กลับมาแล้วค่ะ หายไปนานขออภัยด้วยนะคะ เพราะบ้านน้ำท่วมแถมเน็ตก็เจ๊งไปเดือนนึงเต็ม ๆ เลย ตอนนี้มาอัพแล้ว
และเปิดจองนิยาย คือ No Limit เล่ม 5 (และรีปริ้นย้อนทั้งหมด),
Absolution cafe, รวมถึง สืบเสน่หา เรื่องนี้ด้วยค่ะ ใครสนใจติดตามข่าวสารได้ >>
ที่นี่ค่ะ ^^
=======================================
สืบเสน่หา
ตอนที่ 15“พวกมันกล้าทำของใส่ฉัน…กล้าดีมากเกินไปแล้ว” ชวรัตน์คำรามในลำคออย่างหงุดหงิด วันนี้เขาหายดีแล้ว ไม่มีอาการปวดท้องขึ้นมาอีก โชคดีแท้ ๆ ที่ได้ยาจากหมอคงทันเวลา ไม่อย่างนั้นถ้าต้องมีจุดจบแบบชิดชัยคงแย่
มืออวบอูมที่กำแน่นบ่งบอกได้ชัดว่าขัดใจ ดวงตาเรียวเล็กหรี่ครุ่นคิด เขาไม่ยอมเสียท่าแล้วปล่อยเลยตามเลยแน่ จะอย่างไรก็ต้องหาทางเอาคืนพวกนั้นให้เจ็บแสบ
แต่เพราะโดนของมาสด ๆ ร้อน ๆ ทำให้เจ้าตัวไม่กล้าจะปะทะซึ่ง ๆ หน้าอีก โดยนิสัยที่เป็นพวกชอบวางก้ามออกคำสั่ง แต่เอาเข้าจริงไม่ได้กล้าเผชิญหน้ากับศัตรูนัก ทำให้เขาตัดสินใจโทรศัพท์หาหมอคงอีกครั้ง
“คุณหายดีแล้วสินะครับ” เสียงตอบกลับที่มีน้ำเสียงแกมสมเพชหน่อย ๆ จากอีกฝ่าย ทำให้นักการเมืองอาวุโสเริ่มแอบหงุดหงิดหนักกว่าเก่า ถ้าเขาไม่ต้องทนง้อหมอคงอยู่ล่ะก็ มีหรือเขาจะยอมปล่อยให้วางก้ามพูดจาด้วยน้ำเสียงแบบนี้ได้
“ครับหมอคง…ได้ยาดีจากหมอนั่นล่ะครับ ผมเลยหายดีแล้ว แต่ว่าเจ้าพวกนั้น…ผมไม่ยอมให้มันทำเรื่องแล้วชิ่งหนีไปสบาย ๆ แน่ หมอคงต้องทำอะไรสักอย่าง ให้พวกมันเข็ดหลาบนะครับ”
คำพูดที่นอบน้อมกว่าที่เคยทำให้หมอคงลอบยิ้มกับโทรศัพท์ สิ่งที่พวกนั้นทำลงไป เป็นกำไรของเขาอีกแล้ว เห็นได้ชัดว่าชวรัตน์กริ่งเกรงตัวเขามากกว่าแต่ก่อน ที่เอาแต่จะจิกหัวใช้อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ต้องห่วงหรอกคุณชวรัตน์ ผมได้จัดการไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อคืนพวกมัน บุกมาที่บ้านผม คงจะตามคุณมานั่นแหละ” คำพูดหลัง ๆ ออกน้ำเสียงแกมตำหนิ ซึ่งอีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้
“แล้วพวกมันทำอะไรบ้างล่ะ” ร่างท้วมถามกลับ
“พวกมันเรอะ จะทำอะไรได้ ผมก็แค่…จัดการตอบโต้ไป ตามความเหมาะสม ตอนนี้ผมได้ตัวประกันชั้นดีมาแล้วด้วย”
“ใครกัน”
“ตำรวจคนนั้นไงครับ ถ้าเจ้านั่นไม่เอาของมามอบให้คุณ ภายในสามวัน เจ้าตำรวจนั่น จะต้องตายอนาถแบบชิดชัยแน่” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมตอบกลับ เล่นเอาคนฟังแอบหนาว เมื่อเผลอคิดไปว่า ถ้าเมื่อคืนหมอคงช่วยไว้ไม่ทัน ตนเองอาจจะมีชะตากรรมเดียวกันก็ได้
“คุณก็ระวังนะ แล้วเมื่อไหร่ถ้าผมได้ของ ก็จัดการฝังพวกมันซะให้หมด แล้วผมจะมีรางวัลอย่างงามให้” ชวรัตน์ติดสินบนตบท้าย
คนฟังหัวเราะอย่างพึงใจ “ก็ดีครับ หวังว่ามัน…คงจะคุ้มกับสิ่งที่ผมต้องทำอีกหลายอย่างด้วยล่ะครับ”
“…แน่นอนอยู่แล้ว ต้องเป็นรางวัลก้อนโตสิครับ ผมน่ะ ไม่ลืมคุณแน่” คำตอบประจบเอาใจกลับอย่างรวดเร็ว
“ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น คุณคงไม่คิดหักหลังผมหรอกใช่ไหม”
“มะ…ไม่คิดแน่นอน ให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยดีก่อนเถอะน่า”
“โอเคครับ แล้วผมจะรอ” เสียงตอบรับก่อนตัดสายไป
ชวรัตน์ขมวดคิ้วมุ่นอย่างแอบขัดใจนิดหน่อยหลังวางสาย เขากดเบอร์ใหม่แล้วรีบโทรออก ถึงตอนนี้ยังต้องง้อหมอผีเจ้าเล่ห์นี้อยู่มาก แต่เขาก็ยังมีไพ่ใบสุดท้าย เอาไว้จัดการอยู่ดี
“ครับ…ท่านชวรัตน์ มีอะไรให้ผมรับใช้?” เสียงตามสายตอบกลับอย่างสุภาพนอบน้อม ชวรัตน์อมยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยเส้นสายในกรมของเขายังมีมากพอดู และคนที่ท่าทางใช้การได้ ก็หนีไม่พ้นสารวัตรธนดลคนนี้
“จัดการให้ฉันไปถึงไหนแล้ว” เสียงทำเป็นเข้มถามกลับอย่างผู้ที่ถือว่าเหนือกว่า
“ไม่ต้องห่วงครับ หมอคงนั่นใช้การได้อยู่”
“ฉันรู้ว่ามันใช้การได้ แต่มันชักจะกำแหงไปแล้วนะ” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ อีกไม่นานท่านก็จะได้ของแล้ว และหลังจากนั้น…” คนพูดทิ้งท้ายให้คิด
ชวรัตน์ยิ้มเครียด “หลังจากนั้น เก็บเจ้าหมอนั่นให้เรียบร้อยด้วย อย่าให้มันรู้ทันจนทำของใส่เข้าล่ะ แล้วฉันจะจ่ายอย่างงาม”
คนฟังหัวเราะ “มือชั้นนี้แล้ว ผมไม่พลาดหรอกครับ ท่านไม่ต้องห่วง อย่าลืมโอนเงินเข้าล่วงหน้าครึ่งหนึ่งเหมือนเดิมด้วยนะครับ”
“เออ ไม่ลืมหรอกน่า เรื่องแค่นี้เอง”
พอตัดสายไป ชวรัตน์ก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“เชอะ เจ้าหมอผีจอมหยิ่ง คิดว่าอยากจะง้อนักเรอะ ไว้ให้ได้ของก่อนเถอะ ทั้งเจ้าพวกนั้น ทั้งแก ฉันจะจ้างคนจับปิดปากถ่วงอ่าวไทยให้หมดเลย!”
ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ เมื่อคิดว่าจะได้ครอบครองของสำคัญ รวมถึงฐานเสียงในอนาคตอันใกล้ได้อย่างมั่นคงกว่าเดิม
อีกไม่นานแล้ว…ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเสียที!
ร่างที่ถูกอุ้มอย่างเบามือยังคงเกาะคอแกร่งไว้เบา ๆ เรี่ยวแรงที่มีคล้ายหดหายลงเรื่อย ๆ อาการที่กำเริบถี่ขึ้นทุกขณะ ทำให้เจมส์หนักใจไม่น้อย หลังจากพยายามมาหลากหลายวิธีการ ที่จะช่วยขจัดพิษยาสั่งที่เกิดขึ้น แต่มันก็ทำได้เพียงบรรเทาอาการต่อไปให้ทรมานน้อยลงเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ปวินต์รู้ดีว่าเจมส์พยายามมามากแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ตัดพ้อต่อว่าอันใดชายหนุ่ม มีเพียงพยายามยิ้มทุกครั้งที่เห็นสายตาเศร้า ๆ นั้นมองมา เพื่อไม่ให้เจมส์หมดกำลังใจไปเสียก่อน เขาบอกกับอีกฝ่ายเองว่าจะเข้มแข็ง และจะไม่เป็นอะไร ดังนั้น…จะอย่างไรก็ต้องอดทนต่อไปให้ถึงที่สุด
แต่ในตอนนี้สีหน้าที่เคยซีดกลับซับสีเลือดขึ้นจาง ๆ เมื่อเผลอพึมพำงึมงำอยู่คนเดียวว่า “ทำไมฉันต้องแต่งตัวแบบนี้ด้วยเนี่ย”
คนฟังที่อยู่ใกล้ และได้ยินชัดอมยิ้ม เขามองร่างขาวที่ผอมบางนั้น ซึ่งมีเพียงผ้ายาวสีขาวคาดเอว โดยตลบปลายลอดใต้ขาไปเหน็บไว้ด้านหลังแบบโจงกระเบนขนาดย่อม ที่รั้งตัวผ้ายกสูงเกือบถึงโคนขาอ่อน ยิ่งยามลงไปในอ่างที่มีน้ำเปิดไว้เกือบครึ่ง ตัวผ้าสีขาวยิ่งโปร่งบางแนบเนื้อ มองผ่าน ๆ เรียกได้ว่าเกือบโป๊แล้วในสายตาผู้กองหนุ่ม
“ชุดแบบนี้เขาเอาไว้ใช้เวลาจะอาบน้ำว่านหรือทำพิธีที่ต้องใช้น้ำน่ะครับ เพื่อที่จะให้ร่างกายได้ซึมซับน้ำชำระล้างพิษได้ถึงทุกรูขุมขนไง” เขาว่าพลางหัวเราะแบบมีเลศนัย “ก็ดูดีออกไม่ใช่เหรอ ผมว่าคุณน่ารักจะตายไป”
“…..บ้าสิ..เห็นฉันไม่มีแรงล่ะลามกใหญ่เชียวนะ” ปวินต์ดุด้วยเสียงแผ่วเบา อายก็ยังคงอายจนแทบพูดไม่ออก อ้อมแขนของอีกฝ่ายที่มักจะช่วยอุ้มเพราะรู้ดีว่าตัวเขาขยับลำบากนั่นก็อีก มันช่างอ่อนโยนเสียจนเขาแทบเคลิ้ม สัมผัสที่เหมือนเมื่อครั้งยังเด็กตอนอยู่กับบิดาที่เขาเคารพและชื่นชมตลอดมา ทำให้คนถูกอุ้มอดอมยิ้มไม่ได้
“กำลังแอบปลื้มซิกแพคของผมอยู่หรือไงครับ” น้ำเสียงกลั้วหัวเราะถามต่อ
มือบางทุบแผ่นอกอีกฝ่ายดังอึ้ก คนโดนทุบแกล้งทำเจ็บเสียเต็มประดา “โอ๊ย คุณนี่นะ…แรงเยอะจริง แบบนี้ผมจะสู้ยังไงไหว”
“จะทำอะไรก็รีบทำเลย อย่ามัวแต่นอกเรื่องอยู่” ผู้กองหนุ่มดุกลับแม้ใบหน้ายังแดงเรื่อ
เจมส์ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเปิดตุ่มน้ำใกล้ ๆ ที่มีน้ำสีเขียวกลิ่นหอมแปลก ๆ เขาค่อย ๆ เทน้ำในนั้น ผสมกับน้ำที่เปิดไว้แล้วในอ่าง
“น้ำอะไรน่ะ” เสียงคนในอ่างถามขึ้นทันที เจ้ากลิ่นหอมอ่อน ๆ นั้นทำให้ผ่อนคลายดีอยู่หรอก แต่สีมันแปลกจริง ๆ
“เป็นน้ำที่ทำจากสมุนไพรหลายอย่างครับ ผสมกับน้ำมนต์ ช่วยล้างอาถรรพ์ได้ดี…ถึงมันจะช่วยขับพิษทั้งหมดไม่ได้ แต่ผมคิดว่า คงทำให้สบายตัวขึ้นได้บ้าง”
ร่างผอมเพรียวยืดขาในน้ำแล้วเอนกายพิงขอบอย่างผ่อนคลาย ดวงตาคู่สวยปรือหลับลงช้า ๆ “อืม มันก็สบายจริง ๆ นั่นแหละ ขอบใจนะเจมส์”
นัยน์ตาคนมองกลับทอแววเศร้า “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก เป็นผมแท้ ๆ ที่ทำให้คุณต้อง…”
มือบอบบางกวักเรียก ทำให้ชายหนุ่มชะงัก เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ตามที่บอก ก่อนจะตั้งตัวติด ก็ถูกดึงจนเซลงไปคร่อมร่างของอีกฝ่ายในอ่างจนเปียกปอนเสียแล้ว
“คุณเล่นอะไรเนี่ย” เจมส์พึมพำทั้งยังเปียกโชก เขาพยายามจะลุกขึ้นจากอ่าง แต่กลับถูกมือของอีกฝ่าย คล้องล็อคคอไว้อย่างหลวม ๆ
พอขยับจะโต้แย้ง ริมฝีปากบางที่เย็นจากการแช่น้ำจุมพิตที่ปากเขาเบา ๆ เล่นเอาคนกำลังลุกแข็งทื่อไปแล้ว
“อย่าพูดเรื่องนั้นอีกนะ เป็นฉันเองที่บีบให้นายพูด เป็นฉันเองที่ตัดสินใจร่วมขบวนการกับนาย ถ้าคิดว่าตัวเองผิด ฉันจะผิดมากกว่าอีกหลายเท่า เข้าใจไหม” เสียงสุดท้ายเน้นย้ำดุ ๆ เล่นเอาเจมส์ได้แต่ยิ้มเจื่อน
“ทราบแล้วครับคุณภรรยา สามีผิดไปแล้ว”
คนด้านล่างดันอีกฝ่ายออกแทบจะในทันที ด้วยใบหน้าที่แดงฉาน เมื่อคิดได้ว่าเมื่อกี้เผลอทำอะไรลงไป
“ใครภรรยา ใครสามีกัน เอ้า ลุกไปได้แล้ว”
“คุณนี่นะ ได้ผมแล้วทิ้งเชียว” เสียงอ่อย ๆ ว่าอย่างน่าสงสาร
“เดี๋ยวใครได้ยินก็เข้าใจผิดหมดกันพอดี” เสียงดุอ่อยลงเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าหงอย ๆ นั้น ก่อนจะพูดต่ออย่างเสียไม่ได้ว่า “ก็ได้ ๆ อยากแช่ด้วยก็แช่ไป ถ้ามันทำให้ฉันผ่อนคลายได้…ก็น่าจะทำให้นายผ่อนคลายได้เหมือนกันใช่ไหม”
“คุณวินต์น่ารักที่สุดในโลกเลย” ชายหนุ่มพึมพำอย่างยินดี ก่อนจะรวบร่างที่อยู่ด้านล่างขึ้นมานั่งบนตักตัวเองในน้ำนั้นหน้าตาเฉย
“นายนี่นะ ปากว่ามือถึงจริง”
“คุณอนุญาตผมแล้วนะครับ” หมอผีหนุ่มแย้งยิ้ม ๆ ดวงตาคมมองลำคอขาวของอีกฝ่าย ที่ยังคงห้อยสร้อยเส้นนั้น ซึ่งเขาเป็นคนให้มา…สร้อยของเคน
“คุณยังใส่สร้อยเส้นนี้อยู่อีกเหรอครับ” เขาถามขึ้นเบา ๆ
มือผอมบางกำสร้อยเส้นนั้นไว้ ก่อนจะตอบว่า “มันเป็นของสิ่งเดียว…ที่ฉันมี ของลูกชายฉันนี่”
ดวงตาของเขาทอแววอ่อนโยนลง ร่างแกร่งกอดปวินต์ไว้ พลางพึมพำ
“ขอบคุณนะครับ เคนคงจะดีใจ…มาก ๆ ที่คุณรักเขาขนาดนี้”
“ก็เขาเป็นลูกชายของฉัน” คนตอบย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ถ้างั้น…ผมก็เป็นสามีได้แล้วสิเนี่ย ไหน ๆ เราก็…มีลูกคนเดียวกันแล้ว” ว่าพลางแอบหอมแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ ร่างบอบบางสะดุ้งก้มหน้างุดอย่างเขินอาย ที่อายยิ่งกว่าคงเพราะตอนแรก เผลอจูบก่อนเสียด้วยซ้ำ
“ฉวยโอกาสอีกแล้วนะนายนี่” ตำรวจหนุ่มบ่นพึมพำ
คนฟังหัวเราะ “ใครกันแน่ ที่ฉวยโอกาสจูบผมก่อนเนี่ย”
“ฉันไม่ได้…อึก…” ร่างบนตักงอตัวลงอย่างปุบปับ มือที่จับขอบอ่างเกร็งแน่นอย่างพยายามจะสะกดกลั้นความเจ็บปวด เจมส์ขยับเข้าหาอย่างร้อนรน
“คุณวินต์!”
“ไม่…ฉันยังทน…ยังทนได้!” เสียงลอดไรฟันออกมาทำให้คนฟังร้อนรนนัก เขาไม่รู้จะช่วยยังไง ให้ดีกว่านี้อีกแล้ว
แววตาที่สำนึกผิดยังคงฉายชัด “ผมขอ…โทษ”
“ไม่ต้องขอโทษ!…กอดฉันไว้…ได้โปรดเถอะ กอด…ฉันไว้แน่น ๆ” ปวินต์ขัดขึ้น ด้วยแววตาที่เว้าวอน
เจมส์กอดร่างที่สั่นระริกไว้แนบแน่นกว่าเดิม “ครับ…ผมรักคุณนะ…ผมรักคุณ” เสียงกระซิบของเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวต้องการให้มันช่วยชะล้างความเจ็บปวดของอีกฝ่ายนั้นออกไป
“ฉันก็…” ปวินต์พยายามพูด แต่กลับไอออกมาแทนที่ มือที่ปิดปาก เริ่มเลอะไปด้วยเลือด… ท่าทางสุดทรมานใจนั้นทำให้เจมส์มองมาอย่างปวดใจ ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมเลย ทั้ง ๆ ที่ปวินต์…เป็นคนดีมากแท้ ๆ …ถ้าเขาเจ็บแทนได้คงดี
“อึก…รัก…” พูดได้แค่นั้น…ร่างบอบบางก็หมดสติไป
“คุณวินต์!” ชายหนุ่มร้องเรียกอย่างตกใจ เขายังคงกอดคนสลบไว้แนบอก
ทุกอย่างมันบีบจนเขารอต่อไปไม่ได้แล้ว…เขาพยายามมามากแล้ว แต่ไม่มีอะไรที่จะหยุดฤทธิ์ยานั่นได้เลย…ทางที่เหลืออยู่คงมีเพียง…