นี่มันมหกรรมพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกรึยังไงกันหว่า....มันถึงตั้งใจพร้อมเพรียงกันขนาดนี้ หรือปีนี้ปีชงกูหว่า
ผมโดนบังคับขืนใจให้เป็นตัวแทนของสาขาชั้นปีที่สามให้ไปประชุมร่วมกับสถาบันอื่นๆอีก...อีกกี่ที่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งจะมีการประชุมในอีกสองวันข้างหน้านี้แล้ว ใช้เวลาการประชุมสามวัน...ผมไม่เข้าใจอาจารย์เลยเอามาตรฐานไรมาวัดวะถึงได้เลือกผมเป็นตัวแทน ความรู้ผมหยุดแค่ ป.4 มานานแล้วครับจารย์...หรือไม่อาจารย์ก็คงแค่อยากให้ผมเปลี่ยนบรรยาศนอนกลางวันมั้ง ก็ผมหลับในห้องเรียนของมหาลัยมาตั้งสามปีแล้วนี่ ส่วนไอ้พวกเพื่อนตัวเลวๆทั้งหลายแหล่มันบอกว่าเผื่อผมจะขายออกบ้าง...โธ่ พวกมึงไม่รู้ซะแล้วว่ากูนะมีแฟนแล้ว แฟนกูหล่อด้วยแหละ....
ซวยสองคือหมู่นี้ไอ้ต่อกับจืดดูจะตึงๆใส่กัน ไม่รู้โกรธกันเรื่องไรอีก ตอนแรกคิดว่าเพราะไอ้ต่อบอกเรื่องนั้น แต่ผมถามไอ้ต่อแล้ว มันบอกว่ายังไม่ได้คุยเรื่องนั้นกับจืดแล้ว มันไม่กล้า แล้วพอผมมาอยู่กับพวกมันก็เหมืออยู่ในสงครามประสาทงั้นแหละ อยากจะบ้าตาย อึดอัดก็เท่านั้น แถมทำไรไม่ได้อีก ถามพวกมันๆ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นไร แต่พอกูคุยกับจืดไอ้ต่อนี่ก็มองแบบ' มึงเลือกอยู่ฝ่ายมันเหรอ?'....พอผมคุยกับไอ้ต่อ จืดนี่ก็แทบจะงับหัวผม แถมส่งสายตาน้อยใจมาให้ผมอีก กูโคตรเชื่อเลยว่าพวกมึงไม่ได้ทะเลาะกัน...ควาย
ซวยสามอาจารย์เรียกเข้าไปด่า....เรื่องสถานที่ฝึกงานนั่นแหละ ฝ่ายโน้นบอกมาว่าผมส่งเอกสารไปไม่ครบแถมยังไม่สนใจตามเรื่องอีก...แล้วควายที่ไหนบอกมิทราบครับว่ามีไรคืบหน้าจะโทรมาแจ้งเอง...แล้วผมจะตรัสรู้มั๊ยว่าครบหรือไม่ครบ ถามไปว่าต้องส่งเอกสารไรบ้าง เจ๊แกตอบเลย มีไรก็ส่งมาให้หมด ผมมันก็คนซื่อ มีไรส่งหมด แต่ไอ้ที่ส่งไปดันใช้ไม่ได้อีก....กูจะไปเผาบริษัทมัน โทษฐานทำให้อาจารย์ด่ากูยับ
ซวยสี่ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาเจอสุดที่รักเลยเพราะผมนั่นแหละที่ยุ่ง แต่มันก็ใช่ย่อยนะ มันกำลังวุ่นวายอยู่กับการประกวดเฟรชชี่...ตอนแรกมันก็ไม่อยากลงประกวดหรอก แต่ผมบอกว่าอยากมีแฟนพ่วงตำแหน่งเฟรชชี่ปีหนึ่ง มันเลยยอม แต่ถ้าผมรู้ว่าประกวดบ้าบอนี่ทำให้เวลาของผมกับมันลดลงขนาดนี้ สาบานเลยผมจะไม่ให้ลงประกวดเด็ดขาด....คิดถึงโว้ยยยยยยยยยยยยยย
"อยู่ไหน? จะกลับยัง?...กูคิดถึงมึงจะตายแล้วนะ?" ผมโทรหามันเองแหละ ก็ผมรอมันมาตั้งแต่สี่โมงนี่หกโมงแล้ว มันยังไม่โผล่หัวออกมาอีก...แถมโคตรจะหิวเลย แต่อยากรอกินพร้อมมัน
"งั้นก็ตายไปเลย..." เหวี่ยงกูซะงั้น เป็นไรรึเปล่าละเนี่ย
"ชีน...เป็นไรรึเปล่ามึง? ใครทำไรมึงรึเปล่า?"
"มึงนั้นแหละทำกู...กระแดะอยากมีแฟนพ่วงตำแหน่ง ซวยเลยมาตกที่กู ต้องมาหัดเดินบ้าบอไรก็ไม่รู้...กูเดินเองเป็นเว้ย....น้องชีนค่ะ หมดเวลาพักแล้ว เตรียมตัวซ้อมเดินรอบสุดท้ายค่ะ" หึหึหึ มันคงกำลังฝึกเดินอยู่....เลยอารมณ์เสีย เพราะไอ้นี่มันไม่ชอบให้ใครมาบังคับทำโน่นทำนี่...แต่ผมว่าไอ้นี่มันปากร้ายขึ้นอย่างเยอะ
"มึงแค่นี้ก่อนนะ พญามารปลาหมึกเรียกแล้ว....พี่ครับผมเดินเป็นตั้งแต่หนึ่งขวบแล้ว...ให้เดินไรหลายรอบ เนี่ย เหนื่อย..." น่านนยังจะไปเหวี่ยงเค้าอีก ความอดทนต่ำจริงๆ...หึหึหึ แต่มันทำเพื่อผมจริงเหรอ น่ารักว่ะ
นั่นไงมันเดินลงมาจากตึกแล้ว แต่หน้านี่บอกบุญยังไงมันก็ไม่รับเลยนะนั่น...ผมเดินขึ้นบันไดไปหามัน 5 ขั้นบันไดได้แล้วก็หยิบเป้มันมาสะพายซะเองแถมยังเอาหนังสือมันอีกสองสามเล่มมาถือให้ด้วย ...มันมองหน้าผมนิดหนึ่ง มองนิ่งๆ แต่ผมยิ้มกลับยิ้มให้มันหน้าบานเลย
"เหนื่อย..." มันพูดแค่นั้นแล้วเดินลงบันไดโดยไม่รอผมเลย
"ชีน...รอกูด้วยสิ..."
"ให้ไวเลย หิว..."
กลับมาถึงหอมัน ผมก็รีบเข้าครัวทำอาหารง่ายๆ แป๊บเดียวก็มานั่งกินกันได้แล้ว
"เหนื่อยมากเลยเหรอ?" ผมเห็นมันตั้งหน้าตั้งตากิน ไม่ยอมคุยไรเลย หรือว่าผมไปทำไรให้มันโกรธอีก ก็เปล่านะ เวลาจะมองหน้ากันแทบไม่มี แล้วจะหาเวลาไหนมานั่งทะเลาะกันละ
"นี่ถ้ามึงอยากมีแฟนเป็นยอดมนุษย์...กูไม่ต้องไปซ้อมปีนกำแพงกับสไปเดอร์แมน ซ้อมเหาะกับซูเปอร์แมน ซ้อมแปลงร่างกับพาวเวอเรนเจอร์เลยเหรอ?...."
"มึงจะยอมทำเพื่อกูขนาดนั้นเลยเหรอ?" ตื้นตันใจมากๆ
"ฝันเหรอ?...กูจะเลิกกับมึงตั้งแต่มึงมีความคิดแบบนั้นแล้ว" แป่วววววววว
กินเสร็จมันไปนอนยาวหน้าทีวีเลย สงสัยคงเหนื่อยจริงๆ เพราะทุกวันอย่างน้อยมันก็ยังช่วยผมเก็บจานไปวางที่ซิงค์
"หลับแล้วเหรอ?" ผมนั่งมองมันซักพักพอชื่นตาชื่นใจก็เลยลองเรียกดู
"อืม...ว่าไง" ยังจะฝืนลุกขึ้นมาตอบอีก ผมเลยผลักให้มันล้มตัวนอนอย่างเดิม แต่มันก็ยอมลืมตาขึ้นนะ
"ซ้อมหนักขนาดนี้เลยเหรอชีน...หืม?" ผมโน้มหน้าหามันจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน หน้ามันสีระเรื่อเลยแหละ...มันดันหน้าผมออกเบาๆ คงเขินแหละ
"ไม่ชอบให้ใครมาบังคับมากกว่า...เดี๋ยวให้ทำโน่นทำนี่ รำคาญ...แล้วหน้านี่จะเข้ามาใกล้ไรนักหนา ..." ผลักกูอีก
"แล้วเค้าสั่งให้ทำไรบ้างละ?" ผมลุกขึ้นมานั่งท่าปกติและยกขาของมันมาวางพาดยาวไปกับตักของตัวเองพร้อมกับนวดให้มันไปพลางๆ
"เค้าสั่งให้กูเดิน เดินแบบเท่ห์ๆ สง่าๆ แล้วปกติกูเดินน่าเกลียดมากเลยเหรอ กูใช้หัวเดินรึไง?
"มันไม่ใช่อย่างนั้น มันต้องเดินแบบ แบบมีมาดไง" พอผมพูดอย่างนั้นมันตีหน้ายุ่งเลย แสดงว่าไม่เข้าใจ
" แล้วต้องรอคิวอะไรด้วยก็ไม่รู้ เดินให้ตรงจังหวะเพลงอีกไหนต้องเดินเป็นคู่กับฝ่ายหญิงแถมยังต้องคล้องคอคล้องแขนจ้องตากันอีก" หืม?
"เอ๊ย ไรอีกล่ะ?" ผมลากให้มันลุกขึ้นนั่งเองแหละ อย่างนี้ต้องคุยยาวลูกเดียว พอมันจะล้มนอนผมก็ดึงแขนมันไว้อีก
"ชีน ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง...อื๋อ...อย่าเพิ่งนอน มาคุยกันก่อน ก็บอกว่าเพิ่งนอนไง้" ตัวอ่อนเป็นดักแด้เชียวนะมึง
"ไว้ค่อยคุย....ง่วง เหนื่อย เพลีย...เมื่อยคอด้วย โดนมายด์คล้องซะหลายรอบ" คล้องหลายรอบด้วย...ไม่ไหวแล้วโว้ย
"มายด์ไหน?...ชีนกูบอกให้นั่งดีดี...กูเหนื่อยแล้วนะ"
".........."
"จะยั่วโมโหกูไปถึงไหน?...จะปั่นหัวจนกูบ้าเลยใช่มั๊ย? อยากเห็นกูบ้านักใช่มั๊ย?" อารมณ์น้อยใจ อารมณ์โมโห โกรธ เกลียด มันตีกันมั่วไปหมดแล้ว ผมไม่อยากเป็นอย่างนี้เลยให้ตายสิ ตอนนี้หรือตอนนั้นมันก็ไม่ได้ต่างกันเลย ผมก็ยังคงวิ่งตามมันอยู่นั่นเอง วิ่งตามโดยที่ไม่รู้ว่าผมจะคว้ามันถึงรึเปล่า...ผมไม่ได้หวังอะไรมากเลย หวังแค่ให้มันบอกว่า ' ไม่มีอะไร เชื่อใจกูนะ' มันพูดแค่นี้ผมก็พร้อมจะเป็นควายเชื่อที่มันพูดทุกอย่างแล้ว แต่นี่......
"จะไปไหน?" ผมหันกลับไปมอง เห็นมันลุกขึ้นนั่งกึ่งนอนที่เดิม ส่วนมือผมนี่จับลูกบิดประตูแล้ว
"กูจะกลับห้องแล้ว มึงนอนเหอะ ไปนะ...."
"ตามใจ....ล็อคห้องให้ด้วย..." ผมหวังได้ยินคำพูดอะไรจากมันเหรอ ผมไม่กล้าหวังหรอก นี่ขนาดไม่หวังยังปวดขนาดนี้ แล้วถ้าผมกล้าหวัง ผมจะเจ็บแค่ไหน....พูดจบมันก็เข้าห้องนอนมันเฉย สิ่งที่มันให้ผมคือ แผ่นหลังมันที่หายแวบเข้าห้องไปและเสียงประตูโครมใหญ่ที่ดังสะท้อนไปมาในหูและสมองผม
"เต เต ไอ้เต เชี่ยเต ไอเตบ้านมึงไฟไหม้แล้วโว้ย !!!!!!!!!!"
"เชี่ยต่อ...ตะโกนทำซากไรมึงวะ ขี้หูกูเต้นรัวเลย" เลวจริงมึง
"กูเรียกมึงได้เป็นถุงเป็นถังแล้วมั้ง เป็นไรมากเปล่ามึง กูเห็นมึงเหม่อตั้งแต่เช้าแล้วนะ"
"มึงชอบจืดมากมั๊ย?"
"พรวด!!!!แค่กๆๆๆๆ ถามเชี่ยไรมึง กูสำลักเลยเห็นมั๊ย?" หน้ามันแดงเลบ สงสัยคงจากการสำลักมั้ง
"กูรู้ว่ามึงทรมาน ทรมานมากๆด้วย เพราะกูเองก็ไม่ได้ต่างจากมึงเลย รักเค้าข้างเดียว รักเอง เจ็บเอง แล้วก็ต้องรักษาเยียวยาตัวเองด้วย"
"เอ้ออออออ กูเองก็พูดไม่ถูกวะ สำหรับกูมันไม่ถึงขั้นทรมานนะ แค่อึดอัด หน่างๆ อธิบายไม่ถูก กูว่าต้องเจอกับตัวเองถึงจะรู้ว่ะ ว่าแต่มึงเหอะเป็นไรมากเปล่า ข้าวเที่ยงก็กินไปนิดเดียวเอง ช่วงบ่ายมีเรียนตลอดนะเว้ย จะไหวเหรอมึง?"
"มึงห่วงกูเพราะเราเป็นเพื่อนกันใช่มั๊ย แล้วมันเป็นใครถึงได้ใจร้ายกับกูได้มากขนาดนี้? แล้วกูเป็นใครวะ ถึงได้โง่ไม่เลิกซะที"
"มึงทะเลาะกับชีนมาเหรอ?"
"ทะเลาะเหรอ? " ผมว่าถ้าเราทะเลาะกันจริงๆ มันก็คงจะดีกว่านี้ ปัญหาทุกอย่างจะได้เคลียร์ แต่นี่มันไม่สนใจอะไรผมเลย เมื่อคืนผมคิดว่ามันจะโทรหาเพื่อพูดอะไรบ้าง แต่ก็ไม่เลย โอเคเข้าใจมันคงจะเหนื่อย
ตอนเช้าผมก็รอสายจากมันตลอด แต่ทุกอย่าง่ก็เงียบสนิท ตอนเที่ยงก็รอว่ามันจะโทรมาชวนกินข้าวด้วยกันแต่ก็เปล่าอีก ฮึ หวังลมๆแล้งๆ หวังให้หิมะตกในฤดูร้อนที่ไทย
"เอ๊ย!!!!นั่นไอ้จืดนิ มันควงเด็กคณะไหนวะ ไม่คุ้นหน้าเลย ไม่ใช่เด็กคณะเราแน่" ผมกวาดตามองไปเรื่อยๆจนป๊ะเข้ากับจืดที่กำลังเดินอ้อล้อกับสาวคนหนึ่ง ผมละจากภาพนั้นกลับมามองคนใกล้ตัว ไอ้ต่อหน้าจืดจ๋อยเจื่อนสนิท ทำใจเหอะเพื่อน
"ไม่ต้องมามองกุอย่างนั้นเลยเชี่ยเต กุไม่ตายหรอกหน่า"
"กูรู้...แต่ไม่ตายไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บนิ"
"กูเจ็บจนชินแล้วแหละมึง มันเลยคำว่าเจ็บมานานแล้ว 3 ปีเชียวนะมึง"
"กูเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงวะต่อ มึงก็เพื่อน มันก็เพื่อน กุทำไรไม่ถูกจริงๆ แต่ถ้ามึงอยากให้กูช่วยหรือที่กูพอช่วยได้ ขอให้บอกนะ กูพร้อม "
"ขอบใจวะ แต่แค่มึงไม่บอกมันเรื่องนี้ ก็ช่วยกูมากเกินมากแล้วแหละ"
"เออ แล้วว่าแต่ไอ้ที่มึงตึงๆกับมันละ ทำไมเหรอ?"
"ไม่มีไร ขึ้นเรียนกันดีกว่า จะถึงเวลาแล้ว"
"ต่อ...กูเพื่อนมึงนะเว้ย อย่าทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามากไปกว่านี้เลย มีแฟน แฟนก็ไม่สนใจ มีเพื่อนเพื่อนก็ไม่ยอมบอกอะไร"
"อื้ม...ก็เรื่องน้ององุ่นไรนั่นแหละ พอมันรู็ว่ากูกับน้องเลิกกัน มันก็มาอาละวาดใส่กูไม่ยั้ง ต่อยหน้ากูด้วย กูลืมตัว โมโหด้วยเลยลืมตัวสวนมันไปเปรี้ยงหนึ่งด้วย มันล้มทั้งยืนเลย"
"มึงรักมันประสาไรวะ มีสวนกลับด้วย หึหึหึ"
"ก็มันลืมตัวนี่หว่า เจ็บด้วย โมโหด้วย ปฏิกิริยาทางร่างกายนะ รุ็จักเปล่า?"
"จืดมันเลยโกรธที่มึงต่อยมัน ว่างั้น?"
"เปล่า"
"อ้าว แล้วมันโกรธมึงเรื่องไร?"
"กูก็แค่บอกมันว่า ไม่ใช่แค่น้ององุ่นหรอกที่กูจะแย่งมันมาแล้วทิ้ง แต่ผู้หญิงทุกคนของมันกูก็จะแย่งมาให้หมด พอได้แล้วกูก็จะทิ้ง เท่านั้นแหละมึงเอ๊ย มันยันตีนโครมหญ่เข้าท้องกูเลย โคตรจุก"
"ก็สมควรที่มันจะโกรธมึงแล้วแหละ เล่นประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนซะขนาดนั้น"
"ก็คนมันโมโหนี่หว่า กูยังไม่ได้แตะต้องล่วงเกินอะไรน้ององุ่นเลยนะเว้ย"
"จริงดิ?" ไม่น่าเชื่อ ตัวพ่ออย่างมึง
"เออดิ หญิงทุกคนที่กูแย่งมันมา กูไม่เคยแตะใครเลย"
"จริง?"
"อืม...แรกๆมันก็มีบ้างแหละ แต่พอช่วงหลังกูสาบานได้เลยว่ากูไม่เคยเกินเลยกับใคร...ก็รอยแดงๆบนแก้มกูไง พยาน"
คืองี้ครัช่วงหลังมานี้ พวกผมสังเกตเห็นรอยช้ำบนแก้มมันบ่อยๆ มันก็บอกนะว่าโดนผู้หญิงตบมา แต่พวกผมไม่เชื่อเองแหละ
"แล้วมึงไปทำยังไงวะ พวกเธอถึงได้ประทับฝ่ามือบนหน้ามึง?"
"กูก็แค่บอกว่า กูชอบผู้ชาย เชี่ยเอ๊ย แค่นั้นแหละหน้ากูหันแบบไม่ต้องออกแรงขยับเลยแม้แต่น้อย"
"ฮ่าๆๆๆแล้วได้บอกเค้าไปรึเปล่าว่าตัวผู้ที่มึงชอบนะ คือ พี่จอมของพวกเธอเอง"
"บอกให้ควายเรียกกูว่าพ่อเหรอ?"
"นั่นดิ...ถ้ามึงบอกป่านนี้เรื่องคงเข้าหูจืดบ้างแล้วแหละ แล้วนี่มึงจะเอาไงต่อ?"
"จับแม่งข่มขืนเลยดีมั๊ย?"
"มึงกล้า?"
"กล้ากับผีมึงสิ ขนาดบอกว่ารักกูยังปอดรั่วเลย"
"ปากดีตลอดมึง แล้วมึงจะยอมคุยกับมันเมื่อไร?"
"ถามกูไม?...ต้องไปถามมันโน่น กูนี่อยากคุยกับมันจนใจจะขาด แต่มันกลับเห็นกูเป้นแค่อากาศธาตุ"
"อืมๆๆ...ไว้กูจะลองคุยให้ละกัน ขึ้นเรียนกันดีกว่า"
และแล้วตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อใดๆจากไอ้บ้าชีนเลย โคตรจะสนใจกูเลยนะมึง