อีกตอนนึงนะ.....
------------------------ #### เรื่อง “รักของเราสามคน” (ฉบับเข้มข้น) ๗ #### --------------------
เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงที่เรานั่งรอภีมอยู่ที่หน้าหอในแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของมัน
ไม่รู้ว่าตอนนั้นมันอยู่ไหน มันคงจะกำลังง้อมะปรางอยู่
ไม่รู้ว่าคุยกันรู้เรื่องรึยัง.... หรือว่าป่านนี้คงนอนอยู่ด้วยกันแล้ว...
แล้วภีมมันจะรู้มั้ยว่า เรารอมันอยู่.....
เราโทรไปหามันอีกหลายครั้งแต่ก็ติดต่อมันไม่ได้แล้ว เพรามันคงจะปิดเครื่อง
เราจะโทรไปหาบอยก็เกรงใจมันเพราะตอนนั้นก็เกือบจะตีสามอยู่แล้ว
เรารอมันจนรู้สึกว่าร่างกายเราคงจะไม่ไหวก็เลยตัดสินใจว่าจะกลับแล้ว
แต่ตอนนั้นเราก็เห็นว่าเพื่อนภีมที่อยู่หอในคนนึงขี่รถอกไปข้างนอก
เราก็เลยสังหรณ์ใจว่าเพื่อนมันต้องขี่รถไปรับภีมแน่ๆ เราก็เลยตัดสินใจรอภีมอีกสักพัก
ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ พอรถคันนั้นขี่กลับมาก็มีภีมซ้อนรถกลับมาด้วย
เราก็รีบเดินเข้าไปหาภีมทันที ภีมก็หันมามองเราด้วยท่าทางตกใจ
เพราะมันคงไม่คิดว่าเราจะยังคงรอมันอยู่อีก
“ ยังไม่กลับอีกเหรอ ?? ” ภีมพูดหลังจากที่ลงมาจากรถส่วนเพื่อนมันขี่รถเข้าไปในหอแล้ว
“ ก็บอกแล้วไงว่าจะรอ... ” เราพูดไปด้วยเสียงแหบๆ เพราะเริ่มเจ็บคอ
“ คุยกันวันอื่นได้ป่ะ ไม่มีอารมณ์จะคุย ” ภีมพูดด้วยท่าทีรำคาญ
“ เค้าขอสิบนาทีแล้วกัน ” เราพูดแบบอ้อนวอน
“ อืม... มีไรจะคุยก็ว่ามาดิ ” ภีมพูด แล้วมันก็เดินนำเรามาที่ตรงใต้ต้นไม้มืดที่เรายืนรอมันตอนแรก
เพราะเดี๋ยวจะมีคนมาเห็น
“ เรื่องมันเป็นไงเล่ามาดิ๊ ” เราพูด
“ อย่าให้เค้าพูดอีกเลยว่ะ ยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด ” ภีมพูดด้วยท่าทีหัวเสียเต็มที่
“ ที่เค้ารอแกอยู่ถึงป่านนี้ก็เพราะอยากจะฟังเรื่องทั้งหมดจากปากแก เค้าฟังจากพี่เค้าแล้วก็อยากจะฟังจากแกด้วย เดี๋ยวจะหาว่าเค้าเข้าข้างเพื่อนตัวเอง ” เราพูดแบบเริ่มโมโห
“ เออๆ... แกก็เข้าข้างเพื่อนแกตลอดแหละ เพื่อนแกแต่ละคนดีกันนักนี่... เลิกคบไปซะทีปะ” ภีมพูดประชด
“ อย่าใช้อารมณ์ได้ป่ะ... ” เราพูด
“ แกรู้ป่ะ... ตั้งแต่เค้าเกิดมายังไม่เคยมีใครด่าเค้านี้เลย แล้วนี่เพื่อนแกมาชี้หน้าด่าเค้าปาวๆ แกจะให้เค้ารู้สึกไง? ”
ภีมพูดด้วยท่าทางโมโหเต็มที่
“ ก็แล้วแกทำอย่างที่เพื่อนเค้าพูดรึป่าวล่ะ.. ” เราพูด
“ ทำอะไร... เค้าทำไร ” ภีมพูดแบบหาเรื่อง
“ ก็นั่งกอดเอวกอดไหล่... จูงมือกันเข้าห้องน้ำเนี่ย... ” เราพูด ยอมรับนะว่าเสียงเรามันสั่น
ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดมากๆ
“ เค้าไม่ได้ทำขนาดนั้น.... นี่เค้าต้องจูงมือเพราะมะปรางมันเมา ” ภีมพูด
“ แล้วที่นั่งกอดไหล่กอดเอวนี่อะไร ” เราพูด
“ เค้าก็แค่โอบเฉยๆ... แกนึกดูเพื่อนมะปรางที่พาแฟนมาเค้าทำกันยิ่งกว่านี้อีก แล้วถ้าเค้าต่างคนต่างนั่งกะมะปราง แกไม่คิดเหรอว่ามะปรางมันจะคิดยังไง ” ภีมพูดตะคอก
“ ดูรักกัน... แคร์กันดีจังนะ ” เราพูดประชดๆ
“ ถ้าพูดแบบนี้ก็คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วแหละ.. ” ภีมพูดแล้วก็เดินหนีเรา
“ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้มั้ยแล้วค่อยไป ” เราพูดแล้ววิ่งไปดักหน้ามันไว้
“ แกอย่ามาเกะกะเค้าได้ป่ะ ไม่มีอารมณ์จะคุยแล้ว เกินสิบนาทีแล้วด้วย ” ภีมพูดแล้วเอามือปัดเราออกไปพ้นทาง
“ เค้าขอร้องเหอะ เราคุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้ป่ะ... ให้เค้าไหว้เค้าก็ยอม ” เราพูดแล้วก็ยกมือไหว้มัน ตอนนั้นเราร้องไห้ด้วย
พิมพ์ถึงตรงนี้แล้วร้องไห้อีกแล้วอ่ะ
ทุกครั้งที่เราเล่าให้ใครฟังก็ร้องไห้ทุกที
เรายังจำภาพวันนั้นได้ติดตาเลย วันที่เรายกมือไหว้มันเพื่อขอให้มันคุยด้วย
ภีมมันเห็นเรายกมือไหว้แล้วก็ร้องไห้มันก็เลยหยุดนิ่งอยู่แบบนั้น แล้วมันก็พูดว่า
“ เค้าบอกมะปรางไปแล้วว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ระหว่างเราไม่เคยมีอะไรเกินเลย เพราะงั้นเราก็ห่างๆกันสักพักเหอะ.... เค้าไม่อยากให้มะปรางเข้าใจผิด ” ภีมพูดด้วยท่าทางนิ่งๆ
พอเราได้ฟัง ยอมรับว่าหน้าชาเลยตอนนั้น เราได้แต่มองหน้ามันนิ่งๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกอีกเลย
ภีมมันก็ก้มหน้าลงไม่กล้ามองหน้าเรา จนเราพูดขึ้นมาว่า
“ ขอบใจที่เตือนสติว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ” เราพูดด้วยเสียงที่สั่นจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“ เค้าขอโทษแทนเพื่อนเค้าด้วยแล้วกันที่ทำให้แกกับแฟนมีปัญหากัน ” เราพูดแล้วยกมือไหว้มัน
ภีมก็มีท่าทางร้อนรนเหมือนว่ามันจะรู้สึกผิด
“ แกอยากให้เราอยู่ห่างๆกันใช่ป่ะ เค้าไม่รู้นะว่าจะทำได้รึป่าว แต่ถ้าแกอยากให้เป็นแบบนั้นเค้าก็จะพยายามทำ ”
เราพูดแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด ภีมมันก็ได้แต่นิ่งเงียบ
“ งั้นเค้าขอกอดแกครั้งสุดท้ายได้ป่ะ ?? ” เราพูด
“ ถ้าจะพูดว่าครั้งสุดท้ายก็ไม่ต้องกอด ” ภีมพูด
“ งั้นไม่พูดก็ได้ ” เราพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าภีม ซึ่งมันอ้าแขนรับเราอยู่
เราก็เลยเดินเข้าไปกอดมันไว้ให้แน่นที่สุด เหมือนกลัวว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆที่ได้กอดมัน
“ ทำไมตัวร้อนแบบนี้อ่ะ ” ภีมพูดแล้วพยายามผลักตัวเราออกเพื่อจะมองหน้าเรา
“ ช่างมันเหอะ.... เค้าป่วยอ่ะ ” เราพูดแล้วก็กอดมันไม่ยอมปล่อย
“ ช่างมันได้ไง... ” ภีมพูดแล้วก็พยายามดึงเราออกอีก
“ กอดกันนิ่งๆแบบนี้สักพักได้มั้ย ? ” เราพูด ภีมมันก็เลยหยุดที่จะดึงเราออกแล้วมันก็กอดเรานิ่งๆ
“ แกรู้สึกอะไรบ้างมั้ย?? ” เราถามหลังจากที่ยังกอดกันอยู่
“ ยังไงอ่ะ ” เราพูด
“ ก็รู้สึกอบอุ่นไง.... รู้สึกว่ากอดครั้งนี้มันไม่เหมือนเวลาที่เราเคยกอดใคร ” เราพูดเพราะเรารู้สึกแบบนี้ทุกครั้งที่ได้กอดมัน
“ ไม่อ่ะ.... เฉยๆ เค้ายังไม่เคยกอดใครแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนที่กอดแม่เค้าเลย ” ภีมพูด
“ อืม.... เข้าใจแล้ว ” เราพูดแล้วก็ผละตัวเองออกจากมัน
“ แกตัวร้อนมากเลยอ่ะ.. ไหวปะเนี่ย ” ภีมพูดด้วยท่าทีเป็นห่วง
“ เค้าไม่เป็นไรหรอก ไม่งั้นคงไม่รอแกได้จนป่านนี้หรอก ” เราพูด
“ เอาดีๆดิ... ” ภีมพูด
“ ช่างมันเหอะ.... แกไปนอนเหอะ... ยังไงก็คุยกะมะปรางให้เข้าใจกันแล้วกัน ” เราพูดแล้วก็เดินออกมาจากมัน
แต่ภีมมันก็เรียกเราไล่หลังมา เราก็เลยพูดว่า
“ แกอย่าพูดอะไรอีกเลย... เค้าเข้าใจแล้ว หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ” เราพูดแล้วก็เดินไปเอารถแล้วก็ขับออกไป
เหนื่อย....................
รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมาก
เจ็บ...............
รู้สึกว่าตัวเองเจ็บมาก
มันมาก และมากกว่าทุกครั้งที่เคยรู้สึก
คุณรู้มั้ย? เวลาที่เราเห็นคนที่เรารักเค้ารักคนอื่นความรู้สึกมันแย่แค่ไหน
มันเจ็บจนเหมือนไม่มีความรู้สึกเลยแหละ
คนที่เรารัก..... เค้าแคร์คนอื่นมาก... มากจนเค้าไม่เคยรู้หรือสนใจว่าเราแคร์เค้ามากแค่ไหน
เวลาที่คนที่เรารักเค้าวิ่งตามคนอื่น โดยที่เค้าไม่เคยหันกลับมามองข้างหลังสักนิดว่ามีใครอีกคนกำลังวิ่งตามเค้าอยู่
มันแย่... แย่มากๆ แล้วก็เจ็บมากๆด้วย
ร้องไห้............ ร้องไห้................................... และร้องไห้..........................................................
คงจะเป็นทางออกที่ดีที่จะระบายความเจ็บและความเสียใจ
จบตอน
#######################################################