมีไรจะบอก” มันมากระซิบข้างหูผมล่ะครับ ผมไม่สนใจมึงทำท่าที่กูเกลียดที่สุดมึงรู้ไหม ไม่เคยมีใครทำท่าขนลุกขนพองใส่กูแบบนี้มาก่อนนะเว้ยไอ้ควาย
   “ไร” โว้ย ทนไมได้อยู่ดีครับ ผมหันไปตวาดมันในคอ
   “ยื่นหน้ามาดิ กูจะบอก” ไม่มีทาง จะหลอกอะไรกูอีกล่ะมึง กูไม่ใช่เด็กอมมือนะเว้ย
   “ยังอีก หรือว่ามึงไม่อยากรู้” ฝันไปเถอะกูไม่ได้อยากรู้เว้ย
   “อ่า” แต่ทำไมอุรดิศยื่นหน้าไปล่ะเนี่ย แว้กก เกลียดตัวเองอีกแล้ว ทำไมนะไม่เข้าใจ พอแค่ยื่นหน้าไปไอ้นี่มันก็หอมแก้มผมอ่ะ แว้กก เขินจัง เอ้ยไม่ๆ มันแกล้งผมๆ เกลียดๆเกลียดมันที่สุด
   “อิอิ หน้าแดง” มันล้อผมครับ ผมเม้มปากแน่น
   “อ่า ทำแบบนี้ทำไม” ผมพูดออกไปครับจ้องหน้ามัน มันยังยิ้มอยู่ หนอยแน่มันเยาะเย้ยผมนี่
   “ทำไม ไม่พอใจไงหรือว่าอยากให้กูจูบ” มาดูเอานะมันยักคิ้วใส่ผม แล้วจะหน้าตึงทำไมเนี่ยอุรดิศ รู้สึกใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเลยนะตอนนี้ ทำไงดีๆ
   “เราขออยู่เงียบๆได้ไหม” ผมพูดครับแล้วหลับตาลง คิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดไม่อยากเห็นเราก็หลับตาลงซะก็สิ้นเรื่องนี่จริงไหม
   “เฮ้อนะคนเรา ชอบให้เขาทำก็ไม่บอก ทำเป็นฟอร์มเยอะนะมึง” มันบ่นอยู่คนเดียวล่ะครับ ใครชอบ? ใครชอบมึง ไอ้บ้าเล่นมาหอมแก้มกูแบบนี้มันก็ต้องอายเป็นธรรมดาล่ะวะ มีใครจะไม่อายบ้างไหมล่ะ ฮึ สรุปผมก็มองออกไปนอกกระจกจนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ครับ หันจนปวดคอไปหมด
   “เฮ้ยๆ ตื่นเว้ย ถึงแล้ว” มันมาเขย่าตัวผมล่ะครับ ผมจึงงัวเงียตื่นขึ้น รถตู้มาจอดหน้าตึกอำนวยการในโรงเรียนล่ะครับ มันตอนโพล้เพล้พอดีเลยนะ
   “รีบกลับไปพักผ่อนนะคะนักเรียนพรุ่งนี้เจอกันค่ะ พรุ่งนี้เราจะออกมายืนให้เพื่อนๆชื่นชมความสามารถกันนะคะ” อาจารย์พรฤดีพูดอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมเองไม่ได้อะไรด้วยมากนักเพราะหิวและง่วงมาก
   “มาดิกูไปส่ง” พอทยอยกันออกจากโรงเรียนมันก็ขับรถโกโรโกโสมันมาจอดข้างๆผมล่ะครับ
   “แน่ะ คิดนานเดี๋ยวให้เดินกลับเองเลยนี่ สัด”
   “เราจะกลับเอง ขอบใจ” ผมอ่ะนะไมได้เป็นคนจิตใจอ่อนไหวโลเลหรอกนะจะบอก ไม่รู้สิมันเห็นว่าผมแกล้งได้สินะมันถึงคอยวอแวอยู่แบบนี้ ไปให้พ้นหน้ากูเสียทีกูรำคาญลูกตา
   “ตามใจโว้ย แม่งจะไปส่งเสือกเล่นตัวอีกนะมึง” เอ่อ มันขับรถเน่าๆของมันออกไปเลยครับ ปกติมันจะแหย่ผมนี่นา อ้าวกู คาดหวังอะไรเนี่ยอุรดิศ เดินกลับล่ะสินะ โอ๊ย อารมณ์เสียง้อกูหน่อยก็ไม่ได้ไอ้ควาย เดินก็เดินวะผมเดินออกมาหน้าโรงเรียนล่ะครับ แดดกำลังสวยเลยนะ แต่อ้าวๆไอ้ที่มันทะมึนๆมานั่นอะไรล่ะอย่านะมึง อย่าเพิ่งตกนะ
   “พ่อ มารับอุ่นได้ป่าวอ่ะ อุ่นเพิ่งมาถึง” ดีนะที่แบตฯมันไม่หมดผมรีบกดโทรศัพท์หาพ่อทันทีครับ
   “มาถึงแล้วเหรอลูก รอแป๊บนะตอนนี้พ่อมาวิ่ง เดี๋ยวจะรีบไป”
   “วิ่งที่ไหนอ่ะพ่อ”
   “สนามหน้าที่ว่าการน่ะลูก” แล้วมันไกลจากบ้านไหมเนี่ย รอนานแค่ไหนล่ะกลัวว่าฝนมันจะเทลงมาซะก่อนอ่ะ
   “ขึ้นมาดิ ฝนกำลังจะตก” อ่า ผมมัวแต่คุยกับพ่อล่ะครับไม่ทันมองมันวนรถกลับมา ผมเบะปากใส่มันเชิดหน่อยๆ
   “สัด ยังมาทำเล่นตัวอีกนะ กว่าพ่อมึงจะมารับเปียกพอดี” เออ นั่นสินะ
   “คุยกับใครอยู่ล่ะลูก” พ่อผมได้ยินครับ “เอ่อ เพื่อนน่ะพ่อ” “หือ ใครล่ะ ใช่เดี๋ยวไหมเห็นว่าไปเข้าค่ายด้วยกัน”
   “ใช่แล้วครับคุณปลัด” อ้าว นี่โทรศัพท์กูเสียงดังขนาดนี้เลยเหรอ ไม่หรอกครับแต่ไอ้นี่มันเสียมารยาทมันยื่นหน้ามาใกล้ๆผมล่ะครับ
   “อุ่นพ่อขอคุยกับเดี๋ยวหน่อยสิ” นั่นไง โว้ยนะ ผมมองมันแบบไม่พอใจมากๆ แต่ก็ยอมยื่นโทรศัพท์ให้มันล่ะครับ
   “พ่อเราอยากคุยด้วย” มันรีบคว้าโทรศัพท์ไปล่ะครับแล้วพูดอะไรกันไม่รู้พักหนึ่งผมมัวแต่ไม่พอใจ
   “พ่อมึงให้กูไปส่งมึง เห็นไหมเห็นแก่พ่อมึงนะเนี่ย สัดมัวแต่เล่นตัว ทำตัวมีปัญหานะมึงน่ะ” มันยักคิ้วใส่ผมครับ ยักคิ้วใส่กูเพื่อ หนอยแน่ สรุปก็เป็นว่าผมต้องกลับกับมันล่ะครับ ไม่ได้อยากจะกลับด้วยหรอกนะ ทำไมไม่รู้ โว้ย
   “อ้าว แล้วนายจะไปไหน” มันเลี้ยวรถออกนอกเส้นทางครับ ผมตกใจสิ จำได้แล้วนะทางกลับบ้าน
   “จะพาไปข่มขืน” อ่า ข่มขืน ไม่ได้นะยังไม่พร้อมเลย แว้กก ไม่ใช่ โอ๊ย ตกใจที่สุดทำยังไงดีจะกระโดดลงรถขาหักแน่ๆ จะเขย่าตัวมันแล้วรถล้มล่ะอาจจะบาดเจ็บ ทำยังไงดี
   “สัด คิดไรอยู่เนี่ย อย่างกูเนี่ยนะจะเอามึง กูหิวโว้ย จะไปหาไรแดกในตลาด เข้าใจคิดนะมึง สัด” เอ่อ แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูคิดอะไรอยู่ ผมเงียบไปสักพักไมได้ไว้ใจในสิ่งที่มันพูดหรอกนะครับ
   “มึงจะแดกไร จะได้สั่งให้” มันเดินนำหน้าผมเข้าไปในร้านอาหารตามสั่งล่ะครับ
   “ไข่ตุ๋น” “สัด มีที่ไหนเขามีแต่อาหารบ้านๆเว้ย แดกคะน้าหมูไปละกัน” แล้วมึงจะมาถามกูทำไมวะ คนผิดคือมึงก็เขียนอยู่โต้งๆว่าอาหารตามสั่ง ก็กูอยากกินไข่ตุ๋นนี่ไม่มีมาขายตามสั่งทำไมก็นี่กูกำลังสั่งอยู่เข้าใจไหมเนี่ย
   “อ่า ฝนตกแล้ว” ข้าวยังไม่มาเลยครับท่าน ฝนก็เทลงมาทั้งเสียงฟ้าร้องระงมครึกครื้นดีแท้ แล้วรู้ไหมเนี่ยว่ากูกลัวฟ้าแลบฟ้าร้อง โอ๊ยนะ
   “สัด ตกแบบนี้นานนะเนี่ย กลับค่ำแน่ๆ” อย่าๆ อย่ามาบิ้วให้กูระแวง คนยิ่งอยากจะอาบน้ำอยู่ด้วยแล้วนี่อะไรวะ
   “หมูชิ้นใหญ่จังวะ ไหนกูชิมดิ๊” นี่ล่ะครับมัน คนนิสัยไม่ดีจานของตัวเองไม่ยอมแตะนะมันมาวุ่นวายกับคะน้าหมูที่มันสั่งให้นั่นล่ะครับ
   “แหมมึง กูแย่งกินหน่อยแช่งกูเลยนะสัด อ่ะนี่กุ้งแดกเข้าไป เห็นไหมว่ากูให้ของแพงกว่าหมูนะเว้ย” มันตักกุ้งมาใส่ในจานผมล่ะครับ กุ้งผอมๆตัวนึงแลกกะหมูชิ้นเท่าบ้านเนี่ยนะคิดได้นะมึง
   “จะทุ่มอยู่แล้วอ่ะ ยังไม่หยุดเลย” ผมพูดออกมาครับนั่งกินข้าวเสร็จแล้ว สั่งน้ำอัดลมมากินก็หมดไปสองขวดแล้ว บอกตามตรงอึดอัดด้วยล่ะไม่อยากอยู่กับมันสองคนแบบนี้
   “เดี๋ยวดิ มันยังปรอยๆอยู่ฝ่าไปเดี๋ยวก็เป็นหวัดพอดี” หึหึ มึงคงไม่รู้ว่ากูกินวิตามินซีทุกวัน ไม่มีทางเว้ย มึงนั่นล่ะที่จะไม่สบาย เออ จริงสินะ
   “ไม่เป็นไรหรอก กลับเลยได้ป่ะเราอยากอาบน้ำ” ผมยิ้มออกมาครับ มันต้องไม่สบายแน่ๆ คิดแบบนี้เลวไปไหมเนี่ย ไม่เป็นไรหรอก มันไม่สบายมันก็ไปโรงเรียนไมได้ ไปไม่ได้ก็แสดงว่าผมไม่ได้เจอหน้ามัน อิอิ เป็นไงล่ะอุรดิศ ฉลาดที่หนึ่งใช่มะ อิอิ โอ๊ย ไม่อยากจะยอตัวเองเลยอ่ะแต่ก็อย่างที่เห็น
   “สัด คิดไรอยู่เนี่ย ตาวาวเชียวนะมึง เออ อยากกลับก็กลับไม่สบายอย่ามาโทษกูล่ะ” แล้วเราจะได้เห็นกัน โอ๊ย มีความสุขจัง
   “กอดดิ” พอขึ้นรถได้มันก็หันมาพูดล่ะครับ
   “ไม่อ่ะ คนมอง” “อ้าว แสดงว่าคนไม่มองมึงจะกอดว่างั้น ตกลงคิดไรกะกูเนี่ยสัด” เอ่อ หมายความว่าไรวะเนี่ย กูงง
   “รีบไปดิ พูดมากจัง เงียบสักชั่วโมงจะตายไง” “เชี่ย ด่ากูนะมึง อยากตายเหรอ” มันตวาดผมล่ะครับแล้วออกตัวไปแรงๆ ผมก็จิกบ่ามันสิไม่กอดแล้ว ไม่เอาอ่ะกลัวจะคิด อิอิ ฝนที่สาดเทลงมานั้นมันไม่ได้ปรอยๆหรือโปรยๆเลยนะแค่ออกมายืนแค่นั้น รอมันสตาร์ทรถโกโรโกโสของมันก็เปียกพอดี เปียกแบบว่าทุกสัดส่วน เย็นจัง
   “หนาวล่ะดิ เป็นไงเก่งดีนักนะมึง” พอขับไปไม่นานตัวผมก็เริ่มสั่น น้ำฝนนี่มันเย็นจริงๆนะ เย็นไม่เหมือนน้ำในตู้เย็นนะแต่มันเย็นจนทำให้ตัวสั่นได้ขนาดนี้ไง ขากรรไกรเริ่มกระทบกันดังกั่กๆ
   “อ้าวอุ่น ทำไมตากฝนมาล่ะลูก” พอถึงบ้านก้าวขาไม่ออกเลยนะครับ มันหนาวมากสั่นเลย ชาไปหมด
   “ว้าย คุณอุ่นเปียก ไปอาบน้ำอุ่นก่อนค่าเดี๋ยวสิโซ” พี่ต้อบก็เหมือนรอผมอยู่เมหือนกันล่ะครับ
   “ลูกเดี๋ยวมาๆ เช็ดเนื้อเช็ดตัวก่อนเดี๋ยวจะไม่สบาย” เสียงอะไรต่อมิอะไรดังระงมไปทั่ว ผมไม่สนใจใครแล้ว น้ำอุ่นๆ


เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. อิอิ หลายคนงงเรื่องภาษานิ อ่านไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชินครับ จะพยายามหาศัพท์เก่าๆยากๆมาลงกัน จะได้ฝึกไปด้วย อิอิ เผื่อได้เป็นเขยหรือสะใภ้คนทางโน้นจะได้ถูกใแม่ย่า เด้อครับเด้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 30-04-2012 17:57:23
เมย์นี่ขี้อิจฉาอ่ะ 
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-04-2012 18:16:02
อิเดี๋ยวจับจองน้องอุ่นไว้ตลอดเวลาเลยเห้ย
อุ่นอย่าพึ่งไปคิดไรกะมันนะ ให้มันคิดกะเราก่อน อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 30-04-2012 18:55:41
อุ่นร้ายดี ร้ายเดียงสา 55555
เดี๋ยวนี่ไม่ไหวเลยนะ เดี๋ยวเจอเตะ!! 55555
แกล้งนี่ไม่ว่า(?) แต่ทำไมต้องพูดทำร้ายจิตใจด้วยเล่า!!
เดี๋ยวเถอะๆๆ พอถึงขีดจำกัดแล้วจะหนาว หึๆๆๆ
รอตอนต่อไปค่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 30-04-2012 19:00:00
เยส ๆ พี่เดี๋ยวเท่ห์อ่ะ น้องอุ่นของเราน่ารักได้ีอีก (:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 30-04-2012 19:33:52
ม่วนหลายเด้อ แต่อ่านแล้วมึน คำไหนยาก ขออิ๊กกี้ช่วยแปลให้หน่อยนะ บางทีมันเดายากอ่ะ
"โพด" หมายความว่าอย่างไร
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 30-04-2012 20:02:04
น้องอุ่นแผนสูง  o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 30-04-2012 20:10:11
ชอบมากค่ะ ถึงจะไม่เข้าใจบางประโยค
แต่ก็ชอบมาก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-04-2012 20:15:35
เป็นเรื่องที่ใช้เวลาอ่านนานมาก 555 แต่สนุกครับ มันฮาตอนอ่านบทพูดเนี่ยแล้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 30-04-2012 20:38:22
รู้สึกว่าอุ่น จะเป็นประเภทไม่ค่อยพูดหรือ เปล่า ชอบคิดในใจ แล้วก็แสดงอารมณ์ทางสีหน้าแทน แสดงว่าเดี๋ยว ก็แอบมองอุ่นบ่อยๆ เพราะเดาใจได้ถูก
และรู้สึกว่า เดี๋ยวจะไม่ค่อยใช้ความรุนแรง กับอุ่นเท่าไหร่ นอกจากคำพูด แถมมีแกล้งจูบด้วยนะ หึหึ  อยากให้อุ่นแกล้งกลับจังเลย เอาให้เดี๋ยว รู้ตัวสักที + :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 30-04-2012 23:30:26
ม่วนหลายเด้อ แต่อ่านแล้วมึน คำไหนยาก ขออิ๊กกี้ช่วยแปลให้หน่อยนะ บางทีมันเดายากอ่ะ
"โพด" หมายความว่าอย่างไร

โพด เป็นกริยาวิเศษณ์ครับ แสดงให้รู้ถึงระดับที่เพิ่มขึ้น ส่วนมากใช้ในทำนองประชดประชัน เช่น ซาติโพดเนาะ แปลว่า เกินไปจริงๆ โอเวอร์ประมาณนี้ครับ หรือ มาโพดมาเหลือแท้ แปลว่า ช่างทำเกินไปเหลือเกินจริงๆ กล่าวได้ว่า คำว่าโพดในภาษาอีสานมีความหมายว่าเกินไปนั่นเอง (ในด้านลบ)

ปล. ใครสงสัยคำไหนสอบถามได้นะครับผม อิอิ ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 01-05-2012 01:06:02
อ่าววววว  พี่อิ๊กกี้ ไม่ได้ควบหรอ แบบ ภาค อุ่น กับ บักเดี๋ยวอ่า
:)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 01-05-2012 11:38:43
อ่านเสร็จไปตอนแีรก เห็นมีภาษาอิสานเยอะ ดีนะเราไม่ต้องพึ่ง subtitle
ฝากบอกน้องอุ่มด้วย อำนาจเจริญก็อยู่เหนือนะ เหนือเขมร  (:P)

กำลังไล่อ่านให้ทันปัจจุบันจ้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 8 Version (อุ่น) 30 Apr 12 หน้า 6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-05-2012 11:45:10
เดี๋ยวตามติดอุ่น
ตลอดเลยน๊า :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 02-05-2012 16:39:16
You’re My BaBy!!

กูเริ่มสงสัยความคิดของกู กูเริ่มระแวงใจกูเอง กูเริ่มคิดว่าสิ่งที่กูคิดว่าแค่อยากจะแกล้งมันกำลังจะบานปลาย นี่กูเป็นเชี่ยไรวะ อย่าบอกนะว่ากูชอบมัน?? ไม่มีทางเว้ย คนอย่างไอ้เดี๋ยวไม่มีทางชอบเกย์ แค่มันขาว ยิ้มน่ารักแล้วยังไง ไม่ใช่คำตอบครับท่าน กูไม่ได้ชอบมัน และกูก็ไม่ได้หวั่นไหว
   “อาบน้ำก่อนนะลูกเดี๋ยว ตากฝนมาพ่อว่าเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ปลัดเขาชวนล่ะครับ ส่วนไอ้เตี้ยมันวิ่งขึ้นไปอาบน้ำแล้ว อาบทำไมวะในเมื่อยังไงกูก็ต้องฝ่าฝนกลับบ้านอยู่ดี ไหนๆก็อาบมันหนเดียวเลยดิ
   “ไม่เป็นไรครับผมไปอาบที่บ้านดีกว่า”
   “เอางั้นเหรอลูก ท่าทางมันกำลังตกลงมาอีกนะ ไม่รอให้มันซาก่อนล่ะหรือไม่ก็นอนนี่เลยก็ได้นะ เดี๋ยวพ่อโทรไปบอกคุณสาวิตรีให้” นี่ปลัดอยากได้กูเป็นลูกเขยมากขนาดนั้นเชียวเหรอวะ ไม่รู้หรือไงว่ากูกำลังแกล้งลูกชายตัวเองอยู่นะเว้ย แกล้งไปแกล้งมาเดี๋ยวกูก็ทำจริงๆเสียนี่ชวนดีนัก กูก็ไม่ได้อยุ่คุยนานหรอกนะหนาวจะตาย คุยอยู่กับปลัดไม่นานก็รีบกลับบ้านล่ะ
   “อ้าวยังบ่อกลับจากร้านจั่กคนติ๊นิ” พอไปถึงบ้านก็ไม่มีคนอยู่ล่ะครับ เอาไงดีวะเนี่ยหนาวก็หนาวอยากอาบน้ำแต่ก็ต้องออกไปเก็บร้านช่วยพ่อกับแม่ ลูกผู้ชายอย่างบักเดี๋ยวสู้ไหววะ เออไปช่วยพ่อกับแม่ก่อนก็ได้ไหนๆก็ต้องเปียกอยู่ดีค่อยกลับมาอาบ แล้วนี่มันจะตกไปถึงไหนวะ
   “อ้าว กลับมาแล้วบ่อลูก พ่อเก็บร้านแล้วถ่าฝนอยู่มันบ่อยอมหยุด” เหมือนว่าร้านจะเก็บแล้วล่ะครับแต่เหมือนพ่อกับแม่ยังไม่กลับรอให้ฝนซามั้ง
   “เป็นไงบ้างเดี๋ยว เข้าค่ายดีไหม ไปเกเรอะไรหรือเปล่า” คุณแม่ครับ แหมนะ
   “โหยไรอ่ะแม่ มองลูกในแง่ดีบ้างก็ได้นะ”
   “ไม่ได้หรอกก็คนมันมีความประพฤติไม่ดีอยู่ แล้วลูกอุ่นล่ะเป็นไงบ้าง เนี่ยแกมาก็ดีแล้วว่าจะเอาไก่ย่างปรุงพิเศษไปให้คุณปลัดลองชิม เอาไปให้คุณปลัดหน่อยสิลูก” หา นี่รอกูมาเพื่อการนี้เนี่ยนะ ไรอ่ะแม่ คนเพิ่งจะมาจากบ้านนั้นนะเนี่ย
   “ไม่เอาอ่ะ หนาวอยากอาบน้ำ”
   “ไปแป๊บเดียวนะนะ เมื่อกี๊แม่บอกคุณปลัดไปแล้วนี่ท่านก็รอไก่ย่างอยู่ยังไม่กินข้าวเย็น”
   “จิ๊” ทำไงได้ล่ะนี่แม่นั่นพ่อสายตาวิ้งๆอยู่
   “ขับคุณปู่นั่นล่ะไปแล้วไม่ต้องแวะมาที่ร้านนะกลับบ้านเลยเดี๋ยวแม่กับพ่อจะกลับแล้ว” ดีมากตัวเองนั่งรถกระบะกลับกันสองคนแล้วให้ไอ้วิชพงศ์พาคุณปู่ไปฝ่ามรสุม แม่นะแม่ สรุปกูก็ต้องกลับไปที่บ้านปลัดล่ะครับ
   “ตายจริงไม่น่าลำบากเลยนะลูก” เออนั่นสิแหมนะ กูปากม่วงแล้วเนี่ยหนาวจะตายห่าน
   “ท่าทางคงจะหนาวไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะลูกเดี๋ยว อุ่นๆ พาเพื่อนไปอาบน้ำหน่อยท่าทางจะหนาวเดี๋ยวจะไม่สบาย” ตั้งใจว่าจะเอาไก่ย่างมาให้แป๊บเดียวนะครับแล้วก็จะรีบกลับแต่ปลัดเองก็ไม่ยอมเพราะว่าฝนมันก็เทลงมาอย่างหนัก คงจะพายุเข้าน้ำตามถนนนี่เอ่อออกมาแล้วครับ
   “เขาจะรีบกลับป่าวอ่ะพ่อ” ป๊าด ดูมันนะครับน้ำใจสักหน่อยก็ไม่มีตอนแรกกูว่าจะไม่อาบ แต่พอได้ยินมันพูด เดินดิ่งไปหามันที่บันได มันเหมือนกำลังจะก้าวลงมาล่ะครับ
   “ไม่รีบหรอก อาบน้ำเสร็จจะได้มาทานข้าวด้วยกัน ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้เพื่อนสิลูก” สม มันหน้าหักลงทันทีครับมองผมเหมือนตัวแมลงสาปที่หนีน้ำมา หนอยแน่ไอ้นี่
   “เร็วดิ กูหนาวนะเว้ย” ผมเร่งมันครับ
   “มีแต่ผืนใช้แล้วอ่ะ เอาป่ะ” ดูครับดู
   “สัด เดี๋ยวกูบอกพ่อมึงนะว่ามึงไม่มีน้ำใจ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันค้อนใส่ผมแล้วเดินกลับเข้าห้องไป หนาวมากจนไข่หดหมดแล้วเนี่ยกู ตายๆ มือเหี่ยวปากม่วง พอเข้าห้องน้ำได้ก็เปิดน้ำอุ่นอาบ อาสวรรค์จริงๆ เพิ่งจะรู้ว่าการอาบน้ำอุ่นมันดีอย่างนี้นี่เอง โหย ของใช้ในห้องน้ำนี่มันอะไรวะเนี่ย เกลือขัดตัว? ครีมอาบน้ำกลิ่นเชี่ยไรเนี่ย ขี้เกียจอ่านใช้ๆไปล่ะ
   “ไหนล่ะเสื้อผ้าจะให้กูใส่น่ะ” ผมอาบเสร็จก็เดินตรงดิ่งเข้าห้องไอ้เตี้ยนั่นทันทีครับประดุจว่านี่คือบ้านกูเอง ฮ่าๆ
   “อ๊ะ ทำไมไม่เคาะประตู เสียมารยาทนะ” แหมๆ ดูทำท่าดัดจริตตกใจ ถีบหงายท้องดีไหมเนี่ยสัด
   “อ้าว แล้วเสือกไม่ล็อกประตูเองล่ะ แล้วทำไมจะต้องเคาะว่าวอยู่เหรอ ไอ้เจี้ยวอนุบาล ฮ่าๆ”
   “ฮึ ไอ้บ้า” มันไม่มีอะไรจะโต้ตอบครับ เป็นไงล่ะก็มันเรื่องจริงนี่หว่าไม่ล็อกประตูเองกูก็เข้ามาเลยดิ
   “เสื้อเชี่ยไรเนี่ย ไม่เอาเว้ยสีนี้กูไม่ชอบ” มันทำหน้างอใส่ผมแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าล่ะครับ มันหยิบเสื้อผ้ามันออกมา แต่นะสีตุ่นๆไม่เหมาะเลยกับคนอย่างกู
   “ไรอ่ะนี่ของเอ็กเซนจ์นะ”
   “เอ็กเซ็นจ์เชี่ยไรไม่ชอบ มึงไม่มีชุดบอลเหรอ อ้อ กูลืมมึงเป็นตุ๊ดไม่เล่นบอล ฮ่าๆ” “ปึ๊ก” “สัด” มันปาเสื้อใส่หน้าผมครับ หนอยแน่ไอ้เตี้ยนี่ต่อยสักทีดีไหม
   “อ๊ะ อย่านะ เราร้องนะ” ไวเท่าความคิดพอมันปาเสื้อใส่หน้าผม ผมก็กระโจนเข้าหามันทันทีล่ะครับ จะรอให้มันวิ่งหนีเหรอไม่มีทางเว้ย ผมกดคอมันใส่ผนัง กูยิ่งหนาวๆอยู่นะมึง
   “ร้องดิ ฝนตกหนักขนาดนี้มีปัญญาร้องก็ร้องไปดิ” ผมยักคิ้วให้มันทำหน้าเอาจริงครับ เล่นด้วยแล้วลามปามนะไอ้นี่
   “อ่า โอเคๆ เดี๋ยวไปเอาเสื้อพ่อมาให้” มันยอมครับกูเลยปล่อย
   “อย่ามากวนกูนะ กูยิ่งหนาวๆอยู่ หิวด้วย” ทั้งที่เพิ่งจะกินมาแต่ทำไมล่ะกินแค่นั้นกูไม่เรียกว่ากินเว้ย รองท้องๆ
   “เราไม่ได้” “นั่น ยังอีก” พอมันพ้นจากเงื้อมมือของผมมันก็เอาทันทีครับ เห็นไหมว่าไอ้นี่มันกวนตีนมาก มันเดินอ้อมหลังผมไปล่ะครับ
   “อะไรติดหลังอ่ะนาย” กูหันขวับทันทีครับ คิดจะมาหลอกกูเหรอ
   “สัด อย่ามาหลอก นี่กูนะไม่ใช่มึง”
   “มีจริงๆอ่ะ เหมือนล้างสบู่ไม่หมดอ่ะ เช็ดให้เอาป่ะ” มันทำหน้าซื่อๆใส่ผมครับ เออก็ดีวะ
   “เอาดิ” ผมหันหลังให้มันครับ
   “ป๊าบ” “โอ๊ย สัด” ไม่น่าเลยกู จะยังไงล่ะพอหันหลังได้มันก็ถีบเข้าก้นกบกูน่ะสิ หัวขะมำเลยกู หนอยแน่ถีบเสร็จก็วิ่งออกจากห้อง มึงตาย
   “อ่ะเสื้ออ่ะ” ดูมันครับ มันมาแง้มประตูห้องแล้วปาเสื้อกับกางเกงเข้ามา กูรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามออกไปทันที วันนี้ล่ะจะเตะมันต่อหน้าพ่อมัน หนอยแน่มึงกล้ามากนะมาถีบกู
   “เสร็จแล้วเหรอลูก มาๆมากินข้าว แกงเห็ดโคนกำลังร้อนๆเลย นี่ต้อยเขาตำน้ำพริกอะไรนะต้อย” คุณปลัดครับร้องเรียกตั้งแต่กูก้าวผ่านบันไดไปครับ สายตากูนี่จิกจะกินไอ้เตี้ยนั่นที่นั่งข้างพ่อมัน ดูมันทำหน้านะ มันอ้อนตีนดีเสียเหลือเกิน
   “แจ่วแมงแคงค่า แซ่บเด้เดี๋ยวเอื้อยตำเอง กินกับไก่ย่าง โอ๊ย น้ำลายไหล” เจ้แกบรรยายล่ะครับ แมงแคงมีใครไม่รู้จักไหมครับ จะอธิบายยังไงดี มันตัวสีแดงๆอยู่ตามยอดลิ้นจี่ป่า หรือที่บ้านเรียก บักแงว กลิ่นฉุน ฉี่มันอันตรายมากเพราะถ้าเข้าตาอาจจะตาบอดได้ แต่เอามาตำทำน้ำพริกหอมคล้ายๆแมงดานาแต่รสมันจะออกเผ็ดหน่อยๆ แซ่บครับแซ่บ ฮึ่ม เอาวะกินข้าวเพิ่มกำลังก่อนเดี๋ยวค่อยจัดหนัก
   “ฝนตกหนักขนาดนี้ ค้างที่นี่ล่ะนะลูก เดี๋ยวพ่อโทรไปบอกคุณสาวิตรีให้”
   “พ่อ” “ครับ ได้ครับ” ผมแย่งไอ้เตี้ยพูดครับแล้วหันไปยิ้มให้มันอย่างคนกำลังจะมีชัยชนะ
   “นอนห้องอุ่นนั่นล่ะ แล้วเสื้อพ่อใส่สบายไหม พ่อเพิ่งไปซื้อมาก็ว่าจะเอาไว้ไปเล่นบอลกับเรานั่นล่ะ”
   “อ้อครับ ได้ครับ กับข้าวอร่อยนะครับ แซ่บอีหลีเอื้อย” ผมบอกคุณปลัดแล้วหันไปบอกเจ้แกครับ แล้วหันมายักคิ้วให้ไอ้เตี้ย รีบกินแล้วรีบเดินขึ้นห้องไปเลยครับ ฮ่าๆ ใครจะรอให้มันเข้าห้องก่อน
   “นี่นาย เปิดนะห้องเรานะ เปิดประตู” ฮ่าๆ เรื่องอะไรแกล้งซะให้เข็ดกูก็นอนฟังเพลงเพลินไปเลยสิครับ ห้องมันนี่เพลงเยอะเหมือนกันนะ มีเกมเล่นอีกมีหนังดูเยอะแยะไปหมด เออวะฝนตกๆแบบนี้ดูหนังดีกว่า
   “เป็นหยังล็อกห้องล่ะเดี๋ยว” อ้าว กูลืมไปว่าเจ้แกน่าจะมีกุญแจ พอเปิดห้องเข้ามามันก็ทำหน้าหักใส่ผมล่ะครับ
   “อ้าวล็อกติ๊ นอนพวมหลับบ่อได้ยินแหมะเอื้อย” ผมแถไปครับแล้วยักคิ้วยิ้มให้มัน
   “อยู่กันดีๆเด้อ อย่าสิตีกันเด้” เจ้แกเหมือนรู้ล่ะครับพูดยิ้มๆแล้วออกไป
   “ทำไม” “อย่าๆ ฝนตกแบบนี้ยังมีหน้ามาไล่กูกลับบ้านเหรอมึง ใจดำไปป่ะ” ผมรู้ครับว่ามันจะพูดอะไรเพราะเห็นมันยืนเม้มปากกำหมัดอยู่ ก็จะอะไรล่ะผมแค่นอนพาดเตียงมันทั้งเตียง เอาแผ่นหนังมากระจายแผ่นเพลงมากระจายแค่นั้นเอง
   “แล้วรื้อออกมาไมอ่ะ”
   “กูอยากดูหนัง ทำไมดูไม่ได้ไง” คือทุกคำพูดของผมนี่ผมยักคิ้วให้มันตลอดเวลาล่ะนะครับ กวนมันหน่อยไหนดูซิมันจะทนได้ไหม
   “ดูไมอ่ะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนนะ”
   “อ้าว มึงจะนอนก็นอนไปดิ กูจะดู”
   “นอนได้ไง กูดูนายนอนดิ” อ้าวนะก็ไม่บอก เออกูยอมหลบให้ก็ได้วะ
   “จะหลับไหมเนี่ย ทำไมวะ” นั่นๆมันบ่นครับพอขึ้นเตียงได้ก็ทำบ่น หนอยแน่
   “อ๊ะ อย่าเอาขามาพาดดิ ไม่ใช่โซฟานะ” พอมันล้มตัวลงนอนกูก็พาดขาไปเลยครับ
   “อยู่เฉยๆเป็นป่ะ  พาดหน่อยกูปวดขา”
   “ไรอ่ะ ไหนบอกจะดูหนัง”
   “ดูดิ ดูเรื่องนี้ดีกว่า ทรานฟอร์เมอร์ มึงไปเปิดให้หน่อยดิ เดี๋ยวกูทำพังมาว่ากูอีกนะ” ผมใช้มันล่ะครับ กระดิกเท้าอย่างสบายใจ
   “ไรอ่ะ เปิดเองไม่เป็นไง”
   “สัดพูดมากนะ เดี๋ยวกูพังแม่งเลยนี่” ผมขู่ล่ะครับ มันจิ๊ปากแล้วยอมลุกไป
   “ดูเรื่องนี้ดีกว่า อิอิ” อ้าว
   “สัด ทำไมไม่เปิดเรื่องนั้นล่ะ มึงดูเรื่องไร” ผมลุกขึ้นมาครับ
   “รักแห่งสยาม” “เชี่ย ไม่ดูเว้ยกูจะดูทรานฟอร์เมอร์” มันทำท่าไม่สนใจครับแล้วเดินขึ้นเตียงมา
   “อยากดูไปเปลี่ยนเองดิ” ป๊าด นี่มันกวนตีนผมนี่หว่า จัดซะหน่อยไหมก่อนนอนไอ้เชี่ยนี่
   “กวนตีนเหรอมึง” “อ๊ะ อย่านะ” ว่าไปแกล้งมันดีกว่า ปล้ำกันกับมันหน่อยก็คงจะดี สรุปกูกับมันก็กำลัจะฆ่ากันล่ะครับ ตอนแรกกูว่าจะปล้ำเบาๆเอาไปเอามาเล่นซะเหงื่อตกเลย
   “อ่า เหนื่อย” มันหน้าแดงมากครับ จะไม่แดงได้ไงก็กูเล่นบีบคอมันกดหัวมันเอาขากดที่เอวบ้างท้องบ้าง สะใจดี ฮ่าๆ
   “เป็นไงล่ะท้าทายกูดีนัก” ผมเองก็เหนื่อยนะ นอนแผ่อยู่ข้างๆมัน คิดไปคิดมาก็คิดออกว่าผมควรจะแกล้งมันมากกว่านี้ดีไหมเนี่ย ท่าทางมันน่าแกล้งออกจะตายไป ผมมองหน้ามันอย่างพิจารณา
   “เฮ้ย เจี้ยวเด็ก” ผมเรียกมันเบาๆครับ มันตะแคงหันหลังให้ผม
   “เรียกน่ะไม่ได้ยินไง” นั่น ทำเฉยครับมันวอนจริงๆนะ
   “เรียกไมอ่ะ พูดมาดิคนจะนอนนะ”
   “หันมาก่อนดิ” ผมกระเถิบเข้าหาครับ
   “อ๊ะ จะเข้ามาทำไมร้อนนะ” มันหันหน้ามาล่ะครับ คราวนี้หน้ามันจ่ออยู่ตรงหน้าผมพอดี ตามันโตขึ้นทำท่าจะถอยออกไปเรื่องอะไรล่ะกูจับบ่ามันไว้ล่ะครับ
   “เรื่องที่กูจูบมึงน่ะ มึงคิดไง” กูถาม เป็นแบบนี้ล่ะนะเป็นคนตรงๆไม่อ้อมค้อมอยากรู้ก็ถาม มันหน้าแดงปั๊ดขึ้นทันที
   “ไรอ่ะ” อ้าว เขินเว้ย ไม่สบตาครับท่าน
   “มึงคิดอะไรกะกูป่ะ” นี่แน่พูดเข้าข้างตัวเองซะเลย
   “คิ เอ้ย บ้าเหรอ ไม่คิดนะ คิดไร” ฮ่าๆ ดูมันตอบครับ แม่งตกลงแปลว่าไรวะเนี่ย
   “มึงไม่คิดก็ช่าง แต่กูคิด” ผมยิ้มครับ
   “อ่า คิดไรอ่ะ นาย นายคิดไร” มันเหมือนคนปัญญาอ่อนมากตอนนี้
   “กูว่ามึงมาเป็นแฟนกูดีกว่าไหม เป็นแบบจริงๆน่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่า มะได้นะ”
   “ทำไมวะ มึงไม่ชอบกูเหรอ”
   “เรามีแฟนแล้ว”
   “กูไม่สน แฟนมึงอยู่ไกลนี่ ถามจริงๆเถอะ มึงไม่ชอบกูบ้างเหรอ” ผมยิงเข้าประเด็นครับ มันนิ่งแต่หน้านี่แดงมากๆ
   “ว่าไง” มันไม่ตอบครับ นิ่งจนกูรำคาญแล้วเนี่ย
   “เออๆ ไม่ต้องตอบวะ มากูกอดหน่อย” ว่าแล้วก็กอดมันทันทีครับ มันขืนตัวไว้นะ แหมๆมีเล่นตัวนะสัด นี่มึงรู้ไหมว่ากูไม่เคยขอเป็นแฟนใครนะเว้ยสัด ที่คบๆอยู่มีแต่เขาขอเป็นแฟนกูนะเว้ย หนอยแน่ไอ้เตี้ยนี่
   “บักเดี๋ยว มานี่แน่ะ ซุมอ้ายเขาคือว่ามึงมักอุ่นบ่อ” พอไปโรงเรียนสัดเคนก็กวักมือเรียกผมล่ะครับ คือว่าผมไปโรงเรียนกับไอ้เตี้ยนั่นล่ะนะ ตอนเช้ามันก็ทำท่าเป็นไม่สนใจบ้าๆบอๆไปตามเรื่องแต่พอผมจ้องหน้ามันมันก็หน้าแดง
   “มักหยัง มึงเป็นบ้าติ๊ กูบ่อแม่นกะเทยเด้” ผมพูดออกไปครับ ดึงเสื้อออกจากชายกางเกง
   “อ้าว เขาลือกันกะด้อ ว่ามึงน่ะนำจีบอุ่นคั่กคือหยังนี่” สัดไม้ครับ
   “ฮ่วย จีบบ้านมึงติ๊ กูเฮ็ดไปจั่งซั่นล่ะ”
   “กูบ่อเซื่อมึงดอก ตกลงนี่มึงสิมักผู้ซายนำกันติ๊บักห่ามึง” อ้าวด่ากูเพื่อ
   “บ่อแม่น มึงเข้าใจบ่อ อย่าถามอีกกูหนหวย” ผมตวาดใส่มันสองคนล่ะครับ แม่งเอ้ยถามเชี่ยไรเนี่ย
   “เป็นจั่งได๋น้อบักเดี๋ยว ดีบ่อ” พอเดินเข้าห้องไปล่ะครับ เพื่อนในห้องมันก็แซว
   “อีหยังดี” ผมงงครับ
   “ผู้ซายนำกันเด้ ดีบ่อ อิอิ เขาคือว่าคั่กแท้”
   “เชี่ย ปากหมาเด้อมึง อยากตายติ๊ กูสิเอาไผหนักหัวพ่อมึงติ๊” ผมกร่างยืนขึ้นกลางห้องล่ะครับ พวกนี้มาโรงเรียนก่อนก็จะมาสุมหัวกันอยู่บนห้องรอไปเข้าแถวล่ะครับ นี่ไงเหตุผลที่กูไม่อยากมาโรงเรียนเร็ว เบื่อแม่งก็แบบนี้ ทั้งห้องเงียบ
   “อย่ามาเสือกเรื่องของกู กูยังบ่ออยากฮู้เรื่องของสู” แม่งหงุดหงิดว่ะ เดินออกจากห้องเลยครับ มีสัดไม้ตามออกมา สัดเคนมันเอาของไปไว้ที่ห้องมันล่ะครับเลยไม่ได้ตามมา
   “มึงเคียดติ๊บักเดี๋ยว” สัดไม้ถามครับ เชี่ยนี่ก็เข้าใจถามหน้าเหมือนยักษ์ขนาดนี้ยังมีหน้ามาถามอีกนะมึง
   “หนหวย”
   “แต่กูว่าท่าทางมึงมันแปลกๆเด้อ แม่นมึงมักเพิ่นอีหลีบ่อเนี่ย อุ่นน่ะ”
   “ฮ่วย มักบ้านมึงติ๊ กูเป็นพ่อซายบ่อมีทางสิกูจะไปมักพ่อซายนำกัน มึงเข้าใจบ่อ”
   “อ้าว แล้วมึงคือเฮ็ดคือมักเพิ่นนั่นแท้”
   “กูแกล้งมันซื่อๆ คนอย่างบักเดี๋ยวบ่อสิไปมีใจให้กะเทย ฝันติ๊” ผมกับสัดไม้คุยกันหลังแทงค์น้ำล่ะครับ วันนี้เป็นอีกวันสินะที่กูจะไม่เรียนแม่ง
   “เออๆ กูพอเข้าใจ มึงบ่อตาหลูโตนเพิ่นอุ่นบ่อ ห่าเพิ่นคิดนำมึงอีหลีมึงสิเฮ็ดจั่งได๋”
   “ซ่างแม่มันติ๊ กวนตีนดีหลายกูบ่อสน”
   “เออๆ ป่ะไปเข้าแถว เดี๋ยว ผอสิประกาศเรื่องพวกมึงไปเข่าค่าย มีรางวัลพร้อมแม่นบ่อ” กูไม่อยากไปเข้าแถวเลยให้ตายเถอะ ในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ล่ะครับ พอเดินไปเข้าแถวกูเห็นไอ้เตี้ยแวบๆ มันหันมาพอดี กูเลยยักคิ้วให้มันล่ะครับ อ้าว หลบหน้ากูเพื่อ สัดเดี๋ยวเถอะมึง
   “วันนี้ ผอ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศให้นักเรียนทุกคนทราบเรื่องที่เพื่อนๆเราไปเข้าค่ายอบรมภาษาอังกฤษที่จังหวัดมุกดาหารเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่เพิ่งจะผ่านมา” ไอ้หัวล้านมันก็พูดล่ะครับ เร็วหน่อยได้ไหมเนี่ยร้อนนะเว้ย เมื่อคืนฝนตกหนักตอนเช้าแดดอย่างเปรี้ยงเลยสะท้อนเงาหัวผอแว้บๆจนแสบตา
   “ขอเสียงปรบมือให้เพื่อนๆที่ไปเข้าค่ายอบรมด้วยครับนักเรียน อ้าวนักเรียนที่ไปอบรมภาษาอังกฤษออกมาหน้าเสาธงหน่อย” อ้าวกูสินะ กูเดินออกไปก่อนใครครับ พอทุกคนออกไปครบ ผอก็ให้นั่งลงให้ชมบารมีกูสินะ ฮ่าๆ
   “การอบรมภาษาอังกฤษมีการแสดงละครและคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนของเรา จนอาจารย์พรฤดีบอกว่ามีแต่คนถามว่านักเรียนโรงเรียนของเราเก่งภาษาอังกฤษเหมือนกันหมดหรือเปล่า ขอเสียงปรบมือให้อุรดิศหน่อยครับนักเรียน” ไอ้เตี้ยครับ มันไม่หันมามองทางผมเลยนะ พอผอประกาศชื่อมันมันก็เดินออกไปหน้าเพื่อนๆหน่อยนึงแล้วก็ก้มหัวลงโค้งแล้วเดินถอยหลังกลับเข้ามา เสียงคุยกันอื้ออึงล่ะครับ
   “เก่งมากครับ ขอบใจทุกคนมาก” พอให้เข้าไปในแถวผมก็เดินไปกับไอ้เตี้ยล่ะครับ
   “เป็นไรวะ กูมองมึงนานแล้วนะทำไมไม่มองกู” ผมเดินเอาไหล่ไปกระแทกมันครับ
   “เราไม่เคยรู้จักกัน” เอ่อ สายตาแบบนี้ แววตาแบบนี้ น้ำเสียงที่แห้งผากสีหน้าที่กูไม่เคยเห็นจากใบหน้าของมันเลยทำให้กูสะอึกพูดไม่ออกครับ สัดนี่เป็นไรวะเนี่ย กูหยุดอยู่กับที่ส่วนมันเดินกลับเข้าแถวไป กูยืนเอ๋ออยู่พักใหญ่แล้วจึงกลับไปเข้าแถวตัวเอง เชี่ยเอ้ย นี่กูเป็นอะไรวะแล้วมันเป็นเชี่ยไร ทำไมคำพูดมันแทงใจจังเลยวะ แต่ก่อนที่มันทำท่ารำคาญผมแต่สายตามันไม่ได้แห้งผากไร้วิญญาณแบบนี้เลยนี่หว่า กูงงว่ะ

เขียนโดย อิ๊กกี้เด้อ

ปล. เป็นจั่งได๋น้อควมฮัก อิอิ อ่านขำๆเด้อพ่อแม่พี่น้อง อยากให้ทุกคนอารมณ์ดีเด้นี่
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 02-05-2012 17:28:41
พี่อิ๊ก  เอาอีกอ่า  น๊าๆๆๆๆๆๆ


อุ่นได้ยิน ที่ บักเดี๋ยวคุยกับเพื่อนแน่ๆ

เอาอีกอ่า พี่อิ๊ก

หนูจะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-05-2012 17:30:34
เดี๋ยวถูกเมิน สม...
คำพูดไม่ดีคงไปเข้าหูอุ่นจนได้
ทีนี้จะได้รู้ว่าแคร์ไม่แคร์
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 02-05-2012 18:00:37
น่านนนน เจอสายตาหนูอุ่นไปหน่อยเดียว จ๋ิอยเลยเว้ย!?~
สมน้ำหน้า~~กร๊ากๆๆๆๆๆ (//วิ่งหนีตีนอิเดี๋ยว)
แล้วนี่จะทำยังไงต่อไป~
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 02-05-2012 18:18:08
อุ่นคงผ่านมาได้ยินคำพูดนั้นพอดี น่าสงสาร TT
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 02-05-2012 18:26:07
พี่อิ๊กกี้ ต่ออีกจักหน่อยแน้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 02-05-2012 18:27:17
เดี๋ยวมันคงพูดไปตามอารมณ์ล่ะนะ แต่มันทำร้ายจิตใจอุ่นน้าเว้ย  :z6:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-05-2012 19:03:37
จัดหนัก อย่าให้บักเดี๋ยวได้ผุดได้เกิด....หมั่นไส้เหลือเกิน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 02-05-2012 19:15:26
น้องอุ่นได้ยินที่เดี๋ยวพูดแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-05-2012 20:56:56
อุ่นต้องได้ยินที่เดี๋ยวมันพูดแน่เลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 02-05-2012 23:57:29
สมพื้นบักเดี๋ยวเว้าบ่คึด 
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 03-05-2012 00:32:23
สมอิเดี๋ยวมัน หึ !
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 03-05-2012 13:40:39
อุ่นได้ยินแล้ว เห้อออออออออออออออออ งานเข้าแล้วละ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 04-05-2012 10:29:58
บักเดี๋ยวพูดไปได้ว่าไม่คิดนะ
แล้วอย่ามาคิดทีหลังแล้วกัน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 8 Version (เดี๋ยว) 2 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-05-2012 15:02:14
เดี่ยวแกทำงานเข้าแล้วไหมล่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 04-05-2012 17:43:50
Don’t call Me BaBy!!!

   “เป็นหยังอุ่นคือเฮ็ดหน้าแนวนั่น บ่อดีใจติ๊” ไอ้ดำมันถามขึ้นล่ะครับตอนที่ผมเดินกลับเข้าแถวมา ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันสิว่าคิดอะไรอยู่ แต่ว่าผมรู้สึกเหมือนคนโง่ คนที่โง่ซ้ำซ้อนโง่ไม่มีทางไป โง่ดักดาน โง่เป็นควายประมาณนั้น ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ
   “บ่อเป็นหยัง เราไม่เป็นไรนี่” ผมพูดออกไปครับ
   “อีหลีติ๊ หน้าตาคือคนโซแท้”
   “เล็ก นายรู้ใช่ไหมว่าเราเป็นเกย์” พอเลิกแถวผมไปนั่งที่โรงอาหารล่ะครับ อยากกินน้ำเย็นๆตอนนี้เขายังเปิดอยู่ ต้นไทรต้นใหญ่หน้าทางเข้ามันร่มรื่นดีนะร่มรื่นเสียจนจิตใจของผมมันไม่ปกติเอาเสียเลย
   “ฮู้ เป็นกะเป็นไปตั้ว เฮาบ่อได้เป็นนำเด้ล่ะ” มันพูดแล้วหัวเราะครับ
   “นายคบกับเราเพราะอะไรเหรอเล็ก” ผมถามออกไป
   “ฮ่วย เป็นหยังจั่งถามแนวนั้นล่ะอุ่น คบกับโตกะย้อนว่าอยากมีหมู่คือโตท่อนตั้ว” ผมไม่เข้าใจครับผมมองหน้ามันงงๆ
   “กะคบเพราะว่าอยากคบ”
   “นายไม่คบเราเพราะอยากเล่นเกมหรอกเหรอ”
   “ป๊าด ดูถูกกันแท้ ปะสาเกมหาเล่นไสกะได้ตั้ว”
   “ขอบใจนะ อย่าคบเราเพราะเห็นแก่ของพวกนี้เลยนะเล็ก อย่าคบเราเพราะนายสงสาร อย่าคบเราเพราะนายคิดว่าเรารวยหรือแปลกเลยนะ”
   “เฮ้ย เป็นหยังอุ่นไผว่าหยัง” น้ำตาร่วงครับ โอ๊ย มันสะกิดใจเหลือเกิน นี่อย่ามาหาว่าอยู่ดีๆมาดราม่าใส่นะ มันมีมูลเหตุเว้ย ก็ตอนก่อนจะเข้าแถวน่ะไปกินน้ำเออช่างแม่งเถอะ ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้ว
   “นี่อุ่น เราเคยเตือนนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าเดี๋ยวน่ะผัวเรานะ ทำไมนายยังวอแวอยู่อีกอยากลองดีหรือไง” พอเดินเข้าห้องไปสาวเพ็ญก็มายืนท้าวสะเอวชี้หน้าส่งเสียงกรี๊ดๆต่อหน้าผมล่ะครับ ผมเม้มปากแน่นไม่สนใจ
   “ใช่หน้าด้าน หน้าตาดีๆไม่น่าจะหาผัวยากเลยนะ มายุ่งของเพื่อนทำไม” สาวสุชาติมาเสริมทัพครับ กูเริ่มหน้าหนักลงเรื่อยๆๆจนจะถึงตะอยู่แล้วนะ
   “อย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ จำใส่สมองกลวงๆของเธอไว้นะว่าเดี๋ยวน่ะ ผัวเรา” เธอเน้นคำท้ายครับ เออ กูรู้ผัวมึง แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับกู
   “เซาแน่ะสู อุ่นเพิ่นบ่อเห็นปากหยังจักคำสูคือสิว่าโพดไปแท่ะ” เสียงเพื่อนผู้หญิงดังขึ้นครับ
   “อีหยังจอย โตเป็นหมู่เฮาเด้ เป็นหยังไปเข้าข้างมัน มันมาวุ่นวายกับผัวเฮาเด้ โตกะฮู้” อ้อ จอยนั่นเอง
   “เว้ย โพดหลายอีเพ็ญ แม่นมึงฮู้ซ่ำได๋เดี๋ยวนิจั่งมาว่าเพิ่น” ไอ้เล็กครับ ส่วนกูเหมือนคนโง่หรือควายตัวหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่เรื่องของตัวเองแท้ๆแต่ไม่มีปัญญาแม้จะปริปากอะไรออกไป
   “อย่ามาเว้าบักเล็ก คนเข้าเว้ากันทืดๆอยู่ว่ามันน่ะไปเข้าค่ายกะไปกอดกัน เป็นจั่งซี้บ่อให้เว้าสิว่าจั่งได๋” สาวสุชาติครับ
   “มันแม่นเรื่องจริงหรือบ่อแม่นล่ะ อย่าสิไปว่าเพิ่นหลาย บ่ออยากอายคนติ๊สู” สาวจอยพยายามจะดึงสาวเพ็ญออกไปครับ
   “บ่ออาย เรื่องหยังสิอาย บ่อได้แย่งของไผ มันตั้วจั่งเป็นตาอยากอายแย่งผัวผู้อื่น หน้าด้าน บ่อมีปัญญาหาติ๊ผัวน่ะ อีกะเทยกรุงเทพฯ” สาวเพ็ญเธอเหมือนเสียจริตครับ ผมเม้มปากแน่น
   “พอใจหรือยัง” ผมเงยหน้าขึ้นครับ ไม่นะอย่ามามีน้ำตาแถวนี้มันน่าเกลียด มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาเสียน้ำตากับเรื่องแค่นี้ ผมมองหน้าทั้งสองคน
   “เธอสองคนถามเราหรือยังว่าเรื่องมันเป็นยังไง ผัวเธอ เราไม่เคยคิดอยากได้ เราไม่เคยคิด เราไม่เคยยุ่งกับใครและก็ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเรา” ผมลุกขึ้นพูดแล้วเดินออกมาครับ มันไม่มีหัวใจจะเรียนต่อ มันไม่มีอารมณ์จะมองหน้าใคร ใจเต้นแรงมากถึงมากที่สุดรู้สึกหน้าชามากจนมันถึงขีดที่เขาคงเรียกผมว่า หน้าด้านนั่นเอง
   “เป็นตาซังเนาะ อีห่าเอ้ย มาเว้าโป้งๆว่าเขาเป็นผัวแม่หญิงอีหยังวะ” ไอ้เล็กมันวิ่งตามผมออกมาล่ะครับ
   “อุ่นๆ เฮาขอโทษแทนเพ็ญกับสุชาตินำเด้อ เขาเว้าบ่อทันคิด” สาวจอยก็วิ่งตามออกมาครับ ผมไม่มีที่ไป จะไปไหนดีเนี่ย แล้วจะตามกูออกมาทำไมวะ กูอยากจะแสดงมิวสิคเพลงซึ้งคนเดียวเข้าใจไหมเนี่ย เว้ยนะ
   “แม่นอยู่ ไปบอกมันแน่เด้อจอย เว้าเป็นตาซังหลาย แต่ว่าเรื่องมันเกิดย้อนบักเดี๋ยว ซั่นเฮาสิไปบอกมันเองให้มันมาคุยกันเอง”
   “อย่านะเล็ก ให้มันจบแค่นี้ล่ะเราไม่อยากยุ่งกับใคร” อ้าวกูเสือกมาฟังออกตอนได้ยินชื่อไอ้เชี่ยนั่น แต่ก่อนผมพูดว่าเกลียดมันแต่เอาไปเอามาก็ยังวอแวกับมัน ผมเองล่ะที่ผิด เอาล่ะตอนนี้ก็พอกันที ต่างคนต่างอยู่ไปเถอะ อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันเลยนะ
   “เอออุ่นเฮาสังเกตเบิ่งโดนแล้ว โตเป็นหยังบ่อเว้าแน่เวลามีคนมาว่าหยังโตน่ะ คือให้เขาว่าเอาคั่กแท้” จอยมันถามขึ้นล่ะครับ ตอนนี้เราสามคนนั่งหลบอยู่ที่อาคารศิลปะมีพุ่มต้นไม้อยู่ ผมไม่ได้อยากจะเล่าเรื่องของผมให้ใครฟังหรอกนะ แต่ท่าทางของจอยเธอเองก็ไม่ได้เหมือนเพ็ญ ผมมองหน้าไอ้เล็กให้มันช่วยสงเคราะห์ผมหน่อย ผมไม่มีแรงจะเล่า
   “สงสัยติ๊ เดี๋ยวเฮาบอก” ไอ้เล็กครับมันเป็นคนเล่าเรื่องที่ผมเคยเล่าให้มันฟัง
   “อ้อ เฮาเห็นใจโตเด้ออุ่น ซั่นคั่นมีไผมาว่าหยังให้โตเฮาสิจัดการให้เอง” สาวจอยเธอออกตัวครับผมมองหน้าเธองงๆ ทำไมวะทำไมถึงจะอยากจะมาออกรับแทนผม ผมหันไปมองไอ้เล็กมันก็พยักหน้า
   “เฮ็ดหยังวะ เฮ้ย” เสียงที่คุ้นหูเหลือเกินครับ ผมหันไปมองแค่วินาทีเดียวก็ลุกขึ้นทันที
   “อ้าว มึงจะไปไหนวะ เชี่ยกูมาหนีนะมึง”
   “หยุดบักเดี๋ยว เซาไปวุ่นวายกับเพิ่นได้แล้ว” สาวจอยยืนขวางไว้ครับ นี่อย่าคิดว่าผมอยากจะให้ผู้หญิงเป็นบอดี้การ์ดออกหน้าแทนนะ แต่ผมไม่อยากมองหน้ามันแค่นั้นเอง
   “แม่นหยังจอย” “อีหยังเป็นหยังมึงน่าสิฮู้ดีแก่ใจเด้อบักเดี๋ยว เพิ่นนั่นน่ะ เซาไปวุ่นวายกับเพิ่นได้แล้ว” ไอ้เล็กมันพูดขึ้นอีกคนครับแต่ผมได้ยินแว่วๆแล้ว ผมเดินตรงดิ่งไปยังอาคารสาม ไปไหนล่ะกู ไปทำไม อ้าวนะ
   “เดี๋ยว มึงจะไปไหนมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน” เอ่อ มันวิ่งตามมาครับมันกระชากแขนผมไว้แรงๆจนหน้าผมหันกลับไปหามัน
   “อะไร” ผมกระแทกเสียงออกไป
   “มึงเป็นเชี่ยไร ทำไมหนีหน้ากู” มันตะคอกครับ
   “เรา รู้ จักกันเหรอ” ผมบิดมือออกจากมือของมันครับแล้วเดินต่อ อ่านแววตากูออกไหมนะ กูพยายามจะสื่อว่านับจากนี้ เราไม่เคยรู้จักกัน ที่ผ่านมากูปล่อยตัวปล่อยใจไปเองล่ะ พอทีไอ้ควาย
   “หลบเรียนบ่อ” พอหาที่ไปไม่เจอไอ้เล็กมันก็ชวนขึ้นล่ะครับ
   “ไปไหนล่ะ” ผมถามตอนนี้ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าจะให้ไปนั่งเรียนก็คงไม่มีปัญญาจะซึมซับเอาอะไรทั้งที่ปัญญาก็เท่าเม็ดถั่วเขียวอยู่แล้ว
   “ไปนั่งสวนมิ่งมงคลบ่อ” จอยมันออกความเห็นครับ
   “มีสารวัตรนักเรียนเด้อนั่น” ทั้งสองปรึกษากันอยู่แต่ทำไมมันสองคนจะต้องมาโดดเรียนเพราะผมด้วยล่ะ
   “แต่เธอสองคนไม่เรียนเหรอ อย่ามาเสียเวลากับเรา”
   “อุ่น อย่าเว้าจั่งซั่นติ๊ล่ะ โตฮู้บ่อว่าเฮาอยากเป็นหมู่กับโตหลาย ตอนแรกเฮาล่ะอิจฉาบักเล็กคือหยังนี่ที่มันสนิทกับโต” สาวจอยพูดออกมาครับ
   “จั่งซี้ล่ะคนมันมีเสน่ห์ อิอิ” ไอ้เล็กมันหัวเราะขึ้นล่ะครับ จอยก็หัวเราะบ้างผมก็ยิ้มออกมา
   “ซั่นไปไหว้พระมิ่งมงคลบ่อ ตั้งแต่มาอยู่นี่เคยไปไหว้เพิ่นยังล่ะอุ่น” สาวจอยชวนครับผมส่ายหน้า
   “แม่นๆ ไปไหว้แล้วไปกินตำบักหุ่งร้านแม่แต๋วเนาะ อยากกินตำซั่ว” บักเล็กครับตาวาวขึ้นมาทันที สรุปเราสามคนก็แอบหนีออกทางหลังโรงเรียนครับ เดินไปคุยกันไป ผมเพิ่งมองจอยวันนี้เองแบบเต็มๆตา เธอเป็นคนสวยนะดูไม่แรดแต่ดูห้าวๆ จอยเธอเล่าว่าคบกับเพ็ญตั้งแต่ประถมแต่ก่อนเพ็ญไม่แรดแบบนี้แต่พอขึ้น ม.ต้นมาเริ่มแรดแต่ด้วยความที่คบกันมานานจอยจึงไม่ได้อะไรมาก แอบเขินล่ะที่เธอบอกว่าอยากรู้จักผมมากแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาคุย เอาเป็นว่าเราสามคนสนิทกันเพิ่มขึ้นก็แล้วกันนะครับ ทางเข้าไปไหว้พระนี่มันคุ้นตาจังเลยนะ เอ่อ
   “เคยมาแล้วติ๊” จอยทักครับเพราะผมหยุดตรงศาลา
   “อ้อ ปะ เปล่า ไม่เคยหรอก โห องค์ใหญ่จัง”
   “มีงานประจำปีนำเด้ เดี๋ยวพวกเฮาสิพามา มีหมอลำซิ่ง มีหนังกลางแปลง”
   “จริงดิ อยากดูๆ” ผมอยากดูหนังกลางแปลงครับ คงจะคลาสสิกดี พระมิ่งมงคลองค์ใหญ่มากทำด้วยกระเบื้องเคลือบระยิบระยับต้องแสงแดดจนแสบตา พวกเราไปบูชาดอกไม้มาล่ะครับ ลานหน้าองค์พระปูด้วยกระเบื้องซึ่งมันร้อนเท้ามากขอบอกต้องเขย่งแล้ววิ่งไปนั่งตรงเสื่อที่เขาปูไว้ พอกราบพระเสร็จก็เดินออกมา ที่จริงบรรยากาศมันร่มรื่นมากล่ะครับตรงทางเข้ามีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เต็ม ด้านหลังองค์พระมีหินให้กราบไหว้อยู่ พอเดินออกมาผมก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองไปมองตรงศาลา ทำไมต้องมองวะเนี่ย
   “แม่เอาตำซั่วแซ่บๆเด้อ” พอไปถึงร้านขายส้มตำตรงซอยเยื้องๆหน้าโรงเรียนไอ้เล็กมันก็สั่งป้าคนขายล่ะครับ แต่เอ๊ะ ทำไมหน้าคุ้นจังเลย อ่า ป้าคนนั้นแม่ไอ้เชี่ยนั่นนี่
   “ไม่เรียนกันหรือไงพวกมึงน่ะ โดดเรียนกันล่ะสิ นิสัยไม่ดีนะ ทำตัวแบบนี้แล้วจะเรียนจบได้ยังไง เกเรใช้ไม่ได้พ่อแม่เขาลำบากยากเย็นแค่ไหนที่ต้องหาเงินมาให้พวกมึงเรียน ยังมาพากันหลบโรงเรียนอีกเป็นลูกเป็นหลานหน่อยไม่ได้จะจัดการให้หลาบจำ” เอ่อ คุณป้าแก่บ่นซะยาวเหยียดเลยนะครับ ผมนี่อึ้งอ้าปากค้างมองหน้ากันตาปริบๆ
   “ว้าย นี่ลูกอุ่นนี่ ตายแล้วนึกว่าใครว่าอยู่เชียวทำไมวิ้งๆกว่าใคร” ผมรีบยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “เพิ่นนี่เด้อแม่อยากกินน่ะ” ไอ้เล็กครับ แหมนะเอาชื่กูเข้าอ้างทันทีเลยนะ
   “ตายจริงไม่บอกล่ะคะลูกอุ่น กินได้เหรอตำซั่วลาวๆน่ะ จะท้องเสียไหมคะ”
   “บ่อเสียดอกแม่ เอาแซ่บๆโลดเพิ่นมั่กคั่ก” สาวจอยเสริมครับ ส่วนกูยืนเอ๋ออยู่
   “จัดไปค่ะ ไม่บอกแม่แต่แรกล่ะคะ แม่จะจัดสุดฝีมือ แล้วไก่ย่างเมื่อคืนอร่อยไหมคะลูก เนี่ยแม่ย่างไว้ พ่อๆ เอาไก่ย่างมาให้ลูกหน่อย เลือกเอาตัวดีๆนะ นี่ไงลูกอุ่นที่แม่เคยเล่าให้ฟัง” เอ่อ เกินไปไหมป้า ผมหันไปหาสามีแกล่ะครับแล้วยกมือไหว้
   “เป็นตาฮักอีหลีเด้อ” แอบขำสำเนียงคุณลุงแกครับเหมือนแกอยากพูดอีสานมากเลยนะแต่สำเนียงมันไม่ใช่ ต่างกับป้าแกที่พยายามจะพูดภาษากลางแต่สำเนียงมันก็ไม่ได้แข็งๆยังไงไม่รู้ น่ารักดีนะผมว่า
   “ฮู้จั่งซี้เอาชื่อโตมาอ้างตาโดนแล้วเด้อ” สาวจอยพูดครับตอนที่เรานั่งลงโต๊ะ ผมเองก็ยิ้มๆไอ้เล็กนี่เดินไปช่วยลุงย่างไก่ล่ะครับ
   “กินข้าวด้วยไหมลูก แม่มีข้าวสวยข้าวหอมมะลิจากเมืองยโส เม็ดขาวงามนุ่มละมุมลิ้น” เอ่อ ที่จริงคุณป้าน่าจะไปเป็นเซลส์นะผมว่า พูดเก่งจัง คุณป้าแกยกจานใส่ตำซั่ว? เอ่อ ทำไมสีมันแดงๆม่วงๆน่ากลัวจังวะ
   “เอ่อ รบกวน” “ว้ายไม่ค่ะลูกขา แม่มีอ่อมฮวกด้วยนะอยากลองกินไหม เมื่อวานไปซ่อนมา”
   “อีหยังล่ะคะแม่ซ่อนน่ะ อุ่นเพิ่นบ่อเข้าใจเด้ค่า” จอยมันแซวครับ
   “ว้าย แม่ตกลาว แม่ไปสวิงมาค่ะลูก เขาเรียกหยังล่ะจอย” ผมงงครับมองทั้งสองตาปริบๆ
   “แม่เอาสวิงไปช้อนมาจ๊ะ” ผมถึงพยักหน้า อ้อ แล้วฮวกนี่อะไรวะ
   “แกงอ่อมลูกอ๊อดน่ะอุ่น จะกินได้เหรอ” แหวะ ได้ยินแค่ชื่อผมก็ทำท่าขนลุกแล้วครับ
   “ลองกินดูนะคะลูก แซ่บอีหลีแม่รับประกันแล้วจะติดใจ” คุณป้าแกเดินไปตักข้าวสวยมาให้ผมแล้วก็แกงฮวกใส่ถ้วยมาครับ ไอ้เล็กมันกลับมาพร้อมไก่ย่างที่สับมาแล้ว หอมน่ากินเชียว ผมมองหน้าจอยประมาณว่ากูควรจะกินดีไหมเนี่ย
   “ลองกะได้จะได้บ่อเสียน้ำใจแม่เพิ่น” สาวจอยบอกครับ ตายกูตายแกงฮวกเกิดมาเพิ่งเคยเห็น ผมเอาช้อนตักตัวฮวกในถ้วยมาแล้วรีบยัดเข้าปากเคี้ยวๆกลืน เอ่อ รสมันแปลกๆนะมันนุ่มๆเหมือนปลาแต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ไม่รู้สิแต่รสน้ำแกงมันออกเค็มหน่อยๆแต่ก็ไม่มากกินกับข้าวก็พอดี อร่อยดีสรุป ฮ่าๆ
   “ฮ่วยกินอ่อมฮวกกะเป็นติ๊นี่” ไอ้เล็กมันแซวครับ
   “กินเป็นหมดล่ะ พวกนายยังกินได้เราก็กินได้ อร่อยดี” ผมพูดยิ้มๆ
   “มื้อใหม่เฮาสิพาไปกินลาบเทา เคยกินบ่อ” สาวจอยพูดแล้วหัวเราะกับไอ้เล้กสองคน ไรอ่ะพวกนี้แกล้งกูอีกล่ะสิ
   “ลาบสาหร่ายน้ำจืดเด้ แซ่บ” ไอ้เล็กเสริมครับมันคงเห็นผมงง เออก็น่าลองนะ
   “ทำไมส้มตำมันเป็นสีม่วงๆล่ะครับ” พอกินเสร็จผมก็เดินไปดูป้าแกตำส้มตำล่ะครับ ท่าทางแกนี่มืออาชีพมากๆ ตำไปเม้าไปดูแกมีความสุขดีนะผมชอบมองคนที่เขามีความสุข ผมรู้สึกว่ามันมีไอหรือรัศมีอะไรบางอย่างชวนให้มอง
   “แม่ใส่มะกอกค่า นี่ไง มะกอกไม่ใช่มะกอกที่เขาเอามาทำน้ำมันมะกอกนะ มะกอกนา” ป้าแกอธิบายครับ แล้วยื่นลูกมะกอกนามาให้ผม ลูกมันออกเหลืองๆลายๆแปลกๆ
   “มันจะเปรี้ยวหอมๆ ลองชิมดูสิคะลูก” ผมก็เหมือนบ้าจี้ล่ะครับลองกัดดู แหวะเปรี้ยวนะแต่ไม่มากมันมีกลิ่นหอมแปลกๆไม่รู้จะบอกยังไง
   “อิอิ ไม่เคยกินล่ะสิ มันทำให้ส้มตำหอมมีรสดีกว่าเดิม มะกอกเอาตำใส่กุ้งก็แซ่บค่ะลูก วันหลังแม่ทำให้กินนะ” ผมยืนมองป้าแกตำส้มตำอย่างมีความสุข แกคุยเก่งมาก น่ารักดีนะผมว่าทำไมต่างกับไอ้บ้านั่นเสียเหลือเกิน คุณลุงก็พูดน้อยแต่ยิ้มเก่งน่ารักเหมือนกัน ไม่มีส่วนไหนหรือตรงไหนที่ไม่น่ารักเลยนะแล้วไอ้บ้านั่นมันไปเอาเชื้อเลวมาจากไหนวะเนี่ย
   “สิกลับเข้าไปโรงเรียนบ่อเล็ก” จอยมันถามตอนที่เราเดินออกมาจากร้านส้มตำล่ะครับ
   “ขี้คร้าน” อ้าวไอ้เล็กมันบอกครับแล้วหันมาทางผม
   “แล้วจะไปไหนกันดีล่ะ” ผมถามครับ
   “ไปกินบักม่วงนาเฮาบ่อ” จอยมันชวนครับ
   “เออดีๆ สิไปนอนเว็นพร้อม” ผมมองหน้าจอยงงๆ
   “มันสิไปนอนกลางวัน นาเฮามีต้นบักม่วง เดี๋ยวสิไปเฮ็ดแจ่วไปกินนำ แซ่บเด้อุ่น” เอ่อ พากูทำอะไรประหลาดๆอีกแล้วนะพวกมึง แต่ก็ดีวะเซ็งๆอยู่เหมือนกัน ไปเปิดหูเปิดตา สรุปจอยมันก็พากลับบ้านมันก่อนล่ะครับ นั่งสองแถวไปบ้านมันอยู่เกือบสุดอำเภอทางไปอุบล พอลงหน้าปากทางก็เดินเข้าไปอีกเป็นกิโล แต่โชคดีหน่อยที่บ้านมันมีรถเครื่องอีกคันแต่โชคร้ายตรงที่มันบอกว่าเดินไปนาได้ เอ่อ พ่อแม่มันไม่อยู่พอดีเห็นจอยมันบอกว่าไปนานั่นล่ะ อ้าวแล้วไปเจอพ่อกับแม่ไม่ด่าเอาตายเลยเหรอเนี่ย
   “บ้านน่าอยู่นะ” ผมเดินดูรอบๆบ้านครับ บ้านมันเป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างเปิดโล่ง มีบันไดขึ้นไปชั้นบน ที่บอกว่าน่าอยู่คือมันมีต้นไม้เยอะ มองออกไปเห็นทิวป่าละเมาะและนาอยู่ไม่ไกล ตอนเช้าอากาศคงดีมากๆเลยนะ
   “ขอบใจจ้า แป๊บนึงเด้อ เฮาเฮ็ดแจ่วก่อน” จอยบอกครับแล้วเดินไปที่เพิงข้างๆบ้านคิดว่าน่าจะเป็นครัว
   “อุ่นๆ เคยกินบ่อบักฮวดข่า” ไอ้เล็กมันเดินไปข้างๆบ้านล่ะครับที่เป็นป่าละเมาะมันเดินกลับมาพร้อมกับพวงของผลไม้ป่าลักษณะเหมือนองุ่นแต่ไม่ใช่เพราะพวงมันชี้ขึ้นฟ้าลูกเล็กกว่าลูกมีทั้งสีแดงและสีม่วงเข้ม
   “ไหนๆ ลองหน่อย” ผมรีบปรี่เข้าหาครับแล้วหยิบมาลูกหนึ่ง อืม รสมันหวานฝาดๆนะ เม็ดใหญ่เนื้อแทบจะไม่มี
   “บ่อแม่นเห็ดสิออกอยู่บ่อจอย เมื่อคืนฝนตกมื้อนี้เอ้าๆ” พอจอยมันทำแจ่วเสร็จเราก็กำลังเดินลงไปยังทางข้างๆบ้านครับ
   “ออกอยู่ดอก ย่างไปเบิ่งไปถ่าพ้อคือสิหมานคั่ก” งงครับท่าน
   “เห็ดน่ะอุ่น ถ้าฝนตกแล้ววันนี้มันอ้าวๆเห็ดจะออก” จอยอธิบายครับผมถึงพยักหน้า
   “อ้อ แล้วเราไม่ขี่รถเครื่องไปเหรอจอย” ผมถามครับยังไม่ละความพยายามที่จะนั่งรถ เริ่มเมื่อยนั่นเอง
   “บ่อไกลดอกย่างแป๊บเดียวก็ฮอด” ระหว่างทางผมก็เพลิดเพลินกับการมองนั่นมองนี่ ผมไม่ได้กระแดะนะแต่ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆ ป่าโปร่งๆมีต้นไม้นานาพรรณมีดอกไม้ป่า ลูกไม้นั่นนี่ที่ไอ้เล็กมันคอยวิ่งไปเก็บมาให้ผมชิม ผมชอบจังเลย มันสงบ มันมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ไม่รู้สิครับผมว่านี่ล่ะมั้งคือสิ่งที่ผมขาดหายไปจากชีวิตของผม พอเราเดินไปถึงนาก็เห็นพ่อกับแม่ของจอยกำลังง่วนอยู่กับการหว่านปุ๋ยมั้งเห็นจอยบอก ต้นข้าวในนายังต้นไม่ใหญ่มากแต่สีเขียวของต้นข้าวมันคลุมไปทั่วทุกตารางเมตร
   “สูพากันหลบโรงเรียนมาติ๊” คำถามของแม่ที่ได้คำตอบคือรอยยิ้มจากเราทั้งสามคนล่ะครับ จอยมันก็แนะนำผมให้พ่อแม่มันรู้จักผมก็ยกมือไหว้ตามประสา พ่อแม่ของจอยดูขยันขันแข็งมากผิวสีคล้ำแดดดูแข็งแรงกว่าผิวสีซีดๆของผมเสียอีก
   “เพิ่นบ่อเคยเฮ็ด บ่อเคยออกแดดออกนายมึงคือพาหมู่มาแนวนี้” พ่อของจอยหันไปหาจอยครับผมได้แต่ยิ้มเพราะงง เอ้างงจริงจังนะที่เคยฟังออกก็มืดดับไปเลย เขาเรียกว่ามันเป็นภาษาอีสานขั้นสุด ฮ่าๆ
   “เพิ่นมักเด้ล่ะพ่อ บ่อเป็นหยังดอก” จอยมันบอกครับแล้วหันมาอธิบายให้ผมฟัง
   “อ้อ ไม่เป็นไรครับพ่อ ผมชอบ พ่อหว่านปุ๋ยเหรอครับ” พอผมเข้าใจผมก็หันไปถามล่ะครับ
   “แม่นลูก หว่านให้เข่ามันตั้งต้น พอมันมารกะมาหว่านอีกเทื่อ” ผมหันไปหาจอยครับ คราวนี้ไอ้เล็กมันอธิบาย
   “ผมอยากลองหว่านจัง” ผมยิ้มเขินๆ ไม่ใช่สาระแนอยากทำไปหมดนะ ก็ไม่รู้สิเห็นเขาทำแล้วอยากทำก็ผมไม่เคยทำนี่หว่า
   “อยากลองติ๊ บ่อต้องหว่านหลายดอก นี่ๆ กำมาแล้วหว่านข้างคันแทนี่กะได้อุ่น” จอยมันกระโดดลงจากกระท่อมปลายนาที่เราไปนั่งล่ะครับแล้วกำปุ๋ยในถังเดินไปทำให้ผมดู ผมก็ลองบ้าง
   “หว่านให้มันกระจายๆออกแนวนี้” ไอ้เล็กเองก็สอนครับ เออนะ เอาไปเอามาเหงื่อแตกเต็มตัวครับท่าน สนุกดีนะแต่เริ่มปวดแขนล่ะ
   “ป่ะไปขึ้นบักม่วงมากินกับแจ่ว” จอยมันชวนครับเราไปล้างมือที่บ่อขุดข้างๆกระท่อมปลายนา จอยบอกว่าหน้าเสร็จจากนาจะมาวิดน้ำเก็บปลากัน ผมสนใจมากจอยมันสัญญาว่าจะพามา ไอ้เล็กเองก็บอกว่านามันก็มี ผมก็เลยตั้งความหวังไว้ในใจเลยล่ะครับว่าต้องได้วิดน้ำจากบ่อแล้วก็จะได้เก็บปลา โอ๊ย ตื่นเต้นๆ
   “เราว่า เราชอบชีวิตแบบนี้นะ” พอเรามานั่งกินมะม่วงที่กระท่อม มะม่วงแก้วมั้งครับเห็นจอยมันบอกมันขึ้นอยู่ที่คันนาหรือที่จอยมันเรียกว่าคันแทนา ต้นไม่ใหญ่มากลูกดกเต็มต้น ไอ้เล็กเป็นคนปีนครับส่วนผมก็ตื่นตาตื่นใจกับนั่นนี่ตามประสา เห็นปูนาสีม่วงตัวแบบเป้งด้วยล่ะจอยมันเลยจับไปบอกว่าจะเอาไปดองตำใส่ส้มตำ
   “กะเจ้าบ่อเคยเห็นเนาะ อยู่ไปอยู่มากะเบื่อเองล่ะ พวกเฮาเห็นมาเฮ็ดมาแต่น้อย เบื่อ” จอยมันพูดครับแล้วหัวเราะ
   “แม่นอยู่ นี่เลิกโรงเรียนกะสิไปหว่านปุ๋นคือกันเด้นี่” ไอ้เล็กครับ
   “เราว่ามันดูเงียบสงบดีออก ไม่ต้องทำเพราะใครบอกให้ทำ แต่ทำเพราะเราอยากทำ”
   “บ่อแม่นดอก คั่นบ่อเฮ็ดเข่ากะบ่องามเด้อ บ่อได้เกี่ยวนำหมู่ซั่นแหล่ว”
   “แล้วไม่เอาปุ๋ยหมักใส่ล่ะ ทำไมต้องใช้ปุ๋ยเคมี” ผมคงจะเหมือนคนกรุงทั่วๆไปล่ะครับ ถามโน่นถามนี่
   “ใส่คือกัน แต่ว่าปุ๋ยหมักมันบ่อทันใจ เฮามีอีกนาเพิ่นบ่อใส่ปุ๋ยเคมีเลย แต่เข่ามันสิบ่องามสู่ปุ๋ยเคมี เข่านานั้นเพิ่นเอาไว้กิน นี่เพิ่นเอาไว้ขาย” จอยมันอธิบายครับ อ้อ ที่กูกินอยู่ทุกวันนี่ก็ข้าวใส่ปุ๋ยเคมีสินะ เออนะ เราสามคนคุยกันหัวเราะไปเสียงดังลั่นทุ่งล่ะครับ แล้วก็พากันนอนกลางวัน จนบ่ายคล้อยถึงตื่น
   “โอ๊ย โพดเนาะ คนบ่อไปโรงเรียนเป็นหยังบ่อไปซ่อยแม่เพิ่นหว่านปุ๋ยล่ะ” เสียงเด็กมาปลุกให้ตื่นครับ ผมนอนอยู่ข้างๆจอย มันตื่นก่อนแล้ว
   “ฮ่วย ให้มันแลงก่อนสิไปซ่อยดอก เลิกเรียนแล้วติ๊บักโจ้” จอยมันคุยอยู่กับเด็กชายคนหนึ่งล่ะครับผมยังนอนตาปรืออยู่เลย
   “อ้าว อ้ายเล็กกะหลบโรงเรียนคือกันบ่อ นั่นแม่นไผ” ไอ้เด็กคนนั้นมันเดินเข้ามาในกระท่อมครับผมเลยลุกขึ้น
   “อ้อ ฮ่วยหลบเรียนกะเป็นติ๊นี่” มันมองหน้าผมแล้วหัวเราะครับ อะไรเนี่ยไอ้เด็กนี่
   “น้องมันๆ” ไอ้เล็กบอกผมครับ ผมถึงพยักหน้า อ้อ แต่ทำไมมันตัวสูงกว่าจอยวะ อาจจะสูงกว่าผมด้วยซ้ำ
   “บักโจ้ มันอยู่ ม.สาม น้องเฮาเองล่ะอุ่น” จอยมันแนะนำครับผมก็พยักหน้ายิ้มให้แห้งๆ เอาแบบแห้งพอเพราะกูเพิ่งจะตื่น
   “ป่ะกลับกันล่ะยังเดี๋ยวเฮาสิไปส่ง” จอยมันบอกครับ ผมพยักหน้าแล้วเดินไปลาพ่อกับแม่ของจอย
   “สิไปส่งหมู่ติ๊ พ่อว่าสิให้ไปซ่อนนายายมีแน่ะ แม่ว่าเห็นฮวกหลาย” พ่อของจอยบอกครับ
   “เออ ซั่นเล็กไปส่งอุ่นแน่ เฮาสิไปซ่อน อุ่นมื้ออื้นพ้อกันเนาะ” ผมยังงงอยู่เลยนะเหมือนสองคนนี้มันฝากผมหรือให้ใครอะไรไปส่งผมนี่ล่ะ
   “เฮากะว่าสิลัดไปนาเลยเด้นี่ รถยังจอดอยู่โรงเรียนมื้ออื่นพู้นจั่งสิไปเอา” ไอ้เล็กมันทำท่าคิดหนักครับ
   “ซั่นให้บักโจ้ไปส่งเนาะอุ่น โจ้ๆ ไปส่งอ้ายเพิ่นแน่” จอยมันร้องบอกน้องมันล่ะครับ ไอ้นั่นก็เดินมาทำหน้าไม่พอใจ
   “ไปส่งไส” มันทำเสียงห้วนๆครับ อ้าวเอาแล้วไหมล่ะลำบากเพื่อนเฉยเลยกู
   “ไปส่งฮอดเฮือนเพิ่นล่ะเนาะ บ้านปลัดน่ะฮู้จักบ่อ” มันไม่ตอบครับแต่พยักหน้า ผมก็ร่ำลาเพื่อนๆแล้วเดินตามไอ้น้องคนนี้ออกมาจากนา
   “ขี้คร้านเด้” มันร้องขึ้นครับ
   “เดี๋ยวพี่กลับเองก็ได้ครับน้อง ไม่ต้องไปส่งหรอก” ผมพอจะเข้าใจครับ ไม่ได้คิดอะไรคิดว่ากลับเองดีกว่าไม่อยากให้ใครไปส่งหรอก นั่งสองแถวมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆก็คงเพลินตาดี
   “บ่อได้ดอก เอื้อยผมมันสิด่าเอา” มันพูดครับ แล้วบ่นทำไมเนี่ย
   “ไม่เป็นไรหรอก พี่อยากนั่งสองแถว” ผมเองก็ไม่อยากไปกับมันนักหรอกครับท่าทางคงจะแว้นน่าดูเชียว
   “ฮ่วย เว้ายากหลาย สิไปส่งกะไปส่งเด้” เอ่อ ตวาดกูเพื่อไอ้เด็กคนนี้นี่
   “ผมขอโทษ ตกใจติ๊” ผมหยุดเฉยๆครับ มันไม่เห็นผมเดินตามไปมันเลยหันกลับมา มันคงเห็นสีหน้าผมล่ะ
   “อืม ไม่เป็นไรครับ ถ้าจะทำอะไรเพราะลำบากใจ อย่าทำนะ พี่ไมได้ขอ” ผมกัดฟันพูดออกไปครับ มันทำหน้าแปลกๆ
   “โอ้ย อ้ายกะดายเนาะ ผมล้อเล่นซื่อๆดอกน่า ดีกะด้อ ผมบ่อต้องหว่านปุ๋ย” มันหัวเราะครับ หนอยแน่ทีแบบนี้ล่ะมาหัวเราะ
   “ว่าแต่เราชื่อไรนะ พี่ชื่ออุ่นนะ” ผมลืมครับเห็นจอยมันบอกล่ะว่าไอ้นี่ชื่ออะไรสักอย่างไม่ได้จำ
   “ฮ่วย คนอีหยังจำกันบ่อได้ ผมซื่อโจ้คร้าบ อ้ายอุ่น” มันล้อเลียนผมครับ แหมนะ หือ ชื่อไรนะ โจ้? เอ่อ ทำไมมัน เออนะ ช่างมันเถอะ
   “อย่าขับเร็วนะ” ผมบอกมันครับตอนไปถึงบ้านแล้วมันก็เอารถเครื่องออกมา
   “ย้านติ๊” มันหันมายิ้มครับ
   “บ่อย้าน แต่พี่จะดูข้างทาง” “ฮ่าๆ เว้าลาวเป็นตาฮักเนาะ” มันพูดครับแล้วมันก็ออกตัวไป มันขับไม่เร็วมากบรรยากาศในเมืองเริ่มวุ่นวายรถราเยอะแยะไม่รู้จะแย่งกันไปไหน วันนี้ผมไม่สบายใจเลยในตอนเช้ารู้สึกเหมือนคนโดนหักหลังแต่พอตอนเย็น ผมสบายใจจังเลย รู้สึกดีอย่างประหลาด นี่น่ะหรือที่เขาบอกว่าสิ่งแวดล้อมรักษาโรค ท่าจะจริงเนอะ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. หวังว่าคงจะพออ่านเข้าในนิ อิอิ ภาษาอีสานมันจะเหมือนภาษากลางล่ะครับแต่คำมันจะห้วนๆกว่า สั้นกว่า แต่ก็แอบมีบางคำที่ความหมายเปลี่ยนไปเลย เดี๋ยวจะพยายามบอกไปเรื่อยๆนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-05-2012 18:09:43
หนุกอ่ะ อ่านแล้วอยากทิ้งกรุง....อยากกินตำซั่วแซ่บๆ ....
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-05-2012 18:15:31
มาอีกโจ้นึงแล้ว
อยากรู้อ่ะ อุ่นยังคบกะโจ้อยู่ป่าว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 04-05-2012 18:53:18
เป็นไงเดี๋ยว อุ่นเขาไม่ยุ่งด้วยแล้ว o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 04-05-2012 19:07:32
แอบคิดถึงพี่เดี๋ยวจัง ตอนนี้ปรากฏตัวนิดเดียว เชียร์ให้อุ่นโกรธนาน ๆ เลย อย่าไปยอม >,,<"
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-05-2012 19:18:15
เดี๋ยวมาเคลียร์ด่วน  o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 04-05-2012 20:50:23
อยู่กับธรรมชาติมันก็ทำให้คลายเครียดได้
อุ่นก็สมควรที่จะโกรธเดี๋ยวแล้วล่ะ เอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 04-05-2012 21:20:40
 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 05-05-2012 00:00:01
:laugh: เจ้าเดี๋ยว...พ่นไฟ..ระเบิดโรงเรียนไปแล้ววววววว
 :m31: กร๊าซ..ซซซซซซ "อุ่นกูอยู่ไส"?  :m31:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-05-2012 00:27:54
วันนี้น้องอุ่นได้ความรู้รอบตัวไปเยอะเลย
หลีกหนีความวุ่นวายไปซึมซับธรรมชาติดีกว่า

น้องโจ้จะมาเป็นตัวช่วยเร่งปฏิกิริยาหรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 05-05-2012 00:46:08
จะบอกว่าอ่านภาษาอีสานไม่รู้เรื่องเลย 555555

แต่ก็จะพยายามต่อไป เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 05-05-2012 00:47:36
ได้ออกไปลุยนาลุยสวน
กินอาหารแซ่บๆ
เอาความเคลียดออกได้ดีเชียว :z2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 05-05-2012 10:58:44
อ่านไปสนุกๆๆมาก แต่คำบางคำก็ไม่เข้าใจเหใมอนกัน เพราะที่บ้านไม่ไม่ค่อยได้ใช้
เพราะสำเนียงที่บ้านจะไม่เหมือนกัเท่าไหร่ แต่น้องชาบอิ๊กกี้เขียนได้สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-05-2012 11:12:45
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 05-05-2012 11:40:51
น้องโจ้น่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 05-05-2012 12:48:00
อ่านไปแซ่บไป 555555
น้ำลายสอเลยๆๆๆ ><!
สงสารอุ่นจัง สู้ๆนะหนู นายเดี๋ยวก็เถอะ เฮ้อ
รอระเบิดลงทีเดียวเลยแล้วกัน555555
รอตอนต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-05-2012 13:42:00
เอาใจช่วยอุ่น 
คนเราต้องมีศักดิ์ศรี
ทำให้ไอ้เดี๋ยวสำนึกซะ!!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 05-05-2012 14:04:25
อุ่นเล่นตัวแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 06-05-2012 22:04:40
อร๊ายยยยยยยยยยย  ตอนนี้แอบไม่มีบักเดี๋ยวเนาะ

ตอนน่า เอาอารมณ์บักเดี๋ยวล้วนๆเลยน๊า


เห้อออออออ  เมื่อไหร่จะเข้าใจกันน๊า

พี่อิ๊กสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 9 Version (อุ่น) 4 May 12 หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 06-05-2012 22:59:41
ช่างเป็นตอนที่  ทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆ

ส่อนฮวก  สับหน่อไม้ ขึ้นบักหวดข่า  บ๊ะ เคยเฮ็ดมาเบิดแล้วเดะนี่
โฮ้วว คักอิหลี อิกกี้ นิยายเรื่องนี้ มักคัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 07-05-2012 19:02:40
You’re My BaBy!!!

“เราไม่เคยรู้จักกัน” สัด คำนี้ทำไมมันก้องอยู่ในหัวกูตลอดทั้งวันนะ สายตาของมันที่มองมา คำพูดแห้งๆของมันทำไมทำให้กูรู้สึกสั่นไปถึงข้างในนะ ทั้งที่กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แม่งเอ้ย ไอ้เชี่ยนั่นมันเป็นไรของมันวะ อยู่ดีๆก็พูดแบบนี้ แต่กูว่ามันไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ มันคงจะแกล้งกูคืนล่ะสิท่า ฮ่าๆ ไม่ได้ผลหรอกเว้ยไอ้เตี้ย แต่ว่าตอนที่ผมวิ่งตามมันไปตอนเช้าน่ะคำพูดของมันฟังดูแปลกๆนะ คนเราจะเปลี่ยนมันต้องมีมูลเหตุไม่ใช่อยู่ดีๆมาเปลี่ยน เพราะแต่ก่อนผมเคยแกล้งมันเยอะยังไงเวลาเจอหน้ามันก็ยังกวนตีนผมอยู่ไม่ได้กลัว แต่สายตาตอนนั้นคำพูดแบบนั้น มันเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันจริงๆ เอาล่ะสิไม่ใช่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ ไม่ใช่มันไปแอบได้ยินกูคุยกับสัดไม้นะ งานเข้าล่ะถ้างั้น แต่คงไม่หรอก อย่ามานิยายแถวนี้เว้ย
   “วันนี้อยู่ซ้อมกันนานหน่อยนะเดี๋ยววันพุธนี้ต้องไปแข่งแล้ว สายของกูบอกว่าทีมนารีเขาแกร่งมากนะชุดนี้ กูไม่อยากให้พวกมึงแพ้” พอบ่ายคาบสุดท้ายกูไม่เรียนหรอกนะมาหาพ่อกูที่ห้อง แกก็บอกล่ะครับ
   “บักเดี๋ยว ได้ข่าวว่ามึงสีน้องอุ่นอยู่แม่นบ่อ” สัดแบงค์ครับ เฮ้ย ไอ้เชี่ยนี่ก็แบงค์ไอ้บ้าที่ไปเจอตอนเข้าค่ายก็แบงค์ แม่งไม่มีชื่ออื่นหรือไงวะเนี่ย
   “แม่น เป็นหยัง” กูเริ่มรำคาญล่ะแม่งทั้งวันเจอแต่คำถามพวกนี้ สาวๆที่เคยกรี๊ดกูเวลาเดินผ่านก็ทำเสียงแหวะใส่ อะไรวะ นี่กูไม่ได้ทำอะไรจริงจังเลยนะเนี่ยมันยังออกมาในรูปแบบนี้ถ้ากูเอาจริงขึ้นมาล่ะ สัดเอ้ย โมโหว่ะ
   “กูว่าอยู่เป็นหยังมึงจั่งมักไปตอแยเพิ่นนั่นแท้ ที่แท้มึงกะสีเพิ่นนี่เอง”
   “ฮ่วย หนักหัวมึงติ๊ กูสิสีไผมันเกี่ยวหยังกับมึง สัดนี่เดี๋ยวกูสิเอาตีนยันปาก อยากฮู้แท้บ่อเรื่องของกูน่ะ” กูเริ่มอารมณ์ไม่ดีจริงๆนะ เดินไปไหนเพื่อนที่เคยสนิทมันก็ถามว่ะ นี่กูดังไปทั้งโรงเรียนแล้วว่างั้น พอตอนซ้อมบอลกูก็เตะแม่งระบายอารมณ์ไปเลยสะใจสุดๆ เตะอัดแม่งมั่วซั่วโมโหเว้ย
   “มึงสิไปร้านบ่อบักเดี๋ยว” สัดเคนครับ ผมพยักหน้าให้มันแล้วเดินไปที่คุณปู่
   “เป็นหยังบ่อเห็นเพิ่นนั่นเนาะ แต่กี๊เลิกโรงเรียนเห็นมันย่างหลงทาง ตาอยากหัวหลาย”
   “ไผเพิ่นนั่นของมึงน่ะ” ผมถามครับ
   “อ้าว อุ่นนั่นเด้” “สัด” กูก็นึกว่าใคร พูดถึงไอ้เตี้ยนั่นอีกล่ะ เออนั่นสินะ วันนี้มันไปไหนวะทั้งวันกูไม่เห็นหน้าเลยว่าจะไปแหย่ซะหน่อย เรื่องคำพูดของมันกูยังไม่เข้าใจเลยนะ แต่ก็นะกูไม่สนใจหรอกรีบไปที่ร้านช่วยแม่กูขายส้มตำดีกว่ามีประโยชน์กว่าตั้งเยอะ ดีกว่ามาคิดอะไรบ้าบอเกี่ยวกับมันไร้สาระ พอออกมาพ้นรั้วประตูโรงเรียน
   “ว้ายพี่เดี๋ยว เพิ่งเลิกซ้อมเหรอ” เฮ้อ วันๆนึงนี่กูจะไม่พูดคำหยาบเลยมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะครับ เจอไอ้เชี่ยสุชาติอีกแล้วมากับเพ็ญ กูล่ะเบื่อจริงจัง เพ็ญน่ะไม่เบื่อแต่ทำไมวันนี้กูไม่อยากเจอแม้แต่หน้าเธอวะ
   “เออ” ผมตอบไปแล้วจะบิดคันเร่งไปต่อแต่มันมาจับเบาะรถไว้ครับ
   “สัด อยากตายบ่อ” ผมตวาดใส่มันไปครับ
   “วุ่ย อย่าดุนักสิพี่เดี๋ยวอ่ะ เนี่ยญ่าว่าจะไปกินส้มตำร้านพี่เดี๋ยวพอดีให้ญ่าไปด้วยได้ป่ะ”
   “บ่อมีปัญญาไปกะบ่อต้องแดก” ผมเอามือปัดมันออกแล้วบิดเครื่องครับ
   “เดี๋ยวสิเดี๋ยว ไม่อยากคุยกับเพ็ญเหรอ” ทีนี้เธอล่ะครับเดินมาขวาง
   “อารมณ์บ่อดีเด้มื้อนี่”
   “เรื่องไร อย่าบอกนะว่าเรื่องไอ้อุ่น” ผมมองเธอขวับทันทีครับ
   “มันจริงอย่างที่เขาเล่ากันใช่ไหมเดี๋ยว ทำไมเดี๋ยวทำกับเพ็ญแบบนี้ นี่เดี๋ยวไปยุ่งกับมันจริงๆเหรอ หรือว่าเดี๋ยวอยากแค่สนุก อยากลองเหรอ” เธอแว้ดเสียงใส่ผมครับ ที่รับไม่ได้คือคนที่แว้ดใส่นี่ไม่ใช่แม่กูนะ ถ้าเป็นแม่กูก็ว่าไปอย่างแต่คนอื่นไม่มีสิทธ์
   “เป็นหยัง” “ลองได้นะเดี๋ยวแต่พอแล้วนะเพ็ญไม่ยอมนะ วันนี้เพ็ญก็เพิ่งจะด่ามันไป หนีโรงเรียนเลย อย่าให้เพ็ญต้องทำอะไรรุนแรงมากกว่านี้นะ อย่าหาว่าเพ็ญไม่เตือน” หือ เมื่อกี๊มันว่าไรนะ
   “เจ้าไปว่าหยังมัน” ผมถามเธอเสียงแข็งล่ะครับ แข็งจนเธอหน้าซีดลงทันที
   “ถามน่ะได้ยินบ่อ” เริ่มไม่ไหวแล้วครับทำหน้าจ๋อยทำไมวะ ทำไมไม่แว้ดๆเหมือนเมื่อกี๊
   “ก็เพ็ญแค่บอกมันว่าเดี๋ยวน่ะของเพ็ญอย่ามายุ่ง ไม่งั้นเพ็ญไม่ยอมหยุดแน่ๆ แค่นั้นเอง ทำไมเหรอเดี๋ยวก็เดี๋ยวเป็นแฟนเพ็ญนี่”
   “กูเป็นของมึงตั้งแต่ยามได๋ อย่าไปวอแวกับมันอย่าหาว่ากูบ่อเตือน มึงคือกันอีสุชาติ” ผมขู่ครับแล้วพยักหน้าให้เธอหลบ
   “แหมออกตัวแทนมันเลยนะเดี๋ยว แล้วมัวไปทำอะไรมาล่ะเมื่อกี๊เพ็ญเห็นไอ้โจ้น้องอีจอยมันขับรถไปส่งไอ้นั่น เพิ่งจะผ่านหน้าโรงเรียนไปเมื่อกี๊ ท่าทางจะออกมาจากป่าด้วยนะ” แล้วเกี่ยวไรกะกูวะ แม่งเอ้ย ผมขับรถออกจากบริเวณนั้นทันทีครับ แม่งเอ้ยทำไมกูถึงต้องบึ่งรถไปทางบ้านไอ้เตี้ยนั่นด้วยวะ คิดไปคิดมาคุณปู่กูมาจอดหน้าบ้านมันแล้วครับ
   “พี่ต้อย อุ่นสอยมะยมให้ไหมอยากกินมะยมแช่อิ่มอ่ะ” เสียงไอ้เตี้ยนั่นร้องออกมาจากในบ้านล่ะครับ กูนิ่งอยู่ทำไมตอนนี้ใจเต้นตึกตักวะเนี่ย
   “อุ๊ย บ่อต้องดอกค่าคุณอุ่น เดี๋ยวเอื้อยสิต่อยเอง คุณอุ่นไปฮดน้ำต้นไม้หน้าบ้านให้เอื้อยแน่ซั่น” สักพักมันก็เดินออกมาล่ะครับลากสายยางออกมา มันยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลยนะ พอมันหันมาเห็นหน้าผมมันก็ทิ้งสายยางแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที
   “เฮ้ย เดี๋ยวดิ” ผมรีบวิ่งไปหามันครับ ทำไมวะกูไม่เข้าใจตัวเอง แต่ไม่ทันมันวิ่งขึ้นบ้านไปแล้ว
   “อ้าว มาหยังเดี๋ยว เอาหยังมาให้ติ๊” เจ้แกเดินออกมาพอดีครับ
   “บ่อได้เอาหยังมาให้ดอกเอื้อย แวะมาซื่อๆ เพิ่งจะซ้อมบอลแล้ว” ผมไม่รู้จะตอบไปว่าอะไรดี
   “แม่นบ่อน้อ ว่าอยู่เป็นหยังจั่งบ่อมาส่งเพิ่นนั่น ว่างฮั่นกะมีน้องของหมู่เพิ่นตั้วมาส่ง พากันไปนามาว่าซั่นแหมะ คือสิมักคั่กถามเอื้อยใหญ่เลยว่าอยากเฮ็ดนาพะนะ”
   “ไปนาไผ” ผมถามครับอยากรู้ขึ้นมาทันที
   “ว่าหมู่อยู่ห้องนั่นล่ะ ไปนอนเว็นกับพากันไปกินบักม่วงถ่าเบิ่งเด้อมื้ออื่นสิขี้แตก” ผมยืนคุยกับเจ้แกสักพักล่ะครับก็กลับ ตอนนี้คิดอะไรอยู่ ไม่รู้สิวะทำไมไม่รู้ผมไม่เคยคิดอะไรเกี่ยวข้องกับใครเลยนะ เขาเรียกว่าอะไรมันค้างคาในใจว่ะ แม่งไม่เคลียร์แบบนี้กูไม่ชอบเลยนะ
   “อู๊ย ลูกเดี๋ยวมาแล้วเหรอคะ นั่งพักเลยลูกวันนี้ไม่ต้องทำ วันนี้แม่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ” หือ นี่ผีเข้าหรือไงเนี่ยแม่กู จากปกติเจอหน้ากูนี่นะจะเทศน์ก่อนสักบทแต่นี่บอกให้กูนั่งพัก เฮ้ย ไรวะ
   “แม่เป็นหยังพ่อ” ผมเดินไปหาพ่อล่ะครับที่ย่างไก่อยู่
   “อารมณ์ดีตั้ว บ่อต้องเฮ็ดดอกลูก มาเมื่อยๆไปนั่งพักก่อนไป พ่อย่างเสร็จพอดี” อ้าว นี่ก็อีกคนเป็นไรวะเนี่ยน่าสงสัยมาก
   “เป็นไงล่ะพ่อ น่ารักเนอะ แม่ล่ะปลื้มไม่รังเกียจแม่ค้าส้มตำเลย เข้ามาถามวิธีทำอีก โอ๊ย เออ เดี๋ยววันนี้เอาแกงไข่มดแดงใส่เห็นละโงกไปให้คุณปลัดหน่อยนะ แม่เพิ่งได้มาจากตลาด” นี่ตกลงผูกปิ่นโตที่บ้านปลัดแล้วว่างั้น เขาให้เงินหรือไงนะแม่
   “ฮวกก็กินเป็นเด้แม่ เป็นตาฮักอีหลีเนาะ มารยาทก็ดีคือแม่เว้า” กูเริ่มจะงงภาษาอีสานของพ่อกู พูดเหมือนหมอลำเลยนะ
   “ไผล่ะพ่อ” ผมถามครับ งงมากอยากรู้จัด
   “อ้าวก็ลุกอุ่นเด้ เมื่องายนี่มากินเข่าอยู่ร้าน พ่อเพิ่งจะเคยเห็น เป็นตาฮักอีหลี มารยาทก็ดี ปากแด้งแดงเนาะ” เอ่อ ไอ้เตี้ยมันมาที่นี่เหรอ มันหลบโรงเรียนมากินส้มตำร้านกูเนี่ยนะแล้วไปนาต่อ เออนะ มีแต่เขาหลบโรงเรียนไปเดินห้างดูหนังกัน นี่อะไรของมันวะ
   “นั่นๆ ขนาดบักเดี๋ยวยังยิ้มเลยแม่ แสดงว่าเป็นตาฮักอีหลี”
   “ยิ้มหยังพ่อ บ่อได้ยิ้มเด้อ ไสล่ะแกงไข่มดแดงน่ะสิเอาไปให้ปลัด” กูเผลอตัวยิ้มไปตอนไหนวะเนี่ยพ่อเลยเห็นเลย สรุปแม่กูยังไมได้แกงหรอกนะเห็ดใส่ไข่มดแดงน่ะ เอาไปเอามากูก็ต้องล้างจานเก็บของอยู่ดีเพราะคุณแม่กับคุณพ่อเหมือนตกอยู่ในภวังค์ของอะไรสักอย่างเพ้อรำพรรณอยู่ได้
   “อ้าวลูกเดี๋ยว” พอเย็นผมก็เอาแกงเห็ดไปให้ปลัดล่ะครับ เห็นแกนั่งอยู่ที่โต๊ะหวายใต้ถุนบ้าน
   “สวัสดีครับคุณปลัด แม่ให้เอาแกงเห็ดมาให้ครับ” ผมบอกปลัดแล้ววางปิ่นโตลงบนโต๊ะ สายตามองหาไอ้เตี้ยนั่นล่ะครับ อยากรู้ว่ามันเป็นแป๊ะไรวะ ทำไมเจอหน้ากูต้องหลบด้วย
   “อุ่นอยู่บนบ้านน่ะลูก อยู่กินข้าวกับพ่อก่อนนะ” ดีเลยที่ชวนผมพยักหน้าทันทีครับ ตอนแรกว่าจะขึ้นไปหามันเลยนะแต่ไม่ดีกว่า รอให้มันลงมาเจออยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำหน้ายังไง
   “คุณอุ่นขา มากินเข่าค่า” เสียงเจ้แกไปเรียกมันลงมาล่ะครับ ผมก็ใจระทึกอยู่ สักพักมันก็เดินลงมาจากบนบ้าน พอแค่เห็นว่ากูนั่งอยู่มันก็หยุดล่ะครับ
   “อุ๊ย เหมือนท้องเสียเลยอ่ะพี่ต้อย” นั่นไง มันวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันทีครับ
   “เชิญคุณพ่อซายก่อนเลยค่า คุณอุ่นไปกินบักม่วงมาคือสิท้องบ่อดี” เจ้แกเดินมาบอกล่ะครับ กูต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้เชี่ยนี่มันเป็นอะไรของมันวะ ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วนะมันเปลี่ยนไปเลย ไปได้ยินใครเขาว่าอะไรมาหรือเปล่าวะเนี่ย แต่ทำไมกูห่วงมันจังวะ เออช่างแม่งสนใจที่ไหนกินข้าวฟรีดีกว่าวะ
   “ต้อย อุ่นไหวไหมให้พาไปหาหมอหรือเปล่า” รู้ไหมนี่มันจะสามทุ่มแล้วนะแต่ไอ้นั่นมันวิ่งขึ้นห้องไปยังไม่ลงมาเลย
   “คุณอุ่นขอนอนจักคราวค่าคุณปลัด เดี๋ยวต้อยสิอุ่นแนวกินให้กินเองบ่อต้องเป็นห่วงค่า”
   “ไม่ดีนะให้ไปกินอะไรแสลงๆแล้วมาท้องไส้ไม่ดีแบบนี้ กินอะไรคราวหลังให้ระวังบ้างสิ”
   “ค่ะคุณปลัด” กูนั่งรอมันจนเมื่อย ง่วงแล้วว่ะแม่งเอ้ย เออ กลับก็ได้วะ พรุ่งนี้กูไม่ยอมแน่มึง อยากรู้เหมือนกันเป็นเชี่ยไร แต่รู้ไหมแม่งกลับมาก็นอนไม่หลับทั้งที่เหนื่อยจะบ้า ใจกูคิดวนไปวนมาแบบที่ไม่เคยเป็น จะคิดทำไมวะกะอีแค่ไอ้เตี้ยคนเดียว เป็นไรไม่พอใจช่างแม่งมันดิ กูไม่สนใจเว้ย สรุปกูหลับเอาตอนตีอะไรไม่รู้ ตื่นสายอีกกู พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รีบบึ่งคุณปู่ไปที่บ้านปลัดทันที ทำไมต้องมาบ้านปลัดวะ อ้าวสัด กูบ้าไปแล้วทำไมไม่ไปโรงเรียน
   “บ่อไปโรงเรียนติ๊เดี๋ยว” เจ้แกอยู่หน้าบ้านพอดีครับ อายจังวะกูจะไม่จอดรถก็ยังไงอยู่
   “ไปเอื้อย เพิ่นนั่นไปแล้วติ๊” ผมถามหามันล่ะครับ
   “ไปแล้ว ตื่นแต่เซ้าคือหยังนิมื้อนี่แปลกหลาย” กูไม่รอฟังครับรีบบิดคุณปู่ไปโรงเรียนทันที กูก็โดนพ่อกูทำทาไปตามระเบียบนั่นล่ะ
   “จำมื้อผิดอีกติ๊บักเดี๋ยว” เสียงรุ่นพี่ที่เคยมาสายมันทักขึ้นครับ แม่ง มันเหมือนเสียงอะไรสักอย่างที่เข้าไปสะกิดความนึกคิดของกูที่มันหลับ ภาพไอ้เตี้ยนั่นมันเด่นขึ้นมาเลยนะ สัด กูต้องคุยให้รู้เรื่องวะตกลงมันอะไรของมัน แต่กว่าที่กูจะโดนทำโทษเสร็จก็เหนื่อยเหงื่อไหลไคลย้อยล่ะครับ พอเสร็จก็เดินตามหามันคิดว่ามันคงจะอยู่ที่โรงอาหารแน่ๆ ว่าแล้วกูก็เดินไปโรงอาหารทันทีล่ะครับ นั่นไงเจอไอ้เตี้ยนั่นมันอยู่กับสาวจอยไอ้เล็ก
   “เล็กจอย วันหลังพาเราไปนาอีกได้ไหม เราชอบ” เสียงไอ้เตี้ยมันดังขึ้นล่ะครับ
   “หือ บ่อย้านดำติ๊ แดดฮ้อนเด้” “แม่นอยู่ เฮาย้านดำ” บักเล็กครับแหมนะมึงนี่เขาเรียกขาวว่างั้น สัดนี่
   “บ่อย้าน เราอยากไปเราชอบมันเขียวๆดี”
   “อยากมาเป็นซาวนาติ๊” กูอดไม่ได้จริงๆครับ โผล่ออกไปเลย พอกูโผล่ออกไปเหมือนไอ้เตี้ยนั่นมันจะเดินหนีล่ะ ผมเดินไปนั่งต่อหน้ามันแล้วจับแขนมันไว้
   “กูขอคุยกับมันแนะ” ผมหันไปบอกสองคนนั่นครับ ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหันมามองมัน โว้ย กูไม่ฆ่าปาดคอมันตรงนี้หรอกเว้ย แหมนะดูมองเข้า
   “อุ่นๆ พวกเฮาอยู่นั่นเด้อ” แน่ะสาวจอย พอทั้งสองเดินไปผมก็ถอนหายใจมองหน้ามันครับ สายตาของมันยังเหมือนเดิม
   “ตกลงเป็นไรเนี่ยสัด ทำไมมึงหลับหน้ากู” ผมกัดฟันพูดครับ มันยังนิ่งอยู่
   “ว่าไง กูไปทำไรให้ไม่พอใจไง ทำไมกูถามแล้วไม่บอกวะ เป็นเชี่ยไรเนี่ย”
   “ไม่มีไร” “สัด ไม่มีไรเชี่ยไร มึงหลบหน้ากูทำไม”
   “เราไม่ได้หลบ” “แล้วแบบนี้เขาเรียกว่าไร”
   “เราไม่อยากเห็นหน้านาย” แง่ว กูอ้าปากค้างไปเลยครับ แต่ไม่ดีๆผมบีบมือมันแน่ๆแรงๆ
   “ทำไม” เสียงเริ่มขรึมครับ มันเม้มปากแน่นแล้วจ้องหน้าผม
   “ถ้านายอยากจะแค่แกล้งเราสนุกๆ พอเถอะเราไม่สนุก ถ้าหากนายจะบอกเราเหมือนคืนนั้นแล้วหลอกเราก็พอเถอะ เพราะเราจะไม่คิดว่าเราเคยรู้จักกัน” สัดพูดเชี่ยไรเนี่ยวกวนกูไม่เข้าใจ
   “หมายความว่าไง” มันนิ่งครับเหมือนพยายามทำอารมณ์ แหมๆ ทำมาเป็นนางเองตาเริ่มปริ่มด้วยน้ำตาเดี๋ยวก็ร้องไห้คอยดูเถอะ
   “ไม่โง่นี่ไม่ใช่เหรอ เราเองที่โง่”
   “เชี่ยมึงพูดไรเนี่ย หรือว่ามึงได้ยินที่กูคุยกับไอ้ไม้ที่แทงค์น้ำเหรอ” ผมเริ่มใจไม่ดีครับ ทำไมต้องใจไม่ดีด้วยวะ
   “ไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ปล่อยเราได้ไหม นับจากนี้อย่ามาคุยกับเราอีก เราไม่ได้อยากรู้จักนาย” มันลุกขึ้นครับแล้วเดินหนีไป แม่งเอ้ย กูรู้สึกโกรธมากๆ ไม่รู้ทำไม เลยถีบโต๊ะที่โรงอาหารไปโครมหนึ่ง
   “เออ ตามใจวะสัด แม่งคิดว่ากูอยากรู้จักแม่งมากนักหรือไงวะ ไอ้เชี่ยตุ๊ดเอ้ย” ปากกูหมาอ่ะนะพอยิ่งโกรธกูจะยิ่งควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เสียงฮือฮาดังทั่งทั้งโรงอาหาร แม่งเอ้ย กูเลยหงุดหงิดเลยทีนี้
   “เฮ้ยบักเคนเอายาสูบมาสูบแน่ะ” หงุดหงิดจังวะ ผมเดินขึ้นไปบนตึกไปหาสัดเคน มันมองหน้าผมแล้วยื่นบุหรี่ให้
   “มึงเป็นหยัง”
   “หนหวย มึงสิไปนำกูบ่อ” ผมไม่รอคำตอบครับเดินลงจากตึกทันที หาที่ระบายอารมณ์หน่อย
   “มันได้ยินกูคุยกับบักไม้ว่ะ สัดเอ้ยเสียแผนเหมิด” ผมบ่นออกไปล่ะครับพอถึงห้องน้ำสัดเคนมันตามมา
   “กูว่าแล้ว แล้วมึงเว้าหยังล่ะ” ผมก็บอกมันไปตามที่ผมเล่าล่ะครับ
   “ป๊าด เป็นตาหลูโตนเพิ่นเนาะ กูบอกแล้วแม่นบ่อคั่นมึงบ่อคิดหยังอย่าสิไปเฮ็ดนำเพิ่นคั่กปานนั่น มึงบ่อคิดเพิ่นอาจสิคิดกะได้เด้ แล้วมึงสิเฮ็ดจั่งได๋ล่ะ” เออกูรู้แล้วเว้ยไม่ต้องมาย้ำ
   “เฮ็ดจั่งได๋ บ่อเฮ็ดหยัง ซ่างแม่มันติ๊ เล่นนำกะสิว่ากูมัก เออ กูเซาเล่นนำแล้ว”
   “เอาให้มันแน่ กูว่ามึงนั่นล่ะสิทนบ่อไหว”
   “สัด มึงหมายความว่าจั่งได๋ ทนบ่อไหวหยัง บักห่านี่”
   “ฮ่วยกูแค่เว้าตามที่กูคิด ทนอีหยังมึงคนเดียวที่ฮู้ดีกว่าไผ” สัดเคนพูดแล้วเดินหนีไปเลยครับ โว้ย โมโหกูถีบกำแพงไปสองทีแม่งเอ้ยถ้าไม่กลัวมือแตกนี่จะต่อยซะหน่อย พอกลับไปเข้าเรียนก็ไม่รู้จะเรียนอะไร ไม่ใช่ครูเขาไม่สอนนะแต่กูไม่อยากเรียนเป็นเอามากแล้วกู พอคายสุดท้ายก่อนเที่ยงอาจารย์พรฤดีก็ใช้ให้กูไปเอาเอกสารที่ห้องแกมาล่ะครับ
   “ฮ่าๆ เป็นหยังเตะแนวนั่นล่ะอุ่น นี่ๆเขาเตะจั่งซี้” ให้ตายเถอะ กูไม่ได้อยากจะวอแวกับมันอีกแล้วนะเว้ย แต่แม่งเอ้ย เดินผ่านห้องมันเหมือนจะคาบพละนั่นล่ะครับ แล้วพละตอนเช้าเนี่ยนะ เออนะกูก็เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนกูจัดตารางสอนปัญญาอ่อนแบบนี้
   “ทำไมมันเด้งไปไกลจังอ่ะ จอยทำไมเตะเก่งจัง” กูยืนแอบมองอยู่ครับ ไม่สิไม่ได้แอบแค่หลบอยู่ในมุมที่มันคงมองไม่เห็น ไม่มีใครสนใจหรอกเพราะกูอยู่ชั้นบนตึกส่วนมันเล่นตรงกลางอาคารสองกับสาม คือมันเรียงกันเป็นแถวไปอ่ะนะอาคารเรียน พวกมันเตะตะกร้อกันอยู่ล่ะครับ เออท่าทางมันตลกดีแท้ ไอ้ห่านเอ้ยไม่เคยเตะหรือไงวะ เดาะลูกหวายได้ทีเดียวให้ตายเถอะกูไม่เคยเห็นใครอ่อนเท่านี้มาก่อน
   “อีหยังล่ะอุ่น โอ๊ย เจ้ากะดายเนาะเป็นหยังไปเตะแฮงแท้ ฮ่าๆ เล็กๆมาสอนอุ่นแน่ะ” ทั้งสามคนมันหัวเราะกัน ดูมีความสุขนักนะมึงหนอยแน่ แล้วกูมายืนดูมันทำเชี่ยไรวะเนี่ย เว้ย ไร้สาระจริงๆ แต่แม่งทำไมเวลามันหัวเราะมันยิ้มแล้วกูต้องยิ้มตามด้วยวะ ไอ้เชี่ยเดี๋ยวเอ้ยเป็นเชี่ยไรเนี่ย
   “เดี๋ยวแปลประโยคนี้ให้เพื่อนฟังหน่อยสิคะ” พอกลับเข้ามาในห้องกูก็เอาเอกสารมาให้อาจารย์พรฤดีล่ะครับเป็นเนื้อเพลง กูไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะพอนั่งที่ก็คิดถึงรอยยิ้มมัน กูไม่เข้าใจจริงๆว่ะทำไมหยุดความคิดไม่ได้ เฮ้ย หรือว่ากูจะชอบมันจริงจังไปแล้ววะ สัดเอ้ย ในที่สุดกูก็เป็นเกย์เหรอเนี่ย ไมได้นะเว้ย ไม่มีทาง กูไม่ได้ชอบมัน แค่ชอบที่มันยิ้มมันผิดตรงไหนวะ
   “ไม่ชอบเว้ย” ตึง อ้าวสัดกูพูดอะไรออกไปเนี่ย
   “ไม่ชอบอะไรคะ เอ่อ วิชพงศ์ อาร์ยู โอเค้” ทุกคนในห้องเงียบกริบครับหันมามองกูเป็นตาเดียว เอาแล้วไหมล่ะกู เชี่ยเอ้ยไม่ชอบเลยว่ะที่กูเป็นแบบนี้ให้ตายเถอะ พออาจารย์พูดขึ้นเพื่อนๆมันก็หัวเราะล่ะครับ เออนะ
   “แปลบ่อออกดอกจารย์ผมปึก” ผมพูดครับแล้วเมินหน้าหนี ไม่ได้อายนะเพราะคนอย่างกูไม่อายง่ายๆ
   “อย่างเธอเรียนโง่แล้วใครล่ะจะเรียนเก่ง เออๆ เก่งแล้วหยิ่งนะมึง อ้าว ลลิตาแปลหน่อยค่ะ” กว่าจะหมดคาบรู้งี้กูโดดแม่งก็ดีหรอกนะ พอตอนเที่ยงเดินไปกินข้าวก็เห็นมันอีกครับ กูจะหลบไปไหนดีวะเนี่ย นักเรียนสี่พันกว่าคนทำไมไอ้เชี่ยนี่มันเด่นลอยแว้บๆมาก่อนใครวะ เอ๊ะ หรือว่ากูสนใจมันเกินไป เออดีเหมือนกันกูจะได้ไม่ต้องสนใจ แม่งเอ้ยได้ยินแค่นี้ทำเป็นงอนนะมึง แต่ก็อย่างว่าล่ะนะกูมันปากไม่ดีเอง แม่งจะให้บอกยังไงล่ะวะกูเป็นผู้ชายนะเว้ย กูมีแต่แฟนหญิงตั้งแต่มีน้ำเชื้อมาไม่เคยมองผู้ชายด้วยกันไม่ว่ามันจะน่ารักหน้าตาแค่ไหนกูก็ไม่แล มีไอ้เชี่ยนี่ล่ะที่กูสนใจมอง เพราะอะไร แล้วจะให้กูบอกโต้งไปน่ะเหรอว่ากูชอบมัน ถามว่ากูหวั่นไหวไหมเวลาจ้องตามัน มันก็มีบ้างล่ะเว้ย เอาเถอะๆ คงไม่มีใครเข้าใจหรอกเพราะกูเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง สัดยากนักก็ไม่ต้องมารู้จักกัน

เขียนโดย อิ๊กกี้เด้อ

ปล. ตอนนี้ไม่มีไรมากนะครับ เป็นตอนต่ออารมณ์กันเฉยๆ อิอิ ขอให้มีความสุขในการอ่านเด้อ พ่อแม่พี่น้อง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 07-05-2012 19:29:20
เดี๋ยวไปทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนละค่อยไปง้ออุ่นนะลูก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 07-05-2012 19:31:30
บักเดีี่ยวนี่สับสนหลายเด้อ เล่นสิเอาคนอ่านเวียนหัวตามเลย ^_^  ไปแกล้งเค้าดีนัก จนอุ่นไม่รู้อันไหนเล่น อันไหนจริง ขอให้อุ่นงอนนานๆ  ดัดหลังนิสัยเดี่ยวซะหน่อย เอาให้แบบสิ้นลายเสือเดี่ยวไปเลย อิอิ

ขอบคุณหลายๆเด้อ :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-05-2012 19:51:23
บักเดี๋ยวยังไม่เข้าใจตัวเองว่าชอบอุ่นเข้าแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 07-05-2012 19:52:06
พี่เดี๋ยวโวยวายได้น่ารักมาก ๆ อ่ะครับ 5555555 เชียร์ให้อุ่นงอลนาน ๆ เลย >,,<"
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-05-2012 20:02:49
เดี๋ยวสับสนได้น่าโดน :beat:
น้องอุ่นงอลนานๆเอาให้
เดี๋ยวหายสับสนกันไปเลย :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 07-05-2012 20:07:24
แหมะ ยอมรับได้แล้วว่าชอบอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 07-05-2012 20:09:27
สับสนแล้วสินะ หึๆ
เดี๋ยวเถอะ พอมีอะไรมากระทบหน่อย
ได้วิ่งเร่าๆแน่ อุ่นน่ารักโพดๆเลย 5555
สู้ๆนะหนูอุ่น~♥
รอตอนต่อไป ค่าาาา
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 07-05-2012 20:14:59
เดี๋ยวอาการหนักแล้วนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-05-2012 20:30:35
เฮ้ออออ ไอ้เดี๋ยวเอ้ย !!!!!!!!! :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-05-2012 20:37:40
ฮ่าฮ่า เป็นไงล่ะเดี๋ยวล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น โดนเอาคืนจะเป็นจะตาย
ขืนยังปากดี จะได้ทรมานมากกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 07-05-2012 23:20:56
แบงค์พูดได้โดนใจมาก...เป็นเดี๋ยวนั่นล่ะที่จะทนไม่ไหวซะเอง   o18
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-05-2012 00:02:50
หึๆ...ให้ตลอดรอดฝั่งละกันนะบักเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 08-05-2012 00:58:08
เรื่องนี้ต้องค่อยๆอ่าน สกิลอ่านไวลดลงมากก 55555
หมั้นไส้บักเดี๋ยว  สมหน้าน้ำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 08-05-2012 01:24:57
สมเป็นบักเดี๋ยวแท้เนาะ..รู้ว่าเขาได้ยินที่ตัวแพล่ม..ก็ยังพาลได้โล่ห์ 555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 08-05-2012 01:35:03
เห้อออออ ยังไงต่อะทีนี้ :เฮ้อ:

ปากหมาไปเต็มๆเลย บักเดี๋ยวเอ้ย :m16:

อุ่น เอ้ย ทำใจนะๆๆๆ  :o12:


 o18 เริ่มดราม่าป่ะเนี่ย พี่อิ๊กกี้ ><
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 08-05-2012 18:38:22
ม่วนๆๆหลายเด้อน้องหล่า โอยอุ่นเอย เอาจั๋งได๋ลละน้อง เพิ่นเว้ามาจั่งสิเฮาต้องทำใจเด้อน้องหล่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 9 Version (เดี๋ยว) 7 May 12 หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 09-05-2012 07:57:34
เห้อออออ ยังไงต่อะทีนี้ :เฮ้อ:

ปากหมาไปเต็มๆเลย บักเดี๋ยวเอ้ย :m16:

อุ่น เอ้ย ทำใจนะๆๆๆ  :o12:


 o18 เริ่มดราม่าป่ะเนี่ย พี่อิ๊กกี้ ><

เข้ามาบอกว่า เรื่องนี้ บ่อมีมาม่าเด้อน้องหล่า มีแต่ไวไว ก๊ากกก
ไม่มีดอกค้าบดราม่า พี่อิ๊กเขียนดราม่ามะเป็นนิ แห่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 09-05-2012 11:58:48
Don’t call Me BaBy!!!

จะให้ผมทำยังไงดีล่ะ ถามว่ารู้สึกอะไรไหมที่ไอ้บ้านั่นไม่มาวอแว มีนิดเดียวก็คงเป็นเพราะความเคยชินล่ะที่วันๆมันคอยมาวอแวแต่เกินกว่านั้นไม่มี มันหล่อนะผมยอมรับ สูงหุ่นดี แต่มันสามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้นไหม ไม่นะ สำหรับผมผมไม่ได้อะไรมาก ผมชอบคนพูดจาเพราะไม่ใช่มันแน่นอน ผมไม่ชอบคนพูดไม่คิดจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมถือว่าคำพูดที่มันหลุดออกจากปากไปแล้วมันแก้คืนลำบากอย่างที่พ่อผมเคยสอนไว้ ช่างมันเถอะครับ เพราะนับจากนี้ชีวิตของผมจะไม่มีไอ้บ้านั่นมาคอยวอแวอีกต่อไปแล้ว ดีใจจัง
   “อ่านหนังสือไปฮอดไสแล้วล่ะอุ่น โรงเรียนโตสอบยามได๋” พอเลิกเรียนผมก็โทรศัพท์คุยกับปูและฝ้ายล่ะครับ นับจากที่เราแยกกันจากการไปอบรมผมก็คุยด้วยตลอดเวลา ผมเล่าเรื่องไอ้บ้านั่นให้เธอฟังด้วยล่ะครับ ตอนแรกปูก็บอกให้หูหนักไว้เพราะไอ้นั่นมันอาจจะมีเหตุผลของมัน แต่ผมเชื่อฝ้ายเพราะฝ้ายบอกว่ามันคงอยากจะแค่แกล้งผมเล่นเท่านั้นซึ่งไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะคนที่เจ็บแน่นอนมันต้องเป็นผมไม่ใช่มัน
   “สอบเหรอ สอบไรอ่ะ” เออนั่นสินะเห็นเพื่อนๆในห้องคุยกันสอบๆ
   “อ้าว สอบกลางภาคเด้ โรงเรียนเฮาสอบมื้ออื่นเด้”
   “เหรอ แล้วปูอ่านจบยังอ่ะหนังสือ”
   “โอ๊ย อ่านบ่อทันดอก สอบกลางเทอมแล้วอีกสามอาทิตย์กะสอบปลายเทอม โรงเรียนเฮามีกีฬาสีก่อนสอบอีก โรงเรียนโตเด้”
   “อุ๊ย เว้าเร็วจัง เราฟังบ่อทันนะปู” ผมแซวเธอล่ะครับเพราะเล่นพุดไม่สนใจผมเลย เราหัวเราะกันแล้วก็วางสายไป
   “อุ่นๆ ไปวิ่งกับพ่อไหมลูก ที่สนามหน้าที่ว่าการ” พอผมเดินลงมาพ่อผมก็ชวนล่ะครับ อืมก็ดีนะดีกว่าอยู่เฉยๆไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยช่วงนี้ ผมก็ออกไปกับพ่อล่ะครับ พ่อขับรถไปจอดไว้ที่ว่าการซึ่งมันไม่ได้ไกลอะไรเลยจากบ้าน
   “อ้าวน้องอุ่น มาแล่นติ๊” เอ่อ พอผมแยกจากพ่อทำท่าจะวิ่งหน่อยก็เจอไอ้พี่คนนั้นล่ะครับ ชื่ออะไรจำไมได้แล้วอ่ะ
   “อ้อ ครับพี่ พี่ล่ะ” ผมถามเขากลับล่ะครับ แต่ดูท่ามันคงจะมาวิ่งนานแล้วเพราะตัวเปียกเชียว
   “อ้ายเพิ่งจะซ้อมบอลแล้วเลยมาแล่นเพิ่ม มื้ออื่นสิไปแข่งบอล ต้องฟิตเด้ซั่นสิแล่นบ่อออก” อ้อจำได้ล่ะไอ้พี่ตัวเหม็น แบงค์นี่เอง
   “อ้อครับ ไม่กลัวเหนื่อยเหรอพี่”
   “บ่อย้าน อ้ายตื่นเต้นเด้ สิไปนารี ผู้สาวหลาย อิอิ” อ่านะ หน้าตาแบบนี้สาวๆจะกรี๊ดไหมเนี่ย อาจจะกรี๊ดที่ตัวแกเหม็นนั่นล่ะมั้ง อิอิ
   “ยิ้มหยังนี่ สิเซียร์อ้ายบ่อ” อ้าวนะกูยิ้มผิดเหรอ คิดแล้วยิ้มอ่ะจะทำไม
   “ไรอ่ะพี่ ไม่เอาล่ะผมวิ่งก่อนนะ” ผมวิ่งหนีมันไปเลยครับ อ้าว เสือกวิ่งตามกูอีก อะไรเนี่ย
   “อุ่นๆ ได้ข่าวว่า เจ้ามักบักเดี๋ยวบ่อ” เอี๊ยดหยุดทันทีครับ
   “ไรพี่ มักอะไร มักใครเดี๋ยวไหนผมไม่รู้จักหรอกนะ” ผมหันไปทำตาเขียวใส่เขาครับ
   “บู้ย เฮ็ดตาเป็นตาย่านหลาย เห็นเขาเว้ากันเด้เลยมาถาม”
   “ไม่หรอกพี่” ผมหันหลังให้ครับทำท่าจะวิ่งต่อ
   “บ่อแม่นกะดีแล้วล่ะ อ้ายสิได้จีบ อิอิ” ผมหันอีกรอบครับ
   “เมื่อกี๊บอกชอบผู้หญิงนี่ ไรอ่ะ”
   “ผู้สาวกะมักอยู่ แต่ให้จีบน้องอุ่นกะสิเอา” เอ่อ ถามกูหน่อยสิ ได้โปรดถามกูหน่อยนะไอ้พี่แบงค์ว่ากูจะเอามึงมะไอ้นี่ เออนะชื่อพี่แบงค์ทำให้ผมนึกถึงไอ้แบงค์ที่ไปอบรมเลยนะ ไม่มีชื่ออื่นหรือไงนะเชยมาก
   “ผมมีแฟนแล้ว” ผมวิ่งหนีมันทันทีครับ ตอนแรกมันจะวิ่งตามล่ะแต่ผมวิ่งไปหาพ่อผมก่อน แลวผมก็พยักหน้าให้มันตามมา ตามมาเซ่มึงมาเล้ย อิอิ แหมนะคิดว่าจะแน่นี่ถ้าเป็นไอ้นั่น เอ้ย คิดขึ้นมาทำไมเนี่ย
   “อุ่น ทำไรอยู่อ่ะ ทำไมติดต่อยากจังเลย” พอกลับบ้านพอสเพื่อนผมที่โรงเรียนเก่าก็โทรศัพท์มาหาล่ะครับ มิสคอลห้าสาย
   “มันไม่ค่อยมีสัญญาณอ่ะพอส มีไรเหรอ”
   “หายไปนานมาก ติดต่อก็ยากนี่อุ่นรู้ไหมว่าไอ้โจ้น่ะมันควงคนใหม่แล้วนะ จำไอ้เซนห้องบีได้ป่ะ ไอ้นั่นล่ะ ที่จริงมันแอบคบกันตั้งแต่อุ่นยังไม่ย้ายไปนะ ตอนนี้ออกหน้าออกตาเลยนะเปิดตัวให้ใครๆรู้เลยนะอุ่น” เอ่อ ผมอึ้งไปครับ ตัวชามันเป็นแบบนี้เองเหรอ ผมนิ่งอยู่นานมากจนพอสวางสายไปเอง ที่ผมวอทแอบไปหาแล้วไม่ตอบมันแบบนี้เองเหรอ อืม นี่มันอะไรกันนะ ผมไม่ผิดนะที่ผมย้ายตามพ่อมาเรียนที่นี่ และเขาก็คงไม่ผิดถ้าหากว่าระยะทางหลายร้อยกิโลมันจะแยกเราสองคนออกจากกัน แต่ว่าพอสบอกว่าเขาคบกับคนนั้นตั้งแต่ผมอยู่ที่โน่น แสดงว่าผมโดนเขาหลอกล่ะสินะ หรือว่าเพราะผมไม่ยอมให้มันเอามันเลยไม่พอใจเหรอ แค่นี้เหรอ อย่านะอุ่น อย่าร้องไห้นะ ไม่ได้นะเรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้นะ ฮือๆ อารมณ์เสีย โว้ย
   “โจ้เหรอ ทำไรอยู่อ่ะ” ทนไม่ไหวครับ ขอด่ามันสักทีหน่อยเถอะไหนๆก็จะเลิกกันแล้วนี่
   “เอ่อ อุ่นเหรอ เป็นไงบ้างสบายดีไหม คิดถึงอุ่นจัง” พูดเพื่อ? อย่าพูดเลยถ้าไม่มีอะไรจะพูด คิดถึงกูทำไมเนี่ย ในเมื่อมึงมีคนใหม่ เลวจริงจังนะมึงไอ้เชี่ย และดูมันทำน้ำเสียงเรียบปกตินะไม่รู้สึกละอายอะไรบ้างหรือไงนะ คนหน้าหนาหน้าทน ไอ้เลวเอ้ย
   “ขอบใจนะที่ยังคิดถึงอุ่นอยู่ แล้วโจ้อยู่ไหนล่ะ”
   “อ้อ โจ้มาดูหนังกับเพื่อน””ที่ชื่อเซนน่ะเหรอ” ผมดักคอมันไปครับไม่คิดจะพูดแบบนี้นะแต่มันห้ามไม่ได้เลย
   “อุ่น” “โจ้” มันเรียกชื่อผม ผมก็เรียกชื่อมันครับ เพราะตอนนี้ในใจผมมันรู้สึกแปลกๆตอนแรกว่าจะด่าแต่คิดไปคิดมาการด่ามันไม่ใช่ทางออก ในเมื่อเขาเปลี่ยนไปเขาคงมีเหตุผลของเขาล่ะ ตัวเราเองล่ะที่ไม่เปลี่ยนแล้วจะทนอยู่เพื่ออะไรวะ คนมันไม่มีใจมันหมดแล้วเราจะพูดอะไรล่ะ คำว่าอะไรมันถึงจะกลับคืนมา
   “ยังรักอุ่นอยู่ไหมโจ้” โอ๊ยนะถามทำไมเนี่ย คำถามโง่เง่าเต่าตุ่นมาก มันก็ต้องตอบว่ารักสินะเพื่อจะเอาใจเราน่ะ
   “ถ้าจะบอกตรงๆอุ่นจะรับได้ไหม” เอ่อ แง่ว ทำไมไม่พูดตามที่กูคิด อ่า ไม่เอานะอย่าพูดนะ
   “เราไม่รักอุ่นแล้ว เรามีคนใหม่แล้ว” มัวแต่คิดไม่ทันพูดมันเลยชิงพูดก่อนครับ แอ่ก เหมือนคนตกจากที่สูงเลยอ่ะ มันหวิวเสียจนผมขนลุกไปหมดเลยนะ วางสายทันที ไม่ได้หนีนะแต่ผมทนไม่ได้ รับไม่ได้อ่ะ ไม่ได้รักกูแล้วแล้วทำไมมึงเพิ่งมาบอก ให้กูบอกใครต่อใครว่ากูมีแฟนแล้ว เผื่อคนพวกนั้นจะเป็นคนที่ใช่กว่ามึง แว้กก คิดไรเนี่ยกู
   “อ่า ไม่จริงนะ” ไม่จริงอะไรล่ะอุรดิศ อะไรล่ะที่ไม่จริง ไม่จริงที่มันไม่ได้รักแล้วน่ะเหรอหรือว่าไม่จริงกับสิ่งที่มันพูดเมื่อกี๊ โว้ย ไหนเบอร์มันลบๆๆ ลบให้หมด ไอ้เชี่ย ไอ้เลว หลอกกูเพื่อ ให้กูวาดหวังเอาไว้ทำไม บอกว่ารัก รักเตี่ยมึงสิควายเอ้ย ฮือๆ ไม่ร้องๆ เข้มแข็งๆ แล้วน้ำที่ไหลจากตานี่อะไรอ่ะ อะไรอ่ะอุรดิศ เป็นอะไรไป สรุปผมนอนร้องไห้ทั้งคืนเลยอ่ะ อายจัง ตื่นมาตาบวมเลย นี่ต้องไปโรงเรียนด้วยนะ โว้ย ทำไงดีอ่ะ
   “ว้าย ไปเฮ็ดหยังมาคะคุณอุ่น ตาคือบวมแนวนั้น” นั่นไงครับพี่ต้อยทักก่อนใครผมรีบทำเสียงจุ๊ๆให้แกเงียบเสียงหน่อยเดี๋ยวพ่อถามจะยุ่งเอา
   “ร้องไห้อ่ะ เดี๋ยวกลับจากโรงเรียนมาเล่าให้ฟังนะ อย่าบอกพ่อล่ะ” คือปกติผมก็จะเล่าอะไรหลายอย่างให้พี่ต้อยฟังนะครับเพราะรู้ว่าแกคงไม่ไปพูดต่อเว้นเสียเรื่องที่มันหนักมากๆพี่ต้อยก็จะบอกพ่อ นอกนั้นก็จะเก็บอยู่ ผมรีบออกจากบ้านครับ รีบเดินไปโรงเรียนเพราะเดี๋ยวสายอีกไม่อยากไปสายแล้ว พอเดินไปได้หน่อยก็ได้ยินเสียงรถเครื่อง ให้ตายเถอะเสียงมันคุ้นหูมากๆครับ อ่า ไอ้บ้านั่นจริงๆด้วยมันใส่ชุดนักกีฬาเหมือนจะไปแข่งล่ะครับ มันไปจอดด้านหน้าของผมไม่กี่ก้าว ผมหยุดกึกลง ไม่ได้นะจะให้มันเห็นหน้าแบบนี้ไมได้เดี๋ยวมันเอาไปล้ออีก และก็อย่าหวังว่าจะชวนกูไปโรงเรียนด้วย คนอย่างอุรดิศโง่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จำไว้
   “อ้าว” เอ่อ ทำไมร้องอ้าวล่ะอุรดิศ ไอ้บ้านั่นมันออกรถไปแล้วครับ แล้วคาดหวังอะไรเนี่ย จิ๊ ใจดำจัง เออวะเดินก็ได้
   “มาสายอีกแล้วนะอุรดิศ จำวันผิดอีกหรือเปล่าเราน่ะ” เอ่อ บทสรุปของคนขาสั้นก็นะ จะให้วิ่งยังไงมันก็ไม่ทันอ่ะ อาจารย์คนเดิมแกแซวครับ ผมก็ก้มหน้าตามประสา
   “ท่าจะวิ่งมาเหนื่อยล่ะสินะแก้มแดงเลยนะเรา” ยังอีก ยังไม่ยอมหยุด จารย์อ่ะจะแซวทำไมเนี่ยเสียงหัวเราะดังแว่วอยู่ข้างๆ ไอ้พวกนี้ก็จะหัวเราะกูทำไมเนี่ย
   “เอาเถอะๆ วันนี้ครูจะพานักเรียนไปแข่งบอล ครูไม่ทำโทษเธอก็แล้วกัน ไหนไม่อยากอวยพรให้ครูหน่อยเหรออุรดิศ” อ้าวนะ ทำไมต้องเป็นกูด้วยเนี่ย
   “เอ่อ ครับ ขอให้อาจารย์เตะบอลเก่งๆนะครับ” พูดจบ แต่เรื่องไม่จบเพราะเสียงหัวเราะดังครืนขึ้นล่ะครับ กูพูดอะไรผิดเหรอวะ
   “ฮ่าๆ ครูพานักเรียนไปนะอุรดิศ ครูไม่ได้ไปเตะเอง” อ่า จารย์อ่ะ ไรเนี่ย
   “อ้อๆ ครับๆ ขอให้นักเรียนที่อาจารย์พาไปเตะบอลได้แล้ว” พอเถอะอุรดิศ ไม่ไหวจะเคลียร์ พอตื่นเต้นหรืออายเป็นงี้ทุกที อาจารย์แกหัวเราะหน้าแดงครับ คนที่มาสายแล้วไม่สำเหนียกตัวเองคนอื่นๆนะไม่ใช่ผมพวกนี้ก็หัวเราะชอบใจ กูสิ มองดูกูบ้างอะไรบ้าง อายจะตายอยู่แล้วเนี่ย
   “ฮ่าๆ ครูชอบเธอจริงๆนะ วันหลังมาสายอีกนะครูจะรอ” เอ่อ นี่คือคำอวยพรหรือเปล่าเนี่ย
   “ขอบคุณครับ” อ้าวกู ยกมือไหว้ด้วยนะ ก็ตอนนั้นคิดว่าอาจารย์ให้พรอ่ะ โอ๊ย เริ่มวันด้วยเสียงหัวเราะของคนอื่นนี่นะมันแย่จริงๆ
   “พวกนั้นเขาหัวขวนหยังอุ่น” พอเลิกแถวอาจารย์ปล่อยผมคนเดียวเลยครับ เห็นไหมว่าผมน่ะมีอะไรดี อิอิ ผมรีบวิ่งมาหาจอยที่ยืนรออยู่หน้าแท็งค์น้ำล่ะครับ
   “ไม่รู้อ่ะ แล้วเล็กอ่ะ” ผมเสแสร้งไปครับใครล่ะจะไปบอกว่าวกมันหัวเราะกูนี่ล่ะ
   “มันไปซื้อน้ำ” “อ้าวเหรอ เราก็อยากกินโค้กเย็นๆอ่ะ” ผมร้องขึ้นครับแล้วเดินไประหว่างอาคารสี่มีม้านั่งและต้นไม้ร่มรื่น มนักเรียนนั่งอยู่หลายคนล่ะแต่จอยมันเดินไปกระแซะพวกเด็ก ม.ต้นออกครับ ร้ายจริงจัง
   “เล็กมันซื้อมาเผื่อแล้ว”
   “เออจอยสอบนี่โรงเรียนเราสอบเมื่อไหร่เหรอ” ผมนึกถึงคำของปูขึ้นมาล่ะครับ
   “อาทิตย์หน้าเด้ วันจันทร์เริ่มสอบ” อืมเนอะ
   “หา อะไรนะ วันไหนนะ อาทิตย์ไหน” ผมร้องขึ้นเสียงดังครับ ทุกคนเงียบหันมามอง เอ่อ คือผมไม่ได้จะทำตัวให้เด่นให้ดังด้วยวิธีอุบาทว์แบบนี้นะครับแต่มันตกใจจริงๆ
   “อิอิ อีหยังอ่ะอุ่น อาทิตย์หน้าเด้ อย่าบอกเด้อว่าบ่อมีไผบอก แต่บ่อแม่นดอกเขาบอกแล้วเด้อุ่นล่ะบ่อเบิ่งเอง” เอ่อ กูรู้แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ วันนี้วันพุธ ตายๆ จะอ่านยังไงให้อ่านทันอ่ะพ่อแม่พี่น้อง โอ๊ย เกลียดที่สุดเลยนะการสอบเนี่ย ทำไมเรียนแล้วต้องสอบด้วยนะ มีโรงเรียนไหนไหมเนี่ยที่เรียนแล้วไม่ต้องสอบจะย้ายออกวันนี้เลย ฮึ
   “อุ่นๆ อ้ายสิไปเตะบอลแล้วเด้ อวยพรให้อ้ายแน่ะ” เอ่อ ไอ้เล็กยังไม่ทันมาครับ ไอ้พี่แบงค์มันวิ่งมาจากไหนไม่รู้แล้วมายืนด้านหน้าผม กูอายนะ
   “อวยพรหยังอ้าย เป็นหยังให้อุ่นอวยพรให้หนูอวยพรได้บ่อ” จอยมันดอดขึ้นล่ะครับ
   “บ่อได้ๆ ให้น้องอุ่นผู้เดียว” เอ่อ แล้วมานั่งข้างกูเพื่อ ยิ้มอีกตะหากนะมึง
   “ทำไมอ่ะพี่ ผมไม่อวยพรพี่ก็เก่งอยู่แล้วนี่”
   “บ่อเอาๆ อยากให้อวยพรเด้ จะได้มีกำลังใจ” อ๊วก ดูมันทำหน้านะครับลิเกมากๆ
   “อืม ครับขอให้พี่เตะบอลชนะนะ” ผมพูดออกไปครับแล้วยิ้ม มันก็ยิ้มแล้ววิ่งหนีไปเลย ไอ้นี่ท่าจะบ้า
   “ยิ้มไรอ่ะจอย” ผมเห็นเธอยิ้มครับเลยถาม พอดีกับไอ้เล็กมันกลับมาพร้อมกับโค้กกระป๋อง ผมเลยเอาโค้กมาเปิดกินก่อนไม่รอคำตอบ
   “เสน่ห์แฮงอีหลีเด้เนี่ย” “หือ ไผ เฮาติ๊ เฮาฮู้โต อิอิ” เล็กมันพูดครับ
   “บ่อแม่นโตดอก เพิ่นนี่ดอก ผู้บ่าวแล่นมาขอให้อวยพร” “พรวดด” เอ่อ ผมบ้วนน้ำโค้กออกมาหมดเลยครับ
   “บ้าเหรอจอย เราเคยคุยกับพี่เขาอ่ะ” เสียงว้ายดังลั่นล่ะครับ
   “ป๊าดแม่นผู้ได๋คือกล้าแท้” ไอ้เล็กครับพูดแบบนี้ไมได้มีความหมายว่าให้ผมสบายใจขึ้นนะเพราะน้ำเสียงมันเหมือนจะปกป้องผม อาจจะคิดไปเองแต่ว่ามันสองคนหัวเราะสิครับ ไรอ่ะ
   “เออจอยเล็ก เย็นนี้ไปทำสุกี้กินบ้านเราป่ะ” อยู่ดีๆผมก็ชวนขึ้นล่ะครับไม่ได้คิดอะไรมากจุดประสงค์ก็เพื่อเปลี่ยนเรื่องล่ะครับ หนอยแน่สองคนนี่หัวเราะไม่ยอมหยุดเลยนะ เอาใหญ่ๆ
   “ไป” ตอบโดยไม่คิดคงจะเหมือนกูสินะ
   “อ้าวแล้วกลับค่ำๆจอยจะกลับไงอ่ะ” ผมก็เป็นคนดีนะเป็นห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนส่วนไอ้เล็กไม่ได้สนใจมันหรอกครับเพราะมันมีรถเครื่อง แต่เอ๊ะให้มันไปส่งก็ได้นี่นาเนอะ เออนะกู
   “เดี๋ยวเฮาสิให้น้องไปรับ บักโจ้น่ะจำได้บ่อ” เอ่อ โจ้อีกแล้ว เกลียดจังเลยชื่อนี้
   “อ้าว เป็นหยังล่ะอุ่น คือเฮ็ดหน้าแนวนั้น” ผมคงทำหน้าตาแบบว่าแย่มากออกไปสินะจอยถึงได้ตกใจขนาดนี้
   “ไม่มีไร เดี๋ยวเย็นนี้เล่าให้ฟัง เลิกเรียนแล้วแวะไปบิ๊กซีกันนะ”
   “ไปหยังบิ๊กซี บ่อไปตลาดของหลายกว่าเด้ ถืกกว่าพร้อม” ไอ้เล็กมันเสนอล่ะครับ เออนะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีแววฉลาดอยู่ในสายตา นั่นสิคงไม่มีใครโง่เหมือนผมนี่ จะว่าแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ฮึ ผมคิดนะ ที่จริงตอนเข้าเรียนสองคนนั่นหมายถึงเพ็ญกับสาวสุชาติก็จะมาวอแวผมล่ะครับแต่จอยมันกันไว้ เอาไปเอามาเพ็ญกับจอยทะเลาะกันไปเลยอ่ะเพราะผมคนเดียวแท้ๆ เขาคบกันมาก่อนผมเสียอีกนะ ผมเองก็ไม่ได้สบายใจเลยนะ แต่นะพอเลิกเรียนรีบแจ้นออกมากันสามคนนั่งอัดรถไอ้เล็กกันจอยเป็นคนขับนะผมนั่งกลางไอ้เล็กนั่งท้าย
   “ตำรวจไม่จับเหรอ” ผมร้องขึ้นครับแต่ว่าไปนะเกือบทุกคันล่ะที่ซ้อนกันแบบนี้อันตรายมากๆ แต่ก็สนุกดีนะ อิอิ
   “โหของเยอะมากอ่ะจะกลับไงอ่ะทีนี้” พอเดินตลาดก็สนุกสนานเนื่องด้วยมันถูกล่ะครับผักนี่ได้แบบเป็นกระบุงกุ้งเอยปลาเอย แต่ของทะเลน่ะค่อนข้างแพงแต่เห็นไอ้เล็กบอกว่าในห้างแพงกว่า
   “แป๊บเดี๋ยวเฮาโทรบอกน้องเฮาไปส่ง” จอยมันบอกครับแล้วกดโทรศัพท์ไปหาน้องมัน
   “อูย ปวดเยี่ยวเด้ เร็วๆแนะ น้องโตสิมายามได๋นี่” อ้าวไอ้เล็กครับ เราออกมายืนรอตรงแยกหน้าเซเว่นล่ะครับ
   “โอ๊ยเนาะมาปวดหยังยามนี้ คั่นสิให้พวกโตไปก่อนเฮากะบ่อเคยไปเด้บ้านอุ่นน่ะ”
   “ซั่นโตมากับเฮา บักโจ้มันเคยเห็นอุ่นอยู่ตั้วคือสิจำได้ โทรบอกมันให้มารับอุ่นหม่องนี้ เร็วๆเยี่ยวสิแตก” อ้าวทิ้งกูว่างั้น ไอ้เล็กนี่มันยังไงนะทำไมไม่เข้าห้องน้ำก่อนออกมาจากโรงเรียนในตลาดก็มีห้องน้ำ อะไรของมันวะ สรุปให้ผมยืนรอน้องจอยคนเดียวหน้าเซเว่น เออนะเข้าใจทำ
   “อ้ายๆ ป่ะเร็วๆแนะผมฟ้าว” เสียงไอ้เด็กคนนั้นมันร้องเรียกล่ะครับ มันจอดรถแบบไม่ดับเครื่องรออยู่ผมจึงเดินไปก้าวขึ้นรถมัน
   “สิพากันเฮ็ดหยัง” หือ แปลว่าจะพากันทำหยังอ่ะเหรอ
   “อ้อ ทำสุกี้กินกันน่ะ” ผมตอบมันไปครับ
   “ฮ่วย คือบอกให้มาฮับอย่างเดียวบ่อซวนกินนำเดี๋ยวนี่” เหมือนมันบ่นเลยนะแต่ผมไม่ค่อยเข้าใจ ลมมันพัดด้วยล่ะ
   “อ้าวๆ บัดยามให้มาฮับนี่เว้าแจ๊ะๆเนาะบัดยามสิซวนกินล่ะเงียบ มิดอิ่มฉิ่ม” เออนะน้องคนนี้มันก็ตลกดีนะพูดคนเดียวก็เป็น
   “อ้ายๆ หูหนวกติ๊” “ไรอ่ะ ก็พี่นึกว่าเราพูดคนเดียว”
   “ป๊าด ฮ้องคอสิแตกปานนี้บ่อได้ยินติ๊” อ้าวกูจะรู้ไหมพูดอะไร อิ่มฉิ่มๆใครจะไปรู้วะไอ้นี่
   “ว่าไรนะ” “หวืย ตาซังเนาะ บ่อซวนผมกินนำติ๊สุกี้น่ะ” อ้อ มันอยากกินสุกี้ แล้วพูดอ้อมโลกทำไมเนี่ย
   “กินดิ กินได้” ผมบอกมันครับ ที่จริงก็ไม่ได้จะอะไรหรอกนะแค่อยากจะคุยกับเพื่อนสองคนนี้เรื่อง อ้าว ตายกูพลั้งปากไปแล้วอ่ะ
   “อ่า ไม่ดีกว่า” “ฮ่วย แม่นหยังอีก คนหลายใจแท้” เอ่อ มันชมผมอยู่เหรอ
   “เอ่อ” “บ่อฮู้ดอกซวนแล้วซวนเลยเด้อ บ่อสนใจ” โว้ย อะไรเนี่ยกูเผลอปากเข้าใจไหมเนี่ย สรุปคือไอ้เด็กคนนี้ ตอนแรกจะเรียกว่าไอ้เปี๊ยกนะแต่ แหะๆ มันตัวใหญ่กว่าผมอีกแน่ะเลยเรียกไอ้เด็กคนนี้แทน อิอิ มันก็ลงรถแล้วเดินตามผมเข้าไปในบ้านล่ะครับ จอยกับพี่ต้อยกำลังช่วยกันยกจานชามออกมาล่ะครับ
   “อ้าว บ่อเมือติ๊บักโจ้เข้ามาหยัง” จอยมันพูดครับผมไม่ได้พูดนะเออ
   “ฮ่วย อ้ายเพิ่นซวนมากินนำเด้อย่าสิมาไล่กันเด้อ” เอ่อกูสินะที่ชวน
   “มาๆหล่า มาเฮ็ดซ่อยกันสิได้กินไวไว เว้ามากะบ่อได้กินสุกี้โดนแล้วเด้ค่าเนาะคุณอุ่น คิดฮอดคือกัน มาเอื้อยสิเฮ็ดน้ำจิ้มสูตรเลียเล็บให้กิน” ไม่รู้ว่าพี่ต้อยเป็นคนเข้าคนง่ายหรือว่าเพราะว่าที่นี่คือที่ที่เขาพูดภาษาเดียวกัน แต่ดูแกมีความสุขมากเลยนะ พวกเราทั้งหมดก็ช่วยกันทำนั่นทำนี่ล่ะครับจนเสร็จก็มานั่งล้อมวงกัน พี่ต้อยก็คอยเป็นธุระให้แกนั่งกินบ้างเดินบ้างตามประสาแก คือบ้านผมไม่ได้ข่มคนที่บ้านนะครับไม่ได้มองว่าพี่ต้อยเป็นคนใช้ พ่อผมให้ความสำคัญมากกับเรื่องนี้ผมเองเลยสนิทกับพี่ต้อยในฐานะอะไรก็ไม่รู้ เพราะบางทีแกก็รั่วๆ อิอิ ไม่เกี่ยวกับผมนะ
   “อู๊ย แซ่บอีหลีเอื้อย แซ่บคั่ก” จอยมันร้องขึ้นล่ะครับ พวกเรานั่งกินอยู่สักพักพ่อก็กลับมา แนะนำเพื่อนใหม่คือจอยกับน้องของมันให้พ่อรู้จัก พ่อผมไม่กินด้วยครับเพราะจะออกไปวิ่ง ไม่รู้ฟิตอะไรมากมายพักนี้
   “อยากกินส้มตำเนอะ” ผมเปรยขึ้นล่ะครับคิดถึงส้มตำของป้าคนนั้น เอ่อ แม่ไอ้บ้านั่นล่ะครับ อร่อยมากนะขอบอกผมไม่เคยกินเลยนะส้มตำปลาร้ามันเหม็นแต่เห็นเพื่อนกินแล้วเลยลอง พอลองแล้วเอ่อ คือมันจะบอกยังไงดี ผมว่าไอ้ส้มตำไทยที่เราๆท่านๆกินกันน่ะมันยังไม่ถึงนะ ต้องใส่ปลาร้านี่ล่ะ คือมันแซ่บเวอร์
   “แม่นๆ อยากกินคือกัน” จอยสนับสนุนครับ เราเลยหันไปทำตาวิ้งๆใส่พี่ต้อย
   “ค่า สิไปซื้อให้ร้านเพิ่นอยู่ไสล่ะ สิเอาหยังแน่” พี่ต้อยแกรู้หน้าที่ครับ จอยเป็นคนบอกสถานที่ไปส่วนผมวิ่งขึ้นไปหยิบเงินให้พี่ต้อย ระหว่างนั้น
   “กินเบียร์ป่ะ” ผมชวนครับ
   “กินครับ” เอ่อ ไอ้โจ้มันตอบก่อนใคร แหมนะเด็กนี่ตัวแค่นี้มากินเบียร์นะ
   “กินได้ติ๊อุ่นพ่อบ่อว่าเหรอ” จอยมันถามครับ
   “ไม่ว่าหรอก แต่เด็กกินไม่ได้นะ” ผมหันไปบอกไอ้โจ้ครับ
   “อ้าว เป็นหยังล่ะ เด็กน้อยกะคนเด้อ้าย ผมโตใหญ่กว่าอ้ายเด้ล่ะ”
   “จิ๊ แล้วไง กินไม่ได้อ่ะ นั่งมองไปละกัน อิอิ” ผมหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆ
   “ตาซังเนาะ บ่อเป็นหยังดอกน่า ผมกินน่อยเดียว”
   “บ่อได้ดอกบักโจ้ เดี๋ยวพ่อเฮาสิฆ่าเอา” จอยมันห้ามครับ
   “โอ๊ยเนาะ เคียดเด้” เรื่องของมึงดิ สรุปผมก็ไปแอบเอาเบียร์พ่อในตู้เย็นมาเปิดล่ะครับ ขอบอกพ่อผมน่ะกินเบียร์สิงห์เท่านั้นนะ ไม่รู้ว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากันเอาวะไม่ได้กินนานพ่อคงไม่ว่าหรอก ผมเอาเบียร์มาให้เพื่อนๆกินครับเผื่อพี่ต้อยด้วยค่าปิดปาก ส่วนไอ้น้องโจ้มันนั่งทำหน้างออยู่
   “มาแล้วค่า เป็นตาแซบอีหลีเด้” พี่ต้อยกลับมาแล้วพร้อมส้มตำกับ เอ่อ อะไรเยอะแยะเนี่ยให้เงินไปสองร้อยเองนะ
   “ว้าย แกงฮวกหมกปลาดุก เพิ่นขายนำติเอื้อย” จอยมันร้องขึ้นล่ะครับแล้วเดินเอาถุงไปแกะใส่จาน
   “เพิ่นให้ซื่อๆนี่ล่ะ ไอ้เดี๋ยวเด้ล่ะตำน่ะสิแซบบ่อบู้ ซิมเบิ่งแน่” หือ อะไรนะ เหมือนได้ยินอะไรเดี๋ยวๆ ไม่ทันฟังครับ
   “ป๊าด มันกะลักตำบักหุ่งแซบปานนี้เนาะ บ่อแม่นสิแซบกว่าแม่มันตำพู้นบ่อเอื้อย ให้ล้ายหลาย” เสียงจอยกับพี่ต้อยคุยกันล่ะครับ พอเอาออกมาวางก็ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นเลยเพราะต่างคนต่างกิน สุกี้เกือบเป็นหมันแน่ะ อิอิ
   “ซิมหน่อยเดียวกะบ่อได้บ่ออ้าย” ไอ้น้องโจ้มันทำตาอ้อนวอนผมล่ะครับ
   “ชิมเบียร์? ยังไงอ่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “หวืย ตาซังเนาะซิมแนวนี้เด้” เอ่อ ผมได้แต่อ้าปากค้างครับมันมาฉวยเอาแก้วจากมือผมไปกรอกลงคอพรวดเดียวหมด เอ่อ อึ้งอ่ะ
   “ว้าย ซวดลวดหลายบักโจ้” จอยมันร้องขึ้นตีน้องมันทันทีครับ
   “ฮ่าๆ อยากคั่กน้อมึงบักห่านี่” ไอ้เล็กมันหัวเราะล่ะครับผมเองก็หัวเราะ เออนะมันบ้าดีนะ พอมันกรึ๊บเบียร์ไปแล้วก็เหมือนกันอยากกินอีกล่ะครับ
   “ไม่ได้นะแล้วใครจะไปส่งจอย” ผมเป็นห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนล่ะครับ
   “เฮาขับเอง” อ้าวพูดแบนี้แสดงว่าอยากให้น้องกินว่างั้น เออๆ ตามสบาย
   “ว่าแต่สิเว้าเรื่องหยังให้ฟังเกาะอุ่น” จอยมันเตือนความจำครับไม่งั้นผมคงลืมไปเลย
   “อ้อ” ผมมองไปยังไอ้น้องโจ้ที่กำลังเพลิดเพลินกับเบียร์แก้วของกูนะนั่นได้ข่าว พอเห็นว่ามันไม่ได้สนใจเราผมก็เล่าให้เพื่อนฟังเบาๆล่ะครับ
   “อืม จั่งซี้ล่ะรายได๋รายนั้น ห่างกันแล้วมักจจะเปลี่ยนอย่าเสียใจเด้ออุ่น” จอยมันเหมือนจะปลอบล่ะครับ
   “แล้วเป็นหยัง เฮาบ่อเข้าใจว่ะ คนเฮามักกันห่างกันแน่บ่อได้ติ๊ เป็นหยังจั่งมีใหม่ บ่อมั่นคงเลย” เอ่อ ไอ้เล็กครับหน้าตามันดูจริงจังมากเลยนะ เออ กูเห็นด้วย
   “กะคนห่างกันมันกะมีแนวมายั่วให้ใจออกได้เด้ เฮาว่านะอุ่นอย่าไปสนใจเลย บางเทื่อเขาอาจจะเสียคนที่ดีที่สุดในชีวิตเขาไปแล้วกะได้” พูดถูกใจจังจอย ใช่กูนี่ล่ะสิ่งที่ดีแต่อาจจะไม่ที่สุดแต่ก็ดีอ่ะ ช่างมันเถอะไม่สนใจ ชีวิตต้องก้าวต่อไปกว่าเพื่อนๆจะกลับก็เกือบสามทุ่มล่ะครับ พ่อผมกลับมาแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องเบียร์ โชคดีไปพ่อมานั่งกินสุกี้ด้วยแป๊บนึงก็ไปอาบน้ำส่วนผมอยู่ส่งเพื่อนๆก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำบ้าง
   “พรุ่งนี้เจอกัน” ผมบอกเพื่อนทั้งสองไป
   “จ้า โอ๊ย เห็นบ่อบอกบ่อให้กินๆ เป็นจั่งได๋ล่ะบ่านนี่ พ่อเห็นสิบ่อหัวแตกซะบ่อมึงบักโจ้” จอยมันบ่นให้น้องชายมันล่ะครับท่าทางอ้อแอ้เต็มทีผมเองก็ยืนมองอยู่
   “ไหวบ่อล่ะ ให้มันมาซ้อนเฮากะได้” เล็กมันบอกล่ะครับ
   “ไหวๆ จับดีๆเด้อมึง” เพื่อนๆไปแล้ว ผมเองก็ยืนมองจนลับสายตา พอจะอาบน้ำก็หวนมาคิดถึงคำพูดของจอยมัน ถามว่ากับโจ้นั้นมันคือความรักไหมนะ ไม่รู้สิ ผมชอบเขานะมากด้วยแต่บางทีมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะอะไรไม่รู้บางทีเวลาอยู่ที่โน่นผมเองก็ไม่ได้อะไรกับเขามาก เขาอยากไปไหนกับใครผมก็ไม่ว่าถึงว่าสินะมันถึงปันใจให้คนอื่นได้ตั้งแต่ที่คบกับผม เออๆ ช่างแม่งมันเถอะผมคงไม่ได้รักมันเท่าไหร่นักหรอกเพราะถ้ารักป่านนี้คงมาฟูมฟายเสียใจอยู่แน่ๆ
Written by eiky

Ps. มาวันหยุดนิ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 09-05-2012 13:06:13
โจ้ใจร้าย ใจง่าย ใจทราม เชอะชิชะ ทำน้องอุ่นเสียใจ!!
นายเดี๋ยวชักจะหายไปจากชีวิตแล้วแฮะ 5555555
หนูอุ่นสู้ๆนะ อยู่กับเพื่อนก็สบายใจ สนุกสนานกันดี -3-
รอตอนต่อไปค่าาาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 09-05-2012 13:19:52
ว่าแล้วโจ้มันต้องนอกใจ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 09-05-2012 13:20:16
โอ๊ยยยยยยยยยยยย เอาสู้ๆๆเด้อน้องอุ่นเอาใจซ่อยๆๆๆๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-05-2012 14:26:46
บักโจ้ขอสักทีเหอะ :fcuk:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 09-05-2012 15:13:02
ท่าดี (?) ทีเหลวนี่หว่าบักโจ้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-05-2012 16:32:13
อ่านเมื่อไหร่ก็ยิ้มได้เมื่อนั้น สนุกกับภาษา และนิสัยของตัวละคร คนเขียนต้องเป็นคนอารมณ์ดีมาก ๆ
รักทางไกลไม่มั่นคงเอาซะเลย โจ้บอกตรง ๆ ก็ดีแล้ว ดีกว่าหลอกให้มีใจไปวัน ๆ

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 09-05-2012 17:36:06
เข้ามาบอกว่า เรื่องนี้ บ่อมีมาม่าเด้อน้องหล่า มีแต่ไวไว ก๊ากกก
ไม่มีดอกค้าบดราม่า พี่อิ๊กเขียนดราม่ามะเป็นนิ แห่ๆๆๆ

ใสๆ ใช่ไหมคะพี่? :'(

dit.. บักเดี๋ยวหายหัวไปไส?

อิโจ้  อิเอี้ย เลิกๆไปน่ะดีแล้ว
แต่โจ้ เด็กเปี๊ยกนิชักจะยังไง

รอต่อไป
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 09-05-2012 18:19:44
แอบอยากเชียร์ให้โจ้น้องจอยจีบอุ่นแฮะ 55555 เอ หรือว่าเรารู้สึกตงิด ๆ ไปเองหว่า
ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนเช้าเดี๋ยวไม่เรียกอุ่นขึ้นไปด้วย ., แล้วเดี๋ยวไปเตะบอล รร หญิง เหอๆ จะมีเรื่องตามมามั้ยนั่น
เข้าทำนอง "สามวันจากเกย์เป็นอื่น" แหะ 5555555
รออยู่ครับ มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก (:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: area71 ที่ 09-05-2012 19:05:17
อ่านช่วงแรกเหมือนบักเดี๋ยวมาแอบมองหลังคาบ้านหนูอุ่นเลยอะ ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 09-05-2012 19:56:56
จะรอดูว่าเดี๋ยวจะทนได้สักกี่น้ำ :laugh:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 09-05-2012 20:02:24
แอบอยากเชียร์ให้โจ้น้องจอยจีบอุ่นแฮะ 55555 เอ หรือว่าเรารู้สึกตงิด ๆ ไปเองหว่า
ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนเช้าเดี๋ยวไม่เรียกอุ่นขึ้นไปด้วย ., แล้วเดี๋ยวไปเตะบอล รร หญิง เหอๆ จะมีเรื่องตามมามั้ยนั่น
เข้าทำนอง "สามวันจากเกย์เป็นอื่น" แหะ 5555555
รออยู่ครับ มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก (:


นารี แต่ก่อนเป็นหญิงล้วนคร้าบ แต่ตอนนี้เขาทำเป็นสหเพื่อเอามาฆ่ากับเบญฯ งงไหมเนี่ย เอ้า เด็ก อุบล อธิบายหน่อยเร้วว อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ~tai~ ที่ 10-05-2012 13:46:05
555 อ่านเรื่องนี้แล้วมึนหลาย  :really2:
ขอคำศัพท์ท้ายบทจักกะนิด ไหมคะคุณ eiky  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Ritsu ที่ 10-05-2012 15:36:46
แอบสิงอยู่ในเล้าได้สักพัก ในที่สุดก็ตัดสินใจสมัครเพื่อมาเม้นให้เรื่องนี้เลย อิอิ >//<
สนุกมากค่าา ชอบน้องอุ่น และหมั่นไส้บักเดี๋ยวมากๆ
ภาษาบ้านเกิดอ่านแล้วคุ้นเคย ได้อรรถรสมากๆ ฮ่าๆ
ปล. คุณอิ๊กกี้ เขียนชื่อโรงเรียนเราผิดนะคะ ต้องเป็น เบ็ญฯ เพราะเป็นโรงเรียน"เบ็ญจะมะ"ที่เขียนไม่เหมือน"เบญจม"ที่อื่นอ่ะค่ะ แต่ก่อนเป็นโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัดคู่กับนารีฯที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ตอนนี้ก็เป็นสหทั้งสองโรงเรียน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 10-05-2012 22:14:06
พึ่งเคยอ่านเรื่องนี้มักๆ

อ่านตอนนี้แล้วสงสารอุ้นเนอะ

มาต่อเร็วๆเด้อออ ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 11-05-2012 00:00:24
อยากกินส้มตำฝีมือบักเดี๋ยว เขียนซะน้ำลายไหลเลย ตอนนี้เดี๋ยวมาแว่บๆ พอมาน้อยก็คิดถึงเน๊อะ


หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 10 Version (อุ่น) 9 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-05-2012 00:45:35

ม่วนแม้ว่ะ พี่น้องเอ๋ย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 11-05-2012 19:17:32
You’re My BaBy!!

แม่งเห็นไอ้เชี่ยแบงค์วิ่งเข้าไปหามันก่อนจะขึ้นรถไปแข่งแล้วหมั่นไส้ว่ะ สัดเอ้ย ออกหน้าออกตาไปนะมึง แต่เอาเถอะไม่เกี่ยวกับกู เพราะกูกับมันไม่ได้รู้จักกันนี่ บอกตามตรงนะตอนนี้กูรู้สึกแปลกมากๆมันหวิวๆ ในใจมันหดหู่ยังไงไม่รู้ว่ะ มันแปลบๆในใจ กูเป็นเชี่ยไรวะเนี่ย
   “มึงเป็นหยังบักเดี๋ยว ไหวบ่อเฮ้ย” สัดเคนครับมันสะกิดผมตอนอยู่ในรถ เราก็นั่งกันไปในรถตู้ล่ะครับสองคันนักกีฬา ๑๖ คน อาจารย์สอง
   “หือ หน้าตากูโซปานนั้นติ๊” ผมถามมันครับ
   “แม่นแล้ว นั่งซึมคือไก่เหงาแท้ แม่นมึงเป็นหยัง”
   “ฮ่วยบ่อเป็นหยังดอก ฮอดไสแล้วนี่” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ อย่ามาอยากรู้กับกูเลยว่าเรื่องอะไรเพราะกูเองก็จนปัญญาจะตอบตัวเองเหมือนกันว่ะว่าเรื่องอะไร มันเป็นภาวะขาดน้ำหรือเปล่าวะได้แต่ถอนหายใจคอแห้งๆยังไงไม่รู้
   “คึดฮอดเขาติ๊” สัดเคนครับแหมนะเสือกรู้ดีอีก อ้าวเชี่ยกูเนี่ยนะคิดถึงมัน
   “ส้นตีนติ๊ เว้าหยังบักเคน คิดฮอดไผกูนั่นบ่อสิคึดฮอดมัน บ่อมีทางเว้ย” ผมโวยวายออกไปล่ะครับ
   “ฮ่วยกูบ่อทันบอกเด้ว่ามึงคึดฮอดไผ กูว่าแล้ว อย่าบังคับใจเจ้าของหลายเด้อมึงเด้ล่ะสิเจ็บ” เชี่ยกูไม่อยากเถียงว่ะได้แต่ดันหัวมันแรงๆแล้วหันหน้าออกนอกกระจกรถ แล้วไอ้เชี่ยพวกนี้มันส่งเสียงแม่งอะไรดังมากมายวะเนี่ย กูหนวกหูเว้ย
   “ป๊าด โรงเรียนใหย่คั่กเนาะ” สัดเคนล่ะครับมันกับสัดไม้เหมือนไม่เคยมาเลยนะทั้งที่เคยมาแข่งแล้วหลายรอบผมว่าเบ็ญฯใหญ่กว่านี้นะกูยังไม่ตื่นเต้นเลย
   “แม่นๆ เบิ่งผู้สาวแน่ล่ะ บู๊ยผู้งามคั่ก”
   “ไสๆ สาวนั่นงามกว่า เป็นตาฮักหลาย นั่นๆแนมมาทางเฮาพร้อม กูหล่อยังวะบักไม้” เอากะมันสองตัวนี่ครับ ทุกครั้งที่มากูนะจะเป็นคนดี๊ด๊ากว่าใครแต่คราวนี้กูเฉยๆว่ะไม่รู้ทำไม
   “บักเดี๋ยวมึงบ่อสนบ่อขอเบอร์ๆ”
   “บ่อ สิขอกะขอโลดสูน่ะ” ผมพูดแล้วเดินไปหาโค้ชล่ะครับ
   “แปลกว่ะ มันเป็นหยังบักเคน” เสียงสัดไม้ถามล่ะครับ
   “มันกำลังสับสนทางเพศ” สัด กูหันขวับเลยนะแม่งเอ้ยลับหลังกูนี่กัดดีนะมึง ผมชี้หน้ามันครับ สัดเคนมันหลบหน้าทันทีแล้วจูงมือสัดไม้ไปหาสาวๆกลุ่มนั้น
   “วันนี้เล่นตามแผนก่อนนะ รอดูก่อนว่านารีฯเขามีแผนอะไร อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม” ก่อนลงสนามโค้ชก็มาติวล่ะครับ สรุปให้ฟังเลยก็แล้วนะว่าพวกกูชนะ หนึ่งศูนย์กูเองล่ะที่เตะเข้า พอเล่นบอลจิตใจมันก็ดีขึ้นนะเหมือนว่าจะลืมเรื่องที่มันมัวๆอยู่ในใจ แต่ครึ่งแรกกูแม่งเล่นไม่ออกเลยนะเตะก็เก้ๆกังๆ วิ่งก็ไม่ได้ดังใจแต่เอาไปเอามากูก็แยะแยะออกล่ะว่าอะไรควรทำตอนนี้หรือตอนไหน บอกแล้วว่ากูน่ะเทพ ฮ่าๆ ไม่มีอะไรมาครอบงำได้หรอกเว้ยเฮ้ย
   “กูดีใจมาก เย็นนี้กลับถึงโรงเรียนกูจะเลี้ยง ไปร้านแม่ไอ้เดี๋ยวนะ เดี๋ยวกูโทรไปสั่งไว้” พ่อคนที่สองกูประกาศหลังจากที่ขึ้นรถแล้วล่ะครับ เพื่อนๆดูมันดีใจกันนะ อ้อที่บอกว่าไปร้านแม่กูน่ะไม่ได้ไปกินส้มตำกันหรอกนะคือทุกครั้งโค้ชหรือพ่อคนที่สองของกูโทรไปสั่งแม่กับพ่อกูนี่นะก็อาศัยใช้สถานที่ล่ะแต่ก็กินหมูกระทะกันแล้วก็จ่ายเงินแม่กูค่าที่นิดหน่อยแต่บางครั้งแม่กูก็ไม่เก็บหรอกนะเพราะดีใจด้วยที่กูก็หนึ่งในทีมนั้น แต่จะเก็บค่าน้ำขวดค่าไก่ย่างถ้าใครอยากจะกินเพิ่มแค่นั้นล่ะ พอกูนั่งหลับตาอยู่ในรถไม่นานเสียงโทรศัพท์กูก็ดังขึ้นล่ะครับ ตอนแรกกูไม่รับเพราะไม่คิดว่าเป็นของกูนะแต่สัดเคนมันจัดการเปิดกระเป๋าเอามาให้กูเลยนะ
   “ไผบู้โทรมา” มันบอกครับผมก็มองหน้าจออยู่แล้วกดรับ
   “ไผ” นี่คือการรับโทรศัพท์ของกูล่ะครับท่าน
   “เอ่อ คือ ใช่เบอร์เดี๋ยวป่ะคะ” เสียงของสาวครับ สาวสิวะจะใครล่ะแต่ใครวะเนี่ย
   “แม่น แล้วนี่ไผ” กูไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะไม่อยากคุยกับใครในตอนนี้
   “เราชื่อหญิงนะอยู่นารีฯที่นายเพิ่งมาแข่งบอลเมื่อกี๊ เราดูนายเตะบอลแล้วเราชอบมาก” ชอบกูหรือว่าชอบกูเตะบอลวะ เอาให้แน่แล้วนี่อะไรยังไงวะ
   “แล้วได้เบอร์เฮามาได้จั่งได๋” กูก็ยังคงเสียงห้วนๆเอาไว้ล่ะครับ
   “พอดีเราขอ” “เว้าลาวเป็นบ่อบ่ออยากได้ยินคนเว้าไทย ปวดหู” กูสวนขึ้นครับ สาวหญิงอึ้งไปพักหนึ่ง
   “ได้จ้า” “ได้เบอร์มาจั่งได๋เกาะ ไผให้” ผมรีบถามครับเพราะมไอยากคุยนาน
   “เอ่อ เฮาขอนายเคนจ้า” “อ้อ เดี๋ยวค่อยคุยเด้อ เฮาสินอน” กูกดวางสายไปทันทีครับแล้วหันไปทางสัดเคนกับสัดไม้ที่ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นจัด แม่งเอ้ย แต่ก่อนนี่กูสีจีบเองนะ พอจีบไม่นานก็นัดเจอแล้วแต่ทำไมวันนี้กูไม่ยินดียินร้ายจะคุยเลยวะ คือไอ้สองตัวนี่ถ้ามันจะให้เบอร์ผมกับใครนะสาวคนนั้นต้องสวยแน่นอนครับผมเชื่อใจเพราะมันทำบ่อยมาก คือมันจะอาศัยหน้าตากูนี่ล่ะนัดสาวพอกูไม่เล่นมันก็จะเล่นเองประมาณนั้น
   “ว่าจั่งได๋บักเคน” ผมมองมันแบบไม่พอใจครับ
   “อ้าว กะเพิ่นสนใจมึงเด้กูเลยให้ เป็นหยังวะแต่ก่อนกะเคยให้”
   “ตอนนี้กูบ่ออยากให้ อย่าเอาเบอร์กูไปให้ไผอีก” ผมพูดครับแล้วเมินหน้าหนีไปทางอื่น
   “บักห่านี่แหมะเป็นหยังวะ” สองตัวมันคุยกันล่ะครับแต่กูไม่สนใจ
   “มาแล้วเหรอคะโค้ช ดีใจด้วยนะคะที่ชนะ เสียดายจังเลยค่ะที่ไม่ได้ไปเชียร์ วันนี้ดิฉันได้เตรียมหม้อไฟไว้รอเลยนะคะ ได้ข่าวว่าลูกเดี๋ยวเป็นคนเตะเข้าประตู โอ๊ยดีใจแฮงค่า” นี่แม่กูครับออกมายืนต้อนรับแต่งหน้าด้วยนะ โอ๊ยแม่เกินไปไหมเนี่ยแค่ลูกเตะเข้าลูกเดียว นี่ถ้ากูได้เข้าทีมชาติไม่โมดิฟายหน้าใหม่เลยรึ พ่อกูก็ไม่น้อยครับเตรียมโต๊ะไว้ยังกะโต๊ะจีนเวอร์ทั้งผัวทั้งเมีย
   “ขอบคุณมากครับคุณแม่ ผมเองก็ดีใจครับ เราผลัดกันแพ้ชนะมาตลอดแต่พักหลังนี่เราชนะตลอด” โค้ชก็โม้ไปตามเรื่องล่ะครับกูไม่อยู่ฟังแล้วล่ะเดินไปที่เพิงขายส้มตำ อ้าว เจ้คนนั้นที่อยู่บ้านไอ้เตี้ยนั่นนี่หว่ามาทำไมวะ
   “อ้าวเดี๋ยว ไปเตะบอลมาติ๊เป็นจั่งได๋ ซนะเขาบ่อ” เจ้แกถามครับกางร่มมาด้วย แต่นี่มันจะห้าโมงเย็นอยู่แล้วนะเจ๊
   “ฮ่วย รุ่นนี้บ่อมีแพ้ดอกเอื้อย มาซื้อส้มตำติ๊” ผมโม้ไปครับ
   “แม่น เอาไก่ย่างพร้อม พอดีคุณอุ่นเพิ่นซวนหมู่มากินสุกี้อยู่บ้านเลยพากันอยากกินส้มตำนำ”
   “หมู่ทางได๋” ทำเสียงห้วนเพื่อ?
   “ไอ้เล็กกับสาวจอยเด้ มีน้องสาวจอยนำสามคน แซ่บคือหยังนี่เด้เอื้อยเฮ็ดน้ำจิ้มเอง”
   “เว้าเป็นตาแซ่บเนาะ”
   “ไปกินนำกันบ่อล่ะ” มันเป็นแผนกูเองล่ะครับที่พูดแบบนี้เพราะให้เจ้แกชวนและมันก็ได้ผลจริงๆเพราะมันเป็นมารยาทในการชวนแต่กูจะไปจริงๆ
   “ไปได้ติ๊ เพิ่นนั่นแห่งบ่ออยากพ้อหน้าผมอยู่เด้ล่ะ”
   “โอ๊ย เพิ่นเซาเคียดแล้วเด้ อย่าสิไปบอกไผเด้อล่ะเพิ่นโสกันกับผู้บ่าวกรุงเทพฯตั้ว คือสิเซากันแล้วล่ะ” อ้อ แบบนี้นี่เอง แล้วกูทำไมดีใจจังวะเนี่ยเกี่ยวอะไรกับกูวะมันจะรักจะเลิกอะไรกับใครมันเกี่ยวอะไรกับกูวะ
   “บ่ออยากฮู้ดอก บ่อไปดอกเอื้อย อยู่นี่เพิ่นกะพากันกินหม้อไฟเป็นตาแซบกว่าเด้ล่ะ เอื้อยสิเอาตำหยัง ผมสิตำให้” ผมเปลี่ยนเรื่องไปล่ะครับไม่อยากคุยนานตอนแรกว่าจะไปแต่ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวมันคิดว่าผมชอบมันขึ้นมาจริงๆจะลำบาก
   “เอาตำปูปลาร้าแซ่บๆเผ็ดๆ ปลาร้าเอาเป็นต่อนๆเด้อ บ่อเอาเด้อปลาร้าปลาเข็งน่ะเอาต่อนปลาค่อมันจั่งสิได้จ้ำ” ป๊าดติโธ่ เจ้แกนี่พูดแล้วทำท่าเหมือนจะจกกินในไหกูเลยนะนั่น ปลาเข็งก็ปลาหมอนะครับส่วนปลาค่อก็ปลาช่อน ฮ่าๆ สรุปกูก็ตำส้มตำให้เจ้แกล่ะครับกับได่ย่างสองตัว
   “จักบาทล่ะเดี๋ยว”
   “บ่อเป็นหยังเอื้อย ผมเลี้ยง” เป็นไงล่ะกูพระเอกชัดๆ
   “อุ๊ย สิดีบ่อคุณแม่เจ้าสิบ่อด่าเอาบ่อ” เจ้แกมองไปทางคุณแม่ผมล่ะครับที่กำลังง่วนอยู่กับการต้อนรับเพื่อนๆนักฟุตบอลของผม
   “แม่ๆ เอื้อยเพิ่นมาเอาตำบักหุ่งไปให้ปลัด แม่สิคิดจักบาท” เพื่อเป็นการยืนยันครับ
   “ว้าย อีหยัง โอ๊ย อะไรคะลูกเดี๋ยว คิดเงินทำไม ไหนเอาอะไรไปบ้าง ว้ายพอเหรอเธอครกเดียวน่ะ แล้วนี่ไก่ย่างสองตัว ทำไมเขาตีนมันล่ะเดี๋ยวทำไมไม่สับเอาแต่อก ตีนมันเก็บไว้กินเองสิ” เห็นไหมครับนี่แม่กูนั่นปลัดตกลงที่ปลัดมาหุ้นด้วยว่างั้น
   “ว้าย อยากอายเอาเด้ล่ะเอื้อย พอแล้วล่ะค่า” เจ้แกบอกครับโบกไม้โบกมือ
   “ปลัดเพิ่นสิกินเหรอเธอ” ทำไมแม่กูไม่พูดอีสานไปเลยวะกูนึกรำคาญแทนแต่ก็นะมันเป็นสไตล์แม่กูเองล่ะ
   “บ่อแม่นจ้า คุณอุ่นเพิ่นสิกินกับหมู่”
   “ว้าย งั้นบักเดี๋ยวไปตักแดงฮวกใส่หน่อไม้ส้มให้ลูกอุ่นหน่อยสิ แม่เพิ่งแกงเสร็จ มีหมกปลาดุกด้วยเอามาด้วย” นั่นไงครับ ตกลงไอ้เตี้ยนั่นมันเป็นลูกจริงๆ ส่วนกูเก็บมาเลี้ยงไว้ใช้ว่างั้น โว้ยนะ
   “กูได้เบอร์สาวนารีมาสองเบอร์เว้ย” พอเริ่มกินก็เริ่มมีเสียงโม้ครับ คือกลุ่มผู้ชายถ้ามาอยู่ด้วยกันนี่ใครบอกว่าผู้ชายไม่นินทากูให้เตะเลยนะ และเรื่องที่พูดกันส่วนมากก็เรื่องสาว สาวคนไหนเป็นยังไงใครลองมาบ้างแล้ว แต่ก่อนกูนี่ล่ะคนพูดเพื่อนๆคนอื่นๆก็คอยเสริมแต่วันนี้กูนั่งฟังครับ ไม่รู้จะพูดไปทำไม
   “สู้กูกะบ่อได้ กูได้มาสี่เว้ย มีแต่งามๆนมใหย่ๆ”
   “ป๊าด ไสมึงมีรูปบ่อเอามาเบิ่งแน่ติ๊”
   “กูถ่ายมาได้ผู้เดียว” แล้วพวกมันก็แย่งกันดูรูปในโทรศัพท์ของเพื่อนคนนั้นล่ะครับ
   “งามสู้สาวเพ็ญกะบ่อได้” นั่นไง วกกลับมาเรื่องใกล้ตัวแล้วไง
   “โว้ย งามปานได๋บักเดี๋ยวกะแดกไปพอแฮงล่ะ” กูไม่อยากพูดแล้วนะเนี่ย
   “เออ ว่าแต่เป็นจั่งได๋มึง ดีบ่อสาวเพ็ญน่ะ” กูว่าแล้วเชียว
   “อีหยัง บ่อเว้าเว้ย อยากฮู้ไปเฮ็ดหยัง” กูตอบเลี่ยงไปครับ
   “หวงเนาะ บักห่านี่ ไสบอกตอนนี้อยากลองเปลี่ยนแนวบ่อ นักเรียนมาใหม่นั่นซื่อหยังเกาะ ผู้ขาวๆเป็นตาฮักๆ โตน้อยๆนั่นแหมะ”
   “อุ่นๆ ซื่ออุ่น” ไม่รู้เสียงใครบ้างครับ กูเริ่มใจเต้นแรงแล้ว ให้ตายเถอะแต่ก่อนจะคุยว่าเคยอะไรกับใครสาวคนไหนมามากนักต่อนักแต่ไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้เลยนะ
   “เป็นจั่งได๋มึง” “เฮ้ยๆ อย่าไปถามมันหลาย ถามบักต้านี่ตี๊มื้อนั่นมันให้อีสุชาติโม้กให้น่ะ ดีบ่อล่ะบักต้า” ไอ้เคนครับ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมรู้สึกขอบใจมัน เพราะมันเบี่ยงประเด็นออกจากผมแล้วไปลงที่ไอ้ต้า ไอ้นั่นก็คงอายล่ะครับแต่เอาไปเอามาก็เล่าตามประสาเด็กผู้ชายเหมือนกูแต่ก่อนล่ะ กว่าจะแยกย้ายกันได้ก็เกือบสี่ทุ่มครับ พวกเพื่อนๆชวนกันไปต่อที่คาราโอเกะแถวตลาด ถ้าเป็นแต่ก่อนนี่กูไปนะแต่วันนี้ไม่อยากไปว่ะ อยากกินอยู่เหมือนกันนะเหล้าแต่ไม่อยากไปกินในที่มันเอะอะเสียงดัง
   “ซื้อมากินเฮือนมึงกะได้ตั้ว สามคนเฮา” สัดไม้มันแนะนำครับ เออเข้าท่าว่ะ สรุปกูสามคนก็แยกกันมากินแสงโสมต่อที่บ้านล่ะครับ อากาศมันครึ้มๆอ้าวๆเหมือนฝนจะตกเอาซะหน่อย อารมณ์ก็เปลี่ยวๆ
   “มื้ออื่นกูบ่อไปโรงเรียนกะน้า” สัดเคนพอกึ่มๆก็เริ่มออกลายครับเริ่มพูดมากแล้วมัน
   “แม่นๆ กูกะว่าสิบ่อไป ซั่นเฮามาจัดหนักเว้ย จัดไป” เออนะ กูด้วยสินะถ้างั้น แม่กับพ่อผมนอนแล้วครับเพราะต้องตื่นแต่เช้าส่วนผมกับเพื่อนนั่งอยู่หลังบ้านใต้ต้นมะม่วงมีม้าหินอ่อนเก่าๆอยู่เอาไว้วางเขียงคุณนายแม่ครับ กวาดเขียงออกแล้วตั้งวงได้สบายมาก
   “โว้ย เซ็งโว้ย” กูเองล่ะที่ร้องขึ้น แม่งมันอัดอั้นยังไงไม่รู้ว่ะให้ตายเถอะ
   “อ้าวๆ อย่าฟ้าวป่วงเฮ้ย แดกยังบ่อทันเคิ่งกลมเด้ มาๆซนๆ” ที่พวกมันไม่สนใจมากเพราะมันเมาล่ะครับ เอาไปเอามากูก็เมา เสียงเริ่มอ้อแอ้
   “มึงว่าบ่อ คั่นให้มึงมักไผสักคน มึงสิเฮ็ดจั่งได๋ ให้เลือกระหว่าง ความถืกต้องกับหัวใจของมึงเอง” สัดเคนเปิดประเด็นครับ กูก็รู้เรื่องนะเว้ยถึงจะเมาก็ตามที
   “กูว่า คั่นให้กูเลือกกูเลือกหัวใจกูเว้ย คนเฮาคั่นบ่อมีใจอยู่ไปกะเลิกรากันซื่อๆ หรือคั่นบ่อได้คบกันกะคือสิทรมานหลาย” สัดไม้สาธยายครับแล้วหันมาหากูทั้งสองคนเหมือนกับว่า เอาล่ะตามึง
   “บ่อต้องมาแนม กูบ่อมีความคิดเห็น” กูก็ตวาดไปตามเรื่องล่ะครับ
   “เอาดีๆติ๊ เปิดใจมาโลดบักเดี๋ยว กูว่าคั่นเป็นกู กูเลือกใจกูคือบักไม้ บ่อว่าหยังกะซ่ามกูสิเลือกเฮ็ดที่ใจกูมัก คนที่กูมักบ่อว่ามันสิบ่อถืกต้องต่อสายตาไผกะตามซ่าง” สัด นี่มันเหมือนอยากให้กูได้ไอ้เตี้ยนั่นเป็นเมียจริงๆ เอ๊ะ ทำไมกูต้องคิดไปเรื่องนี้ด้วยวะ
   “ฮ่วย แม่นสูอยากให้กูเว้าหยังเดี่ยวนิ่ คั่นเป็นกู กูต้องเบิ่งความเหมาะสมเว้ย บ่อแม่นหลับหูหลับตามักแล้วเอาโตบ่อรอด แนวนั่นกูบ่อเอา”
   “ความฮักเป็นหยังต้องเอามาเปรียบกับความเหมาะสม คนเฮาสิมักกันมีไผกำหนดอยู่ติ๊มึง บักห่านี่” อ้าวสัดเคนด่ากูซะงั้น อย่านะมึงคนยิ่งกึ่มๆเหล้าเดี๋ยวจะได้ยันหงายท้อง
   “สูอย่าสิเว้าหลาย ตอนนี้กูยังบ่อทันอยากมีความฮัก เป็นหยังเดี๋ยวนิ่คือซวนเว้าเรื่องนี้ สูมีความฮักติ๊” ผมเปลี่ยนประเด็นครับ แม่งถามได้ถามดี
   “ย้อนว่าเรื่องมึงนั่นล่ะบักเดี๋ยว กูสองคนเห็นว่ามึงแปลกๆไปเด้ แต่ก่อนบ่อเคยเป็นแนวนี้ แต่มาตอนนี้มึงแปลกไปอีหลี” สัดไม้ครับ
   “แปลกจั่งได๋”
   “มึงบ่อเคยสังเกตเจ้าของแม่นบ่อ บัดยามมึงแนมเพิ่นนั่นน่ะกูว่าสายตามึงมีความสุขหลาย แต่บัดยามมึงอยู่ผู้เดียวมึงกะคือคนบ้า กูว่ามึงน่ะคึดฮอดเพิ่นนั่นหลาย” พูดเชี่ยไรเนี่ยกูไม่เข้าใจเว้ย
   “ย้อนว่าความผูกพันธ์บ่อที่มึงมักไปแหย่หยอกเพิ่นนั่น มึงเลยติด พอบ่อได้หยอกกะคึดฮอด”
   “ซั่นกูสิเซาไปวุ่นวายมัน สูจั่งสิบ่อต้องมาสังเกตกูอีก” ผมสรุปให้มันสองคนครับ พวกมันนิ่งอยู่มองหน้ากันส่วนกูกระดกเหล้ากรอกปาก อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยพวกมึง กูรู้ดีว่ากูคิดอะไรอยู่ กูเข้าใจภาวะนี้ล่ะว่ามันเป็นแค่กูอาจจะติดที่ได้แกล้งมัน ถ้าไม่ได้แกล้งก็อาจจะมีคิดถึง อาจจะมีมองมันบ้าง แต่มันก็แค่นั้น มันไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีทางเว้ย
   “ว้าย นี่พากันแดกเหล้าจนถึงเช้าเลยเหรอพวกมึง แล้วจะไปโรงเรียนยังไง บักเดี๋ยว ตื่นเดี๋ยวนี้นะ เลวมากทำไมทำตัวแบบนี้ โอ๊ย ลูกนะลูก” ไม่รู้ว่าเช้าหรือยังแต่เสียงคุณแม่ที่แผดแว้ดๆมาแต่ไกลนี่เล่นเอากูสะดุ้งเลยนะ โอยๆ มึนหัวจังวะ
   “ฉลองเด้แม่”
   “ฉลองอีหยัง แค่เตะบอลชนะแค่นี้ฉลองหัวราน้ำ นี่ถ้าแกไปได้แชมป์ใหญ่มาไม่มากกว่านี้เหรอ ห่วงการเรียนบ้าง”
   “ขอจั่กมื้อน่านะคุณแม่ คุณแม่คนสวย” ผมงัวเงียลุกขึ้นล่ะครับ
   “จิ๊ เออ ดีนะที่แกพูดความจริง มันจริงอยู่ก็เรื่องเดียวนี่ล่ะ คือฉันสวย อิอิ” ผมรู้ครับว่าแม่ผมต้องพอใจ แกเดินหนีไปแล้วครับ ผมเลยมาปลุกเพื่อนๆสองตัวให้ลุก มันเมามากกว่าผมเสียด้วยซ้ำนะ
   “บ่อไปโรเรียนแล้วสิพากันไปไสวะ กลับเมือยามนี้แม่กูตีหัวแตกคั่กๆ” สัดเคนครับ เรื่องของมึงดิวะเกี่ยวไรกะกู
   “แม่นๆ ไปหาใส่เบ็ดบ่อสู ไคกว่าอยู่ซื่อๆ ไปหานอนนอกท่งนำ” สัดไม้ครับ เออ เข้าท่าๆ ความคิดดีนี่ สรุปหลังจากอาบน้ำกินข้าวแล้วพวกเราก็เอาเบ็ดแล้วไปขุดเหยื่อคือไส้เดือนที่หัวทุ่งทางไปนาล่ะครับ คือผมมีนานะครับแต่ให้เขาเช่า พอเขาเก็บเกี่ยวแล้วเขาก็จะแบ่งมาให้ คิดเป็น 40-50 คือเจ้าของนาได้สี่สิบส่วนคนทำเขาได้ห้าสิบเราเอาไว้พอกินแล้วก็เอาไปนึ่งขายที่ร้านเท่านั้นครับ ส่วนไอ้เคนนามันมีทางไปอุบลฯโน่นครับ ส่วนสัดไม้นามันเยอะนะแต่อยู่อำเภอหัวตะพานเขตเมืองยโสฯซึ่งไกลมากไม่สามารถไปได้ สรุปนาบักเล็กครับอยู่ทางไปยโสฯเหมือนกันแต่ไม่ไกลมากนัก
   “พากันไปปักไว้ซื่อๆเนาะ เดี๋ยวกูสิไปขึ้นบักม่วงมากินมันจั่งสิซ่วง สูว่าเถียงนาบักเล็กมันมีแจ่วบ่อ” สัดเคนบอกล่ะครับดีเหมือนกันไม่ต้องคอยเดินดู พวกเราก็แยกกันไปปักเบ็ดล่ะนะครับตามคันนา นาของบักเล็กมันเป็นนาหว่านนะต้นข้าวยังขึ้นไม่โตมากนักแต่ก็เขียวขจีอยู่เต็มทุ่ง ผมเดินลัดเลาะไปตามคันนาเพื่อปักเบ็ด เสร็จแล้วก็มานอนรอเพื่อนอยู่ที่กระท่อมปลายนาของบักเล็กมันล่ะครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเครื่องครัวอยู่เต็มเลยเว้ย มีกระปุกปลาร้าด้วยเว้ยเฮ้ย
   “บักไม้ไปซ่อยกูขึ้นบักม่วงแนะ มดแดงหลาย” สัดเคนมันคุยอยู่กับสัดไม้ล่ะครับผมส่วนผมก็นอนสิจะนั่งทำเพื่อ
   “ป๊าดมีปลาแดกนำเฮ้ย มาๆกูสิเฮ็ดปลาแดกแจ่ว” พอสัดเคนมันกลับมามันก็จัดแจงค้นหาอุปกรณ์ล่ะครับ ส่วนสัดไม้หาถังไปใส่มะม่วงเอาไปล้าง เป็นถังเลยนะเว้ยที่มันปีนมาได้ นี่ถ้าบักเล็กมันรู้คงโดนมันเล่นงานเอาแน่ๆ กูไม่เกี่ยวนะเว้ยกูแค่มานอนเท่านั้นเอง อิอิ

เขียนโดย อิ๊กกี้เด้อ



ปล. ตอนนี้ก็เล่าผ่านๆนะคร้าบ บอกเล่าความในใจของบักเดี๋ยว ค่อยเป็นค่อยไปนิ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 11-05-2012 19:22:19
 :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 11-05-2012 19:35:23
บักเดี๋ยวเอ้ยเมื่อรัยจะฮู้ใจตัวเองสักสิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 11-05-2012 19:42:32
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ มักๆ มักหลาย
วาแต่คนเขียนเป็นคนจังหวัดได๋น้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 11-05-2012 20:19:02
เมื่อไหร่จะกลับมาคืนดีกัน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 11-05-2012 20:46:28
บักเดี๋ยวเอ๊ย ตัวเองก็ชอบอุ่นอยู่ลึกๆแต่อาจจะยังไม่รุตัวก็ได้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 11-05-2012 21:43:26
ค่อยเป็น ค่อยไปเนาะ :)
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 11-05-2012 22:21:49
โอ๊ย.....อยากกินตำบักหุ่ง!!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 11-05-2012 23:17:19
ส่งเพลงนี้ให้บักเดี๋ยวฟัง เพื่อนจะตื่น "ช่างไม่รู้ อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบางอย่าง ที่มากกว่านั้น ช่างไม่รู้อะไร บ้างเลย ว่าเพื่อนคนหนึ่ง มันแอบมันคิดอะไรไปไกล กว่าเป็นเพื่อนกัน ..."  สงสัยต้องรอให้ มอคอปอดอ ก่อนถึงจะรู้ตัว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 12-05-2012 00:14:37
หนู มักหลายๆอ้าย  ม่วนคัก   5555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-05-2012 00:29:08
เดี๋ยวจะปากแข็งได้นานแค่ไหน
ทั้งไม้และเคนเป็นเพื่อนที่ดีนะ อยากให้เพื่อนได้ระบายความในใจ
น้องอุ่นเป็นคนมีบุญเนาะ มีแต่คนเมตตา เอ็นดู
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 12-05-2012 06:30:16
สนุกมากอ่ะ   o18 ฮามากกับความโก๊ะ ความเอ๋อของหนูอุ่น
บุคลิกของอุ่นน่ารักมากๆ  :o8: ตกหลุมรักหนูอุ่นซะแล้ว
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงอึนอะนะ รีบๆคิดและเข้าใจตัวเองน้า...เดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: QueenGaga ที่ 12-05-2012 08:40:56
ต่ออีกๆ  ชอบๆ o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-05-2012 11:04:54
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 12-05-2012 11:10:52
ตอนนี้ไม่เจออุ่น แอบคิดถึงอุ่นเบา ๆ แหะ
พี่เดี๋ยวก็นะเมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองสักทีเนี่ย แอบไม่เข้าใจภาษาอีสานบางคำบ้าง ไม่รู้อ่านเองเข้าใจผิดไปเองรึป่าว ? 55555
มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก ^ ^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 12-05-2012 21:02:01
น้องอุ่นอยู่เหนือเจ้าเดี๋ยวทุกอย่างจริง ๆ  o13

 :L2: น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 10 Version (เดี๋ยว) 11 May 12 หน้า 9
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 12-05-2012 21:55:32
บักเดี๋ยว ทำใจซ่ะ
เพราะหนียังไงก็หนีไม่รอด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 13-05-2012 10:46:07
Don’t call Me BaBy!!

รู้ไหมหลังจากกินส้มตำบวกกับสุกี้แล้ว ทั้งคืนผมก็ไม่ได้นอนเลยนะครับ ท้องเสียอย่างรุนแรงดีนะที่บ้านมีเกลือแร่กับยาแก้ท้องเสียเลยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ตายๆ ตอนกินน่ะแซ่บมากแต่ตอนนี้ทำให้เข็ดไปจนตายเลยอ่ะ มันปวดท้องแบบว่าเหงื่อแตกเลยนะ อึ๋ยย คิดมาแล้วสยอง
   “ไปโรงเรียนไหวบ่อค่าคุณอุ่น” แต่ด้วยสปิริตอันแรงกล้า เอ่อ คือไปโรงเรียนก็ใช่ว่าจะตั้งใจเรียนนะ เอ้ย ไม่ใช่ๆ ตั้งใจเรียนนะแต่เรียนยังไงก็ไม่เข้าใจอ่ะ แต่ด้วยใจรักว่าอยากไปโรงเรียนอ่ะใครจะทำไม เห็นมะว่าผมเป็นเด็กดีมากๆ อิอิ
   “น่าจะไหว อุ่นขอชาร้อนๆได้ป่าวพี่ต้อย” ผมเกือบจะคลานลงมาจากบนบ้านเลยนะเพลียมากแทบจะไม่มีแรงก้าวขาออกจากบ้านเลยนะ
   “เห็นบ่อเอื้อยบอกแล้วว่าอย่ากินหลายๆ เจ้าของแห่งบ่อเคยกิน เห็นหมู่เขากินหยังกะสิพะโลกินนำเพิ่น เป็นจั่งได๋ล่ะค่า คั่นบ่อไหวเอื้อยสิบอกคุณพ่อซายเด้” เอ่อ เหมือนแกบ่นเลยอ่ะพ่อแม่พี่น้องเพราะสีหน้าท่าทางและคำพูดนอนสต็อป
   “อย่าบอกพ่อนะพี่ต้อย เร็วดิอุ่นอยากกินชาอ่ะ” ผมเร่งแกล่ะครับ พอจิบชาร้อนไปหน่อยก็รู้สึกดีขึ้นล่ะครับ ผมต้องรีบออกจากบ้านก่อนที่พ่อจะลงมาด้วยนะเพราะถ้าพ่อมาเห็นสภาพแบบนี้โดนสวดยับแน่ๆ ผมลากสังขาร โปรดอ่านดีๆ ลากสังขารเลยนะ มันลำบากมาก ทำไมอุรดิศที่มีร่างกายบอบบางผิวพรรณเปล่งปลั่งดุจไยไหม เอ่อ อิอิ นิดหน่อยน่า จะต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้ด้วยนะ
   “อ้ายๆ เอื้อยผมให้มาฮับไปโรงเรียน” หือ เสียงคุ้นๆ ผมหันขวับไปทันทีครับ
   “อ่า น้อง เอ่อ” อยากเรียกชื่อมันมากนะแต่ไม่ติดตรงที่ชื่อมันดันไปเหมือนกับชื่อไอ้บ้านั่น เลยไม่เรียก คนมีอุดมการณ์อย่างอุรดิศไม่มีทางหรอกนะ ฮึ
   “แม่นคึดหยังอยู่เดี๋ยวนี่ เร็วๆแนะผมหิวเข่า” เอ่อ มันเร่งผมล่ะครับ ผมก็เลยยอมก้าวขึ้นไปซ้อนท้ายรถมัน ไม่ใช่ว่ายอมคนง่ายอะไรนะแต่จะมามัวหยิ่งทะนงตัวอยู่ตายกันพอดี ตายตรงนี้เลยล่ะคิดว่านะ ยิ่งเจอแดดยิ่งไม่มีแรง
   “เป็นหยังหน้าซีดๆ ขี้แตกแม่นบ่อ ฮ่าๆ สม” อ้าว ไอ้เด็กนี่เดี๋ยวเถอะ
   “รู้ได้ไง แล้วน้องไม่ขี้แตกเหรอ” ผมถามมันครับ
   “ฮ่วยซ่ำนี้บ่อระคายผิวผมด้อก แต่เอื้อยผมกะขี้แตกคือกัน มันเลยให้มาฮับอ้ายคึดว่าคือสิ คีงบาง” แปลว่า? ผมงงนะเนี่ย แต่มันก็ไม่ได้อธิบายอะไรนะตอนมันขับรถเครื่องไปลมมันโกรกด้วยล่ะจะให้แหกปากอ่ะไม่มีแรงครับท่าน ยอมไปก่อนวันนี้
   “เป็นหยังบ่อปาก บ่อมีแฮงเว้าติ๊” เอ๊ะ ไอ้นี่พอกูเงียบก็มาแหย่อะไรของมันวะ
   “ลมมันแรงอ่ะไม่อยากตะโกน” ผมบอกไปครับ
   “อีหยังเกาะ เว้าหยังผู้เดียวนี่” เอ่อ
   “ลมมันแรง ไม่อยากตะโกน” นี่แน่ อยากให้กูตะโกนดีนักใส่หูเลย
   “โอ๊ย ฮ้องเฮ็ดหยังนี่ เป็นบ้าติ๊” จิ๊ ไอ้นี่อะไรของมันวะ
   “อ้ายๆ พาไปกินเข่าแน่ะ ผมหิว เนี่ยฟ้าวออกมาฮับยังบ่อทันกินเด้เข่า” ยังไม่ถึงโรงเรียนเลยนะ
   “กินไรล่ะ” แต่ว่าไปผมเองก็ยังไม่ทันได้กินเหมือนกันแวะกินหน่อยก็คงดี
   “กินข้าวผัดในตลาดบ่อ ผมอยากกิน” เอ่อ ต้องไปในตลาดเลยเหรอ
   “อื้ม เอาสิ แต่จะทันโรงเรียนป่ะ” ผมมันคนแบบนี้อยู่แล้วอ่ะนะ ในใจคิดแบบหนึ่งแต่ดันพูดออกไปอีกแบบ เฮ้อ อุรดิศเริ่มจะเพลียกับตัวเธอแล้วนะ
   “ทันๆ” อ่านะมันรีบบึ่งรถไปแถวหน้าตลาดทันทีครับทางฝั่งโรงพยาบาล ควันอะไรต่อมิอะไรไม่รู้โขมงโฉงเฉง สรุปผมก็กินโจ๊กตามระเบียบส่วนไอ้น้องมันก็กินข้าวผัดปู? เวอร์ไปไหมเนี่ยมึงแพงกว่าของกูตั้ง 15 บาทแน่ะ
   “แซ่บหลาย อิอิ ขอบคุณเด้ออ้าย” มันหัวเราะชอบใจครับหลังจากที่เดินออกมาจากร้าน แหมนะเอาโค้กเย็นๆอีกสักกระป๋องไหมมึง
   “ได้เปปซี่อีกซักป๋องคือสิดีหลายเด้” เอ่อ ตบกูทีเถอะ อะไรอ่ะอารมณ์เสียคนแบบนี้ก็มี เฮ้อนะสรุปอุรดิศก็ต้องควักตังค์ซื้อเป๊ปซี่ให้มันอีกกระป๋องล่ะครับ
   “อ้ายใจดีเนาะ” แหมนะถ้าไม่เลี้ยงมึงแล้วมันจะจบมะถามหน่อยเถอะ
   “ไม่เป็นไรหรอก ตอบแทนที่เรามีน้ำใจไปรับพี่” ผมตอบครับแล้วก้าวขึ้นรถไปกับมัน
   “เอ่อ ไหนบอกจะมาทันโรงเรียนอ่ะ” กูว่าแล้วมัวแต่แวะโน่นนี่เป็นไงล่ะธงชาติปลิวไสวอยู่บนยอดเสาธงอย่างสง่างามแล้วกูก็นั่งเป็นสก้อยเกาะอยู่บนเบาะรถเครื่องไอ้น้องนี่ แล้วมึงจะเลี้ยวเข้าไปในโรงเรียนทำไมวะนั่น
   “ครูว่าพวกมึงมีแชมป์มาสายใหม่แล้วล่ะ ว่าไงเราอุรดิศ ยังไม่ชินทางอีกเหรอ” อ่า ทำไมไม่ทักไอ้บ้านี่ก่อนอ่ะจารย์ผมซ้อนท้ายมันมานะ ตัวมันก็ออกจะใหญ่โตนี่อุตส่าห์นั่งทำตัวลีบเล็กแล้วนะเนี่ย โว้ย อะไรอ่ะ
   “วันนี้คงต้องทำโทษนะ มาสายทุกวันเลยนี่” ผมเดินก้มหน้ายกมือไหว้อาจารย์แล้วเดินไปรวมแถวกับพวกที่มาสาย อัปยศอดสูที่สุด
   “อ้าวๆ นี่ๆ จะไปไหนนั่นน่ะ มารวมแถวกับเพื่อนๆนี่ เนียนนะอุรดิศ” เสียงฮาครืนขึ้นครับ นี่กูเอ๋ออีกแล้วเหรอเนี่ย โอ๊ยนะสู งดบรรยายครับอายจริงจัง
   “เป็นหยังมาสวยล่ะอุ่น เฮาให้บักโจ้ไปฮับมาเด้ล่ะ” พอเลิกแถวจอยมันก็วิ่งมาถามล่ะครับ หน้าตามันนี่ซีดไม่ต่างกับผมมั้งเนี่ย คืออาจารย์ไม่ได้ทำโทษผมหรอกนะครับแกให้วิ่งรอบเสาธงสามรอบส่วนคนอื่นๆแกให้วิ่งรอบสนามฟุตบอล เขาจะหาว่าเป็นเด็กเส้นไหมเนี่ย แต่ไม่หรอกเพราหน้าตาผมมันซีดมากมั้งเห็นแกซักอยู่ว่าจะไหวไหม ถ้าขืนวิ่งรอบสนามฟุตบอลก็เรียกรถมาเก็บศพข้าน้อยได้เลยครับท่าน
   “มันชวนไปกินข้าวอ่ะเลยมาสาย” ผมตอบครับเริ่มหายใจทางปาก
   “ป๊าดติโธ่ กล้าคั่กเนาะบักห่านี่”
   “เอาเถอะๆ ไหนๆเราก็มาสายแล้วอ่ะ ว่าแต่จอยท้องเสียป่ะ”
   “โอ๊ย พวมสิตายค่า ขี้แตกขี้แตน เฮาเหมิดแฮงอีหลี เล็กมันกะขี้แตกคือกันอุ่น สงสัยตำบักหุ่งเป็นพิษ” เอ่อ ฟังมะทันอ่ะ แต่ค่อยๆฟังหลังจากรวบรวมสติแล้วก็พยักหน้าครับ โน่นครับไอ้เล็กเดินหน้าซีดมาโน่นแล้วขนาดมันดำๆนะเนี่ยยังเห็นเลยว่าซีด
   “โอยๆ แสบดากเด้” ไอ้เล็กมันโอดครวญมาแต่ไกลล่ะครับ เราสามคนสภาพไม่ต่างกันเลยนะ
   “สิพากันเรียนฮู้เรื่องบ่อล่ะสู เฮาคือสิตายแท้” ไอ้เล็กมันยังคงพูดอยู่ครับ นั่นสิอยากนอนมากเพลียที่สุด
   “พากันไปนอนห้องพยาบาลดีบ่อเฮาว่า” จอยมันเสนอครับ
   “บ่อเอาๆ มื้อนี้แม่ใหย่นงลักษ์อยู่เด้ ซังเพิ่นเว้าวะบ่อไปดอก”
   “แล้วสิพากันไปไสล่ะ ให้ไปนั่งเรียนคือสิบ่อรอดดอกเด้อเฮาว่า” จอยกับเล็กมันคุยกันอยู่สองคนครับเพราะผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยว่ากำลังจะสิ้นใจ อ๊ะ มันมาอีกแล้วอ่ะข้าศึกบุกผมเลยวิ่งก่อนเลยครับ โอยมีอะไรที่ทรมานกว่านี้อีกไหมเนี่ย
   “ไปนอนเล่นนาโตอีกติ๊ลมเย็นๆ” ไอ้เล็กเสนออีกครับตอนที่ผมเกือบจะคลานออกมาจากห้องน้ำ
   “บ่อได้ดอกพ่อกับแม่เพิ่นสิด่าเอาติ๊ มื้อนั่นกะพากันหลบเรียนไปแล้วเด้” จอยมันแย้งนะน่าจะประมาณนั้น
   “แต่นี่ๆ ใกล้สอบแล้วไม่ใช่เหรอ จะหลบเรียนอยู่อีกแล้วจะเรียนทันเพื่อนไหมอ่ะ” ผมเป็นห่วงการเรียน เอ่อ เอาน่ามีบ้างล่ะนะคนเราเป็นนักเรียนนี่หว่าไม่ให้ห่วงการเรียนให้ห่วงไรอ่ะ อิอิ
   “บู๊ย เว้าคือเนาะไปเรียนกะสิฮู้เรื่องอยู่ติ๊อุ่น” จอยมันทำสายตาประชดครับ ไอ้ บู๊ยเสียงสูงนั่นคงจะประชดล่ะผมว่า
   “แม่นๆ พากันหลบเรียนล่ะไปหาหม่องนอน” แหมนะ แล้วแบบนี้มันจะสอบได้ไหมเนี่ย พวกแกน่ะไม่เท่าไหร่เพราะเรียนที่นี่มานานแล้วนี่ ส่วนกูสิเพิ่งย้ายมาหลักสูตรมันไม่ได้เหมือนกันนะเว้ย ยังไม่ค่อยได้อะไรเลยอ่ะเรียนก็หลายอาทิตย์แล้วนะแต่ก็ยังไม่เข้าใจอ่ะ ใครจะทำไม ฮึ
   “แล้วจะไปไงอ่ะ” เอ่อ อุรดิศไหนบอกจะตั้งใจเรียน โอ๊ยนะกู
   “เฮาคิดไว้แล้วเลยจอดรถไว้นอกโรงเรียน อิอิ” เอ่อ หัวเราะแบบภาคภูมิใจมากเลยนะไอ้เล็ก เอากะมันสิ
   “เออๆดีๆ แล้วสิพากันไปไสล่ะ” จอยครับนี่ก็เตรียมถลกกระโปรงจะลอดรั้วอยู่แล้วครับ คือเราสามคนคุยกันไปแถๆออกไปหลังโรงเรียนทุกทีจนจะติดกับรั้วลวดหนามอยู่แล้วล่ะครับ
   “ซั่นไปนาเฮา พ่อกับแม่เพิ่นไปนาเทิง ไกลจักหน่อยแต่ปลอดคน นอนสบาย อิอิ” ไอ้นี่มันเป็นโจรเก่าป่ะเนี่ย น่ากลัวมากๆ แล้วก็มันนะลอดออกจากรั้วคนแรก ตามด้วยจอยแล้วผมก็ยืนเอ๋ออยู่เพื่อ ตามไปสิอุรดิศรอให้คนมาเจอรึไง
   “แม่นฝนสิตกบ่อนั่นจอย ขับเร็วๆแนะ” พอออกจากรั้วโรงเรียนได้ก็วิ่งไม่กลัวขี้แตกเลยนะกลัวครูตามเจอมากกว่า พอถึงที่จอดรถของไอ้เล็กมันจอดไว้ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นักหรอกครับ แต่นะอ้อมหลังโรงเรียนมาหน้าโรงเรียนนี่ก็เล่นเอาลิ้นห้อยเลยนะ ไหนจะต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง เฮ้อ อุรดิศมีอะไรจะต้องลำบากไปกว่านี้อีกไหมเนี่ย
   “ฟ้าวแล้วรถเพิ่นกะบิดบ่อออกเด้ล่ะ ได้ซ่ำนี่ล่ะ” จอยมันหันมาบอกครับ
   “นี่ๆ จะไม่ซื้ออะไรไปกินกันหน่อยเหรอ เผื่อหิวไง” ผมเสนอครับ จอยมันไม่ตอบแต่ตรงดิ่งเข้าตลาด อ่านะ สรุปว่าได้ของกินไปเพียบครับ แต่ก็เว้นของแสลงต่อท้องล่ะนะ
   “ฮ่วยแม่นไผน้อมาอยู่เถียงเฮานั่นแหมะ” พอหาที่จอดรถได้เราก็เดินลัดเลาะไปตามคันนาล่ะครับ เล็กมันร้องขึ้นเพราะเหมือนมีคนอยู่บนกระท่อมปลายนาของมัน ผมกับจอยก็มาชะโงกดูด้วย เออจริงด้วย
   “แม่นขี้ยาบ่อโต บ่อเอาเด้อ” จอยมันหยุดเดินครับแล้วจับมือผมไว้
   “เดี๋ยวเฮาสิไปเบิ่งเองพวกโตถ่าอยู่นี่ล่ะ” โอ้ แมนมากๆไอ้เล็กมันเดินดุ่มๆตรงไปยังกระท่อมปลายนาของมันเลยนะ
   “เอ่อ จะดีเหรอเล็กมันอันตรายนะไปคนเดียว” ผมร้องตามหลังไปล่ะครับ
   “บ่อเป็นหยัง สิไปฮ้องใส่อยู่ไกลๆ” อ่านะ แบบนั้นกูก็ทำได้เว้ย แหมนะนึกว่าจะแมนไอ้นี่
   “เฮาว่าขี้ยาคั่กๆ พวกนี้มันมักสิมาสุมหัวอยู่นอกท่ง” เอ่อ แปลด้วยจ๊ะจอย ผมทำสายตาอ้อนวอน
   “บ่อเข้าใจติ๊ พวกนี้ คง เป็น พวก ขี้ ยา” เอ่อ ประชดกูเพื่อ มันเล่นพูดทีละคำครับ แหมนะนึกว่าจะมีคนกวนตีนแต่ไอ้บ้านั่น ไม่คิดว่าจอยก็จะเป็น
   “อิอิ ล้อเล่นดอก คือสิแม่นพวกขี้ยาล่ะ ป่ะเตรียมแล่น” อ้าว เพิ่งมาจะพากูแล่นอีกแล้วเหนื่อยนะเว้ยเฮ้ย
   “เอ้า เล็กมันคือควกมือให้ไปหา คือสิบ่อแม่นดอกอุ่น ป่ะ” จอยมันหันไปมองทางที่ไอ้เล็กมันไปล่ะครับ ผมเองก็เห็นมันกวักมืออยู่ไวไว
   “จะดีเหรอจอย”
   “คือสิบ่อเป็นหยังดอก คั่นแม่นขี้ยาเล็กมันคือสิแล่นแล้วล่ะ” อ้อ คือประมาณว่าถ้าพวกนั้นเป็นขี้ยาไอ้เล็กคงจะโกยแน่บแล้วประมาณนั้นมั้ง อิอิ จอยมันจูงมือผมเดินตามไปที่กระท่อมล่ะครับ
   “กูว่าแม่นไผ ห่าสู ฮ่วยสูคือขึ้นมาหลายแท้บักม่วงกูนี่แหม่ะ ป๊าดบ่อแม่นดับเหมิดล่ะบ่อ” เสียงไอ้เล็กมันคุยกับคนพวกนั้นอยู่ล่ะครับ
   “ฮ่วย ซ่ำนี้หนึ่งบ่อดับดอก กินบ่อเหมิดกะเอาเมือนำกะได้ตั้ว” เสียงอีกคนแย้งขึ้นมาครับ
   “ดีเด้นี่พ่อกับแม่กูเพิ่นไปนาอื่นซั่นแม่นสูตาย”
   “แล้วสูพากันมาหยังนี่ หลบเรียนมาติ๊”
   “สิพากันมานอนซื่อๆนี่ล่ะ ท้องบ่อค่อยดี” คุยกันดังนะ คือระหว่างที่ผมเดินตามจอยมันไปเสียงคุยกันก็ดังจอแจอยู่ตลอดเวลา
   “เอ้า เพิ่นนี่กะหลบเรียนคือกันติ๊” พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆกระท่อมก็เหมือนว่ามันจะทักมาที่ผมล่ะครับ
   “เอ้า เคน ไม้ บ่อไปเรียนติ๊” จอยครับมันร้องเหมือนตกใจ
   “บ่อไป เมาบ่อทันซ่วง ว่าสิพากันมานอนเว็นฝนทำทรงคือสิตกแห่งเป็นตานอนดี” ผมก็เดินไปยืนข้างๆจอยล่ะครับ หน้าพวกนี้มันคุ้นๆนะแต่ก็จำไม่ได้ ไม่ใช่จำไม่ได้หรอกผมไม่อยากจะจำเท่าไหร่ นักเรียนในโรงเรียนมีไม่รู้กี่พันคนคงจะจำหมดอยู่หรอกนะ
   “เอ้า เดี๋ยว” เอ่อ ตาค้างเลยผม ไอ้บ้านั่นมันนอนอยู่บนแคร่อย่างสบายอารมณ์กระดิกเท้าไปมา สายตามันมองมาที่ผมล่ะครับ ทำไมต้องใจเต้นแรงด้วยวะ
   “ใกล้สอบแล้วบ่อแม่นบ่อ คือพากันหลบเรียน” มันถามขึ้นล่ะครับ
   “ท้องเสียเด้ ย้อนกินตำบักหุ่งเมื่อวานนี่ล่ะเฮาว่า” จอยมันอธิบายครับแล้วเดินไปนั่งลงบนแคร่ อ้าวแล้วกูล่ะ
   “เป็นเหมิดสู่คนนั่นติ๊ นั่นล่ะกินบ่อซวนหลาย” มันพูดต่อครับ ผมไม่ได้อยากจะฟังมันพูดหรอกนะครับ แต่หูมันได้ยินอ่ะ
   “ดีคือกันพวกเฮาว่าสิตำบักม่วงกิน กินนำกันเนาะ” นายคนหนึ่งชวนขึ้นมาครับ แค่ได้ยินชื่อผมก็ขนลุกซู่ทันที
   “อึ๋ยย บ่อเอาดอกเข็ด ขี้แตกบ่อทันเซาอยู่” จอยมันทำท่าเหมือนที่ใจผมคิดครับ
   “อ้าว อุ่นมานั่งแหม่ะ บ่อเมื่อยขาติ๊” จอยมันร้องทักมาครับ ผมเลยเดินไปนั่งลงข้างๆมัน รู้สึกว่าสายตาของพวกนี้มันมองมาที่ผมนะ จะมองกูทำไมเนี่ย อึดอัดจัง
   “เถียงน้อยๆหนึ่งสินอนกันจั่งได๋นี่” เสียงไอ้บ้านั่นมันพูดขึ้นล่ะครับ
   “ฮ่วย เถียงนากูเด้ล่ะ พวกสูนั่นล่ะไปนอนหม่องอื่น” ไอ้เล็กมันทวงสิทธิของมันล่ะครับ
   “บ่อสนใจเว้ย พวกกูมาก่อน พวกสูนั่นล่ะไปหาหม่องนอนเอง” นายคนหนึ่งแย้งขึ้น
   “กูเห็นมีเปลอยู่บ่อแม่นบ่อ เอามาผูกนอนเอาติ๊บักดำ” ไอ้บ้านั่นมันบอกครับ แล้วไอ้เล็กก็เหมือนคิดได้บ้าจี้วิ่งไปเอาเปลมาผูกอย่างที่มันบอก ทำไมต้องทำตามมันด้วยวะ
   “เขาสิบ่อซ่าบ่อสู” จอยมันพูดขึ้นครับหลังจากที่ทุกคนประจำที่ของตัวเอง ไอ้เล็กกับนายคนหนึ่งนอนบนเปลเพราะมันมีสองอัน อีกคนหนึ่ง จอย ผมและก็ไอ้บ้านั่นอยู่บนแคร่
   “ซ่าหยัง” ผมงงครับแต่ก็ตั้งใจฟังอยู่
   “เขาสิบ่อซ่าว่าแม่ยิงผู้เดียวมากับผู้ชายหลายคน เขาสิบ่อซ่าว่าเฮามาถืกรุมโทรมบ่อล่ะสู” อ้อ พอเข้าใจครับประมาณว่าเขาจะไม่นินทาเอาเหรอว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวมากับผู้ชายเยอะๆว่ามาให้พวกนี้รุมโทรมอะไรประมาณนี้มั้ง
   “ซ่างแม่มันติ๊ สนใจหยัง” นายคนนั้นพูดขึ้นล่ะครับ
   “จอยๆ” ผมกระซิบบอกจอยล่ะครับเรานอนติดริมของแคร่ไอ้บ้านั่นกับเพื่อนมันนอนอีกฝั่งหนึ่ง
   “หือ หยังอุ่น” แหมนะเพิ่งจะล้มหัวลงนอนทำท่าเคลิ้มเพื่อ
   “เราอึดอัดอ่ะ ไปที่ใหม่ป่ะ”
   “อยากไปกะไปติ๊ ทนอยู่เฮ็ดหยัง” เอ่อ เสียงไอ้บ้านั่นดอดขึ้นครับ เห็นไหมว่ามันไม่มีมารยาทเลยนะ
   “บ่อไปดอก นอนนี่ล่ะอุ่นเฮาขี้คร้านพู้นน่ะฝนพวมสิตก” จอยมันบอกครับผมนี่หุบปากทันที
   “จิ๊ เซ็งว่ะ ไปยามเบ็ดดีกว่า” มันพูดขึ้นครับแล้วลุกไปเลย
   “ฝากยามนำแน่เด้อบักเดี๋ยวกูสินอน” เพื่อนมันร้องบอกครับ ไอ้บ้าอำนาจนั่นเดินไปแล้ว ผมผงกหัวขึ้นมอง เบ็ดเหรอ อืมน่าสนใจนะ
   “จอยๆ เขาทำกันยังไงเหรอปักเบ็ดน่ะ” ผมร้องถามจอยครับ
   “โตอยากเบิ่งติ๊” เอ่อ เพื่อนมันคนที่นอนอยู่บนแคร่ถามผมครับ
   “เอ่อ” พยักหน้าทำไมเนี่ยอุรดิศแหมนะ
   “เฮาพาไปยามเบ็ดเอาบ่อ” มันบอกครับ ไม่เอาหรอกเราไม่รู้จักนายเผื่อแกล้งเราขึ้นมาทำไงล่ะ แต่ว่าเอ่อ อุรดิศกระเด้งตัวขึ้นมาทำไมเนี่ย
   “เฮาซื่อเคนเด้อ จำได้เฮาบ่อ” พอเดินไปตามคันนามันก็แนะนำตัวล่ะครับ
   “จำบ่อได้” “ฮ่าๆ มื้อนั่นเด้ที่โตเข้าห้องน้ำแล้วพวกเฮาสูบยาอยู่น่ะแหม่ะ” มันหัวเราะครับ จะหัวเราะทำไมเนี่ยไม่ใช่ตัวตลกนะเว้ย
   “อ้อ พอจำได้ล่ะ แล้วไหนอ่ะเบ็ด” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ ความจริงจำไม่ได้หรอกนะ แอ๊บเอา อิอิ
   “นี่ๆ ป๊าดมีปลานำ เบิ่งเด้อๆ” มันร้องอย่างดีใจครับ ผมเองก็ตื่นเต้นมันนั่งยองๆลงใกล้ๆเบ็ด
   “อ่า ปลาช่อน” ผมร้องเองล่ะครับ ไม่เคยเจอนี่นา ปลาช่อนตัวไม่ใหญ่มากดิ้นจนน้ำกระเพื่อมไอ้นี่มันยกเบ็ดขึ้นแล้วปลดเงี่ยงเบ็ดออกจากคันแล้วเอาเหยื่อ ซึ่งมันคือ แว้กก ไส้เดือนอ่ะพี่น้อง ไส้เดือนที่มันสับเป็นท่อนๆ อ่า บาปนะเนี่ย ไม่ได้ๆเราต้องแผ่เมตตา
   “จ่มหยังผู้เดียวนี่ เฮ็ดปากมุบมับๆอยู่” เอ่อ มันหันมาถามผมครับ
   “เราแผ่เมตตาให้ไส้เดือน” “ฮ่าๆ โว้ยเนาะ เจ้านี่กะดาย โพดหลาย บ่อบาปดอกพวกเฮาบ่อได้เฮ็ดเล่นเด้ เอาไปกินขี้กะเดือนมันเข้าใจ” ขี้กะเดือนคงจะหมายถึงไส้เดือนสินะ แล้วจะมาหัวเราะกูเพื่อ เขินเป็นนะเว้ย
   “เดี๋ยวเฮาสิต้มส้มปลาค่อให้กิน กินบ่อ” พอเดินไปได้สักพักมันก็หันมาถามล่ะครับ
   “กินๆ เราซื้อข้าวมาเผื่อด้วยล่ะ” เอ่อ ตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ยอุรดิศ
   “ฮ่าๆ โตนี่คือเด็กน้อยเนาะ บ่อแปลกใจเลยเป็นหยังบักเดี๋ยวมันจั่งสับสน” เอ่อ หมายถึงไรอ่ะ อย่าๆ อย่าไปสนใจอุรดิศ มันไม่ได้พูดถึงเราหรอกนะ
   “นายๆ อันนั้นมันไหวแรงมากเลยอ่ะดูเร็ว” ผมเร่งมันครับเพราะเบ็ดคันข้างหน้ามันตึงมากและเหมือนต้นข้าวแถวนั้นจะราบเป็นหน้ากลองเลยนะ
   “ป๊าด คือสิโตใหย่คั่กเนาะ” มันนั่งยองๆท่าเดิมครับผมก็เข้าไปใหล้ คงจะตัวใหญ๋มากแน่ๆไม่งั้นเบ็ดไม่ตึงขนาดนี้
   “แว้กก งูๆๆ” คุณพระคุณเจ้า อยากจะกรี๊ดผมกระโจนไปประมาณห้าก้าวได้ครับ ขนลุกซู่ใจเต้นแรง
   “แว้กก งูๆๆ” ผมร้องไม่หยุดวิ่งกระเจิดกระเจิง เสียงไอ้บ้านั่นหัวเราะครับ หัวเราะเพื่อมึงไกลัวหรือไงวะเนี่ย
   “แม่นหยังอุ่น มีอีหยัง” เพื่อนๆในกระท่อมวิ่งออกมาดูครับ ไม่อยากจะเชื่อว่าอุรดิศจะวิ่งร้อยเมตรจากตรงโน้นมาใกล้กระท่อมได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
   “แว้กก งู จอยงู” ผมร้องหน้าซีดวิ่งเข้าไปหาเพื่อนครับ แต่รู้ไหมว่าไม่มีใครเลยที่จะไม่หัวเราะ เอ่อ ตลกตรงไหนเนี่ย อะไรอ่ะน่ากลัวจะตายไป
   “นั่นล่ะอยากเบิ่งหลาย งูปลาติ๊นี่ ฮ่าๆ” เสียงเพื่อนของไอ้บ้านั่นมันพูดล่ะครับ หนอยแน่หัวเราะเยาะกูนะมึง
   “ไม่ไปแล้วอ่ะ เรากลัวมันจะกัดหรือเปล่าไม่รู้” ผมวิ่งขึ้นไปบนกระท่อมครับ
   “คือบ่อไปนำบักเดี๋ยวล่ะ บักเดี๋ยวมันบ่อย้านงู” ไอ้นั่นมันแนะนำครับ ไม่มีทางจ๊ะ ต่างคนต่างไปเข้าใจ๋
   “ซั่นพวกเฮาไปหาแนวมาต้มส้มปลากินงายป่ะซามฝนบ่อทันตก” เอ่อ พวกมันชวนกันครับรวมถึงจอย อ้าวกูล่ะ ทิ้งกูอีกแล้ว
   “บ่อต้องไปดอกอุ่น เดี๋ยวสิพ้องูอีก อิอิ” อ่านะ นังจอย แหมนะอะไรอ่ะคนยิ่งกลัวๆอยู่ด้วยนะเว้ย เออวะไม่ไปก็ได้อย่างน้อยนั่งอยู่บนกระท่อมก็คงดีกว่าไปเดินตามคันนาเดี๋ยวเจองูอีกตายแน่ๆ
   “โตย้านงูติ๊ ฮ่าๆ เป็นตาอยากหัวคั่ก” ไอ้เคนมันเดินกลับมาแล้วครับ ผมถอยร่นไปอีกฝั่งของกระท่อม
   “โอ๊ย บ่อต้องย้านเฮาดอกเฮาเอางูทิ่มไปแล้ว มาเบิ่งปลาติ๊ ได้หลายคั่ก” มันพูดครับแล้วนั่งบนแคร่ ผมลังเลอยู่ไม่ยอมเข้าไปใกล้
   “เอ้า บ่อมีงู นี่เด้มาเบิ่งแหม่ะ” มันเปิดฝาตะข้อง เขาเรียกตะข้องป่ะไม่รู้ฮ่าๆ ก็นะคนมันไม่เคยอ่ะ มันล้วงมือเข้าไปในตะข้องล่ะครับแล้วจับปลาออกมาใส่ถัง
   “อ่าตัวใหญ่จัง” อุรดิศเลยทนไม่ไหวครับคลานเข้าไปดูใกล้ๆ
   “มีปูด้วย ปูมันกินเบ็ดด้วยเหรอ” ผมสงสัยครับเพราะปูนาตัวสีม่วงตัวเบ้อเร่อเลยนะ
   “กินตั้ว นี่ล่ะโตดีล่ะมักมากินเบ็ด” มันจับปูออกมาครับ
   “มึงได้หลายบ่อบักเคน” เอ่อ ไอ้นั่นมันเดินกลับเข้ามาในกระท่อมครับ ผมว่าจะจับปูนาเลยไม่จับเมินหน้าไปทางอื่น
   “พอได้อยู่ มึงได้หลายบ่อ”
   “เบิ่งเอาติ๊ เต็มข้อง” มันคุยโวครับผมไม่ได้สนใจ อ้าวไอ้เคนจะไปไหนล่ะนั่น
   “กูไปหาหัวจันไคมาต้มปลาก่อนเด้อ” อ่า ทิ้งกูไว้กับมันเนี่ยนะ ฮึ ไม่สนใจวะจับปูมาเล่นดีกว่าเสียงฟ้าร้องก็ดังกระหึ่มเข้ามาใกล้แล้วครับ สีของก้อนเมฆนี่ดำทะมึนเลยนะ
   “อ่ะ แว้กก โอ๊ยๆๆ เจ็บๆ” ไม่อยากจะบอกเลยว่าไอ้บ้าปูนามันหนีบมือผมอ่ะพ่อแม่พี่น้อง เจ็บมากๆ เจ็บจนน้ำตาเล็ด ผมพยายามสะบัดมือให้มันหล่นออกแต่มันยิ่งแน่นขึ้น
   “นั่นกูว่าแล้ว ทำตัวเป็นเด็กนะมึง สัด” เอ่อ ด่ากูเพื่อ ไอ้ควายจะช่วยก็ช่วยไม่ช่วยก็ไม่ต้องด่า
   “มานี่ดิ” ไม่มีทางเว้ยคนอย่างอุรดิศโง่ครั้งเดียวพอ
   “ตามใจเว้ย ให้มันหนีบให้นิ้วขาดไปเลย”
   “อ่า ช่วยเราหน่อยนะ” คือไม่อยากนิ้วขาดอ่ะนะ ผมไม่เหลือแล้วสินะศักดิ์ศรี อารมณ์เสีย
   “โอ๊ย เจ็บอ่ะ เจ็บ” ในที่สุดน้ำตาก็ตก โอ๊ย มันเจ็บนี่นะ เจ็บมากใครไม่เคยโดนปูหนีบมาลองบ้างสิจะได้รู้ ฮึ เจ็บจริงจังเกินกว่าอะไรทั้งนั้น
   “อยู่นิ่งๆดิ” มันบอกครับ ผมเริ่มตัวสั่นมันค่อยง้างก้ามปูออกจากนิ้วผม แต่มันไม่ยอมออกอ่ะ นิ้วจะขาดไหมเนี่ย
   “อ๊ะ” เอ่อ มันหักก้ามปูทันทีครับ พอมันหักได้ผมก็สะบัดมือทันที
   “ไหนเอามาดูหน่อย เป็นแผลหรือเปล่า” ผมกำนิ้วไว้ล่ะครับแล้วค่อยๆแบออก อ่า มันแดงเลยอ่ะห้อเลือดเลย
   “อย่าเก่งดีนักเข้าใจไหม” มันว่าผมครับ ว่ากูทำไมเนี่ยไม่เข้าใจ ผมไม่ได้มองหน้ามันหรอกนะเพราะน้ำตามันยังเอ่ออยู่ คือไม่ได้อยากจะร้องไห้แอ๊บนางเอกอะไรนะมันเจ็บจริงๆนะขอบอก
   “ไปเอาใบตะไคร้พันไว้เดี๋ยวก็หาย” มันพูดครับแต่ผมไมได้สนใจฟังเท่าไหร่นักเอานิ้วมาเป่าอยู่มันเริ่มแสบๆเจ็บหน่วงๆปวดด้วยอ่ะ
   “ขอบใจนะ” ผมบอกมันครับแล้วกระเถิบไปอีกมุม มันไม่ตอบแต่มันเดินไปไหนไม่รู้ ผมเลยนั่งนิ่งๆ
   “ไอ้ปูบ้า ทำไมไม่หนีบไอ้นั่นนะมาหนีบกูเพื่อ” ผมบ่นกับตัวเอง
   “นั่น แช่งกูอีกนะมึง สัด นิสัยเสียนะ” เอ่อ กลับมาตอนไหนวะ ผมสะดุ้งเลยนะ
   “ปะ ป่าว เรามะ” “อย่า กูได้ยินเว้ย ว่าจะทำให้ ทำเองเลยมึง” มันปาต้นตะไคร้ลงข้างหน้าผม แง่วว กูทำเป็นที่ไหนล่ะไอ้นี่ มันยักคิ้วให้ผมครับ เออวะ ทำเองก็ได้ ผมก็จับเอาใบตะไคร้มา เอามาแล้วยังไงล่ะทีนี้ เอาถูเหรอ เอ๊ะ เมื่อกี๊มันบอกเอาพันไว้ เอาพันๆไว้ดีกว่า
   “สัดเอ้ย เอามานี่” มันดึงมือผมไปครับแล้วมันก็ดึงใบตะไคร้มาใบหนึ่งเอายีๆแล้วมันเป่าลมใส่ใบตะไคร้เหมือนทำให้มันร้อนอะไรประมาณนั้น อ่านี่มันจะเสกมนต์ดำใส่ผมป่ะเนี่ยกลัวนะเว้ย ตอนแรกผมว่าจะชักมือกลับมาแต่ก็นิ่งเสียเพราะขืนท่าเยอะมันจะไม่ทำให้หรอกนะผมว่า
   “จำไว้อย่าทะลึ่งทำนั่นทำนี่ เลิกทำตัวเป็นเด็กซะที” ขอบคุณมาก กูนี่นะทำตัวเป็นเด็ก ตรงไหนไม่ทราบกูอยู่ของกูดีๆนะไม่ได้ไปวอแว แต่เอ๊ะเมื่อกี๊ผมไปจับปูนี่ แต่ช่างเถอะแล้วมันเด็กตรงไหนวะ
   “เถียงอีก” เอ่อ กูยังไม่ทันพูดซักคำนะ
   “สายตามึงมันบอกว่ามึงเถียงกูอยู่ เถิบไปดิ๊ กูจะนอน” ผมเม้มปากทันทีเสือกรู้อีกนะมึง ว่าแล้วมันก็นอนลงเลยครับ อ่านะ ผมเองก็นั่งเป่านิ้วตัวเองอยู่ เออว่ะมันร้อนๆที่นิ้วแต่ก็ไม่ค่อยปวดมากแล้ว ขอบใจนะไอ้ควายถือว่าหายกัน

เขียนโดย อิ๊กกี้เด้อ

ปล. มาแว้วว น้องอุ่นมาแว้ววคร้าบ อิอิ บรรยากาศเริ่มไม่เครียดแล้วนิ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: tippy ที่ 13-05-2012 11:07:31
เพิ่งเห็นเรื่องใหม่ของคุณอิ๊กกี้ :z3:  ดักดานแท้................
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 13-05-2012 11:39:38
อยากเห็นคู่นี้เถียงกันอีก พัฒนาไวไวนะจ้ะรอเชียร์อยู่
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 13-05-2012 12:08:12
5555 หนูอุ่นเปิ่นๆดีแฮะ
ช่างสงสัยจริงๆเลยน้าาาา น่าร้ากกก กร๊ากกก
รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 13-05-2012 12:35:28
สนุกๆๆมากมาย น่ารักมากเลยอุรดิศ และน้องมัเดี๋ยวววววววว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-05-2012 13:05:19
ชอบสองคนนี้เถียงกันอ่ะ ฮ่าๆ คิดถึงมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 13-05-2012 13:23:09
พี่อิ๊ก  :'(

ต่อเลยได้ป่ะ  กำลังได้ ฟีล เลยอ่า

โอ๊ย เป็นตาฮักหลาย ><
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 13-05-2012 13:34:55
สงสารอุ่นอ่ะ อกหัก ท้องเสีย เจองู ปูหนีบ แล้วยังมาเจอบักเดี๋ยวอีก ไม่แคล้วต้องโดนกักในกระท่อมเหมือนโสรยา แต่เดี๋ยวแอบหวานถึงจะเถื่อนนิดๆ แต่น่ารักอ่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-05-2012 19:48:54
อุ่นซวยดีแท้ 555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 13-05-2012 20:14:22
อุ่นเหมือนเด็กเลย น่ารักๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 13-05-2012 20:24:20
ม้วนแฮงๆๆ  อ้าย      เปนตาฮักหลายๆๆ o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 13-05-2012 20:33:20
 ขอบใจนะไอ้ควายถือว่าหายกัน  <<<<ชอบจริง ๆ นะเออ น้องอุ่นสู้ ๆ

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-05-2012 20:53:38
นู๋อุ่นสู้สู้ :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-05-2012 22:38:54
แต่ละเมนู แต่ละตอน ....โอ๊ย ทรมานมากค้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 14-05-2012 08:06:55
อ๊ายยยย ซีนนี้แอบมีเขิลเบา ๆ อ่ะ น่ารักจังเลย ชอบจังเวลาพี่เดี๋ยวทำตัวแบบนี้
จินตนาการเหตุการณ์ไม่ค่อยออกอ่ะพี่อิ๊ก อยู่ในทุ่งนาแล้วจะเป็นยังไงอ่ะ -0-
อยากดูรูปจัง คือบ้านผมก็ติดทุ่งนานะครับ แต่นึกภาพทุ่งนาทางภาคอีสานไม่ออกเลย
มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก รออยู่ ๆ (:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: QueenGaga ที่ 14-05-2012 11:13:14
เมื่อไหร่จะรักกันนนนน  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 14-05-2012 13:33:46
ซื่อมากเลยนะน้องอุ่น
โดนปูน้อยหนีบมือ :laugh:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-05-2012 14:52:09
เมื่อไหร่มันจะรักกันซักทีหนอ
หลอกตัวเองอยู่ได้!!!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-05-2012 16:57:31
สองคนในกระท่อมกลางนา ฝนกำลังจะตก อะไรจะเกิด...
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-05-2012 17:33:02
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 14-05-2012 17:37:14
อุ่นน่ารักอ่ะ  o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 15-05-2012 09:16:46
 :bye2:
หลงรักน้องอุ่นเข้าให้แล้วอะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 11 Version (อุ่น) 13 May 12 หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 16-05-2012 20:29:28
น้องอุ่นน่ารักขึ้นทุกวัน...เป็นเด็กน้อยใสๆ ซน ๆ
พอมีเพื่อนรู้ใจก็เนียนไปกับเค้าได้ทุกที่เลยเนอะ..
เจ้าเดี๋ยวทำเล่นตัว...ท่ามาก..ชิ..น่าหมั่นไส้...
รอตอนเจ้าเดี๋ยวพร่ำเพ้อต่อไปจ๊ะ...

 :L2:น้องอิ๊ก :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 17-05-2012 08:48:58
You’re My BaBy!!

สัด กูกลั้นขำจนหน้าแดงครับท่าน แม่งไอ้เตี้ยนี่มันจริงๆเลยนะ ว่าจะไม่คุยด้วยแล้ว ว่าจะไม่มองมันแล้ว แต่ให้ตายเถอะ กูเห็นมันตั้งแต่พวกมันอัดรถซ้อนท้ายกันมาตั้งแต่หัวนาแล้วล่ะครับ ไม่คิดเลยว่ายิ่งหนีเหมือนจะมีอะไรดันให้กูต้องเจอกับมัน
   “ไรวะ แค่นี้ทำเป็นสะอื้น สำออยนะมึง หนวกหูเว้ยกูรำคาญ” พอกูนอนลงหลับตาเสียงไอ้เตี้ยนี่สะอึกสะอื้นอยู่ล่ะครับ จะว่าไปปูมันหนีบนิ้วมันล่ะ ฮ่าๆ สมทำตัวเอ๋อดีนัก แต่นิ้วมันแดงเลยนะเหมือนจะห้อเลือดที่จริงก็สงสารมันล่ะ ก็กูไม่ใช่คนใจร้ายอะไรนี่หว่า แต่อดขำไม่ได้จริงๆนะ เสือกร้องไห้อีกมันยิ่งน่าตบกะโหลก
   “ฮึ ก็เจ็บนะ ไม่มาลองโดนมันหนีบดูล่ะ” อ้าวๆ มีย้อนครับท่าน ผมเลยผงกหัวขึ้นลืมตาดูมัน แม่งมีน้ำมูกด้วยว่ะร้องไห้จริงจังนะมึงไอ้เตี้ย
   “มึงเสือกไม่ระวังเอง นี่ล่ะทำตัวเป็นเด็กดีนัก สม”
   “ใครเด็ก เราไม่เด็กนะ ปากเสียนะ นี่แน่” สัด จะไม่ให้ว่ามันเหมือนเด็กได้ไงวะกู ดูเอานะ มันเอาก้ามปูที่กูหักออกจากนิ้วมันง้างออกแล้วเอามาหนีบแขนกู ฮ่าๆ สัด เจ็บซะไม่มี
   “ทำเชี่ยไรเนี่ย” กูตวาดไปตามเรื่อง
   “เป็นไงล่ะ เจ็บใช่ไหมล่ะ” “ฮ่าๆ โอ๊ย ไอ้ปัญญาอ่อน หน้าเอ๋อไม่พอนะมึงปัญญาอ่อนอีกต่างหาก” กูเลยลุกขึ้นนั่งล่ะครับ ว่าจะตบหัวมันสักทีง้างมือแล้วนะแต่ก็ไม่ทำ ว่าไปสงสารมันว่ะ แม่งเอาเข้าจริงไอ้เตี้ยนี่ไม่ได้มีพิษภัยอะไรเลยนะ
   “นี่มันต้องแบบนี้” คือปูตัวเมื่อกี๊มันยังอยู่ในตะข้องนะครับเพราะว่าสัดเคนคงจะเอาไปให้แม่มันทำปูดองเพราะตัวบักเอ้บ กูก็คว้าปูตัวนั้นมาชูไว้แล้วก็ยื่นไปใกล้ๆมันครับ
   “แว้กก ไม่เอาๆ” มันกระเด้งหนีล่ะครับ แล้วกูจะปล่อยให้มันหนีง่ายๆรึ กดคอไว้เลยแล้วเอาปูไต่ตรงขามัน
   “แว้กก ไม่เอาๆ ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้า กลัวๆๆ กลัวนะ กลัว” มันร้องเสียงหลงครับ
   “เก่งดีนักเหรอมึง นี่แน่ๆ ฮ่าๆ” แต่ว่าปูมันโดนเอาก้ามออกไปแล้วนะมันจึงทำได้แค่ไต่ แต่ไอ้นี่เวอร์จริงวะ ร้องซะเหมือนกูจะเชือด หนอยแน่
   “จะเถียงกูอีกไหม” พอได้ทีกูก็ขู่เอาไว้ล่ะครับ
“เถียง” “สัด” ดูเอานะครับ มันไม่ได้กลัวกูเลยนะ
   “ดี งั้นให้มันกัดก้นมึงเลย” “แว้กก เอาออกไป เอาออกไป ไม่เอาแล้ว ไม่เถียงก็ได้ เอาออกๆ” มันร้องไห้ด้วยว่ะ แม่งอ่อนจริงอะไรจริง แค่ปูเนี่ยนะ มันดิ้นเหมือนคนหนีตายเลยนะ จะว่าไปกูโหดไปไหมเนี่ย
   “ฮือๆไอ้บ้า นิสัยไม่ดี” อ้าว ด่ากูอีกเดี๋ยวเถอะมึง
   “แค่นี้ก็กลัว อ่อนว่ะ ฮ่าๆ” มันก็ทำหน้างอใส่กูล่ะแต่สนใจที่ไหน ก็ก็นั่งหัวเราะสบายใจเฉิบ
   “แม่นพวกสูเฮ็ดหยังกัน เสียงดังลั่นท่งเนาะ” สัดไม้มาถึงก่อนใครครับ
   “ถามเบิ่งติ๊” ผมบุ้ยปากไปทางไอ้เตี้ยนั่นครับมันนั่งมองหน้าผมเหมือนแค้นใจเลยนะแต่แม่งน่ากลัวมากๆ
   “เป็นหยังคือฮ้องดังแท้” สัดไม้มันก็หันไปถามมันจริงๆนะครับ
   “ไอ้นี่แกล้งเราอ่ะ มันเอาปูหนีบเรา” อ่านะมีฟ้องด้วยโว้ยเฮ้ย
   “สัด ใครแกล้งมึง เสือกไม่ดูเองนี่หว่า” กูทำท่าขึงขัง
   “ปูหนีบ ไสเฮาเบิ่งแน่ เพิ่นว่าคันปูหนีบนิ้วสิเน่าเด้” อ้าวสัดไม้ไปหลอกมันอีกไอ้นี่มันยิ่งจิตตกอยู่ด้วย
   “อ่า จริงเหรอ นายดูให้เราหน่อย เจ็บอ่ะ” อ่านะกระแซะเข้าหาสัดไม้ทันทีครับ
   “อืม จากการวิเคราะห์แล้ว คือสิเน่าอีหลีล่ะโต บ่อเหลือดอก” เอากะสัดไม้ครับท่าทางมันเหมือนหมอดูมากครับทำเสียงนิ่งๆขรึมๆ
   “อ่าไม่เอานะ ทำไงอ่ะ เราจะทำยังไงดี ถึงว่าทำไมมันปวดมากเลยอ่ะ แล้วใบนี่ไม่ได้ช่วยเลยเหรอ” ไอ้นี่ก็เวอร์เหลือเกินทำหน้าเหมือนจะตายวันนี้พรุ่งนี้ล่ะครับ
   “ต้องเอานิ้วให้คนเกิดวันอังคารอม” อ้าวสัดเข้าใจพูดนะมึง
   “อ่า เราเกิดวันเสาร์อ่ะ นายล่ะเกิดวันไร” อ่านะไอ้นี่มันบ้าจี้นี่หว่า ทำหน้าจริงจังมากๆขอบอก
   “วันศุกร์ บักเคนเกิดวันจันทร์ บักเล็กบ่อฮู้ จอยกะบ่อฮู้” พอดีกับเพื่อนๆที่เหลือมันเดินกลับมาล่ะครับ
   “กินต้มปลาเนาะสู บักไม้ไปคัวปลาแน่ะกูสิดังไฟ” สัดเคนมาถึงก็จัดแจงสั่งการเลยครับ
   “เดี๋ยวเฮาเตรียมผักให้” สาวจอยบอกล่ะครับ
   “จอยๆ” แม่งมาดูเองนะกูกับสัดไม้มองหน้ากันแล้วกลั้นหัวเราะเพราะไอ้เตี้ยนี่มันปีนลงจากแคร่แล้วไปหาสาวจอยครับ หน้าตาแบบว่าประหม่ามากๆ
   “หยังอุ่น ว่างฮั่นเฮาได้ยินเสียงฮ้อง มีหยังอยู่บ่อ”
   “บ่อมีๆ จอยเกิดวันไรนะ”
   “วันพุธเป็นหยัง” “อ่า เล็กๆ แล้วเล็กอ่ะ” “เป็นหยังถามวันเกิด เฮาเกิดวันจันทร์” ฮ่าๆ แม่งมาดูหน้ามันนะครับ เหมือนหมาหงอยเลยอ่ะ
   “โตๆ บักเดี๋ยวเด้มันเกิดวันอังคาร” สัดไม้ครับ อ้าวสัด กูลืมไปเลย มันหันมาทำสายตาแบบว่าวิ้งๆในตอนแรกแล้วก็เหมือนไฟนั้นดับลงในทันที แน่ะๆ แถมยังเบะปากใส่กูอีกนะมึง ฮ่าๆ ไอ้เชี่ยนี่มันตลกจริงๆนะให้ตายเถอะ
   “เห็นบ่อสายตามึงน่ะบักเดี๋ยว” สัดไม้ครับเดินมากระซิบผม
   “อีหยังอีกบักห่านี่” ผมตวาดมันไปครับ อะไรกะกูมากมายวะ
   “แน่ะๆ อย่าๆ สายตามึงมันฟ้อง” เชี่ยนี่อะไรของมันวะ พูดจบแล้วก็เดินไปหาสัดไม้ครับมันนินทาผมแล้วก็หัวเราะ กูเดินไปดูเบ็ดอีกรอบก็ได้วะแม่ง
   “นายๆ เดี๋ยวก่อน” ไอ้เตี้ยมันวิ่งตามผมมาครับ
   “ไรอีก กวนตีนกูนะมึง”
   “นายเกิดวันอังคารเหรอ” ดูมันทำหน้าครับ
   “เออ ทำไม” “เอ่อ”
   “อย่าบอกนะว่าจะให้กูอมนิ้วมึง ส้นตีนกูนี่”
   “อ่า ทำไมอ่ะ” “อ้าว สัดยังมีหน้ามาถามใครจะอมวะมึงเป็นบ้าป่ะเนี่ย”
   “อ่า ถ้านายไม่ช่วยเรา มือเราจะเน่าอ่ะ ช่วยเราหน่อยดิ นะนะ” มันอ้อนครับ
   “มึงไปเชื่อมันเหรอ อายุเท่าไหร่แล้วมึงน่ะ กูไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะปัญญาอ่อนจริงๆ” ผมว่ามันไปล่ะครับ แน่ะมีมาทำหน้าเบ้ใส่ผมอีก
   “ก็เราไม่รู้อ่ะ กลัวมันจะเน่าจริงๆ ผิดด้วยเหรอคนไม่รู้อ่ะ” เออนะมีแว้ดเสียงใส่กูด้วย ไอ้นี่
   “เอามือมึงมาดิ” ผมบอกมันครับ จะเชื่อไหมว่ามันยื่นมือมาจริงๆ ทำตาแบบว่าสวรรค์ทรงโปรดแล้วประมาณนั้น ไอ้ห่านเอ้ย ฮ่าๆ กูแอบขำว่ะ
   “อะ อะ ไอ้บ้า” เป็นไงล่ะอย่าเดาเลยท่านว่าผมจับมือมันมาทำอะไร อย่าพยายามเดาเพราะคงเดาไม่ถูกหรอกนะ ฮ่าๆ หน้าตามันตอนนี้ยิ่งกว่าวิ่งหนีงูมาตอนที่มันไปกับสัดเคนเลยนะครับ
   “อมน่ะมันไม่หายหรอก จับเจี้ยวกูนี่แล้วมึงน่ะเอาไปอมเอง รับรองหาย ฮ่าๆ” เสร็จแล้วก็ก็เดินหนีไปเลยปล่อยให้ไอ้เตี้ยนั่นยืนเอ๋ออยู่คนเดียวครับ โว้ยนะกูมีความสุขจังโว้ย
   “มากินเข่าจ้า ห้อมหอมเนาะต้มส่มปลาค่อใส่ใบกะเพราเป็นตาแซ่บแฮง อุ่นๆ คือล้างมือโดนแท้แม่นไปจับหยังมาเดี๋ยวนี่” ฮ่าๆ พอได้เวลาพวกเราก็นั่งล้อมวงกันอยู่ล่ะครับ จอยมันเป็นแม่บ้านช่วยกันกับสัดเคนล่ะครับส่วนที่เหลือรอรับถ้วยข้าวกับถ้วยแกงที่มันสองคนตักแล้วยกขึ้นมาบนแคร่ ส่วนไอ้เตี้ยนั่น ฮ่าๆ ยังล้างมืออยู่เลยนะ แหมๆ ทำเป็นรังเกียจนะมึงไอ้นี่เผลอๆไม่ใช่เอาไปแอบดมเหรอวะนั่น
   “เราจับของสกปรกมาอ่ะจอย แป๊บนะ” สัด นั่นไงครับมองมาทางกูด้วยนะ
   “ฟ้าวๆเด้อ เมิดก่อนเด้” สัดไม้ร้องบอกมันครับแต่หันมายิ้มเยาะกูทำไมวะเนี่ย
   “แม่นจับของสกปรกหรือว่าจับของดีน้อ” อ้าวๆสัดเคนพูดแล้วหัวเราะ ไอ้เตี้ยมันก็ปีนขึ้นมานั่งบนแคร่ล่ะครับ แล้วเชื่อไหมว่าพวกนี้แกล้งมันให้มันมานั่งติดผม ตอนแรกมันยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่นะแล้วก็หันหลังใส่กูเพื่อ
ฌอ้า คือนั่งแนวนั่นล่ะอุ่นบ่อย้านคอเคล็ดบ่” สัดไม้ครับ ไอ้นี่มันคอยจับผิดอยู่ตลอดเวลาเลยนะ อย่าเผลอล่ะ ไอ้เตี้นมันทำหน้าแบบว่านั่งติดหลุมส้วมประมาณนั้นนะครับ แหมๆ กูยันตกกระท่อมดีไหมเนี่ยไอ้เตี้ยนี่
“เราถนัดท่านี้อ่ะ” มันบอกครับแล้วกินต่อตอนนี้กูไม่สนใจอะไรแล้วเว้ยเพราะมันแซ่บเดี๋ยวกินไม่ทันเพื่อนซวยเลย กว่าพวกมันจะเปลี่ยนประเด็นเล่นเอากูทำหน้านิ่งแทบไม่ไหว พอกินเสร็จฝนก็เทลงมาเลยครับแบบไม่ลืมหูลืมตา คือกระท่อมปลายนาของไอ้เล็กมันก็ค่อนข้างใหญ่นะแต่ไม่มากแต่ที่ดีหน่อยคือมันทำหลังคามุงหญ้าคายื่นออกไปกันฝนสาดได้ดีเลยล่ะ พวกเราก็พากันนอนกลิ้งเกลือกกันอยู่ล่ะครับ ขอบอกว่าฝีมือสัดเคนนี่สุดยอดครับท่าน ทำง่ายๆนะต้มน้ำใส่มะขามเปียกซึ่งมีอยู่แล้วที่กระท่อมไอ้เล็กน้ำแกงก็ใส่ตะไคร้หัวหอมเผา ใส่เกลือนิดหน่อยพอน้ำเดือดมันก็เอาปลาช่อนที่มันเตรียมไว้ลงพอเดือดอีกรอบก็ปรุงรสครับแล้วปิดท้ายด้วยใบกะเพรานาที่หอมจัดกว่ากะเพราปลูกแค่นี้ก็เป็นอาหารมื้อสุดยอดแล้วครับ
   “ห้วยนั่นแม่นมีบัวแม่นบ่บักเล็ก” พอเริ่มตะวันคล้อยฝนก็ยังคงเทลงไม่ซาลงเลยผมสัดเคนไอ้เล็กสาวจอยตื่นแล้วนะครับส่วนสัดไม้กับไอ้เตี้ยนั่นยังนอนอยู่เลย อากาสเย็นสบายมากๆครับเย็นถึงขั้นหนาวเลยล่ะไอ้บ้านั่นมันนอนกุมนิ้วตัวเองด้วยนะดิ้นไปดิ้นมาเวอร์จริงๆ
   “แม่น เออลงเอาไปให้แม่แกงดีกว่า”
   “แม่นๆแกงใส่ปลา โอ๊ยบ่ยากสิเว้า” สัดเคนทำตาวาวครับ
   “สูไปปลุกสองโตนั่นแหม่ะสินอนฮอดค่ำติ๊ ทิ่มแม่มันไว้นี่เด้ล่ะ” ผมบอกไอ้เล็กล่ะครับมันเลยเดินไปปลุก
      “แม่นเพิ่นนอนสบายบ่อน้อฝนตกๆแนวนี้” ไอ้เล็กมันเดินไปปลุกไอ้เตี้ยนั่นล่ะครับ ส่วนสัดไม้สัดเคนมันเดินเอาเท้าไปเขี่ยแล้วครับ
   “อื้อ ค่ำแล้วเหรอเล็ก” มันตาปรือลุกขึ้นครับ
   “แม่นๆฝนยังบ่ทันเซาแต่สิฝ่าเมือเลย เฮาว่ามันคือสิตกบ่เซาดอก” ไอ้เล็กมันอธิบาย ไม่ใช่ว่ากูอยากรู้เรื่องหรอกนะเว้ยแต่มันได้ยินเองช่วยไม่ได้
   “อ้อ ไปดิป่ะ” อ้าวสัด พอบอกไปมันลุกเลยครับเดินลงจากแคร่
   “อุ่นๆ อย่าฟ้าว ฮ่วยสิไปไสหมู่เขาสิไปเอาบัวแดง เอาสายมันไปแกงแม่นเอ๋อนอนติ๊เนี่ย” จอยร้องบอกมันครับ ฮ่าๆ ไอ้นี่เอ๋อนอนครับท่าน เพราะมันเดินออกไปยืนตากฝนพอโดนฝนมั้งเลยตื่น สัดเอ้ยเอ๋อสุดๆ
   “แม่นเพิ่นมีความสุขน้อผู้ลางคนน่ะ” พอเดินไปที่คูห้วยเขมรที่เขาขุดสัดเคนก็พูดขึ้นลอยๆล่ะครับ
   “ไผ มึงว่าไผ” คือมันพูดอยู่ใกล้ๆกูอ่ะนะเลยถาม
   “ฮ้อนโตติ๊ บักไม้มาเบิ่งแน่ล่ะมึงคิดคือกูบ่อ” อ้าวสัดเคน กวนตีนอีกล่ะไม่ยอมบอก
   “แม่นคั่กต่างกันหลายกับหว่างเซ้า หน้าตามึงมันมีความสุขหลาย เถิงสุขคั่กน้อมึง” มันล้อเลียนผมครับเตะสักทีดีไหมเนี่ย จะว่าไปกูเผลอหัวเราะไปหลายทีแล้วเหมือนกัน
   “เซาเว้า ไปๆมึงสองคนลงไปเอาบัว” ผมเปลี่ยนเรื่องครับจะได้จบประเด็นไม่งั้นแม่งพูดอยู่นี่ล่ะผมไล่มันสองคนไปเอาบัวมีไอ้เล็กไปด้วยผมก็เดินไปด้วยล่ะครับฝนก็ยังไม่หยุดนะ
   “อุ่นๆ เฮาสองคนถ่าอยู่นี่ล่ะ ให้พวกเพิ่นไปเอามาเผื่อ” จอยมันพูดขึ้นล่ะครับเพราะไอ้เตี้ยมันทำท่าจะเดินตามเรามา มันไม่ได้กลัวเปียกเลยนะนั่น
   “แม่นๆอุ่นถ่าอยู่นี่ล่ะเฮาสิเอามาให้” ไอ้เล็กมันก็ร้องขึ้นล่ะครับ ไอ้เตี้ยมันถึงยอมหยุด
   “น้ำไหลแฮงแท้ว่ะสู สิลงได้บ่อ” พอเดินไปถึงห้วยเขมรขุดมองลงไปในน้ำสีขุ่นจัดพวกเราก็ยืนรั้งไว้ก่อนล่ะครับ คิดอยู่ว่าถ้าลงนี่จะโดนน้ำพัดไปไหม
   “ป้าดเบิ่งน้ำไหลแน่ล่ะเฮ้ย อ้อมไปเอาหว่างนายายมีบ่ มันเป็นเวิ้งน้ำคือสิบ่อไหลปานนี้” ไอ้เล็กมันเสนอล่ะครับพวกเราก็เลยเดินอ้อมคูไป ว่าไปแล้วกูเริ่มหนาวแล้วเนี่ยปากเริ่มสั่นแล้วครับ แต่จะเล่าให้ฟังว่าพอลงไปในห้วยน้ำมันก็ไม่ได้เย็นเหมือนน้ำฝนหรอกนะครับ เออค่อยยังชั่วหน่อย พวกเราได้บัวมาเยอะเหมือนกันคนละหอบแล้วเดินกลับมาที่กระท่อม
   “คือเอามาหลายแท้มันสิบ่อดับบ่” สาวจอยร้องทักครับพอเห็นพวกเราหวบสายบัวมา
   “โอ้ยมันบ่ดับดอกเว้าคือหลายบัดสาบัว” สัดเคนมันพูดครับ
   “กะเอามาหลายโพดเนาะ สิกินเหมิดติ๊เนี่ย” จอยมันยังค้านอยู่ เอ๊ะ ยังไงวะแค่คนละหอบเนี่ยนะเยอะเรื่องมากนักก็ไม่ต้องเอาเว้ย รำคาญ
   “ฮ่วย กินบ่อเหมิดกะให้เป็ดกินกะได้ตั้วเดี๋ยวนี่ เป็นหยังสิมาฮักธรรมชาติยามนี้ หรือโตสิบ่เอา” สัดไม้ครับยักคิ้วให้สาวจอย
   “เออๆ ไปเมือมันสิค่ำ ตาซังเนาะบักห่ามึง” อ้าวนะ ด่าสัดไม้อีกครับงอนค้อนไปโน่นแล้ว
   “อุ่นๆ อ่ะเฮาเอามาให้ เอาไปให้เอื้อยต้อยเพิ่นแกงสู่กินเด้อ บักเดี๋ยวมึงแบ่งปลาให้เพิ่นนี่นำแน่ะเด้อ” อ้าวไอ้เล็กไหงเป็นกูล่ะปลากูหามาได้นะเว้ยเฮ้ยเกี่ยวไรกะมัน
   “เราไม่เอาหรอกเล็ก ไม่เป็นไร”
   “บ่ออยากกินติ๊” อ่านะ มันไม่เอายังจะไปยัดเยียดให้มันอีกนะ
   “ก็ไม่อยากได้ของใคร” สัด หมายถึงกูสิเนี่ยเพราะมันทำสายตาเหยียดหยามกูมากๆเลยนะ
   “ฮ่วย บ่เอากะบ่ต้องเอาติ๊” กูพูดขึ้นหนอยแน่ไอ้เตี้ยนี่
   “เออๆ บ่เอากะบ่เอา ป่ะเมือ จอยป่ะเฮาไปส่ง” ไอ้เล็กครับเดินไปหาสาวจอยแล้วเดินนำหน้าไป
   “เออแม่น ซั่นบักเคนมึงมากับกู” อ้าวสัดไม้เดินตามสองคนนั้นไปอีกครับเหลือกูกับไอ้เตี้ยนี่
   “อ้าว เราล่ะเล็ก จอยๆ เราอ่ะ” ไอ้เตี้ยครับมันวิ่งตามเพื่อนๆไป กูว่าแล้วเพราะเห็นสัดเคนกับสัดไม้มันซุบซิบอะไรไม่รู้กับไอ้เล็ก นี่คงไม่คิดให้กูไปส่งไอ้เตี้ยนี่หรอกนะ
   “โตเมือกับเดี๋ยวเด้อ ให้เดี๋ยวไปส่ง”
   “เรื่องหยังกูสิไปส่ง บ่แม่นคนขับรถไผเด้อ” กูสวนขึ้นทันทีครับ
   “เรากลับเองได้” ดูมันครับหันมาทำหน้าหยิ่งๆใส่กูอีกนะ
   “บ่อดีดอกอุ่นมันสิค่ำแล้ว ให้เดี๋ยวนั่นล่ะไปส่ง โตกะไปส่งหมู่แน่ติ๊ล่ะเดี๋ยว เคยไปดู๋กว่าหมู่บ่แม่นติ๊” อ้าวสาวจอยพูดแล้วยิ้มหมายความว่าไรวะ
   “เขาคงลำบากอ่ะจอย ไม่เป็นไร” ยังปากดีอยู่นะแล้วมึงรู้เหรอว่ากลับยังไง ไอ้เตี้ยนี่ คอยดูนะกูจะทิ้งไว้นี่ล่ะสมน้ำหน้าปากดีนัก กูเดินไปเลยครับไม่สนใจมัน
   “อย่าสิเว้ายากหลายอุ่น เมือกับบักเดี๋ยวนั่นล่ะ” ไอ้เล็กครับ ฮ่าๆ เป็นไงล่ะโดนไอ้เล้กด่าเอาไอ้เตี้ยมันหน้าจ๋อยลงเลยนะ อ้าวแล้วกูล่ะแม่งเอ้ย เอาไปเอามาจะยัดเยียดให้มันกลับกับกูให้ได้ว่างั้นไอ้พวกนี้
   “ก็เค้า” “พูดมากอยู่นั่นล่ะ จะกลับไหมมึงน่ะ ไม่หนาวไง” กูรำคาญครับแม่งพูดอยู่ได้จะมาก็มาวะกูหนาวจะตายอยู่แล้วเนี่ย อ้อ ที่จะไปส่งมันน่ะไม่ได้มีอะไรนะเว้ย อย่าคิดลึกไม่ได้คิดอะไรกับมันทั้งนั้นล่ะแค่เห็นแก่มนุษย์โลกหรอกนะ

เขียนโดย อิ๊กกี้เด้อ

ปล. ช่วงนี้มาแค่นี้ก่อนนะครับเพราะเปลี่ยนรอบวุ่นวายร่างจะแตกอยู่แล้ว เหอๆ
ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ขอให้มีความสุขในการอ่านครับผม
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 17-05-2012 09:24:39
มาต่อแล้วเย้ๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 17-05-2012 10:21:52
 :กอด1: ขอบคุณค่ะ เขียนบรรยากาศได้เห็นภาพมากๆเลย อยากกินต้มปลาแซ่บๆ ขึ้นมาทันที ^_^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-05-2012 10:37:03
บักเดี๋ยวนิกวนไม่เลิก :m16:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 17-05-2012 11:06:21
คิดภาพตามเลย อยากกินๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 17-05-2012 11:27:00
ฮักแฮงแต๊น่อ  ปากแข็งแต๊น้อ...ฮักเมาเปิ้นก่ยะเปิ้นจ๊ำใจ๋น้อ

ปล.บ่ได้เว้าอีสานเด้อจ้า เปิ้นอู้กำเมือง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 17-05-2012 11:55:45
อยากเห็นคู่นี้สวีทททททจังเลย><
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-05-2012 12:34:57
เดี๋ยวเอ๊ย ปากแข็งเข้าไป คนอื่นเขารู้ทันหรอก
แอบยิ้มปากฉีกแล้วมั้ง
น้องอุ่นน่ารักน่าแกล้งที่สุด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-05-2012 14:01:34
ต้มส้มถ้าจะอร่อย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 17-05-2012 16:39:59
เพื่อนๆ วางแผนอะไรกัน จับคู่เหรอ... o18
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: luv_khun ที่ 17-05-2012 17:28:29
ขอบคุณมาก  ถึงภาษอิสาน จะรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง ก็เอานะ สนุกดีค่ะ ชอบแนวนี้

 ....ข้อยฮักเจ้าเด้อ ...
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 17-05-2012 17:38:53
สนุก  รอต่อๆ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 17-05-2012 19:09:21
อุ่นน่ารักค่ะ บักเดี๋ยวเริ่มชอบอุ่นแล้วสิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 17-05-2012 19:37:29
น้องอุ่นเอ้ย จะน่าแกล้งไปไหน
นายเดี๋ยว เดี๋ยวนายจะหลงน้องอุ่น

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 17-05-2012 19:57:36
เมื่อรัยคู่นี้จะดีกันได้สักที ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 17-05-2012 20:22:15
แหม...เสียดายยย...น้องอุ่นน่าจะจัดเต็ม...
มีจับ..ก็ต้องมีขยำ..แล้วก็...บีบบบบนิ
เจ้าเดี๋ยวอยากให้นู๋อุ่นจับละซิ...รู้หรอก  :really2:

 :L2: น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-05-2012 21:55:10
อ่านกี่ที ก็อยากกินเมนูในเรื่องทุกอย่างเลยอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 17-05-2012 22:51:25
 :กอด1: เดี๋ยวก็แกล้งอุ่นอยู่นั่นแหละ หลังๆนี่เก็บอาการไม่ค่อยอยู่นะ เพื่อนๆเขามองออกหมดแล้ว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 18-05-2012 11:22:15
สนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 11 Version (เดี๋ยว) 17 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 18-05-2012 19:58:27
อยากเห็นเดี๋ยวทำตัวดี ๆ พูดจาหวาน ๆ ลงท้ายครับทุกคน
ง้องแง้งกับอุ่นสองคนคงจะน่ารักน่าดู >,,<"
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 19-05-2012 08:08:01
Don’t call Me BaBy!!

ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยนะเพื่อน ฮึ ทำไมต้องให้ผมกลับพร้อมไอ้บ้านี่ด้วยเนี่ยไม่เข้าใจตอนมาก็มาด้วยกันแล้วตอนกลับทิ้งผมซะงั้นคนเรานะแล้วจะให้ผมกลับกับมันยังไงอ่ะคนไม่ชอบขี้หน้ากันพวกนี้นี่คิดอะไรอยู่ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนมันก็ไม่เป็นผลหรอกนะเกลียดมันแล้วอ่ะ
   “คิดเชี่ยไรอยู่เร็วดิวะกูหนาวนะมึง” เห็นไหมครับแค่คิดมันยังด่าผมเลย แล้วนี่มันจะไปส่งผมไม่พูดไปสามชาติสิบชาติเลยเหรอ แหมนะกูอยากกลับกะมึงตายล่ะไอ้บ้าเอ้ย
   “ไปดิ” ผมพูดออกไปครับ ฝนบ้านี่ก็ไม่หยุดซะทีจะตกอะไรมากมายวะ หนาวนะเนี่ย
   “อย่ามาสั่งกู” มันตวาดกลับมาล่ะครับ ใครสั่ง กูไม่ได้สั่งซะหน่อยแค่บอกไปแค่นั้นเอง เห็นไหมว่ามันโรคจิตบ้าอำนาจ นี่ไม่ใช่จะพาผมไปปล่อยทิ้งไว้กลางทางตรงไหนหรอกเหรอ
   “เอ้ย” อ่า ไอ้บ้า พอมันออกตัวมันก็กระโจนไปเลยนะครับ ผมก็รีบคว้าเอวมันไว้ มันใช้มุขเดิมๆซึ่งผมก็ไม่เคยรับมือทันเลยอ่ะ ทำไมวะเนี่ย
   “จับกูอีกนะมึง แน่ะๆ” อยากจับมาก แหวะ อึ๋ยย คิดถึงตอนที่มันเอามือผมไปจับไอ้นั่นมันแล้วสยอง ไอ้บ้าคิดได้ยังไงที่ว่ามือจะเน่าก็คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง
   “หนาวอ่ะอย่าขับเร็วได้ไหม” พอมันขับไปได้สักพักผมก็ครางออกมาล่ะครับ ต้องใช้คำว่าครางเพราะปากมันสั่นมากๆ หนาวถึงตับถึงไตเลยนะมันหนาวแบบสะบั้นๆยังไงไม่รู้
   “กูก็หนาวเว้ย ไม่รีบกลับแล้วจะหายหนาวไหม มาใกล้ๆกูดิ” มันหันมาตวาดครับแล้วเสียงอ่อนลงในประโยคสุดท้าย ไปใกล้มึงแล้วมันจะหายหนาวเหรอ คิดบ้าๆ
   “เฮ้ย แค่ใกล้ๆไม่ต้องเบียด คิดอะไรกะกูป่ะเนี่ย สัด” เอ่อ อุรดิศทำไมเข้าไปใกล้มันจังล่ะ โอ๊ยนะกู พอมันพูดจบผมก็เบียดเลยสิครับหนาวจะตาย
   “นี่นาย เงียบๆสักพักได้ป่ะ เราหนาว” นี่แน่ ตอกหน้าไปหนึ่งดอกมันเงียบครับ อย่าหาว่าอุรดิศปากกับใจไม่ตรงกันเลยนะ มันหนาวมาก หนาวจริงๆผมเอาหน้าซุกบังฝนที่แผ่นหลังของมันล่ะครับมือยังจับขาตัวเองอยู่ แต่ด้วยความหนาวหรืออะไรไม่รู้ คือว่าไอ้บ้านี่มันเหมือนประชดผมล่ะนะครับพอบอกว่าอย่าขับเร็วมันเล่นขับแบบว่าเดินตามยังทันเลยนะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือว่าผมทนไม่ไหวเพราะมันหนาวมาก หนาวจนปากสั่นตัวสั่นผมเลยเอาหน้าแนบกับหลังของมัน เออนะ หลังมันอุ่นดีนะไม่รู้สิมันเหมือนร้อนๆ จากเอาแค่หน้าก็เริ่มเอาตัวเบียด กอดเลยมันหน่อยละกันคงไม่เป็นไรหรอก
   “เฮ้ย” มันร้องออกมาล่ะครับ
   “ขอกอดหน่อยเราหนาว” ผมพูดผ่านแผ่นหลังของมันไป ใครจะว่ายังไงก็ช่างเถอะผมไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้รับความอบอุ่นนี่ตายแน่ๆ มันนิ่งครับไม่พูด ให้ตายเถอะผมเพิ่งรู้ว่าคนที่เขาขาดความอบอุ่นนี่มันเป็นแบบนี้นี่เอง ผมเหมือนคนหิวข้าวหรือกระหายน้ำสักอย่างเพราะผมกอดรัดตัวมันแน่นขึ้นเรื่อยๆเหมือนว่าความอุ่นร้อนจากแผ่นหลังมันคือขุมทรัพย์ที่ผมหามานาน
   “ไหนบอกเกลียดกู กอดแน่นเชียวนะมึง” มันพูดขึ้นล่ะครับผมว่าจะปล่อยมือแต่ไม่เอาๆ จะมามีอคติอะไรตอนนี้ตายกันพอดีมันอยากพูดอะไรก็ให้มันพูดไปสิ ก็อย่างน้อยผมก็รู้สึกอุ่นขึ้นล่ะน่า
   “ว้าย พากันไปไสมา คือเปียกมอดยอดแนวนี้น้อ” พอถึงบ้านผมได้ยินเสียงพี่ต้อยร้องขึ้นเสียงดังมากแต่ทำไมตาผมลืมไม่ขึ้น
   “แม่นสิไข้บ่เอื้อย โตฮ้อนคือหยังนี่” เสียงไอ้บ้านั่นล่ะครับ
   “ป้าดคือคีงฮ้อนแท้ อ้าว โตกะคีงฮ้อนเด้ล่ะเดี๋ยว แม่นสิไข้นำกันบ่”
   “บ่ดอกเอื้อยผมเป็นนักกีฬาเด้ล่ะ ฮ้อนย้อนเพิ่นนี้กอดมานำทางล่ะ เอื้อยพาเพิ่นไปเปลี่ยนเสื้อแหม่ะ ผมสิมือแล้ว อ่ะนี่สายบัวกับปลาผมไปใส่เบ็ดมา” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นครับ พอถึงบ้านมันรู้สึกหนักหัวขึ้นมา ผมมองหน้ามันแต่ไม่ค่อยชัด
   “นาย เราขอบใจนะ” ผมพูดกับมันครับ
   “กูอยู่นี้เว้ย นั่นพ่อมึง” เอ่อ
   “ไหวไหมลูก ขอบใจมากนะลูกเดี๋ยว อาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่านะพ่อว่า ท่าทางอุ่นจะเป็นไข้แล้วล่ะไปตากฝนที่ไหนกันมา มาๆ ไปอาบน้ำก่อน ต้อยไปเตรียมผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เดี๋ยวหน่อย อุ่นอาบน้ำไหวไหมลูก” เสียงของพ่อผมล่ะครับเหมือนว่าพ่อกำลังจับตัวผมอยู่ มันหูอื้อตาลายมาก และที่สำคัญผมหนาวจังเลย ผมพยายามลากสังขารขึ้นไปอาบน้ำล่ะครับ พอโดนน้ำอุ่นมันก็สบายตัวขึ้นนะ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าแค่นั้นล่ะผมก็ไม่ได้รับรู้อะไรอีกเลย
   “อือ หนักหัวจัง” ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาล่ะครับ อ้าวนี่ฝนยังตกไม่หยุดอีกเหรอเนี่ย เสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยงๆอยู่ข้างนอกล่ะครับ
   “ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงมึง” เอ่อ แล้วไอ้นี่มันมาทำไมในห้องผม เอ๊ะ ห้องผมหรือเปล่าวะ อย่าบอกนะว่ามันนอนค้างที่บ้านผม อีกแล้วนะมึงตลอดๆ
   “อื้ม” เอ่อ ทำไมมันคอแห้งจังเลยวะ อยากถามมันนะว่ามันมาอยู่ในนี้ได้ยังไง อยากถามอะไรเยอะแยะไปหมดแต่มันพูดไม่ออก
   “กูค้างที่นี่ล่ะ พ่อมึงไม่ให้กลับ มึงเป็นไข้ พ่อมึงให้หมอมาฉีดยาให้เมื่อวานถ้าดีขึ้นพ่อมึงจะไม่พาไปหาหมออีก” มันพูดครับ ผมหันไปมองหัวเตียงเพราะมันมีนาฬิกาอยู่อยากรู้ว่ากี่โมงแล้ว
   “วันนี้วันเสาร์ เมื่อวานมึงกับกูไม่ได้ไปโรงเรียน” มันเหมือนรู้ล่ะครับ เอ่อ หา แปลว่าผมขาดเรียนเหรอเนี่ยอะไรอ่ะยิ่งใกล้จะสอบอยู่แล้วด้วยนะ
   “เราหิวน้ำ” ผมครางออกไปล่ะครับ จะพูดแต่ละคำนี่มันลำบากยากเย็นเหลือเกินนะผมไม่ได้มองมันหรอกนะครับเพราะสภาพตอนนี้มันคงไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่นัก เออจริงสิ แล้วมันมาอยู่กับผมได้ไงเนี่ย
   “อ่ะ กูก็ไม่ได้อยากอยู่หรอกนะเว้ย พ่อมึงขอร้องไว้เอง ฝนมันยังไม่หยุดตกมาวันกว่าๆแล้วเนี่ย มึงหายตัวร้อนยัง” มันยื่นแก้วน้ำให้ผมครับ เอ๊ะ แล้วทำไมมันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่วะ มันมานั่งข้างๆเตียงแล้วจะเอามือมาจับที่หน้าผากผมล่ะครับ ผมเลยเอาหน้าหลบไปทางอื่น
   “อย่ากระแดะนักเลยวะ กูจะได้ไปบอกพ่อมึงถูก สัดนี่อยากจับตัวตายล่ะ” อ่านะ ด่ากูอีก หนอยแน่
   “ไข้ลดแล้วนี่หว่า มึงหิวไหมกูจะได้ไปบอกเจ๊แกให้” มันถามครับผมพยักหน้าตอนแรกว่าจะไม่ยอมให้มันจับหรอกนะครับแต่เอาไปเอามาจะมามัวเล่นตัวอยู่นี่คงได้ตายกันพอดีสิ เรื่องอะไรล่ะ
   “ซ่วงแล้วติ๊ค่าคุณอุ่น เอื้อยล่ะตกใจเหมิด กินข้าวต้มน้อค่า” พี่ต้อยเดินเข้ามาในห้องล่ะครับมีพ่อผมเดินตามเข้ามาด้วย ไอ้นั่นมันยืนอยู่ที่ประตูมองมาที่ผมอยู่
   “ค่อยยังชั่วแล้วนี่ลูก เวียนหัวไหม ไข้เราขึ้นสูงมากเลยนะ” พ่อผมมานั่งข้างๆเตียงล่ะครับเอามืออังที่หน้าผากของผม ตอนนี้เองที่รู้สึกว่าอยากกอดพ่อมากไม่รู้สิพอเราอ่อนแอเราก็อยากจะคว้าหาเอาความอบอุ่น
   “อ้าวลูกคนนี้ เป็นไรไปลูก” ผมกอดแขนพ่อผมไว้ล่ะครับ
   “อุ่นคิดถึงพ่ออ่ะ” ผมพูดออกมา แทนที่พ่อผมจะซึ้งนะหัวเราะออกมาซะงั้น
   “พ่อก็อยู่นี่ไง อะไรอุ่นไม่อายเพื่อนเหรอลูก” ฮึ ทำไมต้องอายมันสิควรจะอายเพราะนี่มันห้องผมนะ มันน่ะมาอยู่ตั้งวันกว่าๆแล้วไม่กลับบ้านกลับช่องบ้างหรือไงนะ
   “ไม่อายอ่ะ อุ่นไม่สบายนะพ่อ อุ่นคงไปสอบไม่ได้หรอก” ผมพูดออกมาเพราะเห็นว่าเป็นช่องทางที่ดี อิอิ
   “นั่น ไม่ได้หรอกนะ วันนี้วันเสาร์เอง ถ้าไม่หายพ่อจะพาไปให้หมอเขาฉีดยาอีกรอบ”
   “อ่ะ ไม่เอาอ่ะพ่อ อุ่นหายก็ได้” เสียงพ่อผมกับพี่ต้อยหัวเราะเสียงดัง ไอ้บ้านั่นก็หัวเราะล่ะครับ จะหัวเราะเพื่อคนมันกลัวเข็มนี่หว่า
   “กินข้าวแล้วกินยา นอนพักซะนะอุ่น ขอบใจลูกเดี๋ยวมากนะที่อยู่เป็นเพื่อน” พ่อผมลูบหัวแล้วหันไปบอกกับมันครับ สักพักก็พากันลงไปหมด ผมก็กินข้าวต้มปลาที่พี่ต้อยทำแล้วกินยา หลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็ตอนเช้าแล้วครับ ท้องฟ้าเปิดแจ่มใสมากต่างกับเมื่อวันและเมื่อวันก่อน ผมเดินลงไปจากบนห้องครับ
   “พ่ออ่ะพี่ต้อย” ผมเห็นพี่ต้อยกำลังง่วงอยู่กับการเช็ดถ้วยจานอยู่ล่ะครับ
   “อ้าว ตื่นแล้วติ๊ค่าคุณอุ่น คุณพ่อซายไปเฮ็ดงานค่า เพิ่นมีงานด่วน” พี่ต้อยบอกครับผมพยักหน้าแล้วไปนั่งที่เก้าอี้หวาย
   “วันนี้วันไรอ่ะพี่ต้อย”
   “วันอาทิตย์เด้ค่า แต่คุณพ่อซายต้องเฮ็ดงานด่วน คุณอุ่นสิกินหยังบ่เอื้อยสิเฮ็ดให้”
   “อยากกินไมโลอ่ะพี่ต้อย”
   “อุ๊ย เฮ็ดง่ายโพดค่า มาเฮ็ดเองโลดเอื้อยบ่ว่าง” เอ่อ นะแล้วจะมาเสนอตัวเพื่อ อะไรอ่ะ สรุปผมก็ต้องเดินไปชงไมโลกินเองล่ะครับแล้วมานั่งมองนั่นนี่อยู่หน้าบ้าน ท่าทางฝนจะตกหนักจริงๆล่ะเพราะเห็นต้นไม้มันลู่ลงยังไม่กลับขึ้นเหมือนเดิม ผมเดินออกไปดูต้นไม้หน้าบ้านล่ะครับ อากาศดีจริงๆนะ
   “อุ่นๆ เป็นจั่งได๋ เฮาได้ข่าวว่าโตเป็นไข้ติ๊” พอยืนอยู่สักพักจอยมันก็ขับรถมาหน้าบ้านล่ะครับมีไอ้น้องคนนั้นมาด้วย
   “อื้ม เราคงโดนฝนอ่ะ แต่หายแล้ว แล้วจอยอ่ะไม่เป็นไรเหรอ” ผมยิ้มให้ครับ ดีใจนะที่ได้เห็นเพื่อนมาเยี่ยม
   “สบายๆ เฮาบ่เป็นหยังดอก เมื่อวานเฮากะมาหาแต่โตนอนอยู่เลยบ่ได้คุยกัน”
   “คีงบางเนาะ” ไอ้เด็กคนนั้นมันพูดขึ้นล่ะครับ
   “บักโจ้ บ่อปากกะบ่มีไผว่ามึงเป็นใบ้เด้ล่ะ” จอยมันเอ็ดน้องมันไปครับแล้วไอ้เด็กนั่นก็หุบปาก ผมนั่งคุยอยู่กับจอยเรื่องสอบล่ะครับ พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เหมือนไข้จะตีกลับเลยนะ มันเวียนหัวมากอารมณ์เสียหนังสือไม่ผ่านตาสักตัวแล้วนี่กูจะทำข้อสอบได้ไหมเนี่ย
   “กินตำบักหุ่งบ่ อยากกิน” ไอ้เด็กนั่นมันชวนขึ้นล่ะครับ ผมนี่ขนลุกไปตามๆกัน
   “ไม่เอาอ่ะกลัวท้องเสียอีก” ผมทำท่าขยาดสุดๆ
   “เขาว่ากินเผ็ดๆเด้ล่ะจั่งสิซ่วงไข้”
   “บ่กินดอก เป็นหยังมาอยากกินตอนนี้” จอยมันหันไปว่าน้องมันครับ
   “กินติ๊ค่าเอื้อยกะคึดอยากคือกัน บักหล่าโตไปซื้อให้แน่ะ เอาแบบเผ็ดๆลืมบ้านเลขที่เด้อ อิอิ” อ้าวนะพี่ต้อยครับ โผล่มาจากไหนไม่รู้ ทำหน้าแบบว่ากระหายอยากมากๆ
   “อ้าว อุ่นยังไม่หายไข้นะพี่ต้อย”
   “คุณอุ่นกะกินข้าวต้มไปติ๊ค่า ซุมเฮากะสิกินตำบักหุ่งแซ่บๆ” อ่านะ มีงี้ด้วย สรุปทั้งสามคนก็กินส้มตำสีแดงจัดแล้วให้ผมนั่งกินข้าวต้มมองดูอยู่ตาปริบๆ มันยุติธรรมแล้วหรือเนี่ย โอ๊ยนะ แต่ดูๆไปก็กลัวท้องจะเสียล่ะครับไม่ไหวหรอกไม่เสี่ยงดีกว่ากินข้าวต้มไปก่อนอย่าให้หายนะ
   “อ่านหนังสือฮอดไสแล้วอุ่น อ่านทันเบ๊าะ” พอกินข้าวเสร็จจอยมันก็ถามล่ะครับ หือ ได้ยินแว่วๆอะไรนะ อ่านหนังสืออะไร ยังไงงง
   “เอ่อ ยังเลยอ่ะ สอบไม่ได้แน่ๆ” สารภาพตามตรงครับ คนยิ่งหัวอ่อนอยู่ด้วยตายท่าเดียวเลยสิ
   “เฮากะอ่านบ่ทันคือกัน บ่เป็นหยังดอกสอบกลางภาคไปเอาสอบปลายภาคกะได้เนาะ อิอิ” เออ มันพูดเข้าท่านะ แบบนี้ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย อยากแปะมือจังเลยจอย
   “ฮึ่ย ซุมหัวบ่ดีเขาคุยกันแน่ล่ะเอื้อย จังซี่ล่ะบัดยามเรียนพาแต่กันหลบโรงเรียน สม” อ้าว ไอ้น้องนี่เดี๋ยวเถอะ
   “เป็นตาซังหลายบักโจ้ ฮู้อยู่ดอกว่าเรียนเก่งนะ เป็นหยังล่ะเรียนบ่เก่งแต่มีแนวดี” จอยมันเถียงครับ
   “อีหยังล่ะแนวดี คือแนมบ่เห็น ฮ่าๆ”
   “หน้าตาไง” ผมตอบครับ อ้าวแล้วจะอึ้งเพื่อทั้งจอยทั้งน้องมัน ผมพูดอะไรผิดก็มันคือเรื่องจริงอ่ะ
   “ป้าดติโธ่ มั่นใจในตนเองเนาะ” ไอ้เด็กนี่มันร้องขึ้นล่ะครับ
   “มั่นอีหลีอุ่น อิอิ ฮู้อยู่ดอกว่าเจ้าเป็นตาฮัก” จอยมันพูดขึ้นแล้วหัวเราะพร้อมกับน้องมันผมก็อายสินะ อ้าวนึกว่าพูดเล่นกันอ่ะ ก็เลยพูดความจริงบ้างอะไรบ้าง ไรอ่ะ
   “บู้ยเบิ่งเพิ่นอายแน่ล่ะเอื้อย อ้าวอ้ายคันมั่นใจเป็นหยังคือสิอายน้อ” มันล้อผมล่ะครับคิดว่านะ
   “แหมนะ ก็มีบ้างอ่ะ เถียงสิว่าพี่ไม่หน้าตาดี”  แถครับแถ
   “คร้าบ อ้ายเพิ่นผู้จบ สาธุเด้อเกิดมาบ่เคยพ้อเคยพบคนผู้จบผู้งามคืออ้ายน้อ”
   “ฮ่าๆ บักโจ้ โพดหลาย แต่โตกะเป็นตาฮักอีหลีเด้ล่ะอุ่น คือเด็กน้อยเอ๋อๆนี่ล่ะเฮาว่า” เอ่อ ชม? อันนี้เขาเรียกชมเหรอวะจอย
   “แม่นๆ คือคนบ่เต็มนี่ล่ะ” “บักโจ้ มึงติ๊บ่เต็ม ไปไกลๆโลดลามน้อมึง” อ่านะด่ากันเองซะงั้น เออ กูมันเอ๋อแต่น่ารักอ่ะใครจะทำไม โอ๊ย โมโหเหลือเกิน กว่าพวกนี้จะกลับไปได้เราก็เถียงกันอยู่หลายยกครับเรื่องความมั่นใจมากของผม อะไรวะแค่บอกว่าผมหน้าตาน่ารักนี่ผิดหรือไงนะ มันล้อไม่ยอมลงเลยอ่ะท่าน เอาเป็นว่าวันจันทร์ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปสอบล่ะครับ ก่อนออกจากบ้านก็ขอพรพ่อทำตามปกติเวลาจะสอบ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยนะ สอบตกตลอดล่ะแต่ก็นะเพื่อความเป็นศิริมงคลเอาหน่อยๆ
   “มึง ขึ้นมาดิ” พอผมเดินจะออกไปถนนใหญ่ไอ้บ้านั่นมันก็โผล่พรวดพราดออกมาจากไหนไม่รู้ครับไม่ทันมอง ผมยืนมองมันอยู่
   “จะพิจารณากูอีกนานมะ ถึงจะขึ้นรถกูได้เนี่ย จะมองทำไมวะในเมื่อมึงเคยมากกว่ามอง” หือ แปลว่าไรวะ
   “เคยจับแล้วเอาไปดมแล้วนี่มึงน่ะ” อ่า แว้กก ไอ้บ้า น่าเกลียดที่สุดใครเขาจะไปทำแบบนั้น
   “เราไม่ได้ดมนะ”
   “อย่าๆ กูไม่เชื่อ ของกูใครๆก็อยากดมทั้งนั้น กูเห็นนะว่ามึงเอามือขึ้นดม” เอ่อ
   “ไม่ได้ดม นายเป็นบ้าป่ะ”
   “แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดง นั่นๆ ดมก็ดมดิกูไม่ได้ว่าไรนี่ ของดีก็งี้ล่ะนะกูชินว่ะ ฮ่าๆ” ปวดปากจะเถียงกับมันครับ ไอ้นี่มันคงว่างมากถึงได้มาวอแว แต่เอ๊ะ มันไม่คุยกับผมนี่แล้วนี่อะไร จะมาไม้ไหนอีก
   “กูรับปากพ่อมึงไว้ว่าจะมารับ” มันทำเสียงเครียดล่ะครับ
   “เราหายแล้ว ขอบใจ”
   “ไม่ได้ ยังไงมึงก็ต้องไปโรงเรียนกับกู กูรับปากแล้วกูไม่เคยคืนคำ”
   “นั่นมันนายรับปากกับพ่อเรานี่ ไม่ได้รับปากกับเรา”
   “จะขึ้นไม่ขึ้น”
   “ขึ้น” อ้าว อุรดิศ อะไรอ่ะ โอ๊ยอยากจะตบตัวเองจัง แต่ว่าไปแล้วเรื่องอะไรผมจะยอมเดินล่ะนะ เดินทุกวันเดี๋ยวน่องโป่งทำไงอ่ะ ไม่ดีหรอกมันไม่คุ้มกัน เรื่องที่ไม่ชอบกันเอาไว้ก่อน ถ้าเราจะทำตัวเป็นตอไม้บ้างคงไม่มีใครว่าหรอกนะ อิอิ เห็นมะว่าอุรดิศฉลาดเป็นที่สุด
   “มึงชอบให้กูมารับทุกวันป่ะ” เอ่อ มันถามขึ้นครับ อะไรของมันวะผมเริ่มงงแล้วนะ
   “ไม่ต้องหรอก”
   “ถามว่าชอบหรือไม่ชอบ”
   “ไม่ชอบ เราไม่อยากพึ่งใคร”
   “สัดเล่นตัวนะ อยากเดินไง” มันหันมาว่าผมครับ เออ แปลกนะทำไมมันไม่ตวาดเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ ไอ้นี่แอบกินยาผมป่ะเนี่ยแล้วกินไม่ครบเลยไม่เต็ม อิอิ
   “แล้วมึงชอบกับข้าวที่แม่กูทำป่ะ” เอ๊ะ ทำไมมันถามเรื่องนี้วะเนี่ย เริ่มสงสัย ต้องมีอะไรแน่ๆ
   “ถามไมอ่ะ” “กูถามก็ตอบดิสัด สงสัยทำไมวะ” อ้าวนะ ไม่มีสิทธิ์จะสงสัยว่างั้น ไอ้บ้าอำนาจ
   “ชอบ” “แล้วมึงชอบไก่ย่างร้านกูป่ะ” นี่ว่างมากนักหรือไงถามอยู่ได้ ปวดปากนะเดี๋ยวสมาธิหนีหมด
   “ตอบดิ” เร่งกูเพื่อ โอ๊ยไอ้นี่มันอะไรของมันวะ
   “ชอบ” “แล้วมึงชอบส้มตำร้านกูป่ะ” เออๆ แค่ตอบว่าชอบๆไปให้มันจบๆก็คงโอเค ช่างมันเถอะ
   “ชอบ” “มึงชอบแกงไข่มดแดงป่ะ” “ชอบ”
   “มึงชอบจับของกูไหมล่ะ” “ชอบ” เอ๊ะ หือ อะไรนะ แว้กก
   “ฮ่าๆ สัดกูว่าแล้ว กูดูตามึงออก มึงชอบมองเป้ากู กูว่าแล้วสัด ไอ้โรคจิต” เอ่อ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะ อะไรอ่ะ
   “บ้าเหรอ ไม่นะไม่ชอบเลย ไม่ชอบ”
   “อย่าๆ กูรู้ว่ามึงชอบ อยากจับก็ขอดีๆดิ กูให้มึงจับก็ได้วะ สงสารคนโรคจิต”
   “นี่ บ้าเหรอ นายสิโรคจิต ใครจะไปอยากจับของนายบ้าป่ะ อึ๋ย น่ากลัว น่าเกลียด น่าขยะแขยง”
   “สัด มากไปๆ หนอยเดี๋ยวกูถีบตกรถ แต่กูถือว่าคำพูดแรกเป็นคำที่ออกมาจากความคิดที่สุดเว้ย อ๊ะๆ ไม่ต้องแก้ตัว ต่อไปนี้กูต้องระวังตัวไหมเนี่ย พ่อมึงยิ่งขอให้กูมารับมึงทุกวัน” หนอยกล้าพูดเนอะ ตัวเองดีตายล่ะไอ้บ้า ใครจะไปอยากจับของมึง แหวะดูท่าคงจะเป็นสังโฆธัมโม เอ๊ะ เขาเรียกอย่างนี้ป่าวนะ ไม่รู้ล่ะไม่เคยเป็น แต่เอ๊ะ เมื่อกี๊มันบอกว่าอะไรนะ พ่อผมขอให้มันมารับทุกวันใช่ไหม
   “ทำหน้าหมางงอีกล่ะ ไปลงถึงแล้ว” อ่า ถึงโรงเรียนตอนไหน ผมก้าวลงจากรถมันล่ะครับแล้วเดินไปไหว้อาจารย์ที่มารับนักเรียนอยู่หน้าประตูส่วนมันก็จูงรถเอา อ่าเป็นครั้งแรกที่มาโรงเรียนทัน แว้กก ดีใจจังเลยอ่ะ บรรยากาศแบบนี้ไม่เคยได้สัมผัส มันช่างดูอบอุ่นกรุ่นกลิ่นละมุนไปด้วย เอ่อ เวอร์ไปป่ะอุรดิศ
   “อุ่นๆ มานี่ๆ” จอยมันร้องเรียกผมล่ะครับ มันอยู่กับเล็ก
   “พร้อมบ่” ถามใคร กู? ถามเพื่อดูหน้าก่อนเถอะก่อนจะถามน่ะ หน้าใสๆแบบนี้ คำตอบสุดท้าย
   “ไม่พร้อมเลย” ก็นะ แหมคนไม่ได้อ่านหนังสือนี่นาจะให้ตอบว่าพร้อมเหรอจะดูตอแหลไปไหมอ่ะ
   “เฮาคือกัน อิอิ มาๆ มาจับมือ” ไอ้เล็กครับ จับมือเพื่ออะไร ผมงงครับแต่ก็ยื่นมือไป
   “สู้เว้ย ไผมีอีหยังดีกะส่งซิกกันแน่เด้อ” เอ่อ อึ้งอีกรอบ เอากะมันนะครับ เฮ้อ สรุปก็เคารพธงชาติแล้วก็เข้าห้องสอบนะครับ ใจเริ่มเต้นตึกตัก คาบเช้ามีวิชาหนักๆทั้งนั้น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี คาบบ่าย ภาษาไทย สังคม ภาษาอังกฤษ ส่วนที่เหลือพรุ่งนี้ เอิ๊ก เรอข้อสอบครับ ไม่ไหวๆ
   “ครูขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะ แม้จะเป็นแค่การสอบกลางภาคแต่อยากให้ทุกคนเต็มที่กับการสอบ อย่าลอกกันนะคะ ครูจับได้ครูจะให้ไปนั่งสอบหน้าห้องนะ” จะขู่เพื่อ คนยิ่งใจไม่ดีอยู่ด้วย อะไรอ่ะ พอนั่งประจำที่อาจารย์ก็แจกชุดข้อสอบพร้อมกระดาษคำตอบพอเปิดขึ้นมา เอ่อ log x= -1.2226 และ log 5.99 = 0.7774 log 1.6667 = 0.2226 จงหาค่า x เอ่อ แปลว่าไรอ่ะ เอิ๊ก มึนครับ นี่แค่เบสิคข้อแรกที่เปิดเจอ แว้กก ออกข้อสอบอะไรกันนะ เหงื่อเริ่มผุดครับ ตัวช่วยเท่านั้น จอยๆ หันไปทางจอย เอ่อ ไม่ไหวๆรายนั้นก็เหงื่อแตก ไอ้เล็กล่ะ อ่ามันทำสายตาวิ้งๆเหมือนว่ามันทำได้เลยนะ
   “เล็กๆ” ผมกระซิบเสียงเบาที่สุด มันไม่ยอมหันครับ ไอ้นี่ ผมเลยจิ๊ปาก เออมันหันมา ผมเอานิ้วลู่ลงตรงข้างกางเกงชูนิ้วชี้นิ้วเดียวหมายถึงข้อหนึ่ง เอ่อ คือว่าเปิดดูหมดแล้วอ่ะนะมันทำไม่ได้สักข้อเลยจะลอกตั้งแต่ข้อหนึ่ง ใครจะทำไมอ่ะ ฮึ ก็คนทำไม่ได้อ่ะ เข้าใจไหมเนี่ย ไอ้เล็กมันชูสองนิ้วสองครั้งครับ เอ๊ะ แปลว่าไรวะ หรือว่ามันบอกถึงข้อสองเลยเหรอ อิอิ กาเลยสิท่านจะรอเพื่อ
   “โอ๊ย ใจสิขาดตาย เฮ็ดได้บ่อุ่น” จอยครับ หัวฟูออกมาเลยไม่ต่างกับผม ผมยิ้ม เฮอะคนอย่างอุรดิศเหรอจะมีทำไม่ได้ ให้มันรู้น้อยไปเถอะ
   “เราลอกเล็ก” แหะๆ ไม่ได้ภูมิใจนะแต่ก็แหมนะ
   “ฮ่วย เป็นหยังมาลอกเฮา เฮาส่งซิกน่ะให้บอกเฮาเด้นั่น” อ้าว แปลว่าไรวะ
   “อ่า แล้วที่นายชูสองนิ้ว จากที่เราชูไปนิ้วนึงอ่ะ”
   “ฮ่วยคนก็คิดว่า ก.ไก่เนาะข้อ ๒๒” เอ่อ ตายๆ โอ๊ย ขอไปกรี๊ดหน่อยเถอะ นี่แสดงว่าผมมั่วตั้งแต่ข้อแรกเลยเหรอ อารมณ์เสีย พอถึงฟิสิกส์ ข้อสอบก็วิชพศ์ยืนอยู่ริมฝั่งโขงสังเกตเห็นคลื่นผิวนำเคลื่อนที่กระทบฝั่งมีระยะห่างระหว่างสันคลื่นที่อยู่ถัดไป ๑๐ เมตร และคลื่นมีอัตราเร็ว ๕ เมตรต่อวินาที คลื่นจะกระทบฝั่งนาทีละกี่ลูก เอ่อ เอิ๊ก ช่วยอุรดิศด้วย ช่วยผมที แว้กก ตายอย่างกบ แต่เอ๊ะ ทำไมชื่อมันคุ้นจังเลยวะ วิชพงศ์ ใครวะคุ้นมาก คือว่าผมมัวแต่คิดชื่อนี้อยู่จนจะหมดเวลาครับทำไม่ทันเลยรีบกา สรุปคอตกเหงื่อแตกออกจากห้องสอบเช่นเคย
   “เฮา พวม สิ ตาย” จอยครับ “เรา เหมือน กัน” อันนี้ผม “เฮา คือ สิ ฮาก” ไอ้เล็กครับ เอาเถอะมันแค่สองวิชาเหลือคาบเช้าอีกวิชา เคมีครับ สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกๆ สู้ว้อย ยังไงก็ไม่ถอย ถ้าปฏิกิริยา 3O2(g) ---> 2O3(g) เป็นปฏิกิริยาดูดพลังงาน 140 kJ/mol มีค่าพลังงานก่อกัมมันต์ (Ea) เท่ากับ 420 kJ/mol ค่าพลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาย้อนกลับในหน่วย kJ คือ คือ? คือ? คือไรล่ะ แว้กก กูจะรู้ไหมเนี่ย โอ๊ย มาตบกูเลยมาแล้วให้กูผ่านจะได้จบๆ อะไรอ่ะพ่อแม่พี่น้อง ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยอ่ะ โอยๆ ใจจะขาดตายเหมือนที่จอยมันบอกจริงๆก็คราวนี้ล่ะครับ

เขียนโดย อิ๊กกี้ เด้อครับเด้อ

ปล. มาแว้วว น้องอุ่น อิอิ อ่านขำๆนะครับพ่อแม่พี่น้อง เรื่องนี้ไม่มีเครียดรับประกัน อยากจะเขียนแนว โรแมนติกคอมเมดี้ดู ไม่รู้จะได้หรือเปล่า อิอิ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับผม
ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 19-05-2012 10:11:17
แย่ๆแน่อุ่น :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 19-05-2012 11:24:39
อ่านไปยิ้มไป เขาจะว่าเราบ้าไหมเนี่ยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 19-05-2012 12:41:59
“มึงชอบจับของกูไหมล่ะ”
 “ชอบ”

ชอบประโยคนี้อ่ะครับ ฟินมาก ๆ เลย >,,<"
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 19-05-2012 12:42:45
อ่านไปยิ้มไป อุ่นน่ารักเวอร์  :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-05-2012 12:44:26
แล้วจะผ่านมั้ยเนี่ยนู๋อุ่น :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 19-05-2012 13:24:54
คุณอุ่นฮามากกกกก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 19-05-2012 14:16:02
เมื่อไหร่จะเลิกเอ๋อนะอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 19-05-2012 14:47:57
5555 อุ่นมันจะรอดป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 19-05-2012 21:08:53
อุ่นน่าฮักแท้  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-05-2012 22:22:38
ต้องเรียกน้องอุ่นเอ๋อสินะ
เห็นข้อสอบแล้วอิป้าก็ปวดหัวแทน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 19-05-2012 22:27:29
 :z2:สงสัยต้องหั้ย เดี๋ยว ติว หั่ย แบบตัวต่อตัวแล้วล๊ะ หนูอุ่น   5555+
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 20-05-2012 12:33:06
จะสงสาร หรือ จะฮาอุ่นดี เนี่ย เอ๋อ แบบนี้ เสร็จ บักเดี๋ยวแน่นอน :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: luv_khun ที่ 20-05-2012 12:57:10
อุ่น..น่ารักอะ  เอ๋อดี
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 20-05-2012 18:30:17
น้องอุ่นนี่น่ารักน่าแกล้งตลอดเลยนะ
นายเดี๋ยวจึงติดใจชอบแกล้งเลยไง
แต่เห็นโจทย์ข้อสอบแล้วไปไม่เป็นเหมือนกัน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 20-05-2012 19:58:50
ชีวิตของนู๋อุ่นช่างร่อแร่ยิ่งนัก....
น่าสงสารอ่ะ....แต่...ขอฮาาาาก่อนแล้วกัน  :laugh:
เอะอะก็เอาพ่อมาอ้างนะเจ้าเดี๋ยว...คิดอะไรรึเปล่าตะเอง...

 :กอด1: น้องอิ๊ก :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 21-05-2012 00:45:02
โรแมนติด คอมมาดี้ เย้ๆ :)

จะบอกว่า ตามติดเรื่องนี้ ทุกวันเลย ถึงไม่อัพแต่อยากเข้ามาดูให้หายคิดถึงเนาะ
:) :) :)

รักน้องอุ่นมากๆเลย น่ารักดี พี่อิ๊กแต่งสนุก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 12 Version (อุรดิศ) 19 May 12 หน้า 11
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 21-05-2012 05:03:51
นอ้งอุ่นจะน่ารักไปไหน
 :m20: สรุปเข้าใจไม่ตรงกันซะงั้นวิชาเลข นี่ถ้าเต็มอุ่นคงเจ๋งจริงๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-05-2012 17:36:36
You’re my BaBy!!

สอบกลางภาคนี่ขอบอกว่ามันง่ายจริงอะไรจริงวะกูอ่านแค่รอบเดียวก็ตัดสินใจได้เลย แม่งง่ายแบบนี้แล้วจะไปสู้กับเขาได้เหรอวะเนี่ย เออฟิสิกส์แม่งอาจารย์วัณวิภาเล่นเอาชื่อกูไปออกข้อสอบด้วย ฮ่าๆ คนมันดังนี่นะทำไงได้วะ
   “เฮ็ดหน้าเป็นตาง่ายเนาะมึง” สัดเคนครับ คือว่าผมออกห้องสอบก่อนเพื่อนนะครับทุกวิชาผมต้องเป็นแชมป์เว้นแต่วิชาไหนที่ค่อนข้างจะต้องคำนวณแต่แทบจะทุกครั้งผมก็ออกก่อนเพื่อนอยู่ดีล่ะเพราะผมน่ะมันห้องคิงส์เว้ย เด็กส่วนมากมันจะนั่งแช่ล่ะครับ แต่คนอย่างวิชพงศ์ไม่มีทางนั่งแช่ครับไปดูดบุหรี่รอดีกว่า
   “ฮ่วย ออกขอสอบง่ายๆแนวนี้ไผกะเฮ็ดได้ เป็นหยังมึงเฮ็ดบ่ได้ติ๊” คือมันอยู่คนละห้องอ่ะนะครับ
   “ยากคือสิตายนี่ ซาดออกยาก” มันบ่นครับแล้วเราก็เดินไปรอสัดไม้ที่โรงอาหาร เสียงเด็กคุยกันเรื่องข้อสอบดังจอแจรำคาญจริงๆ แม่งสอบแล้วไม่แล้วนะมาทำเป็นพูดข้อนั้นอย่างนั้นข้อนี้อย่างนี้ บางคนมันก็คุยโวนะว่าตัวเองทำถูก
   “อ้าว อุ่นๆ เป็นจั่งได๋เฮ็ดข้อสอบได้บ่” สัดเคนมันปรี่เข้าไปหาไอ้เตี้ยนั่นล่ะครับมันยืนอยู่หน้าร้านน้าผม
   “อ้าวนายเคน ไม่ได้อ่ะ เราอ่านหนังสือไม่ทัน” มันตอบครับหน้าตานี่แม่งน่ากลัวสุดๆเหมือนคนโดนผีหลอกมาเลยนะผมก็กระเซอะกระเซิง
   “ฮ่วย ฮ่าๆ เฮากะเฮ็ดบ่ได้คือกัน อย่าเครียดๆ” สัดเคนพูดล่ะครับ
   “ก็สมองมันมีแต่มัวแต่เอาไปจำอย่างอื่นอ่ะดิ๊ มันเลยสอบไม่ได้” ผมเปรยๆขึ้นครับ มันหันขวับทันที
   “เก่งเหรอนายอ่ะ” หนอยกล้าถามเนอะมึง ถ้ากูไม่เก่งก็คงไม่มีใครเก่งหรอกเว้ยแถวนี้
   “เออดิ กูน่ะเก่งแน่นอนเว้ย”
   “งั้น ให้ลอกหน่อยดิ” “ฮ่าๆ สัด คิดได้ไงวะ ไอ้เตี้ย” ผมหัวเราะออกมาครับ มันทำหน้าแบบจริงจังมากเลยนะครับ
   “แหมก็ดีแต่คุย น้าครับเอาเย็นตาโฟพิเศษนะ เครียดจะกินเยอะๆ” มันหันไปสั่งน้าติ๋วล่ะครับ
   “สอบแค่นี้เองนะจ๊ะหนู อย่าเครียดๆ เดี๋ยวน้าจัดให้” น้าผมก็ยิ้มพอใจล่ะครับ แปลกนะกับคนอื่นนี่ “เอาหยัง” เสียงแบบว่าห้วนๆเขามาขอกินเลยนะแต่กับไอ้เตี้ยนี่แบบว่าดัดจริตพูดภาษากลางด้วยนะเออ
   “เคนๆ เฮ็ดข้อสอบได้บ่” จอยครับ ฮ่าๆ แกงค์นี้หัวฟูทุกคนเลยครับเว้นไอ้เล็กเพราะมันหัวเกรียนกว่าใคร ไอ้เตี้ยมันก็ผมสั้นล่ะแต่ผมข้างหน้ามันยาวหน่อยมันเหมือนขยุ้มหัวมันเองล่ะครับมันเลยดูฟูๆ ส่วนกูเคยบอกแล้วนี่ว่าสกินเฮดหล่อดีเว้ย ที่จริงทรงนี้มันผิดระเบียบนะแต่กูเป็นใครล่ะ อิอิ
   “บ่ๆ อย่ามาถามโตเฮ็ดได้ติ๊”
   “โอ๊ย ได้อีหยังยากได้ยากดี ยากกว่าสิสอบเอาผัวพู้นดอกเฮาว่า” ฮ่าๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นทั้งกลุ่มครับ สาวจอยคนพูดเองก็หัวเราะไอ้เตี้ยมันคงฟังรู้เรื่องมันเองก็หัวเราะ เออนะเอากับเธอสิ
   “สิมีผัวต้องสอบอยู่ติ๊” สัดเคนครับ เรายิ่งหัวเราะดังกว่าเดิมอีก พอกินข้าวเสร็จก็แยะย้ายล่ะครับผมกับสัดไม้และสัดเคนก็ไปดูดบุหรี่แก้เซ็งที่เดิม ส่วนพวกนั้นแยกไปแล้ว
   “ว่าไป มันกะเป็นตาฮักอีหลีเด้ล่ะเนาะ” สัดไม้ครับอยู่ๆก็พูดขึ้นมา
   “ไผ เออ แม่นกูกะว่าจั่งซั่นล่ะ” อ้าวสัดเคนครับ ตอนแรกถามว่าใครแต่เอาไปเอามาเออออตามสัดไม้ไปซะงั้น
   “ผู้ได๋เดี๋ยวนิสู” ผมถามครับ
   “อย่ามาทำไก๋ ฮู้อยู่แก่ใจ กูว่าคั่นมึงสิมีใจเอนเอียงไปหามันกะบ่แปลกดอก มันเป็นตาฮักอีหลี คนอีหยังวะแห่งยามยิ้มแห่งเป็นตาเบิ่ง”
   “สัด มึงเป็นบ้าติ๊สิมายุให้กูมักมัน มึงเว้าแนวนี้มึงกะมักมันติ๊ซั่น” ผมไม่ยอมครับ
   “ฮ่วย กูบ่ได้ระบุเด้ล่ะว่าไผ บักห่านี่ฮ้อนโตอีกแล้ว นั่นๆ เบิ่งเอาเด้อบักเคน คนมันมีความฮักแต่บ่ยอมรับใจเจ้าของ คั่นมึงบ่คิดหยังเป็นหยังหน้ามึงคือแดง บัดยามมึงแนมมันเป็นหยังสายตามึงจั่งยิ้ม” สัดเอ้ย อ่านออกแม้กระทั่งสายตากูว่างั้น มากไปไหมมึง
   “บักห่านี่ อยากถืกตีนติ๊” ผมยังพูดไม่จบนะครับมันสองตัววิ่งออกไปจากห้องน้ำ เพราะผมสีหน้าคงจะโกรธมากแล้ว แม่งเอ้ย ล้ออยู่ได้ กูบอกไม่ชอบก็ไม่ชอบสิวะ แต่จะว่าไปเวลาที่ผมเจอมันผมต้องได้ยิ้มทุกครั้งไปเลยนะ ตอนที่กลับมาบ้านเมื่อวานผมก็คิดถึงมัน ให้ตายเถอะ สัด กูว่าแล้ว ไม่จริงเว้ย ไม่มีทาง
   “เริ่มซ้อมอาทิตย์หน้านะพวกมึง อาทิตย์นี้สอบกูยกให้ สอบเสร็จมีโปรแกรมแข่งยาวเลยนะ” พ่อกูบอกล่ะครับตอนเดินเข้าไปในห้องของแก มีเพื่อนๆในทีมนั่งอยู่ก่อนสี่ห้าคนหนึ่งในนั้นคือสัดแบงค์ แม่งเห็นหน้าไอ้เชี่ยนี่แล้วอยากมีเรื่องยังไงไม่รู้ว่ะ
   “ดีแล้วจารย์ วันศุกร์มีหมอลำซิ่งเด้อสวนมิ่งมงคลคือสิมาซ้อมบ่ได้ดอก” มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ
   “แม่นๆจารย์โดนๆมีเทื่อ คณะหยังล่ะสู” สัดแบงค์ครับอยากรู้อยากเห็นซะทุกเรื่องนะมึง
   “ไผบู้ บ่ทันได้ถาม” คือว่าหมอลำซิ่งนี่เขาจะเรียกเป็นชื่อๆไปนะครับ แต่ถ้าดังจริงๆก็จะมีวงของตัวเองอย่าง บัวผัน แบบนั้นค่าตัวแพงครับ ส่วนหมอลำซิ่งคนอื่นๆก็มีเยอะแค่ไม่ดังเท่า เวลาเขาไปว่าจ้างนี่จะไปจ้างเฉพาะตัวหมอลำหญิงชายแยกกันส่วนวงดนตรีก็จะจ้างมาจากตัวหมอลำเลยหรือว่ามาจ้างแยกต่างหากก็ได้ครับ หมอลำซิ่งเป็นหมอลำที่ไม่มีแก่นสารอะไรทั้งสิ้น เพราะจะร้องก็ไม่ร้องจะลำก็ไม่ลำส่วนมากก็เน้นร้องเพลงให้พวกขี้เหล้าไปสนุกสนานแล้วก็ตีกันไปตามเรื่อง แต่ว่าบักเดี๋ยวชอบครับ อิอิ เพราะได้กินเหล้า ได้เต้นปลดปล่อย สาวเยอะแต่ระวังพวกกะเทยที่มาวอแวพอ
   “โอ๊ย สอบแค่นี้กูคือคนสิเหมิดแท้สู” สัดไม้ครับ ทำท่าเหมือนคนใกล้จะตายเดินมาที่โรงรถ คือเวลาสอบโรงเรียนจะเลิกเร็วกว่าปกติ คือใครสอบเสร็จก่อนก็กลับได้เลยนะครับ
   “สูสิไปไสวะ” ผมถามครับเพราะยังไม่อยากกลับบ้านเลยนะ
   “เมือเฮือนตั้ว หนังสือบ่ทันอ่านอยู่ สอบตกแม่กูฆ่าทิ่มคั่กๆ” สัดเคนครับ เออวะ กลับก็กลับผมเองก็เอาคุณปู่ออกมาจากโรงรถล่ะครับ ตรงดิ่งกลับบ้านทันที
   “เบิ่งหนังจักคราวก่อนดอกจั่งสิไปร้าน” ผมพูดกับตัวเองแล้วเดินไปเปิดโทรทัศน์ดู หยิบหนังสือบอลมาดูผลเมื่อคืนหน่อย เสียงเด็กนักเรียนในซอยจอแจกันผ่านบ้านไปครับ เหมือนกูลืมอะไรหรือเปล่าวะ ไม่หรอก ผมเหลือไปดูนาฬิกา สี่โมงเร็วดีนะ สักห้าโมงค่อยไปร้านก็แล้วกันถ้าแม่ถามก็บอกว่าไปส่งไอ้นั่น เฮ้ย สัด กูลืมไปเลย รับปากกับปลัดแล้วตายห่านแล้ว ผมรีบบึ่งคุณปู่กลับไปที่โรงเรียนทันทีครับ แทบจะไม่มีนักเรียนเหลือเลยในโรงเรียน อ้าวกู ไอ้เตี้ยมันจะจำได้ไหมวะ ถ้ามันจำไม่ได้ก็คงดีไปผมไม่เคยรับปากใครไว้แล้วทำไม่ได้เสียชื่อวิชพงศ์หมด ผมวนรถรอบอาคารไปเรื่อยๆครับเผื่อว่ามันจะสอบยังไม่เสร็จ สัด
   “เฮ้ย ไอ้เตี้ย รอใครวะ” ใจหล่นหายไปเลยครับ ให้ตายเถอะเกิดมากูไม่เคยเป็น แม่งมันนั่งรออยู่หน้าห้องศิลป์ครับมันนั่งก้มหน้าเอามือเขี่ยอะไรเล่นอยู่ครับ เพื่อนๆมันกลับไปหมดแล้ว
   “รอหมา” มันมองมาที่ผมครับแล้วลุกขึ้น ใครวะหมา สัดนี่เดี๋ยวเถอะ
   “ไปไหนล่ะ ขึ้นมาดิ” ผมขับคุณปู่ตามมันไปล่ะครับ เดินหนีรถเนี่ยนะไอ้ขาสั้น
   “นายมาทำไม เราจะกลับบ้าน”
   “อ้าวไหนบอกรอไง กูมาแล้วนี่ไง กูลืมว่ะ” ผมบอกความจริงออกไป มันหันกลับมา สัด แววตามันด่าโคตรกูอีกแล้ว
   “เป็นหมาเหรอ ถ้าไม่คิดจะทำ อย่าพูดได้ไหม” มันเดินหนีไปแล้วครับ กูนี่สินิ่งเลย สะอึกพูดไม่ออกไม่มีแรงแม้จะบิดแฮนด์เร่งเครื่องตามมันไป เออกูผิดกูรู้แต่แม่งไม่คิดว่ามันจะรอนี่หว่า
   “กูขอโทษ” ผมไม่เคยเอ่ยคำนี้กับใครเลยนะถ้าไม่จำเป็น แม้จะไปต่อยตีกับใครต่อใครแต่ก็แค่นั้นโดนด่าแล้วไงก็กูไม่พูดซะอย่างใครจะทำไม แต่ตอนนี้ผมรู้สึกผิดจริงๆครับ
   “ขึ้นมาดิ กูจะไปส่ง” ผมอ้อนวอนมันครับ มีเหตุอะไรที่คนอย่างไอ้เดี๋ยวต้องมาขอร้องอ้อนวอนจะไปส่งไอ้เตี้ยนี่ด้วยวะกูไม่เข้าใจ
   “ไม่เอา คนนิสัยไม่ดี” อ่านะ งอนๆเว้ย ผมตามไปทันแล้วจับมือมันไว้ล่ะครับ อ่ะจับหน่อยแม่งถ้าไม่จับคงเดินไปโน่นแล้วเปลืองน้ำมันกูนะเว้ยเฮ้ย
   “เออกูขอโทษไง กูลืม กูมารับแล้วนี่ไงวะ ขึ้นมาดิ” ให้ตายเถอะ ไม่เคยเป็นแบบนี้ว่ะ ไม่เคยง้อใครไม่เคยคิดที่จะง้อ มึงลองพูดว่าไม่ไปอีกทีดิ กูไม่สนใจแม่งมึงล่ะ แค่นี้กูก็เสียเกียรติมากพอแล้วนะเว้ยเฮ้ย ยังมาทำเล่นตัวอีก แม่งกูเริ่มรำคาญแล้วนะพ่อกูก็ไม่ใช่อย่ามาเยอะเว้ย
   “เรารอตั้งนานนะ” แม่ง กูอมยิ้มเลยครับก็มันก้าวขึ้นรถมาแล้วน่ะสิ ไอ้เตี้ยนี่เหมือนมันรู้นะว่าจะโดนทิ้งจริงๆ
   “แล้วเมื่อกี๊บอกรอหมา ใครหมา” พอรู้ว่ามันยอมขึ้นรถมากูก็เริ่มก่อกวนตามประสาล่ะครับ
   “นายล่ะ” “สัด อยากตายไง มึงดิหมา” ผมหันมาตะคอกใส่มันครับ
   “พูดดังจัง หูตึงเหรอ” ดูมันนะครับหน้านิ่งๆไม่ได้กลัวผมเลยนะ แล้วแถมมันยังกล้าเอามือมันมาดันหน้าผมให้หันกลับมาด้วยนะ ไอ้นี่วอนครับ
   “อย่ากวนตีนกูนะเว้ย กูเตะเอาจริงๆด้วยนะ แม่งมารับแล้วเสือกด่ากูอีกมันควรมะ” ผมบ่นไปตามทางครับ
   “หิวอ่ะ” สนใจกูไหมเนี่ยสัด
   “มึงจะกินไรล่ะ” ผมถามมันครับ เออว่าไปกูก็หิวนะแต่พาไปร้านตอนนี้ไม่ดีแน่เพราะกูคงอู้ไม่ได้
   “ไม่รู้ไม่ใช่คนในท้องที่” ดูมันนะครับ ฮึ่มกูเริ่มกัดฟันล่ะ
   “งั้นไปแดกตีนกูมะ”
   “นี่นาย พูดกับเราดีๆไม่ได้เหรอ เราเหนื่อยนะวันนี้อ่ะ” โว้ ผู้ดีเฮ้ยมาดูผู้ดี
   “สัด แล้วมึงเลิกกวนตีนกูได้ไหมล่ะ” ผมหันหน้ามาแล้วค่อยๆเปล่งเสียงออกมาครับ
   “ลูกชิ้นๆ เราจะกินลูกชิ้น” ผมบอกแล้วนี่ว่ามันเหมือนเด็กเอ๋อ เนียนตลอดล่ะมันเปลี่ยนเรื่องแบบกูนี่เหยียบเบรกหัวทิ่มหัวตำตามมันไม่ทัน พอขับผ่านรถเข็นขายลูกชิ้นก็ร้องอยากกินเหมือนเด็ก เอากับมันสิครับ ผมก็จอดคุณปู่ล่ะครับ
   “ไหนบอกหิว มึงจะกินสองไม้เนี่ยนะ” ผมไปยืนอยู่ใกล้ๆล่ะครับ
   “นายกินป่ะ” มันหันมาถาม
   “อ่า กินหมดเหรอ” ถามกูก็จัดให้สิครับท่านหกไม้เอง
   “เออ แค่นี้เบาๆเว้ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ถึงว่า” “ถึงว่าไร มึงด่าไรกูอีก กูอ่านสายตามึงออกนะ”
   “อ่ะ แล้วถ้าหลับตาล่ะ รู้ป่ะ” มันหลับตาครับไอ้บ้านี่มันกวนตีนจริงๆนะ ผมเลยเอามือดันหัวมันทีหนึ่ง
   “เห็นไหม สู้ไม่ได้ก็ใช้แต่กำลัง” มันพูดครับ หนอยแน่ไอ้เตี้ยนี่
   “กูทำได้ทุกอย่างละเว้ย กับบางคนมันต้องใช้กำลังเหมือนมึงนี่ไง ไอ้เตี้ย เอ๋อ เจี้ยวเด็ก” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันหน้าแดงขึ้นมาทันที แดงเพราะโกรธนะดูรู้เลย
   “เหรอ นายเจี้ยวเน่า ตัวเหม็น สกปรก” “เชี่ย ว่ากูเหรอ”
   “บักหล่า ๔๐ บาทจ่ายยายมาก่อนค่อยตีกันเด้อ” ผ่าง ยายคนขายขัดจังหวะครับ กูยกมือขึ้นจะจัดอยู่แล้วนะเลยเอาเกาหัวแก้เขิน ส่วนไอ้เตี้ยมันก็รีบคว้าเอาถุงมาจากยายแล้วเดินหันหลังไปเลยครับ อ้าวกูสิต้องจ่าย
   “พระอาทิตย์จะตกดินแล้วอ่ะ สวยดีนะ” มันหันไปทางพระอาทิตย์ตกล่ะครับแล้วทำตาเหมือนว่ามีความสุขมาก
   “มึงชอบเหรอ” “อืม เราว่ามันไม่ร้อนดี แต่ไม่ชอบที่ระยะเวลามันสั้นนะ” มันพูดเหมือนคนเพ้อเลยนะครับ
   “กลับได้ยังอ่ะ” พอขึ้นรถได้มันก็ถามเลยครับ
   “เออๆ ไหนล่ะลูกชิ้นมึงแอบกินของกูป่ะเนี่ย”
   “บ้าเหรอ เราไม่กินลูกชิ้นหน้าตาประหลาดแบบนี้หรอกนะ”
   “สัด ประหลาดไงวะ”
   “ก็ลูกชิ้นอะไรไม่รู้ดำๆ อึ๋ยน่ากลัว” ที่มันพูดน่ะลูกชิ้นเอ็นหมูนะครับ มันน่ากลัวตรงไหนวะแล้วที่มันกินลูกชิ้นแป้งกลิ่นปลาเนี่ยนะ ไอ้นี่
   “กูว่าของมึงนั่นล่ะมีแต่แป้ง แดกเข้าไปเยอะๆเถอะเดี๋ยวก็ได้เข้าโรงบาล”
   “อ่ะ กินเข้าไปอย่าพูดมาก” เอ่อ มันเอาไม้ลูกชิ้นยื่นมาใส่ปากผมนะครับ แล้วกูก็อึ้งอยู่สามวิได้แล้วก็อ้าปากงับเอาลูกชิ้นที่มันยื่นมา
   “ขับช้าๆหน่อย เราอยากถ่ายรูป” มันร้องขึ้นมาล่ะครับ กูก็ไม่ได้อะไรมากทำตามที่มันบอก
   “สวยจังเลย” แค่นี้เนี่ยนะสวย แค่พระอาทิตย์กำลังจะตกแสงสีส้มๆสาดมาแค่นี้เนี่ยนะ ผมเลยขับรถพามันออกไปจากตัวเมืองล่ะครับ
   “อ้าว จะไปไหนอ่ะ” มันร้องขึ้นเหมือนจะตกใจล่ะครับเพราะผมขับรถเร็วขึ้นมากและก็ไม่ได้บอกอะไรมัน เพราะเดี๋ยวจะไม่ทัน
   “อ่ะ สวยกว่าไหม” ผมจอดขับรถเข้าไปในนาของใครไม่รู้ครับเคยมาปักเบ็ดแต่รู้ว่ามันเป็นเวิ้งทุ่งที่กว้างสุดลุกหูลูกตาต้นไม้น้อยเหมือนว่าเจ้าของนาเขาจะไถทำให้มันเป็นผืนเดียวกัน ข้าวหว่านที่เขาหว่านมันเขียวทั่วทั้งทุ่ง แสงสีส้มๆนั้นกันก็ลามเลียไปทั่วล่ะครับ คิดภาพออกไหมเนี่ย คิดไม่ออกก็อดละกันวะ
   “อ่า” มันยืนนิ่งอยู่ครับแต่มองไปทางพระอาทิตย์ตกอยู่นาน ผมยืนอยู่ด้านหลังมันล่ะครับปล่อยให้มันดูไปก่อนสักพักก็เริ่มจะมืด
   “ขอบใจนะ” อ้าวร้องไห้ด้วยวะสัดนี่เป็นไรอีก
   “เฮ้ย เป็นไรวะ” ผมตกใจสิครับ นึกว่าจะชอบแม่งดันร้องไห้
   “ปะ เปล่า เราชอบ ขอบใจนะ” เออวะ เอากะมันกูงงเป็นไก่ตาแตก
   “แวะกินข้าวเจ้าหน้าโรงบาลไหม อร่อยนะ” ผมชวนเองล่ะครับเริ่มจะหิวอีกแล้ว
   “อืม ไปดิ แต่ขอโทรบอกพี่ต้อยก่อนนะมันค่ำแล้ว” มันบอกล่ะครับ ผมก็พยักหน้าแล้วไปสตาร์ทคุณปู่รอมัน
   “แปลกเนอะ ทำไมที่ทุ่งนาสัญญาณเต็มเลยอ่ะ ที่บ้านไม่เห็นมี” มันเดินมาขึ้นรถล่ะครับ
   “ก็ที่ทุ่งมันไม่มีสิ่งกีดขวางสัญญาณไงวะ แค่นี้ทำสงสัย”
   “หรา แต่ทำไมมันมืดเร็วจังอ่ะ” แหมๆ ลากเสียงประชดกูด้วยนะเดี๋ยวเถอะมึงกูจะปล่อยให้อยู่กลางทุ่งเสียให้เข็ด
   “กินลูกชิ้นอีกป่ะ ยังมีเหลือนะ” มันบอกครับหลังจากผมขับรถออกมาได้สักพัก
   “กินดิ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ไม่หิวนะแต่ทำไมปากมันบอกไปอย่างนั้นไม่รู้
   “อ่ะ” มันยื่นไม้ลูกชิ้นมาอีกล่ะครับ ทำไมกูต้องทำแบบนี้ด้วยวะ เขินนะเว้ยแม่งเอ้ย
   “อ้าว ไม่ปล่อยไม้ล่ะ จะกินด้วยเหรอไม้น่ะ” กูแกล้งมันเองล่ะครับงับไม้เอาไว้ มันก็ดึงอยู่นะ
   “มันแซ่บเว้ย” ผมพูดครับ เอาจริงๆนะ ตอนนี้กูรู้สึกแปลกมากๆ มันลอยๆยังไงไม่รู้ว่ะ
   “แหวะ ลูกชิ้นไรอ่ะ ทำไมมันกรุบๆ” “อ้าวๆ แอบกินของกูเหรอมึง” มันเหมือนคายอะไรออกจากปากล่ะครับ กูนึกว่าทำอะไรที่แท้ก็แอบกินลูกชิ้นกูนี่เอง
   “ชิมอ่ะ เห็นนายบอกแซ่บ” “ฮ่าๆ กูบอกว่ากะปอมแซ่บมึงจะกินด้วยมะ หา”
   “บ้า ใครจะกิน แต่นายไอ้ตัวกะปอมนี่มันเป็นไงอ่ะ” อ้าวนะ อยากรู้ขึ้นมาอีกจนได้ไอ้เด็กในเมืองเอ้ย แม่งเดี๋ยววันหลังพาไปกินผัดเผ็ดงูซะให้เข็ดไอ้นี่มันน่าแกล้งจริงๆนะให้ตายเถอะ
   “มึงกินไร” พอไปถึงหน้าร้านผมก็หาที่จอดคุณปู่ล่ะครับ คนหน้าโรงพยาบาลนี่เยอะมากนะต้องหาที่นั่งกันอยู่พักใหญ่เลยล่ะเจ้านี้เขาทำกับข้าวอร่อย
   “เอาสุกี้ไก่แห้ง” มันบอกล่ะครับผมก็เดินไปสั่งให้มันส่วนผมกินสุกี้น้ำรวมมิตรเพราะคุ้มกว่าอีกอย่างที่บอกว่าหิวๆมันหายหิวไปตอนไหนไม่รู้ว่ะ
   “อ้าว ทำไมนายกินเหมือนเราอ่ะ ทำไมไม่กินข้าว” อ้าว กูผิดว่างั้นไอ้เตี้ยนี่
   “มึงอยากกินก็สั่งดิ แล้วมันเหมือนกันตรงไหนวะของมึงแห้งกูน้ำ มองไม่ออกไง” พอเขาเอากับข้าวที่สั่งไปมาส่งมันก็ถามล่ะครับ ผมเลยยักคิ้วแล้วชี้ให้มันดู
   “ก็นึกว่าจะกินข้าวไง เราจะได้ขอชิม” “สัด ชอบแย่งเหรอมึง ว่าแต่ไก่น่ากินนะ” ผมยื่นตะเกียบไปคีบชิ้นไก่จากถ้วยมันมาทันทีครับ
   “อ่า นิสัยๆ กุ้งก็น่ากินนะ” มันไม่ยอมครับ
   “เฮ้ยไม่ได้ๆ มันยิ่งมีตัวเดียวนะเว้ย” ผมร้องไปงั้นล่ะครับไม่ได้ห้ามมันหรอก แต่ว่านะอะไรก็ตามที่เป็นเกี่ยวกับอาหารทะเลนะแม่งทำไมงกจังวะ กุ้งนี่ให้กูมาตัวเดียว ปลาหมึกซอยละเอียดอีกสองสามชิ้น นอกนั้นผักกาดขาวว่ะ
   “อร่อยดีเนอะ” พอแย่งกันสักพักก็ต่างคนต่างกินล่ะครับ มันพูดขึ้นแล้วยิ้ม
   “ฮ่าๆ สัด มูมมามนะมึง” ผมหัวเราะครับเพราะน้ำจิ้มสุกี้มันติดอยู่ริมฝีปากมัน
   “มีไรติดอ่ะ” มันรีบเอามือเช็ดออก ผมยักคิ้วให้มันแล้วหัวเราะต่อครับ
   “เฮ้ย” มันอาศัยช่วงทีเผลอคีบเอาปลาหมึกที่ผมอุตส่าห์ถนอมอดออมจะกินเป็นคำสุดท้ายไปเคี้ยวตุ้ยๆ มึงนะมึง
   “พูดมากนัก อิอิ” “กูจะกินนะเว้ย แม่ง ยังไมได้กินสักคำเลยนะ” ผมโวยวายครับ
   “ไม่รู้อ่ะ จะกินที่เราเคี้ยวไปแล้วไง” “เดี๋ยวกูเตะเลยนี่ ชอบแย่งนะมึง” ผมทำตาโตๆดุๆใส่มันล่ะครับ แต่ขอโทษมันกลัวไหม ไม่เลยครับท่านหน้าตามันวอนรับประทานของว่างในรองเท้าแตะกูมากๆเลยนะ
   “นายไม่ต้องจ่ายหรอก เราจ่ายเอง” พอเขามาเก็บตังค์กูก็ล้วงตังค์ล่ะครับ เห็นไหมบอกแล้วว่าวิชพงศ์น่ะแมนเว้ย ไม่เคยเกาะใครกินเว้ยแต่จะเสนอตัวเอง แต่กับไอ้เตี้ยนี่ทำไมกูถึงไม่ยอมให้มันจ่ายวะ
   “เออน่า มึงเลี้ยงหมึกย่างกูดิ เมื่อกี๊มึงแย่งของกูกินหมดนะ” ผมยื่นข้อเสนอครับ
   “ได้ๆ ขอบใจนะ” ผมว่ามันไม่ได้แอ๊บมารยาทดีหรือตอแหลดัดจริตอะไรหรอกนะ เพราะสังเกตมานานมากแล้ว เหมือนมันพูดออกมาเพราะมันสิ่งที่มันเคยชิน หรือสิ่งที่มันทำจนชิน อืม น่าดูๆ อย่าๆ อย่าพูดว่าแล้วไม่ย้อนกลับมามองตัวเองบ้างเหรอนะ มองนี่ไงก็กูมันคลาสสิคเว้ยเป็นแบบนี้อ่ะใครจะทำไม
   “มันจะท้องเสียไหมอ่ะ” พอจ่ายเงินเสร็จผมก็ขับคุณปู่มาหน้าเซเว่นละครับ เยื้องไปหน่อยมีลุงแกขายปลาหมึกสดย่างอยู่ คนมุงนิดหน่อยไม่เยอะ ผมก็ไปต่อคิวได้มาสี่ไม้ มันเห็นผมกินอย่างเอร็ดอร่อยจึงทำตาวาวเหมือนอยากกินบ้าง
   “อย่าบอกว่ามึงไม่เคยกิน” ผมมองมันครับ
   “ไม่อ่ะ เคยกินแต่ที่เขาย่างที่ทะเลแบบเป็นตัวๆอ่ะ” สัด ไฮโซอีกนะมึง
   “อ่ะ ลองดิแต่มันเผ็ดนะ” ผมยื่นไม้ปลาหมึกให้มันล่ะครับมันก็อ้าปากงับทันที สัด ทำไมไม่ถือเอาไปกินเองวะ แล้วที่สำคัญทำไมกูถึงไม่โวยวายหรือพูดอะไร
   “ไม่เห็น เผะ อ่า เผ็ด เผ็ด” สัด มันคายออกมาครับ กูนี่หัวเราะเสียงดัง คนที่เขารออยู่ก็หันมามองเพราะมันเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าเลยนะครับ ไวจริงๆปฏิกิริยาทางร่างกายของมัน หน้าแดงจมูกแดงปากแดงขึ้นมา
   “น้ำอ่ะ น้ำๆ” อ้าวนะมึง ผมเลยสงสารมันครับ ชี้ไปที่เซเว่น ฮ่าๆ ใครจะเดินไปซื้อให้มึงฝันเถอะไอ้เตี้ย
   “ไม่เอา นายไปดิ เราอายเค้า” อ่านะ สัดใช้กูอีกนะมึง เออก็ได้วะ ผมเลยยอมครับไปซื้อน้ำมาให้มัน พอได้ขวดน้ำมันก็รีบเปิดแล้วเอากรอกปากล่ะครับ สักพักก็คงจะดีขึ้น
   “เรากินเผ็ดได้นะ แต่ทำไม” พอตอนกลับล่ะครับมันพูดขึ้น
   “ลุงแกใส่พริกเยอะ คนกินใหม่ๆก็งี้ล่ะแต่เอาไปเอามาจะชอบเพราะมันอร่อย” ผมอธิบายครับ ตอนกินใหม่ๆนี่เหงื่อกูก็ผุดเหมือนกันล่ะวะ อิอิ
   “อ้อ เออนายขอบใจนะ” มันพูดขึ้นครับตอนถึงหน้าบ้านมัน
   “เรื่อง” ผมยักคิ้วให้มัน
   “เรื่อง? ไม่รู้ พูดไปงั้นล่ะ ไปนะ เจี้ยวเน่า” อ้าวสัด วิ่งเข้าบ้านไปแล้วครับ แม่งเหมือนโดนหลอกใช้เลยนะ อย่าให้กูเจอนะมึงจะตบกะบาลให้ ผมก็พาคุณปู่ตรงดิ่งไปยังร้านล่ะครับ หันหลังกลับมาด้วยรอยยิ้มนะกูเป็นไรมากไหมเนี่ย

Written by eiky

ปล.เขินอ่า แว้กกกก ไม่รู้สิผมคงทำให้มันโรแมนซ์ได้เท่านี้อ่ะ แต่ตอนนี้ เขินจัง อิอิ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับผม จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 21-05-2012 18:00:59
เขินนนนน ชอบชอบเอาหวานกว่านี้อีกจัดมาเลย555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 21-05-2012 18:10:49
ตอนนี้น่ารักอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 21-05-2012 18:38:16
พี่เดี๋ยวน่ารักอ่ะ แมนมาก ๆ เลย เมื่อไหร่คู่นี้จะเป็นแฟนกันเนี่ย
แอบหื่นอยากให้สองคนนี้ NC กันเร็ว ๆ อิอิ
  :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-05-2012 18:41:54
ตอนนี้น่ารักดีอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 21-05-2012 19:17:14
เริ่มน่ารักมาสองสามตอนแล้วหล่ะ
 เดี๋ยว ถ้ารู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ แกเอ๊ยยยย คงหลงเด็กเมืองน่าดู เชื่อเด่ะ



 :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2012 19:22:56
ยิ้มไม่หุบเลยตอนนี้
อุ่นไม่กลัวเดี๋ยวแล้ว เหมือนรับมือได้ว่างั้นเหอะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-05-2012 19:31:36
หวานแต่ไม่เอียน สงสัยมีพูดอีสานมั๊งเลยตัดเลี่ยน 55
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2012 20:21:13
หวานเบาๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: luv_khun ที่ 21-05-2012 20:27:20
อ่านไปยิ้มไป   :-[



หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 21-05-2012 20:31:51
เจ้าเดี๋ยวยังไม่ยอมรับความจริงก็ไม่เป็นไร....
แค่...ตามใจน้องอุ่นทุกเรื่องก็พอเนอะ....
นู๋อุ่นเนียนแถเอ๋อไปเรื่อย...น่ารักจริง ๆ เด็กคนนี้ :กอด1:

 :L2:น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: vitaminbb♥ ที่ 21-05-2012 20:41:17
น่ารักอ่ะ อ่านแล้วเขินตามเดี๋ยว
หวานมากตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน
ถ้าเป็นแฟนจะขนาดไหนเนี่ย  :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 21-05-2012 21:04:29
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-05-2012 21:54:38
า่รักจริงๆครับเห็นด้วย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 21-05-2012 22:48:21
อร๊ายยยยยยย ><

เขินๆอ่า ทำไมน่ารักแบบนี้

น่ารักมากๆเลย

เอาอีกๆๆๆ รออยู่ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 21-05-2012 23:14:12
อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วปวดแก้มอ่ะ อ่านไปยิ้มไป ตอนนี้นายเดี๋ยวน่ารั๊คอ่ะ !!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 22-05-2012 00:04:38
เขิลแทนอุ่นอะพี่อิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 22-05-2012 00:12:58
โอ๊ย....อยากกินปลาหมึกปิ้งแซ่บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 22-05-2012 02:59:28
หวานเล็กๆ แต่น่ารัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Ritsu ที่ 22-05-2012 06:56:16
อั๊ยยะ น่ารักมากกกกก หวานกันเบาๆ อิอิ
บักเดี๋ยวหน้อออ ปากแข็งจริงๆเลย >"<
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 22-05-2012 12:55:24
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก วิชพงษ์ นายน่ารักมากๆ และน้องอุ่นยิ่งน่ารัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-05-2012 13:13:08
หวานกันเบาเบา :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 22-05-2012 17:35:58
อ่านเรื่องนี้แล้ว เหมือนตัวเองได้ย้อนไปในวัยเด็กเลย ถึงจะไม่เคยมีโมเม้นต์ขนาดนี้ แต่ก็มีมุมคล้ายๆ  :-[

นิสัยของเดี่ยวกับอุ่นแตกต่างกันแต่ก็กลายเป็นสิ่งที่มาเติมเต็มกันและกันได้
 เป็นมิตรภาพที่น่ารัก และ เป็นความสัมพันธ์ที่จะยั่งยืน เพราะต่างก็เป็นตัวของตัวเอง
ต่างคนก็รับในสิ่งที่อีกคนเป็นได้ อีกอย่างเดี่ยวก็เริ่มปรับตัวเองมาก ดูซอฟท์ลงเยอะ อยากอ่านฉากกุ๊กกิ๊กของคู่นี้เยอะๆ น่ารักดีอ่ะ
ขอบคุณ คุณ eiky มากๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 22-05-2012 22:50:35
มันได้อารมณ์โรแมนติกหวานๆ แบบบ้านๆ ดีนะ
อ่านบรรยายแล้วนึกภาพออกเลย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 23-05-2012 00:59:09
 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 23-05-2012 02:10:13
 :call: :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 23-05-2012 09:23:02
ชอบน้องอุ่นมากๆๆๆๆๆ น่ารักสดใจ เอาใจช่วยนะ :impress2: :impress2: :impress2:
ส่วนนายเดี่ยว ไว้ยอมรับตัวเองได้เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน อิอิ :seng2ped: :seng2ped: :call: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 23-05-2012 13:58:54
เรื่องนี้น่ารักดี ถึงแม้จะอ่านไม่ค่อยออกว่าแปลว่าอะไรบ้าง ลุ้นๆว่าพระเอกกับนายเอกจะสารภาพรักกันเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 23-05-2012 14:47:53
ตอนนี้น่ารักจัง :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 12 Version (วิชพงศ์) 21 May 12 หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 24-05-2012 09:39:27
น่ารักที่สุดในโลก ชอบน้องอุ่นมากกก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 25-05-2012 16:42:15
Don’t call Me BaBY!!

จะว่าไปมันก็ไม่ได้เลวอย่างที่คิดหรอกนะว่าไหม ไม่รู้สิผมว่าตัวจริงมันก็โอเคนะคุยได้ แต่เอ๊ะ ไม่ๆ อย่าไว้ใจมันเคยหลอกผมไว้นี่เห็นไหมว่าคนเรามันนิสัยไม่ดีจริงๆ เอ๊ะ ยังไงวะเนี่ยกูอุรดิศ
   “บู๊ย ยิ้มมาหน้าซ่ำกระด้ง แนวนี้เฮ็ดข้อสอบได้เด้เนาะคุณอุ่น” พอเดินเข้าบ้านพี่ต้อยก็ทักมาล่ะครับ อะไรใครยิ้ม ผมเนี่ยนะยิ้ม แต่ก็ไม่แปลกหรอกนะปกติผมก็ดูสดใสอยู่แล้วนี่นา อิอิ
   “ทำได้ไรล่ะพี่ต้อย พ่อยังไม่กลับเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
   “กลับมากินข้าวแลงแล้วค่าแต่ออกไปอีก คุณพ่อซายว่าสิยุ่งฮอดวันศุกร์นี่ล่ะค่า คุณอุ่นสิกินเข่าอยู่เบ๊าะ” อ้อ พ่อผมบอกว่าจะยุ่งจนถึงวันศุกร์นะครับ ข้าวแลงคือข้าวเย็นผมพยักหน้า แต่ช่วงสุดท้ายนี่พี่ต้อยถามว่าจะกินข้าวเย็นไหม ผมเลยส่ายหน้าครับ
   “กินมาแล้วติ๊ค่า” “กินมาเมื่อกี๊อ่ะ พี่ต้อยๆ อุ่นไปดูทุ่งนามาล่ะ สวยมากๆพระอาทิตย์ตอนตกดิน วันหลังพี่ต้อยพากลับไปบ้านพี่ต้อยด้วยสิ อุ่นอยากไปลองดำนา” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ไม่ได้กระแดะนะเออ รู้สึกชอบจริงๆอ่ะ
   “ป๊าด โพดหลายค่าคุณอุ่น อยากสิเป็นซาวนาติ๊กระแดะเนาะ” เอ่อ ชมกูอีกล่ะ
   “ทำไมอ่ะ แค่อยากลองทำดู น่าจะสนุก”
   “โอ๊ย ฮอดยามเฮ็ดอีหลีบ่มีดอกค่าคำว่าม่วน มีแต่เมื่อยกับเมื่อย”
   “ไม่รู้ล่ะ ถ้าปิดเทอมพาไปด้วยนะ ไหนพี่ต้อยบอกมีนาร้อยไรไงอยากไปดู” ผมเดินขึ้นชั้นบนไปล่ะครับ
   “ว้าย เอื้อยคุยไปซั่นล่ะค่า มีนาบ่อฮอดซาวไร่ซ่ำดอก” ผมงงครับแต่พอจะคุ้นๆคำว่าซาวนี่จำไม่ผิดน่าจะยี่สิบมั้งแต่ไม่สนใจล่ะ ไปอาบน้ำก่อนรู้สึกเหนียวตัวมากๆ ไอ้บ้านั่นพาผมไปโดนรมควันดูเขาย่างปลาหมึกมากลิ่นติดเสื้อเลยอ่ะ
   “อุ่นเป็นจั่งได๋ ซ่วงนี้เงียบๆไปน้อสอบติ๊” พอผมอาบน้ำเสร็จกำลังจะอ่านหนังสือล่ะครับ คือต้องอ่านมันหน่อยเพราะอย่างวันนี้ผมจะตายเอาไม่มีอะไรผ่านตาไปเลยสักหน่อย ตอนเขาเรียนผมก็หลบเรียน ปูโทรมาหาผมล่ะครับ
   “ใช่ปู ยากมาก เราอ่านหนังสือไม่ทันอ่ะ”
   “อ่านหม่องได๋บ่ทัน วิซาหยัง” ปูถามครับ ถามเหมือนจะติวให้เลยนะเธอ แต่ว่าติวตอนนี้ก็คงไม่ทันล่ะนะ
   “ทุกวิชาอ่ะ ทุกหม่อง” “ฮ่าๆ โอ๊ยเนาะ ซั่นเฮาซ่อยบ่ได้ดอกเด้อค่าคุณซาย” เธอหัวเราะล่ะครับเราก็คุยกันอยู่สักพักแล้วก็วางสายไป ผมก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ เอ๊ะ ทำไมวันนี้โทรศัพท์ผมสัญญาณมันดีจังวะ ตอนอยู่ทุ่งนาก็ดีตอนนี้ก็ดี
   “เฮ้ย” เอ่อ พอไปจ้องมันก็มีสายเข้าล่ะครับ ตกใจสิสายเรียกเข้าผมเป็นเพลงของพี่บี้นี่นา ไม่บอกหรอกนะว่าเพลงอะไรเดี๋ยวจะไปโหลดมาซ้ำผม อิอิ แต่มันทำให้ผมเกือบหงายหลังแน่ะ ใครวะ เบอร์ไม่คุ้นเลยอ่ะ
   “สวัสดีครับ” ผมกดรับสายล่ะครับ
   “ทำไรวะไอ้เจี้ยวเด็ก” เอ่อ แทบจะกดสายทิ้งครับ ไอ้บ้านั่นนี่ หนอยแน่ยังตามมาหลอกหลอนผมอีกจนได้นะ
   “ได้เบอร์เรามาไงอ่ะ” “สัด แล้วไม่ตอบที่กูถามล่ะ นั่งเล่นเจี้ยวตัวเองอยู่เหรอมึง ฮ่าๆ”
   “บ้าเหรอ กำลังจะอ่านหนังสือ นายยังไม่ตอบเลยว่าได้เบอร์เรามายังไง” ผมสงสัยครับ
   “มึงนี่โง่จริงนะ” อ่า ชมกูอีกชมกูทั้งวันแล้วนะมึงไอ้เชี่ย
   “ก็ตอนที่มึงให้กูถ่ายรูปให้ไง กูเลยกดโทรเข้าเครื่องกู ทำไม ต้องให้กูขอเบอร์แบบเป็นทางการไง สัด”
   “เออดิ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะให้นะ มาแอบเอาอ่ะ”
   “สัด เยอะนะมึง ทำไมคุยกะกูนี่จะตายว่างั้น”
   “ป๊าว เออนายๆ แล้วเขาเกี่ยวข้าวกันตอนไหนเหรอ” ผมคิดได้ขึ้นมาล่ะครับผมเลยถามมัน ดีกว่ามาให้มันด่าผมเล่นๆ แหมนะ คำก็ด่าสองคำก็ด่าไอ้นี่มันผิดมนุษย์จริงๆ
   “ทำไมวะ อย่าบอกนะว่าอยากไปลองเกี่ยว”
   “ใช่ๆ เราอยากไปดูอ่ะ”
   “สัด มึงไม่ลาออกจากโรงเรียนไปทำนาเลยวะ มีแต่คนเขาไม่อยากทำนา มึงนี่ท่าจะบ้า”
   “นี่นาย จะบอกไม่บอกอ่ะ ด่าเราอยู่ได้นะ โรคจิตป่ะเนี่ย” ผมทนไม่ไหวครับ จะทำไมล่ะก็กูชอบของกูนี่
   “ด่าไม่ได้ว่างั้น สัดอย่าให้กูเจอตัวนะ จะเตะให้หงายหลังเลย”
   “โอ๊ย กลัวอ่ะ อย่านะ อย่าทำเรา เราไม่สู้คน” ผมทำเสียงล้อเลียนมันล่ะครับ
   “ไอ้เตี้ย” มันคำรามใส่ผม “ทำไมเหรอไอ้สูงเหมือน อิอิ” “เหมือนไร พูดมาซะดีๆ”
   “คิดเองดิ เรียนเก่งนี่ เขาเปรียบเทียบคนสูงกับควายมั้ง” นี่แน่ อย่าให้อุรดิศจัดหนักนะ ไม่กลัวอ่ะเพราะไม่ได้อยู่ต่อหน้ามัน อิอิ จัดเต็มไปเลยนั่งกระดิกเท้าด้วยนะเออ
   “มึงตายแน่ไอ้เตี้ย กูจะไปตบหัวมึงตอนนี้ล่ะ”
   “หรา รีบมาน้าเดี๋ยวอ่านหนังสือรอ อิอิ ไอ้โย่งเจี้ยวเน่า ไอ้ลูกเหม็น ไอ้สกปรกหนูตามท่อระบายน้ำ” นี่แน่ ชุดใหญ่ มันวางสายไปครับ คงจะโมโหช่วยไมได้นะมาแหย่กูเองทำไม แหมนะด่าได้ด่าดีเป็นไงล่ะโดนด่าบ้าง สะใจไหมมึง
   “อ่า ง่วงจัง” เอ่อ เปิดหนังสือได้ไม่ถึงสามหน้าครับ เป็นไรมากไหมเนี่ยกู คงจะเครียดเรื่องสอบวันนี้แน่ๆ ไปชงชาเย็นมากินดีกว่า ชาหิมาละยัน อิอิ ว่าแล้วผมก็เดินลงไปด้านล่างล่ะครับ เสียงพี่ต้อยเชียร์ละครอยู่ใต้ถุนบ้าน
   “จริงจังเนอะพี่ต้อย” ผมแซวครับ
   “บ่ได้ดอกค่า นางเอกมันคือบ่ตบซาดโง่เนาะ เป็นเอื้อยเบิ่งแน้ สิตบให้หงายเงิบๆเลยเด้เนี่ย”
   “จ้าแม่คนเก่ง พี่ต้อยมีมะนาวเหลือป่ะ อุ่นจะชงชามะนาว” ผมเดินไปเปิดตู้เย็นล่ะครับ
   “หาเบิ่งซ่องแซ่ผักนั่นค่า คือสิยังอยู่ดอก” อ่านะ สนใจกูบ้างอะไรบ้าง ใจเย็นนะพี่ต้อยอย่าตบโทรทัศน์พังไปจริงๆล่ะ อิอิ เหมือนพ่อผมเชียร์มวยตอนที่อยู่ที่กรุงเทพฯเลยนะ ไม่อยากจะเผาพ่อตัวเองเตะโทรทัศน์จนล้มโครมเลยนะ ฮ่าๆ
   “อ้าวเดี๋ยว มาหยังเดิกดื่นแท้” หือ อะไรนะ ผมหันขวับทันทีครับ พี่ต้อยอำแน่ๆ
   “มาหาเพิ่นนั่นล่ะเอื้อย ปลัดยังบ่มาติ๊” แว้กก ไอ้นั่นมันมาจริงๆด้วยอ่ะ อย่าบอกนะว่ามันจะมาตบหัวผมจริงๆ
   “นั่นๆ มึงจะไปไหน ไอ้เตี้ย” อ่า นี่มันบ้านกูนะยังจะมาตวาดใส่กูอีก
   “แม่นหยังกัน คือเว้ากันเป็นตาฮักแท้ อิอิ” เอ่อ ตรงไหนพี่ต้อยมันตวาดผมนะ
   “แม่นบ่เอื้อยผมว่าสิมาติวข้อสอบให้เพิ่นนั่นล่ะ ท่าทางคือสิเฮ็ดบ่ได้”
   “ไรอ่ะ เราทำได้นะ ไม่ได้ขอให้มานะ” ผมไล่มันทางอ้อมครับ
   “คือเว้าแนวนั่นค่าคุณอุ่นหมู่เขาอุตส่าห์มาติวให้ฟรีเด้ ไปๆ ไปติวโลดเดี๋ยวเอื้อยกำลังมัน สิตบนางอิจฉาอยู่นี่” อ่า พี่ต้อย ทำไมทำแบบนี้วะ โอ๊ย ไม่ได้นะไม่ให้มันขึ้นห้องผมเด็ดขาด
   “ไปดิ ไหนปากดีๆเมื่อกี๊ ลองพูดอีกทีดิ๊มึงน่ะ” มันเดินปรี่ตรงมาหาผมล่ะครับ ชาก็ชงยังไม่เสร็จโอ๊ยนะ
   “พูดไรอ่ะ ลืม” “นั่น เก่งแต่ว่ากูลับหลังนะมึง” มันท้าทายครับ
   “ไม่ลับหลังอ่ะ เราว่านายสูงเหมือนควาย” มันผลักอกผมทันทีครับ แต่ไม่แรงมากแล้วทำหน้าเหมือนจะต่อยผมจริงๆ ผมกลัวที่ไหนล่ะในมือมีกาใส่ชาร้อนอยู่นะสาดแม่งเลยดีไหมเนี่ย
   “มึงดิ เตี้ยเหมือนหมา” “นายล่ะสูงเหมือนควาย” ผมก็ไม่ยอมครับ มันทำท่าโกรธจัดแต่ผมก็ยักคิ้วใส่มัน เอาดิๆ อิอิ
   “นายมาทำไมอ่ะ ไม่นอนเหรอดึกแล้วนะ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับเพราะมันจ้องผมนานเกินไปแล้วรู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้ ไม่อยากจะบอกเลยว่าแววตามันทำให้ผมก้มหน้าอ่ะ เขินจังจะบอกว่าทนไม่ไหวอ่ะ อิอิ เฮ้ย ไม่ได้นะอุรดิศเราจะไปใจอ่อนกับมันไม่ได้เด็ดขาด
   “ถ้านอนแล้วมึงจะเห็นกูตรงนี้มั้ย เห็นมะว่าใครกันแน่วะควาย ฮ่าๆ”
   “นะ เราจะนอนอ่ะ เสียใจด้วยนะไม่มีเวลาคุย” ผมก็เดินไปที่ตู้เย็นล่ะครับเปิดเอาน้ำแข็ง มันก็ตามมานะ จะตามกูทำไมวะเนี่ย
   “กลับก็ได้วะ แม่งไล่ชิบหาย อย่ามาง้อให้กูติวให้ล่ะ สัด” ไปดิ ใครเชิญมึงไอ้บ้า เออนะมันไปจริงครับ
   “อ้าว สิเมือแล้วติ๊ ไสว่าสิติวหนังสือให้คุณอุ่น” พี่ต้อยครับ
   “เพิ่นเฮ็ดคือเด้เอื้อยบ่ติวดอก ผมเมือเด้อ” มันออกไปนอกบ้านแล้วครับ คงจะไม่พอใจจริงๆ ก็ตามใจมันสิให้มันรู้ซะบ้างว่ากลเทศะเป็นยังไงแหมคิดอยากมาด่าผมก็มาเหรอ มันเป็นบ้าไปแล้ว ผมไม่สนใจครับทำชามะนาวเปรี้ยวๆต่อไป
   “เป็นหยังไปไล่หมู่เมือแนวนั้นค่าคุณอุ่น คุณพ่อซายเห็นนี่เอื้อยบ่ซ่อยเด้อ” อ้าวนะกูผิดว่างั้น ไรอ่ะ
   “ก็อุ่นอยากอ่านเองอ่ะพี่ต้อย ไม่อยากกวนเขาอ่ะ” ผมแถไปครับ
   “บู๊ย ซาดเพิ่นเก่งน้อค่าน้อ สอบยามได๋ตกยามนั้น ต้อยเซ็งค่า” อารมณ์เสียจะพูดทำไมเนี่ย โอ๊ย งอนล่ะขึ้นบ้านไปดีกว่า ก็คนมันหัวไม่ดีนี่หว่าให้ทำไง แก้แล้วก็สอบผ่านนะเว้ยเฮ้ย ถึงจะหลายครั้งก็ตามทีอ่ะ แต่ก็ถือว่าผ่าน คนอะไรมาคอยซ้ำเติมกันอยู่ได้นะ ผมจิบชาเย็นแล้วรู้สึกดีขึ้นล่ะครับ
   “อ๊ะ โทรมาทำไมอีก จะมาด่ากูอีกล่ะสิ” มันโทรเข้ามาอีกครับ ผมเมมเบอร์มันไว้แล้วล่ะ อิอิ ไม่บอกว่าเมมว่าชื่ออะไรนะ มันเป็นคำหยาบคายไร้สาระเหมาะกับมันคนเดียวเท่านั้น ผมไม่สนใจรับหรอกนะครับเพราะรับแล้วมันคงด่าผมตามระเบียบเลยเฉยๆ กดปุ่มให้เสียงมันเบาๆ สักพักมันก็ส่งข้อความเข้ามา
   “รับเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูบุกถึงห้องนอนมึงนะ” อ่านะ มีขู่ด้วย คนอย่างอุรดิศกลัวที่ไหน แต่ เอ่อ กดรับเพื่ออุรดิศ
   “มีไรอ่ะ” โอ๊ย โมโหตัวเอง
   “มึงด่ากูแล้วหนีเหรอ สัด” เห็นไหมครับ
   “ใครหนี นายนั่นล่ะหนีเอง งอนหราตัวเอง อิอิ” นี่แน่มันเป็นโอกาสที่ดีครับที่ผมจะได้เอาคืนมัน
   “งอนเชี่ยไร เดี๋ยวเถอะมึงจะเจอดี”
   “มีไรป่ะนาย เราอยากจะอ่านหนังสือ กวนนะรู้ตัวป่ะ” อยากจะหัวเราะใส่หน้ามันครับ ผมทำเสียงแบบว่าเซ็งๆใส่มันล่ะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ อิอิ
   “เออๆ แม่งอยากคุยด้วยนักหรอกนะ จะบอกว่าพรุ่งนี้มารอกูที่เดิมนะ เจ็ดสี่ห้า แค่นี้ล่ะเว้ย” มันบอกครับ
   “เดี๋ยวดินาย” ผมเรียกมันไว้ล่ะครับ
   “มีไรไอ้เตี้ย”
   “ขอบใจนะ ไอ้เจี้ยวเน่า อิอิ” “สัด อยากตายไง” “ฝันดีนะ” ผมบอกมันไปครับแล้วมันก็เงียบไปเลย อ้าว หรือว่าตายไปแล้ววะเนี่ย อะไรของมัน
   “นายๆ อยู่ป่ะ” “เอ้อ เออ มีไร” “ทำไมเงียบอ่ะ เราวางสายนะ” “วางไปดิ ใครขอให้มึงอยู่” มันพูดครับ หนอยแน่ ผมเลยเอาโทรศัพท์ออกจากหูมาวางลงที่โต๊ะแล้วกดวางสายแบบแรงๆ ไอ้เชี่ยนี่กวนตีนนะ พอวางสายจากมันก็มาตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ เอ่อ จะบอกว่าได้ประมาณสามหน้าอ่ะมันไม่ไหวง่วงมาก นี่ต้องเข้าใจนะว่าผมเพิ่งจะหายป่วยมาอ่ะมันก็มีเพลียบ้างล่ะนะ สาธุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพรุ่งนี้โปรดดลใจให้ลูกทำข้อสอบได้ด้วยเถิด อิอิ มีบ้างล่ะน่าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยได้ยินเหรอว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ สู้โว้ยอุรดิศ
   “คุณอุ่นขา ตื่นแม่ะค่าสวยแล้วเด้” เสียงพี่ต้อยมาเคาะห้องปลุกผมล่ะครับ ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เหลือบมองนาฬิกา แว้กก จะหกโมงครึ่งแล้วอ่ะพ่อแม่พี่น้องตายๆ ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุดครับ
   “บ่กินเข่าติ๊ค่า” พี่ต้อยร้องถามครับ
   “ไม่ทันอ่ะพี่ต้อย ไว้ตอนเย็นนะ” ผมรีบวิ่งออกจากบ้านครับ ตอนนี้ก็เจ็ดโมงกว่าแล้วอ่ะไอ้บ้านั่นมันจะรอผมไหมเนี่ย แต่ อ่า ขอบคุณสิงศักดิ์สิทธิ์ เห็นไหมว่ามีอยู่จริง มันรออยู่ล่ะครับผมรีบเดินไปหามัน มันยิ้มด้วยนะยิ้มทำไมวะ ผมเลยยักคิ้วให้มันทีหนึ่ง
   “ไรเป้าเน่า ยิ้มไรอ่ะ” ผมทักมันครับ
   “สัด ว่ากูเหรอเจี้ยวเด็ก” ป๊าว ว่าโน่นไอ้ด่างโน่น” ผมบุ้ยปากไปหาหมาที่นอนอยู่ข้างถนนครับ อิอิ
   “กวนตีนนะมึง มาใกล้ๆซิ เบบี๋” หือ เอ่อ มันเรียกผมว่าไรนะ อ่าไม่ใช่มันคิดอะไรกับผมนะ ตายล่ะซิจะทำยังไงดีไม่อยากให้มันเป็นเหมือนในเรื่องเพื่อนสนิท อะไรประมาณนั้นอ่ะ ไม่ดีๆ
   “คิดไรวะเชี่ย เบบี๋ของกูหมายถึงไอ้เอ๋อ ทำตัวเป็นเด็กปัญญาอ่อนเว้ย ฮ่าๆ ไอ้เบบี๋” ขอบคุณ อารมณ์เสียอยากจะเหวี่ยงกระเป๋าเข้าหน้ามันเหลือเกินดูมันหัวเราะนะ แหมๆ
   “ยังไม่ได้กินข้าวเลยอ่ะนาย” แถครับแถ ใครจะให้มันมาหัวเราะเยาะอยู่ได้ล่ะนะ
   “อ้าว ไมไม่แดกมาล่ะ” พูดเพราะมากไอ้ควาย แหมนะ
   “เราตื่นสายอ่ะ” “อ่าๆ กูว่าแล้ว จะไปตลาดไหมล่ะ” มันหัวเราะครับ
   “จะทันเหรอ” “ทันดิก็ไม่ต้องไปเข้าแถว เข้าสอบไปเลยไง เบบี๋ อิอิ” ได้ทีเอาใหญ่เชียวนะมึง แต่เออนะเข้าท่าๆ มันขับรถไปที่ตลาดทันทีครับ จะบอกว่าบ้านผมนี่มันไม่ได้ใกล้ตลาดนะครับ ใช้เวลาพอสมควรยิ่งตอนเช้าๆไม่ว่าที่ไหนเนอะ คนเหมือนเขาจะแย่งกันไปไหนมาไหน เห็นแล้วล่ะเพลียแทนเลยนะจะรีบทำไมเนี่ย
   “เราอ่านหนังสือไม่ทันเลยอ่ะ เฮ้อ” ผมบ่นออกมาครับ มันหน้าตาระรื่นมากเลยนะคอยแหย่ผมนั่นนี่อยู่ได้ แต่ผมนี่สิจะตายเอาคิดเรื่องสอบขึ้นมาเครียดขึ้นสมองเลยนะ
   “ก็เวลาเขาให้เรียนเสือกโดดเองนี่หว่า” อ่านะ เออกูรู้เว้ยไม่ต้องมาย้ำ
   “โดดนิดเดียวเองนะ” ผมเถียงล่ะครับไม่ยอม
   “แล้วไง มึงจะลอกใครล่ะ ฮ่าๆ เบบี๋สอบตกแน่ๆเว้ย”
   “เออ ไปยังล่ะจะไปสอบให้ตก อิอิ” นี่แน่ผมยักไหล่ให้มันล่ะครับแล้วเดินไปรอที่รถโกโรโกโสคันนั้น ผมเอามือไปจับที่เบาะรอมันมาสตาร์ทรถแล้วจะได้รีบปีนขึ้นไปนั่ง พอมันเดินมา
   “ถอยดิกูจะขึ้นรถ” “อ้าว ถอยไมอ่ะ” “สัดกูจะเหวี่ยงขา จะให้ฟาดปากมึงไง” อ่านะ เออก็ได้วะ มันเหวี่ยงขาขึ้นพาดเบาะรถล่ะครับผมก็รีบแจ้นขึ้นไปนั่งทันที
   “เฮ้ย กูยังไม่ได้สตาร์ทรถเลยนะไอ้นี่ จะรีบไปไหนวะ” มันหันมาตวาดผมล่ะครับแต่ด้วยที่ผมปีนขึ้นมันใช้แรงหน้าผมเลยเซไปชนหลังมันและมันก็หันหน้ามาพอดี อ่า
   “อ๊ะ เอ่อ รีบไปดิ สายแล้ว” ผมไม่มีอะไรจะพูดครับ จะให้บอกยังไงอ่ะก็ปากผมมันไปชนเข้าจังๆเข้ากับตรงคางมันอ่ะเกือบโดนปาก ได้กลิ่นลมหายใจคาวๆของมันเลยนะ อึ๋ยย สยอง
   “คิดไรกะกูป่ะเนี่ย เผลอไม่ได้นะมึงรุกหนักเลยนะเว้ย” มันพูดครับ แหมนะเขินเป็นนะเว้ยไอ้บ้า ใคร กูเนี่ยนะคิดอะไรกับมึง ฝันไปเถอะมันเป็นอุบัติเหตุเว้ย ไม่ได้ตั้งใจแหมนะอยากใกล้ตายล่ะ ไอ้เน่า
   “สอบให้ผ่านนะเบบี๋” พอถึงโรงเรียนมันก็บอกผมล่ะครับ ผมเตรียมจะวิ่งขึ้นห้องสอบอยู่แล้ว
   “แน่นอน ไอ้เน่า อิอิ” ผมวิ่งหนีไปเลยล่ะครับ มันร้องด่าไล่หลังผมมา สนใจที่ไหนล่ะ เรื่องสอบวันนี้ขอไม่เล่านะจะบอกว่ามันก็อาการเดิมๆไม่ได้ดีเด่ไปกว่าเดิม เว้ยแต่วาภาษาอังกฤษที่พอทำได้ นอกนั้นเหมือนคนหลงทางในวังวนของอะไรสักอย่าง อิอิ เวอร์ไปป่ะ
   “เหลืออีกมื้อเดียว ทนเอาพวกเฮา” พอจะกลับบ้านจอยมันก็บอกล่ะครับ เราไม่ได้ไปไหนกันเลยช่วงสอบต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือ ต้องสู้หน่อยล่ะครับไม่งั้นคงจะอายเพื่อนเขาแย่
   “เออ วันศุกร์มีหมอลำซิ่งเด้ พวกโตสิมาเบิ่งบ่” ไอ้เล็กมันถามล่ะครับ คืออะไรวะหมอลำซิ่ง ผมทำหน้างง
   “อยากมาเบิ่งบ่อุ่น” จอยถามครับ คิดว่าผมจะตอบว่าไงล่ะ อิอิ
   “อยากๆ เราไม่เคยเห็น” ผมทำหน้าตาตื่นเต้นล่ะครับ
   “เฮาสิพาเต้นหน้าฮ้าน ม่วนหลายผู้บ่าวกะหลาย อิอิ”
   “หวืย คั่กน้อเพิ่นบ่ไปซวนสาวเพ็ญไปนำบ่” ไอ้เล็กมันแซวจอยล่ะครับ
   “โพดหลายเล็ก เฮากะเต้นซื่อๆเด้ล่ะบ่ได้ไปนำเขา ผู้บ่าวแถวนี้บ่ได้เห็นขาอ่อนข้อยดอกเด้อค่าสิบอก” จอยมันพูดครับแล้วก็หัวเราะ พวกเราก็แยกกันผมเดินไปหน้าห้องศิลป์เหมือนเดิม
   “ท่าทางคงสอบไม่ได้อ่ะดิมึง ฮ่าๆ ไอ้เบบี๋เอ้ย” พอเห็นหน้าผมมันก็ล้อทันทีล่ะครับ ไอ้นี่นิสัยไม่ดี
   “ก็ไม่เก่งนี่ นี่ๆเน่าวันศุกร์มีหมอลำซิ่งเหรอ เป็นไงอ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
   “มึงเรียกกูว่าไงนะ” มันทำเสียงดุครับ
   “เออนั่นล่ะๆ นายเคยดูป่ะ เราว่าจะมาดูกับเล็กกะจอย” ผมเดินไปหามันล่ะครับ
   “สัด กูคนพื้นที่นะเว้ย ทำไมจะไม่เคย ยิ่งกว่าดูแล้วเว้ย หางเครื่องกูก็” มันหยุดทันควันครับผมเลยมองหน้ามัน
   “แล้วก็ไร” “ไม่มีไร มึงจะกลับเลยป่ะ” แหมนะมีอะไรปิดบังกูนะมึง
   “อืม แต่อยากกินอะไรเย็นๆอ่ะ เครียด” “ไร แค่นี้เครียด เวอร์ไปไหมมึง”
   “ก็คนมันทำไม่ได้นี่ ไปกินติมป่ะ” ผมชวนมันล่ะครับ
   “มึงจะเลี้ยงไง” แหมนะ กูนะไม่ใช่มึงไอ้บ้า แต่ว่าไปมันก็เลี้ยงผมนี่เมื่อวาน
   “เราเลี้ยงเอง” ผมยักคิ้วให้มันครับแล้วก้าวขึ้นรถไป
   “ดีมากเบบี๋” “อย่ามาเรียกเบบี๋นะเน่า” “อ้าวสัด แล้วทีมึงอ่ะ” “ไม่สนใจอ่ะ อิอิ” “งั้นก็ เบบี๋ๆๆๆๆ” “เน่าๆๆๆๆๆ” ผมกับมันเถียงกันมาตลอดทางครับ แต่แปลกมันไม่ได้พาผมไปทางบิ๊กซีนะ เอ๊ะ หรือว่าผมจำไม่ได้เอง แต่ไม่อ่ะ เพราะมันไปแถวหน้าโรงเรียนล่ะครับแต่อยู่ฝั่งโน้น เป็นร้านเล็กๆเหมือนขายไอติมวอลล์ใส่ถ้วยประมาณนั้น
   “ร้านนี้ล่ะ คนไม่เยอะดี” มันบอกครับแล้วเดินเข้าในร้าน ร้านเขาน่ารักดีนะเหมือนเอาไม้เป็นแผ่นๆมาตีเรียงกันไม่รู้เขาเรียกยังไงแต่มันสวยดี มีดอกไม้อยู่หน้าร้านด้วยครับ มีโต๊ะหน้าร้านด้วย มีต้นหางนกยูงที่ออกดอกสีแดงอยู่หน้าร้าน
   “กินไรวะ” มันเอากระดาษเมนูมาให้ผมดูล่ะครับ มันบอกว่านั่งหน้าร้านดีกว่าบรรยากาศดีกว่า ผมก็เห็นด้วยกับมันนะนับเป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่ามันคิดไม่ผิด
   “เอารัมลูกเกดกับสตอแบรี่ก็ได้ เอาวิปครีมด้วย” ผมบอกมันล่ะครับสักพักมันก็เดินไปบอกเขาแล้วมันก็กลับมานั่ง
   “มองไรเน่า” ตั้งแต่เดินมาแล้วล่ะครับมันจ้องหน้าผม ยิ้มด้วยนะ แอบด่ากูล่ะสิมึงไอ้นี่
   “มองเบบี๋ไงจ๊ะ” เอ่อ ขนลุก อย่านะ อย่ามาทำตาแบบนั้น น่ากลัวอ่ะ
   “แหวะ ไม่ต้องมองหรอกนะเน่า นายสั่งไรอ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่องอีกครับไม่มองหน้ามัน
   “ไม่บอก แต่กูอยากกินสตอแบรี่นะ อิอิ”
   “อย่ามาแย่งนะ อยากกินไม่สั่งเอาเองอ่ะ ชอบแย่งคนอื่นนะนาย”
   “เออดิ แย่งกินมันสนุกดี” “นิสัยไม่ดีล่ะสิไม่ว่า”
   “นี่มึงด่ากูเหรอเบบี๋” “ไม่มั้งเน่า” “สัด” เอาไปเอามาก็ทะเลาะกันอยู่นั่นล่ะครับกว่าจะได้กินแย่งกันกินอีกต่างหาก
   “เออ พรุ่งนี้กูมาสายหน่อยนะ แม่กูให้พาไปวัด” พอมาถึงหน้าบ้านผมมันก็หันมาบอกล่ะครับ
   “วันพระเหรอ” ผมสนใจครับ ว่าไปแล้วตั้งแต่มาอยู่นี่ผมยังไมได้ทำบุญหรือใส่บาตรอะไรเลยนะมัวแต่วุ่นวายอยู่
   “เออดิ” “อยากไปด้วยอ่ะ” ผมพูดขึ้นล่ะครับแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปกับมันเพราะกว่าจะโน่นนี่นั่นคงสายพอดี อีกอย่างวันหลังค่อยไปก็ได้ให้พ่อหรือพี่ต้อยพาไป
   “ไปป่ะล่ะ เดี๋ยวกูมารับ” “ไม่ดีกว่า กลัวไปสอบสาย วันสุดท้ายด้วย วันหลังค่อยไป” มันพยักหน้าครับแล้วผมก็เดินเข้าบ้าน แต่ผมไม่ได้ยินเสียงมันสตาร์ทรถ
   “อ้าว ไม่กลับล่ะเน่า” ผมหันมามองครับ
   “สัด ไล่เลยนะมึง กูหิวน้ำ” อ้อ แหมนะแล้วก็ไม่บอก
   “พี่ต้อยๆ มีหนมกินป่าวเพื่อนมาส่งอ่ะ” ผมร้องเข้าไปในบ้านล่ะครับ พี่ต้อยก็วิ่งออกมาจากในบ้าน
   “ไสค่าหมู่น่ะ” “อ้าว นี่ไง ไรอ่ะพี่ต้อย” ผมงงครับ
   “เหวยบ่แม่นหมู่ดอก อิอิ เนาะเดี๋ยวเนาะ” แปลว่าไรวะหัวเราะกันด้วยนะสองคน
   “ไม่รู้ล่ะ มีไรกินป่าวอ่ะ อยากกินชาเย็นอีกแล้วล่ะ” ผมเดินเอากระเป๋าไปวางแล้วไปเปิดตู้เย็นล่ะครับ กินชาหิมาละยันเย็นๆใส่น้ำผึ้งมะนาวหน่อยก็แล้วกัน
   “เอื้อยเมื่อคืนหมู่ผมมันไปไต้เขียดมาได้มาหลาย อยู่เฮือนแม่ผมขี้คร้านเฮ็ดเอื้อยสิเอามาหมกอยู่บ่” ไอ้เน่ามันคุยกับพี่ต้อยล่ะครับ เขียด? แหวะแต่ว่ามันเป็นตัวไงวะน่าจะเล็กกว่ากบป่ะ
   “ว้าย เอาๆโอ๊ยน้ำลายไหลในทันที เอื้อยอยากกินมาโดนแล้วเมื่อเซ้าไปตลาดบ่ทันเพิ่นแหมะ พอดีเลยผักอีเริศพวมป่งง๊ามงามอยู่หลังบ้าน เดี๋ยวสิไปเอามาให้เอื้อยแม่นบ่ซั่นเอื้อยสิไปหาผักดางขมมาอ่อมใส่ กรี๊ด” เอ่อ เป็นไรมากไหมเนี่ยพี่ต้อยแกเหมือนคนถูกหวยเลยนะพูดเร็วแล้วปั่นจักรยานออกไปจากบ้านทันทีครับ
   “อ้าว ไปไหนอ่ะ” ผมเกาหัวเลยครับ
   “ไปเก็บผัก” ไอ้เน่ามันบอกครับ มันนั่งลงเก้าอี้หวายท่าทางสบายเชียวนะมึง
   “ผักไรอ่ะ” ผมสงสัยครับ
   “มึงเอาชาเย็นมึงมาแดกก่อนดิ เร็วๆ ก็หิวน้ำ” อ่านะ ใช้กูอีกนะมึง
   “อ่ะ ว่าแต่เขียดนี่ใครเอามาให้เหรอ” อยากรู้ครับผมยื่นแก้วใส่ชาเย็นให้มันไป
   “ไอ้เคน” “แล้วไปเอามาไงอ่ะ” “ส่องมา” “มันเหมือนกบไหม” “สัด ถามเยอะนะมึง อยากไปจับไงจะได้พาไป ถามจังวะกูปวดปากไม่อยากเล่าเว้ย” อ้าว โวยวายทำไมเนี่ย
   “อยากไปอ่ะ” ผมพูดขึ้นครับ อิอิ อยากไปจริงๆนะก็ไม่เคยอ่ะท่าทางจะสนุกดี
   “กูว่าแล้ว เบบี๋เอ้ย อยากไปซะทุกอย่างนะมึง ไม่คิดอยากมีผัวบ้างไง”
   “ก็คนไม่เคยนี่ทำไมอ่ะ ไม่ผิดนะ หือ นายว่าไรนะ” เอ่อ เหมือนผมฟังมันไม่ทันล่ะครับ มันหัวเราะออกมา
   “นายว่าไร” ผมจี้จะเอาคำตอบแต่มันไม่ยอมบอกครับ
   “ไปไหมล่ะพรุ่งนี้เย็นกูมารับ” “อ่า จริงนะ” ผมลืมไปเลยว่าอยากรู้อะไรกับมัน รู้แต่ตอนนี้ผมจะไปส่องเขียดแล้ว อิอิ ตื่นเต้นจังเลยอ่ะ ว่าแต่เหลือสอบอีกวันนี่อุรดิศ ไม่ห่วงอันนั้นก่อนเหรอ เอ๊ะยังไง

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. เพิ่งจะหายเวียนหัวครับเลยรีบเขียน อิอิ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ ตอนหน้าจะพาไปส่องเขียดเด้อ พ่อแม่พี่น้อง เตรียมตะข้องกับไฟไว้เด้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2012 17:30:23
พี่เน่ากะน้องเบบี๋ สนิ๊ท สนิทเนอะ
ตอนนี้อุ่นคงสนุกที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
แต่เดี๋ยวนี่สิ เหมือนรอเวลางาบยังไงไม่รู้ ลุ้น ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 25-05-2012 17:49:56
ม่วนๆๆๆคักหลยเด้อ อุ่นเป็นตาฮักขนาด โอ๊ยๆๆๆๆ อยากอ่านต่อแล้วเด้อน้องอิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 25-05-2012 17:54:38
ส่องเขียดจะเจออะไรมั้ยน้ออ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 25-05-2012 18:03:17
แหมๆมีชื่อเรียกเฉพาะด้วย เน่ากับเบบี๋ จะหวานอะไรขนาดนี้อิอิๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 25-05-2012 18:11:33
เน่าๆๆ  กับเบบี๋ :o12:

น่ารักที่สุดดดดดดดดดด :o8:

รู้ตัวกันไหมเนี่ย?  ความสัมพันธ์มันพัฒนาไปแล้วนะเออ :impress2:

พี่อิ๊กกี้ พักผ่อนมากๆนะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 25-05-2012 19:49:24
เน่า กับ เบบี๋ น่ารักจริง ๆ เลยคู่นี้ อิอิ เข้ามาติดตามเรื่อย ๆ นะครับพี่อิ๊ก
ช่วงนี้ผมเปิดเทอมแล้ว ขึ้น ม.6 ซะด้วย ต้องตั้งใจเรียน สอบนั่นนู่นนี่อีก
แต่ก็เข้ามาอัพเดทเรื่อย ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้พี่อิ๊กนะครับ
  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 25-05-2012 20:02:36
อุ่นคือเอ๋อคักแท้  :laugh:

หมอลำซิ่งก็จะไป ส่องเขียด ทำนา อยากทำกะเค้าซะหมด

ฝึกไว้เป็นสะใภ้อีสานเหรออออ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 25-05-2012 20:45:53
น้องอุ่นสนใจวิถีชาวบ้านทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 25-05-2012 21:32:21
เน่ากะเบบี๋  ตกลงคบกันแล้วใช่ไหม
น้องอุ่นกำลังเข้าคอร์สการเป็นลูกสะใภ้บ้านนา ^ ^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 25-05-2012 22:59:25
เดี๋ยวเริ่มออกอาการแล้วนะ
สงสัยยังไม่รู้ตัว
ตอนหน้าไปส่องเขียด น่าจะมีอะไรสนุกๆ รออยู่

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 26-05-2012 00:41:12
น้องเบบี้ ของเน่า  :o8:หวานมาก ๆ อ่ะ :o8:+1 ให้ คู่ นี้เขาเลย อิอิ :m20:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-05-2012 01:38:45
น่ารักจัง เบบี๋กะเน่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 26-05-2012 09:16:19
อุ๊ย จะพากันไปส่องเขียดด้วย น่าหนุกๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-05-2012 12:46:53
น่ารักแท้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-05-2012 13:33:57
 :z10: :z10: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 26-05-2012 20:41:21
เบบี๋กับเน่า เรียกเหมือนแฟนกันเลยน่ารักๆ  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: vitaminbb♥ ที่ 26-05-2012 21:27:12
เบบี๋ของเน่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-05-2012 23:31:28
ผมหลงรักเรื่องนี้หมดหัวใจ....ข้องไฟพร้อมครับ เตรียมส่องโลด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 27-05-2012 01:05:32
น่าร๊ากกกกมาก เบบี๋กับไข่เน่า  :impress2:  :impress2:  ข้องพร้อม ไฟพร้อม เสื่อพร้อมมานอนคอยจะไปส่องเขียดด้วยคนจ้าาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 27-05-2012 16:19:40
อุ่น น่าฮักจริงๆเลย อยากรู้อยากเห็นไปหมด
แต่เรื่องสอบนี่ส่ายหน้าลูกเดียว  :m20:
ว่าแต่ตอนท้ายนี่ ถามจริงป่ะ เดี๋ยว  o18

รักษาสุขภาพนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 27-05-2012 16:25:37
 :m24: :oni2: ส่อง กวบบบบบบบบบบบบบ ><
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 13 Version (อุรดิศ) 25 May 12 หน้า 13
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-05-2012 19:02:45
เริ่มตัวติดกันไปตัวติดกันมาแล้วนะ ..เบบี้กะเน่า..
น้องอุ่นใสซื่อ..มีเสน่ห์มากกกก...จริงไหมจ๊ะชายเดี๋ยว หุ หุ
รอต่อไปค่ะ...

 :L1: น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 28-05-2012 09:38:41
You’re My BaBy!!
[/color]

เคยคิดไหมว่าคนเรานี่เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่จริงๆนะ ความรู้สึกทำให้เราพยายามทำสิ่งนั้นหรือพยายามพูดสิ่งนั้นแม้เราจะไม่เคยทำไม่เคยพูด ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าความรู้สึกมันจะทรงอิทธิพลกับเรามากมายขนาดนี้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะคล้อยตามความคิดนี้แล้วล่ะครับ เพราะอะไรไม่รู้ว่ะแต่รู้สึกว่าตอนนี้ผมมีความสุข จะเรียกว่าความสุขมันคงจะไม่เกินไปหรอกนะ ก็ในเมื่อผมรู้สึกยินดีที่ได้ทำอะไรๆกับมัน เฮ้ย นี่กูเปลี่ยนเพศไปแล้วจริงๆเหรอวะเนี่ย สัด
   “อ้าว นายกลับแล้วเหรอ อิอิ ว้า ว่าจะชวนกินข้าวเย็นอ่ะ กลับซะละ เสียดาย” ดูเอานะครับ มันกวนตีนมากนะแต่คงน้อยกว่าผม ฮ่าๆ ผมอมยิ้มไม่รู้ว่าอมยิ้มกับมันได้ทั้งวันให้ตายสิน่ะ
   “ใครบอกกูจะกลับ กูจะกลับไปเอาเขียดมาให้เจ๊แกต่างหากล่ะ” ผมหันมายักคิ้วให้มันล่ะครับ มันทำหน้าเหวอๆไป แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นตาวาวๆ
   “เขียดเหรอ เราอยากเห็นอ่ะ” ดูเอานะครับทำหน้าเหมือนเด็กกำลังจะไของเล่นใหม่
   “เดี๋ยวมึงก็ได้เห็นนี่ รออยู่นี่ล่ะ” “ทำไมเหรอ นายไม่อยากให้เราไปบ้านนายเหรอ” อ้าว สัด ดูถูกกูนี่หว่าไม่รู้จักบ้านคุณนายแต๋วซะแล้วเว้ย
   “มึงไม่ต้องไปหรอก กูไปแป๊บเดียว” แต่ก็ไม่อยากให้มันไปด้วยครับ เหตุผลคือสงสารคุณปู่กูน่ะสิแม่งลำพังกูคนเดียวนี่ก็บิดไม่ค่อยจะออกแล้วนะมีมันอีกคนความเร็วลดลงเลยสิครับ
   “ทำไมอ่ะ เราอยากไป” เออนะ บทจะเร้าๆก็เอากับมันสิครับ
   “เออๆ มาดิเดี๋ยวกูจะพาไปทิ้งป่า ที่บ้านกูหมาดุนะเว้ยให้มันกัดแม่งซะให้เข็ด”
   “ไม่กลัวหรอก นายน่ะโกหก ไปดิ” ดูมันนะครับหน้าตานี่ไม่ได้กลัวผมเลยแม้แต่น้อย มันมานั่งอยู่ด้านหลังผมแล้วล่ะครับ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าแต่ก็ทำไมไม่รู้ยิ้มออกมาซะงั้นกู
   “โห บ้านใหญ่นะเนี่ย มีต้นชมพู่ด้วยอ่ะ” พอถึงบ้านผมมันก็เดินไปหน้าบ้านล่ะครับ ดูนั่นดูนี่อยู่
   “แน่นอน กูไม่ใช่กระจอกนะเว้ย” ผมคุยโวล่ะครับมันก็เบะปากไปตามเรื่อง
   “ไหนอ่ะเชียด” มันทวงถามล่ะครับ
   “อยู่หลังบ้าน โบ้ๆ มากัดไอ้เตี้ยนี่เลย โบ้” ผมพามันเดินอ้อมไปหลังบ้านล่ะครับแต่เรียกหมาไอ้โบ้ผมให้มาหา มันไม่กัดหรอกนะครับไอ้โบ้แต่มันจะชอบดม หมาไทยหลังอานนะเว้ยเฮ้ยทำเป็นเล่น
   “อ่า มีหมาจริงด้วยอ่ะ โบ้ๆมานี่มา” อ้าวสัด ไม่กลัวอีกมันนั่งยองๆลงนะครับแล้วกวักมือเรียกไอ้โบ้ไป อ้าวไอ้นี่ก็ใจง่ายอีกกระดิกหางเข้าไปหามัน
   “ขนสวยจัง ตัวใหญ่ด้วย หิวไหมอ่ะโบ้ กินไอ้เน่าไหม อิอิ” “สัด เดี๋ยวกูยุให้มันกัดมึงเลยนี่” ผมแอบยิ้มล่ะครับ ปกติมันไม่กัดแต่มันก็ไม่ให้ใครแตะง่ายๆนะไอ้โบ้น่ะ วันนี้แปลก
   “โห มีโต๊ะไว้ปาร์ตี้ด้วยอ่ะดิเนี่ย อ่า นั่นไก่เหรอ” “สัด เป็ดเว้ย ไก่บ้านมึงดิ” มันวิ่งไปคอกเป็ดก๊าบที่แม่ผมเลี้ยงไว้คู่หนึ่งล่ะครับ ทำท่าเหมือนคนไม่เคยเห็น
   “ตัวโตจัง มันมีไข่ไหมอ่ะนาย” “มึงปัญญาอ่อนป่ะเนี่ยไอ้เบบี๋ ไก่กับเป็ดมันออกลูกเป็นไข่ไม่รู้ไง ถามอะไรโง่ๆวะ” ผมว่ามันล่ะครับ บางทีก็รำคาญนะแม่งทำตัวปัญญาอ่อนเกินว่ะ
   “อ้าว ก็เราไม่รู้นี่ รู้ล่ะว่ามันออกลูกเป็นไข่ แต่ใครจะรู้อ่ะบางทีมันอาจจะเป็นตัวผู้ทั้งคู่ไง ออกไข่ได้เหรอ” สัด เอากับมันสิครับ เถียงข้างๆคูๆ ตบกะโหลกสักทีดีไหมเนี่ย ดูๆ ทำหน้างอนใส่ผมอีกนะ
   “เป็ดไก่น่ะไม่รู้เว้ย รู้แต่ถ้าคนน่ะเอากันได้” สัด กูพูดอะไรออกไปเนี่ย
   “แหวะ ไม่มีทางคนน่ะผู้ชายกับผู้ชายที่ไหนเขามีลูกกัน บ้าป่ะนาย”
   “อ้าวสัด โง่อีกนะมึง กูบอกว่าเอากันโว้ย ไม่ได้มีลูก” มันอายหน้าแดงขึ้นมาทันทีครับ อ้าวๆ
   “เฮ้ย เขินเชี่ยไร คิดอะไรกะกูป่ะเนี่ยมึง เบบี๋” “บ้า ไอ้บ้า ใครจะคิดไอ้เน่า” นั่น ด่ากูอีก
   “ไม่เอาแล้ว ไม่ดูแล้วไหนอ่ะเขียดอ่ะ” แถอีก กูว่ากูแถเก่งแล้วนะมาเจอไอ้นี่กูชิดซ้ายไปเลย
   “อ่ะ ดูซะไอ้เบบี๋ คนอะไรอยากดูเขียด” ผมเดินไปหยิบเอาตะข้องมาวางไว้บนโต๊ะหินอ่อนล่ะครับ มันก็ปรี่เข้ามาทำท่าเหมือนกลัวนะ
   “ตัวเล็กเนอะ แล้วกินได้เหรอ ไม่สงสารมันเหรอ” “สัด สงสารก็ไม่ได้แดกซิวะ มันเกิดมาเป็นอาหารคน บ้าป่ะเนี่ย”
   “นายเปิดให้ดูหน่อยดิ” มันยื่นหน้ามาส่องล่ะครับ ผมส่ายหัวแต่ก็ยอมเปิดฝาตะข้องมันก็ชะโงกหน้ามาให้ตายเถอะหน้ามันอยู่ห่างจากผมแค่คืบ
   “เยอะจัง” พูดอยู่ได้วะ กูรู้สึกแปลกๆแล้วนะเว้ย มันก็นิ่งผมก็นิ่งครับประมาณไม่เกินนาทีได้มั้ง
   “ดูดบุหรี่มาเหรอ เหม็น” มันพูดครับ ผมเลยถอยออก
   “แล้วมึงสูดเข้าไปทำไมวะ” ผมพูดรู้สึกร้อนๆหน้าล่ะครับ
   “ก็มันได้กลิ่นอ่ะ ทำไมดูดบุหรี่ มันดีเหรอ” มันเองก็หน้าแดง สัด ทำไมต้องมารู้สึกอะไรเอาตอนนี้ด้วยวะยิ่งเปลี่ยวๆอยู่ด้วยนะเว้ยเฮ้ย ผมทนไม่ไหวครับเลยเดินเข้าบ้านไป มันไม่ตามเข้าไปนะ มันนั่งเล่นอยู่กับไอ้โบ้ ผมทำใจอยู่สักพักก็พามันกลับ มันเป็นคนถือตะข้องท่าทางมันตื่นเต้นมากเลยนะกับการทีได้ถือตะข้องใส่เขียดเนี่ย
   “ไสค่าไส บู้ยหลายแท้ ซั่นเอ้ยสิเฮ็ดเผื่อเอาเมือไปให้แม่โตกินนำเนาะเดี๋ยว” เจ๊แกกลับมาจากเอาผักดางขมแล้วล่ะครับ ที่จริงมันเป็นวัชพืชนะ คนอีสานนี่ก็หากินแปลกๆ ผักดางขมนี่มันเกิดตามทุ่งนาตามที่ดอนนะครับ มันแผ่นๆหรือที่เขาเรียกว่าดาง เหมือนหญ้าแต่วัวควายไม่กินเพราะมันขม เขานิยมเอามาคั่วใส่แกงอ่อมหรือไม่ก็ต้มใส่ปลารสชาติมันจะออกขมปะแล่มๆทำให้อาหารดูกลมกล่อมขึ้นล่ะครับ
   “ไปเอามาตาใสนี่เอื้อย” ผมถามครับเพราะช่วงนี้นาน่าจะไม่มีที่ดอนเหลือแล้วเพราะฝนตกถี่เหลือเกิน ถ้ามีก็น่าจะอยู่ไกลมากๆ
   “สนามบอลหน้าที่ว่าการเด้ เอื้อยไปเล็งไว้หลายมื้อแล้ว มาๆ เอื้อยสิเอาไปหมกกับเอาไปอ่อม” เจ๊แกทำท่าทางเหมือนได้อาหารชั้นเลิศมาเลยนะครับ
   “อุ่นอยากดูด้วยอ่ะพี่ต้อย” ไอ้เตี้ยล่ะครับมันสนใจ
   “มาเบิ่งติ๊ค่า พอดีเลยไปเก็บเอาผักอีเลิศมาให้เอื้อยนำแน่” ผักอีเลิศนี่คือใบชะพลูนะครับ หลังจากนั้นผมก็ตามเข้าไปช่วยล่ะครับ ผมมีหน้าที่สับเขียดให้ละเอียดเจ๊แกก็เตรียมเครื่องปรุง ส่วนไอ้เตี้ยนั่นมันก็ล้างผักใบชะพลู
   “หอมจังพี่ต้อย” พอเจ๊แกเริ่มทำแกงอ่อมกลิ่นใบชะพลูมันก็ออกล่ะครับหอมดีนะ วิธีทำแกงอ่อมที่นี่ไม่เหมือนที่เขาทำขายกันในกรุงเทพฯนะครับ เพราะในกรุงเทพฯผมเคยกินไม่อร่อยเลย ที่นี่เขาจะเอาพริกโขลกกับหัวหอมตะไคร้เอาคลุกลงกับเขียดที่สับละเอียดแล้วเอาไปคั่วจนมันพอสุกให้กลิ่นหอมก่อนแล้วปรุงรส เติมน้ำนิดเดียวแล้วเอาผักลงโปะจบครับ ไม่ได้เติมน้ำเป็นแกงเหมือนในกรุงเทพฯ สรุปคืนนั้นผมก็อยู่กินข้าวกับมันล่ะครับ ปลัดยังไม่กลับเห็นเจ๊แกบอกว่าพักนี้ปลัดเองงานยุ่งมากไม่ค่อยกลับบ้านตรงเวลา พอประมาณหกโมงกว่าๆผมก็เอาห่อหมกเขียดกับแกงอ่อมไปที่ร้านล่ะครับ แน่นอนครับแม่ผมดีใจมาก ดีใจกว่าถูกหวยอีกมั้งนั่นน่ะ
   “ยิ้มไรอ่ะ” พอตอนเช้าผมก็มาจอดรถรอไอ้เตี้ยนี่ล่ะครับ ผมรีบตื่นแต่เช้าพาแม่ไปวัดเสร็จก็รีบมา บอกแม่ว่าจะไปรับไอ้เตี้ยนี่ แปลกมากนะปกแม่ผมจะให้รอรับกลับก่อนค่อยปล่อยแต่นี่แม่ผมให้ไปส่งเฉยๆ เอากับคุณแม่ผมสิครับท่าทางคงจะรักไอ้เตี้ยนี่มากเลยนะ แหมๆ ออกหน้าออกตาเกินไปไหมคุณแม่
   “ยิ้มไร ไมกูยิ้มไม่ได้ไง” ผมยักคิ้วให้มันล่ะครับ มันก็เบะปากตามประสาผมเริ่มชินล่ะ
   “ป๊าว อ่ะกินป่ะ” มันล้วงเอานมเปรี้ยวแบบกล่องยื่นให้ผมล่ะครับ
   “กิน แต่กินตอนขับรถ” “อ้าว ขับรถจะกินไงอ่ะ” “โง่จังนะเบบี๋ มึงก็ยืนให้กูดูดดิวะ” คิดอะไรอยู่ไอ้เดี๋ยว สัด กูนี่ยังไงวะเนี่ย เฮ้ยๆ ไม่ได้คิดอะไรนะโว้ย ก็มันจะได้ไม่เสียเวลาไง
   “เห็นว่ามารับหรอกนะ ถึงยอม” มันพูดครับแต่เสียงเบาๆคงกลัวผมจะด่าเอา
   “เอามาดิ กูอยากกินแล้ว” พอออกรถไปได้สักพักผมก็หันมาบอกมันล่ะครับ มันก็ยื่นกล่องนมมาผมก็ดูดแต่ดูดนิดเดียว แกล้งมันล่ะครับ
   “ตอนเย็นเราจะไปกี่โมงอ่ะ” มันถามครับ “
“ไปไหนวะ” “อ้าว ไปส่องเขียดไง ไรอ่ะลืมเหรอ” เออนะ ช่างจดช่างจำจริงๆวะไอ้เตี้ยนี่ แสดงว่ามันอยากไปจริงๆ
“ก็ประมาณหกโมงเย็นล่ะ อยากไปมากว่างั้นมึง”
“ก็ไม่เคยอ่ะ แล้วทำไมดูดไม่หมดซะทีอ่ะ” มันรู้ตัวแล้วครับว่าผมแกล้งมัน
“กูไม่ค่อยชอบ” แถไปครับ “อ้าวก็ไม่บอก งั้นเรากินนะ” “เฮ้ย แย่งกูกินเหรอมึง สัด”
“ก็นายไม่ชอบนี่ ไม่รู้ล่ะกินนะ” มันดูดจนหมดครับเพราะเสียงมันดังจ๊วบๆอยู่ และมันก็เอามาดูดใกล้ๆหูผมเลยนะ ไอ้นี่วอนซะแล้ว หัวเราะอีกนะมัน
“เชี่ย แล้วกูจะแดกไรวะ ยังไมได้กินข้าวนะเว้ย”
“วันนี้หากินเองนะ เพราะเรากินห่อหมกเขียดมาแล้ว อร่อยมาก” มันลากเสียงล่ะครับ แหมถีบตกรถดีไหมเนี่ย
“บักไม้ เบิ่งผู้ลางคนแน่ล่ะ หน้าตาสดใสเนาะ” พอแยกกับมันผมก็เดินไปหาเพื่อนๆล่ะครับ แต่เสียงแซวมานี่แม่งทำให้ผมรู้สึกเขินได้เหมือนกันนะ
“แม่นอยู่ ปานนั้นล่ะบอกบ่มักๆ เอาอีหลีแล้วหน้าบานคือหยังนี่เนาะเพิ่น”
“พวกสูว่าไป บักห่านี่ถืกตีนกูเด้” ผมตวาดไปล่ะครับพวกมันสองคนก็หัวเราะ
“อย่าฝืนเจ้าของหลายเด้อมึง แนวได๋มีควมสุขน่ะเฮ็ดเอาโลดก่อนสิโลกมันสิแตก ฮ่าๆ เนาะไม้เนาะ” สัดเคนมันทำท่าตุ้งติ้งแล้วกระแซะสัดไม้นะครับ
“บักห่านี่ เว้าหยังวะ” แต่กูนี่สิโมโหจริงๆ ตีนเหวี่ยงไปเตะแก้วน้ำที่มันซื้อมาล่ะครับ ที่โมโหก็ไอ้ที่มันทำท่าตุ้งติ้งนั่นล่ะครับ ไม่ชอบว่ะบอกตามความจริง
“เฮ้ย มันล้อเล่นบักห่ามึง สิเคียดไวหลาย” สัดไม้ครับออกตัวแทน
“ล่อพ่อมึงติ๊” ผมเดินหนีครับ ไม่อยากอารมณ์เสียแต่เช้า สัดเคนมันวิ่งตามมาครับ
“บักเดี๋ยวๆ กูขอโทษ กูบ่ได้ตั้งใจ” สัดเคนมันวิ่งมาตบบ่าผมไว้ล่ะครับ
“คั่นมึงสิล้อหยังกูน่ะกูบ่ว่าเลย แต่มึงอย่าสิมาล้อแนวนี้กูบ่มัก”
“เออ กูฮู้อยู่ดอก โพดไปหลายบักห่านี่” ถามว่าทำไมผมถึงโกรธ ไม่รู้สิครับ แต่พวกมันคงรู้ว่าตอนนี้ผมขลุกอยู่แต่กับไอ้เตี้ยนั่น และในโรงเรียนก็คงลือว่าผมกับมันกิ๊กกัน คือผู้ชายกับผู้ชายอ่ะนะ แล้วมาล้อทำท่าตุ้งติ้งแบบนี้มันคงจะหมายถึงว่าผมเป็นตุ๊ดไอ้เตี้ยนั่นมันเป็นตุ๊ด จะบอกยังไงดี เอาง่ายๆมันไม่ใช่และกูไม่ชอบ จบมะ
“กูสิไปไต้เขียดเด้ พวกมึงสิไปนำบ่” พอสอบเสร็จผมก็ถามสองตัวนี่ล่ะครับ
“เมื่อวานซืนกูกะไปมาแล้วเด้ เอาไปให้กินเหมิดแล้วติ๊หรือแม่เพิ่นเอาไปเฮ็ดขายติ๊” สัดเคนครับ
“เหมิดแล้ว เอาไปให้ปลัด” ผมบอกครับ มันสองคนหันหน้าเข้าหากันแล้วหัวเราะทันที นั่นไง แม่งเอ้ย
“ไปๆ ไปท่งได๋ล่ะ” สัดไม้ครับมันคงอ่านสีหน้าผมออก
“มึงไปท่งได๋คั่นบักเคน” ผมหันไปทำหน้าเอาเรื่องสัดเคนครับ แหมนะไอ้เชี่ยนี่
“ท่งหัวดอนนาไผบู้ แต่มันใกล้ๆป่า หลายคั่กแข้งเอาจั่งได๋กะบ่เหมิด” มันบอกครับ แข้งคือการสวิงนั่นล่ะครับแต่เป็นการสวิงแบบแห้งคือไม่ได้ทำในน้ำ ที่นี่เขาเรียกแข้งเขียด แต่ถ้าทำในน้ำจะเรียกซ่อน ไม่ออกเสียงแบบซ่อนแอบอะไรนะ ต้องออกเสียงต่ำๆครับ
“เคน ไม้ สอบได้ป่ะ” พอเดินมาที่โรงรถไอ้เตี้ยนั่นกับสาวจอยไอ้เล็กก็เดินมาสมทบล่ะครับ หน้าตามันระริกระรี้มากเลยนะ ส่วนกูหุบความบานของหน้าไว้หน่อยก็ดีนะคนยิ่งล้อๆอยู่ด้วย
“พอได้ ง่ายคือสิตาย” สัดเคนครับ
“หวืย คุยเนาะหวางฮั่นล่ะว่ายากได้ยากดี บักห่านี่” สัดไม้เบรกครับ แล้วพวกมันก็หวัวเราะขึ้น
“สิไปแข้งเขียดนำกันอยู่บ่ไม้ เคน” สาวจอยครับ
“เอ้า พวกโตกะสิไปติ๊” สัดเคนทำท่าตกใจแต่หันมามองกูเพื่อ
“ไปต่อเนาะ เพิ่นนี้เพิ่นอยากไป” สาวจอยหันไปหาไอ้เตี้ยนั่นล่ะครับ
“อ้อๆ ฮู้แล้ว คั่กน้อเพิ่น” สัดไม้ครับพยักหน้ากับสัดเคนแล้วหัวเราะ แม่งกูร้อนหน้าขึ้นมาทันที
“กอดแอวกะได้เด้ออุ่น บักเดี๋ยวมันบ่ว่าดอก กอดโลด ฮ่าๆ” พอแยกกันขึ้นรถสัดไม้มันก็แซวมาล่ะครับ
“สัดหมานี่” ผมตวาดด่ามันไป แล้วรีบออกจากโรงเรียนมาครับ เหงื่อแตกแล้วว่ะแม่งอายจัง
“นายไปด่าเพื่อนไมอ่ะ” ไอ้เตี้ยนี่มันถามขึ้นล่ะครับ
“มันปากหมาไง” “นายอายเหรอที่ไปรับไปส่งเรา เพื่อนล้อเหรอ” เอ่อนะ มันถามขึ้นล่ะครับ
“กูไม่ชินว่ะ” กูเป็นคนปากกับใจตรงกันอ่ะนะรู้สึกยังไงก็บอก
“งั้นไม่ต้องมารับเราก็ได้นะถ้านาย อาย” มันเว้นจังหวะครับ
“สัด คิดอะไรเนี่ย กูอายแล้วเกี่ยวไรกะมึงวะ มีหน้าที่ซ้อนท้ายรถก็ซ้อนไปดิ พูดมากนะมึง”
“ก็เราไม่อยากให้นายลำบากใจนี่ เราเข้าใจนะว่านายคงไม่ชิน” มันเสียงอ่อยลงล่ะครับ มันผิดไหม ไม่นะ ส่วนเพื่อนผมผิดไหมก็ไม่นะ ไม่มีใครผิดหรอกครับ ก็อย่างที่ผมบอกว่าคนเราส่วนใหญ่เอาอารมณ์ความรู้สึกของเราเป็นที่ตั้งเหมือนๆผมนี่ล่ะ ความจริงถามว่าผมรู้สึกดีไหมที่มารับมาส่งมัน ตอบจากใจผมรู้สึกดีนะ แล้วมีอะไรที่รู้สึกไม่ดี ก็ตอนที่เพื่อนๆล้อ เพราะอะไร เพราะกูไม่ชินไม่เคยโดนล้อแบบนี้ จะบอกว่ายังไงดี มันผิดวิสัยบักเดี๋ยวก็คงไม่แปลก แล้วทำไมเวลาไปรับไปส่งสาวๆเพื่อนๆก็ล้อแล้วทำไมไม่อายวะ เออนั่นสิ แล้วจะรู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกันหรือผู้หญิงใครเป็นคนกำหนดวะเนี่ย สัด โว้ย ปวดหัว แม่งเอ้ย ช่างแม่งมันเถอะใครจะล้อก็ล้อไปวะ
“คิดมากนะมึง เดี๋ยวหกโมงกูมารับ” ผมจอดหน้าบ้านมันล่ะครับ มันทำหน้าหงอยๆแล้วเดินเข้าบ้านไปส่วนผมก็ตรงดิ่งไปที่วัดสิครับ ไปหาหลวงพ่อดีกว่า เออ ลืมบอก สัดเคนมันอยู่วัดนะครับ บ้านมันก็มีแต่หลวงพ่อคือลุงของมันมันเลยไปอาศัยอยู่วัดซะส่วนใหญ่ล่ะครับ
“เฮ็ดหยังหลวงปู่” ผมเดินเข้าไปหาหลวงปู่ล่ะครับท่านกำลังสาละวนอยู่กับโต๊ะไม้ไผ่ที่ทำขึ้นมาเองมีสัดเคนอยู่ข้างๆ ผมไม่ได้มองหน้ามันครับ เซ็ง
“ขัดโต๊ะ มึงสิมาขอหยัง” อ้าวนะ ว่าไปนะหลวงปู่เห็นบักเดี๋ยวเป็นคนขี้ขอไปได้นะ
“เว้าโพดหลายหลวงปู่ มีหยังสิให้เอาเดี๋ยวนี่ มาเล่นนำซื่อๆดอกสอบแล้วไวบ่มีหม่องไป” ผมแถไปล่ะครับแล้วไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ไผ่ที่ทำเสร็จแล้ว
“มึงเป็นหยัง หน้าตาคือคนบ่ซำบายใจบักเดี๋ยว” สัดเคนครับ เพราะพวกมึงนั่นล่ะสัด
“บ่มีหยังดอก แล้วบักไม้มันสิมาจักโมง” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ เป็นคนปากกับใจตรงกันมันก็ดีนะแต่ไม่ใช่ว่าจะโพล่งออกไปหมดซะทุกเรื่อง เก็บไว้หน่อยก็ดี
“มึงไปเอากระดาษทรายมาขัดแน่ะบักเคน” หลวงปู่ใช้มันล่ะครับ สัดเคนมันก็เดินไป
“บักเดี๋ยว มึงว่าคนเฮาสู่มื้อนี่ยึดติดเกินไปบ่” หลวงปู่ถามขึ้นครับ ถามแบบนี้กูสะดุ้งเลยสิ
“บ่ฮู้ดอกหลวงปู่”
“มันแม่นอยู่ คนเฮาอาศัยในสังคม ทุกสิ่งอย่างสังคมเป็นผู้กำหนด แต่เขาอาจสิลืมไปว่าบางอย่างแนวบ่ดีกะพากันเฮ็ดแต่สังคมเห็นว่าดี แนวบ่ผิดต่อไผบ่รบกวนไผสังคมเบิ่งว่าบ่ดีมีถมไป แนวได๋ดีกะเฮ็ดเอา ดีซั่วในใจเฮานั้นดอกฮู้ บ่มีไผมาหยั่งฮู้ในใจเฮาดอก” เอ่อ กูอึ้งแดกไปเลยครับพูดไม่ออก ผมไม่รู้นะว่าหลวงปู่จะรู้อะไรมาจากสัดเคนหรือไม่ แต่เหมือนแกเทศน์สอนผมอยู่เลยนะระบุโต้งๆขนาดนี้
“สาธุ” ผมยกมือขึ้นใส่หัวล่ะครับ หลวงปู่ก็ทำงานต่อไป ส่วนผมก็คิดได้ เออ นั่นสินะใครจะมารู้ดีเท่าใจกูวะไม่มีหรอกนอกจากกูคนเดียว ใครจะว่ายังไงช่างแม่งมันดิ

เขียนโดย อิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-05-2012 10:06:55
ขอบคุณหลวงปู่ที่ชี้ทางสว่างให้เดี๋ยว
สงสารน้องอุ่น หงอยไปเลย
เวลาอ่านออกเสียงแล้วมันสนุกจริง ๆ เลยคุณอิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-05-2012 10:15:08
สาธุหลวงปู่
เดี๋ยวได้ตาสว่าง
สักที :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-05-2012 10:35:19
ข้อคิดดีจังครับ
หลวงปู่เข้าใจโลกดีแท้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 28-05-2012 10:45:39
 :-[ :-[  หลวงพ่อเทศน์โดนใจหลาย   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: White Raven ที่ 28-05-2012 10:48:32
ชอบบบบบบบบ เรื่องเน้~ :-[

ภาษาน่ารักมากมาย อ่านฮู้บ้างบ่ฮู้บ้าง แต่ฮาดี อิอิ
เบบี๋น่าร้ากกกกก ซื่อๆ เอ๋อๆ
ส่วนไอ้เน่าก็กวนๆ ปากหมาๆ
เวลาอยู่ด้วยกันดูกุ๊กกิ๊กน่ารักดี
ตอนล่าสุดนี่ชอบที่หลวงปู่พูดมากเลยค่ะ  o13

ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับคุณอิ๊กกี้อีกคนนะคะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 28-05-2012 12:01:48
ชอบมากกก เอาใจช่วย ดีใจที่คุณ eiky มาลงงานเขียนได้บ่อยๆๆ ช่วงนี้ แสดงว่า เหตุการณ์ไม่ดีทั้งหลายผ่านไปแล้ว ไงก็เป็นกำลังใจให้นะ อิอิ o13 :man1: o13 :man1: o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-05-2012 12:30:04
รอตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 28-05-2012 12:42:05
กรี๊ดด วิชพงษ์
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 28-05-2012 14:20:59
ทุกอย่างอยู่ที่ใจเราเองนะเดี๋ยว สู้ๆๆ อุ่นนะเขาคงรู้ใจตัวเองแล้วละว่าเขาชอบใคร
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 28-05-2012 14:45:42
แหมะ
ไม่ต้องมีซับเลยจ้ะ รู้เรื่องทุกตอน 5555
สนุกดีอ่ะ
ไอ้เดี๋ยวซึนไปนะ
น้องอุ่นก็ใสๆเลยอ่ะ
เลิกกะแฟนเก่ากะดีแล้ว
><
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 28-05-2012 16:31:31
ตอนนี้เรือ่งนี้เป็นเรื่องเดียวที่เฝ้ารออ่านอยางใจจดใจจ่อ น่ารักกันมากๆ เดี๋ยวเต็มที่เลยลูกทำตามใจตัวเองไปเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-05-2012 17:28:44
เดี๋ยวเห็นทางสว่างแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 28-05-2012 17:33:21
หลวงปู่เปิดทางสว่างให้แล้วเดี๋ยว เดินหน้าเลย  o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 28-05-2012 17:45:45
 o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 28-05-2012 21:11:54
เจอเครื่องเตือนสติจากหลวงปู่เข้าไป
รู้ใจตัวเองขึ้นมาทันใดเลยนะนายเดี๋ยว

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 29-05-2012 15:05:16
 :call:
สาธุ..ใกล้เห็นแสงสว่างแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 29-05-2012 15:24:16
ชอบจัง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 29-05-2012 16:30:50
สาธุ >< :call:

ทำตามหัวใจนะ บักเดี๋ยว สู้ๆ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 29-05-2012 18:05:35
 :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 29-05-2012 21:30:22
เมื่อรัยจะยอมรับใจตัวเองได้สักทีนะบักเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-05-2012 22:33:10
ขอบอกรักเรื่องนี้ทุกครั้งที่อ่าน....ตกหลุมรักทุกครั้งจริงๆครับ ....ขอสาธุคำเทศน์หลวงลุงด้วย....สาธุ...
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 30-05-2012 13:02:11
อ่านตอนแรกก็ยิ้ม ๆ  ตอนจบก็สาธุ _/\_
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 13 Version (วิชพงศ์) 28 May 12 หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 31-05-2012 04:30:45
น้องอุ่นน่ารักเอ๋อดี
ส่วนเน่า เมื่อไหร่จะคิดตก
ระวังมือที่สามบ้างล่ะ
คนจีบตรึมขนาด

แปลลาวบ่อเก่งแต่จักพยายามเด้ออ้าย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 31-05-2012 14:11:40
Don’t call Me BaBy!!

ผมเข้าใจความรู้สึกของไอ้เน่ามันนะครับ มันคงจะไม่ชินจริงๆล่ะที่โดยปกติชีวิตของมันไม่เคยต้องไปรับไปส่งใคร เอ๊ะ แล้วกูรู้ได้ยังไงเนี่ย เออน่าเดาอ่ะ จากการูปการณ์แล้วคนอย่างมันอ่ะผมว่าคงไม่เคยง้อใครด้วยมั้ง แต่มันก็ยอมมารับมาส่งผม เวลาคนล้อหรือมองมันแปลกไปมันก็คงรู้สึกไม่ชินหรืออายเป็นธรรมดา ผมเข้าใจล่ะครับ แต่เย็นนี้จะไปส่องเขียน แว้กก ดีใจ อายก็ช่างมันดิ ผมไม่อายอ่ะ หน้ามึนเข้าไว้เดี๋ยวก็ชินเองล่ะน่าเนอะ
   “สิไปไสเกาะค่าคุณอุ่น” ผมรีบเตรียมเสื้อผ้าไว้ล่ะครับ ต้องใส่กางเกงขายาวกับเสื้อแขนยาวสินะ ใส่รองเท้าผ้าใบด้วยดีกว่า หมวกแก๊ปด้วย อิอิ ตื่นเต้นๆ
   “ไปส่องเขียดอ่ะพี่ต้อย” ผมบอกแกไปล่ะครับเพราะคงผิดสังเกตที่ผมพอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบเปลี่ยนชุดใหม่เลย
   “ว้าย ไปไต้เขียดอีหลีติ๊ ไปกับไผ ไปแถวได๋” เอ่อ ตะโกนเพื่อ อยู่ใกล้แค่นี้พูดเบาๆก็ได้ยินนะพี่ต้อย
   “เดี๋ยวอ่ะมันจะพาไป จอยกับเล็กก็ไป มีเคนกับไม้อีกอ่ะ”
   “แล้วข้องเด้ค่า ข้องอยู่ไส เอาอันน้อยๆไปสิพอบ่ล่ะค่า” เอ่อ คนแบบพี่ต้อยเขาเรียก โพด เยอะไปป่ะเนี่ยกูก็นึกว่าจะด่า อะไรอ่ะ ว่าแล้วพี่ต้อยก็เป็นธุระจะไปหาตะข้องมาให้ผมล่ะครับแต่ผมบอกไม่เอาเพราะไปดูเฉยๆ
   “ระวังงูเด้อค่าคุณอุ่น ใส่กางเกงยีนส์ไปโลด ใส่เกิบดีๆเด้อค่า เอื้อยสิถ่า อู๊ย คือสิหมานเนาะ” พูดเหมือนประชดเลยนะ แหมๆ ไม่ได้จะเอามาให้พี่ทำอ่อมหรอกนะจะบอกไปดูเขาจับเฉยๆหรอกนะ แต่ว่าไปอ่อมเขียดเมื่อคืนก็แซ่บอยู่นะ อิอิ
   “ป๊าด คือแต่งโตเต็มยศแท้ล่ะอุ่น สิไปไต้เขียดเด้ล่ะบ่แม่นไปย่างห้าง” จอยมันมาถึงแล้วล่ะครับ น้องมันก็มาด้วย
   “อ้าว เขาไม่ใส่กันแบบนี้เหรอ” ผมมองดูตัวเองกับมองดูจอบกับน้องล่ะครับ จอยมันใส่กางเกงขาสั้นธรรมดา เสื้อยืดส่วนน้องมันนี่กางเกงกีฬามาเลยเสื้อบอลอีกต่างหาก
   “แต่โตใส่แบบนี้ล่ะดีแล้วคนบ่เคยเนาะ”
   “ไฟอะไรอ่ะ” ผมเดินไปหาน้องมันล่ะครับเพราะมันเป็นไฟดวงกลมๆมีกระปุกต่อสายขึ้นไป
   “หม้อแบต” มันบอกครับ
   “เหมือนไฟฉายเหรอ” ผมสงสัย ไอ้เด็กนี่มันเลยเปิดไฟส่องใส่ตาผม ตกใจสินะ แหมนะทำกับผมแบบนี้แล้วก็หัวเราะทั้งพี่ทั้งน้อง
   “บ่ได้ใช้ถ่านใช้ชาร์จไฟเอา เขาเอิ้นหม้อแบต ฮู่งคั่กเด้ล่ะอุ่น” จอยมันอธิบายครับ ฮู่งนี่คือสว่างสินะ ผมก็ตื่นเต้นกับไอ้หม้อแบตนี่อยู่ล่ะครับสักพักเล็กมันก็มา เล็กมันก็แต่งตัวธรรมดามากนะ เออนะจะว่าไปกูนี่เวอร์กว่าใครแต่ไม่เอาหรอกนะจะให้ใส่กางเกงขาสั้นไปเผื่ออะไรมันตอดเอาไม่ดีๆ
   “ป้าด ซาดเอาข้องไปใหญ่เนาะเล็ก สิเอามาเหมิดท่งเลยบ่เขียดน่ะ” จอยมันแซวครับ แต่ก็นะโอ้โหตะข้องไอ้เล็กนี่มันแบบว่าใหญ่โตมโหระทึกมากเลยนะครับ เล็กมันหัวเราะล่ะครับ ไม่นานนักไอ้เน่ามันก็มาพร้อมกับเคนและไม้ เวลาก็ประมาณหกโมงเย็นกว่าๆเริ่มจะมืด
   “อุ่นๆ โตมาถือข้องให้เฮาแน่ะ” เล็กมันบอกล่ะครับ โอเคได้เลย แต่เอ๊ะ ทำไมกูต้องมองไปที่ไอ้เน่าก่อนล่ะเนี่ย อะไรของอุรดิศวะ มองเหมือนจะขออนุญาตมันเลยนะ เพื่อ?
   “ขาไปท่อนล่ะอุ่น ซ้อนท้ายเฮาแนะข้องมันใหญ่ ขามาจั่งซ้อนบักเดี๋ยว” เอ่อ มองผมกันทุกคนเลยอ่ะ
   “บ้าเหรอ เราไมได้อะไรซะหน่อยเล็ก” ผมรีบโบกไม้โบกมือ อย่ามามองนะไรอ่ะ ไม่ได้อะไรซะหน่อย
   “ซ้อนน่ะซ้อนได้เด้อบักเล็กแต่อย่าให้เพิ่นกอดแอวเอาเด้ล่ะ ผู้ลางคนสิหนหวย อิอิ” เอ่อ นายไม้มันแซวครับ เอ๊ะ ทำไมต้องไปว่ามันแซวด้วยนะทั้งที่มันก็พูดปกตินะ แต่ว่าผมอายจังอ่ะ ไอ้เน่ามันก็ไม่ได้พูดอะไรนะครับ ไม่ดีๆ ต้องนิ่งๆเข้าไว้นะ ไอ้พวกนี้ก็อะไรกันไม่รู้ล้อได้ล้อดีนะ อายเป็นนะเว้ย
   “เหมือนฝนจะตกเลยอ่ะเล็ก แบบนี้เขียดมันจะออกมาเหรอ” พอขบวนส่องเขียดออกมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ครับท้องฟ้าฝั่งโน้นก็แลบแปลบปลาบ พอมีแสงของฟ้าแลบมันก็เห็นเงาของก้อนเมฆทะมึนดำตระหง่านอยู่
   “แนวนี้ล่ะดี เขียดอีโม่มันสิออกมาหลาย อากาศเอ้าๆแนวนี้” เอ้า? อ้อ อ้าวนั่นล่ะนะ อิอิ
“ไสล่ะแพแง่งน่ะบักเคน เอามาฟ้าวๆแน่ฝนสิตกฮำก่อน” พอไปถึงนาใครไม่รู้ครับแต่ผมพอจะสังเกตได้ว่าฝั่งหนึ่งเป็นป่าละเมาะอีกฝั่งเป็นนาแต่ว่าไม่มีต้นข้าวมีแต่หญ้า
   “จอยๆ ทำไมที่นาไม่มีต้นข้าวล่ะมีแต่หญ้า” ผมอยากรู้ครับ นั่นแน่คิดว่าใครหลายคนก็คงอยากจะรู้เหมือนผมเนอะ
“หม่องนี้เป็นนาเทิง ปีได๋ฝนบ่ดีบ่ได้เฮ็ดดอก มันอยู่สูงโพดน้ำบ่ฮ่ง” เอิ๊ก หวังว่าจะเข้าใจเพราะผมไม่เข้าใจสะอึกไปเลยครับท่าน แต่ว่าลืมเรื่องนาฮ่งนาเทิงไปก่อนนะ เพราะตอนนี้เขากางตาข่ายแล้วครับผมตรงดิ่งเข้าหาทันที ตาข่ายที่ว่ามันสีฟ้าเข้มๆนะครับรูถี่มากๆมีขนาดไม่ใหญ่มากรูถี่กว่าสวิงอีกนะเพราะจอยมันถือสวิงอยู่ในมือครับ ไม้กับเคนจับคนละด้านส่วนไอ้เน่าล่วงหน้าไปก่อนแล้วเหมือนมันจะไปไล่เขียดทีนี้ก็ “วิ่ง” ครับ ไม้กับเคนวิ่ง เล็กกับน้องโจ้ก็วิ่งดักเหมือนจะไล่ให้เขียดมันตกใจวิ่งเข้ามาในตาข่าย เสียงร้องเรียกกัน ตลกดีนะ
“อุ่นมาพี้ๆ” แปลว่ามาทางนี้ๆ เพราะจอยมันกวักมือเรียกผมไปอีกทาง
“เบิ่งเด้อ เฮาสิเฮ็ดให้เบิ่ง” จอยมันบอกครับแล้วก็เอาสวิงมาทำท่าก้มลงโดยยื่นไปข้างหน้า ตอนมาถึงใหม่ๆผมว่ามันมืดมากนะแต่เอาไปเอามามันก็พอมองเห็นล่ะครับ ไฟหม้อแบตอยู่บนหัวของน้องโจ้ เคน ไม้และก็ไอ้เน่าครับ ส่วนของเล็กเอามาให้ผมถือส่องไฟให้จอย พอตั้งท่าได้จอยมันก็วิ่งไปข้างหน้าล่ะครับ อ่า น่าสนุกจัง
“มาลัดให้เฮาแน่ะอุ่น ไล่เขียดมาทางนี้” จอยมันร้องบอกผมล่ะครับ ผมก็วิ่งไปดักกระทืบเท้าเหมือนที่เพื่อนๆเขาทำ
“ไหนๆ ได้ยังอ่ะจอย” พอจอยมันพักเหนื่อยผมก็วิ่งเข้าไปหา จอยมันกุมปากสวิงไว้ครับ
“โห เขียด” ผมร้องออกมาครับเพราะก้นสวิงมันเต้นดิ้นอยู่ เต็มไปด้วยเขียด
“เราทำบ้างได้ป่ะ” ผมอยากลองครับ จอยมันก็พยักหน้าแล้วเอาเขียดใส่ลงในตะข้อง ผมดีใจนะแต่ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะไม่เคยทำมาก่อน เอาล่ะวะอุรดิศจะสวิงเขียดแล้วเว้ย อิอิ
“อย่าสิข้องล้มเด้อล่ะอุ่น” จอยมันเตือนครับผมไม่เข้าใจเพราะตอนนี้ตั้งท่าแล้ว
“ไป” ผมพูดออกมาแล้ววิ่งทำท่าเหมือนจอย จอยมันก็ไปดักด้านหน้าให้ สนุกดีนะเหมือนการออกกำลังกายรอบดึก
“ไงเบบี๋ ทำเป็นเหมือนกันนี่” ผมพักยกก่อนล่ะครับหลังจากวิ่งไปมาหลายรอบเริ่มเหงื่อแตกเลยมานั่งพัก จอยมันไปวิ่งต่อเสียงเพื่อนๆกู่ร้องเรียกกันดังลั่นทุ่งแข่งเสียงฟ้าร้อง ผมรู้สึกดีจริงๆนะมันไม่ได้หวือหวาเหมือนการไปเล่นไอซ์สเก็ต แต่มันแฝงไปด้วยอะไรหลายอย่าง มันคือวิถีที่ทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะเขียดที่จับมาได้นอกจากเอาไปทำกินได้แล้วยังเอาไปขายได้อีกด้วยนะเพราะจอยมันบอก ผมน่ะคงไม่ถึงขั้นเอาไปขายหรอกนะเอาไปกินนี่ก็ยังพอไหวแต่ที่สำคัญ ผมรู้สึกสนุกกับการวิ่งไล่สวิงเขียดมากๆ อิอิ นี่คือจุดประสงค์หลัก
“อ๊ะแน่นอน นายได้เยอะป่ะเน่า” มันมานั่งข้างๆผมล่ะครับเหงื่อมันแตกเต็มตัวเหมือนๆกับผม
“เยอะดิ อีกหน่อยก็พอแล้วค่อยแบ่งกัน”
“เหมือนฝนจะตกเลยอ่ะ ลมเริ่มแรง” ผมพูดในสิ่งที่เห็นล่ะครับ
“ตกดิอ้าวออกขนาดนี้” ไอ้เน่ามันพูดล่ะครับ แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนโดนจ้องวะเนี่ย ผมไมได้มองมันนะมองไปข้างหน้า พอรู้สึกผมก็หันมาล่ะครับ มันจ้องหน้าผมอยู่พอดี
“มองไรอ่ะ” เอ่อ ตกใจนะเว้ย นึกว่าผี ไอ้บ้า
“มองหมามั้ง” “อ่า อื้มเราก็มอง” ผมยักคิ้วให้มันครับ
“เรื่องของมึงดิ” อ้าว ไม่เข้าตามแผนเลยนะ
“ไม่ถามเหรอว่าเรามองไร” “กูไม่ได้โง่เหมือนมึงนี่สัด จะว่ามองควายอีกอ่ะดิ ไอ้เบบี๋ปัญญาอ่อน” อ่า มันรู้ได้ไงอ่ะ
“ไอ้เน่า รู้ดีนะ” ผมเถียงไม่สู้ครับ ทำไมมันอ่านใจผมออกตลอดเลยนะไอ้นี่มันมีมนต์ดำอะไรหรือเปล่าวะ เริ่มน่ากลัว อึ๋ยย ถ้ามันมีไสยศาสตร์ล่ะทำไงดีไม่ใช่เสกอะไรใส่ผมแล้วเหรอเนี่ย
“เชี่ย คิดไรอยู่วะ ไอ้เบบี๋” มันผลักหัวผมล่ะครับแต่ไม่แรงมาก
“บู้ยเนาะ หมู่เขาเมื่อยพอตายมานั่งจีบกันอยู่นี่พวกโตน่ะ” อ่า จอยครับมาตอนไหนเนี่ย
“บะ บ้าเหรอ เราไม่ได้จีบนะ” ผมรีบออกตัว
“เฮาจีบ” “ใช่ๆ หา ไรอ่ะไอ้เน่า ไอ้บ้า” เอ่อ อึ้งไปครับ อายจังเลยอ่ะเริ่มร้อนหน้า
“เอาสวิงมาดิจอยเราจะไปทำ” ผมลุกขึ้นไปแย่งสวิงมาจากมือจอยล่ะครับ อยู่ไม่ได้แล้วล่ะใครจะทนไหว ไอ้เน่านะไอ้เน่าพูดแบบนั้นได้ไง อายเป็นนะเว้ย ไหนบอกไม่ชอบให้เพื่อนๆล้อ แล้วนี่อะไรวะ ไม่เข้าใจมันเลยนะ
“แว้กก ตั่บ แอ่กก” เอ่อ จะให้บรรยายไหมว่าอุรดิศต้องเผชิญชะตากรรมที่สุดแสนจะรันทดแค่ไหน ก็ไอ้คันนาบ้านี่สิ เอ๊ะ หรือว่าผมไม่ดูเอง ไม่จริงผมดูแล้วอ่ะแต่มันมืดด้วย อายด้วย โอ๊ยหลายอย่างบวกกันก็เลยเกี่ยวล้มแบบว่าเต็มร่าง
“ฮ่าๆ โอ๊ยเนาะ นี่ล่ะเพิ่นบ่เคยเฮ็ดหลาย” เสียงหัวเราะ ใครวะ ใครมันกล้ามาหัวเราะ แทนที่จะเข้ามาช่วย กูจุกจะตายอยู่แล้วเนี่ย
“เป็นได๋น้อเพิ่น ฮ่วยคือมิดอิ่มซิ่มบ่แม่นแค้นหญ้าตายล่ะบ่สู ไปเบิ่งแหม่ะ” ไอ้บ้า เสียงใครไม่รู้แต่รู้ว่ามันเหมือนกำลังแช่งผมเลยอ่ะ แงๆ แต่มันจุกจริงๆนะล้มแบบว่าไม่เป็นท่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง
“ฮ่าๆ ไงมึง ไม่มีไรแดกแล้วเหรอถึงต้องแดกหญ้าเนี่ย เฮ้ยหรือว่ากินเขียดดิบวะ” ไอ้เน่าครับมันมาถึงก่อนใคร
“อะ ไอ้บ้า ช่วยหน่อย จุก” ผมพยายามลุกขึ้นนั่งล่ะครับแต่มันก็นะอายนะเว้ยเฮ้ย
“นี่ล่ะวิ่งไม่ดู ระวังหน่อยดิวะ” มันเอ็ดผมล่ะครับ แล้วดึงผมขึ้นนั่งแต่ผมก็งอตัวลงอีกมันจุกจริงๆนะเพราะเหมือนว่าท้องผมมันฟาดเข้ากับคันนาเต็มจัง
“แม่นเพิ่นแค้นบ่เดี๋ยว อุ้มแหม่ะ” เสียงไม้ล่ะครับถ้าจำไม่ผิด
“อ๊ะ” “อยู่นิ่งๆ” ไอ้เน่ามันอุ้มผมขึ้นล่ะครับแล้วเขย่า? จะเขย่าเพื่อ โอ๊ย กูจุกอยู่นะเนี่ย มันเขย่าผมอยู่ทีสองทีล่ะครับ ด้วยความที่มันตัวอย่างควายแล้วผมตัวเท่าลูกกระต่าย อิอิ แต่เอ๊ะ มันรู้สึกดีขึ้นจริงนะไม่ค่อยจุกมากเท่าไหร่แล้ว
“ตาหลูโตนเนาะ แต่กะเป็นตาอยากหัว ฮ่าๆ โอ๊ย ให้หัวขวนซะเถาะ” เอ่อ ไอ้ไม้ ไอ้เคน ไอ้เล็ก น้องโจ้รวมถึงจอยหัวเราะผมแบบว่าฮามาก น้ำตาเล็ด กูล่ะ สนใจกูไหมเนี่ย ผมอายจังมองไปทางไอ้เน่าเผื่อว่ามันจะเห็นใจผมบ้าง แต่ เอ่อ
“ยิ้มไรอ่ะเน่า” อารมณ์เสีย ไอ้เน่ามันกลั้นหัวเราะสิครับท่าน แหมนะมึง
“มึงจะวิ่งก็ดูคันนาหน่อยดิวะ มันไม่ใช่สนามนะมึง” แหมนะ กูรู้หรอกจะกลั้นหัวเราะแล้วพูดนี่ไม่ต้องเถอะนะขอร้อง
“อุ่นนั่งถ่าอยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวพวกเฮาสิไปแข้งมาให้ เดี๋ยวสิล้มอีก” จอยครับ หัวเราะแล้วก็ชวนพวกนี้ออกไปสวิงเขียด ไอ้เน่ามันนั่งอยู่กับผมล่ะครับ
“เจ็บไหม” มันถามครับหลังจากที่พวกนั้นเดินออกไปได้สักพัก
“ถามได้ คนนะแล้วตลกไรอ่ะ ยิ้มอยู่ได้” ผมหมั่นไส้มันครับ แหมนะจนป่านนี้ยังไม่หุบยิ้ม
“ป๊าว ไมวะกูยิ้มไม่ได้ไงเบบี๋” “ยิ้มแบบนี้มันหยามกันนี่เน่า หัวเราะเลยดีไหม ฮึ?” ประชดครับ
“ฮ่าๆ โอ๊ย กูปวดท้อง สัด ไอ้เบบี๋ ไอ้เอ๋อ” เอ่อ กูแค่ประชดนะ เอาจริงเหรอมึง
“ไม่คุยด้วยแล้ว คนนิสัยไม่ดี” ผมหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปล่ะครับ ตอนนี้ไม่มีพวกเลยผม
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะเบบี๋ แล้วมึงหายจุกยังล่ะ ตอนแรกกูเห็นหน้าเขียว ฮ่าๆ”
“ไม่บอก ไอ้เน่า” ผมหันมาตะคอกใส่มันล่ะครับ
“อายว่ะ ฮ่าๆ อายด้วยเว้ย ไม่ต้องอายหรอกมึง เรื่องปกติของคนเอ๋อ”
“โอ๊ย จะล้อทำไมเนี่ย ไม่ลองไปล้มดูบ้างล่ะ นิสัยไม่ดีนะไอ้เน่า” ผมทนไม่ไหวครับเอามือผลักตัวมันทันที มันรีบจับมือผมไว้แล้วเหมือนจะดันคืน ผมก็ไม่ยอมสิดันกันไปดันกันมา
“สู้กูไม่ไหวหรอกมึงน่ะเบบี๋ ตัวเท่าลูกหมา เดี๋ยวกูเหวี่ยงตกคันหนาไปอีกหรอกมึง” มันขู่ผมครับ ผมก็เลยเงียบไม่ได้กลัวหรอกนะขอบอกแต่เกรงใจมัน อิอิ
“มึงรอนี่ล่ะเดี๋ยวกูไปหาพวกมันก่อน” มันพูดครับแล้วลุกขึ้น
“นี่แน่” พอมันลุกผมก็ได้โอกาสเตะไปที่ก้นมันสิครับจะปล่อยไว้ทำพ่อเหรอ หนอยล้อกูได้นะมึง
“เฮ้ย ไอ้เบบี๋ อยากตายไง” มันตวาดเสียงดัง เรื่องอะไรผมจะรอให้มันวิ่งตามล่ะครับ ผมก็วิ่งไปหาเพื่อนๆ
“หยุดนะ หยุดเลยสัด เตะกูเหรอมึง ตาย” มันวิ่งไล่ตามมาครับ
“แว้กก” โอ๊ย กูวิ่งเร็วแล้วนะแต่ทำไมมันจับแขนผมทันวะ
“ตายแน่มึง” “โอ๊ย” มันกระชากตัวผมกลับมาแล้วดึงเข้าหาตัวมัน แต่ผมเหมือนค้านเอาไว้ล่ะครับแต่ก็นั่นล่ะมันทำให้ผมล้มลงไปที่พื้นแรงมากๆขอบบอก เจ็บอ่ะ มีใครสงสารผมบ้างไหมเนี่ย
“เล่นทีเผลอเหรอเหรอมึง” มันเองก็ล้มทับตัวผม ตายๆกูขี้แตกหรือเปล่าเนี่ย
“เจ็บนะ ออกไป” ผมพยายามจะพูดออกมาล่ะครับ
“แล้วไมเตะกู” “ก็นายล้อเราไมอ่ะ อายเป็นนะ” “ฮ่าๆ สัด” มันหัวเราะ จะมาหัวเราะใส่หูกูทำไมเนี่ย อึ๋ย ขนลุก เอ่อ ลืมไปเลยว่าตอนนี้มันทับตัวของผมอยู่ อ่า พึ่งจะมารู้สึกอ่ะครับ รู้สึกช้าไปไหมเนี่ยอุรดิศ เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ร่างกายมันกับผมติดกัน แต่ครั้งนี้ทำไมผมรู้สึกใจเต้นแรงมากเลยนะ
“จะเลิกทับเราได้ยังอ่ะ หนัก” ผมครางออกมาเสียงขาดๆหายๆ มันเองก็เงียบไปครับแล้วถึงลงไปนอนข้างๆผม จะนอนเพื่อ? ผมรีบลุกขึ้นนั่ง อายจังไม่หันไปมองหน้ามัน
“เบบี๋” มันเรียกผมครับ เอ๊ะ ทำไมถึงยอมรับเนี่ย ยังไงวะกู ไม่เอาไม่ได้เป็นเบบี๋ ไม่ได้ชื่อเบบี๋ แหวะรับไม่ได้หรอกนะชื่อนี้ มันแลดูจะน่ารักไป อิอิ
“ไรอ่ะเน่า” ผมเองก็บ้าจี้ตอบรับมันไปล่ะครับ
“ก้นนุ่มนี่หว่า อิอิ” “อ่า ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต” ผมหันมาคิดว่าจะตีมันแต่ถ้าเอามือตีมันอาจจะไม่เจ็บจึงคว้าดึงหญ้าเอามาฟาดมันล่ะครับ หญ้า? เจ็บกว่าว่างั้นอุรดิศ? แต่เอาเถอะมันเขินอ่ะ อิอิ
“เฮ้ย บ้าเหรอมึง สัด” มันลุกขึ้นล่ะครับแล้วถอยหนีแล้วลุกวิ่งไปเลย
“มึงๆ ที่ทุ่งน่ะมีเจ้าที่นะเว้ย เขาไม่ชอบคนแปลกหน้า ระวังนะมึง” มันร้องมาบอกผมครับ เอ่อ หมายถึงอะไรเจ้าที่ แว้กก อย่าบอกนะว่า รีบมองรอบตัวทันที มันมืดมากครับยิ่งกลุ่มก้อนฝนมาบังท้องฟ้าไว้ ฟ้าแลบแปลบปลาบ แว้กก
“รอด้วยไอ้เน่า รอก่อน” จะรอให้เจ้าที่มาโปรดเหรอครับท่าน วิ่งเหมือนกันล่ะ ตอนนี้ถ้าสะดุดคันนาก็ไม่สนแล้วครับ กลัวอ่ะ ไม่เอานะลูกไม่แปลกหน้านะเจ้าที่
“หวืย ซาดเพิ่นเถิงสุขน้อ ม่วนคั่กเนาะสู” ไอ้เคนมันพูดขึ้นล่ะครับ
“แม่นๆ เฮาว่าแม่นพาเพิ่นมาจีบกันเอาโลด อิอิ” นี่ไอ้ไม้ครับ
“เป็นตาอิจฉาเนาะ หว่างฮั่นคือล้มหน้าเขียวน้ออุ่น บัดตอนนี้มายิ้มน้อ” จอยครับ ล้อกูอยู่ป่ะเนี่ย หรือว่าประชด
“อย่าไปล้อเพิ่นหลายสู ป้าดมาเบิ่งแน่ล่ะหน้าแดงมืดๆยังเห็นเลย” ไอ้เล็กครับ ไม่ล้ออีกคนล่ะน้องโจ้ แหมนะ
“ไปสู ได้หลายแล้วล่ะฝนพวมสิตก” เคนมันชวนล่ะครับ ผมยืนอายจนจะแทรกที่นาหนีแล้ว ไอ้เน่ามันไม่ได้สนใจเลยนะครับมันยืนดูเขียดกับเพื่อนๆอยู่
“บักเดี๋ยว เป็นหยังเป้ามึงคือตุงแท้ แม่นมึงไปเฮ็ดหยังมา” เสียงไอ้ไม้ล่ะครับ
“ฮ่วย บักห่านี่ เป็นหยังมาเบิ่งเป้ากู”
“ไสๆ เฮาเบิ่งนำแน่ะ” จอยครับ “เว้ย โพดหลายสู กูอายเป็นเด้” ไอ้เน่ามันร้องออกมาแล้วเอาตะข้องบังเป้าไว้ นี่พวกมันพูดถึงเรื่องอะไรกันนะ เอ่อ อย่าบอกนะว่า อ้าวแล้วหันมาทางกูเพื่อ
“เฮ้ย ฝนตก” เสียงใครไม่รู้ร้องขึ้นล่ะครับ แต่ไม่อยู่ฟังเพราะรีบวิ่งไปที่รถกัน แต่กว่าจะไปถึงก็เปียกแล้ว ขอบอกว่าฝนตกตอนกลางคืนมันน่ากลัวนะผมว่ายิ่งอยู่กลางทุ่งแบบนี้ ฟ้าร้องแบบนี้
“ไปพ้อกันเฮือนอุ่นเด้อ” จอยมันร้องบอกครับแล้วต่างคนก็รีบบิดรถเครื่องออกไป ไม้นั่งกับเคน เล็กไปคนเดียว น้องโจ้ไปกับพี่มัน ส่วนผมเอ่อ ยืนนิ่งอยู่
“เร็วดิไอ้เบบี๋ ยืนเอ๋ออยู่ได้นะมึง เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก” ไอ้เน่ามันตวาดมาล่ะครับผมถึงกระโดดขึ้นรถมันไป
“เพื่อนล้อไรอ่ะเน่า ตุงๆ” ผมร้องถามมันล่ะครับ ฝ่าสายฝนไปแต่ไม่ยอมนะเพราะอยากรู้
“ไร ไม่มีไรเว้ย อย่าถามมากได้ไหม ฝนเข้าปาก” อ่านะ เออๆ กูเอาหน้าบังหลังมึงก็ได้ ไอ้บ้า ถามหน่อยก็ไม่ได้นะมึง อย่ามาถามอะไรกูล่ะไม่บอกหรอกนะ ฮึ
“เปรี้ยง!!” “เอ้ย” พ่อแม่ แว้กก ฟ้าผ่าครับท่าน เหมือนมันอยู่ใกล้มากเลยนะ แสงสว่างวาบขึ้นแบบว่าขนลุก เสียงดังจนแก้วหูแทบจะแตก ผมไม่เคยตกใจอะไรเท่านี้มาก่อน ผมรีบกอดไอ้เน่าไว้ทันทีล่ะครับ
“เฮ้ยๆ มันผ่าต้นไม้ใหญ่โน่น กอดแน่นเชียวนะมึง” พอสักพักไอ้เน่ามันก็พูดขึ้นล่ะครับ
“กลัวนี่” “ฮ่าๆ แล้วกอดต่ำเชียวนะมึง อยากจับของกูเหรอ” เอ่อนะ ผมรีบเอามือออกจากเอวมันทันทีครับ
“บ้าเหรอ ใครจะอยากจับของนายไอ้เน่า”
“หนอยๆ ไม่อยากจับแต่วนเวียนเหลือเกินนะมึง”
“รีบขับหน่อยดิ หนาวแล้วอ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ เริ่มจะอายขึ้นมา แหมนะ คนยิ่งกลัวๆอยู่ด้วยไอ้บ้านี่ อะไรก็ไม่รู้
“ว้าย มาค่ามาเดี๋ยวเอื้อยสิไปเอาผ้ามาให้เซ็ด” พอไปถึงบ้านพี่ต้อยก็ออกมารอล่ะครับ เหมือนพ่อผมกลับมาแล้วเพราะเห็นรถจอดอยู่
“ไปไหนมาลูก” พ่อผมเดินออกมาล่ะครับ สายตามองผมแบบว่าด่าไปแล้วนะ ผมรีบก้มหน้าทันที
“ไปแข้งเขียดค่า โอ๊ะ ไปซ่อนเขียด ฮ่วย บ่แม่น ไปสวิงเขียดมาค่ะคุณพ่อ” จอยครับ มันพูดภาษากลางและทำให้เพื่อนๆหัวเราะออกมาเสียงดัง
“หายแล้วเหรออุ่น เพิ่งสร่างไข้ไม่ใช่เหรอลูก ไปอาบน้ำ” พ่อผมเสียงไม่ดุครับแต่เน้นคำ คือต่อหน้าเพื่อนๆพ่อผมก็ไว้หน้าผมล่ะครับ อีกอย่างโดนแน่ๆล่ะผมน่ะเพื่อนกลับก่อนเถอะ เพื่อนๆผมมองหน้ากัน
“อ้าวลูกๆ เช็ดเนื้อเช็ดตัวกันก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย จะอาบน้ำด้วยไหม มีน้ำอุ่นนะ ฝนหยุดแล้วค่อยกลับ” แหมนะพ่อ พอพูดกับเพื่อนๆนี่เสียงปกติมากเลยนะ ผมรีบขึ้นไปอาบน้ำล่ะครับแล้วเป่าผมให้แห้ง พอเดินลงมาก็เห็นเพื่อนๆนั่งอยู่เพราะฝนยังไม่หยุด เสียงคุยกันกับพ่อผมหัวเราะชอบใจ
“กินเข่านำกันก่อนเนาะจั่งพากันเมือ” พี่ต้อยแกเอาชาร้อนออกมาให้เพื่อนๆผมทานล่ะครับ
“ใช่ลูกๆ กินข้าวด้วยกันก่อนนะ ต้อยทำไรกินวันนี้” พ่อผมพูดขึ้นบ้างครับ
“มีแกงไก่ใส่ฟัก ผัดเห็ด แล้วกะแจ่วกะปูค่าคุณพ่อซาย เดี๋ยวต้อยว่าสิอ่อมเขียดอีกจั่กหน่อย”
“จะพอกันกินไหมล่ะ รอได้ไหมลูก อุ่นไปเอาขนมมาให้เพื่อนกินรองท้องก่อนสิ ไหนมานี่ก่อน” พ่อผมเรียกล่ะครับ ผมยืนอยู่ตรงบันได ผมก็เดินเข้าไปหา
“ตัวร้อนไหม” พ่อผมเอามือมาจับหน้าผาก
“ไม่ร้อน อุ่นหายแล้วอ่ะพ่อ” “คราวหลังก็เอาผ้ากันฝนไปด้วยสิลูกจะได้ไม่ตากฝนแบบนี้ เรายิ่งไม่สบายง่ายๆอยู่นะ พ่อไม่สบายใจนะรู้ไหม” พ่อผมพูด “พ่ออ่ะ ก็อุ่นลืมนี่นา คราวหลังอุ่นไม่ลืมแน่นอน มันสนุกมากเลยนะพ่อเขียดเยอะแยะเลยอ่ะ” ผมก็อ้อนพ่อผมตามประสาล่ะครับ
“แน่ะ ยังจะมีคราวหลัง” ผมรีบออกจากตัวพ่อเดินไปหาพี่ต้อยล่ะครับ หันไปมองเพื่อนๆ ยิ้มอะไรกันวะ
“เอื้อยหนูซ่อยเฮ็ดค่า” จอยมันร้องขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในครัว ผมเองก็เดินเข้าไปในครัว มีเคนเข้ามาช่วยอีกคนครับ เคนมันทำกับข้าวอร่อยล่ะ
“อ้อนพ่อนำเนาะ เป็นตาฮัก” เคนมันพูดขึ้นครับ ว่ากูเหรอ
“อ้อนไรอ่ะ บ้าเหรอนาย” ผมอายล่ะครับ
“แม่นๆ ซาดเป็นตาฮัก ปลัดเป็นแต่ใจดีเนาะเอื้อย” จอยมันก็ยิ้มล่ะครับหันไปถามพี่ต้อย
“วู้ย ใจดีคั่กในสามโลกค่า คุณพ่อซายฮักคุณอุ่นคือหยังนี่ตั้ว นี่ยังหน่อยเด้ค่า มีอ้อนกั่วนี้อีกเด้” เอ่อ พี่ต้อยจะเผากันต่อหน้าเนี่ยนะ
“ไรอ่ะพี่ต้อย ไม่เล่านะ อุ่นอายนะ” ผมปรามแกไว้ล่ะครับแต่ว่า
“ตอนอยู่กรุงเทพฯเลิกเรียนมาต้องกอดคุณพ่อซาย ไปห้างกะกอดแขนบ่ปล่อยเด้ค่า” อ่านะ โอ๊ย อารมณ์เสียไม่เล่าล่ะว่าก่อนขึ้น ม. ๓ ต้องไปนอนห้องพ่อทุกวัน ก่อนไปโรงเรียนต้องให้พ่ออวยพร เล่าสิๆ
“ตอนอยู่ ม. ๓” เอ่อ ไม่อยู่แล้วครับท่าน ผมวิ่งออกมาทันที แหมนะพี่ต้อย จำไว้เลยๆ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ไม่รู้ว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่านะครับผม อิอิ มันเริ่มจะเป็นภาษาเว้าขั้นต่อไปนิ ค่อยๆอ่านนะคร้าบ
ผมจะกลับบ้านนอกเด้อ สักสองสามวัน เจอกันวันอังคารคร้าบ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 31-05-2012 14:38:56


ไม่ค่อยเข้าใจภาษา เดาเอาภาพรวม 55
แต่ก็ยังชอบอ่าน เอาใจช่่วยเด้อค่า ติดตามต่อไป

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-05-2012 14:42:54
เดี๋ยวยอมรับแล้วสิว่ากะลังจีบน้องอุ่น
น่ารักอย่างนี้ไม่รักไม่หลงให้มันรู้ไป
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 31-05-2012 14:52:48
น่ารักเว่อร์ทั้งไข่เน่าและเบบี๋ อ้อนพ่อแล้วเมื่อไหร่จะอ้อนเดี๋ยวบ้างล่ะ รอวันอังคาร
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 31-05-2012 15:26:19
บางคำพอเดาออกค่ะ โดยรวมเราก็คิดว่าตัวเองอ่านรู้เรื่อง แต่แอบเสียดาย
ถ้ารู้ความหมายทุกคำ คงจะสนุกยิ่งขึ้น
ขอบคุณค่ะ ตอนนี้อุ่นชักเขิน บักเดี๋ยวดูน่าฮักขึ้นเยอะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-05-2012 15:31:08
บักเดี๋ยวน่ารักขึ้นเน้อ :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 31-05-2012 15:36:19
อุ่นน่ารักอ่า เอาใจเราปายยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 31-05-2012 15:44:02
ก็เดาๆกันไปเนอะ บางคำยังไม่รู้มาก่อนเลย อิแิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: taiyo_sora ที่ 31-05-2012 15:54:32
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 31-05-2012 16:42:14
โอเค  วันอังคารก็จะรอนะ พี่อิกกี้ ><

แต่บักเดี๋ยว บรรลุแล้วใช่ไหม?

เริ่ม จีบ อุ่นเลยนะๆ ><
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 31-05-2012 16:50:11
ไม่ค่อยเข้าใจ
แต่เบบี๋กะเน่าน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 31-05-2012 17:46:40
อะนะ เดี๋ยวเดี๋ยวนี้เริ่มจะยอมรับไม่กลัวเพื่อนล้อแล้วน้า  :impress3:
อุ่นยังน่ารักเหมือนเดิม

รอตอนต่อไปค่ะ กลับบ้านขอให้สนุกนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 31-05-2012 18:28:11
เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยค่ะ
ชอบตอนที่ทุกคน ออกพื้นที่ 555
ไปตกปลา หาเขียด เอาแบบนี้เยอะๆ
ที่สำคัญ เน่าก็เริ่มยอมรับใจตัวเองได้บ้างแล้ว
อุ่นน่ารักมากมาย

จากคนใต้ที่มี่เพื่อนเป็นคนร้อยเอ็ด
คำศัพท์บางคำก็แปลไม่ไหว แต่ก็พอจะเดาได้อยู่
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 31-05-2012 19:06:01
น้องอุ่นนับวันยิ่งทำตัวน่า รักขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 31-05-2012 19:07:09
น้องอุ่นนับวันยิ่งทำตัวน่า รักขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 31-05-2012 19:46:41
 :-[ อุ่นน่ารักตลอดเลย เดี๋ยวน่ารักขึ้นนะเดี๋ยวนี้ เบบี๋กับเน่า น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 31-05-2012 22:29:22
อุ่นน่ารักที่สุด  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-05-2012 23:49:11
ยิงยาวเลยคะ

เจ้เข้าใจ  อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-06-2012 00:18:59
น่ารักจัง ตอนนี้ หลับตาเห็นภาพเลย
อยากไปจับเขียดด้วย!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 01-06-2012 00:47:31
+1น้องอุ่น กะ เดี๋ยว ตาฮัก อ่ะ ตอนไป หาเขียด น่าสนุก อ่ะ  :laugh:เฮาก็อยู่ ตจว. ไม่กล้าไปอ่ะ กลัว  o22
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 01-06-2012 00:56:23
เริ่มรู้สึกได้แล้วสินะนายเดี๋ยว
รู้แล้วก็เริ่มได้แล้ว
ระวังโดนตัดหน้าเด้ o18

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 01-06-2012 10:35:39
 :-[ :-[  น่าฮักดีแท้น้อ  +1   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 01-06-2012 12:59:42
สนุกๆๆ โอ๊ยม่วนๆๆหลายกะด้อ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 02-06-2012 08:54:39
อ๊าก ๆ เขิลอ่ะ ตอนนี้พี่เดี๋ยวเป้าตุง พูดแล้วเขิล >,,<"
มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก (:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 02-06-2012 21:55:29
ตกลงเจ้าเดี๋ยวจีบจริงแล้วใช่ไหม....
นู๋อุ่นอย่าใจอ่อนง่าย ๆ น้า...เดี๋ยวเจ้าเดี๋ยวจะได้ใจ..
เด็กน้อยจอมเอ๋อ...มันน่ารักแท้เน้อ... :กอด1:

 :L1:  น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 02-06-2012 22:00:28
อุ่นน่ารักกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 14 Version (อุรดิศ) 31 May 12 หน้า 15
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 04-06-2012 13:40:37
ป๊าดดด  คำเว้าเพิ่นแมะ จักไปขุดมาแต่สิได๋  เก่าแฮง
บางคำไทบ้านเฮาเซาเว้าแล้วเด้  มาอ่านพ้ออยู่นิยายเพิ่นนี่ล่ะ  งึดคัก
อิค เก่งอิหลี เดี๋ยวสินำก้นอ่านสุก้าวเลย   o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 04-06-2012 14:30:44
You’re My BaBy!!

ผมรู้สึกดีว่ะ ไม่รู้สิ ไม่เคยเป็นมากขนาดนี้นะที่ใจมันเต้นแรงอยู่ตลอดเวลาจนถึงตอนนี้ ตอนที่ผมเห็นมันล้ม ขำก็ขำนะแต่ก็อดสงสารมันไม่ได้ ยิ่งตอนอุ้มมันขึ้นเขย่ามันกอดคอผมไว้ล่ะครับ ผมเหมือนได้กอดมันเต็มๆมือก็คราวนี้ เฮ้ย ทำไมต้องอยากกอดมันและทำไมต้องจำวะเนี่ยกู เฮ้อ อยากจะให้เล่าไหมว่าตอนทับมันกูคิดอะไรอยู่ นั่นๆ ไม่ได้คิดเว้ย ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ปฏิกิริยาในร่างกายมันคิดไปเอง เอ้ย มันประมวลผลไปขอมันเองนะเว้ย สมองกูไม่ได้สั่งงาน และขอบอกว่าแม่งโด่นานเป็นบ้า อายนะเว้ยเฮ้ย แต่ก่อนของกูขึ้นนี่ปกติมากเพื่อนๆก็เห็นบ่อยแต่ไม่เคยอายเท่าครั้งนี้เลย เพราะอะไร เพราะก้นมันนุ่มมากขอบอก แสรดด กูหื่นไปไหมเนี่ย
   “มื้ออื่นพ้อกัน” พอกินข้าวที่บ้านปลัดเสร็จฝนมันก็ยังไม่หยุดหรอกนะครับแต่ก็ต้องแยกย้ายกันกลับ ผมถึงบ้านคุณนายแม่นั่งดูละครอยู่ในบ้านพอเห็นหน้าผมก็ปรี่เข้ามาหา
“เดี๋ยวลูก แม่ดีใจจังเลยที่เดี๋ยวนี้ลูกเดี๋ยวกินข้าวบ้านปลัดเกือบทุกวัน แสดงว่าคุณปลัดเริ่มเห็นแววความดีของแกแล้วสิ เป็นไงบ้างคุณปลัดยังหล่อไม่เคยเปลี่ยน เมื่อวานผู้ว่าพามาที่ร้าน กรี๊ด แม่ปลื้ม” เอ่อ ได้ข่าวพ่อผมนั่งอยู่ข้างๆ หึงหน่อยดิพ่อ อะไรวะนั่งนิ่งเชียว
“โตจริง หล่อคั่ก ท่าทางเป็นผู้ดีหลายเนาะ” อ้าวนะ เป็นไปกับเขา เว้ยไรวะสองผัวเมียคู่นี้ ผมไม่รอให้คำตอบพ่อกับแม่หรอกนะครับรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวหวัดจะรับประทาน พอจะนอนผมก็หวนคิดไปถึงหน้าไอ้เบบี๋ตอนมันล้ม แม่งขำฉิบหาย หน้าเอ๋อมากๆ
“ไรอ่ะ เน่า” เอ่อ แล้วทำไมต้องกดโทรศัพท์ไปหามันด้วยวะเนี่ยกู
“มึงแดกยายัง เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกนะ” เออ โทรมาเตือนมันเรื่องกินยาเว้ย ไม่มีอะไรซะหน่อย
“กินแล้วยังไม่ได้แดก” เอากะมันครับ กวนตีนได้อีก
“กวนนะๆเบบี๋” “มีไรอ่ะ โทรมาล้อไรเราเหรอ”
“เออนั่นสิ โทรมาล้อไอ้เบบี๋ล้ม ฮ่าๆ ท่าสวยนะตอนล้มน่ะ”
“โมโห งั้นไม่คุยล่ะ คนนิสัยไม่ดี ไอ้เน่า”
“อ้าวๆ มึงมาเปิดประเด็นเองนี่หว่า กูไมได้เริ่มนะเว้ย”
“ไม่รู้ล่ะ เราจะนอนแล้วแค่นี้นะเน่า” มันจะวางสายล่ะครับ
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ พรุ่งนี้มึงจะไปดูหมอลำซิ่งป่ะ” ทำไมกูถึงอยากคุยกับมันจังเลยวะ
“ไปๆ เราไม่เคยดู” “ไปเต้นเว้ยไม่ได้ไปดู” “อ้าวเหรอ เต้นแบบไหนอ่ะ รำเราทำไม่เป็นอ่ะ” ฮ่าๆ ดูมันครับ เสียงมันนี่บอกว่ามันไม่ได้แอ๊บเลยนะ
“ง่ายๆเว้ย เดี๋ยวสอนให้ เต้นท่าขี้เหล้า”
“นี่นายเน่า เปลืองนะคุยไรเยอะแยะ เพิ่งจะเจอกันไปนะ”
“สัด กูเป็นคนโทรกูยังไม่บ่นซักคำ มึงเปิดสปีกเกอร์ดิ” เออนะกู
“อ่านะ ตามใจเดี๋ยวเราตดให้ได้ยินเลยนี่ อิอิ”
“ปู๊ดด” นี่แน่ อย่าหวังว่าจะมาตดใส่กูเพราะกูน่ะตดก่อนเว้ย
“แหวะ น่าเกลียดไอ้เน่า ทำไรอ่ะ” “ฮ่าๆ ตดไง อยากได้ยินไม่ใช่ไง ไอ้เบบี๋”
“อึ๋ยย ทุเรศอ่ะ ทำไปได้นะ เน่าจริงๆ”
“เดี๋ยวเถอะมึง ด่ากูเหรอ”
“อ๊ะ เสียงโบ้หอนเหรอ โบ้กินข้าวยังอ่ะ” อ้าวนะสัด คุยกับกูถามถึงหมาไอ้นี่
“มันเห็นผีล่ะมันถึงหอน” แกล้งมันครับ
“อ่า ไม่เอา ไม่คุยเรื่องนี้นะ เราวางสายนะ”
“เดี๋ยวดิ เออกูลืมเล่าให้มึงฟัง ตอนที่กูไปนอนห้องมึงน่ะ กูเห็นนะเว้ย”
“อ่า ไอ้เน่า ไอ้บ้า ไม่เอานะ วางสายนะ”
“จริงๆนะเว้ย ตรงหน้าต่างน่ะ มองลงไปใต้ต้นมะม่วงน่ะ มี”
“พ่อ อุ่นนอนด้วย” เสียงมันร้องล่ะครับแล้วก็กดสายทิ้งไปเลย ฮ่าๆ กลัวจริงเว้ยกะว่าจะหลอกผีเล่นๆ แต่ก็นะ ไม่อยากจะบอกเลยว่ากูไม่เคยยิ้มก่อนนอนเลยนะ ให้ตายเถอะเป็นเอามากนะไอ้เดี๋ยว
“เดี๋ยวๆ หล่อขึ้นอยู่บ่นี่ หน้าตาสดใสเนาะ” พอไปโรงเรียนพี่นกอดีตผมก็ร้องทักล่ะครับ ตอนที่ผมเดินไปกินน้ำกับสัดไม้ สัดเคนมันไปสหกรณ์เดี๋ยวตามมา
“แน่นอนเอื้อย คนมันกำลังมีควมสุขเด้” สัดไม้ตอบแทนครับ
“ควมสุขหยัง เป็นตาอิจฉาเนาะ” พี่แกพูดล่ะครับทำตาหวานใส่ผม ผมผลักหัวสัดไม้แม่งจะเผากูอีกล่ะ
“บ่มีหยังดอก บ่เข้าเรียนติ๊” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
“เรียน แต่มาเอารายงานให้จารย์ แต่เดี๋ยวหล่อขึ้นอีหลีเด้ บ่เคยเห็นยิ้มกะได้เห็น เป็นตาเบิ่งเนาะ” อ้าว แน่นอนคนมันหล่อเว้ย เอ๊ะ แต่ว่าแต่ก่อนนี่กูไม่ยิ้มเหรอวะ
“บ่ปานนั้นดอกคร้าบ” ผมเขินครับ อิอิ มีบ้างเว้ย
“มื้อแลงไปเบิ่งหมอลำซิ่งบ่เดี๋ยว ไปนำกันบ่” พี่แกชวนล่ะครับ
“คือสิบ่ได้ดอกเอื้อย มันมีคนไปนำแล้ว” สัดไม้ครับรู้ดีอีก พี่แกทำหน้าเหวอๆ
“อ้อ เพ็ญนั่นบ่ เป็นตาอิจฉาเนาะ” ทำหน้าเรยาใส่กูเพื่อ
“บ่อแม่นดอก นั่นมันอดีตคือเจ้านั่นล่ะ” กูพูดเองครับ พี่แกหน้าซีดลงทันทีแล้วเม้มปากเหมือนจะด่าอะไรเพราะสายตามันฟ้องแล้วแกก็เดินหนีไป
“ป้าด บักห่ามึง กินทิ่มกินข้วงเนาะมึง” สัดไม้ครับ
“ฮ่วย ซ่อยบ่ได้เด้อ มาให้กูกินเอง” กูบอกแล้วว่ากูน่ะไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไรเว้ย เรื่องจริงก็บอกไปตามจริง
“แล้วตอนนี้อ้ายเดี๋ยวติดถั่วดำแม่นบ่ อิอิ” “สัด” เร็วเท่าคำพูดครับเตะเอวสัดไม้ไปจนหัวมันคะมำ
“ฮ่วย บักห่านี่ ล้อเล่นซื่อๆดอกซาดเตะกูแฮง” มันอวดครวญครับ มันยังน้อยไปนะมึง
“ปากหมาเนาะมึง กินถั่วดำถั่วแดงมันหนักหัวพ่อมึงติ๊ คั่นมึงบ่เซาล้อปากมึงสิแตกเด้อกูสิเตือน” ผมจริงจังครับ โกรธไหม นิดหน่อยว่ะ แต่ไม่ชอบก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ที่หลวงปู่บอกมาก็เข้าใจนะแต่ยังปรับตัวไม่ได้ ไม่ใช่พระนี่หว่า
“เดี๋ยวๆ เพ็ญคุยด้วยหน่อยสิ” พอจะเดินเข้าห้องเรียนสาวเพ็ญก็มาดักล่ะครับ อะไรกับกูอีกวะเนี่ย
“มีหยัง” ผมถามเสียงห้วนๆ ตอนนี้สัดเคนมาแล้วครับ สัดไม้มันเดินเข้าห้องไปแล้วลูบหลังอยู่คงจะเจ็บ ดีจะได้จำ
“คุยด้วยไม่ได้เหรอ นี่เดี๋ยวใจร้ายมากนะ” อ้าวนะ อะไรอีก
“นี่เราเลิกกันจริงๆเหรอเดี๋ยว เพ็ญทำอะไรผิดเหรอ เดี๋ยวถึงทำกับเพ็ญแบบนี้” เริ่มล่ะครับ บทนางเอกในละครหลังข่าว เธอเริ่มหน้าเบ้ นี่มันหน้าห้องกูนะมึง มาอะไรตรงนี้ คนเริ่มมองล่ะ
“เฮาเว้ากันแล้วบ่แม่นติ๊” ผมกัดฟันพูดครับให้เสียงมันเบาที่สุด ไม่อยากให้ใครมองว่ากูชั่วเกินไป
“แต่เพ็ญไม่ได้ทำอะไรผิดนะเดี๋ยว เพราะอีตุ๊ดกรุงเทพฯนั่นใช่ไหม ฮึ อย่าบอกนะว่าเดี๋ยวก็เป็นกะเทย” เธอแว้ดเสียงขึ้นล่ะครับ กูเริ่มกำหมัดแล้ว
“แม่น เฮาเป็นกะเทย มีหยังบ่” “กรี๊ดดด วิปริต โรคจิต” เธอกรี๊ดขึ้นเสียงดังแล้ววิ่งไปเลยครับ เฮ้อ กูไม่อยากจะเล่า แม่งเพื่อนๆมองกูแปลกๆทุกคนเลยนะ แต่กูไม่สนใจแล้วล่ะ ช่างแม่ง อย่ามาถามกูขี้เกียจจะเล่า สัดเชื่ออะไรได้ยินยังไงเชื่อไปเถอะ ตามสบายเลยกูไม่แก้ข่าวใดๆทั้งสิ้น
“มึงๆ ห้องกูเขาคือซ่ากันคั่กแท้ว่ามึง” พอพักเที่ยงครับ สัดเคนรีบวิ่งมาถามหน้าตั้งเลยนะ
“ซ่าหยังบักเคน” สัดไม้ครับ มันมองหน้าผมก่อนแล้วค่อยถาม
“กะซ่าว่ามึงเป็นกะเทยเด้” สัดเคนมันก็พูดออกมาเสียงเบา กูเองได้แต่ถอนหายใจ
“เว้ย ซ่างแม่มันติ๊ สนใจหยัง สาวเพ็ญเพิ่นปล่อยข่าว” สัดไม้มันถามครับ กูไม่ได้สนใจฟังแล้วเดินไปกินข้าว คนมองเหมือนกูเป็นดาราที่มีข่าวฉาวเลยนะเว้ยเฮ้ย มองทำเตี่ยมึงเหรอ มองจนกูจะเดินไม่ออกเลยนะเนี่ย
“บักเดี๋ยว มานี่กะน่ะกูมีแนวสิถาม” น้าติ๋วครับพอเดินไปหน้าร้านก็หน้าตาตื่นมาลากแขนผม
“บ่มีแนวสิเว้า ได้ยินมาแนวได๋ คั่นบ่มีปัญญาสิคึดเองกะเซื่อไปโลดน้า ปวดปากวะ” กูพูดดักครับ รำคาญแล้ว
“ป้าด ด่ากูอีกเนาะมึง เออๆ บักเทพ บักคั่ก ซาดจะแม่นเนาะ”
“บ่อแม่นติ๊ หลานเจ้าของเป็นจั่งได๋กะฮู้ดีอยู่ตั้ว หมาโตได๋มันซ่ามันลือกะซ่างแม่มันติ๊” กูเริ่มมีอารมณ์
“เออเนาะ แม่นๆ สิแดกหยัง เฮ็ดเองเด้อ บ่ว่าง” อ้าวนะ ให้มันได้อย่างนี้น้ากู พอกินข้าวเสร็จกูก็เดินไปห้องพ่อกูล่ะครับที่ประจำ ตอนแรกว่าจะไปนอนในห้องพยาบาลแต่แม่งเด็ก ม.ต้นเยอะมากรำคาญไม่อยากตอบคำถาม
“บักแบงค์ เป็นจั่งได๋ขนมถั่วดำน่ะ แซ่บบ่” เสียงเหมือนสัดเต้ในทีมนั่นล่ะครับถามขึ้นพอผมเดินเข้าไปในห้อง
“โอ๊ย บ่อฮู้ดอกบ่เคยกิน ถามผู้เพิ่นเคยกินติ๊” คือไม่อยากจะอะไรแล้วนะครับ แต่สายตาทุกคู่มันมองมาที่ผมล่ะครับ เข้าใจกูไหมเนี่ยว่าตอนนี้กูรู้สึกยังไง
“แม่นบ่บักเดี๋ยว เคยกินบ่มึงน่ะ” สัดแบงค์ครับ กูเริ่มกำหมัดหน้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว พวกนี้มันก็รู้นะว่าเวลากูโกรธนี่มันเป็นยังไงแต่ก็ยังกล้ามาล้อกูอีกนะ
“เว้าเรื่องหยังสู บ่มีแนวเว้ากันแล้วติ๊ ไปๆ ออกไปพวกกูสิอยู่นี่” สัดเคนครับ มันคงเห็นสีหน้าผมแล้วล่ะ
“ฮ่วย พวกกูมาก่อนเด้อล่ะ”
“มาก่อนมาหลังแล้วมันเป็นหยัง คั่นมาก่อนมาถามอีหยังบ่คึดแนวนี้ไปตายไสกะไปโลด ล้อหมู่น่ะมันม่วนอยู่ แต่คั่นสูเป็นคนถืกล้อลองคิดใส่ใจเขาเบิ่งแน่ล่ะ บ่แม่นเด็กน้อยเด้พวกสูน่ะ” สัดไม้ครับมันพูด พวกนั้นมันเงียบไป
“คั่นบ่อยากให้หมู่ล้อแล้วเฮ็ดเฮ็ดหยังล่ะ สิทธิ์ไผสิทธิ์มันเด้ล่ะ” “ผลั่ก” “โอ๊ย” สุดทนครับ สัดแบงค์ปากหมากูทนมานานล่ะ จะทำอะไรมันล่ะก็ตีนทั้งดุ้นนี่ล่ะยัดเข้ากลางอกจนมันหลายหลังตกเก้าอี้ไป
“สัดหมา” มันทำท่าจะลุกขึ้นมาครับ วงแตกฮือ พวกที่เคยล้อๆด้วยกันกับมันโดยเฉพาะไอ้เชี่ยเต้ลุกไปยืนติดพ่อกูเลยนะ กูบอกแล้วว่าอย่าให้กูของขึ้น
“พอแล้ว บักเดี๋ยว มึงอย่ามานักเลงในห้องกูนะ พวกมึงออกไปให้หมด” พ่อกูยืนขึ้นตะคอกล่ะครับ กูนี่หน้าแดงไปหมดแล้วมั้งแม่งโกรธจริง
“เดี๋ยว มึงน่ะมาคุยกับกูก่อนบักเดี๋ยว” พ่อกูเรียกไว้ครับ สัดแบงค์มันทำท่าแค้น มึงแค้นมากูจะแค้นตาม
“โทษจารย์ ผมทนบ่ไหว” ผมยกมือไหว้แกล่ะครับ
“มึงจะทำอะไรก็เห็นแก่หน้ากูบ้าง ไม่ใช่จะมานักเลงโตในห้องกู แล้วมันเรื่องอะไรมึงไปทำเพื่อนขนาดนั้น” พ่อกูถามล่ะครับ กูถอนหายใจมองหน้าแก
“บ่มีหยังดอกจารย์ มันปากหมา”
“เรื่องอะไร คำว่าเพื่อนล้อก็คือเพื่อนล้อ มึงรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยสิ ตัวมึงเป็นอะไรมึงรู้จักตัวเองดีกว่าใคร อย่าให้คำที่เขาล้อมาทำให้มึงต้องเป็นแบบนี้” พ่อกูสอนครับ เออใช่ แต่ลองมาเป็นกูดูนะ แม่งทนไม่ไหวจริงๆนี่หว่า
“ผมทนบ่ไหวจารย์ พยายามแล้ว”
“กูรู้ กูพอจะรู้ว่ามึงคิดยังไง แต่คนเราน่ะมันล้อมันนินทาได้ไม่นานหรอกนะเดี๋ยวมันก็เบื่อ พอมันเบื่อมันก็จะไม่ล้อเพราะมันเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่กูถามมึงหน่อยเถอะ ที่มึงทำแบบนี้มึงมีความสุขจริงๆเหรอ” พ่อกูถามครับ จะให้กูตอบว่ายังไงล่ะ ผมถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง
“ผมมีความสุขครับ” บอกแล้วว่ากูคิดยังไงพูดอย่างงั้นไม่มีปิด
“อืม กูพอดูออก กูน่ะไม่ได้มีอคติอะไรนะ เห็นลูกศิษย์มีความสุขก็ดีใจ อีกอย่างเท่าๆที่ดูมากูว่าความประพฤติมึงดีขึ้นกว่าเดิมมาก เว้นอยู่แต่เรื่องใจร้อนนี่ล่ะ ถ้านี่มันจะเป็นผลพลอยได้จากความสุขของมึง กูก็ไม่ว่าอะไร แต่มึงควบคุมอารมณ์มึงหน่อยนะบักเดี๋ยว” พ่อกูสอนอะไรหลายอย่างครับก่อนที่กูจะเดินออกมา ผมตัดสินใจเดินไปหาสัดแบงค์ที่ห้องมันล่ะครับ พอเดินเข้าไปมันก็หน้าซีดทำท่ากลัวลนลานขึ้นมา
“กูมีเรื่องเว้านำ มานี่แน่ะ” ผมพูดออกไปมองหน้ามันครับ คนในห้องมันแตกฮือไปอยู่มุมห้อง นี่กูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย ผมยืนรออยู่หน้าห้องสักพัก สัดเสือกช้าอีกนะมึงกูก็มีเรียนนะเว้ย สัดแบงค์มันเดินออกมาครับแต่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมออกมาตรงระเบียง
“บักแบงค์” ผมเรียกชื่อมันล่ะครับ มันสะดุ้ง
“มีหยัง มึงสิมาเฮ้ดหยังกูอีก กูแค่ล้อซื่อๆเด้”
“กูมาขอโทษมึง กูบ่ได้ตั้งใจ กูควบคุมอารมณ์บ่อยู่ คั่นมึงเคียดมึงสิถีบกูคืนกะได้ กูบ่ว่า” ผมมองหน้ามันล่ะครับ อย่าให้ต้องบรรยายมันตามประโยคที่พูดไป กูน่ะลูกผู้ชายพอเว้ย
   “บักเดี๋ยว” มันทำหน้าซีด แม่งจะเอาไงวะเนี่ย
“แค่นี้ล่ะคั่นมึงบ่ถีบคืน กูมาขอโทษมึงซื่อๆ” ผมพูดออกไปครับสายตายังมองหน้ามันอยู่ มันเองที่หลบหน้าผม
“มึงเปลี่ยนไปอีหลี” มันพูดออกมาล่ะครับตอนที่ผมหันหลังเดินลงมาจากตึก เปลี่ยนไปเชี่ยไร กูน่ะเหมือนเดิมเว้ย เขาเรียกยอมรับความผิด เพราะกูรู้ว่ากูทำไม่ถูกที่ไปถีบหน้าอกมันแบบนั้น เป็นพยานนะว่ากูน่ะขอโทษมันไปแล้ว
“อ้าว เฮ้ย ไอ้เบบี๋มึงจะไปไหนวะ” พอเลิกเรียนคืออาทิตย์นี้พ่อกูงดซ้อมอ่ะนะเลยกลับบ้านตรงเวลาได้ ผมก็ไปรอไอ้เบบี๋ที่โรงรถล่ะครับ นักเรียนทยอยกลับกันแล้ว มันเดินดุ่มๆก้มหน้าก้มตามากับสาวจอยแล้วเดินทำท่าจะผ่านกูไปเลยนะ
“เดี๋ยว ไปลัดเพิ่นอยู่หน้าโรงเรียนไป” จอยมันบอกล่ะครับ อ้าว อะไรอีกวะเนี่ย
“มีหยังอีก” ผมถามสาวจอยล่ะครับ
“อุ่นๆ โตย่างไปถ่าหน้าโรงเรียนเด้อ เดี๋ยวเฮานำก้นไป” จอยมันบอกไอ้เบบี๋ล่ะครับ มันไม่หันมามองหน้าผมเลยนะ
“มีหยังจอย” ผมถามจอยเสียงเครียด
“ซุมโตประกอบนั่นล่ะไปว่าอุ่น เฮากะด่าให้แล้วแต่ตาหลูโตนเพิ่นนั่นล่ะบ่ปากบ่เว้า ให้เขาด่าเอาแว้ดๆ แม่นแท้อีเพ็ญกับอีสุชาติ” นั่นไง กูว่าแล้วเชียว
“ว่าหยัง” “โอ๊ย อย่าฟ้าวใจฮ้อนหลายเดี๋ยว ใจเย็นๆแน่ ซ่ำนี้เพิ่นนั่นกะตาหลูโตนพอแฮงแล้ว โตอย่าใจฮ้อนหลาย” จอยมันห้ามผมไว้ล่ะครับเพราะผมเตรียมออกตัวไปจัดการแล้ว
“มีหยังกันจอย เว้ามาเบิ่งดู๊” สัดไม้มันถามแทนล่ะครับ วันนี้มีเรื่องทั้งวันให้ตายสิน่า
“กะบ่มีหยังหลายดอก พวกเก่าๆของโตนั่นล่ะเดี๋ยว ไปว่าอุ่นว่ายาดโตมาจั่งซั่นจั่งซี้ ด่าเพิ่นนั่นเสียๆหายๆ เฮาด่าคืนจนปวดปาก” จอยมันออกอารมณ์เหมือนกันนะ
“ป๊าด คือเป็นตาซังแท้ อย่าให้พ้อเด้ออีสุซาติ สิให้เด็กน้อยเอาไปรุม” สัดไม้พูดครับ
“แม่นแห่งสิมั่กบ่นั่นน่ะ อุ่นเพิ่นเลยบ่อยากให้โตไปฮับไปส่งในโรงเรียนเด้เดี๋ยว เพิ่นว่าย้อนเพิ่นโตจั่งถืกหมู่ล้อ โตเบิ่งแน่ล่ะ โตเพิ่นเองกะถืกเขาว่าแต่เพิ่นยังมาห่วงโตกว่าเจ้าของ” จอยมันพูดอะไรต่อไม่รู้ครับแต่ผมขับคุณปู่ออกมาแล้ว ตอนนี้ผมสงสารไอ้เบบี๋จริงๆนะ มันไมได้ทำอะไรผิดเลย ถ้าหากว่าจะผิดมันผิดตั้งแต่ผมไปวอแวกับมัน ไหนมันจะเป็นคนไม่ค่อยพูดอีกด้วยไอ้พวกเชี่ยนั้นมันยิ่งได้ใจ
“เฮ้ย เบบี๋” ผมเรียกมันล่ะครับ ให้ตายเถอะ มันยืนอยู่ใต้ต้นราชพฤกษ์คนเดียวเหมือนต้องคอยหลบใครเลยนะ ใจหล่นไปเลยกู
“ป่ะกลับ” ผมพยักหน้าให้มันล่ะครับ มันมองซ้ายขวา
“นายไม่ต้อง” “มึงไม่ต้องพูด ไปคุยที่อื่น” ผมตวาดมันไปล่ะครับ มันเหมือนตกใจนะแต่ผมก็ห้ามตัวเองไม่ได้
“มึงลำบากใจเหรอ ที่กูไปรับไปส่ง” ผมขับรถเข้าไปที่พระมิ่งมงคลล่ะครับ แวะที่ศาลาก่อนถึงองค์พระ มันยืนอยู่ข้างๆคุณปู่ส่วนผมยังไม่ลงจากคุณปู่มองหน้ามันที่ก้มหน้าอยู่
“เราไม่อยากให้นายโดนเขาล้ออ่ะ เราเพิ่งมา เราไม่อยากให้ใครเกลียดเรามากไปกว่านี้” มันพูดออกมาครับ ใจผมลีบลงจนแทบจะหายใจไม่ออก มันรู้สึกจุกที่คอยังไงไม่รู้
“มึงเกี่ยวไรวะ กูไม่ลำบากใจเว้ยที่ไปรับไปส่งมึง สนใจอะไรวะ”
“แต่เรา” “มึงฟังกูนะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างแม่งมันดิ กูอยากไปรับไปส่งมึง หรือว่ามึงไม่อยากให้กูมารับ” ผมถามมันครับมันเม้มปากแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม สัด น้ำตาคลอเบ้าเลยมัน
“เราไม่อยากสร้างปัญหา เราไม่อยากให้นาย”
“มึงมานี่ดิ๊” กูทนไม่ไหวว่ะแม่ง สายตามันดูเจ็บปวดมากเลยนะ จะบอกว่ากูเองก็รู้สึกเจ็บก็ตอนที่เห็นแววตามันนี่ล่ะ
“คิดมากนะมึง กูไม่สนใจเว้ย ใครจะล้อก็ช่าง กูพอใจที่จะทำ มึงเองก็เหอะ อย่าไปใส่ใจดิ” ผมจับมือมันล่ะครับ ถ้าจะบอกว่าตอนนี้อยากดึงตัวมันเข้ามากอดนี่คงไม่ผิด แต่กูเองก็ไม่ได้ทำเขินว่ะ
“ก็เรา” “เราไร อย่าคิดเยอะ พอมึงจบไปมึงก็ลืมเองล่ะ ชีวิตใครชีวิตมันเว้ย”
“เราไม่ลืมหรอกนะ” มันมองหน้าผมครับ ใหตายเถอะนี่กูชวนอ้อมแล้วนะ สายตามันบอกผมว่า มันจะไม่ลืม “ผม” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะแต่ตอนนี้หัวใจมันยิ้มเองล่ะครับ กูไม่ได้เวอร์นะเว้ย
“มึงอายเหรอ” ผมถามมันอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม
“เราน่ะไม่อายหรอกนะ แต่กลัวนายอ่ะจะอายเพื่อน” มันพูดออกมา
“กูไม่อายเว้ย ไม่มีทาง มึงจับหน้ากูดิด้านแค่ไหน” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันก็ยื่นมือมาจริงๆนะ
“อือ ด้านจริงด้วยอ่ะ อิอิ” “อ้าว สัด ว่ากูนี่มึงไอ้เบเบี๋” ผมจับมือมันไว้แนบกับหน้าตัวเองล่ะครับ
“อ้าวก็นายเปิดประเด็นนี่ ไอ้เน่า” “ใครเปิดประเด็น นี่มันคำกูพูดเมื่อวานนี่ มึงล้อเลียนเหรอ” มันหัวเราะออกมาครับ อยากรู้ไหมว่าผมยังไม่ปล่อยมือมันนะ กลิ่นของมือมันหอมๆน้ำยาล้างมือหรืออะไรสักอย่าง และอีกอย่างที่สำคัญมือมันนุ่มมากขอบอก
“จับนานจัง คิดไรกับเราป่ะเนี่ย” มันพูดครับแล้วหน้าแดง
“สัด คิดดิ” “อ่า” อ้าวๆ เริ่มยืนไม่อยู่แล้วครับ ก็กูเริ่มคิดแล้วจริงๆนี่หว่า ช่างแม่งวะ กูคิดก็บอกว่าคิดไม่ปิดแล้ว
“นั่นๆ คิดไรเนี่ย คิดไรกะเค้าอ่ะเบบี๋” “บ้า ไอ้เน่า นี่นายแกล้งเราเหรอ” มันดึงมือกลับล่ะครับ มันอายหน้าแดงเลย ผมหัวเราะออกมา ผมพามันเข้าไปกราบองค์พระมิ่งมงคลแล้วก็พามันจะกลับล่ะครับ
“เน่า” “ไร” มันเรียกผมอยู่ข้างหลังล่ะครับ ผมเองก็ไม่ได้หันไปมองเพราะดูรถด้านหน้าอยู่
“ขอโทษนะ” “นั่น อะไรของมึงอีกเบบี๋” คราวนี้ผมหันมาล่ะครับ
“ขอโทษที่ถ้าเราทำให้ลำบากใจ” มันพูดออกมาอีกครั้ง
“เออๆ” ผมจับแฮนด์คุณปู่ด้วยมือข้างขวาส่วนข้าซ้ายผมลดมือลงมาจับมือมันบีบเบาๆ ให้ตายเถอะกูไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ
“เน่าๆ” “สัด ไรอีกวะ” ผมตวาดมันเบาๆล่ะครับไม่จริงจังเพราะหัวใจมันไม่ได้สั่งให้ทำแบบนั้น ก๊ากก
“ขอซบหลังนะ” สัด เอากับมันสิครับ บทจะอ้อนนี่กูตายไปเลย มันก็เอาหน้าแนบลงกับแผ่นหลังของผมล่ะ รู้สึกดีนะ จะว่าไปแล้วมีคนเคยทำกับผมแบบนี้หลายคนนะแต่พวกนั้นไม่เคยขอจะทำก็ทำเลย เป้ากูเหมือนกันอยากจะสะกิดจะขยำก็ทำตามใจกูเองก็ไม่ได้หวงนะ แต่ว่าที่แปลกใจคือพวกนั้นเป็นผู้หญิงแต่ไอ้เบบี๋มันเป็นผู้ชาย และที่แปลกกว่านั้นคือกูรู้สึกดีมากๆ ให้ตายเถอะ
“เดี๋ยวตอนเย็นมารับ” พอส่งมันลงหน้าบ้านผมก็ยักคิ้วให้มันอีกทีล่ะครับ
 พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็รีบออกจากบ้านล่ะครับยังไม่ทุ่มเลยนะวันนี้แต่งหล่อหน่อยเว้ย กางเกงยีนส์ตัวเก่งเสื้อเชิ้ตลายๆและที่สำคัญเกิบแตะ ฮ่าๆ ที่จริงมันก็มีพวกแต่งตัวเหมือนเด็กในกรุงเทพฯเหมือนกันนะครับแต่ไม่ใช่แนวไม่อยากใส่ผ้าใบไปดูหมอลำซิ่งมันแปลกๆยังไงไม่รู้ ผมบึ่งรถไปหาไอ้เบบี๋ที่บ้านมันทันทีล่ะครับ มันนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หวายแต่งตัวรอแล้วนะ มันใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำใส่รองเท้าผ้าใบด้วยวะ
“ไปยังอ่ะ” นี่กูยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถเลยนะมันก็วิ่งออกมาทำหน้าตาแบบว่าอยากไปมากๆ
“ยังดิ รอคนอื่นๆก่อน กูยังไม่ได้แดกข้าวเลยนะมึงรู้ไหม รีบมาหามึงเนี่ย” ผมเดินเข้าไปในบ้านของมันล่ะครับประหนึ่งบ้านของตัวเอง
“อ้าว ยังไม่กินข้าวเหรอ” “เออดิ มีไรกินป่ะบ้านมึงน่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
“มีมั้ง ทำไมไม่รู้จักกินมานะ”
“บ่นไรสัด แค่นี้บ่นนะมึง” “ป๊าว ไม่ได้บ่น พี่ต้อยๆ มีข้าวเหลือป่ะ” มันร้องเข้าไปหลังบ้านล่ะครับ ผมไม่รอให้มีเสียงตอบเดินตรงดิ่งเข้าไปหาทันที
“มีหยังกินบ่เอื้อย หิวเด้นี่” ผมถามเจ้แกก่อนล่ะครับ
“อ้าว บ่ทันกินเข่ามาติ๊เดี๋ยว มีอ่อมเขียดล่ะยังอยู่ กินบ่ล่ะเอื้อยสิตักให้” ไรวะ อ่อมเขียดอีกล่ะไม่มีอะไรที่มันดีกว่านี้หน่อยเหรอวะเนี่ย
“บ่มีไข่เจียวบ่ เฮ็ดให้แน่ ผมหน่ายอ่อมเขียด” “บู๊ย ซาดโพดเนาะ ค่าๆ ไปถ่าอยู่ทางนอกไป เพิ่นนั่นแห่งอาบน้ำแต่งโตตั้งแต่โดนแล้ว ย้านบ่ได้ไปเบิ่งหมอลำซิ่ง” เจ้แกบอกล่ะครับ ผมเลยเดินออกมา ไอ้เบบี๋มันยังนั่งอยู่เก้าอี้ตัวเดิมแต่ท่าทางลุกรี้ลุกรนยังไงไม่รู้
“มีหนมกินป่ะ” ผมไปนั่งข้างๆมันล่ะครับ
“ไหนบอกจะกินข้าวอ่ะ กินหนมเดี๋ยวก็อิ่มก่อนหรอก”
“เออน่า แล้วพวกสาวจอยกับบักเล็กจะมากี่โมง” ผมยังจ้องหน้ามันอยู่ครับ
“คงสักพักอ่ะ แล้วนายเคนกับไม้ไม่ไปเหรอ” มันถามผมกลับ เริ่มแก้มแดงขึ้นมาแล้วมันจะอายอะไรวะเนี่ย
“นัดมันสองทุ่ม” “อืม” มันก้มหน้าครับ เห็นแบบนี้แล้วต่อมอยากแกล้งมันผุดขึ้นมาทันที
“มองไรอ่ะ” ในที่สุดมันก็พูดออกมาล่ะครับเพราะผมจ้องหนัก
“มองเบบี๋” มันเขินจัด อ่านะเอากับมัน
“ไม่เคยมองไง” “เคย แต่อยากมอง ไมมองไม่ได้ไง”
“ไม่ได้” “ไม่ได้ก็ไม่สน ตากู” “อายเป็นนะ มองจังไอ้เน่า” นั่นด่ากูอีก
“อายเป็นด้วย เออกูถามมึงหน่อยดิ” ผมเปลี่ยนเสียงจากล้อเลียนเป็นจริงจังล่ะครับ มันเลยมองหน้าผมอีกครั้ง
“ไรอ่ะ” “เรามาเอากันมะ” “เอิ๊กก”

เขียนโดย อิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-06-2012 14:54:05
เดี๋ยวก็กล้าถามนะ
รอน้องอุ่นจะตอบว่ายังไง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 04-06-2012 15:14:16

บักเดี๋ยวรุกหนักคักๆ  :กอด1:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 04-06-2012 15:26:44
กรีดดดดดดด :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ นายเดียวบ้า เราเขินนะ
ชอบมาก :L1: :L1: :L1: :L1: เอกกี้  :L1: :L1: :L1: :L1: แต่ได้ดีสุดๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 04-06-2012 15:41:33
 o18 o18  +1   :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 04-06-2012 16:01:48
เดี๋ยว  มันเอาจิงวุ้ยๆๆ 

น่ารักอ่าคู้นี้ๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 04-06-2012 16:15:56
เอาๆๆๆๆๆเรยยย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 04-06-2012 16:23:45
กรี๊ด....บักเดี๋ยวกล้าถามอ่ะ
ตอบเลยอุ่น ตกลงไปเลย :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 04-06-2012 16:24:57
 “เรามาเอากันมะ”  :laugh:


ถามแบบนี้หนูอุ่นเราก็ไปไม่เป็นเลยสิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-06-2012 16:46:10
เออกูถามมึงหน่อยดิ” ผมเปลี่ยนเสียงจากล้อเลียนเป็นจริงจังล่ะครับ มันเลยมองหน้าผมอีกครั้ง
“ไรอ่ะ” “เรามาเอากันมะ”

ชกตรงมากนะบักเดี๋ยว  ได้ใจ!!!!!!! :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: HappyMelon ที่ 04-06-2012 17:00:52
เอาเลยน้องอุ่น ตอบรับไปเรยคร่าาา
บักเดี๋ยวคิดอะไรอยู่อะ อยากเอาจริงหรืออยากลองเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 04-06-2012 17:32:45
อ๊อย เขิลมาก ๆ จะละลายคาอกพี่เดี๋ยวแล้วนะ >,,<"
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 04-06-2012 18:32:18
โอ๊ยได้ใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกน้องเดี๋ยวววววววววววว
น้องอุ่นตอบตกลงเลยลูก จัดหนักกกกกกกกกกกกกกกกกก55555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-06-2012 18:57:06
รอนู๋อุ่นตอบ :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 04-06-2012 19:13:23
ทำไมมันช่างเขินอย่างนี้ว่ะ ทั้งเดี๋ยว ทั้งอุ่น ทั้งคนอ่าน  :-[  :-[  :-[  :-[ ชอบมากกกกกก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-06-2012 19:33:29
เดี๋ยวเอาจริงดิ ว้าย เขินนะนี่
สองคนใจตรงกัน เพื่อนก็สนับสนุน ไม่ต้องแคร์ใครอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 04-06-2012 19:37:44
เฮ้ยยย..เอาอะไรอ่ะ...คนอ่านงงนะน้องอิ๊ก  :really2:

 :L2: น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 04-06-2012 20:25:50
ป๊าด บักเดี๋ยว ถามแบบนี้
เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปดูหมอลำหรอก :impress2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 04-06-2012 21:05:17
พี่อิ๊กกี้มาก่อน วันนึง เย้!!!!

บักเดี๋ยว น่ารักขึ้นนะเราอ่า

เค้าชอบอ่า

มันดูค่อยเป็นค่อยไปดีอ่า

อร๊ายยยยยอีชะนี ปากมอม ขี้นินทา
เชอะๆๆๆ


ค่อยๆรักกันเบา แต่ นานๆนะคะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 04-06-2012 21:06:38
ว้ายยยยย เดี๋ยว รุกแรงไปป่ะเนี่ยยยยยยยยยย

 :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-06-2012 21:57:03
อ๊า......เป็นตาฮักอีหลี
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 04-06-2012 22:24:18
อุ่นคือมาเป็นตาฮักแท้  :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-06-2012 22:31:18
เดี๋ยวถามอะไรน้องอุ่นเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-06-2012 23:06:07
เอิ๊กกกกกก คือว่าอ่านตอนนี้จบแล้ว กรี๊ดดดดดเลยมึงช่างกล้านะเดี่ยว
อุ่นจะตอบว่าไร ตกลงไปเลย นะอุ่น อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 05-06-2012 00:27:43
 :m20:เดี๋ยว ค่ะ คือนนี้น้องอุ่นจะรอด บ่ :jul3:+1 ไม่ชอบอุ่นเศร้า คือกัน  :z13:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 05-06-2012 01:24:01
ค้า งอ่ะพี่อิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 05-06-2012 17:57:34
น่าร๊ากกกกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 05-06-2012 18:08:08
เขินแทนน้องอุ่นเลยอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-06-2012 21:40:37
รีบๆมาต่อนะ :call: :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 05-06-2012 23:19:28
เดี๋ยวเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้กล้ารุกแล้วนะ
อุ่นยังน่ารักเหมือนเดิม
ขอบคุณค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 14 Version (วิชพงศ์) 4 June 12 หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 06-06-2012 16:28:33
จัดหนักเลยหรอ  อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 06-06-2012 16:42:02
Don’t call Me BaBy!!

หือ? มันว่าไงนะเมื่อกี๊ แว้กก ไอ้บ้า ไอ้เน่า ไอ้ทุเรศมันพูดออกมาได้ยังไง ผมสะอึกไปไม่เป็นเลยนะ เกิดมาไม่เคยเจอใครหน้าด้านหน้าทนเหมือนมันเลยนะ ไม่เคยเจอ กลัวที่สุด
“บ้าเหรอ อ่า นายๆ นาย” อ้าวกู เอ๋อรับประทานไปแล้วครับ
“อ้าวกูพูดจริงนะเว้ย กูอยากลอง” มันยังทำหน้าแบบว่าอยากทำจริงๆนะครับ
“ไม่เอา บ้าเหรอ นายไปลองกับนายสุชาติดิ” ผมอายจังเลยอ่ะ เกิดมาคิดว่าอายที่สุดกับหลายๆเหตุการณ์มาแล้วนะแต่มาเจอเหตุการณ์นี้ผมอายจริงๆ
“ไม่ กูอยากเอามึง” เอ่อ
“นี่ไอ้เน่า อย่ามาล้อเล่นนะ เห็นเป็นเรื่องตลกไง นิสัยไม่ดีนะ” ผมแว้ดใส่มันล่ะครับ เพราะคิดไปคิดมามันคงอยากจะแกล้งผมล่ะ คงไม่มีทางหรอกที่คนอย่างมันอยากจะ แว้กก คิดอะไรเนี่ยอุรดิศ
“กูพูดจริงนะเว้ย พ่อกับแม่กูไม่ว่านะถ้าเป็นมึงน่ะ กูเลยอยากลองไง ทำไมทีไอ้เชี่ยแฟนเก่ามึงมันยังทำได้เลย ทำไมกูจะทำไม่ได้” เอ่อ มันเถียงครับ เถียงหน้าด้านๆ
“เขาไม่เคยทำ ไม่มีใครเคยได้ทำ แล้วนายจะมาอยากลองทำไม นายไม่ใช่แฟนเรานะ” ผมเริ่มขึ้นเสียงครับ มันเห็นเป็นเรื่องสนุกไปเสียทุกเรื่องเลยเหรอ คิดเห็นใจ เข้าใจความรู้สึกกูบ้างไหมเนี่ย มันเงียบไปครับ ผมเองก็เหมือนสะอึกคำพูดที่เพิ่งจะโพล่งออกไป มันไม่ใช่แฟนแต่ทำไมผมอายมันจัง ใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้มัน มันไม่ใช่แฟนแต่ทำไมเวลามันมองผม มันจับมือผมทำไมผมถึงใจสั่นไหวมากมายขนาดนี้ นี่เป็นอะไรวะเนี่ย
“แล้วถ้ากู” “ยังอีก ไม่คุยด้วยแล้วนะ” ผมลุกเดินออกไปหน้าบ้านทันทีครับ ไอ้ควายเอ้ย โมโหแล้วนะ อายก็อายแต่ก็ดับความอายไปด้วยความโกรธ แหมนะ เห็นแบบนี้จะมาทำเป็นพูดล้อเล่นนะมึง เดี๋ยวกูก็เอาจริงหรอกนะ แว้กก
“เออ ใช่ซี๊ กูมันนิสัยไม่ดีนี่หว่า ไม่ใช่แฟนมึง” มันพูดไล่หลังมาล่ะครับ เออ รู้ตัวก็ดีแล้ว ผมยืนอยู่ข้างนอกสักพักพี่ต้อยก็เอาข้าวไข่เจียวมาให้มันกินล่ะครับ ไม่นานนักจอยกับเล็กก็มา
“อ้าว คือมายืนอยู่นี่ล่ะอุ่น” จอยมันถามครับ
“รอจอยกับเล็กนั่นล่ะ แต่งตัวสวยนะเนี่ย” ผมแซวจอยล่ะครับเพราะมันใส่กางเกงยีนส์ใส่เสื้อยืดสีดำ สวยตรงไหนแค่แปลกตาแค่นั้นล่ะ อิอิ
“แน่นอนจ้า อิอิ ซุดเอาบุญเฮาเด้นี่” หือ คืออะไรวะ อ้อ คงจะประมาณว่าใส่เฉพาะเวลามีงานเทศกาลหรือเปล่านะ
“พวกนั้นมาแล้วบ่อุ่น” เล็กมันถามล่ะครับ
“มาแต่ไอ้เน่า เคนกับไม้ยังไม่มา” ผมเปลี่ยนเสียง
“บู๊ย เบิ่งเพิ่นเอิ้นกันแน่ล่ะเล็ก อิอิ” อ้าวนะ จอยมันแซวอีกล่ะครับ อะไรอ่ะ เอะอะก็แซวกูตลอดเลยนะ อายนะเว้ย
“อ้าว คือกินเข่า บ่ทันกินเข่ามาติ๊เดี๋ยว” พอเดินเข้าบ้านจอยก็ร้องทักมันไปล่ะครับ แต่สายตามันมองมาที่ผมแวบหนึ่ง สายตาแปลกๆนะ
“แม่น มาขอเพิ่นกินนี่ล่ะ” มันทำเสียงแข็งๆครับ ทำไมกูต้องไปสังเกตมันขนาดนี้ด้วยนะเนี่ย
“กินชาป่าวจอย เดี๋ยวเราไปทำชาเย็นมาให้” ผมบอกแล้วเดินไปในครัวครับ พอชงชาเสร็จก็เดินออกมา
“ไปเบิ่งหลังบ้านบ่เล็กไปซ่อยเอื้อยเพิ่นเฮ็ดนั่นเฮ็ดนี่ ไคกว่าสิอยู่ซื่อๆ” อ้าวนะ พอกูมาก็จะไปอะไรอ่ะ
“ไปไหนอ่ะจอย” ผมถามครับ
“พวกโตอยู่กันโลด เฮาสิไปหลังบ้าน” จอยมันหัวเราะครับแล้วลากแขนเล็กไปเลยนะ เอ่อ
“มึงอึดอัดกูไปอยู่นอกบ้านก็ได้นะ” มันพูดขึ้นครับ ผมสะอึกอีกครั้ง
“บ้าเหรอ ทำไมนายพูดแบบนั้น” มันทำท่าเหมือนงอนเลยนะ
“กูพูดอย่างที่รู้สึก” มันไม่มองหน้าผมเลยครับสายตามองออกไปข้างนอก ผมรู้สึกใจหายไปเหมือนกัน จะเชื่อไหมว่าผมนั่งอยู่ตรงนั้นกับมันแต่เราไม่ได้คุยอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว ผมเองก็ไม่ได้ลุกไปไหน อึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นแต่ก็ทนอยู่ตรงนั้น จนเคนกับไม้มา
“บักไม้มึงมาซ้อนท้ายกู” เอ่อ ระหว่างที่เดินไปที่รถไอ้เน่ามันก็พูดขึ้นล่ะครับ ทุกคนหันมามองผมแล้วก็มัน
“ฮ่วย กูสิไปกับบักเคนเด้ อุ่นไปซ้อนท้ายมันแน่ะ” นายไม้ครับ ผมเริ่มรู้สึกชาๆแล้วล่ะ
“เพิ่นบ่อยากซ้อนท้ายรถฮ้างๆดอก มึงนั่นล่ะมาซ้อน” บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที
“มีหยังกันสู” นายเคนครับ ส่วนผมก้มหน้าล่ะ
“บ่มีหยัง จิ๊ แม่มึงเอ้ย” ไอ้เน่ามันร้องขึ้นล่ะครับแล้วเพื่อนๆก็ออกรถไปก่อน เหลือผมยืนก้มหน้าอยู่กับมัน
“มาดิ ยืนทำแป๊ะไร” มันตวาดใส่ผมครับ ทำไมครั้งนี้ผมรู้สึกน้อยใจจังเลย
“นาย ถ้านายไม่อยากให้เราไป เราไม่ไปก็ได้นะ” “สัด คิดเล็กคิดน้อยอีกนะมึง บอกให้มาก็มา พูดมากอยู่นั่นล่ะ” มันยังคงระดับของเสียงตวาดไว้อยู่ แต่ใจผมมันเริ่มห่อเหี่ยวมากแล้ว
“สัด ไปไหนอีก” ผมหันหลังจะเดินเข้าบ้านทันทีล่ะครับ ถ้ามันเป็นแบบนี้ผมเองก็คงไม่กล้าไปด้วย อยู่ดีๆก็เป็น มันวิ่งมาดึงแขนผมไว้ล่ะครับ
“เราไม่ไป” “เชี่ย เรื่องมากนะมึง” “นายจะด่าเราทำไม ในเมื่อนายไม่อยากให้เราไป นายจะตวาดเราทำไม ทำไมเป็นแบบนี้” ผมเม้มปากแน่น โอ๊ย จะมารับบทนางเอกอะไรตอนนี้วะ น้ำตาเริ่มคลอโมโหตัวเอง
“เพราะกูอยากเป็นแฟนมึงน่ะสิ” เห็นไหมว่ามันนิสัยไม่ดี หื้อ อะไรนะ อ่า ตาเบิกโพลงหูฝาดไปแน่ๆ
“กูคิดว่ากูชอบมึง มาก” เอ่อ นี่มันล้อเล่นหรือเปล่า
“อย่ามาล้อเล่นนะ” ผมพูดออกไปแทบไม่เป็นคำ
“ล้อเล่นเชี่ยไร ไม่ได้พูดง่ายๆนะเว้ย กูก็อายนะ มึงไม่รู้เหรอ”
“ไรอ่ะ มาขอเป็นแฟน ไอ้บ้าเน่า” ผม เอ่อ ผมเขินที่สุดในชีวิตให้ตายเถอะ ยืนบิดตัวเคยเห็นแต่เขาทำไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาตกอยู่ในสภาวะเช่นนั้น
“ก็กูอยากเป็นนี่ หรือมึงไม่อยาก” บ้าเหรอ จะให้ตอบว่าไรอ่ะ อายเว้ย
“ว่าไง ไม่อยากไง ไม่อยากมีแฟนแบบกูเหรอ ใช่สิ กูมันไม่ใช่หนุ่มไฮโซเหมือนแฟนเก่ามึงนี่หว่า บ้านๆ ปากหมาอีก มึงคงไม่เคยคิดอะไรกับกูเลยดิ แม่งเอ้ย” มันโวยวายครับ
“อยาก” เอ่อ อุรดิศรักนวลบ้างอะไรบ้าง
“หือ ว่าไงนะ” มันก้มหน้าลงมาครับ อ่า ก้มลงมาทำไมเนี่ยคนยิ่งเขินๆอยู่นะมึง
“อยากอ่ะ” “อยากไร อยากชิมของกูเหรอ อิอิ” อ่านะ ผมเงยหน้าขึ้นมองมันล่ะครับ หนอยแน่มันแกล้งผมจริงๆด้วย
“นี่นายล้อเล่นเหรอ ไอ้เน่า ไอ้เชี่ย” นี่แน่
“สัด พูดหยาบนะมึง กูไม่ได้ล้อเล่น กูเอาจริง” อ่า เขินอีกรอบเพราะสายตามันจริงจังมากๆ เขินอ่ะ
“ตกลงเอาไง” หือ อะไรอีกตกลงอะไรวะ
“ไรอ่ะ ตกลงไร” “อ้าวเชี่ย ก็ตกลงจะเป็นแฟนกูป่ะล่ะ” เอ่อนะ จะให้กูตอบว่าไงล่ะ
“ไม่อยากเหรอ” บังคับกูจังนะมึง ผมไม่ตอบล่ะครับ ผมพยักหน้าแทน อิอิ ไม่แรดไปใช่ไหม ไม่หรอก ไม่ได้พูดนี่แค่พยักหน้าเบาๆ เรายังรักษาอาการอยู่
“แปลว่าไรวะกูไม่รู้เรื่องหรอกนะพยักหน้าหงึกๆ” “เป็นก็เป็นดิ” ผมทนไม่ไหวครับ พอพูดออกไปมันก็หัวเราะ
“หอมแก้มกูหน่อยดิ” เอ่อ ดูมันนะครับ นี่มันหน้าบ้านกูนะมึง
“บ้าเหรอ เป็นแฟนไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ก็ได้นี่ ไม่รู้ล่ะเราจะดูนายไปก่อนเรื่อยๆ ถ้าไม่ดีก็ไม่เป็นอ่ะ”
“อ้าวสัด ไม่แฟร์นี่หว่า แบบนี้ถ้ามึงเจอคนใหม่ทิ้งกูทำไงวะ”
“เราไม่ใช่นายนะ ตามนั้นอ่ะ หรือไม่ตกลง” ผมยื่นข้อเสนอบ้างล่ะครับ
“ไม่ตกลง ถ้าเป็นแฟนกูมึงต้องทำแบบนี้กับกูบ้างดิ ไม่งั้นจะเรียกว่าแฟนได้ไง”
“ไม่เอาอ่ะ เรายังไม่อยากทำ เผื่อนายทำเกินเลยทำไงอ่ะ”
“สัด หวงตัวอีกนะมึง งั้นมึงทำแบบนี้กับกูสองต่อสองก็ได้ ในที่ไม่มีคน ตามนี้ล่ะขี้เกียจพูด ปวดปาก ไปได้ยัง ยิ้มเชียวนะมึง แน่ะๆ ไหนบอกไม่คิด ยิ้มใหญ่เลย” อ่า ไอ้บ้า อายนะเว้ย แว้กก แล้วมันตกลงอะไรของมันคนเดียววะ ตายๆ ผมขาดทุนสิแบบนี้อ่ะ
“กอดดิ” พอมันขับออกมาได้สักพักมันก็หันมาล่ะครับ
“ไม่เอาอ่ะ ร้อน” “กอด” “เออๆ กอดหลวมๆนะ” ผมรำคาญมันครับ บังคับกูจังนะมึง ไอ้บ้า
“อ้าว ไปไหนอ่ะ ไปไหว้พระเหรอ” มันแวะเข้าที่พระมิ่งมงคลอีกล่ะครับ
“ไปที่ลับตาคนไง มึงจะได้ทำแบบนั้นกับกู” เอ่อ อึ้งครับพูดไม่ออกปล่อยมือจากเอวมันทันที
“บ้าเหรอ ไอ้เน่าคิดไรเนี่ย น่าเกลียด” พูดออกไปแล้วแต่ทำไมมันอายมากๆ ผมอายที่สุดร้อนหน้าไปหมดแล้วเนี่ย
“อ้าว คิดเชี่ยไรก็ลองทำแบบที่คนเป็นแฟนเขาทำกันดิ สัด” เอ่อนะ ผมเม้มปากแน่นกว่าเดิม ตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่ดีแล้วล่ะ การที่จะอยากเป็นแฟนกับผมมันคงหวังแค่อยากลองทำอะไรแบบนั้นดูล่ะสินะ
“นี่นายแค่อยากมีอะไรกับเราเหรอ นายอยากลองคบกับเราเพราะนายอยากลองมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันเหรอ” ผมถามมันครับเสียงดังพอสมควรแต่ก็ไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยินหรอกนะเพราะมันคงไม่มีใครอุตริเข้ามาในนี้ตอนค่ำมืดแบบนี้ เว้นแต่ไอ้บ้ากามคนนี้เท่านั้น
“ไม่ใช่เว้ย ทำไมวะกูแค่อยากลองให้มึงหอมแก้มกูนี่มันจะตายไง กูไม่ได้จะเอามึงซะหน่อยนะเว้ย คิดไรเนี่ยไอ้เบบี๋”
“อ้าว ก็ไม่บอกอ่ะ ไอ้บ้าเน่า” อ่า อายจัง แหมนะแค่หอมแก้มแอบหอมตรงไหนก็ได้เถอะ ทำไมต้องพาเข้ามาในที่ลับตาคนแบบนี้ด้วยวะ ใครไม่คิดก็บ้าแล้วอีกอย่างตรงนี้มันเป็นลานพระ อึ๋ยย สัปดนเหลือทนนะมึง
“อ้าว จะทำได้ยัง” มันจอดรถตรงก่อนถึงศาลาอีกล่ะครับ ผมยังนั่งเกาะเบาะมันนิ่งอยู่
“ทำไรอ่ะ” “อย่าๆ อย่ามาแอ๊บเบบี๋ หอมแก้มกูดิ เร็วๆ” แหมนะเร่งกูอีกนะมึง
“หันแก้มมาดิ” อายนะเว้ยเฮ้ย ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยอ่ะ
“หันมันก็ไม่ใช่แอบดิวะ มึงแอบทำน่ะเป็นไหม แบบไม่ให้กูรู้ตัวน่ะ”
“อ้าว ก็ตอนนี้รู้แล้วนี่ว่าจะหอมแก้ม ไม่เอาอ่ะ” ไม่รู้ว่าผมฉลาดน้อยหรือว่ามันโง่กันนะ
“จิ๊ แม่งเล่นตัวลีลานะมึง เดี๋ยวกูจับทำเมียซะตรงนี้เลยนี่ สัด” อ่า พูดมาได้นะ เขิน อิอิ
“นายไม่อายเหรอ” ผมถามมันครับ มันเลี้ยวรถออกมาแล้ว
“เอี๊ยด” อ้าว จอดรถทำไมเนี่ย
“อายเชี่ยไร อายจะถามไหม อายดิสัด” เอ่อ แปลว่าอายหรือไม่อายเนี่ยอะไรของมันกูงงนะเว้ย
“อาย?” “อายดิวะ แต่กูก็อยากรู้ไง แม่งแบบนี้ใครวะจะไม่อาย มึงดูหน้ากูดิ แดงจะตายอยู่แล้ว” ตรงไหนแดงวะ ผมก็ยื่นหน้าไปข้างหน้าล่ะครับ อยากดูไอ้คนหน้าบาง แหมนะพูดมาได้ว่าอายดูมึงถามกูแต่ละอย่างมันอายตรงไหนวะเนี่ย
“อ๊ะ อ่า” แค่พอยื่นหน้าไปมันก็ยื่นปากมา จุ๊บผมอ่ะ แว้กก มันจุ๊บเกือบโดนปากผมเลยอ่ะ เขินจังอายจริง แต่เอ๊ะ ผมกับมันเคยจูบกันแล้วนี่นะ แต่ทำไมคราวนี้มันเขินแบบว่าตัวจะลอย ผมนี่เกาะเบาะแน่นเชียวนะกลัวตัวลอยออกจากรถเครื่อง อิอิ เวอร์ไปป่ะเนี่ย
“ก็แค่เนี๊ยะ” มันยิ้มๆครับ ผมก้มหน้าซุกหลังมัน
“อายนะ ไอ้บ้าเน่า” ผมพูดออกไปเสียงอ้อแอ้เต็มทน โอ๊ย เลิกบรรยายแบบนี้ได้ไหมเนี่ย กูเขินนะเว้ย
“ทีนี้ตามึงบ้างล่ะ ไม่รู้เว้ยคืนนี้มึงต้องแอบหอมแก้มกูให้ได้นะ ไม่งั้นมึงโดน” อ่าฮะ มียื่นคำขู่แบบนี้ด้วย แล้วจะให้กูไปแอบทำตอนไหนเนี่ย เอามันตอนนี้ล่ะวะ ผมคิดได้ก็จะยื่นหน้าไปหอมแก้มมันคืน จะว่าไปนี่ผมบ้าจี้ไปไหมเนี่ย
“อ๊ะๆ อย่าๆ รู้ตัวเว้ย ฮ่าๆ มึงอย่าคิด” อ้าวนะ ดันรู้ทันกูอีก เออๆ สรุปมันก็พาผมไปที่สวนข้างโรงเรียนล่ะครับ เสียงดนตรีดังกระหึ่มบีบหัวใจดีเหลือเกิน
“ไปไสมาพวกโต โดนแท้” จอยมันแซวล่ะครับ ขอร้องเถอะอย่าแซวมากหน้าแดงจนไม่รู้จะมีตรงไหนไม่แดงบ้างแล้วเนี่ย อายนะเว้ยเฮ้ย
“ฮ่วย แม่นพากันไปลักกินเหล้ามาเบาะสู อุ่นคือหน้าแดงแท้” นายไม้ครับ นั่นไงอุตส่าห์พยายามก้มหน้าแล้วนะเนี่ย
“บ่แม่นดอกเฮาว่า หน้าแดงแนวนี้คือคนอายอีหยังนี่ล่ะ อายหยังอุ่น บักเดี๋ยวมึงพาอุ่นไปไสมา” นายเคนครับ ส่วนผมก็ได้แต่อายจะให้ทำอะไรล่ะนะ
“พาไปบอกควมในใจ” “วี๊ดดดด วิ้ววว” เอ่อ รับส่งกันดีเหลือเกิน ไหนบอกมันไม่อายนะเล่นพูดออกมาแบบนี้เสียงถามอะไรต่อมิอะไรมันดังสอดแทรกมาตลอดเวลาล่ะครับ
“มึงไปเอาเหล้ากลมมาแน่ะบักเคน” ไอ้เน่ามันบอกนายเคนล่ะครับ ผมยังยืนเอ๋ออยู่ แต่นายเคนมันวิ่งไปแล้ว นี่พวกมันจะกินเหล้าด้วยเหรอเนี่ย
“อุ่นๆ ไปซื้อลูกซิ้นป่ะ” จอยมันดึงแขนผมไปล่ะครับ บรรยากาศมันก็งานวัดดีๆนี่ล่ะครับ คนเยอะมากเสียงดนตรีดังกลบทุกอย่างเลยนะ จะว่าไปเสียงดนตรีของหมอลำซิ่งนี่มันคึกดีจริงๆให้ตายเถอะ ได้ยินแล้วอยากจะออกสเต็ป อิอิ
“ว้าย มาด้วยเหรอเธอ” เอ่อ เสียงทักแบบดัดจริตๆดังมาอยู่ข้างๆ ผมหันไปตามเสียงนั้น ใครวะ
“แม่นหยังอีสุชาติ” จอยมันแว้ดเสียงใส่ หา นี่น่ะเหรอสาวสุชาติ โอ้โห จำไม่ได้เลยอ่ะ มันเล่นใส่วิกแต่งหน้า ใส่กระโปรง เอ่อ น่ากลัวไปไหมเนี่ย หน้าตากับเครื่องแต่งหน้ามันเหมือนไม่เข้ากันยังไงไม่รู้ อีกอย่างเพื่อนๆเธอแต่ละคนก็มาในทำนองเดียวกัน กลุ่มใหญ่สี่ห้าคนได้ล่ะครับ ผมกลัวอ่ะ
“ไรยะอีจอย แค่ทักเฉยๆย่ะ แหมปกป้องมันดีเหลือเกินนะ นี่แม่มึงเหรอ” เอาล่ะสิ ผมดึงมือจอยออกมาครับ
“ป๊าด อีกะเทยปากหมา อยากถืกตีนกูติ๊”
“ลองมาสิยะ เดี๋ยวกูจะตบ” “จอยๆ พอเถอะ อย่าไปยุ่งเลย” ผมปรามจอยไว้ล่ะครับ ไม่อยากมีเรื่องเดี๋ยวหมดสนุกไปซะก่อน
“อย่ามาทำเป็นผู้ดีแถวนี้นะ อีตุ๊ดกรุงเทพฯ แหมดัดจริตมาก อยากจะตบเอาสักที” อ้าวนะ มาด่ากูเพื่อ
“ลองมาตบแหม่ะ ไผสิตบไผ อยู่ดีบ่ว่าดีมักมาหาเรื่องเนาะ อีกะเทยโรคจิต อีมีปมด้อย” จอยมันก็ไม่ยอมครับ ผมรีบดึงมือมันออกมาจากหน้ารถขายลูกชิ้น เลยไม่ได้กินเลยกู
“เป็นตาซังเนาะ ปากหมาคือสิอยากกินตีน” จอยมันบ่นล่ะครับ ท่าทางมันนี่นักเลงโตไม่น้อยเลยนะ
“ช่างเขาเถอะจอย เดี๋ยวกร่อยก่อนหรอกนะ ไปร้านอื่นเถอะ” ผมดึงมือจอยให้รีบไปล่ะครับ ดีนะที่พวกมันไม่ตามมาไม่อยากจะเจอเลยนะให้ตายเถอะ
“ฮ่วย นี่ล่ะแนวม่วนอุ่น ตบกะเทยปากหมานี่ล่ะ” โว้นะ เออๆเดี๋ยวค่อยว่ากันตอนนี้ไปจากตรงนี้ก่อนดีกว่า ผมลากมือมันไปไกลพอสมควรครับ
“ฮ่วย คือมาอยู่ไกลแท้ หาอยู่ตั้งโดน” พอได้ของกินมาพวกเราก็ยืนอยู่ตรงริมของเวทีเยื้องๆไปดานหลังล่ะครับ ผมไม่ทันมองอะไรมากเพราะคนมันเยอะด้วย อีกอย่างผมมองหางเครื่องที่ดิ้นแบบว่าสะแด่วมากๆ โอ้โหเอวแต่ละคนนี่แบบว่าไม่กลัวหักกันบ้างหรือไงนะ
“หนีอีสุชาติ ว่าสิโทรหาอยู่” จอยมันบอกนายไม้ไปล่ะครับ ผมหันไปมอง อ้าว ไอ้เน่ามันหน้าแดงแล้ว ตาเริ่มเยิ้มนี่แค่แว้บเดียวมันไปกินเหล้าจนเมาขนาดนี้เลยเหรอ
“หือ พวกมันอยู่ไส สิไปเตะเอาจักบาด” นายไม้ก็เหมือนจะกึ่มๆแล้วล่ะครับ
“อย่าเลยไม้ ไหนเต้นดิ ไหนบอกจะเต้น” ผมเบี่ยงประเด็นครับ พอมันได้ยินมันก็ดิ้นใหญ่เลยนะ เอ่อ ท่าเต้นขี้เหล้ามันเป็นแบบนี้เองเหรอ ไม่น่าดูเลยนะ
“ซิมเบิ่งบ่อุ่น แม่โขง” นายเคนครับมันยื่นขวดเหล้ามาให้ผม ผมรีบส่ายหน้าทันที
“ไม่เอาอ่ะ” “ฮ่วย ลองจั่กหน่อยแน่น้า” มันรบเร้า ผมก็ยังส่ายหน้ายืนยัน
“เอามานี่ กูแดกแทนเอง” เอ่อนะ มีตัวแทนครับ ไอ้เน่ามันฉวยขวดเหล้าไปจากมือของเคน แต่ว่า
“ป๊าด โพดไปหลายบักห่ามึง เหมิดๆๆ” มันเล่นกระดกเอาหลายอึ๊กเลยนะ อ่าน่ากลัวที่สุดเลยอ่ะไอ้เน่า
“อุ่นๆ ป่ะไปเต้นนำไม้” จอยมันดึงแขนผมฝ่าวงล้อมเข้าไปหน้าเวทีล่ะครับ คนเต้นหน้าเวทีเยอะมาก แต่เต้นแบบนี้กลัวจังว่าจะเหยียบเท้ากันเพราะบางคนกระโดดๆ เต้นกางแขนกางขา
“ฮ่าๆ เต้นแฮงๆแน่ะเปี่ยงอุ่น จั่งซี้ๆ” จอยมันสอนครับ โอ้โหคุณนาย เล่นเหวี่ยงหัวยกไม้ยกมือ ผมก็ลองบ้างครับ แต่ได้แป๊บเดียวเพราะมันเหนื่อย เสียงดนตรีมันคึกจริงๆนะ แต่เท่าที่ผมสังเกตดูนักร้อง หางเครื่อง เอ่อ จะออกแนวลามกๆหน่อยๆอ่ะ คำพูดนั้นผมฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่แต่ท่าทางนี่ ยั่วมากๆ ส่ายเอวกระเด้งๆ
“ว้าย เขาตีกัน” จอยมันกรี๊ดขึ้นล่ะครับแล้วฉวยมือผมวิ่ง เอ่อ ไม่ทันจะได้ตกใจไม่ทันจะได้คิดอะไรร่างผมก็ปลิวตามแรงดึงของจอยออกมา มีนายไม้วิ่งตามออกมา เหลือเล็กกับเคนและไอ้เน่าอยู่ด้านใน
“ตาซังเนาะ กำลังม่วนมาตีกัน” จอยมันบ่นล่ะครับ
“แล้วพวกนั้นล่ะจอย” ผมถามขึ้นล่ะครับ
“เดี๋ยวเฮาสิเข้าไปเบิ่ง” ไม้มันบอกครับแล้ววิ่งกลับเข้าไป เขาไล่ตีกันออกไปด้านข้างเวที ส่วนผมกับจอยวิ่งมาอยู่ตรงเกือบทางเข้าแน่ะ เหมือนจลาจลเลยนะคนแตกฮือหนีตอนที่คนร้องกรี๊ดขึ้นหลายๆเสียง
“จะดีเหรอ ทำไมไม่รอตรงนี้” ผมกลัวล่ะครับ จะว่าไปผมไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้เลยนะ ตกใจเหมือนกัน
“บ่เป็นหยังดอก เดี๋ยวมันเมาบัดยามมันเมาเป็นตาซังคือหยังนี่เด้ ไม้มันย้านคนสิตีเอานั่นล่ะ” จอยมันบอกครับ อืมนะ มันจะโดนเขาตีไหมเนี่ย เรายืนรออย่างใจจดใจจ่ออยู่สักพักล่ะครับ เล็กมันก็วิ่งมากับเคน อ้าวแล้วสองคนนั้นล่ะ
“ไม้กับเน่าล่ะเล็ก” ผมร้องถามออกไปครับ ริ่มรู้สึกเป็นห่วงมันขึ้นมา
“พวมสิมา พวกบักแบงค์มันตีกับเทคนิค ไล่กันไปทางหลังโรงเรียนพู้น บักเดี๋ยวมันสิไปซ่อยเขา” เล็กมันบอกออกมากระหืดกระหอบครับ
“ฮ่วย ไปยุ่งกับเขาเฮ็ดหยังน้อ” จอยมันร้องออกมา ตอนนี้ผมรู้สึกห่วงมันมากเลยนะครับ
“แล้วจะเป็นไรไหมอ่ะเล็ก” ผมจับแขนเล็กถามออกไป
“บ่เป็นหยังดอก บักไม้มันนำไปเอาบักเดี๋ยวคืนมาแล้ว ถ่าอยู่นี่ล่ะ” พวกเรารออยู่สักพักก็ออกไปรอที่จอดรถ ผมกดโทรศัพท์หามันไม่รู้กี่รอบแต่มันไม่รับสาย อะไรอ่ะไอ้นี่
“บ่ต้องห่วงดอกอุ่น เดี๋ยวมันเก่งมันบ่เป็นหยังดอก” จอยมันปลอบล่ะครับ
“เราห่วงมันอ่ะ กลัวมันจะโดนเขาตี มันเมาไม่ใช่เหรอ” ผมพูดออกไปครับ มันอดไม่ได้จริงๆนะ
“บู๊ย ตาล่ะเทื่อมันกะเมาเด้ล่ะมันตีเขาน่ะ มันบ่เป็นหยังดอกน่า เซื่อเฮาโลด” อืมๆ เชื่อก็เชื่อแต่นี่ก็รอนานแล้วนะ จะว่าไปพอเขาตีกันหมอลำเขาก็ไม่หยุดนะครับ ตอนนี้หน้าเวทีมีคนเริ่มออกไปเต้นกันเหมือนเดิมแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะตีกันทำไมเนอะให้คนเขาวิ่งหนี อามรมณ์เสีย
“ป่ะเฮ้ย ไปเต้นอีก” อ่า เสียงไอ้เน่าครับ มันดังมาจากด้านหลัง ผมรีบหันขวับไปทันที มองพิจารณาจากหัวจรดเท้าของมัน แต่มันก็ไม่มีอะไรผิดปกตินี่นะ เว้นแต่หน้าแดงๆ
“อ้าว คือมาทางนี้” เล็กมันร้องถามล่ะครับ
“มาทางนี้ตั้ว สห มันไล่แม่มึงเอ้ย ฮอดบ่ได้เตะปากคนซ่ำ” มันทำท่าหัวเสียครับ ผมเริ่มรู้สึกไม่อยากอยู่ต่อแล้วสิ มันน่ากลัวเกินไป นี่ถ้ามันตีกับเขาอีกจะทำไงเนี่ย
“โพดหลายเดี๋ยว โตฮู้บ่มีคนเป็นห่วง” จอยมันพูดครับ ใครวะ อ้าวมองมาที่กูเพื่อ แหมนะใครๆก็ห่วงมันล่ะไม่ได้มีแต่ผมคนเดียวซะเมื่อไหร่
“พากันเมือซะเฮาว่าน่ะ บ่แม่นแนวแล้วล่ะ เดี๋ยวกะสิตีกันอีก” จอยมันบอกครับ
“ฮ่วย บ่ทันได้กินเหล้าอยู่แหม่ะคือสิเมือไวแท้” นายเคนครับ
“สิมากินหยัง อยากกินพากันไปกินอยู่เฮือนกะได้ตั้ว บ่ได้ยุ่งกับไผ” ผมเห็นด้วยกับจอยนะปลอดภัยดีด้วย
“เออเนาะ ไปเฮือนบักเดี๋ยวบ่” นายไม้เสนอครับ ไม่มีใครแย้งนะ แต่ไอ้เน่ามันทำท่าจะเดินเข้าไปหน้าเวทีอีกเหมือนเดิม เอาไปเอามาก็ต้องพากันกลับครับ ก่อนกลับก็แวะไปเซเว่น
“ทำไมไปตีกับเขาอ่ะเน่า” ผมถามมันตอนที่มันขับรถออกจากหน้าบริเวณนั้น
“ไม มึงห่วงกูเหรอ” มันหันหน้ามาตะโกน จะตะโกนเพื่อกูอยู่แค่นี้เองนะ
“ไม่พูดล่ะ ไม่ห่วงกูไง” อ่านะ บังคับให้กูพูดจังนะ
“หะ ห่วงดิ” “ฮ่าๆ ห้ามกูดิ ถ้ามึงห้ามกูจะไม่ทำ” อ่าฮะ ถ้ากูห้ามมึงนี่จะนับถือกูเป็นบุพการีอีกคนไหมล่ะ อิอิ เยอะไปไหมเนี่ยกูอุรดิศ
“ตามใจนายสิ นายเจ็บก็ตัวนายนี่” คือว่าผมมันปากกับใจไม่ตรงกันอ่ะนะ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ถึงพูดแบบนี้ออกมา
“เอี๊ยด” อ้าว จอดอีกแล้ว
“งั้นกูจะไม่ฟังคำมึงนะ ไม่ว่ากูจะทำอะไรอย่ามาห้าม” มันหันหน้ามาสายตามันดุมากๆครับ ผมใจหายไปเลย
“อ่า ล้อเล่นไมได้ไง ขี้น้อยใจนะเน่า”
“น้อยใจดิ แม่งไหนบอกเป็นแฟนกู สัดไม่ห่วงกูเลยไง” มันโวยวายครับ เอ่อ เหมือนว่ามันจะพูดอะไรเกี่ยวกับแฟนๆเมื่อตอนเย็นเองนะ แต่เหมือนมันเรียกร้องอะไรมากมายเหลือเกินกับคำว่าแฟนเนี่ย กูคิดผิดป่ะเนี่ย เว้ย
“ห่วงไง ไม่อยากให้ไปมีเรื่องกับใคร” เออวะ กูพูดก็ได้
“สัด ก็แค่เนี๊ยะ พูดยากนักเหรอวะไอ้เชี่ยเบบี๋” เอ่อ มันพูดหยาบไปป่ะ
“ทำไมพูดจาไม่เพราะเลยอ่ะ” ผมมองหน้ามันครับ
“อ้าว กูชินนี่หว่า เออๆ ขอโทษคร้าบเบบี๋” มันทำหน้าทะเล้นใส่ผมครับ ไอ้บ้านี่มันอะไรของมันวะ ผมอมยิ้มออกมา
“แน่ะๆ ยิ้มแล้วๆ มึงชอบกูไหมเบบี๋” เอ่อ ทำไมมันชอบถามอะไรตรงๆแบบนี้วะเนี่ย กูเขินนะเว้ย
“ไม่บอกอ่ะ ไปได้ยังเพื่อนๆรอนะ”
“ไม่ไปเว้ย ไม่ไปจนกว่ามึงจะบอก” จิ๊ อะไรของมันวะเนี่ย
“ตามใจ โน่น เคนมาตามแล้วเดี๋ยวเราไปกับเคนก็ได้” ผมหลอกมันครับแล้วชี้มือไปด้านหลังมัน มันก็หันไปตาม
“สัด” เอ่อ จะให้บรรยายไหม อายจัง คือว่าอุรดิศไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนะขอบอก มันไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่ตัวจริงของอุรดิศเลยนะ แว้กก เขินอ่ะท่านผู้ชม ก็พอมันหันไปผมก็ยื่นหน้าไปใกล้ๆมันล่ะครับ พอมันหันมาปากผมก็จุ๊บเข้ากับแก้มมันจังๆทีหนึ่ง
“แทนคำตอบอ่ะ ไปได้ยัง” ผมพูดออกไปหน้าแดงกว่ามันอีกมั้ง โอ๊ย เขินโว้ย

เขียนโดย อิ๊กกี้

อิอิ เบาๆก่อนนะคร้าบ ขอให้มีความสุขในการอ่านครับผม

ขอบคุณมากสำหรับการติดตามคร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 06-06-2012 16:44:18
แปะไว้ขอตัวไปอ่านก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 06-06-2012 17:10:07
เบาๆหรอเนี้ย ไม่เบากันแล้ว

กรี๊ดดดดดด เป็นแฟนกันแล้ว มีแอบหอมแก้มกันด้วยว๊ายยย
หวานแล้ววว อิอิ รอเวอร์ชั่นของเดี่ยว โอ้ยยยอ่านแล้วเขิน
ขอกลับไปอ่านซ้ำสักสิบรอบเลย ชอบมากก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Ritsu ที่ 06-06-2012 17:29:19
เป็นแฟนกันแล้วววววววว อิอิ อ่านแล้วเขินอ่าาาาาา  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 06-06-2012 18:11:36
 :-[ เธอเป็นแฟนฉันแล้ว น่ารักอ่ะ  :man1:

ขอบคุณคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-06-2012 18:21:19
นู๋อุ่นจ๋าาาาาาา
ไม่เบาเลยนะเรา :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 06-06-2012 18:38:55
เค้าแอบหอมแก้มกันด้วยอ่าาา
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 06-06-2012 18:40:07
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 06-06-2012 18:42:16


ทำไมน่ารักจังซี้  :o8: :-[ :กอด1:
ชอบบ เริ่มอยากรู้ภาษาอิสาน  :laugh:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 06-06-2012 18:47:46
5555....นี่ไม่ใช่ตัวจริงของอุรดิศ....เหรอครับ...55555+ เป็นตาฮักอย่างแรงนิ!!! ....
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 06-06-2012 19:05:54
กรี๊ดดดดดดดดด(สาวแตก) เป็นแฟนกันแล้วโว๊ยยยยยยยย เยส :laugh:  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-06-2012 19:19:08
รีบๆมาต่อนะคะ :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 06-06-2012 19:31:18
เบาๆหรอเนี้ย ไม่เบากันแล้ว

กรี๊ดดดดดด เป็นแฟนกันแล้ว มีแอบหอมแก้มกันด้วยว๊ายยย
หวานแล้ววว อิอิ รอเวอร์ชั่นของเดี่ยว โอ้ยยยอ่านแล้วเขิน
ขอกลับไปอ่านซ้ำสักสิบรอบเลย ชอบมากก

หนูจิมเก็บอาการหน่อยลูก ตอนบักเดี๋ยวขอบอกเขินนนนนนนนนนนน. อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 06-06-2012 19:33:38
แทนคำตอบอ่ะ ไปได้ยัง
ชอบประโยคนี้จังครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 06-06-2012 19:35:27
น่ารัก อ่ะ  :o8:+1 เน่ากะ เบบี้ :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 06-06-2012 19:51:46
คู่นนี้น่ารักแบบใสๆ  ไม่มีพิษภัยเลย  โอ๊ยยยยย  หวานไปไหนคร๊าาาาาาาาาาาา :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: jaejoong22 ที่ 06-06-2012 19:52:16
น่ารักสุโค่ย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 06-06-2012 20:13:18
เขิล น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 06-06-2012 20:19:13
เป็นแฟนกันแล้ว  อุ่นน่ารักมากๆๆ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 06-06-2012 20:28:01
น่ารัก :impress2:มากเลยอะครับ คุณเอกกี้ แต่งเก่งมากเลยอะ ชอบ :-[ ชอบ  :-[ชอบน่ารักอะ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 06-06-2012 20:38:22
กี๊สสสสสสสสสสสสสสสส
เดี๋ยว โหดๆ เถื่อนๆ น่ารัก

อายยัไงหน้าก็ไม่แดง ดีอ่า  :o8: :laugh:

พี่อิ๊ก เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z3:

เขินอ่าๆๆ  :z1: :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 06-06-2012 20:42:40
หนูจิมเก็บอาการหน่อยลูก ตอนบักเดี๋ยวขอบอกเขินนนนนนนนนนนน. อิอิ

โอ๊ยยยยยยยยยถ้า Ver.เดี่ยว เขินมากกว่านี้
กลัวช๊อคตายหน้าคอมนะสิ ฮ่าๆ
ยิ่งยังหาสารมี ยัง บ่ ได้ เลย อิอิ
ไม่กงไม่เก็บอาการแล้วพี่อิ๊ค อ่านยังไม่ถึงครึ่งตอน กรี๊ดลั่นบ้าน ไม่คิดว่าเดี่ยวมันจะกล้า แม่หันมาถาม มึงเป็นบ้าหรอ?
ตอนนั้นลืมตัวเนอะ แอบอาย ฮ่าๆ จะรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว ตอนนี้ต้องขอตัวปลดปล่อย หน่อย
ไปหาอ๋อมเขียด กินดีกว่า ทอดไข่ โซยกับเข่าเหนียวฮ้อนๆ แบบเดี่ยว
โอ๊ยแซ่บหลาย อ่านแล้วน้ำลายไหล

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 06-06-2012 20:44:13
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 06-06-2012 20:50:57
ว้าววว เป็นแฟนกันแล้ว เขินๆน่ารักกก  :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 06-06-2012 20:56:15
บทนี้หวานได้ใจมาก
เดี๋ยวก็อ้อนได้อีกนะ :o8:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-06-2012 23:08:16
เดี๋ยวทั้งหวานทั้งเถื่อน
น้องอุ่นเอาความน่ารักปราบให้อยู่หมัดเลยนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: badgirl ที่ 06-06-2012 23:22:00
เอร๊ยย น่ารักแต๊ๆ เขิลกันเลยทีเดียวว :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 07-06-2012 00:51:13
อ้ายยย เขิน  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-06-2012 01:25:30
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 07-06-2012 03:16:39
ตอนหน้า จะได้กันแล้วใช่มะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-06-2012 09:29:03
น่ารักดีจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 07-06-2012 12:10:56
น่ารัก o13 :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 07-06-2012 20:15:57
เป็นแฟนกันแล้วววว....เจ้าเดี๋ยวมันรวบรัดได้ไวมากกก...
แล้วเอ๋อ ๆ แบบนู๋อุ่นนี่จะตามมันทันไหมอ่ะ....

 :กอด1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 08-06-2012 01:45:38
อ่านไป ม้วนไป :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 08-06-2012 12:54:10
น่ารักมากมายน้องอุ่น สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 15 Version (อุรดิศ) 6 June 12 หน้า 17
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 08-06-2012 19:56:21
 :-[อ่านไปเขินไป  น่ารักอ่ะ  ชอบเดี๋ยวที่เป็นคนตรงๆ เนี่ยแหละ 
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 08-06-2012 23:48:50
You’re My BaBy!!

กูเขินว่ะสัด ฮ่าๆ ให้ตายเถอะตั้งแต่มีแฟนมาไม่เคยเขินเท่านี้มาก่อนเลย แม่งโคตรน่ารักเลยนะไอ้เบบี๋น่ะ มันหอมแก้มกูแล้วมันก็ดันหน้าแดงเอง แดงมากเลยนะ
   “น่ารักนะมึงน่ะ เข้าใจทำนะ” ผมน่ะหรือจะปล่อยให้มันก้มหน้า ผมรีบจับหน้ามันไว้ล่ะครับ มันก็หลบตานะ
“ทำแล้วนะ” มันพูดออกมาเสียงเบามาก
“ไหน มองตากูดิ๊” ตอนหน้าผมเอี้ยวตัวนะครับ คิดภาพออกไหมเนี่ย มันนั่งซ้อนท้ายแต่รถของเราจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนเยื้องๆไปหน่อย มันมืดๆล่ะครับ คนมีไหม มีมั้งไม่ได้มองว่ะ ฮ่าๆ หน้ามันกับหน้าผมนี่อยู่ห่างกันแค่คืบเองนะ
“ไรอ่ะ” มันค่อยๆชายตาขึ้นมามองตาผมครับ ผมก็จ้องรออยู่แล้ว
“กูชอบมึงนะ” คือว่ากูไม่ได้ลิเกนะ แต่มันพูดออกไปเองล่ะ ให้ตายเถอะไม่เคยบอกชอบใครเลยนะ จริงๆสาบานได้เลย ที่คบๆมาเขาจะบอกกูซะส่วนมากแต่วันนี้ตอนนี้กูทำไมอยากพูดคำนี้จังวะเนี่ย
“อ่า” แล้วคนอย่างบักเดี๋ยวมีหรือจะพูดเฉยๆโดยที่ไม่ทำอะไร พอบอกมันออกไปเราจ้องตากันอยู่พอสมควรกูก็โน้มหน้ามันเข้าหาดิ กูโน้มไม่ได้แล้วเพราะเอี้ยวตัว กูจูบมันว่ะ สัด เขินจังเว้ย
“ไม่อายคนเหรอ” ไอ้นี่ อายแต่ยอมแช่ปากอยู่กับปากกูอยู่ได้นานสองนานนะมึง มันรีบก้มหน้าล่ะครับ ผมนี่ยิ้มแก้มปริเลยนะ มันรู้สึกดีจริงๆนะให้ตายเถอะ หัวใจมันเต้นแรงมากๆ เอาไปเอามาผมก็พามันกลับมารอเพื่อนอยู่ที่บ้านก่อนล่ะครับ
“โบ้ๆ ยังไม่นอนเหรอ มานี่มา” ไอ้โบ้มันวิ่งออกมารับล่ะครับ พอเห็นไอ้เบบี๋มันก็กระโจนเข้าหา ไอ้นี่แปลกทีคนอื่นมันจะเห่าก่อนนะแต่ไม่กัด เว้นแต่คนที่มีพิรุธ เออขอเล่าหน่อยมันเคยกัดโจรได้ด้วยนะเว้ยไอ้โบ้ ตอนกลางวันด้วยเพราะไอ้คนั้นมันทำท่ามาหาซื้อของเก่าแต่แค่พอเดินมาไอ้โบ้ก็กระโจนเข้ากัดเลยนะ กว่าจะเอามันออกได้นี่ไอ้นั่นแทบขาขาด เอาไปเอามาจะพาโรงพยาบาลมันไม่ยอมไป ที่ไหนได้ตำรวจมามันเป็นโจรนั่นเอง ยกความดีให้มันไป ส่วนคนอื่นๆที่มาบ้านผมมันจะเหาเสียงดังล่ะครับต้องบอกมัน มันถึงจะหยุด แต่กับไอ้เบบี๋มันไม่ยักเห่า เออวะแปลก
“หมามันตื่นไว มึงไม่รู้เหรอ” ผมบอกมันล่ะครับ
“อ่า พี่มากวนโบ้เหรอ นอนไม่หลับเหรอโบ้ ไม่มีหนมมาฝากนะ” ผมปล่อยก๊ากออกมา มันซื่อหรือว่ามันเอ๋อโง่กันแน่วะเนี่ย แต่ท่าทางมันนี่ไม่ได้แอ๊บจริงๆนะ
“หัวเราะไรอ่ะเน่า” “มึงนะมึง กอดเข้าไป ทีกูล่ะไม่ยอมกอดนั่นมันหมานะเว้ย” ผมโวยวายครับ
“อิจฉาหมาเหรอ อิอิ” “แหมนะ อิจฉาดิเว้ย มานี่เลยมึง มากอดกูเลย” ผมไม่รอให้มันลุกมาหรอกนะครับผมเดินไปนั่งลงข้างๆแล้วกอดมันทันที ไอ้โบ้มันนึกว่าผมจะเล่นกับมันมั้งมันเลยโผเข้ามาจะเลียผม
“ยังๆไอ้โบ้ กูกอดแม่มึงก่อน”
“อ่า ไอ้เน่า พูดไรอ่ะ ใครแม่”
“มึงไง ไม ในเมื่อกูเป็นพ่อมึงก็ต้องเป็นแม่ดิ” มันอายครับ ชอบจังวะเวลามันอาย มันกอดไอ้โบ้ใหญ่เลยนะ
“ป๊าด มาเบิ่งแน่ล่ะสู บอกให้พวกเฮาไปถ่าอยู่เซเว่นตั้งโดนตั้งนานมากอดกันอยู่นี่ เป็นตาหน่ายเนาะ” เสียงสัดไม้ครับ ผมรีบแยกออกจากมันทันที ไอ้โบ้มันก็เห่าทันที
“อีหยังพวกห่านี่แหมะ มาแต่ยามได๋” ผมถามแก้เขินครับ
“บู๊ย เบิ่งเว้าแน่ล่ะ นี่ล่ะน้อเพิ่นว่าควมฮักเฮ็ดให้คนตาบอด หมู่เขาแตกทืดๆมากะบ่ได้ยินเนาะ” สาวจอยครับพวกเพื่อนๆตัวแสบมันก็พยักหน้ามองผมกับไอ้เบบี๋เป็นตาเดียว กูน่ะไม่เท่าไหร่หรอกนะเพราะหน้ามันหนาแต่ไอ้เบบี๋นี่มันอายจนเดินไม่ได้ยืนไม่เป็นทีเดียวเชียวล่ะ
“ไสเหล้า อย่าสิเว้าหลายเสียเวลา มาๆ กับแกล้มซื้อมานำบ่” ผมเฉไปครับถือว่าช่วยไอ้เบบี๋มัน
“ได้มาแต่ลูกซิ้นล่ะ มันบ่มีแนวเป็นตาเอา เว้ามาอยากกินตำบักหุ่งกับปลาเผาเนาะสู คือสิหวานจ้อยๆ” สัดเคนครับแหมนะมึงเทศน์กินเอาเลยสิวะสัด เอ๊ะ แต่ว่าบ้านกูขายส้มตำนี่หว่าอุปกรณ์มีครบรู้สึกว่าปลาก็มีอยู่ในไห
“กินบ่ล่ะ มีปลาค่อเหลืออยู่จักสี่ห้าโตนี่ล่ะ จอยโตไปครัวตำบักหุ่งแน่ สิให้ซุมนี้เผาปลาถ่า” ผมบอกไปล่ะครับ เอาไปเอามาก็กว่าจะได้กิน พวกเราแยกเป็นสามกลุ่ม สัดเคนกับสัดไม้จัดการปลาช่อน ส่วนผมหาอุปกรณ์ให้เพื่อนๆ ไอ้เล็กมันก่อไฟ ส่วนสาวจอยกับไอ้เบบี๋อยู่ในครัวจัดการส้มตำ
“หุบแน่บักห่ามึงหน้าบานคือกลองเพลนี่ล่ะกูว่า อย่าสิยิ้มหลาย บ่ย้านหมู่เขาอิจฉาแน่บ้อ” พอผมเดินไปเดินมาสัดเคนมันก็แซวขึ้นล่ะครับ อ้าวไอ้นี่กูยิ้มก็แซววะ
“ฮ่วย ให้กูยิ้มแน้ คนมันมีควมสุขเว้ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ
“เออกูกะว่าซั่นล่ะ ตั้งแต่ฮู้จักมึงมาสิคบกับไผกูบ่เคยเห็นมึงยิ้มเหมิดมื้อเหมิดคืนปานนี้ คือสิแม่นล่ะเนาะผู้นี้แหม่ะ” สัดไม้ครับ ผมไม่ตอบหรอกนะ แต่เดินเข้าไปในครัว จะว่าไปแล้วพวกมันสังเกตผมขนาดนี้เลยเหรอวะเพราะว่าผมเองไม่ยักรู้ตัวเลยนะว่าเวลาคบคนอื่นแล้วไม่ค่อยยิ้มแย้มหรือดูเฉยๆ เอาเถอะน่าก็ตอนนี้รู้สึกแบบนี้นี่หว่าจะให้ทำหน้าบูดมันทำไม่ได้เว้ยเฮ้ย อิอิ
“บู๊ย โตฝานบักหุ่งกะเป็นติ๊อุ่น ไปหัดมาแต่ไส” พอผมเดินเข้าไปในครัวก็เห็นสาวจอยกำลังเมามันกับการโขลกพริกล่ะคัรบ ส่วนไอ้เบบี๋มันก็กำลังปอกเปลือกมะละกออยู่
“เราเคยไปช่วยแม่ เอ่อ” มันหุบปากลงครับ
“แม่หยัง หือ อย่าบอกเด้อว่าไปซ่อยแม่ ว้าย เฮาตกข่าวอีหยังอยู่เบาะอุ่น เว้ามาเลยๆ” สาวจอยครับทำท่าเหมือนว่าเธอตกข่าวเรื่องโลกกำลังจะแตกประมาณนั้น ผมเดินเข้าไปพอดีเธอก็หันมาหาผม
“อีหยังจั่งได๋เดี๋ยว เปิดโตแล้วแม่นบ่”
“แม่น เปิดโตเป็นทางการแล้ว” กูก็นะ ฮ่าๆ ก็ไม่รู้จะปิดไปทำไมนี่หว่าเนอะ
“กรี๊ด เป็นจั่งได๋ ยายแต๋วเราว่าจั่งได๋” ผมยกนิ้วขึ้นส่ายไปมาเป็นเชิงบอกว่าอย่าอยากรู้มากล่ะครับ บางเรื่องก็อดใจรอหน่อยเถอะวะ เพราะไอ้นั่นมันอายหน้าเริ่มแดงอีกแล้ว
“เป็นตาซังเนาะอุ่น ซาดปิดเฮาดี บ่บอกกันเลยเนาะ” สาวจอยหันไปหาไอ้เบบี๋ครับ
“ไม่ได้ปิดนะจอย ก็เพิ่งจะตอนเย็นเอง” อ้าวไอ้นี่ เหมือนจะอายไม่อยากบอกนะแต่เอาไปเอามามันดันบอกซะเอง อะไรของมันวะเนี่ย พูดจบก็อายเขิน โว้ยนะ ฮ่าไ ผมก็ยืนมองมันอยู่ยิ้มๆครับ
“ซั่นมื้อนี้พวกเฮามาฉลอง กินดองกันเนาะสู” พอของครบออกไปล้อมวงอยู่ตรงม้าหินอ่อนสาวจอยก็รินเหล้าแบ่งให้ทุกๆคนล่ะครับ ให้ไอ้เบบี๋ด้วยนิดหนึ่งพอเป็นพิธี
“กินดองหยัง” ผมถามขึ้นเองล่ะครับทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าสาวจอยหมายถึงอะไร
“กินดองพวกโตนั่นล่ะ โอ๊ย ดีใจหลาย มาๆหมู่เฮาสิเมา บ่เคยมีหมู่ผู้ได๋มีผู้บ่าวแล้วเฮามีควมสุขแนวนี้เลย ดีใจนำเด้อเดี๋ยว ดูแลอุ่นดีๆเด้อ” ฮ่าๆ เอากับเธอครับ แหมนะอวยพรเป็นการเป็นงานเลยนะ
“อ่า ไรอ่ะจอย บ้าเหรอ” ไอ้เบบี๋ครับ เอาไปเอามาก็แซวกันสนุกสนานเสียงดังผมก็กระแอมเพราะถ้าคุณนายแม่ผมตื่นมาเจอนี่คงซวยล่ะครับ
“โอ๊ย ซังเด้ ฝนตก” พอคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ฝนก็ดันเทลงมาอีกล่ะครับ มันหน้าฝนนี่เนอะแต่มันเล่นตกไม่เป็นเวลาแบบนี้ก็แย่นะเว้ย
“เป็นตาตกแฮงเด้ล่ะเฮ้ย คั่นเมือบ่ได้พากันนอนนี่ล่ะ” ผมบอกเพื่อนๆครับ ตอนนี้เราช่วยยกจานใส่กับแกล้มเข้ามาในบ้านแล้วปูเสื่อนั่งล้อมวงใหม่ไม่ยอมแพ้ครับให้มันเมากันไปข้างเว้ย
“เบบี๋ มึงโทรไปบอกเจ๊แกดิ เดี๋ยวจะเป็นห่วง” ผมเดินไปบอกไอ้เบบี๋ล่ะครับมันไปนั่งกอดไอ้โบ้อยู่หน้าบ้าน
“อืม มันจะตกนานไหมอ่ะ” มันหันมาถามครับ
“ไม่รู้เว้ย ไม่ใช่เทวดา นานไม่นานมึงก็ไม่ต้องกลับหรอก นอนนี่ล่ะเพราะกูไม่ไปส่งเว้ย” ผมบอกมันครับ
“อ้าว ยังไมได้อาบน้ำเลยอ่ะ เราง่วงแล้วนะ”
“ง่วงก็ไปอาบน้ำนอนดิวะ บ้านกูมีห้องน้ำ ไม่ใช่ฝักบัวเหมือนบ้านมึงแต่ก็น้ำเหมือนกันล่ะ เสื้อผ้าใส่ของกูไปก่อน”
“อ่า จริงดิ” “แหมๆ รังเกียจแฟนว่างั้นสัด”
“ก็มีบ้างนะ เราไม่เคยใส่เสื้อผ้าใครนี่” มันเถียงครับ
“ก็ลองซะสิ เพราะต่อจากนี้มึงกับกูก็คงไม่มีอะไรต้องปิดบังกัน” ผมพูดเสียงธรรมดานะ อ้าว ผิดตรงไหนวะก็ผมคิดแบบนี้นี่หว่า จะคบกับมันแล้วนี่นะ จะมาปิดบังอะไรมันหรือหวงของอะไรกับมันล่ะ แต่ไอ้เบบี๋มันอายครับ ไอ้นี่ต่อมความอายคงอยู่ตื้นมากๆแน่นอนพูดอะไรหน่อยไม่ได้เลยนะอายตลอด
“บ้านะเน่า พูดไรอ่ะ”
“ไรวะ บ้าตรงไหน หรือมึงมีไรปิดบังกู” ผมยักคิ้วให้มันครับ
“ไม่มี หมายถึงพูดแบบนั้นอ่ะ อิอิ เขินนะ” อ้าวนะ ผมเลยนั่งยองๆลงข้างๆมันครับแล้วจับบ่ามันไว้
“รีบไปอาบน้ำดิ เดี๋ยวกูจะขึ้นไปหา” ผมกระซิบข้างๆหูมันล่ะครับ มันย่นคอถอยหนีทันที
“ไปหาไมอ่ะ ไม่กินเหล้ากับเพื่อนเหรอ”
“กิน แต่เมาแล้วอยากว่ะ มึงอย่าหลับลึกล่ะ กูเอามึงแน่ๆ”
“อ่า ไอ้บ้าเน่า ไม่เอาล่ะไม่คุยด้วยแล้ว” มันลุกหนีไปเลยครับผมก็หัวเราะไล่หลังมันไป แหมๆ ทำเขินนะมึง เดี๋ยวเจอกูแล้วจะเขินไม่ออก ฮ่าๆ ผมก็ไปเตรียมผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้ามาให้เพื่อนๆล่ะครับเผื่อใครมันอยากจะอาบน้ำ มีสาวจอยกับไอ้เน่าสองคนที่อยากจะอาบน้ำส่วนนอกนั้นซักแห้งครับ สัดเคนกับสัดไม้กึ่มมากแล้ว ไอ้เล็กมันไม่ค่อยกินเหล้าเน้นแต่กับส่วนผม ฮ่าๆ อย่าให้บรรยายทั้งเมาทั้งมีความสุขเว้ยเฮ้ย
“ฝนตกนานเนอะ” ไอ้เบบี๋มันพูดขึ้นล่ะครับตาปรือแล้วส่วนสาวจอยหลับไปแล้วที่โซฟา ตอนนี้มีไอ้เล็กผมไอ้เบบี๋ที่ตื่นอยู่ สัดเคนกับสัดไม้ตายไปแล้วครับคอพับไปเรียบร้อย
“ขึ้นไปนอนไหมล่ะมึง” ผมชวนมันครับ
“ไม่นอนตรงนี้เหรอ”
“กูมีที่นอน ตามขึ้นมาดิ” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเดินขึ้นบันไดไปมันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตามผมขึ้นมา แหมนะลีลานะมึงกูไม่ลวงมึงไปทำมิดีมิร้ายหรอกนะเว้ย (ใครบอก) ฮ่าๆ
“อ่ะ เข้าไปห้องกูเอง” ผมเปิดห้องส่วนตัวของผมล่ะครับ ไม่อยากให้ใครเข้าเลยนะมันรก คือเรื่องการทำความสะอาดห้องนี่แม่ผมให้ผมจัดการเองมาตั้งแต่อยู่ ม.ต้นนะครับแม่กับพ่อจะไม่เข้าไปยุ่งดังนั้นห้องส่วนตัวของชายโฉด เอ้ย ชายโสดมันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะรกเป็นธรรมดาครับ
“อ่า ทำไมรกจังอ่ะ มีหนูไหมเนี่ย” “สัด รกแต่สะอาดเว้ย” ผมว่าแล้วเชียวมันยืนมองอยู่ล่ะครับ ตู้เสื้อผ้าผมก็เปิดทิ้งไว้เสื้อผ้าก็กองระเกะระกะเต็มพื้น ใส่แล้วบ้างยังไม่ใส่บ้างตามประสา แต่ผมก็ต้องรีบเดินไปถวหัวเตียงล่ะครับรีบทำลายหลักฐานก่อน
“ไรอ่ะ เก็บไร” ตาดีอีกนะมึง
“กระดาษเช็ดน้ำว่าว” บอกไปตามความจริง แต่มันอายจนหน้าแดงครับ
“แหมๆ อาย ทำอย่างกับมึงไม่เคย” “บ้า เราไม่ทำแล้วทิ้งหลักฐานแบบนี้หรอกนะ น่าเกลียด”
“น่าเกลียดตรงไหนวะ เรื่องปกติเว้ย เก็บอาทิตย์ละครั้งไง ดูว่าอาทิตย์ไหนทำแต้มได้เยอะที่สุด ฮ่าๆ” ผมหัวเราะล่ะครับ ไปตามเรื่องของผม
“แหวะ มีงี้ด้วยนะ ถึงว่ากลิ่นหึ่งเลยอ่ะ”
“ไปๆ นอนๆ อย่าพูดมาก วันหลังมึงก็มาเก็บให้กูดิ”
“บ้าเหรอ แหวะ ของตัวเองก็เก็บเองเถอะใครจะไปจับ”
“สัด ของแฟนไม่เก็บว่างั้น รังเกียจกูเหรอ” ผมประชิดตัวครับ มันรีบถอยทันที
“ไม่เอาอ่ะ นอนตรงไหน” มันหันหน้าหนีครับ ผมมีหรือจะยอมให้มันหนีง่ายๆ
“บนเตียงดิ” “แล้วไม่เก็บเหรอเตียงอ่ะ” มันมองไปบนเตียงล่ะครับ ชุดนักเรียนยังกองรวมกับถุงเท้ากางเกงในอยู่เลยนะ ฮ่าๆ ก็กะจะมากวาดลงตอนนอนทีเดียวไงวะ ผิดปกติตรงไหนวะเนี่ย
“เก็บให้หน่อยดิ” ผมอ้อนมันครับ เขาเรียกว่าอ้อนป่ะไม่รู้แต่ผมเดินประกบมันจะกอดอยู่แล้วเชียวแต่มันคอยเดินหนี หนีได้หนีไปเว้ย ดูซิมึงจะหนีได้สักกี่น้ำเพราะกูล็อคห้องเรียบร้อยแล้วเว้ย ฮ่าๆ จะตีแมวก็วันนี้ล่ะ
“เราไปนอนกับจอยดีกว่า” นั่นแน่ มันทำท่าจะเดินหนีล่ะครับ ผมกันเอาไว้
“ไปไหน” ผมกอดตัวมันไว้ จังหวะที่มันหันหน้ามาผมก็รวบตัวเอาไว้เลยครับ ตอนนี้ผมจ้องหน้ามัน
“อ่า ไปหาจอย” “อยู่นี่ ไม่ต้องไป ไม ไม่อยากกอดกูไง” ผมทำเสียงนุ่มๆ ยังไงไม่รู้วะแต่พยายามทำให้มันเบาๆ ฮ่าๆ ดูมาจากในหนังเว้ย มันมีบ้างล่ะน่านะ
“ไม่เอาอ่ะ เขิน” “สัด กูก็เขิน เดี๋ยวก็ชิน อ่ะเดี๋ยวกูเก็บให้ เปิดพัดลมไหม หนาวนะมึง” ผมดันตัวมันไปที่เตียงล่ะครับแล้วเอามือกวาดๆเสื้อผ้าออกกลวัว่ามันจะวิ่งหนี มาไล่กันบนนี้คุณนายแม่ตื่นมาเด็ดหัวเอาแน่ๆ
“อ่ะ นอน” ผมดันตัวมันให้นอนลงบนเตียงล่ะครับ ตัวมันแข็งมากคงจะเกร็ง ดีๆ กูชอบ
“อ้าว แล้วนายไม่นอนเหรอ” มันร้องถามมาครับ
“ยัง เปลี่ยนเสื้อก่อน” ว่าแล้วก็ถอดเลยครับ เสื้อก่อน มันอ้าปากแต่จะหลบหน้าคงไม่ทันล่ะผมว่านะ มันเลยทำตาสูงๆมองเพดานประมาณนั้น
“กูนอนไม่ใส่เกงในนะมึง” ผมยั่วมันครับแล้วถอดกางเกงออกพร้อมกันกับกาเกงในเลย มันหน้าแดงปั๊ดขึ้นทันที เสียงหัวใจมันเต้นดังจนผมได้ยินเลยนะ ฮ่าๆ ผมเดินโทงๆอยู่สักพักก็หยิบเอากางเกงบอลมาใส่ แล้วเดินไปปิดไฟครับ ผมกระโจนขึ้นเตียงไปกอดมันทันที
“อ่า นะ นาย” “หือ ทำไมครับ เบบี๋” ผมทำเสียงแบบว่า กูอยาก ฮ่าๆ
“ทับไมอ่ะ เราหนัก” “จะเอากันไง ไม่ทับแล้วเอาไงล่ะครับ หือ เบบี๋”
“อ่า ไม่เอานะ เราบอกแล้ว” “บอกไรครับ หือ มาจูบหน่อย” กูเริ่มรุกรานมันเต็มที่ครับ จับหน้ามันขึ้นแล้วประกบปากทันที มือก็ควานลงต่ำมันตัวแข็งมากๆพยายามดิ้นหนีแต่กูตัวใหญ่กว่านี่นะเลยทับไว้ซะดิ้นไม่ได้
“กอดเฉยๆได้ป่าวอ่ะ เราไม่อยากทำ” มันครางออกมาครับ
“ทำไมวะ กูอยาก” “เราก็อยาก เอ้ย ไม่ๆ เรายังไม่พร้อมอ่ะ กอดเฉยๆนะเน่านะ” มันอ้อนครับ ให้ตายเถอะนี่มันเป็นโอกาสทองแล้วนะ ฝนตกบรรยากาศดี เมา องค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์ โอ๊ย เซ็งเว้ย
“แล้วให้กูทำไงอ่ะ น้ำไม่ออกกูนอนไม่หลับหรอกนะ”
“อ่า ไปเอาออกดิ” มันยังคงหลบหน้าอยู่
“มึงช่วยดิ” ผมบอกมันครับ กระแซะตัวเบียดเข้าหาอีก
“ไม่เอาไม่อยากโดนน้ำ” “สัด เยอะนะมึง จะทำไม่ทำ” ผมเริ่มโมโหครับ จากที่มีอารมณ์กูเริ่มจะเซ็งล่ะ
“งั้นเราลงไปนอนข้างล่างนะ” อ่านะ เอากับมันครับ แคร์กูหน่อยโว้ยสัด แหมๆ บังคับไมได้เลยนะไอ้นี่ เออๆ
“อ่า นายจะทำตรงนี้เลยเหรอ” ช่วยไม่ได้วะ แม่งบอกให้ช่วยไม่ช่วยกูปั่นมันตรงนี้ล่ะสนใจที่ไหน มันรีบหันหลังให้กูทันที แหมๆ หันหลังกล้านะมึง กูยิ่งหน้ามืดๆอยู่นะ เดี๋ยวจับยัดซะเลยนี่ ว่าแต่เขายัดเข้ารูนั่นจริงๆเหรอวะ ฮึ๋ยย

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. พักนี้ผมเหนื่อยๆนะครับ ยังไงจะพยายามเขียน เซ็งโดยไม่มีสาเหตุ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 09-06-2012 00:23:32
เดี๋ยวหื่นไปมั๊ยลูก ให้เวลาอุ่นมันหน่อยซิ อิอิอิ อ่านไปก็เขินไปวุ๊ย
ปล.ให้กำลังใจคนแต่งนะ อย่าเครียดหลาย เดี๊ยวสุขภาพไม่ดีเด้อ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 09-06-2012 00:35:50
อื้อ หือ เรื่องนี้

เค้าชอบมากกกกกก

ให้ตายสิ พี่อิ๊ก  เขียนได้แบบ
ยิ้มตั้งแต่อ่านต้นเรื่องจน จบตอน
เอ้าา จบตอนแล้วหรอ?
น้อเซงเลย

พี่อิ๊ก อย่า เซงมากนะ >< หาอะไรคลายเครียดๆเด้อ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-06-2012 00:52:33
น้องอุ่นน่ารักเกินไปแล้ว
ชอบเวลาเพื่อน ๆ แซว ได้อารมณ์ เห็นภาพความสนุก
เดี๋ยวเอ้ย ไปศึกษาวิธีทำให้ดีก่อนเด้อ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 09-06-2012 01:08:36
เดี๋ยวไวตลอด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 09-06-2012 01:20:42
ขนาดเซ๊งนะเนี้ย ยย ยังเขียนนได้ แอร๊ ยยยมาก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 09-06-2012 02:17:04
เดี๋ยว รุกเร็วอ่ะ  :z13: น้องอุ่น สู้ ๆ น่ะ :z2:+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: คันจัง ที่ 09-06-2012 08:15:01
เดี๋ยวอดเลยยย ฮ๊าาาาา
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 09-06-2012 08:38:21
ไอเดี่ยวเขาเข้ารูนั้น
ถ้าไม่ใช่แล้วจะรูไหน
ตอนนี้ทั้งเขินทั้งขำ ฮ่าๆ

ชอบมากๆเลย อยากมีแบบนี้บ้าง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 09-06-2012 09:28:38
หื่นไปไหมเดี๋ยว!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 09-06-2012 09:29:14
เขิลแทน >,,<" เป็นกำลังใจให้พี่อิ๊กนะครับ มาต่อไว ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 09-06-2012 09:38:37
กลับมาอ่านอีกรอบ 555+สนุกดี ดูไปดูมาบักเดี๋ยวไปศึกษาค้นคว้าก่อนดีกว่ามั๊ย ก่อนแกจะหื่นใส่เค้า สงสารอุ่นมัน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-06-2012 10:46:08
ขนาดเซ็งนะเนี่ยคุณอิ๊ก :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 09-06-2012 11:09:28
คุณเอกกี้ อย่าเซงเลยนะ อิอิ พวกเราแฟนคลับ รอผลงานคุณอยู่ ชอบที่สุด น้องอุ่นอย่าไปยอมนายเดี่ยวง่ายๆๆนะ ต้องให้เดี่ยวหลงเรา ตามใจเราให้ได้ก่อน อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 09-06-2012 11:53:01
 :oo1:เดี๋ยวจัดหนักเลยหรือลูก ค่อยๆๆได้ไหมอะ สงสารอุ่นเพราะอุ่นยังไม่เคย :o8: :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 09-06-2012 12:31:06
โอ้ยเสียดายบรรยากาศเป็นใจขนาดนี้ ><'
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 09-06-2012 15:43:57
เดี๋ยว อย่ารุกเร็วนักซิ ขอเวลาอุ่นทำใจนิดนึง

 :กอด1: ให้กำลังใจ  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-06-2012 18:37:22
ตลกดี  อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 09-06-2012 19:44:35
ฮ่าๆๆ  อุ่นเขินน่ารักกกกอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 09-06-2012 20:00:34
เน่าหื่นนนอ่ะ...แต่ไปศึกษาหน่อยดีไหม..สงสารนู๋อุ่นอ่ะ
เบบี้อย่ายอมเจ้าเน่านักนะ...ข่ม ๆ มันไว้บ้างเดี๋ยวได้ใจ

 :L2: ให้กำลังใจน้องอิ๊กเยอะ ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 09-06-2012 21:02:18
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 09-06-2012 22:36:46
เซ็ง.... แบบ เดี๋ยวป่ะคับ 5555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 09-06-2012 22:47:48
เดี๋ยวนี่จุดประสงค์ชัดเจน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2012 23:21:37
รอจ้ารอ รอ ร๊อ รอ :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 10-06-2012 20:14:31
  o13
555 มีจุดหมายชัดเจนนนน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 10-06-2012 23:31:05
เง้อ...ยังไม่มาอีกหรออออออ รอ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 15 Version (วิชพงศ์) 8 June 12 หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 11-06-2012 00:12:24
โอ๊ยยย คิดถึง เน่าหื่นๆ กับ น้องอุ่น ใสซื่อ(?) อ่า

เลยตาม เข้ามา

พี่อิ๊ก หายเซงยังคร๊าบบบ :z1:

อ่านซ้ำอีกสัก2-3 รอบ มันตราตรึงใจ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 11-06-2012 16:52:04
Don’t call Me BaBy!!

โอ๊ยนะ ขนลุกขนพองเกิดมาไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีอะไรกับใคร เคยนะเคยแต่ก็แค่ภายนอกกอดจูบลูบคลำอะไรแบบนี้ แต่วันนี้ ตอนนี้ไอ้เน่ามันกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้าครับ แว้กก เขินมากอายที่สุด มันกอดผมแบบไม่ปล่อยเลยนะ ไซร้ซอกคอผมอีก อึ๋ยย ชอบอ่ะ อิอิ นี่ถ้าหากว่าผมยอมมันล่ะมันจะดีไหมนะ โตแล้วนี่อุรดิศลองดีไหมนะ ลองหน่อยน่านะเผื่อจะดี แต่ไม่เอาหรอกครั้งแรกผมรู้ดีว่ามันต้องเจ็บแน่ๆ ไมได้ๆเดี๋ยวมันได้ใจขอบ่อยๆทำไง ไม่เอาหรอกนะ แต่ว่า
   “อ่า เสียว ไอ้เบบี๋ ดูดิ แม่งโคตรแข็งเลยนะ ไม่ยอมกูจริงอ่ะ” นี่ผมหันหลังให้มันแล้วนะครับท่าน แต่มันยั่วมาก ยั่วจริงๆ ผมจะทนไมไหวอยู่แล้วเนี่ย อย่านะอุรดิศ อย่าหันไปดูนะเดี๋ยวใจแตก
   “รีบทำได้ไหมอ่ะเน่า จะนอนแล้วนะ” ทำไมเสียงต้องสั่นด้วยวะกู
   “ไม่แตกก็ไม่นอน มึงไม่ช่วยกูเดี๋ยวกูแตกใส่ตัวมึงเลยนิ”
   “อ่า บ้าเหรอ สกปรก ออกไปทำตรงโน้นเลย” ผมโวยวายออกไปแต่ใจมันเต้นแรงมากๆขอบอก อยากดูอ่ะ แว้กก
   “อ่า เบบี๋ กูเสียว อ่า ดูดิ ดู” เลวมากคนยิ่งกำลังควบคุมใอยู่นะเว้ย ยั่วกูจังวะไอ้นี่เดี๋ยวเถอะ
   “อ่า แตกแล้ว จะแตกแล้ว” เอ่อ เหลือบไปมองหน่อยดีไหมเนี่ย
“เอ้ย อ่า แหวะ ไอ้เน่า แหวะ” เอ่อ จะให้บรรยายไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมกระเด้งตัวลุกทันที แว้กก เรื่องนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับผม อะไรอ่ะ ไม่ได้นะรับไมได้
“ฮ่าๆ กูบอกแล้ว ของกูมันพุ่งแรง” ช่วยผมด้วย แงๆ ก็แค่หันหน้าไปแค่นั้นอ่ะ น้ำอะไรไม่รู้มันพุ่งใส่หน้าผมสิ แว้กก อยากจะอ๊วก แหวะคาวมาก ผมนี่กระเด้งตัวออกรีบเอามือปาดออก
“ไปล้างดิ” มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แหวะน้ำอะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย
“เบบี๋ๆ” มันเรียกผมไว้ล่ะครับ ผมกำลังจะวิ่งออกจากห้อง
“ไรอ่ะ ทุเรศนะเน่า” ผมเอามือเช็ดๆออก ไม่อยากจะบอกว่ามันเต็มมือเต็มหน้าผมเลยนะ เข้าตากูหรือเปล่าเนี่ย ตาจะบอดไหม มีเชื้ออะไรหรือเปล่า โอ๊ยนะ
“อย่าแอบชิมล่ะมึง ฮ่าๆ” อ่านะ อารมณ์เสีย ผมโมโหมันมากล่ะครับแต่ก็ต้องรีบลงมาล้าง ฟอกสบู่ออกอย่างดี ผมจะขึ้นไปนอนห้องมันอีกไหมเนี่ย ไม่เอาดีกว่า ผมไม่อยากจะเสี่ยงเผื่อมันบ้าอะไรขึ้นมาอีก ผมเดินไปดูเพื่อนๆล่ะครับ สรุปว่านอนตายกันหมดแล้ว จอยแยกไปนอนที่ห้องแรกที่มีโทรทัศน์มีเก้าอี้ไม้ไผ่ให้นอนด้วย แล้วกูจะนอนไหนล่ะเนี่ย ผมเดินดุ่มๆหาที่นอนล่ะครับ มองเห็นหมอนก็หยิบมา เอาวะนอนมันพื้นก็ได้ ง่วงไม่ไหวแล้ว แต่โดนน้ำไปรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย ผมก็ล้มตัวลงค่อยๆนอนล่ะครับ แข็งหน่อยแต่ก็ดีกว่าขึ้นไปนอนห้องมันอีก
“กูว่าแล้ว หายไปนานนะมึง หนีผัวเหรอ” “อ๊ะ นายทำไร” ผมนอนไปได้สักพักก็เหมือนว่าจะผล็อยหลับไปล่ะครับ รู้สึกตัวก็เหมือนว่ามีคนมาอุ้ม อุ้ม?
“ไปนอนกับกูเลย” มันอุ้มผมด้วย อ่า
“ไม่เอาอ่ะ นายจะทำอะไรอีก” ผมงัวเงียบอกมัน
“เออน่า กูสัญญา แค่ขอกอดเฉยๆนะ” มันบอกครับ กลิ่นเหล้ามันยังหึ่งออกมาจากลมหายใจของมันจนผมต้องเบือนหน้าหนี
“เราเดินเองได้ ปล่อยลงดิ” ผมบอกมันครับไม่ได้มองหน้ามันนะ
“ไม่ได้ ก็เข้าห้องหอไงมึง” มันหัวเราะครับ ดูมันจะอารมณ์ดีเหลือเกินนะ แหมไอ้เน่านี่ สรุปมันก็อุ้มผมขึ้นไปบนห้องเหมือนเดิม อ่า เขินจังเลยอ่ะท่านผู้ชม เคยมีคนอุ้มคุณยังอ่ะ เคยซะนะมันรู้สึก แว้กก ไม่อยากจะบรรยายเราดีเลอค่ายังไงไม่รู้อ่ะ อิอิ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะ ตอนแรกว่าจะบอกให้มันปล่อยลงจะเดินเองอีกสักรอบ แต่เอาไปเอามาไม่ดีกว่า มันอุ้มก็ดี อีกอย่างเพื่อนๆนอนกันหมดแล้วไม่มีใครตื่นมาแซวหรอกนะ อิอิ สบายจัง
“ไหนบอกจะกอดเฉยๆอ่ะ ดันทำไม” พอถึงเตียงมันก็วางผมลงล่ะครับ ลุ้นอยู่นะว่ามันจะทิ้งผมลงเตียงแรงๆหรือเปล่า แต่มันก็ไม่ทำมันค่อยๆวางนะ พอวางผมลงมันก็เข้ามาเบียดทันที
“กอดกันบ้านมึงเหรอตัวไม่ติดกัน อยู่เฉยๆเหอะน่า กูจะนอน” อ่านะ เออกูผิดว่างั้น มันก็ดันทั้งช่วงล่างช่วงบนจนมันพอใจล่ะครับ สักพักผมก็ได้ยินเสียงลมหายใจเป็นจังหวะช้าๆ มือที่มันกอดเริ่มจะผ่อนคลาย มันคงจะหลับไปแล้ว ส่วนผมน่ะเหรอ ลงสิลูก ลงๆ จะตื่นเพื่อ โอ๊ยนะใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะจนผมเองนอนไม่หลับเลยนะ เคยเป็นไหมที่เรานอนใกล้ๆใครบางคนที่เราชอบ ที่เรามีใจให้คือมันแบบว่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง คือมันไม่ยอมชินเสียทีนะร่างกายมันดูตื่นเต้นไปเสียหมด ใจมันก็เต้นโครมครามอยู่ไม่ยอมลง ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
“อือ” ผมงัวเงียตื่นขึ้นล่ะครับ แสงในห้องมันสาดเข้ามาพอสมควร เอ๊ะ นี่มันเช้าแล้วเหรอเนี่ย ผมหรี่ตาขึ้นมอง ไอ้เน่ามันยังคงนอนกอดผมอยู่นะ แต่ว่าขามันพาดอยู่กลางตัวผมพอดีเลย ถึงว่าหนักๆนึกว่าผีอำซะอีก
“จะพาดทำไมเนี่ย” ผมยกขามันออกล่ะครับ แล้วลุกจากที่นอน เดินออกจากห้องไปดูเพื่อนๆหน่อยว่าตื่นกันหรือยัง
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะลูกอุ่น หลับสบายไหมจ๊ะ แม่ว่าจะปลุกตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ พอดีเห็นนอนสบาย อิอิ เลยไม่ปลุก” อ่า พอเดินลงมาพ้นบันได คุณป้าแกก็เดินมาครับ ผมยกมือไหว้แทบไม่ทัน
“อ่า สวัสดีครับคุณป้า ขอโทษที่มารบกวนนะครับ” ผมตอบออกไปตะกุกตะกัก รู้สึกอายขึ้นมา
“ว้าย คุณป้าอะไรกันคุณลูกอุ่นขา เรียกแม่สิจ๊ะ ขนาดนี้แล้ว” “เอ่อ ครับคุณแม่” หือ อะไรขนาดนี้คือขนาดไหนวะ เอ่อ แว้กก นี่แสดงว่าคุณป้าแกไปเห็น เอ่อ ตายล่ะสิ ผมหน้าซีดลงทันที
“มาๆค่ะลูกอุ่น กินข้าวไหมคะแม่ต้มข้าวต้มไว้” แกกวักมือเรียกผมลงไปจากบันไดขั้นสุดท้ายล่ะครับ ผมเหมือนจะยึดบันไดขั้นนี้ไว้เป็นปราการไม่ยอมไหวติง
“เอ่อ ขอบคุณครับ ผมยังไม่หิว” ผมตอบออกไปยิ้มแห้งๆ
“ยังไม่หิวอะไรกันคะลูกอุ่น นี่มันสิบโมงแล้วนะคะ” อ้อ หือ อ่า สิบโมง?? อะไรยังไง
“เอ่อ แล้วเพื่อนๆ” ผมมองไปรอบๆบ้านล่ะครับ
“อ้อ กลับไปหมดแล้วค่าคุณลูก ตอนแรกนึกว่าไม่มีหนูมาแม่ว่าจะด่าซะหน่อย พอดีขึ้นไปเห็นนอนกอดกันกับไอ้เดี๋ยว แม่ก็เลยโอเค” เอ่อ จะบอกทำไมเนี่ย ผมอายนะคุณป้า
“อ้าว ตื่นแล้วบ่ลูก กินน้ำเต้าหู้บ่ พ่อไปตลาดมาหว่างฮั่น บักเดี๋ยวมันยังบ่ตื่นบ่” นั่นอีกคนครับ คุณลุงแกเดินหิ้วถุงน้ำเต้าหู้กับปลาท่องโก๋เข้ามาในบ้าน ผมรีบยกมือไหว้ ทำไมต้องทิ้งผมให้เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้คนเดียวด้วยนะ แงๆ ใจจะขาดมันอึดอัดยังไงไม่รู้อ่ะ
“ไปส่วยหน้า ว้าย ไปล้างหน้าล้างตาก่อนสิคะลูกอุ่น เดี๋ยวแม่หยิบแปรงสีฟันให้นะคะ” เออใช่ ห้องน้ำเป็นที่ตั้งสติที่เดียวที่ผมคิดได้ ไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำล่ะครับหลังจากได้แปรงสีฟันมาจากคุณป้า ผมยืนทำใจอยู่นานกว่าจะเดินออกมา
“โบ้” ดีใจมากที่เห็นไอ้โบ้มันวิ่งเข้ามาหา ผมรีบนั่งลงกอดมันทันทีล่ะครับ ขอบใจนะโบ้ที่มาเป็นตัวแก้เขินให้
“ว้าย กอดหมา มันสกปรกนะคะลูกอุ่น นี่มันไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้วนะตั้งแต่ไอ้เดี๋ยวมันสอบ”
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้คุณปะ เอ้อ คุณแม่ไม่ไปขายของเหรอครับ” ผมยิ้มให้แกไปล่ะครับ เพราะดูจะจ้องผมเหลือเกินทั้งผัวทั้งเมีย อายจนจะก้าวขาไม่ออกแล้วนะเนี่ย
“ไปค่า เดี๋ยวก็ไปแล้วเนี่ยรอคุณลูกตื่น ต้องตั้งร้านแล้วล่ะที่จริงแต่วันนี้พิเศษ อิอิ มาๆคุณลูกมากินน้ำเต้าหู้กับแม่” สรุปก็คงต้องกินล่ะสินะ ผมเลยไปนั่งลงบนโต๊ะ ตอนแรกว่าจะหยิบปลาท่องโก๋มากินเลยแต่ลืมว่าเพิ่งกอดไอ้โบ้ไปเลยวิ่งไปเข้าห้องน้ำล้างมือ
“บ้านแม่น่าอยู่ไหมคะ เตียงนอนสบายไหม อากาศถ่ายเทดีหรือเปล่า นี่หนูอุ่นเป็นคนแรกเลยนะที่ไอ้โบ้มันไม่เห่า ดีใจจริงเชียว แล้วจะกินข้าวเลยไหมคะแม่จะได้ให้พ่อเขาไปซื้อกับข้าวมาให้” เอ่อ ใจเย็นๆหน่อยสิครับคุณป้า ยิงคำถามมาแบบว่าผมอ้าปากค้างฟังไม่ทัน
“แล้วบักเดี๋ยวมันเป็นหยังบ่ทันตื่นล่ะลูก เมื่อคืนหนูบ่ได้กินเหล้ากับมันบ่” สำเนียงของคุณลุงน่ารักดีนะผมฟังแล้วก็อมยิ้ม ส่วนคุณป้าก็แปลกเข้ากันดีจริงๆสองคนนี้
“อ้อ ผมไม่ดื่มเหล้าครับ เลยไม่เมา”
“อีหยังกันบักเดี๋ยวนี่ใซ้บ่ได้ พาลูกอุ่นมาเฮือนแล้วนอนตื่นสวย บ่ได้แล้วพ่อสิไปปลุกมัน”
“อ่า ไม่เป็นไรครับคุณพ่อ เน่า เอ้ย เดี๋ยวเขาคงเมาให้นอนสักหน่อยก็ได้ครับ คุณพ่อกับคุณแม่จะไปที่ร้านเลยก็ได้นะครับเดี๋ยวผมจะกลับบ้านผมจะปลุกเดี๋ยวเอง” ผมบอกออกไปล่ะครับ สองคนมองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ตลกอะไรเนี่ย
“เอางั้นเหรอคะคุณลูก งั้นพ่อไปตั้งร้านรอแม่นะเดี๋ยวแม่ตามไปจะทำกับข้าวให้ลูกอุ่นกินหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมยังไม่หิว”
“ไม่ได้ค่ะไม่ได้ เดี๋ยวคุณปลัดจะว่าเอาได้นะ อิอิ เอ๊ะ หรือว่าจะไปกินที่ร้านกับแม่”
“เอางั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมรอเดี๋ยวตื่นก่อนแล้วจะไปพร้อมกัน” ผมบอกไปล่ะครับ สักพักสองคนก็ออกจากบ้าน ผมเดินไปส่งหน้าบ้านแล้วก็ปิดประตูบ้านให้ มีไอ้โบ้แกว่งหางอยู่ใกล้ๆผม
“อาบน้ำไหมโบ้” ดีกว่าไม่มีอะไรทำนะ อยากจะกลับบ้านจะตายแต่ถ้าไอ้นั่นไม่ตื่นแล้วผมจะกลับยังไงล่ะทีนี้ ก่อนอาบน้ำให้ไอ้โบ้ผมก็โทรไปบอกพี่ต้อยล่ะครับ
“ค่า เอื้อยฮู้แล้วค่า คุณแต๋วเพิ่นโทรมาบอกคุณพ่อซายตั้งแต่เซ้าแล้ว” พี่ต้อยบอกล่ะครับ
“อ้าวเหรอครับ แล้วพ่อทำไรอ่ะพี่ต้อย” “คุณพ่อซายเพิ่นอ่านหนังสือพิมพ์ค่า สิเว้ากับพ่ออยู่บ่”
“ไม่เป็นไรพี่ต้อย บอกพ่อให้หน่อยว่าเดี๋ยวอุ่นจะกลับแล้วล่ะ รอไอ้นั่นมันตื่นก่อน”
“ว้าย ไอ้นั่นเพิ่นว่า อิอิ แม่นบ่น้อ” “ไรอ่ะพี่ต้อย ไม่เอาล่ะ แค่นี้ก่อนนะ” ผมวางสายครับ แหมเสียงพี่ต้อยนี่ลั่นล้ามากเลยนะ เออ วันนี้พ่อผมเสร็จงานแล้วนี่นะ อยากไปกินข้าวกับพ่อจังเลย แต่เอาไว้เย็นๆก็ได้ ตอนนี้อาบน้ำให้ไอ้โบ้ก่อนล่ะครับ ดูมันจะชอบอาบน้ำเหมือนกันแฮะ
“เอ้ย อย่าดิ้นดิโบ้ พี่เปียกนะ” มันสะบัดขนมันล่ะครับกูเปียกนะเว้ย ตกลงอาบน้ำให้มันหรืออาบให้ตัวเองเนี่ย
“ฮ่าๆ อย่าเพิ่งๆ ฟอกสบู่ก่อน” ผมมัวแต่อาบน้ำให้ไอ้โบ้ล่ะครับไม่ทันได้มอง พอหันไปเห็นไอ้เน่ามันนั่งตาปรืออยู่ตรงประตูหลังบ้าน
“อ่า ตกใจหมด ทำไมมาไม่ให้เสียงอ่ะ นึกว่าผี” ผมตกใจครับเกือบกรี๊ดออกไปแล้วสิ แหมนะไอ้เน่านี่มันยังไง
“ขวัญอ่อนนะมึง ก็แหกปากซะ กูนึกว่าใครทำอะไร”
“อาบน้ำให้โบ้อ่ะ เสร็จแล้วๆ มาเช็ดตัวๆ” ผมหันไปคุยกับไอ้โบ้ล่ะครับ
“มึงนี่นะ รักมันเหลือเกินนะ แหมทีกูนี่ทำท่ารังเกียจนะมึง”
“แน่นอน มีผ้าเช็ดตัวป่ะ เอามาให้หน่อย”
“สัด นั่นหมานะมึง เอาผ้าขี้ริ้วโน่น”
“บ้าเหรอ เพิ่งจะอาบน้ำจะเอาผ้าขี้ริ้วเช็ดได้ไงอ่ะ สกปรกดิ เอาของนายนั่นล่ะมาเช็ดให้มันเน่า” ผมบอกมันไป
“สัด ไม่มีทางเว้ย ผ้าเช็ดตัวกูจะเอามาเช็ดให้หมา”
“แล้วมันไม่เป็นหวัดไง” “ฮ่าๆ สัด มานี่ดิ๊มึงน่ะ” เรื่องอะไรล่ะครับ แหมกะอีแค่ผ้าเช็ดตัวทำมาเป็นงกนะเว้ยเดี๋ยวกูซื้อมาให้ยกโหลเลยนี่
“มาดิ” “ไม่เอาอ่ะ ไม่มีผ้าไม่ไป” ผมยืนยันครับแล้วหันหน้ามาเล่นกับไอ้โบ้ต่อ มันก็สะบัดขนใส่ผมอีก
“อ๊ะ ทำไรอ่ะเน่า” อ่า มันเดินเข้ามาหาผมล่ะครับแล้วก็ เอ่อ มันหอมแก้มผมอีกแล้วอ่ะ อายจัง
“น่ารักนะมึงน่ะ” อ่า มันชม เอ้ย เขิน
“อ้าวๆ เขินก็หันมากอดกูนี่ กอดหมาทำไมวะ ฮ่าๆ” “ไอ้บ้าเน่า ไปเอาผ้ามา” ผมเขินจนไม่อยากจะมองหน้ามันล่ะครับ มันก็ยืนหัวเราะอยู่ สักพักมันก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวของมันเองล่ะผมจำได้ อิอิ
“เอ้า กูยอมมึงคนเดียวนะเนี่ย รู้ตัวไหม” ไม่สนใจฟังครับผมหันมาเช็ดตัวให้ไอ้โบ้ต่อ
“เออเน่า ทำไมไอ้โบ้มันไม่มีปลอกคออ่ะ ไม่กลัวเขามาจับมันไปเหรอ” ผมถามครับ
“มันเคยมี แล้วมันหายไปไหนไม่รู้ เลยไม่ได้สนใจ”
“ไปซื้อมาให้มันไหมอ่ะ เราจะเลือกเอง” อิอิ ผมชอบหมาอ่ะแต่ไม่อยากเลี้ยงเอ๊ะ หรือว่าอยากเลี้ยง เออนะ ลองกลับไปถามพ่อดีกว่าว่าจะขอเลี้ยงหมาได้ไหม
“ไปดิ มึงหิวยัง” มันเดินมานั่งยองๆข้างผมกับไอ้โบ้ล่ะครับ
“นิดหน่อยอ่ะ แต่กินน้ำเต้าหู้กับพ่อแม่นายไปแล้ว”
“อ้าวเหรอ กูหิวว่ะ มึงจะกลับยังกูจะได้ไปส่ง”
“อืม กลับดิ” ผมลุกขึ้นทันทีครับ
“อ้าวสัด งอนไรอีก กูถามน่ะเพราะกูจะได้ไปกินข้าวบ้านมึงไง กูไม่ได้ไล่นะเว้ยเฮ้ย หรือมึงจะทำกับข้าวให้กูกินล่ะ ว่าไงจ๊ะ ว่าที่ภรรเมีย” อ่า มันรู้ด้วยว่าผมแอบงอน เขินจัง ไอ้บ้าเน่า
“ไปอาบน้ำก่อน” ผมเขินล่ะครับไปไม่เป็นต้องหาทางไป
“เอ้ย ทำไรอ่ะ” มันยืนขึ้นจับสายยางฉีดใส่ผมทันที ตกใจเกือบถีบไปแล้วไหมล่ะ
“อาบนี่ล่ะ ไหนๆมึงก็เปียกแล้วนี่” มันจับแขนผมไว้ครับ ผมก็ดิ้นออกแต่ไม่พ้น หนอยแน่มึง
“นี่แน่” ผมก็แย่งสายยางจากมือมันฉีดใส่มัน ไอ้โบ้มันคงคิดว่าเราเล่นกันมั้งมันเลยกระโดดงับสายยางด้วย เอาไปเอามาเปียกทั้งสองคนหนึ่งตัว
“เดี๋ยวกูไปเอาสบู่ก่อน” มันวิ่งเข้าไปในบ้านล่ะครับ อ้าวแล้วกูรอมันเพื่อ?
“เปียกอีกแล้วนะโบ้” ผมนั่งลงฉีดน้ำใส่ไอ้โบ้ล่ะครับ มันก็ชอบใจใหญ่เลยนะ
“อ่ะ” อ่า ไอ้บ้า มันถอดเสื้อออกแล้วครับ เหลือแต่กางเกงบอลที่ไม่ใส่กางเกงในย้วยๆตัวเมื่อคืน แล้วมันเปียกน้ำลู่ลงแบบว่า แว้กก หยุดๆ ห้ามคิด อย่ามอง อย่าไปมองอุรดิศ ยุบๆ อย่าพอง ยุบๆ
“สระผมให้กูเลยมึง ทำให้แต่ไอ้โบ้นะ” มันบอกครับ นี่มันไม่รู้ตัวเลยเหรอว่ารูปร่างมันแบบว่า แว้กก ตบๆ ตบตัวเอง มองไอ้โบ้ๆ มันทำให้ผมสะท้านไปทั่วร่างเลยนะ
“ทำเองดิ” “ไม่เอา ทำให้หน่อยดิ นะนะ เบบี๋” มันอ้อนครับ เอ่อ ตอนนี้คงจะตบจะถีบยังไงผมก็คงไม่ตื่นแล้วล่ะ ให้ตายเถอะ ใจมันลอยไปแล้ว ไปแล้วอ่ะ ผมหยุดตัวเองไม่ได้เลย ผมมีความสุขจังเลยอ่ะ รู้สึกเขินอายจนหน้ามันชาๆไปแล้ว เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าหน้าด้าน แว้กก
“ทำแรงๆดิวะ ให้สระผมนะเว้ยไม่ได้ให้สะกิด อยากเหรอเบบี๋” เอ่อ โอ้ยนะ เขาเรียกว่าโรมานซ์น่ะมึงเข้าใจไหมเนี่ย อารมณ์เสีย นี่แน่
“โอ๊ยๆ สัด เบาๆหน่อยดิวะ หัวคนนะไม่ใช่หัวหมา”
“ทำเองเลย ทำเบาก็ไม่ชอบทำแรงก็ไม่เอา ไรอ่ะ” ผมหยุดทำเลยครับ มันหันมาจับมือผมไว้
“ก็ไม่เอาดิวะ มึงลองทำจากใจมึงดิ” เอ่อ สะอึกอึ้ง สายตามันแบบว่า ยุบๆ อุรดิศ หลับตาลงดิอย่าไปมอง โอ้ย บอกให้หลับตาไงไปมองตามันเพื่อ เฮ้อ ในที่สุดก็ยื่นมือไปจับหัวมันอีกครั้ง ผมเม้มปากแน่นมันรู้ใจผมเหรอว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่ มันรู้เหรอว่าผมแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เอ้ย ไม่ใช่แบบนั้น ทนไม่ไหวคือผมไม่เคยรู้สึกหัวใจพองโตแต่ยิ่งพองเท่าไรห่มันก็ไม่รู้สึกแน่นอกมันกลับรู้สึกชอบใจอย่างนี้มาก่อนเลยนะ เขาเรียกสิ่งนี้ว่าความสุขใช่ไหม ถ้าใช่ มันมากเหลือเกินครับ
“อ่ะ นั่งลงดิ กูสระให้” พอผมล้างผมให้มันเสร็จมันก็ลุกขึ้นล่ะครับ ผมก็ยอมนั่งลงนะ ลูบหัวไอ้โบ้อยู่ตอนนี้มันนอนเอาคางเกยตักผมอยู่ ไอ้เน่ามันไปเอาเก้าอี้พลาสติกมานั่งอยู่ด้านหลังผมล่ะครับ
“อ๊ะ จะดึงทำไมอ่ะ เดี๋ยวล้ม” มันดึงตัวผมไปด้านหลังล่ะครับ
“สัมผัสกูไง อิอิ รู้สึกอะไรป่ะ” อ่า ไอ้นี่มันลามกจริงๆนะ ให้ตายเถอะ จะให้บอกไหมว่ามันทำอะไรอ่ะ คิดภาพออกไหมเนี่ย มันดึงหลังผมไปแนบกับหน้าขามันสิครับแล้วกอดตัวผมไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับสายยางรดน้ำลงบนหัวของผม เพราะน้ำมันจะเข้าตาผมเลยหลับตา เพราะเนื้อตัวด้านหน้าของมันที่เบียดด้านหลังของผมอยู่ผมเลยนิ่ง มันอุ่นจังเลย มันอุ่นเข้าไปถึงหัวใจ
“กูชอบมึงนะเบบี๋ กูไม่เคยชอบใครเท่ามึงมาก่อนนะ” มันแอบหอมแก้มผมอีกแล้วครับ ปากอุ่นจนร้อนของมันแนบเข้ากับแก้มของผมที่เริ่มจะเย็นเพราะแช่น้ำนาน ผมสะดุ้ง แล้วเม้มปากหลับตาต่อไป
“ตอบดิ” อ้าว นี่มันประโยคคำถามเหรอวะเนี่ย ผมงงครับ
“ตอบไรอ่ะ” “ตอบดิว่ามึงชอบไม่ชอบ” “ชอบไรอ่ะ” ผมงงครับ เข้าใจล่ะแต่นิดหน่อยน่านะ
“สัด ชอบกูป่ะ” มันถามครับ ผมก็อายสินะ เป็นใครไม่อายมาลองดูเถอะ
“ไม่ชอบจะให้กอดนานแบบนี้ป่าว ถามไรอ่ะ หนาวแล้วอ่ะเน่า” ผมทำท่าจะลุกขึ้นล่ะครับ
“งั้นไปเช็ดตัวป่ะ” มันดึงตัวผมให้ลุกขึ้นล่ะครับ พอหันไป โอ้ ตบกูเลยอุรดิศ ทำไมเป้ามันชี้ขนาดนั้น หน้าผมแดงจัดขึ้นเองอีกครั้ง
“ไม่ต้องมองเว้ย เดี๋ยวกูให้ทำมากกว่ามอง อิอิ” อ่ามันลากมือผมเข้าบ้านไปเลยครับ มีไอ้โบ้จะวิ่งตามแต่ไอ้เน่ามันดุไอ้โบ้เอาไว้มันเลยไม่ตามเข้าไป แล้วทำไมอุรดิศถึงได้วิ่งตามเขาต้อยๆไม่มีขัดขืนเลยนะเนี่ย โว้ย ไรอ่ะ
“อ่ะเสื้อผ้า ใส่ของกูไปก่อน” ไอ้เน่ามันเดินดุ่มๆพาผมขึ้นห้องไปล่ะครับแล้วมันก็ไปเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าของมันออกมาเป็นเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้น
“กางเกงไม่ต้องหรอก เดี๋ยวใส่ตัวเดิม” ผมบอกมันครับแล้วเดินไปหยิบเสื้อมา ผมเอาผ้าเช็ดตัวที่มันยื่นมาให้มาพันตัวแล้วกำลังจะถอดกางเกงแต่ว่าไอ้เน่ามัน
“อ่า” อึ้งอีกครั้งครับมันเล่นถอดกางเกงต่อหน้าผมเลยนะ เอ่อ ไม่มองๆ ยุบๆอุรดิศ มันแบบว่าเต็มตามาก ทุกสัดส่วน กล้ามเนื้อตามหน้าท้องมันหน้าอกมัน แขนขาที่มีแต่กล้ามเนื้อ ผิวสีแทนๆตรงขอบเสื้อและกางเกงแต่เนื้อในมันออกเหลืองๆแดงๆ อ้าวอุรดิศไหนบอกไม่มองไหงบรรยายเป็นฉากแบบนี้เนี่ย อะไรวะ
“แหมๆ ทำเป็นอายนะมึง มองดิจะได้ชิน” อ่านะมีแบบนี้ด้วย เขินนะเว้ย ผมรีบหันหน้าหนีครับ
“ไม่อายไงเน่า” “อายไม มีเหมือนๆกันล่ะ หรือมึงมีนม ฮ่าๆ” อ่านะ โมโหผมรีบถอดเสื้อออกทันทีครับแล้วถอดกางเกงออกด้วยแต่ใส่ผอ้าเช็ดตัวไว้
“สัด” มันมองผมแบบว่า ไอ้บ้ากูเขินเป็นนะมึง
“ขาวสัด มานี่เลยมึง” “อ่า ไม่เอาอ่ะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าดิ หิวแล้ว” ผมไม่น่าเลยนะ มันทำท่าจะเดินตรงเข้ามาหาผม นี่มันหื่นกามเสียจริงๆ
“ตัวขาวแบบนี้ ก้นเป็นไงวะ ดูหน่อยดิ” เอ่อ กลัวกูอายบ้างก็ดีนะมึง แหมนะ
“บ้าเหรอ ใครจะมาเปิดก้นให้นายดู เร็วๆ” ผมเร่งมันครับแล้วรีบสวมกางเกงตัวเก่า กางเกงในไม่ใส่อ่ะเพราะมันเปียก แต่เพื่อนความปลอดภัยผมรีบสวมเสื้อด้วยดีกว่า
“มึงดูนี่ดิ มันไม่ยอมลงเลยว่ะ” โอ้ย จะหาว่าผมลามกไหมเนี่ยที่เล่าแต่อะไรก็ไม่รู้ มันให้ผมดูไอ้นั่นมันอ่ะ ไม่เอาๆ พอแล้ววันนี้ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วนะ ผมรีบเดินออกไปจากห้องมันทันทีครับ ไอ้บ้าเน่านี่มันอะไรของมันนะ ยั่วอยู่ได้ ผมรีบลงไปหาไอ้โบ้เล่นอยู่กับมันสักพักล่ะครับแล้วเราก็ออกจากบ้าน

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจทั้งจากในเล้า เฟส และเมล์นะครับผม ตอนนี้โอเคแล้ว ผมคงนอนน้อยล่ะเลยเซ็ง พอเซ็งโลกมันก็เป็นสีประหลาดๆ ฮ่าๆ ปกตินอนวันละ ๑๐ ชม แต่เดี๋ยวนี้นอนไม่ถึง ห้าเลยอ่า แงๆๆ ตอนนี้พยายามเขียนแล้วนะครับ มีขัดๆไปบ้าง แต่ก็หวังว่าทุกคนจะมีรอยยิ้มกับการเปิดอ่าน นิยายเรื่องนี้
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-06-2012 17:08:10
เดี๋ยวไม่ค่อย
จะหื่นเท่าไหร่
เลยน๊า :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 11-06-2012 17:13:54
เหวยๆๆ

อุ่นอ่า ทำตามที่ใจคิดดิ อ่าโด่วไม่แน่จริงอ่า :laugh:

เดี๋ยว หื่นไปนะ

แต่ไม่เป็นไร เค้าชอบบบบ  :o8:



และสุดท้าย ก็ยังวนเวียนอยู่ในห้องเดี๋ยว


จัดมาสักดอกสิพี่อิ๊ก   :z1:

โอ๊ยยแต่ตอนนี้ไมไหวอ่า มันเขิน แก้มปริไปหมดเลย
มีความรักมันดีอย่างนี้เอง

อร๊ายยยยยยยยย  ชอบคนเปิดเผย เหมือนเดี๋ยวจัง  :pighaun: :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 11-06-2012 17:25:27
ตอนนี้หื่นอะเดี่ยว แต่ก็ชอบนะ
รักษาสุขภาพด้วยนะพี่อิ๊ค
เป็นห่วง :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 11-06-2012 17:26:16
เดี๋ยวหื่นนนนนนน อยากเห็นน้องอุ่นหื่นบ้าง :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 11-06-2012 17:49:11
พี่เดี๋ยวหื่น >,,<"
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 11-06-2012 18:20:47
เดี๋ยวหื่นอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 11-06-2012 18:40:06

น้องอุ่นเอ๊ยยย จะรอดไปได้สักกี่วัน :o8: :-[ ฮ่า ฮ่า
บักเดี๋ยวมันหื่นคักๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 11-06-2012 18:56:03
เดี๋ยวหื่น อุ่นเขิน น่ารักกกกกกกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 11-06-2012 19:04:07
อ่านเรื่องนี้ทีไรยิ้มตามตลอด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 11-06-2012 19:17:08
อุ๋นจะห้ามใจไหวมั้ยเนี่ย เดีี๋ยวมันก็ขยันโชว์ขยันยั่วจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-06-2012 19:21:54
เดี๋ยวขยันยั่วจริง วันหลังให้น้องอุ่นยั่วมั่งดีไหม
พ่อแม่บ้านนี้น่ารักเนาะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 11-06-2012 19:24:42
สนุกมากน้องอุ่น เริดดดดดดดดดดดดดดดดด :oo1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 11-06-2012 19:49:57
กุ๊กกิ๊ก ๆ กันน่ารักเชียว...
คุณแม่เดี๋ยวร่ำ ๆ จะไปขอนู๋อุ่นเป็นสะใภ้แล้วนะนั่น...
ถามคุณพ่อปลัดก่อนเน้อ...ว่าเค้าจะยอมยกให้ไหม...

 :กอด1: เป็นกำลังใจให้น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 11-06-2012 21:31:59
เขินมากมายตามน้องอุ่นจริงๆ เดี๋ยวนี่ก็กระไรยั่วเอาๆ เลยนะ  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 11-06-2012 21:36:10
บรรยากาศหวานๆ น่ารักดี
อ่านไปอมยิ้มไป
แต่เมื่อไหร่อุ่นจะยอมทำตามสิ่งที่คิดสักที :impress2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 11-06-2012 22:57:57
เราว่าอุ่นหื่นเหมือนกันล่ะน้า แหมแอบมองเค้าลึกซึ้งขนาด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 11-06-2012 23:12:04
มาแล้วๆๆดีใจจัง บักเดี๋ยวหื่นมาก แต่ทำไมเราชอบจัง หนูอุ่นเล่นตัว แต่ทำไมมันน่ารักจังว่ะ อ่านไปเขินไป ถ้าซัมติงกันเมื่อไหร่ คนอ่านคงเลือดไหลหมดตัว แต่ยอม!!!!555 ทำงานเครียดๆมาได้อ่านเรื่องนี้แล้วชื่นจายยยยยยย :impress2:  :impress2:  :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 11-06-2012 23:47:10
เดี๋ยวยั่วอุ่นอยู่นั่นแหละ  น่ารัก  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 12-06-2012 01:26:09
ครอบครัวสุขสันต์ พ่อเดี๋ยว แม่อุ่น ลูกโบ้ :m20:+1
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 12-06-2012 04:03:22
น่ารักที่สุดดดดดด  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 12-06-2012 08:41:49
อุ่น....น่าร้าก.....ส่วนเน่า....หื่น!...555+
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 12-06-2012 14:26:13
คาดว่าคงอีกไม่นาน...อุ่นจะตบะแตกเมื่อไหร่น้อ~
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 12-06-2012 19:16:45
รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่อิ๊ค
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 16 Version (อุรดิศ) 11 June 12 หน้า 19
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-06-2012 09:26:34
รอตอนต่อไปจ้า :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 13-06-2012 10:09:14
You’re My BaBy!!

ฮึ่ม กูก็อดทนนะเว้ยเฮ้ย อดทนต่อสิ่งยั่วยุอย่างยิ่งยวด สัด ขาวซะ หัวนมแดงซะ ก้นนุ่มซะ กูอดทนแล้วนะเนี่ยถ้าไม่อดทนกูจัดหนักมันไปนานล่ะ ยิ่งมองยิ่งสะท้าน กูไม่ได้หื่นนะเว้ยเฮ้ย แต่ขอจัดก่อนอีกสักรอบหน่อยเหอะไม่งั้นมันคงไม่ยอมลงแน่ๆไอ้ลูกชายผม ฮ่าๆๆ
   “ทำไมนานจังอ่ะ” พอผมเดินลงไปข้างล่างมันก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับไอ้โบ้ล่ะครับ จะเอาไปเลี้ยงเลยไหมวะกูจะยกให้ แหมนะรักกันจริ๊งนะ
   “ว่าวอยู่” “อ่า ไอ้เน่าบ้า” มันอายครับ อ้าว ก็เรื่องจริงนี่หว่า
“เพราะมึงล่ะเบบี๋” “ไรอ่ะ เราไมได้ทำไรนะ” มันบอกครับแก้มแดงอีกล่ะ
“ทำดิ มึงยั่วกู นี่จะบอกไว้นะ ถ้ามึงยั่วกูอีกกูไม่ปล่อยมึงแน่ๆ” ผมยักคิ้วให้มันล่ะครับแล้วเดินไปหามัน
“อ่านะ ทีตัวเองล่ะ” “ไร กูทำไร” “ก็ทีตัวเองถอดเสื้อผ้า ไม่ยั่วไงอ่ะเน่า” ฮ่าๆ มันเขินแบบว่ามากถึงมากที่สุดล่ะครับ เออนะ มันน่ารักดีนะผมว่า มันไม่ตอแหลเพราะเท่าที่ผมรู้จักมันมานะมันเป็นแบบนี้ของมันจริงๆ ยิ่งตอนมันสระผมให้กูนะมึงเอ้ย บอกได้เลยว่ามันคือความฝัน เกิดมาตั้งแต่เกิดคงมีแต่แม่กูเท่านั้นล่ะที่สระผมให้กูแต่พอมันทำนะ ยกให้มันเลยว่ะ ยอมมันจริงๆ ตอนนี้ถ้าไม่เวอร์ไปขอบอกว่ากูยอมมันคนเดียวแล้วล่ะ โอ๊ยสัด ไอ้เบบี๋มันเอาหัวใจกูไปแล้ว
“แม่บอกให้ไปที่ร้านอ่ะ” มันบอกผมตอนเราขับคุณปู่ออกมาจากบ้านล่ะครับ
“หือ แม่?” “อืม แม่นายเขาบอกให้ไปกินข้าวที่ร้านอ่ะ หรือจะไปกินที่บ้านเรา” สัด มันเรียกแม่ผมว่าแม่ครับ แต่เอ๊ะ เพื่อนๆกูก็เรียกนี่หว่า แต่ทำไมพอมันพูดกูถึงรู้สึกดีแบบนี้วะเนี่ย
“ไปบ้านมึงดีกว่า ไม่อยากแดกส้มตำ” ผมบอกไปล่ะครับ ตอนนี้ไม่ต้องสั่งมันให้กอดเอวผมแล้วครับมันก็จับ ถึงแม้ว่าจะไม่กอดแต่มือมันจับเอวผมอยู่ แค่นี้ก็รู้สึกว่าตัวเราไม่ห่างกันแล้วครับ นี่กูเป็นเอามากหรือเปล่าวะเนี่ย ช่างเถอะ เป็นมากแล้วมีความสุขก็มากเถอะจะคิดไรมากมายวะคนเรา
“มาแล้วเหรอลูก กินข้าวกันมาหรือยัง” คุณปลัดเดินออกมาจากบ้านล่ะครับเหมือนกับดูต้นไม้อยู่หน้าบ้าน
“ยังเลยอ่ะพ่อ พ่อกินข้าวยัง หิวจังเลยมีไรกินน้า” พอไอ้เบบี๋มันลงจากรถมันก็ไปเกาะแขนพ่อมันล่ะครับ
“พ่อกินกาแฟกับขนมปังไปตอนเช้า รอเรานั่นล่ะ แล้วสนุกไหมลูกไปดูหมอลำ” คุณปลัดเองก็ดูรักมันมากนะครับ เหมือนมองไม่เห็นกูเลยนะเวลาเขาคุยกัน
“ไม่ค่อยเท่าไหร่อ่ะพ่อ เขาตีกันด้วยอ่ะ น่ากลัว”
“หือ ใครตีกัน” อ้าวๆ หันมาทางกูเพื่อ ใครตีวะกูแค่วิ่งตามพวกมันไปเท่านั้นเอง อย่านะมึง
“ไม่รู้อ่ะพ่อ แต่เขาชอบตีกันเนอะเห็นจอยบอกเวลามีงานแบบนี้เขาจะตีกัน”
“อืม ดีแล้วล่ะที่เราไม่โดนลูกหลง คราวหลังก็ไม่ต้องไปหรอกลูก ดูดีวีดีเอา” ผมกลั้นหัวเราะทันทีครับ สมน้ำหน้ามึง ฟ้องดีนักเป็นไงล่ะทีนี้ อดเลย
“ยิ้มไรอ่ะเน่า” มันทำหน้าใส่ผมล่ะครับ
“ป๊าว ยิ้มไรวะ” “เข้าไปในบ้านเถอะลูก จะได้กินข้าวกัน กินข้าวกับพ่อนะเดี๋ยว”
“ครับปลัด วันนี้ว่างเหรอครับ” ผมถามล่ะครับ
“ใช่ งานเพิ่งจะเสร็จ อยากไปไหนกันไหมลูก” คุณปลัดหันไปถามไอ้เบบี๋ครับ
“ไปเตะบอลไหมครับ เห็นปลัดบอกอยากจะเตะบอล” ผมลองชวนครับ
“เออดีๆลูก ดีเลยซื้อชุดมานานล่ะ งั้นรีบไปกินข้าวกันเถอะ บ่ายๆจะได้ออกไปหน้าที่ว่าการ” อ่านะ เห่อไม่ต่างกันเลยพ่อลูกคู่นี้ ผมเดินตามเข้าไปในบ้านล่ะครับ ทักทายเจ๊แกแล้วก็นั่งรอกับข้าว วันนี้เจ๊แกทำก๋วยเตี๋ยวเรือครับ ทำเองมีหมูกับไก่ให้เลือก แน่นอนกูเลือกทั้งสองและกินไปนิดหน่อยเอง สี่ชาม ฮ่าๆ
“อ่า สบายจัง ขอสักงีบเถอะนะ” พอกินข้าวเสร็จก็แยกกันล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันไม่ยอมขึ้นห้องมันไปสักทีจนกูเริ่มตาจะปิด มันเหมือนไม่อยากให้ผมขึ้นห้องมันเลยนะครับพ่อมันก็งีบหลับไปแล้วที่เก้าอี้หวาย
“อืม นอนดิ” มันบอกครับแล้วเดินไปเปิดแอร์
“ทำไมไม่ขึ้นห้องมาสักทีวะ” ผมสงสัยครับ ไม่ถามไม่ได้หรอกนะมันคาใจ
“เอ่อ” “ไม่อยากให้กูขึ้นมาห้องมึงเหรอ” ผมยิงคำถามครับ มันทำหน้าเหวอๆ
“ปะ เปล่า เราไม่อยากให้พ่อมองไม่ดีอ่ะ”
“มองไม่ดีไงวะ มึงกลัวพ่อมึงรู้เหรอว่ากูกับมึงชอบกัน” เหมือนผมรู้ใจมันล่ะครับ เพราะสิ่งที่ผมถามออกไปทำให้มันสะอึกพูดไม่ออก มองผมด้วยสายตาแบบว่า สัดเสือกรู้อีกนะมึง อะไรประมาณนี้
“อืม เรายังไม่ได้บอกพ่อนี่”
“เชี่ยล่ะ แล้วทีพ่อแม่กูล่ะ กูยังบอกไปตรงๆนะเว้ยว่ากูกับมึงชอบกัน”
“หา นี่นายบอกพ่อกับแม่นายแล้วเหรอ” อ้าว แหกปากเพื่อ มันทำหน้าตกใจมากๆเลยล่ะครับ
“อ้าว กูนึกว่ามึงรู้แล้วซะอีก บอกแล้วดิ”
“อ่า ถึงว่าแม่นายพูดแปลกๆ”
“แปลกยังไงวะ” มันหน้าแดงจัดขึ้นอีกรอบล่ะครับ
“ป่าว ก็เหมือนแม่นายเอาใจเราเป็นพิเศษอ่ะ” “ฮ่าๆ แม่กูอยากได้มึงเป็นสะใภ้มั้ง”
“อ่า บ้าเน่า นอนดิ ดูหนังป่ะ ไปเปิดเองนะ” อ้าวๆ เขินครับเขินหน้าแดงจัดยืนเคว้งอยู่กลางห้องไม่รู้มันจะไปไหน ตลกดีนะมึง ผมเลยลุกจากเตียงไปดึงมือมันมาล่ะครับ
“เปิดให้ดูดิ เจ้าของห้องไม่ใช่เหรอมึงน่ะ”
“อยากดูเรื่องไรอ่ะ” “เอาหนังผี” “อ่า ไม่เอาไม่มีหรอก”
“ไรวะ มึงกลัวผีเหรอ งั้นมีหนังฆ่ากันป่ะ”
“ไม่มีหรอก มีแต่หนังโรแมนติกๆอ่ะ”
“โว้ย ใครจะไปดูวะหลับพอดี งั้นมีหนังโป๊ป่ะ”
“แหวะ ยิ่งไม่มีใหญ่ เราไม่ดูหรอกนะ”
“อย่าๆ งั้นวันหลังกูเอามาดูกับมึงนะ สัดเคนมันมีเยอะเดี๋ยวยืมมัน”
“ไม่เอาอ่ะ นายจะดูก็ดูคนเดียวดิ งั้นนอนๆ” มันสะบัดมือผมออกล่ะครับ ที่สะบัดออกน่ะพอจะรู้นะเพราะว่ากูคลึงมือมันอยู่ตลอดเวลาน่ะสิ เอิ๊กก เผื่อมันเคลิ้มแล้วมันยอมไง ฮ่าๆ เป็นไงๆแผนกูสูงใช่ไหม
“โอ๊ย ปวดหัวว่ะ” ผมตอแหลไปล่ะครับ ทำท่ากุมหัวอยากรู้ว่ามันจะทำยังไง
“อย่ามาโกหก เราไม่เชื่อหรอกนะ” อ้าวสัด รู้ทันกูอีก
“กูปวดจริงๆนะ อยู่ดีๆก็ปวด โอ๊ย” กูกุมหัวแล้วซุกหน้าลงกับเตียงล่ะครับ
“เอายาไหมอ่ะ เดี๋ยวไปเอามาให้” กูว่าแล้วมันต้องพูดแบบนี้
“เอาดิ เอายาให้หน่อย” นี่แน่ กูก็ตามเกมล่ะครับ ใครจะบอกไม่เอา แค่พาราฯกินเม็ดสองเม็ดไม่ตายหรอกน่า
“ไปดิ กูปวดจริงนะเว้ย” ผมเงยหน้ามาดุมันครับ มันอึกอักอยู่สักพักแล้วก็วิ่งออกไปนอกห้อง พอมันออกไปกูก็เอามือปิดจมูกกลั้นหายใจสักหน่อย รู้ไหมทำไม ฮ่าๆ หน้ามันจะได้แดงๆไงวะ อย่าบอกนะว่าไม่รู้ รู้ไว้ซะมันเป็นกลเว้ย
“อ่ะ ปวดมากไหม ไปหาหมอป่าวเน่า” มันยื่นยาพาราฯให้ผมล่ะครับสองเม็ดแล้วก็แก้วน้ำ
“ไม่เป็นไร กินยาก่อน นอนสักพักคงดีขึ้น” ผมบอกไปแล้วหยิบยาจากมันมากินล่ะครับ
“หน้าแดงเลยอ่ะ ปวดมากแน่ๆเลย”
“ปวดดิ นวดหัวให้หน่อยดิเบบี๋ มันปวดตุบๆ” ผมอ้อนล่ะครับ อิอิ มีบ้างล่ะน่านะ
“นวดแล้วจะหายเหรอ” “ไม่รู้ เผื่อมันดีขึ้นเร็วดิ สงสัยจังนะสัด หรือจะให้กูตายก่อนถึงจะมาเพ้อว่ามึงน่าจะทำตามที่กูบอก” ผมดุมันอีกรอบครับ คราวนี้มันรีบปีนขึ้นเตียงมาแล้วจัดแจงเหมือนจะหาที่นวดหัวผมล่ะครับ ไม่คล่องเลยวะกูเลยนอนบนตักมัน ตอนแรกมันก็ไม่ยอมนะแต่เอาไปเอามาก็ต้องยอม
“อืม สบายจัง” ผมครางออกไปหลับตาพริ้มล่ะครับ อิอิ มือมันนุ่มนี่หว่า มันนวดไม่เป็นหรอกนะแค่มาจับๆ แต่มันรู้สึกเพลินดีนะมีคนมาจับหัวให้เราน่ะ ไม่เชื่อลองให้ใครจับดูดิ ยกเว้ยผีนะเว้ย อย่าให้ผีจับหัว แว้กก
“อ่า นายโกหกเหรอเน่า” มันรู้ตัวครับ
“เออ นวดต่ออย่าถามมาก ไม่นวดกูข่มขืนมึงจริงๆนะ” “อ่า ไอ้เน่าบ้า” มันขยุ้มหัวผมล่ะครับ อ้าวไอ้นี่วอนตายซะแล้วนะมึง เล่นจิกหัวกูซะแรงเลยจากเคลิ้มๆตื่นเลย
“อ่า ก็ได้” มันยอมครับ ทำไมน่ะเหรอ ก็กูลืมตาขึ้นจ้องตามันแล้วจับมือมันไว้น่ะสิครับ สายตาที่ผมจ้องมองตามันน่าจะบอกมันทุกอย่างแล้วนะว่าทำไมผมถึงยอมให้มันจับหัวผมทั้งที่ไม่เคยมีใครได้จับยกเว้นพ่อกับแม่กับหลวงปู่ที่วัดอ่ะนะ นอกนั้นกูไม่ยอมให้ใครเล่นหัวง่ายๆหรอกนะเว้ย พอมันนิ่งผมก็จับมือมันมาหอมแรงๆสองทีสามทีมันก็หน้าแดงมากกว่าผมด้วยซ้ำมั้งนั่นน่ะ
“หลับตาซะทีสิ” มันเขินครับมองไปทางอื่น
“อยากมองไม่ได้ไง” “ไม่เอาอ่ะ มองแล้วไม่รู้จะทำยังไง”
“เขินเหรอจ๊ะเบบี๋” “เขินดิ ไม่มองได้ป่ะ”
“กูอยากจะมองมึงจนกว่ากูจะหลับอ่ะ ได้ป่ะ” นี่แน่ ยิงคำหวาน มันเขินจนแบบว่าหน้าไม่มีสีเนื้อเลยนะแดงก่ำไปหมด หูเหอนี่แดงจัด ชอบจริงๆเลยให้ตายเถอะ
“อืม อยากมองก็มอง” “อ้าว แล้วไม่มองกูบ้างล่ะ” ผมท้าทายมันครับ
“ไม่เอาอ่ะ เราไม่ชอบจ้องหน้าใคร”
“แม้แต่คนที่มึงชอบน่ะเหรอ” นี่แน่ อีกดอก ว่าไปกูเหมือนหมอลำมากไปป่าววะเนี่ย ฮ่าๆ หรือว่าดูหมอลำมากไปมุขเลยเอามาเยอะเกิน มันจะเลี่ยนไหมวะเฮ้ย
“อ่า” มันเขินจัดครับเม้มปากแล้วค่อยๆเหลือบสายตาหันกลับมามองผม สายตามันตื่นๆนะ ผมจ้องเข้าไปในตาดำของมัน แววตาของมันมีทั้งตื่นตกใจ กลัวและปนสุข ฮ่าๆ นี่กูดูเข้าไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอวะเนี่ย เก่งๆไอ้เดี๋ยว เดี๋ยวกูจะมองให้ทะลุจิตวิญญาณมันเลยดีมะ
“พอใจยังอ่ะ” มันพูดออกมาครับ ผมก็ยิ้มล่ะ ยิ้มตั้งแต่มองตามันแล้วล่ะ
“อ๊ะ ทำไรอ่ะ” คือมองกันมากๆมันก็มีอารมณ์อ่ะนะ ผมก็เลยโน้มคอมันลงมา ตอนแรกมันก็จะขัดขืนล่ะครับแต่มันก็ยอมค่อยๆโน้มลงมาทีละหน่อย
“กึ๊ก” “โอ๊ย” อ้าวสัด หลังมันลั่นครับ ฮ่าๆ มันดิ้นออกไปทันที มันลั่นเหมือนเราบิดตัวตอนตื่นนั่นล่ะครับ ไอ้นี่มันคงจะไม่เคยพอมันดังมันเลยเอี้ยวตัวออก
“หลังจะหัก ไม่เอาแล้วนอนเถอะเน่า” มันบอกครับ เออๆ นอนก็นอนวะ แหมนะว่าจะได้จูบกับมันอีกซักหน่อย ปั้ดโธ่เว้ย ผมรีบไปนอนข้างๆมันแล้วกอดตัวมันไว้ล่ะครับ
“หันหน้ามาดิ” ผมยังไม่ยอมหยุดครับ มันคงไม่หยุดง่ายๆหรอกนะกูน่ะ ฮ่าๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรมันไม่ยอมนะครับ เดาเอานะ อิอิ
“ไม่เอา นอนๆ เราง่วง” มันไม่ยอมครับ ไม่ยอมก็ให้มันรู้ไปดิวะ กูก็ปีนไปด้านหน้ามันสิครับ
“อ่า อะไรอ่ะเน่า นี่จะทำไรอ่ะ กวนจริงนะ” มันทำตาดุใส่ผมครับ โอ๊ย กูย้านหลาย
“ยิ้มไรอ่ะ” ยิ้มมึงนั่นล่ะ แน่ะยังไม่รู้ตัวอีกนะมัน
“จูบก่อนดิ ไม่งั้นกูไม่นอน” ผมยื่นคำขาดล่ะครับ
“อ่ะ” อ้าว ยอมง่ายจังวะ มันหลับตาแล้วยื่นปากมาล่ะครับ ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปจนได้กลิ่นลมหายใจของมัน
“ไหนบอกให้แอบทำไง เดี๋ยวนี้ให้ทำแบบรู้ตัวตลอดเลยนะ” อ้าวนะ อยู่ดีๆก็พูดขึ้นล่ะครับ เออนะมัน
“เออๆ จุ๊บ” ผมยอมครับแล้วก็จูบหน้าผากมันทีหนึ่งก่อนจะกอดมันแล้วหลับตาเหมือนกัน พอผมหลับตามันก็ลืมตารู้นะครับว่ามันลืมตา แต่ผมไม่สนใจ
“งอนเหรอเน่า” “งอนเชี่ยไร มันก็จริงอย่างที่มึงพูดนั่นล่ะ ให้มึงแอบทำดีกว่า ตื่นเต้นดี กูชอบ แบบนี้มันง่ายไป” ผมพูดทั้งๆที่หลับตาอยู่ล่ะครับ
“อื้ม” มันตอบครับสักพักผมก็รู้สึกว่ามีปากอุ่นทาบลงที่แก้มของผม ไวมากผมเลยลืมตาขึ้น
“ลักหลับกูเหรอมึง” มันยิ้มครับ แล้วหลบสายตา
“บ้าเหรอ นอนได้ยังอ่ะ” มันอายครับ เออวะ นอนก็นอนมัวแต่เล่นกันคงไม่ได้นอนกันพอดี สรุปเราก็หลับไปล่ะครับ ผมน่าจะหลับก่อนมันนะเพราะตอนที่รู้สึกตัวมันยังดิ้นไปมาอยู่ แอร์เริ่มเย็นกูก็เริ่มง่วงหลับเลยดิ อิอิ
“มีชุดไหมลูกเดี๋ยว ใส่ชุดพ่อก่อนไหม” พอตื่นลงมาด้านล่างปลัดก็ โอ้โห พ่อลูกคู่นี้มันเวอร์ไม่น้อยหน้ากันจริงๆนะ ปลัดอยู่ในชุดเตะบอลพร้อมแล้วครับรองเท้าสตั้ดถุงเท้าสีเหลือง ชุดสีฟ้า เอากะท่านสิครับ
“แต่ผมไม่มีรองเท้าครับ งั้นเดี๋ยวผมกลับไปเอารองเท้าก่อน เจอกันที่สนามหน้าที่ว่าการนะครับ” ผมบอกไปล่ะครับ
“ได้ๆลูก อุ่นๆ ไปกับลูกเดี๋ยวไหม” อ้าวนะ ปลัดนี่ยังไงเหมือนแกรู้เลยนะครับว่าผมกับลูกชายมีอะไรกันลึกซึ้งกว่าเพื่อนธรรมดา ไม่รู้ดิผมอ่านจากสายตาและคำพูด
“ไม่เอาอ่ะ อุ่นไม่ได้เตะด้วยนี่ พ่อๆ เย็นนี้เราไปกินข้าวนอกบ้านกันป่ะ พี่ต้อยไปไหม” ไอ้เบบี๋มันหันไปถามเจ๊แกล่ะครับที่กำลังเตรียมขวดน้ำหวานกับชาใส่ถุงผ้าให้คุณปลัด
“โอ๊ย บ่ไปดอกค่า ไผสิเฝ้าเฮือน ย้านบ่ได้เบิ่งละครนำ” ฮ่าๆ เอากับเจ๊แกสิครับ หน้าตานี่จริงจังมากเลยนะ
“งั้นพ่อไปรอที่สนามนะลูกเดี๋ยว” คุณปลัดบอกล่ะครับแล้วเดินไปที่รถส่วนผมก็กลับบ้านมาเปลี่ยนชุด ผมไปเจอแกที่สนามตอนแรกเล่นกันสองคนแต่เหมือนมีคนอื่นในอำเภอเห็นเลยมาเล่นด้วยครับ ตอนแรกกะว่าจะเตะเบาๆขำๆเอาไปเอามาครบทีมเลยเล่นซะเหงื่อแตกเลย ข้อดีของการเตะบอลกับคนแก่กว่า คือเราจะเก่งขึ้นมาแบบเทพกว่าใครๆ ข้อเสียก็คือมันไม่ระทึกใจครับ เพราะคนแก่ท่านวิ่งไม่ค่อยได้ตามบอลจับบอลก็ไม่ทัน แต่ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆล่ะ พอเล่นเสร็จก็แยกย้ายกันกลับล่ะครับ ปลัดท่านนัดอีกทีตอนหกโมงเย็น ผมเลยแวะไปร้านก่อนเดี๋ยวคุณนายจะด่าเอา เพราะช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ช่วยงานอะไรเลย ติดสาว เอ้ย ติดไปกับไอ้เบบี๋มันล่ะครับ
“ลูกมาแล้วเหรอ เหนื่อยไหมคะ” เอ่อ มาไม้ไหนเนี่ยคุณนาย
“หยังแม่ คือเว้าม่วนแท้” ผมสงสัยครับ
“ฮ่วย เป็นแม่ก็ต้องพูดกับลูกเพราะๆสิ กินน้ำก่อนนะคะลูกขา” เอ่อ กูเริ่มกลัวล่ะ
“ปลัดเขาจะพาลูกเดี๋ยวไปกินข้าวเย็นด้วยเหรอลูก ซี๊ด แม่ดีใจจังที่คุณปลัดมีเมตตากับลูก กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆนะคะลูก เสื้อผ้ามันเก่าไปไหมเอาเงินไปซื้อตัวใหม่ไหมคะ พ่อๆ เอาเงินให้ลูกหน่อยสิ ลูกจะไปซื้อเสื้อผ้าใหม่” เอาสิครับ กูอยู่ดีไม่ว่าดีก็ได้เงินใช้ โอ๊ย นี่มันโชคกี่ชั้นวะเนี่ย
“โพดหลายแม่ เพิ่นพาไปกินเข่าซื่อๆเด้ล่ะ บ่ได้พาไปมอบมรดก”
“นั่นล่ะ อย่าพูดมาก วันนี้ไม่ต้องช่วยแม่หรอกนะ รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวกลิ่นไก่ย่างจะติดตัว” เออนะ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมแม่ผมถึงชื่นชอบปลัดมากมายขนาดนี้ พ่อผมอีกคน จะว่าอยากใกล้ชิดเจ้านายที่ทำงานในอำเภอมันก็ไม่ใช่หรอก เพราะผู้ว่าเองก็เคยมากินส้มตำที่ร้านบ่อยๆ ไหนจะพวก อบต ผู้ว่าเอย แต่แม่ผมก็เฉยๆนะไม่ได้เวอร์ขนาดนี้ ทำไมวะ เออนั่นสิ เริ่มอยากรู้ล่ะ สงสัยคงต้องสืบ
“พ่อๆ แม่เป็นหยังคือเห่อปลัดแท้ มีหยังอยู่บ่” ผมเดินไปหาพ่อผมครับแอบกระซิบถามเอา
“อ้าว แม่มึงบ่ทันเว้าให้ฟังติ๊ แม่คุณปลัดน่ะเป็นนายเก่าแม่มึงเด้ สมัยเข้ากรุงเทพฯใหม่ๆแม่มึงเฮ็ดงานบ้านให้แม่คุณปลัดเพิ่น พอแต่งงานกับพ่อแม่คุณปลัดก็ให้เงินเอามาทำทุนเปิดร้านขายส้มตำนี่เด้” อ้อ แบบนี้นี่เอง
“อ้าว แล้วตอนนั้นแม่ไม่ได้รู้จักคุณปลัดเหรอ” ผมยังสงสัยครับ
“บ่ฮู้เพิ่นไปเฮียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กน้อย” โว้เด็กนอกซะด้วยเว้ย
“หือ จบนอกเป็นหยังมาเป็นปลัด” “บักห่านี่แหมะ เพิ่นเฮียนบ่จบ มึงอย่าสิไปเว้าเด้ เพิ่นเกเรหลายเลยเฮียนบ่จบ เพิ่นได้เป็นปลัดกะย้อนแม่เพิ่นฝาก” อ้อ แบบนี้นี่เอง เอ้าไม่อยากรู้ล่ะ แต่ปลัดน่ะเหรอเคยเกเร ไม่อยากจะเชื่อเลยนะท่าทางเป็นคนเรียบร้อยมากดูขรึมๆใจดีๆ แต่เอ๊ะ ถ้าเขาเกเรนี่กูล่ะเขาเรียกอะไร อ้อ เด็กฉลาดว่างั้น อิอิ
“ปะลูก ต้อยกินอะไรไหม” เออ ผมก็เพิ่งจะเห็นนี่ล่ะว่าครอบครัวนี้เขาไม่ได้มองว่าเจ๊แกเป็นเด็กรับใช้ในบ้านเลยนะครับ ดูจากไหนหรือว่ารู้จากไหนก็ในละครที่เคยดูบ้างไง จริงไหม
“บ่ดอกค่าคุณพ่อซาย ต้อยสิกินลาบเทา แซ่บกว่าค่า อิอิ” อ่านะ เอากะเจ๊แกครับ
“รู้จักร้านไหมลูกเดี๋ยว” คุณปลัดหันมาถามผมล่ะครับ
“รู้ครับ เดี๋ยวผมบอกทาง” “มาขับดีกว่าไหม จะได้สะดวกกว่า พ่อไม่ค่อยคุ้นทางเท่าไหร่” ตาวาวครับ ได้ขับเก๋งล่ะกู รถปลัดก็ซีวิคสีเทาล่ะครับ นอกจากระบะที่บ้านแล้วกูไม่เคยขับรถใครเลยนะ
“เกียร์ออโต้เหรอครับ” ผมไม่สนใจล่ะเดินไปเปิดประตูทันทีครับ ต้องเรียกสมาธิใหม่ก่อนเพราะรถที่บ้านมันเกียร์กระปุก ผมนั่งมองอยู่สักพักก็พอรู้ว่าต้องทำยังไงล่ะครับ
“นายเคยขับเหรอออโต้น่ะ” ไอ้เบบี๋มันนั่งหลังล่ะครับมันยื่นหน้ามาถาม
“ไม่เคย” “อ้าว จะดีเหรอพ่อ” มันตกใจครับ
“ไม่ยากหรอก ลองก่อนสิ พ่อปวดๆขาไม่ได้เตะบอลนาน” อ้อ นี่คือจุดประสงค์ล่ะครับ ผมก็ลองเหยียบเบรกแล้วเข้าเกียร์ ไม่เห็นจะยากจรงไหนวะ พอเริ่มชินก็เหยียบสิครับ
“เบาลูกเบา” คุณปลัดร้องอยู่ข้างๆผมล่ะครับ
“ฮ่าๆ มันเหยียบมันจริงๆครับคุณปลัด” ผมหัวเราะครับ
“อ่า อย่าขับเร็วนักสิเน่า” ไอ้นี่ก็กลัวครับ เอาน่าระดับนี้แล้วไม่มีทางพลาดเว้ย ผมก็พาสองพ่อลูกนี่ไปถึงร้านอาหารนอกเมืองได้อย่างปลอดภัยล่ะครับ มันเป็นร้านนอกเมืองที่ดูดีที่สุดล่ะ ขายอาหารทุกอย่างทั้งของป่า อาหารทะเล ปลาน้ำจืดมีหมดครับ
“เก่งนี่ลูก บรรยากาศดีนะที่นี่” คุณปลัดชมผมครับ แน่นอนผมบอกแล้วว่าผมเก่ง อิอิ เราก็ไปนั่งด้านในล่ะครับมีวงดนตรีด้วย ปลัดให้เราเลือกเมนูอาหาร
“คุณปลัดกินต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อนไหมครับ” ผมถามครับ
“อืม เอาๆลูก ไม่ได้กินมานานล่ะ พ่อจะเอาปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย กับฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ” โว้ กุ้งแม่น้ำเลยว่างั้น ลาภปากกูล่ะ ฮ่าๆ
“พ่อ มีอบเห็ดโคนด้วยอ่ะ ลองกินไหม” ไอ้เบบี๋ครับ ท่าทางไอ้นี่มันจะชอบกินเห็ดมาก
“เอาสิลูก” เอาไปเอามาก็สั่งกับข้าวไปห้าอย่างครับ มีของกินเล่นอีก ระหว่างรออาหารปลัดก็ชวนผมคุยเรื่องเตะบอล ท่าทางแกคงจะชอบมาก ส่วนไอ้เบบี๋มันนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ครับ พอกับข้าวมาเราก็เงียบกันไปเลย ต่างคนต่างกิน
“พ่อไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ กินของหวานไหมลูก” คุณปลัดนี่ใจดีจริงๆเลยนะครับ ยิ่งอยู่ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่าแกใจดี ไม่เคยดุเลยนะจะค่อยๆบอก
“แช็ตกะใครวะ” ผมถามไอ้เบบี๋ทันทีล่ะครับพอปลัดลุกไปเข้าห้องน้ำ
“ปูกับฝ้ายอ่ะ” “หือ” “ก็เพื่อนตอนไปเข้าค่ายไง เขาอยากมาเที่ยวตอนปิดเทอมเล็ก นายว่ามีที่ไหนเที่ยวเหรอ แนะนำหน่อยดิ” ไอ้เบบี๋มันถามล่ะครับ อ้อสองสาวนั่นเอง เออสบายใจไปกูนึกว่าคุยกับผู้ชาย มึงตายแน่
“มีแต่ถ้ำล่ะ จะไปแบบไหนล่ะ” “อ้าวเหรอ ไม่อยากไปถ้ำอ่ะ อยากไปแบบมีคลองมีน้ำอะไรแบบนี้”
“ไปโฮมสเตย์ไหมล่ะ ทางไปยโสมีอยู่ที่”
“จริงดิ ไปๆ นายไปด้วยกันนะ” อ๊ะ แน่นอนเว้ย ใครจะบอกมึงถ้ากูจะไม่ไปด้วย
“เออๆ ขอนะเนี่ยถึงยอม” ฮ่าๆ ก็มีบ้างอ่ะนะเดี๋ยวมันได้ใจ
“อ่านะ งั้นไม่ขอล่ะ” “สัด ไม่ได้ กูไม่ยอมให้มึงไปกับใครหรอกเว้ยถ้ากูไม่ไปด้วย” ผมพูดขึ้นครับ มันอมยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตอบสองสาวไป
“พ่อๆ อุ่นอยากเลี้ยงหมาอ่ะ” พอขากลับมันก็ถามพ่อมันขึ้นล่ะครับ ผมขับไม่เร็วมากนักครับเพราะพาปลัดไปดูที่ต่างๆรอบเมือง
“หือ อีกแล้วนะอุ่น จำเจ้าหมูชิ้นได้ไหม” หือ นั่นหมาเหรอ หมูชิ้น ฮ่าๆ ผมเหลือบมองไปกระจกมองหลังไอ้เบบี๋มันหน้างอลงทันทีครับ
“เอาไว้อุ่นมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ก่อนนะ พ่อถึงจะยอม สงสารมันนะลูกถ้าเราไม่ดูแลมัน ต้อยไม่ชอบหมาด้วยอุ่นจำไม่ได้เหรอ” “ฮึ ก็อุ่นอยากเลี้ยงอ่ะพ่อ เจ้าหมูชิ้นมันหลงไปเองอ่ะ อุ่นไม่ได้พามันไปหลงซะหน่อย ก็ตอนแรกว่าจะซื้อปลอกคอให้มันแล้วอ่ะ” มันหน้าเบ้ครับ คุณปลัดก็หันไป
“อ้าว เลี้ยงหมาแล้วไอ้โบ้ล่ะ ลืมมันแล้วเหรอวะ” ผมสอดขึ้นล่ะครับเพราะเห็นท่าไม่ค่อยดี
“อ่า โบ้มันหมานายนี่” มันดอดคืนครับ อ้าวไอ้นี่
“อ้าว จะเอามันมาเที่ยวบ้านมึงก็ได้นี่ ไม่หวงเว้ย”
“อ่า จริงนะ” เออนะ เอากับมันครับ เหมือนเด็กจริงๆเลย พอพูดถึงไอ้โบ้คุณปลัดก็ถามล่ะครับ ผมก็เล่าไป ถึงบ้านก็ประมาณเกือบสามทุ่มผมก็เลยขอตัวกลับ เออ คุณปลัดแกสั่งกุ้งแม่น้ำเผาให้ผมเอาไปฝากพ่อกับแม่ด้วยนะ หวานปากกูอีกล่ะ ฮ่าๆ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. เป็นยังไงบ้างครับ พอได้ไหม อิอิ ผมต้องออกตัวไว้ก่อนนะว่าผมเขียนอะไรหวานๆไม่เป็นอ่ะ แหะๆ อาจจะเลี่ยนก็บอกได้นะคร้าบ ผมจะได้แก้ไข จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 13-06-2012 10:42:19
อ่านไปเขินไป ^_^  เขินแทน อุ่นอ่ะ เดี๋ยวรุกหนักมาก พอรู้ตัวว่าชอบเนี่ย ทำคะแนนจังเลย  แถมพ่อแม่เดี๋ยวก็น่ารักมากๆเลย  ขอบคุณค่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-06-2012 11:05:43
 o13น่ารักกกกกกก ชอบเรื่องนี้ๆๆๆ อยากมุดเข้าไปอยู่ในนั้น ทุกครั้งที่อ่านเลยครับ ....
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 13-06-2012 11:25:07
 :impress2: :impress2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-06-2012 11:31:04
เดี๋ยวหยอดที เราก็พลอยเขินไปด้วย แว๊ก...นึกว่าตัวเองเป็นน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 13-06-2012 11:49:25
นี้ขนาดเขียนไม่เป็นนะคุณอิ๊กกี้  :o8: ทำไมมันน่ารักอย่างงี้หนอออออ ยอมรับว่าติดนิยายเรื่องนี้มาก(ณ ตอนนี้) น่ารักกันหมดเลย อ่านแล้วนึกถึงคนแถวบ้าน เพราะคนบ้านนอกเค้านิสัยน่ารักกันอย่างที่คุณอิ๊กกี้เขียนจริงๆ ชอบก็ชื่นชม ไม่ชอบก็ด่า ไม่มีมารยา ปล.คิดถึงพลพรรคของบักเดี๋ยวและหนูอุ่นจัง 5555+ อยากฝึกภาษาอีสาน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-06-2012 11:54:24
หวานจัง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-06-2012 12:12:30
บักเดี๋ยวน่ารักแท้หลาย
อ่ะตอนนี้ :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 13-06-2012 12:46:10
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักขนาดแท้ อยากได้แบบนี้บ้าง
จัดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :oo1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 13-06-2012 13:57:40
คุณเอกกี้ ต้องบอกว่าเขียนได้ดีสุดๆๆ ไม่ใช้แค่พอได้เลยอะ ชอบ ชอบ ชอบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: jaejoong22 ที่ 13-06-2012 13:59:15
น่ารักมากๆๆเลยจ้า

อยากให้เลิฟๆ ตลอดไปๆๆๆ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 13-06-2012 15:19:53
โลกกลมจริง ๆ อ้ายเดี่ยวออกนอกหน้านอกตานะยะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 13-06-2012 17:17:58
เดี๋ยวโคตรหื่น :z1:

เอาอีกๆๆ

สนุก เดี๋ยวต้องกลับมาอ่านอีกสัก 3รอบ :o8:


หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 13-06-2012 17:39:16
อ่านไปเขิลไป คู่นี้นี่มันน่ารักจริง ๆ (:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-06-2012 18:08:34
นี่แหละน่ารักแล้วพี่อิ๊ค แต่อยากเห็นเดี่ยวหึงอ่ะ
คริคริๆ :m32:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 13-06-2012 19:07:39
ว้าวพ่อน้องอุ่นเคยเกเรมาก่อานหรอเนี้ย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 13-06-2012 20:23:59
อุ่นยังเอาตัวรอดได้อยู่เนอะ   o18 น่ารัก
ครอบครัวก็ใกล้ชิดกันพอควรน้า มิน่าแม่เดี๋ยวถึงเต็มที่
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 13-06-2012 21:43:14
หวานซะ  :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 14-06-2012 00:43:44
คุณแม่โพดเวอร์เน๊อะ  :t2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: daboo ที่ 14-06-2012 16:43:11
แรกๆ   อ่านแล้วปวดหัวตึ๊บเลย     ไม่เข้าใจภาษาซักนิด


อ่านไปอ่านมา  เริ่มมันส์   ความเปนอิสานได้ซึมซาบเข้ากระแสเลือด


บอกตรงๆนะ   ติด      ๕๕๕๕๕๕         รีบมาลงต่อนะฮะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-06-2012 17:45:40
น่ารักอ่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-06-2012 14:41:42
พักนี้ เรื่อยๆ มาเรียงๆ นะคะคุณ

อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 15-06-2012 14:51:11
น่ารักจังเลย ทั้งเดี๋ยวและอุ่น :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 15-06-2012 19:53:47
โว๊ย มาขนาดนี้ ไม่ต้องเดี๋ยวล่ะ เอาเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 15-06-2012 20:40:29
หวานๆ กันอยู่
ยังไม่ได้ตื่นเต้น

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 16 Version (เดี๋ยว) 13 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 15-06-2012 23:53:21
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 16-06-2012 17:11:33
Don’t call Me BaBy!!

ดีใจจัง ผมพาไอ้โบ้มาที่บ้านได้ด้วย ไม่ได้ล่ะต้องไปหาซื้อปลอกคอมาให้มันแล้ว เดี๋ยวมันหลงไปอีกเหมือนเจ้าหมูชิ้นเสียใจแย่เลย คือว่าตอนผมอยู่กรุงเทพฯผมก็เคยมีหมานะครับ พันธุ์อะไรไม่รู้มันหลงมาหน้าบ้าน เลี้ยงยังไม่ทันเดือนเลยอ่ะมันก็หลงไปอีก เสียดายมากๆ แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ดีใจเจ้าโบ้มันก็คงพอจะทดแทนกันได้ล่ะน่า เนอะ
   “ไรอ่ะเน่า” ผมอาบน้ำเสร็จก็มาทำท่ากางหนังสือจะอ่านล่ะครับ ไอ้เน่ามันโทรมา
   “ไรเชี่ยไร แฟนโทรมาต้องมีไรด้วยเหรอวะ” อ่านะ ไอ้นี่
   “อ้อ เปล่าจ้า ว่าไงอ่ะแฟน” อิอิ นี่แน่ คือพอลับหลังมันไม่ได้ต่อหน้านี่ผมก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรมันหรอกนะจะบอก แหมนะ ผมก็สู้คนนะเว้ยขอบอก
   “ปากดีนะมึง พอกูอยู่ด้วยนี่มัวแต่อายนะสัด”
   “อ้าว ก็แบบนี้อ่ะ จะทำไมเหรอ” “เออ มึงจำไว้ อย่าให้กูเจอนะ กูจะจับข่มขืน”
“อ่า บ้าพลังนะเน่า แล้วทำไรอยู่เหรอ” ผมไม่อยากต่อกรกับมันล่ะครับ
“ว่าวอยู่ อ่า ซี๊ด” “อย่าๆ อย่ามาเยอะ นี่ๆเน่า พรุ่งนี้พาไปซื้อปลอกคอให้เจ้าโบ้หน่อยดิ นะนะ” ผมคิดถึงไอ้โบ้ขึ้นมาล่ะครับ
“กี่โมงล่ะ กูไม่ค่อยว่างนะพักนี้น่ะ”
“อ้าว มีงานต้องทำเหรอ งั้นเราไปเองก็ได้”
“ไม่ได้ ไม่ค่อยว่างก็ติดแฟนไงสัด” อ่า โอ๊ย ไอ้นี่มันเป็นลิเกเก่าหรือไงนะ มุขบ้านๆแต่ขอโทษนะ ผมเขินอ่ะ แว้กก กอดหมอนล่ะนะ
“อ๊ะๆ อย่าๆ อย่าไปทำร้ายหมอนนะเว้ยเบบี๋ ตอนกูอยู่นี่มึงก็ไม่ทำร้ายกูนะเว้ย ทีแบบนี้จะทำหมอน” อ่า รู้อีก ไอ้บ้าเน่านี่มันมีจิตสัมผัสหรือไงนะ
“บ้าเหรอ พรุ่งนี้ตอนสายๆอ่ะ นายต้องไปร้านป่ะ” ผมถามเรื่องอื่นแก้เขินล่ะครับ
“ไปแต่เช้าล่ะ เออๆ เดี๋ยวพาไป มึงทำไรอยู่เนี่ย”
“จะอ่านหนังสืออ่ะ เน่าอาบน้ำยังเนี่ย”
“ยัง ว่าจะว่าวก่อน” นั่น วกมาเรื่องนี้อีกแล้วมัน
“อืมๆ งั้นว่าวไปดิ เราจะอ่านหนังสือ”
“เบบี๋ๆ” “ไรอ่ะเน่า” “น้ำกูอร่อยป่ะวะ” เอ่อ อารมณ์เสีย อึ๋ยย
“บ้าเหรอ ใครจะกิน เป็นบ้าป่ะ วางสายนะ”
“อ่านะ กูรู้ล่ะว่ามึงแอบชิม แน่ะๆ ชอบอ่ะดิ”
“ไอ้บ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” “เดี๋ยวดิวะ” ผมจะวางสายครับ โมโหแล้วล่ะ
“ไรอีก ไม่คุยแล้วนะถ้าจะพูดแบบนี้” “โอ๋ๆ แซวเล่นหน่อยน่า ฝันถึงกูด้วยนะเบบี๋”
“ไม่เอาอ่ะ จะนอนแบบสบายๆไม่อยากฝัน”
“อ้าวสัด กูแฟนมึงนะ” “นายก็ฝันไปคนเดียวดิ เราจะนอน”
“เออ มึงจำไว้ เล่นตัวนักนะมึง” ผมหัวเราะครับมันเหมือนจะงอน
“อืมๆ จะฝันถึงก็ได้ ฝันดีนะไอ้เน่า” ผมวางสายไปล่ะครับ มาถึงตอนนี้ ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันนะตอนนี้ ทำไมทุกๆอย่างมันถึงดูสดใสอารมณ์ดีจังเลย ผมชอบมันเหรอ อืม ใช่ ชอบ เริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ไม่รู้หรอกนะแต่ตอนนี้ชอบมันนะ มากด้วย ไม่รู้สิใจหนึ่งผมก็กลัวว่ามันจะแค่อยากลอง มันอาจจะแกล้งชอบผมเหมือนที่มันเคยบอกไว้ จะใช่เหรอ เอาเถอะๆ อย่าไปคิดอะไรมากมายเลย นอนก่อนนะพรุ่งนี้จะไปซื้อปลอกคอให้เจ้าโบ้มัน
“สิไปไสค่าคุณอุ่น” พอตอนเช้าหลังจากที่ผมตื่นก็ลงมากินโอวัลตินร้อนกับปลาท่องโก๋ล่ะครับ พ่อผมนอนแผ่อยู่บนเก้าอี้หวายเห็นบ่นปวดขาๆ เป็นไงล่ะไปเตะบอลไม่ดูสังขารนะพ่อ แทนที่จะวิ่งก่อนนะ
“ไปซื้อปลอกคอหมาอ่ะ” ผมบอกพี่ต้อยไปล่ะครับแล้วเดินไปหยิบยานวดขามาให้พ่อ
“หือ หมาไผ สิเลี้ยงหมาติ๊ค่า โอ๊ย บ่เอาเด้อ เอื้อยบ่มักจักเห็บจักขนหมาล่ะ สกปรกแท้ๆ” เอ่อนะ ยังไม่ทันบอกเลยนะว่าจะเอาไปให้หมาใคร ไรอ่ะ
“หมาเดี๋ยวมันหรอกพี่ต้อย ไม่ได้เลี้ยง แต่จะพามาเล่นที่บ้านล่ะ ขนมันไม่เยอะนะน่ารักจะตาย” ผมแย้งครับ
“อ้อ ซั่นพอทนค่า อิอิ อย่าพามาใกล้เอื้อยเด้อ ซังหลาย”
“ทำไมไม่ชอบหมาอ่ะ ทีแมวล่ะชอบเอาอะไรไปให้มันกินนะ”
“แมวมันเห่าบ่เป็นเด้ล่ะค่า เอื้อยหนหวยหมาตั้ว บ่มัก”
“เคๆ ปวดตรงไหนอ่ะพ่อ อุ่นนวดให้” ผมเดินมาหาพ่อผมดีกว่าคุยกับพี่ต้อยเรื่องหมานี่ไม่ลงกันซะที ตอนอยู่ที่โน่นก็ทะเลาะกันยกใหญ่ไม่มีใครยอมใคร
“ปวดต้นขากับน่อง นวดให้พ่อหน่อยก็ดี” แหมนะอ้อนเชียวนะพ่อ
“แล้วไมพ่อไม่วอร์มร่างกายก่อนอ่ะ แก่แล้วนะพ่อน่ะ”
“อ้าวลูกคนนี้ ใครแก่ พ่อยังหนุ่มอยู่นะ ก็คนมันไม่เคยนี่ ใหม่ๆก็แบบนี้ล่ะ นวดๆอย่าพูดเยอะ” อ่ะจ้า พ่อกูนะ
“อุ๊ย คุณพ่อซายขา ต้อยเอาลูกประคบมานำอยู่เด้ล่ะค่า นวดลูกประคบดีกว่าเด้ต้อยว่ามันจั่งสิเซา เดี๋ยวต้อยสิไปนึ่งให้” อ่านะ เสนอดีนักนะไม่มานวดเองเลยอ่ะ
“เร็วนะพี่ต้อย พ่อนอนคว่ำดิ แต่นอนตรงไหนอ่ะ”
“เดี๋ยวพ่อปูเสื่อให้ ดีเลยพ่อจะได้งีบไปด้วย” อ่านะ พ่อผมก็ลุกหาเสื่อมาปูนอนกับหมอนสบายใจไปเลย ส่วนผมก็รอให้พี่ต้อยนึ่งลูกประคบมาล่ะครับ พอได้มาผมก็เอามาทาบกับแขนตัวเองก่อน เห็นไหมว่าผมเป็นลูกที่ดี นวดให้พ่ออยู่สักพักไอ้เน่ามันก็มาครับ
“ฮ่าๆ ปวดจนต้องนวดเลยเหรอครับคุณปลัด” ไอ้เน่ามันหัวเราะครับ
“คนแก่แล้วก็อย่างนี้ล่ะลูก ร่างกายมันไม่ชิน เดี๋ยวไม่ลองนวดดูหน่อยเหรอ สบายนะ อุ่นเขานวดเก่ง” เอ้ยพ่อ ไรอ่ะ
“ไม่เอ่าอ่ะพ่อ เน่ามันชินแล้วล่ะ พ่อนอนดิอย่าพูด” ผมรีบปรามไว้ครับเพราะตาไอ้เน่ามันวิ้งๆอยากจะลองนวดอยู่แล้วนะนั่น
“อ้าว กูก็ปวดนะเว้ย” นั่นไงครับ แหมๆนะ ทีแบบนี้ล่ะมาปวด
“ปวดก็นวดเองอ่ะ พ่อเห็นไหมอ่ะ”
“อ้าว อุ่นนวดเป็นก็นวดให้เพื่อนหน่อยสิลูก แต่นวดพ่อก่อนนะ กำลังสบาย ตรงนั้นล่ะลูก อืมๆ” แว้กก พ่อกูเหรอนี่ อะไรอ่ะ ไม่สงสารลูกตัวเองเลยนะ ไอ้เน่ามันนั่งดูทำตาละห้อยแบบว่าอยากนวดมากๆเลยนะครับ ผมนวดให้พ่อผมจนพ่อหลับไปล่ะครับ
“ป่ะไปได้ยัง” ผมหันไปถามไอ้เน่าที่มันนอนอยู่บนเก้าอี้หวายล่ะครับ
“ยัง นวดให้กูก่อน” อ่านะ
“ไรอ่ะ เล่นมาตั้งนานจะมาปวดอะไรตอนนี้ ไม่เอาอ่ะ”
“ไม่ได้ งั้นกูไม่พาไปนะมึง” “อ่า นายขี้โกงอ่ะ”
“ไม่รู้เว้ย เดี่ยวกูปูเสื่อรอนะ เร็วดิ ยืนบื้ออยู่ได้ไอ้เบบี๋” เออนะ อารมณ์เสียอะไรไม่รู้เว้ย สรุปเลยนะว่าผมก้ต้องทำให้มันล่ะครับ พ่อนะพ่อไม่น่าชวนมันเลย เริ่มปวดนิ้วล่ะเนี่ย
“สบายจังเลย อิอิ” “แว้กก ร้อนๆ” นี่แน่ พูดมากดีนักเอาลูกประคบที่นึ่งเสร็จใหม่ๆมาทาบน่องมันเลยสิครับมันก็ดิ้น
“อิอิ อ้าว ร้อนเหรอ ไรอ่ะออกจะอุ่น” “อุ่นเชี่ยไร นี่มึงแกล้งกูเหรอ”
“ใครแกล้ง หรือนายจะไม่ทำ” นี่แน่ ผมก็มีข้อเสนอบ้างล่ะนะ
“เออๆ มึงจำไว้ๆ” อ่านะมีขู่ กลัวมาก แต่เอาไปเอามาผมก็ไม่อยากแกล้งมันหรอกนะครับรีบทำให้มันจบๆไป
“มึงไปเรียนนวดมาจากไหนวะ” ตอนออกมาจากบ้านมันก็ถามขึ้นล่ะครับ
“ไม่ได้เรียนอ่ะ นวดให้พ่อคนเดียวเถอะและก็นานๆทีไม่ได้ทำบ่อย”
“แต่มึงนวดดีนะกูชอบ อิอิ”
“อ่ะแน่นอน นอนเฉยๆดิ”
“วันหลังนวดให้กูอีกนะกูชอบ” “ฮื่อ ไม่เอาอ่ะ เมื่อย”
“อ้าว ก็เผื่อกูปวดขาไง มึงไม่ทำแล้วใครจะทำวะ”
“ไปร้านนวดดิ เขาทำเก่งกว่าเราตั้งเยอะ”
“ไม่เอาเว้ย มันไม่เหมือนกัน กูอยากให้มึงทำให้คนเดียว” อ่านะ จิ๊ ทำกูเขินอีกแล้วนะเนี่ย
“เงียบๆ ทำเขินนะมึง กูไม่ชอบมึงกูไม่ให้ทำหรอกนะเว้ยจะบอก” มันตะโกนครับ จะตะโกนเพื่อ เดี๋ยวพ่อกูตื่นก็เรื่องยาวอีกล่ะไอ้นี่นะ
“เออๆ รู้แล้ว” ผมตีหลังมันเบาๆล่ะครับ มันพาผมไปบิ๊กซีเราเดินอยู่ตรงแผนกของสัตว์อยู่สักพักก็เจอปลอกคอหมา แต่ไม่เอาอ่ะอยากได้แบบมีชื่อ
“มันน่าจะมีชื่อเนอะ” ผมหยิบปลอกคอสีน้ำตาลมาดูล่ะครับ
“เอาไปทำทีหลังก็ได้นี่”
“อืม แต่จะเอาเหรอเสียเวลาไปทำอีกนะ เสียเงินอีกต่างหาก” “เออน่า ซื้อๆมาเหอะ กินติมป่ะ” ไอ้เน่ามันชวนครับ
“เอาดิ กินแล้วไปไหนต่ออ่ะ ยังไม่อยากกลับบ้านเลย” ผมบอกมันไปล่ะครับ เพราะมันเพิ่งจะบ่ายๆเอง
“กินติมกูอ่ะนะ กินเสร็จก็ไปหาที่เอากันไง” “นั่น อีกแล้วนะเน่า” มันหัวเราะครับ แหมนะเผลอไม่ได้เลยไอ้นี่
“ก็เดินเล่นมันแถวนี้ล่ะ มึงอยากไปไหนล่ะ”
“ไปร้าน เอ่อ นั่นสิ” ผมอยากไปร้านมันนะแต่คิดถึงตอนนั้นแล้วก็ไม่อยากไปล่ะ กลัวคนจะมาว่าอะไรอีก
“ทำไมวะ” “นายพาไปดูทุ่งนาอีกได้ป่ะ เราอยากดู”
“ดูเชี่ยไรตอนนี้ ร้อนจะตายห่า เดินอยู่นี่ล่ะแล้วเย็นๆพาไป” อืมนะ เอางั้นก็ได้ มันก็พผมเดินไปที่ร้านไอติมล่ะครับ
“อ้าว ไมไม่กินอ่ะ ไหนบอกอยากกิน” อ้าวไอ้นี่นะพอมากินก็นั่งมองผมอย่างเดียวเลย อะไรของมันวะเนี่ย
“อยากกิน” “อ้าว แล้วไม่กินอ่ะ ปวดฟันเหรอ” ผมมองหน้ามันเพราะมันนั่งจ้องผมเหลือเกิน
“ป้อนดิ ถึงจะกิน” สะอึก อ่าไอ้บ้า เยอะแยะนะมึง อะไรอ่ะคนออกเยอะแยะ
“บ้าเหรอ กินเองดิ คนเยอะจะตายอายเขานะ” ไม่รู้ทำไมเวลามันทำแบบนี้หรือพูดทำนองนี้ผต้องอายหน้าแดงหน้าร้อนไปทุกทีสิน่า
“อายไมวะ คนเป็นแฟนกันไม่หนุงหนิงแล้วจะให้ทำไรวะ”
“มันเยอะไปมันก็เลี่ยนอ่ะดิ นายไม่เลี่ยนเหรอ เก็บไว้ตอนทะเลาะกันบ้างก็ได้นะคำพูดพวกนี้อ่ะ”
“ทำไมต้องทะเลาะกันวะ คุยกันดีๆก็ได้นี่หว่า”
“ใครจะรู้ จำไว้ด้วยล่ะว่านายบอกว่าจะคุยกันดีๆ”
“อ้าวๆ พูดแบบนี้มึงชวนทะเลาะเหรอ”
“ไม่ใช่ ก็แค่อยากบอกว่าเวลาจะทะเลาะกันน่ะ เราจะจำที่นายบอกไง ว่าค่อยๆคุยกัน”
“สัด เยอะนะ จะป้อนไม่ป้อน” อ้าวนะ ขู่เพื่อ
“ป้อนไงอ่ะ คนเยอะนะ” “ป้อนใส่ปากสิ มึงจะยัดเข้ารูจมูกกูไง” อ่าไอ้นี่ กวนตีนนะ นี่แน่
“เฮ้ย สัด” “อิอิ อร่อยป่ะรูจมูกน่ะ” หนอยแน่ท้าทายดีนักนะ เขินน่ะมันก็เขินอยู่หรอกนะแต่มันกวนตีนผมก่อนนะ
“อ๊ะ ทำไรไอ้เน่ามันสกปรกนะ” เอ่อ แต่มันไม่ยอมครับมันตักไอติมแล้วเอามาป้ายหน้าผม คนเริ่มมองแล้วอ่ะ ผมไม่สู้ต่อเพราะเริ่มอายจึงเอามือเช็ดออก
“ไม่มาด้วยแล้วนะ ถ้าทำแบบนี้อ่ะ” ผมบ่นให้มันล่ะครับตอนเดินออกมา คนมองเราเยอะมากแทบทั้งร้าน ก็ร้านไอติมนี่นะปกติมันก็มีแต่เด็กในโรงเรียนนั่นล่ะผมว่า วันหยุดพวกที่มาติวหรือนัดเจอเพื่อนส่วนมากก็จะที่ร้านไอติม จะเมาท์กูอีกป่ะเนี่ย เฮ้อนะ
“อายไรวะ เด็กในโรงเรียนทั้งนั้น”
“ก็ไม่กลัวเขาจะเอาไปนินทาเอาเหรอ”
“ช่างแม่งมันดิ ก็มันเรื่องจริง จะนินทาก็เรื่องของพวกมันดิ ดีซะอีกจะได้ไม่มีใครมาวอแวมึง”
“อ่านะ” ไม่รู้มันคิดอะไรของมันอยู่ล่ะครับ ผมเองไม่ค่อยชอบนักหรอกนะ ชอบกันบางทีไม่จำเป็นต้องเปิดเผยก็ได้นี่นะ เรื่องของเราสองคนไม่ใช่เรื่องของคนทั้งโรงเรียน สังคมเรามีคนคิดต่างอยู่แล้ว อันนี้ผมเข้าใจแล้วเราเองจะทำใจยอมรับกับสิ่งที่ต่างของเขาได้หรือเปล่าล่ะ นั่นล่ะคือประเด็น
“เน่าๆ ที่ว่าโฮมสเตย์อ่ะ มันเป็นแม่น้ำเหรอ” พอมันขับรถออกจากห้างผมก็ถามขึ้นล่ะครับ
“ห้วยธรรมชาติ ที่นี่เขาเรียกเซ” “เซ?” “เออ บางที่ก็เรียกทาม เป็นห้วยที่เกิดเอง ฤดูน้ำ น้ำจะท่วมพื้นที่หมดล่ะ”
“อ้าว ตอนปิดเทอมเล็กนี่ฝนก็ยังตกอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“เออดิ แต่ที่จะไปเขาทำไว้สำหรับหน้าน้ำอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”
“แล้วมีไรทำบ้างอ่ะ” “ตกปลา ว่ายน้ำ นอน ขี้ ปี้กัน” อ่านะ มันวกมาเรื่องนี้อีกแล้วครับ ผมเลยเงียบไป
“ชวนเพื่อนไปด้วยเนอะ ชวนจอยกับเล็ก เพราะจอยกับเล็กยังไม่รู้จักปูกับฝ้าย”
“อ้าว แล้วสัดเคนกับสัดไม้ล่ะ มึงไม่ชวนมันว่างั้น มันงอนกูไม่รู้ด้วยนะเว้ย”
“ชวนดิ ไปกันหลายๆคนคงสนุกดีเนอะ” อยากให้ถึงปิดเทอมเล็กเร็วๆจังเลยอ่ะ อิอิ
“ไปดูพระอาทิตย์ตกป่ะ” มันหันมาถามล่ะครับ ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้ว
“ไปๆ ที่ไหนอ่ะ” มันไม่ตอบครับแต่ขับรถออกมานอกเมืองพาผมเข้าไปในทางหลักผมมองป้ายมันบอกว่าไปเลิงนกทา ไม่รู้หรอกว่าที่ไหนแต่มันขับมาไกลมากๆ
“แล้วจะกลับค่ำไหมอ่ะ” “ค่ำดิ ออกมาไกลซะขนาดนี้” อ้าวนะ ต้องโทรบอกพี่ต้อยหน่อยแล้วเดี๋ยวพ่อจะด่าเอา
“นั่นไง” ผมกำลังล้วงหาโทรศัพท์ล่ะครับ พอมันบอกก็เงยหน้ามองมันเป็นเนินเขาเตี้ยๆนะ อย่าบอกนะว่าต้องปีนขึ้นไปบนนั้นอ่ะ
“มันมีทางขึ้น” อืมนะ เหมือนมันรู้ครับ ผมก็เลยนิ่งมันขับรถปีนทางที่ไม่ค่อยชันขึ้นไปบนเนินเขา พอมันจอดรถผมก็ลง อ่า ให้ตายเถอะมันน่ามองมากๆ เนินเขาสูงประมาณไม่มากนักแต่มองเห็นวิวทุ่งนาเป็นเวิ้งกว้างมาก
“สวยจัง” ผมยืนนิ่งจ้องมองภาพเบื้องล่างอยู่ล่ะครับ ตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้าแล้ว สวยจริงๆ
“ที่ลับเฉพาะนะเว้ย” “หือ ลับอะไรอ่ะ ลับแล้วนายมาได้ไง”
“อ้าวสัด กูน่ะเคยมาแต่ไม่เคยพาใครมา มึงน่ะคนแรก” อ่า จะเขินดีไหมเนี่ย
“แล้วแฟนคนก่อนๆอ่ะ”
“ไม่มีใครอยากมาหรอกมันไกล อีกอย่างกูก็ไม่ได้รู้สึกชอบใครมากขนากนั้น มันไม่มากพอท่ะพามาที่นี่” มันหมายความอย่างที่มันพูดใช่ไหม ผมยิ้มล่ะครับ เขินจัง ผมเมินหน้าหนีไป
“นั่งตรงนี้ดิ” มันดึงแขนผมไปนั่งบนโขดหินล่ะครับ มันก็นั่งลงโอบบ่าผมไว้
“นายชอบเราจริงๆเหรอเน่า” ผมถามมัน ว่าจะไม่ถามแล้วนะ แต่มันก็อยากรู้อ่ะ คำถามโง่ๆผมรู้ดี
“ไม่รู้ดิ กูคงอยู่กับมึงมากมั้ง กูเลยติด ต่อไปไม่รู้ว่ะ ฮ่าๆ” อ่านะ ไม่น่าถามเลยนะ เป็นไงล่ะอยากรู้ดีนัก ตอนนี้รู้สึกแปลกๆครับ มันเสียดในใจยังไงไม่รู้
“งอนเหรอ” “ป่าวอ่ะ ก็คงจริงแบบนั้น อยากลองห่างเราสักพักไหมล่ะ” “อ้าวสัด ไหนบอกไม่งอน กูพูดตรงๆแบบนี้ล่ะนะ ชอบก็บอกว่าชอบ ก็ตอนนี้กูชอบ แต่วันข้างหน้ากูไม่รู้ หรือว่ามึงรู้” จริงครับ มันจริงทุกประการ ใช่สินะคำว่าชอบมันไม่มีอะไรผูกมัด แล้วเวลาเราชอบใครเราต้องการผูกมัดกับเขาเหรอ โอ๊ย งง เอาเถอะๆ ดีแล้วล่ะที่ผมไม่ยอมให้มันทำอะไร
“อืม เราเข้าใจล่ะ” “งอนนะเนี่ย แต่มึงรู้ป่ะว่ากูไม่เคยชอบใครเท่ามึง ไม่ว่าจะเป็นใคร และกูไม่สนใจอนาคตหรอกนะเรื่องแฟนน่ะ เพราะวันนี้กูชอบมึงมาก วันพรุ่งนี้กูจะชอบใครได้ล่ะ มึงว่าไหม” มันพยายามพูดให้ผมรู้สึกดีขึ้นเหรอ ผมเข้าใจนะ แล้วถ้ามันถามผมกลับล่ะว่าผมชอบมันมากไหม ผมจะบอกออกไปยังไงดี ผมเองก็คงติดมัน มันกวนตีนอย่างที่ผมไม่เคยเจอ แล้วถ้าให้ห่างมันผมจะโอเคไหม คิดว่าได้นะแต่คงไม่ใช่ตอนนี้
“คิดไรมากวะเบบี๋ มึงนี่นะ เวลาคบกันกูไม่อยากให้มึงคิดไปไกล ทำวันนี้ให้เต็มที่ วันนี้กูชอบมึง มึงชอบกู แค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าวันนี้เรามั่นคงกูเชื่อเสมอว่าอนาคตมันย่อมไม่สั่นคลอน”
“พูดไรอ่ะ งง” “อ้าวสัด โง่อีกนะมึง เออๆ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะเปิดใจคุยกัน ดีไหม” ต้องให้ตอบว่าอะไรเหรอนอกจากพยักหน้า เออๆ ยังไงก็ได้วะ ไม่น่าถามเลยนะกู เซ็งเลยอ่ะ
“แล้วจะให้กูกอดได้ยัง” อ่านะ แล้วที่โอบกูอยู่เนี่ยเขาเรียกอะไรเหรอไอ้เน่า
“ก็กอดอยู่นี่” “มึงกอดด้วยดิ” “ไม่เอาอ่ะ เราอยากมองพระอาทิตย์ตกดิน”
“ก็กอดแบบหันข้างดิวะ จะได้เห็นทั้งสองคน” เออๆ กอดก็กอดไม่อยากเรื่องมาก
“เบบี๋” “ไรอ่ะ” พอกอดมันก็เรียกครับ จะให้โรแมนติกหน่อยได้ไหมเนี่ย
“กูชอบมึงนะ มากด้วย” อ่านะ ไม่เอาอ่ะไม่อยากเขินพร่ำเพรื่อ พูดบ่อยแล้วเริ่มจะชิน
“มันมากขึ้นทุกๆวันนะมึงรู้ไหม ยิ่งอยู่ใกล้มึงกูยิ่งขาดมึงไม่ได้” เอ่อ นี่คือลิเกหรือว่าอะไรกัน เริ่มเขินแล้วอ่ะ อิอิ
“พูดบ่อยจังอ่ะ” “อ้าวสัด คิดยังไงก็พูดอย่างงั้นดิ ไมวะมึงไม่ชอบ”
“ชอบแต่มันเริ่มชินอ่ะ” “สัด เยอะนะมึง เออๆ งั้นกูไม่พูดล่ะ” อ้าวนะ มันปล่อยมือออกจากผมทันทีครับ งอนเป็นด้วยเหรอมึงน่ะ ผมก็ยังคงนิ่งๆอยู่ล่ะครับไม่อะไรกับมันมาก ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะตกดินเสียงนกกาที่กำลังบินกลับรัง ผมไม่เคยเห็นภาพนี้หรือได้ยินเสียงเหล่านี้ในกรุงเทพฯ หลับตาแล้วคิดว่าเราอยู่ที่ไหนสักแห่งที่มันเป็นวิมาน เท่านี้เองล่ะนะความสุขของคนเรา ผมกำลังมีความสุข
“ป่ะกลับเดี๋ยวค่ำ” มันบอกล่ะครับหน้าตานี่คงจะงอนอยู่ไม่น้อย ผมยังไม่พูดอะไร
“เน่า” ผมเรียกมันล่ะครับตอนที่มันกำลังจะสตาร์ทเครื่อง
“ไร” “ขอบใจนะ ที่พามา” “อ่านะ” คือผมเองก็ไม่อยากให้มันงอนหรอกนะครับ แต่ไม่รู้จะง้อมันยังไงดี ก็ผมไม่ค่อยพูดปากกับใจมันไม่ค่อยจะตรงกันนี่ ผมเลยอาศัยช่วงที่มันกำลังสตาร์ทรถนั่นล่ะหอมแก้มมัน
“แอบหอมแก้มกูอีกแล้วนะ”
“ก็ง้อไม่เป็นอ่ะ รู้ว่านายงอน” “ใครงอน กูไม่งอนเว้ย แต่มึงทำบ่อยๆก็ดีนะ กูชอบ”
“ทำบ่อยเดี๋ยวนายจะเบื่อเอาดิ” “กูนะไม่ใช่มึง กูไมได้เบื่อง่ายขนาดนั้นหรอกนะเว้ย อะไรที่เราชอบมึงคิดว่ามันจะเบื่อได้ภายในวันสองวันเหรอวะ อะไรที่เราชอบสำหรับกูยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งได้บอกออกไป กูกลับชอบมากกว่าเดิมเสียอีก” อ่า น้ำเสียงมันดูจริงจังมากเลยนะครับ ผมเม้มปากแน่น ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นคนแบบนี้ บางทีคำพูดมันก็เชื่อถือได้ แต่บางทีก็ดูเล่นจนเกินไป เอาเถอะอุรดิศ ตั้งข้อกำหนดอะไรมากมายให้กับชีวิตเนี่ย ปล่อยๆมันไปตามธรรมชาติบ้างเถอะนะ
“กอดหน่อยนะ” ผมดีใจจังครับ ไม่ใช่สิมันสุขใจยังไงไม่รู้ ผมสวมกอดมันแล้วเอาหน้าแนบกับหลังของมัน ตัวมันอุ่นวาบๆ เสียงเต้นของหัวใจที่สะท้อนเข้าหูทำให้ผมกอดมันแน่นขึ้น มันเองก็เอามือข้างซ้ายมาจับมือผมแล้วกุมมือไว้ ผมจะจำภาพนี้ไปตลอด ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ผมจะจดจำมันไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าจะยังไง

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. เริ่มจะหวานจนเลี่ยนเนอะ เลยมีนิดหน่อยทะเลาะ อิอิ พอหอมปากหอมคอ ตั้งใจว่าจะเขียนให้มันใสๆ ไม่หมอง ไม่เทา แต่ก็พอบทบรรยายดาร์กๆนี่พิมพ์ไวมากไม่ต้องคิด ฮ่าๆๆ สู้ๆ คร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-06-2012 17:25:37
 :z13: :z13:
ได้จิ้มคนแรกด้วย
บักเดี๋ยวชักจะหวาน
เลี่ยนเกินไปแล้ว
อิจฉานู๋อุ่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 16-06-2012 19:22:59
หวานๆน่ารักๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 16-06-2012 19:45:48
น่ารัก อิอิ  :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 16-06-2012 20:21:19
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: jaejoong22 ที่ 16-06-2012 20:23:14
น่ารักมากๆๆ ขอให้รักกันนานๆจ้า..

 :3123: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-06-2012 21:04:00
ถึงเราจะไม่รู้อนาคต แต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงาม
อ่านเมื่อไหร่ก็รู้สึกดีเมื่อนั้น ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-06-2012 21:57:56
น่ารัก....อยากมุดเข้าไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยคน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 16-06-2012 21:59:55
ดูกันต่อไปนะอุ่น  o18
นวดให้พ่อด้วยเป็นเด็กดี  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 16-06-2012 22:19:25
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-06-2012 22:26:14
บะ  คาเฮ็ดอีหยังอยุ่คือ เพิ่งสิเห็นเรื่องนี้

บักหล่าอุ่น   นี่เป็นตาฮักตาซังเนาะ 

มักแฮง  เรื่องนี้ อิอิ 
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 16-06-2012 23:15:57
 :z1: :o8:

เดี๋ยว เป็นคนตรง คิดไงพูดออกมา
แต่ เบบี๋ ชอบเก็บไปคิดในใจ จนไม่กล้าพูดออกมา

ติดตามต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 17-06-2012 01:08:47
เดี๋ยวพูดถูก อุ่นคิดมากไปนะ เรื่องบางเรื่องเราอาจจะไม่ต้องคิดการไกลไปถึงขนาดนั้นได้ เห้ออออ.....แอบท้อใจแปลกๆ คุณอิ้กกี้เมื่อไหร่จะถึงNCซะที(หื่นมากไปไหมกรู5555+)สู้ต่อไป
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 17-06-2012 02:10:52
+1 เขินเด้ ค่ะ อิอิ  :z2:ชอบบรรยากาศ พระอาทิตย์ ตกดิน อ่ะ เพราะ มันเหลือง ส้มอม อ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-06-2012 03:07:26
หวานกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 17-06-2012 08:24:37
ซึ้งครับตอนนี้ จนกลัวว่าในอนาคตสองคนนี้จะเลิกกันเพราะสาเหตุอะไร หรือว่ามีมือที่สาม คงเสียใจมากแน่ ๆ ๆ TT
ชอบที่อุ่นบอกว่าอย่าไปตั้งกฏเกณฑ์อะไรในชีวิตเกินไป (:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 17-06-2012 21:18:52
เน่าหวานมาก :impress2:
อุ่นนี่ บทจะคิดเยอะก็เยอะเกิน
บทจะไม่รู้ก็เอ๋อได้อีก :laugh:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 20-06-2012 22:29:17
ใจหาย วันนี้เข้าweb ไม่ได้ ดีใจที่เข้ามาได้แล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 17 Version (อุ่น) 16 June 12 หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 20-06-2012 23:01:32
+1  :-[ :-[ :-[ :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 20-06-2012 23:27:18
You’re My BaBy!!

ผ่านไปแล้วเดือนกว่าครับ เวลามันเดินไวเสมอเนอะ สอบปลายภาคเพิ่งจะเสร็จไป สำหรับผมน่ะสบายมากๆครับ แต่ไอ้เบบี๋นี่เฮ้อกูจะเคี่ยวเข็ญมันยังไงดีวะเนี่ยมันถึงจะพอเข้าใจ อธิบายอะไรไปมันทำหน้านิ่งนะพยักหน้าอีกต่างหากแต่ถามว่าเข้าใจไหม ฮื่อ วะ ไอ้นี่กูว่าจะตบกะบาลเอาหลายทีแล้วล่ะ แต่ก็ทำไม่ลง ยิ่งอยู่ใกล้มันยิ่งทำให้ผมไม่อยากไปไหนเลยนะ เอาจริงๆแล้วผมติดมันมากครับ แล้วจะเชื่อไหมว่าคบกันมาเดือนกว่าๆนี่นะ ที่บ้านก็รู้ไม่มีใครว่า คุณปลัดเองก็ไม่ว่ามิหนำซ้ำยังให้ผมมานอนที่บ้านอีกนะ เพราะคุณปลัดให้ผมมาสอนการบ้านมัน ซึ่งสอนไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็พากันเล่นเกมดูหนังไปเสีย เข้าประเด็น คบกันมาเดือนกว่าแต่กูกับมันไม่เคยมีอะไรกันเลยนะเว้ย อย่างมากก็กอดจูบ มันบอกมันรอให้ถึงเวลาก่อน เวลาอะไรวะ สัด กูอยากลองเว้ย
   “ตกกี่ตัวเนี่ย” ผมถามมันตอนสอบวันสุดท้ายล่ะครับ วันนี้นัดเพื่อนๆมากินข้าวกันที่บ้านมัน
   “อ๊ะ ทำไมถามแบบนี้อ่ะเน่า เขามีแต่ถามว่าทำได้ไหม ไรอ่ะ” มันร้องเสียงหลงครับ
   “อ้าว ทำได้ว่างั้น” ผมย้อนคืนครับ
   “แหะๆ ได้ทำอ่ะ มันยากนิ”
   “นั่นล่ะตอนกูสอนเสือกไม่จำ” “จำแล้วแต่ลืม” “สัด ปลาทองนะมึง”
   “ว่าจังนะ ก็ไม่เก่งนี่ เก่งแล้วจะว่าได้ไหมอ่ะ” อ้าวนะมีแบบนี้ เก่งกูก็ชมมึงสิวะไอ้เบบี๋นี่ยังไง
   “ว่าแต่เย็นนี้ทำไรกินกันดีอ่ะ” มันเปลี่ยนเรื่องครับ เก่งจริงๆนะไอ้เรื่องเปลี่ยนประเด็นเนี่ย
   “ไม่รู้ มึงว่ากินไรอ่ะ เจ๊แกว่าไง” ผมถามถึงพี่ต้อยล่ะครับ
   “โทรถามตอนสอบเสร็จแล้ว พี่ต้อยบอกว่ากินหมูย่างเกาหลีไหมจะได้สั่งให้”
   “อืมก็ดีนะ” “ดีเหรอ เราอยากกินปลาช่อนเผาเหมือนวันนั้นอ่ะ” มันบอกครับ
   “อ้าว มึงอยากกินเหรอ รู้สึกว่าที่บ้านยังเหลือปลาช่อนอยู่นะ สัดเคนมันเอามาให้วันก่อน” ผมคิดขึ้นมาได้ล่ะครับ เอาไปเอามาไอ้นี่มันไม่กินเลยนะของสากลมันเล่นร้องขอแต่ของบ้านๆ เอากับมันสิครับ วันนั้นพาไปไล่ตั๊กแตนแล้วเอามาทอด มันชอบใจใหญ่ กูก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่ล่ะ
   “งั้นกลับไปเอาปลาช่อนก่อน มึงโทรบอกเจ๊แกสั่งหมูย่างมาได้เลย” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเลี้ยวรถไปทางบ้านผม
   “งั้นวันนี้พาโบ้มาด้วยได้ป่ะ” “เอามายังไงวะสัด มันตัวเบ้อเร่อ”
   “อ่า ก็อยากให้มันมากินด้วยนี่” “สัด นั่นหมานะ จะให้มันกินกับคนไง”
   “กินใกล้ๆดิ ไรอ่ะหวงแม้กระทั่งกะหมาตัวเองนะเน่า” ดูมันเถียงครับ เอาไปเอามาผมก็พามันไปเอาปลาช่อนที่บ้าน พอไปถึงลูกมันก็กระโจนเข้ามาหาล่ะครับ เออนะ รักกันมากกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันดีเหลือเกินนะมึง
   “งั้นมึงรอนี่ล่ะ” “อ้าวไปไหนอ่ะ” “ไปเอารถกระบะดิวะ มึงจะเอาไปยังไงไอ้โบ้”
   “เราอุ้มได้อ่ะ ไปเอารถแล้วพ่อกับแม่เอารถไรกลับอ่ะ” มันแนะนำครับ
   “ก็เอาคุณปู่นี่ไง” “ไม่ต้องหรอกเน่า เราอุ้มไอ้โบ้ได้ เนอะโบ้เนอะ” เออ ตามใจเว้ย แม่งทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง มันดิ้นมาอย่ามาทำรถกูล้มละกันนะ สรุปว่าผมตามใจมันครับ มันก็กอดไอ้โบ้แล้วให้ไอ้โบ้เอาขาหน้าเกาะบ่ากู สัด เอากับมันครับ กูนี่ได้แต่ส่ายหน้า
   “อ้าว พากันไปเอาปลาติ๊ เฮาเอาแมงจีนูนมานำ” สาวจอยครับมากับน้องมัน
   “จริงดิ คั่วมายังอ่ะจอย” ผมบอกแล้วครับว่าไอ้นี่มันชอบองแบบนี้ กระโจนลงจากรถแล้วปรี่เข้าไปหาสาวจอย
   “คั่วมาแล้ว เห็นเอื้อยเพิ่นบอกว่าสั่งหมูย่างมาเบาะอุ่น” สาวจอยถามครับ
   “แม่นแล้ว” มันตอบครับ
   “บู๊ย พอดีเลยกำลังคึดอยาก เออ โตว่าเมื่ออื่นหมู่สิมาตาทางได๋เกาะ” หมายถึงสาวฝ้ายกับสาวปูล่ะครับ เออ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวกันนะเว้ย โฮมสเตย์ที่เคยบอกไปแล้ว
   “ฮักนะสารคามกับสกลนคร” มันยังเล่นอยู่กับไอ้โบ้ครับ เอาแมงจีนูนให้ไอ้โบ้กิน มันไม่กิน
   “เพิ่นมาจั่งได๋ล่ะ” “รถประจำทางอ่ะ พอถึงเดี๋ยวจะให้เน่าไปรับ” “อิอิ ตาอิจฉาเนาะ” สาวจอยหัวเราะแล้วหันมาทางผมล่ะครับ อ้าวๆ เกี่ยวไรวะเนี่ย สายตาแบบนี้มันแซวกันทางอ้อมนี่หว่า พวกเราคุยกันอยู่สักพักเพื่อนๆที่เหลือก็มาล่ะครับ ของมาส่งพอดีผมจึงให้สัดเคนมันไปจัดการกับปลา สาวจอยก็อาสาตำส้มตำ ส่วนที่เหลือก็จัดเครื่องดื่มสิครับ คุณปลัดแกใจดีซื้อเบียร์ให้เป็นลังแน่ะ แกบอกว่านานๆกินทีไม่เป็นไรเพราะเดี่ยวแกก็คงกลับมากินด้วยกัน ส่วนไอ้โบ้มันตามไอ้เบบี๋ดีเป็นบ้าเลยนะ เดินเข้าบ้านก็เดิน เสียงพี่ต้อยแกกรี๊ดกร๊าดอยู่เพราะไม่ชอบหมา
   “อ้ายๆ ผมไปนำบ่ได้บ่มื้ออื่นน่ะ อยากไปเด้เนี่ย” ไอ้โจ้น้องสาวจอยล่ะครับ มันพูดขึ้นตอนที่เรากำลังกินอยู่
   “ฮ่วย ไปบ่ได้ดอกเด้อบักโจ้ ทริปนี้สำหรับคุณเพื่อนๆจ้า” สาวจอยทำหน้าทำตาใส่น้องล่ะครับ
   “โอ๊ย ตาซังหลายเนาะ” มันทำท่างอนครับ อย่าว่าแต่มันเลยไอ้เต้น้องที่ตอนนี้มันมาเข้ากลุ่มกับพวกผมมันก็อยากไปครับ แต่ไม่ให้ไปว่ะ เพราะมันมีแต่เพื่อนๆนี่หว่า
   “คราวหลังค่อยไปสิโจ้ เดี๋ยวชวนนะ” ไอ้เบบี๋มันยิ้มให้ล่ะครับ
“บู๊ย อ้ายหมูย่างให้หมาซั่นติ๊ คนกะอยากกินเด้” ไอ้โจ้มันแซวล่ะครับ ไอ้โบ้นี่เหมือนจะเดินไม่ได้แล้วนะเพราะไอ้เบบี๋มันเลี้ยงดูอย่างดี อย่างที่ไอ้โจ้บอกมันย่างหมูให้ไอ้โบ้กินหน้าตาเฉยส่วนมันกินปลาเผาเอากับมันสิครับท่าน กินกันไม่นานปลัดก็มาสาวจอยกับเจ๊แกเข้าไปตำส้มตำมาเพิ่ม ส่วนสัดเคนกับผมและไอ้น้องโจ้ไปช่วยกันเผามามาเพิ่มอีกล่ะครับ คุณปลัดคุยอยู่กับไอ้เล็กกับสัดไม้
   “อ้ายเดี๋ยว ฮู้บ่ว่าหมู่ผมมีแต่คนอิจฉากลุ่มหมู่อ้ายแหม่ะ มันล่ะมาถามผมคือหยังเด้ว่าพวกอ้ายพากันเฮ้ดหยังแน่ พอผมบอกไปว่านัดกันกินเข่า ไปเที่ยว พวกมันล่ะอิจฉาอยากเฮ็ดนำแนว” ไอ้โจ้มันพูดขึ้นล่ะครับ
   “อิจฉาหยัง แต่กี๊คือพากันเว้าพื้นทืดๆอยู่ซั่น” สัดเคนครับ
   “บ่ฮู้คือกันอ้ายเคน แต่หมู่ผมว่าท่าทางอ้ายบ่คือแนวว่า แต่กลุ่มอ้ายเป็นตาฮักกันแฮงคั่ก ผมกะบอกพวกมันว่าแม่น” ไอ้โจ้มันเล่าไปเรื่อยๆล่ะครับ ที่จริงมันมีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นอ่ะนะ แต่มันดราม่ามากไปหน่อยกูเลยขี้เกียจจะรำคาญ ตอนที่โดนเพื่อนๆล้อใหม่ๆมันก็ไม่ชินและไม่ชอบหรอกนะ แต่เอาไปเอามามันก็ชิน พอชินไอ้คำล้อเหล่านั้นมันก็ไม่มีผลอะไรเลยกับเรา คนเรานี่ก็แปลกเนอะที่จริงมองย้อนกลับไปมันไมได้มีอะไรมากเลยนะ คำนินทาคำด่าของคนแต่อารมณ์ช่วงนั้นมันอาจจะเยอะไปหน่อย ทำใจได้ก็ดี ทำใจไม่ได้ถ้ากูทำอะไรรุนแรงไปนี่มาคิดๆดูคงจะเสียดายเลยล่ะ
   “แล้วผู้ได๋ว่าหมู่แท้ๆฮักกันอีหลีมันหาง่ายล่ะบักโจ้ เด็กน้อยในโรงเรียนเฮาดีแต่เว้าพื้นกัน ถามว่ามีไผฮักกันอีหลีบ่กะคือสิยากอยู่เด้ล่ะ”
   “แม่นๆ มื้อก่อนกลุ่มพวกอ้ายแบงค์เพิ่นกะพากันไปกินหมูกระทะอยู่ฮ้านเจ๊เบียบ ผมว่าเป็นทรงคือสิเฮ็ดนำแนวนี่ล่ะ แต่เขาว่าอ้ายแบงค์กับอ้ายพงษ์สิเตะปากกัน” จะให้บอกไหมว่าแบงค์ไหน
   “ซ่ามแม่มันเถาะ ฟ้าวๆเผาปลัดเพิ่นถ่า” ผมขัดจังหวะล่ะครับ
   “แต่ผมว่าเด้ เป็นตาเสียดายตาทีมฟุตบอลจารย์เดชล่ะ บ่มีพวกอ้าย ไปแข่งไสกะแพ้เขาเหมิดเอาโลด เป็นตาอยากอาย ก่อนสอบไปแข่งกับมุกทีมมุกฮอดบ่เก่งกะแพ้เขา” อืมนะ ช่างมันเถอะครับ ผมเลยเอาปลาที่เผาเสร็จก่อนเดินไปให้ปลัด
   “กินเยอะๆนะลูก บอกที่บ้านไว้ด้วยนะ ถ้ากลับไม่ไหวก็ค้างที่นี่ล่ะ เดี๋ยวพ่อจะให้ต้อยจัดที่นอนให้” คุณปลัดพูดขึ้นล่ะครับ เพราะแกบอกให้ไอ้เล็กกับสัดไม้ไปเอาเบียร์มาเพิ่มอีกลัง ฮ่าๆ ได้ใจกูจริงๆ
   “พ่อกินแมงจีนูนคั่วดิ อร่อยนะ” ไอ้เบบี๋มันนั่งติดผมกับสัดไม้ล่ะครับมีสาวจอยคั่นแล้วค่อยเป็นปลัด อ้อ มีลูกผมกับมันอีกตัวนอนอยู่ตรงตีนมันเลยนะ
   “ไม่เอาหรอกอุ่น พ่อลองวันนั้นแล้วผื่นขึ้น แต่เราทำไมไม่เป็นอะไรทั้งที่น่าจะเป็นกว่าพ่อนะ” คือแมลงตามธรรมชาติมันกินใบไม้ป่านะครับ บางคนก็แพ้บางคนก็ไม่
   “อุ่นแข็งแรงจะตายพ่อล่ะภูมิไม่ดี” มันพูดขึ้นครับ ผมมองหน้ามันแล้วหันไปมองปลัด ปลัดก็พยักหน้าแล้วหัวเราะออกมา
   “แล้วพรุ่งนี้ไปกันยังไงล่ะลูก” คุณปลัดถามครับ
   “เอารถกระบะไปครับ น่าจะหมดเบียดๆกันไป” ผมบอกครับขอพ่อกับแม่ไว้แล้วล่ะ
   “อืม ขับรถระวังๆหน่อยล่ะลูก ช่วงนี้ฝนยิ่งตกถี่ๆ แล้วก็น้ำน่ะอย่าไปลงเล่นนะ มันอันตราย”
   “คร้าบ” เราตอบพร้อมกันก็ว่าได้ครับ ปลัดหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ แกขอตัวไปอาบน้ำก่อนครับ ส่วนเราก็ช่วยกันเก็บของแล้วมาจัดวงกินเบียร์กัน
   “ให้เว้าเรื่องสอบแน่เถาะสู ซาดยากเนาะ แม่นแท้ของแม่ใหญ่วัณฯ ป้าดเพิ่นคือเฮ้ดโพดเฮ็ดเหลือแท้” สาวจอยเปิดประเด็นครับ
   “ฮ่วย ยากหม่องได๋ บ่เห็นยากจักเม็ด กาเอาๆ” สัดไม้ครับ
   “บักห่านี่ กาเอาๆนั่นน่ะ อ่านบ่ล่ะ” สัดเคนสอดครับ สัดไม้ส่ายหน้า เพื่อนๆก็หัวเราะทันที
   “เหมือนเราเลยอ่ะไม้” อ้าวๆ ไอ้นี่ก็เผยออกมาครับ
   “หือ ว่าไงนะมึง” ผมหันไปทำตาดุใส่มันครับ
   “ก็อ่านไม่ทันอ่ะ อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง แหะๆ” “นั่น ไหนบอกว่าอ่านดีแล้วไงวะ”
   “เป้ง หมดยกค่า อย่าฟ้าวโสกันหลาย ขึ้นห้องไปจั่งไปโสกันเด้อค่ะคุณเพื่อนทั้งสอง ตาหลูโตนหมู่แน่” สาวจอยครับ ผมเลยหันไปยิ้มแห้งๆ พวกเราก็คุยกันสัพเพเหระไปตามเรื่องล่ะ ผมว่ากลุ่มเพื่อนของผมนี่มันก็ดีไปอย่างนะ คือสมมติว่าสาวจอยเปิดเรื่องจะนินทาเพื่อนขึ้นมา ไอ้เล็กตาม สัดเคนแย้ง สัดไม้เปลี่ยนเรื่อง คือผมสามคนคือ ผม สัดไม้ สัดเคนไม่ชอบนินทาใครนะครับ ไร้สาระ มันก็ดีไปอย่างนะเราก็เลยคุยแต่เรื่องที่เราจะไปพรุ่งนี้ ไอ้โจ้มันเมาครับหลับไปแล้ว ไอ้เล็กคือคนต่อไป
   “จอยอาบน้ำก่อนไหม” ไอ้เบบี๋มันหันไปหาสาวจอยครับ ตามันเริ่มปรือคือพ่อมันไม่ให้กินเบียร์เยอะนะครับจิบเอาได้ และตัวมันเองก็ไม่ค่อยกินตอนนี้หน้ามันแดงก่ำยิ่งกว่าพวกกินเบียร์เสียอีก
   “อืม โตกะสิอาบติ๊” “อื้ม จอยไปอาบห้องของพี่ต้อยก็ได้นะ เห็นพี่ต้อยบอกเตรียมชุดให้แล้ว พี่ต้อยๆจอยจะอาบน้ำอ่ะ” มันร้องไปหาเจ๊แกที่ทั้งกินทั้งดูละครล่ะครับ
   “เสื้อผ้าอยู่ให้ห้องเอื้อยค่าจอย เข้าไปโลด อย่าไปลักหอมแก้มผู้บ่าวเอื้อยเด้อ” เจ๊แกร้องตอบมาครับ
   “อีหยังเอื้อย เซี่ยงผู้บ่าวไว้ในห้องติ๊” สาวจอยร้องตอบไปครับ
   “ผู้บ่าว ณ เดชกับผู้บ่าวหมาก อย่าแท้ๆเด้ อย่าสิไปลักหอม” เสียงพวกเราหัวเราะดังขึ้นทันทีครับ พอสาวจอยไปอาบน้ำสักพักไอ้เบบี๋มันก็ไปอาบด้วย
   “สิอาบน้ำบ่สู” ผมหันไปถามเพื่อนๆครับ พวกมันส่ายหน้าพร้อมกัน ผมก็ว่าจะซักแห้งเหมือนกันนะเนี่ย คือเจ๊แกปูเสื่อให้เรียบร้อยแล้วนะครับ มีไอ้โจ้กับไอ้เล็กมันนอนอยู่ พัดลมสองเครื่อง ยากันยุงอีกรอบด้านจะเมาตายไหมวะเนี่ย
   “เน่าๆ เราง่วงอ่ะ ไปนอนก่อนนะ” พอมันกับสาวจอยอาบน้ำเสร็จมันก็มานั่งคุยอยู่สักพักล่ะครับ ผมเลยพยักหน้าให้มัน ผมเมานะรู้สึกตึงๆ ส่วนสัดไม้กับสัดเคนไม่ต้องบอกครับของฟรีพวกมันเต็มที่อยู่แล้ว สาวจอยนี่คอทองแดงมากๆเลยนะ เมาแต่หน้านิ่งๆ พอผมเริ่มไม่ไหวผมก็เลยลุกล่ะครับ
   “ไปนอนแล้วติ๊” สัดเคนถามขึ้นครับ
   “เออ กูมึนแล้ว มื้ออื่นสิขับรถบ่ไหว”
   “แม่นบ่น้อ แม่นเพิ่นสิไปเฮ็ดหยังกันน้อ ฮ่าๆ” อ้าวนะ หัวเราะขึ้นพร้อมกันสามคน
   “ฮ่วย มันกะมีแน่ล่ะวะ อย่ามาจอบฟังเสียงเด้ล่ะสู” ผมตอบกลับครับแล้วหัวเราะเดินขึ้นไปบนห้องไอ้เบบี๋ คือที่นี่มันเหมือนบ้านผมไปแล้วอ่ะนะ ผมเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนล่ะครับ แต่ไม่อาบน้ำไม่ไหวว่ะ ตอนแปรงฟันก็เกือบเอาของที่เพิ่งกินออกมาเสียดายนะเว้ย ผมรีบเปิดประตูเข้าห้องไปทันทีครับ มันเปิดไฟหัวเตียงไว้ล่ะ เพราะมันรู้ว่าผมจะต้องมานอนกับมัน
   “นอนแล้วเหรอครับ เบบี๋” พอกูเมานี่ก็นะมีบ้างล่ะวะ ผมปีนขึ้นเตียงไปกอดมันทันทีครับ
   “อือ ไม่อาบน้ำเหรอเน่า” มันงัวเงียตื่นขึ้นครับ
   “ไม่อาบ รังเกียจเหรอ” “ไม่เหนียวตัวเหรอ” มันหันข้างให้ผมครับผมก็กอดทันที
   “เหนียวแต่อยากกอด” จะบอกความจริงให้นะว่าตอนนี้กูมีอารมณ์เว้ย ฮ่าๆ ดันสิครับรอไรล่ะ
   “นอนดิ นอนๆ” ไม่อยากนอนอ่ะ” ผมซุกปากลงคอมันทันทีครับ
   “อ่า ไม่นอนแล้วจะทำไร” มันย่นคอพยายามจะดิ้นหนีล่ะครับ
   “เอากันไง ได้ป่ะเบบี๋” ผมลงลิ้นแล้วครับ กูหื่นก็ตอนเมานี่ล่ะ ปกติก็หื่นนะแต่พอเมาแล้วยิ่งกว่าเถอะ ฮ่าๆ อ้าว ไม่ตอบครับ ไม่ตอบแสดงว่าโอเค กูไม่สนล่ะนะ
   “อ่า ไม่เอา” “หือ เอาเหรอ” คือการนัวเนียกันนี่นะ มันไม่น่ามีอารมณ์ตรงไหนเลยนะกูว่า นมก็ไม่มี แถมมีหน่อเหมือนกูอีกแต่ของกูใหญ่กว่าอันนี้รู้กันอ่ะนะ นั่นสินะมันมีเหมือนกูทุกอย่างเลยนะแต่ทำไมกูยังแข็งสู้อยู่ได้วะ มือผมก็ป่ายไปทั่วล่ะครับแต่ผมไม่จับไอ้นั่นมันนะ ไม่รู้ดิไม่เคยคิดนะเว้ย ไม่ใช่เห็นแก่ตัวนะแต่ เฮ้ย นั่นล่ะกูไม่รู้ว่ะ หยึ๋ยย
   “อ่า นะ เน่า” มันครางออกมาครับ ปากเริ่มเผยอ พอปากมันอ้ากูก็ทาบประกบปากกูทันที เออ มันรู้สึกดีก็ตอนที่แลกลิ้นกับมันนี่ล่ะ กลิ่นปากมันหอมดีนะกูว่า หวานๆริมฝีปากนุ่มๆกูก็บดเอาสิ จนบางทีก็กลัวว่ามันจะเจ็บเหมือนกันนะ แต่มันห้ามไม่ได้ว่ะ กูเริ่มหื่นจัดขึ้นทับตัวมันแหวกขามันออกทันที มันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนะ แต่คงไม่ใช่หรอกเพราะกูทับมันอยู่ด้วยล่ะ กูเอาเป้าถูตรงก้นมันเบียดแบบว่าแทบระเบิด ไม่ไหวแล้วโว้ย กูเอื้อมมือมารูดซิปกางเกงกูออกแล้วรูดลงพร้อมกางเกงในทันที
   “อ่า มะ ไม่เอาเน่า” มันดิ้นครับ
   “หือ ทำไมครับเบบี๋ ไม่ไหวแล้วนะ” ผมครางครับตามปากมันไปแล้วงับใหม่ ผมรูดกางเกงมันลงเหมือนกัน ตอนนี้ผมยกขามันให้อ้าออกแล้วเอาตัวผมเข้าแทรก คิดภาพออกไหมเนี่ย อิอิ ผมรีบควานหาครีมทามือที่มันวางไว้หัวเตียงล่ะครับ
   “อ่า เน่าไม่เอา” มันครางครับ ที่บอกว่าไม่เอาแต่ไม่หนีนี่แปลว่าเอาสินะท่าน ฮ่าๆ จัดไปวะเบบี๋ กูก็เทครีมใส่นิ้วแล้วเอาไปทาที่ก้นมันล่ะ เออว่ะ ก้นมันไม่มีขนเว้ยเฮ้ย ไม่ได้ลามกนะครับ ปกติก้นเราไอ้ตรงรูน่ะมันจะมีขนใช่ไหม ของกูนี่ไม่ต้องบอกป่ารกชัดๆ ฮ่าๆ แต่ไอ้เบบี๋นี่มันไม่มีสักเส้น แค่นิ้วกูปราดไปสัมผัสนะมันก็กระตุกตัวกอดคอผมแน่นล่ะ
   “เอาล่ะนะเบบี๋” กูบอกครับก่อนจะจ่อลูกชายเข้าทีก้นมัน เขาทำกันอย่างนี้ไหมเนี่ย แต่ว่ามันจะเข้าได้เหรอวะรูแทบจะไม่เปิด ผมก็ไม่ละความพยายามครับ ถูอยู่นั่นล่ะ
   “ไมมันเข้ายากจังวะ” ผมเริ่มเหนื่อยครับ เหงื่อแตกล่ะ ยกขามันจนปวดแขนไปหมดแล้วเนี่ย ดันก็แล้วแทงเลยก็แล้ว เอ๊ะ หรือว่ารูมันตัน บ้าน่า
   “ก็เค้าไม่เคยนี่” มันอายครับ
   “เขาทำกันไงวะ มึงมาทำดิ๊” ผมบอกมันครับ
   “อ่า บ้าเหรอ งั้นก็ไม่ต้องทำ” “อ้าวสัด ได้ไงวะ ทำไมมึงขมิบก้นล่ะ” เออนั่นสิ เพราะมันขมิบก้นแน่ๆ
   “ก็ไม่เคยอ่ะ ไม่เอาแล้วอ่ะเน่า พูดไรไม่รู้ อายเป็นนะ” มันทำท่าจะดิ้นออกครับ ผมไม่ยอมเลยกดมันไว้แทงเข้าไปตอนมันเผลอ
   “อ่า เจ็บ” มันร้องครับ นี่มันไม่ได้เข้าไปเลยนะแค่โผล่เข้าไปนิดเดียว เศษหนึ่งส่วนร้อยได้ครับมันดิ้นหนีหัวชนหัวเตียง แต่หน้ามันเหมือนคนเจ็บจริงๆนะครับ น้ำตาไหลแล้ว จะว่าไปลูกชายกูนี่มันก็ไม่ได้น้อยนะ เออ หรือว่ามันจะเจ็บจริงวะ คิดไปคิดมาก็จะดันเข้าไปอีก ไม่ได้สงสารนะเพราะหื่น ฮ่าๆ
   “อ้าวสัด” ตายล่ะครับลูกชายเหี่ยว หรือว่าเพราะมันเจ็บแล้วมีน้ำตา ไม่เกี่ยวหรอก ความรู้สึกก็ยังอยากมีอะไรกับมันอยู่นะ แต่ทำไมมันเหี่ยววะ
   “เอาดิ” นั่นไง ดูเอานะครับ แหมๆ พอกูเหี่ยวนี่ท้าทายกูเชียวนะมึง
   “แป๊บ มันคงตื่นเต้น” ผมพลิกตัวลงนอนข้างๆมันล่ะครับ
   “อีกนานไหมอ่ะ เราคิดว่าเราพร้อมแล้วนะเน่า” “สัด ยั่วนะมึง เดี๋ยวแทงให้ทะลุไส้เลยนะคราวนี้”
   “อืม เอาแรงๆนะ อิอิ แต่นานไปเรานอนนะ” จิ๊ กวนตีนกูได้อีกนะมึง มันยิ้มครับ แหมๆ ยิ้มทั้งที่น้ำตายังไม่แห้งเลยนะมึง หนอยแน่ท้าทายๆ
   “ดูดให้หน่อยดิวะเบบี๋” คือมันปลุกไม่ลุกเลยนะครับ เฮ้ย ไม่เคยเป็นแบบนี้นี่หว่า ทำไมวะลูกพ่อ ทำไมทำพ่อแบบนี้
   “ไม่เอาอ่ะ น้ำก็ไม่อาบ” มันเบะปากครับ
   “งั้นเดี๋ยวกูไปล้าง” ว่าแล้วก็ลุกทันทีครับ เสียงมันหัวเราะไล่หลังมา หนอยแน่มึง ผมก็เข้าห้องน้ำไปล้างล่ะครับ พอกลับขึ้นมามันดันปิดไฟหัวเตียง อ้าวไอ้นี่ เออ ตอนนี้มันกลับมาโด่อีกแล้วนะครับ กูเริ่มไม่เข้าใจมึงแล้วนะไอ้ลูกชาย
   “อ่า จะนอนอ่ะเน่า” ผมไปจับมันยกขาล่ะครับ มันเช็ดครีมออกแล้ว
   “งั้นมาดูดให้เลยล้างแล้ว” มันยังนอนเฉยครับเอาผ้าห่มคลุมหน้าอีกนะ หนอยแน่ งั้นกูจับยัดปากเลยละกันนะ
   “อ่า ไอ้บ้าเน่า ทำไรอ่ะ แหวะ” คือผมก็เอาเจ้าลูกชายไปจ่อปากมันล่ะนะครับ มันก็เบี่ยงหน้าหลบ
   “ไม่ดูดไม่ให้นอนนะเว้ย” ผมขู่มันครับ ไม่รู้ว่าหื่นไปทำรุนแรงไปไหมนะ แต่ตอนนี้กูหน้ามืดล่ะ
   “อ่า เค้าจะนอนอ่ะ ให้เอาก็ไม่เอาไรอ่ะ” อ้าวนะ
   “เออๆ งั้นเอาใหม่” เปลี่ยนท่าครับ โอ้ย จะได้กันไหมวะเนี่ย ผมก็ถลกผ้าห่มออกจากตัวมันล่ะครับแล้วจับมันยกขาดึงกางเกงลงอีก เอาครีมทามือทาอีก แต่ สัด กูเป็นอะไรวะเนี่ย หื่นจนแทบคลั่งแต่พอมาจ่อก้นมันกลับหด สัดเอ้ย ทำไมวะ
   “ไรอ่ะ ไม่เอาซะที ง่วงนะ” แหน่ะมียั่วอีก
   “ไม่รู้ว่ะ ทำไมมันหดวะ อยากจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
   “งั้นก็นอนเถอะเน่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ”
   “ไม่เอ่าอ่ะ งั้นดูดให้หน่อยดิ” “ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากดูด” “จิ๊ มึงไม่ดูดกูไปให้อีสุชาติดูดให้นะ” ผมขู่มันครับ มันทำหน้าเหวอๆ ว่าไปแล้วมันก็น่าสงสารเหมือนกันนะ แต่ไม่รู้เว้ยตอนนี้ไม่มีเวลามาสงสาร
   “เอามาดิ แต่เราทำไม่เก่งนะ” “เออน่า แค่มึงดูดให้ก็ดีล่ะ” ผมเลยลงไปนอนครับให้มันลุกขึ้นมา มันก็จับไปจับมา
   “ดูดซะทีดิสัด เสียว” ก็ไม่เห็นมันจะทำอะไรให้เลยนะครับ
   “แป๊บดิ ทำใจก่อน” มันบอกครับ เออวะ บังคับมากไม่ดีเหมือนกูจะขืนใจมันยังไงไม่รู้
   “อ่า สัดเสียว” มันเอาลิ้นแตะๆล่ะครับ แค่นี้ก็รู้สึกเสียวแล้ว แต่ทำไมตอนนี้มันแข็งจังวะไอ้ลูกชาย ไม่ได้ล่ะต้องมีอะไรผิดปกติแล้วกู พอจะแหย่ดันหด พอถอยห่างออกมาแข็งไม่ยอมลง
   “อืม อือ” มันครางครับยังเอาลิ้นแตะๆอยู่กูก็เริ่มตาปรือล่ะพอมานอนเต็มหลังมันก็รู้สึกง่วงๆยังไงไม่รู้ จะรอดไหมเนี่ยกู
   “ก๊อกๆ” หือ เสียงใครเคาะประตูวะ “เน่าๆ ตื่นได้แล้ว ต้องไปรับเพื่อนนะ ปูมาถึงแล้วอ่ะ” ไอ้เบบี๋มันเขย่าตัวผมครับ อะไรของมันมาถึงอะไรเอาป่านนี้
   “พรุ่งนี้ไม่ใช่ไง ดูดเลยๆ กำลังเสียว”
   “ดูดไรอ่ะ นี่มันเก้าโมงแล้วนะ” หือ อะไรนะ “เฮ้ย สัด” ผมกระเด้งตัวลุกขึ้นมาทันทีครับ ไอ้เบบี๋มันอาบน้ำเสร็จแล้ว แว้กก นี่กูหลับไปเหรอ โว้ย อดเลยกู แม่งเอ้ยรู้งี้ไม่แดกเยอะก็ดีหรอกเบียร์น่ะ ไอ้เดี๋ยวเอ้ย ไร้น้ำยาก็ตอนนี้ล่ะมึง
   “เร็วๆเลย ไปอาบน้ำด้วย เหม็นแล้ว” มันบอกครับแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้อง
   “เดี๋ยวดิ มาทำให้ก่อน” “บ้าเหรอ มันเช้าแล้วอ่ะ ปูรอนะเน่า”
   “ไม่รู้อ่ะ ไม่ทำให้ไม่ไป” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ตามใจดิ เพื่อนๆทุกคนก็กำลังมารวมตัวที่นี่ ไม่ไปจริงเหรอ” สัด มันยักคิ้วตอบครับ หนอยแน่มึง ผมเลยดึงตัวมันมากอดล่ะครับ ปล้ำซะหน่อย
   “อย่าพูดได้ไหมอ่ะเน่า” มันหลบหน้าครับ ตอนนี้ผมทับตัวมันอยู่
   “ทำไมวะ” “ยังไมได้แปรงฟันนิ แหวะ” อ้าว เออ ลืม ฮ่าๆ ผมหอมแก้มมันทีหนึ่งแล้วก็เดินออกไปจากห้องน้ำล่ะครับ อาบน้ำเสร็จก็ไปรับสาวปูที่ท่ารถ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ขอบคุณที่รอนะคร้าบ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนิ อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: changasa@hotmail.com ที่ 20-06-2012 23:37:16
เข้าเล้าได้แล้ว ว่าแล้วก็จิ้มซะคนแรก เดี๋ยวมาเม้นอีกที :z13:

.............................................................................

สรุปว่าฝันไปซินะ ไม่น้า อุตส่าห์เตรียมทิชชู่ อิอิ :z3:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: HappyMelon ที่ 20-06-2012 23:46:34
ฮ่าๆๆ จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่ได้น้องเบบี๋อยู่ดีนะเน่า เอิ๊กก
จะสงสารหรือจะสมน้ำหน้าดีเนี่ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 20-06-2012 23:51:14
อ๊ากกกกกกก....ลุ้นใจหายใจคว่ำ (ว่าทำไมมันสู้หว่า)สรุปฝันซะงั้น เมื่อไหร่จะได้(ลองของจริง)ซะทีหนออออ  :haun4:  :haun4:  :haun4: หื่นมากกรู คนเขียนตอนหน้าเอาอีก  กรี๊ดดดดดชอบ 5555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 20-06-2012 23:57:44
 :m20:ฝันดี อ่ะ เดี๋ยว กะ อุ่น +1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 21-06-2012 00:01:28
สรุปคือ ทั้งเรื่อที่เล้าโลม
หื่น เทครีม จะสอดใส่

คือบักเดี๋ยว มัน

ฝันหมดเลยหรอ?

ใช่ป่ะ?ๆๆ พี่อิ๊ก :m21:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-06-2012 00:14:12
อะโถพ่อคุณ ในฝันยังไม่สำเร็จ บอกแล้วให้ไปศึกษาวิธีทำก่อนปฏิบัติจริง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-06-2012 00:27:55
ฝันไปนี่เอง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-06-2012 03:08:38
ขนมจีนเปล่าๆมากอ่ะเดี๋ยว  กร๊ากกกกกกกกก  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 21-06-2012 06:24:23
555 ใกล้แล้วแต่ยังไม่ได้สักที
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 21-06-2012 11:05:39
โธ่แค่ความฝัน เมื่อไรจะของจริงซะที :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-06-2012 11:34:38
บักเดี๋ยวแค่ฝัน
ก็ไม่ถึงฝั่ง :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 21-06-2012 13:02:24
เกือบไปแล้วหมละ ทำไมเดี๋ยวถึงหดอะ น่ากัววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 21-06-2012 16:48:00
 :m20: สรุปว่าฝันซะงั้น

 :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 21-06-2012 17:58:07
อ๋อย ที่แท้ก็ฝันไปนี่เอง เกือบไปแล้ว 555555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-06-2012 19:16:24
ว้าว จะไปเที่ยแย้ว...สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ บักเดี๋ยวเอ๊ย 5555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 21-06-2012 19:41:29
  :laugh:  จบ....

 :กอด1: น้องอิ๊ก   :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-06-2012 19:47:18
บักเดี๋ยวไม่ได้ฝันคร้าบ แต่เมามาก หนูอุ่นก็ง่วงจัด
ตอนนั้นหนูอุ่นหลับคาเป้าบักเดี๋ยวล่ะ อิอิ ส่วนบักเดี๋ยวพอเอนหลังก็เคลิ้มนิ

อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 21-06-2012 20:25:34
อุ่นยังคงรอดต่อไป :impress2:

 :กอด1:

หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 21-06-2012 20:29:41
 :haun4: :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 21-06-2012 21:21:36
ว้าย!!! เดี๋ยวฝันไป  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 21-06-2012 21:30:15
โอ้ยเขินนนน น่ารักอ่ะ><'
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 17 Version (เดี๋ยว) 20 June 12 หน้า 21
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 23-06-2012 02:50:03
บักเดี๋ยวไม่ได้ฝันคร้าบ แต่เมามาก หนูอุ่นก็ง่วงจัด
ตอนนั้นหนูอุ่นหลับคาเป้าบักเดี๋ยวล่ะ อิอิ ส่วนบักเดี๋ยวพอเอนหลังก็เคลิ้มนิ

อิอิ
อ่ะนะ นึกสภาพแล้วน่าจับเบิ๊ดกะโหลกทั้งสองคน มันน่านัก ม่ายล่ายยยหลางจาย จริงๆ5555+ รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ คิดถึงๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-06-2012 15:07:50
Don’t call Me BaBy!!

เกือบไปแล้วไหมล่ะ ไอ้เน่านะไอ้เน่า แหมนะมายั่วผมจนตะบะแตกเลยอ่ะ อายที่สุดนะตอนตื่นก็ไม่กล้ามองหน้ามันนะ ผมกลัวจังเลย กลัวเวลาที่อยู่กับมันสองคน ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของผมกับมันปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่ามันมากและแน่นกว่าเดิมเยอะมาก มันพูดไม่เพราะหรอกนะกับผม อันนี้ผมเฉยๆเพราะมันเคยพูดยังไงมันก็พูดอยู่อย่างนั้น มันห่ามๆอันนี้ก็เรื่องของมันเพราะเวลามันอยู่กับผม ผมกลับรู้สึกดีนะว่ามันจริงใจไม่มีอะไรปิดบัง อยากได้ก็บอกตรงๆ ไม่ทำก็ไม่ทำ อีกอย่างหลายเหตุการณ์แสดงให้รู้ว่ามันห่วงใยผมมาก มากเหลือเกิน นี่ผมมีแฟนแล้วจริงๆเหรอเนี่ย แว้กก
   “อ้าวจอย เล็กมาเร็วจัง” พอผมไล่ให้ไอ้เน่าไปรับปูสักพักเสียงรถเครื่องก็มาจอดหน้าบ้านล่ะครับ ผมรีบลงไปดูก็เห็นจอยกับเล็กมาถึงแล้วครับแบกเป้สัมภาระมาแล้วเรียบร้อยผมเองก็เก็บของไว้แล้วล่ะครับ ไม่อยากบอกเลยว่าเสื้อผ้าของไอ้เน่ามันก็อยู่ในกระเป๋าของผมล่ะครับ ของใช้ด้วยเพราะมันไม่ยอมกลับบ้านผมเลยต้องเอาเผื่อมันล่ะครับ ส่วนเสื้อผ้าเนื่องจากมันมานอนบ้านผมบ่อยมากเสื้อผ้ามันก็มีอยู่บ้างล่ะครับ เอาเสื้อผมไปเผื่อมันด้วย ไม่ใช่แบบนั้นนะอย่าคิดลึก
   “ฟ้าวมาตั้ว สิสิบโมงพอแฮงล่ะ ไอ้เดี๋ยวไปฮับหมู่ติ๊อุ่น” จอยมันหิ้วกระเป๋าเดินเข้าบ้านล่ะครับ เล็กมันทำท่าเหมือนอยากเข้าห้องน้ำเลยนะ
   “ทำหน้าเหมือนปวดขี้เลยเล็ก” ผมแซวครับ
   “แม่นคั่ก ปวดแฮงหลาย” มันวิ่งไปหลังบ้านเลยครับ ผมกับจอยก็หัวเราะ เราคุยกันอยู่สักพักไอ้เน่ามันก็มา
   “ปู” ผมวิ่งออกไปรับเพื่อนล่ะครับ ปูมันสวมกางเกงยีนส์ใส่เสื้อยืดมีเสื้อยีนส์แขนยาวทับอีก นี่มันหน้าหนาวเหรอเนี่ย ปูเองมันก็ดีใจนะที่เจอผมทิ้งกระเป๋าลงหน้าบ้านเลย
   “โอ๊ย ซาดคึดฮอด หน้าใสขึ้นแม่นบ่อุ่น” ปูมันยิ้มๆล่ะครับ ผมรีบเอามือจับหน้าตัวเอง
   “เหรอ เหมือนเดิมล่ะ” “บ่แม่นดอกเฮาว่าน่ะ ทรงคือคนกำลังมีควมฮักนี่ล่ะ มันมีออร่า” นะ เข้าใจพูด ผมก็แนะนำให้ปูรู้จักกับจอยล่ะครับ ไอ้เน่ามันบอกมันจะไปเอารถกระบะที่บ้าน
   “เป็นจั่งได๋ สอบได้อยู่บ่พวกโต ข้อสอบยากบ่” ปูมันถามจอยล่ะครับ
   “เซาๆ อย่าสิมาถามเรื่องเฮียนยามนี้เด้อค่า ดิฉันหน่าย” จอยมันออกลีลาท่าทางด้วยนะ
   “ฮ่าๆ บู๊ย ถามไปซั่นล่ะ เบิ่งทรงเป็นตาหน่ายอีหลีเนาะ”
   “หน่ายคั่กๆ จบไปสิไปสอบเข้าไสบู้เพิ่นจั่งสิเอา”
   “เฮาว่าสิเรียนรามต่อเด้ล่ะ ตาหลูโตนพ่อกับแม่ ว่าสิเฮ็ดงานไปนำ” ปูมันพูดล่ะครับ
   “อ้าว คั่นเฮียนรามอยู่นี่กะมีรามเด้ล่ะ” “เฮาเรียนนอนดีกรีอยู่เด้ล่ะ ได้หลายโตแล้ว” จอยมันหันมามองหน้าผมทันทีครับ ผมเองก็ตาวาว เออนั่นสินะ ผมรู้ตัวว่าผมน่ะมันไม่เก่ง รามนี่ก็เป็นทางออกที่ดีเหมือนกันนะ สักพักเล็กมันก็ออกมาจากห้องน้ำล่ะครับ มันยืนนิ่งแป๊บหนึ่งตอนเจอปู นั่นๆ อย่าบอกนะว่าปิ๊งกัน
   “คนสารคามผู้งามเนาะ” เอ่อ ไอ้เล็กครับ อยู่ๆก็พูดขึ้นปูมันอายทันที จอยมันมองหน้าผม
   “ไปหาแนวมาให้หมู่กินป่ะอุ่น เฮาสองคนน่ะ” จอยมันสะกิดผมครับ ผมก็ยิ้มแล้วเดินตามจอยเข้าไปในครัว
   “บู๊ย ผู้สาว ไสล่ะอีกผู้หนึ่งน่ะ คือมาผู้เดียวครับ” เสียงนายเคนครับ เรื่องแซวสาวนี่ไม่ต้องห่วง
   “บ่ทันมาจ้า อยู่คนละหม่อง เดี๋ยวเพิ่นกะสิมาแล้วล่ะ” ปูมันบอก ทำไมต้องจ้าด้วยวะ
   “ข่อยซื่อเคนเด้อ นี่บักไม้ คือตัดผมหน้าม้า หน้าผากมีสิวติ๊ผู้สาว ฮ่าๆ” อ้าวๆ ผมรีบเดินออกไปทันทีครับ ปูมันอาจจะไม่ชินกับการล้อแบบนี้ก็ได้นะ
   “ฮ่วยบักห่าเคน เขากำลังฮิตมึงน่ะบ่ฮู้เรื่อง” เอ่อไอ้เล็กมันออกตัวแทนครับ ผมเลยไม่เดินออกไป พอดีกับฝ้ายมันโทรเข้ามา
   “ถึงแล้วเหรอฝ้าย รออยู่ตรงนั้นล่ะเดี๋ยวเราให้เน่าไปรับ” ผมบอกฝ้ายไปล่ะครับ
   “ผู้ได๋เน่า หมู่โตติ๊อุ่น” “เอ่อ อ้อ ไอ้เดี๋ยวนั่นล่ะ รอตรงนั้นล่ะนะฝ้ายแป๊บเดียว” เออลืมเรียกมันจนติดปาก ผมเคยเล่าให้ปูฟังคนเดียวนี่นะว่าผมเรียกมันว่าไอ้เน่าเพราะฝ้ายผมจะไม่หลุด
   “ว้ายค่า เฮาตกข่าวแม่นบ่เนี่ย เว้ามาเลยเด้อบัดยามเฮาไปฮอดน่ะ ปิดเฮาดีเนาะอุ่น ตาซังหลาย”
   “บ้าเหรอฝ้าย เราลืมอ่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผมบอกฝ้ายไปล่ะครับ เขินนะเนี่ย
   “เน่าๆ ฝ้ายมาถึงแล้วอ่ะ” ผมโทรไปหามันล่ะครับ
   “อ้าว มาถึงแล้วเหรอ นี่กูต้องเอาของไปร้านก่อนว่ะ บอกสัดเคนไปรับให้หน่อยดิ กลัวฝ้ายจะรอนาน” มันบอกครับ
   “อ้าวเหรอ เคๆ เร็วนะ อย่าอู้”
   “เร็วเชี่ยไรยกของนะมึง หรือจะมาช่วยกู”
   “ก็ไม่พาไปเองอ่ะ รีบมานะ” “ไมคิดถึงกูไง” อ่านะ ผมเงียบครับเพราะเขิน
   “เงียบนะ เออแค่นี้ล่ะ กูจะไปแล้ว คุยกับไอ้โบ้ป่ะ”
   “ไหนอ่ะ โบ้ๆ” ผมไมได้บ้าจี้นะครับก็ไอ้โบ้มันเห่านี่ ผมเรียกชื่อมัน มันก็เห่าแต่ไม่ได้หมายความว่าผมพูดภาษามันรู้เรื่องหรอกนะเว้ย อย่าๆ อย่าคิดมาเหน็บกันนะ
   “แค่นี้ล่ะ” มันจะวางสายครับ
   “เน่าๆ” “ไรอีก กูรีบนะมึงเบบี๋” “ขับรถดีๆนะ” “คร้าบ เมียรัก” “จิ๊ ไอ้บ้าเน่า แค่นี้นะ”
   “ยิ้มดีเนาะสู เป็นตาอิจฉาเด้ค่า” จอยครับ แว้กก ลืมไปเลยว่าอยู่ในครัว ผมอายมากๆเลยอ่ะไม่เคยคุยแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนด้วยนะ
   “เฮาว่าโตกับไอ้เดี๋ยวน่ะ ฮักกันแฮงอีหลีล่ะอุ่น เฮาดีใจนำเด้อ จากใจเฮาเลย” จอยมันเดินมาจับมือผมล่ะครับ ผมก็ยังเขินอยู่แต่ก็พยักหน้า
   “ไม่รู้หรอกนะอนาคต”
   “สิไปคิดเฮ็ดหยังเนาะ มื้อนี้มีความสุขออกปานนี้ อนาคตคือคันแทนางอเด้ล่ะ” จอยมันพูดแล้วหัวเราะครับ ผมงงนี่คิดว่าพอจะซึมซับบ้างแล้วนะแต่พูดไวเกินก็ไม่ทันครับ ผมรีบเดินออกไปนอกบ้านล่ะครับต้องไปบอกเคนให้ไปรับฝ้ายแล้ว
   “เคนๆ ไปรับเพื่อนให้หน่อยสิ เพื่อนมาถึงแล้วเน่ามันเอาของไปที่ร้านอ่ะ” ผมเดินไปกระซิบบอกเคนล่ะครับ แหมนะเข้ากันได้เร็วจริงๆพวกนี้ หัวเราะสนุกสนาน
   “อ้าว เป็นผู้จั่งได๋ล่ะหมู่โตน่ะ” เคนถามครับ
   “ชื่อฝ้ายนะ สูงเท่าๆจอยนี่ล่ะ ใส่แว่นตา ทรงผม เอ่อ” ผมหันไปหาตัวช่วยครับ
   “เพิ่นไว้ผมยาวแล้วเด้อุ่น ฝ้ายคือสิบ่ทันส่งรูปให้เบิ่งแม่นบ่ อ่ะนี่มาเบิ่ง” ปูมันล้วงเอาโทรศัพท์มันออกมาเปิดรูปให้เคนดูล่ะครับ ผมเองก็ชะโงกหน้าไปดูด้วย ผมเริ่มยาวแล้วนี่ฝ้าย
   “อ้อๆ ได้ๆ” นายเคนมันมองอยู่แป๊บหนึ่งล่ะครับแล้วก็ขับรถเครื่องออกไป ระหว่างนั้นพี่ต้อยก็เอาขนมกับน้ำอัดลมมาให้เพื่อนๆกิน อ้อ พ่อผมไปทำงานแล้วนะครับเห็นบอกมีประชุม วันเสาร์นะเนี่ยขยันจริงๆ
   “แล้วยามกลางคืนพวกเฮาสิพากันเฮ็ดหยังล่ะ” ปูถามครับ
   “เว้าเรื่องผีบ่ มันจั่งตื่นเต้น” นายเล็กเสนอครับ
   “ผีบ้าติ๊เล็ก บ่เอาดอกย้าน” จอยทำท่าทางว่ากลัวจริงๆ ผมเองก็เถอะอย่านะ อย่ามาเล่าเรื่องผีมีหวังได้นอนซุกกันทั้งคืนแน่
   “เล่นไพ่เด้สู” นายไม้ครับ เราหันขวับไปทันที
   “โตมีติ๊” จอยถามครับ
   “มีล่ะเนาะ ดับนี้แล้วขอบทองพู้นเด้อหล่า” ไม้มันหัวเราะครับ เออนะเอากับมัน
   “เล่นเฉยๆมันจะหนุกเหรอ” ผมสงสัยครับเพราะเล่นไม่เป็นล่ะ
   “ไผบอก เล่นกินเหล้ากันเด้ หรือสิเล่นเอาเงิน”
   “ว้าย บ่ๆ อย่ามาเว้าเรื่องเงิน เล่นกินเหล้านั่นล่ะ” สาวปูทำท่ากระหายเหล้า เอ่อ ผมมองหน้าเธอแปลกๆ อย่าบอกนะว่าเหมือนจอย คอทองแดงมาเจอกันนี่มันจะยังไงอยู่นะเนี่ย
   “แล้วเหล้าไรอ่ะไม้” “แสงโสมกะหรูแล้ว โตมีเหล้าติ๊” “มันเหม็นอ่ะ กินว้อดก้ากันป่าว” คือไม่ได้กระแดะนะครับแต่เหล้าแสงโสมกับแม่โขงนั่นน่ะมันกลิ่นแรงจริงๆนะ ผมจิบไปแล้วครั้งกลิ่นแบบว่า อื้อหือ และที่ได้กลิ่นมากกว่าใครก็จากได้เน่านั่นล่ะครับ กินมาทีไรผมนอนหันหลังให้มันทุกที เอ้ย คือไม่ได้นอนด้วยกันบ่อยหรอกนะครับ ก็เวลามีงานพิเศษเท่านั้นล่ะน่า คิดเยอะนะ
   “บู๊ย แพงกะด้อ บ่มีเงินซื้อดอกอุ่น” จอยพูดครับเพื่อนๆก็พยักหน้าเห็นด้วย
   “พี่ต้อยๆ ว้อดก้าพ่อยังเหลืออยู่ป่ะ” ผมร้องไปถามพี่ต้อยที่เตรียมขนมและเครื่องดื่มให้เราอยู่ล่ะครับ
   “ยังอยู่ค่า สามขวดบ้อ คุณอุ่นสิเอาไปนำบ่ค่า”
   “เอาไปด้วย ของไรอ่ะพี่ต้อย” “บู๊ย เว้าปานเอื้อยอ่านภาษาเขาออกเนาะค่า ขวดใหย่ๆนั่นล่ะ คั่นเอาเอื้อยสิเอาใส่ถุงให้ กินแล้วสิพากันขับรถขับเรือเด้อล่ะ สิซวยเอา” ผมยิ้มล่ะครับแล้วยักคิ้วให้เพื่อนๆ
   “บ่ทันมาอีกบ่สาวฝ้ายน่ะ” ไอ้เน่ามาแล้วครับ มันขับรถกระบะของมันมา คือรถมันเป็นแบบสี่ประตูนะครับ ยี่ห้อที่ตุ๊กกี้โฆษณาล่ะสีบรอนซ์
   “จักเด้ คือไปโดนแท้บ่แม่นสิบ่พ้อกันเบาะ ลองโทรหากะนะอุ่น” นายไม้บอกผมครับ ผมเลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาฝ้าย
   “เจอเพื่อนเราหรือยังอ่ะฝ้าย” ผมถามทันทีที่ฝ้ายมันรับสายครับ
   “อ้อ พ้อแล้วๆ ไอ้อันนี่เพิ่นเว้าหลายเนาะ มาท้วงแว่นตาเฮาแหมะอุ่น เป็นตาซังหลาย” อ้าว เหมือนจะไม่ถูกกันเลยนะ ผมคิดถูกหรือเปล่าเนี่ยทีให้นายเคนไปรับฝ้าย
   “บู๊ยเว้าโพดหลายเนาะผู้สาว ท้วงกะบ่ได้ งามคั่กเนาะเพิ่น” เอ่อ เสียงนายเคนลอดมาครับ
   “อย่ามาเว้าแนวนี้เด้ งามบ่งามกะบ่สนคนคือเจ้าดอก”
   “ป้าด เป็นตาย้านหลาย โอ๊ย ตาหลูโตนผมแน๊คร้าบ อย่าสิมาแนมผมเถาะ ผมย้าน”
   “ว้าย บักอันนี่ จิกหัวเอาเด้ ปานเพิ่นหล่อกะด้อกะเดี้ยเนาะ หน้าคือแมวโพงนี่ล่ะ”
   “หวืย เพิ่นกะหน้าคือหอยไข่นี่เด้ล่ะ” “กรี๊ด” เอ่อ เขาคุยกันอยู่เหรอ ทำไมกรี๊ด
   “ฝ้ายๆ โอเคไหม อย่าทำไรกันนะ” ผมร้องออกไปครับ
   “โอ๊ยๆๆ ตีข่อยเฮ็ดหยังบ่านนี้ ป้าดคือมือหนักแท้ผู้สาว แม่นไปลักเตะมวยมาบ่น้อ” นายเคนมันยังไม่หยุดครับ อ้อ เสียงที่ลอดออกมามีเสียงลมโกรกด้วยนะแสดงว่ากำลังมา ผมทนฟังอยุ่สักพักสายก็หลุดไปล่ะครับ
   “ไมวะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นเบบี๋” ไอ้เน่ามันเดินมาหาผมล่ะครับ
   “เหมือนจะทะเลาะกันเลยอ่ะเน่า” ผมชักสีหน้าไม่ดีครับ
   “ฮ่าๆ สัดเคนมันก็ปากหมาแบบนี้ล่ะ ไม่มีไรหรอกน่า เฮ้ย สู ขนของไปขึ้นรถแหมะ พวกนั้นมาสิได้ไป” ไอ้เน่ามันร้องบอกเพื่อนๆล่ะครับ พวกนั้นก็ลุกยกของขึ้นรถ
   “โอ้ย เป็นตาซังเนาะคนอำนาจนี่แหมะ ปากบ่ดีหลาย” เสียงฝ้ายดังขึ้นทันทีที่รถจอดล่ะครับ หน้าหงิกลงมาเลยนะผมรีบเดินเข้าไปหา
   “อุ่นๆ จัดการให้เฮาเด้อ เว้าโพดคือหยังนี่ล่ะ” ฝ้ายหันหน้าไปทางเคน ไอ้นั่นก็ทำหน้าทะเล้นใส่
   “เอาน่า ไม่มีอะไรหรอกฝ้าย นี่เพื่อนๆเรา ไม้ เล็ก จอย ส่วนนั่น”
   “ฮู้แล้ว เคน ตีนกบ” ฝ้ายมันพูดครับแล้วเหมือนจะอดขำไม่ได้ ผมเองก็หัวเราะ
   “ไรอ่ะเคนตีนกบ” “ป้าดๆ สาวฝ้ายเม็ดใน” นายเคนครับ ยอมที่ไหน
   “เบิ่งแน่ล่ะอุ่น มันว่าเฮาแหมะ” เอ่อ ทีตัวเองว่าเขาล่ะฝ้าย
   “บ่ถืกกันแนวนี้ บ่แม่นสิมักกันทีหลังเด้อล่ะฝ้าย บักเคนมันมักแท้เด้ล่ะ สาวแว่นนี่น่ะ” ไอ้เน่าแซวครับ
   “บักห่ามึง แม่นอยู่แล้ว สาวแว่นผู้อื่นเขากะผู้จบเป็นตาเบิ่งเด้ล่ะ นี่กูว่าแม่นใส่แว่นขยาย แม่นลักมาตาห้องวิทย์บ่น้อ ผู้สาวสกล”
   “กรี๊ดด บักอันนี้แหมะ สิตบเอาเด้ล่ะ ตัดมาแพงเด้นี่ บ่แม่นถืกๆ” เอ่อ สงครามเล็กๆครับ ฝ้ายมันกรี๊ดขึ้นมาทันทีเลยนะ ผมเองก็ตกใจ แต่เหมือนมันสองคนไมได้ทะเลาะกันหรอกนะครับเหมือนเล่นกันมากกว่า เพราะสีหน้าไม่จริงจัง
   “ไปๆสูมันสิสวย” ไอ้เน่ามันบอกล่ะครับแล้วเดินขึ้นรถไป ผมเองก็เดินตาม
   “เรานั่งหลังดีกว่า ท่าทางหนุกดี” ผมทำท่าจะปีนขึ้นนั่งกับพวกเพื่อนๆผู้ชายล่ะครับ
   “ไม่ได้ มึงมานั่งกับกูนี่” เอ่อ ไอ้เน่ามันตวาดมาครับ เพื่อนๆหัวเราะคิกคัก
   “แม่นแล้วล่ะอุ่น บัดยามไอ้เดี๋ยวเพิ่นอยากกินนั่นกินนี่ไผสิป้อน พวกเฮา ไม่ใช่แฟนทำแทนบ่ได้เด้อค่า” แล้วก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน แปลว่า? นี่แซวกูเหรอ แว้กก อายนะเว้ย
   “ก็อยากนั่งให้ลมโกรกอ่ะ” ผมท้วงมันล่ะครับ
   “เดี๋ยวไม่สบาย นั่งข้างในนี่ล่ะ ขึ้นมา” มันทำเสียงนิ่งๆครับ
   “ซั่นพวกเฮาไปนั่งหลังป่ะ เพิ่นสองคนคือสิมีแนวคุยกันเนาะ อิอิ” อ้าวๆ ปูครับดึงแขนฝ้ายกับจอยไปด้านหลัง
   “ไปนั่งหลังซ่อยเฮาด่าบักอันนั้นเด้อล่ะ” ฝ้ายครับ เอาไปเอามา กระเป๋าอยู่เบาะคนนั่ง มีผมกับไอ้เน่าอยู่หน้ารถสองคน ส่วนท้ายรถนายไม้ดีดกีตาร์ร้องรำทำเพลงแล้วครับ ผมหันไปมองตาปริบๆ ไรอ่ะ อยากจะสนุกกับเพื่อนแบบนี้บ้างนะ
   “อยากไปสนุกกับพวกมันว่างั้น” ไอ้เน่ามันถามครับ รู้แล้วไม่น่ามาถามนะมึง
   “เออดิ นั่งอยู่ในนี้ไม่เห็นมีไรทำอ่ะ”
   “อ้าว มึงไปแล้วกูล่ะวะสัด” อ่า ผมอ้าปากค้างเลยครับ มันหันมาพอดี
   “ไปไหนก็ได้ที่มีกูไปด้วย เข้าใจไหม” อายสิครับ แหมนะยิ่งไม่มีเพื่อนมันยิ่งเอาใหญ่เลยนะไอ้เน่า
   “อยากได้ยินเพื่อนร้องเพลงอ่ะ” มันเสแสร้งไปล่ะครับ
   “งั้นกูปิดแอร์นะ” มันพูดแล้วลดกระจกรถลงทันทีครับ เสียงร้องเพลงดังเข้ามา ลมก็โกรกทันที ผมยิ้มออกมา
   “น่ารักนะเนี่ยเน่า” ผมยิ้มให้มันครับ
   “กูรู้เว้ย ไม่น่ารักอย่างเดียวนะ เจี้ยวใหญ่ด้วย ฮ่าๆ”
   “อ่านะ ใหญ่แล้วไงอ่ะ ทำไรก็ไมได้” แว้กก ทำไมพูดแบบนั้นอุรดิศ ไปเปิดช่องให้มันทำไมเนี่ย ตายๆอยากจะตบปากตัวเองจังเลย
   “เออ คืนนี้ล่ะกูจะทำให้ได้ มึงคอยดูเถอะ จะเอาให้บานเลย” มันทำสีหน้าจริงจังล่ะครับ เห็นไหมอุรดิศพูดไม่คิดแล้วเป็นยังไง ตายๆคืนนี้ต้องเกาะกลุ่มเพื่อนเอาไว้ให้ดีๆ
   “ไม่ต้องคิดจะอยู่กับเพื่อนหรอกนะ กูจะบอกพวกมันเองว่าคืนนี้กูกับมึงจะเอากัน”
   “บ้าเหรอเน่า พูดไรอ่ะ ไม่อายไง”
   “อายจะพูดเหรอวะ อายกูก็ไม่ได้มึงสักทีดี แม่งเมื่อคืนเป็นไรไม่รู้ กูไม่เข้าใจ”
   “เนอะ ทีกับคนอื่นคงจะหลายยกแล้วสินะ” อ้าว อุรดิศ โอ๊ย พูดอะไรออกไปเนี่ย คือว่าไม่ได้คิดเลยนะประโยคนี้อ่ะมันออกไปเอง ไม่พอใจอ่ะไม่รู้สิ
   “งอนเหรอ งั้นกูทำกับมึงห้ายกก็ได้ จะได้ทำลายสถิติ” มันทำเป็นเล่นครับ ผมรู้สึกจี๊ดในใจขึ้นมา
   “เราไม่ใช่ตัวทดลองสถิติให้นายนะ”
   “แป่ว งอนจริงอ่ะเบบี๋” มันหันหน้ามาทำท่าล้อเลียนครับ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไอ้ลมบ้านี่ก็พัดซะต้องหลับตาเลยนะ
   “อย่างอนดิ นั่นมันแต่ก่อนเว้ย ตอนนี้มีมึงคนเดียวไง”
   “เปิดเพลงได้ป่ะ อยากฟังเพลง” ผมหันมาล่ะครับไม่มองหน้ามันเอื้อมมือจะไปเปิดเพลง
   “เออ งอนได้งอนไปวะ แม่งพูดเรื่องจริงทำงอน ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆนะ”
   “ใครผู้หญิง เราไม่ใช่ผู้หญิง” ผมแว้ดเสียงใส่มันทันทีครับ
   “อ้าว ไม่ใช่ไมงอนวะ” “ใครงอน เราไมได้งอน” “ไม่งอนทำไมทำหน้าเป็นตูดแบบนี้”
   “ไม่พอใจ ไม่ใช่งอน” “เหมือนกันไหมนั่นสัด”
   “ไม่เหมือน ยังไงก็ไม่เหมือนวะ” ผมเริ่มรำคาญมันล่ะครับ แหกปากใส่เต็มที่
   “โว้ พูดวะกับผัวเลยนะมึง อยากตายเหรอ”
   “แล้วทีตัวเองล่ะ พูดเพราะมากว่างั้น คำก็สัดสองคำก็เชี่ย พูดจนชิน จนมันสิงอยู่ในปากแล้วใช่ไหมล่ะ” ผมไม่ยอมครับ มันทำหน้าเหวอๆแล้วนิ่งไป
   “เออๆ กูขอโทษ กูไม่ชินนี่หว่า กูนึกว่ามึงไม่ถือ” มันทำเสียงอ่อยๆล่ะครับ ผมเองก็สะอึกไป นี่กูพูดแรงไปเหรอ สรุปว่าเราเงียบไปประมาณห้านาที
   “เบบี๋ เค้าหิวน้ำอ่ะ” มันหันมายิ้มเขินๆให้ผมล่ะครับ แหมนะมีด้วยหน้าแบบนี้
   “อ่ะ” ผมเลยยื่นมือไปเบาะท้ายควานหาน้ำขวดมาเปิดแล้วเอาหลอดใส่ยื่นไปให้มันล่ะครับ
   “กินหนมด้วยได้ป่ะอ่ะตัวเอง” เอ่อ เยอะไปไหมเนี่ย
   “นี่เน่า ไม่ต้องฝืนหรอกนะ อยากพูดอะไรก็พูดเถอะ จะเชี่ยจะสัดก็พูดมาเถอะ ถ้าให้นายพูดแบบนี้เราเองล่ะที่อึดอัด” มันจริงนะ ผมไม่ใช่รับไม่ได้นะแต่บางทีมันก็มีบ้างล่ะนะ แหมเรียกปาวๆว่ากูเป็นแฟนนะ แต่เวลาพูดกันนี่เหมือนด่ากูล่ะ แต่จะไปว่ามันก็ไม่ถูกเหมือนผมเองล่ะที่ชอบแบบที่มันเป็น
   “ไม่เอาอ่ะ กลัวเบบี๋ไม่ชอบ” มันเหมือนล้อผมเลยนะครับ
   “ชอบ พูดๆมาเถอะ อย่ามาแอ๊บ แอ๊บเก่งนะเน่า ไหนบอกไม่ใช่ตุ๊ด”
   “สัด ใครตุ๊ด กูติดมาจากมึงนั่นล่ะ” ผมกลั้นหัวเราะครับ หนอยแน่คิดว่าจะไปได้สักกี่น้ำคนเรานะ ทีนี้มันก็หัวเราะออกมาล่ะครับ
   “นี่แกล้งกูเหรอมึงไอ้เบบี๋” มันหันมายื่นมือมาด้วยนะ
   “นี่ๆ ขับรถอยู่นะคุณ” “เออ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ลงเมื่อไหร่กูข่มขืนมึงแน่ๆ” อ่านะ
   “โอ๊ย อย่านะเน่า อย่าข่มขืนเรานะ เรายอมเองดีกว่า อิอิ” ผมแลบลิ้นใส่มันครับ มันหน้าแดงแต่ก็ยิ้ม เอ๊ะ นี่ผมกับมันเยอะไปหรือเปล่าครับ ไม่รู้สิเพราะตอนนี้เพื่อนๆยื่นหน้ามาโห่อ่ะ เคาะกระจกด้วย อายจัง

ยังมีต่อนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-06-2012 15:09:31
“บู๊ย น้ำคือขุ่นแท้ล่ะ สิลงได้บ่น้อ” พอถึงฝ้ายมันก็ลงก่อนใครล่ะครับมีไอ้เคนตามติด เหมือนจะเถียงกันมาตลอดทางเลยนะนั่น
   “ไปติดต่อเจ้าของบ้านก่อนเถอะ” ผมบอกครับแล้วเอาเอกสารที่พ่อจัดการให้ออกมาจากกระเป๋า
   “มาโฮมสเตย์แม่นบ่หล่า” ตอนที่เราลงมาจากรถหมดแล้วมีป้าแก่ๆคนหนึ่งแกเดินมารับล่ะครับ
   “แม่นยาย ยายบ่เจ้าของบ้าน” ไอ้เน่ามันถามขึ้นล่ะครับ
   “แม่นแล้วหล่า ยายเตรียมห้องไว้ให้แล้ว” พอยายแกออกตัวพวกเราก็ยกมือขึ้นไหว้แกล่ะครับ
   “แต่น้ำหลายเด้อหล่าซ่วงนี้ อย่าสิลงเล่นน้ำกันเด้อ มันไหลแฮงคั่ก” ยายแกพุดไปเรื่อยๆล่ะครับระหว่างเดินนำหน้าเราไปยังบ้านพักที่แกเตรียมไว้
   “ยายๆ เฮือนยายอยู่ติดน้ำบ่จ้า” ปูมันถามครับ
   “ติดล่ะเนาะอีนาง น้ำหลายมันโซ่ฮอดนอกซาน ยามหน้าแล้งย่างไปไกลเติบอยู่”
   “แล้วยายอยู่กับไผครับ” นายไม้ถามครับ
   “ยายอยู่ผู้เดียวหล่า ลูกมันไปเฮ็ดงานอยู่กรุงเทพฯ” ยายแกก็แนะนำนั่นนี่ไปตามเรื่องล่ะครับ พอถึงบ้านก็ขึ้นไปบนบ้าน คือเหมือนว่าบ้านยายแกจะติดตลิ่งแม่น้ำเลยนะครับ เพราะเสาบ้านครึ่งนึงมันยื่นออกไปในแม่น้ำนอกชานเหมือนว่าจะหย่อนเท้าลงไปแช่น้ำได้เลยนะ แต่ทางขึ้นบ้านเป็นเนินน้ำไม่ถึงครับ
   “บู๊ยยาย คั่นน้ำมาหลายๆนี่มันบ่ท่วมเฮือนเอาติ๊” ไอ้เล็กถามครับพวกเราก็คิดเหมือนกัน
   “ท่วมอยู่หล่า ยายไปอยู่เฮือนเทิง เฮือนลูกเขย” ยายแกบอกล่ะครับ นี่แสดงว่าเราโชคดีนะเนี่ยที่น้ำมันยังมาไม่มากนัก สภาพบ้านไมได้ดีเด่อะไรหรอกนะครับ เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง แบ่งเป็นแค่สองห้องคือยายแกให้เราอยู่ห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้องเหมือนแกจะอยู่เอง นอกชานก็กว้างขวาง ลมโกรกมาเย็นสบายดีนะ ผมวางของแล้วไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆริมน้ำที่นอกชานบ้านล่ะครับ ส่วนไอ้เน่ามันก็ไปถามเรื่องต่างๆเช่นทำกับข้าวได้ไหม หาซื้อปลาหรือข้าวได้ที่ไหน ประมาณนี้ ยายแกก็บอกแกคงเห็นพวกเราเป็นเด็กด้วยล่ะครับแกจึงขนของใช้ออกมาให้เยอะแยะเลย
   “ยายสินึ่งเข่าเผื่อเด้อหล่า บ่ต้องซื้อดอกเข่าน่ะ ปลายายกะมีแต่ปลาบู่ใส่ไซไว้ มันบ่มีผู้ไปหา คั่นพวกเจ้าอยากได้ยายสิไปบอกยายหนาดเราเอามาขายให้ เพิ่นขายปลามีหลายอย่าง คันอยากได้ผักอยู่ทางเข้าบ้านมีฮ้านยายทอง ไปเบิ่งเอาเด้อหล่า” ยายแกบอกล่ะครับผมนั่งฟังอยู่อมยิ้ม คือพ่อผมจ่ายเงินให้นะครับมันไม่ได้เยอะแยะอะไรเลยนะ แต่ผมรู้สึกว่ายายแกน่ารักจังเลย ไม่รู้สิผมสัมผัสได้คือไม่เหมือนเห็นแก่ธุรกิจจนเกินไปล่ะครับ
   “นอนจั่กงีบแน่เด้อพี่น้อง ข่อยบ่ได้นอนเหมิดคืนเอาโลดมีคนกวน” เอ่อ พอยายแกเดินไปหาของให้เราไอ้เน่ามันก็ขึ้นมาบนบ้านล่ะครับ มันเดินไปหยิบหมอนมาแล้วลากเสื่อมาปูตรงริมของนอกชาน แค่มันพูดขึ้นเพื่อนๆก็กรี๊ดกร๊าดเสียงดัง
   “พอแม่นน้อ ในรถกะหวานกัน จนเฮาว่าอยู้ได้กลิ่นหยังหวานๆ คั่กน้ออุ่น” สาวฝ้ายครับ เอ่อ หมายถึงกูเหรอ
   “บ้าเหรอฝ้าย” ผมอายล่ะครับ
   “พากันนอนเว็นซะเนาะ ค่ำๆจั่งพากันไปตลาด” นายเคนพูดขึ้นล่ะครับ
   “หวืย มาตั้งกวงตั้งไกลสิพากันมานอน ไอ้เดี๋ยวเพิ่นนอนมันกะบ่แปลกดอกค่า เพราะเพิ่นขับรถ แต่คนบ่ได้ขับรถกะสินอนเนาะ เป็นตาขี้คร้านหลายผู้บ่าวทางนี้” ฝ้ายครับ อ้าวๆ เปิดศึกกันอีกแล้ว
   “ป้าด ผู้สาวเจ้าบ่นอนก็พู้นเด้ ไปนั่งตากแดดอยู่พู้นติ๊ล่ะ แห่งดำๆอยู่ ไปโลดพากันไปอาบแดด”
   “ว้าย โพดหลายบักห่านี่” พวกเราหัวเราะกันขึ้นอีกครั้งล่ะครับ ฝ้ายมันทำหน้างอประหลับประเหลือก
   “ไปย่างถ่ายรูปบ่อุ่น ไปเบิ่งไทบ้านเพิ่นเฮ็ดหยังแน่” จอยมันชวนล่ะครับ ผมเห็นดีด้วย สรุปก็มีผม จอย ปู ฝ้ายและเล็กเดินออกไปถ่ายรูปตามหมู่บ้านล่ะครับ ส่วนที่เหลือ มีไอ้เน่ามันนอน นายเคนกับไม้ เอ่อ ดวลแสงโสมกันครับ มันบอกว่าขอนำหน้าไปก่อนตอนเย็นค่อยกินว้อดก้า อ่านะ มีแบบนี้ด้วย
   “อ๊ะ ยายเขาทอเสื่อเหรอจอย” พอเดินเข้าไปในหมู่บ้านผมมองไปใต้ถุนบ้านก็เห็นยายคนหนึ่งกับตากำลังทอเสื่ออยู่ล่ะครับ
   “แม่นๆ เพิ่นต่ำสาด อยู่เฮือนเฮากะว่าสิต่ำอยู่แต่ผือมันบ่ทันใหญ่ แถวนี้ผือใหญ่ไวเนาะ” เอ่อ งงสิครับ พวกเราเลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้าน หลังจากยกมือไหว้ทักทายตากับยายเสร็เราก็นั่งล้อมวงล่ะครับ คือเพื่อนๆน่ะเขาไม่สนใจเท่าไหร่หรอกครับ มีผมนี่ล่ะที่กดชัตเตอร์รัวๆ ไม่เคยเห็นนี่นา
   “อันนี้ต้นผือเหรอครับยาย” ผมถามครับยิ้มให้แก ยายแกกินหมากปากแดงแจ๋เลยนะ น่ากลัวมากๆ
   “บ่แม่นดอกหล่า กก ผือซุมนั้น ยายฟ้าวต่ำก่อนปีนี้กกบ่หลาย ผือจั่งสิต่ำ” หันไปหาจอยทันที
   “อ้อ มันมีสองชนิดตั้วอุ่น อันนี้ต้นกก พู้นต้นผือ ต้นกกมันสิกลมๆ ต้นผือมันสิเป็นเหลี่ยมๆ กกทนกว่าผือเด้เนาะยาย” จอยมันหันไปถามยายล่ะครับเหมือนมันจะแปลให้ผมฟังนะแต่ เอ่อ งงอ่ะ
   “ห่วย บักหล่ามาแต่ไทยซั่นติ๊ กะบ่บอกยายเนาะ ยายสิได้เว้าไทย” ฮ่าๆ ยายแกพูดแบบว่าตลกมากๆครับ ผมหัวเราะออกมาเลยนะ
   “ผืมันบ่ทนเท่าต้นกก ต้นกกมันสิเส้นน้อยๆ ต่ำโดนหลาย” ฮ่าๆ ยายแกพูดสำเนียงไทยนะครับแต่ว่า มันน่ารักอ่ะ
   “ยายย้อมสีเองเหรอครับ” ผมยังสนใจอยู่ครับ
   “ย้อมเองล่ะบักหล่า ย้อมทีละหลายๆ พู้นเด้เพิ่นย้อมแล้วตากไว้ คือสิได้อยู่ดอกจักสามสี่ผืน” ตาแกพูดบ้างครับชี้มือไปที่ราวตากมัดต้นกกที่ย้อมสีแดง เขียว น้ำเงินไว้เต็ม ผมเดินไปดูทันที
   “ฝ้ายๆ ถ่ายรูปกัน” ผมชวนล่ะครับ เอาไปเอามาก็ฮือฮาอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วก็ไปต่อ วิถีชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะผมว่า มันไม่ต้องแข่งขันอะไรกับใครมากมาย ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวดูแน่นแฟ้นดีนะ อย่างยายกับตา ผมแอบถ่ายรูปมาด้วยล่ะมองอยู่แล้วสะท้อนใจยังไงไม่รู้อ่ะ คิดถึงแม่จัง
   “ไปวัดป่ะ” ปูมันชวนล่ะครับพอเดินผ่านมาเห็นกำแพงวัด พวกเราก็ตามกันเข้าไป แต่พอก้าวเข้าไปก็หยุดกึกลงเกือบพร้อมกันเพราะมันมีกลุมเด็กวัยรุ่นอายุน่าจะไม่แตกต่างจากพวกเรามากนัก แต่มีบางคนที่ยังเด็กอยู่ล่ะครับ
   “อย่าสิปากเด้อ” จอยมันกระซิบบอกล่ะครับ พวกเราเดินผ่านไปช้าๆ
   “แม่นผู้ได๋นี่ พากันมาแต่ไสน้อผู้สาว” เสียงคนแซวขึ้นล่ะครับ
   “ฮ่วยถามกะบ่ปาก คืออ่งแท้ล่ะผู้สาว คนผู้งามคือพากันอ่งแท้”
   “อ่งตั้วค่า บ่ได้ผู้ฮ้ายสิมาหาแซวผู้บ่าว เป็นคนผู้งามค่าเลยอ่ง” เอ่อ ฝ้ายครับ ไวไปไหมเธอพวกเราหน้าซีดกันเกือบทั้งหมดเลยนะ พอมันพูดไปแล้วจึงเหมือนจะรู้ตัว
   “ป้าด คือมั่นใจแท้ แม่นพากันมาแต่ไสล่ะคนผู้จบ” ไอ้เด็กคนหนึ่งมันถามขึ้นล่ะครับแล้วก็ปรี่เข้ามาหาเราด้วยนะ
   “มาแต่อำนาจ ในเมืองจ้า มาเที่ยวสิมาไหว้พระ” แหมทีแบบนี้ล่ะทำเสียงอ่อนเสียงหวานนะ
   “อ้อคนในเมืองติ๊ ว่าอยู้คือผู้จบแท้ สิไปไสบอกได้เด้อ ข่อยสิพาไป อิอิ” มันพูดล่ะครับ พวกเรารีบเดินไปทันที
   “อย่าสิไปปากกับเขากะบ่ฟังเนาะโตน่ะฝ้าย แม่นพวกมันสิมากวนบ่น้อยามแลงน่ะ”
   “เฮาลืมแหม่ะจอย ซังคนแซวคั่ก อยู่นั่นกะพ้อบักเคน มานี่กะพ้อซุมนี้ ซาดบ่มัก”
   “บ่มักกะทนเอาล่ะเนาะ บ่แม่นถิ่นเฮาเด้นี่” จอยมันพูดล่ะครับ ผมเห็นด้วยกับมันนะ พวกเราเดินขึ้นไปบนศาลาล่ะครับ เป็นศาลาปูนพระประธานองค์ใหญ่พอสมควร
   “ศีมเพิ่นงามเนาะ” ปูพูดขึ้นล่ะครับ ศีม? อ้อ คงจะหมายถึงศาลาการเปรียญนี่ล่ะครับ
   “เบิ่งซ่อฟ้าใบระกาแน่ล่ะ” อ้าว ไม่ใช่ครับ เพราะปูมันหันหน้าไปทางโบสถ์ ศีม? คือโบสถ์เหรอ แล้วศาลาล่ะ
   “หัวแจกกะใหญ่คั่ก” งงครับ ผมเลยสะกิดถามจอย ถูกแล้วล่ะครับ ศีมคือโบสถ์ หัวแจกคือศาลาการเปรียญ อืมน่าสนใจดีนะภาษาถิ่น พอกราบพระเสร็จพวกเราก็เดินลงมาเดินรอบๆศีมล่ะครับถ่ายรูปกันนิดหน่อยแล้วก็เดินออกมา ขาออกมาพวกเราไม่พูดครับ แต่ไอ้พวกนั้นมันขับรถเครื่องตาม เอาไงดีวะเนี่ย
   “เฮ็ดจั่งได๋น้อบ่านนี้” จอยมันเครียดครับ ผมเองก็เริ่มเครียดไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายจริงๆนะ
   “ไปเฮือนแม่ใหย่ว่างฮั่นบ่ ทำทรงเป็นหลานเพิ่น” เล็กมันเสนอครับ พวกเราเห็นดีด้วยเลยกลับไปที่บ้านยายที่ทอเสื่อต้นกก พอไปถึงก็ไปคุยกับแกล่ะครับ ไอ้เด็กพวกนั้นมันก็เข้ามาวุ่นวายด้วยนะ
   “แม่นสูมากวนเพิ่นเฮ็ดหยังบักสร ไปไกลๆเด้อ กูสิไปบอกผู้ใหย่บ้านเด้ แขกบ้านแขกเมืองสิมาเฮ็ดให้เสียหน้าเสียตา ไป” ยายตวาดไปครับ ไอ้พวกนั้นหน้าจ๋อยลงทันที ไม่นานพวกมันก็พากันไปล่ะครับ
   “ขอบคุณนะครับยาย” พวกเรายกมือขึ้นไหว้แกล่ะครับ
   “บ่ต้องย้านเด้อหล่า พวกนี้มันเด็กน้อยอึดเวียก บ่มีแนวเฮ็ดดอก คั่นมีอีหยังให้บอกแม่ใหย่น้อยโลด เพิ่นสิไปบอกผู้ใหย่บ้าน” ยายแกแนะนำล่ะครับ พวกเราจึงรีบกลับมาที่บ้านพัก ไอ้เน่ามันยังนอนอยู่เลยนะครับ แต่ เอ่อนะ ผมรีบเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวออกมาจากกระเป๋าปิดเป้าให้มันล่ะครับ จะโด่ไปไหนเนี่ย
   “ว้าย อย่าฟ้าวๆพวกเฮา ให้อุ่นเพิ่นคัวผู้บ่าวเพิ่นก่อน อิอิ” จอยครับ แหมนะ หรือจะดูล่ะผมน่ะไม่อายหรอกนะกลัวพวกเธอนั่นล่ะจะอาย ส่วนนายเคนกับนายไม้แก้มแดงแล้วครับ
   “ได้หยังมาฝากล่ะผู้สาวสกล” นายเคนครับ เออนะ ว่าไปมันสองคนนี่ชอบกัดกันจริงๆนะ
   “ได้แต่ฝ่ามือนี่ล่ะค่าผู้บ่าวอำนาจ ลองซิมบ่แซ้บแซ่บ” ฝ้ายก็นะ ฮ่าๆ
   “ป้าด สิเป็นตาย้านแท้ มาๆกินเหล้านำอ้ายแน่ะ มานั่งข้างๆแน่น้า เห็นว่าผู้งามกะดาย”
   “บ่ค่า ฉันบ่กินเหล้ายามกลางเว็นเด้อค่า มันคะลำ ค่ำมาจั่งว่ากัน อิอิ” ผมอมยิ้มเลยนะครับ ตอนนี้ปูกับจอยเดินไปหยิบหนังสือออกมาปูเสื่อนอนอีกฝั่งหนึ่ง เคนกับไม้นั่งอยู่ตรงบันไดแถวๆนั้นล่ะครับ ถัดมาก็ไอ้เน่า มันนอนเหงื่อแตกเต็มหน้าเลยนะคงจะร้อน ตอนนี้ลมไม่พัดเท่าไหร่ พัดลมปูกับจอยเอาไปแล้ว อีกตัวเคนกับไม้ก็ใช้อยู่ ส่วนฝ้ายก็ตามไปสมทบกับเพื่อนๆที่อ่านหนังสือกัน
   “มาๆเฮาติวให้” ปูมันหยิบหนังสือออกมาล่ะครับ
   “ว้าย โพดแท้ค่าเธอ มาเที่ยวเอาหนังสือเรียนมานำ” จอยมันร้องขึ้นล่ะครับ
   “มันติดเนาะ ดีกว่าอยู่ซื่อๆเด้ล่ะจอย” จอยมันหันมามองผมล่ะครับ ผมก็พยักหน้า อยากจะไปติวด้วยนะแต่สงสารไอ้เน่ามันอ่ะ มันนอนเหมือนจะร้อนเลยนะ ผมเลยเดินไปหาพัดที่ครัวใต้ถุนบ้านมานั่งพัดให้มันครับ
   “เบิ่งเอาเด้อพี่น้อง นี่ล่ะเขาว่าคนฮักกัน โอ๊ย ข่อยอิจฉาเด้” นายไม้ครับมันร้องขึ้น อ่านะ ผมนั่งนิ่งตัวเกร็งเลยนะ
   “แม่นๆ ยามนอนกะมีคนมาพัดมาวีให้ซาดดีวะ บักเดี๋ยวมันโซคดีคั่ก” นายเคนเสริมล่ะครับ
   “อ้าว ก็นายมีพัดลมนี่” ผมตอบไปครับ
   “อย่าไปแซวเพิ่นหลายสู กินกะกินไปแน่ะซุมบ่มีคนฮัก ดีแต่หล่อบ่เป็นตาเอาเนาะ” ฝ้ายครับ มันดอดขึ้นผมอดขำไม่ได้ พวกสาวๆก็เฮกันขึ้น
   “บู๊ยเว้าปานเพิ่นมีผู้บ่าวน้อผู้สาว ไผน้อสิเป็นผู้บ่าวโซคร้ายผู้นั่นแหม่ะ” นายเคนครับ
   “กรี๊ด บักเคน โพดไปหลาย” เอาไปเอาก็เสียงดังมากครับไอ้เน่ามันงัวเงียแต่ไม่ตื่นมันเอาขามาพาดตักผมแล้วนอนคว่ำ อ้าวไอ้นี่ กูจะลุกไปไงล่ะทีนี้
   “เป็นจั่งได๋หล่า มีหยังขาดเหลืออยู่บ่” มีเสียงลุงคนหนึ่งดังขึ้นล่ะครับแกเดินขึ้นมาบนบ้านด้วยนะ
   “สวัสดีครับพ่อลุง ตอนนี้ยังบ่ขาดครับ” นายไม้มันตอบครับ
   “พ่อเป็นพ่อใหย่บ้านเด้อ อบตเพิ่นฝากมา ไสล่ะลูกปลัด” เอ่อ ผมรีบหันไปยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “ผู้นี่บ่ บู๊ยคือผู้จบผู้งามสมกับลูกปลัดแท้น้อ บ้านพ่ออยู่หลังถัดไปนั่นล่ะเด้อหล่า บ่ต้องย้านหยังดอก พ่อสิเบิ่งให้ เมื่อแลงกะสิให้เด็กน้อยมานอนอยู่ตาล่างเฮือนเฝ้าให้ เที่ยวให้ม่วนโลดเด้อ แนวอยากแนวกินยายน้อยเพิ่นบอกแล้วแม่นบ่หล่า มีหยังย่างไปเฮือนพ่อโลดเด้อ” อ้อ ผู้ใหญ่บ้านนั่นเองครับ แกคงเดินมาบอกพวกเราขอบคุณแกแล้วแกก็คุยด้วยสักพักก็ไปล่ะครับ ตอนนี้ลมเริ่มมาแล้วแต่ไอ้เน่ามันยังไม่ตื่น เพื่อนๆเงียบเสียงไปแล้วครับ กลุ่มดูหนังสือเหมือนจะนอนกัน ส่วนพวกกินเหล้าก็คุยเรื่องบอลนะเท่าที่ได้ยิน ผมนั่งมองดูไอ้เน่าอย่างพิจารณา ทำไมนะ ทำไมผมถึงได้ชอบมันมากขนาดนี้ มันเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะความรู้สึกนี้ ยิ่งมองผมยิ่งหวงแหนมันมากขึ้น ยิ่งมองผมยิ่งรู้สึกชอบมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหัวเกรียนๆของมัน ท่าทางกวนๆ เท้าที่ใหญ่กว่าผมมาก ไม่สิทั้งมือทั้งเท้า ผมเอามือแตะที่มือของมันล่ะครับ ตอนนี้มันคงไม่ใช่ผมชอบมันแล้วล่ะนะผมว่า ความรู้สึกนี้แม้แต่กับโจ้มันก็ไม่เคยมี ผมว่าผมรักมันแล้วล่ะครับ รักแกนะไอ้เน่า

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ตื่นมากินข้าวนิเลยแอบมาลง อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-06-2012 15:35:12
มันหวานกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 23-06-2012 15:54:22
อุ่นรักเดี๋ยวแล้ววว แล้วเน่ารักเบบี๋หรือยัง :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 23-06-2012 15:54:57
กรี๊ดๆๆๆ หวานกันจังเนาะคู่นี้
อิจฉาหล๊ายหลาย :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 23-06-2012 15:56:00
กรี๊ดดดดดด ตอนนี้หวานเว่อร์ชอบมากกกกก ไม่มากไป ไม่น้อยไป ชอบมากๆๆๆๆๆๆ อิอิ เย็นนี้ไปทำงานอย่างมีความสุขล่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 23-06-2012 15:58:36
หวานไปไหนเนี่ยยย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 23-06-2012 16:18:49
หนูอุ่นกับบักเดี๋ยวหวานกันมากเลย อิ  อิ :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 23-06-2012 17:33:52
อุ่นน่ารักดีอ่ะ :call: :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 23-06-2012 18:15:51
อุ่นรักเดี่ยวแล้ว เย้ๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-06-2012 18:42:30
หวานกันแท้ :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 23-06-2012 20:11:36
นู๋อุ่นหวานนนน...ถ้าเจ้าเดี๋ยวรู้ว่านั่งพัดวีให้ขนาดนี้
คงทั้งรักทั้งหลงขึ้นอีกพะเรอเลย...อิจฉาแท้เด้เจ้าเดี๋ยว  :-[

 :L2: น้องอิ๊ก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 23-06-2012 22:55:35
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-06-2012 23:22:38
น้องอุ่นท่าทางจะเป็นแม่บ้านที่ดีเนาะ ดูแลใส่ใจเดี๋ยวซะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-06-2012 23:40:01
อ่า....รักเรื่องนี้จัง บรรยายทุกอย่างจนผมอยากจะหลุดเข้าไปเจอบรรยากาศแบบนั้นบ้าง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 24-06-2012 00:30:08
 :-[ น่ารักมากๆเลยอ่ะ ตั้งกะฉากนั่งข้างคนขับแหละ
นะ แล้วยังมานั่งพัดให้เดี๋ยวอีก แถมตอนนี้ยังรู้ใจตัวเองด้วย
ตอนหน้าจะหวานกันขนาดไหนน้า... :-[

ขอบคุณจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 24-06-2012 01:01:59
รักแกนะไอเน่า '   :o8:

รู้สึกหลังๆ บักเน่า นิ บ่มี บทบาทเลยนะ :sad4:

หวานจังเลยอ่า กุ๊กกิ๊กๆ

เดี๋ยว อ่า หื่นตล๊อดดดดดดดดดดด :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 24-06-2012 08:17:20
รักแกนะไอ่เน่า
ประโยคนี้น่ารักมากเลย เขิลอ่ะ อ่านแล้วเขิลเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 24-06-2012 08:37:57
บอกได้คำเดียว น่ารักอะ :o8: น่ารักอะ  :o8:น่ารักค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 24-06-2012 11:00:27
สารภาพว่า บางประโยคอ่านไม่รู้เรื่ิองอ่ะค่ะ  :a5:



แต่รู้ว่าเค้าหวานกัน แค่นี้ก็วี๊ดวิ้วแย้วววว  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 24-06-2012 17:53:49
สวีทโฮมสเตย์ อิจฉาน้องอุ่นนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 24-06-2012 22:04:08
หนูอุ่นหลงไอเน่าแล้วสินะ :impress2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-06-2012 00:53:16
รักกันแล้วหรอ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 25-06-2012 11:51:47
รักนะเน่า   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-06-2012 13:03:48
 :o8: :o8: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 26-06-2012 18:22:53
แหม๋ อุ่นรักเน่าจนขึ้นสมองแล้วนะ จนฟังภาษาอีสานเก่งแล้ว หัดฟังไม่รู้เรื่องบ้างสิ บางประโยคมันงงน่ะ (ขี้เกียจเดา)
คนเขียนจะได้แปลให้บ้าง อิอิ คนอ่านจะได้ไม่ต้องคิดหาความหมายให้ยุ่งยาก 555 เน่าก็หัดพูดเพราะๆบ้างนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 27-06-2012 09:09:45
คุณเอกกี้ หายไปไหนค่ะ แฟนคลับคิดถึงงงงงง :m15: :really2: :really2: :really2: :m15:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 27-06-2012 09:38:49
รับมาต่อเร็วๆนะค่ะ คิดถึง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 27-06-2012 15:34:48
คนเขียนหาย ยังไม่มาต่ออีกหรออออออออ คิดถึงงงงงงงงงงงง นี้มัน4วันแล้วน่ะ  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 27-06-2012 18:18:52
You’re My BaBy!!

   “อือ กี่โมงแล้ววะ” ทำไมมันอ้าวอย่างนี้วะเนี่ย นอนไปนานแค่ไหนไมรู้แต่รู้สึกตัวเพราะเหมือนมีใครมากระดุกกระดิกอยู่ข้างๆผมล่ะครับ
   “อือ” อ้าว ไอ้เบบี๋มันมานอนข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ ฝั่งหนึ่งสาวๆนอนหลับกันอยู่ อีกฝั่งสัดเคนกับสัดไม้ก็นอนเผ้าขวดเหล้าอยู่ ผมหันมามองไอ้เบบี๋ในมือมันมีพัดนะ นี่มันมานั่งพัดให้ผมหรอกเหรอ
   “เบบี๋ๆ” ผมปลุกมันล่ะครับ
   “หือ ตื่นแล้วเหรอเน่า ร้อนเหรอ” มันงัวเงียตื่นครับ
   “ร้อนดิ มึงพัดให้กูเหรอ”
   “อื้ม เห็นนายร้อนอ่ะ” “น่ารักนะเนี่ย” “อ่า จะทำไรอ่ะ เพื่อนๆอยู่นะ” พูดจบผมก็จะยื่นปากไปหอมแก้มมันล่ะครับ มันก็หลบตามประสา
   “อยู่ก็ช่างดิ พวกมันหลับแล้ว” ผมยักคิ้วให้มัน
   “ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ เหมือนจะค่ำแล้วเลยอ่ะ”
   “ค่ำไรสี่โมงเอง” เอาไปเอามาเราก็เดินลงมาล้างหน้าล้างตาที่ข้างล่างล่ะครับ สักพักก็ปลุกเพื่อนๆให้ตื่นเพราะต้องไปซื้อของมาทำอะไรกินกันด้วย
   “จอยไปตลาดกันป่ะ” ไอ้เบบี๋มันชวนสาวจอยล่ะครับ เพราะพวกนั้นแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกผมว่าจะไปกับมันนี่ล่ะครับ แต่สาวจอยไปด้วยก็ไม่เป็นไร
   “อืมไปดิ” พวกเราสามคนเดินเข้าไปในหมู่บ้านล่ะครับ
   “ยายๆ พวกผมสิไปตลาดไปทางได๋เกาะครับ” พอดีเห็นยายเดินมาล่ะครับ
   “ย่างนำทางนี่ล่ะบักหล่า ฮ้านยายทองเด้อเพิ่นขายผักขายปลา บอกว่าพวกโตมาอยู่เฮือนยายน้อยว่าซั่นเด้อ” ยายบอกครับ ผมก็เลยเดินนำไปเรื่อยๆ ชาวบ้านคงยังไม่กลับจากทำไร่ทำนากันเพราะมันยังไม่ค่ำมากครับ
   “สิพากันเฮ็ดหยังกินล่ะเดี๋ยว ผักน่ะสิเอาไปเฮ็ดหยัง” สาวจอยถามครับ เออนั่นสิวะ
   “จั่กแล้ว โตว่าสิเอาไปเฮ็ดหยังกินเฮาว่าสิเอาปลาไปเผา เฮ็ดแจ่วแกล้มท่อนแล้ว”
   “ซั่นกะเอาแต่แนวไปพอเฮ็ดติซั่น คือสิบ่มีไผกินผักดอกเนาะ” สรุปเมนูอาหารเย็นนี้ของเราคือย่างปลาช่อนครับแล้วก็คงทำน้ำจิ้มเผ็ดๆ
   “เน่าๆ อันนี้ปลาเนื้ออ่อนป่ะ ไม่เอาเหรอ” แฟนผมครับมันก็ไปก้มๆเงยๆดูเขาจับปลาช่อนให้
   “มึงอยากกินเหรอ” “อื้ม อยากกินอ่ะ กินแต่ปลาเผามันจะอยู่ท้องเหรอ”
   “ซั่นเอาปลาเนื้ออ่อนไปทอดบ่ล่ะอุ่น เอาไปอ่อมนำเฮาสิอ่อมให้กิน” สาวจอยแนะนำเมนูครับไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้าทำหน้าตาตื่นทันที
   “กินหอยป่ะเบบี๋” ผมเหลือบไปเห็นหอยโข่งล่ะครับลูกเบ้อเร่อ
   “เอาไปทำไรกินอ่ะ” “เอาไปเผาไง หวานๆอร่อยนะ” มันพยักหน้าทันทีครับ สรปุเราได้ปลาช่อนมาสามโล ปลาเนื้ออ่อนมาโลนึงแล้วก็หอยโข่งอีกนิดหน่อยครับ
   “บ่เอาไก่เอาหมูแน่บ่เดี๋ยว เผื่อหมู่เพิ่นสิกิน” สาวจอยแนะนำครับ ผมก็เห็นด้วยนะเลยเอาไปอีกอย่างละนิดหน่อยพอให้เป็นทางเลือกครับ
   “เน่าๆ ลุงเขาทำไรอ่ะ” พอเดินจะถึงบ้านอยู่แล้วครับแต่มันต้องผ่านบ้านผู้ใหญ่บ้านไปก่อน แกเหมือนกำลังจะไปกางตาข่ายดักปลา ที่นี่เขาเรียกใส่มองนะครับ
   “อ้าว ไปซื้อของบ่หล่า ได้หยังมาแน่ล่ะ ฮ่วยปลาเนื้ออ่อนไปต้องไปซื้อดอก พ่อลืมบอกนี่กะว่าสิไปใส่มองอยู่” พ่อผู้ใหญ่แกร้องทักมาล่ะครับพวกเราเลยแวะ
   “ไปใส่ไสล่ะค่าพ่อใหญ่” สาวจอยถามครับ
   “หน้าบ้านพวกโตนั่นล่ะ นำไหลแฮงเอ้าพร้อม ปลาคือสิติดหลาย”
   “อ้อค่ะ คือมองห่างแท้ค่าพ่อใหญ่” สาวจอยเห็นไอ้เบบี๋มันสนใจล่ะครับมันเลยถามโดยที่มันจะต้องไม่หันมาถามผม
   “มันจั่งได้ปลาโตใหญ่ตั้วหล่า ยามนี้ปลามันพวมไข่เฮากะเอาแต่โตใหญ่ๆมากิน” รู้ไหมกว่าจะดึงมันกลับมาที่บ้านพักได้ก็นานอยู่นะเพราะมันตั้งท่าจะถามนั่นถามนี่พ่อผู้ใหญ่แล้วนะนั่นเอากับมันสิครับ
   “อยากไปดูเขาใส่มองจังอ่ะเน่า” นั่นไงครับ
   “จะไปดูทำไมผู้ใหญ่เขาก็มาใส่หน้าบ้านเรานี่ไง” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็ยิ้มออกมา
   “มึงนี่นะไอ้เบบี๋ สนใจมากว่างั้น” ผมยื่นมือไปขยี้หัวมันล่ะครับ
   “ก็อยากดูอ่ะ เน่าเคยทำป่ะแบบนี้อ่ะ” มันตอบเขินๆล่ะครับ
   “เคยดิ กูเคยทำทุกอย่างล่ะ” “จริงดิ วันหลัง” “นั่น ไม่รู้เว้ย วันนี้ไปช่วยเพื่อนๆทำกับข้าวก่อนเริ่มหิวล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันก็หัวเราะ ตอนนี้เราแยกย้ายกันทำหน้าที่ล่ะครับ สัดเคนกับไอ้เล็กมันก่อไฟอยู่ข้างล่าง ส่วนสัดไม้มันจัดการกับปลากับสาวฝ้าย ส่วนสาวปูกับจอยช่วยกันทำน้ำพริก ส่วนผมกับไอ้เบบี๋ช่วยกันล้างหอย ที่จริงมันไม่ได้ทำอะไรมากมายนักหรอกครับ ผมไม่ให้มันทำมันก็ไปนั่งถามโน่นถามนี่ผมล่ะ ไม่รู้สิผมแค่อยากให้มันอยู่ใกล้ๆผมเท่านั้นเอง ไม่เวอร์ไปหรอกนะผมรู้สึกไม่อยากห่างมันล่ะครับ
   “บักหล่าไผว่างอยู่เบาะ มาซ่อยพ่อจับมองให้แน่ะ พ่อสิลอยไปฝั่งพู้น” พ่อผู้ใหญ่มาเรียกล่ะครับ สัดเคนมันอาสา
   “น้ำไหลแรงจังอ่ะเน่า พ่อผู้ใหญ่จะลอยไปได้เหรอ”
   “นั่นไงเขามีเชือก” คือมันมีเชือกอยู่อีกฝั่งล่ะครับ พ่อผู้ใหญ่แกก็ลอยน้ำข้ามไปโดยที่จับเชือกเพราะน้ำมันไหลแรงมากๆครับ ถึงจะว่ายน้ำแข็งยังไงก็อันตราย
   “เหมือนฝนจะตกเลยอ่ะ แล้วปลามันจะมาติดเหรอ” เอิ่ม ฟ้าร้องครับมืดมาซะขนาดนั้นจะเหลือไหมเนี่ย
   “ติดดิ ปลามันจะตื่นเวลาฝนจะตก มันคึกน่ะ” “อ้อ ทำไมอ่ะ” “ไม่รู้เว้ย กูไม่ใช่ปลา ถามไรเนี่ย”
   “อ่ะ ก็นึกว่ารู้นี่นา ลมแรงเนอะ อ่า ผู้ใหญ่ลอยไปแล้วๆ” มันทำท่าตื่นเต้นล่ะครับ แต่ดูอยู่ได้ไม่นานฝนก็เทลงมาครับ สัดเคนเหมือนจะไม่มีทางเลือกมันยืนตากฝนอยู่ ฮ่าๆ ส่วนพวกเราขึ้นมาหลบอยู่บนบ้านแล้วครับ ตอนนี้กำลังเผาปลาอยู่ด้านล่าง สัดไม้ไอ้เล็ก สาวฝ้ายกำลังง่วนอยู่ ส่วนสาวปูกับสาวจอยกำลังทำกับข้าวอย่างอื่นอยู่ครับ
   “เย็นจังเนอะ” “หนาวป่ะ มึงจะไปอาบน้ำก่อนไหม” ผมถามมันครับ มันส่ายหน้า
   “ไม่เอาหรอก เพื่อนๆยังทำกับข้าวอยู่เลยอ่ะ ไม่อยากเอาเปรียบ” ผมหัวเราะล่ะครับ จะว่าไปผมกับมันไมได้ทำอะไรมากเลยนะเหมือนว่าเพื่อนๆมันจะเห็นใจ นอกจากล้างหอยรอเผาแล้วเนี่ยไม่ได้ทำอะไรเลยนะมาจู๋จี๋กันซะส่วนมาก
   “อุ่นๆ โตสิเผาหอยอยู่เบาะ มาเผาแหม่ะพวกเฮาเผาปลาแล้วๆ” สาวปูเรียกมาจากด้านล่างล่ะครับ
   “ไปเผาหอยกัน” มันยิ้มครับแล้วลงไปด้านล่าง ผมก็ตามลงไป
   “กินมันทั้งอย่างนี้เหรอเน่า” มันถามครับ หอยโข่งส่วนมากเขาเอาไปต้มให้สุกแล้วเอามาแกะหั่นเป็นแว่นๆเอาลาบนะครับ อันนั้นอร่อยมากแต่เผากินก็ได้ครับมันจะออกหวานๆ จิ้มกับแจ่ว ซี๊ดด แล้วตบท้ายด้วยเหล้าหน่อย สุดยอดแล้วครับ
   “เดี๋ยวกูทำให้ดู มึงไปเอาเหล้าขาวฝรั่งมาให้กูหน่อยดิ” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็วิ่งขึ้นไปบนบ้านอย่างว่าง่ายกลับลงมาพร้อมขวดว้อดก้าและแก้ว ผมเลยสาธิตให้มันดู
   “สัด ร้อนๆ” ฮ่าๆ มันร้อนครับเลยคายออกมา มันก็หัวเราะ
   “เป่าก่อนดิ มานี่” จะไม่ให้ผมรักมันได้ยังไงครับ สิ่งที่มันแสดงออกมา สิ่งที่มันทำกับผมเหมือนว่ามันเคยชินหรืออะไรไม่รู้ แต่สิ่งนี้มันทำให้หัวใจผมยิ้มครับ มันเอาส้อมจิ้มตัวหอยที่ผมเอาออกมาจากเปลือกไปเป่า
   “จิ้มน้ำจิ้มก่อนป่ะ” มันเป่าเสร็จมันก็ถามครับ ผมยิ้มแล้วพยักหน้า
   “อ่ะ” มันยื่นคืนมาครับ
   “ป้อนด้วยดิ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่า ไม่เอาอ่ะ เพื่อนจะล้อ” “ใครจะมาล้อวะ ยังจะอายอยู่อีก” ผมไม่ยอมครับ ผมเลยยอมป้อนหอยโข่งผมแต่โดยดี พอผมเคี้ยวหอยโข่งแล้วกลืนก็ตามด้วยวอดก้า อ่า สุดยอด
   “อ่ะมึงลองบ้าง” ผมทำให้มันบ้างครับ
   “เอาว้อดก้าป่ะ” ผมถาม มันพยักหน้าครับ
   “เฮ้ย กินด้วยเหรอวะมึง” ผมตกใจครับเรื่องเบียร์มันยังไม่ค่อยกินเลยนะแต่ดันจะมากินว้อดก้า โอ้แฟนกู
   “กินนิดหน่อยอ่ะ ทำไมอ่ะ”
   “เออๆ อ่ะ” ผมยื่นหอยให้มันครับแล้วมันก็เคี้ยว พอมันกลืนผมก็ยื่นแก้วว้อดก้าให้มันล่ะครับ
   “อ่า ร้อนๆ” มันร้อนคอมั้งครับทำหน้าแบบว่าเหยเกผมเลยหัวเราะ
   “บู้ย หมู่เขาสิได้กินบ่น้อ มัวแต่มาหวานกันอยู่นี่ล่ะค่า” สาวฝ้ายเดินลงมาครับแซวเลย ผมไม่อายนะแต่ไอ้เบบี๋มันก็อายตามระเบียบมันล่ะครับ พอเผาหอยเสร็จก็ขึ้นมารวมกับเพื่อนๆล่ะครับ ตอนนี้มืดแล้วครับ ยายแกเอาข้าวมาให้เป็นข้าวเหนียว สาวปูกับสาวจอยทำอ่อมปลาเนื้ออ่อนกับทอดมาสองจานไอ้เบบี๋มันกินใหญ่ ส่วนผมกับเพื่อนๆผู้ชายไม่มีใครแตะข้าวเลยครับ สัดเคนมันกลับมาแล้วปากม่วงเลยนะครับมันไปอาบน้ำก่อนใครแล้วมานั่งรินเหล้าให้เพื่อนๆ ปลาเผาก็หวานอร่อยลิ้นดีจังเข้ากันกับว้อดก้าเหลือเกิน พอกินเสร็จก็มานั่งล้อมวงกันล่ะครับ
   “ร้องเพลงกันบ่สู” สัดไม้เสนอครับ ทุกคนเห็นดีด้วย
   “มึงจะอาบน้ำก่อนป่ะเบบี๋” ผมหันไปถามมันล่ะครับเพราะเห็นมันลูบแขนตัวเองอยู่บ่อยๆคงจะหนาว
   “ไปอาบก่อนติ๊อุ่น บัดยามนอนสิได้นอนโลด” สาวจอยแนะนำครับแล้วยิ้มๆ อ้าวๆ มองมาที่กูทำไมวะเนี่ย
   “อือ แต่รอก่อนก็ได้” “อ้าว ไมวะกลัวเหรอ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะครับเพราะผมดูจากหน้ามันก็รู้
   “ก็มันมืดนิ” มันตอบอ้อมแอ้มล่ะครับ
   “โตกะพาอุ่นไปอาบติ๊เดี๋ยว อิอิ” อ้าว สาวฝ้ายครับ เพื่อนๆทุกคนก็ยิ้มๆนะ
   “ป่ะเบบี๋ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูไปอาบเป็นเพื่อน” ผมหันไปบอกมันล่ะครับ
   “บ้าเหรอ ไปคนเดียวได้” มันอายครับ
   “อ้าว ผีเยอะนะมึงแถวนี้ เดี๋ยวผีเป้าเอาไปแดกหรอกนะ” มันทำหน้ากลัวผมก็หัวเราะไปตามประสา เอาไปเอามามันก็ไปเอาอุปกรณ์อาบน้ำมาจากกระเป๋าล่ะครับ
   “เน่าจะอาบด้วยป่าว” มันถามครับ เออดีเหมือนกันวะดีกว่าอยู่เฉยๆดึกมาเดี๋ยวกูก็ซักแห้งเหมือนเคย อิอิ
   “อืม อาบก็ดี” เราสองคนเดินลงมาอยู่ที่ใต้ถุนบ้านล่ะครับ เสียงฝนยังเทกระหน่ำลงมาไม่ยอมหยุด
   “อาบน้ำฝนป่ะเบบี๋” ผมชวนมันล่ะครับเพราะหลังบ้านเห็นมีตุ่มรองน้ำเอาไว้ น้ำฝนที่เทลงมามันเต็มจนล้นตุ่ม
   “อาบตรงนี้อ่ะเหรอ” “เออดิ เดี๋ยวกูไปยืมผ้าขาวม้าพ่อใหย่บ้านมาก่อน รอนี่ล่ะ” ผมเลยวิ่งตากฝนไปบ้านผู้ใหญ่บ้านล่ะครับ แกกำลังง่วนอยู่กับการกางตาข่ายอีกผืน พอผมบอกว่าจะมายืมผ้าขาวม้าไปอาบน้ำฝนแกก็หัวเราะใหญ่แล้วก็เรียกเมียแกให้เอามาให้ล่ะครับ ผืนใหม่เลยนะพอผมได้ผ้าขาวม้าก็วิ่งกลับมาแต่ว่า
   “อ้าวเชี่ย ไฟดับ” พรึ่บลงทันทีล่ะครับ ผมหยุดก้าวเลยนะ พอสักพักค่อยวิ่งไปหาไอ้เบบี๋
   “เน่าๆ เน่าหรือเปล่า” เสียงไอ้เบบี๋มันกลัวครับ
   “เออ ไฟดับว่ะ” “มองไม่เห็นอะไรเลยอ่ะเน่า” “แป๊บเดี๋ยวก็ชิน อ่ะผ้า” ผมไปถึงตัวมันแล้วล่ะครับ มันรีบมาจับแขนผมไว้ท่าทางคงจะกลัว
   “กูว่านะมืดๆแบบนี้แก้ผ้าอาบไปเลยไม่มีใครเห็นหรอก”
   “อ่า บ้าเหรอ เดี๋ยวฟ้าผ่าเอานะ”
   “ผ่าแป๊ะไรวะ เดี๋ยวกูทำให้ดู” ว่าแล้วผมก็ถอดเสื้อผ้าออกล่ะครับ เรื่องถอดน่ะไม่ถึงวินาทีเถอะ ไอ้เบบี๋มันไม่ทันตั้งตัว แต่พอมันเห็นผมถอดกางเกงออกมันก็รีบหันหน้าหนีล่ะครับ
   “อายไรวะ กูกับมึงเห็นกันไปไหนต่อไหนแล้ว” ผมพูดแล้วออกไปยืนให้น้ำฝนที่เทลงมาจากหลังคาหล่นใส่ตัว เย็นจริงๆครับ เย็นมากๆ มันเย็นคนละแบบกับน้ำในตู้เย็นนะ มันเย็นแบบว่าถึงกระดูกเลยล่ะผมว่านะ
   “อ่า ไอ้บ้า ไม่อายเลยเหรอ”
   “ไม่อายเว้ย กับมึงคนเดียวนั่นล่ะ เร็วดิ” ผมเร่งมันครับ มันก็ยืนอยู่พักหนึ่งแล้วเอาผ้าขาวม้ามาพันตัว แหมๆ กว่าจะถอดได้นะมึงลีลานักนะ
   “อ่า เย็นจังอ่ะ” พอมันเอาตัวมาโดนน้ำมันก็กระเด้งตัวออกล่ะครับ
   “นี่ล่ะน้ำฝน เร็วรีบอาบเดี๋ยวจะไม่สบาย”
   “ไม่ถูสบู่เหรอ” “ถูให้ดิ” ได้ทีครับ ผมเลยจับตัวมันออกมาจากสายน้ำฝน มันก็ยอมนะ เออ แปลกอยู่อย่างไอ้ลูกชายกูนี่มันยังไงไม่รู้ว่ะ หนาวจนหดไปหมดนะแต่มันดันทะลึ่งโด่ซะ ไม่รู้สิพออยู่ใกล้มันแล้วมันโด่ดีจริงๆว่ะ แต่พอจะให้เอาจริงๆแม่งเอ้ย ไม่ได้เรื่อง อะไรของมันวะเนี่ย
   “สระผมให้ด้วยนะ เหนียวหัว” “ไรอ่ะ ผมสั้นจะตาย”
   “ผมล่างเว้ย” มันเอามือตีผมทันทีครับ ผมเลยหันหน้ามาประชิดมัน มันก้มหน้า
   “อ้าวๆ ไหนบอกอาย ก้มมองใหญ่เลยนะมึง” ฮ่าๆ มันเงยหน้าขึ้นทันทีครับ แม้มันจะมืดแต่ผมก็รู้ได้เลยว่าหน้ามันแดง แววตามันตื่นๆจนไม่รู้ผมจะเปรียบกับอะไรดี
   “งั้นถูเองนะเน่า พูดมากจัง”
   “อ้าว ได้ไง มาๆกูถูให้มึง” ผมถูยังไงรู้ป่ะ ถ้าลูบธรรมดามันก็ไม่ใช่กูหรอกเว้ยจะบอก ผมก็เทสบู่ขวดที่มันเอามาใส่มือแล้วดึงตัวมันมากอด
   “อ๊ะ ตรงนั้นไม่ต้อง เราถูเองได้” ฮ่าๆ ร่องก้นเลยสิครับ มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญผมต้องทำให้มันสะอาดเข้าไว้สินะ มันจะถอยออกครับ ผมไม่ยอมหรอกนะ
   “อ้าว ก็ทำความสะอาดไงมึง ไรวะ หวงเหรอ”
   “อายนะ ไอ้บ้า” “อายไรวะ กูเห็นแล้วเถอะ แต่ตูดมึงนี่ไม่มีขนเลยนะ” ผมแซวมันครับ คราวนี้มันเขินจัด เอาเป็นว่าข้ามตรงนี้ไปนะครับ กว่าเราจะอาบน้ำฝนเสร็จปากก็สั่นดังกั๊บๆตัวเหี่ยวไปเลยครับ
   “ป้าดสู แม่นไปอาบน้ำอีหลีบ่น้อ ซาดไปโดนเนาะเฮ้ย” สัดไม้ครับ มันแซวทันทีพอเห็นผมกับไอ้เบบี๋เดินขึ้นบ้านไป
   “มีแน่ล่ะวะสู น้ำเย็นดีคือหยังนี่ ซ่วงเหล้าดีขนาด” ผมหัวเราะล่ะครับ
   “อีหยังอุ่น คือแก้มแดงแท้ ไปเฮ็ดหยังมา” สาวฝ้ายครับ
   “แดงไรอ่ะ อ่ากินหอยเผาเราหมดแล้วเหรอ” นั่นครับ มันเปลี่ยนเรื่องเก่งผมบอกแล้ว
   “ปัดสาหอยจี่ ไปจี่เอาใหม่กะได้ดอกน่า แซ่บเด้ล่ะอุ่น อิอิ”
   “เน่า มาใส่เสื้อก่อนดิ” มันเรียกผมครับ พอมันเรียกผมเพื่อนๆก็โห่ขึ้นทันที
   “โอ๊ย ซาดเฮ็ดบาปหมู่เนาะสู เพิ่นล่ะกูว่าแม่นมาฮันนีมูนกันเอาโลด แล้วซุมเฮามาหยังคั่นน่ะ” สัดเคนครับ
   “กะมาเป็นหมู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเด้ล่ะ ซ่ำนี่กะคึดบ่ออกเนาะ หวืย อิจฉาหมู่กะเป็น” สาวฝ้ายครับ
   “ฮ่วย หรือเจ้าบ่อิจฉาล่ะผู้สาว” “ว้าย บ่ค่าบ่ หมู่เพิ่นมีควมสุขกะดีใจนำแล้ว บ่เคยคึดอิจฉา คนผู้งามเขาบ่อิจฉาหมู่ดอก” “โอ๊ย กูเสียดดายหอยจี่เด้ สิฮาก” “ว้าย โพดพะโลหลายบักอันนี่” เสียงหัวเราะดังขึ้นล่ะครับ สองคนนี่มันยังไงๆอยู่นะ ชอบกัดกันแต่ไม่โกรธนะ กูว่านะเสร็จแน่ๆสาวฝ้ายเอ๋ย ฮ่าๆ
   “มึงทาไรวะ” พอผมรับเสื้อผ้าจากมันมาเสร็จผมก็เห็นมันทาครีมล่ะครับ
   “มอยส์เจอร์อ่ะ ทาป่ะ” “ทา ทาให้หน่อย” อิอิ
   “บ้าเหรอ เพื่อนอยู่นะ อาย” มันไม่ยอมครับ
   “กูมีวิธี” ผมก็ไม่ยอมครับท่าน ผมให้มันนั่งหันหลังให้เพื่อนๆล่ะครับ แล้วผมก็ไปนอนเอาหน้าไว้ตรงตักมันแล้วให้มันทา มันส่ายหน้านะคงไม่คิดว่าผมจะฉลาดขนาดนี้ เอิ๊กๆ
   “อ่อมปลาอร่อยจังอ่ะปู” พอแต่งตัวเสร็จเราก็ไปกินเหล้าล่ะครับ ตอนนี้ยายแกเอาตะเกียงเจ้าพายุมาให้ล่ะครับ มีเทียนไขอีกห่อใหญ่ แต่เทียนไขคงจะจุดไม่ได้เพราะลมมันแรงเหลือเกิน
   “แน่นอนบ่อุ่น อิอิ จอยปรุงตั้ว”
   “น่าจะมีส้มตำเนอะ เหมือนที่เรากินที่บ้าน”
   “ยามนี้แล้วบ่มีดอก กินแกล้มเหล้านี่ล่ะ” สาวจอยบอกครับ พวกเรากินข้าวกันอยู่สักพักก็เก็บกวาด เตรียมเหล้าออกมาตั้งวง ตอนนี้สัดไม้กับสัดเคนลงไปเผาปลาเพิ่มล่ะครับ ส่วนสาวๆไปรอคิวอาบน้ำ ไอ้เล็กมันก็ไปเฝ้าสาวปู เออ นี่ก็อีกคู่นึงล่ะน่าสงสัย ตามกันไม่ยอมห่างเลยนะ
   “เย็นสบายจังเนอะ” ตอนนี้ผมนอนอยู่บนตักมันล่ะครับ ไม่มีคนมันเลยยอม
   “มึงอย่าไปให้ละอองฝนมันโดนมากนะเดี๋ยวไม่สบาย”
   “แต่น้ำมันไหลแรงจังอ่ะเน่า น่ากลัวเนอะ”
   “เออดิ มึงรู้ไหมว่ามีจระเข้ด้วยนะเว้ย ตัวเท่าควายนี่ล่ะ”
   “อย่ามาโกหก เราไม่เชื่อหรอกนะ” “ใครโกหก ไม่เชื่อมึงลองหย่อนขาลงไปดิ มันงับเอากูไม่ช่วยนะเว้ย”
   “อ่า บ้าเหรอ แล้วจะนอนกันยังไงอ่ะเน่าคืนนี้อ่ะ” มันเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วครับ
   “เออ ไปกางมุ้งรอเพื่อนๆดีกว่า” ผมลุกขึ้นล่ะครับ มันก็ลุกตาม ยายแกเตรียมมุ้งมาให้สามหลัง ผมก็ไปกางมัดกับเสาบ้านล่ะครับ มุ้งแรกติดฝาห้องยายให้สาวๆนอน ส่วนมุ้งกลางมันเล็กหน่อย แน่นอนครับผมกับไอ้เบบี๋ ส่วนริมสุดให้ไอ้พวกเพื่อนๆมันนอนกัน พอปลาเผามาผมก็เริ่มก่อนใครล่ะครับไม่รอทั้งนั้น เปรี้ยวปากมานานล่ะ ไอ้เบบี๋มันกินแต่ปลาเผาจิบว้อดก้านิดหน่อย ผมไม่ให้มันกินด้วยล่ะครับ พอมันจิบไม่หมดผมก็กระดกแทน เพื่อนๆมาครบแล้ว
   “บักเคนมึงไปเอากีตาร์มาเล่นแหม่ะ” ผมบอกสัดเคนไปล่ะครับ มันเอามาด้วยล่ะ พอมันเดินกลับมามันก็เริ่ม
   “เอาเพลงหยัง” สัดเคนถามครับ
   “พรหมลิขิต” สาวฝ้ายร้องขึ้นทันที
   “ฮ้องเป็นติ๊” “ว้าย ซ่างว่าแท้ค่า ดีดมาโลดเป็นบ่เป็นกะสิมั่วเอานี่ล่ะ อิอิ” อ้าวนะ สรุปก็ร้องรำทำเพลงกันไปตามเรื่องล่ะครับ ผมว่าจะร้องเพลงให้ไอ้เบบี๋มันฟังนะแต่ไม่เอาดีกว่า ถ้าจะร้องอยากร้องให้มันฟังคนเดียว พอเริ่มดึกฝนเริ่มซาครับ ถ้าไม่มีใครพูดอะไรนี่มันเงียบมากจริงๆนะ มีแต่เสียงน้ำไหลกบเขียดร้องระงมอยู่ทั่วบริเวณ
   “อุ่นๆ อยากนอนติ๊ คือตาเป็นตาหลับแท้” เสียงสาวจอยเรียกมันล่ะครับ ผมเองเริ่มมึนมากแล้ว
   “นิดหน่อยอ่ะ กี่โมงแล้วอ่ะจอย” “สิหาทุ่มแล้วเด้ โตไปนอนก่อนโลด แล้วเพิ่นนั่นแม่นเมาหรือหยังนั่นน่ะ เดี๋ยวๆ”
   “หือ อีหยัง บ่เมา บ่เมา” ผมได้ยินเหมือนสาวจอยเรียกล่ะครับ
   “บ่เมาหยังตากะบ่มืน พาอุ่นไปนอนไป ยุงกัดเพิ่นนั่นเห็นบ่”
   “ไม่เป็นไรอ่ะจอย เดี๋ยวเราไปนอนก่อนเอง” ไอ้เบบี๋มันบอกครับ ท่าทางมันคงงอมจัดล่ะ มันนั่งอยู่ข้างๆผมนี่ล่ะครับ ผมเอาข้อศอกพาดบ่ามันอยู่ เผลอปุ๊บก็หอมแก้มปั๊บ เพื่อนๆตอนแรกก็แซวเอาไปเอามาเหมือนพวกมันจะชินล่ะ ถึงผมจะเมาแต่ผมก็รู้นะเว้ยว่าใครควรอยู่ใกล้ ไอ้เบบี๋มันไปนอนแล้วครับ ผมเองก็อยากไปนอนกับมันนะ แต่เสียดายว้อดก้าว่ะ เหลือขวดหน่อยๆ นี่สามขวดนะ สาวปูกับสาวฝ้ายนี่ อื้อ น่ากลัวมากกระดกเอาๆ สาวจอยอีกคน ขนาดสาวๆยังคอแข็งขนาดนี้มีหรือผู้ชายมันจะยอมครับ ไอ้เล็กมันลงแล้ว ส่วนสัดเคนกับสัดไม้คอเริ่มตก ผมเองก็เหมือนจะแย่
   “อะ อ๊วกก” กูว่าแล้วพอลุกจะไปฉี่มันหมุนติ้วๆยังไงไม่รู้ว่ะ กูเลยต้องวิ่งไประเบียงติดน้ำปล่อยของเก่าออกเสียหน่อย เสียดายจังวะ ตามประวัตินี่กูไม่เคยอ๊วกเลยเถอะ จิ๊
   “ฮากติ๊ ไปลูบหลังให้เพิ่นแน่สู” เสียงใครไม่รู้ครับ
   “โอ๊ย ลุกบ่ได้ดอกเด้อค่า ลุกกะคือสิฮากคือกัน ว้อดก้าอีหยังนี่ แฮงหลาย”
   “เน่าๆ” เสียงไอ้เบบี๋ครับ มันมาลูบหลังให้ผม
   “กินเยอะเห็นไหมอ่ะ” มันลูบหลังไปบ่นไปตามประสาล่ะครับ ส่วนกูนี่เอาออกมาหมดท้องหมดไส้เลยนะ
   “อ่า ฮ่า” หายใจทางปากครับ ผมลงนอนกับพื้นเลยนะ
   “เดี๋ยวไปล้างหน้า ไหวไหมเน่า” มันลูบหน้าลูบตาให้ผมอยู่ครับ
   “หวายเด้” “ไหวไรอ่ะ รอตรงนี้ล่ะเดี๋ยวเราไปตักน้ำมาเช็ดหน้าให้” มันพูดแล้ววิ่งไปเลยครับ อ้าว ลงไปคนเดียวด้วยมันไม่กลัวเหรอวะเนี่ย ผมรอมันจนหลับตาไปก่อน สักพักเหมือนมีผ้าเย็นๆมาเช็ดตามหน้าผมล่ะครับ
   “บ้วนปากก่อน ไหวไหมลุกไปนอน” เสียงมันเหมือนคนกลัวหรือตกใจอะไรสักอย่างนี่ล่ะครับ เพราะมันสั่นๆ
   “อือ” ผมบ้วนปากตามมันบอกแล้วมันก็พยุงผมไปที่นอนครับ
   “เวียนหัวว่ะเบบี๋” คือหลับตาลงเหมือนว่าโลกมันกำลังหมุนเลยนะครับ ลืมตาก็ทรมานหลับตาก็เหมือนจะตาย
   “แป๊บเดียวนะ เดี๋ยวก็หาย” มันนวดหัวให้ผมอยู่นะครับ เหมือนผมกำลังนอนตักมันอยู่นะรู้สึกแบบนั้น
   “อือ เวียนหัวว่ะ เวียน” “อย่าพูดดิ หายใจลึกๆ นอนคว่ำไหมจะได้ไม่หนักหัว” มันจับตัวผมให้นอนคว่ำลงล่ะครับ แล้วมันก็มากอดผม รู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นๆหยดใส่ที่แก้มผมด้วยนะ อย่าบอกนะว่ามันร้องไห้ ไรวะแค่เมาก็ร้องไห้ ไอ้นี่มันเยอะไปไหมเนี่ย แต่เอ๊ะ กูเมาเยอะไปนี่หว่าเนอะ มันคงจะห่วงกูล่ะ กลัวเป็นหม้ายอ่ะดิมึง ฮ่าๆ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. พักนี้ผมพักผ่อนน้อยมากนะครับ คิดอะไรไม่ออกเลย เขียนแล้วก็ไม่ดีเท่าไหร่เลยไม่อยากลง ต้องรอเดือนหน้าเปลี่ยนกะถึงจะได้นอน ยังไงก็อ่านแก้ขัดไปก่อนนะครับผม

ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 27-06-2012 18:55:55
น้องอุ่นไปเจออะไรน้ออ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-06-2012 19:15:40
อ้าวอุ่นร้องไห้ทำไมนิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 27-06-2012 19:37:40
เห ๆ อะไรนะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดี ๆ อุ่นถึงร้องไห้ >,,<"
หรือว่าไปเจออะไรดี ๆ ของเน่าเข้า ติดตามอย่างใจจดใจจ่อเลยครับ
เป็นกำลังใจให้พี่อิ๊กนะครับ (:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 27-06-2012 19:49:22
ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ แฟลคลับเป็นห่วง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 27-06-2012 20:35:16
เบบี๋เป็นอะไรไป ทำไมร้องไห้ล่ะ  :sad11:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 27-06-2012 21:02:50
อุ่นๆเป็นไรอ่ะ
พี่อิ๊คแต่งแบบนี้ดีๆแล้ว ผมชอบๆมากๆเลย มันเหมือนจริงชีวิตอ่ะ
พักผ่อนเยอะๆนะ พี่อิ๊ค
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 27-06-2012 21:25:07
่ถ้าอุ่นเป็นหม้ายเพราะเดี๋ยวกินวอดก้า เดี๋ยวเราจะเข้าไปปลอบใจเอง
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 27-06-2012 21:46:00
รอฉากนั้น  ><!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 27-06-2012 21:52:00
อุ่นกูรักและเป็นห่วง บักเดี่ยวมาก

มีความสุขจัง น่ารักมากอ่า กี๊สสสสสสสสส 
ชอบอ่าๆ

แต่ไอที่บอกว่าพอจะเอาจริงนิไม่สู้ มันยังไงนิ T^T ค้างคาใจตั้งแต่ตอนที่แล้วนู่ละ
แต่พี่อิ๊กมาบอกว่า เดี่ยวมันเมามาก เลยไม่สู้ คิคิ


อ่าๆ พี่อิ๊ก ๆ ไม่เป็นไรนะ  อ่านได้สบายมาก
ทนหน่อยเนอะ เดี๋ยวก็เปลี่ยนกะแล้ว

ว่าแต่ทำงานไรคะเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-06-2012 00:18:55
ได้บรรยากาศโฮมสเตย์มาก ๆ อยากไปมั่ง
น้องอุ่นไปเจออะไรมา ทำไมร้องไห้ เดี๋ยวก็มัวแต่เมาหนักเลยไม่รู้เรื่อง

คุณอิ๊กพักผ่อนมาก ๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 28-06-2012 00:59:37
อุ่นเป็นไรอ่ะ อย่าเจอเรื่องไม่ดีมาเลยนะ เดี๋ยวเมื่อไหร่แกจะเลิกกินเหล้าแบบนี้ซะทีนะ เหมือนกินแล้วดูแลใครไม่ได้จริงๆด้วย ถ้าอุ่นไปเจออะไรไม่ดีมาฉันจะโกรธแก ไอ่เน่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 28-06-2012 10:05:41
อุ่นเป็นอารัยอ่าๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 28-06-2012 10:28:16
รอฉากนั้นอย่างใจจดจ่อ  คุณอิ๊กกี้ผักผ่อนมากๆ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ แฟนคลับเป็นห่วง :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-06-2012 10:31:53
รักษาสุขภาพน๊าอิ๊กกี้ :L2:
รอได้จ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 28-06-2012 18:24:55
สนุกเหลือเกิน ทำไมอุ่นต้องร้องไห้ด้วย อุ่นมีไรหรือเปล่าเอ่ย
ให้กำลังใจนะน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 28-06-2012 19:05:13
อ่นน่ารัก ขึ้น อิอิ คนมีความรักทำให้น่าตาเด็กลงนิดนึง ๆ :z2: :z2:+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-06-2012 19:08:29
ไปเจออิหยังมาน้อหนูอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 28-06-2012 19:38:25
น่ารักเกินไปแล้ว
คุณอิ๊ก รักษาสุขภาพเด้อ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 28-06-2012 19:40:53
นายเดี๋ยวเมาจนเป็นเรื่อง :เฮ้อ:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 28-06-2012 20:10:17
นู๋อุ่นเป็นอะไร...ตกใจกลัวเจ้าเดี๋ยวจะน็อคหรือยังไง...
รุ่นนี้ไม่ต้องกลัวหรอกจ๊ะ...เหนียวทนทานทุกสภาวะเนอะเดี๋ยวเนอะ

 :กอด1: เป็นกำลังใจให้น้องอิ๊คค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 28-06-2012 21:05:29
เมนูน่ากินโดยเฉพาะปลาเผา
เดี๋ยวนี่ยังไงทำให้อุ่นเป็นห่วงนะ

ขอบคุณ และรักษาสุขภาพด้วยค่ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 29-06-2012 00:05:09
เดี๋ยวไม่สบายเปล่าอ่ะ...อุ่นเป็นห่วงขนาดนี้ น่ารัก~
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2012 09:47:53
รอจ้ารอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-07-2012 17:55:41
ดันดัน :3059:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 01-07-2012 20:16:48
ตามมาอ่านด้วยคนนนน แบบว่าอ่านไปรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ฮ่าๆ แต่ก็อยากอ่านอ่ะ อิอิ
ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างอุ่นกับเดี๋ยว ค่อยๆพัฒนาแล้วมันน่ารักดี ^^
เดี๋ยวนี่แบบว่าหนุ่มน้อยหัดรักแบบว่าหัดรักผู้ชายคนแรกก็ยังทำตัวไม่ถูกอ่ะเน๊อะ ฮ่าๆ
ส่วนอุ่นนี่ก็แบบว่าเคยมีแฟนมาบ้างแล้ว แต่ก็เหมือนจะเข้าใจความรักระหว่างผู้ชายด้วยกันมากกว่า
มันกลายเป็นว่าอุ่นมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากกว่าเดี๋ยวสินะ งื้ออ น่ารักอ่ะ
เดี๋ยวชักจะหลงอุ่นมากขึ้นเรื่อยๆเลยอ่ะ อ่านไปยิ้มไป ลุ้นด้วยย ฮ่าๆ
ตอนล่าสุดนี่เดี๋ยวไม่สบายมากเลยนะเนี่ย เป็นไรมากมั้ยหว่า สภาพคงจะแย่มาก อุ่นถึงได้ร้องไห้เป็นห่วงขนาดนี้
เง้อออออ รออ่านตอนต่อไปน้าาา สู้ๆนะคนเขียนน ^^
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 02-07-2012 16:50:52
อยากอ่านแล้วเด้อมาต่อให้อ่านแหน่เด้อน้องหล่า คึดฮอดน้องอุ่นและน้องเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 18 Version (เดี๋ยว) 27 June 12 หน้า 23
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 03-07-2012 09:48:49
Don’t call Me BaBy!!

ผมไม่ชอบเลยนะคนที่กินเหล้าแล้วเป็นแบบนี้อ่ะ ตอนนี้มันดูทรมานมากๆครับ คงจะเวียนหัวมากผมเองก็ได้แต่บีบนวดให้ ยิ่งเห็นยิ่งสะท้อนใจ เลยแอบน้ำตาไหลนิดนึงอ่ะ ก็นะคนมันห่วงนี่นา กลัวมันเป็นอะไรไปด้วยล่ะ ผมเคยเห็นแต่พ่อผมเมา แต่พ่อผมเมาแล้วนอนอย่างเดียวเลยไม่ดิ้นพรวดพราดแบบนี้ ผมไม่เคยเห็นด้วยล่ะมั้งเลยตกใจ ผมให้มันนอนคว่ำแล้วนวดท้ายทอยให้มันล่ะครับสลับกับขมับ ดีนะที่ผมยังพอนวดเป็นบ้าง สักพักมันก็นิ่งไปครับ อ๊ะ ตายหรือเปล่าเนี่ย
   “คร่อกก” เฮ้อ โล่งใจหน่อย ไอ้บ้าเน่าทำให้ห่วงแทบตายนะ ผมเลยยอมนอนครับ รู้สึกว่าตอนนี้ฝนได้เทลงมาอีกระรอกเสียงสายฝนกระทบสังกะสีตอนแรกก็รำคาญนะแต่ฟังไปฟังมามันก็เพลินดีครับ อีกอย่างผมได้นอนกอดคนที่ผมมีใจให้นี่มันรู้สึกดีจริงๆนะ หลับตอนไหนไม่รู้ อิอิ
   “อือ” ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงเพื่อนๆคุยกันล่ะครับ พอตื่นจิตใต้สำนึกแรกผมก็ควานหาตัวไอ้เน่าก่อนเลย มันยังนอนอยู่ครับอ้าปากกรนอยู่เลย ผมลุกขึ้นนั่งแล้วจับตามหน้าผากมัน จะจับทำไมเนี่ยมันไม่ได้เป็นไข้ซะหน่อย แต่ก็ไม่รู้นี่นาว่าควรจะจับหรือทำให้เรารู้ได้ยังไงว่ามันโอเคแล้วอ่ะ คือทุกอย่างมันปกติล่ะครับผมเลยลุกออกไปหาเพื่อนเตรียมเครื่องจะไปล้างหน้าล้างตา
   “อ้าว ตื่นแล้วบ่อุ่น เป็นจั่งได๋ไอ้เดี๋ยวน่ะ” จอยมันถามครับ ปูกับฝ้ายก็ตื่นแล้วทั้งสามนั่งอยู่ตรงนอกชาน
   “อืม คงดีขึ้นล่ะ แต่เมื่อคืนน่ากลัวอ่ะ”
   “จั่งซี้ล่ะคนเมาน่ะ แต่เหล้าฝรั่งนี่แฮงคั่กเนาะ เฮากะเกือบตาย” ฝ้ายมันพูดขึ้นล่ะครับ
   “แม่นๆ หัวปี้นเลยค่า บู้ยบ่เคยกินเหล้าอีหยังแฮงปานนี้ แต่ว่าตอนตื่นมาบ่ปวดหัวเด้ล่ะ” ปูมันเสริมครับ สรุปเพื่อนๆผมกินเหล้ากันหนักทุกคนเว้นผมคนเดียว อิอิ
   “แล้วเดี๋ยวมันสิขับรถไหวบ่ล่ะอุ่น บ่ไหวกะพากันอยู่อีกจักคืนกะได้เด้เฮาว่า” อืม จอยมันเสนอขึ้นครับ จริงสินะ
   “แล้วกี่โมงแล้วอ่ะ”
   “สิสิบโมงแล้วเด้ มันสวยแล้ว”
   “แล้วฝ้ายกับปูล่ะ อยู่ต่ออีกคืนโอเคป่าว” ผมหันไปถามเพื่อนจากต่างถิ่นครับ
   “บ่มีปัญหาดอก ปิดเทอมน้อยแล้วเด้ กลับเมือไปกะขี้คร้านไปขุดมันซ่อยแม่ อิอิ” อ้าว ฝ้ายครับ
   “เฮาสิโทรไปบอกทางบ้านก่อนล่ะ แต่คือสิบ่มีปัญหาหยังดอก ดีคือกันมาพักผ่อน” ปูเสริมครับ ผมเลยลงไปล้างหน้าล้างตา พอกลับขึ้นมาก็โทรบอกพ่อ
   “ทำไมล่ะลูก” ยังพูดไม่ทันจบเลยครับพ่อผมเสียงเครียดเชียว
   “เน่ามันเมาอ่ะพ่อ ไม่อยากให้ขับรถกลับมันอันตราย ฟ้าก็ครึ้มด้วยอ่ะ นะนะ พ่อนะ อุ่นขออยู่อีกคืนนึงนะ เพื่อนๆก็อยู่กันอ่ะ” ผมอ้อนพ่อแต่เช้าครับ
   “อืม ทำไมพากันไปกินเหล้าหนักขนาดนั้นล่ะลูก มันไม่ใช่บ้านเรานะ แล้วเดี๋ยวไปไหนพ่อขอคุยหน่อย”
   “มันยังไม่ตื่นอ่ะพ่อ ไม่เป็นไรหรอก ยายเจ้าของบ้านก็ใจดี พ่อผู้ใหญ่ก็ใจดี พ่อไม่ต้องห่วงหรอก”
   “จะให้พ่อทำยังไงล่ะก็เราตั้งใจว่าจะค้างต่อนี่ เอาล่ะๆ เดี๋ยวพ่อให้เลขาจัดการให้ แล้วเป็นยังไงบ้างลูก สนุกไหม”
   “สนุกดีนะพ่อ มีย่างปลากินด้วยล่ะ แต่น้ำลงเล่นไมได้น้ำมันไหลแรง” ผมคุยกับพ่ออยู่พักหนึ่งล่ะครับแล้วก็วาง
   “หิวบ่ สิพากันเฮ็ดหยังกินดี” ฝ้ายมันถามครับ
   “เฮ็ดเข่าต้มบ่” ปูเสนอครับ
   “ดีคือกันอยากซดฮ้อนๆ ไปขอเข่าสารยายมาต้มป่ะ” จอยมันชวนครับ สรุปจอยกับปูก็เดินไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน เพราะยายแกไปนอนค้างที่บ้านอีกบ้านครับ ไม่กล้าค้นรื้อของแก ผมกับฝ้ายก็ช่วยกันก่อไฟ
   “เฮาอยากกินโอวัลตินฮ้อนๆ โตอยากกินบ่อุ่น” “อืม เข้าท่าๆ แต่ต้องไปซื้อ เออ ไปดูของที่ร้านด้วยไหมฝ้าย เผื่อมีอะไรน่าสนใจ” พวกเรารอให้ปูกับจอยกลับมาล่ะครับแล้วก็เดินไปซื้อของ บรรยากาศตอนสายๆก็เหมือนเดิมครับไม่วุ่นวายเลย คงเป็นเพราะมันสายมากแล้วล่ะเลยไม่ได้ออกมาเห็นวิถีชาวบ้านเท่าไหร่ เราเดินผ่านบ้านยายคนที่ทอเสื่อต้นกก
   “สวัสดีครับยาย” ผมทักทายครับแล้วเดินแวะเข้าไปหาแก
   “อ้าว บักหล่าเป็นจั่งได๋นอนหลับสบายดีบ่ ไฟดับเนาะเมื่อคืน ลมแฮงคั่ก” ยายแกตอบล่ะครับ
   “หลับสบายครับ วันนี้ยายไม่ทอเสื่อเหรอครับ” ผมยังสนใจอยู่ครับ
   “มื้อนี้บ่อต่ำสาดดอกบักหล่า ยายสิไปเอากก”
   “เหรอครับ ไปกี่โมงอ่ะยาย” ผมสนใจขึ้นมาครับ
   “สวยๆพู้นล่ะ ยายสิไปสวนก่อน” ที่จริงผมก็อยากไปนะแต่คงไม่ดีเท่าไหร่ ผมคุยอยู่กับยายสักพักก็เดินไปที่ร้าน มีปลาเนื้ออ่อนเยอะเลยครับเช้านี้เหมือนเขาเพิ่งจะได้มาใหม่ๆ มีเห็ดมีหน่อไม้ แต่เราได้แค่ผักชีกับไข่ไก่มาเพราะฝ้ายมันบอกว่าจะเอาหมูต้มข้าวต้ม
   “ซุมพ่อซายยังบ่ตื่นติ๊” ฝ้ายมันถามครับพอเราเดินกลับไปถึง
   “บ่ๆ นอนดีคัก ขี้กะโมยมาคือสิพากันตายทิ่มซื่อๆเนาะ” ปูเสริมครับ ผมเลยชงโอวัลตินเดินขึ้นไปข้างบนเผื่อไอ้เน่ามันจะตื่นแล้ว เสียงกรนยังคงกระหึ่มอยู่ล่ะครับ
   “ยังไม่ตื่นเหรอ” ผมรำพึงกับตัวเองแล้วเปิดมุ้งเข้าไปดูมัน
   “อือ” “อ้าว ตื่นแล้วไม่ลุกอ่ะเน่า เป็นไงบ้างยังเวียนหัวอยู่ไหม” ผมเข้าไปนั่งข้างๆมันครับ
   “ยังไม่ตื่น” อ่านะ หลับตานะแต่พูด
   “กินโอวัลตินป่าว ร้อนๆ” ผมจับตามหน้ามันล่ะครับ
   “อ๊ะ ทำไรอ่ะเน่า” มันดึงตัวผมลงไปนอนข้างๆมันล่ะครับแล้วมันก็กอด
   “กอดหน่อยดิ” “มากอดไรป่านนี้ แล้วไม่เวียนหัวแล้วเหรอ”
   “เวียน โอ๊ย เวียนอยู่เลยเบบี๋” “อ่านะ ไม่จริงหรอก เร็วๆลุกไปกินโอวัลตินจะได้ดีขึ้น”
   “ไม่อยากกิน อยากกินมึงอ่ะ” มันทำตาวิ้งๆใส่ผมครับ แหมนะ
   “ไม่เล่นด้วยแล้วนะ ลุกเร็ว” “ดูดิ ลูกชายมันตื่นไม่ยอมลงเลยอ่ะเบบี๋ ช่วยหน่อยดิ”
   “จิ๊ เออเน่า คืนนี้อยู่ต่ออีกคืนนะ เพราะขับรถคงไม่ไหว” ผมเปลี่ยนเรื่องล่ะครับ
   “อืม ดีเหมือนกัน อยากนอนกอดมึงอีกคืน เพราะคืนนี้กูคงไม่กินเหล้าหรอก”
   “ทำไมอ่ะ ยังเหลืออยู่นี่” “อ้าว กินกูก็ไม่ได้เอากันกับมึงดิ” อารมณ์เสียผมดิ้นออกมาจนได้ล่ะครับแล้วออกจากมุ้งมา ทีอยากให้ทำก็ดันเมานะมึง แว้กก
   “มันยังครึ้มๆอยู่เลยนะ อ่า สบายจัง” มันก็ตามออกมาล่ะครับแล้วมานั่งมองน้ำไหลข้างๆผม ไอ้เน่ามันบิดขี้เกียจ สักพักนายไม้กับเล็กก็ตื่น ผมเลยลงไปชงโอวัลตินมาให้มันสองคนด้วย
   “มื่อนี้เฮาสิพากันเฮ็ดหยังดี” นายไม้ถามครับ
   “นั่นดิ ยายบอกไปเอาต้นกก” “นั่นๆ พอๆ ไม่ไปเว้ย อยู่นี่ล่ะ นั่งๆนอนๆเดี๋ยวก็หมดวัน” ไอ้เน่ามันสวนขึ้นมาครับ
   “หวืย มานั่งมานอนกะเบื่อตั้ว ไปเบิ่งไทบ้านเพิ่นเฮ็ดนาเฮ็ดสวนสิบ่ดีกั่วเบาะ” เล็กมันบอกครับ ผมเห็นด้วยกับมันนะ เพราะถ้ามานั่งมานอนอยู่เฉยๆนี่เบื่อตายจริงๆล่ะ แต่ก็ไม่มีใครคิดออกว่าควรจะไปไหนหรือทำอะไรดี
   “เข่าต้มแล้วแล้วค่า สิกินเลยบ่” ฝ้ายมันเกินขึ้นมาบอกครับแล้วถือถ้วยใส่ข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมฉุยมาก่อนเลยนะ อ้าว ถือมาคนละถ้วยแหมนะพวกนี้นี่
   “กินเลยไหมเน่า” ผมหันไปถามมันครับ
   “อือ” “อือไร กินหรือไม่กิน” ผมทำตาโตใส่มันครับ
   “กินถ้ามึงไปเอามาให้ และจะกินถ้ามึงป้อนด้วย” “งั้นคงไมได้กินหรอกนะ” ผมเดินลงไปทันทีครับ แต่ก็ตักมาเผื่อมันอยู่ดีล่ะพูดไปงั้นล่ะครับ
   “อ้าว บักอันนั่นบ่ทันตื่นติ๊” ฝ้ายมันถามถึงเคนล่ะครับ
   “ไปปลุกมันแน่ผู้สาว นอนดีคั่กบักห่านี่” นายไม้ยิ้มๆ
   “บู้ย บ่เด้อค่าตื่นสวยกะซ่ามแล้ว คนขี้คร้านเด้แนวนี้” ไม่ไปแต่สายตามองอยู่ตลอดนี่แปลว่าอะไรนะ แหมๆ เริ่มส่อแววแล้วนะฝ้าย
   “เป็นจั่งได่บักหล่า นอนดีบ่” ยายแกกลับมาที่บ้านครับถือตรระกร้าใส่ปิ่นโตมาด้วย
   “พากันหิวหรือยัง ยายเอากับเข่ามาให้” ยายแกวางตระกร้าลงล่ะครับ จอยกับปูก็รับอาสาเปิดปิ่นโต ยายแกใจดีมากเลยนะเพราะกับข้าวมีสามอย่างแน่ะ มีแกงหน่อไม้ มีปลาทอดกับห่อหมกปลา กลิ่นนี่ไม่ต้องพูดถึง
   “ยายบ่อมีแนวให้เฮ็ดแน่บ่จ้า พวกหนูว่าสิพากันอยู่อีกจักคืน” จอยมันถามครับ
   “แนวเฮ็ดมันกะบ่อึดดอกหล่า แต่พวกโตพากันมาเที่ยว คันมายามน้ำบ่ไหลแฮงกะคือสิดีเนาะ สิได้พากันเล่นน้ำ”
   “แล้วยายไปไสจ้ามื้อนี้” สาวฝ้ายถามขึ้นครับ
   “ยายสิไปสับหน่อไม้ พายเฮือไป” ทุกคนตาวาวมองหน้ากันทันที
   “ไปนำแน่ได้บ่จ้ายาย” ฝ้ายมันถามต่อล่ะครับ
   “อยากไปติ๊ คันพวกหล่าอยากไปยายสิไปยืมเฮือผู้ใหย่เพิ่นมาอีกลำ ไผพายเฮือเป็นอยู่บ่”
   “ผมพายเป็นยาย” ไอ้เน่าครับ ผมมองหน้ามันแล้วยิ้มๆ สรุปพวกเรามีอะไรทำกันแล้วครับ อิอิ ดีใจจังอย่างน้อยก็ไม่เบื่อ ฝ้ายไปปลุกนายเคนแล้วครับส่วนคนที่กินข้าวต้มแล้วก็ลงไปทำธุระส่วนตัวด้านล่างเหลือผม ไอ้เน่าเล็กแล้วก็นายไม้อยู่บนบ้าน
   “ว้าย เป็นตาขี้เดียด” เสียงฝ้ายกรี๊ดขึ้นล่ะครับ
   “ฮ่วย อีหยังเดี๋ยวนี่” พวกเราก็หันไปมองล่ะครับ นายเคนเดินออกมาจากมุ้ง เอ่อ โทงๆมาเลยนะ ฝ้ายมันเอามือปิดหน้าไว้ หน้าแดงถึงหูเลยนะ
   “บู้ย บักห่ามึ้ง บ่ใส่ส่งไนนอนซั่นบ่ ผู้สาวเห็นซ่ำ ฮ่าๆ” นายไม้ครับ นายเคนมันเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวรีบเอามือกุมไว้ทันที
   “โอ้ยเนาะ มาเห็นของข้อยซ่ำ รับผิดซอบเด้อเจ้า” พวกเราหัวเราะกันอย่างสนุกสนานแล้วก็มากินข้าวล่ะครับ ฝีมือยายนี่อร่อยมากๆ พอกินข้าวเสร็จก็ไปเตรียมตัวจะไปสับหน่อไม้กันล่ะครับ
   “เอาห่วงยางไปนำเด้อหล่า น้ำมันไหลแฮงคัก” ผู้ใหญ่บ้านก็มาส่งเราอยู่ที่ท่าน้ำล่ะครับมีเรือสองลำ เรือแจวยาวพอสมควร จะว่าอะไรไหมถ้าจะบอกว่าครั้งแรกเลยนะเนี่ยสำหรับผมที่ได้เห็นเรือแจวและกำลังจะได้ขึ้นไปนั่ง ตอนนี้หัวใจเต้นตุบตับตื่นเต้นครับ ผู้ใหญ่เอาห่วงยางสีดำมาให้สองอันครับเลยแบ่งกัน เรือลำของยายมีฝ้าย เคน ส่วนอีกลำก็มีไอ้เน่า ผม นายไม้และจอย ส่วนปูกับเล็กไม่ไปครับ น่าสงสัยล่ะสองคนนี้ อย่าบอกนะว่าแอบทำอะไรกัน ฮ่าๆ ไม่หรอกครับ คิดมากน่า
   “เสียมทำไมด้ามมันยาวจังอ่ะเน่า” ผมถามขึ้นล่ะครับ อุปกรณ์มีเสียมด้ามยาวๆอันนึง ไม้ตะขอที่มีเคียวมัดไว้ตรงปลายอย่างแน่นหนาแล้วก็กระสอบปุ๋ยใช้แล้ว ไอ้เน่ามันเป็นคนพายเรือครับ ส่วนผมนั่งถัดจากมันมา นายไม้กับสาวจอยนั่งถัดจากผมไป นายไม้เป็นคนถือเสียมด้ามยาวๆ ส่วนจอยเป็นคนถือตะขอ
   “ก็ไปสับหน่อไม้ไง กอไผ่มันเข้าใกล้มากไม่ได้ต้องใช้ด้ามยาวๆ พอสับเสร็จก็เอาไม้ตะขอนี่เกี่ยวมา” ผมพยักหน้าครับ ตอนนี้เรือกำลังไหลไปตามแรงไหลของน้ำ เอ่อ มันน่ากลัวมากนะครับ ผมไม่กล้ามองเลยนะเพราะน้ำสีขุ่นๆมันไหลวนๆเป็นเกลียวๆตามกันไป ต้นไม้ที่อยู่ข้างๆน้ำมันก็ท่วมจนไม่เห็นโคนต้นเหลือแต่ใบไม้ที่ยังคงชุ่มไปด้วยน้ำฝนจากเมื่อคืน เพราะถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแสงแดดเลยนะครับ
   “เบบี๋ๆ” “หือ” ผมเอี้ยวหน้าไปหาไอ้เน่าล่ะครับ
   “นั่งหันหน้ามาหากูดิ” “อ้าว ไมอ่ะ เขาต้องหันหน้าไปทางนี้ไม่ใช่เหรอ” ผมงงครับ
   “อ้าว ก็กูอยากมองมึงนี่ หันมาเร็วๆ” อ่านะ เอาวะผมตามใจมันครับเลยค่อยๆเปลี่ยนด้านหันมาหามัน พอหันมามันก็ยิ้ม ยักคิ้วให้ผมด้วยนะ
   “ยิ้มไรอ่ะ” “ไม ยิ้มไม่ได้ไง ทีมึงยังยิ้ม”
   “ใครยิ้ม เราไม่ได้ยิ้มนะ” “ไม่ยิ้มแล้วทำไมหน้าแดงวะ” อ่านะ ไม่แดงได้ไงล่ะไอ้นี่ ก็กูเขินเป็นนะเว้ย
   “จอยๆ เฮาเกาะห่วงยางลอยนำไปเบาะ เฮาว่าเพิ่นคือสิจีบกันนี่ล่ะ” เอ่อ นายไม้ครับ หันมาแซวทันที
   “เว้าเป็นตาย้านหลาย แข่มันสิมาคาบไปกินแล้ว อุ่นให้พวกเฮานั่งไปนำแน่เด้อ เดี๋ยวพวกเฮาสิเงียบๆดอก”
   “บ้าเหรอจอย ไรอ่ะ” ผมอายครับ แหมนะเพื่อนแต่ละคนมันได้ใจจริงๆ
   “ทำไมน้ำมันไลหน่ากลัวจังอ่ะเน่า” พอเพื่อนๆแซวเสร็จก็หันไปคุยกันต่อนะ มันชี้ให้กันดูนกดูไม้ แหมนะเหมือนมันประชดผมเลยนะสองคนนี้
   “หน้าน้ำนี่” “มันลึกไหมอ่ะ” “ลึกดิ มึงดูต้นไม้ดิ ท่วมขึ้นมาถึงเกือบปลายขนาดนี้ น่าจะสิบเมตรได้ล่ะกูว่า” อ่า ผมกระชับตัวเองทำตัวเหี่ยวลงทันที เกร็งตัวเพราะกลัวขึ้นมา
   “กลัวเหรอ” ไอ้เน่ามันแซวครับ ผมพยักหน้าเลยสิแซวก็ช่างมันก็คนมันกลัวจริงๆนี่
   “มาใกล้ๆกูดิ” “ไม่เอาเดี๋ยวเรือล่ม” ผมกลัวครับ
   “ไม่ล่ม ถ้ามึงกลัวมึงก็มองหน้ากูไว้ดิ ไม่ต้องไปมองน้ำ” อ่านะ นับเป็นความคิดที่ดีแต่ว่าให้มองหน้ามันเนี่ยนะ คงได้ผลหรอกนะ อายจะตาย
   “ทำไมอายเหรอ” แน่ะยังมีมาถามอีก
   “อายดิ” ผมตอบออกไป มันก็หัวเราะครับ
   “งั้นมองเป้ากูไว้ดิ จะได้คุ้น คืนนี้จะได้ไม่ต้องเขิน” อ่าไอ้บ้า ดูมันนะครับ ผมไม่รู้จะอยู่ในท่าไหนดี เราพายเรือตามยายมาล่ะครับ พอถึงที่ที่ยายบอก ยายก็พายเรือเข้าไปในดงกอไผ่ เข้ามาในดงกอไผ่ค่อยรู้สึกว่าน้ำมันนิ่งกว่าข้างนอกเยอะมากครับ
   “แต่ก่อนมันเป็นเนินนะ ถ้ามาหน้าแล้งต้องปีนขึ้นไปสับหน่อไม้ แต่หน้าน้ำเอาตะขอมาเกี่ยวเอา” ไอ้เน่ามันอธิบายครับ ผมก็พยักหน้า ลำของยายเจอหน่อไม้แล้วครับเพราะแกเอาหัวเรือลุยเข้าไปในกอไผ่เลยนะ นายเคนเป็นคนเอาตะขอแหวกกอไผ่ออก เสียงกรี๊ดกร๊าดของลำนั้นดังกว่าของเรามากครับเพราะสาวฝ้ายกับเคนมันทะเลาะกันได้ตลอดล่ะ
   “นั่นๆบักเดี๋ยว ดันเข้าไปอีกแน่” นายไม้ร้องขึ้นบ้างครับ ผมรีบหันทันที
   “ป้าดหน่อใหย่คั่ก เอาขอเกี่ยวเอาซะเปี่ยงล่ะไม้” จอยมันก็ตื่นเต้นครับ
   “เอาขอมานี่ เฮาสิเกี่ยวเอา” นายไม้มันดูทะมัดทะแมงดีนะ มันให้จอยเอาเสียมเขี่ยกอไผ่ออกพอให้เป็นทางแล้วมันก็ตะขอเกี่ยวหน่อไม้ พอมันขาดก็หล่นลงน้ำจอยก็เอาเสียมเขี่ยให้มันลอยมาทางเรือครับ ผมตื่นเต้นมากๆ
   “โห หน่อใหญ่มากเลยอ่ะ” ผมรีบจับเอาขึ้นมาดู
   “เฮ้ยๆ จับน่ะระวังขนมันหน่อยมันคันนะมึง” ไอ้เน่ามันร้องเตือนครับ ผมเองก็เพิ่งเห็นว่ามันมีขนอยู่รอบๆกลีบมัน
   “บู้ย หมานคั่ก เบิ่งหน่อนางมันแน่ล่ะ คือเป็นตาเอาไปเฮ็ดหน่อไม้ส้มดีเนาะ” นายไม้ร้องอย่างดีใจครับ ผมเองก็สนุกสนานกับการเก็บหน่อไม้ จอยกับไม้ก็เป็นคนสับและเกี่ยวมาให้ผมเก็บส่วนไอ้เน่ามันก็บังคับเรือ ขนาดของหน่อไม้มีตั้งแต่ใหญ่เท่าลำแขนแล้วก็เล็กๆเป็นหน่อเท่าสองนิ้วได้ครับ ผมถามไอ้เน่าว่าอันเล็กๆเอาไปทำไม มันบอกว่าเอาไปเผาไว้เวลาทำซุบหน่อไม้ครับ
   “อยากกินจังซุบหน่อไม้” ผมก็นะบ้าจี้ไปตามมันล่ะครับ มันก็หัวเราะ เรือของยายพายเข้าออกกอไผ่เป็นว่าเล่น เพราะแกชำนาญส่วนลำของเราก็ตามไปติดๆ ว่าไปแล้วไอ้เน่ามันก็เก่งนะ มันควบคุมเรือได้อย่างเชี่ยวชาญเหมือนกันครับ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะทำเป็นด้วย คือเวลาที่เรารู้สึกว่ามันสนุกมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอเนอะว่าไหม ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้วครับ ไอ้เน่ามันบอกว่าเกือบสี่โมงแล้ว พวกเราจึงบ่ายหน้ากันจะกลับ แล้วรู้ไหมว่าได้หน่อไม้เยอะมากเต็มลำเรือเลยอ่ะ ลำของยายนี่ยิ่งเยอะครับ
   “ทำไมเอาไปเยอะจังอ่ะ” ผมหันไปถามไอ้เน่าครับ
   “เขาเอาไปทำหน่อไม้ส้ม หน่อไม้ดองน่ะ” ผมพยักหน้า ขากลับยายไม่ได้พายเรือเองหรอกนะครับเพราะมันต้องพายทวนน้ำไป นายเคนเป็นคนพายส่วนเราก็ไอ้เน่าเหมือนเคยแต่พายไปได้หน่อยนายไม้ก็มาสลับเพราะมันต้องใช้แรงเยอะ และต้องพายเลียบๆฝั่ง
   “บู้ย คือได้หลายแท้” พอเราถึงท่าปูกับเล็กก็มารับล่ะครับ หน้าตานี่เหมือนคนเพิ่งจะจีบกันใหม่ๆเลยนะ
   “มาซ่อยยกขึ้นจากเฮือแน่ะ” ไอ้เน่ามันร้องบอกเล็กล่ะครับ
   “มื้อแลงยายสิซุบหน่อไม้มาสู่กินเด้อหล่า กินแกงหน่อไม้ส้มนำบ่” ยายบอกล่ะครับ พวกเราก็ตอบรับทันที ตัวผมเองอยากเห็นวิธีทำนะไอ้ซุปหน่อไม้เนี่ย
   “เราอยากดูอ่ะจอย” ผมเดินไปกระซิบบอกจอยครับตอนขนหน่อไม้มาไว้ที่บ้าน
   “ยายๆ ยายสิไปเฮ็ดอยู่เฮือนพู้นบ่จ้า หรือสิเอามาเฮ็ดอยู่นี่ หนูอยากซ่อย” จอยมันถามยายขึ้นล่ะครับ
   “เอาซั่นเบาะหล่า ซั่นพากันเฮ็ดอยู่นี่ล่ะ สิได้เอาไปสู่พ่อใหย่บ้านนำ” ยายแกบอกครับผมก็ดีใจ ขั้นตอนต่อไปคือการคัดหน่อไม้ครับ อันไหนที่เป็นลำยาวๆก็แยกเอาไปเผาจะเอาไว้ทำซุปหน่อไม้ ส่วนอันไหนที่เป็นหน่อสั้นๆก็จะเอาไปทำหน่อไม้ส้ม ส่วนหน่อใหญ่ๆยายก็แยกออกไปจะเอาไปแกงครับ พวกเราช่วยกันคัดหน่อไม้เป็นกองๆ พอเสร็จเล็กมันก็ไปก่อไฟกับนายเคน ผมเองก็หอบหน่อไม้ไปให้เขาเผาล่ะครับ ส่วนที่เหลือก็ช่วยกันปลอกเปลือกออก คืนนี้เราจะกินแกงหน่อไม้กับซุบหน่อไม้ครับ
   “ถ่ายรูปหน่อยๆ” ผมไปเอามือถือผมมาล่ะครับ ที่จริงถ่ายไว้ทุกขั้นตอนล่ะ อิอิ มันเป็นความทรงจำที่ดีนะผมว่า อย่างน้อยในชีวิตของผมก็คงไมได้มีโอกาสมากมายนักที่จะมาทำแบบนี้ เพื่อนๆเองก็โพสต์ท่าให้ผมถ่าย
   “กินน้ำหวานป่าว” ผมถามเพื่อนๆครับ ไม่มีใครปฏิเสธผมเลยชวนไอ้เน่าเดินออกไปซื้อน้ำขวดกับน้ำแข็งมาให้เพื่อนๆกิน
   “ชอบเหรอเบบี๋” ไอ้เน่ามันพูดขึ้นครับ
   “อื้ม ชอบดิ อยู่แบบนี้ก็ดีเนอะ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมาก หามาแค่พอดิน”
   “กูหมายถึงกู ไม่ใช่ที่นี่” อ่านะ ไอ้นี่มันหาช่องได้ตลอดเลยนะ
   “ไรอ่ะ” “อ้าว ไม่ตอบล่ะ” “บอกไปแล้วนี่ ไรอ่ะเน่า”
   “บอกอีกดิ บอกบ่อยๆก็ได้นะกูไม่ว่า” อ่านะ มีแบบนี้ด้วย
   “ไม่เอาอ่ะ มันไม่ขลัง แล้วเน่าล่ะไม่บอก”
   “อ้าวไอ้นี่ มึงไม่บอกกูก็ไม่บอกบ้างดิวะ” ตามใจมึงสิ ไม่สนใจหรอกนะ ไม่ได้อยู่กับคำเหล่านี้หรอกนะจะบอกให้
   “เบบี๋ๆ” พอเดินไปได้หน่อยมันก็เรียกขึ้นอีกล่ะครับ
   “ไรเหรอเน่า” “ชอบป่ะ” “ชอบที่นี่ ชอบนั่งเรือ พอใจป่ะเน่า”
   “สัด กวนตีนนะ กูล่ะ” ผมยิ้มให้มันครับ ยิ้มแบบว่าจงใจยิ้มอ่ะนะ
   “ไม่บอก” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันรีบจับหน้าผมทันที
   “บอกไม่บอก” “อ่า ทำไรอ่ะ เน่าอยากบอกก็บอกดิ”
   “ไม่เอา มึงบอกก่อนดิ แต่ก่อนกูเป็นคนพูดก่อนตลอดนะ”
   “ไม่ได้บังคับนี่ เราซื้อของไปทำตอนเย็นเลยไหมจะได้ไม่ต้องวกกลับมาอีก” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
   “นั่น เปลี่ยนเรื่องอีกล่ะ มึงนี่ยังไงวะ เออๆ ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก” มันทำท่าหัวเสียครับ อ้าวไอ้นี่ เป็นไรมากป่ะเนี่ย สรุปเราก็ได้ผักมาสองสามอย่างปลาเนื้ออ่อนไม่ได้ซื้อครับเพราะเมื่อเช้าพ่อผู้ใหญ่บอกว่าไม่ต้องซื้อเพราะตอนเย็นแกจะลงเก็บปลาที่ดักไว้ ตอนเช้าเก็บไปแล้วรอบได้หลายโลแต่แกให้เมียแกเอาไปขายแล้ว
   “เน่า” พอเดินกลับเราก็คุยกันมาเรื่อยเปื่อยล่ะครับ ผมเรียกมัน
   “ไรวะ” “ชอบเน่านะ” ไม่ได้แรดนะ แต่ก็นะมีบ้างล่ะอายมากอยู่ล่ะแต่ก็กลั้นใจบอกมันไป ที่จริงผมก็ไมได้ปากหนักอะไรมากนักหรอกนะครับ ถ้าไม่พูดตอนที่มีมันอยู่หรือผมยังอยู่จะรอให้พูดตอนไหนอ่ะ ถ้าไม่พูดตอนที่ยังมีใจให้กันอยู่ตอนเลิกรากันไปแล้วผมจะพูดคำนี้กับใครได้ซึ้งใจเท่ากับพูดกับมันเหรอ นั่นสินะ
   “อิอิ รู้หรอกน่า” มันหัวเราะครับ ยิ้มเขินๆ เวลามันยิ้มนี่น่ามองมากเลยนะครับ คือไม่รู้ผมบอกไปบ้างหรือยังว่าหน้าตามันหล่อนะ ใครจะคิดว่าคนอีสานจะมีดั้งเป็นสัน หน้าไม่ได้กรามใหญ่เลยนะ คิ้วมันหนาๆผมเกรียนๆ ตามันไม่โตมาก คิ้วที่หนาปลายมันตวัดขึ้นหน่อยๆ เลยทำให้ตามันดูเฉี่ยวๆ ปากหนาๆสีไม่แดงไม่ส้มออกซีดๆแต่ก็ไม่คล้ำ ผิวมันเป็นสีน้ำตาลเกือบแก่เสมอมันทั้งหน้า ไม่มีสิวเม็ดใหญ่ๆแต่มีสิวเม็ดดำๆบ้าง นี่ผมสังเกตมันขนาดนี้เชียวหรือ เอาเป็นว่ามันหล่อมากละกันครับในสายตาผม ไม่สิใครหลายคนก็บอกว่ามันหล่อ ผมว่าหล่อกว่าโจ้อีกนะ โจ้ที่ขาวโบ๊ะเพราะไปฉีดกลูต้ามาเถอะไม่อยากจะเม้าท์เพราะเขาเคยชวนผมแต่ผมไม่ไปกลัวเข็มนี่ครับ ส่วนหน้าก็ฝากไว้ที่ร้านทำหน้าล่ะเพราะเขาไปอาทิตย์ละสามวันเป็นอย่างน้อย แต่ไอ้เน่าของผมมันใช้ชีวิตบ้านๆติดดิน มันหล่อเพราะมันหล่อเองตามธรรมชาติ
   “ยิ้มไรวะ” เอ่อ นี่ผมเคลิ้มไปเหรอ อิอิ อายจัง
   “ป่าว มองเน่าแล้วก็ยิ้มอ่ะ”
   “อ๊ะๆ อ่านกินกูอ่ะดิมึง คิดไรป่ะเนี่ย” มันทำท่าดัดจริตครับ แหมนะ
   “คิดดิ ไม่คิดจะยิ้มเหรอ” มีบ้างล่ะครับ เหมือว่าผมก็เริ่มจะชินกับการที่มีมัน
   “อ่า คิดไรกะเค้าอ่าตะเอง” “เวอร์แระ รีบกลับเร็วป่านนี้เพื่อนๆบ่นแล้ว” ผมเปลี่ยนเรื่องทั้งๆที่ยังอมยิ้มอยู่ล่ะครับ
   “มาๆ กูถือเอง” มันมาแย่งผมถือถุงผักล่ะครับทั้งที่มันถือถุงน้ำขวดกับน้ำแข็งแล้วนะ
   “อ่า” คือมันก้มตัวลงมาแย่งเอาถุงจากมือผมแล้วมันก็ เอ่อ มันหอมแก้มผมอ่ะ เขินจัง
   “แก้มมึงกลิ่นหน่อไม้แล้วนะเบบี๋” อายครับ อายมาก อันนี้ล่ะที่ไม่เคยชินเสียที กว่าเราจะไปถึงบ้านผมก็หน้าแดงไม่ยอมลง เพื่อนๆก็แซวล่ะแต่ไม่มากเพราะเหมือนพวกมันจะชิน ตอนนี้หน่อไม้เผาเสร็จแล้วบางส่วน ผมไปยืนดูนายเคนทำอยู่ครับ หน่อไม้เผาจนไหม้เกรียมดำปี๋เลยนะ นายเคนมันเอาไปทุบด้วยไม้แล้วเอาไปแช่น้ำลอกเปลือกออกแล้วส่งไปให้สาวๆทำให้มันเป็นฝอยๆโดยใช้ส้อมขูด ผมเองก็ไปช่วยครับแต่ต้องรอให้หน่อไม้มันเย็นก่อนนะ พอขูดให้มันเป็นเส้นๆก็หั่นครึ่งล่ะครับแล้วเอาใส่หม้อ
   “ต้องคั่วก่อนเหรอจอย” ผมถามครับ
   “แม่น คั่วให้มันเซาขม” จอยบอกครับแล้วเอาหน่อไม้ที่ขูดให้เป็นเส้นๆลงไปคั่วใส่เกลือไม่ใส่น้ำเลยนะ
   “ยายมีใบญ่านางบ่จ้า” ฝ้ายมันถามขึ้นล่ะครับ ผมนี่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะมัวแต่ถ่ายรูปและเก็บข้อมูลอย่างเดียว มันน่าสนใจมากนะผมว่า
   “อยู่ใต้ต้นบักหว่า ไปเบิ่งแน่หล่ายายว่ามันเหลืออยู่” ยายบอกครับ ยายกับปูและเล็กช่วยกันสับและฝานหน่อไม้เป็นชิ้นเล็กๆเพื่อจะทำหน่อไม้ส้ม
   “เอามาทำไรอ่ะฝ้าย” ผมเดินตามทันทีครับ
   “เอามาแกงกับเอามาต้มเด้อุ่น เดี๋ยวเฮาสิเฮ็ดให้เบิ่ง” ฝ้ายมันบอกครับแล้วเดินไปใต้ต้นหว้า มีใบหญ้านางสีเขียวขึ้นอยู่ที่พื้นดิน มันเป็นเถานะใบเรียวๆเขียวจนออกคล้ำ ฝ้ายดึงเอามาพอสมควรแล้วเอามาล้างน้ำ
   “อุ่นโตซ่อยหย่องให้เฮาแน่ะ เฮาสิไปเก็บใบผักแพรวกับใบผักขา” ฝ้ายมันบอกครับ ผมก็อยากรูนะว่ามันคือผักอะไรกันแต่ก็ต้องช่วยเขาคั้นใบหญ้านาง คือฝ้ายมันสาธิตให้ดูวิธีทำแล้วล่ะครับ เอาล่ะ มารู้วิธีการทำครัวแบบชาวบ้านกันดีกว่าครับ เริ่มด้วยการคั้นเอาน้ำใบหญ้านาง ผมล้างมือให้สะอาดหลายรอบครับเพราะกลัวว่าเพื่อนๆจะรังเกียจ อิอิ ที่จริงจอยมันอธิบายว่าเอาใบหญ้านางไปตำก็ได้แล้วมาคั้น แต่มันจะวุ่นวายไป อุปกรณ์ก็มีชามใบใหญ่ใส่น้ำฝนมาประมาณหนึ่งล่ะครับแล้วก็เอาใบหญ้านางที่ล้างสะอาดแล้วมาคั้น คั้นไปเรื่อยๆ ขอบอกว่าเจ็บมือมากเพราะมันเป็นเถาคือไม่ได้เอาเถามันออกนะครับคั้นทั้งอย่างนั้นเลย ผมคั้นไปคั้นมาน้ำก็เริ่มเขียว ตอนแรกนึกว่าน้ำขี้มือตัวเองแต่ไม่ใช่หรอกน่า อิอิ พอคั้นจนใบมันซีดก็กรองเอาแต่น้ำมันล่ะครับ
   “พอแล้วเบาะ เฮาแบ่งเอามาต้มแน่” จอยมันบอกครับแล้วมาแบ่งเอาน้ำใบหญ้านางฝีมือผมไปใส่หม้อที่กำลังคั่วหน่อไม้เส้นอยู่ อืม จอยมันบอกว่าต้องต้มอีกหน่อยเพื่อให้มันลดรสขม อ้อ มีหน่อไม้อีกหม้อนะครับที่ฝานเป็นแผ่นๆอันนั้นจอยบอกว่าจะเอาไว้แกงครับ มันเอาไปต้มด้วยน้ำเปล่ารอไว้แล้วเห็นเทน้ำออกน้ำหนึ่งแล้วครับ
   “คั่วงาเป็นอยู่บ้อหล่า” ยายร้องมาถามครับ ฝ้ายมันก็อาสา ยายเลยเอากระปุกใส่งาขาวออกมาให้ ฝ้ายมันเทออกมาประมาณก้นถ้วยล่ะครับแล้วเอาไปใส่กระทะแห้งแล้วคั่ว
   “บัดยามคั่วต้องไฟอ่อนๆ งามันไหม้เร็ว” ฝ้ายมันก็บรรยายไปเรื่อยครับเพราะนักเรียนอย่างผมกำลังสนใจ อืม หอมกลิ่นงาคั่วครับ พอคั่วอยู่สักพักก็เอามาตำรอไว้ ตอนนี้จอยกำลังปรุงรสของแกงหน่อไม้ อ้อ ใบผักขานี่คือใบชะอมนะครับฝ้ายมันไปเก็บมาจากสวนหลังบ้านของยาย มีใบอีกอย่างที่มันเรียกว่าใบผักแพรว อันนี้ผมไม่รู้จักจริงๆแต่กลิ่นมันฉุนหอมก็หอมนะแต่กลิ่นมันแรงไปสำหรับผม
   “วันนี้เมนูเรามีแต่หน่อไม้เนอะ” ผมพูดขึ้นล่ะครับ
   “บ่เด้ล่ะ เดี๋ยวยายเพิ่นสิแกงหน่อไม้ส้มใส่ปลากดสู่กิน” หือ? งงครับแต่ไม่ถาม ฝ้ายเหมือนมันรู้ล่ะครับว่าผมสงสัยมันเลยไปชี้ปลาเนื้ออ่อนที่มันมีครีบแข็งๆตรงข้างๆหัวมัน ผมพยักหน้าแต่ก็ไม่รู้อยู่ดีล่ะครับ เอาล่ะมาถึงขั้นตอนการทำซุปหน่อไม้ดีกว่า ตอนนี้พร้อมแล้วครับ หลังจากที่ตำงาเสร็จแล้วก็ตักออกใส่ถ้วย แล้วโขลกพริกสดหน่อยนึงพอเสร็จก็ตักเอาเส้นหน่อไม้ที่ต้มและชิมแล้วว่าไม่ขมใส่ลงไปครับไม่เอาน้ำมันนะเอาแต่เส้น เทงาตำลงไปใส่พริกป่น ยังต้องใส่อีกเหรอเนี่ย แล้วก็ใส่ข้าวคั่ว เอาหอมแดงซอยและพริกเม็ดซอยใส่เครื่องปรุง ที่สำคัญใส่น้ำปลาร้าด้วยล่ะครับ หั่นต้นหอมลงนิดหน่อยครับแล้วก็ใบผักแพรว มะนาวทีนี้ก็ตำเบาๆพอให้มันเข้ากัน
   “ซิมเบิ่งแน่ะ พอได้ยัง” จอยตักมาให้ผมกับฝ้ายชิมล่ะครับ
   “ว้าย แซ่บเด็ดขาดค่า” ผมลองบ้างครับ อืมรสชาติมันจะบอกยังไงดี มันหอมข้าวคั่วและก็ใบผักแพรวนั่นล่ะครับ ส่วนรสก็เหมือนอาหารอีสานคือจัดๆหน่อยไม่ใช่เค็มนะ แต่จะว่ายังไงดีมันจัดแบบว่าแซ่บนั่นล่ะ อิอิ กว่าที่เราจะได้กินข้าวก็เกือบหกโมงเย็นไปแล้วล่ะครับ เมนูเยอะจัดมีแต่หน่อไม้ มีซุปหน่อไม้ แกงหน่อไม้ใส่ผักขา แกงหน่อไม้ส้มใส่ปลากด แล้วฝ้ายยังตำน้ำพริกปลาร้าแล้วต้มหน่อไม้มาจิ้มกินอีกด้วยครับ เราตักแบ่งไปให้ผู้ใหญ่บ้านอย่างละถ้วยแกเองก็ต้มส้มปลาเนื้ออ่อนแบ่งมาให้กับนึ่งปลาเนื้ออ่อนใส่ผักที่เก็บมาจากสวน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ เอ่อ ขอตัวก่อนนะครับท่าน อิอิ

Written by eiky

ปล. มาซะที ต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาช้า พอดีเพิ่งจะออกกะมา หมดแว้ววกะดึก เดือนนี้อยู่กะธรรมดาแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนะครับอยากให้เห็นวิถีชีวิต อิอิ คิดว่าหลายคนคงไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้ ลองดูนะครับวิถีชีวิตบ้านๆอีกแบบ
ขอบคุณที่รออ่านนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 03-07-2012 09:58:06
ไม่เป็นไรจร้าพี่อิ๊ค :L2:
มาต่อแล้วเนอะๆ ดีใจมาก
แปะไว้ก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 03-07-2012 14:01:07
 “อ๊ะๆ อ่านกินกูอ่ะดิมึง คิดไรป่ะเนี่ย”  <<< อ่านกิน ฮ่าาาาาาาา คำนี้ไม่ได้ยินมานานแล้ว แถวบ้านเราเด็ก ๆ ก็ไม่รู้จักกันแล้ว

ตอนท้าย ๆ คุณอิกทำเราหิวเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 03-07-2012 15:59:18
สนุกๆๆ ม่วนๆๆหลายเด้อ โอ๊ยคึดฮอดบ้านเฮาเด้ 5555 :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 03-07-2012 16:35:51
รู้สึกอุ่นเราจะได้ผจญภัยมากกว่าเพื่อน  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 03-07-2012 16:55:53
เพิ่งได้อ่าน ชอบมากมาย อุ่นแสนซื่อ เดี๋ยวสุดหื่น
เพื่อนๆสุดฮา และภาษาสุดยอด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-07-2012 17:28:26
อ่านตอนนี้หิวเลย :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 03-07-2012 18:14:56
ชีวิตแบบนี้แหละสบายดีแล้ว

กิกิ้ววว  ออกมากะธรรมดาแล้ว
^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 03-07-2012 18:22:34
อุ่นดูสนุกกับวิถีแบบนี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 03-07-2012 20:14:33
หวานกันมากเลยอ่ะตอนหอมแก้ม เขิล ๆ ๆ >,,<"
อยากเห็นภาพอิมเมจของอุ่นกับเดี๋ยวจังครับพี่อิ๊ก น่าจพมีตัวร้ายโผล่มาอีกสักคนเนอะ ประมาณว่ามามอมเหล้าเดี๋ยว อุ่นมาเจอก็ทะเลาะกัน แล้วเดี๋ยวก็ไปง้ออุ่น 555555555555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-07-2012 20:16:42
ง่า...อยากกินซุปหน่อไม้!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 03-07-2012 20:46:43
อ่านแล้วหิว!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-07-2012 21:04:49
อ่านตอนนี้แล้วอยากกินสารพัดแกงหน่อไม้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 03-07-2012 22:54:28
อยากกินซุปหน่อไม้ขึ้นมาทันทีอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 03-07-2012 23:05:58
น้ำลายหก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 03-07-2012 23:08:09
เป็นตาแซ่บหลาย อิอิ อุ่นตาฮักขึ้นหลายเด้+1 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 04-07-2012 06:47:11
เดี๋ยวกับอุ่นน่ารัก เหมือนเดิม พลพรรคก็แอบจับคู่กันเงียบๆ แฮ่!!! แล้วบักไม้ล่ะ จะคู่ใครดี อ่านตอนนี้อยากกินต้มหน่อไม้ร้อนๆแล้วซิ ปล.ตอนนี้คนเขียนหายไปหลายวันมากแอบหวั่นๆว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า ที่แท้ก็พึ่งเปลี่ยนกะทำงานนี้เอง เปลี่ยนกะไปอยู่ปกติแล้วคงจะมีแรงเขียนให้เดี๋ยวกับอุ่นNCกันได้เสียที 5555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 04-07-2012 22:19:18
อุ่นน่ารักกกก อ่านแล้วอยากไปเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 19 Version (อุ่น) 3 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-07-2012 07:00:41
หวานกันเบาๆ นะ  :impress2:


แต่ละเมนู อ่านแล้วหิวเลยอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 05-07-2012 12:57:19
You’re My BaBy!!

   “เอิ๊กก” “อ่า ไรอ่ะเน่าเรอเสียงดังเชียว น่าเกลียดนะ” มีบ้างล่ะครับ มันอิ่มนี่หว่าของกินอร่อยๆทั้งนั้น ไหนจะแกงหน่อไม้สด แกงหน่อไม้ส้มใส่ปลากด ซุปหน่อไม้อร่อยลิ้น นึ่งปลาเนื้ออ่อนใส่ผักบ้านๆ หน่อไม้ต้มจิ้มน้ำพริกปลาร้าสด ไม่อิ่มก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงล่ะ
   “อิ่มนี่หว่า” ผมตอบแล้วยิ้มแห้งๆล่ะครับ เพื่อนๆก็ระเนระนาดไปคนละทางอิ่มกันจริงๆยายก็นั่งกินอยู่กับเราด้วย
   “มื้ออื่นสิเมือแล้วเด้อยาย” จู่ๆไอ้เล็กมันก็พูดขึ้นล่ะครับ
   “สิพากันเมือจักโมงล่ะหล่า” “สวยๆพู้นล่ะยาย”
   “ยายสิได้ไปเตรียมของฝากให้” “โอ้ย บ่เอาดอกยายนี่พวกผมกะมารบกวนยายหลายแล้ว บ่เอาดอกครับ” สัดไม้พูดขึ้นล่ะครับ จะว่าไปก็ไม่ได้อยากได้อะไรจากยายหรอกนะ แต่ยายแกก็ไม่ตอบหรอกครับสักพักแกก็ขอตัวกลับไปบ้านโน้น
   “อากาศเย็นสบายจังนะ” ผมเอนหลังนอนลงตรงนอกชานครับ พวกผู้หญิงก็ช่วยกันเก็บกวาดแล้วเอาจานชามไปล้าง ส่วนเพื่อนๆตัวดีของผมมันก็เตรียมวงเหล้าอีกรอบเพราะเหล้ายังเหลืออยู่ขวดนึง
   “เริ่มจะหนาวแล้วอ่ะ ไปอาบน้ำไหมเน่า” ไอ้เบบี๋มันก็อยู่ไม่ไกลจากผมเลยนะครับ จะว่าไปไม่ใช่มันหรอกที่ไม่ไกลจากผม ผมเองล่ะที่คอยตามมันต้อยๆ
   “อืมเอาดิ อาบพร้อมกันนะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ฮื่อ ไม่เอาอ่ะ วันนี้ฝนไม่ตกนี่” “อ้าว ไม่ตกก็อาบได้นี่หว่า ทำไมวะ”
   “บ้าเหรอ อายเพื่อนนะ”
   “อายไรวะ พวกมันรู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วเถอะ”
   “ก็ไม่เอาอ่ะ เขิน” มันอายครับ เออตามใจมันจะไปบังคับมันมากก็ไม่ดี สักพักมันก็ไปอาบน้ำล่ะครับ ต่อด้วยสาวๆ แล้วก็ไอ้เล็ก มืดแล้วผมถึงไปอาบล่ะครับ
   “เบบี๋ เอาเสื้อให้หน่อยดิ” ผมพันผ้าขาวม้าผู้ใหญ่บ้านเดินขึ้นมาบนบ้านล่ะครับ ตัวยังเปียกๆอยู่เลยนะ
   “ว้าย กล้ามท้อง” อ้าวๆ สาวฝ้ายครับ ทำท่าอายปปิดหน้า
   “หน่อยเดียวล่ะฝ้าย บ่มีเสื้อใส่แหมะ” ผมตอบแก้เขินๆครับ
   “ทำไมไม่เช็ดตัวอ่ะเน่า” ไอ้เบบี๋มันร้อนตัวครับรีบเรียกผมให้เข้าไปในมุ้ง ผมก็หัวเราะมันเป็นไปตามแผนครับ นี่มันคงหวงผมล่ะสิ อิอิ พอผมเดินเข้าไปในมุ้งสาวๆก็แซวทันทีครับ
   “เช็ดให้ดิ” ผมนั่งเฉยๆครับยิ้มให้มัน
   “เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกนะ” มันบ่นครับแต่ก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดหัวให้ผม
   “อย่าฟ้าวเด้อค่าอุ่น ให้เฮาทาแป้งก่อน ใจเย็นเด้อ” สาวฝ้ายคนเดิมครับ แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
   “ไรอ่ะฝ้าย” “อย่าสิฟ้าวเฮ็ดหยังกันเด้อ เฮาอาย” ฮ่าๆ สาวฝ้ายได้ใจจริงๆครับ ไอ้เบบี๋มันอายม้วนเลยนะ
   “อ่ะใส่เสื้อก่อน” “ยังไมได้ทาแป้งเลยนี่” “ทาดิ” “ไม่เอา ทาให้” ผมอ้อนครับมันก็ทำหน้าแบบว่าโดนบังคับแต่ก็ทำ ผมก็นั่งมองมันทำตาปริบๆ มันรู้สึกดีนะ จะว่าไปแล้วตัวผมเองไม่ได้ให้ใครมาวุ่นวายกับกิจการส่วนตัวมากขนาดนี้หรอกนะครับท่าน ไม่รู้สิบางทีก็รำคาญ แต่กับไอ้นี่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยให้ตายเถอะ มันมีแต่อยากจะให้มันวุ่นวายจับเนื้อจับตัวผมอยู่ตลอดเวลา นี่ผมเป็นเอาเยอะหรือเปล่าเนี่ย
   “อ่ะ เสร็จแล้วใส่เสื้อผ้าดิ” มันหน้าแดงครับ
   “อ่า ถอดผ้าทำไม” ผมก็ดึงผ้าขาวม้าออกจากตัวเลยนะครับ ดูก่อนล่ะว่าสาวๆไม่อยู่บริเวณนี้ ตอนนี้มีผมกับมันอยู่ในมุ้ง สาวๆกับเพื่อนๆนั่งอยู่นอกชานไมได้สนใจผมกับมันแล้วครับ ผมจึงดึงผ้าออกเลยสิ ฮ่าๆ
   “อ้าว ไม่เอาผ้าออกจะให้ใส่กางเกงไงวะ มึงนี่” ผมยักคิ้วให้มัน มันก็เขินอายหน้าแดงตามประสา
   “ไม่เห็นทาครีมให้เลยวะ” “จะทาเหรอ” “ทาดิ มึงทาไรกูก็ทาหมดล่ะ” รู้งานครับผมนอนลงบนตักมันทันที
   “ขี้โกงนะเน่า” “ขี้โกงไรวะ” ผมอมยิ้มล่ะครับ เวลามันอายนี่มันโคตรน่ารักเลยนะ เหมือนจะยิ้มแต่อมไว้หน้านี่แดงเชียว ผมก็แหย่มันไปตามเรื่องล่ะครับ
   “เสร็จแล้ว ออกไปหาเพื่อนเถอะ” มันลุกออกไปจากมุ้งครับ ผมก็ตามออกไป
   “สิกินเหล้าอีกติสู” ผมถามเพื่อนๆตัวดีของผมล่ะครับ
   “ฮ่วย สิเหลือไว้เฮ็ดเข่าปลูกติ๊” อ้าวๆ สัดเคนครับ มันเริ่มไปก่อนใครนะนั่นหน้าตาเริ่มปรือ
   “มาๆค่า มีบักนาวฝานพร้อม เสียดายบ่มีกับแกล้มเนาะ” สาวฝ้ายครับ ทีแบบนี้เข้าขากันดีเหลือเกินนะ
   “มีหนมเหลืออยู่นี่ เอาป่ะล่ะ” ไอ้เบบี๋มันเสนอครับแล้วเดินไปที่ถุงขนมที่เราเตรียมมา มีคนแตะไปนิดเดียวเองเพราะมัวแต่กินอย่างอื่น
   “อย่าฟ้าวๆ กินแบบนี้มันบ่ม่วน เล่นไพ่บ่สูเล่นไพ่กินเหล้า” สัดไม้เสนอครับ เสียงเฮดังขึ้น สรุปพวกเราก็เล่นไพ่ ตอนแรกว่าจะตีดัมมี่แต่ยากเกินและคงนาน เอาไปเอามาเลยเล่นผสมสิบ ฮ่าๆ อ่อนมากๆ
   “ว้ายเฮาแพ้อีกแล้ว” สาวฝ้ายครับ
   “หวืยแพ้สองสามตาซ้อนแกล้งแพ้เด้นี่ แม่นบ่” สาวปูครับ
   “บ้าติ๊ปู เว้าไปเนาะ เอามาแหม่ะล่ะ ว้าย ซาดเทให้เฮาหน่อยเนาะบักอันนี่” ฮ่าๆ สรุปสาวฝ้ายแกล้งแพ้เพื่อจะได้กินเหล้าครับ พอเริ่มกึ่มเสียงหัวเราะก็ดังลั่น สัดไม้มันก็เอากีตาร์มายื่นให้ผมล่ะครับ วันนี้ขอโชว์ซะหน่อย เริ่มด้วยเพลงฤดูร้อนละกันแบบอะคูสติก ผมเล่นเองร้องเองครับมีสัดไม้มันช่วยร้อง สาวๆนี่เคลิ้มไปตามๆกัน แต่ผมเองทุกคำที่ร้องผมมองหน้าไอ้เบบี๋มันตลอด มันเองก็เขินอมยิ้มอยู่ นี่ขนาดไม่ใช่เพลงรักนะ ผมสลับคอร์ดเล่นเพลงลมหายใจสุดโปรด
   “โอ้ยเนาะ อยากมีผู้บ่าวเด้ค่า” สาวฝ้ายร้องขึ้นครับ
   “เฮาให้ยืมบักเคน เอาติ๊ล่ะ” สัดไม้พูดขึ้นทันทีครับ
   “ว้าย เว้าโพดหลาย ผู้จั่งซี้ติ๊เฮาสิเอา”
   “หวืยปานเขาสิเอาเพิ่นเนาะ สาวผู้จบ”
   “แม่นค่า จบอีหลี” “จบไปเล้ย ฮ่าๆๆ” “ว้าย บักอันนี่แหมะ” ต้องแยกออกจากกันครับเพราะเหมือนจะตบตีกัน ฮ่าๆ สาวฝ้ายนี่ไม่เบาเลยนะส่วนสัดเคนป้องกันตัวอย่างเดียว พวกเราสนุกสนานกันอยู่สักพักก็แยกกันไปนอนล่ะครับ
   “ง่วงยังเบบี๋” ผมถามมันล่ะครับเพราะมันนั่งมองน้ำที่ไหลอยู่ข้างๆบ้าน
   “อืม ง่วงแล้ว เน่าจะนอนยัง”
   “ยัง” “ไม่ง่วงเหรอ” “ง่วง” “อ้าว ง่วงแล้วไม่ไปนอนอ่ะ”
   “ปวดฉี่ พาไปฉี่ก่อนดิ”
   “อืม ไปดิ เราก็ปวด” ผมกับมันเลยพากันเดินลงไปข้างล่างล่ะครับ
   “อ๊ะ ทำไรอ่ะ” อิอิ มันเป็นแผนครับ ผมบอกแล้วนี่ว่าคืนนี้ผมจะเผด็จศึกมัน ไม่ไหวล่ะยั่วกูมานานจัดซะหน่อย
   “เอากันไง บอกแล้ว” “อ่า ไรอ่ะ” “เร็วดิ แข็งแล้วเนี่ย” ผมลากมันเข้าไปในห้องน้ำล่ะครับ ไฟหลอดกลมสีส้มๆยิ่งทำให้อารมณ์บรรเจิดนะจะบอก
   “มันไม่สะดวกอ่ะ” “ไม่สะดวกไร ยืนเอากันก็ได้นี่” ผมไม่ยอมครับ มันทำหน้าเหวอๆแบบตกใจ
   “กูทนไม่ไหวแล้วนะ” ผมจับบ่ามันไว้ครับแล้วประกบปากจูบกับมันทันที มันก็ตื่นๆ มือผมก็ป่ายลงมาที่บั้นท้ายมัน
   “มันไม่มีอุปกรณ์อ่ะ” มันดันหน้าผมออกครับ
   “อุปกรณ์ไร” “เจลอ่ะ มันเข้าไม่ได้หรอกนะ” มันตอบอายๆ ผมมองหาตัวช่วยทันที
   “เอาสบู่ไหม” “ไม่เอามันแสบสิ” “ยาสระผม” “บ้าเหรอ ฟองไม่เต็มเหรอ” “จิ๊ เอาน้ำลายกูนี่ล่ะ” ผมไม่ยอมครับตอนนี้หน้ามืดแล้วเถอะ เร็วเลยๆตอนนี้ลูกชายมันตื่นตัวอยู่ ผมดึงกางเกงมันออกแล้วจับให้มันหันหลัง มือผมก็แหวกก้นมันออกเลยครับ
   “อ๊ะ ทำแรงจังอ่ะเน่า” มันกระเด้งตัวหนีครับ เออวะ กูคงหน้ามืดไปหน่อยเอานิ้วแทงเข้าไปเลยนี่ ไม่รู้นี่หว่า
   “โทษๆ เดี๋ยวทำเบาๆนะเบบี๋” “อย่าทำแรงนะ” มันเสียงสั่นๆครับ ผมก็เอาลุกชายจ่อแล้ว แต่เข้ายากเป็นบ้าเลยวะ
   “อั๊บแอ้ อั๊บแอ้” “ฮ๊ะ ไรอ่ะ มันหันมากอดผมไว้ทันที
   “ตุ๊กแกไง กลัวเหรอ” “กลัวไม่เอาแล้ว ไม่เอา” อ้าวสัด หน้าตามันซีดลงทันทีครับกอดผมแน่น
   “โว้ย จะได้กันสักทีไหมเนี่ย”
   “เอาไว้ที่บ้านก็ได้ ไม่เอาอ่ะ ออกไปเร็วกลัว” มันกลัวครับสั่นเลยนะ ผมนี่อารมณ์ค้างมากๆ ทำไงดีวะเนี่ย
   “นะเน่านะ ถึงบ้านค่อยทำนะ เรากลัวอ่ะ” มันอ้อนครับไอ้ตุ๊กแกบ้านี่ก็ร้องอยู่ได้ ทั้งวันไม่ร้องเสือกมาร้องตอนนี้ โว้ย กูหงุดหงิด เลยถีบเข้าไปที่ฝาประตูห้องน้ำทีหนึ่ง มันก็หยุดร้องนะ ผมก็นิ่งอยู่ แต่สักพักก็เอาอีกครับ เสียงร้องของมันนี่คงตัวใหญ่เลยล่ะ เดี๋ยวกูให้สัดเคนจับไปดองเหล้าให้เข็ดเลยนี่
   “นอนกอดเฉยๆได้ไหมอ่ะ” มันพูดเหมือนรู้สึกผิดนะครับ หน้าตามันจ๋อยๆไป
   “จะทำไงได้ล่ะ แม่งอุปสรรคเยอะจริงๆ”
   “ก็เอาไว้พร้อมก่อนก็ได้นี่ เน่ารีบเหรอ” แววตามันทำให้ผมสะอึกครับ
   “อืมๆ งั้นนอนกอดเฉยๆก็ได้ แต่มึงจับมันไว้ด้วยนะตอนนอนอ่ะ” ผมยอมตามใจมันครับ เพื่อนๆนอนกันแล้วเราเป็นคู่สุดท้ายที่เข้านอนพอถึงที่นอนผมก็กระชับตัวมันมากอดแล้วจับมือมันให้ไปจับลูกชายที่มันยังโด่ไม่ยอมลง ตอนแรกมันก็เกร็งๆแต่เอาไปเอามามันก็ยอมจับล่ะครับ
   “อือ” ผมงัวเงียตื่นครับ พอลืมตาก็รู้ว่ามันเช้าแล้ว ผมขยับตัวก็รู้สึกว่ามีไอ้เบบี๋มันนอนอยู่ข้างๆ ผมผงกหัวขึ้นมาดู อืม มันเป็นภาพที่น่าดูนะผมว่า เพราะทุกทีผมจะตื่นหลังมัน คือผมนอนหงายกางแขนขวาแขนซ้ายผมจับมือมัน คือมันนอนหงายเหมือนกันล่ะครับแต่หัวมันซุกอยู่ใต้รักแร้ขวาของผมมือข้างซ้ายมันก็จับเป้าผมอยู่มือซ้ายผมก็จับมือมันนั่นล่ะครับ หน้าตามันยังคงหลับพริ้มอย่างเป็นสุข ผมเลยกระชับตัวมันแล้วนอนตะแคงกอดมันล่ะครับ
   “อือ เช้าแล้วเหรอ” มันตื่นจนได้ครับ
   “เช้าแล้ว นอนต่ออีกหน่อยดิ” ผมบอกมันครับแล้วกอดมันแน่นกว่าเดิม มันไม่ตอบแต่เหมือนจะซุกตัวเข้ามาหาผมอีก มันรู้สึกดีจริงๆนะผมกอดมันแบบไม่มีอะไรติดค้างในใจเลย กอดมันเหมือนว่าอยากให้มันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เวอร์ไปไหมเนี่ย ฮ่าๆๆ
   “อุ่นๆ ตื่นแล้วยัง คือตื่นสวยแท้ สิกินโอวัลตินอยู่เบาะเฮาสิซงเผื่อ” เสียงสาวจอยดังขึ้นล่ะครับ ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปอีกนานเท่าไหร่ ผมจึงงัวเงียขึ้น ไอ้เบบี๋มันลุกออกไปแล้ว
   “กี่โมงแล้วอ่ะจอย” เสียงมันถามสาวจอยล่ะครับ
   “แปดโมงแล้วจ้า” ผมเองก็ลุกขึ้นนั่งก่อนครับรอให้ไอ้ลูกชายมันลงก่อนแล้วค่อยลุกออกไป ไม่งั้นเสียงกรี๊ดดังอีกแน่ ผมลงไปล้างหน้าแปรงฟันเข้าห้องน้ำแล้วก็ออกมานั่งกินโอวัลตินที่ริมน้ำ ให้ตายเถอะสวยดีนะน้ำยังคงไหลแรงอยู่ล่ะครับ เราลากขอนไม้ใต้ถุนบ้านออกมานั่ง ตอนนี้เพื่อนๆอยู่กันครบครับ มีการถ่ายรูปเก็บความทรงจำไว้ล่ะครับแล้วก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัว
   “สิพากันมือแล้วติ๊หล่า เอานี่ยายเอาหน่อไม้มาให้” เสียงยายดังอยู่ข้างล่างล่ะครับ แกแบ่งหน่อไม้ที่ได้มาเมื่อวานใส่ถุงให้คนละถุง มีถุงปลาเนื้ออ่อนแบบหมักเกลือและแบบแห้งอีกคนละถุง โหย ดีใจจังเลย
   “อุ๊ย ยายลำบากซื่อเนาะค่า ขอบคุณหลายๆเด้อค่ายาย” สาวจอยออกไปรับยายล่ะครับ พวกเราตั้งใจกันว่าจะไปกินข้าวกันที่ร้านทางเข้าเมือง ตอนนี้เก็บของเสร็จแล้วครับ พวกเราขนของลงมาที่ด้านล่างก็ล่ำลายายแล้วก็พ่อผู้ใหญ่พอสมควร เรารวมเงินกันให้ยายเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งด้วยครับเพราะว่าค่าที่พักคุณปลัดแกจัดการให้แล้ว เราขนของมาขึ้นรถล่ะครับ ขากลับผมกับไอ้เบบี๋นั่งหน้าเหมือนเคย มีสาวจอยกับสัดไม้มานั่งด้วย ส่วนที่เหลือเป็นคู่ๆอยู่ด้านหลังครับ
   “สิเมือแล้วเนาะ ซาดไวบัดยามม่วนนี้แหมะ” เรามารวมตัวกันอยู่ที่บ้านปลัดหลังจากที่กินข้าวกันมาแล้ว ตอนนี้ก็ต้องไปส่งสาวปูกับสาวฝ้ายขึ้นรถล่ะครับ สาวปูก็ล่ำลาอยู่กับไอ้เบบี๋รวมถึงสาวฝ้ายด้วย
   “กะมาเที่ยวดู๋ๆติ๊เนาะ อยู่ซ่ำนี่หนึ่ง” สัดเคนมันพูดขึ้นครับ
   “เดี๋ยวปิดเทอมหน้าเฮาสิมาเที่ยวอีก” สาวฝ้ายบอกครับ
   “อยากให้มาบัดยามตีเข่าเนาะ บรรยากาศดี นาเฮามีห้วยเห็นดาวหลายพร้อม” ไอ้เล็กมันพูดขึ้นล่ะครับ อ้อ คือหน้าเกี่ยวข้าวหรือเก็บเกี่ยวเดี๋ยวนี้เขาใช้รถใช้เครื่องยนต์กันหมดแล้วนะครับ นาส่วนมากก็หว่านไม่มีปักดำเหมือนสมัยก่อน ส่วนเกี่ยวก็ใช้รถเกี่ยวเอาง่ายๆ แต่นาไอ้เล็กมันมีไม่เยอะครับพ่อกับแม่มันจึงอยากจะอนุรักษ์ไว้และผมว่ามันก็ดีนะเพราะพวกเราจะได้ช่วยกันไปลงแขก เอาไว้ค่อยเล่าเมื่อถึงตอนนั้นดีกว่า คุณปลัดก็ออกมาอวยพรให้สองสาวล่ะครับแล้วเราก็แห่กันมาส่งสองสาวที่ท่ารถ
   “คึดฮอดหลายเด้อพวกโต บ่อยากเมือจักเม็ด” สาวปูครับน้ำตานองหน้าแล้วกอดกับสาวจอยอยู่
   “ดีใจหลายที่ได้มายาม คึดฮอดเด้ออุ่น” ส่วนสาวฝ้ายก็กอดอยู่กับไอ้เบบี๋ล่ะครับ
   “ไปเด้อบ่านนี้ ติดต่อกันไว้เด้อ” ส่งสาวฝ้ายขึ้นรถก่อนครับ
   “คึดฮอดเฮาแน่เด้อผู้สาว” สัดเคนครับ สาวฝ้ายก็ค้อนทันที
   “สิโทรหาดอกเด้อ” “อ่วย แม่นไปลักแจกเบอร์กันยามได๋นี่บักเคน” สัดไม้ทักขึ้นครับ สาวฝ้ายรีบเดินขึ้นรถไปเลยเสียงเพื่อนๆแซวเสียงดัง พอสักพักรถก็ออกโบกไม้โบกมือกันอยู่แล้วก็ส่งสาวปูขึ้นรถ ไอ้เล็กมันก็เวอร์กว่าใครล่ะครับ กว่าจะกลับก็รอจนรถลับตาไปล่ะครับ
   “ปิดเทอมจักมื้เกาะสู” สัดเคนถามขึ้นล่ะครับตอนกลับมาถึงบ้านปลัด
   “อาทิตย์เดียวท่อนล่ะ เปิดเทอมไปกะกีฬาสี ซาดกูขี้คร้าน” สัดไม้ครับ
   “พากันไปเฮ็ดหยังดีเนาะ ตั้งอาทิตย์หนึ่ง”
   “นอนเว็นท่อนแล้ว” ผมครับ เราคุยกันอยู่สักพักก็แยกย้ายกันกลับบ้านครับ
   “ป้าดหน่อไม้ทาม มื้อแลงเอื้อยสิแกงสู่กิน มักหลาย” เจ้แกมาขนหน่อไม้กับของฝากเข้าไปเก็บล่ะครับ
   “จะกลับเลยป่ะเน่า” ไอ้เบบี๋มันเดินมาถามผมล่ะครับ
   “ยัง คุยกับพ่อตาก่อนดิ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันทำตาโตใส่ผมทันทีแล้วอาย อ้าวนะหรือไม่จริงล่ะ
   “ปิดเทอมแบบนี้จะทำอะไรเหรอลูกเดี๋ยว มาเตะบอลกับพ่อไหม” คุณปลัดแกชวนคุยครับ
   “ผมเลิกเตะแล้วครับ” “อืม เลิกจริงเหรอลูก หรือว่าแค่ชั่วคราว” คุณปลัดเองก็รู้เรื่องล่ะครับเลยไม่ถามมาก
   “คงชั่วคราวล่ะครับ อยากเตะเหมือนกัน” “งั้นก็มาเตะกับพ่อสิ จะได้ไม่ลืม”
   “แต่ผมไม่อยากเตะบอลครับ เตะตระกร้อไหมครับคุณปลัด เตะตรงข้างบ้านนี่ก็ได้เอาเน็ทมากางเอา” ผมเสนอครับ
   “เออ ดีๆ เข้าท่าๆ งั้นวันนี้พ่อไปซื้อตาข่ายมาเลยก็แล้วกัน แล้วลูกตระกร้อนี่เอาลูกหวายหรือลูกพลาสติกดีล่ะลูก” ท่าทางคุณปลัดเห่อไม่น้อยเลยนะครับ
   “ลูกหวายมันจะเจ็บนะครับแต่เอามาก็ดี แต่เอาลูกพลาสติกมาดีกว่าเบากว่า” ผมบอกตามที่รู้ล่ะครับ
   “ป่ะเบบี๋กลับบ้าน” พอคุณปลัดขึ้นไปบนบ้านแกบอกว่าจะออกไปหาซื้อเน็ทมาเลยนะครับ ผมมีหน้าที่คือไปหาลูกทีมมาเล่นกับแก ผมเลยเดินไปบอกไอ้เบบี๋ที่เมาท์กับเจ้แกอยู่หลังบ้าน
   “พี่ต้อยมีกระดูกเหลือป่าว จะเอาไปให้โบ้” มันก็ถามของกินไปให้ไอ้โบ้ทันทีครับ สรุปได้เป็ดย่างมาเพราะซื้อมาวันก่อนแต่ไม่มีใครกิน โหไอ้โบ้ เกินไปไหมเนี่ยมึง
   “โบ้ พี่มาแล้วหิวไหมมีเป็ดย่างมาฝาก” พอถึงบ้านกูมันก็ปรี่ลงไปหาลูกมันก่อนอย่างอื่นเลยล่ะครับ พ่อกับแม่ผมไม่อยู่คงอยู่ที่ร้าน ผมก็จอดรถนอกบ้านล่ะครับเพราะเดี๋ยวต้องขับเอาไปส่งพ่อที่ร้าน
   “เออ กอดเข้าไป ทีกูล่ะจะกอดแต่ละทียากเย็นนะมึง” ผมประชดมันไปล่ะครับ
   “ไรอ่ะ เออ เน่าเตะตระกร้อเป็นด้วยเหรอ”
   “เป็นดิ เก่งด้วยเว้ย” “อืม จริงเหรอ” “อ้าวไอ้นี่ เตะคนก็เก่งเว้ย หรือจะลอง” ผมเดินไปหามันกับไอ้โบ้ครับ
   “เน่าไม่เตะเราหรอก เรารู้” มันทำหน้าแบบไม่กลัวครับ
   “ทำไมจะไม่กล้า หรือจะเอาสักที”
   “เอาดิ” “ผมก็ง้างเท้าขึ้นล่ะครับ มันก็ไม่ได้หลบนะ
   “มึงนี่ฉลาดนะเนี่ย กูเตะมึงไม่ลงหรอก เพราะกูรักมึง” ผมยักคิ้วให้มันล่ะครับมันก็ยิ้ม
   “เหรอ โบ้ๆอาบน้ำป่าว” มันแกล้งก้มลงไปคุยกับไอ้โบ้ล่ะครับ
   “เบบี๋ ไหนบอกมาถึงบ้านเราค่อยมาทำเรื่องนั้นกันไง” ผมเองก็ไม่ยอมครับประชิดตัวมันทันที
   “ไรอ่ะ ไหนบอกมีนัดกับพ่อนี่ ไหนจะไปชวนเพื่อนมาเตะตระกร้ออีกนะเน่า”
   “ก็เอาแป๊บเดียว ไม่นานหรอก”
   “ไม่เอาอ่ะ ยังไมได้อาบน้ำเลยนะ” “จิ๊ เรื่องมากจังวะ จะเอากันมันยากเย็นจังเลยนะ” โวยวายครับ
   “ก็จะมีอะไรกันต้องมีบรรยากาศดีๆหน่อยสิ ไรอ่ะเน่า เราไม่เคยนะไม่รู้เหรอ” มันแว้ดเสียงขึ้นครับ หนอยๆมีแว้ดใส่กูด้วยนะมึง เดี๋ยวจับกดซะนี่
   “แล้วเมื่อไหร่ล่ะ งั้นคืนนี้กูไปนอนกับมึงนะ จะได้เป็นผัวเมียกันจริงๆเสียที” ผมพูดแล้วเดินเข้าบ้านไปครับ มันดูอึ้งๆแต่ไม่สนใจเว้ย กูรอมานานล่ะนะไม่อยากจะรอต่ออีก ผมเดินเข้าไปกินน้ำล่ะครับแล้วก็เดินออกมา
   “ป่ะ เอารถไปที่ร้าน” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเดินไปที่รถมันก็ล่ำลาอยู่กับไอ้โบ้ หมั่นไส้เว้ย
   “เน่า” “ไร” มันเรียกขึ้นล่ะครับผมมัวแต่มองถนนเพราะจะเลี้ยวรถ
   “เราคบกันแต่ไม่มีอะไรกันได้ป่ะ” เฮ้อ เหมือนมันจะเคยถามเลยนะประโยคนี้ และเหมือนกูคุ้นๆว่าเคยได้ยินจากหนังสั้นเรื่องไหนสักเรื่อง อย่าบอกนะว่ามันเสือกไปดูมาแล้วอินตาม
   “ไม่ได้เหรอ” กูเงียบครับ ขี้เกียจจะตอบ
   “แล้วแต่มึงละกัน กูดูหื่นไปเหรอ หรือว่ามึงไม่ชอบ มึงคิดอะไรอยู่วะ เออ ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้กูไม่สนใจหรอกนะ” โมโหเหมือนกันนะครับ ไม่รู้สิกะอีแค่มีอะไรกันมันจะตายหรือยังไง หวงไว้ทำไมวะพรมจรรย์ กูเริ่มเซ็งล่ะ
   “งอนเหรอ” “ไม่งอนเว้ย โตแล้วนะ ถ้าหากมึงคิดว่าการที่มีอะไรกันมันไม่ดี มึงอยากจะรอให้มั่นใจซึ่งกูไม่รู้ว่ามั่นใจอะไร ในตัวกูหรือในอะไร ก็แล้วแต่มึงวะ อีกอย่างมึงไม่ใช่ผู้หญิง อย่ามาทำเป็นหวงนั่นหวงนี่ไม่เข้าเรื่องเลยวะ กูรำคาญ” ผมก็โพล่งออกไปล่ะครับ มันเงียบแล้วหันหน้าออกนอกกระจก นั่นๆเอาอีกล่ะ อยู่ดีไม่ว่าดีก็หาเรื่องมาทะเลาะกันนะมึง มันเงียบจนกูเริ่มอึดอัดครับ เงียบจนถึงร้านกูเองก็ไม่อยากจะคุยเหมือนกัน

ยังไม่จบครับ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 05-07-2012 12:57:50
   “อ้าวลูก เป็นยังไงบ้างคะไปเที่ยวสนุกไหม” แม่กูหมายถึงมันล่ะครับไม่ใช่กู มันก็ยกมือไหว้ตามเดิมแล้วมันก็คุยอยู่กับพ่อแม่ผม มันทำสีหน้าปกตินะเวลาคุยกับพ่อแม่ผม
   “ไปยังมึง” พอสักพักผมก็ไปเอาคุณปู่มาสตาร์ทรอล่ะครับพ่อผมคงขับมา
   “ฟ้าวจัง ว้าย รีบจังนะบักเดี๋ยว แม่ยังคุยอยู่กับลูกอุ่นไม่ทันหายคิดถึงเลย”
   “นายไปก่อนก็ได้นะ เราจะอยู่ที่นี่ก่อน” จิ๊ มันงอนครับ แม่งควรเป็นกูสิที่จะต้องงอนอะไรของมันวะ เออ งอนได้งอนไปวะ แม่งมันทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะกูเริ่มจะเซ็งล่ะ งอนอยู่ได้มันคิดว่ามันเป็นผู้หญิงหรือยังไง น่ารักแล้วยังไงวะ สัดเอ้ย โมโหว่ะ
   “เฮ้ยบักเคน มึงบอกบักไม้กับบักเต้มาเตะตระกร้อกับปลัดแนะ” ผมกดโทรศัพท์ไปหาสัดเคนล่ะครับ
   “อีหยัง คองตามาฮอดเฮือนสิออกอีกแล้วติ๊ กูเมื่อยเด้”
   “ฮ่วย นอนเหมิดคืนปานนั้นยังบ่พอติ๊ เอิ้นมันมา” ผมถือว่าเป็นคำสั่งครับแล้ววางสายผมรู้ว่าเพื่อนผมต่อให้เหนื่อยแทบตายมันก็รักการเตะบอลแต่ในเมื่อมันไม่มีบอลให้เตะก็ต้องหาอย่างอื่นเตะ ผมขับคุณปู่ตรงไปยังบ้านของปลัดล่ะคัรบ แกกลับมาแล้วพร้อมด้วยตาข่ายกับลูกตระกร้อทั้งแบบหวายและแบบพลาสติก ผมเลยไปช่วยแกขึงตาข่ายเอาแบบที่ปลดง่ายเพราะเวลารถมาจะได้เอาลงได้ทันครับ
   “อ้าว ลูกทีมไม่ครบนี่” คุณปลัดแกท้วงขึ้นล่ะครับ เพราะฝั่งโน้นมีเพื่อนผมกับไอ้เต้ส่วนผมกับปลัดมีสองคน
   “ไม่เป็นไรครับ ทีมเราสองคนก็พอ คุณปลัดโยนให้ผมละกัน” ผมบอกครับแล้วไปยืมถ่านเจ้แกมาวงทำเป็นจุด แต่ว่าไปนะเตะตระกร้อนี่มันมันดีเหมือนกันนะ ได้กระโดดด้วย ใช้ศิลปะในการบังคับลูกมากกว่าบอลอีกนะผมว่า เออ เล่นไปเล่นมาเหงื่อแตกสนุกดีครับ เพื่อนผมก็สนุกเล่นกันจนเริ่มจะค่ำ
   “ปิดเทอมทำอะไรกันลูกๆ” พอเราเลิกเล่นก็มานั่งอยู่หน้าบ้านล่ะครับเจ้แกเอาน้ำเย็นมาให้
   “บ่มีหยังเฮ็ดดอกครับคุณปลัด” สัดเคนตอบครับ
   “แต่ปิดแค่ไม่กี่วันนี่นะ ว่างๆก็มาเตะตระกร้อที่นี่ก็ได้นะลูก ห้องอุ่นก็มีหนังอยู่หลายเรื่อง ว่างๆไม่มีอะไรทำก็มาดูหนังได้” อ้าวๆ เปิดช่องครับพ่อตาผม
   “อีหลีเด้อครับ” นั่นไงครับทั้งสามเสียงร้องขึ้นพร้อมกัน จะไม่อยากดูได้ยังไงหนังบูเรย์ตั้งเบ้อเร่อจอแบนอีก เกมเพลย์สามอีก จิ๊ อะไรวะ
   “ซั่นพวกผมเมือก่อนเด้อครับคุณปลัด มื้ออื่นสิมาใหม่ อิอิ” มืดแล้วครับพวกเราก็แยกย้ายกันจะกลับ
   “อุ่นอยู่กับคุณสาวิตรีเหรอลูกเดี๋ยว” ผมพยักหน้าครับ ไม่ได้ลืมนะแต่ไม่รู้สิ รู้สึกหน่ายมันขึ้นมายังไงไม่รู้ อยากดัดนิสัยมัน งอนดีนัก
   “เดี๋ยวผมก็ไปรับกลับมาแล้วครับ”
   “อืม เดี๋ยวพ่อให้ต้อยทำกับข้าวไว้รอนะ ต้อยๆ ไหนบอกมีหน่อไม้อะไรจะฝากไปให้คุณสาวิตรีนะ”
   “หมกหน่อไม้ค่า อย่าฟ้าวเด้อเดี๋ยว เอื้อยเอามาให้ หมกหน่อไม้ใส่ไก่แซ่บฮ้ายแซ่บแฮง” อ่านะ พูดเป็นตาย้านแท้เจ้ ฮ่าๆ ผมยืนรอเจ้แกอยู่พักหนึ่งล่ะครับผมก็กลับไปที่ร้าน ผมเห็นไอ้เบบี๋มันกำลังง่วนอยู่กับการขายไก่ย่าง ผมมองมันไกลๆก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ถ้ามันไม่ขี้งอนนี่มันน่ารักมากนะผมว่า แต่นี่มันงอนมากไปหน่อย
   “ว้ายขายดีหลายค่า เพราะลูกอุ่นคนเดียวแท้ๆ แม่ตำจนมือจะพันเป็นเกลียวอยู่แล้วเนี่ย”
   “แม่นๆ ไก่พ่อกะไปเอามาเพิ่มจากตลาดนี่สิเหมิดอีกแล้ว” พ่อกับแม่ผมครับ
   “ไม่หรอกครับ วันนี้คนคงอยากกินส้มตำ” ผมเดินเข้าไปในร้านล่ะครับ คนยังมุงอยู่เสียงดังเซ็งแซ่
   “ซาดเป็นตาฮักเนาะ นี่เบาะเจ้แต๋วลูกปลัดน่ะ” เสียงคนถามล่ะครับ
   “แม่นจ้า เป็นจั่งได๋บ่ถือโตนำเด้ ว้ายลูกอุ่นอย่าไปยืนให้ควันมันอังสิคะเสื้อเหม็นหมด” ผมยืนมองอยู่ครับไม่รู้จะสอดแทรกเข้าไปในตอนไหนดี มันปรายตามามองผมแต่ก็รีบหันไป
   “บ่ฮ้อนบ่น้อผู้ย่างไก่แหมะ” ผมยืนอยู่นานเลยเมื่อยครับเลยไปนั่งล้างจานรอมัน ว่าจะชวนกลับแล้วล่ะแต่ท่าทางคงไม่ง่ายดูท่ามันเองก็ไม่น้อยนะถ้าหากงอน
   “อ้าวพี่ เพิ่งซื้อไปไม่ใช่เหรอครับ จะเอาอีกเหรอ”
   “ย้อนว่าไก่มันแซ่บหลายล่ะ คนย่างกะเป็นตาเบิ่ง” อ้าวๆ กูหันขวับทันทีครับ สัด ไอ้พวกเทคนิคครับ
   “เอาแต่โตไก่นั่นบ้อ บ่เอาตีนแน่จักตีนลองไปแฮ่นเบิ่งแน่” ผมเดินไปเลยครับ ไอ้พวกนี้มันคงได้ยินข่าวแล้วคงมาเกาะแกะ จะโดนตีนกูไม่ใช่น้อยนะพวกมึง
   “ซั่นบ่เอาแล้วล่ะ มื้ออื้นสิมาใหม่เด้อคนเป็นตาฮัก” หนอยยังมาหยอดไว้อีก
   “ไปคุยไรกับพวกมันวะ” ผมหันมาเล่นงานไอ้เบบี๋ครับ
   “ก็ไม่นี่ เขามาซื้อไก่ก็ขาย จะให้พูดไรล่ะ” “กวนตีนอีกนะมึง จะกลับได้ยัง”
   “ขายให้หมดก่อน” “ไรวะ มันค่ำแล้วนะ” “เดี๋ยวให้พ่อไปส่งก็ได้” นั่นไงครับ แม่งงอนนานจังวะไอ้นี่
   “ไม่ได้ แม่ๆ สิพาเมือแล้วเด้นี่ปลัดเพิ่นหิวเข่าแล้ว นี่เพิ่นกะฝากหมกหน่อไม้มาให้นำ” ผมหันไปพึ่งแม่ผมล่ะครับ
   “ว้ายตายแล้ว ค่ำแล้วไวจัง กลับดีกว่านะคะลูกอุ่น พรุ่งนี้ถ้าว่างค่อยแวะมา คราวหลังไม่ต้องทำขนาดนี้นะแม่เกรงใจ เอาส้มตำไปกินด้วยไหมแม่จะตำให้”
   “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ วันนี้ยังไม่อยากกิน อุ่นจะกลับไปกินแกงหน่อไม้” เวลามันพูดกับแม่ผมนี่มันยิ้มนะครับ แต่หันมาหากูนี่หน้ายังกะตูด
   “งอนนานนะมึง” พอมันขึ้นรถมาได้ผมก็พูดขึ้นล่ะครับ
   “เราไม่ได้งอนนี่ นายไม่ใช่เหรอที่งอน” นั่นครับ ย้อนๆ
   “เออ แม่งกะอีแค่เรื่องนี้มันทำให้เราทะเลาะกันเลยเหรอวะ คิดเยอะไปป่ะมึง น่ารำคาญนะเว้ย” ผมหันมาว่ามันล่ะครับ มันจ้องหน้าผมเม้มปาก
   “เราไมได้ทะเลาะนะ แค่เราบอกสิ่งที่เราต้องการให้นายฟังและถ้านายรำคาญไม่ต้องชวนคุยก็ได้นะ”
   “มันต่างกันไหม ทำไมวะ” ผมจอดรถข้างทางทันทีครับ มันมืดแล้วล่ะ ผมโมโหมันแม่งพูดไม่รู้เรื่อง
   “กะอีแค่มีอะไรกันมันจะตายหรือไง มึงบอกให้กูรอ รออะไร หรือว่ามึงไมได้รักกูจริง” ผมโวยวายครับ มันเริ่มสั่น
   “แล้วถ้าหากมีอะไรกันนายไม่จะเลิกกับเราไหม ถ้าหากเราเอากันนายจะยังเบื่อเราแบบนี้ไหม ถ้าเรายอมมันจะทำให้เรารักกันมากขึ้นหรือเปล่า” เอ่อ มันตะโกนขึ้นครับ ผมอึ้งไปเลย อ้อ ที่แท้มันคิดแบบนี้นี่เอง มันคงกลัวว่าผมจะเปลี่ยนไป
   “เฮ้ย ไอ้เบบี๋ มึงกลัวเหรอวะ” ผมจะดึงมันเข้ามาหาล่ะครับแต่มันถอยออกไป
   “ถ้านายอยากมีอะไรกับเรา งั้นรีบกลับบ้านไปมีอะไรกัน หรือไม่ก็แวะข้างทางตรงไหนก็ได้ ถ้าหากว่ามันจะทำให้นายกับเรารักกันมากขึ้นกว่าเดิม” อ้าว ยังไม่หยุดครับ มันน้ำตาเอ่อแล้ว
   “กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น กูไม่รู้นี่หว่าว่ามึงจะคิดแบบนั้น”
   “เออๆ กูยอมมึงล่ะ กูจะรอจนกว่ามึงจะพร้อม กูจะไม่ทำแบบนั้นกับมึงอีก พอใจยัง”
   “เราไม่ได้อยากให้นายคิดแบบนั้นนะ แค่เรากลัว ไม่ว่านายจะเอาอะไรมาพูดว่านายจริงใจแค่ไหนเราก็ยังกลัว เราไม่ใช่ผู้หญิงนี่ ไม่มีอะไรมาผูกมามัดนายไว้กับเรา แค่ตอนนี้เรารักกันให้มากๆจะได้ไหม” กูงงว่ะ แม่งพูดไรวะเนี่ย เออๆ กูพอจะรู้ว่ามึงน่ะกลัวแต่เริ่มวกวนแล้วนะ สรุปผมก็ต้องดึงมันมากอดจนได้ล่ะครับ
   “มึงน่ะ อย่าคิดมากดิวะ มึงก็ต้องเข้าใจกูด้วยดิ ว่ากูน่ะเป็นเด็กผู้ชาย วัยรุ่นเหมือนมึงล่ะ มันย่อมมีความต้องการเป็นธรรมดา แต่ถ้ามึงบอกกูกูก็ทำให้ได้ ตอนนี้กูเข้าใจมึงแล้ว อย่างอนอีกนะ กูไม่สบายใจ”
   “เราไม่ได้งอนนะ นายล่ะงอน” “เออๆ กูงอน กูหายแล้ว” “ฮึ กว่าจะหายนะ เราตกใจนะที่นายไม่คุยกับเราน่ะ” อ้าวนะ มันยิ้มออกมาแล้วครับ ไอ้นี่นะบทจะง่ายก็ง่ายขึ้นมาเลยนะ
   “รีบกลับเร็วกูหิวแล้ว” ผมบอกมันล่ะครับแล้วขึ้นรถ มันก็เอามือมันมากอดเอวผมเหมือนเคย ผมเองก็จับแฮนด์ข้างขวาส่วนมือซ้ายก็จับมือมัน หน้ามันซบอยู่กับแผ่นหลังผม ไม่รู้สิการที่เราทะเลาะกันครั้งนี้ผมว่ามันก็ดีนะเพราะว่ามันทำให้ผมเข้าใจมันมากขึ้น และมันเองก็คงเข้าใจผมมากขึ้นด้วย จากที่เคยรู้สึกหน่ายมันเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้มันหายไปเลยล่ะครับ แต่กลับรู้สึกว่ามันน่ารักขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ขอบคุณที่คอยติดตามนะครับ เรื่องนี้เนิบๆอยากจะสื่อถึงวิถีชีวิตด้วย เนื้อเรื่องมันอาจจะน่าเบื่อบ้างไม่ว่ากันนะครับ
ขอให้มีความสุขในการอ่านครับผม
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 05-07-2012 15:21:28
 :m15:แอบซึ้งๆๆๆ อ่านไปอินไป โอ๊ยยยยยยยยยยย อยากให้สองนี้เพิ่นได้กัน 55555+ :oo1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 05-07-2012 15:26:07
ทะเลาะกันแล้วเข้าใจกันมากขึ้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี :m4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 05-07-2012 16:06:38
เห็นด้วยกับความคิดอุ่นนะ เดี๋ยวแกอย่าพึ่งรีบร้อนไปศึกษาก่อนดิว่ะ ช่วงฝนตกแบบนี้หน่อไม้น่าจะขึ้นหลายอยู่ อยากกิน 555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-07-2012 16:12:24
ลิ้นกับฟันเนาะ
มันต้องมีกระทบ
กันบ้าง :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 05-07-2012 16:47:16
เข้าใจกันก็ดีแล้ว หายไปไม่กี่ชม.กลับมาอุ่นมีคนสนใจเพียบ
ครั้งหน้าสงสัยจะไม่ได้มาช่วยแม่อีกแล้ว...
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-07-2012 17:45:44
เมนูหน่อไม้เพียบ อ่านแล้วแอบกลืนน้ำลาย...
ดีที่ทะเลาะกันแล้วเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
ต่างฝ่ายต่างปรับตัวให้เข้ากัน รักกันมากกว่าเดิม
น้องอุ่นน่ารัก เดี๋ยวห้ามเผลอเชียว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-07-2012 18:01:44
สู้ๆ เด๋วก็ยอม... 5555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 05-07-2012 18:24:21
อยากให้ถึงตอน :oo1:ไวๆจัง
อิอิแอบหื่น แต่ชอบตอนนี้จังๆแอบอินจัดนะ ซึ้งมากๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 05-07-2012 18:40:27
ไม่เห็นน่าเบื่อเลย มีแต่น่าติดตาม ชอบ ชอบ ชอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-07-2012 19:10:30
น่ารักนะบักเดี๋ยว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 05-07-2012 19:11:38
ชอบครับพี่อิ๊ก ยิ่งอ่านยิ่งชอบ >,,<" ชอบความคิดของอุ่นที่แสดงออกให้รู้ตรง ๆ เลยว่าอะไรเป็นอะไร
พี่เดี๋ยวแมนได้อีก ชอบฉากที่กอดและปรับความเข้าใจกัน นิยายเรื่องนี้ให้อะไรกับผมหลายอย่างจริง ๆ อิอิ
ขอบคุณที่มาต่อ เป็นกำลังใจให้พี่อิ๊กนะครับ (:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 05-07-2012 20:21:18
นึกว่าจะงอนกันนานซะอีก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 05-07-2012 20:32:56
เพิ่มเริ่มคบกันก็ค่อย ๆ จูนกันก่อนนะ...
พิสูจน์ตัวเองซิเดี๋ยว...เมื่อไหร่ที่นู๋อุ่นมั่นใจวันนั้นก็คงมาถึง...

 :L2:  น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 05-07-2012 20:40:41
สู้ๆเด้ออ้ายเดี๋ยว ^^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-07-2012 20:43:22
รอจ้ารอ :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 05-07-2012 22:05:40
ทั้งสองคนต่างกันมากเลยนะ...ในกระบวนการคิดน่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 05-07-2012 23:19:27
โล่งอก ทะเลาะแล้วดีกันอ่ะ :เฮ้อ:+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 05-07-2012 23:36:02
มาแล้วๆๆ  ใกล้จะได้กันแล้วมั้ง    55555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 06-07-2012 00:11:13
โอ๊ยตายแล้วๆๆ :angry2:

เกือบเหวี่ยงบักเดี๋ยวละ  มาเบื่อ มารำคาญ น้องอุ่น :m16:

เห้อๆๆๆ


อุ่นคิดอะไรก็พูดออกมาบ้างก็ได้นะ
บักเดี๋ยว นี่ก็ตรงเกิ๊นนนนนนนนน

เห้อออออ

 o13 :กอด1:
^ ^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-07-2012 14:31:27
อ่านตอนนี้แล้วดีจัง มันบอกอะไรหลายๆอย่างนะ Sexมันก็ใช่  แต่ไม่ว่าหญิง ชาย
มันต้องมีความรู้สึกมั่นคงต่อกันก่อน
ไม่งั้นมันก็เป็นแค่เพียงความใคร่
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 06-07-2012 23:44:16
เดี๋ยวใจเย็นๆหน่อย อย่าใช้แต่อารมณ์
อุ่นก็คิดไรก็บอกไปนะ อย่าทะเลาะกันนนนนนนน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 19 Version (เดี๋ยว) 5 July 12 หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 07-07-2012 09:07:57
 :pig4:

เดี่ยวน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 08-07-2012 11:14:58
Don’t call Me BaBy!!

ผมไม่ผิดใช่ไหมที่เรียกร้องอะไรมากมาย ไม่ใช่สิที่กำหนดกฏเกณฑ์อะไรไปแบบนั้น ไม่รู้สิครับตอนนี้ผมรักมันนะ มากด้วยล่ะ แต่ว่าทำไมความไม่มั่นใจมันถึงยังคงมีก็ไม่รู้ ผมรู้ดีว่าผมไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมามั่วเล่นตัว แค่มีอะไรกัน?? เหรอ? โว้ยนะ ก็หวงๆไว้ให้มันดูยากหน่อยเถอะ ง่ายไปแล้วไงพอมันได้มันก็จะขอมีอีกแน่ๆ และพอมีอีกมันก็คงจะเบื่อเข้าสักวันผมเชื่อแบบนั้น แต่ถ้าผมเล่นตัวมากไปล่ะ มันก็อาจจะเบื่อได้เหมือนกันนะ อ้าว ทำไงล่ะทีนี้ กับโจ้ก็เพราะผมไม่ยอมมันนี่ล่ะมั้งมันถึงมีคนอื่น ช่างเถอะ ถ้าผมกับไอ้เน่าจะจบกันเพราะผมไม่ยอมให้มันเอาก็แค่นี้ล่ะครับ ผมเชื่อว่าความรักมีพลังเหนือทุกอย่าง ใช่เซ็กส์อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความรักแต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เอาเป็นว่าผมยังไม่อยากมีอะไรกับมันจนถึงขั้นสอดใส่ โอเคป่ะ
   “ฮ่วยได้ไข่มดแดงมาแต่ไสนี่เอื้อย” ไอ้เน่ามันก็อยู่กินข้าวกับผมที่บ้านล่ะครับเป็นเรื่องปกติไปแล้ว วันไหนมันไม่อยู่กินสิพ่อผมจะถามทันที ว่าทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า
   “ไปซุมาแต่ตลาดพู้นแล่ว มาสิจักอึด” ผมมองหน้าพี่ต้อยครับแต่ท่าทางคงจะไม่แปลให้ผมฟัง
   “ซุก็แหย่นั่นล่ะ” ไอ้เน่ามันก็ดีอย่างนี้ล่ะครับเหมือนมันรู้ใจผม มันกระซิบบอกผมที่มองหน้ามันหลังจากมองพี่ต้อย
   “แล้ว ไอ้จักอึดๆ นั่นไรอ่ะ” “เป็นบทขยายแปลว่า มีไม่อั้น” ผมพยักหน้าครับ วันนี้พี่ต้อยทำแกงหน่อไม้สดใส่ไข่มดแดง มียอดฟักทองด้วยนะครับอร่อยดี แล้วก็ห่อหมกหน่อไม้ใส่ไก่แกใส่กะทิด้วยล่ะครับหอมดีนะ พ่อผมชอบมากกินข้าวสองจานส่วนผมก็จานหน่อยๆ ไอ้เน่านี่ไม่ต้องบอกมันกินเยอะมากครับสามจานได้มั้ง
   “เออลูก พอดีลูกน้องที่อำเภอโทรมาพ่อเลยเล่าให้ฟังว่าเราเล่นตระกร้อกัน ลูกน้องพ่ออยากมาเล่นด้วย พ่อเลยชวนพรุ่งนี้ทีมเราจะได้มีลูกทีมครบพอดี” พ่อผมก็ชวนมันคุยไปตามเรื่องล่ะครับหลังอาหาร ส่วนผมนั่งกินแตงโมแช่เย็นอยู่
   “ก็ดีครับ จะได้สนุกๆ”
   “แล้วเพื่อนๆเราว่างไหมล่ะ พ่อกลัวว่าเขาจะต้องทำงานบ้านกัน พ่อเองก็ไม่อยากรบกวน”
   “ไม่หรอกครับ ถ้ามันมาไม่ได้เดี๋ยวผมหาคนมาแทนให้ แต่น่าจะได้ไปแข่งนะครับ คงจะตื่นเต้นกว่านี้”
   “เอาไว้เล่นให้เข้าขากันมากกว่านี้ก่อน เดี๋ยวพ่อสอบถามให้ น่าจะมีล่ะ” พ่อผมยังคงคุยอยู่กับไอ้เน่า ส่วนผมขอตัวขึ้นมาอาบน้ำแล้วครับ เหนียวตัวมากกลิ่นไก่ย่างหึ่งเต็มตัวไปหมด พออาบน้ำเสร็จผมก็เดินเข้าห้อง
   “อ้าว พ่อไปไหนล่ะเน่า” มันนอนอยู่บนเตียงครับสายตาก็มองดูจอโทรทัศน์อย่างสบายใจ
   “ปลัดออกไปเดินเล่นข้างบ้าน”
   “อ้าว ดึกแล้วยังไปเดินเล่นอีกเหรอ”
   “ไม่รู้เว้ย อย่าชวนคุยดิวะหนังกำลังหนุก” อ่านะ เออๆ ผมเลยเดินไปทาแป้งเด็กล่ะครับ
   “เอ้ย ยังไมได้อาบน้ำไม่ใช่เหรอเน่า” มันมากอดข้างหลังผมครับ ตกใจหน่อยเดียวเหมือนจะเริ่มชิน
   “ไม่สกปรกหรอกน่า กอดหน่อยเดี๋ยวกูจะกลับล่ะ” เอ่อ มันพูดเสียงปกตินะแต่ทำไมผมรู้สึกใจหวิวๆ
   “อ้าว จะกลับแล้วเหรอ” “อืม เหนียวตัว เดี๋ยวกูโทรหานะ” อ้าว มันปล่อยมือจากผมแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องไปเลยนะครับ ผมใจหายอ่ะ ทำไมรู้สึกแบบนี้ล่ะ
   “เน่า” ผมรีบลุกขึ้นครับ
   “ไร” “ไม่นอนนี่เหรอ” ผมถามมันออกไปด้วยเสียงที่เริ่มจะสั่น ไมได้แรดอยากให้เขานอนด้วยหรอกนะแต่ไม่รู้สิ มันไม่ใช่แบบนี้นี่แต่ก่อน
   “ไม่เอาว่ะ เดี๋ยวกูอดใจไม่อยู่ปล้ำมึงขึ้นมา มึงนั่นล่ะจะซวย” ผมยืนอ้าปากค้างครับ นี่มันโกรธผมอยู่เหรอ โอ้ย อะไรวะเนี่ย นึกว่าจะดีแล้วซะอีก มันมีสีหน้าปกติทุกประการแต่ผมสิเหมือนคนกำลังจะใจขาดตาย มันรู้สึกแย่จริงๆนะ มันกลับไปแล้วครับ มันไปจริงๆด้วยอ่ะ ผมสิเริ่มจะบ้านั่งกุมโทรศัพท์รอมัน โทรมาซะทีสิวะ รอนานแล้วนะ มันขับรถไม่เกิน ๒๐ นาทีก็ถึงบ้านมันแล้วนี่ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ทำไมยังไม่โทรมา ผมเปิดแฟ้มดูรูปที่เราถ่ายกันเมื่อตอนไปเที่ยว ทุกรูปที่มีผมจะมีมันอยู่ข้างๆไม่ไกลเลย ทุกรูปจริงๆ และเท่าที่ผมสังเกตดูไม่ว่าผมจะทำอะไรในอิริยาบถไหนสายตามันคอยมองผมอยู่ตลอดเวลา อ่า น้ำตาเริ่มจะไหลแล้วอ่ะ โทรมาเสียทีสิวะมึงไอ้เน่า โอ้ย คนรอมันทรมานนะ ผ่านไปชั่วโมงแล้วอ่ะ ผมโทรหามันดีไหม โทรเลยๆ ดีกว่ามานั่งอมทุกข์แบบนี้ เอ๊ะ หรือว่ามันรถล้มเหรอ ตายล่ะ
   “ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลยที่ท่าน” เอ่อ ผมอ้าปากค้าง นี่มันเป็นอะไรไปแล้ว ไอ้เน่า อ่า ผมจะทำยังไงดี มันโกรธผมเหรอ มันไม่หายโกรธผมเหรอ หรือว่ามันมีอุบัติเหตุ ทำไมอ่ะ ทำไม ผมไปหามันดีไหม ปั่นจักรยานไปหามัน
   “เป็นไรอ่ะเน่า” ผมเดินวนรอบห้องแล้วครับเหมือนคนบ้า หรือว่าผมบ้าไปแล้วจริงๆ ถ้าหากมันโกรธแล้วขอเลิกกับผมจริงๆล่ะ อ่า ทำยังไงดี โอยๆ น้ำตาไหลๆ พอก่อนๆ อ้าวไหนก่อนหน้านี้บอกว่าถ้ามันจะขอเลิกเพราะกะอีเรื่องแค่นี้ก็ช่างมันไงอุรดิศ อะไรอ่ะ ทำไมตอนนี้มันทำไม่ได้ล่ะ โอ้ย รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศ
   “อ๊ะ” มันโทรเข้ามาแล้วครับ ผมโผเข้าหาโทรศัพท์ทันที น้ำตายังนองหน้าอยู่นะ
   “มึงโทรมาเหรอ” “ทำไมอ่ะเน่า เป็นไรอ่ะ ปิดเครื่องทำไม ไหนบอกไม่โกรธเค้าแล้วไงอ่ะ ทำไมทำแบบนี้” เอ่อ นางเอกใส่เลยกู มันอดไม่ได้ครับ ผมรู้สึกอะไรไม่รู้แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้
   “เฮ้ยๆ ใจเย็นๆเบบี๋ แบตกูหมดเว้ย ตั้งแต่อยู่บ้านมึงแล้ว ที่กลับมาบ้านนี่ก็มาชาร์จแบตนะเว้ย อะไรวะ ร้องไห้ด้วยเหรอ อะไรของมึง” อ้าว เอ่อ รีบเอาโทรศัพท์ออกจากปากทันทีแล้วรีบปาดน้ำตา ไอ้บ้า หนอยแน่
   “ก็ห่วงนี่ นึกว่ามีอะไร ก็เห็นบอกจะโทรมา นี่ก็รออยู่ตั้งนานแล้วอ่ะ ไม่ชอบเลยนะแบบนี้ มันทรมาน” ผมเหมือนสติหลุดครับ ปาดน้ำตาแล้วยังไม่หายขอหน่อยเถอะ
   “อ้าวๆ ด่ากูซะงั้น กูชาร์จแบตอยู่ไง คิดว่ากูเป็นไรวะ ขี้แยนะมึง”
   “ไม่รู้ล่ะ คนมันคิดได้นี่ คราวหลังไม่ต้องกลับแล้วนะ” “คร้าบ ภรรยา แล้วนี่ใครบอกว่ากูจะกลับมานอนบ้านล่ะ”
   “อ้าว” อ้าวสิครับ ก็ไหนมันบอกว่ามันกลัวว่ามันจะอดใจไม่ไหวไง อะไรของมันวะเนี่ย
   “กูว่าจะกลับมาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเอาที่ชาร์จแบต ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาล่ะ ให้มึงคิดถึงกูเล่นไง ถ้ากูไม่กลับกูจะรู้ไหมว่ามึงคิดถึงกูมากขนาดนี้ ห่วงกูมากแบบนี้ ฮ่าๆ กูดีใจนะเนี่ย” อ่านะ หัวเราะอีก
   “ไอ้บ้า นี่เป็นแผนเหรอ” “ไม่ใช่แผน ใครจะกลับมานอนวะไม่มีแอร์” มันเจ้าเล่ห์จริงๆนะครับ ว่าไหม
   “ไรอ่ะ ถึงบ้านแล้วจะออกมาทำไมอีก มันค่ำแล้วนะ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีครับ เหมือนจะเขินล่ะ อิอิ
   “อย่าๆ มึงรออยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวกูไป” มันวางสายไปเลยครับ อ้าว อะไรยังไง ผมวางโทรศัพท์ลงไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี ไม่รู้สิใจหนึ่งก็ดีใจนะที่มันไม่ได้โกรธผม อีกใจก็กลัวว่ามันจะเล่นอะไรแผลงๆอีก แล้วถ้ามันทำจริงผมคงยอมแล้วล่ะครับ เอาเถอะ โบ๋ก็โบ๋มันน่าจะมีวิธีให้มันฟิตเหมือนเดิมได้ล่ะน่า เนอะ ผมนั่งๆนอนๆอยู่ไม่นานครับเสียงรถเครื่องก็ดังมาจอดในบ้านแล้วเสียงเครื่องก็ดับไป ผมได้ยินเสียงมันคุยกับพ่อผมพักหนึ่งล่ะครับ อ๊ะเสียงเดินขึ้นมาแล้ว แกล้งหลับดีกว่า
   “เบบี๋ อย่าๆ อย่าแกล้งหลับ” มันพูดครับแล้วเตียงก็ยวบลง คือผมนอนตะแครงนะครับ
   “แน่ะ นิ่งอีก เออดี งั้นกูลวนลามอย่ามาว่านะเว้ย ที่เคยคุยกันไว้กูจะไม่ทำ แต่ถ้ามึงนอนให้กูทำเองช่วยไม่ได้นะเว้ย ฮ่าๆ” อ่านะ ยังครับผมยังนิ่งอยู่แต่รู้สึกตัวเกร็งจนแข็งทื่อไปหมดแล้ว
   “เนียนจังวะก้นมึง” อ่ามันประชิดตัวผมแล้วครับ มันล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นผมแล้วอ่ะ
   “ไรอ่ะ ไม่เอา” ผมทนไม่ไหวครับ หลิกตัวมาทันที
   “อ้าว ไหนหลับไม่ใช่ไง ตื่นไวเชียวนะแบบนี้” “บ้าเหรอเน่า จะล้วงไมอ่ะ” ผมก็อายเป็นนะเว้ย มันดึงมือมันขึ้นมาล่ะครับแล้วดึงตัวผมไปกอด
   “โอ้ย ฮ่าๆ ไม่เอาๆ” เอ่อ มันจี้เอวผมครับ ผมดิ้นใหญ่เลย
   “นี่แน่” “เฮ้ย อย่าจับจั๊กกะแร้กูดิ เว้ย ฮ่าๆ” ผมเองก็ไม่มีหรอกครับที่จะยอม ผมหัวเราะจนน้ำตาไหลเหงื่อแตกเลยนะเราทั้งสองคน แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็หยุดกึกลงตอนนี้ล่ะครับ ผมนอนทับบนตัวมันจับแขนมันไว้ที่เหนือหัว ลักษณะเหมือนผมนั่งทับท้องมันอยู่ล่ะครับส่วนมันก็ดิ้นแต่เราก็นิ่งลงทั้งคู่เพราะหน้าของผมอยู่ห่างจากหน้ามันไม่กี่เซ็นต์ไม่สิจมูกผมจรดกับจมูกมัน ตอนนี้สายตาของผมหยุดกึกลงที่สายตาของมัน หนึ่ง สอง สาม
   “จะหลบทำไมล่ะ” เอ่อ ผมกลั้นหายใจนานจนอึดอัดครับเลยหลุบสายตาเบนหน้าออก แต่ไอ้เน่ามันกลับเอามือมาจับหน้าผมครับแล้วดันให้หันกลับมามองมันเหมือนเดิม
   “ก็ไม่รู้จะจ้องทำไมอ่ะ” ผมตอบแก้เขินครับ
   “มองคนที่รักไง กูยังไม่อายเลยนะ” อ่านะ นั่นมันมึงนี่หว่า
   “ไม่หนักเหรอ” ผมเขินมากขอบอก ไม่ใช่ว่าไม่เคยจ้องตามันนะแต่ไม่รู้สิครับยิ่งจ้องยิ่งเขินเถอะ
   “ฮื่อ” “จะให้จ้องอยู่แบบนี้เหรอเน่า” เคยเป็นไหมครับที่รู้สึกอึดอัดแต่ชอบมากเหลือเกินแบบนี้ เขินแต่อยากให้เขาทำอยู่ตลอดเวลา อายนะแต่อยากสัมผัสเขาทุกวินาที ผมเป็นอะไรไปนะ
   “อือ อยู่แบบนี้ล่ะ ไม่ชอบเหรอ” นะ ยังมีหน้ามาถาม ผมยิ้มล่ะครับ มนก็หอมแก้มผมทันที ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมเองก็คนนะยิ่งเจอแบบนี้ผมเองก็รู้สึกรัญจวนมากนะ อิอิ
   “ป่าว ชอบดิ แต่กลัวเน่าจะหนักอ่ะ” ผมยิ้มแบบว่าหุบไม่ลงเลยนะ นั่นๆมันเริ่มจับก้นผมแล้วครับ
   “หนักไรตัวมึงเบาจะตาย นอนทับกูทั้งคืนก็ได้นะ” มันเองก็ยิ้มครับ อย่าหาว่าลามกเลยนะผมรู้สึกว่าทั้งน้องชายมันและของผมเองมันตื่นตัว เสียงหัวใจทั้งของผมและของมันเต้นโครมครามไม่รู้ว่าเสียงไหนของใคร
   “กูรักมึงนะเบบี๋” มันพูดเสียงเบามากครับแต่มันหวามเข้าไปในใจ มันแทรกซึมเข้าไปในหัวใจในทันที ผมเผยอปากออกโดยอัตโนมัติ ไม่รอหรอกนะ ไม่ได้แรดแต่แหมนะ บรรยากาศซะขนาดนี้
   “ไหนบอกกลัวไง จูบกูใหญ่เลยนะมึง” คือมันอดไม่ได้อ่ะนะผมประกบปากกับมันอยู่นานจนแทบลืมหายใจ จนเราถอนหน้าออกจากกันมันก็พูดขึ้น จะพูดทำไมเนี่ยอายนะเว้ย ไม่ตอบครับจูบต่อดีกว่า อิอิ แก้เขิน
   “อืม นอนกอดกันอย่างนี้มันก็ดีเหมือนกันเนอะ” คือจูบไม่รู้จะจูบยังไงแล้วครับ มันก็ลูบๆล้วงๆไปตามเรื่องถูกันจนร้อนแต่ก็ไม่เกินไปกว่านั้นนะครับ จนผมลงมานอนข้างๆมัน
   “เน่ามีสิวฝังด้วยอ่ะ เอาออกไหม” ผมจ้องหน้ามันนานครับ นานจนเห็นรูขุมขนทุกรูแล้วมั้ง ไฝตรงไหนจำได้หมดแล้วด้วยนะ
   “เอาดิ” ผมเลยพลิกตัวหันหน้าเข้าหามันล่ะครับ ผมให้มันเขยิบขึ้นเอาหมอนซ้อนกันสองใบผมค่อยๆบีบสิวฝังให้มันอย่างเบามือที่สุด
   “เดี๋ยวเช็ดโทนเนอร์ด้วยจะได้สะอาด” ผมลุกไปเอาสำลีกับโทนเนอร์ในห้องน้ำครับ มันหลับตามือข้างหนึ่งของมันจับเอวผมไว้ ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกดีจังเลย มันอบอุ่น มันรู้สึกเต็มในใจ ตอนนี้ไม่คิดถึงวันข้างหน้า ไม่คิดถึงเมื่อวาน มีแค่ตอนนี้ ผมกับมัน ณ ที่ตรงนี้เท่านั้น
   “เบบี๋” “หือ” ผมกำลังมันเลยนะครับเห็นหน้ามันเกลี้ยงๆแต่สิวฝังหัวดำนี่เยอะเหมือนกันนะ ยิ่งบีบยิ่งมันจนตอนนี้หน้ามันเห่อแดงเพราะรอยบีบของผมแล้ว
   “น่ารักนะมึงน่ะ รู้ตัวป่ะ” ผมไม่ตอบครับแต่รู้สึกดีมากๆเพราะมันเอามือลูบหน้าผากแล้วเสยผมอย่างเบามือที่สุดแล้วมันก็ดึงหน้าผมลงไปจูบหน้าผาก ริมฝีปากร้อนๆของมันทำให้ผมเม้มปากแล้วซุกจมูกลงที่แก้มของมันเช่นกัน นี่ผมไม่ได้บรรยายให้ใครๆอิจฉานะ มันทำจริงๆอ่ะและผมก็รู้สึกดีใจมากๆด้วย อิอิเลยตอบแทนมันด้วยการหอมแก้มและกอดมันให้แน่นๆเท่าที่ผมจะทำได้
   “แล้วนอนทับแขนแบบนี้ไม่ปวดแขนเหรอเน่า” ผมถามมันล่ะครับเพราะนอนทับแขนมันนานแล้วและเหมือนมันกำลังจะเคลิ้มหลับด้วยล่ะ
   “ฮื่อ ปวดเดี๋ยวเปลี่ยนท่า” อืมนะ มันก็รู้สึกดีไปอีกอย่างนะครับ มันกอดผมจากแน่นมากๆก็เริ่มจะคลายมือออกเพราะมันหลับไปแล้วครับ ผมเอาหูแนบกับหน้าอกมัน เสียงหัวใจมันเต้นสม่ำเสมอส่วนผมเองใจยังคงเต้นระรัวอยู่เลย มันคงดีเนอะถ้าได้อยู่อย่างนี้จนกว่าจะหลับทุกๆวัน แต่เอาเถอะได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นก็ดีถมไปแล้ว แค่ตอนนี้มีความสุขและคงหลับอย่างเป็นสุขก็น่าจะพอใจแล้วนี่นา
   “อือ อือ” ผมพลิกตัวตอนเช้าครับ รู้สึกว่ามันเช้าก็เพราะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ตรงหน้าต่างหรือต้นชมพู่ไม่รู้ พอรู้สึกตัวก็สัมผัสกับร่างกายของไอ้เน่าผมจึงหลับตาลงนอนต่ออีกครั้งพร้อมกับเบียดตัวเข้าหามัน ไอ้เน่าเองก็เหมือนจะรู้สึกตัวมันเอาขาพาดก่ายตัวผมทันที อ่า ไม่อยากจะบอกเลยว่ามันทำให้ผมเขินอ่ะ อิอิ
   “ตื่นยังอ่ะเน่า” พอหลับไปได้สักพักก็เหมือนเสียงอะไรรอบนอกมันจะดังมากขึ้นกว่าเดิมล่ะครับ เสียงพ่อผมผิวปากรดน้ำต้นไม้อยู่นอกบ้าน เสียงพี่ต้อยสับอะไรไม่รู้ดังโป๊กๆ ผมลืมตาขึ้นมองไปที่นาฬิกานี่เก้าโมงแล้วนะ
   “อือ” “ไม่ลุกอ่ะ เบียดอยู่ได้” ผมอยากไปเข้าห้องน้ำล่ะครับแต่มันกอดแน่นมากถูอยู่นั่นล่ะ รู้นะว่าเอาไรถู อิอิ
   “มันแข็งนี่หว่า ถูไปถูมาเดี๋ยวก็แตกเองล่ะ” อ่านะไอ้นี่
   “จะไปเข้าห้องน้ำ” “รีบไปรีบมานะ จะถูต่อ” มันพูดโดยที่ไม่ได้ลืมตาเลยนะครับ ผมก็ลุกจากเตียงไอ้เน่ามันก็นอนแผ่อย่างสบายใจ ผมยิ้มให้มันล่ะครับแล้วก้มตัวลงหอมแก้มมันตอนมันหลับตา
   “อ้าว ยังไมไปเหรอ อยากไงเบบี๋” “บ้าดิ หอมไม่ได้ไง” “ไม่ได้ เหม็นขี้ฟัน” อ่านะ ผมเดินออกจากห้องแล้วไปเข้าห้องน้ำล่ะครับ มีความสุขจังเลย เอาเป็นว่าตลอดเวลาที่ปิดเทอมอาทิตย์เดียวนั้นมันและผมขลุกอยู่ด้วยกันเกือบจะตลอดก็ว่าได้ครับ ไม่นอนบ้านผม ผมก็ไปนอนบ้านมัน ตอนกลางวันเราก็ไปที่ร้านขายส้มตำ ผมไปบ่อยเข้าจนตำเป็นแล้วนะครับไม่อยากจะคุย พอตอนเย็นมันก็มาเตะตระกร้อกับพ่อผมและเพื่อนๆ ประมาณเกือบทุ่มมันก็ไปรับผมกลับ ก่อนกลับก็แวะนั่นนี่บ้างแล้วแต่วันครับ ถ้าวันไหนเพื่อนๆไปกับมันด้วยเราก็จะกินส้มตำกันก่อนแล้ววันนั้นผมก็จะต้องไปนอนบ้านมันล่ะครับ ผมไม่อยากจะเล่ามากหรอกครับเดี๋ยวมันจะเลี่ยน แต่สำหรับผมเองไม่เคยรู้สึกเอียนหรือเลี่ยนเลยนะ อยากจะทำแบบนี้ไปทุกๆวันเลย
   “ทำไมเน่าชอบตัดผมเกรียนๆอ่ะ” คือก่อนจะเปิดเทอมสองวันได้มั้งครับผมกับมันก็พากันไปตัดผม ของผมเองน่ะทรงเดิมไม่เคยเปลี่ยนคือรองทรงสูงข้างบนซอยออกนิดหน่อย ตอนแรกช่างเขาทำไม่เป็นนะแต่ผมก็บอก ส่วนไอ้เน่ามันรองหวีทั่วหัวเลยนะครับ ผมชอบล่ะแต่อยากถามเฉยๆ
   “สบายหัวดี ไม่เปลือง ไมไม่ชอบเหรอ”
   “ป่าว ชอบ อิอิ” “อ้าว แล้วถามไมวะ” “ถามไง ไม่ได้เหรอ”
   “ได้คร้าบ ภรรยา” “อ่านะ คิดถึงจอยเนอะปิดเทอมไม่ได้เจอกันเลย ตั้งแต่ไปเที่ยวมา”
   “ไร ปิดแค่อาทิตย์เดียว พรุ่งนี้เดี๋ยวก็เจอเองล่ะ” มันก็ยังคงกวนได้ตลอดเวลาล่ะครับ มันชอบแกล้งผมด้วยนะ แต่ด้วยความที่ผมไม่ค่อยพูดก็นึกว่ามันจะเลิกแกล้งไปใช่ไหมล่ะครับ ไม่เลยมันยิ่งแกล้งครับ มันบอกว่ายิ่งผมนิ่งไม่พูดยิ่งน่าแกล้ง เอากับมันสิครับ แต่ตอนนี้ผมก็ชอบด้วยล่ะ อิอิ
   “แล้วเสื้อผ้ากูมึงซักยัง” มันถามขึ้นตอนใกล้จะถึงบ้านผมล่ะครับ
   “อืม ซักรีดแล้ว” “เจ้ทำเหรอ” “ป่าว เราทำเอง” ผมตอบอายๆครับ ไม่อยากจะบอกนะว่าปกติเสื้อผ้านักเรียนผมพี่ต้อยจะจัดการให้หมดเพราะที่บ้านมีเครื่องซักผ้ายกเว้นกางเกงในกับถุงเท้าเท่านั้นล่ะ แต่ไอ้เน่ามันหอบเสื้อผ้ามันมาให้ผมซักวันก่อน ผมไม่รู้สิครับอยากทำเองไม่รู้ทำไม
   “น่ารักนะมึงน่ะ” มันจับมือผมไปบีบเบาๆล่ะครับ
   “พรุ่งนี้ที่เดิมนะ” มันบอกตอนที่ถึงบ้านครับ
   “อ้าว ไม่นอนนี่เหรอ” ผมตกใจหน่อยๆ
   “นอนทุกวันเกรงใจพ่อมึงดิ ยังไม่ได้ให้แม่มาขอเป็นเรื่องเป็นราวเดี๋ยวราคาตกนะมึง” อ่านะ
   “ไปเอาเสื้อให้หน่อยดิ” อืม ก็ได้วะแหมนะเอาไปเอามาผมเองล่ะจะติดมันมากกว่าที่มันจะติดผม แต่ก็ดีเหมือนกันแยกกันบ้างเถอะ ผมเดินขึ้นไปบนบ้านหยิบเสื้อผ้าที่รีดไว้แล้วใส่ถุงเอาลงมาให้มันครับ
   “ไม่เอากางเกงใน เอาไว้นี่ล่ะ เผื่อมึงอยากจะเก็บไว้ดมตอนคิดถึงกูไง”
   “บ้าเหรอ ใครจะดม เน่าจะตาย” ผมร้องขึ้นทันที มันคิดได้ไงเนี่ย
   “อิอิ ไปล่ะเดี๋ยวโทรหานะจ๊ะ เบบี๋” มันไปแล้วครับ รู้สึกใจหายหน่อยๆแต่ก็ไม่มากเพราะรู้ว่ามันไม่เปลี่ยนใจหรือทำอะไรบ้าๆอีก ผมก็ทำตัวตามปกติล่ะครับ พี่ต้อยไม่แซวแล้วแต่ถามนิดหน่อยเพราะเห็นมันทุกวัน พ่อผมก็ถามแต่ก็บอกว่ามันจะไปเตรียมของสำหรับพรุ่งนี้เปิดเทอม ผมรีบอาบน้ำหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จล่ะครับ ไม่อยากจะบอกเลยว่าขึ้นไปรอโทรศัพท์ ไม่เวอร์ไปหรอกนะก็เรื่องจริงอ่ะ รอจริงๆ
   “กินไรวะมึงวันนี้” มันโทรมาหลังจากที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จไม่นานครับ วันนี้ทันใจจริงๆ
   “วันนี้พี่ต้อยทำต้มโป๊ะแตกอ่ะ เห็นแกบ่นว่ากินอาหารอีสานทุกวันเริ่มเบื่อ”
   “อ้าว ไรว้า พอกูไม่อยู่ทำต้มโป๊ะแตก ไรของเจ้เนี่ย โว้ย อดเลยกู รู้งี้ไม่น่ากลับมานอนนี่เลย แม่กูทำน้ำพริกอย่างเดียวเลย เซ็ง” ผมแอบหัวเราะครับ
   “ไรเบบี๋ หัวเราะไร” “ป่าว ก็ช่วยไม่ได้นิ เราชวนแล้วเถอะ”
   “จิ๊ เออๆ แล้วมึงจะนอนเร็วป่ะ กูยังไมได้อาบน้ำเลยนะ”
   “อ้าว ทำไมไม่อาบอ่ะกลับไปนานแล้วนี่” “จะอาบได้ไงแม่กูใช้ให้ไปเอาไก่ที่ตลาดเพราะพรุ่งนี้เขางดฆ่า”
“อ้อ คงนอนสามทุ่มเหมือนเดิมอ่ะ เน่าล่ะจะนอนกี่โมง”
“คงประมาณนั้นล่ะ กูติดมาจากมึงพากูนอนเร็วตลอด” ผมนิ่งครับ มันรู้สึกซึ้งใจยังไงไม่รู้ เขาเรียกอย่างนี้หรือเปล่าผมไม่แน่ใจแต่รู้สึกว่าการเต้นของหัวใจมันแปลกไป
“เงียบไมวะ คิดถึงกูเหรอ” มันถามกลับมา ผมเงียบแค่ไม่กี่วินาทีเองนะเนี่ย
“อืม คิดถึงดิ คงนอนกอดหมอนข้างล่ะคืนนี้”
“แหมๆ อ้อนนะเว้ย แต่ก่อนก็นอนคนเดียวนี่หว่า นอนๆไปเถอะเดี๋ยวก็หลับ”
“ก็ไม่ได้ว่าไรนี่ แล้วเน่าไม่คิดถึง เอ่อ” “ไร คิดถึงไร มึงน่ะเหรอ” ผมไม่ตอบครับ เงียบไปเลยกู
“ไม่คิดถึงว่ะ เจอหน้าทุกวัน” อ้าว ใจเต้นแรงกว่าเดิมอีก มันแกล้งผมแน่ๆเพราะน้ำเสียงมันปกติมากครับ มันเคยทำมาแล้ว ผมไม่คล้อยตามมันหรอกนะ มันเซ็งแล้วเถอะมุกนี้น่ะ
“ตามใจสิ ถามเฉยๆหรอก” “ไม่งอนว่างั้น” “ไม่งอน เรารู้ว่าแท้จริงแล้วเน่าก็คงคิดถึงเราเหมือนกันล่ะ”
“รู้ดีนะมึง เออแค่นี้ล่ะกูจะไปอาบน้ำเหม็นเป้าจะแย่” อ่านะ ผมวางสายจากมันไปแล้วครับ พอวางสายใจมันก็เต้นรุนแรงอยู่นะ เอาเถอะๆ อย่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดไปเองเลยนะอุรดิศ เรื่องยังไม่เกิดเก็บเอาความคิดมาบั่นทอนจิตใจตัวเอง ผมเตรียมหนังสือเพื่อวันพรุ่งนี้พร้อมแล้วครับเสื้อผ้านักเรียนก็แขวนไว้ที่ตู้แล้ว พร้อมแล้วคิดถึงจอยกับเล็กจัง แต่ก็นะ เฮ้อ ไม่รู้จะเจอใครล้อหรือว่าอะไรบ้าง แต่เอาเถอะไม่ต้องไปสนใจผมต้องเข้มแข็งให้ได้มากกว่านี้ อีกอย่างเปิดเทอมไปคงต้องสอบซ่อมกระหน่ำแน่ๆผม อันนี้หนักใจกว่าเถอะ
“อ๊ะๆ นอนดูรูปกูใหญ่เลยนะมึง จะว่าวเหรอวะ กูว่าแล้วกูรู้สึกแปลกๆตอนมา” อ่า ผมกระเด้งตัวลุกจากเตียงทันทีครับ คือว่ากำลังเลื่อนภาพดูมือถืออยู่ล่ะ ดูใครล่ะเนอะ
“ไหนบอก” “ทนไม่ไหวว่ะ กูติดมึงมากแล้ว นอนคนเดียวได้ไง” มันปิดประตูแล้วเอาถุงใส่เสื้อผ้าที่ผมเอาไปให้มันนั่นล่ะครับเอาไปวางไว้ใต้เสื้อผ้าที่ผมแขวนไว้ มันใส่กางเกงบอลกับเสื้อบอลมาเลยนะ ผมดีใจอ่ะ ดีใจจังเลยครับ
“จะนอนแล้วเหรอ ทาครีมให้กูก่อนดิ กูเพิ่งอาบน้ำเสร็จอะไรก็ไม่ได้ทำรีบมาเดี๋ยวมึงหลับไปก่อน” มันกระโดดขึ้นเตียงครับ ผมไม่ว่าอะไรเพราะในใจมันเต็มไปหมดแล้ว ผมเดินออกไปเอาครีมกับโทนเนอร์มาเช็ดหน้าให้มันล่ะครับ
“เบบี๋” ผมกำลังทาครีมให้มันครับ มันหลับตานอนอยู่บนตกของผม
“หือ ไรเหรอเน่า” “กูว่ากูขาดมึงไม่ได้ว่ะ” เอิ๊กก สะอึก อ่า ไม่ได้ดราม่าหรือพยายามหวานนะครับ แต่รู้สึกว่าน้ำตามันเอ่อออกมาเพราะขนผมลุกไปทั้งตัว ไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้ มันเหมือนคำพูดตัดขั้วหัวใจ เวอร์ไปไหมเนี่ย แต่ผมรู้สึกตื้นตันจริงๆนะ รู้สึกว่า โอ้ย บอกไม่ถูกอ่ะ ผมเลยก้มลงจูบมันทั้งที่ยังอยู่ในท่านั้น มันลืมตาขึ้น คือผมหันหน้าไปอีกทางสวนทางกับหน้ามันนะครับ ใครเคยดูสไปเดอร์แมนบ้าง ทำเหมือนนางเอกกับสไปเดอร์แมนจูบกันนั่นล่ะ แต่ผมแค่ทาบปากและยื่นปากออกไปเบาๆเฉยๆไมได้แลกลิ้น แต่เอ๊ะ ผมแรดขึ้นหรือเปล่าเนี่ย อิอิ
“รักจังเลยนะเว้ย รู้ป่าว” ผมเลิกทาครีมให้มันเลยครับเอาครีมเก็บที่หัวเตียง
“นอนได้ยังเน่า” ผมพูดเสียงสั่นและเบามากๆครับ
“อืม กอดกูแน่นๆนะ” “ทำไมอ่ะ” “ไม่รู้ดิ อยากให้มึงกอด เพราะกูก็จะกอดมึงแน่นๆเหมือนกัน” มันดึงตัวผมไปกอดครับ ผมยื่นมือไปปิดไฟหัวเตียง
“กอดแน่นๆก็นอนไม่หลับดิ” “เออน่าเดี๋ยวมันก็หลับไปเองล่ะ” ผมไม่เถียงครับผมปล่อยให้มันกอดหอมหน้าผมอยู่ ส่วนผมก็จูบบริเวณคางมัน เอาล่ะ พอเนอะ ผมไม่ไหวล่ะมันล้นใจยังไงไม่รู้เดี๋ยวมีคนที่กำลังอกหักด่าผมเอา
“เอ้ย เบบี๋ เร็วดิวะกูปวดขี้” พอเช้าก็แบบนี้ล่ะครับ แหมนะพอวันไม่ไปโรงเรียนดันมาตื่นพร้อมผม เอ่อ มันก็ต้องไปโรงเรียนนี่นะ ชุลมุนกันอยู่สักพักครับ ผมเสร็จก่อนก็ลงมารอข้างล่างพ่อผมก็ยังไมได้ทำอะไรนะครับคงจะเพิ่งตื่นเหมือนกัน จิบกาแฟสบายใจอยู่
“ไปล่ะครับคุณปลัด” พอเรากินข้าวต้มเสร็จผมก็เดินออกไปรอไอ้เน่าที่หน้าบ้านล่ะครับ มันก็จูงคุณปู่มันออกมา
“ขับดีๆนะลูก เอออุ่น จะสอบซ่อมกี่วิชาล่ะลูกเทอมนี้น่ะ”
“อ่า ไรอ่ะพ่อ ไม่อวยพรให้อุ่นยังมาแช่งอุ่นอีกนะ” ผมร้องขึ้นทันทีครับ
“ฮ่าๆ ก็เคยอวยพรแล้วนี่แต่ไม่เห็นจะผ่านสักที เอาเป็นแช่งนี่ล่ะเผื่อจะผ่าน” พ่อผมหัวเราะครับผมหน้าหงิกแล้วนะเนี่ย ไอ้เน่ามันก็หัวเราะครับ ระหว่างทางมันก็ล้อเลียนอย่างสนุกสนาน อ่านะ เอาเข้าไป

ยังไม่จบครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 08-07-2012 11:16:18
“จอย คล้ำขึ้นป่ะเนี่ย ไม่เจอแค่ไม่กี่วันเอง” พอเราแยกกันที่โรงรถผมก็เดินมาหาจอยที่ประจำล่ะครับ จอยมันมาก่อนเล็กยังไม่มา
“บ่ให้ดำสิเฮ็ดจั่งได๋ คุณแม่เพิ่นใซ้ไปหลกหญ้าเข่าค่า ดำเอาโลด” จอยมันทำหน้าหงิกๆ หลกคืออะไรหว่า หญ้าเข่าก็คงหญ้าข้าว หลกคงจะดึงหรือถอนนั่นล่ะนะ ผมเริ่มจะคุ้นครับ
“ทำไมไม่ชวนอ่ะ เราก็อยากไป” “ว้าย บ่ดอกค่าเมื่อยกะด้อกะเดี้ยซ่างเป็นเนาะอุ่น ยามเกี่ยวจั่งไปสิใซ้เหมิดมื้อเหมิดเว็น อย่าสิจ่มเด้อล่ะ” จอยมันหัวเราะผมก็เลยหัวเราะตามแก้เขิน สักพักเล็กก็มา อ้าวไอ้นี่ก็ดำครับ ถามไปถามมามันบอกมันไปไถไร่ทำมันสำปะหลัง อ่านะ ไม่มีใครชวนผมเลยอ่ะ
“ต๊าย เพ็ญเห็นใครเดินขาถ่างๆป่ะ คงจะโดนของใหญ่อัดตูดมาล่ะสิ เป็นไงยะเธอ ชอบล่ะสิของใหญ่ๆน่ะถึงใจดีไหมยะ” เสียงสาวสุชาติครับ ไม่ต้องหันไปก็รู้เสียงสูงๆใหญ่ๆแปร่งๆดัดจริตๆไม่มีใครหรอกนะ
“จะพูดเพื่ออีนี่ ยังไงก็ของเก่ากูอยู่ดี กินของเก่าเป็นไงล่ะเธอ แซ่บมั้ย” อืม อีพวกนี้นี่มันอะไรกันมากมายเนี่ย
“พวกสูว่าไผ อยู่ซื่อๆบ่เป็นบ้อ” จอยครับมันหันไป นี่เรากำลังจะเดินไปเข้าแถวนะครับ
“เดือดร้อนไรยะอีจอย เสือกนะหล่อน เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนเลย เขาเรียกว่าอะไรนะเพ็ญ หน้าด้าน” มันตะคอกใส่ผมครับแล้วก็หัวเราะกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ ผมกำหมัดแล้วหันมา พอเถอะ กูทนมานานล่ะ
“ที่ถามน่ะอิจฉาเราเหรอ ใช่ เมื่อคืนเราเอากันมา แซ่บมากจริงๆล่ะเพ็ญและก็ใหญ่สมคำเล่าลือ ที่บอกว่าเขาเป็นของเก่าเธอน่ะ เขาไม่เอาหรือว่าเธอไม่เอาเขากันแน่” “นี่อี” “อ้อ แล้วคำว่าของเก่าน่ะ ยังไงมันก็เก่านะ ส่วนเราเป็นของใหม่ จำไว้ด้วย และไม่ต้องมากัดมาแทะเรา เรารำคาญ” ผมเน้นเสียงพูดเสียงนิ่งๆ ไม่ได้อยากจะพูดนะครับ มันรำคาญมากๆ มันสองคนกัดฟันแน่นแต่ผมเดินหนีมาแล้ว ไม่ได้หนีเพราะไม่มีอะไรจะสู้ ผมด่าไม่ค่อยเป็นครับ ที่พูดออกไปเมื่อกี๊ก็เน้นคำบางคำ จอยกับเล็กหัวเราะชอบใจครับ
“เออ จั่งซี้แน่แหมะด่ามันคืนแน่ อย่าสิให้มาเห่าเอาหลาย แต่บ่คือด่าเว้ย คือเว้าธรรมดานี่ล่ะ” ไอ้เล็กครับ
“ฮ่วย อุ่นเขาผู้ดีเด้เล็ก บ่ได้คือซุมนั้น แต่กะดีแล้วล่ะอุ่น เป็นจั่งได๋ล่ะปากกะบ่ออก โอ้ยสะใจหลาย” ผมรู้ครับว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ๆ แต่เอาเถอะผมจะทำเป็นหูทวนลมไม่ไปวอแวด้วย และจะเชื่อไหมว่ามันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือตอนเรียนมันสองคนก็พยายามกระแนะกระแหนล่ะครับแต่ผมไม่สนใจทำเป็นหูหนวกตาบอดไปเสีย อดทนเอาครับ แต่ตอนพักเที่ยงนี่สิ มันทำให้ผมหมดความอดทน
“ทำไมรีบจังอ่ะเน่า” ผมเห็นมันกินก๋วยเตี๋ยวแบบว่าพรวดๆยัดเข้าปากไม่เคี้ยวเลยนะนั่น
“กูจะไปคุยกับจารย์เดช” “อ้าว เรื่องบอลเหรอ” ผมเองก็ตกใจครับ
“ป่าว เรื่องตระกร้อ เดี๋ยวกลับมาเล่า เจอกันตอนเย็นนะเบบี๋ ไปล่ะ” มันไปแล้วครับ ไม้กับเคนก็วิ่งตามมันไปเหลือผมกับเพื่อนคือจอยและเล็ก เล็กมันขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์กับปูครับ คงจะจีบกันจริงจังแล้วล่ะสองคนนี้
   “ว้าย หก” เอ่อ ผมสะดุ้งตัวเกร็งทันทีครับเพราะรู้สึกว่าน้ำเย็นๆมันราดลงที่กลางหลังผม
   “เฮ็ดหยังนี่ เป็นหยังบ่เบิ่งอีสุชาติ มึงแกล้งแม่นบ่” จอยมันลุกขึ้นล่ะครับ ผมเองก็หันขวับไป เอ่อ กลุ่มกะเทย จะโกรธไหมเนี่ยถ้าจะพูดแบบนี้ คือไม่ได้อยากแบ่งเพศนะแต่เอาเป็นว่าประมาณหกคนครับหน้าขาวปากแดงกันทุกคน ท่าทางเกินจริง อารมณ์เกินหญิงประมาณนั้น ผมเองก็เป็นเกย์คือชอบผู้ชาย เอาเป็นว่าผมกับมันก็คงอยู่ในพวกเดียวกัน แต่ผมจะขอเรียกมันว่ากะเทยก็แล้วกันนะครับ ส่วนมันจะเรียกผมอีตุ๊ด เกย์อะไรก็เรื่องของมัน
   “ไรยะอีจอย บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาว่ากูแกล้งได้ไง อีนี่วอนโดนตบ”
   “มาแหม่ะ ไผสิตบไผ” “ไม่ต้องหรอกจอย ไปล้างดีกว่า” ผมโกรธนะครับ และขอบอกว่าไม่ได้พยายามจะเป็นพระหรือชี ผมไม่อยากมีเรื่องทั้งที่ตัวเริ่มสั่นหูเริ่มไม่ได้ยินอะไรแล้วหน้าร้อนไปหมดแล้วครับ
   “จะไปไหนยะ ดูสิพวกเธอ โดนพี่เดี๋ยวของฉันอัดตูดเอาจนขาถ่าง ตัวเท่าลูกหมาคงจะช้ำหมดแล้วสิ ไม่ไหวก็บอกนะเธอ”
   “มันน่าสนใจตรงไหนเนี่ย แค่หน้าตาดี ตัวก็เล็กเอาไม่มันหรอกนะ พี่เดี๋ยวน่ะต้องฉันเอง” คือไม่รู้ว่าเสียงใคร พวกมันกรี๊ดกันดังมากครับ คนในโรงอาหารส่งเสียงอื้ออึงมองมาที่เราทุกสายตาล่ะมั้ง เพราะผมไม่ได้มอง ไม่อายครับแต่กำลังตั้งใจฟัง
   “นี่ถ้าพ่อไม่ได้เป็นปลัด คงไมได้มาเรียนที่นี่หรอกนะ เรียนก็โง่ ดีแต่หน้าตา เสียดายพี่เดี๋ยวจริงๆ พี่เดี๋ยวควรจะได้เป็นผัวฉันมันถึงจะคู่ควร เพราะแกคนเดียว อีด  อก เอ้ย”
   “ปึ๊ก” “ว้าย กรี๊ด” ขาดแล้วครับ ไม่ไหวจะเคลียเพลียจะเล่า จบป่ะ กูก็คนนะเว้ยสัด เห่าหาเตี่ยมึงเหรอเนี่ย ด่ากูคนเดียวไม่พอลามไปถึงพ่อกูอีก แต่ก็ไม่จี๊ดเท่าที่ว่ามันจะเอาไอ้เน่าทำผัว ข้ามศพกูไปก่อนเถอะ โกรธเว้ย
   “อุ่น พ่อเคยขอแล้วไม่ใช่เหรอ” คือเรื่องมันจบลงที่ห้อง ผ.อล่ะครับ พ่อผมบินมาจากอำเภอเลยนะ ผมก้มหน้านิ่ง
   “อีหยัง เป็นข้าราชการแล้วรังแกประชาชนแม่นบ่ หา แนวนี้ประชาชนสิไปเพิ่งไผ เป็นตาอยากอาย” เหมือนว่าพี่สาวมันมาล่ะครับแม่มันไปทำงานกรุงเทพฯ หมายถึงไอ้สุชาตินะ และเจ้าตัวมันตอนนี้อยู่ที่ห้องพยาบาลครับ
   “ขอโทษนะครับ พ่อผมไม่ได้ทำ ไม่ได้สอนให้ทำแบบนี้ด้วย ผมทำไม่เกี่ยวกับพ่อ จะด่าจะหาเรื่องก็มาเอาที่ผม” ผมเงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนมันล่ะครับ มันนิ่งไป อีสุชาติกับเพื่อนๆมัน ไม่อยากจะเล่าว่าสภาพมันเป็นยังไง ผมเคยบอกแล้วนี่ว่าผมเคยมีเรื่องมาแล้วที่โรงเรียนเก่า
   “เอาล่ะๆ ไหนมันเกิดอะไรขึ้น” ผอถามเสียงเครียดครับ
   “สิมีหยังล่ะคะผอ กะคือสิอวดโอ้ว่าเป็นลูกปลัดเลยมากร่างใส่หมู่ หวืยเป็นลูกปลัดแต่เขาว่ามีผู้บ่าว หมู่เขาล้อกะเป็นเรื่องปกติบ่แม่นบ่ค่า เสียซาติเกิด บ่อายเขาติ๊มีลูกเป็นผู้แม่” ผมเงยหน้าสวนขึ้นทันทีครับฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง
   “ขอโทษนะครับ ลูกชายผมจะเป็นยังไงผมไม่เคยอายเพราะผมมั่นใจว่าเขาเป็นคนดีไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่เอาเถอะครับเรื่องวันนี้ผมก็ถือว่าลูกผมมีส่วนผิด อันนั้นผมอยากให้ผอลงโทษได้เลยครับ แล้วคุณล่ะ พร้อมจะให้เด็กในปกครองของคุณรับผิดเหมือนลูกชายผมไหม” พ่อผมโกรธครับฟังน้ำเสียงดูก็รู้ ยัยคนนั้นนิ่งไป
   “อีหยังคะ น้องฉันบ่ผิดเด้อค่า สิมาลงโทษกันแนวได๋” เธอร้องขึ้นล่ะครับ
   “กฏก็คือกฏนะครับ เอาล่ะ ไหนเล่าให้ผอฟังหน่อยซิอุรดิศว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผอหันมาทางผมล่ะครับ
   “ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมอดทนไม่พอเอง ผมยอมรับผิดครับ” ผมขี้เกียจจะเล่าครับ เบื่อ จะฟังผมไหมถ้าผมบอกว่าผมทนไม่ไหวที่พวกมันมาระรานทั้งที่ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วยเลย จะเชื่อผมไหมว่าผมก็มีความรู้สึก ผมก็อายเป็น
   “เอ่อ งั้น คุณออกไปก่อนได้ไหมครับ ผมขอคุยกับคุณปลัดหน่อย” ผอหันไปบอกกับพี่สาวของอีสุชาติล่ะครับ
   “บ่ได้เด้อค่ะผอ คุยกันแนวนี้มีลับลมคมในแม่นบ่ เห็นกันซัดๆเลยว่าสิเอาเปรียบประชาชน บ่ยอมเด้อค่ะ” เธอยังคงดื้อแพ่งครับกรีดร้องขึ้น
   “คุณ ผมไม่เคยคิดจะเอาเปรียบใคร และถ้าหากคุณคิดแบบนั้นก็เกรงใจผมด้วยนะครับ เพราะผมไม่ใช่ปลัดธรรมดาตามที่คุณเข้าใจแต่ผมเป็นหัวหน้าปลัดของที่นี่ อำนาจสิทธิ์ขาดผมก็มี หรือคุณอยากให้ผมทำอย่างที่คุณพูด” พ่อผมเสียงแข็งใส่ครับ เธอนิ่งแล้วทำหน้าเหวี่ยงๆแล้วออกไป
   “อุ่น ออกไปก่อนลูก” “พ่อ อุ่นขอโทษ” ผมเศร้าครับ ใจเต้นตึกตัก
   “ค่อยคุยกันที่บ้าน” พ่อผมหันหน้าไปหาผอล่ะครับ ผมก้มหน้าแล้วเดินออกมาจากห้อง จอยกับเล็กรออยู่หน้าห้อง
   “เป็นจั่งได๋อุ่น” จอยปรี่เข้ามาดึงแขนผม
   “สิเป็นจั่งได๋ นี่ล่ะลูกคนมีอำนาจเฮ็ดหยังกะบ่ผิดดอก” เธอคนนั้นพูดขึ้นครับ
   “อย่าสิมาเว้าหลายเอื้อย เจ้านั่นล่ะถามน้องเจ้าเบิ่งอยู่บ่ว่าไปเฮ็ดหยังเขา ปากหมา มากวนตีนเขาหลายถืกตีนนั่นล่ะเหมาะสมแล้ว” จอยมันกร้าวเสียงใส่ครับ
   “ป้าดคือมาปากดีแท้ เด็กน้อยอีหยัง”
   “ดีบ่ดีกะลองเบิ่งบ่ล่ะเอื้อย บัดทีน้องเจ้าของล่ะ ทั้งแรดทั้งร่าน หาเรื่องคนอื่นกะเป็นจอม เคยสอนอยู่บ่น้องเจ้าของน่ะ คือสิมาว่าให้ผู้อื่น”
   “อีอันนี้ นิสัยเสีย”
   “พี่ครับ เมื่อกี๊ในห้องน่ะพี่ว่าอะไรนะ” ผมดึงจอยออกมาครับ เอาล่ะ ไหนๆมันก็เสียแล้วนี่ จะเสียอีกหน่อยจะเป็นไรไป มองกูไม่ดีแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ
   “อีหยัง เว้าอีหยัง” “ที่ว่าผมเป็นผู้แม่น่ะ คืออะไร และผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าบอกน้องพี่ด้วย ถ้ายังอยากมีโรงเรียนเรียน อย่ามายุ่งกับผมอีก พี่หาว่าผมใช้อำนาจของข้าราชการเอาเปรียบพี่ ผมก็จะทำตามที่พี่บอก ถ้ามายุ่งกับผมอีกอย่าหาว่าผมไม่เตือนเพราะนอกจากน้องชายพี่จะไม่ได้เรียนที่นี่ ที่อื่นในจังหวัดนี้ก็อย่าหวัง” ให้ตายเถอะเกิดมาไม่เคยอวดเบ่งใส่ใครแบบนี้เลยนะครับ แต่เอาเถอะ มันคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้หรอกนะ เธออ้าปากหน้าซีดลงทันทีคงเพราะผมพูดเสียงนิ่งๆและจ้องหน้าเธอด้วยล่ะมั้งครับ
   “ป้าด ซ่างกล้าเว้ากล้าว่าเนาะ มาเบิ่งเด้อคนบ่เบิ่งเจ้าของ อายอยู่เบาะเอื้อย คั่นหมู่หนูเป็นผู้แม่น้องเจ้าเขาเอิ้นอีหยัง กะเทยควายแม่นบ่” “โอ้ย” เธอเหมือนจะจนทางไปล่ะครับสะบัดหน้าหนีไป
   “บ่มีหยังดอกเฮาว่าน่ะ พยานเต็มโรงอาหาร ผอเพิ่นต้องสืบสวนอุ่นบ่ต้องห่วงดอก” เล็กมันมาตบบ่าผมเบาๆครับ ผมก็พยักหน้า อยากรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ผมหันหน้าไปแล้วยกเท้าขึ้นถีบหน้าอกมัน มันเซไปข้างหลังเพื่อนๆมันก็กรีดร้องขึ้นครับ ผมรีบขึ้นเก้าอี้ม้ายาวแล้วกระโดดตามไปถีบเต็มๆจนมันล้มระเนระนาดไป
   “ว้าย” “มึงว่าอะไรนะ มึงว่าอะไร” ผมเหมือนคนสติหลุดครับ เหตุการณ์มันเหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้วและนี่มันเป็นการฉายเทปซ้ำแค่นั้นเอง ผมปรี่เข้าหามัน ต่อยหน้ามันสองสามที
   “กรี๊ด ช่วยด้วย” ผมมองไม่เห็นใครครับนอกจากหน้าทุเรศๆของมันที่เหมือนจะมีเลือดนองออกมา ผมตัวเล็กก็จริงครับแต่ไม่ใช่ไม่มีอะไรจะไปสู้ใคร บอกแล้วว่าอย่าให้ผมทำบ้าง
   “หยุด อย่าตีกัน” เหมือนเสียงพ่อค้าล่ะครับเขามาดึงตัวผมออก
   “อีชาติชั่ว มาต่อยกูทำไม” พอผมโดนดึงออกมามันก็ทั้งร้องไห้ทั้งก่นด่าผมล่ะครับ
   “ยังอีก” ผมดิ้นออกจากมือพ่อค้าล่ะครับ
   “กรี๊ด” อย่าให้บรรยายเลยครับตอนนี้มันเกินไปล่ะ ผมทำเกินไปผมรู้แต่ไม่รู้สิ ผมพอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถ้าหากว่าพ่อผมรู้เรื่องและก็คงไม่มีใครปิดได้ คือผมเอาเท้าไปเหยียบหย้ามันครับและบี้เท้าลงกับพื้นเหมือนเหยียบดินเหยียบหญ้า คราวนี้พ่อครัวแม่ครัวรุ่นพี่รุ่นน้องผู้ชายที่ตัวใหญ่หน่อยมาดึงผมออก เสียงกรี๊ดดังไม่ยอมหยุด และผมก็ไม่มีโอกาสได้หายใจอาจารย์ปกครองก็มาครับ และเนื่องด้วยมันเป็นตอนพักเที่ยงอย่าให้บอกว่าคนจะน้อย เอาล่ะเป็นพยานกันทั้งหมดนี่ล่ะ เห็นไว้ดูไว้ซะจะได้ไม่มายุ่งกับกูอีก
   “มีไรวะ มานี่ซิ” คือจอยกับเล็กดึงแขนผมลงมาจากอาคารอำนวยการล่ะครับ เรากำลังจะเดินกลับอาคารเรียนซึ่งต้องเดินไปอีกพอสมควร ตอนเดินลงมาทั้งอาจารย์เด็กนักเรียนมองผมเป็นตาเดียว ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอายอีกต่อไป เออดูไว้ กูนี่ล่ะ อุ่น อุรดิศ เป็นลูกปลัดและกร่างเกรียน มีแฟนเป็นผู้ชาย จบมะ
   “มึงไปทำไรมา” ไอ้เน่าครับมันมาดักหน้าเราไว้ นายเคนกับนายไม้ก็มาหน้าตาพวกมันดูตื่นๆนะ ไอ้เน่าหน้าตาเหมือนจะเอาเรื่องผมเลยนะครับ แหมนะ เป็นไงล่ะตอนมึงไม่อยู่ก็มีเรื่องเลย ทิ้งกูนะ
   “ไม่มีไร” “ไม่มีไรได้ไง เฮ้ยนี่กูไม่อยู่แค่ไม่นานพวกมันมาวอแวมึงเลยเหรอ”
   “มันจบแล้วล่ะเน่า เราอาจจะโดนพักการเรียนก็ได้” ผมพยายามเข้มแข็งล่ะครับ
   “เฮ้ย ไม่หรอกน่า คนเขาบอกว่าอีห่านั่นมันเอาน้ำสาดใส่มึงก่อน โว้ย ทำไมกูไม่ได้อยู่ดูด้วยวะ เขาบอกว่ามึงดุเหมือนวัวบ้า ฮ่าๆ” อ้าว นึกว่าจะด่ากู อะไรอ่ะไอ้เน่านี่
   “ไม่ตลกนะ” “อ้าวๆ อย่านะเว้ยกูแฟนมึงนะ อย่ามาเหยียบหน้ากูนะ กูล่ะอยากดูจริงๆเลยว่ะตอนที่มึงโมโหเนี่ย อย่าทำไรเค้าน้าตัวเอง” จะทำก็เพราะมึงมาล้อกูนี่ล่ะไอ้นี่
   “จะกลับห้องล่ะ” “เดี๋ยวดิ กูว่าจะขอจารย์ย้ายห้อง” หือ อะไรนะ
   “ทำไมล่ะเน่า” ผมเสียงเปลี่ยนไปเลยครับ
   “กูไม่อยากให้มึงโดนใครรังแก นี่ไปแค่แป๊บเดียวนะ ไอ้พวกเชี่ยๆมันคอยหาโอกาสตลอดล่ะ กูย้ายมาเรียนห้องเดียวกับมึงก็จบ” อ่านะ ผมพูดไม่ออกครับไม่รู้สิ
   “อย่าเลยเน่า เดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่” “ไรวะ”
   “อุ่นๆ ผอเอิ้น” นั่นไงครับความซวยมาเยือนผมแล้ว เฮ้อ ผมเดินก้มหน้ากลับขึ้นไปบนตึกอีกครั้งล่ะครับ พอเดินเข้าห้องไปพ่อผมก็มองมาที่ผมแว้บหนึ่งแล้วก็หันไปหาผอ
   “อุรดิศผอทราบเรื่องแล้วนะ ที่จริงเราก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก” “อะแฮ่ม ผอครับ” พ่อผมครับ
   “อ้อ คือว่าเราก็ต้องได้รับโทษเหมือนกันนะ แต่เรื่องจะให้พักการเรียนนั้นผอว่าอุรดิศเพิ่งจะทำผิดเป็นครั้งแรก ผอจึงจะอนุโลมให้ แต่พอดีเดือนหน้าจะมีครูใหม่มาประจำที่โรงเรียนเราสามคนและทางศิษย์เก่าก็จะมาเยี่ยมเยียน ผออยากให้มีการแสดงเพื่อเป็นการต้อนรับ อุรดิศไม่ต้องทำคนเดียวก็ได้นะ หาเพื่อนๆช่วย แต่เรื่องการแสดงทั้งหมดผอถือว่ามอบให้อุรดิศเป็นคนไปจัดการมา ยังมีเวลาเตรียมตัวอีกเป็นเดือน คงทำได้นะอุรดิศ” เอ่อ ผมงงอยู่สักพักครับ ผมมองไปที่พ่อของผม พ่อทำหน้านิ่งมากๆครับ พ่อบอกให้ผมออกมาจากห้องผอ พักการเรียนง่ายกว่าไหมเนี่ย อ่า อะไรอ่ะ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. มีเพื่อนบอกว่าน้องอุ่นแลดูจะเหมือนแม่ชี 555 เลยจัดให้นิดหน่อยนิ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2012 11:53:58
 :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-07-2012 12:35:25
อุ่นเวอร์ชั่นนี้เด็ดจริง ๆ
ใครจะมาวอแวคงคิดหนักล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 08-07-2012 12:51:32
อุ่น...นายแน่มาก เหมือนพ่อจะเคยให้เรียนศิลปะป้องกันตัวเปล่าเนี่ย เก่งขนาดนี้
สะใจอ่ะ พวกนั้นจะได้จำว่าอย่ามาแหย่หนวดเสือหลับอีก ฮ่า ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 08-07-2012 13:39:16
อุ่น เยี่ยมมาก จัดให้สุชาติมันไปซักดอก
มันจะได้รู้บ้าง ไม่งั้นก็มาปากไม่ดีใส่
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 08-07-2012 13:56:03
อีสุชาติ :z6: หนูอุ่นสู้ๆๆนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 08-07-2012 16:54:20
+1 น้องอุ่น  o13 ต้องอย่างนี้ เพราะบางคน เราไม่ตอบโต้ก็หาว่า หงอย ต้อง :z6: สักที จะได้ o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 08-07-2012 16:56:05

ชอบอุ่นโหมดนี้อ่ะ แซ่บบบ :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-07-2012 18:40:01
นู๋อุ่นเวอร์ชั่น
นี้เด็ดมาก :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 08-07-2012 19:16:33
สะใจโลดๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 08-07-2012 19:20:02
ชอบอุ่นอ่ะ ต้องแบบนี้สิ อย่าไปยอม >,,<" อ่านตอนนี้แล้วทำให้คิดถึง เมื่อผมรับบทเป็นนางร้าย กับ เรื่องนี้ไม่มีนายเอก เลยอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 08-07-2012 19:44:30
หวานมาหลายตอน
ให้อุ่นบู๊มั่ง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 08-07-2012 19:46:24
อุ่น  สู้ๆๆ   :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 08-07-2012 20:02:20
ต้องสู้คนแบบนี้ ได้ใจไปเต็มๆ เลยจ้าน้องอุ่น  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 08-07-2012 20:24:40
สะใจมากๆๆๆๆ อุ่นฟิวส์ขาดแล้วววว มันต้องแบบนี้
ความอดทนก็มีขีดจำกัดนะเฟ้ยยยย สู้ๆนะอุ่น มีเพื่อนมีแฟนเข้าใจเยอะแยะ

ตอนต้นๆก็หวานมากกกมายยยย น่าอิจฉาสุดๆๆไ กอดกับจุ๊บกันขนาดน้านนน จะละลายแทน ฮ่าๆๆ
ระหว่างนี้ให้เดี๋ยวไปศึกษาทฤษฎีก่อนปฏิบัติจริงดีมั้ยเนี่ย
ถ้าเดี๋ยวทนไม่ไหวอุ่นก็ยอมแล้วแน่ๆ >///<

เน่ายังคงอยู่ข้างเบบี๋ ซึ้งอ่าจะย้ายห้องมาอยู่ดูแลใกล้ๆกันเลยหรอ น่ารักเว้ยเฮ้ยย
พ่อปลัดก็แอบเข้าใจลูกเน๊อะแอบช่วยป่ะนั่น อิอิ
เอ้ออ สงสัยว่าพ่ออุ่นเค้ารู้มั้ยว่าอุ่นเป็นเกย์ หึหึ แล้วจะรับได้มั้ยถ้ารู้เรื่องขึ้นมา เหอๆ
แต่คุณปลัดก็รักลูกมาก มีกันสองคนพ่อลูกคงรู้จักลูกตัวเองดีพอล่ะมั้ง ปลอบใจตัวเอง
พ่อปลัดกับเดี๋ยวก็เข้ากันได้ดี ฝากเดี๋ยวดูแลอุ่นก็ออกจะบ่อย อิอิ ไม่ใช่ว่ารู้แล้วแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นะ
เง้อออ คิดไปก่อนเดี๋ยวเครียดป่าวๆ รออ่านเน่ากับเบบี้สวีทกันดีกว่า อิอิ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 08-07-2012 20:25:21
โอ้ว  นายแน่มาก  น้องอุ่น o13


บักเดี๋ยว ดูแลหน่อยเด๊
 :m16:


อิอิ  ติดตามตอนต่อไป :o12:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 08-07-2012 20:34:05
วอนเองแท้ ๆ เนอะสุชาติ...ทำให้นู๋อุ่นองค์ลงก็ซวยไปแล้วกัน..
เดี๋ยวดูไว้...เห็นโก๊ะ ๆ ก็จัดหนักเป็นนะจ๊ะ... :really2:

 :กอด1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 08-07-2012 20:43:45
ชอบอุ่น แบบนี้จัง อดทน แต่ไม่อ่อนแอ รักเอกกี้มากๆๆๆ ชอบที่สุด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 08-07-2012 20:46:51
น้องอุ่น  :z2:สู้ ๆ :z2: สู้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 08-07-2012 22:18:54
ถ้าเน่า เห็น เบบี้ พะบู้ คงไ่ม่กล้ารังแก เบบี้ แน่เลย
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 09-07-2012 00:19:19
อุ่นสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 09-07-2012 00:53:45
อุ่นโมโหแล้วน่ากลัวอ่ะ แต่ก้นะ อยากตบอีสุชาติแทน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 09-07-2012 06:16:17
อุ่นก็สู้คน ไงล่ะ โดนเต็มๆ :z6:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 09-07-2012 11:13:13
เพิ่งได้อ่านค่า รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สนุกมากมาย
ชอบคุณพ่อน้องอุ่นจังเลย เป็นคุณพ่อที่เข้าใจลูก ดูอบอุ่นมากกก
ดีจังน้องอุ่นรักนวลสงวนตัว ถึงพี่จะแอบเชียร์ให้เสียตัวเร็วๆก็เถอะ :laugh:

ติดตามต่อไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 09-07-2012 14:43:29
สนุกเหมือนเคยค่า ฝีมือไม่เคยตกเลยเนอะ รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 09-07-2012 15:59:32
สนุกมากๆๆ จัดเต็มเลยคร๊าน้องอุ่น สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดด :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-07-2012 18:34:53
อย่าไปยอมมัน อุ่น

 :z6:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 09-07-2012 22:09:38
น้องอุ่นก็สู้คน  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 10-07-2012 09:18:23
ให้มันรู้บ้างว่าไผเป็นไผ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 10-07-2012 20:43:32
ฉันก็สู้คนคะ ฉันก็สู้คน หนูอุ่น เอาใจไปเต็มๆ เดี๋ยวเอ๊ยยย พลาดตลอดนะแกนะให้อุ่นพึ่งพาได้บ้างซี๊
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 11-07-2012 05:13:22
โว.. อุ่นเจ๋งจริงๆ  o13 มันต้องอย่างนี้ นานๆทีเอาคืนซะบ้างจะได้เข็ด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-07-2012 18:10:29
คิดถึงแล้วเน้อ :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 12-07-2012 19:35:41
เข้ามารอเจ้าเน่า ของน้องอุ่น
 :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 20 Version (อุรดิศ) 8 July 12 หน้า 25
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 13-07-2012 11:56:37
คุณอิ๊กกี้  หายไปไหน  แฟนคลับคิดถึงอยู่นะค่ะ :monkeysad:  คิดฮอดเน่าและหนูอุ่นมากๆๆ   :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 13-07-2012 12:13:11
You’re My BaBy!!

คือว่ากูไม่ได้ทิ้งมันหรือไม่ได้ดูแลมันนะเว้ยเฮ้ย ไม่อยากจะเชื่อแค่ช่วงเวลาที่กูวิ่งไปคุยกับพ่อกูเรื่องทีมตระกร้อไม่กี่นาทีจะเกิดเรื่องขึ้นกับมัน แต่ว่า จิ๊ เสียดายว่ะไมได้ดู ฮ่าๆ เขาบอกว่าแม่งไอ้เบบี๋สุดยอดเลยนะ กระโดดถีบอีสุชาติจนหงายหลังมิหนำซ้ำเข้าไปเหยียบหน้ามันอีก เจ๋งว่ะ ขนาดกูตีกันมานักต่อนักนะยังไม่เคยเหยียบหน้าใครเลยนะเว้ย มันนี่เด็ดจริงๆ
   “บ่น่าซวนไปหาจารย์เดชเลยมึง กูเลยบ่ได้เบิ่งซ่ำ” สัดเคนครับ แหมๆ กูเองก็อยากดูเถอะเว้ย
   “บักห่ามึง คั่นพวกเฮาบ่ไปอีสุชาติมันสิกล้าเข้ามาวอแวบ่” สัดไม้ครับ เออมีเหตุผล แต่ว่าไปแล้วกูก็นึกโมโห แม่งทำกับแฟนกูแบบนี้ได้ไงวะ ไมได้ล่ะเดี๋ยวกูต้องไปจัดการหน่อยล่ะ ปล่อยไว้แม่งเดี๋ยวเหลิงจะหาว่ากูไม่ปกป้องแฟนกูอีก มึงคอยดูๆ
   “เห็นมันโตน้อยๆแนวนั่นบ่คิดว่ามันสิใจเด็ดปานนี้ ฮ่วย แนวนี้บ่แม่นสิลักเตะกูอยู่บ่วะ” ผมพูดติดตลกแล้วรอไอ้เบบี๋มันลงมาจากห้องผอล่ะครับ
   “ทำไมหน้ามุ่ยๆวะ ผอทำโทษเหรอ” ผมเดินเข้าไปลากแขนมันมาล่ะครับ
   “อือดิ จิ๊เซ็ง ทำไมไม่พักการเรียนนะ” “อ้าว มึงอยากโดนพักการเรียนเหรอวะ ไอ้นี่แล้วผอลงโทษยังไง” ผมถามครับเพราะสีหน้ามันดูลำบากใจมากๆ
   “จะให้ทำไรล่ะ ก็ให้แสดงต้อนรับจารย์ใหม่ที่จะมาเดือนหน้าไง เห็นบอกมีงานคืนสู้เย้าอะไรไม่รู้อ่ะ โว้ย เซ็ง”
   “ฮ่าๆ มึงเนี่ยนะจะแสดง สม” ผมหัวเราะครับ มันทำหน้าค้อนใส่ผมทันที
   “ไรอ่ะ ไม่รู้ล่ะ เน่าต้องช่วยเราด้วยนะ” “อ้าวๆ เกี่ยวไรวะ กูไม่ได้ทำผิดด้วยซะหน่อยนี่หว่า” ผมแซวมันครับ มันหน้างอตามระเบียบ
   “แสดงหยังล่ะอุ่น งานใหญ่เด้นี่ ซู่ปีเพิ่นสิให้ชมรมการแสดงเด้ล่ะจัดงานน่ะ” สาวจอยพูดขึ้นล่ะครับ
   “นั่นน่ะดิ เฮ้อเราจะแสดงอะไรอ่ะ” มันทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตกล่ะครับ
   “ฟ้อนติ๊ล่ะ” สาวจอยเสนอ
   “ฟ้อนไรอ่ะคนเดียว” “ก็ซวนหมู่เด้เนาะอุ่น” “แม่นๆ เฮาสิซวนหมู่ห้องเฮามาซ่อย” สัดเคนครับ ไอ้เบบี๋มันทำตาวิ้งๆทันทีครับ
   “จริงนะเคน” “แหะๆ บ่ฮู้เขาสิซ่อยบ่บู้” “อ้าว”
   “เดี๋ยวลองซวนหมู่ในห้องลองเบิ่งติ๊อุ่น ซุมบ่แม่นพวกอีสุชาติกับอีเพ็ญน่ะมีอยู่เด้” คุยกันไปกันมาก็ไม่ได้ความหรอกครับ คงต้องคุยกันยาวล่ะเรื่องนี้ เฮ้ยๆ อย่ามองที่กูนะเว้ยไม่ฟ้อนไม่รำถ้าให้เต้นเหมือนเต้นหน้าเวทีหมอลำซิ่งน่ะว่ามาเลย ฮ่าๆ เออเรื่องที่ไปคุยกับพ่อกูมาก็เรื่องตระกร้อล่ะครับ พอดีผมไปเสนอแกมาเพราะแกสนิทกับจารย์จรูญซึ่งผมไม่สนิท คือประมาณว่าไม่กินเส้นกันนั่นเองครับ ฟังดูเข้าใจยากเนอะ เอาเป็นว่าผมอยากจะเตะตระกร้อทีมโรงเรียน ซึ่งเขามีทีมดีอยู่แล้ว ลำบากไปไหมเนี่ยกู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็รอปลัดล่ะครับเผื่อแกจะตั้งทีมประจำอำเภอขึ้นมาเท่กว่าเป็นไหนๆ
   “ป่ะเบบี๋รีบกลับ” พอเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนผมก็มาดักรอมันหน้าอคารล่ะครับ คนก็มองเป็นเรื่องปกติแต่ไม่ได้มองกูนะเว้ยเฮ้ย มองไอ้เบบี๋ว่ะ ดังใหญ่ล่ะมึง
   “ว่าจะไป” “ไม่เอา ไม่ไปกลับบ้านจะรีบไปเตะตระกร้อ” ผมพูดสวนครับ
   “บู้ยซาดฟ้าวเนาะ” สาวจอยพูดขึ้นล่ะครับ
   “บ่ได้ดอก บัดลังเทื่อปลัดเพิ่นสิตั้งทีมอำเภอ บักเล็กพ้อกันอยู่บ้านปลัดเด้อ” ผมบอกไอ้เล็กครับแต่ เอ๊ะ ทีมมันยังไม่ครบนี่หว่า ผมมองไปถึงอนาคตล่ะครับเผื่อคุณปลัดแกตั้งทีมขึ้นมาจริงๆมันก็ต้องมีทีมเอทีมบี
   “จอยๆ บักโจ้มันว่างอยู่บ่เม่นบ่ มันบ่อยากเตะตระกร้อติ๊” ผมคิดถึงไอ้โจ้ขึ้นมาครับ
   “ถามกันเองโลดเฮาบ่ฮู้ดอก มันกะบ่ได้เฮ็ดหยังเด้ล่ะ” เออวะ ถามเองก็ได้
   “เอาเบอร์มันมาเบิ่งดู้สิถาม” ผมขอเบอร์ไอ้โจ้จากสาวจอยล่ะครับ
   “อ้าวเน่า แล้วไม้กับเคนล่ะ” ไอ้เบบี๋มันถามขึ้นล่ะครับ จิ๊ มาเสือกฉลาดเอาตอนนี้เนี่ยนะ
   “มันกลับบ้านไปเอาชุดก่อน นี่กูก็จะไปส่งมึงที่บ้านก่อนแล้วไปเอาชุด”
   “ชุดไรอ่ะ ชุดที่บ้านก็มี” “เออน่า กูก็ต้องกลับบ้านกูบ้างดิวะ” “อ่า งั้นไปด้วย จะไปหาโบ้” นั่น จิ๊
   “ไม่ได้ กูไปส่งที่บ้านนั่นล่ะ อย่าเรื่องเยอะนะมึง ขึ้นมาเร็วๆ” ผมขู่มันครับ มันก็บ่นอะไรไม่รู้ไม่สนใจฟัง รู้ไหมว่ากูจะไปไหน น่าจะเดาออกนะ
   “บักเล็กมึงกางเน็ทไว้ถ่าโลดเด้อ เดี๋ยวกูมา เออ เบบี๋มึงจะกินส้มตำป่ะกูจะแวะที่ร้าน” ผมหันไปถามมันล่ะครับ หน้ามันยังงออยู่เลยนะ
   “ไม่เอาอ่ะ” “ฮ่วย กินแน่น้าอยากกินของฟรีนี่แหม่ะ” อ้าวๆ สัดเล็กเห็นแก่กินนะมึง
   “อ้าวเล็กอยากกินเหรอ งั้นเอาตำส้มตำ ตำซั่ว ไก่ย่าง” “สัด เยอะไปไหมมึง ได้คืบเอาศอกนะเว้ย” ผมว่ามันแล้วก็ขับคุณปู่ออกมาเลยครับ ไม่ได้จงใจจะว่ามันหรอกนะเพราะจุดหมายปลายทางมันเร่งด่วนครับ ผมจะไปคนเดียวนั่นล่ะแต่เพื่อนสองตัวมันไม่ยอมเพราะมันกลัวผมจะไปทำอะไรเกินเลย ไปที่ไหนก็ไปหาไอ้สุชาตินั่นล่ะครับ สัดเคนกับสัดไม้มันรออยู่แล้วที่ทางไปบ้านไอ้สุชาติ
   “มันหน้าบวมอยู่เด้มึง มึงสิไปเฮ็ดหยังมันอีก” สัดไม้ครับ กูรู้แล้วว่ามันโดนเหยียบหน้าจนหน้าบวม กูไม่ได้จะไปทำอะไรมันสักหน่อยนะ แค่จะไปเตือนมัน
   “เออๆ กูฮู้แล้ว” ผมเซ็งๆล่ะครับ เราสามคนตรงไปยังบ้านมันทันที พอจอดหน้าบ้านมันผมก็เห็นมีแก๊งค์กะเทยเพื่อนมันและสาวเพ็ญนั่งอยู่หน้าบ้านรวมทั้งมันด้วย
   “ว้ายเดี๋ยว มาเยี่ยมญ่าเหรอ เนี่ยเห็นไหมว่าอีตุ๊ดนั่นมันร้ายกาจแค่ไหน เดี๋ยวต้องจัดการให้ญ่านะ” แหม ดัดจริตใส่ ไปเรียกแฟนกูว่าตุ๊ดแล้วมึงล่ะสัด หน้าเริ่มมีสีแล้วกู
   “เดี๋ยวเปลี่ยนใจใช่ไหม เพ็ญว่าแล้วว่าเดี๋ยวคิดแค่อยากลองของแปลก ยังไงเดี๋ยวก็ต้องกลับมาหาเพ็ญอยู่ดี” เธอพูดขึ้นเดินมาหาผมล่ะครับ ผมจอคุณปู่ไว้แล้วเดินผ่านเธอไป
   “อยากแดกตีนกูแม่นบ่อีสุชาติ กูมานี่กะมาเตือนมึงกับซุมสู อย่าไปยุ่งกับเมียกูอีก” ผมพูดเสียงดังๆชี้หน้ามัน พวกมันอ้าปากกันทุกคนครับ
   “คันมึงบ่ฟังอย่าหาว่ากูบ่เตือน มึงถืกตีนซ่ำนี้มันยังหน่อยไปแม่นบ่ หรือสิกินตีนผัวมันมึงจั่งสิฟัง อย่าให้กูได้ยินว่าสูไปวอแวมันอีก บ่ซั่นตาย” ผมครากเสลดแล้วถุยลงต่อหน้าต่อตาพวกมันครับ บอกแล้วทำตัวกุ้ยน่ะเรื่องปกติของกู ผมเดินกลับมาที่คุณปู่ สาวเพ็ญมองผมตาค้าง
   “นี่เดี๋ยว” “เซาเว้า เฮาบ่มีแนวเว้ากันอีก” ผมบอกเธอแล้วขับรถมาเลยครับ แค่นี้ล่ะที่จะมาบอกมันที่จริงอยากจะเตะก้านคอมันสักทีแต่เห็นสภาพแล้วแม่งกูขนลุก ปากอีสุชาติเจ่อคิ้วแตกด้วยมั้งเห็นมีผ้าแปะไว้ หน้าเชี่ยอยู่แล้วเหมือนผีเลยว่ะ ไอ้เบบี๋กูนี่ไม่เบานะเนี่ย
   “ป้าด กูคองตาเห็น ตีนหนักเติบอยู่เด้นี่” สัดเคนครับ
   “นั่นล่ะ สูอย่าสิไปปากบ่ดีกับมันเด้อล่ะ เดี๋ยวสิถืกตีนมัน” ผมเสริมครับ อิอิ เหมือนจะภูมิใจ
   “คนบ่ปากบ่เว้านี่บัดยามเฮ็ดนี่เฮ็ดคั่กเนาะ ซุมเด็กน้อยมาเว้าให้ฟังว่าเป็นตาย้านคั่กหน้าตาบ่เอาไผเลยว่าซั่นเถาะ มึงนั่นล่ะระวังดีๆ อย่าสิไปเจ้าซู้ให้เพิ่นเห็น ตายมากูบ่ซ่อยเด้อบักเดี๋ยว” สัดไม้ครับ
   “บ่แม่นเพิ่นลักเตะมึงอยู่บ่บักเดี๋ยว ฮ่าๆ นี่ล่ะมีเมียตีนหนักอย่าสิไปเจ้าซู้เด้อล่ะเฮ้ย”
   “ฮ่วย บ่ดอกสู บัดยามอยู่กับกูมันเป็นตาฮักกะด้อ จ้างมันกะบ่เตะกู”
   “หวืย ซาดมั่นใจเนาะ เออ ดีบ่ล่ะมึง” สัดเคนถามแล้วหัวเราะครับ
   “อีหยังดี” ผมพอจะรู้ล่ะครับว่ามันหมายถึงอะไรแต่แกล้งโง่ถามไปงั้นล่ะ
   “นั่นๆ ทำทรงคือหลาย บัดยามกลางคืนแหม่ะ ดีบ่”
   “ฮ่วย เรื่องผัวเมีย สิมาอยากฮู้เฮ็ดหยังบักห่านี่” ผมตอบเฉไฉไปครับ ไม่อยากบอกพวกมันว่ายังไมได้ทำอะไรกันเกินเลย
   “อีหยัง แต่ก่อนบ่เคยปิด บอกมาโลดน่า กูอยากฮู้” มันยังไม่ยอมครับ สัดไม้ก็ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน
   “ดี ดีคั่ก” “ป้าด จั่งได๋” “ฮ่วย ดีกะดีโลดน้า อย่าสิมาถามหลายค้านเว้าว่ะ” ผมรีบไปล่ะครับขี้เกียจจะตอบ แวะที่ร้านเอาส้มตำให้ภรรยาก่อนล่ะครับแม่ผมก็เหมือนเดิมแจกแถมให้ถุงเบ้อเร่อคงกลัวลูกสะใภ้จะผอมมั้งนั่นน่ะ พอมาถึงที่บ้านปลัด ผมเห็นรถปลัดจอดอยู่แล้วหน้าบ้าน อ้าว ทำไมวันนี้กลับเร็ววะเนี่ย ผมเห็นไอ้โจ้ ไอ้เต้ ไอ้เล็กมันรออยู่ข้างๆบ้านล่ะครับ ทำหน้าตาแบบว่าไม่กล้าเข้าบ้าน
   “คือบ่ไปนั่งในเฮือนเฮ้ย ไปยืนเฮ็ดหยังอยู่นั่นเดี๋ยวเขากะหาว่าเป็นขี้กะโมยดอก” ผมร้องไปใส่พวกมันครับ
   “หวืย ปลัดมาตั้ว ข่อยว่าอ้ายอุ่นเพิ่นคือสิถืกพ่อเพิ่นด่าล่ะ เห็นหน้าเครียดๆ” ไอ้โจ้ครับ อ้าว ตายล่ะเมียกู เห็นพ่อมันไม่ค่อยดุแบบนี้แต่ว่าเอาเรื่องเหมือนกันนะ ไม่รู้สิผมว่าผมมองปลัดไม่น่าจะผิด เพราะจากคำพูดคำจาที่ดูนิ่งๆไพเราะๆ แต่มันแฝงไว้ด้วยความเด็ดขาดและมีอำนาจ ท่าทางแกก็ด้วยล่ะผมว่า บางทีผมยังคิดว่าไอ้เบบี๋มันติดท่าทางบางอย่างมาจากพ่อมันนะ อืม เขาเรียกว่าอะไรดี ผู้ดีหรือเปล่านะ ไม่รู้ดิ เพรากูไม่มี ฮ่าๆ จบป่ะ
   “เจ้ เพิ่นคุยหยังกันคือเป็นตาโดนแท้” ผมเดินเข้าไปในในบ้านล่ะครับ เห็นเจ้แกยืนทำท่าลุ้นอยู่มองขึ้นไปบนบ้านบ่อยๆ พอเห็นผมเจ้แกก็ทำท่าดีใจ
   “คือสิถืกหลายเติบอยู่ล่ะค่าเดี๋ยว โอ้ยนี่ล่ะน้อเอื้อยว่าอยู่ ว่ามันสิมีจักมื้อที่คุณอุ่นเอื้อยทนบ่ไหว”
   “ฮู้เรื่องอยู่ติ๊เจ้” ผมเปิดประเด็นครับ อยากรู้
   “ฮู้สู่เรื่องนั่นล่ะ คุณอุ่นเพิ่นมีหยังเพิ่นเว้าให้เอื้อยฟังเหมิดนั่นล่ะ”
   “อ้าว แล้วเรื่องผมกับมัน” ผมทำท่าอึ้งครับ แต่รู้อยู่แล้วล่ะ ผมว่าเจ้แกไม่ได้เป็นแค่คนงานที่บ้านหรือแม่บ้านหรอกนะเพราะท่าทางเวลาพูดดูสนิทกันมาก ไม่รู้ล่ะผมเดาเอาและเอาทุกอย่างมาประมวลผลจากความฉลาดของผม ฮ่าๆ
   “ฮู้เหมิดนั่นล่ะ คุณพ่อซายกะฮู้” เอ่อ อันนี้อึ้งจริงๆครับ
   “แต่เพิ่นบ่ว่าหยังดอก ตั้งแต่คุณผู้ยิงเพิ่นเสีย คุณพ่อซายกะตามใจคุณอุ่นสู่อย่าง เว้นเรื่องตีกันนี่ล่ะ เพราะว่าตอนอยู่หม่องเก่าตีเขาเกือบตายแหมะ เห็นผู้น้อยๆแนวนี้อย่าให้ได้เคียดแฮง เว้ามาเอื้อยล่ะย้าน หมอนั่นแม่นเสียโฉมไปเลยบ่บู้” เจ้แกทำท่าขนลุกครับ เออนะ กูรู้แต่ว่าพ่อมันขอไว้เรื่องไม่ให้มีเรื่องกัน แต่ไม่ยักรู้ว่ามันทำเขาปางตายขนาดนั้น กูเริ่มจะกลัวแล้วสิ มีเมียใจนักเลงเนี่ย เวลากูจะจิ๊จ๊ะกับใครกลับบ้านมากูไม่คางเหลืองตายไปข้างเหรอวะเนี่ย
   “เพิ่นขอหยังกันล่ะเจ้” ผมต้องเร้าให้ประเด็นมันคุล่ะครับ อยากรู้มากว่าทำไมไอ้เบบี๋มันถึงยอมพ่อมันจนกลายเป็นคนพูดน้อยเหมือนเนือยๆ
   “กะคุณพ่อซายเพิ่นขอว่าอย่าให้มีเรื่องกับไผอีกแลกกับเพิ่นสิบ่มีแม่ใหม่เด้ล่ะเดี๋ยว” อ้อ ผมพยักหน้าทันทีครับ
   “เพิ่นบ่เตะตระกร้อบ่น้อมื้อนี่แหมะเอื้อย” ผมพูดขึ้นเสียงดังๆล่ะครับ หน้าไม่ได้มองเจ้แกนะผมจงใจ ถือว่าเป็นตัวช่วยแฟนผมก็แล้วกัน คุยอะไรกันนาน ทำไปแล้วนี่หว่าจะมาด่าอะไรเยอะแยะวะ ได้ผลครับ ไม่นานคุณปลัดก็เดินลงมาจากบนบ้าน สีหน้าแกเครียดๆนะแต่พอเห็นหน้าผมแกก็ยิ้ม เออนะ
   “มากันแล้วเหรอลูก เดี๋ยวพ่อขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียวนะ” แกบอกครับแล้วเดินขึ้นไปใหม่อีกรอบ ผมเดินตามครับไมได้จะไปกับปลัดนะเว้ย ไปหาแฟนผมดิ
   “ไงมึง หน้ายังกะตูด โดนพ่อด่าเอาเหรอ” ผมเดินเข้าไปหามันในห้องล่ะครับ มันหน้าหงิกอยู่
   “อืม เซ็งเลยอ่ะ พ่อไม่ให้ไปข้างนอกด้วยล่ะ”
   “เฮ้ย เกี่ยวไรวะ กับกูก็ไมได้เหรอ” “ป่าว ไปได้แต่ห้ามเกินสองทุ่ม เดี๋ยวพ่อก็เรียกนายคุยล่ะ” อ้าวๆ เกี่ยวไรกับกูวะเนี่ย ไม่อยากเข้าห้องเย็นนะเว้ยเฮ้ย
   “อ้าว จะคุยไรวะ น่ากลัวป่าวเนี่ย” ผมไม่ได้ทำเสียงกลัวนะครับ ผมทำเสียงล้อเลียนมัน คนอย่างไอ้เดี๋ยวนั่นเหรอจะกลัวใคร ผอเอย ผู้ว่าเอยเคยป๊ะหน้ามาหมดแล้วเว้ย บ่ย้านๆ
   “น่ากลัวดิ พ่อดุนะจะบอก” “อ๊ะๆ ดุทำไมมึงไม่เห็นทำหน้าตากลัวเลยวะ แค่หน้างอๆ”
   “ไรอ่ะ เน่าไปเตะตระกร้อกับเพื่อนดิ เราอยากจะนอน”
   “ไล่นะมึง มานอนไรตอนนี้ กูอยากกินชาเย็นว่ะเบบี๋” ผมเดินเข้าไปกอดมันล่ะครับ หอมแก้มด้วยเป็นการให้กำลังใจมันไปในตัว
   “อือ เดี๋ยวไปทำให้ ขอนอนก่อน” “แล้วจะตื่นเหรอวะ มึงคิดมากหรือเปล่าวะเบบี๋” ผมยังคงกอดมันอยู่ครับ
   “ไม่หรอก เราโอเค” “ไหนมองหน้ากูดิถ้าโอเค” คือมันหันหลังให้กอดอ่ะนะครับ
   “ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากมองตอนนี้” “นั่น ไหนบอกโอเค” ผมจับหน้ามันมาให้มองหน้าผมล่ะครับ มันหลุบตาลงแต่กูก็ไม่ยอมจับหน้ามันเงยขึ้น ตายห่านล่ะ แววตามันดูเศร้ามากๆครับ
   “งั้นคืนนี้กูนอนกอดนะ มึงจะได้หาย” “ไม่ได้เป็น” มันพูดยังไม่ทันจบกูก็ประกบปากมันทันทีครับ แค่ประกบเฉยๆนะเว้ยเฮ้ยไมได้แลกลิ้น ผมทำปากดุนๆปากมันแล้วถอนออก
   “กูจะดูแลมึงเองนะเบบี๋ เชื่อใจกูนะ” ผมพูดกับมันเสียงเบาครับ มันเม้มปากไม่พูดแต่มันกอดผมแน่นเลยครับ
   “ไปเล่นตระกร้อได้แล้ว เพื่อนๆรอนะเน่า” มันพูดครับแต่มันยังคงซบอกผมอยู่เลยนะ
   “อือ เดี๋ยวคืนนี้มาต่อนะที่รัก” ผมหอมแก้มมันครับแล้ววิ่งออกจากห้อง มันอายล่ะผมรู้ ผมเองก็รู้สึกดีนะเหมือนตอนนี้มันต้องการกำลังใจและผมก็อยากให้กำลังใจมัน ไม่รู้ว่าได้หรือเปล่าแต่ผมว่าคนมันมีใจให้กันอ่ะนะแค่มองตากันจับมือกันก็ดีถมไปล่ะแต่นี่กูจูบเว้ยเฮ้ย ฮ่าๆ
   “เฮ้ยบักเคน อย่าสิเตะแฮงหลาย คุณปลัดเจ็บไหมครับ” พอเล่นไปได้หน่อยก็ลืมทุกสิ่งครับเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว คือข้างผมมีผม ปลัดไอ้โจ้ ส่วนข้างนั้นมีสี่คนสลับกันลงเอา ปลัดเป็นคนโยนลูกให้ผมล่ะครับ ผมเป็นคนส่งลูกกับชงให้ไอ้โจ้มันหวดตอนแรกนึกว่ามันจะหวดไม่เป็นซะอีกแต่มันตีลังกาได้แบบไม่กลัวเจ็บ ได้ใจจริงๆ ปลัดเองก็ไมได้ทำอะไรมากครับเพราะแกก้าวขาไม่ค่อยทันแก่แล้วนี่นะ
   “ไม่เป็นไรลูก เด็กๆนี่แรงดีกันจริงๆ อ้าวพ่อหนุ่มมาเล่นแทนพ่อหน่อย พ่อเหนื่อยล่ะเดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้กิน” พ่อตาผมบอกล่ะครับ ไอ้เล็กมันก็เลยมาเล่นข้างผมครับ จะว่าไปตระกร้อนี่มันสนุกดีนะครับ ได้กระโดดได้หวด เกมเร็วไม่เหนื่อยมาก อีกอย่างวัดกันที่กึ๋นด้วยนะผมว่าไม่ใช่แต่จะเตะให้แรง ดีว่ะผมชอบเหงื่อนี่ไหลยังกะน้ำ
   “แซ่บเนาะชาเย็นแหมะ” พอช่วงพักเราก็มากินชาเย็นที่ไอ้เบบี๋มันทำมาให้ล่ะครับ มีขนมทอดด้วยนะเหมือนจะเป็นกล้วยฉาบแต่มันชุบด้วยแป้งไม่รู้เขาเรียกอะไรอร่อยดี
   “กีฬาสีคือสิเป็นตาม่วนเนาะ กูล่ะอยากเตะกับพวกบักโต้ง” สัดเคนพูดครับ แหมๆฝีมือมึงยังห่างชั้นอยู่เยอะเว้ย ไอ้นั่นมันนักกีฬาโรงเรียนซึ่งกูก็ดันอยากจะเตะกับพวกมันทั้งที่ไม่กินเส้นกับอาจารย์สอนเท่าไหร่ เอ๊ะยังไง เอาเป็นว่าตอนนี้กูไม่สนใจแล้วล่ะคิดว่าปลัดแกคงมีทางออกให้
   “อยู่กินข้าวด้วยกันไหมลูก จะได้ให้ต้อยเขาทำกับข้าวเผื่อ” พ่อตาผมเอ่ยชวนตอนจะเริ่มเล่นอีกเกมล่ะครับ
   “บ่ดอกครับปลัด พวกผมเกรงใจ” สัดไม้ครับหน้าตานี่แบบว่าหงอยๆ
   “เกรงใจอะไรกันลูก หรือจะกินแจ่วฮ้อนดี พ่อนึกอยากกินพอดี ต้อยๆ” อ้าว นั่นไงล่ะ หวานปากกูล่ะผมกับเพื่อนๆหันไปมองหน้ากันทันทีแล้วอมยิ้ม
   “แต่หมูคือสิบ่พอดอกค่าคุณพ่อซาย เนื้อกะบ่มี ซั่นต้องไปตลาดเด้ค่า” เจ้แกบอกครับ
   “งั้นต้อยชวนอุ่นไปตลาดสิ ตังค์อยู่ในกระเป๋านะ” พ่อตาผมบอกครับ
   “คุณปลัดครับ งั้นผมพาไปเองครับ เอื้อยอยู่เตรียมของโลด เดี๋ยวผมพาไปเอง เอาหยังแน่เกาะ” ผมเดินออกมาเลยครับ ไม่ได้หรอกพอดีเลยล่ะผมจะพาแฟนไปจู๋จี๋ อิอิ เพราะมันหน้าตาหงอยๆอยู่
   “เอางั้นเหรอลูก” คุณปลัดแกถามครับ ผมไม่ตอบแต่เดินเข้าบ้านไปล่ะครับ เจ้แกไปหยิบเงินในกระเป๋าของปลัดให้ครับ เออว่ะ ผมเพิ่งจะเคยเห็นแกไว้ใจจริงๆนะ
   “ไปตลาดกันเบบี๋” ผมเดินขึ้นไปเรียกมันล่ะครับ มันก็นั่งหน้าบื้อๆอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ
   “เหรอ อืมไปดิ” “เดี๋ยวพาไปกินติม” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ฝนจะตกไหมอ่ะเน่า เหมือนมันอึมครึมๆยังไงไม่รู้”
   “เอารถเก๋งไปดิจะได้ไม่เปียก” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเดินไปเอากุญแจรถของปลัด ขับเก๋งเว้ยๆ ไม่เอาคุณปู่ไปหรอกน่า ผมขับรถออกมาแล้วครับเปิดเพลงฟัง แต่ เฮ้ย วันนั้นยังพอมีเพลงฟังนี่หว่าทำไมวันนี้มัน ดอน สอนระเบียบ กุ้ง อะไรเนี่ย พ่อตากูไม่ไหวๆ
   “ฟังวิทยุดีกว่า” ผมพูดครับ ในความหมายคือให้ไอ้เบบี๋มันเป็นคนหาคลื่นเพราะถ้าให้ผมทำคงอันตรายเกินไป
   “จะฟังหมอลำเหรอเน่า” “มึงฟังเป็นไง กูฟังได้หมดล่ะ” มันหัวเราะครับแล้วหาคลื่นไปเจอช่องหมอลำพอดี
   “แล้วเขารำกันยังไงอ่ะเน่า เปิดเพลงแล้วรำได้ป่ะ” มันถามครับ เออนะ มันต้องแสดงต้อนรับอาจารย์ใหม่นี่หว่า
   “ได้ดิ กูสอนเอาป่ะ” “รำเป็นเหรอ” “ดูถูกๆ กูเป็นทุกอย่างล่ะ” มันเบะปากครับ
   “ไม่เชื่อก็ตามใจ งั้นหัดเองก็แล้วกัน” “บ้าเหรอ ไม่ได้ไม่เชื่อ ไหนอ่ะ”
   “บ้าไง รำตอนนี้รถก็ชนตายห่าดิ เดี๋ยวคืนนี้กูฝึกให้ อิอิ”
   “อ่านะ จะฝึกไรอ่ะ รำหรืออะไร ทำไมทำหน้าน่ากลัวจัง”
   “ตรงไหนวะ อย่าถามมาก” ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่มันล่ะครับแล้วมองถนน พอไปถึงตลาด็กเอารายการที่เจ้แกเขียนมาให้ไปซื้อพอได้ของครบก็เอาไปใส่ท้ายรถล่ะครับ
   “ป่ะกินติม” ผมจูงแขนมันทันทีครับ
   “ติมไรอ่ะ” นั่นดันรู้ทันกูอีกนะมึง
   “ติมเซเว่นไง มึงคิดไรเนี่ย คิดไรกะกูป่าว”
   “บ้าเหรอ ก็ดูทำหน้าดิ หื่นจะตาย รีบไปนะจะได้รีบกลับ”
   “ทำไมอยากรีบกลับวะ” “ก็จะได้รีบกินไง” “สัด กูรู้แล้ว มีจุดประสงค์ไรแอบแฝงป่ะเนี่ย”
   “ก็กินเสร็จจะได้นอนไง อยากนอนไวไว” อ่านะ แม่งกูหัวเราะเลยนะครับ มันอายด้วยล่ะ ก็จะทำไมล่ะก็คืนนี้กูบอกมันว่ากูจะนอนกอดมันไง เอาเป็นว่าไอติมไม่ต้องกินมันแล้วล่ะ กลับเลยก็แล้วกัน รีบไปกินรีบไปนอน อิอิ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. อิอิ แอบขี้เกียจม๊ากกกก เอาไปอ่านขำๆก่อนนิ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-07-2012 12:50:31
เวลาอุ่นอ้อนหรือง้องแง้งมันน่ารักจริง ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-07-2012 13:18:38
อุ่นมันอ้อนบักเดี๋ยว
ได้น่ารักจัง :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 13-07-2012 13:35:54
โอ๊ะตายละ คืนนี้จะแค่กอดรึป่าวหว่า... :oo1:
น่ารักอ่า เดี๋ยว ดูเป็นแฟนที่ดีแล้วอ่า 55555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 13-07-2012 15:21:02
 :-[ เดี๋ยวน่ารักจัง ปลอบอุ่นด้วย โอ้ยอิจฉา :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-07-2012 16:35:48
อุ่นน่ารัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-07-2012 19:16:06
โอ๊ย!.... เดี๋ยว ผัวอันดับหนึ่ง ... และอุ่น น่ารักจังคับ ชวนไปนอนเร็วๆ 555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-07-2012 19:20:54
เดี๋ยวจ้องจะกดอุ่นตลอดเลยนะ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 13-07-2012 19:27:05
น้องอุ่นหงอยเลย แต่เดี๋ยวก็จะกอดปลอบแระเนอะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-07-2012 19:54:16
ทั้งสองคนมีพัฒนาการขี้นจริงๆ
น่ารักขี้นเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 13-07-2012 19:55:22
หวานแหววมากคู่นี้   :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 13-07-2012 20:29:19
หวานจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 13-07-2012 23:41:21
น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา o13 :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 20 Version (วิชพงศ์) 13 July 12 หน้า 26
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 14-07-2012 02:23:47
กรี๊ด กรี๊ด น่ารักอ่ะ สองคนนี้ เดี๋ยวตอนนี้แกได้ใจฉันมาก อุ่นตอนนี้ก็น่ารักเหมือนเคย ลุ้นเมื่อไหร่ เดี๋ยวแกจะได้เป็น ผัว จริงๆไม่ใช่ลมปากสักทีนะ 5555 เอาใจช่วย(ให้ได้กันในเร็ววัน)5555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 15-07-2012 19:00:03
Don't call Me BaBy!!

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าความรักนี่มันมีอานุภาพรุนแรงมากมายแค่ไหน แต่ตอนที่พ่อผมเรียกไปคุยบนบ้านนั้นน่ะ มันเครียดมากๆเลยนะ คือว่าพ่อเคยขอแล้วและผมก็ทำได้มาโดยตลอดกับเรื่องนี้แต่มาคราวนี้ผมทำมันพัง พ่อผมน่ะไม่ได้ดุอะไรมากหรอกครับเหมือนจะเรียกมาสอน เรียกมาทบทวนคำสัญญาซึ่งนั่นล่ะมันเจ็บยิ่งกว่าด่าเสียอีกครับสำหรับผมนะ แต่ว่าพอเจอหน้าไอ้เน่าทำไมผมกลับยิ้มขึ้นมาได้ รู้สึกเบิกบานขึ้นมามากทีเดียว นี่ผมรักมันมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย มันเหมือนยิ่งใกล้มันผมยิ่งอยากกอดมันอ่ะครับ ไม่รู้สิ ผมไม่รู้อะไรเลยในตอนนี้รู้แค่ว่าผมอยากอยู่กับมันนานๆที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคุยกันก็ได้แค่ได้อยู่ใกล้ๆกัน นี่ผมเวอร์ไปไหมเนี่ย
   “เออลูกๆ พ่ออยากจะขอให้ช่วยพ่ออะไรสักอย่างได้ไหม” หือ อะไรนะ คือผมเดินไปเอาถ้วยน้ำจิ้มมาเพิ่มล่ะครับนายเคนมันทำหกหล่นลงพื้น ผมหยุดกึกลง ทุกคนก็เงียบมองหน้ากัน
   “คือเรื่องวันนี้ ทุกคนคงรู้แล้ว พ่ออยากจะขอให้ลูกๆช่วยเป็นหูเป็นตาให้พ่อหน่อยได้ไหม อุ่นเขาเป็นคนใจร้อน โมโหร้าย ดูเขาช่วยพ่อหน่อยนะ” อ่า อะไรอ่ะพ่อ ทำไมขอแบบนี้ เพื่อนๆทำไงรู้ไหม ก็หันมาอมยิ้มให้ผมน่ะสิครับ
   “ป้าด บ่แม่นพวกผมนั่นบ่ครับคุณปลัดสิขอให้อุ่นเพิ่นเบิ่ง เป็นตาตีนหนักเอาเหลือฮ้าย” นายเคนครับ พูดจบเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น แหมนะผมเลยรีบเดินไปเอาถ้วยน้ำจิ้มมาให้มันล่ะครับ
   “เห็นไหมอุ่น เพื่อนๆเขาบอกว่าจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้พ่อแล้วนะ อย่าไปเกเรที่ไหนอีกล่ะ พ่อให้โทรรายงานพ่อได้ตลอดเลยนะ” “อ่า พ่ออ่ะ ไรอ่ะ อุ่นไมได้เกเรซะหน่อย” ผมทำหน้างอใส่ครับ อายเพื่อนก็อายพ่อนะพ่อ
   “โดยเฉพาะเดี๋ยว รับปากพ่อแล้วนะเราน่ะ” พ่อผมหันไปหาไอ้เน่าครับ เอ๊ะ รับปากอะไรกัน
   “คร้าบคุณพ่อ” อ่า ไอ้เน่าก็เล่นด้วยกับพ่อครับ ผมนี่อายมากๆเลยนะเพราะเพื่อนๆหัวเราะกันเกรียวกราวส่วนพ่อผมก็นะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ แหมนะเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ
   “อุ่นไปอาบน้ำก่อนล่ะ” ผมงอนครับ รู้สึกเหมือนตัวเองจะกลายเป็นตัวตลกไปแล้วอ่ะ ใครจะมาทนนั่งให้เขาหัวเราะเยาะเนอะ
   “อายแล้วล่ะลูกๆ” “พ่ออ่ะ งอนแล้วนะ” ผมทำหน้าบึ้งใส่พ่อตัวเองครับแต่ไม่เห็นจะได้ผลอะไรเลยกลับเรียกเสียงหัวเราะดังกว่าเดิมเสียอีก ผมเลยรีบเดินขึ้นมาอาบน้ำล่ะครับ อาบอยู่นานเลยล่ะเพราะงอน เกี่ยวกันไหมแต่ผมว่ามันช่วยได้นะ น้ำอุ่นๆครีมอาบน้ำหอมๆ ค่อยๆอาบไปไม่รีบครับ การบ้านช่างหัวมัน เออ วันนี้ไอ้เน่ามันจะนอนด้วยนี่นาผมให้มันทำให้ดีกว่า อิอิ คิดได้ก็รีบเช็ดตัวแล้วเข้ามาในห้องล่ะครับ
   “อ๊ะ เพื่อนๆล่ะเน่า” ตกใจครับมันนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงแล้วนะ แหวะเหมือนมันจะยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะนั่นน่ะ ตอนเล่นตระกร้อนี่เหงื่อเต็มตัวแล้วนั่นมันเตียงกูนะเว้ยเฮ้ย
   “กลับไปแล้ว” หา นี่ผมอาบน้ำนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
   “อ้าวเหรอ แล้วไม่ช่วยพี่ต้อยเก็บของล่ะ” ผมพยายามจะหาเรื่องแถไปครับก็คนมันยังไมได้เปลี่ยนเสื้อผ้านี่นา อายแล้วนะดูสายตามันสิจ้องมองผมยังกะอะไรดี
   “เก็บเสร็จแล้วเว้ย มึงนั่นล่ะอาบน้ำนานเอง แต่กูไม่ว่าหรอก มึงล้างดีๆนั่นล่ะ กูจะได้กอดสบายใจหน่อย”
   “นี่ แล้วทีตัวเองล่ะ น้ำก็ยังไม่อาบแล้วไปนอนบนเตียงแบบนั้นไม่เหม็นไง ไรอ่ะเน่า”
   “มันแห้งแล้วเว้ย มาดมดูสิไม่เหม็น” อ่านะ ใครจะเข้าไปดมบ้าไปแล้ว กลิ่นเหงื่อมันนี่หึ่งมาถึงนี่เชียวนะ
   “ไม่เอาอ่ะ ไปอาบน้ำเลยๆ” ผมเร่งมันครับแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
   “ใครเขากินข้าวเสร็จใหม่ๆให้อาบน้ำวะ มันไม่ดีมึงไม่รู้เหรอ”
   “มาจากไหนเนี่ย ไม่รู้อ่ะ เร็วเลยๆ มาช่วยทำการบ้านด้วย” ผมไม่สนใจมันครับรีบหาเสื้อออกมาจะเปลี่ยน
   “เอ้ย ทำไรอ่ะเน่า” กูว่าแล้ว คิดแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย มันมาดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอวผมอ่ะ แว้กก อายจัง
   “สัด ขาวจัง” ชมหรือด่ากูวะเนี่ย ผมรีบเอามือกุมเป้าทันทีครับ
   “มึงไม่ต้องหันหน้ามาน่ะดีแล้วกูสนใจแต่ตูดมึง ขาวสัดๆ” โว้ย อารมณ์เสีย ผมรีบเอากางเกงมาสวมทันทีล่ะครับ
   “จะรีบใส่ทำไมอ่ะเบบี๋ กูยังไม่ได้จับเลย” “บ้าเหรอ อายเป็นนะ” ผมหันหน้าไปหามันหลังจากสวมกางเกงเสร็จแล้วล่ะครับ มัน เอ่อ ปฏิกิริยาเร็วไปไหมเนี่ยมึง กลางตัวมันโด่แบบว่า เอิ๊กก เอ่อ ไมได้กลืนน้ำลายนะคอมันฝืดเองอ่ะ
   “คงไมได้แล้วล่ะว่ะเบบี๋” มันเดินเข้ามาอีกครับผมถอยไปหลังติดตู้
   “จะทำไร” ผมเสียงติดขัดทันทีครับ
   “ขอถูหน่อยดิ” “ไม่เอาอ่ะ ไปอาบน้ำก่อน” ผมเขินครับ กูจะรอดไหมเนี่ยคืนนี้ มันไม่ตอบครับเหมือนคิดอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วมันก็ดึงเอาผ้าเช็ดตัวที่ผมเพิ่งใช้เสร็จนั่นล่ะเดินออกจากห้องไปเลย อ้าว ไอ้นี่อะไรของมัน ผมนั่งนิ่งๆทำใจอยู่สักพักครับ รีบทาโลชั่นทาแป้ง แล้วมากางหนังสือ
   “เสร็จแล้ว” “เอ้ย อาบน้ำหรือวิ่งผ่านเนี่ยเน่า ไรอ่ะเร็วมาก” คิดดูนะครับ ผมทาโลชั่นไม่นานนะ ทาแป้งก็ไม่นานแล้วก็กำลังจะกางหนังสือ เวลาแค่นั้นเองที่มันอาบน้ำเสร็จ ผมทำหน้าแบบว่าเหวอสุดขีด
   “อาบไรนาน” “ถูสบู่ป่าว” “ถูดิ มาดมดูมาไม่เชื่อ” มันไม่ได้พูดเฉยๆนะครับ มันเข้ามาแล้วยกรั้กแร้ใส่หน้าผมทันที
   “บ้าเหรอ ทำไรอ่ะเน่า” ผมเหวี่ยงหน้าออก สัปดนจริงๆได้นี่
   “มาเลยๆ” มันดึงแขนผมไปที่เตียงล่ะครับ ไม่อยากจะบอกว่ามันไมได้ใส่กางเกงนะมีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันเอวมันอยู่
   “ทำการบ้านก่อนดิ มาทำให้เลย” ผมหาทางไปครับ
   “เออน่า เดี๋ยวกูทำให้แป๊บเดียวเสร็จมาเลย เร็ว” มันเร่งครับ ทำไงดีเนี่ยกู
   “มาดิ” มันปล่อยมือผมแล้วไปนอนแผ่บนเตียงครับ เอ่อ ยั่วกูไปไหมแล้วไอ้นั่นมันจะโด่ไปไหนเนี่ยมึง โอ้ยนะ สวดมนต์ๆ จิตอยู่นี่ๆๆๆๆ ไม่ไหวติงๆๆ แต่ เดินไปทำไมเนี่ยอุรดิศ จิ๊ กูล่ะเบื่อตัวเองจังเลย
   “กอดเฉยๆนะ” ผมบอกมันทั้งที่ตัวของผมขึ้นไปนอนทับมันแล้วล่ะครับ
   “อือ กอดแน่นๆดิ ขยับตัวด้วย” อ่านะ พอผมไม่ทำมันก็เอามามาจับก้นผมล่ะครับขยับไปมา โอ้ย นี่ก็คนนะเว้ยรู้สึกเหมือนกันนะมึง พอผมเห็นว่าถ้าหากว่าเราถูกันอยู่แบบนี้คงไม่รอดแน่ๆ ผมเองนั่นล่ะจะทนไมไหว ผมเลยเหวี่ยงตัวออกครับไปนอนข้างๆมัน ไอ้เน่ามันก็กอดถูๆอยู่นั่นล่ะ เปียกเลย อิอิ
   “เออมึง แล้วเรื่องการแสดงน่ะ จะเอาไงวะ” พอเช้าตอนไปโรงเรียนไอ้เน่ามันก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “ไม่รู้เลยอ่ะ เน่าว่าแสดงไรดีอ่ะ” ผมคิดไม่ออกจริงๆครับไม่มีความสามารถเลยนะในเรื่องนี้ นั่น อย่าด่าผมในใจสิว่าเรื่องอื่นก็คงไม่มี มันต้องมีสักทางล่ะน่า
   “ลองถามจอยดูดิ เผื่อเขาจะคิดออก” ช่วยได้เยอะมาก เออๆ ยังไงก็ต้องถามอยู่แล้วล่ะ พอไปถึงโรงเรียนวันนี้ผมให้มันจอดหน้าโรงเรียนล่ะครับเพราะเห็นจอยที่ซ้อนท้ายรถของโจ้น้องชายมัน ผมกวักมือเรียกแล้วเราสองคนก็ลง ส่วนไอ้เน่ากับโจ้เอารถไปจอดที่โรงรถล่ะครับ
   “จอยๆ เรื่องการแสดงอ่ะช่วยเราคิดหน่อยดิ เราคิดไม่ออกเลย” ผมเดินเข้าโรงเรียนไปกับจอยล่ะครับ ไม่อยากจะอุปโลกคิดไปเองนะว่าสายตาคนที่เดินเข้าโรงเรียนมามองผมแปลกยังไงไม่รู้ เอาเถอะไม่ได้สนใจหรอกนะซุบซิบกันด้วยนะเออ เอาเข้าไปทำให้กูประหม่าแต่เช้าเลยนะ
   “เพิ่นให้แสดงจักซุดเกาะอุ่น” อืมนั่นสิ ผมทำหน้างงๆ
   “ปีก่อน การแสดงมีตั้งแต่เปิดงานจนงานจบเด้ล่ะ ประมาณสามซุดได้”
   “หา อะไร ไม่เอานะเยอะไปอ่ะชุดเดียวนี่ก็ยังคิดไม่ออกเลยอ่ะ” ผมแหกปากออกมา ตกใจนี่ครับ
   “เฮาว่าโตไปถามผอเบิ่ง เอาให้แน่ๆ แต่ตอนนี้เฮาคึดออกซุดเดียว” จอยมันหน้าครุ่นคิดเหมือนผมล่ะครับ
   “แสดงไรอ่ะจอย” “ฟ้อนเด้ ฟ้อนใส่เพลง จินตรา อิอิ เฮาสิฟ้อนซ่อย มั่กค่ะ” อ่านะ เราสองคนคุยกันเดินไปที่โรงอาหารล่ะครับ สายตาคนก็ยังมองอยู่นะ นี่กูดังขนาดนี้แล้วเหรอ
   “เป็นตาฮักกะด้อเนาะ แต่ตีนหนักฮ้าย” เสียงแว่วๆมาล่ะครับ ไม่สนใจๆๆ พอดีเราเจอนายไม้อยู่ที่โรงอาหารก็เลยเข้าไปนั่งด้วย เดี๋ยวไอ้เน่ากับโจ้ก็คงตามมา
   “งั้นรอตรงนี้ก่อนนะ เราไปหาผอก่อน” ผมวางกระเป๋าของผมกับไอ้เน่าล่ะครับ
   “อ้าว สิไปผู้เดียวติ๊อุ่น” จอยร้องตามล่ะครับเพราะผมตั้งท่าวิ่งแล้ว เดี๋ยวก็เข้าแถวคงจะไม่ทัน
   “อืม เราไปแป๊บเดียว บอกเน่าให้ด้วยนะ” ผมบอกครับแล้ววิ่งไปเลย นักเรียนโรงเรียนนี้นี่มันเยอะใช้ได้จริงๆนะ วิ่งไปมุมไหนนักเรียนก็เต็มไปหมด มองกูเพื่อ? ผมวิ่งต่อไปล่ะครับ นั่นรถผอ เพิ่งมาถึงเหมือนกันผมเลยเข้าไปคุยกับแกล่ะครับ แกเพิ่งจะเปิดรถออกมาเห็นผมวิ่งเข้าไปก็ทำหน้าตาตกใจหน่อยๆ
   “อ้าวมีอะไรอุรดิศ” ผมยกมือไหว้ไปตั้งแต่สามร้อยเมตรได้ ฮ่าๆ
   “ครับผอ คือผมอยากจะทราบว่า การแสดงที่มอบหมายให้ผมน่ะครับ ผมต้องแสดงชุดเดียวใช่ไหมครับ” คือบอกไปเลยว่ากูจะแสดงชุดเดียว ไม่ต้องไปเสนอตัวลือกให้เยอะแยะครับ อิอิ แอบฉลาดนะเนี่ยผม
   “หือ ไม่ได้หรอกนะอุรดิศ การแสดงต้องสามชุดเป็นอย่างต่ำ เอาน่า ผอเชื่อฝีมือของเรา มีอะไรไปปรึกษากับอาจารย์กัลยาได้นะ แกถนัดเรื่องการแสดง ผอมอบหมายให้แกไปแล้ว” เอ่อ
   “หา สามชุด” ผมหน้าซีดกรีดร้องออกมา
   “ฮ่าๆ ตกใจอะไร หรือว่าน้อยไป เพิ่มเป็นสี่ห้าชุดก็ดีนะ ทุกคนคงชอบ” จิ๊ เข้าใจไหมเนี่ยว่าประชดผออ่ะ
   “อ่า ไม่ๆครับ ไม่ สามก็สาม” ผมคอตกทันทีครับแล้วรีบเดินหนีไปเลย ตายแน่ๆกู
   “อ้าว น้องอุ่นคือเฮ็ดหน้าแนวนั้น เป็นหยังอยู่บ้อ” อ่า พี่ขอมครับ ผมทำหน้าเหวอๆเพราะนานมากๆแล้วที่ไมได้เจอกับพี่เขา
   “อ้าว พ้อหน้ากันคือเฮ็ดหน้าแนวนั้นน้อบ่านนี้” พี่เขาหัวเราะครับ
   “อ้อ หวัดดีครับพี่ ปะป่าว คือผมเพิ่งคุยกับผอมาอ่ะ” ผมตอบออกไปแก้เขินครับ
   “ติ๊ เป็นจั่งได๋ ปรับโตได้แล้วบ้อ อ้ายได้ข่าวว่าโตนี่บู้คั่ก” แปลว่าไรอ่ะ
   “แหะๆ พี่ไม่ไปเข้าแถวเหรอครับ” ผมยิ้มๆให้แกล่ะครับ อ้อ พี่ขอมแกไมได้มาคนเดียวนะครับมากับพี่อีกคนใส่แว่นตาหน้าตี๋ๆ พี่เขาก็มองผมอยู่รู้สึกเขินขึ้นมาล่ะ
   “เดี๋ยวสิไปห้องจารย์ก่อน มื้อได๋ว่างมาคุยกับอ้ายแน่เด้ออุ่น อ้ายอยากคุยนำ” ผมยิ้มครับ ยิ้มไม่ได้ดีใจนะยิ้มแก้เขินอ่ะเขาเรียกกัน
   “แม่นๆ อ้ายกะอยากฮู้จัก ได้ยินแต่ซื่อ น้องอุ่นๆ เขาว่าเป็นตาฮักหลายแถมยังเด็ดขาดอีกต่างหาก” พี่ตี๋คนนั้นยิ้มล่ะครับ อ้าว จะมาอยากรู้จักกูเพื่อ
   “ฮู้จักได้ซื่อๆเด้อล่ะมึงบักคิม อย่าสิคึดเลิ่กกับน้องเขาเด้ล่ะ บักเดี๋ยวมันฆ่าเอาเด้อ” พี่ขอมแซวเพื่อนครับ
   “ครับพี่ งั้นผมไปก่อนนะครับ ไอ้เดี๋ยวคงรอกินข้าวแล้วอ่ะ” อิอิ วิ่งมาเลยครับ นี่แน่แซวกูดีนักเจอไม้นี้ไปหน่อยเป็นไร ผมวิ่งตรงไปยังโรงอาหารล่ะครับ พอเข้าไปในพื้นที่ไอ้เน่ามันยืนตาเขียวอยู่แล้วนะ
   “ไปไหนมาวะ” นะ จะมาทำเสียงดุใส่กูเพื่อ
   “ไปหาผอมาอ่ะ” ผมหอบอยู่เลยนะ
   “ไมไม่รอกู ไปคนเดียวได้ไง” แง่ว ผมยิ้มแห้งๆล่ะครับ มันตาเขียวไม่ยอมลง
   “ก็รีบไปรีบมาแล้วนี่ กินข้าวไรดีอ่ะเน่า” “อย่าๆ อย่ามเปลี่ยนเรื่อง กูบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ที่ไหนก็ไม่ได้ ไม่ฟังนะมึง” “สาธุ” ผมประชดมันครับ
   “ป๊าบ” “อ่า ตบหัวไมอ่ะเน่า” “กวนตีนนะมึง” อ่า ผมหน้าหงิกเลยครับ เพื่อนๆก็หัวเราะชอบใจ
   “อย่าไปไหนคนเดียวอีกนะมึง ได้ยินป่ะ” มันเข้ามาตะโกนใส่หูผมเลยนะครับ
   “ได้ยินแล้ว ไมต้องตะโกนอ่าเน่า” “กวนตีนกูไง จะแดกไร” ดูมันพูดกับผมนะครับ เพราะมากๆน่าฟังเนอะ นี่น่ะเหรอแฟนกู อารมณ์เสีย
   “บู้ย ซาดว่าบาปเพิ่นเนาะเดี๋ยว แล้วผอเพิ่นว่าจั่งได๋ล่ะอุ่น” จอยเห็นใจผมล่ะครับ ผมเลยหันไปหาจอย
   “ก็เหมือนที่จอยบอกอ่ะ สามชุด เซ็งมาก” ผมทำหน้าเซ็งที่สุดในสามโลก
   “เอาโจ๊กใส่ไข่ ไม่เอาขิงนะเน่า” ผมบอกมันไปล่ะครับแล้วหันมาหาจอยต่อ มันส่ายหน้าแล้วเดินไปกับนายไม้และน้องโจ้ ผมถอนหายใจทำหน้าเหนื่อยใส่จอย
   “เฮาคึดออกแล้วตอนโตไปหาผอน่ะ ซุดแรกกะฟ้อนเป็นคู่ใส่เพลงจินตหรา ฟ้อนจักสามสี่คนกะพอ ซุดสองกะฟ้อนภูไท ซุดสามกะ ฮ่วยสิเอ็ดหยังล่ะบ่านนี้” อ้าวนะ
   “ฟ้อนภูไทเป็นไงอ่ะจอย” งงป่ะครับ ผมอ่ะงงไปไม่เป็นเลย
   “กะฟ้อนคือกันนี่ล่ะ แต่จังหวะมันสิซ้าย้วยๆแต่งามคั่ก” อ้อ ผมสนใจขึ้นมาทันทีครับ
   “แล้วใครจะฟ้อนกับเราอ่ะ” นี่คือปัญหาใหญ่ล่ะครับไม่ใช่ว่าจะแสดงอะไร
   “เดี๋ยวลองไปซวนพวกอีตุ๊กกี้เบิ่ง คือสิซ่อยได้อยู่ดอก” ผมก็หวังว่าอย่างนั้นล่ะนะครับ
   “แล้วฟ้อนแบบเอาผู้ชายฟ้อนด้วยอ่ะ ดีไหมจะได้ไม่เปลืองผู้หญิงถ้าเพื่อนผู้หญิงเขาไม่ยอมช่วยอ่ะ”
   “นั่นล่ะ เฮากะคึดจั่งซั่นล่ะ โตกะแต่งเป็นแม่ยิงติ๊ล่ะ หน้าใสๆแนวนี้คือสิผู้จบคั่ก”
   “หวือ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากแต่ง” ผมดอดสวนขึ้นทันทีล่ะครับ
   “เออๆ เดี๋ยวไปคุยกับหมู่เบิ่งก่อน แล้วจั่งนัดซ้อมกัน ป่ะไปเข้าแถว” ตอนนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยล่ะครับ พอเสร็จจากเข้าแถวเราก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ผมเดินไปที่โต๊ะสาวตุ๊กกี้
   “ว้าย อีหยังคะ ฟ้อนคืออะไรคะ คือแบบว่าเชอร์รี่เป็นแต่แดนซ์อ่ะนะ” คือมันเป็นแบบนี้ล่ะนะครับ ไม่ค่อยได้คุยพอคุยก็นะ สวยมากมึงน่ะ
   “เฮ็ดคือหลายอีรี่ ตอนหมอลำซิ่งกูเห็นไปฟ้อนอยู่หน้าฮ้าน ฟ้อนบ่เป็นแต่อีหยังน้อแหงแง้นอยู่น่ะ”
   “ว้ายอีนังจอย เว้าโพดหลายรี่เสียหายนะคะ”
   “ช่วยเราหน่อยนะตุ๊กกี้ เอ้ย เชอร์รี่ งานนี้เห็นผอบอกครูหนุ่มๆทั้งนั้นเลยนะ หล่อด้วยอ่ะ” ผมพอจะรู้ครับว่ามันเป็นยังไง แบบนี้มันต้องเอาผู้ชายมาล่อครับ
   “อุ้ย นี่เห็นแก่อุ่นขอร้องหรอกนะเนี่ย ปกติเฮา โอ๊ะ เราไม่ค่อยจะออกงานหรอกนะคะ คือ ไม่อยากให้ใครมาแอบถ่ายรูปไปลงเฟสอ่ะ” อยากจะอ๊วกครับ จะดีไหมเนี่ยที่ชวนอีนี่ไปด้วยน่ะ สรุปเพื่อนๆในห้องนอกจากนังตุ๊กกี้แล้วก็ไม่มีใครเลยนะครับที่จะช่วยผม อ่า ทำไงดีเนี่ย
   “อุ่นๆ ห้องเฮามีหมู่ผู้ยิงอยากสิฟ้อนซ่อยโตอยู่เด้” นายไม้บอกครับตอนพักเที่ยง
   “อ่าจริงเหรอไม้ ดีใจจังเลย” ผมจับแขนมันเขย่าล่ะครับ ทำตาโตๆดีใจนี่นา
   “อ่ะ แฮ่มๆ จับทำไม” เอ่อ ไอ้เน่าครับ ผมรีบเอามือออกจากแขนนายไม้ ไมได้กลัวไอ้เน่าหรอกนะจะบอก
   “หวืย โพดหลายบักห่ามึง ขนาดหมู่พวกกะมาหึงเนาะ” นายไม้แซวมันล่ะครับ
   “บ่ได้ดอก เรื่องแนวนี้กูบ่ไว้ใจ” “แต่ว่ามืออุ่นนุ้มนุ่มเด้ล่ะ ฮ่า” “นั่น” อ้าวๆ มันจะง้างเท้าใส่นายไม้แล้วครับผมเลยต้องลากมันออกมา
   “มาช่วยคิดการแสดงดีกว่านะเน่า ไรอ่ะไม่ช่วยแล้วยังไปว่าเพื่อนนะ” ผมทำหน้าดุใส่มันล่ะครับ
   “ไม่ช่วยไร ไม่รู้เว้ย แต่มึงห้ามไปวอแวกับใคร เข้าใจ๋ กูหึง” มันพูดตอกหน้าใส่ผมล่ะครับแล้วเดินไปที่ร้านน้ามัน อายอ่ะ อิอิ
   “มึงจะกินไร” มันหันมาถามเสียงดังล่ะครับ ไม่สนใจใครเลยนะ
   “เล็กแห้ง เหมือนเดิมนะครับน้า” ผมเองต้องเดินไปหามันล่ะครับ
   “เดินมาไม เดี๋ยวกูเอาไปให้” “มันต้องปรุงด้วยนี่” ผมแย้งครับ
   “เดี๋ยวน้าสิเฮ็ดพิเศษให้เด้อจ้า บู้ยมื้อวานล่ะมันหลาย ซาดถืกใจน้า” อ้าวน้าผู้หญิงแกพูดขึ้นล่ะครับผมอายเลยกระซิบบอกไอ้เน่าว่าปรุงอะไรบ้างแล้วกลับไปนั่งล่ะครับ คนก็ยังคงมองยังคงซุบซิบอยู่เป็นเรื่องปกติ เหมือนจะเริ่มชินแล้วล่ะครับ ไม่อายเหมือนตอนเข้ามาในตอนเช้าแล้ว เพื่อนๆก็เดินไปสั่งข้าวล่ะครับผมนั่งรออยู่
   “อ้าวน้องอุ่น มากินเข่าติ๊ อ้ายนั่งนำได้บ่” เอ่อ พี่คนที่ใส่แว่นตาที่เจอเมื่อตอนเช้าล่ะครับ แกนั่งลงเลยนะ อ้าวกูยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะนั่งแล้วอ่ะ
   “เอ่อ คือ” “โตกินหยัง สั่งแล้วติ๊ เดี๋ยวอ้ายไปสั่งให้” พี่แกเล่นแถเข้ามาหาผมเลยนะครับนั่งข้างๆผมด้วยล่ะ ผมเองก็ถอยออกไปกลัวไอ้เน่ามันจะโวยวายเอาน่ะสิ

To be continued
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 15-07-2012 19:01:08
   “ปึง” นั่นไงมันมาล่ะ “มีหยังบักคิม บ่มีหม่องอื่นนั่งบ่มานั่งอยู่นี่ หนีแหมะนี่หม่องกูนั่ง” มันทำยังไงรู้ไหมครับมันเอาเท้ามันมาแทรกระหว่างพี่เขากับผมเลยนะ พี่เขาคงไม่ทันมองล่ะว่าผมมากับใคร
   “อ้าว หม่องมึงติ๊ กูนึกว่าบ่มีไผนั่ง ไปกะได้วะ” พี่เขาลุกไปแล้วครับ
   “อย่าสิให้กูเห็นอีกเด้อมึง อย่าสิหาว่ากูบ่เตือน” มันขู่ครับเสียงดังมาก อายคนเป็นไหมนั่น ผมเริ่มก้มหน้าแล้วครับ
   “เสน่ห์แรงนะมึง เดี๋ยวเถอะ” อ้าว ซวยกูอีก
   “ไรอ่ะ พี่เขาเข้ามาทักเฉยๆหรอกเน่า” ผมพูดเสียงเบามาก
   “ทักเชี่ยไรหน้ามันจะดูดปากมึงอยู่แล้วนั่นน่ะ ปากน่ะมีไหม มีผัวแล้ว บอกเขาไปสิวะ อย่าให้เห็นอีกนะมึง มึงตาย” เอ่อ นี่มันขู่ผมเหรอ คือว่าผมไม่กล้ามองหน้ามันหรอกนะครับ อิอิ ก็มีบ้างล่ะนะเกรงมันนิดหน่อย ผมก้มหน้างุดๆเลยนะ
   “ไม่ได้ทำไรซะหน่อย” “ไร พูดเชี่ยไร นี่กูเผลอไม่ได้เลยใช่ไหม” มันพูดแบบเน้นคำนะ ผมเองก็นะจะให้ทำไรอ่ะ
   “ไหนมองหน้ากูดิ๊ ก้มทำไม ไหนบอกไม่ได้มีไร ทำไมหลบหน้า” อ้าว อะไรของมันเนี่ย จะให้มองได้ไงวะตวาดเอาๆ
   “ยังอีก” จิ๊ ผมก็เงยหน้าขึ้นมองมันล่ะครับ โอ้โหตาเท่าไข่เป็ดครับ หน้านี่หงิกเชียว ผมเลยหลบสายตามัน
   “มอง” บังคับกูจังวะ “ไรอ่ะเน่า จะกินข้าวนะ” “อย่านะมึง อย่าให้กูเห็นอีกนะ”
   “มีหยังกันสูเสียงดังแท้” นายไม้เดินมาล่ะครับ มาซะทีกูใจจะขาดตายอยู่แล้วเนี่ย ไอ้เน่ามันไม่ตอบครับแต่สายตาจิกจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลาล่ะครับผมนี่กินข้าวแบบไม่อร่อยเลยนะครับ
   “คืนนี้มึงเสร็จกูแน่ๆ ไอ้เบบี๋ กูจะทำแรงๆคอยดู” เอ่อ พอกินข้าวเสร็จมันก็มากระซิบข้างๆหูผมล่ะครับ ผมนี่ขนลุกเกรียวเลยนะ อะไรของมัน จะทำอะไรอ่ะ แหมๆ อย่ามาเถอะ จะทำก็ทำพร้อมตั้งนานแล้วอ่ะ แว้กก
   “เย็นนี้เจอกันที่บ้านเรานะตุ๊กกี้ เอ้ย เชอร์รี่” ให้ตายเถอะผมเห็นหน้าเธอทีไรทำไมชื่อเชอร์รี่มันถึงไม่ลอยมาเลยนะ มาแต่ตุ๊กกี้ พอได้ยินเธอก็หันขวับล่ะครับทำตาเขียวใส่ผม
   “อืมๆ เลี้ยงข้าวด้วยนะ” จ้า อีเห็นแก่กิน แต่เอาเถอะยังไงผมก็ต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนๆจะมามัวตั้งแง่มากไม่ได้หรอก มอบหมายให้ทำอะไรก็ไม่รู้นะผอ
   “เฮาว่าเอาเพลงนี่ดีกั่วเนาะอุ่น” จอยมันลากผมไปห้องคอมฯล่ะครับเปิดยูทูปให้ดู จินตหรา พูนลาบ
   “อืม จังหวะเพราะดีเนอะ” ผมก็พยักหน้าเออออไปตามล่ะครับ เคยได้ยินพี่ต้อยเปิดแว่วๆนี่ล่ะ
   “สองเพลงเนาะ รักสลายดอกฝ้ายบาน กับ คอยพี่ที่มออีแดง เอ๊ะ หรือสิเอา วังสามหมอรอรัก ว้าย เพลงนี่กะม่วน รักโผล่โสนแย้ม” เอ่อ ผมอ้าปากค้างเลยครับเพราะไม่เคยฟัง
   “ค่อยเลือกที่บ้านก็ได้ แต่ท่ารำเขาก็สวยนะจอย” ผมเองก็ต้องค้นข้อมูลล่ะครับ แต่อันนี้ก็ไม่หนักใจเท่าไหร่นักหรอก ที่หนักใจน่ะคนจะรำเถอะ
   “ฮ่วย บ่เฮียนติ๊ พากันมาเบิ่งหมอลำอยู่นี่แหมะ” ผมหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลังล่ะครับ อ้าวไอ้น้องโจ้
   “มาเบิ่งแนวสิไปแสดงนี่ล่ะ” จอยมันบอกน้องมันครับ
   “ไผแน่ล่ะฟ้อนน่ะอ้ายอุ่น” ผมหันไปถอนหายใจใส่มันครับ
   “ยังไม่มีเลยอ่ะโจ้ พี่ไม่รู้จะหาใครดี”
   “ฮ่วย คือบ่บอกผม ผมฮู้จักสาวๆหลายเด้” “จริงดิ งั้นหาคนมารำช่วยพี่หน่อยดิ เอากี่คนดีนะจอย” ผมหันไปถามจอยครับ เธอก็ยิ้มเยาะน้องทันที
   “ซุดแรกผู้หยิง 5 กะพอ ซุดสองรำภูไท อีก 5 ซุดสาม เซิ้งกะติ๊บเนาะอีก 5 ตอนนี้มีแล้ว สอง” จอยมันมองหน้าน้องโจ้แล้วปรามาสว่าขนาดกูยังไม่มีปัญญาแล้วมึงจะเอาปัญญาที่ไหนหาประมาณนี้ล่ะครับ
   “บ่มีปัญหา เอาเด็กน้อยเนาะ มันจั่งสอนง่าย” มันยักคิ้วตอบครับแล้ววิ่งไปเลย อ้าว แล้วมันเข้ามาทำไมวะเนี่ย
   “จะได้เรื่องไหมเนี่ยจอย” ผมหันไปหาจอยล่ะครับ
   “อย่าสิไปคึดต่อมันอุ่น ลองไปซวนหมู่ห้องอื่นเบิ่ง ค่อยว่ากันบักโจ้มันคือสิบ่เป็นท่าดอกเฮาว่าน่ะ” อืมนะ สรุปคาบแนะแนวเราก็เดินไปชวนเพื่อนๆห้องอื่นล่ะครับ แต่พอเห็นหน้าผมก็พากันซุบซิบถามเรื่องทะเลาะกับอีสุชาติเสียส่วนใหญ่จนผมเบื่อ ไมได้ความอะไรคืบหน้ามาเลยอ่ะ
   “ป่ะกลับ” ไอ้เน่าครับ นี่ยังไมได้ออกนอกโรงเรียนเลยนะเอาเสื้อออกนอกชายกางเกงแล้วอ่ะ ไอ้นี่ไม่มีระเบียบเอาเสียเลยนะ
   “อืม” “เป็นไร” “ป่าว” “ป่าวเชี่ยไร หน้ายังกะตูด” “แล้วไงอ่ะ” “สัด เคยถึงไม่เคยคืนนี้มึงโดนแน่ๆ”
   “ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง คิดว่ากูพูดเล่นเหรอ” อ้าวนะ รู้ตัวด้วย กูเซ็งล่ะ พูดอยู่ได้
   “ไม่มีคนไปรำช่วยเลยอ่ะเน่า” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
   “ฮ่าๆ กูว่าอยู่ มึงก็รำไปคนเดียวมึงสิวะ” ไม่น่าพูดเลยนะผม มีประโยชน์มาก ได้กำลังใจเยอะมาก
   “อ้าวๆ งอนๆ มึงลองไปชวนเพื่อนๆดูแล้วเหรอ”
   “อืม” “ไม่มีใครช่วยเลยเหรอวะ” “อืม” “เอาเท่าที่มีดิ อืมอีกคำมึงเจ็บตัวแน่” เอ่อ ผมเลยเงียบครับ
   “เงียบไม” อ้าวนะ จะเอายังไงเนี่ยไอ้นี่
   “ไรอ่ะ” “สัดกูถามน่ะ ไม่ได้ยินไง” “ก็ไม่รู้อ่ะ เครียดอยู่เนี่ย ไม่มีคนช่วยจะให้ทำไงอ่ะ” ผมตะโกนออกไปครับ รำคาญ ไม่ช่วยแล้วมาถามนะ ถามเพื่อ จะถามให้ได้อะไรวะให้กูเครียดเพิ่มขึ้นอีกล่ะสิ
   “ผู้ชายน่ะไม่ยาก กูหาให้ได้ แต่ผู้หญิง มึงหาเองดิ กูไม่อยากไปวอแว เดี๋ยวเกิดเรื่องอีก”
   “เรื่องไรอ่ะ” “อ้าว สัด เดี๋ยวมึงหึงกูไง กูขี้เกียจง้อ” อ่านะ หลงตัวเองมากไอ้รูปหล่อ พอมาถึงบ้านผมก็เห็นรถเครื่องจอดอยู่เต็มหน้าบ้านผมล่ะครับ ตายล่ะ ไม่ใช่พวกอีสุชาติมันพาเพื่อนมันมาถล่มผมซะล่ะ
   “ใครมาหามึงวะเยอะแยะ” มันหันมาทันทีพร้อมกับตาเขียวๆ
   “ไม่รู้อ่ะ เหมือนรถจอยป่ะ” ผมสังเกตที่รถจอดอยู่ล่ะครับมีคุ้นๆอยู่
   “ใครวะ” ไอ้เน่ามันจอดรถแล้วตรงดิ่งเข้าไปเลยนะครับ ผมเองก็รีบตามเข้าไปในบ้าน
   “ว้าย อ้ายเดี๋ยวอุ่น” เอ่อ เด็กผู้หญิงครับสิบกว่าคนได้ ผมยืนตะลึงอยู่
   “พากันมาหยังสู” ไอ้เน่ามันถามครับ
   “น้องๆเขามาซ่อยฟ้อนเด้เดี๋ยว” อ้าวจอยครับ มันมาตอนไหนวะเนี่ย ผมมัวแต่ทะเลาะกับไอ้เน่าเลยไม่ทันมอง
   “ผมซวนมาเองเด้ออ้าย ฮ่าๆ” ไอ้น้องโจ้ครับ น้องๆเด็กผู้หญิงก็ทักทายแนะนำตัวกันพอสมควร ทีนี้เราก็มานักแนะมอบหมายว่าควรจะให้ทำอะไรบ้าง
   “แต่เอ๊ะ มีแค่ 14 คนนี่จอย อีกคนไม่ใช่เหรอ” ผมนับรวมกันแล้วครับ นับนังตุ๊กกี้เข้าไปด้วยแต่มันยังไม่มา จะเบี้ยวไหมเนี่ย
   “โตว่าอีตุ๊กกี้มันสิมาอีหลีบ่ เฮาว่ามันบ่มาแล้วล่ะตอนเลิกเฮาเห็นมันไปคุยกับอีเพ็ญ” อ้าว ผมหน้าเสียเลยครับอุตส่าห์คุยกันไว้ซะดิบดี อะไรของมันวะ
   “เอาจั่งซี้ อ้าว อีหล่าแบ่งเป็นกลุ่มเด้อ กลุ่มล่ะ 5 คน” ตอนนี้เหลือ 13 ครับรวมจอย แบ่งแล้วเหลือเศษ สามคน
   “ไผสิฟ้อนซุดแรก ฟ้อนเพลงจินตหรา” จอยมันก็บอกไปล่ะครับว่าเพลงอะไร ชุดสองเป็นฟ้อนภูไทคือต้องหนักกว่าอยู่แล้ว ตอนนี้เองน้องๆเปลี่ยนกลุ่มกันเป็นว่าเล่นเพราะไม่มีใครอยากฟ้อนภูไทเพราะมันยากนะผมคิดว่า
   “เอาซี้ ซั่น ดาว แตง กบ โตสามคนมาฟ้อนภูไทกับเอื้อย เอื้อยสิฟ้อนออกหน้า อิอิ” อ้าวนะ จอยมันทำตาวาวๆครับ ดีนะที่มันเสนอตัว ตอนแรกน้องๆก็อวดครวญ สักพักเพื่อนๆผู้ชายก็มาล่ะครับคือพวกมันก็มาเล่นตระกร้อกันตามปกติล่ะครับ อ้อ ที่เลือกน้องสามคนนี้เพราะสูงกว่าทุกๆคน เกือบเท่าจอยล่ะครับหน้าตาก็น่ารักดีนะ
   “อีหยังค้า สิฟ้อนเป็นหยังบ่บอกเอื้อย ป้าด เอื้อยนี่หางเครื่องเก่าเด้ค่า” อ้าว พี่ต้อยครับเหมือนจะเพิ่งกลับมาจากตลาดคงตกใจเห็นคนเยอะๆที่บ้าน
   “อุ่นยังไม่ทันบอกอ่ะพี่ต้อย มาช่วยสอนหน่อยสิ” ผมก็อธิบายคร่าวให้แกฟังล่ะครับ สรุปก็แบ่งกันไปซ้อม กลุ่มแรกนำทีมโดยพี่ต้อยที่ชอบมาก อาสาเองเลย กลุ่มสองก็มีผมกับน้องตู่ที่ชุดนี้ต้องรำคู่กับผู้ชายผมก็หนึ่งในนั้นแต่คนอื่นๆยังไมได้หาครับ แต่เราก็แยกออกไปซ้อมท่าเลือกเพลงไว้ก่อน วันนี้คงไม่ได้ซ้อมอะไรมาก็มานั่งเลือกๆเพลงคิดท่ารำช่วยกันครับ น้องๆน่ารักดีนะ มีแซวผมบ้างแต่ก็เริ่มชิน
   “หนูล่ะเคยเบิ่งอยู่ไกลๆ มาเบิ่งใกล้ๆหน้าใสคั่กอีหลีเด้อค่ะอ้ายอุ่น” น้องคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ ผมก็หันไปยิ้มเขินๆ
   “แม่นๆแตง คนเว้าพื้นว่าอ้ายน่ะอ่งจั่งซั่นจั่งซี้ แต่โตจริงเป็นตาฮักกะด้อเนาะ” ผมคือประเด็นหลักล่ะครับ ได้แต่หัวเราะแหะๆ ไม่รู้จะตอบโต้ว่าไงดี ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง คือตอนนี้เราพักเบรกล่ะครับพี่ต้อยทำน้ำหวานออกมาให้น้องๆกินกับขนม
   “เป็นจั่งได๋ผู้สาวซ่ำน้อย ม่วนบ่” นายเคนครับคงจะพักจากการเตะตระกร้อเหมือนกัน เออ พ่อผมยังไม่กลับนะครับ วันนี้คงเย็นๆล่ะ
   “ว้าย อ้ายเคน อ้ายไม้ กรี๊ด” เอ่อ นึกว่าเห็นแล้วนะตอนที่มันเข้ามา สาวน้อยกรี๊ดกันใหญ่แต่ไอ้พวกนี้เหมือนมันจะชินล่ะครับ แหมนะ
   “เออ นายสองคนมารำกับเราด้วยนะ น้องเต้กับน้องโจ้ด้วย 5 คนพอดี” ผมได้ทีครับ
   “เฮ้ย ฟ้อนบ่เป็นดอก พ่อซายบ่ฟ้อนเด้อุ่น” นายเคนครับ
   “แม่นๆ ไผสิฟ้อนกะฟ้อนโลด เฮาบ่เอานำดอก” อ่านะบอกปัดแบบไม่เกรงใจกันเลยครับ
   “เน่า” ผมหันไปหาตัวช่วยครับ
   “ฟ้อน สูต้องฟ้อน” อิอิ ไอ้เน่ามันตวาดขึ้นเสียงดังครับ
   “หวืย ซาดโพดเนาะ มึงบ่ฟ้อนเองติ๊ มาบังคับหมู่” นายเคนพูดเสียงอ่อยๆครับ
   “บ่เกี่ยวเว้ย มึงสี่โตนั่นล่ะ อย่าๆ อย่ามาเถียงหรือสิเอา” มันกร่างใส่เพื่อนล่ะครับไม่มีใครพูดอะไรมีแต่ซุบซิบกันอยู่ น้องๆผู้หญิงก็เซ็งแซ่ขึ้นทันทีว่าใครจะคู่กับใคร เฮ้อนะ
   “อ้าว มีอะไรกันหรือเปล่าลูก” พ่อผมกลับมาแล้วครับ ทุกคนก็ยกมือไหว้
   “ก็มาช่วยอุ่นซ้อมการแสดงไงอ่ะพ่อ” ผมบอกพ่อไปล่ะครับ
   “อ้อ ดีลูกดี ขยันๆนะงานวันนั้นพ่อก็จะไปเดี๋ยวทำดีพ่อมีรางวัลให้นะ” พ่อผมบอกครับเสียงเฮดังขึ้นทันที แหมนะ
   “เออ กูฟ้อนกะได้วะ” นายเคนครับ แหมนะไวเชียวนะทีแบบนี้ เอาไปเอามาพ่อผมก็โทรไปสั่งไก่เคเอฟซีมาให้น้องๆเพื่อนๆกินกันล่ะครับ น้องผู้หญิงแยกกลับไปก่อนประมาณห้าโมงได้ ส่วนเพื่อนๆผู้ชายก็เตะตระกร้อต่อกับพ่อผม ส่วนผมกับจอยก็ช่วยกันดูเพลงและคิดท่ารำมีพี่ต้อยคอยเป็นคนทำตามที่เราบอก สนุกดีนะครับ
   “ว้ายเห็นบ่ค่าซวนแต่เอื้อยฟ้อนเลยบ่ทันเฮ็ดแนวกินแลงซ่ำ ไปก่อนเด้อค่า” พอเราคิดท่าไปได้หน่อยพี่ต้อยก็ร้องขึ้นล่ะครับ อ้าวนี่มันค่ำขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย สักพักจอยมันก็ชวนน้องโจ้กลับล่ะครับ วงเลยแตกเพื่อนๆกลับไปหมดแล้วเหลือแต่ไอ้เน่าซึ่งมันทำอะไรกับพ่อผมไม่รู้อยู่นอกบ้าน เหมือนจะปีนต้นมะยมเลยนะ
   “โอ๊ย” เสียงมันร้องครับ เกิดอะไรขึ้น
   “เป็นอะไรไหมลูกเดี๋ยว ขาจะหักไหมเนี่ย” เสียงพ่อผมร้องออกมา ผมเลยวิ่งออกไปดูครับเห็นไอ้เน่ามันนอนอยู่กับพื้นกลิ้งอยู่ ผมเลยวิ่งเข้าไปหา
   “ไรอ่ะพ่อ”  “เดี๋ยวตกต้นไม้ ขาจะหักหรือเปล่าไม่รู้ เจ็บมากไหมลูก” ผมตกใจครับ พ่อผมเองก็คงตกใจหน้าตาไอ้เน่ามันเหยเกมากเลยนะ
   “เจ็บครับ เจ็บ โอ๊ย” ไอ้เน่ามันจับข้อเท้ามันล่ะครับหน้าตานี่แบบว่าเจ็บสุด ผมเองสั่นแต่ก็นั่งลงจะจับก็กลัวมันจะเจ็บ
   “เน่า เจ็บมากไหม ไปหาหมอ พ่อพาเน่าไปหาหมอ” ผมเริ่มครองสติไม่อยู่แล้วครับน้ำตาหลอแล้วอ่ะ ใจมันมากกว่าสั่น มันจะเป็นอะไรไหม

Written by eiky

ปล. ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากนะคร้าบ อิอิ ติดตามอาการบักเดี๋ยวเอาตอนหน้าเด้อ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 15-07-2012 19:34:35
น้องอุ่นน่ารัก ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 15-07-2012 19:54:43
จะเป็นอะไรมากไหมบักเดี๋ยว
หนูอุ่นสู้ๆ :3123:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 15-07-2012 20:04:16
ป๊าดดด อิเดี๋ยวนี่พูดชงมาหลายตอนแล้วนะ ลุ้นจนเมื่อยกับNC อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-07-2012 20:06:41
ชอบอ่ะ..เจ้าเดี๋ยวมันไม่มีกั๊กจริง ๆ..ทั้งประกาศตัวทั้งหวงหึงอย่างแรงงง...
การแสดงน่าจะผ่านไปได้นะนู๋อุ่น...ต้องขอบใจโจ้ที่พาเด็ก ๆ ในสังกัดมาช่วยนิ..
เดี๋ยวเจ็บ...คงจะไม่เป็นอะไรมากนักนะ...เป็นห่วงเหมือนกัน :L2:

 :L1:  น้องอิ๊ก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 15-07-2012 20:15:09
ถึงขาหักเลยเหรอ  ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 15-07-2012 20:17:35
กี๊สสสสสสสสส  เดี๋ยว เป็นอะไรมากไหมอ่า?

อยากเห็น  อุ่นแต่งสาวจัง

อิอิ

บักเดี๋ยวนิก็ เป็นคน ตรงๆ ตลอดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-07-2012 20:37:08
เดี่ยวอย่าเป็นไรนะ
ชอบเดี่ยวหึงอ่าน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 15-07-2012 21:03:54
อยากไปช่วยฟ้อนเด้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 15-07-2012 21:06:07
อยากไปช่วยฟ้อนเด้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 15-07-2012 21:09:51
เดี๋ยวมันจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 15-07-2012 21:35:06
ทั้งพ่อทั้งเพื่อนแซวอุ่นกันหมดเลยยน้าาา คุณพ่อก็เปิดไฟเขียวรู้เรื่องอุ่นกับเดี๋ยวแล้วจริงๆใช่ป่ะเนี่ย อิอิ
แหมลุ้นให้ได้เสียกันก็เฉียดไปเฉียดมา ฮ่าๆๆ ก็อยากจะรู้ว่าครั้งแรกของทั้งคู่มันจะเป็นยังไงน้าา
อุ่นก็เสน่ห์แรงเน้ออรุ่นพี่รุ่นน้องรู้จักกันไปทั่ว เดี๋ยวก็ขี้หึงได้ใจมากกกก โหดแท้น้ออ
พูดจาประสาเดี๋ยวนี่โคตรจะตรง พูดแรงด้วย แต่ก็จริงใจดีนะ อุ่นก็กำลังเครียดๆ เดี๋ยวนี่ก็หาเรื่องจริง ฮ่าๆ
สุดท้ายเดี๋ยวตกต้นไม้ซะงั้น =[]= แล้วใครจะดูแลใคร ใครจะรับส่งใครกันล่ะทีนี้
ที่แน่ๆเดี๋ยวซ่าจะกดอุ่นไม่ได้ไปสักพักล่ะม้าง อิอิ เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ยเดี๋ยวว อุ่นอย่างพึ่งร้องทำใจดีดีไว้ เง้ออ
คุณพ่อตาก็ตกใจ ไม่มีสติพอๆกับอุ่นเลย ฮ่าๆ ดำเนินเรื่องเรื่อยๆชิลๆน่ารักดีอ่าา ติดตามต่อไปจ้าา
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 15-07-2012 22:07:53
เดี๋ยว จะเป็นไรมาไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-07-2012 22:09:23
น้องอุ่นน่าจะได้ฟ้อนคู่กับเดี๋ยว
ว่าแต่เดี๋ยวจะเป็นไรมากไหมอะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 15-07-2012 22:49:43
 :m20:หึงโหดมาก ๆ อ่ะ เดี๋ยว :m20:+1 หมู่คณะต้อนรับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-07-2012 23:36:52
เน่า.... ไม่ได้สำออยใช่มั้ย...อ่านเรื่องนี้แล้วดูธรณีนี่นี้ใครครอง ฟังเค้าเว้ากัน ออกหลายประโยคเลยคับ... รักเรื่องนี้!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-07-2012 23:45:30
เน่า.... ไม่ได้สำออยใช่มั้ย...อ่านเรื่องนี้แล้วดูธรณีนี่นี้ใครครอง ฟังเค้าเว้ากัน ออกหลายประโยคเลยคับ... รักเรื่องนี้!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 16-07-2012 09:52:11
เดี่ยวแมนมากกกกกกกก
น้องอุ่นน่ารักกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-07-2012 10:47:16
อุ่นน่ารักหลายเด้
นายเดี๋ยวก็หายเจ็บ
ไวไวเน้อ :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 16-07-2012 11:36:25
บักเดี๋ยวจะเป็นหยังบ่น้อ :sad11: น้องอุ่นทำใจดีๆๆไว้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 16-07-2012 14:10:05
+1   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 16-07-2012 16:05:21
 :man1:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 16-07-2012 18:07:39
ชอบอะไรแบบนี้อ่ะครับ ชอบที่เดี๋ยวหึงแบบนี้ ดูน่ารักมาก ๆ เลยครับ
สงสารอุ่นเหมือนกันนะเนี่ย มีแต่คนนินทา แต่ก็นะ คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
ประทับใจเพื่อน ๆ ของอุ่นและเดี๋ยวแต่ละคน ดูพวกเขารักกันมาก ๆ เลยครับ ทำให้คิดถึงเรื่อง สนิมน้ำค้าง เลยครับ
เป็นกำลังใจให้พี่อิ๊กต่อไปนะครับ เปิดเทอมมานี้ไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อย ๆ แต่ยังติดตามอยู่เสมอนะครับ
    :3123:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 16-07-2012 20:06:49
 :L1:

น้องอุ่นน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 16-07-2012 21:24:14
เจ็บจริง รึสำออย เน้อ บักเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 17-07-2012 00:16:28
เน่าเจ็บจริงหรือสำออยอ้อนแฟนอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 18-07-2012 05:17:29
 :m20:มีคนมาสนใจอุ่นอีกแล้ว แต่เดี๋ยวแน่มากประกาศอย่างแข็งขันจริงๆ
มีคนมาช่วยเยอะแยะ งานนี้น่าจะผ่านฉลุยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 18-07-2012 07:02:06
สนุกมาก ชอบมาก ภาษาน่ารักมากจริงๆ เป็น fc คุณแม่กะคุณพ่อของเดี๋ยวอ่ะ ตลกได้ใจ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 18-07-2012 17:05:23
เดี๋ยวขี้หึงสุดๆๆ แล้วนี่เจ็บจริงหรือแผน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 18-07-2012 18:25:32
You’re My BaBy!!

โอ๊ย เจ็บว่ะ เจ็บโคตรๆ ข้อเท้ากูหักหรือเปล่าเนี่ย ปวดจนชา จะว่าไปกูไม่เคยเจ็บเท่านี้มาก่อนเลยนะ ซี๊ดด
   “ไปลูกไปหาหมอ อย่าเพิ่งขยับขานั้นนะ” คุณปลัดบอกล่ะครับแล้วมาช้อนปีกผมให้ลุกขึ้น แม่งมันบวมเป่งเลยนะ
   “เจ็บไหมเน่า” ไอ้เบบี๋ครับมันก็มาจับแขนผมอีกข้างน้ำตามันไหลแล้วนะ อ้าวนะ กูเป็นคนเจ็บกูยังไม่ร้องเลย
   “ทนไหวๆ” ผมหันไปบอกมันล่ะครับทั้งที่เจ็บแทบตาย กว่าจะขึ้นรถไปได้ทุลักทุเลเป็นบ้า มันเริ่มร้าวมากถึงมากที่สุด ปวดจนไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี ปวดว่ะ
   “เส้นเอ็นร้อยหวายพลิกนะครับ เดี๋ยวหมอจะใส่เฝือกให้ น่าจะประมาณอาทิตย์ก็หายแล้ว” หมอบอกล่ะครับ กูไม่เห็นมันทำห่าอะไรเลยนะจับๆแล้วก็ฉีดยาชามั้งมันรู้สึกตึงๆที่ขาแล้วก็ไม่ค่อยปวด แหะๆที่จริงกูไม่ได้ลืมตามองหรอกนะครับจะมองทำไมหลับตานอนไปเลย เผื่อได้สักงีบ
   “เฮ้ย แล้วผมสิอาบน้ำจั่งได๋นี่หมอ” พอลืมตาขึ้นมา สัด ปูนปาสเตอร์หุ้มข้อเท้าไว้แล้วครับ หนักด้วยแปลกๆด้วย
   “อาบน้ำได้แต่ต้องระวังหน่อย อาบเสร็จต้องเช็ดให้แห้งจะได้ไม่ติดเชื้อ” อาบได้แต่ไม่ให้เปียก ใช้อะไรคิดวะเนี่ย เออ กูไม่อยากจะแย้ง คุ้มนะกูว่ามาหาหมอได้ขากลับไปอีกขาสัด แข็งเป็นบ้าเจ็บก็เจ็บ ให้กูเขย่งเดินยังจะดีกว่านี้อีกนะเนี่ย
   “เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะลูก เดี๋ยวพ่อไปเคาท์เตอร์ก่อนนะ” คุณปลัดช่วยพยุงผมออกมาล่ะครับ แกเข้าไปด้วยแต่ไม่ให้ไอ้เบบี๋เข้าไปเพราะมันร้องไห้ ไอ้นี่ก็เวอร์จริงๆ
   “เป็นอะไรมากไหมคะคุณปลัด ตายแล้วบักเดี๋ยว” แม่ผมครับเหมือนจะยังไม่ปิดร้านนะ อ้าวพ่อกูก็มา
   “บ่เป็นหยังแม่ สบายมาก แต่หนหวยเฝือก คันนำ” ผมบอกล่ะครับ
   “ทนเอา นี่ล่ะทำอะไรทะโมนนัก เป็นไงล่ะ” อ้าวๆ แม่อะไรวะ
   “ลูกเดี๋ยวไม่ผิดหรอกครับคุณสาวิตรี พอดีผมใช้ให้ลูกเดี๋ยวขึ้นเอามะยมจะไปฝากลูกน้องที่ทำงานเองล่ะครับ ไม่น่าเลย” “ว้าย คุณปลัดอย่าพูดแบบนั้นสิคะ เจ็บแค่นี้นิดหน่อยเองค่ะ จิ๊บจ๊อย” อ่านะ เปลี่ยนเรื่องพูดทันที
   “ตอนที่ลูกเดี๋ยวเจ็บอยู่ ผมคิดว่าให้ลูกเดี๋ยวไปอยู่ที่บ้านผมก่อนก็ได้นะครับคุณสาวิตรี เพราะไหนจะต้องเปิดร้านอีก ไปอยู่ที่บ้านผมเดี๋ยวผมให้อุ่นเขาดูแลลูกเดี๋ยวเอง” ยิ้มเลยกู เออว่ะ ลืมนึกไปเลย พ่อตากูนี่ได้ใจจริงๆนะ
   “ว้าย จะดีเหรอคะคุณปลัด รบกวนเปล่าๆค่ะ”
   “ไม่เป็นไรครับ ถือว่าผมต้องรับผิดชอบ อย่ากังวลไปเลยครับ หมอบอกว่าไม่เกินอาทิตย์ก็มาถอดเฝือกได้แล้วครับ” ผมไม่อยากฟังผู้ใหญ่เขาคุยกันครับ เดินกะเผลกๆชวนไอ้เบบี๋ออกไปรอที่รถดีกว่า
   “ไปไหนอ่ะเน่า” มันยังตาแดงๆอยู่เลยครับ
   “ไปรอที่รถดิ เบื่อผู้ใหญ่คุยกัน” “อืม หิวป่าว เดินไหวไหม มาเราช่วย” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะครับแต่รู้สึกว่าเสียงมันดูเพราะมาก พูดเบาๆดูนุ่มนวลจังเลยวะ มันเข้ามาจะจับแขนผมล่ะครับแต่จะมาช่วยทำไมวะก็กูมีไม้ยันอยู่ แต่ก็นะ พอมันจะมาทางที่เท้าเจ็บผมก็ให้มันมาอีกทางล่ะครับ มันทำท่างงๆแต่ก็มา
   “กอดหน่อย” ผมบอกมันล่ะครับแล้วอ้าแขนให้มันเข้ามาอยู่ใต้ปีก
   “ไม่พยุงด้านนั้นเหรอ” “ไม่ต้อง ด้านนั้นกูก็ไมได้กอดมึงดิ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่า เหมือนหายเจ็บเลยอ่ะ” “หายไร เจ็บดิ แต่กูไม่ใช่คนสำออยนะเว้ย หิวแล้วว่ะเบบี๋ กูอยากกินไข่นกหน้าโรงบาล ไปซื้อป่ะ” ผมชวนมันครับแล้วเราก็หอบกันออกมาจากโรงพยาบาล
   “ป้อนหน่อยดิ” พอเราได้ไข่นกมากับน้ำเขียวใส่ถุงเราก็มานั่งรอข้างๆรถล่ะครับ
   “อ้าว ไม่กินเองอ่ะ เจ็บขานะไมได้เจ็บมือ” “สัด ให้ป้อนก็ป้อนเถอะ ไม่ดูแลกูไง”
   “เกี่ยวไหมเนี่ย” มันทำท่าไม่ยอมครับแต่ก็ทำนะ
   “แล้วจะกินนิ้วด้วยเหรอ” คือผมไม่ปล่อยนิ้วมันนะครับงับเอาไว้เบาๆ
   “อ่า เน่าอ่ะ” ผมเม้มปากเบาๆขบหน่อยๆแล้วเอาลิ้นดุนนิ้วมันล่ะครับ เฮ้ย กูดูโชกโชนไปไหมเนี่ย ไม่รู้ล่ะขาน่ะเจ็บจริงแต่อารมณ์ก็ยังมีอยู่จริงเว้ยเฮ้ย ไอ้เบบี๋มันอายครับ
   “หร่อยดีนะ” ผมยอมปล่อยนิ้วมันล่ะครับ
   “บ้านะ พ่อมาล่ะ” จิ๊ โมโหมาแล้วว่าจะดูดปากซะหน่อย พ่อกับแม่ผมก็เดินมาด้วยล่ะครับ
   “ลูกเดี๋ยว ไปอยู่บ้านปลัดสักพักนะจ๊ะ อย่าเกเรล่ะ” แม่ผมเดินมาบอกครับผมก็ทำหน้าเซื่องๆ หึหึ
   “อ่า นี่นาย” คือว่าไอ้เบบี๋มันยังไม่รู้อ่ะนะครับ
   “เดี๋ยวเขาจะไปอยู่บ้านเราล่ะลูก จนกว่าจะหาย อุ่นดูแลเดี๋ยวด้วยนะ” ฮ่าๆ ได้ใจจังเว้ย ผมยิ้มเต็มปากส่วนไอ้เบบี๋มันทำหน้างอๆในตอนแรกแล้วก็เหมือนจะพยายามทำหน้านิ่งๆ แม่กับพ่อผมกลับไปแล้วครับเพราะคงจะตกใจรีบมาร้านจะมีใครดูให้ไหมเนี่ย ส่วนผมนั่งเบาะหลังคนเดียว ไอ้เบบี๋มันไปนั่งหน้ากับพ่อมัน
   “แล้วจะนอนยังไงอ่ะพ่อ” มันถามพ่อมันครับ หนอยแน่
   “อ้าว เคยนอนยังไงล่ะลูก” “พ่ออ่ะ หมายถึงอุ่นจะไม่ดิ้นเตะขาเน่าเหรอ”
   “รู้ว่านอนดิ้น ตอนนี้ก็ลดๆลงหน่อยสิลูก เดี๋ยวเขาเจ็บนะ” ผมกลั้นหัวเราะครับ คุณปลัดนี่เอาใจผมไปเลยเต็มๆ พ่อตาแห่งปีเลยนะเนี่ย ส่วนไอ้เบบี๋หน้างอเป็นตูดอยู่นั่นล่ะครับที่จริงมันก็คงอยากให้ผมอยู่กับมันล่ะครับแต่ไม่รู้สิมันคงกังวลล่ะเพราะตอนไม่เจ็บนอนกอดกันก็ไมได้นอนนิ่งๆนะมันคงกลัวมันจะทำผมเจ็บจริงๆนั่นล่ะครับ แต่ผมสนที่ไหน ผมนั่งพาดเท้าบนเบาะอย่างสบายใจ
   “โอ๊ย เป็นตาหลูโตนฮ้าย เจ็บบ่ล่ะเดี๋ยว” เจ้แกเดินมาถามล่ะครับหน้าตาดูเป็นห่วงเป็นใยผมดีนะ
   “บ่เป็นหยังดอกเจ้ ผมกระดูกแข็งตายยาก” ผมหัวเราะครับตอนนี้มันหน่วงๆไม่ปวดมากคงเพราะฤทธิ์ยา
   “มาค่ามานั่ง กินเข่าก่อนเนาะ เอื้อยตุ๋นไข่ไว้ให้ กินอ่อนๆเนาะ”
   “ฮ่วย ผมเจ็บขาเด้อเจ้บ่ได้โซเด้ เป็นหยังสิกินอ่อนๆ บ่เอาๆ เอื้อยตำแจ่วมาคือเก่านั่นล่ะ”
   “เอื้อยเฮ็ดเพิ่มเด้ล่ะ เอื้อยนึ่งปลาเนื้ออ่อนใส่ยอดผักไซ่ให้คุณพ่อซายกับคุณอุ่น มีต้มส้มไก่ย่าง แซ้บแซ่บ”
   “นั่นล่ะ ไข่ตุ๋นน่ะเอื้อยกินโลดผมสิกินนำเพิ่นนี่ล่ะ” ผมพูดครับ ใครจะไปฟาดลงวะไข่ตุ๋น ของกินมีแบบว่าน่ากินทั้งนั้น ปลานึ่งนี่ก็หอมเชียวมีข้าวสวยกับข้าวเหนียวให้เลือกครับ แน่นอนบักเดี๋ยวจกข้าวเหนียวกับคุณปลัด ส่วนไอ้เบบี๋มันกินข้าวสวย ผมฟาดไปเป็นกะติ๊บเลยนะ ฮ่าๆ มันอร่อยนี่หว่าฝีมือเจ้แกไม่เคยตกเลยจริงๆ ยิ่งน้ำพริกสดตำใส่แมงดานานี่ อร่อยเหาะลืมเจ็บไปเลยกู หอมทั้งหอมแดงเผากับพริกชี้ฟ้าสดเอามาคั่วกระเทียมเอย หอมเข้ากันดีเหลือเกินกับแมงดานา
   “กินข้าวแล้วอย่าลืมกินยาล่ะลูก ยาชาหมดฤทธิ์น่าจะปวดเอาการอยู่” คุณปลัดบอกล่ะครับ ที่จริงก็เริ่มรู้สึกตึงๆถึงตึงมากแล้วล่ะแต่ผมยังไม่โอดครวญ พอกินยาเสร็จก็นั่งคุยอยู่กับปลัดครู่หนึ่งล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันก็นั่งอยู่ด้วย
   “ไปอาบน้ำดิเน่า” มันบอกล่ะครับ
   “อาบไงวะ ขาเจ็บจะตายถอดลำบาก” ผมบอกเสียงเรียบๆ
   “เอาเก้าอี้ไปนั่งในห้องน้ำไหมลูก จะได้สะดวก”
   “มันก็ลำบากอยู่ดีล่ะครับปลัด ผมกลัวมันจะโดนปูน มันยังไม่แห้งดีนี่ครับ” นี่คือข้ออ้างครับ
   “อืม อุ่นไปอาบให้เดี๋ยวสิลูก จะได้ช่วยเหลือเผื่อลื่นล้ม” นี่ล่ะคือสิ่งที่ต้องการ อิอิ เฮ้ยๆ ไมได้ขี้โกงนะเว้ย นิดหน่อยน่า คิดไรมากมาย อิอิ
   “อ่า ไรอ่ะพ่อ ไม่เอาอ่ะ อาบเองดิเน่า เท้าเจ็บนะไม่ใช่ตัวเจ็บ”
   “เออๆ กูอาบเองก็ได้วะ อายเหรอ ไรวะมีเหมือนๆกัน” ผมยักคิ้วให้มันล่ะครับแล้วทำท่าลุกขึ้น จะหาว่ากูตอแหลไปไหมเนี่ย ก็กูทำท่าเซครับ อิอิ
   “นั่นไง อุ่นไปอาบช่วยเดี๋ยวนั่นล่ะ เดี๋ยวหกล้มขึ้นมาจะลำบากกว่านี้ อะไรกันลูกคนนี้ อาบกับพ่อก็เคยแล้วยังจะอายอะไรอีก” “อ่า พ่ออ่ะ” มันอายครับ หือ กับพ่อมันก็เคยอาบเหรอวะ ไมได้ล่ะต้องถามแล้ว
   “ไปดิ” มันทำหน้างอไม่พอใจครับ ผมให้มันพยุงขึ้นไป
   “รอในห้องน้ำนี่ล่ะ เดี๋ยวไปเอาผ้าให้” มันบอกครับแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ
   “ถอดเสื้อได้ป่ะ” มันเดินกลับมาแล้วครับพร้อมกับผ้าเช็ดตัว
   “อือ” ผมจ้องหน้ามันไม่ยอมวางตา
   “มองไรอ่ะเน่า ถอดดิ” มันอายครับ ผมก็เลยถอดเสื้อออก ผมเห็นนะว่ามันแอบกลืนน้ำลาย แม่งอยากเลียกูจะตายห่าทำแอ๊บนะมึงไอ้เบบี๋ คอยดูกูจะยั่วให้ดู เอาให้มันแตกต่อหน้าต่อตากูเลยเป็นไงก๊ากก
   “มึงเคยอาบน้ำกับพ่อมึงเหรอ” ผมสงสัยครับ จะสนิทกันยังไงก็ไม่น่านะผมว่า
   “เคยดิ ตอน ป.๖ เถอะ” สัด ฮ่าๆ ผมยิ้มออกมาครับ
   “ถอดเกงดิ” ผมยืนยักคิ้วให้มันครับ
   “ไรอ่ะ เกงถอดง่ายจะตาย ถอดเองดิ หันไปด้วยนะเน่า” “ถอดไงวะ มันติดนี่ไง ไม่เห็นเหรอ มึงไม่อยากทำให้กูเหรอวะเบบี๋” ผมทำเสียงเครียดครับ จ้องหน้ามันแบบว่าหาเรื่องเต็มที่
   “อ่า ก็ได้” มันเสียงสั่นครับหน้านี่แดงก่ำเลยนะ มันไม่ยอมมองหน้าผมจ้องอยู่ที่เป้ากูนั่นล่ะ เออ ลืมบอกกูใส่กางเกงเตะบอลนะครับซึ่งตอนนี้มันนูนเด่นขึ้นมาเป็นลำแล้วล่ะ ฮ่าๆ อ้อ ขาที่เจ็บก็ข้างซ้ายล่ะไม่ใช่ข้างขวา นับว่ายังโชคดีอยู่ครับ แต่คนโชคร้ายนี่ครับ คนที่กำลังชั่งใจว่าจะถอดกางเกงให้ผมยังไง
   “เร็วดิ กูร้อน” ผมเร่งมันครับ มันเหมือนว่าจะเม้มปากแล้วมาค่อยๆจับขอบกางเกงผม เห็นเลยนะว่ามือมันสั่น
   “ชักช้าจังวะ” นี่แน่กูเอง ผมใช้มือขวาดึงลงทั้งกางเกงบอลกางเกงในพร้อมกันจนมันไปอยู่ที่เกือบถึงหัวเข่าครับ
   “อ๊ะ” “ไร ตกใจไรวะ” ผมแอบยิ้มครับเพราะมันก้มหน้าอยู่ แต่แค่ไม่กี่วินาทีล่ะมันรีบเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งกูก็รออยู่แล้วอ่ะนะ สายตามันสบกับสายตากูพอดีเลย
   “ว่าไงเบบี๋ ตกใจไรคร้าบ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อาบเองได้ไหมอ่ะเน่า” มันเสียงสั่นจนผมอดไม่ได้ที่จะปล่อยก๊ากออกมาเลยนะ
   “ฮ่าๆ เป็นไรวะ ทำเหมือนกับไม่เคยเห็น” “เคย แต่” อาบให้กูหน่อยดิ กูไม่ทำไรมึงหรอกน่า” ผมบอกมันล่ะครับ มันเม้มปากเหมือนกำลังตัดสินใจ
   “ถอดเร็วดิ ร้อนจะตายห่า” ผมบอกมันครับ ไม่รู้สิแกล้งมันสนุกดีนะ กูชอบ มันก็ก้มลงเหมือนเดิมล่ะครับ มันค่อยๆรูดกางเกงผมลง ผมก็ยกเท้าขวาให้กางเกงมันหลุดออกไปเหลือขาซ้ายที่ติดเฝือก มันก็ก้มลงเหมือนเดิม
   “อ่า ทำไรอ่ะเน่า” อิอิ ทนไม่ไหวครับ พอมันก้มผมก็กะให้มันพอดีกับเป้า พอเล็งได้ที่ก็ดันก้นให้ลูกชายผมชนหน้ามันเต็มๆเกือบเข้าปาก มันตกใจถอยออกไป
   “ยุงกัดก้น” “ตกใจหมด เดี๋ยวก็ล้มหรอก” มันแบบว่าหน้าแดงมากครับ เหมือนจะมีเหงื่อไหลออกมาตามใบหน้า หน้าตามันตื่นจนไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าตื่นตกใจกันแน่ ฮ่าๆ
   “อ่ะ ถอดออก” อ้าวๆ กูมัวแต่พูดครับ มันรีบนั่งลง คือมันตัวเล็กอยู่แล้วนะมันนั่งลงแล้วช่วยผมยกขา มันก็ดึงกางเกงออกไปเลยครับ
   “นั่งเก้าอี้ดีกว่า” มันบอกครับแล้วเอาเก้าอี้มาให้ผมนั่ง
   “มึงไม่อาบเหรอ” ผมนั่งลงเสร็จก็ถามมันครับเพราะมันไม่เห็นถอดเสื้อผ้าเลยนะ
   “ไม่อ่ะ เน่าอาบก่อน เดี๋ยวเราค่อยอาบ”
   “ไม่ได้เว้ย ไรวะ เปลืองน้ำเปลืองเวลา เร็วๆดิ กูต้องให้มึงเช็ดตัวทาแป้งให้ด้วยนะ เร็วๆ ถอด”
   “อ่า ไม่เอาอ่ะ” “ทำไมวะ” “อาย” มันตอบครับแล้วก้มหน้าลง แม่งมันน่ารักก็ตรงนี้ล่ะ
   “อายเชี่ยไร เห็นของกูไปถึงไหนต่อไหน เลียก็เคยแล้วเถอะ” “ไอ้บ้าเน่า ไรอ่ะ” มันทำหน้าดุใส่ผมครับแต่นะ นี่ดุแล้วเหรอเนี่ย ฮ่าๆ
   “นะนะ อาบเป็นเพื่อนกูหน่อย เดี๋ยวมึงก็ชินไปเองล่ะ” ผมอ้อนมันครับ มันจิ๊ปาก
   “อือๆ เรื่องมากจังนะ นี่มันเป็นแผนหรือเปล่าเนี่ยเน่า” “อึ๊ก” ผมกลั้นหัวเราะครับ
   “แผนเชี่ยไร เจ็บจะตายห่า” “เราหมายถึงเรื่องอาบน้ำอ่ะ” “เออดิ ไม่งั้นกูจะได้จู๋จี๋กับมึงเหรอวะ” ขี้เกียจจะปิดมันครับ ไหนๆมันก็คงไม่ขัดใจผมหรอกนะ มันยืนนิ่งอยู่แป๊บหนึ่งล่ะครับแล้วมันก็เดินไปถอดเสื้อผ้าด้านหลังผม แหมๆ เจ็บขานะเว้ยไมได้เจ็บคอกูก็เอี้ยวตัวดูสิวะ ฮ่าๆ อยากรู้ทำไมมันอายจังวะ แต่แค่มันถอดเสื้อก็ตั้ง พอมันถอดกางเกงกูนี่กระดกเลย สัด ขาวมาก ก้นมันไม่มีหรอกนะไอ้ลายแตกเหมือนก้นกูน่ะ มันขาวเนียนแบบมากๆครับ เวลามันก้มตัวลงดึงกางเกงออกจากตัวใต้ก้นมันก็ไม่ดำ ไหลเลยกู
   “อ๊ะ มองไรอ่ะ หันไปดิเน่า” พอมันหันมามันก็เอามือกุมเป้าน้อยๆของมันไว้ล่ะครับ แหมๆ โวยวาย
   “ผัวมองเมียมันผิดตรงไหนวะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันนี่อายม้วนเลย
   “ไอ้บ้า หันไปดิจะได้เปิดฝักบัว” อ่ะๆ ยอมวะเดี๋ยวไม่เป็นอันอาบน้ำกันพอดี มันก็ไปเปิดน้ำฝักบัวล่ะครับ
   “เอ๊ะ ไปเอาตั่งมาดีกว่า เอาขาพาดจะได้ไม่เปียก” มันบอกครับแล้วมันก็ไปเอาตั่งที่อยู่มุมห้องน้ำมาให้ผมพาดขา ตั่งมันเตี้ยอ่ะนะยังไงๆมันก็ต้องไหลลงอยู่ดีล่ะวะมึง คิดอะไรเนี่ย แต่เอาเถอะผมมองข้ามเรื่องหยุมหยิมครับ ตอนนี้สนใจแต่ก้นมัน ทำยังไงวะผมจะให้มันมานั่งทับผมได้ ช่วยคิดหน่อยดิ
   “มึงเอานิ้วอะไรถูหลังกูเนี่ย จั๊กจี๋นะเว้ย” ผมพูดขึ้นล่ะครับตอนที่มันเอาตัวมาแนบหลังผม คือมันไม่ยอมมาข้างหน้าเลยนะ มันรีบราดตัวผมให้เปียกแล้วทาสบู่เหลวที่หลัง
   “บ้าเหรอ นิ้วไรอ่ะ อ่า ไอ้เน่า” มันตีหลังผมทันที
   “ไรวะ ถูแต่หลังแล้วข้างหน้าล่ะ” “ไรอ่ะ มือไม่ได้เจ็บนะ ช่วยๆกันดิ จะได้เสร็จไวไว” จิ๊
   “อ้าว มึงมาถูข้างหน้ากูจะได้ถูให้มึงด้วยไง จะได้เสร็จไวไวไง” “ไม่เอาอ่ะ เราถูเอง”
   “จะมาไม่มา” “ไม่มา อาบๆเร็ว อย่าพูดมาก” “โอ๊ย เจ็บ” อันนี้แหกปากนะครับ ดังมากๆ
   “อ่า ร้องไมอ่ะเน่า” “มีไรลูก ล้มเหรอ เจ็บไหม อุ่นๆ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันกัดฟัน
   “ไม่มีไรอ่ะพ่อ” มันร้องตอบพ่อมันออกไปครับแต่มือนี่ตีผมใหญ่เลยนะ
   “จะมาไม่มา ไม่มากูล้มลงจริงๆด้วยนะเว้ย” ผมขู่มันครับ มันทำหน้าแบบว่าโมโหสุดๆ แต่กูสนที่ไหน
   “ขี้โกงนะเน่า นิสัยไม่ดี” “จ้า เร็วดิ เร็วเลยๆ” ผมยักคิ้วต่อครับ มันค่อยๆเดินมาหน้าผม
   “ปิดไมอ่ะ ปิดแล้วมึงจะเอามือที่ไหนถูให้กูวะ” ผมอมยิ้มครับ มันกุมเป้ามันอยู่เลยนะ
   “จิ๊ เรื่องเยอะจริงเชียว” อ้าวๆ มันทำไงรู้ไหมครับ มันเอาตัวมันมาแนบกับอกผมเลยนะ แหมๆ แอบมีอารมณ์นะมึง กูนึกว่านิ้วหัวแม่เท้ากูซะอีก ฮ่าๆ แต่ไม่เอาๆ ไม่แกล้งมันเรื่องนี้เดี๋ยวมันไม่ทำให้ผม พอมันเอาตัวมาแนบอกผม ผมก็กอดก้นมันทันทีดิ
   “อ๊ะ” “มึงมาเองนะ อันนี้กูไม่ได้บอก” “ไม่เอาอ่ะ อย่า” คือผมเอาสบู่ล้วงก้นมันล่ะครับลูบๆถูๆ มันนุ่มมือจริงๆนะเนื้อตัวมัน คือลูกชายจะระเบิดแล้วกู
   “ไอ้เน่า” มันดันตัวออกครับแล้วนั่งลง อ้าว ไอ้นี่ พอนั่งหน้ามันก็ตรงเป้าพอดีดิ ฮ่าๆ พอล่ะๆ ไม่เล่าดูจะลามกไปแล้วกู สรุปว่ากว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ตัวเหี่ยวเหมือนเคยและที่แย่คือกูก็ค้างเหมือนเดิม เซ็งโว้ย
   “นั่งนิ่งๆได้ป่ะ จะได้เช็ดตัว ไรไม่รู้อ่ะ เจ็บเท้าแต่ให้ทำให้ทุกอย่างเลยนะ เดี๋ยวก็พิการหรอก” มันบ่นครับ
   “ทำให้กูหน่อยเถอะ มึงไม่อยากทำเหรอ” ผมพูดเสียงนิ่งๆครับ มันเงียบไป จากที่ขยี้หัวกูอยู่ก็เบามือลงมาก
   “ขอโทษ” อ้าว ดราม่าอีกล่ะสัด
   “โทษไรวะ” ผมจับมือมันแล้วดึงมือมันลง มองหน้ามันล่ะครับ
   “เราอยากทำ แต่เราบ่นไปงั้นล่ะ” มันบอกครับ “ฮ่าๆ สัด อยากทำก็ไม่ต้องบ่นดิวะ กูชอบให้มึงทำ ไม่ใช่คนอื่น” มันยิ้มครับ เว้ย ตอนยิ้มก็นะทำกูยิ้มตามเลยนะ มันเช็ดตัวให้ผมจนแห้งล่ะครับแล้วทาแป้งทั่วตัว ช่วยผมใส่กางเกง แล้วผมก็ไปนอนบนเตียงนอนรอให้มันมาทาครีมให้ คือว่ากูติดไปแล้วอ่ะนะ มันสบายจะตายเวลามันจับหน้า
   “ไปไหนวะ” พอมันทำให้ผมเสร็จมันก็ลุกไปล่ะครับ
   “ทำการบ้านดิ ของเน่าไม่มีการบ้านเหรอ ดูท่ารำด้วยอ่ะ”
   “การบ้านเดี๋ยวกูทำให้ ไหนมึงจะรำเพลงไร” ผมลุกขึ้นมาล่ะครับ
   “ไม่รู้อ่ะ แต่วันนี้จอยบอกว่าจะรำเพลงนี้” มันเดินไปเปิดคอมฯล่ะครับรอสักพักมันก็เปิดยูทูป
   “อันนี้น้องผู้หญิงรำ แล้วก็ฟ้อนภูไทจอยกับน้องจะรำ แล้วก็สุดท้ายว่าจะเซิ้งกะติ๊บ”
   “อืม ชุดสุดท้ายก็ผู้ชายถือสวิงผู้หญิงถือตะข้องไม่เท่กว่าเหรอวะ เหมือนตอนที่เราไปจับเขียดกันไง” ผมเสนอครับไม่ได้คิดอะไรนะแค่รู้สึกว่ามันควรจะทำแบบนั้นดีกว่า
   “อ่า จริงสินะ เก่งนะเนี่ย” “อ๊ะแน่นอน กูเป็นใครล่ะ” “อ่านะ แล้วเลือกเพลงช่วยหน่อยดิเน่า เพลงสุดท้ายอ่ะ”
   “ไม่รู้เว้ย กูไม่ฟังหมอลำ” แหะๆ หลอกมันครับ
   “อ้าวเหรอ อืม งั้นค่อยๆดูก่อนก็ได้ เน่าทำการบ้านดิ เราจะดู” “สัด สบายเลยนะมึง เออๆ” ผมยอมมันครับแล้วมันก็หน้าตาระรื่นเลยนะไปเอาสมุดกับหนังสือมายื่นให้ผม ฟิสิกส์ คณิตฯ ภาษาไทย สามวิชา กูใช้เวลาทำไม่ถึง ๒๐ นาทีครับ
   “อ้าว เสร็จแล้วเหรอ ไวจังอ่ะ” มันตกใจครับตอนที่ผมปิดสมุดหนังสือ เรานั่งข้างกันที่โต๊ะคอมฯนั่นล่ะครับ
   “มึงดูถึงไหนแล้ววะ ไปนอนเถอะ” ผมเลื่อนเก้าอี้ไปติดมันล่ะครับแล้วก็กอดเอวมัน
   “ยังไม่ถึงไหนเลยอ่ะเน่า” “ไหน มานี่” ผมอยากให้มันไปนอนไวไวล่ะครับ
   “เพลงนี้ล่ะ” ผมพิมพ์เพลงของ เดือนเพ็ญ อำนวยพรให้มันฟังล่ะครับ พื้นเมืองอีสาน คือชื่อเพลง
   “อ่า เพราะดีๆ ชอบๆ เอาอันนี้ล่ะ แต่จังหวะมันช้าไปไหมอ่ะเน่า”
   “อ้าว ชุดแรกมึงก็เลือกให้มันเร็วๆสิวะ จินตหรานั่นก็ดีแล้ว สองเพลงพอ ฟ้อนรำอะไรนาน ไหนจะฟ้อนภูไทอะไรนั่นอีก เยิ้มเลยนะนั่น” “อ้อ อ้าว ไหนบอกไม่ฟังหมอลำอ่ะเน่า” มันหันมาครับ ผมก็ยักคิ้วให้มัน
   “ไปนอนกอดกันได้แล้ว เอาหมอนมารองเท้าให้กูด้วยนะ” ผมลุกไปแล้วครับ พอนอนบนเตียงเสียงมันปิดคอมฯก็ดังตามมา ผมอมยิ้มเลยนะ มันก็ว่าง่ายเหมือนกันนะเนี่ย
   “ยังเจ็บอยู่ป่าว” มันถามครับหลังจากเอาหมอนมารองเท้าให้ผม
   “เจ็บดิ เริ่มปวดล่ะ” ที่จริงมันปวดนานแล้วล่ะ เหมือนมันจะบวมเลยนะรู้สึกอึดอัดแน่นเท้าไปหมด
   “เรากลัวเราจะโดนมันจังอ่ะ” “ไม่โดนหรอกน่า กูนอนถ่างขาขนาดนี้” ผมบอกมันล่ะครับแล้วก็กอดมัน ลำบากหน่อยแต่ก็ดีกว่านอนคนเดียวล่ะวะติดมันแล้วนี่ทำไงได้
   “เน่าๆ เจ็บเหรอ” ผมรู้สึกตัวตื่นก็เพราะมันแปลบๆที่ข้อเท้าล่ะครับ
   “อือ เจ็บว่ะ” มันปวดมากเลยนะครับเหมือนว่ายามันจะหมดฤทธิ์แล้วเถอะ นอนไม่หลับเลย
   “กินยานะ เดี๋ยวไปเอาให้” ไอ้เบบี๋มันก็ตื่นมาล่ะครับเพราะผมขยับตัว มันลุกเปิดไฟหัวเตียงแล้วไปเอายาที่วางไว้ที่โต๊ะอ่านหนังสือนั่นล่ะ ผมก็กินไม่ได้รู้สึกทุเลาลงหรอกนะคงต้องสักพัก
   “แม่งปวดว่ะ” ผมบ่นออกมา
   “ทำไงดีอ่ะ อดทนเอานะเน่ามันคงจะบวมอ่ะ” ไอ้เบบี๋เหมือนมันก็กังวลอยู่ล่ะครับหน้าตามันดูวิตกๆ ผมก็พยักหน้าแล้วก็ชวนมันนอนใหม่
   “มาเอากันไหมจะได้หายปวด” ผมแหย่มันล่ะครับ ผมไม่ได้ลามกหรือว่าหื่นนะเว้ย ก็ทำไงได้ตื่นมาไอ้ลูกชายมันก็ปั๋งอยู่แบบนี้
   “มันจะช่วยได้เหรอ” “ลองดิ” ไอ้เบบี๋เหมือนมันคิดอยู่พักหนึ่งล่ะครับ เหมือนมันจะยอมเลยนะ เสร็จกูล่ะ
   “ให้เราช่วยเฉยๆได้ป่าว” “อืม ช่วยก็ได้” ยังไงก็ได้วะตอนนี้ เอ๊ะ หรือว่าที่มันปวดเพราะมันไม่ได้ระบายหรือเปล่า เออเนอะ น่าจะใช่ ไอ้เบบี๋มันขยับตัวเข้ามาล่ะครับ ท่าทางยังสั่นๆอยู่ มันปิดไฟหัวเตียงแล้วจับที่ขอบกางเกงของผม
   “มานี่ก่อนดิ” คือมันจะก้มหน้าลงเลยอ่ะนะ ไม่ได้ดิมันไม่โรแมนติกเว้ย อิอิ
   “ไรอ่ะ” “ดูดปากกันก่อนดิ ไรวะมึงจะกินของกูเลยเหรอ” มันอายครับ แม้จะมืดผมก็พอรู้ว่ามันอาย
   “เพราะขาเจ็บหรอกนะถึงยอมเนี่ย” มันบ่น มีบ่นๆ อิอิ ดีจังวะที่กูขาเจ็บนี่ถ้ากูขอมันมากกว่านี้ก็คงได้แน่ๆ ฮ่าๆ
   “เออน่า” ผมดึงตัวมันขึ้นมาล่ะครับ มันก็ยอมแต่ก่อนจูบมันผมก็จับหน้ามันไว้จ้องตามันสักพัก ตอนแรกมันหลบตาครับแต่เอาไปเอามามันก็ยอมจ้องตอบ
   “มึงรู้ไหม กูรักมึงนะ” ไม่ได้ลิเกนะจะบอก แต่รู้สึกจริงๆ มันดูแลผมผมอยากดูแลมันแบบนี้เขาไม่เรียกว่ารักแล้วจะเรียกอะไรวะ จริงไหม
   “อืม” มันจะก้มหน้าลงครับ ผมเลยกดหัวมันเข้ามา เราก็ปล่อยมันไปตามเพลงล่ะนะ มือไม้ผมก็ไม่อยู่นิ่งๆลูบล้วงไปตามประสา ก็มือไม่ได้เจ็บนี่หว่า ผมดึงตัวมันให้มานั่งทับผมล่ะครับแล้วจับก้นมันให้ถูลูกชายผม มันนุ่มนะนุ่มมาก นุ่มจนใจจะขาดตาย ผมอยากทำอะไรมากกว่านี้ล่ะแต่ยังไม่ถึงเวลา ไม่รู้สิ ผมว่าผมเชื่อมันนะและเรื่องนี้ผมก็ยอมตามใจมัน จากที่เราดูดปากกันบางเบาเริ่มเป็นหนักหน่วงขึ้นลิ้นสอดพันกันไอ้เบบี๋เองมันก็คงรู้สึกเหมือนผม ผมจับก้นมันบี้กับลูกชายผมหนักขึ้นแน่นขึ้นถี่ขึ้นมันเองก็เหมือนจะช่วย จน
   “อ๊ะ” “เชี่ย ฮ่า” เวรล่ะ กูปล่อยกระสุนแล้วเว้ย อะไรวะ แต่ก็นะมันทนไม่ไหวนี่หว่า ผมเห็นว่าไอ้เบบี๋มันก็คงจะอึดอัดล่ะครับถ้ามันไม่เสร็จผมเลยกดเอวมันให้ถูกับหน้าท้องของผม โอ้ย มันแอ่นก้น คิดภาพออกไหมเนี่ย คือมันก็คงอยากจะถึงฝั่งอ่ะนะมันเลยแอ่นก้นมันเพื่อให้นิ้วหัวแม่เท้ามันถูกับท้องของผม ตอนมันแอ่นก้นเนี่ย ผงกอีกครั้งครับ มันแบบว่า ซี๊ดมาก ผมจับก้นมันถูไปมาไม่นานมันก็เกร็งตัว คือเราก็ยังคงจูบกันอยู่ล่ะครับ
   “น้ำท่วมหน้าท้องกูป่ะเนี่ย” ผมแซวมันครับ
   “อ่า บ้าเหรอ ของเน่านั่นล่ะเต็มก้นเราเลยอ่ะ” มันอายครับเรายังคงอยู่ในท่านั้นแต่ว่าผ่อนคลายมากขึ้น มันนอนทับตัวผมแบบทิ้งตัวลงมาเลย ผมเองก็กอดมันอยู่
   “ก็เก็บไว้นานนี่หว่า ขี้เกียจไปล้างว่ะ” “งั้นเช็ดเอา” มันบอกครับแล้วจะลุกไปเอากระดาษมาเช็ด
   “เดี๋ยวดิ อยู่แบบนี้ก่อนได้ไหมวะ” ผมรู้สึกอยากกอดมันครับ แปลกนะแต่ก่อนมีอะไรกับใครพอเสร็จอย่ามาแตะตัวกูเชียวนะมึงมีเตะ แต่กับมันไมได้สอดใส่กัน ไมได้ทำอะไรมากมายเลยนะแต่ผมกับรู้สึกว่ามันรู้สึกดีจริงๆ
   “เดี๋ยวมันก็แห้งหรอกเน่า” “เออน่า กอดก่อน” ผมบอกมันล่ะครับแล้วหอมตามซอกคอมัน แก้มมัน
   “แบบนี้ก็เสียวดีนะ กูชอบ” ผมยักคิ้วให้มันตอนจับหน้ามันมาดูล่ะครับ
   “อ่านะ” “เราทำกันบ่อยๆนะเบบี๋” “ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวนายจะเบื่อ” มันบอกครับ
   “เบื่อเชี่ยไร ไม่เบื่อหรอกน่า” มันไม่ตอบครับแล้วลุกไปเอากระดาษมาเช็ด เปลี่ยนกางเกงให้กูด้วยนะ ทั้งที่กูยังคงนอนแผ่อยู่ท่าเดิม ฮ่าๆ มันสบายจริงๆให้ตายเถอะ ไอ้เบบี๋มันไปล้างตัวล่ะครับแล้วกลับเข้ามาพร้อมกับผ้าชุบน้ำ
   “มันเหมือนจะแห้งอ่ะเน่า” มันบอกครับแล้วเช็ดตามง่ามขาผม หน้าท้อง ไม่อยากจะบอกว่ามันตื่นอีกแล้วเถอะ ฮ่าๆ เอ๊ะ นี่กูลามกไปไหมเนี่ย ไม่หรอกนะ รู้น่าว่าหลายคนก็อยากรู้ อิอิ จริงป่ะล่ะ

Written by eiky
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 18-07-2012 18:39:14
 :-[ อิจฉาอร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 18-07-2012 18:55:48


กิ้วววว ฮิ้ววววว พัฒนาไปอีกขั้น รอบหน้าพาฟินมั๊ยเนี่ย  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 18-07-2012 19:01:27
อ๊อยยยย น่ารักอีกแล้วคู่นี้ อีกไม่นานอุ่นเสร็จแน่ ๆ 5555555555555 (:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 18-07-2012 19:07:51
 :o8: :-[ :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 18-07-2012 19:51:01
น้องอุ่นเป็นศรีภรรยาได้ดีมาก

ส่วนบักเดี๋ยว ตอนนี้ น่ารักมากกกกกกกก


สรุป ตอนนี้ ขนาดไม่ อะจึกๆๆกัน  บรรยากาศมันยังออกแบบโรแมนติกจังเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 18-07-2012 19:58:14
ชอบเดี่ยวอ่ะ เป็นคนตรงดีคิดพูดงั้น เราชอบ
อุ่นก็น่ารัก ดูแลสามี
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 18-07-2012 20:10:50
กรี้ดดดดดดดด กรี้ดดดดดดดดดดด กรี้ดดดดดดด สามคำเท่านั้นสำหรับตอนนี้ :haun4: :pighaun: :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 18-07-2012 20:38:28
 :impress2: :impress2: :impress2: :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 18-07-2012 21:13:07
พัฒนาการขึ้นน่ะนี่ :L2:+1
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-07-2012 21:25:44
น่าร้าก.... น่าอิจฉา...อยากกินน้ำพริกแมงดานาด้วย...น้ำลายไหล 555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 18-07-2012 21:30:49
ศรีภรรยากำลังปรนนิบัติ สามี กิ้ว ๆๆๆ   :o8:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-07-2012 22:08:24
โอยยยย ใจจะขาด!!!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 18-07-2012 22:17:01
ทั้งบนเตียงทั้งในห้องน้ำ โว้ววว
เดี๋ยวเอ๊ยยเีนียนรุกเข้าไป ฮ่าๆๆ ซับเลือดเบาๆ น่ารักอ่าา
งุ๊งงิ๊งกันแบบนี้ฮ่าๆ อ่านไปยิ้มไป แค่นี้ก็ได้ก็มีความสุขกันดีใช่ป่ะทั้งสองคน ฮ่าๆ
คืบหน้าไปอีกนิดแล้ววว ลุ้นนต่อไป อิอิ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 18-07-2012 23:10:51
คู่นี้ เมื่อรัยจะได้กันซ่ะที  5555+   ลุ้นตั้งนาน

แต่แบบนี้ก้อดีแร้ง เดี๋ยวมันจะได้เห็น น้องอุ่นมีค่า  ^^ :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 19-07-2012 01:42:53
ขนาดภายนอกกันนนะ  :haun4:  :haun4: ชอบมากจ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 19-07-2012 07:45:43
เดี้ยงแล้วหื่นกว่าเดิมอีกนะ เดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-07-2012 09:19:46
นู๋อุ่นดูแลดี
อย่างนี้เดี๋ยว
จะไปไหนรอด :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-07-2012 09:34:06
มีแฟนน่ารักคอยดูแลอย่างดีใครจะอดใจไหว ใช่ไหมเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 19-07-2012 11:30:17
เข้าทางเดี๋ยวเลยนะนี่ ไอเจ็บขานี่
นู๋อุ่นไม่เสร็จคราวนี้จะเสร็จคราวไหน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 19-07-2012 16:05:28
หวานมากๆๆๆๆ เดี๋ยวและอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 19-07-2012 16:22:42
บักเดี๋ยวมันน่ารักขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 19-07-2012 20:31:48
เจ้าเดี๋ยวเนี่ยมารยาเยอะเหมือนกันนะ...คุณพ่อตาก็เป็นใจซะ...
ว่าแต่ยาหมอคงไม่แรงพอ...เจ้าเดี๋ยวไม่มีง่วงซึมมีแต่คึก..
ตกหนักนู๋อุ่นอีกล่ะ...น่าสงสารเด็กน้อยเสียจริงจริ๊งงงง.... o18

 :L1: น้องอิ๊ก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 21 Version (Dio) 18 July 12 หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 21-07-2012 06:02:41
  :z1:  เจ็บตัวคราวน้ีมีลุ้นนะเด๋ียว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-07-2012 10:12:18
Don’t call Me BaBy!!

นี่ผมผิดสัญญากับตัวเองหรือไงนะ ทำไมยอมทำแบบนั้นอ่ะ แต่ก็นะจะมาโวยวายเพื่อตอนทำนี่ล่องลอยเคลิ้มเชียวนะอุรดิศ แต่ว่าที่จริงแค่นี้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นะ มันไม่ได้แหย่อะไรเข้ามาซะหน่อย แต่ถ้าหากมันแหย่เข้ามาจริงๆผมคงตายแน่ๆ จะเชื่อไหมว่าไอ้นั่นมันแบบว่า เอ่อ มันใหญ่มากอ่ะครับ ไม่อยากเทียบกับของผมเลยเหมือนของเด็กกับผู้ใหญ่ แว้กก
   “แล้วจะไปโรงเรียนยังไงอ่ะพ่อ” พอตื่นเช้ากว่าที่เราจะแต่งตัวเสร็จก็นานมากล่ะครับเกือบจะ ๗ โมงอยู่แล้วนะ แต่ตอนเช้าดีหน่อยที่มันอาบน้ำเองไม่รู้อาบจริงหรือเปล่านะเร็วมาก ส่วนผมก็กังวลเพราะมันเจ็บขาอยู่แบบนี้จะขับรถเครื่องยังไงไหนจะไอ้ไม้ค้ำนั่นอีก
   “เอารถพ่อไปสิลูก เดี๋ยวพ่อเอารถเครื่องลูกเดี๋ยวไปทำงานเอง” พ่อผมบอกครับ
   “พ่อขับเป็นเหรอ” “อ้าว เป็นสิลูก แต่ก่อนพ่อเคยขับตอนเป็นหนุ่มๆ” “ปลัดเคยแว้นเหรอครับ ฮ่าๆ” ไอ้เน่ามันแซวครับ เพิ่งเคยเห็นคนแซวพ่อผมก็มันนี่ล่ะครับ
   “น่าจะเรียกอย่างนั้นนะ แต่สมัยก่อนไม่มีคำนี้ สมัยก่อนพ่อก็ไม่เบาล่ะลูก”
   “โหย จริงดิครับปลัด แล้วไปแว้นกันที่ไหนครับ” ไอ้เน่ามันสนใจครับ แต่ผมอ้าปากเพราะไม่เคยรู้เถอะ เคยรู้จากย่า เอ่อ ไม่อยากเล่าครับ ช่างเถอะ
   “สมัยนั้นไปที่แถวๆสะพานซั้งฮี้น่ะลูก ระแวกสะพานนั่นล่ะ แข่งกันธรมดาไม่ได้ไปขับรถกีดกันถนนเขา”
   “ไปโรงเรียนเถอะเน่าเดี๋ยวจะสาย ต้องไปคุยกับจอยเรื่องรำอีกนะ” ผมตัดบทล่ะครับ กินข้าวเสร็จแทนที่จะรีบกันนะแต่ท่าทางจะอ้าปากโม้กันยาวเลยล่ะ
   “เดี๋ยวตอนเย็นผมมาถามใหม่นะครับ ผมอยากรู้” อ่านะ มีงี้ด้วย
   “น่าจะขับได้ล่ะ รถพ่อออโต้ ไม่ได้ใช้เท้าซ้าย” พ่อผมเดินมาส่งเราที่รถล่ะครับ ผมก็พยุงมันขึ้นไปนั่งก่อนแล้วเอาไม้ค้ำมาเก็บที่ห้องผู้โดยสารส่วนผมก็ไปนั่งข้างๆมัน
   “เอ้ย เบาๆหน่อยดิเน่า” แหมนะ ทำตัวซ่าอยู่ได้นี่ขนาดมันขาเจ็บนะครับ มันเล่นเหยียบแบบไม่เกรงใจใคร
   “ฮ่าๆ โก้เป็นบ้าเลยว่ะขับเก๋งไปโรงเรียน” อ่านะ
   “ไม่เจ็บแล้วเหรอ” ผมเห็นมันอารมณ์ดีล่ะครับเลยถาม
   “เจ็บดิ ตอนกลางคืนคงจะปวดอีกล่ะ” มันหันมายักคิ้วให้ผมครับ แปลว่าอะไรวะเนี่ย
   “ไรอ่ะ” “ก็ปวดมากๆต้องช่วยไง เหมือนเมื่อคืน” อ่า ไอ้บ้า กูว่าแล้วเชียว อายสิครับท่าน แหมนะ
   “อย่ามาล้อนะ” “ล้อไร ก็มึงเหมือนยาไง เวลากูเจ็บมึงก็ต้องรักษา” อึ้ก ลิเกหมอลำซิ่งมากๆ แต่ทำไมผมรู้สึกเสียดเข้าไปถึงใจเลยอ่ะ มันดีใจ มันปลื้มใจมากเหลือเกินล่ะครับ แต่เก็บอาการหน่อยนะอุรดิศ อย่าหน้าแดงให้มันมากนัก ผมอายอยู่ไม่นานก็ถึงโรงเรียนล่ะครับ
   “ป้าดโธ้ ขับเก๋งมาเฮียนเฮ้ยสู” พอเราจอดรถ คือว่าไปจอดที่จอดข้างๆตึก ๓ ล่ะครับ ตอนเข้าโรงเรียนไอ้เน่ามันลดกระจกลงตอนเห็นนายเคนกับนายไม้ สองคนนี่มันจึงตามมาครับ
   “หวัดดี เคน ไม้ ช่วยเราหน่อยดิ” คือผมลงรถมาก่อนล่ะครับ รีบเอาไม้ค้ำมาจะไปพยุงไอ้เน่า สองคนมันทำหน้าตกใจ คงคิดว่าผมจะแบกไม้ไปตีใครแน่ๆ
   “อ้าว เป็นหยังล่ะเนี่ยคือมีเฝือกดามขาบักเดี๋ยว” นายเคนถามขึ้นครับ
   “ตกต้นชมพู่” ผมตอบแทนครับ
   “ฮ่าๆๆ” อ้าว มันสองคนหัวเราะเสียงดังมากครับ
   “หัวหยังซุมห่านี่ เดี๋ยวกูสิเอาไม้ฟาดเอาซะน้อ” ไอ้เน่ามันกระเตงออกมาจากรถล่ะครับ รับไม้ค้ำไปจากผมแล้วทำเสียงดุใส่เพื่อนๆ
   “ขาหักติ๊” นายไม้ถามครับ
   “บ่หัก เส้นพลิกเฉยๆ” ผมตอบแทนครับ
   “อ้อ คือสิบ่โดนดอกกะเซา” เราจะช่วยกันพยุงไอ้เน่าไปรอเพื่อนที่โรงอาหารล่ะครับแต่มันไม่ให้ใครจับ ยกเว้นผมคนเดียว อ้าวกูก็เหนื่อยนะมึงไหนจะกระเป๋าเรียนอีก พอไปถึงโรงอาหารเพื่อนๆมาครบก็แซวกันสนุกสนานล่ะครับ ผมก็อดห่วงมันไมได้นะพอแยกจากกันแต่นายไม้อยู่ด้วยคงไม่เป็นไรมากหรอก
   “เฮาหัดฟ้อนเหมิดคืนเอาโลด ตื่นเต้นแฮง อิอิ ได้มาหลายท่าเด้อุ่น” จอยบอกล่ะครับ
   “เหรอๆ ท่าไหนบ้างอ่ะจอย” ผมอยากรู้ครับเพราะเมื่อคืนไมได้อะไรเลย เว้นแต่ อิอิ
   “จั่งซี้ๆ” จอยมันก็รำเลยครับ ผมเองก็ดู
   “แต่ต้องขอบใจน้องๆที่มาช่วยล่ะ น้องโจ้ด้วย” ผมเอ่ยไปถึงน้องๆที่มาเมื่อวานล่ะครับ
   “แม่น บ่น่าเซื่อว่าบักโจ้มันสิซวนหมู่มาได้หลายปานนี้”
   “ว้าย อุ่น เราโทษทีนะคือเมื่อวานมีบิสสิเนสนิดหน่อย เลยไม่ได้ไป” เสียงสาวตุ๊กกี้ดังขึ้นล่ะครับ เดินมากับสาวเพ็ญแสยะปากมาแต่ไกล
   “อ้อ ไม่เป็นไรหรอกรี่” ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้เธอครับ
   “เดี๋ยววันนี้เราจะไปนะ แต่น่าจะค่ำๆเพราะต้องไปซื้อหนังสือ อิอิ” แหมนะ พูดเฉยๆก็ได้นะทำไมต้องหันไปหัวเราะทำท่าแบบนั้นด้วยวะ
   “ได้อะไรตอบแทนไหมล่ะแก อีรี่ ไม่ใช่ไปรำฟรีๆนะยะ เสียเปรียบ” สาวเพ็ญพูดขึ้นครับ
   “โอ้ย อย่าค่าอย่า ขอบใจเด้ออีรี่ที่พยายามเฮ็ดคือสิมีน้ำใจ แต่บ่ต้องดอกค่า ได้คนพอแล้ว บ่ง้อ” จอยมันพูดขึ้นล่ะครับ มันคงทนมานาน
   “หา ไผ ได้ไปมาฟ้อน โอ้ย ฟ้อนฟรีๆอีหยังกะบ่ได้ฟ้อนไปโลดค่า บ่งึด” งงกับอีนี่ครับ ไหนจะภาษากลางภาษาถิ่นปนกันมั่วไปหมด
   “บ่แม่นธุระ แต่ไผล่ะว่าฟ้อนฟรีๆน่ะ ผอบ่บอกติ๊ว่าเพิ่นมีรางวัลให้ แล้วพ่อกะว่าสิให้อีหยังเกาะเนาะอุ่น” จอยมันหันมาหาผมล่ะครับ ผมเองก็รับมุขทันที
   “อ้อ เห็นพ่อบอกว่าจะให้ตังค์คนละกี่พันไม่รู้อ่ะ พ่อบอกจะไปขอสปอนเซอร์มาจากผู้ว่า แต่มันก็ไม่เยอะหรอกจอยหารแล้วน่าจะได้คนละสองสามพันเองล่ะ” ผมพูดครับ แต่สังเกตดูสีหน้าของสองคนนี้มันเปลี่ยนไปทันที
   “หา พันสองพันเลยเหรอ งั้น” “ไปเถอะจอย ขอบใจนะรี่” ผมตัดบทครับเพราะจากการดูท่าทางแล้วเอามาประมวลผลผมว่าเธอน่าจะพูดอะไร
   “เป็นตาซังเนาะ หวืยผู้ฮ้ายคือหยังมีหน้ามีเล่นโตอีก อีผีปอบเอ้ย” จอยครับ พูดแล้วก็หัวเราะ พอเข้าเรียนก็เรียนตามปกติล่ะครับ เรื่องที่ผมมีเรื่องกับอีสุชาติมันยังไม่ซานะ เพราะอีสุชาติมันไม่มาเรียนคงจะอีกนานล่ะครับเพราะแผลน่าจะยังไม่หาย แต่ถ้ามันมาก็ลำบากใจเหมือนกันนะที่ต้องเจอหน้ามัน แต่เอาเถอะผมจะอดทน
   “อุ่นๆ จารย์กัลยาเอิ้น” ไอ้เล็กมันเดินมาจากข้างน้องล่ะครับตอนเปลี่ยนคาบเหมือนจะออกไปคุยโทรศัพท์กับปู แหมๆ โทรหากันทุกคาบเลยนะสองคนนี้เวอร์มากๆ
   “อืม” ผมเดินออกจากห้องล่ะครับ
   “เฮาไปนำแน่ะ” จอยมันวิ่งตามมาครับ อาจารย์น่าจะคุยเรื่องการแสดงล่ะผมว่านะ
   “สวัสดีครับจารย์” ผมเดินเข้าไปในห้องศิลปะล่ะครับ
   “อ้าว อุรดิศ เข้ามาเลยจ๊ะ”
   “เรื่องการแสดงน่ะ เป็นไงบ้าง มีอะไรให้ครูช่วยไหม”
   “อ้อ ครับ ตอนนี้ก็ซ้อมๆอยู่ครับ” ผมบอกแกไปครับ เล่าว่าผมจะเตรียมอะไรไปแสดงบ้าง แกก็ยินดีด้วย
   “เอางี้ ครูจะติดต่อจารย์สมพงษ์เรื่องเครื่องเสียงกับเวทีให้ ถ้าขาดเหลืออะไรก็มาบอกนะจ๊ะ แล้วท่ารำล่ะ ใครคิด”
   “เอ่อ เราคิดเองครับ ดูจากยูทูปแล้วก็คิดผสมๆกันเอา” ผมตอบอายๆล่ะครับ ที่จริงผมไม่ได้คิดเลยเถอะมีแต่พี่ต้อยกับจอยที่ช่วยกันคิด
   “อืม เก่งๆ ครูเป็นกำลังใจให้นะ อยากให้ครูช่วยอะไรก็มาหาได้เลย ช่วงนี้ครูก็ยุ่งๆเรื่องจะแข่งกีฬาสี กับขบวนนางรำต้อนรับผ้าป้า พอดีผอเขามอบหมายให้ครูจัดการแสดงพิธีเปิด ครูเองก็ปวดหัวอยู่เนี่ย” ท่าทางอาจารย์แกใจดีนะครับ ตัวเล็กๆผิวออกเหลืองๆหน้าตายิ้มแย้มไม่บึ้งตึงเหมือนเอ่อ อาจารย์สอนฟิสิกส์เลยนะ
   “ซั่นหนูขอห้องซ้อมได้บ่ค่าจารย์” จอยมันพูดขึ้นล่ะครับ เออนะ จริงสิ
   “ได้สิจ๊ะ ก็มาซ้อมช่วงไม่มีคาบเรียนก็แล้วกัน ห้องนี้” อาจารย์แกชี้ไปยังห้องโถงธรรมดานี่ล่ะครับ มีเก้าอี้วางอยู่เต็มเหมือนเป็นห้องสอนศิลปะนั่นล่ะ
   “แต่ห้องนี้จะว่างช่วงเที่ยงกับบ่ายสามไปแล้วนะ ถ้าจะมาซ้อมเราก็ต้องดูเวลาดีๆ” คุยกันพอสมควรพวกเราก็เดินออกมาล่ะครับ รู้สึกดีนะที่อาจารย์เป็นเหมือนกำลังใจให้ ผมไมได้หวังให้แกมาทำอะไรให้ทุกอย่างแต่แค่แกพูดว่ามีอะไรขาดเหลือก็มาหาแกนี่กินใจผมมากแล้วล่ะครับ
   “จารย์น่ารักเนอะจอย” ผมพูดขึ้นตอนแวะไปสหกรณ์ล่ะครับ
   “แม่นๆ เพิ่นจบนาฏศิลป์มาตั้ว ฟ้อนง้ามงาม” ผมพยักหน้าครับ เราไปซื้อไอติมแท่งมากินกันสองคน ว่าไปนะจอยมันเห่อกว่าผมอีก เวลาเดินมันยังคิดท่ารำเลยนะ ฮ่าๆ
   “อ้าว มีห้องเดียว สิซ้อมซุดได๋ก่อนล่ะอุ่น” พอเลิกเรียนเราก็นัดเจอกันที่ห้องศิลปะล่ะครับ น้องๆมาครบ คือตอนเที่ยงซ้อมไปได้หน่อยเดียวเพราะมัวแต่เล่นกันล่ะครับเลยไม่คืบหน้าเท่าไหร่
   “เอางี้ดิ ชุดแรกกับชุดสุดท้ายไปซ้อมที่บ้านเรา จอยกับน้องๆซ้อมภูไทที่นี่นะ เสร็จแล้วไปเจอกันที่บ้านเรา เดี๋ยวให้พี่ต้อยทำขนมไว้รอ” ผมเสนอล่ะครับน้องๆเฮกันทันที
   “มีใครไมได้เอารถมาไหม” ผมถามน้องๆครับ
   “ผมๆ” “หนูค่า หนู” เอ่อ แล้วรถเครื่องที่จอดอยู่นั่นอะไรวะเนี่ย
   “หวืย โพดหลายสู อยากนั่งรถเก๋งเด้เนาะ” น้องคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ แย่งกันไปกันมาจนไอ้เน่ามันเดินมากับนายไม้ เสียงเลยเงียบลงทันที
   “อีหยังสู ซ้อนท้ายกันไปบ่เป็นติ๊ บักเต้ น้องแตง น้องฝน สามคนนี้ล่ะไปขึ้นรถ” เอ่อ เจ้าของรถมาแล้วครับ เสียงกรี๊ดดังขึ้นทันที มีการโห่ฮากันไม่ยอม พูดอย่างนั้นอย่างนี้ ไอ้เน่ามันหันมาทำตาดุถึงได้เงียบ ไอ้คนที่ได้ไปก็ทำหน้าทำตาทะเล้นใส่เพื่อนล่ะครับ
   “เย็นซ่ำบายหลายอ้าย” น้องแตงพูดครับ
   “หอมเนาะ ห๊อมหอม” สามคนนั่งอยู่ท้ายล่ะครับถือไม้ค้ำให้ผมด้วย ส่วนผมก็นั่งที่เดิม นายไม้ไปกับนายเคน ส่วนน้องๆที่เหลือก็ตามไปที่บ้าน ส่วนที่เหลือในโรงเรียนก็รำกันไป พอไปถึงบ้านพี่ต้อยก็รออยู่แล้วครับ วันนี้แกทำวุ้นน้ำเขียวน้ำแดง แต่ขอโทษนะคร้าบผงวุ้นน่ะเอามาจากญี่ปุ่นนะ เพราะเก็บมาจากที่บ้านเก่า แล้วแกก็นึ่งลูกชิ้นไว้ด้วยครับถือว่าเป็นของตอบแทนน้องๆที่มีน้ำใจสำหรับวันนี้
   “มาค่ามา” พี่ต้อยแกเตรียมสถานที่ไว้แล้วครับ คือซ้อมกันใต้ถุนบ้านนี่ล่ะ แกจัดเก้าอี้หวายเสียใหม่ ชุดแรกก็เป็นน้องผู้หญิงห้าคนรำใส่เพลงจินตหราล่ะครับสองเพลง รักสลายดอกฝ้ายบาน กับรอพี่ที่มออีแดง จังหวะมันเหมือนๆกันล่ะผมว่านะแค่เสียงร้องและความหมายไม่เหมือน หรือเปล่าฟังไม่ค่อยออกหรอก
   “บ่ได้ค่าบ่ได้ มืออีหยังมาแข็งแท้อีหล่า” พี่ต้อยแกเคี่ยวหนักเลยครับ
   “ว้าย บ่ดีดเลย เอาดีดๆ จั่งซี้ๆ” เอ่อ ดีดน่าจะแปลว่าทำให้มันอ่อนๆแรงๆ
   “ว้าย เอื้อย มันบ่กระแตโพดบ่ค่า” น้องคนหนึ่งทนไม่ไหวครับ เพราะพี่ต้อยแกจี้มาก คนไหนท่าไม่ทัน หรือมือไม้ไม่ออน เอวไม่ส่ายแกกรีดร้องขึ้นทันที
   “บ่กระแตดอก ฟังเอื้อยเด้อค่า คันพวกโตสิไปฟ้อน แล้วฟ้อนพอให้มันแล้วๆไป ตาหลูโตนคนเบิ่งแน่ แล้วนี่กะบ่ได้เฮ็ดสู่มื้อ พวกโตใหย่ขึ้นมาเอาไปเว้าให้ลูกให้หลานฟังอย่างภาคภูมิใจ ตั้งใจเอาค่า เมื่อยกะทน” เอ่อ ดูแกเป็นจริงเป็นจังมากเลยนะครับ อ้อ ลืมบอก พวกผู้ชายก็ไปเตะตระกร้อรอพ่อผมล่ะครับ ส่วนไอ้เน่ามันนั่งอยู่กับผมดูน้องๆซ้อมอยู่ แต่มันไม่ได้สนใจเลยนะมองแต่หน้าผมอยู่นั่นล่ะ
   “พากูไปบนห้องหน่อยดิ” มันกระซิบบอกครับ
   “หือ ไปทำไรอ่ะ” “กูจะไปเล่นเกม เซ็ง” “อ้าว อือๆ ป่ะ” คือก็น่าเห็นใจมันล่ะครับ ตระกร้อมันก็เตะไม่ได้ มาดูเขารำนี่มันก็คงจะไม่ชอบ ผมเลยพยุงมันขึ้นบ้านไปล่ะครับ
   “กอดหน่อยดิ” พอมันขึ้นเตียงได้ก็อ้าแขน
   “กอดไรอ่ะ เพื่อนรออยู่ข้างล่างนะเน่า”
   “ช่างมันดิ นี่ผัวนะ” อ้าว เกี่ยวไรเนี่ย อะไรของมัน
   “ไม่เอาอ่ะ คืนนี้ค่อยกอด เดี๋ยวเพื่อนแซว” ผมไม่สนใจล่ะครับ แต่เขินไหม มากอยู่นะ อิอิ
   “ไม่ได้ เร็วๆ กอดผัวหน่อย ผัวต้องการความอบอุ่น” ไอ้นี่ บทจะงอแงก็ว่าไปนะ ดิ้นด้วยนะท่าน อารมณ์เสีย ผมอมยิ้มล่ะครับ ไม่อยากจะบอกว่ามันน่ารักดีนะ อิอิ
   “อ่ะ แป๊บเดียวนะเน่า” ทนไม่ไหวหรอกนะ ผมเลยโน้มตัวลงไปกอดมันล่ะครับ มันก็กอดใหญ่เลยนะ
   “นั่นๆ กอดอย่างเดียว จะเบียดทำไมอ่ะ” มันทั้งกอดทั้งหอมล่ะครับ ผมดิ้นอยู่แป๊บเดียวก็ยอม เดี๋ยวนี้ใจง่ายไปไหมกู ไม่มีมาดเอาเสียเลยนะ
   “ไม่ต้องซ้อมเยอะ ผัวรอนะ” มันบอกล่ะครับหลังจากที่เดินออกมาจากห้อง พอลงไปข้างล่างเพื่อนๆน้องๆก็แซวไปตามระเบียบ ทำใจไว้แล้วเถอะเลยได้แต่ยิ้ม อาทิตย์ปลายเดือนไม่อยากบอกว่าเราซ้อมกันหนักมากเลยนะครับ ซ้อมแบบว่าเอาเป็นเอาตาย มีปัญหาอยู่บ้างก็ชุดสุดท้ายเพราะพวกผู้ชายมันรำแบบว่าแข็งมาก แข็งคือแบบว่าทื่อมากๆเลยอ่ะแต่ยังดีนะที่พวกมันยอมซ้อมให้ คือพวกผู้ชายนี่รวมผมนะครับ ฮ่าๆ แต่ว่าผมน่ะตัวเล็กสุดเลยล่ะ
   “บ่ได้ๆ อีหยังคือมือแข็งแท้ เอาใหม่ค่าอีหล่า” นี่คือครูซ้อมให้เราครับ พี่ต้อยแกระเบียบจัดมากๆ จนทุกคนอวดครวญแต่ก็โอเคล่ะที่แกซ้อมให้ ท่ารำต่างๆดูสวยขึ้นมากจากที่รำแค่ผายมือไปมาแต่ก็ได้แกมาคอยกำกับให้มันดูอ่อนช้อยสวยงาม โดยเฉพาะชุดรำภูไท สวยดีนะผมว่า จอยเองก็คอยกำชับน้องๆ ชุดแรกก็สวยแต่พี่ต้อยบอกว่าชุดแรกให้ออกแนวกระแตๆหน่อย ตอนแรกผมงงแปลว่าอะไรวะกระแต แรดนั่นเองครับ
   “อุรดิศ เป็นไงบ้างเรื่องการแสดงพร้อมไหมจ๊ะ” อาจารย์กัลยาล่ะครับเรียกผมไปคุยก่อนที่ที่อาจารย์จะใหม่มา
   “คิดว่าพร้อมแล้วครับจารย์” “เรื่องชุดล่ะจ๊ะ ไปดูไว้หรือยัง”
   “เห็นพี่ที่บ้านบอกว่าจะไปเช่าให้วันนี้ครับจารย์” “อืม ดีจ๊ะ ทำให้เต็มที่นะ ครูขอโทษด้วยที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
   “อ้อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณจารย์มากนะครับ” ผมว่าแกก็ดีนะถึงไม่ได้ช่วยแต่แกก็คอยถามข่าวคราวตลอดเวลา อย่างน้อยก็รู้สึกดีล่ะครับ
   “มาค่ามาซ้อมใหญ่มื้อนี้เอาดีๆเด้อค่า มื้ออื่นสิได้ประทับใจแขก” คือก่อนวันงานหนึ่งวันพวกเราก็พากันมารวมตัวกันเพื่อที่จะซ้อมใหญ่ล่ะครับ
   “บ่อใส่ซุดนำบ่เอื้อย หนูอยากใส่ สิงามบ่” น้องคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ
   “เอาซั่นบ่มาค่ามาลองซุด งามบ่ เพิ่นให้เซ่าถืกคือหยังนี่ เอื้อยบอกว่าเซ่าไปให้คุณอุ่น เพิ่นเลยคึดบ่แพงย้อนว่าลูกเพิ่นกะเฮียนอยู่หม่องเดียวกัน แต่เอื้อยบ่ทันซักเด้อค่า ว่าสิซักมื้อแลงนี่ล่ะ มื้ออื่นสิได้รีด” พอพี่ต้อยไปเอาถุงขนาดใหญ่ออกมาพวกเราก็เข้าไปเลือกชุดล่ะครับ แย่งกันนะพวกผู้หญิงแต่เอาไปเอามาก็ลงตัว ชุดแรกเป็นผ้าซิ่น จอยบอกว่าเป็นผ้าซิ่นตีนจก เสื้อข้างบนเป็นเสื้อผ้าต่วนสีสันแบบว่าเจ็บมากๆ สีฟ้าสะท้อนแสง สีเหลืองอ่อน สีเขียวอ่อนสดๆ ผ้าสไบคาดก็สีตัดกันล่ะครับ น้องๆเอาชุดไปเปลี่ยนหลังบ้านบ้าง ในห้องพี่ต้อยบ้างล่ะครับเสียงเกรียวกราวชวนให้น่าตื่นเต้นดีนะ ส่วนชุดที่สองเป็นชุดภูไท ผ้าซิ่นตีนจกเหมือนกันครับแต่ยาวกว่าเห็นพี่ต้อยบอกว่าให้มันคร่อมเกือบถึงตาตุ่มสีของผ้าถุงเหมือนกันหมดคือสีน้ำเงินเข้มๆจนออกดำครับ ส่วนเสื้อก็เป็นผ้าฝ้ายย้อมสีน้ำเงินเหมือนกันมีผ้าสไบเป็นผ้าลูกไม้สีขาวคล้องคอ เครื่องประดับพี่ต้อยบอกพรุ่งนี้ค่อยไปเอา ส่วนชุดที่สามผู้ชายใส่โสร่งล่ะครับเสื้อม่อฮ่อมมีผ้าขาวม้ามัดเอวแค่นี้ส่วนชุดของผู้หญิงก็คล้ายๆในชุดแรกต่างกันแค่เสื้อเพราะชุดนี้ต้องใช้ผ้าขาวม้ามาพันเป็นเกาะอกนี่ล่ะเห็นพี่ต้อยบอก
   “ป้าด จบหลาย ผ้าตาม่องมู่เจ้าอย่าฟ้าวใส่เด้อค่าซุดสามน่ะ เดี๋ยวมื้ออื่นจั่งใส่เทื่อเดียว พวกพ่อซายเขาสิน้ำไหลเด้” พี่ต้อยบอกตอนเราแต่งตัวเสร็จล่ะครับแค่ใส่ให้รู้ว่าใส่ได้ไหม แก้ตรงไหนหรือเปล่าแค่นั้นครับ ไมได้แต่งหน้าแต่งตัว ผ้าตาหม่องผมถามจอยคือผ้าขาวม้าลายสก็อตนั่นเองครับ น้องๆบางคนก็ไม่ได้ถอดเสื้อนักเรียนนะ สวมกางเกงขาสั้นข้างใน พอเพลงของชุดแรกดังขึ้นพวกเราก็มาล้อมวงกันดูล่ะครับ ให้กำลังใจกัน ตรงไหนไม่ดีก็แก้ไข แต่ชุดแรกโอเคแล้วนะผมว่า
   “ห่อนแฮงๆแน้ผู้สาว” นายเคนครับ
   “หวืย มาห่อนหยังยามนี้เนาะอ้ายเคน มื้ออื่นหนูสิเหมิดแฮงท่อนแล่ว” น้องตอบครับเรียกเสียงเฮฮาได้เป็นอย่างดี
   “ซ้อมกันแล้วเหรอลูก” พ่อผมกลับมาครับ เอ๊ะ ทำไมวันนี้กลับเร็วนะ
   “พอดีพ่อไปดูเขาทำเวทีที่โรงเรียน เต็มที่เลยนะลูกๆ งานนี้ผู้ว่าก็ไป” พ่อผมบอกครับ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทันที ไม่ได้ดีใจหรอกนะ แต่คงจะตกใจกัน ไม่คิดว่าผู้ว่าก็จะไป งานในโรงเรียนแท้ๆ ผมเริ่มหน้าเสียแล้วครับ นี่การแสดงของเด็กๆมันจะประทับใจผู้ใหญ่ระดับผู้ว่าเหรอเนี่ย ตายๆ
   “อย่าลืมขอรางวัลล่ะพ่อ” เอ่อ ไอ้เน่ามันพูดขึ้นครับ มันนั่งเล่นโทรศัพท์ผมอยู่คงจะเล่นเกมหรือไม่ก็คุยกับปูหรือไม่ก็ฝ้าย เพราะเห็นนายเคนแย่งเล่นด้วย น่าจะเป็นฝ้ายมากกว่านะ แต่มันเรียกพ่อผมว่าไรนะ
   “ไม่ต้องห่วง ตอนนี้พ่อเสนอขอรางวัลไปแล้ว ได้สปอนเซอร์หลายซองแล้วล่ะลูกๆ งานนี้พ่อยกให้ไปแบ่งกันเลย แทนคำขอบใจที่มีน้ำใจให้อุ่นเขา” พ่อผมบอกครับ เสียงเฮดังขึ้นทันที ผมยิ้ม รู้สึกดีนะที่พ่อผมช่วยขนาดนี้ ช่วยจนลืมไปเลยว่านี่มันคือการทำโทษ
   “ไหนฟ้อนภูไทเขาฟ้อนยังไง ซ้อมไปหรือยังต้อย” พ่อผมนั่งลงที่เก้าอี้หวายล่ะครับ
   “บ่ทันซ้อมค่า ซุดต่อไปนี่ล่ะ อ้าว อีหล่า พร้อมกันแล้วบ่ พร้อมแล้วย่าวค่า” พี่ต้อยส่งสัญญาณให้น้องเต้เปิดเพลงล่ะครับ พอเสียงเพลงดังขึ้นจอยก็พาน้องๆรำ
   “สวยๆ” พ่อผมปรบมือดังกว่าใครหลังจากแสดงจบ เสียงเฮกันก็ดังขึ้นอีก
   “เดี๋ยวลูก สั่งอะไรมาให้เพื่อนๆกินหน่อยสิลูก อยากกินอะไรกัน พ่อเลี้ยงเอง” อ้าวนะ มาเป็นพ่อบุญทุ่มอีกแล้วพ่อกู
   “พิซซ่าค่า อยากกินแฮง” เสียงน้องๆดังขึ้นครับ สรุปไอ้เน่ามันเลยต้องโทรสั่งพิซซ่าถาดใหญ่ ๖ ถาดครับ ไก่อีก พ่อผมรอดูผมซ้อมรำชุดสุดท้ายล่ะครับ
   “อุ่นลูก รำไม่ถูกเพื่อนหรือเปล่านั่นน่ะ” เอ่อ พ่อผมพูดขึ้นตอนที่เปลี่ยนท่าล่ะครับ คือผมถือสวิงคู่กับน้องกลอยตัวเล็กกว่าผมเยอะครับ ช่างเลือกให้กูคู่เหลือเกินนะ
   “แม่นค่า แม่น เป็นหยังคือหันทางนั้นน้อคุณอุ่น” เสียงเพื่อนๆหัวเราะครับ
   “อ่า โทษทีๆ อุ่นลืม” ผมอายสิครับ แหมนะดีนะที่ไม่ไปหลงวันจริง ได้งามหน้าสมใจอยากแน่ๆอุรดิศ พอพิซซ่ามาส่งผมก็ซ้อมเพลงสุดท้ายจบไปสองสามรอบล่ะครับ เอาจนได้ล่ะน่าไม่ยอม่ายๆเหมือนกัน น้องๆเพื่อนๆแตกฮือกันไปกินทันทีครับ ผมเองก็นั่งอยู่กับพ่อกับไอ้เน่ามีจอยด้วย
   “ทำให้เต็มที่นะลูก พ่อดีใจนะที่อุ่นกล้าแสดงออก”
   “ก็มันจำเป็นนี่พ่อ อุ่นไม่อยากทำหรอกนะ” ทำตอบครับ
   “อ้าว ไม่มีอะไรบังคับจะรู้เหรอว่าอุ่นรำเป็น จริงไหมต้อย”
   “แม่นค่า มืออ้อนอ่อน เอื้อยว่าคุณอุ่นน่าสิแต่งเป็นแม่ยิงโลดคือสิงามหลาย”
   “ไรอ่ะพี่ต้อย ไม่เอาเถอะ แค่นี้ก็อายจะแย่” เสียงพ่อผมหัวเราะเสียงดังครับ ไอ้เน่าก็หัวเราะ จอยเองก็เหมือนกัน อ่านะ เออ เดี๋ยวจะแต่งเป็นนางนพมาศได้รางวัลอย่ามาแซวละกัน หนอยแน่
   “วันนี้ทางโรงเรียนของเรามีครูเข้ามาใหม่ด้วยกันถึงสี่คน เชิญอาจารย์ใหม่ทั้งสี่คนหน้าเสาธงด้วยค่ะ” อาจารย์เวรประกาศตอนเข้าแถวล่ะครับ ผอ ยังไม่ขึ้นกล่าว เออ เคยสงสัยไหมว่าทำไมเข้าแถวทุกวันทำไมผอต้องเป็นคนพูดอยู่ทุกวันเลยนะ ไม่ร้อน ไม่เบื่อบ้างหรือไง ถ้าหากว่าผอไม่เบื่อ กูคนหนึ่งล่ะที่เบื่อ ร้อนจะตายเถอะ
   “อาจารย์พีระพล สอนคณิตศาสตร์ ม.ปลายค่ะ อาจารย์ เจนจิรา สอนฟิสิกส์ ม.ปลาย อาจารย์ ทรงพลสอนพละและสุขศึกษา ม.ต้น อาจารย์ ต่อพงษ์ สอนภาษาอังกฤษ ม.ต้น” อาจารย์เวรแนะนำตัวอาจารย์ใหม่ทีละคนล่ะครับ ผมเลยหน้ามองหน่อยเดียวเพราะแสบตาแสงแดดมันมากระทบตาพอดี อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ใส่แว่นตาครับหน้าตาก็น่าจะใจดีอยู่ ส่วนอีกสามคนไม่ได้ทันมองเพราะร้อนเหลือเกิน
   “เอาล่ะ ยินดีต้อนรับอาจารย์ใหม่ทุกคนนะ โรงเรียนของเราอยู่แบบพี่แบบน้อง ผอ หวังว่านักเรียนและครูอาจารย์คงให้การต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว อจ ของเรา คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคณะอาจารย์ใหม่รวมทั้งวันนี้ตอนประมาณ ๑๐ โมงเป็นต้นไปจะมีผ้าป่าของคณะศิษย์เก่าที่มาจากกรุงเทพฯ ในคาบบ่ายวันนี้งดการเรียนการสอนไปก็แล้วกัน” เสียงฮือฮาปรบมือกันดังเกรียวกราวทันทีครับ ผมเองก็ดีใจ ดีเหมือนกันจะได้กลับไปซ้อมให้เข้าที่เข้าทาง เริ่มตื่นเต้นแล้วอ่ะ
   “ป่ะเบบี๋ กลับไปนอนกลางวันกัน” เอ่อ ได้ข่าวว่าเพิ่งจะเข้าแถวเสร็จนะและผอบอกว่าตอนบ่ายไม่ใช่เหรอที่จะไม่มีเรียนแล้วนี่มันอะไรของมันนะ
   “ไม่เรียนเหรอเน่า” “เรียนไม เขาไม่สอนหรอก เดี๋ยวผ้าป่ามาก็ไม่สอนอยู่ดี”
   “อ้าวเหรอ เดี๋ยวไปบอกจอยก่อน”
   “โทรบอกก็ได้ เร็วกูง่วง” “อ่านะ เพิ่งแปดโมงเองนะเน่า”
   “เร็ว อย่าพูดมาก” อ่านะ สรุปนี่พากูหลบเรียนแบบว่าโต้งๆเลยเนี่ยนะ ผมต้องโทรบอกจอยให้บอกน้องๆไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านล่ะครับ เพราะไหนๆก็ไหนๆแล้วอ่ะคงขัดมันไมได้หรอกนะ ผมเลยเดินพยุงมันไปที่รถล่ะครับ ตอนออกมายามก็ถามนะแต่บอกไปว่าจะไปเตรียมการแสดงเขาเลยปล่อยออกมา
   “อ้าว ไปไหนอ่ะเน่า” มันขับไปอีกทางล่ะครับ
   “ไปขับรถเล่น” “อ่า ไปไกลไหมอ่ะ” “มีรถกลัวไรวะ” อ่านะไอ้นี่มันเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ บทจะไปคือไปไม่ฟังกันบ้างเลย
   “จะมาทันไหมอ่ะเน่า” “ไม่รู้ แต่กูอยากไปกับมึงนี่ ถามเยอะนะมึง”
   “ถามไม่ได้ไง” “ถามได้ แต่อย่าเยอะ” เออ เงียบก็ได้วะ ผมเลยหลับตาลงล่ะครับ
   “สัด เงียบนะ” อ้าว ผมหันขวับไปทำตาเขียวใส่มันทันทีครับ มันก็หัวเราะ
   “บ้าเหรอ ถามก็ว่า เงียบก็ว่า ไรอ่ะเน่า”
   “ฮ่าๆ อย่าๆ อย่ามาขึ้นเสียง กูล้อมึงเล่นไปงั้นล่ะ เพราะเวลามึงเอ๋อๆน่ารักดี” อ่านะ เขินเป็นนะเว้ยอะไรอ่ะ หลอกว่าเราแล้วก็ทำให้ยิ้ม ไอ้นี่ อายเป็นนะ

Written by eiky
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 21-07-2012 12:06:55
ยิงอ่านยิ่งหลงรักเรื่องนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-07-2012 12:27:52
คุณปลัดเป็นพ่อที่น่ารักมาก ๆ ใจดีด้วย
เดี๋ยวก็หลงอุ่นหัวปักหัวปำเลยสินะ
บรรยากาศซ้อมรำน่าสนุกจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 21-07-2012 13:29:21
โอ้ยยอุ่นกับเดี๋ยวน่ารักขนาดดด
รอดูอุ่นแสดงนะอิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-07-2012 13:38:24
ไอ้คู่นี้จะน่ารัก
กันไปถึงไหน :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-07-2012 14:15:03
มันน่ารักกันเรื่อยๆเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 21-07-2012 14:16:18
จะถึงเวลาโชว์แล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 21-07-2012 15:11:04
อยากดูอุ่นรำ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 21-07-2012 15:48:36
อยากเห็นอีเพ็ญหน้าหงายวันงาน
รอติดตามนะ คิดถึงวันแสดงแล้วน่าสนุกๆ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 21-07-2012 20:02:18
 :impress2: คุณปลัด น่ารักสุด ๆ อ่ะ รักอุ่นมาก ๆ :กอด1:+1
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-07-2012 21:27:47
รอฟ้อนๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 21-07-2012 23:44:30
น่ารักๆๆ เดี๋ยวกับอุ่นน่ารัก เพื่อนๆก็น่ารัก อิอิ
คุณพ่อปลัดช่างเข้าอกเข้าใจวัยรุ่น ฮ่าๆๆๆ คุณพ่อสุดยอดเลยย
ชอบเวลาเดี๋ยวกับอุ่นกระหนุงกระหนิงกันจังเลยยย ฮิ้ววววว หวานน
คนอ่านก้ชอบแซวอุ่นตามเพื่อนๆในเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ^^
รอออ่านตอนต่อไปจ้าาา
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 22-07-2012 00:47:41
เดี๋ยวนี้พัฒนา เรียกคุณปลัดว่าพ่อแล้วอ่ะ

ครูเข้ามาี่คน หวังว่าไม่เกิดอะไรขึ้นในทางที่ไม่ดีนะ

สาวเพ็ญเป็นอะไรมากป่ะ อินางเอ๊ย!~
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 22-07-2012 01:10:01
ฉันชอบพ่อน้องอุ่น...
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 22-07-2012 16:04:04
 :haun4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 22-07-2012 19:08:31
เจ้าเดี๋ยวขี้อ้อนนะ...แค่นี้นู๋อุ่นก็เทใจให้แล้วละจ๊ะ
รักคุณพ่อปลัดมากขึ้นทุกที...ไม่ว่ากันนะจ๊ะนู๋อุ่น  :กอด1:

 :L1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 22-07-2012 19:56:38
ตีตั๋วรอ ชมการแสดงครับ มาเร็วๆๆนะ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: jaejoong22 ที่ 22-07-2012 20:10:24
สวัสดีค่า

ชอบมากเลยค่ะ น่ารักมากตามอ่านตลอดเลย สนุกดีค่ะถึงจะแปลบางประโยคไม่ออกก็เถอะ  :z1: :z1:

จะตามอ่านตลอดนะค่ะ

 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-07-2012 21:54:10
อยากสิเบิ่งเด้  ว่าสิฟ้อนงามบ่
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Isomer005 ที่ 23-07-2012 14:50:35
จะแม่นเพิ่นพากันหวานย้วยๆน้อ
อยากอายอ่านเด้ :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-07-2012 19:40:44
รอดูโชว์ตอนหน้านะครับ

 :m24:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 22 Version (Aun) 21 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: barahi ที่ 25-07-2012 01:56:35
ตามมาอ่านครับ สวัสดีครับพี่อิ๊กกี้ ^^"
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 25-07-2012 10:35:52
You’re My BaBy!!

   “อ้าว จอยมีไรป่าว” ขับมาได้สักพักครับตอนแรกว่าจะเลี้ยวกลับไปนอนแล้วล่ะเผื่อได้สักรอบ อิอิ
   “อ้าวเหรอ ที่ไหนมีขายอ่ะ เราก็ลืมไปเลย ตลาดเหรอ มันจะไม่แพ้เหรอจอย นี่เน่ากำลังขับรถ ไปไหนนะเน่า” มันหันมาถามผมล่ะครับ
   “ไปทางอุบล” “อ้าวเหรอ มีโรบินสันด้วยเหรอ ได้ๆเดี๋ยวเราไปซื้อเอง เอาอะไรอีกก็โทรมานะจอย” มันหันมาหลังจากวางสายแล้ว
   “ไรวะ” ผมถามล่ะครับ
   “เครื่องแต่งหน้าอ่ะเน่า ลืมไปเลยเพราะที่ร้านเขาไม่มีให้อ่ะ ต้องไปซื้อ”
   “ไม่ซื้อที่ตลาดวะ” “ไม่เอาอ่ะ กลัวแพ้เถอะ เผื่อน้องๆแพ้ขึ้นมาจะซวยเอา เห็นจอยบอกว่ามีโรบินสันเหรอเน่าที่อุบลอ่ะ ไปทันไหม ไกลป่าว” มันถามล่ะครับ
   “ได้ ดีเลยกูจะได้ไปกินเบอร์เกอร์” ผมยักคิ้วให้มันครับ ไมได้กินนานแล้วเถอะ แต่ก่อนตอนเรียนอยู่โน่นข้ามฝั่งไปก็เมเจอร์แล้วก็เตร่อยู่ล่ะ มีทั้งเบอร์เกอร์และอีกหลายอย่าง
   “เมื่อยขาว่ะเบบี๋” เห็นมันเงียบครับผมเลยคิดหาอะไรทำ
   “ข้างที่เจ็บอ่ะเหรอ” “อืม เหนือเข่าอ่ะเมื่อย นวดให้หน่อยดิ” ผมทำหน้าตาให้มันเมื่อยจริงๆสมบทบาทหน่อยเถอะ
   “อืม” มันก็ยื่นมือมาล่ะครับผมก็เลื่อนตัวให้มันสบายกว่าเดิม
   “ขึ้นมาอีก ไม่ใช่หัวเข่า” ผมบอกมันครับ มันก็นวดขาให้ผม
   “ตรงไหนอ่ะ ไหนบอกขาอ่ะเน่า” “ก็นี่ไม่ใช่ขาไง ขึ้นมาอีก นิดนึงๆ”
   “อ่า มันจะถึงเป้าเกงอยู่แล้วนะ” มันเอามือออกทันทีครับแล้วหน้าแดงก่ำ
   “ก็ขาที่สามไงเมื่อย ไมนวดไม่ได้ไง” ผมทำหน้าตายครับ
   “บ้าเหรอ ไม่เอาอ่ะ ทะลึ่งนะเน่า” “ทะลึ่งไร แหมๆทำอายๆ ทั้งเห็นทั้งจับ ทั้งนอนกอด ยังจะมาทำอายอีก”
   “ก็อายอ่ะ ไม่เอา ฟังเพลงดีกว่า” อ่านะ มันหาทางไปจนได้ล่ะครับ มึงนะมึงอย่าให้ขากูหายนะ ก้นขาวๆมันยังติดตาไม่จางหายเลยนะเว้ย กูไม่สนใจแล้วเว้ยสัญญาอะไรไม่รู้เรื่อง ได้สักครั้งก่อนค่อยว่ากัน
   “ป่ะเบบี๋ ถึงแล้ว” ผมขับไปได้สักพักก็ถึงล่ะครับเกือบชั่วโมงได้ เริ่มเมื่อยขาจริงๆแล้วสิกู
   “อืม รถเยอะเหมือนกันเนอะ” “ที่นี่เขาเจริญเว้ย ไมได้บ้านนอก เด็กในเมืองเขาก็ไม่พูดภาษาอีสานนะเว้ย”
   “อ้าวเหรอ ไม่ดีเลยอ่ะเราว่า” “ทำไมวะ” “คนอีสาน เสน่ห์ก็คือภาษาและวิถีของคนอีสาน ถ้าพูดภาษากลางหมดมันก็หมดเสน่ห์อ่ะดิ” อ่านะ เออนะจริงของมันครับ เราสองคนก็ลงจากรถล่ะครับมันก็เอาไม้ค้ำมาให้ผมยันรักแร้
   “พยุงด้วยดิวะ” ผมจับมือมันไว้ครับ
   “ต้องพยุงด้วยเหรอ คนเยอะนะ” มันอายครับดูก็รู้
   “อ้าวสัด คนเยอะดิต้องพยุงเผื่อใครมาชนกูล้มทำไง ไม่ห่วงกูเลยว่างั้น” ผมได้ทีครับ
   “บ้าเหรอ มาดิ” มันรีบปรี่เข้ามาทันทีล่ะครับ ผมก็อมยิ้มมันไม่เห็นหรอกเพราะมันเตี้ยกว่าผมเยอะ เราก็เดินเข้าห้างไปล่ะครับ ผมพามันเดินไปที่ท์เตอร์เครื่องสำอาง
   “แพงไปไหมมึง” มันปรี่จะไปหาของนอกล่ะครับ
   “ก็เราซื้อไม่เป็นอ่ะ” “จะใช้แค่ครั้งเดียวไม่ใช่เหรอวะ ไมไม่ดูของไทยล่ะ” ผมแนะนำครับ
   “อืม เข้าท่านะเนี่ยเน่า อิอิ” “เออ มึงเพิ่งรู้เหรอว่ากูฉลาด เลี้ยงติมกูเลยนะเว้ย เบอร์เกอร์ด้วย” มันยังจับแขนผมอยู่ล่ะครับ
   “งั้นไปดูออเรียลทัลป่ะ” มันบอกครับแล้วเดินพาผมไปถามเขาว่ามันอยู่ตรงไหน ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันจะมียี่ห้อไทยหรือเทศ เคยเห็นแต่เด็กเก่าๆเคยซื้อที่ตลาดนัด มันพาผมเดินไปล่ะครับ
   “สีไหนดีอ่ะเน่า” อ้าวสัด หันมาถามกูเพื่อ กูไม่รู้เว้ย
   “ไม่รู้ ใครจะรู้วะ มึงไม่ถามเขาล่ะ สีไหนสวยพี่” ผมถามให้เสร็จสรรพครับ พนักงานก็ทาหน้าทาตาเหมือนนกแก้วยังไงไม่รู้ เธออมยิ้มตั้งแต่เราเดินเข้ามาแล้วล่ะครับ
   “เอาไปทำไมคะน้อง” อยากจะรู้อีกเรื่องของเธอไหมเนี่ย เขามาซื้อก็ขายๆไปเถอะ ถามทำไมวะ
   “อ้อ พอดีมีงานแสดงที่โรงเรียนครับพี่ แนะนำหน่อยนะครับ” ไอ้เบบี๋มันบอกล่ะครับ ผมเลยดันให้มันเดินไปหาเขาปล่อยผมยืนอยู่นิ่งๆ
   “เน่าๆ บอดี้โลชั่นอันนี้หอมป่ะ” มันถือขวดทดลองเดินมาหาผมล่ะครับแล้วยื่นใส่จมูกผม
   “แหวะ หอมเชี่ยไร กลิ่นดอกไม้ ไม่ชอบ” ผมเมินหน้าออกทันทีครับ
   “อ้าวเหรอ แล้วอันนี้ล่ะ” “อือ อันนี้พอทน ที่บ้านยังไม่หมดนี่หว่า”
   “เปลี่ยนบ้างอ่ะ อันนั้นใช้เบื่อแล้วเราชินกลิ่นมันด้วยล่ะ” มันอธิบาย ผมก็พยักหน้าเซ็งๆ
   “เฮ้ย ซื้อไรเยอะแยะวะ” ผมเห็นมันขนเอาๆล่ะครับเลยร้องทักไว้
   “ก็นานๆมาทีนี่ ไม่เยอะหรอก บอดี้โลชั่นนี่เน่าทาคนเดียวก็หมดแล้วอ่ะ ตัวเบ้อเร่อ” มันแย้งครับแต่เป็นการแย้งที่ผมพึงพอใจ ไม่รู้ดิมันอายๆพูดเบาๆ ผมเลยกระเตงไปช่วยมันถือของล่ะครับ
   “จะใช้หมดเหรอวะ แล้วซื้อเยอะแบบนี้พ่อไม่ด่าเอาเหรอ”
   “ไม่ด่าอ่ะ นี่เงินเรานะ” “เฮ้ย มึงมีเงินเยอะขนาดนี้เลยว่างั้น”
   “เงินประกันชีวิตของแม่เรา” เอ่อ กูอึ้งไปเลยครับ มันหันมาสายตามันนิ่ง นิ่งเสียจนผมเสียวสันหลังวาบๆ เออๆ กูไม่ถามแล้ววะ ผมเลยเดินไปแระแซะมันครับ
   “ไหนบอกจะเลี้ยงติมกูไง” ผมทวงครับ
   “อืม ไปดิ” มันบอกครับแต่ก้มหน้าอยู่ เอ๊ะ มันไมได้ก้มหรอกนะแต่มันเตี้ย ผมมองหน้ามันตลอดล่ะกลัวมันจะคิดอะไรในใจแล้วกูไม่รู้
   “เด็กนักเรียนที่นี่เขาก็ไม่เรียนเหมืนกันเหรอเน่า” มันถามตอนเดินเข้าร้านไอติมล่ะครับ คนเยอะเหมือนกันนะส่วนมากมากันเป็นกลุ่มๆล่ะ จะมาทำไรได้วะก็มาหาผัว เอ้ย มาหากิ๊ก รู้ได้ไง แหมๆ กูก็ตัวพ่อมันเถอะน่า ซื้อไอติมถ้วยเดียวหารกันสิบคนเนี่ย แล้วก็นั่งแช่ได้เป็นชั่วโงสองชั่วโมงจีบเด็กต่างโรงเรียนอะไรประมาณนี้ อ๊ะๆ อย่าบอกว่าไม่เคย ไม่เชื่อเว้ย
   “ช่างแม่งมันดิ” “ไรอ่ะ พูดไม่ดีนะเน่า” มันทำหน้าดุใส่ผมครับ
   “คร้าบ ช่างหัวพวกเขาสิคร้าบ” ผมล้อเลียนมันครับ มันก็หน้าหงิกจะตีผม คนในร้านมันมองผมสองคนตั้งแต่เดินจูงกันมาแล้วล่ะครับ ไม่สนใจเว้ย กูน่ะชินเพราะกูหล่อ ฮ่าๆ
   “เอาไรอ่ะ” เราเดินไปเกาะเคาท์เตอร์ล่ะครับ มันก็หันมาผมยืนตัวโย่งอยู่ด้านหลัง
   “เอาช็อกชิป กะวานิลา ของมึงก็เอาใส่ถ้วยเดียวกับกูนี่ล่ะ เฮ็ดได้บ่เอื้อย” ผมบอกมันครับเอาคางเกยบ่ามันเลยนะ มันอายหน้าแดง คนก็มองล่ะ คนขายก็อมยิ้ม
   “ได้จ้า เพิ่มวิปครีมบ่น้อง” พี่เขาถามครับยิ้มปากกว้าง
   “บ้า ไม่เอาคนละถ้วยอ่ะเน่า ไปนั่งรอดิ เดี๋ยวเอาไปให้” มันอายครับ แหมๆ พออายนี่ก้มหน้างุดๆ
   “ไปรอไม เอาไปกินบนรถดิ เร็วกูง่วง ไวไวแน่เอื้อย เฮือนผมอยู่ไกล”
   “พากันมาแต่ไสล่ะจ้าน้อง” “บ่บอก ฮ่าๆ ฟ้าวๆเฮ็ดแน่ะ ส่อหลาย” ผมยักคิ้วให้เธอล่ะครับ เธอเองก็เขินอายม้วนไป ไอ้เบบี๋มันก็อาย เสียงคนนินทาเราล่ะครับผมได้ยิน เพราะอะไรหล่อๆ ขาวๆ น่ารักๆ มันจะใครล่ะวะกูนั่นล่ะ ฮ่าๆ
   “ป้อนดิวะ เอาไปถือไว้จะได้แดกไหมนั่น” พอเราจะเดินออกมา คือว่ากูหมั่นไส้ไอ้พวกมองล่ะนะครับ จะมองทำแป๊ะไรวะ กูกับมันเป็นผัวเมียกัน พอใจมะ หล่อน่ารักแบบนี้ล่ะ ผมก็เลยบอกไอ้เบบี๋ไป
   “บ้าเหรอ คนเยอะแยะนะเน่า” นั่นล่ะที่กูต้องการ ฮ่าๆ
   “มึงรู้จักพวกมันเหรอวะ” “ไม่อ่ะ” “ไม่รู้แล้วอายไม กูผัวมึงนะ จะป้อนผัวนี่ต้องรอที่ลับตาคนเหรอ พ่อมึงไม่ว่า พ่อกูไม่ว่า มึงสนใจใครวะ ไอ้นี่” ผมดุมันล่ะครับ มันหน้าจ๋อยไป
   “อือ เอาแต่ใจนะ ก็ไม่เคยนี่” “ไรนะ มึงว่าไร” “ป่าว อ่ะ อ้าปากดิ” แม่ง ตลกมากๆ มันหน้าแดงแบบว่าไม่มีพื้นที่อื่น แต่ก็ยอมทำ ค้อนผมใหญ่แต่สนที่ไหน มันยื่นช้อนตักไอติมมากูก็อ้าปากงับทันที เสียงคนหวีดเสียงขึ้นล่ะครับไม่ดังมากแต่กูไม่สนใจเดินออกมาก่อน
   “ให้กูป้อนป่ะ” พอเราเดินออกมาจะไปที่รถผมก็ถามมันล่ะครับ เดี๋ยวจะหาว่ากูเห็นแก่ตัว
   “ไม่เอาอ่ะ กินเองได้” “เออ ตามใจวะ” มันก้มหน้าลงล่ะครับ
   “รีบกลับเถอะเน่าเดี๋ยวจะไม่ทัน” แหมๆ ทำเป็นเร่งจะไม่ทันแป๊ะไรวะเพิ่งจะสิบโมงหน่อยๆ กูเหยียบแป๊บเดียวก็ถึงแล้วเถอะ แต่ก็ไม่อยากจะอะไรกับมันมากล่ะครับ ก่อนกลับก็แวะซื้อเบอร์เกอร์ แปลกนะทำไมกินตอนนี้ไม่รู้สึกว่ามันอร่อยตรงไหนเลยนะ ผมคายทิ้งเลยครับเสียปาก เอ๊ะ หรือว่ากูกินอาหารบ้านๆจนชิน ฮ่าๆ เรารีบกลับบ้านกัน ระหว่างทางผมก็ให้มันป้อนไอติมจนหมดล่ะ อยู่ในรถนี่ไม่อายเลยนะเช็ดปากให้กูอีก
   “พี่ต้อยเพื่อนๆจะมากินข้าวเที่ยงที่บ้านนะ” พอไปถึงบ้านมันก็เอาของลงไปให้เจ้แกดูล่ะครับ
   “ว้าย ซั่นบ่ค่า เอื้อยบ่ได้เฮ็ดแนวกินไว้เด้ ไปสั่งตำบักหุ่งสิทันบ่เดี๋ยว” เจ้แกหันมาหาผมครับ
   “เดี๋ยวผมไปเอาให้เอื้อย” “ไปด้วย” ไอ้เบบี๋มันร้องขึ้นล่ะครับ ผมก็ไม่ว่าไร
   “สิไปนำกันติ๊ บ่ซ่อยเอื้อยฮ้อยดอกไม้บ่ค่าคุณอุ่น”
   “เดี๋ยวกลับมาช่วย ไม่อยากให้เน่าไปคนเดียวอ่ะ ขายิ่งเจ็บๆอยู่ด้วย” ซี๊ด กูยิ้มเลยครับ มันห่วงผม เจ้แกก็ยิ้มๆ พอไปถึงที่ร้านยังไม่เที่ยงครับคนเลยไม่ค่อยเยอะ
   “ว้ายลูกอุ่น ไม่เรียนเหรอคะวันนี้มาไวจัง” คุณแม่ผมล่ะครับรีบออกมารับ แต่รับมันนะไม่ได้มารับผม ผมนี่กระเตงออกมาจากรถอย่างยากลำบากแต่คุณนายสนใจที่ไหน เออๆ ก็แม่ผมเขารักลูกสะใภ้นี่ครับ ฮ่าๆ
   “พอดีขออาจารย์ออกมาเตรียมตัวครับ เย็นนี้คุณแม่ไปดูด้วยนะ อุ่นก็รำ” มันชวนล่ะครับ ยิ้มแบบอายๆ
   “ว้าย แม่นอีหลีติ๊ อุ้ย จริงเหรอคะ ไปค่ะไปแม่ก็เป็นศิษย์เก่า ตายแล้ว พ่อๆ ชุดแม่ยังไม่ทันเตรียมเลย งั้นบ่ายๆแม่ไปร้านเช่าชุดนะ” เอ่อ โพดไปไหมคุณแม่
   “หวืย โพดหลายแม่ ไปเบิ่งฟ้อนซื่อๆเด้บ่ได้ไปงานแจกรางวัล” ผมขัดขึ้นล่ะครับ
   “อะไรยะ แกจะเข้าใจอะไร ไม่ได้หรอกนะลูกอุ่นรำทั้งทีแม่ต้องสวย ตายๆ หน้าก็ไมได้บำรุง พ่อ งั้นแม่ไปร้านเจ้นงค์ก่อนนะ” อ้าว ถอดผ้ากันเปื้อนทันที
   “ฮ่วยๆ อย่าฟ้าวแม่อย่าฟ้าว ตำบักหุ่งให้ก่อนนี่ สิเอาไปเลี้ยงหมู่เขามาฟ้อนซ่อย” ผมปรามแกเอาไว้ล่ะครับ
   “อ้าวเหรอ มาเลยๆ ไก่ย่างไปหาเอาเองเลยนะ แม่จะรีบตำเดี๋ยวสวยไม่ทัน” ไอ้เบบี๋มันยิ้มล่ะครับแล้วหันมาหาผมที่ทำหน้าแบบว่า เฮ้อ แม่กู กว่าจะเสร็จก็ประมาณเกือบเที่ยงล่ะครับ คือว่าต้องรอไก่ย่างอ่ะนะ ที่บอกว่าหาเอาเองนี่คือไปย่างเอาเองนะ กูอีกล่ะสิ ไอ้เบบี๋มันก็ไปช่วยขายแม่กูไม่ให้มันทำ พ่อผมก็ตื่นเต้นรายนั้นจะเตรียมกล้องไปอัดวีดีโอ เอาเข้าไป
   “บู้ยสู มาเหมิดโรงเรียนอยู่บ่นี่” พอกลับไปถึงบ้าน เพื่อนๆน้องๆก็มากันเต็มล่ะครับ จะว่าไปก็พวกที่มาช่วยฟ้อนนั่นล่ะ แต่วันนี้ทำไมมันดูคึกคักจังวะ
   “เอื้อยทอดปลาตื่ม น้องๆเขาพวมทอด” เจ้แกออกมารับของล่ะครับจากหลังรถกลิ่นนี่ ปลัดด่าตายแน่ๆ ฮ่าๆ
   “เป็นตาแซ่บเนาะ” สาวคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับเป็นน้อง ม.ต้น
   “ไปเอาสาดมาปูกางพาเข่าออกโลดหล่า เดี๋ยวทอดปลากะมา” เจ้แกเป็นคนจัดแจงทุกอย่างล่ะครับมีสาวจอยคอยช่วยเพราะรู้จักบ้านนี้ดีกว่าน้องๆ มีสัดเคนกับสัดไม้คอยเอาจานช้อนออกมาเรียง พอนั่งกันประจำที่ก็รุมครับ เสียงอู้อี้ๆไม่มีใครคุยกับใคร ผมนั่งติดไอ้เบบี๋ตามเดิม ท่านั่งก็ลำบากหน่อยล่ะครับเพราะขาข้างที่เจ็บก็ต้องกางออก ไอ้เบบี๋มันเลยเหมือนนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาผมเพราะมันหันหน้าเข้าหาตัวผม
   “แซ่บอีหลีค่า” พอกินเสร็จก็ช่วยกันเก็บครับ หลังจากนั้นเจ้แกก็แบ่งงานกันทำ เพราะต้องร้อยดอกพุดเป็นพวงๆ ไม่รู้เจ้แกจะเอาไปทำอะไร
   “ว่างๆกะไปอาบน้ำถ่าโลดเด้อค่า เดี๋ยวสิยาดกัน” พอเริ่มบ่ายคล้อยเจ้แกก็ไล่น้องไปอาบน้ำล่ะครับ คืออาบที่นี่เลยนะ น้องๆก็ดี๊ด๊าใหญ่เพราะไอ้เบบี๋มันไปเอาครีมอาบน้ำครีมทาตัวที่เพิ่งซื้อมาให้ สาวๆเหมือนจะชอบ
   “เน่าไปอาบน้ำป่ะ” มันชวนครับตอนเกือบจะห้าโมงแล้ว น้องๆหลายคนกำลังนั่งรอให้สาวจอยกับเจ้แกแต่งหน้าให้อยู่ ผมไม่อยากอาบว่ะเพราะมันเพิ่งจะห้าโมงเองยังร้อนๆอยู่เลยนะ
   “ไปดิ” แต่ก็นะมันอาบให้นี่ครับ อิอิ เผื่อได้
   “บู้ย ไปไสนั่นบักเดี๋ยว” สัดเคนครับ
   “ไปอาบน้ำ สูกะบ่ไปอาบติ๊”
   “ไปอาบน้ำเป็นหยังไปนำกันฮั่นนี่”
   “ฮ่วย บ่เห็นติ๊ขากูเจ็บ ส่อหลายบักห่านี่” ผมด่ามันครับแล้วเดินขึ้นบ้านไปกับไอ้เบบี๋ไม่สนใจมัน คือเหมือนว่าไอ้เบบี๋มันก็เริ่มชินที่จะอาบน้ำกับผมแล้วล่ะครับ เข้าห้องน้ำไปไม่ต้องอายเหมือนแต่ก่อนมันถอดเสื้อผ้าให้ผมเลย แล้วก็หันมาถอดของตัวเอง ผมจ้องมันอยู่ตลอดเวลาล่ะ
   “มองไรอ่ะเน่า” มันรู้สึกตัวครับ
   “มองเมียตัวเอง” “อ่า บ้านะ” มันเขินครับแล้วเปิดน้ำฝักบัว วันนี้ผมอาบท่ายืนครับโดยเอาขาข้างที่เจ็บพาดไว้บนเก้าอี้ คิดภาพออกป่ะ ท่าที่ยกขาข้างหนึ่งไว้น่ะแล้วไข่ก็ห้อยเป็นพวงๆน่ะ แว้กก
   “วันนี้มึงจูบกูยังเนี่ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันหน้าแดงทันที
   “จูบแล้วอ่ะ” มันก้มหน้าลงหน่อยๆครับตอบเสียงเบามากๆ
   “ตอนไหนวะ” “ก็ตอนตื่นอ่ะ แอบทำ” “สัด ไม่เอาดิ เอาแบบไม่แอบ”
   “ไรอ่ะเน่า มาจูบไรตอนนี้ รีบๆอาบเถอะเพื่อนรอ”
   “จูบก่อนดิ เร็วแป๊บเดียว” “จูบเดี๋ยวก็โด่อีกหรอก” มันตอบแบบอายมากๆ
   “โด่ก็ช่างดิ เป็นเรื่องธรรมชาติ หรือมึงจะยอมกู”
   “บ้าเหรอ อืมๆ” มันเงยหน้าขึ้นมาครับแล้วยื่นปากมาหลับตาพริ้มเลยนะ
   “ไม่เอาแบบนี้ว่ะ มันไม่โรแมนติก” มันลืมตาขึ้นทันที
   “อ่า ไรอ่ะ มีแบบนี้ด้วย” พอมันจ้องตาผม ผมก็จ้องรออยู่แล้วอ่ะนะ สายตาประสานกัน มันนิ่งแววตามันยังคงกลัวอยู่มากครับซึ่งคงต่างล่ะกับแววตาของกูเพราะจ้องจะขย้ำอยู่แล้วนี่ เราจ้องตากันอยู่สักพักผมก็เอามือไปโอบเอวมันให้ประชิดตัวผม ก็เลยจูบ อิอิ นิดหน่อยน่า
   “ป้าด แม่นอาบน้ำหรือเฮ็ดหยังกันน้อค่า น้องๆเขาแต่งหน้าแล้วเหมิดแล้วเด้อุ่น” สาวจอยแซวตอนที่เราเดินลงมาล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันอายตามเรื่องของมัน ส่วนกูชินว่ะ ฮ่าๆ

Written by eiky
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 25-07-2012 10:37:46
   “ซุมพ่อซายไปแต่งอยู่โรงเรียนกะได้เด้อ แล้วสิพากันไปจั่งได๋นี่” เจ้แกถามขึ้นล่ะครับ
   “พวกได๋แต่งหน้าแล้วให้ไปถ่าอยู่ห้องศิลป์เด้อ เอื้อยสิอาบน้ำก่อนแล้วสินำไป ไผใส่ซุดเป็นกะใส่โลด” สาวจอยบอกล่ะครับเพราะแบ่งชุดกันแล้ว น้องๆก็เลยแยกย้ายกันไปโดยมีพวกเพื่อนๆผมนำไป
   “จอยไปอาบน้ำดิ จะได้ไปพร้อมกัน” ตอนนี้เหลือผม ไอ้เบบี๋ สาวจอย เจ้แล้วก็ไอ้เต้ครับ ที่ให้ไอ้เต้อยู่เพราะว่าจะให้มันขนของขึ้นรถล่ะ สาวจอยพยักหน้าแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที สาวจอยนี่ยังไม่แต่งหน้านะครับ
   “บู้ย ตื่นเต้นเนาะ เทื่อแรกเด้นี่สิได้เบิ่งฟ้อนฝีมือเจ้าของ” เจ้แกพูดขึ้นล่ะครับ
   “พี่ต้อยไม่อาบน้ำเหรอ ไปอาบข้างบนดิ จะได้ไวไว” ไอ้เบบี๋มันบอกล่ะครับ
   “โอ๊ย บ่ต้องห่วงดอกค่า เอื้อยอาบคราวเดียว” เรากำลังเก็บของกันอยู่ล่ะครับ ไม่ถึงห้านาทีได้
   “จอย ไรอ่ะ เสร็จแล้วเหรอ” ไอ้เบบี๋มันร้องขึ้นคงจะตกใจ
   “อาบหยังโดน ส่วยคีงค่า” สาวจอยบอกแล้วหัวเราะ เจ้แกก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปบ้าง ไอ้เบบี๋ยังอึ้งอยู่ครับ
   “ไผสิอาบโดนคือเพิ่นเนาะ หวืยแม่นเฮ็ดหยังกันบู้นี่” สาวจอยแซว ไอ้เบบี๋มันเลยเงียบครับหันกลับมาอายแทน
   “ไปค่าไป แล้วๆ” เจ้แกก็อาบไม่นานครับ ตอนนี้เราพร้อมกันแล้วเจ้แกปิดบ้านแล้วเราก็ตรงไปยังโรงเรียน คือว่าบรรยากาศมันได้ใจเหมือนกันนะ คือเด็กนักเรียนมันก็มาตั้งเป็นซุ้มจัดแสดงนั่นนี่ ขนมบ้าง โครงงานวิทยาศาสตร์บ้างเหมือนจะอวดศิษย์เก่าล่ะครับ คนในโรงเรียนมีทั้งนักเรียนและศิษย์เก่าที่ผมคุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นบ้างเดินกันขวักไขว่ พอเริ่มจะโพล้เพล้เสียงดนตรีเอย เสียงนร้องทักกันเอยดังเจื้อยแจ้วอยู่ตลอดล่ะ
   “ป้าด คือจบแท้ งามคั่ก” พอแต่งตัวให้น้องๆกลุ่มแรกเสร็จเจ้แกก็ร้องขึ้นล่ะครับ ก็ธรรมดานะเหมือนนางรำตามงานบุญบั้งไฟ คือใส่ผ้าซิ่นสั้นๆเหนือเข่าหน่อยๆ ใครคิดภาพไม่ออกก็ประมาณนางดีดไหของวงโปงลางนั่นล่ะครับ แต่แค่เสื้อไม่เหมือน เพราะน้องๆเขาใส่เสื้อแขนกระบอกมีผ้าสไบสีๆตัดกัน ที่คอก็มีดอกพุดร้อยนั่นล่ะห้อยอยู่คนละพวงสองพวงว่ากันไป บนหัวเจ้แกก็ให้ใส่เจลใส่ผมชนิดแข็งหวีปาดไปด้านเดียวกันหมด แต่ละคนแต่งหน้าแล้วดูสวยแปลกตาไปเหมือนกันล่ะครับ
   “บักเดี๋ยวมึงบ่นุ่งโสร่งติ๊ มึงเด้สิเป็นคนไปคุมเสียง” สัดไม้มันมาสะกิดบอกผมล่ะครับ
   “ฮ่วย คุมเสียงซื่อๆเป็นหยังสิไส่เดี๋ยวนี่” ผมงงครับ
   “มันสิบ่คือหมู่” เออๆ ผมเลยเดินไปหาไอ้เบบี๋ล่ะครับ มันกำลังแต่งหน้าอยู่ คือว่าผู้ชายนี่ก็ไมได้แต่งหน้าอะไรมากหรอกครับเขียนแค่หนวดแล้วก็เขียนคิ้วให้มันดูหนาๆ สัดเคนแม่งหน้าเหมือนลิเกมากๆ ฮ่าๆ ไอ้เบบี๋มันหันมา กูอึ้งครับ คือหน้ามันน่ารักอยู่แล้วอ่ะนะพอเขียวหนวดให้มันมันดูหล่อขึ้น ไม่สิ เขาจะเรียกว่าไง แปลกตาไปดูหน้าคมๆขึ้น
   “เฮ้ย ใครวะเนี่ย” ผมล้อมันครับ
   “ไรอ่ะเน่า” “ฮ่าๆ แปลกดีว่ะ มึงมีหนวดนี่ก็ดูดีนะกูว่า” ผมยิ้มให้มันครับ
   “แล้วเน่าไม่ใส่เหมือนเพื่อนเหรอ” “ใส่ดิ รอมึงมาใส่ให้” ผมบอกครับ สาวจอยที่เขียนหนวดให้มันยิ้มทันที
   “แล้วล่ะอุ่น ไปใส่โสร่งให้เพิ่นซะ” สาวจอยหันมาหลับตาให้ผมเป็นสัญญาณล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันก็อายแล้วก็เดินพาผมไปมุมห้อง ผมยืนเกาะบ่ามันอยู่ล่ะครับมันก็ค่อยๆใส่โสร่งให้ผม
   “จอยๆ ไม่เขียนหนวดให้เน่าเหรอ” พอเสร็จมันก็เรียกหาสาวจอยล่ะครับ
   “มานั่งนี่ติ๊ล่ะ” สาวจอยก็เดินมาครับ
   “กูต้องเขียนด้วยเหรอวะ” “อืม เขียนๆไปเถอะ ทำนหน้านิ่งๆนะ” ไอ้เบบี๋มันลากผมไปนั่งบนเก้าอี้ล่ะครับ สาวจอยก็มานั่ง ตอนเขียนหนวดกูนี่คันเป็นบ้า
   “นั่นๆ อย่าขยับสิเน่า” ไอ้เบบี๋มันจับมือผมไว้ครับเพราะผมจะเกา คันนี่หว่า พอเสร็จผมก็ส่องกระจกดู สัด หล่อว่ะ ฮ่าๆ กูยักคิ้วในกระจกให้ไอ้เบบี๋ทันทีล่ะครับเพราะมันก็มองอยู่
   “ป้าด หล่อหลายเนาะ” สาวจอยร้องแล้วหันไปมองไอ้เบบี๋ล่ะครับ มันอายยิ้มอยู่
   “เป็นไงบ้างลูกๆ โอ้โห สวยๆกันทั้งนั้นเลย” เสียงปลัดร้องทักมาจากหน้าประตูล่ะครับ ทุกคนก็ยกมือไหว้แก
   “เต็มที่เลยนะลูกๆ วันนี้แขกเยอะมากๆ เดี๋ยวก็ได้เวลาแล้ว เป็นไงต้อย”
   “ตื่นเต้นแฮงค่าคุณพ่อซาย งามบ่ค่าซุดน่ะ” “งามๆ เดี๋ยวแสดงเสร็จพ่อจะให้เขาเอาอาหารมาให้นะ” คุณปลัดทักทายคนนั้นคนนี้อยู่สักพักก็เดินออกไปล่ะครับ มาเล่าถึงการแต่งตัวก่อนเผื่อมีใครอยากรู้ ชุดที่สองเป็นแบบภูไทก็ผ้าถุงยาวๆสีเข้มๆแล้วก็เสื้อแขนกระบอกเหมือนกันสีน้ำเงินแล้วมีสไบสีขาว ตอนแรกว่าจะเอาคล้องคอแต่เอาไปเอามาก็พาดเหมือนกันครับ นางรำชุดนี้รวมถึงสาวจอยต้องทำผมเป็นจุกๆไว้ที่กลางหัวแล้วเอาพวงดอกพุดเสียบเข้าไปให้มันห้อยลงมา สวยดีครับ ดูเป็นนางเอกไปเลยชุดนี้ ส่วนอีกชุด เด็ดครับอันนี้เพราะน้องผู้หญิงเอาผ้าขาวม้าหรือที่เรียกว่าผ้าลายตาหม่องมาพันอกไว้ติดเข็มกลัดเอา เอวลอยด้วยนะเว้ยเฮ้ย ผ้าซิ่นก็ใส่เหมือนชุดแรก ชุดนี้ไม่มีพวงมาลัยครับแต่มีที่ใส่ข้อเท้าเป็นทองๆเจ้แกเอามาจากร้านเช่าชุดนั่นล่ะนะ ส่วนผู้ชายก็ใส่โสร่งมีผ้าตาหม่องมัดเอว เสื้อเป็นเสื้อม่อฮ่อมมีพวงมาลัยคล้องคอ มีผ้าตาหม่องอีกผืนมัดหัวไว้ เขียนหนวดทุกคนครับ คือทุกคนตัวสูงหมดนะเว้นแต่ภรรยาผมตัวนิดเดียวแต่ว่าไปนะ มันเด่นกว่าใครเถอะ ขาวผ่องออกมาซะขนาดนั้น ยิ่งไปแต้มอะไรใส่หน้ามันมันยิ่งเด่นกว่าใครๆเถอะ ส่วนผมเองกูก็ไม่ยอมเว้ย เพื่อนทำยังไงกูก็ทำอย่างนั้น จะไม่หล่อก็มีไม้ค้ำนี่ล่ะ
   “นักเรียนคะ ตายจริง สวยมากๆ อุรดิศ อยู่ไหนคะ” เสียงอาจารย์กัลยาล่ะครับ ตอนนี้พวกเราพร้อมแล้วดูสีหน้าของแต่ละคนดูตื่นเต้นวิตกกันไม่น้อย ไม่คุยกันดังนะครับแต่บางคนก็จับมือกัน เวอร์ไปไหมเนี่ยนี่ล่ะน้า คนมันไม่เคยออกงาน ฮ่าๆ ไม่เหมือนกูชิวๆเพราะชิน
   “ครับจารย์” ไอ้เบบี๋มันกำลังคุยกับสาวจอยอยู่ล่ะครับมีกูยืนเกาะบ่ามันอยู่
   “ขอบใจมากนะจ๊ะ” “ยังไมได้แสดงเลยครับจารย์ เผื่อตอนแสดงล่ม”
   “อย่าพูดแบบนั้นสิ ครูเชื่อว่าพวกเธอทำได้ เอาล่ะถึงเวลาแล้ว ผอ ให้มาตามแล้วจ๊ะ พร้อมกันไหมจ๊ะ” อาจารย์กลัยาแตะบ่ามันเบาๆล่ะครับ พอทุกคนตอบรับว่าพร้อมอจารย์ก็ให้เดินไปที่หอประชุม คือห้องศิลป์นี่มันก็อยู่ไกลพอสมควรนะจากหอประชุม ตอนเดินไปน้องๆผู้หญิงก็เอาผ้าคลุมหน้าคลุมชุดไปล่ะครับ เพราะระหว่างทางคนก็ไม่น้อย
   “มารวมใจกันค่า มาๆ เอื้อยสิจุดธูป” เจ้แกครับ อ้าวๆ พึ่งงศักดิ์สิทธ์แล้วเว้ย เราทุกคนก็มาล้อมวงกันล่ะครับ
   “ทุกคน ขอบใจมากนะ” ไอ้เบบี๋มันเอ่ยขึ้นล่ะครับ
   “สู้ๆ” ทุกคนจับมือกันแล้วตะโกนออกมาครับ อ่านะ กูนึกว่าจะไปแข่งกีฬาซะอีก ตอนเดินออกจากห้องศิลป์ทุกคนที่เราเดินผ่านก็แซวถ่ายรูปด้วยครับแต่น้องๆมันก็เกาะกลุ่มกันดีเหลือเกิน ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมให้ใครเห็นง่ายๆ นั่นมันยิ่งทำให้ทุกคนวิ่งตามเข้าไปในหอประชุมเป็นพรวนเลยครับ มีผมกับเจ้กับเบบี๋ที่เดินช้ากว่าใครก็กูเจ็บขานี่หว่า
   “ว้าย อ้ายเดี๋ยว อ้ายอุ่น” เสียงน้องๆ ม.ต้นล่ะครับ
   “หล่อแฮง หล่อคั่ก” อ่านะ กูรู้เว้ย ฮ่าๆ ไอ้เบบี๋มันก้มหน้าลงจะซุกใต้รักแร้ของผมอยู่แล้วครับ แต่กูนี่เดินลอยหน้าลอยตายิ้มให้สาวๆ เซเล็ปเว้ยๆ
   “กราบสวัสดี ท่านผู้ว่าราชการฯ ท่านผู้อำนวยการ คณะศิษย์เก่าและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน คืนสู่เย้า ของเราชาว อจ ในคืนนี้ ทางเรามีการแสดงเล็กๆน้อยๆจากนักเรียนของเรา เพื่อเป็นการต้อนรับคณะศิษย์เก่าและยังเป็นการต้อนรับคณะครูอาจารย์ที่เพิ่งเข้ามาสู่ครอบครัว อจ ของเรา” เสียงอาจารย์กลัยากับอาจารย์วันชัยล่ะครับ พิธีกรพูดอะไรไม่รู้เยิ่นเย้อน่ารำคาญมาก สลับกันพูดอยู่นานสองนาน เสียงปรบมือดังกึกก้องหลังจากที่ทั้งสองพูดเสร็จล่ะครับ แล้วอาจารย์ก็มาให้สัญญาณ คือกูน่ะแยกมาแล้วครับ นั่งเผ้าเครื่องเสียง คอยเปิดเพลงให้เพื่อนๆ เฮ้ย นั่นแม่กูพ่อกู ผมเหลือบตาลงไปข้างล่างเวทีล่ะครับ โอ้โห คุณนายแม่ แน่ใจเหรอนั่นว่าสร้อย เส้นเท่าแขนกูนี่ล่ะ ไปเช่าสร้อยลิเกมาจากไหนวะเนี่ย แล้วผมนั่นรังนกหรือว่าไรวะ ว่าไปๆ พ่อกูใส่สูธเว้ยเฮ้ย แว้กก เวอร์ไปไหมเนี่ย
   “การแสดงในครั้งนี้นำโดย นายอุรดิศ ......ณ .... ขอเสียงปรบมือด้วยค่ะ” อาจารย์กัลยาแกพูดอยู่ข้างๆผมนี่ล่ะครับ พอประกาศชื่อมันจบ เสียงก็ฮือฮาขึ้น คงจะเพราะนามสกุลมันนั่นล่ะครับ ขอเว้นไว้เป็นที่เข้าใจกันเนอะ ไฟบนเวทีดับลงครับ นักแสดงชุดแรกก็เดินออกมาทั้งที่มืดๆแบบนั้น พอจัดตำแหน่งกันเสร็จก็ส่งสัญญาณให้ผม ผมก็กดปุ่มเปิดเพลงตามที่สัดไม้มันเตรียมมาให้ เสียงเพลงของจินตหราดังขึ้น เสียงปรบมือก็ดังขึ้นทันทีพร้อมๆกับแสงบนเวที ว้าว สาวๆนี่ตอนซ้อมทำแบบว่าไม่สะดิ้งมากนะครับ แต่พอตอนนี้สะบัดสะบิ้งแบบว่าหางเครื่องของบัวผันอายเลยนะท่าน ฮ่าๆ เสียงกรี๊ดดังมากๆ แสงแฟลชเอยอะไรเอยวูบวาบไปหมด แต่เอ๊ะ ท่ารำมันก็ดูแปลกๆตาไปนะ คือที่ผมบอกว่าไม่ชอบดูเพราะเคยดูมาก่อนแล้วครับ รำท่าไหนก็จะย้ำท่านั้นอยู่นานสองนาน น่าเบื่อเถอะ แต่นี่ไม่เลยครับท่าน เปลี่ยนท่าตามเสียงเพลงเลยนะ และขอบอกว่ารำพร้อมกันมากๆ
   “เป็นไงบ้างคะ ขอเสียงปรบมือให้กับการแสดงชุดแรกหน่อยค่ะ” อาจารย์กัลยาทำหน้าที่ทันทีหลังจากเพลงที่สองจบลง เสียงปรบมือดังกึกก้องล่ะครับเสียงเป่าปากกรี๊ดก็ดัง ถ้าผมเป็นพ่อแม่พี่น้องของน้องๆนี่ ผมคงอิ่มใจตายไปเลยล่ะ มันน่าปลื้มใจจริงๆนะเว้ย คนมาปรบมือให้เยอะขนาดนี้
   “เดี๋ยวครับนักเรียน อะไรนะครับท่านผู้ว่า” อาจารย์วันชัยเรียกน้องๆไว้ก่อนล่ะครับ
   “โอ้ ท่านผู้ว่ามีรางวัลให้นักแสดงด้วยครับ” อ้าว แล้วกูล่ะ กูเบื้องหลังนะเว้ยเฮ้ย ท่านผู้ว่าก็เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมด้วยซองล่ะครับ เสียงปรบมือดังเกรียวกราว
   “มีอีกครับ จากคณะศิษย์เก่า” งดบรรยายครับ เอ่อ ชุดนี้รับซองไปห้าซองได้มั้ง ดีใจกันใหญ่ พอลงจากเวทีผมชะโงกหน้าไปดูพากันร้องไห้กอดกันกลมเลยนะ เดี๋ยวค่อยเล่าครับ การแสดงชุดต่อไปกำลังจะเริ่ม เพราะอาจารย์กัลยามาสะกิดผมล่ะให้เปิดเพลง ไฟก็ค่อยๆสว่างขึ้นล่ะครับ เอ้ย นิ้วมือนั่นทำไมกูไม่เคยเห็นวะ คือทุกคนใส่นิ้วปลอมที่ทำมาจากกระดาษเงินทำเป็นนิ้วยาวๆล่ะครับมีพู่กลมๆทำด้วยด้ายไหมพรมที่นี่เขาเรียกซวยมือครับ ดนตรีเริ่มด้วยเสียงแคน เออ จะบอกว่าเผ่าภูไทนี่มีหลายเผ่านะครับท่าน มีภูไท สกลนคร นครพนม กาฬสินธ์ แต่ที่แสดงวันนี้เราเลือกของนครพนมครับ เพลงที่ใช้ก็มีเสียงร้อง ส่วนมากเพลงของชาวภูไทนี่จะมีเอกลักษณ์ประจำตัวนะครับ ส่วนมากจะขึ้นด้วย โอ้ยนอ อ้ายเอย หรือ ท่านผู้ฟังเอย ประมาณนี้ จังหวะช้าๆเนิบๆแต่ฟ้อนได้ครับ เพราะมันมีแคน โปงลาง เอาล่ะวกไปบนเวทีครับ กำลังฟ้อนเลย เสียงปรบมือดังมากครับ เสียงกรี๊ดก็ดัง แสงก็เหมือนเคยสว่างจ้าเลยนะ ท่ารำสาวจอยกับเจ้แกช่วยกันคิดโดยเอามาประยุกต์ใส่กัน โดยเปลี่ยนท่ารำบ่อยมากครับ สวยดีนะผมว่า ขนาดผมไม่ค่อยอะไรกับของแบบนี้ยังรู้สึกขนลุกเลยท่าน แล้วคนที่เขาชอบนี่จะยังไง สาวๆโหยกันแบบว่ารำอ่อนมากครับ โหยคือการย้อนตัวขึ้นลงตามจังหวะเพลง ไม่รู้ภาษากลางเขาเรียกอะไร แต่เอาเป็นว่ามันสวยมากๆครับ เวลาเอียงคอก็เอียงแบบว่าจะล้มเลยนะ ตัวอ่อนมาก ผมเองก็ไม่ยักรู้ว่าสาวจอยมันจะรำสวยขนาดนี้ พอการแสดงจบลงเสียงปรบมือก็ดังขึ้น งดบรรยายครับมันดังมาก
   “ไปเรียนมาจากไหนลูก” ท่านผอขึ้นมามอบรางวัลครับ มีผู้ว่าขึ้นมาด้วย ไม่อยากจะบอกว่าได้ซองเกือบสิบซองเถอะชุดนี้ จิ๊ๆ ต้องหารๆ ฮ่าๆ
   “ฝึกกันเองค่ะ” สาวจอยตอบครับ เสียงปรบมือดังอีกแล้ว ผอหน้าบานยิ่งกว่ากองเพลงอีกครับท่าน พอสาวๆเข้าหลังเวทีก็กระโดดกอดกันล่ะครับ ผมก็รู้สึกยินดีด้วยนะ เอาล่ะมาถึงชุดที่ผมอยากดูเพราะมันมีไอ้เบบี๋แสดงด้วยครับ อาจารย์กัลยาก็ขึ้นไปประกาศเหมือนเคย ผมมองไปข้างล่างเห็นปลัดเองก็ดูท่าทางตื่นเต้นไม่น้อย เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมๆกับไฟบนเวทีดับลงล่ะครับ เพลง พื้นเมืองอีสาน ของเดือนเพ็ญ อำนวยพร ครับ ไฟสว่างขึ้นพร้อมๆกับเสียงเพลง คือน้องๆสาวๆก็สะพายตะข้องล่ะครับ ส่วนผู้ชายก็ถือสวิง เริ่มรำก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดกันสนั่นแล้ว ไอ้เบบี๋ของผมก็ เฮ้ย มันฟ้อนเหมือนคนอีสานเลยนะครับคือฟ้อนอ่อนดูไม่ขัดลูกตา มันเด่นมากๆเพราะมันขาวผ่องกว่าใคร หนวดปลอมบนหน้ามันยิ่งทำให้มันเด่นครับ มันฟ้อนรำเกี้ยวซ้ายขวากับน้องคู่ของมันกูจำชื่อไม่ได้ แต่คู่มันตัวเล็กสุดครับ ชุดนี้ผู้ชายรำแข็งๆแต่กูว่ามันสวยดีนะ ส่วนน้องๆก็เต็มที่มากโหยได้ใจกูมาก มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นท่าจกเอาอะไรจากสวิง ผมเห็นเหมือนไอ้เบบี๋มันจะทำผิดครับแต่มันก็ยิ้มออกมากับน้องเขา สัด จะน่ารักไปเนี่ยมึงเอ้ย กูขนลุก มันยิ้มแล้วมันแบบว่าใจจะขาดตายครับท่าน สองคนมันเหมือนจะยิ้มล่ะครับเพราะทำไม่ถูกคนอื่น แต่การแสดงก็จบลงได้ด้วยดี เสียงปรบมือดังมากๆ
   “เก่งมากทุกๆคน อุรดิศ นี่เราเป็นคนอีสานแต่กำเนิดเหรอ ผอไม่ยักรู้ เก่งมากๆ” ท่านผอก็ขึ้นไปบนเวทีเหมือนเคยล่ะครับ พอเอาตัวมันออกมายืนข้างๆผอเสียงคนข้างล่างก็ฮือฮา ด้วยนามสกุลเอย หน้าตามันเอย หลายอย่างล่ะรวมกันแต่เอาเป็นว่าวันนี้ สาวจอยเป็นนางเอก ส่วนมันก็พระเอกดีๆนี่เองครับ คุณปลัดขึ้นไปบนเวทีกอดไอ้เบบี๋ไว้แน่นเลยครับ ผมมองแล้วซึ้งไปเหมือนกัน ทีมนี้ได้ซองมาก็ไม่น้อยครับคงพอๆกับชุดที่สอง แต่ซองจากปลัดเองน่ะจะหนาไปไหนนั่น
   “เก่งหลายค่า โอ้ย เอื้อยขนลุกจนฮ้องไห้” พอเราไปรวมตัวกันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้แกก็กอดทุกๆคนล่ะครับ เว้นผู้ชายฮ่าๆ
   “อุ่นรำผิดป่ะพี่ต้อย” ไอ้เบบี๋มันเหมือนจะรู้ตัวครับ
   “แม่นค่า หนูกะว่าอยู่ ตาอยากอายหลายเนาะอ้ายอุ่น” น้องตัวเล็กเสริมล่ะครับ
   “บ่เป็นหยังดอกค่า เป็นตาฮักกะด้อ” เจ้แกเห็นตรงกับผมครับ
   “อุ่นลูก ออกไปไหว้ผู้ว่าหน่อยสิ” คุณปลัดเข้ามาตามล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันหันมามองผม ผมก็เลยพยักหน้าให้มัน มันก็เลยตามพ่อมันออกไปล่ะครับ
   “แดกเหล้าเว้ย ฉลองๆ” ผมเสนอครับ เพื่อนๆผมก็เฮขึ้น
   “ขอบคุณหลายเด้อค่ะเอื้อย แม่หนูกะมาเบิ่ง หนูดีใจหล้ายหลาย” น้องคนหนึ่งมาไหว้เจ้แกล่ะครับ
   “บ่เป็นหยังค่า เอื้อยกะขอบใจพวกโตเด้อแทนคุณอุ่น ที่พวกโตมีน้ำใจมาซ่อย” อ้าวๆ จะมาซึ้งอะไรกันตอนนี้วะเนี่ย กูเลยเดินออกมารอข้างนอกครับ
   “ป้าด ไปลักฟ้อนงามมาแต่ไสนี่จอย” สัดไม้ครับเดินออกมากับสาวจอย
   “งามบ่ อิอิ คองตาหัดคือกันนี่ล่ะไม้”
   “บู้ย ว่าแม่นเฮียนนาฏศิลป์มาแม่ะ” “โพดหลาย เขินเด้” อ่านะ จะมาจีบกันเพื่อ เห็นใจกูหน่อยเว้ย แฟนกูไม่อยู่
   “สูไปถ่าอยู่เฮือนโลด เดี๋ยวกูสิแวะซื้อเหล้าเข้าไป” ผมบอกสัดไม้ล่ะครับให้มันไปรวบรวมพรรคพวกไว้
   “น้องๆเด้” มันหมายถึงน้องๆผู้หญิงครับ
   “กะสั่งแนวกินมาให้เขากินติ๊ อยู่บ่เดิกกะให้เมือ” ผมบอกครับแล้วเพื่อนๆน้องๆก็แยกย้ายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็รอไอ้เบบี๋ล่ะครับ นานมากจะไปไหว้ใครวะเนี่ยนานจังวะ
   “อ้าว เพื่อนๆล่ะลูกเดี๋ยว” คุณปลัดพามันมาแล้วครับ
   “ไปรอกินเหล้าอยู่ที่บ้านครับ ฉลองๆ” ผมบอกตามความจริง
   “อ้าวเหรอ ดีๆ เงินที่ได้ก็แบ่งเพื่อนๆนะลูก ถือว่าเขามีน้ำใจมาช่วย ส่วนอุ่นไม่ต้องเอาหรอก เพราะนี่ถือว่าเป็นการทำโทษเรา”
   “อ้าว งั้นส่วนของมันให้ผมละกันนะครับ ผมเป็นคนเปิดเพลง” กูไมได้เห็นแก่ตัวนะเว้ยแต่นะเสียดายเถอะ น่าจะได้หลายตังค์อยู่นะ
   “ฮ่าๆ ตามใจลูกละกัน” คุณปลัดหัวเราะครับ ไอ้เบบี๋มันทำหน้าเหวอๆ
   “ไรอ่ะเน่า” “เออน่า เงินมึงก็เหมือนเงินกูล่ะ กูได้มากูก็ให้มึงเก็บอยู่ดี” ผมพูดครับ มันหน้าแดงขึ้นทันที
   “บ้า ไม่ได้เป็น” “ไร จะพูดไร” “ป่าว อิอิ ทำเหมือน กันเลยอ่ะ” “ไรของมึงวะ ทำเหมือนไร เหมือนผัวเมียกันน่ะเหรอ หรือว่าไม่ใช่วะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันก็อายไปตามระเบียบ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. ใครอยากรู้ว่าเพลงภูไทที่ใช้รำเพลงไร ไปดูในแฟนเพจเค้าน้า อิอิ

ขอให้หลับตาคิดภาพให้ออกเน้อ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-07-2012 11:00:48
บักเดี๋ยวกับนู๋อุ่น
น่ารักแท้หลาย :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 25-07-2012 11:41:23
มีเาเงินเก็บไว้ที่เมียด้วย อ่านแล้วเขิน
เดี่ยวน่ารักจัง อิอิอ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เนอะเลย

ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-07-2012 11:50:58
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 25-07-2012 11:58:21
ไม่ได้ไปโรบินสันนานแล้วนะเนี่ย เมื่อก่อนเลิกเรียนก็ไปเกือบทุกวัน
อยากดูฟ้อนจริงๆ บ้างจัง ชอบอ่ะ โดยเฉพาะโปงลางรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์มากๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-07-2012 13:03:58
เป็นตอนที่ซาบซึ้งมาก
เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่มาช่วยงานอุ่นอย่างเต็มใจ
แล้วงานก็สำเร็จด้วยดี
อ่านแล้วก็มีความสุข
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 25-07-2012 13:09:39
 :o8: ใจสิขาด ซ่างหวานกันคักแท้น้อ อุ่นกับเดี๋ยว อิ อิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 25-07-2012 13:30:37
น่ารักจริงๆ คู่นี้
แถมให้เมียเก็บเงินด้วยนะนายเดี๋ยว :laugh:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-07-2012 16:20:16
อบอุ่นกันจังเลย
อิจฉาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 25-07-2012 16:27:33
เป็นอีกเรื่องที่น่ารักมาก ดูธรรมชาติ ให้ความรู้สึกว่าอยู่สถานที่นั้นจริงๆ สุดยอดคะ   o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-07-2012 17:19:18
อะไรจะเห่อเมียขนาดนั้น เดี๋ยว :m12:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 25-07-2012 18:11:17
ชอบๆๆ  น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 25-07-2012 18:24:33
เป็นตาฮักแฮงคัก น้องอุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 25-07-2012 20:03:06
อ่าบักเดี๋ยวให้เมียเก็บเงิน เยี่ยม
จบการแสดงอย่างสวยงาม ลบ
คำสบประมาทของอีเพ็ญ อีรี่ และ
อีกหลายๆคนไปเลย อุ่น กับจอย พี่ต้อย สุดยอด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 25-07-2012 22:03:03
+1 น้องอุ่นเป็นตาฮักหลาย  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 25-07-2012 23:07:17
 :o8: หวานคักแท้เนาะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 25-07-2012 23:57:31
น่ารักจัง
บักเดี๋ยว เจ้าสิเป็นตาฮักหลาย
มีเก็บซเก็บเงิน
อุ่นก็ดูแลดีเกิน...
ไหนแฟนเพจพี่อิ๊กอ่า
อิจฉาเน่าอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 26-07-2012 01:24:30
พลาดตอนที่แล้วไปได้อย่างไร t_t
อ่านแล้วคิดถึงตอนเด็ก ๆ เวลาโรงเรียนมีงานอะไร เราเป็นคนหนึ่งที่ได้รำประจำ
ตอนซ้อมแบบว่า เบื่อ ขี้เกียจมากกกกกก แต่พอวันแสดงจริง ๆ ลั้นล้า มากเช่นกัน ฮ่าา
โดยเฉพาะเวลาได้รางวัล

นับวันไอ้เดี่ยวนี้มันชักจะออกนอกหน้านอกตา อยากเป็นลูกเขยปลัด เกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 26-07-2012 08:34:59
จะน่ารักไปไหนเนี๊ยะคู่เนี๊ยะ แต่ชอบมากกกก นึกถึงตอนที่ตัวเองอยู่โรงเรียนแล้วมีงานเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 26-07-2012 08:59:37
เดินซื้อของ ป้อมไอติม หนุงหนิงกันตล๊อดดดดดด
บรรยากาศงานโรงเรียน น่าสนุกเน๊อะ ฮ่าๆ
สรุปว่าเดี๋ยวเนียนเป็นลูกปลัดไปแล้วเรียบร้อยใช่ป่ะ
เงินเดี๋ยวก็เหมือนเงินอุ่น เงินอุ่นก็เหมือนเงินเดี๋ยว
ลุ้นนะเนี่ยเมื่อไหร่ตบะจะแตกก ฮ่าๆๆ
เน่ากับเบบี๋ น่าร๊ากกกกก เว่อร์อ่ะ
รออ่านตอนต่อไปจ้าาา คนเขียนสู้ๆๆ ^^
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-07-2012 12:39:56
+1    :L2: :L2: :L2:   
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 26-07-2012 12:54:42
เปนตาฮักแฮง    มักหลายๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 26-07-2012 20:14:46
เจ้าเดี๋ยวมาแรง..โชว์แฟนไม่แคร์ใคร...นายเจ๋งมากกก
ใครว่าการแสดงเป็นบทลงโทษ...เป็นเรื่องดีที่ทำให้นู๋อุ่นเป็นที่ยอมรับมากกว่า...
เจ้าเดี๋ยวระวังไว้...เมียเรากำลังจะเป็นคนดังแล้ว...เฝ้าเอาไว้ให้ดีนะจ๊ะ o18

 :L1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 26-07-2012 23:06:17
ประสบความสำเร็จด้วยดี  o13
อุ่นเดี๋ยวก็ยังน่ารักน่าหยิกกันต่อไป
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-07-2012 00:22:50
บู้ย...เป็นตาฮักอีหลี....ชอบเรื่องนี้ ชอบ ชอบ ชอบ ... อ่อคุณผู้เขียนจะรู้มั้ยหนอว่าทำให้คุณผู้อ่าน กิน ซุปหน่อไม้ติดต่อกันมาหลายอาทิตย์แล้ว เพราะได้อ่านตอนไปเก็บหน่อไม้... เรื่องนี้กระตุ้นต่อมอยากกินผมทุกครั้งที่อ่านจริงๆ...ให้ตาย!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-07-2012 11:51:20
 :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 27-07-2012 19:04:05
สนุกมากๆๆเลย เอาใจช่วยนร้าน้องอุ่นน้องเดี๋ยว :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: ninkara ที่ 29-07-2012 03:01:12
ตามทันแล้ว  :impress2:

เป็นตาฮักหลาย :-[ :-[ คือซิได้หลายหมื่นติ้ (ถูกหรือเปล่าหว่า?)

อิอิ แอบมึนภาษาถึงขนาดถามอากู๋  :a5:เขิลตัวเอง 555+

รอตอนต่อไปนะค่ะ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 29-07-2012 09:17:03
คุณอิ๊กกี้  มาต่อเถอะค่ะ :call: ใจจะขาดแล้วอยากอ่านต่อมากเลย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 30-07-2012 12:37:13
คิดถึงน้องเดี๋ยว และน้องอุ่นมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 22 Version (Dio) 25 July 12 หน้า 29
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 30-07-2012 19:00:08
คิดถึงอุ่นกับเจ้าเดี๋ยว :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 31-07-2012 12:15:16
Don’t call Me BaBy!!

   “เจ็บตีนว่ะเบบี๋” พอเราแยกจากพ่อผมมา ผมก็พยุงมันไปที่รถล่ะครับ ไอ้เน่าจู่ๆมันก็ร้องขึ้น
   “อ้าว ไมอ่ะ ไปโดนไรป่าว” ผมก็หยุดล่ะครับมองไปที่เท้ามัน มันยกเท้าขึ้นสูงกว่าเดิม
   “ไม่รู้ว่ะ มันปวดๆ” “ตรงข้อเท้าน่ะเหรอ รีบไปที่รถดิ เดี๋ยวดูให้” ผมบอกมันล่ะครับ
   “พยุงดิ” “ก็ทำอยู่นี่ไงอ่ะ” “กอดแน่นๆดิ” “กอดไมอ่ะ รีบไปดีกว่า จะได้ดูว่าโดนไรหรือเปล่า” ผมก็ห่วงมันล่ะครับแต่ว่ามันเหมือนแอบหัวเราะเลยนะ
   “อ่า ไรอ่ะเน่า แกล้งเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นมองมันทันทีครับ
   “ไร แกล้งเชี่ยไร ปวดจริงๆเว้ย ไรของมึงเนี่ย”
   “ปวดตรงไหนอ่ะ” ผมเริ่มจะไม่เชื่อมันครับ หน้าตามันนี่แบบร่าเริงมากๆเลยนะ
   “ที่เดิม” “บ้า เห็นมะ แกล้งอีกแล้วนะเน่า นิสัยไม่ดี” ผมปล่อยมือจากมันทันทีล่ะครับ
   “อ้าว ไม่เชื่อจับดูดิ” แหมนะ ยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกนะ มันกระเตงตามหลังผมมาล่ะครับจนถึงรถ ระหว่างทางก็มีคนแซว เรียกชื่อผม ชมว่ารำสวยอย่านั้นอย่างนี้แต่ก็ไมได้สนใจอะไรมาก ว่าไปแล้วตอนรำนี่ตื่นเต้นมากๆเถอะ ตั้งใจว่าจะไม่ให้ผิดแต่ก็ยังผิดจนได้ แต่ก็เอาเถอะ แต่ชุดที่จอยรำสวยมากๆเลยนะครับ ผมดูแล้วขนลุกเลย รำสวยมากๆ สวยจนผมนึกว่าดูนางฟ้ารำอยู่ เวอร์ไปไหมเนี่ย อิอิ แต่เสียงปรบมือมันพิสูจน์ได้ดีล่ะครับ ดีใจที่สุดแล้วล่ะ เพราะตั้งแต่เรียนมาอยู่โรงเรียนดังก็จริงแต่ผมไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้เลย เข้าใจผมใช่ไหมเนี่ยว่าผมรู้สึกยังไง มันนับเป็นการออกงานครั้งแรกที่นับว่าไม่เลวทีเดียว อิอิ
   “รีบไปดิ เพื่อนรอแล้วมั้งป่านนี้” พอขึ้นรถผมก็เร่งมันทันทีล่ะครับ
   “เออๆ ไม่ดูกูหน่อยเหรอ เจ็บอ่ะ” มันหันหน้ามาทำท่าอ้อนครับ
   “ไรอ่ะ เจ็บไร เจ็บเท้าหรือว่าทะลึ่ง”
   “แหะๆ จับหน่อยดิ นะนะเบบี๋ วันนี้เป็นวันพิเศษนะเว้ย ไม่อยากจับเหรอ” อ่านะ นี่มันไม่มีอะไรจะแถไปแล้วสินะมันถึงกล้าพูดออกมาแบบนี้ บ้าที่สุดเลยนะไอ้เน่า
   “บ้าเหรอ วันพิเศษที่ไหนเขาจะจับไอ้นั่น ไม่เอาอ่ะ”
   “จะจับไม่จับ ไม่จับกูไม่อาบน้ำนะเว้ยคืนนี้” เออดี กูจะได้ไม่เหนื่อยด้วย
   “อือ ตามใจ” “สัด ไม่ตามใจกูเลยว่างั้น”
   “ตามใจไรอ่ะ ให้จับทำไมอ่ะเน่า เดี๋ยวก็แข็งขึ้นมา จะทำนั่นทำนี่อีกหรอก ถึงบ้านค่อยจับได้ป่ะ”
   “ไม่ได้ จับตอนนี้ อยากให้จับตอนนี้เว้ย ที่บ้านจะให้อม” อ่า หันหน้าออกนอกกระจกทันที อายอ่ะ ไอ้บ้า พูดออกมาโต้งๆไม่อายฟ้าดิน คือว่าตอนนี้เราก็ยังไมได้ถอดชุดล่ะครับมันยังใส่โสร่งอยู่เหมือนผม
   “ว่าไง” แน่ะ ไม่ยอมหยุดครับหันมาถามผมครับ ผมก็อายนะแต่ก็หันมาล่ะ
   “ไรอ่ะ” “จะจับได้ยัง เล่นตัวจังวะสัด” อ่านะ ด่ากูเพื่อ
   “เออๆ บีบให้แตกเลยนะ” ผมยอมครับ แค่จับคงไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ใช่คนลามกอะไรนี่ อิอิ
   “บีบให้แตกมึงก็มีผัวพิการ ไมได้ทำการบ้าน เอาดิ” โว้ มันถ่างขาออกท้าทายมากครับ แหมนะ เออๆ
   “ประหลาดนะเน่า ให่จับทำไมอ่ะ” ผมจับแต่ก็ไม่มองล่ะครับ เอ่อ คือว่ามันโด่ได้ใจจริงๆนะนี่ขนาดใส่กางเกงในนะเนี่ยมันยังดันสู้มือผมขนาดนี้เลย ถ้าถอดจะขนาดไหนเนี่ย แว้กก ใจร่มๆนะอุรดิศ มันแค่ท่อนแขนคิดไปแบบนี้สิ
   “เด้งดีป่ะ” อ่านะ จะพูดทำไมเนี่ยไอ้เน่า มันผงกลำสู้ครับ แว้กก ปล่อยมือได้แล้วๆ
   “จะลงไปทั้งอย่างนี้อ่ะเหรอเน่า” เอ่อ คือว่ามันยังตุงๆอยู่เลยนะครับถึงบ้านแล้วเถอะ
   “ตุงไร ใส่โสร่งนะเว้ย” มันไม่สนใจครับพอจอดรถผมก็รีบลงแล้วเอาไม้ค้ำไปข้างมันแล้วก็พยุงมันออกมา เพื่อนๆรออยู่พร้อมแล้วครับเหมือนพี่ต้อยกำลังแจงงานอยู่ล่ะครับ
   “ไสเหล้าน่ะบักเดี๋ยว กูถ่าอยู่เด้นี่” นายเคนพูดขึ้นล่ะครับ ยังไม่ทันได้นั่งเลยนะทวงเหล้าแล้วเถอะ
   “กูลืมซื้อ เออๆ สิออกไปซื้อนี่ล่ะ สูสิเอาหยังแน่” หือ อะไรอ่ะเพิ่งจะกลับเข้ามา
   “จะออกอีกเหรอเน่า” ผมมองหน้ามันล่ะครับ ไม่อยากให้มันขับรถมากเดี๋ยวขามันก็ไม่หายสักที
   “เจ้ๆ เอาหยังแน่ผมสิออกไปซื้อเหล้านี่แหม่ะ” มันไม่สนใจผมครับ ตะโกนถามพี่ต้อยเฉยเลย
   “บักโจ้ บักเต้มึงมานำกูแน่ ไปซ่อยถือของ” มันเรียกเด็กสองคนนั้นล่ะครับ ผมยืนนิ่งอยู่ ไมได้งอนนะแต่อยากรู้ว่ามันจะให้ผมไปด้วยหรือเปล่า
   “จอยๆ อ่ะนี่ซอง แบ่งกันได้เลยนะ ไม่ต้องเผื่อเรา” ผมเดินไปหาจอยล่ะครับ
   “อ้าว บ่ทันแบ่งดอกอุ่น ให้โตกลับมาก่อนล่ะ ฟ้าวไปเด้อ เออ ซื้อฮอทดอกมาฝากเฮาแน่เด้อ อิอิ อยาก” อ่านะ จอยมันทำท่าอายครับ มันคงจะหมายถึงฮอทดอกในเซเว่นล่ะ นั่น คิดไรเนี่ยทุกคน
   “เฮ้ย ทำไรอยู่วะ มาเร็วดิ” มันเรียกผมล่ะครับแต่ผมทำเป็นไม่ได้ยิน
   “อุ่นๆ เดี๋ยวมันเอิ้น” “ไม่หรอก คงเรียกคนอื่นล่ะ” แอบงอนครับ ทีกูสนใจมึงไม่สนใจกูนะไอ้บ้า
   “นั่น งอนอีก เร็วสิวะ ไอ้เบบี๋” เอ่อ มันออกชื่อซะขนาดนี้ครับ ผมเลยหันไป
   “ไม่ไปอ่ะ นายไปกับน้องๆเถอะ” ผมตอบไปครับ
   “งอนเชี่ยไรเนี่ย เมียไม่ไปจะเอาเงินที่ไหนซื้อวะ” “กรี๊ดดด” เอ่อ เสียงหวีดของน้องๆ เสียงเป่าปากปรบมือดังลั่น ผมตัวลีบเล็กลงเท่ามดได้ครับ อายมากๆ
   “เร็วเลยๆ ทำงอนๆ เดี๋ยวคืนนี้จะให้ซักดอกนะคร้าบ ที่รัก” มันแกล้งผมครับ ไอ้บ้า เลวมาก คอยดูนะ ผมเลยรีบเดินก้มหน้างุดๆไปขึ้นรถ
   “บู้ย แม่นไปนำเพิ่นสิแม่นแนวบ่ล่ะบักเต้” ไอ้น้องโจ้มันแซวครับ
   “แม่นอยู่อ้ายเดี๋ยว สิให้ผมสองคนไปนำอีกหลีติ๊ เผื่อเพิ่นอยากแวะข้างทาง”
   “เออน่า ไปนำกันนี่ล่ะ บัดห่าเมียกูเคียด ฆ่ากูกลางทางสิเฮ็ดจั่งได๋” มันล้อผมแน่ๆเลยอ่ะ
   “ไรอ่ะเน่า จะไปป่ะเนี่ย พูดเยอะนะ” ผมอายมากครับรีบเดินขึ้นรถไป
   “อ้าวๆ ไม่มาพยุงผัวล่ะจ๊ะเมียจ๋า” ยังอีก ยังไม่หยุด ผมแบบว่าอายจัด จนตัวสั่นแต่ก็นะจะให้ว่าอะไรมันได้ล่ะ
   “บู้ย ไปล้อเพิ่นหลายอ้ายเดี๋ยว เพิ่นอายหน้าแดงอ่องต่องแล้วนั่นน่ะ” เสียงใครไม่รู้ครับเพราะเสียงแซวจากนอกรถยังดังอยู่เลยนะ
   “มาๆผมจับไม้ให้” “บ่ต้อง อย่ามาจับกู” มันตวาดน้องโจ้ครับ อ้าวๆ ไอ้นี่
   “ป้าด จับกะบ่ได้ฮั่นนี่ สิเฮ็ดจั่งได๋ล่ะจั่งสิได้ไป”
   “จิ๊ เรื่องเยอะนะเน่า ไรอ่ะมาล้อทำไม นิสัยไม่ดี ขาเจ็บมาไม่ต้องมาให้ดูเลยนะ” ผมก็ทนไม่ไหวจนได้ มันยืนทำหน้าทำตาไม่สนฟ้าดินอยู่ล่ะครับ ไอ้น้องสองตัวนี่มันก็เข้ามาพูดเหมือนจงใจยุผมล่ะครับ ใครจะไปทนนั่งอยู่ไหวเนอะ อายก็อาย แต่ทำไงได้ล่ะ มันมาถึงขั้นนี้แล้วนี่
   “อ้าว ไม่แซวเมียจะให้แซวใครวะ กูชอบให้มึงอาย แก้มแดงๆ น่ารัก” อ่านะ
   “บ้าเหรอ ใครเมียอ่ะ เรียกจังนะ เดี๋ยวเขาก็แซวหรอก” ผมอายครับ มากด้วย มันล้อทีไรก็อายทุกทีไม่เคยชินเถอะ
   “จะเขินอีกนานไหมเนี่ย อย่าเพิ่งอายเว้ย คืนนี้เดี๋ยวกูจะเป็นผัวเต็มตัวมึงค่อยอายตอนได้กันเสร็จ” อึ้ก อึ้งครับ แล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย เสียงน้องสองคนในรถแซวไปตลอดทาง ผมกลายเป็นใบ้ไปเลย คิดนะเนี่ยไม่ใช่ไม่คิด มันจะทำจริงเหรอ แล้วผมพร้อมแล้วเหรออุรดิศ มันต้องเจ็บแน่เลย เจลหล่อลื่นก็ไม่มี หรือว่าจะแวะดูด้วย แว้กก คิดอะไรเนี่ยกู ไม่ดีๆ อย่าไปคิดเยอะขนาดนั้น มันไม่ทำหรอก เดี๋ยวก็เมาเชื่อเหอะ แต่เอ๊ะ เผื่อฉุกเฉินขึ้นมาล่ะ ทำไงดี แต่ว่าจะไปแว้บซื้อตอนไหนเนี่ยน้องๆก็มาด้วย แล้วมันยี่ห้อไรอ่ะ เคยได้ยินเพื่อนๆที่กรุงเทพฯคุยกัน เควาย หรือว่า เพลย์ๆอะไรนี่ล่ะ ตายล่ะ จำไมได้
   “เฮ้ย คิดไรวะมึง” “เควาย” เอ่อ ไอ้บ้า คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ
   “หือ อีหยังเกาะอ้ายอุ่น อีหยังวายๆเกาะ” เอ่อ ไอ้น้องโจ้ครับมันยื่นหน้ามาเลยนะ ผมเงียบ อึ้ง อาย ประมาณห้านาทีครับแล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่น แหมๆ ทั้งไอ้น้องเต้กับไอ้น้องโจ้หัวเราะเสียงดังมาก
   “ป้าดโธ้ ว่าแม่นคิดหยัง คิดเรื่องนั้นนี่ตั้วซั่น ฮ่าๆ โพดเนาะคนเฮา”
   “เซาๆ อย่าสิล้อ เฮ้ย พวกห่านี่” ไอ้เน่ามันตวาดครับ แหมนะไม่รอให้มันสองคนล้อจนเสร็จไปเลยล่ะมึง
   “อยากเหรอจ๊ะที่รัก แหมๆ ทำแอ๊บนะมึง ที่แท้ คิดถึงเรื่องนั้นอย่างเดียวเลยนะ”
   “บ้าเหรอ ไมได้คิด ไรอ่ะ ไมได้คิดนะเน่า”
   “อย่าๆ เผลอร้องออกมาเป็นเควายเนี่ยนะไม่คิด มันใช้ดีเหรอวะ กูว่าเอาวาสลีนดีกว่า ร้อนๆด้วยเวลาทำไปทำมาน่ะ” เอ่อ ผมหันหน้าหนีตามเคยครับ ถ้าอยู่กับมันสองคนนี่ก็อายนะแต่คงไม่เท่านี้ ไม่น่าเลยกูอุรดิศ พูดอะไรออกไปเนี่ย
   “ไม่เอาแล้ว ไม่คุยด้วยแล้วอ่ะ นิสัยไม่ดี” มันหัวเราะครับ ดูสบายอารมณ์มากๆ สองตัวข้างหลังก็พูดเฉียดไปเฉียดมาล้อผมอยู่นั่นล่ะ
   “เป็นตาฮักเนาะ” จู่ๆไอ้น้องเต้ก็พูดขึ้นล่ะครับ
   “ไผ” ไอ้เน่ามันถามครับ
   “เมียเจ้าเด้ ซาดเป็นตาฮัก บัดยามอายแห่งเป็นตาเบิ่ง แก้มกะแดงๆเป็นตาหอม”
   “ฮ่วย บักห่านี่ อยากตายติ๊” “บ่ได้คึดดอกอ้าย บ่กล้าคึดดอก กะเว้าแนวเห็นเนาะ แม่นบ่บักโจ้” อ่านะ คิดไหมเนี่ยว่ากูยังนั่งอยู่ตรงนี้นะเว้ย ไม่ได้เป็นอากาศธาตุนะมึง เห็นหัวกูบ้างเถอะ
   “เป็นตาฮักจั่งซี้ล่ะ กูจั่งได้หวง” พอเถอะวันนี้ ผมไม่ไหวครับ อยากจะกรี๊ด ทั้งอายทั้งเขิน ทั้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บ้างหรือเปล่านะ ลองอยู่ดูนะจะได้รู้ว่าตอนนี้อุรดิศรู้สึกยังไง เหมือนโดนรังแกเลยอ่ะ แงๆ
   “พวกผู้สาวกินน้ำส้มเอาเด้อ ให้กินดอกเหล้าน่ะเดี๋ยวสิเมา” นายเคนพูดขึ้นล่ะครับ จะเชื่อไหมระหว่างที่ไปซื้อของจนกลับมาผมไม่พูดอะไรเลยครับ พวกมันก็ไม่ได้หยุดแซวหรอกนะจะบอกให้ แซวได้แซวดี หัวเราะกันสนุกสนานไอ้เน่านั่นล่ะครับตัวดีเป็นคนพาน้องๆแซวผม หนอยแน่ คอยดูนะปวดขามาจะไม่ดูให้เลยนี่
   “หวืย โพดเนาะอ้ายเคน หนูกะอยากซิมเบิ่งคือกันเด้ค่า” น้องคนหนึ่งก็พูดขึ้นล่ะครับ
   “บ่ได้ๆ ไปๆ ไปหาเจ้เพิ่นนั่น ให้เพิ่นตำแตงสู่กิน” เสียงอื้ออึงอยู่สักพักล่ะครับก็แยกเป็นสองวง ผมเลยเดินไปหาจอย
   “แบ่งตังค์ให้น้องๆเถอะจอย พรุ่งนี้มีเรียนนี่เดี๋ยวน้องจะกลับบ้านค่ำ” ผมบอกล่ะครับ
   “เอาจั่งซั่นบ่” จอยมันคิดอยู่ครับแล้วเราก็มาแบ่งเงินให้เท่าๆกันตามจำนวนคน คือเว้นผมอ่ะนะ ไม่ได้อยากได้เงินหรอกนะครับ แต่ความรู้สึกที่ผมได้รับตอบแทนจากน้องๆเพื่อนๆมันหาซื้อไม่ได้ด้วยเงิน มันคือน้ำใจที่ทุกคนมอบให้ผมนั่นล่ะครับ
   “ป้าด ได้คนละสองพันห้า กรี๊ด” เอ่อ จอยมันกรี๊ดขึ้นล่ะครับ พอน้องๆได้ยินก็หูผึ่งกรี๊ด บางคนกระโดดกอดกัน เออว่ะ ได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ซองพ่อผมคนเดียวก็นะ
   “ทำไมเหรอจอย” ผมถามจอยล่ะครับ
   “โตฮู้บ่อุ่น ตั้งแต่เกิดมาเฮาบ่เคยหาเงินได้หลายซ่ำนี้มาก่อนเลย ดีใจหลาย โอ้ย ดีใจ” จอยมันโผเข้ากอดผมล่ะครับ น้ำตามันไหลด้วยนะ เอ่อ ผมเองก็อึ้ง น้องๆบางคนก็ร้องไห้ดีใจ ผมว่าเงินจำนวนพันมันเยอะนะสำหรับคนที่ยังไม่มีรายได้อย่างพวกเรา สำหรับผมเองมันก็เยอะแต่ก็อย่างว่าล่ะครับ เอาเถอะข้ามเรื่องนี้ไป แต่พอผมได้เห็นแววตาท่าทางของเพื่อนๆน้องๆแล้ว ผมเองก็รู้สึกเป็นสุขใจเหลือเกิน
   “ไสล่ะของเฮาน่ะ” ไอ้เน่าครับเดินเข้ามาเลยนะพอได้ยินเรื่องแบ่งเงิน
   “บู้ย โพดหลายเดี๋ยว เอ่า ของโตกับของอุ่น” จอยมันก็ยื่นให้ไอ้เน่าล่ะครับ ผมว่าจะไม่เอาแต่ไอ้เน่ามันไวมากๆ
   “อ้ายอุ่น หนูขอบคุณหลายๆเด้อค่า ที่ให้หนูมาฟ้อนซ่อย หนูสิเอาเงินไปให้แม่ไปซื้อปุ๋ยใส่นา” เอ่อ พอน้องๆมารับเงินคำขอบคุณก็หลั่งไหลมาจนผมเองเม้มปากแน่นหลายที น้องๆร้องไห้ด้วยล่ะครับ ผมเองก็มีน้ำตาซึมบรรยากาศมันพาไปจริงๆนะ ผมไมได้เสียใจแต่ดีใจมากๆ มันปลื้มใจเหลือเกิน
   “กูสิไปซื้อเกิบใหม่” พอน้องๆแยกกันกลับบ้านพวกเรา ก็กลุ่มเดิมล่ะครับก็ตั้งวงเหมือนเคย นายเคนมันก็พูดขึ้น
   “แม่นๆอ้าย ผมเห็นสตั้ดคู่หนึ่ง ง้ามงามได้เงินมานี่ล่ะสิไปเอา” น้องโจ้ก็พูดขึ้น
   “หวืย เอาเงินไปให้อีแม่เก็บไว้ใซ้บ่ดีบ่” จอยมันขัดน้องชายครับ
   “ฮ่วย เงินหาเองเด้นี่ สิแบ่งให้อีแม่อยู่ดอกน่า” น้องโจ้มันไม่ยอมครับ ผมก็พยักหน้าตามมัน พวกเราคุยกันอยู่สักพักพ่อผมก็กลับมาครับ พ่อผมมาร่วมวงด้วยแต่ไม่นานมากนักพวกเราก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะมันค่ำแล้วเถอะ จะห้าทุ่มอยู่แล้ว พ่อผมกึ่มๆเหล้าเถอะ ดูหัวเราะร่าเริงมีความสุขดี ส่วนไอ้เน่ามันเมาแอ๋เลยครับ
   “เน่าๆ ลุกไปอาบน้ำ” ผมเขย่าตัวมันล่ะครับ ตอนนี้เพื่อนๆกลับหมดแล้ว พ่อผมขึ้นบ้านไปนานแล้วครับ พี่ต้อยก็เก็บของอยู่ จะเชื่อไหมว่าพี่ต้อยไม่ได้รำด้วยนะแต่แต่งหน้าใส่ผ้าซิ่นเหมือนพวกเราเลยครับและที่สำคัญ ยังไม่ถอด
   “อือ อาบราย ไม่อาบ” นั่น เมาแล้วแบบนี้ทุกที
   “ไม่อาบนอนตรงนี้นะเน่า” ผมบอกมันครับ
   “ราย ราย ทิ้งกูเหรอเมิง” มันเริ่มป่ายมือครับ
   “ไหวบ่ล่ะค่าคุณอุ่น คือเป็นตาเมาคั่กแท้” พี่ต้อยหันมาถามล่ะครับเพราเห็นดึงกันอยู่นาน
   “หวายเจ้ หวาย ซ่ำนี้หนึ่ง ฮ่วย คือ หมุนๆแนวนี้น้อบ่านนี้” มันพยายามจะลุกล่ะครับ
   “โอ๊ย” นั่น สม ล้มจนได้ มันคงจะลืมตัวว่าขามันเจ็บอยู่ล่ะครับลุกเดินเหมือนตัวเองปกติแล้วก็ล้มลงเหมือนเดิม เอาไปเอามาผมกับพี่ต้อยก็ลากมันขึ้นห้องมาจนได้
   “กินเหล้าแล้วเป็นแบบนี้ทุกทีนะเน่า คราวหลังไม่ต้องกินแล้วนะ” ผมยืนมองมันดิ้นอยู่บนเตียงล่ะครับ มันยังใส่โสร่งอยู่เหมือนเดิมล่ะ ท่าทางคงจะเวียนหัว ผมเลยไปอาบน้ำจะมานอนท่าทางมันคงซักแห้งแล้วล่ะวันนี้ เซ็งครับ ผมต้องนอนกับไอ้เน่าอีกแล้วอ่ะ เน่าสมชื่อเลยทีนี้ ผมเองก็อาบน้ำไม่นานมากครับ พอออกมาจากห้องน้ำแล้วเข้าห้อง เอ่อ มันถอดผ้าหมดเลยเถอะ นอนดิ้นไปมาอยู่ แหมๆ ทีแบบนี้ไม่เจ็บนะเท้า
   “นอนดีๆดิเน่า” ผมปีนขึ้นเตียงไปล่ะครับ จัดท่านอนแล้วก็ปิดไฟหัวเตียง
   “อ๊ะ” มันกอดผมทันทีครับ
   “เอากันๆ” อ่านะ “เมาไม่ใช่เหรอ นอนๆ” “เอาได้” “ไม่เอา เหม็นเหล้าอ่ะ” “เอาๆ” อ่านะ มันเบียดผมครับ ผมเองก็ไม่ได้ดิ้นหรอกแต่ก็ใช่ว่าจะยอมมันนะ มันพูดแต่ไม่มีแรงทำอะไรหรอกนะผมว่า มันครางอู้อี้ๆอยู่ไม่นานก็นิ่งไปครับ จิ๊ มันยังคงนอนกอดผมอยู่ล่ะ ผมรู้สึกไม่ชอบกลิ่นเหล้าผสมกับกลิ่นเหงื่อมันแต่ทำไงได้มันเกี่ยวขาเกี่ยวแขนซะแน่นขนาดนี้ ผมเลยเผลอหลับไปล่ะครับ
   “ยกขาดิเบบี๋” หือ ไรอ่ะ ผมงัวเงียตื่นขึ้นครับ
   “ไรอ่ะเน่า” “ยกขาเร็ว กำลังจะเอาเข้าแล้ว ยกๆ” ผมมองมาที่มันครับ อ้าว มันยังหลับอยู่นี่
   “ยกขาๆ” ละเมอ? อ่านะ เอากับมันครับมันก็เบียดๆผมอยู่ล่ะ โอ้ยนะ คนหลับอยู่นะเนี่ยมาปลุกให้คึกอะไรกลางดึกกลางดื่น เดี๋ยวก็ลักหลับซะนี่ไอ้บ้าเน่า
   “อือ มึนหัวว่ะเบบี๋” พอตอนเช้าเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นล่ะครับ ไอ้เน่ามันทำตาปรือๆ
   “แหงล่ะ เมื่อคืนกินไปเยอะนี่” ผมบ่นแล้วลุกจากเตียง
   “ไปไหน” “ห้องน้ำ” “ไปด้วยดิ อาบน้ำให้หน่อยคัน”
   “ไม่เอา เดี๋ยวจะมาเรียก” ผมบอกมันครับ
   “ทำไมวะจะขี้เหรอ” “อืม” “ขี้ไปดิ กูจะได้แปรงฟันรอ” “บ้าเหรอ ไม่เหม็นไง”
   “กูทนไหว เมียนี่” อ่านะ ไอ้บ้า ไม่เอาอ่ะจะเบ่งก็ไม่ถนัดน่ะสิ แต่เชื่อไหมมันไม่ยอมครับ ผมทรมานมากๆ มันไม่สะดวก มันเสียความเป็นตัวเองไป แต่ผมทำอะไรไม่ได้อ่ะ
   “ปู้ดด” เอ่อ ไม่ใช่ผมนะขอโทษ ไอ้เน่าครับ มันยืนยกขาแปรงฟันอยู่ ผมหน้าแดงเลยอ่ะอายแทนมัน
   “เร็วดิเบบี๋ กูก็ปวดขี้เนี่ย” อ่า งดบรรยายได้ไหมอ่ะมันดูประหลาดๆยังไงไม่รู้อ่ะ นี่ผมกลัวจังเลยว่าผมจะเป็นโรคจิตเหมือนมันเข้าสักวัน
   “มึนหัวเอื้อย มียังส้มๆให้กินบ่” พอแต่งตัวเสร็จเราก็ลงมาข้างล่างล่ะครับ พ่อผมยังไม่ตื่นเถอะ
   “กินน้ำส้มท่อนแล้ว ไปโรงเรียนไหวบ่ล่ะเดี๋ยว”
   “บ่ไหวกะต้องไปตั้ว ผมบ่ไปไผสิไปส่งเพิ่นนี่ซั่นเจ้” อ่านะ เหมือนจะเป็นห่วงผมนะแต่ว่ากินไม่รู้ตัวเอง อยากจะบ่นเหมือนกันล่ะครับแต่ก็นิ่งๆไว้ดีกว่า มันก็กินน้ำส้มไปสองแก้วข้าวไม่กินครับ ตอนขับรถไปโรงเรียนก็สลึมสลือผมล่ะกลัวแต่ก็ต้องพยายามเรียกสติให้มันคืนมา แต่ไม่ใช่มีแต่มันหรอกนะครับที่เป็น เพื่อนๆในกลุ่มเป็นกันทุกคนแม้แต่จอยเถอะ
   “ไหวป่ะเนี่ยเน่า” ผมถามมันตอนพยุงมันไปที่โรงอาหารล่ะครับท่าทางน่าจะไม่รอด
   “ง่วงว่ะเบบี๋ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จกูจะไปนอนที่ห้องพยาบาลล่ะ” อ่านะ ตกลงนี่มาเรียนเหรอเนี่ย สบายจังนะมึง
   “อ่ะ ไม่เรียนเหรอ” “เรียนไม กูเก่ง” เออนะ จบเลย ผมเลยไม่ถามมันอีกครับ เพื่อนๆแต่ละคนก็เหมือนจะสลบคาที่
   “ไม่ไปนอนห้องพยาบาลเหรอจอย” ผมแซวครับ จอยทำตาปรือๆ
   “อือ ว่าอยู่นี่แหมะ ไปบ่อุ่น” อ่านะ ไม่รู้อีกว่าประชด
   “บ้าเหรอ เรียนยิ่งไม่ค่อยทันเพื่อนอยู่ด้วยนะ ไม่เอาอ่ะ” ผมตอบไปล่ะครับแล้วลากจอยไปเข้าแถว ผมเหลือบมองอยู่ขนาดยืนนะยังจะหลับ เอาเข้าไป
   “สำหรับงานคืนสู่เย้าและต้อนรับอาจารย์ใหม่เมื่อคืน ผอขอบใจทุกคนที่มีส่วนร่วมให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะการแสดงที่นำทีมโดยอุรดิศ เอ้า ไหนอุรดิศยืนขึ้นให้เพื่อนดูหน่อยซิ ท่านผู้ว่าและทางศิษย์เก่าประทับใจมาก ขอให้นักเรียนปรบมือให้เพื่อนหน่อยครับนักเรียน” พอตอนผอออกมาพูดแกก็พูดถึงการแสดงของพวกเราเมื่อคืนล่ะครับ ผมก็ยืนขึ้นก้มหน้าหน่อยล่ะครับไม่อยากมองหน้าใคร เสียงอื้ออึงขึ้นล่ะครับ ทั้งดีและไม่ดีคละเคล้ากันไปล่ะแต่ผมก็ยินดีอยู่นะยิ่งเสียงปรบมือดังกึกก้องยิ่งรู้สึกดี
   “อ้าวๆ นั่งลงได้แล้วล่ะอุรดิศ ยืนนานแล้ว” อ้าว เอ่อ คือมัวแต่เขินปลาบปลื้มใจอ่ะครับ เสียงหัวเราะดังขึ้นสนั่นเลยทีนี้ ผมอายเลยรีบนั่งลงแต่เหมือนว่าเขาจะปล่อยแถวแล้วพอผมนั่งเพื่อนๆก็ลุก ไรวะ
   “อ้ายอุ่นๆ หมู่หนูเขาฝากมาให้” พอเลิกแถวผมก็ลากจอยมาล่ะครับ ไอ้เล็กมันไปนอนห้องพยาบาลกับพวกไอ้เน่า จอยก็ท่าจะไม่รอดตาปรืออยู่ตลอดเวลา
   “หือ อะไรเหรอครับน้องแตง” ผมหันไปหากลุ่มน้องแตงครับเดินมากับน้องอีกคนจำชื่อไมได้ ฮ่าๆๆ
   “หมู่หนู่ค่า มันฝากมาให้ มันบอกว่ามักอ้ายอุ่นหล้ายหลาย หล่อแฮง สิขอเป็นแฟนคลับ”
   “หา แฟนคลับ แฟนคลับไรอ่ะน้องแตง” ผมงงครับ ทำหน้าเหวอๆ
   “แฟนคลับคนเป็นตาฮักค่า หนูซวนหมู่ตั้งเองเด้อค่า เนี่ยห้องหนูพ่อซายแม่ยิงเขามักอ้ายอุ่นกับอ้ายเดี๋ยวสู่คน อิอิ” อ่านะ มีงี้ด้วย ผมเขินครับเลยยื่นมือไปรับตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆมาถือไว้
   “ฝากขอบใจเพื่อนด้วยนะน้องแตง ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ แค่ไม่เกลียดพี่ก็พอแล้ว”
   “ว้าย ซ่างเว้าน้อค่า ไผสิซังอ้ายอุ่น บ่มีดอก คันมีไผซังกลุ่มหนูสิไปจัดการให้เองค่า” เอ่อ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปไหมเนี่ย ผมเลยหัวเราะแห้งๆครับ
   “บู้ย ดังใหย่แล้วน้ออุ่น แต่ว่าไปฟ้อนเมื่อคืนกะดีเนาะ เห็นบ่มีแต่คนมัก” จอยมันพูดขึ้นล่ะครับเสียงอ้อแอ้เต็มทน
   “เราไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นหรอกจอย แค่คนไม่มองเราแปลกๆก็ดีถมไปล่ะ” ผมบอกครับแล้วเราก็เดินขึ้นตึกไป ระหว่างทางคนก็แซวเราว่าเมื่อคืนรำสวยอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้ผมอายในตอนแรกเอาไปเอามามันก็เริ่มชินล่ะครับ ไมได้หวังจะดังอะไรกับการรำแค่หนเดียว หรือหวังให้ใครมองผมในแง่ดีขึ้น ผมน่ารักน่ะผมน่าจะมีอยู่แล้วในตัว หมายถึงผมคงน่ารักตั้งนานล่ะไม่ใช่เพิ่งมาเห็น หรือว่าถ้าหากผมหน้าตาดีผมก็คงไม่ใช่เพิ่งจะมาหน้าตาดีนี่จริงป่ะ แว้กก ดูมั่นใจเนอะ แต่เข้าใจที่ผมบอกไหมเนี่ย คือว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันมองเห็นน่ะผมมีมานานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งจะมามองเห็นกัน เฮ้องง เอาเถอะๆ เอาเป็นว่าผมรู้สึกดีขึ้นครับ มากกว่าเมื่อตอนมีเรื่อง สายตาคนที่มองผมก็มองว่ามันเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยครับ
   “อุรดิศ ขนิษฐาเมื่อคืนทำดีมากเลยนะจ๊ะครูชอบมาก” นี่ก็เป็นเสียงหนึ่งล่ะครับจากอาจารย์ คือเกือบทุกคาบเลยก็ว่าได้ในภาคเช้า จนเที่ยงผมเลยลากจอยมากินข้าว ส่วนไอ้เน่าตายไปเลย ผมยืนมองหาอยู่นานมันคงยังนอนอยู่แน่ๆครับ
   “เป็นตาฮักน้อ” เสียงรุ่นพี่ล่ะครับ คือผมไปยืนเก้ๆกังๆรอจอยเข้าห้องน้ำอยู่พอจอยออกมาเราก็ไปโรงอาหาร จอยมันไปซื้อข้าวครับส่วนผมรอที่โต๊ะ
   “เสียดายเนาะ มีผู้บ่าวแล้ว บ่ซั่นอ้ายสิจีบเอาคั่กๆเด้นี่” ผมเลยหันไปมองครับ ฟังออกเถอะ อ้าวไอ้พี่แว่นคนนั้นนี่ มากับพี่ขอม
   “ใครเหรอพี่ พี่ขอมเหรอ” ผมตอบแบบแอ๊บๆครับ
   “เจ้านั่นล่ะ เมื่อคืนซาดผู้จบ จบกั่วหมู่เด้ฮู้บ่” มึนครับ
   “ครับ” ผมตอบครับ สองคนมองหน้ากันคงไม่คิดว่าผมจะมั่นขนาดนี้
   “ผู้บ่าวไปไสล่ะหล่า อ้ายนั่งนำได้บ่” เอาแล้วไง ผมหันซ้ายหันขวาทันทีครับ เผื่อไอ้เน่ามานี่ซวยเลยนะเนี่ย
   “บ่ได้ดอกอ้าย เดี๋ยวผู้บ่าวผมจะมานะ” ผมตอบไปครับ แกหัวเราะทันที
   “โอ้ย มักแล้วล่ะ ซาดเป็นตาฮัก” อ้าว กูทำไรไปวะเนี่ย ผมเลยหันไปหาจอย
   “จอยๆ เราไปซื้อข้าวนะ ไปนั่งตรงโน้นดีไหม กับน้องๆ” ผมชี้ไปที่กลุ่มน้องแตงล่ะครับที่เหมือนกำลังมองผมอยู่เหมือนกัน พอผมชี้ไปเสียงเฮก็ดังขึ้นทันที ผมเดินไปที่ร้านน้าของไอ้เนาล่ะครับ
   “จบแฮงน้องอุ่น จบอีหลี มีหนวดแห่งหล่อ มื้อนี้สิกินหยังบ่ต้องจ่ายเลย น้าสิเลี้ยง” เอ่อนะ ผมเขินเลยครับ ว่าจะไม่เขินแล้วนะเนี่ยแต่พอไปยืนหน้าร้านมันไมได้มีแต่ผมนี่นา น้าแกก็แซงคิวให้ผมก่อนเลย ผมเลยอายแต่ก็ไม่มีใครว่าอะไรมีแต่แซวว่าหล่อบ้างล่ะ น่ารักบ้างล่ะ เอ่อ อายนะเว้ย
   “อ้ายอุ่น เซ็นให้หนูแน่ค่า” เอ่อ พอไปนั่งรวมกลุ่มกับน้องก็มคนยื่นสมุดมาล่ะครับ
   “หา เซ็น อย่าเอาไปทำธุรกรรมทางการเงินล่ะ พี่ไม่มีทรัพย์สินหรอกนะน้อง” ผมตอบออกไปไม่คิดครับ พอตอบออกไปน้องๆก็หัวเราะกันเสียงดัง
   “ถายรูปแน่ค่า” กูจะได้กินข้าวไหมวะเนี่ย เฮ้อนะ ผมไม่ได้เวอร์นะครับ เขาเวอร์กันเองนะผมไม่เกี่ยว อิอิ
   “เฮ้ย มานี่หน่อยดิ๊มึงน่ะ” เอ่อ พอเรียนคาบสองในตอนบ่ายไอ้เน่ามันก็เดินค้ำไม้เท้ามาล่ะครับมีนายไม้พยุงมันมาแต่เหมือนจะอยู่ห่างๆเถอะมันคงไม่ให้จับ ผมหันไปตกใจนิดหน่อย
   “หือ เราเหรอ” ผมแอ๊บครับ
   “เออ มึงนั่นล่ะ ออกมานี่” เอ่อ ผมหันไปมองเพื่อนๆที่หันมามองผมกับมันเป็นตาเดียว
   “เดี๋ยวมาหาเพ็ญเหรอ” “มาหาเมียผู้อื่นอย่าเสือก” เอ่อ เสียง หื้อ อื้อ ดังขึ้นทันทีบางคนอ้าปากเถอะรวมถึงผม ผมเลยเดินออกไปหน้าจ๋อยๆ มันอะไรของมันอีกวะเนี่ย
   “ไรอ่ะเน่า” ผมพูดออกไปเสียงเบา
   “ไปทำไรมา” มันตะคอกครับ “หือ ทำไร ไมได้ทำไร เน่าตื่นแล้วเหรอ” ผมเริ่มหน้าซีดล่ะ
   “นั่นๆ น้องบอกมีคนมาจีบมึง กูเตือนไม่ฟังใช่ไหม” เอ่อ ไอ้นี่เยอะไปไหมเนี่ย
   “เน่าบ้าเหรอ ค่อยคุยกันได้ป่าว อายเขา” “อายใคร มีผัวแล้วนะมึงน่ะ ทำไมให้คนมาวอแว”
   “จิ๊” เริ่มไม่ไหวครับ คนมุงเต็มเลยแต่อยู่ห่างๆเหมือนกลัวมันล่ะ ผมทำหน้าเซ็งใส่มัน
   “แล้วใครเล่าให้ฟังเหรอ เขาเล่าอะไรบ้าง เล่าจบหรือเปล่า ฟังมาแค่ไหน” ผมใส่มันเต็มที่เหมือนกันครับ
   “ไม่รู้เว้ย กูหึง” มันทำหน้าเจื่อนๆครับ
   “พี่เขาจะมาขอนั่งด้วย เราบอกว่าไม่ได้หรอกเดี๋ยวแฟนมาเจอ เราเลยไปขอนั่งกับพวกน้องแตง พอใจยัง” ผมมองหน้ามันครับ มันยิ้มแห้งๆ
   “อ้อ แหะๆ น่ารักนะเนี่ย” แหมๆ ทีแบบนี้มาทำท่าอาย ไอ้บ้า จอมโวยวายมากๆ
   “เยอะนะเน่า เดี๊ยะๆ” “กลัวแล้วคร้าบ เมีย” “นี่ ที่นี่โรงเรียนนะ กลับบ้านเจอดีแน่ แล้วตัวเองอยากไปนอนทำไมอ่ะ ไม่มาดู” ผมทำท่างอนมันครับ มันก็โผเข้ามาจะทำท่ากอดผมเลยกันมันไว้ พอดีกับที่อาจารย์คาบต่อไปเดินเข้ามา มันเลยแยกไป แหมยิ้มแบบว่าหน้าบานมากๆ พอเดินเข้ามาในห้องเพื่อนๆก็ล้อเลียนล่ะครับ อายไปตามเรื่อง อิอิ คิดถึงหน้ามันตอนมันอายมันหล่อดีนะ เออ ลืมบอกว่าหนวดที่เขียนมันยังลบไม่หมดนะเพราะเมื่อคืนมันไม่ได้อาบน้ำและตอนเช้าก็คงล้างไม่เกลี้ยง โอ้ย เหมือนจะดีใจมีแฟนหล่อ แว้กก

Written by eiky

Ps. ขอโทษที่มาต่อช้านะครับ ไม่อยากบอกเลยว่าพักนี้ผมขี้เกียจมากกกกกกก อยากนอนกับกินเท่านั้น คิดออกนะแต่นั่งเขียนไม่ได้จะหลับ แหะๆ เป็นวัยกะลังโตนิ ขอบคุณคร้าบบ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 31-07-2012 12:34:54
หวานกันจริงๆ เนาะ คู่นี้
อิจฉาหล๊ายหลาย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 31-07-2012 12:40:07
เป็นไงเดียว เจอเมียเข้าไป ย่านบ่ ฮ่าๆๆๆๆ น่าฮักหลายๆๆๆเด้อ คู่นี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 31-07-2012 13:18:05
มาต่อแล้ว คึดฮอดหลายคึกเด้อนี่ จแม่นเป็นตาฮักน้อน้องอุ่น โอ๊ยจาแม่นมักหลายนิย่ยเรื่องนี่
คนเขียนจะแม่นเพิ่นเก่งหลายน้อ มีทั้งคำไทย คำอิสานบ้านเฮา โอ๊ยๆๆ ได้ใจหลายเด้อน้องอิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 31-07-2012 13:19:43
เดี๋ยวต้องโดนอุ่นกำราบซะบ้าง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-07-2012 13:32:27
น้องอุ่นตอนเอ๋อ ยังน่ารัก อิอิ
เดี๋ยวอย่าเยอะ เจออุ่นเวอร์ชั่นโหดจะสมน้ำหน้าให้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 31-07-2012 14:09:36
น้องอุ่น น่ารักนำไปหลายช่วงตัว เดี๋ยวตามไม่ทันแล้ว อีกอย่างเดี๋ยวยังคงความเน่าไว้อย่างเหนียวแน่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 31-07-2012 14:19:56
คงต้องปวดหัวบ่อยๆ แหละนะเดี๋ยว อุ่นดังแล้ว  o18

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 31-07-2012 15:15:58
โตไวไวนะพี่อิ๊ก

จะได้เขียน จะได้แต่ง บ่อยๆ
อิอิ


บักเดี๋ยวเว้ยยยเมื่อไหร้จะ เผด็จศึกเนาะ

อุ่นอุส่า เควาย หลุดปากมา
5555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-07-2012 15:59:30
น่ารักกันได้ตลอดคู่นี้ :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 31-07-2012 16:19:02
เดี๋ยวมีหึงด้วยน่ารัก อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-07-2012 16:43:41
ต้องให้ได้อย่างนี้อุ่น
กำราบมันบ้างเดี๋ยวได้ใจ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 31-07-2012 18:06:05
555+... เหมือนจะดีใจ ... คือดีใจสินะ 5555+
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 31-07-2012 20:03:12
คิดถึงมากๆ ชอบอุ่นตอนนี้อะแอบโหด55
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 31-07-2012 20:19:22
 :laugh: "เควาย" ...
อย่างฮาเลยนู๋อุ่น...หมดกันภาพพจน์ใส ๆของเด็กน้อย... :กอด1:

 :L2: น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 31-07-2012 21:37:01
ชอบเวลาอุ่นอายน่ารักกกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 31-07-2012 22:55:22
+1 หวาน กันมาก ๆ คู่ นี้ อิอิ :m20:สรุปเน่าหล่อเพราะไม่อาบน้ำเมื่อคืน ตอนเช้าก็อาบไม่สะอาด เอาเข้าไปน่า ของน้องอุ่น :pigha2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 01-08-2012 03:11:11
 :laugh: เอื๊กก ฮ่าๆๆ สะใจยัยเพ็ญโดนตอกหน้าหงายเลย เจอ "เจือก" เข้าไปเต็มๆ ฮุ ฮิ ฮุ ฮิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 02-08-2012 00:52:54
บักเดี๋ยว อยากมาก จนเก็บไปฝัน
ส่วนนู๋อุ่นก็ แอบอยากโดนแน่เลย
ไม่งั้นจะคิดเรื่อง เควายหรอ 555

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-08-2012 16:43:15
 :catrun:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 23 Version (Aun) 31 July 12 หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 04-08-2012 05:20:41
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 04-08-2012 16:18:08
You’re My BaBy!!

กูหึงว่ะ นอนอยู่ดีๆน้อง ม.ต้นมันวิ่งเข้ามาปลุก พอได้ยินกูก็มานี่เลยไง ของขึ้นเว้ย แต่นะ กูหน้าหงายออกมาเลยครับ ไอ้เบบี๋มันดุกูเว้ยเฮ้ย เขินเลยกู ไม่เคยหน้าแหกเลยนะเนี่ยกูเลยต้องหงายออกมาตั้งหลักก่อน
   “กูบอกแล้ว หวืย เป็นจั่งได๋ล่ะ ฮ่าๆๆ” สัดไม้ครับ หนอยแน่แดกตีนกูหน่อยไหม ล้อกูเนี่ยคิดดีแล้วเหรอวะ
   “ฮ่วย อยากตายติ๊บักห่านี่ ไผสิฮู้วะ ไปจัดการบักคิมดีกั่ว”
   “เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ มึงนี่อีหยังบักห่านี่ ขาแห่งเจ็บๆอยู่ สิไปยุ่งวุ่นวายมันเฮ็ดหยัง คนของเฮากะบ่มีหยัง เดี๋ยวกะเกิดเรื่องอีกดอก” เออว่ะ สัดไม้มันเตือนสติครับ กูเลยต้องจำใจเดินกลับห้อง แต่หิวว่ะ มัวแต่นอน ไปหาไรกินดีกว่าวะ
   “มึงว่ากูไปขอจารย์อยู่ห้องเดียวกับมันดีบ่วะบักไม้” ผมถามมันล่ะครับตอนเดินกลับห้อง
   “มึงเคยไปขอแล้วบ่แม่นบ่ เพิ่นบ่ให้” “หน่ายอยู่เนี่ย แม่มึงเอ้ย อยู่คนละห้องมีแต่หมามาถ่าเห่า บ่ได้ๆ กูสิเฮ็ดจั่งได๋ดีวะ” ผมรำพึงครับ คิดอยู่ว่าจะทำไงดี เพราะว่าคนที่มาตอมมันนี่คงไม่น้อยแน่ๆ ผมว่านะดูจากสถานการณ์หลังจากที่มันมีเรื่องกับอีสุชาติอันนั้นมันดูน่ากลัวขึ้น คือคนจะล้อน้อยลงว่ามันเป็นเกย์ แต่ว่าพอมันรำเมื่อคืนนี่ เหมือนฉายแววดาวออกมาเลยล่ะ ดูจากสายตาใครๆที่มองมันตอนมันรำได้ กูดูอยู่เถอะ โว้ยเครียดๆ
   “เซื่อใจเพิ่นนั่นเด้ สิคึดหยังหลายวะ เบิ่งทรงเพิ่นนั่นล่ะเซื่อใจได้หลายกั่วมึงอีก” อ้าวสัด ด่ากูอีก
   “จั่งได๋วะ กูบ่น่าเซื่อถือหม่องได๋” มันเดินหนีครับ อ้าวไอ้นี่วอนโดนเตะซะแล้ว แต่ว่าไปมันก็จริงนะ ไอ้เบบี๋มันไม่ค่อยคุยกับใครง่ายๆ เวลามันอยู่กับผมมันก็ไม่เคยมองใคร อืม น่าคิดๆ นี่กูหึงเกินไปเหรอวะเนี่ย แต่ไม่ได้หรอกเว้ย กูรักมันนี่หว่า นั่นแฟนกูนะเว้ยไม่ให้หึงแฟนแล้วให้หึงใครวะ ไมได้ๆ กูหวงของกู
   “เบบี๋ๆ รีบกลับป่ะ กูหิว” พอเลิกเรียนกูก็เดินไปหามันที่หน้าห้องมันเลยนะครับ กลัวใครจะมาวอแวอีก มันมองหน้าผมแล้วเหมือนเขินๆ
   “ยังไม่กินข้าวเหรอเน่า” “ยังดิ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย ไปตลาดกันเนอะ”
   “อืม” มันเดินเข้ามาพยุงผมล่ะครับ ผมก็ยื่นมือไปถือกระเป๋าให้มัน เออ แปลกนะคนอื่นจะมาพยุงผมนี่ไมได้นะ ผมไม่ให้แตะกูแค่เจ็บขาเว้ยไม่ได้พิการแต่กับมันทำไมผมอยากให้มันจับจังวะ
   “สิไปไสเดี๋ยว ไปกินเข่าติ๊” สาวจอยครับ
   “แม่น หิวยังบ่ทันกินเลยตั้งแต่เซ้า” “อ้าว ไม่ได้แวะไปกินหรอกเหรอเน่า ไม่ปวดท้องเหรอ” ไอ้เบบี๋มันหันมาทำตาเขียวครับ ผมก็ยิ้มแห้งๆ
   “ยังดิ ง่วงนี่หว่า” “เห็นไหมอ่ะ รีบไปเลยเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ผมก็ยิ้มครับตอนเดินลงมาจากตึกคนก็แซวไปตามเรื่องแต่กูไม่สนใจหรอกนะ เดินมาที่รถแล้วก็ออกจากโรงเรียนทันที
   “กินหมูจุ่มป่ะเบบี๋” ผมชวนครับ
   “กินรองท้องไปก่อนเถอะ เดี๋ยวก็กลับไปกินที่บ้านอยู่ดีล่ะเน่า”
   “ไม่เอา กูอยากกิน” “จิ๊ ไรอ่ะ เอาแต่ใจนะ กินชุดเล็กพอนะ” อิอิ สรุปเราก็กินหมู่จุ่มกันล่ะครับ เขาเรียกว่าแจ่วฮ้อนเหมือนในกรุงเทพฯนั่นล่ะครับใส่หม้อดินมามีเตาเล็กๆ
   “อ้าวๆ ไหนบอกกินรองท้อง กินใหญ่เลยนะมึง” แหมๆ เผลอหน่อยไมได้ไอ้นี่แย่งผมกินหมดเลยนะ
   “ก็มันอร่อยนี่ อิอิ ไรอ่ะรีบกินเร็ว” อายๆ แหมนะตอนแรกว่าจะกินชุดเล็กเอาไปเอามาชุดใหญ่เลยนะ กว่าจะกลับบ้านก็เกือบห้าโมงล่ะครับ
   “เฮ็ดหยังกินเจ้” พอไปถึงบ้านผมก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หวายล่ะครับ เห็นเจ้แกง่วนอยู่กับการล้างเห็ด
   “ว่าสินึ่งเห็ดใส่ปลานี่ล่ะ มื้อเซ้าได้ปลาตะเพียนมาเป็นตาแซ่บคั่ก” เจ้แกบอกล่ะครับผมก็พยักหน้า
   “อ้าวๆ ไปไหนๆ มาทำการบ้านเลยมึง” ไอ้เบบี๋มันทำท่าจะเดินขึ้นห้องล่ะครับ เนียนนะมึง
   “ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไง” “ไม่ต้อง ทำเสร็จค่อยไปเปลี่ยน เดี๋ยวก็เบี้ยวอีกหรอก” มันหน้างอครับเหมือนว่าผมรู้ทันมัน มันเลยเดินมาหาผม เจ้แกก็อมยิ้มอยู่ ผมก็นั่งสอนการบ้านมันอยู่จนเสร็จล่ะครับ ค่ำพอดี
   “ฮ่วย แม่นลมหนาวบ่น้อเจ้ คือน่องๆแนวนี้” พอเราจะลุกขึ้นไปบนบ้านก็มีลมผ่านเข้ามาล่ะครับ ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้แต่มันเร็วไปไหมวะเนี่ย
   “แม่นๆ เอื้อยกะว่าจั่งซั่นล่ะ เมื่อเซ้ากะเป็นทรงเย็นๆ”
   “เร็วเบบี๋ ไปอาบน้ำ” ผมเร่งมันครับ มันก็ไม่ขัดเราขึ้นมาบนห้องแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า
   “ถอดให้ดิจะได้ไปอาบน้ำ” ผมบอกมันล่ะครับ มันเองก็ไมได้ว่าอะไรเหมือนว่ามันเริ่มจะชินแล้วเถอะไม่อายเหมือนแต่ก่อน มันถอดเสื้อผมออกแล้วก็ยืนนิ่งอยู่สักพัก
   “อ้าว ถอดดิวะจ้องอยู่ได้เป้ากูน่ะ มันไม่ได้ใหญ่ขึ้นหรอนะเว้ย” ตอนแรกคิดว่ามันคงชินแต่ไม่ใช่แล้วล่ะ ฮ่าๆ ดีเลยกูจะแกล้งมึงคอยดูนะไอ้เบบี๋
   “อือ” มันถอดเข็มขัดผมออกครับเหลือแต่กางเกงใน ผมก็รีบบิ้วอารมณ์เต็มที่หลับตาคิดถึงก้นขาวๆของมัน
   “อ๊ะ จับไมอ่ะเน่า” คือว่ามันก็ต้องมีบ้างอ่ะนะมือผมก็คว้าหมับไปที่ก้นมันเลยครับ
   “กูจะล้ม” “อ่านะ จะล้มทำไมบีบอ่ะ” “มันนุ่มมือนี่หว่า ถอดเกงในดิ”
   “ไม่เอาอ่ะ ไปถอดในห้องน้ำ” มันรีบเดินไปถือผ้าเช็ดตัวมาให้ผมล่ะครับ นั่นเรื่องเยอะอีกแล้วครับ ผมเดินเข้าไปรอในห้องน้ำนั่งบนเก้าอี้ พอมันเข้ามาผมก็เรียกมันให้มาถอดกางเกงใน
   “ไรอ่ะเน่า อยู่ตั้งนานไม่ถอดเองอ่ะ” “บ่นๆ อยากให้มึงถอดให้ไง เร็วดิ อยากอาบน้ำ” มันทำหน้าเซ็งๆเดินเข้ามาล่ะครับ ผมก็รีบเกาะตัวมันไว้ทันที ลวนลามเลยสิครับท่านรออะไร
   “อ่า เน่าอ่ะ ทำไร” “ป่าว ไม ไม่ได้เหรอ” มันไม่ตอบครับแต่หน้าแดงก่ำแล้ว ผมได้ใจก็ล้วงใหญ่เลยนะมันคงชอบล่ะ อิอิ เห็นแก้มแดงๆเบียดตัวเข้าหาผม
   “อาบน้ำเถอะ” “จิ๊ เอากันก่อนไมได้ไง” “อ่า พร้อมแล้วเหรอ” มันถามครับ กูสิควรจะถามมึงว่าพร้อมหรือยัง ผลัดมานานแล้วนะ
   “พร้อมนานแล้วเถอะ มึงนั่นล่ะพร้อมยัง”
   “ไม่รู้อ่ะ กลัว” “กลัวเชี่ยไร ผัวเมียกันก็ต้องเอากัน ปกติเว้ย” ผมจับหน้ามันเงยขึ้นเพื่อที่จะจูบมันครับ แววตามันดูกลัวมาก ผมแอบอมยิ้มออกมา
   “ตอนนอนค่อยทำได้ป่ะ” “จิ๊ อีกล่ะ ตลอดๆ ทำตอนนี้ล่ะ”
   “ไม่เอาอ่ะ เปียกๆเราไม่ชอบ” อ่านะ มีเลือกโลเกชั่นอีกนะเมียกู เออๆวะ ผมนั่งลงเลยครับเซ็งมากๆแต่ก็เอาวะ
   “คืนนี้ห้ามอิ๊อ๊ะนะมึง ตาย” ผมขู่มันครับ มันก็ทำหน้าหงอยๆแล้วก็มาอาบน้ำให้ผม ให้ตายเถอะยิ่งมันมาควักมาล้างให้มันยิ่งดีดขึ้นเถอะ โอยๆตะบะจะแตก
   “มันเหมือนหนาวๆป่ะเน่า” พออาบน้ำเสร็จผมก็มายืนผึ่งลมอยู่ในห้องล่ะครับ มันก็เช็ดหัวเช็ดตัวให้ผม ว่าไปเหมือนกูพิการเลยใช่ไหมเนี่ย แต่ไม่เว้ยมันรู้สึกดีจริงๆนะ อ่ะๆ ไม่เคยมีใครทำให้อ่ะดิ อิอิ
   “กินวิตามินซีไว้เลยเดี๋ยวก็ไม่สบาย มันกำลังเปลี่ยนฤดู” ผมบอกมันครับ
   “ที่นี่เวลาหนาว มันหนาวมากป่ะเน่า” มันถามครับ คือมันน่ะใส่เสื้อผ้าแล้วนะเหลือผมมันยืนอยู่ข้างหน้าผม ส่วนผมก็กอดเอวมันไว้ล่ะครับ
   “หนาวดิ หนาวจนแข็ง” “จริงดิ ไม่เชื่อหรอก” “จับดิ” ฮ่าๆ วกเข้ามาเรื่องนี้อีกแล้วมันตีบ่าผมทันทีครับหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
   “คืนนี้จะเอากันนะเบบี๋ ป่ะลงไปกินข้าวก่อน” พอมันทำอะไรให้ผมเสร็จผมก็ยักคิ้วให้มันล่ะครับ
   “บ้า ไม่กินอ่ะ ยังอิ่มอยู่เลย” มันบอกครับ เออตามใจวะกูเริ่มหิวอีกแล้วเถอะ
   “งั้นเตรียมตัวรอนะ เดี๋ยวมาเอาแน่ๆ อิอิ” ผมยักคิ้วให้มันแล้วเดินลงจากห้อง ที่จริงขาผมมันไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะครับแต่ผมก็ยังไม่อยากไปหาหมอเพราะกลัวเขาถอดเฝือกออก ถอดออกกูก็ไม่มีคนดูแลสิวะจริงป่ะเรื่องไรล่ะจะถอด ฮ่าๆ
   “อ้าว อุ่นไม่กินข้าวเหรอลูกเดี๋ยว” พ่อตาผมครับมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
   “ไม่กินครับ เราเพิ่งไปกินหมูจุ่มก่อนกลับ” “อ้อ แล้วเป็นไงบ้างวันนี้ เห็นผอบอกว่าอีกไม่กี่วันก็จะแข่งกีฬาสินี่ น่าสนุกจังนะพ่อว่า” เออ ลืมบอกไปเลยแต่ว่าปีนี้เป็นปีแรกนะครับที่ผมคงจะไม่มีส่วนร่วมใดๆเพราะขาเจ็บด้วย และก็เรื่องที่ชมรมด้วย ดีเหมือนกันจะได้ดูอยู่ห่างๆ ว่าไปนะใจหายเหมือนกันคนมันเคยเล่นทุกปี แต่ช่างแม่งมันเถอะ
   “นึ่งปลาแซ่บหลายเจ้” พอกินเสร็จผมก็หันไปบอกเจ้แกล่ะครับ เจ้แกก็ยิ้มพอใจแล้วผมก็คุยอยู่กับปลัดต่อนิดหน่อย เพราะแกกินชาร้อนหลังอาหาร ว่าไปมาอยู่นี่กูรู้สึกอืดๆขึ้นเถอะ ของกินนี่แบบว่าเยอะมากอร่อยด้วย ของว่างเอยน้ำหวานเอยมีตลอด สักพักผมก็ขอตัวขึ้นไปหาภรรยาล่ะครับ ป่านนี้นอนโก่งตูดรอแล้วมั้ง
   “นั่น อย่าแกล้งหลับ พร้อมยังมึง” แหมๆ เดินเข้าไปทำท่าแกล้งนอนเต็มที่เลยนะมัน
   “อ่า ไรอ่ะ ไมได้แกล้งนะ” ไม่ได้แกล้งแต่ลืมตาคุยกับกูเนี่ยนะ
   “ไม่สนว้อย หรือจะนอนต่อก็ได้นะกูจะทำเอง ลักหลับมึงเลย ทำแรงๆ” ผมเดินไปที่เตียงครับวางไม้ค้ำไว้ปลายเตียง มันก็ลุกขึ้นมากอดผ้าห่ม โอ้ยนะ นี่กูผัวมึงนะทำเหมือนกูจะมาข่มขืนเลยนะ
   “มาเร็ว” ผมปีนขึ้นเตียงครับ
   “แปรงฟันแล้วเหรอเน่า ไปเลยๆ” เว้ย โมโหกูทำหน้าเซ็งแต่ก็ต้องไปแปรงฟันก่อนครับ เรื่องแบบนี้มันไม่ยอมจริงๆนะ ไม่ว่าจะแปรงฟันหรือล้างหน้าอาบน้ำ คงมีแต่วันกูเมาเท่านั้นล่ะที่มันยอม ผมรีบแปรงฟันแล้วเดินขึ้นเตียงไปเลยครับไม่พูดมากแล้ว พอขึ้นเตียงได้ก็กอดตัวมันทันที ผมเอาหน้าทาบหน้ามันตอนแรกมันอายๆล่ะเอาไปเอามามันก็เผยอปากขึ้น เราจูบกันอยู่สักพักผมก็ล้วงนั่นล้วงนี้ไปตามประสา มันเองก็คงเสียวอยู่ไม่น้อยเพราะมันเม้มปากผมไม่ปล่อยเลยนะ ไม่เล่าดีกว่า อิอิ ให้คนอิจฉาเล่น
   “เอ้ย ทำไมเย็นจังวะ” พอตื่นเช้าลุกไปอาบน้ำผมก็ถึงกับสะดุ้งตอนโดนน้ำในอ่างล้างหน้า ไอ้เบบี๋มันนั่งอึ๊อยู่ล่ะครับ
   “อืมเป็นเย็นๆจริงอ่ะเช้านี้” “มันหนาวแล้วเหรอวะ” “ต้องเอาเสื้อแขนยาวไปด้วยแล้วอ่ะ” ไอ้เบบี๋บอกล่ะครับ นี่ถ้าอยู่บ้านกูนะฝันไปเถอะว่ากูจะอาบน้ำแต่นี่มันมีน้ำอุ่นอาบเว้ย สบายที่สุด ฮ่าๆ
   “พี่ต้อยไปดูเสื้อยีนส์พ่อให้หน่อยดิ มันหนาวๆอ่ะ” พอตอนกินข้าวไอ้เบบี๋มันก็บอกเจ้แกล่ะครับ
   “ดูในตู้นะต้อย มันจะมีกลิ่นอับหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ค่อยได้ใช้ เสื้อสมัยพ่อเป็นหนุ่มล่ะลูก” เออนะ ยุคไหนล่ะนั่น
   “บ่เหม็นดอกค่า ต้อยอบไว้ก่อนเอาลงหีบเดี๋ยวสิไปเบิ่งมาให้” เจ้แกบอกครับแล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน ส่วนเราก็กินข้าวเช้ากันแล้วรอเสื้อครับ พอเสร็จก็ไปที่รถ จะว่าไปสงสารคุณปลัดเหมือนกันนะ แกต้องขับคุณปู่ของผมไปทำงานส่วนผมขับรถแกสบายใจเฉิบ ฮ่าๆ    
   “หนาวๆเนอะเน่า” ไอ้เบบี๋มันบอกล่ะครับเพราะผมเปิดแอร์แรง
   “ไรวะ เสื้อก็ใส่ยังจะหนาวอีก”
   “ก็เปิดแอร์แรงอ่ะ หนาว” “เออๆ” ผมยื่นมือไปลดแอร์ล่ะครับ
   “หน้าเกี่ยวข้าวมึงอยากไปดูป่ะเบบี๋” ผมถามมันครับ
   “อยากไป อยากไปดิ ไปนาใครอ่ะ” อ่านะ น้อยๆหน่อยเว้ยทำท่ายิ่งกว่าจะชวนไปสวรรค์อีกนะมึง
   “นาไอ้เล็กนั่นล่ะ มันนาน้อยเดี๋ยวบอกมันดิว่ามึงอยากไป”
   “แล้วปกติเน่าไปนาใครอ่ะ” “นาไอ้เคน นามันอยู่ไม่ไกล” มันพยักหน้าครับ แววตาดูเป็นประกายขึ้นมาทันที
   “เขามีนอนนาด้วยนะ ตอนกลางคืนไปจับปลากันแล้วก็เอามาเผากิน” ผมยั่วมันครับรู้ว่ามันชอบเรื่องแบบนี้
   “อ่า เมื่อไหร่เหรอจะได้เกี่ยวข้าว” “รอหน่อยดิ ตอนนี้มันเพิ่งตั้งท้องเองนะ” มันพยักหน้าครับสายตามันมองผมอยู่ตลอดเวลา ยิ้มอยู่ล่ะมันน่ารักดีนะผมว่า
   “อยากไปเร็วๆเนอะ” “เออๆ ถึงแล้ว” มาถึงโรงเรียนแล้วครับ พอผมจอดรถมันก็ลงมาเอาไม้ค้ำมาให้ผมล่ะ เราก็เดินออกมาจากที่จอดรถประจำของเรา
   “เดี๋ยว ขอคุยนำแน่ได้บ่” อ้าว พี่นกครับมากับพวกอีสุชาติมีสาวเพ็ญด้วย เอ๊ะ พวกนั้นไม่ถูกกันนี่ ยังไงกันวะเนี่ย
   “มีหยังเว้ามาโลด” ผมมองหน้าเธอล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันเหมือนจะปล่อยมือผมล่ะแต่ผมไม่ยอมจับแขนมันไว้
   “มันเป็นเรื่องส่วนโตเด้เดี๋ยว ขอเวลาแป๊บเดียวบ่ได้ติ๊” เธอยังยืนยันครับ
   “บ่ได้ สิเว้ากะเว้า บ่เว้ากะบ่ต้องเว้า บ่มีเรื่องส่วนโตแถวนี้ดอก” ผมเองก็ยืนยัน
   “แม้แต่เรื่องเฮาท้องเหรอเดี๋ยว” อ้าว จะท้องก็ท้องไปดิวะมาเกี่ยวอะไรกับกู แต่ก็นะหัวใจกระตุกวาบเลยครับ ไอ้เบบี๋มันปล่อยมือจากผมทันที
   “เน่าคุยกันไปเถอะ เราไปรอกับเพื่อนๆนะ” ไอ้เบบี๋มันบอกล่ะครับ เชี่ยไรวะเนี่ย
   “ท้อง แล้วมาบอกเฮ็ดหยัง” ผมบอกครับ จะหาว่าผมไม่ใช่ลูกผู้ชายก็ตามใจนะเว้ย เพราะผมไม่ได้มีอะไรกับพี่แกตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็ตอนที่คบกับเพ็ญนั่นล่ะ จะขวบปีอยู่แล้วครับแล้วจะมาบอกท้อง น้ำเชื้อกูคงไม่ทำปฏิกิริยาช้าขนาดนั้นหรอกนะ
   “เดี๋ยวคือเว้าแนวนี้ บ่มีควมเป็นลูกพ่อซายเลย เฮาบ่เคยยุ่งกับไผมีแต่เดี๋ยวผู้เดียว” ดราม่าแล้วครับ เธอน้ำตาไหลจะเดินเข้ามาจับแขนผม ผมถอยออก
   “ซั่นเอื้อยคุยกันไปก่อนเด้อ หนูสิไปทางพู้นก่อน” สาวเพ็ญบอกครับแล้วเดินตามไอ้เบบี๋ไป นั่น จะไปว่าอะไรเมียกูอีกเดี๋ยวเถอะมึง
   “แค่นี้แม่นบ่เอื้อย ผมไปเด้อ” ผมจะหันหลังหนีครับ
   “ใจรดำ นี่มันลูกของเดี๋ยวเด้ เป็นหยังคือบ่รับผิดซอบ หรือสิให้เฮาไปบอกครูแม่นบ่” เธอขู่ผมครับ ผมยืนนิ่งกัดปากล่ะแล้วค่อยๆหันมา
   “บ่ได้ใจดำดอก หรือสิให้ใจดำกั่วนี้เอาบ่ สิให้เว้าบ่ว่าแต่ละเทื่อที่มีหยังกันใส่ถุงตลอด แล้วกะเฮาบ่ได้มีหยังกันตั้งแต่ปีที่แล้ว คันสิท้องกะบ่แปลกแต่มันแปลกที่เฮาสิเป็นคนเฮ็ด” ผมพูดครับเธออึ้งตาล่อกแล่กทันทีเหมือนไม่มีทางไป เชี่ยไรวะเนี่ย ผมรีบเดินตามไป
   “ออกไปจากชีวิตของพี่เดี๋ยวซะ เห็นหรือยังยะว่าเขาน่ะเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องมีครอบครัว มีชีวิตปกติ แกน่ะผิดปกติรู้ไว้ซะ” เสียงสาวเพ็ญครับ จริงๆด้วยมันตามมาว่าไอ้เบบี๋ นี่ไอ้สุชาติมันเพิ่งจะหายเจ็บมามันยังไม่เข็ดอีกเหรอเนี่ย แล้วสาวเพ็ญนี่พูดไม่รู้เรื่องว่างั้น
   “เฮ้ย พวกมึงมาฮู้ซีวิตกูดีแท้ กูสิเอาไผกูเลือกเอง ไปให้ไกลตีนเด้อ แผนตื้นๆไปหัดมาใหม่” ผมเดินเข้าหาครับ
   “แผนอะไรคะเดี๋ยว นี่เพ็ญรักเดี๋ยวมากขนาดนี้เพ็ญยังยอมหลีกทางให้พี่นกเลยนะ เพราะเพ็ญเข้าใจว่าคนที่ท้องตอนเรียนน่ะมันน่าเห็นใจมากแค่ไหน ไม่ใช่แผนนะ” เธอหวีดเสียงขึ้นครับ คนเริ่มหันมามอง
   “อย่าสิมาเว้า ไป” ผมไล่ทั้งสองคนครับ
   “จั่งได๋ๆเดี๋ยวกะต้องรับผิดซอบ” เธอไม่ยอมไปครับผมเลยไม่สนใจหันไปหาไอ้เบบี๋ ตอนนี้หน้าตามันซีดมากคับ
   “อย่าไปสนใจเบบี๋ ป่ะไปกินข้าว” ผมเดินไปจับบ่ามันครับแต่มันตัวแข็งเหมือนจะขืนๆ
   “ไปคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดีไหมเน่า” มันพูดครับ จิ๊ นี่มันไม่เชื่อใจผมว่างั้น เริ่มโมโหแล้วครับ
   “ถ้ารู้ตัวว่าเป็นแค่ทางผ่านก็หลีกๆไปซะนะเธอ” “โว้ย เป็นห่าหยังนี่ เว้าบ่ฮู้เรื่องแม่นบ่” ผมปาไม้ค้ำลงพื้นครับเดินไปใกล้ๆกำแพงตึกเอาเท้าที่เข้าเฝือกไว้เตะเข้าอย่างแรงจนเฝือกมันแตกออก ผมก็แกะออกจากเท้าให้หมด เสียงคนอื้ออึง
   “จำไว้ พวกมึงบ่มีทางเฮ็ดหยังกูได้ จำใส่หัวไว้ อย่าให้กูเฮ็ด อยากตายแม่นบ่ อย่าสิอยากมาได้กูเพราะกูบ่อยากได้สู” ผมเดินกะเผลกเข้าหาสาวเพ็ญกับอีสุชาติล่ะครับ พวกมันถอยกรูหนีไปเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากคนที่มองดูอยู่เพราะคงไม่เห็นผมกร่างนาน กูทนมานานแล้วนะ แม่งเห่าอยู่ได้ ยิ่งอยู่นิ่งๆมันยิ่งตอด
   “เน่า ทำแบบนี้ทำไม” ไอ้เบบี๋มันวิ่งมาล่ะครับ มันนั่งลงจับเท้าผมตอนเตะมันก็มีสะเก็ดของปูนปลาสเตอร์นั่นล่ะครับบาดเอาเลือดไหล
   “ไอ้เบบี๋ กูขอได้ไหม เชื่อใจกู” ผมบอกมันครับ มันไม่ตอบแต่มันก้มหน้าเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเลือดให้ผม
   “เฮ้ย มีหยังกันสู” เสียงสัดไม้ครับ เพื่อนๆผมมาแล้วคงรอนานล่ะที่พวกเราไม่ไปโรงอาหารเสียที
   “ไปห้องพยาบาลก่อนบ่อุ่น” สาวจอยครับมาก้มดูเพราะรู้ว่าผมไม่ให้แตะตัวแน่ๆ
   “ไปห้องพยาบาลเถอะเน่า ไปทำแผล” เฮ้ย มันเงยหน้าขึ้นมาผมนี่ใจละลายหายไปเลยครับ สายตามันเอ่อไปด้วยน้ำตา มันเม้มปากอยู่ กูนี่ผงะไปเลยครับ ตั้งแต่ผมคบมันมาผมไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้จากมันเลยนะ ให้ตายเถอะ แม่งเอ้ย จะอะไรกันหนักหนากับกูวะเนี่ย ในห้องพยาบาลมันก็มายืนอยู่ข้างๆล่ะครับ จนถึงเวลาเข้าแถวผมไม่ไปเข้าแถวแต่พวกมันก็แยกย้ายไปเข้าแถวแล้วครับ ตอนนี้กูคิดหนักเลย มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ที่จริงมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก นกอาจจะไม่ได้ท้องจริงแต่แค่ต้องการให้ผมกับไอ้เบบี๋แตกคอกันเพราะเห็นเพ็ญกับอีสุชาติมารวมหัวด้วย ถึงแม้ว่าเธอท้องจริงก็อย่างที่บอกครับ ผมมีอะไรผมใส่ถุงตลอดแล้วก็ครั้งสุดท้ายที่มีอะไรกันก็ข้ามปีมาแล้ว ถ้าเธอท้องเก้าเดือนก็ว่าไปอย่าง คนอย่างกูไม่เคยจะไม่รับผิดชอบเว้ย แต่ถ้ามันไม่ใช่กูมึงเตรียมตัวตายได้เลย เพราะมึงทำให้ชีวิตกู อนาคตกูต้องแปดเปื้อน ถึงกูจะเกเรแต่กูก็ไม่ได้ชั่วนะเว้ย
   “บักเดี๋ยว พ่อมึงเอิ้น เรื่องใหย่แล้วล่ะกูว่า” สัดเคนครับคือผมทำแผลเสร็จอาจารย์เขาก็พันผ้าให้ตอนนี้เองที่มันรู้สึกว่ายังตึงๆอยู่เวลาเอาฝ่าเท้าลงเหยียบกับพื้นมันแปลบๆ ผมก็ยังคงต้องเขย่งเดินไปอีกสักพักล่ะนะคิดว่า ผมไม่ได้เครียดเลยนะครับ เออดี คุยกันให้รู้เรื่องกันไปเลย ผมรีบเดินไปที่ห้องปกครองล่ะครับ พอเดินเข้าไปก็เห็นพี่นกแกนั่งอยู่ก่อนแล้ว พ่อผมหน้าตาเคร่งเครียดสายตาจ้องมองมาที่ผม
   “หยังจารย์” ผมทักออกไปครับทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่าแกเรียกผมมาเรื่องอะไร
   “เรื่องมันใหญ่เกินไปนะคราวนี้ ถึงครูจะช่วยยังไงมันก็ผิดกฎอยู่ดี เธอตรวจดีแล้วเหรอรัชนก” พ่อผมหันไปถามพี่นกที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ล่ะครับ
   “ดีแล้วค่ะจารย์ ช่วยหนูด้วยนะคะ จารย์อย่าไปบอกใครนะ” โอ้ย นี่ถ้าเป็นผู้ชายกูอยากะก้านคอเอาสักที อย่าไปบอกใครแต่เมื่อเช้ามึงไม่ใช่เหรอที่มาปาวๆต่อหน้าใครๆว่ามึงท้องกับกูเนี่ย จิ๊คันเท้าว่ะ ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงเรียบร้อยๆตั้งใจเรียนจะเป็นมากขนาดนี้
   “กี่เดือนแล้วล่ะ” “สามเดือนค่ะ” ผมยิ้มออกมาเลยครับแล้วเดินไปนั่งข้างๆไม่มองหน้าเธอหรอกนะ
   “มึงจะว่าไงบักเดี๋ยว ผู้หญิงเขาบอกเขาท้องกับมึง” พ่อผมถามเสียงเครียดครับ ผมถอนหายใจ
   “จารย์ ผมเป็นพ่อซายเด้ครับ คันผมเว้าไปเพิ่นสิเสียหายบ่” ผมตอบออกไปครับ แล้วหันไปหาเธอ
   “เอื้อย เจ้ากะฮู้ดีอยู่แก่ใจบ่แม่นบ่ว่าไผ คันเจ้าเฮ้ดย้อนว่าสาวเพ็ญเพิ่นยุ เจ้ากะคึดใหม่ซะเด้อ นี่มันอนาคตข่อยเด้ แล้วนั่นมันกะอนาคตเจ้า ถึงเจ้าสิเว้าควมกับข่อยแต่พยานหลักฐานมันกะมี เจ้าเด้สิเสียทิ่มซื่อๆ” ผมพูดไม่ทันจบเธอก็ก้มหน้าร้องไห้หนักเลยครับ อ้าวกูเลยพูดไม่รู้เรื่องเลยทีนี้
   “จะให้ครูทำยังไง สุขศึกษาก็เรียนมา โอ้ย ถึงครูไม่พูดป่านนี้เรื่องมันคงแดงไปทั้งโรงเรียนแล้ว บอกครูทีจะให้ครูทำยังไง” พ่อผมโอดครวญครับ เธอยิ่งร้องไห้หนักไปกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว สักพักพ่อผมก็ให้เธอกลับบ้านไปก่อน ส่วนผมก็อยู่คุยกับแก ผมเลยเล่าให้แกฟัง
   “กูก็เห็นว่ามึงติดอยู่กับนายอุ่นนานแล้ว เฮ้อ ดีแล้วนะ นับว่าเป็นโชคของมึง ยังไงๆเดี๋ยวกูไปบ้านรัชนกก่อน พ่อแม่มันคงยังไม่รู้” คือว่าตอนที่มีเรื่องกับเพื่อนๆในทีมผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อผมเครียดขนาดนี้เลยนะครับ แกหน้าเครียดมากเสียจนผมนิ่งไปเลยเหมือนกัน เรื่องมันใหญ่กว่าที่คิดไว้ครับ พอออกจากห้องมาสายตาของใครหลายๆคนก็มองผมแปลกๆ ยิ่งขึ้นห้องไปเพื่อนๆก็ถามเลยว่าเรื่องมันเป็นยังไง จนผมทนไม่ไหวครับต้องออกมาหลบในห้องพยาบาล
   “อ้ายเดี๋ยวๆ บ่ต้องห่วงตอนนี้กลุ่มผมพวมปล่อยข่าว” ไอ้โจ้ครับมันวิ่งเข้ามาบอกผมในห้องพยาบาล ปล่อยข่าวอะไรของมันวะเนี่ย ผมทำหน้าเซ็งๆเออออไปกับมันล่ะครับ ป่านนี้ไอ้เบบี๋ผมจะเป็นยังไงบ้างนะ
   “มึงเรียนอยู่ป่ะ มาหากูหน่อยดิที่ห้องพยาบาล” ผมส่งข้อความไปล่ะครับ แต่มันก็นิ่ง อ้าวๆ ไม่ใช่งอนอีกนะเว้ย
   “เรียนอยู่นะเน่า เดี๋ยวค่อยคุย” พอผมกดสายโทรไปมันก็รับครับแต่คำพูดของมันห้วนเสียเหลือเกิน จนผมรู้สึกเสียวสันหลัง มีเรื่องอีกแล้วกู โว้ย จะทำยังไงวะเนี่ย ขาก็ยังไม่ทันหาย เรื่องนั้นยังไม่ซาเรื่องนี้ก็เข้ามา อะไรวะ

Written by eiky
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 04-08-2012 16:36:38
มาละเว้ยยย มาม่ารสแจ่วบอง แซ่บ
สนุกจริงๆ ขนาดเข้าใจภาษาไม่ทั้งหมดยังแซ่บขนาดนี้
ถ้าเข้าใจทั้งหมดคงมันส์น่าดู อิอิ

 :3123:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 04-08-2012 16:37:07
เห้ยยยยยยมาทำให้เดี๋ยวกับอุ่นแตกกันทำไมว่ะ  :z3:
ตายซะ o18
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-08-2012 17:05:56
คุณรัชนก3เดือนแล้ว
เพิ่งมาบอกว่าท้อง
ช้าไปมั้ยเธอ :m16:
งานเข้าบักเดี๋ยว
เต็มๆเลยทีนี้ :try2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 04-08-2012 17:18:21
ให้ทุกข์ แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว จริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-08-2012 18:11:44
พี่อิ๊คจัดหนัก มาม่า มาแล้วสินะ

อ๊ายยยเตรียมชามรอง

 :a5:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-08-2012 18:13:11
เดี๋ยวงานเข้าแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 04-08-2012 18:16:47
มาม่าจากเรื่องนี้มาแล้ว หุหุ ดูซิ ว่าจะเป็นยังไง , หลังจากกลับจีนมาเพิ่งได้อ่านตามทีหลัง
พี่เดี๋ยวมีวิวัฒนาการความน่ารักเป็นลำดับขั้นมากเนอะ eiei
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 04-08-2012 18:27:37
พวกนางเพ็ญระวังโดน :z6:  :beat:ไม่รู้ตัวน่ะ:)
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 04-08-2012 18:57:59
เดี๋ยวสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 04-08-2012 19:07:49
งานนี้เดี๋ยวงานเข้าไปเต็มๆเลย
หวังว่าจะเคลียร์กับอุ่นได็เร็วนะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 04-08-2012 19:31:09
ตกลงเดี๋ยวได้หนูอุ่นยังนิ!?  :serius2:
เนื้อเรื่องพาส่อ O.O!?
(บ่สนใจเรื่องที่เครียดๆกันดอกเด้อ 55555555)
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-08-2012 20:28:27
อุ่น!!!... อย่าเพิ่งถอยนะ ... เดี๋ยว! ลุย!!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-08-2012 20:57:37
ตกลงเดี๋ยวได้หนูอุ่นยังนิ!?  :serius2:
เนื้อเรื่องพาส่อ O.O!?
(บ่สนใจเรื่องที่เครียดๆกันดอกเด้อ 55555555)
เห็นด้วยครับ
ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญที่สุด555+
ว่าแต่บักเดี๋ยว จะมามัวเป็นสุภาพบุรุษอะไรเอาตอนเนี้ย.  ไม่ได้ดั่งใจเลย
รีบๆบอกอุ่นเลยนะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-08-2012 21:21:05
ประกาศหน้าเสาธงไปเลยเดี๋ยว

 :m16:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 04-08-2012 22:00:47
เดี๋ยวงานเข้า ว่าแต่เขาได้กันยังอะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 04-08-2012 22:14:01
ทำตัวเองแท้ๆ แทนที่จะแก้ปัญหาเงียบๆ ดันบ้ายุจนเสื่อมเสียไปหมด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 04-08-2012 23:43:03
เออเฮ้ยย คนอ่านงง เหมือนเดี๋ยวบอกจะกดอุ่นให้ได้คืนนี้
แต่จู่ๆก็ตัดหายไป เออ แบบว่าลุ้นมานานว่าอุ่นจะยอมเดี๋ยวตอนไหน
แล้วครั้งแรกของอุ่นกับเดี๋ยวเป็นยังไง แถมครั้งที่เดี๋ยวทำกับชายน่ารักอย่างอุ่นด้วย
โฮกกกกกกก คนอ่านสงสัย สรุปว่า ยังไม่ได้กันหรือได้กันไปแว้วว ขยี้หัว สับสน
ไม่ใช่ว่าห่วงncนะ แต่ห่วงเรื่องความรู้สึกของสองคนในเรื่องว่าเป็นไงกันบ้างอ่านะ ลุ้นนะเนี่ย
แต่ก็มีเรื่องพาเครียด เชื่อเน่านะ แต่เบบี๋ก็คงสับสนน่ะ
เน่าอย่าโกรธเบบี๋เลยยนะ ขอให้เดี๋ยวเคลียร์ปัญหาได้ไวๆ
อยากอ่านเน่ากับเบบี๋สวีทกันน่ารักๆๆแบบเดิมไวๆอ่าา
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 04-08-2012 23:56:59
ชะนีภูธร.
ให้ตายเสี้ยนจิงจิ๊ง
มาทำลายความรุสึกหนูอุ่นฉัน....
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: different ที่ 05-08-2012 00:53:53
ยังอ่านไม่ัทันเลย แต่ขอคอมเม้นท์ก่อน ไม่ไหวแล้ว อยากพูดมาก 55
อู้ย พี่เดี๋ยวชื่อจริงน่ารักนะคะ 55
อ่านแล้วนึกถึงบ้านเกิด (และตอนนี้เธอก็อยู่บ้านเกิดนะได้ข่าว 55)
แต่เขาพูดอีสานกันแบบนี้จริงดิ แบบเรากับคนรอบตัวเขาพูดกันไม่ทุกประโยคขนาดนี้อ่า 
โอ้ย รู้สึกดีที่เกิดเป็นคนอีสาน อ่านแล้วอิ๊นอิน 555555
อุ่นน่ารักจริงๆอ่า ~ ><
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 05-08-2012 09:07:50
เป็นกำลังใจ ให้อุ่นกับเดี๋ยวเด้อ สู้ สู้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-08-2012 22:26:50
อุ่นรู้อยู่แก่ใจว่าเดี๋ยวไม่เคยห่างตัวเลย เชื่อใจกันมาก ๆ
อย่าอ่อนข้อให้ศัตรู
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 23 Version (Dio) 4 July 12 หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 06-08-2012 21:24:45
งานเข้าอย่างแร๊งงงง....
นกกล้าประจานตัวเอง....แต่ถ้ายังมีความคิดอยู่บ้าง
คงกลับลำไม่ทำลายอนาคตของเดี๋ยวหรอกนะ...
บททดสอบนี้...นู๋อุ่นกะเจ้าเดี๋ยวจะผ่านไปได้อย่างไร....
ตอนนี้ช่วงแรกมันหวานนะน้องอิ๊ก...ตอนท้ายนี่มันหนักอึ้งสุด ๆ  :เฮ้อ:

 :กอด1: น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 07-08-2012 10:08:19
Don’t call Me BaBy!!

ถามว่าผมรู้สึกยังไงในตอนนี้ เอ่อ มันคิดอะไรไม่ออกครับ ผมจนปัญญาไม่อยากจะคิดมากนะแต่ว่ามันห้ามไม่ได้เลย ยิ่งผมคิดไปเท่าไหร่มันยิ่งตัน มันหนักๆที่อกหายใจเหมือนมันเข้าไม่เต็มปอด ผมทรมานเหลือเกิน นั่งก็ไม่รู้ว่านั่ง เรียนไม่รู้เรื่อง ใครพูดอะไรได้ยินแต่สมองมันไม่ประมวลผล นี่ผมเป็นอะไรไปเรื่องมันยังไม่ถึงที่สุดสักหน่อยมาคิดเองเออเองได้ยังไง แต่ว่าเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงที่ไหนเขาจะเอามาพูดเล่นกัน เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่มีอะไรกันแล้วจบๆไป แต่มันมีชีวิตอีกชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้ว ชีวิตซึ่งผมไม่มีทางจะให้กับไอ้เน่ามันได้ ใจแฟบลงทันที ผมซุกหน้าลงกับมือ
   “อุ่น ไหวบ่ อย่าคึดหลาย” จอยครับมันลูบหลังผมอยู่
   “ไปหาหม่องอยู่ป่ะ” เสียงไอ้เล็กครับ ผมเม้มปากแน่นจนรู้สึกว่ามันชาไปหมดแล้ว
   “ร้องไห้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะเธอ เห็นหรือยังว่าเธอมีดีแค่ให้รูเขาเอาแต่สิ่งที่เธอไม่มีทางจะชนะคือเรื่องนี้”
   “ปากหมาหลายอีเพ็ญ ดีแต่ทำลายน้ำใจผู้อื่นนั่นบ่ อีห่านี่สันดานหมา” จอยมันด่ากราดออกไปครับท่าทางคงจะโมโหมาก ผมเองเม้มปากแน่นไม่อยากจะร้องไห้ให้ใครเห็นนะแต่มันทนไม่ไหวจริงๆ
   “อีจอย มึงจะมาออกหน้าแทนมันทำไม เรื่องมันมาขนาดนี้แล้ว ทำใจยอมๆรับไปเถอะ ไหนๆก็ไมได้กันอยู่แล้วนี่”
   “นี่เธอ ถามตรงๆนะ ตั้งแต่เราย้ายเข้ามาน่ะ เราเคยทำอะไรให้เธอไม่พอใจเหรอ เราเคยว่าอะไรเธอบ้างไหม เธออยากได้เขาเธอก็เอาไปสิ เราไม่ได้ขอให้เขาอยู่ มีปัญญาให้เขาไปแบบที่เขาเต็มใจไหม แล้วนี่เธอทำอะไร เธอคิดหรือเปล่าว่านี่มันอนาคตของพี่คนนั้นนะ หรือเธอทำเพื่อความสะใจ ถ้าไม่อยากรู้จักเรา ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเรา ก็ไม่ต้องคุยไม่ต้องมองเราก็ได้ แต่เธอทำแบบนี้เธอต้องการอะไร เราไม่เคยคิดที่จะไปยุ่งกับเธอ เพราะคนอย่างเธอแม้แต่เพื่อนเราก็ไม่อยากจะเป็น” ผมทนไม่ไหวครับ ลุกขึ้นชี้หน้าเธอ ส่วนเธอหน้าซีดไป
   “แม่นๆ อีหลีนั่นล่ะ เป็นหยังหลายอยู่บ่อีเพ็ญ ตั้งแต่อุ่นย้ายเข้ามามึงกะหาเรื่องตลอด นิสัยเสียแฮงเสียซื่อคนอำนาจเหมิด อีหยังมายาดพ่อซายกัน เจ้าของสู้เขาบ่ได้กะหาวิธีสกปรก หวืย ตาขี้เดียด” เพื่อนๆในห้องหันมารุมเธอครับ ผมเดินออกไปจากห้องแล้วมีจอยกับเล็กตามมา เสียงกรี๊ดของสาวเพ็ญดังลั่น ผมเดินสวนกับอาจารย์ที่จะสอนคาบต่อไปแต่ผมไม่สนใจครับ คงเรียนไม่ได้หรอกนะแบบนี้ ผมเดินตามนายเล็กไปหลังห้องศิลปะ มันไม่มีที่อยู่หรอกนะแต่เราก็ไปนั่งกระจุกรวมตัวกันอยู่แบบนั้น
   “น่าสงสารเขานะจอย” ผมพูดออกมาครับ ไม่รู้ว่าไอ้เน่ามันจะทำหรือไม่ก็ตามแต่เรื่องแบบนี้ผมก็สงสารและเห็นใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว
   “บ่น่าเซื่อเนาะว่าเพิ่นเฮียนเก่งๆสิเป็นแบบนี้ เสียดาย” ไอ้เล็กมันพูดขึ้นล่ะครับ
   “สิไปเสียดายเฮ็ดหยัง เฮียนเก่งแล้วเป็นจั่งได๋ เห็นบ่ล่ะ เก่งแต่วิชาการแต่เรื่องชีวิตยังบ่ฮู้จักแยกแยะ แทนที่สิมาเว้ากันเงียบๆสองคนเนาะ นี่อีหยังมาประกาศโต้งๆหน้าคนหลายๆ โอ้ย กูล่ะงึด แม่นเพิ่นคึดหยังอยู่บู้นี่”
   “เขาคงไม่เอาเด็กออกหรอกนะจอย” ผมคิดไปโน่นเลยครับ
   “สิเฮ็ดจั่งได๋คั่นอุ่น มันเรื่องของเขาเด้ เฮาว่ามันบ่แม่นเดี๋ยวดอกเป็นพ่อน่ะ เอื้อยนกเพิ่นเซากันกับเดี๋ยวตั้งแต่ปลายปีโดนจนจำบ่ได้แล้ว คันเพิ่นสิหาพ่อบ่ได้มาตู่เอาเดี๋ยวกะเป็นตาหลูโตนเดี๋ยวเนาะ พ้อแต่เรื่องซวยๆ” จอยมันพูดครับ ผมเองก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย แต่ว่าไม่รู้สิผมคิดไม่ออก
   “คือสิเหมิดแล้วล่ะบ่ได้เฮียนต่อดอกเฮาว่า” ไอ้เล็กมันพูดขึ้นครับผมถึงกับอ้าปาก
   “ไล่ออกเลยเหรอเล็ก” ผมหน้าซีด
   “แม่นแล้วอุ่น ไผท้องคาโรงเรียนเขามีแต่ไล่ออกล่ะ ทั้งสองคน” เอ่อ ผมหน้าซีดไปกันใหญ่ใจเต้นแรง น้ำตาไหลออกมา ทำยังไงดี ทำยังไงดี
   “แล้วเน่าล่ะ” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายของตัวเองที่ผมจำได้ ผมสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยร้องไห้หนักมาก นานจนเกือบเที่ยงครับจึงหยุด พอหยุดความคิดมันก็วิ่งเข้ามานับไม่ถ้วนคิดแตกแขนงต่างๆนานา
   “เราอยากไปจากที่นี่ จอย” ผมครางออกไปครับ จอยมันหันไปมองหน้าเล็กแล้วเราสามคนก็ลอดรั้วโรงเรียนออกมาเหมือนแต่ก่อนแต่ครั้งนี้ผมทิ้งใจผมไว้ที่ไหนไม่รู้ครับ เพิ่งจะรู้ว่าคนที่ใจหายนี่มันเป็นยังไง ผมมีแต่ร่างที่เพื่อนสองคนลากแขนให้ปลิวไปตามแรง น้ำตาก็เอ่อนองอยู่ตลอดเวลา
   “ไปเฮือนเฮาบ่” ไอ้เล็กมันชวนครับ
   “แม่เพิ่นเฮ้ดหยังอยู่ล่ะเล็ก” จอยมันถามครับ
   “เพิ่นกางหูก พอดีล่ะไปเบิ่งเพิ่นสิได้ซำบายใจเนาะอุ่น” ผมพยักหน้าครับ พวกเราเดินไปขึ้นวินที่หลังโรงเรียนไม่รู้ว่าอะไรมันผ่านตาไปบ้าง ไม่รู้ว่าถึงไหนแล้วแต่รู้ว่ามันนานมากครับจนเรามาถึงบ้านของเล็ก บ้านของเล็กเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงแต่ว่าฝาบ้านมันทำมาจากไม้ไผ่สานหรืออะไรสักอย่างไม่มีอารมณ์ดูครับ ไว้มาคราวหลังจะเล่าให้ฟัง
   “ฮ่วย แม่นอีหยังนี่ พากันหนีเฮียนมาติ๊บักเล็ก” เสียงแม่ของเล็กตวาดเสียงดังครับ
   “แม่นจ้าแม่เบียบ พวกหนูบ่มีหว่างไป” จอยมันบอกครับ ผมเลยยกมือไหว้แม่ของเล็ก
   “แม่นหมู่มาตาทางได๋ล่ะนี่คือหน้าตาบ่คือคนทางเฮา”
   “ลูกปลัดนั่นเด้แม่” ไอ้เล็กมันบอกครับ
   “บู้ย นี่บ่ลูกปลัด มาๆหล่ามานั่ง เฮือนแม่ฮกแน่เด้อ” แม่เปลี่ยนน้ำเสียงครับ จอยกับเล้กมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มๆ ส่วนผมก็เข้าไปนั่งที่แคร่ใต้ถุนบ้านเหมือนแม่กำลังกางที่จะทอผ้าล่ะครับ ผมสนใจนะแต่ไม่มีใจในตอนนี้
   “กินเข่ากินปลากันมาแล้วบ่หล่า” ผมส่ายหน้าครับ น้ำตาเม็ดเป้งๆมันผุดขึ้นมา คิดถึงแม่จังเลย
   “อ้าว เป็นอีหยัง” ผมร้องไห้ออกมาทันทีครับ แม่ของเล็กก็ยื่นมือมาแตะบ่าผม ผมเลยกอดแกใหญ่เลย สะอื้นออกมากอดแน่นเหมือนคนขาดความรักจากแม่
   “แม่” ผมครางออกไปสะอื้นอยู่ในอกของแม่เล็ก มันนานเหลือเกินไม่มีเสียงใดมีแต่เสียงของแม่เล็กปลอบอยู่ “เซาซะหล่าๆ” อยู่เหนือหัวล่ะครับ มันรู้สึกดีนะนี่ขนาดไม่ใช่แม่ของตัวเอง ผมรู้สึกว่ามันอบอุ่นมากๆ อุ่นเสียจนใจหาย ใจหายอีกแล้วพอใจหายก็ร้องไห้ พอใจหายก็สั่นไหว
   “นั่งถ่าอยู่นี่ล่ะ แม่สิไปตำบักแตงสู่กินเที่ยงพอดี บักเล็กไปเบิ่งไข่เป็ดอีนวลมาต้มสู่หมู่กินแน่” พอแม่คลายกอดผมแกก็จะไปทำกับข้าวให้เรากินล่ะครับ ผมยังสะอื้นอยู่
   “เฮ็ดใจดีๆไว้เด้ออุ่น บ่มีหยังดอกเฮาว่าน่ะ” จอยเองมันก็น้ำตาไหลครับมันจับบ่าผมไว้
   “จอย เรารู้สึกทรมานจังเลย” “บ่ต้องเว้าอุ่น บ่ต้องเว้า เฮาเข้าใจ” จอยมันกอดผมไว้ครับ เราก็สวมกอดกันจนผมต้องเสียน้ำตาออกมา จอยเองมันก็ร้องไห้ สักพักเราสองคนก็ไปช่วยเล็กดูไข่เป็ดในเล้าครับ แต่มันก็ใช้เวลาพอควรล่ะ บ้านของเล็กไม่ใหญ่นะครับ หรือพูดแบบชาวบ้านคือบ้านของเล็กไม่ใช่คนมีฐานะนั่นเอง แต่ของใช้ต่างๆดูเป็นระเบียบ จอยแอบกระซิบให้ผมฟังว่าเล็กมันอยู่กับแม่แค่สองคนครับ เหมือนไอ้เน่าจะเล่าให้ผมฟังแล้วล่ะเรื่องนี้ ไอ้เน่า เฮ้อ พอคิดถึงมันก็ส่งข้อความเข้ามาล่ะครับ ผมอ่านแล้วก็ถอนหายใจ
   “ตอบเพิ่นไปแน่ติ๊ล่ะอุ่น ว่าบ่เป็นหยังดอก” จอยมันบอกครับ ผมส่ายหน้าไม่อยากจะตอบ ไม่อยากจะอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ มันตื้อไปหมด ผมไม่ได้อยากให้มันตึงนะสถานการณ์แต่ผมฝืนไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ให้กำลังใจมัน ไม่ใช่นะ เพียงแต่ตอนนี้กำลังใจให้ตัวผมเองผมยังไม่มีเลย ขอผมเอาอากาศเข้าปอดหน่อยนะ แล้วผมจะให้กำลังใจมัน ขอผมยืดชีวิตให้ตัวเองสักหน่อยพอมีแรงที่จะคิดจะสู้ต่อแล้วผมจะโอบกอดมันเอง
   “เรียนอยู่นะเน่า ค่อยคุยกันนะ” พอสักพักมันก็โทรมาล่ะครับ ผมกลั้นใจบอกมันออกไป ตอนนี้น้ำตามันดันขึ้นมาที่คอแล้ว โอ้ย จะดราม่าไปไหนเนี่ยกูเหนื่อยนะเว้ย พอดีกับที่แม่ของเล็กตำแตงเสร็จแล้วยกออกมาล่ะครับมีกะติ้บข้าวด้วย ส่วนเล็กก็ปอกไข่เป็ดต้มใส่จานออกมา
   “สิกินได้บ่ล่ะหล่า แนวกินซาวบ้านเด้ ลูกผู้ดีสิเคยกินบ่” แม่เล็กถามครับ น้ำเสียงผมพอจะดูออกว่าแกไม่ได้ประชดแต่มันแฝงไปด้วยความเจียมตัว นั่นมันยิ่งทำให้ผมเม้มปากแน่นเข้าไปอีก
   “กินได้ครับ ขอบคุณครับแม่” ผมยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “แม่ไม่กินด้วยกันเหรอครับ” ผมเห็นแกถอยออกครับ
   “พากันกินโลดหล่า แม่บ่ทันอยาก เข่าสวยแม่กินกะสองโมงพู้นล่ะ” ผมยิ้มให้แกครับแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากินตำแตงกับไข่ต้ม อร่อยนะแต่ด้วยความที่มีอะไรในใจเยอะแยะเหลือเกินผมเลยกินได้ไม่เยอะ พอกินเสร็จก็ช่วยกันล้างแล้วมาดูแม่กางหูกที่ไอ้เล็กมันเรียก สิ่งนี้พอจะทำให้ผมเบิกบานขึ้นมาได้หน่อยครับ ผมสนใจกับวิถีชีวิตแบบนี้ ผมว่ามันมีเสน่ห์ดีนะ งานฝีมือที่ทำไว้เพื่อใช้สอยในบ้านไม่ได้ทำเพื่อธุรกิจ จนบ่ายเกือบสามโมงเราก็ขอตัวกลับเข้าไปในโรงเรียนครับ เล็กมันต้องกลับไปเอารถส่วนจอยก็ตามผมกับเล็กมาเพื่อกลับกับโจ้
   “มื้อใหม่มายามแม่อีกเด้อหล่า” แม่เล็กบอกก่อนเราจะเดินออกจากบ้านครับ สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นจากคนในเมืองใหญ่คือเรื่องแบบนี้ รอยยิ้มที่เขายิ้มออกมาจากใจ น้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้มามันไม่มีสารเคมีเจือปน คือมันไม่ได้หวังอะไรตอบแทนจริงๆ ผมว่าผมรู้สึกรักที่นี่มากเท่าๆกับที่ผมรู้สึกรักไอ้เน่าแล้วครับ ผมขอเพื่อนยืนรอไอ้เน่าที่หน้าโรงเรียนตรงเยื้องๆไปหน่อยล่ะครับ เด็กนักเรียนไม่ค่อยมาทางนี้เพราะมันจะออกไปนอกเมือง มีเพียงรถสองแถวที่เด็กนักเรียนตามหมู่บ้านทางโน้นที่จะผ่านไปเท่านั้นเองแต่จุดรวมตัวขึ้นรถมันไมได้อยู่ตรงนี้ ผมยืนรอมันอยู่ไม่นานครับเสียงรถเบรกก็ดังลั่น รถพ่อผมเอง ไอ้เน่ามันก้าวลงจากรถมาหน้าตาบึ้งตึงท่าทางจะมาหาเรื่องผม
   “ไปไหนทำไมไม่เคยบอก” มันเริ่มตวาดครับ
   “เน่า” ผมจะนางเอกไปไหมเนี่ย ผมวิ่งเข้าไปกอดมันครับ กอดมันแน่นเลย มันเลยนิ่งไม่พูดอะไรแต่ก็กอดผมไว้แน่นเหมือนกัน
   “กูคิดถึงมึงมากนะรู้ไหม” เอ่อ มันร้องไห้ครับ
   “กูคิดว่ามึงไม่เข้าใจกูแล้ว กูทรมานมากนะมึงรู้ไหม” มันกอดผมแล้วร้องไห้ออกมาโฮใหญ่ครับ
   “เราไม่ได้ทิ้งเน่านะ เราไปทำใจ เราจะไม่มวันทิ้งเน่านะ ไม่ว่าจะยังไง เราจะอยู่ข้างเน่าเสมอ” โอ้ย เปลืองน้ำตากูจริงอะไรจริง ร้องไห้ออกมาจนได้สิ
   “มึงเข้าใจกูใช่ไหมเบบี๋ กูไม่ได้ทำนะ แต่กูพูดไมได้” มันมองหน้าผมครับน้ำตามันทำให้ผมร้องไห้เยอะกกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
   “เราเข้าใจ เราเข้าใจ” ผมเองก็เอานิ้วขึ้นปาดน้ำตาออกหน้ามันครับ เหมือนจะเกาหลีเลยเนอะผมเลยลากมันขึ้นรถไปสงบใจบนรถดีกว่าเดี๋ยวใครมาเห็นแล้วเป็นข่าวอีกยิ่งดังๆอยู่ช่วงนี้
   “ไปนอกเมืองกันไหมเน่า ไปที่ที่เราเคยไป” ผมเอ่ยปากชวนมันเองครับ เพราะกลับบ้านคงรู้สึกไม่ต่างกันแน่ๆ ไปที่ที่เราสบายใจก่อนแล้วค่อยกลับ มันไม่พูดครับแต่มันตรงดิ่งไปเลย ผมกุมมือมันอยู่ตลอดเวลา มันเองก็บีบมือผมแน่น ไม่ว่าผมจะแพ้หรือจะชนะ ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ผมรักมันแล้วจะคงจะรักตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่มันคือคนที่ผมรักมากคนหนึ่ง พอมันขับรถขึ้นไปบนเนินเขาเราก็นั่งนิ่งๆอยุ่ในรถไม่มีใครพูดอะไรออกมาครับ แดดข้างนอกมันก็ยังคงแรงอยู่ด้วยล่ะเพราะมันยังไม่เย็นมากนัก แต่สักพักผมเองล่ะที่เปิดประตูรถออกมา
   “มึงเชื่อกูไหมเบบี๋” ไอ้เน่ามันกระเผลกตามออกมาครับตอนนี้มันไม่ใช้ไม้ค้ำแล้วนะ เออ เมื่อเช้ามันเตะเฝือกกับกำแพงผมยังเสียวไม่หาย มันบ้าบิ่นมากเลยนะ มันมากอดผมจากข้างหลังล่ะครับ
   “เชื่อดิ” “ขอบใจนะที่เชื่อกู” มันเอาหน้าซุกลงตรงซอกคอผมครับ
   “ไม่ว่าเน่าจะโกหกเราหรือไม่ เราก็เชื่อเน่านะ”
   “อ้าว กูเคยหลอกมึงแค่ครั้งเดียวเองนะ ตอนนั้นก็ไม่มั่นใจเถอะว่ากูคิดยังไงกับมึง แต่ตอนนี้กูมั่นใจแล้ว”
   “มั่นใจไรอ่ะ” “มั่นใจว่ากูรักมึง รักมากนะรู้ไหม” ผมจับแขนมันไว้กระชับให้มันกอดผมแน่นขึ้น
   “ขออย่าให้มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลยนะ” ผมพูดออกมาครับ
   “แม่งอะไรไม่รู้ วุ่นวายกูจัง” มันบ่นครับ
   “คงเพราะเน่าหน้าตาดีล่ะมั้ง เลยมีคนชอบเยอะ พออยากได้ก็หาวิธี แม้จะเป็นวิธีที่ต้องทำร้ายตัวเขามากกว่าเน่าเองก็ยอม” ผมพูดออกไปครับ มันนิ่งอยู่ไม่พูดอะไรออกมา
   “นั่นสินะ แล้วมึงล่ะ ถ้ากูไม่หล่อแล้วจะยังชอบกูอยู่ไหม” น้ำเสียงมันเหมือทดลองใจหรือประชด หรือน้อยใจอะไรสักอย่างผมเลยหันหน้าเข้าหามัน จับหน้ามันไว้
   “เราชอบเน่าไม่ใช่ที่เน่าหล่อนะ ชอบไปแล้ว จะยังไงก็ชอบแล้ว” ผมหอมแก้มมันล่ะครับ ดูแรดไปหน่อยแต่ไม่ทำตอนนี้จะรอให้ทำตอนไหนเนอะ ผมกอดผมแน่นเลยครับแล้วมันก็ผงะหน้าออกมา เราจ้องตากันอยู่สักพักก็จูบกันตามบรรยากาศ มันเปิดใจกับผมทุกเรื่องหลังจากที่เราไปนั่งบนโขดหิน ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างจากตัวมัน รู้ว่ามันคิดยังไง รู้สึกยังไง มันเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาล่ะครับเพียงแต่มันมุทะลุมากกว่าใครๆ มันเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก คงเป็นเพราะครอบครัวมันไม่ว่าอะไร เรื่องอะไรน่ะเหรอก็เรื่องที่มันคบกับผมนี่ล่ะครับ มันบอกว่ามันไม่คิดที่มันจะมาคบผู้ชายด้วยกันมาก่อน มันไม่ได้เตรียมใจเผื่อไว้ว่าควรจะทำยังไง แต่คำพูดมันทำให้ผมยิ้มก็คือมันบอกว่าไม่ว่าผมจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแต่มันคบด้วยแล้วมันบอกว่ามันรู้สึกมีแต่ความสุขมากกว่าทุกข์ และทุกครั้งที่เจอปัญหาเราสองคนจะจับมือกันไปตลอดไม่เคยทิ้งกัน ผมซึ้งมากครับเลยต้องกอดมันอีกครั้ง เราอยู่จนค่ำค่อยกลับบ้าน พี่ต้อยโทรตามผมหลายรอบแล้วล่ะแต่ผมบอกว่าเดี๋ยวค่อยกลับ พอเรากลับไปถึงหน้าบ้านก็พากันตกใจอยู่บนรถ เพราะรถของพ่อแม่ไอ้เน่ามันจอดรอที่หน้าบ้านแล้วครับ
   “พากันไปไสมา มีหยังเป็นหยังบ่บอกแม่” เสียงแม่ของมันดังแว้ดขึ้นตอนที่เราเดินเข้าบ้าน
   “ใจเย็นๆนะครับคุณสาวิตรี ค่อยๆคุยกันครับ” พ่อผมครับ พ่อปรายมามามองผมทีหนึ่งแล้วก็พยักหน้าให้ เราสองคนไปนั่งลงข้างๆ บรรยากาศอึมครึมมากครับ
   “แต่ว่าเด็กน้อยมันบอกว่าสาวนั่นกุเรื่องขึ้นบ่แม่นบ่แม่ ถามลูกดีๆก่อน” พ่อของไอ้เน่าครับจับมือของแม่มันไว้
   “รู้แล้วค่า แต่มันก็อดไม่ได้ เห็นไหมแม่บอกแล้ว แล้วมีอะไรกับมันใส่ถุงหรือเปล่า หือ” แม่มันยังคงคงระดับเสียงไว้ได้ดีเลยครับ ผมเองรู้สึกหวั่นๆในใจ
   “เล่ามาสิ มึงจะนิ่งทำไมบักเดี๋ยว” “ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณสาวิตรี” เหมือนแม่มันจะลุด้วยโทสะล่ะครับ พ่อผมต้องออกหน้ารับไว้ค่อยสงบลง
   “ฮ่วยแม่ สิให้เดี๋ยวเว้าจั่งได๋ล่ะ เขาเป็นแม่ยิงเด้ เว้าไปเขากะมีแต่เสีย”
   “แล้วมึงล่ะ อนาคตมึงไม่มีเหรอ จะไปปกป้องมันทำไม ในเมื่อมันยังไม่ปกป้องตัวมันเอง”
   “จิ๊” ไอ้เน่ามันเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีล่ะครับ
   “เอาล่ะๆ ผมว่าผมคุยให้เองดีกว่านะครับ” พ่อผมออกรับอกีครับ
   “พ่อเชื่อเรานะลูก แล้วครั้งสุดท้ายที่เรา เอ่อ มีอะไรกับเขาน่ะ”
   “ปีที่แล้วครับ ใส่ถุง ทุกครั้งก็ใส่ถุง” มันตอบครับโดยไม่คิด
   “อืม ประมาณเดือนไหนจำได้ไหมลูก” “น่าจะสิงหาครับ วันเข้าพรรษาล่ะผมคงจำไม่ผิด เธอมาหาผมที่บ้าน มีอะไรกันที่หลังวัด” เอ่อ มันบอกออกมาหมดเลยครับ
   “จัญไร” แม่มันดอดขึ้น พ่อผมปรายตาไปปรามไว้ ผมเองตัวสั่นนั่งฟังอยู่
   “อืม แล้วทำไมเขาถึงมาว่าเดี๋ยวทำนะ มันนานขนาดนั้นไม่น่าจะติด ถ้าจะติดมันก็คงท้องโตแล้ว แล้วเขาท้องกี่เดือนแล้วรู้ไหมลูก” พ่อผมทำหน้าครุ่นคิดเหมือนนักสืบครับ
   “เขาบอกสามเดือนครับ” “อืม เอาล่ะครับ คุณสาวิตรี ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เดี๋ยวผมขอตัวก่อน” พ่อผมลุกขึ้นล่ะครับ
   “อ้าว จะไปไหนคะคุณปลัด” “ผมจะไปคุยกับผอ ผมว่าแกน่าจะทราบเรื่องแล้ว เพราะตอนเย็นเห็นแกโทรเข้าหาผมแต่ผมไม่ได้รับสาย” พ่อผมลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อแจ็กเก็ตคลุมล่ะครับ แล้วยื่นมือมาขอกุญแจรถจากไอ้เน่า
   “เห็นไหมเดือดร้อนกันไปหมด ทำอะไรน่ะคิดซะบ้างนะไม่ใช่มึงคนเดียวที่เดือดร้อน กราบคุณปลัดเดี๋ยวนี้” แม่มันตะเบ็งเสียงออกมาครับ
   “ไม่เป็นไรครับคุณสาวิตรี เดี๋ยวมันก็ลูกผมเหมือนกัน เรื่องยังไม่จบอย่าเพิ่งโวยวายไปก่อนเลยนะครับ คุณสาวิตรีกับคุณอุดมกลับไปก่อนก็ได้นะครับเดี๋ยวผมโทรบอก” พ่อผมจับมือของแม่ไอ้เน่าให้ลุกขึ้นครับ พอผู้ใหญ่ออกไปแล้วผมก็จับมือมันให้กำลังใจเพราะหน้ามันเครียดมากๆ
   “บ่มีหยังดอกค่า อย่าคึดหลายเด้อเดี๋ยว นี่ล่ะผู้จบหลายมีแต่คนอยากได้เนาะ” พี่ต้อยเอาน้ำใบเตยใส่น้ำแข็งออกมาให้ล่ะครับ
   “แม่นอยู่เอื้อย ย้อนว่าผมมันหน้าตาดีนี่ล่ะ” มันทำตาวาวๆแปลกครับ
   “ไปอาบน้ำเถอะเน่า เดี๋ยวค่อยมากินข้าว” ผมกระตุกแขนมันครับ
   “มึงขึ้นไปก่อน เดี๋ยวกูตามไป” “ไมอ่ะ จะทำไร” “ขอนั่งแป๊บ” ผมจำใจต้องปล่อยมือมันครับ ผมเดินขึ้นบ้านไปแต่ก็หันหลังมามองมันอยู่จนลับตาไป พอขึ้นห้องไปก็นั่งลงบนเตียงแรงๆ ถอนหายใจออกมา
   “อย่าให้มีเรื่องอะไรมากไปกว่านี้เลยนะแม่ แม่จ๋าคุ้มครองอุ่นกับเน่าด้วยนะ” ผมยกมือขึ้นท่วมหัว ล้มตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า จะว่าไปแล้วไอ้เน่ามันก็ไม่ได้ผิดหรอกนะ ไม่รู้สิผมไม่ได้เข้าข้างมันนะแต่ดูจากที่มันเล่าแล้ว แต่พี่คนนั้นน่าสงสารนะถ้าหากไม่มีคนรับเป็นพ่อเด็กคงจะน่าอายมากแล้วเขาจะอยู่ยังไงนะ เรียนก็คงไม่จบ เฮ้อ
   “ว้าย คือเฮ็ดจั่งซี้ เดี๋ยว ว้าย” เสียงพี่ต้อยกรี๊ดขึ้นครับ ผมตกใจรีบกระเด้งลุกขึ้นวิ่งลงไปข้างล่างทันที
   “เกิดอะ” ผมร้องออกไปแต่ไม่มันสุดเสียงก็อ้าปากค้าง ผมยืนนิ่งตาเบิกกว้าง แทบหมดแรง
   “เน่า ทำไม ทำอะไร” ผมตะโกนออกมาครับ แล้วค่อยๆพาตัวเองลงจากบันไดมา วิ่งไปหามัน
   “ผมบ่หล่อแล้วเด้เอื้อย” มันพูดครับ ผมอ้าปากเข้าไปกอดมัน
   “ทำไมทำแบบนี้ ทำไมทำแบนี้เน่า” ผมร้องไห้ออกมาครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เลือดเปรอะเต็มหน้ามันเลยนะครับ รู้ไหมมันทำอะไร มันเอามีดกรีดหน้าตัวเองจากใต้ตาตรงสันจมูกลากยาวมาถึงแก้มข้างขวา ผมเห็นแล้วแทบจะเป็นลม เลือดยังผุดออกมาไม่ยอมหยุดพี่ต้อยกับผมกรี๊ดแข่งกันจนมีสติพี่ต้อยก็วิ่งไปเอาเครื่องปฐมพยาบาลมาห้ามเลือด
   “โอ้ยเป็นหยังคือเฮ็ดแนวนี้น้อ หน้าดีๆเสียเหมิด” พี่ต้อยเองก็ตกใจ ผมสิร้องไห้สั่นอยู่ไม่คิดว่ามันจะบ้าขนาดนี้
   “หล่อหลายเขายาดกัน กะเซาหล่อซะตั้วเอื้อย” มันตอบครับยังพูดติดตลกอยู่นะ ผมนี่อยากจะเตะมันเหลือเกิน
   “โอ้ยๆ ตายๆ เอื้อยยอมค่า” มันยังไม่มองหน้าผมนะครับ จนทำแผลเสร็จผมเดินขึ้นบ้านไปก่อนโดยที่ยัร้องไห้อยู่เลยนะ ผมกำลังคิดว่าผมจะพูดอะไร จะทำยังไงดี
   “ไม่ชอบเหรอ” มันเดินตามขึ้นมาครับ
   “ทำไมทำแบบนี้เน่า ทำอะไรอ่ะ นี่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหานะ” ผมหันไปแว้ดเสียงใส่มัน
   “กูรู้ ไหนมึงบอกถึงกูจะเป็นยังไงมึงก็ยังจะชอบกูอยู่ไง แล้วตอนนี้ไมพูดแบบนี้วะ” มันเสียงเครียดครับ
   “มันไม่เกี่ยวกันนะเน่า ทำไมชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ แล้วถ้าหากว่าวันข้างหน้าเจออะไรหนักกว่านี้ล่ะ เน่าจะทำยังไง จะฆ่าตัวเองตายไหม” ผมพูดมาได้แค่นี้ผมก็งอตัวลงครับเพราะสะอื้น ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ
   “ไม่หรอก กูคงทำแค่นี้ล่ะ” “ฮือๆ ทำไม ทำไม” ผมก็บ้าคร่ำครวญอยู่คำเดิมนั่นล่ะครับ มันก็เข้ามานั่งข้างๆกอดผมไว้ ผมก็พยายามจะปัดออก
   “กูขอโทษ” มันน้ำตาไหลเหมือนกันครับ มันคงไม่ทันคิดล่ะผมว่านะ
   “เจ็บไหมอ่ะ” คือว่ามันกรีดไปแล้ว มันเป็นแผลแล้ว จะมาโวยวายถามว่า ทำไมๆ เพื่อ? ผมเริ่มมีสติเลยหยุดฟูมฟายครับ หันหน้าเข้าหามัน ผ้าก็อตที่แปะเป็นทางยาวอยู่หน้ามันทำให้ผมรู้สึกสงสารมันมากขึ้น
   “ไม่หรอก” “เน่า ไม่ว่าจะยังไง อย่าดูถูกความรักที่เรามีให้เน่านะ อย่าทำแบบนี้อีก ไม่ว่าเราจะสมหวังหรือไม่ก็ตาม อย่าทำแบบนี้อีก” ผมเม้มปากพูดออกไป พยายามไม่ให้น้ำตาไหลครับ มันเองก็กอดผมแน่น เรากอดกันอยู่นานจึงไปอาบน้ำ วันนี้ผมเต็มใจทำให้มันแบบไม่มีเต็มไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่รู้สิเพราะมันเจ็บเหรอ ก็ไม่นะแต่ด้วยอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าผมถอดเสื้อผ้ามันออกอย่างเบามือที่สุด สายตาก็คอยจ้องหน้ามันไม่ยอมห่าง ผมฟอกสบู่ให้มันเบามือที่สุด
   “กูรักมึงนะเบบี๋” มันกอดผมไว้ใต้ฝักบัวครับ ผมเองก็กอดมัน
   “รีบไปเช็ดตัวไปกินข้าวเถอะ” ผมบอกมันครับ มันก็พยักหน้าเป็นครั้งแรกที่มันว่าง่าย
   “จะได้ทำอย่างอื่นต่อ” ผมบอกออกไป
   “หา ไรนะ มึงว่าไรนะ” มันถามขึ้นเสียงสูงครับ
   “ไรอ่ะ ก็รีบไปกินข้าวไง แล้วมาทำแผลไง” เขินเถอะ พออาบน้ำเสร็จผมก็เช็ดตัวให้มันแล้วก็ลงมาให้พี่ต้อยทำแผลให้ วันนี้กินข้าวก่อนพ่อเลยล่ะครับไม่ต้องรอคงจะนาน ผมพยายามไม่คิดมากและผมก็ไม่อยากให้มันคิดมาก ไม่ว่าจะยังไง ผมสัญญาว่าผมจะไม่ปล่อยมือมันแน่นอน

Written by eiky

ps. mama is going to out!!! hahahaha
i wish you guy would happy with this!
Thanks!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-08-2012 11:10:36
ว้ากกกก เล่นกรีดหน้าตัวเองอย่างนี้เลยเหรอเดี๋ยว เสียววุ้ย ไม่เอา ๆ
เรื่องบางอย่างเด็ก ๆ แก้ปัญหาเองไม่ได้ ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ช่วยหาทางออก
ริรักในวัยเรียน ก็ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 07-08-2012 11:20:41
ร้องไห้จนน้ำตาท่วมจอ โอ๊ยยยยยยยยยยย อะไรมันจะมาม่าขนาดนี้ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 07-08-2012 11:39:44
ทั้งดราม่า ทั้งซึ้งในความรักและเชื่อใจของเดี่ยวกับอุ่น เป็นกำลังใจให้สองคนผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 07-08-2012 11:41:02
 :call: :call:   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 07-08-2012 12:33:10
คุณอิ๊กกี้ ทำไมมีมาม่าอย่างนี้ :m15: ต่อไปขอหวานๆนะค่ะ สงสารเดี๋ยวกับอุ่นจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 07-08-2012 15:15:49
คุณอิ๊คกี้ เจ้าแม่ดราม่า


ทำไมมันถึงดราม่าอย่างนี้ล่ะ  :z3: :z3: :z3:

เดี่ยวนะทำไมแกชอบทำอะไรหวาดเสียวนะ

อกอิแป้นจะแตก


รอตอนต่อไปนะ ดร่ามามาเยอะแล้ว

ตอนหน้าขอเอาคืนบ้างนะ พี่อิ๊ค


หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 07-08-2012 15:34:15
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-08-2012 16:32:25
กรีดใต้ตา หล่อเพิ่มขึ้นอีกป่าวคับเนี่ย 555+ หล่อ ดิบเถื่อน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-08-2012 17:27:47
จะกรีดหน้าทำไมเนี่ยเดี๋ยว เสียของจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-08-2012 17:42:30
อุรดิศสู้ๆ นะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-08-2012 18:06:21
สู้สู้ทั้งเดี๋ยวแล้วก็อุ่น :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 07-08-2012 18:08:04
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 07-08-2012 18:35:09
อ๊ากกกกกกก จะเป็นลม เดี๋ยวจะกรีดหน้าทำเพื่อ!!!! โว๊ะ ขัดใจ
แต่ก็ดีนะ เอาไปเป็นแผน พันหน้าให้เยอะๆ แล้วไปให้อินางคนนั้นเห็นว่าเสียโฉมไปละ
ดูดิมันจะยังอยากให้เดี๋ยวเป็นพ่อเด็กอยู่มั้ย หมั่นไส้ ฮึ่มม
ตกลงว่าท้องจริงหรือกู่เรื่อง เง้อออ หวังว่าเดี๋ยวคงจะไม่เสียโฉม เสียดายความหล่อ ฮ่าๆๆ
อุ่นสู้ๆ ทำใจดีดีไว้ ห่วงอุ่นคนเดียวดีกว่า ฮ่าๆ รออ่านตอนต่อไปน้าา คนเขียนสู้ๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 07-08-2012 18:45:09
น้องอุ่น น้องเดี๋ยวสู้ๆนะ
แต่ชะนีเด็กนี่ไม่รอบคอบซะจริงๆเลย มาคิดจับอะไรป่านนี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 07-08-2012 19:22:49
 :กอด1: อุ่นสู้ๆน่ะ
พี่คนเขียนค่ะตอนหน้าขอหวานๆน่ะค่ะ:)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 07-08-2012 19:31:18
อุ่นจะทำอะไรน้าา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 07-08-2012 20:26:42
 :o8:+1 :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 07-08-2012 22:19:51
น่าสงสารทั้งสองคน :o12:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 07-08-2012 22:29:19
อ่านไปน้ำตาก็จะไหลตามอุ่น เน่าเป็นไรมากมั้ยเนี่ย ไหนว่าฉลาดไง
บ้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 07-08-2012 23:08:46
เดี๋ยววววววว วู่วามไปแล้วน้า!!!!  :sad4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 07-08-2012 23:13:29
โอ้ว คุณพระ

ดิฉันกำลังช็อก เดี๋ยว เจ้าสิ เด็ดดวงแท้

เด็ดดวงโพดๆ ให้ตาย ตกใจหมดเลย
ไม่ไหวเลยนะ ผญ พวกนั้นน่ะ  น่าสมเพช สวดๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 08-08-2012 10:08:22
เข้ามาดัน ฮ่า ไม่ใช่แล้ว เมื่อวานเข้าอ่านหน้า 32 ไม่ได้ทั้งคืนเลย เสียใจ กระซิก ๆ

นายเดี๋ยวลงทุนนะเนี้ย กรี๊ดหน้าตัวเอง = = "
ถ้าเป็นสมัยนี้ยังเรียนต่อไปได้นะ แต่ถ้าสมัยก่อนต้องเลิกเรียน หมดอนาคตทั้ง 2 คนเลย แต่ก่อนโหดมาก ๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 08-08-2012 16:38:19
เดี๋ยวไม่น่าตัดสินใจเร็วเลยน้า ปัญหาทุกอย่างแก้ได้เพียงแต่รอเวลาอันเหมาะสม
แม้จะทรมานใจระหว่างรอก็เถอะ  :laugh:
แต่ใจเด็ดจริงพ่อเดี๋ยว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 08-08-2012 19:20:40
สงสารทั้งคู่เลย T T
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 08-08-2012 20:13:57
หน้าสิ่ว หน้าขวานก็ยังหื่น น้อบักเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: kurdsuk ที่ 08-08-2012 21:20:51
อุ่น เดียว สู้ๆ ผ่านมันไปให้ได้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 09-08-2012 00:00:03
เดี๋ยวคิดไร ตื้นๆอ่า ต้องใจเย็นๆดิ นู๋อุ่นเราตอนนี้สุดยอด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 09-08-2012 07:51:31
สงสารอุ่น
เดี๋ยวก็นะ ไม่เลิกวู่วามสักที
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 09-08-2012 10:24:02
อยากอ่านต่อแล้วน้องอิ๊กกี้ มาต่อน้องเดี๋ยวน้องอุ่นให้อ่านด้วยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 24 Version (Uradith) 7 July 12 หน้า 32
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 09-08-2012 20:47:28
วัยรุ่นมันเลือดร้อนจริงหนอ.... :เฮ้อ:
ทำร้ายตัวเองเพื่ออะไร...แค่นี้นู๋อุ่นก็ทุกข์ใจเยอะแล้ว...
พิสูจน์ความรักหรืออย่างไรจ๊ะเจ้าเดี๋ยว..
เดี๋ยวต้องหนักแน่นกว่านี้...เอะอะอาละวาด..เอะอะทำร้ายตัวเอง...
แล้วจะเป็นที่พึ่งของนู๋อุ่นได้ยังไง... :a5:
สงสารนู๋อุ่น...แต่เซ็งเจ้าเดี๋ยววุ๊ย..

 :L2: น้องอิ๊ก  :L1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 10-08-2012 09:56:01
You’re My BaBy!!

วันนี้มีแกงอ่อมปลาดุกนากับทอดปลาช่อนแดดเดียว น้ำพริกผักลวกครับ มันน่ากินทั้งนั้นเลยนะแต่ว่ากูดันกลืนไม่ลงครับ คงยังคิดเรื่องนั้นอยู่ ก็จะไม่ให้คิดได้ไงวะ ถึงจะมองโลกในแง่ดีแค่ไหนมันก็ต้องมีคิดบ้างล่ะวะ ผมเริ่มมองไปข้างหน้าแล้ว ถ้าหากว่ามันไม่เป็นไปดังที่เราคิดไว้ผมจะทำยังไง อายุแค่นี้จะไปทำอะไรกิน คือผมเริ่มมามองดูตัวเองล่ะครับผมยังไมได้โตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้ขนาดนั้น จริงอยู่แม้จะออกไปทำงานก็พอจะหาเลี้ยงตัวเองและแฟนได้ แต่มันสมควรไหมล่ะ เว้ย คิดอะไรไปโน่นล่ะ
   “ไม่อร่อยเหรอเน่า” ไอ้เบบี๋มันจับแขนผมล่ะครับ เรานั่งติดกันมันมองผมอยู่ตลอด
   “ป่าวๆ อร่อยแต่กลืนไม่ลง” ผมบอกไปตามจริง
   “ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ กินเยอะๆดิ” มันตักแกงอ่อมมาใส่จานให้ผมครับ คือมันกินข้าวสวยอ่ะนะแต่ผมกินข้าวเหนียวมีจานรองใส่ก้างหรือเศษอาหาร มันเองก็กินข้าวไปนิดเดียวเหมือนกันครับ
   “งั้นเรากินข้าวเหนียวเป็นเพื่อน” มันบอกครับแล้วเอาจานออกไป
   “เดี๋ยวก็ง่วงหลับหรอก ไม่ค่อยกินนี่มึง”
   “ไม่หลับ เน่ากินเราก็กินเป็นเพื่อนไง” คือว่ามันไมได้ซึ้งอะไรมากนักหรอกนะแต่กูรู้สึกดีมากจริงๆ เลยกินข้าวซะเกือบหมดกะติ๊บ ฮ่าๆ อิ่มแปร้เลยสองคนเรา เราช่วยเจ้แกเก็บกวาดก่อนล่ะครับแล้วขึ้นไปแปรงฟัน
   “แปรงให้หน่อยดิเบบี๋” ผมเริ่มอ้อนมันครับ คือว่ามันยืนอยู่หน้าอ่างผมยืนอยู่ข้างหลังมันล่ะครับเพราะผมตัวสูงกว่ามันเยอะ
   “แปรงเองดิ จะได้เสร็จไวไว” “ไม่เอา อยากให้มึงแปรงให้” ผมไม่ยอมครับ มันมองผมจากกระจกแล้วยิ้ม มันบ้วนฟองยาสีฟันออกจากปากแล้วบ้วนน้ำทิ้ง มันหันมาหาผมทำหน้าย่นๆใส่
   “เอามาดิ จะพิการอยู่แล้วมั้งเนี่ย” ผมยิ้มปากบานเลยครับมันก็ถูๆฟันผมไปมา มันบอกให้อ้าผมก็อ้า มือผมก็จับเอวมันเอาไว้ครับ สายตาของผมคอยจ้องมองมันตลอดเวลา นี่ถ้าหากว่าซวยขึ้นมากูจะทำยังไงดีเพราะคิดว่าหัวใจมันมอบให้ไอ้เบบี๋ไปหมดแล้วครับ
   “อ่ะเสร็จล่ะบ้วนทิ้ง” มันบอกผมล่ะครับ พอเราออกมาจากห้องน้ำผมก็กระโจนขึ้นเตียงนอนแผ่หน่อยเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว คนเราถ้าคิดอะไรเยอะๆเครียดๆนี่มันก็ทำให้เราเหนื่อยได้เหมือนกันเนอะ ตอนนี้รู้สึกปวดๆตัวแล้วเถอะ
   “เดี๋ยวดิเน่า มาล้างแผลก่อน แล้วขาหายเจ็บแล้วเหรอ” คือว่าผมก็ยังไม่หายหรอกนะครับเวลาเดินมันก็ยังต้องพยุงอยู่ล่ะแต่ว่าตอนที่กระโดดขึ้นเตียงผมก็กระโดดจริงๆอ่ะนะ พอรู้ตัวก็เลยยิ้มแห้งๆ
   “เมื่อยว่ะเบบี๋” มันไม่ตอบโต้ครับมันเอากล่องยามาวางแล้วค่อยๆดึงเท้าผมออกมาทายาหน้าผม มันเริ่มตึงและเจ็บมากแล้วล่ะ ตอนเอามีดกรีดนี่เจ็บไหม เจ็บนะแต่ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ไม่รู้ครับ เรื่องมันมาจากหน้าตาผมหรือเปล่าไม่รู้แต่เอาน่าพอมันแห้งมันก็คงเป็นรอย เท่ดีออกนะกูว่า ฮ่าๆ ไอ้เบบี๋มันทายาอย่างทะนุถนอมแล้วพันผ้าให้ใหม่ มันเบามือกับการจับหน้าผมมากเลยนะครับ พอมันทำหน้าเสร็จมันก็ไปล้างแผลที่เท้า มันทายาให้ผมเบากว่าพยาบาลทำเสียอีกนะผมเองก็ชะเง้อคอมามองมัน ไม่รู้ว่าแสงมันสวยหรือว่ามันน่ารักกันนะ ผมจ้องมันอยู่แล้วยิ้มออกมา
   “พอแล้วล่ะ มาให้กอดหน่อย คิดถึง” ผมยื่นมือไปหามันครับ มันก็เงยหน้ามามองแล้วอายๆ
   “คิดถึงไรอ่ะ อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” มันยิ้มเขินๆครับ
   “ก็ไม่รู้ แต่คิดถึง กอดอยู่ก็คิดถึง” ผมพูดเรื่องจริงครับ ผมไม่เคยรู้สึกรักใครมากเท่านี้มาก่อนเลยนะ อยากจะกอดมันจับมือมันอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ทำไม
   “นวดให้ป่าว” มันขึ้นมานั่งบนเตียงล่ะครับไม่มองหน้าผมนะมันก้มหน้าหน่อยๆ ผมเลยกระเถิบเข้าหามันล่ะครับ
   “หอมแก้มหน่อยดิเบบี๋” ผมจับบ่ามันไว้ครับ
   “อือ” “มึงหอมแก้มกู” ฮ่าๆ มันยื่นหน้ามาล่ะครับ ผมก็แกล้งมันไปงั้นล่ะ มันอายหนักเลยทีนี้
   “อ่า หลับตาก่อนดิ อายนะ” “อายไรวะ อ่ะๆ หลับก็ได้” ผมเลยกระเถิบกลับไปล่ะครับแล้วนั่งถ่างขายื่นมือกางออกแล้วหลับตา สักพักผมก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว มันปีนมาหน้าขาผมครับ ตื่นเต้นดีนะ ไม่ไหวว่ะลืมตาดีกว่า
   “อ่ะ ลืมตาไมอ่ะเน่า” ตอนนี้หน้ามันอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบครับ พอผมลืมตามันก็หลุบตาลงคงจะอาย
   “หลับตาก่อนดิ” ไรวะ อายไรเนี่ย” ผมพูดเพื่อไม่ให้มันเขินล่ะครับเลยยอมหลับตาลง อย่างมากก็แค่กอดจูบกันล่ะไมได้หวังอะไรมากครับ ผมไม่อยากคาดคั้นเอาอะไรจากมันมากแล้ว ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้วครับ พอผมหลับตาลงมันก็นิ่งไปสักพัก แต่ไม่นานผมก็สะดุ้งพอเป็นพิธีล่ะครับเพราะริมฝีปากของมันมาทาบอยู่บนริมฝีปากของผม อืม มันคงอยากจะทำมากกว่าหอมแก้มล่ะปล่อยมัน แต่เอ๊ะมันเอามือมากอดคอผมครับแล้วนั่งบี้หน้าขาผม ลืมตาสิ งง
   “จะ” ผมอ้าปากจะถามมันครับแต่มันจับหน้าผมไว้แล้วดูดปากผมใหญ่เลย เอาวะ ผมเลยปล่อยมันครับ ท่าทางภรรยาจะอยาก อิอิ มันก็ดูดปากผมไปเรื่อยๆล่ะครับผมเองก็เริ่มจะล้วง เอ๊ะ มันไม่ปัดออกครับแถมยังบี้ก้นใส่หน้าขาผมอีก ไอ้หนูลูกชายผมมันเลยตื่นใหญ่เลยทีนี้ ไอ้เบบี๋มันไซร้ซอกคอผมครับ อืม เพลินว่ะเสียวดี มันเริ่มลากลิ้นไล่ลงมา มันดันตัวมันออก ไม่อยากบอกสายตาของมันตอนนี้เซ็กซี่มากๆเถอะ
   “เราทำเอง” ว้าว มันพูดครับ ผมอึ้งอยู่หน่อยนึงล่ะ
   “ไม่เป็นไร” ผมรีบถอดเสื้อยืดออกเองเลยครับ ไม่รอเว้ย ไอ้เบบี๋มันก้มหน้าลงตรงหัวนมผมเลย ซี๊ดด อยากให้บรรยายป่ะ ไม่เอาดีกว่า อิอิ แกล้งคนเล่น ฮ่าๆ มีความสุข
   “เจ็บป่ะเบบี๋” พอถึงฝั่งฝันด้วยกันทั้งสองคนผมก็นอนทับตัวไอ้เบบี๋อยู่ล่ะครับ เหงื่อผมแตกหยดเป็นสายเลยนะ
   “เจ็บดิ” มันอายครับ ดูเอานะจนป่านนี้แล้วยังอายอยู่อีก
   “เหรอ เขาบอกต้องเบิ้ลนะมันถึงจะหาย” ผมหอมแก้มมันล่ะครับ
   “บ้าเหรอ ช้ำตายพอดี ไม่เอาแล้วอ่ะเจ็บจริงๆนะ” มันออดอ้อนครับ อย่าอ้อนกูเลยว่ะมึง แค่นี้กูก็จะตายอยู่แล้ว รักโงหัวไม่ขึ้นแล้วเนี่ย
   “ทำไมยอมกูล่ะวันนี้น่ะ” ผมถามครับ อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมมันยอม ทั้งที่ตอนผมยัดลูกชายผมเข้าตัวมันนี่น้ำตามันไหลเลยนะ ขอบอกว่าสุดยอดเว้ย ฟิตที่สุด ปวดอยู่เลยเนี่ยตุบๆ
   “ถ้าไม่ยอมวันนี้ไม่รู้จะยอมวันไหน เราไม่อยากจะเสียเน่าไปนี่” มันพูดครับ มันฟังดูพิกลยังไงไม่รู้ แต่ผมรู้สึกว่ามันออกมาจากก้นบึ้งหัวใจของมันเลยนะ
   “บ้าเหรอวะ กูจะไปไหนล่ะ ไม่ว่าจะอะไรกูจะไม่ทิ้งมึงโอเคป่ะ คิดไรเนี่ย หือ เบบี๋” ผมเอาจมูกถูๆกับแก้มนุ่มๆของมันล่ะครับ มันก็เอียงๆแก้มหลบ ไม่อยากบอกว่าตอนนี้นอนทับกันเถอะแต่ผมก็ผ่อนแรงโดยใช้ข้อศอกดันไว้กับเตียงล่ะครับ ไม่งั้นมันคงขี้แตกตาย เคยเล่าแล้วเนอะว่าตัวมันนุ่มๆลื่นๆมือมากๆ ลิ้นมันก็หวานมากล่ะวันนี้ เนื้อตัวหอมเสียดอารมณ์ให้ดีดมากขึ้น และขอบอกว่ามันฟิตจริงอะไรจริง ปกติไม่อยากจะคุย กูอ่ะนะอึดทนแต่เจอไอ้เบบี๋ไปไม่ถึงห้านาที
   “อีกทีได้ป่ะเบบี๋” ผมอ้อนมันครับปากก็พยายามงับๆไปตามตัวมัน ลิ้นก็ดุนๆไปเรื่อยๆล่ะเผื่อมันยอม
   “พักก่อนได้ป่าว ยังเจ็บอยู่เลยนะเน่า” มันยื่นข้อเสนอครับ เอ๊ะ พักก่อนแปลว่าได้สินะ ฮ่าๆ แค่นี้กูก็โอเคแล้วล่ะไม่ขออะไรมากแล้วเว้ย เมื่อตอนกลางวันเครียดๆมาเจอแบบนี้กูยอมตายเลยเถอะ อิอิ
   “อืมก็ได้” ผมตอบครับแล้วซุกหน้าลงหามันอีกครั้งมันเอามือดันหน้าผมไว้
   “พักก่อนแล้วไมไม่เอาออกซะทีอ่ะเน่า จะแช่ไว้แบบนี้เหรอ” มันถามอายๆครับ ฮ่าๆ คือว่าผมยังแช่ไว้อยู่นะ
   “ได้” ผมตอบแล้วค่อยๆจะถอดออกมาครับแต่ก็ดันเข้าไปใหม่ มันทำหน้าเหวอๆ
   “อย่าแกล้งดิเน่า” มันเหมือนจะครางครับ ผมก็เลยเอาเข้าไปใหม่ทำอยู่แบบนั้นสองสามทีปากมันก็เริ่มเผยอ เสร็จกูล่ะ เพราะว่ากูยังรู้สึกไม่เต็มที่เลยนะเว้ย จัดทั้งทีขอจัดเต็มหน่อยเถอะ พอมันเผยอปากกูก็ประกบปากทันที รู้สึกเสียวถึงสันหลังวาบๆ ชอบที่สุด เราไม่เปลี่ยนท่าเลยนะครับ เฮ้ยๆ อย่าๆ อย่ามาหาว่ากูไม่มีน้ำยาก็แค่ท่าเดียวยังเสียวได้ใจขนาดนี้ไม่ทันเปลี่ยนท่าเถอะ พอตอนนี้กูจะไม่ยอมซ้ำรอยเดิมอีกแน่ ว่าแล้วก็ยกเอวมันขึ้น อุ้มมันให้ขึ้นมานั่งบนตักผมล่ะครับ มือมันก็กอดคอผมไว้มือผมก็ไปยกสะโพกมันขึ้นลงปากเราก็ไม่ยอมปล่อยจากกัน
   “ไปอาบน้ำเถอะ” ไม่อยากบรรยายเลยว่ะเดี๋ยวมีคนใจแตก อิอิ เอาเป็นว่ารอบสองก็นานกว่าเดิมหน่อยแต่มันมีสารหล่อลื่นดีอยู่แล้วจึงรู้สึกเสียวกว่าเดิมเพิ่มทวีคูณ ผมนอนแผ่อยู่บนเตียงมีไอ้เบบี๋มันนอนทับผมอยู่ครับ ผมได้แต่พยักหน้าน้อยๆให้คำตอบ
   “พอแล้วนะเน่า” มันหันมาปรามผมครับเพราะตอนเดินไปห้องน้ำผมก็จับก้นมันอีก เห็นทีไรมันหวิวๆใจยังไงไม่รู้ เริ่มรู้สึกปวดแล้วครับแต่มันสู้มากลูกชายผม
   “จับเฉยๆน่า” ผมก็เข้าไปกอดมันล่ะครับ มันก็อายเพราะเห็นได้เลยว่าหน้ามันแดง
   “รีบอาบเลย จะห้าทุ่มอยู่แล้วนะ” ผมเลยยืนนิ่งๆครับให้มันฟอกสบู่ให้ มันก็ก้มหน้าก้มตาทำ แปลกใจอ่ะดิว่ามันจะเจ็บหรือเปล่าเพราะขนาดลูกชายผมนี่มันไม่น้อยเลยนะ ผมว่ามันเจ็บล่ะเพราะตอนเข้าใหม่ๆมันน้ำตาไหลเลย แต่อาศัยครีมทามือมันนั่นล่ะ ผมพยายามอยู่นานจนเหงื่อแตก กว่าจะเข้าได้มันกัดฟันอยู่แทบตาย และนี่คือเหตุผลที่ผมไม่ยอมถอดออกในยกสอง อิอิ
   “ทายาป่ะเบบี๋” ผมยักคิ้วให้มันตอนเราเดินออกมาจากห้องน้ำล่ะครับ
   “บ้าเหรอ ทายาไรอ่ะ” “ยาแดงไง แก้แผลสด” มันอายครับ
   “เดี๋ยวทาเอง” “เดี๋ยวกูทาให้ อายไรกูเห็นหมดไส้หมดพุงแล้วเถอะ ก้นสีชมพูของมึงเนี่ย ฟิตดีจริงๆ” ล้อครับล้อ
   “อ่า ไม่ให้ทำแล้วนะ” มันเคืองครับ ผมก็ตามไปกอดมัน
   “อ้าว ก็มันจริงนี่หว่า รักมึงจังว่ะเบบี๋” ผมหอมแก้มมันครับ เอาไปเอามามันก็ทายาเองล่ะ เฮ้ย ทาจริงเว้ย ฮ่าๆ ไม่นึกว่ามันจะเชื่อผม มันเดินเข้าห้องน้ำไปอีกรอบกลับเข้ามามันก็ทำหน้าเหมือนคนแสบก้นล่ะครับ
   “ยังเจ็บอยู่เหรอ” ผมกอดมันแน่นครับ
   “อืม มันแสบๆอ่ะ” “เดี๋ยวก็ชิน” “แปลว่าจะทำบ่อยๆเหรอ” “อืม มันจะได้ชินไง”
   “ไม่เอาอ่ะ แสบจะตาย” “อ้าว มึงไม่ให้ทำแล้วจะทำไงล่ะ ผัวเมียกันนี่หว่า ทำไงได้ของกูใหญ่” มันไม่ตอบครับแต่หลับตานิ่งหน้านี่แดงก่ำเลย
“เดี๋ยวทายาให้เน่าก่อน” มันลุกขึ้นอีกทีล่ะครับค่อยๆดึงผ้าก็อตออกจากหน้าผมแล้วทาล้างแผลทายาอีกรอบเพราะเมื่อกี๊เหงื่อไหลเปรอะเต็มหน้าไปหมด
“ไม่ต้องทายาแก้แผลเป็นนะ” ผมบอกมันครับ
“อ้าว ไมอ่ะเดี๋ยวก็เป็นรอยหรอกเน่า” “เป็นรอยแล้วรักไหมล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันนิ่งเม้มปากอยู่แล้วมันค่อยๆเอานิ้วเกลี่ยข้างๆแผลอย่างแผ่วเบา คันเถอะ
“กูหน้าแบบนี้ไงจะได้ไม่มีคนอยากได้ อยากวุ่นวาย กูไม่อยากให้มึงลำบากใจอีกแล้ว” ผมพูดครับ มันเม้มปากหนักแล้วก้มลงจูบข้างๆหูผม อ้าวๆ เสียวนะเว้ยเดี๋ยวก็โดนอีกหรอก
“เราไม่ได้คบกับเน่าที่หน้าตานะ ถึงจะเป็นแผลมากกว่านี้เราก็จะคบ” มันพูดเสียงเครือๆล่ะครับ ผมกลัวมันจะร้องไห้เลยดึงมันมากอดผมก็ได้ใจกอดหอมอยู่นั่นล่ะจนหนำใจ แล้วเราก็คงเผลอหลับไปเพราะรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแล้ว
   “หน้าเป็นไงบ้างลูกเดี๋ยว ใจร้อนนะเราน่ะ” ปลัดมองหน้าผมก่อนเลยครับพิจารณาอยู่ ผมอ่านสายตาแกออกว่าตำหนิผมอยู่มากเรื่องที่กรีดหน้าตัวเอง แต่แกก็เปลี่ยนสายตาเพราะคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
“เรื่องจบแล้วนะลูก พ่อไปบ้านเด็กผู้หญิงมากับอาจารย์เดชและผอเมื่อคืน” พอตอนกินข้าวเช้าก็เห็นปลัดนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ล่ะครับ หน้าตาแกเหมือนคนอดนอนเลยนะ น่าสงสารจริงๆนี่ขนาดว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆของแกนะแกยังทำเพื่อผมเยอะขนาดนี้เลย
   “ครับ เขาว่าไงครับ” ผมถามครับไอ้เบบี๋มันก็มองหน้าพ่อมันรอฟังคำตอบเหมือนกัน
   “เขาก็ท้องจริงนั่นล่ะลูก แต่กับคนอื่นเด็กเทคนิคมั้งเห็นนั่งอยู่ข้างกัน ฝ่ายชายเขาเพิ่งรู้ข่าวจากเด็กนักเรียนที่พูดกันนั่นล่ะ เขาเลยมาที่บ้านพอดีกับที่พวกพ่อไป พ่อแม่เขาก็เสียใจนะ แต่ทำไงได้เอาเด็กออกก็ไม่ได้ ฝ่ายชายเขาไม่ยอม” ผมพยักหน้าครับ มันควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วเถอะวะ
   “เขาสารภาพว่ามีคนยุให้เขาทำแบบนี้” “ทำกับผมเนี่ยเหรอครับ”
   “ใช่ลูก แต่เขาไม่บอกชื่อ เขาบอกว่าเขาเห็นลูกสองคนสนิทกันเขารู้สึกหมั่นไส้ แต่ไม่คิดว่ามันจะทำร้ายตัวเขาเอง”
   “แล้วพี่เขาจะเรียนต่อไหมพ่อ” ไอ้เบบี๋มันถามครับ
   “คงไม่แล้วล่ะ คงไม่กล้าจะสู้หน้าใคร พ่อว่าเขาไม่ใช่เด็กแล้วนะเราสองคนเองก็เหมือนกัน ความคิดความอ่านก็มี ถ้าหากจะทำอะไรก็ให้คิดดูให้ดี การที่เราใจร้อนหุนหันพลันแล่นรังแต่จะไม่เกิดประโยชน์มีแต่โทษทั้งนั้น เห็นไหมไม่ใช่ว่าเขาเท่านั้นที่ลำบาก คนที่อยู่รอบตัวเขาก็เสียใจและลำบากไปด้วย โดยเฉพาะพ่อกับแม่” ปลัดพูดแล้วหันมามองหน้าไอ้เบบี๋และผมล่ะครับ
   “ขอบคุณนะครับพ่อที่ช่วยผม ขอบคุณครับ” ผมไหว้แกล่ะครับ แกก็ลูบหัวผม
   “ก็เดี๋ยวเป็นลูกพ่อเหมือนกันนี่ อย่าคิดมาก” แกพูดแล้วยิ้มๆครับ ผมยังจำคำสัญญาที่ผมให้ไว้กับปลัดดี ผมไม่มีวันลืมหรอกและผมก็กำลังทำตามสัญญาอยู่
   “เฮ้อ โล่งโว้ย” พอเราเดินออกจากบ้านผมก็แหกปากออกมาล่ะครับ วันนี้ผมจะขับคุณปู่ของผมไปเหมือนเคย คืนรถให้ปลัดแล้วสงสารแก เพราะขาซ้ายมันแค่ตึงๆไม่เจ็บแล้ว มีผ้าพันไว้ก็เถอะไม่ตายหรอก
   “เบบี๋” พอผมขับมาได้สักหน่อยผมก็หันไปหามันล่ะครับ
   “หือ ไรเหรอเน่า” มันเอาหน้ามาแนบกับบ่าผมล่ะครับ รู้สึกว่าตอนนี้มันกอดผมไม่เขินเหมือนก่อนแล้ว
   “ขอบใจนะ” “เรื่องไรอ่ะ” ผมจับมือมันมากระชับเอวของผมล่ะครับแล้วใช้มือขวาจับแฮนด์รถ
   “ขอบใจที่อยู่เคียงข้างกูตลอด ขอบใจที่มึงยังจับมือกูไม่เคยปล่อย กูรักมึงนะ รักมากด้วย” ผมพูดออกไปจากใจครับ มันก็ซบหน้าลงกับบ่าของผมแล้วกอดผมแน่นขึ้น
   “เราก็ขอบใจเน่านะ ที่รักเรา ขอบใจที่อยู่กับเรา” มันพูดครับ วันนี้รู้สึกมีความสุขมากๆ โลกมันสดใสไปเสียหมด กูว่ากูตกหลุมรักมันมานานแล้วนะแต่ทำไมวันนี้มันเหมือนว่าหัวใจมันพองเต็มอกแบบนี้วะเนี่ย เว้ย มีความสุข ผมพามันแวะไหว้พระมิ่งมงคลก่อนไปโรงเรียนล่ะครับ ภาพของเราสองคนเคียงข้างกันนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าพระมิ่งมงคลองค์ใหญ่ ในใจผมขอให้ผมรักมันจนกว่าหัวใจผมมันจะไม่มีแรงเต้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เราประคับประคองกันไปแบบนี้ ส่วนมันผมไม่รู้ครับว่ามันขออะไรและไม่อยากรู้ด้วย เพราะแค่มันอยู่กับผมแบบนี้ผมก็รู้สึกว่าได้ตามที่ขอไปแล้ว
   “เหมือนลมหนาวเลยเนอะ” มันพูดขึ้นตอนเราเดินออกมาจากลานพระล่ะครับ
   “มันจะเข้าหน้าหนาวแล้วมั้ง ดีจะตายกูชอบไม่ต้องอาบน้ำ”
   “แหวะ น่าเกลียดนะเน่า ไปโรงเรียนเถอะ เพื่อนๆคงรออยู่” แล้วเราก็ไปโรงเรียนล่ะครับ ผมขับคุณปู่เข้าโรงเรียนไม่สนใจใครครับ คนมองเราตั้งแต่จะเลี้ยวเข้าโรงเรียนเถอะ เสียงซุบซิบดังอยู่เนืองๆ คงไม่เรียกซุบซิบหรอกมั้งดังซะขนาดนั้น ช่างแม่ง อยากพูดอะไรพูดไปเลย พอถึงโรงรถผมก็เห็นสัดเคนกับไอ้เล็กมันกำลังจอดรถล่ะครับ
   “เฮ้ย ไปถืกหยังมา” มันสองคนทำหน้าตกใจวิ่งเข้ามาหาผมกับไอ้เบบี๋
   “เดี๋ยวจั่งเว้า เว้าพร้อมกันกูขี้คร้านเว้าหลายเทื่อ” ผมบอกมันทั้งสองล่ะครับ มันสองตัวพยายามจะหันไปถามไอ้เบบี๋ด้วยสายตาแต่ไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้ามาทางผม ฮ่าๆ ได้ใจเว้ย
   “ซาดใจฮ้อนเนาะเดี๋ยว เสียโฉมเหมิดเลยบ่านนี้” สาวจอยครับ ตอนนี้พวกเราครบทีม มีไอ้เต้กับไอ้โจ้ด้วย
   “เสียดายเด้ บักห่ามึงเอ้ย หน้าหล่อๆคือบ่เอามาให้กูซะก่อนสิไปปาดหน้าเจ้าของนี่แหม่ะ” สัดเคนครับ พวกเราก็หัวเราะกันขึ้น
   “บ่ยากเด้ล่ะบักเคน” สัดไม้มันพูดขึ้นครับ
   “อีหยัง อย่าบอกเด้อว่าให้ไปเกิดใหม่บักอันนี่” “แม่น” เสียงหัวเราะดังกว่าเดิมอีกไม่เกรงใจใคร ไม่สนใจแล้วเว้ย เหมือนมีคนอยากเข้ามาถามเรื่องราวต่างๆล่ะครับ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักแต่พวกกูไม่สนใจ กูกับไอ้เบบี๋อยู่กลางวงเลยนะ
   “อ้ายเดี๋ยวๆ อ้ายอุ่น พวกหนูมาให้กำลังใจค่า” พวกเราหันไปเห็นน้องๆที่ไปช่วยไอ้เบบี๋มันรำล่ะครับเอาดอกกุหลาบมาให้ เฮ้ย เวอร์ไปป่ะเนี่ย
   “บ่ต้องถอยเด้อค่า พวกหนูปล่อยข่าวไปตั้งแต่เมื่อวานล่ะ เนาะโจ้เนาะ” อ้อ ที่มันบอกว่าจะช่วยปล่อยข่าวนี่พวกนี้เองหรอกเหรอ
   “แล้วหน้าอ้ายเดี๋ยวไปถืกหยังมา เป็นฮอยบ่ค่า” วกมาหาหน้ากูจนได้ ผมบอกว่าไม่มีอะไร รับดอกไม้มาขอบใจน้องๆแล้วพวกนั้นก็ยังไม่ไปนะ นั่งอยู่แถวๆนั้น กรี๊ดกร๊าดอยู่ นี่กูกับไอ้เบบี๋กลายเป็นคนดังแล้วเหรอเนี่ย ฮ่าๆ พอเข้าแถวเสร็จพ่อกูก็เรียกไปหาล่ะครับ แกไม่ได้พูดอะไรมากแค่เล่าอย่างที่ปลัดเล่าให้ผมฟัง
   “มึงโชคดีมากนะรู้ไหม คุณปลัดแกออกตัวปกป้องมึงทุกอย่างเลย” พ่อผมบอกล่ะครับ ผมก็ซึ้งใจอยู่เหมือนกันล่ะ
   “แต่กูก็ไม่เข้าใจจริงๆว่ะ ทำไมเด็กสมัยนี้มันหัวรุนแรงนักวะ แล้วนี่มึงไปทำอะไรกับหน้ามึงมา ประชดชีวิตว่างั้น” ผมไม่ตอบครับ เหตุผลมันมีแต่ไม่ใช่ว่ามันจะบอกใครได้ทุกคน กูเบื่อจะเล่า
   “เออๆ ไปกราบขอบคุณคุณปลัดเขาด้วยล่ะมึง ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไปได้แล้ว” พ่อกูคงรำคาญล่ะครับเพราะกูนั่งทำหน้าเซ็งอยู่ไม่พูดไม่จาอะไร ครับๆ ท่าเดียว จะให้กูพูดอะไรวะ คนมันใส่ความกู กูนะเว้ยที่เสียหายและตอนนี้เขาสารภาพแล้ว และประโยชน์อะไรล่ะวะที่กูจะพูดไป ตอนนั้นทำไมมองกูด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ ตอนนี้จะมาขอให้กูพูดอะไรวะ ไม่ได้หมายถึงพ่อกูนะเว้ย แต่หมายถึงคนอื่นๆ นี่ล่ะนะที่เขาบอกเวลาจะเสพสารใดๆ หมายถึงข่าวนะครับ ให้ฟังความสองข้างอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เอาเถอะๆ บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ เอาเป็นว่าระหว่างนั้นเวลามันก็ผ่านไปเรื่อยๆล่ะครับ หน้าผมตกสะเก็ดแล้วส่วนขาก็หายแล้วครับ กีฬาสีผ่านไปโดยที่ปีนี้อย่างที่บอกว่ากูไม่มีส่วนร่วมเลยนะครับ ผมไปนะงานกีฬาสีแต่ไปจู๋จี๋กับไอ้เบบี๋ซะมากกว่า ผมไปดูแต่ตระกร้อที่สัดเคนไอ้เต้กับไอ้โจ้มันลง ส่วนที่เหลือพวกเราก็ตามกันเป็นพรวนกินส้มตำปูเสื่อใต้ร่มไม้เฉยไม่สนใจเว้ย พอผ่านกีฬาสีไปก็สอบมิดเทอม ตั้งแต่ขาเจ็บมาจนถึงตอนนี้กูยังไม่ได้กลับไปนอนบ้านสักวันเลยนะ นอนที่บ้านปลัดทุกวันเลย ทุกวันนี้ดูจะฉุๆขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ ฮ่าๆ กินดีอยู่ดีจัด
   “หนาวจังวะ ไม่อยากอาบน้ำเลยเบบี๋” เช้านี้มันหนาวมากครับ ลมหนาวมาเต็มกำลังแล้ว หนาวที่อีสานนี่มันหนาวแบบแห้งๆนะครับ ปากแตก ขาแตกหน้าแตก แต่ว่าปีนี้ล่ะที่ผมไม่แตก ฮ่าๆ มีเมียดีมันทาครีมให้ตลอด แต่ก็นั่นล่ะยังขี้เกียจอาบน้ำอยู่ดี เดี๋ยวค่อยเล่าดีกว่า ขี้เกียจล่ะ ฮ่าๆ

Written by eiky

Ps. อิอิ แอบมาตอนเช้า แอบมีดราม่านิดหน่อยแต่ผ่านมาแว้วว ต่อไปนี้ก็คงมีแต่กลิ่นอายแห่งความสุขนิ

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 10-08-2012 10:24:46
น้ำตาซึมเลย สงสารทั้งสองคนเลยอ่ะ

นังเพ็ญ ก็เนอะ นิสัยเสียจริงๆ สักวันคงไม่มีคนคบ

บักเดี๋ยวกรีดหน้าตัวเอง ทำไม ทำตัวเองให้เจ็บทำไม คนที่ต้องเจ็บคือคนสร้างเรื่องนู่น

ไม่เข้าใจพี่นกอะไรนั่น มาโทษบักเดี๋ยวทำไม หาพ่อเด็กไม่ได้จริงๆง่ะ


---------------------------------------------------

ดีนะน้องผู้ชายคนนั้น มีความรับผิดชอบอ่ะ แต่อนาคตการเรียนไปแล้วจ้าา  :เฮ้อ:

คุณปลัดฮีโร่่เลยเถอะ คุณพ่อดีเด่นเลย

ผ่านไปอีกเรื่องแล้วเน้อ โล่งงงง  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 10-08-2012 11:19:28
หลังพายุ ฟ้าย่อมกลับมาสดใส
หวังว่าเดี๋ยวจะมีสติก่อนทำอะไรแล้วนะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-08-2012 11:29:25
มาม่าผ่านพ้นไปแล้ว
ไมต้องบอกว่าใครยุ
อิเพ็ญกะสุชาติ แน่นอนอ่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-08-2012 11:31:29
เดี๋ยวเป็นลูกเขยปลัดอย่างสมบูรณ์แล้วสิ อิอิ
มีเมียดีก็มีความสุขอย่างนี้แหละ
เข้าหน้าหนาวแล้วมีคนให้กอดนอน อบอุ่นดีเนาะ
ดีจังที่ทุกอย่างคลี่คลายในทางที่ดี
ชอบน้อง ๆ แฟนคลับจังเลย เต็มใจช่วยทุกงาน
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 10-08-2012 11:52:15
และมรสุมร้ายก็พัดผ่านไป ทำให้บักเดี๋ยวและนู๋อุ่นรักกันมากขึ้น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 10-08-2012 12:09:57
เฮ้อ ผ่านกันไปได้ด้วยดีนะหนูอุ่นกับเดี๋ยว แต่ก็ดีใจนะที่อุ่นยอมเดี๋ยว :z1: อิ อิ รอตั้งนาน :haun4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 10-08-2012 12:35:28

หนูอุ่นนี่บทจะยอมก็มาเนียนๆเลยเนอะ ฮี่ ฮี่
น่าฮักกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: aishiteru. ที่ 10-08-2012 12:46:44
โล่งอก ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ดีหมดแล้ว
รักกันหวานชื่น ครอบครัวสุขสันต์ ทั้งฝั่งครอบครัวเดี๋ยวทั้งฝั่งคุณปลัด โอ้ยยย น่าอิจฉา
เน่าหลงเบบี๋จะแย่แล้วว ฮิ้ววว เบบี๋น่ารักมากกกก เน่าก็ทำตัวได้น่ารักดีนะ
อ่านแล้วมีความสุขอมยิ้มทั้งตอนเลยยย ในที่สุดก็ได้อ่านเบบี๋ยอมเน่าแล้ว
อยากอ่านฝั่งเบบี๋บ้างอ่าา ฮ่าๆๆๆ รอๆๆๆตอนหน้าต่อไป~~
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 10-08-2012 13:06:26
กลายเป็นเบบี๋เจ็บซะงั้น บักเดี่ยวเอ้ยหื่นหลายๆๆ แต่ดีที่เรื่องจบลงด้วยดี :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 10-08-2012 13:09:36
น่ารัก ชอบบทบรรยายถึงสภาพแวดล้อม บรรยากาศของเรื่องอ่ะครับ อยากไปเที่ยงต่างจังหวัดเลย....
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 10-08-2012 13:16:19
 o13 o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 10-08-2012 14:47:56
น่ารัก❤
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 10-08-2012 15:39:55
ให้กำลังใจเดี๋ยวและอุ่นเสมอ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-08-2012 16:32:48
ซึ้งโคตรๆ อ่ะ เดี๋ยว  :กอด1:


แต่พ่อคุณจะบรรยายฉากนั้นซักหน่อยก็ไม่ได้  :m12:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 10-08-2012 17:19:55
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 10-08-2012 18:57:37
ดีนะที่น้องผู้ชายเทคนิคคนนั้นมีความรับผิดชอบ แต่ก็ต้องเสียอนาคตทางการเรียนไปเลยทั้งสองคน
เดี๋ยวกับอุ่้นได้กันแล้ว เย่ ๆ 55555555555555
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 10-08-2012 20:16:37
เรื่องร้ายๆผ่านไปซะที  o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 10-08-2012 20:24:14
โฮกกอยากอ่านเต็มๆ :jul1:
เดี๋ยวสัญญาอะไรกับพ่อปลัดหว่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 10-08-2012 21:56:35
เรื่องร้ายผ่านไป ก็มามีความสุขกันเถอะ  o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 11-08-2012 01:00:02
 :z2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 11-08-2012 01:51:16
มีความสุขมั่กมาก อ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-08-2012 12:26:46
มีเรื่องร้ายๆ
ก็ยังมีเรื่องดีดี
นะบักเดี๋ยว :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 11-08-2012 12:50:20
คุณพ่อตาก็ออกตัวแรงนะนั่น เป็นธุระจัดการให้เขยขวัญ เสร็จสรรพ ประเสริฐแท้

ขอให้รักกันนานๆ ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความเข้าใจ นะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 12-08-2012 11:51:04
คนแต่ง แต่งได้ดีมากจ๊ะ น่ีารักกก :-[ :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 12-08-2012 11:56:59
เรื่องร้ายๆก้อผ่านไปสักทีเนอะ ต่อไปขอให้มีแต่ความโชคดีนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 12-08-2012 16:30:49
นี่ล่ะหนาพี่อิ๊ก ส่งมาม่ามาแบบไม่ตั้งตัวจริงๆ

แต่ดีแล้วแหละ ไม่นั้นอุ่นก็ไม่ยอมเสียให้เดี๋ยวสักที

มันต้องมีแรงผลักดัน ตอนต่อไปคงแฮปปี้แล้ว

รอติดตามจร้า ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 12-08-2012 19:30:22
หวานน่ารัก...นู๋อุ่นช่างเอาใจมาก..รู้จักลดไฟร้อนของเจ้าเดี๋ยว..
เจ้าเดี๋ยวแมนได้ใจ..เมื่อเรื่องคลี่คลายก็ไม่จำเป็นต้องไปตอกย้ำใครเนอะ
เดินเคียงข้างกันอย่างนี้...รักกันยืนยาวแน่นอน  :กอด1:

 :L1: น้องอิ๊ก   :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 12-08-2012 19:32:15
 :impress2:หวานสมใจอิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 24 Version (Vitchapong) 10 July 12 หน้า 33
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 13-08-2012 10:49:16
มาต่ออีกนร้าครับอิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 14-08-2012 07:39:52
Don’t call Me BaBy!!

เคยได้ยินคนพูดว่าเวลาที่เรามีความสุขเวลาหรืออะไรๆมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ มันก็จริงนะไม่น่าเชื่อว่าผมเองจะอยู่ที่นี่ได้หลายเดือนแล้วครับ ผ่านเรื่องดีๆร้ายๆมาก็เยอะพอสมควร ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะชอบที่นี่ได้มากมายเท่านี้ ความเรียบง่าย จริตของคนที่ไม่มากมายนัก หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ผมไม่รู้สึกเบื่อเลยที่จะอยู่ที่นี่ และที่สำคัญผมไม่เคยเหงาเลย เพื่อนของผมทุกคนล้วนแล้วแต่ทำให้ผมรู้สึกว่าคำๆนั้นมันยังห่างไกลจากตัวผมอยู่ และไอ้เน่าจากวันที่เราชอบกันจนถึงวันนี้มันก็ยังคงอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันมากไป จะเชื่อไหมว่าผมไม่เคยรำคาญมันเลย มันพูดไม่เพราะแถมยังห้าวๆอีกแต่ไม่รู้ทำไมผมไม่อยากห่างมันสักวินาที
   “ขี้คร้านเด้ มื้ออื่นสิไปเกี่ยวเข่านี่แหม่ะ” ปลายเดือนตุลาคมแล้วครับ ลมหนาวเข้ามาแทนที่อากาศร้อนอบอ้าวเต็มกำลัง ลมหนาวที่พัดมาทีไรก็จะหอบเอาฝุ่นปลิวคละคลุ้งมาด้วยเสมอ ยิ่งลานหน้าโรงเรียนฝุ่นที่มาจากสนามฟุตบอลที่ตอนนี้หญ้าในสนามเป็นเป็นสีน้ำตาลแก่ๆเหมือนมันตายครับ ลมมาทีไรฝุ่นปลิวมายังกับทอร์นาโด
   “เกี่ยวข้าวเหรอ” ผมสนใจขึ้นมาทันทีครับหันไปมองเล็กเรากำลังจะเก็บของกลับบ้านกัน
   “เฮาไปซ่อยบ่ อยู่เฮือนเพิ่นจ้างเกี่ยวแล้วๆ เอาเข่าตากไว้บ่มีแนวเฮ็ด” จอยมันเสนอครับ
   “เราไปด้วย อยากไปลองเกี่ยวข้าว” ผมเองก็อยากมานานแล้วครับ ตั้งแต่ข้าวยังไม่ตั้งท้องเถอะ
   “สิไปอีหลีติ๊ มันเมื่อยเด้อุ่น” “ไม่สนอ่ะ เราอยากไป” พอตกลงกันได้ผมก็ลั่นล้าเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนล่ะครับ ต้องไปรอไอ้เน่าที่หน้าโรงเรียน เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นทำให้ใครหลายคนรู้จักผมมากขึ้นล่ะครับแต่เหมือนจะไม่นินทาเหมือนแต่ก่อน ยิ่งไอ้เน่ามันไม่เอาใครเลยหน้ามันมีรอยแผลเป็นพาดครึ่งหน้า เวลามันทำหน้านิ่งๆซึ่งปกติก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งทำให้มันดูหน้าดุมากขึ้นเถอะแต่ผมว่ามันก็ดีนะเพราะไม่กล้ามีใครมาวอแวมันอีกเลย
   “เน่าๆ พรุ่งนี้ไปเกี่ยวข้าวนาเล็กนะ” พอมันมาผมก็ชวนทันทีครับ
   “เกี่ยวข้าวไร” อ้าวไอ้นี่ เกี่ยวข้าวในนาสิถามมาได้
   “เกี่ยวข้าวไง ไม่เคยทำเหรอ”
   “สัด ว่างมากไง ไม่เหนื่อยว่างั้น” “ไม่อ่ะ เน่าไม่ไปเราไปกะจอยนะ” ผมไม่สนใจครับ มันจิ๊ปากซึ่งนั่นหมายความว่ามันไปครับ ผมเลยแอบขำอยู่หลังมัน
   “มึงนี่นะ อยู่นิ่งๆบ้างไม่ได้ไงวะ” มันเริ่มบ่นครับ ผมก็ทำเป็นหูทวนลม
   “บักเคน มึงบอกบักเต้กับบักไม้แน่ มื้ออื่นสิไปซ่อยบักเล็กเกี่ยวเข่า” พอถึงบ้านมันก็โทรศัพท์ไปหาเคนทันทีครับ ผมก็ยืนรอลุ้นอยู่ว่ามันจะว่ายังไง
   “เออๆ อย่าถามหลาย เดี๋ยวมาเตะตระกร้อจั่งคุยกัน” มันวางสายแล้วหันมาทางผมล่ะครับ
   “แต่ไปแค่ครึ่งวันพอนะ กูจะกลับมานอน” อ่านะ มันยักคิ้วใส่ผมล่ะครับ
   “อืม แล้วไปแกะแผลทำไมอ่ะ” ผมเห็นมันเป็นรอยเลือดแดงๆล่ะครับ มันแห้งแล้วนะแต่เหมือนว่ามันจะคอยแกะอยู่ตลอดเวลาล่ะครับ ทายาไปมันก็เช็ดออกตอนผมเผลอ ไอ้นี่ท่าจะบ้า
   “คัน” “มานี่เลย แล้วมันจะหายไหมอ่ะเน่า” ผมดึงแขนมันมานั่งล่ะครับเพราะมันกำลังจะเปลี่ยนรองเท้าไปเล่นตระกร้อล่ะครับ
   “ไม่เอา เดี๋ยวก็เหงื่อออก ตอนเย็นค่อยทำ” อ่านะ
   “ก็ทาไว้ก่อนไง ตอนเย็นก็ทำอีก ก็ถ้าแกะก็จะทำอยู่แบบนี้ล่ะ” ผมก็ไม่ยอมครับ มันถลึงตาใส่ผม
   “เออๆ มึงนี่นะ เดี๋ยวๆคืนนี้กูจัดหนักเลยนี่” อ่า ไอ้บ้า เขินจัง ไม่น่ายอมเลยอ่ะท่านรู้ไหม พอยอมมันนะมันจัดผมบ่อยมากอ่ะ จนตอนนี้รู้สึกเวลามันทำไม่ค่อยเจ็บแล้วเถอะ โอ้ยนะอุรดิศ อารมณ์เสียมาก
   “บ้าเหรอ” อายครับอาย รีบวิ่งไปหาพี่ต้อยทันที มันหัวเราะอยู่นะ แหมๆ เดี๋ยวเถอะจะไม่ยอมแล้ว
   “พี่ต้อย พรุ่งนี้อุ่นจะไปเกี่ยวข้าวนะ ช่วยเล็ก” ผมเห็นพี่ต้อยกำลังเตรียมทำกับข้าวอยู่ล่ะครับ
   “หวืย ซาดจะแม่นหาแนวเฮ็ดน้อค่า คุณพ่อซายฮู้แล้วติ๊”
   “พ่อไม่ว่าหรอก พี่ต้อยทำกับข้าวไปช่วยเล็กด้วยดิ เพื่อนไปหลายคน”
   “อ้าว คือบ่ให้มันเฮ็ดไปเองล่ะค่า” “ก็เล็กอยู่กับแม่สองคนเองพี่ต้อย สงสารแม่เล็กออก” ผมก็เลยเล่าคร่าวๆให้ฟังว่าเล็กอยู่กับแม่ยังไง พี่ต้อยแกก็พยักหน้าครับ
   “ซั่นยามแลงเอื้อยสิไปซื้อแนวมาเฮ็ดให้กะได้ค่า บ่ให้เอื้อยไปนำบ่ คึดฮอดบ้านคือกันเด้ค่าคุณอุ่น ปานนี้อีแม่คือสิพวมเกี่ยวเข่าอยู่คือกัน” พี่ต้อยแกรำพึงออกมาครับสายตาชวนฝันเชียว
   “พาอุ่นไปเที่ยวบ้านพี่ต้อยด้วยสิ อุ่นอยากไป ไหนบอกบ้านพี่ต้อยติดโขงอ่ะ อยากไปเห็น”
   “บู้ย ไปยามนี้เพิ่นกะสิไล่ฆ่าลงนาท่อนแล้วค่าคุณอุ่น ไปยามเหมิดหน้านาดีกั่วค่า เดี๋ยวเอื้อยสิซวนคุณพ่อซายเมือไปยามเฮือนจักเทื่ออยู่” ผมก็ช่วยพี่ต้อยทำนั่นทำนี่ล่ะครับ ไม่นานนักแกก็ขอตัวออกไปตลาด พ่อผมกลับมาแล้วครับ เสียงเพื่อนๆที่เล่นตระกร้อก็เจี้ยจ้าวอยู่นอกบ้าน ผมเลยชงชาเย็นสูตรอุรดิศไปให้ คือว่ารู้ว่าหน้าหนาวอ่ะนะแต่เล่นเหงื่อแตกมาขนาดนั้นคงไม่มีใครจิบชาร้อนของผมหรอกนะครับ จะว่าไปตั้งแต่พ่อผมมาอยู่ที่นี่แกดูสุขภาพดีขึ้นมากนะ เพราะออกวิ่งทุกเช้าและเย็นยังมาเตะตระกร้อกับไอ้เน่าและเพื่อนๆอีกนับว่าเป็นผลพลอยได้ที่ดีทีเดียว ส่วนชาหิมาลายันสูตรอุรดิศ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ชงกับน้ำผึ้งใส่มะนาวแค่นั้นเอง อิอิ
   “กินข้าวด้วยกันก่อนนะลูกค่อยกลับบ้าน หน้าหนาวนี่ค่ำไวจังนะ พ่อรู้สึกว่าเหงื่อยังไม่มากเท่าไหร่เลย” คุยครับคุย แหมนะพ่อผม คือช่วงเลิกเล่นล่ะครับก็มานั่งรวมกันอยู่ที่เก้าอี้หวายใต้ถุนบ้านดื่มชาเย็นสูตรพิเศษของผมอยู่
   “คุณปลัดหนุ่มขึ้นเด้ครับ เลยบ่เมื่อย” นายเคนครับ เสียงพ่อผมหัวเราะชอบใจ
   “พ่อครับ พรุ่งนี้ผมจะพาอุ่นไปเกี่ยวข้าวช่วยไอ้เล็กนะครับ” ไอ้เน่ามันเอ่ยขึ้นล่ะครับ ทุกคนจ้องหน้าพ่อผมทันที
   “หือ นี่มันถึงฤดูแล้วเหรอลูก จะไปช่วยเขาหรือไปทำให้เพื่อนลำบากหรือเปล่าล่ะลูก” พ่อผมพูดครับ แล้วหันมาทางผมที่ยืนลุ้นอยู่ แหมนะพ่อ ไม่เคยเถอะ
   “ผมกะว่าบ่ให้ไปๆ แต่อุ่นเพิ่นกะอยากไปครับ” นายเล็กครับ เออนะ รุมกูใหญ่เลยทีนี้
   “เดี๋ยวก็ดูอุ่นให้พ่อหน่อยละกัน สงสัยอยากเรียนต่อเกษตรแน่ๆ พ่อไม่เห็นสนใจเรื่องอื่น”
   “ผมก็ว่าอยู่ครับ มันคงอยากเรียนเพาะเห็ดขาย ฮ่าๆ” เอ่อ ไอ้เน่าครับ หัวเราะเสียงดังมาก เพื่อนๆรวมทั้งพ่อก็หัวเราะ ผมก็เลยจำเป็นต้องเดินหนีครับ พ่อนะพ่อ
   “มาค่ามา แกงปลาค่อใส่ผักอีฮุม แจ่วปลากระบอก” พอสักพักผมก็ช่วยพี่ต้อยยกอาหารออกมาล่ะครับ จะว่าไปนะที่บ้านผมเวลาทำกับข้าวนี่ทำแบบว่าเผื่อบ้านข้างคียงด้วยเถอะ เพราะถ้าวันไหนพ่อผมเล่นตระกร้อซึ่งก็ทุกวันนั่นล่ะครับ พี่ต้อยก็จะทำกับข้าวเผื่อ ถ้าวันไหนเพื่อนไม่อยู่กินก็จะเอาไปให้ที่บ้านโน้น บ้านโน้นก็บ้านไอ้เน่าล่ะครับ
   “คุณอุ่นขา เอื้อยซื้อหมวกใส่เกี่ยวเข่ามาให้ มันจั่งบ่ฮ้อน” พอตอนเก็บจานพี่ต้อยก็ยื่นถุงใส่หมวกมาให้ผมล่ะครับ หมวกสองใบ คงเอามาเผื่อผมกับไอ้เน่านั่นล่ะครับ
   “ขอบคุณครับพี่ต้อย มันจะร้อนไหมอ่ะ” “แฮงค่า มันหนาวแต่ยามเซ้ากับยามแลงท่อนล่ะ สิดำบ่น้อบ่านนี่” ผมอยู่คุยกับพี่ต้อยไม่นานนักก็ขึ้นไปบนบ้านล่ะครับต้องรีบอาบน้ำเพราะมันเริ่มจะมีลมมาแล้ว เสียงลมพัดต้นชมพู่ดังหวือๆอยู่ข้างนอก ลมแรงมากครับ ยิ่งค่ำเร็วก็ยิ่งลมแรง นี่ผมไม่ได้เปิดแอร์เลยนะยังหนาวได้ขนาดนี้
   “เร็วเบบี๋ไปอาบน้ำ หนาว” ไอ้เน่ามันเดินตามผมขึ้นมาล่ะครับ
   “เออเน่า พรุ่งนี้มันจะลมแรงป่ะ” ผมถามครับ ในใจอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆเถอะ อยากจะสัมผัสกับต้นข้าว อยากเห็นกับตาจังไอ้ทุ่งรวงทองนี่มันจะสวยแค่ไหนกันนะ
   “มองหน้ากูดิ๊” มันจับบ่าผมไว้ครับ ผมก็มองหน้ามันตามันเป็นประกายวาวๆ แล้วมันก็ยักคิ้วให้ผม
   “กูผัวมึง ไม่ใช่กรมอุตุ เข้าใจ๋” เอ่อ อึ้งครับ อ้าปากค้างนิดหน่อย
   “ไรอ่ะ ถามก็ไม่ได้นะเน่า” คือเขินอ่ะ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเถอะ
   “ถามได้ แต่กูตอบไมได้เว้ย ไม่ถามล่ะว่าคืนนี้กูจะเอากี่ยก แบบนั้นน่ะกูตอบได้เลย ไม่ต้องคิด”
   “บ้านะ ไม่เอาล่ะ อาบเองเลย” “นั่น หยุดเลยๆ เดี๋ยวกูบอกพ่อไม่ให้มึงไปเลยนะพรุ่งนี้”
   “อ่า นิสัยไม่ดีนะ” “จะทำไมเหรอ” คือไม่ว่าจะยังไง มันก็ยังคงกวนบาทาผมได้ตลอดล่ะครับ และไม่รู้ทำไมว่าผมถึงยังคงเขินมากหรืออายจัดเวลามันแซวหรืออยู่กับมัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็จนเหนื่อยครับ มันเล่นเบียดถูอยู่นั่นล่ะ เขินนะเว้ย
   “ไม่ทำได้ไหมอ่ะวันนี้อ่ะเน่า” ผมเริ่มจวนตัวครับ สายตามันท่าทางเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ ผมเลยต้องอ้อนครับ
   “ไม่ได้ มึงยั่วกูเองนะ” หือ กูเนี่ยนะยั่วมึง ตอนไหนวะเนี่ย
   “ไรอ่ะ ยั่วตรงไหน” “กวนตีนกูไง กวนตีนแปลว่ามึงอยากโดน” มันยิ้มครับ ทฤษฎีบ้าๆบ้อๆอะไรอ่ะไม่เคยได้ยิน
   “ไม่เอาอ่ะ เจ็บพรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีแรงเกี่ยวข้าวไง” ผมเริ่มแถครับ
   “งั้นมึงนอนเฉยๆ นอนคว่ำเลย เร็วๆ” อ่านะ มีแบบนี้ด้วย
   “กอดเฉยๆได้ป่าว นะนะ เนี่ยกอดๆ” ผมก็เบียดเข้าหามันล่ะครับ กอดมันแน่นเพราะมันล้วงเถอะ
   “จิ๊ ไม่ได้ มันขึ้นแล้วเนี่ย ช่วยไมได้นะมึงเริ่มเอง”
   “ไรอ่ะ ใครเริ่ม เราเริ่มตรงไหน” ผมเถียงครับไม่ยอมหรอกนะ ผมไม่ได้อยากขนาดนั้นนะ
   “ก็มึงอยากน่ารักเองทำไม ช่วยไมได้” อ่า เอิ๊กก เขิน
   “บ้าเหรอ” อายครับ แหมนะ มาลองโดนพูดแบบนี้ต่อหน้าบ้างเถอะ เออๆ ยอมก็ได้
   “กูอยากให้มันหนาวแบบนี้ไปนานๆเลยนะ” พอมันสมใจมันผมก็นะต้องลุกไปล้างตัวใหม่แถมยังเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้มันอีก คือว่ามันหนาวอ่ะนะเห็นใจกันบ้างไหม ส่วนมันนอนสบายอยู่ใต้ผ้าห่มนวม พอผมทำความสะอาดเสร็จมันก็กอดผมไว้ล่ะครับ
   “ไมอ่ะ” “ก็กูจะได้กอดมึงแบบนี้ไงตอนนอน”
   “ก็ทุกทีเห็นกอดตลอดนี่” “เดี๊ยะๆ ย้อนเหรอๆ หรือจะเอายกสอง”
   “อ่านะ งั้นกอดเถอะ ไม่ต้องพูด” ผมกอดเองก็ได้ครับ กลัวมันจะทำอีกไอ้นี่มันท้าได้ที่ไหนล่ะ จะว่าไปผมไม่เคยคิดเลยนะว่าหน้าหนาวมันจะมีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าผมจะมีความทรงจำอะไรกับหน้าหนาวที่แห้งแล้งแถมยังหนาวเย็นอีก แต่เพราะมัน มันที่ทำให้หน้าหนาวของผมมันดูอบอุ่นขึ้น เพราะมันล่ะที่ทำให้ใบไม้แห้งที่หลุดร่วงจากต้นมันดูสวยงาม ลมหนาวที่พัดเอาฝุ่นลอยมาคละคลุ้งมันก็ดูเหมือนมีมนต์เสน่ห์ เสื้อทหารของพ่อมันที่มันใส่ทับไปโรงเรียนเวลาผมซ้อนท้ายไปผมก็กอดจากข้างหลังได้โดยไม่ต้องแอบใครเพราะมันตัวโคร่ง เพราะมันล่ะครับ หน้าหนาวนี้ผมถึงรู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
   “อือ” ผมครางออกมาล่ะครับ ตอนเช้าเสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น ให้ตายเถอะไม่อยากลุกออกมาจากเตียงเลยนะ ยิ่งตัวของไอ้เน่ามันอุ่นๆผมยิ่งเบียดเข้าหาผ้าห่มอีก โอ้ย ไม่อยากจะลุกเลยอ่ะ
   “เน่าตื่นๆสายแล้ว” ผมเขย่าตัวมันล่ะครับเกือบจะเจ็ดโมงแล้วเถอะ
   “อือ” มันกอดผมแน่นขึ้นครับ
   “เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนนะเน่า” ผมยังคงพยายามอยู่ครับแม้ตัวเองจะง่วงอยู่ก็ตาม วันเสาร์ทั้งทีแทนที่จะนอนตื่นสายๆเนอะ แต่ก็เอาเถอะผมเองอยากไปมากเถอะ ไอ้เน่ามันไม่พูดครับแต่มันจับมือผมแล้วเอาไปกำของมัน อ่า ไอ้บ้า
   “งั้นเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมทำท่าจะลุกล่ะครับ มันไม่ยอมมันดึงตัวผมไปกอดไว้
   “ไรอ่ะเน่า ตื่นดิ” “แป๊บดิ” มันกอดผมแน่นครับเอาผ้าห่มมาคลุมอีก เอ่อ บรรยากาศก็นะ อีกหน่อยเถอะ อิอิ
   “คุณอุ่นขา มันสวยแล้วเด้อ แนวกินแล้วๆยามได๋สิลุกค้า” เสียงพี่ต้อยมาเคาะประตูล่ะครับ ผมเลยงัวเงียตื่นขึ้น มองไปที่นาฬิกา อะไรอ่ะพี่ต้อยเพิ่งจะสิบโมงเอง สิงโมง หา
   “อ่าสิบโมงแล้วอ่ะเน่า” ผมกระโดดลงจากเตียงทันทีครับ ไอ้เน่ามันก็งัวเงียลุกขึ้น กว่าจะอาบน้ำกว่าจะกินข้าวปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้วครับ โมโหมาก
   “แก่งไก่ใส่หยวกกับทอดปลาเอื้อยเอาใส่หม้อให้แล้วเด้อเดี๋ยว ติบเข่ากะอยู่ในนี้อย่าสิให้มันถืกลมเด้อมันสิแข็ง” ของกินอยู่ในหม้อแล้วใส่ตระกร้าไว้อย่างดีพี่ต้อยเองกำชับอย่างดีก่อนที่เราจะบึ่งรถออกจากบ้านครับ วันนี้พ่อไม่ไปทำงานครับเลยเอารถพ่อไป
   “เน่ารู้จักเหรอว่านาเล็กอยู่ไหนอ่ะ โทรหาจอยดีกว่าไหม” ผมถามมันล่ะครับตอนอยู่บนรถ
   “รู้ดิ นามันก็อยู่ใกล้ๆบ้านมันนั่นล่ะ” อ้อ ผมก็พยักหน้าครับ ไปถึงบ้านเล็กก็เที่ยงกว่าๆพอจอดรถผมก็รีบลงไปมองหาเพื่อนครับ อ้อ อยู่โน่นเอง อ่า มองไปแสงแดดยามเที่ยงมันสะท้อนทุ่งสีทองแบบว่าสวยดีนะครับ ไม่ล่ะ สวยมากต่างหากล่ะ กลิ่นของรวงข้าวมันหอมปลิวลอยลมมา
   “ว่าแม่นสิบ่มาแล้วแหม่ะอุ่น” จอยมันเดินมาหาผมล่ะครับ
   “โทษที นอนเพลินไปหน่อยอ่ะ ถึงไหนแล้ว” ผมหน้าตาตื่นล่ะครับมองลงไปแต่ทุ่งนา เสียงเพื่อนๆเจี้ยวจ้าวอยู่น่าสนุกมาก
   “ว่าอยู่ เอาผ้ามาขอมหน้าแน่บ่อุ่น สิดำเด้ ฮ้อนแท้ๆ” ขอม? เอ่อ น่าจะประมาณคลุมล่ะครับเพราะเห็นจอยมันทำคือเหมือนใส่หมวกโม่งล่ะครับเห็นแต่ตา แล้วมันหายใจยังไงวะนั่นเสื้อแขนยาวมิดชิดมีถุงมือใส่กางเกงขายาวมีรองเท้าบู้ท อืมนะ ท่าจะร้อนจริงๆล่ะ
   “เราใส่ผ้าใบลงได้ป่าวอ่ะจอย” ผมมองสำรวจล่ะครับ
   “ได้ๆ บ่มีน้ำดอก มาๆเฮาขอมให้ พวกนั้นแห่งจ่มอยู่เด้อเดี๋ยว” จอยมันหันไปบอกไอ้เน่าล่ะครับมันกำลังขนของลงจากท้ายรถ ไอ้เน่ามันก็สวมเสื้อแขนยาวกางเกงรดรองเท้าผ้าใบมันสวมหมวกสานปีกกว้างที่พี่ต้อยซื้อมาให้ล่ะครับ
   “เกี่ยวแม่เพิ่นมีอยู่บ่จอย” มันถามจอยครับ
   “มีๆ อยู่ไฮ่นาพู้นล่ะ” จอยมันบอกครับแล้วไอ้เน่ามันก็เดินลงไปนาทันทีส่วนผมจอยมันก็คลุมหน้าให้
   “หายใจไม่ออกอ่ะจอย” ผมหน้าเริ่มแดงครับ
   “อ้าว ซั่นเอาคลุมแต่หัวกับคอเนาะ” พอมันถอดผ้าออกผมก็ถอนหายใจแรงๆ เกือบตายเถอะ มันทนได้ไงเนี่ยของมันไม่มีช่องให้ลมหรือแดดเข้าได้เลยนะ
   “จอยไม่อึดอัดเหรอ” “เฮาซินแล้ว ป่ะไปลองเบิ่ง ระวังๆเด้อ เดี๋ยวเกี่ยวมันสิบาดมือเอา” ผมเดินตามจอยไปที่นาล่ะครับ คันนามันคลุมไปด้วยหญ้ามีดอกหญ้าสีม่วงๆเหลืองอยู่เต็มครับ ลมที่พัดมาลู่รวงข้าวสุกสีเหลืองทองไหวต้องลม มันสวยมากครับ สวยจริงๆ ผมยืนมองอยู่นานกว่าจะเดินตามจอยไป
   “ทำไงอ่ะ” ผมเดินไปอยู่ข้างๆไอ้เน่าล่ะครับ เออนะ ท่าทางมันทะมัดทะแมงดีเหมือนกันนะ เพิ่งจะรู้ว่ามันเกี่ยวข้าวเก่งมากครับ ฉับๆวาง มันไม่กลัวเคียวบาดมือเอาหรือไงนะ ผมล่ะเสียวแทนจังเพราะผมลองจับดูแล้วมันทำยากมากนะครับ ไม่ใช่ว่าทำง่ายๆ คือต้องจับเหนือกอข้าวตรงที่จะเกี่ยวแล้วเอาเคียวดึงแรงๆให้มันขาดพอเต็มกำก็เอาไปวางรวมกัน เขาเรียกว่าฟ่อนข้าว
   “โอ้ยน้อ แม่นให้ลูกเจ้าลูกนายมาเฮ็ดแนวนี้น้อบ่านนี่ บ่ไหวกะไปเซาเด้อลูก” เหมือนแม่ของเล้กเพิ่งจะเดินมาจากทางทิศใต้ล่ะครับ
   “หวัดดีครับแม่ สบายมากครับ สนุกดีออก แม่ไปไหนมาครับ” ผมยกมือไหว้แม่เล้กล่ะครับ
   “แม่ไปซ่อนกุ้งคองตามา ว่าสิเอามาเฮ็ดสู่กินงายนี่ล่ะหล่า พ่อเพิ่นบ่ว่าเอาบ้อมาตากแดดตากนายแนวนี้”
   “บ่ว่าครับ โหกุ้งยังดิ้นอยู่เลยอ่ะ แม่ไปซ่อนยังไงครับ” ผมวางกำข้าวทันทีครับหันมามองในถังที่แม่หิ้วมา
   “เอาหวิงนี่ล่ะลูก แม่มีแพรแง่งอยู่แต่ยามแลงพวกโตจั่งไปซ่อน” งงครับแต่ก็ยิ้ม
   “มึงไปช่วยแม่ทำกับข้าวดิ” ไอ้เน่ามันบอกผมครับ
   “ไม่เอาอ่ะ อยากเกี่ยวข้าว” “เกี่ยวเชี่ยไร กูเห็นได้สองสามต้นเองนะ” อ่า ก็คนมันไม่เคยนี่หว่าคือว่าผมพยายามแล้วนะครับ มันคันๆด้วยนะฟางข้าวน่ะ แล้วเม็ดข้าวมันก็มีขนด้วยครับ พอกำไปนานๆมันก็ปวดอุ้งมือ ปวดจนเหมือนจะกำไม่เข้าเถอะ แหมๆ ว่ากูใหญ่เลยนะไอ้เน่า

To be Continued
Written by eiky

ปล. ป่ะไปเกี่ยวข้าวกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 14-08-2012 07:42:19
   “ป่ะอุ่นไปฝานบักหุ่งถ่าซุมพ่อซาย เซาซาท่อนโตน่ะ บ่คือดอก อิอิ”
   “ไรอ่ะจอย ไรบ่คือ คือๆ เนี่ยๆ” ผมไม่ยอมครับ ไอ้เน่ามันเหมือนจะรำคาญสายตามันมาจับมือผมแล้วดึงเคียวไป แล้วดันหลังให้ผมเดินตามจอยไปบนบ้านครับ มันหัวเราะด้วยล่ะเพื่อนๆก็หัวเราะ เออ วันนี้มีนายไม้นายเคน น้องเต้ น้องโจ้ เล็ก จอย ผมและไอ้เน่าครับ แกงค์เดิมนั่นล่ะ นาเพื่อนคนอื่นๆเขาใช้รถเกี่ยวข้าวทำเสร็จแล้วครับ เอาตากไว้ตามที่โล่งๆให้ข้าวแห้งแล้วค่อยเก็บเข้ายุ้ง ส่วนนาของเล็กมีไม่เยอะอีกอย่างเล็กเคยบอกว่าเปลืองเงินจ้างเขาดว้ยเลยทำเองทุกอย่างครับ ผมว่ามันก็ดีนะเพราะเดี๋ยวนี้การทำนาเหมือนสมัยเก่ามันหาดูยากมากแล้วเถอะ ผมว่ามันมีเสน่ห์กว่าการใช้เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยอีกนะ แต่ก็อย่างว่ามันเหนื่อยมากๆครับทำนา นี่ผมแค่เกี่ยวข้าวไปไม่กี่ต้นยังรู้สึกได้เลย อุ้งมือก็ปวด ร้อนก็ร้อน คันก็คันเหงื่อก็ไหลทั้งที่มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา ผมเดินตามคันนาตามจอยขึ้นไปบนบ้านล่ะครับ จอยมันถอดผ้าออกแล้ว อ่านะพอถอดออกเห็นว่าเหงื่อโทรมกายเลยครับ ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ
   “ซาดมาทนทุกข์ทนยากน้อหล่าเอ้ย แม่ล่ะอยากอาย” แม่เล็กนั่งเลือกกุ้งอยู่ล่ะครับผมเองก็เข้าไปช่วยแกเลยพูดขึ้นมา สีหน้าแกดูเกรงใจยังไงไม่รู้สิ
   “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมไม่ใช่ลูกผู้ดีอะไรหรอกครับ เพื่อนทำได้ผมก็อยากทำได้บ้าง”
   “บ่เป็นหยังดอกค่ะแม่ หมู่กันเนาะ มีหยังกะซ่อยเหลือกันตั้วค่า”
   “แม่ดีใจนำบักเล็กอีหลีที่มันมีหมู่ดีๆ อย่าสิทิ่มสิป๋ากันเด้อหล่า” ผมยิ้มๆล่ะครับฟังออกบ้างแต่ไม่หมดแกเองก็ยิ้มเปิดเผยล่ะครับ กลิ่นอายของที่นี่มันมีความสุขดีนะผมชอบ จอยปอกเปลือกมะละกอส่วนผมช่วยแม่ล้างกุ้งฝอยตัวใหญ่ แม่บอกว่าจะตำใส่มะกอกนากับเอาไปคั่วกินกับส้มตำ
   “แม่ผมให้พี่ที่บ้านทำกับข้าวมาด้วยล่ะครับ มีแกงไก่ใส่หยวกกับทอดปลา อ้าว เน่าเอาไปวางไว้ไหนอ่ะ” ผมบอกครับแล้วมองหาตระกร้าใส่กับข้าว
   “บ่แม่นนี่บ่ เพิ่นเอาห้อยไว้นี่เด้” จอยมันลุกขึ้นหยิบเอาตระกร้าที่ห้อยไว้กับขื่อบ้านลงมาครับ
   “ขอบใจหลายเด้อหล่า ซาดดีเนาะ แม่บ่มีแนวตอบแทนเด้อ” แม่เล็กทำท่าเหมือนจะร้องไห้ครับ
   “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ช่วยๆกันครับ ไอ้เน่ามันกินเยอะครับเดี๋ยวเปลืองแม่” ผมแถไปครับ
   “แม่นไผล่ะบักเน่านี่แหม่ะ” แม่เล็กถามขึ้นครับ
   “เดี๋ยวนั่นเด้แม่ เพิ่นเอิ้นกันแนวนี้ล่ะ” แม่เล็กหันมามองผมแล้วยิ้มครับ ผมก็เขินๆ ก็นะ เอาเป็นว่าพอประมาณบ่ายโมงกว่าๆเพื่อนๆก็ขึ้นมาจากนาแล้วครับ พูดคุยกันเสียงดังตอนนั้นเราก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี นายเคนเขาขอแบ่งกุ้งเอาไปส่วนหนึ่งบอกว่าจะเอาไปก้อย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งล้อมวงเอาเสื้อปูกันใต้ร่มไม้ครับ
   “แซ่บหลายก้อยกุ้ง คั่กแท้ๆน้ออ้ายเคน” น้องโจ้มันพูดขึ้นล่ะครับ
   “เชฟใหย่เด้นี่ฮู้บ่” “บู้ย คุยหลายบักห่ามึง เฮ็ดให้แซ่บคือแกงไก่เพิ่นนี่ก่อนเถาะจั่งคุย” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีครับ
   “มึงกินเป็นเหรอ มันยังดิบอยู่นะ” ก้อยกุ้งครับผมอยากลองเห็นกินกันจัง
   “แล้วไมเน่ากินอ่ะ” “อ้าว เออแดกเลย ขี้แตกมาไม่สนนะเว้ย” มันยักคิ้วครับ ผมเลยวางลงทันที แต่ก็มองมันกินตาปริบๆอยู่ล่ะ
   “ลองจั่กหน่อยกะบ่เป็นหยังดอก สิได้ฮู้เด้เดี๋ยว อ่ะนี่อุ่น” จอยครับตักก้อยกุ้งมาให้ผม ผมเหลือบไปมองไอ้เน่าก่อนครับ มันเคี้ยวตุ้ยๆไม่สนใจผมเลยแอบกิน อิอิ มันแปลกๆนะรสมันคาวเหมือนกินไข่มดแดง แต่มันคาวกว่ามากจะว่าหวานก็ไม่หวาน เออ เหมือนกินกุ้งดิบในร้านอาหารญี่ปุ่นนั่นล่ะครับแต่แค่มันตัวเล็กกว่า
   “หวานดีเนอะ” ผมกลืนลงคอครับแต่คงกินแค่คำเดียวล่ะ เพราะคนบางคนมันเหล่แล้ว
   “ซั่นลองกินตำกุ้งนี่ติ๊ลูก นี่เด้คั่วกุ้งเอาคุ้ยตำบักหุ่ง บ่เคยกินเนาะ” แม่ยื่นถ้วยตำกุ้งใส่มะกอกนามาให้ผมครับ ผมเลยเอาข้าวเหนียวไปจิ้ม อืมอร่อยดีนะ มันหอมมะกอก แต่ก็นะผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลยสนใจแต่ทอดปลากับส้มตำครับ
   “อ่ะนี่ ลองเป่าดูดิ” พอกินข้าวเสร็จเราก็ช่วยกับเก็บจานล่ะครับแต่แม่บอกว่าเดี๋ยวแม่ล้างเอง เราจึงเดินลงมานั่งที่คันนา ไอ้เน่ามันตัดเอาปล้องของต้นข้าวแล้วเอาเคียวฝานบางๆแล้วยื่นมาให้ผมครับ
   “ไรอ่ะ” “ปี่อ้ายอุ่น เดี๋ยวผมเปาให้เบิ่ง” น้องโจ้ครับ มันก็ตัดเอาต้นข้าวมาทำเหมือนที่ไอ้เน่ามันทำล่ะครับ แล้วน้องโจ้ก็เอาเป่าเป็นเสียงครับ เสียงไม่เพราะมากแต่มันน่าฟังจังเลย ผมนั่งท้าวคางฟังอยู่
   “เป่าดิ” ไอ้เน่ามันบอกครับผมเลยลองบ้าง
   “ไมไม่ออกอ่ะ” อ้าว ทำไมของผมไม่มีเสียง มีแต่เสียงลม ไอ้เน่ามันส่ายหัวครับ
   “เอามานี่ดิ มึงเป่าแบบนี้” มันเอาของผมไปแล้วเป่าให้ดูครับ ผมก็ยิ้ม
   “ไปๆสูฟ้าวเกี่ยวมันสิบ่แล้ว เหลืออยู่หน่อยเดียวหนึ่ง” นายไม้ครับ เดินมาแล้วทำท่าแข็งขันแล้วเดินลงนาไปก่อนใคร พวกเราก็เลยต้องเดินตามลงไปครับ
   “ฟังลำบ่สู” เล็กมันถามครับแต่ยังไม่มีใครตอบมันก็เดินกลับขึ้นไปที่บ้านครับแล้วสักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับวิทยุทรานซิสเตอร์ ยังมีอยู่อีกเหรอเนี่ย อ่า มีเสียงด้วยครับ ผมเดินไปหาทันที
   “ของจริงนี่” ผมร้องขึ้น
   “ฮ่วย ของจริงตั้วเนาะ บ่เคยเห็นเด้นี่ มาๆเฮาสิเปิดให้ฟัง” เล็กมันหมุนหาคลื่นครับแล้วเสียงหมอลำก็ดังแว่วออกมา มันไปตั้งไว้เหนือลม
   “โอ้ย จั่กแม่นคลื่นได๋อ้าย บ่ม่วนเอาฮ้าย ผมฮ้องให้ฟังเอาบ่” น้องเต้ครับ
   “โอ้ย กูสิฮากเด้ อย่าเด็ดขาดบักเต้” นายเคนร้องสวนขึ้นครับ เราทุกคนก็หัวเราะ บรรยากาศมันครึกครื้นดีจริงๆ เอาตามความจริงแล้วที่บอกว่าผมอยากไปช่วยน่ะ ผมช่วยได้ไม่เยอะหรอกครับ เพราะมันปวดอุ้งมือมากๆจนผมต้องเอามือมากางหุบเข้าหุบออกอยู่บ่อยๆ แต่ที่อยากมาเห็นก็คือบรรยากาศแบบนี้ล่ะครับ
   “ไม่ไหวก็ไปนั่งรอดิเบบี๋ เดี๋ยวเถอะคืนนี้จะปวดนอนไม่ได้” ไอ้เน่ามันก็มองผมอยู่ตลอดล่ะครับ
   “ไม่เอาอ่ะ เหงาดิไม่มีเพื่อน” ผมบอกครับ
   “งั้นก็ยืนเฉยๆดิ ไม่ต้องทำหรอก” ผมเลยไม่พูดอะไรครับ
   “หรือไม่อยากไปไกลจากกูเหรอมึง ฮ่าๆ” อ่านะ ไอ้บ้า พอมันพูดขึ้นเพื่อนๆก็แซวทันทีล่ะครับ ผมก็อายสิ นั่งลงเลยเถอะอยู่หลังมันนั่นล่ะครับให้เงามันบังแดด อิอิ
   “ป่ะอุ่น ไปเบิ่งเขาซ่อนกุ้ง” พอตะวันเริ่มคล้อยผมจากที่นั่งอยู่หลังไอ้เน่าก็เริ่มจะง่วงล่ะครับ มันเลยลากผมไปนั่งรอที่ใต้ร่มไม้ นั่งไปนั่งมาหลับเลยเถอะ อายจัง จอยเดินมาปลุกผมครับ ผมเลยสะดุ้งตื่น
   “เหรอ ที่ไหนอ่ะ” “ห้วยพู้นล่ะ ป่ะไปเอาบัวนำ เอาไปให้เอื้อยต้อยเพิ่นแกงให้กิน” ผมลุกเดินตามจอยไปทันทีครับ นายไม้กับเล็กยังช่วยแม่เกี่ยวข้าวอยู่ครับ ส่วนที่เหลือกำลังเดินไปที่ห้วยครับมีตาข่ายตาถี่ๆที่น้องโจ้ถือไป ส่วนน้องเต้ถือตะข้อง ตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำเรื่อยๆแสงยามเย็นหน้าหนาวนี่สวยจริงๆนะครับ ยิ่งมีฉากหลังเป็นเวิ้งของท้องนา กลิ่นรวงข้าวกลิ่นซังข้าว ผมยังต้องดิ้นรนไปหาอะไรอีกเนี่ย
   “ไวไวแน่ะบักเต้ ฮ่วยบ่มีแฮงติ๊” นายเคนร้องขึ้นล่ะครับ การลากตาข่ายเขาเรียกว่าอวนหรือเปล่าไม่รู้นะคือมีคนจับสองคน จำตอนที่ไปไล่เขียดได้ไหมครับแบบนั้นล่ะแต่อันนี้เป็นตาข่ายสีเหลืองๆทำด้วยไนล่อนตาถี่ๆ ผมยืนมองอยู่ริมคูห้วยล่ะครับ ลุ้นอยู่ไอ้เน่ามันรอลากกับน้องโจ้
   “เน่าๆ เอาสายบัวด้วยดิ เอาไปให้พี่ต้อยแกง” ผมร้องบอกมันล่ะครับ
   “เออๆ มึงไม่ลองลงมาเล่นน้ำล่ะเบบี๋ น้ำใสนะเว้ย”
   “ลงบ่อุ่น น้ำหน้านี้บ่ขุ่น ไปลอยจักบาดแน่ะ” จอยชวนครับ ผมก็เลยอยากลอง
   “แต่ไม่มีเสื้อเปลี่ยนนะจอย” ผมเพิ่งจะคิดได้ครับ เออนั่นสิ
   “บ่เป็นหยังดอก ขึ้นมาตากลมคราวเดียวกะแห้ง ป่ะ” จอยพูดแล้วกระโดดตูมลงไปเลยครับ
   “อ้าวจอย” ผมร้องเรียไม่ทันครับเลยกระโดดตาม เย็นมากๆขอบอก
   “เย็นคั่กแท้” จอยร้องออกมาครับผมเองก็สั่นเลย น้ำมันใสจริงๆนั่นล่ะครับ มองเห็นสาหร่ายเลยนะ น้ำไม่ลึกมากครับแค่คอผมเอง อิอิ นั่นอย่ามาหาว่าผมเตี้ยนะ แต่ผมก็ไม่กล้าเอาขาลงหรอกครับลอยอยู่เนี่ย แอบกลัวเถอะได้ความรู้สึกไม่เหมือนกับว่ายน้ำในสระเลยนะจะบอก มันตื่นเต้นกว่ามาก ฮ่าๆ
   “หนาวแล้วอ่ะจอย” ผมไม่ไหวครับ ตอนนี้ไอ้เน่าเปลี่ยนไปลากกับน้องโจ้แล้ว ส่วนน้องเต้กับนายเคนก็แหกปากโวยวายดำผุดดำว่ายอยู่ไม่ไกลจากเราครับ ผมหนาวมากแต่ก็สนุกนะเห็นเพื่อนๆเล่นกันก็เล่นบ้าง หนาวก็ทนครับ
   “ป่ะขึ้นซั่นเดี๋ยวสิโซ ได้พอแล้วบ่พวกโต หนาวแล้ว” จอยร้องไปถามน้องเต้ล่ะครับที่สะพายตะข้องอยู่
   “พอแล้วๆ ป่ะขึ้นๆ หนาวตะเว็นตกแล้ว” น้องเต้ร้องตอบมาครับพวกเราก็เลยขึ้นจากน้ำตัวเปียกกันทุกคน รอบนี้ได้กุ้งมาเยอะเหมือนกันมีปลาปากแหลมด้วยครับ ผมก็ช่วยเพื่อนเก็บกุ้ง
   “หนาวอ่ะดิ สั่นเชียวมึง” ไอ้เน่ามันมาแตะบ่าผมครับ แหมว่าแต่คนอื่นนะตัวเองก็ปากม่วงแล้วเถอะ
   “หนาวอ่ะ รีบไปเอาผ้ามาเช็ดดีกว่า” ผมบอกมันครับ ไอ้เน่ามันก็มาจับมือผม
   “ให้กูกอดป่ะ” “บ้าเหรอ เพื่อนอยู่เต็มไม่อายไง” ผมรีบกระเด้งตัวออกทันทีครับเพราะท่าทางของมันเหมือนจะทำจริงๆ ไอ้นี่ไม่อายใครเลยนะ
   “อายไม เขารู้กันทั่วแล้วว่ากูเป็นผัวมึง” อ่า ผมวิ่งหนีไปเลยครับ บ้าไปแล้ว พอไปถึงบ้านก็เอาผ้าขาวม้าที่แม่เล็กเตรียมไว้ให้มาเช็ดตัวล่ะครับ แต่มันก็ยังหนาวอยู่นะพอตกเย็นมาลมมาจากไหนไม่รู้แรงมากยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่
   “มื้ออื่นบ่ต้องมาดอกเด้อสู เหลือหน่อยเดียว ขอบใจพวกมึงหลายเด้อ” เล็กบอกตอนที่จะแยกย้านกันกลับล่ะครับ
   “แล้วยามได๋สิฟาดเข่า อย่าลืมเด้อเฮ้ย สิมากินต้มไก่” นายเคนพูดขึ้นครับ ผมหันไปมองไอ้เน่าจุดประสงค์ก็ให้มันอธิบายล่ะครับ อะไรฟาดเข่า
   “นวดข้าวนั่นล่ะ” มันบอกครับแล้วดันบ่าผมให้เข้าไปในรถ เอาถุงพลาสติกมารองเบาะเพราะกลัวมันจะเปียก พวกเราแยกย้ายกันกลับแล้วครับ พอถึงบ้านผมวิ่งขึ้นไปอาบน้ำทันที มีไอ้เน่าตามมาทีหลังครับ วันนี้เหนื่อย ร้อนในตอนกลางวัน หนาวตอนเย็นแต่เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ผมคงเดินหาเรื่องแบบนี้ตามสยามไม่ได้หรอกนะ อิอิ

..... คึดฮอดยามเกี่ยวเข่าสมัยก่อน เนาะ

คึดฮอดเด้หัวลมยามเกี่ยวเข่า    เสียงแคนเป่าลอยลมแม่นม่วนหลาย
ลมหนาวมาพัดผ่านสะท้านกาย   ข้องสะพายหาซ่อนกุ้งมาก้อยกิน
........ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ............
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 14-08-2012 08:10:18
เดี๋ยวมันหื่นเนอะ จะจับอุ่น... อย่างเดียวเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 14-08-2012 09:22:54
ชนบทน่าอยู้จังเลย

แต่ทำไงได้ไอเราอ่ะมนุษย์เงินเดือน

เดี่ยวหื่นมากๆเลย ฮ่าๆหาช่องทางจับอุ่นทำเมียตลอด

รอติดตามนะ ชอบเรื่องแบบนี้ อ่านแล้วสบายใจดีจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 14-08-2012 10:40:30
น่ารักมากๆๆๆ อีกหลายวันกว่าจะได้อ่าน มาแปะไว้ถึงหน้า34
สิ้นเดือนคงมาตามหาน้องอุ่นและน้องเดี๋ยวอีกต่อไป
ขอบคุณมากครับน้องอิ๊กกี้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 14-08-2012 11:00:08
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34

ยามนี้มันเดือน August แล้วบ่ หรือว่ามันเป็นแนวของเรื่องนี้ค่ะ แปลกใจจังไม่มีใครทักเลยเน๊อะ :really2:

อยากไปอยู่บรรยากาศแบบนี้มั่ง ไม่ต้องซื้อต้องหา แค่ขยันก็มีกิน

บักเดี๋ยวคงหวงน้องอุ่นมากสินะ ข้ามช๊อตตอน :oo1:แบบไม่เหลือให้จินตนาการเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-08-2012 11:15:50
 “แม่นไผล่ะบักเน่านี่แหม่ะ” ขำก๊ากเลยประโยคนี้
กิจกรรมของอุ่นและผองเพื่อนน่าสนุกเหมือนเดิม แต่คงเหนื่อยน่าดู
เวลาอุ่นอายแล้วน่ารักเนาะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 14-08-2012 11:27:18
อยากกินกุ้งงง...ก้อยยย.... ก้อยกุ้ง!!! :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 14-08-2012 11:34:13
เดี๋ยวหื่นตลอดเวลาเลย ก็อุ่นน่าฟัดนี่
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-08-2012 11:57:27
บรรยายได้เหมือนเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวข้าวเลยครับ  นับถือๆ
อ่านแล้วอิ่มเอมในอารมณ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 July 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 14-08-2012 16:33:41
เพื่อนกัน ร่วมด้วยช่วยกัน  o13

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-08-2012 17:23:51
“กูผัวมึง ไม่ใช่กรมอุตุ เข้าใจ๋”          :jul3:



จะว่าไปตามต่างจังหวัดเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นคนไปเดินเกี่ยวแล้วนะ เห็นแต่จ้างรถเกี่ยวข้าว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 14-08-2012 17:33:49
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 14-08-2012 18:03:46
ชอบ บรรยากาศ จังเลยอ่า

มันแลดูแบบ เห็นภาพเลยนะ

อยากไป ทำนาเก็บข้าวบ้างจัง

เห้อออออออออ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-08-2012 18:13:12
อุ่นน่ารักตลอดดดดดด
เดี๋ยวจะหื่นเกินไปแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 14-08-2012 18:24:20
 :o8: อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยรักคู่นี้จัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 14-08-2012 18:25:31
พี่เดี๋ยวหื่นตลอดเลยช่วงนี้ 55555555
ชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลยครับ อ่านแล้วซึ้ง ๆ คนเราไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างจริง ๆ แค่มีความสุขก็พอแล้ว ^ ^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 14-08-2012 20:05:28
น่ารักเสมอเลยนะจ๊ะนู๋อุ่น...ชอบที่เจ้าเดี๋ยวตามใจเมียไม่มีขัด..
อ่านแล้วเห็นภาพมิตรภาพ...ความมีน้ำใจ...และความรักอย่างชัดเจน..
ความอบอุ่นก็สัมผัสได้...สุขใจกับสังคมแบบไทย ๆ อย่างแท้จริง .. o13

 :L1:  น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 14-08-2012 20:36:06
 :z1:ชอบอ่ะ +1 ขอบใจน่ะที่ทำให้นึกถึง ปี่ ต้นข้าว  :pig4: :pig4: เรลืมไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 14-08-2012 21:10:47
ชอบๆๆ อุ่นนี้โชคดีจัง ได้เดี่ยวเป็นสามี  :-[
แล้วก็มีเพื่อนดีๆๆๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 14-08-2012 23:47:05
อ่านจบและยิ้มทุกตอนเลย :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 25 Version (Uradith) 14 August 12 หน้า 34
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 16-08-2012 02:24:44
น่ารักมาก ๆ เลย   o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 18-08-2012 09:03:13
You’re My BaBy!!

ว่าไปนะ กูไม่ได้เกี่ยวข้าวมาหลายปีแล้วเถอะเพราะด้วยที่บ้านนาให้เขาเช่า และหน้านาแบบนี้ส่วนมากกูจะไปช่วยเพื่อนๆ ก็นาสัดเคนกับสัดไม้สองตัวนั่นล่ะครับ หรือไม่ก็ไปขลุกอยู่กับหลวงตาที่วัด หรือไม่ก็ไปขายของ เห็นไหมว่าชีวิตวันหนึ่งๆมันมีประโยชน์มากแค่ไหน ฮ่าๆๆ ถามว่าขี้เกียจไหม มากๆ ใครวะอยากไปจะไปตากแดดทั้งวัน ปวดหลัง ปวดมือ ร้อนก็ร้อน แล้วบางทีนาที่เกี่ยวข้าวน่ะมันไมได้แห้งเสมอไปนะเว้ย เสี่ยงมากๆกับโรคฉี่หนู เห็นแม่กูเคยบอกว่าสมัยก่อนไม่มีรองเท้าบู้ทให้ใส่เหมือนในสมัยนี้นะ เขาลุยกันแบบว่าทั้งอย่างนั้นเลย แต่สมัยนี้บางบ้านเขาก็ลุยกันแบบนั้นอยู่ล่ะครับ เห็นหรือยังว่าชาวนาน่ะเสี่ยงมากๆ ทำนาก็ยากลำบาก กว่าจะได้ข้าวมาแถมยังขายไม่ค่อยได้ราคาอีก แต่เอาเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องของกู ฮ่าๆ เรื่องของกูตอนนี้คือ ปวดหลัง อยากให้ไอ้เบบี๋มันนวดให้ก่อนนอน
   “เราก็ปวดมืออ่ะเน่า” ผมอ้อนมันแล้วครับแต่ท่าทางมันก็ดูจะเหนื่อยไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันไม่เคยทำด้วยล่ะ
   “งั้นนั่งบนหลังกูเฉยๆก็ได้ เอามือมึงมาดิกูนวดให้” ผมนอนคว่ำลงล่ะครับ
   “นั่งเฉยๆมันจะหายเมื่อยเหรอ”
   “เออน่า อย่างน้อยก้นมึงก็นุ่ม ดีกว่าให้มันปวดแต่ไม่ทำอะไร” มันยังนั่งอยู่ข้างเตียงล่ะครับ อายหน้าแดงขึ้นมาเชียว หน้านี้มีมะรุมเยอะครับ บวบอีกเพราะฉะนั้นเมนูอาหารก็หนีไม่พ้นของแนวๆนี้ ปลาก็เยอะเพราะหน้าเกี่ยวข้าวปลามันจะตัวโตแล้วครับ มีกบ เขียดไม่ค่อยมี มีปลาไหลอันนี้ของโปรดกูเลย เอามาผัดเผ็ดเด็ดที่สุดในสามโลก เมื่อตะกี๊ก็เพิ่งจะกินแกงปลาช่อนใส่ฝักอ่อนของมะรุม แล้วก็อ่อมปลาดุก อยากรู้ไหมเขาทำกันยังไงอ่อมปลาดุก ปลาดุกนี่ไม่เหมือนที่เขาย่างขายในกรุงเทพฯนะท่าน ปลาดุกนาตัวไม่ใหญ่มากครับ เอามาหั่นเป็นแว่นๆ ล้างให้สะอาดก่อนล่ะ ตำเครื่องแกงก็มีหัวหอมแดง ตะไคร้พริก เจ๊แกใส่ผิวมะกรูดด้วยครับ แล้วเอาเครื่องแกงไปคั่วกับปลาดุกให้หอมแล้วเติมน้ำนิดเดียวครับ ปรุงรส เอาข้าวคั่วโรยให้มันหอม แต่วันนี้เจ๊แกใส่ใบมะระขี้นกกับลูกอ่อนมัน ปิดฝาให้เนื้อปลาดุกเปื่อยแต่ต้องกะให้น้ำไม่แห้งจนเกินไปนะครับ เสร็จก็อร่อยสิ มันออกขมหน่อยๆ ขมมะระนี่ไม่ใช่ขมแบบกินไม่ได้นะ มันขมแบบว่ายังไงดี เอาเป็นว่าแซ่บครับท่าน กูกินข้าวไปกะติ๊บกว่าๆ ฮ่าๆ ปลัดเองก็ชอบกิน ไอ้เบบี๋เดี๋ยวนี้มันหันมากินข้าวเหนียวเหมือนกูแล้วครับ มันบอกว่ามันหลับสบายดี ฮ่าๆ ดีๆ กินเยอะๆ กูจะได้ลักหลับ
   “เราปวดมือเดียวอ่ะ เดี๋ยวใช้อีกมือนวดให้ก็ได้” มันบอกครับแล้วมานั่งข้างๆผม
   “อืม เอามือมึงมาดิ” ผมหันไปบอกมันล่ะครับ มันก็ยื่นมือข้างทีปวดมา ผมก็บีบๆให้มัน
   “มันร้าวๆอ่ะเน่า” “กล้ามเนื้อมันไม่ชินอ่ะดิ เดี๋ยวก็หาย” ผมบอกมันครับ มันก็นวดหลังให้ผมอยู่นะ สบายจัง
   “อ๊ะ ทำไรอ่ะเน่า” คือว่านวดนานๆก็ก็เมื่อยเนอะ ขี้เกียจนวดให้มันเถอะ เลยเอามือมันมาซุกตรงหน้าแล้วก็เอาปากจูบฝ่ามือมันล่ะครับ มันเหมือนจะชักมือออก เรื่องอะไรล่ะ มือมันนุ่มจะตายหอมด้วย กูเลยลองเอาลิ้นดุนๆดู มันตีผมเลยครับทีนี้
   “อ้าว ไมวะ” ผมผละหน้าออกจากมือมันล่ะครับ
   “เลียไมอ่ะ บ้าเหรอ” “ไม เลียมือเมียไม่เห็นแปลกให้เลียเยอะกว่านี้ยังเคยทำเลยนะเว้ย” ผมยักคิ้วให้มันครับ อ้าวๆ
   “บ้า ไม่บีบแล้วเน่า นอนดีกว่า” มันอายครับหน้าแดงก่ำเลย ลมข้างนอกห้องมันตีฝาบ้านตึงๆอยู่นะครับ ยิ่งดึกยิ่งลมแรงเถอะ เสียงลมหวีดหวิวอยู่ตลอดเวลา กลางคืนที่ยาวนานกว่าปกติมันทำให้ผมนอนเต็มอิ่มมากๆ
   “เออดี นอนๆ อ้าว แล้วจะขยับไปทำไมวะ มาเบียดกูดิ” หนอยๆ ทำท่าไม่เข้าใกล้ครับ เหมือนมันจะรู้ชะตากรรม ฮ่าๆ ใครจะไปทนไหวล่ะท่าน มือมันนุ่มๆบีบหลังผม คิดไปโน่นแล้วครับ ไม่งั้นผมไม่เลียฝ่ามือมันให้เสียปากหรอกนะ มันมีการหวังผลเว้ย
   “ก็เพิ่งล้มตัวลงเองอ่ะ” “ไร ท่าเยอะนะมึง มานี่เลย”
   “กอดเฉยๆ” “หยุด กูจะทำไรก็เรื่องของกู เกี่ยวไร” ผมบอกมันก่อนที่มันจะพูดจบล่ะครับ มันอายอยู่ผมเลยดึงตัวมันมากอด พอจะคลุกวงในมันก็อ้อนครับ รีบหันหน้าเข้าหาผมเอาผ้าห่มม้วนตัวไว้เถอะ แหมนะ ทำไมมันไม่ค่อยชอบเลยวะกับการมีอะไรกับกูเนี่ย เป็นคนอื่นกูนะนอนเฉยๆมีแต่พวกนั้นคลานเข้ามา แต่ไอ้นี่แปลกว่ะ
   “ไรวะ” “จะทำไรอ่ะเน่า กอดแล้วนอนดิ” มันอ้อนผมครับ เอาหน้ามุดเข้าอกผม คิดภาพออกไหมเนี่ย คือมันนอนคู้ตัวเพื่อไม่ให้ไอ้ลูกชายผมสัมผัสกับมันโดยตรง เพราะมันมีผ้าห่มกั้น ส่วนมันชิงกอดผมก่อนโดยมุดหน้าเข้า ทีนี้ผมจะจูบหรือปลุกอารมณ์ก็ลำบากไงครับ เออว่ะ มันฉลาดนะเนี่ย
   “กูอยากว่ะเบบี๋ ทำหน่อยดิ” บอกไปเลยครับ ไม่ต้องมาลีลา
   “งดไมได้เหรอ นะนะ เน่านะ” “จิ๊ ไมวะ กูรู้สึกว่ามึงไม่ค่อยอยากมีไรกับกูเลยนะ ทำไม” ผมสงสัยครับ จับหน้ามันเงยขึ้นจ้องตามันล่ะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม กูไม่ดีตรงไหน
   “อ่า ปะ เปล่านี่เน่า” “เปล่าเชี่ยไร มึงปฏิเสธกูทุกทีเลยนะ มึงมีอะไรวะไอ้เบบี๋” ผมคาดคั้นครับ สายตาก็จ้องดูพิรุธอยู่ล่ะ ไหนแสดงออกมาซิ
   “ก็ ของเน่า เอ่อ มันใหญ่อ่ะ เราเจ็บ” มันหลุบตาลงครับ พูดเสียงเบามาก
   “หา ไรนะ” “มันแสบอ่ะ” มันพูดออกมา ผมแอบอมยิ้มเลยครับ ไม่เห็นจะใหญ่ตรงไหนเลยวะ ปกติเถอะ ไรวะ แค่เจ็ดจุดแปดคูณเจ็ดจุดห้าทำบ่น เดี๋ยวเถอะมึง
   “ก็ทำบ่อยๆไง มันได้คุ้น” ผมแหย่มันครับ
   “บ้า มันก็หลวมดิ ให้เราทำอย่างอื่นให้เอาป่าว” มันทำสายตาอ้อนครับ เฮ้อนะ มันน่ารักจะตายไป อยากได้มันทุกคืนก็อยากนะ แต่ก็อย่างที่มันบอกล่ะครับ เอามันบ่อยๆเดี๋ยวของมันหลวมขึ้นมาล่ะ น่าสงสารมันออกเนอะ ผมเลยลูบหัวมันเบาๆครับ จูบที่หน้าผากมันทีหนึ่ง
   “อืมก็ได้” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเชยคางมันขึ้นมาจูบ มันเองก็จูบตอบนะ ผมเลยพลิกตัวนอนทับมันครับ ไซร้ซอกคอมัน เลียคอเลียหูมัน ขบติ่งหูมัน ไอ้เบบี๋มันหลับตาปี๋เลยครับ มัดกอดคอผมแน่นเลย เอวมันก็เด้งขึ้นเบียดช่วงตัวของผม มือขวาผมเลื่อนลงข้างล่างล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของมันครับ แต่ล้วงจากด้านหลังนะ ลูบเป้าหมายทันทีมันคือถ้ำน้อยของมันที่ปากถ้ำไม่มีป่ารกหรือหญ้าขึ้นแม้แต่เส้นเดียว ผมเอามือดันขามันให้อ้าออกครับ ผมเลื่อนหน้าลงมาเรื่อยๆผ่านหน้าอกมัน ถลกเสื้อมันขึ้นจนถึงคอ ตอนนี้เหมือนผมเห็นร่างกายมันเป็นของหวานเลียกินไม่มีเบื่อ มันเม้มปากแน่นดิ้นอยู่ครับ มือมันขยุ้มหัวผมแน่นดีนะที่กูผมไม่ยาวสั้นเกรียน ไม่งั้นแม่งคงเจ็บน่าดู ผมเลื้อยลงมาเรื่อยครับแต่อย่างที่บอกว่าผมค่อนข้างเห็นแก่ตัวคือผมไม่ออรัลให้มันหรอกนะครับ แต่ทำอย่างอื่นน่ะทำหมดและมันเองก็ไม่ได้เรียกร้อง อย่าถามว่าทำไมไม่ทำ ไม่รู้ว่ะ ไม่คิดว่าจะทำ
   “ไหนบอกให้เราทำให้ไงอ่ะเน่า” มันจับหัวผมออกครับตอนที่ผมวนเวียนอยู่แถวก้นมัน
   “ก็กูทำให้ก่อนไง ไม่ชอบเหรอ” ผมยักคิ้วให้มันหน่อยๆครับ
   “อ่า ไม่เชื่ออ่ะ ทำไมทำขนาดนั้นอ่ะเน่า”
   “อายเหรอ กูทำให้เมียรักไง” ผมหยอดครับ ตวัดลิ้นต่อ มันเหมือนทนไม่ไหวครับดิ้นแล้วพลิกขึ้นบน เอาล่ะเว้ย ภรรยาไม่ไหวแล้ว มันทับตัวผมไว้ครับ คือตอนนี้ผมดึงกางเกงมันออกแล้วนะครับ ส่วนผมเองไม่ใส่เสื้อนอนอยู่แล้วใส่กางเกงบอลไม่ใส่กางเกงใน บางวันก็ใส่กางเกงเล ใส่โสร่งบ้างแล้วแต่วันครับ ไอ้เบบี๋เองมันก็เลื้อยเหมือนผม มันตวัดลิ้นแผ่วเบา โอ้ย ใจจะขาด กูว่ากูแน่แล้วนะมันแบบพลิ้วมากๆ แต่อดทนหน่อยเว้ยทำเป็นตัวแข็งๆ ตอนนี้หน้าของมันจ่ออยู่ที่ไอ้หนูของผมครับ มันดึงกางเกงออกแผ่วเบาเหมือนกลัวไอ้หนูผมมันจะตกใจยังไงอย่างงั้น ไอ้ผมก็ลุ้นอยู่ครับ อืม เว้นไปนะตรงนี้ เหมือนเริ่มจะไม่ไหวครับ ผมผงกหัวขึ้นมือคว้าไปที่ก้นของมันทันที
   “อ๊ะ เน่า จะทำไร” มันผงกหัวขึ้นทำสีหน้าตกใจ
   “ไม่ไหวแล้วอ่ะเบบี๋ ให้กูนะ” ผมทำหน้าอ้อนเต็มกำลังครับ
   “ไหนบอกจะไม่ทำไง” “ไม่ไหวอ่ะ นะนะ ใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย” ผมทำหน้าแบบว่าหิวโหยครับ มันเม้มปาก
   “มะ อ๊ะ เน่า” ไม่รอครับ จับกดเลยกูหน้ามืดล่ะ วิธีทำก็ดึงตัวมันขึ้นมาให้ตรงนั้นมันจ่อกับไอ้หนูผมพอดี แว้กก เผลอๆ เล่ามาซะไกลเลย นั่นแน่ แอบจิ้นตามล่ะสิ เอาเป็นว่ามันเป็นแผนกูเองล่ะ ฮ่าๆ ที่วนเวียนอยู่รอบๆก้นมันน่ะก็อยากทำนี่หว่า ใครจะยอมวะแค่ภายนอก เพราะตอนนี้กูกับมันคบกันแบบเปิดเผยเถอะ จะเหลือไว้เพื่อ จัดไปอย่าให้เสีย
   “หนาวเหรอ” ผมถามมันล่ะครับเพราะเห็นมันซุกตัวเข้ามาเบียดผม เออจะว่าไป ไม่ว่ามันจะทำอะไรให้ผม ให้ตายเถอะ ผมรักมันจนไม่รู้จะบอกว่ายังไงแล้วครับ อย่างพอมีอะไรกันเสร็จ ผมนอนแผ่สบายเลยนะ ส่วนมันเข้าห้องน้ำไปล้างตัว แม้อากาศมันจะหนาวแค่ไหนก็ตาม แล้วยังเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดให้ผมอีก กูใกล้จะง่อยรับประทานเต็มทนแล้วเถอะ
   “ก็เพิ่งจะโดนน้ำมานี่” มันบอกครับ โอ๋ๆ เหมือนจะเรียกร้อง จูบหน้าผากมันไปทีหนึ่งครับแต่ไม่ยอมถอนปากออก จนมันเองต้องถอยหน้าหนี
   “กูรักมึงนะเบบี๋ รักเข้าเส้นเลือดแล้ว” ผมพูดออกมาจากใจครับ
   “รักอะไรอ่ะ เข้าเส้นเลือด” มันอายครับรู้ได้เลยเพราะมันไม่ยอมมองหน้าผม เสียงสั่นๆ
   “ก็ตอนนี้รักมากไง รักเหมือนร่างกายที่ขาดเลือดไม่ได้ กูคิดไม่ออกเลยนะว่าถ้าหากว่าไม่มีมึงข้างๆ กูจะอยู่ยังไง”
   “เน่า” มันสะอื้นครับ อ้าวๆ ซึ้งอะไรขนาดนั้น
   “ไม่ต้องพูดหรอก แค่อยู่ตรงนี้กับกูไปนานๆนะ” ผมกอดมันแน่นครับ กอดให้สมกับที่ใจมันรัก บอกตามความจริงนะ ไม่ใช่ว่าเพราะความคะนองของวัยหรืออะไร แต่หัวใจคนเราไม่รู้สิ กูว่านะไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน มันมีจุดของมัน กูหมายถึง มันจะรู้สึกรักใครสักคนได้เต็มใจแบบนี้ได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้นล่ะ ว่าป่ะ
   “บักเล็ก มื้อได๋เกาะมึงสิฟาดเข่าน่ะ” พอไปโรงเรียนผ่านมาได้อาทิตย์กว่าๆล่ะครับผมก็ถามไอ้เล็ก คือตอนนี้พวกเรางดตระกร้อสักพักนะครับเพราะหน้านาเราทุกคน ยกเว้นผมกับไอ้เบบี๋ต้องไปช่วยงานที่นาหรือที่บ้านล่ะครับ
   “ว่าสิฟาดคืนวันศุกร์นี่ล่ะ สองแลสิแล้วบ่บู้”
   “ได้เข่าหลายติ๊” ผมถามมันตอนจะกลับบ้านล่ะครับ ที่ถามไม่ใช่ขยันอยากจะช่วยหรอกนะ แต่เชื่อเถอะเมียผมมันอยากไปแน่นอน อีกอย่างที่ถามเพราะมันได้กินเหล้าเถอะ ฮ่าๆ นานๆทีเว้ย
   “เติบอยู่ ขนยังบ่ทันแล้วอยู่ อีแม่เพิ่นขนผู้เดียว นี่กูเลิกเรียนกะว่าสิไปขนซ่อย” นามันก็ไม่ค่อยเยอะหรอกครับ แต่ที่นานคงเพราะขนมาไว้ที่นาติดบ้าน ที่มันทำเป็นลานไว้นั่นล่ะครับ
   “เออๆ เดี๋ยวกูสิไปซ่อย ฮ่วยมื้ออื่นนี้ตั้วซั่น มึงบอกพวกบักเคนยัง” ผมไม่ทันนึกครับ ตายล่ะสิ วันนี้วันพฤหัส
   “ยังบ่ทันบอกดอก กูกะเกรงใจพวกสูคือกัน” มันทำหน้าอ่อยๆล่ะครับ ผมเข้าใจมันนะ คือไอ้เล็กที่บ้านมันไม่ค่อยอะไรมาก พูดง่ายๆไม่มีฐานะนั่นเองครับ มันอยู่กับแม่สองคน แต่มันก็ขยันนะ
   “คึดหยังหลายบักห่านี่ เดี๋ยวกูบอกให้ พวกนี่มันมักกะด้อได้แดกเหล้าฟรี แฮงมีซ่ำได๋ให้ได้เหมิด”
   “กะเหล้านี่ล่ะ กูสิบ่มีให้ บ่มีเงินซื้อดอกมึง” มันพูดครับ ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ขอพ่อตาก็ได้วะ ไหนๆก็จะไปช่วยมัน อีกอย่างเรื่องของกินไม่ต้องห่วงหรอกนะ ว่าจะต้มไก่ ซึ่งแม่กูก็ขายไก่ย่าง ขอได้สบายมาก
   “พรุ่งนี้เย็นไอ้เล็กมันจะขนข้าวขึ้นลานนะ มึงอยากไปป่ะ” ผมหันมาถามศรีภรรยาตอนจอดรับมันอยู่หน้าโรงเรียนล่ะครับ มันยืนรออยู่กับสาวจอย สนิทกันริงๆสองคนนี้
   “อ่า ไปดิไป จอย” นั่นไงครับ มันหันหน้าไปหาสาวจอยทันที สายตานี่แบบว่าเหมือนจะชวนมันไปแต่งงานเลยนะ สาวจอยก็โม้อยู่ ผมเองก็เล่ารายละเอียดไปว่าเราต้องเอาอะไรไปช่วยไอ้เล็กมันบ้าง ซึ่งแน่นอนครับ ไอ้เบบี๋มันบอกมันจะขอพ่อมันเอง ผมก็เลยไม่พูดอะไร
   “กูถามจริงๆนะ ทำไมมึงชอบใช้แรงงานจังวะเบบี๋” ผมถามมันตอนจะนอนล่ะครับ พ่อตาอนุมัติไม่มีปัญหา ตอนแรกก็มองมาทางผมเหมือนขอความคิดเห็น แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรมากครับ แค่เสริมๆไปว่าไม่ให้มันทำหรอกไปดูเฉยๆว่าเขาทำกันยังไง พ่อตาเลยไม่ว่าไรครับ อีกอย่างมันอ้อนซะจนพ่อมันหัวเราะล่ะครับ
   “ก็อยากรู้อ่ะ เราว่ามันมีเสน่ห์จะตายไป วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่รู้ดิ ชอบ”
   “อืม จะต่อเกษตรเหรอมึง ฮ่าๆ” ผมแซวมันครับ
   “ก็คิดๆอยู่อ่ะ น่าสนใจเหมือนกันนะ” อ้าวสัด ซะงั้น
   “อ่านะ แต่มึงจะมีผัวเป็นวิศวกรนะเว้ย หรืออยากมีผัวเป็นสถาปนิกดีล่ะ” ผมหัวเราะครับ
   “เน่าจะต่อวิศวะเหรอ” มันถามครับ
   “คิดว่านะ เพราะกูเก่ง หรือมึงอยากให้กูสอบหมอดีล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่านะ เรียนๆมาเถอะ เป็นไรก็ได้” สะอึกครับ
   “สัด” “อ้าว ไรอ่ะ ก็พูดจริงนี่” “น่ารักนะมึง แบบนี้ไม่ให้กูรักแล้วจะให้กูอยู่ไงวะเนี่ย หือ เมียจ๋า” คลุกวงในครับ
   “อ่านะ นั่นๆ อีกแล้วนะ กอดทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเน่าอ่ะ”
   “ก็มึงน่ารักเองนี่หว่า” ผมทั้งกอดทั้งหอม รักมันจริงๆนั่นล่ะ มีคำไหนที่มันมีความหมายมากกว่ารักไหมล่ะ จะได้พูด มันเต็มล้นใจไปหมดแล้วเนี่ย ผมทั้งหวงทั้งถนอมมัน นี่ถนอมนะจัดวันเว้นวัน ฮ่าๆ ก็ช่วยไมได้นี่หว่า อยู่ใกล้ไม่ได้เถอะ
   “ต้องไปนอนด้วยเหรอเน่า” พอเลิกเรียนไอ้เบบี๋มันวิ่งมาหาผมที่โรงรถเลยนะครับ แหมนะ อะไรมันจะเห่ออยากไปขนาดนั้นวะเนี่ย
   “มึงอยากค้างเหรอ” ผมถามกลับล่ะครับ
   “ไม่รู้ดิ แล้วแต่เน่าอ่ะ มันน่าสนุกออก”
   “เขานอนซุ้มกัน ไอ้เล็กมันไม่บอกเหรอว่ามันทำไว้แล้ว”
   “บอกดิ นี่ไงถึงอยากรู้อ่ะ” กูว่าแล้ว สาวจอยกับไอ้เล็กคงโม้ไว้เยอะแล้วล่ะ ไอ้นี่มันถึงทำท่าเหมือนอยากไปใจจะขาด พอถึงบ้านมันก็รีบบอกเจ๊แกให้เตรียมกับข้าวให้ล่ะครับ แล้วก็หันไปขอเงินพ่อมันไปซื้อเหล้า
   “ไหนบอกไปช่วยเขานวดข้าวไม่ใช่เหรอลูก จะกินเหล้าแล้วมันจะได้งานรึ” พ่อตาผมแหย่ครับแล้วยิ้มๆ
   “ก็เอาไปจิบไงพ่อ ไม่เมาหรอกน่า นะนะ” มันอ้อนครับ
   “จิบเหรอ งั้นเอาขวดเดียวก็คงพอ จริงไหมเดี๋ยวลูก” อ้าวนะ ซวยเลยกู
   “อ่าพ่ออ่ะ” พ่อตาทำหน้านิ่งๆครับ ไอ้เบบี๋มันอ้อนแล้วไม่เป็นผล หน้านี่หงิกเลยครับ มันขึ้นไปเอาของ รวมทั้งเสื้อผ้าผมกับมัน พอมันขึ้นไปพ่อตาก็ยื่นเงินให้ผมอีกทีล่ะครับหลังจากที่ให้มันไปแล้วส่วนหนึ่ง อ่านะ พ่อตากูเข้าใจเล่น
   “แวะเซเว่นก่อน” ผมหันมาบอกมันล่ะครับก่อนจะถึงเซเว่น
   “ซื้อถุงมือไปเผื่อเพื่อนๆด้วยไหมอ่ะเน่า” ผมพยักหน้าตามมันล่ะครับ ถุงมือนี่ต้องเดินไปที่ตลาดนะครับ
   “อ้าว ทำไมเอาไปสองอ่ะ มีตังค์เหรอเน่า” มันร้องขึ้นล่ะครับตอนผมสั่งเหล้าเขาไป
   “มีดิ กูก็มีเงินนะเว้ย” ผมคุยครับ ขอหน่อยเถอะ มันเบะปาก
   “งั้นเอาน้ำอัดลมไปเพิ่มได้ป่ะ จอยกับเราคงไม่กินเหล้าอ่ะ เอาสปายด้วย”
   “อ้าวๆ ได้ทีเลยนะมึง” “อ้าว ก็เน่ามีเงินนี่” ดูเอาครับ น่ารักนะแต่กวนตีน พอเราได้ของมาครบก็รีบไปรวมตัวกันที่จุดนัดพบล่ะครับ บ้านไอ้เล็กนั่นล่ะ แกงค์เดิมไม่มีเพิ่มไม่มีลด
   “จอยโตสิค้างได้ติ๊” ผมถามสาวจอยล่ะครับเพราะเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวในกลุ่ม
   “ว่าสินอนเทิงเฮือนกับอีแม่นี่ล่ะ บอกแม่ไว้แล้ว บ่เป็นหยัง” ผมพยักหน้าครับ ว่าไปนะจอยเองก็ติดไอ้เบบี๋มากเลยล่ะ ไปไหนไปกันทั้งที่เธอเป็นผู้หญิง บางทีผมก็เคยได้ยินคนนินทาเธอนะว่าคงโดนสอยจนพรุนประมาณนั้น แต่เหมือนจอยเองก็เคยพูดว่าไม่สนใจเพราะเธอเป็นยังไงพวกเรารู้ดี
   “ไหนอ่ะซุ้มอ่ะเน่า” ไอ้เบบี๋มันดูสนใจมากครับ ยังไม่วางของเลยนะ
   “โน่นไง” ผมบุ้ยปากไปทางนาล่ะครับ นาที่ติดกับบ้านมีเพิงที่ทำโครงด้วยลำไม้ไผ่หรือไม้อะไรก็ได้ครับ ที่มันพอจะต้านแรงลมได้ แล้วก็มุงข้างๆและด้านบนด้วยซังข้าว แต่ต้องเลือกที่มันต้นสูงหน่อยนะเพราะมันจะได้มุงได้ยาวหน่อยและต้องทำให้หนาๆพอที่จะต้านแรงลมกันน้ำค้างตอนย่ำรุ่งได้ โดยการทำก็จะหันด้านหลังให้ลมครับ เปิดทางเข้าสูงนอนได้สามสี่คนถ้าเบียดๆกัน แต่ส่วนมากที่เคยทำมาไม่เคยได้นอนหรอกนะครับ ฟาดเหล้าขาวนอนซุกตัวอยู่ในฟางข้าวเถอะ
   “น่าอยู่ดีเนอะเน่า” ไอ้เบบี๋มันเดินไปดูล่ะครับ ผมเองก็หิ้วของตามมันไป มีไอ้เล็กกับสัดไม้ และไอ้เต้มันช่วยกันทำอีกอันอยู่ครับ
   “สูคือเฮ็ดสองอัน” ผมร้องถามมันไปล่ะครับ
   “ฮ่วยกะสองอันตั้ว อันหนึ่งให้สูเด้นอน ไผสิกล้าไปนอนนำเพิ่นเนาะ ผัวเมียว่านี่แหม่ะ” อ้าวนะ รู้ใจกูอีก ฮ่าๆ แต่ไอ้เบบี๋มันอายล่ะครับ เอาล่ะๆ เดี๋ยวตอนหน้าค่อยเล่า แต่อยากจะบอกว่า บรรยากาศช่วงสี่ห้าโมงเย็นนี่มันเริ่มหนาวแล้วนะครับ หน้าหนาวมันค่ำเร็วอยู่แล้ว แสงแดดอุ่นๆเริ่มโดนขับไล่ด้วยลมหนาวที่ทั้งแรงและเสียดร่างกาย แต่กูไม่กลัวเพราะกูมีคนให้กอด อิอิ เจอกันตตอนหน้าครับ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-08-2012 12:53:07
เดี๋ยวหื่นอ่ะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 18-08-2012 13:24:25
ชอบมากเลยเรื่อง o13 ชอบที่สุด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-08-2012 13:42:13
เดี๋ยวมันหื่นตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-08-2012 13:43:41
เดี๋ยวหลงน้องอุ่นกู่ไม่กลับแล้วตอนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ
คุณปลัดช่างประเสริฐเหลือแสน มิน่าลูกถึงได้น่ารัก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 18-08-2012 14:00:03
อ่านและมีความสุขจังเลย :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: papa_paolo ที่ 18-08-2012 15:57:50

คู่นี้น่ารักขึ้นทุ๊กกกวัน  :L2: :3123:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 18-08-2012 16:36:01
ชอบแหมะ :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 18-08-2012 18:45:38
หนูอุ่นน่ารักเสมออ่ะ ชอบจังเด็กแบบนี้ ^^
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 18-08-2012 19:03:10
น่ารักตลอดคู่นี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 18-08-2012 19:52:34
น่ารักที่สุด  อย่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเลยน๊า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 18-08-2012 22:11:14
เพื่อนเป็นใจ งานนี้อุ่นจะเสร็จบักเดี๋ยวจอมหื่น
นอกสถานที่ไหม ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 19-08-2012 00:51:57
+1 อิจฉา เน่าอ่ะ  อุ่น น่ารัก หลายโพด อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 19-08-2012 01:54:04
บักเดี๋ยว เจ้าเล่ห์แท้
จะมีต่อยัน มหาลัยไหมเนี่ย...
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 19-08-2012 13:08:57
มีคำไหนที่มันมีความหมายมากกว่ารักไหมล่ะ จะได้พูด
ผมชอบประโยคนี้จังเลยครับ อิอิ , มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 19-08-2012 13:47:15
หน้าตีเข่าต้องมีไก่อบฟ่างนำเด้ น้คิดมาน้ำลายไหล
เป็นตาม่วนแท้ ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 19-08-2012 14:24:29
 :-[ น่ารักอะ ทั้งการใช้ภาษาของคนเขียนที่มีเสน่ห์อ่านง่าย o13
 
   ตัวละครก็ดูอบอุ่นได้บรรยากาศของทุ่งนามาก  มาต่อเร็วๆๆน่ะจ๊ะ :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 19-08-2012 20:35:56
อยากกินทุกเมนูที่คุณอิ๊กกี้เขียน .... อ่านแล้วมีความสุข!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 20-08-2012 19:48:03
อารมณ์ลั้นลาตามนู๋อุ่นไปด้วย....เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับนู๋อุ่นนี่แหละจ๊ะ..
เมนูของน้องอิ๊ก..ชวนน้ำลายไหลตลอด..นึกเห็นภาพอยากกินชะมัด.. :m18:

 :ped149: น้องอิ๊ก   :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 20-08-2012 20:02:12
สองคนนี้หวานกันจริงๆ
อิจฉานะเนี่ย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 21-08-2012 03:46:13
คุณปลัดเป็นคุณพ่อที่ดีจริงๆเข้าใจลูกที่สุด
เพราะงี้อุ่นถึงรักพ่อมากๆ  o13

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 25 Version (เดี๋ยว) 18 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 22-08-2012 22:28:38
สนุกมากเลยคร้าพี่อิ๊ค เดี่ยวน่ารักกกอะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 23-08-2012 07:40:31
Don’t call Me BaBy!!

ผมตื่นเต้นครับในตอนนี้นะ รู้สึกว่าอะไรๆมันน่าสนใจไปเสียหมด ซุ้มที่เราจะนอนก็อย่างที่ไอ้เน่ามันบอกนะครับ ทำด้วยตอฟาง ข้าวมามัดรวมกัน ผมไปช่วยเล็กกับไม้มีน้องเต้อีกคน พอมุงเสร็จก็เอาฟางมาปูอีกรอบหนึ่งครับ
   “เคนกับน้องโจ้ไปไหนอ่ะเล็ก” ผมถามเล็กครับ
   “มันว่าสิไปเฮ็ดบ่าวมาแล่น ไปเฮือนพ่อใหย่โสบ่บู้ เดี๋ยวกะมาล่ะอุ่น”
   “บ่าว?” ผมไม่เข้าใจครับ บ่าวนี่คือคำเรียกชายหนุ่มนะถ้าจำไม่ผิด
   “ว่าวนั่นล่ะ บ่าวหยังล่ะสู มีธนูนำบ่” ไอ้เน่ามันตอบแทนครับ อ้อ ว่าว อ่า มีว่าวด้วยครับท่าน
   “แม่นสิมีอยู่บ่ ไปๆ แล้วๆกะไปตีเข่า” เล็กมันชวนครับ พวกเราเลยเดินไปที่ลาน ลานทำเป็นตารางสี่เหลี่ยมก็ใหญ่พอสมควรล่ะครับ มีกองข้าวที่เรียงซ้อนกันอยู่ด้านหนึ่ง เล็กมันบอกว่า “ลอมข้าว” แล้วตรงกลางลานก็เห็นมีกองข้าวที่ตีเอาเม็ดมันกองอยู่ครับ บนนั้นมีไม้สำหรับตีข้าววางอยู่คู่กัน
   “เขาเรียกไรอ่ะเน่า” ผมไปสะกิดถามมันครับ สายตาก็มองหาความรู้ใหม่อยู่
   “ม้าตีข้าว อันนี้เรียกค้อนข้าว” มันยื่นไม้เป็นแท่งสองอันมีเชือกผูกติดตรงปลายให้ผมดูล่ะครับ ผมพยักหน้า
   “เอ๊ะ แล้วนี่เขาเอาไรทาอ่ะเน่า” ผมมองดูที่พื้นลานครับ มันหัวเราะ
   “ขี้ควาย” “เอ้ย จริงดิ” ผมร้องออกมาล่ะครับ มันอำผมหรือเปล่าไม่รู้ เพราะพื้นลานมันดูเป็นแผ่นเดียวกัน ไม่ใช่ดินแน่นอนครับ คือมันดูเรียบไม่มีรอยแยกของดิน เหมือนมีอะไรมาเคลือบ
   “เขาเอาขี้ควายมาทาให้มันเรียบ เม็ดข้าวจะได้ไม่ตกลงไปในดินไง” มันอธิบายครับ อืมนะ ภูมิปัญญาจริงๆ
   “จักคราวกูสิพาไปเอาปลาไหล เดิกๆก่อน” เล็กมันบอกล่ะครับ อึ๋ยย กินปลาไหลด้วยอ่ะ น่ากลัว พอไม่นานก็เริ่มตีข้าวกันล่ะครับ ผมมองดูอยู่ วิธีทำก็เอาไม้ตีข้าว หรือค้อนข้าวหนีบไปที่มัดข้าวล่ะครับ ทำให้แน่นๆแล้วตีลงกับม้าตีข้าว ตีจนเม็ดมันออกหมดแล้วก็สะบัดไปอีกทาง ส่วนแม่ของเล็กตอนนี้ก็เหมือนไปนั่งอยู่ทางนั้นกับจอย ช่วยกันแกะมัดตอกที่ตีเสร็จแล้วออก เพื่อที่จะให้เม็ดข้าวมันเกลี้ยงจากฟางจริงๆครับ เห็นแล้วว่าชาวนาเขาลำบาก อีกทั้งข้าวแต่ละเม็ดก็ไม่ยอมให้มันตกหล่นไปง่ายๆ
   “เราลองทำได้ป่าวอ่ะเน่า” พอผมเห็นมันขึ้นไปเปลี่ยนน้องเต้ผมก็อยากลองทำบ้างล่ะครับ
   “มือสิโพงเด้อ อ้ายอุ่น” น้องเต้บอกครับ อะไรวะ
   “ลองดิ มีแรงเหรอมึง ฮ่าๆ” อ้าวนะ ไอ้เน่ามันหัวเราะผมครับ
   “ทำได้น่า เอามาๆ” ผมขึ้นไปยืนข้างๆมัน ไอ้เน่ามันดูทะมัดทะแมงอีกแล้วครับ มันทำเก่งกว่าน้องเต้อีกนะ ตีไม่กี่ทีข้าวก็หลุดออกหมดจากมัดข้าว คงเพราะมันตีแรงและสูงด้วยล่ะครับ
   “กำแน่นๆนะ ไม่งั้นมือพอง” มันบอกผมครับ ผมก็พยักหน้า อ้อ มือโพงก็คงมือพองนี่เองล่ะครับ พอผมจับไม้ตีข้าวแน่นแล้ว ผมก็เอาเชือกไปหนีบกับมัดข้าว ยกขึ้น
   “อ่า หนักเหมือนกันนะ” “ฮ่าๆ บู้ย สิคือบ่ล่ะเพิ่น” จอยกับน้องเต้รวมถึงเล็กหัวเราะครับ แม่เองก็หัวเราะ อ้าวๆ ดูถูกๆ เดี๋ยวจะโชว์ให้ดู ผมไม่สนใจครับตีมัดข้าวลงไปกับม้ารอง
   “เหนื่อยดีเหมือนกันเนอะ” ผมหัวเราะออกมาแหยๆล่ะครับ ตีไปไม่รู้กี่ทีแต่เม็ดข้าวมันก็ยังไม่หมดเลยอ่ะ
   “จะเสร็จไหมวันนี้น่ะ นี่มัดเดียวนะมึง ฮ่าๆ บอกว่าไม่ต้องทำไม่ต้องทำ ไปโน่นไป” มันบอกผมครับ ก็มันเหนื่อยนี่หว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เห็นเขาทำง่ายๆกัน มาทำจริงๆเจ็บมือด้วยเถอะ
   “ลองก่อนดิ” ผมยังไม่ยอมครับ ออกแรงเพิ่มขึ้น เหงื่อเริ่มไหลล่ะ ไอ้มัดข้าวมัดนี้นี่มันอะไรกันวะ ทำไมเม็ดข้าวเกาะแน่นจัง ลองพลิกดูก็ยังอยู่เต็มเลยอ่ะ
   “เอามาๆ” ไอ้เน่ามันแย่งของผมไปล่ะครับ
   “ตีเบาแค่นี้มันไม่ออกหรอกนะ ไหนมือ” มันจับมือผมไปดูครับ
   “นี่ไง พองแล้ว ไปๆ พอมึงน่ะ” คือว่าตรงอุ้งมือมันเริ่มจะแดงๆ เจ็บครับแต่ผมทนเอา อิอิ ไอ้เน่ามันเอาไปตีอยู่ไม่กี่ทีก็เสร็จ โยนไปให้ทางแม่กับจอย
   “มาเฮ็ดเฟืองนำเฮานี่มาอุ่น โตเฮ็ดบ่ไหวดอก มันเมื่อย” จอยบอกครับ
   “อ้าว แล้วจอยจะไปไหนอ่ะ” ผมเห็นจอยลุกขึ้นล่ะครับ
   “เฮาสิไปเฮ็ดให้เบิ่งเด้เนาะ” อ่านะ จอยมันเดินขึ้นไปข้างๆไอ้เน่าล่ะครับ โอ้ ท่าทางจอยมันไม่ต่างจากเพื่อนๆคนอื่นเลยนะครับ ออกแรงตี ตั้บๆ ไม่นานก็สะบัดมาทางผม อ่า อายอ่ะ
   “ลูกซาวนากะเฮ็ดเป็นเหมิดนั่นล่ะหล่า โตบ่เคยเฮ็ด บ่เป็นหยังดอก มีใจมาซ่อยแม่กะดีใจแล้ว” แม่บอกครับ ผมเลยหันมาทางแม่ดีกว่า ไม่มองแล้วบาดตาเหลือเกิน รู้สึกว่าผมนะที่ทำได้ไม่เหมือนเพื่อนเลย แม้แต่จอยเองเถอะ มันยังตีเอาๆ
   “แม่มัดฟางแล้วเอาไปทำไรครับ” ผมถามล่ะครับ เพราะเห็นแม่มัดพวกที่เลือกเอาเม็ดข้าวออกแล้วทำเป็นก้อนใหญ่ๆมัดรวมกัน ตอนนี้ฟางเริ่มเยอะแล้วครับ เพราะบ้าพลังกัน เล็กไปเอาม้ามาอีกตัวเห็นบอกไปยืมข้างบ้านมา ตอนนี้ก็มีไอ้เน่า จอย เล็ก ตีข้าวอยู่ ส่วนน้องเต้ก็คอยรินเหล้า? เอ่อ มันจะเริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอเนี่ย
   “เอาไว้ถ่ามีคนมาซื้อดอกหล่า พอได้เป็นค่าเทอมบักเล็กนั่นล่ะ” อ้อ ผมพยักหน้าครับ ผมก็ช่วยแม่ทำ
   “มาแล้วสูๆ” เสียงรถเครื่องมาจอดที่ลานบ้านล่ะครับ น้องโจ้มันวิ่งมาพร้อมกับร้องเสียงดัง ผมเลยหันไปมอง อ่า มีว่าวมาจริงๆด้วยล่ะ ผมลุกขึ้นทันทีครับ
   “ดังดีขนาดธนู” น้องโจ้พูดครับ
   “มันจะมีเสียงเหรอโจ้” ผมถาม
   “มีตั้วอ้าย เดี๋ยวผมสิเอาขึ้น ถ่าฟังเด้อ”
   “เป็นจั่งได๋ ฝีมือบ่อุ่น” นายเคนครับ ยิ้มมาแต่ไกลยักคิ้วให้ผม อ่านะ
   “สวยๆ เคนทำเองเหรอ” ผมสนใจมากครับ ว่าวหัวแหลมๆ
   “เฮ็ดเองแล่วเนาะ ขึ้นดีตาหน่ายเด้นี่” ยังคุยอยู่ครับ แหมๆ ให้มันขึ้นก่อนเถอะ
   “เขาเรียกว่าวไรอ่ะ” “บ่าวจุฬา มันซ้าย้อนไปหากระสอบปูนนี่ล่ะ” นายเคนยังโม้ไปเรื่อยครับ นานอย่างนั้น พิถีพิถันอย่างนี้ ผมก็ยืนมองดูอยู่ คือกระดาษที่ทำรู้สึกจะเป็นกระสอบใส่ปูนอย่างที่นายเคนว่าจริงๆนั่นล่ะครับ อืมเนอะ เข้าใจทำ
   “ขึ้นแล้วๆ” พอน้องโจ้ถือว่าวออกไปกลางทุ่งนา นายเคนเป็นคนชักเชือกอยู่กับผมล่ะครับ น้องโจ้ปล่อยว่าวขึ้นแล้ว ลมที่แรงพาว่าวขึ้นฟ้าทันที ผมมองดูอยู่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ให้ตายเถอะมันคุ้มค่าจริงๆนะกับการได้มาทำอะไรแบบนี้
   “ตื้อดื่อๆๆๆ” “อ่า มีเสียงด้วย” ผมร้องออกมาอย่างแปลกใจครับ
   “ธนู ดังเหมิดคืนล่ะ” นายเคนบอกครับ ผมแหงนมองดูว่าวอยู่ จนน้องโกลับมาพวกเราก็เลยกลับไปที่ลาน ผมก็ยังคงแหงนมองอยู่เรื่อยๆครับ พอขึ้นไปบนฟ้ามันเหมือนจะนิ่งๆเลยนะ เสียงที่สม่ำเสมอเพลินดีครับ
   “พากันไปเอาปลาอยู่ส่างติ๊ล่ะลูก เอามาเฮ็ดกินแลง” แม่ร้องบอกเล็กล่ะครับ เล็กก็หันไปชวนเพื่อนๆ ผมลุกขึ้นรอเลยครับ อิอิ อยากไปดูนี่นา
   “ป่ะเบบี๋ ไปดูเขาแทงปลาไหลกัน” ไอ้เน่ามันเดินมาหาผมล่ะครับ หน้ามันแดงก่ำเลยนะท่าทางคงจะกึ่มเหล้า คนที่ไปมี ไอ้เน่า น้องเต้ นายไม้แล้วก็ผม ที่เหลือตีข้าวรอครับ หลังจากที่รออุปกรณ์จากเล็กที่ไปเอามาจากบ้านมาให้ พวกเราก็เดินตามกันไปที่ทุ่งนาล่ะครับ เออ ตอนนี้มืดแล้วนะครับ เสียงลมที่พัดกระหน่ำไม่เกรงใจใครก็ยังคงดังอยู่ หนาวแล้วเถอะครับแต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร พอเราเดินไปถึงบ่อขุดปลายนา น้องเต้ก็แก้ผ้าลงทันทีเหลือแต่กางเกงบอล ผมมองไปที่ตัวมันขนตั้งทั้งตัวเลยท่าจะหนาว
   “อ้าว มึงบ่ลงบ่บักห่านี่” ไอ้เน่ามันหันไปว่านายไม้ครับ
   “หนาวกะด้อ ฮ่วย เออๆ” ตอนแรกทำท่าจะไม่ลงครับ แต่ก็ต้องลงเพราะไอ้เน่ามันก็ลงไปแล้ว อุปกรณ์ในการแทงปลาไหลนี่ก็เป็นเหล็กแหลมๆครับ แล้วก็มีเหมือนตะข้องแต่ใหญ่กว่า เวลาแทงก็เหมือนไปไล่ปลาไหลให้มันออกมา ผมเองก็ดูไม่ทันเพราะมัวดูนายไม้จับปลาอยู่ ส่วนไอ้เน่ากับน้องเต้แทงปลาไหลกันครับ
   “ป้าด ปลาค่อโตนี่แหมะ ใหย่คั่ก” นายไม้มันกวักมือให้ผมเอาตะข้องไปให้ โอ้โหปลาช่อนตัวเขื่องๆติดอยู่ในแหครับ
   “หนาวป่าวเน่า” ผมเดินอ้อมไปหาไอ้เน่าครับ
   “ไม่แล้ว มันชิน” มันบอกครับ ผมก็พยักหน้า มันเปิดตะข้องใหญ่ให้ดูได้หลายตัวแล้วครับ น่ากลัวนะมันเหมือนงูเลยอ่ะ ผมเลยวิ่งกลับไปหานายไม้ครับ นั่งมองเขาจับปลากันก็สนุกดีนะครับ อย่าสงสัยว่าทำไมผมไม่ลงไปจับบ้าง ไอ้เน่าสิครับ ถามมันเองเถอะ มันไม่ยอมให้ผมลงล่ะ มันบอกเดี๋ยวไม่สบายเพราะลมมันแรง ทีตัวเองอ่ะนะ
   “แต่ที่จริงมีไก่นะไม้ แล้วไก่เอาทำไรกินอ่ะ” ผมเดินไปหานายไม้ล่ะครับ
   “บ่แม่นซุมนั้นซิกแล้วพอแฮงแล้วบ่ มาซ่อยเฮาเก็บปลาแน่ะ” นายไม้มันดึงแหขึ้นมาอีกรอบล่ะครับ ได้ปลาหมอนาตัวเบ้อเร่อกับปลาดุก
   “ลัดๆ ฮ่วยบักห่านี่แหม่ะ จับแนวนั้นมึงสิได้แดกมันติ๊” เสียงไอ้เน่ามันโวยวายอยู่ครับ บงการน้องเต้อยู่ น้องเต้ก็ทำหน้าแบบเสียไม่ได้
   “ลัดทางนั้น จกๆ” อ่านะ มันยังบงการอยู่ครับ เริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาล่ะ ผมเลยนั่งลงข้างๆริมบ่อ ล้วงเอาขี้โคลนมา
   “โอ้ย ฮ่วย” นี่แน่ ผมปาใส่มันครับ
   “อยากตายไงเบบี๋ ปามาไม” มันหันมาหน้ายักษ์ใส่ผมครับ
   “โวยวายนะเน่า” ผมยักคิ้วให้มันบ้างครับ
   “ตายมึงตาย” เอ่อ มันเหมือนจะกำลังขึ้นมาจากน้ำล่ะครับ
   “ฮ่าๆ สม” เสียงนายไม้ครับ
   “ตายคั่กๆมึง” อ่า มันมาแล้ว วิ่งก่อนนะครับ ท่าทางมันคงจะโมโหอยู่ล่ะ ผมได้ตะข้องวิ่งเลย
   “จะหนีไปไหนพ้น กล้าเหรอมึง หยุดนะเว้ย หยุด” มันวิ่งกวดไล่ผมมาครับ
   “ไรอ่ะ ไม่หยุด อย่าตามมานะเน่า” ผมวิ่งไปตามลมไม่กลัวเลยนะครับ กลัวไอ้คนที่วิ่งไล่มาต่างหาก เสียงนายไม้กับน้องเต้ก็หัวเราะวิ่งตามมา ผมถึงบ้านแล้วไอ้เน่ามันก็ถึงไล่เลี่ยกัน มือมันคว้าแขนผมไว้ล่ะครับ
   “ฮ่วยๆ อย่าสิตีกันสู มื้อแลงค่อยตีกัน” เสียงนายเคนแซวดังมาล่ะครับ
   “ปาโคลนใส่กูเหรอมึง อยากตายไง” มันตวาดครับ
   “ไรอ่ะ ก็โวยวายเองอ่ะ” “เดี๊ยะๆ อาบน้ำให้กูเลยมึง” อ่านะ ไม่อายเพื่อนๆเลยนะมัน เสียงโห่ดังขึ้นทันที
   “บ้าเหรอ คนเยอะแยะ ไม่ใช่บ้านเรานะเน่า”
   “ไม่รู้ล่ะ มึงต้องรับผิดชอบ เร็วเลยๆ” มันไม่สนใจใครครับลากผมจะเข้าห้องน้ำ
   “มึงสิอาบน้ำแล้วติ๊บักเดี๋ยว บ่ไปอาบอยู่ห้วยบ่ น้ำใสๆ เปลืองน้ำอีแม่เด้นี่” นายไม้บอกครับ
   “งั้นไปล้างให้กูก่อน” อ่านะ ตกลงเลยลากผมไปที่โอ่งล้างโคลนออกจากตัวมันล่ะครับ ล้างไปผมก็อมยิ้มไป อิอิ สมน้ำหน้ามันจอมบงการดีนัก
   “คืนนี้มึงโดนแน่ๆ” มันขู่ครับ
   “ไรอ่ะ โดนไร” ผมทำเป็นไม่รู้เรื่องครับ
   “โดนเอาข้างกองฟาง ฮ่าๆ ให้ฟางปักก้นมึงเลยนี่ กูจะเอาแรงๆ”
   “อ่านะ ฟางปักก้น ก้นก็ไม่สวย อยากให้เป็นงั้นก็ตามใจดิ” อ่า ไม่น่าเชื่อว่าผมจะพูดแบบนี้ เขินอ่ะ
   “สัด งั้นเอาในซุ้มก็ได้วะ” มันยักคิ้วให้ผม พอเถอะ วนเวียนอยู่แต่เรื่องนี้ อะไรเนี่ยอุรดิศ พอล้างตัวให้มันเสร็จไอ้เน่ามันก็ไปเปลี่ยนเป็นผ้าขาวม้าล่ะครับ น้องเต้นายไม้ก็เปลี่ยนเหมือนกัน แล้วก็แยกกันไปช่วยทำกับข้าว ไอ้เน่ากับน้องเต้จัดการปลาไหล ส่วนนายไม้กับจอย ทำปลา ส่วนนายเคนกับน้องโจ้ทำไก่ เยอะไปไหมเนี่ย ส่วนผมกับแม่ช่วยกันเตรียมเครื่องเทศล่ะครับ งานเบาสุด อิอิ
   “เฮาสิซิกไก่สูตรพ่อครัวใหย่ให้กิน รับรองเลียเล็บ” นายเคนคุยครับ แต่ผมก็งงนะอะไรวะซิกไก่ เห็นมันทำโป้กเป๊กอยู่กับน้องโจ้ โผล่ไปดูวิธีทำก็เหมือนกับทำไก่นึ่งทั่วๆไป เพียงแต่ใส่ลงในหม้อล่ะครับ เหมือนจะทำแกงอ่อมแต่ไม่ใช่ มันใส่เครื่องเทศเยอะมากครับ พอได้สักพักมันก็ยกหม้อแล้วทำเหมือนพ่อครัวเขย่าหม้อพลิกไก่ด้านที่ไม่โดนความร้อนให้โดน อ้อ แบบนี้เองเหรอที่เขาเรียกซิกไก่ ส่วนนายไม้กับจอยทำต้มปลาครับ แล้วก็เผาปลาทำไม่เยอะหรอกครับเพียงแต่หลายอย่างเท่านั้นเอง ผมเดินไปดูไอ้เน่าที่กำลังทำผัดเผ็ดปลาไหลอยู่ หอมจังแต่ผมไม่กล้ากินครับ ไม่รู้สิมันแปลกไปเถอะ
   “บู้ย คั่กอีหลีวะซิกไก่มึงนี่แหม่ะบักเคน” นายไม้ชมขึ้นตอนที่เรานั่งล้อมวงอยู่ล่ะครับ อาหารพร้อมแล้ว ข้าวเหนียวก็พร้อม โต๊ะกินข้าวคือที่นาที่เหยียบฟางข้าวให้แบนลงกับพื้น ไม่ได้ปูอะไรเลยครับ นั่งลงทั้งอย่างนั้น แต่ที่รองกับข้าวเอาใบตองมารอง ผมสังเกตสีหน้าของแม่ แม่เองยิ้มแย้มตลอดเวลา คอยตักนั่นตักนี่ให้พวกเราครับ ผมนั่งติดกับจอยแล้วก็ไอ้เน่า ถัดไปเป็นแม่กับน้องเต้
   “เป็นจั่งได๋อ้าย ผมเป็นคนปรุงเองเด้นี่” น้องโจ้ครับ
   “ฮ่วย บักอันนี่ หวืยบัดยามสิเอาหน้านี่แล่นออกก่อนแท้น้อ” นายเคนเหมือนไม่ยอมครับ พวกเราเลยหัวเราะกันขึ้น
   “ผัดเผ็ดปลาไหลนี่กูว่าเด็ดกั่วหมู่ แซ่บคั่ก” นายเคนครับ ไอ้เน่ามันไม่ตอบแต่ยักคิ้วหน่อยๆ
   “เป็นได๋อ้าย อ้ายเดี๋ยวเพิ่นปรุงเด้ คองตาฮู้ว่าเพิ่นเฮ็ดแนวกินแซ่บอีหลี” น้องเต้ครับ
   “เฮ็ดบัดยามออกงานท่อนล่ะ บ่เฮ็ดดู๋” อ่านะ มันคุยครับ ผมรู้สึกว่ามันอร่อยมากๆครับ กินข้าวน้อยๆ อิอิ เพราะกับข้าวเยอะ ซิกไก่นี่รสชาติมันเหมือนไก่ผัดเผ็ด แต่ไม่ใช่อ่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง มันไม่มีน้ำมันเหมือนไก่นึ่งแต่ไม่เปื่อยเท่า กลิ่นเครื่องเทศมันหอมเตะจมูก คือแค่กลิ่นก็น่ากินแล้วอ่ะครับ ส่วนต้มปลาช่อนใส่ใบมะขามอ่อน รสออกเปรี้ยวนำแต่ซดร้อนๆ เด็ดทีเดียวครับ เนื้อปลาก็หวานไม่เหนียว ส่วนปลาเผาก็ไม่ต้องอธิบาย แม่ทำน้ำจิ้มแจ่วให้ด้วยครับ เนื้อปลาสีขาวๆมีไอตอนแกะ มันหวานจริงๆนะครับ
   “ไม่ลองหน่อยเหรอวะ” ไอ้เน่ามันหันมาถามผมล่ะครับ คือผมน่ะกินทุกอย่างเว้นแต่ผัดเผ็ดปลาไหล
   “ไม่เอาอ่ะ กลัว” “กลัวเชี่ยไร ไม่รู้จักของอร่อยแล้วนะมึง” อ่านะ จะด่ากูเพื่อ
   “เอานี่” มันตักชิ้นปลาไหลที่หั่นเป็นแว่นๆมาให้ผมล่ะครับ มันเขี่ยหนังมันออกแล้วก็กระดูก เหลือแต่เนื้อ เออ ลองก็ได้วะ ผมเลยลองเอาเข้าปากครับ อืม อร่ยดีนะ เนื้อมันไม่เหมือนปลานะจะเหมือนไก่ก็ไม่เชิง อ้อ รู้แล้วเนื้อมันเหมือนเนื้อกบ อร่อยดีครับ น้ำปรุงมันถึงรสมากหอมเชียว เอาไปเอามาผมฟาดไปหลายชิ้นทีเดียว อิอิ
   “ไปๆบักเคน มึงน่ะไปฟาดให้มันแล้ว” เสียงนายไม้บอกขึ้นตอนกินข้าวเสร็จล่ะครับ กับข้าวเหลือนะแต่เพื่อนๆบอกจะกินอีกรอบดึก คือพอกินเสร็จก็ลงมือตีข้าวอีกนะครับ ไมได้พักนะ ตอนนี้น่าจะสองทุ่มได้ครับ
   “สุมไฟฝีงบ่สู หนาวคั่กวะ” เล็กมันชวนครับ
   “มันสิบ่ปลิวไปไหม้หยังเขาบ่” ไอ้เน่ามันติงไว้ครับ
   “สุมอยู่เดิ่นเฮือนบ่เป็นหยังดอก เบิ่งไว้แล้วเนาะ” เอาไปเอามาก็ต้องก่อไฟครับ คือมันอันตรายมากนะผมว่า เพราะลมมันแรงมากแล้วอากาศก็แห้ง แต่เล็กมันเอาน้ำมาราดรอบๆเป็นวงกว้างก่อนล่ะครับ แม่เองก็ช่วยทำ ผมเดินไปหาคนนั้นคนนี้ มองอยู่อย่างเป็นสุขใจ เสียงว่าวจุฬาที่ติดธนูยังคงดังต่อเนื่อง ผมแหงนมองขึ้นไปก็ตาค้างเพราะดาวมันเยอะมากๆครับ เยอะจริงๆและเหมือนว่ามันจะอยู่ต่ำจนเราสามารถคว้ามันมาได้
   “ไปอาบน้ำกันเบบี๋” ไอ้เน่ามันมาชวนล่ะครับ
   “ไม่ตีข้าวต่อเหรอเน่า”
   “เดี๋ยวค่อยมาตี ดึกๆก่อน” “อ้าว แล้วไม่ต้องไปอาบอีกเหรอ”
   “อาบอีกก็อาบดิ แต่กูคันว่ะตอนนี้ บักเต้มึงสิไปอาบน้ำบ่” มันไม่สนใจครับ มันหันไปร้องเรียกน้องเต้ทันที
   “ไปๆ ผมว่าสิงีบผลัดแรกจั่กหน่อย สิมาต่อผลัดสอง” อ้อ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ ผมเลยเดินไปที่ซุ้มที่เราเอาของไปเก็บ เอาอุปกรณ์ใส่ตระกร้าเดินตามไอ้เน่าไปกับน้องเต้ เพื่อนๆที่เหลือยังคงช่วยกันตีข้าวอยู่ นายเคนเปิดเหล้าอีกแล้วครับ คราวนี้หวานปากมากกว่าเดิมเพราะมันมีกับแกล้ม
   “อาบไงอ่ะเน่า” พอไปถึงห้วยผมก็ถามมันล่ะครับ เพราะน้ำในห้วยนี่จะให้ลงไปอาบแบบนั้นเหรอ แล้วจะถูสบู่ยังไง
   “ก็ลงเลยดิวะ ใส่ผ้าขาวม้าลง” มันบอกผมครับแล้วทำให้ดูเป็นตัวอย่าง น้องเต้ล่วงหน้าลงไปแล้วครับ ผมเองก็มองวิธีใส่ผ้าขาวม้าอยู่
   “มานี่” มันคงรำคาญตาล่ะ มันเลยเดินอ้อมหลังผมมา เอาผ้าขาวม้าพันเอวผมไว้ เอ่อ มันกอดผมหายใจแรง จนผมเองรู้สึกเลือดมันร้อนขึ้น ใจเต้นแรงตามมันเลยครับ
   “หนาวอ่ะเน่า” ผมถอดเสื้อออกล่ะครับ แล้วทำท่าอิดออดหน่อย มันหนาวจริงๆเถอะ ลมก็แรง น้ำก็เย็น
   “อยู่ในน้ำสักพักมันก็ชิน ถ้าไม่อาบจะหนาวกว่านี้นะ” มันบอกครับ เสียงที่มันพูดเบาเหมือนมันต้องการให้ผมได้ยินเพียงคนเดียว ผมยังยืนอยู่ข้างหน้ามันล่ะครับ ส่วนมันยังโอบผมอยู่
   “บู้ย ขาวคั่กแถะอ้ายอุ่น มืดปานได๋กะแห่งขาว ว่าแม่นดาว” น้องเต้ครับ มันแซว
   “บักห่านี่ หันหนีเด้อ ถืกตีนกูเด้” ไอ้เน่ามันร้องตวาดไปล่ะครับ น้องเต้หัวเราะร่วนแล้วว่ายน้ำออกไปกลางห้วย ไอ้เน่ามันดันหลังผมให้เดินลงน้ำ สัมผัสแรกไม่เข้าท่าเลยเถอะ มันเย็นแบบว่าผมต้องชักเท้าขึ้นทันที
   “เร็วดิ จะได้รีบไปผิงไฟ” มันบอกครับ
   “หนาวอ่ะ เย็นมาก” “มึงนี่ยังไง” “เอ้ย เน่า” อ่า ไอ้นี่มันบ้าครับ มันอุ้มผมทันที แล้วทำยังไงรู้ไหม มันโยนผมลงน้ำเลยสิครับ อ่า ตกใจเลยลืมหนาว ส่วนมันก็กระโดดตามลงมา ตอนแรกน่ะหนาวมากๆ แต่ประมาณนาทีกว่าได้ครับมันก็เหมือนจะเริ่มชิน
   “ถูให้ผมนำแน่อ้าย โอ้ยเนาะ จักมานำเพิ่นเฮ็ดหยังน้อกู อิจฉาเด้” พอผมสระผม ถูสบู่ให้ไอ้เน่ากลางน้ำน้องเต้มันก็ร้องขึ้นล่ะครับ คราวนี้ไอ้เน่าไม่ตอบแต่หัวเราะแทน ผมเองก็ไม่เขินมากเพราะมันมืด อิอิ หนาวด้วยล่ะ แม้ไม่มากแต่พอเอาตัวโผล่พ้นจากน้ำมันเย็นมากๆเถอะ พอขึ้นจากน้ำก็รีบเอาผ้าคลุมตัวไว้ทันทีครับ กึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับมาที่บ้าน กว่าจะถึงฟันกระทบกันดังกึกๆเถอะ

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. เอากลิ่นอายและบรรยากาศยามนวดข้าวมาให้อ่านนะคร้าบ ผมชอบหน้านี้ที่สุดเพราะคิดว่ามันอบอุ่นดี ถึงแม้จะเป็นหน้าหนาวก็เถอะ แดดยามเช้า ดอกหญ้าตามทุ่งนา ฟ้าครามๆที่มองดูสูงสุดตา กลิ่นของต้นข้าว คึดฮอดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 23-08-2012 08:57:17
ถึงจะไม่เข้าใจภาษาทั้งหมด แต่ก็ชอบมากๆ อ่านกี่ทีก็สนุก
เราเป็นคนเมือง เคยไปเที่ยวอย่างนั้นก็ไม่มีโอกาศได้ทำกลัวเค้าว่ากระเดะ จับนั่นนี่ไม่เป็น :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 23-08-2012 09:22:30
คิดฮอดสมัยเกี่ยวข้าวแต่ก่อนแด๊  น่าฮักแฮงทั้งอุ่นและเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-08-2012 12:06:57
ไม่ค่อยเข้าใจ แต่โดยรวมอุ่นน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-08-2012 12:49:41
เห็นภาพเลยอ่ะ


นึกถึงว่าวตัวเองสมัยเด็กๆที่ปู่ทำให้ จะมีคล้ายๆ ธนูติดกับว่าว พอว่าวมันติดลมแล้ว จะมีเสียงดังเหมือนกัน


 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 23-08-2012 14:06:15
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-08-2012 14:13:06
นู๋อุ่นน่ารักตลอดศก  :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 23-08-2012 14:31:06
ต้องมีการทำข้าวหลาม ปลาช่อนหลาม ข้าวจี่ อีก หน้ามะขาวสุกด้วยนิถ้าจำไม่ผิด
คิดถึงหน้าเกี่ยวเข่าเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-08-2012 14:38:34
อิฉันเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์เหล่านี้เลย
อ่านแล้วก็สุขใจ นึกภาพตาม
อุ่นปรับตัวได้เก่งมาก กล้ากินปลาไหลด้วย นับถือ ๆ
เดี๋ยวเก่งทุกอย่าง เหมาะกับการเป็นหัวหน้าครอบครัว อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 23-08-2012 14:51:01
 :call: :call:   +1
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 23-08-2012 15:23:38
 :-[ :-[

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-08-2012 18:22:52
อยากกิน!!! ทุกอย่างเลยค้าบ บรรยากาศสุดยอดมาก อยากมุดเข้าไปเห็นกับตา ....
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 23-08-2012 19:36:24
อ่านแล้วหิววว...อยากทานหมดเลย..ยกเว้นปลาไหลนะ..
ได้บรรยากาศดีจัง...รู้สึกหนาวตามนู๋อุ่นไปด้วย...
ข้าวทุกเม็ด...ได้มาด้วยความเหนื่อยยากจริง ๆ...  :pig4:

 :L1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 23-08-2012 19:43:19
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นตามเลยครับ >< อยากมีโอกาสแบบนี้กับเขาบ้าง
ทุ่งนา ดอกหญ้า หน้าหนาว ตอนกลางคืนก็ผิงไฟกัน คุยนั่นนี่กัน คงมีความสุขน่าดู , ชอบบรรยากาศแบบนี้มาก
มาต่อไว ๆ นะครับพี่อิ๊ก ^ ^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 23-08-2012 21:12:03
อ่านแล้ว อยากลองไปทำบ้างจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 23-08-2012 21:37:13
คุณเอกกี้ อ่านตอนนี้ทำเอาเพื่อนๆๆ คิดถึงสมัยเป็นเด็กวิ่งเล่นที่ท้องนาเลย ชอบมากกกก จะบอกไงดีว่า ชอบมากกกกกกก :L2: :3123: :L1: :L2: :3123: :L1: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 23-08-2012 22:46:37
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 24-08-2012 00:13:41
คู่นี้เขาน่ารักตลอด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 24-08-2012 01:39:37
+1 นึกถึงตอนเด็กเล็ก ๆมาก นอนซุ้มฟาง ฟังเสียงว่าว ดาวเต็มฟ้า กินเผามัน หอมสุด ๆ ยามหนาว  :o8: ตอนนี้มีแต่รถเก็บเกี่ยวข้าวซุ้มฟางไม่มีแล้วอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 24-08-2012 22:53:51
ร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม้คนละมือ  o13

ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 24-08-2012 22:57:42
นึกถึง หน้าหนาว  นอนดูดาวกลาทุ่ง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 24-08-2012 23:27:44
โอ๊ย อุ่นน่ารักอีกแล้ว ดึแลเน่าดีมากๆอ่า
เน่าก็ห่วงอุ่นมากๆอ่ามีมาดูมงดูมือ

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 26 Version (อุ่น) 23 August 12 หน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 25-08-2012 10:24:23
ชอบเวลาน้องอุ่นเล่าความเป็นไปของชุมชนชนบท อยากมีโอกาสได้เห็นแบบน้องอุ่นบ้างจัง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 26-08-2012 08:16:52
You’re My BaBy!!

   “หนาวอ่ะเน่า” ภรรยาผมครับ ปากสั่นเลยนะมัน ผมก็หนาวนะแต่เฉยๆ มันคงไม่เคยทำอะไรแบบนี้ล่ะ พวกเรารีบเข้าไปในซุ้มเพื่อเผลี่ยนเสื้อผ้าล่ะครับ มันก็ทาครีมให้ผมเหมือนเคย พอเข้าไปในซุ้มแล้วค่อยยังชั่วหน่อย ลมนี่มันตีแรงจริงๆนะครับ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ลมที่พัดสม่ำเสมอมาตลอดไม่มีเว้นช่วง จะพูดจะคุยอะไรกันมันก็เหมือนต้องเพิ่มพลังเสียงไปหน่อย
   “กอดกูดิ” ผมบอกมันครับ นั่งสบายอยู่ให้มันทาครีมทาแป้งให้
   “เดี๋ยวไปผิงไฟเอา” “อ้าว สัด กอดก่อนดิวะ”
   “คืนนี้ก็ค่อยกอดไง” “กอดก่อน ตอนนอนก็ตอนนอนดิ ไม่เกี่ยวกัน” ผมไม่ยอมครับ มันเลยกอด อิอิ ไม่ได้ขี้โกงนะเว้ย ก็มันหนาวนี่หว่า หนาวเนื้อห่มเนื้อถึงหายหนาวไม่เคยได้ยินไง
   “ป่ะไปผิงไฟ” พอสักพักผมก็ชวนมันออกมาผิงไฟล่ะครับ มีสัดเคนกับสาวจอย เพราะเพิ่งอาบน้ำมาเหมือนกัน ส่วนที่เหลือตีข้าวอยู่ครับ
   “เอามาจักกรึ๊บกะน่ะ คือหนาวแท้” ผมไปนั่งข้างๆสัดเคนล่ะครับ แหมไอ้นี่เผลอไม่ได้ฟาดก่อนใคร
   “ลมแฮงเนาะ จี่เข่ากินบ่ กินบ่อุ่น” สาวจอยชวนครับ ไอ้เบบี๋มันก็นะ สนใจอยู่แล้วเถอะเรื่องแบบนี้ สรุปสองคนก็เดินไปเอากระติ๊บข้าวมาล่ะครับ ผมกับสัดเคนก็เลยขอให้ทำเผื่อ ลมหนาว กองไฟ เสียงธนูของว่าว ข้าวจี่ โอ้ย จะต้องการอะไรอีกวะเนี่ย ที่สำคัญกูมีคนนอนกอด ฮ่าๆ
   “ไสบัดเคนมึงคือว่ามึงเอากีตาร์มานำ ไปเอามาแหม่ะ” พอกึ่มๆก็เริ่มอยากมีเสียงครับ สัดเคนมันเหมือนจะเริ่มเมา แต่ไม่ต้องห่วงครับ พอเริ่มจะเมาก็ไล่ไปตีข้าว หายเลยล่ะ รับรองได้ เมาแล้วใช้แรง มีแรงก็ทำไป ได้งานด้วยเถอะ
   “ไปบักห่าเคน ตามึงแล้ว บักเดี๋ยวคือกัน” สัดไม้มาครับผลัดเวรกัน
   “ฮ่วยให้เล่นจั่กเพลงแน่น้า พวมขึ้นนี่แหมะ”
   “บ่ได้ๆ อย่ามาอู้” อ้าวสัด ไม่ยอมครับมันไม่ยอม
   “ซั่นย้ายวงไปข้างๆลานดีบ่ สิได้บ่ยาดกัน” สาวจอยพูดขึ้นครับ ตกลงก็เลยย้ายวง ดับกองไฟแล้วเอาผ้าห่มไปห่มเอา ตอนนี้ต้องใส่หมวกโม่งแล้วครับ เพราะลมเริ่มจะนิ่ง พอดึกลมจะลดลงแล้วมีน้ำค้างมาแทนครับ พอผมกับสัดเคนลุก สัดไม้กับไอ้โจ้มันก็มาแย่งกีตาร์ปากมือล่ะครับ แหมนะมึง เล่นไม่เพราะล่ะมึงตาย ตอนนี้ผมออกแรงตีข้าวไปไม่รู้กี่มัดแล้วครับ เหงื่อเริ่มไหลอีกแล้ว ไอ้เต้มันก็ตีอยู่ก่อนแล้วครับ เสียงกีตาร์ที่พวกมันเล่นกัน ฟังแล้วไม่เพราะเท่าเสียงว่าวที่ดังต้านลมอยู่ แต่ก็นะทำใจได้ครับ สัดเคนนี่มีขวดเหล้าอยู่ข้างกายตลอดเลยนะ พอเริ่มดึกเสียงกีตาร์ก็เงียบไป ผมผลัดให้พวกสัดไม้มาตีแทนครับแล้วผมก็ไปกินข้าวรอบดึก ไอ้เบบี๋มันยังนั่งอยู่กับสาวจอย ตอนนี้มีเพียงเสียงมัดข้าวกระทบกับม้าตีข้าว ดังตุบตับๆ แล้วก็เสียงธนูของว่าว
   “เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะเบบี๋ มึงไปนอนก่อนก็ได้” ผมเดินไปบอกมันล่ะครับ มันก็พยักหน้า
   “จอยจะนอนยังไงอ่ะ” มันหันไปหาสาวจอย
   “ว่าสิไปนอนเทิงเฮือนกับอีแม่ล่ะอุ่น ซั่นเฮาไปเก็บหยังก่อนเด้อ เดี๋ยวหมามันสิมาลักกิน” ก็ของกินที่เรากินกันไปนั่นล่ะครับ มันยังไม่หมด ยังไม่มีคนเก็บด้วยล่ะ แม่ไอ้เล็กไปนอนแล้วครับ เพราะนี่น่าจะตีหนึ่งแล้วครับ สาวจอยเดินไปแล้วไอ้เบบี๋มันก็เดินตามไปเหมือนไปเอาแปรงสีฟันล่ะครับ ส่วนผมกับสัดเคน ไอ้โจ้เดินไปที่ห้วยอีกครั้งครับ
   “มึงนี่โซคดีเนาะ” สัดเคนพูดขึ้นล่ะครับ ไอ้โจ้มันเดินนำไปก่อน
   “โซคดีหยังวะ” ผมงงครับ อยู่ๆมันก็พูดขึ้น
   “เพิ่นนั่นเด้ ตั้งแต่กูฮู้จักมึงมา กูบ่เคยเห็นมึงมีควมสุขแนวนี้มาก่อน เพิ่นนั่นกะซาดจะแม่นดี” สัดเคนมันพูดออกมาล่ะครับ นานแล้วเหมือนกันที่ไมได้คุยกับเพื่อนแบบนี้ ผมก็พยักหน้าในความมืดครับ
   “ฮักกันให้โดนๆเด้อมึง อย่าสิทิ่มสิป๋ากัน” น้ำเสียงมันไม่แปลกครับ ไม่ได้เล่นด้วย
   “เออน่า เว้าคืออวยพรแต่งงานให้กูแท้บักห่านี่”
   “ฮ่วย กะหมู่มีควมสุขกูกะยินดีนำเด้ จั่งได๋กูสิหาได้คือมึงวะ” อ่านะ เพ้อครับเพ้อ
   “ฮ่วย สาวฝ้ายนั่นเด้ คือเห็นคุยกันอยู่บ่แม่นบ่” ผมรู้ครับว่ามันจีบสาวฝ้ายอยู่ถึงจะดูเหมือนไม่ถูกกันก็ตามเถอะ
   “คุยซื่อๆดอก คนไกลกันมักแล้วสิเฮ็ดจั่งได๋”
   “ระยะทางมันกะบ่สู้ควมจริงใจดอกบักเคน เฮียนจบกะไปต่อมหาฯลัยนำกันติ๊”
   “กูขี้คร้านเฮียนแล้วแหม่ะ อยากสิไปซ่อมรถ”
   “มึงบ่เฮียน จั่งได๋มึงสิซ่อมเป็นบักอันนี่ ไปเฮียนซ่อมรถกะได้ตั้ว” ผมกับมันเดินคุยกันไปจนถึงห้วยล่ะครับ แล้วก็รีบลงอาบน้ำ อาบตอนนี้ไม่ลีลาครับ เหมือนล้างคายข้าวออกจากตัวเท่านั้น พอเดินกลับไปก็เห็นสัดไม้กับไอ้เล็กมันตีข้าวอยู่สองคน ไอ้เต้คงสลบไปแล้วครับ ผมเลยแยกกับสัดเคน มันเองก็ไปเปลี่ยนสัดไม้ ไอ้เล็กนี่มันไม่ยอมเปลี่ยนใครครับเพราะนามัน เจ้าภาพก็งี้ล่ะ ผมเดินเข้าไปในซุ้ม ตอนนี้ใส่ผ้าขาวม้ากับเสื้อยืดธรรมดา หนาวกว่าตอนมีลมอีกเถอะ เย็นน้ำค้าง
   “อ๊ะ ตัวเย็นจังอ่ะเน่า” ผมมุดเข้าใต้ผ้าห่มครับ มันยังไม่หลับหรอกเพราะพวกผมไปอาบแป๊บเดียวเอง
   “เพิ่งโดนน้ำมานี่หว่า กอดเร็วจะได้หาย” ผมกอดมันแน่นๆครับ มันเองก็กอดผม
   “ทำไมไม่ใส่กางเกงอ่ะ” “ขี้เกียจ ใส่ทำไมอยู่กับเมีย”
   “อ่านะ” มันพูดไม่ออกครับ ผมล่ะชอบจริงๆเวลามันจนคำพูด เพราะมันซุกหน้าหาหน้าอกผมครับ
   “ดาวเยอะนะ ไม่ดูเหรอ” ผมชวนมันครับพอร่างกายเริ่มปรับสภาพ
   “อยากดู แต่เหมือนจะมีน้ำค้างอ่ะ” “ก็ทำแบบนี้ดิ” ผมลุกขึ้นแล้วเปลี่ยนท่านอน จากหันด้านหัวเข้าไปในซุ้มก็เป็นหันข้างๆขวางซุ้มล่ะครับ เอียงหน่อยๆจะได้นอนดูได้เลย
   “ดาวเยอะเนอะ สวยจัง” มันครางออกมาครับ ผมเลยกอดมันแน่นขึ้น ไอเย็นของน้ำค้างมันแผ่เข้ามาในซุ้มล่ะครับ ผมใส่หมวกโม่งไว้ไอ้เบบี๋เองก็เช่นกัน ผ้าห่มหนาผืนโตที่จริงมันไม่ได้ช่วยบรรเทาความหนาวไปได้หรอกนะครับ แต่ที่มันอุ่นผมว่าเพราะมันอุ่นที่ใจ ผมกอดคนที่ผมรักอยู่ในอกจะให้หนาวกว่านี้ก็ได้นะ
   “บักเดี๋ยวๆ ไปๆ ตื่นๆ ไปเปลี่ยนบักเล็กแนะ มันตีรวดคืนหนึ่ง ตาหลูโตนมัน มันสิบ่แล้ว” มีคนมาเขย่าตัวผมล่ะครับ ผมงัวเงียลืมตาขึ้น สัดเคนครับ
   “จั่กโมงแล้วว่ะ” ผมถามมันออกไปครับแต่ยังไม่ยอมลุก
   “ตีสี่” “ฮ่วย พวกสูบ่นอนบ่”
   “นอนจั่งได๋ มันสิบ่แล้วเด้ เหลือบ่กี่มัดดอก มึงไปซ่อยมันแน่ะ”
   “แล้วมึงเด้ มึงสิไปไส” “ฮ่วย กูน่วนมารวดคืนพอแฮง เมื่อยเป็นเด้”
   “เออๆ” ผมลุกขึ้นครับ ก่อนลุกก็กระชับผ้าห่มให้คลุมตัวไอ้เบบี๋กลัวมันหนาว พอเปลี่ยนกางเกงผมก็เดินตามเพื่อนไปที่ลาน อ้าว มันหมดแล้วเถอะครับมัดข้าว แต่พวกมันกำลังนั่งล้อมวงแดกเหล้ากันอยู่อย่างสำราญใจ
   “ฮ่วย บักห่าเคน ตั๋วกูตั้วนี่” ผมโวยวายครับ
   “อย่าสิเว้าหลายควม มาแดกนี่มา” สัดไม้ครับ ไอ้นี่ เออวะ ไหนๆก็ตื่นแล้วเอาสักหน่อย
   “เซ้าๆแนวนี่ น้ำค้างลงแฮงคั่กวะ หนาวกะด้อยังไปทนนอนอยู่ได้เนาะมึง” สัดเคนครับ
   “ฮ่วย มันมีผู้กอดเด้ บ่คือมึง ฮ่าๆ” สัดไม้ล้อครับ
   “เว้าปานมึงมีเนาะบักไม้” ผมสอดขึ้นครับ เสียงเพื่อนๆหัวเราะกันเกรียว
   “กอดผมกะได้อ้าย ฮ่าๆ” อ้าว ไอ้เต้มันแซวขึ้นล่ะครับ
   “หวืย คันกอดมึงกูเอานอนข่วนข้างฝาสิบ่มีแฮงกั่วเบาะ บักเต้” “ฮ่าๆ” โอ้ย กูทนไม่ไหว แม่งดูมันพูดครับ นั่งกินเหล้ากันเช้าตรู่ น้ำค้างก็เทลงมาเหมือนฝนกรายๆ แต่ไม่ยักหนาวแฮะ คงเพราะฤทธิ์ของเหล้าครับ กึ่มมากๆ เรื่องที่คุยส่วนมาก็วนไปวนมาเรื่องคนนั้นคนนี้ในกลุ่ม แซวหยอกกันไปตามประสาครับ พอวกมาหาเรื่องของผม ผมก็เปลี่ยนประเด็น ไม่ใช่ไม่อยากคุยนะแต่กลัวเพื่อนๆมันจะอิจฉา ฮ่าๆ
   “จี่เข่ากินบ่สู พวมสิเซ้า” ไอ้เล็กมันชวนครับ อืมก็ดีนะ
   “จี่แบบใส่ไข่นำบ่ แซ่บกั่วเด้อ้าย” ไอ้โจ้มันเสนอครับ เออเข้าท่ากว่าเว้ย ตกลงพวกเราย้ายวงไปที่เดิมครับ ก็ที่จุดไฟเมื่อคืนล่ะ ตอนนี้ดูมันจะง่ายกว่าเพราะไม่มีลม ไอ้เล็กมันไปเอาไข่เป็ดกับน้ำอ้อยมาเตรียมครับ ตอนนี้แม่ตื่นแล้วกำลังนึ่งข้าว ฟ้ายังไม่ทันสาง
   “บ่ทันพากันนอนติลูก” เสียงแม่ร้องถามออกมาครับ
   “บ่ทันนอนแม่ คองตาฟาดเข่าแล้วหว่างฮั่นล่ะ เลยซวนกันมากินเข่าจี่” สัดเคนรายงานครับ
   “มาเอาเข่าเย็นนี่ไปจี่มันจั่งสิดี” แม่เรียกให้ไปเอาข้าวเหนียวที่ยังไม่อุ่นล่ะครับ คือมันจะมีข้าวนึ่งใหม่กับข้าวที่เย็นแล้วค้างคืน ก็คือกินไม่หมดตั้งแต่เมื่อคืนแบบนี้เอามาจี่ได้ครับ แต่นึ่งใหม่ๆมาจี่ก็ได้เหมือนกันนะ
   “กินเข่าจี่กันบ่ ป้าดทาน้ำอ้อยนำ เฮาเอานำแน่” สาวจอยก็ตื่นแล้วครับเดินมาสมทบ อ้าวแล้วศรีภรรยากูล่ะ เดินไปดูมันหน่อยครับ หนาวแข็งไปแล้วมั้งนั่นน่ะ
   “ยังไม่ตื่นเหรอวะเบบี๋” ผมมุดเข้าไปในผ้าห่มอีกทีครับ พอมันรู้สึกว่าเป็นผมมันก็กอดทันที
   “ไปไหนมาอ่ะเน่า” มันยังไม่ลืมตาครับครางออกมา
   “ไปจี่ข้าว กินป่ะ” ผมเอาหน้าซุกลงหน้าผากของมัน
   “เพื่อนๆ ตื่นแล้วเหรอ” “ตื่นหมดแล้ว เหลือมึงนี่ล่ะคนเดียว” ผมจูบหน้าผากมันล่ะครับ ตอนมันงัวเงียตื่นนี่น่ารักดีนะ มันดูเอ๋อๆยังไงไม่รู้
   “อ่า ไปล้างหน้าก่อน หนาวจังอ่ะ” มันทำท่าจะลุกขึ้นล่ะครับ ผมเลยดึงมันขึ้น มันหลบๆหน้าคงไม่อยากให้กูเห็นขี้ตาล่ะ ไอ้เบบี๋มันเดินไปล้างหน้าแล้วครับ ผมเองก็เดินไปหาเพื่อนๆที่นั่งล้อมวงจี่ข้าวกันอย่างสนุกสนาน
   “จี่เผื่อกูอยู่บ่เฮ้ย” ผมเอาศอกไปสะกิดสัดเคนล่ะครับ
   “จี่เผื่อหยัง บ่ทันได้จั่กปั้นอยู่ มาๆ มาจี่ซ่อยกู” อ้าวนะ ไอ้พวกนี่ถ้ากูไม่มานี่จะได้แดกไหมเนี่ย ผมเลยไปนั่งข้างๆมันล่ะครับ แล้วเอาข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อนๆ ไม่ใหญ่มาก เอาก้อนน้ำอ้อยยัดเข้าไปด้วย การจี่ข้าวแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะโยนลงไปกองไฟเลยนะครับ ต้องเอาไม้เสียบและไม้ก็ต้องเอาก้านกล้วยมาเสียบอีกรอบป้องกันไฟไหม้ไม้ อีกอย่างจี่ร้อนไปน้ำอ้อยที่ยัดเข้าไปมันจะละลาย แล้วมันจะทำให้ข้าวเหนียวมันร่วนจี่ไม่ได้ครับ ขั้นแรกก็จี่ข้าวเหนียวให้มันเกรียมๆก่อนครับ คือประมาณว่าให้มันติดกันแน่นก่อน แล้วก็เอาออกมาทาไข่เป็ดที่ผสมน้ำอ้อยไว้ ทาให้ทั่วครับ คราวนี้พอเอาไปย่าง
   “หอมจัง” นี่ครับ ไอ้เบบี๋มันทำท่าสูดกลิ่น
   “จี่งามเนาะเดี๋ยว” สาวจอยชมครับ ผมก็ยักคิ้วไปตามประสา ก็คนมันมีฝีมือนี่หว่า ฮ่าๆ ย่างอีกทีก็พอให้มันเกรียมๆครับ ทาไข่บางๆนะ เพราะถ้าทาเยอะมันจะเละและข้าวยุ่ยร่วนออกมาไม่เป็นก้อน ทาบางๆย่างให้เกรียมๆแล้วมาทาอีกรอบ ย่างอีกทีคราวนี้ก็กินได้แล้วครับ
   “อร่อยดีเนอะ” ผมยื่นให้ไอ้เบบี๋ล่ะครับ มันก็บิกิน ส่วนผมก็จี่ให้เพื่อนต่อ เพราะแหมนะเห็นกูจี่สวยเลยให้กูจี่ให้แดกกันทุกคนเลย ไอ้พวกนี้นี่
   “แล้วสิขนขึ้นเล้ายามได๋แม่” สัดไม้ถามแม่ล่ะครับตอนตะวันกำลังจะขึ้น
   “ว่าสิตากไว้จักสองสามมื้อพู้นล่ะหล่า”
   “เดี๋ยวผมสิมาซ่อยขนเด้อ” “ซ่ำนี่กะเกรงใจหลายแล้ว ขอบใจหลายๆเด้อลูกหล่า” พวกเราก็บอกไม่เป็นไรล่ะครับ
   “ไปยามมองป่ะเฮ้ย สวยแล้ว สิได้มาเฮ็ดกินสวย” ไอเล็กมันชวนล่ะครับ มันไปแอบกางไว้ตอนไหนวะเนี่ย
   “มึงไปกางไว้ไส” ผมหันไปถามมันล่ะครับ
   “กางไว้ห้วยพู้นล่ะ มื้อคืนกูไปกางไว้กับบักเคน ตอนสูนอนนั่นล่ะ” ผมพยักหน้าครับแล้วหันไปอ้าปากรอข้าวจี่ที่ไอ้เบบี๋มันบิมายัดใส่ปากผมล่ะ
   “กินเยอะเดี๋ยวตอนกินข้าวก็กินไม่ลงนะมึง อร่อยขนาดนั้นเชียว” ผมแซวมันครับ นี่ปั้นที่สองแล้ว
   “ก็มันอร่อยดีอ่ะ ไปเก็บปลาเหรอ ไปด้วยๆ” นั่นไงครับ ลุกก่อนผมอีก สรุปพวกเราก็แห่กันไปยามมอง ยามมองคือไปเก็บปลาที่ดักอวนตาถี่ไม่มากครับ มีชนิดห่าง ก็เรียกมองห่าง ถี่ก็เรียกมองถี่ อันนี้น่าจะเป็นมองห่างเพราะหน้านี้ปลามันตัวใหญ่ครับ เอาไปเอามาแห่กันไปหมดเลยครับ คุยกันเจี้ยวจ้าวเดินตามกันไปที่ห้วย
   “อุ่นๆ ไปเก็บดอกโสนบ่ เอามาหนึ่งใส่ปลา” สาวจอยชวนไอ้เบบี๋ล่ะครับ
   “เราอยากดูเขาเก็บมองอ่ะจอย” มันอิดออดครับ แต่สีหน้านี่อยากไปทั้งสองว่างั้น
   “กะไปเก็บคูห้วยนั่นเด้ เหลียวมาเบิ่งกะเห็นตั้ว น้ำหนาวกะด้อ บ่ต้อไงปลงดอก” จอยมันไม่ยอมเหมือนกันครับ ไอ้เบบี๋มันเลยหันมามองผม ผมก็พยักหน้าให้มันไป เออ เดี๋ยวนี้มันหันมามองผมก่อนตลอดเลยนะครับ เหมือนขออนุญาต ดีจัง ฮ่าๆ เหมือนเป็นผู้ปกครองมันไปโดยปริยาย
   “ลงเฮ้ยลง” ไอ้เล็กครับ มันเดินลงน้ำไปก่อนใคร ตอนเช้าๆนี่เอ่อ กูอยากจะขอบายว่ะ แม่งน้ำเป็นไอเลยนะเว้ย คิดภาพตามนะ ตะวันที่กำลังจะพ้นขอบฟ้าเหลือติดอยู่ท้ายลูกมันนิดหน่อย แสงแดดที่อ่อนมากๆถ้าเปรียบเทียบกับฤดูอื่น เพราะนี่มันคือหน้าหนาว น้ำในห้วยที่นิ่งสนิทไม่มีลม ไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ มีเพียงแรงกระเพื่อมที่ไอ้เล็กมันแหวกน้ำลงไปก่อนใคร ไอน้ำมันเหมือนหมอกแผ่ขึ้นเหนือน้ำ ยอดหญ้าริมห้วยมันเต็มไปด้วยละอองน้ำค้าง ถามว่าสวยไหม มากครับ ถ้ามีกล้องหามุมดีๆถ่ายจะไม่อยากเชื่อเลยว่านี่มันอยู่ในที่บ้านๆสุดล่ะ แต่ที่มันไม่สวยคือมันคงจะหนาวเข้ากระดูกเลยล่ะท่าน
   “เป็นตาหำหดแท้น้อบ่านนี่” สัดเคนครับ มันบ่นแต่ก็ลงน้ำไปตามไอ้เล็ก ทีนี้เพื่อนๆก็ทยอยกันลงไปล่ะครับ มันเย็นนะไม่หนาว เย็นแบบว่ามากกว่าในตู้เย็น คงจะประมาณเอาน้ำแข็งมือมาแช่ในโอ่งแล้วลงไปนั่นล่ะครับ แต่วิธีทำมันมีนะ เพราะส่วนมากคนอีสานเขาหาปลากันก็จะออกแต่เช้าตรู่นี่ล่ะครับ เพราะสายไปปลาที่ติดอวนติดมองมันจะเน่าตาย วิธีก็คือพอลงน้ำให้รีบเอาตัวลงจุ่มทันทีครับแล้วแช่ไว้อย่างนั้นสักพัก ทนเอา แล้วมันจะรู้สึกดีขึ้น
   “บู้ย หมานแท้เฮ้ย ปลากดๆ” สัดไม้มันร้องขึ้นล่ะครับ มันยกมองขึ้นเห็นมีปลากดตัวใหญ่ๆท้องขาวๆติดอยู่เต็มเลย คือตอนดึกๆนี่ปลากดมันจะออกหรือเปล่าไม่รู้ นอกนั้นมีปลาดุกไม่กี่ตัว แล้วก็ไอ้หมอ ไอ้หมอนี่ติดทุกเวลาที่ดักล่ะครับ ส่วนไอ้ช่อนไม่มีครับ สรุปได้ปลากดมาเยอะครับ ตกลงกันว่าจะเอาลาบและนึ่ง ปิ้งด้วยแล้วแต่ใครชอบ แน่นอนครับ จากฝีมือการผัดเผ็ดปลาไหลพ่อครัวใหญ่ในการลาบก็กูเอง ฮ่าๆ
   “หนาวป่าวเน่า” พอขึ้นจากน้ำผมก็วิ่งไปหาภรรยาล่ะครับ หวังให้มันกอดสักหน่อย
   “หนาวดิ กอดเร็ว” ผมอ้าแขนออกครับ
   “บ้าเหรอ” มันอายครับ
   “หวืย บ่ย้านเฮาอายเนาะเดี๋ยว” สาวจอยครับ เธอคงอายแทนไอ้เบบี๋ล่ะ
   “ฮ่วย หนาวเนาะ สิให้เฮ็ดจั่งได๋ซั่น” ผมแถไปครับ
   “กอดเพิ่นแน่ซั่นน่ะอุ่น เฮาไปเก็บผักบุ้งทางพู้นก่อนเด้อ เออ เอาผักกะแยงนำบ่เดี๋ยว ได้ปลากดหลายบ่แม่นบ่ เอาไปต้ม” ผมพยักหน้าครับ ผักกะแยงนี่จะเหลืออยู่เฉพาะที่ลุ่มมากๆนะครับ เพราะมันจะขึ้นกับน้ำเหมือนผักอีฮีน แต่ผักอีฮีนจะขึ้นหน้าดำนา ไม่เหมือนกันนะ ผักกะแยงนี่กลิ่นฉุนมากดับคาวได้ดี เวลาเอาไปต้มใส่ปลาอร่อยครับ
   “จะอีกนานไหมวะกว่ามึงจะกอดกูเนี่ย หนาวหำหดหมดแล้ว” ผมเร่งมันครับ
   “ก็ตัวเองตัวเปียกนี่เน่า เดี๋ยวตะวันขึ้นก็หายหนาวเองล่ะ”
   “ไม่ได้ กอดเลย” ผมดึงมันเข้ามาหาทันทีครับ มันไม่ขืนตัวหรอกนะ ผมก็กอดไว้แบบนั้นแป๊บเดียวล่ะเพราะว่าตัวมันจะเปียกไปตามผม แม้ว่าผมเองจะไม่ได้ใส่เสื้อก็ตามเถอะ
   “จอยบอกดอกโสนเขาเอาไปนึ่งใส่ปลาได้เหรอเน่า” พอผมดันมันออกมันก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “ได้ ทอดใส่ไข่ก็ได้ ที่จริงเขาเอายอดดอกจิกนึ่งใส่นะหน้านี้”
   “เป็นยังไงอ่ะ” “เดี๋ยวพาไปดู มันอยู่แถวบ้านโน่น” ผมบอกมันครับ เห็นไหมว่าทีพูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ตามันวาวเป็นประกายทันที พอผัวบอกจะเอาตานี่แบบหมาเหงา ไอ้นี่ยังไง
   “บ่มียอดบักอื๋อบ่จอย” ผมร้องไปถาสาวจอยล่ะครับ กำลังก้มเก็บผักบุ้งนาอยู่
   “ว่าสิถามเล็กอยู่ สวนเพิ่นปลูกหยังแน่บู้นี่” คือว่าเรื่องผัก ถ้าไม่กระแดะอยากกินกระหล่ำดอก กระหล่ำปลีม่วง อะไรเทือกนี้ก็เก็บเอาตามสวนที่ปลูกไว้ล่ะครับ หน้านานี่เขานิยมปลูกผักกัน เอาที่นาที่มันดอนๆหน่อยแต่ก็ต้องมีแหล่งน้ำโดยส่วนมากจะขุดบ่ไว้ล่ะครับ ทำยกแปลงขึ้นเป็นส่วน ส่วนมากปลูกหัวหอมกระเทียม ผักชีลาวบ้าง ผักกาดบ้าง มีต้นพริกมะเขือ มะเขือเทศแซม ก็เอาไว้ตอนลงนานั่นล่ะครับ จะได้ไม่ต้องซื้อเขา พอสักพักเพื่อนๆผมก็ขึ้นจากน้ำครับ
   “บักเคนมีเครือดอกจิกบ่ แถวนี้แหม่ะ” ผมถามสัดเคนล่ะครับ
   “ฮ่วย บ่ถามบักเล็กฮั่นนี่ กูบ่แม่นเจ้าที่เด้บักห่ามึง” อ้าวด่ากูอีกสัดนี่
   “มีๆ อยู่หัวบ้านพู้นล่ะ มันขึ้นนำต้นกระโดน” ไอ้เล็กมันร้องมาบอกล่ะครับ
   “อยู่สวนมียอดบักอื๋ออยู่บ่เล็ก ว่าสิเอาไปนึ่งใส่ปลานี่แหม่ะ” สาวจอยเสริมครับ
   “มีๆ อีแม่เพิ่นปลูกไว้อยู่ มีผักหมนำอยู่” ผมหมก็คือผักโขมนั่นล่ะครับ แต่มันเป็นผักโขมบ้านๆ ต้นเล็กๆกินได้ทั้งต้นทั้งราก วิธีเก็บก็ดึงเอาทั้งรากครับ เอาไปล้างให้สะอาด จะลวกกินกับน้ำพริกหรือนึ่งใส่ปลาก็ได้ ผักชนิดนี้มันจะทนความร้อนไม่ได้นานครับ เพราะฉะนั้นวิธีลวกก็ต้องลวกแล้วขึ้นเลย ส่วนนึ่งก็กะว่าจะยกลงจากเตานั่นล่ะครับถึงเอาโปะส่วนบนให้ไอน้ำมันทำให้ผักสุก ถ้าเอาใส่ก่อนเปื่อยแน่ๆ พวกเราแบ่งงานกันไปครับ โดยที่สัดไม้กับไอ้โจ้ ไอ้เต้ กลับบ้านเอาปลาไปเก็บแล้วก็จัดการรอไว้เลยครับ ส่วนไอ้เล็กกับสัดเคนไปเอาผักจิก ส่วนผม สาวจอย ไอ้เบบี๋เดินไปสวนไอ้เล็กครับ สวนมันไม่ใหญ่มากครับ เป็นเนินขึ้นน่าจะเกิดมาจากการสังคายนาจอมปลวกขนาดใหญ่ เพราะส่วนมากเขานิยมกันครับ ปลูกอะไรก็งาม เพราะดินทางภาคอีสานนี้มันเป็นดินทราย เชื่อกันว่าจอมปลวกมันอุดมไปด้วยสารอาหารที่พืชต้องการล่ะครับ สวนมันมีผักเกือบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ครับ แต่มีอย่างละไม่มาก มีมะเขือพวง มะเขือเปราะ มะเขือเทศ หอมกระเทียม ลูกน้ำเต้า ฟักทองหรือบักอื๋อ ผักชีลาว ผักกาด สรุปกูเอาหมด ฮ่าๆ แต่เอาอย่างละหน่อยละครับท่าน ไม่ทำลายสวนเขาหรอกน่า
   “น่ารักเนอะ” ไอ้เบบี๋มันหยิบเอาลูกน้ำต้ำที่ผมเก็บมาล่ะครับ แหมนะไอ้นี่คงไม่เคยเห็น
   “เอามาสองอันดิ แล้วทำแบบนี้” ผมช่วยมันครับ
   “บ้านะเน่า เล่นไรอ่ะ” “ฮ่าๆ” ผมเอาไปทำเป็นนมมันล่ะครับ มันไล่ตีผมใหญ่เลย หยอกกันไปกันมาจนสาวจอยกระแอมขึ้น พวกเราถึงเดินกลับครับ ตะวันขึ้นแล้วครับเกือบโด่งแล้ว ไม่ค่อยหนาวแล้วล่ะแต่ปากเริ่มจะสั่น ฮ่าๆ พอกลับไปถึงบ้าน ต่างคนก็ต่างนั่งประจำที่ของใครของมันเลยครับ ผมมีหน้าที่ต้องลาบปลากดครับ โดยมีไอ้เต้เป็นลูกมือ สาวจอยกับไอ้เบบี๋เตรียมผักไว้นึ่งปลา ส่วนไอ้โจ้มันซอยหอมกับใบมะกรูดรอผมล่ะครับ สัดไม้ย่างปลาอยู่กับไอ้โจ้ที่พอมันซอยหอมให้ผมเสร็จมันก็ต้องหาอะไรทำ ส่วนสัดเคนกับไอ้เล็กเป็นผู้กำกับ มันสองตัวเล่นเดินไปเดินมาครับ ผมไล่มันไปเตรียมสถานที่รอเลยครับ งานยังไม่เสร็จหรอกนะจะบอกให้ เพราะมันเหลือฟางที่ต้องช่วยกันสะสางช่วยแม่มันให้เสร็จ ตอนนี้แม่ไอ้เล็กก็นั่งช่วยจัดผักให้ล่ะครับ แกไม่ต้องทำอะไรมากเพราะค่อนข้างช้า เข้าใจวัยรุ่นไหมเนี่ย ฮ่าๆ
   “หอมแท้อ้ายเดี๋ยว” ไอ้เต้ครับ อ๊ะ แน่นอน กูเป็นใครวะ จะเล่าวิธีทำลาบปลากดให้ฟังเอาป่ะ เผื่อมีใครคิดอยากจะทำตาม ก็เหมือนสูตรของชาวบ้านทั่วไปล่ะครับ แต่เผอิญผมมันมีฝีมือ ทำทีไรก็อร่อยน่ะ ฮาๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ ปลากดที่จะใช้ทำลาบก็เลือกเอาตัวใหญ่ๆหน่อยนะครับ เอามีดเฉือนเอาแต่เนื้อมันครับ ให้เหลือเนื้อติดกระดูกไว้หน่อยก็ดี ตั้งน้ำไว้อีกหม้อ ใส่เกลือหน่อย มะขามเปียกสักก้อนพอสมควร กะเอาเปรี้ยวอ่ะนะ พอได้จำนวนที่ต้องการแล้ว ก็หั่นเนื้อปลากดให้เป็นแว่นล่ะครับ ที่จริงเขาจะสับล่ะนะครับ แต่สูตรผมหั่นเอาครับ ผมไม่ชอบอะไรเละๆ พอหั่นเสร็จก็เอาน้ำต้มกระดูกปลาที่เดือดนั่นล่ะครับ เอามาลวกพอสุกนะครับและไม่ใช่ว่าเอาน้ำท่วมเลยนะ กะเอาพอสุกและพอดีกับเครื่องปรุง ซึ่งก็มีข้าวคั่วพริกป่นและก็หอมซอยใบมะกรูด ต้นหอมนิดหน่อยใบสะระแหน่ เอาพริกเม็ดโปรย ใส่น้ำปลาน้ำตาล ชิมรสที่จริงเติมปลาร้าหน่อยนึงล่ะครับ อิอิ ถ้าอร่อยแล้วก็เสร็จล่ะ ส่วนก้างปลาที่มีเนื้อติดที่ต้มไว้ตอนแรก ทีนี้ก็หันมาปรุงครับถ้าพอดีแล้วกะเอาเปรี้ยวนำหน่อยนึง ก็เอาผักกะแยงลงครับ ชิมอีกทีเพราะรสอาจจะเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนก็ปิดฝารอตักใส่ถ้วยเลยครับ ส่วนปลานึ่งก็เอาผักลงก่อน เลือกที่สุกยาก เช่นลูกน้ำเต้า ลูกมะระ ยอดฟักทอง ดอกโสน ดอกจิก เรียงกันในหวดไม่ใช้ลังถึงนะครับ มันไม่คลาสสิก ฮ่าๆ ก็เอาปลาที่หมักไว้แล้วมาวางเรียงลงไปครับ แล้วเอาน้ำหมักปลาราดลงไป เพราะปกติต้องโรยเกลือหน่อยที่ผักล่ะครับ แต่นี่ไม่ต้อง พอสุกก็เอาผักโขมนาโปะหน้าเลย เปิดฝาทีน้ำลายแทบไหล หอมเตะจมูกมากครับ แต่ปลานึ่งถ้าไม่มีแจ่วก็ไม่ใช่ล่ะ มันเด็ดตรงนี้ครับท่าน วิธีทำก็คือเอาหัวหอม กระเทียม พริกชี้ฟ้า มะเขือเทศเอาไปเผาครับ ที่นี่เขาเรียกจี่ ที่จริงคั่วก็ได้แต่มันไม่บ้านพอครับ จี่เอาเลยทันใจและหอมด้วย พอหอมมันอ่อนด้านนอกดำหน่อยนะครับเพราะมันอาจจะไหม้แต่ต้องแกะออกให้หมด เอาทั้งหมดนั่นล่ะใส่ลงในครกครับ เว้นมะเขือเทศจี่นะ เพราะน้ำมันเยอะเอาไว้ทีหลัง โขลกให้เข้ากันก็เอามะเขือเทศลงบี้ๆเอาพอมันแตกแล้วก็ปรุงรสครับ ใส่น้ำปลาร้า ถ้าเปรี้ยวน้อยหน่อยก็เติมมะกรูด ต้องมะกรูดนะมันถึงจะหอม เสร็จแล้วก็เอาน้ำที่ก้นหม้อนึ่งนั่นล่ะครับมาใส่หน่อยนึงให้มันมีน้ำ แค่นี้ก็เข้ากันดีเสียยิ่งกว่าผมกับไอ้เบบี๋แล้วล่ะ ฮ่าๆ เกี่ยวไหมเนี่ย ตอนนี้รอแม่จะตำแจ่วให้อยู่ล่ะครับ เพราะเรื่องแจ่วนี่ต้องคนเก่าแก่จริงๆ ทำยังไงมาก็อร่อย เหมือนแม่ผมตำปลาร้าทรงเครื่อง ไม่มีใครเทียบครับ
   “ไปเอาปาละเอิงมาให้แม่กะหน่ะจอย” หือ? อีหยังน้อฮั่นนี่
   “อีหยังล่ะอีแม่ ปาละเอิง” สาวจอยถามครับ เราทุกคนก็คงไม่มีใครรู้นะผมว่า เพราะขนาดกูเองก็ยังไม่รู้
   “ครกนั่นเด้ คนโบราณเขาเอิ้นปาละเอิง” อ้อ แม่กู ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย
   “แล้วอันนี้อ่ะครับแม่ เขาเรียกทัพพีหรือเปล่า” นั่นไงครับ มันนั่งดูแม่อยู่แล้ว ไอ้เบบี๋มันถามขึ้นทันที
   “เขาเอิ้นจองตั้วลูก” อันนี้เคยได้ยินยายผมเรียกครับ
   “จอง? แล้วช้อนล่ะครับแม่” “บ่วง” อืมนะ ที่จริงลืมไปเลยนะครับ เขาเรียกกันอย่างนี้ล่ะ แต่ทุกวันนี้เขาเรียกกันทัพศัพท์ไปเลยครับ
   “บ่วง อิอิ” นั่น ผมรู้นะครับมันคิดไปถึงอะไร มันต้องคิดไปถึงละครแน่ๆ หลังจากที่ได้ปาละเอิงมาแม่ก็ตำแจ่วให้เราล่ะครับ ตอนนี้ทุกคนนนั่งล้อมวงอยู่ที่เดิมครับ ลมเริ่มเอื่อยๆมาในตอนเช้า กลิ่นกับข้าวแต่ละอย่างหอมคละคลุ้งปนเปกันไปหมด โอยๆ น้ำลายไหล ข้าวเหนียวใหม่ขาวๆหอมๆร้อนๆ โอ้ย ตายมันตรงนี้ล่ะวะกู

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. อยากกินหนึ่งปลาเด้เนาะ อิอิ หอมๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ninkara ที่ 26-08-2012 08:27:52
^
^
^
^
จิ้มๆแต่เช้าเลย อิอิ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 26-08-2012 08:33:11
น้ำลายไหล  :eiei1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 26-08-2012 08:38:24
อ่านเรื่องนี้จบแล้วหิวขึ้นมาเลย

ฮ่าๆเดี่ยวกับอุ่นก็หวานกันไม่เลิก น่ารักอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 26-08-2012 09:02:46
อยากกินข้าวจี่ o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-08-2012 09:14:50
น้ำลายสอ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 26-08-2012 09:38:47
อยากกินลาบปลากดนำเด๋
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 26-08-2012 09:43:16
น่ากินจัง :call: :call:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-08-2012 11:14:23
หิว หิว หิว...
ได้ศัพท์ไทบ้านมาอีกเพียบ อิอิ
เดี๋ยวเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนตัวเอ้เลยนิ
อยากให้ถึงหน้าหนาวเร็ว ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 26-08-2012 15:26:12
กลืนน้ำลายเอื๊อก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-08-2012 16:10:21
โอย.... ขอตาย ณ จุดนี้!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-08-2012 16:25:44
อ่านแล้วอยากกินเลย โดยเฉพาะปลาร้าทรงเครื่อง  :a11:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 26-08-2012 17:58:21
 :a5: :a5:   :call: :call: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-08-2012 20:16:19
แต่ละอย่างน่ากินมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 26-08-2012 20:35:17
หิว T^T

คู่รัก กุ๊กกิ๊กๆอ่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 26-08-2012 21:59:02
โอย อ่านและหิวววววว  :z3:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 26-08-2012 21:59:41
หาข้าวทานด่วน หิวตาม

ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-08-2012 23:58:44
กว่าจะอ่านจบต้องใช้ความสามารถมาก
เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เราไม่แคร์เพราะ
เดี๋ยวอุ่นและผ้องเพื่อนสนุก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 27-08-2012 01:59:36
+1    :z3:ทำร้ายกันตอนท้ายอ่ะ อ่านตอนดึก น้ำลายไหลอ่ะ หิว เดี๋ยวทำลาบปลากะ ปลานึ่ง เห็นภาพ จนรู้สึกว่าได้ กินหอม ๆ เลย :o12: หิว มาก มาก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 27-08-2012 12:34:46
ม่วนๆๆคักแท้น้อ อยากอ่านอีกเด้อ มาต่ออีกเด้อน้องหล่า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-08-2012 13:39:30
อยากกินด้วยจัง :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-08-2012 10:37:12
หิวๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 28-08-2012 20:05:43
นับวันเจ้าเดี๋ยวยิ่งดูดีน่ารัก...สมกับการเป็นผู้นำ...
นู๋อุ่นก็น่ารักตลอด...อยู่ได้ไม่งองแง..เด็กน้อยเต็มที่และจริงใจ..
ชีวิตแบบนี้ใครได้สัมผัสบ้างคงช่วยล้างความรู้สึกที่หนักอึ้งไปได้เยอะ.. o13

 :pig4: น้องอิ๊ก   :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 28-08-2012 20:17:19
บักเดี๋ยวน่าจะเปิดร้านอาหารเนอะ 5555555555555555
ตอนนี้อุ่นยังน่ารักเหมือนเคยเลย ><
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 30-08-2012 12:46:46
รออ่านตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 31-08-2012 22:09:12
คิดถึงบักเดี๋ยว กะ นู๋อุ่น

เข้ามารอตอนใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 26 Version (เดี๋ยว) 26 August 12 หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: lvlax23 ที่ 01-09-2012 20:29:22
คิดถึงแล้วนะ มาลงผลงานเร็วๆๆนะครับ เพื่อนๆๆรอ อิอิออิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 02-09-2012 12:12:23
Don’t call Me BaBy!!

ผมรู้สึกหลงไหลกับบรรยากาศของที่นี่ครับ หลงรักเข้าเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นแดดที่ทอแสงอบอุ่นมาในตอนนี้ที่เรานั่งล้อมวงกันกินข้าว ไม่ว่าจะเสียงว่าวจุฬาที่ธนูติดว่าวมันดังอื้ดๆตลอดเวลาอยู่บนท้องฟ้าสีครามสดใสนั้น ท้องฟ้าในหน้านี้มันดูสูงเกินจะเอื้อมแต่สีครามของมันสวยเหลือเกิน ลมประจำฤดูเริ่มที่จะพัดมาบ้างแล้วครับ บางพื้นที่ยังคงเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำค้างตอนย่ำรุ่ง มองไปทางไหนมันคือภาพที่ชวนมอง ผมรู้สึกอบอุ่นใจมากๆ รู้สึกว่าไม่คิดถึงอะไรอีกเลยตอนที่ได้อยู่ที่นี่ ถ้านี่เขาเรียกว่าความสุข ผมมีความสุขมากๆครับ มากเหลือเกิน
   “ตอนเช้าทำไรต่ออ่ะจอย” พอกินข้าวเสร็จพวกเราก็ช่วยกันเก็บกวาดพื้นที่ล่ะครับ ผมเดินยกจานมาหาจอย
   “เพิ่นสิเฮ็ดเฟืองบ่อุ่น”
   “ที่มัดเป็นก้อนๆนั่นอ่ะเหรอ” “แม่นแล้ว โตบ่ต้องล้างดอก เฮาล้างเอง เฮ็ดเฟืองคราวเดียวท่อนล่ะ เดี๋ยวกะพากันเมือแล้ว” จอยบอกครับ ผมเลยวางจานลงจากมือ แล้วเดินกลับไปหาเพื่อนๆที่คุยกันอย่างสนุกสนาน หน้าตาแต่ละคนดูตึงมากๆครับ คงเพราะอากาศมันแห้ง โดนน้ำแล้วมันจะตึงแล้วก็แตก
   “โอ้ยเนาะ อย่าสิซวนหัวหลายอ้าย ปากผมแห่งแตกอยู่เด้เนี่ย” น้องเต้ครับ ผมเห็นมันเม้มปากอยู่ตลอดเวลาเลยนะ เวลาหัวเราะก็เอามือปิดไว้ อ้อ ปากมันแตกนี่เอง ฮ่าๆ
   “เอาบาล์มทาหน่อยไหมเต้ พี่มีนะ” ผมเสนอไปครับ
   “เอาๆอ้ายอุ่น บู้ยมีกะบ่บอกเนาะ ให้น้องให้นุ่งปากมุ่นอุ้ยปุ้ย” เอ่อนะ เหมือนมันจะชม อิอิ
   “บักห่านี่ อย่าสิจ่ม ของใซ้ส่วนโตเด้นั่น สิทาหรือบ่ทา” ไอ้เน่าครับ มันเอ็ดน้องเต้ น้องเต้ทำหน้าจ๋อยๆ
   “ไปว่าน้องทำไมอ่ะเน่า ของเรามีตั้งสองอันแน่ะ แบ่งให้น้องมันใช้ด้วยดิ” คือของผมมันมีสองกระปุกล่ะครับ อีกอันยังไมได้ใช้ ก็มีมันนั่นล่ะที่ใช้กับผม
   “แม่นๆอ้ายอุ่น ใจดีหลาย อิอิ” อ่านะ มันทำท่าเขินๆครับแต่เหมือนหันไปทำท่าเยาะเย้ยไอ้เน่า เดี๋ยวมันก็เตะเอาหรอก ไอ้น้องเต้นี่ยังไง
   “เอามาให้ทานำแน่ะ แนวทาปากโตน่ะ ว่าสิถามอยู่ทาอีหยังปากคือบ่แตก แดงอ่องต่องอยู่นี่แหม่ะ” นายเคนครับ
   “ปากมึงทาเหมิดกระปุก กะคือสิบ่เซาดอกกูว่าน่ะ ปากซ่ำโบมนี่” นายไม้ครับ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นทันที ผมเลยเดินไปที่ซุ้มเอาบาล์มออกมาให้เพื่อนๆทาล่ะครับ
   “หอมแท้” นายเคนยื่นมือมาหยิบไปก่อนใครครับ
“อย่าควักไปเยอะดิเคน มันเยิ้มนะ” ผมร้องห้ามไว้ครับ มันเล่นเอานิ้วควักออกไปเป็นก้อนเลย
“หวืย บักห่านี่ จกแฮงหลายหมู่เขาสิบ่ได้ใซ้” นายไม้ปรามครับแล้วแย่งเอาไปจากมือนายเคน
“อ่ะพี่ให้ เราเอาไว้ใช้เถอะ พี่มีกระปุกใหม่” ผมยื่นให้น้องเต้หลังจากที่เพื่อนๆมันทาเสร็จแล้วล่ะครับ ไอ้น้องเต้รีบคว้าเอาแต่นายเคนก็จะแย่ง
“ป้าดบักห่านี่แหม่ะ ย้านแต่หมู่เอาเนาะ หวืยเป็นตาขี้เดียดแฮง” เอ่อ ไอ้น้องเต้มันทำยังไงรู้ไหม คือมันไม่ได้เอายัดใส่ในกระเป๋ากางเกงมันนะครับ มันเอายัดใส่เป้ากางเกงมัน นายเคนมันหยุดเลย ทุกคนก็หัวเราะ
“ฮ่วย เอาใส่ใสกะสิยาดแหมะเจ้าน่ะ เอาใส่นี่ล่ะจั่งบ่มีผู้อยากได้” ดูมันพูดครับ พวกเราก็คุยกันอยู่สักพักล่ะครับ จึงเริ่มลงมือทำงาน มัดฟางข้าวเป็นมัดใหญ่ๆแล้วเอาไปเรียงกันไว้ พอเกือบจะเที่ยงก็เสร็จครับ พวกเราเลยแยกย้ายกันกลับ
“เน่า หน้าแห้งไปป่ะเนี่ย” พอผมซ้อนท้ายมันก็มองแก้มมันล่ะครับ
“เหรอ” มันไม่ได้หันมาครับ แต่ผมเอามือขึ้นลูบแก้มมันเบาๆ แก้มมันสากมากๆครับ ยิ่งใกล้รอยแผลยิ่งแข็งเลย
“ครีมก็ทานี่ แอบเกาป่ะเนี่ย” ผมยังคงลูบหน้ามันเบาๆอยู่ล่ะครับ
“ไม่เกา แต่มึงลูบนี่ล่ะกูจะเกา คันนะเว้ย” อ่านะ ผมรีบเอามือออกครับ คือแผลมันหายแล้วนะครับแต่ยังตกสะเก็ดอยู่บางจุด หน้าบากเป็นรอยยาวเลย ผมนะคอยทาครีมให้เช้าเย็นๆแต่มันก็นะ เผลอลบเผลอเช็ด
“ง่วงว่ะเบบี๋ กลับไปนอนก่อนนะ” มันบอกล่ะครับ ผมก็ไม่พูดอะไร คือเมื่อคืนมันหนาวมากๆล่ะ นอนหลับไหมก็หลับบ้างแต่ไม่สนิท เพราะมันหนาวและชื้นน้ำค้าง ไม่ชินที่ด้วยล่ะครับ
“อยากกินส้มตำอ่ะเน่า” ผมบอกมันล่ะครับ เราเข้ามาในเมืองแล้วกำลังจะผ่านทางไปร้านของแม่มัน
“ไรวะ เมื่อวานก็เพิ่งจะกิน อยากอีกแล้วเหรอ”
“อือ อยากกินที่แม่ตำอ่ะ อร่อยดี” มันส่ายหน้าครับ อ้าว ไอ้นี่ก็นานแล้วนี่หว่าไมได้กิน อยากกินไก่ย่างกับส้มตำอ่ะ
“ว้าย ลูกอุ่น เป็นไงบ้างคะไปตีข้าว ไปทำกับเขาหรือเปล่าเนี่ย ไหนมือแม่ดูหน่อย” พอไปถึงร้าน คุณแม่ก็ร้องทักมาล่ะครับ ผมยกมือไหว้แกแล้วก็เดินยิ้มเข้าไปหา
“ไม่ได้ทำครับ ลองทำแล้วมันยาก เลยไม่ทำ” ผมตอบอายๆ
“ดีแล้วล่ะลูก อย่าไปทำเลย งานใช้แรงแบบนั้นน่ะให้ไอ้เดี๋ยวมันทำไป”
“ฮ่วย โพดหลายแม่ ลูกซายเจ้าของเด้นี่” ไอ้เน่ามันโวยวายครับ ผมเลยหัวเราะออกมา
“อุ่นอยากกินส้มตำฝีมือแม่ครับ เลยแวะมารบกวน” ผมรีบบอกก่อนที่ไอ้เน่ามันจะโวยวายไปมากกว่านี้ครับ
“นั่งเลยค่ะคุณลูก นั่งๆ พ่อๆ อกไก่ชิ้นนั้นน่ะ ย่างมาให้ลูกหน่อย กินน้ำตกด้วยไหมลูกอุ่น”
“ถามแต่ผู้เดียวนั้นน้อแม่ บ่ถามผมติ๊” ไอ้เน่าครับ เหมือนมันกลัวว่าผมจะแย่งซีนมัน
“อ้าว มึงก็ไปหากินเองสิคะคุณลูกเดี๋ยว” ผมอมยิ้มครับ ไอ้เน่ามันทำหน้างอๆ แต่ก็ไม่อะไรมาก พอมันมานั่งมันก็ยักคิ้วใส่ผม ประมาณว่าผมไปกวนตีนมัน
“มึงโดนแน่” “ไรอ่ะ” นั่นไงครับ พอมันทำอะไรผมไม่ได้มันก็จะขู่ แหมนะ
“แดกไปๆ แดกให้อิ่มๆ เดี๋ยวกูจัด ฮ่าๆ” อ่านะ ไอ้บ้า ผมเลยไม่สนใจมันครับ พอกินเสร็จตอนแรกว่าจะช่วยคุณแม่ย่างไก่แต่คุณแม่ไม่ยอม ไล่ให้ผมกลับมาพัก เพราะไอ้เน่ามันตาโหลๆแล้ว
“ลมยังแรงอยู่เลยเนอะเน่า” พอมันขับรถออกมาจากร้านผมก็พูดขึ้นล่ะครับ ท้องฟ้าเปิดสดใสมากๆ แม้จะตอนกลางวันแล้วก็ตาม แดดที่เปรี้ยงๆอยู่นั้นเหมือนจะโดนลมหนาวพัดเอาความร้อนหนีไปได้ส่วนหนึ่ง
“ดีดิจะได้นอนกอดกัน” มันพูดครับ พอถึงบ้านผมก็ต้องแปลกใจเพราะเห็นรถใครไม่รู้จอดอยู่หน้าบ้าน
“รถใครวะ” ไอ้เน่ามันถามครับ เอ่อ ผมหน้าซีดเลยครับ จำได้ว่ารถใคร พอเข้าไปใกล้ๆแล้วรู้สึกสั่นขึ้นมาทันที
“อุ่น” ผมเดินเข้าถึงแค่หน้าบ้านเสียงร้องทักก็ดังมาครับ ผมยืนนิ่ง ไม่ได้ดีใจหรือเสียใจ แต่มันตกใจ ประหลาดใจว่าทำไมเขาต้องมา มาทำไม
“โจ้” ผมครางออกมา เขายิ้มเต็มวงหน้าและทำท่าจะปรี่เข้ามากอดผม ผมถอยออกทันที
“มายังไง” ผมเหมือนคนไม่มีคำพูด ไม่มีอะไรเลย มันไม่เหลืออะไรเลย
“ทำไมทำเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยอ่ะอุ่น เราอุตส่าห์มาหานะ คิดถึง”
“ใครวะเบบี๋” ไอ้เน่าครับ มันมายืนเกาะบ่าผม
“นี่อย่าบอกนะอุ่น ว่าไอ้หน้าบากนี่เป็น” โจ้โพล่งออกมาครับ การแต่งตัวของเขา รถยนต์ที่เขาขับมาไม่บอกก็รู้ว่าเขารวย เขามีเงิน แต่ตรงนั้นผมไม่ได้มองแล้ว มองไม่เห็น
“ไปคุยกันตรงนี้ได้ไหมโจ้” ผมรีบบอกครับ แล้วหันไปพยักหน้าให้ไอ้เน่าที่มันเหมือนจะก้าวขาออกมาแล้ว หน้าตามันน่ากลัวมากๆเถอะตอนนี้
“ไม่ กูจะรอตรงนี้” เอาแล้วไงครับ ผมเลยเดินล่วงหน้าไปก่อน ไปยืนรอโจ้ตรงใต้ต้นชมพู่นอกบ้าน
“ไอ้บ้านนอก” “พลั่กก” “โอ้ย” ผมรีบวิ่งกลับทันทีครับ
“สัด มาต่อยกูทำไม” โจ้ร้องออกมาเลือดไหลที่ข้างๆริมฝีปากแล้วครับ เอ่อ จะว่าผมเลวไหม ผมไมได้วิ่งไปหาโจ้ ผมวิ่งเข้าไปจับแขนไอ้เน่าไว้ครับ เพราะกลัวว่ามันจะซ้ำเอาอีก
“เน่า ไม่เอานะ ขึ้นไปบนห้องก่อน”
“มันปากหมาเองทำไมวะ เชี่ยเอ้ย กูให้เวลาห้านาที คุยกับมันให้รู้เรื่องแล้วไปหากูที่ห้อง” ไอ้เน่ามันโวยวายครับ
“ว้าย อีหยังคะ มีหยังกัน” เสียงพี่ต้อยดังออกมาพร้อมกับตัว มีพ่อผมกับต้อดที่คงมากับโจ้วิ่งหน้าตาตื่นออกมา
“มันต่อยผมครับคุณพ่อ” โจ้รีบฟ้องทันที
“มีเรื่องอะไรกันลูก มีอะไรค่อยๆพูดกันสิ” พ่อผมมองมาที่ไอ้เน่าไม่ถึงวินาทีแต่ก็หันไปมองโจ้
“เลือดไหลนำ เอื้อยสิเฮ็ดแผลให้” “ผมจะไปแจ้งความ” โจ้ร้องออกมา
“อย่าให้มันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะลูก มีอะไรค่อยๆพูดกันดีไหม ทำไมทำเพื่อนแบบนั้นล่ะเดี๋ยว” พ่อผมหันมาเอ็ดไอ้เน่าครับ
“มันมาด่าผมก่อนนะครับพ่อ ปากวอนหาตีนเองนี่หว่า”
“ดูเอาเถอะครับคุณพ่อ นักเลงแบบนี้คบไปได้ยังไงอ่ะอุ่น” โจ้พูดออกมาพร้อมๆกับที่ไอ้เน่ามันจะปรี่เข้าหาอีก ผมเลยเอาตัวกันมันไว้ครับ
“เน่า ไม่เอานะ บอกไม่ฟังหรือไง” ผมกัดฟันพูด ไอเน่ามันหัวเสียมากครับเพราะหน้ามันนี่ไม่เอาใครแล้ว
“เออ” มันหุนหันไปที่รถแล้วขับออกไปเลยครับ
“เราขอคุยด้วยหน่อยสิโจ้” ผมพูดออกมาครับ โจ้เองก็ทำสำออยเกินจริง อ้อนพ่อผมอยู่
“เราทำแผลก่อนได้ไหมอ่ะอุ่น”
“งั้นก็ไม่ต้องคุย เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นนะ” ผมโพล่งออกไปครับ
“อุ่น” นี่ไม่ใช่แค่เสียงของโจ้นะครับ แต่มันเป็นเสียงของทุกคน ทั้งพ่อผมต้อดแต่ไม่รวมพี่ต้อย พี่ต้อยแค่อ้าปากค้าง
“ไปคุยกันก่อนดีไหมลูก” พ่อผมบอกครับ เพราะพ่อผมคงอ่านท่าทางและสายตาผมออกแล้ว ผมเดินไปที่เดิมครับ
“อุ่นเปลี่ยนไปนะ มากด้วย อุ่นไม่เหมือนเดิม” โจ้พูดครับ ผมยืนหันหลังให้ สูดลมหายใจเข้าปอด พยายามนึกอยู่ว่าจะโต้ตอบเขาเลยหรือว่ารอให้เขาพล่ามให้เสร็จก่อน
“โจ้คิดถึงอุ่นมากนะรู้ไหม เนี่ยโจ้ลาโรงเรียนมาหาอุ่นเลยนะ ไกลแค่ไหนโจ้ก็มา เพราะโจ้คิดถึงอุ่นนะ” โจ้มาจับแขนผมไว้ครับ จะดึงผมเข้าไปกอด ผมขืนตัวไว้แล้วหันมาดันตัวเขาออก
“ขอบใจนะโจ้ ขอบใจที่อุตส่าห์คิดถึงและดั้นด้นมาหาเรา” ผมพูดออกไปครับ สายตามองเขาเหมือนมองก้อนหินก้อนหนึ่ง
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะอุ่น นี่อุ่นไม่รักโจ้แล้วเหรอ”
“เฮอะ” ผมหัวเราะออกมาครับ เขาหน้าเสียไป
“ต้องการอะไรโจ้” ผมพูดออกมาครับ ไม่พยายามจะทนฟังแล้วล่ะ ผมเดาออกทั้งหมดเลยว่าอะไรมันเกิดขึ้นบ้างกับเขา และกับผม สำหรับเขาเองผมอาจจะเดาไม่ถูกแต่สำหรับผม ไม่จำเป็นต้องคิดไม่จำเป็นต้องเดา ผมรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นและผมรักกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเพียงไหน ผมรัก จบไหม ไม่ใช่แค่ชอบแล้ว
“อุ่น ทำไม” “โจ้ไม่เอาเขาแล้วเหรอ หรือว่าโจ้ไม่มีใครเอาถึงได้ดั้นด้นมาหาเรา ระหว่างเรากับโจ้มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “อุ่น ทำไมอุ่นพูดแบบนี้แล้วที่ผ่านมาล่ะ มันหมายความว่ายังไง” เขาพูดถึงอดีตครับ
“มันมีความหมายด้วยเหรอโจ้ ที่ผ่านมาคนที่เปลี่ยนคือโจ้นะ จำได้ไหมล่ะที่บอกเราตอนนั้นว่ายังไง” ผมพยายามจะไม่โมโหครับ เพราะเวลาผมโมโหผมพอจะรู้ตัวดี แต่มันก็นะ คนแบบนี้สมควรแล้วล่ะที่โดนไอ้เน่ามันตั้นหน้าเอา
“โจ้ขอโทษนะอุ่น ตอนนั้นโจ้คิดว่าเพราะที่เราห่างกันมันจะทำให้เราสองคนไม่เหมือนเดิม แต่โจ้คิดผิด เพราะยิ่งห่างโจ้ก็ยังรักอุ่นอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน อุ่นคือคนที่โจ้รัก”
“แต่โจ้ไม่ใช่คนที่เรารัก คนที่โจ้เห็นเมื่อกี๊คือคนที่เรารัก รักมาก รักกว่าตัวเราเองอีก พอใจหรือยัง และระหว่างเราสองคน มันไม่มีอะไรเลย และมันก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นด้วย” “อุ่น ทำไมอุ่นไปรักคนแบบนั้น มันดูสกปรก นักเลงจะตาย”
“แต่เขามีใจที่สะอาดนะโจ้ เรารักเขาเพราะจิตใจเขา ไม่ได้หน้าตาดีเหมือนโจ้ แต่จิตใจสกปรก” ผมแรงไปไหม ไม่หรอก ไม่อยากบอกเขาว่า “ไม่ได้หน้าตาดีเหมือนใครบางคน” เพราะว่าบางทีเขาอาจจะไม่รู้สึก ระบุตัวให้มันรู้ไปเลยว่าผมด่ามันอยู่ คนอื่นไม่เกี่ยว
“อุ่น เกินไปนะ เออดี รู้งี้ไม่มาหรอกเว้ย มาด่าอยู่ได้ ใฝ่ต่ำชอบของบ้านๆก็เชิญ” เอาล่ะสิ ตัวตนเผยออกมา ผมยิ้มออกมาทันที ดี กูจะได้ไม่ต้องแอ๊บอีกต่อไป
“เราไม่ได้ขอให้มานะ มาเองนี่โจ้ อีกอย่าง เราคิดว่าเรากำลังอยู่ในที่สูงนะเพราะคบกับเขา ได้รักเขามันมีแต่อะไรดีๆเกิดขึ้นในชีวิต แต่ถ้าคบกับโจ้นั่นล่ะ เราว่าน่าจะเรียกว่าใฝ่ต่ำ”
“อุ่น” เขาปรี่เข้ามาเหมือนลุด้วยโทสะ เอ๊ะ นี่ผมพูดแรงไปเหรอ ตรงไหนไม่ทราบ แล้วทีว่ากูล่ะ แหม ใฝ่ต่ำพูดมาได้ มึงสูงตายนักนี่ แค่รวย หน้าตาดี แล้วยังไง มันไม่ใช่คำตอบของทุกคำถาม
“เอาสิโจ้” ผมพยักหน้าท้าทายเขาครับ ไมได้ถอยนะ เขาปรี่มาจริงๆด้วยล่ะท่าน มันผลักบ่าผมทีหนึ่ง ผมเซไปด้านหลัง ตัวเขาสูงกว่าผมมากแต่ก็ไม่เท่าไอ้เน่า
“ปึ๊ก” “โอ๊ย” บอกแล้วนะว่าอย่าให้โมโห ผมยกเท้าขึ้นถีบที่กลางตัวเขาทันทีพอยั้งตัวได้ หนอยแน่ ผลักกูเหรอ
“อย่ามาอีก เราไม่เคยรู้จักกัน” ไม่ใช่แค่ผมด่ามันนะ ผมปรี่เข้าหามันที่มันนอนกลิ้งอยู่ ทั้งเตะทั้งกระทืบ
“อุ่น หยุด” พ่อผมครับ วิ่งออกมาพร้อมกันหมดนั่นล่ะ พ่อผมลากผมออกไป ส่วนต้อดไปพยุงไอ้นั่นขึ้นมา เรื่องราวดำเนินไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้พ่อผมกำลังนั่งเทศนาผมอยู่บนห้องครับ
“รู้จักระงับอารมณ์ไว้บ้างสิลูก เห็นไหม พอเราร้อนเดี๋ยวมันก็ยิ่งร้อน เราแทนที่จะใจเย็นหน่อย”
“แต่เขาว่าอุ่นใฝ่ต่ำนะพ่อ อุ่นไมได้ใฝ่ต่ำ อุ่นไมได้ใฝ่ต่ำนะ เขาไม่มีสิทธิ์มาว่าอุ่นแบบนี้” ผมร้องไห้ออกมาครับ ไม่ได้แสดงละครนะ คือมันอัดอั้นใจจริงๆ คำพูดคำนี้ ยายผมเคยว่าพ่อผม เคยว่าแม่ผม ผมเกลียดคำๆนี้ เพราะคำว่าใฝ่ต่ำถ้าจะหมายความถึงจริงๆ มันก็คือผม ซึ่งเป็นผลผลิตของความใฝ่ต่ำนั่นเอง
“อุ่น ไม่เอาลูก ไม่เอา” พ่อผมกอดผมไว้แน่น ผมร้องไห้ออกมาซุกหน้าลงกับบ่าพ่อ
“ทำไม ทำไม อุ่นไม่ได้ใฝ่ต่ำ อย่ามาว่าอุ่นแบบนี้” ผมสะอื้นอยู่นานสองนานครับ พ่อผมคงจะพอเข้าใจเลยไม่ได้พูดอะไรอีก ปลอบผมอยู่จนผมหยุด
“เน่าอ่ะพี่ต้อย” ผมเดินตามพ่อลงไปข้างล่างล่ะครับ สองคนนั้นกลับไปแล้ว
“ออกไปตาพู้นล่ะยังบ่ทันกลับมา เอื้อยล่ะเสียวอยู่นี่ ว่าแล้วต้องเป็นแนวนี้ บ่พ้อกันโดนปากยังคือเก่าอยู่เนาะคุณโจ้น่ะ ถืกตีนบ่านนี้คือสิหลาบไปโดน”
“อย่าไปพูดถึงเค้าเลยพี่ต้อย อุ่นคงไมได้เจอเขาอีกแล้วล่ะ” ผมบอกไปครับแล้วรีบจะไปหาไอ้เน่า มันต้องงอนแน่ๆเลยอ่ะ ยิ่งง้อยากๆอยู่นะเนี่ย
“พี่ต้อยจักรยานอุ่นเอาไปก่อนนะ” ผมบอกพี่ต้อยแต่ไม่รอฟังครับ ปั่นจักรยานออกจากบ้านมาทันที ผมปั่นไปที่บ้านมัน ไม่อยู่นี่
“โบ้ พ่อไปไหน” ผมจอดรถแล้วลงไปกอดไอ้โบ้ล่ะครับ มันก็เลียผมใหญ่
“รออยู่บ้านนะโบ้ เดี๋ยวไปตามหาพ่อแกก่อน” ผมบอกมันครับ ใจเริ่มไม่ดีแล้วเถอะ มันไม่อยู่บ้านแล้วมันจะไปไหนอ่ะ ผมจะไปหามันที่ไหน ผมคิดไม่ออกเลยไม่ไปครับ นั่งลงกอดไอ้โบ้อยู่แบบนั้นล่ะ รอนานเท่าไหร่ไม่รู้ผมเลยหลับไป นอนกอดหมานอนอยู่หน้าบ้าน มาดูเอาเถอะ ไอ้โบ้มันก็ดีนะ ผมกอดมันก็ไม่ดิ้นเลย มันก็เลียแผล่บๆอยู่ ผมนอนกับพื้นเลยนะ มันก็นอนเฝ้าผมทั้งอย่างนั้น
“ผัวมีไม่นอน นอนกับหมา” ผมงัวเงียลืมตาขึ้นเพราะมีคนเอามือมาขยี้หัวผมล่ะครับ
“เน่า ไปไหนมาอ่ะ” ผมลุกขึ้น มันนั่งยองๆมองผมอยู่
“งอนดิ” “อ่า งอนไรอ่ะ” ผมจับแขนมันไว้ล่ะครับ
“ผัวเก่ามาหา จะกลับไปหามันไหมล่ะมึง” อ่านะ ดูมันพูดครับ
“ใครผัวเก่า ไม่มีหรอกนะผัวเก่า มีแต่คนปัจจุบัน”
“แล้วตอนกูต่อยมัน ทำไมมึงทำท่าเป็นห่วงมันวะ ไม่เห็นห่วงกู” มันงอนครับ ดูๆ ปากมันเริ่มสูงขึ้นๆ
“ไรอ่ะ ถ้าห่วงเขา เราวิ่งไปดูเขาแล้วดิ เราวิ่งไปหาเน่าก่อนนะ จำไมได้เหรอ”
“ไม่ได้ กูถามจริงๆนะ มึงยังมีใจเหลือให้มันไหมวะ” มันมองผมสายตาจริงจังมากครับ
“ไม่เหลือ ไม่เหลือสักอย่าง”
“เอาให้แน่นะมึง กูไม่อยากเจ็บนะเว้ย” มันพูดครับ ผมเม้มปากแน่น มองหน้ามันแล้วผมก็ค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสรอยแผลบนหน้ามันเบาๆ
“ถ้าเน่าจะเจ็บ เราเจ็บกว่าหลายเท่าเถอะ ยังไม่รู้เหรอว่าเรารักเน่ามากแค่ไหน” ผมเม้มปากแน่นน้ำตาไหลออกมา ดราม่ามาก แต่มันซึ้งในใจยังไงไม่รู้ มันจับหน้าผมไว้ครับ
“ไม่รู้ มึงเคยบอกรักกูเหรอ” มันยิ้มนะครับแต่ด้วยความที่มันเป็นคนกวนตีนล่ะ มันเลยพูดออกมา
“เรารักเน่านะ” “หือ ว่าไงนะ” ดูเอานะครับ จากที่ซึ้งจนผมชักจะไม่ไหว
“อ่าฮะ” ผมโน้มหน้ามันลงมาแล้วก็จูบมันเลยครับ อิอิ ขี้เกียจพูดเถอะ พูดเยอะไปก็เท่านั้นทำเลยก็แล้วกัน มันก็ครางออกมา จูบตอบผม
“ดูไรไอ้โบ้ ไปโน่นไป พ่อกับแม่มึงจะเอากัน” “บ้านะเน่า” มันหันไปว่าไอ้โบ้ที่ยืนจ้องเราอยู่ตาปริบๆ ฮ่าๆ เวอร์แระหมามันไม่ตาปริบๆหรอกครับ ไอ้เน่ามันจูงมือผมขึ้นไปบนห้องมันล่ะครับ บ้านเงียบเชียบ ห้องมันก็ยังคงอับเหมือนเคย เพราะไม่ค่อยได้อยู่ เสื้อผ้าในตู้ก็เกือบจะเกลี้ยงแล้วครับ มันไปอยู่ที่บ้านผมจนแน่นตู้ไปหมดแล้วเถอะ
“มึงบอกมันว่าไร” มันถามผมครับ อิอิ ไม่อยากบอกเลยว่าเราสองคนกำลังบรรเลงเพลงรักกันอยู่ เขินอ่ะ
“บอกว่า เรากับเขาไม่เคยรู้จักกัน และตอนนี้เรามีคนที่เรารักมากแล้ว ไม่ต้องพยายามทำอะไร” ผมบอกมันไปล่ะครับ มันก็กัดฟันกรอดๆอยู่ล่ะ
“ดีๆ จะไม่ไหวแล้วนะเบบี๋” มันครางออกมา
“เร็วๆ เราก็มะ อ่า” อิอิ งดบรรยายก็แล้วกัน สรุปเราสองคนก็นอนกอดกัน อากาศมันหนาวนี่เนอะ กอดหน่อยเถอะ ไอ้เน่าของผม

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. พักนี้ขี้เกียจม้ากกกกกกกกกกกกก แต่ก็พยายามเขียนเรื่อยๆนะคร้าบ

เอาให้อ่านก่อนจาไปเท่ว หลวงพระบาง อิอิ ไปพักผ่อนและเอาบรรยากาศ เดี๋ยวถ่ายรูปมาฝากเด้อ...
ติดตามได้ใน แฟนเพจ คร้าบ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 02-09-2012 13:37:40
น่ารักนะคู่นี้

ถ่ายรูปมาให้น้องดูเยอะๆนะคะพี่อิ๊คค
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 02-09-2012 13:40:09
ไอ้โจ้โดน  :z6: ซะใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-09-2012 14:47:35
โถ ๆ โจ้อุตส่าห์มาซะไกล โดนทั้งหมัดทั้งถีบ สม...
น้องอุ่นเป็นสะใภ้อีสานเต็มตัว ไม่กลับแล้วเมืองหลวง อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 02-09-2012 14:55:05
เฮ้อ~~~~~~~~~~~~~~~~ ค่อยยังชั่ว  โล่งอก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 02-09-2012 15:16:36
คนบ้านนอก ก็ดีกว่าคนในเมืองใจสกปรกล่ะว๊า  :beat:

ท้ิงเค้าเอง ยังจะมีหน้ามาขอคืนดี ขนาดเราไม่ใช่อุ่น เรายังอยากจะตั้นหน้าให้แหกเลย  :z6:

แล้วมาว่าคนอื่นใฝ่ต่ำ ตัวเองสูงตายล่ะ (หูย อินเนอร์แรง ฮ่าๆๆ)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-09-2012 15:44:12
คิดว่าโจ้พูดแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ อะไรๆ มันก็จะง่ายขึ้น  :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-09-2012 16:05:08
เป็นกำลังใจให้นู๋อุ่น :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 02-09-2012 16:48:22
ไอ้โจ้  :z6: ตามด้วย  :beat:

ส่วนน้องอุ่น :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 02-09-2012 17:08:55
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 02-09-2012 17:20:19
อ๊ายยยยย ตอนสุดท้ายน่ารักอ่ะ อึ๋ย ๆ , โกรธโจ้อ่ะ ไม่น่าพูดแรงขนาดนั้นเลย คนระดับไหนเขาก็มีหัวใจกันทั้งนั้นแหละ ><
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 02-09-2012 18:24:46
สมน้ำหน้า ปากหาตีนเหมือนเน่าว่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-09-2012 18:44:07
มันเจ๋งมาก!!!!!.... อุ่นนี่ให้ความรู้สึกแบบ พี่ไม่ต้อง น้องทำเองอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 02-09-2012 19:23:58
บาทานู๋อุ่นหนักไม่แพ้สามีจริง ๆ .. o13
รักนี้เป็นของใครเดี๋ยวคงรู้อยู่แล้วแค่ ...แกว่ง ๆนิดหน่อยนิ
เที่ยวเผื่อด้วยนะจ๊ะน้องอิ๊ก

 :L1: น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 02-09-2012 20:35:15
สะใจอะ  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 02-09-2012 20:53:59
เยี่ยมยอดดด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 02-09-2012 22:00:56
 :o8: กี่ตอนๆก็น่ารักอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 02-09-2012 22:54:47
เออดี  บรรเลงบทรักไปคุยกันไป เคลียร์กันไป  ห้าห้า

ชอบจังเลย

แต่อิโจ้แมร่งเลวว่ะ สมควร
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 03-09-2012 09:09:48
เบบี๋ เจ๋งมาก
เอาไป10
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 03-09-2012 16:03:29
ไปเสียแล้วหลวงพระบาง เมื่ไหร่น้อจะได้อ่านต่อคริๆๆ เสียวเหมือนกันนะเนี่ยเน่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 03-09-2012 23:33:32
นู๋อุ่นสุดยอด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 04-09-2012 01:11:55
ชอบมากอ่ะเรื่องนี้ มาต่อเว้ยๆนะอ้าย  o18
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 04-09-2012 07:19:08
อุ่นเดี๋ยว เราเข้าใจกันตลอดเวลา  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 04-09-2012 12:01:42
แว๊กกกก  ดร่ามาเสร็จ อีโรติกต่อเลยนะหนูอุ่น อิ อิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 04-09-2012 12:04:08
แว๊กกกกกกกกก ดร่าม่าเสร็จ  อีโรติกต่อเลยนะอุ่นเดี๋ยว อิ อิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 04-09-2012 12:42:21
 :L2: :L2:+1
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-09-2012 12:50:18
อินู๋อุ่นนนนนนนน :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 10-09-2012 14:55:15
หายไปนานเลย คิดถึงน้องอุ่นและเดี๋ยวแล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 10-09-2012 15:02:55
หนูอุ่นหายไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 10-09-2012 15:13:55
เข้ามารอน้องอุ่น คิดถึงบรรยากาศน่ารักๆแถวบ้านเด็กๆ  :กอด1:

หลวงพระบางงามไหมครับ อยากไปบ้างจัง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 11-09-2012 09:22:08
กลับมาแว้วว รอหน่อยน้า อิอิ มัวแต่ดื่มด่ำบรรยากาศเน้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 12-09-2012 08:41:44
มาต่อเร็วๆ คิดถึงหนูอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 13-09-2012 15:42:08
 :o8:ว้ายตายเเล่ว น้องอุ่น เสียน้ำตาให้คนใจสกปรกกะบักโจ้เเล้ว ยังมาเสียเลือดให้บักเน่าอีก คือสิมาทดเเท้ เป็นตาหลูโตนเด้.....มาๆๆๆเอื้อยสิปลอบใจเอาตำบักหุ่งไปกินก่อนเด้อหล่า.... :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 13-09-2012 19:03:02
รอฉันรอเธออยู่ คิดถึงอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 27 Version (อุ่น) 2 September 12 หน้า 37
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 13-09-2012 20:03:50
มารอหนูอุ่นกับเดี๋ยวจ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 13-09-2012 20:19:18
You’re My BaBy!!

กูไม่คิดเลยนะว่ากูเองะมานอนกอดผู้ชายด้วยกัน ไม่สิมันกอดกูเถอะ แต่กูก็ยอมให้มันกอดนะและกอดตอบมันแน่นกว่าด้วย จะว่าไปกูผิดปกติหรือวะ ไม่รู้ดิ แต่ก่อนอายนะ คิดว่าการที่กูชอบผู้ชายด้วยกันมันประหลาด กูมันต้องจิตวิปริตแน่ๆ ใครๆหลายคนก็คงคิดเหมือนกูล่ะ ว่าป่ะ เดินด้วยกันก็ไม่กล้า นี่แค่เดินนะถ้าทำอะไรอย่างอื่นเยอะกว่านั้น อายไม่ต้องพูดถึง แต่ก็อย่างที่บอกว่ากูน่ะฉลาด คิดอะไรได้เอง ไม่ต้องตามกระแส ฮ่าๆ ไม่ได้โม้นะเว้ย เรื่องจริง คือมันก็มีเวลาที่กูกลับมาคิดย้อนถามตัวเองล่ะว่าทำไม ถ้าจะรักผู้ชายด้วยกันจริง เรานึกถึงใคร เพื่อน? พ่อแม่? ซึ่งอันนี้ตัดออกไปได้เลย เพราะพ่อแม่กูเข้าใจ ซึ่งมันก็คงไม่เหมือนคนอื่นๆ อืมนะ นับว่ากูโชคดีสิเนี่ย สังคม? คนรอบข้าง? ว่าไปนะ กูก็แคร์ทุกๆอย่างนั่นล่ะ แต่รู้สึกไหมว่ามันเหลืออะไรอีกอย่าง ตัวกูเองไง มองกลับมาดูตัวเอง คนที่กูควรแคร์มากที่สุดคือกูเอง จะทำไมวะ ในเมื่อกูรู้สึกรักมันมากขนาดนั้น รู้จักมันมีแต่สิ่งที่เขาเรียกกันว่าความสุขเกิดขึ้น จะเป็นแป๊ะไรก็เป็นเถอะ กูมีความสุข จบป่ะ ที่เพ้อนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะ จะบอกว่าคนบุคลิกอย่างไอ้เดี๋ยว กวนๆไม่เคยสนใจใครคิดว่าตัวกูเองเป็นศูนย์กลางจักวาลน่ะ ไม่น่าเชื่อไง ฮ่าๆ
   “วันนี้เรานอนนี่เนอะเน่า” ไอ้เบบี๋มันบอกล่ะครับ มันยังซุกหน้าอยู่ตรงหน้าอกผม มันหอมแน่ๆ มันถึงดมเอาๆ อิอิ
   “อือ แต่เสื้อผ้านักเรียนอยู่บ้านโน้นนี่”
   “เน่าไปเอาดิ” “อ้าว มึงล่ะ” “เราจะทำกับข้าวไง” มันพูดครับ ผมหัวเราะออกมา
   “ทำเป็นว่างั้น” น้ำเสียงประมาณว่ากูไม่เชื่อ
   “ก็รอแม่มาไง อยากทำน้ำพริกเป็นอ่ะ” “เออนะ ฝึกไว้เวลาออกเรือนจะได้ทำให้ผัวกินเป็น เข้าท่าๆ”
   “บ้านะ” อายครับ มุดหน้าเข้าอกผมอีก ผมเลยจับคางมันเชยขึ้นมาจ้องตามัน
   “นั่นๆ จะทำไรอ่ะ ไปเอาเสื้อดิ ค่ำแล้วนะ” ว่าจะแลกลิ้นซะหน่อย ไอ้นี่มันรู้ทันครับ
   “จูบก่อนดิ เอาอีกยกค่อยไป” “บ้า ไม่เอาแล้ว เจ็บนะ”
   “ไร เจ็บไร เห็นครางเอาๆ ฮ่าๆ” มันไม่พูดครับ ค้อนผมแล้วเอามือมันมาผลักหน้าผม
   “จะให้ร้องไห้ไง เวลาโดนน่ะ” แน่ะ ดูเอานะครับ
   “เออ ลองดูดิวะ เผื่อจะได้อารมณ์” “ไอ้บ้า งั้นให้เราเอาเน่าป่ะล่ะ แล้วจะหัวเราะหรือร้องไห้ก็เอาเลย อิอิ”
   “นั่นๆ นี่ผัวนะ ไม่ใช่เพื่อนเล่น อยากโดนดีเหรอมึง” ผมพลิกตัวขึ้นบนล่ะครับ กำลังได้เปรียบมันก็ดิ้นอยู่
   “ผู้ได๋อยู่เทิงเฮือนน่ะ บักเดี๋ยวบ่” เสียงแม่ผมครับ จิ๊ ว่าจะเอาอีกสักยก
   “แม่กลับมาแล้ว” ดูครับดู มันร้องขึ้นเสียงดังรีบใส่กางเกงใส่เสื้อแล้ววิ่งออกจากห้องทันที ยิ่งเห็นตอนมันลุกนะ ก้นขาวๆ โอ้ย แม่นะแม่
   “อ้าว ลูกอุ่น มาอยู่บ้านนี้เหรอ จะค้างไหมคะ ค้างหน่อยนะ ไม่เคยมาค้างบ้านแม่เลย พ่อๆ ไปเอาผ้าปูที่นอนใหม่ที่แม่ซักไว้ไปเปลี่ยนให้ลูกหน่อยเร็ว” เฮ้อ นี่แม่กูเห่อมันมากไปป่ะเนี่ย
   “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ วันนี้จะค้างที่นี่ครับ อุ่นว่าจะให้คุณแม่สอนทำน้ำพริกน่ะครับ” มันยิ้มเขินๆครับ
   “ว้ายตายแล้ว พ่อดูสิ น่ารักเหลือเกินพ่อคุณ วันนี้แม่ได้แมงแคงมาพอดี ยายสาเอามาให้ ว้ายพ่อ ไปย่างเตรียมของเร็ว ลูกอุ่นจะทำน้ำพริก” เอ่อ เสียงแบบว่า เวอร์มากครับ
   “หวืย โพดเนาะแม่ ปานดาราสิมาเฮือนเอาโลดเนาะ เบิ่งแน่ล่ะพ่อ” ผมประชดแม่ครับ
   “ฮ่วย บักนี่ ไปหาเก็บยอดกระถินมาพู้นไป แล้วลูกอุ่นจะลองเฮ็ดแกงเห็ดเฟืองบ่ พ่อว่าสิแกงเห็ดนำ” อ้าวพ่อกู ด่ากูซะงั้น โอ้ย เซ็งโว้ย
   “ทำครับ อุ่นอยากทำเป็นทุกอย่างเลย” ไอ้นี่ก็นะ แต่มันก็ไม่ได้ตอแหลทำหรอกนะครับ ผมพอจะดูออก มันทำน่ะน่ารักนะกูว่า แต่ให้กูทำนี่สิ ฮ่าๆ คิดภาพไม่ออก
   “พ่อไปเตรียมของเร็ว ไปลูกอุ่น เข้าไปในครัวกัน แม่ดีใจจังเลย” คุณแม่กูนี่แบบว่าเวอร์จนไม่รู้จะเปรียบยังไงนะ แต่เอาเถอะ เพื่อความสุขของคนในครอบครัว
   “เราออกไปทำหลังบ้านได้ไหมครับคุณแม่ อากาศกำลังดีเลย”
   “เอางั้นเหรอคะ บักเดี๋ยว ไปก่อเตาให้ลูกอุ่นสิ แน่ะ ยังมายืนทำหน้าขี้อิจฉาอยู่ได้”
   “ป้าด ไผน้ออิจฉา แม่นล่ะน้อ นี่เป็นลูกเลี้ยง เพิ่นนี่แม่นลูกอีหลี” ผมประชดครับ คุณแม่ผมก็หัวเราะชอบใจ ไอ้เบบี๋ก็หัวเราะ หงุดหงิดเว้ย ไปเอาเสื้อผ้านักเรียนดีกว่า
   “อ้าว สิไปไสนี่ แม่บอกให้ไปดังไฟ บ่แม่นบ่บักเดี๋ยว” พ่อผมครับ
   “สิไปเอาเสื้อผ้านักเรียนเด้พ่อ มื้ออื่นจั่งสิบ่ได้โงไปเอา” ผมบอกครับแล้วควบคุณปู่ออกจากบ้านมาทันที
   “อ้าวลูกเดี๋ยว อุ่นล่ะ” พ่อตาครับ เหมือนแกกำลังรอพวกผมอยู่ล่ะ เออนะ ต้องเตะตระกร้อนี่หว่า ลืมไปเลย
   “มันจะให้แม่สอนทำกับข้าวครับ คืนนี้ว่าจะนอนโน่น ผมมาเอาเสื้อผ้า” ผมบอกไปล่ะครับ
   “อ้าวเหรอ พ่อรอเตะตระกร้ออยู่นะเนี่ย เมื่อกี๊เคนก็มาแล้วรอบหนึ่ง บอกจะมาใหม่”
   “ได้ครับ งั้นพ่อไปวอร์มรอเลยครับ ผมไปเปลี่ยนเสื้อแป๊บ” ผมบอกครับแล้ววิ่งขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาช่วยแกกางตาข่าย สักพักเพื่อนๆก็มา พวกผมเล่นอยู่จนค่ำล่ะครับ เหงื่อนี่ไหลตัวเปียกเลยนะ แต่ด้วยความที่มันเป็นหน้าหนาว เปียกไม่เท่าไหร่มันก็แห้งล่ะครับ
   “เฮ็ดหยังกินเอื้อย” ผมเดินไปยกกาน้ำชามาให้พ่อตาล่ะครับ เห็นเจ้แกง่วนอยู่กับการเตรียมกับข้าวอยู่
   “หมกไก่ใส่หัวปลี คุณอุ่นสิกินเข่าอยู่พู้นแม่นบ่เดี๋ยว เอื้อยว่าให้คุณปลัดไปกินพู้นล่ะ เพิ่นบ่เคยกินเข่าผู้เดียวเด้ บ่ย้านเพิ่นเหงาติ๊” เออนะ ลืมไปเลยครับ
   “แล้วเอื้อยเด้ สิไปกินนำกันบ่”
   “เอื้อยกินผู้เดียวสู่มื้อนั่นล่ะ เดี๋ยวหมกไก่กะแล้วล่ะ เพิ่นเฮ็ดหยังกินล่ะอยู่พู้นน่ะ”
   “เห็นแม่เพิ่นว่าสิเฮ็ดแจ่วแมงแคง กับแกงเห็ดเฟืองบ่บู้”
   “หวืยเนาะ เป็นตาแซ่บ ซวนปลัดไปกินพู้นล่ะ จั่งสิเป็นตากินแซ่บ” เจ้แกแนะนำครับ ผมเลยยกกาใส่ชาออกมาให้แก เพื่อนๆผมกลับไปแล้วครับ เพราะพอมันค่ำมันมืดเลยเถอะถึงจะค่ำช้าก็ตามที เกือบจะทุ่มแล้วครับ
   “พ่อไปกินข้าวที่บ้านผมไหมครับ วันนี้ไอ้เบบี๋มันทำกับข้าวเองนะครับ ปลัดกินคนเดียวเดี๋ยวจะเหงา” ผมชวนแกล่ะครับ แกก็ยกแก้วชาขึ้นจิบ
   “เอาสิ พ่อกำลังจะถามอยู่พอดี ไม่เคยกินคนเดียวมันแปลกๆจริงๆนั่นล่ะ”
   “เดี๋ยวผมติดไฟแสงสีหลังบ้านให้ด้วยครับ ฮ่าๆ สร้างบรรยากาศถือว่าเลี้ยงฉลองกันเล่นๆ”
   “งั้นพ่อเอาเหล้าไปสักขวดดีกว่าไหมลูกเดี๋ยว ชวนเพื่อนๆมากินด้วยสิไหนๆก็ไหนๆแล้ว” โอ้ พ่อตาแสนประเสริฐ กดโทรศัพท์ในทันทีครับ
   “กินปลาเผาด้วยไหมครับพ่อ” ถามไปงั้นล่ะครับ คือความตั้งใจอยากจะกินอยู่แล้ว เออวะ อาทิตย์นี้กินเลี้ยงกันบ่อยนะเนี่ย ไหนจะไปช่วยนาไอ้เล็กก็เสมือนกินเลี้ยงกรายๆ แล้วนี่พ่อตายังเสนอมาอีก สนองครับๆ
   “พ่อไปรอที่บ้านผมเลยนะครับ เดี๋ยวผมขอเก็บเสื้อผ้าก่อน” ผมบอกพ่อตาครับ แกบอกว่าแกจะไปอาบน้ำก่อน ผมก็ไม่ว่าอะไรเลยต้องไปก่อน พอไปถึงหน้าบ้านสัดเคนก็ยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าบ้านแล้วครับ แหมไวกว่ากูอีกไอ้นี่
   “บักไม้เด้” ผมร้องถามมันไป
   “มันไปเอาปลาค่อเฮือนบักเต้ เดี๋ยวกะมา ไปสุมไฟถ่าโลด” ดูมันครับ เออๆ
   “ว้าย นี่ไปไหนมาบักเดี๋ยว กลับมาเอาป่านนี้ จะแดกไหมข้าวน่ะ เห็นไหมลูกอุ่นมองทางตลอดเวลา นิสัยเลว โทรก็ไม่ติด อะไรของมึง” อ้าวๆ คุณแม่ผมกรี๊ดมาแต่ไกลครับ
   “ก็ปลัดเพิ่นซวนเตะตระกร้อเด้แม่ เนี่ยเพิ่นกะสิมากินเข่าเฮือนเฮานำ เตรียมต้อนฮับดีๆเปี่ยง จ่มหลายน้า”
   “ว้ายตาย พ่อๆ เรามีอะไรอีกไหมนอกจากแกงเห็ดกับแจ่วแมงแคงเนี่ย ว้ายไม่ได้นะ คุณปลัดจะมา แม่ไปดูหน้าก่อนนะ” เอ่อ แม่กูวิ่งขึ้นบนบ้านเลยครับ เปลี่ยนน้ำเสียงจากจะแดกกูเมื่อตะกี๊เป็นเสียงอ่อนเสียงหวาน ประหนึ่งดาราจะมาเยี่ยมบ้านครับ ผมเลยเดินทำหน้าเซ็งๆไปหาไอ้เบบี๋นอกบ้านล่ะครับ มันกำลังล้างเห็ดฟางอยู่
   “เตะตระกร้อเหรอ” มันถามครับ แน่ะ มองค้อนๆอีก
   “อือ เป็นไง ทำหร่อยป่ะ” ผมเข้าไปนั่งข้างๆมันครับ ไอ้โบ้นี่ก็วนเวียนอยู่แถวๆขามันนั่นล่ะครับ
   “ยังไม่ได้ทำเลย ก็เห็นเน่าไม่มาสักทีนี่” “อ้าว รอกูเหรอ ก็เห็นพ่ออยากเล่นตระกร้อนี่หว่า เลยเล่นเป็นเพื่อน งอนเหรอ” ผมเข้าไปกระแซะมันครับ มันยังคงค้อนอยู่
   “ไม่โทรมาบอกอ่ะ” “เออ กูขอโทษ คิดถึงกูเหรอเบบี๋” ผมจ้องหน้ามันครับ มันเริ่มอาย
   “บ้าเหรอ หิวดิ” “อ่ะๆ เอาให้แน่ๆ แต่กูคิดถึงมึงนะ” “ไปโน่นเลย ไปคั้นน้ำใบย่านางให้เลย พูดเยอะนะเน่า” มันอายครับ พอดีกับไอ้เคนมันเดินเข้ามา มันแวะไปคุยกับพ่อผมก่อนล่ะ
   “ไสล่ะหว่างสิตั้งโต๊ะ เอาใต้ห่มนี่ดีบ่” สัดเคนครับ มันหาทำเลอยู่
   “เออ หยับไปใกล้ๆโอ่งจั่กหน่อย นั่นล่ะ” ผมชี้ไปบอกจุดที่เหมาะสมครับ แล้วก็เดินเข้าบ้านไปรื้อเอาไฟแสงสีมาพันต้นไม้ พอดีไอ้เต้มาเลยช่วยกันกับมัน ส่วนสัดเคนกับสัดไม้จัดการปลาช่อนไปครับ
   “จะทำไรกันอ่ะเน่า” “เผาปลาดิ มึงทำแจ่วแมงแคงอร่อยๆนะ จะเอาจิ้มกะปลาเผาแกล้มเหล้า”
   “อ่า แล้วพรุ่งนี้ไมไปโรงเรียนไงอ่ะ” “ไปดิ แหมกะอีแค่เหล้าขวดเดียว ไม่เป็นไรหรอกน่า ไหนแม่ครัว ทำไงวะกับข้าวมึงน่ะ” ผมแถครับ เพราะมันทำตาโจใส่ผมอีกแล้ว
   “ให้ทำเลยเหรอ” “เออดิ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว หิวแล้วเนี่ย” “ไปคั้นน้ำใบย่านางให้ก่อนดิ จะโขลกพริก” ผมเลยไปทำให้มันครับพอดีติดไฟเสร็จ ว่าง่ายๆหน่อยเดี๋ยมันงอนขี้เกียจจะง้อ สัดเคนก็กำลังยกเตาอีกเตามาก่อไฟครับ ส่วนไอ้โจ้กับไอ้เล็กไมได้ชวนเพราะคิดว่าไอ้เล็กมันคงอยู่ช่วยแม่มัน ส่วนไอ้โจ้เหมือนแม่มันพาไปไหนนี่ล่ะ โทรไปแล้ว ตามใจวะ ดีซะอีกไม่มีตัวหารเยอะ
   “เป็นไงลูกอุ่น ไหนฝีมือเข้าท่าไหมเนี่ย” พ่อตามาแล้วครับ คุณแม่ผมยังไม่ลงมาจากบนบ้าน จะแต่งหน้าไปไหนเนี่ย มีพ่อผมรับหน้าอยู่ก่อน แต่พ่อตาแกบุกมาถึงหลังบ้าน
   “ยากเหมือนกันนะพ่อ พ่อชิมดูดิ” มันกำลังทำแกงเห็ดล่ะครับ มันตักน้ำแกงขึ้นมาแล้วเป่าให้ไอร้อนมันจางแล้วยื่นให้พ่อตา พ่อตาก็รับมาชิม
   “มันจืดไปนะพ่อว่า” “อุ่นยังไมได้ปรุงเถอะพ่อ อิอิ รอแม่มาปรุง” “อ้าว แล้วกันพ่อนึกว่าเสร็จแล้ว แล้วนั่นเผาอะไรกันล่ะลูก” พ่อตาเดินมาหาเพื่อนๆผมล่ะครับ
   “ปลาค่อครับปลัด เอ้ย ปลาช่อนครับ” สัดเคนครับ
   “มีปลาเผาจริงๆด้วยเหรอลูกเดี๋ยว อ่ะนี่ไม้ เอาก่อนเลย มีติดไฟด้วย อย่าหนักนักล่ะเดี๋ยวเมา พรุ่งนี้ไปโรงเรียนไม่ได้นะ” พ่อตาผมใจดีเนอะ ว่าป่ะ เพื่อนๆผมมันรักพ่อตาผมทั้งนั้นครับ ใครไม่รักก็บ้าแล้วล่ะแกใจดีขนาดนี้
   “ว้ายตายแล้ว คุณปลัดขา มานานแล้วเหรอคะ มาค่ะมา นั่งๆ เดี๋ยวกลิ่นอาหารจะติดเสื้อนะคะ พ่อๆ เอาเก้าอี้มา” มาแล้วครับ คุณนาย โอ้โห้ แต่งหน้ามาใหม่ ทำผมด้วย ใส่ตุ้มหูใหญ่ๆด้วย เอาครับเอา
   “รบกวนด้วยนะครับคุณสาวิตรี พอดีผมไม่ชินที่ต้องกินข้าวคนเดียวน่ะครับ”
   “ว้าย รบกงรบกวนอะไรกันคะคุณปลัด เป็นความยินดีมากค่ะ ยินดีมากๆที่ได้ต้อนรับคุณปลัดกับลูกอุ่น วันนี้ลูกอุ่นทำแกงเห็ดด้วยตัวเองนะคะ มีน้ำพริกแมลงแคงด้วย” แม่ผมเหมือนพริตตี้เนอะ ฮ่าๆ เล่นพูดเร็วรัวจนคุณปลัดอมยิ้ม
   “คุณแม่ครับ มาปรุงให้อุ่นหน่อย มันจืดไปหน่อยอ่ะครับ” ไอ้เบบี๋มันร้องรียกมาล่ะครับ
   “ไหนคะลูกอุ่น อื้ม ขาดปลาร้าค่า ใส่หน่อยนะคะจะได้แซ่บ” แม่ผมชิมแล้วก็หยิบกระปุกปลาร้าออกมาล่ะครับพอเสร็จก็ไปทำแจ่วแมงแคงต่อ ไอ้เบบี๋มันก็เป็นคนโขลกเองล่ะครับ ทำตามที่แม่ผมบอก เวลาปรุงแม่ผมก็ปรุงให้ ส่วนเพื่อนๆผมก็เผาปลากันสนุกสนาน ผมแยกออกไปตั้งวงกับเพื่อนๆครับ ปลาเผาใหม่ๆหวานๆกับเหล้านี่นะ อืมมันเข้ากันดีจังเลยวะ
   “คุณปลัดไม่เมาใช่ไหมคะ กลับได้ไหม พ่อขับรถไปส่งคุณปลัดหน่อยสิ” พอค่ำหน่อยอาหารก็หมดไปแล้วครับ เหลืออยู่ก็ปลาเผาแล้วก็วงเหล้า ทุกคนนั่งคุยกันอยู่แยกเป็นกลุ่มๆล่ะ กลุ่มของเด็กกับผู้ใหญ่
   “ไม่เมาครับ ไม่เป็นไรครับผมกลับเองได้ อากาศเย็นนะครับ อาบน้ำหรือยังล่ะลูกอุ่น เดี๋ยวไม่สบายนะ” คุณพ่อตาหันมาบอกไอ้เบบี๋ที่กำลังนั่งแทะเอาเนื้อปลาเผาไปจิ้มกับน้ำพริกล่ะครับ
   “ยังอ่ะ แต่มีน้ำอุ่นนี่พ่อ สบายมาก” มันบอกครับ ที่ไหนมีน้ำอุ่นวะ บ้านกูไม่มีนะเว้ย
   “ว้ายลูกอุ่น บ้านแม่ไม่มีน้ำอุ่นอาบนะคะ ถ้าจะอาบเดี๋ยวแม่ไปต้มให้” ฮ่าๆ มันทำหน้าแบบว่าเหมือนโดนหลอกครับ หน้าซีดลงทันที หันมาทางผม ผมก็ยักคิ้วให้มัน
   “อ่า แล้วจะอาบยังไงอ่ะ”
   “น้ำเย็นเขาก็อาบได้ เราไม่อาบแต่หัววันเองนี่” พ่อตาดุมันครับ มันเลยเงียบไป หันมาทำหน้ายักษ์ใส่ผมอีก อ้าวกูผิดว่างั้น ไม่ถามเองล่ะวะไอ้นี่
   “งั้นอุ่นไปอาบก่อนดีกว่า หนาวจะตาย” มันพูดครับแล้วลุกขึ้น ผู้ใหญ่ก็หัวเราะ พวกเรานั่งอีกสักพัก พ่อตาก็แยกกลับ เพื่อนๆผมก็ทยอยกลับแล้วครับ แต่ก่อนกลับผมก็บอกให้พวกมันเก็บกวาดกันก่อน เพราะคุณนายแม่คงด่าแน่ๆ
   “อาบแล้วเหรอ” ผมเดินขึ้นไปบนห้องเห็นไอ้เบบี๋มันนั่งสั่นอยู่ครับ
   “อือ หนาวอ่ะ เย็นมากๆ” ปากมันสั่นเลยนะครับ ผมเลยไปนั่งลงข้างๆมัน
   “อ่า ไม่กอดนะ ตัวเหม็นจะตาย ไปอาบน้ำก่อนดิ”
   “อ้าว มึงหนาวไม่ใช่ไง” “ก็หนาวอ่ะ ห่มผ้ารอก็ได้นี่ ไปอาบน้ำเลยเน่า อย่ามาเนียน” สัด รู้ทันกูอีก กูว่าจะซักแห้งสักหน่อย แหมนะ เออๆ อาบก็ได้วะ ผมเลยหยิบผ้าเช็ดตัวออกจากห้องไปล่ะครับ คือว่าน้ำในตุ่มในห้องน้ำนี่มันแบบว่า เย็นจริงอะไรจริงนะครับท่าน พอน้ำราดตัวมันมีไอขึ้นมาเลยล่ะ ผมยืนทำใจอยู่นานกว่าจะเอาน้ำราดตัวได้ พอน้ำราดตัวก็สะดุ้งขนลุกเลยทีเดียว ผมอาบน้ำไม่นานครับ มันเป็นผลเสียต่อสุขภาพ ฮ่าๆ อาบพอรู้ว่าอาบพอ แล้วผมก็รีบขึ้นไปบนห้อง
   “หา ไวจังอ่ะ อาบจริงเหรอเน่า” ไอ้เบบี๋มันทำหน้าเหวอๆ
   “อาบจริงดิ กูอาบเร็ว” ผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะครับ ยืนนานแข็งตายแน่ๆ
   “สาดใส่ผนังห้องน้ำป่ะเนี่ย เร็วเกิน” “อ้าวไอ้นี่ อาบจริงดิวะ มาดมดูดิ” ผมท้าทายมันครับ มันก็ทำหน้าเบะๆ
   “มากอดกัน หนาว” พอผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็กระโดดขึ้นเตียงกอดมันทันที
   “ตัวเย็นอ่ะ” “จิ๊ ก็กูเพิ่งจะอาบน้ำมานี่หว่า” มันยึกยักครับ แต่ผมก็กอดไว้ล่ะ
   “ใกล้ปีใหม่แล้วเนอะเน่า ไปเที่ยวกันไหม” มันถามขึ้นครับ ผมกำลังนัวได้ที่เลย
   “ไปไหนล่ะ ปีใหม่ก็เลี้ยงกันที่บ้านไง ไม่มีใครไปไหนหรอก”
   “อืม แต่อยากไปนอนนาอีกนะ สนุกดี” “นอนๆ อย่าเพ้อ หันหน้ามาหากูนี่ หันก้นให้เดี๋ยวกูก็อัดเอาอีกหรอก” ผมขู่มันครับ มันรีบหันมาทันที
   “เอะอะก็จะเอานะ หนาวจะตาย”
   “หนาวนี่ล่ะกอดกันอุ่นล่ะ” “เออ แล้วไอ้โบ้ล่ะ มันนอนที่ไหน” ดูเอาครับ ยังไปห่วงหมาอีก
   “นอนนอกบ้านดิ มันมีหน้าที่เฝ้าบ้านนะ”
   “อ่า หนาวนะ ให้มันมานอนบนห้องไม่ได้เหรอ”
   “บ้าป่ะมึง เดี๋ยวมันเอาเห็บมาติดมึงหรอก สกปรก”
   “มันอาบน้ำแล้วเถอะ แล้วมันมีผ้าห่มไหมอ่ะเน่า”
   “จิ๊ นอนๆ มึงนี่บ้านะเนี่ย” ผมกดหัวมันเข้าหาบ่าของตัวเองล่ะครับ ถ้าปล่อยให้มันพูดต่อท่าทางยาว ผมกดคอมันไว้แบบนั้นจนมันค่อยๆนิ่งไป ผมจึงคลายมือ มันหลับแล้วครับ ผมก็กำลังปรือๆ นอนกอดมันจนหลับไปทั้งอย่างนั้น
   “ปังๆ ตื่นหรือยังลูกอุ่น สายแล้วนะคะ” เสียงแม่ผมทุบประตูล่ะครับ ผมสะดุ้งตื่นขึ้น ไอ้เบบี๋ก็เหมือนกัน
   “โอ้ย อีหยังแม่ นอนอยู่เด้เนี่ย” ผมโวยวายออกไปครับ
   “มึงจะนอนเอาพระแสงอะไรค้าบักเดี๋ยว นี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วนะ”
   “หา เจ็ดโมงกว่า” รู้ใช่ไหมว่าต่อไปเป็นยังไง วิ่งเลยครับทั้งสองคน แต่ก็ไม่ได้แย่งกันใช้ห้องน้ำหรอกนะ เพราะปกติกูกับมันก็เข้าพร้อมกัน แต่ก็นะกว่าจะเสร็จ แปดโมงครับท่าน เอาล่ะสิ ไม่ได้ไปสายนานแล้วนะเนี่ย
   “ไม่อาบน้ำเหรอเน่า ไรอ่ะ” ไอ้เบบี๋มันร้องขึ้นล่ะครับ อะไรวะ คนยิ่งรีบๆอยู่นะโว้ย
   “ไม่อาบ สายแล้วเนี่ย ซักแห้งไง” “อ่า น่าเกลียด” “แล้วมึงล่ะ ไม่อาบไง” แหมนะ ทำมาเป็นว่าคนอื่นตัวเองยืนเหมือนสวดมนต์อยู่นะนั่น
   “มันเย็นอ่ะ” “เร็วๆเลย สายแล้วเนี่ย กูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ อิอิ” วิ่งออกไปเลยครับไม่รอมันหรอก เดี๋ยวมันก็รบเร้าให้อาบน้ำจนได้สิ ผมรีบใส่เสื้อผ้า อ้อ ถ้าริที่จะไม่อาบน้ำต้องทำให้เนียนนะครับพี่น้อง เอาน้ำลูบผม ลูบแขนลูบขาหน่อยนะเว้ย อิอิ
   “อ้าว ไมอาบไวจังวะ นั่น อย่าบอกนะว่าไม่อาบเหมือนกัน”
   “พูดเยอะนะเน่า ไรอ่ะ ก็ตัวเองอ่ะพาไม่อาบ อิอิ ทาแป้งเยอะๆหน่อยก็แล้วกัน” ดูมันครับ แหมทำเนียนๆ
   “ว่าแต่กูนะมึง ฮ่าๆ ไอ้เน่าเมียไอ้เน่า” ผมหัวเราะครับ
   “ผลั่ก” “เฮ้ย สัด” เอ่อ ไม่อยากจะเชื่อครับ มันถีบก้นผมหัวขะมำเลยครับ ดีนะที่มีเตียงผมล้มลงกับเตียง
   “นี่แน่ ล้อดีนัก” “มึงตาย” “แม่ ไอ้เน่าจะตีอุ่น” มันวิ่งออกจากห้องไปครับ มีผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้ มันคว้าเสื้อกับกางเกงติดมือไป หนอยแน่ กล้ามากนะมึงที่ถีบผัว
   “อะไรกันๆ อะไรบักเดี๋ยว มึงจะทำอะไรลูกอุ่น” แม่ก็นะ ไวมากครับ มายืนเหมือนแอบฟังเลยนะ ตอนนี้มันไปหลบอยู่หลังแม่ผมแล้วครับ ผมนี่กัดฟันกรอดๆ
   “แม่ถามมันเบิ่งเปี่ยง มันถีบเดี๋ยวเด้” “ก็เน่าล้ออุ่นอ่ะแม่ ล้อไม่เลิกเองนี่” ดูครับดูลอยหน้าลอยตา
   “นี่ล่ะ ปากไม่ดีนัก ดีแล้วล่ะลูกอุ่น มันจะได้จำ คราวหลังจะได้ไม่มาล้ออีก ตายแล้ว ยังไม่ใส่เสื้อผ้าด้วย รีบใส่เร็วค่ะ เดี๋ยวไม่สบาย แม่ให้พ่อไปซื้อโจ๊กมาให้ รีบไปกินนะคะ”
   “แม่ นี่ลูกเด้ เป็นหยังลำเอียงแท้” ผมโวยวายครับ
   “โวยวายไร อย่ามาหือนะ มึงไม่ต้องกินนะโจ๊กน่ะ เสียของ อะไรรังแกลูกอุ่นได้ไง” แม่ผมถลึงตาใส่ ผมกัดปากตัวเอง หนอยแน่ มึงนะมึง คอยดูกูจะจัดหนัก
   “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องแม่ก็ได้ลูก ท่าทางไอ้นี่มันจะกัดไม่ปล่อย ป่ะค่ะ” โอ้ย เจ็บปวด ผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรอมันอยู่ข้างล่างล่ะครับ ไม่นานมันก็ลงมา แม่ผมก็ประคับประคองมันอยู่ โอ้ย หมั่นไส้
   “กวนตีนนะมึง ตายแน่” ผมกัดฟันพูดครับ ยักคิ้วให้มัน มันทำยังไงรู้ไหม
   “แม่ เดี๋ยวจะบอกไรแม่อ่ะ” “ไร มีไรยะ” แสบมากเมียกู ฮึ่ม เออ ทนไว้ๆ
   “บ่มีหยัง มื้อนี้ขอเงินเพิ่มเด้อแม่ มีสองคนแล้วเด้” ผมแถไปเรื่องอื่นครับ เผื่อได้
   “เออใช่ วันนี้แม่ให้ลูกอุ่นถือเงินนะคะ เอานี่ค่ะ สองร้อย เอ๊ะ พอไหมเนี่ย เผื่อลูกอุ่นอยากทานของหวาน อ่ะแม่ให้สี่ร้อยเลย” “ป้าด โพดหลายแม่ อีหยังเนี่ย ลูกเจ้าของให้มื้อละซาว โอ้ย ลำเอียงเด้คนเฮา” ผมอึ้งครับ ไม่อยากจะเชื่อ ว่าคุณนายแม่ที่เค็มประหนึ่งเกลือในทะเลจะใจปั้มขนาดนี้
   “เอ๊ะ ไอ้นี่ มึงน่ะ ทำตัวดีๆ เข้าใจไหม ลูกอุ่นขา ถ้าไอ้เดี๋ยวมันทำตัวไม่ดี อย่าให้มันใช้เงินด้วยนะคะ มันทำอะไรมาบอกแม่เลย แม่จะจัดการ” ปวดใจจังครับท่าน ผมน้อยใจล่ะ ไรวะ
   “ไปเองละกันนะมึง” พอกินข้าวเสร็จ ผมก็รีบเดินออกไปคว้าคุณปู่ล่ะครับ มันเหมือนจะรู้รีบเดินตามมา
   “ไรอ่ะ จะให้ไปไง” “เหาะไปดิ แม่งเก่งนักนะมึง” “ไม่ให้ไปด้วย ก็ไม่ไปโรงเรียนอ่ะ” “ซี๊ด” มันไม่กลัวเลยครับ
   “เชี่ย ขี้โกงนะมึง ถีบกูก็ทีหนึ่งล่ะ ไหนจะออเซาะแม่กูอีก หนอยแน่ มึงตายแน่”
   “ไรอ่ะ แค่นี้ก็งอน” “งอนเชี่ย ไรดูมึงทำดิ๊ กูผัวมึงนะ ทำงี้ได้ไง” ไม่ยอมครับ โมโหจริงล่ะ
   “ก็ขอโทษอ่ะ ก็เน่าล้อไมอ่ะ” “ไม ล้อไมได้ไง ทีมึงล้อกูกูยังไม่ทำไรมึงเลย พอคบกันตบตีสักหน่อยกูก็ไม่ทำ แล้วดูมึงดิ๊ เชี่ยไรเนี่ย” มันนิ่งครับ ผมก็จ้อง ไม่ยอมล่ะวะงานนี้ แม่งทำมาได้ถีบกูเนี่ยนะ
   “แล้วจะให้ทำไงอ่ะ ถึงจะไม่โกรธ ถีบคืนไหมอ่ะ ขอโทษ” มันเม้มปากครับ น้ำตาคลอ อ้าวสัด แค่นี้ก็เรียกน้ำตา
   “อย่าๆ อย่ามาทำสำออย มึงมันร้ายกูรู้”
   “ทำคืนดิ ให้ต่อยก็ได้อ่ะ แต่ไม่โกรธไมได้เหรอ ไม่ได้ตั้งใจทำนะ” อ้าวสัด มันร้องไห้จริงครับ อะไรของมันวะเนี่ย
   “เชี่ย แค่นี้ก็ร้องไห้ จะไปไหมโรงเรียนน่ะ” ผมตวาดมันไป แล้วก็หันหลังให้เลยครับ มันก็ขึ้นมาซ้อนท้าย กอดเอวผม ตอนแรกว่าจะปัดออกแต่ก็นะ จะว่าไปเรื่องแค่นี้ผมไมได้โกรธมันหรอกนะครับ แค่หมั่นไส้มันเท่านั้นล่ะ
   “หายยังอ่ะ” เอ่อ ได้ข่าวพึ่งจะพ้นบริเวณบ้านมาเองนะ
   “ให้ทำไงอ่ะ เน่าถึงจะหาย” มันสะอื้นครับ ใจเริ่มสั่นแล้วกู มันกอดผมแน่นเลยนะครับ อยากจะหันไปปลอบมันจัง บอกว่ากูไมได้โกรธ แต่ก็นะ แกล้งมันหน่อยครับ อิอิ คราวหลังมันจะได้เคารพผัว ได้ไงวะมาถีบผัวเนี่ย ไม่ได้ๆ
   “เน่ายังโกรธอยู่เหรอ” มันยังถามอยู่ครับ
   “เงียบหน่อยได้ไหมวะ เซ้าซี้จัง” “ฮือๆ” อ้าว ร้องไห้ใหญ่เลยครับ ผมเลยจอดรถข้างทาง
   “เป็นไร ทีแบบนี้มาร้องไห้ ตอนทำล่ะ คิดอะไรอยู่ หา”
   “ก็ไมได้ตั้งใจอ่ะ เน่าถีบคืนดิ ต่อยก็ได้ แต่หายโกรธได้ไหม”
   “พอได้แล้ว หยุดร้องซะที เนี่ยไปโรงเรียนสายแล้ว มึงรู้ไหม” มันเม้มปากแน่นครับ แล้วระหว่างทางมันก็ไม่กอดผมอีกเลย แต่ผมเองก็รับรู้ได้ถึงความสั่นของตัวมันจากแรงสะอื้น
   “เฮ้ย มึงน่ะ” พอถึงหน้าโรงเรียน คือเขาเลิกแถวกันไปแล้วล่ะนะครับ เข้าเรียนกันหมดแล้ว แต่ก็ต้องจอดรถหน้าทางเข้าเพื่อทำประวัติชั่ว อิอิ
   “มึงอยากให้กูหายโกรธไหม” ผมถามมันครับ มันหันมายิ้มทันที
   “ทำไรอ่ะ” “ให้กูเอา สามครั้งติด เคป่ะ” ผมยักคิ้วให้มันต่อกันสองทีครับ มันอ้าปากจะด่าผม แต่ผมหันไปทางอื่น อิอิ ผลพลอยได้ ช่วยไมได้
   “อ่า ขี้โกง” มันร้องตามหลังมาครับ
   “งั้น ห้า” “อ่า” “ยิ่งพูดยิ่งเพิ่ม เอาดิ ไม่เชื่อมึงคอยดู” มันอึ้งไปครับ ส่วนผมหัวเราะอย่างมีความสุข ฮ่าๆ

เขียนโดย อิ้กกี้

ปล. อิอิ หลังจากกลับจากเที่ยวก็มาลงให้เน้ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ พักนี้ขี้เกียจหน่อย แต่จะพยายามนะคร้าบ
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 13-09-2012 20:33:58
เดี๋ยว  นี่แน่นอนจริง ๆ  :laugh: :m20: :m25:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 13-09-2012 20:40:55
ครอบครัวตัวเน่า ไม่อาบน้ำทั้งคู่เลยทีนี้ หึหึ  :m4: :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 13-09-2012 20:51:54
น่ารักจังเลย อ่านแล้วเขิล , มาต่อไว ๆ นะครับ
คิดถึงพี่อิ๊ก (:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-09-2012 21:01:27
เดี๋ยวแรงดีอย่างนี้  อุ่นจะไหวเหรอ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 13-09-2012 21:08:12
อุ๊ย น่ารักวุ้ย เน่าด้วยกันเลยตอนนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 13-09-2012 21:47:40
ชอบอ่ะเห็นไอ้เน่างอน555
สงสัยมาสักพัก ตอนอุ่นเล่าจะเป็น Don't call me baby
ของเดี๋ยวเป็น You're my baby ใช่มั้ยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-09-2012 22:03:39
น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 13-09-2012 22:13:24
จะแกล้งเขากับโดนเขาหื่นใส่ คุ้มไหมนี่นู๋อุ่น
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 14-09-2012 01:16:36
+1 :o8: น่ารักอ่ะอิอิ ชอบบรรยากาศมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 14-09-2012 10:08:49
น่ารักมากๆๆ หายไปนาน ไปชาตแบตมานี่เอง เขียนได้น่ารักมากมาย
อุ่นยอมเลยลูก 5 ครั้ง สู้ตายคร๊า อย่ายอมแพ้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-09-2012 10:51:32
สงสารอุ่น  :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 14-09-2012 11:01:10
มาแล้วววว เดี่ยวกับหนูอุ่น น่ารักกก o13

หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-09-2012 11:09:37
นู๋อุ่นโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 14-09-2012 12:40:28
 :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-09-2012 13:14:31
น้องอุ่นเสียเปรียบเลยงานนี้
ต้องไปเรียนวิชาปราบเดี๋ยวจากแม่
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 14-09-2012 17:01:48
แกล้งกันไปมา เดี๋ยวงอนซะนี่ ไม่มีใครเข้าข้าง :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-09-2012 18:32:02
รอจ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 17-09-2012 05:40:43
เน่าคู่เลยทีนี้ :laugh:

คราวหลังก็อย่าถีบบักเดี๋ยวอีกนะ เดี๋ยวโดนเอาคืนหนักเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-09-2012 09:14:32
เดี๋ยวนี้.... เดี๋ยวร้ายนะ 5555+
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 27 Version (Dio) 13 September 12 หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 18-09-2012 20:54:26
คุณแม่ได้ใจปลื้มลูกสะใภ้สุด ๆ ...เค้าดองกันเหนียวแน่นไปแล้ว...
เจ้าเดี๋ยวมีงอน..ต้องให้เมียง้อด้วย... มารยาเกินร้อยนะจ๊ะ..
นู๋อุ่นตามไม่ทันเจ้าเน่าอีกแล้วว.. :laugh:

 :กอด1: น้องอิ๊ก  :L2:


หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 19-09-2012 13:35:19
Don’t call Me BaBy!!

อ่านะ งอนก็เป็นด้วยคนเรา ไม่คิดว่ามันจะงอนเรื่องนี้อ่ะ อิอิ ผมเองก็ลืมตัวไปเถอะ ชอบล้อดีนักเจอถีบซะเลย แต่ก็นะ ดูมันพูดเข้าสิ ไอ้นี่ท่าจะบ้า ผมรีบเดินเข้าห้องไปทันทีครับ ป่านนี้เขาเรียนคาบแรกไปแล้วเถอะ
   “คือมาสวยล่ะมื้อนี้ เมื่อคืนจัดหนักเบาะอุ่น” เล็กมันถามครับ ผมแอบเข้าไปตอนที่อาจารย์หันเข้ากระดาน
   “อือ นอนเพลินไปหน่อยน่ะ ถึงไหนแล้ว” ผมรีบเปิดกระเป๋าเอาหนังสือกับสมุดออกมาล่ะครับ
   “อุ่นๆ เลิกเรียนแล้วไปซื้อของขวญบ่” จอยมันยื่นหน้ามาล่ะครับ
   “หือ ของขวัญไรอ่ะ” ผมงงครับ
   “ฮ่วยกะของขวญคริสต์มาสเด้ สิฮอดมื้อแล้วเด้ล่ะ” ผมพยักหน้าครับ
   “นี่พวกเธอน่ะ จะคุยกันอีกนานไหมคะ ครูสอนอยู่นะ” เงียบกันไปทันที ต่างก็ก้มหน้าลงทันทีครับ ระหว่างคาบเรียนก็ไม่มีอะไรมากครับ เรียนไปหนาวไป ลมหนาวนี่มันมาตลอดเวลาเลย ทุกคนในห้องสวมเสื้อกันหนาวกันทุกคน
   “กินหยังฮ้อนๆดีกั่วเนาะ” พอเที่ยงจอยก็เดินนำเราไปที่โรงอาหารล่ะครับ
   “มันเซาหนาวแล้วเด้ล่ะ พวมฮ้อน” เล็กมันบอกล่ะครับ ตอนเที่ยงนี่ไม่เท่าไหร่แดดเริ่มร้อน เล็กมันถอดเสื้อแล้วครับ
   “เออ เมื่อคืนจอยไปไหนเหรอ ไม่เห็นไปกินข้าวกับพวกเราเลย”
   “อ้อ เมื่อคืนแม่เพิ่นพาไปเฮือนป้า เพิ่นสิเฮ็ดบุญเฮือน” หือ ผมทำตาแบบว่าสนใจครับ
   “ทำไมอ่ะ” “งูสิงเข้าเฮือนเพิ่น” งงครับ ผมเลยหันไปหาเล็ก ไอ้นั่นก็ไม่สนใจวิ่งไปหาพวกนายไม้ที่เดินมาแล้ว อ่า ไอ้เน่ามันปรี่มาหาผมแล้วครับ
   “นั่น มึงจะไปไหน” มันจับแขนผมไว้ครับ
   “ไรอ่ะ ก็ไปกินข้าวไง ไม่กินข้าวเหรอเน่าอ่ะ” มันยักคิ้วให้ผมครับ เห็นหน้ามันแล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องที่มันพูด
   “แดกดิ มานี่เลย เดินหนีไปไหน กลัวเหรอ ไม่ต้องกลัว กูจัดหนักแน่ๆ ไอ้เบบี๋” ดูมันทำนะครับ ไอ้บ้า อายเป็นบ้างเถอะ มันเอาหน้ามาล้อเลียนผมครับ เพื่อนๆก็แซวขึ้นทันที
   “หวืย ซาดหวานกันเนาะสู สิกินบ่เข่าน่ะ” นายเคนมันแซวครับ
   “แม่นๆอ้าย เมื่อคืนกะส่งสายตากันโพดพะโล ตาหลูโตนน้องนุ่งแน่อ้ายเดี๋ยว” น้องเต้ครับ
   “ไปกินข้าวเถอะจอย พูดไรไม่รู้” ผมรีบเดินไปดึงแขนจอยล่ะครับ เหมือนกับจะอ้าปากเลยนะจอย แหมๆ เผลอไม่ได้เลยนะ ผมอายจนหน้าแดง เดินไปก่อนแล้วครับ เสียงหัวเราะเสียงแซวก็ดังตามหลังมา พอกลุ่มเราเดินไปทางไหนคนก็จะมองล่ะครับ เสียงทักทายกับคนนั้นคนนี้ในกลุ่มดังอยู่ไม่ขาดสาย
   “เน่าๆ งูสิงเข้าบ้านนี่ต้องทำบุญเหรอ” พอมาถึงโรงอาหารผมก็เดินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วมานั่งล่ะครับ ไอ้เน่ามันก็กินเหมือนผม ตอนนี้เพื่อนๆเดินไปเลือกอาหาร ผมเลยถามมันล่ะครับ
   “อืม บ้านป้าสาวจอยน่ะเหรอ” ผมรีบพยักหน้าครับ
   “คนอีสานเขาจะเชื่อแบบนี้ล่ะ เขาเชื่อว่ามันเป็นลางไม่ดี ต้องทำบุญบ้าน” มันอธิบายครับ ผมพยักหน้า
   “อยากไปดูเหรอ” ผมยิ้มทันทีครับ มันเข้าใจผมนะเนี่ยเห็นกวนๆแบบนี้ก็เถอะ
   “ไม่ต้องไปหรอก มึงลืมไงว่าคืนนี้มึงติดค้างอะไรกูไว้” มันยักคิ้วให้ผมครับ อ่านะ ไอ้บ้า ผมรีบหันหน้าหนีทันที
   “ห้ามอิ๊อ๊ะ ตูดบวมแน่ๆมึง ฮ่าๆ” “ไรอ่ะ ไม่ให้ทำหรอกนะเน่า” “สัดไม่ให้ทำ กูไม่หายงอนเว้ย จะเอาไง” อ่านะ มีงี้ด้วย ผมเม้มปาก ไม่รู้จะโต้ตอบมันยังไง
   “บ้าเหรอ ไหวเหรอเน่าอ่ะ อิอิ” อ่า อุรดิศ ทำไมพูดแบบนั้น
   “นั่น งั้นกินข้าวเสร็จไปห้องน้ำในยิมป่ะล่ะ ดีเหมือนกัน จะเอาน้ำแรก”
   “บ้าเหรอ กินไปดิข้าวน่ะ” ผมไม่ไหวครับ สู้มันไมได้ จะทำยังไงดีอ่ะ ผมจะทำยังไงถึงจะรอดไปได้ บ้าเหรอ ถ้ามันจะทำอย่างที่มันบอก ผมตายแน่ๆ ห้ารอบเชียวนะ อีกอย่างไอ้เน่ามันไม่เคยทำไม่ได้อย่างที่มันพูดนะ ตายล่ะสิกู
   “กินไวแท้อุ่น” “สี่ได้ไหมอ่ะ” อ่า โอ้ย ดูเอานะ ผมหลุดปากออกมา ไอ้เน่ามันหันมามองแล้วหัวเราะเสียงดังเลยนะครับ จอยและเพื่อนๆหันมามองหน้าผม จอยเหมือนจะอ้าปากถามแต่ก็หันไปมองเพื่อนๆแล้วอมยิ้ม อ่า อายจัง
   “อีหยังน้อ สี่ได้บ่น่ะ อิอิ” นายเคนครับ ผมรีบกินก๋วยเตี๋ยวแล้วรีบเดินหนีไปเลย อายเถอะ
   “อุ่นๆ ซาดย่างไวเนาะ เฮาหาอยู่ตั้งโดน มาอยู่นี่เบาะ” จอยมันตามมาล่ะครับ ผมเดินมาที่ห้องสมุดไมได้มาอ่านอะไรหรอก หามุมหลบความอาย
   “อืม” ผมครางออกไปครับ จอยมันนั่งลงข้างๆผม
   “หว่างฮั่นเฮาพ้อจารย์พร เพิ่นให้อุ่นไปหา เฮาว่าเรื่องงานวันคริสต์มาสนั่นล่ะ” ผมหันขวับทันทีครับ จะอะไรกับกูอีกเนี่ย ผมทำหน้าเซ็งๆ
   “ป่ะ เดี๋ยวเฮาพาไป เพิ่นบอกว่าเพิ่นสิถ่าอยู่เทิงห้อง” จอยมันลากแขนผมไปจนได้ล่ะครับ ผมก็หน้าหงิกไปตามประสา พอเดินขึ้นตกไปเด็กๆก็แซว เออ ทำไมมาแซวกูวะเนี่ย
   “มาแล้วเหรออุรดิศ มาๆนั่งๆ” ผมยกมือไหว้แกล่ะครับ สีหน้านี่มีอะไรให้ผมทำแน่ๆเลย
   “ครับจารย์ มีไรหรือเปล่าครับ”
   “มีสิจ๊ะ ก็งานวันคริสต์มาสไง ครูจะให้เธอร้องเพลง”
   “หา ผมร้องไม่เป็นครับจารย์” ผมรีบบอกปัดไปครับ
   “อะไรกันคะอุรดิศ ร้องเพลงนะไมได้ไถนา ไมได้ยากเลยค่ะ หรือจะเป็นพิธีกรให้ครู” ผมหันไปหาจอยทันทีครับ
   “ฮ้องเพลงดีกั่วอุ่น คราวเดียวหนึ่ง” จอยมันบอกครับ ผมเครียดเลย ร้องเพลง? เคยร้องที่ไหนล่ะกู
   “แต่ผมร้องไม่เป็นจริงๆนะครับจารย์ มีคนเก่งๆเยอะกว่าผมอีก พิธีกรผมก็ไม่เคยพูดอ่ะ” ผมครางออกมา
   “แหมอุรดิศคะ อย่ามาแอ๊บหน่อยเลย ครูดูก็รู้ว่าเธอน่ะมีแวว” แวว? แววมยุราน่ะสิทีมี ไรไม่รู้โอ้ย
   “อย่าทำหน้าแบบนั้น เอาเป็นว่าอุรดิศร้องเพลงให้ครูก็แล้วกัน เปิดงานเลยนะ เด่นสุดๆ มีเวลาอีกตั้งอาทิตย์มีเวลาถมเถที่จะฝึก ไปได้แล้วจ๊ะ มีแค่นี้ล่ะ” เอ่อ ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก ผมหน้ามุ่ยลงทันทีครับ
   “ไรอ่ะ เราจะร้องเพลงอะไรล่ะ ไม่เคยร้องเถอะ โอ้ย หาเรื่องให้ขายหน้าเขาอีกแล้วนะ” ผมบ่นออกมาครับ
   “บ่เป็นหยังดอกน่า ไสลองฮ้องให้เฮาฟังแน่” นะ จอยก็ยุเหลือเกิน
   “ร้องไรอ่ะ ไม่เคยร้องเถอะจอย ตายแน่ๆ โอ้ย เครียดๆ” ผมเดินนำไปก่อนครับ พอเข้าเรียนก็หน้าเครียดทั้งวัน
   “ป่ะไปซื้อของขวญ” จอยมันชวนครับ
   “อีกตั้งอาทิตย์ไม่ใช่เหรอจอย กว่าจะถึงวันงาน”
   “ไปเลือกไว้เด้เนาะ เฮาขี้คร้านเมือ อากาศยามแลงดีกะด้อ” อืมนะ จริงของมัน แดดอ่อนๆสีส้มๆ ใบไม้สีเหลืองๆที่ปลิวตามลมหลุดมาจากต้น มันสวยดีนะผมก็ชอบ
   “ไปบิ๊กซีอ่ะเหรอ” ผมถามครับ จอยรีบพยักหน้า ผมเลยเดินไปที่โรงรถ รอสามี เอ้ย รอไอ้เน่าครับ นั่นๆมาแล้ว มาพร้อมๆกับเพื่อนๆในกลุ่มล่ะครับ
   “มารอผัวแต่วันเชียวนะ อยากมากเหรอจ๊ะเมียจ๋า” ดูมันนะครับ แหมนะ
   “ไรอ่ะ จอยชวนไปดูของขวัญวันคริสต์มาสอ่ะ ไปป่าวเน่า” ผมบอกมันไปครับ
   “ไร กว่าจะถึงวัน รีบไปไหนเนี่ย” “ก็บรรยากาศดีๆไง ไม่อยากรีบกลับ”
   “จิ๊ ไปไสเกาะจอย” มันหันไปถามจอยที่กำลังจะปีนขึ้นรถน้องโจ้ล่ะครับ
   “ว่าสิไปเบิ่งอยู่บิ๊กซี ห่ามีแนวเป็นตาเอา” พวกเราก็ออกมาจากโณงเรียนล่ะครับ เฮโลตามกันไป
   “เน่า จารย์พรให้ร้องเพลงวันงานด้วยอ่ะ” ผมบอกมันตอนที่เราขับตามเพื่อนๆมาล่ะครับ
   “เพลงไรวะ” มันหันมาถาม
   “ไม่รู้อ่ะ จารย์บอกให้ไปฝึกมา เราไม่เคยร้องเพลงเถอะ”
   “ฮ่าๆ มึงเนี่ยนะจะร้องเพลง ครางล่ะน่าจะดีกว่านะกูว่า” นั่น ดูเอานะครับ ผมต่อยหลังมันทันที มันก็เบรกรถผมก็เลยรีบคว้าเอวมันไว้ มันก็ออกรถอีกเบรกอีก โมโห
   “กินลูกชิ้นปิ้งป่ะเบบี๋” พอถึงหน้าห้างไอ้เน่ามันก็จอดให้ผมลงก่อนล่ะครับ ส่วนมันก็ขับรถไปที่จอดรถ ผมเดินไปหาจอยที่ลงก่อนหน้าผมแล้ว มันจอดรถเสร็จมันก็เดินมาหา
   “อืม ไหนอ่ะ” ผมมองเข้าไปในทางเข้าห้างล่ะครับ
   “นั่นไง” “อยากกินคือกัน ป่ะอุ่น” จอยมันบอกครับ เราเลยไปยืนล้อมรถเข็นของลุง พอกินเสร็จก็เดินเข้าไปในห้าง เสียงเพื่อนๆแซวกันโหวกเหวกอะไรกันไม่รู้
   “จอยว่าเอาเพลงไหนดีอ่ะ” ผมก็นะ มันอดไม่ได้หรอกนะครับที่จะไม่กังวล เผลอถามออกจนได้ล่ะ
   “เดี๋ยวเฮาคึดซ่อย มื้ออื่นสิมาบอก ไปลองหาเบิ่งก่อน อุ่นใซ้เสียงได้ซ่ำได๋ล่ะ”
   “ไม่ได้เลยเถอะ ไม่เคยร้อง ร้องเพลงคริสต์มาสเลยดีไหม We wish you a very Christmas ผมร้องออกมาล่ะครับ”
   “ป้าด เสียงดีอยู่เด้ล่ะอุ่น” ตรงไหนเนี่ย ผมหัวเราะออกมาเลยครับ
   “ไรอ่ะจอย บ้าเหรอ แค่ประโยคเดียวเนี่ยนะบอกว่าเราเสียงดี”
   “เสียงดีอีหลีเด้ล่ะ บ่เซื่อถามเดี๋ยวเบิ่งติ๊” “ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวมันล้อ เมื่อกี๊ก็เพิ่งจะล้อมา เรารีบไปดูของดีกว่าป่ะ” ผมชวนออกนอกเรื่องไปล่ะครับ ไปบอกมันดิ มันจะได้ล้อสามวันเจ็ดวันเหมือนใครที่ไหนล่ะนั่นน่ะ พวกเราเดินไปตามล็อกต่างๆล่ะครับ ไม่มีของที่อยากได้เถอะ มันเป็นของตลาดๆ หมายความว่าที่ไหนก็มีขายอ่ะ ไม่รู้จะซื้อไปให้ใคร
   “บ่มีแนวอยากได้เลยบ่อุ่น” “ฮื่อ ไม่เห็นมีไรน่าสนใจเลยอ่ะ จอยล่ะดูไรไว้”
   “เฮาว่าสิซื้อกางเกงขาสั้นนั่นล่ะ ให้บักโจ้ แล้วเฮาเองกะว่าสิซื้อโปโลใส่จักโต อุ่นบ่ไปเบิ่งให้ไอ้เดี๋ยวแน่บ่” อืมเนอะ ผมเลยเดินกลับไปที่แผนกเสื้อ้ผาผู้ชายอีกครั้งครับ ไอ้เน่ามันก็เดินอยู่กับนายไม้ คุยอะไรกันไม่รู้ ส่วนที่เหลือก็เจี้ยวจ้าวไปตามประสา ผมเลือกซื้อกางเกงในให้มันล่ะครับแพ็กหนึ่ง เพราะของเก่ามันย้วยหมดล่ะ มันใส่ของผมไม่ได้ด้วยเพราะของผมเอวเล็กกว่า
   “เน่าไปดูพระอาทิตย์ตกป่ะ” พอเราแยกจากเพื่อนผมก็ชวนมันครับ ยังไม่เย็นมากนัก
   “ไปดูไหนล่ะ ขี้เกียจขับรถ รีบกลับเลยๆ”
   “รีบกลับไปทำไมอ่ะ ไม่มีอะไรทำซะหน่อย”
   “นั่น ลืมเหรอจ๊ะเมียจ๋า” อ่านะ พอมันทำเสียงแบบนี้ขึ้นมาผมถึงจำได้ครับ
   “บ้าเหรอ” “บ้าไร นี่ไงตอนกูเอามึงก็ฝึกร้องเพลงไปด้วยดิ ฝึกลูกคอสิบชั้น ฮ่าๆ” อารมณ์เสีย ดูมันนะครับ
   “ใครจะให้ทำ ไอ้เน่า” ผมพูดเบาๆล่ะครับ ไม่ให้มันได้ยินหรอกนะ มันได้ยินก็คงยาวอีกล่ะ
   “พี่ต้อย พ่อยังไม่กลับเหรอ” พอถึงบ้านผมก็รีบลงรถล่ะครับ ไปหาตัวช่วย อิอิ
   “บ่ทันกลับค่า เห็นบอกสิไปหาแม่ไอ้เดี๋ยวนั่นตั้ว” อ่านะ ไปหาทำไมวะ
   “มีไรให้อุ่นช่วยป่าว อยากช่วย” “บ่ค่า บ่มีดอก ไปหาเปลี่ยนเสื้อ้ผาโลดค่า เดี๋ยวเอื้อยสิออกไปตลาดจักคราว”
   “อ่า ไปด้วยได้ไหมอ่ะ” “ไปโลดเอื้อย จะไปทำไมวะ ไปเกะกะเจ้เขา ไปเลยๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” นั่น มันมาแล้วครับ
   “แม่นค่าแม่น บ่ต้องไปดอก เดี๋ยวไปเห็นนั่นเห็นนี่กะอยากเบิ่งอีก เสียเวลาเอื้อยเด้ล่ะ” ขอบคุณมากพี่ต้อย แหมนะ กูจะรอดไหมเนี่ย ผมรีบขึ้นไปบนห้องครับ อ๊ะ จะรีบขึ้นมาทำไมเนี่ย อ่า
   “ว่าไงจ๊ะ ที่รัก มาให้ผัวชื่นใจหน่อยดิ คิดถึงจะตายอยู่แล้ว” นั่นไงครับ มันมากอดผมจากข้างหลังเอาหน้าซุกลงคอผมทันที ผมรีบย่นคอ มันกอดนัวเนียไปทั่วตัว
   “อ่า ไรอ่ะเน่า ยังไม่อาบน้ำเลย” ผมหาวิธีอยู่ครับ ยังไม่อยากโดนอ่ะ
   “ไม่อาบก็เอาได้ อย่าเรื่องเยอะ” อ่า มันดันผมให้ล้มลงเตียงทันทีครับ ท่าทางมันหื่นมากๆเถอะ
   “ไม่อาบก็ไม่ทำให้นะ” ผมขู่มันครับ อิอิ มันผงกหน้าขึ้นมองหน้าผม
   “แล้วเคยโดนผัวข่มขืนป่ะล่ะมึงน่ะ” อ่า อ้าปากค้างเลยครับ สายตามันแบบว่าจริงจังมากๆ มันไม่สนใจเลย แต่ผมว่ามันรู้จักผมดีล่ะ ถ้าบอกไปอาบน้ำผมก็จะอาบนานๆ แล้วก็คงแถหาเรื่องอื่นไปจนได้ ผมพอจะรู้จักประวิงเวลา แต่นี่มันไม่ฟังเลยครับ มันบดปากมันลงมา ตอนแรกผมก็ไม่ยอม แต่ก็นะ เออๆ ยอมก็ยอมวะ
   “เบาๆดิเน่า เจ็บนะ” ผมดิ้นหนีครับ มันกดเอวผมไว้กับเตียง
   “เบาได้ไง แก้แค้นไง ทีถีบกูล่ะ มึงตายแน่ๆ” “อ่า ไม่เอา เจ็บนะ” ผมเริ่มร้องออกมาครับ มันเหมือนแกล้งผมในตอนแรกล่ะ แต่เอาไปเอามามันก็แค่แกล้งล่ะครับ มันเห็นหน้าไม่ดีมันเลยทำเบาๆ อิอิ ว่าจะไม่เผยอปากแอบทำจนได้ผม
   “เบบี๋ กูจะแตกแล้วนะ” มันเร่งเครื่องครับ ส่วนผมเองไม่ขอบรรยายนะ มันดูไม่ดี อิอิ คือมันขัดๆกับผมยังไงไม่รู้อ่ะ เอาเป็นว่าผมถึงก่อนมันเถอะ อ่า เขินจัง
   “ฮ่า เหนื่อย” มันซุกหน้าลงมาที่ซอกคอของผมล่ะครับ เหงื่อมันผุดขึ้นเต็มหน้า สักพักก็หายไป ส่วนผมก็นอนตัวแข็งเลย อยู่ท่านั้นล่ะ
   “เอาออกดิ” ผมบอกมันครับแล้วจะดันมันออก
   “เอาออกไร แข็งอยู่ไม่เห็นเหรอ ต่อเลยนะเบบี๋” “อ่า บ้าเหรอ เจ็บนะ”
   “เจ็บเชี่ยไร เสียวจะตาย อยู่เฉยๆเถอะมึงน่ะ” เอ่อ ผมอ้าปากจะด่ามันแต่มันไม่สนใจแล้วครับ
   “อะ ไอ้เน่า อะ ไอ้บ้า” เอ่อ กูก็นะเสียงไม่เป็นเสียง ก็มันเล่นกระแทกซะขนาดนั้น โอ้ย อะไรเนี่ย ไม่ให้พักยกเลยว่างั้น ไม่ได้ล่ะ ต้องฟ้องพ่อแล้ว ขืนมันทำแบบนี้ผมสิซวยอ่ะ
   “พอแล้วได้ไหมอ่ะเน่า ไม่ไหวแล้วนะ เจ็บ” พอมันสมใจมัน อิอิ จะว่าอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกนะ เพราะผมเองก็ เอ่อ อิอิ เอาเป็นว่าถึงที่หมายทั้งสองคนก็แล้วกัน
   “สองแล้วนะ อีกสามต่อคืนนี้” พอได้ยินผมแทบจะร้องไห้ครับ นี่มันพูดจริงเหรอเนี่ย ตอนแรกนึกว่ามันบ้าพลังพูดไปอย่างนั้นเอง อะไรอ่ะ
   “ไปอาบน้ำดิ” มันบอกผมครับ จะให้กูเดินยังไงล่ะเนี่ย ขาสั่นไปหมด
   “อ๊ะ ทำไรอ่ะเน่า” มันลุกขึ้นแล้วอุ้มผมเลยครับ ตกใจสิ
   “เห็นท่าทางไม่ไหวไง ไม่มีใครอยู่บ้านหรอกน่า อายไปได้”
   “ไม่อายผีสางเทวดาบ้างเหรอ” “อายไม เราเอากันรอบบ้านแล้ว ท่านไม่ว่าหรอก” ดูมันพูดครับ มันอุ้มผมเข้าห้องน้ำไปเลย พอถึมันก็กอดผมไว้แล้วไปเปิดน้ำฝักบัว
   “เย็นอ่ะ” “รอก่อนดิ น้ำมันยังไม่อุ่น” คือผมยืนหันหน้าเข้าหามันนะครับ ส่วนมันยืนอยู่แล้วเอื้อมมือมาเปิดน้ำพออุ่นได้ที่มันก็ล้างตัวให้ผม อ่า มันยกขาผมขึ้นแล้วฉีดน้ำเข้าก้นผมด้วยอ่ะ
   “ทำเองได้ ไม่ต้องหรอก” ผมอายมันครับ
   “อายไรวะ กูเห็นถึงไส้ติ่งมึงแล้วเถอะ” “บ้านะ ไม่เอาอ่ะ เน่าล้างตัวรอดิ เรานั่งชักโครกแป๊บ” ผมอายร้อนหน้าผ่าวๆ เอากับมันสิครับ ไอ้นี่มันไม่มีอาย มันยอมผมครับ มันยืนหันหลังแล้วผิวปากสบายอารมณ์อยู่ แหมนะ อยากจะถีบเอาอีกสักที แต่ก็นะ ไม่เอาๆ เดี๋ยวไม่คุ้ม นี่ก็ยังใช้หนี้ไม่หมดเลยนะ
   “สระผมให้ด้วยดิ” มันบอกครับหลังจากที่ผมเสร็จธุระ
   “นั่งลงดิ” ผมก็แม่บ้านชัดๆ แหมนะ พอฟอกสบู่ให้มันเสร็จยังต้องสระผมให้ด้วยนะ มันหันมายิ้มแล้วนั่งลงที่เก้าอี้พลาสติกที่ใช้ตอนมันขาหักล่ะครับ ป่านนี้ยังไม่เอาออก
   “กูรักมึงนะเบบี๋” มันพูดขึ้นมาครับ ผมเบะปากใส่มัน
   “ไม่เชื่อไง” “เชื่อ หลับตาดิ เดี๋ยวยาสระผมก็เข้าตาหรอก” ผมอายเป็นนะเว้ย แหมนะ
   “มึงนั่งนี่ดิ” “หือ ไหน” ผมงงครับ มันบอกผมนั่งแต่เก้าอี้มีตัวเดียว
   “นี่ไง” “อ่า ไอ้บ้าเน่า ไม่เอาแล้ว เจ็บ” คือว่า มันโด่อีกแล้วครับ ผมรีบเปิดน้ำฉีดใส่หน้ามันเลย
   “มาเร็ว ขึ้นอีกแล้ว” มันไม่ได้พูดเฉยๆนะ มันดึงแขนผมไปแล้วกอดเอวผมไว้ หน้ามันก็ซุกลงหน้าอกผมทันที
   “อ่า มะ ไม่เอาอ่ะเน่า” ครางออกจนได้ โอ้ยกู สรุปเลยก็แล้วกัน ผมใช้หนี้ไปเหลือสองครั้ง ขอผลัดมันเป็นพรุ่งนี้ครับ ไม่ไหวจะเคลียร์ คนบ้าอะไรไม่รู้ เผลอไม่ได้ อย่าได้ไปลองดีกับมันเชียว ผมรู้สึกระบมไปหมด
   “มาซ่อยเอื้อยแกะเปลือกหอมแดงแน่ค่าคุณอุ่น” พออาบน้ำเสร็จผมก็ลงมานั่งข้างล่างล่ะครับ ไอ้เน่ามันก็ไปเตะตระกร้อกับเพื่อนๆ ตอนเราอาบน้ำเสียงนายเคนมาร้องเรียกแล้วเถอะ แต่มันไม่สนใจ
   “ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ” “ฮ่วย อีหยังค่า หวางฮั่นคือมาขอเฮ็ดอยู่”
   “ไม่อยากทำแล้วอ่ะ พี่ต้อยทำไรกิน” ผมนั่งแผ่อยู่ที่เก้าอี้หวายครับ
   “โอ้ยเนาะ จั่กอีหยังดอกเนี่ย ว่าสิก้อยปลาทูสดค่า กับต้มส้ม”
   “ง้นอุ่นช่วยเอาผักมาแช่น้ำก็ได้” ผมอาสาทำงานที่ง่ายสุด เบาสุดก็ได้ครับ ไม่อยากทำอะไรเลยให้ตายเถอะ เหนื่อยเพลียมากๆขอบอก
   “คือหน้าแดงแท้อุ่น ไปเฮ็ดหยังมา” พอเพื่อนๆเล่นตระกร้อเสร็จก็เข้ามาในบ้านล่ะครับ เอ๊ะ นี่กูหน้าแดงเหรอเนี่ย
   “คือคนเหมื่อยแท้” นายเคนครับ
   “อ้อ เราเหนื่อยนิดหน่อยอ่ะ” “อิอิ แม่บ่น้อ” อ้าวนะ ทุกคนเลยครับหัวเราะออกมา ผมเลยมองไปที่ไอ้เน่า มันก็ยักคิ้วให้ผม หนอยแน่ไอ้บ้านี่
   “กินชาป่าว เดี๋ยวเราไปชงให้” ผมรีบแถไปครับ
   “กินๆ ฮ่วยๆ เป็นหยังคือย่างแนวนั้นน้อ บักเดี๋ยวมึงเฮ็ดหยังอุ่น” เอ่อ นี่กูเดินผิดปกติไปเหรอเนี่ย ผมหันขวับไปเพื่อนๆก็หัวเราะ ยิ่งไอ้น้องโจ้นี่นะหัวเราะดังมาก พ่อผมไปเข้าห้องน้ำครับตอนนี้เลยไม่ระแคะระคายอะไรมาก
   “ซุมห่านี่แหม่ะ เซาๆ สิแดกบ่แดกน้ำน่ะ บ่แดกกะพากันเมือ ไป๊” ไอ้เน่าครับ มันไล่เพื่อนๆ ส่วนผมอายหน้าแดงไปโน่นแล้วเถอะ ไม่นะ ผมเดินปกติแค่ถ่างๆขาออกหน่อยๆเท่านั้นเอง ก็มันเหมือนบวมนี่หว่า อ่า
   “ได้ยินข่าวว่าจะร้องเพลงวันคริสต์มาสเหรอลูกอุ่น” พอตอนกินข้าวพ่อผมก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “ไม่อยากร้องเลยอ่ะพ่อ อุ่นร้องเพลงเป็นที่ไหน จารย์ล่ะไรก็ไม่รู้” ผมบ่นทันทีครับ
   “อาจารย์เขาคงเห็นแววล่ะพ่อว่า ฝึกเอาสิจะได้เป็น”
   “ร้องเพลงนะพ่อ ไม่ใช่เล่นกีฬาจะได้ฝึกง่ายๆ” “อ้าวลูกคนนี้นี่ ของทุกอย่างล่ะ ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น การฝึกฝนมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด” ทำตาเป็นประกายออกมา
   “ใช่ครับ ผมยังร้องเป็นเลย ไรวะ แค่นี้ทำเป็นบ่น” “งั้นเน่าร้องแทนเราป่ะล่ะ จะไปบอกจารย์พรให้” ผมสวนขึ้นทันที
   “เรื่องไร เบื่อคนมากรี๊ด” มันทำหน้าแบบว่า โดมมากๆครับ แหมน่าหมั่นไส้มากๆ พ่อผมหัวเราะชอบใจ
   “ไม่เอา จะนอนแล้วอ่ะเน่า” ไม่อยากขึ้นมานอนเลยนะครับ นี่ขนาดผมเล่นอยู่ข้างล่างทำท่าฝึกร้องเพลงอยู่นานนะ เห็นมันขึ้นมานานแล้วล่ะ คิดว่าน่าจะหลับไปแล้ว ไม่เลยมันเล่นเกม พอเห็นผมเท่านั้นล่ะ มันปิดเกมแล้วปรี่เข้ามาหา
   “ยังไม่ครบเลย อีกสองที” “ก็บอกพรุ่งนี้ไง จะเอาให้ครบเลยเหรอ” ผมอิดออดรับ
   “พรุ่งนี้ก็ส่วนพรุ่งนี้ วันนี้กูถือว่าเป็นกำไรเว้ย” อ่านะ ดูมันพูดครับ
   “บ้า ไม่เอา เจ็บเถอะ” “ไหน ไรวะ โดนขนาดนี้ยังไม่ชินเหรอ” จิ๊ “มาโดนเองป่ะล่ะ”
   “นั่น เออๆ งั้นกอดเฉยๆ ไหนมึงฝึกร้องเพลงไรเมื่อกี๊” มันก็โอบผมเบาๆล่ะครับ ผมเลยยอมปีนขึ้นเตียง
   “ยังไม่มีเพลงอ่ะ คิดไม่ออก ร้องมั่วๆไปงั้นล่ะ” “อ้าว แล้วจะรอดเร้อ” “ไม่รอดไง พรุ่งนี้จะไปบอกจารย์ ให้หาคนอื่น”
   “ฝันไปเถอะ จารย์พรเขาหวังจะปั้นใครไม่มีรทางรอดเงื้อมมือ” อ่านะ พูดเหมือนอาจารย์เป็นปีศาจ น่ากลัวเชียว
   “หนาวป่ะ” มันกอดผมอยู่นะครับ
   “อืม ไม่มากอ่ะ เน่าหนาวเหรอ” “อืม หนาวว่ะ หนาวจนแข็งไปหมดแล้ว”
   “มาเรากอด” “กอดไม่ถูกจุด” “หือ ไรอ่ะ ก็หนาวไม่ใช่เหรอ”
   “อืม หนาวไง กอดตรงนี้ดิ หนาว แข็งไปหมดแล้วเนี่ย” อ่านะ ผมเคลิ้มไปครับ
   “บ้าเหรอ ไม่กอดแล้ว ไรอ่ะ แข็งได้แข็งดีไม่ปวดบ้างไง”
   “ปวดแต่กูจะอดทนเพื่อมึง” เฮอะ กูขอว่างั้น
   “บ้าเหรอ ใครขอร้องไม่เอาแล้วเน่า อย่าไปใส่ใจมันดิเดี๋ยวก็ลง”
   “อืมๆ” มันกอดผมหลวมๆครับ แต่ว่าช่วงล่างมันนี่นะ
   “จะเบียดทำไมอ่ะ ไหนบอกไม่คิดไง” “ไม่คิดไม่ได้ ใกล้มึงทีไรมันต้องแข็งอ่ะ นะนะ”
   “ไม่เอา เจ็บ” “เดี๋ยวกูทำเบาๆ นะนะเบบี๋ นะคร้าบ” มันอ้อนครับ มันไม่พูดเฉยๆหรอกนะน่าจะรู้จักมันดี มันกอดผม มือไม้มันก็ล้วงทันที ส่วนหน้ามันก็ไซร้ผมแล้วอ่ะ โอ้ย ตายแน่ๆกู

Written by eiky

กีสสสสสส อิอิ แอบมาลง ตอนนี้สั้นๆ ขำๆเน้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 19-09-2012 13:38:44
+1 :z13: จิ้มน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 19-09-2012 13:43:31
ชอบอ่ะเห็นไอ้เน่างอน555
สงสัยมาสักพัก ตอนอุ่นเล่าจะเป็น Don't call me baby
ของเดี๋ยวเป็น You're my baby ใช่มั้ยค่ะ :L2:

ใช่แว้วว อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 19-09-2012 13:46:29
เย็นเดียวสี่ดอก ไม่เช้าก็ห้า ครบพอดี อุ่นจ๋า ที่ขอติดบักเดี๋ยวไว้อ่ะ ไม่ทันแล้ว :haun4:  :z1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-09-2012 13:48:23
ของเค้าแรงจริงๆ  :oo1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-09-2012 14:17:08
น้องอุ่นรับบทหนักจริง จริ๊ง
อิเดี๋ยวก็ถนอม ๆ หน่อย ช้ำหมด
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-09-2012 14:46:21
เดี๋ยวหื่น อิอิ
สงสารอุ่นบ้างอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 19-09-2012 15:28:37
อุ่นน้อยโดนจัดหนัก ถนอมๆหน่อยเดี๋ยว

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 19-09-2012 15:37:42
จัดหนัก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 19-09-2012 16:14:27
เดี๋ยวจัดหนักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 19-09-2012 16:25:46
เดีํยวหื่นเกินไป  อุ่นก็นะ ยอมตลอดหื่นพอๆกัน รักนวลสงวนตัวบ้างน้องอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 19-09-2012 16:51:54
แรงดีไม่มีตกจริงๆ พี่เดี่ยวศรีของเรา สงสารเบบี๋มั่งเต๊อะ  :oo1: :haun4: :jul1:

ขอบคุณมากๆค่ะ :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 19-09-2012 17:11:23
ต้องทำใจอย่างเดียวนะอุ่นตอนนี้ ความเจ้าเล่ย์มันผิดกัน
อย่างเห็นหนูอุ่นร้องเพลง...
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 19-09-2012 17:31:11
ค้างมากๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 19-09-2012 18:35:10
หลายรอบ 555555555
แอบสงสารอุ่นเบาๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 19-09-2012 20:00:29
-------------


อุ่น ได้ตายคาอกเดี๋ยวแน่ๆๆ สู้เค้าลูกอุ่น :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 19-09-2012 20:17:30
ชอบอะ น่ารักกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 19-09-2012 20:22:25
แถจนถลอกก็ไม่พ้น...เจ้าเดี๋ยวมันมุ่งมั่นมากกก..
พรุ่งนี้นู๋อุ่นจะไปโรงเรียนไหวเหรอจ๊ะ...สงสารจัง  :z1:
รอต่อไป...อยากรู้จังนู๋อุ่นจะร้องเพลงอะไร..

 :L1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 19-09-2012 20:25:59
เดี๋ยวเอ๊ย อึดมากเลยนะลูก 55555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 19-09-2012 20:40:49
คึกเนาะ ถนอม ๆ แนะ เดียวเอ้ยยยยยยยยยยย

ปล. +1 ให้คุณอิก รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันแสนนาน ฮ่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 19-09-2012 23:53:22
55555
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 20-09-2012 09:07:10
5555+... หน้าหนาวนี่...เพิ่มความอยากเป็นเท่าตัว!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 20-09-2012 11:33:22
ทำใจอย่างเดียวอ่ะน้องอุ่น :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-09-2012 11:41:25
บักเดี๋ยวถนอม
อุ่นหน่อยเน้ช้ำ
กันพอดีไม่ไหวไม่ไหว :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-09-2012 15:20:10
รอจ้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 20-09-2012 16:08:42
กรีสสสสสสสสสสสสสสส เดี๋ยวจัดหนัก อุ่นสู้ตายลูก อย่ายอมแพ้คร้า :oo1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 20-09-2012 17:10:12
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: bigeye ที่ 24-09-2012 20:07:37
อ่านเรื่องนี้กี่ตอนๆ น้ำลายสอทุกที
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 24-09-2012 20:52:13
 :ped149: น้องอิ๊ก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-09-2012 17:39:35
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 26-09-2012 17:02:24
Don’t call Me BaBy!!
เอ่อ สรุปว่าผมเจ็บจังอ่ะครับ ระบมไปหมดแล้ว ก่อนนอนมันทำอีกรอบ ผมร้องไห้เลยมันถึงยอม ไอ้บ้านี่เกินไปแล้วนะ
   “นี่ล่ะ อย่ามาท้าทายกู” ผมผิดว่างั้น นี่มันพูดก่อนนอนครับ ผมงอนมันล่ะไม่ให้มันกอด แต่มันก็ไม่ยอมกอดผมจนได้ รู้สึกมันระบมจริงๆนะ ใครบอกโดนแล้วรู้สึกดี ขอเถียงเลยเถอะ ยิ่งมาโดนของขนาดของไอ้เน่า ฆ่ากูเลยดีกว่า
   “เอ้ย เบบี๋ ตื่นดิ สายแล้วนะ” รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเช้าครับ ไอ้เน่ามันเขย่าผมอยู่ข้างๆ
   “อือ” ผมงัวเงียลุกขึ้น
   “อ้าว แล้วไมเน่าไม่ลุกอ่ะ” อ่านะ พอผมลุกจากเตียงไอ้นี่มันนอนซุกผ้าห่มเฉยเลยครับ
   “ตื่นแล้วไง ไปขี้ก่อนดิไปมึงน่ะ” อ่านะ มันไม่เคยอายเลยครับ ผมสิอาย เออวะ แต่พอเข้าห้องน้ำก็เหมือนตกนรกครับท่าน แสบมากๆ โอ้ยนะ อยากจะแหกปากออกมาดังๆ แต่ก็ได้แต่คราง ยิ่งโดนน้ำเย็นๆคุณเอ๋ย นี่มันนรกชัดๆ
   “เสร็จยัง” มันโผล่หน้าเข้ามาครับ ที่จริงมันเคาะประตูก่อนล่ะ ผมเสร็จนานแล้วยืนแปรงฟันอยู่
   “เหม็นป่ะเนี่ย แหว่ะ แดกไรมาวะมึง” อ่านะ
   “อย่าเพิ่งเข้ามาดิ” “ไม่ได้ ปวดขี้ เอาสเปรย์มาฉีดดิ” อ่านะ ดูเอานะครับ ผมล่ะเบื่อ มันเข้ามาเลยแล้วนั่งชักโครก
   “เบาๆหน่อยดิเน่า น่าเกลียด” คือว่ามันเบ่งแบบว่า เอ่อ นี่ถ้าผมไม่ชินนะคงอ๊วกแตกไปแล้วครับ แล้วทำไมผมถึงชินวะเนี่ย เออนะ ผมทำเป็นไม่สนใจฉีดสเปรย์แล้วรีบแปรงฟัน มันผิวปากอารมณ์ดี แหมนะมันน่าหมั่นไส้นักนะ
   “เป็นไง แสบป่ะเบบี๋” มันถามครับ ถามมาได้
   “แสบดิ คราวหลังไม่ต้องทำนะ” “อ้าว ไหนๆ กูทายาให้ รีบอาบน้ำดิ”
   “ไม่ต้อง ทาเองได้เถอะ รีบมาอาบน้ำได้แล้ว มัวแต่ผิวปากอยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวก็ไปสายพอดี” ผมเดินไปตรงฝักบัวแล้วเปิดน้ำอุ่นรอครับ ไอ้เน่ามันก็แปรงฟัน กว่าจะเสร็จก็เจ็ดโมงกว่าทุกทีสิน่า
   “ทำไมมันหนาวจังวะ ว่าจะไม่ใส่เสื้อไป แม่งกลางวันเสือกร้อน” มันบ่นครับ
   “หน้าหนาวเนาะเดี๋ยว ซ่างว่าแถ่ะ บัดยามมันฮ้อนกะถอดออกติ๊เสื้อน่ะ”
   “บู้ย แม่นอยู่เอื้อย มื้อแลงกินแจ่วฮ้อนบ่ ผมอยากกิน บ่ได้กินโดนแล้ว”
   “สิกินบ่ คุณอุ่นสิกินบ่ค่า” ผมนั่งฟังอยู่ล่ะครับ ผมพยักหน้า
   “เดี๋ยวซั่นเอื้อยสิไปตลาดหาของมาไว้ถ่า คุณพ่อซายมื้อแลงฟ้าวกลับมาเด้อค่า สิเฮ็ดแจ่วฮ้อน” พี่ต้อยหันไปบอกพ่อผมล่ะครับ กำลังเดินลงมาจากบนบ้าน
   “อืมดีๆ งั้นชวนเพื่อนๆมากินด้วยสิลูก จะได้สนุก” อ่านะ
   “เอ๊ะ แต่นี่จะแปดโมงแล้วนะลูก จะทันโรงเรียนเหรอ” อ่า พ่อผมเตือนครับ ผมทำหน้าเหวอๆ
   “ตายล่ะ เร็วดิเน่า” ผมรีบถือกระเป๋าของเราสองคนล่ะครับแล้วลุกจากโต๊ะทันที
   “มื้อแลงพ้อกันเอื้อย ไปล่ะครับพ่อ” ไอ้เน่ามันยกมือไหว้พ่อผมล่ะครับ เออนะ กูลืม
   “ไปนะพ่อ” ผมก็หันมายกมือไหว้ พ่อกับพี่ต้อยล่ะครับ แล้วไปรอมันที่รถ
   “สายจนได้” ผมบ่นครับ
   “เออน่า รีบไปทำไมวะ หน้าหนาวจารย์เขาเข้าใจ” ให้มันจริงเถอะ ไม่อยากวิ่งรอบเสาธงต่อหน้าสาธารณชน
   “อ้าว อุรดิศ หน้าหนาวนี่ไม่อยากตื่นเรอะ” ไหนบอกอาจารย์เขาเข้าใจไง เห็นไหมล่ะ จะหน้าไหนก็มายืนดักหน้าโรงเรียนทุกวันล่ะ ผมยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “มันหนาวไปหน่อยครับจารย์” ผมตอบอายๆ ทำไมวันนี้มีแต่ผมกับไอ้เน่าสองคนเองวะเนี่ย นักรียนหลายพัน ไรวะ
   “มึงล่ะบักเดี๋ยว ประจำวันนะมึง โน่น ยาแก้หนาว เพื่อนๆเขาเลิกแถวพอดี หน้าเสาธงโน่น” เฮ้อ ชีวิตของอุรดิศ อายก็อาย แต่ก็นะก้มหน้าก้มตาวิ่งไปล่ะครับ ยาแก้หนาวได้ผลดีจริง เหงื่อแตกเลยเถอะ
   “เมื่อยบ่ออุ่น เป็นตาเซาหนาวเนาะ เฮากะเกือบมาบ่ทันแหม่ะ” จอยมันยืนรออยู่หน้าอาคารล่ะครับ
   “เหนื่อยดิ ร้อนเลยอ่ะ ไปหาน้ำกินก่อนเถอะจอย”
   “เออ เรื่องเพลงน่ะ โตว่าเพลง Adele ดีบ่ Someone like you”
   “เอ่อ ยากไปไหมอ่ะ เราออกเสียงไมได้หรอกจอย”
   “หวืย อีหยัง ฮ้องง่ายกะด้อ ไส ลองฮ้องเบิ่งดู๊” อ่านะ
   “มันร้องยังไงอ่ะ เราเคยฟังเฉยๆ จำได้ไม่หมดหรอกนะ”
   “อ่ะ เฮาเขียนมาให้แล้ว” ดูมันทุ่มเทกว่าผมอีกนะเนี่ย
   “อ่านะ แล้วไปยังไงล่ะเนี่ย” ผมหันไปถามจอย แล้วมันก็ร้องนำให้ผมฟัง
   “เฮ้ย จอยเสียงดีอ่ะ จอยร้องแทนเราเลยละกันนะ อิอิ” “นั่น บ่ได้ดอกอุ่น เสียงดีอีหยัง เฮาลำยังสิเป็นตาฟังกั่วอีก ทุกข์หลายเด้ ทุกบ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนดีพอได้ลี้อยู่ ล่ะทุกข์หลายเด้ ทุกข์บ่มีเข่าอยู่ท้อง สินอนลี้กะบ่เป็น กรรมและเวร และนอล่ะน่า” เอ่อ ผมอ้าปากค้างครับ ขนลุกซู่ นี่เขาเรียกลำอะไรกันนะ ทำไมมันทำให้ผมขนลุกได้ขนาดนี้ เสียงเอื้อนของจอย ลูกคอที่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะร้องได้ขนาดนี้ ผมอ้าปากค้างอยู่นาน
   “เป็นหยังอุ่น ม่วนปานนั้นติ๊” “จอย” ผมครางออกไปครับ ไมได้กระแดะนะ แต่มันอึ้งจริงๆ
   “มันเป็นตาอยากหัวบ่อุ่น เฮ็ดให้เฮาเสียควมมั่นใจเด้นี่”
   “มะไม่จอย มันเพราะมาก มันทำให้เราขนลุกเลยอ่ะ จอยร้องเพราะจริงๆนะ มันแปลกอ่ะ”
   “เขาเอื้อนว่าลำล่องตั้ว แม่เฮาเป็นหมอลำเก่าเด้ล่ะอุ่น เพิ่นสอนให้”
   “อ่า ทำไมไม่บอกอ่ะจอย เราอยากฟังแบบเต็มๆ นะนะ พาเราไปบ้านนะตอนเลิก” ผมจับแขนจอยเขย่าทันทีครับ
   “ว่าแล้ว โอ้ยเนาะ ซางบ่เกิดมาเป็นคนอีสานซะเนาะโตน่ะ แม่นมักหลาย” ผมยิ้มอย่างดีใจครับ
   “มาว่าเรื่องของเฮาดีกั่วอุ่น ตกลงสิเอาเพลงหยัง” วกมาเรื่องนี้อีกแล้ว ผมทำหน้ามุ่ยลงทันที
   “เฮ้อ ไปปรึกษาจารย์พรดีป่าวอ่ะจอย เราคิดไม่ออกจริงๆ” จอยมันก็พยักหน้าครับ พวกเราเลยเดินไปที่ห้องแก พอดีมีห้องอื่นเข้าห้องแกไปก่อนแล้ว ผมเลยยืนลังเลอยู่หน้าห้อง
   “อ้าว ว่าไงอุรดิศ” อาจารย์พรฤดีเห็นเลยร้องทักมาครับ
   “อ้อ เอ่อ คือผมว่าจะมาปรึกษาจารย์เรื่องเพลงอ่ะครับ” ผมยกมือไหว้แกครับ
   “คิดยังไมได้อีกเหรอ เข้ามาก่อนสิอุรดิศ” ผมเลยเดินเข้าไปครับ พอผมเดินเข้าไปเสียงแซวก็ดังแว่วมาล่ะครับ อีพวกแซวนี่ก็แซวดีจังเนอะ อะไรเจาปากมาให้แซวก็ไม่รู้
   “เลือกเพลงอะไรไว้ล่ะ”
   “ยังไม่ได้เลือกเลยครับ ผมว่ามันยาก” “วุ้ย อะไรกันคะอุรดิศ ไม่เกินความสามารถหรอกน่า ร้องเพลง วิทนีย์ไหม One Moment in time หรือจะ Celine ดี เสียงน่าจะพอได้” เอ่อ สะอึกครับ
   “ว้ายจารย์ ไปเลือกให้น้องเขายากแท้ค่า เบิ่งทรงคือสิฮ้องเป็นแต่เพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ล่ะน้อ หน้าตาน่ะ” เสียงแซวมาจากมุมของห้องครับ ผมไม่กล้าหันไปมอง แต่จอยมันหันไปมอง
   “เอื้อยบ่ถ่าฟังล่ะ จั่งถ่าเบิ่งเอาค่า” จอยมันตอกหน้าไป เสียงโห่ดังขึ้นทันทีครับ
   “นี่พวกเธอ มารยาทน่ะมีไหม หรือพวกเธอจะขึ้นไปร้องแทนน้องเขา ปากดีกันจังนะ เป็นรุ่นพี่ภาษาอะไร ทีครูแจงงานให้มีแต่บอกปัด ไม่ไหวเลย งั้นวิชานี้คะแนนก็เอาไปคนละหน่อยก็แล้วกันนะ” เอ่อ อาจารย์พรแว้ดเสียงขึ้นครับ
   “อ่า จารย์ครับ อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ ผมร้องไม่เป็นจริงๆนั่นล่ะครับ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ยังร้องไม่จบเลย อย่าให้พี่ๆเขาไม่ชอบผมเลยนะครับ” ผมกระซิบบอกอาจารย์พรล่ะครับ แค่นี้คนก็เกลียดกันมากพออยู่แล้วเถอะ
   “เห็นไหม นี่คนเขาโดนโห่โดนล้อ เขายังไม่คิดติดใจ สำนึกไว้ด้วยนะนักเรียน น้องมันร้องไม่เป็นมันยังมีใจมาถาม แล้วไอ้รุ่นพี่ที่ไม่เข้าใจ มันเคยมาถามอะไรครูบ้างไหม เอาล่ะ อุรดิศ เพลงอะไรก็เลือกๆมาเถอะ ครูเชื่อใจเธอ ว่าไงพวกเธอ จะเรียนกันไหมคะ” ผมรีบเดินออกจาห้องทันทีครับ หน้าซีดลงทันที
   “หมู่เอื้อยนกตั้วอุ่น อย่าสิไปสนใจ เพิ่นคือสิซ่าเรื่องโตบ่ดีดอกเฮาว่า ซุมหมาเห่าบ่กัด ซุมนี่ย้านไอ้เดี๋ยวสู่คนล่ะ โตบ่ต้องห่วง” จอยมันปลอบครับ ผมถอนหายใจแล้วเดินขึ้นตึกไป
   “ต๊าย ไม่มาซะตอนจบคาบเลยล่ะคะนักเรียน” พอเราเข้าห้องไปอาจารย์กรรณิการ์ก็แว้ดเสียงมา
   “โทษค่ะจารย์ พวกหนูไปหาจารย์พรมาค่ะ” จอยมันตอบครับ
   “ไปหาทำไมคะ นี่มันเวลาเรียนนะ ไม่ไปตอนไม่มีเรียนล่ะ”
   “ไปปรึกษาเพิ่นเรื่องเพลง สิฮ้องวันคริสต์มาสค่า”
   “เธอร้องเหรอ” อาจารย์ดูสนใจขึ้นมาทันทีครับ
   “อุ่นค่า หนูไปเป็นหมู่” “ว้าย อีญ่า เคยฟังไหมแก เพลงคริสต์มาส เวอร์ชั่นเด็กกรุงน่ะ ท่าทางจะน่าฟังเนอะ” สาวเพ็ญครับ หายไปจากวงโคจรนานมาก กลับมาทีก็นะ
   “เอาล่ะๆ ไปนั่งไป เพื่อนเขาไปไกลแล้ว” อาจารย์ปรายตามามองผมหน่อยเดียวครับ แล้วเปลี่ยนน้ำเสียง เฮ้อ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไม คนหลายๆคนถึงไม่ค่อยชอบหน้าผมนัก จะว่าเพราะไอ้เน่ามันก็ไม่ทั้งหมด ในเมื่อคนเหล่านี้เคยชอบไอ้เน่า พอผมกับมันคบกันก็ไม่ชอบผมน่ะเหรอ อืมนะ
   “อย่าสิไปสนใจอุ่น” จอยมันหันมากระซิบบอกผมล่ะครับ ผมก็นะ พยายามไม่คิดนะ แต่ความมั่นใจจากที่มันไม่มีมันก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไปเถอะ
   “เราจะร้องเพลงยากๆ เราไม่อยากให้ใครมาดูถูกเรา” ผมบอกจอยตอนพักเที่ยงครับ
   “แม่นแล้ว โอ้ย แนวนี้แน่แหม่ะ ว่าแต่สิฮ้องเพลงหยังล่ะ” ผมส่ายหน้าครับ จอยมันทำหน้าเหวอๆไป ผมเลยหัวเราะ แหะๆ ก็แหมนะ มันคึกนี่หว่าแต่ไม่รู้เลยว่าจะร้องเพลงอะไรที่มันยาก เพราะเท่าที่อาจารย์บอกมาก็ยากเกินไปแล้วเถอะ คงไม่พ้นเพลงวันเกิดอย่างที่เขาล้อกันแน่เลย
   “มายืนทำไรวะเบบี๋ ไม่แดกข้าวไง ไหนของกูสั่งไว้ยัง” สามีมา เอ้ย ไอ้เน่ามาแล้วครับ
   “คุยกันเรื่องเพลงนั่นล่ะเดี๋ยว ไปพ้อจารย์พรมา คนเขาหยันคือหยังนี่ตั้ว ว่าสิฮ้องบ่ได้”
   “ไผ” ไอ้เน่ามันทำเสียงแข็งขึ้นมาทันทีครับ
   “จอย ไม่มีไรหรอกเน่า ไปกินข้าวเถอะ ก็เราร้องไม่เป็นจริงๆนี่” ผมตัดปัญหาครับ ไอ้นี่รู้เรื่องคงจะไม่น้อยอยู่ มันจิ๊ปากไปตามประสามันล่ะครับ ผมเลยลากแขนมันมาที่ร้านน้ามัน กินแต่ก๋วยเตี๋ยวนี่ล่ะ อิอิ
   “มึงก็ซ้อมเยอะๆดิวะ อย่าให้คนมาดูถูก ยากอะไรวะกะอีแค่ร้องเพลง”
   “ซ้อมไรอ่ะ มีเวลาอีกไม่กี่วันเองนะเน่า เนี่ย ศุกร์นี้แล้วนะ” ผมทำหน้าเซ็งครับ
   “เออเน่า เห็นจอยบอกแม่จอยเป็นหมอลำเก่าอ่ะ เราว่าเลิกเรียนจะไปขอให้แม่ลำให้ฟังเผื่อได้ประโยชน์ไรบ้าง” ผมบอกมันล่ะครับ จุดประสงค์ก็รู้ๆกันอยู่ ผมติดใจกับลำที่จอยร้องเมื่อตอนเช้า
   “แม่ไอ้เล็กก็หมอลำเก่านะ ไปดิเดี๋ยวกูไปส่ง อย่าลืมนะเว้ย เย็นนี้กินแจ่วฮ้อนนะมึง” ผมยิ้มครับ ดีใจรอเลย แล้วตอนเรียนคาบบ่ายก็ใจจดใจจ่ออยากให้เลิกเรียนไวไว คาบภาษาอังกฤษที่ต่อกับคาบแนะแนวอาจารย์พรฤดีก็เกณฑ์เพื่อนๆมาทำเวทีช่วยล่ะครับ ตอนนี้ในห้องประชุมเหมือนจะพร้อมแล้วสำหรับวันงาน เอ่อนะ ตื่นเต้นเถอะ
   “อุรดิศ ไหนมาซ้อมร้องเพลงซิ เพื่อนๆห้องเรานี่ล่ะจะช่วยดู” หือ อะไรนะครับจารย์ ผมยืนเอ๋ออยู่ครับ
   “อุ่นๆ จารย์เพิ่นเอิ้นไปเทิงเวที” หัวหน้าห้องครับ
   “หา ไรอ่ะ ไปทำไม” “ฮ่าๆ ไปซ้อมฮ้องเพลงให้พวกเฮาเบิ่งเด้ โซคดีคั่กเด้นี่ ได้เบิ่งก่อนหมู่เขา” หัวหน้าห้องก็นะ หล่ออยู่แล้วยิ้มอีก ผมเลยเดินเอ๋อๆขึ้นไปครับ เดินขึ้นไปโดยที่ยังไม่ค่อยรู้เลยว่าอาจารย์เขาเรียกไปทำอะไร ได้ยินไม่ถนัด อาจารย์น่าจะให้ไปดูบล็อกกิ้งล่ะผมว่านะ
   “อ่ะ ไม่ต้องใช้ไมค์หรอก ร้องสดๆนี่ล่ะ” หือ ผมหันขวับตาโตทันทีครับ
   “ร้อง? ร้องไรครับจารย์” ผมทำหน้าเหวอเต็มที่
   “อะไรกันอุรดิศ โอ้ยตาย ขึ้นมานี่แบบมั่นใจมาก ไม่รู้เหรอว่าครูให้เธอขึ้นมาทำอะไร” เอ่อ อาจารย์อ่ะ หัวเราะเพื่อ
   “ให้ผมยืนบล็อกกิ้งเหรอครับ” “ว้าย โอ้ย ไม่ค่ะไม่ ร้องเพลงให้ครูฟังเลย”
   “อ่า จารย์อ่ะ ผมยังไม่พร้อมเลย” ผมอิดออดครับ
   “ฮ้องโลดๆๆๆๆ “ เสียงเพื่อนๆก็เชียร์กูจังนะ ผมอายมากครับ แต่ก็นะไม่ร้องคงไม่จบ ผมเลยสูดลมหายใจเข้าปอด
   “Someone was told me you have to choose what you win or lose, you can’t have everything” “โห่ๆๆๆ เสียงสูงไปไหนค้า ว้ายปีนมะพร้าวหรือไงยะเธอ” เสียงสาวเพ็ญกับอีสาติครับ มันโห่ผม เพื่อนๆก็หัวเราะ ผมเม้มปากแน่น
   “วันหลังดีกว่าจารย์ ผมขอไปซ้อมมาก่อน”
   “ไหนลองท่อนฮู้กให้ครูฟังสักหน่อยสิ นี่พวกเธอน่ะ จะโห่ทำไมคะ เพื่อนเขาเสียกำลังใจ ไม่ฟังก็ออกไปโน่นไป” อาจารย์พรฤดีแกก็ให้กำลังใจผมล่ะครับ ผมเลยสูดลมหายใจเข้าปอดใหม่
   “”So What if hurt me? So what if I break down? So what if this world just throws me off the edge my feet run out the ground. I gotta find my place I wanna hear my sound.” ผมหยุดทันทีเพราะเพื่อนหัวเราะกันเสียงดัง นี่กูร้องขี้เหร่ขนาดนี้เลยเหรอ ผมเม้มปากแน่น สูญเสียความมั่นใจมากๆครับ
   “ผมทำไม่ได้หรอกครับจารย์” ผมครางออกไป เสียงจอยกับเล็กตะโกนด่าเพื่อนโหวกเหวกอยู่ข้างล่างครับ แต่ผมเหมือนไม่ได้ยินอะไรแล้ว เคยไหมล่ะ คนโห่หรือหัวเราะเราน่ะ หน้าชั้นเรียนยังพอทน นี่มันบนเวทีนะ ผมเม้มปากอีกทีครับ เอาให้มันสาแก่ใจ เออ กูร้องเพลงไม่เพราะ
   “อุรดิศ เนื้อเสียงเธอดีนะ เพียงแต่เธอออกเสียงสูงไปเท่านั้น ไปลองฝึกเพลงที่เข้ากับเสียงเธอดูนะ หรือเลือกเพลงที่มันเสียงสูงๆไปเลย ครูเชื่อมั่นในตัวเธออุรดิศ เพราะครูว่าครูเห็นอะไรบางอย่างในตัวเธอ สิ่งนั้นที่เพื่อนๆข้างล่างนั่นไม่มี” ไม่ได้ยินดีหรือดีใจหรอกครับ ผมเศร้าเกินไป ผมก้มหน้า พยักหน้ารับคำ แล้วรีบลงมาจากเวที เดินออกจากหอประชุมทันที
   “หวืย ซาดเป็นตาซังเนาะสู สิเฮ็ดหยังกะบ่ย้านหมู่อายเนาะ พวกบ่มีหัวใจ ให้สูลองไปเฮ็ดคือเพิ่นเบ่งแน่ กูสิหัวขวนจนฮากออกเบิ่ง พวกสันดานเสีย” เสียจอยมันก่นด่าเพื่อนๆครับ แล้วก็วิ่งตามผมมา
   “อย่าสิไปสนใจเด้ออุ่น ซ้อมหลายๆ เห็นบ่จารย์พรเพิ่นยังบอกเลยว่าเนื้อเสียงโตดี”
   “เราทำไม่ได้หรอกจอย” “อุ่น” ผมเม้มปากแน่นครับ เหมือนจะร้องไห้ออกมา มันน้อยใจ มันเสียความมั่นใจ มันอาย โอ้ย อะไรไม่รู้ล่ะแต่มันทำให้ผมก้มหน้าอยู่แบบนี้ จอยมันจับแขนผมไว้ข้าง เล็กก็ข้าง
   “จิ๊ ซุมห่านี่ เดี๋ยวกูสิไปเตะปากมัน” “อย่าเลยเล็ก เราอยากไปหาแม่เล็กอ่ะ เน่าบอกแม่เล็กก็เป็นหมอลำเก่า” ผมบอกเล็กไปครับ เล็กมันมองหน้าจอย
   “ซั่นป่ะ เฮาสิไปบอกแม่เฮาให้มาเฮือนโตนำเล็ก ห่าเพิ่นมีหยังบอก” พวกเราตกลงกันล่ะครับ ผมเลยกดโทรศัพท์ไปบอกไอ้เน่าก่อน เพราะท่าทางมันยังคงเรียนอยู่แน่ๆ แต่เอ๊ะ ถ้ามันเรียนมันก็ไม่รับอยู่ดีล่ะ ผมเลยส่งข้อความไปบอกมัน แล้วให้เล็กบอกด้วยเพราะยังไงเสียเล็กก็ต้องไปเตะตระกร้ออยู่ดี
   “พวกโตออกไปถ่าอยู่หลังโรงเรียนเด้อ เดี๋ยวเฮาสิไปเอารถก่อน” เล็กมันบอกล่ะครับ ผมกับจอยก็เหมือนเดิม อิอิ ลอดรั้วโรงเรียนตามประสาอ่ะนะ
   “มึงจะไปไหน” เอ่อ ไอ้เน่ามันโทรมาครับ ผมกำลังลอดรั้วอยู่เชียว
   “ไปบ้านเล็กอ่ะเน่า ไปให้แม่เล็กสอนร้องเพลง” ผมบอกมันไปครับ เสียงแอบสั่นนิดหน่อย
   “ไม่รอกูวะ” “ก็เหลือตั้งสองคาบอ่ะ หลบไปเถอะ อิอิ” “นิสัยๆ เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปรับ มึงโทรมาละกันนะ” รู้สึกดีนะ อิอิ เขินจัง น้ำเสียงมันปกติ ดุๆห้วนๆ แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นใจยังไงไม่รู้ พวกเราออกมาจากโรงเรียนแล้วครับ ตรงดิ่งไปยังบ้านของเล็ก แม่ของเล็กกำลังฝานอะไรสักอย่างอยู่ที่แคร่ลานบ้าน
   “แม่หวัดดีครับ แม่ทำอะไรครับ” ผมเดินปรี่เข้าไปหาทันทีครับ
   “ฮ่วย พากันหนีเฮียนมาเด้นี่ ไปจั่งได๋มาจั่งได๋ล่ะลูก แม่ฝานกลอยตั้วลูก ฮู้จักบ่ กลอย” แม่ขยุ้มกลอยขึ้นมาให้ผมดูครับ แผ่นบางๆสีขาวๆที่อยู่ในถาด
   “เคยได้ยินครับ กินได้ใช่ไหมครับแม่” ผมสนใจทันทีครับ ลืมไปเลยว่ามาทำอะไร
   “กินได้ตั้วอุ่น เพิ่นสิเอาแซ่น้ำไว้ก่อน แล้วบัดยามกินเอามาหนึ่ง ขูดบักพร้าวใส่ โฮยน้ำตาล ซี๊ด แซ่บ” จอยมันเดินมาสมทบครับ ผมทำตาวาว
   “ของแม่ยังกินบ่ทันได้ดอกลูก ไว้แม่แซ่พอแล้วแม่สิหนึ่งสูกินเนาะ เฮือนลูกแซ่ไว้โดนยังคั่นน่ะจอย คันพอกินเอามาให้แม่หนึ่งสู่กินกะได้” จอยมันพยักหน้าครับแล้วขับรถกลับบ้านไปทันที
   “แช่จั่กมื้อครับแม่” ผมสนใจมากครับ หยิบหัวกลอยที่ยังไม่ฝานขึ้นมาดู คือหัวมันเหมือนกับหัวมันนะครับ กลมบ้างรีบ้าง แต่มีขนเถอะ
   “สองสามมื้อพู้นล่ะลูก ให้มันคายแนวคันมันออก อย่าสิไปจับเด้ อันปอกเปลือกแล้วน่ะ มันคันเด้ลูก” แม่ปรามไว้ครับผมเลยวางลง ตั้งใจดูแม่ฝานกลอยอยู่
   “อุ่นๆ ลืมติ๊ เฮามาหยังนี่” เล็กมันสะกิดครับ ผมเลยทำตาโต เออว่ะ ลืมไปเลย กลอยนี่ก็น่าสนใจนะ
   “อีแม่ เพิ่นมาให้เจ้า ลำล่องให้ฟังเด้นี่ เพิ่นสิขึ้นประกวดฮ้องเพลง แต่ฮ้องบ่เก่ง เลยมาให้เจ้าแนะนำเพิ่นแน่” เล็กมันบอกให้ล่ะครับ ผมเลยยิ้มแหยๆ
   “ฮ่วย ฮ้องเพลงสู่มื้อนี้มันสิคือกันติ๊”
   “เพิ่นมักคั่กแหม่ะ สาวจอยลองลำให้ฟังมื้อเซ้าล่ะติดใจ” ผมพยักหน้าเสริมครับ ทำตาวิ้งๆขอร้องแม่อยู่ ส่วนเล็กมันไปเล่นตระกร้อแล้วครับ
   “โอ๊ย โอ๊ย ละหนอ ละว่าดวงเอ๋ย ดวงวิญญาณ ลอยล่อง สังขารลัยลาโลก โชคบ่มีผีนั่งไห้ อาศัยลูกผู้อยู่บ้านบ่ทานให้ แม่นสมบุญเด้น้อ โอ้ย หนอ ละมาบัดนี้ กล่าวถึงวิญญาณเจ้ามาคอยเอาเข่าห่อ รอหาลูกและเต้าสินำเข่ามาส่งบุญ เหลียวหาลูกพี้พู้นทั่วเถิงทั้งอาราม ถามหมู่มานำกันว่าบ่เห็นลูกหลานเจ้า หรือว่าลูกเฮามัวเล่น” เอ่อ สะอึกครับ ของจริงนี่แบบว่า ขนลุกวาบๆไปถึงสันหลัง ผมเม้มปากแน่นหัวใจกระตุก นี่แม่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยนะ เปล่งเสียงออกมา บาดไปถึงใจ
   “ออกวัดมาแม่กะได้แต่จอบส่องเหลียวหา ฟายน้ำตาเหลียวมอง เสียใจเด้คราวนี้ แม่มาดายสิเมือเป่าล่ะน้อ โอ้ย หมากพลูยาห่อเข่าเพียงปั้นบ่ได้กินลูกเอ๋ย หมู่เพิ่นได้ลาบซิ้นกองจ่านผ่าน แม่นี่หนาซาวห่อตองมาเลียพอประทังฮองท้อง”
   “ฮึกๆ ฮือๆ” เอ่อ ผมฟังรู้เรื่องนะ ผมฟังรู้เรื่อง มันเสียดไปถึงหัวใจ ผมซุกหน้าลงกับตักแม่ทันที ร้องไห้ออกมา
   “ฮ่วย แม่นเป็นหยังน้อลูก” “ฮือๆ แม่ มันเศร้าจังเลย มันเศร้าจังเลย ทำไมลูกเขาไม่มาทำบุญให้แม่เขาล่ะครับ “ ผมเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา ไม่ได้ดัดจริตนะ มันรู้สึกเศร้ามากจริงๆ
   “โอ้ยหนอ เป็นคนเมืองจั่งได๋ซ่างมาฮ้องไห้นำลำล่อง เป็นตาดีใจหลายแท้” แม่เองก็ลูบหัวผมอยู่ครับ
   “ประเพณีอีสานตั้วลูก บุญเข่าประดับดิน คนโบราณเพิ่นว่า ผีพ่อแม่ ตายายเพิ่นสิมาเอาเข่านำลูกนำหลานไปยายให้ แต่ในกลอนลำ ยายเพิ่นไปถ่าลูกอยู่เหมิดมื้อเหมิดคืน ย้อนว่าตอนเป็นคนบ่เคยเฮ็ดควมดี กลอนลำมันกะสอนให้คนเฮาเฮ็ดแต่ควมดีนั่นล่ะลูก บัดยามตายไป เถิงลูกหลานบ่มายายเข่าให้ กะสิได้กินได้อยู่ย้อนว่าตอนเป็นคนอยู่เคยแจกเคยทาน” ผมพยักหน้าแล้วปาดน้ำตาออกครับ
   “แม่เอื้อนยังไงครับ ทำไมเสียงถึงได้เหมือนจะหายแต่ไม่หาย”  ผมนั่งหันหน้าเข้าหาแม่จะถามล่ะครับ
   “พู้นๆ นางเอกเก่ามาแล้ว แม่รับบทเป็นแต่บทแม่นางเอกดอกหล่า ถามเพิ่นนั่น บทโศกนี่คนฮ้องไห่เหมิดบ้านเด้นั่น” อ่า จอยมาแล้วครับมากับแม่ ผมรีบลุกไปรับ ยกยกมือไหว้แม่จอยที่คุ้นเคยกันดี จอยเอาถุงใส่กลอยแช่มาด้วย
   “บู้ย ลูกปลัดจั่งได๋จั่งอยากมาฟังลำล่อง บ่เคยพ้อ เด็กน้อยสู่มื้อนี่มันสิฮู้จักบ่ ยาย”
   “กะจั่งว่าฮั่นล่ะ หว่างฮั่นลำกลอน วิญญาณแม่ให้ฟัง น้ำตาพังย้วยๆออกแหม่ะ เอาจักบาดกะน่ะเจ้าน่ะ” จอยเดินไปตักน้ำมาให้แม่ครับ ผมก็นั่งอยู่ข้างๆ แม่จอยลำเรื่อง ลีลาวดี ฉากที่ตัดขาดกับพระเรวัตระ เอ่อ โอ้ยนะ ผมร้องไห้เลยครับ จอยเองก็ร้องไห้ ผมเลยปล่อยเลยไม่มีกั๊ก จับมือกับจอยร้องไห้อยู่
   “ต้องมีค่าคายให้แม่เด้นี่” แม่พูดแล้วก็หัวเราะครับ
   “วันหลังนะครับแม่ ว่าแต่คายนี่อะไรครับ” ผมเหมือนจะเข้าใจครับ พอแม่ได้ยินก็หัวเราะ
   “โอ้ย บ่เป็นหยังดอกหล่า ไปๆ ไปดังไฟ แม่สิหนึ่งกลอยสู่กิน จอยไปเบิ่งบักพร้าวมาดู้ หน่วยได๋เป็นตาใซ้แน่” พวกเราก็ช่วยกันล่ะครับ จอยมันไปปอกมะพร้าวส่วนผมก่อไฟ ทีให้จอยปอกนั้นเพราะผมทำไม่เป็นเถอะ กลัวมีดจะกินมือเอาไม่ได้กินแรงเพื่อนนะ พอเย็นบนเตาก็มีหวดนึ่งกลอยอยู่ครับ ส่งกลิ่นหอมออกมาไกลเชียว
   “หอมจัง” ผมทำท่าล่ะครับ
   “สมัยแต่ก่อนมันอึดมันอยาก เพิ่นกะพากินกลอยกินมันนี่ล่ะลูกแทนเข่า สมัยสู่มื้อนี้บ่ค่อยมีแล้ว” แม่บรรยายครับ ผมก็พยักหน้า รู้สึกรักที่นี่หมดใจจริงๆ มันไม่ใช่แค่ภาคอีสานแห้งแล้งๆ แต่ผมว่าคนที่นี่ วัฒนธรรมที่นี่ที่สั่งสมเป็นปึกแผ่นจนเรียก อีสาน ผมว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เราเข้าใจ ไม่รู้สิ คุณว่ามีที่ไหนบ้างที่คุณจะหลับตาลงแล้วรู้สึกอบอุ่นใจได้บ้าง ผมว่าผมรู้สึกว่าที่นี่ครับ ไม่ได้เวอร์นะ ผมชอบคนเก่าๆอย่างแม่จอยกับแม่เล็ก ในแววตานั้นมองผมเหมือนผมเป็นลูกคนหนึ่ง ในสัมผัสนั้นผมซาบซึ้งไปถึงใจ คนไม่มีแม่ก็อย่างนี้อ่ะนะ
   “หนึ่งหยังน้อแม่” ค่ำพอสมควรครับ ไอ้เน่ามันก็ขับรถมาพร้อมน้องโจ้ หิ้วหม้ออะไรมาด้วยไม่รู้
   “หนึ่งกลอยลูก” “บู้ย เป็นตาแซ่บเนาะ หวืยอ้ายอุ่น กินหลายแท้” อ่านะ ไอ้น้องโจ้มันมาจกในถ้วยของผมครับ
   “อ่า ล้างมือยังอ่ะโจ้” ผมทำหน้าเหวอๆ
   “บ่ จกหำมาหว่างฮั่น” “แหวะ ไอ้บ้า” ผมรีบวางถ้วยทันทีครับ
   “เป็นตาซังหลายบักโจ้ อย่าสิซวดลวดหลาย” จอยมันด่าน้องทันทีครับ ผมก็หัวเราะไม่ว่าอะไรมันหรอก เพราะกินเยอะแล้วจริงๆ
   “แม่นเอาหยังมานำล่ะนั่นน่ะเดี๋ยว” จอยมันถามครับ
   “ซิ้นหมัก เอามาให้อีแม่ปิ้งกิน บักเล็กมันสิกินแจ่วฮ้อนอยู่เฮือนพู้นเด้ ให้เอาไว้ใสเกาะอีแม่” ไอ้เน่ามันเดินไปหาชามมาใส่ล่ะครับ
   “โอ้ย ซาดเนาะ บ่ต้องเอามาดอกลูกมันสิบ่พอกันกิน” แม่ปรามไว้ครับ
   “พอๆแม่ จอยมาแบ่งเอาไปให้อีพ่อกับอีแม่อยู่เฮือนแน่นี่ หรือสิให้บักโจ้เอาเมือไว้เบาะ” ไอ้เน่ามันจัดแจงอยู่สักพักล่ะครับ ก็ได้เนื้อหมักสองถ้วย โหยนี่แสดงว่าพี่ต้อยซื้อเนื้อเยอะนะเนี่ย เพราะแบ่งมาสองบ้านนี่ก็คนละเกือบถ้วย เออเนอะ ลืมไปว่าบ้านผมก็แบบนี้ล่ะ พ่อผมคงเพิ่มเงินให้แน่ๆ
   “ไงมึง ทำไมตาบวมๆ” อ่านะยังมามองเห็นอีกไอ้นี่
   “บ่บวมสิจั่งได๋ ฮ้องไห้ตั้วหว่างฮั่น เพิ่นอินลำล่อง” อ่านะ ผมหันไปทำหน้าหงิกใส่จอยครับ จอยก็หัวเราะไม่สนใจ
   “ฮ่าๆ มึงฟังออกเหรอวะ” “ออกดิ เศร้าจะตาย” “เออ มึงเก่งๆ ป่ะรีบกลับไปช่วยเพื่อนๆทำ เดี๋ยวไม่ได้แดกกันพอดี” สรุปพวกเราก็ย้ายที่ไปบ้านผมล่ะครับ ผมลาแม่ทั้งสองแล้วก็นั่งซ้อนท้ายไอ้เน่ากลับ ส่วนจอยรอให้โจ้ไปส่งแม่กลับบ้านก่อนแล้วค่อยมารับจอยไปที่บ้านผม พอไปถึงเพื่อนก็กำลังตั้งวงเชียว พ่อผมนั่งเป็นประธานอยู่
   “พี่ต้อยๆ อุ่นจะเตรียมคายไปให้แม่เล็ก กับแม่จอยด้วยอ่ะ แม่ลำให้ฟัง” ผมเดินไปหาพี่ต้อยก่อนใครเลยครับ
   “บู้ย คือได้ฟังลำ เอื้อยคือบ่ได้ฟัง เฮือนเพิ่นอยู่หว่างได๋เกาะค่าคุณอุ่น บู้ยเนาะ” อ่านะ คอเดียวกันอีก
   “วันหลังเดี๋ยวอุ่นพาไป แต่คายอ่ะ ต้องเตรียมไปด้วยนะ”
   “หวืยสิยากหยัง คายกะมีขันธ์ห้า ดอกไม้ธูปเทียนท่อนตั้ว”
   “เอาผ้าซิ่นไม่ได้เหรอ อุ่นเห็นในตลาดสวยๆเยอะเลย”
   “ลงทุนปานนั้นติ๊ เป็นตาลำม่วนเนาะ อยากฟังแล้วเด้” ผมตกลงกับพี่ต้อยอยู่นานครับ ผมจึงเดินมาหาเพื่อนๆ
   “แล้วฮ้องเพลงไปฮอดไสล่ะอุ่น” นายไม้ถามขึ้นครับ
   “ถึงไหนล่ะ จิ๊ เซ็งอยู่เนี่ย เพื่อนๆโห่เอาดิ ถึงวันได้ขายหน้าเขาแน่ๆ”
   “ไหนลองร้องให้พ่อฟังหน่อยซิลูก ไปร้องท่าไหนเพื่อนๆถึงได้โห่เอา” อ่านะ
   “ไม่เอาอ่ะพ่อ อุ่นยังไม่ได้เลือกเพลงเลย อีกสามวัน เหอๆ” ผมทำหน้าเซ็งๆ
   “เอาเพลงมารายบ่อุ่น สิได้ลบคำสบประมาทคน” จอยมันเสริมครับ
   “บ้าเหรอ เสียงสูงขนาดนั้นไม่ตกม้าตายเหรอจอย”
   “สูง มึงก็ปรับให้เข้ากับเสียงมึงดิ ไปร้องเลียนแบบนักร้องก็ตายทุกคนล่ะวะ” อ่า ไอ้เน่าครับ ผมมองหน้ามันแล้วหันไปมองหน้าจอยทันที
   “จอยๆ ป่ะไปช่วยเราเลือกเพลงก่อน” อิอิ เห่อครับ เพิ่งจะคิดได้ ผมลุกทันที จอยมันทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ต้องลุก ผมขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดยูทูปเลือกเพลงเลย
   “เพลงนี้เป็นจั่งได๋” “อ่า ยากไปเถอะ เสียงสูงเรื่อยๆ ไม่ไหวม้างจอย” “ฮ่วย บ่ลองสิฮู้บ่ ให้เฮาเป็นคอรัสให้กะได้ เดี๋ยวไปบอกไอ้ไม้นำ มันฮ้องเพลงเก่งเด้นั่นฮู้บ่” อ่านะ ตกลงเลยก็ได้ครับ เอาใจช่วยผมด้วยนะ อิอิ

Written by eiky

ปล. ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากนะครับ ไปกินนึ่งกลอยกันเร้วว อิอิ หอมๆน้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-09-2012 17:41:26
นึกว่าน้องอุ่นจะร้องหมอลำ แต่คงไม่ไหว ยากเกิน
เนื้อความของกลอนลำช่างกินหัวใจ มิน่าน้องอุ่นถึงร้องไห้
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 26-09-2012 18:14:42
อุ่นสู้ๆ เน้อ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 26-09-2012 18:18:23
ใกล้จะได้ฟังอุ่นร้องเพลงแล้ว เซอร์ไพรส์
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 26-09-2012 18:29:43
มั่นใจไว้น้องอุ่น วันร้องจริงเอาใอ้พวกสบประมาท หน้าหงายไปเล้ย สู้ๆๆๆๆ นะ

 เน่าอย่าจัดหนักนักสิ สงสารเบบี๋

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 26-09-2012 18:49:43
อุ่นสู้ๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 26-09-2012 19:52:29
รออุ่นขึ้นโชว์
เน่าน่าตีนักชอบทำอุ่นเจ็บ :P
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 26-09-2012 20:11:11
รอตอนหน้า น้องอุ่นโชว์ให้พวกที่โห่หน้าหงายไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 26-09-2012 21:09:51
ตื่นเต้นไปกับน้องอุ่นซะแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 27-09-2012 10:04:47
เอาใจช่วยอุ่น  นะ   แต่อย่าให้รอนานนะคับ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 27-09-2012 10:41:13
รอน้องอุ่นขึ้นโชว์
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 27-09-2012 19:13:40
ม่วนๆๆคัก มาต่ออีกเด้อน้องหล่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-09-2012 19:32:03
นู๋อุ่นอ่วมตามคาด...ชิ..หมั่นไส้เจ้าเดี๋ยวหลาย...
เด็กน้อยฮึดสู้คำสบประมาท...เดอะสตาร์ชิดซ้าย...AFชิดขวา..
อุรดิศ กำลังแรงงง... :laugh:

 :L1: น้องอิ๊ก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 27-09-2012 21:30:11
สู้ๆเอาให้ นางเพ็ญ อิชาติ และคนอื่นๆ อึ้งตายไปเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 27-09-2012 23:09:14
อุ่นจะเลือกเพลงอะไรน๊าาา :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-09-2012 23:14:32
โคตรกดดันอ่ะ  :o211:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 28-09-2012 01:11:33
+1 น้องอุ่น สู้ ๆ น่า ๆ แต่น้ำลายหก ตอนึ่งกลอย อิอิ อยากกินไป หาไหนอ่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 28-09-2012 09:11:08
มารอฟังน้องอุ่นร้องเพลง 
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-09-2012 10:20:04
อุ่นสู้สู้ :L1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 28-09-2012 14:01:07
เตรียมยางวงไว้ดีดปากคนโห่ น้องอุ่น
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 28-09-2012 14:30:46
อุ่นจัดเต็มหนู โชว์ให้อึ้งทั้งห้องประชุมเลย วิชาอื่นเราแย่ แต่เราท๊อปภาษาอังกฤษนะ สู้ๆลูก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-09-2012 16:13:21
รอจ้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 30-09-2012 09:51:58
น้องอุ่นสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 03-10-2012 23:18:22
อุ่นสู้ๆ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 04-10-2012 08:38:13
You’re My BaBy!!

   “ตกลงมึงเลือกเพลงไรวะ” พอจะนอนผมก็ถามมันล่ะครับ เห็นเรียกสัดไม้เข้าไปคุยด้วย เห็นสัดไม้มันบอกว่าจะให้มันเป็นคอรัสให้ด้วย มันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรครับเพราะมันร้องเพลงเก่งอยู่แล้ว
   “เพลงนี้อ่ะ” มันเปิดให้ผมฟังครับ
   “โห เสียงสูงจะตายห่า มึงจะร้องได้เหรอวะ” พอได้ยินก็ตกใจครับ แม่งเล่นเพลงยากโครตๆ
   “ต้องซ้อมอ่ะ ยากมากแต่จอยบอกว่าเอาเพลงนี้ล่ะ ให้พวกนั้นหงายหลัง”
   “มึงไม่เผื่อไว้อีกเพลงล่ะ เผื่อล่ม” ผมแนะนำมันล่ะครับ
   “เหรอ งั้นเน่าว่าเอาเพลงไหนดีอ่ะ”
   “เอาเพลงร้องง่ายๆแต่ก็ไม่ง่ายจนเกินไปดิ จะได้กันเหนียว” ผมก็เดินมาเลือกเพลงให้มันล่ะครับ
   “เอาแนวแร็พๆหน่อยดิ” “บ้าเหรอ ใครจะไปแร็พทัน แค่นี้ก็จะแย่แล้วอ่ะ”
   “ไหนลองร้องให้กูฟังหน่อยดิ๊ จะได้วิจารณ์” ผมปีนขึ้นมาบนเตียงล่ะครับ นอนเอามือรองคออยู่
   “งั้นเน่าวิจารณ์ให้หน่อยนะ” มันก็ลุกขึ้นยืนข้างๆเตียงครับ มันค่อยๆเปล่งเสียงออกมา อืม เสียงมันก็ไมได้แย่นะ ออกจะใสๆเสียด้วยซ้ำ
   “เฮ้ยๆ ทำไมบีบเสียงแบบนั้นวะ มึงอย่าไปเลียนแบบเขาดิ มึงเลือกเพลงผู้หญิงมันร้องยากอยู่แล้ว ยิ่งไปกระแดะบีบเสียงตามเขาอีก ตายดิวะ” ผมลุกขึ้นนั่งครับ มันทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ยอมร้องใหม่ มันฝึกกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ จนมันเหนื่อยล่ะครับ แล้วมันก็ขึ้นมาบนเตียง
   “เรากลัวเราทำไม่ได้อ่ะเน่า” มันระบายความในใจออกมาล่ะครับ สีหน้าแววตาของมันดูกังวลอยู่มากล่ะ ผมเข้าใจนะเพราะเวลาแค่ไม่กี่วันใครก็คงฝึกไม่ทันล่ะ อีกอย่างตั้งแต่รู้จักมันมาผมไม่เคยได้ยินมันร้องเพลงเลยเถอะ ส่วนมากมีแต่ผมที่แหกปากร้องตอนอาบน้ำ
   “เออน่า กูเชื่อมึง แล้วลองซ้อมเข้ากันกับพวกนั้นยังอ่ะ”
   “พรุ่งนี้อ่ะ นัดกันที่บ้านจอย” “ทำไมต้องไปบ้านจอยด้วยวะ ไม่มาบ้านเรา”
   “ก็จะให้แม่จอยช่วยติวให้ไง” “อ้อ เออๆ นอนๆ ง่วงแล้ว จะสี่ทุ่มอยู่แล้วนะเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปไม่ทันอีกหรอกมึง” ผมกอดมันล่ะครับ มันเองก็นอนเอาหน้าซุกเข้าหาผม คืนนี้ปล่อยมันไปสักวันเถอะ เห็นสภาพแล้วสงสารยังไงไม่รู้
   “ตั้งใจนะลูก” พ่อตาผมก็อวยพรให้มันตอนเราออกมาจากบ้านล่ะครับ อากาศตอนปลายปีนี่มันหนาวเย็นเหลือเกินนะ แม้จะใส่เสื้อกันหนาวมาตัวใหญ่แต่ก็ยังหนาวอยู่ แต่ผมดีหน่อยที่เล่นกีฬาเลยไม่หนาวมาก แต่ไอ้เบบี๋มันหนาวจนปากสั่น ตอนไปโรงเรียนมันก็กอดเอวผมอยู่ ทุกวันนี้มันไม่ค่อยอายแล้วครับ ไม่ต้องให้บอกพอขึ้นรถปุ๊บกอดปั๊บ บอกแล้วกูน่ะมันอร่อย ฮ่าๆ
   “เป็นจั่งได๋วะ บักไม้ เป็นตาคือบ่” พอจะขึ้นเรียนผมก็ถามสัดไม้ล่ะครับ เพราะตอนเลิกแถวมันไปหาภรรยาผมก่อน
   “คือตั้ว เสียงเพิ่นดีกะด้อ ปรับหน่อยเดียวกะได้แล้ว”
   “มึงกะเบิ่งๆให้กูแน่ล่ะ อย่าสิให้เขาโห่เด้อมึง”
   “ฮ่วย ไผสิมาโห่เดี่ยวนิ เพิ่นเลือกเพลงยากนำล่ะกูว่า สาวจอยเลือกให้ เสียงสูงกูว่าแม่นปีนต้นบักพร้าวเอาโลด”
   “มื้อแลงซั่นงดเตะตระกร้อเนาะ เดี๋ยวกูสิซวนบักโจ้ไปแทงปลาไหลถ่า พวกสูฮ้องเพลงแล้วๆสิได้ผัดกินแซ่บๆ”
   “แม่นๆ เออ ไผเป็นวงดนตรี แม่นซุมบักแบงค์บ่บักไม้” สัดเคนมันถามขึ้นครับ ผมจึ๊กขึ้นในใจทันที ตั้งแต่มีเรื่องกันเจอหน้าผมมันจะหลบตลอด แต่ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันมากนัก
   “กูย้านอยู่ พวกนี้มันคุมวงดนตรีมาแต่ได๋ เดี๋ยวพักเที่ยงกูไปถามจารย์พรให้” เราสามคนมีสีหน้าแปลกไปทันทีครับ ไม่ใช่แค่ผมหรอกนะ
   “แม่นๆ เฮ้ย ซุมนั้นอีหลี” สัดไม้มันวิ่งมาเข้ากลุ่มตอนพักเที่ยงครับ ผมหน้าเสียไปทันที
   “บ่มีหยังดอกน่า งานโรงเรียนใหย่ปานนี้ พวกมันบ่กล้าเฮ็ดหยังดอก” สัดเคนมันตบบ่าผมล่ะครับ
   “มีไรเหรอเน่า” ไอ้เบบี๋มันนั่งอยู่ข้างๆผมครับ
   “วงดนตรีเด้อุ่น พวกบักแบงค์” สัดเคนมันชิงตอบครับ ไอ้เบบี๋ทำหน้างงๆ
   “แล้วไงอ่ะ” “ป้าด กะคนเคยมีเรื่องกันแหม่ะ บ่ย้านมันเฮ็ดทั่วทีปบ่”
   “บักห่านี่ เซาๆ แดกไปเข่าน่ะ” ผมตัดบทครับ ไอ้เบบี๋มันยังทำหน้างงๆอยู่
   “เขาจะแกล้งเราเหรอเน่า” นั่นไงครับ พอกินข้าวเสร็จมันถามทันที
   “ไม่หรอกน่า มันไม่กล้าหรอก ถ้ามันทำ จารย์พรล่ะจะเล่นมัน” มันพยักหน้าครับ
   “ได้เยอะแล้วน้าเน่า คาบสังคมจารย์ไม่เข้า เรากับจอยเลยไปซ้อมที่ห้องศิลป์ จอยเสียงดีมากๆ”
   “หวืย บ่แม่นดอก เจ้าของนั่นล่ะเสียงดี ถ่าแต่ไอ้ไม้นั่นล่ะ มื้อแลงคือสิคืบหน้ากั่วนี้อยู่ดอกเฮาว่า” สาวจอยเสริมครับ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไป ผมไม่ค่อยห่วงว่าใครจะมาแกล้งมันหรอกครับ อ้าว ก็ไม่เคยเห็นไงมันจัดอีสุชาติซะเกือบตาย แต่ถ้าเรื่องคนมาจิกกัดมันผมก็ไม่ค่อยห่วงเหมือนกัน เพราะสาวจอยกับไอ้เล็กมันก็คอยเป็นโล่ห์อยู่ จะว่าไป กูดีใจนะเนี่ยที่มีเพื่อนดีๆ แม้ตัวจะห่างมันแต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่ามันจะไม่เป็นอะไร
   “เจ็บคออ่ะเน่า ร้องเพลงจนเจ็บคอเลยอ่ะ” พอเลิกเรียนผมก็ไปรับมันหน้าโรงเรียนล่ะครับ มันหนาหน้าเศร้าๆ
   “อ้าว งั้นแวะเซเว่นก่อนยินยาอม” ผมบอกมัน
   “เฮากะเจ็บ พากันฮ้องลวดมื้อเอาโลด” ผมพยักหน้าครับ แล้วนำไปก่อน ไอ้โจ้มันตามออกมา เพื่อนๆก็ตามาด้วย เพราะไม่เตะตระกร้อกันก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เลยเฮโลตามกันไปเป็นพรวน
   “กินน้ำอุ่นนะ” ผมบอกมันตอนที่ไปถึงบ้านจอยแล้วครับ
   “อืม เน่าจะไปแทงปลาไหลเหรอ” “เออดิ นั่นๆ อย่าๆ อย่ามาทำตาแบบนี้ มึงฝึกร้องเพลงไปนั่นล่ะ เดี๋ยวกูมา” ผมบอกมันครับ ว่าไปมันนี่โครตน่ารักเลยนะ ทำตาอ้อนๆ พอเพื่อนๆครบ พวกเราก็เตรียมอุปกรณ์เดินลงทุ่งไปเลยครับ มีผม ไอ้โจ้ ไอ้เล็ก สัดเคน ไอ้เต้ ส่วนที่เหลือก็ซ้อมร้องเพลงอยู่
   “ผมได้ยินอ้ายอุ่นเพิ่นฮ้องเพลงหว่างฮั่น บู้ย เสียงดีคั่กเด้ออ้ายเดี๋ยว” ไอ้เต้มันบอกล่ะครับ
   “แม่นๆ เป็นตาฟังเนาะ ปีกลายสาวฟ้าเพิ่นฮ้องเพลง ยังบ่ม่วนซ่ำนี้เลย” สัดเคนเสริมครับ รู้สึกเป็นปลื้มขึ้นมาหน่อย แต่ก็นั่นล่ะครับ จะเหลิงไม่ได้หรอก เพราะมันมีอะไรให้ต้องปรับปรุงอยู่ล่ะ พวกเราก็ไปแทงปลาไหลกัน ได้มาไม่เยอะเท่าไหร่ครับ เพราะหน้าหนาว ไม่ใช่อะไรหรอก หนาวนี่หว่าใครจะไทนแช่น้ำไหววะ พอขึ้นมาก็ปากสั่นกันทุกคนเลยครับ
   “บักนาวเหมิดเป็นกะต่าแล้วเด้เนี่ย เจ็บคอแฮง” พอไปถึงก็เห็นสามคนนั่งหมดอาลัยอยู่บนแคร่ล่ะครับ มีแม่สาวจอยคอยเทรนให้อยู่
   “ป่ะอ้ายไปครัวปลาไหล บักเต้มึงไปเก็บผักมาแน่ะ” ไอ้โจ้ครับมันร้องสั่งไอ้เต้ พวกผมก็เลยเดินผ่านเข้าไปในครัว
   “เป็นไงวะ” ผมผิงไฟอยู่จนกางเกงมันหมาดล่ะครับ เลยออกมาถาม เห็นมันหน้าแดงๆ
   “ก็โอเคอ่ะเน่า แต่ยากมาก แม่ให้ฝึกเอื้อนด้วย” มันหันมาบอก หายใจทางปากครับ
   “เออน่า ฝึกไปเยอะๆ เดี๋ยวก็ได้เองล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันแล้วกลับเข้าไปทำปลาไหลกับเพื่อนๆต่อครับ พวกเราก็กินข้าวกันที่บ้านสาวจอย มีพ่อแม่สาวจอยแล้วก็พวกเรา พอเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
   “เป็นไงบ้างลูก” พ่อตาครับ นั่งจิบชาอยู่ใต้ถุนบ้าน คงรอพวกเราล่ะครับ
   “เจ็บคออ่ะพ่อ ฝึกหนักเลยอ่ะ” มันเข้าไปนั่งข้างๆพ่อตาล่ะครับ
   “กินยาด้วยนะลูก เดี๋ยววันจริงเจ็บคอมาแย่เลยนะ”
   “มันเหมือนคอแห้งๆอ่ะ ใช้เสียงเยอะไปหน่อย แต่จอยเอามะนาวกับเกลือมาให้กินตลอดเลยนะพ่อ ท้องจะเสียไหมเนี่ย” มันโม้ให้พ่อตาฟังครับ ส่วนผมก็นั่งฟังอยู่
   “แล้วลูกเดี๋ยวไม่ได้เล่นอะไรกับเขารึ” พ่อตาหันมาถามผมครับ
   “ไม่ครับ ปีที่แล้วผมเล่นดนตรี แต่ปีนี้ไม่เล่น เดี๋ยวผมจะอัดวีดีโอไงครับ” ผมบอกครับ
   “เออๆ ดีๆ พ่อก็อยากดู ทำไมทางโรงเรียนเขาไม่เชิญนะ”
   “แหมพ่อ อายนะ งานมันไม่ใหญ่มั้ง พ่ออย่าไปดีกว่า รอดูวีดีโอ อิอิ” มันหัวเราะครับ คุยกันอยู่สักพักพวกเราก็ไปอาบน้ำ หนาวเถอะ พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นห้องเลย
   “คุณอุ่นๆ เอื้อยเอาบักนาวฝานกับน้ำเผิ้งมาให้ค่า สิได้เซาเจ็บคอ ยานำ” พี่ต้อยแกมาเคาะประตูล่ะครับ
   “อยากให้ฮอดไวไวเนาะ เอื้อยล่ะอยากเบิ่ง”
   “ถึงไวก็ฝึกไม่เยอะดิพี่ต้อย กลัวคนจะโห่อยู่เนี่ย ขอบคุณนะครับพี่ต้อย” ไอ้เบบี๋มันออกไปรับเอาน้ำอุ่นกับยา รวมถึงน้ำผึ้งกับมะนาวล่ะครับ มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายแล้วก็มานอน มันไม่ฝึกแล้วคงจะเพลีย ไม่นานมันก็หลับไป
   “I would never be too faraway” หือ ใครมาครางกลางดึกวะ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาครับ ตอนแรกคิดว่ามันคึกตื่นขึ้นมาฝึกตอนดึกๆดื่นๆ ผมลืมตาขึ้นมอง มันก็ยังคงหลับตาอยู่นะ
   “ละเมอเหรอวะ” ผมเอามือลูบหน้ามันเบาๆ ปากมันขยับไปมา ตายห่า เห็นแล้วสงสารจังครับ มันคงฝึกแบบเอาเป็นเอาตายเลยนะเนี่ย ขนาดนอนยังเก็บเอามาฝันจนละเมอ ผมเลยจูบที่หน้าผากมันเบาๆครับ มันเลยนิ่งไป
   “เมื่อคืนมึงฝันเหรอ” พอเช้าผมเลยถามมัน
   “หือ เราน่ะเหรอ ไม่รู้ดิ จำไมได้” “เมื่อคืนมึงละเมอนะ” ผมบอกมันครับ
   “อ่า ละเมอว่าไรอ่ะ” มันนั่งซ้อนท้ายอยู่ล่ะครับ
   “อยากโดนๆๆ ผัวจ๋า เอาแรงๆ” “บ้าเหรอ ไอ้นี่” มันทุบหลังผมทันทีครับ
   “อ้าว จริงนะเว้ย กูจะหลอกมึงทำไมเนี่ย กูตื่นมาเจอพอดี ตอนแรกว่าจะเอาซะแล้ว”
   “อ่า จริงดิ เราละเมออย่างงั้นจริงเหรอ” “เออ แวะหาที่เอาก่อนป่ะล่ะ ฝันมึงจะได้เป็นจริง”
   “บ้า พูดไรไม่รู้” มันอายครับ ทุบหลังผมใหญ่ ผมหัวเราะชอบใจ ให้ตายเถอะแกล้งมันนี่ไม่มีเบื่อจริงๆเลย
   “เฮ้ยๆ ทำไมหน้าแดงวะ แหม อยากก็เล่นตัวนะมึง” พอถึงโรงเรียนมันลงรถมาผมก็แซวต่อครับ
   “อ่า ไอ้บ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” มันวิ่งไปเลยครับ ผมก็ยืนหัวเราะอยู่โรงรถ
   “ซาดอารมณ์ดีเนาะ บักห่ามึง เมื่อคืนจัดไปจักดอกล่ะ” สัดเคนครับ
   “ฮ่วย บ่หลายดอก สองดอก” “ป้าด กูว่าอยู้ เป็นหยังเพิ่นนั่นจั่งย่างแปลกๆ ขาถ่างๆ”
   “ป้าบ” “ฮ่วย เตะกูเฮ็ดหยัง บักอันนี่” “จอบเบิ่งเมียกูบ่บักห่านี่ อยากตายติ๊” ผมเตะมันครับ ไอ้เคนหัวเราะแหะๆ พอเพื่อนๆครบก็เดินไปที่โรงอาหารครับ
   “I can’t live, I can’t live here without you no no I can’t live” พอเข้าไปในโรงอาหาร เสียงคนหอนก็ดังขึ้นล่ะครับ กลุ่มพวกสาวเพ็ญกับอีสุชาติ ไม่ได้มองมาทางนี้นะ แต่มันนั่งถัดไปหน่อย แต่แหกปากนี่แบบว่าวอนส้นตีนมากๆ
   “ว้าย เพ็ญ ร้องเพราะมากเลยอ่ะ”
   “เนอะ จารย์พรน่ะเลือกใครก็ไม่รู้ เสียงดีๆสวยๆไม่เลือก ไปเลือกพวกกะโหลกกะลา” กูทุบโต๊ะทันทีครับ สัดไม้มันจ้องผมแบบว่า หยุด ผมเลยทำได้แค่นั้น แต่เสียงนั้นเงียบไปทันที
   “ปากหมาเนาะ หวืย อย่าเด็ดขาดเด้อสู สิงามปานได๋ คันไปมีหยังนำคนแนวนี้ คือสิเกาะคือปลิงเนาะ บ่เลิกบ่แล้วจั่กเทื่อ” สัดเคนมันเปรยๆขึ้นล่ะครับ ผมยิ่งเลือดขึ้นหน้า พอสักพักไอ้เบบี๋กับสาวจอยก็เดินกลับมาจากเข้าห้องน้ำ หน้าตามันเหวอๆ ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
   “เดี๋ยวเรารีบไปซ้อมก่อนนะ ไม้ คาบแรกไม้เรียนไรอ่ะ” มันหันไปถามสัดไม้ครับ
   “คณิต” “อ้อ เหรอ งั้นเรากับจอยไปซ้อมล่วงหน้านะ” มันทำเสียงแปลกๆครับ ผมมองอยู่ล่ะ
   “บ่เฮียนติ๊โตน่ะ” สัดไม้ถามกลับ
   “เราว่าจะโดด” “แม่น ซาดเป็นตาซังเนาะคนน่ะ หว่างฮั่นกะมีคนมาเว้าใส่แหม่ะ” สาวจอยโพล่งออกมาครับ ผมตาลุกโพลงทันที
   “ไผ” ผมตวาดออกไป
   “ช่างมันเถอะเน่า ตอนนี้เราต้องฝึกให้เยอะๆ จะได้ลบคำสบประมาทของใครๆได้” ไอ้เบบี๋มันจับแขนผมไว้ล่ะครับ
   “ฮ่วย ไผเดี๋ยวนิคือมาปากบ่ดีแท้ แม่นเห็นพวกโตฮ้องแล้วติ๊ จั่งมาเว้าใส่” สัดเคนครับ ท่าทางขึ้นเหมือนกัน
   “แม่นๆอ้าย ห้องผมน่ะ เขาอยากเบิ่งอ้ายอุ่นฮ้องเพลงสู่คน อย่าสิไปสนใจเด้ออ้าย” ไอ้โจ้มันให้กำลังใจครับ ก็ผมกับไอ้เบบี๋มีแฟนคลับอยู่นี่หว่า ห้องไอ้โจ้นี่ล่ะ ฮ่าๆ
   “ซุมหมู่เอื้อยนกนั่นล่ะ ดีแต่หน้างาม ปากคือหมานี่” สาวจอยบอกออกมาจนได้ครับ ผมตาขวางแล้ว
   “ไม่เป็นไรหรอก เน่า เราจะโดดเรียนนะ ไปรับด้วยที่บ้านจอย” มันกระซิบบอกผมครับ
   “บักไม้ มึงกะโดดติ๊ มื้อนี้จารย์เพิ่นบ่สอนดอก สิเฮ็ดเวที” ผมหันไปบอกสัดไม้ล่ะครับ
   “เออๆ แต่เฮาเอารถไปบ่ได้เด้อ จอดในโรงรถแล้ว”
   “สิไปสามล้อลุงนั่นล่ะ โตกะสิหลบคือกันบ่ไม้ ซั่นพ้อกันเนาะ” สาวจอยนัดแนะครับ สีหน้าของไอ้เบบี๋ตอนนี้มันมุ่งมั่นครับ จากที่ซีดๆอยู่ แววตามันฉายพลังอะไรบางอย่างออกมา ผมได้แต่มอง วันนี้กูก็คงไม่เรียนหรอก จะไปสิงอยู่ห้องพ่อกูดีกว่า พอเข้าแถวเสร็จกูก็ชวนสัดเคนไปนอนห้องพ่อกูเลยครับ ตอนแรกก็ด่าล่ะตามเรื่องของแก แต่ไม่สนซะอย่าง นอนจนเที่ยงก็ลุกไปกินข้าว แล้วก็มานอนต่อ ตื่นประมาณบ่ายสอง ก็ไปเล่นบาสฯกับเพื่อนๆในห้อง
   “บักเดี๋ยวๆ ไปเบิ่งเวทีป่ะ” สัดเคนมันชวนครับ เออดีเหมือนกันวะ เริ่มเหนื่อยแล้วเถอะ
   “ซุมได๋จัดวะ” “แม่นเพิ่นให้ ม.๖ บ้อเฮ็ด” ผมเลยเดินตามสัดเคนไปล่ะครับ แต่ก็นะ ผมจะคอยหลอกอาจารย์ว่าผมจะไปช่วยเขาทำเวที อันนั้นอันนี้นี่ ฮ่าๆ ไม่ได้กินแรงกูหรอกเว้ยจะบอก พอเดินเข้าไปในหอประชุม ก็มีรุ่นพี่กำลังทำเวทีอยู่ครับ ผมเลยเดินเลียบๆไปข้างๆยืนมองอยู่กับสัดเคน
   “อ้าว บักเดี๋ยว มาเลยๆ มาช่วยครูหน่อย” เวรล่ะ จารย์พรอยู่ด้วยพอดี
   “ผมมาเบิ่งซื่อๆจารย์ สิไปแล้ว”
   “นั่น ทุกทีเลยนะยะ มานี่เลย อย่าเรื่องมาก มาช่วยพี่เขายกแสตนด์หน่อย”
   “บ่ไหวดอกจารย์” ผมบอกครับแล้วเดินลิ่วหนีทันที เสียงอาจารย์พรก่นด่าไล่หลังมา ไม่สนหรอกเว้ย ใครจะไปยกวะหนักจะตายห่า
   “กูว่าไปเฮือนสาวจอยดีกั่วว่ะ อยู่นี่กะบ่มีแนวเฮ็ด” ผมชวนสัดเคนล่ะครับ แน่นอนเพื่อนผมนี่ มันต้องมีอะไรเหมือนผมล่ะ มันไม่ตอบครับแต่เราสองคนเดินขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนแล้วก็ไปโรงรถขับรถออกไปเลย ไม่สนใจใครทั้งนั้น ฮ่าๆ ไปถึงก็เห็นกำลังซ้อมกันอย่างหนักแน่นครับ ผมยืนฟังมันร้องเพลงอยู่สักพักก็เลยไปนอนรอบนแคร่ มันเริ่มเข้าท่าแล้วล่ะ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เสียงที่ปรับเข้ากับคีย์ของมัน และยังปรับให้กับลูกคู่ทั้งสอง เริ่มเข้ากันได้ดีแล้ว สัดไม้นี่เสียงหล่อมากๆครับ ส่วนไอ้เบบี๋ของผมมันเสียงใสๆแต่หนักแน่น ส่วนสาวจอยนี่ไม่ต้องห่วงเสียงเพราะมาก เสียงดีกว่าไอ้เบบี๋อีกนะ เอื้อนหรือลากเสียงได้ยาวเพราะทีเดียวล่ะ
   “ตื่นเต้นจังอ่ะเน่า” เอาล่ะ ไม่เล่าเยิ้นเย้ออะไรนานแล้ว ถึงวันงานซึ่งมันเป็นวันศุกร์ล่ะครับ คาบเช้าก็เรียนกันตามปกติ เว้นแต่พวกที่มีการแสดงหรือคุมเวที ก็ต่างแยกย้ายกันไปทำ ไอ้เบบี๋มันตื่นเช้ามาหน้าตาตื่นประหม่าอยู่มาก
   “หายใจลึกๆดิ จะได้ดีขึ้น” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็ทำตาม
   “แล้วนี่มึงจะเข้าโรงเรียนไหม” ผมถามมันตอนขับรถออกจากบ้านครับ
   “ไปบ้านจอย ต้องไปเอาชุดด้วยอ่ะ” “ไรวะ ร้องเพลงแค่นี้ต้องมีชงมีชุดด้วยเหรอ” เออว่ะ กูไม่ยักรู้
   “มีดิ จอยบอกว่า จะทำทั้งทีเอาให้คนพูดไม่ออกเลยดีกว่า” ผมหัวเราะครับ อ่านะ สาวจอยนี่ได้ใจจริงๆ
   “อืมๆ ให้กูอยู่ด้วยป่ะ” “แล้วเน่าไม่เรียนเหรอ” มันถามกลับครับ
   “พูดยังกะกูเคยเรียนงั้นล่ะ” ผมบอกความจริง มันก็ยิ้มๆ ตกลงเราก็ไปขลุกอยู่บ้านสาวจอยล่ะครับ สัดไม้มันลงทุนนะเว้ยเฮ้ยขอบอก มันยืมรถพ่อมันมา ไปเอาชุดมารอไว้แล้ว แต่มันยังไม่ให้ดูครับ ส่วนเพื่อนๆผมมีสัดเคนกับไอ้เล็กเท่านั้นที่มา ไอ้เต้กับไอ้โจ้มันคงเรียน
   “ไปหาบักหุ่งมาตำกินป่ะบักเดี๋ยว” สัดเคนชวนครับ ผมก็เห็นด้วย เพราะไม่มีอะไรทำก็เริ่มเบื่อครับ ก็ตำส้มตำกินกัน ย่างปลาในไหโดยพ่อสาวจอยเป็นคนย่างให้ จนเที่ยงก็เลยให้พวกนั้นไปแต่งตัว
   “ป้าด คือเท่แท้ว่ะ” สัดเคนร้องขึ้นล่ะครับ สัดไม้มันเสร็จก่อนเพื่อน มันใส่ทักซิโด้สีดำ กางเกงดำ เสื้อเชิ้ตข้างในก็ดำ ใส่เจลผมตั้งมาเชียว
   “เป็นจั่งได๋ๆ” มันหัวเราะครับ ทีนี้ไอ้เบบี๋มันก็เสร็จ แต่มันใส่สีขาวหมดตัวครับ แม้แต่รองเท้า เออนะร้านเช่าชุดนี่ก็นะ ช่างจัดสรรให้ดีจริงๆ
   “หล่อแท้อุ่น บู้ย คนอีหยังวะ อยู่ซื่อๆก็เป็นตาฮักแล้ว แห่งมาแต่งโตแบบนี้แห่งเป็นตาเบิ่งหลาย” สัดเคนมันชมครับ ไอ้เบบี๋มันก็ยิ้มๆหน้าแดงขึ้นทันที
   “เออวะ ใครหามาวะเนี่ย” ผมเดินเข้าไปแตะบ่ามันล่ะครับ
   “จอยอ่ะ” “ป้าด รสนิยมสูงเด้นี่” สัดเคนสวนขึ้น
   “แม่นค่า” เสียงสาวจอยดังตอบมา พวกเราเลยหันไปมอง ว้าว สาวจอยเองอยู่ในเดรสสีดำทั้งตัวเหมือนสัดไม้ครับ ผมบ๊อบของเธอทาเจลแข็งแล้วหวีไปด้านหลังเหมือนกับเพื่อนๆ ทาตาสีดำด้วยนะเว้ย สวยเฉี่ยวจนจำเกือบไม่ได้ทีเดียวล่ะ
   “ป้าด คืองามแท้ผู้สาว” สัดเคนครับ พวกเราก็หัวเราะ
   “หวืย อยู่นำกันมาตั้งโดน คองตาฮู้ติ๊ว่าเฮาผู้งาม” อ่านะ สาวจอยก็ไม่น้อยครับ
   “งามปานนี้ จีบเอาซะบ่น้อ” “บ่ค่า จีบบ่ได้ดอก คุณซ้าไปแล้วเด้อ อ้ายเคน” พวกเราหัวเราะกันอย่างสนุกสนานครับ
   “มาๆลูก แม่สิอวยพรให้” แม่จอยเรียกทั้งสามคนเข้าไปล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันก็นั่งติดแม่จอย แล้วแม่ก็อวยพรให้ประสบผลสำเร็จ ทั้งสามคนก็ก้มลงกราบแม่ พอพร้อมแล้วพวกเก็ออกเดินทางครับ เพราะอาจารย์พรโทรมาจิกแล้ว ผมเป็นคนขับรถเองเพราะสัดไม้มันกลัวชุดมันยับ เอากับมันครับ พอถึงโรงเรียน บรรยากาศตอนเช้าซึ่งปกติอยู่ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เสียงเพลงเอย ธงสีต่างๆเหมือนงานวัดก็ปลิวไสวอยู่ทั่วบริเวณครับ ตอนนี้รู้สึกทุกคนจะรวมตัวกันอยู่ในหอประชุมแล้วครับ เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาแล้ว ผมเลยจอดรถตรงหลังหอประชุม
   “เบบี๋ เต็มที่นะ เดี๋ยวกูอัดวีดีโอไว้” ผมบีบบ่ามันเบาๆล่ะครับ มันก็หันมายิ้ม
   “ขอกอดหน่อยดิ” อ่านะ ผมยิ้มแล้วยักคิ้วให้มันครับ
   “ไร ต้องการกำลังใจเหรอ” ผมล้อมัน มันก็ไม่พูดอะไรครับ กอดผมเลยต่อหน้าเพื่อนๆนั่นล่ะ เพื่อนๆผมก็แซวขึ้นตามปกติ มันอายนะแต่มันก็ทำ
   “จอย โตบ่ต้องการกำลังใจบ่” สัดเคนครับ
   “หวืย บ่ดอกค่า อย่าเด้อเคนเฮาบอกสาวฝ้ายเด้อ” สาวจอยตอกคืนสัดเคนอ้าปากค้างเลยครับ ฮ่าๆ
   “ไปบักเคน ไปถ่าเบิ่งอยู่ในหอประซุม สิบ่มีบ่อนนั่ง” ผมชวนมันล่ะครับ ในมือก็มีกล้องวีดีโอของพ่อตา พร้อมแล้วครับท่าน คนเยอะจริงๆครับ เด็กทั้งโรงเรียนอ่ะนะ รอบนอกก็ยังเข้ามาไม่หมดนะ แต่ข้างในนี่แน่นไปหมด โดยเฉพาะเด็ก ม.ต้น จองที่ด้านหน้าเกือบหมด ส่วนด้านหลังก็มี ม.ปลายออกันอยู่ ผมเดินไปด้านหน้าเลยดิครับ ไม่สนใจใครเว้ย
   “ว้าย อ้ายเดี๋ยวมาๆ” เสียงๆน้องๆห้องไอ้โจ้ซึ่งจองที่หน้าเวทีร้องดังขึ้นครับ ผมเลยแทรกตัวไปตรงนั้นล่ะ
   “พวกหนูมาให้กำลังใจอ้ายอุ่นเด้นี่ อยากฟังเพิ่นฮ้องเพลงหลาย” เด็กๆมารุมผมครับ
   “อ่ะอ้ายเดี๋ยวๆ ดอกกุหลาบ” ไอ้โจ้ครับ ผมมองดูก็เห็นน้องๆมีดอกกุหลาบกันคนละหลายดอก
   “เอาไว้ให้อ้ายอุ่นตอนฮ้องจบเด้” มันบอกครับ ผมเลยพยักหน้าแต่เอามาแค่ดอกเดียวพอ ไม่ถึงนาทีมั้งครับ เสียงดนตรีก็ดังขึ้น เสียงกรี๊ดก็กระหึ่ม กูล่ะรำคาญไอ้ตรงเสียงกรี๊ดนี่ล่ะ
   “ Merry Christmas everyone, good evening, do you make a wsih for today?” ไอ้ขอมครับ ประธานนักเรียน กับสาวนาง ม.๖ นั่นล่ะครับ มันเป็นพิธีกร เสียงประกาศดังขึ้น ทุกคนก็กรี๊ด สำเนียงนี่แบบว่าละม้ายฝรั่งเลยล่ะ แล้วมันสองคนก็พูดอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดครับ ขี้เกียจฟัง เปิดงานด้วยการเล่นเกมครับ ให้น้องๆอาสาขึ้นไปเล่นเกมภาษาอังกฤษสั่วๆ แล้วก็แจกขนม พอเล่นเกมเสร็จ
   “alright, it’s time everyone. Let’s opening our Chirstmas party and please hit your hands to welcome Nong Aun Auradith and friends, they will sing for us” ผมลุกขึ้นยืนทันทีครับ เสียงกรี๊ดของน้องๆรอบๆผมดังสนั่น
   “โห่ๆๆ” ผมหันหลังกลับไปมอง ก็กลุ่มเพื่อนพี่นกนั่นล่ะครับ กวนตีนะมึง ผมพยายามไม่สนใจครับ เปิดกล้องบันทึกรอเลย ไฟบนเวทีดับพรึ่บลงครับ แต่ก็พอมองเห็นะล่ะ ผมเห็นมันเดินขึ้นมาพร้อมๆกับสาวจอยและสัดไม้ เห็นกอดกันอยู่ข้างๆเวที เสียงกรี๊ดนี่ไม่ลดลงเลยนะ น้องๆข้างๆผมเรียกชื่อมันดังก้องไปหมด มันเดินมาหน้าเวทีครับ ไฟก็สว่างขึ้น มีไมโครโฟนในมือมัน แต่ไอ้เบบี๋มันก้มหน้าลงหน่อยๆ คงทำสมาธิอยู่ เสียงกรี๊ด ดังขึ้นเป็นเท่าตัว
   “พี่อุ่นๆ กรี๊ดดด” “โห่ๆๆ” แต่เหมือนเสียงกรี๊ดจะดังกว่าครับ เพราะมันดูดีมากจริงๆ ไฟบนเวทีทำให้มันซึ่งน่ารักอยู่แล้ว อยู่ในชุดที่ไม่เคยเห็นมันใส่ ทักซิโด้สีขาวไปทั้งตัว ทรงผมที่ใส่เจวตั้งขึ้น ใบหน้ามันที่มองยังไงก็น่ารักอ่ะนะ เสียงกรี๊ดก็ดังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนเสียงโห่หายไปเลยครับ
   “HI, er , good evening, I er me and my friends wish you all have a happy Chirstmas” ต้นประโยคมันเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรครับ เสียงโห่ดังขึ้นทันที มันหน้าแดงจัด ผมเอาหน้าออกจากหน้าจอกล้องวีดีโอแล้วมองไปหามัน แต่มันก็ไม่ได้มองมาที่ผม เพราะมันมองไปข้างหน้า สายตามันหวั่นๆยังไงไม่รู้ แต่สำเนียงนี่ขอบอก ไอ้สองตัวเมื่อครู่ตายห่าไปเลยเถอะ กูนึกว่ามีเมียเป็นฝรั่งอังกฤษซะอีก ฮ่าๆ
   “We are here today to sing a song for you guys and we wish this song will delight you all” มันเหมือนพยายามพูดครับ แต่เสียงโห่นี่ดังมากจากด้านหลัง มันเม้มปาก ผมอยากขึ้นไปร้องตะโกนใส่ไมจัง โห่หาพ่อมึงเหรอ แม่งคนมันรวบรวมสมาธิอยู่นะเว้ย สันดานเสียว่ะ แต่ก็นั่นล่ะครับ น้องๆด้านหน้ากรี๊ดปรบมือกันเกรียวกราว สัดเคนก็เป่าปากชอบใจ ผมขอบใจมันที่มันพยายามช่วยกลบเสียงโห่ แต่ในเมื่อมีคนรัก ย่อมมีคนเกลียด เป็นเรื่องปกติใช่ไหม เออ กูจพยายามทำใจให้มันเชื่อแบบนั้น

To Be Continued
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-10-2012 08:46:23
รอจ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 04-10-2012 08:51:25
   “Whenever you call” มันบอกออกมาครับ แล้วหันหน้ากลับไปหาเพื่อนๆทั้งสอง แล้วพยักหน้าให้กัน สาวจอยก็ส่งสัญญาณให้พวกไอ้เชี่ยแบงค์
   “โห่ๆๆ วู้ เล่นของยากเลยนะจ๊ะ ระวังตกม้าตายน้า” เสียงเล็ดลอดมาจากด้านหลังครับ ผมหันกลับไปมองแต่ก็ต้องรีบหันกลับมาเพราะคนมันเยอะจัด ไม่รู้หรอกว่าใคร เดี๋ยวค่อยสืบ เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ดังขึ้นด้านหลัง ทีนี้น้องๆด้านหน้าก็โห่กลับครับ โดยหันหน้าไปทางด้านหลัง เสียงโห่ดังอยู่นาน จนการแสดงไม่เริ่มเสียที อาจารย์พรจึงเอาไม้เคาะแสตนด์ เสียงดนตรีจึงเริ่มขึ้น
   .”Love, wandered inside, stronger than you” เอ่อ เสียงมันดีนะครับ แต่ทำไมเสียงดนตรีมันตีมั่วแบบนั้นวะ
   “เฮ้ย” ผมตะโกนขึ้น เพราะไอ้เบบี๋มันหันหลังกลับ แม่งจงใจแกล้งนี่หว่า มันหน้าเสียแล้วครับ เพราะพวกเล่นดนตรีตีมั่วไม่เข้ากันแล้วก็หยุดเล่นเลย เสียงโห่กับเสียงหัวเราะดังขึ้นทันที ไอ้เบบี๋มันเหมือนอายมาก มันยืนนิ่งอยู่บนเวทีไม่ถึงห้านาทีก็เลยวิ่งลงจากเวที ผมเลยวิ่งไปหามันครับ ผมเอาดอกไม้ยื่นให้น้องที่นั่งข้างๆผม
   “สันดานหมา มันแกล้งพวกเฮาเดี๋ยว มันแกล้ง” สาวจอยครางเหมือนจะร้องไห้ครับ หน้าตาของทั้งสามคนเหมือนเห็นผี เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ยังดังกึกก้องอยู่ ผมเสียวแปลบที่หัวใจ เพราะคนที่ผมรักที่สุดมันน้ำตาคลอแล้ว
   “มันไม่สนุกนะคะนักเรียน ทำไมเล่นแบบนั้น นายแบงค์” เสียงอาจารย์พรดังก้องขึ้นครับ เสียงพวกที่โห่ก็เงียบกริบลง เหมือนผมได้ยินเสียงแก้ตัวของพวกนั้นล่ะครับ
   “โน้ตมันยากเด้จารย์ เล่นบ่เป็นดอกเพลงหยังบู้” ผมเลือดขึ้นหน้าจัดครับ ผละออกจากไอ้เบบี๋ แต่มันดึงตัวไว้
   “ไม่เอาเน่า ไม่เอา” มันครางไว้ ให้ตายเถอะ พอได้ยินเสียงมันผมกอดมันเลยครับ
   “เล่นไม่เป็นก็ลงไปค่ะ พวกเธอรู้ไว้นะว่านี่มันไม่สนุก ถ้าเล่นไม่เป็นตั้งแต่แรกครูจะให้คนอื่นที่เขาเล่นเป็นมาเล่น ไม่ใช่มาทำให้เพื่อนๆเขาเสียกำลังใจแบบนี้ ใช้ไม่ได้ รอแป๊บนะคะนักเรียน” อาจารย์พรเงียบเสียงไปแล้วแกก็มาโผล่ที่หลังเวที
   “เป็นไงบ้างอุรดิศ ร้องสดๆได้ไหม ครูขอโทษด้วยนะ” สีหน้าอาจารย์เองก็ไม่ดีครับ
   “เอ่อ” “บักเดี๋ยว เล่นอีเล็กโทนได้ใช่ไหม อุรดิศ แค่อีเล็กโทนพอไหม”
   “พอค่ะจารย์ เป็นหยังคือเฮ็ดแนวนี้ ให้ฮ้องเพลงนี่กะอายสิตายแล้ว มาแกล้งกันแนวนี้เฮ็ดหยัง” สาวจอยโพล่งออกมาครับ น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ สัดไม้ก็กำมืออยู่ หน้าตามันเอาเรื่องไม่น้อย คงไม่ต่างจากผมหรอกครับ
   “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวครูจัดการให้ ทำแบบนี้ก็เหมือนกับไม่ไว้หน้าครูเหมือนกัน เอาล่ะ ครูขอนะอุรดิศ ทำให้ครูสักครั้ง ออกไปทำให้พวกนั้นเขาเสียใจที่โห่หรือหัวเราะเรา ครูเชื่อมั่นในเธอนะ ไปบักเดี๋ยว” อาจารย์พรบอกล่ะครับ แกเดินกลับไปด้านหน้า ผมเองก็ต้องรีบวิ่งเอากล้องมาให้ไอ้โจ้มันถ่ายให้ เรื่องดนตรีผมเป็นนะเว้ย ก็มีแคน กีตาร์ อีเล็กโทนนี่ล่ะ บอกแล้วผมมีพรสวรรค์ อัจฉริยะครับแต่ก็ไม่ได้เพราะอะไรมากมายพอเล่นได้ล่ะ
   “ป่ะอุ่น ซ่างแม่มันเถาะ ฟ้าวเฮ็ดฟ้าวแล้ว มื้อแลงสิไปเตะปากคน” สัดไม้ครับ มันเดินขึ้นไปคนแรก
   “จารย์ๆ หนูเปล่าฟลุทให้บ่ค่า” ทุกคนหันไปครับ เด็กม.ต้นที่กำลังจะเตรียมการแสดงชุดต่อไปล่ะ น้องวิ่งมาดักหน้าอาจารย์พร ท่าทางตื่นๆอยู่ ผมเองก็หันไปมอง
   “นภัสสร ขอบใจมาก ไปเลยลูก หนูเป่าได้นะ”
   “ได้ค่ะ หนูอยากเป่าให้อ้ายอุ่น” เอ่อนะ น้องมันมองไปทางไอ้เบบี๋ล่ะครับ ไอ้เบบี๋ก็ยิ้มให้ทั้งๆที่น้ำตาคลออยู่ มันดูสั่นๆเลยล่ะครับ คงจะตกใจ ตอนนี้ผมอยากเข้าไปกอดมันมากๆ แต่สถานการณ์มันเร็วมากครับ
   “ขอบใจมากนะครับน้อง” มันเดินมาจับมือของน้องคนนี้ครับ แล้วสัดไม้ก็นำขึ้นเวทีไปคนแรก เสียงโห่ดังอื้ออึงมาไม่ขาดระยะ ผมเดินตามมันไปแล้วไปยืนตรงอีเล็กโทนประจำที่ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทันที เพราะผมอยู่ในชุดนักเรียนครับ น้องคนนั้นก็อยู่ในชุดเหมือนนางฟ้า คงเล่นอะไรกันเกี่ยวกับอะไรประมาณนี้ล่ะ
   “You may step over a fallen tree, don’t step a fallen man” เอ่อ อาจารย์พรครับ แกเดินไปตรงไอ้ขอมแย่งไมโครโฟนมาพูดเองเลย สายตาแกเอาเรื่องมากครับ ผมเห็นแล้วยังเสียวสันหลังวาบๆเลยนะ ทุกเสียงเงียบลงแล้วครับ ตอนนี้ทุกคนประจำที่ เว้นแต่ไอ้เบบี๋ที่มันเดินกลับมาดึงตัวน้องคนนั้นให้ไปยืนข้างๆมัน คงแก้เขินล่ะมั้งนะกูว่า
“Love wandered inside, Stronger than you,. พอได้สัญญาณจากสาวจอย ไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้าให้น้องมัน คือน้องยืนมีโน๊ตเพลงอยู่ด้วยล่ะนะครับ มันก็คงไมได้เก่งกาจมาจากไหนหรอก พอน้องมันเริ่มเป่า เสียง อื้อฮื้อ อ้าฮ้าก็ดังขึ้น ผมจึงไล่นิ้วตามโน๊ตเพลงเหมือนกัน ไอ้เบบี๋มันเริ่มประโยคทันทีครับ หลังจากยืนสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่นาน มันเหมือนกำลังทำสมาธิ เพลงนี้ผมว่ายากนะ ยิ่งมีท่อนเสียงสูงเหมือนไต่บันได
“Stronger than I And now that it has begun. We cannot turn back. We can only turn into one” เสียงมันใสมากครับ มากๆเลยล่ะ ยิ่งเสียงฟลุทของน้องมันใสอยู่แล้ว ยิ่งเข้ากันได้ดี ผมพยายามเบานิ้วลงเพราะอยากให้มันขับเสียงออกมาให้มากที่สุด
“I won’t ever be too faraway to feel you” ท่อนนี้เสียงคอรัสดังขึ้นคลอครับ เสียงของจอยกับเสียงของสัดไม้มันเข้ากันได้ดีเหลือเกินครับ จนกูขนลุกเถอะ แม่งไปแอบซ้อมกันตอนไหนวะเนี่ย เสียงสัดไม้มันหล่อเด่นออกมาคนละแนวกับไอ้เบบี๋ แต่มันไม่ขัดกันเลยกับเสียงสาวจอย ที่ใสกังวาน เพราะว่ะ
“And I won’t hesitate at all whenever you call and I always remember the part of you so tender. I’ll be the one to catch your fall, whenever you call” ส่วนท่อนนี้เสียงของคอรัสเบาลงมาก แต่จะไม่เชิงร้องออกมาแต่เหมือนกับคราง สาวจอยก็อย่างที่บอก ลูกสาวนางเอกหมอลำเก่า ลูกคอไม่ต้องห่วง พอจบท่อน เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้น แต่เฉพาะด้านหน้านะ ก็ห้องไอ้โจ้นั่นล่ะครับ แต่กรี๊ดแป๊บเดียวนะก็เงียบ
“And I will pray for you each day, comfort you through all the pain, gently kiss your fears away. You can turn for me and cry, always understand that I give you all I have inside” แม่กู ท่อนนี้เองที่ไอ้เบบี๋ มันเริ่มไม่ไหว ที่บอกไม่ไหวคือมันออกท่าทางครับ เหมือนมันหลุด จากที่ยืนร้องปกติมือหนึ่งแตะบ่าน้องเอาไว้ แต่ท่อนนี้เหมือนมันต้องใช้พลังเสียงเพิ่มขึ้น มันเลยหันหน้ากลับไป มันเอามือซ้ายมันมาแตะตรงหน้าอกมัน ยืดคอขึ้น มันเพิ่มเสียงสูงได้น่าฟังดีนะผมว่า ไมได้ลากยาวเหมือนนักร้อง แต่มันก็ไม่น่าเกลียด เสียงมันคนละแนวกับต้นฉบับเขาอยู่แล้ว และท่อนนี้เองที่สาวจอยกับสัดไม้เปล่งเสียงออกมาเต็มๆ ผมเองก็ได้ทีเพิ่มน้ำหนักนิ้วกดคีย์บอร์ด เหมือนจะเร่งให้นักร้องเขาเพิ่มพลังเสียงล่ะครับ
“I won’t ever be too far away to feel you and I won’t hesitate at all, whenever you call” ท่อนเด็ดครับ กูนี่ขนลุกขนชัน เมียกูมันเอาไม่อยู่แล้ว มันก้มเหมือนจะนั่งบ้างแต่ก็ไม่นั่ง ดีดตัวขึ้นบ้าง คอมันขึ้นเส้นเอ็นเลยนะครับ ส่วนคอรัส เหมือนฝึกมาเพื่อรับส่งกันโดยเฉพาะ เพราะไอ้เบบี๋มันขึ้นเสียงตรงคำต้องลากเสียง แล้วสาวจอยก็ต่อให้เพราะสาวจอยเสียงยาวกว่า ไอ้เบบี๋มันเลยมีเวลาได้หายใจ สัดไม้ก็คอยครางฮัมไม่ให้มันมีช่องว่าง เออว่ะ แม่งเข้าใจทำ ดังนั้น เพลงมันจึงออกมาเหมือนว่าเสียงไอ้เบบี๋มันร้องได้เก่งมากๆ และเสียงดีมากๆ ทั้งที่มันมีคอรัสดี พวกที่ดูอยู่ด้านล่างคงดูไม่ออก แต่กูอยู่หลังพวกมัน นับถือว่ะ มันเก่งๆ
“ฮ่า” พอเพลงจบ ไม่มีเสียงใดๆเลยครับ เงียบกริบ กูก็อึ้งอยู่เถอะ เพลินดีว่ะเลยไม่ทันได้ทำอะไร ไอ้เบบี๋มันหน้าเหวอไปครับ ผมมองไปที่หน้ามันเหมือนมันกำลังเม้มปากแน่น
“กรี๊ดดด อ้ายอุ่นๆ กรี๊ดด” เสียงน้องแตงดังขึ้นก่อนใคร หลังจากนั้นก็เสียงอะไรต่อมิเสียงอะไรดังจนกูฟังไม่รู้เรื่อง เอาละน่า ยังไงมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีล่ะวะ

Written by eiky

ปล. อิอิ มาแว้ววๆ คือว่าตอนนี้ผมกำลังจะรวมเล่มนี้นะครับ จะทำออกมาพร้อมๆกับน้องญี่ปุ่น
ถ้าใครสนใจก็จองไว้ได้เลย เรื่องราคา คิดว่าจะทำให้มันไม่แพงมาก มีของแถมให้ด้วย อิอิ
ที่อยากทำรวมเล่ม เพราะคิดว่าอยากให้มันเป็นหนังสือเพื่อที่จะได้เก็บเป็นความทรงจำ เพราะปกติผมเองเขียนเรื่องแนวนี้ไม่ค่อยถนัดนัก แต่ก็ฝืนเขียนออกมาจนได้ ฮ่าๆๆ

ใครสนใจก็ลงชื่อไว้น้า ตอนนี้กำลังเร่งตอนพิเศษเจ๋งๆอยู่คร้าบ รับรองว่าจับใจ แหะๆ เพราะใครมีน้องภูมิอยู่ในมือ คงจะนึกภาพตอนพิเศษออก

ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 04-10-2012 09:39:13
เย้ เย้ สนใจค่า มาลงชื่อจอง
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 04-10-2012 10:19:17
น้องอุ่น o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 04-10-2012 10:46:26
อ่านไปฟังเพลงประกอบไปด้วยได้อารมณ์ดีมากๆๆเลย
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 04-10-2012 11:16:21
555 ทึ่งกันหมด แต่อุ่นก็เลือกเพลงยากจริงๆ
ถ้าร้องแนว jason mraz อุ่นคงน่ารักน่าดู
เพราะดนตรีของเพลงมันน่ารักกก
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 04-10-2012 11:21:26
+100 :3123: :L2: :L2: :L2:0
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 04-10-2012 11:42:03
น้องอุ่นสุดยอดดดด o13

ลงชื่อจองหนังสือด้วยคร้า  :-[
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 04-10-2012 13:14:03
ไอ้พวกที่แกล้งนี่มันน่า
แกล้งเฉยๆก็นิสัยไม่ดีอยู่แล้ว นี้แกล้งแบบไม่รู้จักกาลเทศะอีก
ต้องเอาให้หนัก :m16:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-10-2012 15:08:31
เด็ดมากน้องอุ่น เอาให้อิพวกโห่ เป็นใบ้ไปเลย อิพวกดีแต่อิจฉาคนไปวัน ๆ
เชื่อมั่นในพลังความสามัคคีและความดีที่ทำนะจ๊ะเด็ก ๆ
ให้จารย์พรไปจัดการเลยอิพวกมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำเนี่ย ไม่ใช่สิเกือบล่มเรืออีกตะหาก เกลียดจริง ๆ

จองด้วยค่ะ 1 ชุด รักน้องอุ่นและผองเพื่อน รวมทั้งวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสานด้วย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 04-10-2012 16:06:31
เห็นไหม น้องอุ่นทำได้ และก็ทำได้ดีด้วยทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราค่ะน้องอุ่น เดี๋ยวจัดการกับพวกที่ตั้งกองโห่ทางข้างหลังด้วยนะ
อย่าให้รอดมือไปแม้แต่คนเดียว จารย์พรขอช่วยทำโทษพวกเด็กเหลือขอพวกนั้นด้วยนะจ๊ะ อย่าให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีกับน้องๆ  แล้วเราก็ขอยกมือจองหนังสือด้วยนะจํะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-10-2012 16:11:27
อินู๋อุ่นสุดยอด o13
ลงชื่อจองด้วยจ้าสั่งทั้งสองเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 04-10-2012 18:01:36
จองด้วยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 04-10-2012 19:06:48
โว้ว ประทับใจครู อย่างที่เดี๋ยวว่า อุ่นกะเดี๋ยวมีเพื่อนดีมาก ที่คอยช่วยเหลือผลักดันกันทุกอย่าง

อยากได้ด้วยคนคะ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 04-10-2012 19:20:42
ทำไมใครๆก็ชอบแกล้งอุ่น น่าสงสาร แล้วมันผ่านไปด้วยดีแล้ว
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 04-10-2012 19:42:43
บักเดี๋ยว จัดหนักหลังไมค์ พวกห่านั่น โลด
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 05-10-2012 02:16:30
+1 Aun with dio o13
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 05-10-2012 09:11:30
น้องอุ่นพยายามสุดยอดเลย เพลงนี้ไม่เคยฟัง ต้องพึ่งกูเกิ้ล
พอฟังแล้วป๊าดดด เสียงสูงไปไหมจ๊ะ o22
แต่ผ่านไปได้ด้วยดี ก็ดีใจ ส่วนไอ้พวกแบงค์ทำเสียเรื่องต้องเอาเรื่องมันหนักๆนะ :z6:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 05-10-2012 09:26:51
เด็กหนอ เด็กน้อย กะแกล้งกันให้ได้อายกันทั้งโรงเรียนแต่ดันไม่ดูสถาการณ์ ฮ่าาาาาาาาา
ในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์แบบนี้เรื่อย ๆ เหมือนเป็นมรดกตกทอด แต่ดีใจกับทั้งคู่ด้วยที่มีเพื่อน ๆ และคนรู้จักคอยช่วยเหลือ
สรุป คดีพลิก  :jul3:

+ ให้กับอิก ค่ะ ถ้ารวมเล่น ขอจองด้วย 1 ชุด ค่ะ
อิสานบ้านเฮา มองไปชั้นหนังสือไม่ค่อยมีแนวนี้ เก็บ ด่วน   :laugh:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 06-10-2012 20:13:08
คิดแล้วว่านู๋อุ่นต้องโดนแกล้ง...เด็กน้อยแป๊วไปเลย..
ยังดีที่เจ้าเดี๋ยวเค้าสารพัดรอบรู้...ช่วยได้มากจริงๆนะคนนี้..  o13
พี่จองด้วยนะน้องอิ๊ก...หนุนเต็มที่จ๊ะ

 :L1: น้องอิ๊ก  :L2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-10-2012 21:09:45
จบงานนี้สงสัยมีตาย!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: jaejoong22 ที่ 06-10-2012 21:24:02
ได้เวลาคิดบัญชี..หึหึ

 :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: farokiss ที่ 09-10-2012 17:28:15
เชียร์อุ่น   อุ่นน่ารัก  หุหุ

อิพวกนั้นกระทืบให้ตายเลยยยยยยยยยย

เอาไว้ก็สร้างความรำคาญ
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 09-10-2012 19:34:35
พวกนี้นิสัยไม่ดีเลย แกล้งน้องอุ่นเรอะ  :fire:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-10-2012 11:31:31
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 11-10-2012 13:24:28
มารอหนูอุ่นจ้า
หัวข้อ: Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 11-10-2012 15:10:00
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *ประกาศ* เปิดจองก่อนจบ* 13 October 12 หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-10-2012 23:55:51
ตามอ่านทันแล้ว อั๊ยยะ  o13
เป็นนิยายที่แหวแนวมากค่ะ เป็นภาษาอีสานเกือบทั้งเรื่อง คนอ่านเลยใช้เวลาค่อนข้างนานในการอ่าน
และทำความเข้าใจ มีเปิดกูเกิ้ลประกอบความเข้าใจไปด้วย 555 แต่พออ่านนานเข้าชอบเนื้อเรื่องมากนะคะ
ตอนแรกก็ลุ้นกับความรักของเค้าตอนที่เดี๋ยวยังไม่เข้าใจตัวเอง น้องอุ่นน่ารักมาก เธออายได้ตลอดศก
ไม่ว่าจะคบกันนานขนาดไหนก็ยังอาย น่ารักๆ ชอบเวลาน้องอุ่นอยากรู้โน่นนี่ ตาเป็นประกายวิ้ง ๆ
น้องเป็นคนจริงใจ ไม่ดูถูกคน ลุยไหนลุยกัน แม้จะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ชอบอุ่นมุมฮาร์ดคอเตะตายนะ เจ๋งอ่ะ
ส่วนเดี๋ยวเป็นพระเอกที่ชอบนะ รักจริง ดูแลดี ตามใจหมดแหละแต่ขอกวนก่อน บวกหื่นผสม แต่ความจริงใจนี่มาเต็ม
เพื่อนในกลุ่มทั้งสองคนน่ารักมาก คุณพ่อคุณแม่ของสองครอบครัวก็น่ารัก (ชอบคุณนายแม่เดี๋ยวเวลาเจอน้องอุ่น
และท่านปลัดมาก ๆ เยอะดี น่ารักค่ะ อ่านไปก็ชอบธรรมชาติในเนื้อเรื่องนะคะ คือผู้เขียนสัมผัสกับบรรยากาศนั้น
มาโดยตรงหรือหาข้อมูลมาเพื่อเขียนคะ ถ้าหาข้อมูลมาเพื่อเขียนนี่แบบยากสุดอ่ะ เพราะมันเนียนมาก

มาถึงตอนปัจจุบันกันบ้างเนอะ...
อยากพ่นไฟใส่พวกที่แกล้งน้องอุ่น กร๊าซซซซซซซซซซซซซ  :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
เลวเนอะ เห็นคนดีกว่าไม่ได้ มันน่าให้เดี๋ยวไปอัดให้น่วมนะจุดนี้
แต่ไม่เป็นไรน้องอุ่นทำได้ดีในที่สุด ไม้กับจอยก็น่ารักมากเลยคอยช่วยตลอด คุณแฟนไม่ต้องพูดถึงเต็มที่ตลอด
ยังไงคนรักน้องอุ่นมากกว่าคนเกลียดอยู่แล้วน่ารักจะตายเบบี๋คนเนี้ยะ
คันมือคันไม้กับพวกที่แกล้งน้องอุ่นจริง ๆ นะ ทำยังไงกับพวกมันดี อาจารย์จะช่วยจัดการได้บ้างมั้ยตรงนี้
เพราะเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกล้งให้งานล่มอ่ะ  :m16:

ขอบคุณค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *ประกาศ* เปิดจองก่อนจบ* 13 October 12 หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-10-2012 13:19:59
!!!กฏใหม่ของการรวมเล่มนิยายในเล้าเป็ด ***กรณีที่นักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้ในห้องนิยาย นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้  
แจ้งเพื่อทราบจ้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *ประกาศ* เปิดจองก่อนจบ* 13 October 12 หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 16-10-2012 15:07:44
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 16-10-2012 17:30:08
Don’t call Me BaBy!!

เหมือนว่ามันคือความฝัน แม้ว่ามันจะผ่านไปเร็วแค่ไหนก็ตาม ตอนนี้ผมยืนเอ๋ออยู่ เหงื่อเริ่มผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นเลย โห่ก็ได้นะให้ได้รู้ว่าผมร้องได้แย่จริงๆ แถมยังกระแดะเลือกเพลงยากอีก หัวเราะก็ได้เอาเลย ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่เงียบแบบนี้มาตบหน้าผมเลยดีไหม
   “กรี๊ดด อ้ายอุ่นๆ กรี๊ดดด” หลังจากที่ผมยืนอ้าปากค้างอยู่ประมาณห้าวินาทีครับ ผมมองลงไปข้างล่างเวที ทุกคนก็เหมือนอ้าปากค้างเช่นกัน เสียงน้องแตงก็ดังขึ้น คนที่ไปรำช่วยผมนั่นล่ะครับ พอสิ้นเสียงน้องแตง เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้น มันผสมกันกับเสียงปรบมือเป่าปาก เออนะ ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
   “อุ่นป่ะ” ผมเองก็เหมือนตกอยู่ภวังค์ครับ จอยเรียกผมแล้วลากผมออกไปจากหน้าเวที
   “สุดยอดเบบี๋ แม่งคนอึ้งพูดไม่ออกเลย กูขนลุกมึงดูดิ” ไอ้เน่าครับ มันเดินออกมาจากที่เล่นอีเล็กโทน ผมอยากจะโผเข้ากอดมันเหลือเกิน แต่ก็ต้องอดใจเอาไว้
   “ขอบใจมากนะครับน้อง ที่มาเป่าฟลุทให้พี่” ผมจับมือทั้งสองข้างของน้องเอาไว้ น้องเองก็ยิ้มน้ำตาเอ่อ
   “เดี๋ยวก่อนค่ะนักเรียน อุรดิศเดี๋ยวก่อน” เสียงอาจารย์พรที่รีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีครับ ผมกับทุกคนจึงหยุด เสียงกรี๊ดที่ดังจนหูแทบแตก
   “ครูขอเสียงปรบมือ ให้เพื่อนอีกสักครั้งหน่อยค่ะทุกคน” พวกเราจึงหันหน้าออกจากเวทีแล้วยืนเรียงแถวกันครับ พวกเราโค้งลงเกือบจะพร้อมๆกัน เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว
   “เก่งมากอุรดิศ ขอบใจมาก” อาจารย์พรฤดียังคงเสียงสั่นๆอยู่ครับ แกโผเข้ามากอดผมแล้วก็ร้องไห้ออกมา ผมเองก็ตกใจเม้มปากแน่น
   “เห็นไหม ครูดูเธอไม่ผิด เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ อุรดิศ ครูดีใจจริงๆ” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินในตอนนั้น เพราะหลังจากนั้นเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และผมเหมือนโดนไอ้เน่ามันฉุดแขน ให้รีบลงจากเวที พอจะออกไปหลังหอประชุมก็มีคนอออยู่เต็มเลยครับ
   “อ้ายอุ่น ฮ้องเพลงม่วนหลาย เสียงดีอีหลี”
   “แม่นๆอ้าย ขนลุกเหมิดเอาโลด” “หนูขอถ่ายรูปนำแน่ค่า อ้ายอุ่น” เอ่อ ผมยืนเอ๋อครับ งงสินะ
   “เอื้อยจอยกะซาดเสียงดีแฮง อ้ายไม้คือกัน พวกผมขอถ่ายรูปนำแน่” สรุปว่าเสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังมาจากตรงนี้ด้วยครับ ผมยืนเอ๋อให้คนนั้นคนนี้ถ่ายรูปอยู่ครับ จะมองไปหาตัวช่วย ไอ้เน่ามันก็โดนรุมเหมือนกัน
   “หนูสิไปแสดงแล้วค่ะอ้าย หนูไปก่อนเด้อ” น้องคนที่เป่าฟลุทให้มาสะกิดบอกผมล่ะครับ
   “อ้อ ตั้งใจแสดงนะครับ พี่เป็นกำลังใจให้นะ” ผมบอกน้องเขาไปครับ แล้วน้องเขาก็ยิ้มออกมา พอการแสดงชุดต่อไปบนเวทีเริ่มขึ้น ทุกคนที่ห้อมล้อมพวกเราอยู่ ก็ดูเหมือนจะหันไปให้ความสนใจกับการแสดง
   “ป่ะสู ไปฉลองกัน” ไอ้เน่ามันชวนครับ
   “ไปไสล่ะ เขายังแสดงบ่ทันเหมิดเด้มึง” จอยแย้งครับ
   “ฮ่วย บ่เป็นตาอยู่แล้วล่ะ คันอยู่เฮาย้านเฮาสิได้เตะปากคนเด้นี่” ผมดูแววตามันแล้วน่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ท่าทางไอ้เน่ามันจะแค้นอยู่ไม่น้อย จอยมันเลยมองมาที่ผม
   “แม่นๆ ไปหาหยังกินดีกั่ว เดี๋ยวเฮาสิไปซวนซุมบักเคน” นายไม้บอกครับ แล้วก็ลากแขนไอ้เน่าไปคุยกันแป๊บหนึ่ง แล้วก็เดินไปเลย ส่วนไอ้เน่ามันเดินกลับมาหาผม
   “พ้อกันอยู่ร้านเฮาเด้อ” มันบอกจอยครับ แล้วมันก็จูงแขนผมไปทันที
   “ไปกินส้มตำเหรอเน่า” ผมถามมันครับ
   “อืม ไปให้พ้นๆจากตรงนี้” “ไปเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหมอ่ะ ไปแบบนี้อายแม่ดิ” ผมบอกมัน เพราะยังทรงเครื่องอยู่เต็มเถอะ นั่งซ้อนรถเครื่องไปทั้งอย่างนี้อายแน่ๆ พอเดินออกมาหน่อย ก็มีคนเดินอยู่ทั่วโรงเรียนล่ะครับ
   “เออๆ ลืมไป รถก็อยู่บ้านสาวจอยนี่” มันบอกครับ
   “อ้ายอุ่นๆ อ้ายฮ้องเพลงม่วนอีหลีเด้ออ้าย” เสียงแซวประมาณนี้ดังอยู่ตลอดล่ะครับ
   “เน่า ตกลงเราร้องเพลงเพราะเหรอ” ผมเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองครับ รู้นะว่ามีคนชม แต่เสียงโห่นั่นก็ทำให้ผมไม่มั่นใจเอาเสียเลย
   “มึงอย่าไปใส่ใจเลย มึงน่ะร้องเพลงเพราะแล้ว คนพวกนี้แม่ง สันดานเสีย” มันยังคงหงุดหงิดอยู่ครับ ผมเลยเงียบไป ไอ้เน่ามันพาผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะครับ ไปยืนรอนายไม้ที่รถเพราะเตรียมชุดนักเรียนมาด้วยในรถ ยืนรออยู่สักพักเพื่อนๆก็มา หน้าตาแต่ละคนดูยิ้มแย้มดีนะ
   “บู้ย มาเบิ่งๆอ้าย เบิ่งยามได๋กะขนลุกแหม่ะ” น้องโจ้ครับ มันแย่งกันดูกล้องวีดีโอกับน้องเต้อยู่ มีนายเคนมาด้วย
   “ไสๆ มึงถ่ายไว้เหมิดบ่” ไอ้เน่ามันเดินเข้าไปหา
   “ตั้งแต่ต้น ซูมคั่กขนาด หล่อคั่กแหม่ะ อ้ายอุ่นน่ะ” ผมเลยยิ้ม แหมนะ มีแต่คนชมน่ารักเถอะ เอ๊ะ ใครชม เอาน่า แต่ไม่ค่อยมีใครชมว่าผมหล่ออ่ะนะ ยิ้มบ้าง
   “ป่ะอุ่น ไปเปลี่ยนเสื้อ จอยเด้” นายไม้มาเปิดรถครับ ผมเลยหันมาสนใจกับกระเป๋าตัวเอง
   “เดี๋ยวก็คงมา” ผมบอกแล้วถือกระเป๋าเดินไปที่ห้องน้ำ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมา เพื่อนๆรวมถึงไอ้เน่าก็ยังคงวิจารณ์วีดีโออยู่
   “ไหนอ่ะ” ผมเลยอยากรู้ครับ อายเหมือนกันนะ ให้ดูตัวเองร้องเพลงเนี่ย พอเห็นหน่อยเดียวผมก็ไม่ดูแล้วครับ มันเขินอ่ะ สรุปว่าพวกเราก็รอจอยมาล่ะครับแล้วก็ตรงไปยังร้านส้มตำ
   “กรี๊ดดด เริ่ดค่า ว้ายตายแล้ว ร้องเพลงเพราะอีหลี เอ้ย ร้องเพราะขนาดลูกอุ่นขา ตายแล้วๆ พ่อๆ แม่ขนลุก” เอ่อ พอคุณแม่ได้ดูก็กรี๊ดออกมาเสียงดังครับ ผมนี่ตกใจจนสะดุ้งเลย
   “แม่นบ่แม่ ตอนแรกคนโห่หลายคือหยังนี่เด้ บัดฮ้องไปอีหลี ล่ะพากันงึดเด้เนาะ เงียบว่าแม่นตาย ฮ่าๆ” นายเคนครับ ดูแล้วดูอีกอยู่นั่นล่ะแล้วก็โม้ไปเรื่อย น้องโจ้ น้องเต้ก็ด้วย มีนายไม้กับจอยไปเสริม
   “มื้อแลงสิเอาไปให้คุณปลัดเบิ่งบ่แม่ ขนลุกๆ ลูกอุ่นนี่เสียงดีอีหลีตั้วนี่” คุณพ่อก็ชม ผมเขินแล้วล่ะ
   “ไปทำส้มตำดิ มึงจะกินตำไร” ไอ้เน่ามันเดินมาบอกผมล่ะครับ
   “เน่าตำเหรอ เอาตำแดงๆอ่ะ” “ตำไรของมึงแดงๆ” “ใส่ปลาร้าอ่ะ มีเส้นหนมจีนด้วย” มันพยักหน้าครับ สักพักพวกเราก็ต่างมาล้อมวงกินส้มตำกันสนุกสนาน
   “เฮาว่าสิโงเข้าไปในโรงเรียนอีกอยู่เด้นี่ ไปนำกันบ่อุ่น” จอยมันบอกล่ะครับ ตอนกินเสร็จ ผมหันไปมองไอ้เน่า มันส่ายหน้า ผมก็เลยหันไปบอกจอย
   “ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมีคนโห่อีก”
   “นี่ล่ะ เฮาสิไปเบิ่งหน้าพวกมันโห่ สิไปหาจารย์พรนั่นล่ะอุ่น เว้ามากะคันแข่วคั่ก แม่นเป็นตาซังหลาย เขาฮ้องคองตาโอ่หนึ่งกะโห่ เป็นจั่งได๋ล่ะ” จอยทำหน้าแบบว่านางร้ายในหนังครับ ผมก็หัวเราะตามครับ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไป โดยนัดกันอีกทีว่าเย็นนี้จะไปกินอะไรกันที่บ้านผม ส่วนไอ้เน่ามันขับรถพาผมไปที่ที่เราเคยไป เนินเขาลูกนั้น จำได้ไหมครับ ตอนนั้นไม่ใช่หน้าหนาว ร้อนล่ะแต่พระอาทิตย์ตกดินสวยทีเดียว ผมยังจำได้ดี แต่วันนี้มันพาไปตอนกลางวันก็ร้อนเหมือนกัน แต่ก็คงไม่แย่เท่าไหร่ ผมกอดเอวมันเอาหน้าซบหลังมันไปตลอดทางครับ ไอ้เน่าเองมันก็จับมือผมข้างหนึ่งไปตลอด ผมว่าคริสต์มาสปีนี้ผมรู้สึกมีความสุขมากที่สุดล่ะ แม้ช่วงเช้าจะค่อนข้างขลุกขลักไปหน่อย แต่รู้ไหม ทุกครั้งที่ผมรู้สึกแย่ แล้วผมมองลงมา ผมมองเห็นมัน ผมจะรู้สึกดีขึ้นในทันที นี่มันคือความรักสินะ ผมรักมันจังครับ
   “เย็นนี้ทำไรกินดีนะเน่า” ผมเอ่ยถามมันตอนทางขึ้นเขาครับ
   “กินหมูย่างไหม” “เกาหลีอ่ะเหรอ” “อืม อยากกิน หนาวๆต้องกินอะไรแบบนี้” ผมก็เออออไปกับมันล่ะครับ
   “ถ้าตอนเย็นน่าจะสวยเนอะ ฟ้าโปร่งจังเลย” พอไปถึงที่ผมก็ลงไปยืนกางมือออก
   “ก็อยู่จนเย็นดิวะ” “อ้าว แล้วใครจะเตรียมกับข้าวอ่ะ”
   “โทรไปบอกเจ๊ดิ เดี๋ยวกูโทรบอกพ่อให้” พ่อนี่คือพ่อผมนะครับ เดี๋ยวนี้เขาโทรคุยกันนะครับรู้ป่ะเนี่ย ฮ่าๆ ผมน่ะเหมือนจะเป็นหมาหัวเน่ายังไงไม่รู้
   “งั้นโทรบอกเพื่อนๆให้ไปรอที่บ้านดีกว่านะ” ผมบอกแล้วล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดสายไปหาพี่ต้อยก่อนใครล่ะครับ
   “อ่า มีดอกไม้ด้วยอ่ะเน่า” พอวางสายผมก็เหลือบไปเห็นดอกอะไรไม่รู้ครับ มันเป็นเหมือนกระดุมขาวๆ ตรงซอกหิน ผมเลยนั่งลงก้มดู
   “มึงมาดูตรงนี้ดิ” ผมลุกเดินไปทางที่ไอ้เน่ามันบอกครับ
   “อ่า” เอ่อ อึ้งครับ ผมอ้าปากค้างเลย ดอกหญ้าล่ะผมว่า สีขาวเป็นกระดุมขาวละลานตาไปหมดครับ มันเป็นเนินแล้วเนินนั้นมันคลุมไปด้วยดอกหญ้าชนิดนี้
   “ดอกกระดุมเงินมั้ง ภาคกลางเขาเรียก แต่ที่นี่เรียก หญ้าเฒ่าหัวหงอก” ผมนั่งลงเอามือค่อยๆไล้ไปตามปลายดอกของมัน สวยมากครับ สวยจริงๆ มันเหมือนวิมาน วิมานของผมและไอ้เน่า
   “อ้าว ซึ้งเหรอวะ” ผมลุกขึ้นแล้วโผกอดมันครับ
   “ซึ้งดิ ขอบใจนะเน่า สวยที่สุดเลย” ผมกอดมันแน่นครางออกไป
   “กูรู้ว่ามึงต้องชอบ หน้าหนาวก็มีดอกนี่ล่ะ แต่นี่มันเริ่มจะแก่แล้ว เดี๋ยวก็โรย” มันก็กอดผมแน่นเหมือนกัน
   “มึงมานั่งตรงนี้ดิ” มันพาผมไปนั่งบนโขดหินที่เดิมของเราล่ะครับ ผมก็นั่งมองไปเบื้องล่าง วิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดสายตา ท้องฟ้าครามเปิดกว้างสว่างใส ผมมองอยู่ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ผมหยิบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้ครับ ส่วนไอ้เน่าเหมือนมันจะเดินไปฉี่ ลมบนยอดเขานี่ก็แรงเหมือนกันนะ
   “อ่า” ผมได้ยินเสียงไอ้เน่ามันเดินมาครับผมเลยหันไปมอง แต่ภาพที่เห็นมันคือดอกหญ้ามากมาย มันปลิวมากับลม ดอกหญ้าที่อยู่ในกำมือของมันกำใหญ่ มันรูดเอาดอกของมันที่ปุยๆเป็นขนแล้วโปรยมาทางผม ให้ตายเถอะ อยากจะร้องไห้จังเลย ใครว่ามันเถื่อน ไม่จริงแล้ว มันน่ารักมากครับ มันเป็นคนที่ผมรักมากๆ
   “ชอบป่ะ” มันเดินมาหาผมครับ ผมน้ำตาซึมแล้วเถอะ
   “แอบโรแมนติกนะเนี่ย” ผมแซวมันแล้วยิ้มๆ มันยักคิ้วให้ผม
   “อย่าไปบอกใครนะเว้ย ฮ่าๆ กูไม่เคยทำเหมือนกันล่ะ” มันนั่งลงข้างๆผมครับ แล้วมันก็ขยับตัว แล้วก็เปลี่ยนเป็นนอนลงไปเลย มันเอาหัวมันหนุนตักผม คิดภาพเอานะครับ ว่าตอนนี้บ่ายๆ แดดร้อนนะแต่ด้วยที่มันเป็นหน้าหนาวจึงพอทน โขดหินที่นั่งได้สองสามคน ทำให้มองเห็นภาพวิวสวยงามจับใจ รอบๆโขดหินมีหญ้ากระดุมเงินขึ้นอยู่เต็มไปหมด บรรยากาศมันเป็นใจเหลือเกิน ผมลูบใบหน้ามันเบาๆ
   “ไปนอนตรงโน้นดีกว่า” มันเหมือนจะเจ็บหลังล่ะครับ มันจึงลุกขึ้นแล้วลากมือผมไปที่ลานดอกหญ้า มันล้มตัวลงนอนแล้วดึงผมให้ตามลงไป
   “กูรักมึงนะเบบี๋” มันกอดผมไว้ ผมก็กอดมันครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว
   “อ้าวสัด บอกรักทำไมร้องไห้วะ” “ก็มันซึ้งอ่ะ ขอบใจมากนะเน่า ที่รักเรา ขอบใจนะ”
   “แล้วมึงล่ะ” “เรารักเน่าดิ รักมากนะรู้ไหม” ผมบอกไปไม่มีอาย ไม่รู้จะเก็บไว้บอกตอนไหนถ้าไม่บอกมันตอนนี้
   “เอากันป่ะ” เอ่อ
   “บ้าเหรอ กลางทุ่งหญ้าเนี่ยนะ ไม่เอา กลับบ้านค่อยทำ” ผมรีบห้ามครับ ท่าทางมันจะไม่พูดเล่นนะเนี่ย
   “จิ๊ น่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะเว้ย”
   “อ่านะ ไม่เอาอ่ะ อายผีสางเทวดาบ้างเถอะ” ผมไม่ตอบครับ แล้วมันก็กอดผม นอนดิ้นไปดิ้นมาเราสองคนก็หลับ ทั้งที่แดดออกอย่างนั้นล่ะครับ แต่ด้วยความที่มีลม มีดอกหญ้า ดำเป็นดำเถอะ
   “เบบี๋ๆ” นอนไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าตอนนี้ไอ้เน่ามันเขย่าตัวผมแล้ว
   “อือ” “ตื่นๆ พวกนั้นโทรมาแล้ว กี่โมงแล้ววะเนี่ย” มันยกโทรศัพท์ขึ้นดูครับ

To Be Continued
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 16-10-2012 17:38:57
เน่าแอบโรแมนติกนะเนี่ย
สวีทกันเพลินจนลืมเวลาเลยนะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 16-10-2012 17:40:42
“จะหกโมงแล้วว่ะ ป่ะกลับ” มันลุกขึ้นก่อนครับแล้วยื่นมือมาดึงผมให้ลุกตาม ผมก็ลุก พอจะลุกมองไปทางทิศตะวันตกผมก็อึ้งอีกครั้ง ตอนนี้ไม่มีอะไรมาบดบังแสงของพระอาทิตย์เลยนะครับ เงาของเราสองคนทอดยาวไปอีกทิศ แสงแดดที่อบอุ่นเหลือเกินลามเลียร่างกายของเราสองคนอยู่ ผมหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอด
   “เร็วเลยๆ อย่ามามัวทำซึ้ง หิวแล้วนะเว้ย” อ่านะ ดูเอาเถอะ มันเร่งครับ ผมเลยรีบกดโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้หน่อย พอผมถ่ายเสร็จก็รีบไปซ้อนท้ายมัน ขากลับมันค่ำเร็วมากครับ ระหว่างนั้นทั้งพ่อและเพื่อนๆก็โทรมาตามกันหลายสาย ถึงบ้านทุ่มกว่าๆ หนาวแล้วเถอะ
   “บู้ย แม่นพากันไปไสมาเนาะ ถ่าโดนจนทนบ่ไหวกินก่อนแล้วเด้อนี่” นายเคนร้องทักมาก่อนใครครับ
   “ไปดูพระอาทิตย์ตกน่ะ ไม่รอเลยน้า” ผมเดินเข้าไปกลุ่มเพื่อนๆครับ แต่ก็ชะงักเท้าเพราะว่าพ่อผมเอาโทรทัศน์ลงมาต่อกับกล้องวีดีโอ เอ่อ เวอร์ไปป่ะพ่อ
   “ใช้ได้นี่ลูก เก่งๆ เสียงดีนะเรา” พ่อผมแซวครับ แล้วเพื่อนๆก็เสริมเสียงอื้ออึง
   “ลูกจอยนี่เสียงดีมากนะ เดี๋ยวที่อำเภอเขาจะมีจัดงานวัฒนธรรมท้องถิ่น สนใจอยากจะร้องเพลงให้พ่อไหมลูก เนี่ยพ่อคิดว่าจะให้แม่เราช่วย แต่ตอนนี้คิดว่าให้เราดีกว่า” พ่อผมเสนอมาครับ
   “ว้าย หนูบ่ทันเก่งดอกค่าพ่อ ฮ้องได้นิดหน่อยๆ”
   “ไม่หน่อยแล้ว พ่อรู้หรอกน่า อ้าว กินๆ วันนี้เต็มที่กันไปเลย เดี๋ยวบ้านโน้นก็จะมา” พ่อผมบอกครับ บ้านโน้นนี่คงบ้านไอ้เน่านั่นล่ะครับ ผมก็เลยนั่งลงข้างๆจอย ไม่มองวีดีโอที่ทุกคนมองดูอยู่ เสียงชมเอยวิจารณ์เอยดังอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ พี่ต้อยครับ
   “โอ้ย เอื้อยขนลุก ไปลักเฮียนฮ้องเพลงมาแต่ไสคะคุณอุ่น อยู่นำกันมาบ่เคยเห็นฮ้องจั่กเทื่อ มีของดีกะบ่บอกน้อ”
   “ฮ่าๆ นี่ล่ะต้อยเขาเรียกคมในฝัก” พ่อผมหัวเราะชอบใจครับ ผมก็อายไปตามวิสัย พอสักพักบ้านโน้นก็มาจริงๆครับ หอบของมาเต็มไปหมด คุณแม่ใส่หมวกซานต้าด้วยนะ ใส่ชุดแดง ผมยิ้มเลยอ่ะ
   “ดีใจมากค่ะคุณปลัด แม่ดูไม่ผิดจริงๆว่าลูกอุ่นมีพรสวรรค์ แม่มีรางวัลมาให้ด้วยนะคะ” อ่านะ ผมเดินไปรับคุณแม่กับคุณพ่อล่ะครับ
   “ไม่ต้องหรอกครับคุณแม่ อุ่นทำเพราะไฟลท์บังคับหรอกครับ ฝึกแทบตาย”
   “ว้ายไม่ได้ค่า ลูกแม่เก่งขนาดนี้ อ่ะนี่รางวัลเล็กๆน้อยๆจากพ่อกับแม่ อยากได้อะไรก็ไปจัดมาเลยนะคะลูกอุ่นขา โอ้ย ดีใจมากๆ” คุณแม่ยื่นซองสีขาวให้ล่ะครับ ผมรับมาแล้วยกมือขึ้นไหว้
   “เอ่อ” เงินครับท่าน ท่าทางคงเยอะอยู่นะ
   “ฮ่วย อีหยังนี่แม่ มาให้สินบนอีหยังกัน ไหนดูดิ๊” ไอ้เน่าครับ มันมองอยู่ล่ะ มันมาแย่งซองไปจากมือผมทันที
   “ว้าย บักเดี๋ยว ซวดลวดหลาย ของลูกอุ่นฉันนะยะ”
   “ป้าด แม่ อีหยังนี่ ค่าดองติ๊ คือหลายแท้” มันเปิดซองออกเลยครับ
   “ห้าพัน มาเด้อขวญเอ้ย อีแม่กูแจกเงินห้าพัน” มันร้องขึ้นครับ
   “ว้ายแม่ หนูกะฮ้องคือกันเด้ค่า” “ผมนำเด้แม่” เอ่อ จอยกับนายไม้ครับ วิ่งมายืนทำตาปริบๆ
   “ว้าย โพดหลายค่า อ่ะนี่ของลูกๆทั้งสอง วันนี้แม่อารมณ์ดีมากๆ แจกค่าแจก” ผมอึ้งครับ เพราะคุณนายแม่แจกจอยกับนายไม้ไปอีกคนละซอง
   “ฮ่วย เดี๋ยวกะเล่นอีเล็กโทนให้เด้อแม่ ไสล่ะของเดี๋ยว” ไอ้เน่าครับ ไม่ยอมๆ
   “ผมกะถ่ายวีดีโอให้เด้แม่” น้องโจ้ครับ
   “ผมพาหมู่ตบมือเด้แม่ ถ่ายวีดีโอนำเด้อ” นายเคนกับน้องเต้ครับ ครบคนล่ะ คุณแม่หัวเราะชอบใจ
   “พวกลูกๆ เอาไปคนละห้าร้อยพอค่ะ” “โห่ๆๆๆๆ” เสียงเซ็งๆของเพื่อนๆดังขึ้นทันที
   “ฮ่าๆ มาๆลูก งั้นมาเอาจากพ่อก็ได้” เสียงพ่อผมครับ อ่านะ เป็นพ่อบุญทุ่มอีกแล้วครับ เพื่อนๆหันขวับไปหาพ่อผมทันที ทิ้งผมให้ยืนกับคุณพ่อและคุณแม่เลยนะ ไอ้พวกนี้อะไรเนี่ย  พวกเราก็กินหมูกระทะกันเจี้ยวจ้าวอยู่ล่ะครับ จนดึกก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บรรยากาศมันตลบอบอวลไปด้วยความสุขจริงๆครับ เงินที่ผมได้มาได้เน่ามันเอาไปครับ มันบอกจะเก็บไว้ใช้สองคน แต่มันพูดไปแบบนั้นล่ะครับ เพราะเอาไปเอามามันก็เอาเงินมาใส่กระเป๋าสตางค์ผมอยู่ดี อิอิ ไม่รู้ผมบอกไปหรือยังว่าเราใช้กระเป๋าตังค์ใบเดียวกันนะครับ ไอ้เน่ามันไม่เคยมีกระเป๋าสตางค์ด้วยล่ะ
   “ตอนนั้น มึงตกใจไหมวะ เบบี๋” มันถามขึ้นตอนที่เรานอนแล้วล่ะครับ ผมกอดมันซุกหน้าเข้าหาสีข้างของมัน
   “ตกใจดิ สั่นไปหมด”
   “กูจะไปจัดการให้เอาไหม แม่งกวนตีน”
   “ไม่เอาอ่ะ อย่าไปทำนะ มันผ่านมาแล้วนี่ เขาคงจะไม่ชอบเรามากล่ะ”
   “มันไม่เกี่ยวกับมึงนี่หว่า มันทะเลาะกับกูนะไม่ใช่กับมึง มันไม่มีสิทธิ์มาทำกับมึงแบบนี้” มันคำรามออกมาครับ ผมเลยกอดมันแน่นขึ้น
   “ไม่เป็นไรหรอกน่า ก็เราสองคนเหมือนเป็นคนๆเดียวกันนี่ เขาคงคิดแบบนี้ล่ะ”
   “โหย ละลายเลยกู แม่งน่ารักนะเนี่ย เมียกู” อ่า ผมลืมตัวครับ มันเชยคงผมขึ้นแล้ว มันจ้องตาผม ผมเองก็อายเถอะ หลุบตาลง มันก็ไม่ยอม
   “กูชอบจังประโยคนี้ เออนะ ใช่สิ เราสองคนเหมือนเป็นคนๆเดียวกันนี่นะ” มันพูดเสียงทุ้มครับ แล้วมันก็จูบผมหนักหน่วง แล้วแช่ริมฝีปากไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน ให้ตายเถอะมันรู้สึกสุขไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียว ผมกอดมันแน่น กอดแน่นเหมือนกลัวว่ามันจะหนีไปไหน
   “เบบี๋ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันไหม” มันเอ่ยชวนขึ้นล่ะครับ
   “ไปไหนดี” “ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักไง”
   “ไม่อยากอยู่บ้านเหรอ วันหยุดแล้วขี้เกียจไป”
   “อ้าวนะ ไม่อยากไปสร้างบรรยากาศว่างั้นมึง”
   “อยู่บ้านก็สร้างได้เถอะเน่า”
   “เออนะ ดีๆเหมือนกัน อุปกรณ์ครบ ฮ่าๆ”
   “บ้า จะทำไรอ่ะ” มันหัวเราะครับ ผมรู้แล้วล่ะว่ามันหมายถึงอะไร แหมไอ้นี่เผลอไม่ได้เลยนะ
   “ก็วันหยุด ชดเชยไง ดีเลย ไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวกูจะทำลายสถิติ”
   “บ้าไปแล้ว ใครจะให้ทำ ไม่เอาด้วยหรอก คราวก่อนก็เกือบตายเถอะ” ผมอายครับกอดมันไว้แน่น ที่กอดนี่รู้ไหมว่าทำไม เพราะถ้าผมไม่กอดมัน รับรองครับมันล้วงผมแล้วแน่ๆ ไอ้นี่มันปากว่ามือถึง เรานอนกอดกันอยู่ไม่เคยปล่อยมือออกจากกันเลย ไม่เคยคิดว่าผมจะชินกับการกอดใครนอนแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าผมจะรักใครได้เต็มหัวใจเท่านี้ ความรักที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เมืองเล็กๆที่ผมไม่เคยคิดว่าผมจะอยู่ได้ แต่ด้วยกลิ่นอายของหลายๆอย่าง ทำให้ผมหลงรักทั้งเมืองนี้และคนไปเต็มๆ จนถึงตอนนี้ ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมรักมันมาก การที่เราตัวติดกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน ความรู้สึกเหมือนว่าผมเองมีเงาคอยติดตามไปทุกหนแห่ง รักจริงๆเต็มหัวใจ ขอบคุณพ่อที่ย้ายมาที่นี่ ขอบคุณโชคชะตาที่พาผมให้มาเจอกับมัน ขอบคุณจริงๆ ไอ้เน่าของผม


The End
[/b][/color]

ปล. ต้องขออภัยทางเล้าด้วยนะครับ ที่เปิดจองก่อนจบ ผมไม่ทราบจริงๆ
ต้องขอโทษด้วยนะครับ


คุยกันหน่อยคร้าบ

คือเรื่องนี้อย่างที่ผมบอกว่า ตอนแรกกะจะเขียนให้มันเป็นเรื่องไม่ยาวมาก แต่เขียนไปเขียนมากลับยาวเสียนี่
ตอนนี้ก็จบแล้วครับ ถึงเขียนต่อไปอีก เนื้อเรื่องก็คงประมาณนี้ไม่หวือหวาอะไรแล้ว อาจจะหวานกันไปหวานกันมา
เลยสรุปว่าควรจะจบดีกว่า อีกอย่างช่วงนี้ก็วุ่นวายกับหลายอย่าง ไม่อยากให้เพื่อนๆรอนาน

ขอขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะครับ ภาษาแม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อย่างน้อยก็ยังดีใจที่เพื่อนๆยังคอยติดตามอยู่

สำหรับเพื่อนๆที่อยากสะสมเรื่องนี้ไว้เป็นความทรงจำ ก็จองไว้ได้เลยครับ เพราะตั้งใจว่าจะรวมเล่ม สำหรับรายละเอียด เดี๋ยวผมแจ้งเรื่อยๆนะครับ

ขอบคุณครับ

สำหรับรายละเอียดในการจองครับ

ประกาศเปิดจอง นิยาย “Don’t call Me BaBy!! & You’re My BaBy!!”

เขียนไปเขียนมาเป็นเรื่องยาวไปเลย แหะๆ ตอนแรกกะจะเขียนให้มันสั้นๆหน่อย แต่ที่ตัดสินใจรวมเล่มก็เพราะว่า ในเนื้อหามันสอดแทรกวัฒนธรรมของชาวที่ราบสูง หรืออีสานบ้านเฮา และนับเป็นนิยายโรแมนติกเกือบเต็มเรื่อง เรื่องแรกของผมอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆที่อยากเก็บสะสมความประทับ ในบรรยากาศกลิ่นอายท้องทุ่ง บ้านนาที่ตลบอบอวล บรรยากาศที่หลบหลีกความวุ่นวาย ในเมืองใหญ่ ไว้ในครอบครอง ผมเองก้อยากให้เก็บมันไว้นะครับ

เหตุผลที่ควรมีเรื่องนี้

-มีตอนพิเศษมากกว่า 150 หน้า เพราะเขียนไว้บ้างแล้วครับ
-เพิ่มเติมเนื้อหาจากที่ลงในเล้า แบบที่ไม่เคยอ่านมาก่อน ฉากหวานไม่เคยมีที่ไหน ฉากไม่คาดคิด
-ของแถม ตอนนี้กำลังเล็งถุงผ้า อยู่ อิอิ
-ราคาย่อมเยาว์ พยายามจะให้ต่ำกว่า 600 ให้ได้ สู้ๆ อิอิ

***ช่องทางการจอง ****
-ผ่านทางเมล keytian14แอท yahoo ดอทคอม
-ผ่านทาง พีเอ็ม ในเล้า
-ผ่านทาง เฟสบุค eiky thaiboyslove/pages

** ปล. ถ้าแบบนั้นก็เก็บสะสมไว้เถอะนะครับ อิอิ ไม่ชอบอ่านแนวนี้ก็เก็บถุงผ้าก็ด้ายยย แว้กกก***
ขอบคุณ สำหรับกำลังใจที่มีให้ผมเสมอมา จุ๊บๆ

ปลๆ. เรื่องนี้จะทำพรอ้มกับหนูญี่ปุ่นนะครับ ใครสนใจจองแบบแพ็กคู่ได้ เดี๋ยวจะคิดราคาแพ็กเกจให้ อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-10-2012 18:01:37
ไม่อยากให้จบเลย
น้องอุ่นน่ารัก เพื่อน ๆ ก็แสนดี
พ่อแม่ก็ใจดีและให้การสนับสนุนในทางที่ถูกที่ควร
ขอบคุณอิ๊กกี้สำหรับเรื่องน่าอ่านอีกเรื่องหนึ่ง
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 16-10-2012 18:03:29
จบแล้วจริงๆหรอ T^T
รักอุ่นกับเดี๋ยวมากๆเลยยยยยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 16-10-2012 18:22:25
ดีใจกับน้องอุ่นที่ทำสำเร็จแล้ว มีแต่คนชื่นชม แต่อยากให้ไปจัดการกับพวกนั้นด้วยจังเลย
แต่บางทีก็ช่างมันเหอะ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
ทุ่งหญ้าคงสวยมากเลยเนอะ แหม โรแมนติกนะเน่าเนี่ย มาเสียตอนแอบหื่นบนเขานี่แหละ
ลุ้นกลัวอุ่นยอม 555

ขอบคุณค่ะ รออ่านของพระเอกต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 16-10-2012 18:55:16
จบแล้วหรอ??? ยังอยากรออ่านอยู่เลย T^T (การติดตามรออ่านเรื่องที่ชอบ มันให้ความรู้สึกเหมือนการเดินผ่านแผงหนังสือแล้วได้ชะโงกมองว่าเรื่องที่รอมาหรือยัง มันมีความสุขจริงๆนะครับ ><)
ชอบน้องอุ่นและเพื่อนๆมาก บรรยากาศแบบตจว.ที่ไ่ม่เคยได้สัมผัส (ไม่ใช่คนกรุง แต่แถวบ้านไม่มีแบบนี้ให้เห็นแล้ว เศร้ามาก)

บอกตรงๆ เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อาศัยเดาเอาจากบริบทใกล้ๆ แต่ก็ความสนุกก็ไม่ได้ลดลงเลย

ไม่แน่ใจว่าจะมีตอนพิเศษต่ออีกไหม แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้จักน้องอุ่นและน้องเดี๋ยวรวมทั้งพองเพื่อน
ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่ารักๆอย่างนี้มาให้ได้อ่านกัน ขอบคุณนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 16-10-2012 19:33:11
ว้าจบซะแล้ว

รอผลงานชื้นต่อไปน่ะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 16-10-2012 19:37:00
ชอบจัง

ติดตามมาตลอดเลย แอบใจหายเหมือนกันนะ

ยังไงอุ่นกับเดี๋ยวก็จะอยู่ในใจเสมอนะ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายของคุณ eiky นะครับ

ว่าแต่จะมีเรื่องใหม่มาอีกไหมล่ะเนี่ย รอติดตามผลงานต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-10-2012 20:01:58
คงคิดถึงอุ่นเดี๋ยวน่าดู
ใจหาย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 16-10-2012 20:41:47
ไม่อยากให้จบเลยสนุก
น่ารักมากๆเลยเรื่องนี้ o13 อยากรู้ราคาแพ็คคู่จังจะได้เก็บเงินไว้ก่อนล่วงหน้า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 16-10-2012 20:53:03
อยากอ่านตอนอยู่มหาลัยกับทำงาน ในตอนพิเศษจะมีไหมคะ :)

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 16-10-2012 21:06:12
อยากอ่านตอนอยู่มหาลัยกับทำงาน ในตอนพิเศษจะมีไหมคะ :)

 :L2: :L2:

มีเป็นซี่รี่ส์คร้าบ  มีทั้งหมด สาม ภาค ตอนนี้ภาคนี้จบแล้วครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-10-2012 21:42:41
จบแว้ววววววววว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 16-10-2012 22:04:07
 :pig4: :pig4:  :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ค่ะ ด้วยความที่เป็นคนใต้ บางคำก็แปลไม่ออก เก็บความสงสัยไปถามน้องที่ทำงาน แล้วก็หัวเราะบ้า จนน้องมันถามพี่เป็นไรเป่าอ่ะ  555+++  ชอบนะ สนุกดี ติดตามเรื่องต่อไปน้าาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 16-10-2012 22:25:55
ชอบมาก ๆ ตอนไปดูพระอาทิตย์ตกดิน อ่ะทุ่งหญิง หน้สหนาว สุด ยอดอ่ะ บรรากาศ ถ้าอ่านตอนเดือนพฤจิ อ่ะ คงสุดยอดมาก ๆ เลย+q :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 16-10-2012 22:53:02
สนุกมากเลยอะ ชอบเรื่องนี้

เด่วน้องเมลไปจองนะคะ จอง2เรื่องเลย o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: theWinDy ที่ 17-10-2012 05:22:28
จบแล้ว เสียดายยังอยากติดตามชีวิตของอุ่นเดี๋ยว และผองเพื่อนอยู่เลย

แต่ก็ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับเรื่องสนุกสนานเฮฮาเรื่องนี้  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-10-2012 11:05:52
ขอบคุณนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 17-10-2012 12:27:25
เอาด้วยคนนนนเรื่องนี้ ภาคที่เหลือคงจะไม่จบเศร้านะคะ T,.T
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 17-10-2012 12:59:55
ขอบคุณคุณอิ๊กกี้ที่แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นนิยายที่ประทับใจมากที่สุด o13 และจบแบบมีความสุข (จะรอเรื่องต่อไปนะค่ะ)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 17-10-2012 18:45:29
จบแล้ววว

อบอุ่นจังเลย ขอบคุณที่มาแบ่งปันความสุขกันนะคะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 17-10-2012 20:27:13
อ่านไปอมยิ้มไป...ขนาดรู้บ้างไม่รู้บ้างนะ...
น้องอิ๊กบรรยายซะเห็นภาพ..อยากเห็นจังทุ่งดอกกระดุมสีขาวต้องสวยมากแน่ ๆ
เป็นนิยายอีกเรื่องที่อ่านแล้วสบายใจ...ได้รับรู้วิถีชีวิตที่สงบความมีน้ำใจของไทยแท้
ขอบคุณน้องอิ๊กสำหรับนิยายดี ๆ ที่แต่งให้อ่าน... และจะติดตามภาคต่อไปค่ะ

 :L2: น้องอิ๊ก  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 18-10-2012 15:25:37
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-10-2012 17:09:56
จบกันไปอย่างสวยงาม :L2:
รอเตรียมจ่ายเงินทั้งสองเรื่องเลย :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 19-10-2012 00:13:11
คุณอิ๊กกี้ ไม่รวมเล่ม เอ-โย ด้วยเหรอค่ะรออยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 19-10-2012 14:40:51
ไม่มีคำพูดใด..นอกจากคำว่าสุด...ยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 19-10-2012 17:20:42
คุณอิ๊กกี้ ไม่รวมเล่ม เอ-โย ด้วยเหรอค่ะรออยู่ค่ะ

ปีหน้าคร้าบ อิอิ จะรวมให้สะสมน้า
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 19-10-2012 18:24:32
 :pig4: สนุกมากค่ะ บรรยากาศบ้านๆ น่ารักสุดๆ

น่าเสียดายที่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาพูดเท่าไหร

ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆให้อ่านนะคะ

รักคนเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 19-10-2012 20:12:02
อุ่นน่ารัก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 21-10-2012 03:39:57
สนุกมากครับ ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกให้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 21-10-2012 11:33:22
สนุกมากเลยคะ :-[
ส่วนตัวไม่เข้าใจภาษาอีสานเท่าไหร่ :m28:
แต่เรื่องนี้ได้ใจไปเต็มๆ o13
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 21-10-2012 21:34:03
 o13
น้องอุ่นทำสำเร็จแล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 22-10-2012 04:44:02
บ่มีปัญหากับภาษาอิสานเลยบ่มีปัญหาในการอ่านจ้า
โอ๊ย ยยยย ตาฮักแฮงเด้อค่าเรื่องนี่ มักหลายบรรยากาศในเรื่อง
ทั้งตอนเกี่ยวเข่า จี่เข่าใส่ใข่นี่มักแฮงเด้อค่า
อ่านแล้วนะแม่นคิดฮอดเฮื้อนแท้เด้หนิ อยากไปนอนเบิ่งดาวอยู่ท่งนาแท้หนอ
คิดฮอดตำบักฮุง แกงหน่อไม้ อ่านไปล่ะน้ำลายส่อไปเด้อค่า ฮ่า า :o8:
มาเว้าฮอดโตละครในเรื่อง อันบักเดี๊ยวนี่นะแม่นมันใจฮ้อนคั่กเนอะ
อันตอนเอามีดกรีดหน้าเจ้าของนะแมะ โอ๊ยๆๆ บ่เคยพ้อเด้อค่า มันคือคิดจั่งซั่นเนอะ
ข่อยเป็นแม่มันนิ ข่อยสิเอาสากตำบักหุงฟาดหัวเลยเด้อจ้า
เพิ่นกะทะลึ่งตึงตังแฮงเนอะเป็นตาเหลือโตนหนูอุ่นคั่ก
อุ่นนี่เป็นตาฮักตาซังเนอะ แต่พอเพิ่นโมโหกะเอาเรื่องอยู่เด้ล่ะ เป็นตาย่านแฮง
ซุมหมู่เพิ่นกะมีแต่คนดีๆเด้ล่ะ อันเป้นตาซังกะเพ็ญกับอิสุชาตินั่นตั๋ว คนอิหยังเป็นตาซังแฮง
ถืกตีไปปานนั้นซ่างบ่จือบ่จำ ยังมาสร้างเรื่องให้อุ่นกะเดี๊ยวอีก ซังแฮง! :m16:
อ๊อย เว้าไปเว้ามาคือมายาวแท้ล่ะบาดหนิ ฮ่า าา
จั่งได๋ก็ต้องขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องดีๆแบบนี้เด้อค่า
กด +1 ไปให่ด้วยความเต็มใจหลายค่า :pig4:

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kaichan ที่ 22-10-2012 19:36:51
 :pighaun: :L3:จะเป็ยยังไง "คู่รักคู่กัด" งั้นหรอ :กอด1: แล้วจะเป็นยังไง??
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kaichan ที่ 22-10-2012 23:49:55
 :o12: :really2: :really2: :really2: :really2: คู่นี้นี่ยังไง??
:L2:มอบให้พี่ชายสุดหล่อฮะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kaichan ที่ 23-10-2012 01:10:11
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
กวนไปไหนเนี่ย!! คู้นี้
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
เป็นกำลังใจเสมอฮะ
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 24-10-2012 23:18:27
ชอบจัง ถึงจะอ่านยากไปนิดแค่ก็ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: THELOOM ที่ 01-11-2012 15:05:48
ชอบที่เอาภาษาท้องถิ่นมาบรรยายเนื้อเรื่องถึงแม้จะรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่มันก็น่ารักดี
[/size][/color]
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆ มาให้อ่านครับ  :L2:
[/size][/color]
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 02-11-2012 14:15:34
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี  ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
อ่านแล้วสนุกมากมาย อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 02-11-2012 21:23:28
อยากให้มีต่อ คนเขียนบรรยายได้เห็นภาพจริงๆ ขอโหวดให้นิยายเรื่องนี้อย่างแรงคราฟฟฟฟ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 08-11-2012 11:48:16
น้องอุ่นกับไอ้เน่าน่ารักมากค่ะเขียนบรรยายบรรยากาศได้เก่งมาก

ทั้งเรื่องอาหารการกินทำเอาน้ำลายหกทุกที555ถึงจะเข้าใจภาษาได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-11-2012 19:43:32
 :3059:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* 16 October 12 หน้า 42 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 18-11-2012 14:34:04
มีปกมาฝากคร้าบ ตอนนี้เอาให้ดูแค่ปกหน้าไปก่อนน้า อิอิ

ยั่วน้ำลายๆๆๆๆ

(http://images.temppic.com/18-11-2012/images_vertis/1353224013_0.11040700.jpg)

ใครยังไม่จองรีบจองน้า ตอนนี้เปิดจองเฉยๆ ส่วนรายละเอียดจะแจ้งเรื่อยๆนะคร้าบ

เมล์ไปจองได้ที่ keytian14(at) ยาฮูดอทคอม

เรื่องนี้มีถุงผ้าให้ด้วยน้า อิอิ

จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 18-11-2012 20:10:08
อยากได้มากกว่าปกแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: honeystar ที่ 18-11-2012 23:40:44
หน้าปกสวยจังเลยค่ะคุณ อิ๊ก ><'
(จองไปแย้วว)
+1 กับเป็ดให้น้าค่าาาา :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 19-11-2012 00:08:19
อันนี้จบสามภาคเลยรึป่าวคะ :)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 19-11-2012 18:22:49
อันนี้จบสามภาคเลยรึป่าวคะ :)

ไม่คร้าบ จบภาคแรก อิอิ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 19-11-2012 19:55:22
เห็นปกแล้วชอบค่ะ...เจ้าโบ้เด่นด้วยนะ(ห้อยหัว)
ให้อารมณ์ท้องทุ่งและสองเราเนอะ...
รอข่าวต่อไปจ๊ะน้องอิ๊ก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 21-11-2012 20:53:34
ส่งพีเอ็มไปแล้วน้า จอง 1 ชุด
หัวข้อ: RE:
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 23-11-2012 17:45:57
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 24-11-2012 01:39:14
หน้าปกน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-11-2012 14:23:16
โว๊ะ เป็นตาฮักแท้น้อ เรื่องนี้ ม่วนหลายโพดค่า แม้บางคำจะไม่เคยรู้ แต่ก็พอเดาๆได้อยู่
อุ่นทั้งโก๊ะทั้งเอ๋อ อย่างฮา ยิ่งตอนที่สะกดคำว่ามารยาทน่ะ หัวเราะออกมาเลย
บักเดี๋ยวก็ห่ามๆจริงใจดี แถมหล่อ เรียนเก่ง กีฬาเก่ง ดนตรีได้ ตำส้มก็แซ่บได้อีกเด้
แม่เดี๋ยวก็ตลก เผลอเว้าลาวตลอด555
พี่ต้อยก็เป็นแม่บ้านกายสิทธิ์ ทำได้ทุกอย่าง
หมู่เพื่อนก็ดี โดยเฉพาะจอย ช่วยหมู่ขนาดเลย
อ่านแล้วมีความสุขหลาย ขอบคุณเด้อค่ะ :pig4:

บวกๆ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: gustova ที่ 27-11-2012 16:50:49
กดบวกให้อย่างไม่มีข้อแม้.......
ขอบคุณมากครับ  o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 29-11-2012 18:47:19
เมื่อไหร่จะเปิดจองค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! *End* อัพเดท **ปกหน้า** P.43 **พร้อมเปิดจอง**
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-12-2012 15:10:11
แจ้งปิดจองและโอนเงินครับ
นิยายเรื่อง My Sweetheart Valentine & Don’t Call Me BaBy!! , You’re My Baby!! เปิดจองมาตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2555 ถึง 31 มกราคม 2556 ได้ครบกำหนดแล้วครับ จึงขอปิดการจองและโอน
ปล. สำหรับผู้ที่จองหนังสือไว้และยังไมได้โอนเงิน ถ้ายังอยากจะได้หนังสืออยู่ รบกวนแจ้งความประสงค์ด้วยนะครับ สามารถคุยกันได้ครับไม่ต้องห่วง ส่วนท่านที่ยังไม่ได้จองแต่อยากได้ สามารถโอนแล้วแจ้งเข้ามาได้เลยครับ เพราะผมจะสั่งพิมพ์หนังสือเฉพาะคนที่โอนและแจ้งความประสงค์ว่าอยากได้อยู่เท่านั้นนะครับ ไม่ได้สั่งเผื่อ สำหรับโครงการที่จะ Re-printed นั้นน่าจะมีครับ แต่คิดว่าน่าจะทำพร้อมกับเรื่องใหม่ สำหรับท่านที่โอนเงินแล้ว หนังสือน่าจะเสร็จไม่เกินกลางเดือนครับผม
ขอบคุณมากครับ

****************อัพเดท 31 มกราคม 2556*********


ประกาศเปิดจองหนังสือและโอนเงินครับผม
[/size]
Don’t Call Me BaBy!! & You’re My BaBy!!
[/b][/size]
เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2555 ถึง 31 มกราคม 2556
รายละเอียด
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้นะครับ ต้องแจ้งก่อนว่า ตั้งใจเป็นสามภาคนะครับ ภาคสองกำลังเริ่มเขียน คนที่สั่งจอง นอกจากจะได้หนังสือแล้ว ยังมีของแถม ตอนนี้คิดว่าเป็นถุงผ้าใส่ของครับ กำลังติดต่อกับร้านทำอยู่ ถ้าอยากจะเก็บไว้เป็นความทรงจำก็สั่งจองได้เลยนะครับ
จำนวนหน้า 763 หน้า ทำเป็นสองเล่มครับ
ราคา 680 บาท รวมค่าจัดส่ง
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถโอนเงินและเมล์แจ้งได้เลยครับ แจ้งที่ keytian14@yahooดอทคอม
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 25-12-2012 04:10:13
โอนแล้วจ้า ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-12-2012 19:47:49
โอนเงินให้แล้วนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Kungiiza ที่ 27-12-2012 20:30:43
 :pig4:   อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ทำให้ผมอยากลองไปอยู่ที่ภาคอีสาน

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะครับ  o13 :bye2:

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
想告诉你“我爱你”。
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 06-01-2013 15:32:18
แจ้งโอนไปแล้วจ้า รอตอบกลับอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: tutata ที่ 11-01-2013 20:54:21
โรงเรียนอะไรหรอเขตบางเขนที่ใส่กางเกงน้ำเงิน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-01-2013 12:40:01
 :3059:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **ประกาศ** โอนและจอง **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 20-01-2013 15:36:58
อีกไม่นาน ก็จะได้เห็นถุงผ้าแว้ววว อิอิ


มีของแถมมาอวดคร้าบ

น้องหมี สำหรับคนที่จองสองเรื่องคร้าบ
(http://images.temppic.com/21-01-2013/images_vertis/1358786447_0.92983800.jpg)

ตุ๊กตา เป็น limited นะครับ หมดแว้วว หมดเยย

ส่วนพวงกุญแจ สำหรับคนที่จองน้องญี่ปุ่น กล่องกะปกยังไม่มานะฮ๊าฟฟ ใจเย็นน้า
(http://images.temppic.com/21-01-2013/images_vertis/1358786094_0.55073900.jpg)

ส่วนของน้องอุ่น เป็นถุงผ้า พรุ่งนี้จะเอามาให้ดู

ปล. เปิดโอนถึงแค่ 31 มกราคม 2556 นี้เท่านั้นนะคร้าบ รีบๆหน่อยน้า จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **อัพเดทของแถม **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 23-01-2013 20:41:16
เพิ่งเข้ามาดู....
น้องอิ๊กของแถมน่ารักมากค่ะ...
: 222222:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **อัพเดทของแถม **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 25-01-2013 04:46:07
อ่านรอบที่สองแล้วยังสนุกเหมือนเดิม ขอบคุณมากนะครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **อัพเดทของแถม **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 30-01-2013 23:06:09
จองละจ้า เมลล์ไปหาละค่า
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 03-02-2013 19:29:11
ปกมาแว้ววว สดๆร้อนๆ

(http://images.temppic.com/03-02-2013/images_vertis/1359893869_0.47576100.jpg)


(http://images.temppic.com/03-02-2013/images_vertis/1359893869_0.14134000.jpg)
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: bb_b ที่ 03-02-2013 21:21:07
 :impress2: รอวันได้เป็นเจ้าของ อิอิ  :man1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 03-03-2013 20:03:32
เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้ว คนแก่ต้องหันไปถามคนข้าง ๆ

ถึงความหมายที่อ่าน  ก็สนุกดีไปอีกแบบ

อ่านแล้วหลงรักถิ่นอีสานเข้าแล้วล่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 06-03-2013 20:08:58
สนุกที่สุดของที่สุด เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกวูบวาบในหัวใจบ่อยมาก มีจุดที่ทำให้รู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้ามา่จี้ในอกเกือบทุกตอน :L1: แม้บางช่วงการดำเนินเรื่องจะเป็นแบบเรื่อยๆไม่ได้กระชากวิญญาณอะไร แต่จะมีกิมมิคบางสิ่งที่ทำให้ชุ่มชื่นชวนอ่าน แค่ประโยคง่ายๆของไอ้เน่าก็ทำให้กรี๊ดเอาๆได้แล้วนะ :-[ ...คนอ่านรักเด็กจุงเบย
ความโดดเด่นของคู่เลิฟ เดี๋ยว-อุ่น กินกันไม่ลงจริงๆ บทบาทเท่าเทียม ชอบมากทั้งคู่ ทั้งพาร์ท Don't Call และ You're o13 ภาษาถิ่นทำให้ใช้เวลาในการอ่านนานมากกว่าปรกติ และต้องใช้กูเกิ้ลประกอบการอ่านด้วย ฮ่าๆๆๆ แต่มันส์ดี
อยากบอกว่า อาหารในเรื่องน่ากินมาก อยากลองหลายสิ่งเลย แต่่น่าจะหาทานยากหลายเด้ //นัยว่า คุณอิ๊คกี้น่าจะเป็นคนทำอาหารคนนึงแม่นบ่ บรรยายละเอียดรู้ลึกรู้จริงคั่กๆ อิอิ
ชอบมาก อยากได้เรื่องนี้ กับโตโต้-ภูมิบุญ กับเจ้านาย จะลองติดต่อไปทางเฟสละกัน ฮี่ฮี่ :oni1:
ป.ล. จารออ่านภาคต่อไป...อย่างใจจดใจจ่อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: poohmai ที่ 07-03-2013 14:37:31
น่ารักมากๆๆๆๆ ดูปกเเล้วชอบอ่ะ มีทั้งโบ้ด้วย เเล้วก็เบบี๋กับเน่าที่ทุ่งนา
พร้อมกับคุรปู่  :z2:  o22
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-03-2013 18:22:00
ปกน่ารักจังเลยยยยยยยยยยย :z2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-03-2013 17:04:14
ได้รับหนังสือแล้วจ้าไม่มีบุบสลาย

ขอบคุณเช่นกันจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 11-03-2013 01:45:43
นิยายสนุกมากเลยค่ะ ครอบครัวเดี๋ยวน่ารักจัง เปิดรับลูกสะใภ้เต็มที่ :กอด1:
เสียดายอ่านที่อ่านตรงเพื่อนๆ สนทนากันเป็นภาษาถิ่นไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็พอเอาได้

ชอบเดี๋ยวมากเลย ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้ T^T' ซึ่ง~
กว่าจะยอมมีอะไรกับเดี๋ยวได้นะเบบี๋ นึกว่าจะไม่ยอมตลอดไปซะและ
 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 15-03-2013 21:11:48
ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วค่ะ...รูปเล่มสวยน่าอ่านมาก..
แอบรอภาคต่อไปของนู๋อุ่นกะเดี๋ยวด้วยนะ... :กอด1:

 :pig4: น้องอิ๊ก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 21-03-2013 10:48:14
จบซะแล้วน้องอุ่น กับพี่เดี๋ยว

สนุกนะคะ แต่เข้าใจยากสักหน่อย ภาษาถิ่น

แต่ก็ดีค่ะศึกษาไว้ ได้ความรู้ดีเหมือนกัน

ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ มาให้อ่านนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 12-04-2013 15:39:32
เน่า กับ เบบี๋  น่ารักมากกกกก :katai2-1:   แม้จะอ่านไม่ค่อยเข้าใจในภาษาถิ่นเท่าไหร่ แต่ก็พอเดา ๆ ได้ค่ะ  แม้แรก ๆ จะโมโหเจ้าเดี๋ยว ที่ไม่ยอมรับใจตัวเองซักที แต่พอรักกันแล้วก็ น่ารักที่สุด  ชอบที่ทั้งคู่เชื่อใจกันและกัน คอยช่วยเหลือไม่ทอดทิ้งกัน  มิตรภาพของเพื่อน ๆ ก็ทำให้ซาบซึ้งใจมากเลยค่ะ  บรรยายบรรยากาศในเรื่องดีมากค่ะอ่านแล้วรู้สึกสบายใจเหมือนไปอยู่ตามท้องทุ่งด้วยกับตัวละครในเรื่องเลย  ชอบมากค่ะ  ชอบภาพปกมากๆ  ดูโรแมนติกดีจัง

อยากอ่านเรื่องนี้อีกเรื่อย ๆ  จะมีภาค 2 ต่อใช่มั้ยคะ   รอ ๆ ค่ะ  คิดถึงเน่า กับ เบบี๋ และผองเพื่อน  (แต่หวังว่าจะจบ happy ending นะคะ  อย่าทำร้ายจิตใจคนอ่านนะคะ ฮือ ๆ)

ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ที่ทำให้เรามีความสุข ขอบคุณค่ะ :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 29-06-2013 20:30:18
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะค่ะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 04-09-2013 00:07:34
ไม่อยากให้จบเลย เป็นเรื่องที่อบอุ่นละมุนละไม อ่านได้เรื่อยๆ มีเป็นพันๆ ตอนก็อ่านได้ไม่เบื่อ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: maxiyorka ที่ 29-10-2013 12:40:58
ชอบค่ะเรื่องนี้น่ารัก
ภาษาถิ่นก็อ่านแล้วรู้สึกน่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: sek-sy ที่ 31-10-2013 22:13:08
ขอบคุณพี่ Eiky สำหรับนิยายดีๆ ทำให้นึกถึงบรรยากาศของชนบทที่น่าอยู่ คิดถึงความรักของ อุ๋นกับเดี๋ยว ที่มีให้กัน และจะติดตามเรื่องราว และนิยายของพี่ Eiky ต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 03-11-2013 19:19:18
รอภาค 2 จ้าาาาาา

จบ 3 ภาค แล้วทำบ็อกเซ็ทด้วยนะคะ  สวยดี 

ภาค2 ขอหวานๆ น่ารักๆ โรแมนติก 

พล็อตไม่ต้องมาก ดราม่าไม่ต้องเยอะ(ไม่ต้องมีเลยก็ได้ ห้าๆ)

 แค่ชีวิตประจำวันหนึ่งๆก็น่ารักแล้ว  อาจจะเป็นที่คาแร็กเตอร์ก็ได้ แบบเน่าเกรียนๆ แล้วเบบี๋แบ๊วๆ เลยทำให้ไม่น่าเบื่อ   

สู้ๆค่าาา :L2:

หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-12-2013 15:16:01
อ่านจบแล้วจ้า เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วต้องเดาว่ามันหมายความว่ายังไง
แต่ก็อ่านแล้วสนุกมากถึงแม้บางคำจะไม่รู้แต่พอเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้น
เนื้อเรื่องน่ารักมาก แต่กว่าจะลงเอยกันได้หมั่นไส้เดี๋ยวมากแกล้งอุ่นเยอะเหลือเกิน
แต่พอลงเอยกันนี่หวานตลอด น่ารักจริงๆ ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายดีๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 01-08-2014 14:22:47
พระเอกยุคใหม่ เถื่อนไม่พอ มันต้องสกปรก ซกมก ที่สำคัญทีนต้องเหม็นอีกด้วย :m20:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 01-08-2014 19:25:48
เดี๋ยวเอ้ยพูดไม่คิดผีเจาะปากมาพูด หลายอย่างในโลกนี้ที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้หนึ่งในนั้นคือคำพูดที่พูดออกไปนะ!  :katai1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 02-08-2014 08:37:18
อุ่นเป็นตาฮักเนาะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 02-08-2014 10:57:57
อ่าวที่เล่าเป็นตุเป็นตะนี่ตกลงเดี๋ยวฝันช๊ะ  ป๊าดโถ๊ะ ขนาดในฝันยังล่ม :laugh:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 02-08-2014 11:51:19
บักเดี๋ยว ตกลงรอบนั้นแกไม่ได้ฝันมันคือเรื่องจริงแต่เป็นแกที่บ่มีไก๊ ป๊าดดซังคักแน่ สื่อก็เยอะแยะริจะเดินทางสายนี้หัดศึกษาไว้บ้างสิ  :z3:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 02-08-2014 13:46:32
ทำไมอยู่ๆเดี๋ยวถึงไม่ได้เตะบอลที่โรงเรียน แล้วเดี๋ยวบอกเรื่องอุ่นให้พ่อแม่รู้ตอนไหน  เรางงนิดๆ หรือว่าอ่านข้ามเหตุการณ์ตอนไหนไปใครเป็นผู้รู้ช่วยแจงที :a5:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 02-08-2014 21:27:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 03-08-2014 09:59:36
นิยายของคุณอิ๊กเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราประทับใจมาก คือมันมีอะไรที่มากกว่าคำว่านิยาย เรามองเห็นถึงคำว่าวัฒนธรรมวิถีชีวิตการดำรงอยู่ มองเห็นมิตรภาพที่ไม่ได้ดำเนินไปได้ด้วยเงินทองชื่อเสียง มองเห็นถึงความผูกพันของอุ่นกับเดี๋ยวที่ค่อยๆถักทอสายใยจนมั่นคง สัมผัสได้ถึงความรักและปราถนาดีของทั้งพ่อแม่เดี๋ยวครูที่สอนฟุตบอลให้เดี๋ยวและที่ลืมไม่ได้ท่านปลัดที่ได้ใจที่สุดในเรื่อง :o8: อนาคตถ้ามีภาค2 3 ต่อไปหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณอิ๊กจะคงเค้าโครงเรื่องไว้แบบนี้อย่าได้มีมาม่ามาอืดเลยคือภาคนี้ปูทางให้เห็นอะไรๆเยอะแยะไปแล้วกับทุกตัวละครถ้าภาคต่อไปจะมีมือที่2 3 4 มาเป็นมาม่าเกรงว่ามันจะไม่คือ  และสุดท้ายขอบคุณคุณอิ๊กที่ทำให้เราใช้เวลาในการอ่านเรื่องนี้3วันเต็มๆแบบคุ้มค่า คือยอมรับเลยไม่เคยอ่านเรื่องไหนนานขนาดนี้ไม่ว่าจะเรื่องยาวกี่หน้าไม่เคยถึง3วันแต่ด้วยสกิลการเข้าถึงภาษาของเราต่ำเตี้ยเรี่ยดินทำให้ต้องตั้งสติก่อนอ่านทุกตอนพยายามแกะเกือบทุกประโยคจะได้ฟินเด้อคร๊า  :pig4: ปล.เราประทับใจเรื่องนี้แต่ก็ชอบพี่เฟี๊ยตกับน้องญี่ปุ่นคือกันเด้อคร๊าเด้อ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: culom ที่ 05-08-2014 20:18:22

อ่านไปงงไป มันก็คล้ายๆ ภาษาเหนืออ่ะนะแต่ส่วนมากก็แปลไม่ออก

ไม่เข้าใจความหมาย มึน แต่ยังตั้งหน้าตั้งตาอ่าน คึคึ

สนุกมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 06-09-2014 20:38:09
ชอบมากค่ะะะะะะะะ
 :mew1: :mew1: :mew1::mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 14-09-2014 00:59:19
ไม่มีอะไรจะพูดเลย ซึ้งมากยิ่งฟังเพลงไปอ่านไป น้ำตาตกเลย
มันซึ้งมากๆเลย ชอบที่เดี๋ยวและอุ่นเป็นแบบนี้ไม่หวานเว่อร์
ไม่เกินไป พอดีๆเลย ชอบที่สุด
ถ้ามีการสั่งจองอีกรอบ จะซื้อมาสะสมแน่นอนค่ะ   o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: PPdiary92 ที่ 19-12-2014 22:08:50
เพิ่งอ่านตอนเเรก

แต่พอได้ยินว่าอุ่นบ้ายมาอยู่ที่ไหน กรี๊ดเลยจ้าาาา

อำนาจเจริญบ้านฉันเด้อค้าาาา 55555

ฉันคนอำนาจ อยู่ในตัวเมือง อุ่นย้ายมาโรงเรียน อำนาจเจริญหรือเปล่า 555

ต้องตามล่ะ กรี๊ดไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: PPdiary92 ที่ 19-12-2014 22:17:09
อ่านที่บรรยายเรื่องเสาธงและสนามฟุตบอลแล้วแบว่า

โรงเรียนอำนาจเจริญจริงๆด้วย อื่ออ ปริ่ม

เสาธงและสนามฟุตบอลจะอยู่ติดถนนใหญ่ อาคารของผอ จะอยู่ติดอาคารของมัธยมต้น

อาคารจะมีใต้ถุน ซึ่งใต้ถุนตึกแรกจะเป็นสหกรณ์

ห้องน้ำจะอยู่ตรงทิศเหนือ โรงอาหารอยู่หลังตึก 1


แง้งงง พูดแล้วคิดถึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 11-02-2015 17:44:57
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 02-09-2015 18:00:50
ขอบคุณนะคะนิยายน่ารักมาก สนุกดี รู้ภาษาอีสานเพิ่มขึ้นด้วย  :pig4:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: kpHJstdy ที่ 20-12-2015 21:32:05
เพิ่งเคยจะอ่านเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าพลาดไม่ได้ยังไงนะคะเนี่ย ชอบมากๆเลย ถึงแม้บางทีจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็พยายามจะแกะ บางคำก็ลองไปถามเพื่อนดูว่าหมายความว่ายังไง 5555555555555 สนุกมากๆเลยค่ะ เรื่องนี้สนุกมากๆ และน่ารักมากกกกกก ชอบทั้งเน่าและเบบี๋ แล้วน้องอุ่นน่ารักมากกกกกกก แถมเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องของความรักอย่างเดียว ทำให้เราเห็นวิถีชีวิตของคนที่นั่นด้วย เราอ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะ ว่ามันคงสวยมากๆ แล้วเวลาพวกเพื่อนๆของทั้งน้องอุ่นและเดี๋ยวไปเที่ยวเล่นกันมันน่าสนุกมากกกกก ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำบ้างดูเหมือนกัน  ที่สำคัญเราชอบเดี๋ยวค่ะ 5555555555 เน่ามันดูน่ารักดี โดยเฉพาะที่อยู่กับน้องอุ่น แถมตอนเจอน้องอุ่นแรกๆคือกัดกันจะเป็นจะตาย แถมเป็นพระเอกประหลาดๆดี สกปรก ซกมก สมชื่อเน่าดี 

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ เห็นว่าจะมีภาคสองต่อยังไงก็จะติดตามต่อไป ชอบมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 02-02-2016 16:39:28
สนุกมากค่ั ไม่ดราม่า ชอบบบบ อาจแปลไม่ได้ทั้งหมดแต่พอเข้าใจค่า คลอดเรื่องใหม่จะตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 15-03-2016 07:25:29
แอบงงกะภาษาในบางช่วงซึ่งเยอะนิดนึง 555 แต่สนุกน่ารักดี ขอบคุณค่าาาาาาาาา :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 21-03-2016 11:22:13
เรื่องนี้สนุกมากกกกกกก ยาวมากกกกด้วย :laugh: :laugh: :laugh:

เดี๋ยวกะอุ่นน่ารักมากกกกกก อ่านแล้วยิ้มตลอดเลยอ่ะ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เพื่อนทุกคนน่ารักมากเลย คอยช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน อ่านแล้วรู้สึกดีนะ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 23-02-2017 11:00:07
ตามจนทันแล้วสู
สนุกสุดติ่งเลยเหมือนคนสองขั่วท่ี่เข้ากันลงตัวมาเจอกัน ทีแรกกลัวจะอ่านไม่เข้าใจ แต่ ณ ตอนนี้เข้าใจ&ฟังภาษาพอเข้าใจจริงๆ ได้ความรู้กลับบ้านเยอะทีเดียว รักไอ้เบบี๋ กะ ไอ้เน่า นะ และตัวละครทุกตัวทำให้นึกถึงบรรยากาศบ้านๆ แต่อบอุ่นแท้เด้อ :n1:
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 28-02-2017 00:14:07
 :mew2: :mew2: :mew2:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ชอบมากเลย บรรยายบรรยากาศได้น่ารักดี ทัั้งครอบครัว คนรัก และเพื่อนๆๆ
ภาษาอ่านอยากนิดหน่อยแต่ชอบอะ ได้ศัพท์เยอะเลย 555555555
บรรยายสถานที่ได้น่าไปเที่ยวเลย มีท้องทุ่ง วิถีชีวิตเรียบง่าย น่าสนใจและมีเอกลักของตัวเอง ชอบทุกอย่างในเรื่องนี้เลย



หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-03-2018 23:17:54
เจี้ยวเล็กปะทะเป้าเน่า 5555
ชอบไอ้เน่าจริงๆ โรแมนติคทุกอณูจริงๆ ได้แฟนแบบนี้ไม่หลงตายแบบอุ่นก็แย่แล้ว
หัวข้อ: Re: Don't call Me BaBy!! **เอาปกมาให้ดูคร้าบ **** P.44 ***
เริ่มหัวข้อโดย: SocialMovement ที่ 13-03-2018 20:07:46
หารูปปกไม่เจอค่ะ