สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 174170 ครั้ง)

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #270 เมื่อ18-10-2011 11:47:29 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 13



ร่างสำรวมสูงใหญ่ในชุดขาวปลอด ห้อยลูกประคำยาวก้าวออกมาจากห้อง หยิบย่ามสะพายข้างแล้วสบตากับคนที่เหลือ แววตาของเขาสงบเยือกเย็นกว่าที่เคย ท่าทางที่ดูเป็นหมอผีเต็มตัว ทำให้สองคนที่ยืนมองอยู่อมยิ้ม

    “พี่เจมส์แต่งแบบนี้แล้วดูดีนะคะเนี่ย” ปรางทิพย์ชมเบา ๆ แม้แววตาจะแฝงความกังวล สถานการณ์ในตอนนี้การพูดเล่นให้กำลังใจกันเอง เป็นสิ่งที่ช่วยลบความกลัวออกไปได้บ้าง

    เจมส์มองเด็กสาวอย่างเห็นใจ เขารู้ดีว่าเธอยังอายุน้อยเกินไป สำหรับการที่จะต้องมาเผชิญสถานการณ์เช่นนิ้

“พี่ต้องหล่อหน่อยล่ะครับ เดี๋ยวช่วยคุณวินต์ได้สำเร็จแล้วเขาจะไม่ประทับใจเอา” เจมส์ว่าพลางขยิบตาให้

ธนัทบีบมือเด็กสาวเบา ๆ ให้กำลังใจ แล้วบอกว่า “พี่จะไปช่วยพี่วินต์ของน้องปรางเองนะครับ น้องปรางอยู่กับเจมส์ที่นี่แหละ”

เด็กสาวมองมาอย่างเว้าวอน “แต่ปรางห่วงพี่วินนี่คะ ให้ไปด้วยไม่ได้เหรอคะ”

ธนัทส่ายหน้าเบา ๆ พลางอธิบายต่อไปว่า “การทำพิธีไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้บ้านเป้าหมาย แค่รู้ตำแหน่งที่ถูกต้องก็พอ ดังนั้นเจมส์ ไม่จำเป็นต้องออกไปจากบ้าน ก็สามารถดึงความสนใจจากเจ้าหมอผีนั่นได้ การสู้กันระยะไกล จะปลอดภัยกว่าหากบาดเจ็บหรือมีปัญหา ส่วนพี่…ตอนที่เจ้านั่นกำลังสนใจเจมส์ พี่จะได้ช่วยคุณวินต์ออกมา น้องปรางรออยู่ที่นี่ พี่จะได้ลงมือแบบไม่ห่วงหน้าพะวงหลังไงล่ะ”

“แต่ว่า…” เด็กสาวมองมาอย่างลังเลใจ

“ตกลงตามนี้แหละครับ ถ้าน้องปรางเป็นอะไรขึ้นมา พี่วินต์มีหวังไม่ยอมยกให้พี่แน่ ๆ” เขาว่าพลางหลิ่วตาให้

ปรางทิพย์ก้มหน้าลงอย่างเขินอายนิด ๆ “ก็ได้ค่ะ…ปรางจะรออยู่ที่นี่…แต่ว่าพี่นัทคะ ไม่ใช่แค่พี่วินต์จะปลอดภัย…พี่นัทก็ต้องระวังตัว และต้องกลับมาอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ” เธอกุมมือของเขาไว้ พลางมองหน้าธนัท

ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ “พี่ปลอดภัยแน่ เจมส์ ฝากน้องปรางด้วยล่ะ”

เจมส์มองคนทั้งคู่ก่อนตีสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วง การทำพิธี มีฉันเพียงคนเดียวที่เป็นคนทำ ถ้ามีอะไรขึ้นมา น้องปรางจะไม่เป็นอะไรแน่ ๆ …นายก็อย่าประมาทล่ะ ฉันไม่แน่ใจว่าจะดึงความสนใจได้นานแค่ไหนเหมือนกัน เคนอยู่ในมือเจ้าหมอผีนั่น…ไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหนกันอีก แต่ฉันเชื่อ…ว่าถ้าเคนรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เด็กคนนั้น ต้องพยายามช่วยคุณวินต์แน่ ๆ …ถึงแม้ว่า…”

ดวงตาของเขาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะรีบกลับมาแสดงทีท่าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว “ถ้าฉันเป็นเคน ฉันก็คงทำอย่างนั้น เราเป็นพ่อลูกกัน…บางอย่างเราก็จะสื่อถึงกันได้ นายพยายามตั้งสติดี ๆ แล้วคอยรับฟังให้ดีละกัน เผื่อเด็กคนนั้น จะส่งเสียงติดต่อมา”

“ฉันจะพยายามช่วยเคนออกมาด้วยให้ได้” ธนัทตอบกลับแกมให้กำลังใจ “เด็กคนนั้น ก็เหมือนน้องชายฉันอีกคนเหมือนกัน”

“ขอบใจนะนัท ฝากด้วยแล้วกัน”

ธนัทพยักหน้ารับ ก่อนขับรถออกไป เจมส์หันมามองปรางทิพย์ แล้วพูดว่า “พี่จะทำพิธีในห้องพระ เพราะเป็นอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นอาณาเขตของตัวบ้านพี่ด้วย ที่นี่ พี่จะมีพลังสูงสุด”

“คิดว่าหมอผี จะต้องทำพิธีในป่าช้าเสียอีก” เด็กสาวพูดยิ้ม ๆ ชายหนุ่มอดยิ้มด้วยไม่ได้ เขารู้ดีว่าปรางทิพย์กังวลขนาดไหน แต่เธอก็พยายามผ่อนคลายอย่างที่สุดจริง ๆ

“หมอผีที่ทำพิธีในป่าช้า ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ต้องการติดต่อกับภูตผีวิญญาณเบื้องนอกน่ะครับ ถ้าทำพิธีในบ้าน ผีที่ไหนจะกล้าเข้ามาล่ะครับ แต่กรณีของเรา มันต่างออกไป เพราะเราไม่ต้องการให้ ‘ใคร’ เข้ามารบกวนเราขณะทำพิธี การอยู่ในอาณาเขตที่ปลอดภัย จึงดีที่สุด”

ชายหนุ่มพูดต่อไปพลางขึงสายสิญจน์ไปรอบ ๆ ห้องหลายรอบ จนทั้งห้องคล้ายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ขนาดย่อมอีกชั้น เพื่อป้องกันภัย

ดวงตากลมโตที่มองมา ยังคงมองอย่างสนใจ “อย่างนี้นี่เอง พี่เจมส์จะให้ปรางช่วยอะไรไหมคะ”

เจมส์ทรุดตัวลงนั่งที่หน้าโต๊ะหมู่ ก่อนกวักมือเรียก “มานั่งอยู่ข้างหลังพี่แล้วกันครับ ไม่จำเป็นอย่าลุกไปไหน”

“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มรับ อย่างกระตือรือร้นกว่าเดิมเหมือนทำใจได้แล้ว ร่างบอบบางทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิทะมัดทแมง เจมส์มองมาแล้วพูดว่า “ชักอิจฉาเจ้านัทซะแล้วสิเนี่ย”

“ถ้าอิจฉาก็รีบ ๆ ช่วยเจ้าหญิงของพี่ไว ๆ สิเจ้าคะ แล้วสวีทกันให้พี่นัทอิจฉาเลย” ท่าทางของเธอดูซุกซนร่าเริงเหมือนเก่าแล้ว แม้ลึก ๆ จะกลัวอยู่มาก

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้มให้ บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง ใบหน้าแกร่งแฝงรอยยิ้มอบอุ่นลูบผมนุ่มของเด็กสาวเบา ๆ อย่างต้องการจะปลอบใจ

“พูดแบบนี้กำลังใจมาเลยนะเนี่ย รับรองต้องช่วยพี่วินต์ได้แน่ ๆ เอ้า ถ้างั้นพี่จะเริ่มแล้วนะ” เจมส์ว่าพลางยืดแผ่นหลังนั่งตัวตรงกว่าเดิม ก่อนจะพนมมือและหลับตาลง ปรางทิพย์ที่อยู่ใกล้ ๆ มองแผ่นหลังแข็งแรงนั้นอย่างชื่นชม

เธอไม่แปลกใจเลย ที่พักนี้พี่ชายของเธอถึงได้แปลกไป คน ๆ นี้ ทำให้ปราการอันแข็งแกร่งของปวินต์ ที่สร้างขึ้นปกป้องตัวเองและครอบครัว หลังผู้เป็นพ่อจากไป เริ่มพังทลายลง พี่ชายของเธอ ไม่ค่อยเปิดใจให้ใครมากนัก ทั้งยังไว้ตัวอย่างที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร จนต้องเจ็บปวดอีก

แต่ถ้าเป็นคน ๆ นี้…คงจะทำให้พี่ชายของเธอมีความสุขได้แน่ ๆ

สิ่งสำคัญคือต้องช่วยพี่วินต์และเคนออกมาให้ได้เสียก่อน เธอแจ้งข่าวกับมารดาผู้รอคอยอยู่ที่บ้านเพียงแค่ว่าค้างคืนบ้านเจมส์ เพราะติดการสืบคดีติดพัน แต่ตัวเธอกับปวินต์นั้นปลอดภัยดี

    มารดาของเธอผู้น่าสงสาร คงทำใจลำบากนัก ถ้ารู้ว่าปวินต์ต้องเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน ในเมื่อต้องสูญเสียผู้เป็นสามีไปแล้วตลอดกาล

    แต่เธอก็คิดว่า เจมส์จะต้องช่วยพี่ชายของเธอได้ ทุกอย่างจะต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม…

คนชั่ว…จะอย่างไร ก็ต้องได้รับผลกรรม

เธอเชื่อมั่นเช่นนั้น!



ในห้องขัง ปวินต์ที่นอนอยู่บนเตียงยังคงมีสติสมบูรณ์ แม้ว่าร่างกายจะขยับไม่ได้ดั่งใจนัก แต่ก็ดูจะดีขึ้น น่าแปลกที่อาการต่าง ๆ เหมือนจะค่อย ๆ จางหายไปบางส่วน คล้ายอาคมที่ควบคุมพิษร้าย ค่อยผ่อนคลายลง เขาคิดว่าตนเองคงลุกขึ้นเดินเหินได้ แม้จะลำบากอยู่บ้าง แต่ก็มั่นใจว่าน่าจะทำได้

ที่เก้าอี้ไม่ไกลออกไป ธนดลยังคงนั่งมองเขาอยู่ ปวินต์หลับตาลง อย่างไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย เขาพยายามนอนนิ่งที่สุด ไม่ขยับตัว…และไม่ต่อต้าน เก็บเรี่ยวแรงที่มีไว้ สำหรับเวลาสำคัญ ถึงจะไม่แน่ใจนัก ว่าจะสามารถเดินเหินได้ เป็นปกติ แต่ในตอนนี้ จะทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาขยับตัวไม่ได้ และไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร เพื่อให้ตายใจกว่าเดิม

เคนบอกเขาไว้ว่าจะทำให้คนที่เฝ้าอยู่หลับไป และจะเปิดทางให้ด้วย

เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะต้องทำให้ได้ อย่างน้อย…ก็จะต้องลุกขึ้นได้

รอคอยอยู่หลายชั่วโมง จู่ ๆ คนที่นั่งด้านข้าง ก็เริ่มง่วงงุนและโงกหลับ ปวินต์รอคอยจนแน่ใจ ว่าอีกฝ่ายนั้นหลับจริง ๆ แล้วค่อย ๆ ยันกายขึ้นอย่างยากเย็น

ประตูอยู่ไม่ไกลออกไป แต่ก็ใช้เวลามากพอสมควร ในการพยายามก้าวเดิน มือที่สั่นน้อย ๆ จับลูกบิดบิดช้า ๆ อย่างไร้เสียง ประตูไม่ได้ล็อค ร่างผอมบางที่ยังคงอยู่ในชุดรุ่มร่ามเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก มองลอดช่องประตูออกไปอย่างช้า ๆ ใจยังเต้นระทึก เพราะรู้ดีว่าหากมีคนมาพบตนเองก็คงจบ เนื่องจากคงไร้ซึ่งความสามารถจะต้านทานใด ๆ ได้ เขาในตอนนี้แค่โดนผลักเบา ๆ ก็ล้มได้แล้วด้วยซ้ำ

ดีที่ไม่มีคนอยู่แถวนั้นเลย ปวินต์ก้าวออกมาอย่างลำบาก สอดส่ายสายตาไปทั่ว เขาจะต้องช่วยเคนออกไปด้วย แต่ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจ ว่าจะช่วยกุมารทองที่เป็นเพียง ‘วิญญาณ’ ออกไปได้อย่างไร สร้อยคอที่สวมอยู่น่าจะเป็นสิ่งเดียว ที่เคนสามารถเข้ามาสิงสถิตได้ แต่เด็กคนนั้นกลับปฏิเสธที่จะมากับเขา

ห้องพระล่ะ…ที่นี่น่าจะเป็นบ้านของเจ้าหมอผีคนนั้น เพราะเคนก็อยู่ที่นี่ด้วย สำหรับหมอผีแล้ว ห้องพระต้องเป็นที่ที่ใช้เก็บทุกอย่างที่สำคัญทางคาถาอาคมแน่ เหมือนที่เจมส์เคยเก็บตุ๊กตาของเคนเอาไว้

…ถ้าเขาเข้าไปค้นหา…อะไรบางอย่างในห้องพระ บางอย่าง ที่อาจจะผูกมัดเด็กคนนั้นเอาไว้ จนไปกับเขาไม่ได้ แล้วทำลายมันเสีย เคนอาจจะเป็นอิสระ

น่าเสียดายนักที่เขาไม่ได้ศึกษาเรื่องไสยศาสตร์มาก่อนเลย ทำให้เขามีความรู้เรื่องนี้น้อยมาก ที่จะจัดการใด ๆ แผ่นหลังบอบบางขยับพิงฝาผนังเดินไปช้า ๆ อย่างไร้จุดหมายพอสมควร เขาไม่รู้แผนผังของบ้าน ไม่รู้อะไรเลย

มีเพียงจิตใจที่ยังคงมุ่งมั่น…เขาจะไม่กลับ จนกว่าจะช่วยเคนได้

ร่างผอมบางกัดฟันแน่น แล้วค่อย ๆ เดินต่อไปทีละก้าว ขาคล้ายจะหนักอึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขายังคงก้าวต่อไป

ใช่…เท่าที่กำลังอันน้อยนิดที่หลงเหลือ เขาจะต้องพยายามต่อไป…



ตอนนี้ดึกแล้ว ที่บ้านของหมอคง ยังคงเงียบสงัดเหมือนทุกครั้ง ร่างผอมสูงแข็งแรงของหมอคง มองดวงจันทร์บนท้องฟ้า คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด…ดวงจันทร์อันเป็นแหล่งขุมพลังที่อับแสง ทำให้พลังลดลงไปบางส่วน แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากลัวเกรงนัก เพราะไม่ใช่แค่พลังของเขาที่ลดทอน พลังอีกฝ่ายก็คงเป็นเช่นเดียวกัน

เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องลงมือในคืนนี้แน่นอน เพื่อทำการแย่งชิงเจ้าหญิง

แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก เพราะเขาเอง ก็เตรียมการต้อนรับไว้เรียบร้อยแล้ว

ร่างนั้นทรุดตัวลงนั่งที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระ ตระเตรียมการพร้อมรับการจู่โจม

ดวงตาคมมองมายังตุ๊กตาดินปั้นตัวหนึ่งเบื้องหน้า แล้วยิ้มกับตัวเองอย่างพึงใจ วิญญาณของเด็กคนนั้น จะอย่างไร ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดหนีกลับไปโดยง่าย แม้เจ้าหมอผีมือใหม่นั่นจะมาเอง ก็คงไม่สามารถทำได้

เพราะเขาได้ตกลงทำสัญญาบางอย่างกับเด็กคนนั้นไว้แล้ว…สัญญาที่ต้องรักษาด้วยชีวิต และจิตวิญญาณ

เป็นสัญญาที่จะพันธนาการเด็กคนนั้นไว้ ไม่ให้สามารถหลบหนีจากไปได้อีก

เป็นสัญญา…ที่ทำขึ้นด้วยความเต็มใจของเจ้าตัวเอง!

ทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เขาจะให้พวกมัน ได้ลิ้มรสชาติความทุกข์ทรมาน…ทั้งทางกาย และทางใจ

ใบหน้าแกร่งยิ้มเย็นให้กับตัวเอง คนที่กล้าคิดจะมาต่อกรกับเขา มันจะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม!



เสียงสวดมนต์ทุ้มต่ำแผ่วเบาเนิบช้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้น มือแกร่งผสมดินเหนียวกับขี้ผึ้งเข้าด้วยกัน ก่อนปั้นเป็นรูปทรงอย่างตั้งใจ ทุกปลายนิ้วที่กดย้ำ ซ้ำด้วยการร่ายอาคมอันหนักแน่นแม่นยำ อำนาจลี้ลับที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ หากคนนั่งใกล้ ยังคงสัมผัสได้จนรู้สึกถึงความยำเกรงของตนเอง

ไสยศาสตร์ที่เคยคิดว่าไม่น่าจะมีจริงได้…กลับเป็นสิ่งลี้ลับที่ยากจะพิสูจน์เสียจริง

ปรางทิพย์ที่เคยเชื่อแต่วิทยาศาสตร์มาตลอดชีวิต ก็พึ่งได้สัมผัสกับมันในวันนี้

ตุ๊กตาดินปั้นเป็นสัตว์สี่เท้า มีเขาแหลมโค้งยาว ถูกวางลงบนแผ่นยันต์เขียนไว้ละเอียดประณีตบรรจง ก่อนคนทำจะสาธยายมนตราต่อไป เพียงไม่นานนัก ร่างตุ๊กตาก็หายวับไปจากผืนผ้า จนเด็กสาวที่มองอยู่ใกล้ ๆ แทบหยุดเสียงอุทานอย่างตกใจไม่ทัน

มือแข็งแรงเอื้อมไปหยิบขันเงินใส่น้ำมนต์ที่วางไว้ด้านข้างมาวางตรงหน้า ในขันนั้นมีน้ำใส แม้จะมีคราบของหยดเทียนลอยปะปนบ้าง วงน้ำที่นิ่งในตอนแรกเริ่มกระเพื่อมเป็นจังหวะ รับกับการสวดมนต์ แล้วค่อย ๆ ปรากฏภาพขึ้นจากม่านวงน้ำกระเพื่อม ที่ได้ยินกระทั่งเสียง…

ภาพที่เห็นเป็นภาพบ้านหลังหนึ่งที่คุ้นตา…บ้านหลังนั้น คือบ้านของหมอผี ที่พวกเขาตามชวรัตน์ไปเมื่อตอนหัวค่ำ ร่างหนาปราดเปรียวร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในม่านน้ำเหนือตัวบ้าน เสียงคำรามและเสียงฮึดฮัดดังเบา ๆ ดวงตาเรืองแสงวาบวับ หัวที่มีเขาโง้งดำขลับขยับส่ายไปมา ก่อนตรงเข้าขวิดพื้นที่อาณาเขตศัตรูแทบจะในทันที

เสียงเปรี๊ยะดังลั่นจากการปะทะที่อาณาเขตอันศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่าย ก่อนร่างหนาสูงใหญ่นั้นจะกระเด็นสะท้อนกลับ มันถอยมาตั้งหลักแล้วตั้งท่าพุ่งใส่เข้าใหม่โดยไม่รอรีอีกครั้ง

หลังจากพยายามชนซ้ำ ๆ ม่านฟ้าเหนือตัวบ้านเริ่มคล้ายมีรอยร้าว เสียงเปรี้ยง ๆ ดังไม่มีหยุด เมื่อเขาอันแหลมคมกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนร่างนั้นจะถอยผงะหยุดชะงัก เมื่อเห็นร่างใหญ่โตของสัตว์อาคมของอีกฝ่าย ซึ่งยืนจังก้าขวางทางไว้อย่างเห็นได้ชัด

ทั้งคู่ยืนคุมเชิงกันเป็นครู่ดึงความสนใจกันและกันไว้ ในขณะที่เจมส์บอกให้ปรางทิพย์ติดต่อกับธนัท ส่งสัญญาณให้ลอบเข้าไปได้

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #271 เมื่อ18-10-2011 11:50:11 »

ธนัทที่จอดรถรออยู่นานแล้วรับโทรศัพท์จากปรางทิพย์ หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เขาก็เริ่มปฏิบัติการ เพราะดูลาดเลามาก่อนล่วงหน้าแล้ว ทำให้การเคลื่อนไหวนั้นคล่องแคล่วว่องไวนัก เขาขยับแนบกำแพงบ้านเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ก่อนค่อย ๆ โหนตัวปีนลงบริเวณบ้าน บ้านของหมอคงเป็นบ้านขนาดไม่ใหญ่นัก และด้วยความเป็นคนที่ไม่ชอบยุ่งกับใคร จึงไม่มีคนงานพักในบ้านยามค่ำคืน ส่วนใหญ่แล้วจะมาและกลับไปก่อนจะมืด เนื่องจากบริเวณบ้านเลี้ยงสิ่งเหนือธรรมชาติไว้มากจนยากจะหาใครกล้าอยู่ค้างยามค่ำคืนได้

เหตุการณ์ต่อสู้ที่เกิดขึ้น ธนัทล้วนมองไม่เห็น ภาพที่เกิดเห็นได้เพียงในญาณพิเศษของหมอผีด้วยกันเท่านั้น และแน่นอน…ผลกระทบจากการต่อสู้ ก็ย่อมตกต่อคนก่อเพียงเท่านั้นเช่นเดียวกัน

ไสยดำไม่เคยทำให้ใครได้ดี… แต่เจมส์ไม่มีทางเลือก แต่เขาก็จะพยายามจะใช้มัน…โดยไม่ต้องถึงกับพรากชีวิตผู้คน ผิดกับหมอคง ที่ไม่มีลังเลกับการใช้งาน และนั่น…ทำให้เจมส์ตกเป็นรองอย่างช่วยไม่ได้

แต่การดึงความสนใจของหมอผีไป ย่อมทำให้ธนัทลงมือได้สะดวกขึ้น และเขาก็หวังว่าอีกฝ่าย คงไม่รู้ตัวเร็วนัก ถึงการมีผู้บุกรุกเข้ามาในบริเวณบ้าน หรือถ้ายังรู้ตัว เจมส์ก็จะพยายามขัดขวาง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!

ในตอนนี้ตัวบ้านยังคงเงียบเชียบ ไม่มีสัญญาณของสิ่งชั่วร้ายใด ๆ มาต่อต้านการบุกรุก ธนัทถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เมื่อมาหยุดอยู่ที่ชายคาบ้านได้สำเร็จ ภายในบ้านมีไม่กี่ห้องที่ยังเปิดไฟ และเขาคาดได้ว่า บริเวณดังกล่าวนั้น ย่อมต้องเป็นบริเวณที่มีคนอยู่

พวกนั้นจะจับปวินต์ไปไว้ที่ไหนกันนะ? เขาเองก็เสี่ยงมาก ที่ลอบเข้ามา โดยไม่รู้กระทั่งแผนผังของบ้านดีนัก เพราะด้านในยังคงไม่สามารถจะเข้าไปสำรวจได้อยู่ดี หากขณะกำลังลอบมองห้องที่มีไฟเปิดสว่างนั้น เขาก็ได้เห็นหมอคง กำลังรวบรวมสมาธิ สวดมนต์และจดจ่อกับอะไรบางอย่าง สายตาเขาดีพอจะเห็นอีกด้วยว่าที่ด้านข้างห้องอันเป็นส่วนมืดอันลับตานั้น มีร่างของใครบางคน กำลังลอบมองมา ร่างนั้นเอนอิงตัวผนังเสียแนบชิด เคลื่อนไหวเชื่องช้าราวไร้เรี่ยวแรง แต่ถึงอย่างนั้น ท่วงท่าที่เห็นกลับคล้ายพร้อมจู่โจมเข้าไปภายในได้ทุกเมื่อ

เขาพอจะจำรูปร่างนั้นได้ แม้จะเห็นไม่ชัดนัก แต่คนที่กำลังลอบจ้องมองการทำพิธีของหมอคงอยู่นั้น คงเป็นปวินต์!

มือของธนัทเริ่มชื้นเหงื่อ ปวินต์กำลังมองการทำพิธีนั้นอย่างตั้งใจและคล้ายกำลังตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มใจหายวูบเมื่อคิดได้ว่า อีกฝ่าย คงกำลังพยายามจะช่วยเคนแน่ ๆ

“พี่นัท…ห้ามพ่อวินต์ไว้…อย่าให้เขาเข้ามา…เอาตัวเขาออกไป เร็วเข้า!”

เสียงเด็กน้อยดังเข้ามาในจิตสำนึก ทำให้เขาชะงัก แม้มันจะดูอ่อนล้าเต็มที เขาค่อย ๆ แฝงตัวเข้าไปอย่างเชื่องช้ากว่าเก่า แล้วรวบตัวคนกำลังแอบอยู่นั้นไว้

ปวินต์สะดุ้งเฮือก พยายามดิ้นรนต่อต้าน แต่เสียงกระซิบที่คุ้นหู ทำให้เขาหยุดดิ้นไปเลย “นี่นาย!”

“ผมเองครับคุณวินต์ อย่าเข้าไปนะครับ” ธนัทรีบเบรกอีกฝ่ายไว้

“แต่ว่า…” ร่างนั้นพยายามจะขัดขืน ทั้ง ๆ ที่ยังคงไร้เรี่ยวแรง มือที่เกาะตัวธนัทไว้แทนที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ล้ม ยังคงเกร็งแน่น “เคน…ต้องช่วยเคน…ได้โปรดเถอะ ช่วยเด็กคนนั้น” เขาอ้อนวอนทั้งน้ำตา มือที่กำแน่นแสดงชัดถึงความเจ็บปวดใจ

“มันทำอะไรเคน” ธนัทถามอย่างรวดเร็ว

“ฉันเห็น…เจ้านั่นใช้ตุ๊กตาตัวนั้น…รองรับการต่อสู้ที่มองไม่เห็น ฉันได้ยินเสียงเคนร้อง…เขาทรมานมาก ใครบางคน กำลังสู้กับเจ้าหมอผีนั่น…แล้วเคน…”

ภาพที่เห็นทำให้ธนัทชะงักไม่ต่างกัน ตุ๊กตาตัวนั้น ปั้นเป็นรูปเด็กน้อย ที่เขาเห็นจนชินตา แม้จะเป็นคนละตัวกับที่มีในบ้านของเจมส์ และที่เห็นได้ชัด ร่างตุ๊กตานั้นกำลังปริแตก…เป็นรอยร้าวที่มีเลือดไหลซึม เสียงร้องที่พยายามอดทนกล้ำกลืนไว้ ดังมาเป็นระยะ อย่างสุดแสนจะบาดใจ

“เด็กคนนั้นพยายามจะช่วยฉัน…ช่วยเขา…ช่วยเขานะ” ร่างนั้นแทบจะยืนไม่อยู่แม้จะยังพยายามอ้อนวอน

“หนีไป…พี่นัท…พาพ่อวินต์ออกไป…อย่าให้ความพยายามของผมเสียเปล่า…พี่ตัดตัวผมจากการควบคุมของหมอผีนี่ไม่ได้หรอก เขาผูกมัดตัวผมไว้…ถึงพ่อมาเอง…ก็ตัดไม่ได้อยู่ดี”

“ฉันต้องช่วย…!” ปวินต์พยายามดิ้นรน แต่ธนัทที่ตัดสินใจได้ในเสี้ยววินาที ใช้ข้อมือฟันที่ท้ายทอยชายหนุ่มจนหมดสติไป ดีว่าธนัทมีวิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง ทำให้เขาสามารถหยุดคนที่กำลังคุ้มคลั่งตรงหน้าได้

เขารู้ดีว่าสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือรีบล่าถอยออกไป และสั่งให้เจมส์…หยุดการใช้อาคม โดยเร็วที่สุด

ให้ปวินต์ปลอดภัยก่อน แล้วค่อยหาทางชิงตัวเคนกลับมาก็ยังไม่สาย

แต่ต้องให้เจมส์รีบหยุดการต่อต้านทุกอย่าง…โดยทันที!

ร่างคล่องแคล่วอุ้มตำรวจหนุ่มที่ไม่ได้สติ แล้วรีบหลบออกจากตัวบ้านไปอย่างรวดเร็ว

พอถึงที่รถ เขาก็วางร่างที่หมดสติลงที่เบาะหลัง ก่อนโทรศัพท์หาปรางทิพย์โดยเร่งด่วน

“บอกเจมส์ให้หยุดใช้อาคมเดียวนี้!” เสียงของเขาแทบจะเป็นเสียงตะโกน…ใช่ เพราะเสียงทรมานของเด็กคนนั้น ยังคงติดหูเขาไม่หาย เจมส์จะต้องหยุดการจู่โจมทั้งหมด พวกเขา…ยังทำอะไรเจ้าหมอผีนั่นไม่ได้

เจ้าเล่ห์นักนะ แล้วแบบนี้ เจมส์จะสู้ได้อย่างไรกัน

“เกิดอะไรขึ้นคะพี่นัท” ปรางทิพย์ถามขึ้นอย่างร้อนรน เธอรีบบอกเจมส์ให้หยุดการต่อสู้แทบจะในทันที

“พวกมันใช้เคนเป็นตุ๊กตารับเคราะห์…การจู่โจมทั้งหมด เจ้าหมอผีมันไม่เป็นอะไรเลย แต่เคน…เคน”

มือแข็งแรงคว้าโทรศัพท์จากปรางทิพย์มาพูดเสียเอง เพราะเด็กสาวเริ่มตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก

“อะไรกันเจ้านัท เคนเป็นยังไง”

“เด็กคนนั้น…บาดเจ็บมาก จากการต่อสู้กับนาย!”

คนฟังชะงักค้าง แทบจะทำโทรศัพท์ร่วงจากมือแล้ว แต่เพราะร่างเล็ก ๆ ที่ยังคงตัวสั่น ซึ่งยึดชายเสื้อเขาไว้ ทำให้เขารู้สึกว่าต้องเข้มแข็งขึ้น มือที่ถือโทรศัพท์กระชับกว่าเดิม ก่อนกรอกเสียงถามกลับไปว่า

“นายได้ตัวคุณวินต์มาแล้วหรือยัง”

ธนัทที่ยังคงอยู่ในสภาวะที่ตกใจพยายามตั้งสติเมื่อได้ยินเสียงหนักแน่นถามมา เขารีบตอบกลับไปว่า

“ฉันได้ตัวเขามาแล้ว ขนาดไม่มีแรงยังดื้อจะช่วยเคนให้ได้ แต่ฉันไม่กล้าเข้าไประหว่างพิธี เพราะกลัวว่าแทนที่จะช่วยได้ จะกลายเป็นแย่กว่าเก่า ฉันเลยจัดการทำให้สลบไปแล้ว จากนั้นก็โทรมาหานายนี่ล่ะ”

เจมส์หายใจเข้าลึก เขารู้ดีว่าในยามนี้ สติต้องมาก่อน “นายทำถูกแล้ว รีบเอาคุณวินต์ออกมาจากที่นั่น ให้เร็วที่สุดเลยนะ”

“แต่เจมส์…เคนล่ะ”

“ฉันพอจะรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราฝืนเอาตัวเคนมาจากเจ้าหมอผีนั่นตอนนี้ โดยไม่ให้เคนได้รับอันตรายไม่ได้หรอก เชื่อฉัน พวกนายกลับมาก่อน แล้วเราค่อยวางแผนกันอีกที”

ธนัทมองร่างที่สลบอยู่พลางถอนหายใจ ห่วงเคนเขาก็ห่วง สภาพเด็กคนนั้นดูไม่ดีเลยจริง ๆ แต่ถ้าเป็นอย่างที่เจมส์พูด เขาก็คงต้องเชื่อเจมส์เท่านั้น

“ตกลง เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไป” เขาตัดสายก่อนจะขับรถกลับมาทั้งอย่างนั้น…



ร่างที่โงกหลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างงุนงง และงงหนักกว่าเก่า เมื่อเห็นคนปลุกเป็นหมอคงเสียได้ เตียงด้านข้างที่ว่างเปล่าทำให้คนมองมาชะงักและเริ่มโวยวายอย่างหัวเสีย เขาพอจะคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ปวินต์…ที่ดูไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัวด้วยซ้ำ กลับหายตัวไป

“ปวินต์ล่ะ…เจ้านั่น…ทำไมฉันหลับไปได้ล่ะเนี่ย” สารวัตรธนดลพึมพำอย่างตกใจ มือใหญ่ลูบหน้าซ้ำ หมอคงมองมาอย่างไม่แปลกใจนัก ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พวกนั้นเข้ามาช่วยเจ้าหญิงออกไปแล้ว”

“อ้าว แล้วหมอคงไม่…” คนฟังเริ่มฮึดฮัด เพราะเป้าหมายถูกชิงตัวไปง่ายจนเขาแทบไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมน่ะรู้ตัวตั้งแต่มันเข้ามาแล้ว แต่ปล่อยให้มันพาตัวเจ้าหญิงกลับไปเอง”

“ทำไมล่ะ เราจะเสียเปรียบนะ”

“หึ ไม่หรอก แต่ผมต้องทำแบบนี้ เพราะนี่…คือข้อตกลง ที่ผมทำไว้ กับเจ้าเด็กกุมารทองนั่น ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มีกระทั่งแรงจะเดินได้หรอก!”

“หมายความว่าไงกัน” คนถามเริ่มงุนงง

“ปล่อยให้ปวินต์กลับไปอย่างปลอดภัย นั่นคือเงื่อนไข ที่เด็กนั่นยื่นให้ฉัน ก่อนจะยอมทำสัญญาผูกมัดกับตัวผมเพื่อเป็นตัวรับเคราะห์แทน…ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ”

“หมายความว่า หมอคงใช้กุมารทองนั่นเป็นตัวรับเคราะห์งั้นเหรอ” ธนดลเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“ใช่ การจะใช้ ต้องได้รับการยินยอมจากตัวกุมารทองเองด้วย และนั่น…คือสิ่งที่เด็กคนนั้นต้องการ”

“แล้วคุณก็เลยปล่อยไป?”

“หึ พวกมันจะทำอะไรได้ ในเมื่อฤทธิ์ยาสั่งยังคงอยู่ เรื่องนี้อยู่นอกเหนือข้อตกลงอยู่แล้ว และผม…ยังสามารถควบคุม ทำให้เจ้านั่น ทรมานจนตายเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญ ไม่ว่าเจ้าหมอผีมือใหม่จะลงมือทำคุณไสยอะไรกับตัวผม มันจะกลายเป็นการทรมานกุมารทองของมันเอง!”

ว่าพลางพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนคนฟังอดจะขนลุกตามไม่ได้ “ปล่อยมันกลับไปนั่นแหละดีแล้ว…ให้พวกมันได้เห็นตอนกำลังทรมาน…ให้เห็นตอนกำลังใกล้จะตายอย่างใกล้ชิด พวกมันจะได้ไม่ต้องคิดมาก…และพร้อมจะส่งของที่เราต้องการทั้งหมด มาให้พวกเรา!”

คนฟังหัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน แม้จะสยองอยู่มาก

“คุณนี่นะ ร้ายจริง จริง ๆ ก็ตั้งใจจะส่งเจ้าหญิงคืนให้พวกนั้นอยู่แล้วไม่ใช่รึ ไม่เห็นต้องตั้งรับต่อสู้กับเจ้าหมอผีนั่นให้เสียเวลาเลย”

ดวงตาคมเป็นประกายกล้าอย่างน่ากลัว แล้วหัวเราะอย่างพึงพอใจ

“มันก็ใช่…แต่ว่า เรื่องอะไรจะยอมให้มันง่าย ๆ พวกมันหยามผมมากเกินไปแล้ว…ดังนั้น จะต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบเสียหน่อย ว่าคิดต่อต้านผม…แล้วจะเกิดอะไรขึ้น!”


จบตอน

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #272 เมื่อ18-10-2011 11:53:39 »

เคนทำสัญญาอะไรกับเจ้าหมอคงหว่า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #273 เมื่อ18-10-2011 12:12:54 »

งืออ
เคนน่าสงสารมาก ทำยังไงถึงจะช่วยเคนได้นะ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #274 เมื่อ18-10-2011 12:19:12 »

 :monkeysad:โธ่..น้องเคน น่าสงสารอ่ะ ฮีโร่มากๆ ทำเพื่อพ่อเจมส์กับพ่อวินต์แท้ๆ เศร้าง่า :o12:

ทีนี้เจมส์จะสู้ไงล่ะเนี่ย :z3:

เปิดซิงเป็ดตอนนี้ ^^

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #275 เมื่อ18-10-2011 12:53:37 »

ง่ะหนูเคน :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #276 เมื่อ18-10-2011 12:56:46 »

เคนอ่าาาาาาาาาาาา

T^T   :o12:

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #277 เมื่อ18-10-2011 14:10:13 »

สงสารเคนอ่ะ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #278 เมื่อ18-10-2011 15:47:25 »

โฮ!!! เคนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #279 เมื่อ18-10-2011 16:47:24 »

สงสารเคน  ต้องช่วยเคนออกมาให้ได้นะ
หมอคงมันร้ายอ่ะ 
ร้ายๆแบบนี้อาดลระวังตัวเอาไว้เถอะ ร่วมมือกับเขาดีนัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
« ตอบ #279 เมื่อ: 18-10-2011 16:47:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #280 เมื่อ18-10-2011 16:51:38 »

 :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #281 เมื่อ18-10-2011 17:42:26 »

โอ๊ย   เซ็งมากถึงมากที่สุดเลยครับ    เซ็งเพราะอยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #282 เมื่อ18-10-2011 17:54:14 »

 :3125:

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #283 เมื่อ18-10-2011 18:08:32 »

ค้างตลอด

ออฟไลน์ DarknLight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #284 เมื่อ18-10-2011 18:09:55 »

นู๋เคน น่าสงสารมากกกกกกกกก  :o12:
 :z6: พวกเล่นไสยดำ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #285 เมื่อ18-10-2011 18:42:01 »

สงสารเคนอะ

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #286 เมื่อ18-10-2011 20:00:17 »

สงสารน้องเคน

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #287 เมื่อ18-10-2011 22:06:24 »

เลวขั้นสุดเลย หมอผีคง
เจ้าเล่ห์จอมมารร้าย สารเลว
มีคำด่าอื่นอีกมั้ยเนี่ย -*-

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #288 เมื่อ18-10-2011 23:06:35 »

อำนาจพุทธคุณชนะมนต์ดำต่ำช้าฉันใด พ่อเจมส์ย่อมชนะไอ้หมอ(หมา)คงฉันนั้น


เป็นกำลังใจให้พ่อเจมส์ช่วยลูกเคนกับแม่หญิงวินต์ให้ได้โดยไว


นี่ถ้าไม่ติดว่าพ่อเจมส์เป็นคนดี.... ก็อยากจะยุเปิ้นหื้อส่งอีเม้ยไปจั๊ดก๋านไอ้จ้าดง่าวคงนั๊ก


ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #289 เมื่อ19-10-2011 00:01:40 »

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

สงสารเคน น้ำตาจะไหล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
« ตอบ #289 เมื่อ: 19-10-2011 00:01:40 »





ออฟไลน์ CMYK

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #290 เมื่อ19-10-2011 00:18:06 »

สู้ๆนะเคน สู้เพื่อพ่อ

fahsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 13 (18/10/11)
«ตอบ #291 เมื่อ21-10-2011 00:45:32 »

หมอคง!! จะเลวเกินไปแล้วนะ    :beat: :beat: :beat: :z6: :z6:   :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #292 เมื่อ23-10-2011 21:04:22 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 14



เสียงแตรรถกดสั้น ๆ เรียกที่หน้าประตู ทำให้คนที่นั่งใจคอไม่ดีอยู่ในบ้านแทบผวา เด็กสาวที่นั่งรอใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งเฮือก เธอรีบผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนบอกว่า “ปรางไปเปิดประตูนะคะ”

    ไม่มีอำนาจชั่วร้ายตามมาจนรู้สึกได้ เจมส์จึงพยักหน้ารับ ปล่อยให้เด็กสาวออกไป ในขณะที่ตัวเขาเองยังคงง่วนอยู่กับการตรวจสอบตุ๊กตากุมารทองที่เคนเคยใช้สิงสถิตย์อย่างเคร่งเครียด

    เคนเป็นกุมารทองที่อยู่กับเขามาตั้งแต่รุ่นพ่อ โดยการทำข้อตกลงบางอย่างร่วมกัน การผูกมัดกันและกันไว้ ทำให้วิญญาณไม่สามารถไปไหนได้ แต่สาเหตุที่พ่อเขาต้องทำเช่นนั้น ก็เพราะต้องการช่วยเคน จากหมอผีที่ชั่วร้าย ซึ่งเป็นคนดูแลเคนก่อนหน้านี้

แต่ในยามนี้ที่พ่อของเขาตายจากไป สัญญาณนั้นก็คล้ายถูกยกเลิกไปโดยปริยาย และตัวเขาเอง ก็ไม่ได้คิดจะเหนี่ยวรั้งเด็กคนนี้ไว้ ด้วยพันธสัญญาพวกนั้นอีก ดังนั้นระหว่างเขากับเคน จึงมีเพียงสัญญาทางใจว่าจะไม่ทิ้งกันเท่านั้น

กุมารทองที่ไม่มีเจ้าของจากการทำสัญญา จึงสามารถทำสัญญากับผู้อื่นได้อีก โดยเฉพาะยามห่างไกลตุ๊กตาที่ใช้สิงสถิตย์เดิมจนอ่อนฤทธิ์ลงเช่นนี้

และนั่นเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เคนตกลงอะไรกับเจ้าหมอผีนั่น…การตัดสัญญา ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย พ่อของเขา ต้องยอมลดทอนอายุขัยตนเองอีกหลายปี เพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทนนี้ ก่อนจะได้รับเด็กคนนี้มา

แต่ในตอนนี้ เคนกลับไปทำสัญญากับเจ้าหมอผีนั่น…เขาไม่รู้ถึงเงื่อนไขของสัญญานั้น แต่แน่ใจว่าทุกอย่างที่เคนทำ จะต้องเพื่อช่วยเหลือตัวเขาและปวินต์ไว้แน่ ๆ



ประตูเปิดออกอีกครั้งโดยปรางทิพย์ เด็กสาวเอี้ยวตัวหลบให้ธนัทซึ่งอุ้มปวินต์ที่ยังไม่ได้สติเข้ามา สีหน้าของเธอยังคงไม่ดีนัก แต่ก็อุ่นใจเล็กน้อยที่ได้เห็นหน้าผู้เป็นพี่แม้ว่าจะยังไม่ได้สติ

เจมส์ลุกขึ้นจากการทำพิธีแล้ววางตุ๊กตากุมารทองลง เขารีบนำพาอีกฝ่ายไปยังห้องนอนของตน แล้วจัดแจงให้คนยังไม่ได้สตินอนลงอีกครั้ง สองหนุ่มสบตากันก่อนที่เจมส์จะหันมาหาเด็กสาว “พี่ฝากคุณวินต์ไว้หน่อยนะครับน้องปราง”

ปรางทิพย์เห็นสีหน้าของเจมส์ที่ยังคงเคร่งเครียด ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับ ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องที่ใบหน้าซีดเผือดของปวินต์อย่างเป็นห่วง เจมส์เห็นดังนั้นจึงก้าวยาว ๆ ออกมาจากห้อง โดยมีธนัทตามมาด้วย ท่าทางของเขาซีเรียสกว่าเดิม เมื่อถามกลับไปว่า

“เคนเป็นยังไงบ้าง”

ธนัทยังคงนิ่งเงียบ ภาพตุ๊กตาที่มีแต่บาดแผลปริแตก เลือดสีแดงสดที่ค่อย ๆ ไหลริน เสียงร้องที่สุดจะข่มกลั้นความทรมานไว้ แม้จะยังเด็ก แต่เคนก็อดทนสุดความสามารถแล้ว และทั้งหมด…ก็น่าจะทำเพื่อให้ปวินต์…หนีกลับมาพร้อมกับเขาได้นั่นเอง

แต่เขาจะบอกเล่าเรื่องพวกนี้ ให้เจมส์ผู้เปรียบเสมือนพ่อของเด็กน้อยฟังได้อย่างไร

ในเมื่ออาคมร้ายกาจทั้งหมดที่ถาโถมเข้าใส่ ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของเจมส์ทั้งนั้น

มือแกร่งเขย่าไหล่อีกฝ่ายอย่างร้อนใจจนเก็บไว้ไม่มิด เสียงเข้มถามกลับ “บอกฉันสินัท เคน…เป็นยังไงบ้าง!”

ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่คอยเยียวยาจิตใจอันอ้างว้างของเขามาตลอด…นับตั้งแต่พ่อตายจากไป

เด็กคนนั้น…สำคัญกับเขา ยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด

ท่าทางนั้นทำให้ธนัทได้แต่อ้ำอึ้ง

“ขอโทษนะ…ที่ฉันช่วยเด็กคนนั้นออกมาไม่ได้” ธนัทได้แต่พึมพำตอบไปเสียงแผ่ว เขาเองก็รู้จักเคนมาตั้งแต่เล็ก และเรียกได้ว่าเห็นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นน้องชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง เพราะเคนมักจะขี้เล่น และเข้าขาได้ดีกับตัวเขา เวลาจะรวมหัวกันหยอกล้อแกล้งเจมส์อยู่เสมอ

“เขาพยายามที่จะช่วยพวกเรา ถึงได้เป็นแบบนี้สินะ” เจมส์พึมพำออกมา ถึงธนัทจะไม่เล่า แต่เขาก็พอคาดเดาเหตุการณ์ได้ ยิ่งพบว่าสายสัมพันธ์ทางวิญญาณระหว่างตัวเขากับเด็กคนนั้นถูกตัดขาด เขายิ่งรู้สึกแน่ใจ

เคนตัดทางเชื่อมระหว่างตัวเขากับตนเองออกอย่างจงใจ เพื่อไม่ให้อีกฝ่าย สามารถส่งของร้ายย้อนกลับมาทำลายตัวเขาได้

และการที่ยินยอมทำสัญญาใหม่กับเจ้าหมอผีนั่นขึ้นมา ย่อมยิ่งแสดงว่า ข้อตกลงพวกนั้น…ต้องทำขึ้นเพื่อช่วยปวินต์…คนที่เคนรู้ดี ว่าเป็นคนสำคัญของเขา อย่างแน่นอน

ท่าทางที่ดูนิ่งกว่าที่เคย ทำให้ธนัทแอบกลัวอีกฝ่ายขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

เจมส์กำลังโกรธ…และยังโกรธมากเสียด้วย คนที่ทำร้ายคนในครอบครัวเขา เป็นสิ่งที่เขาอภัยให้ไม่ได้

“นายต้องใจเย็น ๆ นะเจมส์ ถ้านายใจร้อนบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป คนที่จะลำบากมากขึ้นก็คือเคนนะ” ชายหนุ่มพยายามเรียกสติผู้เป็นเพื่อน

“อีกอย่าง…คุณวินต์เองก็ดูอาการไม่ค่อยดีเลย ฉันว่า…นายไปดูเขาหน่อยดีกว่านะ”

มือแกร่งกำแน่นอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ร้อนให้ลดลง ก่อนจะมองหน้าธนัทแล้วพูดว่า “ฉันรู้ดีนัท…ไสยดำ…ไม่เคยทำให้ใครได้ดี…พ่อพูดไว้เช่นนั้นเสมอ” เสียงของเขาเศร้าลงเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเข้มเหมือนเก่า “จะยังไงฉันก็ต้องช่วยเคนให้ได้ เด็กคนนั้นเป็นครอบครัวของฉันเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่”

“ฉันเชื่อว่านายทำได้ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ทุกอย่างต้องมีทางแก้”

“ขอบใจนะนัท ฉันจะพยายามอดทน”

หากยังไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาดังโครมคราม ก่อนที่ร่างบอบบางที่ดูแตกตื่น จะเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าอันตื่นตระหนก

“พี่เจมส์คะ…พี่วินต์แย่แล้ว ช่วยด้วยค่ะ!” เธอว่าพลางวิ่งนำกลับไปยังห้องที่จากมา

เจมส์และธนัทมองหน้ากัน ก่อนรีบวิ่งตามเธอกลับไปยังห้องนอนทันที



บนเตียงนั้น ปวินต์ในชุดที่ผลัดเปลี่ยนใหม่แล้ว ด้วยฝีมือของผู้เป็นน้องสาว นอนอยู่บนนั้น หากร่างนั้นดิ้นรนกระสับกระส่าย แม้จะยังไม่ได้ลืมตา ร่างกายที่ปั่นป่วนทรมานอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คนมาใหม่ตะลึงงันอย่างตกใจ

“คุณไสย…เขาโดนคุณไสย…บางทีอาจจะเป็น” เจมส์พึมพำ เขารู้สึกใจหายวาบ กับภาพที่เห็น

ร่างนั้นไอออกมาอย่างอึดอัด มีเลือดเล็กน้อยปะปน คนมองยิ่งตกตะลึง อาการไอเป็นเลือด…และอีกหน่อย…จะเริ่มเป็นลิ่มเลือดสด ๆ มากขึ้นทุกที…มีตะปูและของมีคม ปะปนมาด้วย มันคืออาการที่ชิดชัยเป็น…จนถึงแก่ความตาย!

แม้ตอนนี้จะยังมีแค่เลือดซึมเพียงเล็กน้อย แต่มันก็บอกได้ชัดถึงอาการขั้นต้น

ปวินต์โดนยาสั่งงั้นรึ เมื่อไหร่กัน!

เจมส์มองมาด้วยสีหน้าที่ซีเรียสกว่าเก่า สิ่งที่เขากำลังกลัว มันจะกลายเป็นจริงงั้นหรือ

เขายังไม่สามารถแก้ฤทธิ์ยาสั่งนั้นได้เลย เหมือนในครั้งนั้น…ที่ต้องปล่อยชิดชัยตายจากไป โดยไม่อาจช่วยไว้ได้

“พี่วินต์คะ…พี่วินต์!” เด็กสาวพยายามจับตัวผู้เป็นพี่ชายไว้ เธอกอดร่างเขาพลางร่ำไห้ เลือดที่ปะปนออกมาทำให้เธอใจหายวาบ ท่าทางที่อึดอัดทรมาน เหงื่อที่ผุดพรายทั่วตัว และมือที่เกร็งแน่น เห็นได้ชัดว่ากำลังเจ็บปวด

เจมส์มองมาก่อนรีบตัดสินใจช่วยอย่างเร่งด่วน เขาวิ่งกลับไปยังห้องพระ หยิบขันน้ำมนต์และผ้าขึ้นมา มือแกร่งส่งผ้ากับขันน้ำมนต์ให้ปรางทิพย์ ก่อนเริ่มต้นปลดกระดุมเสื้อของปวินต์ที่ยังไม่ได้สตินั้น

“ชุบน้ำให้พี่หน่อยครับ พี่จะใช้น้ำมนต์เช็ดตัวเขา ต้องล้างฤทธิ์อาถรรพ์ออกไปให้มากที่สุด” เจมส์สั่งเด็กสาวเบา ๆ

ปรางทิพย์ส่งผ้าชุบน้ำมนต์หมาด ๆ ให้ชายหนุ่ม เจมส์รับมาอีกครั้งก่อนสวดมนต์อย่างช้า ๆ พลางค่อย ๆ ใช้ผ้าเช็ดตัวปวินต์ไปด้วย มือแข็งแกร่งที่ค่อย ๆ เวียนซับทั้งใบหน้าและร่างกายนั้นอย่างตั้งใจและมีสมาธิ เนิ่นนานทีเดียว กว่าร่างที่เกร็งแน่นค่อย ๆ ผ่อนคลายลงทีละน้อย จนในที่สุดก็สงบลงได้

ชายหนุ่มถอนใจยาว ก่อนจะค่อย ๆ จับร่างบอบบางนั้นให้นอนลงอีกครั้ง

“ตอนนี้คงค่อยยังชั่วแล้วล่ะนะ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่แววตาของเขากลับยังดูกังวล ยังไม่ทันได้โล่งใจอันใด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนปรางทิพย์จะลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ของปวินต์ ที่เธอวางแยกไว้ออกมา

เธอมองเบอร์ที่โทรมานั้น ก่อนจ้องหน้าเจมส์อย่างตื่น ๆ

“สารวัตรธนดลค่ะ”

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #293 เมื่อ23-10-2011 21:07:16 »

เจมส์คว้าโทรศัพท์จากเด็กสาวมาพูดเสียเอง

“สวัสดีครับ คุณเจมส์ใช่ไหมครับ” เสียงนุ่ม ๆ กวน ๆ นั้นทำให้แน่ใจว่าใช่เจ้าตัวแน่ ๆ

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” เจมส์ตอบเสียงห้วน ยังคงเคืองไม่หายด้วยรู้ว่าเป็นคนลักพาตัวปวินต์ไปแน่ ๆ และอาการของปวินต์ที่เห็นชัดในตอนนี้ ก็คงเป็นฝีมือคน ๆ นี้เช่นเดียวกัน

คนฟังหัวเราะเบา ๆ “คุณนี่นะ ไม่รับแขกเอาเสียเลย อ้อ…ว่าแต่ว่าคุณคงเห็นอาการของ ‘เขา’ แล้วใช่ไหม”

มือของเจมส์กำโทรศัพท์แน่น ก่อนถามกลับไป “แก…ทำอะไรคุณวินต์น่ะ!”

“ไม่สุภาพเลยนะครับ ผมน่ะ เป็นแค่ผู้ส่งข่าวเท่านั้น หมอคงฝากมาบอกว่า เมื่อกี้…แค่การทักทายเท่านั้น อาการจะค่อย ๆ กำเริบ …และจะรุนแรงขึ้น…มากขึ้นทีละนิด…กัดกร่อนชีวิตไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะตาย คุณมีเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น ในการตัดสินใจ ก่อนที่คนสำคัญของคุณ…จะทรมานจนตายแบบชิดชัย!”

“กะ…แก!”

“ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้ายังอยากช่วยชีวิตของเขา…คุณรู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าจะต้องทำยังไง โทรมาหาผม เมื่อคุณตัดสินใจได้ก็แล้วกัน อ้อ…อย่าลืมว่าถ้าคุณโจมตีอะไรใส่หมอคงอีกล่ะก็ คงรู้นะ…ว่าเด็กคนนั้น จะเป็นยังไง” คำพูดสุดท้ายดักคอชายหนุ่มได้ชะงัดนัก และพอพูดจบอีกฝั่งก็ตัดสายไปในทันที

“เดี๋ยวสิ!” เจมส์พยายามเรียกไว้ แต่อีกฝ่ายวางหูไปเรียบร้อยแล้ว

ร่างสูงของเจมส์ทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ใกล้ ๆ เขาวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ อย่างหนักใจกว่าเดิม

ตอนนี้เขาเสียเปรียบอีกฝ่ายแทบทุกประตูแล้ว…จะมีทางไหนบ้าง ที่เขาจะช่วยปวินต์ได้

คำตอบในตอนนี้มีเพียงการส่งมอบของพวกนั้นกลับคืนไป…แต่ว่า…ทำแบบนั้น จะดีแล้วงั้นหรือ?

มีเวลาอีกสามวันเท่านั้น…สำหรับการตัดสินใจ แต่ถ้าปวินต์ยังต้องทรมานขนาดนี้ เขาจะทนไปได้สักแค่ไหนกัน

ต้องเดิมพันกับความรู้ทั้งหมดที่มีเสียแล้ว เขาก็ได้แต่หวัง ว่าจะมีสักอย่างที่จะช่วยชีวิตของปวินต์ไว้ได้

ขอให้มันมีเถอะน่า ไม่ว่าจะวิธีการยากลำบากแค่ไหน เขาก็จะต้องทำให้ได้!



    ปวินต์ลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมึนงง เขายังคงรู้สึกคลื่นไส้และเวียนหัวอยู่เล็กน้อย แม้ว่าร่างกายจะไม่ไหว แต่สมองของเขายังคงพอทำงานได้บ้าง ดังนั้นพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านข้าง ซึ่งแทบจะโงกหลับไปแล้ว แต่พอเขาขยับตัวเพียงนิดเดียว อีกฝ่ายก็แทบจะผุดลุกพรวดขึ้นมาอย่างยินดี ที่เห็นเขาลืมตาขึ้นมาได้ในที่สุด

“คุณวินต์” เขาร้องเรียกก่อนถามต่อไปว่า “จำได้ไหมครับ ว่าผมเป็นใคร”

“….” ปวินต์นิ่งคิดไปเป็นครู่ สมองของเขามึนงงและสับสนมากพอดู “เจมส์…สินะ ที่นี่…”

เจมส์ส่งยิ้มน้อย ๆ มาให้ แม้มันจะแฝงความเศร้าอยู่ลึก ๆ “ที่นี่บ้านผมเองครับ”

“ฉัน…มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ปวินต์หลับตาลง และพอคิดทบทวนเหตุการณ์แล้ว คนป่วยก็แทบจะลุกพรวด ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีเรี่ยวแรงอย่างตกใจ

    “เคน…เคนล่ะ….เคนล่ะเจมส์” เสียงละล่ำละลักรีบถาม

    คนถูกถามชะงัก ก่อนส่ายหน้าเบา ๆ

    “ไม่นะ…ทำไมนายไม่ช่วยเขามาด้วย เด็กคนนั้น..กำลังทรมานมากนะ ช่วยเขาด้วย…ช่วยเขานะเจมส์” เสียงที่ยังคงแหบพร่าพร่ำย้ำ ด้วยดวงตาที่เอ่อคลอ ความเป็นห่วงเด็กน้อย ทำให้แทบจะลืมเลือนอาการเจ็บป่วยของร่างกายไปหมดสิ้น

    “ผมขอโทษครับ…ที่ผมมันไม่ได้เรื่องเอง” ชายหนุ่มพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามสะกดกลั้นไว้จนราบเรียบ มือเพรียวทุบที่ตัวเขาอย่างไม่ยินยอม แม้มันจะไม่แรงจนเขาเจ็บ เพราะอีกฝ่ายแทบไม่เหลือแรงแล้ว แต่ในใจของเขากลับเจ็บเสียยิ่งกว่า ร่างสูงปล่อยให้อีกฝ่ายโวยวายจนพอใจ แล้วกอดร่างที่สั่นระริกไว้

    “ผมขอโทษจริง ๆ ครับคุณวินต์…” อ้อมแขนที่โอบกอด รัดแน่นจนปวินต์เริ่มอึดอัด แม้น้ำเสียงนั้นจะยังเหมือนปกติ แต่มันก็บอกได้ชัด ว่าอีกฝ่ายกำลังแย่สักแค่ไหน เขาเองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าเจมส์ที่อยู่กับเด็กคนนั้นมาเนิ่นนานจนถึงตอนนี้ ย่อมจะต้องเจ็บปวดมากกว่าตัวเขา ที่พึ่งได้พบหน้ากันอย่างเทียบไม่ติด

    ไหนจะเพราะเขาเองอีกด้วยซ้ำ ที่ทำให้เคนลำบากกว่าเดิม โดยที่ไม่อาจช่วยเหลือกลับมาตามที่ได้สัญญาไว้

    แต่เจมส์ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรเลย ไม่ได้ตัดพ้อต่อว่า อย่างที่เขาเองพึ่งทำไปเมื่อครู่เสียด้วยซ้ำ

    ความเสียใจที่ฝังลึก ทำให้ปวินต์เริ่มเข้าใจ และรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย เขากอดรับอีกฝ่ายไว้ และเลิกโวยวายโดยสิ้นเชิง

    “ขอโทษนะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่านายต้องทำสุดความสามารถอยู่แล้ว เพื่อช่วยเด็กคนนั้น แต่ฉัน…ก็อดจะโทษนายไม่ได้อยู่ดี ฉันมันแย่จริง ๆ”

    ชายหนุ่มขยับตัวออกมามองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มให้พลางช่วยซับน้ำตาอย่างอ่อนโยน “ไม่หรอกครับ แค่คุณรู้สึกทุกข์ร้อนไปด้วย เด็กคนนั้นก็คงดีใจมากแล้ว”

    “ฉันเจอเขาด้วยนะ…ในความฝัน เคนมาบอกฉัน ว่าเขาจะช่วย….ให้ฉันหนีออกไปให้ได้ แต่ฉันชวนเขาหนี แต่เขากลับไม่ยอมมา…ทั้ง ๆ ที่…เขายอมเรียกฉันว่าพ่อวินต์แล้วแท้ ๆ” น้ำเสียงของเขาเศร้าลงอีก ก่อนจะนึกขึ้นได้

“จริงสิเจมส์ เด็กคนนั้น…ยังฝากข้อความมาบอกนาย…”

    “อะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มรีบถามอย่างรวดเร็ว ข้อความจากเคน อาจจะเป็นเบาะแส ที่จะช่วยอะไรได้บ้าง

    “ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาบอกว่า…ถ้าเนื้อมันกลายเป็นเนื้อร้าย นายอย่าลังเล…ที่จะทำลายมัน เพื่อรักษาสิ่งสำคัญเอาไว้…เพื่อไม่ให้ทุกอย่าง สายจนเกินไป”

    เจมส์อึ้งไปเป็นครู่ เขาเข้าใจสิ่งที่เคนต้องการจะบอกเป็นอย่างดี เด็กน้อยต้องการให้เขา…ลงมือ โดยไม่ต้องห่วงกังวลถึงตนเอง เพื่อช่วยปวินต์ไว้นั่นเอง

    หยาดน้ำตาใส ๆ ไหลระแก้มอย่างไม่อาจข่มกลั้นได้ ปวินต์มองใบหน้านั้นอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าจะเห็นน้ำตาจากชายหนุ่มผู้นี้เลยจริง ๆ

    “เคนหมายความว่ายังไงกัน ทำไม…นายถึงต้องร้องไห้ด้วย บอกฉันสิ”

    เจมส์สะดุ้งเมื่อรู้สึกตัว เขารีบเช็ดน้ำตาก่อนหลบสายตาอย่างว่องไว “ไม่มีอะไรครับ คุณนอนพักเสียเถอะ”

    “เดี๋ยว! นายกำลังปิดบังอะไรฉันอีกแล้วนะ” มือนั้นกุมมือชายหนุ่มแนบแน่น “เลิกทำแบบนั้นเสียที ข้อความนั่น…หมายถึงเคนใช่ไหม เด็กคนนั้น…บอกให้นายทำลายเขา เพื่อช่วย…ฉัน?”

    “ใช่ไหม…ใช่รึเปล่าเจมส์” น้ำเสียงของปวินต์ร้อนรนกว่าเดิม “นายจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ…ถึงฉันจะถูกยา…” คำพูดสะดุดลงแค่นี้ เพราะปวินต์กลับไม่ต้องการบอกออกไป

    เจมส์มองอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ ในตอนนี้กลับเป็นปวินต์ ที่หลบสายตาเสียได้

    “คุณก็คิดจะปิดบังผมเหมือนกันนั่นแหละครับ” เจมส์ย้อนเข้าให้ เล่นเอาคนพูดชักอึกอัก ชายหนุ่มถอนใจยาว “แต่ผมรู้หมดแล้ว…ก็ได้ครับผมจะไม่ปิดบังอีก เราจะไม่มีความลับต่อกัน ผมทราบแล้วว่าคุณถูกยาสั่ง เมื่อครู่ สารวัตรนั่นของคุณโทรมาข่มขู่ผม เขาบอกว่า…”

“ถ้าไม่เอาของไปให้ พวกนั้นจะฆ่าฉันสินะ” ปวินต์ต่อให้ เพราะจำคำพูดของธนดลได้เป็นอย่างดี ตัวเขาเองสำหรับพวกนั้นแล้ว มีค่าเพียงพอที่จะใช้เป็นตัวประกันมาต่อรองกับเจมส์มากจริง ๆ

เจมส์มองมาก่อนพยักหน้ารับ แม้จะไม่อยากเล่าต่อเลย แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมหยุด จนกว่าจะได้รู้ครบทั้งหมด ปวินต์ไม่ใช่คนโง่ เขายังจำได้ดี ว่าอีกฝ่ายเคยรุกเร้าถามเขาจนพูดไม่ออกมากมายขนาดไหน

“ครับ เขาให้เวลาผม 3 วัน และระหว่างนี้…คุณจะเจ็บปวดจากการถูกวางยานั่น มากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อถึงกำหนด ถ้าผมไม่ติดต่อไป…คุณก็จะ…”

“ฉันก็คงจะตาย เหมือนกับคุณชิดชัยสินะ” ผู้กองหนุ่มขัดขึ้นก่อนจะพูดว่า “แต่เราจะมอบของพวกนั้น ให้คนเลวไม่ได้นะเจมส์ ถึงฉันจะต้องตาย ฉันก็ไม่ยอม…ให้ของชั่วร้ายพวกนั้น ตกอยู่ในมือคนชั่ว พวกมัน จะยังไงก็ไม่ปล่อยเราหรอก นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ”

เจมส์พยักหน้ารับ “ครับ ผมทราบดี แต่ว่า…”

“ฉันจะไม่เป็นไร…พวกเราจะผ่านพ้นช่วงที่เลวร้ายนี้ไปได้ นายเคยบอกว่านายรักและภูมิใจในอาชีพของนาย ฉันก็เหมือนกัน ฉันเป็นตำรวจนะเจมส์ จะส่งของพวกนั้นให้กับคนที่จะไปทำร้ายคนอื่นต่อแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด เนื้อร้าย…ที่จริงแล้วอาจจะเป็นฉันก็ได้ นายจะต้อง…เข้มแข็งกว่านี้นะเจมส์”

“ไม่นะครับ… ถ้ามันจำเป็น จะอะไรผมก็ต้องเสี่ยงทั้งนั้นแหละ” เจมส์ขัดขึ้น

ปวินต์มองอีกฝ่ายอย่างตั้งใจจริง เขารู้ดีว่าคงทำร้ายจิตใจเจมส์อีกแล้ว แต่ไม่มีทางเลือก ร่างผอมบางหายใจเข้าลึก แม้ร่างกายจะไม่ดีนัก แต่เขาก็พยายามไม่แสดงออกไป เสียงที่พูดขึ้นในตอนนั้น จึงหนักแน่นและมั่นคง โดยเฉพาะประโยคหลัง ที่ย้ำเสียจนคนฟังใจสั่นสะท้าน

“ลองนายเอาของนั่นไปให้เจ้าพวกนั้นสิ นายจะเสียฉันไปตลอดกาลแน่…ทั้งตัว…และหัวใจ!”

คำพูดนั้นทำให้เจมส์ตะลึงไปอีกครั้ง คำขู่นั้น…ช่างเป็นทางเลือกที่ยากเย็นเสียจริง

“แต่ถ้านายปล่อยฉันไว้แบบนี้…อย่างน้อย หัวใจของฉัน…ก็จะเป็นของนาย!”

เจมส์ยิ้มออกมาอย่างสุดฝืน “คุณขี้โกงอีกแล้วนะครับ แล้วแบบนี้…ผมจะพูดอะไรได้”

“นายพูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว…ก็นายมันช้างเท้าหลังนี่” คนพูดหัวเราะเบา ๆ “ดังนั้นต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม”

ร่างบอบบางเอนกายซบชายหนุ่มพลางพึมพำ

“สงครามของเรายังไม่จบ ฉันเชื่อ ว่านายจะต้องทำอะไรบางอย่างได้ ระหว่างสามวันนี้ พวกเราจะต้องรอด …เชื่อฉันนะ”

“ผม…”

“ฉันยินดีฝากชีวิตนี้ไว้กับนาย ดังนั้น…ห้ามทรยศฉัน…เด็ดขาด…ล่ะ…” เสียงแผ่วเบาพูดขึ้น ก่อนหลับไปทั้งอย่างนั้น

ร่างกายที่ฝืนเกินไป ยังคงต้องการพักผ่อน…เจมส์มองคนที่กำลังหลับ ด้วยแววตาที่เจ็บปวด เขาเข้าใจดีว่าปวินต์ต้องการเช่นไร แต่ถ้าเวลานั้นมาถึงจริงเล่า…เขาจะตัดสินใจอย่างไรดี

ดวงตาคมมองมายังใบหน้าซีดขาวนั้นอย่างสะท้านใจนัก เป็นเพราะเขาเอง ที่ทำให้ปวินต์ต้องติดร่างแหมาด้วย เจมส์จับมือบอบบางนั้นขึ้นมาจุมพิตเบา ๆ แล้วบอกกับคนที่ยังคงหลับใหลนั้นด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่

“ไม่ว่ายังไง…ผมก็จะปกป้องคุณนะครับ…ผมสัญญา”


จบตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2011 22:31:09 โดย ppm »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #294 เมื่อ23-10-2011 21:20:15 »

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #295 เมื่อ23-10-2011 21:36:53 »

...
ทำตามเม้นบนดีกว่า

 :เฮ้อ:

Blueskii

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #296 เมื่อ23-10-2011 21:53:25 »

เฮ้อ...............
 :undecided:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #297 เมื่อ23-10-2011 22:04:08 »

ปวดตับ ปวดไต ปวดไส้ งืออ
ทำไมมันอึดอัดเยี่ยงนี้ล่ะค้า  :sad4:

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #298 เมื่อ23-10-2011 22:20:29 »

รักแท้คือการเสียสละ....แต่มันจะเศร้าเกินไปไหม.....

แต่ยังไงก็ยังอ่านต่อไปเรื่อย ๆ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 14 (23/10/11)
«ตอบ #299 เมื่อ23-10-2011 23:09:06 »

สงสารเคนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด