ผมจะเข้าข้างตัวเองมากไปมั๊ย...ถ้าผมจะคิดว่านี่เป็นคำบอกรักของมัน
"จะยืนยิ้มอีกนานมั๊ย ...หึหึหึ"
"......." มันรู้ได้ไงว่าผมยิ้มจนปากจะฉีกอยู่แล้ว...ผมหลุดไปอยู่โลกที่มีแค่มันกับผมเท่านั้นนานแค่ไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รถคันนั้นตามมาจอดตรงหน้าผมอีกครั้ง และค่อยๆลดกระจกลง จนผมเห็นคนที่นั่งหลังพวงมาลัย
"ชีน!!!!!!!!!!!!"
"กูมารับมึง...เต กลับด้วยกันนะ" ช่วยด้วยผมหยุดยิ้มไม่ได้ นี่ถ้าผมสามารถตะโกนออกไปได้นะ ผมจะตะโกนบอกรักมันเลย มันก็นั่งหัวเราะหึหึหึอยู่ที่เดิม กว่าจะรู้ตัวผมก็กระโดขึ้นรถ ปิดประตู และล็อคเรียบร้อยไปแล้ว....เข้ามานั่งในรถ ผมก็นั่งจ้องหน้ามันนิ่งๆ ปากนี่ก็ยังไม่หุบยิ้มนะ สงสัยกรามค้างไปแล้ว...ผมคว้าหมับเข้าที่แก้มมันทั้งสองข้างด้วยมือของผมเอง จับมันหันซ้ายที ขวาที จนปากมันยู่เลยทีเดียว มันก็ดีนะ นั่งเฉยๆนิ่งให้ผมเล่นซะฉ่ำปอด
"นี่มึงจริงๆใช่มั๊ย...มึงมารับกูจริงใช่มั๊ย?"
"ใช่..." มันพูดทั้งที่ปากจู๋แบบนั้นแหละ น่ารักวะ
"คิดถึงกันจริงๆใช่มั๊ย?"
"ฉุดๆ..." หึหึหึ ด้วยความที่ปากมันจู๋ จากสุดๆ เลยกลายเป็นฉุดๆซะงั้น
"ใจมึงอยู่กับกูจริงๆใช่มั๊ย?"
"อืม อืม อืม" มันพยักหน้าด้วยทั้งสามครั้งพร้อมกับกระพริบตาไปด้วย ไม่ไหวแล้วโว้ย ผมดึงหน้ามันเข้ามาจูบทันที นี่ถ้าไม่เกรงใจสถานที่นะ ผมจับมันยิงไประตูไปแล้ว...ชีน ถ้ามึงจะน่ารักขนาดนี้ มึงต้องน่ารักกับกูคนเดียวเท่านั้นนะ...
ผมกับมันเดินลงมาจากรถ หันไปมองหน้ามันแวบหนึ่ง หน้าผมร้อนวูบเลยครับ รู้เลยว่าหน้าตัวเองต้องแดงมากๆ ส่วนมันก็แค่ยิ้มมุมปากแบบเยาะเย้ยหน่อยๆ...คิดขึ้นมาแล้วยังอดใจสั่นไม่ได้ ไม่กล้ามองหน้ามันเลย ก็จากที่เมื่อกี้ผมจู่โจมมันใช่มั๊ย แต่ไปๆมาๆ ผมกลับถูกกระทำซะงั้น มันขึ้นคร่อมผมตอนไหนยังไม่รู้เลย ขนาดกระดุมเสื้อผมโดนมันแกะออกไปแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือมันกำลังถอดเข็มขัดผมนั่นแหละ พระเจ้า!!!!มันจะมือไวไรปานนี้ พอรู้ตัวผมก็พยายามผลักมันออกเบาๆ มันบอกว่า ให้ผมอยู่เฉยๆ เดี๋ยวมันจะหยุดของมันเอง ผมก็เชื่อมันนะ เพราะมันไม่เคยโกหกผม แล้วมันก็หายใจหนักๆสี่ห้าทีก่อนจะ จูบปากผม...ผมก็ยอมมันนะ ไม่ได้ผลักไสแต่อย่างใด แล้วมันก็ติดกระดุมเสื้อให้ผมจนเสร็จเรียบร้อยทุกเม็ด ผมเพิ่งเห็นว่ามันไม่ได้ทำอะไรกับเสื้อผ้าของตัวมันเองเลย...มันบอกว่ามันไม่ได้กะจะทำไรผมจริงจังหรอก แค่อยากสัมผัสตัวผมให้ได้มากที่สุด เลยแกะกระดุมเสื้อแบบนั้น มันยังบอกว่าถ้ามันถอดเสื้อผ้ามันเมื่อไร เมื่อนั้นผมจะไม่รอดมือมันเด็ดขาด เพราะมันจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วและมันจะไม่ยอมหยุดด้วย
"เต!!!" อ้าว โป้ง วิ่งทำไมแถมยังโบกไม้โบกมือให้ผมซะด้วย
"ว่าไงมึง...วิ่งทำไมเนี่ย" มันหยุดยืนหอบหายใจแรงตรงหน้าผม
"ก็มึงนั่นแหละ จู่ๆก็หายตัวไปซะเฉยๆ แล้วนี่ไปไหนมา?" จะให้บอกมั๊ยละว่าไปจูบกับสุดที่รักมาและเกือบจะเสียตัวด้วย
"อ๋อ...พอดีกู...กู" กูไรดีวะ สมองบื้อซะงั้น
"จะกลับกันได้ยัง กูต้องไปซ้อมต่อนะ..." เวร ขัดกูขึ้นมาซะงั้น แต่ก็ดี เพราะผมก็ไม่รู้จะบอกโป้งว่าผมไปทำไรมาดี
โป้งมันเหล่ตามองคนข้างๆผม มันคงสงสัยว่าไอ้นี่เป็นใคร โผล่มาได้ยังไงแน่นอน
"มึง นี่โป้ง เพื่อนใหม่กูเอง เจอกันที่งานสัมมนานี่แหละ...ส่วนโป้งนี่ ชีน.........." ผมแนะนำให้พวกมันสองคนรู้จักกัน แต่ไม่รู้จะแนะนำชีนในฐานะไหนดี จะสามีหรือภรรยาดี คึคึคึคึ
"อยากให้กูอยู่ในฐานะไหน ก็บอกไปซิ" มันคงเห็นผมอึกอักๆ เลยกระซิบพูดกันเบาๆ ได้ แกล้งมันเล่นซะหน่อยละกัน
"ชีนเป็นรุ่นน้องที่มหาลัยกูเอง" เท่านั้นแหละครับ โป้งยิ้มแฉ่งหน้าบานเลย โป้งขอโทษนะที่กูต้องต่ออีกว่า
"แล้วก็เป็นแฟะ..."
"พี่เต หมวยมาแล้ว!!!!" นรกแล้วกู ผมนี่อึ้งแดกอ้าปากค้างไปแล้ว หมวยเอ็งจะมาอะไรตอนนี้กันละ ผมกำลังจะบอกว่า 'แล้วก็เป็นแฟนกูด้วย' จบกันพอดี ป่านนี้ชีนมันคิดยังไงก็ไม่รู้แล้ว เห็นหน้านิ่งๆอย่างนี้ อย่าคิดว่าข้างในมันจะนิ่งด้วยนะ
เราสามคนนั่งกันมาในรถ ตอนแรกๆหมวยมันก็พูดจ้อเลย แต่สงสัยคงรับรู้ได้ถึงความอำมหิตเงียบที่แผ่รังสีไปทั่วรถเลยหุบปากซะงั้น แถมหลับเป็นตายด้วย
"ชีน คือกู...."
"หุบปาก กูต้องการสมาธิในการขับรถ" เป็นการเริ่มต้นและจบการสนทนาที่รวดเร็วมาก
มันแวะไปส่งหมวยที่หอก่อน ไอ้หมวยนี่ยิ้มแต้เลยครับที่ชีนมันช่วยยกกระเป๋าลงให้
แล้วมันก็แวะมาส่งผมที่หอ ตอนแรกคิดว่ามันจะพาผมไปที่หอมันซะอีก
"ชีน..."
"กูต้องไปซ้อมต่อ ลงไปได้แล้ว" มันขับรถไปโน่นแล้ว แต่ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรมันเลยนะ
ผมมานั่งรอมันที่โถงชั้นล่างของมันตั้งแต่หนึ่งทุ่ม นี่ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว มันก็ยังไม่กลับมาเลย
พนักงานต้อนรับก็คุ้นหน้ากันดี เพราะผมก็มาที่นี่ค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน
"คุณเตค่ะ จะกลับก่อนมั๊ยค่ะ เดี๋ยวปีย์จะบอกน้องชีนให้ว่าคุณมารอพบ หรือจะฝากข้อความไรไว้ก็ได้นะค่ะ ช่วงนี้น้องชีนกลับดึกๆแบบนี้แหละค่ะ"
"ขอบคุณครับพี่ปีย์ แต่ผมรอพบมันดีกว่า..ว่าแต่ช่วงนี้มีใครมาหาชีนบ้างรึเปล่าครับ"
"เท่าที่พี่เห็นนะค่ะ ก็มีแค่คุณเตนี่แหละค่ะ " หึหึหึ น่ารักมาก
และแล้วการรอคอยของผมก็สิ้นสุดลงเมื่อเวลาเดินทางมาถึงสี่ทุ่ม ห้าสิบนาที มันชะงักนิดหนึ่งตอนที่เห็นผมนั่งอยู่
"มานานแล้วเหรอ?" มันมาหยุดยืนข้างหน้าผมและถามด้วยเสียงเบาๆธรรมดาไม่ได้อ่อนนุ่มแต่ก็ไม่กระด้าง
"อืม" ผมเองก็ก้มหน้าก้มตาตอบมัน ไม่ได้ทำไรผิด แต่ทำไมรู้สึกผิดได้วะ
"กลับมาเหนื่อยๆทำไมไม่นอนพักอยู่ห้อง "
"อยากมาหามึงมากกว่า"
"แล้วนี่กินไรมายัง?"
"ยัง...รอกินพร้อมมึง" อ้อนเข้าไปๆ
"งั้นไปหาไรกินข้างนอก" ใจชื้นแล้ว แสดงว่ามันไม่ได้โกรธผมจริงจัง
"ไม่ กูอยากทำให้มึงกินเองมากกว่า" นั่นไง มันหลุดยิ้มออกมาให้เห็นแล้ว
"มันดึกแล้ว อย่าลำบากเลย"
"ไม่เป็นไร กูอยากทำ"
"งั้นก็ตามใจ"
ผมเดินยิ้มตามมันขึ้นบันไดไป
เข้ามาในห้องมันดิ่งเข้าห้องนอน ผมเองก็ตรงเข้าห้องครัวทันที
ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมงได้มั้ง มันก็ออกมาพร้อมกับเสื้อกล้ามและเกงบอล เซ็กซี่โคตร ไม่เจอกันหลายวัน ผมรู้สึกว่ามันมีกล้ามขึ้นนะ
"จะมองให้ทะลุเสื้อผ้ากูเลยว่างั้น น้ำลายมุมปากนะเช็ดซะด้วย เห็นแล้วกูสยองวะ"
"ไอ้บ้า" หน้าแดงเลยกู
"อย่าหื่นให้มันออกนอกหน้านักสิมึง ...."
"หุบปากมึงไปเลย ไปนั่งรอก่อน เสร็จเดี๋ยวกูเรียก"
"จุ๊บ!!!!!"
"เหวอ!!!!!!" ก็จู่ๆมันจุ๊บแก้มผมจากด้านหลัง ไอ้เราก็คิดว่ามันเดินออกไปแล้วเห็นเงียบเชียว
"จะเสร็จยังกูหิว...ถ้าข้าวไม่เสร็จกูจะกินมึงแทนแล้วนะ...หมับ"นั่นมีกอดเอว เกยคางด้วย
"ชีน ปล่อย กูทำไม่ถนัด"
"ทำไมพูดเบาจัง กูไม่เห็นจะได้ยินเลย ไหนหันมาพูดข้างๆหูน้องชีนหน่อยดิ" มาไม้ไหนของมันเนี่ย
"ไม่เอาชีน...ปล่อยก่อน หิวไม่ใช่เหรอ"
"ให้ไวเลยกูหิว" โกรธไรอีกละ พูดเสียงห้วนเชียว มันไปนั่งรอที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว มันเป็นพวกความอดทนต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากๆ
"ชีน"
"กูจะกินข้าว ไม่ต้องพูด" มันงอน
"งอนไรกูอีก?"
"......" มันมองผมแบบหน่ายๆแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อ มันต้องงอนผมแน่ๆ
"งอนที่กูไล่มึงออกมาจากครัวเมื่อกี้ใช่มั๊ย"
"ก็บอกจะกินไง พูดมากอยู่ได้" ผิดอีกที่รู้ทันมัน ชัวร์ๆมันงอนผมเรืองเมื่อกี้
ผมเลยปล่อยให้มันกินจนเสร็จ แล้วก็ไล่ให้มันไปนอนหน้าทีวี ส่วนตัวเองก็จัดการเก็บกวาดล้างจานจนเสร็จก็ออกไปนั่งเล่นกับมัน โอ้ว จะเที่ยงคืนแล้ว
"ชีน...มีไรอยากจะพูดกับกูมั๊ย?" มันนอนบนโซฟาตัวยาว ผมเลยไปนั่งข้างๆมันนั่นแหละ นั่งจ้องหน้ามันด้วย
"ไม่มี...กูอิ่มแล้ว กลับไปเลย..."
"อยากให้พี่เตกลับจริงดิ?"
"......" มันถึงกับเหวอเลยครับที่ผมพูดอย่างนั้น ไอ้นี่มันแพ้ทางตอนที่ผมแทนตัวเองว่าพี่เต
"ว่าไง?"
"จะว่าไงได้ กูมันก็แค่รุ่นน้องที่มหาลัย จะไปสู้ไรได้กับโป้งละ" ฮ่าๆๆๆ อย่าบอกนะว่ามึงหึง ควายออกลูกเป็นไข่แล้วเว้ยงานนี้
"ชีน..." ผมก้มลงไปซบบ่ามัน หูผมอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจมันพอดี ใจมันเต้นแรงมาตอนนี้
"........." มันไม่ได้ผลักผมออกแต่อย่างใด กลับสวมกอดที่เอวผมเบาๆ
"กูรักมึงนะ..รักมากด้วย..." ใจมันเต้นแรงกว่าเดิมอีก
"......" ผมรู้สึกว่ามันกระชับกอดแน่นขึ้น
"กูพูดจริงๆนะ เชื่อกูได้"
"ก็ลองโกหกสิ..." แน่ะ มีแอบเหวี่ยง
"รักกูมั๊ย?"
"รักมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา...จุ๊บ" มันจุ๊บที่บ่าผมนะ เสียวเลย
"ว่าไงครับจะนั่งคุยดีดีกับพี่เตได้ยัง?" ผมถอนตัวจากมันกลับมานั่งจ้องหน้ามันเหมือนเดิม
"เลิกเรียกกูอย่างนี้ซักทีเหอะ หรือมึงอยากได้กูเป็นน้องจริงๆ.." มันว่าพลางลุกขึ้นนั่ง แน่ะยังมาพาลผลักบ่าผมอีกแน่ะ
"อยากได้เป็นน้องสิ..."
"นี่!!!!!" มันมองผมตาคว่ำเลย ฮ่ะๆๆสนุกจริงๆ
"อยากให้มึงเป็นน้องเขยของพี่ชายทั้งสองของกูต่างหากละ..." มันแอบยิ้มด้วย
"มึึงมีพี่ชายด้วยเหรอ"
"ใช่ มึงไม่รู้เหรอ "
"ไม่รู้ ก็มึงไม่เคยบอก"
"กูมีพี่ชายสองคน คนโตชื่อพี่ต้อง คนที่สองชื่อพี่ตาม ส่วนคนที่สามชื่อพี่เต นั่งหล่ออยู่ตรงหน้ามึงนี่ไง"
"สาบานเหอะว่านี่หล่อแล้ว ไม่ได้เศษเสี้ยวของกูเลย" โอเค ยอม นาทีนี้ไม่อยากหาเรื่องทะเลาะด้วย อยากคุยกันดีดีมากกว่า ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวันแล้ว
"อยากรู้เรื่องครอบครัวกูมั๊ย?"
"ก็ดี บอกมาสิ" มันน่ารักมากครับ ตั้งใจฟังอย่างที่พูดจริงๆด้วย
"บ้านกูมีแม่เป็นหัวหน้าครอบครังวพ่อกูเสียตั้งแต่กูเรียน ป.4 บ้านกูทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก็ขายบ้านหรือไม่ก็พวกคอนโดนี่แหละ แต่ก็ไม่ใช่โครงการใหญ่โตอะไร มีไม่กี่เฟสหรอก พี่ต้องช่วยแม่ดูแลอยู่ ส่วนพี่ตามเรียนวิศวะที่....กูเลยเลือกที่จะเรียนการตลาดเพราะจะกลับไปช่วยงานที่บ้านอีกแรง"
"กูไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมึงเลย"
"รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่ "
"เนอะ...แล้วมึงอยากรู้เรื่องของกูบ้างเปล่าละ?"
"เรื่องทุกเรื่องของมึง ไม่มีเรื่องไหนหรอกที่กูไม่รู้"
"จริง?"
"จริงสิ กูมีสายลับส่วนตัว หึหึหึ"
"มีน ไอ้พีท...?"
"เอาเป็นว่ากูรู้เรื่องทุกเรื่องของมึงละกัน" ด้วยความที่ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน รู้นิสัยมัน เลยทำให้ผมไม่เคยโกรธมันได้นาน
"อยากรู้อะไรก็ถามกูเองสิ ไม่ต้องไปถามจากคนอื่นหรอก กูบอกมึงได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว กูไม่ชอบโกหกหรอก ถ้าไม่อยากพูดก็จะไม่พูดเลย..." มันผลักผมให้ถอยไปนั่งจนสุดขอบโซฟาอีกอีกฝั่งหนึ่ง ผมกำลังจะถามมันว่าผลักทำไม แต่ก็รู้คำตอบเมื่อมันล้มตัวนอนหนุนตักผม เวลามันอ้อนนะครับไม่เหลือเค้าของไอ้บ้าเลย จะเหลือก็แต่เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักน่าหยิกเท่านั้น
"ถามได้ทุกเรื่องจริงนะ?"
"ถามได้ทุกเรื่อง แต่จะตอบทุกอย่างหรือไม่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง"
"ทำไมไม่โทรหากูเลย?" ผมถามไปก็เล่นผมมันไปเรื่อยๆ ผมมันนิ่มดี เพิ่งสระเมื่อกี้เอง
"แล้วทำไมมึงไม่โทรหากูละ?"
"ก็รอมึงโทรมาไง"
"กูก็รอมึงโทรมาเหมือนกัน" ผมรู้มันโกหก และก็รู้อีกว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะโกหก มันแค่อยากแกล้งผมเล่นเท่านั้นเอง คนอย่างมันถ้าอยากจะทำอะไรมันไม่มัวแต่รอหรอก เพราะมันเป็นพวกความอดทนต่ำ
"อย่าแกล้งกันดิ บอกมาเลย กูรอฟังอยู่"
"..........." มันไม่ตอบอะไรได้แต่มองหน้าผมแล้วยิ้มเท่านั้น มันอยากให้ผมพูดต่อชัวร์
"มึงรู้มั๊ยว่ากูคิดถึงมึงมากแค่ไหน กูก็ไม่รู้หรอกว่าเราจะคิดถึงคนๆหนึ่งได้มากแค่ไหน แต่สำหรับกูมันมาก มากจนกูคาดไม่ถึงเชียวแหละ...แต่มึงก็ไม่โทรหากูเลย"
"มึงคิดถึงกูมากขนาดนั้น แล้วคิดมั๊ยว่ากูจะคิดถึงมึงมากแค่ไหน ยิ่งได้ยินเสียงยิ่งคิดถึง ยิ่งอยากเจอ ยิ่งทุรนทุราย "
"มึงเลยเลือกที่จะไม่โทรหากู?"
"อืม...เพราะกูรู้ว่ามึงมีหน้าที่ต้องทำ กูเองก็เหมือนกันกว่าจะซ้อมเสร็จก็สี่ทุ่มเกือบห้าทุ่มทุกวัน จะให้กูโทรหาเวลานี้เหรอ? "
"รู้มั๊ย กูคิดว่ามึงไม่แคร์กูแล้ว..."
"จินตนาการนะอย่าให้มันล้ำเลิศนัก"
"อื้มมมมม..." มันดึงคอผมลงมาจูบซะดูดดื่มเลย ผมมึนกับรสจูบของมัน มึนจนไม่รู้ว่ามันทำให้ผมอยู่ใต้ร่างมันตอนไหน ยังไง ผมว่ามันชักจะมือไว ใจเร็วเกินไปแล้วนะช่วงนี้
"ผลักกูทำไมเนี่ยะ?" มันฟึดฟัดนิดหน่อยตอนที่ผมขัดจังหวะมัน
"ก็เราไม่ได้ตกลงกันเลยว่าใครจะทำ ใครจะถูกกระทำ" จะว่าไปมันทับผมอยู่ หนักเหมือนกันนะเนี่ย
"งั้นเปายิ้งฉุบกัน..."
"ยังไง?" ผมผลักให้มันลุกออกจากตัวผม พลางก็พูดพลาง ก้มดูตัวเอง พระเจ้ากระดุมเสื้อผมโดนแกะออกอีกแล้ว พอผมจะใส่กระดุมเสื้อมันก็ปัดมือผมออก บอกว่าไม่ต้องใส่หรอก มันขี้เกียจแกะอีกรอบ แม่เจ้า!!!!!!!!
"เรามาเป่ายิ้งฉุบกัน...มึงแพ้ กูกดมึง มึงชนะ มึงโดนกูกด" ยังงงๆกับคำพูดมันอยู่ สงสัยคงมึนกับรสจูบมันเมื่อกี้ยังไม่หาย
"เรื่องยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มึงติดสินด้วยการเป่ายิ้งฉุบเหรอ?...บ้าไปแล้ว" ดูมันไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนะ สงสัยอารมณ์ยังค้างอยู่
"งั้นกูทำประชาพิจารณ์เด็กทั้งมหาลัยเลยมั๊ย มันจะได้ยิ่งใหญ่สมใจมึงไง โวะ..." ประชาพิจารณ์ ?.................. ย้ากกกมึงบ้าไปแล้วชีน
"งั้นมึงลองพูดเรื่องเป่ายิ้งฉุบใหม่เด๊ะ?" หรือว่าผมอยากเสียตัวหว่า
"ฟังให้ดี มึงแพ้ กูกดมึง มึงชนะ มึงโดนกูกด "
"คือ...คือ..มึงหมายความว่ายังไงมึงก็จะกดกูให้ได้ใช่มั๊ย?"
"ถูก....."
"แล้วจะยิ้งฉุบเพื่อออออออออ?"
"ดูให้เหมือนมึงมีทางเลือกไง...กูดูเป็นคนดีใช่ป่ะ?"
นั่นไง...มือปลาหมึกมาแล้ว ผมว่าช่วงนี้มันหื่นๆพิกลนะโด๊ปไรมาป่าว...เสื้อ เสื๊อกูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......ไปแล้ว ๆๆๆ
ขนลุกชูชันไปทั้งตัวเลยเว้ย...
"ชีน...ฮึ....ชีน...โอ้ววววว ชีนหยุดก่อน" ผมงัดหน้ามันขึ้นมาจากซอกคอผมได้แล้ว แต่ดูเหมือนมันจะไม่พอใจจนะ
"มึงอย่าบอกว่ามึงไม่ต้องการกูนะ ..." อย่ามาย้ำ แต่ขอต่อรองนิดหนึ่งได้ไหม
"ก็มึงเล่นปลุกซะขนาดนี้....ซี๊ดดดดดดด หยู้ดดดดดด "
"ไรมึงอีก...." ผมยันหน้าอกมันสุดแรงเลยแหละ
"ขอต่อรองนิดหนึ่งได้มั๊ย?"
"ไม่ได้..." ชัดเจนมาก
"กูรักมึงนะ" อ้อนเข้าไปๆ ตาฉ่ำๆเข้าไว้ เดี๋ยวมันต้องใจอ่อน นั่นไง ตามันเริ่มสั่นไหวแล้ว
"เอ้า มีไรว่ามา..." มันยอมลุกจากตัวผมแล้ว แต่ยังไม่ละสายตาไปจากตัวผม หน้าร้อนวูบเลย หน้ามันก็แดงใช่ย่อยนะ ผมเอาเสื้อมาปิดนั่นแหละ มันถึงยอมละสายตาได้
"คือ คือ มึงอย่าเพิ่งทำไรกูเลยนะ..."
"แล้วเมื่อไรมึงจะยอม?" ตรงไปมั๊ย?
"กูมีข้อต่อรอง.....ว่าไง"
"ลองพูดมาก่อน..."
"คือกูรู้ว่ามึงก็ไม่อยากโดนกด กูเองก็ไม่เหมือนกัน....แต่กูมีวิธีที่ยุติธรรมสำหรับเราสองคน ถ้ามึงชนะการประกวด กูยอมให้มึงกด...แต่ถ้าไม่...กูจะได้กดมึง..."
"มึงหมายความว่าจะใช้การประกวดครั้งนี้ตัดสินว่าใครผัวใครเมีย ว่างั้น" เชี่ย กูอุตส่าห์พูดซะอ้อม
"จะว่างั้นก็ได้...ตกลงมั๊ย?"
"ได้...แต่ถ้ากูแพ้ กูจะเลิกกับมึง..."
"ได้ไง!!!!!!!!!"
"เออๆ " เย้ มันตกลงแล้ว
"มึงโกรธกูมั๊ย?"
"ไม่โกรธ...แต่อารมณ์มันค้าง"...ตรงอีกแล้ว
"งั้นก็ต่อสิ...แต่เฉพาะภายนอกนะมึง อย่าตุกติก ไม่งั้นกูเอาตายแน่..." ผมทิ้งตัวนอนลงที่เดิม มันก็ทาบทับลงมาทันทีเหมือนกัน มันรักษาสัญญาครับ เฉพาะภายนอกเท่านั้น....มันกระซิบขอบคุณผมด้วย...
"ว่าไง" ผมโทรหามันตอนกินข้าวเที่ยงอยู่
"ชีน...กินข้าวยัง?"
"ยังเลย เพิ่งเรียนเสร็จ..."
"กูไปหาได้มั๊ย?..."
"ไม่ต้อง...ชีนค่ะ พี่โบนัสเรียกมายด์กับชีนไปหาตอนนี้เลยค่ะ...." เสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในสาย
"มึงไม่ว่างใช่มั๊ย?" เสียงอ่อยเลยกู
"อืมๆ...เตแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวตอนเย็นกูโทรหา...มายด์ครับ ไปกันเลยดีกว่า" มันพูดกับคนนั้นเพราะจัง
"ชีน...เป็นไรมึง?"
"เปล่า....แล้วมึงคุยกับไอ้ต่อเหรอยัง?" วันนี้ผมมากินข้าวกับจืด เพราะงั้นไม่ต้องสงสัย ไอ้ต่อมันต้องหายหัวไปไหนซักที่
"กูไม่ตัดมันออกจากสารบบกูก็ดีเท่าไรแล้ว..." มึงยังมีหวังไอ้ต่อเอ๊ย
"แสดงว่ามึงหายโกรธมันแล้ว"
"เปล่า...."
"อ้าว...."
"ก็ไม่ได้โกรธไรมันมากแล้วแหละ แต่เห็นมันไม่คุยกับกู กูเลยไม่คุยกับมัน"
"งั้นถ้ามันมาคุย มึงก็จะคุยกับมันใช่เปล่า"
"ก็อาจจะใช่นะ ถ้ามันไม่กวนประสาทกูซะก่อน..."
"จืด...มึงคิดไงกับคนที่รักเพื่อนตัวเองวะ..."
"??????????"
"กูหมายความว่า...สมมุติว่าวันหนึ่งมึงเกิดรู้ขึ้นมาว่ากูเนี่ยหลงรักมึงมานานแล้ว มึงจะคิดหรือรู้สึกยังไงบ้าง?"
"ไม่รู้วะ...ยังไม่เคยคิดว่าจะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น"
"ไอ้ควาย ก็กูบอกอยู่นี่ไงว่าสมมุติ...."
"สมมุติใช่มั๊ย.....งั้นกูก็คงช็อคมั้ง"
"แล้วไงต่อ?"
"ดูมึงจะสนใจเป็นพิเศษนะ มีไรรึเปล่า?" จะมาฉลาดแสนรู้ไรตอนนี้วะ
"ไม่มี...ต่อๆๆ"
"ไม่รู้ว่ะ...จริงๆนะเว้ย กูไม่รู้จริงๆ แต่กูว่านะมีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดแหละ แต่กูจะรักตอบหรือไม่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง"
"แล้วมึงเคยรู้สึกมั๊ยว่ามีคนชอบ ไม่สิ รักมึง รักมาก รักมานานแล้วด้วย..."
"มีด้วยเหรอ...กูก็ไม่เคยคบใครนานเกินสามเดือน เพราะเชี่ยต่อมันคว้าไปแดกหมด...ที่นานจริงๆก็มีแค่มึงกับเชี่ยต่อนี่แหละ"
"ถ้ามี...มี...คือแบบว่วา...มี"
"มีไรก็พูดมาดิวะ อึกอักอยู่ได้"
"มีผู้ชายมาชอบมึงมึงจะว่าไง" ไปเลยรวดเดียวหมดแม็ก
"เต มึงอย่าบอกนะว่ามึงคิดไรกะกู" คิดได้นะมึง
"เออนั่นแหละสมมุติว่าเป็นกูก็ได้..."
"น่ารักอย่างมึงก็สู้ได้อยู่นะ" เชี่ยจืด มึงคิดไรกะกูปะเนี่ย...นั่นๆๆๆๆๆๆไอ้ต่อ ผมเรียกไอ้ต่อมานั่งด้วยกัน มันกำลังจะตอบรับแต่พอเห็นว่าผมนั่งอยู่กับใคร มันกลับลังเลซะงั้น ผมคะยั้นคะยอ มันถึงยอมมานั่งด้วย
"ไปไหนมาวะมึง?"
"ไปมันเรื่อยๆ..." พูดกับกูแต่ไหงตาไม่มองกูวะ
"แล้วนี่มึงกินไรยังต่อ..."
"ยังเลย ข้าวก็หมดแล้ว กูว่าจะไปแคนทีนรวมซะหน่อย" คือตอนนี้เรากำลังนั่งอยู่ที่แคนทีนคณะครับ พอเลยเที่ยงหน่อยอาหารจะหมดแล้ว ต้องถ่อสังขารไปถึงแคนทีนมหาลัยโน่นแหละ....เฟี้ยววววววว นมกับหนมปังกลิ้งหลุนๆมาจากใครอีกคนที่นั่งตรงข้ามผมกับมัน....
"ให้กูเหรอ?..." แน่ะ มีถามนะไอ้ต่อ
"ให้หมามั้ง...." โดนครับ เค้าเรียกว่าโดนอย่างนี้
"เป็นหมาก็ยอมวะ...." มันยอมจริงๆด้วย เพราะมันยิ้มใหญ่เลย....หึหึหึ สู้ๆนะต่อ