มาและ.....
เมื่อวานติดธุระนิดหน่อย.....
ไม่ได้หายไปไหนหรอกน่า...
********************************************
ไม่เคยมีใครบัญญัติเป็นกฎไว้ว่า….
คนเป็นแฟนกันมีสิทธิหึงหวงกัน ถ้าไม่ใช่แฟนก็ไม่มีสิทธิหึง
คนเป็นแฟนกันต้องไปกินข้าวดูหนังด้วยกัน
คนเป็นแฟนกันต้องซื้อของให้กันในวันวาเลนไทน์
คนเป็นแฟนกันต้องห้ามทำแบบนั้น............................
คนเป็นแฟนกันต้องทำแบบนี้..................................
จริงๆแล้วสิ่งที่เราพูดมามันเป็นเพียงสิ่งที่คนเราส่วนใหญ่ยึดถือกันไปเองว่ามันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้
แล้วสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เกิดปัญหา.......
การเป็นแฟนกัน.... สำหรับเรามันเป็นการที่เราตกลงที่จะแชร์ทุกๆอย่างในชีวิตกับใครสักคน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไรเพื่อคนที่เรารัก....
เราจะทำเพราะเราอยากทำและก็จะทำในสิ่งที่คนที่เรารักอยากให้ทำให้
ไม่ใช่ทำเพราะ.... คนเป็นแฟนกันต้องทำแบบนั้นแบบนี้ตามที่คนมักจะยึดถือกัน... ยึดติดกัน
สิ่งที่คนเรายึดถือกันว่าเมื่อเป็นแฟนกันแล้วต้องเป็นแบบนั่นแบบนี้....
เราคนนึงที่คิดว่ามันไม่จำเป็น... เพราะสิ่งที่คนยึดถือกันมันก็เป็นเพียงรูปแบบการแสดงความรักรูปแบบหนึ่งๆเท่านั้น
ซึ่งเราไม่ได้ต้องไปทำแบบนั้นเสียหมด.... หรือมานึกน้อยใจเสียใจอะไรหากไม่ได้รับ...
มันอยู่ที่คนสองคนมากกว่า...... ว่าตกลงจะแชร์ทุกๆอย่างในชีวิตกันแบบไหน
สำหรับเราการเป็นแฟนกันไม่มีรูปแบบตายตัวว่าต้องเป็นยังไงต้องทำแบบไหน
แต่มันขึ้นอยู่กับคนที่เราคบมากกว่า.... ว่าเราจะแชร์ทุกๆอย่างกันอย่างไร
และเราจะเลือกรูปแบบการแสดงความรักกันแบบไหน.......
----------------------- #### เรื่อง “รักของเราสามคน” (ฉบับเข้มข้น) ๓ #### ---------------------
ความเดิม....
เราคิดถึงสิ่งที่คุยกะบอยซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่รอบ........
ยิ่งคำที่บอยพูดว่า...
“ภีมมันก็รักปอมากนะ...”
“ เรื่องที่มันคบกะมะปราง.... เราก็งงๆนะ... ว่าตกลงมันชอบมะปรางจริงๆรึป่าว”
“ แต่ปอรู้ป่ะ... เวลาเราเห็นปอคุยกะไอ้ภีมนะ..... ไอ้ภีมมันดูมีความสุขจัง... เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหัวเราะ..... ไม่เห็นเหมือนเวลามันคุยกะมะปรางเลย..... คุยแปปๆเดี๋ยวก็วางและ ”
“ ที่เห็นหนะ... เป็นแบบนั้นจริงรึป่าวก็ไม่รู้... บางทีนะ.. เรายังคิดเลยว่าที่มันทำดีกะมะปรางเหมือนมันทำตามหน้าที่อ่ะ.... ”
“ หน้าที่ของแฟนที่ดีควรทำมั้ง... มันทำเหมือนไม่ได้มาจากความรู้สึกที่อยากทำแบบนั้น ”
“ แล้วยิ่งวันที่มันเห็นปอไปกินนมกะแฟนนะ..... จากวันนั้นนะ... มันอารมร์เสียเป็นอาทิตย์ๆ จนเพื่อนเซ็งมันไปพักนึงเลย....”
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว.... นี่ภีมมันคิดอะไรของมันอยู่เนี่ย......
คิดไปคิดมาก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี.......
ในหัวก็คิดได้แค่ว่าอาจจะเป็นเพราะอันนั้น... อาจจะเป็นเพราะอันนี้.....
เพราะไม่รู้ว่าคำตอบที่แท้จริงมันคืออะไร.....
ช่างมันเหอะ.....
หลับดีกว่า................. ชักจะง่วงและ..... ZzZzZZzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz....................
#######################################################
นับจากวันนั้นมา....
ความสัมพันธ์ของเราสองกับภีมมันก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆตามวันเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ
อย่างเรื่องโทรศัพท์
มันโทรหาเราบ่อยขึ้น....
เราคุยกันเกือบจะทุกวัน....
จากเดิมอาจจะแค่คุยกันเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย
แต่มาช่วงหลังๆบางที่ก็มีการหึงการหวงเกิดขึ้นบ้าง เพราะมันก็มีคนมาจีบมันอยู่หลายคน
แต่ก็เป็นการหึงๆหวงๆกันแบบทีเล่นทีจริงเสียมากกว่า
มันก็จะเล่าให้เราฟังว่ามีใครที่จีบมันบ้างและทุกครั้งที่คนที่จีบมันโทรมาหามันมันก็จะเล่าให้เราฟังตลอด
“ นี่แก.... มีคนโทรมาจีบเค้าอีกแล้วว่ะ...” ภีมพูด
“ ใครอีกอ่ะ... ไม่อยากจะเชื่อนะเนี่ยว่ายังมีคนตาบอดแบบเค้าอยู่อีกหลายคน.. ” เราพูดแซวมันเล่นๆ
“ เออ... ทำเป็นพูดดีไปเหอะ.... ถ้าเค้าเอาใครซักคนที่มาจีบแล้วแกจะพูดไม่ออก... ” ภีมพูดเล่นกลับมาบ้าง
“ ทำไมจะพูดไม่ออก... จะดีใจด้วยซ้ำ... ” เราพูดท้ามันเล่นๆ
เพราะถ้ามันไปคบกะใครจริงๆเราก็คงใจแป้วๆอยู่เหมือนกันแหละ
“ จริงอ่ะ ?? ” ภีมพูดด้วยเสียงเย้าๆเราเล่น
“ จริงดิ.... ” เราทำเป็นพูดเสียงสูง....
“ 55555+.. ไม่ใช่มาแอบร้องไห้นะ.... ” ภีมพูด
“ จะร้องไห้ทำไม... ตอนนี้เราเป็นแฟนกันรึไง ??? ” เราพูดสวนมันไปแบบเล่นๆ
แต่พอมันได้ยินมันก็เงียบไปสักพัก...
ซึ่งเราก็พูดไรไม่ออกเหมือนกัน....
นึกอยากจะตบปากตัวเองที่พูดจาไม่เข้าท่าเอาซะเลย...
เพราะถึงเราจะบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน... แต่ความสัมพันธ์รวมทั้งการกระทำหลายๆอย่างที่ทำให้กัน
มันก็ดูเหมือนจะเป็นมากกว่าเพื่อน... แต่เราทั้งคู่ก็ไม่เคยที่จะมานั่งพูดว่าเราเป็นอะไรกัน...
คงเพราะว่า... เรายังคงกลัวที่จะต้องเจอเรื่องร้ายๆอีกหากเราคบกันในฐานะแฟน...
เรายังไม่เข้มแข็งพอที่จะรับเรื่องร้ายๆที่มันอาจจะเกิดขึ้น...
หากเราทั้งคู่ใช้คำจำกัดความของความสัมพันธ์ว่า... เราเป็นแฟนกัน
ส่วนภีม.... เราคิดว่ามันคงละอายใจกับสิ่งที่มันเคยทำกับเราไว้
จนไม่กล้าพอที่จะพูดคำว่าเราเป็นแฟนกันออกมา
มันก็แปลกนะ... เวลาที่เราตกลงความสัมพันธ์ว่าเราเป็นแฟนกันเมื่อไหร่... ปัญหามันจะเกิดขึ้นทุกครั้ง
คงเพราะ.... เราคิดว่าเมื่อเราเป็นแฟนกันแล้ว
เราก็คิดเสมอว่าจะมีสิทธิในคนๆนั้นมากขึ้น.....
สามารถหึง – หวงเค้าได้อย่างเปิดเผย
ต้องการความรักความใส่ใจจากฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น....
หรืออื่นๆอีกมากมาย...
และทุกครั้งที่ผิดหวัง... เสียใจ.... กับการกระทำของฝ่ายตรงข้าม...
คนเราก็มักจะพูด... หรือคิดเสมอว่า...
เป็นแฟนกันเค้าทำกันแบบนี้เหรอ ????
ทั้งๆที่จริงแล้ว.... ความสัมพันธ์ที่มีให้กันมันก็เหมือนเดิม...
แต่เราเองที่กลับคาดหวังอะไรเพิ่มขึ้น.... เพียงเพราะเราเป็นคำจำกัดความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นแฟน
ปัญหามันก็เลยเกิด....
“ แล้วใครล่ะที่โทรมาจีบแก... คราวนี้เด็กคณะไรอ่ะ... ” เราพูดทำลายความเงียบที่มันเกิดขึ้น
“ เด็กคณะ.......................... หนะ...” ภีมพูด
“ เหรอ.... สวยป่ะ เห็นหน้ายัง ?? ” เราพูด
“ ยังเลย.... ” ภีมพูด
“ เหรอ... ถ้าสวยก็เอาๆไปเหอะ.... แกจะได้หายเหงา... 5555+.. ” เราพูดทีเล่นทีจริงกะมัน
หวังเพื่อจะให้อารมณ์สนุกๆที่เราทำมันกร่อยไปกลับมาอีกครั้ง
“ ไม่ไหวอ่ะ.... ของอย่างงี๊ต้องดูนานๆ.... ” ภีมพูดเสียงขยาดๆ
“ เออ.... แล้วเค้าโอเคม่ะ... คุยดีป่าว... ” เราพูด
“ ก็......................................................................” แล้วภีมมันเล่าให้เราฟังว่ามันคุยอะไรกะเค้าบ้าง
***********************************************************
อย่างที่สอง....
เรากับมันแชร์กันมากขึ้น
อย่างบางอาทิตย์เรากะมันก็ใช้ตังค์กระเป๋าเดียวกัน..... เวลาที่ใครสักคนไม่ค่อยมีตังค์
“ แก.... อาทิตย์นี้เค้าเหลือตังค์ไม่กี่บาทเองอ่ะ.... ” เราพูดบ่นๆให้มันฟังไปตามสายโทรศัพท์
“ ทำไมอ่ะ... พ่อไม่ได้โอนตังค์ให้เหรอ... หรือเอาไปใช้ไรมา ” ภีมพูด
“ ก็ที่ซื้อโทรศัพท์ใหม่ไง... เค้าออกกะพ่อคนละครึ่ง... ” เราพูด
“ งั้นอาทิตย์นี้ก็ใช้ตังค์ด้วยกันละกัน..... อาทิตย์นี้เค้ามีตังค์เพราะแม่เพิ่งโอนมาให้ ” ภีมพูด
“ โอเค..... เอาไว้ใช้ให้นะ ” เราพูด
“ ไม่ต้องๆ..... เดี๋ยวช่วงไหนเค้าไม่มีแล้วเค้าก็ใช้ตังค์กะแกบ้างไง....” ภีมพูด
“ เอางั้นเหรอ.... ” เราถาม
“ ก็ตามนี้แหละ... เดี๋ยวดึกๆเค้าเอาตังค์ไปให้แล้วกัน... ” ภีมพูด
“ เออ..... ” เราตอบ
“ แกเอาเงินอาทิตย์นี้ของเค้าเก็บไว้เลยนะ.... เดี๋ยวเวลาเค้าจะใช้เค้าค่อยไปเอาที่แก ” ภีมพูด
“ ลำบากไปป่าว.... ” เราพูด
“ ไม่หรอกน่า... เงินอยู่ที่เดี๋ยวเค้าก็ใช้หมดพอดี.... เอาไว้ที่แกแหละ... เราจะได้ใช้ด้วยกัน ” ภีมพูด
“ งั้นตามใจแกแล้วกัน... ” เราพูด
“ ตกลงแกซื้อโทรศัพท์รุ่นนั้นมาใช่ป่ะ... ” ภีมพูด
“ เออดิ.... ” เราพูด
“ งั้นเอามาให้เค้าเล่นบ้างดิ..... ” ภีมพูด
“ โห... จะเล่นไร... ของเพิ่งซื้อมาใหม่ ไม่ได้ๆ....หวง ” เราพูด
“ ก็จะเอามาถ่ายรูปเค้าไง... แกจะได้มีรูปเค้าอยู่ในเครื่อง... ” ภีมพูด
“ ไม่เอา... เดี๋ยวซวย... โทรศัพท์เค้ายังไม่ได้ถ่ายใครสักคน... ” เราพูดทีเล่นทีจริง
“ งกว่ะ... คนเรา.... ” ภีมพูดทำเป็นน้อยใจ
“ เออๆ.... ก็ได้ๆ... ” เราพูด
“ งั้นเดี๋ยวเค้าเอามาตอนที่เค้าเอาเงินไปให้แกนะ... ” ภีมพูด
“ เออ... ถ่ายมาเยอะๆแล้วกันรูปอ่ะ.... ถ่ายรูปโป๋ๆแกมาเยอะนะ... 5555+ ” เราพูด
“ ได้เลย.... จะถ่ายทุกซอกทุกมุมแบบไม่ใส่เสื้อผ้าด้วย 5555+... ” ภีมพูด
“ ให้มันจริงเหอะ.... ” เราพูด
พอคืนนั้นภีมก็เข้ามาหาเราที่หอเพื่อเอาตังค์มาให้แล้วก็มาเอาโทรศัพท์ด้วย
พอมันเอาโทรศัพท์เราไปมันก็ยื่นโทรศัพท์มันมาให้เรา เราก็งงเลยถามไปว่า
“ ทำไมแกต้องเอาโทรศัพท์แกมาให้เค้าด้วยอ่ะ... ” เราพูด
“ ก็เค้าเอาโทรศัพท์แกมาเล่น... แกก็เอาโทรศัพท์เค้าไปเล่นบ้างไง... ”ภีมพูด
“ จะบ้าไง... แล้วถ้าใครโทรมาอ่ะ.. ” เราถาม
“ ก็ไม่ต้องรับไง ” ภีมพูดหน้าตาเฉย
“ ปัญญาอ่อนแล้ว... เผื่อใครมีธุระสำคัญ ” เราพูด
“ เออน่า............ ” ภีมพูดแล้วมันก็กลับไป
เราก็งงๆมาจนถึงทุกวันนี้แหละ... ว่าทำไมตอนนั้นเรากะมันต้องเปลี่ยนโทรศัพท์กันใช้ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เปลี่ยนซิม
โทรศัพท์เราก็อยู่ที่มัน... โทรศัพท์มันก็อยู่ที่เรา เป็นอย่างงี๊อยู่เกือบอาทิตย์ มันก็ยังไม่ได้เอามาคืนเรา
คนก็โทรมาหามันจัง..... เราก็ไม่เคยรับเลย จะรับก็มีแค่แม่มันนั่นแหละ
แล้วเราก็ต้องโทรเข้าเครื่องตัวเองอีกที เพื่อบอกมันว่าแม่มันโทรมา
ส่วนมัน... รับทุกสายที่โทรมาหาเรา..... เพื่อนเรานี่ถามกันให้วุ่นเวลาที่เรามาเรียน
ว่าโทรศัพท์เราอยู่ที่ใคร................
งงกะมันจริงๆ
ช่วงวันหลังๆมาเราก็เลยเอาโทรศัพท์มันมาเล่นบ้าง
เราก็นั่งเช็คโน่นเช็คนี่ไปเรื่อยเปื่อย.....
ดูเบอร์โทรเข้า... เบอร์โทรออก.... ข้อความเข้า.... ข้อความออก....
โห........ ข้อความที่ส่งมามีแต่ของผู้หญิง..... หล่อตายล่ะมัน
ข้อความเข้ามันเยอะมากๆ............................................................
เรานั่งเล่นไปสักพักก็เลยนึกเรื่องแกล้งมันขึ้นมาได้
เราเลยเข้าไปเมนูข้อความอีกครั้งเพื่อที่จะส่งข้อความ........
เราจัดการใช้โทรศัพท์มันนั่นแหละ... ส่งข้อความเข้าเครื่องของเราในขณะที่โทรศัพท์เราอยู่กะมัน...
รักปอจัง...................................
คิดถึงปอทุกลมหายใจจนภีมแทบอดใจไม่ไหวเลยรู้มั้ย???
รัก.... รักปอมากที่สุด........
ปออย่าทำลายพ่อหนุ่มใจน้อยคนนี้เลยนะครับ......
แต่งงานกันเถอะครับ..............................
เราส่งข้อความไปไม่ถึงห้านาที..... ภีมใช้เครื่องเราโทรมาทันที......
“ โทรมามีไรเหรอ.. ” เราทำเป็นพูดด้วยเสียงงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น
“ ถามได้.... ส่งข้อความไรมาเนี่ย.. ” ภีมพูด
“ ส่งอาราย..... ไม่ได้ทำไรเลย... ” เราทำเป็นพูดด้วยเสียงใสซื่อบริสุทธิ์
“ อย่ามาเนียน...... ” ภีมพูด
“ ก็แค่เล่นขำๆเอง..... ” เราพูด
“ เออ.... งั้นเค้าเล่นบ้าง.... แกห้ามลบออกนะ ” มันพูดแล้วก็วางสายไปเลย
จากนั้นประมาณสิบนาทีก็มีข้อความเข้ามา.......
ภีมขา..................................... ที่รัก........ มายดาร์ลิงค์
ไอเลิฟยูนะ.................................. เลิฟยูมากๆ
ถ้าภีมไม่รักปอ.... ปอคงอยู่บนโลกนี้ไม่ได้..........
อย่าทิ้งปอไปไหนนะ..................................................
เพราะฉันขาดเธอไม่ได้.......
เราอ่านข้อความที่มันส่งมาแกล้งเราบ้างแล้วก็อดขำมันไม่ได้.......
นอกจากที่เล่ามาก็ยังมีเรื่องอื่นๆอีก......
อย่างเวลาที่เรากลับบ้าน... เราก็จะเอารถเราไว้ที่มัน เพราะตอนช่วงปีสองมันยังไม่ได้เอารถที่บ้านมาใช้
บางทีมันก็มายืมรถเราไปใช้.......
เวลารถเรามีปัญหาอะไรมันก็จะมาดูให้ตลอด
เอารถเราไปเปลี่ยนนั่นให้.... นี่ให้.....
เอารถเราไปล้างให้ด้วย.... โคตรสบายอ่ะเรา..............
และทุกครั้งที่มันเอารถเราไปทำอะไรให้...
มันไม่เคยเอาตังค์เราเลยสักบาท.......... ทั้งๆที่บางทีก็หมดเป็นพัน......
********************************************************************
นอกจากที่เราเล่ามาให้ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากะมันที่มันมากขึ้น
จริงๆยังมีอีกหลายอย่างเลย.....
อย่างเช่น เวลามันมีปัญหาอะไรมันจะไม่เก็บไว้คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน มันจะโทรมาหาเรา...
โทรมาเล่าให้เราฟัง บางทีก็แค่โทรมาระบายหรือบางทีก็โทรมาเพื่อขอคำปรึกษา
ซึ่งไม่ใช่แค่มันที่ทำแบบนี้... เราก็ทำแบบนี้เหมือนกัน....
อีกอย่างนึงคือ.... เราใส่ใจกันมากขึ้น......
อย่างตอนวันเกิดเราหรือวันเกิดมันก็ตาม.......
ทั้งเราและมันก็จะเป็นคนแรกที่โทรมาอวยพรกัน.....
แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีของขวัญให้... แต่ทั้งเราและมันก็ไม่เคยน้อยใจหรือเสียใจอะไรเลย
เพราะเรากะมันคิดเหมือนกันว่า.... ของขวัญวันเกิดมันก็เป็นเพียงสิ่งซึ่งแสดงถึงความใส่ใจที่มีให้ฝ่ายตรงข้าม
แต่สำหรับเราหรือมัน แค่การโทรมาอวยพรเป็นคนแรกมันก็แสดงถึงความใส่ใจได้มากพอแล้ว
และอีกอย่างเรากะมันก็ไม่ได้มีของที่อยากได้อะไร หรือถ้ามีเราก็เลือกที่จะซื้อเองเสียมากกว่า
อย่างที่บอกว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนมันอาจจะมากขึ้นตามกาลเวลา
แต่เราก็ไม่ได้มาตกลงกันว่าเราเป็นแฟนกันรึป่าว... ด้วยเหตุผลอย่างที่บอก...
และอีกอย่างคำว่าแฟน... มันก็เป็นแค่คำๆนึงที่ทำให้การคาดหวังในความรักของแต่ละฝ่ายเพิ่มมากขึ้น
แล้วมันก็จะเกิดปัญหาตามมา เพียงเพราะคำว่า “แฟน”
แต่ตอนนั้นเราเลือกที่จะบอกตัวเองว่าเราเป็นเพื่อนกัน..... ทั้งที่ภายในใจมันอาจจะมากกว่านั้น
เพราะเราจะได้ยับยั้งการกระทำในอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่จะทำให้ไม่เกิดปัญหา
เรายังเคยคุยกันเล่นๆเหมือนกันครั้งนึงว่า......
เราทั้งคู่เป็นมากกว่าเพื่อน.... แต่ไม่ใช่แฟน........
จบตอนดีกว่า.............
เดี๋ยวจะยาวเกินไป.......
#######################################################