สืบเสน่หา (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สืบเสน่หา (จบ)  (อ่าน 169283 ครั้ง)

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 8 (26/7/11)
«ตอบ #180 เมื่อ08-08-2011 16:00:26 »

เวลานั้นเย็นแล้ว ที่ปวินต์ตัดสินใจแวะหาเจมส์หลังเลิกงาน การที่เขาตัดสินใจมาไม่ใช่เพราะเขาหายโกรธเจ้าบ้านั่นหรอกนะ แต่เพราะ ‘งาน’ ต่างหาก จะยังไง เขาก็ต้องการข้อมูลของชิดชัยจากเจมส์มากกว่านี้

    ต้องทำให้เจ้านั่นพูดออกมาให้ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผู้กองหนุ่มคิดต่อไปอย่างหมายมั่น เขายังนึกโกรธไม่หาย กับสิ่งที่อีกฝ่ายทำในช่วงนี้ นอกจากอมพะนำแล้ว ยังทำตัวไม่มีเหตุผลเสียด้วย ไม่เหมือนเจมส์คนที่เขารู้จักเลยจริง ๆ

    ชายหนุ่มเดินเข้ามาในซอยเดิมเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ต้องมองมาอย่างแปลกใจ เมื่อรู้สึกว่าบ้านนั้นปิดเงียบ ปกติเย็น ๆ เช่นนี้ จะมีผู้คนเข้าออกอยู่เป็นระยะ ส่วนใหญ่เป็นพวกที่มาติดต่อเพื่อขอพูดคุยทำพิธีการต่าง ๆ กับพ่อปู่ โดยเจมส์จะจัดคิวไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามการนัด และมักจะมีชาวบ้านมานั่งรอ ทั้งบริเวณรอบบ้าน และบริเวณนอกชานของตัวบ้านแบบนี้เกือบทุกครั้งที่เขามา

    แต่ในวันนี้กลับแปลกออกไป บ้านนั้นปิดเงียบ มีป้ายติดอยู่หน้าบ้านเสียด้วยว่าพ่อปู่งดทำพิธีนานอีกเป็นสัปดาห์!

    คนอ่านป้ายขมวดคิ้วอย่างสงสัย บ้านที่เงียบและไม่มีคน ถูกปิดประตูใส่กุญแจไว้ บ่งบอกได้ว่าเจ้าของบ้านนั้นไม่อยู่ แต่กุญแจอันนั้น ก็ถูกพังจนเปิดอ้า

    ท่าทางจะมีอะไรผิดปกติแล้ว เขานึกได้ถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เจมส์ที่ตั้งใจจะเฝ้าอยู่หน้าบ้านเขาทั้งคืน จู่ ๆ ก็ผุดลุกขึ้น เก็บข้าวของ แล้วรีบร้อนจากไป

    หรือว่าเพราะที่บ้านเกิดเรื่อง? เจมส์เลยรีบกลับไปดู?

    แต่จากสภาพที่เห็น คล้ายพึ่งถูกรื้อค้นอย่างเร่งรีบเสียมากกว่า เสียงตึงตังไม่ไกลออกไป ทำให้คนมองมาชะงัก เขาทันเห็นเงาไว ๆ ของใครบางคน ลอบปีนออกจากบ้านไปด้วยซ้ำ แต่วิ่งไล่ไปก็ไม่ทัน

    ขโมยงั้นหรือ? ขึ้นบ้านกันกลางวันแสก ๆ เลยเนี่ยนะ แถมเจ้าบ้าเจมส์ก็ไม่อยู่ ออกไปไหนก็ไม่รู้เสียอีก

    ปวินต์มองอย่างลังเลนิดหน่อย ก่อนตัดสินใจเปิดเข้าไป ภายในห้องแทบทุกห้องถูกรื้อค้นเสียจนไม่มีชิ้นดี อาจจะไม่แปลก ที่บ้านของเจมส์ถูกขโมยขึ้น เพราะเป็นบ้านหลังโดดเดี่ยวอยู่ใกล้ป่าช้า และห่างจากบ้านหลังอื่น ๆ ในละแวกเดียวกันพอสมควร

    แต่เขายังจำได้ เจมส์เคยบอกเขาไว้ว่า บ้านของตนมีเจ้าที่ที่ดีคอยคุ้มครอง มีลูกชายคือกุมารทองที่ชื่อเคน คอยเป็นหูเป็นตา ขโมยขวัญกล้าแข็งขนาดไหน ก็ไม่กล้าขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะบ้านนี้ ไม่มีอะไรจะขึ้นให้คุ้มด้วย เพราะเจ้าบ้านอยู่อย่างสมถะเสียจนแทบไม่เห็นของมีค่าใด ๆ

    การที่บ้านถูกรื้อค้น เป็นรอบที่สองแล้ว สันนิษฐานได้อย่างหนึ่งก็คือ มีคนรู้แล้ว ว่าเจมส์ซุกซ่อนบางอย่างไว้

    อาจจะเป็น…เฮโรอีน 20 กิโลกรัม ที่ชิดชัยอ้างถึงในจดหมายก่อนตายก็เป็นได้!

    แล้วเจมส์ไปไหน คงไม่ได้โดนอุ้มฆ่าไปแล้วหรอกนะ?

    คนคิดใจหายวาบ อดห่วงอีกฝ่ายไม่ได้ เขาเองก็รู้ดีแท้ ๆ ว่าเจมส์มีความจำเป็น จึงไม่ได้บอกความจริงกับเขา อิทธิพลของพวกนั้นมากมายนัก เห็นได้ชัดว่าแม้ในกรมตำรวจเอง ก็ใช่ว่าจะหลีกพ้น คดีจึงถูกปิดง่ายดายถึงเพียงนั้น

    เขายังคงไม่ลืมแววตาของเจมส์ ที่เจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่เขาโมโหใส่ เมื่อรู้ว่าเจมส์โกหก

    ลึก ๆ แล้วก็รู้…ว่าเจมส์พยายามจะปกป้องทุกคน จึงไม่ยินยอมบอกอะไรเลย

    แล้วในตอนนี้ล่ะ…เจมส์หายไปไหนแล้ว?

    ร่างสูงทรุดฮวบลงกับพื้นที่หน้าห้องพระ อย่างทำตัวไม่ถูก เขาน่าจะยินยอมรับฟังเจมส์มากกว่านี้ ในตอนที่อีกฝ่าย พยายามมาง้อขอคืนดีด้วย

    ตอนนี้สายเกินไปแล้วหรือเปล่า…เขาควรจะทำยังไงดี?



    “เจ้าบ้าเจมส์นี่ ถ้านายโดนฆ่าตายล่ะก็ ฉันจะ…” ร่างผอมเพรียวบ่นไปพลางจ้องรูปเจ้าของบ้านไปพลาง ราวยึดถือเป็นตัวแทน

    “เฮ้อ แช่งกันแบบนี้ไม่ดีนะครับผู้กอง” เสียงคุ้นหูแทรกเข้ามา

    คนฟังสะดุ้ง หันกลับไปอย่างยินดี “นาย…ยังไม่ตายงั้นเหรอ”

    ชายหนุ่มยักไหล่เบา ๆ ก่อนบอกว่า “ผมยังไม่ยอมตายง่าย ๆ หรอกครับ” แต่สีหน้าของเขากลับยังดูไม่ดีนัก แม้ท่าทางยิ้ม ๆ ของเขา จะดูเหมือนเดิม แต่มีบางอย่าง…ที่ผิดแปลกไป

    ความเงียบที่อึดอัด ทำให้คนด้านข้างชักกระสับกระส่าย เจมส์ดูนิ่งกว่าที่เคยเสียจนน่าแปลกใจจริง ๆ

    “ห้องโดนรื้อซะเละเชียว ฉันช่วยเก็บก็แล้วกัน” ปวินต์ทำลายความเงียบที่อึดอัดลง พลางก้มลงค่อย ๆ เก็บของ หากเจมส์กลับขัดขึ้นว่า

    “ไม่ต้องเก็บหรอกครับ เดี๋ยวก็มีคนมารื้ออีกอยู่ดี”

    คนฟังชักเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางซังกะตายนั้น “แล้วนายไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือไง”

    “จะให้ผมทำอะไรล่ะครับ แจ้งความ?”

    “ก็…ก็ได้นี่”

    “คุณตำรวจก็มาแล้ว ฝากกลับไปเขียนบันทึกให้ด้วยแล้วกัน” เขาว่าพลางทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา ซึ่งถูกรื้อค้นไม่พอ บางส่วนยังโดนมีดกรีดซ้ำเหมือนค้นหาบางอย่างที่อาจซุกซ่อนอยู่ภายในจนฟองน้ำที่ยัดไว้หล่นกลาดเกลื่อน

    ผู้กองหนุ่มมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ก่อนเค้นคำถามขึ้นมาจนได้

    “เจมส์…เมื่อคืนที่นายรีบกลับมาบ้าน มีอะไรเกิดขึ้นอีกสินะ”

    คำตอบมีเพียงความเงียบ เล่นเอาอีกฝ่ายชักของขึ้น

    “ถ้านายไม่บอกล่ะก็ ฉันจะอยู่กับนายที่นี่แหละ จนกว่านายจะยอมบอกทั้งหมด ถ้าโจรมันจะมาค้นอะไรอีก ฉันจะจับพวกมันให้หมดเอง!”

    ว่าพลางมองหน้าหมอผีหนุ่มอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนพูดต่อไป “ฉันรู้นะ ว่าทุกอย่างเกี่ยวข้องกับคุณชิดชัยที่ตายไป และเฮโรอีนอีก 20 กิโล ที่เขาเขียนไว้ก่อนตาย ว่าฝากใครบางคนไว้ด้วย พวกมัน…มาหาของพวกนี้สินะ”

    ท่าทางเอาจริงนั้นทำให้เจมส์พูดไม่ออก เขาคิดมามากแล้วเพียงลำพัง แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบที่ดีพอเลย ขนาดเขาลงทุนไปอยู่วัด ทั้งนั่งสมาธิ ทำวิปัสสนาอยู่พักใหญ่ แม้จิตใจเขาจะสงบลงอย่างได้ผล แต่เขาก็ยังคงไม่เห็นทาง ที่จะช่วยเคนได้

    เจมส์ตัดสินใจยอมรับกับอีกฝ่าย “ครับ…และหนึ่งในนั้น ก็มีพวกใช้อาคมด้วย…พวกมัน…จับเคนไปเมื่อคืนที่ผมไปเฝ้าอยู่หน้าบ้านคุณ…เป็นความผิดของผมเอง ที่ประมาทพวกมันมากเกินไป”

    “หา? กุมารทองลูกนายน่ะเหรอ”

    “ใช่ครับ…แล้วก็ทำร้ายท่านเจ้าที่ จนบอบช้ำมาก บ้านนี้…เลยไม่มีใคร คอยคุ้มครองอีก โจรมันจะขึ้น…ก็ไม่แปลก” เขาพูดพลางหัวเราะเบา ๆ แต่น้ำเสียงนั้นกลับดูเศร้ามากเสียกว่าขำ

    “แล้วนายไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ”

    “ผมทำแน่นอนอยู่แล้ว แต่แค่ ‘ผม’ …ไม่ใช่ ‘ผมกับคุณ’ เข้าใจไหมครับ คุณกลับบ้านไปเถอะ”

    “ถ้านายคิดว่าพูดแบบนี้แล้วฉันจะโกรธ แล้วหนีกลับไปอีกเหมือนคราวก่อนล่ะก็ นายคิดผิด” ปวินต์พูดต่อด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ

    “กลับไปเถอะครับ ผมไม่อยากจะสูญเสียคนสำคัญไปอีกแล้ว นึกว่าผมขอร้องก็ได้”

    “สารวัตรธนดล” จู่ ๆ ปวินต์ก็พูดชื่อนี้ขึ้นมา

    เจมส์ชะงัก ก่อนมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัยกว่าเดิม

    “ใช่ ฉันกำลังพูดถึงเขา นายบอกฉันว่า ห้ามเข้าใกล้เขา ห้ามดื่ม ห้ามกิน อะไรก็ตามที่เขาให้ นายเคยบอกว่า เขาอันตรายมาก”

    “คุณเชื่อผมแล้ว?” เจมส์ถามอย่างประหลาดใจ

    “เปล่า ฉันยังไม่เชื่อนาย ในเมื่อนาย…ยังไม่เคยเชื่อใจฉัน ไม่เชื่อใจพอที่จะยอมเล่าเรื่องอะไรเลย ฉันก็ไม่ควรจะเชื่อใจนาย ใช่มั้ย” ปวินต์ถามต่อไป ดวงตาคมจ้องมองมาอย่างจริงจังกว่าเดิม

    “ไม่นะครับ คุณต้องเชื่อผม…เขา…อันตรายกว่าที่คุณคิด”

    “ถ้าอย่างนั้น ถึงฉันจะกลับไป ฉันก็ยังคงไม่ปลอดภัยอยู่ดี”

    คนฟังอึ้งไปแล้ว ปวินต์อ่านทุกอย่างออกจนน่าตกใจนัก เขาคิดผิดจริง ๆ ที่ดึงอีกฝ่ายเข้ามาตั้งแต่แรก เขาไม่ควรจะไปสนิทสนมกับอีกฝ่ายเลย แม้ว่าเสียงในหัวใจจะเรียกร้องให้ทำเช่นนั้นก็ตาม

    “พวกมันรู้แล้ว ว่าฉันเกี่ยวข้องกับนาย ดังนั้น ฉันยังคงเป็นเป้าของพวกมัน พอ ๆ กับเคน..ลูกชายนาย ที่ถูกจับตัวไป”

    “คุณพูดถูก แต่ผมคิดว่า พวกมันแกล้งเข้าใกล้คุณ เพื่อให้ผมห่วงหน้าพะวงหลัง แล้วถือโอกาสนี้ จับเจ้าเคนไปต่างหาก ในเมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว มันคงไม่ยุ่งกับคุณอีกหรอกครับ”

    “สารวัตรธนดล…อาดล…เขาชวนฉันไปทานข้าวอีก และฉันกำลังคิดว่า ฉันควรตอบตกลงเขาสักทีไหม” ปวินต์พูดต่อลอย ๆ

    “อย่าเด็ดขาดเลยนะครับ!”

    “ในเมื่อฉันไม่มีความจำเป็นอะไรสำหรับนายอีก และพวกนั้น ก็คงไม่สนใจฉันแล้ว นายเองก็อย่ายุ่งกับฉันล่ะ ไม่ว่าฉันจะตอบตกลงรับนัดหรือไม่ก็ตาม!”

    เจมส์นิ่งอึ้งไปแล้ว เขาพึมพำขึ้นช้า ๆ “คุณกำลังเอาตัวเองเป็นตัวประกัน เพื่อให้ผมยอมเปิดใจใช่ไหมครับ”

    ปวินต์จ้องมองมา ก่อนตอบรับ “ใช่”

    ชายหนุ่มถอนหายใจยาว “คุณเป็นคนที่ผมไม่สามารถต่อกรได้จริง ๆ เอาล่ะ…ผมยอมแพ้แล้ว ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังก็ได้ครับ”

    “ไม่ใช่แค่เล่า แต่นาย ต้องยอมให้ฉัน ร่วมขบวนการเพื่อช่วยเคนกลับมาด้วย นายเคยบอกฉันไม่ใช่หรือ ว่าเคนถือว่าฉัน…เป็นพ่ออีกคนของเขา พ่อที่ไม่ช่วยลูก จะเป็นพ่อที่ดีได้ยังไง”

    เจมส์หยุดคิดไปอีกนานมาก ๆ เขาไม่แน่ใจเลย ว่าทำแบบนี้จะถูกต้องไหม แต่เขา…ก็ไม่สามารถปฏิเสธปวินต์ได้ สิ่งที่ปวินต์พูดขู่เขา สามารถทำได้จริง และเจ้าตัว ก็คิดจะทำจริง ๆ เสียด้วย

    “คุณไม่รู้หรอก ว่าไสยศาสตร์ที่แท้จริงน่ะ มันโหดร้ายและน่ากลัวขนาดไหน” ชายหนุ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงอันเคร่งเครียด

    “ใช่ ฉันไม่รู้อะไรเลย แต่ฉันรู้อยู่อย่างหนึ่ง คือฉันอยู่กับหมอผี…ที่ทั้งภาคภูมิใจในอาชีพของตน และแน่นอน…เก่งเรื่องไสยศาสตร์มาก ๆ …เขาคนนั้น…พร้อมจะช่วยชีวิตฉัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน…” พูดแล้วมองมาอีกครั้งพลางย้ำ “ใช่ไหมล่ะ เจมส์”

    คนฟังหัวเราะเบา ๆ ก่อนพูดว่า “คุณขี้โกงจริง ๆ นะครับ ลองพูดแบบนี้ ผมจะปฏิเสธได้ยังไง”

    “นายปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นอย่ามัวเสียเวลา เล่าทุกอย่างมาให้หมดซะที รวมถึงแผนที่นายคิดไว้ เพื่อจะช่วยเคนด้วยนะ” ปวินต์ย้ำอีกครั้ง

เจมส์มองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ตื้นตัน เพียงแค่ได้ฟังปวินต์พูดไม่กี่ประโยค หัวใจที่อ้างว้างและโดดเดี่ยวของเขา ก็ราวกับได้รับการเยียวยา ตั้งแต่เคนหายตัวไป…เขาก็ได้แต่หลงทางอยู่คนเดียวมานานแล้ว…และนี่ คงเป็นคำตอบ สำหรับปัญหานี้สินะ

    “ตกลงครับ” เขารับคำพร้อมกับยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวา เหมือนเจมส์คนเก่า

    ธนัทพูดไว้ไม่ผิดเลย สองหัว…ดีกว่าหัวเดียวจริง ๆ!


จบตอน

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #181 เมื่อ08-08-2011 16:42:56 »

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #182 เมื่อ08-08-2011 17:19:17 »

อ่า เปิดใจกันซักที อิอิ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #183 เมื่อ08-08-2011 18:28:05 »

ยังไม่สามารถช่วยคเนได้ยังไม่โล่งนะครับ  อยากอ่านต่อๆไปไม่หยุด

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #184 เมื่อ08-08-2011 18:59:59 »

เจมส์น่าสงสาร  :กอด1:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #185 เมื่อ08-08-2011 19:18:43 »

เคนๆ :monkeysad:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #186 เมื่อ08-08-2011 19:35:40 »

เมื่อเปิดใจกันแล้วทุกอย่างคงดีขึ้น

ห่วงเจ้าหนูเคนจริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #187 เมื่อ08-08-2011 19:55:07 »

พ่อเจมส์แอบเหงา
เอาน่ามีคุณตำรวจมาช่วยคิดแล้ว
เดี๋ยวก็หายเหงาแล้วนะ :กอด1:
เจ้าเคน อดทนไว้นะลูก
เดี๋ยวพ่อใหญ่กับพ่อเล็กก็ไปช่วยแล้วนะ :a2:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #188 เมื่อ08-08-2011 20:42:33 »

เคนสู้ๆนะ  พ่อทั้ง2กำลังจะไปช่วยยย

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #189 เมื่อ08-08-2011 22:28:27 »

ขอให้เคนปลอดภัย :m15:
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
« ตอบ #189 เมื่อ: 08-08-2011 22:28:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #190 เมื่อ09-08-2011 22:28:47 »

ชอบเรื่องนี้มากคะ
นิยายแนวนี้ก็ไม่ค่อยมีด้วยสิ อ่านแล้วตื่นเต้นทุกตอนเลย
ลุ้นนคะ สงสารเจ้าเคนจัง
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #191 เมื่อ10-08-2011 00:54:39 »

น่าติดตามทุกตอน
สงสารน้องเคน

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #192 เมื่อ10-08-2011 08:44:03 »

เพิ่งเปิดเข้ามาอ่าน เป็นกำลังใจให้ค่า

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #193 เมื่อ10-08-2011 10:44:06 »

พ่อเจมส์กับพ่อวินต์กำลังไปช่วยลูกเคนแล้ว รอก่อนนะน้องเคน :กอด1:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #194 เมื่อ10-08-2011 11:00:09 »

เอาน่ะ ฝ่ายขาวต้องชนะดิ ฝ่ายดำมันชนะไม่นานหรอก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #195 เมื่อ10-08-2011 14:12:08 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #196 เมื่อ12-08-2011 01:24:11 »

สงสารเจ้าเคน

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #197 เมื่อ12-08-2011 13:19:15 »

โอมมมมมมมมมม  เคนจงมา  เคนจงมา  โอมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #198 เมื่อ12-08-2011 22:43:35 »

มีเรื่องอยากขอร้องนักเขียน อย่าให้เคนเป็นอะไรเด็ดขาดจะให้กราบก็ได้ นะครับและก็ช่วยเคนกลับมาเร็วๆเอาตอนหน้าเลยก็ได้

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #199 เมื่อ12-08-2011 22:48:28 »

รีบช่วยเคนเร็วๆนะ บวกเป็ดให้เป็นรางวัลแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
« ตอบ #199 เมื่อ: 12-08-2011 22:48:28 »





ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #200 เมื่อ23-08-2011 04:31:23 »

สนุกดีครับน่าติดตาม เป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #201 เมื่อ23-08-2011 19:07:11 »

อดทนหน่อยนะเคน

พ่อ ๆ กำลังหาทางช่วยอยู่

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 9 (8/8/11)
«ตอบ #202 เมื่อ23-08-2011 22:29:25 »

อย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะหนูเคนเดี๋ยวคุณพ่อจะไปช่วยแล้ว รอหน่อยนะ

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #203 เมื่อ27-08-2011 19:45:34 »

ขออภัยที่หายไปนานนะคะ ช่วงนี้ยุ่งมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ แล้วก็คงเป็นแบบนี้ไปอีกสักพักนะคะ แจ้งไว้ล่วงหน้าละกันค่ะ :o12:


====================


สืบเสน่หา

ตอนที่ 10



บรรยากาศกำลังเป็นสีชมพู ในตอนนั้นเองที่มีเสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทำให้คนทั้งคู่ที่อยู่ภายในสะดุ้ง ปวินต์รีบหันไปเก็บข้าวของต่อกลบเกลื่อน แม้ใบหน้าจะแดงเรื่อ ส่วนเจมส์แอบขัดใจนิดหน่อย เพราะเขาพอคุ้นเสียงนั้นอยู่บ้าง ชายหนุ่มส่ายหน้าก่อนพึมพำ “ท่าทางจะมีตัวกวนเพิ่มมาอีกแล้วสิเนี่ย คนกำลังสวีทอยู่แท้ ๆ”

    “อะไรของนายน่ะ” ปวินต์ถามขึ้นทันที

ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ “ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เพื่อนผมคงจะแวะมาเยี่ยม เดี๋ยวผมไปเปิดประตูก่อนนะครับ”

    ผู้กองหนุ่มพยักหน้ารับ หากยังไม่ทันได้ออกไป กลับมีคนโผล่เข้ามาเสียก่อนแล้ว

    “พี่เจมส์อยู่ไหมคะ…อ้าว…ไหงพี่วินต์ก็อยู่ด้วยล่ะ งอนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ…เอ๊ะ หรือว่าจะ…” เสียงนั้นหัวเราะคิก หากคนในห้องที่มองมา กลับอึ้งไปเรียบร้อยแล้ว

    “ยัยปราง มาได้ไงเนี่ย!” ปวินต์อุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นคนที่เขาไม่คิดว่าจะเห็นมากที่สุดโผล่มา ปรางทิพย์น้องสาวของเขา ควรจะอยู่บ้านในเวลานี้ แต่กลับออกมาหาเจมส์เสียได้ ดวงตาคมเริ่มดุทันควัน เมื่อเหลือบมองเจมส์อีกครั้ง

    “นายกับน้องสาวฉัน ไปรู้จักสนิทสนมกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!”

    เจมส์อึ้งไปแล้ว เขาก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าปรางทิพย์มาได้อย่างไร แต่ก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้

    “เอ้อ…ผมเปล่านะ อย่าพึ่งทำตาดุขนาดนั้นสิครับคุณวินต์”

    ท่าทางนั้นทำให้ปรางทิพย์อดขำอีกรอบไม่ได้ “ปรางสงสัยว่าพี่เจมส์จะเป็นช้างเท้าหลัง อย่างที่พี่นัทบอกจริง ๆ เสียแล้วสิ”

    “พี่นัท? ใครกันยัยปราง แล้วนี่มาค่ำ ๆ มืด ๆ บอกแม่แล้วหรือยัง”

    “ว้า พี่วินต์เนี่ย ซีเรียสไปได้ พี่นัทเขาเป็นเพื่อนของพี่เจมส์ค่ะ เมื่อคืนเขายังมาหาพี่พร้อมกับพี่เจมส์เลยนะคะ แต่พี่น่ะ มัวแต่โกรธจนหน้ามืดตามัว เลยไม่เห็นน่ะสิ” เด็กสาวแลบลิ้นให้

    ในตอนนั้น ก็มีเสียงทักขึ้นด้านหลังเด็กสาวอย่างดีใจ “อ้าวเจมส์ ก็ยังอยู่นี่หว่า ไหงโทรมาไม่ยอมรับเล่า”

    ปวินต์มองคน ๆ นั้นอย่างไม่ไว้วางใจในทันที สายตาดุ ๆ นั้นทำให้คนถูกจ้องยิ้มแห้ง ๆ เมื่อคืนนั้นเขาเห็นปวินต์เพียงแว้บเดียว แต่ก็พอจะจำได้ ด้วยใบหน้าติดจะหวาน มีเค้าของน้องสาวอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ดูน่ากลัวไปหน่อยเท่านั้น

    “นายเป็นใครกัน” เสียงถามอย่างเย็นชากว่าเดิม

    “อ๊ะ สวัสดีครับคุณพี่…เอ๊ย คุณวินต์ ผมเป็นเพื่อนสนิทของเจมส์ครับ” คนพูดเริ่มหลุดปากตีสนิท แต่ประโยคหลังที่รีบแก้ เพราะดวงตาดุ ๆ นั้นจ้องมองมาแทบจะกินเลือดกินเนื้อกัน

    ปรางทิพย์มองผู้เป็นพี่สลับกับธนัท ก่อนหัวเราะเบา ๆ แต่ปวินต์กลับไม่ขำด้วย เขาตีสีหน้าเคร่งขรึมก่อนถามเด็กสาวกลับ

    “เป็นเพื่อนของเจมส์…แล้วทำไมเราถึงได้มาพร้อมกับเขา แถมยังมาบ้านของผู้ชายคนเดียวอีกนะ”

    “ก็…พี่เจมส์ไม่รับโทรศัพท์นี่คะ พวกเราก็เลยเป็นห่วง พี่นัทมาที่บ้านของเราตั้งแต่เช้าแล้ว หลังจากพี่ออกไปทำงานนั่นแหละค่ะ เพราะติดต่อพี่เจมส์ไม่ได้ พวกเรารอพวกพี่ ๆ กลับมายันค่ำ พี่วินต์ก็ไม่กลับ โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้บ้าน พี่เจมส์ก็หายไป พอติดต่อไม่ได้เลยทั้งคู่ ไม่รู้จะไปตามที่ไหน ก็เลยลองมาดูที่บ้านพี่เจมส์นี่แหละ อ้อ ปรางขออนุญาตแม่แล้วนะเจ้าคะ บอกว่าพี่นัทจะพาปรางมาหาพี่วินต์นั่นแหละ” เด็กสาวพูดต่อไป

    ปวินต์ชะงัก ก่อนล้วงไปในกระเป๋า เขาลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านจริงเสียด้วย เพราะเรื่องยุ่ง ๆ หลายเรื่องที่ทำให้ต้องคิดหนัก ทำให้เขาลืมนู่นลืมนี่เสียจริง

    “เฮ้อ คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง พวกพี่ ๆ กลับแอบมาสวีทกันสองต่อสองเสียได้ รู้งี้ไม่มาหรอกเนอะพี่นัท”

    “นั่นสินะ เราไปสวีทกันบ้างคงจะดีกว่า อย่าไปรบกวนเขาเลย” ธนัทว่ายิ้ม ๆ

    “ปล่อยน้องสาวผมเลยนะคุณ ยัยปรางนี่ก็เหมือนกัน พึ่งรู้จักเขาเอง ทำไมยอมตามมาง่าย ๆ แบบนี้เล่า” ปวินต์ว่าเสียงดุ

    “ก็พี่นัทเป็นเพื่อนสนิทของพี่เจมส์ แล้วพี่เจมส์ก็เป็นสุดที่รักของพี่วินต์ ดังนั้นก็น่าจะเชื่อถือได้สิเจ้าคะ”

    “ใครเป็นสุดที่รักของใคร เดี๋ยวเถอะ ชักแก่แดดใหญ่แล้วนะเรา” คนว่าทำเสียงเข้ม

    “ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แค่พี่เจมส์ทำให้โกรธนิดเดียว ใครไม่รู้งอนยาวเลย” เด็กสาวแกล้งรำพึงกับตัวเอง ยิ่งเห็นผู้เป็นพี่สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตั้งแต่โมโห ยันทำหน้าไม่ถูก แก้ตัวไม่ขึ้น คนแกล้งก็ยิ่งนึกสนุก

    “เลิกแซวซะที นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคุยเล่นกันนะ เดี๋ยวก็ช่วยเคนไม่ทันพอดี” ปวินต์ว่าเบี่ยงประเด็น

    ปรางทิพย์มองมาอย่างงุนงง “ใครกันคะเคน?”

    คนตอบพลั้งปากพูดต่อไป “ลูกชายพี่น่ะสิ”

    “หา? พี่วินต์…แค่อยู่กันสองต่อสองไม่เท่าไหร่ แอบมีลูกชายกันแล้วเหรอเนี่ย”

    “ไม่ขำนะปราง เด็กคนนั้นกำลังทรมาน แล้วพวกพี่…ก็กำลังจะหาทางช่วยอยู่”

    “เคนเป็นอะไรน่ะเจมส์” ธนัทรีบถามทันทีด้วยความตกใจ

    เจมส์มองทุกคนที่สีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม ก่อนถอนใจยาว “เอ้า จะเล่าทั้งหมดให้ฟังก็แล้วกัน จะได้เลิกถามแล้วช่วยกันคิดเสียที”

    “ก็เล่าสักทีสิ อมพะนำอยู่ได้” ปวินต์พูดเสียงเครียด คนถูกดุยิ้มเจื่อน ๆ แล้วพึมพำว่า “ขอโทษครับ ครั้งนี้ผมผิดไปแล้วจริง ๆ”

    “รู้ว่าผิดก็รีบเล่าซะ นายน่ะ เก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนานเกินไปแล้วนะ ถ้านายจะแพ้เจ้าหมอผีนั่น ก็คงเป็นเพราะทำตัวเป็นใบ้นี่แหละรู้ไหม”

    “งั้นจะเล่าทั้งหมดทีเดียวเลยก็แล้วกัน ทุกคนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับคดีที่ตายปริศนา ของคุณชิดชัย เลขานุการของชวรัตน์ นักการเมืองคนดังที่กำลังลงรับสมัครเลือกตั้งในตอนนี้แล้วสินะ”

    ทั้งหมดพยักหน้ารับ เจมส์จึงเล่าต่อไป “คุณชิดชัย เป็นเพื่อนกับพ่อของผมมานานแล้ว และเคยเกื้อกูลครอบครัวของเรา ยามที่พวกเราลำบาก เขาจึงเป็นผู้มีพระคุณของพวกเราด้วย และถึงตอนนี้ พ่อของผมจะตายไปแล้ว เขาก็ยังคงเป็นผู้มีพระคุณของเราอยู่ดี”

    “วันหนึ่งคุณชิดชัยมาหาผมที่บ้าน แล้วเล่าเรื่องที่เขาและครอบครัวกำลังตกที่นั่งลำบาก พร้อมทั้งมาขอความช่วยเหลือ เขากำลังสงสัยว่า…ตัวเองกำลังโดนคุณไสยและอาจจะถูกฆ่าในอีกไม่นานนี้แน่ ๆ”

    “ผมพยายามตรวจสอบและพบว่า มีคนบางคน กำลังใช้ไสยดำทำของไม่ดีใส่เขา แต่ผมไม่สามารถแก้ไขมันได้ การทำอาคมชั่วร้ายพวกนี้ มีเพียงคนทำเท่านั้นที่จะยกเลิกได้ สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียง ผ่อนหนักเป็นเบา หาตัวตายตัวแทน ซึ่งในตอนนั้น ผมได้ทำตุ๊กตาตัวตายตัวแทนให้คุณชิดชัยไว้ เพื่อให้มันรับเคราะห์แทนเขา”

    “แต่น่าเสียดาย ตุ๊กตาตัวนั้น…ไม่อาจต้านทานอาคมที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้ และกว่าผมจะรู้ ก็สายเกินไปแล้ว เขาตายเสียก่อน ตามที่เป็นข่าว…อย่างน่าสยดสยองเป็นที่สุด” ความเศร้าสลดของชายหนุ่มฉายชัดในแววตาของเขา มันคือความเสียใจ ที่ไม่อาจช่วยผู้มีพระคุณไว้ได้ เขาระบายลมหายใจออก ก่อนเล่าต่อไป

    “แต่ก่อนจะถึงคืนวันนั้น คุณชิดชัยได้ฝากของอย่างหนึ่งไว้ให้ผม สิ่งนั้น…เป็นหลักประกัน เพื่อให้คนที่ฆ่าเขา ไม่กล้าทำร้ายครอบครัวของคุณชิดชัยอีก ทั้งยังทิ้งจดหมายขู่บอกเรื่องนี้เป็นนัยให้คนร้ายได้รับรู้ก่อนเขาจะสิ้นใจด้วย”

    “เฮโรอีน 20 กิโลกรัมสินะ เขาคงขโมยมาจากใครบางคน ที่เป็นหัวหน้าขบวนการค้ายา ซึ่งเขาพยายามจะตีตัวออกห่างใช่ไหม” ปวินต์ขัดขึ้น

    สองคนที่เหลืออึ้งไปแล้ว เพราะตำรวจได้จงใจปิดข่าว โดยการปิดบังข้อความนั้นไว้ จนคนภายนอกไม่ล่วงรู้ รู้เพียงเป็นคดีการตายอย่างปริศนาเท่านั้น

    เจมส์พยักหน้ารับ “ใช่ครับ ผมรับฝากเฮโรอีนทั้งหมดนั่นไว้เอง แต่ผมได้ซ่อนไว้ ในที่ ๆ ผมเพียงคนเดียว จะนำมันออกมาได้…และนั่น…ทำให้พวกมัน พยายามทุกวิถีทาง ที่จะให้ผมนำของสิ่งนั้นไปคืนพวกมัน”

    “ถ้างั้นนายก็เอามาให้ตำรวจเก็บไว้สิ เป็นหลักฐานของกลาง เท่านี้ก็หมดเรื่อง”

    เจมส์ส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกครับ จนกว่าผมจะหาหลักฐานมัดตัวคนทำผิดได้ ผมถึงจะยอมส่งให้ ถึงเป็นคุณก็เถอะ คิดว่าอยู่ดี ๆ มีเฮโรอีนตรงหน้า โดยมีผมเป็นเจ้าของ คุณจะจับใครเข้าคุกกัน”

    ปวินต์อึ้งไป “แล้วคุณชิดชัยเขาไม่ได้ทิ้งหลักฐานไว้ให้หรอกเหรอ”

    “เขาตายเสียก่อนจะทำได้ครับ น่าเสียดาย”

    “แล้วเคนคือใครกันคะ” ปรางทิพย์อดถามขึ้นไม่ได้ เพราะปวินต์บอกว่าเป็นลูก เธอเลยรู้สึกสนใจมากเป็นพิเศษ

    “เคนเป็นลูกชายของผม” เจมส์ตอบช้าชัด

    “อ๊ะ…” คนฟังแอบยิ้มเผล่ ก่อนรีบทำหน้านิ่งอย่างเดิมแทบจะในทันที ที่สายตาดุ ๆ ของผู้เป็นพี่กวาดมองมา

    “เขาเป็นกุมารทองที่เจมส์เลี้ยงไว้ และเด็กคนนั้น…อยากให้ฉันเป็นพ่ออีกคน ก็เท่านั้น” ปวินต์ตัดบทเล่าเสียเอง

    “แหม เด็กคนนั้นท่าจะน่ารัก รู้จักจับคู่ให้พ่อเสียด้วย” ปรางทิพย์พึมพำอย่างเอ็นดู

    “แน่นอนครับ ลูกชายพี่น่ะ น่ารักมาก ๆ ถ้าน้องปรางได้เจอ คงจะต้องชอบเขา…เขาเป็นเด็กดีมากจริง ๆ แต่ว่า…” สีหน้าของชายหนุ่มเศร้าลงถนัดตา เมื่อพูดต่อไปว่า “เจ้าหมอผีคนนั้น…คนที่ฆ่าคุณชิดชัย…หลอกผมให้คิดว่าคุณวินต์มีอันตราย จนผมตัดสินใจไปเฝ้าที่หน้าบ้านเมื่อคืน…”

    คนที่เหลือพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะอยู่ในเหตุการณ์แล้วในคืนก่อน

    “ตอนนั้น ที่ผมไม่ได้อยู่บ้าน เคนเป็นคนเฝ้าบ้านเอาไว้ กับท่านตาเจ้าที่ แต่เจ้าหมอผีนั่น ส่งผีตายโหงที่ควบคุมบงการเอาไว้มาจับเจ้าเคนไป แถมยังทำร้ายท่านตาเจ้าที่เสียสาหัส”

    “แล้วเคนเป็นยังไงบ้างแล้วคะ นี่จะโดนพวกนั้นทรมานเอาไหมเนี่ย ปรางว่าพวกนั้น…ต้องคิดว่าเคนรู้ที่ซ่อนของนั่นด้วยแน่ ๆ ค่ะ”

    คำพูดของเธอทำเอาเจมส์อึ้งไป นั่นเป็นสิ่งที่เขากลัวเช่นกัน…ใช่ เคนรู้ ว่าเขาซ่อนของไว้ที่ไหน แต่มีเพียงเขาเท่านั้น ที่จะนำมันออกมาได้ ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่คิดว่าเคน จะยอมบอกเจ้าหมอผีแต่โดยดีอยู่ดี เด็กคนนั้น ต้องพยายามรักษาความลับนี้ไว้สุดชีวิตแน่ ๆ ยิ่งคิดทำให้เขายิ่งกังวล ไหนจะอยู่ห่างจากร่างตุ๊กตาที่ใช้สิงและเพิ่มพลังงานมานานพอสมควรแล้วอีกด้วย

    “เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละครับ และปัญหาตอนนี้ก็คือ…”

    “เราไม่รู้ว่าเจ้าหมอผีนั่นอยู่ไหน และขังเคนไว้ที่ไหนสินะ” ปวินต์ต่อให้

    เจมส์พยักหน้ารับ “ใช่ครับ”

    “พวกมันไม่รีบติดต่อมา แสดงว่ามันไม่ได้กะใช้เคนเป็นเครื่องมือต่อรอง…” ปวินต์พึมพำต่อไป “แต่มันคงคิดว่า เคนจะสามารถเป็นกำลังให้นายได้ จึงจับตัวไว้เพื่อตัดกำลังเสียมากกว่า เพราะถ้าวิญญาณของเคนแตกสลายไป พวกนั้นจะไม่มีอะไรมาต่อรองอีกอยู่ดี”

    “นั่นก็หมายความว่า…”

    คนพูดทิ้งระยะ จนอีกฝ่ายมองมาอย่างสงสัย

    “ฉัน…ยังคงมีความสำคัญสำหรับพวกมัน มากกว่าเคน”

    เจมส์มองหน้าปวินต์ในทันที “หวังว่าคุณคงไม่ได้คิดจะ…”

    “ใช่ ฉันคิด” ผู้กองหนุ่มตัดบท

    “ผมไม่ยอมนะครับ ไม่ยอมเด็ดขาด!” เจมส์พูดขัดเสียงแข็ง

    ปรางทิพย์กับธนัทมองทั้งคู่แล้วสบตากันอย่างไม่เข้าใจว่าเจมส์กับปวินต์คุยอะไรกัน แต่สีหน้าจริงจังของทั้งสอง ดูคล้าย ๆ จะเปิดศึกขึ้นเสียแล้ว

    “ความคิดของคุณมันอันตรายเกินไป ผมยอมรับไม่ได้!”

    “ถ้างั้นนายจะไปหาเคนได้ที่ไหน ขืนปล่อยให้เวลาผ่านไปมากกว่านี้ แล้วช่วยไม่ทัน ฉันต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ ให้ฉันลองเถอะน่า”

    “แล้วคุณคิดว่าถ้าคุณเป็นอะไรไปแทนเจ้าเคน แล้วผมจะไม่เสียใจไปตลอดชีวิตด้วยเหรอไงครับ” เจมส์ย้อนบ้าง อย่างไม่ยินยอมเช่นกัน เขาพูดต่อไปว่า “ไม่ว่าจะเคนหรือคุณ ก็สำคัญทั้งนั้น ถ้าต้องมีเหยื่อล่อ ผมออกไปเองจะดีกว่า”

    “นายเป็นไพ่ตายสำหรับทุกคนนะ เป็นหลักประกันชีวิตด้วย ถ้าขืนทะเล่อทะล่าออกไป แล้วสุดท้ายพวกมันได้ของไปล่ะก็ ทุกคนก็โดนฆ่าปิดปากเหมือนกันนั่นแหละ” ปวินต์ยังไม่ยอมแพ้ “แต่ถ้าฉันออกไป แล้วเกิดอะไรขึ้น นายก็ยังไปช่วยฉันได้..ไม่ใช่หรือ ฉันไม่คิดว่าเจ้าหมอผีนั่น จะเก่งไปกว่านายหรอกนะ คนที่ดีแต่คิดทำเรื่องสกปรก ไม่มีวันจะพัฒนาตัวเองไปได้ดีแน่ ๆ จะยังไง ฉันก็คิดว่า นายจะต้องเก่งกว่ามัน”

    “แต่ว่ามันเสี่ยงเกินไปนะครับ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2011 19:53:04 โดย ppm »

ออฟไลน์ ppm

  • รักเด็กจังเลย
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • ppmfic yboard
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #204 เมื่อ27-08-2011 19:51:14 »

ทั้งคู่ตั้งท่าจะเถียงกันไม่เลิก ธนัทมองปรางทิพย์ที่พยักพเยิดเป็นเชิงว่าช่วยหยุดพวกเขาที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเข้ามาแทรก “เอ่อ…หยุดเถียงกันก่อนดีไหมครับ แล้วเล่าให้พวกเราฟังด้วย ว่าพวกคุณคิดจะทำอะไรกัน”

    “พวกมันกำลังสนใจฉัน ดังนั้น…ฉันจะแกล้งให้พวกนั้นจับตัวไป” ปวินต์ชิงบอกก่อน

    หากทุกคนพร้อมใจกันห้ามแทบจะในทันที อย่างไม่เห็นด้วย

    “แต่ทางที่เราจะหาพวกนั้นเจอ มันมีไม่มากนัก ในเวลากระชั้นแบบนี้นี่”

    “ผมว่า เราควรคิดใหม่ดีกว่า อย่าลืมสิว่า นอกจากคุณวินต์แล้ว ยังมีผมกับน้องปรางอีก” ธนัทเสนอตัว ปรางทิพย์รีบพยักหน้ารับ ท่าทางกระตือรือร้นเต็มที่

    “มันอันตรายนะพี่ว่าเรากลับบ้านไปซะเถอะ” ปวินต์ขัดขึ้น พลางจ้องน้องสาวแกมปรามไว้

    มือเล็ก ๆ จับที่แขนธนัทเชิงอ้อนวอน ชายหนุ่มจึงยืดอกตอบแทนว่า “ผมจะดูแลน้องปรางให้เอง รับรองว่าไม่ยอมให้ใครทำอะไรได้แน่ ๆ”

    “ก็พี่วินต์น่ะ จะไปเสี่ยงคนเดียวทุกที รู้รึเปล่าว่าพวกเราที่รอที่บ้าน รู้สึกยังไง เวลาพี่ออกไป…ปรางกลัว…ว่าพี่จะไม่กลับมา เหมือนกับพ่อ…” เธอว่าต่อด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ

    มือของชายหนุ่มลูบผมนุ่มของน้องสาวเบา ๆ “ขอโทษนะ แต่ว่างวดนี้มัน…”

    “ปรางจะไม่ดื้อไม่ซนค่ะ ให้อยู่ด้วยเถอะนะคะ” ดวงตาคู่สวยออดอ้อน แม้รู้ดีว่ายากที่ปวินต์จะใจอ่อน

    “แล้วปล่อยแม่ไว้ที่บ้านคนเดียวมันจะถูกเหรอ” ชายหนุ่มพูดต่อไปอย่างไม่ยินยอม

    “แม่เคยบอกปรางไว้ค่ะ ว่าถ้าปรางโตพอจะช่วยพี่วินต์ได้ ก็ขอให้ช่วย…แล้วแม่จะรอที่บ้าน เตรียมอาหารอุ่น ๆ ไว้รอ…จนกว่าพวกเราจะกลับไป” เด็กสาวมองมาอย่างจริงจังกว่าเดิม

    “นะคะ ปรางตัดสินใจแล้ว อยากเป็นกำลังให้พี่วินต์…นิดหน่อยก็ยังดี ดังนั้น…วิธีการนั่น ปรางก็รับไม่ได้เหมือนกัน เราต้องคิดให้รอบคอบมากกว่านี้นะคะ” เธอว่าต่อไป แม้อายุจะยังน้อย แต่เรื่องมันสมองไม่เป็นรองใคร ปวินต์รู้ดีว่าน้องสาวของเขาหัวดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

    “ก็ได้ พี่จะรับฟังก่อน ถ้ามีวิธีการที่ดีกว่า แต่ถ้าไม่มี พี่จะใช้วิธีการของพี่นะ”

    “ผมว่าบางที วิธีการใช้ตัวล่อ อาจจะได้ผลไวที่สุดจริง ๆ นั่นแหละ เพียงแต่ว่า เราต้องวางแผนรับมือให้รอบคอบกว่าเดิมเสียก่อน อย่าลืมสิครับ ถึงจะจัดการหมอผีนั่นได้ แต่คนที่บงการเบื้องหลัง ก็ยังไม่ได้โผล่ออกมาเลย ดีไม่ดี อาจจะจ้างนักฆ่าใหม่ ๆ มาจัดการเราอีกก็ได้” ธนัทเสนอ

    “ดังนั้นการล่อ จะต้องดึงทั้งตัวการและเจ้าหมอผีออกมาสินะคะ” ปรางทิพย์ว่าต่อไป

    คนอื่น ๆ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ทางที่จะดึงทั้งสองตัวการใหญ่ออกมาในคราวเดียว ท่าทางจะไม่ง่ายดายนัก

    “แถมยังต้องระวังอาดลอีกคน ท่าทางเราจะมีศึกหลายทางเลยนะ” ปวินต์พึมพำ

    “อาดล?” ปรางทิพย์ทวนคำ “เพื่อนของพ่อน่ะเหรอคะพี่วินต์…อย่าบอกนะว่าเขา เป็นพวกของเจ้าพวกนั้นด้วย” เด็กสาวยังจำที่พี่ชายกลับมาเล่าให้ฟังได้ เรื่องสารวัตรธนดล ที่เป็นเพื่อนเก่าของผู้เป็นพ่อที่ล่วงลับ

    ปวินต์ส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่เจมส์บอกว่าอย่างนั้น…และพี่ก็…”

    เด็กสาวอมยิ้มแล้วต่อให้ “เชื่อพี่เจมส์”

    ธนัทที่ยืนข้างหลังกลั้นหัวเราะแทบตาย ในขณะที่ปวินต์ทำหน้าบอกไม่ถูกไปแล้ว “เจมส์บอกว่าอาดลแอบใส่ของบางอย่างในเครื่องดื่มพี่ แถมยังเป็นของที่ทำคุณไสยไว้เสียด้วย”

    “อาดลที่พวกเราเคยเจอตอนเล็ก ๆ ก็ดูท่าว่าเป็นคนดีนะคะ แต่อย่างว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ ปรางว่าเราน่าจะใช้คน ๆ นี้ เพื่อช่วยเบิกทางได้เหมือนกัน และเป็นการพิสูจน์ด้วยว่า เขาเป็นคนดีหรือไม่ดีกันแน่”

    “ยังไงเหรอ” คนถามชักเริ่มสนใจ ปวินต์หันไปมองเจมส์ และชายหนุ่มก็พยักหน้ารับอย่างสนใจด้วย

    “พี่นัทคะ ช่วงนี้มีงานพวกแฟชั่นโชว์เดินแบบ ที่สามารถเอาคนของเราเข้าไปแจมด้วยบ้างไหมคะ” เด็กสาวหันมาถามธนัท ที่เธอรู้มาก่อนหน้านี้ ว่าทำงานอะไร

    “อืม…ก็ได้อยู่หรอก งานน่ะ มีเรื่อย ๆ อยู่แล้ว”

    “แล้วมีงานที่ใหญ่พอ…จะเชิญคุณตัวการใหญ่ของเรามาร่วมงานบ้างไหมคะ”

    “มันก็มีนะครับ แต่เขาจะมาเหรอ งานแบบนี้”

    “เขาต้องมาแน่ ถ้าเราปล่อยข่าวออกไป…กับอาดล…ว่าคุณเจมส์ วางแผนจะส่งมอบของสำคัญนั่นให้ตำรวจ กลางงานเพื่อความปลอดภัย โดยต้องการให้เขา…มาเป็นสักขีพยาน!”

    “แต่ว่าของนั่น…” เจมส์ขัดขึ้นอย่างไม่แน่ใจนัก

    “ค่ะ เราจะไม่เอาของออกไปหรอก แต่จะล่อให้ฝ่ายนั้น มาติดกับเอง ในเมื่ออีกฝ่ายใช้คุณไสยกับเรา…ทำไมเรา ไม่ใช้กับพวกนั้นบ้างล่ะคะ ถ้าคุณชวรัตน์นั่น…คิดว่าตัวเองถูกคุณไสย จะอย่างไร ก็ต้องวิ่งแจ้นไปหาหมอผีคนนั้น ให้ช่วยแน่ ๆ ค่ะ”

    “แล้วพวกเรา ก็จะตามไปสินะ แถมอาจจะได้หลักฐาน จากการสารภาพเพราะกลัวจะโดนวางยาสั่งได้อีก” ธนัทพูดต่อไปอย่างทึ่งจัดในความคิดของปรางทิพย์

    “เข้าใจถูกแล้วค่ะ เป็นไงคะแผนนี้ ไม่จำเป็นต้องมีใคร…เป็นตัวประกันด้วย เพียงแค่พวกพี่ พยายามวางยาเขาในงานให้ได้ก็เท่านั้น”

    “เป็นความคิดที่ดีนะครับน้องปราง แต่ผม…จะไม่ใช้ไสยดำวางยาสั่ง…กับใครทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นศัตรูที่จะหมายชีวิตผมก็ตาม” เจมส์ขัดขึ้น

    ปรางทิพย์มองชายหนุ่มที่ทำท่าจริงจังมากนั้นแล้วหัวเราะ “พี่เจมส์น่ารักแบบนี้เอง พี่วินต์ถึงได้ติดใจ”

    “ยัยปราง…”

    “ค่า…ค่า ไม่ล้อแล้วก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องวางยาสั่งหรอกค่ะ ก็แค่วางยาที่จะทำให้ปวดท้องนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้ว อาศัยการแสดงอีกนิด ข่มขู่ให้สมจริงอีกหน่อย เท่านั้นก็สบายแล้ว อีกฝ่ายเขารู้อยู่แล้วนี่คะ ว่าพี่เจมส์เป็นหมอผี จะยังไง…ก็ต้องคิดว่าจริงอยู่แล้วค่ะ”

    ทั้งหมดพยักหน้าเข้าใจ และเริ่มเลื่อมใสสาวน้อยมากเป็นทวีคูณ

    “คุณวินต์ครับ ผมอยากขอน้องสาวคุณแต่งงานจริง ๆ” ธนัทพูดต่อไปอย่างชื่นชม

    “น้องฉันพึ่งจะ 15 ถ้าอยากไปนอนในคุกข้อหาพรากผู้เยาว์ก็เอาสิ!” ปวินต์แกล้งทำเสียงดุ

    “ผมผิดไปแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นขอดูใจจนน้องปราง 18 ปีก็ได้”

    ท่าทางฮึดฮัดคุณพี่ที่เริ่มหวงน้องจนเห็นได้ชัด จนเจมส์ต้องห้ามทัพแทน “เลิกล้อเล่นได้แล้วเจ้านัท คุณวินต์เขาจริงจัง ไม่ได้เป็นปลาไหลอย่างนายสักหน่อย”

    “เอาเถอะพี่วินต์ พี่นัทเขาล้อเล่นหรอกน่า” สาวน้อยคนกลางช่วยสงบศึก “อีกอย่าง งานของพี่จะสำเร็จได้ ต้องให้พี่นัทเขาช่วยนะคะ”

    คนฟังเลยสงบปากสงบคำกว่าเดิม แล้วทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ ๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก

    “ถ้าอย่างนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา ปรางว่าเรามาวางแผนอย่างละเอียดกันดีกว่าค่ะ” เธอว่าต่อด้วยรอยยิ้ม…ที่ดูเจ้าเล่ห์กว่าที่เคย จนปวินต์ที่มองมา อดเสียวสันหลังไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าน้องสาวของเขาคนนี้ นอกจากจะฉลาดแล้ว…ยังชอบแกล้งเขาเสียด้วยสิ…



    วันรุ่งขึ้นปวินต์ที่แต่งตัวในเครื่องแบบตามปกติ ไปทำงานแต่เช้าอย่างตั้งใจ งานวันนี้ถูกเคลียร์เสร็จอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย จนจ่าเดี่ยวที่ยืนมองอยู่ อดอมยิ้มไม่ได้ ผู้กองของเขาดูซึมกะทือนักในช่วงนี้ แต่วันนี้กลับแปลกออกไป ชายหนุ่มดูกระตือรือร้นและสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งงานที่รับผิดชอบ ก็มีประสิทธิภาพเหมือนปกติแล้ว แตกต่างจากวันก่อน ๆ โดยสิ้นเชิง

    ร่างเตี้ยกว่าจึงเดินเข้ามาหา ในมือนั้นถือแก้วกาแฟที่พึ่งชงเสร็จสองใบ ใบหนึ่งของตัวเขาเอง ส่วนอีกใบ ส่งให้กับผู้กองหนุ่ม

    กลิ่นกาแฟหอม ๆ ทำให้อีกฝ่ายรับมาดื่มโดยไม่ได้ถามอะไร ด้วยกำลังเพลินกับการอ่านข้อมูลคดีอยู่จนไม่ได้ละสายตามา คนส่งให้มองอีกฝ่ายดื่มกาแฟพลางแย้มยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ง้อแฟนสำเร็จแล้วหรือไงครับผู้กอง” เสียงทักแกมล้อเล่นเอาคนฟังที่กำลังดื่มแทบสำลัก

    “ง้อเง้ออะไรกันจ่า ใครบอกว่าฉันมีแฟนแล้ว” เขาพึมพำต่อโดยไม่สบตาด้วย มือนั้นวางแก้วลง ก่อนฉวยแฟ้มคดีที่วางอยู่ด้านข้างมาเปิดแก้เขิน โดยไม่ได้อ่านเลยสักตัวด้วยซ้ำ

    จ่าเดี่ยวมองมาอย่างขบขัน “ผู้กองครับ ผมพึ่งรู้นะ…ว่าขนาดแฟ้มกลับหัว ผู้กองยังอ่านได้อีก”

    คนกำลังเปิดหน้ากระดาษอย่างเมามันสะดุ้ง ก่อนปิดแฟ้มดังปึงใหญ่

    “เอาล่ะ ถ้าว่างงานมากนัก ก็เอางานนี่ไปทำต่อเลย” เขารวบแฟ้มอีกอันส่งให้ ก่อนจะลุกขึ้น

    “แหม ผู้กองล่ะก็ ผมแซวนิดเดียว อย่าเพิ่มงานให้ผมสิครับ ลูกผมวัยกำลังน่ารัก ต้องรีบกลับบ้านไปดูแลนา” จ่าผู้กำลังเห่อลูกบ่นพึมพำ ปวินต์จึงหันมาบอกว่า “ก็ใช้เวลาว่างที่มานั่งแซวฉัน นั่งทำไปสิ อ้อ เดี๋ยวฉันมานะ มีเรื่องต้องไปคุยกับสารวัตรคนใหม่หน่อย”

    ว่าแล้วเขาก็เดินออกไป โดยไม่รอให้อีกฝ่ายถามต่อว่า ‘แฟน’ ของเขาที่ง้อได้สำเร็จนั้น น่ารักสักแค่ไหน



    “เข้ามาสิ” คนภายในพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

    “ขออนุญาตครับสารวัตร” เสียงพูดของชายหนุ่มดูเป็นการเป็นงานนัก ธนดลมองมาอย่างประหลาดใจนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มให้ แล้วเชิญให้นั่ง

    “มีอะไรงั้นหรือผู้กอง” เขาถามต่อไป มือยังคงง่วนกับเอกสารบนโต๊ะ

    “ผมอยากให้สารวัตรเปลี่ยนความตั้งใจที่จะปิดคดีฆาตกรรมคุณชิดชัยครับ” ปวินต์ตอบเสียงดังฟังชัด

    คนฟังเลิกคิ้ว ก่อนเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา ด้วยแววตาไม่พอใจนิดหน่อย “ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือผู้กอง ว่าคดีนี้เป็นคดีฆ่าตัวตาย และเราก็ปิดคดีได้แล้วด้วย”

    “ครับ…จากหลักฐานสามารถสรุปเช่นนั้นได้ แต่ว่า…ถ้าผมมีหลักฐานใหม่เพิ่มล่ะครับ ว่าสิ่งที่ผู้ตายเขียนไว้ก่อนตาย…มันเป็นเรื่องจริง ผู้ตายและครอบครัว กำลังโดนปองร้าย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคดีฆาตกรรมล่ะครับ สารวัตรจะว่ายังไง”

    คนฟังชะงัก ก่อนหันมามองอย่างรวดเร็ว “หลักฐานอะไร”

    ใบหน้าชายหนุ่มคู่สนทนามีรอยยิ้มจาง ๆ “คุณคงจำคุณเจมส์ ที่พบกันในร้านอาหารวันก่อนได้สินะครับ เขาเป็นเจ้าของตุ๊กตาที่พบข้างศพ และได้บอกผมว่า เขาเป็นคนรับฝากสิ่งที่คุณชิดชัย เขียนเอาไว้ก่อนตายนั่นเอง”     ปวินต์พูดต่อโดยพยายามไม่เอ่ยถึงว่าของสิ่งนั้นคืออะไร

    “คุณกำลังจะบอกผมว่า เฮโรอีน 20 กิโลกรัมนั่น อยู่ที่คุณเจมส์งั้นรึ”

    ผู้กองหนุ่มพยักหน้ารับ “ใช่ครับ ของสิ่งนั้นอยู่ที่คุณเจมส์ และเขาตั้งใจจะมอบให้ทางเรา เก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญของคดีด้วย เพียงแต่มีข้อแม้ว่า…”

    “เขาจะมอบมันให้กับคนที่คุณชิดชัยไว้ใจเอง นั่นก็คือ…คุณชวรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. ที่เป็นเจ้านายเก่าของคุณชิดชัย เป็นผู้รับมอบ ต่อหน้าตำรวจและสื่อมวลชน”

    “หมายความว่ายังไง?”

    “ก็หมายความว่า คืนนี้จะมีงานแฟชั่นโชว์การกุศล และคุณเจมส์จะใช้งานนั้น…ในการส่งมอบของให้กับทางเรา ก่อนจะจบงาน โดยที่มีท่านชวรัตน์ เป็นสักขีพยานไงครับ”

    “ทำไมต้องลากท่านมาเกี่ยวด้วยเล่า” เสียงสารวัตรธนดลถามขึ้นอย่างไม่พอใจนัก

    “นั่นเป็นเงื่อนไขของคุณเจมส์ครับ เขาบอกว่าท่านเป็นทั้งหัวหน้า และผู้มีพระคุณของคุณชิดชัย จึงอยากให้เป็นพยานในการส่งมอบเป็นพิเศษ เรื่องนี้ยังเป็นความลับอยู่ แต่ผมว่าเราขอกำลังตำรวจไว้สนับสนุนสักหน่อยดีไหมครับเพื่อความไม่ประมาท” ปวินต์พูดต่อไป ตามที่ตกลงกับน้องสาวไว้เมื่อคืนก่อน

    “ไม่…ในเมื่อมันเป็นความลับ เราไม่ควรให้มีใครเข้าไปมากกว่านี้แล้ว แค่ฉันกับเธอก็น่าจะพอรับมือได้ไม่ใช่รึ เกิดยกโขยงไปกันเยอะ แล้วคุณเจมส์เปลี่ยนใจจะทำยังไง”

ท่าทีของธนดลเห็นได้ชัด ว่าไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องด้วย และนั่นเป็นสิ่งที่ปรางทิพย์คาดการณ์ไว้ จึงให้ปวินต์พูดหยั่งเชิงไป หากธนดลเป็นพวกเดียวกับพวกนั้น ย่อมต้องการให้เรื่องเงียบมากที่สุด และต้องไม่ยอมให้เพิ่มกำลังเสริมแน่ ถ้าเจมส์มอบของนั่นมา แล้วตัวเขาเป็นคนเก็บไว้ได้สำเร็จ ที่เหลือก็มีเพียงแค่ปิดปากปวินต์ไปตลอดกาล เท่านี้เขาก็สามารถนำของไปคืนชวรัตน์ได้อย่างง่ายดายแล้ว

    การบอกออกไป เป็นการยั่วยุให้อีกฝ่าย ลงมือพยายามขโมยของสิ่งนั้นมา ก่อนจะมีการมอบอย่างเป็นทางการนั่นเอง!

    “สารวัตรครับ แต่เจมส์เขาไม่ไว้ใจคุณ…คงเพราะเรื่องที่ร้านอาหารวันนั้น ทำเขาโกรธคุณมาก เขาเลยบอกว่า ให้คุณชวรัตน์ กับผม สองคนเท่านั้น คอยรับของแทน ถ้าคุณคอยอยู่ด้านนอกงาน น่าจะดีกว่า แต่ผมว่า เรียกกำลังสนับสนุนไว้ด้านนอกด้วยจะดีที่สุดนะครับ”

    “ก็ได้ ฉันจะสนับสนุนเธออยู่ด้านนอก ส่วนเรื่องกำลังสนับสนุนไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเอง” เขารับปากทั้ง ๆ ที่ตั้งใจว่าจะไม่หากำลังเสริมของจริง

    ธนดลมองมาด้วยท่าทางที่ซีเรียสกว่าเก่า แล้วถามต่อไปว่า “เรื่องนี้ได้บอกใครบ้างหรือยัง”

    ปวินต์ยิ้มน้อย ๆ “เรื่องที่สำคัญและเป็นความลับสุดยอดขนาดนี้ ผมพึ่งบอกสารวัตรเป็นคนแรกเองครับ”

    “ดีแล้ว…อย่าบอกใครอีกล่ะ ถ้ามีคนมาแทรกแซงล่ะก็ บางทีคุณเจมส์อาจจะไม่ยอมมอบของสิ่งนั้นมาให้ก็ได้ หลักฐานชิ้นนั้นสำคัญมากต่อรูปคดีเสียด้วย”

    “ผมเข้าใจครับ ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ ทุกอย่างผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด รบกวนสารวัตรติดต่อคุณชวรัตน์ขอร้องให้ไปงานในคืนนี้ด้วย” ว่าแล้วเขาก็ส่งโบร์ชัวร์งานให้ “คุณเจมส์บอกว่า ถ้าท่านไม่มา เขาจะไม่มีการส่งมอบใด ๆ สารวัตรคงติดต่อให้ผมได้ใช่ไหมครับ”

    ธนดลพยักหน้ารับ “ได้แน่นอน เพื่อคดีที่สำคัญขนาดนี้ คิดว่าท่านคงไม่ปฏิเสธ”

    “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมขอลาครึ่งวันนะครับ ต้องเตรียมการอีกหลายอย่าง” เขาว่าก่อนขอตัวออกไป

   

    “อะไรนะ มันกล้าท้าทายฉันขนาดนี้เลยรึ!” ชวรัตน์อุทานอย่างแปลกใจเมื่อได้ทราบข่าวนั้น มือของเขากระชับโทรศัพท์แล้วเผลอบีบลงไปโดยแทบไม่รู้ตัว กล้ามากจริง ๆ …มีหรือเขาจะไม่รู้ ว่าเจมส์ทราบดี ว่าเขาเป็นตัวบงการ ชิดชัยจะต้องบอกอีกฝ่ายไว้แล้วแน่ ๆ

    นิ่งคิดอยู่เป็นครู่ เขาก็พูดต่อไปกับคู่สนทนาในสายว่า

    “มันคิดจะล่อฉันออกไปทำอะไรสักอย่างล่ะสิ แบบนี้คงประมาทไม่ได้…อ้อใช่ ไปสิ เรื่องอะไรจะต้องไปกลัวมัน ฉันมีบอดี้การ์ดอยู่เป็นสิบ พวกมันทำอะไรไม่ได้หรอก”

    “แต่มันอันตรายนะครับท่าน แถมพวกมัน ยังไม่ยอมให้ผมเข้าไปในงานด้วย” เสียงตามสายแย้งกลับมา

     “ไม่ต้องมาแหละดีแล้ว เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน พวกมันจะได้ตายใจ เดี๋ยวฉันให้คนของฉันแฝงตัวปน ๆ กับแขกเอง” ชวรัตน์พูดต่ออย่างมั่นใจในคนของตน ที่จ้างมาในราคาสูงลิบลิ่ว “งานนี้ล่ะ เราจะรวบพวกมันทั้งหมด แล้วก็เอาของกลับคืนมา จากนั้นค่อยปิดปากให้ครบ อยู่ดีไม่ว่าดี อยากออกมาให้จัดการง่าย ๆ แบบนี้ ฉันไม่พลาดอยู่แล้ว”

    “ได้ครับ แต่ถ้ามีปัญหาอะไร พวกเรายังมีไพ่ในมืออีกหนึ่ง…เพราะตอนนี้ ผมจัดการวางยาสั่งผู้กองปวินต์เรียบร้อยแล้วตามคำสั่งของหมอคง…และเหมือนว่าเจ้าตัว จะไม่รู้เสียด้วย!”

    คนฟังยิ้มอย่างพอใจ “ดีมาก หมอคงรู้เรื่องนี้แล้วสินะ ถ้าอย่างนั้น…ถึงมันจะไม่ยอมส่งของมา เราก็สามารถขู่มันกลับได้อยู่ดี…ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้เตรียมตัว คืนนี้แหละ คงสนุกแน่!”


จบตอน

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #205 เมื่อ27-08-2011 20:05:33 »

โหยขาดเคนไปเหมือนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ใส่น้ำปลาเลย
พี่นักเขียนอย่าหายไปนานๆอย่างนี้ดิครับ  มันคิดถึง

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #206 เมื่อ27-08-2011 20:26:46 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด

ต้องกาแฟแก้วนั่นแน่ ๆ เลย

 :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #207 เมื่อ27-08-2011 20:35:25 »

งื้ดดดด แผนซ้อนแผนหรอเนี่ยะ?
โอ้วไม่นะ ผู้กองปวินต์จะเป็นอะไรรึเปล่าละเนี่ยะ เครียดด
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #208 เมื่อ27-08-2011 20:41:59 »

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: สืบเสน่หา ตอนที่ 10 (27/8/11)
«ตอบ #209 เมื่อ27-08-2011 21:01:45 »

โอ๊ยย สารเลวกันจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด