สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 170655 ครั้ง)

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #240 เมื่อ11-10-2011 20:43:47 »

แปะใหม่นะคะ คราวก่อนที่แปะไปมันหายไปแล้ว

================

สืบเสน่หา

ตอนที่ 11



งานในวันนี้เป็นงานใหญ่งานหนึ่งทีเดียว ธนัทสมกับเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า และจัดงานแสดงเดินแบบมืออาชีพนัก เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็สามารถหางานแสดงที่น่าสนใจ แถมยังสามารถเปลี่ยนคนเดินแบบให้เป็นเจมส์ได้ไม่ยากเย็น โดยเขาบอกว่าคนจัดเองก็เป็นเพื่อนกับพ่อเขาเช่นกัน

    งานเหมือนจะราบรื่น แต่กลับมีคนหนึ่ง ที่ยังคงหน้ามุ่ย

    “น่า พี่วินต์คะ แค่เดินแบบคู่พี่เจมส์แค่นี้เอง” เด็กสาวพยายามตะล่อม

    “ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยเล่า” เสียงผู้กองหนุ่มค้านอย่างไม่พอใจนัก “ที่สำคัญ ทำไมต้องแต่งชุดผู้หญิงด้วย”

    “ก็ผู้หญิงจะเข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายกว่านี่คะ แถมเขาก็เคยเห็นหน้าพี่แล้วด้วย ปลอมตัวแบบนี้น่าจะดีกว่า เราจะวางยาเขานะ อีตาอดีต ส.ส. นั่น ก็มีบอดี้การ์ดเพียบ ถ้าเข้าใกล้ในสภาพผู้ชาย คงยุ่งยากน่าดู”

    “แล้วทำไมต้องพี่ล่ะ”

    “ก็คนที่แต่งหญิงรอด คงมีแต่พี่แหละค่ะ หรือพี่จะให้ปรางไปแทนล่ะ” ปรางทิพย์ยกไม้ตายขึ้นขู่

    ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม “ไม่ได้เด็ดขาดนะ” ว่าพลางมองคนที่เหลือ ก่อนยอมจำนนจนได้ “ก็ได้ ๆ พี่ไปเองก็ได้ จะให้ทำอะไรบ้างก็บอกมา แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าเดินแบบอะไรนั่น พี่ทำไม่เป็นหรอก”

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่นัทเขามืออาชีพพอ คงจะช่วยพี่ได้ มาเถอะค่ะ เราต้องซ้อมแล้วก็แต่งตัวกันอีกพักใหญ่ เดี๋ยวจะไม่ทันงานพอดี”



    งานในวันนี้เป็นงานหรูสมกับที่ธนัทบอกว่าสามารถเชิญท่านอดีต ส.ส. มาร่วมงานได้ไม่อายใคร ห้องโถงใหญ่นั้นเช่าในโรงแรมมีชื่อ ไหนจะยังนายแบบนางแบบที่เป็นที่รู้จักคุ้นหน้ากันในวงการ ว่าค่าตัวแต่ละคนล้วนไม่น้อย

    เวลาใกล้ต้องเดินแบบเริ่มมาถึง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นชุดเปิดตัวชุดแรก ๆ แต่เสื้อผ้าหน้าผมก็อลังการไม่แพ้กัน นางแบบนายแบบหลายคนลอบมองมาแกมอิจฉา เพราะคนทั้งคู่นั้นดูโดดเด่นเสียยิ่งกว่าคู่หลักของงานเสียด้วยซ้ำ

    ดนตรียังบรรเลงไปเรื่อย ๆ เป็นจังหวะคลาสสิก เนื่องจากงานนั้นเป็นคอนเซปย้อนยุคแบบฝรั่ง ชุดที่สวมใส่จึงเป็นแนวยุโรปโบราณที่ดูเท่ไม่เบา เจมส์ที่ยืนอยู่ที่ทางเข้าด้านหลังแคทวอล์ค เพื่อเตรียมพร้อมจะออกเดิน หันมายิ้มให้สุภาพสตรีที่ยืนเขินอยู่ด้านข้างอย่างขบขัน

    หมอผีหนุ่มในตอนนี้ไม่ได้มีมาดหมอผีอีก แต่กลับเป็นมาดนายแบบเต็มตัว นี่ไม่ใช่งานแรกของเขา ดังนั้นจึงไม่มีท่าตื่นเวทีแม้แต่น้อยนิด ชายหนุ่มอยู่ในชุดสูทสีดำเล่นลูกเล่นเป็นตัวปักเงินตามตัวปกดูหรูหรา เมื่อรวมกับหน้ากากสีดำสนิทที่ส่วนดวงตาติดลายขอบสลักเงินวาวรับผมสีทองประกายกับใบหน้าอันคมสัน ยิ่งดูเท่ราวจอมโจรในภาพยนตร์เสียจนหลายคนมองแทบเคลิ้ม แม้หน้ากากจะปิดบังบางส่วนของใบหน้าไป แต่นัยน์ตาสีสวยอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา กลับเป็นประกายเด่นชัด พอใบหน้านั้นหันมาแย้มยิ้ม คนมองก็เผลอใจเต้น

    “แต่งแบบนี้ก็เท่ดีนะ” ปวินต์พึมพำเบา ๆ แต่อีกฝ่ายที่หูดีเสียเหลือเกิน ก็ยังคงได้ยิน

    เจมส์มองกลับมายังคนตัวบางด้านข้าง ที่อยู่ในชุดกระโปรงตัวยาว เอวแคบที่ถูกรัดไว้ด้วยคอเซท ยิ่งทำให้แคบระหงขึ้นอีก ไหนจะตัวเสริมตัวดันที่หน้าอกจนดูอวบอิ่มแนบเนียน ขนาดคนใส่เองยังรู้สึกเขินตัวเองเสียด้วยซ้ำ ผมซึ่งเป็นวิกยาวเปิดหน้าผาก รวบปักดอกไม้สีอ่อนไว้ด้านหลัง เน้นใบหน้านวลให้กระจ่างชัด ดวงตากลมรับขนตายาว ริมฝีปากอิ่ม งดงามขึ้นผิดหูผิดตาจากการแต่งหน้าโดยช่างมืออาชีพ ทำให้ไม่ว่ามองมุมไหน อีกฝ่ายก็ไม่เหมือนผู้ชายเลยสักนิด แถมยังเหมือนเจ้าหญิงตัวจริงขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ

    ใบหน้าชายหนุ่มที่ยิ้มกว้าง เล่นเอาคนพูดแอบใจเต้น เจมส์พูดกับผู้กองหนุ่มด้วยเสียงกระซิบ

“ใครชมผมก็ไม่ปลื้มเท่าคุณชมนะครับเนี่ย แต่ว่า…ผมชักอยากเป็นจอมโจรจริง ๆ เสียแล้ว” ว่าพลางดึงมือของอีกฝ่ายที่ใส่ถุงมือลูกไม้โปร่งบางขึ้นมาจุมพิต “ถ้าผมลักพาตัวคุณในค่ำคืนนี้ คนในงานคงจะอิจฉากันแน่ ๆ”

    คนถูกจูบที่หลังมือหน้าแดงฉาน เสมองด้านข้างก่อนพึมพำ “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย ใครจะไปอิจฉานายกัน”

    “คุณน่ารักมาก…จริง ๆ นะครับ”

    “ถูกผู้ชายชม ไม่เห็นน่าดีใจตรงไหน!” ปวินต์บ่นพึมพำ ก่อนก้าวเดินด้วยท่าทางติดจะเงอะงะ “รองเท้านี่ก็ด้วย เดินยากซะจริง ถ้าฉันเดินสะดุดตกแคทวอล์คขึ้นมาจะทำไง”

    คนฟังอมยิ้มก่อนพูดว่า “เจ้านัทรู้อยู่แล้วครับ ว่าคุณเดินไม่ได้ ดังนั้นไม่ต้องห่วง”

    “หา…?”

    ใบหน้าคมยังมีรอยยิ้มขี้เล่น “เพราะตามคอนเซปแล้ว คุณคือเจ้าหญิงที่ผมลักพาตัวมา ดังนั้น…”

    ว่าแล้วก็อุ้มอีกฝ่ายขึ้นมา อย่างง่ายดายเสียจนคนถูกอุ้มหลุดเสียงอุทานอย่างตกใจ

    “เจ้าหญิงก็ต้องอยู่ในอ้อมแขนของจอมโจรสิครับ…”

    “ปละ…ปล่อยนะ…เจ้าบ้าลามกเนี่ย!”

    “ผมอุ้มตามคิวนะครับ…แต่จริง ๆ ผมอยากอุ้มนานกว่านั้นอีก…วันนี้…บางทีอาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เรา…”

    นิ้วเรียวของปวินต์แตะที่ริมฝีปากเจมส์ “เลิกพูดแบบนั้นเลย วันนี้งานของเราต้องสำเร็จ เราจะต้องช่วยเคนได้ และจับพวกนั้นเข้าคุกให้หมด”

    คนฟังหัวเราะเบา ๆ ก่อนยิ้มให้ “ถ้าอย่างนั้นผมถือว่าวันนี้ เป็นการซ้อมแล้วกัน”

    “ซ้อมอะไรของนาย”

    “ก็…ซ้อมอุ้มเจ้าสาวของผมเข้าหอน่ะสิครับ” ว่าพลางก้มลงหอมแก้มคนในอ้อมแขน ซึ่งหนียังไงก็ไม่พ้นอย่างรวดเร็วจนอีกฝ่ายตั้งตัวแทบไม่ติด

    “จะ…เจ้าบ้าเจมส์นี่ คนเขามองกันอยู่นะ!!!” คนกำลังอายขู่ฟ่อ มือแตะที่แก้มซึ่งถูกหอมเมื่อครู่ก่อนซุกหลบ ปากก็ยังบ่นพึมพำไม่เลิก จนเจมส์ต้องกระซิบว่า

“ผมจะออกไปด้านหน้าแล้วนะครับ อย่าลืมหันหน้ามายิ้มหวานรับผู้ชมได้แล้ว”

    “อ่ะ เดี๋ยวสิ” คนยังทำหน้าไม่ถูกรีบรั้งไว้ แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่า

“ช้าไม่ได้ครับ ต้องตามกำหนดการ อย่าลืมทำตามแผนด้วยล่ะ โปรยยิ้มหวานให้เป้าหมายเราเยอะ ๆ หน่อยนะครับ ถึงผมจะหึงก็เถอะ!” ประโยคหลังมีแอบบ่น ก่อนชายหนุ่มจะก้าวยาว ๆ ออกไป แสงไฟด้านนอกสว่างเจิดจ้ากว่าด้านหลังเวที แถมยังสาดส่องมาที่พวกเขาโดยเฉพาะ เมื่อสายตาแทบทุกคู่จ้องมองมา คนในอ้อมแขนก็อดประหม่าไม่ได้ หากได้ยินเสียงเจมส์กระซิบว่า

    “มั่นหน่อยสิครับผู้กอง”

เสียงแซวแกมหัวเราะหน่อย ๆ ของเจมส์ เล่นเอาเขาของขึ้น

    ฮึ กะอีแค่ยิ้มหวาน เพื่อช่วยลูกชายคนสำคัญ มีหรือเขาจะทำไม่ได้!

    ร่างในอ้อมแขนขยับตัวขึ้นตรงอย่างมั่นใจกว่าเดิม มือเรียวโอบรอบคอแกร่ง ส่งยิ้มเชิญชวนไปโดยรอบ ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างแคทวอล์คต่างมองมาอย่างลืมตัว โดยเฉพาะชวรัตน์ที่นั่งเป็นประธานในงานรับเชิญนี้ในตำแหน่งที่ค่อนข้างใกล้จนเห็นตัวแบบได้ชัดเจน ร่างนั้นยิ้มให้อดีต ส.ส. ที่มองมาจนเคลิบเคลิ้มอย่างจงใจ ก่อนรั้งแก้มสากของคนอุ้มมาใกล้ แล้วจุมพิตซ้ำ ท่ามกลางเสียงพึมพำสนอกสนใจของผู้ชมรอบด้านอย่างเห็นได้ชัด

    “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน กล้าดีนี่นา” ชวรัตน์ถามธนัทที่เป็นผู้อำนวยการจัดงานนี้แทนบิดาอย่างสนใจ ธนัทอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนบอกว่า “เธอเป็นดาวรุ่งคนใหม่ในวงการนี้ ที่ทางเราเชิญมาเป็นพิเศษ ท่านสนใจอยากจะคุยกับเธอบ้างไหมครับ”

    “หืม ดาวรุ่งงั้นหรือ ชื่ออะไรล่ะ”

    “รวินต์ ทิพย์อาภา ครับ”

    “อืม…ถ้าอย่างนั้นเดินเสร็จ ชวนเธอมาคุยสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน”

    “แต่ท่านครับ…พวกนั้นอาจจะ” บอดี้การ์ดที่ยืนใกล้ ๆ พยายามแย้ง

    “ก็แค่ผู้หญิงคนนึง คุยกันนิดเดียวเท่านั้นแหละน่า ส่วนเรื่องสำคัญในคืนนี้ ฉันจะจัดการหลังจากนั้นเอง” ชวรัตน์พูดต่อไปอย่างชำนาญเกม เขาไม่รู้สึกกลัวเจมส์แม้แต่น้อยนิด เด็กรุ่นอ่อนกว่าเขาเกินครึ่งแบบนั้น คิดจะมาจัดการเขา มันยังไวไปอีกหลายสิบปี!

    ธนัทฟังอีกฝ่ายแล้วยิ้มหวาน “เธอจะเดินแค่นี้แหละครับ เดี๋ยวผมจะตามให้เอง”

    “ดี…มาทั้งที ก็ต้องมาให้คุ้มสิ” เขาว่าพลางหัวเราะอย่างพอใจ

   

    ที่ด้านหลังเวที เจมส์ซึ่งอุ้มร่างบอบบางนั้นไม่ยอมวาง ได้แต่ร้องโอ๊ยเพราะโดนหยิก ก่อนอีกฝ่ายจะกระซิบเครียด “ปล่อยฉันลงได้แล้ว จะอุ้มไปถึงไหนกัน”

    “อ้าว…ผมคิดว่าคุณติดใจ อยู่ดี ๆ ก็กล้าหอมแก้มผมกลางงานเสียอย่างนั้น” ชายหนุ่มพูดต่อไปอย่างยิ้ม ๆ

    “ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้น เป้าหมายเราจะสนใจงั้นรึ ฉันไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นกับนายสักเท่าไหร่หรอกนะ” คนตอบเสียงสะบัด แม้จะมีเขินอายอยู่บ้าง เขาก็รีบใช้เสียงข่มเข้าไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเห็นอาการที่ซ่อนเร้น

    เจมส์มองมาพลางพูดต่อไปว่า “ยังไงผมก็ดีใจอยู่ดี ไม่ว่าคุณจะทำเพื่อเหตุผลอะไรก็เถอะครับ แต่สักวัน ผมจะทำให้คุณ อยากทำแบบนั้นกับผม…ด้วยความตั้งใจโดยไม่ได้มีอะไรบังคับให้ทำแบบนี้อีกแน่ ๆ”

    “เลิกแจกขนมจีบได้แล้ว เรื่องสำคัญของเราล่ะ ไปถึงไหนแล้ว” ปวินต์ตัดบทเสียงห้วน ก่อนหันมาเห็นธนัท ที่เดินเข้ามาพอดี

    “คุณทำได้ดีจนผมชักอยากจ้างเป็นนางแบบถาวรเสียแล้วนะครับเนี่ย” ธนัทว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาลง “ปลากินเบ็ดแล้วครับ เขาอยากพบคุณเป็นการส่วนตัว…อย่าลืมนะครับ ตามแผนของเราที่วางไว้”

    ปวินต์พยักหน้ารับ ก่อนจะก้าวเดินอย่างเงอะงะนิดหน่อย เพราะรองเท้าส้นสูงนั้นเดินลำบาก

    “ให้ผมอุ้มอีกไหมครับ” เจมส์ขยับเข้าไปกระซิบ ก่อนจะโดนค้อนให้ตามความคาดหมาย

    “ฉันเดินเองได้” ผู้กองหนุ่มพยายามตั้งหลักอีกครั้ง อย่างมั่นคงกว่าเดิม แม้กระโปรงจะรุ่มร่ามไปบ้าง แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนมุ่งมั่นจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้อยู่แล้ว ซึ่งลักษณะนี้ของปวินต์นี่เอง ที่ทำให้เจมส์ชื่นชมเสมอมา

    “ผมชักจะอิจฉาเป้าหมายของเราอีกแล้วสิเนี่ย…ระวังตัวด้วยนะครับ ผมเป็นห่วง” หมอผีหนุ่มพึมพำเบา ๆ

    คนกำลังเดินไปหยุดหันกลับมามอง ด้วยแววตาที่จริงใจ “อื้ม นายก็ระวังเหมือนกันนะ ยังไงเป้าหมายของมัน ก็ยังคงเป็นนายอยู่ดี”

    “ขอบคุณครับ” มือที่จับกันไว้กุมกันแนบแน่น ก่อนเจมส์จะปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป

แม้จะมองตามจนลับตาด้วยความเป็นห่วง แต่เพื่อเคน เขาจะต้องทำงานนี้ให้สำเร็จให้ได้!



    ร่างบอบบางในชุดยุโรปย้อนยุคราวเจ้าหญิงก้าวเดินอย่างมั่นใจขนาบคู่มากับธนัท ที่เดินนำทางมายังโต๊ะของชวรัตน์ซึ่งนั่งรออยู่ ชายหนุ่มผู้มาส่งยิ้มให้กับคนที่โต๊ะ ก่อนขอตัวอย่างสุภาพแยกออกมาอย่างรู้หน้าที่ หลังแนะนำอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย

    ดวงตากรุ้มกริ่มที่จับจ้อง ทำให้ปวินต์เองแอบขนลุก หากในตอนนี้เขาจะถอยไม่ได้ ผู้กองหนุ่มหายใจเข้าลึก ก่อนโปรยยิ้มหวานกลับไป ท้าทายสายตาคู่นั้นอย่างเห็นได้ชัด และนั่นก็เรียกรอยยิ้มให้อีกฝ่ายได้มากพอดู

    “ฉันดูเธอบนแคทวอล์คเมื่อกี้ ทำได้น่าประทับใจมาก”

    “ขอบคุณค่ะ เป็นเกียรติที่ได้พบนะคะ ท่านชวรัตน์” เสียงดัดดูแหบต่ำไปนิดหน่อย แต่ดวงตากลมโตดำคลับที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเสียจนสวยหยาดเยิ้มนั้นดึงดูดความสนใจไปจนหมด เพียงขยับส่งยิ้มให้นิด ๆ ชวรัตน์ที่มองมาก็หัวเราะชอบใจแล้ว

    “เป็นเกียรติมากเช่นกันครับคุณผู้หญิง เชิญ…เชิญนั่งสิครับ” เขาผายมือไปยังเก้าอี้ใกล้ ๆ บอดี้การ์ดด้านหลังขยับจะแย้ง หากถูกสายตาดุ ๆ ถลึงจ้องแกมปรามไม่ให้พูดของผู้เป็นนาย ในที่สุดจึงได้กลับไปประจำที่เดิมโดยไม่กล้าปริปากอีก

    มือที่ยื่นมาโอบด้านหลังเล่นเอาคนถูกโอบแอบสะดุ้ง เขาลอบขมวดคิ้วขัดใจ ก่อนตีหน้ายิ้มดังเดิม

เจ้านักการเมืองคนนี้นี่ นอกจากจะเลวแล้วยังลามกอีก ถ้าเขาจับได้คาหนังคาเขาเมื่อไหร่ จะเพิ่มข้อหาลวนลามเจ้าพนักงานให้ดู ชายหนุ่มแอบเขม่นในใจ

    ใบหน้ายิ้มแย้มหวานหยดมองมาอีกครั้ง ก่อนพูดขึ้นว่า “ไหน ๆ ก็พบกันแล้ว เรามาดื่มฉลองกันหน่อยดีไหมคะ”

    ว่าพลางเงยหน้าขึ้นไปสบสายตากับบริกรสาวในชุดกระโปรงน่ารัก อันเป็นยูนิฟอร์มสำหรับสาวเสิร์ฟในงานนั่นเอง สาวน้อยผู้นั้นสบตาพลางส่งยิ้มให้ ก่อนส่งถาดใส่เครื่องดื่มมาอย่างคล่องแคล่ว

    บอดี้การ์ดด้านข้างขยับจะรั้งถาดนั้นไว้อีก ปวินต์มองมายังสาวน้อยอย่างวิตก เพราะเด็กคนนั้นคือปรางทิพย์ น้องสาวของเขา ที่เตี้ยมกันมาก่อนเรื่องเครื่องดื่มเฉพาะสำหรับชวรัตน์นั่นเอง ร่างบอบบางรีบแก้ไขสถานการณ์โดยหันกลับไปยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “แค่เครื่องดื่มแก้วเดียว คงไม่ทำให้ท่านเมาหรอกใช่ไหมคะ”

    “ฮ่า ๆ ๆ ไม่หรอก อย่าสบประมาทกันสิ ของแค่นี้เอง” ชวรัตน์หัวเราะชอบใจ ก่อนเอื้อมมือไปรับแก้วจากมือหญิงสาว ไวน์ชั้นดีสีใสชวนลิ้ม ยิ่งทำให้คนถือยิ้มอย่างพึงใจกว่าเดิม

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #241 เมื่อ11-10-2011 20:54:41 »

เด็กสาวผู้ถือถาดเสิร์ฟหลิ่วตาให้ปวินต์ ขณะก้มตัวลงส่งถาดใกล้ ๆ มือของเธอลอบหย่อนเครื่องติดตามตัวขนาดจิ๋ว ลงในกระเป๋าเสื้อสูทของชวรัตน์ ก่อนกลับมายืนด้านข้างด้วยท่าทางอันนอบน้อม

“ไวน์ดีนี่นา” ชวรัตน์พึมพำเบา ๆ เมื่อได้กลิ่น ระดับเขาแล้ว เพียงแค่นี้ก็สามารถบอกได้ดี

    “ทางเจ้าภาพเตรียมไว้เพื่อท่านโดยเฉพาะค่ะ ลองสักหน่อยสิคะ” ปวินต์ว่าพลางขยับเข้ามาใกล้ คะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายดื่ม

    ขณะจะยกแก้วขึ้นดื่ม คนถือก็ชะงัก “จริงสิ ผมได้ข่าวว่านายแบบที่ชื่อเจ มาเดินแบบคราวนี้ด้วย เห็นว่าประวัติส่วนตัวเป็นความลับ แถมยังขึ้นลิสต์หนุ่มที่สาว ๆ ยกให้เป็นผู้ชายในฝัน…เขาอยู่ที่ไหนงั้นรึ” เจ คือชื่อย่อ และเป็นชื่อในวงการเป็นนายแบบของเจมส์นั่นเอง ซึ่งชวรัตน์เองก็ให้คนสืบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    คนฟังอมยิ้ม “เขาก็คือคนที่อุ้มดิฉันตอนเดินแบบยังไงคะ สักพักคงมาทักทายแขกผู้มีเกียรติอย่างท่านชวรัตน์หรอกค่ะ”

    “อ้อ คน ๆ นั้นนั่นเอง” ว่าพลางมองนาฬิกา เวลาการเดินแบบใกล้หมดลงแล้ว เหลืออีกไม่นาน เจมส์จะประกาศเรื่องสำคัญ เพื่อส่งมอบของ และเขา…จะต้องชิงตัดหน้าเอาของนั้นมาก่อน “ขอโทษนะครับ ผมนึกได้ว่ามีธุระ…” เขาว่าพลางขยับจะลุกขึ้น

    ปวินต์มองมาใจหายวาบ ขืนทำให้เหยื่อละจากเครื่องดื่มในตอนนี้ เขาคงไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายกลับมาดื่มแก้วเดิมได้อีกแน่ ๆ

    “ท่านจะไม่ให้เกียรติดื่มกันก่อนเหรอคะ เสียดายไวน์รสดีขนาดนั้น เดี๋ยวค่อยทำธุระต่อก็ได้ค่ะ”

    คนกำลังลุกชะงัก ก่อนหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก กลับมาค่อยดื่มก็ยังทัน” เขาว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อน

เจ้าเฒ่าลามกนี่ จะกินยังเรื่องมากอีกนะ ชายหนุ่มแอบเคืองในใจ สมองอันสามารถครุ่นคิดอย่างรวดเร็วเพื่อหาทางออก

ดวงตาคู่งามเหลือบมองมาอย่างตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนเอื้อมมือเรียวสวยไปคว้าแก้วของชวรัตน์มาถือไว้ คนกำลังจะเดินไปชะงัก มองมาอย่างงุนงง

ริมฝีปากอิ่มที่ทาลิปสีสด จูบเบา ๆ ที่ขอบแก้ว พลางส่งแววตาเย้ายวนไปให้ “สนใจรับของแถมสักนิดก่อนไปไหมคะ”

ชวรัตน์มองท่าอันแสนเร้าใจนั้นด้วยใจที่เต้นแรง เขารับแก้วที่มีรอยลิปมาถือไว้ก่อนยิ้มรับกรุ้มกริ่ม

“ถ้าไม่ดื่มคงจะเสียมารยาทมากแน่ ๆ เอาล่ะ ดื่มก็ดื่ม” ว่าแล้วก็ดื่มลงไปรวดเดียว ก่อนจะขยับลุกขึ้น

    “ผมมีธุระด่วนน่ะครับ ขออนุญาตสักครู่ แล้วเสร็จงาน อย่าพึ่งรีบกลับนะครับ ผมจะคุยด้วยอีกสักหน่อย”

    ปวินต์มองมาอย่างแอบโล่งอก ในที่สุดอีกฝ่ายก็ดื่มมันลงไปจนได้ เขายิ้มรับโดยอัตโนมัติ “ได้สิคะท่าน ดิฉันยินดีคุยกับท่านเสมอค่ะ”

    ร่างบอบบางโบกมือให้น้อย ๆ พลางมองอีกฝ่ายที่กำลังพยักพเยิดให้ลูกน้องเดินตามไปอย่างดูมีเลศนัย

มือของเขากำแน่นอย่างอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ แต่อย่างน้อย…แผนการที่วางไว้ ยังคงเป็นไปตามแผน เหลือเพียงให้เจมส์จัดการขั้นสุดท้ายเท่านั้น ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้ปรางทิพย์ ที่อยู่ในชุดสาวเสิร์ฟ ให้จัดการไปบอกธนัท ที่ตอนนี้เตรียมตัวอยู่กับเจมส์ เพื่อเริ่มปฏิบัติการสำคัญต่อ เด็กสาวยิ้มรับ ก่อนเดินออกไปอย่างรวดเร็ว



    ขณะขยับจะเดินตามไป อยู่ดี ๆ เขาก็รู้สึกปวดแปลบที่ในช่องท้องจนแทบก้าวเท้าไม่ออก ร่างบอบบางคว้าขอบโต๊ะไว้เพื่อพยุงตัว เพราะเริ่มรู้สึกหน้ามืด

    “คุณไม่สบายหรือครับ” เสียงใครบางคนเรียกอยู่ข้างหู…เป็นเสียงที่คุ้นหูมากเสียจน…

    ดวงตาที่พร่าเล็กน้อยพยายามมองกลับมา ก่อนจะชะงักอย่างตกตะลึง

    “ผมจะพาคุณไปพักด้านนี้เองนะครับ” เสียงนุ่มนั้นพูดต่อไป ด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้ม

    ปวินต์กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ขนาดยืนยังแทบยืนไม่อยู่แล้ว คนที่ยึดจับตัวเขาไว้ไม่ให้ล้ม…คน ๆ นั้นกลับเป็น…

    “อา…ดล…?” เสียงแหบครางแผ่วเมื่อสบตาคมเข้มที่มองมาอย่างไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ก่อนจะหมดสติไปทั้งอย่างนั้น

   

    ห้องแต่งกายด้านหลังเวที เจมส์เก็บตัวรอคอยอย่างใจเย็น เขาพึ่งได้รับข่าวสารจากปรางทิพย์ ผู้ซึ่งหลบไปแล้วกับธนัท เพื่อไปเตรียมพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเช็คการติดตามตัว ที่เชื่อมสัญญาณกับเครื่องที่หย่อนลงไปในเสื้อของชวรัตน์โดยเจ้าตัวเองก็ไม่รู้

    ทั้งคู่ปล่อยเจมส์ไว้รับหน้า เพราะรู้ว่าชายหนุ่มสามารถจัดการได้ และหากมีปัญหาใด ๆ สิ่งที่ชวรัตน์ดื่มลงไป ซึ่งกำลังจะแสดงผลในไม่ช้า ก็คงเป็นสิ่งที่ไว้แกล้งต่อรองได้อีกเช่นกัน

    ในเวลาไม่นานนัก ชายในชุดสูทสองคนที่แขวนป้ายสตาฟฟ์ก็เดินเข้ามาในห้อง เจมส์มองมาพลางส่งยิ้มให้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยิ้มด้วย เมื่อการก้าวเข้ามาดูคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

“มาด้วยกันก่อนเลย” เสียงเข้มออกคำสั่ง “ห้ามส่งเสียงดัง ไม่งั้นแกตาย!” มือนั้นมีปืนพกสีดำสนิท ซึ่งในตอนนี้ มันจ่ออยู่ด้านหลังเขาแล้ว

ชายหนุ่มแกล้งมองมาอย่างงุนงง ก่อนอุทานตะกุกตะกักให้สมจริง “พวก…พวกแกเป็นใคร!”

     คนตัวสูงเบื้องหน้ายิ้มเหี้ยม “ไม่จำเป็นต้องรู้ ตามพวกเราไป อย่าทำเสียงเอะอะล่ะ ไม่งั้นได้กินลูกตะกั่วนี่แน่”

    “ก็…ก็ได้” เขารับคำอย่างตื่น ๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไป หลายคนมองมา แต่เขาก็ไม่กล้าทัก เพราะปืนที่จ่ออยู่ใกล้ ๆ ได้แต่เดินตามอีกฝ่ายไป โดยไม่กระโตกกระตาก แต่นั่น…แท้จริงแล้ว ก็เป็นแผนของเขาเช่นกัน เพราะพวกเขารู้ดี ว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ชวรัตน์จะลงมือ

    ที่จอดรถใต้ดินของโรงแรมซึ่งเช่าไว้เป็นสถานที่จัดงาน เป็นที่ ๆ เงียบและค่อนข้างมืด ง่ายแก่การใช้ข่มขู่ใด ๆ เสียจริง และนั่นก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชายหนุ่มด้วย ดังนั้นเขาจัดเตรียมรถไว้รอล่วงหน้าสำหรับการตามด้วยเช่นกัน

    ร่างแข็งแรงที่ถือปืนผลักเขาลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ปืนกระบอกนั้นขยับจ่อตามมาที่ศีรษะเพื่อไม่ให้ขัดขืนได้ แล้วยืนรออยู่อย่างนั้น โดยมีคนหนึ่งโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้านายใหญ่ “ได้ตัวมันแล้วครับ รออยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน”

    คนพูดโทรศัพท์รับคำอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะหันกลับมา “เฮ้ย ให้มันอยู่นิ่ง ๆ ตรงนี้ซักแป๊บ เจ้านายกำลังมา”

    คนถือปืนพยักหน้ารับ ก่อนปรายตากลับไป ปืนในมือเล็งมานิ่งสนิท นิ่งพอ ๆ กับแววตาและสีหน้าที่ดูคล้ายกระหายเลือด เจมส์สบตาคน ๆ นั้น แล้วรู้ดีว่าอีกฝ่ายเอาจริง หากเขาขัดขืน แม้เพียงน้อยนิด ถึงไม่โดนเอาชีวิต เพราะเจ้านายคงสั่งไว้ แต่คงโดนยิงจนบาดเจ็บแน่ ๆ

    เขายิ้มแห้ง ๆ สู้ปืนที่จ่อลงมา ก่อนจะพูดว่า “ผมไม่กล้าหรอกครับพี่ ผมจะนั่งรอเฉย ๆ จนกว่าเจ้านายพี่จะมา เลิกเล็งปืนมาได้ไหมครับ”

    “ไม่ได้ แกน่ะ เงียบไปเลย” เสียงตวาดกลับดุ ๆ โดยปืนนั้นยังคงเล็งอยู่ที่เดิม

    คนถูกตวาดถอนใจยาว ก่อนขยับตัวนั่งให้ถนัดกว่าเดิม แล้วไม่พูดอะไรอีก

    ท่าทางคนที่ชวรัตน์จ้างมา จะเป็นพวกมือดีสมราคาเสียจริง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากลัวนัก เพราะอย่างน้อย…เขาก็ยังมีอะไรไว้ต่อรองอยู่

    เสียงลิฟต์เปิดออกช้า ๆ ก่อนร่างท้วมภูมิฐานของชวรัตน์จะก้าวออกมา ข้างกายมีบอดี้การ์ดอีกสองคนตามประกบชนิดไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว พอมองมาก็เห็นคนของตนยืนอยู่ที่มุมด้านหนึ่งของชั้นใต้ดิน โดยมีรถบังอยู่ เมื่อเดินมาพ้นตัวรถ ก็เห็นเจมส์ที่ถูกปืนจ่อและนั่งนิ่งรอคอยการตัดสินของผู้เป็นเจ้านายอยู่เบื้องหน้า

    “สวัสดี คุณเจมส์” ชวรัตน์เป็นฝ่ายทักก่อนอย่างยิ้มแย้ม

    “สวัสดีครับ คุณชวรัตน์” เขาตอบกลับอย่างเน้นเสียงที่ชื่อของอีกฝ่ายอย่างจงใจ

    “ผมได้ข่าวว่า คุณจะมอบอะไรบางอย่างให้ตำรวจ ถ้ามีผมเป็นพยานสินะครับ”

    เจมส์พยักหน้ารับ “ใช่ครับ แต่ว่า…ต้องเป็นกลางงานแสดงเดินแบบ ไม่ใช่ในที่จอดรถชั้นใต้ดินมืด ๆ แบบนี้”

    “หึ…สำหรับคุณ ที่นี่ก็น่าจะโอเคไม่ใช่หรือ ส่งของมาเถอะ…ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่!”

    “คิดว่าเอาชีวิตผมมาขู่ แล้วผมจะยอมมอบให้ง่าย ๆ งั้นหรือครับ” เจมส์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    “ก็ไม่คิดหรอกนะ แต่การส่งมอบของวันนี้ จะให้เกิดขึ้นไม่ได้…ดังนั้น…ฉันไม่สนว่าจะได้ของหรือไม่ แต่วันนี้…คงต้องดับชีวิตของคุณแทนซะแล้ว!”

    ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกา ก่อนลุกขึ้นช้า ๆ ทั้งอย่างนั้น ท่ามกลางความงุนงงของคนที่เหลือ

    “ผมไม่ให้อะไรคุณหรอก…ทั้งของนั่น…แล้วก็ชีวิต!”

    “แก…อึก…” คนกำลังโมโหกุมท้องอย่างตกใจ ก่อนมองกลับมาด้วยดวงตาที่เหลือกลาน

    เจมส์ยิ้มให้แทนคำตอบ เป็นรอยยิ้มเย็นเยียบ…ที่น่าสะพรึงกลัวนัก เสียงราบเรียบของเขายังพูดต่อไป

“ปวดท้องใช่มั้ยครับ เหมือนมีอะไรกำลังวิ่งเล่น…อยู่ข้างใน…อะไรบางอย่าง…ที่แหลมคม…คุณคงจำได้ ว่าคุณชิดชัย…….ตายยังไง ใช่ไหมครับ…”

คนฟังหนาวเยือกไปทั้งตัว อาการปวดท้องรุนแรงขึ้นอีก มือสั่นน้อย ๆ กุมท้องอย่างเจ็บปวดกว่าเดิม ชวรัตน์พยายามเค้นเสียงถามอย่างยากเย็น “ยะ…ยาสั่ง…แกใช้ยาสั่งกับฉันเรอะ!”

“ก็แล้วแต่คุณจะคิดสิครับ…ไวน์แก้วเมื่อกี้คงอร่อยมาก ‘เครื่องดื่มพิเศษ’ ที่ผมเตรียมให้คุณ…โดยเฉพาะยังไงล่ะครับ”

“แก!”

“เอาสิครับ สั่งพวกมันให้ฆ่าผม แล้วเรามาดูกัน ว่าใครกันแน่…ที่จะตายก่อนกัน” เขาพูดย้ำหนักแน่นจนอีกฝ่ายผงะหนี

“ฮึ่ม…อย่าคิดนะ ว่าฉันจะยอมแกง่าย ๆ ฝากไว้ก่อนเถอะ” ว่าแล้วรีบสั่งให้คนติดตามช่วยพยุง ตรงไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล

“แล้วอย่าลืมมาเอาคืนล่ะครับ” เขาว่าพลางปล่อยให้อีกฝ่าย ขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว

เจมส์ถอนหายใจยาว เมื่อรถคันนั้นแล่นจากไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตามไปให้พวกนั้นรู้สึกตัว เพราะเครื่องติดตามตัวได้ถูกติดไว้แล้ว ทั้งที่รถ และที่ตัวชวรัตน์เอง

อย่างน้อยการแสดงเป็นพ่อปู่…ก็ได้ผล เขาหลอกชวรัตน์ได้ตามแผนจริง ๆ ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรแจ้งกลับไปยังธนัท ว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

“แย่แล้วล่ะเจมส์” เสียงตามสายของธนัทดูร้อนรนกว่าปกติ จนเขาชักเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ

“หืม?”

“คุณวินต์หายตัวไป…พวกฉันตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ” เสียงตามสายบอกต่ออย่างรวดเร็ว

เจมส์นิ่งไปอย่างตกใจ “แน่ใจรึเปล่า ว่าไม่ได้อยู่แถวนั้น โทรศัพท์ล่ะ?”

“ลองโทรแล้ว แต่ไม่มีคนรับเลย” เสียงตอบกลับอย่างร้อนรนพอกัน “หวังว่าคงไม่ได้ถูกใครจับตัวไปหรอกนะ”

หมอผีหนุ่มนิ่งอึ้งไปทันที เขาคิดต่ออย่างเคร่งเครียด

หรือว่าพวกเขาโดนซ้อนแผน? ไม่น่าเป็นไปได้…แต่ตอนนี้ เขาไม่มีทางเลือกแล้ว…

“คงไม่ใช่พวกชวรัตน์ เพราะพวกนั้นอยู่กับฉันจนถึงเมื่อกี้” ชายหนุ่มพูดอย่างครุ่นคิด คนที่รู้เรื่องนี้ มีไม่มากนัก…และอีกคนหนึ่ง ที่รู้ดีก็คือ…

สารวัตรธนดล!

“แย่แล้ว” เจมส์อุทาน “เจ้านัท เครื่องติดตามรถนั่นพร้อมใช้งานแล้วรึยัง เราคงต้องรีบตามไปไวกว่าที่คิดไว้ซะแล้ว”

“นายคิดว่าคุณวินต์โดนจับไปงั้นรึ” ธนัทถามอย่างตกใจ เขามองปรางทิพย์ที่อยู่ข้าง ๆ เด็กสาวส่ายหน้า สีหน้าเธอไม่ดีนัก ปวินต์เป็นพี่ชายเพียงคนเดียวและเสาหลักของบ้าน การหายตัวไปก็ทำให้เธอกังวลมากแล้ว

เจมส์พูดต่ออย่างครุ่นคิด “อาจจะเป็นคนละกลุ่มกัน แต่ฉันคิดว่า สารวัตรธนดล น่าสงสัยที่สุด แต่ถ้าเป็นแบบนั้น จุดหมายของพวกมัน ต้องเป็นที่เดียวกันแน่…คือที่ ๆ เจ้าหมอผีนั่นอยู่ นัท…นายรีบเอาเครื่องรับสัญญาณนั่นมาที่ที่จอดรถเดี๋ยวนี้เลยได้มั้ย แล้วเราจะได้รีบตามไปเลย จะช้าไม่ได้ ตอนนี้ไม่ใช่แค่เคนแล้ว แต่คุณวินต์เอง…ก็อยู่ในอันตรายเหมือนกัน!”


จบตอน

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #242 เมื่อ11-10-2011 20:57:42 »

ลุ้นสุดตัว  อยากให้ถึงวันปะทะเร็วๆ

fahsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #243 เมื่อ11-10-2011 22:18:32 »

เย้ๆๆ ได้อ่านแล้ว  :กอด1: :pig4:
อย่าให้วิน เป็นอะไรเลย    :serius2: อาดลร้ายมากกกกกกกกกกกกกกก   :beat: :z6:

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #244 เมื่อ11-10-2011 22:50:45 »

โอ้ยกว่าจะได้อ่านรีบมาเร็วๆๆๆๆๆนะครับ

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #245 เมื่อ11-10-2011 23:07:07 »

โอยยยย

เคนยังช่วยไม่ได้เลย  คุณวินต์ก็ถูกจับไปอี๊ก...
อะไร๊!!!!!

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 11 (11/10/11)
«ตอบ #246 เมื่อ12-10-2011 15:48:42 »

โอ้~มายบุดดา โผล่มาซะทีเรื่องนี้ หลังจากหายไป 45วัน :oni2:
คิดถึงนะเนี่ย คุณppmหายยุ่งแล้วเหรอจ๊ะ
ผู้กองอ่ะ ฉวยโอกาสจุ๊บเจมส์ด้วย แล้วจู่ๆทำไมปวดท้องได้หนอ :confuse:

ให้เป็ดจ้ะ :3123:

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #247 เมื่อ16-10-2011 11:40:29 »

สืบเสน่หา

ตอนที่ 12



    รถคันงามของชวรัตน์และบรรดาบอดี้การ์ด แล่นตรงเข้ามายังหมู่บ้านหนึ่งในย่านชานเมือง พอรถจอดรอที่หน้าบ้านเพียงครู่ ประตูรั้วก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ ร่างท้วมกระหืดกระหอบลงจากรถ มือยังคงกุมท้องไว้แน่น อาการมวนในท้องยังไม่หายไป แม้จะดีขึ้นมาบ้าง

บ้านนี้อยู่ในหมู่บ้านของผู้มีอันจะกิน ตัวบ้านทำด้วยไม้อย่างดี แต่ออกแบบสร้างผสมผสานแบบธรรมชาติ เน้นจัดเป็นโซนรับแขกมากกว่าอย่างอื่น เพราะมักมีคนมาติดต่อให้หมอคงมาทำงานต่าง ๆ ให้อยู่เป็นนิจ

    ผู้มาเยือนไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้าวเข้าประตูไปโดยไม่ได้เคาะ แล้วตรงไปยังห้องอันคุ้นเคยในทันที

ประตูที่เปิดผลัวะเข้าไปเป็นห้องพระ ห้องพระที่นี่เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่จัดโต๊ะหมู่บูชาแทบเต็มพื้นที่ครึ่งหนึ่งของห้อง จุดธูปจุดเทียนจนควันคลุ้ง แม้ว่าจะมีระบบปรับอากาศที่ดี ก็ยังไม่อาจกลบกลิ่นและความขลังของสถานที่ไปได้

ร่างผอมสูงนั้นยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่บนผ้าที่ปูไว้เฉพาะ ดวงตาหลับสนิท ไม่มีสะดุ้งหรือตกใจกับการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญนัก

“หมอ…หมอคง ช่วยผมด้วย พวกมัน…ทำของใส่ผม!” ชวรัตน์ละล่ำละลักบอกอีกฝ่าย

“พวกมันชักกล้ามากไปแล้ว” คนฟังลืมตาขึ้น พลางหัวเราะอย่างไม่ทุกข์ร้อน

“หมอคง…ช่วยผมได้สินะ…ตอนนี้ท้องมัน…ปวดไปหมดเลย” เขากุมท้องพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

คนนั่งสมาธิยังคงนั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิม จนคนอ้อนวอนเริ่มร้อนรนกว่าเก่า

“หมอ…ถ้าช่วยผม ผมจะจ่ายให้อย่างงาม ขอแค่…ให้หายเป็นปกติเท่านั้น ผมไม่อยากตายเหมือนเจ้าชิดชัยหรอกนะ” ว่าพลางหยิบเงินปึกใหญ่ใส่พานโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายบอก

ร่างที่นั่งตัวตรงอยู่เบื้องหน้า ไม่ได้เหลียวแลเงินนั้นแม้แต่น้อย แต่ก็ขยับเอื้อมไปด้านข้าง หยิบของที่อยู่ในย่ามอย่างหนึ่งออกมา มันเป็นยาผงสีขาว ในซองพลาสติกใสขนาดเล็ก

“ไม่ต้องห่วง เรื่องแค่นี้ผมจัดการได้ เอายานี่ไปกินซะ แล้วนอนพักผ่อนมาก ๆ อาการปวดจะหายไปเอง”

คนฟังยิ้มออกอย่างยินดี ก่อนรีบรับซองยามาเทกลืนกินลงไปแทบจะในทันที โดยไม่สนใจจะพึ่งน้ำดื่มเลยด้วยซ้ำ

หมอคงที่นั่งอยู่มองมา ใบหน้าแกร่งยิ้มน้อย ๆ อย่างยากจะคาดเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดต่อไปว่า “มันคงยังไม่หายในทันที รีบกลับไปพักผ่อนซะล่ะ”

“ทราบแล้วท่านหมอ ถ้าอย่างนั้นผมลาก่อนล่ะ” คนฟังรับคำ อย่างนอบน้อมกว่าเดิมอีกหลายเท่าด้วยความยำเกรง

“เชิญ…ผมไม่ส่งนะ” เขาว่าพลางหลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้คนมอง มองมาอย่างไม่กล้าจะรบกวนอีก ชวรัตน์ผุดลุกขึ้น อาการปวดท้องเริ่มจางหายอย่างประหลาด ท่าทางยาของหมอคงจะดีจริง เขาหันไปพยักพเยิดให้คนติดตาม ตามเขากลับไป

เสียงรถจากไปแล้ว ในตอนที่มีใครอีกคนเดินเข้ามาจากห้องด้านหลัง ซึ่งทำเชื่อมติดกับห้องพระไว้อย่างแนบเนียน เพราะมีโต๊ะหมู่ขนาดใหญ่ ช่วยบังไว้จนตำแหน่งประตูเป็นมุมอับ

ผู้ที่เข้ามา เป็นร่างสูงสมส่วนที่แข็งแรง ดวงตาคมมองมายังหมอผีก่อนถามขึ้นเนิบช้า

“เขาไปแล้วงั้นหรือ หมอคง”

หมอคงลืมตาขึ้น ก่อนพยักหน้ารับโดยไม่ได้หันไปมอง เขารู้อยู่แล้ว ว่าใครเป็นคนถาม

“ใช่ ไปแล้วล่ะ เจ้าหมอผีมือใหม่นั่น…จะยังไงก็มือใหม่จริง ๆ มันไม่กล้ากระทั่งใช้ยาสั่งของจริง กับเจ้าอ้วนนั่นเลยด้วยซ้ำ”

ร่างสูงเดินอ้อมมาเบื้องหน้า ก่อนถามต่ออย่างสงสัย “หมายความว่ายังไงกัน เจ้านั่นบอกว่าโดนยาสั่งไม่ใช่รึ ฉันน่ะเห็นนะ ว่าปวินต์พยายามจะวางยาเจ้านั่นมากขนาดไหน ถึงกับลงทุนแต่งหญิงยั่วเลยด้วยซ้ำ” คำพูดนั้นแทรกความขบขันไว้ด้วย

“ก็แค่ให้กินอะไรบางอย่างที่ทำให้ปวดท้อง ไม่ต้องทำอะไร พรุ่งนี้ก็น่าจะหาย ตอนนี้ก็คงแค่อุปทาน ว่ากินยาแล้วดีขึ้นเท่านั้นแหละ” หมอคงพูดด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ

“อ้าว แล้วหมอให้เจ้านั่นกินอะไรไปล่ะ”

คนฟังอมยิ้ม ก่อนจะตอบว่า “พวกนักการเมืองลิ้นสองแฉกแบบนี้มันเลี้ยงไม่เชื่อง ถ้ามันได้ของ มันก็พร้อมจะหักหลังพวกเราได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเพื่อเป็นหลักประกัน แล้วก็…ไหน ๆ มันก็อยากกิน…ด้วยความตั้งใจของมันเองแล้วด้วย ก็เลยให้…”

น้ำเสียงทอดเว้นระยะ ก่อนเน้นย้ำเหี้ยมเกรียม “ยาสั่งของจริง…ให้มันกินเข้าไปแทนยังไงล่ะ” ว่าพลางหัวเราะหึ ๆ อย่างเป็นต่อ “พวกมันจะได้รู้ ว่าถ้าคิดคดทรยศ แล้วจะเป็นอย่างไร!”

คนฟังหน้าซีดไปเล็กน้อย ก่อนหันมายิ้มสู้แล้วถามต่อไปว่า “ยาแบบที่ให้ชิดชัยกับปวินต์กินเข้าไปนั่นน่ะรึ”

หมอคงพยักหน้ารับ “มันก็แค่ยาธรรมดา ถ้าไม่มีการร่ายเวทย์ของผม…แต่เมื่อใดก็ตาม ที่มันคิดคด เมื่อนั้น…จะเป็นวันตายของมัน!”

ว่าพลางมองคนที่ยืนอยู่นิ่งนาน พลางเค้นเสียงเย็นเยียบถามกลับ “แต่คนอย่างคุณ…สารวัตรธนดล…คงไม่คิดทรยศผมด้วยหรอกนะครับ”

    คนถูกจ้องยิ้มเจื่อน ก่อนรีบกลบเกลื่อน “ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไง พวกเรา…ก็รู้จักกันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่รึ”

    “ผมก็คิดว่าอย่างนั้น…จะอย่างไร พวกเราก็ร่วมหัวจมท้ายกันแล้ว คุณคงไม่คิดจะชิ่งหนีไปคนเดียวหรอกใช่มั้ย”

    “ก็..แน่ล่ะ อ้อ จริงสิ พวกนั้นคงจะตามชวรัตน์มาแน่ ยาที่ไม่แรง แสดงว่าพวกมันอยากจะแค่รู้ที่อยู่ของหมอคงเท่านั้น คุณคงมีวิธีการรับมือพวกมันใช่ไหม”

    หมอคงพูดอย่างมั่นใจ “เรามีทั้งเด็กน้อยและเจ้าหญิงเป็นตัวประกัน ไม่จำเป็นต้องกลัวมันอยู่แล้ว…แต่ไหน ๆ ก็มาแล้ว ผมคงต้องเตรียมการต้อนรับสักเล็กน้อยเหมือนกัน”

    “ถ้างั้นผมไปดูเจ้าหญิงก่อนดีกว่า ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วโวยวายคงไม่ดี” ว่าแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปทางเก่า โดยไม่ได้สบตาด้วยอีก

    คนมองมายิ้มน้อย ๆ “ถึงจะอยากโวยก็คงไม่มีแรงพอหรอก ยาของผมน่ะ…แรงพออยู่แล้ว” หมอคงตอบง่าย ๆ ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงสมาธิอีกครั้ง อย่างไม่ใส่ใจนัก



    ปวินต์ขยับตัวอย่างอึดอัด ร่างกายคล้ายไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก เขาได้แต่ลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบ ๆ ลำคอแห้งผากขนาดอยากจะเปล่งเสียงร้องเรียกใครให้เข้ามาก็ยังไม่มีเสียง แม้สมองจะยังปกติ แต่ร่างกายของเขากลับไม่ใช่ เรี่ยวแรงที่มีเหมือนหายไปจนหมด ช่องท้องแม้ไม่ปวดแปลบเหมือนแรก ๆ แต่ก็ไม่มีแรงจะลุกขึ้นเลยด้วยซ้ำ

    ภาพที่เห็นคือบ้านเพดานสูงทำด้วยไม้ และที่นอนนุ่มที่เขานอนอยู่ ห้องนี้เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่ มีประตูบานเดียวอยู่ไกลออกไปไม่มาก หากเขาก็ไม่สามารถลุกเดินไปถึงได้อยู่ดี

    แขนเพรียวพยายามยันกายขึ้นจากเตียงอย่างอ่อนล้า ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเจมส์…ผู้กองหนุ่มแน่ใจนัก เขาเคยสำรวจรอบบ้านของเจมส์มาแล้ว และที่นี่ แม้จะทำด้วยไม้เช่นเดียวกัน แต่กลับมีบางอย่างแตกต่างออกไป

    ห้องนี้คล้ายเป็นห้องขัง…มากเสียกว่าเป็นห้องนอนทั่วไป ตัวห้องด้านบนติดเพดาน มีช่องให้แสงส่องลงมาได้บ้าง แต่ไม่มีหน้าต่างเลยสักบานเดียว เหมือนคล้ายบอกกับเขาว่า อย่าได้คิดหนี ถ้าประตูถูกล็อคไว้

    เหตุการณ์ก่อนสลบไปเขายังจำได้ดี ถึงอ้อมแขนใครบางคน ที่อุ้มเขาไว้ตอนใกล้จะหมดสติ…ไม่ใช่เจมส์…แต่เป็นคน ๆ นั้น…ที่เขาไม่คิดว่าจะเข้ามา…

    สารวัตรธนดล!

    ท้องไส้ที่ไม่ปกตินัก ทำให้เขานึกสังหรณ์ถึงบางอย่างอันน่ากลัวได้ เจมส์เคยเตือนเขาแล้ว…หลายครั้งเสียด้วย ให้ระวังเรื่องอาหาร หรือการดื่มกิน ถ้ามาจากคน ๆ นี้

    เขาก็ได้พยายามระวังแล้ว แต่ทำไม…ยังถูกวางยาได้อีก?

    คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ ด้วยสภาพร่างกายอย่างตอนนี้ จะหนีก็ยังยาก

    หากยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ประตูบานเดียวที่มี ก็กลับเปิดออก ร่างสูงที่เข้ามา คือคนที่เขากำลังนึกถึง…ด้วยความไม่เข้าใจ

    …สารวัตรธนดล…!

    “ฟื้นแล้วงั้นรึ เจ้าหญิง” เสียงทักทายอย่างยิ้มแย้มดังขึ้นก่อน ปวินต์หันไปมองเขม็ง โดยไม่ได้พูดอะไร เขายังคงขยับไม่ได้มากไปกว่านี้ จึงได้แต่สงบปากสงบคำแทนคำตอบ

    “ยานั่นคงไม่ได้ทำให้เป็นใบ้หรอกใช่ไหม” เสียงถามเชิงเยาะกลาย ๆ พูดต่อไป

    มือของชายหนุ่มกำแน่น ก่อนถามขึ้นว่า “คุณวางยาผม…เมื่อไหร่กัน?”

    คนฟังหัวเราะอย่างขบขัน “เด็กเอ๋ยเด็กน้อย คิดว่ามีแค่เวลาที่เราไปทานอาหารด้วยกันเท่านั้นรึ ฉันถึงจะวางยาเธอได้ เราอยู่โรงพักเดียวกันนะ อย่าลืมสิ แถมทุกเช้า ฉันก็รู้มาว่า จ่าเดี่ยวก็ชอบชงกาแฟเผื่อให้เธอดื่มเหมือนกัน ก็แค่ชวนคุยแล้วใช้ไปทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ พอกลับมาอีกที ทุกอย่างก็เรียบร้อย ง่ายดายไหมล่ะ”

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #248 เมื่อ16-10-2011 11:42:10 »

ผู้กองหนุ่มถึงกับอึ้งไปเลย เขาไม่คิดว่ากาแฟที่จ่าเดี่ยวเอามาให้เขาดื่ม จะแฝงด้วยความชั่วร้าย ใช้ประโยชน์จากคนของเขา วางยาเขาเอง ฉลาดเสียจริง

    สารวัตรธนดลมองใบหน้าที่ซีดเผือดนั้น ก่อนจะเชยคางสวยขึ้นมามองให้ชัด แม้เจ้าตัวจะฮึดฮัดขัดขืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีแรงจะขยับเสียด้วยซ้ำ

“เธอน่าจะรู้นะ ว่าก่อนจะรบหรือแข่งขันอะไร การรู้เขารู้เรา เป็นยุทธวิธีเบื้องต้นอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงกำชัยชนะมาไม่ได้หรอก”

    ปวินต์มองมาด้วยแววตาที่เสียใจมากกว่าจะโกรธแค้น เขาพึมพำขึ้นมาว่า “ผมเสียใจนะครับ…ที่อาดล…คนที่ผมและพ่อเคยชื่นชมมาตลอด กลับกลายเป็นคนอย่างนี้ไปได้”

    “หึ พวกเธอพ่อลูกก็เชื่อคนง่ายเท่านั้นเอง ไม่งั้นคดีคราวก่อนนั่น คงไม่ได้เหยื่อชั้นดีอย่างพ่อเธอหรอก”

    “อะไรนะ…คุณทำอะไรพ่อผม?”

    “เธออย่ารู้คงจะดีกว่า…แต่การตายของเขา ก็ทำให้ฉัน…เลื่อนยศขึ้นมาเป็นสารวัตร จนถึงตอนนี้ไงล่ะ!” เขาพูดพลางหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ โดยไม่มีวี่แววแห่งความเสียใจแม้แต่น้อย

    ปวินต์มองมาอีกครั้ง ด้วยสายตาจงเกลียดจงชังกว่าเดิม “ผมคงเข้าใจผิดจริง ๆ ที่คิดว่าคุณเป็นคนดี ที่แท้…ก็หวังลาภหวังยศ จนขายได้กระทั่งเพื่อน…พ่อของผม ต้องตายไปเพราะช่วยชีวิตคุณแท้ ๆ ไม่คิดเลย ว่านั่นจะเป็นแผนการของคุณ”

    “ทั้ง ๆ ที่ก่อนตาย ท่านยังบอกว่า…ดีแล้วที่คุณปลอดภัย ผม…ผมเสียใจจริง ๆ ที่ท่านยังห่วงคนอย่างคุณ…แม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนท่านจะสิ้นใจ”

    คดีในครั้งนั้นก็เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นคดีจับยาบ้าล็อตใหญ่เลยทีเดียว ที่พ่อของเขาร่วมทีมทำกับธนดล พ่อของเขา…ตายเพราะช่วยชีวิตธนดลไว้ โดยไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นแผนการของเจ้าตัว เพียงเพราะต้องการหาผลงานให้ได้เลื่อนขั้น

    หยาดน้ำตาหยดระแก้มนวล แม้ดวงตากลมโตนั้นจะจับจ้องอีกฝ่ายอย่างรังเกียจ ธนดลมองมาอย่างพอใจกว่าเดิม โดยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด “จะว่าไปแต่งแบบนี้ เธอก็สวยไม่แพ้แม่ของเธอเหมือนกัน…น่าเสียดายนัก ที่ไปหลงรักผู้ชายที่แก่กว่าเยอะ อย่างพ่อของเธอเสียได้ กระทั่งเจ้านั่นตายไป…ก็ยังไม่ยอมแต่งงานใหม่ ผู้หญิงคนนั้นใจเด็ดดีแท้”

    “อย่ามาพูดจาจาบจ้วงถึงแม่ผมนะ แล้วก็อย่าคิดว่าคุณจะชนะ…เจมส์จะต้องจัดการกับพวกคุณได้แน่!”

    “งั้นรึ…ฉันจะดูต่อไปแล้วกัน ถ้าได้เฮโรอีนล็อตนี้มา ฐานะของผู้กำกับ จะหนีไปไหนเสีย แม้จะต้องแสดงความเสียใจ กับผู้กองปวินต์ ที่สละชีพในหน้าที่ เพื่อช่วยให้การปฏิบัติงานครั้งนี้ลุล่วงไปก็เถอะ อ้อ…แล้วก็ยังมีเจ้าหมอผีหน้าโง่ของเธอด้วย ที่ลักลอบนำเข้าเฮโรอีน จนถูกวิสามัญไป” เขาพูดต่อนิ่ม ๆ หากอีกฝ่ายเริ่มหนาวเยือก

    ปวินต์มองมาอีกครั้ง อย่างพยายามปลุกปลอบกำลังใจที่เหลืออยู่ให้กลับคืนมา “เจมส์จะไม่มีวันยอมคุณแน่ เขารู้อยู่แล้ว ว่าคุณคิดไม่ซื่อ คุณเอาของนั่นไปจากเขาไม่ได้หรอก”

ใบหน้าแกร่งมีรอยยิ้มจาง ๆ “ลองฉันมีชีวิตเธออยู่ในกำมือ เขาไม่กล้าทำอะไรแน่ นอกจากได้แต่มอบของสิ่งนั้นมา…คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”

คนพูดหัวเราะอีกครั้งอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วล็อคกุญแจไว้ดังเดิม

ปวินต์ทิ้งร่างลงกับเตียงอีกครั้งอย่างอ่อนแรง ถ้าเขายังอยู่ในสภาพนี้ จะอย่างไรก็ไม่มีทางหนีออกไปได้…แล้วเจมส์จะทำยังไง

จะให้ของนั่นไปตกอยู่ในมือธนดลไม่ได้…ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง…ต้อง…จริงสิ…เคนล่ะ?

มือของเขาล้วงเข้าไปในอกเสื้อ สร้อยเส้นยาวที่คล้องอยู่ เป็นสร้อยที่เจมส์ให้ไว้ก่อนหน้านี้ สร้อยเส้นนี้ เป็นคล้าย ๆ อีกที่หนึ่งสำหรับสิงสถิตของกุมารทองน้อยได้ และแน่นอน อย่างน้อยก็ทำให้มีพลังมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งตัวเขานั้นตื้อขอมาเอง เผื่อไว้ในกรณีที่อาจจะโดนจับตัวไปเช่นนี้

นับว่าที่คิดไว้ไม่พลาดเลยจริง ๆ แต่ว่าตอนนี้ เคนอยู่ที่ไหนกัน แล้วเขา…จะติดต่อกับเด็กคนนั้นได้ยังไง

ในเมื่อสภาพร่างกายเขาเป็นเช่นนี้…



รถที่ขับตามเครื่องติดตามไปอย่างระวังจอดรออยู่ที่ข้างบ้านหลังนั้น เด็กสาวแทบจะรีบลงไปก่อนแล้วอย่างร้อนใจด้วยความเป็นห่วงผู้เป็นพี่ หากยังไม่ทันได้ลง ก็ถูกเจมส์ดึงตัวไว้

“เดี๋ยวก่อนสิครับน้องปราง”

“เราต้องรีบช่วยพี่วินต์นะคะ” เด็กสาวแย้งทั้งน้ำตา ท่าทางของเธอดูจะเป็นห่วงพี่ชายมากเอาการ

“พวกมันคงรู้แล้ว ว่าเราตามเจ้านั่นมา ถ้าเข้าไปตอนนี้ คงใช้คุณวินต์เป็นโล่ แล้วจัดการพวกเราได้ง่าย ๆ นะครับ”

“แต่…แต่ว่า ถ้าเราแอบเข้าไปล่ะคะ พวกนั้นอาจจะยังไม่รู้” เธอแย้งอีกด้วยแววตาที่ร้อนรน

เจมส์ส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนพูดว่า “พี่ก็เป็นห่วงพี่วินต์ของน้องปราง แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นหมอผีเหมือนกับพี่ หมอผีน่ะ จะมีอาณาเขตของตนเองอยู่ โดยเฉพาะที่บ้าน เหมือนบ้านพี่ ก็จะมีท่านตาเจ้าที่ ถ้ามีคนแปลกหน้า น่าสงสัยเข้ามา เจ้าที่จะรีบรายงานเจ้าของบ้านทันที และนั่น…จะทำให้พวกนั้นรู้ตัว แล้วพลิกสถานการณ์กลับจนเราเพลี่ยงพล้ำได้ง่าย ๆ”

“ปรางกลัวพวกนั้น…จะทำอะไรพี่วินต์” เธอว่าพลางร่ำไห้ ธนัทโอบไหล่สั่นน้อย ๆ ของเธอไว้ พลางปลอบใจว่า “พวกนั้นจับคุณวินต์มา เพราะมีจุดประสงค์ที่ตัวเจมส์ ดังนั้นจนกว่าจะได้ต่อรองกัน พวกนั้นจะไม่ทำอะไรคุณวินต์หรอกนะ”

“จริง ๆ นะคะ” เธอถามย้ำอย่างต้องการจะแน่ใจ

“จริงสิครับ นัท ฉันจะต้องเตรียมการที่บ้านเสียก่อน ศัตรูเราเป็นหมอผี ดังนั้น…ถ้าเราจะคิดชิงตัวประกัน ฉันจะถ่วงเวลาและความสนใจของเจ้าหมอผีนั่นให้ได้ และเมื่อถึงตอนนั้น นายจะได้แอบเข้าไปได้ปลอดภัยกว่าเดิม เราจะได้ชิงตัวคุณวินต์กับเคนคืนได้ปลอดภัยขึ้น”

เจมส์มองหน้าทั้งสองคน พลางพูดต่อไปด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เราจะลองชิงตัวประกันก่อน ฉันยังไม่อยากเอาของนั่นออกมา เพื่อความปลอดภัย จะยังไง ฉันก็อยากให้การส่งมอบของให้พวกมัน เป็นวิธีการสุดท้ายเท่านั้น”

“พวกพี่ ๆ ช่วยพี่วินต์ให้ได้นะคะ” เด็กสาวย้ำอีกครั้ง เธอยินยอมอยู่ในรถดังเดิม ไม่ดื้อรั้นที่จะฝืนลงไปอีก

ธนัทพยักหน้ารับ “โอเค เวลาเรามีน้อย เดี๋ยวฉันจะขับรถไปส่งนายที่บ้านเอง”

เจมส์มองผู้เป็นเพื่อน ก่อนพูดขึ้นว่า “ขอบใจนะนัท ศึกครั้งนี้เราจะได้ปะทะกับเจ้าหมอผีนั่นตรง ๆ แล้ว เพื่อคุณวินต์ เพื่อเจ้าเคน…ฉันก็เอาอาชีพตัวเองเป็นเดิมพันเช่นกัน!”



“คุณตำรวจ…คุณตำรวจฮะ…” เสียงเล็ก ๆ อันคุ้นเคยเรียกแทรกเข้ามาในจิตใต้สำนึก คนกำลังนอนลุกพรวด กลับนึกแปลกใจที่ตัวเองขยับร่างกายได้เหมือนปกติแล้ว

“อ๊ะ นั่นเธอ…” ปวินต์อุทานอย่างแปลกใจ ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นเด็กชายตัวเล็กที่ไว้ผมจุก แต่งตัวแบบเด็กโบราณ ใบหน้ากลมมนน่ารักรับกับดวงตาโตน่าเอ็นดู แม้สีหน้าจะไม่สดใสสักเท่าไรนัก

“หรือว่าเธอคือ…เคน…ลูกชายของเจมส์” เขาถามต่อไปในทันที “ในที่สุดก็ได้พบ…ฉันจะช่วยเธอหนีออกไปนะ” เขาพูดต่อในทันที

เด็กน้อยยิ้มเศร้า ๆ ก่อนจะตอบว่า “ใช่ฮะ…ผมคือเคน…คุณตำรวจ ฟังผมดี ๆ นะฮะ อีกไม่นาน จะมีคนมาช่วยคุณตำรวจออกไป…ผมจะช่วย…เท่าที่ช่วยได้ แต่ผมคงปรากฏตัวให้เห็นไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นครั้งนี้…อาจจะเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย ที่เราจะได้เจอกัน คุณตำรวจอดทนหน่อยนะฮะ รอให้ถึงคืนนี้…ผมจะเปิดประตูให้ และจะทำให้คนเฝ้า…หลับไปด้วย ผมคงช่วยได้เท่านี้”

“เราไปด้วยกันนะ นี่ไง ฉันได้สร้อยมาจากพ่อของเธอด้วย” ปวินต์รีบพูดต่อ เพราะท่าทางอีกฝ่ายเหมือนคล้ายจะมาอำลา มากกว่าจะหนีไปด้วยกัน

เด็กน้อยส่ายหน้าเบา ๆ “ขอโทษนะฮะ…ผมคงไปกับคุณตำรวจไม่ได้แล้ว”

“ทำไมล่ะ พวกเรามาเพื่อช่วยเธอนะ…จริงสิ…ฉันจะเป็นพ่ออีกคนให้เธอด้วย เธออยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหม เจมส์เคยบอกฉันไว้”

ใบหน้าเล็ก ๆ ยิ้มออกมา “ฮะ… ผมดีใจนะ ที่อย่างน้อยพ่อเจมส์…ก็ยังมีคุณอยู่…ถ้าผมไม่อยู่แล้ว…คุณตำรวจช่วยดูแล…”

“ไม่นะ เธอต้องกลับไปกับฉันสิ รู้ไหมว่าพ่อของเธอเป็นห่วงเธอขนาดไหน เขาขาดเธอไม่ได้หรอกนะ เชื่อฉันเถอะ พ่อของเธอจะต้องมาช่วยพวกเรา ทุกคนจะได้กลับบ้าน…อย่างปลอดภัย”

“คุณตำรวจจะได้กลับไปฮะ…แต่ผม…” เด็กน้อยก้มหน้าลงไม่ยอมสบตาด้วย พลางพึมพำต่อไป “ขอโทษนะฮะ ผมไม่สามารถช่วยแก้พิษยาสั่งได้ แต่อย่างน้อย ถ้าคุณหนีออกไปได้…พ่อคงทำอะไรได้บ้าง….”

มือเพรียวลูบผมนุ่มของเด็กน้อยเบา ๆ “เรียกพ่อวินต์สิ อย่าเรียกคุณตำรวจ ฉันจะไม่ทิ้งเธอนะ ลูกชายของฉัน…”

ดวงตากลมโตพร่าไปด้วยน้ำตา “ฮะ…พ่อวินต์ ขอผมกอดพ่อวินต์หน่อยนะฮะ”

ร่างนั้นสวมกอดแนบแน่น ก่อนจะผละออกด้วยรอยยิ้ม แม้มันจะดูเศร้าเสียจนน่าใจหาย

“ผมไม่มีเวลาอีกแล้ว คงต้องลาตรงนี้เลย…ขอบคุณนะฮะ…ที่ยอมเป็นพ่อของผม ฝากบอกพ่อเจมส์ด้วยว่า…ถ้ามันจำเป็น เนื้อที่กลายเป็นเนื้อร้าย จะยังไง…ก็ต้องตัดทิ้งนะฮะ…เพื่อรักษา…สิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้…บอกพ่อด้วยว่า…อย่าลังเลที่จะทำลายมัน…เพื่อไม่ให้ทุกอย่าง…สายเกินไป”

“ฝากดูแล…พ่อเจมส์ด้วยนะฮะ” ร่างนั้นโค้งให้น้อย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ สลายจางหายไป ปวินต์พยายามไขว่คว้าไว้ แต่กลับได้เพียงอากาศธาตุ เขาพยายามร้องเรียกเด็กน้อยอย่างตกใจ

“เคน…เดี๋ยวสิ…เราต้องกลับไปด้วยกันนะ…อย่าพึ่งไป…ต้องกลับไปด้วยกัน…”

พูดได้เท่านั้น ก็รู้สึกถึงกระแสหมุนวนรอบตัว ก่อนสติของเขาจะดับวูบอีกครั้ง

ดวงตาคมลืมขึ้นอย่างตกใจ ปวินต์กระพริบตาถี่ รู้สึกได้ถึงเหงื่อของตนเองที่ไหลจนชุ่มโชก…นี่เขา…หมดสติไปอีกครั้งสินะ แถมในฝัน…เมื่อครู่คงเป็นเพียงแค่ในฝัน…แต่มันกลับดูสมจริงนัก…

เด็กคนนั้น…ต้องเป็นเคนแน่ ๆ เกิดอะไรขึ้นกับเคน…เด็กคนนั้น…กำลังจะสลายหายไปจริงหรือเปล่า…?

แต่ถึงขนาดนั้น…เคน ก็ยังมาบอก เพื่อจะช่วยเขา

ร่างที่แทบขยับไม่ได้ของเขาช่างไร้ประโยชน์นัก…แต่จะอย่างไรก็ต้องพยายาม ในเมื่อเคนยอมเสี่ยงช่วยเขาถึงขนาดนี้ เขาจะต้อง…พยายามหาทางช่วยเด็กคนนั้นออกไปด้วยให้ได้

มือที่กำแน่นค่อย ๆ ยันกายขึ้นอย่างยากเย็น พลางหลับตารวบรวมสมาธิแล้วรอคอย เวลาที่เคนบอกไว้คือคืนนี้…เขาไม่รู้ว่าจะเป็นตอนไหน แต่เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะต้องพร้อมให้มากที่สุด

ถึงจะต้องตายด้วยพิษยาสั่ง…เขาก็ต้องหาทางช่วยเคนออกไป…

ใช่…ต้องทำให้ได้!


จบตอน

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #249 เมื่อ16-10-2011 12:10:05 »

แง้ สงสารเคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
« ตอบ #249 เมื่อ: 16-10-2011 12:10:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #250 เมื่อ16-10-2011 12:28:02 »

ตอนนี้มาเร็วดีมากเรย o13 :pig4:
ไอ้อาดลชั่วมาก  :angry2:
สงสารเคน :monkeysad:
รอลุ้นตอนต่อไปนะตัว :z2:

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #251 เมื่อ16-10-2011 12:51:29 »

สงสารน้องเคนเหมือนกันค่ะ

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #252 เมื่อ16-10-2011 15:06:17 »

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ไอ้หมออผีชั่ว ทำอะไรกับเคน
ไม่เอา รู้สึกเหมือนเคนต้องตายยังไงก้ไม่รู้

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:


ไม่เอาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #253 เมื่อ16-10-2011 16:51:58 »

ธนดลร้ายจริง ๆ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #254 เมื่อ16-10-2011 17:40:54 »

ฮือ สงสารเคนจัง

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #255 เมื่อ16-10-2011 17:56:35 »

เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #256 เมื่อ16-10-2011 19:00:14 »

ติดตามด้วยควมสนใจมากเลยเรื่องนี้  เคนละจะเป็นอะไรอีกละ  อย่าให้เคนเป็นอะไรเลยนะครับ

fahsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #257 เมื่อ16-10-2011 19:25:39 »

อย่าให้เคน กะวินต์เป็นอะไรเลย    :sad11: :serius2:
 อาดล!!  :angry2:  เลวมากกกกกกกก   :beat: :z6:
เจมส์ช่วย ทั้งคู่ให้ได้นะ   :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #258 เมื่อ16-10-2011 19:33:46 »

เคนน่าสงสารมากแต่ถ้าเคนเป็นอะไรไปคนที่นาสงสารที่สุดคงจะเป็นเจมส์กับวิน :m15:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #259 เมื่อ16-10-2011 19:38:19 »

สนุกมากๆๆเลย o13
อยากอ่านต่ออ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
« ตอบ #259 เมื่อ: 16-10-2011 19:38:19 »





ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #260 เมื่อ16-10-2011 19:42:57 »

 :sad4:สงสารหนูเคน

ออฟไลน์ DarknLight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #261 เมื่อ16-10-2011 20:23:52 »

สงสารเจ้าเคนน้อยจังเลย
 :m15:

ออฟไลน์ howru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #262 เมื่อ16-10-2011 21:14:26 »

สงสารเคนอะ..
แววดราม่ามาไกลๆ

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #263 เมื่อ17-10-2011 02:57:02 »

สงสารน้องเคนอ่ะ

wichaiP

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #264 เมื่อ17-10-2011 09:55:34 »

ม่ายยยนะ เคนนนนน

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #265 เมื่อ17-10-2011 12:53:17 »

พ่อเจมส์ช่วยเคนกับพ่อวินต์ให้ได้นะ

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #266 เมื่อ17-10-2011 19:53:13 »

เจ้าเคน  :m15:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2011 23:10:17 โดย sam3sam »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #267 เมื่อ17-10-2011 22:32:08 »

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:


น้ำตาจะไหล

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #268 เมื่อ17-10-2011 22:48:57 »

เคนผู้เสียสละ  :o12:

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 12 (16/10/11)
«ตอบ #269 เมื่อ17-10-2011 23:05:46 »

ต่ออีกตอนนึงนะ ค้าง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด